แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 200 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตมั และการชน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์ ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปญั หา/อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข ลงชอื่ …………………………………………. (นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา) ครูผ้สู อน ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 201 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4 เรือ่ ง การชน รายวิชา ฟสิ ิกส์ 2 รหัสวิชา ว32102 เวลา 14 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ช่ือหน่วยการเรียนรู้/บท โมเมนตัมและการชน รวม 26 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 บูรณาการ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง อาเซยี น STEM PLC สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน มาตรฐานสากล ข้ามกลมุ่ สาระ 1. ผลการเรยี นรู้ 6. ทดลอง อธิบาย และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับการชนของวัตถุในหน่ึงมิติ ทั้งแบบยืดหยุ่น ไม่ยืดหยุน่ และการดดี ตวั แยกจากกันในหนึ่งมติ ิซง่ึ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษโ์ มเมนตมั 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการชนในแบบตา่ ง ๆ และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัมได้ (K) 2. คำนวณหาปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนในแบบตา่ ง ๆ ได้ (P) 3. รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีและงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิม่ เติม สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน - ในการชนกันของวัตถุและการดีดตัวออกจากกัน พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา ของวัตถุในหน่ึงมิติ เมื่อไม่มีแรงภายนอกมา กระทำ โมเมนตัมของระบบมีค่าคงตัวซ่ึงเป็นไป ตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม เขียนแทนด้วย สมการ ⃑pi = p⃑ f โดย ⃑pi เป็นโมเมนตัมของ ระบบก่อนชน และ p⃑ f เป็นโมเมนตัมของระบบ หลังชน - ในการชนกันของวัตถุ พลังงานจลน์ของระบบ อาจคงตัวหรือไม่คงตัวก็ได้ การชนที่พลังงาน จลน์ของระบบคงตัวเป็นการชนแบบยืดหยุ่น ส่วนการชนที่พลังงานจลน์ของระบบไม่คงตัว เปน็ การชนแบบไม่ยืดหยุน่ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 202 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตัมและการชน 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การชนในหนึ่งมิติ คือ การชนกันของวัตถุที่มีแนวเคลื่อนที่ของวัตถุทั้งก่อนชนและหลังชนอยู่ในแนว เส้นตรงเดียวกัน กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม คือ ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนของระบบเท่ากับผลรวม ของโมเมนตัมหลังการชนของระบบ การชนในสองมิติ คือ การชนกันของวัตถุที่มีแนวการเคลื่อนที่ของ วัตถุก่อนและหลังชนทำมุมต่อกัน การระเบิดหรือการดีดตัว คือ การท่ีวัตถุหรือระบบวัตถุแยกออกจากกัน มวลของวัตถุจะคงที่ โมเมนตัมมีค่าคงตัวแต่พลังงานจลน์ของระบบไม่คงตัวซึ่งเป็นกฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน 2) ทกั ษะการสื่อสาร 3) ทักษะการสงั เกต 4) ทักษะการทำงานร่วมกนั 5) ทกั ษะการนำความร้ไู ปใช้ 6) ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาท่ีได้ศึกษาและเรียนรู้ไปก่อนหน้านี้ว่ายังมีส่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจ บา้ ง เป็นการแลกเลย่ี นความร้ซู ่งึ กนั และกนั ระหว่างครกู ับนักเรียน 2. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นักเรียนทราบ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 203 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 3. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชา เพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 63 ว่า “การเคลื่อนท่ีของจรวดและการระเบิดเก่ียวข้องกันอย่างไร” และใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบคำถามปากเปลา่ หรือครูส่มุ ถามนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (แนวตอบ: การระเบิดเป็นเหตุการณ์ตรงข้ามกับการชน กล่าวคือ วัตถุเคลื่อนท่ีแยกออกจากกัน สำหรับการเคลื่อนที่ของจรวดเกี่ยวข้องกับการระเบดิ คือ เมื่อจรวดขบั เชื้อเพลิงหรือแกส๊ ร้อนออกมา จะทำให้เกิดแรงผลักทำให้จรวดเคลื่อนที่ไปอีกทางหนึ่ง ขณะที่แก๊สร้อนท่ีถูกปล่อยออกมาเคลื่อนที่ ไปอกี ทางหน่งึ ในทศิ ทางตรงขา้ มกบั ทิศทางของจรวด) 4. ครชู ักชวนนักเรียนพูดคุยเช่ือมโยงเกย่ี วกับเรอ่ื งท่จี ะเรียน โดยตงั้ คำถามวา่ “นกั เรียนคิดวา่ การชนคือ อะไร และมกี ี่แบบ” แล้วให้นักเรยี นช่วยกนั ตอบคำถามอย่างอิสระโดยไมม่ กี ารเฉลยวา่ ถูกหรือผิด (หมายเหต:ุ ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) 5. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า ในเรื่องของการชนหัวข้อท่ีจะได้ศึกษากัน ได้แก่ การชนในหน่ึงมิติ กฎ การอนุรักษ์โมเมนตัม การชนในสองมิติ และการระเบดิ ขัน้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นกั เรียนศึกษาความหมายของการชน และการชนในหนง่ึ มติ ิ จากหนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 63 2. ครูชักชวนพูดคุยซักถามนักเรียน เพ่ือให้นักเรียนได้อภิปรายผลการศึกษา เป็นการตรวจสอบความ เขา้ ใจในเบื้องต้น 3. ครูให้นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเติมจากสื่อดิจิทัล โดยนำสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วเปิดแอปพลิเคชัน ไลน์ (Line) จากนั้นนำไปสแกน QR Code เร่ือง การชนในหน่ึงมิติ จากหนังสือเรียน รายวิชา เพ่ิมเตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 63 เพอื่ เปน็ การให้นกั เรยี นได้ศึกษาเรียนรดู้ ้วยตนเอง ช่วั โมงท่ี 2 ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) (ต่อ) 4. ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรื่อง การชนในหนึ่งมิติ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 63-65 แลว้ ใหเ้ ขยี นสรุปตามความเขา้ ใจของตนเองลงในสมดุ ประจำตวั 5. ครสู ุม่ เรียกนกั เรียนออกมาหน้าชั้นเรยี น แล้วถามคำถามเกี่ยวกบั การชนในหน่ึงมติ ิ เช่น 1) การชนในหนึง่ มติ ิ คอื อะไร จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 204 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน (แนวตอบ: การชนกันของวัตถุที่มีแนวการเคลื่อนท่ีของวัตถุทั้งก่อนชนและหลังชนอยู่ในแนว เส้นตรงเดียวกัน หรืออาจกล่าววา่ การทว่ี ตั ถุชนกนั โดยทจ่ี ุดศูนยก์ ลางมวลของวัตถุทเ่ี คลอ่ื นทีเ่ ข้า ชนผ่านจดุ ศนู ย์กลางมวลของวตั ถุทีถ่ ูกชน) 2) การชนแบบยืดหยุน่ มลี กั ษณะอยา่ งไร (แนวตอบ: การชนแบบยืดหยุ่นคือการชนกันของวัตถุที่มีแรงภายนอกมีค่าเป็นศูนย์มากระทำ ไม่สญู เสยี พลงั งาน เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตมั และพลังงานจลน์) 3) การชนแบบไม่ยดื หยนุ่ มีลักษณะอยา่ งไร (แนวตอบ: การชนแบบไม่ยืดหยุ่น คือ การชนกันของวัตถุท่ีมแี รงภายนอกมากระทำโดยมีค่าเป็น มากกว่าแรงดลของวัตถุ สูญเสียพลังงานหรือพลังงานเปล่ียนรูป เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม แตไ่ ม่เปน็ ไปตามกฎการอนุรกั ษ์พลงั งานจลน์) 4) การชนแบบไมย่ ดื หยุ่นอยา่ งสมบูรณ์มีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ: การชนแบบไม่ยืดหยุ่นอย่างสมบูรณ์ คือ การชนกันของวัตถุที่มีการสูญเสียพลังงาน จลน์ไปมากท่ีสุด ภายหลังการชนวัตถุจะเคลื่อนที่ติดกันไป เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม แตไ่ มเ่ ปน็ ไปตามกฎการอนรุ ักษ์พลังงานจลน์) 6. ครูร่วมสรุปและยกตัวอย่างเก่ียวกับ เร่ือง การชนในหน่ึงมิติ รวมถึงการแบ่งการชนกันของวัตถุได้ เปน็ 2 ประเภท ตามลักษณะถา่ ยโอนพลังงานจลน์ ดังนี้ 1) การชนแบบยดื หยนุ่ 2) การชนแบบไม่ยดื หยุ่น 7. ครูเนน้ ถึงการคำนวณหาพลังงานจลน์ท่ีสญู เสียไปจากการชน ตามสมการ จากหนังสอื เรียน หน้า 65 8. ครเู ปดิ PowerPoint เร่อื ง การชนแบบยดื หยุ่น และการชนแบบไมย่ ืดหยุ่น ให้นกั เรียนดคู วบคไู่ ปกับ การสรุปเนอ้ื หาจากหนังสอื เรียน ชว่ั โมงท่ี 3 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) (ต่อ) 8. ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน และให้นักเรียนศึกษาวิธีการทำกิจกรรมการชนกันของวัตถุ ในแนวเสน้ ตรง จากหนงั สือเรียน รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 66-67 9. ครใู ห้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมรับอุปกรณ์กลับไปท่ีกลุ่มตนเอง แล้วให้นักเรียนลงมือทำกิจกรรมตาม ขนั้ ตอน แล้วบนั ทกึ ผลการทำกิจกรรมลงในแบบบันทึกกิจกรรม เรอ่ื ง กิจกรรมการชนกันของวัตถุใน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 205 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน แนวเส้นตรง จากใบงานท่ี 6.5 เร่ือง กิจกรรมการชนกันของวัตถใุ นแนวเส้นตรง โดยครสู ังเกตการณ์ และคอยใหค้ ำปรกึ ษา (หมายเหตุ: ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ) 10. ครูเนน้ ยำ้ ให้นักเรยี น ตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรมที่ หลงั จากการทำกิจกรรม ในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 1) หลังการชนของรถทดลองในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 การเคล่ือนท่ีของรถทดลองทั้งสองเป็น อย่างไร (แนวตอบ: ในตอนที่ 1 เมื่อรถทดลองคันที่ 2 เข้าชนกับรถทดลองคันที่ 1 รถทดลองคันที่ 2 จะหยุดนิ่ง ส่วนรถทดลองคันที่ 1 จะเคล่ือนที่ในแนวเส้นตรงเดียวกับแนวการเคล่ือนท่ีของรถ ทดลองคันที่ 2 ด้วยความเร็วเท่ากับความเรว็ ของรถทดลองคันท่ี 2 ส่วนตอนที่ 2 รถทดลองคนั ท่ี 2 ที่ว่ิงเข้าชนจะเคล่ือนที่ติดกันไปกับรถทดลองคันที่ 1 ท่ีถูกชนไปในแนวเส้นตรงเดียวกับรถ ทดลองคนั ทเี่ ข้าชน โดยมีความเรว็ ลดลง) 2) เมื่อเพม่ิ มวลของรถทดลองคันท่ี 2 ท้ัง 2 กรณี การเคล่ือนที่ของรถทดลองเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ: ในกรณีการชนแบบยดื หยุ่นเมอ่ื รถทดลองมมี วลเพิ่มข้ึน ทำให้เมื่อออกแรงผลักท่ีเทา่ กัน รถทดลองจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วก่อนการชนท่ีน้อยลง แต่ในทางกลับกันเมื่อรถทดลองมีมวล เพิม่ ขนึ้ ความเรว็ หลงั การชนกจ็ ะมากขนึ้ ตามไปด้วยในทุกกรณี) 3) ผลรวมของโมเมนตัมและพลังงานจลนก์ ่อนชนและหลงั ชนในทัง้ 2 กรณีมีคา่ อย่างไร (แนวตอบ: ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตัมหลังการชนมีค่าเท่ากันใน ทกุ กรณี และผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและผลรวมของพลังงานจลน์หลังการชน กรณี การชนแบบยดื หยุน่ จะมีค่าเท่ากนั ส่วนกรณีการชนแบบไมย่ ดื หยุ่น ผลรวมของพลังงานจลน์กอ่ น การชนจะมีค่ามากกว่าผลรวมของพลงั งานจลน์หลงั การชน) ชั่วโมงท่ี 4 ขั้นสอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. หลังการทำกิจกรรมครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่ม ออกมาอภิปรายถึงผลการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน เพ่อื เป็นการแลกเปลยี่ นความรู้ท่ไี ดจ้ ากการทำกจิ กรรม 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันลงขอ้ สรุปผลการทำกจิ กรรม การชนกันของวัตถุในแนวเส้นตรง 3. ครแู นะนำใหค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ ถึงผลจากการทำกจิ กรรมว่า ในกิจกรรมทัง้ 2 ตอน ผลรวมของโมเมนตัม ก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตมั หลังการชน อาจมีค่าไม่เท่ากันแต่ใกล้เคียงกัน อาจมีสาเหตุมา จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 206 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน จากการเลือกช่วงที่จะหาความเร็วก่อนการชนและหลังการชนผิดพลาดไป จากกิจกรรมจะหา ความเร็วตรงจุดที่เกิดการชนโดยตรงไม่ได้ จะต้องหาความเร็วเฉล่ียในช่วงเวลาส้ัน ๆ ทั้งก่อนและ หลังการชนแทน จึงจะได้ว่าความเร็วเฉลี่ยที่หาได้มีค่าเท่ากับความเร็วตรงจุดท่ีเกิดการชน และ สำหรับกิจกรรมตอนท่ี 1 น้ันผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและหลังการชนอาจไม่เท่ากัน สาเหตุ คือ ความเร็วที่วัดได้ท้ังก่อนและหลังการชนผิดพลาดไป ซึ่งเกิดจากการเลือกช่วงจุดที่ใช้วัด ความเร็วไมถ่ ูกต้อง และผลเกิดจากแรงเสยี ดทานระหวา่ งล้อรถทดลองกับพนื้ ด้วย 4. หลังจากลงข้อสรุปผลการทำกิจกรรมแล้วให้นักเรียนรวบรวมใบงานท่ี 6 เร่ือง กิจกรรมการชนกัน ของวตั ถุในแนวเส้นตรง สง่ คนื ครู 5. ครูให้นักเรียนดูภาพ อุปกรณ์สาธิตโมเมนตัม แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ แสดงความคิดเห็น หรือครูอาจสุ่มเรียกนักเรียนแล้วให้อธิบายหลักการ ทำงานในส่วนทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั โมเมนตมั และการชน 6. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับ อุปกรณ์สาธิตโมเมนตัม ว่า เม่ือดึงลูกหน่ึงซ่ึง อปุ กรณ์สาธิตโมเมนตัม อยู่ด้านริมสุดข้ึน แล้วปล่อยให้เคลื่อนที่เข้าชนลูกอื่น ๆ พบว่า เฉพาะลูก สุดท้ายที่อยดู่ ้านตรงขา้ มจะดีดตัวออก เช่น ถ้าดึงขึ้น 2 ลูก เม่ือเข้าชนก็จะดีดออก 2 ลกู จึงกล่าวได้ ว่า ในการชนของลูกกลมท่ีมีมวลเท่ากันทุกลูก เป็นการชนแบบยืดหยุ่น หลังการชนลูกที่เข้าชนจะ ถ่ายโอนโมเมนตัมท้ังหมดให้กับลูกที่ถูกชน ลูกที่เข้าชนจะหยุดน่ิง ลูกที่ถูกชนจะถ่ายโอนโมเมนตัม ท้ังหมดให้กับลูกทอ่ี ยู่ถดั ไป จนกระทัง่ ถึงลกู สดุ ท้ายจงึ กระเด็นออกไป ช่วั โมงท่ี 5 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูใหน้ ักเรียนจบั ค่กู ับเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ แล้วเปา่ ยงิ้ ฉบุ กัน จากน้ันครใู ห้นักเรยี นแยกเป็นสองกลุ่ม คือ กลมุ่ ทีช่ นะ และกลมุ่ ทีแ่ พ้ 2. ครูให้สมาชิกกลุ่มท่ีชนะนับเลข 1-4 และสมาชิกกลุ่มที่แพ้นับเลข 5-8 จากนั้นให้นักเรียนที่นับเลข เดยี วกนั แยกออกไปอยูก่ ลุ่มเดยี วกัน 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันศึกษา เรื่อง กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม จากหนังสือเรียน รายวิชา เพิ่มเตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 68-69 4. นกั เรยี นรว่ มกันพูดคุยสรปุ ผลการศึกษาภายในกล่มุ 5. ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาหน้าช้ันเรียน เพื่ออภิปรายผลการศึกษา โดยครูและนักเรียนกลุ่ม อน่ื ๆ รว่ มกนั ถามคำถามทส่ี งสัย เชน่ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 207 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน 1) กฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตมั คอื อะไร (แนวตอบ: กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม (law of conservation of momentum) คือ วัตถุจะมี โมเมนตัมคงที่ทั้งขนาดและทิศทางตลอดการเคลื่อนท่ี หรือถ้าไม่มีแรงภายนอกกระทำต่อระบบ แล้ว โมเมนตัมของระบบจะมีค่าคงตัว ซึ่งหมายความว่า ผลรวมโมเมนตัมก่อนการชนของระบบ เทา่ กับผลรวมโมเมนตัมหลังการชนของระบบ) 2) สมการทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัมคือสมการใด (แนวตอบ: ������������������ + ������������������ = ������������������ + )������������������ ชั่วโมงท่ี 6 ข้นั สอน สำรวจค้นหา (Explore) (ต่อ) 6. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง การชนในหนึ่งมิติ และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม เพ่ิมเติมจากอินเทอร์เน็ต เช่น ศกึ ษาเพิม่ เติมจาก YouTube (https://www.youtube.com/watch?v=aQSmi0jbWXU) 7. ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนสรุปความรู้หลังจากการศึกษาด้วยตนเอง โดยนักเรียนสามารถ สร้างสรรค์รูปแบบการนำเสนอไดด้ ้วยตนเอง ลงในกระดาษ A4 พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม 8. ครูกำหนดใหน้ ักเรียนรวบรวมผลงานทค่ี รมู อบหมายไป สง่ คืนครูทา้ ยชั่วโมง อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูเน้นย้ำกับนักเรียนเกี่ยวกับกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม โดยอธิบายความรู้เพ่ิมเติมในกรอบ Physics Focus จากหนังสอื เรียน รายวชิ าเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 69 2. ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษาตัวอย่างที่ 6.12 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 70 ไปพร้อม ๆ กัน โดยครูจะอธิบายการแก้โจทย์ปัญหาและสังเกตการณ์ขณะท่ีนักเรียนแสดง วธิ ีการคำนวณหาผลลัพธ์ 3. ครูอธิบายลงข้อสรุปรว่ มกบั นักเรียน โดยครูเปิด PowerPoint เร่ือง กฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตมั ควบคู่ ไปกบั การสรุปเน้ือหาจากหนังสอื เรียน 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 4.1 เรื่อง การชน จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วย การเรยี นรูท้ ่ี 6 เปน็ การบ้าน แลว้ นำมาสง่ ครูตน้ ชว่ั โมงถัดไป 5. ครูให้นกั เรียนรวบรวมผลงานการสรุปความรู้ลงในกระดาษ A4 ส่งครู เพือ่ ครจู ะนำกลบั ไปตรวจและ ให้คะแนนเปน็ รายบุคคล 6. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit Questions 6 เรื่อง กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม จาก หนงั สือเรียน รายวชิ าเพมิ่ เติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 86-91 ลงในสมุดประจำตวั เป็นการบ้าน จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 208 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน ช่ัวโมงที่ 7 ขัน้ สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนนำแบบฝึกหัดที่ครูมอบหมายให้เป็นการบ้านมาส่ง โดยครูจะตรวจทีละคน เพ่ือ ตรวจสอบความรบั ผิดชอบของนักเรียนแต่ละคน 2. ครูชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับ เรื่อง การชนในหนึ่งมิติ และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม เพ่ือเป็นการ ทบทวนความรูเ้ พิม่ เติมกอ่ นที่จะศึกษาในหวั ข้อนตี้ อ่ ไป 3. ครูให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาตัวอย่างที่ 6.13-6.14 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 71-72 ด้วยตนเอง แล้วเขียนบันทึกแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์จากตัวอย่างลงใน สมดุ ประจำตวั 4. ครูสุ่มนักเรียนถามถึงข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหารวมถึงการแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ โดยสุ่ม ถามนกั เรียนหลาย ๆ คน ว่าใครมวี ธิ กี ารทีแ่ ตกตา่ งกันออกไป หรือได้ผลลัพธท์ ไี่ มเ่ หมอื นกนั บ้าง 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอธิบายถึงวิธีการแก้โจทย์ปัญหาตัวอย่างที่ 6.13-6.14 โดยครูแสดงวิธีการ คำนวณลงบนกระดานหนา้ ชน้ั เรียน แลว้ ให้นกั เรยี นตรวจสอบสิ่งทต่ี นเองไดท้ ำลงไปว่าถกู ต้องหรือไม่ 6. ครูให้นักเรียนจบั คู่กับเพ่ือนที่นั่งข้าง ๆ แล้วช่วยกันศึกษาตัวอยา่ งท่ี 6.15 จากหนังสือเรียน รายวิชา เพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 73 โดยจดบันทึกและแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ลงในสมุด ประจำตัว 7. ครูสุ่มนักเรียนออกมาหน้าชั้นเรียน 3 คู่ เพ่ือแสดงวิธีกาคำนวณหาผลลัพธ์จากตัวอย่างท่ีได้ศึกษา มาแล้ว โดยครคู อยสงั เกตการณ์ และอธิบายเม่อื นกั เรียนเกิดปญั หา 8. ครูให้นักเรียนรวบรวมสมุดประจำตัวท่ีได้มีการจดบันทึกและแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์จาก การศึกษาตวั อย่าง แลว้ ให้ตวั แทนนักเรยี นถือไปส่งทโ่ี ตะ๊ ในหอ้ งพกั ครู อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูพูดคยุ กับนกั เรียนเกย่ี วกับเนอื้ หาที่ได้ศึกษามาแลว้ เพอ่ื เปน็ การอธบิ ายความร้เู พ่ิมเติม 2. ครมู อบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit Questions 6 เร่อื ง การชนในหน่ึงมิติ จากหนังสือเรียน รายวชิ าเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 86-91 ลงในสมดุ ประจำตัว เป็นการบ้าน ขน้ั สอน ช่ัวโมงท่ี 8 จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 209 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูพูดคุยกับนักเรียนทบทวนความรู้ เร่ือง การชนในหน่ึงมิติ เพ่ือเช่ือมโยงถึงเน้ือหาที่จะได้ศึกษากัน ต่อในชวั่ โมงน้ี พรอ้ มกบั ให้ตัวแทนนักเรียนไปเอาสมุดประจำตวั ท่ีหอ้ งพักครมู าแจกเพือ่ น ๆ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละคนศึกษา เรื่อง การชนในสองมิติ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 74 และใหบ้ นั ทกึ ผลการศกึ ษาลงในสมดุ ประจำตวั 3. ครูสุ่มนักเรียนออกมาหน้าช้ันเรียน อภิปรายผลการศึกษา เร่ือง การชนในสองมิติ โดยครู สงั เกตการณ์ และอธิบายในส่งิ ที่ถูกตอ้ ง 4. ครูถามคำถามกับนักเรียนเกี่ยวกับ เรื่อง การชนในสองมิติ เพ่ือทดสอบความรู้หลังจากศึกษาด้วย ตนเอง และฟังเพอ่ื นอภิปรายหนา้ ชั้นเรียน เชน่ 1) การชนในสองมติ คิ ืออะไร (แนวตอบ: การชนกันของวัตถุท่ีมีแนวการเคลื่อนที่ของวัตถุก่อนชนและหลังชนทำมุมต่อกัน กล่าวคือ การท่ีวัตถุชนกันโดยที่ศูนย์กลางมวลของวัตถุท่ีเคล่ือนท่ีเข้าชนไม่ผ่านศูนย์กลางมวล ของวัตถุท่ถี ูกชน) 2) การชนในสองมิตมิ ีเพียงการชนแบบยดื หย่นุ คำกลา่ วน้ีถกู ต้องหรอื ไม่ อย่างไร (แนวตอบ: ไม่ถกู ตอ้ ง เพราะการชนในสองมติ ิมที ้ังการชนแบบยดื หยุ่นและการชนแบบไม่ยืดหยนุ่ ) 3) จงยกตัวอยา่ ง การชนในสองมติ ิ (แนวตอบ: รถยนต์ชนกนั ที่ทางแยก ลกู บิลเลียดชนกัน เป็นต้น) อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูอธิบายและลงข้อสรุปร่วมกับนักเรียนเกี่ยวกับการชนในสองมิติ โดยครูให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติม จากสื่อดิจทิ ัลควบคูไ่ ปพร้อม ๆ กัน โดยนำสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตขึ้นมา แลว้ เปิดแอปพลิเคชันไลน์ (Line) จากนั้นนำไปสแกน QR Code เร่ือง การชนในสองมิติ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 74 2. ครูอธิบายเกี่ยวกับการชนในสองมิติว่า การชนในสองมิติ คือ การชนกนั ของวัตถทุ ีม่ ีแนวการเคลื่อนท่ีของวัตถกุ อ่ นและหลงั ชน ทำมุมต่อกัน กล่าวคือ การท่ีวัตถุชนกันโดยท่ีศูนย์กลางมวลของ วัตถทุ ่ีเคลือ่ นท่ีเข้าชนไม่ผ่านศูนย์กลางมวลของวัตถุที่ถูกชน เช่น รถยนตช์ นกนั ทท่ี างแยก ดงั ภาพ และลกู บิลเลียดชนกนั เปน็ ตน้ 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 4.2 เร่ือง การชน จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วย การเรยี นรูท้ ี่ 6 เปน็ การบา้ น แล้วนำมาสง่ ครชู ่วั โมงถัดไป จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 210 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน ชวั่ โมงที่ 9 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครแู บง่ กลมุ่ ใหน้ ักเรียนตามเลขที่ กลมุ่ ละ 4-5 คน เชน่ นกั เรียนเลขที่ 1-5 อยูก่ ลุ่มเดยี วกัน เปน็ ต้น 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันศึกษาตัวอย่างที่ 6.16-6.19 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 75-78 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์จากตัวอย่างท่ีได้ศึกษา ลงในกระดาษ A4 แบบมีเส้น โดยเขียนด้วยตัวบรรจงและสวยงาม เพ่ือทำเป็นช้ินงานนำส่งครูเป็นคะแนนเก็บของ ตนเอง 4. ครเู กบ็ รวบรวมชิ้นงานของแตล่ ะกลมุ่ 5. ครูสุ่มนักเรียนตัวแทนบางกลุ่มออกมาแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์จากตัวอย่างที่ช่วยกันศึกษา ภายในกลุม่ บนกระดานหนา้ ชั้นเรียน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูอธิบายและรว่ มลงข้อสรุปเกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหาจากตัวอย่างที่นักเรียนได้ช่วยกนั ศึกษา เพ่ือ สร้างความเขา้ ใจของนกั เรียนให้ไปในแนวทางเดยี วกัน 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนศึกษาใบงานท่ี 6.6 และลงมือทำเป็นการบ้าน แล้วนำมาส่งครูในชั่วโมง ถดั ไป 3. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด Unit Questions 6 เรอ่ื ง การชนในสองมิติ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิม่ เตมิ ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 86-91 ลงในสมุดประจำตัว เป็นการบา้ น ช่ัวโมงที่ 10 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูชวนนักเรยี นพูดคุยเกี่ยวกับการชน ด้วยประเด็นท่ีว่า การระเบิดเก่ียวข้องกับการชนอย่างไร โดย เว้นระยะเวลาให้นักเรียนคิด แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นปากเปล่า โดยไม่มีการ เฉลยว่าถูกหรือผิด เพ่ือเป็นการเช่ือมโยงถึงเน้ือหา เร่ือง การระเบิดหรือการดีดตัว ที่จะได้ศึกษาใน ลำดับถดั ไป 2. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษา เรอ่ื ง การระเบดิ จากหนังสือเรียน รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 79 จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 211 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 โมเมนตัมและการชน 3. ครูใหน้ กั เรียนจดบนั ทึกความรทู้ ไ่ี ดศ้ ึกษาดว้ ยตนเอง ลงในสมุดประจำตัว 4. ครูเน้นย้ำกบั นักเรียนให้ศึกษา คำถามท้าทายการคดิ ข้ันสูง หรือ H.O.T.S. ท่ีว่า ถ้านักเรียนเพิม่ ความ ดันภายในลูกโป่ง จะส่งผลต่อโมเมนตัมของลูกโป่งอย่างไร พร้อมทั้งตอบคำถามน้ันลงไปในสมุด ประจำตัวดว้ ย (แนวตอบ: เมอ่ื ลกู โป่งมีความดนั ภายในมากข้ึน เม่ือปลอ่ ยให้ความดันหรือลมที่อยูภ่ ายในออกมาจาก ช่องที่เป่าลมเข้าไป ลูกโป่งจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางท่ีลมออกมา คล้ายกับการ เคล่อื นที่ของจรวด ดังน้ัน เม่ือความดันภายในมาก ลูกโป่งกจ็ ะเคล่อื นท่ีได้เร็วข้ึน กล่าวคือ ความเร็ว ในการเคลอื่ นท่ีมาก ส่งผลให้โมเมนตัมมาก) 5. ครูสุ่มนกั เรียนออกมาอภปิ รายผลการศึกษาหนา้ ชน้ั เรียน รวมถึงการตอบคำถามทา้ ทายการคิดขนั้ สูง ของแตล่ ะคน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง การระเบิด ให้นักเรียนดูพร้อมกับการอธิบายสรุปนิยามและหลักการท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั เรือ่ ง การระเบดิ 2. ครยู ้ำถึงการเคล่ือนท่ีของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ในกรอบ Physics Focus เป็นการยกตัวอย่างการ เคล่ือนท่ีของหมึก โดยหมึกจะใช้หลักการเช่นเดียวกับการดีดตัวหรือการระเบิดในวิชาฟิสิกส์ที่ นกั เรยี นกำลงั ศึกษาอยู่ ช่ัวโมงท่ี 11 ขนั้ สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครใู ห้นกั เรียนศึกษาตัวอย่างที่ 6.20-6.23 จากหนงั สือเรียน รายวชิ าเพม่ิ เติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 80-81 โดยครสู ังเกตการณ์ และคอยอธิบายเม่อื นักเรยี นสงสัยหรือเกดิ ปัญหา 2. ครูกำหนดใหน้ กั เรยี นแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ลงในสมุดประจำตัว 3. ครูสุ่มนักเรียน 3 คน ให้ออกมาแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์จากตัวอย่างที่ 6.20 ตามวิธีที่ตนเอง ได้ทำมาบนกระดานหน้าชั้นเรียน จากนั้นครูสุ่มอีก 9 คน โดยแสดงวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ ตัวอยา่ งละ 3 คน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูอธบิ ายวิธีการและข้ันตอนการแกโ้ จทย์ปัญหาแต่ละข้อ และรว่ มกันทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กับ นกั เรียน เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจในแนวทางเดยี วกัน หากคนไหนยงั พลาดหรือหลดุ ไปบางประเดน็ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 212 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 2. ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันสืบคน้ และศกึ ษาสถานการณ์หรือการเคลื่อนท่ตี ่าง ๆ ที่เกย่ี วข้องกับการระเบิด แลว้ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าช้ันเรยี น 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit Questions 6 เรื่อง การระเบิด จากหนังสือเรียน รายวชิ าเพ่มิ เติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 86-91 ลงในสมดุ ประจำตัว ชว่ั โมงที่ 12 ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนแบบคละความสามารถ (เก่ง-ค่อนข้างเก่ง-ปานกลาง-อ่อน) อยู่ในกลุ่มเดียวกัน กล่มุ ละ 5-6 คน โดยครูเปน็ ผ้เู ลือกนกั เรยี นเข้ากลมุ่ 2. ครูให้นักเรียนศึกษาวิธีการทำกิจกรรม การดีดตัวแยกจากกันของวัตถุในแนวเส้นตรง จากหนังสือเรยี น รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 82-83 3. ครใู ห้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมรับอุปกรณ์กลับไปที่กลุ่มตนเอง แล้วให้นักเรียนลงมือทำกิจกรรมตาม ขั้นตอน แล้วบันทกึ ผลการทำกิจกรรมลงในแบบบันทึกกิจกรรม เรอื่ ง กิจกรรมการดีดตัวแยกจากกัน ของวัตถุในแนวเส้นตรง จากใบงานท่ี 6.6 เรื่อง กิจกรรมการดีดตัวแยกจากกันของวัตถุในแนว เส้นตรง โดยครจู ะสงั เกตการณ์ และคอยให้คำปรึกษา (หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 4. ครูเน้นย้ำให้นักเรียน ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท่ี หลังจากการทำกิจกรรม ในแบบบันทึกกิจกรรม จากใบงานท่ี 6.6 เร่ือง กิจกรรมการดีดตัวแยกจากกันของวตั ถใุ นแนวเสน้ ตรง 1) หลังตัดด้ายท่ีผูกติดระหว่างรถทดลองคันที่ 1 กับรถทดลองคันที่ 2 แล้ว การเคล่ือนที่ของรถ ทดลองทัง้ สองคันเป็นอยา่ งไร (แนวตอบ: หลงั ตัดด้ายแลว้ แผ่นเหล็กสปริงจะดีดตัวออก และถา่ ยโอนพลงั งานศกั ย์ยืดหยุ่นให้แก่ รถทดลองทั้งสองคัน พลังงานศักย์ยืดหยุ่นจะเปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงานจลน์ ทำให้รถทดลองท้ังสอง เคล่อื นทีแ่ ยกจากกัน) 2) หลังจากรถทดลองทั้งสองคันดีดตัวแยกออกจากกัน ผลรวมของโมเมนตัมและผลรวมของ พลงั งานจลน์ของรถทดลองทัง้ สองคนั เป็นอย่างไร (แนวตอบ: ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการดีดตัวเท่ากับผลรวมของโมเมนตัมหลังการดีดตัว โดยมี ค่าคงตัวเท่ากับศูนย์ ส่วนผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการดีดตัวจะเท่ากับศูนย์ แต่ผลรวมของ พลงั งานจลนห์ ลังการดีดตัวจะไมเ่ ท่ากับศนู ย์ เพราะรถทดลองทงั้ สองคันเคลื่อนท่ีแยกจากกนั ) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 213 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน ชั่วโมงท่ี 13 ขั้นสอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. หลังการทำกิจกรรมครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่ม ออกมาอภิปรายถึงผลการทำกิจกรรมหน้าช้ันเรียน เพือ่ เป็นการแลกเปลีย่ นความร้ทู ไี่ ด้จากการทำกจิ กรรม 2. ครูและนักเรียนร่วมกันลงข้อสรุปผลการทำกิจกรรม การดีดตัวแยกจากกันกันของวัตถุในแนวเส้นตรง ว่า การระเบิดหรือการดีดตัวของวัตถุด้วยพลังงานภายในระบบ โมเมนตัมของระบบมีค่าคงตัว แต่ พลังงานจลน์ของระบบมีคา่ ไมค่ งตวั 3. ครูแนะนำให้ความรู้เพ่ิมเติมถึงผลจากการทำกิจกรรมว่า ผลรวมของโมเมนตัมของรถทดลอง ภายหลังการชน อาจไม่เท่ากับศูนย์ มีสาเหตุมาจากการเลือกช่วงที่จะหาความเร็วก่อนการชนและ หลังการชนผิดพลาดไป จากกิจกรรมจะหาความเร็วตรงจุดที่เกิดการชนโดยตรงไม่ได้ จะต้องหา ความเร็วเฉล่ียในช่วงเวลาส้ัน ๆ ท้ังก่อนและหลังการชนแทน จึงจะได้ว่าความเร็วเฉล่ียที่หาได้มีค่า เทา่ กับความเรว็ ตรงจุดท่เี กดิ การชน 4. ครูยกตัวอย่างปรากฏการณ์ท่ีคล้ายกับกิจกรรม ได้แก่ การเคลื่อนท่ีของปืนหลังการยิง การเคล่ือนท่ี ของลูกโปง่ ขณะปลอ่ ยอากาศออก การเคล่อื นที่ของหมกึ การเคลอ่ื นท่ีของจรวด โดยครูและนักเรียน ร่วมกนั อภิปรายปรากฏการณต์ ่าง ๆ รวมทงั้ ยกตัวอยา่ งการระเบิด เช่น การระเบิดของพลุ เป็นต้น 5. หลังจากลงข้อสรุปผลการทำกิจกรรมแล้วให้นักเรียนรวบรวมใบงานท่ี 6.6 เรื่อง กิจกรรมการดีดตัว แยกจากกนั ของวตั ถใุ นแนวเสน้ ตรง ส่งคืนครู 6. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นตอบคำถามท้าทายการคดิ ขน้ั สูง (H.O.T.S.) จากแบบฝึกหดั ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 ชั่วโมงท่ี 14 ขน้ั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูเปดิ PowerPoint เรื่อง การชน ให้นักเรยี นดูเพ่ือเป็นการตรวจสอบความเขา้ ใจอกี ครั้ง 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหา เรื่อง การชน ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจ และครูให้ความรู้ เพิม่ เตมิ ในสว่ นน้นั จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 214 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit Question 6 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 86-91 เร่ือง การชน ลงในสมุดประจำตัว 4. ครูใหน้ ักเรียนทำสรุปผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง การชน ลงในกระดาษ A4 5. ครูอธิบายสรุปสาระสำคัญ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 84-85 เร่ือง โมเมนตัมและการชน ให้นักเรยี นฟงั อกี คร้ัง 6. ครูให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง โดยทำ Self Check จากหนังสือเรียน รายวิชา เพม่ิ เติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 85 ลงในสมดุ ประจำตัว 7. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน เพ่อื ตรวจสอบความรขู้ องนกั เรียนเป็นรายบุคคล ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเข้าใจหลังเรยี นของนักเรียน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 6.5 เร่ือง กจิ กรรมการชนกันของวตั ถุในแนวเส้นตรง 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 6.6 เรื่อง กิจกรรมการดดี ตวั แยกจากกนั ของวัตถุในแนวเส้นตรง 4. ครตู รวจการทำแบบฝึกหดั จาก Unit question 6 เรื่อง การชน ในสมดุ ประจำตวั 5. ครูตรวจสอบแบบฝึกหัดท่ี 4.1-4.2 จากแบบฝึกหดั ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 6. ครูตรวจสอบผลการทำคำถามท้าทายการคิดขั้นสงู (H.O.T.S.) จากแบบฝกึ หดั ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 7. ครูตรวจสอบผลการตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง Self Check จากหนงั สือเรยี น รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 84 ในสมดุ ประจำตัว 8. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล และการ ทำงานกลุ่ม 9. ครูวัดและประเมินผลจากชิ้นงานการสรุปเน้ือหา เรื่อง การชน ที่นักเรียนได้สร้างข้ึนจากข้ันขยาย ความเข้าใจเป็นรายบุคคล 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 การประเมนิ หลังเรียน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรยี น ประเมินตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบหลัง หลงั เรยี น เรยี น หนว่ ยการ เรยี นรทู้ ี่ 6 เร่อื ง โมเมนตัมและการชน 7.2 การประเมนิ ระหว่าง การจดั กิจกรรม จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 215 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตัมและการชน รายการวัด วธิ ีวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1) การชน - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจใบงานที่ 6.5 - ใบงานที่ 6.5 เรอื่ ง - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน 3) พฤติกรรมการ เรื่อง กิจกรรมการชนกัน กจิ กรรมการชนกนั ของ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ทำงานรายบุคคล ของวัตถุในแนวเสน้ ตรง วัตถุในแนว ระดับคุณภาพ 2 4) พฤติกรรมการ ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจใบงานที่ 6.6 - ใบงานท่ี 6.6 เร่ือง ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลกั ษณะ เร่อื ง กจิ กรรมการดีด กิจกรรมการดีดตวั แยก ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ อนั พงึ ประสงค์ ตัวแยกจากกนั ของวัตถุ จากกันของวตั ถุในแนว ในแนวเส้นตรง เส้นตรง - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานทนี่ ำเสนอ ผลงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั คณุ ลกั ษณะ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ 8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 2) หนงั สือเรียน รายวชิ าฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน 3) PowerPoint เรือ่ ง โมเมนตัมและการชน 4) แบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 โมเมนตัมและการชน 5) ใบงานท่ี 6.5 เร่ือง กิจกรรมการชนกันของวัตถุในแนวเส้นตรง 6) ใบงานที่ 6.6 เร่ือง กิจกรรมการดีดตัวแยกจากกันของวัตถุในแนวเส้นตรง 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องเรียน 2) หอ้ งสมดุ 3) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ 4) เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=aQSmi0jbWXU จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 216 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 โมเมนตมั และการชน ใบงานท่ี 6.5 เร่ือง กจิ กรรมการชนกนั ของวัตถใุ นแนวเส้นตรง คำชีแ้ จง : บนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม การชนกนั ของวตั ถุในแนวเส้นตรง จากหนงั สือเรียน รายวิชาเพม่ิ เติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 65-66 ลงในตาราง พร้อมท้งั อภิปรายท้ายกจิ กรรม และตอบคำถาม สมาชกิ กลุม่ 12 34 56 ตอนที่ 1 จุดประสงค์การทดลอง ก่อนการชน รถทดลอง มวล m ความเรว็ โมเมนตัม พลังงานจลน์ ������������ ������������������ (kg) คร้ังที่ คันที่ ������ = ∆������ ������ = ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ������������ ������ ∆������ (J) (kg m/s) (m/s) 1 1 2 2 1 2 3 1 2 ก่อนการชน ครง้ั ท่ี รถทดลอง มวล m ความเร็ว โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ท่ี (kg) ������ = ∆������ ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ∆������ (kg m/s) ������ (J) (m/s) 1 1 2 2 1 2 3 1 2 จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 217 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน ตอนท่ี 2 จดุ ประสงค์การทดลอง ก่อนการชน รถทดลอง มวล m ความเร็ว โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ (kg) ครง้ั ที่ คันท่ี ������ = ∆������ ������ = ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ������������ ������ ∆������ (J) (kg m/s) (m/s) 1 1 2 2 1 2 3 1 2 ก่อนการชน ครงั้ ท่ี รถทดลอง มวล m ความเร็ว โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ที่ (kg) ������ = ∆������ ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ∆������ (kg m/s) ������ (J) (m/s) 1 1 2 2 1 2 3 1 2 สรปุ และอภิปรายท้ายกจิ กรรม จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 218 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. หลังการชนของรถทดลองในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 การเคลื่อนทีข่ องรถทดลองทั้งสองเป็นอยา่ งไร 2. เม่ือเพิ่มมวลของรถทดลองคนั ที่ 2 ท้งั 2 กรณี การเคลื่อนที่ของรถทดลองเปล่ยี นแปลงไปหรือไม่ อย่างไร 3. ผลรวมของโมเมนตัมและพลังงานจลนก์ อ่ นการชนและหลังการชนในทงั้ 2 กรณีมีค่าอย่างไร จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 219 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน ใบงานท่ี 6.5 เฉลย เรือ่ ง กิจกรรมการชนกนั ของวตั ถุในแนวเสน้ ตรง คำช้ีแจง : บันทึกผลการทำกจิ กรรม การชนกนั ของวตั ถุในแนวเสน้ ตรง จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 65-66 ลงในตาราง พรอ้ มทั้งอภปิ รายทา้ ยกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชิกกลมุ่ 12 34 56 ตอนที่ 1 จดุ ประสงค์การทดลอง ศกึ ษาผลรวมของโมเมนตัมและผลรวมของพลงั งานจลนข์ องรถทดลอง จากการชนรถท่ีตดิ แผ่นเหล็กสปรงิ ซงึ่ เปน็ แบบยดื หยุน่ ก่อนการชน รถทดลอง มวล m ความเร็ว โมเมนตมั พลังงานจลน์ ������������ ������������������ (kg) ครงั้ ที่ คนั ที่ ������ = ∆������ ������ = ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) 0.50 ������������ ������ 0.50 ∆������ (J) 0.31 0.10 0.50 (kg m/s) 0.50 0.13 1.00 (m/s) 0.92 0.28 1 1 0.50 00 2 1.50 0 0.62 0.62 0.31 0 2 1 0.50 00 2 0 0.61 0.50 0.50 3 1 00 2 0.61 0.92 กอ่ นการชน คร้งั ท่ี รถทดลอง มวล m ความเร็ว โมเมนตัม พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ที่ (kg) ������ = ∆������ ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) 0.50 0.50 ∆������ (kg m/s) ������ 0.32 0.10 0.50 (J) 0.47 0.09 1.00 (m/s) 1.10 0.37 1 1 0.50 0.63 0.32 0.10 2 1.50 0 0.54 00 0.20 2 1 1.00 0.27 0.07 2 0.40 0.20 0.02 3 1 0.50 0.25 2 0.60 0.12 จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 220 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตมั และการชน ตอนที่ 2 จดุ ประสงคก์ ารทดลอง ศึกษาผลรวมของโมเมนตัมและผลรวมของพลังงานจลน์ของรถทดลอง จากการชนรถที่ตดิ แผน่ เหลก็ สปริงซึ่งเป็นแบบไม่ยดื หยุ่น ก่อนการชน คร้ังท่ี รถทดลอง มวล m ความเรว็ โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ที่ (kg) ������ = ∆������ ������ = ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) 0.50 0.50 ∆������ ������������ ������ 0.30 0.90 0.50 (J) 0.50 0.13 1.00 (m/s) (kg m/s) 0.72 0.17 1 1 0.50 0 2 1.50 0 0 0.60 0 0.30 0.09 0.50 2 1 0 00 2 0.48 0.50 0.13 3 1 00 2 0.72 0.17 ก่อนการชน ครั้งท่ี รถทดลอง มวล m ความเรว็ โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ท่ี (kg) ������ = ∆������ ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ∆������ (kg m/s) ������ 0.30 0.04 (J) 0.53 0.09 (m/s) 0.15 0.80 0.16 1 1 0.50 0.30 0.02 2 0.50 0.30 0.35 0.15 0.02 0.35 2 1 0.50 0.40 0.18 0.03 2 1.00 0.40 0.35 0.06 3 1 0.50 0.20 0.04 2 1.50 0.60 0.12 สรุปและอภปิ รายทา้ ยกิจกรรม จากการทำกจิ กรรมตอนที่ 1 จะได้ว่า เม่ือรถทดลองคันที่ 2 เข้าชนกับรถทดลองคันที่ 1 รถทดลอง คันท่ี 2 จะหยุดนิ่ง ส่วนรถทดลองคันท่ี 1 จะเคล่ือนที่ในแนวเส้นตรงเดียวกับแนวการเคล่ือนท่ีของรถ ทดลองคันที่ 2 ด้วยความเร็วเท่ากับความเร็วของรถทดลองคันที่ 2 เม่ือเพ่ิมมวลให้กับรถทดลองคันท่ี 2 รถทดลองคันที่ 1 จะมีทิศทางการเคลื่อนท่ีไปในทิศเดียวกับรถทดลองคันท่ี 2 และมีความเร็วมากกว่ารถ ทดลองคันท่ี 2 จากการทดลองตอนที่ 2 จะได้ว่า รถทดลองทั้งสองคันจะเคล่ือนท่ีติดกันไปในทิศทางเดียวกับ การเคลือ่ นทีข่ องรถทดลองคันที่ 2 โดยมขี นาดและความเรว็ ลดลง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 221 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. หลงั การชนของรถทดลองในตอนท่ี 1 และตอนท่ี 2 การเคล่ือนทขี่ องรถทดลองทง้ั สองเป็นอย่างไร ในตอนท่ี 1 เม่ือรถทดลองคนั ที่ 2 เข้าชนกับรถทดลองคันท่ี 1 รถทดลองคันท่ี 2 จะหยุดนิง่ สว่ นรถ ทดลองคันที่ 1 จะเคลอื่ นท่ีในแนวเส้นตรงเดียวกับแนวการเคล่ือนท่ีของรถทดลองคันท่ี 2 ด้วยความเร็ว เท่ากับความเร็วของรถทดลองคันท่ี 2 ส่วนตอนท่ี 2 รถทดลองคนั ท่ี 2 ท่ีว่ิงเข้าชนจะเคลื่อนที่ติดกนั ไป กบั รถทดลองคนั ที่ 1 ทถ่ี ูกชนไปในแนวเส้นตรงเดยี วกับรถทดลองคันท่ีเข้าชน โดยมีความเร็วลดลง 2. เมื่อเพิ่มมวลของรถทดลองคันที่ 2 ท้งั 2 กรณี การเคล่ือนทีข่ องรถทดลองเปล่ียนแปลงไปหรือไม่ อย่างไร ในกรณีการชนแบบยืดหยุ่นเม่ือรถทดลองมีมวลเพ่ิมขึ้น ทำให้เมื่อออกแรงผลักที่เท่ากัน รถทดลอง จะเคลื่อนท่ีด้วยความเร็วก่อนการชนท่ีน้อยลง แต่ในทางกลับกันเมื่อรถทดลองมีมวลเพ่ิมข้ึนความเร็ว หลังการชนกจ็ ะมากขน้ึ ตามไปดว้ ยในทุกกรณี 3. ผลรวมของโมเมนตัมและพลงั งานจลนก์ อ่ นการชนและหลังการชนในทั้ง 2 กรณีมีค่าอยา่ งไร ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการชนและผลรวมของโมเมนตัมหลังการชนมีค่าเท่ากันในทุกกรณี และผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนและผลรวมของพลังงานจลน์หลังการชนกรณีการชนแบบ ยืดหยุ่น จะมีค่าเท่ากัน ส่วนกรณีการชนแบบไม่ยืดหยุ่น ผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการชนจะมีค่า มากกวา่ ผลรวมของพลงั งานจลนห์ ลังการชน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 222 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตมั และการชน ใบงานท่ี 6.6 เรอ่ื ง กจิ กรรมการดดี ตัวแยกจากกนั ของวตั ถุในแนวเส้นตรง คำชี้แจง : บันทึกผลการทำกิจกรรม การดีดตัวแยกจากกนั ของวัตถุในแนวเส้นตรง จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 82-83 ลงในตาราง พร้อมท้ังอภิปรายท้ายกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชกิ กลุ่ม 12 34 56 จดุ ประสงค์การทดลอง กอ่ นการดีดตัว ครัง้ ท่ี รถทดลอง มวล m ความเรว็ ������ = โมเมนตัม พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คันท่ี (kg) ∆������ (m/s) ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ∆������ ������ (kg m/s) (J) 1 1 2 หลังการดีดตัว ครง้ั ท่ี รถทดลอง มวล m ความเร็ว ������ = โมเมนตัม พลังงานจลน์ ������������ ������������������ คนั ท่ี (kg) ∆������ ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) ∆������ ������ (kg m/s) (J) (m/s) 1 1 2 สรุปและอภิปรายท้ายกิจกรรม จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 223 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 โมเมนตัมและการชน คำถามท้ายกิจกรรม 1. หลังตัดด้ายท่ีผูกติดระหว่างรถทดลองคันที่ 1 กับรถทดลองคันท่ี 2 แล้ว การเคล่ือนท่ีของรถทดลอง ทั้งสองคนั เปน็ อยา่ งไร 2. หลังจากรถทดลองท้ังสองคันดีดตัวแยกออกจากกนั ผลรวมของโมเมนตัมและผลรวมของพลงั งานจลน์ ของรถทดลองทงั้ สองคันเป็นอยา่ งไร จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 224 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 โมเมนตัมและการชน ใบงานท่ี 6.6 เฉลย เรอื่ ง กิจกรรมการดีดตัวแยกจากกนั ของวตั ถใุ นแนวเสน้ ตรง คำชแ้ี จง : บันทึกผลการทำกิจกรรม การดีดตัวแยกจากกนั ของวัตถุในแนวเส้นตรง จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 82-83 ลงในตาราง พร้อมท้ังอภิปรายท้ายกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชกิ กลมุ่ 12 34 56 จุดประสงคก์ ารทดลอง ศึกษาผลรวมของโมเมนตัมและผลรวมของพลังงานจลน์ของรถทดลองก่อนและ หลงั จากการดีดตัวแยกออกจากกนั ก่อนการดดี ตัว คร้ังท่ี รถทดลอง มวล m ความเร็ว ������ = โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ท่ี (kg) ∆������ (m/s) ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) 0.50 ������ 0.50 ∆������ (kg m/s) (J) 0 0 1 1 00 0 2 00 0 หลงั การดีดตัว ครั้งท่ี รถทดลอง มวล m ความเรว็ ������ = โมเมนตมั พลงั งานจลน์ ������������ ������������������ คนั ท่ี (kg) ∆������ ������ = ������������ ������������ = ������ ������������������ (kg m/s) (J) 0.50 ∆������ (kg m/s) ������ 0.50 (J) 0 0.18 (m/s) 1 1 -0.60 -0.30 0.09 2 +0.60 +0.30 0.09 สรปุ และอภิปรายท้ายกจิ กรรม จากการทำกิจกรรม ในช่วงท่ีใช้ด้ายผูกรถทดลองท้ังสองไว้ด้วยกันโดยมีแผ่นเหล็กสปริงอยู่กึ่งกลาง ระหว่างรถทดลองท้ังสอง โมเมนตัมของรถทดลองทั้งสองมีค่าเป็นศูนย์ รวมถึงพลังงานจลน์ของรถทดลองท้ัง สองมคี ่าเป็นศนู ยด์ ้วย เน่อื งจากรถทดลองทัง้ สองหยุดน่ิง หลังตัดด้ายที่ผูกรถทดลองทั้งสองออก แผ่นเหล็กสปริงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรถทดลองทั้งสองจะดีดตัว เกิดการถ่ายโอนพลังงานศักย์ยืดหยุ่นให้แก่รถทดลองทั้งสองคัน ซึ่งพลังงานศักย์ยืดหยุ่นจะเปล่ียนรูปไปเป็น จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 225 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 โมเมนตมั และการชน พลังงานจลน์ทำให้รถทดลองทั้งสองแยกออกจากกัน โดยผลรวมของโมเมนตัมของรถทดลองทั้งสองก่อนการ ดีดตัวและหลังการดีดตัวจะมีค่าเป็นศูนย์เท่ากัน แต่ผลรวมของพลังงานจลน์ของรถทดลองทั้งสองก่อนการดีด ตัวและหลังการดีดตัวมีเปลี่ยนแปลงไป โดยหลังการดีดตัวพลังงานจลน์ของรถทดลองมีค่าไม่เป็นศูนย์ เนือ่ งจากรถทดลองเกิดการเคลื่อนท่ี คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. หลังตดั ดา้ ยท่ผี กู ตดิ ระหวา่ งรถทดลองคันท่ี 1 กบั รถทดลองคันที่ 2 แล้ว การเคลื่อนท่ีของรถทดลองท้ังสอง คนั เปน็ อย่างไร หลังตัดด้ายแล้วแผ่นเหล็กสปริงจะดีดตัวออก และถ่ายโอนพลังงานศักย์ยืดหยุ่นให้แก่รถทดลองทั้ง สองคัน พลังงานศักย์ยืดหยุ่นจะเปลี่ยนรูปไปเป็นพลงั งานจลน์ ทำให้รถทดลองทั้งสองเคล่ือนท่ีแยกจากกัน 2. หลังจากรถทดลองทัง้ สองคันดดี ตัวแยกออกจากกนั ผลรวมของโมเมนตมั และผลรวมของพลงั งานจลนข์ อง รถทดลองท้งั สองคันเป็นอย่างไร ผลรวมของโมเมนตัมก่อนการดีดตัวจะเท่ากับผลรวมของโมเมนตัมหลังการดีดตัว โดยมีค่าคงตัว เทา่ กับศนู ย์ ส่วนผลรวมของพลังงานจลน์ก่อนการดีดตวั จะเท่ากับศนู ย์ แต่ผลรวมของพลังงานจลน์หลังการ ดีดตัวจะไมเ่ ทา่ กับศูนย์ เพราะรถทดลองท้ังสองมีการเคล่ือนทแ่ี ยกจากกนั จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผูช้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 226 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 โมเมนตมั และการชน 9. ความเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ................................. ( ................................ ) 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน ตำแหนง่ ....... ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นความสามารถทางฟสิ กิ ส์ ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ีปัญหาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 227 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 สภาพสมดุล หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 สภาพสมดุล เวลา 30 ช่ัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคล่อื นท่ีแนวตรง แรงและกฎการเคล่ือนที่ ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั การเคล่ือนที่แนวโคง้ รวมท้งั นำความรไู้ ปใช้ประโยชนไ์ ด้ 7. อธบิ ายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์และผลรวมของโมเมนตท์ ่มี ีผลต่อการหมนุ แรงคู่ควบและผลของ แรงคู่ควบที่มผี ลต่อสมดลุ ของวตั ถุ เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระเมื่อวัตถุอยู่ในสมดุลกล และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง รวมทัง้ ทดลองและอธบิ ายสมดลุ ของแรงสามแรงได้ 8. สังเกต และอธิบายสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุเม่ือแรงที่กระทำต่อวัตถุผ่านศูนยก์ ลางมวลของวตั ถุ และผลของศนู ย์ถว่ งท่มี ตี ่อเถียรภาพของวตั ถุได้ 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้เพ่มิ เติม 1) สมดุลกลเป็นสภาพที่วัตถรุ ักษาสภาพการเคล่ือนที่ให้คงเดิม คอื หยุดน่ิง หรือเคล่ือนท่ดี ้วยความเร็ว คงตัว หรือหมุนดว้ ยความเรว็ เชิงมมุ คงตวั 2) วัตถุจะสมดุลต่อการเลื่อนท่ีคือหยุดนิ่ง หรือเคล่ือนที่ด้วยความเร็วคงตัวเม่ือแรงลัพธ์ที่กระทำต่อ วตั ถุเปน็ ศนู ย์ เขยี นแทนไดด้ ้วยสมการ n ∑ F⃑ i = 0 i=0 3) วัตถุจะสมดุลต่อการหมุนคือไม่หมุนหรือหมุนด้วยความเร็วเชิงมุมคงตัวเม่ือผลรวมของโมเมนต์ท่ี กระทำตอ่ วตั ถเุ ป็นศูนย์ เขยี นแทนได้ด้วยสมการ n ∑ Mi = 0 i=0 โดยโมเมนต์คำนวณได้จากสมการ M = Fl 4) เมื่อมแี รงคู่ควบกระทำต่อวัตถุ แรงลพั ธ์จะเท่ากับศนู ย์ ทำให้วตั ถสุ มดุลต่อการเล่ือนท่ีแต่ไม่สมดลุ ตอ่ การหมนุ 5) การเขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวตั ถุอสิ ระสามารถนำมาใชใ้ นการพจิ ารณาแรงลัพธ์และ ผลรวมของโมเมนต์ท่กี ระทำต่อวัตถเุ มื่อวตั ถุอยใู่ นสมดลุ กล จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 228 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 สภาพสมดลุ 6) เม่อื ออกแรงกระทำตอ่ วตั ถทุ ่วี างบนพน้ื ท่ีไม่มแี รงเสียดทาน ในแนวระดับ ถ้ำแนวแรงนัน้ กระทำ ผ่านศนู ยก์ ลางมวลของวตั ถุ วัตถจุ ะเคลอ่ื นที่แบบเลื่อนท่โี ดยไมห่ มนุ 7) วัตถทุ ี่อยูใ่ นสนามโน้มถ่วงสม่ำเสมอ ศนู ยก์ ลางมวลและศูนย์ถ่วงอยู่ท่ีตำแหน่งเดยี วกนั ศนู ยถ์ ว่ ง ของวตั ถุมีผลตอ่ เสถียรภาพของวัตถุ 2.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่ (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด สภาพสมดุล (equilibrium) คือ สภาพท่ีวัตถุไม่เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ี หากพิจารณาลักษณะการ เคลื่อนท่ีของวัตถุสามารถแบ่งสภาพสมดุลได้เป็น 3 ประเภท 1. สมดุลต่อการเลื่อนที่ คือ เม่ือแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุมีค่าเป็นศูนย์ วัตถุจะหยุดนิ่งหรือเคลื่อนที่ ด้วยความเร็วคงตัว สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมดุลสถิต และสมดุลจลน์ 2. สมดุลต่อการหมุน คือ วัตถุไม่เปลี่ยนสภาพการหมุน หมายความว่า วัตถุจะไม่หมุนหรือหมุน ด้วยความเร็วเชิงมุมคงตัว 3. สมดุลสัมบูรณ์ คือ วัตถุอยู่ในสมดุลต่อการเลื่อนที่และสมดุลต่อการหมุนไปพร้อมกัน เมื่อออกแรงในแนวระดับกระทำต่อวัตถุที่วางบนพื้นลื่น แล้ววัตถุเคลื่อนที่แบบเลื่อนที่ โดยไม่หมุน แนวแรงนั้นนั้นจะผ่าน ศูนย์กลางมวล และในกรณีที่วัตถุอยู่ในสนามโน้มถ่วงเดียวกัน ศูนย์กลางมวลและ ศูนย์ถ่วงอยู่ท่ีตำแหน่งเดียวกัน วัตถุที่อยู่ในสมดุลอาจอยู่ในสมดุลของการเล่ือนตำแหน่งหรือสมดุลต่อการหมุน หรือทั้งสมดุลต่อการ เลื่อนที่และสมดุลต่อการหมุน โดยวัตถุที่สมดุลต่อการเลื่อนตำแหน่งอาจหยุดนิ่งหรือเคลื่อนที่ด้วย ความเร็วคงท่ี ส่วนวัตถุท่ีสมดุลต่อการหมุนอาจหยุดน่ิงหรือหมุนด้วยความเร็วเชิงมุมคงตัว วัตถุต่าง ๆ สามารถรักษาสภาพเดิมไว้ได้หากแรงลัพธ์ที่มากระทำต่อวัตถุนั้นเป็นศูนย์ ซึ่งแรงลัพธ์ ที่มากระทำต่อวัตถุนั้นทำให้วัตถุเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม โดยการเปลี่ยนสภาพของวัตถุนี้จะขึ้นกับมวล ของวัตถุ ตำแหน่งของจุดศูนย์กลางมวล รูปร่างของวัตถุและฐานของวัตถุ เป็นต้น หลักการสมดุลมีใช้มากมายในชีวิตประจำวัน ในที่น้ีจะกล่าวถึงการนำหลักของสมดุลและโมเมนต์มา ใช้สร้างเครื่องมือเคร่ืองใช้เพื่อช่วยในการผ่อนแรงหรืออำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น คีมตัดลวด ไขควง รอก ล้อและเพลา คานประเภทต่าง ๆ เป็นต้น โดยเครื่องกลจะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นหรือออก แรงทำงานน้อยลง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 229 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 สภาพสมดุล 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน 2) ทกั ษะการสงั เกต 3) ทกั ษะการสอ่ื สาร 4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 6) ทกั ษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ใบงานที่ 7.1 เร่อื ง สภาพสมดลุ - ใบงานที่ 7.2 แบบบนั ทึกกจิ กรรมสมดุลของแรงสามแรง - ใบงานที่ 7.3 เร่อื ง สมดลุ ต่อการหมุน - ใบงานที่ 7.4 เรอ่ื ง ศนู ย์กลางมวลและศนู ย์ถ่วง - ใบงานที่ 7.5 เรอื่ ง สมดลุ ของวตั ถุ - ใบงานที่ 7.6 เร่ือง เสถยี รภาพของวตั ถุ - ใบงานท่ี 7.7 เรอ่ื ง การนำหลกั สมดลุ ไปประยุกต์ - ผังมโนทัศน์ เร่อื ง สภาพสมดุล - ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง สมดุลต่อการเลื่อนที่ - ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง สมดลุ ต่อการหมนุ - ผงั มโนทัศน์ เรื่อง ศูนย์กลางมวลและศนู ยถ์ ว่ ง - ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง สมดุลของวัตถุ - ผังมโนทัศน์ เรื่อง เสถยี รภาพของวัตถุ - ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง การนำหลักสมดุลไปประยกุ ต์ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 230 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 สภาพสมดุล 6. การวดั และการประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ 6.1 การประเมินช้นิ งาน/ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรื่อง - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2 ภาระงาน (รวบยอด) สภาพสมดุล ภาระงาน ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรื่อง - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2 สมดุลตอ่ การเลื่อนท่ี ภาระงาน ผ่านเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทศั น์ เรื่อง - แบบประเมินชน้ิ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2 สมดลุ ตอ่ การหมนุ ภาระงาน ผ่านเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทัศน์ เรื่อง - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดับคุณภาพ 2 ศูนย์กลางมวลและศนู ย์ ภาระงาน ผา่ นเกณฑ์ ถว่ ง - ตรวจผังมโนทศั น์ เรื่อง - แบบประเมินชนิ้ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2 สมดลุ ของวตั ถุ ภาระงาน ผ่านเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดบั คุณภาพ 2 เสถียรภาพของวตั ถุ ภาระงาน ผ่านเกณฑ์ - ตรวจผังมโนทัศน์ เรื่อง - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดับคุณภาพ 2 การนำหลักสมดุลไป ภาระงาน ผ่านเกณฑ์ ประยุกต์ 6.2 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ น - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เรยี น เรอื่ ง สภาพสมดุล 6.3 การประเมินระหวา่ ง การจัดกจิ กรรม 1) สภาพสมดุล - ตรวจใบงานท่ี 7.1 - ใบงานที่ 7.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 1.1 - แบบฝกึ หัดท่ี 1.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) สมดุลต่อการเลื่อน - ตรวจใบงานท่ี 7.2 - ใบงานท่ี 7.2 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ท่ี - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 2.1-2.2 - แบบฝกึ หัดที่ 2.1-2.2 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3) สมดลุ ต่อการหมนุ - ตรวจใบงานที่ 7.3 - ใบงานท่ี 7.3 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัดที่ 3.1 - แบบฝกึ หัดที่ 3.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 4) ศนู ยก์ ลางมวลและ - ตรวจใบงานที่ 7.4 - ใบงานที่ 7.4 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 231 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 สภาพสมดลุ รายการวดั วธิ ีวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ศูนย์ถ่วง - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 4.1-4.2 - แบบฝกึ หัดท่ี 4.1-4.2 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 5) สมดุลของวตั ถุ - ตรวจใบงานที่ 7.5 - ใบงานที่ 7.4 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 5.1 - แบบฝึกหดั ที่ 5.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 6) เสถยี รภาพของวตั ถุ - ตรวจใบงานที่ 7.6 - ใบงานท่ี 7.6 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 6.1 - แบบฝึกหัดท่ี 6.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7) การนำหลักสมดุล - ตรวจใบงานที่ 7.7 - ใบงานที่ 7.7 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ไปประยุกต์ - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 7.1 - แบบฝกึ หดั ที่ 7.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานท่ีนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 5) การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ ผลงาน - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 6) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรมการ การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ ทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานรายบคุ คล - แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 7) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรมการ การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ ทำงานกลุ่ม - แบบประเมนิ 8) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี ินยั คณุ ลกั ษณะ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ อันพึงประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มัน่ ใน 6.4 การประเมินหลงั เรียน การทำงาน - แบบทดสอบหลังเรยี น - แบบทดสอบหลัง เรียน หน่วยการ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียนรู้ที่ 7 เรือ่ ง เรียน สภาพสมดลุ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา 2 ชัว่ โมง เวลา 4 ช่วั โมง • แผนฯ ที่ 1 : สภาพสมดุล เวลา 4 ชัว่ โมง วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ที่ 2 : สมดลุ ตอ่ การเล่ือนที่ วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ที่ 3 : สมดุลตอ่ การหมุน วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ท่ี 4 : ศนู ย์กลางมวลและศนู ย์ถว่ ง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 232 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 สภาพสมดุล วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 5 ชว่ั โมง • แผนฯ ท่ี 5 : สมดลุ ของวตั ถุ เวลา 3 ชั่วโมง เวลา 3 ช่ัวโมง วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 9 ชัว่ โมง • แผนฯ ท่ี 6 : เสถยี รภาพของวตั ถุ วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) • แผนฯ ท่ี 7 : การนำหลกั สมดุลไปประยุกต์ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น รายวิชาเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนท่ี 7 สภาพสมดลุ 2) แบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 สภาพสมดลุ 3) ใบงานท่ี 7.1 เรื่อง สภาพสมดุล 4) ใบงานที่ 7.2 เรอ่ื ง กิจกรรมสมดุลของแรงสามแรง 5) ใบงานที่ 7.3 เร่อื ง สมดลุ ตอ่ การหมนุ 6) ใบงานท่ี 7.4 เรือ่ ง ศูนย์กลางมวลและศูนย์ถ่วง 7) ใบงานท่ี 7.5 เรือ่ ง สมดลุ ของวตั ถุ 8) ใบงานที่ 7.6 เร่อื ง เสถยี รภาพของวัตถุ 9) ใบงานที่ 7.7 เรื่อง เสถยี รภาพของวัตถุ PowerPoint เรื่อง สภาพสมดลุ 10) กระดาษปรู๊ฟ ขนาด A1 11) กระดาษโน้ตชนดิ มกี าว (Post-it Notes) 12) กระดานโตต้ อบ (response board) 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรยี น 2) ห้องสมุด 3) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 4) เวบ็ ไซต์ http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/nongkhai/suttirut_sri2/ physic02/lab/ph14th/equilibrium_th.htm 5) เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=iRtpUBMuOr8 6) เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=3uutWPPsHWA จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 233 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 สภาพสมดุล แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. โมเมนต์ของแรงหมายถึงอะไร 6. กล่องกว้าง 10 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร หนัก 80 1. แรง นิวตัน มีศูนย์กลางมวลอยู่ท่ีตำแหน่งก่ึงกลางของกล่อง 2. จุดตรงึ ของคาน ถกู วางอยู่บนพ้ืนทฝี่ ดื มาก จงหาวา่ จะต้องออกแรง 20 นิวตัน 3. ระยะห่างระหว่างแรงกบั จุดหมุน ในแนวราบ ที่ความสงู จากพ้นื เท่าใด กล่องจงึ จะลม้ พอดี 4. ผลบวกระหวา่ งน้ำหนกั และแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ 1. 15 เซนตเิ มตร 2. 20 เซนติเมตร 5. ผลคณู ระหว่างแรงกับระยะตง้ั ฉากจากแรงถึงจดุ หมุน 3. 25 เซนติเมตร 4. 30 เซนติเมตร 2. ข้อใดคือเกณฑ์ในการแบ่งประเภทของคานออกเป็นคาน 5. 35 เซนติเมตร อันดบั ต่าง ๆ 7. คน 2 คน ชักคะเย่อกัน ต่างคนต่างออกแรง F เท่ากันดึงที่ 1. ตำแหน่งของจุดหมุน ปลายท้งั สองของเชอื กเสน้ หน่ึง แรงดงึ ในเสน้ เชอื กเป็นเท่าใด 2. ขนาดของแรงพยายาม 1. 0 2. F/2 3. F 3. ขนาดของแรงต้านทาน 4. 2F 5. F+2 4. ตำแหนง่ ของวัตถุทว่ี างบนคาน 8. คานสม่ำเสมอมวล 10 กิโลกรัม แขวนไว้กับเพดานท่ีจุด 5. ความยาวของคาน หมุนล่ืน จงหาขนาดของแรง F ในแนวระดับทดี่ ันปลายคาน 3. วตั ถุจะอย่ใู นสภาพสมดลุ ยกเวน้ ข้อใด ด้านล่างใหค้ านเบนไปจากแนวเดิม 30 องศา 1. วตั ถหุ ยุดนิง่ 1. 50 นวิ ตัน 2. 100 นวิ ตนั 2. วัตถเุ คลื่อนทด่ี ว้ ยความเร็วคงตวั √3 √3 3. วัตถหุ มุนด้วยความเร็วเชิงมุมคงตวั 3. 50√3 นวิ ตัน 4. 100√3 นวิ ตัน 4. วตั ถเุ คล่ือนทดี่ ว้ ยความเรง่ คงตัว 5. 50 นวิ ตนั 5. แรงลพั ธท์ ่กี ระทำกบั วัตถเุ ปน็ ศูนย์ 9. ชายสองคนชว่ ยกันหามวัตถุมวล 90 นิวตัน ซึ่งแขวนอยู่ที่จุด กึ่งกลางคานสม่ำเสมอมวล 10 กิโลกรัม ถ้าชายคนที่หน่ึง 4. ทฤษฎีลามี (Lami’s Theorem) กล่าววา่ ถ้ามีแรง 3 แรง แบกคานตรงตำแหน่งห่างจากจดุ ที่แขวนวัตถุ 0.5 เมตร และ มากระทำร่วมกันอยูท่ จี่ ุดหนึ่งบนวตั ถแุ ละวัตถุอยใู่ นสภาพ รับน้ำหนัก 600 นิวตัน ชายคนที่สองจะแบกคานที่ตำแหน่ง สมดุลได้ อัตราส่วนของแรงต่อค่าใด ของมุมตรงข้ามจะมี ห่างจากจุดแขวนวตั ถุเท่าใด ค่าเทา่ กนั 1. 0.13 เมตร 2. 0.25 เมตร 3. 0.50 เมตร 1. sin 2. cos 3. tan 4. 0.75 เมตร 5. 0.93 เมตร 4. sec 5. cot 10. บันไดขนาดสม่ำเสมอมีน้ำหนัก W วางพาดกำแพงเกลี้ยงซ่ึง 5. แขวนมวล m ด้วยเชอื กยาว L แล้วทำใหแ้ กว่ง ขณะที่เชือก ไม่คิดแรงเสียดทาน ถ้าสัมประสิทธ์ิความเสียดทานสถิต ทำมุม θ กับแนวด่ิง ซึ่งวัตถุหยุดพอดี จงหาแรงดึงในเส้น ระหว่างพ้ืนล่างกับบันได เท่ากับ μ จงหามุม θ ที่นอ้ ยท่ีสุด เชือกขณะนน้ั ทที่ ำให้บันไดวางนิง่ อย่ไู ด้ 1. mg(1 + cos θ) 2. mg(1 − cos θ) 1. tan θ −1 (1) 2. tan θ −1 (u) 3. mg cos θ 4. mg sin θ u 4. tan θ −1 (2u) 5. mg cos2 θ 3. tan θ −1 ( 1 ) เฉลย 2u 5. tan θ −1 (u2) 1. 5 2. 1 3. 4 4. 1 5. 3 6. 2 7. 3 8. 1 9. 4 10. 3 จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 234 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 สภาพสมดุล แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. วตั ถุจะอย่ใู นสภาพสมดลุ ยกเว้นข้อใด 6. กล่องกว้าง 10 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร หนัก 80 1. วตั ถหุ ยดุ น่งิ นิวตัน มีศูนย์กลางมวลอยู่ที่ตำแหน่งกึ่งกลางของกล่อง 2. วตั ถหุ มนุ ด้วยความเร็วเชงิ มมุ คงตัว ถูกวางอยู่บนพื้นทฝ่ี ืดมาก จงหาว่าจะต้องออกแรง 20 นิวตัน 3. วตั ถุเคลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเรว็ คงตวั ในแนวราบ ที่ความสงู จากพ้นื เทา่ ใด กลอ่ งจงึ จะล้มพอดี 4. วตั ถเุ คล่ือนทดี่ ้วยความเรง่ คงตัว 1. 10 เซนตเิ มตร 2. 20 เซนตเิ มตร 5. แรงลัพธท์ ี่กระทำกบั วตั ถุเป็นศูนย์ 3. 30 เซนติเมตร 4. 40 เซนตเิ มตร 2. โมเมนตข์ องแรงหมายถงึ อะไร 5. 50 เซนติเมตร 1. แรง 7. คน 2 คน ชักคะเย่อกัน ต่างคนต่างออกแรง F เท่ากันดึงท่ี 2. จดุ ตรึงของคาน ปลายทง้ั สองของเชือกเสน้ หนง่ึ แรงดึงในเส้นเชือกเป็นเทา่ ใด 3. ระยะหา่ งระหวา่ งแรงกบั จุดหมนุ 1. 0 2. F/2 3. F+2 4. ผลบวกระหวา่ งน้ำหนกั และแรงทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุ 4. F 5. 2F 5. ผลคณู ระหว่างแรงกับระยะตง้ั ฉากจากแรงถงึ จุดหมนุ 8. บันไดขนาดสม่ำเสมอมีน้ำหนัก W วางพาดกำแพงเกล้ียงซึ่ง 3. ทฤษฎีลามี (Lami’s Theorem) กล่าวว่า ถ้ามีแรง 3 แรง ไม่คิดแรงเสียดทาน ถ้าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานสถิต มากระทำร่วมกันอยทู่ จ่ี ุดหนึ่งบนวตั ถแุ ละวัตถุอยใู่ นสภาพ ระหว่างพื้นล่างกับบันได เท่ากับ μ จงหามุม θ ท่ีน้อยที่สุด สมดุลได้ อัตราส่วนของแรงต่อคา่ ใด ของมุมตรงข้ามจะมี ท่ีทำให้บันไดวางนิง่ อย่ไู ด้ ค่าเท่ากัน 2. cos 3. tan 1. tan θ −1 (1) 2. tan θ −1 (u) 1. sin 5. cot u 4. tan θ −1 (2u) 4. sec 3. tan θ −1 ( 1 ) 2u 5. tan θ −1 (u2) 4. ข้อใดคือเกณฑ์ในการแบ่งประเภทของคานออกเป็นคาน 9. คานสม่ำเสมอมวล 10 กิโลกรัม แขวนไว้กับเพดานที่จุด อันดับต่าง ๆ หมุนลื่น จงหาขนาดของแรง F ในแนวระดับท่ีดันปลายคาน 1. ขนาดของแรงพยายาม ดา้ นลา่ งใหค้ านเบนไปจากแนวเดมิ 30 องศา 2. ขนาดของแรงตา้ นทาน 1. 50 นิวตัน 5. 50√3 นวิ ตัน 3. ตำแหนง่ ของจดุ หมนุ 4. 100√3 นิวตนั 4. ตำแหนง่ ของวัตถุทว่ี างบนคาน √3 5. ความยาวของคาน 6. 100 นิวตัน √3 5. 50 นวิ ตัน 5. แขวนมวล m ด้วยเชอื กยาว L แล้วทำให้แกว่ง ขณะที่เชือก 10. ชายสองคนช่วยกันหามวัตถุมวล 90 นิวตัน ซ่ึงแขวนอยู่ที่ ทำมุม θ กับแนวด่ิง ซ่ึงวัตถุหยุดพอดี จงหาแรงดึงในเส้น จุดก่ึงกลางคานสม่ำเสมอมวล 10 กิโลกรมั ถ้าชายคนที่หนึ่ง เชือกขณะน้นั แบกคานตรงตำแหน่งห่างจากจุดท่ีแขวนวัตถุ 0.5 เมตร 1. mg(1 + cos θ) 2. mg(1 − cos θ) และรับน้ำหนัก 600 นิวตัน ชายคนท่ีสองจะแบกคานที่ 3. mg sin θ 4. mg cos θ ตำแหน่งหา่ งจากจดุ แขวนวตั ถเุ ทา่ ใด 5. mg cos2 θ 1. 0.25 เมตร 2. 0.55 เมตร 3. 0.75 เมตร เฉลย 4. 0.85 เมตร 5. 0.95 เมตร 1. 4 2. 5 3. 1 4. 3 5. 4 6. 2 7. 4 8. 3 9. 1 10. 3 จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 235 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 สภาพสมดลุ แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกจิ กรรม แผนฯ ท่ี 2 คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลง ในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 รวม 32 1 การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 2 ความคลอ่ งแคล่วในขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม 3 การนำเสนอ ลงชอื่ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............../................../.............. จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 236 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 สภาพสมดลุ เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัติกิจกรรม ประเดน็ ทปี่ ระเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 1. การปฏบิ ัติ ทำกจิ กรรมตามขัน้ ตอน ตอ้ งให้ความช่วยเหลือ และใช้อุปกรณไ์ ดอ้ ย่าง 32 อย่างมากในการทำ กจิ กรรม ถูกตอ้ ง กจิ กรรม และการใช้ ทำกิจกรรมตามข้นั ตอน ตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลอื อุปกรณ์ 2. ความคล่องแคล่ว มีความคลอ่ งแคลว่ และใชอ้ ุปกรณไ์ ด้อยา่ ง บา้ งในการทำกิจกรรม ทำกจิ กรรมเสร็จไม่ ในขณะปฏิบัติ ในขณะทำกจิ กรรมโดย ถกู ตอ้ ง แตอ่ าจตอ้ ง และการใช้อุปกรณ์ ทนั เวลา และทำ กจิ กรรม ไม่ต้องไดร้ ับคำช้แี นะ ได้รบั คำแนะนำบ้าง อปุ กรณเ์ สยี หาย และทำกิจกรรมเสรจ็ มคี วามคลอ่ งแคลว่ ขาดความคล่องแคล่ว 3. การบนั ทึก สรปุ ทนั เวลา ในขณะทำกจิ กรรมแต่ ในขณะทำกจิ กรรมจึง ตอ้ งให้ความช่วยเหลอื และนำเสนอผล บันทึกและสรปุ ผล ต้องไดร้ บั คำแนะนำบ้าง ทำกจิ กรรมเสรจ็ ไม่ อย่างมากในการบนั ทึก กจิ กรรม กจิ กรรมได้ถูกตอ้ ง และทำกิจกรรมเสรจ็ ทันเวลา สรปุ และนำเสนอผล รดั กมุ นำเสนอผล ทนั เวลา กิจกรรม กจิ กรรมเป็นขน้ั ตอน ชดั เจน บนั ทกึ และสรปุ ผล ต้องให้คำแนะนำในการ กจิ กรรมได้ถกู ตอ้ ง บนั ทึก สรปุ และ แต่การนำเสนอผล นำเสนอผลกจิ กรรม กจิ กรรมยงั ไม่เป็น ข้นั ตอน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 11-12 ดีมาก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ต่ำกว่า 6 ปรบั ปรุง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 237 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 สภาพสมดุล แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1-7 แบบประเมินผลงานผงั มโนทัศน์ คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงาน/ชิ้นงานของนักเรียนตามรายการท่ีกำหนด แลว้ ขดี ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 4 3 21 1 ความสอดคล้องกับจดุ ประสงค์ 2 ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา 3 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 ความตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมิน .............. /................. /.............. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 238 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 สภาพสมดลุ เกณฑ์ประเมนิ ผงั มโนทัศน์ ประเดน็ ที่ประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 ผลงานไมส่ อดคล้อง 1. ผลงานตรงกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคล้องกับ กบั จุดประสงค์ จดุ ประสงคเ์ ป็นสว่ นใหญ่ จุดประสงคบ์ างประเด็น เนอ้ื หาสาระของผลงาน จดุ ประสงค์ทีก่ ำหนด จุดประสงค์ทกุ ประเด็น เนอื้ หาสาระของผลงาน เนื้อหาสาระของผลงาน ไม่ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องเป็นบางประเด็น ผลงานไม่แสดงแนวคิด 2. ผลงานมคี วาม เนอ้ื หาสาระของผลงาน ผลงานมแี นวคดิ แปลก ผลงานมคี วามนา่ สนใจ ใหม่ ใหม่แตย่ งั ไมเ่ ป็นระบบ แต่ยงั ไมม่ ีแนวคิดแปลก ถกู ต้องสมบูรณ์ ถกู ตอ้ งครบถ้วน ผลงานสว่ นใหญไ่ มเ่ ป็น ใหม่ ระเบียบและมขี อ้ 3. ผลงานมีความคดิ ผลงานแสดงออกถึง บกพรอ่ งมาก ผลงานสว่ นใหญ่มคี วาม ผลงานมีความเปน็ สรา้ งสรรค์ ความคดิ สร้างสรรค์ เป็นระเบยี บ แตย่ ังมี ระเบียบ แต่มี ขอ้ บกพรอ่ งเล็กน้อย ขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน แปลกใหมแ่ ละเปน็ ระบบ 4. ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานมคี วามเปน็ ระเบียบ ระเบยี บแสดงออกถึง ความประณีต เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–16 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรงุ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 239 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 สภาพสมดุล แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 ความคดิ สร้างสรรค์ 3 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน 4 การนำไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ ................................................... ผูป้ ระเมิน ............ /................. /............... เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 240 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 สภาพสมดุล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผ้อู ่ืน 3 การทำงานตามหนา้ ที่ท่ไี ด้รบั มอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ ............ /................. /............... เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรงุ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 241 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 สภาพสมดุล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน การมี ลำดบั ท่ี ชือ่ –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม ของนักเรียน ความ ฟังคนอ่ืน ตามทไี่ ด้รบั น้ำใจ การ 15 คิดเหน็ มอบหมาย คะแนน ปรับปรงุ ผลงานกลุม่ 321321321321321 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชือ่ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ............ /................. /................ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 242 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 สภาพสมดลุ แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน 1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่เี กย่ี วกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามทโี่ รงเรียนจัดขึน้ 2. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ถี ูกต้องและเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ัติในสิง่ ที่ถูกต้อง 3. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ 4.2 รูจ้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟงั คำส่ังสอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ 4.4 ตั้งใจเรยี น 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอย่างประหยัดและรู้คณุ คา่ 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ 6. มงุ่ มน่ั ในการ 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 รู้จกั การดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ ............ /................. /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดมี าก พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้งั 30–40 พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัตบิ างครง้ั ต่ำกว่า 30 ปรบั ปรงุ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 243 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 สภาพสมดุล แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง สภาพสมดลุ รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 2 รหัสวิชา ว32102 เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้/บท สภาพสมดลุ รวม 30 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 บูรณาการ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง อาเซยี น STEM PLC สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น มาตรฐานสากล ขา้ มกล่มุ สาระ 1. ผลการเรยี นรู้ 7. อธิบายสมดุลกลของวัตถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ท่ีมีต่อการหมุน แรงคู่ควบและผลของ แรงคู่ควบที่มีต่อสมดุลของวัตถุ เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุอิสระเม่ือวัตถุอยู่ในสมดุลกล และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งรวมทง้ั ทดลองและอธบิ ายสมดุลของแรงสามแรงได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของสภาพสมดลุ ได้ (K) 2. เขียนสภาพสมดลุ แตล่ ะประเภททพี่ จิ าณาจากลกั ษณะการเคลอ่ื นที่ได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าที่และงานที่ไดร้ บั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ - สมดุลกลเป็นสภาพท่ีวัตถุรักษาสภาพการเคล่ือนที่ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา ให้คงเดิมคือหยุดน่ิง หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคง ตวั หรือหมนุ ด้วยความเรว็ เชิงมมุ คงตัว 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด สภาพสมดุล (equilibrium) คือ สภาพที่วัตถุไม่เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ ซึ่งวัตถุสามารถรักษา สภาพการเคลื่อนท่ีเดิมของวัตถุไว้ หากพิจารณาลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุสามารถแบ่งสภาพสมดุลได้ เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สมดุลต่อการเลื่อนที่ สมดุลต่อการหมุน และสมดุลสัมบูรณ์ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 244 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 สภาพสมดลุ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 2) ทักษะการส่อื สาร 3) ทักษะการสังเกต 4) ทักษะการทำงานรว่ มกัน 5) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนำ กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ 2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเป็นรายบุคคลก่อน เขา้ สู่กจิ กรรม 3. ครูถามคำถาม Big Question เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 94 ว่า เหตุใดหอเอนเมืองปิซา ยังสามารถตั้งอยู่ได้มาเป็นเวลานานโดยไม่ล้มลง โดยให้นักเรียน ร่วมกันหาคำตอบ (แนวตอบ: เนื่องจากหอเอนมีศูนย์กลางของความโน้มถ่วง หรือศูนย์ถ่วง อยู่ในบริเวณฐานของหอ ซ่ึงเป็นจุดรวมน้ำหนักของวัตถุทั้งหมด แต่ถ้าหากหอนี้เอนมากขึ้นจนทำให้เส้นแนวดิ่งไม่ผ่านถ่วง หอก็จะถลม่ ลงมา) 3. ครูชวนนักเรียนพูดคุยเก่ียวกับเร่ืองท่ีจะเรียน โดยตั้งคำถามว่า กล่องวางอยู่บนโต๊ะ รถยนต์ว่ิงเป็น เส้นตรงด้วยความเร็วคงที่ อยู่ในสภาพน้ีตลอดไปได้หรือไม่ เพอ่ื นำไปสคู่ ำถามที่วา่ กล่องที่วางอยู่บน โต๊ะ หรือรถยนต์ที่ว่ิงเป็นเส้นตรงด้วยความเร็วคงท่ี จะมีแรงกระทำหรือไม่ อย่างไร และให้นักเรียน ช่วยกนั ตอบปากเปลา่ โดยครจู ะยังไมเ่ ฉลยวา่ ถูกหรอื ผดิ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 245 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 สภาพสมดลุ (หมายเหตุ: ครูเริม่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ข้ันสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยโดยถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 95 ว่า การเคลื่อนท่ีของเครื่องบินเก่ียวข้องกับสภาพสมดุลหรือไม่ และให้ นกั เรียนชว่ ยกันตอบคำถามปากเปลา่ หรือครูสมุ่ ถามนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (แนวตอบ: เก่ียวข้อง ซ่ึงจะมีแรงที่กระทำต่อเคร่ืองบินตลอดเวลาขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ใน อากาศ คือ แรงยก แรงดึงดูดของโลก แรงขับ และแรงต้าน โดยที่แรงทั้ง 4 น้ี จะต้องอยู่ในสภาวะ สมดุลท่ีเหมาะสม ไม่เช่นนั้นแล้ว เคร่ืองบินจะไม่สามารถบินอยู่บนอากาศได้เลย แรงท้ัง 4 จะมีทิศทาง ที่ตรงข้ามกัน คือ แรงยก มีทิศทางตรงข้ามกับ แรงดึงดูดของโลก และแรงขับ มีทิศทางตรงข้ามกับ แรงต้าน) 2. ครถู ามคำถามนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องท่จี ะเรียน โดยต้ังคำถามว่า ตามความเข้าใจของนักเรยี น นักเรียนคิดว่าคำว่า สมดุล หมายถึงอะไร และให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามปากเปล่าโดยไม่มีการ เฉลยวา่ ถกู หรือผดิ (หมายเหตุ: ครูเร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) 3. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนที่น่ังข้าง ๆ แล้วช่วยกันศึกษา เรื่อง สภาพสมดุล จากหนังสือเรียน รายวชิ าเพิ่มเตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 95-96 4. ครูกำหนดให้นักเรียน ยกตัวอย่างสถานการณ์หรือส่ิงต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ที่สามารถนำความรู้ เรอื่ ง สภาพสมดลุ มาใช้ในการอธิบายการเคลือ่ นที่หรอื การเปล่ยี นแปลงได้ โดยเขยี นสรุปองค์ความรู้ จากสง่ิ ที่ไดศ้ ึกษา ลงในกระดาษ A4 5. ครูสุ่มนักเรยี นออกมาหน้าชน้ั เรยี น เพื่ออภิปรายผลการศึกษา และยกตัวอยา่ งสถานการณ์ที่เกย่ี วข้อง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 246 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 สภาพสมดุล อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนดูภาพเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันและตั้งคำถามว่า นักเรียนคิดว่า กิจกรรม แตล่ ะอยา่ งอยใู่ นสภาพสมดุลหรือไม่ อย่างไร 2. เมอ่ื นกั เรียนตอบ ให้ครูเฉลยไปพร้อมกบั นักเรยี นวา่ ถูกหรือไม่ 3. ครใู ห้นักเรยี นสรปุ ว่าลกั ษณะกิจกรรมแบบใดบ้างท่ที ่ีอยใู่ นสภาพสมดลุ ตามความคิดของตนเอง ชว่ั โมงที่ 2 ขั้นสรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครเู ปดิ PowerPoint เร่อื ง สภาพสมดลุ แล้วอธบิ ายลงขอ้ สรุปเกยี่ วกบั เนอ้ื หาในหัวขอ้ สภาพสมดุล 2. ครูแจกใบงานท่ี 7.1 เร่ือง สภาพสมดลุ ให้นกั เรียนทุกคน 3. ครูให้นักเรียนศึกษาใบงานท่ีแจกให้ แล้วลงมือทำ จากนั้นตัวแทนนักเรียนรวบรวมใบงานที่ 7.1 เรื่อง สภาพสมดุล ส่งครูทา้ ยช่วั โมง 4. ครใู หน้ กั เรียนทำสรปุ ผงั มโนทศั น์ (Concept Mapping) เรอื่ ง สภาพสมดุล ลงในกระดาษ A4 5. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 1.1 เรื่อง สภาพสมดุล จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อตรวจสอบความเข้าใจกอ่ นเรียนของนักเรยี น 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 7.1 เรอ่ื ง สภาพสมดุล จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 247 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 สภาพสมดลุ 3. ครตู รวจสอบแบบฝกึ หัดท่ี 1.1 จากแบบฝึกหดั ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 4. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลมุ่ 5. ครูวดั และประเมินผลจากชิน้ งานการสรปุ เน้อื หา เรื่อง สภาพสมดลุ ท่นี กั เรียนไดส้ ร้างข้นึ จากข้นั ขยายความเข้าใจเปน็ รายบุคคล 7. การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน รายการวดั - ตรวจแบบทดสอบกอ่ น - แบบทดสอบก่อนเรยี น - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7.1 การประเมนิ ก่อน เรียน - ใบงานท่ี 7.1 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เรยี น - ตรวจใบงานที่ 7.1 - แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบก่อน - ตรวจแบบฝกึ หัด - ผลงานท่ีนำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 เรยี น หน่วยการ - ประเมนิ การนำเสนอ ผา่ นเกณฑ์ เรยี นรู้ท่ี 7 เรื่อง - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 สภาพสมดลุ ผลงาน การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 7.2 การประเมนิ ระหว่าง - สังเกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ 2 การจดั กิจกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 1) สภาพสมดลุ ทำงานรายบุคคล การทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 - สังเกตพฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - แบบประเมนิ ผลงาน ทำงานกลุ่ม คุณลักษณะ - สังเกตความมีวินยั อนั พงึ ประสงค์ 3) พฤติกรรมการ ทำงานรายบคุ คล ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ ม่ัน ในการทำงาน 4) พฤติกรรมการ ทำงานกลมุ่ 5) คณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 248 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 สภาพสมดุล 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 สภาพสมดลุ 2) แบบฝกึ หดั ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 สภาพสมดุล 3) ใบงานท่ี 7.1 เรอ่ื ง สภาพสมดุล 4) PowerPoint เรื่อง สภาพสมดุล 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) หอ้ งสมดุ 3) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 249 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 สภาพสมดลุ ใบงานท่ี 7.1 เรอื่ ง สภาพสมดุล คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. สะพานขา้ มแม่น้ำแควอยใู่ นสภาพสมดุลหรอื ไม่ อย่างไร 2. สมดุลสมบรู ณข์ องวัตถุจะตอ้ งเป็นอย่างไร 3. มแี รง 3 แรง ขนาด 25 20 และ 10 N กระทำตอ่ วตั ถุใหส้ มดลุ ได้หรอื ไม่ 4. แท่งไมม้ แี รง 4 แรงกระทำดังรปู แทง่ ไม้อย่ใู นสภาพสมดุลหรือไม่อย่างไร 14 N 6N 6N 14 N 5. เปิดพดั ลมเพดานให้หมุนเป็นการสมดลุ ชนดิ ใด จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327