Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_55

tripitaka_55

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:42

Description: tripitaka_55

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 351หนอ ธรรมสงั เวชกเ็ กดิ ขึน้ . เมอื่ ราตรสี วางแลว พระองคจงึ รบั สง่ั ใหภิกษุสงฆประชุมกนั แลว สอบถามภิกษุทง้ั หลายวา ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย ไดย นิ วาภกิ ษุฉพั พัคคียลว งหนาไปเกียดกนั เสนาสนะ ของภิกษุทง้ั หลายผูเ ปน เถระจริงหรือ ? ภิกษทุ ้ังหลายกราบทลู วา ขา แตพ ระผูม พี ระภาคเจา จรงิ พระเจา ขาแตน ัน้ พระองคจ งึ ทรงตเิ ตยี นพระฉพั พคั คียแลวตรสั ธรรมกถา ตรสั เรยี กภกิ ษุท้ังหลายมาวา ดกู อนภกิ ษทุ ้ังหลาย ใครหนอยอ มควรแกอาสนะอันเลิศ นาํ้อนั เลศิ กอนขา วอันเลศิ . ภกิ ษุบางพวกกราบทูลวา ผบู วชจากขตั ติยตระกลู .บางพวกกราบทูลวา ผบู วชจากตระกลู พราหมณ. บางพวกกราบทลู วา ผบู วชจากตระกลู คฤหบด.ี ภกิ ษุอกี พวกหนง่ึ กราบทลู วา พระวนิ ัยธร พระธรรมกถึกทา นผไู ดป ฐมฌาน ทา นผูไดท ุติยฌาน ตติยฌาน จตตุ ถฌาน. อกี พวกหนง่ึกราบทลู วา พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหนั ต ทา นผมู ีวชิ ชา ๓ ทา นผูมอี ภญิ ญา ๖ ยอ มควรแกอ าสนะเลิศ นา้ํ เลศิ กอ นขาวเลศิ .ในเวลาท่ภี ิกษุท้ังหลายกลาวถงึ ทา นผคู วรแกอ าสนะเลิศเปนตน ตามความชอบใจของตน ๆ อยางนน้ั พระศาสดาจึงตรสั วา ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ผถู ึงอาสนะเลิศเปนตน ในศาสนาของเราจะตอ งเปน ผบู วชจากตระกูลกษตั ริย หาเปนประ-มาณไม ผูบวชจากตระกูลพราหมณ ตระกลู คฤหบดี พระวินัยธร พระนกัพระสตู ร พระนักอภิธรรม ทา นผูไ ดปฐมฌานเปนตน พระโสดาบัน เปนตนหาเปนประมาณไม. ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย โดยทแี่ ทใ นศาสนาน้ี ควรกระทาํการอภวิ าท การลกุ รับ อัญชลีกรรม สามจี ิกรรม ตามผแู กกวา ควรไดอาสนะเลิศ นํ้าเลศิ กอ นขา วเลศิ ตามผูท่ีแกกวา นี้เปนประมาณในศาสนาน้ีเพราะฉะนั้น ภกิ ษุผแู กก วาเปน ผูส มควรแกอาสนะเลศิ เปน ตนเหลา นนั้ ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย กบ็ ดั นี้แล สารบี ุตรอัครสาวกของเรา ผปู ระกาศธรรมจกั รตามไดควรไดเสนาสนะติดกับเรา สารีบุตรน้นั เม่ือไมไ ดเสนาสนะ จึงยบั ยั้งอยูท่ีโคนไม

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 352ตลอดราตรีน้ี บัดนี้แหละ เธอทงั้ หลายไมเ คารพ ไมย าํ เกรง มคี วามประพฤติไมเ ปนสภาคกนั อยา งน้ี เมือ่ เวลาลวงไป ๆ จกั กระทาํ ช่ือวาอะไรอยู. ลําดับนน้ัเพอ่ื ตอ งการจะประทานโอวาทแกภ กิ ษุเหลานน้ั จงึ ตรสั วา ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลายในกาลกอน แมสัตวด ริ ัจฉานทง้ั หลาย ก็พากันคิดวา กข็ อท่ีพวกเราไมเ คารพไมย ําเกรง มีความประพฤติไมเ ปนสภาคกนั และกนั น่นั ไมสมควรแกพวกเราบรรดาเราท้ังหลาย พวกเราจักรผู ทู ี่แกกวา แลว กระทาํ อภวิ าทเปนตน แกผแู กกวา นัน้ จึงพจิ ารณากันอยางถีถ่ วนแลวรวู า บรรดาเราทงั้ หลาย ทา นผูนเ้ี ปนผแู กกวา จึงกระทาํ อภวิ าทเปน ตน แกผ แู กก วาน่นั ยังทางไปเทวโลกใหเ ต็มอยูแลว ทรงนาํ อดตี นิทานมา ดังตอ ไปน้.ี ในอดตี กาล มีสหายทัง้ สาม คือนกกระทา ลงิ ชาง อาศยั ตนไทรใหญตนหน่ึงอยใู นหมิ วันประเทศ. สหายทง้ั สามนน้ั ไดเปน ผไู มเคารพ ไมย าํเกรง มคี วามประพฤติไมเ ปนสภาคกนั และกัน. ลาํ ดบั น้นั สหายทั้งสามน้ันไดม คี วามคิดดังนวี้ า การท่ีเราท้ังหลายอยูก ันอยา งนไี้ มส มควร ถา กระไร พวกเราพึงกระทาํ อภวิ าทเปน ตน แกบ รรดาพวกเราผแู กกวา อยู. สหายทงั้ สามคิดกนัอยูวา บรรดาพวกเรา กใ็ ครเลา เปนผูท ่ีแกก วา วันหน่ึงคิดกนั วา อบุ ายน้ีมีอยู จึงทัง้ ๓ สัตว น่งั อยทู ่ีโคนตน ไทร นกกระทาํ และลิงจึงถามชา งวา ดูกอนชา งผูสหาย ทานรจู ักตนไทรน้ี ตง้ั แตกาลมีประมาณเพียงไร ? ชางน้ันกลาววา ดกู อ นสหายทั้งหลาย ในเวลาเปนลูกชางรนุ เราเดนิ ทําพมุ ตนไทรนไ้ี วในระหวา งขาออน ก็แหละในเวลาทเี่ รายืนครอ มอยู ยอดของมนั ระทอ งเราเมอื่ เปน อยางนี้ เราจึงรจู กั ตน ไทรน้ี ตงั้ แตเ วลายงั เปนพุม . สหายแมทงั้ สองจึงถามลงิ โดยนัยกอนน่นั แหละอีก. ลงิ นน้ั กลาววา สหายท้ังหลายเราเปน ลูกลงินงั่ อยูทภ่ี าคพนื้ ไมตองชะเงอคอเลย เคย้ี วกินหนอ ของไทรออ นน้ี เม่อื เปนอยางน้ี เราจึงรูจกั ตน ไทรน้ี ต้งั แตเ วลายังเปนตนเล็ก ๆ ลาํ ดับน้ัน สหาย

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 353แมท ง้ั สองนอกนจ้ี งึ ถามนกกระทาํ โดยนัยกอนนนั่ แหละ. นกกระทาน้ันกลาววา สหายทง้ั หลาย เมื่อกอ น ตน ไทรใหญไ ดม อี ยใู นท่ีชือ่ โนน เรากินผลของมนั แลว ถา ยอุจจาระลงในทีน่ ้ี แตนัน้ ตนน้ีจึงเกิดเปนอยางนั้น เราจึงรจู กั ตนไทรนี้ ต้ังแตมันยงั ไมเ กดิ เพราะฉะนัน้ เราจึงเปน ผแู กก วา ทา นทัง้ หลายโดยกาํ เนดิ . เม่ือนกกระทาํ กลา วอยางนี้ ลงิ และชางจงึ กลา วกะนกกระทําผูเปนบัณฑิตวา สหาย ทา นเปนผแู กกวา เราทัง้ หลาย จาํ เดิมแตนไี้ ป พวกเราจกักระทาํ สกั การะ การเคารพ การนับถอื การไหว การบูชา และการอภวิ าทการลกุ รับ อญั ชลีกรรม สามจี กิ รรม แกทา น และจกั ต้ังอยูใ นโอวาทของทา น อนง่ึ ต้ังแตน้ไี ป ทา นพึงใหโ อวาทและอนศุ าสนแี กเ ราทัง้ หลาย ตง้ั แตนัน้ มา นกกระทาไดใหโ อวาทแกลิงและชา งเหลานั้นใหตง้ั อยใู นศลี แมใ นเองกส็ มาทานศีล. สหายแมท ้งั สามนีน้ ่งั อยใู นศลี ๕ มคี วามเคารพยาํ เกรงกันและกัน มีความประพฤตเิ ปน สภาคกัน ในเวลาสิ้นชวี ติ ไดเปนผูมีเทวโลกเปน ที่ไปในเบอ้ื งหนา. การสมาทานของสหายทงั้ สามนนั้ ไดช ือ่ วาตติ ตริ พรหมจรรย พระศาสดาตรสั วา ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย กช็ อ่ื วาสัตวดริ ัจฉานเหลานั้น ยงั มีความเคารพ มคี วามยําเกรงกนั และกันอยู ฝายเธอทั้งหลายกบ็ วชในพระธรรมวินัยท่ีเรากลาวดีแลว อยางน้ี เพราะเหตไุ ร จงึ ไมเคารพยาํ เกรงกนัและกนั อยู ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย ตงั้ แตน้ไี ป เราอนุญาตการอภวิ าท การลุกรบัการอัญชลกี รรม สามจี กิ รรม ตามผทู ีแ่ กกวา อาสนะเลศิ นํ้าเลิศ กอนขา วเลิศ ตามผูทแ่ี กกวา แกเ ธอทง้ั หลาย ท้ังแตน้ไี ปผใู หมก วาไมพึงหา มเสนาสนะผแู กกวา ภกิ ษุใดหาม ภิกษนุ น้ั ตอ งอาบัติทกุ กฏดงั น้ี ครั้นทรงนําพระธรรมเทศนานีม้ าอยางนแ้ี ลว ทรงเปน ผตู รสั รูพรอ มเฉพาะแลว จึงตรสั พระคาถาน้ีวา นรชนเหลาใด ฉลาดในธรรม นอบนอ มคนผู ใหญ นรชนเหลา น้ัน เปนผไู ดร บั ความสรรเสรญิ ใน ปจจบุ นั นี้ และมสี คุ ติเปนที่ไปในเบ้อื งหนา.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 354 บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา เย วุฑฒฺ มปจายนฺติ ความวา ผูใ หญ๓ จําพวก คือ ผใู หญโดยชาติ ๑ ผใู หญโดยวัย ๑ ผใู หญโ ดยคุณ ๑ บรรดาผูใหญ ๓ พวกนนั้ ผูสมบรู ณด วยชาติชื่อวา ผใู หญโดยชาติ. ผูต งั้ อยูในวัยชือ่ วาผูใหญโ ดยวยั ผสู มบรู ณด ว ยคณุ ชอ่ื วาผูใ หญโดยคณุ . บรรดาผูใหญ ๓พวกนนั้ ผเู จรญิ ดว ยวยั สมบูรณดว ยคณุ ทานประสงควา ผใู หญในทีน่ ี.้ บทวา อปจายนตฺ ิ ความวา บชู าดว ยกรรมคอื การออ นนอ มตอทานผูเจริญ. บทวา ธมมฺ สสฺ โกวทิ า ไดแก ผูฉลาดในธรรมคือการประพฤติออ นนอ มตอผเู จริญ. บทวา ทฏิ เ ธมฺเม ไดแก ในอตั ภาพนีเ้ อง. บทวาปาส สา แปลวา ควรแกก ารสรรเสรญิ . บทวา สมปฺ ราโย จ สคุ ฺคติความวา ช่ือวา เปนท่ีไปในเบ้ืองหนา เพราะจะตองไปในเบือ้ งหนา คอื จะพึงละโลกนี้ไป ดวยวา โลกหนา ยอมเปนสุคติของนรชนเหลา นั้นทีเดยี ว. ก็ในทนี่ ้มี ีความหมายทป่ี ระมวลมาดังนี้ ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย จะเปนกษตั รยิ พราหมณ แพศย ศูทร คฤหัสถ บรรพชิตหรอื สตั วด ิรจั ฉานก็ตาม สตั วเหลา ใดเหลา หนง่ึ เปนผเู ฉลียวฉลาดในธรรมคอื การออ นนอมตอผูใ หญ กระทําการนอบนอมตอ ผูใหญโดยวัยทัง้ หลาย ผูสมบรู ณดวยคุณ สตั วเหลา น้ันยอมไดการสรรเสรญิ คือพรรณนา ชมเชยในอตั ภาพน้แี หละวา เปน ผอู อนนอมตอผเู จรญิ ทสี่ ดุ เพราะกายแตกไปแลว ยอ มบังเกดิ ในสวรรค. พระศาสดาตรสั คณุ ของธรรม คอื การออ นนอ มตอผูเจรญิ อยา งนี้แลวทรงสืบอนุสนธปิ ระชุมชาดกวา ชา งผูประเสริฐในกาลน้นั ไดเ ปนพระโมคคลั ลานะ ลงิ ในกาลน้ัน ไดเปน พระสารีบตุ ร สวนนกกระทาผูเปน บัณฑติ ในกาลนน้ั ไดเ ปน เราเองแล. จบติตติรชาดกที่ ๙

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 355 ๘. พกชาดก วา ดว ยผูฉลาดแกมโกง [๓๘] บคุ คลผใู ชป ญญาหลอกลวงคนอืน่ ยอมไม ไดค วามสุขเปนนิตย เพราะผใู ชป ญญาหลอกลวงคน อนื่ ยอ มประสบผลแหง บาปกรรมทีต่ นทาํ ไว เหมือน นกยางถกู ปูหนบี คอฉะนนั้ . จบพกชาดกท่ี ๘ ๘. อรรถกถาพกชาดก พระศาสดาเมอื่ ประทบั อยูใ นพระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภกิ ษุผูเ จรญิดว ยจวี รจงึ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคําเรมิ่ ตนวา นาจจฺ นฺต นกิ ตปิ ปฺ โฺ ดงั น.ี้ ไดย ินวา ภกิ ษุผูอยูในพระเชตวันวหิ ารรูปหนึ่ง เปนผฉู ลาดในกรรมอยางใดอยางหนึ่ง มีการคดั การชัด การจดั และการเย็บผา ท่จี ะพงึ ทาํ ในจีวรภกิ ษุนั้นยอ มเพิ่มจีวรดวยความเปนผูฉ ลาดน้นั เพราะฉะนน้ั จึงปรากฏชอ่ื วาจวี รวฑั ฒกะ ผูเ จริญดว ยจีวร. ถามวา ก็ภกิ ษุน้ีกระทาํ อยา งไร ? ตอบวาภกิ ษุน้ีเอาผา เกาทีค่ รํา่ ครา มาแสดงหตั ถกรรมคอื ทาํ ดวยมือ กระทาํ จีวรสมั ผสัไดด ี นาพอใจ ในเวลาเสรจ็ การยอม ไดยอ มดวยน้ําแปง ขัดดว ยหอยสงั ขกระทาํ ใหขึ้นเงาเปน ท่พี อใจแลว เก็บไว. ภกิ ษุท้งั หลายผไู มรจู ักทาํ จวี รกรรม

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 356จึงถอื เอาผาสาฎกท้ังหลายใหม ๆ ไปยังสาํ นกั ของภกิ ษุนัน้ จึงกลา ววา พวกผมไมร ูจกั ทาํ จีวร ขอทานจงทําจวี รใหแ กพวกผม. ภิกษนุ ั้นกลา ววา ทานผมู ีอายุทั้งหลาย จีวรเมอ่ื กระทํายอมสําเรจ็ ชา จวี รทเ่ี ราทําไวเทา นัน้ มีอยู ทานท้งั หลายจงวางผา สาฎกเหลา นัน้ ไว แลว จงถือเอาจวี รที่ทาํ ไวแลวนัน้ ไปเถอะกลาวแลวจึงนําออกมาใหดู. ภิกษุเหลา น้ันเหน็ วรรณสมบัติของจวี รนัน้ เทานน้ัไมรถู งึ ภายใน สาํ คญั วา มั่นคงดี จงึ ใหผ า สาฎกใหมท งั้ หลายแกพระจวี รวัฑฒกะแลวถอื เอาจีวรน้ันไป. จวี รนั้นอนั ภกิ ษุเหลานั้นซักดวยนํ้ารอนในเวลาเปอ นเปรอะนิดหนอ ย มนั จงึ แสดงปรกติของตน. ทีท่ ีเ่ กาคร่ําครา ปรากฏในที่นนั้ ๆภกิ ษุเหลาน้นั ตา งมคี วามวปิ ฏิสารเดือดรอนใจ ภกิ ษนุ น้ั เอาผา เกาลวงภกิ ษุทัง้ หลายท่มี าแลว ๆ ดวยอาการอยา งน้ี จนปรากฏไปในท่ีทงั้ ปวง แมใ นบานแหง หนึง่ ก็มีพระจวี รวฑั ฒกะรปู หน่งึ ลอลวงชาวโลก เหมอื นพระจีวรวัฑฒกะรปู นี้ในพระเชตวนั วหิ ารฉะนั้น. ภกิ ษุทัง้ หลายผูเปนเพ่ือนคบของภกิ ษนุ น้ั จงึบอกวา ทา นผูเจรญิ ไดย นิ วา พระจีวรวฑั ฒกะรปู หนง่ึ ในพระเชตวัน ลอลวงชาวโลกอยา งน.้ี ลําดับนน้ั พระจวี รวัฑฒกะบา นนอกน้นั ไดม ีความคดิดงั นี้วา เอาเถอะ เราจะลวงพระจวี รวฑั ฒกะชาวกรุงรูปนนั้ แลวกระทาํ จวี รเกาใหเปน ที่นาพอใจยง่ิ แลวยอ มอยางดี ไดหมจวี รน้นั ไปยังพระเชตวันวิหารฝา ยพระจวี รวฑั ฒกะชาวกรงุ พอเห็นจีวรนน้ั เทา นั้นเกิดความโลภอยากไดจึงถามวา ทา นผูเจรญิ จวี รนท้ี านทําเองหรือ ? พระจวี รวัฑฒกะบา นนอกกลา ววา ขอรับทา นผมู อี ายุ ผมทําเอง. พระจีวรวฑั ฒกะชาวกรงุ กลา ววาทานผูเ จริญ ทานจงใหจ วี รผนื นีแ้ กผมเถดิ ทานจกั ไดผ ืนอืน่ . พระจีวรวฑั ฒกะบานนอกกลาววา ทา นผมู ีอายุ พวกผมเปนพระบานนอก หาปจ จัยไดยาก ผมใหจีวรผืนนี้แกทา นแลว ตวั เองจกั หม อะไร. พระจีวรวฑั ฒกะชาวกรงุ กลาววา ทานผูเจรญิ ผาสาฎกใหม ๆ ในสํานกั ของผมมอี ยู ทา นจง

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 357ถือเอาผาสาฎกเหลานั้นกระทาํ จีวรของทา นเถดิ . พระจีวรวัฑฒกะบา นนอกกลา ววา ทา นผมู อี ายุ ผมแสดงหัตถกรรมในจวี รน้ี กเ็ มอ่ื ทา นพดู อยา งน้ีผมจะอาจทาํ ไดอยางไร ทา นจงถือเอาจวี รผนื น้ัน แลวใหจ วี รทีท่ าํ ดว ยผา เกาแกพ ระจวี รวฑั ฒกะชาวกรุงนน้ั แลวถอื เอาผาสาฏกใหม ๆ ลวงพระจีวรวฑั ฒกะชาวกรุงนนั้ แลว หลกี ไป. ฝายพระจวี รวฑั ฒกะผอู ยูในพระเชตวัน กห็ มจวี รนั้น พอลวงไป ๒-๓ วนั จึงซกั ดว ยนํา้ รอ น เหน็ วาเปนผาเกา ครํา่ ครากล็ ะอาย.ความท่ีพระจวี รวัฑฒกะชาวกรงุ น้นั ถูกลวง เกิดปรากฏไปในทามกลางสงฆว าเขาวาพระจวี รวฑั ฒกะผอู ยูในพระเชตวนั ถูกพระจวี รวัฑฒกะบา นนอกลวงเอาแลว . อยูมาวันหนง่ึ ภกิ ษุท้ังหลายพากันนง่ั กลาวเร่ืองนั้น ในโรงธรรมสภาพระศาสดาเสด็จมาแลวตรสั ถามวา ภิกษุท้ังหลาย บดั น้ี พวกเธอนงั่ สนทนากนั ดว ยเรือ่ งอะไรหนอ ? ภกิ ษเุ หลานน้ั พากนั กราบทลู เร่อื งนน้ั ใหท รงทราบ.พระศาสดาตรัสวา ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย พระจวี รวฑั ฒกะผูอยใู นพระเชตวนัยอมลอลวงภกิ ษุอ่นื ในบดั น้เี ทาน้นั หามิได แมใ นกาลกอ น ก็ลอ ลวงมาแลวเหมือนกนั ฝา ยพระจีวรวฑั ฒกะชาวบานนอก ไดลอลวงพระจีวรวฑั ฒกะผูอยูในพระเชตวนั รปู น้ี ในบดั นเี้ ทา น้นั ก็หามไิ ด แมใ นกาลกอ น ก็ไดล อ ลวงแลวเหมือนกัน แลวทรงนําอดตี นิทานมา ดงั ตอ ไปน้ี ในอดตี กาล พระโพธิสัตวบ ังเกิดเปนรุกขเทวดาอยูท ต่ี น ไมซ ึ่งต้งั อาศยัสระปทุมแหง หนง่ึ อยใู นราวปา แหง หนง่ึ . ในกาลน้นั คราวฤดูรอน นาํ้ ในสระแหงหน่ึงซึ่งไมใ หญน ัก ไดน อ ยลง แตใ นสระนั้นมปี ลาเปนอนั มาก. ครัง้ น้นันกยางตัวหนงึ่ เหน็ ปลาทั้งหลายแลว คิดวา เราจักลวงกินปลาเหลาน้นั ดวยอบุ ายสกั อยา ง จงึ ไปน่ังคดิ อยทู ี่ชายนาํ้ . ลาํ ดับนนั้ ปลาทั้งหลายเหน็ นกยางนน้ั จึงถามวา เจานาย ทานนั่งคดิ ถงึ อะไรอยหู รอื ? นกยางกลาววา เรานัง่ คิดถึงพวกทาน. ปลาทัง้ หลายถามวา เจา นาย ทานคดิ ถงึ เราอยางไร. นกยาง

พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 358กลา ววา เรานัง่ คดิ ถงึ พวกทา นวา นํ้าในสระน้ีนอย ทเี่ ท่ยี วก็นอ ย และความรอนมีมาก บดั น้ี ปลาเหลา นจี้ ักกระทาํ อยางไร. ลําดบั นนั้ พวกปลาจึงกลา ววา เจา นาย พวกเราจะการทําอยางไร. นกยางกลาววา ถา ทา นทง้ั หลายจะกระทําตามคําของเรา เราจะเอาจงอยปากคาบบรรดาพวกทา นคราวละตวั นาํไปปลอ ยยังสระใหญแหงหน่ึง ซึ่งดารดาษดว ยปทุม ๕ ส.ี ปลาทง้ั หลายกลาววา เจานาย ตัง้ แตป ฐมกปั มา ช่อื วานกยางผคู ดิ ดีตอพวกปลา ยอมไมมีทา นประสงคจะกินบรรดาพวกเราทีละตัว พวกเราไมเ ช่อื ทา น. นกยางกลาววาเราจกั ไมกิน ก็ถาพวกทา นไมเ ชื่อเราวาสระน้าํ มี พวกทานจงสงปลาตัวหนง่ึไปดูสระนํ้าพรอมกับเรา. ปลาท้ังหลายเชอื่ นกยางนั้น คดิ วา ปลาตัวน้ีสามารถท้งั ทางนํา้ และทางบก จงึ ไดใหป ลาทั้งใหญทง้ั คําตัวหนง่ึ ไปดว ยคาํ วา ทานจงเอาปลาตัวนีไ้ ป. นกยางน้ันดาบปลาตัวนัน้ นําไปปลอ ยในสระ แสดงสระท้งัหมดแลว นาํ กลบั มาปลอยในสํานกั ของปลาเหลานน้ั . ปลานนั้ จงึ พรรณนาสมบัติของสระแกปลาเหลา นน้ั . ปลาเหลา น้นั ไดฟ ง ถอ ยคําของปลาตวั นน้ั เปนผอู ยากจะไป จึงพากนั กลาววา ดีละ เจานาย ทา นจงคาบพวกเราไป นกยางคาบปลาตวั ทัง้ ดําทั้งใหญตวั แรกนนั้ นัน่ แหละ แลวนําไปยังฝง ของสระน้ําแสดงสระน้ําใหเ หน็ แลวชอนทีต่ น กมุ ซึ่งเกดิ อยรู มิ สระนํา้ แลวสอดปลานัน้ เขาในระหวา งคา คบ จิกดวยจะงอยปากใหต ายแลวกนิ เนอ้ื ทงิ้ กา งใหตกลงท่โี คนตนไมแลว กลบั ไป พดู วา ปลาตัวนน้ั เราปลอ ยไปแลว ปลาตวั อนื่ จงมา แลวคาบเอาทลี ะตัวโดยอบุ ายนนั้ กินปลาหมด กลบั มาอกี แมป ลาตัวหน่ึงกไ็ มเหน็ . กใ็ นสระนมี้ ปี ูเหลอื อยูต ัวหนง่ึ นกยางเปน ผอู ยากจะกนิ ปูแมตัวนั้นจึงกลา ววา ปผู เู จริญ เรานาํ ปลาทงั้ หมดนัน้ ไปปลอยในสระใหญอ นั ดารดาษดวยปทุม มาเถดิ ทาน แมทา นเราก็จักนําไป. ปถู ามวา ทานเม่ือจะพาเราไปจักพาไปอยา งไร ?. นกยางกลาววา เราจกั คาบพาเอาไป. ปูกลา ววา ทานเมื่อ

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาที่ 359พาไปอยา งนี้ จกั ทาํ เราใหต กลงมา เราจกั ไมไ ปกับทา น. นกยางกลา ววาอยากลวั เลย เราจักคาบทา นใหด แี ลวจงึ ไป. ปคู ิดวา ชือ่ วาการคาบเอาปลาไปปลอ ยในสระ ยอมไมม แี กน กยางนี้ กถ็ านกยางจักปลอยเราลงในสระ ขอ น้ีเปนการดี หากจักไมปลอย เราจักตดั คอนน้ั เอาชวี ติ เสีย. ลาํ ดบั นนั้ ปจู ึงกลา วกะนกยางนนั้ อยางนว้ี า ดกู อนนกยางผูส หาย ทา นจักไมอ าจคาบเอาเราไปใหดไี ด ก็เราคาบดวยจึงจะเปน การคาบที่ดี ถา เราจกั ไดเ อากา มคาบคอทา นไซรเราจกั กระทาํ คอของทานใหเ ปน ของอนั เราคาบดีแลว จงึ จกั ไปกบั ทา น. นกยางน้ันคิดแคจะลวงปนู ั้น หารไู มว า ปนู ้ีลวงเรา จึงรับคําวาตกลง. ปูจงึเอากา มทง้ั สองของมนั คาบคอนกยางนนั้ ไวแนน ประหน่งึ คีบดว ยคมี ของชางทอง แลวกลาววา ทา นจงไปเดีย๋ วน.ี้ นกยางนั้นนําปูนนั้ ไปใหเหน็ สระแลวบา ยหนาไปทางตน กมุ . ปูกลา ววา ลงุ สระนอ้ี ยูขา งโนน แตท า นจะนาํ ไปขางน้ี. นกยางกลา ววา เราเปนลงุ ท่นี า รัก แตเจาไมไ ดเปนหลานเราเลยหนอแลว กลา ววา เจาเห็นจะทาํ ความสาํ คัญวา นกยางนีเ้ ปน ทาสของเรา พาเราเทีย่ วไปอยู เจา จงดกู างปลาท่โี คนตน กมุ นัน่ แมเจา เรากจ็ ักกินเสีย เหมอื นกินปลาทัง้ หมดน้นั . ปูกลาววา ปลาเหลา นั้น ทานกินได