Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_49

tripitaka_49

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:41

Description: tripitaka_49

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 381แตพ วกเราเปน คนเปลือยกาย เพราะฉะนัน้ ขอทา นจงบากบั่นกระทําความพยายามอยา งนนั้ เถิด ขอรับ. บทวา ยถา วตถฺ  ลภามเสความวา ขอทา นทง้ั หลายจงพยายามโดยประการ คือโดยความพยายามท่ขี าพเจา ทัง้ หมดพึงไดผ าเถดิ . บทวา สงฺการกกูฏมหฺ า ไดแก จากกองหยากเย่ือในที่นนั้ ๆ.บทวา อุจจฺ นิ ติ ฺวาน ไดแก ถือเอาโดยการแสวงหา. บทวา นนฺตเกไดแ ก ทอนผา ทเี่ ขาทง้ิ มชี ายขาด. ก็เพราะผาเหลานั้น ชือ่ วาเปน ผาทอนเกา ขาดรุงรง่ิ พระเถระเอาผา เหลา น้นั ทาํ เปนจวี รถวายสงฆ เพราะฉะนน้ั ทา นจึงกลา ววา ทาํ ผา ทอนเกา ใหเ ปนผนื ผาแลวอุทศิ สงฆผ มู าจากจตรุ ทิศ บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา สงฺเฆจาตทุ ฺทิเส อท ความวา ไดถวายแกสงฆ ผมู าจากทศิ ทง้ั ๔.กบ็ ทวา สงเฺ ฆ จาตุททฺ ิเส นี้ เปน สตั ตมวี ภิ ัตลิ งในอรรถแหงจตตุ ถวี ิภัต.ิ บทวา สุวตฺถวสโน แปลวา เปนนงุ หมผาดี. บทวาเถรสฺส ทสฺสยตี มุ  ความวา แสดงตน คอื อา งตน ไดแกปรากฏตนแกพระเถระ. ผาชอื่ วา ปฏจิ ฉทา เพราะเปนท่ปี กปด บทวา กฏู าคารนิเวสนา ไดแก เรือนทเ่ี ปน ปราสาท และทีอ่ ยูอาศยั อ่ืนจากปราสาทน้ัน. จรงิ อยู บทวา กูฏาคารนเิ วสนาน้ี ทา นกลา วโดยเปน ลิงควปิ ลาส. บทวา วภิ ตฺตา ไดแ ก ที่เขาจดัแบง โดยสันฐาน ๔ เหลย่ี มเทากนั ยาว และกลม. บทวา ภาคโสมติ า แปลวา กาํ หนดเปนสว น ๆ. บทวา โน ไดแ ก ขา พเจาท้ังหลาย

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 382บทวา อธิ ไดแก เปตโลกนี.้ ศพั ทวา อป ในบทวา อป ทิพฺเพสุน้ี เปน เพียงนิบาต อธิบายวา ในเทวโลก. บทวา กรก ไดแก ธมกรก. บทวา ปูเรตวฺ า แปลวา เต็มดวยน้าํ . บทวา วารกิ ิ ชฺ กขฺ ปรู ิตา ไดแ ก เหมอื นาํ้ ในท่นี ้ัน ๆดารดาษเต็มดวยเกสรปทุมและอบุ ล เปน ตน บทวา ผลนตฺ ิ แปลวายอ มบาน อธิบายวา แตกออกทส่ี นเทาและริม ๆ เทา เปนตน . บทวา อาหิณฺฑมานา ไดแ ก เท่ียวไปอยู. บทวา ขฺชามแปลวา เขยกไป. บทวา สกฺขเร กุสกณฏฺ เก ไดแก ในภมู ิภาคอันมกี อนกรวด และหนอหญาคา อธบิ ายวา เหยียบลงทีก่ อนกรวดและหนอ หญา คา. บทวา ยาน ไดแ ก ยานชนิดใดชนดิ หน่ึง มีรถและลอเลอื นเปน ตน . บทวา สิปาฏกิ  ไดแก รองเทาชั้นเดยี ว. ม อักษรในบทวา รเถน มาคมุ นี้ ทําการเชอ่ื มบท คือมาดว ยรถ. บทวา อภุ ย แปลวา ดวยการใหท้ัง ๒ คือ ดว ยการใหย าน และดวยการใหปจจยั ๔ มีภตั เปนตน จรงิ อยู ในการให๒ อยางนั้น แมการใหเ ภสชั ทานก็สงเคราะหดวยการใหน ํ้าดมื่คําทเ่ี หลอื งา ยท้งั น้ัน เพราะมีนัยดังกลา วแลว ในหนหลงั นน่ั แล พระเถระกราบทลู เร่อื งนนั้ แดพ ระผูม ีพระภาคเจา พระ-ผมู ีพระภาคเจา ทรงทําเรือ่ งน้นั ใหเปนอตั ถุปปตติเหตุ จงึ ตรสั วาเปรตเหลา น้ี ยอ มเสวยทุกขอยางใหญใ นบัดน้ี ฉนั ใด แมท านก็ฉนั น้ัน เปนเปรตในอัตตภาพอนั เปนลําดบั อันเปน อดีต แตอัตตภาพนย้ี อมเสวยทกุ ขใหญ ดังน้ีแลว อนั พระเถระทลู อาราธนา จงึ ทรง

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 383แสดงเรอ่ื งสตุ ตเปรตแลวทรงแสดงธรรมแกบ รษิ ัทผูถึงพรอมแลวมหาชนไดฟ งเรอื่ งน้นั แลว เกิดความสลดใจ ไดเปน ผูยินดีในบุญกรรมมีทานและศลี เปนตนแล. จบ อรรถกถาสานวุ าสีเถรเปตวัตถุที่ ๒

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 384 ๓. รถการีเปติวตั ถุวา ดวยอยากอยกู ับนางเปรตในสวนนันทนวันมาณพคนหน่งึ ถามนางเวมานกิ เปรตตนหนงึ่ วา[๑๑๓] ดูกอ นนางเทวผี ูม อี านภุ าพมาก ทานขึน้สูวมิ านมีเสาอันลวนแลว ดว ยแกวไพฑูรย งามผุดผอ ง มีรปู ภาพอันวิจิตรตาง ๆ อยใู นวิมานนัน้ดจุ พระจันทรใ นวันเพ็ญงามโชตชิ ว งในทอ งฟาฉะนน้ั อน่งึ รัศมีของทา นมีสดี งั ทองคํา ทา นมีรปู รา งอันอุดมนา ดนู า ชมยง่ิ นัก นงั่ อยูแตผูเดียวบนบลั ลงั กอ ันประเสริฐมคี ามาก สามขี องทานไมม หี รอื กส็ ระโบกขรณีของทานเหลาน้ีมอี ยโู ดยรอบ มกี อบวั ตา ง ๆ เปน อนั มาก มีบัวขาวมากเกลอื นกลนดวยทรายทองโดยรอบ ในสระโบกขรณนี ั้น หาเปอ กตมและจอกแหนมิได มหี งสนา ดูนาชมนา รน่ื รมยใจเท่ยี วแวะเวียนไปในน้าํทุกเมื่อ หงสท ั้งปวงนั้นมเี สียงไพเราะพากนั มา ประชมุ รํา่ รอ งอยู เสยี งรา่ํ รอ งแหง หงสในสระโบกขรณขี องทา น มไิ ดขาดเสียง ดจุ เสียงกลองทานมยี ศงามรุงเรอื่ ง ลงนงั่ อยใู นเรือ ทานมีขนตาโกงดําดี มีหนายิม้ แยมพดู จานา รกั ใคร มี

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 385 อวัยวะทง้ั ปวงงามรงุ เรอื งย่ิงนกั วมิ านของทา น น้ปี ราศจากละอองธลุ ี ตั้งอยูทีภ่ าคพ้ืนอนั ราบ เรยี บ มสี วนนนั ทนวันอันใหท ีเ่ กิดความยินดีเพลดิ เพลินเจริญใจ ดูกอ นนารีผูมรี ปู รา งนาดูนา ชม เราปรารถนาเพือ่ จะอยูบันเทงิ กับทา นในสวน นนั ทนวนั ของทา นน.ี้นางเวมานิกเปรตกลาววา ทา นจงทาํ กรรมอนั จะใหท า นไดเสวยผล ในวมิ านของเราน้ี และจิตของทา นจงนอ มมาใน วมิ านนด้ี วย ทานทํากรรมอนั บนั เทิงในท่นี ี้แลว จกั ไดอ ยรู ว มกบั เราสมความประสงค มาณพน้นั รบั คาํ นางเวมานิกเปรตน้ันแลว จึงไดท าํ กรรม อนั เปน กศุ ลอนั สง ผลใหเ กิดในวิมานนัน้ ครน้ั แลว ไดเขา ถงึ ความเปน สหายของนางเวมานิก เปรตนน้ั . จบ รถการีเปตวิ ัตถทุ ี่ ๓ จบ ภาณวารที่ ๒

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 386 อรรถกถารถการีเปติวตั ถุที่ ๓ พระศาสดาเมอ่ื เสด็จประทบั อยูใ นพระนครสาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตตนหน่ึง จงึ ตรสั พระคาถาน้ีมคี าํ เร่ิมตน วาเวฬรุ ยิ ถมภฺ  รุจิร ปภสสฺ ร ดงั น้ี. ไดยนิ วา ในอดตี กาล ในกาลแหงพระผูมีพระภาคเจาทรงพระนามวากสั สปะ หญิงคนหน่งึ สมบูรณดวยศีลและอาจาระมีกัลยาณมิตรเปนท่ีองิ อาศัย เล่อื มใสยิง่ ในพระศาสนา ไดส รางอาวาสไวแหง หนงึ่ นาดยู ิ่ง มฝี า เสา บนั ได และพนื้ ภูมิอันวิจติ รอันจําแนกไวดวยดี นิมนตภกิ ษุทง้ั หลายใหน่งั ในอาวาสนัน้ อังคาสดว ยอาหารอนั ประณตี แลว มอบถวายแดภกิ ษสุ งฆ. สมยั ตอ มานางทาํ กาละแลว เกดิ เปน นางวมิ านเปรต อาศยั สระชือ่ รถการะที่ขุนเขาหิมพานต ดวยอํานาจบาปกรรมอยางหน่ึง. ดว ยอานุภาพบญุทีน่ างถวายอาวาสแกสงฆ วิมานอันลวนดวยรตั นะทุกอยา ง กวา งขวาง โดยรอบนา เลือ่ มใส นาร่ืนรมยใ จอยางยิ่ง งดงามเสมือนนันทนวัน ณ สระโบกขรณี ยอ มเกิดขึ้นแกน างและนางเองกม็ ีผิวพรรณดังทองคาํ งดงามนา ชมนาเลอื่ มใส. นางเวนจากพวกบรุ ษุ เสีย เสวยทิพยสมบัติอยู ณ ทนี่ นั้เมื่อนางไมม ีบรุ ษุ อยใู นทน่ี น้ั เปนเวลานาน กเ็ กิดความเบ่อื หนายขึ้น นางรําคาญขึน้ แลว คดิ วา อุบายน้ีใชไ ด จงึ ท้ิงมะมว งสุกอนัเปน ทพิ ยลงในแมน ํ้า. คําทงั้ หมดพึงทราบโดยนัยอันมาแลว ในเรือ่ ง

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 387นางกรรณมุณฑเปรตนน่ั แหละ. ก็ในเรือ่ งนี้ ยงั มีมาณพคนหนึ่งชาวกรงุ พาราณสี เห็นผลมะมว งผลหนึ่ง ในบรรดามะมวงสกุเหลา นัน้ ในแมนา้ํ คงคา จงึ ไปสทู อี่ ยขู องนางโดยทํานองนัน้ นางเห็นดังน้ัน จึงนําเขาไปยงั ที่อยขู องตน การทาํ ปฏสิ ันถารแลวนัง่ .เขาเหน็ ความสมบรู ณข องสถานท่อี ยขู องนางเม่อื จะถามจึงกลา วคาถาเหลานว้ี า ดูกอ นนางเทวีผมู ีอานภุ าพมา ทานขึ้นสู วมิ านมเี สาเปน วิการแหง แกว ไพฑูรย งามผุดผอง มีรูปภาพอันวิจติ รตาง ๆ อยูใ นวมิ านน้ัน ดุจ พระจนั ทรเพญ็ ลอยเดนอยใู นทองฟา ฉะนั้น. อน่งึ รศั มขี องทานมีสีดงั ทองคาํ ทานมีรูปอนั อุดม นาดนู า ชมย่งิ นกั น่งั อยแู ตผ ูเดยี วบนบลั ลงั ก อันประเสรฐิ มีคา มาก สามีของทานไมมหี รอื ก็สระโบกขรณีของทา นเหลานี้ มอี ยโู ดยรอบ มีบัวตาง ๆ เปน อนั มาก มบี ัวขาวมาก เกลือ่ น กลน ดว ยทรายทองโดยรอบ, ในสระโบกขรณีนั้น หาเปอ กตมและจอกแหนมไิ ด มหี งสนาดนู าชม นาร่ืนรมยใ จ เทย่ี วแวะเวียนไปในนํา้ ทุกเมือ่ หงสท ง้ั ปวงนน้ั มีเสยี งไพเราะ พากนั นาประชุม รํ่ารองอยู เสยี งร่าํ รอ งของหงสใ นสระโบกขรณี ของทานมิไดข าดเสียง ดุจเสยี งกลอง ทานมยี ศ

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 388 งามรงุ เรอื ง ลงนง่ั อยใู นเรอื ทานมคี ้ิวโกงดําดี มีหนา ยิ้มแยม พดู จานา รกั ใคร มอี วยั วะทง้ั ปวง งามรงุ เรืองยิง่ นัก. วิมานนีป้ ราศจากละอองธลุ ี ตัง้ อยทู ่ีภาคพน้ื อนั ราบเรียบ มสี วนนนั ทนวนั อนั ใหเกิดความยินดี เพลดิ เพลินเจริญใจ ดูกอน นารีผมู ีรา งนาดูนาชม เราปรารถนาเพื่อจะอยู บันเทิงกับทาน ในสวนนนั ทนวันของทานน.ี้ บรรดาบทเหลานัน้ บทวา ตตฺถ โยควาในวิมานนัน้ . บทวาอจฉฺ สิ ไดแ ก ทานนง่ั อยูใ นเวลาทป่ี รารถนาแลว ๆ. มาณพเรียกนางเปรตนนั้ วา เทวิ. บทวา มหานุภาเว ไดแ ก ผูประกอบดวยอานุภาพทพิ ยอนั ใหญ. บทวา ปถทฺธนิ ไดแ ก ทางไกลอันเปนทางของตน อธบิ ายวา ทางพนื้ อากาศ. บทวา ปณณฺ รเสว จนโฺ ทความวา โชติชว งอยู ดุจพระจนั ทรอนั มดี วงบริบูรณในวันเพ็ญ. บทวา วณฺโณ จ เต กนกสสฺ สนนฺ ิโก ความวา ก็ผิวพรรณของทา นดุจทองสงิ ดอี ันสกุ ปลัง่ นารนื่ รมยใจยิง่ นกั . ดว ยเหตนุ ัน้มาณพจงึ กลา ววา มีรูปอันอุดมนาดนู า ชมยง่ิ นัก. บทวา อตเุ ลไดแ ก อนั ควรคามาก. อีกอยา งหน่งึ คาํ วา อตุเล เปนคําเรียกเทวดา อธิบายวา มรี ปู ไมมีใครเหมือน. บทวา นตถฺ ิ จ ตุยหฺ สามิโกความวา ก็สามขี องทา นไมม หี รอื . บทวา ปหูตมลฺยา ไดแ ก มีดอกไมห ลายชนิด มีดอกบัวเปนตน.บทวา สวุ ณฺณจณุ ฺเณหิ แปลวา ดวยทรายทอง. บทวา สมนฺตโมตถฺ ตา

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 389แปลวา เกลื่อนกลนโดยรอบ. บทวา ตตฺถ ไดแก ในสระโบกขรณีทั้งหลายนน้ั . บทวา ปงโฺ ก ปณโก จ ความวา ไมมเี ปอ กตมหรอืจอกแหนในนํ้า. บทวา ห สา จิเม ทสฺสนียา มโนรมา ความวา หงสเหลา น้ีดูนา เปน สุข นา รนื่ รมยใ จ. บทวา อนุปรยิ นฺติ ไดแ ก ทอ งเทยี่ วไป.บทวา สพฺพทา ไดแ ก ในทุกฤดกู าล. บทวา สมยยฺ แปลวา ประชุมกนั . บทวา วคคฺ ู แปลวา ไพเราะ. บทวา อปุ นทนตฺ ิ แปลวาเพรียกรองอยู. บทวา พนิ ฺทสุ สฺ รา ไดแก มเี สยี งไมแ ตกพราคือ มเี สียงกลมกลอม. บทวา ทนุ ฺทุภีน ว โฆโส ความวา เสียงรอ งของพวกหงสใ นสระโบกขรณขี องทาน ดุจเสียงกลอง เพราะเปนเสียงไพเราะและกลมกลอม. บทวา ททฺทลลฺ มานา ไดแ ก รุงเรืองอยา งยงิ่ . บทวา ยสสาไดแก ผูมเี ทพฤทธิ์. บทวา นาวาย ไดแ ก ในเรอื โกรน. จรงิ อยูมาณพเหน็ นางเปรตนั่งอยูบนบลั ลังกอ ันมีคา มากในเรอื ทองคํากําลังเลนกีฬาในนํา้ ณ สระโบกขรณีอันมกี อปทมุ จึงไดกลาวอยางนน้ั : บทวา อวลมฺพ ความวา ลงน่ังไมองิ พนัก. คําวาตฏิ  สิ น้ี เปน คําหามการไป เพราะฐานะศพั ท มอี นั หามการไปเปน อรรถ. บาลวี า นิสชชฺ สิ ดังนีก้ ม็ ี พงึ เหน็ ความแหง บทวานิสชฺชสิ เปน นิสชฺชสิ น่ันเอง. บทวา อาฬารปมเฺ ห ไดแ กมขี นตาดํา ยาว งอน. บทวา หสิเต แปลวา มีหนายมิ้ แยม รา เริงยิง่ นัก. บทวา ปย  วเท แปลวา พดู จานา รักใคร. บทวา

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 390สพฺพงคฺ กลยฺ าณิ แปลวา งามดวยอวัยวะท้งั ปวง คอื มีอวัยวะทุกสวนงดงาม. บทวา วโิ รจสิ แปลวา รุงเรืองย่ิงนกั . บทวา วิรช ปลวา ปราศจากธลุ ี คือ ไมมโี ทษ. บทวาสเม ติ  ไดแก ตั้งอยทู ี่ภาคพ้นื อนั ราบเรียบ หรอื ตัง้ อยูทีภ่ าคพนื้อันเสมอ เพราะงดงามทง้ั ๔ ดา น อธิบายวา งามรอบดาน. บทวาอุยฺยานวนตฺ  ไดแ ก ประกอบดวยสวนนันทนวนั . บทวา รตนิ นทฺ -ิวฑฒฺ น ความวา ช่อื วารตนิ นั ทวิ ัฑฒนะ เพราะทําความยนิ ดีและความเพลดิ เพลนิ ใจใหเ จริญ, อธบิ ายวา ทาํ สุขและปต ิใหเจริญ.คาํ วา นาริ เปน คํารองเรียกนางเปรตนัน้ . บทวา อโนมทสฺสเนไดแ ก เห็นเขา ไมน า ติเตยี น เพราะมอี วัยวะนอ ยใหญบ ริบูรณ.บทวา นนทฺ เน ไดแ ก ผูกระทาํ ความบันเทงิ ใจ. บทวา อิธ แปลวาในสวนนันทนวนั น้ี หรือในวมิ านน.ี้ บทวา โมทิตุ มีวาจาประกอบความวา เราปรารถนาเพ่ือจะอภริ มย. เมือ่ มาณพนัน้ กลาวอยางนน้ั แลว วิมานเปตเิ ทวดาน้ันเม่ือจะใหคาํ ตอบแกม าณพน้ัน จงึ กลาวคาถาวา :- ทา นจงกระทาํ กรรมอันจะใหทา นได เสวยผลในวิมานของเราน้ี และจิตของทาน จงนอ มมาในวิมานนีด้ วย ทา นทํากรรมอนั บนั เทงิ ในท่นี แี้ ลว จักไดอ ยรู วมกับเราสมความ ประสงค.

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 391 บรรดาบทเหลา นั้น บทวา กโรหิ กมมฺ  อิธ เวทนีย ความวาทานจงทาํ คอื พงึ ไดป ระสบกศุ ลธรรมอนั เผล็ดผล คือ ใหผลในทพิ ยสถานน้.ี บทวา อิธ นหิ ิต ไดแก นอ มนาํ จติ เขาไปในวมิ านนี้,บาลวี า อธิ นินนฺ  ดงั น้กี ็มี อธิบายวา จิตของทา นจงนอ ม โอนเอื้อมไปในท่ีนี.้ บทวา มม แปลวา ซงึ่ เรา. บทวา ลจฉฺ สิแปลวา จักได. มาณพนน้ั ไดฟ ง คําของนางวมิ านเปรตนนั้ แลว จากท่นี ้ันไปยงั ถ่ินมนุษย ตั้งจติ นั้นไวใ นที่น้นั การทาํ บุญกรรมอันเกดิ แตจิตนนั้ ไมน านนกั กระทาํ กาละแลว บงั เกดิ ในวิมานนน้ั เขา ถงึ ความเปนสหายกับนางเปรตน้นั พระสงั คีติกาจารยท ง้ั หลายจงึ กลา วคาถาสุดทายวา :- มาณพนั้นรบั คาํ ของนางเปรตนั้นแลว ไดก ระทํากรรมอันเปน กุศลสง ผลใหเกดิ ในวิมาน นนั้ ครน้ั แลวไดเ ขา ถึงความเปน สหายของนาง เวมานกิ เปรตนนั้ . บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา สาธุ เปนนิบาตใชในอรรถสัมปฏิจฉนตั ถะ. บทวา ตสฺสา ไดแก นางเวมานกิ เปรตนน้ั . บทวาปฏิสสฺ ณุ ิตวฺ า ไดแ ก รับคําของนางเวมานกิ เปรตนนั้ . บทวา ตหึเวทนยี  ไดแ ก กุศลกรรมอันมีผลเปน สุขที่จะพงึ ไดร บั กับนางเวมานิกเปรตนั้น ในวิมานนน้ั . บทวา สหพฺยต คอื ซงึ่ ความอยู

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 392รวมกัน. มีวาจาประกอบความวา มาณพนัน้ เขา ถงึ ความเปนสหายกบั นางเวมานกิ เปรตน้นั . คาํ ท่ีเหลืองายทัง้ นั้น. เมื่อคนเหลา นนั้ เสวยทพิ ยสมบตั ิในวมิ านนน้ั ตลอดกาลนานอยางน้ี เพราะสิน้ กรรม บรุ ุษจงึ กระทํากาละ แตห ญิงเพราะบุญกรรมของตนถงึ เขตสมบัติ จงึ อยูจนครบอายุในวมิ านน้ัน ตลอดพทุ ธันดรหนงึ่ . คร้นั เม่ือพระผมู ีพระภาคเจา ของเราทง้ั หลายเสด็จอุบัติขน้ึ ในโลก ทรงประกาศธรรมจกั รอันบวร ประทับอยใู นพระเชตวนั มหาวิหารโดยลาํ ดบั วันหน่ึง ทา นพระมหาโมคคลั ลานะจารกิ ไปบนภเู ขา เหน็ วมิ านและนางเวมานกิ เปรตนัน้ จึงถามดว ยคาถามอี าทิวา วมิ านมีเสาแลวดว ยแกว ไพฑูรยง ดงามผุดผองและนางเวมานิกเปรตนัน้ ไดเ ลา ประวัตขิ องตนท้งั หมดแกทานพระมหาโมคคัลลานะ ต้งั แตตน . พระเถระไดฟง ดงั น้นั มายังกรุงสาวตั ถีกราบทูลแดพ ระผมู พี ระภาคเจา . พระผูม ีพระภาคเจาทรงกระทาํ เร่ืองนนั้ ใหเ ปน อัตถุปปต ติเหตุ ทรงแสดงธรรมแกบ ริษทัถึงพรอมแลว มหาชนไดฟง ดงั นั้นแลว ไดเปนผยู นิ ดีในบญุ ธรรมมที านเปนตน ฉะนีแ้ ล. จบ อรรถกถารถการเี ปติวตั ถุที่ ๓

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 393 ๔. ภุสเปตวตั ถุ วา ดว ยบุพกรรมของเปรตทัง้ ๔ พระมหาโมคคลั ลานะ ไดถ ามบพุ กรรมของเปรตทัง้ ๔ดว ยคาถานี้ ความวา :-[๑๑๔] ทานทั้ง ๔ น้ี คนหนึง่ กอบเอาแกลบขาว สาลีที่ไฟลกุ โชนโปรยใสศีรษะของตนเอง อีก คนหนง่ึ ทุบศรี ษะของตนดวยฆอ นเหลก็ สว น คนทเี่ ปนหญงิ เอาเลบ็ จิกหลังกินเนื้อและเลือดของ ตนเอง สว นทา นกินคถู อนั เปนของไมส ะอาด ไม นา ปรารถนา น้เี ปนวบิ ากกรรมอะไร.ภรรยาของพอคา โกงตอบวา เม่อื ชาตกิ อ น ผนู เี้ ปน บุตรของดฉิ นั ไดด ี ศีรษะของฉันผเู ปน มารดา ผูนเี้ ปน สามขี องดฉิ นั เปน พอคา โกงขาวเปลอื กปนแกลบ ผนู ลี้ กู สะใภ ของดิฉัน ลักกนิ เน้ือแลว กลบั หลอกลวงดวย มุสาวาท ดฉิ ันเม่ือเกิดเปนมนษุ ยอยูในมนุษยโลก เปน หญงิ แมเ รือน เปนใหญก วาสกุลท้งั ปวง เมอื่ สงิ่ ของมีอยู เหลายาจกขอกเ็ กบ็ ซอ นเสยี ไมไ ด ใหอะไรจากของท่มี อี ยู ปกปด ไวด ว ยมสุ าวาทวา ของนี้ไมมใี นเรอื นของเรา ถาเราปกปดของทมี่ ไี ว

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 394 ขอคูถจงเปนอาหารของเรา ภัตแหง ขาวสาลีอัน มกี ลิ่นหอม ยอมกลบั กลายเปน คถู เพราะวบิ าก แตงกรรม คอื มุสาวาทของดฉิ นั กก็ รรมท้งั หลาย ไมไ รผล กรรมน้นั ยอ มไมสาบสญู เพราะฉะนั้น ดิฉนั จึงกนิ และด่ืมแตม ูตร อนั มีกลิ่นเหมน็ มีหนอน. จบภุสเปตวตั ถุที่ ๔ อรรถกถาภุสเปตวัตถทุ ่ี ๔ เมอื่ พระศาสดา ประทบั อยูใ นกรงุ สาวัตถุ ทรงปรารภเปรต ๔ ตน จงึ ตรสั พระธรรมเทศนานี้ มคี าํ เริ่มตนวา ภุสานิเอโก สาลี ปุนาปโร ดงั นี.้ ไดย ินวา ในหมบู านแหง หนึ่ง ซง่ึ ไมไกลแตกรุงสาวตั ถีมีพอคา โกงคนหนึ่ง เลีย้ งชพี ดว ยอเนสนากรรมมีการโกงดวยตราช่ังเปน ตน . เขาถอื เอาฟอ นขาวสาลี เคลา ดวยดนิ แดง ทําใหห นักกวาเดิม ปนกบั ขา วสาลแี ดงแลวขาย. บุตรของเขาโกรธวา คุณพอไมย อมใหเกยี รตยิ กยองมติ รสหายของเรา ผูมาสูเรือนเสยี เลยไดถ อื เอาเชือกหนัก ๒ เสน ตศี ีรษะมารดา. หญิงสะใภข องเขาลักกนิ เนื้อทเ่ี ก็บไวส าํ หรบั ชนทงั้ ปวงแลว เมือ่ ถกู ชนเหลา นนั้ซกั ไซรจงึ ใหค ําสบถวา ถาเรากินเน้ือนัน้ จรงิ กข็ อใหเ ราพึงเฉือนเนื้อสนั หลังของตนแลว กินทุก ๆ ภพไปเถิด. ฝา ยภริยาของเขา

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 395เมือ่ ชนทัง้ หลายพากันขออุปกรณบางอยา ง ก็ตอบวา ไมม ี เม่อืถกู ชนเหลา นนั้ รบเรา จงไดท ําสบถดว ยมสุ าวาทวา ถา เรากลา วถึงส่งิ ท่ีมอี ยวู าไมม ไี ซร ขอใหเราพงึ เปนผมู คี ถู เปน อาหาร ในท่ีทีเ่ กิดแลวเถดิ . สมัยตอมาชนทัง้ ๔ คนนนั้ ทํากาละแลว บังเกิดเปน เปรตในดงไฟไหม ในคน ๔ คนนน้ั พอคาโกง ใชม อื ท้งั สองขาง กอบเอาแกลบท่ีลกุ โพลงดวยผลกรรมแลว เกร่ยี ลงบนศรี ษะของตนเองเสวยทุกขเปน อนั มาก, บุตรของเขากใ็ ชค อนเหล็กตศี ีรษะตนเองเสวยทกุ ขไ มใ ชน อ ยเลย หญิงสะใภของเขา ดว ยผลกรรม จงึ ใชเลบ็ ทง้ั หลายท่ที ั้งกวา งและยาวยิ่งนัก คมเปน อยางดี กรดี เนอื้แผนหลงั ของตนเองกิน เสวยทกุ ขห าประมาณมไิ ด. พอภรยิ าของเขา นอมนาํ ขาวสาลีทีม่ กี ลิ่นหอมบริสทุ ธดิ์ ี ปราศจากดางดําเขา ไปเทา นน้ั กก็ ลายสาํ เร็จเปน คถู เกลือ่ นกลนดวยหมหู นอนนานาชนิด มกี ลิ่นเหมน็ และนาเกลยี ดยิ่งนกั , ภรยิ านน้ั อามือทัง้ สองขางกอบคูถนนั้ กิน เสวยทกุ ขอยา งมหันต. เมือ่ ชนท้งั ๔ คนเหลานั้น เกิดในหมเู ปรตเสวยทกุ ขอยางมหันตดวยอาการอยา งน้ี ทา นพระมหาโมคคัลลานะ. เมอื่ จารกิไปบนภเู ขา วันหน่ึงไปถงึ ท่ีน้นั เหน็ เปรตเหลา น้ัน จงึ ถามถึงกรรมทีเ่ ปรตเหลา น้ัน กระทาํ ดว ยคาถานวี้ า :- ทา นทั้ง ๔ คนน้ี คนหนง่ึ กอบเอาแกลบ ขาวสารีท่ไี ฟลุกโชน โปรยใสศ ีรษะตนเอง

พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 396 อีกคนหนึง่ ทบุ ศรี ษะของตนดว ยคอ นเหลก็ สว น คนที่เปนหญงิ เอาเล็บจกิ หลงั กนิ เนื้อและเลือด ของตนเอง สว นทานกนิ คถู อันเปนของไมสะอาด ไมน า ปรารถนา นเี้ ปนวิบากแหงกรรมอะไร. บรรดาบทเหลานนั้ บทวา ภุสานิ ไดแ ก ขา วรีบ. บทวาเอโก แปลวา ผหู นึ่ง. บทวา สาลึ แปลวา ขา วสาลี. จริงอยูบทวา สาลึ นี้ เปน ทุตยิ าวิภัตติ ลงในอรรถแหง ฉัฏฐีวิภัตต.ิอธบิ ายวา โปรยแกลบแหงขาวสาลี ท่ีไฟลุกโชนลงบนศรี ษะของตน.บทวา ปุนาปโร ตัดเปน ปนุ อปโร แปลวา อกี คนหนึ่ง. จรงิ อยูทานกลา วหมายถึงผูตดั ศีรษะมารดาแลวเอาฆอ นเหล็กตศี รี ษะตนเองจนถงึ ศีรษะแตก. บทวา สกม สสโลหิต มวี าจาประกอบความวา ยอมกนิ เน้ือหลงั และเลือดของตนเอง. บทวา อกนฺตแปลวา ไมน า ชอบใจ คอื นา เกลียด. บทวา กิสฺส อย วปิ าโกความวา นเ้ี ปนผลแหงบาปกรรมชนิดไหน ซงึ่ พวกทานเสวย ณบดั นี.้ เม่อื พระเถระถามถงึ กรรมท่ชี นเหลา น้ัน กระทาํ อยา งน้ีภรยิ าของพอคา โกง เมื่อจะแจงถงึ กรรมท่ชี นทั้งหมดน้นั กระทาํ ไวจงึ ไดกลา วคาถาวา :- เมอ่ื กอ น ผูน้เี ปนบุตรของดิฉนั ไดตดี ิฉัน เปน มารดา ผูนีเ้ ปน สามีของดิฉัน เปนพอ คา โกง ขาวเปลือกปนแกลบ ผนู เ้ี ปนลูกสะใภของดฉิ นั

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 397 ลักกนิ เนื้อแลว กลบั หลอกลวงดว ยมุสาวาท ดฉิ ันเม่อื เกดิ เปน มนษุ ยใ นมนุษยโลก เปนหญิง แมเรือน เปนใหญแกส กุลทั้งปวง เมอื่ สง่ิ ของมี อยู เหลายาจกขอแลว เก็บซอ นไวเ สีย ไมไ ดใ ห อะไร ๆ จากของท่ีมีอยูเลยปกปด ไวดว ยมุสาวาท วา ของน้ีไมม ใี นเรอื นของเรา ถา เราปกปด ของ ท่มี ีไวไ ซร ขอคูถจงเปน อาหารของเรา ภัตรแหง ขา วสาลีอันมีกลิน่ หอม ยอมกลบั กลายเปนคูถ เพราะวบิ ากแหงกรรม คอื มสุ าวาทของดฉิ ัน ก็ กรรมทง้ั หลายไมไ รผล กรรมน้ันยอ มไมส าบ- สญู เพราะฉะนัน้ ดิฉนั จึงกนิ และดื่มแตม ตู รคูถ อันมกี ล่นิ เหม็น มีหนอน. นางเปรตเมอ่ื จะแสดงถึงบตุ รจงึ ไดกลาววา อย ในคาถาน้นั .บทวา หสึ ติ แปลวา ใชกาํ ลงั เบยี ดเบยี น อธิบายวา ใชไ มฆอ นต.ีบทวา กฏู วาณโิ ช แปลวา พอคาเลวทราม อธบิ ายวา ทาํ การคา ดว ยการหลอกลวง. บทวา ม สานิ ขาทิตฺวา ความวา กินเน้อื ที่ทว่ั ไปก็คนเหลา อน่ื แลว หลอกลวงชนเหลา นัน้ ดวยมุสาวาทวา เราไมไดกนิ . บทวา อคารนิ ี ไดแ ก หญิงแมเ จา เรือน. บทวา สนฺเตสุความวา เมื่อเครื่องอปุ กรณท ี่ชนเหลา อ่นื ขอยงั มีอยูนัน่ แล. บทวาปริคุหามิ แปลวา ปกปด . จริงอยู คาํ วา ปรคิ ุหามิ นี้ ทานกลาว

พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 398ดวยกาลวปิ ลาส. บทวา มา จ กิ จฺ ิ อโิ ต อท ความวา เราไมไดใหแมเ พียงสิง่ อะไร ๆ จากสง่ิ อนั เปน ของของเราน้ี แกชนเหลา อน่ืผูตองการ. บทวา ฉาเทมิ ความวา ปกปด ดวยมุสาวาทวา สง่ิ นี้ไมมอี ยใู นเรือนของเรา. บทวา คูถ เม ปรวิ ตฺตติ ความวา ขา วสาลมี กี ลิน่ หอมยอมเปลี่ยนไป คือ แปรไปโดยความเปนคถู ดวยอาํ นาจกรรมของเรา. บทวา อวฌฺ านิ แปลวา ไมส ูญเปลา คอื ไมไรผ ล.บทวา น หิ กมมฺ  วนิ สฺสติ ความวา กรรมตามทตี่ นไดส ง่ั สมไวยังไมใ หผ ล จะไมส ญู ไปไหนเลย. บทวา กมิ ิน ไดแก มีหนอนคอื เกดิ เปนหมูหนอนขึ้น. บทวา มีฬหฺ  แปลวา คถู . คําท่ีเหลอืงายท้ังนัน้ เพราะมีนัยดงั กลาวแลวในหนหลงั . พระเถระ ครน้ั สดบั คาํ ของนางเปรตนั้นอยางนี้แลว จึงไดกราบทูลเร่อื งนนั้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา . พระผมู พี ระภาคเจาทรงการทําเรือ่ งนนั้ ใหเปนอตั ถปุ ปตติเหตแุ ลว จงึ ทรงแสดงธรรมแกบ รษิ ทั ผูถึงพรอมแลว. เทศนาน้ัน ไดม ปี ระโยชนแ กมหาชนฉะน้แี ล. จบ อรรถกถาภสุ เปตวตั ถุท่ี ๔

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 399 ๕. กมุ ารเปตวตั ถุ วาดวยเด็กพูดวาจาหยาบเปนบาปได เมอ่ื จะประกาศเนือ้ ความนน้ั พระสังคตี ิกาจารยไดก ลาวคาถา ๗ คาถาความวา [๑๑๕] พระญาณของพระสุคตศาสดานาอัศจรรย เปน เหตุใหพระองคท รงพยากรณบคุ คลไดอ ยา ง ถูกตอ งวา บุคคลบางคนมบี ุญมาก บางคนมบี ุญ นอ ย คฤหบดีผนู เ้ี ม่อื ยังเปนเด็ก ถกู เขาท้ิงไวใน ปา ชา เปน อยไู ดด ว ยนา้ํ นมจากนว้ิ มอื ตลอดราตรี ยักษและภตู ปศาจ หรอื งูเล็กงูใหญ กไ็ มเบียด- เบียนเดก็ ผูม ีบุญอันไดทําไวแ ลว แมสุนัข ท้ังหลายก็พากันมาเลยี เทา ทัง้ สองของเด็กนี้ ฝงู เหยี่ยวและสุนขั จิ้งจอก ก็พากันมาเดนิ เวียนรักษา ฝูงนกก็พากันมาคาบเอามลทิน ครรภไปทงิ้ สวนฝูงกาพากนั มานําเอานต้ี า เด็กนี้ หรอื ใคร ๆ ทจี่ ะทําเมลด็ พรรณผักกาด ใหเ ปน ยามไิ ดม ี และไมไ ดถ ือเอาการประกอบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook