Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.1 ภาคเรียนที่ 2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.1 ภาคเรียนที่ 2

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2021-05-04 01:37:23

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ม.1 ภาคเรียนที่ 2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 41 แบบประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ที่ 1,7 แบบประเมนิ ผังมโนทศั น์ คำชแ้ี จง ให้ผู้สอนประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แล้วขดี ✓ลงในช่องทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 รวม 32 1 ความสอดคล้องกับจดุ ประสงค์ 2 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา 3 ความคิดสร้างสรรค์ 4 ความตรงต่อเวลา ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ ................./................../.................. เกณฑก์ ารประเมินผงั มโนทศั น์ ประเดน็ ทป่ี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1. ความ ผลงานสอดคล้องกบั 321 สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคท์ กุ ประเดน็ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานไม่สอดคล้องกับ จุดประสงคเ์ ปน็ สว่ น จดุ ประสงค์บางประเด็น จดุ ประสงค์ จุดประสงค์ ใหญ่ 2. ความถูกต้อง เนือ้ หาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน เน้ือหาสาระของผลงาน เนอ้ื หาสาระของผลงาน ของเน้ือหา ถูกตอ้ งครบถว้ น ถูกตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ ถูกต้องบางประเด็น ไม่ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ 3. ความคดิ ผลงานแสดงถึงความคดิ ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานมีความนา่ สนใจ ผลงานไม่มคี วาม สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ นา่ สนใจ และไม่แสดง และเปน็ ระบบ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แต่ยงั ไม่มแี นวคดิ แปลก ถึงแนวคิดแปลกใหม่ 4. ความตรงตอ่ เวลา สง่ ชิน้ งานภายในเวลาที่ แต่ยงั ไม่เป็นระบบ ใหม่ ส่งชิ้นงานชา้ กว่าเวลาท่ี กำหนด กำหนด 3 วนั ขึน้ ไป สง่ ช้นิ งานชา้ กว่าเวลาที่ สง่ ช้นิ งานชา้ กว่าเวลาท่ี กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วัน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14-16 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 42 แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ท่ี 2 แบบประเมินแผน่ พบั คำชแ้ี จง ให้ผู้สอนประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 รวม 32 1 ความสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ 2 ความถกู ต้องของเนือ้ หา 3 ความคิดสรา้ งสรรค์ 4 ความตรงต่อเวลา ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ ................./................../.................. เกณฑก์ ารประเมินแผน่ พับ ประเดน็ ท่ีประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 5. ความ ผลงานสอดคลอ้ งกบั 321 สอดคล้องกบั จดุ ประสงคท์ กุ ประเด็น ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานไมส่ อดคล้องกบั จดุ ประสงคเ์ ป็นส่วน จุดประสงค์บางประเดน็ จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ ใหญ่ 6. ความถกู ต้อง เนอื้ หาสาระของผลงาน เนือ้ หาสาระของผลงาน เนอ้ื หาสาระของผลงาน เนือ้ หาสาระของผลงาน ของเนอื้ หา ถูกต้องครบถว้ น ถกู ต้องเป็นส่วนใหญ่ ถูกต้องบางประเด็น ไม่ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ 7. ความคิด ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานมีความน่าสนใจ ผลงานไม่มคี วาม สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ นา่ สนใจ และไม่แสดง และเปน็ ระบบ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แต่ยังไมม่ แี นวคดิ แปลก ถึงแนวคดิ แปลกใหม่ 8. ความตรงต่อ เวลา สง่ ช้ินงานภายในเวลาท่ี แตย่ งั ไม่เป็นระบบ ใหม่ สง่ ชนิ้ งานช้ากว่าเวลาท่ี กำหนด กำหนด 3 วันขนึ้ ไป สง่ ชนิ้ งานช้ากวา่ เวลาท่ี ส่งชิ้นงานช้ากวา่ เวลาที่ กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วนั เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14-16 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 43 แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1,2 แบบประเมนิ ผลงาน คำชแ้ี จง ให้ผูส้ อนประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แลว้ ขดี ✓ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 การออกแบบ 2 การเลือกใช้วัสดุ รวม 3 ความสมบรู ณ์ 4 ความตรงตอ่ เวลา ลงช่อื ................................................... ผู้ประเมนิ ................./................../.................. โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 44 เกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ประเด็นทป่ี ระเมิน ระดับคะแนน 1. การออกแบบ 4 32 1 ออกแบบชิน้ งานก่อนลง ออกแบบช้นิ งานกอ่ นลง ออกแบบชน้ิ งานก่อนลง สร้างช้ินงานได้ มอื ปฏิบัติ วางแผนและ สอดคลอ้ งกบั ดำเนนิ การสรา้ งชิ้นงาน มอื ปฏิบัติ วางแผนและ มอื ปฏิบตั ิ วางแผนและ จดุ ประสงค์บางส่วน ได้สอดคลอ้ งกบั โดยไม่ได้ออกแบบและ จดุ ประสงค์ ดำเนินการสรา้ งชิ้นงาน ดำเนนิ การสรา้ งช้ินงาน วางแผนดำเนนิ การ ได้สอดคลอ้ งกบั ไดส้ อดคล้องกบั จุดประสงค์เปน็ ส่วน จุดประสงค์บางส่วน ใหญ่ 2. การเลอื กใช้ เลือกใชว้ ัสดุได้ เลอื กใช้วสั ดไุ ด้ เลอื กใชว้ ัสดไุ ด้ เลือกใชว้ สั ดไุ ม่ วสั ดุ เหมาะสม และใช้ เหมาะสม แตใ่ ช้ เหมาะสมพอสมควร เหมาะสม และใช้ งบประมาณอย่าง งบประมาณสงู และใชง้ บประมาณสูง งบประมาณสงู มาก 3. ความสมบรู ณ์ ประหยัด ชิ้นงานมคี วามแขง็ แรง ชิน้ งานมคี วามแข็งแรง ชน้ิ งานไม่แขง็ แรง และ 4. ความตรงต่อ ชน้ิ งานมคี วามแข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้ ทนทาน แตไ่ มส่ ามารถ ไม่สามารถใช้งานไดจ้ ริง เวลา ทนทาน สวยงาม และ จรงิ ใชง้ านไดจ้ ริง ใชง้ านไดจ้ ริง ส่งชิ้นงานชา้ กวา่ เวลาที่ สง่ ช้นิ งานชา้ กวา่ เวลาที่ สง่ ชน้ิ งานชา้ กวา่ เวลาท่ี กำหนด 3 วันขึ้นไป ส่งชนิ้ งานภายในเวลาที่ กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วัน กำหนด เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14-16 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 45 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ การนำเสนอผลงาน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32   1 ความถูกต้องของเนอื้ หา    2 ภาษาทีใ่ ช้เข้าใจง่าย   3 ประโยชน์ที่ได้จากการนำเสนอ  4 วธิ ีการนำเสนอผลงาน  5 ความสวยงามของผลงาน  รวม ลงชอื่ ................................................... ผปู้ ระเมิน .............../................/................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 46 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับ คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเหน็   2 การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อื่น   3 การทำงานตามหน้าทท่ี ไี่ ด้รับมอบหมาย   4 ความมีนำ้ ใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชอื่ ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 47 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่ม คำชแี้ จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ตรงกบั ระดับ คะแนน ลำดบั ชือ่ –สกลุ การแสดง การยอมรับฟัง การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม ความคดิ เหน็ คนอนื่ ตามทีไ่ ดร้ ับ ที่ ของนักเรยี น สว่ นร่วมในการ 15 มอบหมาย ปรับปรุง คะแนน ผลงานกลมุ่ 3213213213 21 3 21 เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ................/.............../............... ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-15 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรุง โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 48 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ กษัตรยิ ์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏบิ ตั ติ ามหลักศาสนา 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่เกย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามที่โรงเรียนจัดข้ึน 2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถี่ ูกตอ้ งและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัตใิ นสิ่งท่ถี กู ต้อง 3. มวี นิ ัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชือ่ ฟงั คำสัง่ สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ต้ังใจเรียน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และร้คู ุณคา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่ือใหง้ านสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน 8.2 รจู้ กั การดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรยี นและโรงเรียน ลงชอ่ื ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14-15 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 49 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2562 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (ว21102) หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 พลงั งานความร้อน เรอื่ ง อณุ หภมู ิและการวัด จำนวนเวลาทสี่ อน 4 ช่วั โมง ผสู้ อน นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (ความเข้าใจท่ีคงทน) เครื่องมือวัดอณุ หภมู ิ เรียกวา่ เทอร์มอมิเตอร์ (thermometer) มี 2 แบบ คอื เทอร์มอมเิ ตอร์แบบ กระเปาะ ใช้หลักการการขยายตัวและหดตัวของของเหลวท่ีบรรจุอยู่ในกระเปาะตามอุณหภูมิภายนอก เทอร์มอมิเตอร์แบบดจิ ิทลั ภายในมีไมโครชิปสามารถเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าใหเ้ ป็นตัวเลข ซึ่งเป็นค่าอุณหภูมิ ขณะน้นั ได้ โดยหนว่ ยวดั อณุ หภูมมิ ีอย่หู ลายหน่วย ไดแ้ ก่ องศาเซลเซียส เคลวิน องศาฟาเรนไฮต์ และองศา โรเมอร์ ซึ่งแต่ละหน่วยจะมีจุดเยือกแข็ง และจุดเดือดแตกต่างกัน หากต้องการเปรียบเทียบค่าอุณหภูมิ ระหว่างหนว่ ยวดั อุณหภูมิ จะได้สมการ ดงั นี้ C/5 = (K-273)/5 = (F-32)/9 =R/4 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั ช้นั ปี/ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2.1 ตวั ชว้ี ดั ว 3.2 ม.1/2 ใชเ้ ทอร์มอมิเตอรใ์ นการวัดอณุ หภูมิของสสาร 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธิบายถงึ หนว่ ยวดั อุณหภมู ขิ องสารได้ 3.2 ดา้ นทักษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) ใช้เทอร์มอมเิ ตอร์ในการวดั อณุ หภมู ขิ องสสารได้ 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 3) รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทแ่ี ละงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge (ผ้เู รยี นตอ้ งร้อู ะไร) 1) เมือ่ สสารได้รับหรอื สญู เสียความรอ้ นอาจทำให้สสารเปลยี่ นอณุ หภมู ิ เปลยี่ นสถานะ หรือ เปลยี่ นรูปร่าง 4.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (ผู้เรียนสามารถปฏบิ ตั อิ ะไรได)้ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 2.1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2.2) ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 50 3) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4.3 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude (ผู้เรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบา้ ง) 1) มวี นิ ยั 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการทำงาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน 2) ทักษะการสรุปลงความเหน็ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 6. กิจกรรมการเรียนรู้  วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูแจง้ ผลการเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ 2. ครูให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครูถามคำถาม Big Question วา่ ความรอ้ นมคี วามสำคัญต่อการดำรงชวี ติ อยา่ งไร (แนวตอบ ความร้อนมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตในหลายด้าน เช่น ใช้ในการประกอบอาหาร ให้ความอบอนุ่ แกร่ า่ งกาย ใชใ้ นการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช เปน็ ต้น) 4. ครูนำนำ้ 3 ชนิด มาวางไวท้ ห่ี นา้ ชน้ั เรียน ดังน้ี - อา่ งน้ำใบที่ 1 น้ำอุ่น - อ่างน้ำใบที่ 2 น้ำอุณหภมู ิหอ้ ง - อา่ งนำ้ ใบท่ี 3 นำ้ ใส่น้ำแข็ง 5. ครตู ง้ั ประเดน็ คำถามเพือ่ กระตนุ้ ความสนใจของนักเรียน เช่น น้ำในอา่ งนำ้ แต่ละใบมีอณุ หภูมิเท่ากนั หรอื ไม่สังเกตจากอะไร โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 51 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูถามคำถาม prior knowledge นักเรียนว่า เพราะเหตุใด เมื่อเราจับส่งิ ต่างๆ เราจงึ รู้สึกรอ้ นเย็น แตกต่างกัน (แนวตอบ เนื่องจากวตั ถมุ คี วามรอ้ นแตกตา่ งกัน และมีความร้อนแตกตา่ งกับความร้อนในมือเรา) 2. ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม ออกเป็นกลุ่มละ 5-6 คน แล้วให้แต่ละกลุ่มวางแผน และแบ่งหน้าท่ีค้นคว้า ความรู้ เร่ือง เคร่ืองมือวัดอุณหภูมิ จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หน้า 3-4 หรือ อินเทอรเ์ น็ต และเอกสารต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มระดมความคดิ แลว้ สรปุ ขอ้ มูลลงในสมดุ บนั ทึก ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ผลัดกันเล่าเรือ่ งทีต่ นได้ศึกษามาใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ฟัง เพือ่ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลการสบื คน้ ขอ้ มูลหนา้ ช้ันเรียน 3. ครูเสริมข้อมูล หรือความรู้เพิ่มเติมให้กับข้อมูลที่ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ และแก้ไขให้ ถูกต้อง 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกจิ กรรม โดยใชแ้ นวคำถาม ดงั นี้ เครื่องมอื วดั อุณหภูมิ คอื อะไร (แนวตอบ เทอร์มอมเิ ตอร์) เครอื่ งมือวัดอุณหภูมิมกี ปี่ ระเภท อะไรบา้ ง (แนวตอบ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ เทอรม์ อมิเตอรแ์ บบกระเปาะ และเทอรม์ อมิเตอรแ์ บบดจิ ทิ ัล) เคร่ืองมอื วัดอุณหภมู ิมหี ลักการการทำงานอย่างไร (แนวตอบ ข้ันอยู่กับประเภทของเครื่อง เช่น เทอร์มอมิเตอร์แบบกระเปาะใช้หลักการหดตัวและ ขยายตัวของปรอทเมื่อได้รับความรอ้ นจากสาร เป็นตน้ ) จากน้ันครูให้นักเรียนจดคำถาม และตอบคำถามท่ีได้จากการอภิปรายรว่ มกนั ลงในสมุดบนั ทกึ 5. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัตกิ ิจกรรมในชน้ั เรยี น ชัว่ โมงท่ี 2 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน จากนัน้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนกลุ่มออกมารบั ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง การวดั อณุ หภมู ิ 2. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาใบงานที่ 4.1 เรื่อง การวัดอุณหภูมิ โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 52 3. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทำการทดลองเพื่อวัดอุณหภูมิของนำ้ ในอ่างน้ำแต่ละใบ ตามข้นั ตอน ท่กี ำหนดในใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง การวัดอณุ หภมู ิ และบันทกึ ผลการทดลองลงในใบงาน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครสู ุ่มตวั แทนกล่มุ ออกมานำเสนอผลการทดลองในใบงานท่ี 4.1 เร่ือง การวดั อณุ หภูมิ 2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกับ เครอื่ งมือวัดอณุ หภูมิ 3. ครูอธบิ ายเพิ่มเติมวา่ ในปจั จุบันเครือ่ งมอื วัดอุณหภมู ิดจิ ทิ ัลมหี ลายประเภทให้เลือกใช้งาน ดังน้ี - เครื่องมือวดั อณุ หภมู แิ บบ data logger - เครอื่ งมอื วัดอุณหภมู ิแบบ pen type - เครื่องมอื วัดอุณหภูมแิ บบแยกโพรบ - เครอื่ งมือวดั อณุ หภมู ไิ รส้ าย wireless - เครือ่ งมือวดั อุณหภูมิอนิ ฟราเรด - กล้องถา่ ยภาพความร้อน - เครอ่ื งมือวดั อณุ หภูมิ fiber optic ซงึ่ ครอู าจนำเสนอดว้ ยภาพเครอ่ื งมอื และเสรมิ ความรู้ใหก้ บั นกั เรียนวา่ แต่ละประเภทนิยมนำมาใช้ งานประเภทใด ขน้ั สรปุ ขยายความรู้ (Expand) 1. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนสรุปความรู้เก่ยี วกบั เคร่อื งมอื วดั อณุ หภมู ิและวิธใี ช้งาน โดยสรุปเขียนเปน็ แผนผงั ความคดิ หรือผงั มโนทศั น์ 2. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 ชว่ั โมงที่ 3 ขน้ั นำ กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครนู ำภาพอุณหภมู ขิ องส่งิ ต่าง ๆ มาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ อธิบายใหน้ ักเรยี นฟงั ว่า เทอรม์ อมเิ ตอรท์ ใ่ี ช้วัด อณุ หภมู โิ ดยท่ัวไปสามารถวดั ค่าอุณหภมู ิไดห้ ลายหน่วย เช่น องศาเซลเซยี ส องศาฟาเรนไฮต์ เคลวนิ องศาโรเมอร์ 2. ครูตั้งประเด็นคำถามเพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรยี น เช่น ครเู ขียนสัญลักษณ์หน่วยวัดอุณหภูมิ บนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกว่า สญั ลกั ษณบ์ นกระดานใช้แทนหน่วยวัดอณุ หภูมใิ ดบา้ ง โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 53 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ให้แต่ละกลุ่มวางแผนและแบ่งหน้าที่ค้นคว้าความรู้ เร่ือง ความสมั พนั ธ์ของหนว่ ยวดั อณุ หภมู ิต่าง ๆ จากหนงั สือเรียน อนิ เทอร์เนต็ เอกสารตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้อง หรอื จากสอื่ ตา่ ง ๆ 2. ครูให้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ออกมารับบตั รภาพ แล้วนำบตั รภาพไปใหส้ มาชิกภายในกลุ่มศึกษา 3. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ระดมความคดิ แล้วสรุปขอ้ มูลเปน็ ความรูข้ องกลุ่มลงในสมดุ บนั ทกึ อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ผลัดกนั เล่าเรื่องท่ตี นไดศ้ ึกษามาให้สมาชกิ ในกลุ่มฟัง 2. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลการสืบค้นข้อมูลหน้าช้นั เรยี น 3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เช่น หน่วยวดั อณุ หภูมิ คอื อะไร (แนวตอบ หน่วยทีว่ ดั ไดจ้ ากเทอรม์ อมเิ ตอร์) หน่วยวดั อุณหภูมิ มีอะไรบ้าง พรอ้ มยกตัวอยา่ ง (แนวตอบ องศาเซลเซยี ส องศาฟาเรนไฮต์ เคลวนิ และองศาโรเมอร์) การเปลยี่ นหน่วยวัดอณุ หภมู ิ เพอื่ หาความสมั พันธ์ระหว่างหนว่ ยต่าง ๆ ทำอยา่ งไร (แนวตอบ ใชส้ มการ C/5 = (K-273)/5 = (F-32)/9 = R/4 ) จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นจดคำถาม และตอบคำถามที่ไดจ้ ากการอภปิ รายร่วมกันลงในสมุดบันทกึ 4. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรมในชั้นเรียน ขน้ั สรปุ ขยายความรู้ (Expand) 1. ครใู ห้นกั เรียนนำบัตรภาพท่ไี ด้จากตัวแทนกลมุ่ ไปถา่ ยเอกสาร แล้วตดิ ลงในสมุด จากน้นั ให้แต่ละคน เปลีย่ นหนว่ ยอณุ หภมู ติ ่างๆ ที่แสดงในบตั รภาพ ใหเ้ ป็นหน่วยองศาฟาเรนไฮต์ เคลวนิ และองศา โรเมอร์ ตามลำดับ โดยแสดงวิธีทำลงในสมดุ บันทึก 2. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั ในแบบฝึกวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 ชวั่ โมงที่ 4 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูใหน้ ักเรยี นจับคู่กบั แลว้ แลว้ ให้ตวั แทนออกมารับใบงานที่ 4.2 เร่อื ง การเปลี่ยนหนว่ ยวัดอุณหภมู ิ 2. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคู่ร่วมกันศกึ ษา และทำตามขน้ั ตอนทีก่ ำหนดในใบงานที่ 4.2 เร่อื ง การเปลี่ยน หนว่ ยวดั อุณหภูมิ โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 54 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูสมุ่ ตัวแทนนักเรียน 6 คู่ แสดงวธิ คี ดิ ตามโจทย์ในใบงานท่ี 4.2 เร่อื ง การเปลี่ยนหน่วยวัดอุณหภูมิ โดย 2 คู่ ต่อ 1 ข้อ หน้าชนั้ เรียน แลว้ ให้เพ่อื นคู่อ่ืนทไ่ี ม่ไดน้ ำเสนอตรวจสอบ เปรียบเทยี บวธิ คี ิด ระหว่างคทู่ ่ี 1 กบั 2 ในแต่ละขอ้ และเปรยี บเทียบกบั วธิ ีทำของตนเอง จากนนั้ เพิ่มเตมิ ในส่วนท่ี บกพรอ่ ง และสง่ ตวั แทนกลุม่ ออกมาแกไ้ ขและอธบิ ายใหเ้ พ่ือนเข้าใจ 2. ครคู อยเสรมิ และแนะแนวทางความคิดของนักเรียน ขน้ั สรุป ขยายความรู้ (Expand) 1. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั ในแบบฝกึ วทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 2. ครใู ห้นักเรยี นทำชนิ้ งาน เครื่องมอื เปล่ยี นหน่วยอณุ หภูมิ โดยใหน้ ักเรียนออกแบบลงในกระดาษ A4 โดยมหี วั ขอ้ ในการออกแบบ ดงั นี้ - ลักษณะ/รูปร่างของเครื่อง - ความสามารถในการเปล่ียนหนว่ ย โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

ตวั อยา่ งชน้ิ งาน แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 55 เครอ่ื งมอื เปลย่ี นหน่วยอุณหภูมิ 0 ℃ ℉ °������ C 1 23 4 56 7 89 . 0# cancel delete enter ➢เครือ่ งมอื วัดนีส้ ามารถเปลยี่ นหน่วยได้เพียง 3 หนว่ ย ดงั น้ี - องศาเซลเซยี ส - องศาฟาเรนไฮต์ - องศาโรเมอร์ ➢สามารถเปลย่ี นหนว่ ยจาก 0-20 องศาเซลเซยี ส ตามตาราง ดงั นี้ ตารางคา่ แสดงเปลีย่ นหน่วยอณุ หภมู ขิ องเคร่ือง ℃ ℉ °R 0 32 0 1 33.8 0.8 …. …. …. กระดาษ A4 โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 56 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 3. ครตู รวจการคำนวณเปล่ียนหนว่ ยอณุ หภูมจิ ากบตั รภาพในสมดุ บนั ทึกของนกั เรียน 4. ครูตรวจใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง การวัดอุณหภูมิ 5. ครูประเมินการนำเสนอใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง การวดั อณุ หภมู ิ โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน 6. ครปู ระเมนิ ผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง เครอ่ื งมอื วัดอุณหภมู ิ โดยใช้แบบประเมินช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด 7. ครูตรวจใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง การเปล่ียนหนว่ ยวดั อุณหภมู ิ 8. ครูประเมินนักเรียนจากการสืบค้นข้อมูลและการตอบคำถามในช้ันเรียน การทำผังมโนทัศน์ เร่ือง เครื่องมือวัดอุณหภูมิ และการคำนวณเปล่ียนหน่วยอุณหภูมิจากบัตรภาพลงในสมุด โดยใช้แบบ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 9. ครูประเมินนักเรียนจากการทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง การวัดอุณหภูมิ และใบงานท่ี 4.2 เร่ือง การ เปลี่ยนหน่วยวดั อณุ หภูมิ โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายกลมุ่ 10. ครูประเมนิ ชิน้ งาน เคร่ืองมอื เปลยี่ นหนว่ ยอุณหภมู ิ โดยประเมินการออกแบบเครือ่ งมอื และความถูก ตอ้ งของค่าอุณหภมู ิในหน่วยตา่ ง ๆ โดยใช้แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงานรวบยอด 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธีวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 ประเมนิ กอ่ นเรยี น ประเมินตามสภาพ จริง 1) ทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง หลังเรียน หลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ พลังงานความร้อน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7.2 การประเมินระหว่าง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ การจัดกิจกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 1) อณุ หภมู แิ ละการวัด - ตรวจใบงานท่ี 4.1 - เฉลยใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง ระดับคุณภาพ 2 เรอื่ ง การวัดอุณหภูมิ การวดั อุณหภมู ิ - ตรวจใบงานท่ี 4.2 - เฉลยใบงานท่ี 4.2 เรื่อง เรื่อง การเปลยี่ นหน่วย การเปลยี่ นหน่วยวดั วดั อุณหภูมิ อุณหภมู ิ - ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง - แบบประเมินชน้ิ งาน/ เคร่ืองมอื วัดอณุ หภมู ิ ภาระงานรวบยอด - ชิน้ งาน เคร่ืองมือ - แบบประเมินชิ้นงาน/ เปลย่ี นหน่วยอณุ หภูมิ ภาระงานรวบยอด 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ ใบงานท่ี 4.1 นำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอใบ - แบบประเมินการ โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 57 รายการวดั วธิ วี ัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ งานที่ 4.2 3) พฤตกิ รรมการ นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ ทำงานรายบคุ คล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบคุ คล - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 4) พฤตกิ รรมการ ทำงานรายกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ การทำงานรายกลุ่ม 5) คุณลักษณะ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ - สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ัน การทำงานรายกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ ในการทำงาน - แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ 2 อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ 8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 3) ใบงานท่ี 4.1 เรื่อง การวัดอุณหภูมิ 4) ใบงานท่ี 4.2 เรื่อง การเปลี่ยนหนว่ ยวดั อณุ หภูมิ 5) PowerPoint เร่อื ง เครือ่ งมอื วัดอณุ หภูมิ 6) เทอร์มอมิเตอร์ 7) อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการทดลอง 8) บัตรภาพ เรือ่ ง ระดบั อณุ หภมู ิ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Sci/B2/M1/09 - http://www.aksorn.com/LC/Sci/B2/M1/09 9. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น : ความหลากหลายทางชีวภาพ หลักปรัชญา ครู ผู้เรยี น ของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ รู้จักใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตสือ่ ที่ มจี ิตสำนกึ ท่ดี ี จติ สาธารณะร่วม 2. ความมเี หตผุ ล อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคลอ้ งเน้ือหาเป็น สิ่งแวดลอ้ ม ประโยชน์ต่อผเู้ รยี นและพัฒนาจากภมู ิ ปญั ญาของผูเ้ รยี น ไม่หยดุ นิ่งทหี่ าหนทางในชีวติ หลุดพน้ จากความทกุ ขย์ าก (การค้นหาคำตอบ - ยดึ ถือการประกอบอาชีพด้วยความ ถกู ตอ้ ง สุจรติ โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 58 หลักปรัชญา ครู ผู้เรียน ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพือ่ ใหห้ ลุดพ้นจากความไม่ร)ู้ 3. มภี มู คิ มุ กนั ในตวั ทดี่ ี ภูมปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ 4. เงือ่ นไขความรู้ ระมดั ระวงั รบั ผดิ ชอบ ระมดั ระวัง สรา้ งสรรค์ ความรอบรู้ เร่อื ง อุณหภูมิและการ ความรอบรู้ เรือ่ ง อุณหภูมิและการ วดั ทเี่ กย่ี วขอ้ งรอบด้าน นำความรูม้ า วัด สามารถนำความรูเ้ หลา่ นัน้ มา เช่อื มโยงประกอบการวางแผน การ พิจารณาให้เกิดความเชอื่ มโยง ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้กับ สามารถประยกุ ต์ ผ้เู รยี น ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ 5. เง่อื นไขคุณธรรม มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มคี วาม ความซื่อสตั ย์สุจรติ และมคี วามอดทน ซ่อื สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มี มีความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการ ความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนนิ ดำเนินชีวติ ชีวติ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ครู ผู้เรียน ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ ในโรงเรียน (ตามจดุ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย) - ความหลากหลายทางชวี ภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง ผเู้ รียน ชวี ภาพในโรงเรยี น (กำหนดจุดให้ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สืบค้นขอ้ มูลการอนุรกั ษ์ความ ผเู้ รียนสำรวจ) หลากหลายทางชีวภาพ (ตามหัวขอ้ ที่ ได้มอบหมาย) สิ่งแวดล้อม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนรุ ักษ์ความหลากหลาย - การอนุรกั ษ์ความหลากหลายทาง ทางชีวภาพ ชวี ภาพ (กำหนดหวั ข้อให้ผูเ้ รยี น สืบค้น) โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 59 10. ความเหน็ /ข้อเสนอแนะ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย 10.1 หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ) ………./……………./…………. 10.2 รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางวิลาวัลย์ ปาลี) ………./……………./…………. โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 60 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมท่ีมีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ มี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ .........................................................ผู้สอน (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา) ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 61 ใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง การวัดอุณหภูมิ คำชแี้ จง : ให้นักเรียนทำการทดลองตามขั้นตอนทกี่ ำหนด แล้วบันทกึ ผลการทดลอง อุปกรณ์ วธิ กี ารทดลอง ภาพประกอบการทดลอง  อ่างนำ้ 3 ใบ 1. ใชอ้ า่ งนำ้ 3 ใบ วางเรยี งกนั 1. นำ้ อุ่น  น้ำแข็ง - ใบที่ 1 นำ้ อนุ่ อณุ หภมู ปิ ระมาณ 2. นำ้ อณุ หภมู หิ อ้ ง  น้ำอ่นุ 50 องศาเซลเซียส  น้ำอุณหภูมิห้อง - ใบที่ 2 นำ้ อณุ หภูมิหอ้ ง 3. น้ำใส่น้ำแข็ง - ใบท่ี 3 นำ้ ใส่นำ้ แขง็ 2. จุ่มมอื ขวาลงในอ่างนำ้ ใบท่ี 1 และ จมุ่ มอื ซ้ายลงในอา่ งนำ้ ใบท่ี 3 พรอ้ ม กนั แช่ไว้ประมาณ 1 นาที หรือจะ สลบั อ่างนำ้ กไ็ ด้ แล้วแตค่ ุณครูจะ กำหนด น้ำอณุ หภูมิหอ้ ง และน้ำใส่นำ้ แขง็ 3. ยกมือทัง้ 2 ข้างขึ้นจากอ่างน้ำ แล้ว จุ่มมอื ทงั้ 2 ข้างลงในอา่ งน้ำใบท่ี 2 พร้อมกัน 4. สังเกตผลการทดลองเปรยี บเทียบ อณุ หภมู ทิ ่รี ู้สึกได้ โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 62 ➢ ตารางบันทึกผลการทดลอง ความรูส้ กึ คร้งั ที่ จมุ่ มอื ลงในภาชนะ 1 ใบที่ 1 (น้ำอุ่น) ใบที่ 3 (น้ำผสมนำ้ แข็ง) 2 ใบที่ 2 (นำ้ อณุ หภูมิหอ้ ง) ➢ สรุปผลการทดลอง โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 63 ใบงานท่ี 4.1 เฉลย เรอื่ ง การวัดอณุ หภมู ิ คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนทำการทดลองตามขั้นตอนท่กี ำหนด แล้วบนั ทึกผลการทดลอง อุปกรณ์ วธิ กี ารทดลอง ภาพประกอบการทดลอง  อ่างน้ำ 3 ใบ 1. ใชอ้ ่างน้ำ 3 ใบ วางเรยี งกัน 1. น้ำอุน่  นำ้ แขง็ - ใบท่ี 1 นำ้ อณุ หภมู หิ ้อง 2. นำ้ อุณหภมู หิ ้อง  นำ้ อุ่น - ใบที่ 2 น้ำอุ่นอณุ หภูมิประมาณ  นำ้ อณุ หภูมิหอ้ ง 50 องศาเซลเซยี ส 3. นำ้ ใส่น้ำแขง็ - ใบท่ี 3 นำ้ ใสน่ ำ้ แขง็ 2. จุม่ มอื ขวาลงในอา่ งน้ำใบที่ 1 และ จมุ่ มือซา้ ยลงในอา่ งน้ำใบที่ 3 พร้อม กนั แช่ไวป้ ระมาณ 1 นาที หรือจะ สลับอ่างน้ำก็ได้ แลว้ แต่คุณครูจะ กำหนด น้ำอุณหภมู หิ ้อง และนำ้ ใสน่ ้ำแขง็ 3. ยกมอื ท้งั 2 ข้างขึน้ จากอา่ งนำ้ แลว้ จมุ่ มือทง้ั 2 ขา้ งลงในอา่ งนำ้ ใบท่ี 2 พรอ้ มกัน 4. สงั เกตผลการทดลองเปรยี บเทียบ อุณหภูมิทีร่ ้สู ึกได้ โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 64 ➢ตารางบันทึกผลการทดลอง ความรู้สึก ครั้งท่ี จุม่ มอื ลงในภาชนะ อุ่น 1 ใบท่ี 1 (น้ำอุน่ ) เย็น ใบท่ี 3 (นำ้ ผสมนำ้ แข็ง) 2 ใบท่ี 2 (นำ้ อณุ หภูมหิ อ้ ง) มือขา้ งทีจ่ ุม่ นำ้ อนุ่ มา จะรสู้ ึกอนุ่ มือข้างท่จี ่มุ น้ำเยน็ มา จะรู้สกึ เยน็ ➢ สรปุ ผลการทดลอง มือที่จุ่มลงไปในอ่างน้ำใบที่ 1 จะร้สู ึกอุ่นหรอื ร้อน เน่ืองจากขณะแช่มืออยู่ในน้ำอุ่น เพราะความ ร้อนจากน้ำในอ่างใบที่ 1 จะถ่ายโอนมายังมือ ส่วนมือท่ีจุ่มลงในอ่างน้ำใบที่ 3 จะรู้สึกเย็น เพราะความร้อน จากมือจะถ่ายโอนไปยังนำ้ ทีอ่ ยู่ในอ่าง แต่เมื่อนำมอื ท่จี ุ่มจากอา่ งที่ 1 มาแช่ในน้ำท่ีอณุ หภูมิห้องในอ่างที่ 2 จะ รู้สึกเย็นข้ึน เพราะความร้อนจากมือถ่ายโอนไปยังน้ำท่ีอุณหภูมิห้อง ส่วนมือที่จุ่มในอ่างที่ 3 มาแช่ในน้ำที่ อุณหภูมิห้องในอ่างท่ี 2 จะรู้สึกร้อนข้ึน เพราะความร้อนจากน้ำอุณหภูมิห้องถ่ายโอนมายังมือที่มอี ุณหภูมิต่ำ กวา่ เนอื่ งจากแชม่ ือในนำ้ ใบท่ี 3 มาก่อน โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

 แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 65 บตั รภาพ เร่ือง ระดบั อณุ หภมู ิ คำชแ้ี จง : บตั รภาพแสดงระดับอุณหภมู ขิ องส่ิงต่าง ๆ อณุ หภมู ิ ℃ ผวิ ของดวงอาทติ ย์ 6000 ไสห้ ลอดไฟ 2500 ตะเกยี งบุนเซน็ 1500 น้าเดอื ด 100 ร่างกายมนุษย์ 37 อุณหภูมหิ อ้ ง 25 น้าแขง็ ละลาย 0 อาหารแช่แขง็ -20 ออกซเิ จนเหลว -180 จุดเยอื กแขง็ สมั บูรณ์ -273 ท่ีมา : ยพุ า วรยศ และคณะ. 2553. หนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2. พมิ พค์ รงั้ ที่ 7. กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์. โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 66 ใบงานที่ 4.2 เร่อื ง การเปล่ียนหนว่ ยวัดอุณหภมู ิ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนแสดงวิธีการเปล่ยี นหน่วยวัดอณุ หภมู เิ ดิมใหเ้ ปน็ หน่วยวัดอนื่ ตามท่ีโจทย์กำหนด 1. ถ้าวดั อุณหภมู ไิ ด้ 35 Cํ อุณหภมู นิ ้จี ะมคี า่ เทา่ ใดในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์ 2. ถ้าวัดอุณหภมู ไิ ด้ 30 Cํ อุณหภูมนิ จ้ี ะมีคา่ เท่าใดในหน่วยองศาโรเมอร์ 3. ถ้าวดั อณุ หภูมิได้ 90 ํF อุณหภูมินจ้ี ะมคี ่าเท่าใดในหน่วยองศาเซลเซียส โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 67 ใบงานที่ 4.2 เฉลย เร่อื ง การเปลี่ยนหน่วยวัดอุณหภูมิ คำช้แี จง : ให้นักเรยี นแสดงวธิ ีการเปลี่ยนหน่วยวัดอณุ หภูมเิ ดิมใหเ้ ป็นหน่วยวดั อ่ืน ตามท่ีโจทย์กำหนด 1. ถา้ วัดอุณหภมู ไิ ด้ 35 Cํ อุณหภมู นิ จี้ ะมคี ่าเท่าใดในหนว่ ยองศาฟาเรนไฮต์ สูตร F - 32 = C แทนค่า F -932 = 355 95 F - 32 = 7  9 F = 63 + 32 F = 95 ดงั นน้ั อณุ หภมู ิ 35 องศาเซลเซียส มีค่าเท่ากับ 95 องศาฟาเรนไฮต์ 2. ถ้าวัดอณุ หภมู ไิ ด้ 30 Cํ อุณหภูมนิ ้ีจะมคี า่ เท่าใดในหนว่ ยองศาโรเมอร์ สูตร C =R แทนคา่ 350 = R4 54 R = 6 4 R = 24 ดังนัน้ อณุ หภูมิ 30 องศาเซลเซียส มีค่าเทา่ กับ 24 องศาโรเมอร์ 3. ถ้าวัดอุณหภมู ไิ ด้ 90 ํF อุณหภมู ินี้จะมคี ่าเท่าใดในหนว่ ยองศาเซลเซยี ส สตู ร F - 32 = C แทนค่า 909- 32 = C5 9 = 558 5 9 C C = 32.22 ดังนน้ั อณุ หภูมิ 90 องศาฟาเรนไฮต์ มีค่าเทา่ กบั 32.22 องศาเซลเซยี ส โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 68 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2/2562 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (ว21102) หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 พลงั งานความร้อน เรอ่ื ง ผลของความรอ้ นต่อการหดตวั และขยายตวั ของสาร จำนวนเวลาทีส่ อน 3 ช่ัวโมง ผ้สู อน นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (ความเขา้ ใจที่คงทน) สารเม่ือได้รับความร้อนอาจมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ สถานะ หรือรูปร่างของสาร เมื่อสารได้รับ ความร้อนจะทำให้อนุภาคเคลื่อนท่ีเร็วข้ึน ทำให้เกิดการขยายตัวและหดตัว ส่งผลให้ขนาดและรูปร่าง เปลีย่ นแปลงไป 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั 2.1 ตัวชว้ี ดั ว 3.2 ม.1/3 วิเคราะห์ แปลความหมายขอ้ มูล และ คำนวณปริมาณความร้อนทท่ี ำใหส้ สาร เปล่ียนอุณหภมู แิ ละเปลีย่ นสถานะ โดยใช้สมการ Q = mcΔt และ Q = mL 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธิบายผลของความร้อนตอ่ การเปลยี่ นแปลงอุณหภูมขิ องสารได้ 3.2 ด้านทกั ษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) คำนวณปริมาณความร้อนที่ทำให้สสารเปล่ยี นอุณหภูมแิ ละเปลย่ี นสถานะ 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าทแ่ี ละงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (ผู้เรยี นตอ้ งรู้อะไร) 1) ปรมิ าณความรอ้ นท่ีทำให้สสารเปล่ยี นอณุ หภมู ิ ขึ้นอยูก่ ับมวล ความร้อนจำเพาะ และ อุณหภมู ทิ เ่ี ปล่ียนไป 2) ปรมิ าณความร้อนท่ที ำให้สสารเปลีย่ นสถานะ ข้นึ อยกู่ ับมวลและความร้อนแฝงจำเพาะ โดยขณะทส่ี สารเปล่ยี นสถานะ อณุ หภมู ิจะไม่เปล่ียนแปลง 4.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (ผเู้ รยี นสามารถปฏิบตั ิอะไรได)้ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 2.1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2.2) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 69 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude (ผู้เรยี นควรแสดงพฤตกิ รรมการเรียนอะไรบา้ ง) 1) มีวินัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุง่ มัน่ ในการทำงาน 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นำ กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูแจ้งผลการเรยี นรูใ้ หน้ กั เรียนทราบ 2. ครถู ามคำถาม prior knowledge กระตนุ้ ความคิดของนกั เรียนว่า เมื่อสสารได้รบั ความร้อน จะเกดิ การเปลยี่ นแปลงอย่าง (แนวตอบ เม่ือสสารไดร้ บั ความรอ้ น อาจทำใหอ้ นุภาคของสารเกิดการสัน่ สะเทอื นและขยายตวั เกดิ การเปล่ียนสถานะของสาร หรอื อาจทำใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงอณุ หภูมขิ องสาร) 3. ครสู นทนากับนักเรยี นเกยี่ วกบั ความร้อนต่อการเปล่ียนแปลงอุณหภมู ิของสาร เช่น บอลลูนสามารถลอยอยใู่ นอากาศได้อยา่ งไร (แนวตอบ ความหนาแน่นอากาศภายในบอลลูนนอ้ ยกว่าความหนาแนน่ อากาศภายนอก) แอลกอฮอล์ท่ีอย่ใู นเทอร์มอมเิ ตอร์ เมอื่ ไดร้ ับความรอ้ นจะเปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ อนุภาคของแอลกอฮอล์จะออกห่างกันมากขนึ้ อนภุ าคจะส่ัน และเคลือ่ นท่เี ร็วมากขึ้น) ถา้ เปน็ ของแข็งที่ได้รับความรอ้ นจะเปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ เกิดการขยายตวั แตข่ ยายตัวไดน้ ้อยกวา่ ของเหลวและแก๊ส) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจากแนวคำตอบของนักเรียน เพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เร่ืองผล ของความร้อนต่อการเปล่ยี นแปลงอุณหภูมขิ องสาร โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 70 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละเท่า ๆ กัน ให้แต่ละกลุ่มวางแผนและแบ่งหน้าที่ค้นคว้า ความรู้ เรื่อง การขยายตัวหรือหดตัวของสาร จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หน้า 6-7 หรือจากแหลง่ การเรยี นรู้ทางอนิ เทอร์เนต็ และเอกสารตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มระดมความคิด แล้วสรปุ ข้อมูลเปน็ ความรขู้ องกลุ่ม อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มผลัดกนั เล่าเรอ่ื งทตี่ นได้ศึกษามาให้สมาชกิ ในกล่มุ ฟงั 2. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลการสืบคน้ ขอ้ มูลหน้าช้ันเรียน 3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ รายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคำถาม เช่น การขยายตวั ของวัตถุท่ีไดร้ บั ความร้อน แบ่งไดเ้ ป็นกีแ่ บบ อย่างไรบา้ ง (แนวตอบ มี 3 แบบ คอื 1. การขยายตวั เชิงเส้น 2. การขยายตัวเชงิ พน้ื ที่ 3. การชยายตัวเชงิ ปริมาตร) การขยายตัวหรือหดตวั ของวตั ถุทไ่ี ด้รับความรอ้ น นำไปใช้ประโยชน์อะไรไดบ้ า้ ง (แนวตอบ การวางรางรถไฟ การเว้นรอยต่อของสะพาน การขึงสายไฟ เป็นตน้ ) 4. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปผลจากการปฏบิ ัติกิจกรรม ชวั่ โมงที่ 2 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็นกลุม่ ละ 4-5 คน เพ่ือทำกจิ กรรม เร่ือง การขยายตัวของสาร ในหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 หน้า 9 แล้วบนั ทึกผลและตอบคำถามท้ายกจิ กรรมใน แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูสุ่มตวั แทนนกั เรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลจากกิจกรรม 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายผลท่จี ากการทำกิจกรรม 3. ครใู ห้นกั เรียนตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม และเฉลยคำตอบ ดังนี้ - เมือ่ ใหค้ วามร้อนโดยการนำขวดรูปชมพู่ทงั้ 2 ใบไปแช่น้ำรอ้ น ระดบั น้ำและขนาดเสน้ ผ่าน ศูนย์กลางลกู โป่งมีการเปลย่ี นแปลงอย่างไร (แนวตอบ ระดบั นำ้ เพมิ่ ขนึ้ และขนาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางเพมิ่ ข้ึน) - ความรอ้ นมีผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงปรมิ าตรของของเหลวและแกส๊ อย่างไร (แนวตอบ ส่งผลให้ปริมาตรของของเหลวขยายตวั และสง่ ผลให้ปรมิ าตรของแก๊สขยายตัวดว้ ย) - นักเรียนคดิ ว่า สารในสถานะใดที่สามารถขยายตัวไดด้ กี ว่ากนั ระหวา่ งของแข็ง ของเหลว และ แกส๊ เพราะเหตใุ ด โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 71 (แนวตอบ แกส๊ ของเหลว ของแข็ง ตามลำดับ เนอื่ งจากแรงดึงดดู ระหวา่ งโมเลกลุ ของแก๊สน้อย กว่าของเหลว และของแขง็ ) ชวั่ โมงท่ี 3 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็นกลมุ่ ละ 5-6 คน เพ่ือทำกจิ กรรม เร่ือง การสรา้ งแบบจำลองการ ขยายตวั หรือหดตวั ของสสารเมือ่ ได้รับ หรอื สูญเสียความร้อน ในหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หน้าท่ี 10 แลว้ บันทกึ ผลและตอบคำถามท้ายกิจกรรมในแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูสุ่มตวั แทนนักเรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอผลจากกจิ กรรม 2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายผลทจี่ ากการทำกิจกรรม 3. ครใู ห้นักเรยี นตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม และเฉลยคำตอบ ดงั น้ี - เมอ่ื สสารไดร้ บั หรอื สญู เสยี ความรอ้ น สสารจะมกี ารเปลีย่ นแปลงรูปร่างอย่างไร (แนวตอบ หดตวั ) - ลกั ษณะการขยายตัวของวัตถุเมอ่ื ได้รับความร้อน แบง่ ออกเป็นก่ีลักษณะ อะไรบา้ ง (แนวตอบ 3 ลักษณะ ไดแ้ ก่ การขยายตวั เชงิ เส้น การขยายตวั เชงิ พ้นื ที่ และการขยายตัวเชิง ปริมาตร) - ประเมินแบบจำลองของกล่มุ อน่ื วา่ แสดงถงึ เนือ้ หาที่ถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ คำตอบของนกั เรียนข้นึ อยกู่ บั แบบจำลองของนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ โดยการประเมนิ ของ นักเรียนขน้ึ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน) ขน้ั สรปุ ขยายความรู้ (Expand) 1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั การขยายตัวหรอื หดตัวของสาร และประโยชนท์ ี่จากการ ขยายตวั ของวัตถุเนื่องจากความรอ้ น โดยอาจรว่ มกนั สรปุ เป็นแผน่ พับ เรือ่ ง การขยายตวั ของวัตถุ 2. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจแบบฝกึ หัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 2. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทำกิจกรรม เรื่อง การขยายตัวของสาร โดยใช้แบบประเมินการ ปฏิบตั ิการ 3. ครูประเมินการปฏิบัติการจากการทำกิจกรรม เรื่อง แบบจำลองการขยายตัว หรือหดตัวของสสาร เม่ือไดร้ บั หรือสูญเสียความรอ้ น 4. ครูประเมินนกั เรยี นจากการทำกิจกรรมกล่มุ โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายกลมุ่ โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 72 5. ครูประเมนิ นกั เรยี นจากการสืบคน้ ข้อมลู และการตอบคำถามในช้ันเรยี นโดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล 6. ครูประเมินชิ้นงานแบบจำลองการขยายตัว หรือหดตัวของสาร โดยใช้แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระ งานรวบยอด 7. ครูประเมินแผน่ พับ เร่อื ง การขยายตัวของวัตถุ โดยใช้แบบประเมินช้นิ งาน/ภาระงานรวบยอด 7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธีวดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมนิ ระหว่าง - แบบประเมินชน้ิ งาน/ ระดับคณุ ภาพ 2 ภาระงานรวบยอด ผ่านเกณฑ์ การจัดกจิ กรรม - แบบประเมินชิ้นงาน/ ระดับคุณภาพ 2 ภาระงานรวบยอด ผา่ นเกณฑ์ 1) ผลของความร้อนตอ่ - แบบจำลองการขยายตวั - แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ร้อยละ 60 ม.1 เลม่ 2 ผา่ นเกณฑ์ การเปล่ียนแปลง หรือหดตัวของสาร - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 การปฏบิ ัตกิ าร ผา่ นเกณฑ์ อณุ หภมู ิของสาร - แผน่ พบั เร่ือง การ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ ขยายตัวของวัตถุ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 การทำงานรายกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ 2 อันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ 2) การปฏบิ ตั ิการ - ประเมินการปฏบิ ตั กิ าร 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล 4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายกลมุ่ การทำงานรายกลุ่ม 5) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินยั อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน 8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 2) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 3) PowerPoint เรื่อง การขยายตวั หรอื หดตัวของสาร 4) อุปกรณ์การทดลอง 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Sci/B2/M1/09 โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 73 9. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น : ความหลากหลายทางชวี ภาพ หลกั ปรชั ญา ครู ผู้เรียน ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดีดา้ นจติ ใจ 2. ความมเี หตผุ ล รูจ้ ักใช้เทคโนโลยมี าผลิตสอ่ื ที่ มจี ติ สำนกึ ที่ดี จิตสาธารณะร่วม 3. มีภูมิคมุ กันในตวั ท่ีดี เหมาะสมและสอดคล้องเน้อื หาเป็น อนุรกั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและ 4. เงอ่ื นไขความรู้ ประโยชนต์ ่อผู้เรยี นและพัฒนาจากภมู ิ สิง่ แวดลอ้ ม ปญั ญาของผเู้ รียน - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ ไมห่ ยุดนง่ิ ทหี่ าหนทางในชวี ติ หลุดพน้ ถกู ต้อง สุจริต จากความทุกข์ยาก (การคน้ หาคำตอบ เพอื่ ให้หลุดพ้นจากความไมร่ )ู้ ภูมิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั รบั ผดิ ชอบ ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ความรอบรู้ เร่ือง การขยายตวั หรือ ความรอบรู้ เรื่อง การขยายตัว หดตัวของสาร ทีเ่ กยี่ วข้องรอบดา้ น หรอื หดตวั ของสาร สามารถนำความรู้ นำความรมู้ าเช่ือมโยงประกอบการ เหลา่ น้ันมาพิจารณาให้เกดิ ความ วางแผน การดำเนินการจดั กิจกรรม เชอ่ื มโยง สามารถประยุกต์ การเรยี นรใู้ หก้ ับผเู้ รยี น ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ 5. เงื่อนไขคณุ ธรรม มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม ความซ่ือสัตยส์ ุจริตและมีความอดทน ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ และมีความอดทน มี มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ความเพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการดำเนนิ ดำเนินชวี ิต ชวี ติ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผู้เรยี น ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชวี ภาพ ในโรงเรยี น (ตามจดุ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย) - ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง ผเู้ รียน ชีวภาพในโรงเรียน (กำหนดจุดให้ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สืบค้นข้อมลู การอนรุ กั ษ์ความ ผู้เรียนสำรวจ) หลากหลายทางชวี ภาพ (ตามหัวข้อท่ี ได้มอบหมาย) สง่ิ แวดลอ้ ม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนรุ กั ษค์ วามหลากหลาย - การอนุรกั ษ์ความหลากหลายทาง ทางชีวภาพ ชวี ภาพ (กำหนดหวั ขอ้ ใหผ้ ู้เรยี น สืบคน้ ) โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 74 10. ความเหน็ /ข้อเสนอแนะ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย 10.1 หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถงึ ) ………./……………./…………. 10.2 รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางวิลาวัลย์ ปาลี) ………./……………./…………. โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 75 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมท่ีมีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ มี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ .........................................................ผู้สอน (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา) ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 76 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2/2562 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ (ว21102) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พลังงานความร้อน เรอ่ื ง ผลของความร้อนตอ่ การเปลยี่ นแปลงอณุ หภมู แิ ละสถานะของสาร จำนวนเวลาที่สอน 4 ชวั่ โมง ผสู้ อน นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (ความเข้าใจท่ีคงทน) สารเม่ือได้รบั ความร้อนจะทำให้อณุ หภูมิของสารสารเปลีย่ นแปลง แตส่ ถานะของสารไม่เปลย่ี นแปลง ซ่งึ ปริมาณความร้อนทีท่ ำใหอ้ ุณหภูมิของสารเปลยี่ นแปลงขน้ึ อยู่กับมวล ความรอ้ นจำเพาะ และอุณหภูมิที่ เปลยี่ นแปลงไป และสารเมื่อไดร้ บั ความร้อนจะทำใหส้ ารเปลย่ี นสถานะ แตอ่ ณุ หภูมิของสารไม่เปลี่ยนแปลง เน่ืองจากอนุภาคของสารอยู่ห่างกันมาก ซ่ึงปริมาณความรอ้ นท่ีทำให้สารเปล่ียนสถานะขึ้นอยู่กับมวลและ ความรอ้ นจำเพาะ 2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรียนรู้ 2.1 ตวั ชว้ี ดั ว 3.2 ม.1/1 วิเคราะห์ แปลความหมายขอ้ มลู และคำนวณปรมิ าณความร้อนทีท่ ำให้สสารเปลยี่ น อณุ หภูมิและเปลยี่ นสถานะ โดยใชส้ มการ Q = mcΔt และ Q = mL 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธิบายผลของความร้อนตอ่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภมู ขิ องสารได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) คำนวณปริมาณความรอ้ นทีท่ ำให้สสารเปลีย่ นอณุ หภมู ิและเปลีย่ นสถานะ 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 3) รับผิดชอบตอ่ หน้าท่ีและงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 เนือ้ หาสาระหลกั : Knowledge (ผ้เู รียนตอ้ งรอู้ ะไร) 1) ปริมาณความร้อนที่ทำให้สสารเปล่ียนอณุ หภมู ิข้นึ อยูก่ บั มวล ความรอ้ นจำเพาะ และ อณุ หภูมทิ เ่ี ปล่ยี นไป 2) ปริมาณความร้อนท่ที ำใหส้ สารเปลี่ยนสถานะข้ึนอยกู่ ับมวล และความรอ้ นแฝงจำเพาะ โดยขณะที่สสารเปล่ียนสถานะ อุณหภมู ิจะไม่เปลี่ยนแปลง 4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process (ผู้เรียนสามารถปฏิบัติอะไรได)้ 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 2.1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 77 2.2) ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ 3) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 4.3 คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude (ผ้เู รยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง) 1) มีวนิ ยั 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะการวิเคราะห์ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 2) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูนำไอศกรมี มาวางไวบ้ นจาน ประมาณ 3-5 นาที แล้วให้นกั เรยี นสงั เกตถงึ ความเปลี่ยนแปลง ของไอศกรมี ยังคงเหมือนเดิมหรอื ไม่ จากนนั้ ครนู ำเทอร์มอมเิ ตอรม์ าให้วดั อุณหภูมิของไอศกรมี กอ่ นละลาย และเมอ่ื ไอศกรมี ละลายหมดแล้วให้วดั อณุ หภูมิอีกคร้งั แล้วถามนักเรยี นวา่ อณุ หภมู ิ ทว่ี ดั ได้ 2 คร้ังคา่ อุณหภูมแิ ตกต่างกนั หรือไม่ อย่างไร 2. ครสู นทนากบั นกั เรียนเก่ยี วกับความรอ้ นตอ่ การเปล่ียนแปลงของสาร ดังนี้ - ถา้ นำนำ้ แข็งใสแ่ ก้ว ตง้ั ทง้ิ ไวใ้ นหอ้ ง จะเป็นอย่างไร (แนวตอบ นำ้ แข็งจะเปลย่ี นสถานะเปน็ ของเหลว และมีอณุ หภูมิเพม่ิ ขึน้ จนกระท่ังเท่ากับ อุณหภูมิหอ้ ง) - ถ้าตม้ น้ำเป็นเวลานาน จนน้ำในภาชนะแห้งหายไป น้ำจะหายไปไหน (แนวตอบ นำ้ จะระเหยกลายเปน็ ไอลอยปะปนอยใู่ นอากาศ) - ถ้าจดุ เทียน ผลทเี่ กดิ ข้ึนจะเป็นอยา่ งไร (แนวตอบ เทียนไขซ่ึงมสี ถานะเปน็ ของแข็งจะเปล่ยี นสถานะเป็นเทียนเหลวซง่ึ มีสถานะเปน็ ของเหลว) โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 78 3. นักเรยี นชว่ ยกนั อภปิ รายและแสดงความคิดเหน็ เพ่อื เชือ่ มโยงไปสูก่ ารเรียนรเู้ รื่องผลของความรอ้ น ตอ่ การเปลีย่ นแปลงอณุ หภมู ิและสถานะของสาร ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเปน็ กลุ่มละเท่า ๆ กัน แลว้ ให้แต่ละกล่มุ วางแผนและแบ่งหน้าท่ีค้นคว้า ความรู้ เร่ือง ผลของความร้อนต่อการเปล่ียนแปลงอุณหภูมิและสถานะของสาร จากหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หน้า 11-13 และแหล่งการเรียนรู้ทางอินเทอร์เน็ต หรือเอกสารต่าง ๆ ที่ เก่ยี วขอ้ ง 2. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มระดมความคดิ แล้วสรุปข้อมลู เปน็ ความรขู้ องกลมุ่ อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มผลดั กันเล่าเรื่องทต่ี นไดศ้ ึกษามาใหส้ มาชกิ ในกลุ่มฟัง 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการสบื คน้ ข้อมูลหน้าชน้ั เรียน 3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถามว่า การเปล่ียนแปลง อณุ หภูมขิ องสารจากความร้อน ขึ้นอยู่กับอะไรบา้ ง (แนวตอบ มวล ความร้อนจำเพาะของสาร และอุณหภมู ิทีเ่ ปลี่ยนแปลงไปของสาร) 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปผลจากการปฏบิ ัติกจิ กรรม ชว่ั โมงที่ 2 ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครถู ามคำถามทบทวนความรู้เดิมของนักเรยี นวา่ ปรมิ าณความร้อนที่ทำให้สารเปล่ียนแปลงอณุ หภูมิ ขน้ึ อยู่กับปัจจยั ใดบา้ ง (แนวตอบ มวล ความร้อนจำเพาะ และอุณหภมู ิท่ีเปลยี่ นแปลง) 2. ครเู ขยี นสมการคำนวณหาปริมาณความรอ้ นท่ีทำให้สารเปลย่ี นแปลงอุณหภูมบิ นกระดาน Q = mcΔt จากน้ันครูอธิบายความหมายของตวั แปร และหนว่ ยของตวั แปรท่ีใชค้ ำนวณ 3. ครูยกตวั อย่างโจทย์การคำนวณหาปริมาณความร้อนที่ทำให้สารเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ในหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หนา้ 11 โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 79 ขน้ั สรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหดั ในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 ชั่วโมงท่ี 3 ขน้ั สอน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูถามคำถามทบทวนความรูเ้ ดิมของนกั เรียนวา่ ปริมาณความร้อนทีท่ ำให้สารเปล่ียนแปลงสถานะ ข้ึนอยกู่ ับปัจจัยใดบ้าง (แนวตอบ มวล และความรอ้ นแฝงจำเพาะของสาร) 2. ครเู ขยี นสมการคำนวณหาปรมิ าณความรอ้ นทท่ี ำให้สารเปล่ยี นแปลงอุณหภูมิบนกระดาน Q = mL จากนน้ั ครูอธิบายความหมายของตวั แปร และหน่วยของตัวแปรท่ใี ช้คำนวณ 3. ครูยกตวั อยา่ งโจทย์การคำนวณหาปรมิ าณความร้อนที่ทำให้สารเปลยี่ นแปลงอณุ หภูมิ ในหนงั สือ เรยี นวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หน้า 12-13 ขน้ั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครถู ามคำถามท้าทายความคิดข้นั สูงวา่ วัตถุท่มี ีมวลเท่ากัน 2 ชิ้น ชิ้นหน่งึ ได้รบั ความร้อนจน หลอมเหลว อีกชิ้นได้รบั ความรอ้ น แตไ่ มห่ ลอมเหลว วตั ถุท้งั 2 ชนิ้ น้ี ได้รับความร้อนแตกต่างกนั หรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ อาจได้รบั ความร้อนเท่ากันหรอื ไม่เท่ากนั ก็ได้ ข้ึนอยู่กับชนดิ ของสารทีป่ ระกอบอย่ใู น วตั ถุ หากวตั ถุทงั้ สองชนดิ มีสารแตกต่างกัน ซง่ึ มจี ุดหลอมเหลวแตกต่างกนั แม้ว่าจะไดร้ ับความ ร้อนเทา่ กันอาจทำให้วตั ถุใช้เวลาในการหลอมเหลวแตกตา่ งกนั ได้) 2. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 80 ช่ัวโมงที่ 4 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็นกลุม่ ละ 4-5 คน ทำกจิ กรรม แลว้ ให้ตัวแทนกลุม่ ออกมารับใบงานท่ี 4.3 เรื่อง น้ำเปล่ียนสถานะ 2. ครูให้แต่ละกลุ่มศกึ ษาข้ันตอนการทำกิจกรรมในใบงานท่ี 4.3 เรื่อง นำ้ เปลย่ี นสถานะ แล้วให้สมาชิก ภายในกล่มุ วางแผน แบง่ หนา้ ทใ่ี นการทำกิจกรรม จากนน้ั ครใู ห้แต่ละกลมุ่ บันทกึ ผลและตอบคำถาม ท้ายกิจกรรมลงในใบงาน ขน้ั สรปุ ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 2. ครตู รวจใบงานที่ 4.3 เรอื่ ง น้ำเปลีย่ นสถานะ 3. ครปู ระเมนิ นกั เรยี นจากการทำใบงาน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่ม 4. ครูประเมนิ การนำเสนอใบงาน โดยใช้แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน 5. ครูประเมินนักเรียนจากการสืบค้นข้อมูล และการตอบคำถามในชั้นเรียน โดยใช้แบบสังเกต พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธวี ัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 การประเมินระหว่าง การจดั กจิ กรรม 1) ผลของความร้อน - ตรวจใบงานที่ 4.3 เรื่อง - เฉลยใบงานที่ 4.3 เร่ือง รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ต่อการเปล่ียนแปลง นำ้ เปลี่ยนสถานะ นำ้ เปลีย่ นสถานะ อุณหภูมิและสถานะ - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ของสาร ม.1 เลม่ 2 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน ใบงานท่ี 4.3 นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานรายกลมุ่ การทำงานรายกลุ่ม การทำงานรายกล่มุ ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ 2 อันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่นั อนั พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์ ในการทำงาน โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 81 8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 3) ใบงานท่ี 4.3 เร่ือง นำ้ เปล่ยี นสถานะ 4) PowerPoint เรื่อง ผลของความร้อนตอ่ การเปล่ียนแปลงอุณหภมู แิ ละสถานะของสาร 5) อุปกรณ์การทดลอง 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Sci/B2/M1/09 9. การบูรณาการตามจุดเน้นของโรงเรยี น : ความหลากหลายทางชวี ภาพ หลักปรชั ญา ครู ผเู้ รียน ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ 2. ความมีเหตผุ ล รจู้ ักใช้เทคโนโลยีมาผลติ สอ่ื ที่ มจี ติ สำนึกทด่ี ี จติ สาธารณะรว่ ม 3. มีภูมิคุมกันในตัวที่ดี เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนอื้ หาเปน็ อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและ 4. เงื่อนไขความรู้ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี นและพัฒนาจากภมู ิ ส่ิงแวดล้อม ปัญญาของผเู้ รียน - ยดึ ถอื การประกอบอาชพี ดว้ ยความ ไมห่ ยดุ นงิ่ ท่หี าหนทางในชวี ติ หลุดพน้ ถกู ตอ้ ง สุจริต จากความทกุ ข์ยาก (การค้นหาคำตอบ เพอ่ื ใหห้ ลดุ พ้นจากความไม่ร)ู้ ภูมิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั รบั ผิดชอบ ระมดั ระวงั สร้างสรรค์ ความรอบรู้ เรอื่ ง ผลของความร้อน ความรอบรู้ เร่ือง ผลของความ ตอ่ การเปล่ยี นแปลงอณุ หภูมแิ ละ ร้อนต่อการเปลีย่ นแปลงอุณหภมู แิ ละ สถานะของสาร ทเี่ กี่ยวข้องรอบดา้ น สถานะของสาร สามารถนำความรู้ นำความร้มู าเช่ือมโยงประกอบการ เหล่าน้นั มาพจิ ารณาใหเ้ กิดความ วางแผน การดำเนินการจัดกิจกรรม เชอื่ มโยง สามารถประยุกต์ การเรียนรู้ให้กับผเู้ รียน ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ 5. เง่อื นไขคุณธรรม มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มีความ ความซ่อื สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน ซื่อสัตยส์ จุ รติ และมีความอดทน มี มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ ความเพียร ใช้สติปญั ญาในการดำเนิน ดำเนนิ ชีวติ ชีวิต โดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 82 สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ครู ผเู้ รียน ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชวี ภาพ ในโรงเรยี น (ตามจุดทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย) - ความหลากหลายทางชวี ภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง ผู้เรยี น ชวี ภาพในโรงเรยี น (กำหนดจุดให้ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สืบคน้ ข้อมูลการอนุรักษ์ความ ผเู้ รียนสำรวจ) หลากหลายทางชวี ภาพ (ตามหัวขอ้ ที่ ได้มอบหมาย) ส่งิ แวดล้อม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนุรักษ์ความหลากหลาย - การอนรุ กั ษค์ วามหลากหลายทาง ทางชีวภาพ ชีวภาพ (กำหนดหวั ข้อให้ผู้เรียน สืบค้น) โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 83 10. ความเหน็ /ข้อเสนอแนะ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย 10.1 หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นางสาวณฐั ธนญั า บญุ ถงึ ) ………./……………./…………. 10.2 รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางวิลาวัลย์ ปาลี) ………./……………./…………. โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 84 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมท่ีมีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ มี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ .........................................................ผู้สอน (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา) ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 85 กจิ กรรมท่ี 4.3 เร่อื ง นำ้ เปลยี่ นสถานะ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมตามขนั้ ตอนต่อไปน้ี 1. ใส่นำ้ แข็งที่ทุบละเอียดใส่ลงในบีกเกอรท์ ี่เตรียมไว้ประมาณ 1 ใน 3 ของบีกเกอร์ ใช้เทอร์มอมิเตอร์ วดั อุณหภูมิของน้ำแขง็ ดังรูป ก แลว้ บนั ทกึ ผล 2. ใชแ้ ทง่ แก้วคนนำ้ แขง็ แล้วสงั เกตอณุ หภูมขิ องน้ำแขง็ เมื่อน้ำแขง็ หลอมเหลวหมด ใหว้ ดั อณุ หภูมขิ อง น้ำแข็งทนั ที แล้วบันทกึ ผล 3. นำบีกเกอร์ท่ีบรรจุน้ำแข็งท่ีหลอมเหลวแล้วในข้อ 2 มาจัดวางรวมกับอุปกรณ์อ่ืน ๆ ดังรูป ข ใน หนงั สือเรียน ตัง้ ไฟจนนำ้ เดอื ด วดั อณุ หภูมขิ องนำ้ เดือดขณะกลายเป็นไอ แล้วบันทกึ ผล 4. นำเทอรม์ อมิเตอร์เสียบลงบนแผน่ กระดาษแขง็ จากน้ันนำไปวางบนบกี เกอร์ ให้เทอร์มอมเิ ตอร์ลอย อยู่เหนอื นำ้ เล็กน้อย ดังรปู ค ต้มนำ้ ตอ่ ไปประมาณ 2–3 นาที แล้วจงึ วัดอณุ หภูมิ และบันทกึ ผล คำถามการทดลอง 1. การต้มนำ้ แขง็ จนกลายเป็นไอ มีการเปล่ียนแปลงสถานะกี่คร้ัง อะไรบา้ ง 2. การเปลย่ี นสถานะของนำ้ ใช้พลังงานอะไร 3. การเปลย่ี นสถานะชว่ งใดท่ีใช้ความรอ้ นมากที่สดุ 4. ช่วงใดท่อี ณุ หภูมไิ มเ่ ปล่ียนแปลงแต่สถานะของน้ำเปลย่ี นแปลง และช่วงใดทอี่ ุณหภูมเิ ปลี่ยนแปลงแต่ สถานะของนำ้ ไมเ่ ปลยี่ นแปลง 5. การเปลย่ี นแปลงอณุ หภมู ิของน้ำใชพ้ ลังงานอะไร อภิปรายผลการทดลอง โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 86 ใบกิจกรรมท่ี 4.3 เฉลย เรอ่ื ง นำ้ เปลีย่ นสถานะ คำช้แี จง : ให้นกั เรียนทำกจิ กรรมตามขัน้ ตอนต่อไปน้ี 1. ใส่น้ำแข็งที่ทุบละเอียดใส่ลงในบีกเกอรท์ ี่เตรียมไว้ประมาณ 1 ใน 3 ของบีกเกอร์ ใช้เทอร์มอมิเตอร์ วัดอณุ หภูมขิ องน้ำแขง็ ดังรปู ก แลว้ บันทกึ ผล 2. ใช้แทง่ แก้วคนนำ้ แข็ง แล้วสงั เกตอุณหภูมขิ องนำ้ แข็ง เม่ือน้ำแขง็ หลอมเหลวหมด ใหว้ ัดอุณหภูมิของ น้ำแขง็ ทนั ที แลว้ บันทึกผล 3. นำบีกเกอร์ท่ีบรรจุน้ำแข็งที่หลอมเหลวแล้วในข้อ 2 มาจัดวางรวมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ดังรูป ข ใน หนงั สือเรียน ต้งั ไฟจนน้ำเดือด วัดอณุ หภูมขิ องน้ำเดอื ดขณะกลายเป็นไอ แล้วบนั ทกึ ผล 4. นำเทอรม์ อมิเตอร์เสียบลงบนแผ่นกระดาษแขง็ จากนนั้ นำไปวางบนบีกเกอร์ ใหเ้ ทอร์มอมิเตอร์ลอย อย่เู หนอื น้ำเล็กนอ้ ย ดังรปู ค ต้มน้ำต่อไปประมาณ 2–3 นาที แล้วจึงวดั อุณหภูมิ และบันทึกผล คำถามการทดลอง 1. เมื่อให้ความร้อนตม้ นำ้ การตม้ นำ้ แขง็ จนกลายเปน็ ไอ มกี ารเปล่ียนแปลงสถานะกค่ี รัง้ อะไรบา้ ง เมื่อให้ความร้อนแก่น้ำแข็งเกิดการเปลยี่ นสถานะ 2 คร้ัง คือ น้ำแขง็ อุณหภูมิ 0 ํC เปลยี่ นสถานะ เป็นน้ำอุณหภูมิ 0 Cํ โดยการเปลย่ี นสถานะคร้ังนอ้ี ุณหภูมไิ ม่เปล่ียนแปลง และนำ้ เดือดอณุ หภูมิ 100 ํ C เปลี่ยนสถานะเป็นไอน้ำเดอื ดอณุ หภูมิ 100 Cํ การเปลี่ยนสถานะครง้ั นี้อุณหภมู ิก็ไมเ่ ปล่ียนแปลง 2. การเปลยี่ นสถานะของนำ้ ใช้พลังงานอะไร ความรอ้ นแฝงจำเพาะ 3. การเปลี่ยนสถานะช่วงใดที่ใช้ความร้อนมากทีส่ ุด น้ำเดอื ดที่อณุ หภมู ิ 100 ํC 4. ชว่ งใดทีอ่ ุณหภมู ไิ ม่เปลยี่ นแปลงแต่สถานะของน้ำเปลี่ยนแปลง และช่วงใดทอี่ ุณหภูมิเปล่ยี นแปลงแต่ สถานะของน้ำไม่เปล่ียนแปลง น้ำแขง็ อณุ หภมู ิ 0 ํC เปล่ยี นสถานะเป็นน้ำอุณหภูมิ 0 ํC โดยการเปลย่ี นสถานะครัง้ น้อี ณุ หภมู ไิ ม่ เปล่ยี นแปลง และนำ้ เดือดอุณหภมู ิ 100 Cํ เปลยี่ นสถานะเปน็ ไอน้ำเดอื ดอณุ หภมู ิ 100 Cํ การเปล่ียน สถานะครง้ั นีอ้ ุณหภูมกิ ็ไมเ่ ปลี่ยนแปลง 5. การเปลยี่ นแปลงอณุ หภูมิของนำ้ ใชพ้ ลังงานอะไร ความร้อนแฝงจำเพาะของสาร โดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 87 อภปิ รายผลการทดลอง เมื่อน้ำแขง็ ไดร้ ับความร้อนจะมีการเปลีย่ นแปลงบางช่วง โดยจะเปลี่ยนสถานะโดยทีอ่ ณุ หภมู ิไม่ เปล่ยี น และบางชว่ งอุณหภูมเิ ปลย่ี นแปลงแตส่ ถานะไม่เปลยี่ นแปลง โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 88 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2/2562 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (ว21102) หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 พลงั งานความรอ้ น เรอื่ ง สมดลุ ความรอ้ น จำนวนเวลาทส่ี อน 2 ชัว่ โมง ผู้สอน นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (ความเข้าใจทค่ี งทน) สารทมี่ ีอุณหภูมิแตกต่างกันเกิดการถา่ ยโอนความรอ้ นระหวา่ งกันจนกระทั่งอณุ หภมู ิของสารเท่ากัน เรียกสภาพนี้ว่า สมดุลความร้อน โดยความร้อนที่เพิ่มขึ้นของสารหนึ่งจะเท่ากับความร้อนท่ีลดลงของอีก สารหน่ึง ซึ่งเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน การถ่ายโอนความร้อนจนเกิดสมดุลความร้อนเป็นไปตาม สมการ Qสูญเสยี = Qไดร้ ับ 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัดชั้นปี/ผลการเรียนรู้/เปา้ หมายการเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ว 3.2 ม.1/5 วิเคราะห์สถานการณก์ ารถ่ายโอนความรอ้ น และคำนวณปริมาณความรอ้ นทีถ่ ่าย โอนระหวา่ งสสารจนเกดิ สมดุลความรอ้ นโดยใช้สมการ Qสูญเสีย = Qไดร้ บั 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) วิเคราะห์สถานการณก์ ารถา่ ยโอนความรอ้ นได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) คำนวณปรมิ าณความรอ้ นท่ีถ่ายโอนระหว่างสสารจนเกิดสมดลุ ความร้อนโดยใช้สมการได้ 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 3) รับผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีและงานที่ได้รับมอบหมาย 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge (ผเู้ รยี นตอ้ งรู้อะไร) 1) ความร้อนถา่ ยโอนจากสสารทีม่ อี ุณหภมู ิสูงกว่าไปยังสสารท่มี ีอณุ หภูมิตำ่ กว่าจนกระท่งั อุณหภมู ิของสสารทง้ั สองเทา่ กัน สภาพท่สี สารท้งั สองมีอุณหภูมเิ ทา่ กนั เรยี กว่า สมดุลความร้อน 2) เมอื่ มกี ารถ่ายโอนความร้อนจากสสารทม่ี ีอุณหภูมติ า่ งกันจนเกดิ สมดลุ ความร้อน ความ ร้อนที่เพมิ่ ขน้ึ ของสสารหนง่ึ จะเทา่ กบั ความรอ้ นที่ลดลงของอีกสสารหนง่ึ ซงึ่ เป็นไปตามกฎการอนุรกั ษพ์ ลังงาน 4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process (ผเู้ รยี นสามารถปฏบิ ตั อิ ะไรได)้ 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 2.1) ทักษะการวิเคราะห์ โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 89 2.2) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4.3 คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude (ผู้เรยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรยี นอะไรบ้าง) 1) มีวินยั 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มงุ่ ม่ันในการทำงาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 2) ทักษะการสรุปลงความเห็น 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชวั่ โมงที่ 1 ขน้ั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม prior knowledge กระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า วตั ถสุ องสิง่ ทมี่ ีความร้อน แตกต่างกนั เม่อื สัมผัสจะมกี ารเปล่ยี นแปลงความรอ้ นอย่างไร (แนวตอบ วัตถุทีม่ ีความร้อนแตกต่างกนั จะเกิดการถา่ ยโอนความรอ้ นจากวัตถุที่มีอุณหภูมิสูงกวา่ ไปยงั วตั ถทุ ่ีมีอณุ หภูมติ ่ำกว่า จนกระทัง่ วตั ถุท้งั สองมอี ุณหภูมิเทา่ กนั ) 2. ครสู นทนากบั นักเรยี นเก่ียวกับสมดลุ ความร้อนในชวี ติ ประจำวนั โดยใช้แนวคำถาม ดังน้ี - นกั เรียนคดิ วา่ มเี หตกุ ารณ์ในชวี ิตประจำอะไรบ้างงทเ่ี ก่ยี วข้องกับสมดุลความรอ้ น (แนวตอบ การละลายของน้ำแข็งในนำ้ การปล่อยอาหารใหเ้ ยน็ ลง การผสมน้ำทีม่ อี ุณหภูมิ ต่างกัน เปน็ ต้น) - สมดลุ ความรอ้ น คอื อะไร (แนวตอบ สมดุลความร้อน คือ พลงั งานความร้อนท่ถี ่ายโอนระหวา่ งสองบริเวณจนมอี ุณหภูมิ เท่ากนั ) 3. นกั เรยี นช่วยกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เห็น เพ่ือเช่ือมโยงไปสูก่ ารเรยี นร้เู รอื่ งผลของความรอ้ น ต่อการเปลย่ี นแปลงอณุ หภูมิและสถานะของสาร โดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 90 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็นกลุ่มละเท่า ๆ กนั แล้วให้แตล่ ะกลุ่มวางแผนและแบง่ หน้าท่ีค้นคว้า ความรู้ เรื่อง สมดุลความรอ้ น จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 2 หน้า 14-15 และแหลง่ การ เรยี นรทู้ างอนิ เทอรเ์ นต็ หรือเอกสารต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง 2. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ระดมความคิด แล้วออกแบบการทดลองเก่ยี วกับเรอ่ื ง สมดุลความรอ้ น ลงในสมดุ บนั ทกึ โดยมีหวั ขอ้ ดังนี้ • ช่อื การทดลอง • ปัญหา • สมมตฐิ าน • อปุ กรณ์ • วธิ ีการทดลอง • อภิปรายผลการทดลอง อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูสุม่ ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอ หัวขอ้ ที่แต่ละกลมุ่ จะทดลองเก่ียวกบั สมดุลความรอ้ น โดย ใหน้ ักเรียนนำเสนอปัญหา สมมติฐาน และอปุ กรณใ์ นการทดลอง 2. ครูพิจารณาหัวข้อของแต่ละกลุ่มวา่ สามารถทำการทดลองไดห้ รอื ไม่ จากน้นั มอบหมายใหแ้ ต่ละกลุ่ม วางแผน และแบง่ หน้าทใ่ี นการทำการทดลองหนา้ ช้นั เรียนในช่วั โมงถดั ไปภายใน 15 นาที ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั สอน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมาทำการทดลองหน้าช้ันเรยี น โดยสมาชิกทกุ คนภายในกลุ่มตอ้ งมี บทบาทและหนา้ ท่ี ดังน้ี - อธบิ ายชือ่ การทดลอง สมมติฐาน อุปกรณ์การทดลอง วธิ ีการทดลง - แสดงข้นั ตอนการทดลอง - อภปิ รายและสรุปผลการทดลอง 2. ครูใหน้ ักเรยี นบันทกึ ผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองและเพ่อื นกลุม่ อนื่ ลงในสมุด ขน้ั สรุป ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ครูเขียนโจทย์การคำนวณเกย่ี วกับสมดุลคามรอ้ นบนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นแสดงวธิ ที ำลงในสมดุ 2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหดั ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 2 โดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่