Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 ล.2

(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 ล.2

Published by แชร์งานครู Teachers Sharing, 2021-01-19 11:52:10

Description: (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 ล.2
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
เล่ม 2
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

Keywords: (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 ล.2,คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์,กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560),หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

Search

Read the Text Version

คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร 110 3.4 นักเรียนคิดวากอนหินมีมวลเทาไร ใหบันทึกผลการคาดคะเน จากนนั้ ชัง่ มวลกอนหินโดยใชเคร่ืองชั่งแบบคาน 3 แขน บันทึก ผล และนําเสนอผล 4. ครูนําเขาสูกิจกรรมตอนที่ 2 โดยใหนักเรียนอานทําอยางไร จากนั้น รวมกันอภิปราย โดยใชคาํ ถามดงั นี้ 4.1 จุดประสงคของกิจกรรมตอนที่ 2 คืออะไร (สังเกตรูปรางของ ของแขง็ ) 4.2 นักเรียนคิดวา รปู รา งของกอนหินจะเปนอยางไรเม่ือครูนําไปวาง ไวในทตี่ างๆ (นกั เรยี นตอบตามความเขาใจของตนเอง) 5. หลังจากนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรม ครูใหตัวแทนนักเรียนมา รับอุปกรณแลว เรมิ่ ทาํ กิจกรรม ตามข้ันตอนดังน้ี ตอนที่ 1 -คาดคะเนมวลของกอนหิน บันทึกผล -ชง่ั มวลของกอนหิน บันทกึ ผล (S2) ตอนท่ี 2 -สงั เกตและวาดรปู กอ นหนิ บันทึกผล (S1, S5) -อภปิ รายวา หนิ ท่ีพบเปน หนิ ของกลุม ตนเองหรอื ไม (S8) (C4, C6) -นําเสนอและอภิปรายเพื่อลงขอสรุปเก่ียวกับมวลและรูปรางของ ของแขง็ (S13) (C4, C6) 6. แตละกลมุ นําเสนอสิง่ ที่คนพบ 7. ครูและนักเรยี นรว มกนั อภิปราย เพื่อลงความเหน็ เกยี่ วกับมวล และรูปรางของของแข็ง โดยครอู าจใชค ําถาม ดงั นี้ 7.1 กอนหินมีมวลหรือไม รูไดอยางไร (มีมวล เพราะเม่ือนําไปช่ัง สามารถอานคามวลได) 7.2 รูปรางของกอนหินเม่ือนําไปวางในที่ตาง ๆ เปนอยางไร (กอน หินมรี ูปรา งเหมอื นเดิม) 7.3 นักเรียนคนพบอะไรบางจากกจิ กรรมตอนที่ 1 (กอนหนิ มมี วล) 7.4 นกั เรยี นคน พบอะไรบางจากกิจกรรมตอนท่ี 2 (กอนหินมีรูปราง เหมอื นเดิม ไมเปลี่ยนแปลง) 7.5 นกั เรยี นคนพบอะไรบางจากกิจกรรมท้ัง 2 ตอน (กอนหินมีมวล และรปู รา งเหมอื นเดิม) จากนั้น ครูใหความรูเพ่ิมเติมวาการที่กอนหินมีรูปรางเหมือนเดิมไม เปลยี่ นแปลงไมวาจะอยูทีใ่ ด เรยี กวา กอนหินมีรปู รางคงที่ สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

111 คมู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 8. ครแู ละนกั เรยี นรว มกันอภิปรายและลงขอสรุปวา ของแข็งมีมวลและ การเตรียมตัวลวงหนาสาํ หรับครู มรี ูปรางคงที่ จากนัน้ ใหนักเรยี นยกตัวอยา งของแขง็ อืน่ ๆ รอบตัว เพ่อื จัดการเรยี นรใู นครงั้ ถดั ไป 9. ครูนําเขาสูกิจกรรม ตอนท่ี 3 โดยทบทวนส่ิงท่ีนักเรียนไดเรียนรู ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะไดทํากิจกรรมท่ี 1.2 เกี่ยวกับสมบัติของของแข็งในกิจกรรม ตอนที่ 1 และ 2 ซ่ึงนักเรียน ของแข็งมีปริมาตรเปนอยางไร โดยนักเรียนจะไดสังเกต ควรบอกไดวา กิจกรรมที่ผานมาไดเรียนรูวา ของแข็งมีมวลและมี เพื่ออธิบายสมบัติของของแข็งดานปริมาตร ครู รูปรางคงที่ ครูสอบถามนักเรียนตอไปวานอกจากของแข็งจะมีมวล เตรยี มการจัดกิจกรรม ดงั น้ี และรูปรางคงที่แลวของแข็งยังมีสมบัติอะไรอีก (นักเรียนตอบตาม ความเขา ใจ) 1. ครูมอบหมายใหนักเรียนเตรียมกอนหินที่มีผิว เรยี บ ไมม ีรูพรุนมากลุมละ 1 กอน โดยกอนหินที่นักเรียน 10. นักเรียนอาน ทําอยางไร ตอนท่ี 3 จากน้ันรวมกันอภิปราย โดยใช เตรยี มมาตองมีขนาดเล็กกวาเสนผานศูนยกลางของปาก คําถามดังน้ี ถวยยรู ีกา 10.1 จุดประสงคของกิจกรรมตอนที่ 3 คืออะไร (จุดประสงคของ กิจกรรมน้ี เพ่อื สงั เกตสมบัติของของแข็งเกีย่ วกับการตองการท่ีอยู) 2. เตรียมขวดน้ําท่ีมีความจุหลากหลายเพ่ือใช 10.2 กจิ กรรมน้ีใชอ ะไรเปนตัวแทนของแข็ง (กิจกรรมน้ีใชกอนหินเปน สาธิตหนาช้ันเรียนเก่ียวกับแนวคิดเร่ืองปริมาตรวาคือ ตวั แทนของแข็ง) ความจุ 10.3 นักเรียนตองทําอะไรบางในกิจกรรมน้ี (นักเรียนควรตอบดังนี้ เติมนํ้าในแกวนํ้าและทําเคร่ืองหมายขีดเพื่อบอกระดับนํ้า แลว ในเดอื นถัดไป นักเรียนจะไดเ รียนเร่ืองท่ี 1 การขึ้น คาดคะเนวาผลจะเปนอยางไร เมื่อหยอนกอนหินลงในแกวน้ํา และตกและรปู รา งของดวงจันทร ซ่งึ มีกจิ กรรมท่ี 1.1 ดวง บันทึกผล จากน้ันหยอนกอนหินลงในแกวนํ้าใบที่ 2 สังเกตและ จันทรมีการข้ึนและตกหรือไม อยางไร และกิจกรรมที่ บนั ทึกสง่ิ ทเ่ี กิดขึ้น) 1.2 ในแตละวันมองเห็นดวงจันทรมีรูปรางอยางไร ซึ่ง 10.4 ในการบันทึกการสังเกต นักเรียนทําอยางไรไดบาง (นักเรียน กิจกรรมที่ 1.2 ครูตองมีการเตรียมการจัดกิจกรรม ตอบไดหลากหลาย เชน จดบนั ทกึ หรือวาดรปู ) ลว งหนา ดังนี้ 11. หลงั จากนักเรียนเขาใจวธิ ีทาํ กจิ กรรมแลว ครูใหตัวแทนนักเรียนมารับ 3. ครูใหนักเรียนสังเกตดวงจันทรตั้งแตวันท่ีจบ อปุ กรณแลว ใหนกั เรยี นเร่มิ ทํากิจกรรม ดังน้ี กิจกรรมที่ 1.1 ของแข็งมีมวลและตองการที่อยูหรือไม และมรี ปู รางอยางไร • คาดคะเนสิ่งท่จี ะเกิดขนึ้ เมื่อหยอนกอนหนิ ลงในแกว ที่มีน้าํ 4. ครูวางแผนใหน กั เรียนสังเกตดวงจันทรในแตละ • ทาํ กจิ กรรมเพ่อื ตรวจสอบการคาดคะเน บนั ทึกผล (S1, S5, S6) วัน โดยครูใชปฏิทินจันทรคติ เพ่ือกําหนดวันที่นักเรียน ตองไปสังเกต โดยครูอาจแบงใหนักเรียนทุกกลุมสังเกต • นําเสนอและอภิปรายเพื่อลงขอสรุปเกี่ยวกับการตองการที่อยู ดวงจันทรใ นวนั ตา ง ๆ 7 วนั ซงึ่ ตอเน่อื งท้ังเดอื น เชน (S13) (C4) - ขึน้ 15 คาํ่ (เวลาประมาณ 19.30 น.) 12. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปราย เก่ียวกับการตองการท่ีอยูของ - แรม 5 คํ่า (เวลาประมาณ 7.30 น.) ของแข็ง โดยครูอาจใชคาํ ถาม ดังน้ี - แรม 10 คํา่ (เวลาประมาณ 8.00 น.) - แรม 15 คาํ่ (สงั เกตไมเห็นดวงจนั ทร) 12.1 เม่ือหยอนกอนหินลงในน้ํา สังเกตเห็นอะไรบาง (นักเรียนตอบ - ขนึ้ 5 ค่ํา (เวลาประมาณ 19.00 น.) ตามขอเท็จจริงท่ีสังเกตเห็น ซึ่งควรตอบไดวาเห็นกอนหินจมลงใต - ขึ้น 10 คํา่ (เวลาประมาณ 20.00 น.) นํ้า และระดบั นํ้าสูงขนึ้ ) - ขึ้น 15 ค่ํา ของเดือนถัดไป (เวลาประมาณ 20.00 น.)  สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดุและสสาร 112 12.2 ปริมาณน้ําในแกวกอนและหลังหยอนกอนหินลงไปเปนอยางไร (ปริมาณนํา้ เทา เดิม เพราะไมไดร นิ น้ําเพ่ิมหรือไมม นี ้ําไหลออกจากแกว) 12.3 ระดับน้ําที่สูงขึ้นเปนเพราะเหตุใด (เพราะกอนหินเขาไปแทนท่ี พน้ื ทขี่ องนํ้าทาํ ใหน ํา้ บางสวนตอ งยา ยทอี่ ยขู ึน้ มาดา นบนของแกวนา้ํ ) 12.4 จากสิ่งท่ีสังเกตเห็น กอนหินตองการที่อยูหรือไม รูไดอยางไร (กอนหินตองการท่ีอยู เพราะเมื่อหยอนกอนหินลงในน้ําระดับนํ้า จะสูงขึ้นโดยท่ีไมไดเติมนํ้าเพ่ิมเขาไป แสดงวากอนหินเขาไปแทน พน้ื ทสี่ ว นท่นี ้าํ เคยครอบครองอยู สว นน้ําเม่ือถูกกอนหินมาแทนท่ีก็ จะไปครอบครองพ้ืนที่สวนอื่นในแกวทําใหเรามองเห็นระดับน้ํา สูงขน้ึ ) *หมายเหตุ* สวนที่ขีดเสนใตไว นักเรียนอาจตอบไมได แตเพ่ือฝกทักษะ การคดิ ครูควรกระตุนใหนักเรียนคิดดวยตนเองกอน จากน้ันครูจึงอธิบาย เพิ่มเตมิ ภายหลัง 12.5 นกั เรียนคน พบอะไรบา งจากกจิ กรรมนี้ (กอ นหนิ ตอ งการท่ีอยู) 12.6 พ้ืนท่ีที่กอนหินครอบครองเทากับเทาไร (เทากับปริมาตรของ กอ นหนิ เอง ซ่งึ เทากับปริมาตรของน้ําทถ่ี ูกกอนหนิ แทนที่) 12.7 นักเรียนสรุปกิจกรรม ตอนท่ี 3 นี้ไดอยางไร (ของแข็งตองการที่ อยู) 13. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายและลงขอสรุปกิจกรรมทั้ง 3 ตอนอีก คร้ังหนึ่งวา ของแข็งมีมวลและรูปรางคงที่ไมเปล่ียนแปลงนอกจากน้ี ของแข็งยังตอ งการท่ีอยูดว ย 14. นักเรียนรวมกันอภิปรายคําตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติม คําถามในการอภิปรายเพ่อื ใหไดแนวคําตอบตามคาํ ถามทายกจิ กรรมนี้ 15. นักเรียนสรุปส่ิงที่ไดเรียนรูจากกิจกรรมน้ี จากน้ันครูใหนักเรียนอาน สง่ิ ทไ่ี ดเรียนรู และเปรยี บเทยี บกับขอสรุปของตนเอง 16. ครูชักชวนนักเรียนตอบคําถามใน นําเร่ือง วาของแข็งมีสมบัติ อะไรบา ง (มมี วล รูปรา งคงที่ ตอ งการท่อี ย)ู 17. นกั เรียนต้ังคาํ ถามใน อยากรูอีกวา ลงในแบบบันทึกกิจกรรม จากนั้น ครูสุมนกั เรยี น 2-3 คน นําเสนอคําถามของตนเองหนาช้นั เรยี น 18. ครูนําอภิปรายเพ่ือใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตรและทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในข้ันตอน ใดบา ง แลว ใหบันทึกในแบบบันทึกกจิ กรรมหนา 41 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

113 คมู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร แนวคําตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม 1. สงั เกตและอธิบายเกีย่ วกับมวลของของแข็ง 2. ใชเครือ่ งชัง่ วดั มวลของของแขง็ ขน้ึ อยูกับการคาดคะเน ข้ึนอยูกับผลการสงั เกต ข้ึนอยกู ับการทํากิจกรรม เชน มวลของกอนหนิ ท่ีคาดคะเนมีคา นอ ยกวา มวลของกอนหินท่ชี ่ังได  สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูม อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดุและสสาร 114 สงั เกตและอธบิ ายรูปรา งของของแข็ง ขึ้นอยูกับผลการสังเกต รปู รางของกอนหินไมเปลยี่ นแปลง สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

115 คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วสั ดุและสสาร สงั เกตและอธบิ ายการตอ งการที่อยูของของแขง็ ขนึ้ อยูกับการคาดคะเน ข้นึ อยกู ับผลการสงั เกต  สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร 116 แตกตางกนั มวลของกอ นหินท่คี าดคะเนมีคา นอ ยกวา มวลท่ีช่ังได มี เพราะเม่ือนําไปช่งั สามารถอานคา มวลได กอนหินมีมวล……………..กรัม (มวลทีไ่ ดขนึ้ อยกู ับ ผลการชัง่ ของนักเรียน) สี รปู ราง ขนาด รูปรางไมเปลย่ี นแปลง เมือ่ นํากอ นหินไปวางในสถานทต่ี างๆ กอ นหินยงั มรี ูปรา ง เหมอื นเดมิ สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

117 คูม ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร เหมือนกับทีค่ าดคะเนคือระดับน้าํ ในแกวจะสูงขึ้น เนื่องจากกอนหนิ เขาไปแทนทน่ี า้ํ ทาํ ใหนา้ํ ในบริเวณนนั้ เคลอ่ื นมาอยใู นบรเิ วณอน่ื ของแกว จึงทาํ ใหร ะดบั น้ําสูงขึ้น กอนหนิ เขาไปอยูแทนทนี่ ้าํ ทําใหนาํ้ ในบริเวณน้นั เคลอ่ื นมาอยูบริเวณอนื่ ของแกว ซ่ึง รูไดจ ากระดับน้ําในแกวสูงขึน้ กอนหินตองการท่อี ยู เนอื่ งจากกอนหินเขาไปอยแู ทนที่น้ํา ทําใหนา้ํ ในบริเวณน้นั เคลื่อนมาอยูบริเวณอ่ืนของแกว จึงทาํ ใหระดบั นาํ้ ในแกวสูงขึน้ เมอื่ หยอนกอนหินลงในแกว ทมี่ ีน้ํา นาํ้ ในแกว สูงขน้ึ จากระดบั เดิม เนอ่ื งจากกอ นหนิ เขาไปอยูแ ทนทนี่ ํา้ ทาํ ใหน ้าํ ในบรเิ วณน้นั เคลอ่ื นมาอยบู รเิ วณอน่ื ของแกว ของแข็งมีมวล มีรูปรา งคงท่ี และตอ งการที่อยู  สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 118 คําถามของนักเรยี นที่ต้ังตามความอยากรูของตนเอง         สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

119 คมู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วสั ดุและสสาร แนวการประเมินการเรียนรู การประเมินการเรียนรขู องนกั เรยี นทาํ ได ดงั นี้ 1. ประเมินความรเู ดิมจากการอภิปรายในชัน้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรูจ ากคาํ ตอบของนักเรยี นระหวางการจดั การเรยี นรแู ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ ละทักษะแหง ศตวรรษท่ี 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน การประเมินจากการทาํ กิจกรรมท่ี 1.1 ของแขง็ มีมวลและตอ งการทอ่ี ยูหรอื ไม และมีรปู รางอยา งไร ระดับคะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถงึ ดี รหสั ส่ิงท่ีประเมนิ คะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร S1 การสงั เกต S2 การวดั S5 การหาความสัมพันธระหวา งสเปซกบั สเปซ S6 การจดั กระทาํ และส่ือความหมายขอมลู S8 การลงความเห็นจากขอมลู S13 การตคี วามหมายขอมูลและลงขอสรปุ ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 C4 การส่อื สาร C5 ความรว มมอื รวมคะแนน  สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูม อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วสั ดุและสสาร 120 ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต ามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใชเ กณฑการประเมิน ดังนี้ ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรุง (1) S1 การสงั เกต การสังเกตสิ่งท่ี สามารถใชป ระสาทสมั ผัสเก็บ สามารถใชป ระสาทสมั ผสั ไมสามารถใชประสาท เกดิ ขึน้ เม่ือ รายละเอยี ดสง่ิ ท่ีเกิดข้ึนไดดว ย S2 การวดั - นาํ กอนหนิ ไปชงั่ ตนเองเม่ือ เกบ็ รายละเอียดสง่ิ ท่ีเกิดขึน้ สัมผสั เก็บรายละเอียดสิ่งที่ แขนของเครื่องชัง่ - นาํ กอ นหนิ ไปชั่ง แขนของ S5 การหา กระดกขน้ึ เครือ่ งชั่งกระดกขึ้น ไดด ว ยอาศัยการชแี้ นะของ เกดิ ขึ้นแมว า ครหู รือผูอ่นื ความสมั พนั ธ - นาํ กอ นหินไปวาง - กอ นหินไปวางตามทตี่ า ง ๆ ระหวา งสเปซ ตามท่ตี า ง ๆ กอ น กอ นหินมรี ูปรางเหมือนเดิม ครูหรอื ผอู ่ืนเม่ือ ชว ยแนะนําหรือชี้แนะเม่อื กบั สเปซ หนิ มรี ปู ราง - หยอ นกอ นหินลงไปในนํ้า เหมือนเดิม ระดับนา้ํ เพิ่มสงู ข้นึ - นํากอนหนิ ไปชัง่ แขน - นาํ กอนหินไปชั่ง แขนของ - หยอ นกอ นหนิ ลง ไปในนํา้ ระดบั น้าํ สามารถใชเครื่องช่ังแบบคาน 3 ของเครื่องชงั่ กระดกข้ึน เครอื่ งชั่งกระดกข้นึ เพิ่มสงู ขนึ้ แขนชงั่ มวลของหนิ อา นคามวล การใชเ ครอื่ งช่ังชั่ง และระบุหนว ยของมวลไดอ ยา ง - นํากอนหนิ ไปวางตามท่ี - นํากอนหินไปวางตามที่ มวลของกอนหนิ ถูกตองดวยตนเอง อานคามวลและ ตา ง ๆ กอนหินมรี ปู รา ง ตา ง ๆ กอ นหนิ มรี ปู ราง ระบหุ นวยทีไ่ ดจ าก สามารถระบุความสมั พันธ การชั่ง ระหวา งบริเวณทีก่ อนหนิ ไป เหมอื นเดิม เหมือนเดิม แทนท่นี า้ํ กับบรเิ วณทร่ี ะดบั นํ้า การบอก เพมิ่ สูงข้นึ ไดอยา งถูกตองดวย - หยอ นกอ นหินลงไปในนา้ํ - หยอนกอนหินลงไปใน ความสัมพนั ธ ตนเอง ระหวางที่อยูของ ระดบั นํา้ เพิ่มสงู ขน้ึ นาํ้ ระดบั นาํ้ เพ่ิมสงู ขนึ้ กอนหนิ กับทอ่ี ยู ของนํา้ เมอื่ หยอน สามารถใชเ คร่ืองช่งั แบบ ไมส ามารถใชเคร่ืองชงั่ กอ นหินลงในน้ํา คาน 3 แขนชั่งมวลของ แบบคาน 3 แขนช่งั มวล หิน อานคามวลและระบุ ของหนิ ไดถ ูกตอง และไม หนว ยของมวลไดอยา ง สามารถอานคา มวลและ ถกู ตองจากคาํ แนะนําของ ระบุหนวยของมวลได ครูหรอื ผูอืน่ แมว า ครหู รอื ผูอ่ืนชว ย แนะนาํ หรอื ช้ีแนะ สามารถระบุความสัมพนั ธ ไมสามารถระบุ ระหวา งบรเิ วณท่กี อนหิน ความสมั พันธระหวาง ไปแทนที่นํ้ากบั บริเวณท่ี บริเวณที่กอนหินไปแทนที่ ระดับน้ําเพ่มิ สงู ข้ึนได นา้ํ กับบริเวณที่ระดับน้ํา ถูกตอง โดยการชี้แนะจาก เพมิ่ สูงขน้ึ แมวา ครหู รือ ครูหรือผอู ืน่ ผอู น่ื ชวยแนะนําหรือ ชแี้ นะ สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

121 คมู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดุและสสาร ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรบั ปรงุ (1) S6 การจดั กระทํา การบนั ทกึ ผลการ นาํ เสนอขอมลู ในรปู แบบภาพวาด นาํ เสนอขอมลู ในรปู แบบ ไมส ามารถนาํ เสนอขอ มลู และส่อื ความหมาย คาดคะเนและผล ท่ีไดจากการสงั เกตรปู รา งของ ภาพวาดทไ่ี ดจ ากการสังเกต ท่ไี ดจ ากการสงั เกตรปู รา ง ขอ มูล การสังเกตรูปราง กอ นหนิ ใหผ ูอนื่ เขา ใจไดง ายและ รปู รางของกอนหนิ ไดโดย ของกอ นหินใหผูอื่นเขา ใจ ของกอนหิน ชัดเจน ดว ยตนเอง อาศยั การชี้แนะจากครูหรือ ไดแมว า ครูหรือผอู ืน่ ชวย ผูอ่ืน แนะนําหรือช้ีแนะ S8 การลง การระบุการ สามารถลงความเหน็ วากอนหิน สามารถลงความเห็นวา ไมสามารถลงความเห็นวา ความเหน็ จาก ตองการท่ีอยูของ ตอ งการท่อี ยูจากผลการ กอ นหินตองการท่ีอยจู าก กอนหินตองการทอี่ ยจู าก ขอมูล กอนหินจากผลการ เปล่ียนแปลงระดับน้าํ กอ นและ ผลการเปล่ียนแปลงระดับ ผลการเปล่ียนแปลงระดบั สงั เกตการ หลงั หยอนกอนหนิ ลงในนํ้าได นาํ้ กอนและหลังหยอนกอ น นํา้ กอนและหลงั หยอนกอ น เปล่ียนแปลงระดับ ถกู ตองดว ยตนเอง หนิ ลงในน้ําไดถูกตองโดย หนิ ลงในนา้ํ แมว า ครหู รือ นาํ้ กอ นและหลัง อาศยั การชี้แนะจากครูหรือ ผูอ่นื ชว ยแนะนาํ หรอื ช้ีแนะ หยอ นกอนหนิ ผอู ่นื S13 การ ระบุมวล รปู รางและ สามารถตีความหมายขอมลู จาก ครูหรอื ผูอ นื่ ตองชว ยแนะนํา ไมส ามารถตีความหมาย ตคี วามหมายขอมูล การตอ งการท่ีอยู การชั่งมวล การสังเกตรูปรางและ หรอื ชแี้ นะจึงจะสามารถ ขอ มูลจากจากการชั่งมวล และลงขอสรุป ของของแขง็ จาก การตอ งการท่ีอยู และลงขอสรุป ตีความหมายขอมูลจากจาก การสังเกตรูปรางและการ การชงั่ มวล การ ไดด ว ยตนเองวา ของแข็งมมี วล การชัง่ มวล การสังเกต ตองการทอี่ ยู และลง สังเกตเมื่อวางกอน รูปรางคงที่และตองการทอี่ ยู รูปรางและการตองการท่ี ขอสรุปไดดว ยตนเองวา หนิ ในท่ีตา ง ๆ และ อยู และลงขอสรุปวา ของแขง็ มีมวล รูปรา งคงท่ี การแทนทน่ี ้ําของ ของแข็งมีมวล รูปรางคงที่ และตอ งการที่อยแู มวา ครู กอ นหนิ และตองการที่อยู หรอื ผอู ่นื ชวยแนะนาํ หรือ ชแ้ี นะ S12. การทดลอง การทดลองตามท่ี สามารถดาํ เนนิ การทดลองตาม สามารถดาํ เนนิ การ ไมสามารถออกแบบการ ออกแบบไว ข้นั ตอนท่ีไดออกแบบไวไดด ว ย ทดลองตามข้นั ตอนท่ีได ทดลองหรือดําเนนิ การ ตนเองอยา งถูกตอง ออกแบบไวไ ดอยา ง ทดลองตามข้ันตอนที่ได ถกู ตองโดยอาศยั การ ออกแบบไว แมว าครหู รือ ชแี้ นะจากครหู รือผูอ่นื ผูอน่ื ชว ยแนะนําหรอื ชี้แนะ  สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร 122 ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1) S13. การ ความสัมพันธ สามารถตคี วามหมายจากการ ครหู รือผูอน่ื ตองชว ยแนะนํา ไมสามารถตคี วามหมาย ตคี วามหมายขอมูล ระหวา งการเกดิ รอย ทดลองและลงขอสรุปไดด ว ย หรอื ช้แี นะจึงจะสามารถ จากการสงั เกต และลง และการลงขอสรุป และความแขง็ ของ ตนเองวาความแข็งของวสั ดคุ ือ ตคี วามหมายจากการ ขอ สรปุ ไดดวยตนเองวา วัสดุ ความทนทานตอการขูดขดี หรือ ทดลอง และลงขอสรุปไดวา ความแข็งของวสั ดคุ ือความ ความทนทานตอการเกิดรอยเมือ่ ความแข็งของวัสดุคอื ความ ทนทานตอการขดู ขีดหรือ มแี รงมากระทํา และวัสดุ ทนทานตอการขูดขีดหรือ ความทนทานตอการเกดิ แตล ะชนิดมคี วามแข็งตา งกัน ความทนทานตอการเกิด รอยเม่ือมีแรงมากระทํา รอยเม่ือมแี รงมากระทาํ และวัสดุแตล ะชนดิ มีความ และวัสดแุ ตละชนิดมีความ แขง็ ตางกัน แขง็ ตา งกนั สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

123 คมู ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วัสดุและสสาร ตาราง แสดงการวิเคราะหท ักษะแหง ศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนักเรียน โดยอาจใชเ กณฑการประเมิน ดังน้ี ทกั ษะแหง รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1) C4 การสอื่ สาร การนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอมูลที่ สามารถนําเสนอขอมูลที่ได ไมสามารถนําเสนอขอมูลท่ี จากการสังเกตรูปราง ไดจากการทํากิจกรรม จากการทาํ กิจกรรมเก่ียวกับ ไดจากการทํากิจกรรม การตองการท่ีอยูและ เ กี่ ย ว กั บ รู ป ร า ง ก า ร รูปราง การตองการที่อยู เ ก่ี ย ว กั บ รู ป ร า ง ก า ร ก า ร ชั่ ง ม ว ล ข อ ง ตองการที่อยูและมวลของ และมวลของของแข็งใน ตองการที่อยูและมวลของ ของแขง็ ข อ ง แ ข็ ง ใ น รู ป แ บ บ ที่ รูปแบบที่ชัดเจนและเขาใจ ข อ ง แ ข็ ง ใ น รู ป แ บ บ ท่ี ชัดเจนและเขาใจงายได งายจากการช้ีแนะของครู ชัดเจนและเขาใจงายแมวา ดวยตนเอง หรือผอู น่ื ครูหรือผูอื่นชวยแนะนํา หรือชแี้ นะ C5 ความ การทํางานรวมมือ สามารถทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับ ไมสามารถทํางานรวมกับ รว มมอื กันในกลุมในการช่ัง ผูอื่นรวมท้ังยอมรับฟง ผูอื่นรว มทั้งยอมรับฟง ผูอื่นอยางสรางสรรคใน ม ว ล ก า ร สั ง เ ก ต ความคิดเห็นของผูอ่ืน ความคดิ เห็นของผูอื่นอยาง การทํากิจกรรมเก่ียวกับ รูป ร า ง แ ล ะ ก า ร อยางสรางสรรคในการ ส ร า ง ส ร ร ค ใ น ก า ร ทํ า การช่ังมวล การสังเกต ต อ ง ก า ร ท่ี อ ยู ทํากิจกรรมเก่ียวกับการ กิจกรรมเกี่ยวกับการช่ัง รูปรางและ การตองการท่ี ของแข็ง ชั่งมวล การสังเกตรูปราง มวล การสังเกตรูปรางและ อยูของแข็งต้ังแตเร่ิมตน และ การตองการท่ีอยู การตองการที่อยูของแข็ง จนเสร็จสิ้นกิจกรรมแมวา ของแข็งตั้งแตเริ่มตนจน เปนบางคร้ังท้ังนี้ตองอาศัย จะไดรับการกระตุนจาก เสร็จส้ินกิจกรรม การกระตุนจากครูหรือ ครหู รือผอู ่นื ผอู ่นื  สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร 124 กจิ กรรมที่ 1.2 ของแข็งมปี ริมาตรเปนอยา งไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดสังเกตปริมาตรของแข็งและ หาปรมิ าตรของแขง็ โดยวิธีแทนทน่ี ้ํา เวลา 1 ชว่ั โมง จดุ ประสงคก ารเรียนรู สงั เกตและอธิบายเก่ียวกบั ปริมาตรของของแข็ง วสั ดุ อปุ กรณส าํ หรับทํากจิ กรรม ส่ิงทค่ี รูตอ งเตรยี ม/กลมุ 1. ถว ยยรู กี า 1 ใบ 2. กระบอกตวงขนาด 100 ลบ.ซม. 1 ใบ 3. แกวพลาสตกิ ใส 1 ใบ 4. เชอื กฟางยาวประมาณ 30 เซนติเมตร 1 เสน สิ่งทีน่ กั เรยี นตอ งเตรียม/กลุม 1. กอนหิน 1 กอน (ขนาดเลก็ กวาปากของถว ยยูรีกา) สอ่ื การเรยี นรูและแหลงเรียนรู 2. น้าํ ประมาณ 500 ลกู บาศกเซนตเิ มตร 1. หนงั สือเรยี น ป.4 เลม 2 หนา 46-48 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.4 เลม 2 หนา 42-44 S1 การสังเกต 3. ตัวอยางวีดิทัศนปฏิบัติการวิทยาศาสตรเรื่องของแข็งมี S2 การวดั ปริมาตรเปนอยา งไร http://ipst.me/8063 S5 การหาความสมั พนั ธร ะหวางสเปซกับสเปซ S8 การลงความเห็นจากขอมูล S13 การตคี วามหมายขอมลู และลงขอ สรุป ทักษะแหง ศตวรรษที่ 21 C4 การสอ่ื สาร C5 ความรว มมือ สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

125 คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร แนวการจัดการเรยี นรู 1. นาํ เขา สกู จิ กรรม โดยครูทบทวนความรูจากกิจกรรมที่ผานมาและเชื่อมโยงสู ขอ เสนอแนะ กิจกรรมใหมเ กีย่ วกับปริมาตรของแขง็ โดยอาจใชค าํ ถามดังน้ี 1.1 ของแข็งมีสมบัติอะไรบาง (ของแข็งมีมวล รูปรา งคงที่ ในกิจกรรมตอนท่ี 2 ครูควรเตรียมวัสดุ และตอ งการทอี่ ย)ู อปุ กรณด งั น้ี 1.2 เราทําอยางไรจึงจะรูวาของแข็งมีมวล รูปรางคงท่ี และตองการท่ีอยู 1. กอนหินท่ีใชค วรมีผิวเรยี บ ไมม รี ูพรุน (เรานํากอนหินไปชั่ง พบวามีมวล เม่ือวางกอนหินตามสถานที่ตาง ๆ 2. เม่ือนํากอนหินขึ้นมาจากนํ้า ควรซับให กอนหินไมเ ปลย่ี นแปลงรปู รา งและเมอ่ื หยอ นกอ นหนิ ลงในน้ํา พบวากอน หินไปแทนที่นาํ้ แหงกอ นนําไปทาํ กิจกรรมซา้ํ อีกคร้ัง สงั เกตไดจ ากระดบั น้าํ ในแกวสูงขึน้ ท้ัง ๆ ทีไ่ มไ ดเตมิ นาํ้ ลงไปในแกวนํา้ ) 1.3 นอกจากของแข็งมีมวลและตองการที่อยูแลว นักเรียนคิดวาของแข็งมี สมบตั ิอะไรอกี บา ง (นกั เรียนตอบตามความเขา ใจ) 2. นักเรียน อา นชอื่ กจิ กรรม และ ทาํ เปน คิดเปน ครูตรวจสอบความเขาใจของ นักเรียนเกีย่ วกบั สิ่งทีจ่ ะเรียน โดยใชค ําถามดังตอไปนี้ 2.1 กจิ กรรมนน้ี ักเรียนจะไดเ รยี นเกยี่ วกับเรือ่ งอะไร (ปริมาตร ของของแข็ง) 2.2 นักเรยี นจะไดเ รยี นเรอ่ื งนี้ดว ยวธิ ีใด (เรยี นรผู านการสังเกต) 2.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (สามารถอธิบายปริมาตรของ ของแขง็ ) 3. ครูตรวจสอบความเขาใจเก่ียวกับปริมาตรโดยสอบถามวาปริมาตรคืออะไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง) ครูอธิบายเพ่ิมเติมดังน้ี ปริมาตร คือปริมาณทบ่ี ง บอกวา บริเวณท่ีวางนั้นถูกครอบครองดวยวัตถุหนึ่งมากนอย เพียงใด ความจุของวัตถุคือปริมาณที่บงบอกวาวัตถุหนึ่งสามารถจุสิ่งตาง ๆ ไดมากนอยเพียงใด จากนั้นครูใหนักเรียนดูขวดพลาสติกท่ีเตรียมมาพรอม อธิบายวา ขวดใบน้ีมีความจุ (ตามที่เตรียมไว เชน 250 cm3) หมายถึงขวด ใบน้สี ามารถจุนํา้ ไดป รมิ าตร 250 cm3 4. ครูทบทวนวิธีการหาปริมาตรของแข็งรูปทรงเรขาคณิตโดยใหนักเรียนดู แทงไมรูปทรงเรขาคณิต เชน รูปลูกบาศก แลวอภิปรายวิธีการหา ปริมาตรของรูปลูกบาศก (นักเรียนควรตอบไดวาปริมาตรรูปลูกบาศก เทากับ ความยาวของดานกวา ง × ดา นยาว × ดา นสงู )  สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูม อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วัสดุและสสาร 126 จากน้ันสุมนักเรียน 1 กลุม ออกมาสาธิตการหาปริมาตรรูป ขอ เสนอแนะเพมิ่ เติม ลกู บาศก โดยครเู ตรียมเครื่องมือวัดระยะ เชน สายวดั หรือไมบรรทัดไวใ ห 5. ครูอภิปรายเก่ียวกับวิธีหาปริมาตรของแข็งที่ไมใชรูปทรงเรขาคณิตและใช นิทานเร่ืองจบั โกหกชางทอง อ า ร คี มี เ ด ส เ ป น ค น ท่ี ค น พ บ วิ ธี ก า ร ห า อุปกรณไดแก กอนหิน แกวพลาสติกใส และถวยยูรีกา เพื่อหาปริมาตรของ ปริมาตรของวัตถุทไ่ี มเ ปนทรงเรขาคณิตดวยการ วัตถโุ ดยการแทนทน่ี ้าํ ตามแนวคาํ ถามดงั น้ี แทนที่นํ้า เลากันวาพระราชาแหงซีราคิวส ช่ือฮิ 5.1 นักเรียนคิดวากอนหินน้ีมีปริมาตรหรือไม เพราะเหตุใด (มีปริมาตร เอโร ทรงสงสัยวามงกุฎทองคําท่ีจางชางทําจะ ถกู ปลอมปนดวยโลหะชนิดอื่น จึงรับสั่งใหอารคี เพราะกอนหนิ เปน ทรง 3 มิต)ิ มีเดสหาวิธีทดสอบ อารคีมีเดสพบวามงกุฎ 5.2 นักเรียนจะหาปริมาตรกอนหิน โดยใชวิธีเดียวกับการหาปริมาตรรูป ทองคําที่ชางทําข้ึนมีมวลเทากับมวลทองคําท่ีใช จริง ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะพิสูจนได ก็คือการหา ลูกบาศกไดหรือไม เพราะเหตุใด (ไมได เพราะ กอนหินไมมีรูปทรงเปน ปริมาตรของมงกุฎ เพราะถามงกุฎถูกปลอมปน เรขาคณติ ) ดวยโลหะอ่ืน กจ็ ะตอ งมีปริมาตรไมเทากับมงกุฎ 5.3 นักเรียนจะหาปริมาตรของกอนหินไดอยางไร (นักเรียนชวยกันคิดและ ท่ีทําจากทองคําลวน ๆ แตการหาปริมาตรของ อภปิ ราย ซงึ่ อาจจะยังตอบไมได) วัตถุที่ไมไดมีรูปรางเปนทรงเรขาคณิตพ้ืนฐาน 6. ครูเลาเรื่องหรือเปดภาพเคลื่อนไหว เร่ือง จับโกหกชางทอง แลวใหนักเรียน นั้นทําไดยาก จนวันหน่ึงเม่ือเขาอาบนํ้าเขา ชวยกันสรุปวาอารคีมีเดสมีหลักการหาปริมาตรของแข็งท่ีรูปทรงไมเปน สังเกตเห็นน้ําลนจากอางเมื่อเขาหยอนตัวลงใน เรขาคณิตไดอยางไร (อารคีมีเดสมีหลักการหาปริมาตรของแข็ง คือ ปริมาตร อาง แลวในวินาทีน้ันเอง อารคีมีเดสก็คนพบสิ่ง ของแขง็ เทา กบั ปรมิ าตรของน้ําที่ถูกของแข็งแทนท)่ี ท่ีเขาครุนคิดมานานเขาออกไปท่ีถนน รอง 7. ครูแสดงการสาธิตการหาปริมาตรของกอนหินโดยหยอนกอนหินลงในแกวน้ํา ตะโกนดวยภาษากรีกวา“ยูรีกา-eureka” ซึ่งมี อนึ่งเพอ่ื ใหนักเรยี นทกุ คนไดเ หน็ การสาธิตโดยทั่วถึง ครูควรต้ังโตะสาธิตใหอยู ความหมายวา “ฉันพบแลว” หรือ “ไดตัวแลว” ในตําแหนงที่นักเรียนทุกคนสามารถมองเห็นไดชัดเจน และชุดสาธิตควรมี สิ่งที่อารคีมีเดสคนพบก็คือ ปริมาตรนํ้าท่ีลน ขนาดใหญพอ จากน้ันครูนําทบทวนความรูจากกิจกรรมที่ 1.1 ดวยคําถาม ออกมาจะเทากับปริมาตรของวัตถุที่เขาไป ดงั น้ี แทนที่ เขานาํ มงกุฎของพระราชามาหยอนในน้ํา 7.1 เพราะเหตุใดระดับน้ําจึงสูงข้ึน (นักเรียนควรตอบไดวาเพราะกอนหินไป และวัดปริมาตรน้ําท่ีลนออกมา จึงพบวาชางทํา แทนที่นํ้า ทําใหน้ําสวนท่ีถูกแทนที่เคลื่อนที่ไปครอบครองพ้ืนท่ีวางสวน มงกุฎโกงพระราชา เพราะนํ้ามีปริมาตรมากกวา อน่ื ในภาชนะใหร ะดบั น้าํ สูงขนึ้ ) ปริมาตรของมงกุฎท่ีทําจากทองคําแท (ครูอาจ 7.2 ปริมาตรของกอนหินเก่ียวของกับปริมาตรของน้ําที่ถูกแทนท่ีหรือไม เปด การตูน เรือ่ ง จบั โกหกชางทองใหน กั เรยี นดู) (นกั เรยี นอาจตอบไดตามความเขาใจ ซึ่งนักเรียนควรตอบไดวา ปริมาตร ของกอนหนิ จะเทากบั ปริมาตรของนาํ้ ท่ีถูกแทนที)่ ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา ปริมาตรของกอนหินจะเทากับปริมาตรของน้ําท่ีถูก แทนท่ี ซึ่งปริมาตรน้ําสวนน้ันจะไปครอบครองพ้ืนที่ในสวนอื่นของภาชนะ เราจึง มองเหน็ ระดบั นา้ํ สูงขึ้น ครถู ามนักเรียนตอวา 7.3 เราจะทําใหน้ําที่ถูกแทนท่ีออกมาจากภาชนะไดอยางไร (นักเรียนชวยกัน คิดและอภิปราย) สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

127 คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดุและสสาร 8. ครูนําถวยยูรกี ามาใหน ักเรียนดูพรอมทั้งสาธิตการใชถวยยูรีกาและสุมนักเรียน นักเรียนอาจไมสามารถตอบ มาแสดงวิธกี ารหาปรมิ าตรวตั ถุอ่ืนๆ คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด 9. ครเู ชอ่ื มโยงความรเู ขาสกู ารทาํ กจิ กรรมการหาปรมิ าตรของของแข็ง นักเรียน อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน อานสิ่งท่ีตองใช จากนั้นครูนําวัสดุอุปกรณมาแสดงใหนักเรียนดูทีละชนิด แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง จากน้ันนกั เรียนบันทกึ จุดประสงคของกจิ กรรมในแบบบันทึกกจิ กรรม นักเรยี น 10. นักเรียนอาน ทําอยางไร ในหนังสือเรียนหนา 46 โดยใชวิธีการอานตาม ความเหมาะสม ครูตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกับข้ันตอนการทํากิจกรรมที ละขอ ดว ยคําถามดงั ตอไปน้ี 10.1 เราจะหาปริมาตรของกอนหินไดอยางไร จะตองใชอุปกรณอะไรบาง (เราสามารถหาปริมาตรกอนหินไดโดยการแทนที่นํ้า อุปกรณท่ีตองใช คือ ถวยยรู ีกา เชอื กหรอื ดา ย แกวพลาสตกิ ใส และกระบอกตวง) 10.2 เราจะตองหาปรมิ าตรของกอ นหนิ ทั้งหมดกีค่ รั้ง (3 คร้งั ) 11. หลังจากนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมแลว ครูใหตัวแทนนักเรียนมารับ อุปกรณแ ลว ใหนักเรียนเร่ิมทาํ กิจกรรม ตามขน้ั ตอนดังนี้ -อภปิ รายและสรปุ วธิ ีหาปรมิ าตรของกอนหินโดยใชอปุ กรณทก่ี ําหนด -หาปริมาตรของกอ นหินตามวิธีการทวี่ างแผน (S1, S2, S5, S8) (C4, C5) -อภิปรายเพ่อื ลงขอสรปุ เกย่ี วกับปรมิ าตรของของแขง็ (S13) 12. แตละกลุมนําเสนอผลการทาํ กจิ กรรม 13. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยครูอาจใชคําถาม ดังนี้ 13.1 เม่ือหยอนกอนหินลงในถวยยูรีกา ปริมาตรของนํ้าท่ีลนออกมา เกยี่ วของกับปริมาตรของกอนหินหรือไม อยางไร (เกี่ยวของกัน เพราะ ปริมาตรของนํ้า ที่ลนออกมาก็คือปริมาตรของน้ําที่กอนหินไป ครอบครองพื้นที่แทน ดังนั้นปริมาตรของนํ้าที่ลนออกมาจะเทากับ ปริมาตรของกอนหนิ ) 13.2 ปริมาตรของกอนหินที่หาไดท้ัง 3 ครั้งเปนอยางไร (เทากัน แตครูอาจ พบวาบางกลุมไดปริมาตรของกอนหินไมเทากัน ครูชักชวนใหนักเรียน วิเคราะหถึงสาเหตุที่ปริมาตรของกอนหินไมเทากัน โดยสาเหตุอาจ เนื่องมาจากการทนี่ ักเรียนไมไดร อใหนํา้ หยดออกจากถวยยูรีกาจนหมด กอนท่ีจะหยอนกอนหินลงไป หรือรวมถึงเม่ือหยอนลงไปแลว ในขณะ หยอนกอนหิน อาจหยอนแรงเกินไปทําใหน้ํากระฉอก การตวง ปริมาตรครั้งท่ี 2 และ 3 หากกระบอกตวงยังเปยกก็จะทําใหปริมาตร คลาดเคลื่อนได)  สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูม อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร 128 13.3 นักเรียนคนพบอะไรบางจากกิจกรรมนี้ (กอนหินมีปรมิ าตรคงท)ี่ 13.4 จากกิจกรรมนี้ นักเรียนจะสรุปสมบัติของของแข็งเก่ียวกับปริมาตรได อยางไร (ของแข็งมีปรมิ าตรคงท่ี) 14. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายผลการทํากิจกรรมท่ี 1.1 และ 1.2 อีกคร้ัง เพื่อลงขอสรุปเกี่ยวกับสมบัติท้ังหมดของของแข็งวา ของแข็งมีมวล ตองการที่อยู รปู รางคงท่ี และปริมาตรคงท่ี 15. นักเรียนรวมกนั อภปิ รายคาํ ตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติมคําถามใน การอภปิ รายเพื่อใหไ ดแนวคาํ ตอบตามคําถามทา ยกจิ กรรมน้ี 16. นักเรียนสรุปส่ิงท่ีไดเรียนรูในกิจกรรมนี้ จากนั้นอาน ส่ิงท่ีไดเรียนรู และ เปรยี บเทยี บกบั ขอสรปุ ของตนเอง 17. นักเรียนต้ังคําถามใน อยากรูอีกวา ลงในแบบบันทึกกิจกรรม จากน้ันครู สมุ นกั เรียน 2-3 คน นําเสนอคําถามของตัวเองหนาช้นั เรยี น 18. ครูนําอภิปรายเพ่ือใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรและทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในข้ันตอนใดบางแลว ใหบันทึกในแบบบันทกึ กิจกรรมหนา 44 นักเรียนรวมกันอาน รูอะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียน หนา 49 แลวชักชวน นักเรียนอภิปรายเพ่ือนําไปสูขอสรุปเก่ียวกับส่ิงที่ไดเรียนรูในเร่ืองน้ี จากนั้น ครูกระตุนใหนักเรียนตอบคําถาม ฝุนละอองจัดอยูในสถานะใด ครูและ นักเรียนรวมกันอภิปรายแนวทางการตอบคําถาม เชน ฝุนละอองมีสถานะ เปนของแข็งเพราะมีรูปรา งและปรมิ าตรคงที่ สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

129 คูม ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร ความรูเพิ่มเติมสําหรบั ครู การหาปริมาตรของวัตถุโดยการแทนที่นา้ํ ดวยถวยยูรีกา (Water displacement can) เราไดรมู าแลววาของแข็งตองการที่อยู เม่ือหยอนของแข็งลงในน้ํา ระดับน้ําในภาชนะจะสูงขึ้น หาก หยอนของแขง็ นั้นในกระบอกตวง ระดับน้ําที่สูงข้ึนตรงกับขีดบอกปริมาตรใด เม่ือนําปริมาตรสุดทายมาลบ ดว ยปรมิ าตรเรม่ิ ตน กจ็ ะเปนปริมาตรของของแข็งท่หี ยอนลงไปนั่นเอง รปู การแทนที่นํ้าของวตั ถุ อยางไรกต็ าม การหาปริมาตรของของแข็งโดยการแทนที่นํ้า เราอาจใชอุปกรณท่ีเรียกวาถวยยูรีกา ซึ่งมีลักษณะเปนกระปองทรงกระบอกที่มีปากยื่นยาวออกมาจากตัวกระบอก การหาปริมาตรของวัตถุโดย การแทนท่นี าํ้ ดวยถว ยยูรกี า มขี ้นั ตอนดงั น้ี 1. วางถวยยูรีกาบนโตะท่ีมั่นคง นําภาชนะรองรับนํ้าวางใตปากของถวยยูรีกา จากนั้นเติมน้ําลงไปในถวย ยูรีกาจนมนี า้ํ ไหลลงสูภาชนะรองรบั 2. รอจนกระท่ังนํ้าหยดสุดทายหยดลงในภาชนะรองรับ เปล่ียนภาชนะรองรับน้ําใบใหม หรืออาจใช กระบอกตวงมารองรับน้ําไดเลย (หมายเหตุ หากเลอื กใชกระบอกตวงมารองรบั นํา้ ในขั้นการเตรียมถวยยูรีกาในขอ 1 ควรวางยูรีกาใหสูงใน ระดบั ที่พอดกี ับความสูงของกระบอกตวงทจี่ ะใชในขอ 3) 3. นาํ วตั ถุท่ตี อ งการหาปริมาตรมาผกู ดว ยเชอื ก แลวคอ ย ๆ หยอ นวัตถลุ งไปจนถึงกนถวยยูรกี า 4. รอจนกระท่ังน้ําหยดสุดทายหยดลงในภาชนะรองรับ นําไปเทลงกระบอกตวงเพื่ออานปริมาตร แตถาใช กระบอกตวงรองรบั นาํ้ ก็สามารถอานปรมิ าตรไดเ ลย  สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 130 แนวคาํ ตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม สงั เกตและอธิบายเกีย่ วกบั ปริมาตรของของแขง็ ถว ยยรู ีกา กระบอกตวง แกว พลาสตกิ ใส กอ นหนิ เชือกฟาง นํ้า ขน้ึ อยกู ับวิธีการของนักเรยี น เชน มดั กอ นหินดวยเชือกฟาง เติมน้ําลงในถวยยูรี กาจนน้ําถึงระดบั ปากถวย เติมจนน้ําลนปากถว ยเล็กนอย รอจนนํ้าหยุดไหลออก จากปากถวยนาํ ภาชนะมารองรับนาํ้ ทีป่ ากถวย หยอนกอนหินลงในถว ยยรู กี า รองนํา้ ที่ลนออกมาและนาํ ไปวัดปริมาตร ขน้ึ อยูกับผลการวดั ของนกั เรียน สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

131 คมู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร การหาปรมิ าตรของกอ นหนิ ทําโดยวธิ แี ทนท่นี ้ํา ขัน้ แรกใชเ ชือกฟางมดั กอนหนิ เตมิ น้ํา ลงในถวยยูรกี าจนนํ้าถงึ ระดับปากถวย เตมิ จนนาํ้ ลนปากถว ยเลก็ นอย รอจนน้าํ หยดุ ไหลออกจากปากถว ย นาํ ภาชนะหรือกระบอกตวงมารองที่ปากถวย หยอ นกอนหินลง ในถว ยยรู ีกา รองน้ําท่ลี นออกมาจนหยดสุดทาย วัดปริมาตรน้ํา เทา กันหรือใกลเ คียงกนั มาก เพราะเปน กอนหินกอ นเดียวกัน เราสามารถหาปริมาตรของกอนหนิ ไดดว ยวธิ กี ารแทนทีน่ า้ํ 3 คร้งั ปริมาตรกอนหิน ที่หาไดแตล ะคร้ังเทา กนั หรอื ใกลเ คยี งกนั มาก ของแข็งมีปรมิ าตรคงท่ี  สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร 132 คําถามของนักเรยี นทีต่ ้ังตามความอยากรขู องตนเอง      สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี   

133 คูมอื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร แนวการประเมินการเรียนรู การประเมินการเรยี นรูของนักเรยี นทําได ดงั นี้ 1. ประเมนิ ความรเู ดิมจากการอภปิ รายในชนั้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรียนรจู ากคําตอบของนกั เรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหง ศตวรรษที่ 21 จากการทํากจิ กรรมของนกั เรียน การประเมินจากการทาํ กจิ กรรมท่ี 1.2 ของแข็งมปี ริมาตรเปน อยางไร ระดบั คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถึง ดี รหสั สง่ิ ที่ประเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร S1 การสังเกต S2 การวัด S5 การหาความสมั พันธร ะหวา งสเปซกับสเปซ S8 การลงความเห็นจากขอมลู S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความรว มมือ รวมคะแนน  สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร 134 ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต ามระดบั ความสามารถของนักเรียน โดยอาจใชเกณฑการประเมนิ ดังน้ี ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1) S1 การสังเกต การสงั เกตระดบั สามารถใชประสาทสมั ผัสสังเกต สามารถใชป ระสาทสัมผสั ไมสามารถใชประสาท น้าํ ในกระบอกตวง และบอกระดับน้าํ ในกระบอก สงั เกตและบอกระดับนํา้ ใน สมั ผัสสงั เกตและบอก ขณะวัดปริมาตร ตวงขณะวดั ปริมาตรนาํ้ ได กระบอกตวงขณะวัด ระดับนํ้าในกระบอกตวง น้ํา ถูกตองดว ยตนเอง ปริมาตรน้ําไดถูกตองโดย ขณะวดั ปริมาตรนํา้ ได ตองอาศยั การชี้แนะจากครู แมว า ครหู รอื ผูอื่นชวย หรอื ผูอ่ืน หรือเพ่ิมเติม แนะนําหรือชี้แนะ ความคดิ เห็น S2 การวัด การวดั ปริมาตรนาํ้ สามารถใชอุปกรณการตวงวดั สามารถใชอ ุปกรณการ ไมสามารถใชอุปกรณการ S5 การหา และระบุหนว ยของ ปรมิ าตรนา้ํ และระบุหนวยของ ตวงวัดปรมิ าตรน้ําและ ตวงวัดปรมิ าตรนา้ํ และไม ความสมั พันธ ระหวางสเปซ ปรมิ าตรโดยใช ปรมิ าตรไดถกู ตองดวยตนเอง ระบหุ นวยของปริมาตรได สามารถระบุหนว ยของ กับสเปซ อปุ กรณการตวง ถกู ตองจากการแนะนาํ ปรมิ าตรได แมวาครหู รือ S8 การลง ความเหน็ จาก ของครหู รอื ผอู นื่ ผูอนื่ จะชว ยแนะนาํ หรือ ขอ มูล ช้แี นะ การบอก สามารถบอกความสัมพันธ สามารถบอกความสัมพนั ธ ไมสามารถบอก ความสัมพันธ ระหวางปริมาตรของกอนหินท่ี ระหวางปรมิ าตรของกอน ความสมั พนั ธระหวา ง ระหวา งปรมิ าตร แทนทีน่ ้าํ กบั ปริมาตรของน้ําที่ หนิ ทีแ่ ทนทีน่ ้ํากับปรมิ าตร ปริมาตรของกอนหนิ ที่ ของกอ นหนิ กบั ลน ออกมาจากถวยยรู ีกาได ของน้าํ ท่ีลน ออกมาจาก แทนทนี่ ้ํากับปริมาตรของ ปริมาตรของน้าํ ท่ี ถูกตองดวยตนเอง ถว ยยูรีกาไดถกู ตอง โดย นํ้าท่ีลน ออกมาจากถวยยูรี ลนออกมาเมื่อกอน การชแี้ นะจากครหู รอื ผูอืน่ กาไดแมวาครหู รือผูอืน่ หนิ ไปแทนทน่ี ้ํา ชวยแนะนาํ หรือช้ีแนะ การลงความเหน็ สามารถลงความเห็นจากขอมูลได สามารถลงความเห็นจาก ไมสามารถลงความเห็นจาก จากขอมูลไดว ากอน วาปรมิ าตรของกอนหินคงที่ดวย ขอ มลู ไดว าปรมิ าตรของ ขอ มูลไดว า ปริมาตรของ หินมีปรมิ าตรคงท่ี ตนเอง กอ นหนิ คงทจี่ ากการชี้แนะ กอ นหินคงทแี่ มว า ครหู รือ ของครูหรือผูอนื่ ผูอื่นชว ยแนะนําหรอื ชี้แนะ สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

135 คูมอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดแุ ละสสาร ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1) S13 การ การนาํ ขอมูลจาก สามารถตคี วามหมายขอมูลจาก สามารถตคี วามหมายขอมลู ไมสามารถตีความหมาย ตคี วามหมายขอมูล การวัดปริมาตรของ การวดั ปริมาตรกอนหนิ 3 คร้งั จากการวัดปรมิ าตรกอนหิน ขอ มูลจากการวดั ปรมิ าตร และลงขอสรปุ กอ นหนิ 3 คร้ังมาลง และลงขอสรปุ ไดด วยตนเองวา 3 ครัง้ และลงขอสรุปวา กอนหนิ 3 คร้งั และลง สรปุ วาปรมิ าตรของ ของแข็งมีปริมาตรคงท่ี ของแขง็ มีปริมาตรคงท่ีโดย ขอ สรุปวา ของแขง็ มี ของแขง็ คงที่ อาศัยการช้แี นะจากครหู รือ ปริมาตรคงท่ีแมว า ครหู รือ ผูอ่ืน ผอู ื่นจะแนะนําหรอื ชี้แนะ S13 การ ระบมุ วล รปู รางและ สามารถตคี วามหมายขอมูลจาก ครหู รอื ผอู น่ื ตองชว ยแนะนํา ไมสามารถตคี วามหมาย ตีความหมายขอมูล การตอ งการท่ีอยู การชงั่ มวล การสังเกตรูปรา งและ หรือช้ีแนะจงึ จะสามารถ ขอมูลจากจากการชั่งมวล และลงขอสรุป ของของแขง็ จาก การตอ งการที่อยู และลงขอสรปุ ตีความหมายขอมลู จากจาก การสงั เกตรูปรางและการ การชั่งมวล การ ไดด ว ยตนเองวา ของแขง็ มีมวล การช่งั มวล การสงั เกต ตอ งการทีอ่ ยู และลง สังเกตเมื่อวางกอน รูปรางคงท่ีและตองการทีอ่ ยู รปู รางและการตอ งการที่ ขอสรุปไดดว ยตนเองวา หนิ ในทีต่ า ง ๆ และ อยู และลงขอสรปุ วา ของแข็งมีมวล รูปรา งคงท่ี การแทนทน่ี ํ้าของ ของแข็งมีมวล รูปรางคงท่ี และตอ งการท่ีอยูแ มว า ครู กอ นหิน และตอ งการที่อยู หรอื ผอู ่นื ชว ยแนะนาํ หรือ ชแ้ี นะ  สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดุและสสาร 136 ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะแหง ศตวรรษท่ี 21 ตามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเกณฑก ารประเมิน ดงั นี้ ทักษะแหง รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ศตวรรษที่ 21 C4 การสอื่ สาร การนาํ เสนอขอ มูล ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1) สามารถนําเสนอขอมูลท่ีได สามารถนาํ เสนอขอมลู ทีไ่ ดจา ไมสามารถนําเสนอขอมูลท่ี จากการทํากิจกรรมเร่ือง การทํากิจกรรมเร่ืองปริมาตร ไดจากการทํากิจกรรมเรื่อง ปริมาตรของแข็งในรูปแบบ ของแข็ง ในรูปแบบท่ีชัดเจน ปริมาตรของแข็งแมวาครู ที่ชัดเจนและเขาใจงายได และเขาใจงายจากการชี้แนะ หรือผูอื่นชวยแนะนําหรือ ดวยตนเอง ของครหู รอื ผอู ่ืน ช้ีแนะ C5 ความ การทํางานรวมมือ ทํางานรว มกับผูอ่ืนรวมท้ัง ทํางานรวมกับผูอื่นรวมทั้ง ไมสามารถทํางานรวมกับ รว มมอื กนั ในกลุม ยอมรับฟงความคิดเห็น ยอมรับฟงความคิดเห็นของ ผอู ่ืนอยางสรางสรรคในการ ของผูอื่นอยางสรางสรรค ผูอ่ืนอยางสรางสรรคในการ ทํ า กิ จ ก ร ร ม เ ก่ี ย ว กั บ ใ น ก า ร ทํ า กิ จ ก ร ร ม ทาํ กจิ กรรมเก่ียวกับปริมาตร ปริมาตรของแข็ง ตั้งแต เกี่ยวกับปริมาตรของแข็ง ของแข็งเปนบางครั้งท้ังน้ี เริ่มตนจนเสร็จส้ินกิจกรรม ต้ังแตเริ่มตนจนเสร็จส้ิน ตอ งอาศัยการกระตุนจากครู แมวาจะไดรับการกระตุน กิจกรรม หรือผอู ่นื จากครูหรือผอู ่ืน สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

137 คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร เรือ่ งท่ี 2 ของเหลว ในเรื่องนี้ นักเรียนจะไดเรียนรูสมบัติของสสารใน สือ่ การเรยี นรแู ละแหลง เรียนรู สถานะของเหลว 1. หนังสือเรียน ป.4 เลม 2 หนา 50-57 จุดประสงคก ารเรียนรู 2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.4 เลม 2 หนา 45-57 1. สงั เกตและอธิบายสมบัตขิ องสสารในสถานะของเหลว 2. ใชเ ครื่องมือวัดมวลและปริมาตรของเหลว เวลา 2.5 ชวั่ โมง วัสดุ อุปกรณส ําหรับทาํ กจิ กรรม นา้ํ นา้ํ ยาลา งจาน เครอื่ งชั่งแบบคาน 3 แขน กระบอกตวง หรือถวยตวง แกวพลาสติกใส น้ําสี แบบจําลองศึกษา สมบัติของของเหลว ดนิ สอสี  สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูม ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 138 แนวการจดั การเรยี นรู (30 นาที) ขั้นตรวจสอบความรู (5 นาที) 1. ครูทบทวนความรูพื้นฐานจากกิจกรรมท่ีผานมาเกี่ยวกับสมบัติ ของแข็ง หากนักเรียนไมสามารถตอบคําถาม โดยถามทบทวนสมบัติของแข็งวามีอะไรบาง (นักเรียนควรตอบไดวา หรืออภิปรายไดตามแนวคําตอบของครู ของแขง็ มีมวล ตองการท่อี ยู รปู รางและปรมิ าตรคงที)่ ครูควรใหเวลานักเรียนคิดอยางเหมาะสม ร อ ค อ ย อ ย า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟ ง 2. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับของเหลว โดยใชคําถาม แนวความคิดของนักเรียนโดยยังไมตอง ดงั ตอไปน้ี 2.1 นักเรียนเคยไดยินคําวา “ของเหลว” มากอนหรือไม เขาใจคําน้ี บอกคาํ ตอบทีถ่ ูกตอ งแกนักเรยี น อยา งไรบา ง (นักเรียนตอบไดตามความเขา ใจของตนเอง) 2.2 นักเรียนยกตัวอยางส่ิงรอบตัวที่เปนของเหลว พรอมทั้งใหเหตุผล (นักเรียนตอบไดตามความเขา ใจของตนเอง) 2.3 สมบัติของเหลวเหมือนหรือแตกตางจากของแข็งอยางไร (นักเรียน ตอบไดตามความเขา ใจของตนเอง) ครูบันทึกคําตอบของนักเรียนเพ่ือนํากลับมาพิจารณารวมกันอีกครั้ง หลงั จากจบกิจกรรมท่ี 2.2 ขั้นฝก ทกั ษะจากการอาน (20 นาที) 3. นักเรียน อานช่ือเร่ือง และคิดกอนอาน ในหนังสือเรียนหนา 50 แลว รวมกันอภิปรายในกลุมเพื่อหาคําตอบของคําถามในคิดกอนอาน ครู บนั ทึกคําตอบของนกั เรียน เพื่อใชเปรียบเทยี บกับคําตอบหลังการอา น 4. นักเรียนอานคําใน คําสําคัญ ท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หาก นักเรยี นอานไมไดค รูควรสอนการอานใหถ กู ตอง จากน้ันนักเรียนอธิบาย ความหมายของคําตามความเขา ใจ ครูชักชวนใหนักเรียนหาความหมาย ท่ถี กู ตองจากการอา นเนื้อเรอื่ ง 5. นักเรียนอานเน้ือเรื่องในใจ ครูสอบถามเพื่อตรวจสอบความเขาใจจาก การอา นโดยใชค ําถาม ดงั น้ี 5.1 เรอ่ื งทอ่ี า นเปน เรอื่ งเกย่ี วกับอะไร (ของเหลว) 5.2 อะไรบางที่เปน ของเหลว ยกตัวอยาง (นํา้ ) 5.3 ของเหลวมีสมบัติอยางไร (ไหลจากท่ีสูงไปสูท่ีต่ํา และไหลไปอยูใน พืน้ ทวี่ างจนเต็มกน ภาชนะกอนแลวจงึ มีระดับสงู ข้นึ หยบิ ไมไ ด) สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

139 คมู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร ข้ันสรุปจากการอา น (5 นาที) การเตรียมตวั ลวงหนาสําหรบั ครู เพื่อจดั การเรียนรใู นครง้ั ถดั ไป 6. ครูชักชวนนักเรียนชวยกันสรุปเร่ืองที่อานซ่ึงควรสรุปไดวาของเหลว เชน นํา้ ไหลจากทสี่ งู ไปสูทตี่ ํ่า ไหลไปอยูจนเต็มพ้ืนท่ีที่กนภาชนะกอนจึง ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไดทํากิจกรรมท่ี คอ ยมรี ะดับสูงขึ้น หยบิ ไมได 2.1 ของเหลวมมี วลและ ตอ งการท่อี ยูหรือไม โดย นักเรียนจะตองสังเกตเพื่ออธิบายสมบัติของเหลว 7. นกั เรยี นตอบคําถามใน รูหรอื ยงั ในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หนา 45 เก่ียวกับมวลและการตองการท่ีอยู ครูเตรียมการ 8. ครูและนักเรยี นรว มกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียนใน จดั กิจกรรม ดงั นี้ 1. มอบหมายใหนักเรียนเตรียมขวดน้ําพลาสติก รหู รอื ยังกับคาํ ตอบทีเ่ คยตอบและบันทึกไวใ นคิดกอ นอาน ครูเนนยํ้าเกี่ยวกับคําถามทายเน้ือเรื่อง ดังน้ี ของเหลวมีสมบัติ ใสที่บรรจุน้าํ เกือบเต็มมากลมุ ละ 1 ขวด 2. ครูเตรียมเครือ่ งชง่ั แบบคาน 3 แขน จํานวน 2- อะไรอีกบาง เพื่อชักชวนใหนักเรียนหาคําตอบรวมกันในกิจกรรม 3 เครื่องตอหอง และตรวจสอบวาสวนตาง ๆ ตอไป ของเครื่องช่ังยังใชงานไดดี กอนนํามาใชใน การจัดกจิ กรรม 3. เตรียมน้ํายาลา งจาน 1 ขวด 4. เตรียมแกวน้ําพลาสติกใสและกระบอกตวง ให เพียงพอกับจํานวนกลุมของนักเรียน โดย นักเรียนแตละกลุมตองใชแกวพลาสติกใส 2 ใบ และกระบอกตวงขนาด 100 หรือ 125 ลูกบาศกเซนติเมตร 1 ใบ  สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 140 แนวคําตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม สมบัติของเหลวจจะไหลจากที่สงู ไปสูทต่ี ่ํา และไหลลงสดู านลางของภาชนะจน เต็มกอ นแลวขยับขนึ้ ไปในทวี่ า งดา นบนทําใหของเหลวมีระดับสูงขึน้ ของเหลว หยบิ ไมไ ด สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

141 คมู ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดุและสสาร กิจกรรมที่ 2.1 ของเหลวมีมวลและตองการท่อี ยหู รือไม กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดสังเกตสมบัติของเหลว สอ่ื การเรยี นรูและแหลงเรียนรู โดยนํานํ้าไปช่ังบนเคร่ืองช่ังและเทน้ํายาลางจานลงในแกว ทีม่ นี ํา้ เพอ่ื อธิบายมวลและการตอ งการท่ีอยขู องของเหลว 1. หนงั สือเรียน ป.4 เลม 2 หนา 51-53 เวลา 1 ช่ัวโมง 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.4 เลม 2 หนา 46–50 จดุ ประสงคการเรียนรู 3. ตวั อยางวดี ทิ ศั นป ฏิบัติการวิทยาศาสตรเ รื่องของเหลว สังเกต และอธิบายเก่ียวกับมวลและการตองการท่ีอยู มีมวลและตองการที่อยูหรือไม ของของเหลว http://ipst.me/8064 วัสดุ อปุ กรณส ําหรบั ทํากจิ กรรม ส่งิ ทคี่ รูตอ งเตรยี ม/กลมุ 1. เคร่อื งชงั่ แบบคาน 3 แขน อยางนอย 1 เครอ่ื ง 2. น้าํ ยาลา งจาน 20 ลกู บาศกเ ซนตเิ มตร 3. แกว น้ําพลาสตกิ ใส 2 ใบ 4. กระบอกตวงขนาด 100 ลูกบาศกเ ซนติเมตร 1 ใบ ส่ิงที่ครูตองเตรยี ม/กลุม 1. ขวดน้ําที่มนี ้ําเกือบเต็มขวด 1 ขวด ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร S1 การสังเกต S2 การวัด S3 การใชจ ํานวน S5 การหาความสัมพันธร ะหวางสเปซกับสเปซ S8 การลงความเหน็ จากขอมูล ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 C4 การสื่อสาร C5 ความรว มมือ  สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 142 แนวการจัดการเรียนรู 1. นําเขาสูกิจกรรม โดยครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนและเขาสู ขอ เสนอแนะ กจิ กรรมใหมเ ก่ียวกับสมบตั ิของเหลว โดยอาจใชคาํ ถามดงั นี้ 1.1 นักเรียนคิดวารอบตัวเรา มีอะไรบางที่เปนของเหลว ใหยกตัวอยาง 1. ครคู วรใชน้าํ ยาลา งจานที่มสี ี เพราะเหตุใดจึงคิดเชนนั้น (นักเรียนตอบตามความเขาใจของ 2. ครูควรใหนักเรียนทุกคนอานกิจกรรมนี้ ตนเอง ซึ่งครคู วรสอบถามเหตุผลเกีย่ วกบั ของเหลวในความคิดของ นักเรียนวา เปนอยางไร) มากอนลวงหนา เมื่อเขาเรียน ครูสุม 1.2 ของเหลวมีสมบัติอะไรบาง (นักเรยี นตอบตามความเขาใจ นักเรียนบางกลุมใหเลา โดยสรุปวา ของตนเอง) วันน้ีนักเรียนจะไดทํากิจกรรมเกี่ยวกับ 1.3 สมบัติของเหลวเหมือนหรือแตกตางจากของแข็งอยางไร (นักเรียน อะไรและทําอยา งไร ตอบตามความเขาใจของตนเอง) ครูเขียนคําตอบของนักเรียนไวบนกระดานเพ่ือยอนกลับมาดูอีกครั้ง หลังจากจบกจิ กรรมท่ี 2.1 และ 2.2 2. นกั เรยี น อา นชอื่ กิจกรรม และ ทาํ เปนคดิ เปน ครูตรวจสอบความเขาใจ ของนักเรยี นเก่ยี วกับสิ่งทจ่ี ะเรียน โดยใชค ําถามดงั ตอ ไปนี้ 2.1 กจิ กรรมน้นี กั เรยี นจะไดเรยี นเกย่ี วกับเรือ่ งอะไร (สมบัติ ของเหลวเกยี่ วกับมวลและการตองการท่ีอยู) 2.2 นกั เรยี นจะไดเรยี นเร่อื งนด้ี วยวธิ ใี ด (สังเกต) 2.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (สามารถอธิบายเกี่ยวกับมวล และการตอ งการทอี่ ยูของของเหลว) นักเรียนบันทึกจุดประสงคของกิจกรรมลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 46 และ อานสิง่ ทตี่ อ งใชใ นการทํากิจกรรม ครูยังไมแจกวัสดุอุปกรณให นักเรยี น แตนาํ อปุ กรณมาแสดงใหนักเรียนดทู ีละอยา ง 3. ครูนาํ เขาสกู จิ กรรม โดยใหนักเรียนอาน ทาํ อยา งไร ตอนที่ 1 ในหนังสือ เรียนหนา 51 โดยครูใชว ธิ ีการอา นตามความเหมาะสมกับความสามารถ ของนกั เรียน ครูตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนเกี่ยวกับข้ันตอนการ ทํากจิ กรรมทลี ะขอ โดยครูอาจใชค าํ ถาม ดังน้ี 3.1 กิจกรรมนี้ใชอะไรเปนตัวแทนเพ่ือศึกษาเกี่ยวกับมวลของเหลว (กจิ กรรมนใ้ี ชนํา้ เปน ตัวแทนของเหลว) 3.2 นักเรียนตองทําอยางไรบางในกิจกรรมตอนที่ 1 (ช่ังมวลของแกวพลาสติก บันทึกผล จากน้ันเติมน้ําลงไปครึ่งแกว แลวชั่งมวลของแกว พลาสติกทีบ่ รรจนุ าํ้ บนั ทึกผล) สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

143 คมู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดุและสสาร 3.3 กิจกรรมตอนท่ี 1 นักเรียนตองใชวัสดุอุปกรณอะไรบาง (น้ํา แกว พลาสตกิ เคร่ืองช่งั แบบคาน 3 แขน) ครูชักชวนนักเรียนรวมคิดกอนทํากิจกรรมวา นํ้าซึ่งเปนของเหลว จะมมี วลหรือไม เราจะมาทํากิจกรรมในตอนที่ 1 น้ี 4. เม่ือนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมแลว ครูใหตัวแทนนักเรียนมารับ อุปกรณและใหนักเรียนลงมอื ทํากิจกรรม ดังน้ี • ชง่ั มวลของแกว พลาสตกิ บนั ทึกผล (S1, S2) (C5) • ช่งั มวลของแกว พลาสติกบรรจุน้ํา บันทึกผล (S1, S2) (C5) • เปรยี บเทยี บมวลของแกวกอ นและหลงั เติมนํา้ บนั ทึกผล (S3) • หามวลของน้ํา (S3) • นําเสนอ อภิปรายและลงขอสรุปเก่ียวกับมวลของของเหลว (S8, S13) (C4) 5. เม่ือทุกกลุมไดผลการทํากิจกรรมแลว ใหนักเรียนเก็บวัสดุอุปกรณให เรยี บรอยและใหน กั เรียนนาํ เสนอผลการทาํ กจิ กรรม (C4) 6. ครแู ละนกั เรยี นรวมกันอภปิ รายผลการทํากจิ กรรมในประเดน็ ตอ ไปนี้ 6.1 แกวพลาสติกมีมวลเทาใด (คําตอบขึ้นอยูกับนักเรียน เชน 0.50 กรัม) 6.2 แกวพลาสตกิ ท่ีบรรจุน้ํามมี วลเทา ใด (คาํ ตอบขนึ้ อยูก บั นักเรียน เชน 51.20 กรัม) 6.3 มวลของแกวกอนบรรจุนํ้าเปรียบเทียบกับหลังบรรจุนํ้าเปนอยางไร ผลทเี่ กดิ ข้นึ เกดิ จากอะไร (มมี วลเพมิ่ ขึน้ เน่อื งจากมมี วลของนํา้ ) 6.4 นักเรยี นคนพบอะไรบา งจากกิจกรรมน้ี (น้ํามมี วล) 6.5 นักเรียนคิดวาของเหลวอ่นื มีมวลหรอื ไม (มมี วล) 7. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั อภปิ รายและลงขอ สรุปวา ของเหลวมมี วล 8. นาํ เขา สกู จิ กรรม ตอนท่ี 2 โดยครูทบทวนส่ิงท่ีนักเรียนไดเรียนรูเกี่ยวกับ สมบตั ขิ องเหลวในกจิ กรรมตอนที่ 1 คอื ของเหลวมมี วล 9. นักเรียนอาน ทําอยางไร ตอนท่ี 2 ในหนังสือเรียนหนา 51 จากนั้น รวมกนั อภปิ ราย โดยใชคาํ ถามดงั นี้ 9.1 จุดประสงคของกิจกรรมตอนท่ี 2 คืออะไร (เพ่ือสังเกตการตองการ ทอี่ ยูของของเหลว) 9.2 กิจกรรมนี้ใชวัสดุอุปกรณอะไรบาง (น้ํา น้ํายาลางจาน แกว พลาสติกใส)  สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร 144 9.3 กิจกรรมนใี้ ชอะไรเปน ตวั แทนของเหลว (กิจกรรมนี้ใชนํ้ายาลางจาน เปนตวั แทนของเหลว) 9.4 นักเรียนตองทําอะไรบางในกิจกรรมน้ี (จะตองเติมนํ้าในแกว 1 ใบ ใหสูงประมาณครึ่งแกวและทําเคร่ืองหมายบอกระดับนํ้า คาดคะเน วาจะเกิดอะไรข้ึนกับระดับน้ําในแกว เมื่อรินนํ้ายาลางจานลงไปโดย ไมคน บันทึกผล จากน้ันรินนํ้ายาลางจานลงในแกวน้ํา สังเกตและ บนั ทึกผล) 9.5 ครูและนักเรียนอภิปรายการบันทึกผลการคาดคะเนและผลการ สังเกตในแบบบันทึกกิจกรรมหนา 47 และสรุปวานักเรียนจะใช รปู แบบการบนั ทึกอยา งไร (วาดรปู และเขยี นอธิบาย) 9.6 รูปท่วี าดจะประกอบดวยอะไรบา ง (รูปแกวน้ําและมีนํ้ากับน้ํายาลาง จานอยใู นแกว ) 10. หลังจากนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมแลว ครูใหตัวแทนมารับ อุปกรณและเร่ิมทํากิจกรรม ตามขั้นตอนดังนี้ • เตมิ น้าํ ในแกวพลาสตกิ คร่งึ แกว • คาดคะเนระดับน้ําในแกวจะเปนอยางไรเม่ือเติมนํ้ายาลางจานใน แกวท่บี รรจนุ าํ้ โดยไมค น บนั ทกึ ผล (S8) • ทาํ กจิ กรรมเพอ่ื ตรวจสอบการคาดคะเน บันทกึ ผล (S1, S5) (C5) • อภิปรายและลงขอสรุปเกี่ยวกับการตองการท่ีอยูของของเหลว (S8) (C4) 11. ครูบันทึกผลการทํากิจกรรมบนกระดานโดยแตละกลุมนําเสนอสิ่งที่ คนพบ 12. ครูและนกั เรียนอภิปรายผลการทาํ กิจกรรมในประเด็นตอไปน้ี 12.1 เม่ือรินน้ํายาลางจานลงในแกวบรรจุนํ้า นักเรียนสังเกตเห็น อะไรบาง (นักเรียนตอบตามขอเท็จจริงที่สังเกตเห็น ซ่ึงควรตอบ ไดวาเห็นนา้ํ ยาลางจานจมอยูใ ตน้ํา และระดับนํ้าสูงขึ้น) 12.2 ปริมาณน้ํากอนและหลังรินนํ้ายาลางจานลงไปโดยไมคนเปน อยางไร (ปรมิ าณนํา้ เทาเดมิ เพราะไมไ ดเพ่มิ หรือลดปริมาณน้ํา) 12.3 ผลที่สังเกตไดเหมือนกับที่คาดคะเนไวหรือไม อยางไร(นักเรียน ตอบตามทคี่ าดคะเนไว) สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

145 คมู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 12.4 ระดับนํ้าท่ีสูงข้ึนเปนเพราะเหตุใด (เพราะนํ้ายาลางจานเขาไป แทนที่น้ําบริเวณกนแกว ทําใหนํ้าบางสวนตองเล่ือนระดับขึ้นมา อยดู านบน) 12.5 จากส่ิงที่สังเกตเห็น นํ้ายาลางจานตองการท่ีอยูหรือไม รูไดอยางไร (ตองการท่ีอยู เพราะเม่ือรินนํ้ายาลางจาน ลงในน้ํา ระดับนํ้าจะสูงขึ้นโดยไมไดเพิ่มปริมาณน้ํา แสดงวา นํ้ายาลางจานเขาไปแทนพื้นท่ีสวนท่ีนํ้าเคยครอบครองอยู สวน น้ํ า เ ม่ื อ ถู ก นํ้ า ย า ล า ง จ า น ม า แ ท น ที่ ก็ จ ะ เ ลื่ อ น ร ะ ดั บ ขึ้ น ไ ป ครอบครองพ้ืนท่ีสวนบนของแกว ทําใหเรามองเห็นระดับน้ํา สงู ขึ้น) 12.6 นักเรียนคนพบอะไรบางจากกิจกรรมนี้ (น้ํายาลางจานซ่ึงเปน ของเหลวตองการทอ่ี ยู) 12.7 นกั เรียนสรุปกิจกรรม ตอนนไ้ี ดอ ยางไร (ของเหลวตอ งการท่อี ยู) 13. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายและลงขอสรุปกิจกรรมท้ัง 2 ตอนอีก ครง้ั วา ของเหลวมีมวลและตองการท่อี ยู 14. นักเรียนรวมกันอภิปรายคําตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติม คาํ ถามในการอภิปรายเพื่อใหไ ดแนวคาํ ตอบตามคําถามทายกิจกรรมนี้ 15. นักเรียนสรปุ สิง่ ท่ไี ดเรียนรูในกิจกรรมนี้ จากนั้นครูใหนักเรียนอาน สิ่ง ท่ีไดเ รยี นรู และเปรียบเทยี บกับขอสรปุ ของตนเอง 16. ครูชักชวนนักเรียนตอบคําถาม เร่ืองของเหลว วาของเหลวมีสมบัติ อะไรบา ง (มมี วลและตองการที่อยู) 17. นกั เรียนต้งั คําถามใน อยากรูอีกวา ลงในแบบบันทึกกิจกรรม จากนั้น ครูสมุ นักเรยี น 2-3 คน นาํ เสนอคาํ ถามของตวั เองหนา ชนั้ เรียน ครูนําอภิปรายเพ่ือใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรและทกั ษะการเรียนรใู นศตวรรษท่ี 21 ในขั้นตอนใดบางและ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรมหนา 50  สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร 146 แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม สงั เกตและอธบิ ายมวลของของเหลว คา ทีไ่ ดข ึน้ อยกู ับผลการสังเกตของนักเรียนเชน 0.50 กรมั คา ทีไ่ ดข้ึนอยูกับผลการสังเกตของนักเรียนเชน 51.20 กรมั มวลของแกว หลงั เติมนํา้ มากกวา มวลของแกวกอ นเตมิ นํ้า หรอื มวลหลังเติมน้ํามากกวามวลกอนเตมิ นาํ้ เทา กบั 50.70 กรัม สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

147 คูม อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร  สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดุและสสาร 148 มวลของแกว หลังเติมนา้ํ มากกวามวลของแกวกอนเติมน้ํา 50.70 กรัม นํา้ มมี วล รูไดจ ากการชง่ั แกว พลาสติกบรรจนุ ้ําซงึ่ มีคา มวลมากกวา เมือ่ ช่ังแกว พลาสติกเปลา หรือนํา้ มีมวลรไู ดจากเม่ือนาํ ไปชั่ง คาํ นวณคามวลได 50.70 กรมั นํ้าท่ีอยใู นแกว มมี วล 50.70 กรัม เหมือนกบั ทค่ี าดคะเนไว คือระดบั น้าํ ในแกว จะสงู ขึ้น เคยเปนท่ีอยูของนา้ํ ตองการที่อยู เพราะเมือ่ เทนํ้ายาลางจานลงไป ระดับนํ้าสูงข้นึ แสดงวา นาํ้ ที่ถกู นํา้ ยา ลา งจานแทนทีจ่ ะเคล่อื นท่ไี ปอยบู ริเวณทสี่ งู กวาระดบั ท่ขี ีดไว ทาํ ใหร ะดบั นาํ้ สงู ขนึ้ สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

149 คมู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดุและสสาร นํ้าตอ งการท่ีอยู สงั เกตไดจ ากเมือ่ เทนา้ํ ยาลา งจานลงไปในแกว ระดับน้ําสงู ข้นึ จาก เดิม ของเหลวมีมวลและตองการที่อยู คาํ ถามของนกั เรยี นทต่ี ้ังตามความอยากรูข องตนเอง  สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คมู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร 150        สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

151 คูม ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร แนวการประเมินการเรียนรู การประเมินการเรยี นรูข องนกั เรียนทาํ ได ดงั น้ี 1. ประเมินความรเู ดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรูจ ากคาํ ตอบของนักเรยี นระหวา งการจดั การเรยี นรูและจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ ละทกั ษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทาํ กจิ กรรมท่ี 2.1 ของแขง็ มีมวลและตองการทอ่ี ยูห รือไม ระดบั คะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถงึ ดี รหสั สง่ิ ทีป่ ระเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร S1 การสังเกต S2 การวัด S3 การใชจาํ นวน S5 การหาความสัมพันธระหวา งสเปซกับสเปซ S8 การลงความเห็นจากขอมูล ทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 C4 การสอ่ื สาร C5 ความรว มมือ รวมคะแนน  สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดุและสสาร 152 ตาราง แสดงการวเิ คราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใชเ กณฑการประเมิน ดังน้ี ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรุง (1) ทางวิทยาศาสตร พอใช (2) S1. การสังเกต สิง่ ท่สี ังเกตคือ สามารถใชป ระสาทสมั ผัส สามารถใชประสาทสมั ผัสบอก ไมสามารถใชประสาท - บอกระดับน้าํ ใน บอกระดบั นา้ํ ในแกว เม่ือ ระดบั นา้ํ ในแกว เม่ือเติมนํ้ายา สมั ผสั บอกระดับน้าํ ในแกว แกวเมื่อเติม เตมิ นํ้ายาลา งจานได ลางจานไดถูกตอ งโดยตอ ง เมื่อเติมนา้ํ ยาลางจานได นํา้ ยาลา งจาน ถูกตองดว ยตนเองโดยไม อาศัยการชแ้ี นะจากครูหรือ แมวาครูหรือผูอ่นื ชวย เพม่ิ ความคดิ เห็น ผอู ื่น หรอื เพิ่มเติมความ แนะนําหรือชแ้ี นะ คดิ เห็น S2 การวัด การใชเ ครอ่ื งชัง่ สามารถใชเ คร่ืองชั่งช่งั มวล สามารถใชเ ครื่องช่ังชงั่ มวล ไมส ามารถใชเ ครื่องช่งั ช่ัง S3 การใชตวั เลข อา นคามวลและ อา นคา มวลและระบุหนว ย อา นคามวลและระบุหนวย มวล อา นคา มวลและระบุ S8 การลง ระบุหนวยของมวล ของมวลไดถูกตอ งดว ย ของมวลไดโดยอาศยั การ หนวยของมวลได แมวาครู ความเห็นจาก ขอ มูล ตนเอง ชแ้ี นะจากครูหรือผูอน่ื หรือผูอ ืน่ ชว ยแนะนาํ หรือ ชแี้ นะ การหาผลตางของ สามารถบอกมวลของนาํ้ สามารถบอกมวลของนาํ้ จาก ไมส ามารถบอกมวลของน้ํา คา มวลของแกว จากการหาผลตางของคา การหาผลตางของคามวลของ จากการหาผลตา งของคา เปลาและแกวบรรจุ มวลของแกว เปลา และแกว แกว เปลา และแกวบรรจนุ า้ํ ได มวลของแกว เปลาและแกว น้ํา บรรจนุ ํา้ ไดถูกตองดว ย ถกู ตองโดยตองอาศัยการ บรรจนุ ํ้าไดแ มวาครหู รอื ผูอ่นื ตนเอง ช้แี นะจากครูหรือผูอ ื่น ชว ยแนะนาํ หรอื ชีแ้ นะ การระบุ สามารถลงความเหน็ ไดวา สามารถลงความเห็นไดวา ไมส ามารถลงความเหน็ จาก ความสมั พันธข อง ของเหลวมมี วลและตองการ ของเหลวมีมวลและตองการที่ ขอมูลไดแ มว า ครูหรอื ผูอ่นื มวลของแกวเปลา ทีอ่ ยูจากความสัมพนั ธข อง อยูจากความสัมพันธของ ชว ยช้แี นะวาของเหลวมีมวล กับมวลของแกว ที่ นาํ้ หนักของแกว เปลากบั น้ําหนักของแกว เปลา กับแกว และตองการที่อยจู าก บรรจุนาํ้ กบั การมี แกว ท่บี รรจนุ ํา้ และ ท่บี รรจนุ ้ําและความสัมพนั ธ ความสัมพนั ธของนํา้ หนัก มวลของของเหลว ความสมั พันธของระดับน้าํ ท่ี ของระดบั น้ําทส่ี งู ขน้ึ เม่ือรนิ ของแกว เปลา กับแกว ทบ่ี รรจุ และความสัมพนั ธ สงู ข้นึ เม่อื รนิ นาํ้ ยาลา งจาน น้ํายาลางจานลงในแกว นํา้ ได น้ําและความสัมพนั ธข อง ของระดับนาํ้ ท่ีสูง ลงในแกว น้าํ ไดถูกตองดวย ถูกตองโดยอาศยั การชี้แนะ ระดับนา้ํ ทีส่ งู ขึน้ เม่ือรินนํา้ ยา ขนึ้ กบั การตอ งการที่ ตนเอง จากครหู รอื ผูอ่นื ลา งจานลงในแกว น้ํา อยูของของเหลว สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

153 คมู ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดแุ ละสสาร ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะแหงศตวรรษท่ี 21 ตามระดบั ความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใชเกณฑก ารประเมิน ดังน้ี ทกั ษะแหง รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรงุ (1) C4 การสอื่ สาร การนําเสนอขอมลู สามารถนําเสนอขอมูลท่ี สามารถนําเสนอขอมูลที่ได ไมสามารถนําเสนอขอมูล ไดจากการทํากิจกรรม จ า ก ก า ร ทํ า กิ จ ก ร ร ม ท่ีไดจากการทํากิจกรรม เกี่ยวกับมวลและการ เ กี่ ย ว กั บ ม ว ล แ ล ะ ก า ร เกี่ยว กับมว ล แล ะการ ต อ ง ก า ร ท่ี อ ยู ข อ ง ตองการที่อยูของของเหลว ต อ ง ก า ร ท่ี อ ยู ข อ ง ของเหลวในรูปแบบที่ ในรูปแบบที่ชัดเจนและ ของเหลวแมวาครูหรือ ชัดเจนและเขาใจงายได เขาใจงายจากการช้ีแนะ ผู อ่ื น ช ว ย แ น ะ นํ า ห รื อ ดวยตนเอง ของครูหรือผูอนื่ ชี้แนะ C5 ความ การทํางานรวมมือ ทํ า ง า น ร ว ม กั บ ผู อ่ื น ทํางานรวมกับผูอ่ืนรวมท้ัง ไมสามารถทํางานรวมกับ รว มมือ กันในกลมุ รวมทั้งยอมรับฟงความ ยอมรับฟงความคิดเห็น ผูอื่นอยางสรางสรรคใน คิดเห็นของผูอ่ืนอยาง ของผูอื่นอยางสรางสรรค การทํากิจกรรมเก่ียวกับ สรางสรรคในการทํา ในการทํากิจกรรมเกี่ยวกับ มวลและการตองการที่อยู กิจกรรมเกี่ยวกับมวล มวลและการตองการท่ีอยู ของของเหลวต้ังแตเร่ิมตน และการตองการท่ีอยู ของของเหลว เปนบางคร้ัง จนเสร็จส้ินกิจกรรมแมวา ของของเหล ว ต้ังแต ทั้งน้ีตองอาศัยการกระตุน จะไดรับการกระตุนจาก เ ร่ิ ม ต น จ น เ ส ร็ จ สิ้ น จากครูหรอื ผูอ ื่น ครหู รือผูอ ่นื กิจกรรม  สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยท่ี 4 วัสดุและสสาร 154 กจิ กรรมท่ี 2.2 ของเหลวมีปริมาตร รปู รา งและระดบั ผิวหนาเปนอยางไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดสังเกตปริมาตร รูปราง และระดับผิวหนาของของเหลวโดยสังเกตปริมาตรของน้ํา ในบกี เกอรแ ตละใบ สงั เกตรูปรางและระดับผิวหนาของนํ้า ในภาชนะในแบบจําลองศึกษาสมบัติของของเหลวเพ่ือ อธิบายปริมาตร รูปรางและระดบั ผวิ หนาของของเหลว เวลา 1 ชั่วโมง จุดประสงคการเรยี นรู สังเกตและอธิบายสมบัติเก่ียวกับปริมาตร รูปราง และระดบั ผิวหนาของของเหลว วสั ดุ อุปกรณสําหรับทํากจิ กรรม ส่งิ ทีค่ รตู องเตรียม/กลุม 1. บกี เกอร ขนาด 50 cm3 1 ใบ 2. แบบจาํ ลองศึกษาสมบัติของของเหลว 1 ชดุ สอ่ื การเรียนรูและแหลง เรียนรู 3. นํ้าสี ประมาณ 200 ลบ.ซม. 1. หนังสือเรยี น ป.4 เลม 2 หนา 54-56 สง่ิ ท่ีครตู องเตรียม/กลมุ 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.4 เลม 2 หนา 51-57 1. ดนิ สอสี 1 กลอง 3. ตวั อยางวีดทิ ศั นป ฏิบตั ิการวทิ ยาศาสตรเรอ่ื งของเหลว มีปริมาตร รูปรา งและระดับผิวหนา เปน อยา งไร ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร http://ipst.me/8065 S1 การสงั เกต S5 การหาความสัมพนั ธระหวางสเปซกับสเปซ S6 การจดั กระทาํ และสอื่ ความหมายขอมลู S8 การลงความเห็นจากขอมูล ทักษะแหง ศตวรรษท่ี 21 C4 การสื่อสาร C5 ความรว มมือ สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 

155 คูม อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดุและสสาร แนวการจดั การเรียนรู ขอ เสนอแนะ 1. นําเขาสูกิจกรรม ครูทบทวนความรูจากกิจกรรมท่ีผานมา เพื่อเชื่อมโยงเขาสู ครูมอบหมายใหนักเรียนทุกคนไป กิจกรรมใหมเก่ียวกับสมบัติของของเหลว โดยครูใชคําถามทบทวนความรู อานกิจกรรมน้ีมากอนลวงหนา เม่ือเขา ดงั น้ี เรียน ครูสุมนักเรียนบางกลุมใหสรุปวาว 1.1 จากกิจกรรมท่ี 2.1 นกั เรยี นไดเรียนรูวาของเหลวมีสมบัติอะไรบาง (มีมวล กิจกรรมนเี้ ก่ียวกับอะไร และทําอยางไร และตองการท่ีอยู) 1.2 นอกจากของเหลวมีมวลและตองการที่อยูแลว นักเรียนคิดวาของเหลวยัง มีสมบัตอิ ะไรอีกบา ง (นักเรียนตอบตามความเขาใจ) 2. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และ ทําเปนคิดเปน ในหนังสือเรียนหนา 54 ครู ตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนเกี่ยวกับส่ิงท่ีจะเรียน โดยใชคําถาม ดังตอไปนี้ 2.1 กิ จกรรมนี้ นั กเรี ยนจะได เรี ยนเก่ี ยว กั บเรื่ องอะไร (ปรมิ าตร รปู รา ง ระดบั ผิวหนา ของเหลว) 2.2 นักเรยี นจะไดเ รียนเรื่องนด้ี วยวธิ ใี ด (การสังเกต) 2.3 เมอ่ื เรียนแลวนกั เรียนจะทําอะไรได (สามารถอธิบายปริมาตร รูปราง และ ระดบั ผวิ หนาของเหลว) 3. นักเรียนบันทึกจุดประสงคของกิจกรรมและอาน สิ่งที่ตองใช ครูนําวัสดุ อุปกรณท่ีจะใชในกิจกรรมมาแสดงใหนักเรียนดูทีละอยาง จากน้ันอาน ทํา อยางไร ตอนที่ 1 อภปิ รายและทําความเขาใจรวมกนั โดยครใู ชค าํ ถามดงั นี้ 3.1 จุดประสงคของกิจกรรมตอนท่ี 1 คอื อะไร (เพ่ือสังเกตปริมาตรของเหลว) 3.2 กิจกรรมนีใ้ ชอะไรเปน ตวั แทนของของเหลว (กิจกรรมนี้ใชน้ําสีเปนตัวแทน ของเหลว) 3.3 ขั้นตอนการทํากิจกรรมมีอะไรบาง (เทนํ้าสีลงในบีกเกอรใบแรก อาน ปริมาตรน้ําสี คาดคะเนวาถาเทนํ้าสีจากบีกเกอรใบแรก ลงในบีกเกอรใบ ที่สอง และจากใบท่ีสองลงในใบท่ีสาม ปริมาตรน้ําสีในบีกเกอรแตละใบ จะเปนอยางไร ทํากิจกรรมตรวจสอบการคาดคะเน สังเกตและบันทึก ปรมิ าตรนํ้าสี) 4. ตัวแทนนกั เรียนมารับอุปกรณและใหน ักเรียนเรมิ่ ทํากิจกรรม ตามขั้นตอนดงั นี้ • เทน้าํ สลี งในบกี เกอร (S1) • คาดคะเนวาถาเทน้ําสีจากบีกเกอรใบแรก ลงในบีกเกอรใบท่ีสอง และ จากใบท่ีสองลงในใบที่สาม ปริมาตรนํ้าสีในบีกเกอรแตละใบจะเปน อยางไร บันทกึ ผล  สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยท่ี 4 วสั ดุและสสาร 156 • ทาํ กิจกรรมเพ่อื ตรวจสอบการคาดคะเน บนั ทึกผล (S1, S5) (C5) • อภิปรายและลงขอสรุปเกยี่ วกับปริมาตรของเหลว (S8) (C4) 5. หลงั จากทาํ กจิ กรรมแลวนกั เรียนแตล ะกลุมเก็บอุปกรณและนําเสนอผลการทํา กจิ กรรม 6. ครูและนักเรยี นอภปิ รายผลการทํากิจกรรมในประเด็นตอไปน้ี 6.1 ปริมาตรของนํ้าสีในบีกเกอรใบท่ี 1 ใบที่ 2 และใบท่ี 3 เปนอยางไร (ปรมิ าตรของนํ้าสใี นบีกเกอรแตล ะใบเทา กัน) 6.2 จากสงิ่ ท่ีคน พบ นักเรยี นลงความเห็นไดวาอยา งไร(นํ้าสีมีปริมาตรคงที่) 6.3 จากสิ่งทีค่ น พบ ของเหลวมีสมบัตอิ ยา งไร (ของเหลวมีปรมิ าตรคงท่ี) 7. ครูนําเขาสูกิจกรรมตอนท่ี 2 โดยใหนักเรียนอภิปรายวาของเหลวมีสมบัติอะไร อีกบา ง จากน้นั ใหนกั เรยี นอา นทําอยางไร ตอนที่ 2 และอภิปรายรวมกัน โดย ครอู าจใชคําถามดงั น้ี 7.1 จุดประสงคของกิจกรรมตอนที่ 2 คืออะไร (เพ่ือสังเกตรูปรางของเหลวซ่ึง ใชนํ้าสเี ปน ตัวแทนของของเหลว) 8. ตัวแทนนักเรียนมารบั อุปกรณและเริ่มทํากจิ กรรม ตามข้นั ตอนดังน้ี • สังเกตและอภิปรายลักษณะของแบบจําลองศึกษาสมบัติของของเหลว (S1) • คาดคะเนวาถารินนํ้าสีลงในแบบจําลองจนเต็มทุกภาชนะ รูปรางของนํ้า สีจะเปนอยา งไร บนั ทกึ ผล • ทํากจิ กรรมเพอื่ ตรวจสอบการคาดคะเน บนั ทกึ ผล (S1, S5) • อภปิ รายและลงขอสรุปเกย่ี วกับรูปรา งของเหลว (S8) 9. หลังจากทํากิจกรรมแลวแตละกลุมเก็บอุปกรณและนําเสนอผลการทํา กจิ กรรม 10.ครแู ละนักเรียนรว มกันอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม โดยครูอาจใชค าํ ถาม ดังน้ี 10.1 เมื่อน้ําสีอยูในภาชนะตางๆ ของแบบจําลอง น้ําสีมีรูปรางเปนอยางไร (นาํ้ สมี ีรูปรา งเปลี่ยนไปตามรูปรา งของภาชนะ) 10.2 จากสิ่งท่ีคนพบ นักเรียนลงความเห็นไดวาอยางไร (น้ําสีมีรูปรางไมคงที่ เปลยี่ นแปลงตามรปู รา งของภาชนะท่ีบรรจุ) 10.3 จากสิ่งที่คนพบ ของเหลวมีสมบัติอยางไร (ของเหลวมีรูปรางไมคงที่ เปลยี่ นแปลงตามรปู รา งของภาชนะท่บี รรจุ) สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี 

157 คมู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วัสดแุ ละสสาร 11. ครูนําเขาสูกิจกรรมตอนท่ี 3 โดยใหนักเรียนอภิปรายวาของเหลวมีปริมาตร คงท่ีแตรูปรางไมคงที่แลว ของเหลวยังมีสมบัติอะไรอีกบางจากนั้นใหนักเรียน อาน ทาํ อยา งไร ตอนที่ 3 และอภปิ รายรวมกัน โดยครอู าจใชค าํ ถามดงั นี้ 11.1 จุดประสงคของกิจกรรมตอนที่ 3 คืออะไร (เพ่ือสังเกตระดับผิวหนาของ นํ้าสีซง่ึ เปนตวั แทนของของเหลว) เพ่ือใหนักเรียนสังเกตไดอยางถูกตอง ครูควรวาดรูปแบบจําลองท่ีมีนํ้าสีบรรจุ อยูบ นกระดาน ครูนาํ อภิปรายและช้ีตําแหนงระดบั ผวิ หนาของน้ําสี 12. ตัวแทนนกั เรียนมารบั อุปกรณแ ละเรมิ่ ทาํ กิจกรรม ตามขัน้ ตอนดังนี้ • เทน้าํ สลี งในภาชนะในแบบจาํ ลองใหส งู ประมาณครึ่งหน่ึงของภาชนะ (S1) • คาดคะเนวาถาเอยี งภาชนะในลักษณะตาง ๆ ระดับผิวหนาของน้ําสีจะเปน อยางไร บันทึกผล • ทาํ กจิ กรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเน บันทกึ ผล (S1, S5) (C5) • นําเสนอ อภิปรายและลงขอสรุปเก่ียวกับระดับผิวหนาของของเหลว (S8) (C4) 13.หลังจากทํากิจกรรมแลวแตละกลุมเก็บอุปกรณและนําเสนอผลการทํา กจิ กรรม 14. ครแู ละนักเรยี นอภปิ รายผลการทาํ กจิ กรรมในประเด็นตอไปนี้ 14.1 นักเรียนสังเกตเห็นอะไรบางเมื่อเอียงแบบจําลองในลักษณะตาง ๆ (ระดับผิวหนาของนํ้าสีจะเรียบและอยูในแนวราบแนวเดียวกับขอบโตะ เสมอ) 14.2 จากส่งิ ทค่ี น พบ นกั เรยี นลงความเห็นไดวาอยางไร (ระดับผิวหนาของน้ํา สีจะเรยี บและอยูในแนวราบเสมอ) 14.3 จากสิ่งที่คนพบ ของเหลวมีสมบัติอยางไร (ระดับผิวหนาของเหลวจะ เรียบและอยใู นแนวราบเสมอ) ครูใหความรูเพิ่มเติมวา การท่ีระดับผิวหนาของของเหลวเรียบและอยูใน แนวราบเสมอไมว า เราจะเอยี งภาชนะในลักษณะใด เราเรียกสมบัติน้ีวาของเหลวมี การรกั ษาระดบั ผิวหนาใหอยูในแนวราบเสมอ 15.ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายและลงขอสรุปกิจกรรมท้ัง 3 ตอนอีกครั้งหน่ึง วา ของเหลวมีปริมาตรคงที่ รูปรางไมคงที่จะเปล่ียนแปลงตามรูปรางของ ภาชนะที่บรรจุ ผวิ หนา ของเหลวจะรักษาระดบั ใหอยูในแนวราบเสมอ 16. ครูชักชวนนกั เรยี นอภิปรายเพ่อื เปรยี บเทียบสมบัติของแข็งกับของเหลว โดย อาจใชคาํ ถามดังตอ ไปนี้  สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี

คูมือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนวยที่ 4 วสั ดุและสสาร 158 16.1 นักเรียนคิดวารอบตัวเรา มีอะไรบางที่เปนของเหลวยกตัวอยาง เพราะ เหตุใดจึงคิดเชนนั้น (นักเรียนตองยกตัวอยางได อยางนอย 3 ชนิด คือ น้ํา นํ้ายาลางจาน นํ้าสี สาเหตุที่สารท้ัง 3 ชนิดเปนของเหลว เพราะ เม่ือรินลงในภาชนะ มีปริมาตรคงท่ี รูปรางเปลี่ยนแปลงตามภาชนะที่ บรรจุ และรกั ษาระดบั ผิวหนาใหอ ยูในแนวราบเสมอ) 16.2 สมบัติของเหลวเหมือนและแตกตางจากของแข็งอยางไร (ของเหลวมี สมบตั เิ หมอื นของแข็ง คือ มีมวล ตองการที่อยู ปริมาตรคงที่ ของเหลว มีสมบัติแตกตางจากของแข็ง คือ ของเหลวมีรูปรางไมคงที่ จะ เปล่ียนแปลงตามภาชนะที่บรรจุ และมีการรักษาระดับผิวหนา ของเหลวใหอยใู นแนวราบเสมอ แตของแข็งมรี ูปรา งคงท่ี) 17.นักเรียนรวมกันอภิปรายคําตอบใน ฉันรูอะไร โดยครูอาจเพิ่มเติมคําถามใน การอภิปรายเพ่ือใหไดแนวคําตอบตามคําถามทายกิจกรรมนี้ 18.นักเรยี นสรปุ สง่ิ ที่ไดเรียนรูในกิจกรรมน้ี ดวยภาษาของตนเอง จากน้ันนักเรียน อา น ส่งิ ท่ีไดเรยี นรู และเปรยี บเทียบกับขอสรุปของตนเอง 19.ครูชักชวนนักเรียนตอบคําถามใน นําเร่ือง วาของเหลวมีสมบัติอะไรบาง (มี มวล ตองการท่ีอยู ปริมาตรคงท่ี รูปรางไมคงที่ รักษาระดับผิวหนาใหอยูใน แนวราบเสมอ) 20.นักเรียนตั้งคําถามใน อยากรูอีกวา ลงในแบบบันทึกกิจกรรม จากนั้นครูสุม นกั เรยี น 2-3 คน นาํ เสนอคําถามของตนเองหนา ชน้ั เรียน 21.ครูนําอภิปรายเพื่อใหนักเรียนทบทวนวาไดฝกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรและทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในขั้นตอนใดบางแลวให บนั ทึกในแบบบนั ทกึ กิจกรรมหนา 56 22. นักเรียนรวมกันอาน รูอะไรในเร่ืองนี้ ในหนังสือเรียน หนา 57 แลวชักชวน นักเรียนอภปิ รายเพ่อื นาํ ไปสขู อ สรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ไดเรียนรูในเรื่องนี้ จากนั้นครู กระตุน ใหนักเรียนตอบคําถามในชวงทายของเน้ือเรื่องวาเมื่อเกิดนํ้าทวมแมวา เราจะกอกําแพงกั้นรอบบาน ทําไมน้ํายังทวมบานได ครูและนักเรียนรวมกัน อภิปรายแนวทางการตอบคําถาม เชน นํ้าทวมภายในบานไดแมจะกอกําแพง ไวร อบบานเพราะนาํ้ สามารถไหลมาตามทอใตพื้นดิน เมื่อน้ําเขามาภายในบาน ถา ระดับบานตํ่ากวาระดับนํ้านอกบาน น้ําก็จะไหลจากนอกบานเขามาในบาน จนกระทั่งระดบั นาํ้ นอกบา นและในบา นเทากันเน่ืองจากน้ํารักษาระดับผิวหนา ตามแนวราบเสมอ) สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี 

159 คมู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 2 | หนว ยที่ 4 วสั ดแุ ละสสาร แนวคําตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม สงั เกตและอธิบายมวลของของเหลว ข้นึ อยกู บั ผลการสงั เกต 40 ลกู บาศก เชน 40 ลูกบาศกเ ซนตเิ มตร เซนติเมตร 40 ลกู บาศก 40 ลูกบาศก เซนติเมตร เซนติเมตร 40 ลกู บาศก เซนติเมตร  สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี