คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 354 บทนเ้ี รมิ่ ต้นอยา่ งไร (0.5 ชว่ั โมง) 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย โดย ในการตรวจสอบความรู้เดิม ชักชวนนักเรียนให้ร่วมกันสังเกตรูปนำบทในหนังสือเรียนหน้า 168- ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น 169 จากนนั้ ครูใช้คำถามดงั น้ี สำคัญ ครูยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ 1.1 ในรูปมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกตเห็น แต่ชักชวนให้หาคำตอบที่ถูกต้อง เชน่ หลอดไฟฟ้า สายไฟฟ้า ถา่ นไฟฉาย) จากกิจกรรมต่าง ๆ ในบทเรยี นนี้ 1.2 นักเรียนคิดว่าการต่อวงจรไฟฟ้าเพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ ทำได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ต่อถ่านไฟฉายกบั หลอดไฟฟา้ ) 2. นักเรียนอ่านชื่อบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจำบท ในหนังสือเรียน หน้า 169 จากนั้นครูใช้คำถามเพื่อตรวจสอบ ความเขา้ ใจ ดังนี้ 2.1 บทนี้นักเรียนจะได้เรยี นเร่ืองอะไร (วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย) 2.2 จากจุดประสงค์การเรียนรู้ประจำบท เมื่อเรียนจบบทนี้นักเรียน สามารถทำอะไรได้บ้าง (ระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าที่ของ ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า อธิบายวิธีการต่อและผลของการตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม รวมทั้งการนำความรู้ของการต่อ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมไปใช้ประโยชน์ อธิบายการต่อวงจรไฟฟ้า อย่างง่ายโดยการเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า อธิบายวิธีการและผล ของการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม แบบขนาน และการนำไปใช้) 3. นักเรียนอ่านแนวคิดสำคัญ ในหนังสือเรียน หน้า 170 จากนั้นครูใช้ คำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจดังนี้ จากการอ่านแนวคิดสำคัญ นักเรียนคิดว่าจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง (วงจรไฟฟ้า เซลล์ไฟฟ้า การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า การต่อเซลล์ไฟฟ้า การต่อ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน) 4. ครูชักชวนให้นักเรียนสังเกตรูป และอ่านเนื้อเรื่องในหนังสือเรียนหน้า 170 โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
355 คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า ความสามารถของนักเรียน จากนน้ั ครูตรวจสอบความเข้าใจในการอ่าน หากนักเรียนไม่สามารถตอบ โดยอาจใช้คำถาม ดังต่อไปนี้ คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว 4.1 มนุษย์ในอดีตดำรงชีวิตแตกต่างจากปัจจุบันอย่างไร (มนุษย์ใน คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน อดีตอาศยั แสงจากธรรมชาติ เชน่ แสงจากดวงจันทร์ หรอื อปุ กรณ์ และรับฟังแนวความคิดของ อย่างง่ายที่คิดค้นขึ้นมา เช่น ไต้ เทียนไข เพื่อให้แสงสว่างในเวลา นกั เรยี น กลางคืน ทำให้สามารถมองเหน็ ส่งิ ตา่ ง ๆ ได้ ส่วนมนุษย์ในปจั จบุ ัน ใช้แสงจากหลอดไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่าง ทำให้ชีวิตสะดวกสบาย การเตรียมตัวล่วงหนา้ สำหรบั ครู กวา่ ในอดีต) เพ่ือจดั การเรียนร้ใู นครงั้ ถัดไป 4.2 นักวิทยาศาสตร์ทำงานอย่างไรในการคิดค้นหลอดไฟฟ้าจนสำเร็จ (การทำงานของนักวิทยาศาสตร์เริ่มจากการคิด และทดลองมา ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้เรียน เป็นระยะเวลายาวนาน เมอ่ื พบปญั หากจ็ ะหาทางแกไ้ ข โดยใช้การ เรื่องที่ 1 วงจรไฟฟ้าใกล้ตัว ครูอาจ วเิ คราะหป์ ญั หา และปรับปรงุ จนประสบความสำเรจ็ ) เตรียมไฟฉายแบบต่าง ๆ ทั้งแบบหลอด 4.3 ใครเป็นผู้ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าสำเร็จเป็นคนแรก (โทมัส อัลวา ไฟฟ้าแบบมีไส้ (รูปซ้าย) และหลอด เอดสิ ัน) ไฟฟ้าแบบไม่มีไส้ (รูปขวา) มาให้ 5. ครูชักชวนนักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายในสำรวจ นักเรียนสังเกตเพื่อใช้ประกอบการ ความรกู้ ่อนเรียน อธิบายเนื้อหาของเรื่องที่อ่านในคร้ัง 6. นักเรียนทำสำรวจความรูก้ ่อนเรียน ในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หน้า 126- ถดั ไป 127 โดยนักเรียนอ่านคำถามแต่ละข้อ ครูตรวจสอบความเข้าใจของ นักเรียน จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทำได้ด้วยตนเอง จึงให้นักเรียน ตอบคำถาม ซึ่งคำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน และคำตอบอาจ ถกู หรือผิดก็ได้ 8. ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมี แนวคิดเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายอย่างไร โดยอาจสุ่มให้ นักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำตอบของตนเอง โดยครูยังไม่ต้องเฉลย คำตอบ แต่จะให้นักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกครั้งหลังจากเรียน จบบทนี้แล้ว ทั้งนี้ครูควรบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่ น่าสนใจของนกั เรยี นแล้วนำมาใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพ่ือ แก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง และต่อยอดแนวคิดทีน่ ่าสนใจของ นกั เรียนตอ่ ไป ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 356 แนวคำตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม การสำรวจความรู้ก่อนเรยี น นกั เรียนอาจตอบคำถามถูกหรือผิดก็ได้ขน้ึ อยู่กับความรู้เดิมของนักเรียน แตเ่ มื่อเรียนจบบทเรยี นแลว้ ใหน้ กั เรยี นกลบั มาตรวจสอบคำตอบอกี ครั้งและแก้ไขให้ถูกต้อง ดังตวั อยา่ ง สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
357 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 358 เรอ่ื งท่ี 1 วงจรไฟฟ้าใกล้ตัว ในเร่ืองน้ีนกั เรยี นจะไดเ้ รียนรู้เกยี่ วกับส่วนประกอบของ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย การต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย หน้าที่ของ ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย รวมทั้งความแตกต่าง ของลักษณะวงจรเปิดและวงจรปดิ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สังเกตและระบุสว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย 2. สืบค้นข้อมูลและอธิบายหน้าที่ของส่วนประกอบของ วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย 3. สืบค้นข้อมูลและอธิบายลักษณะของวงจรปิดและวงจร เปิด เวลา 2 ชั่วโมง สอ่ื การเรยี นรูแ้ ละแหล่งการเรยี นรู้ วัสดุ อปุ กรณ์สำหรบั ทำกจิ กรรม 1. หนงั สอื เรยี น ป. 6 เลม่ 2 หนา้ 173-179 ถ่านไฟฉายแบบ D หรือ AA ขนาด 1.5 โวลต์ สายไฟฟ้า 2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ป. 6 เลม่ 2 หน้า 128-133 หลอดไฟฟา้ แบบมีไส้ขนาด 1.5 โวลต์ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
359 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้า แนวการจดั การเรียนรู้ (30 นาที) ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู้ พนื้ ฐาน ครูควรให้เวลานักเรียนคิด ขนั้ ตรวจสอบความรู้ (5 นาท)ี อย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง อดทน นักเรียนต้องตอบคำถาม 1. ครูตรวจสอบความรู้พื้นฐานและความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับพลังงาน เหล่านี้ได้ถูกต้อง หากตอบไม่ได้ ไฟฟ้าที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ และตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการ หรือลืมครูต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง ตอ่ วงจรไฟฟ้าโดยครูอาจใชค้ ำถาม ดังน้ี ทันที 1.1 นาฬิกาปลุก ไฟฉาย รีโมทคอนโทรลจะทำงานได้โดยต้องอาศัยสิ่งใด (ถา่ นไฟฉาย) ในการตรวจสอบความรู้เดิม 1.2 ถ่านไฟฉายให้พลังงานใดแกเ่ คร่อื งใช้ไฟฟา้ เหล่านี้ (ให้พลังงานไฟฟา้ ) ครูเพียงรับฟังเหตผุ ลของนักเรียน 1.3 นาฬิกาปลุก ไฟฉาย รีโมทคอนโทรลมีวงจรไฟฟ้าอยู่ภายในหรือไม่ และยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น มีวงจรไฟฟ้าอยู่ภายในเป็น ชักชวนให้นักเรียนไปหาคำตอบ เสน้ โลหะเชื่อมต่อกนั ) ดว้ ยตนเองจากการอ่านเนอื้ เร่อื ง 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องการต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้ คำถามว่าวงจรไฟฟา้ เป็นอย่างไร ข้ันฝึกทกั ษะจากการอ่าน (20 นาท)ี 3. นักเรียนอ่านชื่อเรื่องและคำถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียนหน้า 173 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหาแนวคำตอบและนำเสนอ ครูบันทึกคำตอบของ นักเรยี นบนกระดานเพ่ือใชเ้ ปรียบเทยี บคำตอบหลังจากอา่ นเน้ือเรอ่ื ง 4. นักเรียนอ่านคำสำคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียนอ่าน ไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากนั้นครูชักชวนให้นักเรียนอธิบาย ความหมายของคำสำคัญตามความเขา้ ใจของตนเอง 5. นกั เรยี นอ่านเนื้อเรอื่ งในหนังสือเรยี นหน้า 173-174 โดยครูฝึกทกั ษะการอ่าน ตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน และให้นักเรียน สังเกตรูปประกอบเนื้อเรื่อง จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใชค้ ำถามดังนี้ 5.1 เมื่อไฟฟ้าดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าใดบ้างที่เรามักหยิบมาใช้เพื่อให้ ความสวา่ ง (ไฟฉาย) 5.2 ไฟฉายใช้อะไรเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า (ไฟฉายใช้ถ่านไฟฉายเป็น แหลง่ พลังงานไฟฟ้า) 5.3 นักวิทยาศาสตร์ประดิษฐ์ไฟฉายได้สำเร็จก่อนหรือหลังการประดิษฐ์ หลอดไฟฟ้าและเป็นเวลานานเท่าใด (หลังจากการประดิษฐ์หลอด ไฟฟา้ ของเอดิสันอีกประมาณ 20 ปี) ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 360 5.4 หลอดไฟฟ้าในไฟฉายในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตอย่างไรบ้าง หากนักเรียนไม่สามารถตอบ (หลอดไฟฟ้าในไฟฉายในปัจจุบันเป็นแบบไม่มีไส้ ซึ่งให้ความสว่าง คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว มากกว่า แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟฟ้าในไฟฉายในอดีตที่เป็น คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด แบบมีไส้ ซง่ึ ขาดง่าย และใหค้ วามสว่างน้อยกว่า) อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน และรับฟังแนวความคิดของ 5.5 นักเรียนคิดว่าในอนาคตหลอดไฟฟ้าในไฟฉายจะแตกต่างจากปัจจุบัน นกั เรียน หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น แตกต่างกัน ในอนาคตหลอดไฟฟ้าอาจมขี นาดเล็กลง สวา่ งมากข้นึ และใช้พลังงาน การเตรยี มตวั ลว่ งหนา้ สำหรับครู น้อยกวา่ เดมิ ) เพอ่ื จดั การเรียนรใู้ นครงั้ ถัดไป 5.6 วงจรไฟฟ้าคืออะไร (เส้นทางที่กระแสไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ ในคร้ังถดั ไป นักเรยี นจะได้ทำ ผา่ นอุปกรณไ์ ฟฟา้ ไดค้ รบรอบ) กิจกรรมท่ี 1 ต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายได้ อย่างไร ครูควรเตรยี มอุปกรณ์ เชน่ ข้นั สรปุ จากการอา่ น (5 นาท)ี สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า ให้อยใู่ นสภาพที่ พร้อมใช้งานก่อนทำกจิ กรรม 6. นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องที่อ่านซึ่งควรสรุปได้ว่าไฟฉายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างหนึ่งท่ีให้แสงสว่าง ซึ่งมีการพัฒนาจากอดีตมาถึงปัจจุบัน โดยหลอด ไฟฟ้าของไฟฉายมีการปรับปรุงให้มีความสว่างมากข้ึน แต่ใช้พลังงานไฟฟ้า น้อยลง หลอดไฟฟ้าได้จากการต่อหลอดไฟฟ้าเข้ากับวงจรไฟฟ้า โดย วงจรไฟฟ้าเป็นเส้นทางที่กระแสไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ผ่านอุปกรณ์ ไฟฟา้ ได้ครบรอบ 7. นักเรยี นตอบคำถามในร้หู รือยัง ในแบบบันทกึ กจิ กรรม หน้า 128 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคำตอบของนักเรียนใน รูห้ รือยัง กบั คำตอบท่เี คยตอบและบนั ทกึ ไว้ในคดิ ก่อนอ่าน 9. นกั เรียนอ่านคำถามท้ายเรื่องท่อี า่ นและลองตอบคำถาม ดังน้ี 9.1 ต่อวงจรไฟฟ้าที่ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้อย่างไร (นักเรียนตอบตาม ความเขา้ ใจของตนเอง) 9.2 วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความ เข้าใจของตนเอง) ครูยงั ไม่เฉลยคำตอบแต่ชักชวนให้นกั เรียนหาคำตอบจากการทำกิจกรรม สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
361 คูม่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า แนวคำตอบในแบบบนั ทกึ กิจกรรม หลอดไฟฉายพัฒนามาจากการใชห้ ลอดไฟฟ้าแบบมไี ส้ มาเป็นหลอดไฟฟา้ แบบไมม่ ไี ส้ ซึง่ ใหค้ วามสวา่ งมากกว่า แต่ใชพ้ ลงั งานไฟฟ้านอ้ ยกวา่ เสน้ ทางทก่ี ระแสไฟฟา้ เคลอ่ื นที่ผ่านอปุ กรณไ์ ฟฟ้าไดค้ รบรอบ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 362 กิจกรรมที่ 1 ตอ่ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายได้อยา่ งไร กจิ กรรมนี้นักเรียนจะได้สังเกตและระบุส่วนประกอบของ วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายซึ่งประกอบด้วยแหล่งกำเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นข้อมูลและอธิบาย หน้าที่ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายซึ่งมีหน้าท่ี แตกต่างกัน รวมถึงอธิบายลักษณะของวงจรเปิดและวงจรปิดที่ แตกตา่ งกันด้วย เวลา 1.5 ชั่วโมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. สังเกตและระบุสว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย 2. สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายหน้าทข่ี องส่วนประกอบของ วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย 3. สบื ค้นข้อมลู และอธิบายลักษณะของวงจรปดิ และวงจร เปิด วสั ดุ อุปกรณส์ ำหรับทำกจิ กรรม ส่ิงท่ีครูต้องเตรียม/กลุ่ม 1. ถา่ นไฟฉายแบบ D หรือ AA ขนาด 1.5 โวลต์ 1 กอ้ น สอื่ การเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ 2. สายไฟฟา้ 2 เส้น 1. หนังสอื เรยี น ป.6 เล่ม 2 หนา้ 175-177 2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป. 6 เลม่ 2 หน้า 129-133 3. หลอดไฟฟ้าแบบมีไส้ขนาด 2.5 โวลต์ 1 ดวง 3. ตัวอยา่ งวดี ทิ ศั นป์ ฏิบตั ิการวิทยาศาสตรส์ ำหรับครู เรื่อง ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างง่ายได้อยา่ งไร http://ipst.me/9478 S1 สงั เกต S13 การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ C4 การสอ่ื สาร C5 ความร่วมมือ C6 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
363 คูม่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า แนวการจดั การเรียนรู้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย โดยนำรูปท่ี เป็นสำคัญ และยังไม่เฉลยคำตอบ นักเรียนเลือกวิธีการต่ออุปกรณ์ที่ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างในกิจกรรมสำรวจ ใด ๆ แต่ชักชวนนักเรียนไปหา ความรู้ก่อนเรียน ข้อที่ 1 มาชักชวนให้นักเรียนร่วมกันพิจารณาว่าการต่อ คำตอบที่ถูกต้องจากกิจกรรม อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบใดที่จะทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้ จากนั้นครูชักชวน ตา่ ง ๆ ในบทเรียนน้ี นักเรียนคน้ หาคำตอบจากกจิ กรรมท่ี 1 2. นักเรียนอ่าน ชื่อกิจกรรม และ ทำเป็นคิดเป็น ในหนังสือเรียนหน้า 175 จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจุดประสงค์ในการทำ กิจกรรม โดยใชค้ ำถามดังน้ี 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า อย่างง่าย) 2.2 นักเรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งนี้ดว้ ยวิธใี ด (สังเกตและสืบคน้ ขอ้ มูล) 2.3 เมื่อเรียนจบแล้ว นักเรียนจะทำอะไรได้ (ระบุส่วนประกอบของ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย อธิบายหน้าที่ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า อย่างง่าย และอธบิ ายลกั ษณะของวงจรปิดและวงจรเปิด) 3. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 129 และ อ่าน สิ่งที่ต้องใช้ ในการทำกิจกรรม จากนั้นครูนำวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ใน กิจกรรมมาใหน้ ักเรยี นดูทลี ะอย่าง 4. นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านท่ี เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจ เก่ียวกับลำดับข้นั ตอนการทำกจิ กรรม โดยอาจใช้คำถามดงั น้ี 4.1 นกั เรยี นตอ้ งทำอย่างไรกบั อุปกรณ์ต่าง ๆ (ต่ออุปกรณ์ตา่ ง ๆ ตามรปู ) 4.2 นักเรียนต้องสังเกตและบันทึกผลสิ่งใดเมื่อต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ตาม แต่ละรปู แล้ว (สังเกตและบันทกึ ผลการทำงานของหลอดไฟฟา้ ) 4.3 เมื่อต่ออุปกรณไฟฟ้า สังเกต และบันทึกผลตามรูปทุกรูปแล้ว นักเรียน ตอ้ งร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกับเร่ืองอะไร (ลักษณะการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าท่ี ทำใหห้ ลอดไฟฟา้ สวา่ งและไมส่ ว่าง) 4.4 นักเรียนต้องสืบค้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอะไร (สืบค้นเกี่ยวกับหน้าที่ ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย และลักษณะของวงจรปิด และวงจรเปิด) ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 364 5. เมื่อนักเรียนเข้าใจขั้นตอนการทำกิจกรรมแล้ว ครูแจกอุปกรณ์ให้นักเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าตามรูป และบันทึกผล จากนั้นตัวแทนกลุ่มนำเสนอผล ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทนี่ ักเรียนจะได้ การทำกิจกรรม ฝกึ จากการทำกจิ กรรม 6. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายผลการทำกจิ กรรมโดยอาจใช้คำถามดังน้ี 6.1 ไส้หลอดไฟฟ้าทำมาจากวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ใช่หรือไม่ เพราะเหตุใด S1 การสงั เกตส่วนประกอบของ (ไส้หลอดไฟฟ้าทำจากวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ เพราะมีกระแสไฟฟ้าผ่าน วงจรไฟฟ้าและการทำงานของหลอด หลอดไฟฟ้า และทำใหห้ ลอดไฟฟ้าสวา่ ง) ไฟฟา้ เมื่อต่ออุปกรณ์ในลักษณะ 6.2 เราต้องต่อหลอดไฟฟ้าเข้ากับอะไร หลอดไฟฟ้าจึงจะสว่าง (เราต้องต่อ ต่าง ๆ หลอดไฟฟ้าเข้ากับถ่านไฟฉาย และสายไฟฟ้า จึงจะทำให้หลอดไฟฟ้า สว่างได้) C2 การคิดโดยใชเ้ หตผุ ลท่หี ลากหลาย 6.3 ขั้วของถ่านไฟฉายอยู่บริเวณใด (ขั้วของถ่านไฟฉายอยู่บริเวณปลาย เพอ่ื อธบิ ายลักษณะการต่ออปุ กรณ์ ทั้งสองด้านของถ่านไฟฉาย) ไฟฟา้ ที่ทำใหห้ ลอดไฟฟ้าสว่างหรือ ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของหลอดไฟฟ้า ไมส่ ว่าง ครูอาจวาดรูปบนกระดานประกอบการอธิบาย โดยแสดงส่วนประกอบ ภายในของหลอดไฟฟ้า ซึง่ ไดแ้ ก่ ไสห้ ลอด ที่ปลายไส้หลอดด้านหน่ึงต่อ C4 การนำเสนอขอ้ มูลจากการสืบค้นและ กับด้านล่างของหลอด ส่วนปลายไส้หลอดอีกด้านหนึ่งต่อกับด้านข้าง อภิปรายสว่ นประกอบและหน้าที่ของ ของหลอดทเ่ี ป็นแถบโลหะ ดังรปู ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ในวงจรไฟฟา้ และลกั ษณะของวงจรปดิ และวงจร 6.4 เราต้องต่อถ่านไฟฉาย สายไฟฟ้า และหลอดไฟฟ้าอย่างไรจึงจะทำให้ เปิด หลอดไฟฟ้าสว่างได้ (ในกรณีที่ใช้สายไฟฟ้า 1 เส้น เราต้องต่อปลาย ข้างหนึ่งของสายไฟฟ้าเข้ากับขั้วบวกหรือขั้วลบของถ่านไฟฉาย ส่วน C5 การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสังเกต ปลายสายไฟฟ้าอีกข้างหนึง่ ต่อเข้ากบั ดา้ นขา้ งของหลอดไฟฟ้าบริเวณท่ี เป็นแถบโลหะ จากนั้นนำดา้ นล่างของหลอดไฟฟา้ ท่ีต่ออยู่กบั สายไฟฟ้า การนำเสนอ การแสดงความคิดเห็น ไปแตะกับอีกขั้วหนึ่งของถ่านไฟฉาย ในกรณีที่ใช้สายไฟฟ้า 2 เส้น ปลายสายไฟฟ้าแต่ละเส้นต่อเข้ากับขั้วบวก และขั้วลบของถ่านไฟฉาย เกี่ยวกับส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า สว่ นปลายท่เี หลอื ของสายไฟฟ้าเสน้ หน่งึ แตะกบั แถบโลหะดา้ นข้างของ หลอดไฟฟ้า และปลายสายไฟฟ้าอีกเส้นหนึ่งแตะกับด้านล่างของ อย่างง่ายและความแตกต่างระหว่าง หลอดไฟฟ้า วงจรปิดและวงจรเปิด C6 การใช้เทคโนโลยีช่วยในการสืบค้น ข้อมูลเกีย่ วกบั หน้าท่ขี องส่วนประกอบ ของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายและลักษณะ ของวงจรไฟฟ้าแบบวงจรเปิดและ วงจรปิด สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
365 คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 6.5 การตอ่ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าแบบใดที่ทำให้หลอดไฟฟ้าไมส่ ว่าง (ไม่มสี ายไฟฟ้า หากนักเรียนไม่สามารถตอบ ต่อระหว่างถ่านไฟฉายและหลอดไฟฟ้า หรือกรณีที่มีสายไฟฟ้า คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว แต่ไม่ได้เชื่อมต่อปลายสายไฟฟ้าเข้ากับขั้วของถ่านไฟฉาย หรือไม่ได้ คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด เชอื่ มตอ่ กับแถบโลหะด้านขา้ งและดา้ นลา่ งของหลอดไฟฟา้ ) อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน และรับฟังแนวความคิดของ 6.6 การต่ออุปกรณ์แล้วทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างกับหลอดไฟฟ้าไม่สว่าง นกั เรยี น แตกต่างกันอย่างไร (หลอดไฟฟ้าสว่างได้เมื่อต่อหลอดไฟฟ้าเข้ากับ อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เชื่อมต่อกันทั้งหมด ทำให้มีเส้นทางท่ีกระแสไฟฟ้า ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมี ผ่านได้ครบรอบ สว่ นการที่หลอดไฟฟ้าไมส่ ว่างเกดิ จากสว่ นใดส่วนหนึ่ง แนวคิดคลาดเคลื่อนเก่ยี วกับการ ของวงจรขาดไป หรอื อปุ กรณต์ า่ ง ๆ ไมต่ อ่ เช่อื มกันทง้ั หมด) ต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ให้ ร่วมกันอภิปรายจนนักเรียนมี 6.7 วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายที่ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างประกอบด้วยอะไรบ้าง แนวคดิ ทถ่ี ูกตอ้ ง (ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟา้ ) 6.8 จากการสืบค้นข้อมูล ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าที่ทำให้หลอดไฟฟ้า สว่างแต่ละส่วนมีหน้าที่อย่างไร (ถ่านไฟฉายมีหน้าที่ให้พลังงานไฟฟ้า แก่หลอดไฟฟ้า สายไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง ถ่านไฟฉายกับหลอดไฟฟ้า และหลอดไฟฟ้าทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงาน ไฟฟ้าเปน็ พลังงานแสง) 6.9 ในกิจกรรมน้ี อปุ กรณ์ใดเป็นเคร่ืองใช้ไฟฟา้ เพราะเหตุใด (หลอดไฟฟ้า เพราะทำหนา้ ทเ่ี ปลยี่ นพลงั งานไฟฟา้ เป็นพลังงานอน่ื ) 6.10วงจรปิดและวงจรเปิดมีลักษณะแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แตกต่าง กัน วงจรปิดเป็นวงจรท่ีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่อเชื่อมกันทั้งหมด ทำให้มี กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ในวงจร หลอดไฟฟ้าหรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าจึงทำงานได้ ส่วนวงจรเปิดเป็นวงจรท่ีอุปกรณ์ไฟฟ้า ไมต่ อ่ เช่อื มกัน ทำให้ไม่มมี ีกระแสไฟฟ้าเคล่ือนท่ีผา่ นอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ใน วงจร หลอดไฟฟ้าหรอื เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ จงึ ไม่ทำงาน) 7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการต่อ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย จากนั้นร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าวงจรไฟฟ้า อย่างง่ายมีส่วนประกอบคือ แหล่งกำเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และ เครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนประกอบแต่ละอย่างทำหน้าที่แตกต่างกัน ลักษณะ การต่อวงจรไฟฟ้าแบบวงจรปดิ และวงจรเปิดแตกตา่ งกัน (S13) 8. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคำถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ คำถามเพ่มิ เติมเพอ่ื ใหไ้ ดแ้ นวคำตอบท่ีถูกตอ้ ง 9. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี้ จากนั้นนักเรียนอ่าน สิง่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ และเปรยี บเทียบกบั ข้อสรปุ ของตนเอง ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 366 10.ครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนฝึกตั้งคำถามเกย่ี วกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้เพ่ิมเติม การเตรยี มตวั ลว่ งหนา้ สำหรับครู ใน อยากรู้อีกว่า ครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำถามของตนเอง เพอ่ื จดั การเรียนรู้ในครัง้ ถัดไป หน้าชนั้ เรียน จากน้ันรว่ มกนั อภปิ รายเก่ียวกบั คำถามที่เพื่อนนำเสนอ ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้อ่าน 11.ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง เรื่องที่ 2 การต่อเซลล์ไฟฟ้า ซึ่งจะ วิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในข้ันตอนใด อธิบายเกี่ยวกับลักษณะของถ่านไฟฉาย แต่ละแบบ ครูควรเตรียมถ่านไฟฉาย 12.นักเรียนอ่านเกร็ดน่ารู้หนา้ 178 จากนั้นร่วมกันอภปิ รายเก่ียวกับปลาไหล แบบต่าง ๆ ทั้งถ่านไฟฉายแบบ D ไฟฟ้าซึ่งเป็นสัตว์ท่ีสามารถเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าได้ ดังนั้นการเข้าใกล้ AA AAA ข น า ด 2. 5 โ ว ล ต ์ แ ล ะ ปลาไหลไฟฟา้ จงึ อาจเกดิ อนั ตรายได้ ถ่านไฟฉายแบบทรงเหล่ียม ขนาด 9 โวลต์ และถ่านไฟฉายแบบกระดุม 13.นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเรื่องนี้ ในหนังสือเรียนหน้า 179 ครูนำ เพื่อให้นักเรียนสังเกตประกอบการอ่าน อภิปรายเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ในเรื่องนี้ จากนั้นครู เร่ือง กระตุ้นให้นักเรียนตอบคำถามในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องดงั น้ี ถ้าต้องการต่อ หลอดไฟฟ้าให้มีความสว่างมากกวา่ เดิมจะต้องทำอย่างไร นกั เรียนร่วมกัน อภิปรายและตอบคำถาม ซึ่งครูควรเน้นให้นักเรียนตอบคำถามพร้อม อธิบายเหตุผลประกอบ และชักชวนให้นักเรียนไปหาคำตอบร่วมกันจาก การเรียนเรอ่ื งตอ่ ไป สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
367 คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า แนวคำตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม 1.สงั เกตและระบสุ ่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย 2. สืบค้นข้อมลู และอธบิ ายหนา้ ท่ีของส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย 3. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายลักษณะของวงจรปิดและวงจรเปดิ หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง หลอดไฟฟา้ สวา่ ง ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 368 หลอดไฟฟา้ ไม่สว่าง หลอดไฟฟา้ ไม่สว่าง หลอดไฟฟ้าไม่สวา่ ง หลอดไฟฟา้ สวา่ ง หลอดไฟฟา้ ไม่สว่าง สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
369 คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ ถา่ นไฟฉาย ให้พลังงานไฟฟ้าและกระแสไฟฟา้ แกห่ ลอด สายไฟฟา้ ไฟฟา้ หลอดไฟฟ้า เชื่อมต่อระหว่างถ่านไฟฉายกับหลอดไฟฟ้า เปล่ยี นพลังงานไฟฟ้าจากถ่านไฟฉายให้ เปน็ พลงั งานแสง สว่ นประกอบต่าง ๆ ในวงจรไฟฟ้าท้ังถ่านไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟา้ เช่ือมต่อกันทงั้ หมด โดยกระแสไฟฟ้าสามารถเคล่อื นท่ีผ่านอปุ กรณ์ไฟฟา้ ได้ครบ วงจร หลอดไฟฟ้าจงึ สวา่ ง ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ในวงจรไฟฟ้าทง้ั ถ่านไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟา้ ไมเ่ ชือ่ มต่อกันทั้งหมด ทำให้ไม่มกี ระแสไฟฟ้าผา่ นอุปกรณไ์ ฟฟา้ หลอดไฟฟา้ จึง ไมส่ วา่ ง ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า 370 ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟา้ ถา่ นไฟฉายเป็นแหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้าทใ่ี ห้พลงั งานไฟฟ้า โดยมีสายไฟฟา้ ทำหน้าทเี่ ปน็ เส้นทางเชื่อมให้ กระแสไฟฟา้ ผ่านไปในวงจรไฟฟ้า ทำใหห้ ลอดไฟฟา้ หรอื เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าอน่ื เปลีย่ นพลังงานไฟฟา้ เป็น พลังงานอน่ื ได้ แตกตา่ งกนั คือวงจรไฟฟ้าทีท่ ำให้หลอดไฟฟ้าสวา่ งได้ต้องมีส่วนประกอบหรอื มเี สน้ ทางให้ กระแสไฟฟา้ เคลื่อนทผ่ี า่ นอุปกรณ์ไฟฟา้ ได้ครบรอบ สว่ นวงจรไฟฟา้ ที่ทำให้หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง เป็นวงจรทมี่ สี ว่ นใดสว่ นหนง่ึ ขาดไป หรอื ไมเ่ ช่ือมตอ่ กัน ทำใหไ้ ม่มีกระแสไฟฟ้าในวงจร แตกตา่ งกัน คอื การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบวงจรปิดหรือการตอ่ แบบที่สว่ นประกอบตา่ ง ๆ เชือ่ มตอ่ กนั ท้ังหมดจะมี กระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ทำใหห้ ลอดไฟฟ้าสวา่ งได้ ส่วนการต่อวงจรไฟฟ้าแบบวงจรเปิดหรือการต่อแบบที่ สว่ นประกอบต่าง ๆ ไมเ่ ชื่อมต่อกันท้งั หมดจะไมม่ ีกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ ทำให้หลอดไฟฟ้าไมส่ ว่าง วงจรไฟฟา้ อย่างง่ายประกอบดว้ ยแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า สายไฟฟา้ และเครื่องใช้ไฟฟา้ โดยการตอ่ เชอ่ื ม เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าเขา้ กับแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้าดว้ ยสายไฟฟ้า เพอื่ ใหก้ ระแสไฟฟา้ เคลื่อนที่ผา่ นอปุ กรณไ์ ฟฟ้าได้ ครบรอบเปน็ วงจรปดิ แตถ่ ้าสว่ นใดส่วนหนงึ่ ของวงจรไม่ตอ่ เช่อื มกนั ทำใหไ้ มม่ กี ระแสไฟฟา้ ในวงจร จงึ เปน็ วงจรเปดิ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยมสี ่วนประกอบที่ทำหน้าทีแ่ ตกตา่ งกัน วงจรปดิ และวงจร เปดิ แตกตา่ งกนั ถ้าวงจรที่มีกระแสไฟฟ้าเคล่ือนท่ผี ่านไดจ้ ะเป็นวงจรปดิ สว่ นวงจรท่ไี ม่มีกระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ผ่านจะเป็นวงจรเปิด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
371 คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า คำถามของนกั เรยี นทต่ี ้ังตามความอยากรู้ของตนเอง ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 372 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรขู้ องนกั เรยี นทำได้ ดงั นี้ 1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในช้นั เรยี น 2. ประเมินการเรยี นรูจ้ ากคำตอบของนักเรียนระหวา่ งการจดั การเรยี นรูแ้ ละจากแบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทำกจิ กรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทำกจิ กรรมที่ 1 ต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ยได้อย่างไร รหสั สงิ่ ท่ีประเมนิ คะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S13 การตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ C4 การส่ือสาร C5 ความร่วมมือ C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการ สื่อสาร รวมคะแนน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
373 คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ เกณฑก์ ารประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การสงั เกตและบรรยาย สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท รายละเอยี ดเก่ยี วกบั สัมผัสเก็บรายละเอยี ด สัมผัสเก็บรายละเอยี ด สัมผัสเกบ็ รายละเอียด ส่วนประกอบของ และบรรยายเกีย่ วกับ และบรรยายเกีย่ วกับ และบรรยายเก่ียวกับ วงจรไฟฟ้า การทำงาน สว่ นประกอบของ ส่วนประกอบของ ส่วนประกอบของ ของหลอดไฟฟ้าเมื่อตอ่ วงจรไฟฟ้า การทำงาน วงจรไฟฟ้า การทำงาน วงจรไฟฟ้า การทำงาน อุปกรณ์ในลกั ษณะ ของหลอดไฟฟ้าเม่ือตอ่ ของหลอดไฟฟ้าเมื่อ ของหลอดไฟฟ้าเม่ือตอ่ ตา่ ง ๆ อุปกรณ์ในลกั ษณะ ตอ่ อุปกรณ์ในลักษณะ อุปกรณ์ในลักษณะ ตา่ ง ๆ ได้ด้วยถูกตอ้ ง ต่าง ๆ ได้ถูกต้องจาก ตา่ ง ๆ ไดถ้ ูกต้องเพยี ง ตนเอง โดยไม่เพ่ิมความ การช้ีแนะของครูหรอื บางสว่ น แมว้ ่าจะได้ คิดเหน็ ผ้อู ื่น หรอื มีการ รับคำชแ้ี นะจากครูหรอื เพ่มิ เติมความคิดเหน็ ผู้อน่ื S13 การตคี วาม การตคี วามหมายข้อมลู ที่ สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย หมายขอ้ มลู และ ได้จากการสงั เกต และ ข้อมลู ที่ไดจ้ ากการสงั เกต ข้อมลู ท่ีได้จากการ ข้อมูลท่ีได้จากการ ลงขอ้ สรุป นำมาลงข้อสรุปได้ว่า และนำมาลงข้อสรุปได้ สังเกต และนำมาลง สังเกต และนำมาลง วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยมี ถกู ต้องดว้ ยตนเองว่า ข้อสรปุ ได้ถกู ต้องจาก ข้อสรปุ ได้ถูกต้องเพยี ง สว่ นประกอบ คือ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายมี การชแี้ นะของครูหรอื บางส่วนว่าวงจรไฟฟา้ แหล่งกำเนิดไฟฟ้า สว่ นประกอบ คือ ผอู้ ่นื วา่ วงจรไฟฟ้า อยา่ งง่ายมี สายไฟฟา้ และ แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ อย่างงา่ ยมี ส่วนประกอบ คือ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ โดย สายไฟฟา้ และ ส่วนประกอบ คือ แหลง่ กำเนิดไฟฟ้า ส่วนประกอบแต่ละอย่าง เคร่ืองใช้ไฟฟ้า โดย แหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ สายไฟฟ้า และ ทำหนา้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั สว่ นประกอบแตล่ ะอย่าง สายไฟฟา้ และ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ โดย วงจรไฟฟ้ามที ง้ั แบบ ทำหน้าท่ีแตกตา่ งกนั เคร่ืองใช้ไฟฟา้ โดย ส่วนประกอบแตล่ ะ วงจรปิดและวงจรเปดิ วงจรไฟฟ้ามีทง้ั แบบ ส่วนประกอบแตล่ ะ อย่างทำหน้าที่แตกต่าง ซึ่งมีลกั ษณะแตกต่างกัน วงจรปดิ และวงจรเปิด อย่างทำหนา้ ที่ กัน แต่ไมส่ ามารถบอก ซง่ึ มลี กั ษณะแตกต่างกัน แตกต่างกัน ความแตกตา่ งของ วงจรไฟฟ้ามีท้งั แบบ วงจรไฟฟ้าแบบวงจร วงจรปดิ และวงจร ปิดและวงจรเปิดได้ เปิด ซ่ึงมลี ักษณะ แม้ว่าจะไดร้ ับคำช้ีแนะ แตกตา่ งกัน จากครูหรอื ผู้อืน่ ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า 374 ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) C2 การคดิ การคิดโดยใช้เหตผุ ลท่ี สามารถคดิ โดยใชเ้ หตผุ ลท่ี สามารถคิดโดยใชเ้ หตผุ ล สามารถคดิ โดยใช้เหตผุ ล อยา่ งมี หลากหลายเพ่ืออธิบาย หลากหลายเพอื่ อธบิ าย ท่หี ลากหลายเพ่ืออธบิ าย ทไี่ มเ่ หมาะสมเพ่ือ วจิ ารณญาณ เกี่ยวกบั ลักษณะการต่อ เกี่ยวกับลักษณะการต่อ เกย่ี วกบั ลกั ษณะการต่อ อธิบายการเกีย่ วกับ อปุ กรณ์ไฟฟา้ ที่ทำให้ อุปกรณ์ไฟฟ้าท่ที ำให้ อปุ กรณ์ไฟฟา้ ที่ทำให้ ลักษณะการต่ออุปกรณ์ หลอดไฟฟ้าสวา่ ง หลอดไฟฟ้าสวา่ งหรือ หลอดไฟฟา้ สวา่ งหรือ ไฟฟ้าท่ีทำให้หลอด หรอื ไม่สว่าง ไมส่ ว่างได้ถูกต้องด้วย ไมส่ ว่างได้ถูกต้องไดจ้ าก ไฟฟ้าสว่างหรือไม่สว่าง ตนเอง การช้แี นะของครูหรอื ผู้อ่นื แม้วา่ จะได้รบั คำชี้แนะ จากครูหรอื ผู้อืน่ C4 การส่อื สาร การนำเสนอขอ้ มลู จาก สามารถนำเสนอข้อมูลจาก สามารถนำเสนอขอ้ มลู สามารถนำเสนอข้อมลู การสืบคน้ และอภิปราย การสืบคน้ ส่วนประกอบ จากการสืบคน้ และ จากการสบื ค้นและ สว่ นประกอบ และ และหน้าทขี่ อง อภิปรายส่วนประกอบ อภิปรายส่วนประกอบ หน้าท่ีของสว่ นประกอบ สว่ นประกอบต่าง ๆ ใน และหน้าท่ขี อง และหนา้ ท่ขี อง ต่าง ๆ ในวงจรไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยและ สว่ นประกอบต่าง ๆ ใน ส่วนประกอบต่าง ๆ ใน อย่างงา่ ยและลกั ษณะ ลักษณะของวงจรปดิ และ วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยและ วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยและ ของวงจรปิดและวงจร วงจรเปิดใหผ้ อู้ ืน่ เข้าใจได้ ลกั ษณะของวงจรปดิ และ ลกั ษณะของวงจรปิด เปิดใหผ้ ูอ้ น่ื เขา้ ใจ ถูกต้องดว้ ยตนเอง วงจรเปิดให้ผู้อนื่ เข้าใจได้ และวงจรเปิดให้ผอู้ น่ื ถกู ต้องจากการช้แี นะของ เขา้ ใจได้เพียงบางสว่ น ครูหรอื ผ้อู ่ืน แมว้ ่าจะไดร้ บั คำชี้แนะ จากครหู รือผู้อนื่ C5 ความ การทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน สามารถทำงานร่วมกบั สามารถทำงานร่วมกบั สามารถทำงานร่วมกับ ร่วมมือ ในการสงั เกต การ ผู้อน่ื ในการสังเกต การ ผู้อน่ื ในการสังเกต การ ผูอ้ นื่ ในการสังเกต การ นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง ความคิดเห็นเพอ่ื ความคิดเห็นเพื่ออธบิ าย ความคดิ เหน็ เพ่ืออธบิ าย ความคดิ เห็นเพอื่ อธบิ าย อธิบายเก่ยี วกับ เกีย่ วกบั ส่วนประกอบของ เกีย่ วกับสว่ นประกอบของ เก่ียวกับส่วนประกอบ ส่วนประกอบของ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย และ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย และ ของวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย ความแตกต่างระหวา่ ง ความแตกตา่ งระหวา่ ง และความแตกตา่ ง และความแตกตา่ ง วงจรปดิ และวงจรเปิด วงจรปิดและวงจรเปดิ เป็น ระหว่างวงจรปิดและ ระหว่างวงจรปดิ และ ตลอดเวลาท่ที ำกิจกรรม บางช่วงเวลาท่ที ำกจิ กรรม วงจรเปดิ ในบาง วงจรเปิด รวมทั้ง รวมทง้ั ยอมรับฟังความ รวมทั้งยอมรบั ฟงั ความ ช่วงเวลาทที่ ำกจิ กรรม คดิ เหน็ ของผู้อ่นื คิดเห็นของผู้อนื่ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
375 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้า ทักษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1) ศตวรรษท่ี 21 พอใช้ (2) แต่ไม่คอ่ ยสนใจความ ยอมรับความคดิ เห็น สามารถใชเ้ ทคโนโลยีชว่ ย คดิ เห็นของผอู้ ่นื C6 การใช้ ของผู้อื่น ในการสืบคน้ ข้อมูลท่ี สามารถใชเ้ ทคโนโลยีชว่ ย สามารถใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยชี ว่ ยใน เก่ยี วกับหนา้ ที่ของ ในการสืบคน้ ข้อมลู ท่ี ชว่ ยในการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศและ การสืบคน้ ข้อมูลที่ สว่ นประกอบของ เกย่ี วกับหนา้ ท่ีของ ทีเ่ ก่ียวกับหนา้ ท่ีของ การสื่อสาร เก่ยี วกบั หน้าที่ของ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย ส่วนประกอบของ ส่วนประกอบของ สว่ นประกอบของ ลักษณะของวงจรไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย แบบวงจรเปิดและวงจรปิด ลักษณะของวงจรไฟฟ้า ลักษณะของวงจรไฟฟ้า และลักษณะของ จากแหล่งท่ีเชื่อถอื ไดด้ ้วย แบบวงจรเปิดและวงจร แบบวงจรเปิดและวงจร วงจรไฟฟ้าแบบวงจร ตนเอง ปดิ จากแหล่งทเี่ ช่ือถือได้ ปดิ ได้ แตเ่ ป็น เปดิ และวงจรปิด จากการชแ้ี นะของครูหรือ แหลง่ ข้อมูลท่ีไม่ ผูอ้ น่ื น่าเช่อื ถือเทา่ ที่ควร แมว้ ่าจะไดร้ บั การชแ้ี นะ จากครหู รือผู้อ่ืน ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า 376 เรอ่ื งท่ี 2 การต่อเซลล์ไฟฟา้ ในเรื่องนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะของ เซลล์ไฟฟ้า การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมที่ทำให้ แหล่งกำเนิดไฟฟ้ามีพลังงานมากขึ้น การนำความรู้ของ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งเรียนรู้ เกี่ยวกับการเขียนแผนภาพการต่อวงจรไฟฟ้าเพื่อสื่อสาร ลกั ษณะการต่อวงจรไฟฟ้าได้รวดเรว็ และเข้าใจง่ายย่งิ ขึน้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สังเกตและอธิบายวิธีการต่อเซลล์ไฟฟ้าที่ทำให้หลอด ไฟฟา้ สว่าง 2. ทดลองและอธิบายผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลล์ 3. รวบรวมข้อมูลการต่อเซลล์ไฟฟ้าในเครื่องใช้ไฟฟ้าและ บอกประโยชน์ของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ 4. วเิ คราะห์ข้อมลู และเขยี นแผนภาพวงจรไฟฟ้า เวลา 5 ช่ัวโมง ส่ือการเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้ วัสดุ อุปกรณส์ ำหรบั ทำกจิ กรรม 1. หนังสือเรยี น ป. 6 เล่ม 2 หน้า 180-193 ฐานหลอดไฟฟ้าพร้อมหลอด ถ่านไฟฉาย กระบะใส่ 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป. 6 เล่ม 2 หนา้ 134-146 ถ่านไฟฉาย สายไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ถ่านไฟฉายมากกว่า 1 กอ้ น มอเตอรต์ ดิ ใบพัด ออดไฟฟ้า สวิตช์ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
377 ค่มู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ แนวการจัดการเรียนรู้ (30 นาที) ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู้ พื้นฐาน ครูควรใหเ้ วลานกั เรยี นคิด ขัน้ ตรวจสอบความรู้ (5 นาที) อย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง อดทน นักเรียนต้องตอบคำถาม 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานของนักเรียนเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย เหล่านี้ได้ถูกต้อง หากตอบไม่ได้ และตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการต่อแหล่งกำเนิดไฟฟ้า โดยครูอาจใช้ หรือลืมครูต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง คำถาม ดงั นี้ ทันที 1.1 การต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยอะไรบ้าง (แหล่งกำเนิดไฟฟ้า สายไฟฟา้ และเครือ่ งใช้ไฟฟ้า) ในการตรวจสอบความรู้เดิม 1.2 เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำงานได้เมื่อต่อวงจรไฟฟ้าอย่างไร (ต่อวงจรไฟฟ้า ครูเพียงรับฟังเหตผุ ลของนักเรียน แบบวงจรปิดโดยให้แหล่งกำเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า และยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ เชื่อมต่อกัน เพื่อทำให้มีกระแสไฟฟ้าเคลื่อนท่ีผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ ชักชวนให้นักเรียนไปหาคำตอบ ครบรอบ) ด้วยตนเองจากการอ่านเนอื้ เรื่อง 1.3 หลอดไฟฟ้าจะสว่างได้ต้องอาศัยพลังงานจากที่ใด (แหล่งกำเนิดไฟฟ้า เชน่ ถา่ นไฟฉาย) หากนักเรียนไม่สามารถตอบ 1.4 การต่อแหล่งกำเนิดไฟฟ้าให้มีพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นทำได้อย่างไร คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ เช่น เพ่ิมจำนวนถา่ นไฟฉาย) คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด 1.5 เซลล์ไฟฟ้าคืออะไร มีหน้าที่อย่างไรในวงจรไฟฟ้า (นักเรียนตอบตาม อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ความเข้าใจ เช่น เซลล์ไฟฟ้าคือถ่านไฟฉาย เซลล์ไฟฟ้าคือแหล่งกำเนิด และรับฟังแนวความคิดของ ไฟฟ้า มีหน้าที่ให้พลังงานไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ ) นกั เรียน 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องการต่อเซลล์ไฟฟ้าโดยใช้ คำถามดังนี้ การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ทำไดอ้ ย่างไรและทำใหเ้ กดิ ผลอยา่ งไรบา้ ง ข้ันฝกึ ทกั ษะจากการอ่าน (15 นาท)ี 3. นักเรียนอ่านชื่อเรื่องและคำถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียนหน้า 180 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหาแนวคำตอบและนำเสนอ ครูบันทึกคำตอบของ นักเรยี นบนกระดานเพ่อื ใช้เปรียบเทยี บคำตอบหลังจากอา่ นเนื้อเร่ือง 4. นักเรียนอ่านคำสำคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียนอ่าน ไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากนั้นครูชักชวนให้นักเรียนอธิบาย ความหมายของคำสำคญั ตามความเขา้ ใจของตนเอง 5. นกั เรียนอ่านเน้ือเรือ่ งในหนงั สือเรียนหน้า 180-181 โดยครูฝกึ ทักษะการอ่าน ตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน และให้นักเรียน สังเกตรูปประกอบเนื้อเรื่องหรือสังเกตลักษณะถ่านไฟฉายแบบต่าง ๆ ที่ครู เตรียมมาเพ่ือให้นักเรียนสังเกต จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดังน้ี ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 378 5.1 เซลล์ไฟฟา้ คอื อะไร (แหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ ) การเตรยี มตัวล่วงหนา้ สำหรับครู 5.2 จากเรื่องที่อ่าน เซลล์ไฟฟ้ามีลักษณะใดบ้าง (ทรงกระบอกขนาด เพ่ือจัดการเรียนรใู้ นครง้ั ถัดไป ต่าง ๆ ทรงเหล่ยี ม และแบบกระดุมขนาดตา่ ง ๆ) ในคร้ังถดั ไป นกั เรียนจะได้ทำกิจกรรม 5.3 เซลล์ไฟฟ้าทุกแบบ มีสิ่งใดที่เหมือนกัน (เซลล์ไฟฟ้าทุกแบบมี 2 ขั้ว ท่ี 2.1 เซลล์ไฟฟา้ ตอ่ กันอย่างไร โดยนักเรยี น จะได้สงั เกตลักษณะการต่อถา่ นไฟฉายใน เหมอื นกัน คอื ข้วั บวกและขวั้ ลบ) เครื่องใช้ไฟฟ้าตา่ ง ๆ 5.4 ทิศทางการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเป็นอย่างไร 1. ครคู วรมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ (กระแสไฟฟ้ามีทิศทางการเคลื่อนที่จากขั้วบวกของเซลล์ ไฟฟ้าผ่าน แบง่ หนา้ ท่กี นั นำเครื่องใชไ้ ฟฟ้าทตี่ อ่ อุปกรณไ์ ฟฟ้าไปยงั ขวั้ ลบของเซลลไ์ ฟฟา้ ในทศิ ทางเดยี ว) เซลลไ์ ฟฟ้ามากกวา่ 1 ก้อน มากลุ่มละ 6. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนที่ของ 2-3 ชนิด เช่น รโี มทคอนโทรล หรือ กระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า โดยวาดรูปการต่อวงจรไฟฟ้าบนกระดาน แล้วให้ เคร่อื งควบคุมระยะไกล นาฬิกาปลุก นักเรียนวาดลูกศรแสดงทิศทางการเคล่อื นท่ขี องกระแสไฟฟ้าให้ถูกตอ้ ง ไฟฉาย รถของเลน่ สำหรับใช้ในการทำ กิจกรรมต่อไป (คำตอบคือลูกศรออกจากขั้วบวกของถา่ นไฟฉายไปยงั หลอดไฟฟ้า แล้วเคล่อื นที่ 2. ครคู วรทดสอบหลอดไฟฟา้ และเตรยี ม ไปยังขวั้ ลบของถ่านไฟฉาย) หลอดไฟฟ้าขนาด 2.5 โวลต์ทม่ี ีความ สวา่ งเทา่ กัน 2 หลอด สำหรบั นักเรียน ขน้ั สรุปจากการอ่าน (10 นาท)ี แต่ละกล่มุ ใช้ทำการทดลองเพื่อสังเกต 7. นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องที่อ่านซึ่งควรสรปุ ได้ว่า เซลล์ไฟฟ้าเป็นแหล่งกำเนดิ ผลของจำนวนเซลล์ไฟฟา้ ทม่ี ีตอ่ ความ สวา่ งของหลอดไฟฟา้ ได้อยา่ งชัดเจน ไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ถึงแม้เซลล์ไฟฟ้าจะมีหลายแบบ แต่เซลลไ์ ฟฟา้ ทกุ แบบจะมขี ั้ว 2 ข้วั เสมอ คือ ข้ัวบวกและข้ัวลบ กระแสไฟฟ้า เคลื่อนที่จากขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้าผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าไปยังขั้วลบของ เซลล์ไฟฟา้ ในทิศทางเดยี ว 8. นกั เรียนตอบคำถามในรู้หรือยัง ในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 134 9. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคำตอบใน รู้หรือยัง กบั คำตอบท่เี คยตอบและบนั ทกึ ไว้ในคดิ ก่อนอ่าน 10.นกั เรียนอา่ นคำถามทา้ ยเร่ืองทีอ่ า่ นและตอบคำถาม ดงั น้ี 10.1เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดใช้เซลล์ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลล์ มาต่อกัน เซลล์ไฟฟ้าเหล่านี้ต่อกันอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง เช่น นำด้านปมุ่ นนู ของถ่านไฟฉายมาวางต่อกนั ) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
379 ค่มู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟา้ 10.2 การต่อเซลล์ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลล์ มีผลต่อการทำงานของ เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ทำให้หลอดไฟฟ้าสวา่ งขึ้น) ครยู งั ไม่เฉลยคำตอบแต่ชักชวนให้นกั เรยี นหาคำตอบจากการทำกจิ กรรม ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 380 แนวคำตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม เซลล์ไฟฟ้าทกุ แบบมี 2 ขั้ว เหมือนกัน คือ ขั้วบวกและข้ัวลบ กระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้ามีทิศทางการเคลอื่ นท่ีออกจากข้ัวบวก ของเซลล์ไฟฟ้า ผ่านไปยังหลอดไฟฟ้า แลว้ กลบั เขา้ ส่ขู ้ัวลบของ เซลลไ์ ฟฟ้า สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
381 คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้า กจิ กรรมที่ 2.1 เซลลไ์ ฟฟ้าต่อกนั อยา่ งไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้สังเกต ทดลองและอธิบายวิธีการต่อ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมทีท่ ำให้หลอดไฟฟ้าสวา่ งมากขึ้น และประโยชน์ ของการตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมในเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ เวลา 2.5 ชวั่ โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สงั เกตและอธิบายวธิ ีการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ ทีท่ ำใหห้ ลอดไฟฟ้าสว่าง 2. ทดลองและอธิบายผลของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ มากกวา่ 1 เซลล์ 3. รวบรวมขอ้ มลู การต่อเซลล์ไฟฟ้าในเครื่องใช้ไฟฟ้าและบอก ประโยชน์ของการต่อเซลล์ไฟฟา้ วัสดุ อุปกรณส์ ำหรบั ทำกจิ กรรม ส่งิ ทค่ี รตู อ้ งเตรียม/กลุ่ม 1. ฐานหลอดไฟฟ้าพร้อม หลอดไฟฟ้าขนาด 2.5 โวลต์ 2 ชดุ 2. ถา่ นไฟฉายขนาด 1.5 โวลต์ 3 ก้อน 3. สายไฟฟ้า 4 เส้น ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 4. กระบะใส่ถา่ นไฟฉาย C2 การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ C4 การสอื่ สาร สำหรบั ใสถ่ า่ นไฟฉายจำนวน 1 ก้อน 3 อนั C5 ความรว่ มมอื C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งิ ที่นกั เรียนต้องเตรียม/กลุ่ม เครือ่ งใช้ไฟฟ้าท่ีใชถ้ า่ นไฟฉายมากกว่า 1 ก้อน 2-3 ชนิด สื่อการเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1. หนงั สือเรียน ป.6 เล่ม 2 หนา้ 182-186 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.6 เลม่ 2 หน้า 135-142 S1 การสังเกต 3. ตัวอย่างวดี ิทัศน์ปฏบิ ตั ิการวิทยาศาสตรส์ ำหรบั S6 การจดั กระทำและส่ือความหมายข้อมลู S9 การตง้ั สมมตฐิ าน ครู เรือ่ ง เซลลไ์ ฟฟ้าตอ่ กนั ได้อยา่ งไร S11 การกำหนดและควบคมุ ตัวแปร http://ipst.me/9479 S12 การทดลอง S13 การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า 382 แนวการจัดการเรียนรู้ ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู้ พ้นื ฐาน ครคู วรใหเ้ วลานกั เรียนคิด 1. ครทู บทวนความร้พู นื้ ฐานทีเ่ รียนมาแลว้ ของนกั เรยี นเก่ยี วกบั เซลล์ไฟฟา้ โดย อย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง อาจใชค้ ำถามดงั นี้ อดทน นักเรียนต้องตอบคำถาม 2.1 แหล่งกำเนิดไฟฟ้า หรือเซลล์ไฟฟ้าแต่ละแบบมีสิ่งใดที่เหมือนกัน เหล่านี้ได้ถูกต้อง หากตอบไม่ได้ (เซลล์ไฟฟา้ ทกุ แบบมขี ัว้ 2 ข้วั เหมอื นกนั คือ ข้ัวบวกและขวั้ ลบ) หรือลืมครูต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง 2.2 เครื่องใช้ไฟฟ้าใดที่ใช้เซลล์ไฟฟ้าบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ทันที เชน่ ไฟฉาย นาฬกิ า) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ 2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนดังน้ี ถ้ามีเซลล์ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลล์ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทน่ี ักเรียนจะได้ฝกึ จะตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าอย่างไรใหห้ ลอดไฟฟ้าสว่างได้บ้าง (นักเรียนตอบตามความ จากการทำกจิ กรรม เขา้ ใจของตนเอง) ตอนที่ 1 S1 การสงั เกตเกี่ยวกบั ความสว่างของ 3. ครูนำเขา้ สู่กิจกรรมโดยให้นักเรียนอ่าน ช่อื กจิ กรรม และ ทำเป็นคิดเป็น ใน หนังสือเรียนหน้า 182 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ หลอดไฟฟ้าเม่ือต่อถา่ นไฟฉายเรยี งกนั จดุ ประสงค์ในการทำกจิ กรรม โดยใชค้ ำถามดงั นี้ ในลกั ษณะตา่ ง ๆ 3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (วิธีการต่อเซลล์ไฟฟ้ามากกวา่ S6 การวาดแผนภาพและนำเสนอวธิ ีต่อ 1 เซลล์ และผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้า รวมทั้งประโยชน์ของการต่อ เซลล์ไฟฟา้ และผลทีเ่ กดิ ข้ึนกับหลอด เซลล์ไฟฟ้า) ไฟฟ้าเมื่อต่อถา่ นไฟฉายเรียงกันใน 3.2 นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องนี้ด้วยวิธีใด (การทดลองและการรวบรวม ลักษณะตา่ ง ๆ ข้อมูล) C2 การคดิ โดยใช้เหตุผลท่ีหลากหลายเพื่อ 3.3 เมื่อเรียนจบแล้ว นักเรียนจะทำอะไรได้ (อธิบายวิธีการต่อเซลล์ไฟฟ้า ออกแบบวิธีการต่อถ่านไฟฉายที่ และผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลล์ รวมทั้งบอกประโยชน์ แตกตา่ งกัน 3 แบบ ของการต่อเซลล์ไฟฟ้า) C4 นำเสนอข้อมูลจากการต่อถ่านไฟฉาย แตล่ ะแบบตามท่ีออกแบบไว้ 4. นักเรียนบนั ทกึ จุดประสงค์ขอ้ ที่ 1 ลงในแบบบันทึกกจิ กรรม หน้า 135 ข้อท่ี C5 การทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื ในการสังเกต 2 ลงในแบบบันทึกกิจกรรมหนา้ 137 และ ขอ้ ที่ 3 ลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรม การนำเสนอ การแสดงความคิดเห็น หนา้ 139 จากนัน้ นกั เรียนอ่าน สิ่งทีต่ อ้ งใช้ ในการทำกิจกรรม เกย่ี วกบั วิธกี ารตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบ อนุกรม 5. นักเรยี นอ่าน ทำอยา่ งไร ตอนที่ 1 โดยครูใชว้ ธิ ีฝกึ ทกั ษะการอ่านที่เหมาะสม กับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับ ลำดับข้ันตอนการทำกิจกรรม โดยอาจใชค้ ำถามดังนี้ 5.1 นักเรียนตอ้ งออกแบบและวาดรูปสงิ่ ใด (ออกแบบและวาดรปู วิธีการต่อ ถา่ นไฟฉาย 2 กอ้ น ใหไ้ ด้ 3 แบบ) 5.2 การวางถ่านไฟฉาย 2 ก้อน ต้องวางให้อยู่ในแนวใด (วางถ่านไฟฉาย เรยี งตอ่ กันใหอ้ ยใู่ นแนวเสน้ ตรงเดียวกัน) สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
383 คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 5.3 นักเรยี นตอ้ งอภิปรายเกี่ยวกับเร่ืองอะไรก่อนเร่ิมทำกจิ กรรม (อภิปราย ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ว่าถ้าต่อถ่านไฟฉายตามที่ออกแบบไว้ จะทำให้หลอดไฟฟ้าสว่าง ไดห้ รือไม่ เพราะอะไร) ค ำ ถ า ม ก า ร ท ด ล อ ง ค ว ร เ ป ็ น ค ำ ถ า ม ที่ นำไปสู่การทดลองได้ คือ แสดงให้เห็นถึงตัว 5.4 เมื่อต่อถ่านไฟฉายตามที่ออกแบบไว้เข้ากับวงจรไฟฟ้าแล้ว สิ่งที่ต้อง แปรที่จะสามารถนำไปออกแบบการทดลองต่อ สังเกตและบันทึกผลคืออะไร (สังเกตและบันทึกผลสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ได้ ตัวอย่างคำถาม เช่น ทำไมหลอดไฟฟ้าจึง หลอดไฟฟา้ ) สว่างไม่เท่ากัน ไม่ถือเป็นคำถามการทดลอง เนื่องจากเป็นถามถึงเหตุผล แต่ไม่ได้นำไปสู่ 6. ขณะท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมตามขั้นตอน ครูควรสังเกตการทำงาน แนวทางการออกแบบการทดลองได้ว่าจะทำ ของนักเรยี น โดยใหค้ ำแนะนำและชว่ ยเหลอื ตามความจำเป็น อย่างไร แต่หากปรับคำถามเป็นจำนวน ถ่านไฟฉายมีผลต่อความสว่างของหลอดไฟฟ้า 7. เมื่อทุกกลุ่มทำกิจกรรมและสังเกตผลที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อยแลว้ ครูอาจให้ หรือไม่ จะทำให้เห็นแนวทางในการออกแบบ นักเรียนนำข้อมูลมาบันทึกในตารางบนกระดานหรือกระดาษปรู๊ฟ ที่ครู การทดลองโดยเปลี่ยนจำนวนถ่านไฟฉาย แล้ว เตรียมไวใ้ ห้ สงั เกตความสวา่ งของหลอดไฟฟ้า 8. นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรม จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย สมมติฐานเป็นการคาดการณ์เหตุผลหรือ ผลการทำกิจกรรม จากข้อมลู ในตารางโดยอาจใช้คำถามดงั น้ี คําอธิบายของสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนจะทําการ 8.1 การต่อถ่านไฟฉาย 2 ก้อนทุกแบบ ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้หรือไม่ ทดลอง ซึ่งจะแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง อยา่ งไร (การต่อถา่ นไฟฉายบางแบบเท่านั้นท่ีทำให้หลอดไฟฟา้ สว่างได้ ตวั แปรตน้ และตัวแปรตาม ในกจิ กรรมนตี้ ัวแปร โดยเมื่อต่อถ่านไฟฉาย 2 ก้อน เข้าด้วยกัน ให้ขั้วลบของถ่านไฟฉาย ต้นคือจำนวนถ่านไฟฉาย และตัวแปรตามคือ ก้อนหนึ่งต่อเข้ากับขั้วบวกของถ่านไฟฉายอีกก้อนที่วางเรียงกัน จะทำ ความสว่างของหลอดไฟฟ้า ดังนั้นสมมตฐิ านใน ให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้ แต่ถ้าต่อให้ขั้วลบของถ่านไฟฉายทั้งสองก้อน กิจกรรมน้ีอาจเขียนได้ว่า เมื่อต่อถ่านไฟฉาย แตะกัน หรือต่อให้ขั้วบวกของถ่านไฟฉายทั้งสองก้อนแตะกัน จำนวนมากกว่า 1 ก้อนเข้ากับวงจรไฟฟ้า หลอดไฟฟา้ จะไมส่ วา่ ง) ห ล อ ด ไ ฟ ฟ ้ า จ ะ ส ว ่ า ง ม า ก ก ว ่ า เ ม ื ่ อ ต ่ อ กั บ ถ่านไฟฉาย 1 ก้อน เพราะหลอดไฟฟ้าได้รับ 9. นักเรียนอา่ น ทำอย่างไร ตอนที่ 2 โดยครใู ช้วธิ ีฝกึ ทกั ษะการอ่านทเี่ หมาะสม พลงั งานมากกวา่ กับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับ ลำดับข้ันตอนการทำกิจกรรม โดยอาจใช้คำถามดงั น้ี 9.1 วงจรไฟฟ้าในรูป ก และ ข มีสิ่งใดที่เหมือนกัน (ทั้งสองวงจรมี หลอดไฟฟ้า และสายไฟฟา้ แบบเดียวกนั ) 9.2 หลอดไฟฟ้าในรูป ก และ รูป ข แตกตา่ งกนั อยา่ งไร (หลอดไฟฟา้ สว่าง ไมเ่ ทา่ กัน โดยหลอดไฟฟา้ รูป ก สว่างกวา่ หลอดไฟฟา้ รูป ข) 9.3 เมื่อนักเรียนทราบว่าหลอดไฟฟ้าในรูป ก และข สว่างไม่เท่ากัน นักเรียนต้องทำอย่างไรต่อไป (อภิปรายสาเหตุที่ทำให้หลอดไฟฟ้าใน แตล่ ะวงจรสวา่ งไม่เทา่ กัน และตง้ั ปญั หาของการทดลอง) 9.4 หลังจากตั้งปัญหาการทดลองแล้ว นักเรียนต้องทำอย่างไรต่อไป (ต้งั สมมตฐิ าน ระบตุ วั แปร และออกแบบการทดลอง) ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 384 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมตามขั้นตอน โดยระหว่างที่นักเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ ตั้งสมมติฐานและกำหนดตัวแปร ครูควรแนะนำให้นักเรียนตรวจสอบ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทน่ี ักเรยี นจะได้ฝกึ สมมติฐานและตัวแปรดังกล่าวว่ามีความสอดคล้องกับปัญหาการทดลอง และขณะท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูควรให้คำแนะนำและ จากการทำกิจกรรม ชว่ ยเหลือตามความจำเปน็ ตอนที่ 2 11. เมื่อทุกกลุ่มทำการทดลองและสังเกตผลที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว S1 การสงั เกตเกย่ี วกบั ความสวา่ งของ ครอู าจให้นกั เรียนนำเสนอผลข้อมูลการทดลองหน้าชน้ั เรียน หลอดไฟฟา้ เมือ่ ต่อด้วยถา่ นไฟฉาย 12. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม จากข้อมูลในตาราง จำนวนไมเ่ ทา่ กนั โดยอาจใช้คำถามดังน้ี S6 การนำเสนอข้อมูลการทดลองเก่ียวกบั 12.1 ความสว่างของหลอดไฟฟา้ ในการทดลองน้ีแตกต่างกันเพราะเหตใุ ด จำนวนถ่านไฟฉายที่มผี ลต่อความสวา่ ง (เพราะจำนวนถ่านไฟฉายที่ต่อเข้ากับวงจรไฟฟ้าไม่เท่ากัน โดยเมื่อ ของหลอดไฟฟ้า S9 การต้งั สมมติฐานทีส่ อดคลอ้ งกับปัญหา ตอ่ หลอดไฟฟ้าเขา้ กับถ่านไฟฉาย 2 กอ้ น ท่ีวางเรยี งกนั ให้ขั้วบวกของ การทดลองเก่ยี วกับจำนวนถา่ นไฟฉายที่ มีผลตอ่ ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ ถ่านไฟฉายก้อนหนึ่งต่อเข้ากับขั้วลบของถ่านไฟฉายอีกก้อนหนึ่ง จะ S11 การบอกตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และ ตวั แปรท่ีตอ้ งควบคมุ ให้คงท่ีในการ ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างมากกว่าหลอดไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับถ่านไฟฉาย ทดลองเกีย่ วกับจำนวนถ่านไฟฉายทมี่ ี ผลตอ่ ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ เพียงกอ้ นเดียว) S12 การออกแบบการทดลอง และ ออกแบบตารางบนั ทึกผลในการทดลอง 12.2 พลังงานไฟฟ้าที่หลอดไฟฟ้าได้รับเมื่อต่อถ่านไฟฉาย 1 ก้อน และ เก่ยี วกบั จำนวนถา่ นไฟฉายทม่ี ีผลต่อ 2 ก้อนแบบเรียงต่อกันไป แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แตกต่างกัน ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ โดยเมื่อต่อหลอดไฟฟ้าเข้ากับถ่านไฟฉาย 2 ก้อนแบบเรียงกันไป C2 การออกแบบวิธกี ารทดลองและตาราง หลอดไฟฟ้าจะได้รับพลังงานไฟฟ้ามากกว่า ทำให้หลอดไฟฟ้าสว่าง บันทึกผลเกีย่ วกับจำนวนถ่านไฟฉายท่มี ี มากกว่าเมื่อเทยี บกับการต่อหลอดไฟฟ้าเข้ากับถ่านไฟฉายเพียงกอ้ น ผลตอ่ ความสว่างของหลอดไฟฟ้า เดียว) C4 การนำเสนอขอ้ มลู จากการทดลอง เกยี่ วกบั จำนวนถ่านไฟฉายที่มีผลตอ่ 13. นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร ตอนที่ 3 โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านท่ี ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้า เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจ C5 การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการสังเกต เก่ียวกบั ลำดบั ขน้ั ตอนการทำกจิ กรรม โดยอาจใชค้ ำถามดังน้ี 13.1 นกั เรียนต้องทำอย่างไรกับเคร่ืองใช้ไฟฟ้าท่ีเตรียมมา (สงั เกตวิธีการ การนำเสนอ การแสดงความคิดเห็น ต ่ อ ถ ่ า น ไ ฟ ฉ า ย ใ น เ ค ร ื ่ อ ง ใ ช ้ ไ ฟ ฟ ้ า แ ล ะ ว า ด ร ู ป ล ั ก ษ ณ ะ ก า ร ต่ อ ถ่านไฟฉาย) เกี่ยวกับการทดลองเกี่ยวกับความสว่าง 13.2 เมื่อสังเกตแล้วนักเรียนทำอย่างไรต่อไป (อภิปรายวิธีการต่อ ถา่ นไฟฉาย) ของหลอดไฟฟ้า 13.3 นักเรียนต้องสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง (วิธีการต่อ ถ่านไฟฉายในเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าเป็นแบบใด และประโยชน์ของการ ตอ่ ถ่านไฟฉายด้วยวิธนี ั้น) สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
385 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า 14. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมตามขั้นตอน ขณะท่ีนักเรียนทำกิจกรรม ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะ ครูควรให้คำแนะนำและช่วยเหลอื ตามความจำเปน็ แหง่ ศตวรรษท่ี 21 ทน่ี กั เรยี นจะได้ฝกึ จากการ 15. เมอื่ ทกุ กลุม่ ทำกิจกรรมและสงั เกตผลที่เกดิ ขน้ึ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูอาจให้ ทำกจิ กรรม นักเรยี นนำเสนอผลการสบื ค้นข้อมลู หน้าช้นั เรยี น ตอนที่ 3 16. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายผลการทำกจิ กรรม โดยอาจใชค้ ำถามดังนี้ S1 การสงั เกตเกี่ยวกับวิธกี ารตอ่ ถา่ นไฟฉาย 16.1 เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทีใ่ ช้ถ่านไฟฉายมากกว่า 1 ก้อน มกี ารต่อถ่านไฟฉาย อย่างไร เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น (การต่อไฟฉายใน ในคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่อโดยวางให้ขั้วลบของถ่านไฟฉายก้อนหนึ่งต่อกับ S6 การวาดภาพแสดงวธิ ีการตอ่ ถ่านไฟฉายใน ขั้วบวกของถ่านไฟฉายอีกก้อนหนึ่งเรียงกันไป เครื่องใช้ไฟฟ้าจึง ทำงานได)้ เครอื่ งใช้ไฟฟา้ 16.2 จากการสืบค้นข้อมูล การต่อถ่านไฟฉายให้ขั้วลบของถ่านไฟฉาย C4 การนำเสนอข้อมลู จากการสงั เกต สบื ค้น ก้อนหน่ึงต่อกับขั้วบวกของถ่านไฟฉายอีกก้อนหนึ่งเรียงกันไป เรียกว่าการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบใด (เรียกว่าการต่อเซลล์ไฟฟ้า ข้อมลู และอภิปรายเกีย่ วกับวิธีการและ แบบอนกุ รม) ประโยชนข์ องการตอ่ ถ่านไฟฉายใน 16.3 การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมทำให้เกิด ผลอย่างไรต่อ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าให้ผู้อ่นื เข้าใจ เครื่องใช้ไฟฟ้า (ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น C5 การทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื ในการสังเกต จนสามารถทำงานได)้ การนำเสนอ การแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั วธิ กี ารและประโยชน์ของการตอ่ 17. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในส่ิงที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการต่อ ถา่ นไฟฉายในเครื่องใชไ้ ฟฟา้ เซลล์ไฟฟ้า จากนั้นร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าการต่อเซลล์ไฟฟ้า C6 การใชเ้ ทคโนโลยชี ่วยในการสบื ค้นขอ้ มลู มากกว่า 1 เซลล์ แบบอนุกรมทำได้โดยต่อขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้าเซลล์ เกีย่ วกบั วิธกี ารตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม หนึ่งเขา้ กับข้วั ลบของเซลล์ไฟฟ้าอีกเซลล์หนง่ึ เรียงกนั ไป ทำให้มีพลังงาน และผลท่ีเกดิ ข้ึนกบั เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า ไฟฟ้าผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น จึงนำการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมนี้ ไปใช้กบั เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในชีวติ ประจำวัน (S13) ถ ้ า ค ร ู พ บ ว ่ า น ั ก เ ร ี ย น ย ั ง มี แนวคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการ 18. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคำถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ การต่อเซลล์ไฟฟ้ามาก กว่า คำถามเพ่มิ เติมเพอ่ื ให้ได้แนวคำตอบที่ถูกต้อง 1 เซลล์ ให้ร่วมกันอภิปรายจน นกั เรียนมีแนวคดิ ทถ่ี ูกต้อง 19. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี้ จากนั้นนักเรียนอ่าน สงิ่ ทไี่ ด้เรียนรู้ และเปรยี บเทียบกบั ขอ้ สรุปของตนเอง 20. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า ครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำถาม ของตนเองหน้าชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับคำถามท่ีเพื่อน นำเสนอ 21. ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในข้ันตอนใด ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟา้ 386 22.นักเรียนอา่ นเกรด็ นา่ รู้ หน้า 186 เก่ยี วกบั การกำจดั เซลลไ์ ฟฟ้าที่เสอ่ื มสภาพ การเตรยี มตวั ล่วงหนา้ สำหรับครู อยา่ งถกู วิธี จากนั้นครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายโดยอาจใช้คำถามดังนี้ เพือ่ จัดการเรยี นรใู้ นครง้ั ถัดไป 22.1 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อต้องการกำจัดเซลล์ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพคืออะไร เพราะเหตุใด (นำไปทิ้งรวมกับขยะอื่น เผา หรือทิ้งลงแม่น้ำ ในครัง้ ถัดไป นกั เรยี นจะได้ทำ เพราะสารเคมีอันตรายจากเซลล์ไฟฟ้าอาจรั่วไหลออกมา และ กจิ กรรม ที่ 2.2 เขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ ปนเปอ้ื นอยใู่ นธรรมชาติ) ไดอ้ ยา่ งไร นักเรยี นจะได้ต่อวงจรไฟฟา้ โดย 22.2 การกำจัดเซลล์ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพควรทำอย่างไร (แยกเซลล์ไฟฟ้า ใชม้ อเตอร์ ติดใบพัด ออดไฟฟ้า และ บรรจุในถุงขยะ แล้วนำไปท้ิงในถงั ขยะอนั ตราย เพอ่ื นำไปกำจัดอย่าง สวิตช์ ดังนน้ั ครูควรตรวจสอบอุปกรณ์วา่ ถูกวธิ ีต่อไป) อยใู่ นสภาพท่ีพร้อมใชง้ านหรือไม่ นอกจากนี้ในกิจกรรมยงั มีใบความรู้เร่ือง การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า ครอู าจ เตรียมภาพหรือสไลดเ์ กี่ยวกบั สัญลกั ษณ์ ของอปุ กรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เพอื่ ใหน้ ักเรียนได้ อภปิ รายรว่ มกนั ได้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
387 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า ความรูเ้ พ่ิมเติมสำหรับครู ถ่านไฟฉายเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าซึ่งทำให้เกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างขั้วบวก และขั้วลบของถ่านไฟฉาย ขั้วบวกมีศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าขั้วลบ และมีการกำหนดให้กระแสไฟฟ้าผ่านตัวนำไฟฟ้า จากจดุ ทมี่ ีศักย์ไฟฟ้าสงู ไปยงั จุดที่มีศักย์ไฟฟา้ ตำ่ พลังงานของเซลลไ์ ฟฟ้าจะบอกดว้ ยค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้า (E) ซ่ึงหมายถงึ พลงั งานที่เซลล์ไฟฟา้ ให้แก่ประจุ 1 คูลอมบ์ ในการเคลื่อนที่ครบวงจร มีหน่วยเป็นจูลต่อคูลอมบ์ หรือ โวลต์ (V) เช่น ถ่านไฟฉาย 1.5 โวลต์ หมายความว่า ถ่านไฟฉายจะจ่ายพลังงานไฟฟ้า 1.5 จูล ให้แก่ประจุ 1 คูลอมบ์ ในการเคลื่อนที่ครบวงจร ดงั นั้นในการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ หลาย ๆ เซลลเ์ ขา้ ดว้ ยกนั แบบอนุกรม พลังงานที่ประจุ 1 คลู อมบ์ ไดร้ ับกจ็ ะมากข้ึน ดว้ ย สามารถหาแรงเคลอื่ นไฟฟ้ารวมตามสมการ ถ่านไฟฉาย 1 ก้อน มีแรงเคลื่อนไฟฟ้า 1.5 โวลต์ ถ้าต่อแบบอนุกรม 2 ก้อน จะมีแรงเคลื่อนไฟฟ้ารวม 3 โวลต์ ในการทดลองของนักเรียนใช้ถ่านไฟฉายทั้ง 1 ก้อน และ 2 ก้อน จึงต้องจัดหาหลอดไฟฟ้าให้เหมาะสม กับค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้า เช่น หลอดไฟฟ้าขนาด 1.5 โวลต์ ใช้กับถ่านไฟฉาย 1 ก้อน หรือหลอดไฟฟ้าขนาด 3 โวลต์ ใช้กับถ่านไฟฉาย 2 ก้อน เราอาจเลือกใช้หลอดไฟฟ้าที่มีขนาดน้อยกว่าหรือมากกว่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าท่ี ใช้ได้เล็กน้อย แต่ถ้าเลือกใช้หลอดไฟฟ้าที่มีค่าโวลต์น้อยกว่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าเกินไป หลอดไฟฟ้าจะเสียหาย สำหรับการทดลองในกิจกรรมที่ 2.1 นี้ เราใช้หลอดไฟฟ้าขนาด 2.5 โวลต์ กับทั้งกรณี ถา่ นไฟฉาย 1 กอ้ น และ 2 ก้อน การต่อเซลล์ไฟฟ้า 2 เซลล์ แบบอนุกรมโดยไม่ได้ต่อขั้วบวกเข้ากับขั้วลบแต่ต่อขั้วลบเข้ากับขั้วลบจะเป็น การต่ออนุกรมแบบผดิ ขั้ว ถ้าแรงเคลอ่ื นไฟฟ้าของเซลลไ์ ฟฟ้าทั้งสองเท่ากนั จะไมม่ ีกระแสไฟฟ้าในวงจร ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 388 ความรเู้ พ่มิ เติมสำหรับครู การต่อถ่านไฟฉาย 3 ก้อน โดยต่อถ่านไฟฉายก้อนใดก้อนหนึ่งผิดขั้ว จะยังคงมีกระแสไฟฟ้าใน วงจรไฟฟา้ อยู่ และทำใหห้ ลอดไฟฟ้าสว่างได้ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
389 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ แนวคำตอบในแบบบนั ทึกกจิ กรรม สังเกตและอธิบายวิธีการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าท่ีทำให้ หลอดไฟฟา้ สวา่ ง ขึ้นอยู่กับผลการ หลอดไฟฟ้าสวา่ ง อภปิ รายของ นกั เรียน เช่น ทำให้ หลอดไฟฟ้าสวา่ ง ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า 390 ข้นึ อยูก่ ับผลการ หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง อภิปรายของนกั เรียน หลอดไฟฟา้ ไม่สวา่ ง เชน่ ทำใหห้ ลอด ไฟฟ้าไม่สว่าง ขึ้นอยกู่ ับผลการ อภปิ รายของ นกั เรยี น เชน่ ทำให้ หลอดไฟฟ้าสวา่ ง สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
391 ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า ทดลองและอธบิ ายผลของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า มากกวา่ 1 เซลล์ จำนวนเซลลไ์ ฟฟา้ มผี ลต่อความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ อย่างไร สมมติฐานของนักเรยี นอาจมีหลากหลาย เชน่ เมอื่ ต่อถ่านไฟฉาย 2 กอ้ น เข้ากับหลอดไฟฟ้า จะทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างมากกว่าเดิม เพราะหลอดไฟฟา้ ได้รับพลงั งานมากขึ้น ตัวแปรต้น คอื จำนวนถ่านไฟฉาย ตัวแปรตาม คือ ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้า ตวั แปรท่ีตอ้ งควบคุมให้คงท่ี ไดแ้ ก่ ลกั ษณะการตอ่ ถา่ นไฟฉายท่ีเหมือนกัน ใช้หลอดไฟฟ้าที่เหมือนกนั ความยาวของสายไฟฟา้ เท่ากัน ขึ้นอยกู่ ับการออกแบบของนักเรยี น เชน่ 1. ตอ่ วงจรไฟฟา้ เขา้ กับหลอดไฟฟ้าจำนวน 2 วงจร โดยวงจรแรกใช้ถ่านไฟฉาย 1 กอ้ น และวงจรที่สองใช้ถ่านไฟฉาย 2 กอ้ น สังเกตความสวา่ งของหลอด ไฟฟา้ แต่ละวงจร 2. เปรียบเทยี บความสว่างของหลอดไฟฟ้าเม่ือต่อวงจรไฟฟ้าโดยใชถ้ ่านไฟฉาย 1 ก้อน และ 2 ก้อน ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 392 จำนวนถ่ายไฟฉาย (ก้อน) ความสว่างหลอดไฟฟ้า 1 สวา่ ง 2 สว่างมากกว่าเดิม สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
393 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ รวบรวมข้อมูลการต่อเซลล์ไฟฟ้าในเครื่องใช้ไฟฟา้ และบอกประโยชน์ของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้า เชน่ รีโมทโทรทศั น์ วธิ กี ารตอ่ ถ่านไฟฉายในเครอ่ื งใช้ไฟฟ้า เปน็ การตอ่ แบบอนกุ รม ทำใหม้ ีพลงั งานไฟฟา้ แกค่ รื่องใชไ้ ฟฟ้ามากขึ้น ทำใหเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟ้า ทำงานได้ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟา้ 394 การตอ่ ข้ัวบวกของถ่านไฟฉายก้อนหนงึ่ เข้ากับขั้วลบของถา่ นไฟฉาย อกี กอ้ นหนึ่ง การตอ่ ข้ัวบวกของถา่ นไฟฉายกอ้ นหนงึ่ เข้ากับขั้วบวกของถา่ นไฟฉาย อีกก้อนหนึ่ง หรือตอ่ ขั้วลบเข้ากบั ข้วั ลบของถา่ นไฟฉายอีกก้อนหนึ่ง การต่อถ่านไฟฉายหรือเซลล์ไฟฟา้ มากกว่า 1 เซลล์ แบบเรยี งกันไป โดยต่อขั้วบวกของเซลลไ์ ฟฟ้าเซลล์หนงึ่ เข้ากับขั้วลบของเซลล์ไฟฟ้า อกี เซลล์หน่ึง จะทำใหห้ ลอดไฟฟา้ สว่างได้ ผลการทดลองอาจจะเป็นไปตามสมมติฐานหรือไมเ่ ป็นไปตาม สมมติฐานของนกั เรยี นกไ็ ด้ จำนวนถ่านไฟฉายท่ีต่อเรยี งกันมผี ลตอ่ ความสว่างของหลอดไฟฟา้ โดยถา้ มจี ำนวนถ่านไฟฉายมากข้นึ จะทำให้มีพลงั งานไฟฟ้าที่ทำให้ หลอดไฟฟา้ สวา่ งมากข้นึ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
395 คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า จำนวนถ่านไฟฉายทตี่ อ่ เรียงกนั สัมพันธก์ บั ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้า โดยเมอื่ ต่อเซลล์ไฟฟ้าจำนวนมากขนึ้ จะมีพลงั งานไฟฟ้ามากขึ้น หลอดไฟฟ้าจะสว่างมากกวา่ การตอ่ ดว้ ยเซลลไ์ ฟฟ้าท่จี ำนวนนอ้ ยกว่า เหมือนกนั โดยการต่อถา่ นไฟฉายในเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ทุกอยา่ งทำได้ โดยนำข้ัวบวกของถ่านไฟฉายกอ้ นหน่ึงต่อเข้ากบั ขวั้ ลบของ ถา่ นไฟฉายอกี กอ้ นหน่งึ เรียงกันไป เป็นการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าท่ีใชเ้ ซลล์ไฟฟ้ามากกว่า 1 เซลล์ มีการต่อเซลล์ไฟฟ้า โดยตอ่ ขัว้ บวกของเซลล์ไฟฟ้าเซลลห์ นึง่ เขา้ กบั ขัว้ ลบของเซลลไ์ ฟฟ้า อกี เซลล์หน่งึ เรียกวา่ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม ทำใหค้ รอ่ื งใช้ ไฟฟา้ ทำงานได้ การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมเป็นการต่อขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้า เซลลห์ นง่ึ เขา้ กับขว้ั ลบของเซลล์ไฟฟา้ อีกเซลล์หนึง่ ทำให้มีพลังงาน ไฟฟ้ามากขน้ึ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า 396 คำถามของนกั เรยี นทต่ี ั้งตามความอยากรู้ของตนเอง สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯
397 คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนร้ขู องนักเรียนทำได้ ดงั น้ี 1. ประเมนิ ความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในชัน้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรู้จากคำตอบของนกั เรยี นระหว่างการจัดการเรียนรแู้ ละจากแบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทำกิจกรรมที่ 2.1 เซลลไ์ ฟฟา้ ต่อกนั อย่างไร รหสั ส่งิ ทป่ี ระเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S6 การจัดกระทำและสอ่ื ความหมายข้อมูล S9 การตัง้ สมมตฐิ าน S11 การกำหนดและควบคุมตัวแปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ C4 การส่ือสาร C5 ความรว่ มมอื C6 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ส่อื สาร รวมคะแนน ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 398 ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต การสงั เกตและบรรยาย สามารถสงั เกตและ สามารถสังเกตและ สามารถสังเกตและ รายละเอียดเกีย่ วกบั บรรยายรายละเอียด บรรยายรายละเอียด บรรยายถรายละเอียด ความสวา่ งของหลอด เกยี่ วกบั ความสวา่ งของ เกี่ยวกับความสว่าง เกี่ยวกับความสวา่ งของ ไฟฟ้าเม่ือต่อถา่ นไฟฉาย หลอดไฟฟ้าเมอ่ื ต่อ ของหลอดไฟฟ้าเม่ือ หลอดไฟฟ้าเมอื่ ต่อ เรยี งกันในลักษณะตา่ ง ๆ ถา่ นไฟฉายเรยี งกนั ใน ตอ่ ถา่ นไฟฉายเรียงกัน ถ่านไฟฉายเรียงกันใน และเม่ือต่อดว้ ย ลกั ษณะตา่ ง ๆ และเม่ือ ในลกั ษณะต่าง ๆ และ ลกั ษณะต่าง ๆ และเมื่อ ถา่ นไฟฉายจำนวนไม่ ต่อด้วยถา่ นไฟฉาย เมอ่ื ต่อดว้ ยถา่ นไฟฉาย ต่อด้วยถา่ นไฟฉาย เท่ากนั และวิธกี ารต่อ จำนวนไม่เทา่ กนั และ จำนวนไมเ่ ท่ากัน และ จำนวนไม่เทา่ กนั และ ถ่านไฟฉายในเคร่อื งใช้ วธิ ีการตอ่ ถา่ นไฟฉายใน วธิ กี ารต่อถา่ นไฟฉาย วิธกี ารตอ่ ถา่ นไฟฉายใน ไฟฟา้ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ได้ถูกตอ้ ง ในเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ได้ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าได้ ด้วยตนเอง โดยไมเ่ พ่ิม ถูกต้องจากการชแี้ นะ ถกู ต้องเพียงบางสว่ น ความคดิ เหน็ ของครหู รือผ้อู ่ืน หรือมี แมว้ ่าจะได้รบั คำชีแ้ นะ การเพิ่มเตมิ ความ จากครูหรอื ผู้อ่ืน คิดเหน็ S6 การจัดกระทำ การนำเสนอขอ้ มูลการ สามารถนำเสนอข้อมลู สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอข้อมูล และสื่อ ทดลองเก่ียวกับจำนวน การทดลองเก่ยี วกับ ขอ้ มูลการทดลอง การทดลองเกีย่ วกบั ความหมายข้อมูล ถ่านไฟฉายที่มีผลตอ่ จำนวนถา่ นไฟฉายท่ีมีผล เก่ียวกบั จำนวน จำนวนถา่ นไฟฉายที่มี ความสว่างของหลอด ต่อความสวา่ งของหลอด ถ่านไฟฉายท่ีมผี ลต่อ ผลตอ่ ความสวา่ งของ ไฟฟ้าในรปู แบบต่าง ๆ ไฟฟ้าในรูปแบบตา่ ง ๆ ความสว่างของหลอด หลอดไฟฟ้าในรปู แบบ และการวาดภาพแสดง และการวาดภาพแสดง ไฟฟา้ ในรปู แบบ ต่าง ๆ และการวาด วิธีการตอ่ ถ่านไฟฉายใน วธิ ีการตอ่ ถา่ นไฟฉายใน ต่าง ๆ และการวาด ภาพแสดงวธิ ีการต่อ เครื่องใช้ไฟฟ้าใหผ้ ู้อน่ื เคร่ืองใช้ไฟฟ้าให้ผู้อืน่ ภาพแสดงวธิ กี ารตอ่ ถ่านไฟฉายใน เข้าใจ เขา้ ใจได้ถกู ต้องครบถ้วน ถ่านไฟฉายใน เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ให้ผู้อ่นื ด้วยตนเอง เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ เข้าใจได้เพยี งบางส่วน ผ้อู ่นื เข้าใจไดถ้ ูกต้อง แม้วา่ จะไดร้ ับคำช้ีแนะ จากการชแี้ นะของครู จากครูหรอื ผู้อ่นื หรือผูอ้ ่นื สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
399 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า ทกั ษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ S9 การ การตงั้ สมมตฐิ านท่ี สามารถต้งั สมมตฐิ านท่ี สามารถตง้ั สมมตฐิ าน สามารถตงั้ สมมติฐานท่ี ตั้งสมมติฐาน สอดคล้องกบั ปญั หาการ สอดคล้องกับปญั หาการ ที่สอดคล้องกับ สอดคลอ้ งกับปัญหา ทดลองและสอดคล้อง ทดลองและสอดคล้อง ปัญหาการทดลอง การทดลองและ ระหว่างตัวแปรต้นและ ระหว่างตวั แปรตน้ และ และสอดคล้อง สอดคลอ้ งระหว่างตัว ตวั แปรตามเกย่ี วกบั ตวั แปรตามเก่ยี วกบั ระหว่างตวั แปรตน้ แปรตน้ และตวั แปรตาม จำนวนถ่านไฟฉายที่มีผล จำนวนถา่ นไฟฉายที่มผี ล และตวั แปรตาม เกย่ี วกบั จำนวน ต่อความสวา่ งของหลอด ต่อความสว่างของหลอด เกย่ี วกับจำนวน ถ่านไฟฉายที่มผี ลตอ่ ไฟฟา้ ในรปู แบบต่าง ๆ ไฟฟ้าในรูปแบบตา่ ง ๆ ถา่ นไฟฉายที่มีผลตอ่ ความสว่างของหลอด ได้ดว้ ยตนเอง ความสวา่ งของหลอด ไฟฟ้าในรปู แบบต่าง ๆ ไฟฟา้ ในรูปแบบ ไดเ้ พยี งบางส่วน แมจ้ ะ ตา่ ง ๆ ไดจ้ ากการ ได้รบั คำช้ีแนะจากครู ช้แี นะของครูหรือ หรือผู้อ่นื ผอู้ น่ื S11 การกำหนด การบอกตวั แปรต้น ตัว สามารถบอกตวั แปรตน้ สามารถบอกตวั แปร สามารถบอกตวั แปรตน้ และควบคุมตัว แปรตามและตวั แปรท่ี ตวั แปรตามและตัวแปรท่ี ต้น ตวั แปรตามและ หรือ ตัวแปรตาม หรือ แปร ต้องควบคุมใหค้ งท่ีได้ ตอ้ งควบคุมใหค้ งท่ีได้ ตวั แปรทตี่ ้องควบคมุ ตัวแปรทต่ี ้องควบคมุ ให้ สอดคล้องกับปญั หาการ สอดคลอ้ งกับปญั หาการ ใหค้ งที่ไดส้ อดคล้อง คงท่ีได้สอดคล้องกบั ทดลองเกยี่ วกบั จำนวน ทดลองเกี่ยวกับจำนวน กับปญั หาการทดลอง ปญั หาการทดลอง ถา่ นไฟฉายท่ีมีผลตอ่ ถา่ นไฟฉายที่มีผลต่อ เก่ยี วกับจำนวน เก่ยี วกบั จำนวน ความสว่างของหลอด ความสวา่ งของหลอด ถ่านไฟฉายท่ีมผี ลต่อ ถา่ นไฟฉายที่มผี ลต่อ ไฟฟา้ ในรปู แบบตา่ ง ๆ ไฟฟา้ ในรูปแบบตา่ ง ๆ ความสวา่ งของหลอด ความสว่างของหลอด ด้วยตนเอง ไฟฟา้ ในรูปแบบต่าง ไฟฟ้าในรปู แบบตา่ ง ๆ ๆ ท้งั นโ้ี ดยอาศยั การ แม้จะได้รับคำช้แี นะ ชแี้ นะของครหู รือ จากครูหรอื ผู้อน่ื ผู้อ่ืน S12 การทดลอง การออกแบบการทดลอง สามารถออกแบบการ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบการ โดยมีขน้ั ตอนทเี่ หมาะสม ทดลอง โดยมขี ัน้ ตอนที่ การทดลอง โดยมี ทดลอง โดยมขี น้ั ตอนท่ี และการออกแบบตาราง เหมาะสม และออกแบบ ข้ันตอนท่ีเหมาะสม เหมาะสม แต่อาจ บันทกึ ผลให้สอดคลอ้ ง ตารางบนั ทกึ ผลเก่ยี วกับ และออกแบบตาราง ออกแบบตารางบันทึก กบั การทดลองเก่ียวกับ จำนวนถ่านไฟฉายท่ีมผี ล บันทึกผลเกย่ี วกบั ผลเก่ียวกบั จำนวน ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 400 ทักษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ จำนวนถ่านไฟฉายท่ีมีผล ต่อความสวา่ งของหลอด จำนวนถา่ นไฟฉายที่ ถา่ นไฟฉายท่ีมผี ลตอ่ ต่อความสวา่ งของหลอด ไฟฟา้ ในรปู แบบตา่ ง ๆ มีผลตอ่ ความสวา่ ง ความสวา่ งของหลอด ไฟฟา้ ในรปู แบบต่าง ๆ ไดส้ อดคล้องกับการ ของหลอดไฟฟ้าใน ไฟฟ้าในรปู แบบตา่ ง ๆ ทดลองได้ดว้ ยตนเอง รูปแบบตา่ ง ๆ ได้ ไดไ้ ม่สอดคล้องกับการ สอดคลอ้ งกบั การ ทดลองได้ แมจ้ ะได้ ทดลอง ทั้งนี้โดย รับคำชแี้ นะจากครูหรือ อาศัยการช้แี นะของ ผู้อ่ืน ครหู รือผู้อน่ื S13 การตีความ การตคี วามหมายข้อมลู ท่ี สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย หมายขอ้ มูลและ ไดจ้ ากการสังเกต ขอ้ มูลที่ได้จากการสงั เกต ข้อมลู ท่ีได้จากการ ข้อมลู ที่ได้จากการ ลงขอ้ สรุป ทดลอง และรวบรวม ทดลอง และรวบรวม สงั เกต ทดลอง และ สงั เกต และนำมาลง ขอ้ มูลเพื่อนำมาลง ข้อมูลเพอ่ื นำมาลง รวบรวมข้อมูลเพื่อ ข้อสรุปได้เพียงบางส่วน ข้อสรุปได้ถูกต้องว่าการ ข้อสรุปได้ถกู ต้องดว้ ย นำมาลงข้อสรปุ ได้ แมว้ ่าจะไดร้ บั คำชแี้ นะ ต่อเซลล์ไฟฟ้ามากกวา่ ตนเองว่าการต่อ ถกู ต้องจากการชีแ้ นะ จากครูหรือผู้อืน่ วา่ การ 1 เซลล์ แบบอนกุ รมโดย เซลลไ์ ฟฟ้ามากกว่า ของครหู รอื ผู้อนื่ วา่ ตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ มากกว่า การตอ่ ขว้ั บวกของ 1 เซลล์ แบบอนุกรมโดย การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ 1 เซลล์ แบบอนกุ รม เซลลไ์ ฟฟ้าเซลล์หนึง่ เขา้ การต่อข้วั บวกของ มากกว่า 1 เซลล์ โดยการต่อขั้วบวกของ กบั ข้ัวลบของเซลลไ์ ฟฟ้า เซลล์ไฟฟา้ เซลลห์ นึ่งเข้า แบบอนุกรมโดยการ เซลลไ์ ฟฟา้ เซลลห์ น่ึง อกี เซลลห์ นึง่ เรยี งกันไป กบั ขว้ั ลบของเซลล์ไฟฟา้ ต่อขัว้ บวกของ เข้ากับขวั้ ลบของ ทำให้มีพลังงานไฟฟ้า อีกเซลลห์ นึง่ เรยี งกันไป เซลลไ์ ฟฟ้าเซลล์หนึ่ง เซลลไ์ ฟฟา้ อีกเซลล์หนง่ึ ผา่ นหลอดไฟฟา้ มากขนึ้ ทำใหม้ ีพลงั งานไฟฟ้า เข้ากับข้วั ลบของ เรยี งกันไป แต่ไม่ จงึ ใชใ้ นการต่อ ผา่ นหลอดไฟฟ้ามากขนึ้ เซลลไ์ ฟฟา้ อีกเซลล์ สามารถบอกผลที่เกิด เซลลไ์ ฟฟา้ ใน จงึ ใช้ในการต่อ หน่งึ เรยี งกนั ไป ทำให้ ขน้ึ กับเครื่องใช้ไฟฟา้ ได้ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าใน เซลล์ไฟฟา้ ใน มีพลังงานไฟฟา้ ผ่าน ชวี ิตประจำวนั เครื่องใช้ไฟฟา้ ใน หลอดไฟฟา้ มากข้ึน ชวี ิตประจำวัน จึงใชใ้ นการต่อ เซลลไ์ ฟฟา้ ใน เคร่ืองใช้ไฟฟ้าใน ชีวติ ประจำวนั สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
401 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ระดับความสามารถ ศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ การคดิ โดยใช้เหตุผลท่ี ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) อยา่ งมี หลากหลายเพอื่ สามารถคิดโดยใช้เหตุผล วจิ ารณญาณ ออกแบบวธิ ีการต่อ สามารถคดิ โดยใชเ้ หตุผลที่ สามารถคิดโดยใช้เหตผุ ล ทไ่ี ม่เหมาะสมเพ่ือ ถา่ นไฟฉาย 3 แบบ ออกแบบวธิ กี ารต่อ C4 การสอื่ สาร และออกแบบวิธีการ หลากหลายเพ่ือออกแบบ ทหี่ ลากหลายเพ่ือ ถ่านไฟฉาย 3 แบบและ ทดลองและตาราง ออกแบบวธิ กี ารทดลอง C5 ความ บันทกึ ผลเก่ียวกบั วธิ กี ารต่อถ่านไฟฉาย 3 ออกแบบวธิ กี ารต่อ และตารางบนั ทกึ ผล รว่ มมือ จำนวนถา่ นไฟฉายท่ีมี เกย่ี วกบั จำนวน ผลตอ่ ความสวา่ งของ แบบ และออกแบบวิธีการ ถ่านไฟฉาย 3 แบบ และ ถ่านไฟฉายท่ีมผี ลต่อ หลอดไฟฟ้า ความสว่างของหลอด ทดลองและตารางบันทึก ออกแบบวธิ กี ารทดลอง ไฟฟ้า การนำเสนอขอ้ มลู จาก การต่อถา่ นไฟฉายแต่ ผลเก่ยี วกบั จำนวน และตารางบนั ทกึ ผล สามารถนำเสนอข้อมลู ละแบบตามท่อี อกแบบ จากการต่อถา่ นไฟฉาย ไว้ จากการทดลอง ถ่านไฟฉายที่มผี ลตอ่ ความ เก่ียวกับจำนวน แต่ละแบบตามที่ เกีย่ วกบั จำนวน ออกแบบไว้ จากการ ถ่านไฟฉายที่มีผลต่อ สวา่ งของหลอดไฟฟา้ ได้ ถ่านไฟฉายที่มีผลตอ่ ทดลองเกย่ี วกับจำนวน ความสวา่ งของหลอด ถ่านไฟฉายที่มผี ลต่อ ไฟฟ้าและจากการ ถูกต้องด้วยตนเอง ความสว่างของหลอด ความสวา่ งของหลอด สงั เกต สืบค้นข้อมูล ไฟฟา้ และจากการสังเกต และอภิปรายเก่ยี วกับ ไฟฟ้าได้ถูกตอ้ งจากการ สบื ค้นขอ้ มลู และ วธิ ีการและประโยชน์ อภปิ รายเก่ยี วกบั วิธกี าร ของการต่อถา่ นไฟฉาย ช้ีแนะของครหู รือผู้อื่น และประโยชน์ของการ ในเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ให้ ต่อถา่ นไฟฉายใน ผู้อื่นเขา้ ใจ สามารถนำเสนอขอ้ มูลจาก สามารถนำเสนอข้อมลู เครื่องใช้ไฟฟา้ ให้ผู้อืน่ เขา้ ใจได้เพียงบางส่วน การทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื การต่อถ่านไฟฉายแต่ละ จากการต่อถา่ นไฟฉายแต่ แม้ว่าจะได้รบั คำชแ้ี นะ ในการสังเกต การ จากครูหรอื ผู้อนื่ แบบตามท่ีออกแบบไว้ ละแบบตามที่ออกแบบไว้ สามารถทำงานรว่ มกับ ผู้อน่ื ในการสงั เกต การ จากการทดลองเก่ียวกบั จากการทดลองเก่ยี วกบั จำนวนถา่ นไฟฉายที่มีผล จำนวนถา่ นไฟฉายท่ีมีผล ต่อความสว่างของหลอด ตอ่ ความสวา่ งของหลอด ไฟฟ้าและจากการสังเกต ไฟฟา้ และจากการสังเกต สบื ค้นขอ้ มูล และอภิปราย สืบคน้ ขอ้ มูล และ เกีย่ วกบั วิธีการและ อภปิ รายเกีย่ วกบั วธิ ีการ ประโยชน์ของการตอ่ และประโยชนข์ องการต่อ ถา่ นไฟฉายใน ถ่านไฟฉายใน เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ผู้อนื่ เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ให้ผู้อ่นื เขา้ ใจได้ถูกต้องด้วยตนเอง เข้าใจได้ถูกต้อง จากการ ชแี้ นะของครูหรือผู้อ่นื สามารถทำงานรว่ มกับ สามารถทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ในการสังเกต การ ผู้อื่นในการสังเกต การ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 402 ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรุง (1) ศตวรรษที่ 21 นำเสนอ และการแสดง พอใช้ (2) นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง ความคิดเห็นเพือ่ อธิบาย ความคดิ เห็นเพ่ืออธบิ าย C6 การใช้ ความคิดเห็นเพ่อื เกี่ยวกับวธิ ีการตอ่ นำเสนอ และการแสดง เกย่ี วกบั วธิ กี ารต่อ เทคโนโลยี อธบิ ายเก่ียวกบั วธิ กี าร เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม ความคิดเห็นเพื่ออธิบาย เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม สารสนเทศและ ต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบ การทดลองเกย่ี วกับความ เกย่ี วกบั วิธีการต่อ การทดลองเกี่ยวกับ การสอ่ื สาร อนุกรม การทดลอง สวา่ งของหลอดไฟฟ้าและ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรม ความสวา่ งของหลอด เกย่ี วกับความสวา่ งของ วธิ ีการและประโยชน์ของ การทดลองเกี่ยวกับความ ไฟฟา้ และวธิ กี ารและ หลอดไฟฟ้าและวธิ กี าร การตอ่ ถา่ นไฟฉายใน สวา่ งของหลอดไฟฟ้าและ ประโยชนข์ องการต่อ และประโยชนข์ องการ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า รวมทัง้ วธิ กี ารและประโยชน์ของ ถ่านไฟฉายใน ต่อถ่านไฟฉายใน ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็น การตอ่ ถ่านไฟฉายใน เครือ่ งใช้ไฟฟ้า รวมทั้ง เคร่อื งใช้ไฟฟ้า รวมทง้ั ของผู้อน่ื ตลอดช่วงเวลาที่ เคร่อื งใช้ไฟฟ้า รวมทง้ั ยอมรบั ฟังความคิดเห็น ยอมรบั ความคดิ เหน็ ทำกิจกรรม ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ เปน็ บาง ของผู้อน่ื ของผู้อ่นื เปน็ บาง ชว่ งเวลาทท่ี ำกิจกรรม สามารถใช้เทคโนโลยีช่วย ช่วงเวลาท่ีทำกจิ กรรม ท้ังนตี้ อ้ งอาศัยการ การใชเ้ ทคโนโลยีชว่ ยใน ในการสืบคน้ ข้อมูลที่มี กระตนุ้ จากครหู รือผูอ้ ื่น การสืบคน้ ข้อมลู ความน่าเชื่อถือเก่ียวกบั สามารถใชเ้ ทคโนโลยชี ่วย สามารถใช้เทคโนโลยี เกย่ี วกบั วธิ กี ารต่อ วิธกี ารต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบ ในการสืบค้นข้อมลู ทม่ี ี ช่วยในการสบื ค้นขอ้ มลู เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม อนกุ รม และผลทเี่ กิด ความนา่ เชือ่ ถือเกย่ี วกับ ทเี่ ก่ยี วกับวธิ กี ารต่อ และผลทีเ่ กดิ ข้ึนกบั ขนึ้ กับเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ได้ วธิ กี ารต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม เครอื่ งใช้ไฟฟ้า ดว้ ยตนเอง อนกุ รม และผลทเี่ กดิ และผลทเ่ี กดิ ขน้ึ กับ ขึ้นกบั เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ได้ แต่ จากการชีแ้ นะของครูหรือ อาจมาจากแหล่งที่ไม่ ผอู้ ่ืน นา่ เช่ือถอื เทา่ ที่ควร แม้ว่าจะไดร้ ับการช้ีแนะ จากครหู รือผู้อ่นื สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯
403 ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ กจิ กรรมที่ 2.2 เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าได้อย่างไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้วิเคราะห์การต่อวงจรไฟฟ้า และเรยี นรูเ้ ก่ียวกบั วิธกี ารเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า สัญลักษณ์ท่ีใช้ แทนอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละอย่าง เพื่อใช้สื่อสารการต่อวงจรไฟฟ้าให้ เข้าใจตรงกนั ไดง้ า่ ย และสะดวกย่งิ ข้ึน เวลา 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิเคราะหข์ ้อมลู และเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า วัสดุ อุปกรณ์สำหรับทำกจิ กรรม 1 ชุด 1 ชดุ ส่งิ ที่ครูตอ้ งเตรยี ม/กลุ่ม 1 ชดุ 1. มอเตอร์ตดิ ใบพดั 2 ก้อน 2. ออดไฟฟา้ 2 เส้น 3. ฐานหลอดไฟฟ้าพรอ้ มหลอด 2 อัน 4. ถา่ นไฟฉายขนาด 1.5 โวลต์ 1 อนั 5. สายไฟฟา้ 6. กระบะใส่ถา่ นไฟฉาย 7. สวติ ช์ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ S1 การสงั เกต 1. หนงั สอื เรยี น ป.6 เล่ม 2 หน้า 187-193 S6 การจดั กระทำและสอ่ื ความหมายข้อมลู 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.6 เล่ม 2 หน้า 143-146 S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป 3. ตวั อยา่ งวีดทิ ัศนป์ ฏิบตั ิการวทิ ยาศาสตรส์ ำหรบั ครู ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 เร่อื ง แผนภาพวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายเป็นอยา่ งไร http://ipst.me/9480 C2 การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ C4 การสื่อสาร C5 ความรว่ มมือ ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 506
Pages: