Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ວິຊາການຈັດການ ການດຳເນີນງານoperation management

ວິຊາການຈັດການ ການດຳເນີນງານoperation management

Published by lavanh5579, 2021-08-25 01:41:51

Description: ວິຊາການຈັດການ ການດຳເນີນງານoperation management

Search

Read the Text Version

เม่ือพิจารณารูปแบบการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ส่งมอบ เพ่ือให้เกิดเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) ตามแบบจาลองของ Harrison and Hoek (2002) ร่วมกับ Hines (2000) สามารถ สรปุ ได้ดังภาพที่ 10.5 พันธมิตรทางธรุ กิจ (Partnership) การใหก้ าร การช่วย การพฒั นาอย่าง การพฒั นา รับรองภายนอก แกป้ ญั หา เปน็ ระบบ เครอื ขา่ ยผูส้ ง่ มอบ แบบตอ่ เนอื่ ง แบบประสาน แบบรว่ มมือ แบบรว่ มทนุ (Cooperation) (Coordination) (Collaboration) (Joint Venture) เงอ่ื นไขการ ราคาต่าทีส่ ุด ต้นทนุ ต่าทสี่ ุด ผลประโยชนร์ ว่ มกันสูง ผลประโยชน์ในเครือขา่ ย ซ้ือ-ขาย ท่ีสุด ร่วมกันสงู ท่ีสดุ คุณภาพ ตามคุณลักษณะ การควบคุมคณุ ภาพ การจัดการคุณภาพ การจดั การคณุ ภาพทงั้ เฉพาะของสินคา้ โดยรวม เครือข่าย การสง่ มอบ ระยะเวลาตาม ระยะเวลาตาม ระยะเวลาส่งมอบเร็ว การสง่ มอบแบบทนั เวลา มาตรฐาน มาตรฐาน กวา่ มาตรฐาน พอดี (Just in Time) การแลกเปลี่ยน เทคโนโลยี ไมม่ ี จากัด มเี ฉพาะลกู คา้ ที่ มมี าก แลกเปลยี่ นแบบ มีมาก แลกเปลีย่ นใน สาคัญ 2 ทศิ ทาง เครอื ข่าย การแลกเปลี่ยน มีจากัด เฉพาะ มีจากัด เฉพาะการ แลกเปล่ยี นด้านการผลิต แลกเปล่ียนท้งั ในดา้ น ขอ้ มูล ด้านการผลิต ผลิตทีส่ าคัญ เป็นสาคญั มบี ้างในดา้ น การผลติ และกลยทุ ธเ์ ปน็ กลยุทธ์ สาคัญ ภาพท่ี 10.5 รูปแบบการพัฒนาความสัมพันธ์พันธมติ รทางธรุ กจิ (ท่มี า: ปรับปรงุ จาก Harrison and Hoek, 2002: 272 และ Hines, 2000: 149) ระบบสารสนเทศในการจดั การโซอ่ ปุ ทาน ในการจัดการโซ่อุปทานระบบสารสนเทศเป็นเครื่องมือท่ีช่วยในการจัดการข้อมูล การ ติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว แม่นยา เกิดการทางานร่วมกันภายในโซ่อุปทานอย่างบูรณาการ เพ่ือช่วยใน การตดั สินใจ ระบบสารสนเทศในการจัดการโซ่อุปทานประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลัก 5 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ ระบบเครือข่าย บุคลากร และ ขัน้ ตอนในการปฏบิ ตั กิ าร เพ่ือเชอ่ื มโยงการ ทางานตอลดทั้งโซอ่ ุปทาน โดยมีระบบสารสนเทศทีใ่ ช้ภายในโซอ่ ุปทานดงั ภาพที่ 10.6 การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 277

ระบบสารสนเทศในการจดั การโซอ่ ุปทาน (SCM) ระบบ ระบบการจัดการ ระบบการวางแผนจัดการ ระบบการจดั การ ระบบ แลกเปลยี่ น ความสมั พนั ธ์ ทรัพยากรในองคก์ ร ลูกค้าสมั พนั ธ์ แลกเปลยี่ น กบั ผ้สู ่งมอบ (ERP) (CRM) ข้อมูล ข้อมลู (SRM) (EDI) (EDI) สารสนเทศในการตดั สนิ ใจโซอ่ ปุ ทานภายในองค์กร ผ้สู ่ง การจดั ซือ้ การสารอง การผลติ การสารอง การพยากรณ์ ลูกคา้ มอบ วัตถุดบิ สินคา้ คงคลัง ความต้องการ ภาพที่ 10.6 แสดงระบบสารสนเทศในการจัดการโซ่อุปทาน 1.ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างองค์กร (Electronic Data Interchange: EDI) เป็นระบบเทคโนโลยีที่มีการแลกเปล่ียนเอกสารทางธุรกิจระหว่างบริษัทคู่ค้า 2 ฝ่ายในรูปแบบ มาตรฐานสากลจากคอมพิวเตอร์เคร่ืองหน่ึงไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง โดยจะมีการใช้เอกสารท่ี เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มาแทนเอกสารท่ีเป็นกระดาษ เช่น ใบส่ังซื้อสินค้า บัญชีราคาสินค้า ใบส่ง ของ เอกสารเรียกเก็บเงิน รายงาน เป็นต้น ภายใต้มาตรฐานที่กาหนดไว้ ซึ่งจะทาให้เอกสารมีการ แลกเปลยี่ นกนั ได้ ระบบ EDI มกั ใชเ้ ชื่อมโยงกบั ระบบบาร์โค้ด (Barcode System) หรือรหสั แทง่ เป็นระบบบ่งชี้ ข้อมูลสินค้า เพื่อเช่ือมโยงยอดขาย ประเภทสินค้า กลุ่มสินค้า เพ่ือใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของ ลูกคา้ ได้อย่างรวดเรว็ ปัจจุบันองค์กรหลายแห่งได้ใช้บริการของผู้ที่ให้บริการภายนอก (EDI Service Provider) มากกว่าท่ีจะสร้างเครือข่ายข้ึนมาเอง เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งผู้ท่ีให้บริการ EDI จะเป็น ตัวกลางบรกิ ารเชื่อมโยงข้อมูล เรียกวา่ เครอื ข่ายเพมิ่ มูลคา่ (Value Added Network: VAN) โดยจะมี การเกบ็ คา่ บริการเป็นการเช่าโครงสรา้ งพน้ื ฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ระหว่างองค์กร 278 การจดั การโซ่อปุ ทานและโลจิสติกส์ | Supply Chain & Logistics Management

2. ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management: CRM System) เป็นการนาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซ่ึงมีกระบวนการ ทางานของระบบการจัดการลกู ค้าสมั พันธ์ 4 สว่ นดงั นี้ - ส่วนการระบุลูกค้า (Identify) คือ เป็นส่วนท่ีใช้ในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อ ระบุความต้องการของลูกค้า ราคา ปริมาณความต้องการ รวมท้ังการทาสัญญา ช่วยในการ จัดการข้อมูลของลูกค้า ระบบสารสนเทศที่นามาใช้ในส่วนการระบุลูกค้า เช่น การขาย อัตโนมัติ (Sales Automation) ทาให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงข้อมูลของสินคา้ ลูกค้า ติดต่อกับ บุคคลท่ีเก่ียวข้องได้ท้ังในที่ทางานหรือแม้ในขณะที่อยู่กับลูกค้า ผ่านระบบการจัดเก็บข้อมูล ลงในฐานข้อมูล (Database System) หรือคลังข้อมูล (Data Warehouse) หากเป็นการทา ธุรกรรมกับคคู่ ้าระหวา่ งองคก์ ร จะเชอ่ื มโยงข้อมลู ผ่านระบบแลกเปล่ียนขอ้ มลู ขา่ วสาร (EDI) - ส่วนการจาแนกประเภท (Differentiate) เป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า แต่ละคน และจัดแบ่งลูกค้าออกเป็นกลมุ่ ตามคุณค่าที่ลูกค้ามีต่อองค์กร เช่น ระบบการตลาด อัตโนมัติ (Market Automation) เป็นการนาเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะบุคคล (Personalization) ประวตั ิลกู คา้ (ประเภทของสินคา้ ที่ซื้อ จานวนมลู คา่ ในการซื้อ ความถ่ีใน การซ้ือ) การตลาดทางไกล (Tele-Marketing) ร่วมกับการใช้เทคนิคการชุดค้นข้อมูล (Data Mining) จะชว่ ยในเรื่องของการวเิ คราะห์ได้มีประสิทธภิ าพมากข้ึน - ส่วนการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Interact) เป็นส่วนในการให้บริการลูกค้า เพ่ือสร้าง ความสมั พนั ธ์และความพึงพอใจให้กบั ลกู ค้า เช่น ระบบศูนย์บริการลกู คา้ (Call-center) เพ่ือ ให้บริการหลังการขายและตอบข้อสงสัยของลูกค้า ระบบประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์ ใน การให้บรกิ ารขอ้ มูลผ่านโทรศพั ทม์ อื ถอื อนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น - ส่วนจัดการลูกค้า (Customize) เป็นส่วนในการจัดการลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อ เลือกการบริการที่มีความเหมาะสมเฉพาะตัวกับลูกค้าแต่ละคน ระบบจะนาการวิเคราะห์ พฤติกรรม ความแตกต่างลูกค้าแต่ละคนมาจัดการให้บริการที่เหมาะสม เช่น กิจกรรม การตลาดท่ีสัมพันธ์กับวันเกิดของลูกค้าแต่ละคน การแจ้งข้อมูลข่าวสาร ตามพฤติกรรมของ ลูกคา้ หรือการจัดกจิ กรรมทางการตลาดเพ่ือใหเ้ หมาะสมกับลูกค้าแตล่ ะบุคคลมากทสี่ ดุ การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 279

3 . ร ะ บ บ ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ ผู้ ส่ ง ม อ บ (Supplier Relationship Management: SRM System) เป็นการนาเอาระบบสารสนเทศมาเพ่ือช่วยในการจัดการ ความสัมพันธ์กับผู้ส่งมอบ เพื่อให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) และการจัดซ้ือจัดหาท่ีมี ประสิทธภิ าพ โดยมอี งคป์ ระกอบต่าง ๆ 5 ส่วนดังน้ี - ส่วนการให้บริการผู้ส่งมอบ (Supplier Service) เปน็ สว่ นของสารสนเทศที่อานวย ความสะดวกในการติดต่อระหว่างผู้ส่งมอบกับองค์กรและจัดการข้อมูลของผู้ส่งมอบ (Supplier) เช่น ระบบการลงทะเบียนผู้ส่งมอบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Registration) ระบบการ บริการแบบชว่ ยตวั เอง (Supplier Self Service) - ส่วนของการวิเคราะห์การส่งมอบและสมรรถนะผู้ส่งมอบ (Spend & Performance Analysis) เป็นการนาเอาซอฟตแ์ วร์มาทาการควบคุมและวเิ คราะห์สมรรถนะ ในการส่งมอบของผู้ส่งมอบ เพื่อจัดกลุ่มและแยกประเภทผู้ส่งมอบตามลาดับความสาคัญใน การพัฒนาความสัมพนั ธก์ บั ผู้สง่ มอบเพือ่ ให้เกิดพนั ธมิตรทางธุรกิจ - ส่วนดาเนินการจัดหา (Operational Procurement) เป็นส่วนในการวางแผน การกาหนดความต้องการในการจัดซื้อและจัดหา การกาหนดรายละเอียด คุณลักษณะของ วสั ดุ วตั ถุดบิ หรือ ครภุ ัณฑ์ คุณสมบตั ผิ ูส้ ่งมอบ ขอ้ มลู ต่าง ๆ จะถกู เช่ือมโยงกับผูส้ ่งมอบท่ีได้ ทาการลงทะเบียนไว้ หากเป็นองค์กรที่มีความสัมพันธ์แบบแนบแน่นจะเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน ระบบแลกเปลีย่ นข้อมลู ขา่ วสาร (EDI) - ส่วนการจัดหา (Sourcing) เป็นส่วนในการจัดหาสินค้าและบริการจากผู้ส่งมอบ การคัดเลือกผู้ส่งมอบ ได้แก่ ระบบการจัดซ้ือจัดจ้าง (E-Tendering) ระบบการประมูล อเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Auction) - ส่วนการจัดซ้ือ (E-Purchasing) เป็นส่วนในการดาเนินการการจัดซ้ือ การทา ธุรกรรมระหว่างองค์กรกับผู้สง่ มอบ การทาสัญญาซื้อขาย การออกเอกสารต่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง กับการซื้อขาย เช่น ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Document) ระบบจัดการการซื้อขาย อิเล็กทรอนิกส์ (E-Payment) หรือ เช่ือมโยงผ่านตัวกลางในการทาธุรกรรมเช่น การโอนเงิน ด้วยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Fund Transfer) 280 การจัดการโซ่อปุ ทานและโลจิสติกส์ | Supply Chain & Logistics Management

4. ระบบการวางแผนจัดการทรัพยากรในองค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) เป็นระบบท่ีเช่ือมโยงระบบสารสนเทศในการปฏิบัติงาน (Transaction Processing System) สามารถบูรณาการ (integrate) รวมงานหลัก (core business process) ต่าง ๆ ในบริษัททั้งหมด ได้แก่ ระบบการจัดซ้ือจดั จา้ ง ระบบการผลิต ระบบการขาย ระบบการบัญชี ระบบการเงนิ ระบบการ ขนส่ง และการบริหารบุคคล เข้าด้วยกันเป็นระบบท่ีสัมพันธ์กันและสามารถเช่ือมโยงกันทันที (real time) ทาให้การจัดการสารสนเทศเป็นไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ดงั ภาพที่ 10.7 FRM บรหิ ารการเงนิ MRP ERP SRM การจดั การวัสดุ System การจัดการผสู้ ่งมอบ CRM HRM ลูกคา้ สมั พนั ธ์ การจดั การทรัพยากรมนษุ ย์ ภาพท่ี 10.7 ความสมั พันธ์ระหวา่ งระบบสารสนเทศต่าง ๆ ในระบบ ERP นอกจากน้ีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการโซ่อุปทาน ในการเชื่อมโยงระหว่าง พนั ธมติ รทางการค้าที่มีการแลกเปล่ียนเทคโนโลยแี ละระบบสารสนเทศร่วมกัน เช่นความสัมพันธ์แบบ ร่วมทุน (Joint Venture) จะมีการเชื่อมโยงกับระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เพื่อวางแผนกลยุทธ์และตัดสินใจร่วมกัน ทาให้ทราบความต้องการของลูกค้าและจัดหาได้ อย่างเหมาะสม ช่วยลดปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect) ตลอดโซ่อุปทาน ทาให้ต้นทุนการเก็บ รักษาสินค้าคงคลังลดลงไดด้ งั ภาพท่ี 10.8 การจดั การการดาเนนิ งาน | Operations Management 281

ระบบสารสนเทศในการจดั การโซอ่ ุปทาน SCM/DSS SRM ERP CRM EDI SRM ERP CRM EDI SRM ERP CRM เครอื ขา่ ยผูส้ ง่ มอบ เครอื ข่ายผู้ผลิต เครือข่ายผู้กระจายสินค้า การจดั หา ความตอ้ งการ การจดั หา = การจัดหา = ความต้องการ ความต้องการ ภาพท่ี 10.8 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศในการจัดการโซ่อุปทานและความสมดุลของ ความต้องการและการจัดหา การจดั การโลจสิ ตกิ ส์ การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) หมายถึง กระบวนต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง การ วางแผน การดาเนินการ การควบคุม การไหลเวียนและการจัดเก็บสินค้า บริการ และสารสนเทศ อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จากจุดเร่ิมต้น (Point of Origin) จนถึงจุดของการบริโภค (Point of Customer) เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของผู้บรโิ ภค จากความหมายดังกล่าวข้างต้นจะเห็นว่า การจัดการโลจิสติกส์เป็นส่วนหน่ึงของการจัดการ โซ่อุปทาน โดยการจัดการโลจิสติกส์จะมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนย้ายสินค้าเชิงกายภาพภายในระบบโซ่ อุปทาน แต่การจัดการโซ่อุปทานยังครอบคลุมไปถึง การร่วมมือ การพัฒนาความสัมพันธ์ และการ สร้างเครือข่ายโซ่อปุ ทาน การจัดการโลจิสติกส์มีจุดมุ่งหมายหลักในการนาสินค้าที่ถูกต้อง ไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง ใน เวลาท่ีถูกต้อง ด้วยเงื่อนไขที่ถูกต้อง ในจานวนท่ีถูกต้องและราคาที่ถูกต้อง เพื่อตอบสนองต่อความ ต้องการของลูกค้า ความเช่ือถือได้ ความปลอดภัยและการประหยัดต้นทุน ซ่ึงจะบรรลุความสาเร็จได้ จะต้องบูรณาการทุกหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ต้ังแต่ผู้ส่งมอบวัตถุดิบ ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ลูกค้า ผู้ 282 การจัดการโซอ่ ุปทานและโลจิสติกส์ | Supply Chain & Logistics Management

ให้บริการคลังสินค้า ผู้ขนส่ง และผู้ท่ีเก่ียวข้องอ่ืน ๆ โดยผ่านระบบส่ือสารบนระบบคอมพิวเตอร์และ อินเทอร์เน็ตออนไลน์ในการวางแผนล่วงหน้า จากน้ันจึงกาหนดการเคล่ือนที่ของสินค้าทุกช่องทางไป ยังแต่ละหน่วยงาน ต้ังแต่ต้นทางไปยังปลายทางให้ตรงเวลาการผลิต การเก็บสินค้าคงคลังใน คลังสินค้า การกระจายสินค้า และการขนส่งสินค้าไปจนถึงมือลูกค้า เพ่ือให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ สงู สดุ ดงั ภาพที่ 10.9 จดุ รบั วัตถดุ ิบ ทิศทางการเคลอื่ นย้ายวตั ถดุ ิบจนแปลงสภาพเปน็ สินคา้ ภายในองคก์ ร จุดกระจาย และวสั ดุ สินคา้ วตั ถดุ บิ และ จดุ ดาเนินการ สนิ ค้าคงคลงั สนิ ค้าคงคลัง วัสดคุ งคลัง ผลติ ระหวา่ งผลติ สาเรจ็ รปู วัตถดุ บิ ผ้สู ่งมอบ โรงงานแปรรูป โรงงานผลติ ค้าสง่ /กระจายสินคา้ คา้ ปลกี ลูกค้า ทศิ ทางการขนสง่ วัตถดุ ิบต้นน้าจนถึงมือลูกคา้ คนสดุ ท้าย ทิศทางการสอื่ สาร การไหลของขอ้ มูลและสารสนเทศ ภาพท่ี 10.9 แสดงการเคลื่อนย้ายในระบบโลจิสติกส์ องคป์ ระกอบโลจสิ ติกส์ โลจิสตกิ สจ์ ะมุง่ เน้นไปท่ีการเคล่ือนย้ายเชงิ กายภาพในโซ่อุปทาน โดยมอี งคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ท่ี เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 1.ปัจจยั นาเขา้ ได้แก่ ทรัพยากรท่ดี นิ สง่ิ อานวยความสะดวก ทรพั ยากรมนุษย์ ทรัพยากรทาง การเงนิ และทรพั ยากรสารสนเทศ 2.การดาเนินการจัดการ เริ่มต้ังแต่กระบวนการวางแผน การปฏิบัติ การควบคุม กระบวนการโลจิสติกส์ ตั้งแต่ผู้ค้าไปจนถึงส่งมอบไปยังลูกค้า ซ่ึงกิจกรรมหลักของโลจิสติกส์ประกอบ ไปด้วย โลจิสตกิ สข์ าเข้า และโลจิสติกส์ขาออก การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 283

3.ผลลัพธ์โลจิสติกส์ จะมุ่งไปท่ีการได้เปรียบทางการแข่งขัน การใช้เวลา สถานที่ ประสิทธภิ าพการเคลื่อนยา้ ยสนิ ค้าไปยงั ลกู ค้าและทรัพย์สนิ ทรพั ยากรที่ดิน ผู้ส่ง ดาเนนิ การจัดการ มงุ่ การตลาด สิ่งอานวยความ มอบ วางแผน ปฏิบัติ ควบคมุ ความไดเ้ ปรียบ ทางการแขง่ ขนั สะดวก วตั ถุ สินค้า สนิ ค้า ดิบ ระหว่าง สาเรจ็ การใช้เวลา ทรัพยากร และสถานที่ มนุษย์ ผลติ รปู ประสิทธภิ าพ ทรพั ยากร ลกู คา้ เคล่ือนย้ายสนิ ค้า ทางการเงนิ สลู่ กู ค้า ทรพั ยากร สารสนเทศ ทรัพย์สนิ กจิ กรรมหลกั โลจสิ ตกิ ส์ โลจสิ ติกส์ขาเขา้ โลจิสตกิ สข์ าออก -การพยากรณ์ความตอ้ งการวสั ดุ -การคลังสนิ คา้ -การจดั ซือ้ วัสดุ -การเคลอื่ นยา้ ยสนิ คา้ -การวางแผนความต้องการวสั ดุ -การบรรจภุ ัณฑส์ นิ คา้ -การวางแผนการผลติ -การควบคุมสนิ คา้ คงคลัง -การจัดการวสั ดกุ ารผลติ -การวางแผนกระจายสินคา้ -การเคล่อื นยา้ ยวัสดุ -กระบวนการสั่งซื้อสินคา้ การคลงั วสั ดุ -การขนส่งสนิ ค้า -การบรรจภุ ณั ฑ์วสั ดุ -การบรกิ ารลูกคา้ ภาพท่ี 10.10 แสดงองค์ประกอบ เปา้ หมาย และกจิ กรรมหลกั โลจิสตกิ ส์ (ท่ีมา: .ฐาปนา บุญหล้า และ นงลกั ษณ์ นิมติ ภวู ดล, 2555: 27) 284 การจัดการโซ่อปุ ทานและโลจิสติกส์ | Supply Chain & Logistics Management

จากภาพท่ี 10.10 แสดงกิจกรรมโลจิสติกส์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสมั พันธใ์ นแต่ละกิจกรรม ภายในธุรกจิ สามารถอธบิ ายไดด้ ังต่อไปนี้ 1.การให้บรกิ ารลกู ค้า กิจกรรมนีเ้ ปน็ กิจกรรมทส่ี รา้ งความพึงพอใจให้กับลูกค้า การให้บรกิ าร ลูกค้าเป็นแรงผลักให้เกิดกิจกรรมอื่น ๆ ตามมา แต่ต้องรักษาระดับการให้บริการแก่ลูกค้าด้วย มาตรฐาน 2.การขนส่ง เป็นกิจกรรมเริ่มตั้งแต่การเคลื่อนย้ายวัตถุดิบสู่การผลิต และการเคลื่อนย้าย สินค้าไปยังเครือข่ายขนส่งต่าง ๆ กิจกรรมการขนส่งเป็นวิธีการเลือกวิธีขนส่ง เช่น ทางรถยนต์ รถไฟ ทางเรือ ทางเครื่องบิน หรือขนส่งด้วยท่อ ข้ึนกับชนิดสินค้า เส้นทาง สถานที่และต้นทุนการขนส่งท่ี เหมาะสม 3.การควบคมุ สินค้าคงคลัง เป็นกจิ กรรมท่ีจะต้องควบคุมสินค้าคงคลังให้เหมาะสม สินค้าคง คลังท่ีมากเกินไปจะส่งผลต่อต้นทุนและเงินหมุนเวียนภายในองค์กร แต่ถ้าหากสินค้าคงคลังมีน้อย เกนิ ไปยอ่ มส่งผลตอ่ ความผนั ผวนตอ่ ความตอ้ งการของลูกคา้ และเสียโอกาสในการจดั จาหนา่ ย 4.การดาเนินการสั่งซ้ือ จะสัมพันธ์กับการส่ังซ้ือของลูกค้า การตัดสินใจเกี่ยวกับความ ต้องการด้านต่าง ๆ ในกระบวนการและเป็นการให้ความเชือ่ มั่นในการจัดสง่ สินค้าให้กับลูกค้า ในการ ดาเนนิ การส่ังซือ้ มคี วามสัมพันธ์กนั กับกิจกรรมการควบคุมสินค้าคงคลัง รอบระยะเวลาการสงั่ ซอื้ และ การขนส่ง ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่าน้ีจะต้องดาเนินการอย่างเหมาะสมเพ่ือให้ต้นทุนถูกท่ีสุดแต่ยัง สามารถสง่ มอบสนิ คา้ ใหก้ ับลกู ค้าได้ตามกาหนด 5.การส่อื สาร เปน็ กจิ กรรมทเี่ ช่อื มโยงกันในแต่ละกจิ กรรม การสอ่ื สารที่มีประสิทธิภาพจะลด ความผิดพลาด ความซา้ ซ้อนของข้อมูล และยงั สามารถค้นหาและจดั การสารสนเทศที่เกดิ ขึน้ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ การสื่อสารจะเร่ิมต้ังแต่คาสั่งซื้อของลูกค้า ถ่ายทอดลงมายังแต่ละกิจกรรมอย่างเป็น ระบบ ปัจจุบันกิจกรรมการส่ือสารได้นาระบบสารสนเทศมาใช้ในองค์กร ทาให้กิจกรรมโลจิสติกส์มี ประสิทธภิ าพมากข้นึ การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 285

6.การพยากรณ์ความต้องการของลูกค้า การตลาดเป็นฝ่ายแรกที่เก่ยี วข้องกับความต้องการ ของลูกค้า การคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าจะทาให้องค์กรสามารถวางแผนการดาเนินกิจกรรม ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม ท้ังกจิ กรรมโลจสิ ติกส์ขาเขา้ และขาออก 7.คลังสินค้า เป็นสถานที่ในการจัดเก็บสินค้าคงคลังตามวัตถุประสงค์เช่น คลังสินค้าจัดเก็บ วัตถดุ ิบ คลังสินคา้ เพื่อกระจายสินคา้ คลังสินค้าจัดเก็บวัสดซุ ่อมบารุง และคลงั สนิ คา้ เพื่อจดั เก็บสินค้า สาเรจ็ รูป เปน็ ต้น กจิ กรรมต่าง ๆ ภายในคลังสนิ ค้ายอ่ มส่งผลต่อต้นทุนในการเก็บรักษา การออกแบบ คลังสินค้าขนาดใหญ่ถึงแม้จะป้องกันสินค้าขาดมือและการดาเนินการต่าง ๆ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ ยอ่ มส่งผลตอ่ ต้นทุนท่สี ูงขนึ้ ตาม 8.การคัดเลือกทาเลที่ต้ัง การคัดเลือกทาเลท่ีตั้งโรงงานและคลังสินค้ามีวัตถุประสงค์เพื่อ เชื่อมต่อไปยังกิจกรรมต่าง ๆ การคัดเลือกทาเลที่ต้ังท่ีเหมาะสมย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการขนส่ง ทาให้ต้นทุนขนสง่ ลดลง และยงั สัมพันธ์กับตน้ ทนุ เกบ็ รกั ษาภายในคลงั สนิ คา้ แต่ละประเภท 9.การเคล่ือนย้ายสินค้า การวางผังโรงงานหรือคลังสินค้าอย่างเหมาะสม จะทาให้เกิด ประสิทธิภาพการเคลื่อนย้าย วัสดุ สินค้าสาเร็จรูป หรือสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การนาเอาเคร่ืองจักร อุปกรณ์อานวยความสะดวกต่าง ๆ สามารถลดระยะเวลาและต้นทนุ การเคลอื่ นย้ายสินค้าลงได้ 10.การจัดซ้ือ กิจกรรมนี้จะเก่ียวข้องกับการจัดซื้อ จัดจ้าง การคัดเลือกแหล่งจัดซื้อ เวลาใน การซ้อื การจ้าง ปรมิ าณการจัดซ้ือและผลกระทบต่อสนิ ค้าคงคลัง ระบบการจัดซื้อที่มปี ระสิทธิภาพจะ ส่งผลตอ่ ต้นทุนโลจิสติกสท์ งั้ ระบบ 11.การสนับสนุนอะไหล่และการบริการหลังการขาย กิจกรรมโลจิสติกส์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ สนิ คา้ สาเรจ็ รปู เท่าน้ัน ยงั สมั พนั ธ์กับการบรกิ ารหลังการขายซึ่งสง่ ผลโดยตรงต่อกิจกรรมทางการตลาด ซ่งึ จะตอ้ งสนับสนนุ อะไหล่ และสถานทใ่ี นการใหบ้ รกิ ารลูกค้าที่เหมาะสม 12.บรรจุภัณฑ์ ในทางการตลาดบรรจุภัณฑ์จะถูกออกแบบในการดึงดูดใจลูกค้า เพื่อการ โฆษณาและประชาสัมพันธ์ ในกจิ กรรมโลจิสติกสบ์ รรจุภัณฑ์จะถูกออกแบบเพ่ือปกป้องผลิตภัณฑ์และ 286 การจัดการโซอ่ ปุ ทานและโลจสิ ตกิ ส์ | Supply Chain & Logistics Management

สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย การขนส่ง และการจัดเก็บ การออกแบบและใช้บรรจุภัณฑ์อย่างเหมาะสม จะลดความเสียหายและช่วยเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพจากการเคลอ่ื นย้าย การขนสง่ และการจดั เก็บ 13.การกาจัดของเสีย ของเสียสามารถเกิดได้ต้ังแต่กระบวนการผลิตท่ีไม่มีคุณภาพ ความ เสียหายจากการเคล่ือนย้าย การขนสง่ และการจัดเกบ็ การนาของเสียกลบั มาใช้ใหม่และจัดการอย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพช่วยใหส้ ามารถลดตน้ ทนุ และเกิดมูลคา่ สูงสดุ ในอตุ สาหกรรม 14.การเคล่ือนยา้ ยสนิ คา้ ทีส่ ่งคนื กจิ กรรมนเี้ ปน็ กิจกรรมสนบั สนนุ ในระบบโลจิสตกิ ส์ ซง่ึ เป็น กระบวนการย้อนกลับของสินค้าในทิศทางตรงข้ามกับการจัดส่ง ซ่ึงส่วนมากเกิดจากสินค้ามี ข้อบกพร่องในระยะประกันสินค้า ระบบการเคลื่อนย้ายสินค้าท่ีส่งคืนอย่างมีประสิทธิภาพนอกจาก ตน้ ทุนที่ลดลงยังสร้างความเชือ่ ม่นั ให้กบั ลกคา้ 15.การวางแผนการผลิต เปน็ กิจกรรมทเ่ี กี่ยวข้องกบั การจัดตารางการผลิต การใช้ทรัพยากร เพื่อการผลิต การจัดการแรงงาน รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพการผลิต กิจกรรมนี้มีความสัมพันธก์ ับ กิจกรรมโลจิสติกส์อื่น ๆ ผลลัพธ์จากการผลิตที่ได้สินค้าท่ีมีคุณภาพ ในปริมาณและเวลาท่ีลูกค้า ต้องการนอกจากส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า ยังส่งผลต่อต้นทุนโลจิสติกส์ ซ่ึงฝ่ายผลิตและฝ่าย โลจิสติกส์จะต้องดาเนินการและร่วมมือกนั อย่างใกลช้ ดิ โครงสรา้ งตน้ ทุนโลจสิ ติกส์ ตน้ ทุนโลจสิ ตกิ สเ์ ป็นปัจจยั หลกั สาคัญที่แฝงอยู่ในทุกกิจกรรมทางธุรกิจและอตุ สาหกรรม เช่น การจดั ซ้ือ การจัดการคลังสนิ คา้ การจัดเก็บ การขนยา้ ย การขนส่ง และการกระจายสินคา้ ดังนั้นการ เพ่ิมประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะการลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์จึงต้องอาศัยการ กาหนดกลยุทธ์ และเทคนิคในการจัดการกระบวนการจัดการโลจสิ ติกส์ ซ่ึงต้องอาศัยความร่วมมือของ ทุกฝ่ายภายในองค์กรเพื่อให้การดาเนินการเป็นไป ในทิศทางเดียวกัน ท้ังน้ีองค์กรจาเป็นต้องมี บุคลากรท่ีมีความรู้ความเข้าใจ สามารถนาความรู้สู่การปฏิบัติเพ่ือลดต้นทุนที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพ่ิม โดยไม่ลดคุณภาพของสินค้าและบริการลง เพื่อเป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพ่ิมผล กาไรใหก้ บั องคก์ รอย่างชัดเจน การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 287

โครงสรา้ งต้นทนุ โลจสิ ติกส์ทสี่ าคัญได้แก่ ตน้ ทนุ การขนส่งสนิ ค้า และตน้ ทนุ สินค้าคงคลัง จาก ข้อมูลต้นทุนโลจิสติกส์ในประเทศไทยปี 2556 ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนมากท่ีสุด 947.8 พันล้านบาท ต้นทนุ สินคา้ คงคลัง 684.5 พันล้านบาท และตน้ ทนุ บรหิ ารจัดการ 163.2 พันลา้ น บาท ดงั ภาพท่ี 10.11 (สศช., 2556) 9% คา่ ขนสง่ สนิ ค้า 38% 53% ตน้ ทนุ สินคา้ คงคลงั คา่ บรหิ ารจดั การ ภาพท่ี 10.11 แสดงต้นทุนโลจสิ ติกสใ์ นประเทศไทยปี 2556 เมื่อพิจารณาต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP ในปี 2553 ระหว่างประเทศไทย จีน และ สหรัฐอเมรกิ า ดังภาพท่ี 10.12 (สศช., 2555) 20 2.3 1.3 15 6 ค่าบรหิ ารจัดการ ต้นทุนสินค้าคงคลงั 10 6.7 2.4 5 9.5 3.9 ค่าขนส่งสินคา้ 7.2 4.1 (หน่วย: ลา้ นลา้ นบาท) 0 จีน ไทย อเมรกิ า ภาพท่ี 10.12 แสดงสดั สว่ นต้นทุนโลจิสติกส์ ประเทศ อเมริกา ไทย และจีน ปี 2553 จากภาพที่ 10.12 เมอื่ พิจารณาต้นทนุ โลจสิ ตกิ ส์ จะเห็นว่าอเมริการมีตน้ ทุนโลจสิ ติกส์ตา่ ท่ีสุด ส่วนจีนเป็นประเทศท่ีมีมูลค่าเศรษฐกิจอันดับหน่ึงของโลก แต่มีต้นทุนโลจิสติกส์สูงกว่าประเทศไทย เม่ือพิจารณาโครงสร้างต้นทุนต่าง ๆ จึงนามาหาแนวทางพิจารณาในการลดต้นทุนรวมของโลจิสติกส์ ซึ่งจะส่งผลตอ่ ตน้ ทุนรวมของธุรกจิ 288 การจดั การโซอ่ ปุ ทานและโลจสิ ตกิ ส์ | Supply Chain & Logistics Management

แนวทางการลดตน้ ทุนโลจสิ ติกส์ จากโครงสรา้ งต้นทุนโลจิสติกสส์ ามารถนามาพจิ ารณาแนวทางในการลดต้นทุนไดด้ งั นี้ 1.แนวทางการลดต้นทุนขนส่ง ต้นทุนของผู้ประกอบการขนส่งจะมากหรือน้อยเพียงใด ขนึ้ อยกู่ บั ปจั จัยท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการกาหนดราคาคา่ ขนสง่ ได้แก่ คา่ ใช้จ่ายท่เี กย่ี วกบั การขนสง่ เที่ยวเปล่า ปริมาณหรือน้าหนักของสินค้าท่ีบรรทุก ระยะเวลาที่ใช้ในการขนถ่ายข้ึนและลงรวมถึงค่าใช้จ่ายใน ส่วนที่เก่ียวกับระยะเวลาในการรอคอย ค่าใช้จ่ายที่เก่ียวข้องกับระยะทางในการขนสง่ และค่าใช้จ่ายที่ เก่ียวกับความรับผดิ ชอบต่อความเสยี หาย แนวทางในการลดตน้ ทนุ การขนสง่ ต่าง ๆ ที่เกดิ ขึ้นมีดังนี้ - กลยุทธ์การใช้พลังงานทางเลือก โดยปรับเปล่ียนพลังงานท่ีใช้ในการขนส่งจาก น้ามันดีเซลหรือเบนซินที่มีแนวโน้มต้นทุนสูงขึ้นมาก เป็นพลังงานทางเลือกท่ีมีต้นทุนถูกลง เช่น ก๊าซธรรมชาติแบบอัด (Compressed Natural Gas: CNG) หรือก๊าซปิโตเลียมเหลว (Liqueified Petroleum Gas: LPG) หรือนา้ มันไบโอดเี ซล ในการติดตั้งผู้ประกอบการควร พิจารณาประเภทของเคร่ืองยนต์ สถานีที่ให้บริการ เส้นทางในการขนส่ง และความเป็นไปได้ ในด้านผลตอบแทนการลงทุน - กลยุทธ์ศูนย์กระจายสินค้า (Cross Dock) ทาหน้าท่ีรวบรวมสินค้า ให้เต็มคันรถ หรือจัดพาหนะให้เหมาะสมกับจานวน และสอดคล้องกับสถานท่ีส่งมอบสินค้า อีกท้ังยังมี เครือข่ายในการรวบรวมสินค้า หรือเปล่ียนรูปแบบการขนส่งไปสู่รูปแบบที่ประหยัด พลังงาน ทาให้สามารถลดจานวนเทยี่ วขนส่งลงได้ ดงั ภาพที่ 10.13 ศูนยก์ ระจายสนิ คา้ ขนสง่ 9 เทยี่ ว ขนสง่ 3 เท่ียว ภาพท่ี 10.13 แสดงการลดจานวนเทยี่ วขนสง่ โดยใชศ้ ูนยก์ ระจายสนิ ค้า การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 289

- กลยุทธ์การปรับเปล่ียนรูปแบบการขนส่งแบบใหม่ หรือการใช้วิธีการขนส่ง ต่อเน่ืองหลายรูปแบบ (Multimodal transportation) ซึ่งเป็นวิธีการขนส่งท่ีผสมผสาน ระหว่างการขนส่งต้ังแต่ 2 รูปแบบข้ึนไป ภายใต้สัญญาหรือผู้รับผิดชอบการขนส่งรายเดียว เพอ่ื ให้ตน้ ทุนขนส่งรวมลดลงดังภาพที่ 10.14 ต้นทุน ต้นทุนขนส่งแบบเดยี ว ต้นทุนขนสง่ หลายรูปแบบ ต้นทุนการขนถ่าย ระยะสน้ั ระยะไกล ระยะปานกลาง ระยะสน้ั ภาพท่ี 10.14 เปรยี บเทียบต้นทุนการขนส่งแบบเดียวกับการขนส่งหลายรปู แบบ - กลยุทธก์ ารขนสง่ สนิ คา้ เพือ่ ลดเท่ียวเปลา่ เป็นการเพมิ่ ประสิทธิภาพการขนส่งที่มี เป้าหมายให้ เกิดการใช้ประโยชนจ์ ากยวดยานเต็มความสามารถ (Load utilization) เพราะ การขนส่งโดยท่ัวไปเมื่อส่งสินค้าเสร็จ จะตีรถวิ่งเทีย่ ว เปล่ากลับมา ซึ่งทาให้เกิดต้นทุนของ การประกอบการเพ่ิมสูงข้ึนโดยเปล่าประโยชน์ ซ่ึงต้นทุนท่ีเกิดข้ึนมาน้ีนับเป็นต้นทุนที่ไม่ ก่อให้เกิดมูลค่า (Non-value added cost) และผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุน เหลา่ น้ี ซึ่งเปน็ ส่วนสาคญั ในการทาใหต้ น้ ทุนการประกอบการสูงข้ึน ปจั จุบันกลยทุ ธ์การขนส่ง สินค้าเพ่ือลดเที่ยวเปล่าจะประสานข้อมูลระหว่างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการควบคุม การขนส่งกับระบบสารสนเทศความต้องการของลูกค้า เพ่ือให้สามารถโยกย้ายสนิ ค้าให้ไปยัง จดุ ท่ีลูกค้าตอ้ งการได้อยา่ งเหมาะสมและใช้การขนส่งได้เตม็ ประสทิ ธภิ าพ 290 การจัดการโซ่อปุ ทานและโลจสิ ตกิ ส์ | Supply Chain & Logistics Management

2. แนวทางการลดต้นทุนสินค้าคงคลัง ในการลดต้นทุนสินค้าคงคลังปัจจัยที่สาคัญคือการ วัดประสิทธิภาพด้านการบริหารสินค้าคงคลังอย่างต่อเน่ืองและค้นหาวิธีการในการปรับปรุงอยูเสมอ แนวทางในการลดต้นทนุ สินค้าคงคลังมดี ังน้ี - การศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างสม่าเสมอ ความต้องการของลูกค้าจะ ส่งผลต่อปริมาณสินค้าคงคลัง การเช่ือมโยงและพยากรณ์ของลูกค้าด้วยระบบสารสนเทศ ลูกค้าสัมพันธ์ (CRM System) จะช่วยให้ทราบพฤติกรรมและรักษาฐานลูกค้า นอกจากนี้ยัง ต้องทาการวเิ คราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจภายนอก รวมถงึ การแข่งขันเพ่ือวเิ คราะห์ ความต้องการของลูกคา้ ได้อย่างแมน่ ยา ในการตัง้ ปรมิ าณสินค้าคงคลังสารองเผื่อขาด ควรอยู่ บนพนื้ ฐานระยะเวลาในการสง่ มอบและความพึงพอใจของลูกคา้ - การวางแผนการประกอบไว้ส่วนท้าย สาหรับสินค้าท่ีเป็นชิ้นสว่ นที่สามารถนาไป ผลิตสนิ ค้าต่อเน่ืองไดอีกหลายชนิด (Parent Products) ควรจะทาการเก็บสินคา้ คงคลังไว้ใน รูปแบบของสินค้ากึ่งสาเร็จรูป (Semi-finished Product) เพ่ือลดปริมาณสินค้าคงคลัง ทัง้ หมด เนื่องจากสามารถลดปรมิ าณสนิ คา้ คงคลงั ของทุกรายการแต่ละแบบลงได้ - การสร้างความร่วมมือกับผู้ส่งมอบ การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) และการเช่ือมโยงแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารผา่ นระบบสารสนเทศ (EDI) จะช่วยลดระยะเวลา ส่งมอบ (Lead Time) และความจาเป็นในการสารองสินค้าคงคลังลงนอกจากนี้ การบริหาร สินค้าคงคลังร่วมกัน (Use vendor-managed inventory: VMI) จะช่วยให้ผู้ส่งมอบและ องคก์ รวางแผนและกาหนดกลยุทธ์ในการจดั การสนิ คา้ คงคลังรวมกนั ส่งผลให้ต้นทุนสนิ ค้าคง คลงั ลดลงทง้ั ในส่วนขององค์กรและผู้สง่ มอบ - การจัดกลุ่มสินค้า พิจารณาการหมุนเวียนของสินค้าคงคลัง รวมถึงต้นทุนในการ เก็บรักษา อาจจะพิจารณาการเก็บสินค้าคงคลังตามหลักการระบบ ABC (ABC Classification) โดยสินค้าคงคลงั มลู คา่ สงู จะให้ความสาคัญกบั การเก็บรักษากบั การตรวจนับ อยา่ งสม่าเสมอ ปอ้ งกันสินคา้ เสียหาย และลดภาระการตรวจนับสนิ ค้าท่ไี ม่จาเป็น การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 291

- การสง่ ตอ่ สินค้า เป็นการนาแนวคิดศนู ยก์ ระจายสินค้า (Cross Dock) มาใชใ้ นการ จัดกลุ่มสินค้าคงคลัง เมื่อสินค้าจากผู้ส่งมอบมาถึง สามารถจัดสินค้าและส่งต่อไปยังลูกค้าได้ ทันที การนาระบบสารสนเทศเชื่อมโยงกันและรวมคาสั่งซ้ือของลูกค้าไว้ในรายการเดียวกัน ก่อนทจ่ี ะเชื่อมโยงข้อมูลไปยงั ผู้ส่งมอบและส่งต่อสินค้าไปยังลูกค้าทนั ที ทาให้ไมต่ ้องมีการขน ถ่ายสินคา้ และเก็บรักษาสนิ ค้าคงคลงั นอกจากนใี้ นกรณีที่องค์กรมคี ลงั สินค้า หรือบรษิ ัทย่อย หลายแหง่ อาจจะพจิ ารณาการสารองสนิ ค้าคงคลงั ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ หากสนิ ค้าคงคลงั ไม่เพียงพออาจจะใช้วธิ ีแลกเปล่ียนสนิ ค้าคงคลงั ระหว่างคลังสนิ ค้า ซ่งึ วธิ กี าร นีจ้ ะตอ้ งพจิ ารณาความคุ้มคา่ ในการขนส่ง การขนถ่าย รวมถึงการลดเท่ียวเปล่าในการส่งร่วม ด้วย 3. แนวทางการลดต้นทุนคลังสินค้า คลังสินค้าเป็นต้นทุนท่ีสาคัญของระบบโลจิสติกส์นอก จากการจัดการสินค้าคงคลังท่ีเหมาะสม การดาเนินการภายในคลังสนิ ค้าที่มีประสิทธิภาพสามารถลด ตน้ ทนุ ลงได้โดยมวี ธิ ีการดังตอ่ ไปนี้ - ลดการสูญเสียโดยใช้ระบบผลิตแบบลีน (Lean Production System: LPS) แนวคิดการผลิตแบบลีน จะให้ความสาคัญในการลดทรัพยากร รวมทั้งเวลาในกิจกรรมการ ผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ การผลิตแบบลีน นี้จะช้ีให้เห็นและทาการลดพฤติกรรมใดใดที่ไม่ได้ ก่อให้เกิดคุณค่าในการผลิต หรือความสูญเสีย (waste) กิจกรรมท่ีไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใน การผลิต ในแนวคดิ ของการผลติ แบบดงั กล่าวได้แก่ 1) การผลิตสินค้ามากเกินไป (overproduction) การผลิตสินค้ามากเกิน ความต้องการจะก่อให้เกิดความสูญเสียในทุกกิจกรรมของการผลิต รวมถึงเวลาท่ี ตอ้ งจดั เก็บสนิ คา้ เหล่านั้น 2) การหยุดรอ (waiting) การที่จะต้องหยุดรอช้ินส่วนหรืองานต่าง ๆ จาก การกระบวนการผลติ ในขั้นกอ่ นหนา้ จะทาให้เกิดความสญู เสยี ในด้านเวลาทีเ่ สยี ไป 3) การขนส่งหรือการเคลื่อนย้ายสินค้า (transport) การท่ีต้องเคล่ือนย้าย สินค้าโดยไมจ่ าเปน็ ทาใหเ้ กดิ ความสูญเสยี ในกิจกรรมดงั กล่าว 292 การจัดการโซอ่ ปุ ทานและโลจสิ ตกิ ส์ | Supply Chain & Logistics Management

4) กระบวนการทางานท่ีไม่เหมาะสม (inappropriate processing) กระบวนการ ทางานในลักษณะน้ีจะเกิดจากขั้นตอนการทางานที่มีความซับซ้อนเกิน ความจาเป็น ซ่ึงจะ กอ่ ใหเ้ กิดความสูญเสียทง้ั ในด้านการขนสง่ และแรงงานที่ตอ้ งทางานในกระบวนการดงั กล่าว 5) สินค้าคงเหลือที่ไม่จาเป็น (unnecessary inventory) ประกอบดว้ ยองค์ประกอบ การผลิตที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งจะก่อให้เกิดความสูญเสียในหลายด้าน ได้แก่ ต้นทุนในการจัดเก็บ คณุ ภาพของสินค้าท่เี สียไปตามระยะเวลาในการจดั เกบ็ 6) กิจกรรมการเคลื่อนไหวท่ีไม่จาเป็น (unnecessary motion) การท่ีคนทางาน จาเป็นตอ้ งเคลอื่ นไหวรา่ งกายเพ่อื ทากจิ กรรมที่ไมจาเปน็ 7) สินค้ามีตาหนิ (defect) การผลิตสินค้าที่มีตาหนิมีผลโดยตรงต่อความสูญเสยี ใน ดา้ นต้นทุนการผลิต และต่อเนอ่ื งไปถงึ รายไดท้ ีจ่ ะไดร้ ับ - การออกแบบพื้นท่ีจัดเก็บที่เหมาะสม การกาหนดตาแหน่งท่ีต้ังของหน่วยงานต่าง ๆ ภายในคลังสินค้า การกาหนดที่ต้ังของชั้นวางสินค้าและการกาหนดทางเดินหรือทางรถวิ่งหรือ การจราจรภายในคลังสินค้า ท้ังนี้เพอื่ ให้เกดิ ประสิทธิภาพการทางานท่ีดีท่ีสุด เชน่ มีการใช้พืน้ ท่ีที่มาก ที่สุด สินค้าหมุนเวียนเร็วควรอยู่ใกล้ทางออก มีการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น นอกจากนี้การนาเอาระบบประหยัดพลังงานมาใช้ เช่น ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ สามารถช่วยลด ตน้ ทุนคลงั สนิ คา้ ลงได้ - การจดั การแรงงานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ การลดการเคลือ่ นไหวโดยเปลา่ ประโยชน์ของแรงงาน ทาให้พนักงานทางานเต็มประสิทธิภาพ นอกจากน้ีการนาเทคโนโลยีและเคร่ืองจักรมาใช้ สามารถลด ต้นทุนคลังสินค้าได้ แต่การใช้เทคโนโลยีดังกล่าว พนักงานจะต้องมีความรู้ ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ รวมทั้งการควบคุมเครื่องจักร รวมไปถึงการแก้ปัญหา การซ่อมบารุง ดังนั้นการฝึกอบรมพนักงาน รวมทั้งการจัดตารางงานอย่างเหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการดาเนินงาน ภายในคลงั สินคา้ ลงไดม้ าก การจัดการการดาเนนิ งาน | Operations Management 293

4. แนวทางการลดต้นทุนบริหารจัดการโลจิสติกส์ การนาระบบสารสนเทศมาช่วยในการ จัดการโลจิสติกสโ์ ดยบรู ณาการรว่ มกบั ระบบสารสนเทศการจัดการโซ่อุปทานและระบบสารสนเทศอ่ืน ๆ ภายในองค์กร ช่วยให้การจัดการข้อมูลมีคุณภาพทาให้ต้นทุนการบริหารจัดการโลจิสติกส์ลดลงได้ ระบบสารสนเทศในการจัดการโลจสิ ตกิ สไ์ ด้แก่ - ระบบบาร์โค้ด (Barcode System) บาร์โค้ดหรือรหัสแท่งเป็นระบบบ่งชที้ ่ีมีการ นามาใช้งานมากที่สดุ เมื่อเทียบกับระบบอ่ืน ๆ เนื่องจากเป็นที่นยิ มในการติดบนตัวสนิ ค้าเพื่อ ต้องการทราบรหัสหมายเลขประจาตัว อันจะส่งผลให้กิจการทราบข้อมูลอ่ืน ๆ ของสินค้าได้ รวดเร็ว เชน่ ยอดขาย จานวนสินค้าท่ีขาย จานวนสินค้าที่อยู่ในคลังสินค้า เปน็ ตน้ ประโยชน์ ของบาร์โค้ดมีดงั นี้ 1) ทาให้กระบวนการทางานท่ีจาเป็นต้องใช้ข้อมูลสนิ ค้าสามารถทาไดอ้ ย่าง รวดเร็ว ถูกต้องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้จัดจาหน่าย ผู้ซ้ือ และผู้ที่ให้บริการ ทางด้านโลจสิ ตกิ ส์ สามารถใช้รหสั บาร์โค้ดทาธรุ กรรมรว่ มกนั ได้ 2) คู่ค้าทกุ ระดับตง้ั แตต่ น้ น้าจนถึงปลายนา้ สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ลด ระยะเวลาและปัญหาทีอ่ าจเกิดจากขอ้ ผิดพลาดในบันทึกข้อมูลตวั สนิ ค้าได้ 3) สามารถต่อยอดขีดความสามารถทางด้านโลจิสติกส์ด้านอื่น ๆ เช่น ระบบบริหารคลังสินค้าระบบการจัดซ้ือ ระบบขนส่งสินค้า ระบบจัดการลูกค้า สัมพนั ธ์ เปน็ ตน้ 4) สามารถใช้โปรแกรมระบบการจัดการโลจสิ ติกสส์ มยั ใหม่ได้เช่น ระบ บ การกระจายสินค้า (Cross-Docking) ระบบสารสนเทศในการจัดการคลังสินค้า ร่วมกับผู้สง่ มอบ (Vendor Managed Inventory: VMI) เป็นตน้ 5) สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของสินค้า (Traceability) ทาให้ทราบ ว่าสินค้าทราบนั้นมีแหล่งวัตถุดิบ หรือแหล่งผลิตจากที่ใดตลอดทั้งระบบห่วงโซ่ อุปทาน 294 การจัดการโซ่อุปทานและโลจสิ ติกส์ | Supply Chain & Logistics Management

- ร ะ บ บ ร หั ส บ่ ง ชี้ โ ด ย ใ ช้ ค ว า ม ถี่ ข อ ง ค ลื่ น วิ ท ยุ ( Radio Frequency Identification: RFID) เป็นเทคโนโลยี ท่ีระบุตาแหน่งของวัตถุ เช่น คน สัตว์ ส่ิงของ เป็น ต้น ด้วยคลื่นความถ่ีวิทยุโดยมีการติดป้าย (RFID Tag) ที่วัตถุเหล่าน้ัน นอกจากนี้ RFID จะ เป็นเทคโนโลยีท่ีเข้ามาแทนท่ีบาร์โค้ดในอนาคต เน่ืองจากมีความสะดวกและประสิทธิภาพ การใชง้ านดีกว่า แตเ่ นือ่ งจาก RFIDยังมรี าคาสูงจงึ ทาใหบ้ าร์โค้ดยงั ไดร้ บั ความนิยมอยู่ - ระบบบริหารจัดการการขนส่งสินค้า (Transportation management system: TMS) ซ่ึงเป็นเคร่ืองมือในการวางแผนการขนส่ง เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายของธุรกิจ การขนส่ง ซึ่งกค็ อื ความรวดเรว็ และตน้ ทนุ ท่ีประหยดั ท่สี ุด องค์ประกอบของระบบ TMS คือ การบรหิ ารการจัดการด้านขนส่ง (Transportation manager) ซง่ึ มีหนา้ ที่ในการวางแผนการ ดาเนินงานขนส่งและอีกองค์ประกอบหน่ึง คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง (Transportation optimizer) มหี น้าทชี่ ่วยการตัดสนิ ใจในเรือ่ งการบรรทุกสินค้า และการจดั วางเสน้ ทางให้มีประสทิ ธภิ าพสงู สุดภายใตข้ อ้ จากัดตา่ งๆ การทางานของระบบ TMS จะครอบคลุมตั้งแต่การจัดการใบส่งสินค้า การเลือก เส้นทางท่ีประหยัดที่สุด (Routing) การใช้รถอย่างมีประสิทธิภาพ (Utilization) การจัด ตารางเดินรถ (Scheduling) การจัดสินค้า ข้ึนรถแต่ละคัน (Loading) ล้วนแล้วแต่เป็นงานท่ี ตอ้ งใช้เวลาในการวางแผนค่อนขา้ งมาก หากต้องการใหต้ ้นทนุ ค่าขนส่งตา่ สุด ดังนั้นระบบวาง แผนการจัดส่งสินค้า จึงเข้า มาช่วยทาให้ผู้วางแผนสามารถวางแผนการจัดส่งสินค้า ได้อย่าง รวดเร็วโดยอาศัยข้อมูลจากระบบติดตามยานพาหนะอัตโนมัติด้วยระบบดาว เทียมบอก ตาแหนง่ (Automatic vehicle location system: AVLS) และข้อมูลอืน่ ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 295

บทสรปุ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) มีวัตถุประสงค์เพ่ือจัดการ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร เครือข่ายผู้ส่งมอบปัจจัยการผลิต และเครือข่ายการกระจายสินค้าไปสู่ ผู้บริโภคคนสุดท้าย เพ่ือสร้างความสมั พันธแ์ ละการสอ่ื สารที่มปี ระสิทธภิ าพ ปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect) เป็นปรากฏการณ์ที่องค์กรขาดความเข้าใจในความ ต้องการของลูกค้าและขาดการติดต่อส่ือสารประสานงานที่ดี องค์กรท่ีอยู่ในสายสัมพันธ์ทั้งโซ่อุปทาน จะพยายามเก็บรกั ษาสินคา้ คงคลงั ไวม้ ากขึ้นทาให้สินคา้ คงคลังเพิ่มสูงขนึ้ ตลอดสายโซ่อุปทาน ในการลดผลกระทบจากปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect) การจัดการโซ่อุปทานจะ เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบท่ีสาคัญได้แก่ 1) การจัดการลูกค้าสมั พันธ์ 2) การจัดการความสัมพันธ์กับผู้ สง่ มอบหรอื คคู่ า้ และ 3) ระบบสารสนเทศในการจัดการโซ่อปุ ทาน การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) หมายถึง กระบวนต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง การ วางแผน การดาเนินการ การควบคุม การไหลเวียนและการจัดเก็บสินค้า บริการ และสารสนเทศ อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จากจุดเร่ิมต้น (Point of Origin) จนถึงจุดของการบริโภค (Point of Customer) เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค โครงสร้างต้นทุนโลจิสติกส์ท่ีสาคัญได้แก่ ต้นทุนการขนส่งสินค้า ต้นทุนสินค้าคงคลัง ต้นทุน คลังสินค้าและต้นทุนบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งต้นทุนเหล่าน้ีจะถูกนามาพิจารณาเพ่ือหา แนวทางในการลดตน้ ทนุ โลจิสติกสใ์ นภาพรวมลง เพอื่ เพม่ิ ศักยภาพในการแขง่ ขนั 296 การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสตกิ ส์ | Supply Chain & Logistics Management

คาถามทา้ ยบท 1.จงอธบิ ายความแตกตา่ งระหว่างการจดั การโซอ่ ปุ ทานและการจดั การโลจิสติกส์ 2.จงอธบิ ายการเกิดปรากฏการณ์แสม้ ้า (Bullwhip Effect) และผลกระทบจากปรากฏการณด์ ังกลา่ ว 3.จงอธิบายการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ การจัดการความสัมพันธ์กับผู้ส่งมอบ และระบบสารสนเทศใน การจดั การโซ่อุปทาน 4.จงอธิบายโครงสร้างต้นทุนโลจิสตกิ ส์ 5.จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างแผนภาพประกอบในการลดเที่ยวขนส่งลงโดยใช้ศูนย์กระจายสินค้า (Cross Dock) 6.จงอธิบายแนวทางการลดตน้ ทุนสนิ ค้าคงคลงั มาพอสงั เขป 7.จงอธิบายแนวทางการลดต้นทุนบริหารจัดการโลจิสติกส์โดยใช้ระบบสารสนเทศ พร้อมยกตัวอย่าง ธรุ กิจท่นี าระบบสารสนเทศดังกล่าวมาชว่ ยในการบรหิ ารจดั การ เอกสารอา้ งองิ สานกั งานพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ. (2556). รายงานโลจสิ ตกิ สข์ องประเทศไทยประจาปี 2556. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก: http://www.nesdb.go.th/Portals/0/tasks/ dev_logis/report/data_1212250614.pdf, [24 มิ.ย. 2557] สานกั งานพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ (2555). การปรบั ปรงุ ต้นทุนโลจิสตกิ ส์ต่อ GDP ของ ประเทศไทย. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: http://www.nesdb.go.th/Portals/0/tasks/ dev_logis/seminar/logis54/data01.pdf, [24 มิ.ย. 2557] ฐาปนา บุญหล้า และ นงลักษณ์ นมิ ติ ภวู ดล (2555). การจดั การโลจสิ ตกิ ส์มิติซัพพลายเชน. กรงุ เทพฯ: ซเี อ็ดยเู คชน่ั , 27. ธนติ โสรตั น.์ (2550). การประยุกตใ์ ชโ้ ลจสิ ตกิ ส์และโซ่อุปทาน. กรุงเทพฯ: ประชุมทอง พริ้นติ๊ง กรุ๊ป จากดั , 68. การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 297

สาธติ พะเนยี งทอง (2548). การจัดการโซ่อปุ ทานเชงิ กลยทุ ธ์. กรุงเทพฯ: ซเี อ็ดยเู คชั่น, 25. Bowersox, D.J., Closs, D.J. and Cooper, M.B. (2009). Supply chain Logistics management. New York: McGraw- Hill Irwin, 6. Buttle, F. (2009). Customer Relationship Management: Concepts and Technologies.2nd edition, Amsterdam: Elsevier. 15. Harrison, A. and Hoek, R.V. (2002). Logistics Management and Strategy. London: Pearson Education Limited, 272. Hines, P. (2000). Value Stream Management: Strategy and Excellence in the Supply Chain, New York: Prentice Hall, 148-149. Jacobs, F.R., Chase, R.B. and Acquilano, N.J. (2009). Operations and supply management. New York: McGraw-Hill, 361. Koufteros, X., Vonderembse, M. and Jayaram, J., 2005. Internal and external integration for product development: the contingency effects of uncertainty, equivocality, and platform strategy. Decision Sciences 36 (1), 97– 133. Payne, A. (2006) .Handbook of CRM: Achieving Excellence in Customer Management. Elsevier, Oxford, 29. Singh, P.J., Power, D. (2009). The nature and effectiveness of collaboration between firms, their customers and suppliers: a supply chain perspective. Supply Chain Management: An International Journal 14(3), 189–200. 298 การจัดการโซ่อปุ ทานและโลจสิ ตกิ ส์ | Supply Chain & Logistics Management

การจดั การสนิ คา้ คงคลงั Inventory Management เน้อื หาประจาบท - ความสาคัญของสนิ คา้ คงคลัง - ต้นทุนสินคา้ คงคลัง - การจดั การสินค้าคงคลงั - ตัวแบบพ้ืนฐานสนิ ค้าคงคลัง - ตวั แบบสินคา้ คงคลังจากการผลติ - การควบคุมสนิ คา้ คงคลงั - บทสรุป วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ เพือ่ ใหผ้ ้ศู ึกษาสามารถอธิบาย - ความสาคัญของสนิ คา้ คงคลงั - ตน้ ทนุ สินค้าคงคลงั - ตวั แบบพื้นฐานสนิ ค้าคงคลัง ตวั แบบสนิ คา้ คงคลังจากการผลติ และการควบคุมสินค้าคงคลัง เพือ่ ให้ผู้ศึกษาสามารถ ระบุ กาหนด และแสดงวธิ ีการคานวณ - จุดส่ังซื้อที่ประหยดั ทส่ี ดุ (EOQ) - ปรมิ าณการผลิตทปี่ ระหยัด (EPQ) - ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง ระบบปริมาณการส่ังคงที่ และระบบสง่ั ซ้ือโดยช่วงเวลาคงที่ การจดั การการดาเนนิ งาน | Operations Management 299

บทที่ 11 การจดั การสนิ คา้ คงคลงั Inventory Management จากปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect) ซ่ึงเกิดจากองค์กรไม่สามารถทาความเข้าใจใน ความตอ้ งการของลูกค้าและขาดการติดต่อส่ือสารประสานงานที่ดี ทาให้องคก์ รทาการสารองสนิ ค้าคง คลังไว้ต่อเน่ืองเป็นทอด ๆ ทาให้ต้นทุนสินค้าคงคลังเพิ่มสูงขึ้นโดยไม่จาเป็น นอกจากการจัดการสาย สัมพันธ์ภายในโซ่อุปทานและการจัดการโลจิสติกส์จะช่วยให้ต้นทุนสินค้าคงคลังลดลงได้ การจัดการ สินค้าคงคลังภายในองค์กรเองก็นับว่าเป็นเรื่องท่ีองค์กรจะต้องให้ความสาคัญ ซ่ึงโดยธรรมชาติของ การดาเนินธุรกิจนั้น จาเป็นท่ีจะต้องมีสินค้าคงคลัง เช่น สินค้าคงคลังประเภทวัตถุดิบมีไว้เพ่ือให้มี เพียงพอและทันเวลาต่อการป้อนเข้าสู่ระบบผลิต หากมีไม่เพียงพอก็จะทาให้ระบบผลิตหยุดชะงักได้ สาหรับสินค้าคงคลังประเภทสินค้าสาเร็จรูปมีไว้เพื่อรอการจาหน่าย หากมีไม่เพียงพอจะทาให้เสีย โอกาสในการขาย เปน็ ตน้ อยา่ งไรก็ตามแมว้ ่าการมสี ินค้าคงคลงั เป็นสิ่งทีจ่ าเปน็ แต่การมีสินคา้ คงคลังมากเกินไปก็ส่งผล เสีย ในด้านของต้นทุนที่เกิดข้ึนจากการเก็บรักษา และต้นทุนสินค้าคงคลัง ดังนั้นการ จัดการ สินค้าคงคลังจึงเป็นการตัดสินใจเพ่ือให้มีสินค้าคงคลังในระดับท่ีเหมาะสม เพียงพอต่อการผลิตหรือ จาหนา่ ย และมีต้นทุนรวมของสนิ ค้าคงคลงั ท่ีตา่ ทส่ี ุด เนื้อหาในบทน้ีจะกล่าวถึง ความสาคัญของสินค้าคงคลัง ต้นทุนสินค้าคงคลัง การจัดการ สินค้าคงคลัง ตัวแบบพ้ืนฐานสินค้าคงคลัง ตัวแบบสินค้าคงคลังจากการผลิตหรือการส่ังผลิตและการ ควบคุมสินคา้ คงคลงั 300 การจัดการสินค้าคงคลงั | Inventory Management

ความสาคญั ของสนิ คา้ คงคลงั สินค้าคงคลัง (Inventory) จัดเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนชนิดหน่ึง ซึ่งองค์กรต้องมีไว้เพื่อ จาหน่ายหรอื ผลติ สินค้าคงคลังสามารถจาแนกได้ 4 ประเภท ดงั น้ี คอื (Saxena, 2009: 24) 1) วัตถุดิบและช้ินส่วนประกอบ (Raw Materials and Components) คือส่ิงของหรือ ช้นิ สว่ นท่ีจัดซอ้ื มาเพ่อื ใชใ้ นการผลติ 2) เครื่องมือและชิ้นส่วนเพื่อการบารุงรักษา (Maintenance Repair and Tooling Inventories) คือ ช้ินส่วนหรืออะไหล่เครื่องจักรท่ีสารองไว้เผื่อเปลี่ยนเม่ือชิ้นส่วนเดิม เสียหายหรือหมดอายุการใชง้ าน 3) งานระหว่างกระบวนการผลิต (Work in Process) เป็นชิ้นงานท่ีอยู่ในข้ันตอนการผลิต หรอื รอคอยทีจ่ ะผลติ ในขนั้ ตอนตอ่ ไปโดยทย่ี ังผ่านกระบวนการผลติ ไม่ครบทุกขั้นตอน 4) ผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป (Finished Product) คือ ปัจจัยการผลิตที่ผ่านทุกกระบวนการผลิต ครบถ้วน พรอ้ มทีจ่ ะนาไปจาหนา่ ยหรือสง่ มอบให้กบั ลูกคา้ บทบาทท่ีสาคัญของสินค้าคงคลังในมิติการดาเนินงานภายในองค์กร มีไว้เพ่ือให้เกิดความ สมดุลและความต่อเนื่องในการผลิตและการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า เม่ือพิจารณาในมิติที่กว้างมาก ข้ึน เมื่อสินค้าคงคลังไม่สมดุลกับการส่งมอบ การพิจารณาเผ่ือหรือสารองสินค้าคงคลังมากเกินไป จะ ทาให้เกิดปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect) ซึ่งสินค้าคงคลังจะเพ่ิมสูงข้ึนตลอดโซ่อุปทาน แต่ถ้า หากสินค้าคงคลังไม่เพียงพอต่อการส่งมอบให้กับลูกค้า จะเกิดผลกระทบต่อความพึงพอใจและเสีย โอกาสในการทากาไรและการแข่งขัน ผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลต่อทั้งโซ่อุปทานเช่นเดียวกัน ความสาคญั ของสินค้าคงคลังสามารถสรุปไดด้ งั นี้ 1) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าท่ีองค์กรพยากรณ์ไว้ในแต่ละช่วงเวลาทั้งในและนอก ฤดกู าลไดอ้ ยา่ งเพียงพอ โดยองคก์ รตอ้ งเก็บสินค้าคงคลงั ไว้ในคลงั สนิ ค้า 2) รักษาระดับการผลิตให้มีอัตราคงที่สม่าเสมอ เพ่ือรักษาระดับการว่าจ้างแรงงาน การ ทางานของเครื่องจักรให้สม่าเสมอ ในช่วงที่สินค้าจาหน่ายไม่หมดจะเก็บไว้เป็นสินค้าคงคลัง และนา ออกจาหนา่ ยในช่วงทีป่ รมิ าณความต้องการสูง การจัดการการดาเนนิ งาน | Operations Management 301

3) ทาให้องค์กรมีอานาจต่อรองหรือได้สว่ นลดในการจดั ซอื้ จานวนมาก 4) ปอ้ งกนั การเปลีย่ นแปลงราคาและผลกระทบจากเงินเฟ้อหรืออตั ราแลกเปล่ียน เมอ่ื สนิ ค้า ในทอ้ งตลาดมีราคาสูงขน้ึ หรือเพ่ือการเกง็ กาไรในอนาคต 5) ทาให้กระบวนการผลติ สามารถดาเนินการต่อเนอ่ื งอยา่ งราบรนื่ ไม่มีการหยดุ ชะงักจนเกิด ความเสียหายแก่กระบวนการผลิต ตน้ ทุนสนิ คา้ คงคลงั สินค้าคงคลังมีความจาเป็นต่อการดาเนินธุรกิจ ดังท่ีได้กล่าวไปแล้วนั้น แต่การมี สินค้าคงคลังก็จะทาให้เกิดต้นทุนขึ้น ซึ่งเป็นส่ิงท่ีผู้บริหารจาเป็นจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม ของระดบั ของปรมิ าณสนิ คา้ คงคลัง เราสามารถจาแนกตน้ ทนุ ของสนิ ค้าคงคลงั ไดด้ ังนี้ 1. ต้นทุนผลิตภัณฑ์ (Product Cost) เป็นต้นทุนหรือราคาของสินค้าคงคลังน้ัน ๆ เช่น ผลิตภัณฑส์ าเร็จรปู จะคดิ เป็นต้นทนุ ของการผลิต หรือวัตถดุ บิ ท่ซี ื้อมาจะคิดจากราคาทจี่ ัดซื้อ เปน็ ตน้ 2. ต้นทุนการส่ังซ้ือหรือสั่งผลิต (Service Costs หรือ Ordering Costs) เป็นค่าใช้จ่ายท่ี เกิดขึ้นจากการส่ังซื้อหรือส่ังผลิตสินค้าซึ่งจะแปรผันตามจานวนคร้ังของการสั่งซื้อ แต่ไม่แปรผันตาม ปริมาณสินค้าคงคลัง เพราะสง่ั ซอื้ ของมากเท่าใดก็ตามในแตล่ ะคร้งั ค่าใชจ้ ่ายในการส่ังซื้อก็ยงั คงท่ี แต่ ถ้าย่ิงสั่งซื้อบ่อยครั้งค่าใช้จ่ายในการส่ังซื้อจะย่ิงสูงขึ้น ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมการและการ ออกคาสั่งซ้ือหรือผลิต ค่าใช้จ่ายในการบันทึกข้อมูลหรือเก็บหลักฐาน ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า ค่าใช้จ่ายในการตรวจรับสินค้า ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเอกสาร ค่าใช้จ่ายในการปรับตั้งเคร่ืองจักร และค่าใช้จ่ายในการทดลองผลิต เปน็ ต้น 3. ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (Holding Costs หรือ Carrying Costs) เป็น ค่าใช้จา่ ยจากการมีสินคา้ คงคลังและการรักษาสภาพใหส้ ินค้าคงคลังนั้นอยู่ในรปู ท่ีใช้งานได้ ซงึ่ จะแปร ตามปริมาณสนิ ค้าคงคลังที่ถือไวแ้ ละระยะเวลาที่เกบ็ สินค้าคงคลงั นนั้ ไว้ ค่าใช้จ่ายประเภทนี้ ได้แก่ ค่า สถานที่เก็บสินค้าคงคลัง ค่าดูแลรักษาสินค้าคงคลัง ค่าใช้จ่ายในการเคล่ือนย้าย ค่าดอกเบ้ียหรือค่า เสียโอกาสจากเงินลงทุนในการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง ค่าเสื่อมสภาพ สูญหาย หรือล้าสมัย และค่า ประกนั ภัย เป็นตน้ 302 การจดั การสินค้าคงคลัง | Inventory Management

ต้นทนุ การเก็บรักษาสินคา้ คงคลัง ค่อนขา้ งทจ่ี ะประมาณการได้ยาก จะนยิ มแสดงเป็นร้อยละ ของมูลคา่ สนิ คา้ เฉลยี่ โดยมคี า่ ใช้จ่ายโดยประมาณดังตารางท่ี 11.1 ตารางท่ี 11.1 แสดงร้อยละต้นทุนเกบ็ รกั ษาสนิ คา้ คงคลงั โดยประมาณ รายการต้นทุนในการเก็บรกั ษาสินค้าคงคลัง ตน้ ทุนเกบ็ รักษา (%) เฉลีย่ ช่วงโดยประมาณ อัตราดอกเบย้ี จากเงินลงทุน 15.00 8-40 ค่าประกันภยั 1.00 0.5-2 ภาษี 0.05 0-2 คา่ จดั เก็บ 2.00 0-4 การล้าสมยั 1.20 0.5-2 รวม 19.25 9-50 (ทีม่ า: Bowersox, Closs and Cooper, 2009: 291) 4. ต้นทุนเนื่องจากสินค้าขาดแคลน (Shortage Costs หรือ Stock out Costs) เป็น ค่าใช้จ่ายท่ีเกิดขึ้นจากการมีสินค้าคงคลังไม่เพียงพอต่อการผลิตหรือการขาย ทาให้ลูกค้ายกเลิกคา ส่ังซ้ือ ขาดรายได้ท่ีควรได้ กิจการเสียชื่อเสียง กระบวนการผลิตหยุดชะงักเกิดการว่างงานของ เครื่องจักรและคนงาน ค่าใช้จ่ายน้ีจะแปรผกผันกับปริมาณสินค้าคงคลังท่ีถือไว้ น่ันคือถ้าถือสินค้าไว้ มากจะไม่เกิดการขาดแคลน แต่ถ้าถือสินค้าคงคลังไว้น้อยก็อาจเกิดโอกาสที่จะเกิดการขาดแคลนได้ มากกว่า และมีค่าใช้จ่ายเนื่องจากสินค้าขาดแคลนนี้ข้ึนอยู่กับปริมาณการขาดแคลนรวมทั้งระยะเวลา ท่ีเกดิ การขาดแคลนข้นึ ดว้ ย ค่าใช้จา่ ยเน่ืองจากสินคา้ ขาดแคลนได้แก่ ค่าสั่งซ้ือแบบพิเศษเพ่ือนามาใช้ แบบฉกุ เฉิน ค่าปรับเน่อื งจากสินคา้ ใหล้ ูกคา้ ล่าช้า ค่าเสียโอกาสในการขาย คา่ ใชจ้ ่ายท่ีเกดิ ขน้ึ จากการ เสียค่าความนิยม เปน็ ตน้ การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 303

การจดั การสนิ คา้ คงคลงั ในการจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ จะต้องดาเนินการให้เกิดความสมดุลระหว่าง การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า การวางแผนและควบคุมสนิ ค้าคงคลัง รวมทงั้ การจัดซื้อ ดงั ภาพที่ 11.1 การควบคุมสนิ ค้า การพยากรณ์ คงคลงั ความต้องการ ผ้สู ง่ มอบ ระยะเวลา การจดั การ ปรมิ าณความ ลกู คา้ สง่ มอบ สินคา้ คงคลัง ตอ้ งการลูกค้า การจัดเกบ็ การกาหนดระดบั สนิ ค้าคงคลงั สินค้าคงคลัง ภาพที่ 11.1 แสดงแนวคดิ การจัดการสินค้าคงคลัง จากภาพท่ี 11.1 ในการจัดการสินค้าคงคลัง จะเริ่มจากความต้องการของลูกค้า หากไม่ สามารถทาความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า ย่อมส่งผลต่อการกาหนดระดับสินค้าคงคลัง ปริมาณความต้องการของลูกค้าจะต้องทาการพยากรณ์ล่วงหน้า ซ่ึงปัจจุบันระบบการพยากรณ์ความ ต้องการของลูกค้าจะถูกผนวกรวมไปกับระบบสารสนเทศลูกค้าสัมพันธ์ ทาให้ทราบพฤติกรรม แนวโน้มความตอ้ งการและทาการพยากรณ์ได้แม่นยามากยิ่งขน้ึ ในการกาหนดระดับสินค้าคงคลัง จะใช้ตัวแบบสินค้าคงคลังต่าง ๆ ซ่ึงจะนาข้อมูลจากการ พยากรณ์ ระยะเวลาในการจาหน่าย ต้นทุนการส่ังซื้อ ต้นทุนการเก็บรักษาและระยะเวลาสง่ มอบหรอื รอคอยสินคา้ (Lead Time) เพือ่ กาหนดจดุ สั่งซอ้ื ที่ประหยัดทส่ี ดุ (Economic Order Quantity) การจดั เกบ็ และควบคุมสินคา้ คงคลัง นบั ว่ามคี วามสาคัญต่อต้นทุนการเก็บรักษา จะเกี่ยวข้อง กับการขนถ่าย การเคลื่อนย้ายภายใน การวางผังและใช้พ้นื ที่ การตรวจนบั และควบคมุ สนิ ค้าคงคลังท่ี มปี ระสิทธภิ าพ จะชว่ ยใหต้ น้ ทุนสนิ คา้ คงคลงั ลดลง 304 การจัดการสนิ คา้ คงคลงั | Inventory Management

ตวั แบบพ้นื ฐานสนิ คา้ คงคลงั จากต้นทุนสินค้าคงคลังประกอบไปด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย ต้นทุนสินค้า ต้นทุนเก็บรักษา ต้นทนุ สั่งซ้อื และตน้ ทุนเมื่อสินค้าขาดมือ นั่นคอื หากส่งั ซ้ือสินค้าปริมาณมาก ๆ จะมีต้นทุนส่ังซ้ือน้อย แต่ต้นทุนเก็บรักษามาก หากส่ังซ้ือปริมาณน้อย ๆ จะต้องทาการส่ังซื้อบ่อยคร้ังทาให้ต้นทุนสั่งซื้อสูง แต่ต้นทุนการเก็บรักษาต่า และอาจจะเกิดโอกาสสินค้าขาดมือ ดังน้ันจึงจะต้องทาการคานวณหา ปริมาณส่ังซ้ือท่ีทาให้ต้นทุนรวมต่าท่ีสุด ซึ่งเรียกว่าจุดส่ังซ้ือท่ีประหยัดท่ีสุด (Economic Order Quantity: EOQ) ตัวแบบพ้ืนฐานสินค้าคงคลังในการกาหนดปรมิ าณส่ังซอ้ื ที่ประหยัดท่ีสุด (EOQ) มีข้อกาหนด ต่าง ๆ ดงั ต่อไปนี้ 1) ปรมิ าณทสี่ ั่งซือ้ ในแต่ละคร้งั ต้องเท่ากัน 2) ระยะเวลาทาการสง่ั ซอ้ื ในแต่ละคร้ังต้องเทา่ กัน 3) ยอดขายสินคา้ ในแตล่ ะวันตอ้ งเทา่ กนั 4) จะต้องสั่งซื้อใหเ้ พยี งพอต่อความต้องการลูกคา้ น่ันคอื ไมเ่ กดิ ตน้ ทุนเมื่อสนิ คา้ ขาดมือ ปรมิ าณ (Q) ปรมิ าณสั่งซื้อท่ปี ระหยัดทสี่ ดุ 1 23 n t เวลารวม (T) ttt ภาพที่ 11.2 แสดงตัวแบบพ้ืนฐานสนิ คา้ คงคลัง การจดั การการดาเนนิ งาน | Operations Management 305

จากภาพท่ี 11.2 นามาพิจารณาเพ่ือหาต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง และต้นทุนการ สง่ั ซื้อเพอื่ หาจุดสงั่ ซือ้ ทป่ี ระหยัดท่สี ดุ ไดด้ งั น้ี 1. ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (Carrying Costs หรือ Holding Costs: TCH) สามารถคานวณได้จากผลคูณของปริมาณท่ีเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (Q) กับต้นทุนในการเก็บรักษาต่อ หนว่ ย (H) โดยที่ ปริมาณที่เกบ็ รักษาสินคา้ คงคลงั โดยเฉลี่ย = สนิ คา้ คงคลังต้นงวด + สนิ ค้าคงคลงั ปลายงวด 2 = Q0 2 ดังนน้ั TCH = Q xH (11.1) 2 ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังทาการประมาณค่าได้ยาก มักหาจากร้อยละค่าใช้จ่ายในการ จัดเกบ็ ของต้นทุนสนิ ค้าโดยที่ H = CxI (11.2) ดงั นั้นแทนคา่ H จะได้ TCH = Q xCXI (11.3) 2 นามาแสดงด้วยกราฟความสัมพันธ์ระหว่างตน้ ทนุ (TC) และปรมิ าณ (Q) ดงั ภาพที่ 11.3 ตน้ ทุน (TC) TCH = Q xCXI 2 ปรมิ าณ (Q) ภาพท่ี 11.3 แสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งตน้ ทุนการเกบ็ รักษาและปริมาณสนิ คา้ คงคลงั 306 การจัดการสินคา้ คงคลงั | Inventory Management

2. ต้นทุนการสั่งซื้อหรือส่ังผลิต (Service Costs หรือ Ordering Costs: TCO) สามารถ คานวณไดจ้ าก ผลคณู ของจานวนคร้งั ทสี่ ั่งซอื้ (n) กับ ต้นทุนการส่ังซ้ือต่อคร้ัง (O) TCO = n x O (11.4) จานวนคร้ังท่ีส่ังซื้อ (n) สามารถคานวณได้จากอัตราส่วนระหว่างยอดท่ีส่ังซ้ือรวมท้ังหมดซ่ึง มาจากค่าพยากรณ์ยอดขายในรอบปี (D) กับปรมิ าณที่สัง่ ซอ้ื ในแต่ละครั้ง (Q) จะได้ n= D (11.5) Q แทนค่า n ลงในสมการ 11.4 จะได้ TCO = D xO (11.6) Q นามาแสดงดว้ ยกราฟความสัมพันธ์ระหวา่ งต้นทนุ (TC) และปรมิ าณ (Q) ดังภาพที่ 11.4 ต้นทนุ (TC) TCO = D xO Q ปริมาณ (Q) ภาพท่ี 11.4 แสดงความสมั พันธร์ ะหวา่ งต้นทุนการสง่ั ซื้อและปรมิ าณสนิ ค้าคงคลัง การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 307

เมื่อพิจารณานาต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลังและต้นทุนการส่ังซื้อมารวมกัน เพ่ือหา ผลรวมตน้ ทุนทั้งสองทตี่ ่าทส่ี ดุ ได้ดงั ภาพที่ 11.5 ต้นทนุ (TC) TC = TCH + TCO TCH ปรมิ าณสัง่ ซอื้ ท่ีประหยดั ทสี่ ุด (EOQ) TCO ปรมิ าณ (Q) ภาพท่ี 11.5 แสดงตน้ ทุนรวมระหวา่ งต้นทุนเก็บรักษาสนิ ค้าคงคลงั และต้นทนุ การส่งั ซื้อ จดุ ท่ีผลรวมของตน้ ทนุ ท้ังสองที่ต่าท่สี ุด คอื จุดทค่ี วามลาดเอยี ง (Slope) เปน็ 0 ไดจ้ ากการหา อนุพนั ธ์เทยี บกับปรมิ าณ (Q) นาไปเทา่ กับ 0 จะได้ d (TC) = - D x O + C x I = 0 d (Q) Q2 2 Q2 = 2 x D x O CxI Q = 2xDxO CxI ซ่ึงปรมิ าณ Q ท่ีจุดนเ้ี ป็นจดุ ส่งั ซือ้ ทท่ี าใหต้ ้นทุนรวมระหวา่ งต้นทนุ เก็บรักษาสินค้าคงคลังและ ต้นทุนการส่ังซื้อต่าท่ีสุด (Economic Order Quantity: EOQ) ซ่ึงเป็นจุดตัดระหว่าง TCH และ TCO จัดรปู สมการใหมไ่ ด้ EOQ = 2DO CI (11.7) 308 การจัดการสนิ ค้าคงคลัง | Inventory Management

รอบในการส่ังซื้อ (Order Cycle time:t) คือระยะเวลาท่ีดาเนินการสั่งซ้ือในแต่ละคร้ัง สามารถคานวณได้จากอัตราส่วนของระยะเวลารวมหรือระยะเวลาทางานท้ังหมด (T) กับ จานวนครั้ง ในการสง่ั ซือ้ (n) ไดด้ งั น้ี t= T n (11.8) จุดสั่งซื้อใหม่ (Re-Order Point: ROP) ในทางปฏิบัติกระบวนการสั่งซ้ือ ไปจนถึงส่งมอบ ไม่สามารถทาได้ทันที จะเกิดการรอคอยสินค้าหรือระยะเวลาส่งมอบ (Lead Time: L) ซ่ึงจะต้อง ดาเนินการสั่งซ้ือล่วงหน้าเพ่ือให้สินค้ามาส่งได้ทันพอดี จุดสั่งซื้อใหม่จึงเป็นจุดที่สินค้าคงคลังเหลืออยู่ ดงั ภาพที่ 11.6 ปรมิ าณ (Q) ปรมิ าณสงั่ ซ้อื ทปี่ ระหยดั ทสี่ ดุ (EOQ) 1 2 3 จุดสั่งซื้อใหม่ (ROP) n L LL t L เวลารวม (T) ttt ภาพท่ี 11.6 แสดงจุดสงั่ ซ้ือใหม่ทเี่ กดิ จากระยะเวลาในการส่งมอบ (Lead Time) จากภาพท่ี 11.6 เมื่อพิจารณาอัตราส่วนระหว่างจุดส่ังซ้ือใหม่ (ROP) กับ ระยะเวลารอคอย หรอื ส่งมอบ (L) จะมีค่าเทา่ กับอตั ราสว่ นปริมาณสั่งซ้ือทป่ี ระหยัดที่สุด (EOQ) กับรอบในการสง่ั ซื้อ (t) เนื่องจากพิจารณาตามหลักพีชคณิต (Algebraic Approach) เป็นรูปสามเหล่ียมมุมฉากที่คล้ายกัน ดงั นน้ั ROP = EOQ Lt ROP = EOQ x L (11.9) t การจดั การการดาเนนิ งาน | Operations Management 309

ตวั อยา่ งท่ี 11.1 บรษิ ัทแหง่ หนง่ึ วางแผนจะนาสินคา้ เข้ามาจาหน่าย โดยไดท้ าการพยากรณ์ยอดขายทั้ง ปีเทา่ กบั 5,000 ชิ้น ตน้ ทนุ ชิน้ ละ 8,000 บาท โดยมคี า่ ใช้จา่ ยในการสั่งซอื้ 10,000 บาทต่อครง้ั และมี ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาร้อยละ 20 ของต้นทุนสินค้า บริษัทเปิดดาเนินการทั้งปี 320 วัน และมี ระยะเวลาสง่ มอบ 8 วนั จงวางแผนส่ังซื้อทปี่ ระหยดั ที่สุด วธิ ีทา จาก EOQ = 2DO CI EOQ = 2x5,000x10,000 8, 000x0.2 EOQ = 250 ชน้ิ /ครงั้ หาจานวนครง้ั ในการสัง่ ซอ้ื (n) จาก n= D Q n = 5,000 250 n = 20 ครง้ั หารอบในการสง่ั ซื้อ (t) จาก t= T n t = 320 วัน 20 t = 16 310 การจดั การสินคา้ คงคลงั | Inventory Management

หาจุดส่ังซื้อใหม่ (ROP) จาก ROP = EOQ x L t ROP = 250 x 8 16 ROP = 125 ช้ิน หาตน้ ทุนรวมของต้นทนุ การเก็บรกั ษาและตน้ ทุนการสั่งซ้ือ TC = QCI + DO 2Q TC = 250x8,000x0.2 + 5,000x10,000 2 250 TC = 400,000 บาท ตอบ บริษัทควรส่ังซ้ือคร้ังละ 250 ช้ิน จะมีต้นทุนเก็บรักษาและต้นทุนการส่ังซื้อรวมต่าท่ีสุดเท่ากับ 400,000 บาท จะตอ้ งทาการสั่งซ้ือ 20 ครั้ง รอบการส่ังซื้อเทา่ กับ 16 วัน โดยเหลือสนิ ค้า 125 ชนิ้ จงึ จะทาการสง่ั ซือ้ ใหม่ สามารถแสดงดว้ ยกราฟดงั ภาพที่ 11.7 ปรมิ าณ (Q) 123 EOQ=250 ช้ิน 20 ROP=125 ช้ิน 8 88 8 เวลารวม (T) 16 16 16 16 ภาพท่ี 11.7 แสดงรายละเอียดตวั แบบพน้ื ฐานสินค้าคงคลงั การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 311

ผู้ส่งมอบมักจงู ใจให้เกิดการสั่งซ้ือจานวนมาก โดยการให้สว่ นลดพิเศษ ดังน้นั หากจะพิจารณา นาเอาส่วนลดพิเศษมาพจิ ารณาร่วมเพ่ือให้ได้ต้นทุนสินคา้ คงคลังรวม (TCi) ตา่ ท่ีสุดสามารถหาได้จาก ผลรวมของต้นทุนเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (TCH) ต้นทุนการสั่งซ้ือ (TCO) และต้นทุนสินค้า (TCC) รวม ไดด้ งั น้ี TCi = TCH + TCO + TCC (11.10) TCi = QCI + DO + CD (11.11) 2Q ตัวอย่างที่ 11.2 จากตัวอย่างท่ี 11.1 สมมติผู้ส่งมอบจูงใจโดยมอบส่วนลดช้ินละ 80 บาทหาก ดาเนินการสั่งซือ้ ครง้ั ละ 1,000 ช้ินขน้ึ ไป บรษิ ัทควรสั่งซอื้ ครง้ั ละเทา่ ใดจึงจะได้ตน้ ทนุ สินค้าคงคลังรวม ต่าที่สุด วธิ ที า จะต้องทาการพิจารณาปริมาณสั่งซ้ือท่ี EOQ และ ปริมาณสั่งซื้อท่ีได้ส่วนลดพอดี เนื่องจาก สงั่ มากขน้ึ ได้ส่วนลดเทา่ เดมิ แตแ่ นวโนม้ ตน้ ทนุ การเกบ็ รักษาจะเพ่ิมสูงขึ้นมาก กรณที ี่ปริมาณสั่งซ้อื อยู่ท่จี ดุ ส่ังซ้อื ทป่ี ระหยดั ท่สี ดุ (EOQ) ครง้ั ละ 250 ชิน้ จาก TCi = QCI + DO + CD 2Q TCi = 250x8,000x0.2 + 5,000x10,000 + (8,000x5,000) 2 250 TCi = 40,400,000 บาท กรณีท่ีปริมาณสั่งซื้อเพื่อให้ได้ส่วนลด คร้ังละ 1,000 ช้ิน ต้นทุนสินค้าลดลง 80 บาท เท่ากับ 8,000 – 80 = 7,920 บาท นามาพจิ ารณาต้นทุนสินคา้ คงคลังรวม TCi = 1,000x7,920x0.2 + 5,000x10,000 + (7,920x5,000) 2 1,000 TCi = 40,442,000 บาท ตอบ บริษัทควรส่ังซ้ือที่จุด EOQ เท่ากับ 250 ชิ้น เพราะให้ต้นทุนสินค้าคงคลังรวมต่ากว่าที่ผู้ส่งมอบ ให้สว่ นลด 312 การจัดการสนิ คา้ คงคลงั | Inventory Management

ตวั แบบสนิ คา้ คงคลงั จากการผลติ ในกรณีท่ีเป็นลักษณะการผลิต ในขณะท่ีดาเนินการผลิตจะมีการใช้สินค้าคงคลังหรือการส่ง มอบควบคู่กันไปด้วย การหาปริมาณการผลิตที่ประหยัด (Economic Production Quantity: EPQ) จะแตกตา่ งจากการส่ังซื้อที่ประหยัดที่สุด (Economic Order Quantity: EOQ) ซึง่ เป็นการสั่งซ้ือและ ได้รบั สินค้าในครั้งเดียว ดังภาพท่ี 11.8 ปรมิ าณ (Q) ปรมิ าณท่ีควรส่ังผลติ (Qm) อัตราการผลติ (P) ปริมาณสินค้าคงคลังสูงสดุ (Qmax) (D) (P-D) (D) (P-D) (D) (P-D) ta tb ta tb ta tb tc เวลารวม (T) ภาพท่ี 11.8 ตัวแบบสินค้าคงคลงั จากการผลิต จากภาพท่ี 11.8 อัตราการผลิต (P) จะต้องมากกว่าความต้องการของลูกค้า (D) จึงจะ สามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ทัน ทาการหาระดับสินค้าคงคลังสูงสุด (Qmax) ได้จากผลคูณของอัตรา การผลติ ที่มีความต้องการใช้สินคา้ (P-D) กบั รอบระยะเวลาการผลิตทีม่ ีการใช้สนิ คา้ (ta) Qmax = (P - D) x ta (11.12) รอบระยะเวลาการผลิตท่มี ีการใช้สนิ คา้ (ta) คานวณได้จากอัตราส่วนระหว่างปริมาณทคี่ วรส่ัง ผลิต (Qm) กับ อัตราการผลิต (P) จะได้ ta = Qm (11.13) P การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 313

แทนค่า ta ลงในสมการ 11.12 จะได้ Qmax = (P - D) x Qm P Qmax = Qm (1 - D) (11.13) P ปริมาณที่เก็บรักษาสินค้าคงคลังโดยเฉลี่ย(Q) สามารถคานวณได้จากค่าเฉล่ียของสินค้าคง คลงั ต้นงวดและสนิ ค้าคงคลังปลายงวด Qmax + 0 2 Q= Q = Qmax (11.14) 2 จากสมการ 11.13 แทนคา่ Qmax ลงในสมการที่ 11.14 จะได้ Q = Qm (1 - D ) (11.15) 2P (11.16) เมือ่ หาต้นทนุ รวมจากการเก็บรกั ษาสินค้าคงคลงั และต้นทนุ การสัง่ ผลิตจะได้ Qm (1 - D) CI DO P TC = + 2 Qm หาผลรวมของต้นทุนทั้งสองท่ีต่าท่ีสุด คือจุดที่ความลาดเอียง (Slope) เป็น 0 ได้จากการหา อนพุ นั ธเ์ ทยี บกับปริมาณ (Qm) นาไปเท่ากบั 0 จะได้ d (TC) = (1 - D ) CI DO =0 P- d (Qm ) 2 Qm2 Qm2 = 2DO CI(1 - D ) P 314 การจดั การสินคา้ คงคลัง | Inventory Management

ดงั นน้ั Qm = 2DO CI(1 - D ) P โดยจะเรยี ก Qm ที่จุดน้วี ่า ปรมิ าณการผลิตทีป่ ระหยดั (Economic Production Quantity: EPQ) โดยจัดรปู สมการใหม่ไดด้ งั นี้ EPQ = 2DO (11.17) CI(1 - D ) P รอบการส่ังผลิต (Cycle Time: tc) สามารถคานวณได้จากอัตราส่วนระหว่าง ปริมาณการ ผลติ ทปี่ ระหยัด (EPQ) และ ความต้องการของลกู คา้ (D) ดังนี้ tc = EPQ (11.18) D ระยะเวลาการใช้สินค้าคงคลัง (tb) สามารถคานวณได้จากอัตราส่วนระหว่างระดับสินค้าคง คลังสงู สดุ (Qmax) กับ ความต้องการของลูกค้า (D) ดงั นี้ tb = Qmax (11.19) D จานวนคร้ังในการสั่งผลิต (n) สามารถคานวณได้สว่ นกลับของรอบการสัง่ ผลติ (tc) n= 1 tc (11.20) ในการคานวณระยะเวลาต่าง ๆ ในตัวแบบสินค้าคงคลังจากการผลิตจะมีหน่วยเป็นปี หาก ทราบระยะเวลารวมใน 1 ปี (T) ซ่ึงมีหน่วยเป็นวัน สามารถคานวณระยะเวลาต่าง ๆ ให้เป็นวันได้โดย นาไปคณู ระยะเวลารวมใน 1 ปี (T) ดงั กล่าว การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 315

ตัวอย่างที่ 11.3 โรงงานผลติ รถยนต์แห่งหนง่ึ มีอัตราในการผลิตท้ังปี 1,200 คัน ลูกค้ามีความต้องการ รถยนต์ดังกล่าว 400 คันต่อปี มีต้นทุนในการสั่งผลิตคร้ังละ 20,000 บาท มีต้นทุนการเก็บรักษาร้อย ละ 10 ของมูลค่ารถยนต์ หากรถยนต์มีมูลค่าคันละ 600,000 บาท จงหาปริมาณการผลิตที่ประหยัด ที่สุด พร้อมต้นทุนรวมท่ีเกิดขึ้น และแสดงรายละเอียดตัวแบบสินค้าคงคลังจากการผลิต หาก ระยะเวลาทางานทั้งปีเท่ากับ 360 วัน วธิ ีทา จาก EPQ = 2DO CI(1 - D ) P EPQ = 2x400x20,000 600,000x0.1x(1- 400 ) 1, 200 EPQ = 20 คันตอ่ ครั้ง ปี จาก tc = EPQ D tc = 20 400 หรอื tc = 20 x 360 = 18 วนั 400 ปี จาก ta = EPQ วัน P = 20 ta 1200 หรือ ta = 20 x 360 = 6 1200 จาก tb = tc - ta ดงั นัน้ tb = 18 - 6 = 12 วัน 316 การจดั การสินค้าคงคลงั | Inventory Management

จาก n= 1 tc n= 1 = 20 คร้งั 20 / 400 = EPQ (1 - D ) จาก Qmax P Qmax = 20(1- 400 ) = 13.33 คัน 1, 200 หาต้นทนุ รวมจากการเกบ็ รักษาสนิ คา้ คงคลังและตน้ ทุนการสัง่ ผลิตจะได้ จาก EPQ (1 - D ) CI DO P+ TC = 2 EPQ TC = 20x(1 - 400 )x600,000x0.1 400x20, 000 1,200 + 2 20 TC = 800,000 บาท ตอบ บริษัทควรส่ังผลิตคร้ังละ 20คัน จะมีต้นทุนเก็บรักษาและต้นทุนการสั่งผลิตรวมต่าที่สุดเท่ากับ 800,000 บาท ทาการสง่ั ผลติ 20 ครั้ง มีรอบการสั่งผลิตเทา่ กับ 18 วนั รายละเอยี ดดังภาพท่ี 11.9 ปรมิ าณ (Q) EPQ = 20 คัน Qmax = 13.3 คัน 123 20 18 วนั @ 20 คร้งั = 360 วัน เวลา (T) ภาพท่ี 11.9 แสดงรายละเอยี ดตัวแบบสินค้าคงคลังจากการผลติ การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 317

การควบคมุ สนิ คา้ คงคลงั ในการตัดสนิ ใจส่ังซื้อหรือส่ังผลิต จะเห็นได้ว่าตวั แบบพนื้ ฐานสนิ ค้าคงคลัง และตัวแบบสินค้า คงคลังจากการผลิต จะมีอัตราการใช้สินค้า ระยะเวลารอคอยสินค้าหรือระยะเวลาส่งมอบเท่ากัน ใน ทกุ รอบการสงั่ ซอื้ หรือสั่งผลิต แตใ่ นความเป็นจริง สถานการณต์ ่าง ๆ ท่ีผันผวนจะสง่ ผลให้อตั ราการใช้ สินค้าและระยะเวลาส่งมอบคลาดเคล่ือนไป ทาให้องค์กรจะต้องกาหนดระดับสินค้าคงคลังเพ่ือความ ปลอดภัย (Safety Stock) เพอ่ื ป้องกันสนิ ค้าคงคลังขาดมือ (Stock out) ดังภาพที่ 11.10 ปริมาณ (Q) ความต้องการเฉลย่ี (D) จุดสงั่ ซือ้ ใหม่ (ROP) สนิ ค้าคงคลงั เพื่อความปลอดภยั (SS) อตั ราความต้องการสงู สดุ (Dmax) L ชว่ งเวลาการสง่ มอบ t เวลา (T) ภาพท่ี 11.10 แสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสินคา้ คงคลงั เพื่อความปลอดภยั และระยะเวลาส่งมอบ (ท่ีมา: ปรับปรงุ จาก ชุมพล ศฤงคารศริ ิ, 2553: 109 และ Heizer and Render, 2011: 521) เมื่อใช้การแจกแจงแบบปกติเพื่อพิจารณาความต้องการสูงสุด (Dmax) ในช่วงเวลาสง่ มอบ (L) ท่เี กดิ จากความผันผวนของความต้องการแสดงดังภาพท่ี 11.11 โอกาสในการสง่ มอบไดเ้ พยี งพอ โอกาสที่เกิดสนิ ค้าคงคลังขาดมือ D Dmax Z ภาพที่ 11.11 แสดงโอกาสในการส่งมอบได้เพยี งพอและโอกาสที่เกิดสินคา้ คงคลงั ขาดมอื (ท่มี า: ปรับปรุงจาก Russell and Taylor, 2011: 576) 318 การจัดการสินคา้ คงคลัง | Inventory Management

จากภาพท่ี 11.11 โอกาสในการส่งมอบได้เพียงพอ จะใช้ระดับการให้บริการ (Service Level) ในการวัดปริมาณสนิ คา้ คงคลังเพ่ือความปลอดภัย เพือ่ กาหนดการตอบสนองตอ่ ความต้องการ ของลูกค้าในรูปของร้อยละ หรือร้อยละท่ีสินค้าคงคลังขาดมือ (Stock out) ในการกาหนดพื้นท่ีใต้ กราฟ (Z) ซ่ึงเรียกค่าน้ีว่าตัวประกอบเพ่ือความปลอดภัย (Jacobs, 2013: 369) สามารถหาค่า Z ได้ จากตารางที่ 3 ในภาคผนวก ดังนั้นสามารถหาค่า ระดับสินค้าคงคลังเพื่อความปลอดภัย (Safety Stock: SS) ได้จากผลคูณของตัวประกอบเพ่ือความปลอดภัย (Z) และ ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานของ ความตอ้ งการในช่วงเวลาสง่ มอบ (L ) SS = ZL (11.21) ในการตัดสินใจส่ังซ้ือหรือผลิต การพิจารณาระดับสินค้าคงคลังเพ่ือความปลอดภัย (Safety Stock) จะขน้ึ กับเทคนิคการควบคมุ การคงคลัง (Inventory Control) สามารถจาแนกไดด้ ังน้ี 1.ระบบปริมาณการส่ังคงท่ี (Fixed Order Quantity System) วิธีการนี้จะส่ังซื้อสินค้า คงคลังในปริมาณที่เท่ากันทุกคร้ัง ในการหาจุดส่ังซ้ือใหม่ (ROP) จะแบ่งการพิจารณาความผันผวนท่ี เกดิ ขึ้นได้ดงั น้ี 1.1 จุดสั่งซื้อใหม่ในอัตราความต้องการสินค้าคงคลังท่ีผันผวนและระยะเวลาส่ง มอบคงที่ จะพิจารณาจากความต้องการเฉลี่ยท่ีคาดหมายในช่วงเวลาส่งมอบ (D) กับระดับ สินค้าคงคลังเพื่อความปลอดภัย (SS) ดงั นี้ ROP = D + ZL (11.22) ในการพิจารณาค่าเฉลี่ยความต้องการช่วงเวลาส่งมอบ(D) สามารถคานวณจะได้ จากผลคูณค่าเฉล่ยี ความต้องการต่อวนั (d) และระยะเวลาสง่ มอบ (L) จะได้ D = d xL (11.23) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานความต้องการในช่วงเวลาส่งมอบ สามารถคานวณได้จาก คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานในแต่ละวนั ไดด้ งั น้ี การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 319

L = (12  22  32  ..  L2 ) (11.24) โดยกาหนดให้ในแตล่ ะวันมีคา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐานเท่ากนั (d ) แทนลงใน 11.24 จะได้ L = Lxd2 (11.25) หรือ L = d L แทนคา่ L และ Dลงในสมการท่ี 11.22 จะได้ ROP = dL + Zd L (11.26) ตัวอย่างที่ 11.4 จากตัวอย่างที่ 11.1 หากบริษัทคาดหมายว่าจะเกิดความผันผวนจากความต้องการ โดยมีค่าเฉล่ียความต้องการต่อวันเท่ากับ 18 ชิ้น และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานวันละ 3 ชิ้น บริษัท วางแผนระดับการบริการ (Service Level) ที่ระดับร้อยละ 95 บริษัทจะต้องดาเนินการส่ังซื้อเม่ือ เหลือสินค้าเท่าใด กาหนดใหแ้ ตล่ ะครัง้ ปรมิ าณในการสั่งซ้อื เทา่ เดิมทุกครงั้ จากตารางท่ี 3 ในภาคผนวก ระดับการให้บริการร้อยละ 95 จะมีค่าตัวประกอบเพ่ือความ ปลอดภยั Z = 1.64แทนค่าลงในสมการท่ี 11.26 จะได้ ROP = (18x8) + (1.64x3x 8) ROP = 157.9159  158 ชิน้ SS = 1.64x3x 8 SS = 13.9159  14 ช้ิน ตอบ ท่ีระดับการให้บริการรอ้ ยละ 95 เม่ือเหลือสินค้าคงคลัง 158 ช้ิน บริษัทควรสั่งซื้อใหม่ โดยซื้อท่ี จุดสั่งซ้ือที่ประหยัดที่สุดจานวน 250 ช้ินในทุกรอบการสั่งซ้ือ โดยมีระดับสินค้าคงคลังเพ่ือความ ปลอดภยั จานวน 14 ชิ้น 320 การจดั การสินค้าคงคลงั | Inventory Management

1.2 จุดสั่งซ้ือในอัตราความต้องการสินค้าคงคลังคงที่และระยะเวลาส่งมอบผกผัน ซง่ึ จะตอ้ งทาการประมาณคา่ ระยะเวลาส่งมอบโดยเฉลย่ี (L) ซึง่ มสี ูตรดงั นี้ ROP = d L + ZdL (11.27) โดยที่ d = อัตราความตอ้ งการสนิ ค้าต่อวันซ่งึ มีคา่ คงท่ี L= ระยะเวลาส่งมอบโดยเฉลย่ี Z= ตวั ประกอบเพื่อความปลอดภัย L = ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐานของความต้องการในชว่ งเวลาสง่ มอบ นอกจากนยี้ งั มตี ัวแบบจดุ ส่ังซ้ือ ทีม่ คี วามผกผันท้งั อัตราความตอ้ งการในการใชส้ นิ ค้าคงคลัง และระยะเวลาในการสง่ มอบ ซงึ่ มีความซับซ้อนในการคานวณจงึ ไม่ขอกล่าวในเน้อื หาสว่ นนี้ ตัวอย่างท่ี 11.5 จากตัวอย่างที่ 11.1 หากบริษัทคาดหมายว่าจะเกิดความผันผวนจากระยะเวลาใน การส่งมอบ โดยมีระยะเวลาส่งมอบเฉล่ีย 8 วัน มีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานของความต้องการในช่วงเวลา ส่งมอบ 1 วัน บริษัทวางแผนระดับการบริการ (Service Level) ท่ีระดับร้อยละ 95 บริษัทจะต้อง ดาเนินการสงั่ ซื้อเมอ่ื เหลอื สินค้าเท่าใด กาหนดใหแ้ ตล่ ะครง้ั ปรมิ าณในการสั่งซ้ือเท่าเดิมทุกครง้ั สามารถคานวณหาอัตราความต้องการสินค้าต่อวัน (d) ได้จาก จุดส่ังซื้อที่ประหยัดท่ีสุด (EOQ) หารด้วยรอบการสั่งซ้ือ (t) จะได้ d = 250 = 15.625 ช้ินตอ่ วนั 16 จากตารางที่ 3 ในภาคผนวก ระดับการให้บริการร้อยละ 95 จะมีค่าตัวประกอบเพ่ือความ ปลอดภัย Z = 1.64 แทนคา่ ต่าง ๆ ลงในสมการ 11.27 จะได้ ROP = (15.625x8) + (1.64x15.625x1) ROP = 150.625  151 ชน้ิ ตอบ ที่ระดับการให้บริการร้อยละ 95 เม่ือเหลือสินค้าคงคลัง 151 ชิ้น บริษัทควรสั่งซ้ือใหม่ โดยซื้อที่ จุดส่งั ซ้ือท่ีประหยัดทีส่ ดุ จานวน 250 ชน้ิ ในทุกรอบการส่งั ซอ้ื การจดั การการดาเนินงาน | Operations Management 321

2.ระบบส่ังซ้ือโดยช่วงเวลาคงท่ี (Fixed Order Interval System) ระบบการส่ังซ้ือ แบบนี้จะทาการส่ังซื้อตามกาหนดเวลาที่แน่นอนโดยจะทาการตรวจดูปริมาณของสินค้าคงคลังตาม ช่วงเวลาอย่างสม่าเสมอ แล้วทาการสั่งซื้อเมื่อถึงกาหนดเวลา ซึ่งปริมาณการส่ังซ้ือแต่ละครั้งอาจจะ ไม่เท่ากัน แล้วแต่ว่าปริมาณสินค้าคงคลังเหลือมากน้อยเท่าใด โดยจะมีการกาหนดระดับของปริมาณ สินค้าคงคลังสูงสุด และจะส่ังซ้ือสินค้าในปริมาณท่ีทาให้ถึงระดับของปริมาณสินค้าคงคลังสูงสุดที่ กาหนดไว้ ระบบส่ังซื้อโดยช่วงเวลาคงท่ี เหมาะสาหรับสินค้าท่ีไม่สามารถตรวจสอบปริมาณสินค้าคง คลังไดท้ กุ วนั และควรใชส้ าหรับสนิ คา้ ทีม่ ปี รมิ าณการใช้คอ่ นข้างสมา่ เสมอ ดงั ภาพที่ 11.12 ปริมาณ (Q) จุดสงั่ ซอ้ื ใหม่ (ROP) จุดสงั่ ซ้ือใหม่ (ROP) สนิ ค้าคงคลังเพ่อื ความปลอดภัย (SS) Lt Lt เวลา (T) ภาพที่ 11.12 แสดงตัวแบบสัง่ ซือ้ โดยให้รอบระยะเวลาคงที่ จากภาพท่ี 11.12 ระดับสินค้าคงคลังเพื่อความปลอดภัย (Safety Stock) จะพิจารณาจาก รอบเวลา t+L จะได้ SS = ZtL (11.28) ในการพจิ ารณาปริมาณที่ทาการส่ังซ้ือ (q) เมื่อให้รอบเวลาคงที่ ดงั น้นั จะมสี นิ ค้าคงคลังเหลือ ในมือ (I) จะตอ้ งนามาพิจารณาร่วมดว้ ยจะได้ q = d(t  L) + ZtL - I (11.29) ซง่ึ tL = d (t  L) (11.30) 322 การจดั การสนิ ค้าคงคลัง | Inventory Management

ตัวอย่างท่ี 11.6 จากตัวอย่างท่ี 11.1 หากบริษัทตรวจนับสินค้าคงคลังทุก ๆ 30 วัน โดยทาการนับ รอบล่าสุดมีสินค้าคงคลังเหลืออยู่ 60 ชิ้น คาดหมายว่าจะเกิดความผันผวนจากความต้องการ โดยมี ค่าเฉล่ียความต้องการต่อวันเท่ากับ 15 ชิ้น และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานวันละ 3 ช้ิน มีระยะเวลาส่ง มอบ 8 วนั บรษิ ัทวางแผนระดบั การบริการ (Service Level) ทีร่ ะดับร้อยละ 95 บรษิ ัทจะส่ังซ้อื สนิ ค้า จานวนเทา่ ใด จากสมการ 11.30 tL = 3x (30  8) tL = 18.493 ชิ้น จากตารางที่ 3 ในภาคผนวก ระดับการให้บริการร้อยละ 95 จะมีค่าตัวประกอบเพื่อความ ปลอดภัย Z = 1.64 แทนคา่ ต่าง ๆ ลงในสมการ 11.29 q = 15(30  8) + 1.64(18.493) - 60 q = 540.328  541 ช้ิน ตอบ ท่ีระดับการให้บริการร้อยละ 95 เม่ือทาการตรวจนับสินค้าคงคลังในรอบ 30 วัน พบว่าเหลือ สนิ คา้ คงคลงั จานวน 60 ชิ้น จะต้องดาเนนิ การสง่ั ซื้อจานวนท้ังสิ้น 541 ช้นิ การจดั การการดาเนนิ งาน | Operations Management 323

บทสรปุ สินค้าคงคลัง (Inventory) จัดเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนชนิดหน่ึง ซ่ึงองค์กรต้องมีไว้เพ่ือ จาหน่ายหรือผลิต สินค้าคงคลังสามารถจาแนกได้ 4 ประเภท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป วัตถุดิบและ ชนิ้ ส่วนประกอบ เครื่องมอื และชน้ิ ส่วนเพอื่ การซอ่ มแซม และงานระหว่างกระบวนการผลติ ต้นทนุ สนิ คา้ คงคลัง ประกอบไปด้วยต้นทุนผลิตภัณฑ์ ตน้ ทุนการสั่งซอ้ื หรอื ส่ังผลิต ตน้ ทนุ การ เกบ็ รักษาสินค้าคงคลัง และตน้ ทนุ เนื่องจากสินคา้ ขาดแคลน ตัวแบบสินค้าคงคลังพ้ืนฐาน จะพิจารณาจุดส่ังซื้อที่ประหยัดที่สุด (Economic Order Quantity: EOQ) เป็นจุดที่มีปริมาณในการส่ังซื้อที่ทาให้ต้นทุนเก็บรักษารวมกับต้นทุนการส่ังซื้อต่า ทีส่ ดุ ซงึ่ เปน็ จดุ ทีท่ าใหต้ น้ ทุนดังกล่าวมคี ่าเท่ากนั ในกรณีท่มี กี ารรอคอยสนิ ค้าหรือระยะเวลาในการส่ง มอบสินค้า (Lead Time: L) จะพิจารณาอัตราการส่งมอบในช่วงการรอคอยสินค้า และเรียกปริมาณ สินค้าคงคลังท่ีเหลืออยู่น้ีว่า จุดสั่งซื้อใหม่ (Re-Order Point: ROP) ตัวแบบสินค้าคงคลังพ้ืนฐาน เหมาะในการนาไปใช้กับลกั ษณะธุรกิจการค้า ในกรณีที่เป็นธุรกิจการผลิตหรือมีการส่ังผลิต ตัวแบบสินค้าคงคลังจากการผลิต ในขณะที่ ดาเนนิ การผลิตจะมีการใช้สนิ คา้ คงคลงั หรือการส่งมอบควบคู่กันไปด้วย ซง่ึ แตกตา่ งจากตวั แบบสินค้า คงคลังพื้นฐาน และเรียกจุดที่มีปริมาณในการสั่งผลิตท่ีทาให้ต้นทุนเก็บรักษารวมกับต้นทุนการสั่งซื้อ ตา่ ทีส่ ดุ นวี้ ่า ปรมิ าณการผลิตทป่ี ระหยัด (Economic Production Quantity: EPQ) ในการควบคุมสนิ ค้าคงคลงั ที่มีความผันผวนในส่วนของความต้องการสนิ ค้าหรอื ระยะเวลาใน การส่งมอบ จะแบ่งระบบการควบคุมออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ 1.ระบบปริมาณการส่ังคงที่ วิธีการน้ี จะสั่งซ้ือสินคา้ คงคลงั ในปริมาณท่ีเท่ากันทุกครั้ง และ 2.ระบบสั่งซ้อื โดยชว่ งเวลาคงท่ี ระบบการสั่งซื้อ แบบน้ีจะทาการส่ังซ้ือตามกาหนดเวลาที่แน่นอนโดยจะทาการตรวจดูปริมาณของสินค้าคงคลังตาม ช่วงเวลาอย่างสมา่ เสมอ แล้วทาการสั่งซื้อเมอื่ ถึงกาหนดเวลา 324 การจัดการสนิ ค้าคงคลัง | Inventory Management

คาถามทา้ ยบท 1. สนิ ค้าคงคลงั แบ่งออกเป็นกีป่ ระเภท อะไรบา้ ง 2. ต้นทุนสินค้าคงคลังสามารถจาแนกไดก้ ่ปี ระเภท อะไรบา้ ง 3. บริษัทแห่งหน่ึงพยากรณ์ยอดขายสินค้า 7,000 ชิ้นต่อปี โดยบริษัทมีต้นทุนส่ังซื้อ 35 บาทต่อครั้ง และมีตน้ ทุนเก็บรกั ษารอ้ ยละ 20 ของต้นทนุ สินคา้ ตน้ ทนุ สนิ คา้ ช้นิ ละ 5 บาท 3.1 จงหาจุดสง่ั ซ้ือท่ีประหยดั ที่สุด (EOQ) 3.2 เมอ่ื ระยะเวลาส่งมอบสนิ คา้ เทา่ กับ 3 วัน และทั้งปีทางาน 300 วนั จงหาจดุ ส่ังซ้ือใหม่ 3.3 ผูส้ ง่ มอบได้เสนอส่วนลดหากซื้อ 1,000 ช้นิ ขน้ึ ไปจะไดร้ บั ส่วนลด 4% และหากซอื้ 2,000 ข้นึ ไปจะไดร้ ับส่วนลด 5% จงหาวา่ บรษิ ัทควรจะส่ังซ้อื เท่าใดจงึ จะมีตน้ ทนุ ตา่ ทส่ี ุด 4. โรงงานผลิตสินค้าแห่งหนึ่งมีอัตราในการผลิตทั้งปี 800 หน่วย ลูกค้ามีความต้องการสินค้าดังกลา่ ว 400 หน่วยต่อปี มีต้นทุนในการส่ังผลิตคร้ังละ 1,000 บาท มีต้นทุนการเก็บรักษาร้อยละ 20 ของ มูลคา่ สนิ ค้า หากสินค้ามีมูลคา่ หนว่ ยละ 5,000 บาท 4.1 จงหาปริมาณการผลิตทป่ี ระหยดั ท่ีสดุ พร้อมต้นทุนรวมทีเ่ กิดขนึ้ 4.2 จงหารอบการสั่งผลิต จานวนครั้งในการสั่งผลิต และระดับสินค้าคงคลังสูงสุด หาก 1 ปี ทางาน 300 วนั 5. จากข้อ 3 หากบริษัทคาดหมายว่าจะเกิดความผันผวนจากความต้องการ โดยมีค่าเฉล่ียความ ต้องการต่อวนั เท่ากับ 24 ชิ้น และมคี า่ เบ่ียงเบนมาตรฐานวันละ 3 ช้นิ บริษทั วางแผนระดับการบริการ (Service Level) ที่ระดับร้อยละ 98 บริษัทจะต้องดาเนินการส่ังซ้ือเมื่อเหลือสินค้าเท่าใด กาหนดให้ แตล่ ะครงั้ ปริมาณในการสง่ั ซ้ือเทา่ เดมิ ทุกคร้ัง 6.จากข้อ 3 หากบริษัทตรวจนับสินค้าคงคลังทุก ๆ 30 วัน โดยทาการนับรอบล่าสุดมีสินค้าคงคลัง เหลืออยู่ 100 ชิ้น คาดหมายว่าจะเกิดความผันผวนจากความต้องการ โดยมีค่าเฉล่ียความต้องการต่อ วนั เทา่ กบั 24 ชน้ิ และมคี า่ เบ่ียงเบนมาตรฐานวนั ละ 3 ชนิ้ มีระยะเวลาสง่ มอบ 10 วนั บริษทั วางแผน ระดบั การบริการ (Service Level) ท่รี ะดบั ร้อยละ 95 บรษิ ทั จะสัง่ ซือ้ สนิ คา้ จานวนเท่าใด การจัดการการดาเนินงาน | Operations Management 325

เอกสารอา้ งองิ ชมุ พล ศฤงคารศริ ิ. (2553). การวางแผนและควบคมุ การผลิต. พิมพ์คร้ังท่ี 21, สมาคมส่งเสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญ่ปี ุ่น), 109. Bowersox, D.J., Closs, D.J. and Cooper, M.B. (2009). Supply chain Logistics management, New York: McGraw- Hill Irwin, 291. Heizer, J. and Render, B. (2011). Operations Management. 10th Global Edition, Pearson Prentice Hall, 521. Jacobs, F. R. (2013). Operations and Supply Chain Management: The Core. 3rd Edition, Chicago: Irwin/McGraw-Hill, 369. Russell, R.S. and Taylor III, B.W. (2011). Operations Management. 7th Edition, John Wiley & Sons, 576. Saxena, R.S. (2009). Inventory Management: Controlling in a Fluctuating Demand Environment, Global India Publications, 24. 326 การจดั การสนิ ค้าคงคลงั | Inventory Management


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook