พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 77 บิดาผมู ีลกู ศรอันเจา ถอนขึ้นแลว เปนผเู ย็นสงบ แลว ดกู อ นมาณพ ตอไปนีบ้ ดิ าจะไมเศรา โศก จะไมรอ งไห เพราะไดฟ ง คําของเจา ชนเหลา ใด ทมี่ ปี ญ ญา มีความอนุเคราะหต อมารดาบดิ า ชน เหลา นั้นยอมทาํ อยางน้ี ยอมยงั มารดาบิดาใหห าย จากความเศราโศก ฉะน้นั . จบ โคณเปตวัตถทุ ี่ ๘ อรรถกถาโคณเปตวตั ถุท่ี ๘ พระศาสดา เมื่อประทบั อยใู นพระเชตวนั ทรงปรารภกฎมพีคนหนึ่ง ผทู ่ีบิดาตายไป จึงตรัสคาํ เรมิ่ ตน นี้วา กึ นุ อมุ ฺมตฺตรโู ปวดังน.ี้ ไดย นิ วา ในกรุงสาวัตถี บดิ าของกฏมพีคนหนึ่งไดตายไป.เพราะบิดาตายไป เขาจงึ เศรา โศกรอนรุมกลมุ ใจ เที่ยวรองไหเหมอื นคนบา ถามผทู ีต่ นพบเหน็ วา ทานเห็นบิดาของฉนั บา งไหม ?ใคร ๆ ไมอ าจจะบรรเทาความเศราโศกของเขาได. แตอปุ นสิ ยัแหง โสดาปตติผล ยังโพลงอยูในหทยั ของเขา เหมือนประทีปท่ีโพลงอยูในหมอ . ในเวลาเชามืด พระศาสดา ทรงตรวจดูสัตวโลก ทรงเหน็อปุ นิสัยแหง โสดาปต ติผลของเธอ ทรงพระดําริวา เราควรจะนาํ เหตุท่เี ปนอดีตของกุฏม พนี มี้ าแลว ระงบั ความเศราโศก ให
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 78โสดาปต ตผิ ลแกเธอ ดังนแ้ี ลว วันรุงขนึ้ จึงกลับจากบิณฑบาตภายพลงั ภตั ร ไมไดพ าใครเปนปจ ฉาสมณะไป ไปยังประตูเรือนของกฏม พนี ้นั . เขาไดท ราบวา พระศาสดา เสด็จมา จึงตอ นรับนิมนตพระศาสดาใหเ สด็จเขาไปยังเรอื น เมอ่ื พระศาสดา ประทบันง่ั บนอาสนะทีเ่ ขาบรรจงจดั ไว ตนเองกถ็ วายบงั คมพระผูมีพระ-ภาคเจา แลว นั่ง ณ ทสี่ มควรขา งหน่ึง จงึ กราบทลู วา ขา แตพระองคผเู จริญ พระองคท รงทราบสถานทท่ี ี่บดิ าของขาพระองคไ ปแลวหรือ ? ลําดบั นั้น พระศาสดาตรสั กะเขาวา ดกู อ นุบาสก เธอถามถงึ บดิ าในอัตตภาพน้ีหรือ หรือวา ในอตั ตภาพที่ลวงไปแลว .เขาไดฟ งดังนั้น จึงคดิ วา ไดยินวา เรามีบิดามาก ดงั น้ี จงึ มีความเศราโศกเบาบาง ไดร บั ความเศราโศกเพียงปานกลาง. ลําดับน้นัพระศาสดา ตรัสธรรมกถา อันเปนเครื่องบรรเทาความเศราโศกแกเขา ทรงทราบเขาวาปราศจากความเศรา โศก มีจติ สมควรจงึ ใหต งั้ อยใู นโสดาปตตผิ ล ดวยสามกุ งั สกิ ธรรมเทศนาแลว ไดเสด็จไปยงั พระวิหาร. ลาํ ดับนัน้ ภิกษทุ ง้ั หลาย สงั่ สนทนากนั ในธรรมสภาวาอาวโุ ส ทา นท้งั หลาย จงดูพุทธานภุ าพเถดิ อบุ าสก ผเู พยี บพรอ มดว ยความเศราโศก และรํ่าไรเชน นัน้ พระผูมพี ระภาคเจา กย็ งัทรงแนะนาํ ในโสดาปต ตผิ ล โดยขณะนนั้ นน่ั เองได. พระศาสดาเสด็จไปในทีน่ น้ั ประทับน่งั บนบวรพุทธอาสนที่เขาบรรจงจัดไวแลว จึงตรสั ถามวา ภิกษทุ ง้ั หลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากัน
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 79ดว ยเร่ืองอะไรหนอ ? ภกิ ษทุ ง้ั หลาย จึงกราบทลู ความน้ัน แดพระผมู ีพระภาคเจา . พระศาสดาตรัสวา ดูกอนภิกษทุ ั้งหลายไมใชแ ตใ นบดั น้เี ทาน้นั กห็ าไม ที่เรากําจดั ความเศรา โศกของกฏม พนี อี้ อกไป แมถ ึงในกาลกอ น ก็ไดก ําจดั ออกไปเหมือนกันดงั นี้แลว อนั ภิกษเุ หลานนั้ ทูลอาราธนา จึงทรงนําอดตี นิทานมาวา :- ในอดีตกาล ในกรงุ พาราณสี บดิ าของคฤหบดคี นหนง่ึ ไดตายไป. เพราะบดิ าตายไป เขาจึงเพยี บพรอ มไปดว ยความเศรา โศกมีหนา นองไปดวยนํา้ ตา นัยนตาแดง ครํา่ ครวญอยู เดนิ เวยี นขวาเชงิ ตะกอน. บุตรของเขาชอ่ื วา สุชาตะ ยังเปน เด็ก แตเปน คนฉลาดเฉียบแหลมสมบูรณดว ยปญญา จงึ คดิ หาอุบายเคร่อื งกําจัดความเศรา โศกของบิดา วนั หน่ึง เห็นโคตัวหน่งึ ตายภายนอกเมอื งแลว นําเอาหญาและน้ํามาวางไวขางหนา ของโคทีต่ ายแลวนน้ัพลางยนื กลาววา เอาจงกิน จงกนิ เสยี จงด่มื จงดมื่ เถดิ . คนผา นไปผา นมาเหน็ เขาจงึ กลาววา สหายสชุ าตะ ทา นเปน บา ไปแลว หรอืท่ที านนอ มนาํ หญา และน้าํ ไปใหโคท่ีตายแลว เขาไมไ ดโ ตตอบอะไร ๆ พวกมนษุ ย จึงพากนั ไปหาบิดาของเขาแลว กลา ววาบุตรของทานเปนบา ไปเสียแลว เอาหญา และน้าํ ใหโคท่ตี ายกนิ .กเ็ พราะไดฟง ดงั นนั้ กฏม พีกค็ ลายความเศรา โศก ท่ีเกดิ ขน้ึ เพราะปรารภถงึ บดิ า. เขาถงึ ความสลดใจวา ไดย ินวา บุตรของเรากลายเปน คนบาไป จึงรีบไป พลางทว งวา นีแ่ น พอสุชาตะ เจา เปน
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 80ผฉู ลาดเฉยี บแหลมสมบูรณดว ยปญ ญามใิ ชหรอื แตเ หตไุ ฉนเจาจงึ เอาหญาและน้ํา ใหโคทต่ี ายกิน จึงกลา ว ๒ คาถาวา :- เจาเปนบา ไปแลว หรือ จงึ เกีย่ วหญา ที่ เขียวสดแลว บงั คับโคแกท่เี ปนสตั วตายแลว วา จงกนิ จงกิน อันโคตายแลว ยอมไมลกุ ขึน้ กนิ หญาและนาํ้ มิใชหรือ เจาเปนทั้งคนพาล ทงั้ เปน คนทรามปญญา เหมือนคนอ่ืนทมี่ ปี ญ ญาทราม ฉะน้ัน. บรรดาบทเหลานั้น บทวา กึ นุ เปน คําถาม. บทวาอุมมฺ ตตฺ รโู ปว ไดแก เจาเปนเหมือนสภาพคนบา คือ ถงึ ความฟงุ ซา นแหง จิต. บทวา ลายติ ฺวา แปลวา เก่ียว. บทวา หรติ ตณิ แปลวา หญาสด. บทวา ลปสิ แปลวา บงั คับ. บทวา คตสตฺตไดแ ก ปราศจากชวี ติ . บทวา ชรคคฺ ว แปลวา โคแกท่ีหมดกาํ ลัง.บทวา อนเฺ นน ปาเนน ไดแก หญา ท่เี ขียวสด และน้ําดื่มทท่ี านให.บทวา มโต โคโณ สมฏุ เห ไดแก โคทต่ี ายแลว หามชี วี ิตลกุ ขึ้นไดไม. บทวา ตฺว สิ พาโล จ ทุมฺเมโธ ความวา เจาช่อื วาเปนคนพาลเพราะประกอบดว ยความเปน คนพาล และชื่อวา เปน ผูมปี ญ ญาทรามเพราะปญญากลา วคือ เมธาไมม.ี บทวา ยถา ตฺโว ทมุ มฺ ติความวา แมค นอ่นื ที่ไรปญ ญา ก็พึงบนเพอ ไปฉนั ใด ตัวเจากบ็ นเพอถึงสิง่ ไรป ระโยชน ฉนั น้นั บทวา ยถา ต เปนเพยี งนิบาต. อีก
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 81อยางหนงึ่ บทวา ทุมมฺ ติ ความวา เจา แมเ ปน ผูม ปี ญ ญา กเ็ งยหนาบนเพอ เหมือนคนบา อ่นื ๆ. สชุ าตกมุ ารไดฟ ง ดงั นน้ั เม่อื จะประกาศความประสงคของตนเพ่ือใหบิดายินยอม จึงไดก ลา ว ๒ คาถาวา :- โคตัวนี้ ยงั มเี ทา ท้ัง ๔ ขาง มศี รี ษะ มตี ัว พรอมทัง้ หาง นยั นต า กม็ ีอยูตามเดิม ขาพเจา คิด วา โคตัวน้ี จะพึงลุกข้ึนกินหญาสักวนั หนึ่ง สว น มือ เทา กาย และศรี ษะ ของคณุ ปู ไมปรากฏ แต คณุ พอมารอ งไหถึงกระดกู ของปูท่บี รรจไุ วใน สถปู ดนิ จะไมเ ปนคนโงไปดอกหรอื . ความแหง คาถานนั้ มอี ธบิ ายดังตอ ไปนี้ :- โคตัวน้มี เี ทา ๔ ขางนี้ มีศีรษะ มกี ายพรอมดว ยหาง เพราะเปนไปกบั ดวยหางและมีเนตรคือนยั นต า มที รวดทรงไมแ ตกสลายยงั ทรงอยเู หมอื นกอนแตต าย. บทวา อย โคโณ สมุฏ เห ความวาเพราะเหตนุ ้ี ผมจึงคิดวา โคตวั นี้ จะพึงลกุ ขนึ้ คอื จะพงึ ยืนขึน้ ไดเ อง.อาจารยบ างพวกกลาววา โคเห็นจะลุกขึ้นได. เพราะเหตนุ ้ันเราจึงเขาใจวา โคตัวนพ้ี ึงพยงุ กายใหล กุ ขนึ้ ไดโดยพลัน อธิบายวาขา พเจามีความเขา ใจอยางน้ี. สุชาตกมุ าร กลา วธรรมแกบดิ าวาก็ มอื เทา กาย ศรี ษะ ของคุณปขู องผมยอมไมป รากฏ แตคุณพอรองไหท ส่ี ถูปดนิ ทสี่ รา งไวบ รรจกุ ระดกู ของคุณปอู ยางเดียวเปนผทู รามปญ ญา คอื ไมมีปญญา ตงั้ รอ ยเทา พนั เทา สงั ขาร
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 82ทงั้ หลายมคี วามแตกไปเปนธรรมดา ยอมแตกไป ผรู ูแ จงในขอนน้ัจะมคี วามร่ําไรไปทําไม. บิดาของพระโพธิสัตวไ ดฟง นัน้ แลว จึงคิดวา บุตรของเราเปนบณั ฑิต ไดทาํ กรรมนเี้ พือ่ ใหเราเขาใจ เมื่อจะสรรเสรญิ บตุ รวา พอ สุชาต เอย เราไดร ูแลว วา สตั วท ง้ั ปวงมคี วามตายเปนธรรมดา ตงั้ แตน ไ้ี ป เราจะไมเศราโศก ตนมปี ญ ญาอันชอ่ื วาสามารถขจัดความเศราโศกเสยี ได พงึ เปนเชน กับเจา น่แี หละจึงไดก ลาว คาถาวา :- เจา ดบั ความกระวนกระวายท้งั ปวงของเรา ผเู รา รอนอยูใหห ายเหมือนบุคคลเอาน้าํ ดบั ไฟ ที่ ราดดว ยนาํ้ มัน ไดถอนข้ึนแลว หนอ ซึง่ ลกู ศรคือ ความเศราโศก อันเสียบหทัยของบดิ า บดิ าผมู ี ลูกศรอนั ถอนไดแ ลว เปนผูเยน็ สงบแลว ดูกอ น มาณพ ตอไปน้ี บดิ าจะไมเ ศรา โศก จะไมร อ งไห เพราะฟงคําของเจา ชนเหลา ใดทมี ีปญญา มีความ อนเุ คราะหตอมารดาบิดา ชนเหลา นั้น ยอ มทํา อยางนี้ ยอ มยงั มารดาบิดาใหห ายจากความเศรา- โศก เหมอื นพอ สุชาตะทําใหบิดาหายเศราโศก ฉะนนั้ . บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา อาทติ ฺต ไดแก อันไฟคือความเศรา โศกตดิ ทว่ั แลว คือลุกโพลงแลว. บทวา สนตฺ แปลวา มอี ยู.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 83บทวา ปาวก แปลวา ไฟ. บทวา วารนิ า วยิ โอสิฺจ แปลวา เหมือนเอานํ้าราด. บทวา สพพฺ นพิ ฺพาปเย ทร ความวา ใหค วามกระวนกระวายแหง จิตของเราทงั้ หมดดับ. บทวา อพฺพหี วต แปลวาถอนข้นึ แลว. บทวา สลลฺ ไดแ ก ลกู ศรคอื ความโศก. บทวาหทยนสิ สฺ ิต ไดแ ก เปนดังลกู ศรอันแทงหัวใจ. บทวา โสกปเรตสฺ สฺไดแก ถกู ความโศกครอบงาํ . บทวา ปต ุโสก ไดเก ซง่ึ ความเศรา โศกอันเกดิ ขึ้นปรารภบิดา. บทวา อปานทุ ิ แปลวา ไดข จดั แลวบทวา ตว สุตฺวาน มาณว ความวา พอกุมาร เพราะไดฟงคําของเจาแลว แตบ ัดน้ี พอ จงึ ไมเ ศราโศก ไมร อ งไห. บทวา สุชาโต ปตร ยถาความวา สุชาตกุมารน้ใี หบ ดิ าของตนพนจากความโศก ฉันใดแมช นเหลาอ่นื กฉ็ นั นั้น ผอู นเุ คราะหมีความอนเุ คราะหเ ปนปกติมปี ญ ญากระทําอยางน้ัน คือกระทําอปุ การะแกบิดาและชนเหลา อื่น. บิดาฟงคําของมาณพแลว เปน ผูปราศจากความโศก จงึสนานศีรษะ บริโภคอาหาร ประกอบการงาน ทํากาละแลวไดเปนผูมสี วรรคเปน ท่ไี ปในเบ้ืองหนา. พระศาสดาคร้ันทรงนําพระธรรม-เทศนานีม้ าแลว จึงทรงประกาศสจั จะแกภกิ ษเุ หลาน้ัน. เม่อื จบสจั จะ ชนเปน อันมากบรรลุโสดาปตตผิ ลเปนตนั . ในกาลนั้น สชุ าตกมุ ารไดเปนพระโลกนาถในบดั นแ้ี ล. จบ อรรถกถาโคณเปตวัตถุที่ ๘
พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 84 ๙. มหาเปสการเปติวตั ถุ วา ดวยเปรตกนิ มตู รคณู เพราะดา สามีภกิ ษุรูปหนง่ึ ถามเทพบุตรตนหนึ่งวา :- [๙๔] หญิงเปรตนกี้ ินคูถ มูตร โลหติ และหนอง นี้เปน วบิ ากแหง กรรมอะไร หญิงเปรตนี้ เมอ่ื กอ นไดท าํ กรรมอะไรไวจึงมีเลอื ดและหนองเปน ภักษาเปนนิจ ผา ทง้ั หลายอนั ใหมแ ละงาม ออน นุม บรสิ ทุ ธิ์ มขี นออน อันทา นใหแลวแกหญงิ เปรตนี้ ยอมกลายเปน เหลก็ ไป เมอื่ กอนหญงิ เปรตนไ้ี ดท าํ กรรมอะไรไวหนอ.เทพบตุ รนน้ั ตอบวา :- ขาแตทานผเู จรญิ เมื่อกอ น หญิงเปรตน้ี เปนภรรยาของขาพเจา มคี วามตระหนี่เหนียว แนน ไมใ หท าน นางไดด าและบริภาษขา พเจา ผกู าํ ลงั ใหท านแกสมณพราหมณท งั้ หลายวา จง กนิ คถู มตู ร เลือด และหนองอันไมส ะอาดตลอด กาลทุกเม่อื คูถ มูตร เลอื ด และหนอง จงเปน อาหารของทา นในปรโลก แผน เหล็กจงเปน ผา ของทาน นางนาเกดิ ในทนี่ จี้ งึ กินแตค ูถและมตู ร เปน ตน ตลอดกาลนาน เพราะประพฤติชัว่ เชนน.ี้ จบ มหาเปสการเปตวิ ัตถทุ ี่ ๙
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 85 อรรถกถามหาเปสการเปติวตั ถุท่ี ๙ เม่อื พระศาสดาประทับอยูในกรงุ สาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตผเู ปนชางหูกคนหน่งึ จึงตรสั คํานมี้ คี ําเริ่มตน วา คถู จฺมุตตฺ รธุ ิรฺจ ปพุ ฺพ ดงั นี.้ ไดย ินวา ภิกษุประมาณ ๑๒ รปู เรยี นพระกรรมฐานในสาํ นกั พระศาสดา พิจารณาถึงสถานทอ่ี นั เหมาะสมแกการอยูเมือ่ จวนจะเขา พรรษา เหน็ ราวปาอนั นารนื่ รมย สมบรู ณดวยรม เงาและนา้ํ แหงหน่ึง ละโคจรคามไมไกลนัก ไมใ กลนกั แตร าวปานัน้ จงึ อยูในท่นี ั้นราตรีหนึง่ รุง ขน้ึ จึงเที่ยวไปบิณฑบาตยงั บา น.ชา งหูก ๑๑ คน อาศยั อยใู นบานนนั้ เห็นเหลา ภิกษุนั้น ๆ เกดิ ความโสมนสั จงึ นาํ มายงั เรือนของตน ๆ เลีย้ งดดู วยอาหารอนั ประณีตแลวเรยี นวา ไปไหนกันขอรับ. ภิกษเุ หลานน้ั กลาววา เราจักไปในทที่ เ่ี รามีความสบาย. พวกชางหกู พากันกลาววา ทานขอรบัถา เมอ่ื เปนเชน นัน้ ขอพระคุณเจา จงอยทู ีน่ แี้ หละ ดงั น้ีแลว จงึขอรอ งใหอยูจําพรรษา. ภกิ ษทุ ง้ั หลายกร็ ับคาํ . อุบาสกอุบาสิกาท้งั หลายไดพ ากนั สรา งกระทอ มในปาในทน่ี ้นั แลวมอบถวายแกภกิ ษุเหลา นั้น. ภกิ ษุท้งั หลายจาํ พรรษาในที่น้ันแลว.
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 86 บรรดาชางหูกเหลานน้ั ชางหกู ผูเปน หวั หนา อุปฏฐากภิกษุ๒ รปู ดว ยปจ จัย ๔ โดยเคารพ นอกนั้นไดอุปฏฐากภิกษุคนละรปู .ภรรยาของชา งหกู ผูเปน หวั หนา ไมม ศี รัทธา ไมม คี วามเลื่อมใสเปน มิจฉาทิฏฐิ มีความตระหน่ี ไมอุปฏฐากภกิ ษทุ ัง้ หลายโดยเคารพ. ชางหูกผูเ ปนหัวหนาเห็นดงั น้นั จึงนาํ นองสาวของภรรยานน้ั น่นั แลมาแลวมอบความเปน ใหญใ นเรอื นของตน. นองสาวน้นัเปน ผูมศี รัทธา มีความเลือ่ มใส ปรนนบิ ตั ภิ กิ ษุทั้งหลายโดยเคารพชางหกู ทั้งหมดนั้นไดถ วายผา สาฎกแกภิกษุผอู ยูจําพรรษารูปละผืน.ในบรรดาภรรยานน้ั ภรรยาของชา งหูกผเู ปนหัวหนา ผูม คี วามตระหน่ี มจี ติ คิดประทษุ รา ย ดาบรภิ าษสามีของตนวา ทานคือขาวและนา้ํ ทีท่ านใหแ กส มณะศากยบุตรนน้ั จงบงั เกดิ เปน คถู มตู รเปน หนอง และโลหิต แกท านในปรโลก และผาสาฎกจงเปนแผน เหลก็ ลกุ โพลง สมยั ตอมา บรรดาคนเหลา น้ัน ชางหกู ผเู ปน หวั หนาทาํ กาละแลว บังเกดิ เปนรกุ ขเทวดาถงึ พรอมดว ยอานุภาพ ในดงไฟไหมแตภรรยาผตู ระหนี่ของเขา ทาํ กาละแลว บังเกดิ เปนนางเปรตในทีไ่ มไ กลแตท่อี ยขู องรุกขเทวดาน้ันนน่ั เอง นางเปน คนเปลือยรูปรา งข้เี หร ถกู ความหวิ กระหายครอบงาํ ไปยังสํานักของภมุ มเทพนนั้ แลว กลาววา นาย ฉันไมมีผา ถูกความหิวและความกระหายครอบงําอยางเหลอื เกินเท่ียวไป ทา นจงใหผา ขาว และนา้ํ กฉ็ นั เถิด.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 87ภุมมเทพจงึ นอ มขาวและนาํ้ อนั เปน ทิพยอยางยิ่งเขา ไปใหน างเปรตนัน้กลายเปนคถู และมตู ร หนอง ละโลหิต ผา สาฎกทใ่ี หไ ป พอนางนงุ หมก็กลายเปนแผนเหลก็ ลกุ โซน นางเสวยทุกขอยา งมหนั ต ทิ้งผา น้นัคราํ่ ครวญเที่ยวไป. กส็ มัยนน้ั ภกิ ษุรูปหน่งึ ออกพรรษาแลว เดินไปเพ่ือจะเฝาพระศาสดา ดําเนนิ ไปถงึ ดงไฟไหม พรอมกบั ที่เกวียนหมูใหญ.ในราตรี พวกหมูเกวยี นเดนิ ทางไป เวลากลางวนั เห็นประเทศแหงหนงึ่ สมบรู ณด วยรมเงาอนั สนิทและนํา้ ในปา จึงปลดเกวียนแลว พักอยูครูหนงึ่ . ฝา ยภิกษุหลกี ไปหนอ ยหนงึ่ เพราะใครต อความวิเวก ปสู งั ฆาฏลิ งท่โี คนไมอันปด บงั ดวยพงปา มีรม เงาสนทิตน หนึง่ แลวนอน มรี า งกายออนเพลยี เพราะเหน็จเหนือ่ ยในการเดินทางตอนกลางคนื จงึ หลับไป. หมเู กวยี นครนั้ พักแลวก็เดนิ ทางตอ ไป ภิกษุนน้ั ยังไมต ืน่ ครน้ั เวลาเยน็ เธอลกุ ขน้ึ ไมเ หน็ พวกเกวียนเหลา น้นั จงึ เดนิ ผดิ ทางไปสายหนึ่ง ถึงท่อี ยขู องเทวดานั้นโดยลําดบั .ลําดบั นั้น เทพบุตรนนั้ เหลา ภิกษนุ น้ั แลว แปลงเปนรปู คนเขา ไปหากระทาํ ปฏสิ ันถาร นิมนตใ หเขา ไปยังวมิ านของตน ถวายเภสชัมยี าทาเทา เปน ตน แลว เขาไปนัง่ ใกล. กส็ มัยนน้ั นางเปรตมากลา ววา นาย ทา นจงใหขาว นาํ้ และผา สาฎกแกฉนั เถิด. เทพบตุ รนนั้ ไดใ หข องเหลา นนั้ แกน างเปรตนน้ั กข็ องเหลาน้ัน พอนางเปรตรับ ก็กลายเปนคถู มตู ร หนอง เลอื ด และแผน เหล็ก อันลกุ โชน
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 88ทีเดยี ว. ภิกษุนั้นเห็นดงั นั้น เกิดความสลดใจ จงึ สอบถามเทพบตุ รนนั้ ดว ย ๒ คาถาวา หญิงเปรตนก้ี นิ คูถ มตู ร เลอื ด และหนอง นเ้ี ปนวบิ ากของกรรมอะไร หญิงเปรตนี้ เมื่อ กอนไดกระทาํ กรรมอะไรไว จงึ มีเลอื ดและ หนองเปนภกั ษาเปนนติ ย. ผา ใหมสวยงามออ น นมุ บรสิ ุทธ์ิ มขี นออ นอนั ทา นใหแ กห ญิงเปรตนี้ ยอ มกลายเปนเหลก็ ไป เมอ่ื กอ น หญิงเปรตน้ไี ด กระทํากรรมอะไรไวห นอ. บรรดาบทเหลานั้น บทวา กสิ ฺส อย วิปาโก ความวา น้ีเปนวบิ ากแหงกรรมอะไร ทห่ี ญิงเปรตเสวยอยใู นบัดน.ี้ บทวา อย นุ กึกมมฺ มกาสิ นารี ความวา เมื่อกอ นหญิงน้ไี ดกระทาํ กรรมอะไรไวหนอ. บทวา ยา สพฺพทา โลหิตปุพฺพภกฺขา ความวา หญิงน้ียอมกินคอื บรโิ ภคเลอื ดและหนองเทาน้ัน ตลอดกาลทเี ดยี ว. บทวานวานิ แปลวา ใหม คอื ปรากฏในขณะนน้ั เอง. บทวา สุภานิแปลวา งาม คอื นา ด.ู บทวา มทุ ูนิ แปลวา มสี ัมผสั สบาย. บทวาสทุ ฺธาน.ิ แปลวา มวี รรณะบรสิ ทุ ธ์.ิ บทวา โลมสานิ แปลวามีขนออ น คือมสี ัมผสั สบาย, อธบิ ายวา ดี. บทวา ทินนฺ านิ มสิ สฺ ากิตกา ภวนตฺ ิ ความวา เปน เชน กับหนามท่เี รยี งราย คือ เปนเชน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 89กับแผนโลหะ อีกอยางหนงึ่ ปาฐะวา กีฏกา ภวนฺติ ดงั น้กี ม็ ีอธิบายวา มสี เี หมือนตัวสัตวก ดั กิน. เทพบุตรนั้นถกู ภิกษนุ ้ันถามอยา งน้ี เมอื่ จะประกาศกรรมท่นี างเปรตทาํ ในชาตกิ อน จึงกลาว ๒ คาถาวา :- ทานผูเจริญ เม่ือกอ นหญิงเปรตน้ไี ดเปน ภรรยาของขา พเจา ไมใหทาน มีความตระหน่ี เหนียวแนน นางไดด า และบรภิ าษขาพเจาผู กําลงั ใหทานแกสมณะพราหมณทงั้ หลายวา จงกนิ คูถ มูตร เลอื ด และหนองอนั ไมส ะอาด ตลอดกาลทกุ เมอ่ื คถู มูตร เลอื ด และหนองนั้น จงเปน อาหารของทา นในปรโลก แผน เหลก็ จง เปนผา ของทา น นางนาเกิดในที่น้ี กินแตคถู และ มูตร เปนตนตลอดกาลนาน เพราะประพฤตชิ ัว่ เชนน.ี้ บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา อทายิกา ไดแ ก มปี กตไิ มใหทานแมอ ะไร ๆ แกใคร ๆ. บทวา มจฺฉรินี กทรยิ า ความวา ชอื่ วามีความตระหน่ี เพราะช้นั แรกมมี ลทิน คอื ความตระหนีเ่ ปน สภาวะและชือ่ วา มคี วามตระหนเ่ี หนยี วแนน เพราะมีการเสพคนุ บอย ๆซงึ่ ความตระหนน่ี น้ั . มวี าจาประกอบความวา นางไดเ ปนผมู คี วามตระหนี่ ดว ยความตระหนี่เหนยี วแนน น้นั . บดั นเี้ ทพบตุ รเมื่อจะ
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 90แสดงความที่นางเปนผมู ีความตระหนี่นัน้ น่นั แล จึงกลาวคาํ มีอาทิวาสาม ททนตฺ . บรรดาบทเหลา น้นั บทวา อตาทิส ไดแ ก ประพฤติวจีทุจรติ เปนตน ตามท่กี ลา วแลว เห็นปานนั้น. บทวา อิธาคตาไดแ ก มายงั เปตโลกนี้ คอื เขา ถงึ อตั ภาพแหงเปรต. บทวาจิรรตตฺ าย ขาทติ ไดแ ก เคยี้ วกนิ แตคูถเทานน้ั ตลอดกาลนาน.จรงิ อยู นางดา โดยอาการใดผลกเ็ กิดโดยอาการนัน้ เหมอื นกันนางดาเจาะจงผูใด จากผูน้นั ไป กต็ กลงเบอ้ื งบนตัวเหมอื นอสนบี าตตกลงในทสี่ ุด คือกระหมอมในแผนดิน. เทวบุตรน้นั ครั้นแสดงกรรมท่นี างเปรตกระทาํ ไวในชาตกิ อ นอยางนี้แลว จงึ ไดกลา วกะภิกษนุ ้ันอกี วา ทา นขอรบั ก็อบุ ายอะไร ๆท่จี ะทาํ ใหนางเปรตน้พี นจากเปตโลกมีอยูห รอื . และเมอื่ ภิกษุนัน้กลา ววามีอยู จงึ กลา ววา จงแสดงเถดิ ขอรับ. ภิกษุกลาววา ถาทา นถวายทานแกพ ระผูมีพระภาคเจา และแกพ ระอริยสงฆ หรือแกภกิ ษุรูปเดยี วเทา น้ัน แลวอุทศิ ใหหางเปรตน้ี ท้ังนางเปรตน้ีไดอนโุ มทนาทานนั้น ดวยอาการอยางนี้ นางก็จะพน จากความทกุ ขนไี้ ปได. เทพบุตรไดฟง ดังนัน้ จงึ ไดถ วายขาวและน้ําอนั ประณตีแกภ กิ ษนุ นั้ แลวใหทกั ษณิ านัน้ อทุ ศิ แกนางเปรตนั้น. ทันใดน้ันเองนางเปรตนนั้ มีใจอมิ่ เอิบ มีอนิ ทรียกระปร้กี ระเปรา ไดเปน ผอู ่ิมดว ยอาหารอนั เปน ทิพย เทพบุตรน้ันไดถวายคูผา ทพิ ยในมือของภกิ ษนุ นั้ อทุ ศิ พระผูมีพระภาคเจา แลวและอุทิศทักษณิ านน้ั แก
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 91นางเปรต ก็ในขณะนัน้ นน่ั เอง นางนุงผา ทพิ ย ประดับเครื่องประดบัอันเปนทิพย พรัง่ พรอมดวยสิ่งท่นี า ปรารถนาท้ังปวง ไดเ ปน ผูมีสวนเปรียบดว ยนางเทพอปั สร. และภกิ ษนุ น้ั กไ็ ดถ งึ กรงุ สาวตั ถีในวนั นนั้ เอง ดว ยฤทธข์ิ องเทพบุตรนน้ั เขาไปยังพระเชตวนั แลวเขา เฝา พระผูมพี ระภาคเจา ถวายบังคมแลว ไดถวายคผู าสาฎกน้นั แลว กราบทลู เรอื่ งนน้ั . แมพระผมู พี ระภาคเจาทรงกระทาํเรือ่ งนน้ั ใหเปน อัตถุปปต ตเิ หตุ แสดงธรรมแกบ รษิ ัทผปู ระชมุ กันอยูพรอ มแลว เทศนานน้ั ไดม ีประโยชนแ กมหาชนแล. จบ อรรถกถามหาเปสการเปติวัตถทุ ่ี ๙
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 92 ๑๐. ขลั ลาตยิ เปติวัตถุ วาดว ยพอคาใหผ าแกนางเปรต หวั หนา พอ คา ถามหญิงเปรตตนหนึ่งวา[๙๕] ทา นเปน ใครหนออยูภ ายในวิมานน้ี ไม ออกจากวมิ านเลย กอ นนางผเู จริญ เชิญทา น ออกมาเถดิ ขาพเจาจะขอดูทานผูยนื อยขู างนอก.นางเวมานิกเปรตฟง คําถามดงั นแี้ ลว จงึ กลาววา ดิฉันเปน หญิงเปลอื ยกาย มีแตผมปด บังไว กระดากอายที่จะออกภายนอก ดิฉนั ไดท ําบญุ ไวนอยนัก.พอคากลา ววา ดูกอ นนางผมู รี ูปงาม เอาเถอะ ขาพเจา จะใหผ า เน้ือดีแกท าน เชญิ ทา นนุง ผา น้ี แลว จง ออกมาภายนอก เชิญออกมาภายนอกวมิ านเถดิ ขาพเจาจะขอดูทา นผยู ืนอยูข า งนอก.นางเวมานิกเปรตตอบวา ผานน้ั ถึงทา นจะใหทมี่ ือของดิฉนั เอง กไ็ ม สาํ เร็จแกด ิฉัน ถาในหมชู นนมี้ อี บุ าสกผมู ีศรัทธา เปน สาวกของพระสมั มาสมพุทธเจา ขอทา นจง ใหอบุ าสกนน้ั นุงหม ผาทท่ี า นจะใหดิฉนั แลว อทุ ศิ
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 93 สว นกศุ ลใหดิฉัน เมอื่ ทา นทําอยางนั้น ดฉิ นั จงึ จะ ไดน ุง หมผา นต้ี ามปรารถนา ประสบความสุข พอคา ท้งั หลายไดฟ ง ดงั นี้แลว จงึ ใหอ ุบาสกน้นั อาบนาํ้ลูบไลแ ลว ใหน งุ หม ผา แลว อุทิศสว นกศุ ลใหนางเวมานกิ เปรตนนั้พระสังคตี กิ าจารยเ มอื่ จะประกาศเน้อื ความนัน้ ไดกลาวคาถา๓ คาถา ความวา :- ก็พอ คาเหลา นนั้ ยงั อบุ าสกนั้นใหอาบน้าํ ลูบไลด ว ยของหอม แลวใหนุงหมผา แลว อุทิศ สว นกุศลไปใหนางเวมานกิ เปรตนั้น ในทนั ตา เห็นนนั้ เอง วบิ ากยอ มบังเกิดขน้ึ แกน างเวมานกิ เปรตนัน้ โภชนะ เครอื่ งนุงหม และนาํ้ ดื่ม ยอม บังเกดิ ขน้ึ นี้เปนผลแหง ทักษิณา ลําดับนัน้ นาง มสี รีระบริสทุ ธ์ิ นงุ หม ผาสะอาด งามดกี วาผาท่ี ทําจากแควน กาสี เดนิ ยม้ิ ออกมาจากวิมาน ประกาศวา นเ้ี ปน ผลแตงทักษณิ า. พอคาเหลาน้ันถามวา วมิ านของทานงดงาม มีรปู ภาพวิจิตรดี สวา งไสว ดกู อนนางเทพธดิ า พวกขาพเจา ถาม แลวขอทานจงบอก น้เี ปน ผลแหง กรรมอะไร. นางเทพธดิ าตอบวา
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 94 เม่ือดิฉนั เปน มนุษยอ ยูน้ัน มจี ิตเลื่อมใส ไดถ วายแปง คั่วอนั เจือดวยนาํ้ มนั แกภ กิ ษเุ ทยี่ ว บิณฑบาต ผมู จี ิตซื่อตรง ดฉิ ันเสวยวิบากแหง กุศลกรรมนน้ั ในวิมานน้สี ้ินกาลนาน ก็ผลบญุ น้ัน เด๋ยี วน้ียงั เหลือนดิ หนอย พน ๔ เดอื นไปแลว ดฉิ นั จกั จุติจากวมิ านนี้ จกั ไปตกนรกอันเรา รอน สาหัส มี ๔ เหลีย่ ม มี ๔ ประตู จาํ แนกเปน หอ ง ๆ ลอ มดวยกําแพงเหล็ก ครอบดว ยแผน เหลก็ พ้นื นรกนน้ั ลวนเปนเหล็กแดง ลกุ เปน เปลวเพลิง ประกอบดวยความรอ น แผไปตลอด รอ ยโยชนโดยรอบ ตั้งอยูทุกเม่อื ดฉิ นั จกั ตอง เสวยทุกขเวทนาในนรกนัน้ ตลอดกาลนาน ก็การ เสวยทกุ ขเชนนีเ้ ปน ผลแหงกรรมชว่ั เพราะ ฉะน้ัน ดฉิ ันจึงเศราโศกที่จะไปเกดิ ในนรกน้ัน. จบ ขัลลาติยเปติวัตถทุ ี่ ๑๐ อรรถกถาขลั ลาฏยิ ะเปติวัตถุท่ี ๑๐ พระคาสดาเม่ือประทับอยูในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตขัลลาฏิยะตนหน่งึ จงึ ตรัสคําเริ่มตน วา กา นุ อนฺโตวมิ านสฺมึ ดังน้.ี
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 95 ไดย ินวา ในอดีตกาล ในกรุงพาราณสี ยังมีหญิงผอู าศยั รปูเลย้ี งชพี คนหน่งึ รปู รา งสวย นาดู นา ชม ประกอบดว ยผวิ พรรณอันงดงามยิง่ นกั มีกําแหงผมนา รน่ื รมยใ จ. จรงิ อยู ผมของนางดาํยาว ละเอียด ออ นนมุ สนทิ มปี ลายตวัดขน้ึ เกลา เปนสองแฉกสยาย หอยยอ ยลงจนถงึ สายรดั เอว. คนหนมุ เห็นความงามแหงเสนผมของนางน้นั โดยมากมจี ติ ปฏพิ ัทธในนาง. ลาํ ดับนนั้ หญิง๒-๓ คน ถกู ความริษยาครอบงํา ทนตอ ความงามของผมนางน้ันไมได จงึ พากนั ปรึกษา เอาสิ่งของเลก็ ๆ นอย ๆ ลอหญิงคนใชของนางนั่นเอง ใหหญงิ คนใชใ หย าอันเปน เหตทุ ําเสน ผมของนางใหหลุดรวงไป. ไดยินวา หญิงคนใชนน้ั ประกอบยานัน้ กบั ผงสําหรับอาบนํา้ ในเวลานางไปอาบน้าํ ในแมน ํา้ คงคา กไ็ ดใ หแ กน าง.นางเอาผงน้ันจุม ทรี่ ากผมแลว ดาํ ลงไปในน้ํา. พอนางดาํ นาํ้ เทา น้ันเสน ผมพรอ มท้งั รากผม ไดห ลุดรว งไป. และศรี ษะของนางไดเ ปนเชน กับกระโหลกนํ้าเตาขม. ลําดบั นัน้ นางหมดเสน ผมโดยประการทัง้ ปวง เหมือนนกพริ าบจกถอนขนหวั ฉะน้ัน นา เกลยี ดพิลึกเพราะความละอาย จงึ ไมอ าจเขาไปในเมอื ง เอาผาคลมุ ศรี ษะสําเร็จการอยูในท่ีแหง หน่ึงนอกเมอื ง พอ ๒-๓ วันผานไป นางหมดความละอาย กลบั จากที่น้ันบบี เมลด็ งา กระทาํ การคาน้ํามัน และทาํ การคา สรุ า เลี้ยงชพี . วนั หน่งึ เม่อื คน ๒-๓ คน เมาสรุ าหลบั สนทิ นางจึงลักเอาผาทค่ี นเหลานนั้ นงุ ไวห ลวม ๆ.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 96 ภายหลังวนั หนง่ึ นางเหน็ พระขณี าสพเถระรปู หนงึ่ กาํ ลังเทยี่ วบิณฑบาต มีจิตเล่อื มใสจึงนาํ ทา นไปยังเรอื นของตน ใหนง่ับนอาสนะที่ตบแตงไว ไดถวายแปงทบ่ี บี ในรางผสมกับนา้ํ มนั งา.เพอ่ื จะอนเุ คราะหนาง พระเถระจงึ รับประเคนแปง ผสมน้ํามันงาน้นั ฉนั . นางมีจิตเลือ่ มใส ไดย ินกั้นรม . และพระเถระนั้น เมื่อจะทาํ นางใหม ีจติ รา เริง จงึ ทาํ อนุโมทนากถาแลว หลีกไป. ก็ในเวลาทอี่ นุโมทนาน่ันแหละ หญิงนน้ั ไดตง้ั ความปรารถนาวา พระคุณเจาขอใหเสน ผมของดิฉันยาวละเอียด นมุ สนทิ ตวดั ปลายเถดิ . กาลตอมา นางถงึ แกก รรม เพราะผลของกรรมท่ีคละกันจึงเกดิ เปน หญงิ อยูโดดเด่ยี วในวิมานทอง ทา มกลางมหาสมุทร.เสนผมของนางสาํ เรจ็ ตามอาการทเ่ี ธอปรารถนานน้ั แหละ. แตเพราะนางลกั เอาผา ของพวกมนุษย นางจึงไดเปนหญงิ เปลือย.นางเกิดบอย ๆ ในวิมานทองนั้น เปนหญงิ เปลือยอยตู ลอดพุทธนั ดรหน่ึง. ลาํ ดบั นน้ั เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจา ของพวกเรา เสดจ็ อบุ ตั ิในโลก ทรงประกาศพระธรรมจักรอนั บวร ประทบั อยใู นกรุงสาวัตถีโดยลาํ ดบั พอ คาชาวกรุงสาวตั ถี ๗๐๐ คน แลน เรือไปสูม หาสมทุ รมุงไปยงั สวุ รรณภมู .ิ นาวาทพ่ี วกพอ คา นนั้ ขนึ้ ไป ถูกกาํ ลังลมพดั ผนั ใหปน ปวน จึงหมุนไปขา งโนน ขา งนี้ จนถึงประเทศทนี่ างเวมานิกเปรตน้นั อย.ู ลาํ ดบั นน้ั นางเวมานกิ เปรตน้ัน จงึ แสดงตนแก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 607
Pages: