Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2020-12-15 04:30:16

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 100 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การประยกุ ต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 2 รหัสวชิ า ว32102 เวลา 3 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 ช่ือหน่วยการเรียนรู้/บท งานและพลงั งาน รวม 24 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  อาเซียน  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน  มาตรฐานสากล  ข้ามกลมุ่ สาระ 1. ผลการเรียนรู้ 3. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล รวมท้ังวิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อกับการ เคลอื่ นท่ีของวัตถุในสถานการณต์ ่าง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานกลได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายกฎการอนุรกั ษพ์ ลังงานกลได้ (K) 2. คำนวณหาปรมิ าณทีเ่ ก่ยี วข้องกบั กฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานกลได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีและงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถน่ิ - กฎการอนุรักษ์พลังงานกลใช้วิเคราะห์การ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา เคล่ือนที่ต่าง ๆ เช่น การเคล่ือนที่ของวัตถุติด สปริง การเคลื่อนท่ภี ายใตส้ นามโน้มถ่วงของโลก 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล ใช้ในการอธิบายการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบดิ่ง การ เคลื่อนที่ของวัตถุที่ติดสปริง การเคล่ือนที่ภายใต้สนามโน้มถ่วงของโลก 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 2) ทักษะการสอ่ื สาร จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 101 3) ทกั ษะการสังเกต 4) ทักษะการทำงานร่วมกนั หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 5) ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงที่ 1 ขนั้ นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ให้นกั เรยี นทราบ 2. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 25 ว่า “กฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกลสมั พนั ธ์กับการเคล่ือนท่ีอย่างไร” และมกี ารเปลย่ี นพลังงานอย่างไร” (แนวตอบ: งานในทางฟิสิกส์ คือปรมิ าณของพลังงานซึ่งถูกส่งมาจากแรงที่กระทำต่อวตั ถุ ให้เคลื่อนที่ ไปได้ระยะทางขนาดหน่ึง) 3. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียน โดยตั้งคำถามว่า “นักเรียนคิดว่ากฎการ อนุรักษ์พลังงานกลจะสามารถประยกุ ต์ใช้ได้ได้อยา่ งไร” และให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามปากเปล่า โดยไมม่ กี ารเฉลยวา่ ถกู หรือผิด (หมายเหตุ: ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) 4. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการเคลื่อนท่ีแบบต่าง ๆ เช่น การเคล่ือนท่ีในแนวตรง การเคลื่อนท่ีแบบ วงกลมในแนวระดับด้วยอัตราเร็วคงท่ีหรือการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ จากนั้นครูชี้ให้เห็นว่ายังมี การเคล่ือนที่ในลักษณะอน่ื ๆ เช่น การเคลื่อนท่ีแบบวงกลมในระนาบด่ิง ถ้าคิดว่าการเคลื่อนท่ีเหล่านั้น ไม่มีการสูญเสียพลงั งาน จะได้ว่าพลังงานกลของวตั ถทุ ่ีตำแหน่งตา่ ง ๆ ไมเ่ ปลย่ี นแปลง จึงสามารถใช้ กฎการอนุรักษพ์ ลังงานกลมาอธบิ ายการเคลื่อนที่เหล่านนั้ ได้ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 102 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้เวลานักเรียน 15 นาที ในการแบ่งกลุ่มเป็น 9 กลุ่ม เพ่ือช่วยกันศึกษาการเคลื่อนท่ีในแบบต่าง ๆ ท้ัง 3 แบบ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 25-29 แล้วให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มเตรียมตัวท้ังการอภิปรายหน้าชั้นเรียน พร้อมทั้งยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องท่ี ศกึ ษา และการตั้งคำถามจากเนือ้ หา เพราะครูจะใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมาอภิปรายหน้าช้ันเรียน โดยมีเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ และครถู ามคำถามที่สงสัยท้ายช่ัวโมง โดยกลุ่มที่ 1-3 ศึกษาเรื่องการเคลื่อนที่ แบบวงกลมในระนาบด่ิง กลุ่มท่ี 4-6 ศึกษาเรื่องการเคล่ือนท่ีของวัตถุที่ติดสปริง และกลุ่มที่ 7-9 ศกึ ษาเร่ืองการเคล่อื นทภี่ ายใต้สนามโน้มถว่ ง 2. ครูให้แต่ละกล่มุ ท่ีศึกษาในเร่ืองเดียวกันรวมกลุ่มกันอภิปรายสรปุ ประเด็นหลัก ๆ ที่ได้จากแต่ละกลุ่มย่อย เพ่ือนำไปอภิปรายหนา้ ชัน้ เรียน โดยครูให้เวลานกั เรยี น 10 นาที 3. ครูให้นักเรียนกลุ่มที่ได้เรื่องเดียวกันส่งตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาช่วยกันอภิปรายหน้าชั้นเรียน โดยมีเพื่อนกลุ่มอื่นและครูถามคำถาม และในขณะที่นักเรียนถามตอบนั้น ให้ครูสังเกตการณ์และ แนะนำคำตอบที่ถูกต้องให้นักเรียน แล้วให้นักเรียนแต่ละคนเขียนสรุปตามความเข้าใจของตนเอง ลงในสมดุ ประจำตวั ตัวอยา่ งคำถามกลมุ่ ท่ีศึกษาเรื่องการเคลื่อนท่ีแบบวงกลมในระนาบด่งิ 1) จากภาพการเคลื่อนที่ของกล่องบนรางวงกลมในระนาบดิ่ง จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 25 นั้น N หมายถึงอะไร (แนวตอบ: N คือ แรงทรี่ างวงกลมกระทำต่อกล่อง) 2) ความเร็วของกลอ่ งแตล่ ะตำแหนง่ นน้ั มคี วามเร็วเท่ากันหรอื ไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ: ความเร็วของกล่องแต่ละตำแหน่งไม่เท่ากันโดยความเร็วที่ตำแหน่งอ้างอิงจะมีค่า มากท่สี ุดและความเร็วตำแหนง่ ท่ตี รงข้ามกบั ตำแหน่งอา้ งอิงจะมีความเรว็ น้อยที่สุด) 3) ณ ตำแหนง่ อ้างอิง พลังงานแตล่ ะพลงั งานเปน็ อย่างไร (แนวตอบ: ณ ตำแหน่งอา้ งองิ พลงั งานจลนจ์ ะมีคา่ สงู ที่สดุ และไม่มคี ่าพลงั งานศักยโ์ นม้ ถ่วง) ตัวอย่างคำถามกลุ่มที่ศึกษาเร่ืองการเคลอื่ นทข่ี องวัตถทุ ่ตี ิดสปริง 1) ณ ตำแหนง่ ท่ีมกี ารกระจดั มากทสี่ ุด พลงั งานแตล่ ะพลงั งานเปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ: ณ ตำแหน่งที่มีการกระจัดมากที่สุดพลังงานศักย์ยืดหยุ่นจะมีค่ามากที่สุดและ มีพลงั งานจลน์เป็นศูนย)์ 2) ณ ตำแหน่งสมดลุ พลังงานแต่ละพลังงานเปน็ อย่างไร (แนวตอบ: ณ ตำแหน่งสมดลุ พลังงานจลนจ์ ะมคี ่ามากที่สุดและมีพลังงานศักย์ยืดหยนุ่ เป็นศูนย)์ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 103 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน 3) จากสมการการประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกลกับการเคลื่อนท่ีของวัตถุท่ีติดสปริง สามารถ ทราบอะไรได้บ้าง (แนวตอบ: จากสมการทราบว่าพลังงานกลรวมเป็นค่าคงตัวและมีค่าเท่ากับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น ณ ตำแหน่งทมี่ ีการกระจัดสูงสุด) ตัวอยา่ งคำถามกลุ่มที่ศึกษาเร่ืองการเคลื่อนทีภ่ ายใตส้ นามโน้มถ่วง 1) ถ้าวตั ถุตกอย่างอิสระในแนวดิ่ง ความเรว็ ของวัตถจุ ะเป็นอย่างไร (แนวตอบ: ความเร็วของวัตถุจะมคี า่ เพิม่ ขึ้นเรื่อย ๆ) 2) ตำแหนง่ อ้างองิ คอื ตำแหนง่ ใดและ ณ ตำแหน่งนน้ั พลังงานแต่ละพลังงานเปน็ อย่างไร (แนวตอบ: ตำแหน่งอ้างอิงคือตำแหน่งบนพ้ืนและ ณ ตำแหน่งอ้างอิงจะมีพลังงานจลน์มากที่สุด และมพี ลงั งานศกั ย์เปน็ ศนู ย)์ 3) กฎการอนุรักษ์พลังงานกลสัมพันธ์กบั การเคล่ือนทีภ่ ายใต้แรงโน้มถ่วงอย่างไร (แนวตอบ: ผลรวมของพลงั งานจลน์และพลังงานศักย์โน้มถ่วงมคี ่าคงท่ีตลอดการเคล่ือนท่ีของวตั ถุ) ชวั่ โมงท่ี 2 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) (ต่อ) 4. ครูอธิบายสรุปและทบทวนประเด็นทนี่ ักเรยี นได้ศึกษาและอภปิ รายหน้าช้นั เรยี นในชวั่ โมงทแี่ ลว้ ทง้ั เรอ่ื งการเคลื่อนทแ่ี บบวงกลมในระนาบดง่ิ และการเคลอ่ื นที่ภายใต้สนามโนม้ ถ่วง “พลังงานสามารถ นำมาประยุกตใ์ ช้กบั การเคลื่อนทไ่ี ด้ โดยพจิ ารณารวมท่ีแต่ละตำแหน่งของวตั ถแุ ละงานที่ให้แกว่ ตั ถุ” ดงั สมการ ΣE1 + W = ΣE2 5. ครูแจกใบงานท่ี 5.8 เรอ่ื ง การประยกุ ต์กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล ใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ 6. ให้นกั เรยี นทำใบงานที่ 5.8 จากสิง่ ทไ่ี ด้ศกึ ษาจากชั่วโมงที่แลว้ 7. นกั เรยี นเก็บรวบรวมใบงานที่ 5.8 เรอ่ื ง การประยุกต์กฎการอนุรกั ษ์พลังงานกล ส่งคนื ครู 8. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างที่ 5.11-5.13 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 26-29 โดยครูสังเกตการณ์ และให้คำแนะนำ อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำใบงานท่ี 5.9 เร่ือง โจทย์การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โดย นำมาส่งครใู นช่ัวโมงถัดไป 2. ครูให้มอบหมายใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดที่ 4.1 จากแบบฝึกหดั ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เปน็ การบา้ น จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 104 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน ช่วั โมงที่ 3 ข้ันสรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครเู ก็บรวบรวมใบงานท่ี 5.9 เรือ่ ง โจทย์การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล 2. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit question 5 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 46-47 ข้อ 22 และ 25 ลงในสมุด 3. ให้นักเรียนทำสรุปผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล ลงในกระดาษ A4 แล้วสุ่มนกั เรียนออกมานำเสนอหน้าช้นั เรียน (หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน และแบบประเมิน ชิ้นงาน/ภาระงาน) ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.8 เร่ือง การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล และใบงานท่ี 5.9 เร่อื ง โจทยก์ ารประยกุ ตก์ ฎการอนรุ กั ษ์พลงั งานกล 2. ครูตรวจการทำแบบฝึกหัด Unit question 5 เรื่อง การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล ในสมุด ประจำตวั 3. ครูตรวจแบบฝึกหัดท่ี 4.1 จากแบบฝกึ หดั ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 4. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลุม่ 5. ครูวัดและประเมินผลจากชิ้นงานการสรุปเนื้อหา เรื่อง การประยุกต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล ท่ีนักเรียนไดส้ ร้างขึน้ จากข้นั ขยายความเข้าใจเป็นรายบคุ คล 7. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมินระหว่าง - ใบงานที่ 5.8 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ใบงานท่ี 5.9 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจดั กจิ กรรม - แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ผลงานทีน่ ำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 1) การประยุกตก์ ฎ - ตรวจใบงานท่ี 5.8 ผ่านเกณฑ์ การอนรุ ักษ์ - ตรวจใบงานที่ 5.9 พลังงานกล - ตรวจแบบฝึกหัด 2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ ผลงาน ผลงาน จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 105 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน รายการวัด วธิ วี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พงึ ประสงค์ ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม 5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินยั อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มน่ั ในการทำงาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน รายวิชาเพมิ่ เตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 2) แบบฝึกหัด รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 3) ใบงานที่ 5.8 เรื่อง กฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานกล 4) ใบงานท่ี 5.9 เรอื่ ง โจทยก์ ารประยกุ ตก์ ฎการอนุรักษพ์ ลงั งานกล 5) PowerPoint เรื่อง งานและพลังงาน 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) หอ้ งสมุด 3) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 106 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานที่ 5.8 เร่อื ง การประยกุ ต์กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนสรปุ ความรู้ท่ไี ดจ้ ากการอภปิ รายของเพ่อื นหน้าช้นั เรยี นลงในตาราง การเคลอ่ื นท่ี สรปุ แบบวงกลมในระนาบด่ิง ของวตั ถทุ ี่ติดสปริง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

การเคล่ือนท่ี แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 107 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน สรปุ ภายใต้สนามโน้มถ่วง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 108 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน ใบงานที่ 5.8 เฉลย เรอ่ื ง การประยุกตก์ ฎการอนุรักษ์พลงั งานกล คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนสรุปความรูท้ ี่ได้จากการอภิปรายของเพ่อื นหน้าชั้นเรยี นลงในตาราง การเคลอ่ื นที่ สรปุ แบบวงกลมในระนาบดง่ิ เมอ่ื ปลอ่ ยวตั ถุมวล m จากที่สงู ใหล้ งมาตามรางรูปวงกลมในระนาบด่ิง เม่ือไม่ คิดแรงเสียดทานของราง วัตถุจะเปลี่ยนพลังงานศักย์โน้มถ่วงเป็นพลังงานจลน์ วตั ถุจะเคลื่อนท่ีเร็วข้ึนเม่ือลงมาต่ำกว่าจุดปล่อยวัตถุมากข้ึน ขณะท่ีวัตถุเคล่ือนที่ ถึงจดุ ต่ำสุดของวงกลม วตั ถจุ ะมีความเรว็ มากท่สี ดุ แรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุขณะน้ี จะ มี 2 แรง คือ น้ำหนักของวัตถุ (mg) ทิศลงสู่พ้ืน และแรงที่รางดันวัตถุ (N) ทิศต้ัง ฉากกับราง วัตถุท่ีกำลังเคล่ือนท่ีเป็นวงกลมต้องมีแรงกระทำต่อวัตถุในทิศเข้าสู่ ศูนย์กลาง ดังนั้น ขณะวัตถุเคลื่อนท่ีผ่านจุดต่ำสุดของวงกลม แรงที่ทำหน้าที่เป็น แรงสู่ศูนย์กลางจะหาได้จาก FC = N − mg น่ันคือ ขณะวัตถุเคลื่อนท่ีผ่าน จุดสูงสุดของวงกลมในระนาบด่ิง แรงท่ีทำหน้าท่ีเป็นแรงสู่ศูนย์กลางจะหาได้จาก FC = N + mg เคร่ืองเล่นประเภทรถไฟเหาะตีลังกาท่ีเรารู้จักกัน จะใช้หลักการ เคล่อื นที่เปน็ วงกลมในระนาบดง่ิ ของวัตถทุ ั้งสิ้น ของวัตถุทีต่ ดิ สปริง คือ การที่วัตถุเคลื่อนท่ีกลับไปมาซ้ำรอยเดิม เช่น การเคลื่อนท่ีของวัตถุท่ีถูก ผูกติดไว้กับสปริงในแนวราบ แล้ววัตถุเคลื่อนที่ไปมาตามแรงท่ีสปริงกระทำต่อ วัตถุ ในการยืดหรือหดสปริง จะต้องมีแรงภายนอกไปกระทำต่อสปริงทำให้เกิด งานขึ้น ทั้งน้ีเพราะในการยืดหรือหดของสปริงนั้น พลังงานศักย์ของสปริงจะ เพิ่มขึ้น จากนยิ ามของพลงั งานศักย์ที่วา่ \"พลังงานศักย์ของวตั ถุ ณ จุดใด คือ งาน ท่ีใช้ในการเคล่ือนท่ีวัตถุจากจุดอ้างอิงไปยังจุดน้ัน\" ถ้า F เป็นแรงที่กระทำต่อ สปริงแล้วทำให้สปริงยืดหรือหด เป็นระยะทาง x จากตำแหน่งสมดุล จะได้ว่า พลังงานศักย์ของสปริงที่ตำแหน่ง x ใด ๆ เท่ากับ 1 kx2 เน่ืองจากแรงท่ีสปริง 2 กระทำต่อวัตถุเป็นแรงอนุรักษ์ ดังน้ัน พลังงานทั้งหมดของวัตถุท่ีเคล่ือนที่ภายใต้ อิทธิพลของแรงสปริงจึงคงที่ ถ้า E เป็นค่าพลังงานท้ังหมด จะได้ว่า ท่ีตำแหน่ง x ใด ๆ ซงึ่ วัตถุมีความเรว็ เป็น v ใด ๆ จะได้ว่า E = 1 mv2 + 1 kx2 22 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

การเคล่ือนท่ี แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 109 ภายใต้สนามโนม้ ถ่วง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน สรปุ วัตถุทอี่ ยู่ในสนามโน้มถ่วงของโลกจะถูกโลกดงึ ดดู ดังนน้ั เม่ือปล่อยวตั ถใุ ห้ตก บริเวณใกล้ผิวโลก แรงดึงดูดของโลกจะทำให้วัตถุเคล่ือนท่ีเร็วข้ึน นั่นคือ วัตถุ มีความเร่ง การตกของวัตถุท่ีมีมวลต่างกันในสนามโน้มถ่วงวัตถุ จะเคล่ือนที่ด้วย ความเร่งคงตัว เรียกว่า ความเร่งโน้มถ่วง (gravitational acceleration) มีทิศ ทางเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก ความเร่งโน้มถ่วงท่ีผิวโลกมีค่าต่างกันตามตำแหน่ง ทางภูมิศาสตร์ในการตกของวัตถุ วัตถุจะเคลื่อนที่ลงด้วยความเร่งโน้มถ่วง 9.8 เมตรตอ่ วินาที2 ซง่ึ หมายความว่า ความเร็วของวัตถุจะเพมิ่ ขนึ้ วินาทีละ 9.8 เมตร ต่อวินาที ถ้าโยนวัตถุขึ้นในแนวดิ่ง วัตถุในสนามโน้มถ่วงจะเคลื่อนที่ขึ้นด้วย ความเร่งโน้มถ่วง g โดยมีทิศเข้าสู่ศูนย์กลางโลก ทำให้วัตถุซึ่งเคลื่อนที่ขึ้น มีความเร็วลดลงวินาทีละ 9.8 เมตรตอ่ วินาที จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 110 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน ใบงานท่ี 5.9 เร่ือง โจทย์การประยกุ ต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล คำช้ีแจง : แสดงวธิ คี ำนวณหาผลลพั ธ์ 1. เด็กหญิงคนหน่ึงแกว่งชงิ ชา้ สงู 1.5 เมตร เลน่ กับเพ่ือนทีส่ นามเด็กเลน่ โดยไม่มีใครนั่งบนชงิ ชา้ เลย ถ้าแกว่ง ชิงชา้ ทำมมุ 90 องศา อัตราเร็วของชิงชา้ ขณะผ่านจดุ ต่ำสดุ เป็นเทา่ ใด 2. กลอ่ งมวล 50 กิโลกรัม ถกู ดึงด้วยแรงคงตวั 120 นิวตนั ในแนวระดบั ใหเ้ คล่ือนท่ีจากหยุดน่งิ ไปตามพื้น ระดับท่มี ีสัมประสิทธิแ์ รงเสยี ดทาน 0.2 เป็นระยะทาง 5 เมตร จงหาพลังงานจลน์ของกลอ่ งท่เี ปล่ียนไป 3. มวล 1 กโิ ลกรัม เคลอื่ นท่ีในแนวราบบนพ้นื ทม่ี ีแรงเสียดทาน 5 นิวตนั ขณะเข้าชนสปริง มวลนมี้ ีความเร็ว 2 เมตรต่อวนิ าที ทำใหส้ ปริงหดได้ 5 เซนตเิ มตร จงหาคา่ คงตัวสปริงในหนว่ ยนวิ ตนั ต่อเมตร จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 111 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.9 เฉลย เรื่อง โจทยก์ ารประยกุ ต์กฎการอนุรักษ์พลังงานกล คำช้แี จง : แสดงวิธีคำนวณหาผลลพั ธ์ 1. เดก็ หญิงคนหน่ึงแกวง่ ชิงชา้ สงู 1.5 เมตร เล่นกบั เพื่อนที่สนามเดก็ เลน่ โดยไม่มีใครนง่ั บนชงิ ช้าเลย ถ้าแกว่ง ชงิ ชา้ ทำมมุ 90 องศา อตั ราเร็วของชิงช้าขณะผ่านจดุ ต่ำสดุ เปน็ เท่าใด วธิ ที ำ จากกฎการอนุรกั ษ์พลงั งาน ΣE1 = ΣE2 จากสมการ mgh = 1 mv2 2 v2 = 2gh v2 = 2(10)(1.5) v2 = 30 v = 5.48 m/s ดังน้นั อตั ราเรว็ ของชิงชา้ ขณะผา่ นจุดตำ่ สดุ เท่ากับ 5.48 เมตรต่อวินาที 2. กล่องมวล 50 กโิ ลกรัม ถูกดึงด้วยแรงคงตวั 120 นวิ ตนั ในแนวระดับให้เคลื่อนท่จี ากหยุดนงิ่ ไปตามพื้น ระดบั ที่มีสัมประสิทธิแ์ รงเสียดทาน 0.2 เป็นระยะทาง 5 เมตร จงหาพลงั งานจลน์ของกลอ่ งท่เี ปล่ยี นไป วธิ ีทำ จากสมการ ΣE1 + W = ΣE2 จะไดว้ า่ ΣE1 + WF − Wf = ΣE2 Ek2 − Ek1 = WF − Wf Ek2 − Ek1 = FΔx − fΔx Ek2 − Ek1 = FΔx − μmgΔx Ek2 − Ek1 = (120)(5) − (0.2)(50)(10)(5) Ek2 − Ek1 = 600 − 500 Ek2 − Ek1 = 100 J ดงั นัน้ พลงั งานจลน์ของกล่องที่เปลย่ี นไปเท่ากบั 100 จูล 3. มวล 1 กโิ ลกรมั เคลือ่ นที่ในแนวราบบนพื้นที่มแี รงเสียดทาน 5 นิวตัน ขณะเข้าชนสปริง มวลนมี้ คี วามเรว็ 2 เมตรตอ่ วินาที ทำให้สปริงหดได้ 5 เซนติเมตร จงหาค่าคงตวั สปรงิ ในหน่วยนวิ ตันต่อเมตร วิธีทำ มวลเคลื่อนทบ่ี นผิวทีม่ ีแรงเสียดทาน จะได้ W = −f∆x จากสมการ ΣE1 + W = ΣE2 1 mv2 − f∆x = 1 kx2 22 1 (1)(2)2 − (5)(0.05) = 1 k(0.05)2 22 k = 1,400 N/m ดงั นน้ั คา่ คงตวั สปรงิ เท่ากับ 1,400 นิวตันต่อเมตร จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 112 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 9. ความเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย 9.1 หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผูช้ ่วยผ้อู ำนวยการฝา่ ยบริหารวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 113 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชื่อ…………………………………………. (นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา) ครผู ู้สอน ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 114 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง กำลงั รายวิชา ฟิสิกส์ 2 รหสั วชิ า ว32102 เวลา 2 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ชื่อหน่วยการเรียนรู้/บท งานและพลงั งาน รวม 24 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 บูรณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  อาเซียน  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  มาตรฐานสากล  ขา้ มกล่มุ สาระ 1. ผลการเรียนรู้ 1. วิเคราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัวจากสมการและพ้ืนท่ีใต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับ ตำแหนง่ รวมท้ังอธบิ ายและคำนวณกำลงั เฉลย่ี ได้ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของกำลังและความสัมพนั ธ์ระหวา่ งกำลังกับงานได้ (K) 2. คำนวณหาปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้องกบั กำลังได้ (P) 3. รับผิดชอบต่อหน้าท่ีและงานท่ีได้รบั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ - งานท่ีทำได้ในหนึ่งหน่วยเวลา เรียกว่า กำลัง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา เฉลยี่ ดงั สมการ Pav = W ∆t 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด กำลัง คืออัตราการทำงาน หรืองานที่ทำได้ในหนึ่งหน่วยเวลา มีหน่วยเป็น วัตต์ หน่วยที่นิยมใช้อีก หน่วยหนึ่ง คือ แรงม้า ซ่ึงมีค่าเท่ากับ 746 วัตต์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการวิเคราะห์ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 2) ทักษะการส่อื สาร 3) ทกั ษะการสังเกต จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 115 4) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1 ขนั้ นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ ให้นักเรยี นทราบ 2. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนงั สือเรยี น รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 30 ว่า “ความเร็วมผี ลตอ่ กำลงั หรือไม่” โดยเมือ่ เรยี นหวั ข้อน้ีจบ นกั เรยี นควรจะตอบคำถามนี้ได้ (แนวตอบ: ความเรว็ มีผลต่อกำลัง เพราะจากสมการ ������ = ������ ∆������ จะได้ว่า ������ = ������������ ดังน้ัน ความเร็ว ∆������ จะแปรผันตรงกับกำลัง ถ้าวัตถุเคล่ือนท่ีด้วยความเร็ว v ท่ีมากข้ึน กำลังของวัตถุหรือระบบก็จะ เพิ่มขนึ้ ตาม) 3. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนในเรื่องท่ีจะเรยี น โดยตั้งคำถามว่า “นักเรียนคิดว่ากำลังเก่ียวข้อง กบั ปริมาณใดบา้ ง” และใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบคำถามปากเปล่าโดยไม่มีการเฉลยว่าถูกหรือผดิ (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งเป็น 5 กลมุ่ และให้ตวั แทนนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมาหน้าชน้ั เรยี น กลุ่มละ 1 คน พร้อมบอกข้อมลู ของแตล่ ะคนให้ทราบ ตัวอย่างข้อมลู กำหนดให้นักเรยี นแตล่ ะคนยกของจากพน้ื ข้ึนวางบนชนั้ วางของ ใหร้ ะยะจากพื้นถงึ ช้ันวางของ 2 เมตร - ตวั แทนนักเรียนกลุ่มที่ 1 ออกแรง 250 นวิ ตนั ในเวลา 10 วนิ าที - ตัวแทนนกั เรียนกลุ่มที่ 2 ทำงานได้ 100 จูล ในเวลา 10 วนิ าที - ตัวแทนนักเรยี นกลุ่มที่ 3 ออกแรง 200 นิวตัน ในเวลา 5 วนิ าที จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 116 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน - ตวั แทนนกั เรียนกลุ่มที่ 4 ออกแรง 150 นวิ ตัน ในเวลา 10 วินาที - ตวั แทนนักเรียนกลุ่มท่ี 5 ทำงานได้ 150 จูล ในเวลา 5 วนิ าที (แนวตอบ: ตัวแทนนกั เรียนกลุ่มท่ี 3 มีกำลังมากทีส่ ุด) 2. ครูทดสอบความรนู้ ักเรียนต่อว่า “นักเรยี นคิดว่าเพื่อนคนไหนทม่ี กี ำลังมากกว่ากัน และดจู ากปรมิ าณ ใด” ให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามปากเปล่าโดยไม่มีการเฉลยว่าถูกหรือผิด โดยบันทึกคำตอบของ แต่ละกลุ่มไว้ จากนั้นครูให้นักเรียนศึกษาเร่ืองกำลัง จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 30 พร้อมท้ังวเิ คราะห์ว่าใครท่มี ีกำลงั มากท่ีสดุ (หมายเหต:ุ ครเู ริม่ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 3. ครูให้นักเรียนดูเนื้อหาจากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 30 พร้อมกับครูเปิด PowerPoint เร่ือง กำลัง ควบคู่ไป แล้วครูสรุปเร่ือง กำลัง ร่วมกับนักเรียน พร้อมทั้งเฉลยคำถาม ดังนี้ “กำลังเฉล่ีย ในทางฟิสิกส์ หมายถึง ปริมาณงานท่ีทำได้หรืองานที่เกิดข้ึนในหนึ่งหน่วยเวลา” สามารถคำนวณได้จากสมการ Pav = W ∆t 4. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาตอ่ ในกรอบ Science Focus เกย่ี วกับ “แรงมา้ ” 5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มท่ีแบ่งไว้แล้วช่วยกันศึกษาตัวอย่างที่ 5.14-5.16 จากหนังสือเรียน รายวิชา เพ่มิ เติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 31 โดยครสู ังเกตการณ์ และใหค้ ำอธิบายเมอื่ นกั เรยี นเกดิ ปญั หา อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. เม่อื นักเรยี นชว่ ยกันศึกษาตวั อยา่ งเสรจ็ ครใู ห้ตัวแทนแต่ละกลมุ่ ออกไปแสดงวิธีทำหน้าชั้นเรยี น 2. ครูอธิบายสรุปโจทย์และวิธที ำในตัวอยา่ งที่ 5.13-5.17 ร่วมกับนักเรยี น 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนไปทำแบบฝึกหัดที่ 5.1-5.2 จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เปน็ การบา้ น ช่วั โมงท่ี 2 ขั้นสรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนสอบถามในเน้ือหาเกี่ยวกับกำลังอย่างอิสระ 2. ครูให้นกั เรียนทำใบงานท่ี 10 เรือ่ ง กำลงั 3. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit question 5 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 47-48 ขอ้ 29-32 ลงในสมดุ 4. ใหน้ ักเรียนทำสรุปผงั มโนทัศน์ (Concept Mapping) เรอื่ ง กำลงั ลงในกระดาษ A4 (หมายเหต:ุ ครูเร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 117 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 5.10 เรือ่ ง กำลงั 2. ครตู รวจการทำแบบฝึกหดั Unit question 5 เรือ่ ง กำลัง ในสมุดประจำตัว 3. ครตู รวจสอบแบบฝกึ หัดที่ 5.1-5.2 จากแบบฝึกหัดฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 4. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล และการ ทำงานกลุม่ 5. ครูวดั และประเมนิ ผลจากชนิ้ งานการสรปุ เนอ้ื หา เร่ือง กำลัง ท่นี กั เรียนไดส้ รา้ งข้ึนจากขน้ั ขยายความ เขา้ ใจเป็นรายบคุ คล 7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธวี ดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินระหว่าง - ใบงานท่ี 5.10 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หดั การจัดกิจกรรม - ผลงานที่นำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 1) กำลงั - ตรวจใบงานที่ 5.10 - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน ผลงาน อนั พงึ ประสงค์ 3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินัย อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่ัน ในการทำงาน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 118 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน 8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน รายวิชาเพมิ่ เติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน 2) แบบฝกึ หดั ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน 3) ใบงานท่ี 5.10 เรื่อง กำลัง 4) PowerPoint เร่อื ง งานและพลังงาน 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องเรยี น 2) หอ้ งสมุด 3) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 119 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานที่ 5.10 เรอ่ื ง กำลงั คำชแี้ จง : ตอบคำถามและแสดงวิธคี ำนวณหาผลลัพธ์ 1. กำลงั คือ 2. ถา้ A ทำงานได้ 100 จลู และ B ทำงานได้ 200 จูล ใครมีกำลงั มากกวา่ เพราะเหตุใด 3. การว่ิงขนึ้ กบั การเดนิ ข้ึนบนั ได กรณใี ดใชก้ ำลงั มากกว่ากนั 4. เด็กหญิงดึงถังน้ำมวล 2 กิโลกรัม ข้ึนจากบ่อลึก 5 เมตร ด้วยอัตราเร็วคงตัวภายในเวลา 5 วินาที เด็กหญิง คนนีใ้ ชก้ ำลังเทา่ ใด และถา้ ตกั นำ้ ได้ 10 ถัง ในเวลา 1 นาที เธอใชก้ ำลังเฉล่ียเท่าใด 5. เครื่องสูบน้ำเคร่ืองหน่ึงส่งน้ำมวล 200 กิโลกรัมต่อนาที ข้ึนไปได้สูง 10 เมตร ถ้าน้ำออกจากปลายสูบด้วย ความเร็ว 25 เมตรต่อวินาที จงหากำลังของเคร่ืองสูบนำ้ 6. นาย B ขี่จกั รยานไปบนพ้ืนที่มีสัมประสทิ ธิ์ความเสียดทาน 0.2 ด้วยความเรง็ คงตัว 5 เมตรตอ่ วนิ าที ถ้าน้ำหนัก รวมทง้ั เขาและจักรยานเป็น 500 นวิ ตนั เขาตอ้ งใชก้ ำลงั เท่าใด จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 120 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.10 เฉลย เรื่อง กำลัง คำชี้แจง : ตอบคำถามและแสดงวิธคี ำนวณหาผลลพั ธ์ 1. กำลงั คือ ปรมิ าณงานทท่ี ำได้หรืองานทีเ่ กิดขึ้นในหนึ่งหนว่ ยเวลา 2. ถา้ A ทำงานได้ 100 จลู และ B ทำงานได้ 200 จูล ใครมีกำลังมากกว่า เพราะเหตใุ ด ยังไมส่ ามารถตอบได้ เพราะต้องทราบเวลาที่ทำงานนนั้ ดว้ ย 3. การว่ิงข้ึนกับการเดนิ ขึ้นบนั ได กรณีใดใชก้ ำลังมากกวา่ กัน วิ่งขึ้นบนั ไดเพราะเกดิ งานเทา่ กนั แตใ่ ชเ้ วลานอ้ ยกว่า 4. เด็กหญิงดึงถังน้ำมวล 2 กิโลกรัม ข้ึนจากบ่อลึก 5 เมตร ด้วยอัตราเร็วคงตัวภายในเวลา 5 วินาที เด็กหญิง คนนใ้ี ชก้ ำลังเท่าใด และถ้าตักน้ำได้ 10 ถัง ในเวลา 1 นาที เธอใชก้ ำลงั เฉลีย่ เทา่ ใด หางานทเ่ี ด็กหญงิ ทำในการดึงน้ำ 1 ถัง P = W = 100 = 20 W ∆t 5 จาก W = mgh = (2)(10)(5) = 100 J กำลงั เฉลยี่ = 10×2×10×5 = 16.67 W 60 ดงั น้นั กำลงั เฉลยี่ ของเด็กหญิงคนนี้เท่ากับ 16.67 วตั ต์ 5. เคร่ืองสูบน้ำเคร่ืองหนึ่งส่งน้ำมวล 200 กิโลกรัมต่อนาที ข้ึนไปได้สูง 10 เมตร ถ้าน้ำออกจากปลายสูบด้วย ความเรว็ 25 เมตรตอ่ วินาที จงหากำลงั ของเคร่อื งสบู นำ้ งานทเ่ี กิดขน้ึ ในระบบ = งานสบู นำ้ + งานปล่อยนำ้ = mgh + 1 mv2 = (2 × 104) + (6.25 × 104) 2 = 8.25 × 104 J หากำลงั ของเครื่องสูบนำ้ P = W = 8.25×104 = 1.375 × 103 W ∆t 60 ดังนั้น กำลังของเคร่ืองสบู นำ้ เทา่ กับ 1.375×103 วัตต์ 6. นาย B ขี่จักรยานไปบนพ้ืนที่มสี ัมประสทิ ธคิ์ วามเสียดทาน 0.2 ด้วยความเรง็ คงตัว 5 เมตรต่อวินาที ถา้ น้ำหนัก รวมท้งั เขาและจกั รยานเป็น 500 นิวตนั เขาตอ้ งใชก้ ำลังเทา่ ใด เขาต้องออกแรงปั่นจกั รยานอยา่ งนอ้ ยต้องเท่ากับแรงเสียดทานท่ีเกิดขึ้น หางานจากงานทเี่ ขาทำจากงานของแรงเสียดทาน P = W ∆t P = fs t P = fv P = μmgv P = 0.2 × 500 × 5 P = 500 W ดงั นัน้ นาย B ตอ้ งใชก้ ำลงั 500 วัตต์ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 121 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 9. ความเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย 9.1 หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผูช้ ่วยผ้อู ำนวยการฝา่ ยบริหารวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 122 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชื่อ…………………………………………. (นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา) ครผู ู้สอน ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 123 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 6 เร่ือง เครื่องกล รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 2 รหสั วิชา ว32102 เวลา 3 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ช่ือหน่วยการเรยี นรู้/บท งานและพลังงาน รวม 24 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 บูรณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  อาเซยี น  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น  มาตรฐานสากล  ขา้ มกลุ่มสาระ 1. ผลการเรียนรู้ 4. อธิบายการทำงาน ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเคร่ืองกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้ ความรเู้ รอ่ื งงานและสมดุลกล รวมท้ังคำนวณประสทิ ธภิ าพและการไดเ้ ปรียบเชิงกลได้ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายประสิทธิภาพของเครื่องกลและเครื่องใช้ไฟฟา้ และหลักการทำงานของเครื่องกลแบบต่าง ๆ ได้ (K) 2. คำนวณหาปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การไดเ้ ปรยี บเชิงกลจากเคร่ืองกลอยา่ งงา่ ยได้ (P) 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีและงานท่ีได้รบั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน - การทำงานของเครื่องกลอย่างง่าย ได้แก่ คาน พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา รอก พื้นเอียง ลิ่ม สกรู และล้อกับเพลา ใช้หลัก ข อ งงา น แ ล ะ ส ม ดุ ล ก ล ป ร ะ ก อ บ ก าร พิ จ า ร ณ า ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ก า ร ได้ เป รี ย บ เชิ ง ก ล ข อ ง เครื่องกลอย่างง่าย ประสิทธิภ าพคำนวณ ได้จากสมการ Efficiency = Wout × 100% Win การได้เปรียบเชิงกลคำนวณ ได้จากสมการ M. A. = Fout = sin Fin sout 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เครอ่ื งกลอย่างง่าย ได้แก่ คาน รอก พ้ืนเอียง ลิม่ สกรู และล้อกับเพลา การทำงานของเครอ่ื งกลอย่าง งา่ ยใชห้ ลักการของงาน การประดิษฐเ์ ครื่องกลแต่ละประเภทน้นั มกั คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ใชง้ าน จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 124 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสอื่ สาร 3) ทักษะการสังเกต 4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 5) ทักษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 6) ทักษะการนำความร้ไู ปใช้ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขั้นนำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ให้นกั เรียนทราบ 2. ครกู ระตุ้นความสนใจของนักเรียนเกยี่ วกับเรือ่ งทีจ่ ะเรยี น โดยต้งั คำถามว่า “เคร่ืองกลคอื อะไร” และ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบคำถามปากเปลา่ โดยไมม่ กี ารเฉลยว่าถูกหรอื ผดิ 3. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 32 กับนักเรียนว่า “เคร่ืองกลอย่างง่ายประกอบด้วยอะไรบ้าง” โดยครูสุ่มถามนักเรียน เพื่อเป็นการ ทดสอบความรู้เดิมของนักเรียน (แนวตอบ: เครื่องกลอยา่ งง่าย ประกอบดว้ ย คาน รอก พน้ื เอยี ง ล่มิ สกรู และล้อกบั เพลา) (หมายเหตุ: ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 125 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง ประสิทธิภาพของเคร่ืองกลและเคร่ืองใช้ไฟฟ้า จากหนังสือเรียน รายวชิ า เพมิ่ เติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 32 2. ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการสมุ่ ถามคำถามเก่ียวกบั ประสิทธิภาพของเครอ่ื งกล ตวั อย่างคำถาม 1) ประสิทธิภาพของเครอ่ื งกลคืออะไร (แนวตอบ: ประสทิ ธิภาพของเครือ่ งกลเป็นความสามารถในการทำงานของเคร่ืองกล) 2) ประสิทธภิ าพของเคร่ืองกลมคี ่าเป็นอยา่ งไร และหาไดจ้ ากปรมิ าณใดบ้าง (แนวตอบ: มีคา่ เปน็ เปอรเ์ ซน็ ต์ หาได้จากกำลังและงาน) 3. ครูเน้นย้ำกับนักเรียนในกรอบ Physics in real life จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 32 ว่า “เคร่ืองปรับอากาศจะระบุประสิทธิภาพของการทำงาน (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5) ไว้ท่ตี ัวเครือ่ ง ทำให้ผู้ซ้ือตัดสินใจในการซอ้ื ไดง้ า่ ยข้นึ 4. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง ประสิทธิภาพของเคร่ืองกลและเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้นักเรียนดูควบคู่กับ หนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 32 ท่ีนักเรียนได้ศึกษามาแล้ว โดยครูอธบิ าย ชี้แนะส่งิ ท่ีถกู ตอ้ งให้นักเรียน 5. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่องหลักการของงานกับเครื่องกล จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 33 6. ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยการสุ่มถามคำถามเกย่ี วกับประสิทธิภาพของเคร่ืองกล ตวั อย่างคำถาม 1) การไดเ้ ปรยี บเชงิ กลของเคร่ืองกล หาได้อยา่ งไร (แนวตอบ: การไดเ้ ปรยี บเชงิ กลของเครื่องกลสามารถหาได้จากอัตราสว่ นระหว่างขนาดของแรงที่ ไดจ้ ากเครือ่ งกลหรอื แรงพยายามต่อขนาดของแรงทใ่ี ห้กบั เคร่ืองกลหรือแรงต้าน) 2) คา่ ของการไดเ้ ปรยี บเชิงกลของเครอ่ื งกล สามารถบอกอะไรบ้าง (แนวตอบ: ถ้าค่าการไดเ้ ปรยี บเชิงกลเท่ากับ 1 แสดงวา่ เคร่ืองกลน้ีไม่ช่วยผ่อนแรงแตช่ ่วยอำนวย ความสะดวก ถ้าค่าการไดเ้ ปรียบเชงิ กลมีคา่ มากกวา่ 1 แสดงว่าเคร่ืองกลน้ชี ว่ ยผ่อนแรง ถ้าคา่ การได้เปรียบเชิงกลมคี า่ น้อยกว่า 1 แสดงว่าเคร่ืองกลน้ีไม่ช่วยผ่อนแรง) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 126 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูเปิด PowerPoint เร่ือง การได้เปรียบเชิงกล ให้นักเรียนดู 2. ครอู ธบิ ายสรุป โดยให้นกั เรยี นดเู นื้อหาจากหนังสอื เรียน รายวิชาเพิม่ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 33 ควบคไู่ ป ชั่วโมงที่ 2 ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครใู หน้ ักเรียนแบง่ เปน็ 6 กลุ่ม ช่วยกนั ศึกษาเครื่องกลอยา่ งงา่ ย กลุ่มละ 1 ประเภท จากหนังสือเรยี น รายวิชาเพิม่ เตมิ ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 33-36 ดงั น้ี • กลุ่มที่ 1 ศึกษาเรื่อง รอก • กลมุ่ ท่ี 2 ศึกษาเรื่อง คาน • กลมุ่ ท่ี 3 ศึกษาเรื่อง พืน้ เอยี ง • กลมุ่ ท่ี 4 ศึกษาเรื่อง ลม่ิ • กลุม่ ท่ี 5 ศึกษาเร่ือง สกรู • กลุ่มที่ 6 ศึกษาเรื่อง ลอ้ กบั เพลา 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนกลุ่มออกมาอภิปรายสรปุ เนื้อหาในส่วนท่ีได้ศึกษาให้เพื่อนกลุ่มอ่นื ๆ ฟัง และทำความเข้าใจในสว่ นที่ตนเองและกลุ่มไม่ได้ศึกษา โดยครสู งั เกตการณ์ และชแี้ นะในสง่ิ ทถี่ กู ต้อง (หมายเหต:ุ ครเู รมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) 3. ในขณะที่นักเรยี นอภปิ รายหน้าช้นั เรียน ครตู ้งั ส่มุ ถามนักเรยี นเกี่ยวกับเรอื่ งท่นี ักเรียนอภปิ ราย ตวั อย่างคำถาม 1) คา่ การไดเ้ ปรียบเชงิ กลของรอกเดย่ี วตายตัวกบั รอกเดย่ี วเคลื่อนทเี่ หมือนกันหรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ: ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นรอกเดียวตายตัวจะมีคา่ ได้เปรียบเชิงกลเท่ากับ 1 แต่ถา้ เป็นรอก เด่ยี วเคลื่อนทจี่ ะมคี า่ ไดเ้ ปรยี บเชิงกลเท่ากับ 2) 2) คานเป็นอย่างไร จงยกตัวอย่าง (แนวตอบ: คานเป็นเครื่องกลท่ีมจี ุดหมุนเพ่ือทวีคูณแรงเชงิ กล เชน่ ค้อนงดั ตะปู กรรไกร ตะเกยี บ) 3) การใชค้ ้อนงดั ตะปสู มั พันธ์กับกฎการอนุรักษ์พลังงานอยา่ งไร (แนวตอบ: งานทีใ่ ห้กบั ค้อนเทา่ กบั งานทีไ่ ดร้ ับจากค้อน) 4) พ้ืนเอียงสัมพนั ธ์กบั กฎการอนุรักษพ์ ลงั งานอย่างไร (แนวตอบ: งานทีใ่ ช้ในการดงึ วตั ถเุ ท่ากบั งานท่ีใชใ้ นการยกวัตถขุ ึน้ ในแนวดง่ิ ) 5) ลิ่มสมั พนั ธ์กับกฎการอนุรักษ์พลังงานอยา่ งไร (แนวตอบ: งานทีใ่ ห้กับลมิ่ เท่ากบั งานที่ได้จากล่ิม) 6) สกรูสมั พันธก์ บั กฎการอนรุ ักษ์พลังงานอยา่ งไร จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 127 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน (แนวตอบ: งานท่ีใชห้ มุนสกรูหนึง่ รอบเท่ากับงานที่ใช้ในการยกวตั ถุข้ึนในแนวด่ิงระยะหน่ึงเกลยี ว) 7) ล้อกับเพลาสมั พันธ์กับกฎการอนรุ ักษ์พลงั งานอย่างไร (แนวตอบ: งานทีใ่ ห้กบั ล้อเท่ากบั งานที่ไดจ้ ากเพลา) 4. ครูให้นักเรียนตอบคำถามท้าทายการคิดข้ันสูง (H.O.T.S.) จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 36 ท่ีถามว่า “ถา้ นักเรียนต้องการเคลือ่ นย้ายวัตถขุ นาดใหญ่ข้ึนท่ีสูง จะเคลอ่ื นย้าย ขนึ้ ไปโดยออกแรงน้อยท่ีสุดได้อยา่ งไร (แนวตอบ: ใช้ระบบลอกเข้ามาช่วยยก โดยหลักการของรอกเด่ียวเคล่ือนที่ ถ้าไม่มีการสูญเสียพลังงาน ซ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน นนั่ คอื ออกแรงเพยี งครง่ึ หน่ึงของนำ้ หนักวัตถเุ ทา่ นัน้ ) 5. ครูให้นักเรียนช่วยกันศึกษาตัวอย่างท่ี 5.17-5.18 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 37-38 โดยครูสังเกตการณ์ และแนะนำวิธกี ารแก้โจทย์ปัญหาทถี่ ูกต้องให้กับนักเรียน อธิบายความรู้ (Explain) 1. เมอ่ื นักเรียนชว่ ยกันศึกษาตัวอย่างเสรจ็ ครใู ห้ตวั แทนแต่ละกลุม่ ออกไปแสดงวิธีทำหนา้ ช้ันเรยี น 2. ครูอธิบายสรปุ โจทย์และวิธที ำจากตวั อย่างท่ี 5.17-5.18 ร่วมกบั นักเรยี น 3. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั ท่ี 6.1-6.2 จากแบบฝกึ หัดฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 5 เป็นการบ้าน ชว่ั โมงท่ี 3 ข้นั สรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามในเนื้อหาเกย่ี วกับกำลังกลอยา่ งอิสระ 2. ครใู ห้นักเรยี นทำใบงานที่ 5.11 เรือ่ ง เคร่ืองกล 3. ให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด Unit question 5 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเตมิ ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 48-49 ข้อ 9-10 และ 34-40 ลงในสมดุ 4. ให้นกั เรยี นทำสรุปผงั มโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง เครอื่ งกล ลงในกระดาษ A4 (หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน) ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 5.11 เร่ือง เคร่ืองกล 2. ครูตรวจการทำแบบฝึกหดั Unit question 5 เร่ือง เครอ่ื งกล ในสมดุ ประจำตัว 3. ครูตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 6.1-6.2 จากแบบฝึกหดั ฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 128 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน 4. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล และการ ทำงานกล่มุ 5. ครูวัดและประเมนิ ผลจากชนิ้ งานการสรุปเนื้อหา เร่ือง เคร่ืองกล ที่นักเรยี นไดส้ รา้ งขน้ึ จากข้นั ขยาย ความเข้าใจเปน็ รายบคุ คล 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินระหว่าง - ใบงานที่ 5.11 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจัดกิจกรรม - ผลงานทนี่ ำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 1) เคร่ืองกล - ตรวจใบงานที่ 5.11 - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน ผลงาน อนั พึงประสงค์ 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวินัย อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน 8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน 2) แบบฝกึ หดั ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 3) ใบงานที่ 5.11 เรอื่ ง เคร่ืองกล 4) PowerPoint เรือ่ ง งานและพลงั งาน 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) หอ้ งสมดุ 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 129 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.11 เร่ือง เครื่องกล คำชแ้ี จง : สรุปความรู้ท่ไี ดจ้ ากการทเ่ี พื่อนอภปิ รายหนา้ ชั้นเรียนลงในตาราง หวั ขอ้ สรปุ รอก จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

หวั ขอ้ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 130 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน สรปุ คาน พื้นเอียง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

หวั ขอ้ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 131 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน สรปุ ล่ิม สกรู จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

หวั ข้อ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 132 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน สรปุ ลอ้ กบั เพลา จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 133 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน ใบงานที่ 5.11 เฉลย เรอ่ื ง เครื่องกล คำชแ้ี จง : สรปุ ความร้ทู ไี่ ดจ้ ากการทเี่ พ่ือนอภปิ รายหนา้ ช้ันเรียนลงในตาราง หวั ข้อ สรปุ รอก คือ เครอื่ งกลท่ีช่วยอำนวยความสะดวกหรือช่วยผ่อนแรงในการทำงาน แบง่ ได้ 2 ระบบ คอื ระบบรอกเดยี่ วและระบบรอกพวง รอก จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 134 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน หวั ข้อ สรุป คาน คือ เครื่องกลชนิดหนึ่งที่มีลักษณะแข็ง เป็นแท่งยาว ใช้ดีดหรืองัด วัตถุให้เคลื่อนที่รอบจุดหมุน มี 3 ส่วน ประกอบด้วย แรงพยายาม (E) แรงต้านทาน (W) และจุดหมุน (F) คาน คานมี 3 ประเภท ได้แก่ พ้นื เอียง - คานอันดบั ท่ี 1 เปน็ คานที่มีจดุ หมนุ อยูร่ ะหว่างแรงพยายามและแรงตา้ นทาน - คานอนั ดับที่ 2 เป็นคานที่มีแรงตา้ นทานอยูร่ ะหว่างแรงพยายามและจดุ หมุน - คานอนั ดับที่ 3 เปน็ คานท่ีมีแรงพยายามอยรู่ ะหวา่ งจุดหมุนและแรงต้านทาน พน้ื เอยี ง คือ เครื่องกลท่ีช่วยอำนวยความสะดวกและชว่ ยผ่อนแรงในการขน ย้ายส่ิงของขึ้นหรือลงจากยานพาหนะ มีลักษณะเป็นไม้กระดานยาวเรียบใช้ สำหรับพาดบนท่ีสูงเพื่อขนย้ายวัตถุข้ึนสู่ท่ีสูงโดยการลากหรือการผลัก ดังภาพ สามารถแสดงการคำนวณได้ ดงั สมการ E×L=W×H WL M. A. = E × H จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 135 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน หวั ข้อ สรปุ ล่ิม คือ เครื่องกลทีช่ ่วยผอ่ นแรง มลี ักษณะคล้ายขวาน ใช้สำหรบั ตอกลงใน เนือ้ วัตถเุ พ่ือให้เน้ือวัตถุแยกออกจากกนั ดังภาพ สามารถแสดงการคำนวณได้ ดังสมการ E×H=W×L WH ลม่ิ M. A. = E × L สกรู คือ เครือ่ งกลที่ชว่ ยผอ่ นแรง มลี ักษณะคล้ายบันไดเวียนวนรอบแกน อนั หนง่ึ ใชส้ ำหรับยกวัตถหุ นัก ๆ ขน้ึ สูง ๆ โดยแรงพยายามเคล่อื นที่เปน็ วงกลม ขณะท่แี รงตา้ นทานเคล่ือนที่ข้ึนลงในแนวดิ่ง ดังภาพ สามารถแสดงการคำนวณ ได้ ดังสมการ E × 2πR = W × P สกรู W 2πR M. A. = E × P จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

หัวข้อ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 136 ลอ้ กบั เพลา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 งานและพลังงาน สรปุ ล้อกับเพลา คือ เครื่องกลที่ช่วยผ่อนแรง ประกอบด้วยวัตถุทรงกระบอก 2 ช้ินติดกัน วัตถุช้ินใหญ่เรียกว่าล้อ วัตถุชิ้นเล็กเรียกว่าเพลา ใช้เชือก 2 เส้น สำหรับพันรอบล้อเส้นหนึ่ง และอีกเส้นหน่ึงพันรอบเพลา โดยพันไปคนละทาง กัน ให้ปลายข้างหน่ึงของเชือกท่ีพันรอบเพลาผูกติดกับวัตถุ ส่วนปลายอีกข้าง หน่ึงของเชือกท่ีพันรอบล้อใช้สำหรับออกแรงดึง ดังภาพ สามารถแสดงการ คำนวณได้ ดงั สมการ E × 2πR = W × 2πr WR M. A. = E × r จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 137 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 9. ความเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย 9.1 หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผูช้ ่วยผ้อู ำนวยการฝา่ ยบริหารวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 138 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชื่อ…………………………………………. (นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา) ครผู ู้สอน ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 139 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 เร่อื ง แหลง่ พลงั งานและการใชพ้ ลังงาน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 2 รหัสวิชา ว32102 เวลา 1 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้/บท งานและพลงั งาน รวม 24 ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง  อาเซยี น  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน  มาตรฐานสากล  ข้ามกลุ่มสาระ 1. ผลการเรยี นรู้ - 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายและประเภทของพลังงานได้ (K) 2. เขยี นความสำคัญและความจำเป็นในการใชพ้ ลงั งานอย่างประหยัดได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีและงานท่ีได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา สาระการเรียนรู้แกนกลาง - 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตปัจจุบัน แหล่งพลังงานส่วนใหญ่เป็นเช้ือเพลิงฟอสซิล ซึ่ง อาจจะหมดในอนาคตอันใกล้น้ี จึงต้องใช้พลังงานอย่างประหยัด พลังงานมี 2 ประเภท คือ พลังงานที่ใช้ แลว้ หมดไป และพลังงานหมนุ เวยี นหรือพลงั งานทดแทน 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทักษะการวิเคราะห์ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 2) ทกั ษะการส่อื สาร จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผูช้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 140 3) ทักษะการสังเกต 4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 5) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1 ข้นั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนเกี่ยวกับเร่ืองที่จะเรียน โดยต้ังคำถามว่า “นักเรียนรู้จักพลังงาน อะไรบ้าง” และใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบคำถามปากเปล่าโดยไม่มีการเฉลยวา่ ถกู หรือผดิ (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) 3. ครูต้ังคำถามเป้าหมาย “พลังงานมีกี่ประเภท” โดยทำข้อตกลงกับนักเรียนว่า เรียนหัวข้อน้ีจบ นักเรียนควรจะตอบคำถามนี้ได้ 4. ครูสุ่มถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 39 กับนักเรียนวา่ “พลงั งานมีความสำคญั ต่อการดำรงชวี ิตของมนษุ ย์อยา่ งไร” (แนวตอบ: มนุษย์นำพลังงานมาใช้ในการดำรงชีวิตตั้งแต่สมัยโบราณ เร่ิมจากการใช้ไฟฟ้าที่เกิดจาก การเสียดสีของไม้หรือหินเพ่ือให้เกิดความอบอุ่น แสงสว่าง และการหุงต้มอาหาร ซ่ึงพลังงานเป็น ปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมสวัสดิภาพและความผาสุกของประชาชนแต่ละประเทศทั่วโลก รวมทั้งมีส่วน เก่ียวข้องกับความม่ันคงของประเทศท้ังการเมือง การทหาร เศรษฐกิจและสังคม เช่น อุตสาหกรรม การคมนาคมขนสง่ การไฟฟา้ เปน็ ต้น) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 141 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน ข้ันสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมพูดคุยกันภายในกลุ่มเกี่ยวกับแหล่งพลังงานและการใช้ พลงั งาน จากหนงั สอื เรียน รายวชิ าเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 39-40 (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) 2. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ลงข้อสรปุ และครูใหค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ ดงั นี้ พลังงานแบ่งออกเป็น พลังงานที่ใช้แล้วหมดไป ได้แก่ แหล่งพลังงานจากเช้ือเพลิงไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ ซ่ึงมีกระบวนการสะสมตามธรรมชาติที่ยาวนานหลานล้านปี ทำให้ไม่เพียงพอ กับความต้องการของมนุษย์ และพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทดแทน ได้แก่ แหล่งพลังงานท่ีนำมา ใช้ประโยชน์ทดแทนแหล่งพลังงานท่ีใช้แล้วหมดไป ซึ่งมีความเป็นไปไดใ้ นการนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น พลงั งานแสงอาทติ ย์ พลงั งานลม พลังงานนำ้ พลังงานนวิ เคลยี ร์ เปน็ ตน้ อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครแู จกใบงานท่ี 5.12 เรื่อง แหล่งพลังงานและการใช้พลังงาน ให้นักเรยี นคนละ 1 ใบ 2. ครใู หน้ ักเรียนลงมือทำใบงานท่ี 5.12 จากนน้ั เก็บรวบรวมส่งคืนครู 3. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนตอบคำถามท้าทายการคิดข้ันสูง (H.O.T.S.) จากแบบฝึกหดั ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 ช่วั โมงท่ี 3 ข้ันสรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูเกบ็ รวบรวมใบงานท่ี 5.12 เรอื่ ง แหล่งพลังงานและการใชพ้ ลังงาน 2. ให้นักเรียนทำสรุปผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง แหล่งพลังงานและการใช้พลังงาน ลงใน กระดาษ A4 (หมายเหต:ุ ครเู ริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน) 3. ครูอธิบายสรุปสาระสำคัญ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 41-42 เรื่อง งานและพลังงาน ให้นกั เรียนฟังอกี ครง้ั 4. ครูให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง โดยทำ Self Check จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 42 ลงในสมุดประจำตวั 5. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพ่อื ตรวจสอบความรขู้ องนักเรียนเปน็ รายบคุ คลก่อน จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 142 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.12 เรือ่ ง แหลง่ พลงั งานและการใช้พลงั งาน 2. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจหลังเรยี นของนักเรยี น 3. ครูตรวจสอบผลการทำคำถามท้าทายการคดิ ขน้ั สูง (H.O.T.S.) จากแบบฝึกหดั ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 4. ครตู รวจสอบผลการตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง Self Check จากหนังสือเรยี น รายวิชาเพ่ิมเติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 42 ในสมุดประจำตวั 5. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลมุ่ 6. ครูวดั และประเมนิ ผลจากช้นิ งานการสรุปเน้ือหา เร่ือง แหล่งพลงั งานและการใช้พลงั งาน ที่นกั เรยี น ได้สรา้ งขึน้ จากขนั้ ขยายความเข้าใจเป็นรายบคุ คล 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบหลงั เรยี น ประเมนิ ตามสภาพจริง 7.1 การประเมินหลังเรียน ตรวจแบบทดสอบ - ใบงานที่ 5.12 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบหลัง หลังเรียน - ผลงานท่นี ำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 เรยี น หน่วยการ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 เรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ ง - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 งานและพลงั งาน - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 7.2 การประเมินระหว่าง อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรม 1) แหล่งพลงั งาน - ตรวจใบงานท่ี 5.12 และการใช้ พลงั งาน 2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ ผลงาน ผลงาน 3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผ้ชู ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 143 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน 8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 2) แบบฝกึ หัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลงั งาน 3) ใบงานที่ 5.12 เร่ืองแหลง่ พลงั งานและการใช้พลังงาน 4) PowerPoint เรอ่ื งงานและพลงั งาน 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) หอ้ งสมดุ 3) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 144 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.12 เร่อื ง แหลง่ พลังงานและการใช้พลงั งาน คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. พลงั งานแบ่งออกเปน็ กีป่ ระเภท อะไรบ้าง 2. จงอธิบาย พร้อมยกตวั อย่างพลงั งานที่ใชแ้ ล้วหมดไป 3. พลงั งานหมนุ เวียนหรือพลงั งานทดแทน คืออะไร จงอธบิ ายและยกตัวอยา่ ง 4. จงอธบิ ายการนำพลังงานนำ้ จากเข่ือนมาใช้ 5. จงอธบิ ายพลงั งานลม 6. จงอธิบายพลงั งานนำ้ 7. จงอธิบายพลงั งานแสงอาทิตย์ 8. จงอธิบายพลงั งานนวิ เคลยี ร์ 9. จงบอกวิธกี ารใช้พลงั งานอย่างประหยัดของนักเรยี น จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 145 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลังงาน ใบงานที่ 5.11 เฉลย เร่อื ง แหลง่ พลงั งานและการใช้พลังงาน คำช้ีแจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. พลงั งานแบง่ ออกเป็นก่ีประเภท อะไรบา้ ง 2 ประเภท ได้แก่ 1. พลงั งานท่ใี ชแ้ ล้วหมดไป 2. พลงั งาน หมนุ เวียน 2. จงอธิบาย พรอ้ มยกตวั อย่างพลงั งานทใ่ี ชแ้ ล้วหมดไป แหล่งพลังงานจากเช้ือเพลิงไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ถ่านหิน และแก๊สธรรมชาติ ซ่ึงมีกระบวนการสะสมตามธรรมชาติท่ียาวนานหลานลา้ นปี ทำให้ไม่เพียงพอ กับความตอ้ งการของมนษุ ย์ 3. พลังงานหมนุ เวยี นหรือพลงั งานทดแทน คืออะไร จงอธบิ ายและยกตัวอยา่ ง แหล่งพลังงานที่นำมาใช้ ประโยชน์ทดแทนแหล่งพลงั งานท่ีใชแ้ ลว้ หมดไป ซงึ่ มคี วามเป็นไปได้ในการนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น พลงั งานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลงั งานนำ้ พลังงานนวิ เคลียร์ เปน็ ตน้ 4. จงอธิบายการนำพลังงานน้ำจากเขอ่ื นมาใช้ การนำพลังงานน้ำมาใช้ โดยเปล่ียนพลังงานศักย์ของน้ำ ถกู กักไวเ้ หนอื เข่ือนเปน็ พลงั งานจลน์ขับเคล่อื นเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า ส่วนนำ้ จะถกู ปล่อยลงสู่แหลง่ นำ้ ซึ่ง พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์จะทำให้เป็นไอน้ำลอยตัวสูงข้ึนทำให้มีพลังงานศักย์เพิ่มขึ้นและตก ลงมาเป็นฝน เม่ือฝนตกเหนือเข่ือนทำให้น้ำท่ีอยู่เหนือเข่ือนมีพลังงานศักย์เพียงพอที่จะทำให้เขื่อน ทำงานต่อไปได้ 5. จงอธิบายพลงั งานลม ลมทำให้กังหันลมหมุนและเปล่ียนรูปพลังงานเป็นพลังงานกล จากน้ันมนุษย์นำ พลังงานกลมาใช้ประโยชน์ในการผลิตเปน็ พลังงานไฟฟา้ 6. จงอธบิ ายพลังงานน้ำ เม่ือกักเก็บน้ำไว้ในเข่ือนท่ีมีระดับความสูงซึ่งมีพลังงานศักย์ และผันน้ำไปยัง เคร่ืองกงั หนั นำ้ ทำให้เกดิ การเหน่ยี วนำขึ้นในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไดเ้ ป็นพลังงานไฟฟา้ ข้ึนมา 7. จงอธิบายพลงั งานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานของแสงและพลังงานของความร้อนท่ีแผ่รังสีมาจากดวง อาทิตย์การแปรรูปพลังงานที่เกิดจากแสงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า นิยมผลติ โดยใช้เซลลแ์ สงอาทติ ย์ 8. จงอธบิ ายพลังงานนิวเคลยี ร์ ใช้เคร่ืองปฏิกรณ์ปรมาณูในการผลิตไฟฟ้าในปริมาณมาก โดยพลังงาน นิวเคลียร์จะถูกปล่อยออกมาในลักษณะพลังงานจลน์ของอนุภาคต่าง ๆ เช่น อนุภาคแอลฟา บีตา แกมมา เป็นต้น 9. นักเรยี นมวี ิธกี ารใช้พลงั งานอย่างประหยดั อยา่ งไร พร้อมยกตวั อยา่ ง (ตามความคดิ ของผูเ้ รียน โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 146 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย 9.1 หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผ้ชู ่วยผอู้ ำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นายอดิศร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 147 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์  ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข ลงชอ่ื …………………………………………. (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา) ครูผู้สอน ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 148 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน เวลา 26 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวดั การเคล่ือนที่แนวตรง แรงและกฎการเคล่ือนท่ี ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตมั การเคลอื่ นท่แี นวโค้ง รวมทั้งนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ได้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหว่างแรงลัพธ์กบั เวลา รวมท้ังอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งแรงดลกับโมเมนตัม 6. ทดลอง อธิบาย และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติ ทั้งแบบยืดหยุ่น ไมย่ ดื หย่นุ และการดดี ตัวแยกจากกนั ในหนง่ึ มติ ซิ ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้เพมิ่ เตมิ 1) วัตถุที่เคลื่อนท่ีจะมีโมเมนตัมซ่ึงเป็นปริมาณเวกเตอร์มีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลและความเร็ว ของวัตถุ ดังสมการ ⃑p = m⃑v 2) เมื่อมีแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุจะทำให้โมเมนตัมของวัตถุเปลี่ยนไป โดยแรงลัพธ์เท่ากับอัตราการ เปลี่ยนโมเมนตมั ของวตั ถุ 3) แรงลพั ธ์ที่กระทำต่อวัตถุในเวลาส้ัน ๆ เรียกว่า แรงดล โดยผลคูณของแรงดลกับเวลา เรียกว่า การดล ตามสมการ I = (∑in=1 F⃑ i)∆t ซ่ึงการดลอาจหาได้จากพ้ืนท่ใี ต้กราฟระหวา่ งแรงดลกบั เวลา 4) ในการชนกนั ของวตั ถแุ ละการดดี ตัวออกจากกันของวัตถุในหน่งึ มิติ เม่ือไม่มีแรงภายนอกมากระทำ โมเมนตัมของระบบมีคา่ คงตวั ซ่ึงเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม เขยี นแทนด้วยสมการ ⃑pi = ⃑pf โดย ⃑pi เปน็ โมเมนตมั ของระบบกอ่ นชน และ p⃑ f เป็นโมเมนตัมของระบบหลงั ชน 2.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 149 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด โมเมนตัมเป็นปริมาณเวกเตอร์มีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลและความเร็วของวัตถุ ถ้าวัตถุมีมวล ขนาดเท่ากัน แต่เคล่ือนท่ีด้วยความเร็วต่างกัน โมเมนตัมของวัตถุก็จะต่างกัน เช่นเดียวกับวัตถุท่ีเคลื่อนท่ี ดว้ ยความเรว็ เท่ากนั แตม่ มี วลของวัตถุต่างกนั โมเมนตมั ก็จะต่างกันด้วย แรงที่กระทำต่อวัตถุมีผลต่อการเปล่ียนแปลงโมเมนตัม โดยแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุใด ๆ จะมีค่า เท่ากับอัตราการเปลี่ยนโมเมนตัมของวัตถุนั้น เช่น ในกรณีการออกแรงรับลูกฟุตบอลของผู้รักษาประตู ฟุตบอลซ่ึงเคล่ือนที่มาด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน หากผู้รักษาประตูต้องการหยุดลูกฟุตบอลให้หยุดน่ิงน้ัน จะพบวา่ การออกแรงรับลกู ฟตุ บอลในแตล่ ะครง้ั จะต้องออกแรงรบั ต่างกัน แรงดล คือ แรงท่ีกระทำต่อวัตถุในช่วงเวลาส้ัน ๆ การดล คือ โมเมนตัมที่เปล่ียนแปลงไปและเป็น ปรมิ าณเวกเตอร์ท่มี ีทิศทางเดียวกบั แรงลัพธ์ การชนในหน่ึงมิติ คือ การชนกันของวัตถุที่มีแนวเคล่ือนที่ของวัตถุท้ังก่อนชนและหลังชนอยู่ในแนว เส้นตรงเดียวกัน กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม คือ ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนของระบบเท่ากับผลรวม ของโมเมนตัมหลังการชนของระบบ การชนในสองมิติ คือ การชนกันของวัตถุที่มีแนวการเคล่ือนท่ีของวัตถุ ก่อนและหลังชนทำมุมต่อกนั การระเบิดหรอื การดีดตวั คือ การที่วตั ถุหรือระบบวัตถุแยกออกจากกัน มวล รวมของระบบจะคงตวั ซง่ึ โมเมนตมั มคี ่าคงตัว แต่พลังงานจลน์รวมของระบบไม่คงตัว ซงึ่ เปน็ ไปตามกฎการ อนุรกั ษโ์ มเมนตมั 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 2) ทักษะการสงั เกต 3) ทักษะการสื่อสาร 4) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 6) ทักษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook