Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_49

tripitaka_49

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:41

Description: tripitaka_49

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 77 บิดาผมู ีลกู ศรอันเจา ถอนขึ้นแลว เปนผเู ย็นสงบ แลว ดกู อ นมาณพ ตอไปนีบ้ ดิ าจะไมเศรา โศก จะไมรอ งไห เพราะไดฟ ง คําของเจา ชนเหลา ใด ทมี่ ปี ญ ญา มีความอนุเคราะหต อมารดาบดิ า ชน เหลา นั้นยอมทาํ อยางน้ี ยอมยงั มารดาบิดาใหห าย จากความเศราโศก ฉะน้นั . จบ โคณเปตวัตถทุ ี่ ๘ อรรถกถาโคณเปตวตั ถุท่ี ๘ พระศาสดา เมื่อประทบั อยใู นพระเชตวนั ทรงปรารภกฎมพีคนหนึ่ง ผทู ่ีบิดาตายไป จึงตรัสคาํ เรมิ่ ตน นี้วา กึ นุ อมุ ฺมตฺตรโู ปวดังน.ี้ ไดย นิ วา ในกรุงสาวัตถี บดิ าของกฏมพีคนหนึ่งไดตายไป.เพราะบิดาตายไป เขาจงึ เศรา โศกรอนรุมกลมุ ใจ เที่ยวรองไหเหมอื นคนบา ถามผทู ีต่ นพบเหน็ วา ทานเห็นบิดาของฉนั บา งไหม ?ใคร ๆ ไมอ าจจะบรรเทาความเศราโศกของเขาได. แตอปุ นสิ ยัแหง โสดาปตติผล ยังโพลงอยูในหทยั ของเขา เหมือนประทีปท่ีโพลงอยูในหมอ . ในเวลาเชามืด พระศาสดา ทรงตรวจดูสัตวโลก ทรงเหน็อปุ นิสัยแหง โสดาปต ติผลของเธอ ทรงพระดําริวา เราควรจะนาํ เหตุท่เี ปนอดีตของกุฏม พนี มี้ าแลว ระงบั ความเศราโศก ให

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 78โสดาปต ตผิ ลแกเธอ ดังนแ้ี ลว วันรุงขนึ้ จึงกลับจากบิณฑบาตภายพลงั ภตั ร ไมไดพ าใครเปนปจ ฉาสมณะไป ไปยังประตูเรือนของกฏม พนี ้นั . เขาไดท ราบวา พระศาสดา เสด็จมา จึงตอ นรับนิมนตพระศาสดาใหเ สด็จเขาไปยังเรอื น เมอ่ื พระศาสดา ประทบันง่ั บนอาสนะทีเ่ ขาบรรจงจดั ไว ตนเองกถ็ วายบงั คมพระผูมีพระ-ภาคเจา แลว นั่ง ณ ทสี่ มควรขา งหน่ึง จงึ กราบทลู วา ขา แตพระองคผเู จริญ พระองคท รงทราบสถานทท่ี ี่บดิ าของขาพระองคไ ปแลวหรือ ? ลําดบั นั้น พระศาสดาตรสั กะเขาวา ดกู อ นุบาสก เธอถามถงึ บดิ าในอัตตภาพน้ีหรือ หรือวา ในอตั ตภาพที่ลวงไปแลว .เขาไดฟ งดังนั้น จึงคดิ วา ไดยินวา เรามีบิดามาก ดงั น้ี จงึ มีความเศราโศกเบาบาง ไดร บั ความเศราโศกเพียงปานกลาง. ลําดับน้นัพระศาสดา ตรัสธรรมกถา อันเปนเครื่องบรรเทาความเศราโศกแกเขา ทรงทราบเขาวาปราศจากความเศรา โศก มีจติ สมควรจงึ ใหต งั้ อยใู นโสดาปตตผิ ล ดวยสามกุ งั สกิ ธรรมเทศนาแลว ไดเสด็จไปยงั พระวิหาร. ลาํ ดับนัน้ ภิกษทุ ง้ั หลาย สงั่ สนทนากนั ในธรรมสภาวาอาวโุ ส ทา นท้งั หลาย จงดูพุทธานภุ าพเถดิ อบุ าสก ผเู พยี บพรอ มดว ยความเศราโศก และรํ่าไรเชน นัน้ พระผูมพี ระภาคเจา กย็ งัทรงแนะนาํ ในโสดาปต ตผิ ล โดยขณะนนั้ นน่ั เองได. พระศาสดาเสด็จไปในทีน่ น้ั ประทับน่งั บนบวรพุทธอาสนที่เขาบรรจงจัดไวแลว จึงตรสั ถามวา ภิกษทุ ง้ั หลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากัน

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 79ดว ยเร่ืองอะไรหนอ ? ภกิ ษทุ ง้ั หลาย จึงกราบทลู ความน้ัน แดพระผมู ีพระภาคเจา . พระศาสดาตรัสวา ดูกอนภิกษทุ ั้งหลายไมใชแ ตใ นบดั น้เี ทาน้นั กห็ าไม ที่เรากําจดั ความเศรา โศกของกฏม พนี อี้ อกไป แมถ ึงในกาลกอ น ก็ไดก ําจดั ออกไปเหมือนกันดงั นี้แลว อนั ภิกษเุ หลานนั้ ทูลอาราธนา จึงทรงนําอดตี นิทานมาวา :- ในอดีตกาล ในกรงุ พาราณสี บดิ าของคฤหบดคี นหนง่ึ ไดตายไป. เพราะบดิ าตายไป เขาจึงเพยี บพรอ มไปดว ยความเศรา โศกมีหนา นองไปดวยนํา้ ตา นัยนตาแดง ครํา่ ครวญอยู เดนิ เวยี นขวาเชงิ ตะกอน. บุตรของเขาชอ่ื วา สุชาตะ ยังเปน เด็ก แตเปน คนฉลาดเฉียบแหลมสมบูรณดว ยปญญา จงึ คดิ หาอุบายเคร่อื งกําจัดความเศรา โศกของบิดา วนั หน่ึง เห็นโคตัวหน่งึ ตายภายนอกเมอื งแลว นําเอาหญาและน้ํามาวางไวขางหนา ของโคทีต่ ายแลวนน้ัพลางยนื กลาววา เอาจงกิน จงกนิ เสยี จงด่มื จงดมื่ เถดิ . คนผา นไปผา นมาเหน็ เขาจงึ กลาววา สหายสชุ าตะ ทา นเปน บา ไปแลว หรอืท่ที านนอ มนาํ หญา และน้าํ ไปใหโคท่ีตายแลว เขาไมไ ดโ ตตอบอะไร ๆ พวกมนษุ ย จึงพากนั ไปหาบิดาของเขาแลว กลา ววาบุตรของทานเปนบา ไปเสียแลว เอาหญา และน้าํ ใหโคท่ตี ายกนิ .กเ็ พราะไดฟง ดงั นนั้ กฏม พีกค็ ลายความเศรา โศก ท่ีเกดิ ขน้ึ เพราะปรารภถงึ บดิ า. เขาถงึ ความสลดใจวา ไดย ินวา บุตรของเรากลายเปน คนบาไป จึงรีบไป พลางทว งวา นีแ่ น พอสุชาตะ เจา เปน

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 80ผฉู ลาดเฉยี บแหลมสมบูรณดว ยปญ ญามใิ ชหรอื แตเ หตไุ ฉนเจาจงึ เอาหญาและน้ํา ใหโคทต่ี ายกิน จึงกลา ว ๒ คาถาวา :- เจาเปนบา ไปแลว หรือ จงึ เกีย่ วหญา ที่ เขียวสดแลว บงั คับโคแกท่เี ปนสตั วตายแลว วา จงกนิ จงกิน อันโคตายแลว ยอมไมลกุ ขึน้ กนิ หญาและนาํ้ มิใชหรือ เจาเปนทั้งคนพาล ทงั้ เปน คนทรามปญญา เหมือนคนอ่ืนทมี่ ปี ญ ญาทราม ฉะน้ัน. บรรดาบทเหลานั้น บทวา กึ นุ เปน คําถาม. บทวาอุมมฺ ตตฺ รโู ปว ไดแก เจาเปนเหมือนสภาพคนบา คือ ถงึ ความฟงุ ซา นแหง จิต. บทวา ลายติ ฺวา แปลวา เก่ียว. บทวา หรติ  ตณิ แปลวา หญาสด. บทวา ลปสิ แปลวา บงั คับ. บทวา คตสตฺตไดแ ก ปราศจากชวี ติ . บทวา ชรคคฺ ว แปลวา โคแกท่ีหมดกาํ ลัง.บทวา อนเฺ นน ปาเนน ไดแก หญา ท่เี ขียวสด และน้ําดื่มทท่ี านให.บทวา มโต โคโณ สมฏุ  เห ไดแก โคทต่ี ายแลว หามชี วี ิตลกุ ขึ้นไดไม. บทวา ตฺว สิ พาโล จ ทุมฺเมโธ ความวา เจาช่อื วาเปนคนพาลเพราะประกอบดว ยความเปน คนพาล และชื่อวา เปน ผูมปี ญ ญาทรามเพราะปญญากลา วคือ เมธาไมม.ี บทวา ยถา ตฺโว ทมุ มฺ ติความวา แมค นอ่นื ที่ไรปญ ญา ก็พึงบนเพอ ไปฉนั ใด ตัวเจากบ็ นเพอถึงสิง่ ไรป ระโยชน ฉนั น้นั บทวา ยถา ต เปนเพยี งนิบาต. อีก

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 81อยางหนงึ่ บทวา ทุมมฺ ติ ความวา เจา แมเ ปน ผูม ปี ญ ญา กเ็ งยหนาบนเพอ เหมือนคนบา อ่นื ๆ. สชุ าตกมุ ารไดฟ ง ดงั นน้ั เม่อื จะประกาศความประสงคของตนเพ่ือใหบิดายินยอม จึงไดก ลา ว ๒ คาถาวา :- โคตัวนี้ ยงั มเี ทา ท้ัง ๔ ขาง มศี รี ษะ มตี ัว พรอมทัง้ หาง นยั นต า กม็ ีอยูตามเดิม ขาพเจา คิด วา โคตัวน้ี จะพึงลุกข้ึนกินหญาสักวนั หนึ่ง สว น มือ เทา กาย และศรี ษะ ของคณุ ปู ไมปรากฏ แต คณุ พอมารอ งไหถึงกระดกู ของปูท่บี รรจไุ วใน สถปู ดนิ จะไมเ ปนคนโงไปดอกหรอื . ความแหง คาถานนั้ มอี ธบิ ายดังตอ ไปนี้ :- โคตัวน้มี เี ทา ๔ ขางนี้ มีศีรษะ มกี ายพรอมดว ยหาง เพราะเปนไปกบั ดวยหางและมีเนตรคือนยั นต า มที รวดทรงไมแ ตกสลายยงั ทรงอยเู หมอื นกอนแตต าย. บทวา อย โคโณ สมุฏ เห ความวาเพราะเหตนุ ้ี ผมจึงคิดวา โคตวั นี้ จะพึงลกุ ขนึ้ คอื จะพงึ ยืนขึน้ ไดเ อง.อาจารยบ างพวกกลาววา โคเห็นจะลุกขึ้นได. เพราะเหตนุ ้ันเราจึงเขาใจวา โคตัวนพ้ี ึงพยงุ กายใหล กุ ขนึ้ ไดโดยพลัน อธิบายวาขา พเจามีความเขา ใจอยางน้ี. สุชาตกมุ าร กลา วธรรมแกบดิ าวาก็ มอื เทา กาย ศรี ษะ ของคุณปขู องผมยอมไมป รากฏ แตคุณพอรองไหท ส่ี ถูปดนิ ทสี่ รา งไวบ รรจกุ ระดกู ของคุณปอู ยางเดียวเปนผทู รามปญ ญา คอื ไมมีปญญา ตงั้ รอ ยเทา พนั เทา สงั ขาร

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 82ทงั้ หลายมคี วามแตกไปเปนธรรมดา ยอมแตกไป ผรู ูแ จงในขอนน้ัจะมคี วามร่ําไรไปทําไม. บิดาของพระโพธิสัตวไ ดฟง นัน้ แลว จึงคิดวา บุตรของเราเปนบณั ฑิต ไดทาํ กรรมนเี้ พือ่ ใหเราเขาใจ เมื่อจะสรรเสรญิ บตุ รวา พอ สุชาต เอย เราไดร ูแลว วา สตั วท ง้ั ปวงมคี วามตายเปนธรรมดา ตงั้ แตน ไ้ี ป เราจะไมเศราโศก ตนมปี ญ ญาอันชอ่ื วาสามารถขจัดความเศราโศกเสยี ได พงึ เปนเชน กับเจา น่แี หละจึงไดก ลาว คาถาวา :- เจา ดบั ความกระวนกระวายท้งั ปวงของเรา ผเู รา รอนอยูใหห ายเหมือนบุคคลเอาน้าํ ดบั ไฟ ที่ ราดดว ยนาํ้ มัน ไดถอนข้ึนแลว หนอ ซึง่ ลกู ศรคือ ความเศราโศก อันเสียบหทัยของบดิ า บดิ าผมู ี ลูกศรอนั ถอนไดแ ลว เปนผูเยน็ สงบแลว ดูกอ น มาณพ ตอไปน้ี บดิ าจะไมเ ศรา โศก จะไมร อ งไห เพราะฟงคําของเจา ชนเหลา ใดทมี ีปญญา มีความ อนเุ คราะหตอมารดาบิดา ชนเหลา นั้น ยอ มทํา อยางนี้ ยอ มยงั มารดาบิดาใหห ายจากความเศรา- โศก เหมอื นพอ สุชาตะทําใหบิดาหายเศราโศก ฉะนนั้ . บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา อาทติ ฺต ไดแก อันไฟคือความเศรา โศกตดิ ทว่ั แลว คือลุกโพลงแลว. บทวา สนตฺ  แปลวา มอี ยู.

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 83บทวา ปาวก แปลวา ไฟ. บทวา วารนิ า วยิ โอสิฺจ แปลวา เหมือนเอานํ้าราด. บทวา สพพฺ  นพิ ฺพาปเย ทร ความวา ใหค วามกระวนกระวายแหง จิตของเราทงั้ หมดดับ. บทวา อพฺพหี วต แปลวาถอนข้นึ แลว. บทวา สลลฺ  ไดแ ก ลกู ศรคอื ความโศก. บทวาหทยนสิ สฺ ิต ไดแ ก เปนดังลกู ศรอันแทงหัวใจ. บทวา โสกปเรตสฺ สฺไดแก ถกู ความโศกครอบงาํ . บทวา ปต ุโสก ไดเก ซง่ึ ความเศรา โศกอันเกดิ ขึ้นปรารภบิดา. บทวา อปานทุ ิ แปลวา ไดข จดั แลวบทวา ตว สุตฺวาน มาณว ความวา พอกุมาร เพราะไดฟงคําของเจาแลว แตบ ัดน้ี พอ จงึ ไมเ ศราโศก ไมร อ งไห. บทวา สุชาโต ปตร ยถาความวา สุชาตกุมารน้ใี หบ ดิ าของตนพนจากความโศก ฉันใดแมช นเหลาอ่นื กฉ็ นั นั้น ผอู นเุ คราะหมีความอนเุ คราะหเ ปนปกติมปี ญ ญากระทําอยางน้ัน คือกระทําอปุ การะแกบิดาและชนเหลา อื่น. บิดาฟงคําของมาณพแลว เปน ผูปราศจากความโศก จงึสนานศีรษะ บริโภคอาหาร ประกอบการงาน ทํากาละแลวไดเปนผูมสี วรรคเปน ท่ไี ปในเบ้ืองหนา. พระศาสดาคร้ันทรงนําพระธรรม-เทศนานีม้ าแลว จึงทรงประกาศสจั จะแกภกิ ษเุ หลาน้ัน. เม่อื จบสจั จะ ชนเปน อันมากบรรลุโสดาปตตผิ ลเปนตนั . ในกาลนั้น สชุ าตกมุ ารไดเปนพระโลกนาถในบดั นแ้ี ล. จบ อรรถกถาโคณเปตวัตถุที่ ๘

พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 84 ๙. มหาเปสการเปติวตั ถุ วา ดวยเปรตกนิ มตู รคณู เพราะดา สามีภกิ ษุรูปหนง่ึ ถามเทพบุตรตนหนึ่งวา :- [๙๔] หญิงเปรตนกี้ ินคูถ มูตร โลหติ และหนอง นี้เปน วบิ ากแหง กรรมอะไร หญิงเปรตนี้ เมอ่ื กอ นไดท าํ กรรมอะไรไวจึงมีเลอื ดและหนองเปน ภักษาเปนนิจ ผา ทง้ั หลายอนั ใหมแ ละงาม ออน นุม บรสิ ทุ ธิ์ มขี นออน อันทา นใหแลวแกหญงิ เปรตนี้ ยอมกลายเปน เหลก็ ไป เมอื่ กอนหญงิ เปรตนไ้ี ดท าํ กรรมอะไรไวหนอ.เทพบตุ รนน้ั ตอบวา :- ขาแตทานผเู จรญิ เมื่อกอ น หญิงเปรตน้ี เปนภรรยาของขาพเจา มคี วามตระหนี่เหนียว แนน ไมใ หท าน นางไดด าและบริภาษขา พเจา ผกู าํ ลงั ใหท านแกสมณพราหมณท งั้ หลายวา จง กนิ คถู มตู ร เลือด และหนองอันไมส ะอาดตลอด กาลทุกเม่อื คูถ มูตร เลอื ด และหนอง จงเปน อาหารของทา นในปรโลก แผน เหล็กจงเปน ผา ของทาน นางนาเกดิ ในทนี่ จี้ งึ กินแตค ูถและมตู ร เปน ตน ตลอดกาลนาน เพราะประพฤติชัว่ เชนน.ี้ จบ มหาเปสการเปตวิ ัตถทุ ี่ ๙

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 85 อรรถกถามหาเปสการเปติวตั ถุท่ี ๙ เม่อื พระศาสดาประทับอยูในกรงุ สาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตผเู ปนชางหูกคนหน่งึ จึงตรสั คํานมี้ คี ําเริ่มตน วา คถู จฺมุตตฺ  รธุ ิรฺจ ปพุ ฺพ ดงั นี.้ ไดย ินวา ภิกษุประมาณ ๑๒ รปู เรยี นพระกรรมฐานในสาํ นกั พระศาสดา พิจารณาถึงสถานทอ่ี นั เหมาะสมแกการอยูเมือ่ จวนจะเขา พรรษา เหน็ ราวปาอนั นารนื่ รมย สมบรู ณดวยรม เงาและนา้ํ แหงหน่ึง ละโคจรคามไมไกลนัก ไมใ กลนกั แตร าวปานัน้ จงึ อยูในท่นี ั้นราตรีหนึง่ รุง ขน้ึ จึงเที่ยวไปบิณฑบาตยงั บา น.ชา งหูก ๑๑ คน อาศยั อยใู นบานนนั้ เห็นเหลา ภิกษุนั้น ๆ เกดิ ความโสมนสั จงึ นาํ มายงั เรือนของตน ๆ เลีย้ งดดู วยอาหารอนั ประณีตแลวเรยี นวา ไปไหนกันขอรับ. ภิกษเุ หลานน้ั กลาววา เราจักไปในทที่ เ่ี รามีความสบาย. พวกชางหกู พากันกลาววา ทานขอรบัถา เมอ่ื เปนเชน นัน้ ขอพระคุณเจา จงอยทู ีน่ แี้ หละ ดงั น้ีแลว จงึขอรอ งใหอยูจําพรรษา. ภกิ ษทุ ง้ั หลายกร็ ับคาํ . อุบาสกอุบาสิกาท้งั หลายไดพ ากนั สรา งกระทอ มในปาในทน่ี ้นั แลวมอบถวายแกภกิ ษุเหลา นั้น. ภกิ ษุท้งั หลายจาํ พรรษาในที่น้ันแลว.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 86 บรรดาชางหูกเหลานน้ั ชางหกู ผูเปน หวั หนา อุปฏฐากภิกษุ๒ รปู ดว ยปจ จัย ๔ โดยเคารพ นอกนั้นไดอุปฏฐากภิกษุคนละรปู .ภรรยาของชา งหกู ผูเปน หวั หนา ไมม ศี รัทธา ไมม คี วามเลื่อมใสเปน มิจฉาทิฏฐิ มีความตระหน่ี ไมอุปฏฐากภกิ ษทุ ัง้ หลายโดยเคารพ. ชางหูกผูเ ปนหัวหนาเห็นดงั น้นั จึงนาํ นองสาวของภรรยานน้ั น่นั แลมาแลวมอบความเปน ใหญใ นเรอื นของตน. นองสาวน้นัเปน ผูมศี รัทธา มีความเลือ่ มใส ปรนนบิ ตั ภิ กิ ษุทั้งหลายโดยเคารพชางหกู ทั้งหมดนั้นไดถ วายผา สาฎกแกภิกษุผอู ยูจําพรรษารูปละผืน.ในบรรดาภรรยานน้ั ภรรยาของชา งหูกผเู ปนหัวหนา ผูม คี วามตระหน่ี มจี ติ คิดประทษุ รา ย ดาบรภิ าษสามีของตนวา ทานคือขาวและนา้ํ ทีท่ านใหแ กส มณะศากยบุตรนน้ั จงบงั เกดิ เปน คถู มตู รเปน หนอง และโลหิต แกท านในปรโลก และผาสาฎกจงเปนแผน เหลก็ ลกุ โพลง สมยั ตอมา บรรดาคนเหลา น้ัน ชางหกู ผเู ปน หวั หนาทาํ กาละแลว บังเกดิ เปนรกุ ขเทวดาถงึ พรอมดว ยอานุภาพ ในดงไฟไหมแตภรรยาผตู ระหนี่ของเขา ทาํ กาละแลว บังเกดิ เปนนางเปรตในทีไ่ มไ กลแตท่อี ยขู องรุกขเทวดาน้ันนน่ั เอง นางเปน คนเปลือยรูปรา งข้เี หร ถกู ความหวิ กระหายครอบงาํ ไปยังสํานักของภมุ มเทพนนั้ แลว กลาววา นาย ฉันไมมีผา ถูกความหิวและความกระหายครอบงําอยางเหลอื เกินเท่ียวไป ทา นจงใหผา ขาว และนา้ํ กฉ็ นั เถิด.

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 87ภุมมเทพจงึ นอ มขาวและนาํ้ อนั เปน ทิพยอยางยิ่งเขา ไปใหน างเปรตนัน้กลายเปนคถู และมตู ร หนอง ละโลหิต ผา สาฎกทใ่ี หไ ป พอนางนงุ หมก็กลายเปนแผนเหลก็ ลกุ โซน นางเสวยทุกขอยา งมหนั ต ทิ้งผา น้นัคราํ่ ครวญเที่ยวไป. กส็ มัยนน้ั ภกิ ษุรูปหน่งึ ออกพรรษาแลว เดินไปเพ่ือจะเฝาพระศาสดา ดําเนนิ ไปถงึ ดงไฟไหม พรอมกบั ที่เกวียนหมูใหญ.ในราตรี พวกหมูเกวยี นเดนิ ทางไป เวลากลางวนั เห็นประเทศแหงหนงึ่ สมบรู ณด วยรมเงาอนั สนิทและนํา้ ในปา จึงปลดเกวียนแลว พักอยูครูหนงึ่ . ฝา ยภิกษุหลกี ไปหนอ ยหนงึ่ เพราะใครต อความวิเวก ปสู งั ฆาฏลิ งท่โี คนไมอันปด บงั ดวยพงปา มีรม เงาสนทิตน หนึง่ แลวนอน มรี า งกายออนเพลยี เพราะเหน็จเหนือ่ ยในการเดินทางตอนกลางคนื จงึ หลับไป. หมเู กวยี นครนั้ พักแลวก็เดนิ ทางตอ ไป ภิกษุนน้ั ยังไมต ืน่ ครน้ั เวลาเยน็ เธอลกุ ขน้ึ ไมเ หน็ พวกเกวียนเหลา น้นั จงึ เดนิ ผดิ ทางไปสายหนึ่ง ถึงท่อี ยขู องเทวดานั้นโดยลําดบั .ลําดบั นั้น เทพบุตรนนั้ เหลา ภิกษนุ น้ั แลว แปลงเปนรปู คนเขา ไปหากระทาํ ปฏสิ ันถาร นิมนตใ หเขา ไปยังวมิ านของตน ถวายเภสชัมยี าทาเทา เปน ตน แลว เขาไปนัง่ ใกล. กส็ มัยนน้ั นางเปรตมากลา ววา นาย ทา นจงใหขาว นาํ้ และผา สาฎกแกฉนั เถิด. เทพบตุ รนนั้ ไดใ หข องเหลา นนั้ แกน างเปรตนน้ั กข็ องเหลาน้ัน พอนางเปรตรับ ก็กลายเปนคถู มตู ร หนอง เลอื ด และแผน เหล็ก อันลกุ โชน

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 88ทีเดยี ว. ภิกษุนั้นเห็นดงั นั้น เกิดความสลดใจ จงึ สอบถามเทพบตุ รนนั้ ดว ย ๒ คาถาวา หญิงเปรตนก้ี นิ คูถ มตู ร เลอื ด และหนอง นเ้ี ปนวบิ ากของกรรมอะไร หญิงเปรตนี้ เมื่อ กอนไดกระทาํ กรรมอะไรไว จงึ มีเลอื ดและ หนองเปนภกั ษาเปนนติ ย. ผา ใหมสวยงามออ น นมุ บรสิ ุทธ์ิ มขี นออ นอนั ทา นใหแ กห ญิงเปรตนี้ ยอ มกลายเปนเหลก็ ไป เมอ่ื กอ น หญิงเปรตน้ไี ด กระทํากรรมอะไรไวห นอ. บรรดาบทเหลานั้น บทวา กสิ ฺส อย วิปาโก ความวา น้ีเปนวบิ ากแหงกรรมอะไร ทห่ี ญิงเปรตเสวยอยใู นบัดน.ี้ บทวา อย นุ กึกมมฺ มกาสิ นารี ความวา เมื่อกอ นหญิงน้ไี ดกระทาํ กรรมอะไรไวหนอ. บทวา ยา สพฺพทา โลหิตปุพฺพภกฺขา ความวา หญิงน้ียอมกินคอื บรโิ ภคเลอื ดและหนองเทาน้ัน ตลอดกาลทเี ดยี ว. บทวานวานิ แปลวา ใหม คอื ปรากฏในขณะนน้ั เอง. บทวา สุภานิแปลวา งาม คอื นา ด.ู บทวา มทุ ูนิ แปลวา มสี ัมผสั สบาย. บทวาสทุ ฺธาน.ิ แปลวา มวี รรณะบรสิ ทุ ธ์.ิ บทวา โลมสานิ แปลวามีขนออ น คือมสี ัมผสั สบาย, อธบิ ายวา ดี. บทวา ทินนฺ านิ มสิ สฺ ากิตกา ภวนตฺ ิ ความวา เปน เชน กับหนามท่เี รยี งราย คือ เปนเชน

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 89กับแผนโลหะ อีกอยางหนงึ่ ปาฐะวา กีฏกา ภวนฺติ ดงั น้กี ม็ ีอธิบายวา มสี เี หมือนตัวสัตวก ดั กิน. เทพบุตรนั้นถกู ภิกษนุ ้ันถามอยา งน้ี เมอื่ จะประกาศกรรมท่นี างเปรตทาํ ในชาตกิ อน จึงกลาว ๒ คาถาวา :- ทานผูเจริญ เม่ือกอ นหญิงเปรตน้ไี ดเปน ภรรยาของขา พเจา ไมใหทาน มีความตระหน่ี เหนียวแนน นางไดด า และบรภิ าษขาพเจาผู กําลงั ใหทานแกสมณะพราหมณทงั้ หลายวา จงกนิ คูถ มูตร เลอื ด และหนองอนั ไมส ะอาด ตลอดกาลทกุ เมอ่ื คถู มูตร เลอื ด และหนองนั้น จงเปน อาหารของทา นในปรโลก แผน เหลก็ จง เปนผา ของทา น นางนาเกิดในที่น้ี กินแตคถู และ มูตร เปนตนตลอดกาลนาน เพราะประพฤตชิ ัว่ เชนน.ี้ บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา อทายิกา ไดแ ก มปี กตไิ มใหทานแมอ ะไร ๆ แกใคร ๆ. บทวา มจฺฉรินี กทรยิ า ความวา ชอื่ วามีความตระหน่ี เพราะช้นั แรกมมี ลทิน คอื ความตระหนีเ่ ปน สภาวะและชือ่ วา มคี วามตระหนเ่ี หนยี วแนน เพราะมีการเสพคนุ บอย ๆซงึ่ ความตระหนน่ี น้ั . มวี าจาประกอบความวา นางไดเ ปนผมู คี วามตระหนี่ ดว ยความตระหนี่เหนยี วแนน น้นั . บดั นเี้ ทพบตุ รเมื่อจะ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 90แสดงความที่นางเปนผมู ีความตระหนี่นัน้ น่นั แล จึงกลาวคาํ มีอาทิวาสาม ททนตฺ  . บรรดาบทเหลา น้นั บทวา อตาทิส ไดแ ก ประพฤติวจีทุจรติ เปนตน ตามท่กี ลา วแลว เห็นปานนั้น. บทวา อิธาคตาไดแ ก มายงั เปตโลกนี้ คอื เขา ถงึ อตั ภาพแหงเปรต. บทวาจิรรตตฺ าย ขาทติ ไดแ ก เคยี้ วกนิ แตคูถเทานน้ั ตลอดกาลนาน.จรงิ อยู นางดา โดยอาการใดผลกเ็ กิดโดยอาการนัน้ เหมอื นกันนางดาเจาะจงผูใด จากผูน้นั ไป กต็ กลงเบอ้ื งบนตัวเหมอื นอสนบี าตตกลงในทสี่ ุด คือกระหมอมในแผนดิน. เทวบุตรน้นั ครั้นแสดงกรรมท่นี างเปรตกระทาํ ไวในชาตกิ อ นอยางนี้แลว จงึ ไดกลา วกะภิกษนุ ้ันอกี วา ทา นขอรบั ก็อบุ ายอะไร ๆท่จี ะทาํ ใหนางเปรตน้พี นจากเปตโลกมีอยูห รอื . และเมอื่ ภิกษุนัน้กลา ววามีอยู จงึ กลา ววา จงแสดงเถดิ ขอรับ. ภิกษุกลาววา ถาทา นถวายทานแกพ ระผูมีพระภาคเจา และแกพ ระอริยสงฆ หรือแกภกิ ษุรูปเดยี วเทา น้ัน แลวอุทศิ ใหหางเปรตน้ี ท้ังนางเปรตน้ีไดอนโุ มทนาทานนั้น ดวยอาการอยางนี้ นางก็จะพน จากความทกุ ขนไี้ ปได. เทพบุตรไดฟง ดังนัน้ จงึ ไดถ วายขาวและน้ําอนั ประณตีแกภ กิ ษนุ นั้ แลวใหทกั ษณิ านัน้ อทุ ศิ แกนางเปรตนั้น. ทันใดน้ันเองนางเปรตนนั้ มีใจอมิ่ เอิบ มีอนิ ทรียกระปร้กี ระเปรา ไดเปน ผอู ่ิมดว ยอาหารอนั เปน ทิพย เทพบุตรน้ันไดถวายคูผา ทพิ ยในมือของภกิ ษนุ นั้ อทุ ศิ พระผูมีพระภาคเจา แลวและอุทิศทักษณิ านน้ั แก

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 91นางเปรต ก็ในขณะนัน้ นน่ั เอง นางนุงผา ทพิ ย ประดับเครื่องประดบัอันเปนทิพย พรัง่ พรอมดวยสิ่งท่นี า ปรารถนาท้ังปวง ไดเ ปน ผูมีสวนเปรียบดว ยนางเทพอปั สร. และภกิ ษนุ น้ั กไ็ ดถ งึ กรงุ สาวตั ถีในวนั นนั้ เอง ดว ยฤทธข์ิ องเทพบุตรนน้ั เขาไปยังพระเชตวนั แลวเขา เฝา พระผูมพี ระภาคเจา ถวายบังคมแลว ไดถวายคผู าสาฎกน้นั แลว กราบทลู เรอื่ งนน้ั . แมพระผมู พี ระภาคเจาทรงกระทาํเรือ่ งนน้ั ใหเปน อัตถุปปต ตเิ หตุ แสดงธรรมแกบ รษิ ัทผปู ระชมุ กันอยูพรอ มแลว เทศนานน้ั ไดม ีประโยชนแ กมหาชนแล. จบ อรรถกถามหาเปสการเปติวัตถทุ ่ี ๙

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 92 ๑๐. ขลั ลาตยิ เปติวัตถุ วาดว ยพอคาใหผ าแกนางเปรต หวั หนา พอ คา ถามหญิงเปรตตนหนึ่งวา[๙๕] ทา นเปน ใครหนออยูภ ายในวิมานน้ี ไม ออกจากวมิ านเลย กอ นนางผเู จริญ เชิญทา น ออกมาเถดิ ขาพเจาจะขอดูทานผูยนื อยขู างนอก.นางเวมานิกเปรตฟง คําถามดงั นแี้ ลว จงึ กลาววา ดิฉันเปน หญิงเปลอื ยกาย มีแตผมปด บังไว กระดากอายที่จะออกภายนอก ดิฉนั ไดท ําบญุ ไวนอยนัก.พอคากลา ววา ดูกอ นนางผมู รี ูปงาม เอาเถอะ ขาพเจา จะใหผ า เน้ือดีแกท าน เชญิ ทา นนุง ผา น้ี แลว จง ออกมาภายนอก เชิญออกมาภายนอกวมิ านเถดิ ขาพเจาจะขอดูทา นผยู ืนอยูข า งนอก.นางเวมานิกเปรตตอบวา ผานน้ั ถึงทา นจะใหทมี่ ือของดิฉนั เอง กไ็ ม สาํ เร็จแกด ิฉัน ถาในหมชู นนมี้ อี บุ าสกผมู ีศรัทธา เปน สาวกของพระสมั มาสมพุทธเจา ขอทา นจง ใหอบุ าสกนน้ั นุงหม ผาทท่ี า นจะใหดิฉนั แลว อทุ ศิ

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 93 สว นกศุ ลใหดิฉัน เมอื่ ทา นทําอยางนั้น ดฉิ นั จงึ จะ ไดน ุง หมผา นต้ี ามปรารถนา ประสบความสุข พอคา ท้งั หลายไดฟ ง ดงั นี้แลว จงึ ใหอ ุบาสกน้นั อาบนาํ้ลูบไลแ ลว ใหน งุ หม ผา แลว อุทิศสว นกศุ ลใหนางเวมานกิ เปรตนนั้พระสังคตี กิ าจารยเ มอื่ จะประกาศเน้อื ความนัน้ ไดกลาวคาถา๓ คาถา ความวา :- ก็พอ คาเหลา นนั้ ยงั อบุ าสกนั้นใหอาบน้าํ ลูบไลด ว ยของหอม แลวใหนุงหมผา แลว อุทิศ สว นกุศลไปใหนางเวมานกิ เปรตนั้น ในทนั ตา เห็นนนั้ เอง วบิ ากยอ มบังเกิดขน้ึ แกน างเวมานกิ เปรตนัน้ โภชนะ เครอื่ งนุงหม และนาํ้ ดื่ม ยอม บังเกดิ ขน้ึ นี้เปนผลแหง ทักษิณา ลําดับนัน้ นาง มสี รีระบริสทุ ธ์ิ นงุ หม ผาสะอาด งามดกี วาผาท่ี ทําจากแควน กาสี เดนิ ยม้ิ ออกมาจากวิมาน ประกาศวา นเ้ี ปน ผลแตงทักษณิ า. พอคาเหลาน้ันถามวา วมิ านของทานงดงาม มีรปู ภาพวิจิตรดี สวา งไสว ดกู อนนางเทพธดิ า พวกขาพเจา ถาม แลวขอทานจงบอก น้เี ปน ผลแหง กรรมอะไร. นางเทพธดิ าตอบวา

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย เปตวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 94 เม่ือดิฉนั เปน มนุษยอ ยูน้ัน มจี ิตเลื่อมใส ไดถ วายแปง คั่วอนั เจือดวยนาํ้ มนั แกภ กิ ษเุ ทยี่ ว บิณฑบาต ผมู จี ิตซื่อตรง ดฉิ ันเสวยวิบากแหง กุศลกรรมนน้ั ในวิมานน้สี ้ินกาลนาน ก็ผลบญุ น้ัน เด๋ยี วน้ียงั เหลือนดิ หนอย พน ๔ เดอื นไปแลว ดฉิ นั จกั จุติจากวมิ านนี้ จกั ไปตกนรกอันเรา รอน สาหัส มี ๔ เหลีย่ ม มี ๔ ประตู จาํ แนกเปน หอ ง ๆ ลอ มดวยกําแพงเหล็ก ครอบดว ยแผน เหลก็ พ้นื นรกนน้ั ลวนเปนเหล็กแดง ลกุ เปน เปลวเพลิง ประกอบดวยความรอ น แผไปตลอด รอ ยโยชนโดยรอบ ตั้งอยูทุกเม่อื ดฉิ นั จกั ตอง เสวยทุกขเวทนาในนรกนัน้ ตลอดกาลนาน ก็การ เสวยทกุ ขเชนนีเ้ ปน ผลแหงกรรมชว่ั เพราะ ฉะน้ัน ดฉิ ันจึงเศราโศกที่จะไปเกดิ ในนรกน้ัน. จบ ขัลลาติยเปติวัตถทุ ี่ ๑๐ อรรถกถาขลั ลาฏยิ ะเปติวัตถุท่ี ๑๐ พระคาสดาเม่ือประทับอยูในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภนางเปรตขัลลาฏิยะตนหน่งึ จงึ ตรัสคําเริ่มตน วา กา นุ อนฺโตวมิ านสฺมึ ดังน้.ี

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 95 ไดย ินวา ในอดีตกาล ในกรุงพาราณสี ยังมีหญิงผอู าศยั รปูเลย้ี งชพี คนหน่งึ รปู รา งสวย นาดู นา ชม ประกอบดว ยผวิ พรรณอันงดงามยิง่ นกั มีกําแหงผมนา รน่ื รมยใ จ. จรงิ อยู ผมของนางดาํยาว ละเอียด ออ นนมุ สนทิ มปี ลายตวัดขน้ึ เกลา เปนสองแฉกสยาย หอยยอ ยลงจนถงึ สายรดั เอว. คนหนมุ เห็นความงามแหงเสนผมของนางน้นั โดยมากมจี ติ ปฏพิ ัทธในนาง. ลาํ ดับนนั้ หญิง๒-๓ คน ถกู ความริษยาครอบงํา ทนตอ ความงามของผมนางน้ันไมได จงึ พากนั ปรึกษา เอาสิ่งของเลก็ ๆ นอย ๆ ลอหญิงคนใชของนางนั่นเอง ใหหญงิ คนใชใ หย าอันเปน เหตทุ ําเสน ผมของนางใหหลุดรวงไป. ไดยินวา หญิงคนใชนน้ั ประกอบยานัน้ กบั ผงสําหรับอาบนํา้ ในเวลานางไปอาบน้าํ ในแมน ํา้ คงคา กไ็ ดใ หแ กน าง.นางเอาผงน้ันจุม ทรี่ ากผมแลว ดาํ ลงไปในน้ํา. พอนางดาํ นาํ้ เทา น้ันเสน ผมพรอ มท้งั รากผม ไดห ลุดรว งไป. และศรี ษะของนางไดเ ปนเชน กับกระโหลกนํ้าเตาขม. ลําดบั นัน้ นางหมดเสน ผมโดยประการทัง้ ปวง เหมือนนกพริ าบจกถอนขนหวั ฉะน้ัน นา เกลยี ดพิลึกเพราะความละอาย จงึ ไมอ าจเขาไปในเมอื ง เอาผาคลมุ ศรี ษะสําเร็จการอยูในท่ีแหง หน่ึงนอกเมอื ง พอ ๒-๓ วันผานไป นางหมดความละอาย กลบั จากที่น้ันบบี เมลด็ งา กระทาํ การคาน้ํามัน และทาํ การคา สรุ า เลี้ยงชพี . วนั หน่งึ เม่อื คน ๒-๓ คน เมาสรุ าหลบั สนทิ นางจึงลักเอาผาทค่ี นเหลานนั้ นงุ ไวห ลวม ๆ.

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย เปตวัตถุ เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 96 ภายหลังวนั หนง่ึ นางเหน็ พระขณี าสพเถระรปู หนงึ่ กาํ ลังเทยี่ วบิณฑบาต มีจิตเล่อื มใสจึงนาํ ทา นไปยังเรอื นของตน ใหนง่ับนอาสนะที่ตบแตงไว ไดถวายแปงทบ่ี บี ในรางผสมกับนา้ํ มนั งา.เพอ่ื จะอนเุ คราะหนาง พระเถระจงึ รับประเคนแปง ผสมน้ํามันงาน้นั ฉนั . นางมีจิตเลือ่ มใส ไดย ินกั้นรม . และพระเถระนั้น เมื่อจะทาํ นางใหม ีจติ รา เริง จงึ ทาํ อนุโมทนากถาแลว หลีกไป. ก็ในเวลาทอี่ นุโมทนาน่ันแหละ หญิงนน้ั ไดตง้ั ความปรารถนาวา พระคุณเจาขอใหเสน ผมของดิฉันยาวละเอียด นมุ สนทิ ตวดั ปลายเถดิ . กาลตอมา นางถงึ แกก รรม เพราะผลของกรรมท่ีคละกันจึงเกดิ เปน หญงิ อยูโดดเด่ยี วในวิมานทอง ทา มกลางมหาสมุทร.เสนผมของนางสาํ เรจ็ ตามอาการทเ่ี ธอปรารถนานน้ั แหละ. แตเพราะนางลกั เอาผา ของพวกมนุษย นางจึงไดเปนหญงิ เปลือย.นางเกิดบอย ๆ ในวิมานทองนั้น เปนหญงิ เปลือยอยตู ลอดพุทธนั ดรหน่ึง. ลาํ ดบั นน้ั เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจา ของพวกเรา เสดจ็ อบุ ตั ิในโลก ทรงประกาศพระธรรมจักรอนั บวร ประทบั อยใู นกรุงสาวัตถีโดยลาํ ดบั พอ คาชาวกรุงสาวตั ถี ๗๐๐ คน แลน เรือไปสูม หาสมทุ รมุงไปยงั สวุ รรณภมู .ิ นาวาทพ่ี วกพอ คา นนั้ ขนึ้ ไป ถูกกาํ ลังลมพดั ผนั ใหปน ปวน จึงหมุนไปขา งโนน ขา งนี้ จนถึงประเทศทนี่ างเวมานิกเปรตน้นั อย.ู ลาํ ดบั นน้ั นางเวมานกิ เปรตน้ัน จงึ แสดงตนแก








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook