Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือคำแปลมหาปรินิพพานสูตร

หนังสือคำแปลมหาปรินิพพานสูตร

Description: หนังสือคำแปลมหาปรินิพพานสูตร

Search

Read the Text Version

คำแปลมหาป!นิพพานสตู ร (มีบ\"นทึกความคิดเหนประกอบ) พมิ พ์เผยแผ่ ในวสส์ านสมย ห.ส. ๒๙๑๒ เพ์อกานพิมปริมาณเครองมอ ไนการแสวงหาสตุ าริยทรพยในหระหทรสาสนา ขนในสังคมพุทธศาสนิกชาวไทย พิมพ์ครงนรก ๒,000 ฉบบ สง'Jนทิชสทั ธ 4

คานา ในส่งเวชนียวาร วิศาฃบุรณมี ใน พ.ศ. ๒๕๑๒ นํ้ นิธเิ ผยแผพ่ ทุ ธธรรมไมม่ ีโอกาสไค้พิมพห์ นิงสอื ธรรม ออกแจก ดุจทเี คยไคท้ ำมาใน พ.ศ. กอ่ น พุ ท1ง-น ก็ ควยสมรรถภาพของรา่ งกายท่ีกอ่ งทรุคโทรมลงก่ๆยอำนาจ ปฏิจฉนชรา เขไขคขวางไม่ ให้ฃไพเจไเขียนเร่อื งท่จี ะใช้ พมิ พใ์ ห้จบลงไคท้ ํนในวนท่ไี ค้กำหนคไว้ เร่อื งที่ถกู เขียน ฃนนึ่ จงึ ฅอิ งถกู เลื่อน มาพิมพ์แจกในกาลที่เบ็่นเขฺฅ พรรษา คุจท่เี คยไคท้ ำในบ่ื koc£©(S) นน ในศกน ไคฅ้ กลงใจแปลบาลมี หาปรินิพพานสฅู ร ออกพิมพ์ และมขี ไ]บนทึกแสคงกวามกคิ เหน็ สว่ น?ท เฉพาะในสว่ นท่เี บน็่ ขอฃอค ท่เี บ็่นปม ทเ่ี บ่็นบญหา ก่อไวข้ ไงทไยควย มหาปรินิพพานสฅู รน ขไพเจไเคย ไค้อา่ นจบมาแส่วคร่งื หน่งึ ในเวลานานมาแลว ในมหา- ปรินิพพานสู?!รนึ่ มฃี ไ]ธรรมทีเ่ บนหลไไปฏิบไทอยูม่ าก ละ แสดง พุทธ ประ'วฅใน บี1ปรนิ พิ พานไวโ้ คย ละเอียค

(ข) พุทธจรยิ าที่มี'ปรากฏอยู่ในพระสูดรน บอกไว้อยา่ งชดแจง วา่ พระพทุ ธเจาทรงอปบ”'ดขนมา เพอื ประโยชน เพอ ความสุข แก่ชาวโลกอย่างแทจ้ รงิ ทรงใชพ้ ล้งบณญา พ.ลงชีวิฅ ทำประโยชน์ท่ยี ง่ี ใหญใ่ ห้แกช่ มุ ชนจนจวบวาระ สุคทายแห่งชวี ฅิ มหาปรินพิ พานสฅู ร เบนพระสฅู รทีย่ าว มขี ,อ' ความทีถ่ ูกบรรจเุ ขไไว้ถงึ ๑๑๑ หนไกระดาษ พิมพช์ นดิ หนไใหญ่ และยิงมี ๆลๆ ขอความทซ่ี าไวห้ ลายแหง่ มหาปรนิ ิพพานสูดรน์ คณะพระสงคีฅกิ ารกเถระ ไค้เกบ็ ขอความทค่ี วรทราบจากนกิ ายทงํ้ ๕ แหง่ พระสุฅฅนฅบฎก มาแตง่ เบนสูดรพเิ ศษขน ในปชมส่งคฅี ิกาล' เาAเราะเบน พระสดู รทีม่ ีลำเนาความยาวมาก ท่านจึงดองแบง่ ฃอิ ความ ที่เบ็่นดวพระสูดรน์ออกเบน ๖ ภาณวาร ภาณวารหนง่ึ พุ คือปรมิ าณคำบาลที ่ถี กู กำหนดให้ภิกษุคณะหนงึ่ พุ ท่องจำ ในยุคท่คี ำบาลยี ิงมิไคถ้ ูกเขยี นลงในใบลาน แดย่ งิ ริกษา ไว้คิวยดอ่ งท่องจำควยปาก ขอ ความใน ดอน ทไย แหง่ \" พระสดู รนึ่ ย่อมแสดงหลกํ ^านทางประวดิ ศาลดรว์ า่ ใน

(ค) กอ่ นพรรษกาลหล่งพุทธปรินพิ พานนน วงศ์เจาศากยะ ชาว ก บ ลิ พ พ ุ ยงิ มิได้ ถูกรา ชน วฑิ ูฑภะ ทำ ลาย ลไง และ แควน วชชกี ็ยิงมไิ ดเ้ สีย ความ เบ่็น เอกราช แก่ มคธ ราชินิ:วฑิ ูฑภะ กรีธาทิพไป ทำลาย ลางวงศ์ เจไศากยะชาว ก บ ิล พ ํพ ุ คงจะหลงํ พทุ ธปรนิ พิ พานไม่นไ]ยกวา่ ๕—๖ เคอื น ส่วนการกรธี าทิพไปยึคแควนวช่ ชี ในล.ุ วิ. เล่าไว้ วา่ อชาฅศตรู กระทำ หลง จาก พุทธ ปรินิพพาน ๒ บี่ ๙ เคือน กองทพมคธไดย้ าฅราเฃไยึดแคว2นวซ่ ชี โคยมคิ อ่ ง เสยี ทหารเลยแมเ้ พียงคนเคียว เพราะคณะเจาลจิ ฉวผี ู้ ครองแกวนว่ชชไี ดแ้ ฅกสามค่ คจี นมองหนไกนไม่ได้ ด้วย อำนาจการส่อเสียคของพราหมณว์ รรษการะ พราหมณ์ วรรษการะ ผู้ถูก สง่ ทิว เขไไป เบนไร้ศก อ?ไน กรงุ เวสาลี ควยอบุ ายทางการเมอื งท่มี ีชนเชงิ โสมมนน มิไดถ้ ูกลง โทษเบนอบุ าย ควยการโบย การพน่ ธนาการ การโกน ผม และการเนรเทศ อยา่ งที่กล่าวกนอยูโ่ ดยมาก แค่ เขาเพยี งถูกโกนผมและถกู เนรเทศออจากมคธเทา่ น1น ทงํ้ นก็เพราะเขาได้ทูลกระซบิ ว่าการลงโทษ เพียงเทา่ น1นกพ็ อ ใเด้สำเรจ็ เบนอบุ ายไดแ้ ลว

(ฆ) การแปลมหาปรนิ พิ พานสูฅร นหรอี แมก้ าร แปล คำบาลีอนื่ ๆ ออกสู่ภาษาไทย ขำพเจิาแฟลควิ ยความ เบนควชองค่วเอง แปลควยมงุ่ ให้ไคใ้ จความ ฅามใจ ความในคำบาลี และแปลเพียงขนาคเท่าคำฅอ่ คำ ( เวน แคท่ ,ี เบนคำซา) ค่งท่ีนิยมแปลก'นอยู่ในยุคน แฅม่ ิไค้ แปลฅามโครงรปู ไวยากรณท์ ่ที ่านเรยี งไว้เสมอไป แปล คามโครงรปู ไวยากรณข์ องท่านบาง เปล่ยี นโครงรูป ไวยากรณ์เสยี ใหม่ แค่ ให้ไค้ใจความเทา่ นนบา่ ง ค่งคำ ว ่ า 1'เฅสํ วปู สโม สโุ ข ขำพเจาไค้แปลคามโครง รูปวเิ คราะห์ และแยกออกเบน ๒ ประโยค ทีง่ นํ้ ก็ เพ่อื ให้ไค้ใจความคามพระพทุ ธประสงค์ ทที่ รงมงุ่ ให้ คาถา อนจจฺ า น เบนบาลสี ำหรบใชบ้ ริกรรรมเบ่น็ อป- สมานสุ ฅิภาวนา คาถานิเบ็่นพทุ ธภาษฅิ ทีม่ อี ยู'่ ในที่มาหลาย แห่ง แมใ้ นคอนกอ่ นปรินิพพานประมาณ ๗—๘ ซ'วโมง พระพุทธเจาก็ขํงไคฅ้ รสํ คาถานสอนพระอาน*นทเถระ บาลีมหาปรินพิ พานสฅู รในฉบบของเรา มถี อย คำทผ่ี ิคพลาค จากคำบาลีค1งเคมิ อย่หู ลายแหง่ โคยเฉพาะ *1

(0 ในฅอนทีเ่ บ็่นกำรอยกรอง ค'งเช่นกำวา่ “ นหาตวุ า จ บวต่ ฺวา จทุ กานิ สตุ วฺ า ’ ซ่ึงทีถ่ กู เบ่น็ “ นทาตฺวา บวติ วุ า จ อุตตุ าริ สตุถา” เบน?ไน ในการแปลน ขำพเจำแปล ดามกำบาลี ทีแ่ นใ่ จวไเบนกำบาลีดง้ํ เดมิ ' ท ่ีคนหาไค้ใน นิกายอนื่ เชน่ ฃทุ กนิกาย ส่วนขอบนทกึ อธิบายความหมาย ในกำท่เี บนขอขอด่ ท่ีเบ็่นปม ทเ่ี บ็่นบญหา ขำงทายนน โปรดถอื เพียงเมนความคิดเห็นสว่ นฅวฃองขำพเจไ ท่ี มุง่ จะแสดงความหมายในกำนน้ํ ‘อุ ?ฑมหลํทเห?าผลุ เท่า นน ส่วนจะเห็นรว่ ม หรอื จะเห็นแยง เบนเรื่องสว่ นฅว ของทา่ นผอู้ า่ นโดยเฉพาะ เร่ืองนิ ไดพ้ ิมพ์ขนดวยใชป้ ระโยชน์ในสว่ น ๗๕% ของนิธเิ ผยแผ่ พทุ ธธรรม และเงิน ทีผ่ บู้ ริจาค อทุ ิศเบนค่า พิมพห์ น’งสือฃองนิธินโิ ดยเฉพาะ เบ็่นค่า'พมิ พ์ บุญอนใด ทบ่ี ่งเกดิ ขนมา จากการสรไงเครอื่ งมอื ที่เบ่็นแหส่งเบนที่ เกดิ แห่งสุ'?ท,ริยทร*พยใ์ นพระพุทธศาสนา ฃ้นํ ในชมุ ชนนิ บรรดาทา่ นผทู้ ี่ไดบ้ รจิ าค ทรพยใ์ ห้เบนทนุ นอนของนธิ ินิ และทา่ นผทู้ ี่ บรจิ าคทร*พย์ ร่วมเบน ค่าพมิ พ์หนังสอื เล่มนิ

