หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 สาระการเรียนรู้

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 142

140 ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เนื้อหา จาํ นวน (ชั่วโมง) บรษิ ทั ทวั ร การจองโรงแรม/ ทีพ่ กั การใชบ รกิ าร ในทท่ี ําการไปรษณยี / ธนาคาร/รานอนิ เตอรเ น็ต ตวั อยาง คาํ วลี และรปู ประโยค เชน - May I help you? - What can I do for you? - Let me.............................. - Shall I ...............................? - Is there anything I can do for you? - I would like......................... - I prefer................................. - I’d rather.............................. - How much..............................? - How about..............................? - I’m afraid................................? - We recommend........................ - Would you please....................? - Please let me know.................. - It’s occupied. etc. 2 What should you อานและทําตาม 1. การใชพจนานกุ รม (Dictionary) 2 do? คําแนะนําในการใช 1.1 ทบทวนการคาหาความหมายของคําศัพท คมู อื ปายคาํ แนะนาํ โดยเรียงตามตัวอักษรของคําศัพทที่คนหา วิธีการปรงุ จาก a ถึง z ขอ ควรระวงั และ 1.2 ใหอ า นวธิ ีการใชพ จนานุกรมและขอมูลตา ง ปายประกาศ ๆ ทอี่ ยูในสว นหนา (คําชี้แจงในการใช) หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 143

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 144

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 145

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 146

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 147

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 148

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 149

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 150

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 151

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 152

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 153

151 ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ดั เนื้อหา จาํ นวน (ช่วั โมง) - May I have................................................. - Can you help me........................................ - You look smart. - How nice.................................................... - I wonder if................................................. - How to cook.............................................. etc. 2. ความเช่อื และขนบธรรมเนียม ประเพณีของ 5 เจา ของภาษา ความเปนมาของความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและ ประเพณีตา ง ๆ ในสงั คมของเจา ของภาษา การทาํ กจิ กรรมตามความเชอ่ื ขนบธรรมเนยี มและ ประเพณตี า ง ๆ ในดาน บทเพลง การแตง กาย อาหาร เครอ่ื งดม่ื และการประกอบพธิ กี รรมท่ี เกยี่ วขอ ง ไดแก วันครสิ ตม าส วนั ขอบคณุ พระเจา วนั วาเลนไทน และวนั พอ 3. การเปรียบเทยี บโครงสรา งภาษาไทยกบั 5 ภาษาองั กฤษ เปรียบเทียบลักษณะคําที่มาของคําความหมาย และการประยุกตคําในภาษาอังกฤษใชใน ภาษาไทยและคําในภาษาไทย ที่นําไปใน ภาษาอังกฤษ ตัวอยาง เชน - ศัพทของภาษาไทยสวนใหญมาจากภาษาบาล/ี สนั สกฤตในขณะทีศ่ ัพทข องภาษาอังกฤษ สวนใหญจากภาษากรกี และโรมนั - คําในภาษาอังกฤษที่นํามาใชในภาษาไทย เชน หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2554) 154

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 155

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 156

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 157

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 158

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 159

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 160

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 161

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 162

160 ที่ หัวเรอ่ื ง ตวั ชวี้ ดั เนื้อหา จานวน 16 ภาษาองั กฤษ (ชว่ั โมง) 1. ใชค้ าศพั ท์เก่ยี วกับ 1. คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั การใหบ้ รกิ ารนวดแผนไทย สาหรบั พนักงาน 5 นวดแผนไทย การให้บรกิ ารนวด เช่น massage, relax etc. 2 17 ภาษาองั กฤษ แผนไทยได้ถกู ต้อง 2. สานวนภาษาการกล่าวเชิญชวนลูกค้า การนดั 2 สาหรบั พนกั งาน 4 ขาย 2. ใช้สานวนภาษาใน หมายลูกคา้ การให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั การบริการ 2 การเชิญชวน นวดแผนไทย เช่น นดั หมายลกู คา้ และ Come this way to the massage room. Please การให้ข้อมูล straight out your foot. เกย่ี วกับการนวด Please check your belongings before you แผนไทย leave. Would you like to return for another massage later? 1. ผู้เรียนสามารถใช้ 1. การโต้ตอบและชักชวนลกู คา้ เข้าชมรา้ นขาย ถ้อยคา สานวน ของทรี่ ะลึก และประโยคตอบ 2. การฝึกสนทนาในสถานการณ์ท่ีกาหนดและ โต้ในการบอก การฝึกเรียงลาดับประโยค ข้อมลู ความ 3. การตอ่ รองราคาสินค้าในรา้ นค้า ประสงค์ในการซ้อื 4. การฝึกเรียงลาดับบทสนทนา สินค้าได้ ใน 5. การจองต๋วั รถโดยสาร รถไฟ เครื่องบนิ สถานการณด์ งั น้ี 6. การฝึกเรยี งลาดับบทสนทนา 1.1 การทกั ทาย 7. แบบทดสอบท้ายบท เชญิ ชวนลูกค้า 1.2 เจรจาซือ้ ขาย และต่อรอง ราคาสินค้าได้ 1.3 โต้ตอบในการ ซอ้ื ขายตั๋ว โดยสาร บอก หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2554) 163

ที่ หัวเรื่อง 161 เนื้อหา จานวน (ชวั่ โมง) ตัวชว้ี ดั จดุ หมาย ปลายทาง สาหรับ รถโดยสาร รถไฟ และ เคร่ืองบนิ ได้ 1.4 มีความรูค้ วาม เข้าใจและ สามารถนา ความรเู้ ก่ยี วกบั การเจรจาซื้อ ขายไปใช้ไดท้ ุก สถานการณ์ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2554) 164

วชิ าคณิตศาสตร์

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 166

164 หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) ผังมโนทัศน์ 167 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวนเต็มบวก จานวนเตม็ ลบ ศูนย์ การใชท้ ักษะกระบวนการ การเปรียบเทยี บ การบวก ลบ คูณ หาร ลักษณะประเภทของงานอาชีพทใี่ ช้ทกั ษะ ทางคณติ ศาสตรใ์ นงานอาชีพ จานวนและการดาเนินงาน สมบัติของจานวนเตม็ และการนาไปใช้ การนาความรู้ทางคณติ ศาสตร์ไปเชอ่ื มโยง กับงานอาชีพได้ ความหมายของเศษสว่ น ทศนิยม การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นเบ้ืองต้น เศษสว่ นและทศนิยม การเขยี นเศษส่วน ทศนิยม การเปรยี บเทียบ การหาความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์ และการนาไปใช้ การบวก ลบ คณู หาร และแก้โจทยป์ ัญหา การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การนาเสนอ สถติ ิ คณติ ศาสตร์ เลขยกกาลัง ความหมาย การเขียนแสดงจานวน การหาค่ากลาง การเลอื กใช้ค่ากลาง ความสัมพันธข์ อง การคณู การหารเลขยกกาลงั ทมี่ ฐี าน การอา่ น การแปลความหมาย รปู เรขาคณติ สองมติ ิ เดยี วกนั และเลขชี้กาลังเปน็ จานวนเต็ม การวิเคราะหข์ อ้ มูล และการนาไปใช้ และสามมิติ อตั ราส่วน สัดส่วน ภาพทีเ่ กิดจากการคล่ี รปู เรขาคณิต และรอ้ ยละ จากการมองทางดา้ นหน้า ด้านขา้ ง การแก้โจทย์ปัญหา ดา้ นบนของรปู เรขาคณติ การวาดหรือประดษิ ฐ์ รปู เรขาคณิต การวดั หน่วยความยาว พ้ืนที่ การหาพื้นท่ี และการแกโ้ จทย์ปัญหา ชนิดของรูปเรขาคณติ สามมติ ิ ลูกบาศก์ คูอ่ ันดับและกราฟ ปริมาตรและพืน้ ที่ การหาพื้นท่ีผิวปริมาตรของปริซึมทรงกระบอก การประดษิ ฐ์รปู เรขาคณิต สองมิติ สามมติ ิ พีรมิด กรวย ทรงกลม การเปรียบเทยี บ หนว่ ยปริมาตร และการแก้โจทยป์ ัญหา

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 165 168 ผงั มโนทัศน์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ลักษณะประเภทของงานอาชีพที่ใชท้ ักษะ การใช้ทกั ษะกระบวนการ จานวนและการดาเนินงาน จานวนจริง สมบตั ขิ องจานวนจริง การนาความรู้ทางคณิตศาสตรไ์ ปเช่ือมโยง ทางคณิตศาสตร์ในงานอาชีพ สมบัติการเท่ากัน และการไม่เท่ากนั ค่าสมั บูรณ์ กบั งานอาชพี เลขยกกาลังทีม่ ีเลขช้ีกาลัง กฎเกณฑ์เบอื้ งตน้ เก่ียวกับการนับ ความนา่ จะเป็น เป็นจานวนตรรกยะ การอา่ น การเขยี น การเปรียบเทียบ ความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ บวก ลบ คูณ หาร และการแกโ้ จทย์ ปญั หา การวเิ คราะหข์ ้อมูลเบ้อื งต้น การหาคา่ กลางของขอ้ มลู สถติ เิ บอ้ื งต้น คณติ ศาสตร์ โดยใช้ค่าเฉลีย่ เลขคณิตมธั ยฐาน และฐานนยิ ม การนาเสนอข้อมูล การใช้เครอ่ื งมือและการ เซต การดาเนนิ การของเซต แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ การสรา้ งรปู ทางเรขาคณติ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ และการแก้ปัญหา โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื และ การออกแบบผลติ ภัณฑ์ อัตราส่วนตรโี กณมติ ิ อัตราส่วนตรีโกณมิตแิ ละ การให้เหตุผล แบบอุปนัยและนริ นัย การอ้างเหตุผล อัตราสว่ นตรีโกณมิตขิ องมุม 30๐45๐ และ 60๐ การนาไปใช้

มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ และ ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวัง

167 มาตรฐานที่ 2.2 มีความรคู้ วามเข้าใจ และทกั ษะพืน้ ฐานเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง 170 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ 1. ระบุหรือยกตัวอยา่ ง มีความรู้ ความเข้าใจ 1. ระบุ หรือยกตวั อยา่ ง มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ 1. ระบุหรอื ยกตวั อยา่ ง เก่ยี วกบั จานวนและการ เก่ยี วกับจานวนและ เก่ียวกับจานวนและการ เกย่ี วกับจานวนและ เก่ียวกับจานวน และ เกยี่ วกับจานวนและ การดาเนินการ เลขยก การดาเนินการ เลข ดาเนนิ การ เศษสว่ น การดาเนินการ ดาเนินการ เศษส่วนและ การดาเนนิ การ เศษสว่ น และทศนยิ ม กาลังทีม่ ี เลขช้ีกาลงั ทศนิยม และรอ้ ยละ เศษส่วน ทศนยิ ม ทศนิยม เลขยกกาลัง ยกกาลังที่มีเลขชก้ี าลัง การวัด เรขาคณิต สถติ ิ และรอ้ ยละ การวดั อตั ราส่วนสดั ส่วน และ เลขยกกาลงั อัตราสว่ น เป็น จานวนตรรกยะ เป็นจานวนตรรกยะ เรขาคณิต สถิติ ร้อยละ การวดั ปรมิ าตร สดั สว่ น และร้อยละ เซต และการใหเ้ หตผุ ล เซตและการให้เหตผุ ล และความน่าจะเปน็ และความนา่ จะเปน็ และพ้ืนที่ผวิ คูอ่ นั ดับ การวดั การหา อัตราส่วนตรีโกณมิติ อัตราสว่ นตรีโกณมติ ิ เบื้องต้น เบอ้ื งต้นได้ และกราฟ ปรมิ าตรและพ้ืนทผี่ ิว และการนาไปใช้ การ การใชเ้ คร่ืองมือและ 2. สามารถคดิ คานวณ ความสัมพันธ์ระหว่าง คอู่ นั ดับและกราฟ ใชเ้ คร่อื งมือ และการ การออกแบบ และแกโ้ จทยป์ ญั หา รปู เรขาคณติ สองมิติ ความสมั พันธ์ ระหว่าง ออกแบบผลิตภัณฑ์ เกย่ี วกับจานวนนับ และเรขาคณิตสามมิติ รปู เรขาคณิตสองมิติ สถิตเิ บื้องต้นและ ผลิตภณั ฑ์ สถติ ิ เบ้อื งตน้ และ ความ เศษส่วน ทศนิยม สถติ แิ ละ และเรขาคณิตสามมติ ิ ความนา่ จะเป็น น่าจะเป็น ความน่าจะเป็น สถติ แิ ละ ความน่าจะ เช่อื มโยงกับงานอาชพี 2. สามารถคดิ คานวณและ รอ้ ยละ การวดั เชื่อมโยงกบั งานอาชีพ เป็น เรขาคณิตได้ ในสงั คมได้ 2. สามารถคดิ คานวณ ในสังคมและอาเซียนได้ แก้โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั และแก้โจทย์ปัญหาที่ จานวนจรงิ เลขยกกาลัง ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน อตั ราส่วนตรีโกณมติ ิ สถติ ิและความนา่ จะเป็น

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 168 171 ระดบั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวัง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวงั 3. มคี วามสามารถใน 3. มคี วามสามารถใน การเชื่อมโยงความรู้ การเช่อื มโยงความรู้ ตา่ ง ๆ ทาง ต่าง ๆ ทาง คณติ ศาสตร์กับงาน คณติ ศาสตรก์ ับงาน อาชพี ได้ สามารถ อาชพี ได้ สามารถ วิเคราะหง์ านอาชีพ วเิ คราะหง์ านอาชพี ในสงั คมทีใ่ ช้ทกั ษะ ในสังคมและกลุ่ม ทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ ประชาคมอาเซียนที่ ใชท้ ักษะทาง คณติ ศาสตร์ได้

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 172

ค�ำ อธบิ ายรายวิชา และ รายละเอยี ดค�ำ อธบิ ายรายวิชาบงั คบั ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 174

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 175

173 ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชวี้ ดั เนอ้ื หา จานวน 3 ทศนิยม (ช่วั โมง) และเศษเกนิ และเศษเกนิ 2 3. เปรยี บเทียบและเรยี งลำดับ 3. กำรเปรยี บเทียบเศษส่วน เศษส่วน 4. บวก ลบ เศษสว่ นและนำ 4. กำรบวก ลบ เศษสว่ นและโจทย์ 4 ปญั หำ ควำมรเู้ กย่ี วกบั เศษสว่ น ไปใชแ้ ก้โจทย์ปญั หำ 3 5. คณู เศษสว่ นและนำควำมรู้ 5. กำรคณู เศษสว่ นและ โจทยป์ ญั หำ เกย่ี วกบั กำรคูณเศษสว่ น ไปใช้แกโ้ จทย์ปัญหำ 3 6. หำรเศษสว่ นและนำควำมรู้ 6. กำรหำรเศษส่วนและโจทย์ ปัญหำ เกีย่ วกบั กำรหำรเศษสว่ น ไปใชแ้ กโ้ จทยป์ ัญหำ 1. บอกควำมหมำย และเขยี น 1. ควำมหมำยของทศนิยม กำร 1 อำ่ นทศนยิ ม เขียนและกำรอ่ำน 2. บอกค่ำประจำหลักและค่ำ 2. ค่ำประจำหลักและคำ่ ของตวั เลข 1 ในแตล่ ะหลกั ของทศนิยม ของตัวเลขในแต่ละหลกั ของทศนยิ ม 1 3. เขียนทศนิยมในรูปกำรกระจำย 3. กำรเขียนทศนิยม ในรูปกำรกระจำย 4. เปรียบเทยี บและเรยี งลำดบั 4. กำรเปรียบเทียบและเรยี งลำดับ 1 ทศนยิ ม ทศนิยม 5. แปลงทศนิยมให้อยู่ในรปู 5. ควำมสมั พันธ์ระหว่ำงทศนยิ ม 4 เศษส่วน และแปลงเศษส่วน และเศษส่วน จำนวนนับให้อยู่ในรปู ทศนิยม 2 6. ประมำณคำ่ ทศนิยมหน่ึง 6. กำรประมำณคำ่ ใกลเ้ คียง ตำแหน่ง สองตำแหนง่ ทศนิยม และสำมตำแหนง่ 7. บวก ลบ ทศนิยม และนำ 7. กำรบวก ลบ ทศนิยม และโจทย์ 5 ควำมร้ไู ปใช้แก้โจทย์ปัญหำ ปญั หำ กำรคูณ หำร ทศนยิ ม และโจทยป์ ญั หำ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) 176

174 ที่ หวั เรอื่ ง ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา จานวน 4 รอ้ ยละ (ชัว่ โมง) 8. คณู หำร ทศนิยมและนำ 1. ควำมหมำยของร้อยละ 5 กำรวัด ควำมรู้ไปใช้แกโ้ จทยป์ ญั หำ 1 2. ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งเศษสว่ น 4 1. เขยี นเศษส่วนทม่ี ตี ัวส่วนเป็น และร้อยละ 10 100 ใหอ้ ยใู่ นรปู ร้อยละ และ ใชส้ ญั ลักษณ์เปอร์เซน็ ต์ (%) 3. โจทยป์ ญั หำ กำรคูณ กำรหำร 1 (บัญญัตไิ ตรยำงศ์) 1 2. หำค่ำเศษส่วน และเขยี นร้อยละ 1 หรือเปอร์เซน็ ต์ให้อยู่ในรปู 1. กำรวดั ควำมยำว และระยะทำง เศษส่วน 1 2. กำรเลอื กเคร่ืองวัดและหน่วยวัด 2 3. แก้โจทยป์ ัญหำกำรคูณ กำรหำร ควำมยำว ควำมสงู หรือ (บัญญัติไตรยำงศ์) ของจำนวน ระยะทำง ทเี่ หมำะสม นบั และนำไปประยกุ ต์ใช้ 3. กำรเปล่ียนหน่วยกำรวัด กำรวดั ควำมยำวและระยะทำง 1. วดั ควำมยำว ควำมสูง และ 4. มำตรำส่วน ระยะทำง โดยใช้เครื่องมอื ท่ี 5. โจทยป์ ัญหำเก่ียวกบั กำรวัด เปน็ มำตรฐำน ควำมยำว ควำมสงู และ 2. เลือกเคร่อื งวัดและหน่วยวัด ระยะทำง ควำมยำว ควำมสงู และ ระยะทำงที่เป็นมำตรฐำน ใหเ้ หมำะสมกบั สง่ิ ท่ีจะวดั 3. เปลี่ยนหน่วยวัดควำมยำว ควำมสงู หรือระยะทำงจำก หนว่ ยใหญ่เปน็ หน่วยย่อย และจำกหนว่ ยยอ่ ยเปน็ หนว่ ยใหญ่ 4. หำควำมยำว ควำมสงู หรือ ระยะทำงจริงจำกรูปทยี่ ่อสว่ น เมอ่ื กำหนดมำตรำส่วนให้ 5. แก้โจทย์ปัญหำเกี่ยวกับกำรวดั ควำมยำว ควำมสูง และ ระยะทำง หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2554) 177

175 ที่ หัวเร่ือง ตัวชีว้ ดั เนอ้ื หา จานวน (ชั่วโมง) กำรชัง่ และกำรตวง 2 1. เลอื กหน่วยกำรชง่ั กำรตวง 1. เลือกหนว่ ยกำรช่ัง กำรตวง ที่ ท่ีเปน็ มำตรฐำนใหเ้ หมำะสม เปน็ มำตรฐำนใหเ้ หมำะสม กบั สิ่งทีจ่ ะชง่ั และตวง 3 2. เปล่ียนหนว่ ยกำรชงั่ กำรตวง 2. เปลย่ี นหน่วยกำรชง่ั กำรตวง กำรหำพื้นท่ี 3 1. หำพืน้ ท่ีและควำมยำวรอบรูป 1. หำพื้นท่ีและควำมยำวรอบรปู ของรูปเรขำคณิต ของรูปเรขำคณติ 3 2. แก้โจทย์ปญั หำเก่ยี วกับกำรหำ 2. โจทย์ปญั หำของกำรหำพ้ืนท่ี ของรปู เรขำคณติ พื้นทขี่ องรปู เรขำคณิต ปรมิ ำตรและควำมจุ 1. หำปรมิ ำตรและควำมจขุ อง 1. กำรหำปริมำตรและควำมจุของ 3 ทรงส่เี หล่ียมมุมฉำกและกำร ทรงสีเ่ หลีย่ มมุมฉำกและ แกป้ ัญหำ แก้ปัญหำ 3 2. บอกควำมสัมพันธ์ ระหวำ่ ง 2. ควำมสัมพนั ธ์ ระหวำ่ งหน่วย ของปริมำตร หรือหน่วยของ หนว่ ยของปริมำตร หรือ ควำมจุ หน่วยของควำมจุ ทศิ และแผนผงั 1. บอกชื่อและทศิ ทำงของทิศ 1. กำรบอกชือ่ และทศิ ทำงของทศิ 1 ท้ังแปด ทั้งแปด 2 2. กำรอำ่ น เขยี นแผนผังแสดง 2. อ่ำน เขยี นแผนผงั แสดง ตำแหนง่ ของสงิ่ ตำ่ งๆ และ ตำแหน่งของสงิ่ ต่ำงๆ และ แผนผงั แสดงกำรเดินทำงโดย แผนผงั แสดงกำรเดินทำง โดยใช้มำตรำสว่ น ใช้มำตรำส่วน เงนิ 1 1. เขียนและอ่ำนจำนวนเงินโดย 1. กำรเขียนและกำรอ่ำนจำนวน ใช้จุดทศนิยมกำหนดหน่วย เงนิ จำนวนเตม็ และเศษของหน่วย 2. เปรยี บเทียบจำนวนเงินและ 2. กำรเปรียบเทียบจำนวนเงินและ 2 แลกเปล่ียนเงินตรำ แลกเงนิ หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 178

176 ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ชี้วดั เนอ้ื หา จานวน 6 เรขำคณิต (ช่ัวโมง) 3. แก้โจทย์ปัญหำเก่ียวกับเงินได้ 3. กำรแก้โจทยป์ ัญหำเกย่ี วกับเงิน 4. อ่ำนและเขยี นบนั ทกึ 4. กำรอำ่ นและบันทึกรำยรับ- 1 1 รำยรบั -รำยจำ่ ย รำยจำ่ ย อุณหภมู ิ 1 1. กำรวัดอณุ หภมู ิเป็นองศำ- 1. กำรวดั อณุ หภมู ิเป็นองศำ- 1 ฟำเรนไฮต์ และองศำเซลเซยี ส 1 ฟำเรนไฮต์ และองศำเซลเซยี ส 2. เปลีย่ นหน่วยกำรวัดอุณหภูมิ 2. กำรเปลี่ยนหนว่ ยกำรวดั 1 เวลำ 1. บอก เขยี นและอำ่ นเวลำ 1. บอกและเขยี นเวลำจำกหน้ำปดั 1 นำฬิกำ จำกหนำ้ ปดั นำฬกิ ำได้ 2 โดยใช้จดุ ทศนิยมกำหนด 2. กำรอ่ำนตำรำงเวลำ และกำร 2 หน่วยช่วั โมงและนำที บนั ทกึ เหตุกำรณ์ หรอื 2. อำ่ นบันทกึ เวลำ และบันทกึ กิจกรรม 1 กจิ กรรมหรือเหตุกำรณ์ต่ำงๆ 1 โดยระบเุ วลำ 3. ควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งหน่วย 3 3. เปลี่ยนหน่วยเวลำจำกหน่วย เวลำ ใหญ่เป็นหนว่ ยย่อยและจำก หน่วยยอ่ ยเปน็ หนว่ ยใหญ่ได้ 4. กำรแกป้ ญั หำเกยี่ วกับเวลำ 4. แกโ้ จทยป์ ญั หำเกย่ี วกับเวลำ กำรคำดคะเน 1. กำรคำดคะเนเกยี่ วกับควำมยำว 1. คำดคะเนเกย่ี วกับควำมยำว พนื้ ท่ี ปริมำตร ควำมจุ น้ำหนัก พนื้ ที่ ปริมำตร ควำมจุ และเวลำ นำ้ หนกั และเวลำ 1. จำแนกชนดิ ของรปู เรขำคณิต 1. ชนดิ ของรปู เรขำคณิต สองมิติ สองมติ ิและสำมมิติ และสำมมติ ิ 2. เข้ำใจลักษณะของลกู บำศก์ และนำไปใช้ 2. ลูกบำศก์ 3. เขียนรปู เรขำคณิตสองมิติ และประดษิ ฐ์รูปเรขำคณิต 3. กำรประดษิ ฐ์รปู เรขำคณิตสอง สำมมิติ มติ ิ หรือสำมมิติ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) 179

177 ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชวี้ ัด เนอ้ื หา จานวน 7 สถติ ิ (ชว่ั โมง) 1. เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเพอื่ ตอบ 1. กำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู กำร 8 ควำมนำ่ จะเป็น คำถำมโดยใชก้ ำรสังเกต จำแนกขอ้ มูลโดยกำรสงั เกต 3 เบ้อื งต้น กำรสำรวจ และกำรทดลอง และกำรสำรวจ 3 2. อ่ำนและเขียนแผนภมู ิรูปภำพ 2. กำรอ่ำน กำรเขยี นและ และแผนภมู ิแท่ง เปรยี บเทียบ เปรยี บเทียบแผนภมู ริ ูปภำพ 2 และแผนภูมิแท่ง 2 3. อ่ำนและเขียนกรำฟเส้น 5 4. อ่ำนและเขยี นแผนภมู ิ 3. กำรอ่ำนและกำรเขยี นกรำฟเส้น 4. กำรอ่ำนแผนภมู ิรูปวงกลม รูปวงกลม อภปิ รำยเหตกุ ำรณเ์ พื่อสรำ้ ง โอกำสและเหตกุ ำรณท์ ีจ่ ะเกิดข้ึน ควำมคุน้ เคยกับคำทม่ี ีควำมหมำย แนน่ อนหรอื อำจจะเกดิ ข้ึนหรอื เชน่ เดียวกบั คำวำ่ “แน่นอน” อำจจะไม่เกดิ ขึ้นหรอื เป็นไปไม่ได้ “อำจจะเกิดขึ้น หรือไม่เกิดขึ้น” “เปน็ ไปไม่ได้” และรูจ้ ักใช้คำ เหล่ำน้ี หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 180

ค�ำ อธบิ ายรายวิชา และ รายละเอียดค�ำ อธบิ ายรายวชิ าบังคับ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 182

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 183

181 รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า พค21001 คณติ ศาสตร์ จานวน 4 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับจานวนและการดาเนินการ เศษส่วนและทศนยิ ม เลข ยกกาลงั อตั ราส่วนสัดสว่ น และร้อยละ การวัด ปรมิ าตรและพ้นื ท่ผี วิ คอู่ ันดับและ กราฟ ความสมั พนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติและเรขาคณิตสามมิติ สถิติและ ความน่าจะเป็น ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชวี้ ัด เนือ้ หา จานวน (ช่ัวโมง) 1 จานวนและ 1. ระบุหรือยกตัวอย่างจานวนเตม็ 1. จานวนเตม็ บวก จานวนเต็มลบ 3 การดาเนินการ บวก จานวนเตม็ ลบ และศนู ย์ และศูนย์ 2. การเปรยี บเทียบจานวนเตม็ 3 2. เปรยี บเทียบจานวนเต็ม 13 3. บวก ลบ คูณ หาร จานวนเตม็ 3. การบวก ลบ คณู และหาร และอธบิ ายผลท่ีเกดิ ข้นึ จานวนเตม็ 4. บอกสมบตั ิของจานวนเตม็ 4. สมบัติของจานวนเต็มและการ 6 และ นาความรู้เกีย่ วกบั นาไปใช้ สมบตั ิของจานวนเตม็ ไปใช้ 2 เศษสว่ นและ 1. บอกความหมายของเศษส่วน 1. ความหมายของเศษส่วนและ 1 ทศนิยม และทศนยิ ม ทศนยิ ม 2. เขียนเศษสว่ นในรปู ทศนยิ ม 2. การเขียนเศษส่วนดว้ ยทศนิยม 2 และเขียนทศนิยมซา้ ในรูป และการเขยี นทศนิยมซา้ เป็น เศษส่วน เศษสว่ น 3. การเปรยี บเทียบเศษส่วนและ 2 3. เปรียบเทยี บเศษส่วนและ ทศนิยม ทศนยิ ม 4. บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน 4. การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน 6 และทศนิยมได้ และอธิบายผล และทศนิยม ที่เกดิ ข้ึน 5. นาความรู้เกีย่ วกบั เศษสว่ นและ 5. โจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์ 6 ทศนิยมไปใช้แกโ้ จทย์ปญั หา เกยี่ วกบั การบวก ลบ คณู หาร รวมทง้ั สถานการณเ์ ก่ียวกบั ความ เศษส่วนและทศนยิ ม น่าจะเป็น หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2554) 184

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 185

หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) 186

184 ที่ หวั เรอ่ื ง ตัวชี้วดั เน้ือหา จานวน 8 ความสัมพันธ์ 1. ภาพของรปู เรขาคณิตสองมิติที่ (ชัว่ โมง) 1. อธิบายลกั ษณะของรูป ระหวา่ งรูป เรขาคณิตสามมิติจากภาพสอง เกิดจากการคลี่รปู เรขาคณิต 4 เรขาคณิตสอง มิติท่ีกาหนดให้ สามมติ ิ มติ ิและสามมติ ิ 2. ภาพของมิตทิ ่ไี ด้จากการมอง 4 2. ระบภุ าพสองมิตทิ ไ่ี ด้จากการ ด้านหนา้ ด้านข้าง หรือ 9 สถติ ิ มองด้านหน้า ด้านข้าง ดา้ นบนของรูปเรขาคณติ สาม 2 ด้านบน ของรปู เรขาคณิต มติ ิ 10 ความนา่ จะเปน็ สามมติ ิ ท่ีกาหนดให้ 3. การวาดหรอื ประดษิ ฐ์รปู 2 เรขาคณิตท่ปี ระกอบขึน้ จาก 5 3. วาดหรือประดษิ ฐ์รูปเรขาคณติ ลูกบาศก์ 5 ท่ปี ระกอบขน้ึ จากลกู บาศก์ 2 เม่ือกาหนดภาพสองมิติท่ไี ด้ 1. การรวบรวมข้อมูล 2 จากการมองทางดา้ นหนา้ 2. การนาเสนอข้อมลู ด้านขา้ ง หรอื ดา้ นบน 2 3. การหาค่ากลางของข้อมูล 1. เก็บรวบรวมข้อมูลท่ีเหมาะสม 3 2. นาเสนอข้อมูลในรปู แบบท่ี 4. การเลือกใชค้ ่ากลางของข้อมลู 5 เหมาะสม 5. การอ่าน การแปลความหมาย 3. การหาค่ากลางของข้อมลู ที่ และการวเิ คราะหข์ ้อมลู ไม่แจกแจงความถี่ 6. การใชข้ ้อมลู สารสนเทศ 4. เลือกและใช้ค่ากลางของข้อมูล 1. การทดลองสุ่ม และเหตุการณ์ ทกี่ าหนดให้ได้อยา่ งเหมาะสม 5. อา่ น แปลความหมาย และ 2. การหาความนา่ จะเปน็ ของ เหตกุ ารณ์ วิเคราะห์ข้อมลู จากการ นาเสนอข้อมลู ทก่ี าหนดให้ 6. อภิปรายและใหข้ อ้ คิดเหน็ เกีย่ วกับข้อมูลขา่ วสารทาง สถิติทสี่ มเหตุสมผล 1. อธิบายเกย่ี วกบั การทดลองสมุ่ และเหตุการณไ์ ด้ 2. หาคา่ ความนา่ จะเป็นของ เหตุการณ์ได้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) 187

185 ท่ี หวั เรื่อง ตัวชี้วดั เนอ้ื หา จานวน (ชวั่ โมง) 3. ใช้ความรู้เกย่ี วกบั ความนา่ จะ 3. การนาความน่าจะเป็นของ 5 เป็นในการคาดการณ์ได้อยา่ ง เหตุการณต์ ่างๆ ไปใช้ สมเหตุสมผล 11 การใชท้ กั ษะ 1. สามารถวเิ คราะหง์ านอาชีพใน 1. ลักษณะประเภทของงานอาชีพ 2 ท่ใี ช้ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ กระบวนการ สงั คมทใ่ี ช้ทกั ษะทาง ทางคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในงานอาชีพ 2. มคี วามสามารถในการ 2. การนาความรู้ทาง คณติ ศาสตร์ 2 เชือ่ มโยงความรู้ตา่ ง ๆ ทาง ไป เชือ่ มโยงกับงานอาชีพ คณติ ศาสตรก์ ับงานอาชพี ได้ ในสังคม หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2554) 188

ค�ำ อธบิ ายรายวิชา และ รายละเอยี ดค�ำ อธบิ ายรายวิชาบงั คับ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

187 คำอธบิ ำยรำยวิชำ พค31001 คณติ ศำสตร์ จำนวน 5 หนว่ ยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จานวนและการดาเนินการ เลขยกกาลังทีม่ ีเลขช้ี กาลงั เป็นจานวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตผุ ล อัตราส่วน ตรโี กณมิติ และการ นาไปใช้ การใชเ้ ครื่องมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์ สถิตเิ บือ้ งตน้ และความ นา่ จะเปน็ ศึกษำและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั เร่ืองดังต่อไปน้ี จำนวนและกำรดำเนินกำร จานวนจริง สมบัติของจานวนจรงิ เกี่ยวกบั การบวกและการคณู สมบตั ิ การเทา่ กัน และการไมเ่ ท่ากนั คา่ สัมบูรณ์ เลขยกกำลังทมี่ ีเลขชี้กำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ การบวก การลบ การคณู การหาร จานวนทม่ี ีเลขช้ี กาลงั เป็นจานวนตรรกยะ และจานวนจรงิ ท่อี ย่ใู นรูปกรณฑ์ เซต เซต การดาเนนิ การของเซต แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์และการแก้ปัญหา กำรให้เหตุผล การให้เหตุผลแบบอุปนัยและนิรนัย การอา้ งเหตุผล อัตรำสว่ นตรีโกณมิติและกำรนำไปใช้ อัตราส่วนตรีโกณมิติ อตั ราส่วนตรีโกณมิติของมุม 30 45 และ 60 การนาอัตราสว่ นตรโี กณมิติไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาเกี่ยวกับการหาระยะทางและความสงู กำรใชเ้ ครอื่ งมอื และกำรออกแบบผลิตภณั ฑ์ การสรา้ งรปู ทางเรขาคณิตโดยใช้เครื่องมือและการออกแบบ ผลติ ภัณฑ์ สถติ ิเบือ้ งต้น การวเิ คราะหข์ ้อมูลเบื้องตน้ การหาคา่ กลางของข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลย่ี เลขคณิต มธั ย ฐานและฐานนยิ ม และการนาเสนอข้อมลู ควำมน่ำจะเปน็ กฎเกณฑ์เบ้ืองตน้ เกีย่ วกบั การนับ ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์ กำรใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตรใ์ นงำนอำชีพ นาทักษะทางคณติ ศาสตรไ์ ปประยกุ ตใ์ ช้ ในการประกอบอาชพี ในสงั คมและในกลุ่มประชาคมอาเซยี น กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ จดั ประสบการณ์หรือสถานการณ์ในชีวิตประจาวันให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาค้นควา้ โดยการปฏิบัติจรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่อื พัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหาการให้เหตุผล การส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณด์ ้านความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการ เรยี นร้สู ่งิ ต่างๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมทัง้ เห็นคุณคา่ และมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณและมีความเชือ่ ม่ันใน ตนเอง หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2554) 190

163 การวัดและประเมินผล ใชวิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเปนจริงใหสอดคลองกับเนื้อหาและทักษะที่ตอ งการวดั รายละเอยี ดคําอธิบายรายวชิ า พค31001 คณติ ศาสตร จาํ นวน 5 หนว ยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรูระดบั มีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับจํานวนและการดําเนินการ เลขยกกําลังที่มีเลขชี้ กาํ ลังเปน จํานวนตรรกยะ เซต และการใหเหตุผล อัตราสวน ตรโี กณมิติ และการ นาํ ไปใช การใชเครื่องมอื และการออกแบบผลิตภัณฑ สถิตเิ บือ้ งตน และความ นาจะเปน ท่ี หวั เร่อื ง ตัวช้ีวดั เน้อื หา จาํ นวน (ช่วั โมง) 1 จาํ นวนและการ 1. แสดงความสัมพันธของจํานวน 1. ความสัมพันธของระบบจํานวน 1 ดาํ เนนิ การ ตางๆ ในระบบจํานวนจริง จรงิ 2. อธิบายความหมายและหา 2. สมบัติของการบวก การลบ การ 7 ผลลัพธท เ่ี กิดจากการบวก คณู และการหาร จํานวนจริง การลบ การคูณ และการหาร จาํ นวนจรงิ 7 3. อธบิ ายสมบตั ิของจํานวนจรงิ 3. สมบัติการเทากันและการไม เทา กนั ทีเ่ กี่ยวกับการบวก การคณู การเทากัน และการไมเทากัน และนําไปใช 5 4. อธบิ ายเก่ียวกับคาสมั บูรณของ 4. คาสมั บูรณ จํานวนจริงและหาคาสัมบูรณ ของจํานวนจริง 2 เลขยกกําลังที่มี 1. อธิบายความหมายและบอก 1. จาํ นวนตรรกยะ และอตรรกยะ 1 เลขชก้ี ําลังเปน ความแตกตางของจํานวน จาํ นวนตรรกยะ ตรรกยะ และอตรรกยะ 2. อธบิ ายเก่ียวกับจํานวนจริงทอ่ี ยู 2. เลขยกกําลังท่ีมเี ลขชี้กําลังเปน 8 ในรูปเลขยกกําลังทีม่ เี ลขชี้กาํ ลงั จาํ นวนตรรกยะและจาํ นวนจรงิ เปน จํานวนตรรกยะ และ ในรปู กรณฑ จาํ นวนจริงในรูปกรณฑ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการเรยี นรู้ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2554) 191