เพราะความทีต่ นเปน ปลาโง แตเราจักไมใหท า นกินเรา แตท า นนน่ั แหละจัก ถงึ ความพินาศดว ยวา ทา นไมรูวา ถกู เราลวง เพราะความเปนคนโง เราแมทง้ั สอง เมอ่ื จะตายก็จกั ตายดวยกนั เรานั่นจักตัดศีรษะของทา นใหกระเดน ลงบนภาคพืน้ กลา วแลวจึงเอากามปานประหนง่ึ คมี หนบี คอนกยางนัน้ . นกยางน้ันอาปาก น้าํ ตาไหลออกจากนัยนต าทงั้ สองขา ง ถูกมรณภยั คุกคาม จงึ กลา ววา ขา แตน ายเราจกั ไมกนิ ทา น ทานจงใหช วี ิตเราเถดิ . ปกู ลา ววา ถาเมื่อเปน อยา งนน้ั ทา นรอนลงแลว ปลอยเราลงในสระ. นกยางนัน้ หวนกลบั มารอ นลงยังสระน่ันแหละแลว วางปูไวบ นหลงั เปอกตม ณ ทีร่ มิ สระ. ปตู ัดคอนกยางนน้ั ขาดจมลงไป

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 360ในน้าํ เหมอื นตัดกานโกมทุ ดว ยกรรไกรฉะนนั้ . เทวดาผูสิงอยูท่ีตน กมุ เหน็ ความอศั จรรยน นั้ เมื่อจะใหสาธุการทาํ ปาใหบ ันลอื ลั่น จึงกลาวคาถานด้ี ว ยเสียงอันไพเราะวา บคุ คลผใู ชป ญญาหลอกลวงผอู ืน่ ยอ มไมไ ด ความสุขเปนนิตย เพราะผใู ชป ญ ญาหลอกลวงคนอน่ื ยอ มประสบผลแหงบาปกรรมทต่ี นทําไว เหมอื นนก ยางถกู ปูหนบี คอฉะนั้น. บรรดาบทเหลาน้นั บทวา นาจฺจนฺต นิกติปฺปฺโ นกิ ตยฺ าสขุ เมธติ ความวา การหลอกลวง เรียกวา นิกติ บคุ คลผูม ปี ญ ญาชอื่ วานกิ ติ คอื ผูมปี ญ ญาหลอกลวง ยอ มไมถ งึ ความสุขโดยสว นเดยี ว คอื ไมอ าจดํารงอยู ในความสุขน้ันแหละ ตลอดกาลเปนนิตย เพราะการลวง คือการหลอกลวงนั้น แตวายอ มถึงแตความพนิ าศโดยสว นเดียวเทา นน้ั . บทวาอาราเธติ แปลวา ยอ มไดเฉพาะ อธิบายวา บุคคลผูลามกมปี ญญาหลอกลวง คอื มปี ญ ญาอันสาํ เหนยี กความเปนคนคดโกง ยอ มไดเฉพาะคอื ยอมประสบผลแหงบาปที่คนไดก ระทาํ ไว. ยอมประสบผลบาปอยา งไร ? ยอมประสบผลบาป เหมอื นนกยางคอขาดเพราะปฉู ะนัน้ อธบิ ายวา บาปบคุ คลยอ มประสบ คอื ยอ มไดเฉพาะภยั ในปจ จบุ ันหรือในโลกหนา เพราะบาปที่ตนทาํ ไว เหมอื นนกยางถึงการถกู ตัดคอขาดเพราะปูฉะน้ัน. มหาสตั วเ มื่อจะประกาศเน้อื ความน้ี จึงแสดงธรรมยงั ปา ใหบนั ลือลนั่ . พระศาสดาตรสั วา ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุจวี รวัฑฒกะชาวกรุงถูกภิกษุจีวระวัฑฒกะชาวบานนอกนน้ั นัน่ แหละ ลวงเอาแลว ในบัดนเ้ี ทา นั้นหามิได แมใ นอดตี กาลก็ถกู ลวงมาแลวเหมอื นกนั ครน้ั ทรงนาํ พระธรรม
































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook