พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 53สีพ่ ระองคพึงเทยี่ วจาริกแสดงธรรมในทศิ ทัง้ สีบ่ นพื้นชมพูทวีปเดยี ว ตอมาคนพวกอื่น หวงั การเสดจ็ ทองเท่ียวไปดว ยกัน ในสามมณฑล กก็ ลา ววา พระสัมมาสัมพุทธเจาสามพระองค. คนอีกพวกหนึง่ คดิ อยวู า การบาํ เพ็ญพระบารมีจนครบสิบทัศแลว เกิดพระพทุ ธเจา ๔ หรือ ๓ พระองคขนึ้ มา ยากท่จี ะไดแตถ าพระสมั มาสัมพทุ ธเจา องคเ ดียว พงึ ประทบั ประจําแสดงธรรม พระสมั -มาสัมพทุ ธเจา พระองคเดียวเสดจ็ ทอ งเท่ียวไป แมเมอ่ื เชน นี้ ชมพูทวีป กจ็ ะพึงงดงามและพงึ บรรลหุ ิตสุขเปน อนั มากดวยเปนแนจึงกลา ววา โอหนอ! ทานผูน ิรทกุ ขทง้ั หลาย ดงั น้เี ปนตน. พงึ ทราบวนิ ิจฉัยในบทวา นไ้ี มใชฐานะ นไ้ี มใชโอกาส ดังตอไปน.ี้ คาํ ท้งั สองนี้ คอื ฐานะ อวกาส เปน ชื่อของการณน่นั แหละ. จรงิ อยูการณ(เหตุ) ชือ่ วา ฐานะ เพราะผลยอมต้งั อยูในท่นี นั้ เพราะความท่ผี ลเปน ของเปนไปเกีย่ วเน่อื งกบั เหตุนน้ั และเหตุนั้นก็เปน เหมือนโอกาส จงึ ชื่อวา อวกาสเพราะความทผี่ ลนั้น เวน โอกาสนั้นเสียไมมใี นทีอ่ ืน่ . บทวา ย เปน ปฐมา-วภิ ัตลิ งในอรรถตติยาวภิ ตั ิ. มคี ําท่ีทา วสกั กะทรงอธิบายไวดงั น้วี า ในโลกธาตุเดียว พระพุทธเจาสองพระองคพ ึงทรงเกิดข้นึ พรอ มกนั ดว ยเหตุใด เหตุนัน้ไมม ี. และจักรวาลหน่งึ เทา นัน้ ชอ่ื วาหนึง่ โลกธาตุ ในคาถาน้ีวา พระจนั ทรและพระอาทิตยโ คจร สอ งทศิ ใหส วางไสวมีประมาณเทา ใด โลก ตัง้ พนั ก็เทานั้น อาํ นาจของพระองคย อ ม เปน ไปในพันโลกน้นั .พันจกั รวาล ชือ่ วา หนงึ่ โลกธาตุในอนาคตสถานวา พันโลกธาตุไดห วนั่ ไหวแลว .ตสิ หัสสีจกั รวาล มหาสหสั สีจักรวาล ชื่อวา หนง่ึ โลกธาตุในท่มี าวา อานนทตถาคตเม่อื ตอ งการจะพงึ ใชเ สียงใหต สิ หัสสีโลกธาตุ มหาสหัสสีโลกธาตุเขาใจ
พระสุตตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 54ก็ได และแผร ัศมไี ปก็ได. หมืน่ จกั รวาลชือ่ วา โลกธาตใุ นทมี่ าวา และหมนื่ โลกธาตนุ ี้ . พระผมู ีพระภาคเจานั้น ทรงหมายถงึ หม่ืนโลกธาตุนั้น ตรัสวาในโลกธาตุหนึ่ง ดงั นี้ . กท็ ่เี ทา นี้ ช่ือวาเขตแหง พระชาต.ิ ถงึ ในเขตแหงพระชาตินน้ั ยกเวน ประเทศสว นกลางแหงชมพูทวีปในจักรวาลน้ีเสยี แลว ในประเทศอื่นพระพุทธเจา ท้ังหลายหาไดท รงเกดิ ข้ึนไม กแ็ หละพน จากเขตแหงพระชาติไป ไมป รากฏท่ีเสดจ็ เกิดข้นึ แหงพระพทุ ธเจา ทั้งหลายเลย. บทวา ดวยประโยชนอ นั ใด คอื ดว ยประโยชนแหง ปวารณาสงเคราะหใด. บทวา ดว ยวรรณะและดว ยยศนัน่ เทยี ว ความวา ดว ยเครอ่ื งแตงตวั และบริวาร และดว ยบุญสิร.ิ สาธศุ พั ทเปน ไปในความเลอ่ื มใสในบทน้วี า สาธทุ านมหาพรหม. บทวา พิจารณาแลว ยินดี คือรูแลวจงึ ยนิ ดี.ใคร ๆ ไมส ามารถกําหนดวา เทานี้ แลว กลาวไดวา พระผมู พี ระภาคเจาพระองคน้นั ทรงมพี ระปญ ญายงิ่ ใหญม านานเพยี งไรแลว เทียว ท่แี ทพระผมู ีพระภาคเจาของพวกเราพระองคนัน้ ทรงมพี ระปญ ญายง่ิ ใหญม านาน คือนานเหลอื เกินมาแลว เพราะฉะน้นั พวกทานจะสาํ คัญอยางไร ทนี ั้น สนังกมุ ารพรหม มีความประสงคจะแกป ญหานนั้ ดว ยพระองคเ องทีเดียว จึงตรัสวาทา นผนู ริ ทุกขท ั้งหลาย ไมน าอศั จรรยเ ลย ขอที่พระผูม พี ระภาคเจา พระองคน้นั ทรงบําเพญ็ พระบารมที าํ ลายยอดมารท้งั สามท่โี พธบิ ลั ลงั ก ทรงมพี ระญาณทไี่ มทวั่ ไปซึ่งทรงแทงตลอดแลว พงึ กลายเปนผทู รงมีพระปญญายงิ่ ใหญในบัดน้ี อัศจรรยอ ะไรในขอ น.้ี แตเพื่อนเอย ขาพเจา จักบอกพวกทานถงึความที่พระองคย ังดํารงอยูใ นประเทศญาณแหง พระโพธิญาณทย่ี ังไมแกก ลาก็ทรงมีพระปญ ญาย่ิงใหญจรงิ ๆ แมใ นเวลาทยี่ งั ทรงมีราคะเปนตน เมือ่ จะทรงนําเอาเหตกุ ารณที่ถกู ภพปดมาแสดงจึงตรัสคาํ เปนตน วา ภคู ปุพฺพ โภ ดงั น้ี .
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 55 คาํ วา ปโุ รหิต คือ ทปี่ รกึ ษาสําหรบั พร่ําสอนกิจทุกอยาง. บทวาโควินท คือไดร ับอภเิ ษกดว ยการอภเิ ษกใหเ ปน ใหญใ นแผน ดิน. กโ็ ดยปกติเขามีชอื่ เปนอยา งอื่นแทๆ. ต้งั แตเ วลาไดร บั อภเิ ษกแลว กถ็ งึ การนบั วาโควินท.คาํ วา โชติบาล คือช่ือวา โชตบิ าล เพราะรงุ เรืองและเพราะรักษา. ไดย นิ มาวา ในวนั ท่ีโชติบาลเกดิ นั้น อาวธุ ทุกชนดิ ลกุ โพลง. แมพระราชาเมือ่ ทรงเหน็ พระแสงมังคลาวุธของพระองคล กุ โพลง ในเวลาใกลสวางก็ทรงกลัวประทับยืนแลว . โควนิ ทไ ปเฝาพระราชาแตเชา ตรู กราบทูลถามการบรรทมเปนสุข. พระราชาตรัสตอบวา ทา นอาจารย ฉันจะนอนเปน สุขแตที่ไหน แลวก็ทรงบอกเหตนุ ั้น. มหาราช อยาทรงกลัวเลย ลูกชายขาพระพทุ ธเจาเกิดแลว ดวยอานภุ าพของเขา อาวุธท้ังหลาย ลุกโพลง ทัว่ทัง้ พระนคร. พระราชาทรงคดิ วา เดก็ นจี้ ะพึงเปน ศัตรูแกเ ราหรือหนอแลวกย็ ง่ิ ทรงกลวั . และเมือ่ ทรงถกู ทลู ถามวา มหาราช พระองคท รงคิดอะไร ? ก็ตรัสบอกขอ ความนน้ั . ทีน่ นั้ โควินทไดกราบทลู พระองความหาราช อยา ทรงกลัวไปเลย เดก็ นจ้ี ักไมท าํ รา ยพระองค แตวาในชมพูทวปีท้ังสน้ิ จกั ไมม ีใครมปี ญญาเทา เขา ความสงสยั ของมหาชน จักขาดสนิ้ เพราะคาํ ของลกู ชายของขาพระพุทธเจา และเขาจักพร่าํ สอนกิจทุกอยา งแดพระองคแลว ก็ปลอบโยนพระองค. พระราชาทรงพอพระทัยตรสั วา จงเปนคาน้าํ นมของเด็ก แลวพระราชทานทรัพยพ นั หนงึ่ ตรสั สั่งวา จงแสดงเดก็ แกเรา ในเวลาเปนผูใหญ. เดก็ ถงึ ความเตบิ โตโดยลาํ ดับ . เพราะความที่เด็กนนั้ เปนผูรงุ เรืองและเปน ผสู ามารถในการรกั ษา พอแมจึงตั้งชอ่ื วา โชติบาล. เพราะเหตุนน้ั ทา นจึงกลา ววา โชตบิ าล เพราะความรุง เรือง และเพราะการรกั ษาดงั น้.ี
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 56 บทวา ละไดอ ยา งถูกตอง คือสละไดโดยชอบ. หรือบทวาไดโ ดยชอบ นเ่ี อง เปน ปาฐะ. บทวา เปนผสู ามารถเหน็ และไตรตรองขอความ คือเพราะเปน ผูส ามารถ อาจหาญ เปน ผเู ห็นขอความ จงึ ช่ือวา เปนผสู ามารถเห็นขอ ความ ชอื่ วา เปนผูส ามารถเห็นและไตรต รองขอความ เพราะยอมไตรตรองขอความน้ัน . ดวยบทวา อนั โชตบิ าลมาณพน่ันแหละพงึ พร่ําสอนทานแสดงวา แมพระราชานั้นก็ทรงถามโชตบิ าลนั่นแล แลว จึงทรงปก-ครอง. บทวา ขอความเจริญจงมีกะโชตบิ าลผูเจรญิ ความวา ความเปนความเจริญ ความบรรลคุ ุณวเิ ศษ ความดงี ามและมหามงคลทงั้ หมดจงมีแกโชติบาลผูเจรญิ . บทวา ถอ ยคาํ นาํ ใหเกิดความบนั เทงิ คอื จบคําปฏสิ นั ถารอนัเปน เครอื่ งบรรเทาโศก เกยี่ วกบั ความตายโดยนัยเปน ตนวา อยาเลยมหาราชอยา ทรงคดิ เลย นีเ่ ปนของแนนอนสาํ หรบั สรรพสัตว. บทวา โซติบาลผูเจริญอยาใหเ ราเสอื่ มจากคําพราํ่ สอน ความวา อยาใหเส่ือมเสยี จากคําพราํ่ สอน.อธบิ ายวา เมอ่ื ถูกขอรองวา จงพรํ่าสอน ก็อยา บอกเลิกพวกเราจากคาํ พร่ําสอนดวยพดู วา ขาพเจา จะไมพ ร่าํ สอน. บทวา จัดแจง คือจัดแจง แตง ต้ัง. บทวา พวกคนกลาวอยา งนี้ ความวา เมื่อพวกคนเหน็ โชตบิ าลน้ันมีปญญามากกวาพอ พราํ่ สอนกิจทกุ ชนิด จัดการงานทกุ อยา ง กม็ ีจิตยนิ ดีกลาวอยา งน้ีวา ทานผูเจรญิ โควินทพราหมณห นอ ทานผเู จริญ มหาโควนิ ทพราหมณหนอ มคี าํ ท่ีทา นอธบิ ายอยางนว้ี า ทานผูเ จริญ โควนิ ทพราหมณเปน บดิ าของคนนี้ สว นคนนี้ เปน มหาโควนิ ทพราหมณ. บทวา กษัตริย ๖ องคนน้ั โดยทีใ่ ด คือ กษตั รยิ ๖ องคทที่ า นกลาววา สหายเหลา นน้ั ใด. เลากนั มาวา กษัตรยิ เหลา น้นั รว มพระบดิ ากบัเจา ชายเรณุ ทรงเปน นอง เพราะฉะนั้น มหาโควนิ ทจึงคิดวา เจาชายเรณุน้ี
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 57ทรงไดรับอภิเษกแลว จะแบงหรือไมแบง ราชสมบัติแกกษัตรยิ ท ง้ั ๖ องคน้นัถาไฉนเราตอ งสง กษตั รยิ เ หลานน้ั ไปสูสํานักของเจาชายเรณุโดยทันทแี ลว ทาํใหเ จา ชายเรณุ ทรงรับคาํ ม่ันใหไดแ ลว จึงเขา เฝากษตั ริยท้ัง ๖ องคนน้ั ยงั ท่ีประทบั . บทวา ผูทําของพระราชา ไดแ กพ วกขาราชการ คือพวกอาํ มาตย. บทวา กามทงั้ หลายเปน ท่ตี งั้ แหง ความเคลบิ เคลิม้ หมายความวา การทง้ั หลายทาํ ใหเ มา ทําใหป ระมาท อธบิ ายวา เมอ่ื เวลาลวงไป ๆเจา ชายเรณุน้ี จะไมพึงสามารถแมเ พอื่ ตามระลึกถงึ . เพราะฉะนนั้ ทานผเู จริญท้งั หลายจงึ มา คอื จงดําเนนิ มา. บทวา ทา น ขา พเจายังจาํ ได คอื เขาวาครัง้ นน้ั เปนเวลาทพ่ี วกคนชอบพดู ความจรงิ กนั เพราะฉะน้ัน เจาชายเรณจุ ึงไมต รสั คาํ ไมจริงวา ขา พเจาพูดเม่อื ไร ใครไดเหน็ ใครไดยิน (แต) ตรสัวา ทาน ขาพเจา ยงั จาํ ได. บทวา ถอ ยคําทพี่ งึ บนั เทงิ คอื ถอ ยคาํ ตอนรบั เหน็ ปานนวี้ ามหาราช เมอื่ พระราชาเสด็จสวรรคตแลว พระองคอยา ไปทรงคดิ อะไร นี่เปนส่งิ แนน อนของสรรพสัตว สังขารทั้งหลายเปน อยางนี.้ บทวา ตัง้ เปนหนาเกวียนทงั้ หมด คือ ต้ังหมดทั้ง ๖ แควน เปนทางเกวยี น. พระราชาแตละองคมีราชสมบัตสิ ามรอยโยชน ประเทศทีเ่ ปน ท่รี วมแหงราชสมบตั ิของพระเจา เรณสุ ิบคาวุต. กร็ าชสมบัตขิ องพระเจาเรณุอยตู รงกลางเชนกับเพดานทาํ ไมจึงตงั้ ไวอยา งน้ี กษตั ริยท้งั หลายเมื่อมาเฝา พระราชาเปนบางคร้งั บางคราว จักไมทรงเบยี ดเบยี นราชสมบัติของกษตั รยิ อ งคอื่น ทรงมาและไปโดยประเทศของตน ๆ เทา น้ัน เพราะเม่ือทรงหยั่งลงสูราชสมบตั ิขององคอ ่นื แลวตรัสอยวู า พวกทานจงใหอาหาร จงใหโค พวกมนุษยก จ็ ะยกโทษ พระราชาเหลา นี้ไมเ สดจ็ ไปทางแวนแควน ของตน ๆ ยอมทรงกระทาํ การเบยี ดเบยี นพวกเรา. แตเ มื่อเสดจ็ ไปทางแวน แควนของตน พวกคนกย็ อมไมสาํ คญั การเบยี ด
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 58เบยี นวา พระราชองคนีจ้ ะตองไดส ง่ิ นีแ้ ละสิง่ น้ีไปจากสาํ นักของพวกเราทีเดียว.มหาโควินทค ํานึงถงึ ขอ นี้ จงึ ตัง้ ไวอยางนีว้ า เมอ่ื พวกพระราชาทรงบันเทิงพรอ มกนั จงครอบครองราชสมบัติใหยนื นานเถดิ ดังนี้ นคร ๗ แหง นี้ คือ ทันตปุระแหงแควนกลิงค โปตนะ แหง แควน อสสั กะ มาหิสสดแี หง แควน อวันตี โรรกุ ะแหงแควน โสจิระ มถิ ิลาแหง แควนวเิ ทหะ และสรา งจัมปาในแควน องั คะและพาราณสแี หงแควนกาสี เหลา น้ี โควินท สรา งไวแลวอันมหาโควนิ ทน นั่ แหละสรางไวเพอ่ื ประโยชนแกพ ระราชา พระนามเหลานค้ี ือ สัตตภู พรหมทัตต เวสสภู พรอมกบั ภรตะ เรณุ และสองธตรฐะ ทั้ง ๗ องคน ี้ ไดเปน ผทู รงภาระในครั้งนนั้เปน พระนามแมแหง พระราชาทง้ั เจ็ดพระองคเหลา นนั้ . จรงิ อยูในเจ็ดพระองคเ หลา นน้ั ไดแ กอ งคเหลานี้ คือ สัตภู ๑ พรหมทัตต ๑ เวสสภู ๑พรอมกับเวสสภูนน้ั แล คือ ภรตะ ๑ เรณุ ๑ สวนธตรฐะมสี องพระองค. บทวาทง้ั ๗ องคท รงมีภาระ คือ ทรงเปน ผมู พี ระภาระ ไดแกท รงเปนมหาราชในพื้นชมพทู วปี . จบ การพรรณนาในปฐมภาณวาร บทวา เขา ไปหา คอื พระราชาทง้ั ๗ พระองคทรงพระดํารวิ าอสิ ริยสมบัตินี้ สาํ เร็จแลว แกพ วกเรา ไมใชดว ยอานุภาพแหงคนอ่นื แตด ว ย
พระสุตตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 59อานภุ าพของมหาโควินท มหาโควนิ ทไ คทาํ ใหพวกเราเหลา ๗ ราชาพรอ มเพรยี งกนั แตงตั้งพวกเราในพ้ืนชมพทู วีป ก็แล พวกเราไมงายที่จะทําการตอบสนองแกม หาโควนิ ทผ เู ปนบรุ พูปการี มหาโควนิ ทน ้แี ลจงพรํา่ สอนพวกเราแมทั้ง ๗ คน พวกเราจะใหมหาโควินทนี้แลเปนแมท ัพและเปน ทปี่ รึกษาเมอ่ื เปน เชนนี้ พวกเราคงจะมคี วามเจริญแน แลว กเ็ ขา ไปหา. ถงึ มหาโควินทกค็ ิดวา เราไดท าํ ใหพระราชาเหลา นี้สมคั รสมานกนั แลว . หากวาพระราชาเหลา นจ้ี ักมีคนอื่นเปนแมทพั และเปน ทปี่ รึกษา แตน ้ันพระราชาเหลา น้นั ก็จักทรงถอื ถอ ยคาํ ของแมทัพและท่ปี รกึ ษาของตน ๆ แลว แตกกนั เราจะยอมรบั ท้งัตําแหนงแมทัพและตําแหนง ทีป่ รกึ ษาของพระราชาเหลาน้ีแลว รบั วา อยา งนั้นพระเจา ขา . บทวา และพราหมณมหาศาล ๗ คน คอื มหาโควินทม าคิดวา เราจะพงึ อยเู ฉพาะพระพักตรหรอื ไมก ต็ าม ในทีท่ กุ แหง พระราชาเหลา นี้จักทรงปฏิบัตหิ นาท่โี ดยประการทเ่ี ราจักไมอ ยูเฉพาะพระพกั ตรไ ด แลวก็แตงต้ังรองทีป่ รกึ ษาไว ๗ คน ทา นหมายเอารองท่ีปรึกษา ๗ คนนั้น จงึ กลาวคาํ นี้วา และพราหมณมหาศาล ๗ คน ดงั นี้. ชอ่ื วา ผอู าบ เพราะอาบนาํ้วนั ละสามครัง้ หรอื อาบในตอนเย็นและตอนเชา ทุกวัน หรือชอ่ื วาอาบแลวในเพราะจบการพระพฤตพิ รต. ชอื่ วาผูอ าบ เพราะตัง้ แตนน้ั พวกพราหมณไมก นิ ไมด ่มื รว มกับพวกพราหมณดว ยกัน . บทวา ฟุงไป แปลวา ข้นึ ไปสงู อยางยง่ิ เลากนั มาวา ครงั้ นนั้ถอยคํานแี้ ลเปน ไปแลวแกคนทั้งหลายในทท่ี นี่ ง่ั แลว ๆ (ในท่นี ่ังทกุ แหง ) วาคนเราเม่อื ไดป รึกษากบั พรหมแลวก็จะพรํ่าสอนไดหมดท้ังชมพูทวีป. บทวาแตเราไมเ ลย ความวา ไดยินวา มหาบรุ ษุ คิดวา คณุ ท่ไี มเ ปนจริงนีเ้ กดิแกเราแลว ก็แลการเกิดคุณขนึ้ ไมใชข องหนักหนาอะไร แตการรักษาคณุ ที่
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 60เกิดขึน้ แลว นั่นแล เปน ของหนัก. อนงึ่ ท้งั ๆ ทเี่ ราไมไ ดคดิ ไมไ ดป รกึ ษากระทาํอยู คุณน้กี ็เกดิ ข้นึ แลวเทยี ว กเ็ ม่อื เราคดิ แลว ปรกึ ษาแลว จงึ ทาํ คุณก็จกั ยง่ิ กวา งใหญเ ปนแน แลว ก็แสวงหาอุบายในการเห็นพรหม เม่ือไดเ ห็นพรหมนนั้ แลวก็ปริวติ กถึงขอ นเ้ี ปน ตนวา ก็แลขอนน้ั เราไดฟ งมาแลว ดังน้ี. บทวา เขาเฝาพระเจา เรณถุ งึ ท่ีประทบั ความวา มหาโควินทม าคิดวา ความตองการเพอื่ จะเฝา หรอื ความตองการ เพื่อจะสนทนากนั ในระหวางอยางนัน้ จักไมมีเลยเพราะเราตัดความกงั วลไดแลว จักอยูสบาย ดังน้ี จึงเขา เฝาเพอื่ ตัดความกังวลใหข าด. ทุกแหง กน็ ัยน.้ี บทวา พวกเชน กนั คือหญิงมวี รรณะเสมอกนัมชี าติเสมอกนั . บทวา ใหส รา งสัณฐาคารหลงั ใหม คอื ใหส รางทีอ่ ยูอ ยา งวิจติ รเอาตน ออ มาลอมขางนอกมีทพ่ี ักกลางคืนทพี่ กั กลางวันและทจี่ งกรม พรอมบริบูรณเ หมาะสําหรับอยูในฤดฝู น ๔ เดอื น บทวา เพง กรุณาฌาน คือเพง ฌานท้ังหมวดสามและหมวดส่แี หงกรุณา. กใ็ นบทวา เพงกรณุ าฌานนี้ ดว ยมุขคือกรณุ า กเ็ ปนอนั วา พรหมวิหารท่เี หลืออกี สามขอทานถือเอาแลวเทียว. บทวา ความกระสัน ความสะดงุ ความวา เม่ืออยใู นภมู ิฌานไมวาความกระสนั เพราะความไมยนิ ดี หรือความสะดุงเพราะความกลัวยอ มไมมีแตค วามตอ งการใหพรหมมา ความอยากใหพ รหมมา ไดมแี ลว. ความกลวัเพราะจิตสะดุงน่ันแหละ เรยี กวา ความกลัว. บทวา ไมร อู ยู คือไมท ราบอยู. บทวา ทําอยางไรพวกเราจึงจะรูจกั ทา น ความวา พวกเราจะรจู ักทา นวาอะไร. อธบิ ายวาพวกเราจะจาํ ทา นดวยอาการอะไรในอาการเปนตน วา คนนอี้ ยทู ไี่ หน ชอ่ื อะไร โคตรอะไร. คําวา คนทงั้ หลายรูจักขาพเจาวาเปน กุมาร ความวา คนทง้ั หลายรูจ ักขา พเจา น่นั แลวาเปน กมุ ารวาเปน ชายหนมุ . บทวา ในพรหมโลก
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 61คือในโลกท่ปี ระเสรฐิ สดุ . บทวา เปนของเกา คือเปนของนมนานเปน ของเกา แก. พรหมยอ มแสดงวา ขา พเจา นนั้ เปน กุมารเกา ชอ่ื สนังกุมารพรหม.บทวา โควินท ทา นจงรูอยางน้ี ความวา โควนิ ทผูเ ปนบัณฑิต ทานจงรูขาพเจาอยางน้ี คอื จงจาํ ขา พเจา ไวอยา งนี.้ ของที่พงึ นอ มไปเพอ่ื แขก เรียกวาของรบั แขก ในคาถานีว้ า ท่ีน่ัง นํ้า น้ํามนั ทาเทา และผักนง่ึ อยา งดี สําหรบั พรหม (มีอยู) ขาพเจาขอ ตอ นรับผเู จรญิ ขอผูเ จรญิ จงรบั ของ ควรคา ของขา พเจา . มคี าํ ท่ที า นอธิบายไวด วยบทวา ของรบั แขก น้นั เองวา น้ที ีน่ ง่ั ที่ปูไวแลว เชญิ น่งั บนทน่ี ่ังน้ี น้นี ้ําบรสิ ุทธ์ิ เชิญด่มื นาํ้ เชญิ ลางเทาจากนํ้านี้น้นี าํ้ มันทาเทา ที่เอาน้าํ มนั มาปรงุ เพือ่ ประโยชนเ ก้ือกูลแกเทา เชญิ ทาเทาดว ยนาํ้ มนั นี้. บทน้ีวา ผกั นึ่งอยา งดี คอื พรหมจรรยของพระโพธิสัตว หาเหมอื นกับพรหมจรรยของคนเหลาอ่ืนไม พระโพธสิ ัตวนัน้ ไมทาํ การสะสมดว ยคิดวา นี้สาํ หรบั พรุง น้ี นส้ี ําหรบั วันทส่ี าม ก็ผักทน่ี ่งึ ดวยนํา้ มีรสหวานไมเคม็ ไมไดอบ ไมเปรยี้ ว (มีอยู) พระโพธสิ ตั วน ้นั ทรงหมายผกั น่งึ นั้นเม่อื จะกลา ววา เชิญเอาผักนึง่ นไ้ี ปบรโิ ภค จงึ กลาวคาํ เปนตนวา ขาพเจา ขอถามผเู จริญเกี่ยวกับของรับ แขก. ของรบั แขกทง้ั หมดนี้ มีไวส าํ หรับพรหม ขาพเจาขอถามของรับแขกเหลา นั้นกบั ผูเจรญิ ทา นผเู จรญิ จงกระทาํ ของรับแขกของขาพเจา คือ ทา นผเู จรญิ จงรบั ของรับแขกนีข้ องขาพเจา ผูถามอยูอยางน.้ี กท็ านมหาโควนิ ทน้ไี มทราบหรือวา พรหมไมบรโิ ภคแตส งิ่ เดียวจากสิง่น้.ี ไมใชไมทราบ ท้ังทีท่ ราบอยกู ถ็ ามดวยมุง วัตรเปน สําคัญวา ชอื่ วา แขกที่มาสูสาํ นกั ของตนเปน ผูที่ตองถาม. ที่น้ันแล พรหมก็พจิ ารณาดูวา
พระสุตตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 62บัณฑติ รูวา เราไมมกี ารทําการบริโภคแลวจงึ ถามหรอื หนอ หรอื วา ตง้ั อยใู นความหลอกลวงแลว จงึ ถาม ทราบวา ต้ังอยูในวัตรเปนสําคัญจงึ ถาม จึงคิดวา บดั น้ี เราควรรบั จึงกลาววา โควนิ ท เราจะขอรบั ของรับ แขกท่ีทานกลาวถงึ . (มีคําทม่ี หาพรหมอธบิ ายวา ) โควนิ ท คาํ ท่ีทา นกลาวเปน ตนวา น้ที ่ีน่งั ทปี่ ไู วแ ลว เชิญนั่งบนทน่ี ่งั นี้ ในสง่ิ เหลาน้นั เรานน้ั ช่ือวาเปน ผูนง่ั แลว บนทีน่ ่ัง ชือ่ วา เปน ผดู ืม่ น้ําแลว แมเทาเราก็ช่ือวาลางแลว ชื่อวาทาน้ํามนั แลว ช่ือวาบรโิ ภคผักน่งึ นํ้าแลว ตง้ั แตเวลาทเี่ รารบั ของทีท่ า นใหทานพูดถงึ สง่ิ ใด สิ่งนนั้ เปน อันวา เราไดร ับเสรจ็ เรยี บรอยแลว เพราะเหตนุ ้นั ทา นจึงวา โควินท เราขอรับของรับแขกท่ีกลา วถงึ นนั้ . กแ็ ลครน้ั รับของรับแขกแลว เมือ่ จะทําโอกาสแหง ปญ หา มหาพรหมจึงกลา วคําเปนตน วา เพื่อประโยชนเ กื้อกลู ในปจ จุบนั ดังนี้ . บทวา (ขาพเจา) ผูมคี วามสงสัย (ขอถามทา น) ผไู มสงสยั (ในปญหา) ทพี่ งึ ทําใหค นอืน่ เขาใจ ความวา ขา พเจา ยังมีความสงสยั (ขอถาม) ทานผูเจริญ ทีไ่ มม คี วามสงสัยในปญหาทพี่ ึงทาํ ใหค นอนื่ เขาใจ ซง่ึปรากฏแกคนอนื่ เพราะความทถี่ ูกคนอืน่ สรา งขึน้ มาเอง. คําวา ละความเปน ของเรา คือละตณั หาทเี่ ปนเครอ่ื งมือใหถอื วา น้ขี องเรา ของเรานี้.คาํ วา ในหมมู นษุ ย คอื ในหมสู ัตว. อธิบายวา มนษุ ยคนเราละความเปนของเราแลว. คาํ วา เปนผูโดดเด่ียว คอื เปนผูเดียว. หมายความวา ยืนอยูคนเดยี ว นง่ั อยูคนเดยี ว. ก็ในขอ นี้ มีใจความของคําวา ท่ชี อื่ วา โดดเดยี่ วเพราะเปน ผเู ดียว เดน ขนึ้ คอื เปน ไป. ทช่ี อื่ วา เปนผูโ ดดเดีย่ วเพราะ.เปน ผเู ชนนัน้ . คําวา นอ มไปในความสงสาร คอื นอมไปในฌานที่ประ-กอบดวยความสงสาร หมายความวา ทําใหฌ านนั้นเกิดข้นึ . คําวา ไมม ีกลน่ิ สกปรก คือปราศจากกล่ินเหม็น. คําวา ตั้งอยูใ นน้ี คือตง้ั อยใู น
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 63ธรรมเหลาน้ี. คาํ วา และกําลังสาํ เหนยี กอยูในน้ี คือกาํ ลงั ศึกษาในธรรมเหลา น้ี. นเ้ี ปน ความยอ ในเรอ่ื งนี.้ สวนความยาว มหาโควินท และพรหมไดก ลา วไวขา งบนเสร็จแลว แล. บรรดาบทเหลานนั้ บทวา ไมร ูสงิ่ เหลานี้ มคี วามวา ขา พเจาไมร ู ไมเขา ใจกล่นิ สกปรกเหลา นี้. บทวา ธรี ะ ทา นจงกลาวในท่นี ี้ ความวา ธรี ะ คือนักปราชญ เพราะเหตนุ นั้ ทานจงกลา ว คือจงบอกขา พเจาในทนี่ .ี้ คําวา หมสู ตั วถ กู อะไรหอหุมไวจงึ มีกล่ินเนาเหม็นฟงุ ไปความวา สัตวถ กู เครอื่ งกางก้ัน คือกเิ ลสเปนไฉนหอหมุ ไวจงึ เนาเหมน็ ฟงุ ไปคําวา สตั วอ บาย ไดแ กสตั วท เี่ ขาถึงอบาย. บทวา ปดพรหมโลกคือ ชอื่ วา ปด พรหมโลกแลว เพราะพรหมโลกของเขาถกู หุม ไว คือถูกปด แลว .มหาโควินทถามวา หมสู ัตวถ กู กิเลสอะไรหอ หุม คือปดไดแกป กปดทางพรหมโลกเลา มหาพรหมตอบวา ความโกรธ การกลา วเทจ็ ความหลอกลวง ความประทษุ ราย เปน ตน ความโกรธมคี วามฉุนเฉยี วเปน ลกั ษณะการกลาวเท็จมกี ารกลา วใหค ลาดเคล่ือนกับคนอ่ืนเปน ลักษณะ ความหลอกลวงมกี ารแสดงส่ิงท่ีเหมือนกันแลวลวงเอาเปน ลกั ษณะ และความประทุษรายมกี ารทาํ ลายมติ รเปน ลักษณะ. คาํ วา ความตระหน่ี การดูหม่นิ ความรษิ ยาความวา ความตระหนมี่ ีความกระดา งและความเหนียวแนน เปนลกั ษณะ การดูหมนิ่ มีการเหยียบย่ําแลวดูถกู เปนลกั ษณะ และความรษิ ยามคี วามส้ินไปแหงสมบตั คิ นอื่นเปน ลกั ษณะ. บทวา ความอยาก ความอยากแปลก ๆ และความเบียดเบยี นผอู ่ืน ความวา ความอยากมคี วามทยานอยากเปน ลักษณะความหวงแหนมีความตระหนเ่ี ปนลกั ษณะ และความเบยี ดเบยี นผอู ืน่ มีการทาํ ใหลําบากเปนลักษณะ. บทวา ความอยากได ความประทษุ ราย ความเมาและความหลง คอื ความอยากได มีความโลภเปนลกั ษณะ ความประทุษ
พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 64รา ยมีความรายกาจเปน ลกั ษณะ ความเมา มีความมวั เมาเปนลักษณะ และความหลง มีความลมุ หลงเปน ลกั ษณะ. บทวา ผปู ระกอบในเหลานี้ ไมใชเ ปนผไู มม กี ลิน่ สกปรก ความวา หมูส ัตวท่ีประกอบในกิเลสทัง้ ๑๔ ขอเหลา น้ี ไมใ ชเปนผูไมมกี ลน่ิ สกปรก. มหาพรหมกลา ววา เปนผมู ีกลนิ่ สกปรกมีกลิ่นศพ มีกล่ินเนา เหมน็ แท ๆ. บทวา สตั วอบายปดพรหมโลกแลวมหาพรหมยอมแสดงวา กแ็ หละ หมสู ัตวน้ีเปนสตั วอบายและเปนผปู ด ทางพรหมโลก. ก็แลผูกลาวสตู รน้ีอยพู ึงกลา วใหแจม แจงไดดว ยอามคันธสูตร แมอามคันธสตู รก็พึงกลา วใหแจมแจงไดดว ยสตู รนี้ บทวา (กล่นิ นา สะอิดสะเอยี น) เหลานนั้ ไมใชพงึ ยํ่ายีไดงายความวา กลนิ่ เหมน็ ๆ เหลา นน้ั ไมใ ชเปนสิง่ ท่ีจะพึงย่ํายีเสยี ไดโ ดยงา ย คอืไมใชเ ปน ส่ิงทจี่ ะพึงยาํ่ ยีเสียไดอยา งสะดวก คอื ไมใ ชเ ปนสง่ิ ทจ่ี ะพึงละไดอ ยางงาย ๆ. หมายความวา ละยาก คือลําบากที่จะละ. บทวา โควินทผ เู จรญิยอมสําคญั กาลเพอื่ สิ่งใดในบดั นี้ ความวา โควนิ ทผเู จริญยอมสาํ คัญเวลาเพื่อการบวชใด การบวชนี้แหละจงเปน . เมือ่ เปน อยา งนั้น การมาในสํานักของทานแมข องเราก็จกั เปน การมาด.ี ถอยคาํ ในทางธรรมท่กี ลาวแลว กจ็ กัเปนอนั กลา วดีแลว พอ ! ทา นเปน คนชนั้ เลศิ ในชมพทู วปี ท้ังส้ิน เปนคนหนุมยังอยใู นวยั ตน ชอ่ื วาการละความเปนสิริแหงสมบัติทีใ่ หญอยางน้แี ลวบวชของทา นน้ี เปน การยิ่งใหญเ หมือนกับการทีช่ า งกลิ่นหอม (ชา งไดก ล่นิ ชา งฟง)แลว ตัดเครือ่ งลามคือ (โซ) เหล็กไปไดฉะนนั้ . ครน้ั กระทาํ งานคอื ความมน่ัคงแกม หาบุรษุ วา การบวชน้ชี ื่อวา ความเปน พระพุทธเจา ดังนแ้ี ลว พรหมสนังกุมารก็ไปสพู รหมโลกตามเดมิ . แมม หาบุรุษมาคดิ วา การท่เี ราออกจากที่น้แี ลบวชไมส มควร เรายอ มพร่าํ สอนอรรถแกร าชตระกูล เพราะฉะน้ัน เราจกั กราบทลู แดพ ระราชา ถาพระองคจกั ทรงผนวชดวยก็เปน การดแี ท ถา จกั ไม
พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 65ทรงผนวชเราจกั เวรคืนตําแหนงทปี่ รึกษาเสร็จแลว จงึ บวช ดงั นีแ้ ลวจงึ เขา เฝาพระราชา. เพราะเหตนุ ้ันทา นจึงกลาววา ทาน ครง้ั นนั้ แล มหาโควินทฯลฯ ขา พระพุทธเจาไมย นิ ดีในความเปนทปี่ รึกษา ดงั น้ี บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา ขอพระองคจงทรงทราบดว ยราชสมบัติ ความวา พระองคนนั่ แล จงทรงทราบเฉพาะ (รบั ผดิ ชอบ) ดวยราชสมบตั ขิ องพระองค. บทวา ขาพระพทุ ธเจา ไมย นิ ดีในความเปนที่ปรึกษา ความวา ขาพระพทุ ธเจาหายินดีในความเปน ท่ีปรกึ ษาไม ขาพระพทุ ธเจาเบ่อื หนายแลว ขอพระองคจงทรงทราบปุโรหติ ผูพ รา่ํ สอนอ่นื เถดิ ขาพระพุทธเจา ไมยินดีในความเปน ที่ปรึกษา. ลําดับนนั้ พระราชาทรงพระดําริวา โภคะในเรอื นของพราหมณผูหลกี เรน ตง้ั สเ่ี ดือน คงจะนอยเปนแน จึงทรงเชอ้ื เชิญดวยทรัพยตรสั วา ถาทานยงั พรองดวยกามทง้ั หลาย ขาพเจาจะเติมใหทานจนเต็ม แลว ทรงพระดาํ ริอกี วา เมอื่ พราหมณน ี้อยคู นเดียว ตองถูกใคร ๆ เบียดเบียนหรือหนอแล จึงตรสั ถามวา ขาพเจาจะปองกันผทู ่ีจะเบยี ดเบียน ทาน ขาพเจา เปนแมทพั แหง แผน ดนิ ทา นเปน พอ ขาพเจาเปน ลูก โควนิ ท ขอทา นอยาท้ิงพวกขา พเจาไป. ความแหงคาถานั้นวา ขา พเจา จะปอ งกันผูทจี่ ะเบียดเบียนทาน ขออยา งเดียวเพยี งใหท านบอกวา คนโนน ขา พเจา จักทราบส่ิงทีพ่ งึ กระทาํ ในกรณีน้นั . บทวา ขาพเจาเปน แมทพั แหงแผน ดิน ความวา อกี อยา งหน่งึขา พเจา เปนเจา แผนดิน ขาพเจา น้นั จกั ใหทา นเทา นน้ั ครอบครองราชสมบตั ิน.้ีบทวา ทา นเปน บิดา ขาพเจา เปนบตุ ร ความวา ทานดํารงอยใู นตาํ แหนงพอ ขา พเจาในตาํ แหนงลกู ทานนั้นไดน ําเอาใจของขา พเจา ไปเพื่อตนเทาน้นั
พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 66โควนิ ท ! ขอทานอยาทอดทิง้ ขา พเจา ปาฐะวา ทา นจงใหเ ปนไปตามทท่ี านตอ งการเถิด สว นขา พเจา ยอมคลอยตามใจของทา นทเี ดยี ว จะกินอาหารท่ที านใหมมี ือถือดาบและโลรบั ใชท า นหรอื ขบั รถใหทาน โควินท ทานอยาทอดทงิ้ขาพเจา ไปเลย ดงั นีก้ ็มี. ใจความของคํานั้นวา ทานจงดํารงตําแหนง พอขาพเจา จกั ดํารงตําแหนง ลกู โควินท ! ทานอยาทอดทิง้ คอื สละขา พเจาไปเลย. คร้ังนน้ั เมอ่ื มหาบรุ ุษจะแสดงสิง่ ทพี่ ระราชาทรงคิดไมมใี นตนจึงกลาววา ความพรองดวยกามของขา พระพุทธ เจาไมม ี และการเบียดเบียนกไ็ มม แี กขา พระพุทธเจา ดว ย เพราะขา พระพทุ ธเจา ฟง คําของอมนษุ ยแ ลวจงึ ไมย นิ ดีในเรือน. ในบทเหลา นนั้ บทวา ของขาพระพทุ ธเจาไมมี ความวา ไมม ีแกขา พระพทุ ธเจา . บทวา ในเรือน คือทเ่ี รอื น. ลําดบั นนั้ พระราชาตรสั ถามมหาโควินทนนั้ วา อมนษุ ยมวี รรณะอยา งไร ไดก ลา ว ความอะไรกะทานท่ที านไดฟ ง แลวกท็ ้ิง เรอื นของพวกเรา และพวกขาพเจา ทั้ง หมดไป. บรรดาบทเหลานน้ั บทวา ท้ิงเรอื นของพวกเราและพวกขา พเจาทั้งหมดไป ความวา พระราชาเมือ่ จะทรงกระทาํ พระราชวงั ของพระองคด ว ยอาํ นาจรวมถอื เอาทง้ั บานพราหมณที่สมบรู ณดวยสมบัตจิ ึงตรสั วา ทที่ า นไดฟงแลว กท็ ง้ิ เรอื นของพวกเราพวกขา พเจา และชาวพทู วีปทงั้ หมดท้งั สนิ้ คอื ไมมีเหลอื ไป.
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 67 ลําดับนั้น เมือ่ มหาบรุ ษุ จะกราบทลู แดพ ระราชาพระองคนน้ั จึงกลา วคําเปน ตนวา เมื่อขาพระพทุ ธเจา เขา ไปอยูคราวกอน ดงั นี.้ บรรดาบทเหลา นั้น บทวา เขา ไปอยู ความวา เขาไปถงึ ความเปนผเู ดยี วแลว อย.ู บทวา ขาพระพทุ ธเจา เปนผตู องการบชู า ความวาขา พระพุทธเจาเปน ผใู ครเ พื่อเซน สรวง. บทวา ไฟท่เี อาใบคามาเตมิ ไดลกุโชติชว งแลว คือความในขอ นี้วา ขา พระพุทธเจา ยนื คิดอยา งนี้วา ไฟท่ีเอาใบหญา คามาเตมิ แลวใสเนยใสนมสมและน้ําผ้ึงเปนตน เขา ไป ไดเริม่ ลกุ โชติชวงแลวเม่อื กอ ไฟใหล กุ โชติชว งอยางน้นั เสร็จแลว ขาพระพุทธเจาจกั ใหท านแกมหาชน. บทวา ผเู กา แก ไดแ ก สนังกุมารพรหม. แตน ้นั แมองคพระราชาเอง ก็ทรงเปน ผอู ยากจะทรงผนวชจึงตรัสคําเปน ตนวา ขาพเจา เชอ่ื . บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา ทําไมทา นจึงประพฤติเปน อยางอนื่ความวา ทานจกั ประพฤตโิ ดยประการอนื่ ไดอ ยางไร. บทวา พวกเราเหลานัน้ จักประพฤติตามทาน ความวา พวกเราเหลานนั้ จกั ประพฤตติ ามคือจกับวชตามทา นนนั่ แล. บาลีวา จักไปตาม ดงั น้ี ก็มี ใจความของบาลนี ัน้ วาจักดําเนนิ ไปตาม. บทวา ไมไอ คือ ไมมีการไอ ไมห ยาบ. บทวา ในอน-ุศาสนข องโควินท คอื ในคาํ สอนของทา นผูช่อื โควนิ ท พระราชาตรัสวาพวกเราจกั ทําโควนิ ทผูเ จริญนน่ั เองใหเปน ครปู ระพฤต.ิ บทวา เขาเฝากษัตริย ๖ พระองคถ ึงทป่ี ระทับ ความวา โควนิ ทส นบั สนนุ พระเจา เรณุวา ดีแลว มหาราช ! การอนั ยง่ิ ใหญท่ีมหาราชผูทรงใครเ พอื่ จะทรงผนวชมาสละราชสิริอันย่ิงใหญอยา งน้ีในเมอ่ื พวกสัตวฆาพอ บา งแมบ าง พ่ีนอ งชายบางพีน่ องหญิงเปน ตนบา งถอื เอาราชสมบตั ิ ทรงกระทาํ แลว กระทําอุตสาหะของพระองคใ หมั่นคงแลว จึงเขาเฝา . บทวา ทรงคิดพรอมกนั อยา งน้นั ความวา กษัตริย ๖ พระองคท รงสําคัญอยวู า บางทีโภคะทง้ั หลายของพราหมณ
พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 68เสอื่ มรอบแลวกเ็ ปนได จงึ ทรงคิดพรอมกนั โดยนัยท่ีพระราชาทรงคิดนน่ั แล.บทวา พวกเราพงึ ศึกษาดว ยทรพั ย ความวา พวกเราพึงชวยเหลอื คอืพึงสงเคราะห. บทวา จงใหน ํามาเทานั้น ความวา พงึ ใหนํามา คอื พึงใหถ ือเอาเทานนั้ มคี ําท่ีทา นกลาวไวว า ทา นพงึ ถือเอาเทา จํานวนทท่ี านตอ งการ. บทวา สมบตั ิของทานผเู จรญิ ทงั้ หลาย ก็อยางน้ัน ความวาสมบัตเิ กิดเปน ของเพยี งพอแลว เพราะความท่ที านท้งั หลายกระทําทานผูเจรญิท้งั หลายใหเปนปจจัยใหแลว นนั่ เทยี ว บทวา ถา พวกทา นละกามทง้ั หลายได ความวา ถา พวกทา นละวัตถกุ ามและกเิ ลสกามได. บทวา ในกามไรเลาทีป่ ถุ ชุ นของแลว ติดแลว คือติดขัดแลวในกามเหลา ใด. บทวา พวกทา นจงปรารภ จงเปนผูม ั่นคง คอื เม่อื เปนเชนนี้ขอใหพ วกทา นจงปรารภความเพียร อธิษฐานความบากบน่ั ทหี่ ยอ นจงเปนผูม ่นั คง. บทวา เปนผูตัง้ มน่ั ในกําลัง คอืความอดทน คือ โควนิ ท ปลูกความอุตสาหะใหเ กดิ แกพ ระราชาทง้ั หลายวาขอใหพ วกพระองคจงเปนผถู งึ พรอมดว ยกําลงั คอื ความอดทน. บทวา นัน่เปนทางตรง ความวา ทางแหง ฌานท่ีประกอบดวยความสงสารนัน่ ชือ่ วาเปน ทางตรง. บทวา น่ันเปน ทางอนั ยอดเยยี่ ม ความวา น่นั แหละช่ือวาเปน ทางสูงสุดทีไ่ มมที างอน่ื เหมือนเพอ่ื ความเขาถึงพรหมโลก. บทวา พระ-สัทธรรมอนั เหลา สัตบรุ ุษรักษาแลว ความวา ชอ่ื วา พระธรรมน่นั แลชอ่ืวา เปน ธรรมอนั เหลาพระพุทธเจา พระปจเจกพุทธเจา และพระสาวกผูช่อื วาเปนสตั บรุ ุษรักษาแลว. โควนิ ท ยอมกระทําถอยคําใหเ ปนกรรมม่นั คงจริง ๆเพอ่ื ประโยชนก ารไมกลับ แหงพระราชาเหลานนั้ แมด วยการพรรณนาฌานที่ประกอบดว ยกรณุ าดวยประการฉะนี้.
พระสุตตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 69 บทวา ทา น ! ก็ใครหนอจะรู (คติ) ของชีวิตทงั้ หลายความวา ทา น ! ขึน้ ชือ่ วา ชีวิต มนั กเ็ หมือนกบั ฟองนา้ํ เหมือนหยาดน้าํ คางบนใบหญา มีการแตกกระจายในทันทีเปนธรรมดา ใครจะรูคตขิ องชีวิตนนั้ ไดมนั จักแตกสลายในขณะใด. บทวา ภพหนา จําตองไป ความวา ก็โลกหนาเปนของทต่ี องไปแนน อนเทียว เพราะฉะนั้น กุลบุตรผเู ปนบณั ฑิตพงึ รู ดว ยปญญาในเร่อื งนัน้ อธบิ ายวา ปญญาทา นเรียกวา ความรูต อ งปรึกษา ตอ งเขาใจตองพินจิ พิจารณาดว ยปญ ญานน้ั . หรือคําวา มนฺตาย นนั้ เปน สัตตมีวภิ ตั ลิ งในอรรถตตยิ าวิภตั ิ. บทวา ตอ งชี้ขาดลงไปดว ยความรู ความวา ตอ งรูดว ยความรู. อธบิ ายวา ตองเขาใจดวยความรู ตอ งรูอะไร ตองรคู วามท่ีชวี ิตรูไดย าก และโลกหนา เปนที่ จาํ ตองไปแนนอน. ก็แลเมื่อรูแลว ก็ตองตดั ความยงุ ทกุ อยา งแลว ทาํ กุศล ตองประพฤตพิ รหมจรรย. เพราะอะไร เพราะผเู กิดแลวไมต ายยอ มไมมี. บทวา มีศกั ด์ินอ ย และมลี าภนอย คอื วา (พระเจาเรณุยอมตรสัวา) ทาน ! ขึ้นช่ือวา การบวช ชอื่ วา มยี ศนอยทีเดยี ว เพราะคนเบียดเบียนแลวเบยี ดเบยี นเลา ซ่ึงผูทีส่ ละราชสมบัติแลว บวชตง้ั แตเ วลาท่ีบวชแลว ยอมพูดทาํ ใหเลวทรามและไรทพ่ี ่ึง และชื่อวามลี าภนอย เพราะแมเ ดนิ ไปจนทั่วหมบู าน ก็หาอาหารกลนื ไดยากน่ันแหละ สวนความเปน พราหมณน้ชี อื่ วามีศักดใ์ิ หญ เพราะความเปนผูมียศใหญ และชอ่ื วา มีลาภใหญ เพราะความเปนผูสมบรู ณดวยลาภและสกั การะทีใ่ หญ. ในบัดน้ี ทานผูเจรญิ เปน ทป่ี รกึ ษาช้นัยอดท่ัวทงั้ ชมพทู วปี ทกุ หนทุกแหง ยอ มไดแตท่นี ่งั ประเสรฐิ นํา้ ท่เี ลศิ อาหารท่ียอด กลิน่ ทเ่ี ย่ียม ระเบยี บดอกไมท ่เี ลศิ . บทวา เหมอื นราชาแหง ราชาท้งัหลาย ความวา ทาน ! ขา พระพทุ ธเจา แล บดั นี้ เหมือนพระเจาจักรพรรดิในทามกลางหมพู ระราชา. บทวา เหมือนพรหมแหงหมูพราหมณ ความ
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 70วา เปนเชน กบั มหาพรหมในทา มกลางแหง พราหมณป กตทิ ้งั หลาย. บทวาเปนเหมือนเทวดาแหงพวกคฤหบดี ความวา ก็แล ขา พระพุทธเจาเปนเชน กบั สักกะเทวราชแหงพวกคฤหบดีทเ่ี หลอื . บทวา และพวกภรยิ าทีม่ ีชาติและวรรณะเสมอกนั ๔๐ นางความวา พวกภริยาทีม่ ชี าติและวรรณะเชน กัน ๔๐ นางเทานนั้ แตพ วกหญงิระบําในสามวยั เหลา อน่ื ของโควนิ ท มีมากทีเดยี ว. บทวา เท่ยี วจาริก ความวา โควนิ ทท อ งเทย่ี วไปโดยตําบลและอาํ เภอ ทุก ๆ สถานท่เี ขาไปมคี วามอลหมานปานกับความอลหมา นของพระพุทธเจา. พวกคนไดฟง วา นัยวา มหาโควนิ ทบ ณั ฑติ กําลังจะมา ก็ใหส รางประรําคอยไวกอ น ใหป ระดบั ประดาถนนหนทาง แลวลกุ ขนึ้ ตอนรับนํามา. ลาภและสักการะ เกดิ ขึน้ เหมอื นหวงน้าํใหญไ หลทว มทน. บทวา แกท ่ปี รึกษาท้ังเจด็ คอื แตที่ปรกึ ษาของเหลา พระราชาเจด็ พระองค. ในคร้นั นนั้ พวกคนยอมกลาววา ขอความนอบนอมจงมีแตมหาโควนิ ทพราหมณ ขอความนอบนอ มจงมีแดท ี่ปรกึ ษาของพระราชาทงั้ เจด็ เหมือนในบดั นี้ เมอื่ ทกุ ขไ รๆ เกดิ ในฐานะเห็นปานนย้ี อมกลาววา ขอนอบนอมแดพ ระพทุ ธเจา ฉะนัน้ ดวยประการฉะนี้. พรหมวิหารมาแลว ในบาลโี ดยนยั เปนตนวา ไปดว ยกันกับความรัก.กแ็ ลมหาบุรษุ ทาํ สมาบตั แิ ปดและอภญิ ญาหา ใหเกิดจนครบแลว. บทวา และแสดงทางแหงความเปน เพอ่ื นในพรหมโลกแกพวกสาวก ความวาบอกทางแหง ความเปน อนั หน่ึงอนั เดยี วกนั กบั พรหมในพรหมโลก. บทวาหมดทงั้ หมด ความวา สาวกเหลา ใด ทาํ สมาบัตแิ ปดและอภิญญาหา ใหเกิดข้นึ แลว. สาวกเหลา ใดไมทราบทว่ั ถงึ ศาสนา ท้งั หมด. สาวกเหลา ใดไมร ไู มอ าจเพอื่ ใหแมแ ตสมาบัติหนง่ึ ในสมาบัตแิ ปดเกดิ ข้ึน. บทวา ไมเ ปลาคอื มีผล. บทวา ไมเปน หมัน คือไมใชเ ปน หมัน. บาลีวา ประสบผลทเ่ี ลว
พระสุตตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 71กวาเขาหมดดงั นี้บาง. อธบิ ายวา ประสบกายคนธรรพ. บทวา มผี ล คอืเปน ไปกับดวยผล เปน ไปกับดว ยประโยชนเกอ้ื กลู เพ่อื การเขาถึงเทวโลกทีเ่ หลอื .บทวา มกี าํ ไร ไดแกเปนไปกับดวยความเจรญิ เพ่อื เขาถึงพรหมโลก. บทวา เรายงั ระลึกได ความวา ปญจสขิ ะเรายังจําได. เลากันวาเพราะบทน้ี พระสูตรน้ีจึงกลายเปนพุทธภาษิตไป. บทวาไมใ ชเ พ่อื ความเบอ่ื หนาย คอื ไมใชเพอื่ ประโยชนแกค วามเบอื่ หนา ยในวฏั ฏะ. บทวา ไมใ ชเพอ่ื ความคลายกาํ หนัด คือไมใชเพอ่ื ประโยชนแกค วามคลายกาํ หนดั ในวฏั ฏะ.บทวา ไมใชเพ่ือความดับโดยไมเหลือ คือไมใ ชเพ่อื ประโยชนแกค วามดับวัฏฏะโดยไมเ หลือ. บทวา ไมใชเ พอื่ ความสงบราํ งับ คอื ไมใ ชเพือ่ แกก ารเขา ไปสงบราํ งับวฏั ฏะ. บทวา ไมใ ชเพื่อความรูยิ่ง คอื ไมใชเ พอ่ื ประโยชนแกค วามรูวัฏฏะอยา งยง่ิ . บทวา ไมใชเ พื่อความต่นื พรอ ม คอื ไมใ ชเพอ่ืประโยชนแ กค วามต่นื จากวัฏฏะดว ยปราศไปจากความหลบั ในกิเลส บทวาไมใ ชเพอ่ื พระนิพพาน คือไมใชเ พ่ือประโยชนแ กอ มตมหานพิ พาน. บทวาเพอื่ ความเบอื่ หนายอยางส้ินเชงิ คอื เพ่ือประโยชนแกค วามเบ่อื หนา ยในวฏั ฏะสวนเดยี วเทา นนั้ . สาํ หรบั ในทน่ี บี้ ทวา เพ่ือความเบ่ือหนา ย ไดแกวิปส สนา. บทวา เพือ่ คลายความกําหนัด ไดแกม รรค. บทวา เพอ่ื ความดับโดยไมเหลือเพอื่ ความสงบราํ งบั ไดแ กน พิ พาน. บทวา เพ่อื ความรยู ่ิงเพ่ือความตรัสรู หมายเอามรรค. บทวา เพอ่ื นิพพาน กค็ ือนพิ พานน่นั เอง ดวยประการฉะนี้ กเ็ ปนอนั พงึ ทราบถอยคําที่ปราศจากวัฏฏะอยางนว้ี าทา นกลา ววิปสสนา ๑ แหง กลาวมรรค ๓ แหง กลา วนพิ พาน ๓ แหง กแ็ ลคาํ ใชแทนมรรคก็ดี คาํ ใชแ ทนนพิ พานก็ดี ทง้ั หมดแมน ย้ี อมมโี ดยทํานองนแ้ี ล.คําทีจ่ ะพงึ กลา วในบทเปนตนวา ความเห็นชอบ กไ็ ดก ลา วเสร็จแลวในสจั จวรรณนาในวสิ ุทธิมรรค.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 72 บทวา เหลาใดไมหมดท้งั หมด ความวา กุลบุตรเหลา ใดไมทราบ เพ่อื จะบําเพ็ญอริยมรรคทง้ั ๔ หรือทําใหอ รยิ มรรค ๓, ๒ หรอื ๑ เกดิข้นึ . บทวา ของพวกกลุ บตุ รทัง้ หมดนท้ี เี ดยี ว ความวา พระผมู พี ระภาคเจาทรงยังธรรมเทศนาใหจ บลงดว ยยอดคือพระอรหตั (การบรรพชา)ของพวกกุลบตุ รผปู ระพฤตพิ รหมจรรยอยูเ นอื งนิจไมเ ปนของเปลา มีกําไรดงั นี.้ บทวา อภิวาทพระผูมพี ระภาคเจาแลว ทําประทักษิณ ความวาปญ จสิขเทพบตุ รชน่ื ชม รับพระธรรมเทศนาของพระผมู พี ระภาคเจา อยดู วยจติ อนโุ มทนาสรรเสรญิ อยูดว ยวาจา ยกกระพมุ มอื ใหญวางเหนือเศียร เขาไปในระหวางขา ยพระรัศมหี กสีของพระทศพลเจาเหมอื นดําลงในน้าํ ครงั่ ทใี่ สไหวใ นที่ ๔ แหง แลวทาํ ประทักษิณสามรอบ ชน่ื ชมชมเชยพระผูมพี ระภาค-เจาพลางก็หายวบั ไปขางหนาพระศาสดาไดมาสเู ทวโลกของตนแลว ดวยประการฉะน้แี ล. จบ อรรถกถามหาโควนิ ทสูตรท่ี ๖
พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 73 ๗. มหาสมัยสตู ร เร่ืองเทวสันนิบาต [๒๓๕] ขา พเจาฟง มาแลว อยางนี้ :- สมัยหนง่ึ พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั อยูที่ปา ใหญ ใกลกรุงกบิลพสั ดุในแควนสกั กะ พรอ มกับภกิ ษุหมูใหญประมาณ ๕๐๐ รูป ซึ่งลวนแตเ ปนพระอรหนั ต. อนงึ่ พวกเทวดาโดยมากจากโลกธาตุทง้ั ๑๐ กม็ าประชมุ กนั เพ่อืชมพระผมู ีพระภาคเจา และพระภกิ ษสุ งฆ. ครงั้ นนั้ แล พวกเทพชั้นสุทธาวาส๔ องค มคี วามคดิ วา พระผมู ีพระภาคเจาน้ีแล กําลงั ประทบั อยทู ี่ปาใหญใกลกรงุ กบิลพลั ดใุ นสกั กชนบทพรอมกับพระภิกษุหมใู หญ ประมาณ ๕๐๐ รูป ซง่ึลวนแตเ ปนพระอรหนั ตทั้งนนั้ อนงึ่ พวกเทวดาโดยมากจาก ๑๐ โลกธาตกุ ็มาประชมุ กนั เพอื่ ชมพระผูมีพระภาคเจา และภกิ ษสุ งฆ อยากระนั้นเลย แมพวกเรากพ็ งึ เขา ไปเฝาพระผูมพี ระภาคเจาใหถ งึ ท่ีประทับ ครนั้ เขาไปเฝาแลวพึงกลาวคาถาองคละหน่งึ คาถาในสํานกั ของพระผูมพี ระภาคเจา. คร้งั น้ันแลพวกเทวดาเหลา นั้นกห็ ายตวั จากเทวโลกชน้ั สทุ ธาวาส แลว ปรากฏเบอ้ื งพระ-พกั ตรของพระผูมพี ระภาคเจา เหมือนบุรุษที่มกี าํ ลังพึงเหยียดแขนท่ีคูออก หรือพงึ คูแขนที่เหยยี ดออกฉะนั้น. ครง้ั นน้ั พวกเทวดาเหลานัน้ ถวายอภิวาทพระ-ผูมพี ระภาคเจา แลวกย็ ืนอยสู ว นขางหนง่ึ . เทวดาองคห นง่ึ ซง่ึ ยนื อยแู ลว ณสว นขางหนงึ่ แล ไดกลา วคาถานใ้ี นสํานกั ของพระผูม พี ระภาคเจาวา
พระสุตตนั ตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 74 [๒๓๖] การประชมุ ใหญมใี นปาใหญ หมเู ทพ กม็ าประชุมกนั แลว เราท้งั หลายก็มาแลว สูท ่ปี ระชมุ ธรรมนี้ เพื่อเฝา พระพุทธเจา และพระสงฆ ซ่งึ ไมมีใครเอาชนะไดเ ลย. [๒๓๗] ลาํ ดบั นัน้ แล เทวดาอกี องคหนึ่ง ก็ไดกลาวคาถานีใ้ นสาํ นกัของพระผูมีพระภาคเจา วา เหลา พระภิกษใุ นทป่ี ระชมุ น้นั มนั่ คง ไดทําจิตของตนใหต รงแลว เปนบัณฑติ ยอมรกั ษาอินทรียท ง้ั หลาย เหมอื นสารถี จับเชอื กท้งั หลายอยู ฉะนั้น. [๒๓๘] ลําดับนัน้ แล เทวดาอกี องคหนงึ่ กไ็ ดกลา วคาถานี้ในสํานกั ของพระผมู ีพระภาคเจา วา พวกภิกษุเหลานน้ั ตดั กิเลสดจุ ตาปู ตัดกิเลส ดุจสมสลักไดแลว ถอนกเิ ลส ดจุ เสาเขอ่ื นไดแ ลว เปนผไู รต ัณหา หมด จด ไมม ีมลทนิ เทยี่ วไป ทานเปนนาคหนมุ มดี วงตา ฝกฝนดีแลว. [๒๓๙] ลาํ ดับนัน้ แล เทวดาองคหน่งึ ไดก ลา วคาถานใ้ี นสาํ นกั ของพระผมู ีพระภาคเจา วา ชนทั้งหลายเหลา ใดเหลาหน่ึง ไดถงึ พระพุทธเจาวาเปน สรณะแลวซิ ชนเหลา นนั้ จกั ไมไปสูอบายภมู ิ ละรางของมนุษย แลว จักทําใหร างเทพบรบิ รู ณ.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 75 [๒๔๐] ลาํ ดับนัน้ แล พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั ส่งั ภิกษทุ งั้ หลายวา ดูกอ นภกิ ษุทง้ั หลาย หมเู ทวดา ๑๐ โลกธาตโุ ดยมากมาประชุมกนั แลว เพ่อื ชมตถาคตและหมภู กิ ษุ พระอรหันตสมั มาสมั พทุ ธเจา ท้ังหลายนน้ั แมเ หลาใด ไดมแี ลว ในอดตี กาล หมเู ทวดามาประชุมเพื่อเห็นพระผมู พี ระภาคเจา แมเ หลา น้นัก็มากเทากบั ของเรา เด๋ยี วนี้ ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย พระอรหนั ตสัมมาสัมพทุ ธเจาทง้ั หลายน้ัน จักมีในอนาคตกาล หมเู ทวดาทจ่ี กั เปน ผูเขา ประชุมกัน ของพระผูมีพระภาคเจาแมเหลา นน้ั กจ็ ะมากเทากบั ของเราเดย๋ี วน้ี ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลายเราจักบอกชอื่ ของหมเู ทพทง้ั หลาย เราจกั ระบชุ ่ือของหมเู ทพทัง้ หลาย เราจักแสดงชอื่ ของหมเู ทพทงั้ หลาย ทานทงั้ หลายจงฟงการแสดงชอ่ื หมเู ทพทง้ั หลายนนั้จงเอาใจใสใ หด ี เราจกั กลา ว. ภกิ ษทุ ้งั หลายเหลานน้ั สนองพระดํารัสของพระผูมีพระภาคเจา วา อยางนั้น พระเจาขา ดังนแ้ี ล. พระผมู ีพระภาคเจา จึงตรสัภาษติ น้ีวา ทรงประกาศนามเทวดา [๒๔๑] เราจักรอยกรองโศลก ภุมมเทวดาอา- ศยั อยู ณ ที่ใด ภกิ ษุกอ็ าศยั ทีน่ ้ัน อาศัย ซอกเขา สงตนไปแลว มจี ติ ตัง้ มนั่ . เปน จาํ นวนมาก เรนอยูเหมือนราชสหี ครอบ งาํ ความขนพอง สยองเกลาเสยี ได มใี จ ผดุ ผอ ง เปน ผูหมดจด ใสสะอาดไมขนุ มัว. พระศาสดาทรงทราบภิกษุ ๕๐๐ รูป เศษในปา ใกลกรงุ กบิลพัสดุ แตนนั้ จึง ตรสั เรยี กพระสาวกทั้งหลาย ผยู ินดีใน พระศาสนาวา ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย หมู
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 76 เทวดามุงมากันแลว พวกเธอจงรจู กั หมูเทวดาเหลา นน้ั ภิกษเุ หลาน้ันฟงพระดํารสัของพระพทุ ธเจา แลว ไดก ระทําความเพยี ร. ญาณเปนเคร่อื งเห็นพวกอมนษุ ยไดป รา-กฏแกภ ิกษุเหลาน้นั ภกิ ษุบางพวกไดเ ห็นอมนษุ ยรอ ยหน่ึง บางพวกไดเ ห็นอมนษุ ยพันหนงึ่ บางพวกไดเห็นอมนษุ ยเ จด็ หมน่ืบางพวกไดเหน็ อมนุษยห นึง่ แสน บางพวกไดเ ห็นไมม ที ่สี ดุ อมนุษยไ ดแผไปทั่วทศิ . พระศาสดาผมู พี ระจักษุ ทรงใครค รวญทราบเหตุน้นั สิ้นแลว แตน ้นั จงึ ตรสั เรยี กสาวกผยู นิ ดีในพระศาสนาวา ดูกอนภิกษุทั้งหลาย หมูเทวดามุงมากันแลว พวกเธอจงรจู กั หมเู ทวดานน้ั เราจกั บอกพวกเธอดวยวาจาตามลาํ ดับ ยกั ษ ๗,๐๐๐ เปนภมุ มเทวดา อาศัยอยูในกรงุ กบลิ พสั ดุ มีฤทธ์ิ มีอานุภาพ มรี ศั มี มียศ ยินดี มุงหนา มาสปู า ซ่ึงเปนท่ีประชมุ แหง ภกิ ษุทั้ง-หลาย. ยักษ ๖,๐๐๐ ทอ่ี าศยั อยใู นเขาเหมวตั มีผิวพรรณตา ง ๆ กนั มีฤทธ์ิ มอี านภุ าพมีรัศมี มียศ มงุ หนามาสูปา ซึ่งเปนท่ีประ-ชุมแหง ภิกษทุ ้ังหลาย.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ที่ 77 ยักษ ๓,๐๐๐ ท่อี าศัยอยทู เี่ ขาสาตาครี ี มผี วิ พรรณตาง ๆ กัน มีฤทธิ์ มอี านุภาพ มรี ศั มี มยี ศ ยินดมี ุง หนามาสปู า ซ่งึ เปนท่ี ประชุมแหง ภิกษทุ ้ังหลาย. ยักษ เหลา นั้นรวมเปน ๑๖,๐๐๐ ตน ซึง่ มผี ิวพรรณแตกตางกนั มฤี ทธิ์ มอี านุ- ภาพ มรี ศั มี มียศ ยนิ ดีมุงหนา มาสูปา ซง่ึ เปนท่ปี ระชุมแหง ภิกษทุ งั้ หลาย. ยักษ ๕๐๐ อยูทเ่ี ขาวิศวามิตร มผี ิว พรรณแตกตา งกนั มีฤทธิ์ มอี านุภาพ มี รัศมี มยี ศ ยนิ ดีมงุ หนามาสูป า ซ่ึงเปน ท่ีประชุมแหงภกิ ษุทัง้ หลาย. ยกั ษช อ่ื กมุ ภีร อยใู นกรงุ ราชคฤห อาศัยเขาเวปุลละ เปน ที่อยู ยกั ษมากกวา แสนไปเฝา ยักษกมุ ภีรน ั้น แมยักษชื่อกมุ - ภีรอาศยั อยูในกรุงราชคฤหนนั้ กไ็ ดม า สูปา ซึ่งเปนทป่ี ระชมุ แหงภิกษทุ ัง้ หลาย. ชอื่ พวกเทพ จตุโลกบาล[๒๔๒] ก็ทาวธตรฐั ปกครองทิศตะวนั ออกเปน อธบิ ดีของพวกคนธรรพ ทา วเธอเปน มหา ราช มยี ศ. แมบตุ รเปนอันมากของทา ว เธอนนั้ ช่ือวา อินทร มกี ําลังมาก มีฤทธิ์
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 78 มีอานุภาพ มรี ศั มี มียศ ยนิ ดมี ุงหนามาสปู า ซึ่งเปน ทปี่ ระชมุ แหง ภกิ ษทุ งั้ หลาย. สวนทาววริ ุฬห ปกครองทศิ ใต เปนอธบิ ดีของพวกกมุ ภณั ฑ ทาวเธอเปน มหาราช มยี ศ. ถงึ บตุ รเปน อนั มาก ของทา วเธอนั้น ก็ชือ่ วา อินทร มีกําลังมาก มีฤทธ์ิมอี านภุ าพ มีรศั มี ยินดมี งุ หนามาสูปาซ่ึงเปนที่ประชุมแหงภิกษทุ ั้งหลาย. ฝา ยทาววริ ูปกษ ปกครองทศิ ตะวัน-ตก เปน อธิบดีของพวกนาค ทาวเธอเปนมหาราช มียศ. แมบ ตุ รเปน อันมากของทา วเธอนัน้ ก็ช่อื วา อินทรต า งมีกําลงั มากมฤี ทธิ์ มอี านุภาพ มรี ัศมี มยี ศ ยนิ ดีมงุ หนามาสูปา ซ่ึงเปน ท่ปี ระชมุ แหง ภิกษุทั้งหลาย. ทาวกเุ วร ปกครองดานทิศเหนือเปน อธิบดีของพวกยกั ษ ทา วเธอเปนมหาราช มียศ. แมบ ตุ รเปน อันมากของทา วเธอน้ัน กม็ ีชอ่ื วา อนิ ทร มกี าํ ลงั มาก มีฤทธิ์ มีอานภุ าพ มรี ศั มี มยี ศตางก็ยินดมี งุ หนามาสูป า ซง่ึ เปนที่ประชมุ แหงภกิ ษทุ ง้ั หลาย.
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 79 ทา วธตรัฐปกครองทศิ ตะวันออก ทาววริ ฬุ หกปกครองทิศใต ทาววิรปู ก ษปกครองทิศวนั ตก ทาวกุเวร ปกครองทศิ เหนอื มหาราชทง้ั ๔ องคนั้น ยังทศิ ทัง้ ๔ โดยรอบใหรงุ เรืองประทบั อยู ในปาใกลก รงุ กบลิ พัสดุ. บา วของทาวโลกบาล[๒๔๓] พวกบาวของมหาราชท้งั ๔ องคนนั้ ตา งมีมายาลอลวง โออวด เจาเลห คอื กเุ ฏณฑุ ๑ เวเฏณฑุ ๑ วิฏ ๑ วิฏฏะ ๑ จันทนะ ๑ กามเศรษฐ ๑ กนิ นฆุ ณั ฑุ ๑ นฆิ ณั ฑุ ๑ ปนาทะ ๑ โอปมัญญะ ๑ เทวสูต ๑ มาตลี ๑ จิตรเสนผูคนธรรพ ๑ นโฬราช ๑ ชโนสภะ ๑ ปญ จสิขะ ๑ ตมิ พรู ๑ สรุ ิยวัจฉสา ๑ ราชาและคนธรรพเ หลานั้น และเหลา อื่น พรอมดวยเทวราชทง้ั หลาย ยนิ ดมี ุง หนา กันมาสูปา ซ่งึ เปนท่ปี ระชุมแหง ภิกษุ ท้งั หลาย. อนึง่ พวกนาคท่ีอยูในสระชอ่ื นาสภะ และอยูในเมอื งไพศาลี กับบริษทั แหงตจั ฉกะนาคราชก็มา พวกนาคตระกูล กมั พลและตระกูลอสั ดรก็มา พวกนาคที่
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 80 อยูในทา ปายาคะพรอ มกับหมูญาตกิ ็มา พวกนาคในแมนํา้ ยมุนา ตระกูลธตรัฐ ผูม ี ยศกม็ า เอราวัณเทพบุตรผูเ ปน ชางใหญ แมน นั้ กม็ าสูปา ซ่ึงเปน ทีป่ ระชมุ แหงภกิ ษุ ท้ังหลาย.[๒๔๔] ปก ษเี กดิ สองคร้ัง เปน ทพิ ย มตี า หมดจดนาํ พญานาคไปไดอ ยางรวดเร็ว (คอื พญาครฑุ ) เหลา ใด พญาครุฑเหลา นนั้ มาโดยเวหา ถงึ ทามกลางปา ชือ่ ของ พญาครฑุ เหลา นั้นวา จติ รสุบรรณ ในครงั้ นั้น การอภยั ไดม แี ลวแกพวกพญานาค พระพุทธเจาไดทรงกระทาํ ความปลอดภัย จากสุบรรณแลว พวกนาคและพวก สบุ รรณทักทายกันดวยวาจาที่ไพเราะ ตา ง กระทาํ พระพทุ ธเจาใหเ ปน สรณะแลว . พวกอสรู ท่ีอาศัยสมุทร ซึง่ ถูกพระ อนิ ทรปราบจนพา ยแพแลว นาคและครฑุ เหลาน้ันเปน พ่ีนองของทาววาสวะ มฤี ทธิ์ มียศ. พวกอสรู ตระกูลกาลกัญชา มีกาย ใหญน ากลัว พวกอสรู ตระกลู ทานเวฆัส อสรู เวปจิตติ และอสูรสจุ ติ ติปาราท กับ นมุจี บตุ รของอสรู พลี ๑๐๐ ซ่งึ มีชอื่ วา
พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 81 ไพโรจนท งั้ นนั้ ผูกสอดเครือ่ งเสนา ท่ี ทรงพลงั เขาไปหาราหภุ ทั ร (อสรุ ินทรา- ห)ู แลว กลา ววา ทา นผเู จริญ วนั นเ้ี ปน วนั ประชมุ แลว ก็เขาไปสูป าเปน ท่ีประชุม แหง ภิกษทุ ้งั หลาย. เทวนกิ าย ๖๐[๒๔๕] หมเู ทพพวกอาปะ พวกปฐวี พวก เตชะและพวกวายะ ก็มาในครงั้ นน้ั ดว ย หมูเ ทพพวกวรณุ พวกวารณุ พวกโสมะ พวกยสสะ หมูเทพผูเกดิ ดว ยเมตตาและ กรุณา ผมู ยี ศ ก็มา. หมเู ทพ ๑๐ เหลา นีเ้ ปน ๑๐ พวก ทั้ง หมดลว นมีผิวพรรณตา ง ๆ กัน มีฤทธ์ิ มอี านุภาพ มีรัศมี มยี ศ มุงหนา มาสปู า ซง่ึ เปน ที่ประชุมแหงภิกษทุ ง้ั หลาย เทพพวกเวณฑู พวกสหลี พวกโสมะ และพวกยมทัง้ ๒ พวก เทพทอี่ าศยั พระ- จันทร ทาํ พระจนั ทรเ ปนเบ้อื งหนา ก็มา. พวกเทพทอ่ี าศยั สรุ ยิ ะ ทาํ สุรยิ ะเปน เบอ้ื งหนากม็ า พวกเทพทํานกั ษตั รทั้ง- หลาย เปนเบอื้ งหนา พวกเทพมนั ทพลาหก ก็มา แมทาวสกั กะ วาสวะ ผูใหท านเมอ่ื
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาที่ 82 กาลกอ น ผปู ระเสรฐิ กวาพวกอสรู เทพก็เสดจ็ มา. หมูเ ทพ ๑๐ เหลาน้ี เปน ๑๐ พวกท้ังหมดลวนแตม ีผิวพรรณตาง ๆ กัน มีฤทธิ์ มอี านุภาพ มีรศั มี มียศยินดี มงุหนามาสูป า ซ่ึงเปนทป่ี ระชมุ แหงภิกษทุ ัง้หลาย. เทพพวกสหภู ซึ่งรุงเรอื งปานเปลวเพลงิ เทพพวกอรฏิ ฐกะ และพวกโรชะมีรศั มเี หมอื นสดี อกผกั ตบ เทพพวกวรุณพวกสหธรรม พวกอัจจุตะ พวกอเนชกะและสไุ ลยรุจิระ ก็มา พวกวาสวเนสินก็มา. หมเู ทพ ๑๐ เหลา น้ี เปน ๑๐ พวกทัง้ หมดลวนแตม ผี ิวพรรณตา ง ๆ กัน มีฤทธิ์ มอี านุภาพ มรี ัศมี มียศ ยนิ ดมี งุหนามาสูป า ซึง่ เปนทปี่ ระชมุ แหง ภิกษุทง้ัหลาย. เทพพวกสมาน พวกมหาสมาน พวกมานสุ ะ พวกมานุสุตะ พวกขิฑฑาปทสู กิ ะพวกมโนปทูสิกะ กม็ า อนง่ึ เทพพวกหริก็มา พวกเทพซง่ึ ชอ่ื โลหิตวาสี เทพพวกปารคั และพวกมหาปารัคผูมยี ศ กม็ า.
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนา ท่ี 83 หมูเทพ ๑๐ เหลาน้ี เปน ๑๐ พวกทงั้ หมดลว นแตม ผี ิวพรรณตาง ๆ กัน มีฤทธิ์ มีอานภุ าพ มรี ัศมี มียศ ยนิ ดีมุง หนามาสปู า ซ่งึ เปน ทป่ี ระชุมแหง ภกิ ษุทัง้ หลาย. เทพพวกสกุ กะ พวกกรุมหะ พวกอรุณ พวกเวฆนสั กม็ าดวยกัน เทพพวกโอทาตคยั ห ซึง่ เปน หัวหนา พวกวจิ ักษณพวกสทามตั ต พวกหารคชั และพวกมสิ สกั ผูม ียศ ก็มา เทพผซู ึง่ คาํ รามใหฝนตกทว่ั ทิศกม็ า. หมเู ทพ ๑๐ เหลา นี้ เปน ๑๐ พวกทัง้ หมดลวนแตมผี วิ พรรณตาง ๆ กนั มีฤทธ์ิ มอี านุภาพ มีรัศมี มียศ ยินดีมุง หนามาสปู า ซึ่งเปน ท่ปี ระชมุ แหง ภกิ ษุทัง้ หลาย.เทพพวกเขมยี พวกดุสติ พวกยามะและพวกกฏั ฐกั ผูมยี ศ พวกลมั พติ กั พวกลามเศรษฐ พวกโชตินาม พวกอาสวะและพวกนิมมานรดี ก็มา อนง่ึ พวกปรนิมมติ กม็ าดว ย. หมเู ทพ ๑๐ เหลานี้ เปน ๑๐ พวกโดยท้ังหมดลว นแตม ผี วิ พรรณตา ง ๆ กนัมีฤทธิ์ มีอานภุ าพ มรี ศั มี มยี ศ ยินดีมุงหนา มาสูปา ซึง่ เปนทป่ี ระชุมแหง ภกิ ษุทง้ัหลาย.
พระสุตตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๒ - หนาท่ี 84 หมเู ทพ ๖๐ หมูนีล้ ว นแตม ีผวิ พรรณ ตาง ๆ กนั มาแลว โดยสวนแหงชื่อ และ เทพเหลา อืน่ ก็มา เชน เดียวกัน ดว ยคดิ วาพวกเราจกั เฝาพระมหานาคผปู ราศจาก ชาติผูไมม ีกิเลสดุจตาปู ผูข ามหวงนํา้ ได แลว ผูไรอาสวะ ผูขา มจากกเิ ลสที่เปรยี บ เหมือนหว งนํา้ ผูก า วลวงกรรมดุจพระ- จันทรพน จากเมฆฉะน้นั . พวกพรหม[๒๔๖] สพุ รหม และปรมตั ตะ ผเู ปนบุตร ของผมู ฤี ทธิก์ ม็ าดวย สนงั กุมารพรหม และติสสพรหม แมเขากม็ าสปู า ซ่งึ เปน ทปี่ ระชมุ แหงภิกษุทั้งหลาย. มหาพรหมยอมปกครองพรหมโลก พนั หน่ึง เปนอุปปาตกิ ะ มีอานภุ าพ มกี าย ใหญโต มียศ ก็มา. พวกพรหม ๑๐ องค ผูเ ปน อสิ ระ ในพรหมโลกพันหนึ่งนนั้ ผูมอี าํ นาจเปน ไปเฉพาะผเู ดียวกม็ า และพรหมชอ่ื หาริตะ อนั พวกบริวารแวดลอ มแลวกม็ า ในทาม กลางแหงพรหมเหลา น้ัน. และกองทพั มาร ไดเ หน็ พวกเทพ พรอ มกบั พระอนิ ทรทง้ั หมดนั้น กม็ าดว ย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411