Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธวจน "สมถะ วิปัสสะนา"

Description: พุทธวจน "สมถะ วิปัสสะนา"

Search

Read the Text Version

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ สั สนา นเ้ี รยี กวำ่ อปุ ำทำนขนั ธค์ อื สญั ญำ นเ้ี รยี กวำ่ อปุ ำทำนขนั ธค์ ือสังขำร นเ้ี รยี กวำ่ อปุ ำทำนขนั ธค์ ือวิญญำณ เหล่ำนี้เรียกว่ำ อุปำทำนขันธ์ 5 229

ปฏิบัติ สมถะ วิปัสสนา ทุกข์เกิด เพรำะเหน็ อุปำทำนยิ ธรรม 94 โดยควำมเป็นอัสสำทะ -บาลี นทิ าน. ส.ํ ๑๖/๑๐๒/๑๙๖-๑๙๗. 230

ปฏบิ ตั ิ สมถะ วปิ ัสสนา (ในสตู รหนง่ึ แสดงขอ้ ธรรมขอ้ เดยี วกนั กบั สตู รข�้ งบนน้ี ต�่ งกนั แตอ่ ุปม� แทนที่จะอุปม�ด้วยไฟกองใหญ่มีเช้ือเพลิงม�ก ดงั ในสูตรข�้ ง บนนี้ แต่ทรงอุปม�ด้วยต้นไม้ใหญ่ มีร�กม่ันคง -บ�ลี นิท�น. สำ. ๑๖/๑๐๕/๒๐๖.). (ในสตู รหนงึ่ มใี จคว�มเหมอื นสตู รข�้ งบนนท้ี กุ ประก�ร ผดิ กนั แต่ว่�ทรงเริ่มต้นสูตรด้วยคำ�อุปม� แล้วจึงกล่�วถึงข้อธรรมซึ่งเป็นตัว อุปไมย -บ�ลี นิท�น. สำ. ๑๖/ ๑๐๖/๒๑๐.). 231

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ สั สนา ทกุ ข์ดับ เพรำะเห็นอุปำทำนยิ ธรรม 95 โดยควำมเป็นอำทีนวะ -บาลี นทิ าน. ส.ํ ๑๖/๑๐๒-๑๐๓/๑๙๘-๑๙๙. 232

ปฏิบัติ สมถะ วิปสั สนา (ในสตู รหนง่ึ แสดงขอ้ ธรรมขอ้ เดยี วกนั กบั สตู รข�้ งบนน้ี ต�่ งกนั แตอ่ ปุ ม� แทนทจี่ ะอปุ ม�ดว้ ยไฟกองใหญห่ มดเชอื้ ดงั ในสตู รข�้ งบนน้ี แต่ ทรงอุปม�ด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ถูกทำ�ล�ยหมดส้ิน -บ�ลี นิท�น. สำ. ๑๖/๑๐๖/๒๐๘.). (ในสตู รหนง่ึ มใี จคว�มเหมอื นสตู รข�้ งบนนท้ี กุ ประก�ร ผดิ กนั แต่ว่�ทรงเร่มิ ข้อคว�มด้วยค�ำ อปุ ม�ก่อน แล้วจงึ กล่�วถงึ ข้อธรรมซง่ึ เปน็ ตัวอปุ ไมย -บ�ลี นิท�น. ส.ำ ๑๖/๑๐๗/๒๑๑.). 233

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ ัสสนา เพลนิ ในขนั ธ์ 5 เทำ่ กบั เพลนิ ในทกุ ข์ 96ไมเ่ พลนิ ในขนั ธ์ 5 เทำ่ กบั พน้ ไปจำกทกุ ข์ -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๓๙/๖๔. ผู้ใดเพลิดเพลินในรูป ผนู้ น้ั ไมพ่ น้ ไปจำกทกุ ข เวทนำ สญั ญำ สงั ขำร วญิ ญำณ 234

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ ัสสนา ผ้ใู ดไม่เพลิดเพลินในรปู ผนู้ น้ั พน้ ไปจำกทกุ ข์ เวทนำ สญั ญำ สงั ขำร วญิ ญำณ (ในสูตรอ่ืน ได้ตรัสถึงในกรณีแห่งอ�ยตนะภ�ยในหก -บ�ลี สฬ�. ส.ำ ๑๘/๑๖/๑๙. ได้ตรัสถงึ อ�ยตนะภ�ยนอกหก -บ�ลี สฬ�. ส.ำ ๑๘/๑๖/๒๐. ซง่ึ มีข้อคว�มเหมือนกนั กบั ในกรณีแหง่ ขันธ์ ๕ ข้�งบนนี้ ทกุ ประก�ร ผู้ศึกษ�พงึ เทยี บเคียงได้เอง). 235



ต้องละฉนั ทรำคะในขนั ธ์ 5 ปฏบิ ตั ิ สมถะ วปิ สั สนา 9๗ -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๒๑๗-๒๑๙/๓๓๗-๓๔๑. สิ่งใดไม่เที่ยง เธอท้ังหลำยพึงละ ฉันทรำคะในสิ่งนั้นเสีย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอท้ังหลำยพึงละ ฉนั ทรำคะในสง่ิ นน้ั เสยี สงิ่ ใดเปน็ อนตั ตำ เธอทงั้ หลำยพงึ ละ ฉันทรำคะในสิ่งน้ันเสีย 237

วิญญำณไม่เที่ยง ปฏบิ ัติ สมถะ วปิ ัสสนา 9๘ -บาลี สฬา. ส.ํ ๑๘/๘๕-๘๗/๑๒๔-๑๒๗. 3 238

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ ัสสนา (ในกรณแี หง่ โสตวญิ ญ�ณกด็ ,ี ฆ�นวญิ ญ�ณกด็ ,ี ชวิ ห�วญิ ญ�ณ กด็ ี, ก�ยวญิ ญ�ณก็ดี, ก็มนี ยั อย่�งเดยี วกนั ). 239

บคุ คลอนั ผสั สะกระทบแลว้ ยอ่ มรสู้ กึ อนั ผสั สะกระทบแลว้ ยอ่ มคดิ อนั ผสั สะกระทบแลว้ ยอ่ มจำ� ได้ หมำยรู้ แม้ธรรมเหล่ำน้ีก็หว่ันไหวและอำพำธ ไม่เท่ียง มคี วำมแปรปรวน มคี วำมเปลย่ี นเปน็ อยำ่ งอน่ื 240

ลกั ษณะควำมเป็นอนัตตำ ปฏบิ ตั ิ สมถะ วิปสั สนา 99 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๘๒-๘๔/๑๒๗-๑๒๙. รปู เปน็ อนตั ตำ เวทนำเป็นอนัตตำ สัญญำเป็นอนัตตำ 241

สังขำรเป็นอนัตตำ วญิ ญำณเปน็ อนตั ตำ 242

ปฏบิ ตั ิ สมถะ วิปัสสนา ขนั ธ์ 5 ไมเ่ ทย่ี ง เปน็ ทกุ ข์ เปน็ อนตั ตำ 100 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๒๘-๓๐/๔๒,๔๕-๔๗. รูปไม่เท่ียง เวทนำไม่เท่ียง สัญญำไม่เท่ียง สังขำรไม่เท่ียง วญิ ญำณไมเ่ ทยี่ ง 243

รูปเป็นทุกข์ เวทนำเป็นทุกข สัญญำเป็นทุกข์ สังขำรเป็นทุกข์ วญิ ญำณเปน็ ทกุ ข รปู เปน็ อนตั ตำ เวทนำเปน็ อนตั ตำ 244

ปฏบิ ตั ิ สมถะ วปิ สั สนา สญั ญำเปน็ อนตั ตำ สงั ขำรเปน็ อนตั ตำ วิญญำณเป็นอนัตตำ สิ่งใดไม่เท่ียง ส่ิงน้ัน เป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ส่ิงนั้นเป็นอนัตตำ สิ่งใดเป็น อนตั ตำ สง่ิ นน้ั ไมใ่ ชข่ องเรำ ไมใ่ ชเ่ ปน็ เรำ ไมใ่ ชต่ วั ตนของเรำ ขอ้ นอ้ี รยิ สำวก พงึ เหน็ ดว้ ยปญั ญำอนั ชอบ ตำมควำมเปน็ จรงิ อยำ่ งน.้ี 245

246

ควำมเกิดข้นึ ปฏบิ ตั ิ สมถะ วิปสั สนา และควำมดบั ไปของขันธ์ 5 101 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๑๘-๒๐/๒๘-๒๙. เวทนำ รปู 247

สัญญำ สังขำร วิญญำณ 248

ปฏิบัติ สมถะ วิปสั สนา 249

250

ขันธ์ 5 คือ มำร (นยั ที่ 1) ปฏิบัติ สมถะ วปิ สั สนา 102 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๒๓๙/๓๗๗. ข้�แต่พระองค์ผู้เจริญ ท่ีเรียกว่� ม�ร ม�ร ดังนี้ ก็ม�รเป็น อย่�งไร พระเจ�้ ข้�. 251

ขันธ์ 5 คือ มำร (นยั ที่ 2) ปฏบิ ตั ิ สมถะ วปิ สั สนา 103 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๒๓๑/๓๖๖. ข้�แตพ่ ระองคผ์ เู้ จริญ ทเ่ี รยี กว่� ม�ร ม�ร ดงั นี้ ด้วยเหตเุ พยี ง เท�่ ไร จึงถกู เรียกว�่ ม�ร พระเจ้�ข้�. เมื่อรูปมีอยู่ มำรจึงมี ผู้ท�ำให้ตำยจึงมี ผู้ตำยจึงมี ข้�แต่พระองค์ผู้เจริญ ก็คว�มเห็นชอบมีประโยชน์อย่�งไร พระเจ�้ ข�้ . 252

ปฏบิ ัติ สมถะ วิปสั สนา คว�มเบ่ือหน่�ยมีประโยชน์อย�่ งไร พระเจ้�ข�้ . ก็คว�มคล�ยก�ำ หนดั เล่�มีประโยชนอ์ ย�่ งไร พระเจ�้ ข�้ คว�มหลุดพน้ เล�่ มปี ระโยชน์อย�่ งไร พระเจ�้ ข้�. นพิ พ�นเล่�มีประโยชน์อย่�งไร พระเจ�้ ข้�. 253

รอบร้ซู ง่ึ สกั กำยะ ปฏิบตั ิ สมถะ วิปสั สนา 104 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๑๙๓-๑๙๔/๒๘๔-๒๘๘. สักกำยะนั้น ควรจะกล่ำวว่ำคือ อุปำทำนขันธ์ 5 55 สกั กำยสมทุ ยั นนั้ คอื ตณั หำอนั นำ� ใหเ้ กดิ ในภพใหม่ ประกอบด้วยควำมก�ำหนัดด้วยอ�ำนำจควำมเพลินท�ำให้ เพลนิ อยำ่ งยง่ิ ในอำรมณน์ น้ั ๆ 254

ปฏบิ ัติ สมถะ วปิ สั สนา สักกำยนิโรธ คือ ควำมจำงคลำยดับไปโดยไม่ เหลอื ควำมสละทง้ิ ควำมสละคนื ควำมหลดุ พน้ ควำมไม่ อำลยั ซงึ่ ตณั หำนน้ั สกั กำยนโิ รธคำมนิ ปี ฏปิ ทำ คอื อรยิ มรรคประกอบ ด้วยองค์ ๘ 255

เหตุเกดิ แหง่ สกั กำยทฏิ ฐิ ปฏิบตั ิ สมถะ วิปัสสนา 105 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๒๒๕-๒๒๖/๓๕๖-๓๕๗. ไมเ่ ทยี่ ง พระเจ�้ ข้�. เป็นทกุ ข์ พระเจ้�ข้�. ไมใ่ ช่เช่นนั้น พระเจ�้ ข�้ . 256

ปฏบิ ัติ สมถะ วปิ ัสสนา ไมเ่ ท่ียง พระเจ�้ ข้�. เป็นทกุ ข์ พระเจ�้ ข้�. ไมใ่ ชเ่ ช่นนน้ั พระเจ�้ ข�้ . (ในสูตรหน่ึง ได้ตรัสถึงเหตุเกิดของอัตต�นุทิฏฐิ ก็มีลักษณะ อย�่ งเดยี วกัน -บ�ลี ขนฺธ. ส.ำ ๑๗/๒๒๖/๓๕๘.). 257

สิ่งที่ยดึ ถอื (นัยที่ 1) ปฏบิ ตั ิ สมถะ วิปสั สนา 106 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๑๘๓/๒๕๘. ถำ้ แมเ้ ดนิ 5 ถ้ำแม้ยืน 5 ถ้ำแม้น่ัง 5 ถำ้ แมน้ อน 5 พึงพิจำรณำจิตของตนเนืองๆ ว่ำ จิตนี้เศร้ำหมองแล้ว ด้วยรำคะ โทสะ โมหะ สนิ้ กำลนำน 258

ส่งิ ทีย่ ดึ ถอื (นัยท่ี 2) ปฏบิ ัติ สมถะ วิปัสสนา 10๗ -บาลี ม. ม. ๑๓/๒๘๔-๒๘๕/๒๙๐. 259



ปฏิบัติ สมถะ วิปสั สนา 261

ปฏิบัติ สมถะ วปิ สั สนา ควำมหมำยของอวชิ ชำ­วชิ ชำ (นยั ท่ี 1) 10๘ -บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๕๓๘-๕๓๙/๑๖๙๔-๑๖๙๕. ข้�แต่พระองค์ผู้เจริญ ที่กล่�วกันว่� อวิชช� อวิชช� ดังนี้ กอ็ วชิ ช�นัน้ เป็นอย่�งไร และดว้ ยเหตุเพยี งเท่�ไร บุคคลจงึ เป็นผูถ้ ึงแล้ว ซึ่งอวิชช� พระเจ้�ข้�. 262

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ สั สนา ข�้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ทก่ี ล�่ วกนั ว�่ วชิ ช� วชิ ช� ดงั น้ี กว็ ชิ ช�นน้ั เป็นอย่�งไร และด้วยเหตุเพียงเท่�ไร บุคคลจึงเป็นผู้ถึงแล้วซ่ึงวิชช� พระเจ�้ ข้�. 263

ปฏบิ ตั ิ สมถะ วปิ สั สนา ควำมหมำยของอวชิ ชำ­วชิ ชำ (นยั ท่ี 2) 109 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๒๐๙/๓๒๐. ข้�แต่พระองค์ผู้เจริญ ที่กล่�วกันว่� อวิชช� อวิชช� ดังนี้ กอ็ วิชช�นั้นเป็นอย่�งไร และดว้ ยเหตุเพยี งเท่�ไร บคุ คลจึงเปน็ ผูถ้ งึ แลว้ ซึ่งอวิชช� พระเจ้�ข้�. 264

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ สั สนา ข�้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ทก่ี ล�่ วกนั ว�่ วชิ ช� วชิ ช� ดงั น้ี กว็ ชิ ช�นน้ั เป็นอย่�งไร และด้วยเหตุเพียงเท่�ไร บุคคลจึงเป็นผู้ถึงแล้วซ่ึงวิชช� พระเจ�้ ข้�. 265

ปฏิบัติ สมถะ วิปสั สนา ควำมหมำยของอวชิ ชำ­วชิ ชำ (นยั ท่ี 3) 110 -บาลี ขนธฺ . ส.ํ ๑๗/๑๙๘/๓๐๐-๓๐๑. ข้�แต่พระองค์ผู้เจริญ ที่กล่�วกันว่� อวิชช� อวิชช� ดังนี้ ก็อวิชช�นัน้ เป็นอย่�งไร และด้วยเหตเุ พียงเท่�ไร บุคคลจึงเป็นผูถ้ งึ แล้ว ซึ่งอวิชช� พระเจ้�ข้�. 266

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ สั สนา ข�้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ทก่ี ล�่ วกนั ว�่ วชิ ช� วชิ ช� ดงั น้ี กว็ ชิ ช�นน้ั เป็นอย่�งไร และด้วยเหตุเพียงเท่�ไร บุคคลจึงเป็นผู้ถึงแล้วซ่ึงวิชช� พระเจ�้ ข้�. 267



ขอ้ แนะนำ ในการ ปรารภความเพยี ร

ควำมเพยี ร ปฏิบัติ สมถะ วปิ สั สนา สำมำรถท�ำไดใ้ นทกุ อิริยำบถ 111 -บาลี จตกุ กฺ . อ.ํ ๒๑/๑๗/๑๑. เดนิ อย ยืนอย นง่ั อย 270

ปฏบิ ัติ สมถะ วปิ ัสสนา นอนต่ืนอย 271

ลักษณะของผู้เกยี จคร้ำน ปฏบิ ตั ิ สมถะ วิปัสสนา 112 -บาลี จตกุ กฺ . อ.ํ ๒๑/๑๖-๑๗/๑๑. ผู้ก�ำลังเดินอยู่ ผู้ก�ำลังยืนอยู่ ผู้ก�ำลังน่ังอยู่ 272

ปฏิบัติ สมถะ วิปัสสนา ผู้ก�ำลังนอนตื่นอยู่ 273

ท่ีต้ังแหง่ ควำมเกยี จครำ้ น ปฏิบัติ สมถะ วิปสั สนา 113 -บาลี อฏฐฺ ก. อ.ํ ๒๓/๓๔๓-๓๔๕/๑๘๕. นเ้ี ปน็ กสุ ตี วตั ถปุ ระกำรท่ี 1 นเ้ี ปน็ กสุ ตี วตั ถปุ ระกำรท่ี 2 274

ปฏิบตั ิ สมถะ วปิ สั สนา นเ้ี ปน็ กสุ ตี วตั ถปุ ระกำรท่ี 3 กสุ ตี วตั ถปุ ระกำรท่ี 4 นเ้ี ปน็ ประกำรท่ี 5 นเ้ี ปน็ กสุ ตี วตั ถุ 275

กสุ ีตวัตถปุ ระกำรท่ี 6 นเี้ ปน็ นเ้ี ปน็ กสุ ตี วตั ถปุ ระกำรท่ี ๗ กสุ ตี วัตถปุ ระกำรท่ี ๘ นี้เป็น 276

ปฏบิ ัติ สมถะ วิปัสสนา ท่ตี ง้ั แหง่ กำรปรำรภควำมเพยี ร 114 -บาลี อฏฐฺ ก. อ.ํ ๒๓/๓๔๕-๓๔๗/๑๘๖. นเ้ี ปน็ อำรพั ภวตั ถปุ ระกำรท่ี 1 นเ้ี ปน็ อำรัพภวัตถปุ ระกำรท่ี 2 277

นเ้ี ปน็ อำรพั ภวตั ถปุ ระกำรท่ี 3 นี้เปน็ อำรัพภวัตถุประกำรที่ 4 278