(จ) ยอ่ มเบนผมู้ ีส่วนไค้รว่ มเบ1็ นเจไของบุญอนนนํ้ มาก—นอย คามจำนวนทรไสย์ทไ่ี ค้บรจิ าคไว้ ขออานภุ าพแหง่ บญุ ท่ี สำเรจ็ มาจากกุศลเจฅนามาจากกศุ ลกรรมน จงเกิดเบ็น่ พลว-บจจย่ '.'- อำนวยอภศิ ยสมบฅ การไคร้ ทู้ ิว ถึงใน อริยลไ)จะ ๔ และการไคป้ ระสบสนท่ีสุข?าามแบบของ พระพทุ ธเจไ แกบ่ รรคาท่านผู้ฑไี คม้ ีสว่ นเบนเจไของบุญ น่จึ งทุก พุ ท่าน เทอญ อนงึ่ รายรบ-จ่ายในสว่ นท่เี บนผลประโยชนข์ อง นิธิ ที่เคยแสคงใหทราบบละคร1ง แฅใ่ นฅอนน่ึมไิ ด้ แสคงนน มิไช1จะเลิกแสคง แคเ่ บ็น่ เพราะใน.คอนทำ หนไงสือสง่ 'โรงพิมพ์ มกมกี ิจกรรมทท่ี ำให้สมองยุ่งประคงิ เขไมาเสมอ ประโยชน์ ๒0 % ของนิธิน ไวยาวไ)กรไค้ สง่ มอบร่วมเขไใน ทุนบำรงุ ภิกษสุ ามเณ ร ควิ ยบจจยสหี มด จำนวนเสมอมา เฉพาะในบ ๒๕๑๑-๒๕๑๒ นึ่ ไวยา- วไ)กรไค้ส่งมอบเบนจำนวน ๑,๗๗๒.๖๐ บาท (หนงึ่ พน เจด็ รอยเจ็ดสบิ สองบาทหกสบิ สตางค์) สว่ นประโยชน์ ๕% กไ็ คใ้ ชส้ งเคราะห์บุคคล คามควรแกโ่ อกาส ๕%

5 '■ ด , , - - - - ท* . • * - ' S P V S ft (ฉ ) ในงวคกอ่ นและในงวคนยงมีเหลืออยู่กว่าคร่งึ รายการจา่ ย ท่ยี ํงมไิ คแ้ สคงน จะได้พิมพ์ออกแสดงให้ทราบ ในเมอ่ื โอกาสอำนวย ส่วนรายการรบนน ในเวลานใหเ้ บกิ มา เพยี งปริมาณเทา่ ท่ีจะใชจ้ ่ายในฅอนน1น ^ เท่าน1น ' โ / \" \" \" ไพระภิกษปุ าสาทโิ ก 'พทุ ธสาวกผา่ ยเถรราท วคราชบพิธ ถนนราชบพิธ พระนคร ๖ ฅุลาคม ๒๕๑๒

สารบาญ หนา ๑ ๑ ภาณวารที่ ๑ >> ๓ อชาฅศไารจู ะกรีธาทไม่ไปยึดวํชชี พราหมณว์ รรษการะไปเผาพระพุทธเจไ (รัรี พระผมู้ พี ระภาคเจ1ทฅรสํ ิแก่ พระอานนทเถระก่อน 5J ©© พระผูม้ ีพระภาคเจ,าครสแกพ่ ราหมณ์ J) ๑๒ วรรษการะ ?? ๑๓ ฅร้สสงํ ใหเ้ รียกประชุมหมภู่ กิ ษุ ?) ๑๗ ภิกขุอปริหานียธรรมหมวคที่ ๑ 5? ๒๐ ภิกขุอปรหิ านยี ธรรมหมวดท่ี ๒ >> ๒๑ ภกิ ขุอปริหานียธรรมหมวดท่ี ๓ ภิกขอุ ปรหิ านียธรรมหมวดที่ ๔ ๒๓ ภิกขุอปรหิ านียธรรมหมวด่ท่ี ๕ ๒๔ แทรกแสดงความหมายแห่งสิญญา ๗ ๒๕ ภกิ ขุอปริหานยี ธรรมหมวดท่ี ๖ >> ๒๘ ทรงแสดงอานสิ งส์แห่งใครสกิ ขา

(๒) ไปประท!ในสวนฅนมะมว่ งออ่ น หนไ ๒๙ เสด็จไปเมืองนาพ่นทา ๓0 เสดจ็ ไปประท!เในบานปาฏลิ ๓๘ ชาวปาฏลถิ วายเรือนแรม >? ๓๘ สลี วบิ ไทมีโทษ ๕ อย่าง ๔๐ สลี สมํ ่ปทามือานิสงส์ ๕ - ?? ๔๒ ฅรสใหช้ าวหมู่บา่ นปาฏลกิ ล! ?? ๔๔ มหาอมาฅยแ์ หง่ มคธสราื งเมืองในหมูบ่ ่านปาฏ ล,ิ , ๔๔ ทรงพยากรณ์สถานการณใ์ นอนากฅแหง่ เมอื งใหม่ >> * ๔๗ สุนธี ะและวรรษการะถวายภฅฅาหาร ๔๘ เหคุที่มชี ่อื วา่ ประคโู คฅมะ ๕๐ ภาณวารท โร) ๕๒ ฅรสํ อรยิ สจจะทีห่ มู่ใภ้น่โกฏิ ๕๒ พหุลานสุ าสนีเมอ่ื ประท!ท่ีโกฏคิ าม ๕๕ ไปประท!ที'หม่บู านนาฑิกา ๕๖ ทรงบอกคฅิของสาวกผูก้ ระทำกาละ J> ๕๖ พหลุ านสุ าสนีเม่ือประท!ในเมอื งนาทกี า J? ๖๕

(๓ ) อนสุ าสนเี มือ่ ประทบในอมพปาลิวน หนไ ๖๖ มีสติค*วยการเจรญิ สตบิ ฏ3าน >> ๖๗ มสี มํ ปชญํ ญะควยการทำกวามรฅู้ วในทกุ อิรยิ าบถ ?? ๖๘ นางอ'มพปาลถี วายสวนมะม่วงเบนอาราม ๖๙ พหุลานสุ าสนเี มือ่ ประทบในอ'มพบา่ ลวิ น >> ๗๕ ไปจำพรรษา ณ หมู่บไนนอยเวฬวุ ะ ๗๖ ภาณวารที ๓ >> ๘๓ อิทธิบาทภาวนาชว่ ยยดื อาย ?? ๘๓ ทรงปลงใจเลิกเขไสมาบ*ฅเกรึอ่ งพยุงอายุ ?? ๘๖ เหฅุแหง่ การไหวแหง่ แผน่ ดนิ ๘ อย่าง ?? ๙๐ บรษิ ัท ๘ ?? ๙๕ อภิภายฅนะ ๘ ?> ๙๘ ๑๐๔ วิโมกข์ ๘ มารกราบทลู ใหป้ รนิ ิพพาน ?? ๑๐๖ พระอานนทเถระอาราธนาให้คำรงอยู่ JJ (5)<5)0 ฅลอคกปปะ ทรงทำการบิ อกใบแ้ ก่พระอานนทะ ๑๖ กรง ?? ©©โท

. ร?','1':'- ไ (๔ ) ประทานโอวาทแกภ่ กิ ษสงฆ์ หนา ๑๒อ 1 „ ๑๒๕ ภาณวารท4 ๔ พทุ ธโอวาททีภ่ ณฑกาม „ ๑๒๕ มหาปเทส ๔ „ ๑๒๘ พหุลานสุ าสนเี มอื ประทบทีอ่ าน\"นิฑเจคยี ์ 77 ©{โท(ร-ใ เสวยภหา้ ฅาหารทบ่ี ่านนายจุนทะ กมมารบฅุ ร ,, ๑๓๕ กองทรง.เกนิ ทางคิวยกวามอ่อนเพลีย 77 ©(ริท่ีo ในอ',บ่นา วิถปี ระสาทไมร่ บสมิ ผส 77 ©(รทิ (่ี โก ปุกกสุ ะถวายผาสิงควิ รรณ „ ๑๔๙ พระฉววี รรณของพระพทุ ธเจ่าบรสิ ทุ ธ์ มากใน ๒ กาล „ ๑๕๒ คิองประทมพํกในระหว่างทาง 77 ©(ร!,(ริท่ี ฅรสสงให้เปลองความเคอื คริอน่ ใจ ของนายจนทะ „ ๑๕๖ ภาณวารท4 ๕ „ ๑๕๘ ประทมบนเกยี งปรนิ พิ พาน „ ๑๕๘ ปฏบิ ่คฅบิ ูชาเบนบชู าที่แท้จริง ,1 ๑๖๐ อาการแหง่ หมู่เทวคาทม่ี าเผา „ ๑๖๒

สงเวชนยสถาน ๔ หนา ๑๖๖ วธิ ปี ;ฏิบ่ฅในสฅรี >> ๑๖๙ วธิ ปี ฏบิ ไทในพระพุทธสรีระ J} ๑๗๐ บุคคลผูค้ วรแกส่ ตปู ๔ JJ ๑๗๒ ฅร'สสิ รรเสรญิ พระอานนทเถระ ?? ๑๗๕ พระอานนทเถระกราบทูลให้ ไป ปรินิพพานในมหานคร ?? ๑๗๑ ก'ุ สิน'}ราเคยเบนจ'กรวรรคิราชธานี ๑๘๒ ฅรสํ ใหพ้ ระอานนทะไปแจ้งข่าวปรนิ พิ พาน แก่เจ้าม\"ลละ JJ ๑๘๓ เจม้ \"ลละไปถวายอภวิ าทพระพุทธเจา้ ๑๘๕ โปรอปริพาชก1ชื่อสภททะ ๑๘๗ ภาณวารที ๖ ๑๙๗ ทรงคงธรรมวนิ ยิ ไวแ้ ทนพระองค์ ?? ๑๙๗ >> ๑๙๘ ทรงอนุญาฅ่ให'้ ซ'กถามขอทย่ี 'งมีความสงส''ย ทรงกระทำบริกรรมเพือนพิ พาน 1แล่วปรนิ พิ พาน ?? ๒๐๑ สถานการณแ์ ห่งบรษิ ทํ ใํ นที,ปรินิพพาน ?? ๒๐๓

(๖) ชาวกสุ ินาราไปส'กการะพระพทุ ธสรรี ะ หนา ๒๐๙ พระมหากสปเถระทราบพุทธปรินิพพาน ๒๑๗ ฅอนเดินทาง ๒๒๐ จคุ ไฟถวายพระเพลงิ พระพทุ ธสรรี ะไม่ตดิ จดิ กาธารลกุ โพลงขนเมื่อภกิ ษุท1งน1น >> ๒๒๒ บงคมแลว >J ๒๒๔ ดา่ งประเทศขอรบสว่ นพระบรมธาตุ ?? ๒๒๖ พราหมณ์โทณะเสนอข่อไกล่เกลย่ี ?? ๒๒๗ >> ๒๒๘ คณะนิกรรบขอเสนอของพราหมณ์โทณะ >> ๒๒๙ ดา่ งประเทศขอรบส่วนพระบรมธาตอุ ีก ๒๓๑ สํมพ่ ุทธสฅูป ๑๐ องคแ์ รก คาถาทพ่ี ระเถระชาวลิงกาแคง่ เพม่ี เขา่ ใน ทายพระสูดรน บนํ ททเชงิ อรรทในสว่ นทีไ่ ส่หมายเลษไว้ 5? ๒๓๔ อยสเฅลโฑณี คือหีบศพชนสงู สุด ที่ถูกทำขนควยเหล็ก >? ๒๓๖ ๕๐๐ เบ็่นคำดรงกม็ ี เบ่น็ คำสำนวนก็มี ?? ๒๔๙

(๗) เทว ว ทุสฺสานิ ฑยหฺ ึสุ เบน็่ คำบาลใี น ฉบบของ ๓ ประเทศ หนไ ๒๕๓ การสงิ คายนาในผายเถรวาทมแี ลว ๑๒ ครง „ ๒๖© นีฅฅฺณทสนา—เนยยฅฺถเทสนา ๒๖๓ ธรรมทูฅไมม่ ีในคมภีร์ ๒๗ ๐ ทฅุ —เทวทฅุ —ยมทฅุ —อนทุ ุฅ ๒๗๑ คำ'ในคมภีรที ใี่ ชเ้ บ็่นช่อื แหง่ ภิกษทุ ่เี ทีย่ ว ๒๗๙ สอนธรรม ผา—สำลที ่ีหอ่ หุ้มพระพุทธสรีระมเี พียง๒ ก ,ู่ , ๒๘๒ ผทร้ องรบพระสารรี ิกธาตุ ถไมี คองเบน ผไแอสเบสถอส ๒๘๔ สาธกุ ฬี า ๒๘๙ เล่นแสดงความรนเรงิ ฉลองมรณกรรมของ อนธพาล ๒๙๑ นิธิเผยแผ่พทุ ธธรรม ๒๙๕ จำนวนทนุ ของนธิ เิ ผยแผ่พุทธธรรม ๒๙๖ รายการเกย่ี วกบการด1งทุน ๓ ๐๕ ทนุ คงขนใหม่ „ ๓๑๔

พระเทพโมลี (พนปาสาทโก) ผูแ้ ปลและแต่งเรืองฬ



คำแปลมพาปรนิ ิพพานเตร โดย พระ}เกษปาสาทโิ ก วดั ราพพิธ ภาณวารท่ี ๑ อร!าฅดไใรูจะกรีธาท'ทไปยึดวไ!ช ขไพเจไไค้สคบํ มาอยา่ งน: ครง ๑ พระผู้มพี ระ- ภาคเจไประทบอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกฏู ใกล้กรงุ ราชคฤห์ ก็ใน คร้ํงนํ้น ราชนํ แควนมคธผ้ทู รงมีพระนามวา่ อชาฅศฅรู เวเทหบิ ุ?าร ประสงค์จะกรีธาทํพไปยคึ แควน่ วชชี ทไว เธอฅรส่ ในคณะมนฅรอี ยา่ งนํ้วา่ “ อ'1นคณะเจไผู้ครอง แคว1นวช่ ชี ซ่ึงมีความพร2อมเพรยี งกนมากอย่างน มี อานุภาพมากอย่างน เหลา่ น เมอ่ื ถูกเราบนิ ทอนลงไค้ แค,วน'วซ่ ชีกจ็ กํ เบนอ'นถูกเราบินทอนลง ถูกเราทำให้ สลาย?ไวลง ถูกเราทำให้ถงึ ความล่มจมลง?ทย้ ” ถค,จาก นน ไค้?ารสล่งพราหมณว์ รรษการะ ผเู้ บ่น็ อมา?ายผ์ ู้ใหญ่

la แหง่ แกว*นมคธว่า “ พราหมณ์ ท่านจงออกไป จงเขไ ไปยิงสถานซงึ่ เบนท่ีประท่บอยู่ของพระผูม้ ีพระภาคเจา กรนเขาไปถงึ แลว จงบง่ คมพระผมู้ พี ระภาคเจไค2วยเศียร เกลา ฅามกำของกฉี ํน จงกราบทูลถามถึงอาการท่ีทรง มีอาพาธน1อย ทรงปวด เมอ่ื ย ขด ยอก■ น*อย ทรงลุก ขนไค้อย่างแกลว่ กล่อง ทรงแขง็ แรง ทรงอย่เู บนผาสุก ควยการอไงเบนคำของคฉี นํ ว่า ‘ ฃไแดพ่ ระผู้มพี ระภาค- เจไผ้ทู รงเจรญิ ราช,นแควนมคธ ทีม่ ีพระนามวา่ อชาฅศํฅรู เวเทหบิ ุฅร ทรงบง่ คมพระบาทของพระผู้มพี ระภาคเจไ ควยพระเศยี ร ทรงถามถึงอาการท่ีทรงมีอาพาธนอย ทรงปวด เมือ่ ย ขด ยอกนํอย ทรงลุกขนไคอ้ ย่างแคล่ว คล่อง ทรงแข็งแรง ทรงอย่เู บนผาสุก’ และจงกราบ ทูลชีแจงอยา่ งนว่า ‘ ราชนแกว2นมคธนน มพี ระประสงค์ จะกรธี าทพไปยึดแควนวชชี ไค้ฅรส.บอกในคณะมนฅรี อยา่ งนวี า่ ‘ อ'นคณะเจไผู้ครองแคว่นว่ชชี ซึ่งมคี วาม พรอมเพรียงก*นมากอยา่ งนน มอี านภุ าพมากอย่างน1น เหล่าน เมือ่ ถูกเราบ่นทอนลงไค้ แกวนวํชชี ก็จ่กเบ่น็ อนถกู เราบ่นทอนลง ถกู เราทำให้สลายฅํวลง ถกู เราทำ

๓ ใหถ้ ึงความลม่ จมลง,ควย ’ กพ็ ระผมู้ ีพระภาคเจไทรงพยา- กรณแ์ ก่ท่านอย่างไร ท่านจงเรยี นคำพยากรณน์ นใหค้ ี แล่วพีงบอกแกด่ ฉี นํ เพราะกำฅรสํ ของพระดถากคเจา ลง่ หลายย่อมไมล่ ่บปลบ ” ทราหมณว์ รรษการะไปเผาษระพทุ ธเจำ พราหมณว์ รรษการะรบพระโองการของราชนนํ้น แลว่ ไคจ้ ดเทียมยานชนดิ ทดี่ ี ทู ขนยานชนดิ ที่คี ๆ ออก ไป'จากกรงุ ราชคฤห์ควยยานชนิดทคี่ ี ๆ ล่บยานฅรงไปยํง' ภมู ภิ าค ซ่ึงเบ็นท่ีลง่ อยู่แหง่ ภูเขากิชฌกูฏ เดนิ ทางไปควย ยานฅลอคภมู ิภาคท่ีเบ็่นภมู ขิ องยาน ลงจากยานแลว ไค้ เดนิ ทางไปเพียงควยเทา่ เขิทไปยิงภูมภิ าค1ซึง่ เบ1็ นทีป่ ระทบ อยแู่ ห่งพระผูม้ ีพระภาคเจไ ครนเล่าไปถงึ แลวไคแ้ สคง อาการปรีดาปราโมทยล์ ่งพระผู้มพี ระภาคเจไ กล่าวลอ่ ย คำทแี สดงความหว่ งใย ท'ี ทำให้เกิดความแช่มชืนเบกิ บาน และล่อยคำทแี่ สดงความปรารถนาดี ท่ีชวนใหร้ ะลึกถงึ ล่นและกนแล่ว ไคน้ งลง ณ ทส่ี ุคคไนหนึง่ แลว่ ไค้กราบ ทูลพระผูม้ พี ระภาคเจไ ดามที่ราลน่ ลง่ มาทูกประการ

๔ พระผูม้ ีพระภาคเจไตรสแกพ่ ระอาน่นทเถระก่อน กใ็ นฅอนที่พราหมณว์ รรษการะเขำเผาอยู่นน พระอานนทะ ผมู้ ีอายุ ไคย้ นื พคพระผมู้ ีพระภาคเจไอยู่ทาง เบองพระปฤษฎางค์ ในฅอนทีค่ ำกราบทูลของพราหมณ์ น,น,จบลง พระผ้มู พี ระภาคเจ5ทใค้ฅรสถามพระอานนทะ ผ้มู ีอายุวา่ (๑ ) “ ท กู อ่ นอานนทะ เธอยิงไคย้ นิ วา่ กระไร บางไหมวา่ ‘ คณะเจไว'ชชียิงประชมุ ก่นอยโู่ ดยสมํ่าเสมอ ยงิ ประชุมกนํ ครบคามกำหนด ใ ” เม่อื ไค้ทรงพงคำกราบ ทูลคอบ'จากพระอานนทะ ผมู้ ีอายวุ ่า “ ขำพระบาทไค้ สด''บคำนวา่ ‘ คณะเจทวซิ ชียงิ ประชมุ กน้ อยู่'โดยสมา่ํ เสมอ ยงิ ประชมุ กน่ ครบคามกำหนด” ไคฅ้ รสยนื ยนิ 'ว่า “ ทูกอ่ น อานนทะ ■กค็ ลอดเวลาทค่ี ณะเจไวซชียงประชุมก่นอยู่โดย สมํ่าเสมอ ยงิ ประชมุ กน่ ครบคามกำหนด ความเจริญเพยี ง อย่างเคยี ว พึงเบ1็ นที่หว่งไค้โดยแนน่ อน แกค่ ณะเจไ วชํ ชี ความเสือ่ มไมพ่ ึงกลไกรายเขไมาไค้เลย ” (๒ ) “ ทูก่อนอาน\"นท่ ะ เธอยิงไคย้ นิ ว่ากระไร บา่ งไหมว่า ‘ คณะเจไว'ชชยี ิงพรไ]มเพรียงกนประชุม

ยงพรอมเพรยี งกินเลกิ ประชุม ยิงพริอมเพรยี งกนกระทำ กรณยี กจิ ของวชชอี ยู่ ? ” เมื่อไค้ทรงพงคำกราบทลู ฅอ-บ จากพระอานนทะ ผูม้ ีอาย'ุ วา่ “ ขไพระบาทไคส้ คบคำน ว่า ‘คณะเจไว*ชชยี ิงพรอมเพรียงกน,ประชมุ ยงิ พรอม เพรยี งกนเลกิ ประชมุ ยิงพรํอมเพรยี งยินกระทำกรณียกิจ ของวชชอี ย”ู่ ไคฅ้ รสยนื ยนิ 'ว่า “ ค ูกอ่ นอานนทะ ก็ฅลอด เวลาทีค่ ณะเจไวชชียไพรอมเพรยี งยนิ ประชมุ ยิงพรอม เพรียงยนิ เลกิ ประชุม ยงิ พรอมเพรียงยนิ กระทำกรณียกจิ ของวชชอี ยู่ ความเจรญิ เพยี งอยา่ งเคียว พึงเบนที่หว''ง ไคโ้ คยแนน่ อน แก่คณะเจไวชชี ความเสอ่ื มไม่พงึ กลไ กรายเขไมาไค้เลย ” (๓ ) “ คกู อ่ นอานนทะ เธอยงิ ไค้ยินวา่ กระไร บไงไหมว่า ‘ คณะเ จไวชชีม'ิ ไคบ้ 1ญญไทฃ้็นเองซึง่ ขอบ*ญญํฅ อนทปี่ ระชุมมไค้บ”ญญฅํ ไว้ มิไคเ้ ลิกถอนเองซ่ึงขอบญญฅ้ อนท่ีประชมุ ไค้บไyญํฅไว้แลว ฅดสนิ ลงโทษจำเลยโดย ยึคเกาะ'โบราณ'ว*ชชีธรรม ฅามท่ีบรรพชน’ไคม้ ่ญญ้ฅไว้ ?” เม่อื ไค้ทรงพีงคำกราบทลฅอบจากพระอาน*นท่ ะผู้มอี ายุวา่ “ ขไพระบาทไค้สคบคำนว่ า่ ‘ คณะเจไวชชีมไิ ค้บไ]Jญฅํ ขํ้น

๖ เองซึง่ ขอบ'ญญไทอ''นท่ ปี่ ระชุมม'ิ ไค้บ่'ญญไทใว้ มไิ คเ้ ลิกถอน เอง'ซึ่งฃิอบไyญ*ค้อ,นท่ีประชุม'ไคบ้ ํญญ้ดไวแ้ ล1ว ฅดสินลง โทษจำเลย โดยยดึ เกาะโบราณวชชธี รรม ฅามทีบ่ รรพชน ไค้บไบญไทไว้แลว” ไค้ฅรสยืนย*น'วา่ “ คกู อ่ นอานนทะ กฅ็ ลอดเวลาทคี่ ณะเจไวชชยี ิงมิไค้บญญฅํ ฃํ้นเองซ่ึงขอ บญญ*ทอนท่ีประชุมมิ'ไคบ้ ่'ญญไทไว้ ยิงมิไค้เลิกถอนเองซง่ึ ซอิ บไyญฅํ อนํ ่ท่ีประชมุ 'ไค้บญญํฅ’ใว้แลว ยงิ ฅดสนิ ลงโทษ จำเลยโดยยดึ เกาะโบราณวชํ ชีธรรม ดามท่ีบรรพชนไค้ บญํ ญฅ้ ไว้ ความเจรญิ เพยี งอยา่ งเคียว พึงเบนท่หี วงํ ไค้ อยา่ งแนน่ อนแก่คณะเจาว'ชชี ความเลื่อมไม่พงึ กลากราย เขไมาไดเ้ ลย ” (๔ ) “ ค ูก่อนอานนทะ เธอยงิ ไคย้ นิ ว่ากระไร บางไหมวา่ 1เจำว่ชชที เ่ี บนผใู้ หญแ่ หง่ เจำวํชซที ง้ํ หลาย น*น ยงิ เบนที่สกการะ ยงิ เบนที่เการพ ยิงเบ่น็ ทนี่ ํบถอื ยงิ เบ่็นท่บี ชู า ของคณะเจไวชชที งหลาย และคณะเจไ วชชที ีง่ หลาย ก็ยิงสากไญถอยกำของเจ,าวชํ ชีผ้ใู หญเ่ หลา่ นนวา่ เบ็น่ ถอยคำท่คี วรรบิ พง ใ ” เมื่อไคท้ รงพึงคำ กราบทูลฅอบของพระอานนทะ ผ้มอี ายวา่ “ ขไพระบาท

ไคสคบคำนวา่ ‘ เจ*ไว'โซชที 'ี เบนผใู้ หญแ่ ห่งเ1ทวชชฑี ํง้ หลายนน ยิงเบนี ทีฝกึ การะ ยงเบน็่ ที'เคารพ ยิงIบนที่ นบถือ ยงิ เบ็1นทีบ่ ูชาแห่งคณะเจไว\"ชชี ีท1งหลาย และ คณะเจำ-ว'ชีชีทงัห๊ ลายก็ยิงสำคไบถ*อยคำของเจไว'’ชชี ผี ้ใู หญ่ เหลา่ นนวา่ เบน็่ ถอยคำที่ควรริบพง ” ไคฅ้ รสยืนยิน'ว่า “ คกู ่อนอานนทะ กฅ็ ลอคเวลาท่เี จ่า-ว\"ชชที ่ีเบ็น่ ผูใ้ หญ่ แหง่ เจิาวซํ ชีทงํ้ หลายนน ยงิ เบ1็ นท่สี กํ การะ ยงิ เบ็1นที่ เคารพ ยงิ เบนทนี่ ํบถอื ยไ3เบ่น็ ที่บูชาของคณะเก่า'i ชชี ท1งหลาย และคณะเจไวชชที ้ํงํห๋ ลายกย็ งิ สำคญํ ถอยคำของ เจไวช่ ชที ่เี บน่็ ผู้ใหญเ่ หลา่ นนวา่ เบนถไ)ยคำที'ควรรบพง ความเจริญเพยี งอย่างเคียว พึง่ เบ'็ นท่หี ว่งไคอ้ ยา่ งแน่นอน แก่คณะเจไวชชี ความเสอื่ มไม่พึงกลากรายเฃไมาไค้เลย” (๕ ) “ คกู ่อนอานนทะ เธอยิงไคย้ ินว่ากระไร บ่างไหมว่า ‘ คณะเจไวชชที ํง้ ํห๋ ลาย มไิ คฉ้ ุดครา่ ขม่ เหง เอาสฅรีท่ีเบ่็นภรรยาแห่งตระกลู เอาสตรีสาวแหง่ ตระกลู มาเบ่็นภรรยาของตน ? ” เม่อื ไคท้ รงพีงคำกราบทูลตอบ จากพระอาน'นทะผ้มู อี ายุวา่ “ ขไพระบาทไคส้ ดบค่ ำนว่า 1คณะเจไว'ชชีท1งหลาย มิไค้ฉคครา่ ขม่ เหงเอาสตรีทเี่ บน

ภรรยาแหง่ ตระกูล เอาสตรสี าวแหง่ ฅระกูลมาIIIนภรรยา ของตน” ไดฅ้ รสยนื ย'น่ว่า “ ตูก่อนอานนทะ กต็ ลอด เวลา ที่ คณะ;เจ้า วชํ ซี ม'ิ ไค้ ฉดุ -คร่า ข่ม เหง เอา สตรี ท่ีเบน็่ ภรรยาของตระกลู เอาสตรสาวแห่งตระกลู มาเบ่น็ ภรรยา ของตน ความเจริญเพียง อย่างเดียว พงึ เบ็น่ ทหี่ วง่ ไค้ อยา่ งแน่นอน แก่คณะเจไว'ซ'ชี ความเสอื มไมพ่ ึงกลา กรายเขามาไค้เลย’ (๖ ) “ ค กู ่อนอานนทะ เธอยิงไค้ยนิ ว่ากระไร บา่ งไหมวา่ 4วํชซี เี จดยี ข์ องชาวว่ชชที ง่ หลาย ท่งี ทีต่ งอยู่ ในภายในนคร ทงท่ตี งอยู่ในภายนอกนคร ยิงเบนท สกการะ ยิงเบน็่ ท่เี คารพ ยิงเบนท่นี บถือ ยงิ เบนท่ีบูชา ของคณะเจาว'ชชี และคณะเจไว'ชชกี ม็ ิไค้ละเลยพลกี รรม ท่ีเบนธรรม ท่บี รรพชนเกย่ให้แลว •เคยกระทำแลไ แก่ ว'ชชเี จดยี ์เหล่านน ? ” เม่ือไค้ทรงพงี คำกราบทลู ตอบ จากพระอาพนี ท่ ะ ผู้มีอายุว่า “ ขไพระบาทไค้สต'บคำน ว่า ‘ วช่ ชีเจดยี ์ของชาวว่ชชที \"งหลายเหล่านนยิงเบ็เนที สกการะ ยงิ เบนที'เคารพ ยงิ เบ็1น-ท่นี 'ิ บถือ ยิงเบนทบ่ี ชู า ของคณะเจไวชชี และคณะเจไว'ชชีก็ยงิ ประกอบพลกี รรม

ฟ ที่เบ่น็ ธรรม ที่เคยถูกใหแ้ ลว่ ทีเ่ คยถูกกระทำแลว แก่ วชชเี จคียเ์ หลา่ นน” ไคท้ รงยืนยนวา่ “ คูก่อนอานนทะ กฅ็ ลอดเวลาทวี่ 'ชซีเจคยี ์ของชาววํชีชี ยงเบ็1นท่สี ้กการะ ยํงเบนทเี่ คารพ ยง่ เบ่น็ ที่นบถือ ย'งเบนท่ีบูชาของคณะ เจไวชชี และคณะเจไว'ชชีก็มไิ คล้ ะเลยพลกี รรมท่เี บ็'น ธรรม ที่บร.รพชนเกยให้แลว เคยกระทำแลว แกว่ ชํ ชี- เจคยี ์เหล่าน8น ความเจริญเพยี งอย่างเคียว พึงเบนที่หวง่ ไค้อย่างแนน่ อน แก่คณะเจไวชชี ความเลอ่ื มไมพ่ ึงกลา กรายเขไมาไค้เลย ” (๗ ) “ คูก่อนอานนํ ทะ เธอย่งไค้ยนิ วา่ กระไร บไงไหมวา่ ' คณะเจไว'ชชไี คจ้ 'คแจงทำเบน่็ อยา่ งคชี ่ึงการ บองกนและการคมุ้ กรอง คอื การประจงรกษาท่ชี อบควย ทำนองคลองธรรมใน1พระอรหนฅท์ โงหลาย ควยความม่งุ หมายว่า £ควยการให้การบองกนและการค้มุ ครองชนิค ไร ‘คู ท1งพระอรหํนฅท์ ่งี หลายทยี่ ง่ มิไคเ้ ขไมา พงึ เขไมาสู่ แว่นแก'วน ทีง่ พระอรห'นฅ์ทีง่ หลายที่เฃไมาแล่วพึงอยู่ ในแวน่ แกวนอยา่ งผาสกุ ” เมือ่ ไคพ้ ึงคำกราบทลู ฅอบ

ของพระอานนทะ ผ้มู อี ายวา่ £<ขาพระบาทไค้สคบ่ คำน ว่า £คณะเจไวช่ ชีไค้จดแจงทำเบนอย่างคซี ึ.่ งการบองกน และการค้มุ ครอง คอื การประจงรกษาทช่ี อบดวยทำนอง กลองธรรมในพระอรหนิ ฅท์ งหลาย ควยความม่งุ หมาย ว่า £ควยการให้การบองกนและการคุ้มครองชนิดไร ‘สุ ทะงพระอรหนฅท์ งหลายท่ยี ง่ มิไคเ้ ขามา พึงเขามาส่แู ว่น แควน ทะงพระอรหนฅ์ทง้ํ หลายทีเ่ ฃา่ มาแลว พงึ อยู่ใน แว่นแควนอย่างผาสกุ ” ไค้ทรงยนื ยํน,ิ ว่า ££คกู อ่ นอาน'นทะ กฅ็ ลอดเวลาที่คณะเจาว่ชชจี ํกจ่ คแจงทำเบ1็ นอย่างดี'ซงึ่ การ บองกน่ และการคุม้ ครอง คือการประจงรกษาท่ชี อบควย ทำนองคลองธรรมในพระอรหินฅท์ ้งํ หลาย ควยความมุง่ หมายว่า £ควยการใหก้ ารบองทนั และการคุ้มกรองชนดิ ไร ‘สุ ทงํ้พระอรหนฅฑ์ ไเหลายที่ยง่ มไี ค้เข่ามา พงึ Iขำมาสู่ แว่นแกวน ฑง้ํ พระอรหนฅฑ์ งหลายทเี่ ขามาแลว พึงอยู่ ในแว่นแควนอยา่ งผาสกุ ’ ความเจริญเพยี งอยา่ งเคยี ว พึงเบนที่หว่ง'ใด โดยแน่นอน แก่คณะเจไวชชี ความ เส่ือมไมพ่ ึงกลากรายเขามาไคเ้ ลย ”

๑๑ ทระผู้แนระภาคเจาตรํส์แก่พราหมณว์ รรษการะ ในฅอนท่ฅี ร้สแก่'พระอานนทะ ผู้มอี ายจุ บแลว นน พระผมู้ พี ระภาคเจไไค้ครส.บอกพราหมณ์วรรษการะ ผเู้ บนมหาอมาฅยแ์ ห่งแกว5นมคธวา่ “ คกู อ่ นพราหมณ์ ในสมยหนึ่งน พระฅถาคดพำน*กอาศยอยู่ที่สารนทฑเจดยี ์ ในกรุงเวสาลี ในคราวนน พระฅถากฅไค้แสดงอปริหา­ นยธรรม ๗ อย่าง แก่คณะเจไวชชี คูก่อนพราหมณ์ ก็ฅลอดเวลาท่ีอปรหิ านียธรรม ๗ อย่างน่ึ จ*กดํง้ อยู่ใน คณะเจไว*ชชี และคณะเจไวชชจี กเหน็ ดเี หน็ ชอบอย่ใู น อปริหานียธรรม ๗ อยา่ งนึ่ ความเจรญิ เพียงอย่างเดียว พงึ เบน'ทีห่ วง้ ไค้โดยแนน่ อน แกค่ ณะเจไว*ชชี ความ เสื่อมไมพ่ งึ กลากรายเขไมาเลย ” เมื่อ พระ ผู้ มี พระ ภาค เจไ ดร*ส อย่าง นึ่น แลว พราหมณ์วรรษการะผู้เบ็1นมหาอมาฅย์แหง่ แคว5นมคธ ได้ กราบทลู พระผ้มู พี ระภาคเจาอยา่ งน่วึ า่ “ ขไแดพ่ ระโคดม ผู้ทรงเจรญิ คณะเจไว*ซชผี ซู้ ง่ึ ประกอบฅวยอปรหิ านยี - ธรรมแมเ้ พยี งขอหนงึ ‘ยุ กพ็ งึ หว*งไคโ้ ดยแนน่ อนซง่ึ ความ เจริญเพียงอย่างเคียว ความเสอื่ มไมพ่ ึงกลไกรายเขไมา —

เลย จะกล่าวไปไยถงึ คณะเจา่ ว่ชชผี ู้ที่ประกอบคิวย อปรหิ านยี ธรรมท่ง์ ๗ ขอเลา่ ฃไแดพ่ ระโกดมผูเ้ จริญ ราชํนผคู้ รองแกวนมคธ ท่ีมพี ระนาม'ว่าอชาฅศุ่ฅรู เวเท- หิบฅร จะพงึ ปราบเจ่าวิชชคี ิวย!ๅเรรบซง่ึ หน็านไมไ่ ดเ้ ลย นอกจากการใชล้ นการทูฅเกลยกลอ่ มให้ยนิ ยอม รเอกจาก การทำใหค้ นเพียง ๒ คนกแ็ ดกแยกจากกน ขาแด่พระ โกคม ผทู้ รงเจรญิ กบ็ ด้นลมควรเบนกาลเบ็1นท่กี ลบ ของขา่ พระบาทที่งหลายแลว่ ิ เพราะขาพระบาททํง้ หลาย เบนกนมกี ิจมาก มีธุระท่ีควรดโองทำมาก” พระผมู้ ีพระ- ภาคเจไทรงรบลาว่า “ ค ูก่อนพราหมณ์ บคนเบนเวล แหง่ การอะไร ท่านทงหลายจงรู้เอาเองเถดิ ” กรงนน พราหมณ์'วรรษการะผูเ้ บนมหาอม'าฅยแ์ ห่งแควนิ มคธ พอ ใจยงึ ซ่งึ คำดร'สของพระผ้มู พี ระภาคเจา กราบทูลแสคง ความพอใจแลว ไดล้ กุ ขนจากทนี ํงหลีกไป ตรสสไ'ใหเรียกประชแหมภ่ กษ ครงนน Xเมอพราห1มณ1 วรรษการะ มหาอ^มาฅย, แหง่ แควนิ มคธหลกี ไปแลวไมน่ าน พระผู้มพี ระภาคเจา่ ฅรํสสงพระอานนทะ ผม้ อี าย'ว่า “ คกอ่ นอานนทะ เธอ

๑๓ จงไปบอกภิกษุหมดทกุ ๆ รปู ทพี่ ำน1กอาศ'ยกรุงราช- กฤห์อย่ใู ห้ประชุมกํนในหอประชุม” พระอานนทะ ผู้มี อายุร*บพระพทุ ธาณ*คนนแล,ว ไคส้ งํ ภกิ ษทุ ุก ทุ รปู ที่ พำน'กอาศยกรงุ ราชกฤห่อยใู่ ห้ประชมุ กน่ ในหอประชุม แลว ไค้เขาไปยํงสถานซงึ่ เบ็น่ ทป่ี ระทบอยู่แหง่ พระผู้มี พระภาคเจไ กรนเขไไปใกล้ถวายอภวิ าทพระผูม้ ีภาคเจไ แลว ไค้'ยืน ณ ชายสดุ ดานหนงึ่ แลวกราบทลู วา่ “ ขำ แดพ่ ระองค์ผ้ทู รงเจรญิ หมู่ภิกษไุ ค้ประชุมกนแลว บํคน่ึ เบ่็นเวลาแหง่ การอะไร พระผ้มู ีพระภาคเจายอ่ มทรงทราบ ควยพระองคเ์ อง” ภิกฃอุ ปริหานยธรรมหมวดที่ ๑ ครงน่นึ พระผู้มพี ระภาคเจา ทรงลกุ ขนจาก อาสนะ เสด็จเขาไปยงภมู ภิ าคท่หี อประชมุ ดงอยู่ ครน เสดจ็ เขาไปในหอประชุมแลว ไดป้ ระทบน'ง ณ อาสนะ ทีถกู ปลู าคไวแ้ ลว ครนประทีบน'งแลวิ ไดด้ รสบอกภิกษุ ท1งหลายวา่ “ คูกอ่ นภิกษ,ุท้ํงหลาย พระดถากฅจํกแสดง อปริหานียธรรม ๗ อย่าง แก่เธอที่งหลาย อปริหานอี - ธรรม ๗ อย่างน1น เธอท่งี หลายจง,พง จงกระทำไวใ้ นใจ

ให้สำเรจ็ ประโยชน์ พระ?'เถาคฅจํกกลา่ วละ” ภกิ ษุทง นน ฅา่ งกราบทลู วา่ “ จ*กฅเํ้ 3ใจสด'บพงตามท'่ี จะทรงพระ เมดดา” พระผ้มู พี ระภาคเจาไค้ฅรํสอปริหานยี ธรรม ๗ ขอนว่า (๑ ) “ ดูกอ่ นภกิ ษุทงหลาย ก็ภิกษทุ ง่ี หลาย ย’ง ประชมุ ก้นอยโู่ ดยสมํา่ เสมอ ยไประชุมกน้ ดามกำหนดอยู่ เพยี งใด ฅ■ ลอดเวลาเพยี งนน ภิกษทุ ี่งหลายพงึ หว่งได้ โดยแน่นอนซึงความเจริญเพียงอยา่ งเคยี ว ไม่พึงไค้ ประสบซงึ ความเสือ่ ม ” (๒ ) “ ด ูก่อนภิกษุท้งํ หลาย อนึง่ ภกิ ษุท1งหลาย ยไ3พรอํ มเพรียงกนเกา้ ประชมุ ยงพรอี มเพรียงกนเลกิ ประชมุ ยงพร3อมเพรียงกนทำกจิ ท่คี วรกอ้ งทำของสงฆ์ อยเู่ พียงใด ดลอดเวลาเพียงนน ภกิ ษุที่งหลายพึงหว*ง ไค้โดยแนน่ อนซงึ ความเจรญิ เพยี งอย่างเคยี ว ไม่พึงได้ ประสบซงึ ความเสอ่ื ม ” (๓ ) “ ด กู ่อนภิกษทุ ี่งหลาย อน่งึ ภกิ ษุท1งหลาย อ ั3ใม่บญญฅํ กอ้ ทพี ระฅถาคดมิ'ไคบ้ *ญฌํฅขน ย’งมไคก้ ้ด ทอนเพกิ ถอนก้อท่ีพระฅถากดไคบ้ ญ่ ญฅํ ไว้แลวอยเู่ พียงใด

ดลอดเวลาเพียงน1น ภกิ ษทุ ะงหลายพึงหวํงไค้โดยแนน่ อน ซึง่ ความเจรญิ เพียงอยา่ งเดียว ไมพ่ ึงไค้ประสบซ่งึ ความ เสอม (๔ ) “ คูกอ่ นภกิ ษุท่ีงหลาย อน่งึ ภิกษุท่ีงหลาย ยงิ ล1กการะ ยงิ เคารพ ยิงนไม่ถอื ยงิ บชู าซึง่ ภิกษุท1งหลาย ทเี่ บนผ้หู น'ฑแน่ึน ท่รี ู้เหฅุการณม์ าฅลอดเวลานาน ที่บวช แลวนาน ท่เี บ็่นสง่ ฆบดิ ร ท่เี บน็่ สงฆปริณายกน่นึ กบ ยงิ สำค'ํ ญซง่ึ ถือยคำของภิกษทุ ่ีงน่ึนว่ ่าเบนถอื ยคำท่คี วรรบ พงอยู่เพยี งใด ดลอดเวลาเพยี งน1น ภิกษทุ งี่ หลายพึงหวํง ไค้ โดยแนน่ อนซึ่งความเจริญเพยี งอยา่ งเคียว ไม่พึงไค้ ประสบซึ่งความเส่ือม ” (๕ ) “ ค ูก่อนภิกษทุ 1งหลาย อนึง่ ภิกษทุ ีง่ หลาย ยงิ ไม่ลุอำนาจแห่งดไนหาท่มี ีปรกฅใิ หซ้ ึง่ ภพใหมท่ ีบ่ งเกดิ ขนแลว อยเู่ พียงใด ดลอดเวลาเพยี งนน ภิกษทุ 1งหลาย พงึ หวง่ ไคโ้ ดยแน่นอนซ่งึ ความเจริญเพยี งอย่างเดียว ไม่ พงึ ไค้ประสบซึง่ ความเส่อื ม ” (๖ ) “ ค ูก่อนภิกษทุ ง้ํ หลาย อนึ่ง ภิกษุท1งหลาย ยงิ มีความพอใจในเสนาสนะทง่ี หลายทด่ี 1งอยู่ในบา อยู่ ——

©๖ เพียง'ใด ดลอดเวลาเพียงนึน่ ภกิ ษทุ 1งหลายพงึ ’/,ว'งไค้ โดยแน่นอนซง่ึ ความเจรญิ เพียงอย่างเดยี ว ไม่พงึ ได้ ประสบซง่ึ ความเสอื่ ม ” (๗ ) “ ด ูก่อนภิกษทุ งี่ หลาย อนงึ่ ภกิ ษุท1งหลาย ยภิงเฃไไปดงสติทเ่ี บนไปเพียงในใจวา่ ‘ ควยว่ฅรปฎบิ ้ฅ เชน่ ไรหนอ เพื่อนบรรพชดิ ทงหลายทีม่ ปี รกติประพฤฅิ ธรรมทป่ี ระเสร3ิ เสมอกน ซ่งึ มศี ีลเบ1็ นที่ร้ก ทยี่ ง้ มิ'ไดม้ า กพ็ งึ มา และท่ีมาแลว ก็พงึ อยเู่ บ่น็ สุขเถิด ’ คงํ น่ึ อยู่ เพียงใด ดลอดเวลาเพยี งนึ่น ภกิ ษุทงหลายพึงหวงไค้ โดยแน่นอนซงึ่ ความเจรญิ เพยี งอยา่ งเคียว ไม่พึงได้ ประสบซงึ่ ความเสอ่ื ม ” “ ด ูก่อนภิกษทุ 1งหลาย ก อ็ ปรหิ านยี ธรรมท1ง ๗ อยา่ งน่ึ ยงํ ฅง้ํ อยใู่ นภิกษุทงี่ หลาย อยู่เพียงใด และภกิ ษุ ทไเหลายกย็ งํ เหน็ ดงี ามในอปริหา'นยธรรม ๗ อยา่ งน อยูเ่ พยี งใด ดลอดเวลาเพยี งน1น, ภิกษุทงี่ หลายพงึ หว่ง ได้โดยแน่นอนซง่ึ ความเจริญเพียงอย่างเดียว ไมพ่ งึ ได้ ประสบซ่งึ ความเส่ือม ’

ภิกฃุaปรหิ านียธรรมหมวดท ๒ ’’ คูก่อนภิกษุท่งี หลาย พร่ ะฅถาคลจณเสคงซึ่ง อปรหิ านียธรรม ๗ แม้อย่างอื่นอีก แก่เธอทงหลาย อปรหิ านยี ธรรม ๗ อยา่ ง ทพ่ี ระฅถาคลกำลํงจะแสลง อย่1ูในบลนนน, เธอทงหลายจงพง จงกระทำไว้ในใจให้ สำเรจ็ ประโยชน์ พระฅถาคฅจก็ กลา่ วละ” ภิกษุทง,นน 'คา่ งกราบทูลวา่ “ จกท่ ีง่ ใจสลบพง ลามที่ทรงพระเมฅลา” พระผมู้ พี ระภาคเจาจึงไค้ลริสํธรรมกี ถาน์ว่า (๑ ) “ คกู ่อนภิกษทุ 1งหลาย กภ็ ิกษทุ ี่งหลาฺ ยยิง ไมม่ คี วามกง่ วลจคจอ่ อย่ทู ่ีการงานทีจ่ ะพงึ ทำทางกาย ยิง ไม่ชอบใจซ่ึงการงานทจ่ี ะพงึ ทำทางกาย ยงิ ไม่ประกอบ เนอื ง ทู ซ่งึ เหฅุทีท่ ำใหเ้ บ!็ นผ้มู ีใจจลจ่ออย่ทู ่ีการงานทจ่ี ะ พงึ ทำทางกาย อยูเ่ พียงใด ลลอดเวลาเพยี งนนํ ภกิ ษุ ■ ทีง่ หลายพงึ หวงไค้โคยแนน่ อนซงึ่ ความเจริญเพียงอย่าง เดียว ไม่พงึ ประสบ'ซง่ึ ความเสื่อม” (๒ ) “ คกู ่อนภทิ ษทุ ี่งหลาย อนึ่ง ภิกษุที่งหลาย ยิงไมม่ คี วามก่งวลอย่างจลจ่ออยู่ท่ีการพูดเร่ืองสบํ เพเหระ ยิง'ไม่ยนิ ดซี ่ึงการพดู เร่อื งสับเพเหระ ยงิ ไมป่ ระกอบ

เนือง พู ซง่ึ เหตุทท่ี ำให้มใี จจดจอ่ อยทู่ ก่ี ารพดู เร่อื งสบิ - เพเหระ อยู่เพยี งใด ดลอดเวลาเพียงนน ภกิ ษุท1งหลาย พึงหวง่ ได้โดยแนน่ อนซ่งึ ความเจรญิ เพียงอยา่ งเดยี ว ไม่ พึงประสบซงึ่ ความเส่อื ม ” (๓ ) “ ดูก่อนภิกษุทีง่ ห๋ํ ลาย อนึง่ ภกิ ษุท่งี หลาย ยงิ ไม่มีกวามกไทลจดจ่ออยู่ทก่ี ารนอน ยิงไม่ชอบใจซง่ึ การนอน ยิงไม่ประกอบเนอื ง พู ซ่งึ เหตุทท่ี ำให้มคี วาม กงวลจคจอ่ อยทู่ กี่ ารนอน อยูเ่ พยี งใด คลอดเวลาเพยี งนน ภกิ ษทุ ี่งหลายพงึ หวงไดโ้ ดยแนน่ อนซงึ่ ความเจริญเพียง อยา่ งเดียว ไมพ่ งึ ประสบซึ่งความเสอื่ ม,’ (๔ ) “ ด ูก่อนภกิ ษุท่งี หลาย อน่งึ ภิกษุท,งหลาย ยไ3ไม่มีกวามกไทลจดจอ่ ซ่ึงการสงิ สรรค์กบคนหมูม่ าก ยิง ไมย่ ินดซี ่งึ การสิงสรรค์กบคนหมูม่ าก ยิงไมป่ ระกอบ เนอื ง พู ซ่งึ เหตทุ ่ีทำใหเ้ บ่็นผก้ งิ วลจดจอ่ ซ่ึงการสิงสรรค์ กบคนหมู่มาก อยู่เพียงใด ดลอดเวลาเพยี งน1น ภกิ ษุ ท1งหลายพึง หวง’ได้ โดย แน่ นอนซึง่ ความ เจริญ เพยี ง อยา่ ง เดียว ไมพ่ ึงประสบซง่ึ ความเสอื่ ม ”

(๕ ) “ คูก่อนภกิ ษุฑํ้งหลาย อน่ึง ภิกษุท,งหลาย ยิงไม่ มีความปรารถนาลามก ยิงไมล่ อำนาจฅ่อความ ปรารถนาลามกท1งหลาย อยเู่ พยี งใด ฅลอดเวลาเพียง นน ภิกษุทงหลายพงึ หว่งไค้โดยแน่นอนซึ่งกวามเจรญิ เพียงอยา่ งเคยี ว ไมพ่ ึงประสบซง่ึ ความเลื่อม ” (๖ ) “ ค กุ อ่ นภกิ ษุใางหลาย อนงึ่ ภกิ ษุท1งหลาย ยงิ ไมม่ ีคนชวเบนมิฅร ยงิ ไมม่ ีคนชวเบนสหาย' ยงิ ไม่ สนธิ ชิดชอบในคนชว อย่เู พยี งใด คลอคเวลาเพียงนน ภิกษุฑงหลายพึงหวงไค้โดยแน่นอนซ่งึ ความเจริญเพียง อยา่ งเคยี ว ไมพ่ งึ ประสบซึ่งความเล่ือม” (๗ ) “ ค ูก่อนภกิ ษุทงหลาย อนึง่ ภกิ ษุทงหลาย ยงิ ไมถ่ งึ การหยุดเสยี ในระหวา่ ง เพราะการไค้บรรลคุ ณุ พิเศษเพยี งไนอนิ ยบิ .ฅ่าํ อยูเ่ พยี งใด ดลอดเวลาเพยี งนน้ํ ภิกษทุ 1งหลายพึงหวงํ ไค้โดยแนน่ อนซ่งึ ความเจรญิ เพียง อย่างเคยี ว ไม่พึงประสบซึ่งความเลื่อม” “ ค กู อ่ นภกิ ษุทงหลาย กอ็ ปริหานยี ธรรมท1ง ๗ อย่างน ยิงคงอยู่ในภกิ ษทุ 1งหลาย อยเู่ พยี งใด และภกิ ษุ

ไรD O ท่งี หลายกย็ *งเห ็น ด งี าม'ในอปรหิ านียธรรม ๗ อย่างนี อย่เู พียงใค คลอคเวลาเพยี งน'น ภิกษุกงหลายุ-พึงหวง ไคโ้ คยแน่นอนซงึ่ ความเจรญิ เพยี งอย่างเคียว ไม่พึงไค้ ประสบซึง่ ความเสือ่ ม” ภกิ ขุอปริหานยธรรมหมวดที่ ๓ u คกู ่อนภิกษุท1งหลาย พระฅถากฅจก่ แสคง'ซงึ อปริหานยี ธรรม ๗ แมอ้ ย่างอ่นื อกี แก่เธอฑงหลาย อปริหานยี ธรรม ๗ อย่างที่พระคถากฅกำลง์จะแสคงอยู่ ในบคนนี น เธอท1งหลายจงพึง จงกระทำไว้ในใจให้ สำเร็จประโยชน์ พระคถาคฅจไกกลา่ วละ” ภกิ ษุทงนน ค่างกราบทลู รบํ วา่ “ จกํ ท่งี ใจสคบ่ พงึ คามทีท่ รงพระ เมฅฅา ” พระผมู้ ีพระภาคเจำจึงไคฅ้ รสธรรมีกถานว์ า่ คูก่อนภิกษุท1งหลาย คลอดเวลาท่ีภิกษทุ งหลาย ยงมศี รท้ ธํ าอยู่ คลอดเวลาทภ่ี กิ ษุท่ีงหลายยงมีใจส*มปยุค ควยหิริอยู่ คลอคเวลาทภ่ี กิ ษุท่ีง้หํ ลายยงมโี อฅฅปปะอยู่ คลอคเวลาทภ่ี ิกษุทง่ี หลายย*งสคบพึงธรรมวนิ ยมากอยู่ คลอคเวลา ที่ ภกิ ษุ ทีง่ หลายย*งทำความ เพยี รในกิจอน้ เบน หนไท่ีของคนอยู่ คลอดเวลาทภี่ กิ ษทุ ี่งหํ้ ลายยงมสี ฅิที่

1ร)๑ กำหนดอารมณ์ไคด้ ามสภาพอยู่ ฅลอดเวลาท,ี ภิกษุ ทงหลายยํงมบี ญญาอยู่ ภกิ ษุท้ํงน1นพงึ หวงํ ไคโ้ ดยแนน่ อน ซึ่งความเจรญิ เพียงอย่างเคียว ไม่พงึ ไค้ประสบซง่ึ ความ เสอื ม” “ ด ูก่อนภิกษุทง่ี หลาย ก็ดลอดเวลาทธ่ี รรม ๗ อยา่ งนยง,ดงอยู่ในภิกษทุ 1งหลายอยู่ และดลอดเวลาที่ภกิ ษุ ที่งหลายยงิ เหน็ คีงาม'ในอปรหิ านียธรรมทง้ํ ้ํ ๗ อย่างนอยู่ ภิกษทุ ่งี หลายพึงหวงไค้โดยแน่นอนซ่งึ กว่ ามเจริญเพยี ง อยา่ งเคยี ว ไมพ่ ึงไค้ประสบซง่ึ ความเสอ่ื ม ” ภกิ ฃุอปรหิ านียธรรมหมาตหี่ ๔ “ ดูก่อนภกิ ษุท.งหลาย พระฅถาคดจกแสดงซึง่ อปรหิ านยี ธรรม ๗ แมอ้ ยา่ งอ่ืนอีก แก่เธอท1งหลาย อปริหานยี ธรรม ๗ ที่พระดถาคดกำลงจะแสดงอยนู่ นน เธอท่ีงหลายจงพึง จงกระทำไว้ในใจให้สำเรจ็ ประโยชน์ พระฅถาคดจ'กกล่าวละ ’ ภิกษุฑงน1นฅ่างกราบทูลรบิ วา่ ‘ จ'กด1งใจสด1บพึง ดามทที่ รงพ1ระเมฅดา” พระผ้มู พี ระ- ภาคเจำจงึ 'ไค้ฅรสิ ธํ รรมกี ถาน'ว่า

“ ค ูกอ่ นภกิ ษุ ท่ี1งหลาย ก็ฅลอดเวลาท ภี่ กิ ษุ ทง่ี หลายยิงส*ม'โพชฌํงคธรรมคือ สฅใิ ห้บงเกดิ ขนมาอยู่ ดลอดเวลาทีภ่ กิ ษทุ งหลายยงิ สมโพชฌํงกธรรมคอื ธรรม- วิจยะให้บ่งเกดิ ขนมาอยู่ ดลอดเวลาทีภิกษุท่งี หลายย''ง สมโพชฌงคธรรมคอื ครื ิยะให้บงเกิดขนมาอยู่ ดลอดเวลา ที่ภกิ ษุท่ีงหลายยงํ สมํ โพชฌงคธรรมคือบีฅใหบ้ ่งเกิดขนมา อยู่ ดลอดเวลาทีภ่ ิกษทุ ีง่ หํ้ ลายยงิ สม'โพชฌํงคธรรมคอื บสสทธิให้บงเกิดขนมาอยู่ ดลอดเวลาทีภ่ กิ ษุทีง่ หลาย ยํงส่มโพชฌง่ กธรรมคอื สมาธิใหบ้ ่งเกดิ .ขนมาอยู่ ดลอด เวลาทภ่ี กิ ษทุ ี่งหลายยงิ ส'ม'โพชฌง้ ค ธรรม คอื อุเปกขา'ให้ บง่ เกิดขนมาอยู่ ภกิ ษทุ ่งี นนพงึ หวงไค้โดยแนน่ อนซง่ึ ความเจรญิ เพยี งอยา่ งเดียว ไม่พึงไคป้ ระสบซ่ึงความ เส่อื ม ” “ คูก่อนภกิ ษุที่งหลาย ก็ฅลอดเวลาท่ีอปริหานีย- ธรรมท่ีง้ํ ๗ อย่างนยงดงอยู่ในภิกษุทีง่ หลายและดลอด เวลาทภี่ กิ ษทุ ่ีงหลายยงิ เห็นดีงามในอปริหานยธรรมทง่ี ๗ อยา่ งนอยู่ ภกิ ษุท่ีงหลายพงึ หวงไคโ้ ดยแน่นอนซึงความ เจรญิ เพียงอย่างเดียว ไม่พงึ ไค้ประสบซึง่ ความเสือ่ ม ”

1ร>๓ ภกษุอปริหานอื ธรรมหมวดท ๕ “ ดกู อ่ นภิกษุทีง่ หลาย พระฅถาคดจกแสดงซ่ึง อปรหิ า'แยธรรม ๗ แมอ้ ย่างอ่ืนอีก แกเ่ ธอทงหลาย อปริหานยี ธรรม ๗ ทพี่ ระฅถาคดกำล่งจะกล่าวอยใู่ นบคํ ์น นน เธอฑงหลายจงพง จงกระทำไวใ้ นใจใหส้ ำเร็จประ- โยชน์ พระดถาคดจกกล่าวละ’ ภกิ ษทุ ง่ี นนดา่ งกราบทลู ริบว่า “ จกดงใจสดไม่พง ดามที่ทรงพระเมฅดา” พระผู้ มพี ระภาคเจไจึงไดฅ้ ริสธํ รรมกี ถานวา่ “ ดูกอ่ นภกิ ษุท1งหลาย กค็ ลอคเวลาทภ่ี ิกษุ ที่งหลายยงํ อนิจสไบ_เบาใหบ้ งํ เกคิ ฃ็น้ มาอยู่ ยงํ อนฅสณญา ใหบ้ งเกดิ ขนมาอยู่ ยงอสุภสไบญาให้บงเกดิ ขนมาอยู่ ยงอาทีนวสไบญาใหบ้ งเกดิ ขนมาอยู่ ยงปหานสไบญาให้ บงเกิดขนมาอยู่ ยงิ วริ ากสไบญาฺ ใหบ้ งเกิดขนมาอยู่ และ ยงิ นิโรธสไบญาใ'หบ้ ุ้งเกิดขนมา,อยู่ ภกิ ษุทง่ี หลายพึงหวง ไดโ้ ดยแนน่ อนซงึ่ ความเจรญิ เพียงอยา่ งเดยี ว ไม่พงึ ได้ ประสบซงึ่ ความเสอ่ื ม ” “ ดูก่อนภิกษุทงหลาย ก็ฅลอดเวลาทีอ่ ปริหานยี - ธรรมทีง่ ๗ อย่างน์ยงิ ดงอยใู่ นนิกษุท่ีงหลาย และดลอด

เวลาทีภ่ ิกษทุ งหลายยงเห็นดีงาม'ในอปริหานียธรรมท้ํง๗ อย่างนํ•้ อยู่ ภิกษฑุ งหลายพึงหวง่ ไค้ โคยแน่นอนซ่งึ ความ เจริญเพยี งอ?]างเคยี ว ไมพ่ ึงไคป้ ระสบซึง่ ความเส่ือม ” แทรกแสดงความหมายแหง่ สฌ์ ญา ๗ อนจจฺ สญฉฺ ก คือสญ้ ญาทเ่ี กิคขนพ fa มกบํ วบิ สนา- บญญาทเ่ี ห็นว่าไม่เทีย่ งในขนธท์ งปวง อนตฺตสณฺณไ คือส่ญญาที่บง์เกิคขนพรไ}มกบวิบสนา- บญญาทเ่ี ห็นวา่ ไมม่ ฅี วฅนในขนธ์ฑงปวง อสภุ สฌณฺ า คือสไบญาทบี่ ง้ เทคิ ขนพรอมกบิ วบิ สนา- บญญาทีเ่ หน็ วา่ ไม่งามในกายทํง้ ปวง อาทนวสอ}อก คือสไyญาที่เกดิ ฃํ้นพรไ)มกบวิบสนา- บญญาทีเ่ หน็ วา่ มโี ทษ ในกายฑ้ํงปวง ปหานสอ{ฉก คือสญญาที่เกดิ ฃนพรอมกบวบิ สนา- บ ญญาท?่ี าบอกศุ ลธรรมทบ่ี ง่ เกดิ ขน แลว ๆ วราคสฉ{ฉก คอื ส''ญญาที่บ่งเกดิ ขนพ รไมกบิ วบิ สนา- บญญาท่ี เบ1็ นเคร่ือง สำรอกความ กำหนด ในธรรมท8งปวงออกได้

นโิ รธสณทท คือสญํ ญาที่เกิดขนพรอมกบวบสนา- บญญาทีเ่ บ็น่ เครือ่ งคบฅณหาลง’ใด้ หมายเหตุ ะ สญญา ๗ นิ เบ่็นเพียงโลกิยวบิ สนา การคไม่กเิ ลสลงไคค้ ^วยวิบสนาญาณน1น เบ็1นฅทงควมิ ฅุ ฅิ ภกิ ษุอปรหิ านยี ธรรมหมวดท ๖ “ คูกอ่ นภกิ ษทุ งํ้หลฺ าย - พระฅถาคฅจํกแสคง อปรหิ านียธรรม ๖ แมอ้ ย่างอ่นื อีก แก่เธอฑงหลาย อปริหานียธรรม ๖ อย่างท่พี ระฅถากดกำก่งจะแสดงอยู่ใน บดนนิ น เธอทะงหลายจงพงจงกระทำไว้ในใจให้สำเรจ็ ประโยชน์ พระดถากดจกกลา่ วละ” ภิกษุทีง่ นินด่าง กราบทลู รบวา่ “ จ'ะฅงใจ$ดไมพ่ ง ดามทที่ รงพระเมฅดา” พระผมู้ ีพระภาคเจา'จงึ 'ไคฅ้ รสิ ธรรมกี ถาน-ิ วา่ (๑ ) “ ค กู ่อนภิกษทุ ีง่ หลาย ก ภ็ ิกษทุ งี่ หลายยงํ เขาไปฅงเมดฅาที่เบนกรร,มทางกาย ในบรรพชิค่ท่ีงหลาย ผซู้ ึง่ ประพฤติธรรมที่ประเสริแสมอ'กน่ ท่งี ในทแ่ี จง ทีง่ ในที่ลบ อยเู่ พยี งใค ฅลอคเวลาเพยี งน1น ภกิ ษุทงี่ หลาย ——

ใระ)'๖ /* พึงหวงไค้โคยแน่นอนซ่งึ ความเจริญเพียงอยา่ งเคยี ว ไม' พึงไค้ประสบซึง่ ความเสื่อม ” (๒ ) “ ค ูก่อนภิกษทุ งหลาย อนึง ภิกษุท1งหลาย ยไนข2าไปฅงเมฅฅาทเี่ บ็น่ กรรมทางวาจา ในบรรพชฅิ ท้งํ หลายผ้,ูซ่งึ ประพฤฅธิ รรมที่ประเสร^ิ เสมอก*น ทง่ี Iนท่ี แจง ทงในทลี่ บ อยเู่ พียงใด คลอคเวลาเพยี งนน ภกิ ษุ ที่งหลายพึงหวงไค้โดยแน่นอนซงึ่ ความเจริญเพยี งอยา่ ง เคียว ไม่พงึ ไค้ประสบซึง่ ความเสอื่ ม” (๓ ) “ คกู ่อนภกิ ษุท1งหลาย อน่งึ ภิกษทุ 1งหลาย ยไนขา่ ,ไปคงเมฅฅา1ซงึ่ เบนกรรมทาง'1จ ในบรรพชิฅทง่ี หลาย ผูซ้ ง่ึ ประพฤฅิธรรมท่ปี ระเสรฐิ เสมอก*น ทีง่ ในที่ แจ*ง ท่งี ใ้ํ นทลี่ บ อย่เู พียงใด คลอดเวลาเพียงนนึ่ ภิกษุ ท่งี หลาย พึงหวังไดโ้ ดยแนน่ อนซ่งึ ความเจริญเพยี งอยา่ ง เคียว ไมพ่ ึงไดป้ ระสบซ่งึ ความเส่อื ม” (๔ ) “ ดูกอ่ นภกิ ษทุ งี่ ํ๋หลาย อน่ึง ลาภ ( คอื บจจยที่ไคแ้ ล2ว) นนใด ท่ีบงเกิดขนมาอยา่ งทีช่ อบควย ทำนองคลองธรรม ทีค่ น’ไคม้ าแล่วโดยธรรม แมเ้ พียง อาหารทปี่ ะปนกนอยูใ่ นบาฅร ภกิ ษุที่งหลาย ยํงมิไ■ คม้ ี

ลาภเชน่ นึน่ ไวเ้ บ็น่ เครอ่ื งบริโภคเพียงลำพงํ ดนผู้เคยี ว แต่ยิงมลี าภเชน่ น่นึ ไวเ้ บ่็นเครอ่ื งบริโภค'ใหท้ ่วํ ถึงกบ บรรพชฅิ ผู้มศี ลี ทงหลาย ผู้ประพฤตซิ ่ึงธรรมอนประเสรJิ เสมอยนิ อยู่เพียงใด ฅลอคเวลาเพียงน1น ภกิ ษุฑงหลาย พงึ หวงได้โดยแน่นอนซ่งึ ความเจรญิ เพียงอย่างเดยี ว ไม่ พงึ ไดป้ ระสบซ่ึงความเส่ือม ” (๕ ) “ ค กู อ่ นภิกษทุ ีง่ หลาย อน่ึง ศีลนนใค ไมข่ าด ไม่ทะลุ ไมพ่ รอย ไม่ค่าง เบ็น่ ไทยแกฅ่ ว ( คอื เบ็่นศีลเพอื่ ศลี มิใชเ่ บ็น่ ศลี ที่ถกู คนหรอกเิ ลส'บง่ คบ) เบ็่นศีลทที่ า่ นผูร้ ้สู รรเสรญิ ไม่ถูกมจิ ฉาทิฏเลบคลำ เบ่็น ศีลท่ยี งิ สมาธิใหเ้ บ็่นไป ภิกษุท1งทลาย ยงิ เบ่น็ ผู้มศี ีล ทงหลายทม่ี เี จดนารมณ์เช่นนน่ึ ท่เี ขาถงึ ความเสมอกน กบบรรพชฅิ ที่ประพฤติซ่ึงธรรมอนประเสรเิ สมอกน ท1ง ในทีแ่ จง ทงใน.ท่ี'ลบ สำเรจ็ อริ ยิ าบถอยู่ อย่เู พยี งใด ดลอดเวลาเพยี งนึ่น ภกิ ษุฑงหลายพงึ หริงได้โดยแนน่ อน ซ่ึงความเจรญิ เพียงอย่างเดียว ไมีพึงไดป้ ระสบซึ่งความ

(๖ ) “ ด ูก่อนภกิ ษทุ 1งหลาย อนึง่ อริยทฏิ 1ฐิน ี ใด เบน็่ ธรรมที่นำออกไปจากทกุ ข์ ยอ่ มนำออกไปเพื่อ ความสนไปแห่งทกุ ข์โดยชอบ แก่ผทู้ ีก่ ระทำดามทิฏฐนิ '้ํ นึ่ ภกิ ษุท่ีงหล่ ายยงิ เบนผ้เู ฃำถงึ ซง่ึ กวามเบนผู้มีทิฏฐเิ สมอกน่ ดํวยทิฏเท่ีมเี จดนารมณ์เช่นน1น กบบรรพชิฅผู้ประพฤฅิ ซงึ่ ธรรมอนประเสรสิ มอกน ทงในที่แจง ทง่ี ในที่เรน ลิบ สำเรจ็ อิรยิ าบถอยู่ อยู่เพยี งใด ฅลอคเวลาเพยี งน\"น ภกิ ษฑุ ้งํ หลายพึงหวงไคโ้ ดยแนน่ อนซง่ึ ความเจรญิ เพียง อย่างเดียว ไม่พึงไดป้ ระสบซ่ึงความเสื่อม ” “ คกู ่อนภิกษทุ ี่งหลาย ก็อปริหานียธรรม ๖ อยา่ ง นึ่ ยงิ ดมอยใู่ นภกิ ษุท่ีงหลายเพยี งใด และภกิ ษุท1งหลาย กย็ ิงเห็นดงี ามในอปรหิ านยี ธรรม ๖ อยา่ ง‘น อยู่เพียงใด ฅลอคเวลาเพยี งน่นึ ภิกษทุ ง่ี หลายพึงหวงได้โดยแนน่ อน ซึ่งความเจริญเพียงอย่างเดยี ว ไม่พงึ ไคประสบซึ่งความ เส่ือม ” ทรงแสลงอานิสงสแหงไตรสกิ 'นา ไดย้ ินว่า พระผู้มีพระภาคเจา เมือ่ ประทบํ อยู่ท่ี ภูเขาคิชฌกฏู ใกล้กรงุ ราชคฤห์แมน้ *น สำหรบภิกษุ

1®3 ?> ท่ีงํห๋ ลาย ยอ่ มทรงแสดงธรรมกถานเ้ํ พียงอย่างเคยวเบน อนมากวา่ “ ศลี มเี จตนารมณ์มอี าการอยา่ งน สมาธมิ ี เจตนารมณม์ อี าการอย่างน บญ่ ญา มีเจตนารมณม์ ีอาการ อย่างน สมาธทิ ีม่ ศี ีลเบนJ านเบ่นทต่ี ง เบ่นทเ่ี บน่ ไป ยอ่ มมีผลใหญ่ มีอานิสงสใ์ หญ่ บญ่ ญาฑมื่ ีสมาธิเบน่ ;ชาน เบน่ ทฅี่ ง เบ่นท่เี บ่นไป ย่อมมีผลใหญ่ มอี านสิ งสใหญ่ จฅิ ทถี่ ูกบ่ญญาบ่มให้คีถงึ ขนาดแลวิ ยอ่ มหลดุ พนโดยชอบ อยา่ งแท้จริง จากอาสวะทงสามน คือ จากกามาสวะ จากภวาสวะ จากอวิชชาสวะ ไปประทบในสว์ นต1นมะมว่ งอ่อน คTง้ํนํ้น พระผูม้ ีพระภาคเจไ ครนประทบอยู่ ในกรุงราชคฤหต์ ามพระอํธยาศํยแลิว ไค้ดร*สบอก'พระ- อานนทะ ผู้มอี ายวุ ่า “ อานนทะ เรๅมาไปลินเถดิ เรา จลกิฏเ3ขกทาไปยิง(/ภทบมไ่ ภิคบา้ซ่ค1เออซย1า่ง่ึ งเบน5น่บ่ ทเต่ี พ้งํ รอาย^ะ่แมบห่ตี 1่งนํ7รมาะชมอ1'่วทุ งยสาานวอตะมงอพย1­ู่ ที่ๆทงั ประฅุ ) พระอาน/นิทะ ผ้มู อี ายุริบสนองพ่ระพุทธ ดำริส ส ํงวา่ “ พรอิ ม'จะตามเสดจ็ แล'ว ” ครํง้ น-น พระ.ผู้ มพี ระภาคเจาพรอิ มควยภิกษุหม่ใู หญ่ ไค้เสดจ็ เขาไปณ์ง —

ภมู ิภาคซ่ึงเบนึ ท่ีต^อยแู หง่ ราชอทุ ยานอมพล*ฏเกา ไคย้ นิ ว่า พระผ้มู ีพระภาคเจาประท*'บสำราญพระอิริยาบถอยใู่ น ทำหน*'กนไ)ยของหลวงในราชอุทยานอมพลฏเกานํ้น ไค้ ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจำ เมือ่ ประท*บอย่,ูในฅำหน*กน'ิ อย ของหลวง ในราชอทุ ยานอ'มพล*ฏเกาน1น ก็ทรงกระทำ ธรรมีกถาส่วนมาก แก่ภกิ ษุฑงหลาย อย่างนํเ้ ทียววา่ “ ศลี มเี จฅนารมณ์ มอี าการแมอ้ ย่างน สมาธิมีเจตนา- รมณ์ มอี าการแม้อย่างน บญญามเี จตนารมณ์ มีอาการ แม้อยา่ งน สมาธิทมี่ ศี ีลเบ่็นฐานเบ็น่ ท'ี ตง เบนท่ีเบน็่ ไป ยอ่ มเบนธรรมมีผลใหญ่ มอี านิสงสใ์ หญ่ บญ่ ญาทีม่ ีสมาธิ เบนฐานเบนท่ีฅะง เบนทเี บนไป ยอ่ มเบ็่นธรรมมีผลใหญ่ มอี านิสงส เหญ่ จฅิ ทีถ่ ูกบญญาบ่มให้ศีถึงขนาดแลว ย่อม หลดุ พไริ๒ยชอบอยา่ งแท้จริงจากอาสวะท1งสามน คอื จากกามาสวะ จากภวาสวะ จากอวชิ ชาสวะ เสดจไปเมองนาฬนทา ในครงน*น พระผ้มู พี ระภาคเจา ครนประท*บอยู่ ในราชอุทยานอ*มพิ ล*ฏฐิกา ตามพระอ*'ธยาศ*'ยแลว ตริส บอกพระอานนทะ ผมู้ ีอายุวา่ “ อาน*นทิ ะ เรามาไปกนเถดิ

๓© เราจกเขาไปยิงัภมู ภิ าคอ*นเบ่็นทฅ่ี ^ อยู่แพง่ เมืองนาพนทา พระอาน,1,นทะ ผมู้ 'ี อายุ ริบสนองพระพทุ ธคำร*สส่งวา่ “ พรไ]มทจ่ี ะคามเสด็จแลว” ในคร้งํ นํน้ พระผมู้ ีพระ- ภาคเจไ พรอิ มควยภกิ ษหุ มู่ใหญ่ ไคเ้ สด็จเขไไปย่ *งภูมภิ าค อ\"นเบนทีค*งอยู่แห่งเมืองนาพนทา ไคย้ นิ ว่า ใน;คราวนน พระผูม้ พี ระภาคเจาเสดจ็ ประทบอยใู่ นว*คอมพรินของ เศรษเกไผไช่ือวา่ ปาวาริกะ ใกลเ้ มอื งนาพนทา ครงนนึ่ พระสารืบุฅร ผู้มอี ายุ ไค้เขไไปยิง ภูมภิ าคท่เี บ่็นทปี่ ระท*บอย่แู ห่งพระผ้มู ีพระภาคเจา ครน เขาไปถงึ แลว ถวายอภวิ าทพระผมู้ พื ระภาคเจาแลว ไค้ นงเผาอยู่ ณ สว่ นสุค ในคำนหนึง่ และไคก้ ราบทูลพระ- ผมู้ พี ระภาคเจไอยา่ งนึ่วา่ “ขไแคํพระผมู้ พี ระภาคเจไผทู้ รง เจริญขาพระบาทเลื่อมใสแลวอยา่ งนึ่ในพระผู้มืพระภาค- 1 เจา เพราะสมณะหรือพราหมณ์ผอู้ นื่ ท่ีมอี ภญิ ญาใน ส\"มิโพธิญาณนึ่ ทย่ี วคยงกวา่ พระผู้มพี ระภาคเจา ไมเ่ คย ไคม้ ขี นแลวในอคีฅกาล จกไมม่ ีฃนในอนาคฅกาล และ ในบจจบุ 'นนึ่ กม็ ิไค้มีอยู่,’ / -

๓ ไร) พระผู้มีพระภาคเจไฅรํสวา่ ' “ คกู อ่ นสา'รบี ฅุ ร คำพดู ที่เธอกลา่ ว ทเ่ี ธอบนลือ,ออกมาว่า ‘ ขาแด่พระผ-ู้ มีพระภาคเจไผทู้ รงเจริญ ขาพระบาทเลือ่ มใสแลวอยา่ งนี ในพระผ้มู พี ระภาคเจา เพราะสมณะ หรอื พราหมณผ์ ้อู ืน่ ผู้ซ่ึงมีอภิญญาในสมโพธิญาณน ทีย่ อดเยยี่ มกวา่ พระผู-้ มพี ระภาคเจไ ไม่เคยไคม้ ีฃนแลว่ ในอดีฅกาล จกไม่มี ฃน้็ ในอนาคฅกาล และในบ่จจบุ น่ น กม็ ไิ ค้มีอยู่ คงนี นเบนอาสภวิ าจา ( ถอ่ ยคำท่ีถูกกลา่ วออกมาอย่างองอาจ) ทปี่ ระเสริ_ฐแท้ เบ่น็ สีหนาท ทีถ่ กู จบเนอความท่ีเด่นชด ไคเ้ อง ดูกอ่ นสารบื ฅุ ร พระผู้มพี ระภาคเจาทงหลาย ผูเบ่็นพระอรหํนฅสมํ มาสมํ พทุ ธเจา ซง่ึ ไค้มีแล1วในอดตี - กาลนน ท1งหมด เธอแลน่ เขาไปถึงใจของท่านคํวยใจ ของฅนแลิวรู้'วา่ ‘ พระผู้มีพระภาคเจาิ ท1่ี 3นน ไค้มีศีล อย่างน ’ ดง่ นบ่าง ว่า ‘พระผ้มู ีพระภาคเจไท1งน้ํน ไค้มี ธรรมอย่างน ไค้มีบญ่ ญาอย่างน ไค้มีธรรมเบนเกรอง สำเรจ็ อริ ยิ าบถอย่อู ยา่ งน, ด้งนบ่าง ว่า ‘ พระผู้มีพระ- ภาคเจาฑงนน ไค้เบนผหู้ ลุดพนแลวจากกเิ ลส ’ ด้งน้็ บา่ ง หรอื ใ ”

สา. “ คณุ ธรรมของพระพุทธเจ,ไในอดตี กาลทงั น้ํน ขไพระบาทมไิ ค้แลน่ เขไไปถงึ ใจของท่านควยใจของ ฅนแลิวรู้อย่างน'นเลย พระเจไขไ” ภ. “ คูกอ่ นสารบี ?าร อนึง่ พระผู้มีพระภาคเจไ ทงั หลาย ผเู้ บน่็ พระอรห'นตสมมาล่มพทุ ธเจไซึง่ จ'กบ'งเกิด ขนในอนาคตกาลนน ทงํ้ หมด เธอแลน่ เขไไปถงึ ใจของ ทา่ นควยใจของฅนแลวร้วู ่า £พระผ้มีพระภาคเจไทงนึ่น จ''กม่ ีศีลอยา่ งนึ่ ’ คงนบไง วา่ ‘ พระผ้มู ีพระภาคเจาทํ้งนน จก่ มธี รรมอย่างนึ่ จกมบี ญพาอยา่ งนึ่ จ'กมีธรรมเบน เครอื่ งสำเร็จอริ ิยาบถอยอู่ ยา่ งนึ่’ ดงนบไง ว่า ‘พระผู้- มีพระภาคเจไทังน1น จ'ณบ็่นผูห้ ลคพ็นจากกิเลสอย่างนึ่ ’ คงํ น้ํบไง หรือ ? ” สา. “ คณุ ธรรมของพระพุทธเจไในอนาคตกาล ทงั น,น ขไพระบาทมิไค้แล่นเขไไปถึงใจของทา่ นควยใจ ของตนแลวิ 'รอู้ ย่างนนเลย พระเจไขไ ” ภ. “ ค กู อ่ นสารบี ตุ ร อนงึ่ พระตถาคต ผู้เบน พระอรหนฅสุมมาสมพฑธเจไอย่ในบํคน่ึ อนเธอแล่นเขไ