Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2020-12-15 04:30:16

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 150 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน 5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ใบงานที่ 6.1 เรื่อง โมเมนตัม - ใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง โจทย์โมเมนตมั - ใบงานท่ี 6.3 เรอ่ื ง แรงและการเปล่ยี นโมเมนตมั - ใบงานท่ี 6.4 เรือ่ ง โจทย์การดลและแรงดล - ใบงานที่ 6.5 แบบบันทึกกจิ กรรมการชนกันของวัตถุในแนวเส้นตรง - ใบงานที่ 6.6 แบบบนั ทึกกจิ กรรมการดดี ตัวแยกจากกนั ของวัตถุในแนวเสน้ ตรง - ผังมโนทศั น์ เร่อื ง โมเมนตัม - ผงั มโนทศั น์ เรือ่ ง แรงและการเปล่ยี นโมเมนตัม - ผังมโนทศั น์ เร่อื ง การดลและแรงดล - ผังมโนทศั น์ เรอื่ ง การชน 6. การวดั และการประเมนิ ผล รายการวัด วธิ วี ดั เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 6.1 การประเมนิ ช้นิ งาน/ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง - แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2 ภาระงาน (รวบยอด) โมเมนตมั ภาระงาน ผ่านเกณฑ์ - ตรวจผังมโนทัศน์ เร่ือง - แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2 แรงและการเปลี่ยน ภาระงาน ผา่ นเกณฑ์ โมเมนตัม - ตรวจผังมโนทศั น์ เร่อื ง - แบบประเมินชนิ้ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2 การดลและแรงดล ภาระงาน ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง การชน 6.2 การประเมินก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ น - แบบทดสอบกอ่ น - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เรยี น เร่ือง โมเมนตัมและ การชน 6.3 การประเมนิ ระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) โมเมนตัม - ตรวจใบงานท่ี 6.1-6.2 - ใบงานที่ 6.1-6.2 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 151 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน รายการวัด วธิ ีวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบฝึกหดั ที่ 1.1-1.3 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 1.1-1.3 - ใบงานท่ี 6.3 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หดั ท่ี 2.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 2) แรงและการเปลี่ยน - ตรวจใบงานท่ี 6.3 - ใบงานท่ี 6.4 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝึกหัดที่ 3.1-3.2 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ โมเมนตมั - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 2.1 - ใบงานที่ 6.5-6.6 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบฝกึ หัดที่ 4.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3) การดลและแรงดล - ตรวจใบงานท่ี 6.4 - ผลงานท่นี ำเสนอ - ระดับคุณภาพ 2 - ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 3.1-3.2 - แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑ์ พฤติกรรมการ - ระดับคุณภาพ 2 4) การชน - ตรวจใบงานที่ 6.5-6.6 ทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัดที่ 4.1 - แบบสังเกต พฤติกรรมการ - ระดับคุณภาพ 2 5) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ ทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ 6) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรมการ อนั พงึ ประสงค์ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทำงานรายบคุ คล ทำงานรายบุคคล - แบบทดสอบหลงั เรียน 7) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรมการ ทำงานกล่มุ ทำงานกลุม่ 8) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั อนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน 6.4 การประเมนิ หลังเรยี น - แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เรียน เรื่อง โมเมนตัมและ การชน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 152 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา 3 ชว่ั โมง เวลา 4 ชวั่ โมง • แผนฯ ที่ 1 : โมเมนตัม เวลา 5 ช่ัวโมง วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 14 ชัว่ โมง • แผนฯ ท่ี 2 : แรงและการเปล่ียนโมเมนตมั วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ที่ 3 : การดลและแรงดล วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ท่ี 4 : การชน วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาเพิม่ เติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรียนที่ 6 โมเมนตมั และการชน 2) ใบงานท่ี 6.1 เรือ่ ง โมเมนตมั 3) ใบงานท่ี 6.2 เร่อื ง โจทยโ์ มเมนตมั 4) ใบงานที่ 6.3 เรื่อง แรงและการเปลีย่ นโมเมนตมั 5) ใบงานที่ 6.4 เรื่อง โจทยก์ ารดลและแรงดล 6) ใบงานที่ 6.5 แบบบันทกึ กจิ กรรมการชนกันของวัตถุในแนวเส้นตรง 7) ใบงานท่ี 6.6 แบบบันทึกกจิ กรรมการดีดตัวแยกจากกันของวัตถุในแนวเส้นตรง 8) แบบฝึกหดั ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน 9) PowerPoint เร่ือง โมเมนตัมและการชน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรียน 2) หอ้ งสมุด 3) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 153 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 คำช้แี จง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. วตั ถมุ วล 2.0 กิโลกรัม ได้รับแรงกระทำ ณ เวลาใด ๆ แสดง 5. นักกีฬาหนัก 750 นิวตัน ไต่เชือกด้วยความเร็วคงตัว สูง 5 ดังกราฟ จากช่วงเวลาทั้งหมดในกราฟ โมเมนตัมท่ีเปลี่ยนไป เมตร ในเวลา 25 วินาที จงหากำลงั ทีน่ ักกฬี าคนนี้ใช้ในการไต่ ของวตั ถนุ ี้เป็นเท่าใด เชอื ก 1. 50 วตั ต์ 2. 100 วตั ต์ 3. 150 วัตต์ 4. 200 วัตต์ 5. 250 วัตต์ 6. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ กำลงั ไม่ถูกต้อง 1. -70 กโิ ลกรัม เมตรต่อวนิ าที 1. กำลังมหี น่วยเปน็ จูลตอ่ วนิ าที 2. -35 กิโลกรมั เมตรตอ่ วินาที 2. กำลงั แปรผนั ตรงกับงานทที่ ำได้ 3. 0 กโิ ลกรัม เมตรต่อวินาที 3. กำลงั ไมม่ คี วามเกย่ี วขอ้ งกบั ความเร็ว 4. 35 กิโลกรมั เมตรตอ่ วินาที 4. กำลงั คือ อตั ราการทำงานในหนงึ่ หน่วยเวลา 5. กำลงั ของเครื่องยนตม์ ักใชห้ น่วยเป็นแรงมา้ 5. 70 กิโลกรัม เมตรตอ่ วินาที 7. รถคันหน่ึงถูกเข็นด้วยแรง 120 นิวตัน วิ่งด้วยอัตราเร็วคงตัว 2. ลูกบอลมวล 300 กรัม ตกลงมาจากท่ีสูง 20 เมตร แล้ว 5 เมตรตอ่ วนิ าที จงหากำลังทงั้ หมดทใ่ี ชใ้ นการเข็นรถคนั น้ี กระทบพื้นเป็นเวลานาน 0.005 วินาที จึงกระดอนกลับ 1. 500 วตั ต์ 2. 600 วตั ต์ ข้นึ ไปสูง 10 เมตร จงหาการดล 3. 700 วตั ต์ 4. 800 วตั ต์ 1. 10 กโิ ลกรัมต่อวินาที 5. 900 วตั ต์ 2. 20 กิโลกรมั ต่อวนิ าที 8. รถยนต์ถูกเร่งจากหยุดนิ่งทำให้โมเมนตัมของรถเกิด 3. 30 กโิ ลกรัมต่อวนิ าที การเปลี่ยนแปลงด้วยขนาดคงที่ค่าหนึ่ง การวิ่งของ 4. 40 กิโลกรมั ตอ่ วินาที รถยนต์คันนี้จะทำให้โมเมนตัมของโลกเปลี่ยนแปลง 5. 50 กิโลกรัมต่อวินาที อย่างไร 3. จากข้อ 2. จงหาแรงเฉลีย่ ระหวา่ งลกู บอลกับพน้ื 1. โมเมนตัมที่เปลี่ยนไปของโลกเท่ากับโมเมนตัมของรถที่ 1. 1,000 นวิ ตนั 2. 2,000 นิวตนั เปลย่ี นไป 3. 3,000 นวิ ตัน 4. 4,000 นิวตัน 2. โมเมนตัมท่ีเปล่ียนไปขึ้นอยู่กับอันตรกิริยาระหว่างโลก 5. 5,000 นิวตัน และรถยนต์ 4. นักกีฬาเตะลูกฟุตบอลมวล 200 กรัม อัดกำแพงแล้วลูก 3. โมเมนตมั ทเ่ี ปลี่ยนไปของโลกมีค่ามากกว่าโมเมนตัมของ ฟุตบอลสะท้อนออกมาด้วยอัตราเร็ว 5 เมตรต่อวินาที ซึ่ง รถท่เี ปลย่ี นไป เท่ากับอัตราเร็วเดิม ถ้าแรงท่ีกำแพงกระทำต่อลูกบอล 4. โมเมนตมั ท่ีเปลีย่ นไปของโลกมีค่านอ้ ยกว่าโมเมนตัมของ เป็น 40 นวิ ตนั ลกู บอลกระทบกำแพงอย่นู านเทา่ ใด รถทเี่ ปลย่ี นไป 1. 25 วินาที 2. 2.5 วนิ าที 5. โมเมนตัมท่ีเปล่ียนไปข้ึนอยู่กับศูนย์กลางมวลของโลก 3. 0.25 วินาที 4. 0.025 วินาที และรถ 5. 0.0025 วินาที จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 154 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 9. ถ้าเราทราบแรงลัพธ์ทีก่ ระทำตอ่ วัตถแุ น่นอน และรเู้ วลาที่ แรงน้ันกระทำต่อวัตถุ จะสามารถนำไปคำนวณหาค่าใน ขอ้ ใดได้ 1. ความเรง่ ของวัตถุ 2. ความเรว็ ทเ่ี ปล่ียนไปของวัตถุ 3. โมเมนตมั ท่เี ปลี่ยนไปของวตั ถุ 4. พลงั งานจลนท์ เ่ี ปลย่ี นไปของวตั ถุ 5. ระยะทางทีเ่ ปล่ียนไปของวัตถุ 10. ก้อนหินมวล 2 กิโลกรัม เคลื่อนท่ีด้วยความเร็ว 6 เมตร ต่อวินาที จะต้องใช้แรงขนาดเท่าใดจึงจะสามารถหยุด กอ้ นหนิ ก้อนน้ไี ด้ในชว่ งเวลา 5,000 วินาที 1. 1,400 นวิ ตัน 2. 1,800 นิวตนั 3. 2,400 นวิ ตัน 4. 2,800 นิวตัน 5. 3,400 นิวตัน เฉลย 1. 4 2. 1 3. 5 4. 3 5. 3 6. 3 7. 2 8. 1 9. 3 10. 3 จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 155 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกล่าวถึงกำลงั ไม่ถูกตอ้ ง 6. รถคันหน่ึงถูกเข็นด้วยแรง 120 นิวตัน วิ่งด้วยอัตราเร็ว 1. กำลงั มีหนว่ ยเปน็ จลู ต่อวนิ าที คงที่ 5 เมตรต่อวินาที จงหากำลังทั้งหมดที่ใช้ในการ 2. กำลังแปรผนั ตรงกบั งานทที่ ำได้ เข็นรถคันนี้ 3. กำลงั ไมม่ คี วามเกยี่ วขอ้ งกบั ความเร็ว 1. 500 วตั ต์ 2. 600 วตั ต์ 3. 700 วตั ต์ 4. กำลัง คือ อตั ราการทำงานในหนง่ึ หน่วยเวลา 4. 800 วตั ต์ 5. 900 วตั ต์ 5. กำลังของเครอ่ื งยนตม์ ักใช้หนว่ ยเปน็ แรงมา้ 7. เคร่ืองยนต์ไอพ่นสองเครื่องของเครื่องบินโดยสาร แต่ละ 2. นักกีฬาเตะลูกฟุตบอลมวล 200 กรัม อัดกำแพงแล้วลูก เครื่องจะให้แรงขับเคลื่อนขนาด 179,040 นิวตัน จงหาว่า ฟุตบอลสะท้อนออกมาด้วยอัตราเร็ว 5 เมตรต่อวินาที ซึ่ง ในขณะท่ีเครื่องบนิ กำลังบินทอ่ี ตั ราเร็ว 250 เมตรต่อวนิ าที เท่ากับอัตราเร็วเดิม ถ้าแรงท่ีกำแพงกระทำต่อลูกบอล เคร่ืองยนตแ์ ต่ละเครื่องจะใหก้ ำลังก่แี รงม้า เป็น 40 นิวตัน ลูกบอลกระทบกำแพงอยูน่ านเทา่ ใด 1. 30,000 แรงม้า 2. 40,000 แรงมา้ 1. 0.05 วนิ าที 2. 0.15 วินาที 3. 50,000 แรงม้า 4. 60,000 แรงม้า 3. 0.25 วินาที 4. 0.35 วนิ าที 5. 70,000 แรงมา้ 5. 0.45 วินาที 8. รถโดยสารจะต้องออกกำลังกี่วัตต์ในการขับเคลื่อนข้ึน 3. ถา้ เราทราบแรงลัพธ์ทก่ี ระทำตอ่ วัตถุแน่นอน และรู้เวลาที่ ไปส่งผู้โดยสารบนภูเขาซึ่งเอียงทำมุม 30 องศา กับ แรงนั้นกระทำต่อวัตถุ จะสามารถนำไปคำนวณหาค่าใน พ้ืนราบ ด้วยอัตราเร็วคงท่ี 20 เมตรต่อวินาที หากรถ ขอ้ ใดได้ โดยสารคันนี้มีมวล 1,500 กิโลกรัม และไม่คิดแรง 1. ความเรง่ ของวตั ถุ เสียดทาน 2. ความเรว็ ทเ่ี ปลย่ี นไปของวัตถุ 1. 100,000 วัตต์ 2. 150,000 วตั ต์ 3. โมเมนตัมท่เี ปลี่ยนไปของวัตถุ 3. 200,000 วตั ต์ 4. 250,000 วัตต์ 4. พลังงานจลน์ที่เปลยี่ นไปของวตั ถุ 5. 300,000 วตั ต์ 5. ระยะทางท่ีเปลยี่ นไปของวัตถุ 9. นักกีฬาหนัก 750 นวิ ตัน ไตเ่ ชือกด้วยความเร็วคงตัว สูง 5 4. ลูกบอลมวล 300 กรัม ตกลงมาจากท่ีสูง 20 เมตร แล้ว เมตร ในเวลา 25 วินาที จงหากำลังท่ีนักกีฬาคนนี้ใช้ใน กระทบพ้ืนเป็นเวลานาน 0.005 วินาที จึงกระดอนกลับ การไตเ่ ชือก ข้นึ ไปสูง 10 เมตร จงหาการดล 1. 90 วตั ต์ 2. 110 วตั ต์ 3. 130 วัตต์ 1. 10 กโิ ลกรัมต่อวนิ าที 2. 20 กโิ ลกรัมตอ่ วินาที 4. 150 วตั ต์ 5. 170 วัตต์ 3. 30 กิโลกรมั ต่อวนิ าที 4. 40 กิโลกรัมต่อวนิ าที 10. ลูกปืนมวล 4 กรัม มีความเร็ว 1000 เมตรต่อวินาที ยิงทะลุ 5. 50 กิโลกรัมต่อวินาที แผ่นไม้หนัก 800 กรัม ที่ห้อยแขวนไว้ด้วยเชือกยาว 5. จากข้อ 4. จงหาแรงเฉล่ยี ระหว่างลูกบอลกับพ้ืน หลังจากทะลุแผ่นไม้ ลูกปืนมีความเร็ว 400 เมตรต่อวินาที 1. 1,000 นวิ ตนั 2. 2,000 นวิ ตนั จงหาว่าแท่งไม้จะแกวง่ ข้ึนสงู จากจุดหยุดน่ิงเท่าใด 3. 3,000 นวิ ตนั 4. 4,000 นวิ ตัน 1. 0.30 เมตร 2. 0.40 เมตร 3. 0.50 เมตร 5เ.ฉ5ล,0ย00 นวิ ตัน 4. 0.60 เมตร 5. 0.70 เมตร 1. 3 2. 3 3. 1 4. 2 5. 3 6. 2 7. 4 8. 2 9. 4 10. 4 จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 156 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน แบบประเมนิ การปฏบิ ัติกจิ กรรม แผนฯ ที่ 4 คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลง ในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 รวม 32 1 การปฏิบัติกิจกรรม 2 ความคลอ่ งแคล่วในขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 3 การนำเสนอ ลงช่ือ ................................................... ผ้ปู ระเมิน ............../................../............... จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 157 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัติกิจกรรม ประเด็นท่ีประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 1. การปฏิบตั ิ ทำกจิ กรรมตามข้ันตอน ต้องให้ความชว่ ยเหลือ และใช้อุปกรณไ์ ด้อยา่ ง 32 อย่างมากในการทำ กิจกรรม ถกู ตอ้ ง กจิ กรรม และการใช้ ทำกิจกรรมตามขั้นตอน ต้องใหค้ วามชว่ ยเหลือ อปุ กรณ์ 2. ความคล่องแคล่ว มีความคล่องแคลว่ และใช้อปุ กรณไ์ ดอ้ ยา่ ง บา้ งในการทำกิจกรรม ทำกิจกรรมเสรจ็ ไม่ ในขณะปฏบิ ตั ิ ในขณะทำกจิ กรรมโดย ถกู ตอ้ ง แตอ่ าจตอ้ ง และการใช้อปุ กรณ์ ทนั เวลา และทำ กจิ กรรม ไม่ตอ้ งได้รบั คำชแ้ี นะ ได้รับคำแนะนำบ้าง อปุ กรณเ์ สียหาย และทำกิจกรรมเสรจ็ มคี วามคล่องแคล่ว ขาดความคล่องแคล่ว 3. การบนั ทกึ สรปุ ทนั เวลา ในขณะทำกจิ กรรมแต่ ในขณะทำกจิ กรรมจึง ต้องให้ความช่วยเหลือ และนำเสนอผล บันทึกและสรุปผล ตอ้ งไดร้ บั คำแนะนำบา้ ง ทำกิจกรรมเสรจ็ ไม่ อย่างมากในการบนั ทึก กิจกรรม กจิ กรรมได้ถกู ตอ้ ง และทำกจิ กรรมเสรจ็ ทนั เวลา สรปุ และนำเสนอผล รดั กมุ นำเสนอผล ทันเวลา กจิ กรรม กิจกรรมเป็นขัน้ ตอน ชัดเจน บนั ทกึ และสรุปผล ตอ้ งใหค้ ำแนะนำในการ กิจกรรมไดถ้ ูกต้อง แต่ บันทึก สรปุ และ การนำเสนอผลกจิ กรรม นำเสนอผลกจิ กรรม ยังไมเ่ ปน็ ข้นั ตอน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11-12 ดมี าก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ตำ่ กวา่ 6 ปรับปรุง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 158 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน แบบประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1-4 แบบประเมนิ ผลงานผงั มโนทศั น์ คำชแี้ จง : ให้ผูส้ อนประเมินผลงาน/ชิ้นงานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แลว้ ขีด ✓ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ 4 3 21 1 ความสอดคล้องกับจุดประสงค์ 2 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา 3 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 ความตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมิน .............. /................. /.............. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 159 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน เกณฑ์ประเมนิ ผังมโนทัศน์ ประเดน็ ที่ประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 32 1. ผลงานตรงกับ ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานไมส่ อดคลอ้ ง จดุ ประสงคเ์ ป็นสว่ นใหญ่ จดุ ประสงคบ์ างประเด็น กบั จดุ ประสงค์ จุดประสงคท์ กี่ ำหนด จุดประสงค์ทุกประเดน็ เนอื้ หาสาระของผลงาน เน้อื หาสาระของผลงาน เน้อื หาสาระของผลงาน ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งเปน็ บางประเดน็ ไม่ถกู ตอ้ งเปน็ ส่วนใหญ่ 2. ผลงานมีความ เนื้อหาสาระของผลงาน ผลงานมแี นวคดิ แปลก ผลงานมีความนา่ สนใจ ผลงานไม่แสดงแนวคดิ ใหมแ่ ตย่ ังไมเ่ ปน็ ระบบ แตย่ ังไมม่ ีแนวคดิ แปลก ใหม่ ถกู ต้องสมบรู ณ์ ถูกต้องครบถ้วน ใหม่ 3. ผลงานมคี วามคิด ผลงานแสดงออกถึง สร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหมแ่ ละเปน็ ระบบ 4. ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญม่ ีความ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ระเบียบแสดงออกถงึ เปน็ ระเบียบแต่ยังมี ระเบยี บแตม่ ีขอ้ บกพร่อง ระเบียบและมีข้อ ความประณตี ข้อบกพร่องเลก็ น้อย บางสว่ น บกพรอ่ งมาก เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–16 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 160 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา   2 ความคิดสรา้ งสรรค์   3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน   4 การนำไปใชป้ ระโยชน์   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชอื่ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ ............ /................. /................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 161 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เห็น   2 การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผูอ้ ืน่   3 การทำงานตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย   4 ความมนี ้ำใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ............ /................. /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรุง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 162 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตัมและการชน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ คำช้ีแจง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน การมี ลำดับท่ี ชอื่ –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี สว่ นร่วมใน รวม ของนักเรยี น ความ ฟงั คนอื่น ตามที่ได้รบั น้ำใจ การ 15 คิดเห็น มอบหมาย คะแนน ปรบั ปรุง ผลงานกลมุ่ 321321321321321 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ............ /................. /................ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรงุ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 163 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมท่สี ร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี กีย่ วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรียนจดั ขึ้น 2. ซ่อื สตั ย์ สุจริต 2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ีถกู ต้องและเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในสิ่งทถ่ี กู ต้อง 3. มวี ินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เช่ือฟงั คำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ตง้ั ใจเรยี น 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6. มงุ่ มนั่ ในการ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสำเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 รู้จกั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน ลงชอ่ื ................................................... ผูป้ ระเมิน ............ /................. /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครัง้ 30–40 พอใช้ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางคร้ัง ต่ำกวา่ 30 ปรับปรุง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 164 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง โมเมนตมั รายวิชา ฟสิ ิกส์ 2 รหัสวิชา ว32102 เวลา 3 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 ชื่อหน่วยการเรยี นรู้/บท โมเมนตมั และการชน รวม 26 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 บูรณาการ  ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง  อาเซียน  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น  มาตรฐานสากล  ข้ามกล่มุ สาระ 1. ผลการเรยี นรู้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหวา่ งแรงลพั ธ์กับเวลา รวมทงั้ อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งแรงดลกับโมเมนตัม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและลักษณะของโมเมนตัมได้ (K) 2. คำนวณหาปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวกบั โมเมนตัมได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ีและงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเติม สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น - วัตถุที่เคลื่อนท่ีจะมีโมเมนตัมซึ่งเป็นปริมาณ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา เวกเตอร์ มีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลและ ความเรว็ ของวัตถุ ดงั สมการ p⃑ = mv⃑ 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ปริมาณที่แสดงการเคลื่อนที่ของวัตถุที่มีมวลต่อกัน โดยมีโมเมนตัมเป็นปริมาณเวกเตอร์มีค่าเท่ากับ ผลคูณระหว่างมวลและความเร็วของวัตถุ ถ้าวัตถุมีมวลขนาดเท่ากันแต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่างกัน โมเมนตัมของวัตถุก็จะต่างกัน เช่นเดียวกับวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากันแต่มีมวลของวัตถุต่างกัน โมเมนตัมก็จะต่างกันด้วย 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 165 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทกั ษะการส่อื สาร หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 3) ทักษะการสงั เกต 4) ทักษะการทำงานรว่ มกัน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชวั่ โมงท่ี 1 ข้นั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเป็นรายบุคคลก่อน เข้าสูก่ จิ กรรม 3. ครูถามคำถาม Big Question เพ่ือนำเข้าสู่บทเรียน จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 50 ว่า โมเมนตัมมีผลต่อค่าที่อ่านได้จากตาชั่ง ขณะวัตถุสัมผัสตาช่ังอย่างไร โดยให้นักเรียนร่วมกัน หาคำตอบ (แนวตอบ: โมเมนตัมเป็นปริมาณท่ีมีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลกับความเร็วของวัตถุ จะเห็นว่า ความเร็วของวัตถุจะแปรผันตรงกับโมเมนตัม ซ่ึงถ้าโมเมนตัมของวัตถุนั้นมีค่ามาก ก็จะทำให้ค่าที่ อา่ นไดจ้ ากตาช่ังมากเชน่ กนั ) 3. ครูชวนนักเรียนพูดคุยเก่ียวกับเรื่องท่ีจะเรียน โดยต้ังคำถามว่า “นักเรียนคิดว่าโมเมนตัมคืออะไร เกีย่ วขอ้ งกบั ปริมาณใดบ้าง” และใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบปากเปล่าโดยครูจะยังไม่เฉลยว่าถูกหรือผิด (หมายเหตุ: ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) 4. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยและกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 51 ว่า “รถมอเตอร์ไซค์จะมีโมเมนตัม จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 166 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน เท่ากับรถบรรทุกหรือไม่” และให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามปากเปล่า หรือครูสุ่มถามนักเรียนเป็น รายบุคคล (แนวตอบ: อาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ เพราะนอกจากโมเมนตัมจะข้ึนกับมวลของวัตถุแล้ว ยังข้ึนกบั ความเรว็ ของวตั ถุอกี ด้วย) ขนั้ สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่มกนั อยา่ งอสิ ระ กลุ่มละ 5-6 คน 2. ให้สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนกลุ่มออกมาหน้าชน้ั เรียนกลุ่มละ 2 คน โดยให้นักเรียนคนท่ี 1 โยน ลูกปิงปองและลูกเทนนสิ ให้นกั เรยี นคนที่ 2 รบั ดว้ ยความเรว็ ทีต่ ่างกัน 3. ใหน้ กั เรยี นกลับเข้ากลุม่ ตนเองแลว้ ให้นกั เรียนคนท่ี 2 เร่ิมพูดคุยกบั เพื่อนในกลุม่ แล้ววิเคราะห์วา่ การ รับลูกปงิ ปองและลูกเทนนิสในแตล่ ะคร้ังใช้แรงในการรับตา่ งกันหรือไม่ (หมายเหตุ: ครูเรมิ่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ) 4. ครูให้แต่ละกลมุ่ จดบนั ทึกผลการวิเคราะหใ์ สก่ ระดาษ A4 แลว้ นำมาสง่ ครหู น้าชนั้ เรียน 5. ครูให้ศึกษา เร่อื ง โมเมนตมั จากหนังสอื เรยี น รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 51 อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครอู ธิบายเพิ่มเติมจากที่ให้นักเรียนศึกษาด้วยตนเองว่า โมเมนตัมของวัตถุเป็นปริมาณที่มีอยู่ในวัตถุ ที่กำลังเคลื่อนที่ ใช้บอกสภาพการเคลื่อนท่ีของวัตถุ และโมเมนตัมเป็นปริมาณเวกเตอร์ท่ีมีทิศทาง เดียวกับทิศทางของความเร็ว โดยโมเมนตัมมีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างมวลกับความเร็วของวัตถุ สามารถคำนวณหาได้ ดงั สมการ p⃑ = mv⃑ 2. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง โมเมนตัม ให้นักเรียนดูควบคู่กับภาพแสดงโมเมนตัมของวัตถุเม่ือวัตถุมี ความเร็วและขนาดตา่ งกนั จากหนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 51 3. ครูพูดคุยกับนักเรียนและอธิบายลงข้อสรุปว่า จากภาพ รถมอเตอร์ไซค์ที่มีมวลเท่ากัน แต่ขับขี่ด้วย ความเร็วที่ต่างกัน ก็จะมีโมเมนตัมต่างกัน และในทำนองเดียวกันกับรถมอเตอร์ไซค์ท่ีเคล่ือนท่ีด้วย ความเรว็ เท่ากบั รถบรรทุก ก็จะมีโมเมนตมั ทแี่ ตกต่างกนั ด้วย 4. ครูแจกใบงานที่ 6.1 เร่ือง โมเมนตัม ใหน้ ักเรียนศึกษาและลงมือทำ แลว้ เก็บรวบรวมสง่ คนื ทา้ ยช่ัวโมง จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 167 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน ชว่ั โมงที่ 2 ขั้นสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างท่ี 6.1-6.2 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 52 โดยครคู อยสังเกตการณ์ และให้คำอธิบายเมอื่ นกั เรียนเกดิ ปญั หา 2. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนออกมาหน้าชั้นเรียนเพ่ืออภิปรายผลและแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ จาก ตวั อยา่ งท่ี 6.1-6.2 ทน่ี กั เรยี นได้ศกึ ษามาแลว้ อธิบายความรู้ (Explain) 1. ให้นักเรียนจับคู่ตามเลขท่ีของตนเอง เช่น เลขท่ี 1 จับคู่กับเลขที่ 2 จากนั้นครูแจกใบงานท่ี 6.2 เร่ือง โจทย์โมเมนตัม ให้นักเรียนช่วยกันทำ 2. ครูสมุ่ นกั เรียนบางคู่ออกมาแสดงวธิ ีทำจากใบงานที่ 6.2 เรื่อง โจทยโ์ มเมนตัม หน้าชน้ั เรียน โดยท่คี รู สอบถามนักเรียนคู่อ่ืนว่ามีคำตอบแตกต่างจากส่ิงที่เพ่ือนออกมาแสดงวิธีทำหรือไม่ ถ้าแตกต่างให้ นกั เรียนออกมาแสดงวิธกี ารคำนวณหาชน้ั เรยี น 3. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคู่รวบรวมสง่ ใบงานท่ี 6.2 เรือ่ ง โจทย์โมเมนตมั ใหค้ รูตรวจสอบความถูกต้อง 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 1.1 เรื่อง โมเมนตัม จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 ชัว่ โมงที่ 3 ข้นั สรุป ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูใหน้ กั เรยี นทำสรุปผังมโนทศั น์ (Concept Mapping) เร่อื ง โมเมนตมั ลงในกระดาษ A4 2. ครูสุม่ เลือกนกั เรียนออกไปนำเสนอผังมโนทัศน์ของตนเองหน้าชัน้ เรียน (หมายเหตุ: ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน) 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 1.2-1.3 เรื่อง โมเมนตัม จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูพดู คยุ กบั นักเรยี น โดยให้นักเรียนตอบคำถามว่า โมเมนตัมคอื อะไร เกี่ยวข้องกับปริมาณใดบ้าง เพอื่ เปน็ การตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรยี น จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 168 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตมั และการชน (แนวตอบ: โมเมนตมั ของวตั ถุเปน็ ปรมิ าณที่มีอยู่ในวัตถทุ ี่กำลังเคล่อื นที่ ใชบ้ อกสภาพการเคลอื่ นที่ ของวตั ถุซึ่งโมเมนตัมเป็นปรมิ าณทเี่ กย่ี วข้อกับมวลและความเรว็ ของวตั ถุ) 2. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจกอ่ นเรียนของนักเรยี น 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 6.1 เรื่อง โมเมนตมั และใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง โจทยโ์ มเมนตัม 4. ครูตรวจสอบแบบฝกึ หัดที่ 1.1-1.3 จากแบบฝึกหดั ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 5. ครูประเมนิ ผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลมุ่ 6. ครูวดั และประเมินผลจากช้นิ งานการสรุปเนือ้ หา เรื่องโมเมนตมั ทน่ี ักเรียนไดส้ ร้างขึน้ จากขน้ั ขยาย ความเขา้ ใจเป็นรายบคุ คล 7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธีวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจริง 7.1 การประเมินก่อน ตรวจแบบทดสอบ - ใบงานที่ 6.1 เรอ่ื ง - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรียน ก่อนเรียน โมเมนตมั - ใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบก่อน โจทย์โมเมนตมั - ผลงานท่ีนำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 เรียน หน่วยการ ผา่ นเกณฑ์ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 เรยี นรู้ท่ี 6 เรื่อง การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 โมเมนตัม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 7.2 การประเมนิ ระหว่าง คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ การจัดกจิ กรรม - ตรวจใบงานท่ี 6.1 1) โมเมนตมั เร่ือง โมเมนตมั - ตรวจใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง โจทยโ์ มเมนตมั 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน ผลงาน 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมีวินัย อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ัน ในการทำงาน จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 169 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน 8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน 1) หนงั สอื เรียน รายวิชาฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 2) PowerPoint เรอ่ื ง โมเมนตัมและการชน 3) แบบฝกึ หดั ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน 4) ใบงานที่ 6.1 เร่ือง โมเมนตัม 5) ใบงานท่ี 6.2 เร่ือง โจทย์โมเมนตมั 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) ห้องสมุด 3) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 170 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน ใบงานที่ 6.1 เร่ือง โมเมนตัม คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี นยิ ามของโมเมนตัม คืออะไร ถา้ วตั ถมุ คี วามเร็วมาก แรงทใี่ ชต้ า้ นวตั ถุมีขนาดอยา่ งไร นอกจากขนาดของมวลและความเร็ว แล้ว มีสิง่ ใดที่มีผลทำใหโ้ มเมนตัมมี การเปลี่ยนแปลง เรียงลำดับวัตถทุ ี่ต้องออกแรงในการ รับมากที่สดุ ได้แก่ ลูกฟุตบอล ลกู โบวล์ ิง่ ลูกเทนนิส และลูกปิงปอง กำหนดให้ตำแหน่งท่ีปล่อยให้วตั ถุตก สงู เท่ากัน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 171 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน ใบงานท่ี 6.1 เฉลย เรอื่ ง โมเมนตัม คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ นิยามของโมเมนตัม ปริมาณท่ีแสดงการเคล่ือนท่ีของวัตถุที่มีมวล คืออะไร แตกต่างกนั ถ้าวตั ถมุ คี วามเร็วมาก ถ้าวัตถุท่ีมีความเร็วมาก แรงที่ใช้ต้านวัตถุจะมี แรงที่ใช้ต้านวัตถุมขี นาดอยา่ งไร ค่ามาก หรือการหยุดวัตถุทำได้ยากกว่าวัตถุท่ีมี ความเร็วน้อย นอกจากขนาดของมวลและความเร็ว นอกจากโมเมนตัมจะขึ้นกับขนาดของมวลและ แล้ว มีสงิ่ ใดที่มีผลทำให้โมเมนตัมมี ขนาดของความเร็วแล้วทิศทางของความเร็วท่ีแตกต่าง กนั ทำใหเ้ กดิ โมเมนตมั ท่ีแตกต่างกันดว้ ย การเปลยี่ นแปลง เรียงลำดับวัตถุท่ตี ้องออกแรงในการ ก า ร รั บ ลู ก โ บ ว์ ลิ่ ง จ ะ ต้ อ ง อ อ ก แ ร ง ม า ก ท่ี สุ ด รบั มากทส่ี ุด ไดแ้ ก่ ลูกฟุตบอล รองลงมา คือ ลูกฟุตบอล ลูกเทนนิส และลูกปิงปอง ตามลำดับ แสดงว่าแรงที่ใช้ในการรับขึ้นอยู่กับมวล ลกู โบวล์ ิง่ ลกู เทนนสิ และลกู ปงิ ปอง ของวตั ถุ กำหนดให้ตำแหน่งทปี่ ลอ่ ยให้วัตถุตก สูงเทา่ กัน จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 172 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน ใบงานท่ี 6.2 เร่ือง โจทยโ์ มเมนตัม คำช้ีแจง : เรยี งลำดับขนาดของโมเมนตัมจากมากไปน้อย ลงในตารางให้ถูกต้อง พรอ้ มทงั้ แสดงวธิ ีคำนวณ 1. เครอื่ งบนิ มวล 4 × 104 กโิ ลกรมั เคลอ่ื นท่ดี ว้ ยอัตราเรว็ 360 กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมง 2. ลกู เทนนิสมวล 250 กรมั เคล่ือนทด่ี ้วยอตั ราเรว็ 20 เมตรต่อวนิ าที 3. รถไฟฟา้ ความเร็วสงู มวล 104 กิโลกรัม เคลอื่ นทดี่ ว้ ยอตั ราเร็ว 500 เมตรต่อวนิ าที 4. ลูกบอลมวล 400 กรัม เคล่อื นท่ีด้วยความเรว็ 50 เมตรต่อวินาที 1. เครื่องบนิ มวล 4 × 104 กิโลกรัม เคลื่อนทดี่ ว้ ยอัตราเรว็ 360 กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมง 2. ลูกเทนนสิ มวล 250 กรัม เคล่ือนทดี่ ว้ ยอตั ราเร็ว 20 เมตรต่อวนิ าที 3. รถไฟฟา้ ความเรว็ สงู มวล 104 กโิ ลกรัม เคล่อื นทด่ี ้วยอัตราเร็ว 500 เมตรตอ่ วนิ าที 4. ลูกบอลมวล 400 กรัม เคลือ่ นที่ด้วยความเรว็ 50 เมตรต่อวนิ าที เรียงลำดบั จากมากไปหาน้อย จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 173 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตมั และการชน ใบงานที่ 6.2 เฉลย เรอ่ื ง โจทย์โมเมนตัม คำช้ีแจง : เรยี งลำดบั ขนาดของโมเมนตัมจากมากไปน้อย ลงในตารางให้ถูกต้อง พร้อมทงั้ แสดงวธิ คี ำนวณ 1. เครือ่ งบนิ มวล 4 × 104 กิโลกรมั เคลอื่ นท่ีด้วยอัตราเร็ว 360 กิโลเมตรตอ่ ช่วั โมง 2. ลกู เทนนสิ มวล 250 กรมั เคล่ือนทีด่ ้วยอตั ราเรว็ 20 เมตรต่อวนิ าที 3. รถไฟฟา้ ความเร็วสูงมวล 104 กโิ ลกรัม เคล่อื นทีด่ ว้ ยอัตราเร็ว 500 เมตรต่อวินาที 4. ลกู บอลมวล 400 กรัม เคลื่อนทด่ี ้วยความเร็ว 50 เมตรต่อวนิ าที 1. เคร่ืองบนิ มวล 4 × 104 กิโลกรัม เคลอื่ นที่ด้วยอตั ราเรว็ 360 กโิ ลเมตรต่อชั่วโมง จากสมการ p = mv จะได้ p = (4 × 104) (360 × 103 ) 3,600 p = (4 × 104)(100) p = 4 × 106 kg m/s ดงั นั้น เครอ่ื งบินมีโมเมนตัมเท่ากับ 4 × 106 กโิ ลกรัม เมตรต่อวนิ าที 2. ลูกเทนนสิ มวล 250 กรัม เคลื่อนท่ีด้วยอตั ราเรว็ 20 เมตรต่อวินาที จากสมการ p = mv จะได้ p = (0.25)(20) p = 5 kg m/s ดังนนั้ ลูกเทนนสิ มโี มเมนตัมเท่ากบั 5 กโิ ลกรมั เมตรต่อวินาที 3. รถไฟฟา้ ความเร็วสงู มวล 104 กิโลกรมั เคล่อื นทด่ี ้วยอัตราเร็ว 500 เมตรต่อวนิ าที จากสมการ p = mv จะได้ p = (104)(500) p = 5 × 106 kg m/s ดงั นน้ั รถไฟฟา้ ความเร็วสงู มโี มเมนตมั เทา่ กับ 5 × 106 กิโลกรัม เมตรต่อวินาที 4. ลูกบอลมวล 400 กรัม เคลอ่ื นทีด่ ้วยความเร็ว 50 เมตรต่อวนิ าที จากสมการ p = mv จะได้ p = (0.4)(50) p = 20 kg m/s ดังนน้ั ลกู บอลมโี มเมนตมั เท่ากับ 20 กิโลกรัม เมตรตอ่ วนิ าที เรยี งลำดบั จากมากไปหานอ้ ย 3 > 1 > 4 > 2 จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 174 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 9. ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย 9.1 หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 175 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแก้ไข ลงชอื่ …………………………………………. (นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา) ครูผ้สู อน ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 176 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง แรงและการเปลย่ี นโมเมนตมั รายวิชา ฟสิ ิกส์ 2 รหัสวชิ า ว32102 เวลา 4 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 ชื่อหน่วยการเรียนรู้/บท โมเมนตัมและการชน รวม 26 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซยี น  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น  มาตรฐานสากล  ขา้ มกลุ่มสาระ 1. ผลการเรยี นรู้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพ้ืนท่ีใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหวา่ งแรงลัพธ์กบั เวลา รวมทงั้ อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่างแรงดลกับโมเมนตมั 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายไดว้ ่าเมื่อแรงกระทำต่อวัตถุจะทำให้โมเมนตัมเปล่ยี นแปลงได้ (K) 2. คำนวณหาปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวกับแรงและการเปลีย่ นแปลงโมเมนตัมได้ (P) 3. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน - เม่ือมีแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุจะทำให้โมเมนตัม พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา ของวัตถุเปลี่ยนไป โดยแรงลัพธ์เท่ากับอัตรา การเปล่ยี นโมเมนตัมของวัตถุ 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด แรงที่กระทำต่อวัตถุมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม โดยแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุใด ๆ จะมีค่า เท่ากับอัตราการเปลี่ยนโมเมนตัมของวัตถุนั้น เช่น ในกรณีการออกแรงรับลูกฟุตบอลของผู้รักษาประตู ฟุตบอลซึ่งเคลื่อนท่ีมาด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน หากผู้รักษาประตูต้องการหยุดลูกฟุตบอลให้หยุดนิ่งนั้น จะพบว่าการออกแรงรับลูกฟุตบอลในแต่ละคร้ังจะต้องออกแรงรับต่างกัน 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 177 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสอ่ื สาร หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน 3) ทกั ษะการสงั เกต 4) ทักษะการทำงานร่วมกัน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนทราบ 2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชา เพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 53 ว่า “แรงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมอย่างไร” และให้ นักเรียนช่วยกันตอบคำถามปากเปลา่ หรือครูส่มุ ถามนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (แนวตอบ: แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวตั ถใุ ด ๆ จะมีค่าเทา่ กับอัตราการเปล่ียนโมเมนตัมของวัตถนุ ัน้ ) 3. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยต่อเกี่ยวกับเรื่องท่ีจะเรียน โดยตั้งคำถามว่า “แรงและการเปลี่ยนแปลง โมเมนตัมหาได้จากปริมาณใดบ้าง” แล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบคำถามปากเปล่าโดยไม่มีการเฉลยว่า ถกู หรือผิด (หมายเหต:ุ ครูเรม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ขัน้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันอย่างอิสระ 10 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มส่ง ตวั แทนกล่มุ ออกมาหนา้ ชัน้ เรยี น จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 178 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 2. ครูแจกถุงทรายใหน้ ักเรียนกลุ่มละ 2 ถุง และให้นกั เรยี นกลบั เข้ากลุ่มตนเอง เพื่อทำกิจกรรมรับถุงทราย โดยใช้มือซ้ายถือถุงทราย 1 ถงุ ไว้เหนือมอื ขวาประมาณ 20 เซนตเิ มตร จากนั้นปลอ่ ยถุงทรายให้ตก ลงบนมือขวา โดยพยายามให้มือขวารับถุงทรายให้หยุดนิ่ง พยายามให้มือไม่มีการเคล่ือนท่ี ทำการ ทดลองซ้ำโดยมอื ซา้ ยอยู่เหนือมือขวาประมาณ 50 เซนตเิ มตร แลว้ ปลอ่ ยถงุ ทรายถุงเดมิ 3. สมาชิกในกลุ่มสลับกันทำกิจกรรมนี้ให้ครบทุกคน แล้วให้สมาชิกในกลุ่มร่วมพูดคุยและเปรียบเทียบ แรงท่มี อื ขวารบั ถุงทราย เพ่อื ไม่ให้ถงุ ทรายเคลื่อนท่ใี นแต่ละครงั้ (หมายเหต:ุ ครเู ร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ) 4. ครใู ห้สมาชิกแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนอย่างน้อย กลุ่มละ 1-2 คน ออกมาอภปิ รายผลการทำกิจกรรม อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูถามคำถามกับนักเรียนเพ่ือเป็นการนำสรุปผลการทำกิจกรรม เป็นการสร้างความเข้าใจของ นักเรยี นให้ไปในแนวทางเดียวกนั เช่น 1) การออกแรงของมือขวาทีร่ ับถงุ ทรายทั้งสองกรณีแตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ: แรงทใี่ ชร้ บั ถงุ ทรายจากระดบั ทีส่ งู กวา่ จะมคี ่ามากกวา่ ถุงทรายระดับทตี่ ำ่ กว่า) 2) ความเรว็ ของถงุ ทรายขณะท่ีตกถึงมือขวาทัง้ สองกรณีแตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ: ขณะที่ถุงทรายกระทบมือ ถุงทรายท่ีปล่อยจากระดับสูงจะมีความเร็วมากกว่าถุงทราย ทปี่ ลอ่ ยจากระดับตำ่ ) 3) ความเร็วของถุงทรายทง้ั สองกรณเี กยี่ วข้องกับการออกแรงรบั ถงุ ทรายหรอื ไม่ อย่างไร (แนวตอบ: ถุงทรายทม่ี คี วามเร็วมากกวา่ จะตอ้ งออกแรงรบั มากกว่าถุงทรายที่มีความเรว็ น้อย) 2. ครูให้นักเรียนกลับเข้ากลุม่ เดมิ อีกครั้ง ครใู หน้ ักเรียนทำกิจกรรมรับถุงทรายใหม่ โดยใช้มือซ้ายถือถุง ทราย 1 ถุง จากระดับท่ีอยู่เหนือมือขวาประมาณ 30 เซนติเมตร และใช้มือขวารับถุงทรายให้หยุด นิ่งในมือ โดยพยายามไม่ให้ถุงทรายเคลื่อนที่ แล้วทำกิจกรรมซ้ำอีกคร้ัง แต่เพิ่มถุงทรายเป็น 2 ถุง มัดติดกัน โดยปล่อยถุงทรายที่ระยะความสูง 30 เซนติเมตร เปรียบเทียบแรงท่ีมือขวาต้านถุงทราย เพื่อไม่ใหถ้ ุงทรายเคลือ่ นทใ่ี นแตล่ ะครง้ั 3. ครูนำอภิปรายผลจากการทำกิจกรรมครั้งที่ 2 ดว้ ยคำถามเพ่ือเป็นการสร้างความเข้าใจของนักเรียน ใหไ้ ปในแนวทางเดียวกัน เชน่ 1) แรงทม่ี อื ขวาใช้รบั ถุงทรายท้ังสองกรณีแตกต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ: แรงที่ใชร้ บั ถงุ ทรายท่มี ีมวลมากจะมคี ่ามากกว่าแรงที่ใชร้ ับถงุ ทรายทมี่ ีมวลนอ้ ย) 2) ความเร็วของถุงทรายขณะทีต่ กถึงมือขวาทั้งสองกรณีแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ: ความเรว็ ของถุงทรายทัง้ สองกรณีมีค่าเท่ากัน) 3) มวลของถุงทรายทงั้ สองกรณเี ก่ยี วขอ้ งกบั การออกแรงรบั ถงุ ทรายหรือไมอ่ ย่างไร (แนวตอบ: ถงุ ทรายท่มี มี วลมากจะต้อออกแรงรับมากกว่าถงุ ทรายท่มี ีมวลน้อย) จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 179 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 4. ครูอธิบายสรุปการทำกิจกรรมรับถุงทรายว่า แรงที่ใช้หยุดการเคลื่อนที่ของวัตถุใด ๆ ข้ึนอยู่กับมวล และความเร็วของวตั ถนุ ้ัน 5. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยดว้ ยคำถามว่า ถ้าจะทำให้วัตถทุ ี่กำลงั เคล่ือนท่ีให้หยุดน่ิง แรงต้านที่กระทำ ตอ่ วตั ถทุ ่มี ีโมเมนตมั มากกับโมเมนตัมน้อยจะแตกตา่ งกันหรอื ไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ: แตกต่างกนั เพราะวตั ถทุ ีม่ โี มเมนตัมมากจะต้องออกแรงต้านมากกว่าวตั ถุท่มี ีโมเมนตัมน้อย ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูแยกกลุ่มนักเรียนแบบคละความสามารถ (เก่ง-ค่อนข้างเก่ง-ปานกลาง-อ่อน) อยู่ในกลุ่มเดียวกัน กลุ่มละ 5-6 คน โดยครูเป็นผู้เลือกนักเรียนเข้ากลุ่ม แล้วให้นักเรียนร่วมกันศึกษาและสืบค้น เรื่อง แรงและการเปล่ียนโมเมนตัม จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 53-54 หรือ จากแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 2. ครูแจกกระดาษปรู๊ฟขนาด A1 ให้นักเรียนกลุ่มละ 1 แผ่น 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพูดคุยและอภิปรายภายในกลุ่ม จากข้อมูลที่ได้ร่วมกันศึกษาและสืบค้น แลว้ เขยี นสรปุ ลงในกระดาษปรู๊ฟ โดยครูคอยสังเกตการณ์ทำกิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่าง ใกล้ชิด พร้อมกบั คอยใหค้ ำแนะกบั นกั เรยี นท่มี ขี ้อสงสยั ระหว่างการทำกิจกรรม (หมายเหตุ: ครูเรมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) 4. ครใู หน้ กั เรียนนำกระดาษปรู๊ฟผลการศึกษาที่เสร็จแล้วไปติดที่ผนังห้องโดยรอบ 5. ครูให้นักเรียนแต่ละคนไปศึกษาผลงานของกลุ่มอ่ืน ๆ 6. ครูจับสลากเลือกลำดับของแต่ละกลุ่มให้ออกมานาเสนอผลการศึกษา โดยให้นักเรียนกลุ่มท่ถี ูกเลือก เป็นอันดับแรกส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการศึกษาทีละกลุ่มจนครบ เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความ เข้าใจของนักเรยี นหลังการศึกษาเรือ่ งแรงและการเปล่ียนโมเมนตัม 7. นักเรยี นกลุ่มอ่ืน ๆ และครูรว่ มกันวิพากษ์เก่ียวกับข้อมูลท่ตี ัวแทนนักเรียนออกมานำเสนอ จนทกุ คน มคี วามรู้ ความเข้าใจท่ถี กู ตอ้ ง และตรงกนั อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูอธิบายเพ่ือนำสรุปให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุใด ๆ จะมีค่าเท่ากับ อัตราการเปล่ยี นโมเมนตมั ของวัตถนุ นั้ สามารถเขียนสมการไดเ้ ปน็ ΣF⃑ = ∆p⃑ ∆t 2. ครูนำสรุปการพิจารณาภาพการเตะฟุตบอล จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 54 ว่า “แรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุมผี ลตอ่ การเปล่ียนแปลงโมเมนตัมของวตั ถุ แรงท่ีมากจะทำให้วัตถุ เกิดการเปล่ียนแปลงโมเมนตัมไดม้ ากกว่าหรือใช้เวลาในการเปลีย่ นแปลงโมเมนตมั น้อยกวา่ ” จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 180 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน ชว่ั โมงที่ 3 ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน ร่วมกันศึกษาตัวอย่างที่ 6.3-6.5 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 55-56 แล้วพดู คยุ อภิปรายถงึ คำตอบทไี่ ด้ 2. ครูสุ่มนักเรียนบางคู่ออกมาแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ที่ได้ร่วมกันศึกษาและอภิปรายผลหน้า ช้ันเรียน 3. ครูแจกใบงานที่ 6.3 เรื่อง แรงและการเปลี่ยนโมเมนตัม ให้นักเรียน 4. นักเรียนแต่ละคนศึกษาและลงมือทำใบงานที่ 6.3 เรื่อง แรงและการเปล่ียนโมเมนตัม โดยครูคอย สังเกตการณ์และช้ีแนะให้คำปรึกษาเม่ือนักเรียนเกิดปัญหา เสร็จแล้วรวบรวมส่งคืนครูท้ายชั่วโมง อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูเปิด PowerPoint เร่ือง แรงและการเปลี่ยนโมเมนตัม ให้นักเรียนดู และทบทวนกฎการเคลื่อนท่ี ข้อท่ี 2 ของนิวตัน และการนำกฎน้ีไปหาความสัมพันธ์ระหว่างแรงและโมเมนตัมของวัตถุ จนได้ สมการ Σ⃑F = mv⃑ −mu⃑ เพ่อื เป็นการตรวจสอบความเข้าใจอกี คร้งั ∆t 2. ครูเน้นให้นักเรียนทราบว่า กฎการเคลื่อนท่ีข้อที่ 2 ของนิวตัน อาจกล่าวอีกแบบหนึ่งว่า แรงลัพธ์ที่ กระทำกบั วัตถใุ ด ๆ จะเท่ากับอัตราการเปล่ียนแปลงโมเมนตมั ของวตั ถุนนั้ ทง้ั ขนาดและทิศทาง 3. ครนู ำสรุปแนวตอบและเฉลยวิธกี ารคำนวณใบงานที่ 6.3 เรอ่ื ง แรงและการเปล่ยี นโมเมนตัม 4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 2.1 เรื่อง แรงและการเปลี่ยนโมเมนตัม จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 ชว่ั โมงที่ 4 ขั้นสรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเน้ือหา เร่ือง แรงและการเปล่ียนโมเมนตัม ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่ เข้าใจและครใู หค้ วามรเู้ พ่มิ เติมในส่วนน้ัน 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit Question 6 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 86-87 ข้อ 1, 4, 5, 7 และ 9 ลงในสมุดประจำตัว 3. ครูให้นักเรียนทำสรุปผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง แรงและการเปลี่ยนโมเมนตัม ลงใน กระดาษ A4 จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 181 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 4. ครสู ุ่มเลอื กนกั เรียนออกไปนำเสนอผังมโนทัศน์ของตนเองหนา้ ชน้ั เรียน (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน) ขน้ั ประเมิน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 6.3 เรื่อง แรงและการเปลีย่ นโมเมนตัม 2. ครูตรวจ Unit question 6 เร่ือง แรงและการเปล่ียนโมเมนตมั ในสมุดประจำตัว 3. ครตู รวจสอบแบบฝกึ หัดท่ี 2.1 จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 4. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลุม่ 5. ครูวัดและประเมนิ ผลจากชน้ิ งานการสรปุ เนือ้ หา เรื่อง แรงและการเปล่ยี นโมเมนตัม ทนี่ กั เรียนได้ สรา้ งขน้ึ จากขน้ั ขยายความเข้าใจเป็นรายบคุ คล 7. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมนิ ระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) แรงและการ - ตรวจใบงานท่ี 6.3 - ใบงานที่ 6.3 เร่อื ง แรง - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ และการเปลยี่ น เปลยี่ นโมเมนตัม เรอ่ื ง แรงและการ โมเมนตัม ระดบั คุณภาพ 2 - ผลงานทน่ี ำเสนอ ผ่านเกณฑ์ เปลี่ยนโมเมนตมั ระดับคุณภาพ 2 - แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ ผลงาน ผลงาน การทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 182 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน รายวิชาฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 2) PowerPoint เรอื่ ง โมเมนตมั และการชน 3) แบบฝึกหดั ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 4) กระดาษปรู๊ฟขนาด A1 5) ใบงานท่ี 6.3 เรื่อง แรงและการเปลี่ยนโมเมนตัม 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรยี น 2) หอ้ งสมดุ 3) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 183 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน ใบงานที่ 6.3 เรื่อง แรงและการเปลีย่ นโมเมนตมั คำช้แี จง : แสดงวธิ กี ารคำนวณหาผลลัพธ์ 1. รถบรรทุกคันหนึ่งมีมวล 2 ตัน เครื่องยนต์ของรถจะต้องใช้แรงผลักท่ีพื้นเท่าใด เพื่อให้รถสามารถ เคล่อื นทด่ี ้วยความเร็ว 36 กโิ ลเมตรตอ่ ช่วั โมง จากหยุดนิ่ง ภายในเวลา 10 วินาที 2. ลูกบอลลูกหน่ึงมวล 1 กิโลกรัม เคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วคงที่ 10 เมตรต่อวินาที ในแนวระดับ ไปชนกำแพง แล้วลูกบอลกระดอนกลับในแนวการเคล่ือนที่เดิม ด้วยอัตราเร็วเช่นเดิม แต่ทิศทางตรงกันข้าม จงหา โมเมนตัมที่เปลี่ยนแปลงไป 3. กล่องใบหน่งึ วางอย่บู นรถ ซง่ึ กำลงั เคล่ือนทใ่ี นแนวระดับด้วยความเร็ว 25 เมตรตอ่ วินาที รถจะต้องเบรก จนหยุดนิ่งในเวลาน้อยที่สุดเทา่ ใด กล่องจึงจะไม่ไถลไปบนรถ ถ้าสัมประสทิ ธ์คิ วามเสียดทานระหวา่ งกล่อง กบั รถเปน็ 0.5 จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 184 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน ใบงานที่ 6.3 เฉลย เรื่อง แรงและการเปลี่ยนโมเมนตมั คำชแ้ี จง : แสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ 1. รถบรรทุกคันหน่ึงมีมวล 2 ตนั เครื่องยนตข์ องรถจะต้องใช้แรงผลกั ทพี่ ้ืนเท่าใด เพ่อื ให้รถสามารถเคล่ือนท่ี ด้วยความเร็ว 36 กิโลเมตรต่อชว่ั โมง จากหยุดนิง่ ภายในเวลา 10 วินาที จากโจทยก์ ำหนด ความเร็วต้นเปน็ ศูนย์ จากสมการ ΣF = ∆p = m(v−u) และความเรว็ ปลาย v = 36 × 1,000 ∆t ∆t 3,600 ΣF = 2,000(10−0) v = 10 m/s 10 ดังนั้น เครอ่ื งยนตข์ องรถบรรทกุ คันนต้ี ้องออกแรงผลักพ้นื 2,000 นวิ ตัน ΣF = 2,000 N 2. ลูกบอลลูกหน่ึงมวล 1 กิโลกรัม เคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วคงท่ี 10 เมตรต่อวินาที ในแนวระดับ ไปชน กำแพงแล้วลูกบอลกระดอนกลับในแนวการเคล่ือนท่ีเดิม ด้วยอัตราเร็วเช่นเดิม แต่ทิศทางตรงกันข้าม จงหาโมเมนตัมที่เปลย่ี นแปลงไป จากสมการ ∆p = mv − mu ∆p = (1)(−10) − (1)(10) ∆p = −20 kg m/s ดงั นัน้ โมเมนตมั ที่เปลี่ยนแปลงไปเท่ากับ 20 กิโลกรัม เมตรตอ่ วินาที 3. กล่องใบหน่ึงวางอยู่บนรถ ซึ่งกำลังเคลื่อนที่ในแนวระดับด้วยความเร็ว 25 เมตรต่อวินาที รถจะต้อง เบรกจนหยุดนิ่งในเวลาน้อยที่สุดเทา่ ใด กล่องจึงจะไม่ไถลไปบนรถ ถ้าสัมประสิทธิค์ วามเสียดทานระหว่าง กลอ่ งกบั รถเป็น 0.5 จากสมการ ∆p = mv − mu ΣFΔt = mv − mu เมื่อ F = f = μmg จะไดว้ า่ μmgΔt = mv − mu Δt = mv−mu mμg Δt = m(0)−m(−25) m(0.5)(10) Δt = 25 = 5 s 5 ดังนั้น รถจะต้องเบรกจนหยุดน่งิ ในเวลา 5 วนิ าที กลอ่ งจึงจะไม่ไถลไปบนรถ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 185 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน 9. ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย 9.1 หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 186 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแก้ไข ลงชอื่ …………………………………………. (นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา) ครูผ้สู อน ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 187 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง การดลและแรงดล รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 2 รหัสวิชา ว32102 เวลา 5 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้/บท โมเมนตัมและการชน รวม 26 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง  อาเซียน  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  มาตรฐานสากล  ขา้ มกล่มุ สาระ 1. ผลการเรยี นรู้ 5. อธิบายและคำนวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพ้ืนที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ ระหวา่ งแรงลัพธก์ ับเวลา รวมท้ังอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงดลกบั โมเมนตมั 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายแรงดลและการดลได้ (K) 2. คำนวณหาปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวกบั แรงดลและการดลได้ (P) 3. รับผดิ ชอบต่อหน้าท่ีและงานที่ได้รบั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพ่มิ เติม สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ - แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุในเวลาสั้น ๆ เรียกว่า พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา แรงดล โดยผลคูณของแรงดลกับเวลา เรียกว่า การดล ตามสมการ ⃑I = (∑in=0 ⃑F⃑i)Δt ซึ่งการ ดลอาจหาได้จากพ้ืนท่ีใต้กราฟระหว่างแรงดลกับ เวลา 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด แรงดล (impulsive force) คือ แรงที่กระทำต่อวัตถุในช่วงเวลาสั้น ๆ การดล (impulse) คือ โมเมนตัมที่เปล่ียนแปลงไปและเป็นปริมาณเวกเตอร์ที่มีทิศทางเดียวกับแรงลัพธ์ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 188 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตัมและการชน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 2) ทักษะการสื่อสาร 3) ทักษะการสังเกต 4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขน้ั นำ กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นักเรียนทราบ 2. ครูทบทวนความรู้ว่า เมื่อมีแรงลัพธ์ท่ีไม่เป็นศูนย์มากระทำกับวัตถุจะทำให้โมเมนตัมของวัตถุ เปลี่ยนไป 3. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชา เพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 57 ว่า “เหตุใดไข่ที่ถูกปล่อยลงมาจากที่สูงเม่ือกระทบพื้นจึงแตก” และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามปากเปล่า หรือครสู ่มุ ถามนักเรียนเปน็ รายบุคคล (แนวตอบ: แรงท่ีพื้นกระทำกับเปลอื กไขข่ ณะที่ไขต่ กลงมากระทบพื้นมีค่ามากในเวลาส้นั ๆ ซึ่งทำให้ อตั ราการเปลย่ี นโมเมนตัมมีค่ามาก แรงดลจึงมาก ไข่จึงแตก) 4. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยเช่ือมโยงเกี่ยวกับเร่ืองท่ีจะเรียน โดยตั้งคำถามว่า “การดลและแรงดลคือ อะไร และเก่ียวข้องกับปริมาณใดบ้าง” แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามอย่างอิสระโดยไม่มีการ เฉลยวา่ ถกู หรือผดิ (หมายเหต:ุ ครเู รมิ่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 189 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน ขัน้ สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนแบบคละความสามารถ (เก่ง-ค่อนข้างเก่ง-ปานกลาง-อ่อน) อยู่ในกลุ่มเดียวกัน กลุ่มละ 5-6 คน โดยครูเป็นผู้เลือกนักเรียนเข้ากลุ่ม จากน้ันครูกำหนดช่ือหรือสัญลักษณ์แทนแต่ละ กล่มุ เช่น ตวั เลข (กล่มุ 1, 2, 3, ...) เป็นต้น 2. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและสืบค้น เร่ือง การดลและแรงดล จากหนังสือเรียน รายวิชา เพม่ิ เติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 57-58 แลว้ รว่ มกันอภิปรายกันภายในกลุ่ม 3. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันพูดคยุ และอภิปรายผลการศกึ ษาของแตล่ ะคนภายในกลุ่มจนสมาชิกแต่ละ คนเข้าใจในเน้ือหานั้นไปในแนวทางเดียวกัน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมตัวท้ังการอภิปราย หน้าชั้นเรียนและการตั้งคำถามจากเนอ้ื หา เพราะครูจะทำการสุ่มลำดับการออกมาอภิปรายหน้าชั้น เรียนโดยมเี พ่อื นกลมุ่ อ่ืนและครถู ามคำถามท่ีสงสัยในชั่วโมงตอ่ ไป ช่ัวโมงที่ 2 ขนั้ สอน สำรวจคน้ หา (Explore) (ต่อ) 4. ครูแจกกระดาษปรู๊ฟขนาด A1 ให้นักเรียนกลุ่มละ 1 แผ่น แล้วมอบหมายให้นักเรียนเขียนสรุป องค์ความรู้จากเน้ือหาท่ีได้ช่วยกันศึกษาในรปู แบบท่ีน่าสนใจ สวยงาม เข้าใจง่าย มีความคิดสร้างสรรค์ และสอดคล้องกับเนื้อหา เสรจ็ แล้วครูให้นักเรียนแต่ละกล่มุ นำผลงานท่ีสรา้ งข้ึนไปติดไว้ที่ผนังห้องเรียน โดยรอบ (หมายเหตุ: ครเู ร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ) 5. ครแู จกกระดาษโน้ตชนดิ มีกาว (Post-it Notes) ให้นักเรียนคนละ 1 ใบ จากนั้นให้นักเรยี นแตล่ ะคน เดินศึกษาผลงานของแต่ละกลุ่ม โดยครูแจ้งกับนักเรียนว่า เม่ือนักเรียนเกิดความสนใจหรือชอบ ผลงานของกลุ่มไหน ให้เขียนแสดงความคิดเห็นพร้อมท้ังระบุช่ือกลุ่มของตนเองแล้วนำไปติดไว้บน ผลงานของกลุ่มนั้น เพ่อื เปน็ การโหวตใหค้ ะแนนการ ซึ่งจะไมม่ กี ารโหวตให้กลมุ่ ของตนเองเดด็ ขาด 6. ครูรวบรวมผลคะแนนโหวตท้ังหมด โดยจดบันทึกผลคะแนนของแต่ละกลุ่มไว้ แล้วส่งกระดาษโน้ต น้ันคืนให้แต่ละกลมุ่ เพ่ือดคู วามคิดเหน็ ทเี่ พื่อนกลุม่ อื่น ๆ เขียนแลว้ โหวตให้ 7. ครูสุ่มนักเรียนตัวแทนกลุ่ม 2-3 คน ออกมานำเสนอผลงานของตนเองหนา้ ชั้นเรียน โดยเมอื่ นำเสนอ เสรจ็ แล้ว ครูและสมาชกิ กลุ่มอ่นื ๆ ถามคำถามเก่ยี วกับเนื้อหาทม่ี ีการนำเสนอหรือปัญหาทีส่ งสัย 8. ครสู ุม่ ลำดบั การนำเสนอของแต่ละกลุ่มจนครบทกุ กลุม่ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 190 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตัมและการชน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูถามคำถามกับนักเรยี นเพ่ือเปน็ การนำสรุปผลการทำศกึ ษา เป็นการสร้างความเข้าใจของนกั เรียน ใหไ้ ปในแนวทางเดยี วกัน เชน่ 1) การดลคืออะไร (แนวตอบ: การดลคือโมเมนตัมท่ีเปล่ียนไป และเป็นปริมาณเวกเตอร์ท่มี ีทิศทางเดยี วกับแรงลพั ธ์ โดยมีหน่วยเดียวกบั โมเมนตมั ) 2) การดลหาได้จากอะไรได้บา้ ง (แนวตอบ: การดลหาไดจ้ ากการคำนวณและการหาพ้นื ที่ใต้กราฟ) 3) การดลมีก่แี บบ อะไรบ้าง (แนวตอบ: การดลมี 2 แบบ คอื การดลเนอื่ งจากแรงคงที่ และการดลเนอื่ งจากแรงไม่คงท่ี) 2. ครูอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับการดลและแรงดลอีกครั้ง โดยเปิด PowerPoint เรื่อง การดลและแรงดล ใหน้ ักเรียนดู เพือ่ เป็นการสร้างความเข้าใจของนกั เรียนให้เป็นไปในแนวทางเดยี วกัน ชวั่ โมงที่ 3 ขั้นสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนศึกษาเน้ือหา จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 59 ว่า ถ้ามี แรงลัพธท์ ี่ไมเ่ ปน็ ศนู ย์มากระทำกับวตั ถุ จะทำใหโ้ มเมนตมั ของวัตถุเปน็ อยา่ งไร 2. ครูสุม่ เรยี กนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาหน้าชั้นเรยี น โดยสมุ่ จากเลขท่หี รือเลขประจำตัวของนกั เรียน 3. ครจู ดั เตรยี มวัสดุอุปกรณ์ทจ่ี ะใช้ทำการสาธติ ให้นักเรียนดู ดงั น้ี • ไข่ไก่หรือไข่เป็ด • กะละมงั • แผน่ ไม้ • ฟองนำ้ • กล้องถ่ายวิดีโอ 4. ครูให้ตัวแทนนักเรียนที่ออกมาหน้าชน้ั เรียน 2 คน ถือไขเ่ อาในระดบั ความสงู ทเี่ ท่ากนั ครูนำกะละมัง 2 ใบ มาวางด้านหน้านักเรียน ใบละ 1 คน โดยในกะละมังใบท่ี 1 มีแผ่นไม้วางอยู่ด้านใน ส่วน กะละมังใบท่ี 2 มีฟองน้ำวางอยู่ด้านใน และครูให้นักเรียนคนท่ี 3 ถือกล้องถ่ายวิดีโอในขณะทำ กิจกรรม จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 191 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 5. ครูให้สัญญาณเพื่อให้นักเรียนท้ังสองคนปล่อยไข่พร้อม ๆ กัน จากความสูงระดับเดียวกัน แล้วให้ นกั เรียนทุกคนสังเกตสิ่งทเ่ี กดิ ข้นึ อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครนู ำไฟลว์ ิดโี อที่ให้นกั เรียนถ่ายไวข้ ณะทำกจิ กรรมมาเปิดให้นักเรยี นดูพร้อม ๆ กัน โดยรอบแรกเล่น วดิ ีโอดว้ ยความเร็วปกติ (1 เท่า) จากนัน้ เลน่ วิดีโอซำ้ ดว้ ยความเรว็ ท่ีช้ามาก (0.25 เทา่ ) เพือ่ แสดงให้ เหน็ ถงึ สงิ่ ที่เกิดขึ้นขณะท่ไี ข่ตกลงมากระทบกับวัสดุทีแ่ ตกต่างกนั 2. ครูอธิบายสรปุ กจิ กรรมในสว่ นท่ีเกีย่ วข้องกับเน้ือหา เรื่อง การดลและแรงดล จากหนังสอื เรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 59 3. ครอู ธิบายเนน้ ย้ำกรอบ Physics in real life ถงึ สง่ิ ทเ่ี ชื่อมโยงกบั เนอื้ หา เร่ือง การดลและแรงดล 4. ครูพูดคุยกับนักเรียนแล้วเปิดประเด็นว่า จะมีวิธีการหรือทำอย่างไรให้ไข่ที่ตกลงมาจากท่ีสูงไม่แตก โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ที่ครูเคยแบ่งไวใ้ หแ้ ลว้ รว่ มกันศึกษาคน้ คว้าเกีย่ วกับวิธกี ารทำให้ไข่ไม่แตก รวมถึงจะต้องมีการวางแผน ออกแบบ สร้างผลงานชิ้นน้ีออกมาให้สามารถใช้งานได้จริง เป็นการบ้าน ซง่ึ ครจู ะทำการทดสอบคณุ ภาพผลงานของแตล่ ะกลุม่ กนั ในช่วั โมงถัดไป ช่ัวโมงท่ี 4 ขั้นสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ แล้วช่วยศึกษาตัวอย่างที่ 6.6-6.11 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 60-62 2. ครูสุ่มนักเรียน 6 คน ออกมาหน้าช้ันเรียน 3. ครูให้นักเรียนจับสลากหมายเลข 1-6 4. ครูให้นักเรียนแสดงวิธีการคำนวณหรือแก้โจทย์ปัญหาจากตัวอย่างที่ได้ร่วมกันศึกษา บนกระดาน หน้าชั้นเรียน โดยครูสังเกตการณ์ และอธิบายเม่ือนักเรียนเกิดปัญหา ดังน้ี • หมายเลข 1 ตัวอย่างท่ี 6.6 • หมายเลข 2 ตัวอย่างท่ี 6.7 • หมายเลข 3 ตัวอย่างที่ 6.8 • หมายเลข 4 ตัวอย่างที่ 6.9 • หมายเลข 5 ตัวอย่างที่ 6.10 • หมายเลข 6 ตัวอย่างท่ี 6.11 จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 192 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 5. ครูบอกให้นักเรียนจับกลุ่มตามที่เคยแบ่งไว้แล้ว เพื่อเตรียมตัว และเตรียมผลงานท่ีได้สร้างข้ึน จาก การมอบหมายของครูในช่ัวโมงท่ีแลว้ 6. ครูนำนักเรยี นไปบริเวณช้ันล่าง ดา้ นหน้าอาคาร โดยแบ่งนักเรียนที่เป็นตวั แทนกลมุ่ ขน้ึ ไปด้านบนชั้น 2 ของอาคาร เพือ่ จะทำการทดสอบคณุ ภาพของผลงานทไ่ี ด้สรา้ งขึ้น 7. ครูให้นักเรยี นทดสอบผลงานตนเองโดยการปล่อยทรี่ ะดับความสูงเดยี วกนั ให้ตกลงสู่พืน้ ดา้ นล่างทีละ กลมุ่ แล้วให้นักเรียนที่อยู่ด้านล่างของอาคารสงั เกตสง่ิ ที่เกิดขึน้ จนครบทุกกลมุ่ (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน) อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูนำสรุปกิจกรรมโยนไข่ไม่ให้แตก โดยเชื่อมโยงถึง เรื่อง การดลและแรงดล ซึ่งเกี่ยวข้องกับ หลักการลดแรงกระแทก เช่นเดียวกับการออกแบบตัวถังรถยนต์ให้มีการใช้เวลาในการเปลี่ยน โมเมนตัมมากทำให้แรงกระแทกมีค่าน้อยหรือแรงดลมีค่าน้อย เป็นผลให้สิ่งที่อยู่ภายในหรือไข่ไม่ แตกเมอื่ เกิดการกระแทก 2. ครูแจกใบงานท่ี 6.4 เร่ือง โจทย์การดลและแรงดล ให้นักเรียน แล้วมอบหมายให้นักเรียนทำเป็น การบ้าน นำกลับมาส่งครใู นวนั พรงุ่ นี้ กอ่ นเข้าแถวเคารพธงชาติทโี่ ตะ๊ หอ้ งพักครู 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 3.1 จากแบบฝึกหัดฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เป็นการบา้ น ช่ัวโมงที่ 5 ข้ันสรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครเู ปดิ PowerPoint เร่ือง การดลและแรงดล ให้นักเรยี นดเู พื่อเป็นการตรวจสอบความเขา้ ใจอีกครง้ั 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหา เร่ือง การดลและแรงดล ว่ามีสว่ นไหนที่ยงั ไม่เข้าใจ และครู ใหค้ วามร้เู พิ่มเติมในสว่ นนั้น 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit Question 6 จากหนังสือเรียนฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 86-91 เรื่อง การดลและแรงดล ลงในสมุดประจำตัว 4. ครใู ห้นักเรียนทำสรปุ ผังมโนทศั น์ (Concept Mapping) เรื่อง การดลและแรงดล ลงในกระดาษ A4 5. ครูสุ่มเลอื กนกั เรียนออกไปนำเสนอผงั มโนทศั น์ของตนเองหน้าชั้นเรียน จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 193 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน ขน้ั ประเมิน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมนิ ผลงานท่ีนกั เรยี นไดส้ ร้างขนึ้ จากกิจกรรม โยนไข่ไมใ่ หแ้ ตก 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 6.4 เรือ่ ง โจทยก์ ารดลและแรงดล 3. ครูตรวจ Unit question 6 เร่อื ง การดลและแรงดล ในสมุดประจำตวั 4. ครูตรวจสอบแบบฝกึ หัดท่ี 3.1 จากแบบฝึกหัดฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 5. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลุม่ 6. ครวู ัดและประเมินผลจากชน้ิ งานการสรปุ เนือ้ หา เรื่อง แรงและการเปลย่ี นโมเมนตัม ท่ีนักเรยี นได้ สรา้ งข้นึ จากข้ันขยายความเข้าใจเป็นรายบคุ คล 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วธิ ีวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินระหว่าง การจดั กจิ กรรม 1) การดลและแรงดล - ตรวจใบงานท่ี 6.4 - ใบงานที่ 6.4 เรอ่ื ง การ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เร่ือง การดลและแรงดล ดลและแรงดล 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - ผลงานทนี่ ำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 5) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มนั่ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 194 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน 8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน รายวชิ าฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน 2) PowerPoint เรอื่ ง โมเมนตมั และการชน 3) แบบฝกึ หัดฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 4) กระดาษปรู๊ฟขนาด A1 5) กระดาษโน้ตชนิดมีกาว (Post-it Notes) 6) ใบงานท่ี 6.4 เร่ือง การดลและแรงดล 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) หอ้ งสมุด 3) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 195 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน ใบงานที่ 6.4 เรอ่ื ง การดลและแรงดล คำชแี้ จง : แสดงวธิ ีการคำนวณหาผลลพั ธ์ 1. นักฟุตบอลเตะลูกฟุตบอลไปกระทบกับกำแพง มีความสัมพันธ์ดังกราฟ โดยมีพื้นที่ใต้กราฟเป็น 25 นวิ ตันตอ่ วินาที อยากทราบวา่ ขนาดของแรงเฉลยี่ ที่ลกู บอลกระทำต่อกำแพงเปน็ เท่าใด 2. นายตะวันนำค้อนมวล 0.5 กิโลกรัม ตอกตะปู เมื่อหัวค้อนกระทบกับตะปูมีความเร็ว 20 เมตรต่อวินาที หลังจากกระทบตะปูเป็นเวลา 0.2 วินาที ค้อนก็กระดอนกลับในแนวเดิม ด้วยความเร็วขนาดเท่าเดิม จงหาแรงเฉลยี่ ท่คี อ้ นกระทำตอ่ ตะปู จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 196 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 3. ออกแรง 100 นวิ ตัน ผลักกล่องมวล 10 กิโลกรัม ในขณะท่ีกำลังไถลลงตามพื้นเอียงลืน่ ที่ทำมุม 53 องศา กับแนวระดับ ด้วยความเร็ว 4 เมตรต่อวินาที จงหาว่าต้องออกแรงผลักนานเท่าใดกลอ่ งจึงจะเรม่ิ ไถลข้ึน ตามพื้นเอียง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 197 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน ใบงานท่ี 6.4 เฉลย เร่ือง การดลและแรงดล คำชแ้ี จง : แสดงวธิ ีการคำนวณหาผลลัพธ์ 1. นักฟุตบอลเตะลูกฟุตบอลไปกระทบกับกำแพง มีความสัมพันธ์ดังกราฟ โดยมีพื้นที่ใต้กราฟเป็น 25 นิวตนั ต่อวินาที อยากทราบวา่ ขนาดของแรงเฉล่ียทีก่ ำแพงกระทำต่อลูกบอลเปน็ เท่าใด เนอื่ งจากพื้นท่ีใตก้ ราฟระหวา่ ง F และ t คอื การดล จะได้ว่า I = mv − mu I = FIt 25 = FI(0.4) FI = 62.5 N ดงั นัน้ แรงเฉลีย่ ท่ีกำแพงกระทำตอ่ ลูกบอลเท่ากับ 62.5 นิวตนั 2. นายตะวันนำค้อนมวล 0.5 กิโลกรัม ตอกตะปู เมื่อหัวค้อนกระทบกับตะปูมีความเร็ว 20 เมตรต่อวินาที หลังจากกระทบตะปูเป็นเวลา 0.2 วินาที ค้อนก็กระดอนกลับในแนวเดิม ด้วยความเร็วขนาดเท่าเดิม จงหาแรงเฉลี่ยท่คี อ้ นกระทำตอ่ ตะปู จากสมการ ∆p = mv − mu ∆p = (1)(−10) − (1)(10) ∆p = −20 kg m/s ดงั นั้น โมเมนตัมทเี่ ปล่ยี นแปลงไปเทา่ กบั 20 กโิ ลกรัม เมตรตอ่ วนิ าที จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 198 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 3. ออกแรง 100 นิวตัน ผลักกลอ่ งมวล 10 กิโลกรัม ในขณะที่กำลังไถลลงตามพ้ืนเอียงลื่น ทที่ ำมมุ 53 องศา กับแนวระดับ ด้วยความเร็ว 4 เมตรต่อวินาที จงหาวา่ ตอ้ งออกแรงผลักนานเท่าใดกลอ่ งจึงจะเร่มิ ไถลข้ึน ตามพน้ื เอียง เนอื่ งจากตอนท่ีกล่องเริ่มไถลข้ึนความเรว็ จะมีค่าเป็นศูนย์ โดยคดิ วา่ แรงลพั ธ์ที่กระทำต่อกล่อง คือ แรงดล กำหนดให้ ทิศที่กล่องไถลขึน้ ตามพ้ืนเอยี งเป็นบวก ทิศลงเป็นลบ จะได้วา่ F − mg sin 53° = mv−mu t 100 − (10)(9.8) (4) = (10)(0)−(10)(−4) 5t 100 − 78.4 = 40 t 21.6 = 40 t t = 40 21.6 t = 1.85 s ดงั นัน้ ตอ้ งออกแรงผลักนานประมาณ 2 วินาที จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 199 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 9. ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย 9.1 หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook