Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1144 เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงค์

1144 เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงค์

Published by kwunpirom.beer, 2023-04-20 01:41:43

Description: 1144 เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงค์

Search

Read the Text Version

70 ๖. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ผู้เรยี นสามารถปฏิบตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กัน ๔ หมายถึง ปฏบิ ัติตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กัน ๓ หมายถึง ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๔ วนั ตดิ ต่อกัน ๒ หมายถงึ ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๓ วนั ติดตอ่ กัน ๑ หมายถงึ ให้ความร่วมมือ ๐ หมายถึง ไม่ใหค้ วามร่วมมือ ลงช่อื ...........................................................ครูผ้สู อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บ้านไร่) ความคดิ เหน็ ฝ่ายวิชาการ / ผูแ้ ทน (  ) เปน็ แผนการสอนทด่ี ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หมนื่ สุ) หัวหน้างานใหบ้ รกิ ารชว่ ยเหลอื ระยะแรกเริ่ม พฒั นาศกั ยภาพ และเตรยี มความพร้อม วนั ท/ี่ เดือน/พ.ศ................................ ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผ้ทู ่ีไดร้ บั มอบหมาย (  ) เป็นแผนการสอนทด่ี ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรบั แก้ .............................................................................. ลงชื่อ................................................. (นายนภสนิ ธุ์ ดวงประภา) ผ้ชู ่วยผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ วันท/่ี เดือน/พ.ศ................................

71 แบบบันทกึ การวิเคราะห์งาน ทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสติปัญญา จุดประสงค์ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๖ เม่ือกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิง พวงเพชร สุวรรณวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ติดต่อกัน งาน (Task) การปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ชื่อนกั เรียน เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงค์ ลาดับ รายละเอียด ผลการประเมิน Forward Backward วัน เดือน ท่ี ได้ ไม่ได้ Chaining Chaining ปี ๑ เ ก็ บ ข อ ง เ ล่ น เ ข้ า ที่ เ ป็ น  ๑ กรกฎาคม ระเบยี บ ๒๕๖๕  ๒ ไม่แกลง้ ผู้อ่ืน ๓ กันยายน  ๒๕๖๕ ๓ ไ ม่ ส่ ง เ สี ย ง ดั ง ข ณ ะ ท า กจิ กรรม  ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ๔ หยุดเล่นเมอื่ หมดเวลา  ๔ มกราคม ๕ แบ่งของเล่นใหเ้ พือ่ น ๒๕๖๖ ๕ มนี าคม ๒๕๖๖ ลงชอ่ื ............................................ ผบู้ ันทกึ (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บ้านไร่) พนักงานราชการ

72 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มาตรฐาน ๑๓ มกี ารพฒั นาทักษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ ารแต่ละประเภท ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนบั ถือตนเอง และสานกึ รู้ผดิ ชอบชั่วดี สภาพท่ีพึงประสงค์/พัฒนาการที่คาดหวัง : สภาพท่ีพึงประสงค์ท่ี ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรียนได้ โครงการ/กจิ กรรมทสี่ อดคล้อง โครงการพาน้องทอ่ งแหล่งเรยี นรู้นครลาปางเมืองแห่งความสุข เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงค์สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ จานวน ๕ ขอ้ นาน ๕ วันตดิ ตอ่ กนั จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อที่ ๑ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๖ เมื่อกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงคส์ ามารถให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วนั ติดต่อกัน วนั ท่ี ๓ ๔ ๕ ๖ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๓ ๑๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๓๑ สอน ระดบั ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คุณภาพ ทีไ่ ด้ ภายในเดอื นมกราคม ๒๕๖๖ เด็กหญิงพวงเพชร สวุ รรณวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตาม กติกาของห้องเรียน ได้ ๓ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กัน ระดับคณุ ภาพ ผู้เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ต่อกัน ๔ หมายถงึ ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กนั ๓ หมายถึง ปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๔ วัน ติดตอ่ กัน ๒ หมายถึง ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๓ วนั ติดต่อกัน ๑ หมายถึง ให้ความร่วมมือ ๐ หมายถงึ ไม่ให้ความรว่ มมือ หมายเหตุ ๑ สังเกตจากการปฏบิ ัติตามข้ันตอนตามท่กี าหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผู้เรียนทที่ าได้อยา่ งต่อเน่ือง

73 หมายเหตุ ๑. สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามที่กาหนดไว้ ๒. สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผูเ้ รยี นทท่ี าได้อยา่ งตอ่ เนื่อง ลงชื่อ...........................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บ้านไร่) วันท/่ี เดือน/พ.ศ.....๓๑ ม.ค. ๖๖........ ความคิดเห็นฝ่ายวิชาการ / ผแู้ ทน ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หม่นื ส)ุ หวั หนา้ งานให้บรกิ ารช่วยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรียมความพรอ้ ม วันท่ี/เดอื น/พ.ศ......๓๑ ม.ค. ๖๖........ ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผู้ช่วยผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ.....๓๑ ม.ค. ๖๖........

74 แผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) ช่อื -สกลุ เดก็ หญงิ พวงเพชร สุวรรณวงค์ ประเภทความพิการ บกพร่องทางสติปัญญา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางสตปิ ัญญา มาตรฐาน ๑๓ มกี ารพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะความพิการแต่ละประเภท ตวั บง่ ชที้ ี่ ๓ ทักษะการควบควบคมุ ตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนับถือตนเอง และสานึกรู้ผิดชอบช่วั ดี สภาพที่พึงประสงค์/พัฒนาการท่ีคาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ท่ี ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรียนได้ โครงการ/กจิ กรรมทส่ี อดคล้อง โครงการพาน้องท่องแหล่งเรียนรูน้ ครลาปางเมืองแห่งความสุข เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดอื นมีนาคม ๒๕๖๖ เด็กหญิงพวงเพชร สวุ รรณวงค์สามารถปฏิบัตติ นตามกตกิ าของหอ้ งเรยี น ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วนั ติดต่อกัน จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี ๑ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เมื่อกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงคส์ ามารถใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ัติตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ติดต่อกัน แผนที่ ๑ เรม่ิ ใช้แผนวันที่ ๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ สิ้นสดุ แผนวันท่ี ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ ใช้เวลาสอนคาบละ ๒๐ นาที ๑. เน้ือหา ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี นได้ ๒. จุดประสงค์ ปลายทาง ผเู้ รยี นสามารถปฏิบตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรยี นได้ จานวน ๕ ข้อ ปฏบิ ตั ิไดอ้ ยา่ งถูกต้อง มั่นใจ

75 ๓. กจิ กรรมการสอน 1) ขนั้ เตรียมการสอน สถานท่ี หอ้ งเรียนแสงตะวันฉาย สื่อ ครู นกั เรียน กฎ กติกาในห้องเรียน แบบประเมนิ วางบนโต๊ะข้างครผู ู้สอน พร้อมปากกา ผ้เู รยี น ยืนข้างครผู ูส้ อน 2) ขนั้ นาเสนองาน ทักทาย ผูส้ อนทกั ทายผ้เู รยี นโดยการกล่าวสวัสดี และบอกผู้เรียนว่า “เพลงวันน้คี รูจะให้ เพลงปฏิบัตติ นตามกตกิ าของห้องเรียนนะคะ” ประเมินความสามารถพ้ืนฐาน ผู้สอนให้ผู้เรยี นปฏิบัตติ นตามกติกาของห้องเรียนจานวน ๑ ข้อให้ดู โดยใชค้ าสง่ั “เพลงหมดเวลาแล้วนะคะ” 3) ขนั้ สอน ๑. ผู้สอนบอกผูเ้ รยี นว่า ““เพลงวันนี้ครูจะให้เพลงปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรียน จานวน ๑ ขอ้ นะคะ ” พร้อมสาธิตการเกบ็ ของเล่นเขา้ ที่ให้เพลงดู ๑.๑ ผ้สู อนหยุดเล่นเม่ือหมดเวลาเล่น ๑.๒ ผ้สู อนเกบ็ ของเล่นใส่กล่อง คาส่ัง “เพลงหมดเวลาแลว้ นะคะ” ใช้เทคนคิ การสอนอะไร - การสาธิต - ทาตามแบบ - กระตนุ้ เตือน - ตะลอ่ มกล่อมเกลา ให้แรงเสริม/รางวลั ผู้สอนพูดว่า “เก่งมากค่ะ” 4) ข้ันประเมิน บันทึกลงในแบบบนั ทึกผลการเรียนรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล ๔. การวดั และประเมนิ ผล ๑) วธิ วี ดั และประเมนิ ผล - การสังเกต - การทดสอบ - การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง ๒) เคร่อื งมอื วัดและประเมนิ ผล - แบบบันทึกผลการเรยี นรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล

76 ๖. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตนตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กัน ๔ หมายถงึ ปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกนั ๓ หมายถึง ปฏิบตั ิตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๔ วนั ตดิ ต่อกนั ๒ หมายถึง ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๓ วัน ติดตอ่ กัน ๑ หมายถงึ ให้ความร่วมมอื ๐ หมายถึง ไม่ใหค้ วามร่วมมือ ลงช่อื ...........................................................ครูผู้สอน (นางสาวขวญั ภิรมณ์ อุดบา้ นไร่) ความคิดเหน็ ฝ่ายวิชาการ / ผ้แู ทน ( ) เปน็ แผนการสอนทีด่ ีใชส้ อนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่ือ................................................. (นายจักรพงศ์ หมน่ื ส)ุ หัวหนา้ งานใหบ้ ริการช่วยเหลือระยะแรกเร่มิ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรยี มความพรอ้ ม วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ. .................................. ความคิดเห็นของผู้บรหิ าร หรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ( ) เปน็ แผนการสอนทีด่ ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงช่อื ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผ้ชู ่วยผูอ้ านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วันที/่ เดือน/พ.ศ. ..................................

77 แบบบันทกึ การวเิ คราะหง์ าน ทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสตปิ ัญญา จดุ ประสงค์ ภายในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ เมือ่ กาหนดใหป้ ฏบิ ัตติ นตามกตกิ าของห้องเรยี น เดก็ หญิง พวงเพชร สุวรรณวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กนั งาน (Task) การปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ชอื่ นกั เรียน เด็กหญิงพวงเพชร สวุ รรณวงค์ ลาดบั รายละเอยี ด ผลการประเมิน Forward Backward วัน เดือน ท่ี ได้ ไม่ได้ Chaining Chaining ปี  ๑ เ ก็ บ ข อ ง เ ล่ น เ ข้ า ท่ี เ ป็ น ๑ กรกฎาคม ระเบยี บ  ๒๕๖๕ ๒ ไม่แกลง้ ผอู้ น่ื  ๓ กันยายน ๒๕๖๕ ๓ ไ ม่ ส่ ง เ สี ย ง ดั ง ข ณ ะ ท า  กิจกรรม ๒ พฤศจิกายน  ๒๕๖๕ ๔ หยดุ เล่นเมื่อหมดเวลา ๔ มกราคม ๕ แบ่งของเล่นใหเ้ พอ่ื น ๒๕๖๖ ๕ มนี าคม ๒๕๖๖ ลงชือ่ ............................................ ผ้บู ันทึก (นางสาวขวัญภริ มณ์ อุดบ้านไร)่ พนกั งานราชการ

78 บนั ทึกผลหลงั การสอน ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มาตรฐาน ๑๓ มีการพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความพกิ ารแตล่ ะประเภท ตวั บ่งชท้ี ่ี ๓ ทักษะการควบควบคมุ ตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนบั ถือตนเอง และสานึกรู้ผดิ ชอบช่วั ดี สภาพท่ีพึงประสงค์/พัฒนาการท่ีคาดหวัง : สภาพท่ีพึงประสงค์ท่ี ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ หอ้ งเรียนได้ โครงการ/กจิ กรรมที่สอดคล้อง โครงการพาน้องท่องแหล่งเรียนรู้นครลาปางเมืองแห่งความสุข เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดอื นมีนาคม ๒๕๖๖ เด็กหญิงพวงเพชร สวุ รรณวงค์สามารถปฏิบัติตนตามกตกิ าของห้องเรยี น ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วนั ติดต่อกนั จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ ๑ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เม่ือกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงพวงเพชร สุวรรณวงคส์ ามารถใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัตติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดต่อกนั วันที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๔ ๑๕ ๑๗ ๑๘ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๘ สอน ระดบั ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คณุ ภาพ ทีไ่ ด้ ภายในเดอื นกุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ เดก็ หญงิ พวงเพชร สุวรรณวงค์สามารถให้ความรว่ มมือในการปฏิบัติตนตาม กติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ต่อกนั ระดบั คุณภาพ ผ้เู รียนสามารถปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ติดต่อกัน ๔ หมายถงึ ปฏิบัติตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ติดต่อกัน ๓ หมายถงึ ปฏบิ ัติตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๔ วนั ติดต่อกัน ๒ หมายถงึ ปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๓ วนั ติดต่อกนั ๑ หมายถึง ใหค้ วามร่วมมอื ๐ หมายถงึ ไม่ให้ความรว่ มมือ หมายเหตุ ๑ สงั เกตจากการปฏิบัติตามข้ันตอนตามทก่ี าหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสาเร็จของงาน สงั เกตจากพัฒนาการของผเู้ รยี นทีท่ าได้อยา่ งต่อเนื่อง

79 หมายเหตุ ๑. สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามที่กาหนดไว้ ๒. สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผูเ้ รยี นท่ที าได้อย่างตอ่ เนื่อง ลงชื่อ...........................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บา้ นไร่) วันท/่ี เดือน/พ.ศ.....๒๘ ก.พ. ๖๖........ ความคิดเห็นฝ่ายวิชาการ / ผแู้ ทน ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หมน่ื ส)ุ หวั หนา้ งานให้บรกิ ารช่วยเหลือระยะแรกเรมิ่ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรยี มความพร้อม วันท่ี/เดอื น/พ.ศ......๒๘ ก.พ. ๖๖........ ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผู้ช่วยผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ.....๒๘ ก.พ. ๖๖........

80

81

82

83

84

85

86

87

88

89

90

91

92

93

94 ขอมูลนกั เรียนรายบุคคล หอ งเรยี น......................... ปก ารศึกษา .......................... ๑. ขอ มูลดา นนกั เรียน ๑.๑ ขอมลู สว นตัวนกั เรยี น ชอื่ -นามสกลุ (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส)................................................................................... ชอ่ื เลน ............................. ประเภทความพิการ.................................................................................................................................................... เกดิ วนั ที่.......เดอื น ……............ พ.ศ. ............. อายุ ...........ป เช้ือชาติ ............... สญั ชาติ............... ศาสนา.............. เลขบัตรประจาํ ตวั ประชาชน.............................................................หมโู ลหติ ........................................................... การจดทะเบยี นคนพิการ  ไมต อ งการจดทะเบียน  ยังไมจดทะเบยี น  จดทะเบยี นแลว ท่ีอยูปจจบุ นั บา นเลขท.่ี ...............ตรอก/ซอย...............หมูท.่ี ..........ชือ่ หมูบาน/ถนน................................................. ตาํ บล/แขวง.............................. อําเภอ/เขต............................ จงั หวัด.......................... รหัสไปรษณยี ...................... ๑.๒ ดา นสุขภาพ ๑) สขุ ภาพกาย  มสี ุขภาพรา งกายสมบูรณแขง็ แรง  เจบ็ ปว ยบอ ย (ระบุ)............................................................................  มีโรคประจําตวั (ระบ)ุ .........................................................................  ปวยเปนโรครา ยแรง/เร้อื รงั (วัณโรค โรคอวน โรคทางเดนิ หายใจเร้ือรงั (หอบหดื ) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรอ้ื รงั โรคมะเร็ง ภาวะภูมิคมุ กันตํา่ โรคเบาหวาน ภาวะบกพรองทางระบบประสาทอยางรนุ แรง ลมชัก ฯลฯ ระบุโรค)............................................................... น้ําหนกั .........๑..๒...............กโิ ลกรัม สวนสูง.............๙..๕................เซนติเมตร  นํา้ หนกั ผดิ ปกติไมส มั พันธกบั สว นสงู หรอื อายุ  นอนตดิ เตยี ง ๒) สุขภาพจติ /อารมณ/พฤติกรรม  อารมณดี ย้มิ งาย  มปี ฏิสัมพนั ธท ่ีเหมาะสมกับผูอ่นื  อารมณหงุดหงิดงาย/โมโหงา ย  ไมม ปี ฏิสัมพนั ธก ับผอู ่ืน เชน เฉยเมย ไมส บตา  ไมมีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ  ซึมเศรา  แยกตัวออกจากกลมุ  หวาดระแวง  ไมพ บพฤติกรรมท่ีไมพงึ ประสงค  พบพฤติกรรมท่ีไมพงึ ประสงคท่ีสง ผลกระทบไมร ุนแรงตอตนเอง/ผอู ่นื /สง่ิ ของ  พบพฤติกรรมที่ไมพงึ ประสงคท ่ีสงผลกระทบรนุ แรงตอตนเอง/ผอู ืน่ /ส่งิ ของ

95 ๑.๓ ดานการเรยี นรู ๑) พัฒนาการ/ความสามารถ  พัฒนาการ/ความสามารถเทียบเทา กับอายุจรงิ  พัฒนาการ/ความสามารถลา ชากวาอายุจรงิ ๑ – ๓ ป  พฒั นาการ/ความสามารถลาชากวาอายุจรงิ ๓ ป ขน้ึ ไป ๒) การชว ยเหลือตนเอง  สามารถชว ยเหลือตนเองได  สามารถชวยเหลอื ตนเองไดบาง  ไมส ามารถชวยเหลือตนเองได ๑.๔ ดา นสิทธคิ นพิการ/สนับสนุนชวยเหลือจากองคกรภาครัฐหรือเอกชน ๑) เบีย้ ยังชพี คนพิการ  ไดร บั จํานวน.......................บาท/เดือน  ไมไ ดร ับ เน่ืองจาก................................................................................................................ ๒) บริการฟน ฟูทางการแพทย  ไดร บั (ระบุโรงพยาบาล)......................................................................................................  ไมไ ดร ับ เนื่องจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี ส่อื ส่ิงอํานวยความสะดวก  ไดร ับ (ระบสุ งิ่ ท่ีไดรับ).......................................................................................................... (ระบหุ นว ยงานทไ่ี ดรบั )........................................................................................................  ไมไดรับ เนื่องจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศึกษา/เงนิ ชว ยเหลอื อื่น ๆ  ไดรับ (ระบชุ อ่ื ทุนการศึกษา/เงนิ ชว ยเหลืออน่ื ๆ)................................................................ จาํ นวน.......................บาท/เดือน  ไมไ ดร บั เนื่องจาก................................................................................................................ ๕) รับบรกิ ารสวัสดิการทางสังคม  ไดรบั (สงิ่ ที่ไดร ับ เชน บริการเคสเมเนเจอร บริการรับสงไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบ)ุ .......... (หนว ยงานทไี่ ดรบั เชน พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไ ดร ับ เน่ืองจาก...............................................................................................................

96 ๑.๕ ดา นการเดนิ ทางในชวี ติ ประจาํ วัน ๑) ยานพาหนะทใี่ ชในครอบครัว  ไมม ียานหนะใชภายในครอบครัว  มียานพาหนะ โปรดระบุประเภท  จกั รยาน  จกั รยานยนต  จักรยานยนตพวง  รถเกง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนทายบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนทายบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนแวน)  รถตสู วนบุคคล ๒) วธิ กี ารเดนิ ทางในชวี ิตประจาํ วัน  เดนิ  ใชย านพาหนะ โปรดระบุประเภท  จักรยาน  จกั รยานยนต  จกั รยานยนตพ ว ง  รถเกง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นัง่ ๒ ตอนทายบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนทายบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน)  รถรับจาง / รถรับ-สง นกั เรยี น  รถโดยสารประจําทาง  รถตสู ว นบคุ คล ๓) ระยะทางจากที่พักอาศัยมายังสถานศึกษา (ระบรุ ะยะทาง)........................กโิ ลเมตร

97 ๒. ขอ มูลดานครอบครวั ๒.๑ ขอมูลบดิ า  มีชีวติ อยู  ถึงแกก รรม  ไมม ีขอมูล ชอื่ -นามสกุล บดิ า.........................................................................อาย.ุ ...........ป เช้ือชาติ............................ สัญชาติ............................. ศาสนา.........................  ไมม งี านทํา  มีงานทํา อาชีพ...................................................รายได. ............................บาท/เดอื น ระดับการศึกษา  ไมไดรับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนปุ รญิ ญา  ปริญญา ที่อยูปจ จุบนั  ท่อี ยูเ ดียวกบั นักเรยี น  ท่อี ยตู า งจากนักเรียน (โปรดกรอกขอมูล) บานเลขท่.ี ....................ตรอก/ซอย...............หมทู .ี่ ..........ชอ่ื หมูบ า น/ถนน................................................... ตาํ บล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหัสไปรษณยี . .............................................เบอรโทรศัพท. ........................................................................... ๒.๒ ขอมลู มารดา  มีชีวิตอยู  ถงึ แกก รรม  ไมม ีขอมูล ชือ่ -นามสกุล มารดา.......................................................................อายุ............ป เชอื้ ชาติ............................ สัญชาต.ิ ............................ ศาสนา.........................  ไมมงี านทาํ  มีงานทํา อาชีพ...................................................รายได.............................บาท/เดือน ระดับการศึกษา  ไมไดร ับการศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนปุ ริญญา  ปริญญา ทีอ่ ยปู จจบุ ัน  ทอี่ ยเู ดียวกับนกั เรียน  ทอ่ี ยตู างจากนักเรยี น (โปรดกรอกขอมูล) บานเลขที่.....................ตรอก/ซอย...............หมูท ี.่ ..........ชื่อหมบู า น/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหสั ไปรษณีย..............................................เบอรโ ทรศพั ท. ........................................................................... ๒.๓ ขอมูลผปู กครอง  บดิ า  มารดา  ผปู กครองไมใชบ ดิ า/มารดา (โปรดกรอกขอมลู ) ชื่อ-นามสกุลผปู กครอง.......................................................................อาย.ุ ...........ป เช้อื ชาติ........................ สัญชาต.ิ ............................ ศาสนา.........................  ไมม ีงานทาํ  มีงานทํา อาชีพ...................................................รายได.............................บาท/เดอื น ระดับการศึกษา  ไมไดรบั การศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนุปรญิ ญา  ปรญิ ญา

98 ท่อี ยปู จ จบุ นั  ที่อยูเดียวกบั นักเรียน  ทอี่ ยตู า งจากนกั เรยี น (โปรดกรอกขอมลู ) บานเลขที่.....................ตรอก/ซอย...............หมทู ี่...........ชื่อหมบู าน/ถนน................................................... ตาํ บล/แขวง....................................อาํ เภอ/เขต................................... จงั หวดั ............................................ รหัสไปรษณยี . .............................................เบอรโ ทรศัพท............................................................................ รายไดค รอบครวั  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ป ขนึ้ ไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ป  ไมเกนิ 40,000 บาท/ป สภาพความเปน อยใู นครอบครวั  อยรู ว มกับบิดามารดา  อยกู บั บดิ า  อยูกับมารดา  อยกู ับผอู ื่น (ระบุ)....................................................................... สถานภาพของบิดามารดา  อยดู วยกัน  หยารา ง  แยกกนั อยู  บิดาถงึ แกกรรม  มารดาถงึ แกกรรม  บดิ า มารดาถงึ แกก รรม ครอบครวั ของนักเรยี นมีสมาชิกท้ังหมด..................คน ประกอบดวย.......................................................... บุคคลในครอบครัวมีการใชส ารเสพติด  มี  ไมม ี เก่ยี วขอ งเปน...............................กบั นกั เรียน ประเภทสารเสพติดท่ใี ชค ือ  บุหรี่  สรุ า  ยาบา  อน่ื ๆ ระบ.ุ ............................ ความถใ่ี นการใชส ารเสพตดิ ของบุคคลในครอบครวั  เปน ประจํา  บางครั้ง บคุ คลในครอบครวั เกีย่ วขอ งกับการเลน การพนัน  มี  ไมม ี ความถีใ่ นการเลนการพนันของบุคคลในครอบครัว  เปน ประจาํ  บางคร้งั ภายในครอบครวั มีความขัดแยงและมีการใชความรุนแรง  มี  ไมม ี บุคคลในครอบครัวเจบ็ ปว ยดวยโรครนุ แรง/เรือ้ รัง  มี  ไมมี อาชีพบิดา/มารดา/ผูปกครองเส่ยี งตอ กฎหมาย  มี  ไมมี ๒.๔ ดานเศรษฐกิจครอบครัว  มีรายไดเ พียงพอสาํ หรับเล้ียงดคู รอบครัวไดอยางดี  มรี ายไดเพียงพอสําหรบั เลีย้ งดูครอบครวั เฉพาะทจ่ี าํ เปน  มหี น้สี นิ  มรี ายไดเพียงเล็กนอย ไมเพียงพอสําหรบั ครอบครวั  ไมมรี ายไดเลย ตองพ่งึ พาผูอ่นื ท้ังหมด และมหี นีส้ ิน

99 ๒.๕ ดา นการคมุ ครองนกั เรียน ๑) การดูแลเอาใจใสนกั เรยี น  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวชวยกันดแู ลเอาใจใสนักเรียนเปนประจําสมาํ่ เสมอ  ขาดการดูแลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนกั เรยี นเปนบางครง้ั  ขาดการดแู ลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนักเรียน/ไมมผี ูดแู ล  นกั เรียนถูกลวงละเมิดทางเพศ  นกั เรยี นถูกทํารายทารณุ ๒) การชว ยเหลือในการพฒั นานกั เรียน  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวเขา ใจ/รวมมอื ในการชวยเหลือในการพัฒนานกั เรยี นเปนอยา งดี  สมาชกิ ในครอบครวั บางคนไมมีความเขา ใจ/รวมมือในการชวยเหลือในการพฒั นานักเรยี น  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวขาดความเขาใจ/รวมมือในการชวยเหลือในการพฒั นานักเรยี น ๒.๖ ดานเจตคตติ อ นกั เรยี น ครอบครัวมีความคาดหวังในการพฒั นานักเรยี น  นกั เรยี นสามารถพฒั นาไดและมีการแสวงหาความรูในการพฒั นานักเรยี นอยูเสมอ  มคี วามคาดหวังในการพัฒนานกั เรียนแตไมมีการแสวงหาความรเู พื่อนํามาพฒั นานักเรยี น  ไมมีความคาดหวงั ในการพฒั นานักเรยี นและนกั เรียนเปนภาระของครอบครัว ๒.๗ ดา นความรู ความเขาใจ ทกั ษะของผูปกครองในการพัฒนานักเรียน ๑) ความรู ความเขาใจ ทักษะของผูปกครองในการจดั กิจกรรมเพ่ือพัฒนานกั เรียน  มกี ารจดั กิจกรรมเพ่ือพฒั นานักเรียนเปน ประจําทุกวัน  มกี ารจัดกิจกรรมเพื่อพฒั นานักเรยี นเปน บางครงั้  ไมเ คยมีการจดั กจิ กรรมเพ่ือพัฒนานกั เรียน ๒) ความรู ความเขา ใจ ทักษะของผูปกครองในการฝก ดวยเทคนคิ /กิจกรรม  มีการฝก ดว ยเทคนิค/กจิ กรรมทีห่ ลากหลายเปนประจําทุกวนั  มีการฝกดว ยเทคนิค/กิจกรรมเปนบางครง้ั  ไมเคยฝก ดว ยเทคนิค/กจิ กรรม

100 ๓. ขอมูลดานสภาพแวดลอ ม ๓.๑ สภาพแวดลอ มภายในศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปาง/หนวยบริการ ๑) บรเิ วณภายในหองเรยี นอาคารเรียน  สภาพแวดลอมในหอ งเรียน/อาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกับความตองการจําเปน พเิ ศษของ นักเรียนและปลอดภัยตอ การดาํ รงชีวติ  สภาพแวดลอ มในหอ งเรยี น/อาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกับความตองการจาํ เปน พเิ ศษของนักเรียนแตยงั สามารถใชไดอยางปลอดภยั ตอ การดาํ รงชีวิต  สภาพแวดลอมในหองเรยี น/อาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกบั ความตอ งการจําเปน พิเศษของนกั เรยี นและไมปลอดภัยตอ การดํารงชีวิต  สภาพแวดลอมในหองเรยี น/อาคารเรยี นทุกอยางไมมีความเหมาะสมกับความตอ งการจาํ เปน พเิ ศษของนกั เรียนและไมป ลอดภยั ตอการดํารงชวี ิต ระบุรายละเอยี ดเพ่มิ เตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรยี นมีความเหมาะสมกบั ความตอ งการจาํ เปนพิเศษของนักเรียน และปลอดภยั ตอการดํารงชีวติ  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจําเปน พิเศษของ นักเรยี นแตยงั สามารถใชไ ดอยางปลอดภัยตอ การดาํ รงชวี ติ  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนบางอยา งขาดความเหมาะสมกับความตองการจําเปนพิเศษของ นกั เรยี นและไมปลอดภัยตอ การดาํ รงชวี ิต  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนทกุ อยางไมม ีความเหมาะสมกับความตองการจาํ เปนพิเศษของ นกั เรียนและไมปลอดภัยตอการดํารงชีวิต ระบุรายละเอียดเพมิ่ เตมิ ........................................................................................................................................... นักเรยี น ๓) ผูเก่ียวของ  ครู/ผูปกครอง/พเ่ี ลี้ยงเด็กพิการ/ผปู ฏิบัตงิ านใหร าชการทกุ คนพรอมใหก ารชวยเหลือนักเรียน  ครู/ผปู กครอง/พเ่ี ลยี้ งเด็กพกิ าร/ผูปฏบิ ตั งิ านใหราชการบางคนละเวน ไมใ หการชวยเหลือ  คร/ู ผูปกครอง/พเ่ี ล้ียงเด็กพกิ าร/ผูปฏบิ ัตงิ านใหร าชการบางคนรังเกียจนักเรยี น  เพือ่ นหรือสมาชกิ ในครอบครัวทุกคนยอมรับ/ใหเขากลมุ ทํากจิ กรรม  เพ่ือนหรือสมาชิกในครอบครัวบางคนไมย อมรับ/ไมใหเขา กลุมทํากจิ กรรม  เพื่อนหรอื สมาชกิ ในครอบครวั ทุกคนไมย อมรบั /ไมใ หเ ขา กลุมทํากจิ กรรม

101 ๓.๒ สภาพแวดลอมภายในบาน ๑) บรเิ วณภายในบาน  สะอาดปลอดภัยเอือ้ ตอ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ มเอ้ือตอ การพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน  ไมส ะอาดและไมปลอดภัย ๒) บริเวณภายนอกบา น  สะอาดปลอดภยั เออื้ ตอการพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ มเอ้ือตอการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน  ไมสะอาดและไมป ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ มภายในชุมชน ๑) เจตคติของชุมชนทม่ี ตี อนักเรียนและครอบครวั  เปน ภาระของสังคม  พรอ มใหความชว ยเหลอื  ความเช่ือเรือ่ งเวรกรรม  มสี ทิ ธเิ ทาเทยี มกับคนทว่ั ไป  นารังเกยี จ  คนพกิ ารสามารถพัฒนาได  ไมสนใจ ๒) ความสัมพันธข องนักเรียนกบั ชุมชน  เปนท่ีรจู ักในชุมชน  มสี ว นรว มในชุมชน  เปนที่รักของคนในชมุ ชน  ชมุ ชนใหค วามชว ยเหลือ  ไมมคี นในชมุ ชนรจู ัก  ไมสนใจ  สรา งความเดือดรอนใหค นในชุมชน

102 ๔. ขอมูลดานความปลอดภยั สถานศกึ ษา ๔.๑ ภัยที่เกิดจากการใชความรนุ แรงของมนุษย ๑) การลว งละเมดิ ทางเพศ  นักเรยี นมผี ดู แู ลใกลช ดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผูดูแลใกลช ดิ เปนบางเวลา  นกั เรียนมักถูกทง้ิ ใหอยตู ามลําพงั หรือไมมผี ดู ูแล  นกั เรียนมปี ฏิสมั พนั ธทางสงั คมโดยมีระยะหางกบั ผอู ืน่  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมกอดหรอื หอมแกม เพศตรงขามท่ีไมใ ชญาตหิ รอื คนรูจกั  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมลว งหรือจับอวัยวะเพศของตนเอง  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมลวงหรอื จับอวยั วะเพศของผูอืน่  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมกระตุน ตนเองทางเพศเปนบางครั้ง  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมกระตนุ ตนเองทางเพศบอยครั้ง/เปน ประจาํ  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมการเขาใชส ื่อเทคโนโลยโี ดยไมมีการควบคุมดูแล  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดูสือ่ อนาจารลามก ๒) การทะเลาะววิ าท  นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผูดแู ลใกลชดิ เปนบางเวลา  นักเรยี นมักถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พงั หรือไมมีผดู แู ล  นกั เรียนมกี ริยาทาทางเรียบรอย สภุ าพ ไมกาวรา ว ไมมพี ฤติกรรมทํารา ยตนเองหรือผูอ น่ื  นักเรยี นมีพฤติกรรมเลน ไมเ ปน หรือแยงสงิ่ ของ ของเพ่ือนหรือผอู ื่นเปน บางคร้ัง  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบแยงของ ของผูอ ืน่ หรือเพ่ือนบอยครัง้ /เปน ประจาํ  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมชอบดสู ือ่ หรือใหความสนใจสื่อทมี่ ีความรนุ แรงในสงั คม  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมเลยี นแบบการกระทําหรือคาํ พดู ทีก่ าวราวรนุ แรงเม่อื เห็นผอู ่ืนทําหรอื จาก การเสพส่อื  นักเรียนมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คําพูดที่กาวรา วรนุ แรงตอผูอ่นื  นักเรียนไดรบั ยาที่มีฤทธใ์ิ นการปรบั พฤติกรรม (ยากลมุ จติ เวช) แตท านยาไมสมา่ํ เสมอ ๓) การกลั่นแกลง รงั แก  นักเรียนมผี ูด ูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผูด ูแลใกลช ิดเปนบางเวลา  นักเรยี นมกั ถูกทง้ิ ใหอยูตามลาํ พงั หรือไมมีผดู ูแล  นักเรยี นมกี รยิ าทา ทางเรียบรอย สุภาพ ไมกาวราว ไมมีพฤติกรรมทํารายตนเองหรอื ผอู ืน่

103  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมเลนไมเ ปนหรือแยงสิง่ ของ ของเพื่อนหรอื ผอู ่ืนเปน บางคร้ัง  นกั เรียนมพี ฤติกรรมชอบแยงของ ของผอู น่ื หรือเพ่ือนบอยๆ/เปน ประจาํ  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดสู ่ือหรือใหความสนใจส่อื ทีม่ ีความรุนแรงในสงั คม  นกั เรียนมีพฤติกรรมเลียนแบบการกระทําหรือคาํ พูดท่ีแสดงถึงการกล่ันแกลง รังแก เชน พูดแซว พดู คาํ หยาบคาย ดึงผมผูอืน่ กัดหยิกหรือตผี ูอื่น เม่ือเห็นผอู นื่ ทําหรือจากการเสพสื่อ  นักเรยี นมักแสดงพฤติกรรมหรือคาํ พูดท่ีแสดงถงึ การกลนั่ แกลง รังแก เชน พูดแซว พูดคํา หยาบคาย ดึงผมผูอน่ื กัดหยิกหรอื ตีผอู ่นื อยเู สมอ ๔) การชมุ นุมประทวงและการจลาจล  นกั เรียนมีผูดแู ลใกลชดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นักเรียนมักถูกทิง้ ใหอ ยูต ามลําพงั หรือไมมผี ูดูแล  นกั เรยี นมกี ริยาทา ทางเรียบรอ ย สภุ าพ ไมมีพฤติกรรม กา วรา ว กอ กวน ทาํ รายตนเองหรือ ผูอ่นื และไมม ีการแสดงพฤติกรรมที่กอใหเกดิ การชุมนุม ชกั จูงผูอื่น หรือการประทวง  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมชอบดูส่อื หรอื ใหความสนใจสื่อท่ีเกี่ยวกับการชุมนุมประทว งและ การจลาจลในสงั คม  นักเรยี นเส่ียงตอการถูกชักชวนจากผูอ นื่ ไปรว มหรือกอการชมุ นมุ ประทว งและการจลาจล  นกั เรยี นถูกชักชวนไปรวมการชมุ นุมประทวงและการจลาจล ๕) การกอวินาศกรรม  นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลชดิ ตลอดเวลา  นักเรยี นมผี ดู แู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นักเรียนมกั ถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พังหรือไมมผี ดู ูแล  นักเรยี นมีกริยาทาทางเรียบรอ ย สุภาพ ไมมีพฤตกิ รรม กา วรา ว กอ กวน ทาํ รายตนเองหรอื ผูอ น่ื และไมม ีการแสดงพฤติกรรมทเก่ยี วกับ ทํารายผูอน่ื ทําลายสาธารณะสมบตั ิในสังคม เปน ตน  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดูสอ่ื หรือใหความสนใจส่อื ท่เี กี่ยวกบั ทํารายผูอื่น ทําลายสาธารณะ สมบตั ใิ นสังคม เปนตน  นักเรียนเสยี่ งตอ การถูกชักชวนจากผูอ่ืนไปรว มหรือกอการชุมนมุ ประทวงและการจลาจล  นักเรยี นถกู ชักชวนไปรวม ทาํ รายผอู นื่ ทาํ ลายสาธารณะสมบัตใิ นสงั คม เปน ตน

104 ๖) การระเบดิ  นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผูด ูแลใกลช ิดเปนบางเวลา  นกั เรียนมักถูกทิ้งใหอ ยูตามลําพงั หรือไมมผี ูดูแล  นักเรยี นไมม ีแนวโนม ทจี่ ะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเลน สารเคมีหรือวัตถทุ ี่อาจกอใหเ กิด ระเบิด  บุคคลในครอบครวั นักเรยี นมกี ารใชสารเคมหี รือวัตถุที่อาจกอ ใหเ กิดระเบดิ ในครอบครวั หรือ ในการประกอบอาชีพของครอบครวั เชน ยาฆาแมลงวชั พืช หรือสารประกอบในปยุ เคมี หรือสารเคมีทําประทัด พลุ หรือบัง้ ไฟ หรือมีวัตถุอันตราย เชน กระปอ งสเปรย นาํ้ มัน ไมขดี ไฟ ไฟแชค็ ในบาน  นกั เรยี นคลกุ คลกี ับบุคคลมีการใชส ารเคมีหรือใชว ัตถุอัตรายในการประกอบอาชีพท่ีอาจ กอใหเ กิดระเบดิ  นักเรียนคลกุ คลีกับบุคคลมกี ารใชสารเคมีหรือใชว ตั ถุอัตรายในการทาํ ประทัด พลุ หรือบั้งไฟ  นกั เรียนเสี่ยงตอ การถกู ชักชวนจากผูอนื่ ในการพกพาหรือเลน สารเคมหี รือใชวัตถทุ ี่อาจ กอใหเ กดิ ระเบดิ  นักเรียนมีพฤตกิ รรมพกพาหรือนําสารเคมีหรือวัตถุท่ีอาจกอ ใหเ กดิ ระเบดิ เชน ยาฆาแมลง วชั พชื หรอื สารประกอบในปุยเคมี หรอื สารเคมที ําประทดั พลุ หรือบัง้ ไฟ หรอื มีวัตถุอันตราย เชน กระปองสเปรย นา้ํ มนั ไมขีดไฟ ไฟแชค็ ๗) สารเคมแี ละวตั ถุอันตราย  นักเรยี นมผี ูดแู ลใกลช ิดตลอดเวลา  นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลชดิ เปนบางเวลา  นกั เรียนมกั ถูกทิ้งใหอ ยตู ามลาํ พังหรือไมมผี ดู ูแล  นักเรยี นไมมีแนวโนมท่ีจะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเลนสารเคมหี รือวัตถุอนั ตราย  บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใชสารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เชน นํ้ายาลางจาน น้ํายาลางหองนํ้า น้ําสมสายชู ยาฆาแมลง ผงซักฟอก นาํ้ ยาซกั ฟอก กระปองสเปรย นํ้ามนั ไมขีดไฟ ไฟแชค็ เปน ตน  นกั เรยี นคลกุ คลกี ับบคุ คลมีการใชส ารเคมีหรอื ใชวัตถอุ ตั รายในการประกอบอาชีพ  นักเรยี นคลกุ คลกี ับบคุ คลมีการใชสารเคมหี รือใชว ตั ถุอัตรายในการทําประทัด พลุ หรือบั้งไฟ  นกั เรียนเส่ียงตอการถูกชักชวนจากผูอน่ื ในการพกพาหรือเลนสารเคมหี รือใชว ตั ถอุ ันตราย  นักเรียนมพี ฤติกรรมพกพาหรอื นาํ สารเคมีหรือวตั ถุอัตรายนา้ํ ยาลา งจาน นา้ํ ยาลา งหองน้ํา น้ําสม สายชู ยาฆา แมลง ผงซักฟอก น้ํายาซักฟอก กระปองสเปรย นาํ้ มนั ไมขดี ไฟ ไฟแชค็ เปนตน

105 ๘) การลอลวง ลกั พาตัว  นกั เรยี นมผี ูดแู ลใกลช ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นถูกทิ้งอยูตามลาํ พังในหองเรยี นหรือท่ีบานหรือสถานทส่ี าธารณะในชุมชนเปนบางครง้ั  นกั เรยี นถกู ทิ้งอยูตามลําพังในหองเรยี นหรอื ทีบ่ า นหรือสถานท่สี าธารณะในชุมชนบอยครั้ง หรอื เปนประจํา  นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธเมื่อถูกชักชวนจากผูอ นื่ หรอื คนแปลกหนา  นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พดู ปฏเิ สธเมอ่ื ถูกชกั ชวนจากผูอืน่ หรอื คนแปลกหนาเปน บางครง้ั  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏิเสธหรอื ไมรับของจากผอู ่ืนหรือคนแปลกหนาทใี่ ห ส่ิงของ/ขนม  นกั เรยี นไมสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเมื่อถูกชกั ชวนจากผอู ืน่ หรือคนแปลกหนา  นักเรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธในการรับของจากผูอนื่ หรือคนแปลกหนาทีใ่ ห ส่งิ ของ/ขนมเปนบางครงั้  นกั เรียนไมสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏเิ สธในการรับของจากผอู ่นื หรือคนแปลกหนา ท่ีให สง่ิ ของ/ขนม ๔.๒ ภัยที่เกิดจากอบุ ตั เิ หตุ ๑) ภัยธรรมชาติ ๑.๑) ภัยจากนํา้ ทว ม (จมนํ้า/ไฟดูด/สตั วม ีพิษ)  นักเรยี นมีผดู แู ลใกลช ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลช ดิ เปนบางเวลา  นักเรียนบอกสถานการณ คาํ เตือนภัยหรือภาพสญั ลกั ษณใ นการเตือนภยั ท่เี กิดขน้ึ ได  นกั เรียนไมสามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภัยหรือภาพสัญลักษณในการเตือนภัยทีเ่ กิดขึน้ ได  นักเรยี นสามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด  นกั เรยี นไมส ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได  นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ชอบเลนนํ้า ชอบเอานว้ิ ไปแหย ชอบไปจบั ชอบเอาของหรือมือใสปาก  นักเรียนบอกไมไดเหตุการณที่เกิดข้ึนได ไมสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได และมีพฤติกรรม ชอบเลนนํ้า ชอบเอาน้ิวไปแหย ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใสปาก และถูกท้ิงใหอยูตามลําพัง หรือไมมผี ดู ูแล

106 ๑.๒) ไฟไหมปาหรอื ไฟไหมท ่ีลุกลามในสถานทต่ี าง ๆ  นกั เรียนมีผูดแู ลใกลช ดิ ตลอดเวลา  เรยี นมีผดู แู ลใกลชดิ เปนบางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภยั หรอื ภาพสัญลักษณใ นการเตือนภัยท่เี กิดขึน้ ได  นักเรยี นไมส ามารถบอกสถานการณคําเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณใ นการเตอื นภัยที่เกิดข้นึ ได  นกั เรียนสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณไ ด  นกั เรียนไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได  นักเรียนมพี ฤติกรรมชอบเลนวตั ถไุ วไฟ วตั ถุทก่ี อใหเ กดิ ไฟหรือเชอ้ื เพลงิ  นักเรยี นไมส ามารถบอกเหตกุ ารณท ่เี กิดข้ึน ไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ ด และมี พฤติกรรม ชอบเลน วตั ถุไวไฟ วัตถุท่กี อใหเ กิดไฟหรอื เชื้อเพลิง และถกู ทง้ิ ใหอยตู ามลําพังหรอื ไมมีผูดแู ล ๑.๓) พายุ  นกั เรียนมีผดู ูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  เรียนมีผดู แู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณในการเตือนภยั ทเี่ กิดข้นึ ได  นักเรียนไมสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภยั หรอื ภาพสัญลักษณใ นการเตอื นภัยท่ีเกดิ ขึน้ ได  นกั เรยี นสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณได  นักเรียนไมสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได  นกั เรยี นไมสามารถบอกเหตุการณทเ่ี กดิ ขนึ้ ไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณไ ด และถูก ทงิ้ ใหอยูตามลาํ พังหรอื ไมม ผี ดู ูแล ๑.๔) แผนดินไหว  นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลช ิดตลอดเวลา  เรียนมีผูดูแลใกลช ดิ เปน บางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรือภาพสัญลักษณใ นการเตือนภัยที่เกิดขนึ้ ได  นกั เรียนไมสามารถบอกสถานการณคําเตือนภัยหรือภาพสัญลักษณใ นการเตือนภยั ทีเ่ กดิ ขน้ึ ได  นกั เรยี นสามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณได  นกั เรียนไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณได  นกั เรียนไมส ามารถบอกเหตุการณท เี่ กิดขน้ึ ไมสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด และถูก ทิ้งใหอยูตามลาํ พงั หรือไมม ีผูดูแล

107 ๑.๕) ภยั ธรรมชาตใิ นชว งฤดูหนาว  นกั เรยี นมีผดู ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา  เรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรือภาพสญั ลักษณในการเตือนภัยท่ีเกิดข้นึ ได  นกั เรยี นไมสามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภัยหรือภาพสัญลักษณในการเตือนภัยท่ีเกิดข้นึ ได  นกั เรียนสามารถดูแลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ ด  นักเรยี นไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได  นกั เรียนไมสามารถบอกเหตกุ ารณท ่ีเกิดข้นึ ไมสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตุการณไ ด และถูก ท้ิงใหอยตู ามลาํ พงั หรือไมมผี ดู ูแล ๒) ภยั จากอาคารเรียน สิง่ กอสรา ง  นักเรียนมผี ูดูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  เรียนมีผดู แู ลใกลช ิดเปน บางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรอื ภาพสญั ลักษณใ นการเตือนภัยทเี่ กิดขึน้ ได  นกั เรียนไมสามารถบอกสถานการณคําเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณในการเตอื นภยั ทีเ่ กดิ ข้นึ ได  นกั เรยี นสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด  นักเรยี นไมส ามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณได  นกั เรียนไมส ามารถบอกเหตุการณท ่เี กิดขน้ึ ไมส ามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ ด และถูก ทิง้ ใหอยตู ามลําพังหรอื ไมมีผูด ูแล ๓) ภัยจากยานพาหนะ  นกั เรยี นมีผูดูแลใกลช ิดตลอดเวลา  นักเรียนมีผดู ูแลใกลชดิ เปนบางเวลา  นักเรยี นสามารถปฏิบัตติ นเม่ือใชหรอื โดยสารยานพาหนะทีจ่ ําเปน ในชวี ติ ประจาํ วนั ได เชน รถจักรยาน รถจกั รยานยนต รถยนต เปนตน  นกั เรียนไมสามารถปฏบิ ตั ิตนเม่ือใชห รือโดยสารยานพาหนะท่จี าํ เปนในชวี ติ ประจําวนั ได เชน รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต รถยนต เปนตน  นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติตนในการปอ งกนั อนั ตรายท่ีอาจเกดิ จากยานพาหนะในชีวิตประจาํ วัน  นักเรียนไมส ามารถปฏบิ ัติตนในการปองกันอันตรายท่ีอาจเกิดจากยานพาหนะใน ชวี ติ ประจาํ วันได  นักเรียนไมสามารถปฏิบัติตนเมื่อใชหรือโดยสารยานพาหนะและไมสามารถปฏิบัติตนใน การปองกนั อนั ตรายทีอ่ าจเกิดจากยานพาหนะในชีวิตประจาํ วนั ได รวมถึงมักถูกทิ้งใหอ ยตู ามลําพังหรอื ไมมีผดู ูแล

108 ๔) ภยั จากการจัดกิจกรรม  นกั เรยี นมผี ูดูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  นกั เรียนมีผูดูแลใกลชิดเปนบางเวลา  นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ขอตกลงได  นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ขอตกลงไดเปนบางครัง้  นกั เรยี นไมสามารถปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ขอตกลงได และ มกั ถกู ทิ้งใหอ ยูตามลําพังหรือไมมี ผดู ูแล ๕) ภัยจากเครอ่ื งมือ อุปกรณ  นกั เรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผดู แู ลใกลช ิดเปนบางเวลา  นักเรยี นสามารถใชเ ครื่องมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครวั /เคร่อื งใชไ ฟฟา/ เครือ่ งมือชา งในบา นหรือสถานศึกษา ไดด ว ยตนเองอยางปลอดภยั  นักเรียนไมสามารถใชเคร่ืองมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใชไฟฟา/เครื่องมือชางในบานหรือสถานศึกษา ไดดว ยตนเองอยา งปลอดภยั  นักเรียนไมสามารถใชเครื่องมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใชไฟฟา/เครื่องมือชางในบานหรือสถานศึกษา ไดดวยตนเองอยางปลอดภัย และมักถูกทิ้งใหอยูตามลําพัง หรือไมมผี ดู แู ล ๔.๓ ภยั ที่เกดิ จากการถกู ละเมิดสิทธ์ิ ๑) การถูกปลอยปละ ละเลย ทอดท้ิง  นักเรยี นไดร ับการดูแลเล้ยี งดูจากผูปกครองและผูดูแลเปนอยา งดี  นกั เรียนถกู ปลอยปละ ละเลย ทอดทิง้ เปน บางคร้งั  นักเรยี นถกู ปลอยปละ ละเลย ทอดทง้ิ เปนบอยครัง้ ๒) การคุกคามทางเพศ  นักเรยี นรูวิธีการเอาตัวรอดจากการคุกคามทางเพศ  นกั เรียนไดร บั การดูแลเล้ียงดจู ากผปู กครองและผดู แู ลเปน อยา งดี  นกั เรียนถูกทิ้งใหอ ยบู านเพียงลําพังเปนบางครงั้  นักเรยี นถกู ทิ้งใหอ ยบู านเพยี งลาํ พังเปนประจํา  บานนักเรยี นอยใู นพนื้ ทห่ี างไกลชุมชน  บานนักเรียนอยใู นพื้นทห่ี างไกลชุมชน เม่ือมเี หตุสดุ วิสัยไมสามารถขอความชว ยเหลือจากผูอื่น หรอื หนว ยงานตาง ๆ ไดทันที

109  บา นนกั เรียนอยใู นพืน้ ที่ท่ีมีการมั่วสมุ เชน ยาเสพตดิ สุรา การพนนั  บานนักเรียนอยูใ นพนื้ ทีท่ ี่มีการมัว่ สมุ เชน ยาเสพติด สุรา การพนนั เม่ือมเี หตสุ ดุ วิสัยไม สามารถขอความชวยเหลอื จากผูอน่ื หรือหนวยงานตาง ๆ ไดท นั ที ๓) การไมไ ดร บั ความเปนธรรมจากระบบการศึกษา  นักเรียนไดรบั การศกึ ษาและการพัฒนาตนเองจากหนวยงานทีเ่ กี่ยวของกับระบบการศกึ ษา  ครอบครวั นักเรยี นขาดการรบั ขอมูลขา วสารจากหนว ยงานตา ง ๆ เนอื่ งจากอยูใ นพน้ื ที่หางไกล บนเขา ติดชายแดน หรอื พน้ื ทีเ่ สย่ี งภัย  ผูปกครองกลัวลูกถกู รังแกหรือกล่ันแกลงหรือไมไดรบั การดูแลเทา ทค่ี วรเหมาะสม  ผปู กครองขาดความรูความเขาใจเกยี่ วกับระบบการศึกษา เพราะคิดวาเด็กพิการไมตองเขา ระบบการศกึ ษา  การคมนาคมและระบการตดิ ตอ สือ่ สารไมสะดวก  การสื่อสารดานภาษา เชน กลมุ ชาติพันธ กลมุ ชนกลุม นอย ๔.๔ ภัยที่เกิดจากผลกระทบตอสุขภาวะทางกายและจิตใจ ๑) ภาวะจติ เวช  นกั เรียนไดร บั การดูแลเลี้ยงดจู ากผปู กครองและผดู ูแลเปนอยางดี  นกั เรียนมีพฤตกิ รรม อารมณ รางเรงิ แจมใส หรอื สามารถแสดงพฤติกรรม อารมณไดอยาง เหมาะสมและสอดคลองตามสถานการณ  นกั เรียนมีพฤติกรรม อารมณไมเ หมาะสมบางสถานการณ  นักเรียนปญ หาดา นครอบครัวสงผลกระทบตอจิตใจ  นักเรยี นมีปญ หาดานสภาพแวดลอมในชุมชน ทส่ี งผลตอพฤตกิ รรม  นกั เรียนมภี าวะอาการโรคซึมเศรา  นักเรียนมปี ญ หาทางดา นพฤติกรรมและอารมณทร่ี นุ แรง ๒) ติดเกม  นักเรียนไดร บั การดูแลเลยี้ งดูจากผูปกครองและผดู แู ลเปน อยางดี  นักเรียนสามารถแบงเวลาในการเลน เกมและทํากิจกรรมอืน่ ๆ โดยไมมีภาวะพฤติกรรมตอ ตาน  นกั เรียนถูกปลอ ยปละละเลยใหเ ลนโทรศพั ทห รือเลนคอมพวิ เตอรโ ดยไมม ีการควบคุม ดแู ล เปน บางคร้ัง  นกั เรยี นถูกปลอยปละละเลยใหเ ลนโทรศพั ทห รือเลน คอมพิวเตอรโดยไมม ีการควบคุม ดูแล บอ ยครงั้  สภาพแวดลอมทใ่ี กลช ดิ ทําใหน ักเรยี นมีพฤติกรรมเลยี นแบบ เชน ผดู แู ลเลนเกมคอมพิวเตอร หรือมอื ถืออยางไมระมดั ระวงั

110  นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณที่กาวราวรนุ แรง เม่อื ถูกหาม ยดึ หรือจํากัดเวลาใน การเลนเกม  ผูดูแลขาดความเขาใจในสอ่ื ออนไลนไมส ามารถแนะนําใหน กั เรยี นเลนเกมอยา งระมัดระวังได ๓) ยาเสพติด  นักเรยี นไดรบั การดูแลเลี้ยงดูจากผูปกครองและผดู แู ลเปน อยา งดี  นกั เรยี นสามารถรับรูถงึ โทษของยาเสพตดิ  นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอม ครอบครัวหรอื ชุมชน ทีม่ กี ารใชสารเสพตดิ หรือมีความเก่ียวของ กับยาเสพติด และการกระทาํ ผดิ กฎหมาย  นกั เรยี นถูกชกั ชวนจากผูอืน่ ไดงาย  นกั เรยี นมีพฤติกรรม เลียนแบบหรือทาํ ตามผอู ื่น  นักเรยี นเคยทดลองใชยาเสพตดิ  นักเรียนใชยาเสพติด  นกั เรยี นถูกหลอกใชใ หเปนผูส ง -รบั ยาเสพตดิ  นักเรียนเปน ผขู ายหรอื ผูซื้อยาเสพติด ๔) โรคระบาดในมนุษย  นกั เรียนไดรบั การดูแลเลีย้ งดจู ากผูปกครองและผูดแู ลเปน อยา งดี  นกั เรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นกั เรียนมกั ถูกทง้ิ ใหอ ยูต ามลาํ พังหรือไมมผี ดู แู ล  นกั เรียนรูจ ักวิธีการปองกนั และสามารถดแู ลตนเองใหปลอดภยั จากโรคระบาดได รางกาย  นักเรียนไมสามารถดูแลตนเองจากโรคระบาดได เชน การใสแ มส ลา งมอื ทําความสะอาด  นกั เรียนอาศยั หรือใชช ีวติ อยูใ นสภาพแวดลอมท่ีเปน แหลงแพรเ ช้อื โรค  นกั เรียนอยูใกลชดิ กับผูป วย เชน บคุ คลในครอบครวั เพ่ือน  ผูใกลช ดิ หรอื บุคคลในครอบครัวเปนโรคระบาดและนักเรียนไมสามารถปองกันตัวเองได  นกั เรยี นปวยเปน โรคระบาดและไมสามารถปองกนั การแพรกระจายเชือ้ จากตนเองไปสูผอู ื่นได ๕) ภยั ไซเบอร  นกั เรียนไดรบั การดูแลเลี้ยงดูจากผปู กครองและผูดแู ลเปนอยา งดี  นกั เรียนสามารถแบงเวลาในใชส ่อื เครือขา ยสงั คมออนไลนแ ละทํากิจกรรมอน่ื ๆ โดยไมม ีภาวะ พฤติกรรมตอตา น  นักเรียนถกู ปลอ ยปละละเลยใหเ ลน โทรศัพทหรือเลนคอมพิวเตอรโ ดยไมมีการควบคุม ดแู ล เปนบางครง้ั  สภาพแวดลอมท่ีใกลชดิ ทําใหเ ดก็ มีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน ผดู ูแลใชส่อื เครือขายสงั คม ออนไลนอ ยา งไมร ะมดั ระวงั

111 ระมัดระวังได  ผดู ูแลขาดความเขา ใจในใชส อื่ เครือขายสงั คมออนไลน ไมส ามารถแนะนาํ ใหเ ด็กใชอ ยา ง บอยคร้ัง  นกั เรียนถกู ปลอ ยปละละเลยใหเลน โทรศัพทห รือเลนคอมพิวเตอรโดยไมมีการควบคุม ดแู ล นักเรยี นแสดงพฤติกรรมหรอื อารมณท ่ีกาวรา วรุนแรง เม่ือถูกหาม ยดึ หรอื จาํ กดั เวลาในใชส ือ่ เครอื ขายสงั คมออนไลนและทํากิจกรรมอื่น ๆ ๖) การพนนั  นกั เรียนไดร ับการดูแลเลีย้ งดจู ากผปู กครองและผูดูแลเปน อยางดี  นกั เรยี นสามารถรบั รถู ึงโทษของการเลนการพนัน  นักเรยี นอยูในครอบครวั ชมุ ชนหรือสภาพแวดลอม ท่ีมีการเลนพนัน  นกั เรียนถูกชกั ชวนจากเพ่ือนหรือผใู กลชดิ ใหเลนการพนัน  นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเลน การพนันตามเพ่ือนหรอื ผูท่ีอยใู กลชดิ  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมสอไปทางการเลน หรือตดิ การพนัน ๗) มลภาวะเปนพิษ  นกั เรียนไดรับการดูแลเลี้ยงดจู ากผปู กครองและผดู แู ลเปนอยา งดี  นักเรียนรจู ักวธิ ีการปอ งกันและสามารถดูแลตนเองใหป ลอดภัยจากมลภาวะตา ง ๆ ได  นักเรยี นอยใู นสภาพแวดลอ มทีเ่ ปน แหลงมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางน้ํา  นกั เรียนไมสามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได เชน การใสแมสเพื่อปองกันมลภาวะทางอากาศ  นกั เรียนปวยหรอื เปนโรคท่เี กดิ จากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางนํ้า เชน โรคระบบทางเดินหายใจ โรคท่ีเกย่ี วกับการไดยินเสียง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสขุ ภาวะทางกายอืน่ ๆ ที่ เกิดจากมลภาวะเปนพิษ ๘) โรคระบาดในสตั ว  นักเรียนไดรบั การดูแลเลีย้ งดจู ากผปู กครองและผูด ูแลเปน อยา งดี  ครอบครัวนกั เรยี นรูจ กั วธิ ีการปองกนั และสามารถดูแลสัตวเ ล้ยี งและคนในครอบครวั ให ปลอดภยั จากโรคระบาดหรือโรคติดตอ จากสัตวไ ด  ครอบครัวนักเรยี นไมมีความรใู นการดูแล ปอ งกันโรคตาง ๆ จากสตั วเ ลี้ยง  นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอ มหรือชุมชนที่มีการเลย้ี งสัตว ทาํ การปศุสัตว  นกั เรยี นอยูในสภาพแวดลอมหรือชมุ ชนท่ีมีการเกดิ โรคระบาดสัตว  นักเรยี นปวยหรอื ตดิ เช้ือจากโรคตา ง ๆ จากสัตวเลีย้ ง หรือโรคระบาดในสัตว เชน โรคพิษสุนัข บา โรคไขเ ลอื ดออก ไขห วดั นก โรคฉี่หนู โรคอหิวาในสตั ว โรคเชื้อราผิวหนงั โรคเกย่ี วกับพยาธใิ นสัตว เปนตน ๙) โรคภาวะทุพโภชนาการ  นักเรียนสามารถรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน ถกู ตองตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู

112  นักเรียนรจู กั โทษของอาหารทไี่ มมปี ระโยชนตอ รา งกาย  นกั เรยี นสามารถออกกาํ ลังกายไดอยางสมํา่ เสมอ  ผูป กครองดูแลและมีความรูค วามเขาใจดานโภชนาการอยางถูกตอง  นกั เรียนรับประทานทไี่ มมีประโยชน ไมถ ูกตองตามหลักโภชนาการ  ผูปกครองขาดความรูและไมม ีเวลาในการดูแลจดั อาหารใหถูกตองตามหลักโภชนาการ  นกั เรยี นมนี ้ําหนกั ผิดปกติไมส มั พนั ธก ับสว นสงู หรืออายุ  นกั เรียนปวยเปน โรคขาดสารอาหาร  นกั เรยี นปว ยเปนโรคขาดสารอาหารหรอื มีปญ หาทางดานสุขภาพตงั้ แตกําเนิด ๔.๕ ภยั สังคมในเทศกาลตาง ๆ ๑) ถูกจ้ปี ลน /ถกู วงิ่ ราวทรัพย/ ถูกลว งกระเปา  นักเรียนรจู กั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการถูกจีป้ ลน/ถูกวิ่งราวทรพั ย/ ถูกลว งกระเปา และผปู กครองดูแลอยา งใกลช ิด  นักเรยี นไมรูจ กั วิธีการปองกนั ตนเองตอ การถูกจ้ปี ลน /ถูกว่ิงราวทรพั ย/ ถูกลวงกระเปา แตผปู กครองดูแลอยางใกลชดิ  นกั เรียนรูจักวธิ กี ารปอ งกันตนเองตอการถกู จ้ีปลน/ถูกวิ่งราวทรัพย/ ถูกลวงกระเปา และมผี ดู แู ลใกลชิดบางเวลา  นกั เรยี นไมร ูจักวิธีการปองกนั ตนเองตอ การถูกจี้ปลน /ถูกวิง่ ราวทรพั ย/ ถูกลวงกระเปา และมีผูดแู ลใกลช ิดบางเวลา  รูนักเรียนจกั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการถกู จ้ีปลน/ถูกว่ิงราวทรัพย/ ถูกลว งกระเปา แตถ ูกทงิ้ ใหอยูตามลําพงั หรอื ไมม ีผดู แู ล  นักเรียนไมรจู กั วธิ กี ารปองกันตนเองตอ การถูกจ้ีปลน/ถูกวิง่ ราวทรัพย/ถูกลว งกระเปา และถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พังหรือไมมผี ดู แู ล ๒) ถูกลอ ลวง/ถกู หลอก  นกั เรยี นรจู กั วธิ ีการปอ งกันตนเองตอการถกู ลอลวง/ถกู หลอก และผปู กครองดูแลอยางใกลช ิด  นักเรียนไมรูจักวิธกี ารปองกนั ตนเองตอการถูกลอลวง/ถูกหลอก แตผูปกครองดูแลอยา ง ใกลชดิ  นักเรยี นรจู กั วิธีการปอ งกันตนเองตอการถูกลอลวง/ถูกหลอกและมผี ูดูแลใกลชดิ บางเวลา  นกั เรยี นไมร ูจกั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลอ ลวง/ถูกหลอกและมีผดู ูแลใกลชิดบางเวลา  นักเรียนรูจักวธิ ีการปองกันตนเองตอการถกู ลอลวง/ถกู หลอกแตถูกท้ิงใหอ ยูตามลําพังหรือไมมี ผูดแู ล

113  นกั เรียนไมรูจกั วธิ กี ารปองกนั ตนเองตอ การถูกลอลวง/ถกู หลอก และถกู ท้ิงใหอ ยูตามลําพัง หรือไมมีผดู ูแล ๓) ถูกลักพาตัว  นกั เรียนรจู กั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลกั พาตวั และผปู กครองดแู ลอยา งใกลชิด  นักเรยี นไมรจู กั วธิ ีการปองกนั ตนเองตอการถูกลกั พาตวั แตผ ูป กครองดูแลอยางใกลช ิด  นกั เรยี นรูจกั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลักพาตัวและมีผูดูแลใกลชิดบางเวลา  นักเรียนไมร ูจ ักวธิ กี ารปองกนั ตนเองตอการถูกลกั พาตัวและมผี ดู ูแลใกลช ิดบางเวลา  นักเรยี นรูจกั วธิ ีการปอ งกันตนเองตอการถูกลกั พาตัว แตถ ูกทิ้งใหอ ยตู ามลาํ พังหรอื ไมมีผูดแู ล  นกั เรยี นไมร ูจกั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลกั พาตวั และถูกทิ้งใหอยูต ามลําพงั หรือไมมี ผูดูแล ๔) ถูกวางยาดวยวิธีการตาง ๆ  นักเรยี นรูจกั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดว ยวิธกี ารตา ง ๆ และผูปกครองดูแลอยาง ใกลชิด  นกั เรยี นไมร จู ักวธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวธิ ีการตาง ๆ แตผูปกครองดูแลอยาง ใกลช ิด  นกั เรียนรูจกั วธิ ีการปอ งกันตนเองตอการถกู วางยาดวยวิธีการตาง ๆ และมีผูด แู ลใกลชิดบาง เวลา  นกั เรียนไมรูจกั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวิธกี ารตาง ๆ และมผี ูดูแลใกลชดิ บาง เวลา  นกั เรยี นรจู กั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวิธีการตาง ๆ แตถูกท้ิงใหอยูตามลําพงั หรือไมมีผดู ูแล  นกั เรียนไมร ูจกั วิธีการปองกันตนเองตอ การถูกวางยาดวยวธิ กี ารตา ง ๆ และถูกทงิ้ ใหอยูต าม ลําพงั หรอื ไมม ีผูดูแล ๕) อนาจารขมขืนกระทําชาํ เรา  นักเรยี นรูจกั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการอนาจารขมขนื กระทําชาํ เรา และผูป กครองดูแลอยาง ใกลชดิ  นกั เรยี นไมรจู กั วธิ ีการปองกนั ตนเองตอ การอนาจารขมขนื กระทาํ ชําเรา แตผูปกครองดูแล อยางใกลช ิด  นักเรยี นรูจักวิธีการปองกันตนเองตอการอนาจารขมขืนกระทาํ ชาํ เราและมผี ูดูแลใกลชิดบาง เวลา

114  นกั เรยี นไมรูจกั วิธกี ารปองกนั ตนเองตอการอนาจารขม ขนื กระทาํ ชาํ เราและมีผูดแู ลใกลชดิ บาง เวลา  นักเรยี นรจู ักวิธีการปองกันตนเองตอการอนาจารขมขนื กระทําชาํ เราแต ถูกทิง้ ใหอยตู ามลาํ พงั หรือไมมผี ดู ูแล  นกั เรยี นไมรจู ักวธิ กี ารปองกันตนเองตอ การอนาจารขมขืนกระทาํ ชาํ เรา และถกู ทิ้งใหอยตู าม ลาํ พังหรือไมมีผูดูแล ลงชื่อ...............................................ผบู นั ทึกขอ มลู (......................................................) ตาํ แหนง ................................

๘ 115 แบบรวบรวมขอ้ มูลผ้เู รียน ตามกรอบคิดแนวเชงิ นิเวศ (Ecological System) ช่อื -นามสกุลนักเรยี น เดก็ หญงิ พวงเพชร สุวรรณวงค์ ชื่อเลน่ เพลง ระดบั ชัน้ เตรียมความพร้อม ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบรกิ าร ห้องเรียนแสงตะวนั ฉาย ชอื่ สถานศกึ ษา ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจา จงั หวัดลาปาง อาเภอ เมืองลาปาง จังหวดั ลาปาง ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี ๒๗ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง

๙ 116 รวบรวมข้อมูลผ้เู รยี น ข้อมูลของผ้เู รียน ๑. ข้อมูลของผู้เรียน ชอ่ื เล่น เพลง ชอ่ื -นามสกุลนกั เรียน เด็กหญงิ พวงเพชร สุวรรณวงค์ อายุ ๔ ปี เพศ หญงิ เชอื้ ชาติ ไทย ประเภทความพกิ าร บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา โรคประจาตวั -  ลักษณะความพิการ เด็กมีปัญหา พูดไม่เป็นเป็นคา พูดไม่เป็นประโยค ส่ือสารออกมาไม่ค่อยเข้าใจ หูข้างซ้ายได้ยินชัด หูข้างขวาได้ยินชัด พฤติกรรมด้านอารมณ์และพฤติกรรมเป็นเด็กท่ีอยู่ไม่น่ิง ตื่นเต้นง่าย สามารถทาตาม คาส่ังได้บางคาสั่ง แต่ไม่มีสมาธิไม่มองในส่ิงท่ีทา สมาธิส้ัน ใช้ภาษาไม่สมวัย ไม่เข้าใจคาส่ัง ไม่สามารถทา ตามคาส่ังได้ หรือสามารถดูแลตัวเองในชีวิตประจาวันได้น้อย ในการรับประทานอาหาร / การอาบน้า / แปรงฟัน / การแต่งกาย ไม่สามารถทาความสะอาดหลังการขับถ่าย ต้องกระตุ้นในการปฏิบัติกิจวัตร ประจาวันอยู่เสมอ ช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจาวันได้ต่ากว่าวัยชอบเล่นกับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า หรือไม่ สามารถเล่นกับเพอื่ นตามวยั เล่นเลยี นแบบผอู้ ่นื อยา่ งไมเ่ หมาะสมกับวยั ไม่มปี ญั หาดา้ นพฤตกิ รรม  พฤตกิ รรมของผ้เู รยี น พฤติกรรมสว่ นบคุ คล ผูเ้ รียนมีสมาธสิ ้นั วอกแวกง่าย ไม่สามารถจดจ่ออย่กู บั กิจกรรมที่ได้รับมอบหมายใหท้ าได้นาน ขณะทากจิ กรรมครูคอยกระตุ้นเตือนอยู่ตลอดเวลา พฤตกิ รรมการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถรับร้สู ิ่งเร้ารอบตัวและเรียนรู้ผา่ นการทากิจกรรมจากสถานการณ์จริง และต้องอาศัย เทคนิคการสอนซ้า ๆ ย้าทวนให้กับผู้เรียน นอกจากนี้ผู้เรียนยังมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าผ่านการรับ ความรู้สึกของระบบเอน็ กลา้ มเน้อื และข้อตอ่ ได้ไม่เหมาะสม เนอ่ื งจากผูเ้ รยี นมกี ารเล่นที่ยงั กะแรงไม่ได้ ผู้เรียนควรได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการกระตุ้นระบบประสาทความรู้สึก การจัด กิจกรรมท่ีกระตุ้นประสาทสัมผัสท้ัง ๕ การจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ เพ่ือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความรู้ออกมาอย่างเต็มความสามารถ โดยมีพ่ีเล้ียงเด็กพิการคอย ประกบขณะทากิจกรรมร่วมด้วย หรืออาจให้ความช่วยเหลือผ่านการกระตุ้นเตือนด้วยวาจา หรือกระตุ้น เตือนท่าทางร่วมดว้ ย จึงจะสามารถทากจิ กรรมไดส้ าเร็จ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

๑๐ 117 ภาพนักเรยี น กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

118 ๑๑ รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รียน ข้อมูลความสามารถผู้เรียน  ความสามารถพ้นื ฐานของผ้เู รยี น จดุ ออ่ น ๑.๑ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา้ นรา่ งกาย ๑. ผู้เรยี นไม่สามารถกระโดดสองขาไปด้านหนา้ อย่าง จุดเดน่ ตอ่ เนอ่ื งเพ่ือข้ามส่งิ กดี ขวางได้ดว้ ยตนเอง ๑. ผู้เรียนมพี ัฒนาการดา้ นกล้ามเนอื้ มัดใหญ่ สามารถ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปยงั สถานท่ตี ่าง ๆ ไดด้ ้วยตนเอง ๒. ผูเ้ รยี นมพี ัฒนาการด้านกล้ามเน้ือมัดเล็ก สามารถ ๒. ผเู้ รยี นมีรูปแบบการจับดนิ สอไมเ่ หมาะสมตามวยั ขีดเขยี นและระบายสีไดด้ ้วยตนเอง ๑.๒ ความสามารถพน้ื ฐานทางดา้ นอารมณ์ จิตใจ จุดเดน่ จุดอ่อน ผเู้ รียนสามารถตอบสนองต่อเสยี งเรียก และแสดง ผเู้ รยี นไมส่ ามารถตอบสนองผ่านการส่ือสารทางวาจา อารมณผ์ ่านสหี นา้ และทา่ ทางไดด้ ว้ ยตนเองใหผ้ อู้ นื่ เป็นประโยคใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจได้ เข้าใจได้ รวมท้งั แสดงอารมณ์เมือ่ ตนเองไมพ่ อใจในสง่ิ ที่ตอ้ งการใหท้ าไดโ้ ดยการแสดงสหี นาไม่พอใจ รอ้ งไห้ หรอื หลีกหนีออกจากกจิ กรรมทใี่ หท้ า ๑.๓ ความสามารถพื้นฐานทางดา้ นสังคม จดุ อ่อน ผูเ้ รยี นไมค่ ่อยมโี อกาสในการออกไปเข้ารว่ มกิจกรรมใน จดุ เด่น ชมุ ชน เพอ่ื มปี ฏสิ ัมพันธก์ บั คนภายในชมุ ชน เน่ืองจาก ผเู้ รยี นรูจ้ กั บคุ คลภายในครอบครวั ของตนเอง ได้แก่ มพี ฤติกรรมอยูไ่ ม่นง่ิ ผปู้ กครองจงึ มีความยากลาบาก บดิ า และมารดา และแสดงอาการดีใจเมื่อมีแมซ่ ึ่งเปน็ ในการดแู ลและจงึ ไม่พาเข้าร่วมกิจกรรม ผ้ดู แู ลหลักมารับกลับบา้ นหลังเลกิ เรียน รวมทง้ั ผ้เู รยี น ไดม้ โี อกาสได้รูจ้ ักบุคคลภายนอกครอบครวั ไดแ้ ก่ ครู ประจาช้ัน/นกั กิจกรรมบาบัด นกั กายภาพบาบัด และ ครกู ารศึกษาพิเศษ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง

รวบรวมข้อมลู ผเู้ รียน 119 ๑๒ ข้อมูลความสามารถผเู้ รยี น ๑.๔ ความสามารถพื้นฐานทางด้านสติปัญญา จุดอ่อน ผเู้ รยี นมักชอบต่อตา้ นหรอื ปฏเิ สธการทากจิ กรรม จดุ เด่น วิชาการในชั้นเรยี นท่ีตนไมช่ อบ ผู้เรยี นสามารถรบั รู้และเรียนรู้สงิ่ เรา้ ผ่านการทา กิจกรรมจากสถานการณ์จริง และชอบการเรยี นรู้โดย การใชเ้ ทคนิคสอนซ้า ๆ จะทาใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรยี นรู้ ไดด้ มี ากยิ่งขึน้ ๑.๕ ความสามารถพืน้ ฐานทางดา้ นทกั ษะจาเป็นเฉพาะความพิการ จดุ เด่น จุดออ่ น ๑. ผ้เู รียนสามารถฟงั คาสงั่ ไดเ้ ขา้ ใจ และสามารถ ๑. ขณะทากิจกรรมวิชาการในช้ันเรยี น สมาธสิ ั้น ปฏบิ ตั ิตามคาส่ังอยา่ งงา่ ยได้ ๑ ข้ันตอน สามารถจดจ่อกบั กจิ กรรมที่ทาได้เพียง ๓-๕ นาที ๒. ผเู้ รียนไม่สามารถจดจาเรอ่ื งราวทซี่ ับซ้อนได้ สามารถเขา้ ใจไดเ้ พยี งประโยคส้นั ๆ หรอื ข้อความ สั้นๆ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook