คมู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สิง่ มชี ีวิต 210 คําถามของนกั เรยี นที่ต้ังตามความอยากรูของตนเอง สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
211 คมู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สง่ิ มีชีวิต แนวการประเมินการเรียนรู การประเมินการเรียนรขู องนกั เรยี นทําได ดังน้ี 1. ประเมนิ ความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมนิ การเรยี นรจู ากคาํ ตอบของนกั เรียนระหวา งการจดั การเรยี นรแู ละจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรและทกั ษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทาํ กจิ กรรมของนกั เรยี น การประเมนิ จากการทาํ กจิ กรรมที่ 1.1 ลักษณะทางพันธุกรรมของพชื มีอะไรบาง ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช รหสั สิง่ ทปี่ ระเมิน ระดบั คะแนน ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร S1 การสังเกต S8 การลงความเหน็ จากขอมลู S13 การตีความหมายขอ มูลและลงขอ สรุป ทกั ษะแหง ศตวรรษที่ 21 C2 การคิดอยางมวี จิ ารณญาณ C4 การสอื่ สาร C5 ความรว มมอื รวมคะแนน สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สง่ิ มชี ีวิต 212 ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเ กณฑก ารประเมิน ดังนี้ ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1) ทางวิทยาศาสตร พอใช (2) S1 การสงั เกต ก า ร บ ร ร ย า ย สามารถใชประสาท สา ม า ร ถใช ป ร ะส า ท สามารถใชประสาท ร า ย ล ะ เ อี ย ด สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด เก่ียวกับลักษณะ ขอมูลเกี่ยวกับลักษณะ ขอมูลเก่ียวกับลักษณะ ขอมูลเก่ียวกับลักษณะ ตาง ๆ ของพืช ตาง ๆ ของพืชไดดวย ตาง ๆ ของพืชได จาก ตาง ๆ ของพืชไดเพียง ต น เ อ ง โ ด ย ไ ม เ พ่ิ ม การช้ีแนะของครูหรือ บางสวน แมวาจะได ความคดิ เห็น ผูอื่น หรือมีการเพิ่มเติม รับคําชี้แนะจากครูหรือ ความคิดเห็น ผอู ืน่ S8 การลงความเห็น การลงความเห็น สามารถลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น จากขอ มลู จากขอมูลวาพืชมี จ า ก ข อ มู ล ไ ด อ ย า ง ขอมูลไดอยางถกู ตองโดย จากขอมูลไดวาพืชมี ก า ร ถ า ย ท อ ด ถูกตองดวยตนเองวา อาศัยการชี้แนะของครู ลกั ษณะตา ง ๆ ที่สังเกต ลั ก ษ ณ ะ ท า ง พื ช มี ก า ร ถ า ย ท อ ด หรือผูอ่ืนวาพืช มีการ ได แตไมสามารถลง พันธุกรรมจากรุน ลักษณะทางพันธุกรรม ถายทอดลักษณะทาง ความเหน็ ไดว า พืชมีการ พอแมไปสูรุนลูก จากรุนพอแมไปสูรุน พันธุกรรมจากรุนพอแม ถา ยทอดลักษณะตาง ๆ เชน ลักษณะลํา ลูกเชน ลักษณะลําตน ไปสูรุนลูก เชน ลักษณะ เหลาน้ันจากรุนพอแม ตน รูปรางของใบ รูปรางของใบ เสนใบ ลาํ ตน รูปรางของใบ เสน ไปสูรุนลูก แมวาจะได เสนใบและลาย และลายบนใบ รูปราง ใบและลายบนใบ รูปราง รับคําชี้แนะจากครูหรือ บ น ใ บ รู ป ร า ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ด อ ก ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ด อ ก ผอู นื่ ลักษณะของดอก ลักษณะของกลีบดอก ลักษณะของกลีบดอก สี ลักษณะของกลีบ สีดอก ดอก ดอก สีดอก S13 การตีความหมาย การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย ขอมูลและลงขอ สรุป ข อ มู ล แ ล ะ ล ง ขอมูลและลงขอสรุป ขอมูลและลงขอสรุปจาก ขอมูลและลงขอสรุป ขอสรุปจากการ จากการสังเกตและการ ก า ร สั ง เ ก ต แ ล ะ ก า ร จากการสังเกตและการ สังเกตและการ วเิ คราะหไ ดถูกตองดวย วิเคราะหไดถูกตองโดย วิเคราะหลักษณะทาง วิเ คร าะ หไ ดว า ตนเองวาลักษณะทาง อาศัยการการช้ีแนะของ พันธุกรรมของพืชได ลั ก ษ ณ ะ ท า ง พันธุกรรมของพืชเปน ครูหรือผูอ่ืนวาลักษณะ เพียงบางสวนวาพืชมี พันธุกรรมของพืช ลั ก ษ ณ ะ ท่ี มี ก า ร ทางพันธุกรรมของพืช การถายทอดลักษณะ เปนลักษณะท่ีมี ถายทอดจากรุนพอแม เ ป น ลั ก ษ ณ ะ ท่ี มี ก า ร ตา ง ๆ เหลา นน้ั จากรุน การถายทอดจาก ไ ป สู รุ น ลู ก เ ช น ถายทอดจากรุนพอแม พอแมไปสูรุนลูกแมวา สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
213 คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 สิง่ มีชีวิต ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1) ทางวิทยาศาสตร พอใช (2) รุนพอแมไปสูรุน ลักษณะลําตน รูปราง ไปสูรุนลูก เชน ลักษณะ จะไดรับคําช้ีแนะจาก ลูก เชน ลักษณะ ของใบ เสนใบและลาย ลําตน รูปรา งของใบ เสน ครหู รอื ผูอื่น ลําตน รูปรางของ บนใบ รูปรางลักษณะ ใบและลายบนใบ รูปราง ใบ เสนใบและ ของดอก ลักษณะของ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ด อ ก ลายบนใบ รูปราง กลบี ดอก สดี อก ลักษณะของกลีบดอก สี ลักษณะของดอก ดอก ลักษณะของกลีบ ดอก สีดอก สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สิ่งมชี ีวิต 214 ตาราง แสดงการวิเคราะหท ักษะแหงศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใชเ กณฑการประเมิน ดังนี้ ทักษะแหงศตวรรษที่ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ 21 การบอกเหตุผล ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1) C2 การคดิ อยางมี และตัดสินใจจัด วจิ ารณาญาณ กลุมตนพืชรุนลูก สามารถบอกเหตุผล สามารถบอกเหตุผล สามารถจดั กลุมตนพืชรุนลูก กับตนพืชรุนพอ C4 การสอื่ สาร แม และตัดสินใจจัดกลุม และตัดสนิ ใจจัดกลุมตน กับตนพืชรุนพอแมได แตไม C5 ความรวมมือ ก า ร นํ า เ ส น อ ตน พืชรุน ลูกกับตนพืช พืชรุนลูกกับตนพืชรุน สามารถบอกเหตุผลในการ ข อ มู ล จ า ก ก า ร สังเกต และการ รุนพอแมไดถูกตอง พอแมไดถูกตองโดย จัดกลุมไดแมวาจะไดรับคํา วิเคราะหจับคูตน พื ช รุ น ลู ก กั บ ต น ดว ยตนเอง ตองอาศัยการช้ีแนะ ชี้แนะจากครูหรอื ผอู ่ืน พืชรุนพอแม ให ผูอ นื่ เขา ใจ จากครูหรือผูอน่ื ก า ร ทํ า ง า น รวมกับผูอ่ืน และ สามารถนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอมูลจาก การแสดงความ คิดเห็น ในการ จากการสังเกต และ จากการสังเกต และการ ก า ร สั ง เ ก ต แ ล ะ ก า ร สั ง เ ก ต ก า ร วิเคราะหจับคูตน การวิเคราะห จับคูตน วิเคราะห จับคูตนพืชรุน วิเคราะห จับคูตนพืชรุนลูก พื ช รุ น ลู ก กั บ ต น พื ช รุ น พ อ แ ม พืชรุนลูกกับตนพืชรุน ลูกกับตนพืชรุนพอแม กับตนพืชรุนพอแม ใหผูอ่ืน ร ว ม ท้ั ง ย อ ม รั บ ความคิดเห็นของ พอแม ใหผูอ่ืนเขาใจได ใหผูอื่นเขาใจไดถูกตอง เขา ใจไดเ พียงบางสวน แมวา ผูอ ืน่ ถกู ตองดว ยตนเอง จากการช้ีแนะของครู จะไดรับคําชี้แนะจากครูหรือ หรอื ผูอ่นื ผูอ่นื สามารถทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับผูอื่น ผูอื่น และแสดงความ ผูอื่น แล ะแส ดงคว าม ไดบา ง แตไ มค อ ยแสดงความ คิดเห็น ในการสังเกต คิดเห็น ในการสังเกต คิดเห็นเก่ียวกับการวิเคราะห การวิเคราะหจับคูตน การวิเคราะหจับคูตนพืช จับคูตนพืชรุนลูกกับตนพืช พืชรุนลูกกับตนพืชรุน รุนลูกกับตนพืชรุนพอแม รุนพอแม รวมทั้งไมแสดง พอแมรวมท้ังยอมรับ รว มท้ัง ยอมรั บคว า ม ความสนใจตอความคิดเห็น ความคิดเห็นของผูอ่ืน คิดเห็นของผูอื่นในบาง ของผูอ่ืน ทั้งน้ีตองอาศัยการ ตงั้ แตเ ร่ิมตนจนสาํ เรจ็ ชว งเวลาทีท่ ํากจิ กรรม กระตุนจากครหู รอื ผูอ่นื สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
215 คมู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 ส่งิ มีชีวิต กิจกรรมที่ 1.2 ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของสัตวมีอะไรบาง กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดสังเกตลักษณะตาง ๆ ของ สัตวในกลุมตาง ๆ รวมท้ังไดพยากรณลักษณะของลูกสัตว จากขอมูลลักษณะของพอและแม และอธิบายลักษณะทาง พันธุกรรมของสตั ว เวลา 2 ชวั่ โมง จุดประสงคก ารเรยี นรู สังเกต วเิ คราะห และอธบิ ายลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ของสัตวท ี่มีการถายทอดจากรนุ พอ แมส ูร ุนลูก วัสดุ อปุ กรณสําหรบั ทํากจิ กรรม 1 ชดุ 1 กลอ ง สิ่งท่ีครูตอ งเตรียม/กลุม 1. บัตรภาพครอบครัวของสตั ว 2. สไี ม ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร S1 การสงั เกต สอื่ การเรยี นรูแ ละแหลง เรียนรู หนา 83-85 S6 การจัดกระทาํ และสอื่ ความหมายขอมูล หนา 72-75 S7 การพยากรณ 1. หนงั สือเรียน ป.5 เลม 2 S8 การลงความเหน็ จากขอมูล S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอ สรปุ 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.5 เลม 2 ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอยา งมวี ิจารณญาณ C4 การสื่อสาร C5 ความรว มมือ สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สง่ิ มชี ีวติ 216 แนวการจดั การเรยี นรู 1. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียน โดยใหนักเรียนแตละคนจับบัตรคําช่ือ ในการตรวจสอบความรู ครู สัตวที่ครูเตรียมไว ซ่ึงมีชื่อสัตวตาง ๆ ครบท้ัง 5 กลุม ไดแก กลุมปลา กลุม เพียงรับฟงเหตุผลของนักเรียนและ สัตวสะเทินนํ้าสะเทินบก กลุมสัตวเล้ือยคลาน กลุมนก และกลุมสัตวเล้ียง ยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ แตชักชวน ลูกดวยนํ้านม ใหนักเรียนแตละคนพิจารณาช่ือสัตวจากบัตรคําท่ีไดรับและ ใหนักเรียนไปหาคําตอบดวยตนเอง ไปรวมกลุมกับเพ่ือนท่ีไดชื่อสัตวในกลุมเดียวกัน จากน้ันใหแตละกลุมเลือก จากการอา นเน้ือเรือ่ ง สัตวในกลุม 1 ชนิด และบอกลักษณะของสัตวชนิดนั้น จากน้ันใชแนว คําถามในการอภปิ รายดังตอ ไปน้ี ขอ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ 1.1 ลักษณะตาง ๆ ของสัตวชนิดน้ีไดมาจากไหน (ลักษณะตาง ๆ ของสัตว ชนดิ ไดร ับการถายทอดมาจากพอ และแม) ครูสามารถดาวนโหลดบัตร 1.2 ลักษณะทางพันธุกรรมของสัตวชนิดนี้มีอะไรบาง (นักเรียนตอบตาม ภ า พ ค ร อ บ ค รั ว ข อ ง สั ต ว ไ ด โ ด ย ความเขาใจ) สแกน QR code ในหนังสือเรียน หนา 83 นํามาพิมพสี และจัดเปน 2. ครูเชื่อมโยงความรูเดิมของนักเรียนไปสูกิจกรรมที่ 1.2 โดยชักชวนให ชุดบัตรภาพ เพ่ือใหนักเรียนแตละ นักเรียนคนหาคําตอบวาสัตวในกลุมตาง ๆ มีลักษณะใดบางที่เปนลักษณะ กลมุ ใชส าํ หรับทํากิจกรรม ทางพันธกุ รรม 3. นักเรียนอานช่ือกิจกรรม และ ทําเปนคิดเปน แลวรวมกันอภิปรายเพื่อ ตรวจสอบความเขาใจจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยใชคาํ ถามดังนี้ 3.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดเรียนเร่ืองอะไร (ลักษณะทางพันธุกรรมของ สัตว) 3.2 นกั เรียนจะไดเรียนรเู ร่อื งนี้ดวยวิธีใด (สงั เกต และวเิ คราะห) 3.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (อธิบายลักษณะทางพันธุกรรม ของสัตวได) 4. นักเรียนบนั ทกึ จดุ ประสงคลงในแบบบนั ทึกกิจกรรม หนา 72 และ อานสิ่งที่ ตองใชในการทาํ กจิ กรรม 5. นักเรียนอานทําอยางไรทีละขอ ครูฝกทักษะการอานโดยใชวิธีฝกอานที่ เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเขาใจ เก่ียวกับข้ันตอนการทํากิจกรรม จนนักเรียนเขาใจลําดับการทํากิจกรรม โดยใชค าํ ถามดังนี้ 5.1 นักเรียนตองทําสิ่งใดเปนอันดับแรก (สังเกต และเปรียบเทียบลักษณะ ของพอ แม กบั ลูกของปลา กบ งู และเปด ในบตั รภาพ) 5.2 นักเรียนเปรียบเทียบลักษณะของสัตวในแตละครอบครัวอยางไร (เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางของลกู กับพอ และแม) สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
217 คูมอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 สงิ่ มชี ีวติ 5.3 นกั เรียนรวมกันอภิปรายเก่ียวกับเรื่องอะไร (อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและ ทางพันธุกรรมของสตั ว) ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ที่นกั เรยี นจะได 5.4 นักเรียนจะตอ งสงั เกตสตั วชนดิ ใด (กระตาย) ฝก จากการทํากิจกรรม 5.5 นักเรียนตองสังเกตลักษณะใดของกระตาย (นักเรียนตอบตามความ S1 สังเกตลักษณะของสัตว เขา ใจของตนเอง) S4, S8 อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะทาง 5.6 เม่ือนักเรียนสังเกตลักษณะตาง ๆ ของกระตายเพศผูและเพศเมียแลว พันธุกรรมของสัตว S6 วาดรปู ลกู กระตา ย ตองทําอะไรตอ (พยากรณลักษณะของลูกกระตายท่ีเกิดจากการผสมพันธุ S7 พยากรณลกั ษณะของลูกกระตาย ของกระตา ย 2 ตัวน้ี) C4, C5 เปรียบเทียบลักษณะของพอ 5.7 นักเรียนพยากรณลักษณะของลูกกระตายไดอยางไร เพราะเหตุใด แม ลูกสัตวแ ละนําเสนอรูปลูกกระตาย (พยากรณจ ากขอ มูลที่ไดจากการสังเกตลักษณะของกระตายเพศผูและ ทีว่ าด กระตา ยเพศเมีย เพราะลกั ษณะของพอและแมจะถา ยทอดไปสูล ูก) 5.8 นักเรียนบันทึกลักษณะของลูกกระตายท่ีไดจากการพยากรณอยางไร ถานักเรียนไมสามารถตอบ (บันทกึ โดยการวาดรูป) คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว 5.9 นกั เรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องอะไร (อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะ คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียน ทางพันธุกรรมของกระตาย) คดิ อยางเหมาะสม รอคอยอยาง 6. เมื่อนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ใหครูแจกบัตรภาพ อดทน และรับฟงแนวความคิด ครอบครัวสตั วใ หก บั นักเรียนและใหนกั เรียนเริ่มปฏบิ ัติตามขนั้ ตอน ของนักเรียน 7. หลงั จากทาํ กจิ กรรมแลว ครนู ําอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม โดยใชค าํ ถาม ดงั น้ี 7.1 จากบตั รภาพนกั เรยี นไดส ังเกตสัตวช นดิ ใดบาง (ปลา กบ งู เปด ) 7.2 นักเรียนสังเกตลักษณะใดของสัตว (นักเรียนตอบตามลักษณะที่สังเกต จริง เชน รูปราง ลักษณะของปาก หัว ลักษณะผิวหนัง เสนขน เกล็ด ปก ตนี ขา หาง) 7.3 ลูกสัตวแตละชนิดมีลักษณะเปนอยางไร เมื่อเปรียบเทียบกับลักษณะ ของพอแม ยกตัวอยาง (ลูกของสัตวจะมีบางลักษณะเหมือนพอ บาง ลักษณะเหมือนแม บางลักษณะเหมือนทั้งพอและแม บางลักษณะ แตกตางจากทั้งพอและแม เชน ปลา มีลักษณะลําตัวเหมือนทั้งพอและ แม แตมีสีเกล็ดของลําตัวเหมือนเฉพาะพอ ลวดลายของครีบและหาง แตกตางจากทง้ั พอและแม) 7.4 ลักษณะใดของสัตวท่ีเปนลักษณะทางพันธุกรรม เพราะเหตุใด (ลักษณะทางพันธุกรรมของสัตวมีหลายลักษณะ เชน สีตา สีขน เกล็ด ลักษณะผวิ หนัง รปู รางลักษณะของรา งกาย ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตีน ปก ครบี ) สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 ส่ิงมชี ีวติ 218 7.5 ลักษณะของลูกกระตายที่นักเรียนวาดไวเปนอยางไร (นักเรียนตอบ การเตรยี มตวั ลว งหนาสาํ หรับครู ตามขอ มูลลูกกระตายท่วี าดไว) เพอื่ จดั การเรยี นรูในครงั้ ถัดไป 7.6 ลักษณะของลูกกระตายเปนอยางไร เม่ือเปรียบเทียบกับลักษณะของ ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไดทํา พอแม (นักเรียนตอบตามขอมูลลูกกระตายท่ีวาดไว และผลการ กิจกรรมที่ 1.3 ลักษณะทางพันธุกรรม เปรยี บเทียบกับลกั ษณะของพอ แม) ของคนในครอบครัวเปนอยางไร ครู เตรยี มการดงั นี้ 7.7 นักเรียนคิดวาลักษณะใดของกระตายที่เปนลักษณะทางพันธุกรรม เพราะเหตุใด (ลักษณะสีตา สีขน ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตีน ลักษณะ 1. เตรียมภาพตัวอยางครอบครัวท่ี ขนและความยาวของขน เพราะลักษณะเหลานี้ของลูกเปนลักษณะ ส า ม า ร ถ สั ง เ ก ต ลั ก ษ ณ ะ ที่ มี ค ว า ม เหมือนกบั พอ แม หรือเหมอื นเฉพาะพอ เหมือนเฉพาะแม แสดงวาเปน ค ล า ย ค ลึ ง กั น ไ ด อ ย า ง ชั ด เ จ น ม า ใ ห ลักษณะทีไ่ ดรับการถา ยทอดมาจากพอและแม) นักเรียนสังเกตในการสํารวจความรูเดิม เชน ครอบครัวของบุคคลที่เปนท่ีรูจักของ 8. รว มกันอภิปรายและลงขอสรุปวาสัตวมีการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม คนทัว่ ไป จากสตั วร ุนพอ แมไปสรู นุ ลูก ลักษณะทางพนั ธุกรรมของสัตวมีหลายลักษณะ เชน สีตา สีขน สีผิว เกล็ด ลักษณะผิวหนัง รูปรางลักษณะของรางกาย 2. ครูอาจใหนักเรียนสํารวจลักษณะ ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตีน ลักษณะและความยาวของขน ปก ครีบ ซ่ึง ตาง ๆ ของคนในครอบครัวมากอนถึง ลักษณะเหลานี้บางอยางอาจเหมือนพอ เหมือนแม เหมือนท้ังพอและแม เวลาเรยี น หรอื แตกตา งจากทงั้ พอและแม (S13) 9. นักเรียนรว มกนั อภิปรายเพ่ือตอบคําถามใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจใชคําถาม เพมิ่ เติมในการอภิปรายเพ่ือใหไดแนวคาํ ตอบท่ีถูกตอง 10. นักเรียนอาน ส่ิงท่ีไดเรียนรู และเปรียบเทียบกับขอสรุปที่ไดจากการ อภิปราย 11. ครูกระตนุ ใหนักเรียนฝก ตั้งคําถามเกยี่ วกบั เรื่องที่สงสัยหรืออยากรูเพิ่มเติม ใน อยากรูอกี วา จากนั้นครูอาจสุมนักเรียน 2 -3 คน นําเสนอคําถามของ ตนเองหนาชั้นเรียน และใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเก่ียวกับคําถามท่ี นําเสนอ 12. ครูนําอภิปรายเพื่อใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 อะไรบางและในข้ันตอนใดบาง แลว บันทกึ ลงในแบบบันทึกกจิ กรรมหนา 75 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
บัตรภาพครอบค ัรวของสัตว 219 คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ ครอบครัว พอ แ ม ูลก สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ปลา กบ ูง เ ปด
คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สิ่งมชี ีวติ 220 แนวคําตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม สังเกต วิเคราะห และอธิบายลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตวท ี่ มีการถา ยทอดจากรุนพอแมสูรุนลกู หางและ ไมม ี รูปรา งลักษณะของ ไมมี เกล็ดที่ รางกาย มเี กลด็ ลาํ ตวั มีสสี ม ครีบ หาง ไมมี ไมม ี รูปรางลักษณะของ ไมมี ไมมี ไมม ี รา งกาย ผวิ หนังลืน่ ชืน้ ผวิ หนังสเี ขยี ว สีขนทป่ี ก สขี นสวนใหญส ี และมเี สนสดี าํ ขา ง บางสว นสีเขียว น้ําตาลเหมอื น ลาํ ตวั ไปถึงจมกู เหมอื นพอ แม รปู รา งลกั ษณะของ สีของเกลด็ รา งกาย มีเกลด็ แตกตางจาก พอ และแม เลก็ นอ ย รูปรางลกั ษณะของ ไมม ี รางกาย มขี น ตนี มี พังผดื ปากแบน สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
221 คูมอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 สิง่ มีชีวิต สีตา สีขน สผี ิว เกล็ด ลักษณะผวิ หนัง รปู รา งลกั ษณะของรา งกาย ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตนี ลักษณะขนและความยาวของขน ปก ครีบ ดาํ ส้ัน ดํา หตู ัง้ หางกลม หัวกลม หนา แหลม ขาว ส้ัน ปลายหูแหลม มหี นวด แดง หูต้งั ไมเห็นหาง หัวกลม หนา แหลม ปลายหแู หลม มีหนวด ลักษณะของลูกกระตายข้นึ อยูก บั การพยากรณของนกั เรียน สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 ส่ิงมชี ีวติ 222 ลักษณะ สีตา สีขน สผี ิว เกล็ด ลกั ษณะผิวหนงั รูปรา งลักษณะของรา งกาย ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตนี ลักษณะขนและความยาวของขน ปก ครบี เพราะเปน ลักษณะท่ีมี การถา ยทอดจากพอแมไปสูรุนลกู สงั เกตไดจ ากลูกจะมลี ักษณะเหลานี้เหมือนพอ เหมอื นแม หรอื เหมือนท้ังพอและแม หรอื อาจมีลักษณะที่คลา ยคลงึ แตไ มเ หมือนพอ พยากรณจ ากขอมูลทไ่ี ดจ ากการสงั เกตลักษณะของกระตายเพศผูแ ละกระตา ยเพศเมีย เพราะลักษณะของลูกเปน ลกั ษณะทไ่ี ดร บั การถา ยทอดมาจากพอ แม นักเรียนตอบตามขอมูลของลกู กระตายที่นักเรยี นวาดไว และผลการเปรียบเทียบ ลักษณะของพอแม ซึง่ อาจมีบางลักษณะเหมือนพอ บางลักษณะเหมอื นแม บาง ลกั ษณะเหมอื นทั้งพอและแม บางลักษณะแตกตางจากทงั้ พอและแม เพราะลกั ษณะ ของลูกกระตายจะขนึ้ อยกู ับลกั ษณะของพอและแม สัตวในครอบครวั เดียวกนั ลูกจะมลี กั ษณะตาง ๆ คลา ยคลงึ พอ แม เชน สตี า สขี น สี ผวิ เกลด็ ลกั ษณะผิวหนัง รูปรางลักษณะของรางกาย ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตนี ลักษณะขนและความยาวของขน ปก ครีบ เราสามารถพยากรณลักษณะของลูกได จากลักษณะของพอและแม ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตวเ ปนลกั ษณะทมี่ กี ารถา ยทอดจากรุน พอแมไปสูรนุ ลูก ซึ่ง มหี ลายลักษณะ เชน สตี า สีขน สผี ิว เกลด็ ลกั ษณะผวิ หนัง รูปรา งลักษณะของรางกาย ใบหนา ใบหู ปาก หาง ตนี ลกั ษณะขนและความยาวของขน ปก ครีบ สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
223 คูมอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สงิ่ มีชีวติ คําถามของนกั เรยี นทต่ี ั้งตามความอยากรูของตนเอง สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 ส่งิ มชี ีวติ 224 แนวการประเมินการเรียนรู การประเมนิ การเรียนรขู องนกั เรียนทาํ ได ดงั น้ี 1. ประเมินความรูเ ดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรียน 2. ประเมนิ การเรียนรจู ากคาํ ตอบของนกั เรยี นระหวา งการจัดการเรียนรแู ละจากแบบบนั ทึกกิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ ละทักษะแหง ศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน การประเมินจากการทาํ กิจกรรมท่ี 1.2 ลกั ษณะทางพันธุกรรมของสัตวมอี ะไรบา ง ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช รหสั สิ่งท่ีประเมิน ระดับ คะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร S1 การสงั เกต S6 การจดั กระทาํ และสื่อความหมายขอ มลู S7 การพยากรณ S8 การลงความเหน็ จากขอมลู S13 การตีความหมายขอ มลู และลงขอ สรปุ ทกั ษะแหงศตวรรษที่ 21 C4 การสือ่ สาร C5 ความรว มมอื รวมคะแนน สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
225 คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สง่ิ มชี ีวิต ตาราง แสดงการวิเคราะหท ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต ามระดับความสามารถของนักเรียน โดยอาจใชเกณฑก ารประเมนิ ดงั น้ี ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1) ทางวิทยาศาสตร พอใช (2) S1 การสงั เกต ก า ร บ ร ร ย า ย สามารถใชประสาท ส า ม า ร ถ ใ ช ป ร ะ ส า ท สามารถใชประสาทสัมผัส รายละเอียดเกี่ยวกับ สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด เก็บรายละเอียดขอมูล ลักษณะตาง ๆ ของ ขอมูลเก่ียวกับลักษณะ ขอมูลเกี่ยวกับลักษณะ เกี่ยวกับลักษณะตาง ๆ สตั วในกลมุ ตาง ๆ ตาง ๆ ของสัตวในกลุม ตาง ๆ ของสัตวในกลุม ของสัตวในกลุมตาง ๆ ได ตาง ๆไดดวยตนเอง ตาง ๆ ได จากการ เพียงบางสวน แมวาจะได โดยไมเพิ่มเติมความ ช้ีแนะของครูหรือผูอื่น รับคําช้ีแนะจากครูหรือ คิดเหน็ หรือมีการเพ่ิมเติมความ ผูอ่นื คดิ เหน็ S6 การจัดกระทํา การนําขอมูลที่ไดจาก สามารถนําขอมูลที่ได สามารถนําขอมูลที่ได สามารถนําขอมูลท่ีไดจาก และสื่อความหมาย การพยากรณลักษณะ จ า ก ก า ร พ ย า ก ร ณ จ า ก ก า ร พ ย า ก ร ณ การพยากรณลักษณะของ ขอ มูล ของลูกกระตายมา ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลู ก ลักษณะของลูกกระตาย ลูกกระตายมาวาดรูปได ก ร ะ ต า ย ม า ว า ด รู ป มาวาดรูปรวมทั้งส่ือให แตไมสามารถส่ือใหผูอื่น วาดรูปรวมทั้งส่ือให รวมทัง้ ส่อื ใหผูอื่นเขาใจ ผูอื่นเขาใจลักษณะของ เข า ใ จลั ก ษ ณ ะข อ ง ลู ก ผูอื่นเขาใจลักษณะ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลู ก ลู ก ก ร ะ ต า ย ไ ด อ ย า ง กระตาย ไดอยางชัดเจน ของลกู กระตาย กระตายไดอยางชัดเจน ชัดเจน จากการช้ีแนะ แมวาจะไดร บั คําชี้แนะจาก ดวยตนเอง ของครหู รือผอู ื่น ครหู รือผอู ื่น S7 การพยากรณ ก า ร ค า ด ก า ร ณ ส าม าร ถคา ดก าร ณ ส า ม า ร ถ ค า ด ก า ร ณ ส า ม า ร ถ ค า ด ก า ร ณ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลู ก ลักษณะของลูกกระตาย ลักษณะของลูกกระตาย ลักษณะของลูกกระตายได ก ร ะ ต า ย โ ด ย ลู ก ไดอยางสมเหตุสมผล ไดอยางสมเหตุสมผลโดย โ ด ย อ า ศั ย ข อ มู ล ที่ ไ ม กระตายจะมีลักษณะ ด วยตนเอง โดยลู ก อาศัยการช้ีแนะจากครู สมเหตุสมผล ไมไดใช บางอยางเหมือนพอ กระตายจะมีลักษณะ หรือผูอ่ืน โดยลูกกระตาย ข อ มู ล จ า ก ก า ร สั ง เ ก ต เหมือนแม เหมือนท้ัง บางอยางเหมือนพอ จะมีลักษณะบางอยาง ลักษณะของครอบครวั สัตว พ อ แ ล ะ แ ม ห รื อ เหมือนแม เหมือนทั้ง เหมือนพอ เหมือนแม อ่นื ๆ แตกตางจากทั้งพอ พ อ แ ล ะ แ ม ห รื อ เหมื อนท้ั งพ อและแม และแม แตกตางจากทั้งพอและ หรือแตกตางจากทั้งพอ แม โดยอาศัยความรู และแม โดยอาศัยความรู จากการสังเกตลักษณะ จากการสังเกตลักษณะ ของครอบครัวสัตวอ ่นื ๆ ของครอบครัวสัตวอื่นๆ สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สิง่ มีชีวติ 226 ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (1) ทางวิทยาศาสตร พอใช (2) S8 การลงความเห็น การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก จากขอ มูล ขอมูลวาสัตวมีการ จ า ก ข อ มู ล ไ ด อ ย า ง ขอมูลไดอยางถูกตอง ขอมูลไดวาสัตวมีลักษณะ ถายทอดลักษณะทาง ถูกตองและชัดเจนดวย และชัดเจน โดยอาศัย ตาง ๆที่สังเกตได แตไม พันธุกรรมจากรุนพอ ตนเองวาสัตวมีการ การช้ีแนะของครูหรือ สามารถลงความเห็นไดวา แ ม ไ ป สู รุ น ลู ก เ ช น ถายทอดลักษณะทาง ผู อ่ื น ว า สั ต ว มี ก า ร สั ต ว มี ก า ร ถ า ย ท อ ด ลักษณะสีตา สีขน สี พันธุกรรม จากรุนพอ ถายทอดลักษณะทาง ลักษณะตาง ๆ เหลาน้ัน ผิว เกล็ด ลักษณะ แ ม ไ ป สู รุ น ลู ก เ ช น พันธุกรรม จากรุนพอแม จากรุนพอแมไปสูรุนลูก ผิ ว ห นั ง รู ป ร า ง ลกั ษณะสตี า สีขน สีผิว ไปสูรุนลูก เชน ลักษณะ แมวาจะไดร บั คําชีแ้ นะจาก ลักษณะของรางกาย เกล็ด ลักษณะผิวหนัง สีตา สีขน สีผิว เกล็ด ครหู รือผูอื่น ใบหนา ใบหู ปาก รูปรางลักษณะของ ลักษณะผิวหนัง รูปราง หาง ตีน ลกั ษณะและ รางกาย ใบหนา ใบหู ลักษณะของรางกาย ความยาวของขน ปก ปาก หาง ตีน ลักษณะ ใบหนา ใบหู ปาก หาง ครีบ และความยาวของขน ตีน ลักษณะและความ ปก ครีบ ยาวของขน ปก ครบี S13 ก า ร ตี ค ว า ม ห ม า ย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย ส าม ารถ ตีคว ามห มา ย ก า ร ตี ค ว า ม ห ม า ย ขอมูลและลงขอสรุป ขอมูลและลงขอสรุปได ขอมูลและลงขอสรุปได ขอมูลและลงขอสรุปจาก ขอมลู และลงขอสรุป จากการสังเกตและ ดวยตนเองจากการ โดยอาศัยการช้ีแนะของ การสังเกตและและการ การพยากรณไดวา สั ง เ ก ต แ ล ะ ก า ร ครูหรื อผูอ่ื น จา กกา ร พย า ก ร ณ ลัก ษ ณ ะ ท า ง ลั ก ษ ณ ะ ท า ง พ ย า ก ร ณ ไ ด ว า สังเกตและการพยากรณ พันธุกรรมของสัตวไดเพียง พันธุกรรมของสัตว ลักษณะทางพันธุกรรม ไ ด ว า ลั ก ษ ณ ะ ท า ง บางสวน และลงขอสรุป เปนลักษณะท่ีมีการ ของสัตวเปนลักษณะท่ี พันธุกรรมของสัตวเปน เร่ืองการถายทอดลักษณะ ถายทอดจากรุนพอ มีการถายทอดจากรุน ลักษณะท่ีมีการถายทอด ทางพันธุกรรมของสัตวได แมไปสูรุนลูก เชน พอแมไปสูรุนลูก เชน จากรุนพอแมไปสูรุนลูก ไมส มบูรณแมวาจะไ ด ลักษณะสีตา สีขน สี ลักษณะสตี า สีขน สีผิว เชน ลักษณะสีตา สีขน สี รับคําช้ีแนะจากครูหรือ ผิว เกล็ด ลักษณะ เกล็ด ลักษณะผิวหนัง ผิ ว เ ก ล็ ด ลั ก ษ ณ ะ ผอู ่ืน ผิ ว ห นั ง รู ป ร า ง รูปรางลักษณะของ ผิวหนัง รูปรางลักษณะ ลักษณะของรางกาย รางกาย ใบหนา ใบหู ของรางกาย ใบหนา ใบ ใบหนา ใบหู ปาก ปาก หาง ตีน ลักษณะ หู ปาก หาง ตนี ลักษณะ หาง ตนี ลักษณะและ และความยาวของขน และความยาวของขน ความยาวของขน ปก ปก ครบี ปก ครีบ ครีบ สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
227 คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 สิง่ มีชีวติ ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใชเ กณฑการประเมิน ดังน้ี ทกั ษะแหง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 C4 การสื่อสาร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1) C5 ความรวมมอื การนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอ มูลจาก สามารถนําเสนอขอมูลจาก สามารถนําเสนอขอมูล จากการสังเกต และ ก า ร สั ง เ ก ต แ ล ะ การสังเกต และเปรียบเทียบ จา กก าร สัง เก ต แล ะ เปรียบเทียบลักษณะ เปรียบเทียบลักษณะของ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง สั ต ว ใ น เปรียบเทียบลักษณะของ ของสัตวในครอบครัว สัตวในครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวเดียวกัน และผล สัตวในครอบครัวเดียวกัน เดียวกัน และผลการ แ ล ะ ผ ล ก า ร พ ย า ก ร ณ การพยากรณลักษณะของ และผลการพยากรณ พ ย า ก ร ณ ลั ก ษ ณ ะ ลักษณะของลูกกระตาย ลูกกระตาย ใหผูอ่ืนเขาใจได ลักษณะของลูกกระตาย ของลูกกระตาย ให ใหผู อื่น เขา ใจ ไดอ ยา ง อยางถูกตอง จากการชี้แนะ ใหผูอื่นเขาใจไดเพียง ผอู ืน่ เขาใจ ถูกตอ งดว ยตนเอง ของครหู รอื ผูอ่นื บางสวน แมวาจะได รับคําช้ีแนะจากครูหรือ ผอู น่ื การทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับผูอื่น สามารถทํางานรวมกับ ผูอื่น และการแสดง ผูอ่ื น แ ล ะ แ ส ด ง ค ว า ม และแสดงความคิดเห็น ใน ผูอื่น แล ะ แส ดงค ว า ม ความคิดเห็น ในการ คิดเห็น ในการสังเกต และ การสังเกต และเปรียบเทียบ คิดเห็นเปนบางชวงเวลา สั ง เ ก ต แ ล ะ เปรียบเทียบลักษณะของ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง สั ต ว ใ น ของการทํากิจกรรม แต เปรียบเทียบลักษณะ สัตวในครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวเดียวกัน รวมทั้ง ไมแสดงความสนใจตอ ของสัตวในครอบครัว ท้ังยอมรับความคิดเห็น ยอมรับความคิดเห็นของ ความคิดเหน็ ของผอู ่ืน ท้ัง เ ดี ย ว กั น ร ว ม ทั้ ง ของผูอื่นต้ังแตเร่ิมตนจน ผูอ่ืนในบางชวงเวลาที่ทํา ต อ ง ต อ ง อ า ศั ย ก า ร ยอมรับความคิดเห็น สาํ เร็จ กจิ กรรม กระตุนจากครูหรือผูอืน่ ของผอู น่ื สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 ส่ิงมีชีวติ 228 กิจกรรมที่ 1.3 ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของคนในครอบครวั เปน อยางไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดสังเกตลักษณะตาง ๆ ของ สอ่ื การเรยี นรูและแหลง เรียนรู หนา 86-89 ตนเองและคนในครอบครัว และอธิบายลักษณะทาง หนา 76-79 พนั ธกุ รรมของมนษุ ย 1. หนังสือเรียน ป.5 เลม 2 เวลา 1 ชวั่ โมง 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.5 เลม 2 จดุ ประสงคการเรยี นรู สาํ รวจ และเปรยี บเทยี บลกั ษณะทางพันธกุ รรมของ คนในครอบครวั วสั ดุ อปุ กรณสําหรับทาํ กจิ กรรม - ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร S1 การสงั เกต S8 การลงความเหน็ จากขอมูล S13 การตคี วามหมายขอมูลและลงขอสรปุ ทกั ษะแหง ศตวรรษท่ี 21 C4 การสอื่ สาร สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
229 คมู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สิ่งมชี ีวิต แนวการจัดการเรียนรู ในการตรวจสอบความรู ครู เพียงรับฟงเหตุผลของนักเรียน 1. ครูตรวจสอบความรูเดิมเก่ียวกับลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย โดยให เปนสําคัญ และยังไมเฉลย นักเรียนสังเกต และจับคูพอกับลูก หรือแมกับลูก ของตัวอยางครอบครัว คําตอบใด ๆ ใหกับนักเรียน แต ประมาณ 2-3 ครอบครัว โดยใชตัวอยางครอบครัวที่สามารถสังเกตลักษณะ ชักชวนนักเรียน ไปหาคําตอบท่ี ท่ีมีความคลายคลึงกันไดอยางชัดเจน อาจใชครอบครัวของบุคคลที่เปนท่ี ถูกตองจากกิจกรรมตาง ๆ ใน รูจ กั ของคนทั่วไป ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายผลจากการจับคูโดยใชแนว บทเรยี นน้ี คําถามดงั ตอ ไปนี้ 1.1 นักเรียนจับคูพอกับลูก หรือแมกับลูกไดอยางไร (สังเกตจากลักษณะที่ ถานักเรียนไมสามารถตอบ เหมือนหรือคลายคลึงกัน) คาํ ถามหรืออภิปรายไดตามแนว 1.2 นักเรียนสังเกตลักษณะใดบาง (นักเรียนตอบตามส่ิงที่สังเกตจริง เชน คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียน รปู หนา ดวงตา จมูก ลกั ษณะเสนผม สผี ิว) คดิ อยางเหมาะสม รอคอยอยาง 1.3 ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษยมีอะไรบาง (นักเรียนตอบตามความ อดทน และรับฟงแนวความคิด เขา ใจ) ของนักเรียน 2. ครูเชื่อมโยงความรูเดิมของนักเรียนไปสูกิจกรรมท่ี 1.3 โดยชักชวนให นกั เรยี นคน หาคาํ ตอบวา นักเรียนมีลักษณะใดเหมือนกับคนในครอบครัวบาง และลักษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษยม ีอะไรบา ง 3. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และ ทําเปนคิดเปน แลวรวมกันอภิปรายเพ่ือ ตรวจสอบความเขา ใจจดุ ประสงคในการทํากิจกรรม โดยใชคาํ ถามดังนี้ 3.1 กจิ กรรมนนี้ ักเรยี นจะไดเรียนเรอื่ งอะไร (ลักษณะทางพันธุกรรมของคน ในครอบครวั ) 3.2 นักเรียนจะไดเ รียนรูเรื่องน้ดี ว ยวธิ ีใด (สังเกต และเปรยี บเทยี บ) 3.3 เม่ือเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (อธิบายลักษณะทางพันธุกรรม ของคนในครอบครวั ได) 4. นกั เรียนบนั ทกึ จดุ ประสงคล งในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หนา 76 5. นกั เรียนอา น ทําอยา งไร แลวรว มกนั อภิปรายเพอื่ สรปุ ลําดับขน้ั ตอนการทาํ กจิ กรรมตามความเขา ใจ โดยครใู ชค ําถาม ดังน้ี 5.1 นักเรียนตองสังเกตใครบาง (สังเกตลักษณะของตนเอง พอ แม ปู ยา ตา และยาย) 5.2 นักเรียนตองสังเกตลักษณะอะไรบาง (ลักษณะต่ิงหู ช้ันของหนังตา ลักยิ้ม การเวียนของขวัญ การหอล้ิน เชิงผมท่ีหนาผาก และลักษณะ อืน่ ๆ ที่สนใจ) สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูม อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สง่ิ มชี ีวติ 230 5.3 ลักษณะอ่ืน ๆ ท่ีนักเรียนสนใจจะสังเกตเพิ่มเติมมีอีกหรือไม อะไรบาง ขอเสนอแนะเพม่ิ เตมิ (นักเรยี นตอบตามความสนใจ) 1. ครูควรมอบหมายใหนักเรียน 5.4 เมื่อนักเรียนสังเกตลักษณะตาง ๆ ของคนในครอบครัวแลวนักเรียน สังเกตลักษณะทางพันธุกรรมของ ตองนําผลการสังเกตมาทําอยางไรตอไป (เปรียบเทียบลักษณะน้ัน ๆ ตนเองและคนในครอบครัวโดย ของตนเองกับคนในครอบครวั ) บันทึกลงในตารางในแบบบันทึก กิจกรรม หนา 76-77 มาลวงหนา 5.5 เมื่อนําลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัวมาเปรียบเทียบแลว กอ นถงึ ช่ัวโมงเรียน นกั เรียนตอ งทําอะไรตอ ไป (นําเสนอผลการเปรยี บเทยี บ) 2. ในกรณีท่ีนักเรียนไมสามารถ 5.6 นักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับเร่ืองอะไร (อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะ สํ า ร ว จ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ค น ใ น ทางพันธกุ รรมของมนุษย) ครอบครัวไดครบ ใหนักเรียน สังเกตลักษณ ะของบุคคลใ น 6. ครูใหนักเรียนสังเกตลักษณะตาง ๆ ท่ีปรากฏของมนุษยจากภาพในหนังสือ ครอบครัวเทาท่ีทําได แลวใช เรียน หนา 86-87 กอนไปสังเกตลักษณะของคนในครอบครัวเพ่ือให ขอ มูลทไ่ี ดในการเปรียบเทียบ นักเรียนสามารถสังเกต และระบุลักษณะตาง ๆ ของคนในครอบครัวได อยา งถกู ตอง 3. หลงั จากทส่ี มุ นกั เรียนนําเสนอแลว ถามีกรณีที่ขอมูลของนักเรียนใน 7. เม่ือนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ครูใหนักเรียนเร่ิม หองเรียนไมครบ ใหครูใชขอมูล ปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอน และภาพลักษณะท่ีปรากฏของคน ใ น ค ร อ บ ค รั ว ข อ ง ตั ว อ ย า ง 8. หลังจากทํากิจกรรมแลว นักเรียนรวมกันอภิปรายผลการทํากิจกรรม ครู ครอบครวั มาใชในการอภิปราย อาจสุมนกั เรียนนําเสนอ โดยครูจดบนั ทึกจาํ นวนคนในครอบครัวที่มีลักษณะ เหมอื นกันลงในตารางทีค่ รูเขียนบนกระดาน และใชคาํ ถามดงั นี้ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละ 8.1 ถาเปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับพอและแม มีลักษณะใดบางที่ ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ทีน่ กั เรยี นจะได เหมอื นเฉพาะพอ เหมือนเฉพาะแม เหมือนทั้งพอและแม และแตกตาง จากท้งั พอ และแม (นักเรียนตอบจากขอมลู ท่ีบนั ทกึ ไวในตาราง) ฝกจากการทาํ กจิ กรรม 8.2 ลักษณะใดของตนเองที่ไมเหมือนทั้งพอและแม แตเหมือนบุคคลอื่นใน S1 สงั เกตลักษณะของตนเองและคนใน ครอบครวั คอื เหมือนใคร (นักเรียนตอบจากขอมูลท่ีบนั ทึกไวในตาราง) 8.3 ลักษณะของตนเองท่ีไมเหมือนท้ังพอและแม จัดเปนลักษณะทาง ครอบครวั พันธุกรรมหรือไม อยางไร (จัดเปนลักษณะทางพันธุกรรม เพราะเมื่อ S8, C4 อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะทาง สังเกตยอนข้ึนไปในรุนปู ยา ตา ยาย จะมีลักษณะนั้นปรากฏอยู ลักษณะน้ันของลูกที่ไมเหมือนทั้งพอและแม อาจจะเหมือนปู ยา ตา พนั ธุกรรมของมนุษย หรอื ยายกไ็ ด จงึ จดั เปน ลกั ษณะทางพันธกุ รรม) C4 นําเสนอเปรียบเทยี บคาํ ตอบ 8.4 ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษยมีลักษณะใดบาง (ลักษณะทาง พันธุกรรมของมนุษย เชน ลักษณะต่ิงหู ชั้นของหนังตา ลักยิ้ม การ เวียนของขวัญ การหอล้ิน เชิงผมท่ีหนาผาก และลักษณะอ่ืน ๆ ท่ี นักเรยี นสังเกตเพ่ิมเติม) สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
231 คูมอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 สิง่ มชี ีวิต 9. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเรื่องลักษณะท่ีปรากฏของลูกซ่ึงแตกตางจากทั้งพอและ ถานักเรียนไมสามารถตอบ แมวาลักษณะของลูกท่ีแตกตางจากพอและแมน้ัน เปนลักษณะท่ีรุนปูยา คาํ ถามหรืออภิปรายไดตามแนว หรอื ตายาย ถายทอดมาสูพอหรือแม แตแฝงไวไมปรากฏในรุนพอแม เม่ือ คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียน รุน พอ แมมีลูกจะถา ยทอดลักษณะนน้ั ใหป รากฏในรุนลกู ได คิดอยางเหมาะสม รอคอยอยาง อดทน และรับฟงแนวความคิด 10. รวมกันอภิปรายและลงขอสรุปวามนุษยมีการถายทอดลักษณะทาง ของนักเรยี น พันธุกรรมจากรุนพอแมไปสูรุนลูก ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษยมี หลายลักษณะ เชน ลักษณะติ่งหู ชน้ั ของหนังตา ลักย้ิม การเวียนของขวัญ การเตรียมตัวลว งหนาสําหรบั ครู การหอลิ้น เชิงผมท่ีหนาผาก และลักษณะอ่ืน ๆ ท่ีนักเรียนสังเกตเพ่ิมเติม เพ่ือจดั การเรยี นรูใ นครงั้ ถดั ไป ซ่ึงลักษณะเหลาน้ีบางอยางอาจเหมือนพอ เหมือนแม เหมือนท้ังพอและ แม หรือแตกตา งจากท้งั พอและแม แตเ หมอื นปู ยา ตา หรอื ยาย (S13) ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะได เรียนบทท่ี 2 ส่ิงมีชีวิตกับส่ิงแวดลอม 11. นักเรียนรวมกันอภิปรายเพ่ือตอบคําถามใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจใช ครเู ตรียมสื่อการสอนดงั น้ี คําถามเพม่ิ เตมิ เพ่ือใหไดแนวคําตอบท่ถี ูกตอ ง 1. รูปหรือวีดิทัศนเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต 12. นักเรียนอาน สิ่งท่ีไดเรียนรู และเปรียบเทียบกับขอสรุปที่ไดจากการ ในแหลงท่ีอยู 1 แหลง เชน รูป อภปิ ราย หรือวีดิทัศนใตทองทะเล ท่ีมีปลา ขนาดตาง ๆ ปะการัง หรือสัตวน้ํา 13. ครูกระตุนใหนักเรียนฝกต้ังคําถามเกี่ยวกับเรื่องท่ีสงสัยหรืออยากรู อ่ืน ๆ เพื่อใชในการนําเขาสู เพิ่มเติมใน อยากรูอีกวา ครูอาจสุมนักเรียน 2-3 คน นําเสนอคําถามของ บทเรยี น ตนเองหนาชั้นเรียน จากนั้นรวมกันอภิปรายเก่ียวกับคําถามท่ีเพ่ือน 2. วีดิทศั นเ รอื่ งหมอขา วหมอแกงลิงที่ นําเสนอ แสดงการดักจับแมลง เพื่อให นัก เ รี ย น ดูป ร ะ ก อ บก า ร อ า น 14. ครูนําอภิปรายเพื่อใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง ตวั อยางวีดิทศั น เชน วทิ ยาศาสตรและทกั ษะแหงศตวรรษท่ี 21 อะไรบางและในขัน้ ตอนใด https://youtu.be/fi2 Wwhyc1 แลวบนั ทึกลงในแบบบันทกึ กิจกรรมหนา 79 NA https://youtu.be/lz22QkYEl-8 15. นักเรียนรวมกันอานรูอะไรในเรื่องน้ี ในหนังสือเรียน หนา 90 ครูนํา https://youtu.be/pkwxXeSC6 อภิปรายเพ่ือนําไปสูขอสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ไดเรียนรูในเร่ืองนี้ จากนั้นครู L กระตุนใหนักเรียนตอบคําถามในชวงทายของเน้ือเรื่อง ซ่ึงเปนคําถามเพ่ือ เช่ือมโยงไปสูการเรียนเนื้อหาในบทถัดไป ดังนี้ “รูหรือไมวาลักษณะของ ส่ิงมีชีวิตที่ไดรับการถายทอดจากบรรพบุรุษมาจนถึงรุนปจจุบันมีความ เหมาะสมกับการดํารงชีวิตในแหลงที่อยูหรือไม อยางไร” นักเรียน สามารถตอบตามความเขาใจของตนเอง ซึ่งนักเรียนจะหาคําตอบไดจาก การเรียนในบทตอไป สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สงิ่ มีชีวติ 232 ลักษณะที่ปรากฏของบคุ คลในครอบครัว บคุ คลในครอบครวั จากซายไปขวา ไดแก ยาย แม ลูก พอ ยา ปู สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
233 คมู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ ปู ยา ตา ยาย สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ 234 ลูก พอ แม สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
235 คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 ส่งิ มีชีวติ ปู ยา ตา ยาย สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว แ ม ูลก คมู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 สง่ิ มีชีวิต 236 ตาราง ภาพ ัลกษณะทาง ัพนธุกรรมของ พอ แ ม ูลก ัสงเกต พอ สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ัลกษณะ ่ีท ิ่ตงหู หนังตา ลักย้ิม
ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว237 คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติัสงเกต พอ แ ม ูลก สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ัลกษณะ ี่ท การเวียน การหอล้ิน ของขวัญ เชิงผม ่ีท หนาผาก
ตาราง ัลกษณะทาง ัพนธุกรรมของคนในครอบครัว ูป ยา ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว คมู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 สง่ิ มีชีวิต 238 ยา สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี พอ ัลกษณะ ี่ท ัสงเกต หนังตา ติ่งหู ลักยิ้ม
ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว239 คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ พอ ยา สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ัลกษณะ ี่ท ัสงเกต การหอล้ิน การเวียนของขวัญ เชิงผม ี่ทหนาผาก
ตาราง ัลกษณะทาง ัพนธุกรรมของคนในครอบครัว ตา ยาย ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว คมู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 สง่ิ มีชีวิต 240 ยา สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี พอ ัลกษณะ ี่ท ัสงเกต หนังตา ิต่งหู ลักยิ้ม
ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว241 คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ พอ ยา สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ัลกษณะ ี่ท ัสงเกต การหอล้ิน การเวียนของขวัญ เชิงผม ี่ทหนาผาก
คูม อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวิต 242 แนวคาํ ตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม สํารวจ และเปรียบเทียบลักษณะทางพนั ธุกรรมของคนในครอบครัว ผลการบนั ทกึ ข้ึนอยกู บั ลกั ษณะทาง พนั ธกุ รรมของนกั เรียนและคนใน ครอบครัว เชน พอ ปู ยา ยาย สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
243 คูมือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูม ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 ส่ิงมีชีวติ 244 คําตอบขึ้นอยูกบั ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของนักเรยี นและพอ แม เชน มีติง่ หูเหมือนพอ มี เชงิ ผมท่ีหนาผากเหมือนแม การเวยี นของขวัญเหมือนทั้งพอและแม เพราะไดร ับการ ถายทอดลกั ษณะเหลาน้มี าจากพอ และแม คาํ ตอบขนึ้ อยูกับลกั ษณะทางพันธุกรรมของนักเรยี นและพอ แม เชน นกั เรียนมลี กั ย้ิม เหมอื นกับปู แตพ อและแมไมมีลักย้ิม ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของมนษุ ยม ีหลายลักษณะ เชน ลักษณะต่ิงหู ชน้ั ของหนังตา ลกั ยม้ิ การเวยี นของขวัญ การหอลนิ้ เชงิ ผมท่ีหนาผาก รูไดว า เปน ลักษณะทาง พันธุกรรมเพราะคนในครอบครวั เดยี วกนั มีการถา ยทอดลักษณะเหลานจ้ี ากรุน สรู นุ จากการสงั เกตลกั ษณะตา ง ๆ ของคนในครอบครวั เมอื่ เปรยี บเทียบกบั ตนเอง พบวา ตนเองมีลกั ษณะบางอยา งเหมอื นพอ บางอยา งเหมือนแม บางอยา งเหมือนท้ังพอและ แม บางอยางไมเ หมือนทั้งพอและแม แตเหมือนปู ยา ตา หรอื ยาย ลกั ษณะทางพันธุกรรมมนุษยเ ปน ลักษณะทมี่ ีการถายทอดจากรุนพอ แมไ ปสูรนุ ลกู ซ่ึงมี หลายลักษณะ เชน ลกั ษณะติง่ หู ชนั้ ของหนงั ตา ลักยิม้ การเวียนของขวัญ การหอล้ิน เชิงผมท่หี นา ผาก สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
245 คมู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สิง่ มีชีวิต คาํ ถามของนักเรยี นท่ีตั้งตามความอยากรูของตนเอง สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูม อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 ส่ิงมีชีวติ 246 แนวการประเมินการเรียนรู การประเมินการเรียนรูของนกั เรียนทําได ดงั นี้ 1. ประเมินความรูเดิมจากการอภปิ รายในช้ันเรียน 2. ประเมินการเรียนรจู ากคําตอบของนักเรยี นระหวา งการจดั การเรยี นรแู ละจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละทกั ษะแหง ศตวรรษที่ 21 จากการทํากจิ กรรมของนักเรยี น การประเมนิ จากการทาํ กจิ กรรมที่ 1.3 ลักษณะทางพันธุกรรมของคนในครอบครัว เปน อยา งไร ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช รหสั ส่ิงที่ประเมนิ ระดับคะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร S1 การสงั เกต S8 การลงความเหน็ จากขอมูล S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอ สรุป ทกั ษะแหงศตวรรษท่ี 21 C4 การส่ือสาร รวมคะแนน สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
247 คูมือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สง่ิ มีชีวติ ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต ามระดับความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใชเ กณฑก ารประเมิน ดังน้ี ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรงุ (1) S1 การสังเกต ก า ร บ ร ร ย า ย สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาท สามารถใชประสาท ร า ย ล ะ เ อี ย ด เก็บรายละเอียดขอมูล สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด เก่ียวกับลักษณะ เกี่ยวกับลักษณะตาง ๆ ขอมูลเกี่ยวกับลักษณะ ขอมูลเก่ียวกับลักษณะ ตาง ๆ ของคนใน ของคนในครอบครัว ได ต า ง ๆ ข อ ง ค น ใ น ต า ง ๆ ข อ ง ค น ใ น ครอบครวั ดวยตนเอง โดยไมเพิ่มเติม ครอบครัวไดจากการ ค ร อ บ ค รั ว ไ ด เ พี ย ง ความคิดเหน็ ชี้แนะของครูหรือผูอ่ืน บางสวน แมวาจะได หรือมีการเพิ่มความ รับคําชี้แนะจากครูหรือ คิดเหน็ ผูอ ืน่ S8 การลงความเห็น การลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น สามารถลงความเห็น จากขอมูล จากขอมูลวามนุษย ขอมูลไดอยางถูกตองและ จ า ก ข อ มู ล ไ ด อ ย า ง จากขอมูลไดวามนุษยมี มี ก า ร ถ า ย ท อ ด ชดั เจนดว ยตนเองวา มนุษย ถูกตองและชัดเจน โดย ลักษณะตา ง ๆ ท่ีสังเกต ลั ก ษ ณ ะ ท า ง มกี ารถา ยทอดลักษณะทาง อาศัยการช้ีแนะของครู ได แตไมสามารถลง พันธุกรรมจากรุน พันธุกรรมจากรุนพอแม หรือผูอ่ืนไดวามนุษยมี ความเห็นไดวามนุษยมี พอแมไปสูรุนลูก ไปสรู นุ ลกู เชน ลักษณะต่ิง การถายทอดลักษณะ การถายทอดลักษณะ เชน ลักษณะต่ิงหู หู ชั้นของหนังตา ลักย้ิม ทางพันธุกรรมจากรุน ตาง ๆ เหลานัน้ จากรุน ชั้นของหนังตา ลัก การเวียนของขวัญ การหอ พอแมไปสูรุนลูก เชน พอแมไปสูรุนลูก แมวา ย้ิ ม ก า ร เ วี ย น ลิ้น เชงิ ผมท่หี นา ผาก ลักษณะติ่งหู ช้ันของ จะไดรับคําชี้แนะจาก ของขวัญ การหอ หนังตา ลักย้ิม การ ครหู รือผอู ่ืน ล้ิ น เ ชิ ง ผ ม ท่ี เวียนของขวัญ การหอ หนาผาก ลิ้น เชงิ ผมทห่ี นา ผาก S13 การตีความหมาย การตีความหมาย ส าม ารถ ตีคว ามห มา ย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย ขอมลู และลงขอ สรปุ ข อ มู ล แ ล ะ ล ง ขอมูลและลงขอสรุปจาก ขอมูลจากการสังเกต ขอมูลและลงขอสรุป ข อ ส รุ ป จ า ก ก า ร ก า ร สั ง เ ก ต แ ล ะ และเปรียบเทียบไดโดย จากการสังเกตและและ สั ง เ ก ต แ ล ะ เปรียบเทียบไดดวยตนเอง อาศัยการชี้แนะของครู เปรียบเทียบลักษณะ เปรียบเทียบไดวา วา ลักษณะทางพันธุกรรม หรือผูอื่นไดวาลักษณะ ท า ง พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ท า ง ของมนุษยเปนลักษณะที่มี ท า ง พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง มนุษยไดเพียงบางสวน พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง การถายทอดจากรุนพอแม มนุษยเปนลักษณะท่ีมี และลงขอสรุปเรื่องการ มนุษยเปนลักษณะ ไปสูรุน ลูก เชน ลักษณะต่ิง การถายทอดจากรุนพอ ถายทอดลักษณะทาง สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 ส่ิงมีชีวติ 248 ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1) ท่ีมีการถายทอด หู ชั้นของหนังตา ลักยิ้ม แ ม ไ ป สู รุ น ลู ก เ ช น พันธุกรรมของมนุษยได จากรุนพอแมไปสู การเวียนของขวัญ การหอ ลักษณะติ่งหู ช้ันของ ไมสมบูรณแมวาจะได รนุ ลูก เชน ลักษณะ ล้ิน เชงิ ผมทีห่ นาผาก หนังตา ลักยิ้ม การ รับคําชี้แนะจากครูหรือ ตง่ิ หู ช้นั ของหนังตา สีผม เวียนของขวัญ การหอ ผูอ่ืน ลักย้ิม การเวียน ลน้ิ เชิงผมทหี่ นาผาก ของขวัญ การหอ ล้ิ น เ ชิ ง ผ ม ท่ี หนาผาก ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ตามระดบั ความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใชเ กณฑก ารประเมนิ ดังนี้ ทกั ษะแหง รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 การนําเสนอขอ มูล ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1) C4 การส่ือสาร จากการสังเกต และ เปรียบเทียบ สามารถนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอมูลจาก สามารถนําเสนอขอมูล ลกั ษณะของตนเอง กับคนในครอบครัว จ า ก ก า ร สั ง เ ก ต แ ล ะ การสังเกต และเปรียบเทียบ จา กก าร สัง เก ต แล ะ ใหผ อู นื่ เขา ใจ เปรียบเทียบลักษณะของ ลักษณะของตนเองกับคนใน เปรียบเทียบลักษณะของ ตนเองกับคนในครอบครัว ครอบครัว ใหผูอื่นเขาใจได ต น เ อ ง กั บ ค น ใ น ใหผูอื่นเขาใจไดถูกตอง ถูกตอง จากการชี้แนะของครู ครอบครัว ใหผูอ่ืนเขาใจ ดวยตนเอง หรือผอู ื่น ไดเพียงบางสวน แมวา จะไดรับคําช้ีแนะจากครู หรอื ผูอ นื่ สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
249 คูมอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยที่ 5 สง่ิ มีชีวิต กจิ กรรมทายบทที่ 1 ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสิ่งมีชีวติ (1 ช่ัวโมง) เปลีย่ นรูปเปนหนาหนงั สือเรียน ป. 2 1. ครูใหนักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทนี้ ในแบบบันทึก กจิ กรรม หนา 80 2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปสิ่งท่ีไดเรียนรูของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ แผนภาพในหวั ขอ รอู ะไรในบทน้ี ในหนงั สอื เรยี น หนา 91 3. นักเรยี นกลบั ไปตรวจสอบคําตอบของตนเองในสํารวจความรูกอนเรียน ใน แบบบันทึกกิจกรรม หนา 64-65 อีกครั้ง ถาคําตอบของนักเรียนไมถูกตอง ใหขีดเสนทับขอความเหลาน้ัน แลวแกไขใหถูกตอง หรืออาจแกไขคําตอบ ดวยปากกาท่ีมีสีตางจากเดิม นอกจากน้ีครูอาจนําคําถามในรูปนําบทใน หนงั สอื เรยี น หนา 76 มารว มกันอภิปรายเพอ่ื ตอบคาํ ถามอีกคร้งั ดงั นี้ “รูหรือไมวา เพราะเหตุใดลูกจึงมีลักษณะบางอยางเหมือนพอและแม และ ลกู จะมีลักษณะทแ่ี ตกตา งจากพอและแมไดหรือไม” ครูและนักเรียนรวมกัน อภิปรายแนวทางการตอบคําถาม เชน ลูกมีลักษณะบางอยางเหมือนพอ และแม เพราะไดรับการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมมาจากพอและแม ผา นการสบื พันธุ และลูกอาจมีลักษณะท่ีแตกตางจากพอและแมได โดยอาจ มีลักษณะท่ีเกิดจากการผสมกันระหวางลักษณะของท้ังพอและแม หรือเปน ลกั ษณะทไี่ มป รากฏในรุน พอ แม แตปรากฏในรนุ ปู ยา ตา หรือยาย 4. นักเรียนทํา แบบฝกหัดทายบทที่ 1 ลักษณะทางพันธุกรรมของส่ิงมีชีวิต จากน้ันนําเสนอคําตอบหนาชั้นเรียน ถาคําตอบยังไมถูกตองครูควรนํา อภิปรายหรือใหสถานการณเพิ่มเติมเพื่อแกไขแนวคิดที่คลาดเคลื่อนให ถูกตอง 5. นักเรียนรวมกันทํากิจกรรม รวมคิด รวมทํา โดยรวมกันคิดแบบสีของดอก แพงพวยที่ตองการ สืบคนวิธีการผสมพันธุแพงพวย และวางแผนการผลิต ตน แพงพวยท่ีมีสีดอกตามตอ งการจากตนแพงพวยทม่ี ีอยู สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สงิ่ มีชีวิต 250 สรปุ ผลการเรียนรขู องตนเอง รูปหรือขอความสรุปส่ิงทไี่ ดเรียนรูจ ากบทนตี้ ามความเขาใจของนักเรยี น สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
251 คมู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยท่ี 5 สิ่งมีชวี ิต แนวคาํ ตอบในแบบฝกหัดทายบท คําตอบของนักเรียนข้นึ อยูกับการวิเคราะหและใหเหตุผลของนักเรียน เชน แมของ ลูกมาตัวนี้ นาจะมีขนสีแดงเขม สีดํา หรือสีแดงเทา เพราะวาลูกมามีขนสีแดง ผสมเทาออน ๆ ซ่ึงแตกตางจากพอมา แสดงวาลักษณะสีขนของลูกมาตองเหมือน แม หรือเปน ลักษณะท่ีผสมของทั้งพอ และแม ตนเทียนทมี่ ีลกั ษณะดอกดงั รูป นา จะเกดิ จากตนพอแมท ่ีมีลักษณะ ดอกดังรูปทัง้ คู หรือ เกิดจากตน พอ ตนแม ตน ใดตน หนงึ่ มดี อกสีขาว อีกตน มีดอกสแี ดง เพราะตนเทยี น ในรูปมีกลบี ดอกท้ังสีขาวและสแี ดง สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูม อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนว ยที่ 5 สิ่งมีชีวิต 252 ตนลูกของตน เทียนท่ีมีดอกสีขาวสลบั แดง กับดอกสีขาว นา จะมที ้งั ตน ท่ีมดี อกสีขาว และดอกสขี าวสลับแดง เพราะตน ลูกจะไดรับการถายทอดลกั ษณะจากพอและแม ทําใหตน ลกู มีลักษณะทเี่ หมือนพอ เหมือนแม เหมอื นทง้ั พอและแม หรือแตกตางจาก ท้ังพอและแมได เปนไปไดท คี่ รอบครัวนพ้ี อจะไมม ีลักย้มิ เพราะมลี ูกทไี่ มมีลักยิม้ ซงึ่ จะเปนลักษณะท่ี เหมอื นพอ สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
253 คมู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.5 เลม 2 | หนวยท่ี 5 ส่งิ มีชวี ติ สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 5 สงิ่ มชี ีวิต 254 บทที่ 2 สิง่ มีชวี ติ กับสิ่งแวดล้อม จดุ ประสงค์การเรยี นรปู้ ระจำบท บทนีม้ อี ะไร โครงสรา้ งและลกั ษณะของส่ิงมชี ีวติ ใน แหล่งท่ีอยู่ เม่อื เรยี นจบบทนี้ นักเรียนสามารถ เรือ่ งท่ี 1 โครงสรา้ งและลกั ษณะของสิ่งมีชีวติ 1. บรรยายโครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตท่ี กิจกรรมที่ 1 เหมาะสมกับแหลง่ ท่ีอยู่อย่างไร เหมาะสมกับการดำรงชีวติ ในแหล่งท่อี ยู่ตา่ ง ๆ เร่ืองที่ 2 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสงิ่ มีชวี ิตกบั 2. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิต กจิ กรรมที่ 2 สิ่งมชี วี ิต ในแหลง่ ที่อยู่ เรอื่ งที่ 3 ส่งิ มีชีวติ มีความสัมพันธ์กับสิง่ มีชีวิต 3. อธิบายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมชี วี ิตกับส่ิงไม่มชี วี ิต กจิ กรรมท่ี 3 อย่างไร ในแหล่งท่อี ยู่ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสิง่ มีชีวติ กบั 4. เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าท่ีของสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวติ ในโซ่อาหาร สิ่งมชี วี ติ มีความสัมพนั ธก์ บั สิ่งไม่มชี ีวติ ใน 5. บอกแนวทางและรว่ มกันดูแลรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม แหล่งทอ่ี ยู่อยา่ งไร เวลา 10 ชั่วโมง แนวคิดสำคญั สงิ่ มีชีวติ แต่ละชนิดจะอาศัยอยตู่ ามที่ต่าง ๆ ซึ่งอาจ มีส่ิงแวดล้อมแตกต่างกัน ดังน้ันสิ่งมีชีวิตจึงต้องปรับตัวด้าน โครงสร้างและลักษณะของร่างกายให้เหมาะสมกับการ ดำรงชีวติ ในแตล่ ะแหล่งทอ่ี ยู่ ส่ิงแวดล้อมในแต่ละแหล่งที่อยู่ ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่ อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งท่ีอยู่หนึ่ง ๆ นอกจากจะมีความสัมพันธ์ กับสิ่งมีชีวิตด้วยกันในด้านต่าง ๆ แล้ว ยงั มีความสัมพันธ์กับ ส่ิงไม่มีชีวิตด้วย เราจึงควรตระหนักและช่วยกันดูแลรักษา ส่ิ งแ ว ด ล้ อ ม ให้ มี ส ภ าพ ที่ เห ม าะ ส ม กั บ ก ารด ำรงชี วิ ต ข อ ง ส่ิงมชี ีวิตตลอดไป สื่อการเรียนรแู้ ละแหลง่ เรียนรู้ หน้า 95-125 หนา้ 85-109 1. หนงั สือเรยี น ป.5 เล่ม 2 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.5 เล่ม 2 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
255 คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 ส่ิงมีชีวติ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 รหสั ทกั ษะ กจิ กรรมท่ี 123 ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S2 การวัด S3 การใชจ้ ำนวน S4 การจำแนกประเภท S5 การหาความสัมพนั ธ์ระหว่าง สเปซกบั สเปซ สเปซกบั เวลา S6 การจดั กระทำและสอื่ ความหมายขอ้ มูล S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล S9 การตั้งสมมติฐาน S10 การกำหนดนยิ ามเชิงปฏบิ ัตกิ าร S11 การกำหนดและควบคุมตวั แปร S12 การทดลอง S13 การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป S14 การสร้างแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C1 การสร้างสรรค์ C2 การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ C3 การแกป้ ัญหา C4 การสอ่ื สาร C5 ความรว่ มมอื C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและ การสอื่ สาร หมายเหตุ: รหสั ทกั ษะทป่ี รากฏน้ี ใช้เฉพาะหนังสือคู่มือครูเล่มนี้ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 | หน่วยที่ 5 ส่งิ มชี ีวิต 256 แนวคิดคลาดเคล่ือน แนวคิดคลาดเคลื่อนท่ีอาจพบและแนวคดิ ที่ถกู ต้องในบทท่ี 2 ส่ิงมชี วี ิตกบั ส่งิ แวดลอ้ ม มีดังต่อไปน้ี แนวคดิ คลาดเคล่ือน แนวคดิ ทถี่ กู ต้อง โหนกของอูฐใชส้ ำหรบั กักเกบ็ นำ้ (Kubiatko and Prokop, โหนกของอูฐใชส้ ำหรบั กกั เกบ็ ไขมนั เม่ือขาดแคลนอาหารอูฐจะ 2007) ดงึ ไขมันทเี่ ก็บสะสมไว้มาใช้ (Kubiatko and Prokop, 2007) ถา้ ครพู บวา่ มีแนวคดิ คลาดเคลื่อนใดท่ยี งั ไม่ได้แกไ้ ขจากการทำกจิ กรรมการเรยี นรู้ ครูควรจัดการเรียนรู้เพิ่มเติมเพอื่ แก้ไข ต่อไปได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
257 คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 ส่ิงมีชีวิต บทนีเ้ รม่ิ ตน้ อย่างไร (1 ชั่วโมง) ในการตรวจสอบความรู้ ครู เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียนและ 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเก่ียวกับส่ิงมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยให้นักเรียน ยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ชักชวน สังเกตรปู หรือดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับส่ิงมชี ีวิตทีอ่ าศัยอยู่ในแหล่งทอ่ี ยู่ 1 แหล่ง ให้นักเรียนไปหาคำตอบด้วยตนเอง ซ่ึงมีความยาวประมาณ 2-3 นาที เช่น ในทะเลที่มีปลาขนาดเล็กและ จากการอ่านเนอ้ื เรือ่ ง ขนาดใหญ่ กุง้ ปะการัง ฯลฯ แล้วใช้คำถาม ดงั นี้ 1.1 สถานที่ในรูปน้ีคือที่ใด (นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง เช่น ในทะเล) 1.2 รูปนมี้ ีสิ่งมีชีวิตอะไรบา้ ง (นกั เรียนตอบตามท่ีสังเกตได้ เช่น ปลา กุ้ง ปะการัง ฯลฯ) 1.3 รูปนี้มีสิ่งไม่มีชีวิตอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามท่ีสังเกตได้ เช่น น้ำ ก้อนหิน ฯลฯ) 1.4 สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำมีโครงสร้างและลักษณะอย่างไรบ้าง (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ ปลามคี รบี กงุ้ มีขา) 1.5 โครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตเหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่น้ี อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ครีบปลา ช่วยให้ปลาวา่ ยนำ้ ได้) 1.6 นักเรียนคิดว่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในแหล่งที่อยู่น้ีจะมีความสัมพันธ์กัน หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น มี ความสัมพันธ์กันในด้านการกินกันเป็นอาหาร ปลาใหญ่อาจจะกิน ปลาเล็กเปน็ อาหาร) 1.7 สิ่งมีชีวิตเหล่าน้ีมีความสัมพันธ์กับส่ิงไม่มีชีวิตในแหล่งท่ีอยู่หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น มีความสัมพันธ์กัน ปลามคี วามสัมพันธ์กับนำ้ โดยใช้นำ้ เป็นท่อี ยู่อาศัย) 1.8 ถ้าแหล่งท่ีอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อการดำรงชีวิตของ ส่งิ มีชีวติ เหล่านั้นหรอื ไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง เช่น ถ้าแหล่งท่ีอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อการ ดำรงชีวิตของส่ิงมีชีวิต โดยถ้าแหล่งน้ำมีขยะหรือสารปนเป้ือน สง่ิ มีชวี ิตในแหล่งท่ีอยู่นั้นอาจจะกินขยะหรือได้รบั สารปนเปื้อนเข้าสู่ ร่างกาย ทำใหส้ งิ่ มีชีวิตตายได)้ 2. ครูให้นักเรียนอ่านช่ือบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจำบท ใน หนงั สือเรียนหนา้ 95 จากนั้นครูใชค้ ำถามเพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจดังนี้ 2.1 บทนี้จะไดเ้ รยี นเรือ่ งอะไร (สิ่งมชี วี ติ กับสิ่งแวดล้อม) ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิง่ มชี ีวิต 258 2.2 จากจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เม่ือจบบทเรยี นนกั เรียนสามารถทำอะไร ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติมสำหรับครู ได้บา้ ง (- บรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของสิ่งมีชีวิตในแหล่งทอ่ี ยู่ตา่ ง ๆ ค รู อ าจ น ำวี ดิ ทั ศ น์ เกี่ ย ว กั บ - อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งส่งิ มีชีวติ กับสิ่งมีชีวิตและส่ิงมีชีวิตกับ หม้อข้าวหม้อแกงลิงและมีแมลงตกลงไป ส่ิงไมม่ ีชวี ิตในแหลง่ ทอ่ี ยู่ ในกระเปาะ มาให้นักเรียนดูเป็นสื่อ - เขียนโซอ่ าหารและระบุบทบาทหน้าท่ขี องส่ิงมชี วี ติ ในโซ่อาหาร ประกอบการอ่านเนอ้ื เรื่อง เช่น วดี ิทศั น์ - บอกแนวทางในการดูแลรักษาส่งิ แวดล้อม) สารคดีหม้อข้าวหม้อแกงลิง (tropical pitcher plant) 3. นักเรียนอ่านชื่อบทและแนวคิดสำคัญ ในหนังสือเรียนหน้า 96 จากน้ัน ครูใช้คำถามว่า จากการอ่านแนวคิดสำคัญ นักเรียนคิดว่าจะได้เรียน หากนักเรียนไม่สามารถตอบ เกีย่ วกับเร่อื งอะไรบา้ ง คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว (- โครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตท่ีเหมาะสมกับการดำรงชีวิต คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน ในแหลง่ ทอี่ ยู่ ซง่ึ เป็นผลจากการปรับตวั คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง - ความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ิตกับส่งิ มีชวี ิต อดทน และรับฟังแนวความคิด - ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมีชวี ติ กับสง่ิ ไมม่ ีชวี ติ ของนกั เรยี น - การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีสภาพเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของ ส่ิงมชี วี ิต) 4. ครูชักชวนให้นักเรียนสังเกตรูปและอ่านเน้ือเร่ืองในหนังสือเรียนหน้า 96 โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธกี ารอ่านทีเ่ หมาะสมกับความสามารถของ นกั เรยี น จากนั้นครูใช้คำถามเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจจากการอา่ น ดังนี้ 4.1 ส่งิ มีชีวิตทีน่ ักเรยี นเหน็ ในรูปมอี ะไรบ้าง (หม้อข้าวหม้อแกงลิง หญ้า) 4.2 แหล่งที่อยู่ของพืชชนิดนี้เป็นอย่างไร (แหล่งที่อยู่ของพืชชนิดนี้เป็น ดนิ ซ่งึ ขาดธาตุอาหารบางชนิด) 4.3 พชื ชนิดน้ีมีโครงสร้างและลักษณะเป็นอย่างไร (ใบบางใบมีลักษณะเป็น รูปทรงกระบอก ภายในมกี ารสร้างนำ้ ย่อยเพื่อยอ่ ยแมลงท่ตี กลงไป) 4.4 โครงสรา้ งและลักษณะของพืชชนดิ น้เี หมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่อย่างไร (หม้อข้าวหม้อแกงลิงมีใบบางใบเป็นรูปทรงกระบอกคอยดักจับ แมลงและภายในมีการสร้างน้ำย่อยเพ่ือย่อยแมลงท่ีตกลงไป ทำให้ ได้ธาตุอาหารเพิ่มข้ึน เหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่ซึ่งเป็นดินที่ขาด ธาตุอาหารบางชนดิ ) 5. ครชู ักชวนนักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับส่ิงมีชีวิตกับส่ิงแวดล้อมในสำรวจ ความร้กู อ่ นเรยี น 6. นักเรียนทำสำรวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 86-88 โดยให้นักเรียนอ่านคำถามแต่ละข้อ ครูตรวจสอบความเข้าใจของ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
259 คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สิ่งมีชวี ิต นักเรียน จนแนใ่ จวา่ นกั เรยี นสามารถทำได้ด้วยตนเอง จึงให้นกั เรียนตอบ การเตรียมตวั ลว่ งหนา้ สำหรบั ครู คำถาม โดยคำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน และคำตอบอาจถูกหรือ เพอื่ จัดการเรียนรใู้ นครงั้ ถัดไป ผดิ ก็ได้ 7. ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนเพ่ือตรวจสอบว่านักเรียนมีแนวคิด ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้เรียน เก่ียวกับสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง หรืออาจสุ่มให้นักเรียน 2-3 เร่ืองท่ี 1 โครงสร้างและลักษณะของ คน นำเสนอคำตอบของตนเอง ครูยังไม่ต้องเฉลยคำตอบ แต่จะให้ สิ่งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่ โดยครูเตรียมส่ือ นักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกคร้ังหลังเรียนจบบทน้ีแล้ว ท้ังน้ีครูอาจ การสอน ดงั น้ี บันทึกแนวคิดคลาดเคล่ือนหรือแนวคิดท่ีน่าสนใจของนักเรียน แล้วนำมา ออกแบบการจัดการเรียนการสอนเพ่ือแก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนให้ 1. รูปส่ิงมีชีวิตหน่ึงชนิดในแหล่งท่ีอยู่ ถูกตอ้ ง และตอ่ ยอดแนวคดิ ท่นี ่าสนใจของนกั เรียน ที่ แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น โ ค ร ง ส ร้ า ง แ ล ะ ลักษณะของร่างกายสิ่งมีชีวิต เพื่อ นำนักเรียนเข้าสบู่ ทเรยี นเรอื่ งที่ 1 2. วีดิ ทั ศ น์ เรื่อ ง ม ารู้จั ก สั ต ว์ใน ป่าชายเลน https://youtu.be/BAjQi-DJQn4 เพ่ือเสริมสร้างความรู้และความ เข้ า ใ จ เกี่ ย ว กั บ โ ค ร ง ส ร้ า ง แ ล ะ ลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวติ ในป่าชายเลน ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381