แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 2

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 50 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน ใบงานท่ี 5.1 เร่ือง แรงและงาน คำช้แี จง : แสดงวิธีคำนวณหาผลลพั ธ์ 1. ออกแรง 15 นิวตัน ลากวัตถุไปตามแนวขนานกับพ้นื ไกล 12 เมตร จงหางานของแรงท่ีกระทำ 2. นายต้นยกวัตถมุ วล 7 กโิ ลกรัม ขน้ึ สงู 1.5 เมตร จงหางานของแรงยก 3. นายแมนออกแรงยกโทรทศั น์ดว้ ยแรง 50 นิวตนั แล้วเดนิ ขน้ึ บันได 10 ขนั้ แตล่ ะขัน้ สูง 20 เซนตเิ มตร งาน ทน่ี ายแมนทำจากการยกโทรทศั น์ข้ึนบนั ไดมีคา่ เทา่ ใด จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 51 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 4. พช่ี ายและน้องสาวออกแรงดันกล่องไปคนละทาง พช่ี ายออกแรง 50 นิวตัน และน้องสาวออกแรง 20 นวิ ตัน โดยทง้ั คอู่ อกแรงพร้อมกัน ทำให้กล่องเคลอ่ื นท่ีไปทางน้องสาว 50 เซนติเมตร จงหางานรวมที่ใหแ้ ก่กลอ่ ง 5. พอ่ ลากวัตถไุ ปตามแนวระดบั บนพนื้ ท่มี ีแรงเสียดทาน พ่อออกแรงลาก 100 นิวตนั วัตถนุ ั้นเคลอื่ นท่ีได้ใน ระยะทาง 10 เมตร ถ้างานที่พอ่ ทำมคี ่า 200 จูล จงหาขนาดของแรงเสยี ดทานที่พ้นื จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 52 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.1 เฉลย เรือ่ ง แรงและงาน คำชแ้ี จง : แสดงวธิ ีคำนวณหาผลลัพธ์ 1. ออกแรง 15 นิวตนั ลากวตั ถุไปตามแนวขนานกับพ้ืนไกล 12 เมตร จงหางานของแรงที่กระทำ วธิ ีทำ F = 15 N ∆������ = ������������ ������ จากสมการ W = F∆x W = (15)(12) W = 180 J ดงั นั้น งานของแรงที่กระทำเทา่ กบั 180 จูล 2. นายต้นยกวัตถหุ นัก 70 นิวตนั ขึ้นสงู 1.5 เมตร จงหางานของแรงยก วธิ ที ำ F ∆������ = ������. ������ ������ mg จากสมการ W = F∆x ดังนน้ั งานของแรงยกเทา่ กับ 105 จูล W = (70)(1.5) W = 105 J 3. นายแมนออกแรงยกโทรทศั น์ด้วยแรง 50 นิวตนั แล้วเดนิ ข้นึ บันได 10 ข้นั แต่ละข้ันสูง 20 เซนตเิ มตร งานทนี่ ายแมนทำจากการยกโทรทศั น์ขึน้ บันไดมีค่าเท่าใด วิธที ำ ความสงู ของบันได ∆x = 10 × 20 cm จากสมการ ∆x = 200 cm ∆x = 2 m W = F∆x W = (50)(2) W = 100 J ดงั นนั้ งานทน่ี ายแมนทำจากการยกโทรทศั น์ขึน้ บันไดเทา่ กบั 100 จูล จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 53 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน 4. พ่ชี ายและน้องสาวออกแรงดันกล่องไปคนละทาง พีช่ ายออกแรง 50 นวิ ตนั และน้องสาวออกแรง 20 นวิ ตัน โดยทงั้ คอู่ อกแรงพร้อมกนั ทำให้กล่องเคลื่อนท่ีไปทางน้องสาว 50 เซนติเมตร จงหางานรวมทใี่ หแ้ ก่กลอ่ ง วธิ ีทำ F1 = 50 N F2 = 15 N กำหนดให้ ทิศทางไปทางขวามอื เปน็ บวก และทิศทางไปทางซา้ ยมือเป็นลบ จากสมการ W = F∆x พิจารณา F1 จะได้ W1 = F1∆x พิจารณา F2 จะได้ W1 = (50)(0.5) = 25 J W2 = F2∆x หางานรวมได้จาก W2 = (−20)(0.5) = −10 J Wtot = W1 + W2 Wtot = 25 + (−10) = 15 J ดังนน้ั งานรวมท่ใี ห้แก่กลอ่ งเท่ากบั 15 จลู 5. พอ่ ลากวัตถไุ ปตามแนวระดบั บนพื้นทมี่ ีแรงเสยี ดทาน พ่อออกแรงลาก 100 นวิ ตนั วัตถุนน้ั เคลอ่ื นทไ่ี ด้ใน ระยะทาง 10 เมตร ถา้ งานท่ีพอ่ ทำมคี ่า 200 จูล จงหาขนาดของแรงเสยี ดทานทพ่ี ืน้ วธิ ที ำ ทศิ ทางการเคลื่อนที่ 100 N f กำหนดให้ ทิศทางไปทางขวามือเปน็ บวก และทิศทางไปทางซา้ ยมอื เป็นลบ จากสมการ Wtot = W1 + W2 Wtot = F∆x + f∆x 200 = (100)(10) + (−f)(10) 200 = 1,000 − 10f 10f = 1,000 − 200 10f = 800 f = 80 N ดงั นน้ั ขนาดของแรงเสียดทานเท่ากับ 80 นิวตัน จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 54 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน ใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง งานของแรงท่ีทำมุมกับแนวการเคลือ่ นที่ คำชแ้ี จง : แสดงวิธีคำนวณหาผลลพั ธ์ 1. ออกแรง 60 นวิ ตัน ดนั วตั ถุท่ีวางบนพื้นราบเกล้ยี งในแนวทำมมุ 53 องศา กบั แนวระดบั เมอ่ื วตั ถุเคล่ือนที่ ไปตามพนื้ ราบไดไ้ กล 50 เมตร งานของแรงทีด่ ันวัตถุมีคา่ ท่าใด 2. จากรูปกล่องถกู ลากไปได้ระยะทาง 100 เมตร ตามพน้ื ลน่ื โดยทใ่ี ชแ้ รงในการลาก 60 นิวตนั ทำมุม 60 องศา กบั พนื้ ราบ งานทเ่ี กิดจากแรงทล่ี ากกล่องมีคา่ เทา่ ใด จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 55 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน 3. กล่องมวล 60 กโิ ลกรัม ถกู ดึงขึน้ ไปบนพ้นื เอยี ง โดยพ้นื เอียงทำมมุ 30 องศา กับแนวระดบั จงหางานของ แรงท่ีดึงกล่อง เพอื่ ให้กล่องน้เี คล่ือนท่ดี ว้ ยความเร็วคงท่เี ป็นระยะทาง 15 เมตร 4. จงหางานที่อย่างน้อยทจ่ี ับกงั ตอ้ งทำในการดันกล่องสินคา้ มวล 50 กิโลกรัม ข้นึ ไปตามพื้นเอียงทำมุม 53 องศา กับพื้นราบ ถึงจดุ สงู สุดจากพน้ื 4 เมตร ถ้าแรงเสยี ดทานของพน้ื เอียงทำกบั กลอ่ งเป็น 80 นิวตัน จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 56 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 งานและพลังงาน ใบงานที่ 5.2 เฉลย เรอื่ ง งานของแรงท่ที ำมุมกับแนวการเคลื่อนท่ี คำชี้แจง : แสดงวธิ คี ำนวณหาผลลพั ธ์ 1. ออกแรง 60 นิวตัน ดนั วัตถุทว่ี างบนพนื้ ราบเกล้ยี งในแนวทำมมุ 53 องศา กบั แนวระดับ เมอ่ื วตั ถเุ คลอ่ื นที่ ไปตามพืน้ ราบไดไ้ กล 50 เมตร งานของแรงทีด่ ันวัตถเุ ท่ากับเทา่ ใด F ������ ∆������ วธิ ีทำ จากสมการ W = F∆x cos θ W = (60)(50) cos 53° W = (60)(50) (3) 5 W = 1,800 J ดังนั้น งานของแรงที่ดันวตั ถเุ ท่ากบั 1,800 จูล 2. จากรปู กล่องถกู ลากไปไดร้ ะยะทาง 100 เมตร ตามพน้ื ลื่น โดยทใี่ ช้แรงในการลาก 60 นิวตัน ทำมุม 60 องศา กับพื้นราบ งานที่เกิดจากแรงทล่ี ากกล่องมีค่าเทา่ ใด ∆������ วธิ ีทำ จากสมการ W = F∆x cos θ W = (100)(60) cos 60° W = (100)(60) (1) 2 W = 3,000 ������ ดังนั้น งานท่เี กิดจากแรงท่ลี ากกล่องเทา่ กบั 3,000 จลู จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ่วย กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 57 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน 3. กล่องมวล 60 กโิ ลกรมั ถกู ดึงข้นึ ไปบนพ้ืนเอียง โดยพื้นเอียงทำมุม 30 องศา กับแนวระดบั จงหางานของ แรงทดี่ งึ กลอ่ ง เพ่อื ใหก้ ลอ่ งนเ้ี คล่ือนทด่ี ้วยความเร็วคงทเี่ ปน็ ระยะทาง 15 เมตร ������ N ������������������������������������ ������������������������������������ ������������ 30° วิธีทำ จากสมการ ΣF = 0 จากสมการ F = mg sin θ F = (60)(10) sin 30° F = (600) (1) 2 F = 300 N W = F∆x W = (300)(15) W = 4,500 J ดงั นน้ั งานทเี่ กดิ จากแรงทล่ี ากกล่องเทา่ กับ 3,000 จูล 4. จงหางานทอ่ี ย่างน้อยทีจ่ ับกงั ต้องทำในการดนั กล่องสินค้ามวล 50 กิโลกรัม ขึ้นไปตามพื้นเอยี งทำมุม 53 องศา กับพ้นื ราบ ถึงจดุ สงู สุดจากพน้ื 4 เมตร ถ้าแรงเสียดทานของพ้ืนเอยี งทำกบั กล่องเปน็ 80 นิวตัน ������������ วิธีทำ จากสมการ ΣF = 0 จากสมการ F = f + mg sin θ F = 80 + (50)(10) sin 53° F = 80 + (500 × 4) 5 F = 480 N W = F∆x W = (480)(5) W = 2,400 J ดงั น้นั งานอย่างน้อยท่ีจับกงั ต้องทำในการดันกล่องเท่ากบั 2,400 จูล จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 58 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง การหางานจากพ้ืนที่ใตก้ ราฟ คำชแ้ี จง : แสดงวธิ คี ำนวณหาผลลพั ธ์ 1. แรง F กระทำกบั วตั ถุแสดงดงั กราฟ งานท่ีเกิดขน้ึ ในระยะ 10 เมตร จะเปน็ กีจ่ ลู 2. งานของแรง F ซึ่งกระทำบนวตั ถุหนึ่งมีความสัมพนั ธ์กบั การกระจัดดังกราฟ โดยวัตถุใชเ้ วลาเคลอ่ื นท่ี 5 วินาที จงหางานทีเ่ กิดข้นึ 3. วัตถุอยู่บนพ้ืนระดับดังภาพ ถูกกระทำด้วยแรง F ทำมุม 37 องศา กับแนวระดับ ขนาดของแรง F เปลี่ยนแปลง ตามการกระจดั แนวราบดงั กราฟ จงหางานเนื่องจากแรง F ในการทำใหว้ ตั ถเุ คลื่อนที่ได้ 30 เมตร F (N) 20 10 x (m) 10 20 30 40 จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 59 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.3 เฉลย เรือ่ ง การหางานจากพน้ื ท่ใี ต้กราฟ คำชแ้ี จง : แสดงวิธีคำนวณหาผลลัพธ์ 1. แรง F กระทำกับวตั ถุแสดงดังกราฟ งานทีเ่ กิดขน้ึ ในระยะ 10 เมตร จะเปน็ กีจ่ ลู วธิ ีทำ W = พ้ืนท่ีใตก้ ราฟ W = (1 × 5 × 40) + (1 × 5 × 20) 22 W = 100 + 50 W = 150 J ดงั นัน้ งานทีเ่ กดิ ขึ้นเปน็ 150 จูล 2. งานของแรง F ซง่ึ กระทำบนวตั ถุหนง่ึ มีความสมั พันธ์กบั การกระจัดดงั กราฟ โดยวัตถุใชเ้ วลาเคลื่อนที่ 5 วนิ าที จงหางานท่เี กิดข้ึน วิธีทำ W = พ้ืนทีใ่ ต้กราฟ W = 1 × (5 + 3) × 10 2 W = 1 × 80 2 W = ������������ ������ ดังน้ัน งานท่ีเกิดขึน้ เป็น 40 จลู 3. วัตถุอยู่บนพื้นระดับดังภาพ ถูกกระทำด้วยแรง F ทำมุม 37 องศา กับแนวระดับ ขนาดของแรง F เปลี่ยนแปลง ตามการกระจัดแนวราบ ดังกราฟ จงหางานเนื่องจากแรง F ในการทำใหว้ ัตถเุ คลื่อนที่ได้ 30 เมตร F (N) 20 10 x (m) วิธที ำ 10 20 30 40 ดงั นั้น งานที่เกิดขึ้นเป็น 40 จลู W = พ้นื ทใ่ี ต้กราฟ × cos θ W = [1 × (40 + 20) × 20] × cos 37° 2 W = 600 × 4 5 W = 480 J จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 60 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 9.1 หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผชู้ ่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นายอดิศร แดงเรือน) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 61 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่ีมปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ …………………………………………. (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา) ครผู ูส้ อน ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 62 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลงั งาน แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง พลงั งาน รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 2 รหัสวชิ า ว32102 เวลา 7 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้/บท งานและพลังงาน รวม 24 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 บูรณาการ  ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซยี น  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น  มาตรฐานสากล  ข้ามกลมุ่ สาระ 1. ผลการเรียนรู้ 2. อธบิ ายและคำนวณพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์ระหว่างงานกับ พลงั งานจลน์ ความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างขนาดของแรง ท่ีใช้ดึงสปริงกับระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมท้ัง อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างงานของแรงลัพธ์และพลังงานจลน์ และคำนวณงานที่เกิดขึ้นจาก แรงลพั ธ์ได้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายพลังงานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล และความสัมพันธ์ระหว่างงานของแรงลัพธ์ และพลังงาน ได้ (K) 2. แสดงวธิ ีคำนวณหาพลังงานจลน์ พลงั งานศกั ย์โนม้ ถว่ ง พลังงานศักยย์ ืดหยุน่ และพลังงานกลได้ (P) 3. ทดลองหาความสมั พนั ธ์ระหว่างงานกบั พลังงานจลน์ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงานกบั พลงั งานศักยโ์ นม้ ถ่วง และความสมั พนั ธร์ ะหว่างขนาดของแรงทใี่ ช้ดึงสปริงกับระยะทส่ี ปริงยืดออก และความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งงานกับพลงั งานศกั ยย์ ืดหย่นุ ได้ (A) 4. รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีและงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ - พลังงานเปน็ ความสามารถในการทำงาน พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา - พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวัตถุท่ีกำลัง เคล่อื นท่ี คำนวณได้จากสมการ Ek = 1 mv2 2 - พลังงานศักย์เป็นพลังงานท่ีเกี่ยวข้องกับตำแหน่ง หรือรูปร่างของวัตถุ แบ่งออกเป็นพลังงานศักย์ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 63 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ โน้มถ่วง คำนวณ ได้จากสมการ Ep = mgh และพลังงานศักย์ยืดหยุ่น คำนวณได้จากสมการ Eps = 1 kx2 2 - พลังงานกลเป็นผลรวมของพลังงานจลน์และ พลังงานศักยต์ ามสมการ E = Ek + Ep - แรงที่ทำให้เกิดงานโดยงานของแรงนั้นไม่ขึ้นกับ เส้นทางการเคลื่อนท่ี เช่น แรงโน้มถ่วงและแรง สปรงิ เรยี กวา่ แรงอนรุ ักษ์ - งานและพลังงานมีความสัมพันธ์กันโดยงานของ แรงลัพธ์เท่ากับพลังงานจลน์ของวัตถุที่เปลี่ยนไป ตามทฤษฎีบทงาน-พลังงานจลน์ เขียนแทนได้ ด้วยสมการ W = ∆Ek 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด พลังงานจลน์ คือ พลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของวัตถุเนื่องจากอัตราเร็วของวัตถุ พลังงานศักย์ คือ พลังงานที่สะสมในวัตถุ ประกอบด้วย พลังงานศักย์โน้มถ่วง เป็นพลังงานสะสมในวัตถุเนื่องจากแรง โน้มถ่วงของโลกและพลังงานศักย์ยืดหยุ่นเป็นพลังงานที่สะสมในสปริงอันเนื่องจากระยะยืดหรือหดของ สปริงจากสภาพปกติ 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3. ม่งุ มั่นในการทำงาน 2) ทักษะการสอื่ สาร 3) ทกั ษะการสงั เกต 4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 5) ทักษะการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 6) ทักษะการนำความร้ไู ปใช้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 64 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 งานและพลังงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ นำ กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูชักชวนนักเรียนพูดคุยกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามว่า “นักเรียนรู้จักพลังงาน อะไรบา้ ง” แล้วเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นตอบได้อยา่ งอสิ ระ 2. ครูถามคำถามเพื่อนำเข้าสู่เรื่องที่จะเรียน โดยถามนักเรียนว่า “พลังงานคืออะไร” และให้นักเรียน ชว่ ยกนั ตอบคำถามปากเปลา่ โดยไมม่ ีการเฉลยว่าถกู หรือผิด (หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูพูดคุยกับนักเรียนแล้วถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 11 ว่า “งานกับพลังงานมีความสัมพันธ์กันอย่างไร” โดยทำข้อตกลงกับนักเรียนว่า เรยี นหัวขอ้ นจ้ี บ นักเรยี นควรจะตอบคำถามน้ีได้ (แนวตอบ: หากมีแรง F กระทําต่อวัตถุ จนขนาดของความเร็วของวัตถุเปล่ียนไป ทําให้พลังงานจลน์ ของวัตถุเปลี่ยนไปจากเดิม พบว่างานที่แรงนั้นกระทําต่อวัตถุมีค่าเท่ากับพลังงานจลน์ของวัตถุท่ี เปลยี่ นไป) 2. ครูให้ความรู้นักเรียนถึงความหมายของพลังงานว่า พลังงาน เป็นปริมาณที่บอกถึงความสามารถ ในการทำงานของวัตถุท่ีไม่สามารถสัมผัสหรือจับต้องได้ โดยพลังงานกลเป็นพลังงานท่ีเกิดจากการ เคลือ่ นท่ีของวตั ถุและพลังงานสะสมในวตั ถุใด ๆ ประกอบด้วย พลงั งานจลน์ และพลงั งานศักย์ 3. ครสู ุม่ เรียกนกั เรยี นสองคนออกมาหน้าช้ันเรยี น แลว้ ให้ขวา้ งลกู เทนนิสใสข่ วดนำ้ ดืม่ • นกั เรยี นคนท่ี 1: ใหข้ ว้างโดนขวดนำ้ พอดี โดยทข่ี วดนำ้ ไม่ล้ม • นักเรียนคนท่ี 2: ใหข้ วา้ งโดนขวดนำ้ โดยท่ขี วดน้ำลม้ หรอื กระเด็น 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันหาคำตอบว่า ทำไมขวดน้ำในกรณีของนักเรียนคนที่ 2 ถึงล้ม โดยครูสังเกตการณ์ และใหค้ ำปรกึ ษาเม่ือนกั เรยี นเกิดปัญหา (แนวตอบ: เพราะพลังงานทเ่ี กดิ จากการเคล่ือนทีข่ องลูกเทนนสิ มมี ากพอทจ่ี ะทำใหข้ วดน้ำดื่มลม้ หรือกระเด็นได้ ซึ่งพลงั งานท่เี กดิ จากเคลอ่ื นที่ของลกู เทนนิสนัน้ เปน็ พลังงานจลน์) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 65 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 งานและพลังงาน 5. ครูตัง้ คำถามต่อว่า ถ้าเราทราบขนาดของแรงทีก่ ระทำต่อขวดน้ำด่ืมกจ็ ะสามารถหางานของแรงท่ี กระทำได้จากสมการใด (แนวตอบ: จากสมการ ������ = ������∆������) 6. ครตู รวจสอบความเข้าใจนักเรียนโดยถามวา่ พลังงานแบง่ เป็นประเภทใหญๆ่ อะไรบ้าง โดยครเู ปิด โอกาสใหน้ กั เรียนตอบและครูคอยอธบิ ายให้นกั เรียนเข้าใจ 7. ครูอธบิ ายความหมายของพลังงานจลน์ พร้อมแสดงท่ีมาของสมการ โดยเปิด PowerPoint เรอ่ื ง พลงั งานจลน์ ควบคู่ไปกับการอธบิ ายเน้ือหา จากหนังสอื เรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน้า 11 โดยนักเรยี นควรมีความเข้าใจว่า เนื่องจากปริมาณงานทท่ี ำได้ท้ังหมดจะเท่ากับพลังงานจลน์ จึงสามารถคำนวณหาพลังงานจลนไ์ ดจ้ ากสมการ Ek = 1 mv2 2 8. ครูเปิดภาพใน PowerPoint เร่ือง พลังงานจลน์ของวัตถุที่เปลี่ยนไป เม่ือมีงานของแรงลพั ธ์ท่ีไม่เป็น ศูนย์มากระทำต่อวัตถุ แล้วให้นักเรียนดูควบคู่ไปกับรูปภาพ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 12 โดยนักเรียนควรเข้าใจว่า พลังงานจลน์ท่ีเปล่ียนไป สามารถคำนวณหาได้จาก สมการ Wtot = ∆Ek ซึง่ สมการนเ้ี รียกวา่ ทฤษฎบี ทงาน-พลังงาน (work-energy theorem) 9. ครูให้นักเรียนแบ่งเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน แล้วให้แต่ละกลมุ่ ร่วมกันศกึ ษาตัวอยา่ งท่ี 5.7 และ 5.8 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 13 โดยครูสังเกตการณ์ และอธิบาย เมอ่ื นักเรียนเกดิ ปัญหา (หมายเหต:ุ ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ) อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. เมือ่ นกั เรียนชว่ ยกันทำแบบฝึกหัดเสรจ็ ครใู ห้ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ออกไปแสดงวธิ ที ำหนา้ ช้ันเรยี น 2. ครูอธิบายสรุปโจทย์และวิธีทำในตวั อย่างที่ 5.7 และ 5.8 ให้นกั เรียนฟงั ช่วั โมงที่ 2 ขั้นสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเท่า ๆ กัน กลุ่มละ 5-6 คน และให้นักเรียนศึกษาวิธีการทำกิจกรรมพลังงานจลน์ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 14-15 แล้วให้นักเรียนลงมือทำกิจกรรม ตามขั้นตอน แล้วบันทึกผลการทำกิจกรรมลงในใบงานท่ี 5.4 แบบบันทึกกิจกรรมพลังงานจลน์ โดยครูสงั เกตการณ์ และคอยให้คำปรึกษา (หมายเหตุ: ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ าร) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 66 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 2. ครูเน้นย้ำกับนักเรียนถึงกราฟที่ได้จากผลการทำกิจกรรมที่นักเรียนจะต้องคำนวณหางาน (W) ของ การทดลองแต่ละคร้ัง และนำข้อมูลท่ีได้ไปเขียนกราฟระหว่างงาน (แนวแกน y) กับอัตราเร็วสุดท้าย ยกกำลังสอง (แนวแกน x) และคำถามท้ายกิจกรรมท่ีนักเรียนต้องตอบหลังจากการทำกิจกรรมใน ใบงานที่ 5.4 ตวั อยา่ งคำถามท้ายกิจกรรมพลังงานจลน์ 1) กราฟระหวา่ งงาน (W) กับความเร็วสดุ ทา้ ยยกกำลงั สอง (v2) ทไ่ี ดม้ ลี ักษณะอยา่ งไร (แนวตอบ: กราฟท่ีได้มีลักษณะเป็นเส้นตรง ที่มีค่าเพ่ิมข้ึนสม่ำเสมอ คือ เมื่องานเพิ่มมากขึ้น ความเร็วสดุ ท้ายยกกำลงั สองจะสงู ขึน้ ตาม) 2) หากเส้นกราฟท่ีได้จากการทำกิจกรรมไมผ่ า่ นจุดกำเนิดนกั เรียนคิดว่าเปน็ เพราะเหตุใด (แนวตอบ: การที่เส้นกราฟไม่ผ่านจุดกำเนิดเป็นเพราะการหนุนรางด้านท่ีปล่อยรถมีความสูง ไมเ่ หมาะสม ทำใหก้ ารชดเชยแรงเสียดทานไม่ดีพอ) 3) ความชันของกราฟท่ไี ดจ้ ากการทำกจิ กรรมมคี ่าประมาณเท่ากบั ปรมิ าณใด (แนวตอบ: เม่ือพิจารณาความชันของกราฟจะได้วา่ ความชันของกราฟมีค่าคงตวั และมคี ่าเทา่ กบั คร่ึงหนงึ่ ของมวลรถ) 4) จากลกั ษณะของกราฟสรปุ ความสมั พันธร์ ะหว่างงาน (W) กับความเร็วสดุ ท้ายยกกำลงั สอง (v2) ไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ: จากกราฟสรุปได้ว่างานท่ีทำโดยแรงดึงนี้จะแปรผันตรงกับอัตราเร็วยกกำลังสอง น่ันคอื ������∆������ ∝ ������2 หรอื ������∆������ = ������������2 เมือ่ k เป็นค่าคงตัวของการแปรผัน) อธิบายความรู้ (Explain) 1. หลงั จากนักเรียนทำกจิ กรรมเสรจ็ ครใู ห้แตล่ ะกล่มุ พูดคยุ สรุปผลท่ีได้จากการทำกจิ กรรม จากน้นั ครู ส่มุ นกั เรียนออกมาอภปิ รายถึงผลการทำกจิ กรรมหน้าชั้นเรียน (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) 2. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปผลจากการทำกิจกรรม (แนวตอบ: จากการทำกจิ กรรม งานท่ีทำโดยแรงดงึ รถทดลองเปน็ สัดส่วนตรงกบั อัตราเร็วของรถยก กำลังสอง เมื่อเขียนกราฟความสมั พันธร์ ะหว่างงาน (W) กับอตั ราเร็วสุดทา้ ยยกกำลังสอง (v2) จะได้ ความชันของกราฟ มคี ่าคงตัวและมีค่าเทา่ กบั คร่ึงหน่ึงของมวลรถทดลอง และงานทเ่ี กิดจากแรงดงึ รถ ทดลองเท่ากับพลงั งานจลน์ของรถทดลอง เทา่ กับ 1 ������������2 หรือ ������ = ������∆������ = 1 ������������2) 22 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเก็บรวบรวมใบงานท่ี 5.4 แบบบันทึกกิจกรรมพลังงานจลน์ ส่งคืนครทู ้ายช่ัวโมง 4. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นไปทำแบบฝึกหดั ท่ี 2.1 เรื่องพลงั งาน จากแบบฝึกหัด รายวชิ าเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 67 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลงั งาน ช่ัวโมงที่ 3 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มที่ได้แบ่งไปเม่ือช่ัวโมงทแี่ ลว้ ช่วยกนั พูดคยุ หาความหมายของ พลังงานศกั ย์ แลว้ ชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ ของกลุ่มตวั เองใหเ้ พ่ือน ๆ ในห้องฟงั โดยครูคอยช้ีแนะและให้ความรู้ที่ถูกต้อง (แนวตอบ: พลังงานศักย์ คือ พลังงานที่สะสมอยู่ในวัตถุอันเน่ืองมาจากตำแหน่งของวัตถุ ประกอบด้วย พลังงานศักย์โน้มถ่วง เป็นพลังงานที่สะสมในวัตถุเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก และพลังงานศักย์ ยืดหยนุ่ เป็นพลงั งานท่ีสะสมในวัตถุทม่ี ีความยืดหยุ่น) 2. ครใู ห้นักเรียนดูภาพพลังงานศักย์ยดื หยุ่นและพลังงานศักย์โน้มถ่วงในชวี ิตประจำวัน จากหนังสือเรยี น รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 15 แล้วถามคำถามนักเรียนว่า ในชีวิตประจำวันของนักเรียน กิจกรรมใดบ้างท่ีเกี่ยวข้องกับพลังงานศักย์ ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยครสู ังเกตการณ์ และแนะนำแนวทางในการตอบ 3. ครูสรุปและอธิบายความหมายของพลังงานศักย์เพ่ิมเติมจากที่นักเรียนแต่ละกลุ่มได้แสดงความคิดเห็น ไปตอนต้นชั่วโมง โดยให้นักเรียนดูภาพจาก PowerPoint หรือจากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2หน้า 16 แล้วสอนต่อว่า “วัตถุซ่ึงอยู่ในระดับความสูง h เมื่อเทียบกับตำแหน่ง อา้ งอิงจะมีค่าเท่ากับ mgh เรียกว่า พลงั งานศกั ย์โน้มถ่วง สามารถคำนวณได้จากสมการ Ep = mgh จากสมการ พลังงานศักย์โน้มถ่วงมีค่าข้ึนกับมวล ความเร่งโน้มถ่วง และความสูงของวัตถุเม่ือเทียบ กบั ตำแหนง่ อา้ งอิง หากวัตถนุ ั้นอยทู่ ี่ตำแหน่งอ้างอิง พลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถ่วงของวัตถนุ ้นั จะมคี ่าเปน็ ศนู ย์ อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ท่ี 2.1 เร่อื ง พลังงาน จากแบบฝกึ หดั ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วย การเรยี นรทู้ ่ี 5 โดยครูคอยสังเกตการณ์ และใหค้ ำแนะนำ 2. ครอู ธิบายวธิ ีการและแนวทางในการหาคำตอบ ชัว่ โมงท่ี 4 ข้ันสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้สมาชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษากจิ กรรม เร่ือง พลังงานศักย์โน้มถว่ ง จากหนังสอื เรียน รายวิชา เพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 17 และลงมือทำกิจกรรมตามข้ันตอน แล้วบันทึกผลการทำกิจกรรม จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 68 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลังงาน ลงในใบงานที่ 5.5 แบบบันทึกกิจกรรมพลังงานศักย์โน้มถ่วง โดยครูคอยสังเกตการณ์ และให้คำแนะนำ หรืออธิบายเมื่อนกั เรียนเกดิ ปัญหา (หมายเหต:ุ ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การปฏบิ ตั กิ าร) 2. ครูเน้นย้ำกับนักเรียนถึงกราฟที่ได้จากผลการทำกิจกรรมโดยนักเรียนต้องคำนวณหางาน (W) ของ การทดลองแต่ละคร้ัง และนำข้อมูลไปเขียนกราฟระหว่างงาน (แนวแกน y) กับความสูงของรางไม้ (แนวแกน x) และคำถามทา้ ยกจิ กรรมทนี่ ักเรยี นตอ้ งตอบหลงั จากการทำกิจกรรมในใบงานท่ี 5.5 ตัวอย่างคำถามท้ายกิจกรรมพลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถ่วง 1) กราฟท่ีได้จากการทำกจิ กรรมมีลกั ษณะอย่างไร ผ่านจดุ กำเนิดหรอื ไม่ หากไมผ่ า่ นจุดกำเนดิ เป็น เพราะเหตุใด (แนวตอบ: กราฟท่ีได้มีลักษณะเป็นเส้นตรง และการที่กราฟไม่ผ่านจุดกำเนิดเป็นเพราะความ คลาดเคลือ่ นจากการวดั ความสูงตามแนวดงิ่ ) 2) ความชนั ของกราฟท่ไี ด้จากการทำกิจกรรมมีคา่ เทา่ กบั ปริมาณใด (แนวตอบ: เม่ือพิจารณาความชันของกราฟจะได้ว่า ความชันของกราฟมีค่าคงตัวและมีค่าใกล้เคียง กับนำ้ หนักของรถทดลอง) 3) งานและพลังงานศักย์โน้มถ่วงมีความสมั พันธก์ ันอย่างไร (แนวตอบ: งานที่เกิดจากแรงลากรถทดลองขึ้นไปตามรางไม้ซึ่งมีความสูงต่างกัน จะเท่ากับงานท่ี เกิดจากแรงท่ีใช้ยกรถข้ึนไปตรง ๆ ในแนวด่ิงท่ีความสูงเดียวกัน หรือเท่ากับพลังงานศักย์โน้มถ่วง ของรถที่เพิม่ ขึ้น) อธิบายความรู้ (Explain) 1. หลังจากนักเรียนทำกจิ กรรมเสรจ็ ครูให้แต่ละกลุ่มพูดคุยสรุปผลที่ได้จากการทำกจิ กรรม จากนั้นครู สมุ่ นักเรยี นออกมาอภิปรายถงึ ผลการทำกจิ กรรมหนา้ ชัน้ เรียน (หมายเหต:ุ ครูเรมิ่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) 2. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการทดลองจากการทำกิจกรรม (แนวตอบ: จากการทำกิจกรรม งานท่ีทำโดยแรงดึงรถทดลองขึ้นตามรางเอียงเป็นสัดส่วนตรงกับ ความสูง ความชันของกราฟมีค่าคงท่ี โดยงานท่ีเกิดจากแรงดึงรถทดลองน้ีมีค่าประมาณเท่ากับ พลังงานศักย์โน้มถ่วงของรถทดลอง W = Ep = mgh กล่าวคือ งานและพลังงานศักย์โน้มถ่วง มีความสัมพันธ์กัน งานที่เกิดจากแรงลากรถทดลองขึน้ ไปตามรางไมซ้ ่ึงมคี วามสูงต่าง ๆ กนั จะเท่ากับ งานท่ีเกิดจากแรงท่ีใช้ยกรถขึ้นไปตรง ๆ ในแนวด่ิงท่ีความสูงเดียวกัน หรือเท่ากับพลังงานศักย์โน้มถ่วง ของรถท่เี พ่มิ ขึน้ ) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 69 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มเก็บรวบรวมใบงานท่ี 5.5 แบบบันทึกกิจกรรมพลังงานศักย์โนม้ ถว่ ง ส่งคนื ครูทา้ ย ชั่วโมง ชว่ั โมงท่ี 5 ข้ันสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครพู ดู คุยทบทวนเน้อื หาพลงั งานศกั ย์จากชัว่ โมงที่แล้ว เพือ่ ทดสอบความเข้าใจของนกั เรยี น 2. ครูตั้งคำถามทดสอบความเข้าใจเก่ียวกับพลังงานศักย์ว่า “นอกจากพลังงานศักย์โน้มถ่วงแล้วยังมี พลงั งานศกั ย์ยืดหยุ่นอีก นักเรียนคิดว่าพลังงานศักย์ยืดหยนุ่ เกดิ ขน้ึ เมือ่ ใดได้บา้ ง” ให้นกั เรียนได้ตอบ อยา่ งอิสระ 3. ครใู ห้เวลานักเรียนศึกษาพลังงานศักย์ยืดหยุ่น จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 18-19 เมอ่ื ครบเวลาท่ีกำหนดครจู ะสุ่มนักเรยี นตอบคำถามเปน็ รายบุคคล 1) พลังงานศกั ยย์ ดื หยนุ่ คืออะไร (แนวตอบ: งานของแรงดึงหรือกดสปริงใหม้ ีระยะเปลีย่ นไปจากตำแหน่งสมดุล) 2) อธิบายตำแหน่งสมดุล (แนวตอบ: ตำแหน่งเรม่ิ ตน้ ของสปรงิ เมือ่ ยังไมม่ ีแรงกระทำ) 3) เมือ่ สปริงถูกดึงหรอื อัด แรงคนื ตัวของสปรงิ จะมคี า่ เท่ากบั แรงใด (แนวตอบ: แรงทก่ี ระทำกับสปรงิ ) 4. ครูถามคำถามท้าทายการคิดขัน้ สูง (H.O.T.S.) จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 18 กับนักเรียนว่า “พลังงานศักย์ยืดหยุ่นมีผลต่อระบบป้องกันการส่ันสะเทือนของรถยนต์ อยา่ งไร” โดยใหน้ กั เรียนทน่ี ่งั ติดกนั ช่วยกนั คิดและพิจารณาคำถามเพ่ือให้ได้คำตอบ (แนวตอบ: พลังงานศักย์ยืดหยุ่นของสปริงแปรผันตรงกับค่าคงตัวของสปริงและระยะยืดหดของ สปริงจากจุดสมดุล ถ้าพลังงานศักย์ยืดหยุ่นมีค่ามาก อาจจะเกิดจากค่าคงตัวของสปริงท่ีมีค่ามาก นน่ั แสดงว่าสปรงิ ของโช้กอัป (Shock Absorber) แข็ง ระยะยดื หดจากจุดสมดุลน้อย) 5. ครูอธิบายใจความสำคัญของพลังงานศักย์ยืดหยุ่นโดยเปิด PowerPoint ให้นักเรียนดูว่า “งานของ แรงดึงหรือกดสปริงให้มีระยะเปลี่ยนไป x จากตำแหน่งสมดุล เรียกว่า พลังงานศักย์ยืดหยุ่น” สามารถคำนวณไดจ้ ากสมการ Eps = 1 kx2 2 6. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างที่ 5.9 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 19 โดยครูสงั เกตการณ์ และให้คำปรึกษาเม่อื นกั เรียนเกดิ ปัญหา จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 70 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 2.1 เร่ือง พลงั งาน จากแบบฝึกหดั ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 โดยครคู อยสังเกตการณ์ และแนะนำแนวทางในการทำ 2. ครอู ธบิ ายวธิ ีการและแนวทางในการหาคำตอบ ชัว่ โมงที่ 6 ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มที่แบ่งไว้ในชั่วโมงท่ี 3 ร่วมกันศึกษากิจกรรม เร่ือง พลังงานศักย์ยืดหยุ่น จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 20 และลงมือทำกิจกรรมตามขั้นตอน แล้วบันทึกผลการทำกิจกรรมลงในใบงานท่ี 5.6 แบบบันทึกกิจกรรมพลังงานศักย์ยืดหยุ่น โดยครู คอยสังเกตการณ์ และใหค้ ำอธบิ ายเมอ่ื นักเรยี นเกิดปญั หา 2. ครูเน้นย้ำกับนักเรียนถึงกราฟที่ได้จากผลการทำกิจกรรม เม่ือนำข้อมูลไปเขียนกราฟระหว่างแรง F (แนวแกน y) กับระยะยดื (แนวแกน x) และคำถามท้ายกิจกรรมท่ีนกั เรียนต้องตอบหลงั จากการทำ กจิ กรรมในใบงานที่ 5.6 ตัวอย่างคำถามทา้ ยกิจกรรมพลังงานศักย์ยดื หยุน่ 1) กราฟที่ได้จากการทำกิจกรรมมลี ักษณะอย่างไร และความชันของกราฟมีค่าเท่าใด (แนวตอบ: กราฟมลี กั ษณะเป็นเสน้ ตรง และความชันของกราฟจะมีค่าเท่ากับค่าคงตัวของสปริง) 2) งานและพลังงานศักยย์ ืดหยนุ่ มีความสัมพันธก์ นั อย่างไร (แนวตอบ: งานทใ่ี ช้ในการดงึ สปรงิ จะเท่ากบั พลังงานศักย์ยืดหยนุ่ ของสปรงิ ) อธิบายความรู้ (Explain) 1. หลังจากนักเรียนทำกิจกรรมเสร็จ ครูให้แต่ละกลุ่มพูดคุยสรปุ ผลท่ีได้จากการทำกจิ กรรม จากน้ันครู สุ่มนักเรียนออกมาอภปิ รายถงึ ผลการทำกจิ กรรมหน้าช้ันเรียน โดยเลือกสมาชกิ ท่ไี ม่ซ้ำกับคร้ังกอ่ น (หมายเหตุ: ครูเรม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปผลการทดลองจากการทำกิจกรรม (แนวตอบ: จากการทำกิจกรรม งานที่ใช้ดึงสปริงจะแปรผันตรงกับระยะที่สปริงยืดออก ������ ∝ ∆������ หรือ ������ = ������∆������ โดยความชันของกราฟระหว่างแรงท่ีใช้ดึงสปริงยืดออกเป็นค่าคงตัวสำหรับสปริง หน่ึง ๆ เรียกว่า ค่าคงตัวสปริง บอกถึงความแข็งของสปริง โดยงานท่ีใช้ในการดึงสปริงจะเท่ากับ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ่วย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 71 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน พลังงานศักย์ยืดหยุ่นขอสปริง ซึ่งมีค่าเท่ากับคร่ึงหนึ่งของผลคูณของค่าคงตัวสปริงกับระยะที่สปริง ยดื ออกยกกำลงั สอง ������������ = 1 ������������2) 2 3. นักเรยี นแต่ละกล่มุ เก็บรวบรวมใบงานที่ 5.6 เร่ืองกิจกรรมพลังงานศักย์โนม้ ถว่ ง สง่ คนื ครูทา้ ยชั่วโมง ชั่วโมงที่ 7 ขัน้ สรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit question 5 จากหนังสือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 43-45 ขอ้ 1-8 และ 15-17 ลงในสมุด 2. ใหน้ กั เรียนทำสรปุ ผงั มโนทัศน์ (Concept Mapping) เรื่อง พลงั งาน ลงในกระดาษ A4 (หมายเหต:ุ ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน) 3. ครูสุม่ เลือกนักเรยี นออกไปนำเสนอผังมโนทัศน์ของตนเองหน้าช้ันเรยี น (หมายเหตุ: ครูเร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนำเสนอผลงาน) ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.4 แบบบันทึกกิจกรรมพลงั งานจลน์ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 5.5 แบบบนั ทึกกิจกรรมพลังงานศักยโ์ นม้ ถ่วง 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.6 แบบบนั ทึกกจิ กรรมพลงั งานศักยย์ ดื หยนุ่ 2. ครตู รวจการทำแบบฝึกหดั Unit question 5 เรอื่ ง พลงั งาน ในสมุดประจำตวั 3. ครตู รวจสอบแบบฝกึ หดั ที่ 2.1 จากแบบฝึกหดั ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 4. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล และการ ทำงานกลมุ่ 5. ครวู ดั และประเมนิ ผลจากชนิ้ งานการสรปุ เน้อื หา เร่ือง พลังงาน ทีน่ ักเรียนได้สรา้ งขึ้นจากข้นั ขยาย ความเขา้ ใจเป็นรายบุคคล จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 72 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธวี ดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมนิ ระหว่าง - ใบงานท่ี 5.4 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ใบงานท่ี 5.5 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจัดกจิ กรรม - ใบงานที่ 5.6 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) พลงั งาน - ตรวจใบงานท่ี 5.4 - ผลงานทน่ี ำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจใบงานที่ 5.5 - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ - ตรวจใบงานท่ี 5.6 - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ อนั พงึ ประสงค์ ผลงาน ผลงาน 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานกลุม่ การทำงานกลุ่ม 5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินยั อนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน 8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียน รายวิชาเพมิ่ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 งานและพลังงาน 2) แบบฝึกหัดฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน 3) ใบงานท่ี 5.4 แบบบันทกึ กิจกรรมพลงั งานจลน์ 4) ใบงานที่ 5.5 แบบบันทกึ กจิ กรรมพลังงานศกั ยโ์ นม้ ถว่ ง 5) ใบงานที่ 5.6 แบบบนั ทึกกิจกรรมพลงั งานศกั ย์ยืดหยุ่น 6) PowerPoint เรอื่ ง งานและพลงั งาน 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) ห้องสมุด 3) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 73 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 งานและพลังงาน ใบงานที่ 5.4 แบบบนั ทึกกจิ กรรมพลังงานจลน์ คำชี้แจง : บนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม พลงั งานจลน์ จากหนงั สือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 14 ลงในตาราง พรอ้ มทงั้ อภิปรายทา้ ยกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชิกกลุ่ม 12 34 56 จดุ ประสงค์การทดลอง บันทกึ ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม หาอตั ราเรว็ ของรถจากแถบกระดาษเมอ่ื เคลื่อนท่ีได้ 50 เซนตเิ มตร จำนวน มวลของ มวลของ ขนาดแรงดงึ รถ ระยะท่รี ถ อัตราเร็ว v2 งานที่ทำโดย นอต รถ m นอต m’ เคล่ือนท่ี ∆������ สุดทา้ ย v (m2/s2) แรงดงึ รถ (ตวั ) (kg) ������ = ������������′ ������ (kg) (m) (m/s) ������ = ������∆������ ������+������′ (J) (N) จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 74 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน นำข้อมูลทไ่ี ด้มาเขียนกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงาน (W) กับอตั ราเรว็ สุดทา้ ยของรถยกกำลังสอง (v2) สรปุ และอภิปรายทา้ ยกิจกรรม คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. กราฟระหวา่ งงาน (W) กบั อัตราเร็วสดุ ทา้ ยยกกำลงั สอง (v2) ทีไ่ ดม้ ลี ักษณะอยา่ งไร 2. หากเสน้ กราฟท่ไี ดจ้ ากการทำกิจกรรมไมผ่ ่านจดุ กำเนิดนักเรยี นคิดวา่ เป็นเพราะเหตใุ ด 3. ความชนั ของกราฟที่ได้จากการทำกิจกรรมมีคา่ เท่ากับปรมิ าณใด 4. จากลักษณะของกราฟ สรุปความสัมพนั ธร์ ะหว่างงาน (W) กบั อัตราเรว็ สดุ ท้ายยกกำลังสอง (v2) ไดอ้ ย่างไร จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 75 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลังงาน ใบงานที่ 5.4 เฉลย จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 76 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน แบบบนั ทกึ กจิ กรรมพลังงานจลน์ คำชแ้ี จง : บนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม พลังงานจลน์ จากหนงั สือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 14 ลงในตาราง พรอ้ มท้ังอภปิ รายท้ายกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชกิ กลุ่ม 12 34 56 จดุ ประสงคก์ ารทดลอง 1. หาความชันของกราฟท่ีแสดงความสัมพันธ์ระหว่างงานของแรงดึงรถทดลอง กับอัตราเร็วของรถทดลองยกกำลังสองได้ และบอกได้ว่าเป็นค่าท่ีมีหน่วยเดียวกับหน่วยของมวล 2. สรุป ได้ว่างานท่ีทำโดยแรงดึงรถทดลองเปน็ สัดส่วนตรงกบั อัตราเรว็ ของรถทดลองกำลังสอง 3. แสดงให้เห็นว่า ความชันของกราฟมีค่าเท่ากับคร่ึงหน่ึงของมวลรถทดลอง 4. สรุปได้ว่างานที่ทำในการดึงรถทดลองจะ เปลยี่ นเปน็ พลังงานจลน์ของรถทดลอง บันทึกผลการปฏบิ ัติกิจกรรม หาอัตราเร็วของรถจากแถบกระดาษเมือ่ เคล่ือนที่ได้ 50 เซนติเมตร จำนวน มวลของ มวลของ ขนาดแรงดงึ รถ ระยะท่ีรถ อัตราเรว็ v2 งานที่ทำโดย นอต รถ m นอต m’ เคลือ่ นท่ี ∆������ สุดท้าย v (m2/s2) แรงดงึ รถ (ตัว) (kg) ������ = ������������′ ������ (kg) (m) (m/s) ������ = ������∆������ ������+������′ 1 0.018 0.50 0.50 0.60 0.36 (J) 2 0.036 0.50 (N) 0.50 0.84 0.70 3 0.054 0.50 0.50 0.96 0.93 0.09 4 0.072 0.50 0.17 0.50 1.10 1.21 0.34 0.17 0.49 0.63 0.24 0.32 จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 77 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน นำขอ้ มลู ทีไ่ ด้มาเขียนกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงาน (W) กบั อัตราเรว็ สุดท้ายของรถยกกำลังสอง (v2) สรุปและอภปิ รายท้ายกิจกรรม จากการทำกิจกรรม งานท่ีทำโดยแรงดึงรถทดลองเป็นสัดส่วนตรงกับอัตราเร็วของรถยกกำลังสอง เม่ือเขียนกราฟความสัมพันธ์ระหว่างงาน (W) กับอัตราเร็วสุดท้ายยกกำลังสอง (v2) จะได้ว่า ความชัน ของกราฟ มีค่าคงตัวและมีค่าเท่ากับครึ่งหน่ึงของมวลของรถทดลอง และงานท่ีเกิดจากแรงดึงรถทดลอง เทา่ กับพลงั งานจลนข์ องรถทดลอง เท่ากับ 1 mv2 หรือ W = F∆x = 1 mv2 22 คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. กราฟระหวา่ งงาน (W) กับอตั ราเร็วสุดท้ายยกกำลังสอง (v2) ทไ่ี ดม้ ีลักษณะอย่างไร กราฟที่ได้มีลักษณะเป็นเส้นตรง ที่มีค่าเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ คือ เม่ืองานมากขึ้น ความเร็ว สุดท้าย กำลงั สองจะสงู ขึ้นตาม 2. หากเส้นกราฟท่ีไดจ้ ากการทำกจิ กรรมไม่ผ่านจุดกำเนดิ นกั เรียนคดิ วา่ เปน็ เพราะเหตใุ ด การที่เส้นกราฟไม่ผ่านจุดกำเนดิ เปน็ เพราะการหนุนรางดา้ นท่ีปล่อยรถมีความสูงไม่เหมาะสมทำให้ การชดเชยแรงเสยี ดทานไมด่ พี อ 3. ความชันของกราฟทไี่ ดจ้ ากการทำกิจกรรมมีค่าเท่ากบั ปรมิ าณใด เมือ่ พิจารณาความชันของกราฟจะได้ว่า ความชันของกราฟมีคา่ คงตัวและมคี ่าเท่ากับครึ่งหนึง่ ของมวล รถ (นกั เรียนควรแสดงการคำนวณหาค่าความชันของกราฟจากสมการ ความชันของกราฟ = )∆(F∆x) ∆(v2) 4. จากลักษณะของกราฟ สรปุ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งงาน (W) กบั อัตราเร็วสดุ ทา้ ยยกกำลงั สอง (v2) ได้อย่างไร จากกราฟ สรุปได้ว่างานท่ีทำโดยแรงดึงนี้จะแปรผันตรงกับความเร็วยกกำลังสอง น่ันคือ F∆x ∝ v2 หรือ F∆x = kv2 เม่ือ k เป็นคา่ คงตัวของการแปรผนั จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 78 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.5 แบบบันทึกกจิ กรรมพลังงานศกั ยโ์ นม้ ถ่วง คำชี้แจง : บนั ทึกผลการทำกิจกรรม พลังงานศกั ยโ์ น้มถ่วง จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 17 ลงในตาราง พรอ้ มทัง้ อภิปรายทา้ ยกจิ กรรม และตอบคำถาม สมาชิกกลุ่ม 12 34 56 จดุ ประสงคก์ ารทดลอง บันทกึ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ความสูงของรางไม้ท่ี ขนาดของแรงดึง F งานท่ีทำโดยแรงดงึ พลงั งานศักย์โน้มถ่วง ตำแหน่ง h (N) W = F∆x Ep = mgh (m) (J) (J) นำขอ้ มูลท่ไี ด้มาเขยี นกราฟแสดงความสมั พันธร์ ะหว่างงาน (W) กบั ความสงู (h) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 79 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน สรปุ และอภิปรายท้ายกจิ กรรม คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. กราฟท่ีได้จากการทำกจิ กรรมมลี กั ษณะอย่างไร ผ่านจุดกำเนิดหรือไม่ หากไมผ่ า่ นจุดกำเนิดเปน็ เพราะเหตุใด 2. ความชันของกราฟท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรมมคี ่าเทา่ กบั ปริมาณใด 3. งานและพลังงานศักยโ์ น้มถว่ งมีความสมั พันธก์ ันอย่างไร จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 80 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.5 เฉลย เรือ่ ง กิจกรรมพลงั งานศักย์โน้มถว่ ง คำชีแ้ จง : บนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม พลังงานศกั ยโ์ นม้ ถ่วง จากหนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 17 ลงในตาราง พร้อมทัง้ อภปิ รายทา้ ยกจิ กรรม และตอบคำถาม สมาชิกกลุ่ม 12 34 56 จุดประสงคก์ ารทดลอง 1. หางานท่ีใช้ในการดึงรถข้ึน 2. เขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างงานกับ ความสูง 3. หาความชันจากกราฟระหว่างงานกับความสูงได้ 4. สรุปเป็นสมการของพลังงานศักยโ์ น้มถ่วง ไดว้ า่ Ep = mgh บนั ทึกผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม ความสงู ของรางไม้ท่ี ขนาดของแรงดงึ F งานทท่ี ำโดยแรงดงึ พลงั งานศกั ย์โน้มถ่วง ตำแหน่ง h (N) (m) W = F∆x Ep = mgh (J) (J) 0.20 1.00 1.00 0.98 0.30 1.50 1.50 1.47 0.40 2.01 2.01 1.96 0.50 2.50 2.50 2.45 0.60 2.98 2.98 2.94 นำข้อมลู ทีไ่ ด้มาเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งงาน (W) กับความสูง (h) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 81 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 งานและพลังงาน สรุปและอภิปรายทา้ ยกจิ กรรม จากการทำกิจกรรม งานที่ทำโดยแรงดึงรถทดลองขึ้นตามรางเอียงเป็นสัดส่วนตรงกับความสูง ความชันของกราฟมคี ่าคงที่ โดยงานท่ีเกดิ จากแรงดึงรถทดลองน้มี ีค่าประมาณเทา่ กับพลังงานศกั ย์โน้มถ่วง ของรถทดลอง W = Ep = mgh กล่าวคือ งานและพลังงานศักย์โน้มถ่วงมีความสัมพันธ์กัน งานที่เกิด จากแรงลากรถทดลองขนึ้ ไปตามรางไมซ้ ่ึงมคี วามสูงต่าง ๆ กัน จะเท่ากับงานที่เกิดจากแรงท่ใี ช้ยกรถข้ึนไป ตรง ๆ ในแนวดง่ิ ทค่ี วามสงู เดียวกัน หรอื เทา่ กับพลงั งานศกั ย์โนม้ ถ่วงของรถทเ่ี พ่ิมขึน้ คำถามท้ายกิจกรรม 1. กราฟที่ไดจ้ ากการทำกจิ กรรมมีลกั ษณะอย่างไร ผา่ นจุดกำเนิดหรือไม่ หากไมผ่ า่ นจุดกำเนิดเป็นเพราะเหตุใด กราฟท่ไี ดม้ ีลักษณะเป็นเส้นตรง และการที่กราฟไม่ผ่านจดุ กำเนิดเปน็ เพราะความคลาดเคล่ือนจาก การวดั ความสูงตามแนวดิ่ง (h) 2. ความชันของกราฟทไ่ี ด้จากการทำกิจกรรมมีคา่ เท่ากบั ปรมิ าณใด เม่ือพิจารณาความชันของกราฟจะได้ว่า ความชันของกราฟมีค่าคงตัวและมีค่าใกล้เคียงกับน้ำหนัก ของรถทดลอง (mg) (นกั เรียนควรแสดงการคำนวณหาค่าความชันของกราฟจากสมการ ความชนั ของ กราฟ = ∆(F∆x) ) ∆h 3. งานและพลังงานศักย์โน้มถว่ งมคี วามสัมพันธ์กนั อย่างไร งานที่เกิดจากแรงลากรถทดลองข้ึนไปตามรางไม้ซึ่งมีความสูงต่าง ๆ กัน จะเท่ากับงานท่ีเกิดจาก แรงท่ีใช้ยกรถขึ้นไปตรง ๆ ในแนวด่ิงท่ีความสูงเดียวกัน หรือเท่ากับพลังงานศักย์โน้มถ่วงของรถท่ี เพิม่ ข้นึ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ่วย กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 82 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลังงาน ใบงานที่ 5.6 เร่ือง กิจกรรมพลังงานศกั ย์ยืดหย่นุ คำช้ีแจง : บนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม พลังงานศกั ย์ยืดหยุ่น จากหนังสอื เรยี น รายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 20 ลงในตาราง พร้อมท้งั อภิปรายทา้ ยกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชิกกลุ่ม 12 34 56 จดุ ประสงค์การทดลอง บันทกึ ผลการปฏิบัติกจิ กรรม ระยะทสี่ ปริงยดื จากตำแหนง่ สมดลุ (× 10-2 m) ขนาดของแรงท่ีใช้ดงึ (N) นำข้อมลู ท่ีได้มาเขียนกราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของแรงท่ีใชด้ งึ สปริง (F) กบั ระยะทสี่ ปริงยืดออก (h) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผูช้ ่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 83 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน สรุปและอภิปรายท้ายกจิ กรรม คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. กราฟท่ีได้จากการทำกจิ กรรมมีลกั ษณะอย่างไร และความชันของกราฟมคี ่าเทา่ ใด 2. งานและพลงั งานศักยย์ ดื หยนุ่ มีความสัมพนั ธ์กันอย่างไร จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 84 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 งานและพลงั งาน ใบงานท่ี 5.6 เฉลย เรือ่ ง กจิ กรรมพลังงานศักย์ยืดหย่นุ คำช้ีแจง : บนั ทึกผลการทำกจิ กรรม พลังงานศักย์ยดื หยนุ่ จากหนังสอื เรียน รายวชิ าเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ ฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 20 ลงในตาราง พรอ้ มทั้งอภปิ รายท้ายกิจกรรม และตอบคำถาม สมาชกิ กลุ่ม 12 34 56 จดุ ประสงคก์ ารทดลอง 1. เขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างแรงที่ใช้ดึงสปริงกับระยะทางท่ีสปริงยืด ออกจากตำแหน่งสมดุล 2. สรปุ ได้ว่าแรงท่ีใชด้ ึงสปริงจะแปรผนั ตรงกับระยะที่สปริงยืดออกจากตำแหน่งสมดุล 3. หาค่าคงตัวสปริงจากกราฟระหว่างแรงที่ใช้ดึงสปริงกับระยะท่ีสปริงยืดออกได้ 4. สรุปเป็นสมการของ พลงั งานศกั ย์ยืดหย่นุ ได้วา่ Ep = 1 kx2 2 บนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ระยะทส่ี ปริงยดื จากตำแหน่งสมดุล 0.0 1.0 2.0 3.0 4.0 5.0 6.0 7.0 (× 10-2 m) ขนาดของแรงที่ใช้ดงึ (N) 0 1.00 1.85 2.80 3.85 4.80 5.70 6.60 นำข้อมลู ท่ีได้มาเขียนกราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของแรงท่ีใช้ดึงสปริง (F) กับระยะทสี่ ปริงยืดออก (h) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 85 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน สรุปและอภปิ รายทา้ ยกจิ กรรม จากการทำกิจกรรม งานท่ีใช้ดึงสปริงจะแปรผันตรงกับระยะท่ีสปริงยืดออก F ∝ ∆x หรือ F = k∆x โดยความชันของกราฟระหว่างแรงท่ีใช้ดึงสปริงกับระยะท่ีสปริงยืดออกเป็นค่าคงตัวสำหรับสปริงหนึ่ง ๆ เรียกว่า ค่าคงตัวสปริง บ่งบอกถึงความแข็งของสปริง โดยงานท่ีใช้ในการดึงสปริงจะเท่ากับพลังงานศักย์ ยืดหยุ่นของสปริง ซ่ึงมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของผลคูณของค่าคงตัวสปริงกับระยะท่ีสปริงยืดออกยกกำลังสอง Ep = 1 kx2 2 คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. กราฟที่ไดจ้ ากการทำกิจกรรมมลี ักษณะอย่างไร และความชันของกราฟมคี ่าเท่าใด กราฟมีลักษณะเป็นเสน้ ตรง และความชนั ของกราฟจะมคี ่าเท่ากบั ค่าคงตวั ของสปรงิ (นกั เรยี นควรแสดง การคำนวณหาค่าความชันของกราฟจากสมการ ความชันของกราฟ = ∆(F) ) ∆(∆x) 2. งานและพลังงานศักยย์ ืดหย่นุ มคี วามสมั พนั ธ์กนั อย่างไร งานท่ใี ช้ในการดงึ สปริงจะเท่ากบั พลังงานศกั ย์ยืดหยนุ่ ของสปริง จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 86 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน 9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 9.1 หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผชู้ ่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นายอดิศร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครูผ้ชู ่วย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 87 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่ีมปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ …………………………………………. (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา) ครผู ูส้ อน ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 88 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 งานและพลงั งาน แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง กฎการอนุรกั ษ์พลงั งานกล รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 2 รหสั วิชา ว32102 เวลา 5 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้/บท งานและพลงั งาน รวม 24 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 บูรณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซียน  STEM  PLC  สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  มาตรฐานสากล  ขา้ มกลมุ่ สาระ 1. ผลการเรียนรู้ 3. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล รวมทั้งวิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อกับการ เคลื่อนท่ขี องวัตถใุ นสถานการณต์ า่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานกลได้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายกฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกลได้ (K) 2. คำนวณหาปริมาณทีเ่ ก่ียวข้องกบั กฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานกลได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่และงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ - ถ้างานท่ีเกิดขึ้นกับวัตถุเป็นงานเนื่องจากแรง พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา อนุรักษ์เท่านั้น พลังงานกลของวัตถุจะคงตัว ซึ่ง เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงานกล โดยท่ี พลงั งานศักย์อาจเปลย่ี นเป็นพลงั งานจลน์ 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด พลังงานต่าง ๆ ของวัตถุจะไม่สูญหาย แต่อาจเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานหนึ่งเป็นอีกพลังงาน หน่ึง ซ่ึงเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงานกล 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 89 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2) ทักษะการส่อื สาร 3) ทักษะการสงั เกต 4) ทักษะการทำงานรว่ มกนั 5) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. กิจกรรมการเรียนรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่วั โมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ 2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนเก่ียวกับเรื่องที่จะเรียน โดยถามว่า “ในความเข้าใจของนักเรียน กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งานหมายความว่าอย่างไร” และให้นักเรยี นช่วยกันตอบคำถามปากเปล่าโดยไม่มี การเฉลยว่าถกู หรือผิด (หมายเหตุ: ครเู ริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 21 วา่ “พลังงานกลมีความสัมพันธ์กับพลังงานชนิดใด” โดยทำข้อตกลงกับนักเรียนว่า เรียนหัวข้อน้ีจบ นักเรียนควรจะตอบคำถามน้ไี ด้ (แนวตอบ: พลงั งานจลน์ และพลังงานศักย์) 2. ครูพูดคุยกับนักเรียนในประเด็นท่ีว่า ในชีวิตประจำวันของเราจะพบเห็นว่า เคร่ืองใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มี การเปลี่ยนรูปพลงั งาน เช่น เตารดี ท่ีเปล่ียนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟ้าเปน็ พลังงานความร้อน ซ่ึง เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลงั งาน แลว้ ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างการเปลี่ยนรูปพลงั งานในชีวติ ประจำวัน 3. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนยกตัวอยา่ งการเปล่ยี นรูปพลังงานตามกฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานตามความคิด ของตนเองให้ได้มากที่สุด แลว้ เขยี นลงในสมดุ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 90 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 4. จากนน้ั ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มอยา่ งอิสระ กลมุ่ ละ 4-5 คน รว่ มพดู คยุ เกี่ยวกับการเปลยี่ นรูปพลงั งาน ตามกฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน และเลือกตัวแทนกลุ่มเพ่อื ออกมาอภปิ รายหน้าช้นั เรยี น (หมายเหตุ: ครเู รม่ิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) 5. ครอู ธิบายเน้ือหาจากสิ่งท่ีนักเรยี นได้สรุปหน้าช้นั เรยี นว่า “กฎการอนุรกั ษ์พลังงาน เป็นกฎทกี่ ล่าวถึง การคงตัวของพลังงาน โดยกล่าวว่า พลังงานรวมของวัตถุหรือระบบจะไม่สูญหายแต่จะเปลี่ยนรูป พลังงานจากรูปหน่ึงไปเป็นพลังงานอีกรูปหนึ่ง โดยพลังงานกลรวม คือผลรวมของพลังงานศักย์และ พลงั งานจลนข์ องวตั ถุ” 6. ครูให้นักเรียนดูภาพจาก PowerPoint หรือจากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 21 แล้วอธิบายเก่ยี วกับพลังงานจลน์และพลงั งานศักย์ขณะก้อนหินตกอย่างอิสระจากหน้าผาสูง 7. ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน เพ่ือศึกษาเก่ียวกับกฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล จากหนังสือเรยี น รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน้า 21-22 และให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมตัวทั้งการอภิปราย หน้าช้ันเรียน และการตั้งคำถามจากเน้ือหา เพราะครูจะทำการสุ่มนักเรียนประมาณ 2-3 กลุ่ม ออกมาอภิปรายหน้าชน้ั เรยี นโดยมเี พอ่ื นกลุม่ อน่ื และครูถามคำถามทสี่ งสยั ในช่วั โมงต่อไป (หมายเหต:ุ ครูเริม่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) ชวั่ โมงท่ี 2 ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) (ต่อ) 8. ครใู หเ้ วลานกั เรียนเตรียมตวั อภปิ รายเนอื้ หาทไี่ ดศ้ กึ ษาในช่ัวโมงท่ีแลว้ 9. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอภิปรายหน้าช้ันเรียนประมาณ 2-3 กลุ่ม โดยมีเพื่อนกลุ่มอ่ืนและครูถามคำถาม และในขณะท่ีนกั เรยี นถามตอบนั้น ใหค้ รูเฉลยไปพรอ้ มกบั นักเรยี นวา่ ถกู หรอื ไม่ (หมายเหต:ุ ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน) ตวั อย่างคำถาม กฎการณ์อนรุ ักษพ์ ลงั งานกล 1) ตอนท่ีกอ้ นหินอยูบ่ นหนา้ ผาพลงั งานแต่ละพลังงานเปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ: ตอนท่ีก้อนหินอยู่บนหน้าผาพลงั งานศักย์จะมคี ่ามากที่สดุ และไม่มีพลงั งานจลน์) 2) ตอนที่ก้อนหินอยู่ที่พน้ื ดินพลังงานแต่ละพลงั งานเป็นอย่างไร (แนวตอบ: ตอนทก่ี ้อนหินอยู่ทพี่ ื้นดินพลงั งานจลน์จะมีค่ามากท่สี ุดและไม่มพี ลังงานศักย์) 3) ขณะท่กี ้อนหินกำลงั ตกลงส่พู ื้นดินพลังงานแตล่ ะพลังงานเป็นอย่างไร (แนวตอบ: ขณะที่ก้อนหนิ กำลงั ตกลงสูพ่ ้นื ดนิ พลงั งานศักย์จะลดลงเรอ่ื ย ๆ และพลังงานจลนจ์ ะ เพิ่มขึน้ เร่ือย ๆ) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 91 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 4) ตำแหนง่ อ้างอิงหมายถึงตำแหน่งใด (แนวตอบ: ตำแหน่งอา้ งอิง คือ ตำแหน่งท่ีใชเ้ ปรยี บเทยี บ หรอื ตำแหน่งตำ่ สุด) 5) ในสถานการณจ์ รงิ ผลรวมของพลงั งานจลนแ์ ละพลงั งานศกั ยม์ ีคา่ ไม่คงท่ี เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ: ในสถานการณ์จริงท่ผี ลรวมของพลังงานจลนแ์ ละพลังงานศักย์มคี ่าไม่คงทเ่ี พราะใน ระบบมักจะมีแรงต้านการเคลื่อนทเี่ กิด งานของแรงตา้ นการเคลอื่ นที่จะเปลีย่ นไปเปน็ พลังงาน ความร้อนทำให้พลงั งานของระบบสญู หายไป) 10. ครูแนะนำเกี่ยวกับกฎการอนุรักษ์พลังงานกลว่า “ผลรวมของพลงั งานศักย์และพลังงานจลน์ของวัตถุ ซึง่ ในทุก ๆ ตำแหนง่ จะมคี ่าคงที่ ดังตวั อย่างทไ่ี ดศ้ กึ ษามา สามารถคำนวณไดจ้ ากสมการ E1 = E2 11. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนศึกษาตัวอย่างที่ 5.10 จากหนงั สือเรียน รายวชิ าเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 23-24 โดยครูคอยสังเกตการณ์ และให้คำอธิบายเมื่อนกั เรยี นเกดิ ปัญหา อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูแจกใบงานที่ 5.7 เรือ่ ง กฎการอนุรักษ์พลงั งานกล ให้นักเรยี นแต่ละคู่ จากน้ันให้นกั เรียนร่วมกนั ศึกษา แลว้ นำมาสง่ ครทู ้ายช่วั โมง 2. ครมู อบหมายให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 3.1 เร่ือง กฎการอนุรักษ์พลังงานกล จากแบบฝึกหัดฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เปน็ การบา้ น แลว้ นำมาสง่ ครใู นชัว่ โมงต่อไป ช่วั โมงท่ี 3 ข้ันสรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามในเน้ือหาเกี่ยวกับกฎการณ์อนุรักษ์พลังงานกลอย่างอิสระ โดยครู ตอบคำถามและสร้างความเข้าใจทีถ่ กู ตอ้ งให้นกั เรียน 2. ครูนำอภิปรายสรุปเนอื้ หาด้วยคำถามต่อไปนี้ โดยเปดิ PowerPoint เรือ่ งท่ีสอนไปแล้วควบคไู่ ปด้วย แลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั ตอบ 3. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit question 5 จากหนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 หนา้ 45-47 ข้อ 18-21, 23-24, 26-28 และ 33 ลงในสมดุ 4. ครูให้นักเรียนทำสรุปผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เร่ือง กฎการอนุรักษ์พลังงานกล ลงใน กระดาษ A4 (หมายเหต:ุ ครูเร่ิมประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 92 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตั้งคำถามประเมินนักเรียนว่า “ถ้าขว้างวัตถุข้ึนตามแนวดิ่งแบบอิสระ ณ ตำแหน่งใด ๆ พลังงานศักย์ และพลังงานจลน์ของวัตถุจะเป็นอย่างไร” โดยให้นักเรียนดูภาพ จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนา้ 21 ประกอบการพจิ ารณา (แนวตอบ: พลังงานศักย์จะเพ่ิมขน้ึ และพลังงานจลนจ์ ะลดลงซ่งึ ตรงข้ามกับในกรณกี ้อนหินตกหน้าผา) 2. ให้นักเรยี นตอบคำถามว่า “พลังงานกลมคี วามสัมพันธก์ บั พลังงานชนิดใด” ท่คี รเู คยถามไปแล้วใน ชัว่ โมงแรก เพอ่ื เป็นการตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นหลงั เรียน (แนวตอบ: พลังงานจลน์ และพลงั งานศักยโ์ นม้ ถว่ ง) 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.7 เร่อื ง กฎการอนุรักษ์พลังงานกล 4. ครตู รวจแบบฝึกหัด Unit question 5 เร่อื ง กฎการอนุรักษ์พลงั งานกล ในสมดุ ประจำตัว 5. ครตู รวจสอบแบบฝกึ หดั ที่ 3.1 จากแบบฝกึ หดั ฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 6. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล และการ ทำงานกลุม่ 7. ครวู ดั และประเมนิ ผลจากช้นิ งานการสรปุ เนอ้ื หา เร่ือง กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งานกล ทนี่ ักเรียนไดส้ ร้าง ขึน้ จากขนั้ ขยายความเข้าใจเป็นรายบคุ คล 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 การประเมนิ ระหว่าง - ใบงานที่ 5.7 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจดั กจิ กรรม - ผลงานท่ีนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 1) กฎการอนุรักษ์ - ตรวจใบงานท่ี 5.7 - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ พลงั งานกล - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน ผลงาน อนั พึงประสงค์ 3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวินยั อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 93 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น รายวิชาฟสิ กิ ส์ ม.4 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานและพลงั งาน 2) ใบงานที่ 5.7 เรอ่ื ง กฎการอนุรกั ษ์พลงั งานกล 3) แบบฝกึ หัดฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 งานและพลงั งาน 4) PowerPoint เรือ่ ง งานและพลังงาน 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) ห้องสมุด 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 94 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานและพลังงาน ใบงานท่ี 5.7 เรอ่ื ง กฎการอนุรกั ษ์พลังงานกล คำชี้แจง : แสดงวธิ ีคำนวณหาผลลัพธ์ 1. ก้อนหินก้อนหนึง่ มวล 75 กิโลกรัม ตกแบบอสิ ระจากหน้าผาทส่ี งู จากพนื้ ดิน 200 เมตร จงหาพลังงานศักย์ และพลังงานจลน์ของก้อนหิน เมือ่ เวลาผา่ นไป 2 วนิ าที 2. กล่องใบหนึ่งไถลลงมาตามพืน้ เอยี งที่ไม่มีความฝืด เมื่อถงึ ปลายลา่ งของพ้นื เอยี งกล่องใบนี้จะมอี ัตราเร็ว เทา่ กับ 2v ถ้าต้องการให้อัตราเร็วเป็น 4v ต้องยกปลายพน้ื เอียงให้สงู ข้ึนเปน็ กี่เท่าของความสูงเดมิ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 95 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน 3. ลูกเหล็กใหญ่วางอยู่บนทางโค้งที่มีผิวสัมผัสล่ืนรัศมี 2 เมตร ที่จุด A เมื่อปล่อยวัตถุตกลงมาตามทางโค้ง ลกู เหล็กเข้าชนสปริง ดงั ภาพ จงหาวา่ กอ่ นการชนลูกเหล็กมคี วามเร็วเท่าใด จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 96 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 งานและพลงั งาน ใบงานที่ 5.7 เฉลย เรอ่ื ง กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล คำชีแ้ จง : แสดงวธิ ีคำนวณหาผลลพั ธ์ 1. กอ้ นหินก้อนหนึง่ มวล 75 กิโลกรัม ตกแบบอิสระจากหน้าผาท่สี ูงจากพื้นดนิ 200 เมตร จงหาพลงั งานศักย์ และพลังงานจลนข์ องก้อนหิน เมื่อเวลาผา่ นไป 2 วินาที วธิ ีทำ หาอัตราเร็วของก้อนหนิ จากสมการ v = u + at v = 0 + (10)(2) v = 20 m/s หาพลังงานจลน์ของก้อนหินท่ีเวลา 2 วินาที จากสมการ Ek = 1 mv2 2 1 Ek = 2 (15)(20)2 Ek = 3,000 J หาพลังงานศักยข์ องกอ้ นหนิ ที่เวลา 2 วินาที ต้องหาพลงั งานศักยบ์ นหนา้ ผาก่อน จากสมการ Ep = mgh Ep = (15)(10)(50) Ep = 7500 J จากกฎการอนุรักษ์พลังงานกล จะได้พลงั งานศักย์ที่เวลา 2 วนิ าที เท่ากับ 7,500– 3,000 = 4,500 J ดังนั้น พลงั งานศักย์และพลงั งานจลน์ของก้อนหนิ เท่ากบั 4500 จลู และ 3000 จลู ตามลำดับ 2. กล่องใบหนึ่งไถลลงมาตามพื้นเอียงที่ไมม่ ีความฝืด เมื่อถึงปลายล่างของพืน้ เอยี งกล่องใบน้ีจะมอี ัตราเร็ว เท่ากบั 2v ถา้ ต้องการใหอ้ ตั ราเร็วเปน็ 4v ต้องยกปลายพื้นเอียงให้สูงขน้ึ เป็นก่เี ทา่ ของความสูงเดิม วธิ ที ำ หา h2 = xh1 กรณที ี่ 1; mgh1 = 21mv12 ------ (1) กรณที ่ี 2; mgh2 = 1 mv22 ------ (2) 2 นำ (2) แล้วหา h2 = xh1 (1) จะได้ (2) ; = =h2 (v2)2 (4)2 (1) h1 v1 2 h2 = (4)2 h1 2 ดงั นั้น ต้องยกปลายพน้ื เอยี งใหส้ งู ขน้ึ เป็น 4 เท่าของความสูงเดมิ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 97 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 งานและพลงั งาน 3. ลูกเหล็กใหญ่วางอยบู่ นทางโค้งทมี่ ผี วิ สัมผสั ล่นื รัศมี 2 เมตร ทีจ่ ดุ A เมอ่ื ปล่อยวัตถตุ กลงมาตามทางโค้ง ลูก เหลก็ เขา้ ชนสปริง ดงั ภาพ จงหาว่าก่อนการชนลกู เหลก็ มีความเร็วเท่าใด วิธที ำ Ep = Ek mgh = 1 mv2 2 (10)(2) = 1 v2 2 v2 = 40 v = 6.32 m/s ดังน้ัน ก่อนการชนลกู เหลก็ มีความเร็วเทา่ กบั 6.32 เมตรต่อวนิ าที จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 98 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน 9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 9.1 หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นางกมลชนก เทพบุ) ………./……………./…………. 9.2 ผชู้ ่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 9.3 ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นายอดิศร แดงเรือน) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 99 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานและพลังงาน 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่ีมปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ …………………………………………. (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา) ครผู ูส้ อน ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครผู ูช้ ่วย กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่