Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายวิชาหลักการบัญชีเบื้องต้น

รายวิชาหลักการบัญชีเบื้องต้น

Published by kitthanachon01, 2021-11-25 13:17:20

Description: เอกสารประกอบการสอน หลักการบัญชีเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

เงนิ สดจายคาใชจ ายในการดําเนนิ งาน เงนิ สดจา ยคา ดอกเบย้ี เงินสดจายคา ภาษเี งนิ ได กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดําเนินงาน เปน กระแสเงินสดท่ีสําคัญที่สุดของกิจการ จากมาตรฐานการบัญชี ฉบับท่ี 25 กิจการสามารถเลือกที่จะแสดงกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานโดยใชวิธีทางตรง (Direct Method) หรือวิธีทางออม (Indirect Method) วธิ ใี ดวธิ ีหน่ึง วิธีทางตรง เปนการรายงานถึงแหลงท่ีมาและใชไปของเงินสดท่ีเกิดจากการดําเนินงานโดยที่มาหลัก ของเงินสดจะมาจากเงินสดท่ีไดรับจากลูกคา และแหลงใชเงินสดจะเกิดจากการจายซื้อสินคา บริการ และจาย คาใชจายในการดําเนินงาน ซ่ึงผลตางระหวางเงินสดรับและเงินสดจายคือ กระแสเงินสดสุทธิจากการดําเนินงาน ซึ่งวิธี ทางตรงจะใหขอ มลู ท่เี ปน ประโยชนในการวางแผนประมาณการกระแสเงินสดในอนาคต วธิ ีทางตรงจะแสดงเงินสดรับ และเงินสดจายตามลักษณะรายการหลักที่เกิดขึ้น เชน เงินสดรับจากลูกคา เงินสดจายซื้อสินคา เงินสดจายคาใชจายดําเนินงานตางๆ โดยแสดงเฉพาะกระแสเงินสดที่เก่ียวของกับกิจกรรม ดําเนินงานเทานั้น ซ่ึงขอมูลเหลานี้อาจนํามาจากการบันทึกรายการทางบัญชีของกิจการ หรือนํามาจากการปรับปรุง รายการในงบกําไรขาดทุน ดวยผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของรายการในงบดุล ในบัญชีสินทรัพยหมุนเวียน และหนี้สินหมุนเวียนซ่ึงเปนผลจากการดําเนินงานในระหวางงวด และปรับดวยรายการที่ไมมีผลตอเงินสด (เชน คา เสอื่ มราคา) และรายการทไ่ี มใ ชก จิ กรรมดําเนินงาน (เชน กาํ ไรขาดทุนจากการขายสินทรพั ย) วิธีการปรับรายการในงบกําไรขาดทุนตามเกณฑสิทธิ ใหเปนรายการตามเกณฑเงินสดกอนท่ีจะ นาํ ไปแสดงเปนกระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดําเนนิ งาน มดี ังนี้ 1. คาํ นวณเงินสดรบั จากลูกคา หรือจากการบริการ เงนิ สดทไี่ ดร บั จากลูกคา = ยอดขาย (จากงบกาํ ไรขาดทนุ ) บวก การลดลงของบญั ชีลกู หนี้ หรอื หกั การเพม่ิ ข้ึนของบญั ชีลกู หน้ี หรืออาจคํานวณจากความสมั พันธของบญั ชีแยกประเภทที่เก่ียวของ ซงึ่ ไดแกบญั ชีขาย บญั ชีลูกหนี้ ขาย ลูกหน้ีการคา ยอดขาย ยอดยกมา xx ชาํ ระเงินสด ? ประจาํ งวด xx ขายเชอ่ื ประจาํ งวด xx ยอดยกไป xx (P/L) 2. คํานวณเงนิ สดจา ยซือ้ สนิ คา เงินสดจา ยซื้อสินคา /เงนิ สดจา ยชาํ ระหน้ี = ตน ทนุ ขาย (จากงบกําไรขาดทนุ ) การเพิม่ ขนึ้ ของสินคา บวก การลดลงของเจา หน้ีการคา การลดลงของสนิ คา หรอื หกั การเพ่ิมข้นึ ของเหจา หน้ีการคา หรืออาจคํานวณจากความสัมพันธของบัญชีแยกประเภทท่ีเกี่ยวของ ซ่ึงไดแก บัญชีเจาหน้ีการคา บัญชี สินคา บญั ชตี น ทนุ ขาย 373 3821302 หลกั การบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

เจาหนี้ สินคา ขาย xx ตน ทุนขาย จา ยชําระเงนิ ยอดยกมา xx ยอดยกมา xx (ตนทุนขาย) ตนทุนขาย ยอดยกไป xx ใน PL ? ซอื้ เช่อื ประจํา ยอดยกไป +ซ้อื เชอ่ื งวด xx ประจํางวด xx 3. คาํ นวณเงินสดจาย คา ใชจายดําเนินงาน เงนิ สดจายชาํ ระคาใชจาย = คาใชจา ยดําเนินงาน (จากงบกําไรขาดทนุ ไมรวมคา เส่ือมราคา) การเพิ่มข้ึนของสินคา บวก การลดลงของเจาหนี้การคา หรอื หัก การลดลงของสินคา การเพม่ิ ขึ้นของเหจา หน้กี ารคา 4. คาํ นวณเงนิ สดจา ยชาํ ระภาษีเงนิ ได และดอกเบย้ี จา ย ใชห ลักการคํานวณเหมือนกบั การ คาํ นวณเงินสดจายคาใชจ ายดาํ เนินงาน สรุปการปรับรายการในงบกําไรขาดทนุ ตามเกณฑคงคางใหเปนรายการตามเกณฑเ งินสดไดดงั ตารางที่ 8.1 ตารางที่ 8.1 สรปุ การปรับรายการในงบกาํ ไรขาดทนุ ตามเกณฑค งคางใหเ ปนรายการตามเกณฑเ งนิ สด รายการ การปรับปรงุ รายการ กระแสเงนิ สด ตามเกณฑค งคา ง (ตามเกณฑเงนิ สด) บวก หัก 1. รายไดจากการขาย/ ลกู หน้ลี ดลง ลกู หน้ีเพ่ิมข้นึ เงินสดรับจากการ รายไดจ ากการบรกิ าร ขาย/บรกิ าร 2. รายไดอน่ื รายไดค างรับเพ่ิมขึน้ รายไดคา งรบั ลดลง เงินสดรับจากรายไดอืน่ รายไดรับลวงหนาเพิม่ ขึน้ รายไดร บั ลวงหนา เพิ่มขึน้ 3. ตนทุนขาย สนิ คา คงเหลือเพิ่มขึ้น สนิ คาลดลง เงนิ สดจา ยชาํ ระเจา หนี้ เจา หนกี้ ารคา ลดลง เจา หนกี้ ารคา เพิ่มข้นึ จา ยซ้อื สินคา 4. คา ใชจา ยใน คาใชจา ยลว งหนาเพม่ิ ขึ้น คา ใชจ า ยลว งหนาลดลง เงินสดจายคา ใชจาย การดําเนนิ งาน คาใชจ า ยคา งจา ยลดลง คา ใชจ ายคา งจา ยเพมิ่ ขน้ึ ดาํ เนินงาน 5. ดอกเบีย้ จา ย ดอกเบีย้ คางจายลว งหนา ดอกเบย้ี จา ยลวงหนา ลดลง เงินสดจา ยดอกเบยี้ จา ย เพิม่ ขึ้น ดอกเบยี้ คา งจา ยเพิม่ ข้นึ ดอกเบยี้ คา งจายลดลง 6. ภาษีเงนิ ได ภาษเี งินไดจายลวงหนา ภาษเี งินไดจ ายลวงหนา ลดลง เงินสดจายภาษีเงินได เพมิ่ ขึน้ ภาษีเงินไดค างจายเพิ่มข้ึน ภาษีเงนิ ไดคางจายลดลง 374 3821302 หลักการบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

รูปแบบงบกระแสเงินสด แสดงกระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งานวธิ ีทางตรง บริษัท ....จํากดั งบกระแสเงินสด สําหรับระยะเวลา....สิน้ สุดวนั ที่ .... เดอื น......ป. .... กระแสเงินสดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน เงนิ สดรบั จากการขายสนิ คา หรือใหบรกิ าร XX เงนิ สดรับจากลูกหน้ี XX เงนิ สดรบั จากรายไดอืน่ ๆ (เงินปนผลและดอกเบ้ียรับ) XX XX เงนิ สดจายคาสินคา หรือบรกิ าร XX XX XX (1) เงนิ สดจายชําระหนี้ (เจาหน้ีการคา ) XX เงินสดจายคาใชจา ยในการดําเนินงาน XX เงินสดจา ยดอกเบย้ี XX เงินสดจา ยภาษเี งินได XX กระแสเงนิ สดรบั (จา ย) สทุ ธิจากกิจกรรมดําเนินงาน วิธีทางออม หรือวิธีกระทบยอด เปนการรายงานเงินสดที่เกิดจากการดําเนินงาน โดยการนํากําไรสุทธิ ตามเกณฑคงคางจากงบกําไรขาดทุน มาปรับปรุงดวยรายไดและคาใชจายที่ไมเก่ียวของกับเงินสดหรือนํากําไรสุทธิ ตามเกณฑคงคาง (accrual net income) มาคํานวณใหเปนกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน และปรับปรุงเพิ่ม ดวยผลของการเปลี่ยนแปลงในบัญชีสินทรัพยหมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน โดยไมรวมการกูยืมระยะสั้น ท้ังนี้เพ่ือให ทราบถึงกระแสเงนิ สดท่ีแทจรงิ จากการดําเนินงาน เนื่องจากขอมูลในงบกระเสเงินสดจะตองใชขอมูลจากงบกําไรขาดทุน และงบดุลดังนั้นงบกระแสเงินสด วิธีทางออมจึงเปนวิธีท่ีนิยม เนื่องจากสามารถจัดทําไดสะดวก รวดเร็วและยังแสดงถึงความสัมพันธระหวางงบกําไร ขาดทุนและงบดลุ แสดงรูปแบบงบกระแสเงนิ สด แสดงกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานวิธที างออ ม ดงั น้ี บริษัท ....จํากดั งบกระแสเงนิ สด สําหรบั ระยะเวลา....สน้ิ สุดวนั ท่ี .... เดือน......ป..... กระแสเงินสดจากกิจกรรมดาํ เนินงาน กาํ ไรสทุ ธิ (จากงบกาํ ไรขาดทนุ ) XX ปรับปรุงดว ยรายการทไี่ มกระทบเงินสด บวก คาเส่ือมราคา XX หน้ีสงสัยจะสูญ XX คา ตดั จําหนายสินทรพั ยไมม ีตัวตน XX คาตดั จําหนา ยสว นต่าํ กวามลู คา หุนกู XX ผลขาดทุนจากการขายสนิ ทรัพย* XX XX หกั กาํ ไรจากการขายสินทรัพย* XX XX ตัดจาํ หนายสวนเกนิ กวามูลคาหุนกู XX XX 375 3821302 หลักการบญั ชีเบอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

ปรับปรุงดวยผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงในบัญชีสินทรพั ยห มุนเวยี นและ หนี้สนิ หมุนเวยี น บวก สินทรพั ยหมุนเวียนลดลง XX XX หนห้ี มุนเวยี นเพิม่ ข้นึ XX XX XX หกั สินทรพั ยห มุนเวยี นเพม่ิ ขึ้น XX XX (1) หน้ีสินหมุนเวียนลดลง XX กระแสเงินสดรับ (จาย) สุทธจิ ากการดําเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน จะนํามารายงานเปนลําดับแรกในงบกระแสเงินสด ว่ึงเปนการ รายงานมวี ิธีการรายงาน 2 วิธี คือวิธีทางตรงและวิธีทางออม ท้ัง 2 วิธีจะแสดงกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานใน จํานวนทีเ่ ทา กัน + กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทนุ -กระแสเงินสด กระแสเงินสดจากกิจกรรมจดั หาเงนิ (Cash Flows) Maturity Decline Introduction Growth ภาพท่ี 8.1 กระแสเงนิ สดในวัฏจักรการดาํ เนนิ งาน(Cash Flows Life Cycle) จากภาพท8่ี .1 ในวัฏจกั รการดําเนนิ งานทปี่ ระกอบดวย ระยะเริ่มดําเนนิ งาน(Introduction)ระยะเตบิ โต ของ(Growth) ระยะอ่มิ ตวั (Maturity) และระยะตกตา่ํ (Decline) กอใหเ กิดกระแสเงินสดในวฏั จกั รการดําเนนิ งาน (Cash Flows Life Cycle)ท่แี ตกตางกันในแตล ะชวงของการดาํ เนนิ งาน ระยะเริ่มดําเนินงาน(Introduction) ธุรกิจจําเปนตองใชเงินเปนจํานวนมากในการกอรางสรางธุรกิจตอง ประสบกับการลงทุนสูงในการผลิตและดําเนินงานจึงทําใหกระแสเงินสดรับจากเจาของหรือจากการกูยืมมีเปนจํานวน มากซ่งึ เปน กระแสเงินสดรบั ในกิจกรรมจดั หาเงิน โดยยังไมมีกระแสเงินสดจายในกิจกรรมจัดหาเงิน มีผลทําใหกระแส เงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินเปนบวกในระยะแรกดําเนินงาน ในขณะเดียวกันตองประสบกับการลงทุนสูงในการผลิต มีการจายเงินลงทุนเพื่อซื้อสินทรัพย เขามาเพ่ือใชในการดําเนินงาน(..เคร่ืองผลิตเงินสดในอนาคต...)ทําใหกระแสเงิน สดจายในกิจกรรมลงทุนมีเปนจํานวนมาก โดยยังไมมีกระแสเงินสดรับในกิจกรรมลงทุน มีผลทําใหกระแสเงินสดจาก กิจกรรมลงทุนเปนลบในระยะแรกดําเนินงาน ขณะที่รายไดอาจยังไมมีหรือมีนอยมาก แตมีคาใชจายตางๆในการ ดําเนินงานเปนจํานวนมาก ดังน้ันในชวงระยะเร่ิมดําเนินงานจะประสบภาวะการขาดทุน ทําใหกระแสเงินสดรับใน กิจกรรมดําเนินงานยังไมเกิดขึ้นมีแตกระแสเงินสดจาย มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานเปนลบใน ระยะแรก 376 3821302 หลักการบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

ระยะเติบโต(Growth) ยอดขายเพ่ิมสงู ขน้ึ และเพิม่ ในอตั ราทเี่ ร็ว ดังนั้นในชวงแรกของระยะเติบโต กิจการ จะไดร บั ผลประโยชนจ ากกําไรทค่ี อนขางสูง เนื่องจากไมมีคูแขงในตลาด ทําใหรายไดเกิดขึ้นเปนจํานวนมาก ในระยะนี้ กระแสเงินสดรับจากกิจกรรมดําเนินงานจะยังคงมีมากกวากระแสเงินสดจาย มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรม ดําเนินงานเปนบวกในระยะเติบโต ขณะเดียวกันกิจการจะจายเงินเพ่ือการลงทุนในสินทรัพย ทําใหกระแสเงินสดจาก กิจกรรมลงทุนมีกระแสเงินสดจายมากกวากระแสเงินสดรับในชวงแรก และเงินสดจะทยอยเพิ่มข้ึนเมื่อกิจการ ดําเนินงานมาจนมีสถานะมั่นคงทําใหกระแสเงินสดรับมีมากกวากระแสเงินสดจาย ทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรม ลงทุนเปน บวก ระยะอิ่มตัว (Maturity) กิจการยังคงมีรายไดจํานวนมากและกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมดําเนินงาน ยังคงมีมากกวากระแสเงินสดจาย มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานเปนบวก ทําใหกิจการมีเงินสดมาก พอท่จี ะนาํ ไปลงทุนและจายชําระหนี้ใหแ กเจา หนี้ และมากพอท่ีจะนําไปจายคืนใหแกผูลงทุนในรูปของเงินปนผล ทําให กระแสเงินสดจายจากกิจกรรมจัดหาเงินเปนลบ ในระยะอิ่มตัวมีคูแขงขันเพิ่มจํานวนมากเรื่อยๆซึ่งเกิดจากแรงจูงใจ ดานกําไรท่ีดี ทําใหสวนแบงของตลาดและรายไดของกิจการปรับลดลง ประกอบกับผูซื้อเร่ิมใหความสนใจนอยลง ในชว งนย้ี อดขายจะเพิม่ ข้นึ ไมม ากเหมือนชว งระยะเติบโต และในที่สุดอัตราการเพ่ิมของยอดขายจะหยุดนิ่งหากกิจการ ไมมีการปรับแผนการดําเนินงานยอดขายสินคาจะตกต่ําลงแตมักจะมีโอกาสไดไมนานเพราะบรรดาคูแขงท้ังหลายจะ เริ่มไดกล่ินกําไรและทยอยกันเขามาขอสวนแบง ในระยะอ่ิมตัวกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานจะเร่ิมลดลง แต ยังคงมีกระแสเงนิ สดรบั มากกวา กระแสเงนิ สดจาย ระยะตกต่าํ (Decline)กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมดําเนินงานจะเร่ิมลดลง กิจการอาจมีการขายสินทรัพยท่ี ลงทุนในชวงแรกและอาจมีการจา ยเงินลงทุนเปล่ียนสินทรัพยท่ีหมดอายุการใชงาน ทําใหกระแสเงินสดรับจากกิจกรรม ลงทุนมีเปนจํานวนมาก มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนเปนบวก ในระยะน้ีกิจการอาจตองจายเงินสดเพื่อ ชําระหนี้ใหแกเจาหน้ีพรอมดอกเบี้ย และจายเงินปนผลเปนผลตอบแทนใหแกผูลงทุน ทําใหกระแสเงินสดจายจาก กิจกรรมจัดหาเงนิ เปน ลบ จากตัวอยา งท่ี 14.1 สามารถจัดทํางบกระแสเงนิ สดวธิ ที างออ มของบรษิ ัท ศภุ กร จาํ กัด ไดด งั น้ี บรษิ ัท ศภุ กร จํากดั งบกระแสเงินสด (วธิ ีทางออ ม) สาํ หรับระยะเวลา 1 ปส ิน้ สุดวันท่ี 31 ธันวาคม 25x8 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน (บาท) กาํ ไรสุทธิ 40,300 บวก คาเสอ่ื มราคา 8,500 ขาดทุนจากการขายอปุ กรณ 3,100 51,900 52,150 คาใชจ า ยอนื่ ๆ คางจา ยเพม่ิ ขึ้น 250 หัก เงนิ ทุนชวั่ คราวเพิ่มขึน้ 13,620 ลกู หน้เี พ่มิ ขึน้ 4,190 สนิ คา เพิม่ ข้ึน 2,490 คา ใชจ า ยลวงหนา เพมิ่ ข้นึ 1,110 เงินกูธ นาคารลดลง 5,000 377 3821302 หลกั การบัญชเี บื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

เจาหนี้ลดลง 780 27,190 เงนิ สดรบั สุทธจิ ากกจิ กรรมดําเนินงาน 24,960 ตวั อยางที่ 8.2 การจัดทํากระแสเงนิ สดจากกิจกรรมดาํ เนินงานวธิ ที างออ มของบรษิ ัท จารวี จาํ กัด มี งบกําไรขาดทนุ โดยประมาณ สําหรบั ระยะเวลา 1 ปส ิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x8ดงั น้ี ขายสุทธิ 240,000 ตน ทุนขาย 159,000 กาํ ไรข้ันตน 81,000 คา จางและเงินเดือน 32,400 คาโฆษณา 8,400 คาเส่อื มราคา – สินทรัพยถาวร 4,500 คา ใชจายดําเนินการอ่ืน ๆ 7,200 52,500 กําไรสทุ ธิ 28,500 บรษิ ทั คาดวาบัญชีหมุนเวยี นของบริษทั จะมกี ารเปล่ียนแปลงดังนี้ บญั ชคี า ใชจา ยลว งหนาเพ่ิมขน้ึ 2,400 บญั ชีคา โฆษณาคางจายเพ่มิ ขน้ึ 1,200 บัญชลี กู หนี้ลดลง 16,200 บัญชเี จาหนล้ี ดลง 5,100 บญั ชีสนิ คาคงเหลอื ลดลง 9,900 ยอดเงินสด ณ 1 มกราคม 25x9 มีจาํ นวน 142,500 งบกระแสเงนิ สด กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน 28,500 33000 กาํ ไรสทุ ธิ 4,500 บวก คาเส่อื มราคา รายการท่ีทําใหเ งนิ สดเพ่มิ ขนึ้ 1,200 27,300 คาโฆษณาคางจายเพ่มิ ข้นึ 16,200 ลูกหนลี้ ดลง 9,900 สินคา คงเหลอื ลดลง 2,400 รายการทท่ี ําใหเ งนิ สดลดลง 5,100 (7,500) คาใชจ ายลวงหนาเพ่มิ ขึ้น เจาหน้ีลดลง 52,800 เงินสดรับสทุ ธจิ ากกจิ กรรมดําเนินงาน 142,500 เงนิ สด 1 มกราคม 25x8 195,300 เงนิ สด 31 ธนั วาคม 25x8 378 3821302 หลักการบญั ชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

2. กระแสเงินสดจากกจิ กรรมลงทุน (Cash Flows from Investing Activities) เปนกระแสเงินสดจากการซ้ือ และจําหนายสินทรัพยระยะยาว และเงินลงทุนอ่ืนซึ่งไมรวมอยูใน รายการเทยี บเทา เงินสด เปนกระแสเงินสดท่ีเกดิ จากการจายซอื้ สินทรพั ยตางๆ ทก่ี อใหเ กดิ รายได ตวั อยางของกระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทุน เงินสดจายซอ้ื สนิ ทรพั ยทใ่ี ชในการดาํ เนินงาน เชน ท่ดี นิ อาคารและอุปกรณ เงินสดจา ยซื้อสนิ ทรพั ยไมห มนุ เวียน เงนิ สดจา ยซือ้ เงินลงทุนระยะยาว (หนุ ทนุ หรอื หุน กู ฯลฯ) เงินสดรับจากการขายสนิ ทรัพยไ มห มุนเวียน เงนิ สดรับจากการขายเงินลงทุนระยะยาว ฯลฯ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนจะรายงานกระแสเงินสดรับกอนกระแสเงินสดจายการ รายงานกระแสเงินสดจากกจิ กรรมลงทนุ จะรายงานเปน ลําดับท่สี องรองลงมาจากกจิ กรรมดาํ เนินงาน 3. กระแสเงนิ สดกิจกรรมจัดหาเงิน (Cash Flows from Financing Activities) เปนกระแสเงินสดที่เกิดจากกิจกรรทท่ีกอใหเกิดการเปล่ียนแปลงในขนาด และองคประกอบ ของสวนของเจาของ และสว นกยู มื องกจิ การ ซึ่งจะเปน รายการที่เกิดจากหนส้ี ินระยะยาว และสวนของเจาของใน งบดุล กระแสเงินสดในกิจกรรมจัดหาเงินจะชวยเปนประโยชนในการคาดคะเนสิทธิเรียกรองในกระแสเงินสดใน อนาคตของผใู หเงินทุนแกก จิ การ กระแสเงนิ สดกิจกรรมจัดหาเงนิ เชน เงินสดรับจาการกยู มื จากสถาบนั การเงิน เงนิ สดรับจากการลงทนุ /เพมิ่ ทนุ (ออกจําหนา ยหนุ ) เงินสดรบั จากการออกพนั ธบตั ร หุน กู เงินเบกิ เกินบญั ชี เงินกรู ะยะสัน้ เงินสดจา ยเปนเงินปน ผล เงินสดจายชาํ ระคนื หนสี้ นิ เงนิ สดจา ยซอ้ื หนุ คืน ฯลฯ กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน จะรายงานเปนลําดับสุดทายในงบกระแสเงินสด จากน้ันนํากระแสเงินสดจาก 3 กิจกรรมมารวมกัน จะไดกระแสเงินสดสุทธิท่ีเพิ่มขึ้น หรือลดลงในระหวางงวด ซึ่งจะนําไปรวมกับเงินสดท่ีมีอยูในวันตนงวด ผลท่ีไดจะเทากับเงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวด ตามที่ปรากฏใน งบดุล สรปุ กระแสเงินสดที่เกิดขึน้ ในแตละงวดการดําเนินงาน ไดด งั ภาพที่14.1 379 3821302 หลักการบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

แหลงทีม่ าของเงินสด แหลง ใชไ ปของเงินสด กจิ กรรมดาํ เนินงาน กจิ กรรมดําเนนิ งาน - เงินสดรับจากการขายสินคา/ ใหบ ริการ - จายซื้อสนิ คา/บริการ - เงินสดรับจากรายไดอื่น กจิ กรรมลงทุน - จา ยคาใชจ ายดาํ เนินงาน - ขายสนิ ทรพั ยไมหมุนเวียน - ขายเงินลงทุนระยะยาว - จายคาภาษีเงินได กจิ กรรมจัดหาเงนิ - เงนิ สดรับจากการกูยมื เงินสด กิจกรรมลงทุน - เงินสดรบั จาการลงทุนเพิ่มทุน (Cash) - ซื้อสินทรพั ยไมหมุนเวยี น - ซ้อื เงนิ ลงทุนระยะยาว กจิ กรรมจัดหาเงนิ - เงนิ สดจา ยชาํ ระหน้ี - เงินสดจายปนผล ภาพท่ี 8.1 สรปุ กระแสเงนิ สดทีเ่ กดิ ข้นึ ในแตล ะงวดการดําเนนิ งาน รูปแบบการรายงานงบกระแสเงนิ สด รูปแบบการรายงานงบกระแสเงินสด ทง้ั วธิ แี สดงกระแสเงินสดจากกจิ กรรมดาํ เนินงานวธิ ีทางตรง และวธิ ที างออม บรษิ ทั ....จาํ กดั งบกระแสเงินสด สําหรับระยะเวลา.....สน้ิ สดุ วันท่ี.....เดอื น......ป.... กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน เงนิ สดรบั จากการขายสินคาหรือใหบ รกิ าร XX เงนิ สดรบั จากลูกหน้ี XX เงนิ สดรับจากรายไดอ น่ื ๆ (เงินปนผลและดอกเบ้ียรับ) XX XX เงนิ สดจายคาสินคา หรอื บรกิ าร XX เงินสดจา ยชาํ ระหน้ี (เจา หนีก้ ารคา) XX เงินสดจายคา ใชจา ยในการดาํ เนินงาน XX เงินสดจายดอกเบ้ยี XX เงนิ สดจา ยภาษเี งนิ ได XX XX กระแสเงนิ สดรบั (จา ย) สทุ ธิจากกจิ กรรมดําเนินงาน กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทนุ XX (1) เงินสดจายซ้ือที่ดนิ , อาคาร, อปุ กรณ XX เงนิ สดจา ยซื้อเงินลงทุนระยะยาว XX XX เงนิ สดรบั จากการขายเงินลงทุนระยะยาว XX เงนิ สดรับจากการขายท่ดี นิ , อาคาร, อปุ กรณ XX XX กระแสเงินสดรบั (จา ย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมมาลงทนุ XX (2) 380 3821302 หลักการบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

กระแสเงนิ สดจากิจกรรมจดั หาเงนิ XX XX เงินสดรับจาการกยู ืม (ระยะสน้ั และระยะยาว) XX XX เงินสดรบั จากการขายหุนทนุ XX เงินสดรบั จากการขายหุนทุน XX เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี XX เงินสดจา ยเปน เงนิ ปนผล XX XX เงินสดจายชําระหนี้ เงนิ สดจายเพอ่ื ซื้อหนุ คืน XX (3) รวมกระแสเงนิ สดรบั (จาย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมจัดหางาน กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธิระหวางงวด {(1) + (2) + (3)} XX บวก เงินสดคงเหลอื ตน งวด XX XX เงนิ สดคงเหลือปลายงวด XX บริษัท ....จาํ กดั XX XX งบกระแสเงินสด XX สาํ หรับระยะเวลา…สิน้ สดุ วันที่ ...เดอื น...ป... XX XX กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน XX XX กําไรสทุ ธิ (จากงบกาํ ไรขาดทุน) XX XX ปรบั ปรุงดวยรายการทีไ่ มกระทบเงนิ สด XX บวก คาเสอ่ื มราคา XX หนีส้ งสยั จะสูญ คา ตดั จาํ หนายสินทรพั ยไ มม ตี ัวตน คา ตดั จาํ หนายสว นต่าํ กวา มลู คา หุนกู ผลขาดทุนจากการขายสนิ ทรพั ย* หกั กาํ ไรจากการขายสินทรพั ย* ตดั จําหนายสว นเกนิ กวา มลู คาหนุ กู ปรบั ปรุงดวยผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงในบญั ชสี ินทรัพยห มุนเวียน + หน้สี ินหมุนเวียน บวก สินทรพั ยห มุนเวยี นลดลง XX XX หนีห้ มุนเวยี นเพ่ิมขึ้น XX XX XX หกั สินทรพั ยห มุนเวียนเพิ่มขนึ้ XX XX (1) หนสี้ นิ หมุนเวยี นลดลง XX กระแสเงนิ สดรับ (จาย) สทุ ธจิ ากการดาํ เนินงาน 381 3821302 หลกั การบญั ชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทุน XX XX เงินสดจา ยซ้อื ทด่ี นิ , อาคารและอปุ กรณ XX (XX) เงินสดจา ยซื้อเงนิ ลงทนุ ระยะยาว XX XX (2) เงนิ สดรับจากการขายเงนิ ลงทุน XX เงินสดรับจากการขายทีด่ ิน, อาคาร, อุปกรณ XX กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธจิ ากการลงทนุ XX กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจัดหาเงิน XX (XX) XX XX (3) เงินสดรับจากการกยู ืม (ระยะสัน้ และระยะยาว) XX XX เงินสดรับจากการขายหุน ทุน XX XX เงินเบิกเกินบญั ชี XX XX เงนิ สดจายปนผล XX เงนิ สดจา ยชําระหน้ี เงินสดจายเพื่อซื้อหนุ คนื (บาท) กระแสเงนิ สดรบั (จาย) สุทธิจากการจดั หาเงิน กระแสเงนิ สดรบั (จา ย) สทุ ธิระหวางงวด (นาํ (1) + (2) +(3)) 52,150 บวก เงนิ สดคงเหลือตน งวด เงนิ สดคงเหลอื ปลายงวด จากตวั อยา งท่ี 8.1 สามารถจัดทํางบกระแสเงินสดไดด งั น้ี บริษัท ศภุ กร จํากัด งบกระแสเงินสด (วิธีทางออ ม) สาํ หรับปส้ินสุด 31 ธันวาคม 25x8 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนินงาน กําไรสทุ ธิ 40,300 บวก คา เสือ่ มราคา 8,500 ขาดทุนจากการขายอุปกรณ 3,100 51,900 คาใชจายอนื่ ๆ คางจา ยเพมิ่ ข้นึ 250 หกั เงนิ ทุนช่ัวคราวเพิ่มข้ึน 13,620 27,190 ลกู หนีเ้ พิม่ ขน้ึ 4,190 24,960 (1) สินคาเพมิ่ ข้ึน 2,490 คาใชจา ยลว งหนา เพิ่มขน้ึ 1,110 เงินกูธ นาคารลดลง 5,000 เจาหนี้ลดลง 780 เงนิ สดรบั สทุ ธจิ ากกจิ กรรมดาํ เนินงาน 382 3821302 หลกั การบญั ชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทนุ 2,500 เงินสดรบั จากการขายอปุ กรณ 49,000 เงินสดจาย (46,500) (2) จากการซอื้ อปุ กรณ 40,000 เงนิ สดจา ยสทุ ธิจากกิจกรรมลงทุน กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ 15,000 25,000 (3) เงินสดรับ 3,460 จากการกูหน้ีระยะยาว เงนิ สดจา ย จากการจายเงินปนผล เงินสดรบั สทุ ธิจากกิจกรรมลงทุน เงินสดสุทธิเพ่มิ ขน้ึ (1) + (2) + (3) รายการที่มใิ ชเงนิ สด กิจกรรมลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงินท่ีไมใชเงินสด (Noncash Investing and Financing Activities) เปนกิจกรรมที่ไมไดเก่ียวของกับเงินสด เชน การออกหุนสามัญเพื่อชําระหน้ีระยะยาว ซื้อสินทรัพย โดยการชาํ ระเปน หุน หรือออกหนุ สามัญแลกเปล่ียนกับหุนบุริมสิทธิ์ชนิดแปลงสภาพได (Convertible preferred stock) รายการเหลา นีเ้ ม่ือเกิดขน้ึ จะไมมีผลกระทบตอเงินสดในระหวางงวด แตจะตองรายงานเปดเผยใหผูใชงบ การเงินทราบ เนื่องจากจะมีผลตอกระแสเงินสดของกิจการในอนาคต ซึ่งจะอยูในรูปของการจายดอกเบ้ีย และ การจายเงินปนผลโดยแสดงเปนสวนตอทายในงบกระแสเงินสด หรืออาจจะแสดงไวในหมายเหตุประกอบงบ การเงิน การจดั ทํางบกระแสเงนิ สด แหลงขอมูลในการจัดทํางบกระแสเงินสด กิจกรรมสามารถจัดเตรียมงบกระแสเงินสดโดยอาศัย ขอมลู จากแหลง ตา งๆ ไดแก 1. งบดุลเปรียบเทียบ ซึ่งจะใหขอมูลเบื้องตนในการจัดทํางบกระแสเงินสด โดยจะไดขอมูล เกย่ี วกับจํานวนเงินที่เปลี่ยนแปลงในบัญชีแตล ะบญั ชจี ากวันตนงวดถงึ วนั ปลายงวด 2. งบกําไรขาดทุน เปนงบกําไรขาดทุนประจํางวดที่ตองการจัดทํางบกระแสเงินสดซ่ึงจะใหขอมูล ที่เก่ียวขอ งกบั เงนิ สดทีไ่ ดรับ หรือใชไปในการดาํ เนนิ งานระหวางงวด 3. ขอมูลเพิ่มเติมตางๆ ไดมาจากรายละเอียดในสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป ซึ่งจะใหขอมูล เก่ียวกบั รายการท่ีมผี ล ทําใหเงินสดเพ่มิ ข้ึนหรอื ลดลงในระหวางงวด ขั้นตอนในการทํางบกระแสเงินสด สามารถจัดทํางบกระแสเงินสดจากขอมูลที่เก่ียวของ ไดต ามลาํ ดบั ขน้ั ดงั น้ี 1. คํานวณการเปลี่ยนแปลงในยอดของบัญชีเงินสดในงบดุล โดยการหาผลตางระหวางเงินสดตน งวดกับเงนิ สดปลายงวด 383 3821302 หลกั การบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

2. คํานวณกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน โดยจะทําการวิเคราะหจากรายการในงบ กําไรขาดทุน งบดุลเปรียบเทียบและรายการอื่นๆ ที่เกิดขึ้น การคํานวณในขั้นตอนน้ีจะมีความซับซอน โดย จะตองอาศยั ความรพู ้นื ฐานทางการบญั ชมี าชว ยในการวิเคราะห 3. คํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน เงิน โดยพิจารณาจากการเปล่ียนแปลงของรายการ บญั ชีสินทรัพยไมห มนุ เวียนในงบดุล เน่ืองจากไมใ ชก จิ กรรมการดาํ เนนิ งานปกติ 4. คํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน โดยพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของรายการ บัญชีหนี้สนิ และสว นของเจาของในงบดุล เนือ่ งจากไมใชก จิ กรรมการดําเนนิ งานปกติ วิธีการจัดทาํ งบกระแสเงินสด มีวิธีการทาํ ได 3 วธิ ดี ังนี้ 1. วิธคี าํ นวณ 2. วิธีวเิ คราะหทางบญั ชี 3. วิธีกระดาษทําการ 1. วิธีคํานวณ เปนการคํานวณหากระแสเงินสดโดยไมใชกระดาษทําการ โดยพิจารณา เปรียบเทียบจากรายการในงบการเงิน ซึ่งจะเหมาะกับงบการเงินที่มีรายการไมซับซอนมากนัก มีวิธีการทําโดย คํานวณการเปลี่ยนแปลงของบญั ชตี า งในงบดลุ โดยพิจารณาจากความสมั พันธข องสมการในงบดุล ดังน้ี สนิ ทรัพย = หนี้สิน + สว นของเจา ของ ซึง่ สนิ ทรัพยประกอบดวยเงินสด และรายการท่มี ิใชเ งนิ สด โดยจะไดสมการใหมดังน้ี เงินสด + สินทรพั ยที่มิใชเ งินสด = หนี้สนิ + สว นของเจา ของ ดังนั้นถาพิจารณาเฉพาะเงินสด จะไดสมการดังนี้ เงนิ สด = หน้สี ิน + สว นของเจาของ - สนิ ทรัพยท่มี ใิ ชเงินสด ซ่ึงจะพบวาการเปลีย่ นแปลงในบัญชเี งนิ สด เปนผลมาจากการเปล่ียนแปลงในบัญชีใดบัญชหี นง่ึ ของหนส้ี ิน สว นของเจาของและสนิ ทรพั ยทไ่ี มใ ชเงินสด ซ่งึ สรุปการเปลย่ี นแปลงไดด ังน้ี 1. หนสี้ ินเพม่ิ ขึ้น 2. สว นของเจา ของเพ่มิ ข้ึน สง ผลทาํ ให เงนิ สดเพมิ่ ขึน้ = แหลง ทมี่ าของเงนิ สด 3. สนิ ทรัพยท ่ีมิใชเ งินสดลดลง 1. หน้ีสนิ ลดลง สง ผลทําให เงนิ สดลดลง = แหลง ใชไปของเงินสด 2. สวนของเจาของลดลง 3. สนิ ทรัพยท ี่มใิ ชเงนิ สดเพ่มิ ข้นึ 2. วิธีวิเคราะหทางบัญชี หรือ T-account Method เปนการคํานวณหากระแสเงินสดโดยใชการ วิเคราะหทางบัญชี โดยพิจารณาเปรียบเทียบจากรายการในงบการเงิน ซ่ึงจะเหมาะกับงบการเงินท่ีมีรายการไม ซับซอนมากนัก มีวิธีการทําโดยคํานวณการเปลี่ยนแปลงของบัญชีตางในงบดุล หลักในการพิจารณาเหมือนท่ี ไดอธิบายไวในวิธีการคํานวณ แตวิธีการวิเคราะหทางบัญชีอาจนําบัญชีแยกประเภทมาใชเพ่ือชวยใหการ วิเคราะหทําไดสะดวกข้ึน โดยพิจารณาจากความสัมพันธของเงินสดกับรายการบัญชีตางๆในงบดุล ไดจาก สมการ เงินสด = หนี้สิน + สว นของเจา ของ – สนิ ทรัพยท่มี ิใชเงนิ สด 384 3821302 หลกั การบญั ชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

ดังน้ันเงนิ สดจะเปล่ยี นแปลงไปในทิศทางเดียวกบั การเปลย่ี นแปลงของหน้ีสิน และสวนของเจาของ หมายความวา ถา หนส้ี นิ และสว นของเจา ของเปลย่ี นแปลงโดยการเพิ่มข้ึน จะสงผลทําใหเงินสดเพิ่มขึ้นดวย เชน การกูยืมเงิน การเพ่ิมทุน ทําใหเงินสดเพิ่มข้ึน การชําระหน้ี การจายเงินปนผล จะทําใหเงินสดลดลง ตาม หลักการบันทึกบัญชี หากหนี้สิน และสวนของเจาของเพ่ิมข้ึน จะบันทึกบัญชีทางดานเครดิตหรือทางขวาของ บัญชีแยกประเภท สวนเงินสดเปนบัญชีสินทรัพยจะบันทึกเพ่ิมทางดานเดบิตซ่ึงเปนการบันทึกทางดานซายของ บัญชีแยกประเภท สามารถเขียนการเปลี่ยนแปลงของเงินสดที่เปล่ียนแปลงไปในทิศทางเดียวกับการ เปล่ียนแปลงของหนสี้ นิ และสวนของเจาของ ในรูปบญั ชีแยกประเภทไดด ังภาพท่ี 14.2 บญั ชเี งนิ สด เพิ่มข้นึ ลดลง บญั ชหี น้ีสิน ลดลง เพ่ิมขนึ้ การจายชาํ ระเวินกู การกูยืมระยะสั้น การกูย มื ระยะยาว บญั ชีสวนของเจาของ ลดลง เพิม่ ขึน้ จายเงนิ ปน ผล ขายหนุ เพ่มิ ลดทุน ภาพท่ี 8.2 แสดงการเปล่ียนแปลงของบัญชเี งนิ สดเม่ือหน้ีสนิ และสว นของเจาของเปลย่ี นแปลง และจากสมการ เงินสดจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงขามกับการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย หมายความวา ถาสินทรัพยเปล่ียนแปลงโดยการเพิ่มข้ึน จะสงผลทําใหเงินสดลดลงและถาสินทรัพย เปลี่ยนแปลงโดยการลดลงจะสงผลทําใหเงินสดเพิ่มข้ึน ตามหลักการบันทึกบัญชี สินทรัพยเพ่ิมขึ้น จะบันทึก บัญชที างดา นเดบิตซ่ึงเปนการบันทึกทางดานซายของบัญชีแยกประเภท บัญชีสินทรัพยลดลงจะบันทึกทางดาน 385 3821302 หลกั การบญั ชีเบ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

เครดิตหรือทางขวาของบัญชีแยกประเภท สามารถเขียนการเปล่ียนแปลงของบัญชีเงินสดเม่ือสินทรัพยอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไดดงั ภาพที่ 14.3 บญั ชีเงนิ สด เพิม่ ขนึ้ ลดลง บัญชีสินทรพั ย เพม่ิ ข้ึน ลดลง ซือ้ สินทรพั ย ขายสนิ ทรพั ย ภาพที่ 8.3 แสดงการเปล่ียนแปลงของบัญชีเงินสดเม่อื สินทรัพยอืน่ ๆเปลย่ี นแปลง 3. วิธีกระดาษทําการ เปนการคํานวณหากระแสเงินสดโดยใชกระดาษทําการในการจัดทํา โดย จะมีขอมูลงบดุล ณ วันตนงวด ขอมูลการเปลี่ยนแปลง และกระทบยอดในระหวางงวด เพ่ือแสดงถึงกระแสเงิน สดที่ไดรับ และใชไปในระหวางงวด และขอมูลงบดุล ณ วันส้ินงวด จากนั้นจึงนําผลกระทบในระหวางงวดมา จัดทํางบกระแสเงินสดตอ ไป ซึง่ วิธนี ีจ้ ะเหมาะกับงบการเงนิ ของกจิ การท่มี รี ายการซบั ซอน ยากตอ การวเิ คราะห ตัวอยางการจัดทํางบกระแสเงนิ สด จากขอมูลที่ใชในการจดั ทาํ งบกระแสเงินสด ของบริษทั ดาว เหนือ จาํ กดั ประกอบดว ย งบดุล งบกําไรขาดทุน และรายละเอียดเพิม่ เติม ดงั น้ี 386 3821302 หลักการบญั ชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

บริษทั ดาวเหนอื จํากัด 31 ธ.ค. 25x4 งบดุลเปรียบเทียบ 57,800 ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 25x4 และ 25x5 123,500 31 ธ.ค. 25x5 108,900 65,000 สินทรพั ย - เงินสด 93,400 278,600 (87,400) ลูกหนีก้ ารคา (สุทธ)ิ 125,000 546,400 สินคาคงเหลือ 146,500 74,000 6,000 เงนิ ลงทนุ ระยะยาว - 15,700 70,000 ทดี่ ิน 145,000 200,000 180,700 อปุ กรณ 367,600 546,400 คาเสอื่ มราคาสะสม – อปุ กรณ (110,900) 724,700 423,100 รวม 766,600 301,600 หน้สี ินและสวนของผูถือหุน 82,400 126,400 เจา หน้ีการคา 175,200 คาใชจ า ยในการดาํ เนินงานคา งจาย 6,700 30,000 205,200 เงนิ ปน ผลคา งจาย 18,400 ทุนหุน สามญั (@ 10 บาท) 100,000 สวนเกนิ มลู คาหุนสามญั 320,000 กําไรสะสม 239,100 รวม 766,600 บรษิ ทั ดาวเหนอื จํากดั งบกําไรขาดทนุ สาํ หรับระยะเวลา 1 ปส ิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25x5 ขาย ตนทุนขาย กําไรขัน้ ตน คาใชจ ายในการเนนิ งาน : คา เสอ่ื มราคาอุปกรณ 23,500 คาใชจา ยดําเนนิ งานอื่นๆ 102,900 กําไรจากการดาํ เนนิ งาน รายไดและคา ใชจา ยอืน่ ๆ รายไดอ นื่ กาํ ไรจากการขายเงนิ ลงทุนระยะยาว กาํ ไรกอนภาษเี งินได 387 3821302 หลกั การบัญชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

ภาษีเงินได 73,200 กําไรสุทธิ 132,000 รายละเอียดเพ่ิมเตมิ ประกอบการพจิ ารณา 1. ซอื้ ท่ดี ินและอุปกรณเ ปนเงนิ สดในระหวางป 2. ไมมกี ารขายอปุ กรณใ นระหวา งป 3. ขายเงินลงทุนระยะยาวไดร บั เงินสด 95,000 บาท 4. ออกจําหนายหุน สามญั เปนเงินสด จาํ นวน 3,000 หุน ราคาหุน ละ 50 บาท 5. ประกาศจา ยเงินปนผล จาํ นวน 73,600 บาท 1. วิธกี ารคํานวณ ขั้นตอนการจัดทํางบกระแสเงินสดของ (วธิ ีทางตรง) มี 5 ขน้ั ตอนดงั ตอไปนี้ ขัน้ ท่ี 1 คํานวณหาการเปลี่ยนแปลงสุทธิในบัญชีเงินสด โดยการเปรียบเทียบระหวางยอดเงินสด ตนปกับยอดเงินสดคงเหลือปลายป เพื่อดูวาเงินสดเพิ่มขึ้นหรือลดลงสุทธิในระหวางปเปนจํานวนเทาใด ซ่ึง ตวั เลขทไี่ ดจ ะเปนตวั เลขเปาหมายทจ่ี ะนําไปแสดงในตอนทายของงบกระแสเงินสด ข้ันที่ 2 คํานวณหาการเปล่ียนแปลงสุทธิของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนเงินสด) เพื่อดูวามีการ เปล่ียนแปลงที่เพิ่มขน้ึ หรือลดลงในระหวา งป (ตวั อยา ง- บริษทั ดาวเหนือ จํากดั ) บรษิ ัทดาวเหนอื จาํ กัด งบดุลเปรยี บเทยี บ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 254x4 และ 25x5 31 ธ.ค. 31 ธ.ค. การ 25x5 25x4 เปลีย่ นแปลง สินทรพั ย (บาท) เงนิ สด 93,400 57,800 +35,600 ลกู หนี้การคา (สุทธิ) 125,000 123,500 +1,500 สินคา คงเหลอื 146,500 108,900 +37,600 เงินลงทุนระยะยาว 0 65,000 -65,000 ทีด่ ิน 145,000 0 +145,000 อุปกรณ 367,600 278,600 +89,000 คาเสื่อมราคาสะสม –อุปกรณ (110,900) (87,400) (+23,500) รวม 766,600 546,400 220,200 หน้ีสนิ และสว นของผถู ือหุน เจาหนีก้ ารคา 82,400 74,000 +84,000 คาใชจายในการดําเนินงานคางจาย 6,700 6,000 +7000 เงนิ ปนผลคา งจาย 18,400 15,700 +2,700 ทุนหุนสามยั (10 บาท) 100,000 70,000 +30,000 สวนเกนิ มูลคา หุนสามญั 320,000 200,000 +120,000 388 3821302 หลกั การบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

กําไรสะสม 239,100 180,700 +58,400 รวม 766,600 546,400 220,200 ขั้นท่ี 3 ใหนําผลการเปล่ียนแปลงของบัญชีสินทรัพยหมุนเวียน และหนี้สินหมุนเวียนไปปรับกับ รายการในงบกําไรขาดทุน ซง่ึ จะไดเ ปน กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดําเนนิ งานในแตละรายการ การปรับรายการในงบกําไรขาดทนุ ใหเปน รายการกระแสเงินสด รายการในงบกําไร การปรบั ปรุงรายการ กระแสเงินสด จาก ขาดทนุ บวก หัก กิจกรรมดําเนนิ งาน 1. ขาย 724,700 - สนิ ทรพั ยเพิ่ม 1,500 เงนิ สดรับจากลูกคา = 723,200 2. ตนทนุ ขาย 423,100 สินทรพั ยเพ่ิม เจาหน้เี พม่ิ 8,400 เงนิ สดุ จา ยซอื้ สินคา/เจาหนี้ 37,600 = 452,300 3. คา ใชจา ยในการ - คาใชจา ยคางจา ย เงนิ สดจายคาใชจา ย ดําเนินงาน 102,900 เพิ่มขึน้ 700 ดาํ เนนิ งาน = 102,000 4. ภาษีเงินได 73,200 - - เงนิ สดจายภาษี 73,200 จะไดกระแสเงนิ สดจากกิจกรรมดาํ เนนิ งาน ดังนี้ 723,200 เงนิ สดรบั จากลกู คา (452,300) เงินสดจายซ้ือสินคา (102,200) เงนิ สดจา ยคาใชจ า ยดําเนนิ งาน (73,200) เงินสดจา ยภาษเี งินได 95,500 (1) รวมกระแสเงนิ สดรบั (จาย) สทุ ธิจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน ขั้นท่ี 4 ใหนําผลการเปลี่ยนแปลงของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนบัญชีเงินสด, สินทรัพย หมุนเวียน และหน้ีสินหมุนเวียน) มาพิจารณาวาเปนสาเหตุทําใหเกิดกระแสเงินสดรับหรือกระแสเงินสดจายใน กจิ กรรมลงทุนหรือกจิ กรรมจัดหาเงิน จากตัวอยางของบริษัทดาวเหนือ จํากัด จะพิจารณากิจกรรมลงทุนจากบัญชีเงินลงทุนระยะยาว, บญั ชีทดี่ นิ , บัญชีอุปกรณและคาเส่ือมราคาสะสม สวนกิจกรรมจัดหาเงิน พิจารณาจากบัญชีเงินปนผลคางจาย, บญั ชีหนุ สามญั บัญชสี ว นเกินมูลคา หนุ สามัญ และบญั ชีกาํ ไรสะสม จะไดก ระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทนุ ดังนี้ เงินสดรบั จากการขายเงินลงทุนระยะยาว (1) 95,000 เงนิ สดจา ยซ้ืออปุ กรณ (2) (89,000) เงินสดจายซ้ือที่ดนิ (3) (145,000) กระแสเงินสดรับ (จา ย) สุทธิจากกจิ กรรมลงทุน (139,000) (2) กระแสเงินสดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ ดงั นี้ เงินสดจา ยปน ผล (4) (70,900) เงินสดรับจากการขายหนุ (5) 150,000 กระแสเงนิ สดรบั (จาย) สทุ ธจิ ากกจิ กรรมจดั หาเงิน 79,100 (3) 389 3821302 หลกั การบัญชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

การวเิ คราะหบัญชี (1) บัญชเี งนิ ลงทนุ ระยะยาว มีกรลดลงระหวางปจํานวน 65,000 บาท แสดงวากิจการมีขายเงินทุนระยะยาวและในงบ กําไรขาดทุนยังแสดงกําไรจากการขายเงินลงทุน 30,000 แสดงวากิจการไดรับเงินสดท้ังสิ้น 95,000 บาท จึง เปน กระแสเงนิ สดรบั จากกิจกรรมลงทุน (2) บัญชอี ปุ กรณและคาเส่ือมราคาสะสม - อุปกรณ อุปกรณมีการเพิ่มขึ้นระหวางป จํานวน 89,000 บาท แสดงวากิจการมีการจายเงินสดซื้อ อุปกรณ 89,000 จึงเปนกระแสเงนิ สดจายจากกิจกรรมลงทนุ คาเส่ือมราคาสะสม – อปุ กรณ เพมิ่ ข้ึน – ไมม ีผลกระทบตอ เงินสด (3) บัญชที ่ีดิน มีการเพิ่มข้ึนระหวางป 145,000 บาท แสดงวากิจการไดมีการจายเงินสดซ้ือที่ดินจึงเปน กระแสเงินสดจา ยจากกจิ กรรมลงทนุ (4) บญั ชีเงินปนผลคา งจาย และบญั ชกี าํ ไรสะสม บัญชีกําไรสะสมเพิ่มข้ึนระหวางป 58,4000 บาท เกิดจากกําไรสุทธิ 132,000 บาท และมี การประกาศจา ยเงินปนผลเปนจํานวน 73,600 บาท คาํ นวณเงนิ สดจา ยปนผล กําไรสะสม เงินปนผลคา งจา ย จายปนผล 73,600 ยอดยกมา 180,700 จายเงินสด 70,900 ยอดยกมา 15,700 ยอดยกไป 239,100 กาํ ไรสุทธิประจาํ ป 132,000 ยอดยกไป 18,400 ป ร ะ ก า ศ 73,600 จา ย ดังน้ันมีการจายปนผลเปนเงินสดจํานวน 70,900 บาท จึงเปนกระแสเงินสดจายจากกิจกรรม จัดหาเงิน (5) บญั ชีหุนสามัญและสว นเกินมลู คาหุนสามัญ หุนสามัญเพ่ิมขึ้นระหวางป 30,000 บาท และมีสวนเกินมูลคาหุนสามัญเพ่ิมขึ้น 120,000 เน่ืองจากการนําหุนออกจําหนายในราคาสูงกวาราคาตามมูลคา จึงเปนกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมจัดหาเงิน จาํ นวน 150,000 บาท ข้ันท่ี 5 นําเงินสดรับและเงินสดจายท่ีเกิดข้ึนในแตละกิจกรรม มาจัดทํางบกระแสเงินสด ซึ่งผลที่ ไดจะเทากบั เงินสดสุทธิท่เี พมิ่ ข้ึน (ลดลง) ในระหวา งงวด (จากการคาํ นวณขน้ั ที่ 1) 390 3821302 หลักการบญั ชีเบ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

บริษัทดาวเหนอื จํากดั งบกระแสเงินสด - วธิ ีทางตรง สาํ หรับระยะเวลา 1 ปสน้ิ สดุ วันที่ 31 ธันวาคม 25x5 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน เงนิ สดรับจากลูกคา 723,200 เงินสดจายซอ้ื สินคา (452,300) เงนิ สดจายคาใชจ ายดําเนนิ งาน (102,200) เงนิ สดจา ยคาภาษเี งินได (73,200) กระแสเงินสดรบั (จา ย) สทุ ธจิ ากกจิ กรรมดําเนินงาน 95,000 (1) กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทนุ (139,000) (2) เงินสดรับจากการขายเงนิ ลงทนุ ระยะยาว 95,000 79,100 (3) 35,600. เงนิ สดจายซือ้ อุปกรณ (89,000) เงินสดจายซื้อทดี่ ิน (145,000) กระแสเงินสดรบั (จา ย) สทุ ธิจากกจิ กรรมลงทนุ กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ 150,000 เงนิ สดรับจากการขายหนุ เงินสดจายปนผล (70,900) กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธิจากกิจกรรมจดั หาเงิน กระแสเงนิ สดสทุ ธทิ ่เี พิม่ ข้นึ (ลดลง) ระหวางงวด ข้นั ตอนการจัดทาํ งบกระแสเงนิ สดของวิธีคํานวณ(วิธที างออ ม) มี 5 ขั้นตอน ดงั ตอ ไปนี้ ขั้นท่ี 1 คํานวณหาการเปลี่ยนแปลงสุทธิในบัญชีเงินสด เพื่อดูวาเงินสดเพิ่มข้ึนหรือลดลงสุทธิใน ระหวา งปเปนจาํ นวนเทาใด ซง่ึ จะเปน ตัวเลขทเ่ี ปาหมายทีจ่ ะนําไปแสดงตอนทา ยของงบกระแสเงนิ สด ตวั อยา ง ขอ มูลบริษทั ดาวเหนือ เงนิ สดตน ป (31 ธ.ค. 25x4) 57,800 เงนิ สดปลายป (31 ธ.ค. 25x5) 93,400 เงินสดเพ่ิมข้ึนสุทธิ 35,600 ขน้ั ที่ 2 คํานวณหาการเปลีย่ นแปลงสุทธขิ องบัญชตี างๆ ในงบดุล (ยกเวน เงนิ สด) เพอ่ื ดวู ามีการ เปลี่ยนแปลงเพ่ิมขึน้ หรอื ลดลงในระหวางป มีผลกระทบตอเงนิ สดอยางไร และเปน กิจกรรมใด (ตวั อยาง บรษิ ทั ดาวเหนือ จํากัด) 391 3821302 หลักการบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

รายการ 31 ธ.ค. 31 ธ.ค. การ ผลกระทบ กิจกรรม 25x5 เงนิ สด 25x4 เปล่ียนแปลง ตอเงินสด ดาํ เนินงาน ลกู หน้ีการคา สุทธิ 93,400 ดาํ เนินงาน สินคา คงเหลอื 125,000 57,800 ลงทนุ เงินลงทุนระยะยาว 146,500 ลงทนุ ที่ดนิ 123,500 +1,500 ง/ส- ลงทนุ อุปกรณ 0 ดาํ เนนิ งาน คา เสอื่ มราคาสะสมอุปกรณ 145,000 108,900 +37,600 ง/ส- ดําเนนิ งาน เจา หน้ีการคา 367,600 ดําเนินงาน คา ใชจายในการดําเนนิ งานคางจาย (110,900) 65,000 -65,000 ง/ส+ จัดหาเงนิ เงินปนผลคางจาย 82,400 จัดหาเงิน ทนุ หนุ สามญั 0 +145,000 ง/ส- จดั หาเงนิ สวนเกนิ มูลคาหุนสามญั 6,700 ดําเนินงาน 18,400 278,600 +89,000 ง/ส+ จดั หาเงิน กาํ ไรสะสม 100,000 320,000 278,600 +89,000 ง/ส+ 239,100 74,000 +8,400 ง/ส+ 6,000 +700 ง/ส+ 15,700 +2,700 ง/ส+ 70,000 +30,000 ง/ส+ 200,000 +120,000 ง/ส+ 180,700 +58,400 ง/ส+ ง/ส- ขนั้ ที่ 3 คาํ นวณกระแสเงนิ สดสทุ ธิจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งานโดยวธิ ีทางออม ดังทก่ี ลา วมาแลว เชน กาํ ไรสทุ ธิ (จาก P/L) 132,000 บวก คาเสื่อมราคา – อปุ กรณ 23,500 หัก กาํ ไรจากการขายเงินลงทุนระยะยาว (30,000) 125,000 บวก รายการที่ทาํ ใหเ งินสดเพ่มิ ขน้ึ เจาหน้กี ารคา เพ่มิ ขน้ึ 8,400 คา ใชจายดาํ เนนิ งานคา งจายเพิม่ ข้ึน 700 9,100 134,600 หกั รายการท่ีทาํ ใหเ งนิ สดลดลง สนิ คาคงเหลือเพม่ิ ข้ึน (37,600) ลูกหน้เี พิ่มขึน้ (1,500) (39,100) กระแสเงนิ สดสุทธจิ ากกจิ กรรมดําเนนิ งาน 95,500 (1) ขั้นที่ 4 ใหนําผลการเปล่ียนแปลงของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนเงินสด, สินทรัพย หมุนเวียน และหน้ีสินหมุนเวียน) มาพิจารณาวาเปนสาเหตุทําใหเกิดกระแสเงินสดรับหรือกระแสเงินสดจายในกิจกรรม ลงทนุ หรอื กิจกรรมดาํ เนนิ งาน (ตวั อยา ง - เหมือนกบั วิธที างตรง) ขั้นท่ี 5 นําเงินสดรับและเงินสดจายที่เกิดข้ึนในแตละกิจกรรมมาจัดทํางบกระแสเงินสดซ่ึงผลท่ี ไดจะเทา กบั เงนิ สดสทุ ธทิ เี่ พม่ิ ข้นึ (ลดลง) ในระหวางงวด (จากการคาํ นวณ ขนั้ ท่ี 1) 392 3821302 หลกั การบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

บริษัทดาวเหนอื จํากดั งบกระแสเงนิ สด - วิธีทางออ ม สําหรบั ระยะเวลา 1 ปสิ้นสุดวันท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน กาํ ไรสุทธิ 132,000 บวก คาเสือ่ มราคา-อปุ กรณ 23,500 หกั กําไรขายเงินลงทนุ ระยะยาว (30,000) 125,500 บวก รายการที่ทําใหเงนิ สดเพิม่ ข้ึน 9,100 134,600 คา ใชจาย ดําเนินงานคา งจา ยเพิม่ ขึ้น 700 (39,100) 95,000 (1) เจา หน้กี ารคาเพ่ิมข้ึน 8,400 (139,000) (2) หกั รายการทที่ าํ ใหเงนิ สดลดลง 79,100 (3) สนิ คาเพิ่มขึ้น 37,600 35,600 . ลกู หน้ีเพ่ิมขน้ึ 1,500 กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สุทธิจากกจิ กรรมดําเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทนุ เงินสดรับจากการขายเงินลงทนุ ระยะยาว 95,000 เงินสดจา ยซือ้ อุปกรณ (89,000) เงินสดจา ยซอ้ื ท่ีดนิ (145,000) กระแสเงนิ สดรับ (จาย) สทุ ธิจากกิจกรรมลงทนุ กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมจดั หาเงนิ เงนิ สดรบั จากการขายหุนสามญั 150,000 เงนิ สดจา ยปน ผล (70,900) กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมจดั หาเงิน กระแสเงินสดสทุ ธทิ ่เี พิม่ ขน้ึ (ลดลง) ระหวางงวด วธิ กี ารวิเคราะหทางบญั ชี ข้ันท่ี1. คํานวณหาการเปลี่ยนแปลงสุทธิของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนเงินสด) เพ่ือดูวามีการ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงในระหวางป มีผลกระทบตอเงินสดอยางไร และจัดเปนกิจกรรมใด ดังตัวอยาง การวิเคราะหบ ัญชี ของ บริษทั ดาวเหนอื จาํ กัด 393 3821302 หลกั การบญั ชเี บื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

ชอ่ื บญั ชี งบดุล การเปลี่ยนแปลงระหวา งป งบดุล 31 ธ.ค.x4 Dr. Cr. 31 ธ.ค. x5 เงนิ สด 35,600 ลูกหนี้ (สทุ ธ)ิ 57,800 1,500 93,400 สินคา 123,500 37,600 125,000 เงินลงทนุ ระยะยาว 108,900 65,000 146,000 ทด่ี นิ 65,000 145,000 อุปกรณ 89,000 0 คาเสือ่ มราคาสะสมอปุ กรณ 0 23,500 145,000 เจา หนก้ี ารคา 278,600 8,400 367,600 คาใชจ ายคางจาย (87,000) 700 (110,900) เงินปนผลคางจาย (74,000) 2,700 (82,400) ทนุ หนุ สามัญ @10 (6,000) 30,000 (6,700) สวนเกนิ มูลคาหุนสามัญ (15,700) 120,000 (18,400) กาํ ไรสะสม (70,000) 73,600 132,000 (100,000) รวม (200,000) (320,000) (180,700) (239,100) 0 0 ขั้นท่ี 2. นําผลการวิเคราะหไปเขียนลงในบัญชีแยกประเภทเงินสด และบัญชีท่ีเกี่ยวของโดยเขียน ทางดา นเดบติ ถาการเปล่ียนแปลงน้ันทําใหเงินสดเพ่ิมข้ึน และเขียนทางดานเครดิตถาการเปล่ียนแปลงน้ันทําให เงนิ สดลดลง สว นบญั ชีทีเ่ กย่ี วขอ งจะอยดู า นตรงขามกับเงนิ สด โดยแยกตามกจิ กรรมกระแสเงนิ สด ดังตอ ไปน้ี ยอดยกมา บญั ชีเงนิ สด 57,800 กระแสเงินสดจากกจิ กรรมดาํ เนินงาน กําไรสทุ ธ(ิ 1) 132,000 คา เสอ่ื มราคาสะสมอุปกรณเ พ่ิมขึ้น(7) 23,500 ลกู หนีก้ ารคาเพิ่มขนึ้ (2) 1,500 37,600 คาใชจายคางจายเพมิ่ ขนึ้ (9) 700 สนิ คาคงเหลอื เพ่มิ ขนึ้ (3) 145,000 เจาหนก้ี ารคาเพ่ิม(8) 8,400 89,000 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทุน เงินลงทนุ ระยะยาวลดลง(4) 65,000 ท่ีดินเพ่มิ ข้ึน(5) อปุ กรณเพิม่ ขึน้ (6) 394 3821302 หลักการบัญชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

กระแสเงินสดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ เงินปน ผลคางจายเพม่ิ ขนึ้ (12) 2,700 จา ยปนผล 73,600 ทุนหนุ สามญั เพิ่มขนึ้ (10) 30,000 สวนเกินมูลคา หุนสามัญเพมิ่ ขนึ้ (11) 120,000 ลูกหน(้ี สุทธิ) ยอดยกมา สินคา 146,500 ยอดยกมา 123,500 ยอดยกไป 125,000 (3) 108,900 ยอดยกไป +37,600 (2) +1,500 เงินลงทุนระยะยาว ทด่ี นิ ยอดยกมา 65,000 ยอดยกไป - ยอดยก - ยอดยกไป 145,000 (4) 65,000 (5) 145,000 อุปกรณ คาเสื่อมราคาสะสม-อุปกรณ ยอดยกมา 278,600 ยอดยกไป 367,600 ยอดยกไป 110,900 ยอดยกมา 87,400 (6) 89,000 (7) 23,500 ยอดยกไป เจาหนีก้ ารคา 74,000 ยอดยกไป คาใชจา ยคา งจา ย 6,000 82,400 ยอดยกมา 8,400 6,700 ยอดยกมา 700 (8) (9) ทุนหุน สามญั 70,000 ยอดยกไป เงนิ ปน ผลคา งจา ย 15,700 ยอดยกไป 100,000 ยอดยกมา 30,000 18,400 ยอดยกมา 2,700 (10) (12) สว นเกินมูลคา หนุ 200,000 ยอดยกไป กําไรสะสม ยอดยกไป 320,000 ยอดยกมา 120,000 จายปนผล 239,100 ยอดยกมา 180,700 73,600 +กาํ ไรสทุ ธิ(1) 132,000 (11) 395 3821302 หลกั การบญั ชเี บือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

ข้นั ที่ 3. นาํ รายการในบัญชเี งินสดทจ่ี ดั ทําไวม าทํางบกระแสเงินสด บริษัทดาวเหนอื จํากัด งบกระแสเงินสด - วิธที างออ ม สําหรับระยะเวลา 1 ปส้ินสุดวันท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน กาํ ไรสทุ ธิ 132,000 บวก คาเส่ือมราคา-อปุ กรณ 23,500 หกั กาํ ไรขายเงนิ ลงทุนระยะยาว (30,000) 125,500 บวก รายการท่ีทาํ ใหเ งนิ สดเพม่ิ ขนึ้ 9,100 134,600 คา ใชจ า ย ดาํ เนินงานคางจายเพิ่มข้ึน 700 (39,100) 95,000 (1) เจาหน้ีการคา เพิ่มข้ึน 8,400 (139,000) (2) หัก รายการที่ทาํ ใหเงนิ สดลดลง 79,100 (3) สนิ คาเพิ่มข้ึน 37,600 35,600 ลูกหน้ีเพ่ิมขนึ้ 1,500 กระแสเงนิ สดรับ (จาย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมดาํ เนนิ งาน กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทนุ เงนิ สดรับจากการขายเงินลงทนุ ระยะยาว 95,000 เงนิ สดจายซ้อื อปุ กรณ (89,000) เงนิ สดจายซ้อื ท่ีดิน (145,000) กระแสเงินสดรบั (จาย) สทุ ธิจากกจิ กรรมลงทนุ กระแสเงินสดจากกิจกรรมจดั หาเงนิ เงนิ สดรบั จากการขายหุนสามญั 150,000 เงินสดจายปน ผล (70,900) กระแสเงินสดรบั (จาย) สุทธิจากกจิ กรรมจัดหาเงิน กระแสเงินสดสทุ ธิท่ีเพิม่ ขนึ้ (ลดลง) ระหวางงวด 396 3821302 หลกั การบญั ชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

สรุป งบแสดงการหมุนเวียนเปนงบท่ีแสดงรายละเอียดการเคล่ือนไหวของเงินทุนในระหวางงวดของ กจิ การ ประกอบดว ย งบกําไรขาดทุน งบแสดงการเปล่ียนแปลงฐานะการเงนิ งบแสดงแหลงที่มาและการใชไป ของเงินทุนดําเนินงานสุทธิ และงบแสดงการรับและจายเงินสดหรืองบกระแสเงินสดเปนงบท่ีแสดงรายละเอียด การเคลื่อนไหวของเงินทุนในระหวางงวดโดยผานบัญชีเงินสดที่เกิดข้ึนโดยเฉพาะ หรืออีกนัยหน่ึงคือรายการที่ เกดิ ขน้ึ ในบัญชเี งินสดนน่ั เอง เงินทุนดําเนินงานหมายถึงเงินทุนดําเนินงานสุทธิเปนสวนเกินของทรัพยสิน หมุนเวียนที่มีมากกวา หน้ีสินหมุนเวียน เงินทุนดําเนินงานเปนรายการที่เกิดจากการดําเนินงานเปนสวนใหญ หรือเกิดเพราะรอบการ ดําเนินงาน เชน ซ้ือสินคาดวยเงินสด ขายสินคาไดกลายเปนลูกหนี้ และเปลี่ยนจากลูกหน้ีเปนเงินสดโดยการ เรียกเก็บเงินจากลูกหน้ี แลวนําไปซ้ือสินคาอีกเปนอยางนี้เรื่อย ๆ ไป การวิเคราะหเงินทุนดําเนินงาน จะทําให กิจการทราบวากิจการควรจะวางแผนการจัดหาทรัพยากร มาใชในการดําเนินงานหรือลงทุนโดยวิธีใด กิจการ ควรจะเลือกการลงทุนหรือซ้ือทรัพยสินประเภทใดจึงจะไดประโยชนสูงสุด กิจการควรวางแผนการใชทรัพยากร หรือใชเงินทุนอยางไร กิจการควรจะกําหนดการวางแผนไถถอนชําระหน้ีระยะยาวและกําหนดนโยบายการ จายเงนิ ปน ผลทเี่ หมาะสม การวิเคราะหเ งินทุนดําเนินงาน อาจทําไดจ ากการจัดทํางบแสดงการเปลี่ยนแปลงเงนิ ทนุ ดําเนนิ งาน สุทธิ งบทีแ่ สดงแหลง ทีม่ าของทนุ ดําเนินงาน และงบกระแสเงนิ สด งบกระแสเงินสด เปนรายกงานท่ีแสดงแหลงที่มาและใชไปของเงินสดท่ีเกิดขึ้นในระหวางงวด โดยจะแบง กจิ กรรมทก่ี อใหเกิดเงินสดเปน 3 กิจกรรม คือ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรม ลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน การรายงานกระแสเงินสดสามารถจัดทําได 3 วิธี คือ วิธี ทางตรงกับวิธีทางออม โดยอาศัยขอมูลจากงบดุลเปรียบเทียบ งบกําไรขาดทุนระหวางป และขอมูลอ่ืนๆ ท่ี เก่ียวของ งบกระแสเงินสดจะแสดงใหเห็นถึงแหลงที่มาและใชไปของเงินสดที่เกิดขึ้นในระหวางปซ่ึงจะมี ประโยชนตอผูใชงบการเงินในการประเมิน ความสามารถในการบริหารเงินสดของกิจการความสามารถของ กิจการท่ีจะกอใหเกิดกระแสเงินสดรับในอนาคต ความสามารถของกิจกากรในการจายชําระหน้ีสินและเงินปน ผล สาเหตทุ ่ที ําใหเ กดิ ความแตกตา งกันระหวา งกาํ ไรสทุ ธกิ บั กระแสเงนิ สดสทุ ธจิ ากกจิ การดําเนินงาน 397 3821302 หลักการบัญชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

แบบฝก หัด 1. จงอธิบายความหมายของงบแสดงการหมุนเวียน 2. จงอธิบายความหมายของการวเิ คราะหเ งินทุนดําเนนิ งานและเงินสด 3. จงอธบิ ายความสําคัญของการวิเคราะหเ งนิ ทนุ ดําเนินงานและเงินสด 4. จงอธบิ ายการวเิ คราะหเ งินทนุ ดาํ เนินงานและเงนิ สด 5. จงอธิบายข้ันตอนในการวิเคราะหเงนิ ทุนดาํ เนนิ งาน 6. ในงบกระแสเงนิ สดประกอบดวยกระแสเงินสดจากกจิ กรรมใดบาง 7. จากรายการตอไปน้ี ใหร ะบวุ า เปนกระแสเงนิ สด จากกิจกรรมใด หรอื ไมม ผี ลกระทบตอ เงนิ สด กิจกรรม กจิ กรรมลงทนุ กจิ กรรม ไมกระทบ ดาํ เนินงาน จัดหาเงนิ เงนิ สด ออกจาํ หนา ยหนุ สามญั เพ่มิ ทนุ จา ยเงินสดปน ผล ขายเงนิ ลงทนุ ระยะยาว ไถถ อนหนุ บรุ มิ สิทธ์ิ ซ้อื อปุ กรณส ํานักงาน กําไรสทุ ธิ ออกหุนสามัญและกับทด่ี นิ เงินกรู ะยะส้ันเพิ่มขึน้ เงินฝากประจํา 2 ป จายคา แรงพนักงาน ซือ้ ทดี่ ิน คาเสือ่ มราคา จายภาษีเงินได ซ้ือหลักทรัพยในความตองการของ ตลาด รบั ชาํ ระจากลูกคา ไถถอนหนุ บรุ มิ สิทธ์ิ จายซ้อื สินคา ชาํ ระคนื เงนิ กู ไถถ อนหนุ กู ขาดทนุ สทุ ธิ 398 3821302 หลักการบัญชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

8. จากรายการตอ ไปน้ี ใหร ะบุวา นําไปบวกหรือหักกําไรสุทธิ เพ่ือคํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน- วิธที างออ ม กจิ กรรม กิจกรรมลงทุน กิจกรรม ไมก ระทบ ดําเนนิ งาน จดั หาเงนิ เงนิ สด บัญชลี ูกหน้เี พมิ่ ข้นึ บัญชเี จาหน้ีลดลง คา เส่อื มราคาสินทรัพย หน้สี ญู คา แรงคา งจายเพิ่มข้นึ ขาดทุนจากการขายสนิ ทรัพย คาเบ้ียประกนั จายลวงหนา เพิ่มข้นึ คา ตัดจาํ หนายสทิ ธิบตั ร สนิ คาคงเหลือลดลง 9. บริษัทบานสวย จํากัด มีกําไรสุทธิประจําป 25x5 จํานวน 134,800 บาท มีคาเสื่อมราคาอุปกรณ 27,400 บาท มีรายละเอยี ดของงบดลุ บางสวน ดังน้ี 31 ธ.ค. 25x5 31 ธ.ค. 25x4 เงินสด 23,500 37,400 ลูกหน้สี ทุ ธิ 98,500 94,350 สนิ คาคงเหลอื 100,200 94,300 คาใชจา ยลวงหนา 5,760 6,090 เจาหนกี้ ารคา 71,600 69,100 เงนิ เดอื นคา งจาย 5,580 6,710 ใหทํา คํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมดาํ เนนิ งานสุทธิ (วธิ ีทางออม) ในงบกระแสเงินสด 11. ขอมลู บงสว นจากงบการเงนิ ของบริษทั เพชร จํากดั มีดังนี้ ขาย 240,000 บาท ตน ทนุ ขาย 152,000 บาท กาํ ไรสทุ ธิ 12,400 บาท 31 ธ.ค. 25x5 31 ธ.ค. 25x4 เงินสด 77,600 60,000 ลูกหน้ี 32,000 34,400 สินคา 46,400 39,200 เจาหนี้การคา 28,000 25,600 ใหท ํา จากขอมูลขา งตน คาํ นวณหา 1. จาํ นวนเงินสดทไ่ี ดร บั ชําระลกู หนี้ 2. จํานวนเงินสดทจ่ี า ยชําระแกเ จา หน้ี 399 3821302 หลกั การบัญชเี บือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

12. ขอ มลู บางสวนจากงบการเงิน ของบรษิ ทั พลอย จาํ กัด มดี ังนี้ ตน ป ปลายป อปุ กรณสุทธิ 145,400 บาท 145,800 คา เสอ่ื มราคาประจําป มจี ํานวน 12,000 บาท ในระหวา งปม ีการซื้ออุปกรณเ พิม่ ราคาทุน 72,000 บาท และมีการขายอุปกรณไปโดยเกิดผล “ขาดทุน จากการขายสนิ ทรัพย” จาํ นวน 27,200 บาท ใหท ํา คาํ นวณจาํ นวนเงนิ สดรับทไ่ี ดจากการขายอุปกรณใ นระหวา งป จัดเปน กิจกรรมใดใน งบกระแสเงนิ สด 13. ขอมลู เกีย่ วกับกาํ ไรสะสมของบริษทั มรกต จาํ กัด มดี งั นี้ 31 ธ.ค. 25x5 31 ธ.ค. 25x4 กําไรสะสม 84,000 70,000 เงินปนผลคา งจา ย 6,000 4,000 และกําไรสุทธิประจาํ ป 84,000 บาท ใหท าํ คาํ นวณจาํ นวนเงนิ ปน ผลที่จายในระหวางป จัดเปนกิจกรรมใดในงบกระแสเงินสด 14. บรษิ ทั จนิ นี่ จาํ กัด มีรายการคา ทเ่ี กดิ ขนึ้ บางในในระหวางป 25x5 ดังนี้ 1. ขายอปุ กรณไ ปในราคา 30,000 บาท โดยอุปกรณมีราคาทุน 90,000 บาท มคี า เสอื่ ม ราคาสะสมถึงวนั ขายเทา กบั 64,500 บาท 2. ซื้อท่ีดินมูลคา 950,000 บาท โดยจายเงินสด 30,000 บาท และสวนที่เหลือออกตั๋วสัญญาใชเงิน อายุ 90 วนั ให 3. ซื้อหนุ สามญั ของธนาคารกรงุ ไทย ราคา 50,000 บาท 4. ชําระหนีร้ ะยะยาว 20,000 บาท 5. จายปน ผลเปนเงนิ สด 100,000 บาท 6. ซ้อื เครอื่ งจกั ใหม ราคา 50,000 บาท 7. ซือ้ พนั ธบตั รของธนาคารแหง ประเทศไทย อายุ 5 ป จาํ นวน 50,000 บาท 8. ออกจาํ หนา ยหุน สามัญเพม่ิ ทนุ 20,000 หุน ในราคาหุนละ 15 บาท ราคาตามมูลคา (@ 10 บาท) 9. กเู งินจากธนาคาร จํานวน 200,000 บาท โดยออกตวั๋ สัญญาใชเ งิน กาํ หนด 2 ป 10. ออกหนุ สามญั เพอ่ื ชาํ ระหนีร้ ะยะยาว 1,000 หนุ ในราคาตามมลู คา @ 10 บาท ใหท าํ คาํ นวณกระแสเงินสดสุทธิจากกจิ กรรมลงทนุ และกจิ กรรมจดั หาเงนิ ในงบกระแสเงนิ สด 400 3821302 หลกั การบญั ชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

15. บริษัทนํ้าทิพย จํากัด มีรายการตางๆ ในงบดุล (ซึ่งไมไดจัดทําตามแบบงบดุลท่ีดี) ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 25x5, 25x4 ดงั ตอ ไปนี้ (ป 25x5) (ป 25x4) ลกู หนกี้ ารคา 523,000 385,000 เงินสด 354,100 142,000 สนิ คา คงเหลอื 625,000 816,000 คา ใชจา ยลว งหนา 46,000 67,000 อาคารและอุปกรณ 280,000 225,000 รายไดค า งรับ 72,000 38,000 คาเสือ่ มราคาสะสม – อาคารและอปุ กรณ (89,100) (90,000) ทด่ี ิน 2,750,000 2,000,000 รวมสนิ ทรัพย 4,563,000 3,583,000 เจาหน้กี ารคา 389,000 327,000 คา ใชจา วคางจาย 37,000 186,000 ดอกเบยี้ คางจาย 52,000 77,000 ตว๋ั เงินจายระยะยาว 1,000,000 500,000 หนุ กู 125,000 250,000 หุนสามญั 2,000,000 1,500,000 กาํ ไรสะสม 960,000 743,000 รวมหน้ีสนิ และสว นผูถ ือหุน 4,563,000 3,586,000 บรษิ ทั ฯ มกี ําไรสทุ ธิตามงบกําไรขาดทุนป 25x5 จํานวน 317,000 บาท และมีขอ มูลเพิ่มเตมิ ตอไปน้ี 1. มกี ารออกจาํ หนา ยหุนสามัญเพ่ิมทุน 50,000 หนุ ในราคาหุนละ 10 บาท 2. มีการซ้ือท่ีดินมูลคา 750,000 บาท โดยออกชําระเปนต๋ัวเงินจายระยะยาว 500,000 บาท และ สวนทีเ่ หลือชาํ ระเปน เงนิ สดทันที่ 3. มีการคิดคา เสอ่ื มราคา – อาคารและอปุ กรณ ระหวา งป จํานวน 22,500 บาท 4. มกี ารซอื้ อปุ กรณสาํ นักงานเพิ่มเตมิ ระหวา งป 135,000 บา และมีการขายอุปกรณสํานักงานท่ีไมได ใชง านราคาทนุ 78,000 บาท มคี า เสอื่ มราคาสะสม 23,400 บาท ในราคาขาดทนุ 12,000 บาท 5. มีการจายเงนิ ปน ผล 100,000 บาท และมีการจายชาํ ระหนุ กใู นระหวา งป 125,000 บาท ใหทํา งบกระแสเงนิ สดโดยใชวธิ ีทางออม 401 3821302 หลกั การบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

16. ตอ ไปนเ้ี ปน งบกําไรขาดทุนและงบดลุ ของบริษทั พลอยสอ ง จาํ กดั งบกําไรขาดทนุ สาํ หรบั ระยะเวลา 1 ปส น้ิ สดุ วันท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 ขาย 2,000,000 1,100,000 หัก ตนทุนขาย 900,000 กําไรขั้นตน 500,000 หัก คาใชจ ายดาํ เนนิ งาน 400,000 คา ใชจ ายในการขาย 440,000 คา เส่อื มราคา 50,000 หนีส้ งสยั จะสญู 10,000 กําไรสทุ ธิ สนิ ทรพั ย งบดลุ 120,000 เงินสด ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x4และ 25x5 320,000 ลกู หนี้สุทธิ 70,000 สนิ คา 100,000 35,000 คา ใชจ ายลว งหนา 300,000 1,350,000 สนิ ทรพั ยถ าวรสทุ ธิ 80,000 1,895,000 50,000 1,000,000 1,530,000 หนส้ี ินและทนุ 200,000 100,000 เจาหนี้ 0 500,000 เงินกูร ะยะยาว 20,000 คาใชจายคา งจา ย 30,000 50,000 เงินปน ผลคางจา ย 100,000 1,100,000 ทนุ เรือนหนุ 1,000,000 125,000 กําไรสะสม 200,000 1,895,000 1,530,000 ขอ มลู เพ่มิ เตมิ : ไมมกี ารขายสินทรพั ยถ าวรในระหวางป สนิ้ ปกิจการทาํ การซือ้ สินทรัพย ถาวรเขา มาจํานวนหนงึ่ ใหทํา งบกระแสเงินสดวธิ ที างออ ม สาํ หรบั ระยะเวลา 1 ปสน้ิ สดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x5 402 3821302 หลักการบญั ชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

บรรณานกุ รม กชกร เฉลิมกาญจนา และคณะ. (2545). การบญั ชีการเงนิ 2. (พมิ พค รัง้ ท่ี 3). เทก็ ซ แอนดเจอรน ลั พบั ลเิ คช่ัน . กชกร เฉลิมกาญจนา, วชริ ะ บุณยเนตร, ปริญดา มณีโรจน, และสุพัชชา โมรากุล. (2545). การบญั ชกี ารเงนิ . กรุงเทพมหานคร: แอคทฟี พริน้ ท. กตญั ู หิรญั ญสมบรู ณ. (2546). การจดั การธุรกิจขนาดยอ ม. พมิ พครั้งที่ 6.กรงุ เทพมหานคร: เทก็ ซ แอนด เจอรนัล พับลเิ คชัน่ กรมทะเบยี นการคา.(2544).คาํ ชี้แจงกรมทะเบยี นการคา เร่ืองการกําหนดรายการยอทีต่ อ งมใี นงบการเงิน. กอบแกว รตั นอบุ ล. (2548). การบญั ชีชั้นกลาง. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร. กัลยาภรณ ปานมะเริง เบอรค. (2546). การบัญชีการเงิน. กรุงเทพมหานคร: สํานกั พมิ พทอ ป. กาญจนา ศรพี งษ. (2545). การบัญชีการเงิน. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร. กงิ่ กนก พทิ ยานุคณุ , สุนทรี จรูญ,รวิวลั ย ภิยโยพนากลุ . (2545). การบัญชตี นทนุ . กรุงเทพมหานคร :มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร. เชาวลยี  พงศผ าติโรจน. (2546). การบัญชีขัน้ ตน 2. กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย. ดวงมณี โกมารทตั . (2546). การบญั ชีตนทุน. (พมิ พคร้งั ท่ี 9).กรงุ เทพมหานคร:จุฬาลงกรณมหาวิทยาลยั . ดวงสมร อรพินท, กชกร เฉลิมกาญจนา, แพร กีระสุนทรพงษ, ปริญดา มณีโรจน, และสมพงษ พรอุปถัมภ. (2546). การบัญชีการเงิน. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลัย ดุษฎี สงวนชาติ และคณะ. (2546). การบญั ชีช้ันกลาง. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณมหาวิทยาลยั . ตลาดหลักทรัพยแหง ประเทศไทย. (2543). มาตรฐานการบญั ชี แนวทางในการปฏบิ ัติ และตัวอยางการเปด เผย ขอ มูล.กรงุ เทพมหานคร: แอล. ท.ี ทวีเกยี รติ มีนะกนิษฐ. (2546). กฎหมายเบอ้ื งตน ทางธรุ กิจ. (พิมพครงั้ ท่ี 10). กรุงเทพมหานคร :มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร. ธารี หริ ญั รัศมแี ละคณะ. (2547). การบญั ชีการเงนิ . กรงุ เทพมหานคร:วิทยพัฒน. ธารนิ ี พงศส ุพัฒน. (2548). การบญั ชีสินทรพั ย. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร. ธรี ะพล อรณุ ะกสิกรและคณะ. (2548). ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย บรรพ 1-6 ฉบับทนั สมยั . กรงุ เทพมหานคร:วิญชู น. นักบัญชแี ละผสู อบบัญชีรับอนญุ าตแหงประเทศไทย,สมาคม. (2538). ศทั พบ ัญช.ี (พมิ พค รง้ั ท่ี 6).กรุงเทพมหานคร: พ.ี เอ.ลีฟว่ิง. . (2544). มาตรฐานการบญั ชีของประเทศไทยฉบบั รวมเลม พ.ศ.2544 เลม1.กรงุ เทพมหานคร: พี.เอ.ลฟี วง่ิ . ________. (2546). มาตรฐานการบญั ชีของไทย ฉบบั รวมเลม (ปรับปรุง พ.ศ. 2546) เลม 1. กรุงเทพมหานคร: พี.เอ. ลิฟว่ิง

________. (2546). มาตรฐานการบัญชีของไทย ฉบบั รวมเลม (ปรบั ปรุง พ.ศ. 2546) เลม 2กรุงเทพมหานคร: พ.ี เอ. ลิฟวิ่ง. พรรณนิภา รอดวรรณะและคณะ. (2550). การบัญชีข้ันกลาง2.กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม หาวทิ ยาลัย. เมธากุล เกียรติกระจายและศิลปพร จั่นเพชร. (2544). ทฤษฎีการบญั ชี. พิมพคร้งั ที่ 10. กรุงเทพมหานคร: บุญศิรกิ ารพิมพ. เยาวลกั ษณ ชาติบญั ชาชัย. (2545). เอกสารการสอนชดุ วชิ า คอมพวิ เตอรก บั การบัญชหี นวยที่ 8-15. นนทบรุ :ี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช. สภาวิชาชพี บญั ชี.(2550). แมบ ทการบัญชี.(พิมพค ร้ังท่ี8).กรุงเทพมหานคร: พี.เอ.ลฟี วิ่ง _____________.(2551). มาตรฐานการบญั ชีฉบบั ท3่ี 1(ปรบั ปรุง2550) เรอ่ื งสินคา คงเหลอื .พมิ พครงั้ ท่ี3). กรุงเทพมหานคร: (พ.ี เอ.ลฟี วงิ่ . _____________.(2550). มาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที3่ 3(ปรับปรงุ 2550) เร่อื งตนทุนการกยู มื (พิมพคร้ังที่2). กรงุ เทพมหานคร: พี.เอ.ลฟี ว่งิ . _____________.(2550). มาตรฐานการบัญชฉี บบั ท่ี35(ปรบั ปรุง2550) เรือ่ งการนาํ เสนองบการเงนิ (พิมพค รั้งท1่ี ). กรงุ เทพมหานคร: พ.ี เอ.ลฟี วิ่ง. _____________.(2551). มาตรฐานการบญั ชฉี บับท5่ี 1 (ปรับปรงุ 2550) เร่ืองสนิ ทรัพยไมม ตี วั ตน (พมิ พค ร้งั ท่ี1) .กรงุ เทพมหานคร: พ.ี เอ.ลีฟวิ่ง. สมใจ จันทรเ ต็ม. (2545). หลกั การบัญชี 2. กรงุ เทพมหานคร: หา งหนุ สวนจาํ กัด ทพี เี อ็น เพรส. สมชาย หิรญั กติ ตแิ ละศิรวิ รรณ เสรรี ัตน. (2542). การบรหิ ารธรุ กจิ ขนาดยอ ม. กรุงเทพมหานคร: ธรี ะฟลม และไซเทก็ ซ จาํ กัด. สมเดช โรจนคุรีเสถยี ร.(2545).การบญั ชีภาษีอากรของธุรกจิ ทไ่ี ดรบั การสง เสริมการลงทุน.(พมิ พคร้งั ท่ี 4). กรงุ เทพมหานคร: ธรรมนิติ เพรส. สมุ นา เศรษฐนันท. (2546). การจดั ทําบัญชแี ละงบการเงินตาม พ.ร.บ. บัญชี พ.ศ. 2543. (ฉบับสมบูรณ). พิมพ ครั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม หาวทิ ยาลัย. สโุ ขทัยธรรมาธิราช,มหาวทิ ยาลัย. (2545). เอกสารการสอนชุดวิชา การบญั ชีการเพอ่ื และการบญั ชีเพือ่ การจดั การ สาํ หรบั นักการเงนิ . (พมิ พคร้งั ที่ 4)กรงุ เทพมหานคร: นา่ํ กงั การพิมพ. . (2545). เอกสารการสอนชุดวชิ า การบญั ชีขนั้ กลาง 2 (ฉบบั ปรับปรงุ ). (พิมพค รัง้ ท่ี 5).นนทบุรี ชวนพิมพ. 404 3821302 หลักการบัญชีเบอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)

สรุ ียพ ร จารุวสั ตร. (2542). การบญั ชตี นทนุ .(พมิ พคร้งั ท่ี 4).กรุงเทพมหานคร. สุวมิ ล เหลอื งประเสรฐิ . (2545). คอมพวิ เตอรก ับการบญั ช.ี พิมพค รง้ั ที่ 4. นนทบุร:ี สุโขทยั ธรรมาธริ าช. เสนีย พวงยาณี, มัณฑนา ไตรสิทธิ,์ จุฑาทิพย สองเมอื ง, และศริ ิมา แกว เกดิ . (2548). การบัญชีข้ันตน 2. กรงุ เทพมหานคร: ทริปเพ้ิล เอ็ดดเู คชัน่ . ราชบัณฑติ ยสถาน. (2546). ศัพทเศรษฐศาสตร อังกฤษ-ไทย ไทย-อังกฤษ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน. กรงุ เทพมหานคร:อรุณการพิมพ. เรวตั ิ ตันตยานนท. (2546). กอรา งสรา งกิจการ. (พิมพค ร้งั ท่ี 2). กรงุ เทพมหานคร:ตลาดหลักทรัพยแ หง ประเทศไทย. วรรณวภิ า ทพั วงศ. (2543). การบญั ชกี ารเงิน. กรงุ เทพมหานคร: ศนู ยหนงั สอื มหาวทิ ยาลยั ธุรกิจบัณฑิตย. วช นพี ร เศรษฐสักโก.(2544). ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี.(พมิ พครง้ั ท่ี 2). กรงุ เทพมหานคร:ว.ี เจ.พรนิ้ ต้งิ วัฒนะ ศิวะเกือ้ , ดษุ ฎี สงวนชาติ, และนนั ทพร พิทยะ. (2548). การบญั ชีช้ันตน. พิมพครั้งท่ี 3.กรงุ เทพมหานคร: ดา นสทุ ธาการพมิ พ. วพิ ฒั น พฒั นพูนสนิ . (2540). การบัญชหี นีส้ นิ และสวนของเจาของ. กรุงเทพมหานคร: นลี นารา การพิมพ. อรวรรณ หันแมนเทพอมรและคณะ.(2551).รูลกึ มาตรฐานการบัญชี รูว ิธีวิเคราะหงบการเงนิ .กรงุ เทพมหานคร. ชวนพมิ พ5 0. อรุณี อยางธารา, อรสา วีระประดษิ ฐ, ณัฏฐพร เหลา ธรรมทัศน, และวิภาดา ตันติประภา. (2539). การบัญชกี ารเงนิ . กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร. อังคณา นตุ ยกุล. (2549). บัญชีชน้ั กลาง. กรุงเทพมหานคร: ศูนยหนังสอื มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ . องั ครัตน เพรียบจริยวัฒน. (2547). มาตราฐานการบัญชี สาระสาํ คัญและตัวอยา งการเปดเผยขอ มูล ธันวาคม 2546.กรุงเทพมหานคร:บุญศิริการพิมพ. อัมพร ณ ตะกวั่ ทุง. (2548). คําอธิบาย กฎหมายแพง และพาณชิ ย ลกั ษณะตั๋วเงิน.กรงุ เทพมหานคร.นิติบรรณการ. อํานวย ศรสี ุโข. (2547). การบัญชี 2. กรุงเทพมหานคร: บญุ ศิรกิ ารพิมพ. Brealey, R. A., & Myers, S. C. (2002). Principle of corporate finance. (6thed.). McGraw-Hill. Collin, P.H. ,David York , Adrian Joliffe. (2001). Dictionary of Accounting. (2nd ed.). Peter Collin Publishing Ltd. Weygandt, J. J., Kieso, D. E. & Kimmel, P. D. (2005). Accounting principle. (7thed.). New York: John Wiley & Sons, Inc. 405 3821302 หลักการบญั ชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

406 3821302 หลกั การบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

ภาคผนวก พระราชบญั ญัติ การบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓ ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วนั ที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ เปนปท ี่ ๕๕ ในรัชกาลปจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ใหประกาศวา โดยทเ่ี ปนการสมควรปรับปรงุ กฎหมายวาดว ยการบญั ชี พระราชบญั ญัตนิ ม้ี ีบทบัญญตั ิบางประการเกี่ยวกับการจํากดั สิทธิและเสรภี าพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบ กับมาตรา ๓๕ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐ ของรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทย บัญญัตใิ หก ระทําไดโดยอาศัย อาํ นาจตามบทบญั ญตั แิ หงกฎหมาย จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ ดยคาํ แนะนาํ และยินยอมของรัฐสภาดังตอ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้เี รยี กวา \"พระราชบญั ญัติการบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓\" มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินีใ้ หใ ชบังคบั เมอื่ พนกาํ หนดเกาสิบวันนับแตว ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตนไป มาตรา ๓ ใหยกเลิกประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๒๘๕ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน้ี “งบการเงนิ ” หมายความวา รายงานผลการดาํ เนนิ งาน ฐานะการเงิน หรือการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินของ กจิ การ ไมว าจะรายงานโดยงบดุล งบกาํ ไรขาดทนุ งบกาํ ไรสะสม งบกระแสเงินสด งบแสดงการเปล่ียนแปลงสวนของผู ถือหนุ งบประกอบ หรอื หมายเหตุประกอบงบการเงนิ หรอื คาํ อธิบายอน่ื ซ่งึ ระบไุ วว าเปนสว นหนึง่ ของงบการเงิน “มาตรฐานการบัญชี” หมายความวา หลักการบญั ชีและวิธปี ฏิบตั ทิ างการบญั ชีที่รบั รองทั่วไปหรือมาตรฐานการ บัญชที กี่ ําหนดตามกฎหมายวา ดวยการนัน้ “ผมู ีหนาที่จดั ทําบัญชี” หมายความวา ผูมีหนา ทีจ่ ัดใหม ีการทําบญั ชตี ามพระราชบัญญตั นิ ้ี “ผทู าํ บัญช”ี หมายความวา ผูรบั ผดิ ชอบในการทําบัญชขี องผมู ีหนาทีจ่ ดั ทาํ บญั ชี ไมวา จะไดก ระทําในฐานะเปน ลกู จา ง ของผูมีหนา ท่จี ัดทาํ บญั ชีหรือไมก ็ตาม “สารวตั รใหญบ ญั ช”ี หมายความวา อธบิ ดี และใหห มายความรวมถึงผูซ ึ่งอธบิ ดมี อบหมายดว ย “สารวัตรบัญช”ี หมายความวา ผซู ่งึ อธิบดีแตงต้ังใหเปนสารวตั รบัญชปี ระจําสํานกั งานบญั ชีประจาํ ทองที่ [ดูคําส่ังกรมพัฒนาธรุ กจิ การคา ท่ี ๒๘๘/๒๕๔๗ เร่ือง มอบหมายใหข า ราชการเปนสารวตั รใหญบ ัญชี และแตง ตง้ั สารวตั รบญั ชี] [ดูคําส่ังกรมพัฒนาธรุ กิจการคา ที่ ก ๑๔๒/๒๕๕๑ เรอื่ ง มอบหมายใหข า ราชการเปนสารวัตรใหญบญั ชี และ แตงตั้งสารวัตรบญั ช]ี [ดูคําส่ังกรมพฒั นาธุรกิจการคา ที่ ๑๘/๒๕๕๒ เร่ือง มอบหมายใหขา ราชการเปน สารวัตรใหญบ ญั ชี และแตงต้ัง สารวตั รบญั ชี] “อธบิ ด”ี หมายความวา อธบิ ดกี รมทะเบียนการคา “รัฐมนตรี” หมายความวา รฐั มนตรีผูรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๕ ใหรฐั มนตรีวา การกระทรวงพาณิชยรกั ษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ และใหมีอาํ นาจออกกฎกระทรวง

เพ่อื ปฏิบัตกิ ารตามพระราชบัญญัติน้ี [ดูกฎกระทรวง วา ดวยการยกเวนไมตองจัดใหงบการเงนิ ไดรับการตรวจสอบและแสดงความเหน็ โดยผูสอบบัญชี รับอนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๔] หมวด ๑ บทท่วั ไป มาตรา ๖ ใหก รมทะเบียนการคา กระทรวงพาณชิ ย เปน สํานักงานกลางบัญชี ใหอ ธิบดมี อี ํานาจจัดตง้ั สาํ นักงาน บญั ชปี ระจาํ ทอ งท่ี โดยข้ึนตรงตอสํานกั งานกลางบัญชี และมีสารวัตรบญั ชคี นหนงึ่ เปนหัวหนา สํานักงานบญั ชีประจาํ ทอ งท่ี [ดูประกาศกรม ทะเบยี นการคา เรือ่ ง จัดตัง้ สาํ นักงานบัญชีประจําทอ งท่ี และแตงตั้งหัวหนา สาํ นักงานบัญชี ประจาํ ทอ งท่ี พ.ศ. ๒๕๔๓] การจัดตั้งสํานักงานบัญชปี ระจําทองท่ีใหป ระกาศในราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗ อธบิ ดีมอี าํ นาจประกาศ ในราชกิจจานุเบกษากําหนดในเร่ือง ดังตอไปนี้ (๑) ชนดิ ของบญั ชีที่ตองจัดทาํ [ดปู ระกาศกรมทะเบยี นการคา เรอ่ื ง กําหนดชนดิ ของบัญชที ่ีตอ งจัดทําหลักเกณฑและวิธกี ารเกยี่ วกบั วันเริ่มทํา บัญชี และวธิ กี ารจัดทําบัญชขี องผูม หี นาท่ีจัดทาํ บญั ชซี ึ่งเปนบคุ คลธรรมดาหรือหางหนุ สว นทม่ี ิไดจดทะเบยี น พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรอ่ื ง กาํ หนดชนดิ ของบญั ชีทตี่ องจดั ทํา หลกั เกณฑและวิธีการเก่ยี วกับวัน เรมิ่ ทําบญั ชี และวธิ กี ารจัดทาํ บัญชีของผูมีหนา ท่ีจัดทาํ บัญชซี ึ่งเปน บุคคลธรรมดาหรอื หางหนุ สว นทีม่ ิไดจ ดทะเบียนท่ี ประกอบธรุ กิจเกย่ี วกับงาชาง พ.ศ. ๒๕๕๒] (๒) ขอ ความและรายการทีต่ องมใี นบญั ชี (๓) ระยะเวลาทต่ี อ งลงรายการในบญั ชี (๔) เอกสารที่ตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชี [ดปู ระกาศกรมทะเบียนการคา เรอ่ื ง กาํ หนดชนิดของบญั ชที ต่ี อ งจดั ทําขอความและรายการทตี่ อ งมีในบัญชี ระยะเวลาท่ีตอ งลงรายการในบัญชแี ละเอกสารท่ตี องใชประกอบการลงบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เรอื่ ง กาํ หนดชนิดของบัญชีที่ตองจัดทํา ขอความและรายการที่ตองมีในบญั ชี ระยะเวลาทต่ี องลงรายการในบัญชี และเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบญั ชี (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒] (๕) กําหนดขอยกเวน ใหผูม หี นาทจ่ี ัดทําบญั ชหี รือผูทาํ บัญชี ไมต อ งปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานการบัญชใี นเร่อื งใดเร่อื ง หน่ึงหรือสว นใดสวนหนึง่ (๖) คุณสมบัตแิ ละเงื่อนไขของการเปน ผูทําบัญชีตามพระราชบัญญตั ิน้ี [ดูประกาศกรมทะเบยี นการคา เรือ่ ง กําหนดคณุ สมบัตแิ ละเง่อื นไขของการเปนผทู าํ บัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓] [ดูประกาศกรมทะเบยี นการคา เร่อื ง กาํ หนดคุณสมบัตแิ ละเงอ่ื นไขของการเปนผูท ําบญั ชี (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕] [ดปู ระกาศกรมทะเบียนการคา เร่อื ง กําหนดคณุ สมบัติและเงอ่ื นไขของการเปนผทู ําบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธุรกิจการคา เรื่อง กาํ หนดคุณสมบัติและเง่ือนไขของการเปน ผทู ําบัญชี (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. 408 หลักการบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

๒๕๔๘] [ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา เรอื่ ง กาํ หนดหลักเกณฑ วิธีการ และระยะเวลาในการพัฒนาความรูตอเนื่อง ทางวชิ าชีพของผทู าํ บัญชี (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙] ในการประกาศขอกําหนดตามวรรคหน่งึ ใหอ ธิบดีคาํ นึงถึงมาตรฐานการบัญชี และขอ คิดเห็นของหนวยงานที่ เกี่ยวขอ งและสถาบนั วชิ าชพี บญั ชี ขอ กําหนดตาม (๕) และ (๖) ตองไดรับความเหน็ ชอบจากรัฐมนตรดี วย ขอกาํ หนดตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) หากเรือ่ งน้นั มกี ฎหมายเฉพาะบัญญัติไว เปนอยา งอืน่ เมื่อผูมหี นาทจี่ ดั ทํา บญั ชปี ฏบิ ัตติ ามกฎหมายเฉพาะน้นั แลว ใหถ อื วาไดจดั ทาํ บัญชโี ดยถูกตอ งตามพระราชบัญญัตนิ ้แี ลว หมวด ๒ ผมู หี นาทจ่ี ดั ทําบัญชี มาตรา ๘ ใหหางหุนสว นจดทะเบยี น บริษัทจํากดั บริษัทมหาชนจํากดั ท่ีจดั ตั้งข้ึนตามกฎหมายไทย นติ บิ ุคคลที่ ต้งั ขึน้ ตามกฎหมายตา งประเทศท่ีประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการรว มคาตามประมวลรษั ฎากร เปน ผมู หี นาทจ่ี ัดทํา บัญชี และตองจัดใหมีการทําบัญชีสําหรบั การประกอบธุรกิจของตนโดยมีรายละเอยี ด หลกั เกณฑ และวิธีการตามที่ บญั ญตั ไิ วใ นพระราชบัญญัตนิ ี้ ในกรณีทผ่ี ูม ีหนาทจี่ ดั ทําบญั ชปี ระกอบธรุ กจิ เปน ประจําในสถานท่ีหลายแหง แยกจากกัน ใหผูม หี นาท่ีรับผิดชอบ ในการจดั การธรุ กจิ ในสถานทนี่ ้ันเปนผมู หี นาทีจ่ ัดทําบญั ชี ในกรณีท่ีผมู ีหนาท่จี ดั ทําบญั ชเี ปน กิจการรว มคา ตามประมวลรัษฎากร ใหบคุ คลซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนินการ ของกิจการน้ันเปนผมู หี นา ท่ีจัดทําบญั ชี รฐั มนตรีโดยความเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรมี อี าํ นาจประกาศในราชกิจจานุเบกษา กําหนดใหบคุ คลธรรมดาใด หรอื หางหนุ สว นทีม่ ไิ ดจ ดทะเบยี นที่ประกอบธุรกิจใดในประเทศไทยตามเงอื่ นไขใดเปนผมู หี นาที่จัดทําบัญชตี าม พระราชบญั ญตั ินไี้ ด [ดปู ระกาศกระทรวงพาณิชย เร่อื ง กาํ หนดใหบคุ คลธรรมดาหรือหา งหุนสว นทม่ี ิไดจ ดทะเบียน เปนผมู หี นาทีจ่ ัดทํา บญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดปู ระกาศกระทรวงพาณิชย เรื่อง กาํ หนดใหผปู ระกอบธุรกิจเกีย่ วกับงาชา งเปนผูมหี นาทจี่ ัดทําบญั ชี พ.ศ. ๒๕๕๑] ประกาศของรัฐมนตรตี ามวรรคสี่ ใหป ระกาศในราชกิจจานุเบกษาลว งหนาไมนอยกวา หกเดอื นกอนวันใชบ งั คับ ในกรณีที่มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคส่ี ใหอ ธิบดกี าํ หนดหลกั เกณฑและวธิ กี ารเกีย่ วกบั วันเร่ิมทําบัญชีครั้ง แรก และกาํ หนดวิธกี ารจัดทําบัญชีของบคุ คลธรรมดาหรอื หางหนุ สวนท่ีมไิ ดจ ดทะเบียนนน้ั [ดูประกาศกรมทะเบียนการคา เรอ่ื ง กําหนดชนิดของบัญชีทตี่ องจัดทาํ หลักเกณฑแ ละวธิ กี ารเกย่ี วกับวนั เร่ิมทํา บัญชีและวธิ ีการจดั ทาํ บัญชีของผมู ีหนาท่จี ัดทาํ บัญชีซึง่ เปน บุคคลธรรมดาหรือหางหุนสว นทมี่ ิไดจ ดทะเบียน พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เรอื่ ง กาํ หนดชนิดของบญั ชที ีต่ อ งจดั ทํา หลักเกณฑแ ละวิธีการเกี่ยวกับวนั เริ่มทาํ บัญชี และวิธีการจดั ทาํ บัญชีของผูมหี นาทจี่ ดั ทําบัญชซี ่งึ เปน บุคคลธรรมดาหรอื หา งหุนสว น ทมี่ ไิ ดจ ดทะเบยี นที่ ประกอบธุรกิจเกยี่ วกบั งาชาง พ.ศ. ๒๕๕๒] มาตรา ๙ ผูม หี นาที่จดั ทําบัญชตี อ งจัดใหมีการทาํ บัญชนี ับแตวนั เรมิ่ ทําบัญชี ดงั ตอไปน้เี ปนตน ไป 409 หลักการบญั ชีเบ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

(๑) หา งหุน สว นจดทะเบียน บรษิ ัทจํากดั หรือบริษทั มหาชนจาํ กดั ใหเ ริ่มทาํ บญั ชนี บั แตว ันทหี่ างหุน สวนจด ทะเบยี น บรษิ ัทจํากัด หรอื บรษิ ัทมหาชนจํากดั น้นั ไดรับการจดทะเบยี นเปน นติ ิบคุ คลตามกฎหมาย (๒) นติ ิบคุ คลทตี่ ้ังขึน้ ตามกฎหมายตา งประเทศที่ประกอบธรุ กิจในประเทศไทย ใหเริม่ ทําบญั ชนี ับแตว นั ทนี่ ติ ิ บคุ คลท่ีตัง้ ขึ้นตามกฎหมายตา งประเทศนั้นไดเ ริ่มตนประกอบธรุ กิจในประเทศไทย (๓) กิจการรวมคา ตามประมวลรัษฎากร ใหเ รม่ิ ทาํ บญั ชีนับแตว นั ที่กิจการรวมคา นนั้ ไดเรม่ิ ตนประกอบกจิ การ (๔) สถานที่ประกอบธุรกิจเปนประจําตามมาตรา ๘ วรรคสอง ใหเ ริม่ ทําบญั ชีนับแตว นั ท่สี ถานทปี่ ระกอบธรุ กจิ เปนประจําน้นั เริ่มตนประกอบกิจการ มาตรา ๑๐ ผมู หี นา ที่จดั ทําบัญชีตอ งปดบัญชีครงั้ แรกภายในสิบสองเดอื นนับแตวนั เร่มิ ทําบญั ชที ่ีกําหนดตาม มาตรา ๘ วรรคหก หรือวนั เรม่ิ ทําบญั ชตี ามมาตรา ๙ แลวแตก รณี และปด บัญชีทุกรอบสิบสองเดอื นนบั แตว นั ปดบญั ชี ครัง้ กอน เวนแต (๑) เมื่อไดรบั อนญุ าตจากสารวตั รใหญบ ัญชีหรือสารวตั รบญั ชใี หเ ปล่ียนรอบปบ ญั ชีแลวอาจปด บญั ชกี อ น ครบรอบสิบสองเดอื นได (๒) ในกรณมี หี นาท่ีจัดทาํ บัญชตี ามมาตรา ๘ วรรคสอง ใหป ดบญั ชีพรอ มกับสํานกั งานใหญ มาตรา ๑๑ ผูมีหนาทจี่ ัดทําบญั ชซี ึง่ เปนหา งหนุ สว นจดทะเบยี นท่จี ัดต้งั ขึ้นตามกฎหมายไทย นิตบิ ุคคลที่ตง้ั ข้ึน ตามกฎหมายตางประเทศและกิจการรว มคา ตามประมวลรษั ฎากร ตอ งจดั ทํางบการเงนิ และยื่นงบการเงนิ ดังกลา วตอ สาํ นักงานกลางบญั ชีหรือสํานักงานบัญชปี ระจําทอ งทีภ่ ายในหาเดือนนบั แตวนั ปดบัญชตี ามมาตรา ๑๐ สําหรับกรณีของ บรษิ ทั จาํ กดั หรือบริษทั มหาชนจํากดั ที่จัดต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยใหย นื่ ภายในหน่งึ เดอื นนบั แตวันทงี่ บการเงนิ นน้ั ไดรับ อนุมตั ใิ นที่ประชุมใหญ ท้งั นี้ เวน แตม เี หตจุ าํ เปนทาํ ใหผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชไี มสามารถจะปฏบิ ตั ิตามกาํ หนดเวลา ดังกลา วได อธบิ ดีอาจพจิ ารณาสั่งใหขยายหรอื เลือ่ นกาํ หนดเวลาออกไปอกี ตามความจาํ เปน แกกรณไี ด การยนื่ งบการเงนิ ใหเ ปนไปตามหลักเกณฑแ ละวธิ ีการทอ่ี ธบิ ดีกําหนด [ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เรื่อง หลักเกณฑแ ละวธิ กี ารในการยืน่ งบการเงิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เรื่อง หลกั เกณฑและวธิ ีการในการยน่ื งบการเงนิ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๙] [ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกิจการคา เรอื่ ง หลักเกณฑแ ละวิธกี ารในการยน่ื งบการเงิน (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๒] งบการเงินตองมรี ายการยอ ตามที่อธบิ ดีประกาศกาํ หนดโดยความเห็นชอบของรฐั มนตรี เวน แตกรณีท่ีไดมี กฎหมายเฉพาะกําหนดเพมิ่ เตมิ จากรายการยอ ของงบการเงินที่อธิบดีกาํ หนดไวแลวใหใ ชรายการยอตามทกี่ าํ หนดใน กฎหมายเฉพาะนน้ั [ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา เรอื่ ง กําหนดรายการยอทต่ี อ งมใี นงบการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๒] งบการเงินตอ งไดร ับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผูสอบบัญชรี ับอนุญาต เวน แตง บการเงินของผมู ีหนา ท่ี จดั ทําบญั ชีซงึ่ เปนหา งหนุ สว นจดทะเบยี นทีจ่ ดั ต้งั ขนึ้ ตามกฎหมายไทยทม่ี ีทุน สินทรพั ย หรือรายได รายการใดรายการ หนง่ึ หรอื ทกุ รายการ ไมเ กนิ ทีก่ ําหนดโดยกฎกระทรวง [ดูกฎกระทรวง วาดว ยการยกเวน ไมตอ งจัดใหง บการเงินไดร ับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผูสอบบญั ชี รบั อนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๔] มาตรา ๑๒ ในการจดั ทําบญั ชี ผูมีหนา ท่ีจดั ทําบญั ชตี อ งสงมอบเอกสารท่ีตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชีใหแกผ ูทํา บัญชีใหถ ูกตอ งครบถวน เพ่อื ใหบญั ชที จี่ ดั ทาํ ข้นึ สามารถแสดงผลการดําเนินงาน ฐานะการเงิน หรอื การเปล่ียนแปลง ฐานะการเงินทีเ่ ปน อยตู ามความเปนจรงิ และตามมาตรฐานการบญั ชี 410 หลักการบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

มาตรา ๑๓ ผูม ีหนา ทจี่ ัดทําบญั ชตี อ งเก็บรักษาบัญชีและเอกสารทต่ี อ งใชประกอบการลงบัญชไี ว ณ สถานทท่ี าํ การ หรอื สถานท่ีท่ใี ชเปนทีท่ ําการผลิตหรอื เกบ็ สินคา เปนประจาํ หรือสถานทท่ี ีใ่ ชเปนท่ีทํางานประจาํ เวนแตผูมหี นาที่ จดั ทําบญั ชีจะไดรับอนญุ าตจากสารวตั รใหญบ ัญชีหรือสารวตั รบัญชีใหเ ก็บรักษาบญั ชีและเอกสารที่ตอ งใชป ระกอบการ ลงบญั ชีไว ณ สถานทอี่ น่ื ได การขออนญุ าตและการอนุญาตตามวรรคหนึง่ ใหเ ปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารทีอ่ ธบิ ดีกาํ หนดและในระหวา ง รอการอนุญาตใหผ มู หี นาทีจ่ ัดทําบญั ชีเกบ็ รกั ษาบญั ชแี ละเอกสารท่ีตอ งใชประกอบการลงบญั ชไี วในสถานท่ีทีย่ นื่ ขอน้ัน ไปพลางกอ นได [ดปู ระกาศกรมทะเบยี นการคา เรอื่ ง หลักเกณฑและวธิ ีการในการขออนญุ าตและการอนญุ าตใหเกบ็ รักษาบัญชี และเอกสารทต่ี องใชประกอบการลงบญั ชไี ว ณ สถานที่อ่ืน และการแจงบญั ชีหรือเอกสารทต่ี องใชป ระกอบการลงบัญชี สูญหายหรอื เสียหาย พ.ศ. ๒๕๔๓] ในกรณีท่ีจดั ทาํ บญั ชดี ว ยเครือ่ งคอมพิวเตอรหรอื เครอ่ื งมอื อ่ืนใดในสถานที่อ่นื ใดในราชอาณาจกั รทมี่ ใิ ชส ถานที่ ตามวรรคหนงึ่ แตมีการเชอื่ มโยงเครอื ขายคอมพิวเตอรหรือเครอื่ งมอื นั้นมายังสถานท่ตี ามวรรคหนึง่ กรณดี งั กลา วน้ีใหถอื วา ไดมีการเก็บรักษาบัญชไี ว ณ สถานทีต่ ามวรรคหนึ่งแลว มาตรา ๑๔ ผูมีหนาทจ่ี ัดทําบัญชตี อ งเกบ็ รักษาบัญชแี ละเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชไี วเ ปนเวลาไมน อย กวา หา ปน บั แตวันปด บญั ชหี รือจนกวาจะมกี ารสงมอบบัญชแี ละเอกสารตามมาตรา ๑๗ เพ่อื ประโยชนใ นการตรวจสอบบญั ชีของกจิ การประเภทใดประเภทหนึ่ง ใหอธบิ ดีโดยความเหน็ ชอบของรัฐมนตรมี ี อํานาจกาํ หนดใหผูมหี นา ที่จัดทําบัญชีเก็บรกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทีต่ อ งใชป ระกอบการลงบัญชีไวเกินหาปแ ตต องไมเกนิ เจ็ดปไ ด มาตรา ๑๕ ถา บญั ชีหรือเอกสารทต่ี อ งใชประกอบการลงบญั ชสี ญู หายหรือเสียหาย ใหผมู ีหนาที่จัดทําบญั ชีแจง ตอสารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวตั รบญั ชีตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารท่อี ธิบดีกําหนดภายในสิบหาวนั นับแตวันทที่ ราบหรือ ควรทราบถงึ การสญู หายหรอื เสียหายนน้ั [ดปู ระกาศกรมทะเบยี นการคา เรื่อง หลักเกณฑและวธิ กี ารในการขออนญุ าตและการอนญุ าตใหเกบ็ รักษาบญั ชี และเอกสารทต่ี องใช ประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานท่อี น่ื และการแจงบัญชหี รือเอกสารทีต่ อ งใชป ระกอบการลงบัญชี สูญหายหรือเสยี หาย พ.ศ. ๒๕๔๓] มาตรา ๑๖ ในกรณีทีส่ ารวัตรใหญบ ัญชหี รอื สารวตั รบญั ชีตรวจพบวา บัญชแี ละเอกสารที่ตองใชประกอบการ ลงบัญชที เ่ี ปนสาระสาํ คญั แกการจัดทาํ บัญชีสญู หายหรือถูกทาํ ลาย หรอื ปรากฏวา บัญชแี ละเอกสารดงั กลาวมไิ ดเ ก็บไว ในท่ีปลอดภยั ใหส นั นิษฐานวา ผมู ีหนาท่จี ัดทาํ บญั ชีมีเจตนาทําใหเ สยี หาย ทาํ ลาย ซอ นเรน หรือทําใหส ญู หายหรอื ทําให ไรประโยชนซง่ึ บญั ชีหรอื เอกสารน้นั เวน แตผมู หี นา ทจี่ ดั ทาํ บญั ชีจะพสิ จู นใ หเ ช่ือไดวา ตนไดใชค วามระมดั ระวังตาม สมควรแกกรณแี ลว เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หบญั ชหี รือเอกสารท่ตี อ งใชประกอบการลงบัญชสี ญู หายหรอื เสยี หาย มาตรา ๑๗ เมือ่ ผมู ีหนาท่ีจัดทาํ บัญชเี ลกิ ประกอบธรุ กิจดวยเหตุใดๆ โดยมิไดม ีการชาํ ระบญั ชี ใหสงมอบบญั ชแี ละ เอกสารทีต่ อ งใชประกอบการลงบัญชแี กส ารวัตรใหญบ ัญชีหรอื สารวัตรบญั ชภี ายในเกาสบิ วันนบั แตวันเลกิ ประกอบ ธุรกิจ และใหส ารวตั รใหญบญั ชีหรือสารวัตรบัญชีเก็บรกั ษาบัญชีและเอกสารท่ีตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชีดงั กลา วไวไ ม นอ ยกวาหา ป เมื่อผูมีหนา ทจ่ี ดั ทาํ บญั ชีรองขอ ใหสารวัตรใหญบ ัญชหี รือสารวัตรบญั ชีมีอํานาจขยายเวลาการสง มอบบัญชแี ละ 411 หลักการบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

เอกสารตามวรรคหนงึ่ ได แตร ะยะเวลาทข่ี ยายเม่ือรวมกนั แลวตองไมเกินหนึ่งรอ ยแปดสิบวนั นับแตวันเลกิ ประกอบธุรกิจ ในกรณที ผี่ มู หี นาท่ีจดั ทาํ บัญชีสง มอบบัญชแี ละเอกสารทต่ี องใชป ระกอบการลงบญั ชีไมครบถวนถูกตอ ง สารวตั ร ใหญบ ัญชีหรือสารวัตรบญั ชมี ีอาํ นาจเรียกใหผมู ีหนา ทจี่ ดั ทําบญั ชีสง มอบบญั ชีและเอกสารที่ตอ งใชประกอบการลงบญั ชี ใหครบถว นถูกตองภายในเวลาที่กาํ หนด มาตรา ๑๘ งบการเงิน บัญชี และเอกสารทสี่ ารวัตรใหญบัญชีหรือสารวตั รบญั ชไี ดร บั และเก็บรักษาไวต ามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๗ ผมู สี วนไดเสียหรอื บคุ คลทั่วไปอาจขอตรวจดูหรอื ขอภาพถายสําเนาไดโ ดยเสียคา ใชจา ยตามทอ่ี ธิบดี กาํ หนด [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เรอื่ ง กําหนดคา ใชจ า ยในการขอตรวจดู หรือขอภาพถา ยสาํ เนางบการเงนิ ของ ผมู ีหนา ทจี่ ัดทําบัญชี (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๙] หมวด ๓ ผูท ําบญั ชี มาตรา ๑๙ ผูม หี นา ทจ่ี ัดทําบัญชีตอ งจดั ใหม ีผทู าํ บญั ชซี ง่ึ เปนผูมีคณุ สมบัตติ ามท่ีอธบิ ดกี ําหนดตามมาตรา ๗ (๖) เพอื่ จัดทําบญั ชีตามพระราชบัญญัตินี้ และมีหนาที่ควบคมุ ดูแลผทู ําบญั ชใี หจัดทําบัญชใี หตรงตอ ความเปนจริงและ ถูกตอ งตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ผมู ีหนา ที่จดั ทําบัญชซี ึ่งเปนบคุ คลธรรมดาจะเปน ผูทําบญั ชีสําหรับกิจการของตนเองกไ็ ด มาตรา ๒๐ ผูทําบัญชีตอ งจดั ทําบญั ชีเพื่อใหม กี ารแสดงผลการดําเนินงาน ฐานะการเงินหรือการเปลย่ี นแปลง ฐานะการเงินของผมู ีหนา ทจี่ ดั ทาํ บัญชีท่ีเปนอยูตามความเปนจริงและตามมาตรฐานการบญั ชี โดยมเี อกสารที่ตองใช ประกอบการลงบัญชีใหถ กู ตองครบถว น มาตรา ๒๑ ในการลงรายการในบญั ชี ผทู ําบัญชตี องปฏิบัติดังตอไปน้ี (๑) ลงรายการเปน ภาษาไทย หากลงรายการเปนภาษาตางประเทศใหมีภาษาไทยกํากบั หรอื ลงรายการเปนรหสั บัญชีใหม ีคูมอื แปลรหัสที่เปน ภาษาไทยไว (๒) เขยี นดว ยหมกึ ดดี พิมพ ตพี ิมพ หรอื ทําดว ยวิธีอ่นื ใดท่ีไดผ ลในทาํ นองเดยี วกัน หมวด ๔ การตรวจสอบ มาตรา ๒๒ สารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบัญชมี ีอาํ นาจตรวจสอบบัญชแี ละเอกสารท่ีตองใชประกอบการ ลงบญั ชีเพื่อใหเ ปนไปตามพระราชบญั ญัติน้ี ในการน้ีใหม อี าํ นาจเขา ไปในสถานที่ทําการหรอื สถานท่เี ก็บรกั ษาบัญชแี ละ เอกสารท่ตี อ งใชประกอบการลงบัญชขี องผูมีหนาที่จัดทําบญั ชหี รือผทู าํ บัญชีหรือสถานท่รี วบรวมหรอื ประมวลขอมลู ของ บุคคลดงั กลา วไดใ นระหวา งเวลาทําการของสถานทีน่ ั้น ในกรณที ่มี เี หตุอนั ควรเช่อื ไดว า มีการฝาฝนหรือไมปฏบิ ัตติ ามบทบญั ญตั ิแหง พระราชบัญญัตนิ ้ี ใหสารวตั รใหญ บญั ชหี รอื สารวัตรบญั ชมี ีอาํ นาจเขา ไปในสถานทตี่ ามวรรคหนง่ึ เพ่ือยึด หรืออายัดบญั ชีและเอกสารทต่ี องใชประกอบการ ลงบญั ชไี ดใ นระหวา งเวลาพระอาทิตยข้ึนจนถงึ พระอาทติ ยตกหรือในเวลาทาํ การของสถานที่นั้น เมือ่ มีเหตอุ ันควรเชอ่ื ได วาหากเนิน่ ชา กวา จะเอาหมายคน มาได บญั ชเี อกสารท่ีตองใชประกอบการลงบญั ชี หรอื เอกสารหรือหลักฐานอ่ืนท่ี เกยี่ วของกับความผิดดงั กลาวนั้นจะถกู ยักยา ย ซกุ ซอน ทําลาย หรอื ทาํ ใหเ ปลยี่ นสภาพไปจากเดิม มาตรา ๒๓ ในการปฏิบัติการตามพระราชบญั ญตั ินี้ สารวัตรใหญบ ญั ชแี ละสารวตั รบญั ชีตอ งแสดงบัตรประจําตวั ตอ ผทู ี่เกี่ยวของ 412 หลกั การบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

บัตรประจําตวั ใหเ ปนไปตามแบบทอี่ ธิบดกี าํ หนดโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา [ดปู ระกาศกรมทะเบียนการคา เร่ือง บัตรประจําตัวสารวัตรใหญบ ญั ชีและสารวัตรบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓] มาตรา ๒๔ ในการปฏิบตั ิหนา ทตี่ ามพระราชบัญญัตนิ ี้ ใหสารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบญั ชมี อี าํ นาจสั่งเปน หนงั สอื (๑) ใหผูมหี นาทจี่ ัดทาํ บัญชี ผูทาํ บัญชี หรอื บคุ คลท่ีเกย่ี วขอ งมาใหถอยคําเก่ยี วกับการจัดทาํ บญั ชีหรอื การเกบ็ รักษาบัญชแี ละเอกสารทีต่ อ งใชประกอบการลงบญั ชี (๒) ใหผ มู หี นาทจี่ ัดทําบัญชีหรือผทู ําบญั ชีสงบัญชี เอกสารท่ตี องใชประกอบการลงบัญชี หรอื รหสั บัญชีมาเพอ่ื ตรวจสอบ หนังสือที่สง่ั ตามวรรคหนึ่ง ใหส งโดยทางไปรษณยี ล งทะเบียนตอบรับหรอื ใหนําสง ณ ภูมลิ ําเนาหรือถน่ิ ท่อี ยูหรือ สถานท่ีประกอบธุรกจิ ของผมู หี นาทีจ่ ัดทําบัญชี ผูทําบญั ชี หรือบุคคลที่เก่ียวของถาไมพบผูรับ ณ ภูมิลําเนาหรอื ถิ่นทอี่ ยู หรอื สถานท่ีประกอบธรุ กจิ ของผูน้นั จะสง ใหแกบคุ คลใดซึง่ บรรลุนติ ิภาวะแลว และอยหู รอื ทาํ งานอยูในบา นหรอื สถานท่ี ประกอบธรุ กิจที่ปรากฏวา เปนของผรู บั นน้ั ก็ได ในกรณีที่ไมส ามารถสงตามวธิ กี ารในวรรคสอง หรือผูมหี นา ทจี่ ดั ทําบัญชี ผทู าํ บัญชหี รือบุคคลทเ่ี กยี่ วของน้ัน ออกไปนอกราชอาณาจกั ร ใหใ ชว ิธีปดหนงั สอื ดงั กลา วในท่ซี ง่ึ เห็นไดงา ย ณ ท่ีอยูหรอื สถานท่ีประกอบธรุ กิจของผูนนั้ หรอื บานท่ผี ูน้ันมชี ่ืออยใู นทะเบียนตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร หรอื โฆษณาขอ ความยอ ในหนังสือพมิ พท่ี จาํ หนา ยเปน ปกติในทองที่น้ันกไ็ ด เมอ่ื ไดป ฏิบตั ติ ามวิธกี ารดังกลาวขางตน แลว ใหถ ือวาเปน อันไดรับแลว มาตรา ๒๕ หา มมิใหผูใ ดเปดเผยขอความใดๆ ทท่ี ราบหรือไดม าเน่ืองจากการปฏบิ ตั ิตามมาตรา ๒๒ หรือมาตรา ๒๔ เวน แตจะมีอํานาจที่จะทาํ ไดโ ดยชอบดว ยกฎหมาย มาตรา ๒๖ ในการปฏบิ ตั หิ นาท่ี ใหสารวัตรใหญบ ญั ชีและสารวตั รบญั ชเี ปนเจา พนกั งานตามประมวลกฎหมาย อาญา หมวด ๕ บทกําหนดโทษ มาตรา ๒๗ ผูใดฝาฝน หรือไมป ฏิบัตติ ามประกาศของอธบิ ดที ่อี อกตามมาตรา ๗ (๑) (๒) (๓) (๔) หรอื (๖) ตอง ระวางโทษปรับไมเ กนิ หน่ึงหมื่นบาท กรณีท่ีฝาฝน หรือไมปฏบิ ตั ิตามประกาศของอธบิ ดที ่ีออกตามมาตรา ๗ (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ใหปรบั เปน รายวันอกี ไมเกนิ วันละหา รอยบาทจนกวาจะปฏิบตั ิใหถ กู ตอง มาตรา ๒๘ ผูม หี นาท่จี ัดทําบัญชีผูใดไมจ ัดใหมกี ารทําบัญชีตามมาตรา ๘ หรอื มาตรา ๙ ตองระวางโทษปรับไม เกนิ สามหมน่ื บาท และปรับเปนรายวนั อีกไมเ กนิ วนั ละหน่งึ พันบาทจนกวาจะปฏบิ ัติใหถ ูกตอ ง มาตรา ๒๙ ผูมีหนาท่จี ัดทําบัญชผี ใู ดไมปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๙ วรรคหน่ึง ตอ งระวาง โทษปรับไมเ กินหนงึ่ หมื่นบาท มาตรา ๓๐ ผูมหี นาทจี่ ดั ทําบญั ชผี ใู ดไมป ฏิบัตติ ามมาตรา ๑๑ วรรคหน่ึง ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ หา หมื่นบาท มาตรา ๓๑ ผูม หี นา ท่จี ัดทําบญั ชีผูใดไมป ฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๑๑ วรรคสาม มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ หรอื มาตรา ๑๗ ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หาพันบาท มาตรา ๓๒ ผูมหี นา ที่จัดทําบัญชผี ใู ดไมปฏิบตั ติ ามมาตรา ๑๑ วรรคสี่ ตองระวางโทษปรับไมเกนิ สองหม่ืนบาท มาตรา ๓๓ ผูมีหนา ท่ีจัดทําบญั ชีผใู ดแจง ขอ ความตามมาตรา ๑๕ เปนเท็จตอสารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวตั ร 413 หลกั การบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

บญั ชวี า บัญชีหรือเอกสารที่ตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชสี ญู หาย หรอื เสยี หายตองระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ หกเดอื น หรือ ปรบั ไมเกนิ หนงึ่ หมน่ื บาท หรือทง้ั จาํ ท้ังปรบั มาตรา ๓๔ ผูใ ดไมปฏิบตั ิตามมาตรา ๒๐ ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ หนง่ึ หม่นื บาท มาตรา ๓๕ ผใู ดไมปฏิบตั ิตามมาตรา ๒๑ ตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ หาพันบาท มาตรา ๓๖ ผใู ดขดั ขวางการปฏบิ ัตหิ นา ที่ของสารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวัตรบัญชี ซง่ึ ปฏิบตั กิ ารตามมาตรา ๒๒ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินหนงึ่ ป หรอื ปรับไมเกินสองหมื่นบาท หรอื ทัง้ จาํ ท้งั ปรับ ผใู ดไมอ าํ นวยความสะดวกแกสารวัตรใหญบัญชหี รือสารวัตรบัญชีซงึ่ ปฏบิ ัตหิ นา ทีต่ ามมาตรา ๒๒ หรอื ฝาฝน คําสง่ั ของสารวตั รใหญบญั ชหี รอื สารวัตรบัญชี ซึ่งสง่ั การตามมาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกไมเกนิ หนึง่ เดือน หรือปรบั ไมเ กนิ สองพันบาท หรอื ท้ังจาํ ทัง้ ปรับ มาตรา ๓๗ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๒๕ ตองระวางโทษจําคุกไมเ กนิ หกเดอื นหรือปรบั ไมเ กินหนึ่งหมน่ื บาท หรือทัง้ จําท้งั ปรับ ในกรณีทผ่ี กู ระทาํ ความผิดตามวรรคหนงึ่ เปนสารวัตรใหญบัญชี สารวตั รบัญชี หรอื เจาพนักงาน ตอ งระวางโทษ จําคุกไมเ กินหนึ่งป หรือปรับไมเกนิ สองหม่ืนบาทหรือท้ังจําทงั้ ปรับ มาตรา ๓๘ ผูใดทาํ ใหเสียหาย ทาํ ลาย ซอนเรน หรอื ทาํ ใหสญู หายหรอื ทาํ ใหไ รประโยชนซึง่ บัญชหี รอื เอกสารที่ ตอ งใชประกอบการลงบญั ชี ตองระวางโทษจาํ คุกไมเกนิ หน่งึ ป หรอื ปรับไมเกนิ สองหม่นื บาท หรือทั้งจาํ ทั้งปรับ ในกรณีทผ่ี ูกระทาํ ความผิดตามวรรคหนึ่งเปนผมู หี นาทจี่ ัดทาํ บญั ชี ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ สองป หรือปรับไม เกนิ ส่หี มืน่ บาท หรือทง้ั จาํ ท้งั ปรับ มาตรา ๓๙ ผใู ดลงรายการเทจ็ แกไข ละเวน การลงรายการในบัญชีหรืองบการเงนิ หรือแกไ ขเอกสารท่ีตอ งใช ประกอบการลงบญั ชเี พ่อื ใหผิดความเปน จรงิ ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกินสองป หรือปรบั ไมเกินสหี่ ม่ืนบาท หรอื ทัง้ จําท้งั ปรบั ในกรณีที่ผูก ระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเปนผูมหี นาที่จัดทาํ บัญชี ตอ งระวางโทษจําคุกไมเ กนิ สามป หรือปรับไม เกนิ หกหมน่ื บาท หรือทง้ั จําทงั้ ปรับ มาตรา ๔๐ ในกรณที ผ่ี กู ระทาํ ความผิดซึง่ ตองรับโทษตามพระราชบญั ญัติน้ีเปน นิตบิ ุคคล ใหก รรมการผูจ ัดการ หนุ สวนผูจัดการ ผแู ทนนิติบุคคล หรอื บุคคลใดซง่ึ รับผิดชอบในการดาํ เนินการของนิตบิ ุคคลน้นั ตอ งรบั โทษตามท่ี กฎหมายกําหนดไวส าํ หรับความผิดน้ันๆ ดว ย เวน แตจะพสิ ูจนไ ดวา ตนมไิ ดมีสวนรเู หน็ หรือยนิ ยอมในการกระทํา ความผิดของนติ ิบุคคลนนั้ มาตรา ๔๑ บรรดาความผิดตามมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ วรรคสอง ใหอธบิ ดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายมอี ํานาจเปรียบเทียบได และเมอื่ ผูก ระทาํ ความผดิ ไดชําระคา ปรับตามท่ีไดเปรียบเทียบแลว ใหคดีเปนอนั เลกิ กันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา [ดูคําสัง่ กรมทะเบยี นการคา ท่ี ๑๘๒/๒๕๔๔ เรอื่ ง มอบหมายใหขา ราชการมอี ํานาจเปรยี บเทียบตาม พระราชบญั ญัติบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓] บทเฉพาะกาล มาตรา ๔๒ บรรดากฎกระทรวง หรือประกาศที่ออกตามประกาศของคณะปฏวิ ัตฉิ บับที่ ๒๘๕ ลงวนั ท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทใี่ ชบังคบั อยกู อ นวันทีพ่ ระราชบัญญตั ินี้ใชบ งั คบั ใหย งั คงใชบงั คับไดต อ ไปเทา ท่ีไมขัดหรือแยง กบั พระราชบัญญตั ิน้ี ท้ังนี้ จนกวาจะไดม กี ฎกระทรวง หรอื ประกาศท่ีออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ใชบงั คบั 414 หลกั การบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)

ผใู ดเปนผทู าํ บญั ชขี องผูมหี นาท่ีจัดทําบัญชีอยูกอ นวนั ท่ีพระราชบัญญตั นิ ี้ใชบ ังคบั ไมน อยกวา หา ป แตไมม ี คุณสมบัติของการเปน ผทู าํ บญั ชีตามที่อธบิ ดกี ําหนดตามมาตรา ๗ (๖) หากประสงคจ ะเปน ผูทําบัญชีตาม พระราชบัญญตั นิ ้ีตอไป ใหแ จง ตออธิบดีตามหลักเกณฑ วิธีการ และเง่อื นไขที่อธบิ ดีประกาศกาํ หนด ภายในหกสิบวนั นบั แตวันท่พี ระราชบญั ญัตินใ้ี ชบงั คับ และเมอื่ ผนู ัน้ เขา รบั การอบรมและสําเร็จการอบรมตามหลกั เกณฑ วิธีการ และ ระยะเวลาที่อธิบดปี ระกาศกําหนดแลว ใหผูน ้ันเปนผทู ําบญั ชตี อไปไดเ ปน เวลาแปดปน บั แตวนั ที่พระราชบญั ญตั นิ ใี้ ช บงั คบั มาตรา ๔๓ ระหวางทย่ี ังไมมมี าตรฐานการบญั ชีทกี่ ฎหมายกําหนด ใหถือวา มาตรฐานการบญั ชีทีก่ าํ หนดโดย สมาคมนักบญั ชีและผสู อบบญั ชีรับอนญุ าตแหง ประเทศไทยซึ่งคณะกรรมการควบคมุ การประกอบวชิ าชีพสอบบัญชไี ดมี มตใิ หประกาศใชแ ลว เปน มาตรฐานการบัญชตี ามพระราชบัญญตั ินี้ มาตรา ๔๔ ใหกจิ การรวมคา ตามประมวลรัษฎากร ซง่ึ เรมิ่ ตนประกอบกิจการรว มคาอยูกอนวนั ท่ีพระราชบัญญตั ินี้ ใชบังคบั ไมตองปฏบิ ัตติ ามพระราชบญั ญัตนิ ี้ จนกวาจะเริม่ รอบระยะเวลาบญั ชใี หมห ลงั จากวันที่พระราชบัญญัตินีใ้ ช บังคับแลว มาตรา ๔๕ ใหผ มู หี นาทจี่ ัดทาํ บัญชีจัดใหมผี ทู าํ บัญชีใหถูกตอ งตามมาตรา ๑๙ ภายในหนง่ึ ปนับแตว ันท่ี พระราชบญั ญัตินม้ี ผี ลใชบังคบั กําหนดระยะเวลาตามวรรคหน่ึง อธิบดีโดยความเหน็ ชอบของรฐั มนตรี จะขยายออกไปอีกตามความจําเปนแก กรณกี ไ็ ดท ั้งนี้ ตองไมเกนิ หนงึ่ ป ในระหวางระยะเวลาตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิใหน ําบทบัญญัตมิ าตรา ๒๙ มาใชบ ังคับแกผมู ีหนาทจ่ี ัดทาํ บัญชที ่ีมิไดจ ดั ใหมีผูทาํ บัญชตี ามมาตรา ๑๙ วรรคหนง่ึ ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลกี ภยั นายกรฐั มนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี คือ โดยทป่ี ระกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๒๘๕ ลงวันท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ซ่งึ เปนกฎหมายวา ดวยการบญั ชีไดใชบ ังคับมาเปนเวลานาน มีหลักการเก่ยี วกับการทาํ บญั ชหี ลายประการทยี่ ังไมสอดคลอ งกบั ความกาวหนา ทางการบญั ชแี ละการจัดทําบญั ชี และไมสอดคลอ งกบั สถานการณท างเศรษฐกจิ การคา ทเ่ี ปล่ยี นแปลงไป สมควรปรบั ปรงุ กฎหมายวา ดวยการบัญชีใหท ันสมัยย่งิ ขึน้ จึง จําเปน ตองตราพระราชบัญญัติน้ี 415 หลกั การบัญชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

พระราชบัญญัติ วิชาชีพบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๗ ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไ ว ณ วนั ที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เปนปท่ี ๕๙ ในรชั กาลปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ใหประกาศวา โดยที่เปน การสมควรใหมกี ฎหมายวา ดว ยวิชาชีพบญั ชี พระราชบัญญัตนิ มี้ บี ทบญั ญตั บิ างประการเก่ยี วกับการจาํ กดั สิทธแิ ละเสรีภาพของบุคคล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๕๐ ของรฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญตั ิใหก ระทาํ ได โดยอาศัยอาํ นาจตาม บทบัญญตั แิ หง กฎหมายวา จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติขนึ้ ไวโ ดยคําแนะนาํ และยินยอมของรัฐสภาดงั ตอไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินเี้ รียกวา “พระราชบัญญัตวิ ิชาชพี บัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนิ ้ีใหใ ชบงั คับตงั้ แตว ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตน ไป มาตรา ๓ ใหยกเลิกพระราชบัญญัตผิ ูสอบบญั ชี พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั ิน้ี “วชิ าชพี บัญชี” หมายความวา วิชาชพี ในดานการทาํ บัญชี ดา นการสอบบญั ชี ดา นการบญั ชบี รหิ าร ดาน การวางระบบบัญชี ดานการบัญชภี าษีอากร ดานการศกึ ษาและเทคโนโลยีการบัญชี และบริการเก่ยี วกบั การบัญชี ดานอ่นื ตามทก่ี ําหนดโดยกฎกระทรวง “ผทู าํ บัญช”ี หมายความวา ผทู ําบญั ชีตามกฎหมายวาดวยการบัญชี “การประชุมใหญ” หมายความวา การประชุมใหญส ามญั หรือการประชุมใหญว ิสามัญ “สมาชิก” หมายความวา สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี “รฐั มนตรี” หมายความวา รฐั มนตรีผูรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี มาตรา ๕ ใหร ัฐมนตรีวา การกระทรวงพาณชิ ยรักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี และใหม อี าํ นาจออก กฎกระทรวง เพ่ือปฏบิ ตั ิการตามพระราชบญั ญัติน้ี กฎกระทรวงน้ันเมอื่ ไดประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลวใหใชบังคับได 416 หลกั การบัญชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

หมวด ๑ สภาวิชาชพี บัญชี มาตรา ๖ ใหมีสภาวชิ าชีพบญั ชี มฐี านะเปนนติ ิบุคคล โดยมวี ัตถปุ ระสงคเพอ่ื สงเสริมและพัฒนาวิชาชพี บัญชี มาตรา ๗ สภาวชิ าชีพบัญชีมีอาํ นาจหนาที่ ดังตอไปนี้ (๑) สงเสริมการศกึ ษา การอบรม และการวิจัยเก่ียวกบั วชิ าชีพบญั ชี (๒) สงเสริมความสามัคคีและผดงุ เกียรติของสมาชิก จัดสวสั ดกิ ารและการสงเคราะหระหวา งสมาชิก (๓) กําหนดมาตรฐานการบญั ชี มาตรฐานการสอบบัญชี และมาตรฐานอน่ื ทเี่ กีย่ วกับวิชาชพี บัญชี (๔) กําหนดจรรยาบรรณผปู ระกอบวิชาชพี บญั ชี (๕) รับขนึ้ ทะเบยี นการประกอบวิชาชีพบัญชี ออกใบอนญุ าต พกั ใช หรือเพกิ ถอนใบอนุญาตผปู ระกอบ วชิ าชพี บัญชี (๖) รับรองปรญิ ญาหรือประกาศนียบัตรในวิชาการบัญชีของสถาบันการศึกษาตาง ๆ เพ่ือประโยชนใ นการ รบั สมัครเปน สมาชิก (๗) รับรองความรคู วามชาํ นาญในการประกอบวชิ าชีพบญั ชี (๘) รับรองหลักสตู รการฝกอบรมเปนผชู าํ นาญการ และการศกึ ษาตอ เนอื่ งในดานตา ง ๆ ของผปู ระกอบ วิชาชพี บัญชี (๙) ควบคุมความประพฤตแิ ละการดําเนินงานของสมาชิกและผูขน้ึ ทะเบียนอนั เก่ยี วกับการประกอบ วชิ าชีพบัญชใี หถูกตองตามจรรยาบรรณแหง วชิ าชพี บัญชี (๑๐) ชวยเหลอื แนะนาํ เผยแพร และใหบ ริการวชิ าการแกป ระชาชนเกี่ยวกับวชิ าชีพบัญชี (๑๑) ออกขอบงั คับสภาวิชาชพี บญั ชี [ดูขอบังคับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๑) เรื่อง วธิ ีการเสนอและการพจิ ารณารางขอบงั คบั พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อบงั คับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๒) เรอ่ื ง สมาชิกและการรบั สมัครสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดูขอบังคับสภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๓) เร่ือง คาบาํ รุงสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๔) เรอื่ ง คณุ สมบัตแิ ละลกั ษณะตอ งหา มของนายกสภาวชิ าชีพบัญชี กรรมการผทู รงคุณวุฒิ และกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชี และหลกั เกณฑและวธิ กี ารเลือกต้งั พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๕) เร่ือง คณุ สมบตั แิ ละลักษณะตอ งหา ม การเลือกตงั้ หรอื การแตงตง้ั การดาํ รงตําแหนง การพน จากตําแหนงของประธานคณะกรรมการหรอื กรรมการวิชาชีพบญั ชแี ตล ะดาน อาํ นาจ หนา ท่ี และการดาํ เนนิ การอืน่ ของคณะกรรมการวชิ าชีพบัญชีแตล ะดา น พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดูขอ บงั คบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบับที่ ๖) เรือ่ ง ผทู ําบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คบั สภาวิชาชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๗) เรื่อง การออกใบอนุญาต และคา ธรรมเนยี มใบอนุญาตเปนผูสอบ บญั ชีรบั อนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อบังคับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๘) เรอ่ื ง การประชุมใหญและการเสนอเรื่องใหท่ีประชุมใหญพ ิจารณา พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๙) เร่อื ง คุณสมบัติและลักษณะตองหา ม การเลือกต้งั หรอื การแตงตงั้ 417 หลกั การบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

การดํารงตาํ แหนง การพนจากตําแหนง ของประธานคณะกรรมการ หรือกรรมการวชิ าชีพบัญชีแตล ะดา น อํานาจ หนาท่ี และการดําเนินการอื่นของคณะกรรมการวชิ าชพี บญั ชีแตล ะดา น (ฉบบั แกไ ขเพม่ิ เติม) พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดขู อบงั คบั สภาวิชาชีพบัญชี (ฉบับท่ี ๑๐) เรื่อง ระยะเวลาการประกอบวชิ าชพี บัญชขี องผดู าํ รงตําแหนง กรรมการจรรยาบรรณ พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดขู อ บงั คบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบับที่ ๑๑) เรือ่ ง คุณสมบตั ิ ลกั ษณะตองหา ม การคดั เลือก และการพนจาก ตําแหนง ของกรรมการผทู รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการกาํ หนดมาตรฐานการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดูขอบงั คับสภาวิชาชีพบัญชี (ฉบับที่ ๑๒) เรื่อง การพิจารณาเกีย่ วกบั จรรยาบรรณ พ.ศ. ๒๕๔๙] [ดขู อบงั คบั สภาวิชาชีพบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๑๓) เรอื่ ง หลกั เกณฑและวิธกี ารฝกหดั งาน การทดสอบเก่ียวกับ วชิ าชพี บญั ชีของผขู อรบั ใบอนญุ าตเปน ผูสอบบัญชีรับอนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๙] [ดูขอบงั คับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๑๔) เรื่อง การปฏบิ ตั ิหนา ท่ี อาํ นาจหนาที่ และการพนจากตําแหนง ของผูดาํ รงตําแหนงอุปนายก เลขาธิการ เหรญั ญกิ นายทะเบียน และตําแหนง อนื่ ๆ ตามท่ีคณะกรรมการสภาวิชาชีพ กาํ หนด พ.ศ. ๒๕๔๙] (๑๒) เปน ตัวแทนของผปู ระกอบวชิ าชีพบัญชี (๑๓) ใหค าํ ปรึกษาและเสนอแนะตอรัฐบาลเกย่ี วกับนโยบายและปญ หาของวิชาชีพบัญชี (๑๔) ดาํ เนนิ การอน่ื เพื่อใหเปนไปตามวตั ถุประสงคและอํานาจหนา ท่ีของสภาวิชาชีพบัญชตี าม พระราชบัญญตั ินี้ มาตรา ๘ สภาวิชาชีพบัญชีอาจมรี ายได ดงั ตอ ไปน้ี (๑) คา บํารุงสมาชิกและคาธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตนิ ี้ (๒) เงนิ อดุ หนนุ จากงบประมาณแผน ดนิ (๓) ผลประโยชนจากการจดั การทรพั ยส ินและการดําเนินกจิ การของสภาวิชาชีพบญั ชี (๔) เงินและทรัพยสินซึ่งมผี ูใหแกส ภาวิชาชีพบัญชี (๕) ดอกผลของเงนิ และทรัพยส ินตาม (๑) (๒) (๓) และ(๔) มาตรา ๙ ภายใตบังคับบทบญั ญัติหมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพดานการสอบบัญชี และ หมวด ๖ การควบคุมการประกอบวิชาชพี ดานการทาํ บัญชี ในกรณีท่ีการประกอบวิชาชีพบญั ชีดานใด มีผลกระทบตอ ประโยชนไดเ สียของประชาชน หรอื เพ่อื ประโยชนท่ีจะใหมกี ารคมุ ครองประชาชนและพัฒนาหรอื จดั ระเบยี บการ ประกอบวชิ าชพี บัญชีดานใด จะตราพระราชกฤษฎกี ากําหนดใหก ารประกอบวิชาชีพบัญชีดา นนั้นตอ งไดร ับ ใบอนญุ าตหรือตอ งขนึ้ ทะเบียนไวก บั สภาวชิ าชพี บญั ชกี ็ได มาตรา ๑๐ เมือ่ มพี ระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๙ ใชบ ังคับสําหรับวชิ าชพี บัญชดี านใด หา มมใิ หผ ูใ ด ประกอบวชิ าชพี บญั ชดี า นนัน้ เวน แตไ ดรบั ใบอนญุ าตหรือข้ึนทะเบียนกับสภาวชิ าชีพบญั ชี การขอรับใบอนญุ าต การอนุญาต การออกใบอนญุ าต และการขึ้นทะเบยี นผูป ระกอบวิชาชพี บญั ชตี าม วรรคหนงึ่ ใหเปนไปตามแบบ หลกั เกณฑ วิธกี าร และเงอ่ื นไขท่กี าํ หนดในขอบงั คับสภาวชิ าชพี บญั ชี ในการขน้ึ ทะเบียนประกอบวิชาชีพบัญชี สภาวชิ าชีพบญั ชจี ะกําหนดใหผ ขู ึ้นทะเบียนซึ่งมไิ ดเปนสมาชกิ ตองเสยี คาธรรมเนียมเปนรายปกไ็ ด แตจะกําหนดคาธรรมเนียมดงั กลา วใหสงู กวาคา บาํ รุงสมาชกิ และคา ธรรมเนยี ม ใบอนุญาตท่ีเรียกเก็บจากสมาชิกสภาวิชาชพี บัญชเี ปน รายปไมได 418 หลกั การบัญชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)

มาตรา ๑๑ นิติบคุ คลซึ่งประกอบกิจการใหบริการดานการสอบบัญชีหรอื ดา นการทําบัญชี หรอื ใหบ รกิ าร วิชาชีพบัญชีดา นอ่ืนตามทีก่ าํ หนดโดยพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๙ ตอ งจดทะเบียนตอ สภาวชิ าชพี บัญชีตาม เง่ือนไข ดงั ตอไปนี้ (๑) นิติบุคคลนัน้ ตองจัดใหม หี ลักประกันเพอ่ื ประกันความรบั ผิดตอ บคุ คลท่ีสาม ทัง้ นี้ ตามประเภท จาํ นวน หลกั เกณฑ และวธิ ีการทก่ี าํ หนดโดยกฎกระทรวง (๒) ในกรณีประกอบกจิ การใหบ ริการการสอบบัญชี บคุ คลซ่ึงมีอํานาจลงนามผูกพนั นิตบิ ุคคลในการ ใหบริการการสอบบญั ชีตองเปนผูไดรับใบอนญุ าตใหเ ปน ผูสอบบัญชรี ับอนญุ าต การกําหนดหลักประกันตามวรรคหน่งึ (๑) ใหคาํ นึงถงึ ขนาดและรายไดของนติ บิ ุคคลน้ัน และใหน ํา ความเห็นของหนว ยงานที่เก่ียวขอ งและสภาวิชาชีพบัญชีมาพิจารณาประกอบดวย ในกรณที ีผ่ สู อบบัญชีตอ งรับผิดชอบตอบคุ คลท่ีสาม ใหน ติ บิ คุ คลซง่ึ ผูสอบบัญชนี ้ันสังกดั อยูรวมรับผดิ ดวย อยา งลกู หน้ีรว ม และ ในกรณีท่ยี ังไมสามารถชาํ ระคาเสียหายไดครบจาํ นวน ใหห นุ สว นหรือกรรมการผูมอี าํ นาจลง นามผกู พนั นิตบิ ุคคล หรือผแู ทนนิติบคุ คลใด ซึง่ ตองรบั ผิดชอบในการดําเนนิ การของนติ ิบคุ คลนั้น ตอ งรว มรับผิดจน ครบจํานวน เวน แตพ ิสจู นไ ดว าตนมิไดม สี ว นรเู ห็นหรอื ยินยอมในการกระทาํ ผิดทตี่ อ งรับผดิ หมวด ๒ สมาชิกสภาวิชาชพี บัญชี มาตรา ๑๒ สมาชกิ สภาวชิ าชีพบญั ชมี สี ่ปี ระเภท ดังนี้ (๑) สมาชิกสามัญ (๒) สมาชิกวิสามัญ (๓) สมาชกิ สมทบ (๔) สมาชิกกติ ตมิ ศกั ด์ิ มาตรา ๑๓ สมาชิกสามัญตอ งเปน ผูม ีคณุ สมบัติและไมมีลกั ษณะตอ งหา ม ดงั ตอ ไปน้ี (๑) มีอายุไมตา่ํ กวา ย่ีสบิ ปบ ริบูรณ (๒) มีสญั ชาตไิ ทย (๓) สําเร็จการศึกษาวชิ าการบญั ชีไมต ่ํากวาระดับปริญญาตรี หรอื ไดรับประกาศนยี บัตร หรอื วุฒอิ น่ื เทียบเทา ปริญญาตรสี าขาวิชาชีพการบัญชที ี่สภาวิชาชีพบัญชรี ับรอง หรือสาํ เร็จการศกึ ษาสาขาอน่ื ตามท่สี ภาวิชาชพี บญั ชีกาํ หนด (๔) ไมเปน ผปู ระพฤติผิดจรรยาบรรณอันนํามาซงึ่ ความเส่อื มเสียเกียรตศิ กั ด์ิแหง วชิ าชีพบญั ชีตามที่กําหนด ในขอบังคบั สภาวิชาชพี บญั ชี (๕) ไมเ คยตองโทษจําคุกโดยคําพพิ ากษาถึงทสี่ ุดใหจําคกุ ในคดีท่เี ปนการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะ นํามาซึ่งความเส่ือมเสียเกยี รตศิ ักด์ิแหงวชิ าชพี ตามที่กําหนดในขอบังคบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (๖) ไมเ ปน คนไรค วามสามารถหรือคนเสมอื นไรความสามารถ หรือเปน โรคตามทกี่ าํ หนดในขอ บงั คับสภา วชิ าชพี บญั ชี [ดูขอ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบับท่ี ๒) เรอ่ื ง สมาชิกและการรับสมคั รสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] 419 หลกั การบัญชเี บือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

มาตรา ๑๔ สมาชิกวสิ ามญั และสมาชิกสมทบตอ งเปนผูม สี ัญชาติไทย และตองมคี ณุ สมบัตแิ ละไมมี ลกั ษณะตอ งหา มตามทก่ี ําหนดในขอ บงั คบั สภาวชิ าชพี บญั ชี ความในวรรคหนึ่ง มใิ หใ ชบงั คับกบั ผูซ่ึงไมม สี ัญชาตไิ ทยแตมสี ญั ชาตขิ องประเทศ ซ่งึ ยินยอมใหผมู ีสัญชาติ ไทยประกอบอาชีพสอบบญั ชใี นประเทศน้นั ได และประสงคจะสมคั รเขาเปน สมาชิกวิสามญั แตผ ูนัน้ จะตองมี คณุ สมบัติและไมมลี ักษณะตองหา มตามมาตรา ๑๓ (๑) (๓) (๔) (๕) และ (๖) [ดูขอบงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๒) เร่ือง สมาชกิ และการรบั สมัครสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] มาตรา ๑๕ สมาชิกกิตตมิ ศกั ด์ิ ไดแก ผูท รงคุณวุฒซิ งึ่ ไดร บั เชญิ เปนสมาชิกตามมติของคณะกรรมการสภา วชิ าชีพบัญชี มาตรา ๑๖ สมาชกิ สามญั มสี ทิ ธแิ ละหนา ท่ี ดงั ตอไปน้ี (๑) แสดงความคิดเห็นในการประชมุ ใหญ (๒) ออกเสยี งลงคะแนนในการประชุมใหญ (๓) เลือกต้ัง รบั เลอื กตงั้ หรือรบั แตงตั้ง เปน กรรมการหรือดาํ รงตาํ แหนงอื่นอันเกย่ี วกับกิจการของสภา วิชาชพี บัญชตี ามพระราชบัญญตั ิน้ี (๔) ชาํ ระคาบํารงุ สมาชิกหรือคา ธรรมเนียมตามที่กาํ หนดในขอบงั คบั สภาวิชาชพี บัญชี [ดขู อ บังคบั สภาวิชาชีพบญั ชี (ฉบับที่ ๓) เรอื่ ง คาบาํ รุงสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] (๕) ผดงุ ไวซ ง่ึ เกยี รติศักดิ์แหง วิชาชพี บัญชแี ละปฏบิ ตั ิตนตามบทบัญญัตแิ หง พระราชบัญญตั นิ ี้ (๖) สิทธิและหนาที่อื่นตามทสี่ ภาวิชาชีพบญั ชีกําหนด สมาชิกวิสามัญ สมาชิกสมทบ และสมาชิกกิตติมศักด์ิ มีสิทธแิ ละหนา ทตี่ าม (๑) (๔) (๕) และ (๖) มาตรา ๑๗ สมาชิกภาพของสมาชกิ สิ้นสุดลง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคณุ สมบัตหิ รือมลี กั ษณะตอ งหามตามมาตรา ๑๓ หรอื มาตรา ๑๔ หรอื คณะกรรมการสภาวชิ าชพี บญั ชมี ีมติเพกิ ถอนสาํ หรบั กรณีสมาชกิ กิตติมศักดิ์ (๔) ไมช าํ ระคา บาํ รุงสมาชิก โดยไมมีเหตอุ ันสมควรตามท่ีกาํ หนดในขอบังคบั สภาวชิ าชพี บญั ชี [ดขู อ บังคบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๓) เร่ือง คา บํารงุ สมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] มาตรา ๑๘ ใหมกี ารประชมุ ใหญสามัญสภาวิชาชีพบัญชีอยา งนอยปละหน่ึงคร้งั การประชมุ ใหญอ ืน่ นอกจากการประชมุ ใหญส ามัญ เรียกวา การประชุมใหญว สิ ามญั [ดูกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิผูสอบบญั ชี พ.ศ. ๒๕๐๕] มาตรา ๑๙ สมาชิกสามญั อาจขอใหม ีการประชุมใหญว สิ ามญั ไดตามหลักเกณฑและวิธกี ารทกี่ ําหนดใน ขอบังคบั สภาวชิ าชพี บญั ชี ในการนี้ นายกสภาวิชาชพี บัญชีตอ งเรยี กประชุมใหญวสิ ามัญภายในสามสบิ วันนับแต วันท่ไี ดรับคําขอ [ดขู อ บังคบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ท่ี ๘) เรื่อง การประชมุ ใหญแ ละการเสนอเรื่องใหท่ีประชมุ ใหญพิจารณา พ.ศ. ๒๕๔๗] 420 หลกั การบัญชีเบือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)

มาตรา ๒๐ ในการประชุมใหญ ตองมีสมาชิกสามญั มาประชมุ ไมนอยกวาสองรอ ยคนจงึ เปน องคประชุม การประชุมใหญครั้งใด เม่ือลว งพน เวลาทก่ี ําหนดไวเปน เวลาสามสบิ นาทีแลวมสี มาชิกสามัญมาประชุมไม ครบองคป ระชมุ ตามวรรคหนึง่ และการประชุมน้ันไดเ รยี กประชุมตามมาตรา ๑๙ ใหง ดการประชุมครั้งน้ัน แตถ า คณะกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชีเปนผูจดั ใหมีการประชุม ใหเ ล่อื นการประชมุ น้นั ออกไป โดยใหน ายกสภาวชิ าชีพ บัญชีเรยี กประชุมใหญอีกครงั้ หน่งึ ภายในสามสิบวันและในการประชมุ ใหญค รง้ั นี้ ใหอ งคป ระชมุ ประกอบดว ยสมาชกิ สามัญเทาที่มาประชมุ มาตรา ๒๑ ในการประชมุ ใหญ ใหน ายกสภาวิชาชีพบัญชีเปนประธานในที่ประชุม ในกรณที นี่ ายกสภา วชิ าชีพบัญชไี มอ ยูใ นทปี่ ระชมุ หรอื ไมสามารถปฏบิ ัติหนา ท่ไี ด หรือไมปฏิบตั ิหนา ท่ี ใหอ ปุ นายกสภาวชิ าชีพบัญชคี นที่ หนงึ่ หรือคนทีส่ องตามลําดับเปน ประธานในท่ีประชุม ถานายกสภาวิชาชพี บัญชแี ละอปุ นายกสภาวิชาชีพบญั ชไี มอ ยู ในที่ประชมุ หรือไมส ามารถปฏบิ ัตหิ นาทไี่ ดหรอื ไมปฏบิ ัตหิ นา ที่ ใหส มาชิกสามัญท่ีมาประชมุ เลอื กสมาชิกสามญั คน หนึ่งทําหนา ทเี่ ปนประธานในที่ประชมุ หมวด ๓ คณะกรรมการสภาวชิ าชพี บัญชี มาตรา ๒๒ ใหมคี ณะกรรมการสภาวิชาชีพบญั ชี ประกอบดวย (๑) นายกสภาวชิ าชพี บญั ชี ซึ่งที่ประชมุ ใหญเลอื กต้ังจากสมาชกิ สามัญ (๒) กรรมการโดยตําแหนง ไดแ ก ประธานคณะกรรมการวชิ าชีพบญั ชีทุกดา น ประธานคณะกรรมการ กําหนดมาตรฐานการบญั ชี และประธานคณะกรรมการจรรยาบรรณ (๓) กรรมการผูท รงคุณวฒุ ิ ซ่งึ นายกสภาวชิ าชีพบัญชีและกรรมการโดยตาํ แหนงตาม (๒) มมี ติแตง ต้ังจาก ผูทรงคณุ วฒุ ิเก่ียวกับวชิ าการบัญชีสองคน และผทู รงคณุ วฒุ ิทางดานกฎหมายหนง่ึ คน (๔) กรรมการซ่งึ ท่ีประชมุ ใหญเลือกตง้ั จากสมาชิกสามัญ มจี ํานวนไมเ กินหาคน ใหเลขาธกิ ารสภาวิชาชพี บญั ชเี ปน กรรมการและเลขานุการ และจะใหมีผชู ว ยเลขานุการกไ็ ดต ามความ จําเปนและตามมติของคณะกรรมการสภาวชิ าชีพบญั ชี คณุ สมบตั ิและลกั ษณะตอ งหามของนายกสภาวชิ าชพี บัญชี กรรมการตาม (๓) และ (๔) และหลกั เกณฑ และวิธกี ารเลือกต้งั นายกสภาวิชาชีพบัญชี และกรรมการตาม (๔) ใหเ ปน ไปตามขอ บังคบั สภาวชิ าชพี บัญชี [ดูขอ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบับที่ ๔) เร่ือง คณุ สมบตั แิ ละลักษณะตองหามของนายกสภาวชิ าชีพบัญชี กรรมการผูท รงคุณวุฒิและกรรมการสภาวิชาชีพบญั ชี และหลกั เกณฑแ ละวธิ ีการเลอื กตงั้ พ.ศ. ๒๕๔๗] มาตรา ๒๓ นายกสภาวชิ าชีพบญั ชี และกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) มวี าระการดาํ รงตาํ แหนง คราวละสามป ในกรณที ี่นายกสภาวิชาชพี บญั ชี หรอื กรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) พน จากตาํ แหนง กอ นครบ วาระ หรอื ในกรณีที่ท่ปี ระชุมใหญเลอื กกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๔) เพ่ิมขนึ้ ในระหวา งทีก่ รรมการซึง่ เลอื กตั้งไวแ ลว ยงั มวี าระอยใู นตําแหนง ใหผูไดรับเลอื กตัง้ หรอื แตง ตัง้ แทนตําแหนงทีว่ างหรือเปน กรรมการเพ่มิ ขึ้น อยใู นตาํ แหนง เทา กับวาระที่เหลืออยูข องกรรมการซึง่ ไดเลอื กหรอื แตง ตั้งไวแ ลว เมื่อครบกาํ หนดตามวาระในวรรคหนง่ึ หากยงั มิไดมีการเลอื กต้ังนายกสภาวชิ าชีพบญั ชหี รือยังมิไดมีการ 421 หลกั การบัญชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)

แตง ตงั้ กรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) หรือยงั มไิ ดมกี ารเลือกกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๔) ขนึ้ ใหม ใหนายกสภา วิชาชีพบญั ชีหรือกรรมการซึ่งพนจากตําแหนงตามวาระนนั้ อยูในตาํ แหนง เพอ่ื ดาํ เนนิ งานตอไปจนกวา นายกสภา วชิ าชพี บญั ชหี รือกรรมการซ่ึงไดรับเลือกหรอื แตง ตง้ั ใหมเขา รบั หนาที่ นายกสภาวิชาชพี บัญชีหรือกรรมการซ่ึงพน จากตําแหนงตามวาระ อาจไดร บั เลือกตั้งหรือแตง ตง้ั อีกได แต นายกสภาวชิ าชีพบัญชจี ะดาํ รงตาํ แหนง เกินสองวาระติดตอกนั ไมไ ด มาตรา ๒๔ นอกจากการพนจากตาํ แหนงตามวาระ ใหนายกสภาวิชาชพี บญั ชีและกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) พนจากตําแหนง เม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) พนจากสมาชิกภาพของสมาชกิ สภาวิชาชพี บัญชี (๔) ขาดคุณสมบัตหิ รือมีลักษณะตองหามตามขอ บังคับสภาวชิ าชพี บญั ชี (๕) รัฐมนตรีมีคาํ สง่ั ใหพ นจากตาํ แหนง ตามมาตรา ๖๓ มาตรา ๒๕ ใหน ายกสภาวิชาชพี บญั ชีเลอื กกรรมการเพ่ือแตงตั้งใหด ํารงตําแหนงอปุ นายกตามจาํ นวนท่ี คณะกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชีกําหนด ตาํ แหนงเลขาธิการ เหรัญญิก และนายทะเบยี น ตําแหนงละหนึ่งคน และ ตําแหนง อนื่ ตามทีค่ ณะกรรมการสภาวชิ าชพี บญั ชีกาํ หนดตามความจาํ เปน การปฏบิ ัตหิ นาที่ อํานาจหนา ท่ี และการพน จากตาํ แหนง ของผดู ํารงตําแหนงตามวรรคหนงึ่ ใหเปนไปตาม ขอบงั คับสภาวิชาชีพบัญชี [ดขู อบังคบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบับท่ี ๑๔) เรอื่ ง การปฏิบตั ิหนาท่ี อาํ นาจหนาท่ี และการพนจากตําแหนง ของผดู าํ รงตําแหนง อปุ นายก เลขาธิการ เหรัญญกิ นายทะเบียน และตาํ แหนงอน่ื ๆ ตามที่คณะกรรมการสภาวิชาชพี กาํ หนด พ.ศ. ๒๕๔๙] มาตรา ๒๖ การประชุมคณะกรรมการสภาวิชาชพี บญั ชีตองมีกรรมการมาประชุมไมน อยกวาก่งึ หน่ึงของ จาํ นวนกรรมการท้ังหมด จงึ จะเปน องคประชุม มตขิ องท่ีประชุมใหถ ือเสยี งขา งมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนงึ่ ในการลงคะแนนถาคะแนนเสียงเทากัน ใหป ระธานในท่ีประชมุ ออกเสียงเพิ่มขึ้นอกี เสียงหน่งึ เปนเสยี งชข้ี าด [ดกู ฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชบัญญัตผิ ูส อบบญั ชี พ.ศ. ๒๕๐๕] มาตรา ๒๗ คณะกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชี จะแตง ต้ังคณะอนกุ รรมการเพือ่ พจิ ารณาหรอื ปฏบิ ัติการ ตามทมี่ อบหมายก็ได ใหนาํ ความในมาตรา ๒๖ มาใชบ ังคบั แกก ารประชมุ ขอคณะอนกุ รรมการโดยอนุโลม มาตรา ๒๘ ใหคณะกรรมการสภาวชิ าชพี บญั ชมี อี าํ นาจหนาท่ี ดงั ตอไปน้ี (๑) บริหารกิจการของสภาวิชาชพี บญั ชใี หเ ปน ไปตามวัตถุประสงค (๒) กระทํากิจการทีอ่ ยใู นอํานาจหนา ท่ขี องสภาวิชาชพี บญั ชตี ามพระราชบัญญัติน้ี (๓) เสนอรางขอ บังคับสภาวิชาชีพบญั ชีในกิจการตา งๆ ท่กี ําหนดไวในพระราชบญั ญตั ิน้ตี อท่ีประชุมใหญ สภาวชิ าชีพบญั ชี 422 หลักการบญั ชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook