เงนิ สดจายคาใชจ ายในการดําเนนิ งาน เงนิ สดจา ยคา ดอกเบย้ี เงินสดจายคา ภาษเี งนิ ได กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดําเนินงาน เปน กระแสเงินสดท่ีสําคัญที่สุดของกิจการ จากมาตรฐานการบัญชี ฉบับท่ี 25 กิจการสามารถเลือกที่จะแสดงกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานโดยใชวิธีทางตรง (Direct Method) หรือวิธีทางออม (Indirect Method) วธิ ใี ดวธิ ีหน่ึง วิธีทางตรง เปนการรายงานถึงแหลงท่ีมาและใชไปของเงินสดท่ีเกิดจากการดําเนินงานโดยที่มาหลัก ของเงินสดจะมาจากเงินสดท่ีไดรับจากลูกคา และแหลงใชเงินสดจะเกิดจากการจายซื้อสินคา บริการ และจาย คาใชจายในการดําเนินงาน ซ่ึงผลตางระหวางเงินสดรับและเงินสดจายคือ กระแสเงินสดสุทธิจากการดําเนินงาน ซึ่งวิธี ทางตรงจะใหขอ มลู ท่เี ปน ประโยชนในการวางแผนประมาณการกระแสเงินสดในอนาคต วธิ ีทางตรงจะแสดงเงินสดรับ และเงินสดจายตามลักษณะรายการหลักที่เกิดขึ้น เชน เงินสดรับจากลูกคา เงินสดจายซื้อสินคา เงินสดจายคาใชจายดําเนินงานตางๆ โดยแสดงเฉพาะกระแสเงินสดที่เก่ียวของกับกิจกรรม ดําเนินงานเทานั้น ซ่ึงขอมูลเหลานี้อาจนํามาจากการบันทึกรายการทางบัญชีของกิจการ หรือนํามาจากการปรับปรุง รายการในงบกําไรขาดทุน ดวยผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของรายการในงบดุล ในบัญชีสินทรัพยหมุนเวียน และหนี้สินหมุนเวียนซ่ึงเปนผลจากการดําเนินงานในระหวางงวด และปรับดวยรายการที่ไมมีผลตอเงินสด (เชน คา เสอื่ มราคา) และรายการทไ่ี มใ ชก จิ กรรมดําเนินงาน (เชน กาํ ไรขาดทุนจากการขายสินทรพั ย) วิธีการปรับรายการในงบกําไรขาดทุนตามเกณฑสิทธิ ใหเปนรายการตามเกณฑเงินสดกอนท่ีจะ นาํ ไปแสดงเปนกระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดําเนนิ งาน มดี ังนี้ 1. คาํ นวณเงินสดรบั จากลูกคา หรือจากการบริการ เงนิ สดทไี่ ดร บั จากลูกคา = ยอดขาย (จากงบกาํ ไรขาดทนุ ) บวก การลดลงของบญั ชีลกู หนี้ หรอื หกั การเพม่ิ ข้ึนของบญั ชีลกู หน้ี หรืออาจคํานวณจากความสมั พันธของบญั ชีแยกประเภทที่เก่ียวของ ซงึ่ ไดแกบญั ชีขาย บญั ชีลูกหนี้ ขาย ลูกหน้ีการคา ยอดขาย ยอดยกมา xx ชาํ ระเงินสด ? ประจาํ งวด xx ขายเชอ่ื ประจาํ งวด xx ยอดยกไป xx (P/L) 2. คํานวณเงนิ สดจา ยซือ้ สนิ คา เงินสดจา ยซื้อสินคา /เงนิ สดจา ยชาํ ระหน้ี = ตน ทนุ ขาย (จากงบกําไรขาดทนุ ) การเพิม่ ขนึ้ ของสินคา บวก การลดลงของเจา หน้ีการคา การลดลงของสนิ คา หรอื หกั การเพ่ิมข้นึ ของเหจา หน้ีการคา หรืออาจคํานวณจากความสัมพันธของบัญชีแยกประเภทท่ีเกี่ยวของ ซ่ึงไดแก บัญชีเจาหน้ีการคา บัญชี สินคา บญั ชตี น ทนุ ขาย 373 3821302 หลกั การบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
เจาหนี้ สินคา ขาย xx ตน ทุนขาย จา ยชําระเงนิ ยอดยกมา xx ยอดยกมา xx (ตนทุนขาย) ตนทุนขาย ยอดยกไป xx ใน PL ? ซอื้ เช่อื ประจํา ยอดยกไป +ซ้อื เชอ่ื งวด xx ประจํางวด xx 3. คาํ นวณเงินสดจาย คา ใชจายดําเนินงาน เงนิ สดจายชาํ ระคาใชจาย = คาใชจา ยดําเนินงาน (จากงบกําไรขาดทนุ ไมรวมคา เส่ือมราคา) การเพิ่มข้ึนของสินคา บวก การลดลงของเจาหนี้การคา หรอื หัก การลดลงของสินคา การเพม่ิ ขึ้นของเหจา หน้กี ารคา 4. คาํ นวณเงนิ สดจา ยชาํ ระภาษีเงนิ ได และดอกเบย้ี จา ย ใชห ลักการคํานวณเหมือนกบั การ คาํ นวณเงินสดจายคาใชจ ายดาํ เนินงาน สรุปการปรับรายการในงบกําไรขาดทนุ ตามเกณฑคงคางใหเปนรายการตามเกณฑเ งินสดไดดงั ตารางที่ 8.1 ตารางที่ 8.1 สรปุ การปรับรายการในงบกาํ ไรขาดทนุ ตามเกณฑค งคางใหเ ปนรายการตามเกณฑเ งนิ สด รายการ การปรับปรงุ รายการ กระแสเงนิ สด ตามเกณฑค งคา ง (ตามเกณฑเงนิ สด) บวก หัก 1. รายไดจากการขาย/ ลกู หน้ลี ดลง ลกู หน้ีเพ่ิมข้นึ เงินสดรับจากการ รายไดจ ากการบรกิ าร ขาย/บรกิ าร 2. รายไดอน่ื รายไดค างรับเพ่ิมขึน้ รายไดคา งรบั ลดลง เงินสดรับจากรายไดอืน่ รายไดรับลวงหนาเพิม่ ขึน้ รายไดร บั ลวงหนา เพิ่มขึน้ 3. ตนทุนขาย สนิ คา คงเหลือเพิ่มขึ้น สนิ คาลดลง เงนิ สดจา ยชาํ ระเจา หนี้ เจา หนกี้ ารคา ลดลง เจา หนกี้ ารคา เพิ่มข้นึ จา ยซ้อื สินคา 4. คา ใชจา ยใน คาใชจา ยลว งหนาเพม่ิ ขึ้น คา ใชจ า ยลว งหนาลดลง เงินสดจายคา ใชจาย การดําเนนิ งาน คาใชจ า ยคา งจา ยลดลง คา ใชจ ายคา งจา ยเพมิ่ ขน้ึ ดาํ เนินงาน 5. ดอกเบีย้ จา ย ดอกเบีย้ คางจายลว งหนา ดอกเบย้ี จา ยลวงหนา ลดลง เงินสดจา ยดอกเบยี้ จา ย เพิม่ ขึ้น ดอกเบยี้ คา งจา ยเพิม่ ข้นึ ดอกเบยี้ คา งจายลดลง 6. ภาษีเงนิ ได ภาษเี งินไดจายลวงหนา ภาษเี งินไดจ ายลวงหนา ลดลง เงินสดจายภาษีเงินได เพมิ่ ขึน้ ภาษีเงินไดค างจายเพิ่มข้ึน ภาษีเงนิ ไดคางจายลดลง 374 3821302 หลักการบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
รูปแบบงบกระแสเงินสด แสดงกระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งานวธิ ีทางตรง บริษัท ....จํากดั งบกระแสเงินสด สําหรับระยะเวลา....สิน้ สุดวนั ที่ .... เดอื น......ป. .... กระแสเงินสดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน เงนิ สดรบั จากการขายสนิ คา หรือใหบรกิ าร XX เงนิ สดรับจากลูกหน้ี XX เงนิ สดรบั จากรายไดอืน่ ๆ (เงินปนผลและดอกเบ้ียรับ) XX XX เงนิ สดจายคาสินคา หรือบรกิ าร XX XX XX (1) เงนิ สดจายชําระหนี้ (เจาหน้ีการคา ) XX เงินสดจายคาใชจา ยในการดําเนินงาน XX เงินสดจา ยดอกเบย้ี XX เงินสดจา ยภาษเี งินได XX กระแสเงนิ สดรบั (จา ย) สทุ ธิจากกิจกรรมดําเนินงาน วิธีทางออม หรือวิธีกระทบยอด เปนการรายงานเงินสดที่เกิดจากการดําเนินงาน โดยการนํากําไรสุทธิ ตามเกณฑคงคางจากงบกําไรขาดทุน มาปรับปรุงดวยรายไดและคาใชจายที่ไมเก่ียวของกับเงินสดหรือนํากําไรสุทธิ ตามเกณฑคงคาง (accrual net income) มาคํานวณใหเปนกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน และปรับปรุงเพิ่ม ดวยผลของการเปลี่ยนแปลงในบัญชีสินทรัพยหมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน โดยไมรวมการกูยืมระยะสั้น ท้ังนี้เพ่ือให ทราบถึงกระแสเงนิ สดท่ีแทจรงิ จากการดําเนินงาน เนื่องจากขอมูลในงบกระเสเงินสดจะตองใชขอมูลจากงบกําไรขาดทุน และงบดุลดังนั้นงบกระแสเงินสด วิธีทางออมจึงเปนวิธีท่ีนิยม เนื่องจากสามารถจัดทําไดสะดวก รวดเร็วและยังแสดงถึงความสัมพันธระหวางงบกําไร ขาดทุนและงบดลุ แสดงรูปแบบงบกระแสเงนิ สด แสดงกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานวิธที างออ ม ดงั น้ี บริษัท ....จํากดั งบกระแสเงนิ สด สําหรบั ระยะเวลา....สน้ิ สุดวนั ท่ี .... เดือน......ป..... กระแสเงินสดจากกิจกรรมดาํ เนินงาน กาํ ไรสทุ ธิ (จากงบกาํ ไรขาดทนุ ) XX ปรับปรุงดว ยรายการทไี่ มกระทบเงินสด บวก คาเส่ือมราคา XX หน้ีสงสัยจะสูญ XX คา ตดั จําหนายสินทรพั ยไมม ีตัวตน XX คาตดั จําหนา ยสว นต่าํ กวามลู คา หุนกู XX ผลขาดทุนจากการขายสนิ ทรัพย* XX XX หกั กาํ ไรจากการขายสินทรัพย* XX XX ตัดจาํ หนายสวนเกนิ กวามูลคาหุนกู XX XX 375 3821302 หลักการบญั ชีเบอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
ปรับปรุงดวยผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงในบัญชีสินทรพั ยห มุนเวยี นและ หนี้สนิ หมุนเวยี น บวก สินทรพั ยหมุนเวียนลดลง XX XX หนห้ี มุนเวยี นเพิม่ ข้นึ XX XX XX หกั สินทรพั ยห มุนเวยี นเพม่ิ ขึ้น XX XX (1) หน้ีสินหมุนเวียนลดลง XX กระแสเงินสดรับ (จาย) สุทธจิ ากการดําเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน จะนํามารายงานเปนลําดับแรกในงบกระแสเงินสด ว่ึงเปนการ รายงานมวี ิธีการรายงาน 2 วิธี คือวิธีทางตรงและวิธีทางออม ท้ัง 2 วิธีจะแสดงกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานใน จํานวนทีเ่ ทา กัน + กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทนุ -กระแสเงินสด กระแสเงินสดจากกิจกรรมจดั หาเงนิ (Cash Flows) Maturity Decline Introduction Growth ภาพท่ี 8.1 กระแสเงนิ สดในวัฏจักรการดาํ เนนิ งาน(Cash Flows Life Cycle) จากภาพท8่ี .1 ในวัฏจกั รการดําเนนิ งานทปี่ ระกอบดวย ระยะเริ่มดําเนนิ งาน(Introduction)ระยะเตบิ โต ของ(Growth) ระยะอ่มิ ตวั (Maturity) และระยะตกตา่ํ (Decline) กอใหเ กิดกระแสเงินสดในวฏั จกั รการดําเนนิ งาน (Cash Flows Life Cycle)ท่แี ตกตางกันในแตล ะชวงของการดาํ เนนิ งาน ระยะเริ่มดําเนินงาน(Introduction) ธุรกิจจําเปนตองใชเงินเปนจํานวนมากในการกอรางสรางธุรกิจตอง ประสบกับการลงทุนสูงในการผลิตและดําเนินงานจึงทําใหกระแสเงินสดรับจากเจาของหรือจากการกูยืมมีเปนจํานวน มากซ่งึ เปน กระแสเงินสดรบั ในกิจกรรมจดั หาเงิน โดยยังไมมีกระแสเงินสดจายในกิจกรรมจัดหาเงิน มีผลทําใหกระแส เงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินเปนบวกในระยะแรกดําเนินงาน ในขณะเดียวกันตองประสบกับการลงทุนสูงในการผลิต มีการจายเงินลงทุนเพื่อซื้อสินทรัพย เขามาเพ่ือใชในการดําเนินงาน(..เคร่ืองผลิตเงินสดในอนาคต...)ทําใหกระแสเงิน สดจายในกิจกรรมลงทุนมีเปนจํานวนมาก โดยยังไมมีกระแสเงินสดรับในกิจกรรมลงทุน มีผลทําใหกระแสเงินสดจาก กิจกรรมลงทุนเปนลบในระยะแรกดําเนินงาน ขณะที่รายไดอาจยังไมมีหรือมีนอยมาก แตมีคาใชจายตางๆในการ ดําเนินงานเปนจํานวนมาก ดังน้ันในชวงระยะเร่ิมดําเนินงานจะประสบภาวะการขาดทุน ทําใหกระแสเงินสดรับใน กิจกรรมดําเนินงานยังไมเกิดขึ้นมีแตกระแสเงินสดจาย มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานเปนลบใน ระยะแรก 376 3821302 หลักการบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
ระยะเติบโต(Growth) ยอดขายเพ่ิมสงู ขน้ึ และเพิม่ ในอตั ราทเี่ ร็ว ดังนั้นในชวงแรกของระยะเติบโต กิจการ จะไดร บั ผลประโยชนจ ากกําไรทค่ี อนขางสูง เนื่องจากไมมีคูแขงในตลาด ทําใหรายไดเกิดขึ้นเปนจํานวนมาก ในระยะนี้ กระแสเงินสดรับจากกิจกรรมดําเนินงานจะยังคงมีมากกวากระแสเงินสดจาย มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรม ดําเนินงานเปนบวกในระยะเติบโต ขณะเดียวกันกิจการจะจายเงินเพ่ือการลงทุนในสินทรัพย ทําใหกระแสเงินสดจาก กิจกรรมลงทุนมีกระแสเงินสดจายมากกวากระแสเงินสดรับในชวงแรก และเงินสดจะทยอยเพิ่มข้ึนเมื่อกิจการ ดําเนินงานมาจนมีสถานะมั่นคงทําใหกระแสเงินสดรับมีมากกวากระแสเงินสดจาย ทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรม ลงทุนเปน บวก ระยะอิ่มตัว (Maturity) กิจการยังคงมีรายไดจํานวนมากและกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมดําเนินงาน ยังคงมีมากกวากระแสเงินสดจาย มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานเปนบวก ทําใหกิจการมีเงินสดมาก พอท่จี ะนาํ ไปลงทุนและจายชําระหนี้ใหแ กเจา หนี้ และมากพอท่ีจะนําไปจายคืนใหแกผูลงทุนในรูปของเงินปนผล ทําให กระแสเงินสดจายจากกิจกรรมจัดหาเงินเปนลบ ในระยะอิ่มตัวมีคูแขงขันเพิ่มจํานวนมากเรื่อยๆซึ่งเกิดจากแรงจูงใจ ดานกําไรท่ีดี ทําใหสวนแบงของตลาดและรายไดของกิจการปรับลดลง ประกอบกับผูซื้อเร่ิมใหความสนใจนอยลง ในชว งนย้ี อดขายจะเพิม่ ข้นึ ไมม ากเหมือนชว งระยะเติบโต และในที่สุดอัตราการเพ่ิมของยอดขายจะหยุดนิ่งหากกิจการ ไมมีการปรับแผนการดําเนินงานยอดขายสินคาจะตกต่ําลงแตมักจะมีโอกาสไดไมนานเพราะบรรดาคูแขงท้ังหลายจะ เริ่มไดกล่ินกําไรและทยอยกันเขามาขอสวนแบง ในระยะอ่ิมตัวกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงานจะเร่ิมลดลง แต ยังคงมีกระแสเงนิ สดรบั มากกวา กระแสเงนิ สดจาย ระยะตกต่าํ (Decline)กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมดําเนินงานจะเร่ิมลดลง กิจการอาจมีการขายสินทรัพยท่ี ลงทุนในชวงแรกและอาจมีการจา ยเงินลงทุนเปล่ียนสินทรัพยท่ีหมดอายุการใชงาน ทําใหกระแสเงินสดรับจากกิจกรรม ลงทุนมีเปนจํานวนมาก มีผลทําใหกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนเปนบวก ในระยะน้ีกิจการอาจตองจายเงินสดเพื่อ ชําระหนี้ใหแกเจาหน้ีพรอมดอกเบี้ย และจายเงินปนผลเปนผลตอบแทนใหแกผูลงทุน ทําใหกระแสเงินสดจายจาก กิจกรรมจัดหาเงนิ เปน ลบ จากตัวอยา งท่ี 14.1 สามารถจัดทํางบกระแสเงนิ สดวธิ ที างออ มของบรษิ ัท ศภุ กร จาํ กัด ไดด งั น้ี บรษิ ัท ศภุ กร จํากดั งบกระแสเงินสด (วธิ ีทางออ ม) สาํ หรับระยะเวลา 1 ปส ิน้ สุดวันท่ี 31 ธันวาคม 25x8 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน (บาท) กาํ ไรสุทธิ 40,300 บวก คาเสอ่ื มราคา 8,500 ขาดทุนจากการขายอปุ กรณ 3,100 51,900 52,150 คาใชจ า ยอนื่ ๆ คางจา ยเพม่ิ ขึ้น 250 หัก เงนิ ทุนชวั่ คราวเพิ่มขึน้ 13,620 ลกู หน้เี พ่มิ ขึน้ 4,190 สนิ คา เพิม่ ข้ึน 2,490 คา ใชจ า ยลวงหนา เพมิ่ ข้นึ 1,110 เงินกูธ นาคารลดลง 5,000 377 3821302 หลกั การบัญชเี บื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
เจาหนี้ลดลง 780 27,190 เงนิ สดรบั สุทธจิ ากกจิ กรรมดําเนินงาน 24,960 ตวั อยางที่ 8.2 การจัดทํากระแสเงนิ สดจากกิจกรรมดาํ เนินงานวธิ ที างออ มของบรษิ ัท จารวี จาํ กัด มี งบกําไรขาดทนุ โดยประมาณ สําหรบั ระยะเวลา 1 ปส ิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x8ดงั น้ี ขายสุทธิ 240,000 ตน ทุนขาย 159,000 กาํ ไรข้ันตน 81,000 คา จางและเงินเดือน 32,400 คาโฆษณา 8,400 คาเส่อื มราคา – สินทรัพยถาวร 4,500 คา ใชจายดําเนินการอ่ืน ๆ 7,200 52,500 กําไรสทุ ธิ 28,500 บรษิ ทั คาดวาบัญชีหมุนเวยี นของบริษทั จะมกี ารเปล่ียนแปลงดังนี้ บญั ชคี า ใชจา ยลว งหนาเพ่ิมขน้ึ 2,400 บญั ชีคา โฆษณาคางจายเพ่มิ ขน้ึ 1,200 บัญชลี กู หนี้ลดลง 16,200 บัญชเี จาหนล้ี ดลง 5,100 บญั ชีสนิ คาคงเหลอื ลดลง 9,900 ยอดเงินสด ณ 1 มกราคม 25x9 มีจาํ นวน 142,500 งบกระแสเงนิ สด กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน 28,500 33000 กาํ ไรสทุ ธิ 4,500 บวก คาเส่อื มราคา รายการท่ีทําใหเ งนิ สดเพ่มิ ขนึ้ 1,200 27,300 คาโฆษณาคางจายเพ่มิ ข้นึ 16,200 ลูกหนลี้ ดลง 9,900 สินคา คงเหลอื ลดลง 2,400 รายการทท่ี ําใหเ งนิ สดลดลง 5,100 (7,500) คาใชจ ายลวงหนาเพ่มิ ขึ้น เจาหน้ีลดลง 52,800 เงินสดรับสทุ ธจิ ากกจิ กรรมดําเนินงาน 142,500 เงนิ สด 1 มกราคม 25x8 195,300 เงนิ สด 31 ธนั วาคม 25x8 378 3821302 หลักการบญั ชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
2. กระแสเงินสดจากกจิ กรรมลงทุน (Cash Flows from Investing Activities) เปนกระแสเงินสดจากการซ้ือ และจําหนายสินทรัพยระยะยาว และเงินลงทุนอ่ืนซึ่งไมรวมอยูใน รายการเทยี บเทา เงินสด เปนกระแสเงินสดท่ีเกดิ จากการจายซอื้ สินทรพั ยตางๆ ทก่ี อใหเ กดิ รายได ตวั อยางของกระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทุน เงินสดจายซอ้ื สนิ ทรพั ยทใ่ี ชในการดาํ เนินงาน เชน ท่ดี นิ อาคารและอุปกรณ เงินสดจา ยซื้อสนิ ทรพั ยไมห มนุ เวียน เงนิ สดจา ยซือ้ เงินลงทุนระยะยาว (หนุ ทนุ หรอื หุน กู ฯลฯ) เงินสดรับจากการขายสนิ ทรัพยไ มห มุนเวียน เงนิ สดรับจากการขายเงินลงทุนระยะยาว ฯลฯ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนจะรายงานกระแสเงินสดรับกอนกระแสเงินสดจายการ รายงานกระแสเงินสดจากกจิ กรรมลงทนุ จะรายงานเปน ลําดับท่สี องรองลงมาจากกจิ กรรมดาํ เนินงาน 3. กระแสเงนิ สดกิจกรรมจัดหาเงิน (Cash Flows from Financing Activities) เปนกระแสเงินสดที่เกิดจากกิจกรรทท่ีกอใหเกิดการเปล่ียนแปลงในขนาด และองคประกอบ ของสวนของเจาของ และสว นกยู มื องกจิ การ ซึ่งจะเปน รายการที่เกิดจากหนส้ี ินระยะยาว และสวนของเจาของใน งบดุล กระแสเงินสดในกิจกรรมจัดหาเงินจะชวยเปนประโยชนในการคาดคะเนสิทธิเรียกรองในกระแสเงินสดใน อนาคตของผใู หเงินทุนแกก จิ การ กระแสเงนิ สดกิจกรรมจัดหาเงนิ เชน เงินสดรับจาการกยู มื จากสถาบนั การเงิน เงนิ สดรับจากการลงทนุ /เพมิ่ ทนุ (ออกจําหนา ยหนุ ) เงินสดรบั จากการออกพนั ธบตั ร หุน กู เงินเบกิ เกินบญั ชี เงินกรู ะยะสัน้ เงินสดจา ยเปนเงินปน ผล เงินสดจายชาํ ระคนื หนสี้ นิ เงนิ สดจา ยซอ้ื หนุ คืน ฯลฯ กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน จะรายงานเปนลําดับสุดทายในงบกระแสเงินสด จากน้ันนํากระแสเงินสดจาก 3 กิจกรรมมารวมกัน จะไดกระแสเงินสดสุทธิท่ีเพิ่มขึ้น หรือลดลงในระหวางงวด ซึ่งจะนําไปรวมกับเงินสดท่ีมีอยูในวันตนงวด ผลท่ีไดจะเทากับเงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวด ตามที่ปรากฏใน งบดุล สรปุ กระแสเงินสดที่เกิดขึน้ ในแตละงวดการดําเนินงาน ไดด งั ภาพที่14.1 379 3821302 หลักการบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
แหลงทีม่ าของเงินสด แหลง ใชไ ปของเงินสด กจิ กรรมดาํ เนินงาน กจิ กรรมดําเนนิ งาน - เงินสดรับจากการขายสินคา/ ใหบ ริการ - จายซื้อสนิ คา/บริการ - เงินสดรับจากรายไดอื่น กจิ กรรมลงทุน - จา ยคาใชจ ายดาํ เนินงาน - ขายสนิ ทรพั ยไมหมุนเวียน - ขายเงินลงทุนระยะยาว - จายคาภาษีเงินได กจิ กรรมจัดหาเงนิ - เงนิ สดรับจากการกูยมื เงินสด กิจกรรมลงทุน - เงินสดรบั จาการลงทุนเพิ่มทุน (Cash) - ซื้อสินทรพั ยไมหมุนเวยี น - ซ้อื เงนิ ลงทุนระยะยาว กจิ กรรมจัดหาเงนิ - เงนิ สดจา ยชาํ ระหน้ี - เงินสดจายปนผล ภาพท่ี 8.1 สรปุ กระแสเงนิ สดทีเ่ กดิ ข้นึ ในแตล ะงวดการดําเนนิ งาน รูปแบบการรายงานงบกระแสเงนิ สด รูปแบบการรายงานงบกระแสเงินสด ทง้ั วธิ แี สดงกระแสเงินสดจากกจิ กรรมดาํ เนินงานวธิ ีทางตรง และวธิ ที างออม บรษิ ทั ....จาํ กดั งบกระแสเงินสด สําหรับระยะเวลา.....สน้ิ สดุ วันท่ี.....เดอื น......ป.... กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน เงนิ สดรบั จากการขายสินคาหรือใหบ รกิ าร XX เงนิ สดรบั จากลูกหน้ี XX เงนิ สดรับจากรายไดอ น่ื ๆ (เงินปนผลและดอกเบ้ียรับ) XX XX เงนิ สดจายคาสินคา หรอื บรกิ าร XX เงินสดจา ยชาํ ระหน้ี (เจา หนีก้ ารคา) XX เงินสดจายคา ใชจา ยในการดาํ เนินงาน XX เงินสดจายดอกเบ้ยี XX เงนิ สดจา ยภาษเี งนิ ได XX XX กระแสเงนิ สดรบั (จา ย) สทุ ธิจากกจิ กรรมดําเนินงาน กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทนุ XX (1) เงินสดจายซ้ือที่ดนิ , อาคาร, อปุ กรณ XX เงนิ สดจา ยซื้อเงินลงทุนระยะยาว XX XX เงนิ สดรบั จากการขายเงินลงทุนระยะยาว XX เงนิ สดรับจากการขายท่ดี นิ , อาคาร, อปุ กรณ XX XX กระแสเงินสดรบั (จา ย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมมาลงทนุ XX (2) 380 3821302 หลักการบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
กระแสเงนิ สดจากิจกรรมจดั หาเงนิ XX XX เงินสดรับจาการกยู ืม (ระยะสน้ั และระยะยาว) XX XX เงินสดรบั จากการขายหุนทนุ XX เงินสดรบั จากการขายหุนทุน XX เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี XX เงินสดจา ยเปน เงนิ ปนผล XX XX เงินสดจายชําระหนี้ เงนิ สดจายเพอ่ื ซื้อหนุ คืน XX (3) รวมกระแสเงนิ สดรบั (จาย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมจัดหางาน กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธิระหวางงวด {(1) + (2) + (3)} XX บวก เงินสดคงเหลอื ตน งวด XX XX เงนิ สดคงเหลือปลายงวด XX บริษัท ....จาํ กดั XX XX งบกระแสเงินสด XX สาํ หรับระยะเวลา…สิน้ สดุ วันที่ ...เดอื น...ป... XX XX กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน XX XX กําไรสทุ ธิ (จากงบกาํ ไรขาดทุน) XX XX ปรบั ปรุงดวยรายการทีไ่ มกระทบเงนิ สด XX บวก คาเสอ่ื มราคา XX หนีส้ งสยั จะสูญ คา ตดั จาํ หนายสินทรพั ยไ มม ตี ัวตน คา ตดั จาํ หนายสว นต่าํ กวา มลู คา หุนกู ผลขาดทุนจากการขายสนิ ทรพั ย* หกั กาํ ไรจากการขายสินทรพั ย* ตดั จําหนายสว นเกนิ กวา มลู คาหนุ กู ปรบั ปรุงดวยผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงในบญั ชสี ินทรัพยห มุนเวียน + หน้สี ินหมุนเวียน บวก สินทรพั ยห มุนเวยี นลดลง XX XX หนีห้ มุนเวยี นเพ่ิมขึ้น XX XX XX หกั สินทรพั ยห มุนเวียนเพิ่มขนึ้ XX XX (1) หนสี้ นิ หมุนเวยี นลดลง XX กระแสเงนิ สดรับ (จาย) สทุ ธจิ ากการดาํ เนินงาน 381 3821302 หลกั การบญั ชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทุน XX XX เงินสดจา ยซ้อื ทด่ี นิ , อาคารและอปุ กรณ XX (XX) เงินสดจา ยซื้อเงนิ ลงทนุ ระยะยาว XX XX (2) เงนิ สดรับจากการขายเงนิ ลงทุน XX เงินสดรับจากการขายทีด่ ิน, อาคาร, อุปกรณ XX กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธจิ ากการลงทนุ XX กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจัดหาเงิน XX (XX) XX XX (3) เงินสดรับจากการกยู ืม (ระยะสัน้ และระยะยาว) XX XX เงินสดรับจากการขายหุน ทุน XX XX เงินเบิกเกินบญั ชี XX XX เงนิ สดจายปนผล XX เงนิ สดจา ยชําระหน้ี เงินสดจายเพื่อซื้อหนุ คนื (บาท) กระแสเงนิ สดรบั (จาย) สุทธิจากการจดั หาเงิน กระแสเงนิ สดรบั (จา ย) สทุ ธิระหวางงวด (นาํ (1) + (2) +(3)) 52,150 บวก เงนิ สดคงเหลือตน งวด เงนิ สดคงเหลอื ปลายงวด จากตวั อยา งท่ี 8.1 สามารถจัดทํางบกระแสเงินสดไดด งั น้ี บริษัท ศภุ กร จํากัด งบกระแสเงินสด (วิธีทางออ ม) สาํ หรับปส้ินสุด 31 ธันวาคม 25x8 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนินงาน กําไรสทุ ธิ 40,300 บวก คา เสือ่ มราคา 8,500 ขาดทุนจากการขายอุปกรณ 3,100 51,900 คาใชจายอนื่ ๆ คางจา ยเพมิ่ ข้นึ 250 หกั เงนิ ทุนช่ัวคราวเพิ่มข้ึน 13,620 27,190 ลกู หนีเ้ พิม่ ขน้ึ 4,190 24,960 (1) สินคาเพมิ่ ข้ึน 2,490 คาใชจา ยลว งหนา เพิ่มขน้ึ 1,110 เงินกูธ นาคารลดลง 5,000 เจาหนี้ลดลง 780 เงนิ สดรบั สทุ ธจิ ากกจิ กรรมดาํ เนินงาน 382 3821302 หลกั การบญั ชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทนุ 2,500 เงินสดรบั จากการขายอปุ กรณ 49,000 เงินสดจาย (46,500) (2) จากการซอื้ อปุ กรณ 40,000 เงนิ สดจา ยสทุ ธิจากกิจกรรมลงทุน กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ 15,000 25,000 (3) เงินสดรับ 3,460 จากการกูหน้ีระยะยาว เงนิ สดจา ย จากการจายเงินปนผล เงินสดรบั สทุ ธิจากกิจกรรมลงทุน เงินสดสุทธิเพ่มิ ขน้ึ (1) + (2) + (3) รายการที่มใิ ชเงนิ สด กิจกรรมลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงินท่ีไมใชเงินสด (Noncash Investing and Financing Activities) เปนกิจกรรมที่ไมไดเก่ียวของกับเงินสด เชน การออกหุนสามัญเพื่อชําระหน้ีระยะยาว ซื้อสินทรัพย โดยการชาํ ระเปน หุน หรือออกหนุ สามัญแลกเปล่ียนกับหุนบุริมสิทธิ์ชนิดแปลงสภาพได (Convertible preferred stock) รายการเหลา นีเ้ ม่ือเกิดขน้ึ จะไมมีผลกระทบตอเงินสดในระหวางงวด แตจะตองรายงานเปดเผยใหผูใชงบ การเงินทราบ เนื่องจากจะมีผลตอกระแสเงินสดของกิจการในอนาคต ซึ่งจะอยูในรูปของการจายดอกเบ้ีย และ การจายเงินปนผลโดยแสดงเปนสวนตอทายในงบกระแสเงินสด หรืออาจจะแสดงไวในหมายเหตุประกอบงบ การเงิน การจดั ทํางบกระแสเงนิ สด แหลงขอมูลในการจัดทํางบกระแสเงินสด กิจกรรมสามารถจัดเตรียมงบกระแสเงินสดโดยอาศัย ขอมลู จากแหลง ตา งๆ ไดแก 1. งบดุลเปรียบเทียบ ซึ่งจะใหขอมูลเบื้องตนในการจัดทํางบกระแสเงินสด โดยจะไดขอมูล เกย่ี วกับจํานวนเงินที่เปลี่ยนแปลงในบัญชีแตล ะบญั ชจี ากวันตนงวดถงึ วนั ปลายงวด 2. งบกําไรขาดทุน เปนงบกําไรขาดทุนประจํางวดที่ตองการจัดทํางบกระแสเงินสดซ่ึงจะใหขอมูล ที่เก่ียวขอ งกบั เงนิ สดทีไ่ ดรับ หรือใชไปในการดาํ เนนิ งานระหวางงวด 3. ขอมูลเพิ่มเติมตางๆ ไดมาจากรายละเอียดในสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป ซึ่งจะใหขอมูล เก่ียวกบั รายการท่ีมผี ล ทําใหเงินสดเพ่มิ ข้ึนหรอื ลดลงในระหวางงวด ขั้นตอนในการทํางบกระแสเงินสด สามารถจัดทํางบกระแสเงินสดจากขอมูลที่เก่ียวของ ไดต ามลาํ ดบั ขน้ั ดงั น้ี 1. คํานวณการเปลี่ยนแปลงในยอดของบัญชีเงินสดในงบดุล โดยการหาผลตางระหวางเงินสดตน งวดกับเงนิ สดปลายงวด 383 3821302 หลกั การบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
2. คํานวณกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน โดยจะทําการวิเคราะหจากรายการในงบ กําไรขาดทุน งบดุลเปรียบเทียบและรายการอื่นๆ ที่เกิดขึ้น การคํานวณในขั้นตอนน้ีจะมีความซับซอน โดย จะตองอาศยั ความรพู ้นื ฐานทางการบญั ชมี าชว ยในการวิเคราะห 3. คํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน เงิน โดยพิจารณาจากการเปล่ียนแปลงของรายการ บญั ชีสินทรัพยไมห มนุ เวียนในงบดุล เน่ืองจากไมใ ชก จิ กรรมการดาํ เนนิ งานปกติ 4. คํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน โดยพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของรายการ บัญชีหนี้สนิ และสว นของเจาของในงบดุล เนือ่ งจากไมใชก จิ กรรมการดําเนนิ งานปกติ วิธีการจัดทาํ งบกระแสเงินสด มีวิธีการทาํ ได 3 วธิ ดี ังนี้ 1. วิธคี าํ นวณ 2. วิธีวเิ คราะหทางบญั ชี 3. วิธีกระดาษทําการ 1. วิธีคํานวณ เปนการคํานวณหากระแสเงินสดโดยไมใชกระดาษทําการ โดยพิจารณา เปรียบเทียบจากรายการในงบการเงิน ซึ่งจะเหมาะกับงบการเงินที่มีรายการไมซับซอนมากนัก มีวิธีการทําโดย คํานวณการเปลี่ยนแปลงของบญั ชตี า งในงบดลุ โดยพิจารณาจากความสมั พันธข องสมการในงบดุล ดังน้ี สนิ ทรัพย = หนี้สิน + สว นของเจา ของ ซึง่ สนิ ทรัพยประกอบดวยเงินสด และรายการท่มี ิใชเ งนิ สด โดยจะไดสมการใหมดังน้ี เงินสด + สินทรพั ยที่มิใชเ งินสด = หนี้สนิ + สว นของเจา ของ ดังนั้นถาพิจารณาเฉพาะเงินสด จะไดสมการดังนี้ เงนิ สด = หน้สี ิน + สว นของเจาของ - สนิ ทรัพยท่มี ใิ ชเงินสด ซ่ึงจะพบวาการเปลีย่ นแปลงในบัญชเี งนิ สด เปนผลมาจากการเปล่ียนแปลงในบัญชีใดบัญชหี นง่ึ ของหนส้ี ิน สว นของเจาของและสนิ ทรพั ยทไ่ี มใ ชเงินสด ซ่งึ สรุปการเปลย่ี นแปลงไดด ังน้ี 1. หนสี้ ินเพม่ิ ขึ้น 2. สว นของเจา ของเพ่มิ ข้ึน สง ผลทาํ ให เงนิ สดเพมิ่ ขึน้ = แหลง ทมี่ าของเงนิ สด 3. สนิ ทรัพยท ่ีมิใชเ งินสดลดลง 1. หน้ีสนิ ลดลง สง ผลทําให เงนิ สดลดลง = แหลง ใชไปของเงินสด 2. สวนของเจาของลดลง 3. สนิ ทรัพยท ี่มใิ ชเงนิ สดเพ่มิ ข้นึ 2. วิธีวิเคราะหทางบัญชี หรือ T-account Method เปนการคํานวณหากระแสเงินสดโดยใชการ วิเคราะหทางบัญชี โดยพิจารณาเปรียบเทียบจากรายการในงบการเงิน ซ่ึงจะเหมาะกับงบการเงินท่ีมีรายการไม ซับซอนมากนัก มีวิธีการทําโดยคํานวณการเปลี่ยนแปลงของบัญชีตางในงบดุล หลักในการพิจารณาเหมือนท่ี ไดอธิบายไวในวิธีการคํานวณ แตวิธีการวิเคราะหทางบัญชีอาจนําบัญชีแยกประเภทมาใชเพ่ือชวยใหการ วิเคราะหทําไดสะดวกข้ึน โดยพิจารณาจากความสัมพันธของเงินสดกับรายการบัญชีตางๆในงบดุล ไดจาก สมการ เงินสด = หนี้สิน + สว นของเจา ของ – สนิ ทรัพยท่มี ิใชเงนิ สด 384 3821302 หลกั การบญั ชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
ดังน้ันเงนิ สดจะเปล่ยี นแปลงไปในทิศทางเดียวกบั การเปลย่ี นแปลงของหน้ีสิน และสวนของเจาของ หมายความวา ถา หนส้ี นิ และสว นของเจา ของเปลย่ี นแปลงโดยการเพิ่มข้ึน จะสงผลทําใหเงินสดเพิ่มขึ้นดวย เชน การกูยืมเงิน การเพ่ิมทุน ทําใหเงินสดเพิ่มข้ึน การชําระหน้ี การจายเงินปนผล จะทําใหเงินสดลดลง ตาม หลักการบันทึกบัญชี หากหนี้สิน และสวนของเจาของเพ่ิมข้ึน จะบันทึกบัญชีทางดานเครดิตหรือทางขวาของ บัญชีแยกประเภท สวนเงินสดเปนบัญชีสินทรัพยจะบันทึกเพ่ิมทางดานเดบิตซ่ึงเปนการบันทึกทางดานซายของ บัญชีแยกประเภท สามารถเขียนการเปลี่ยนแปลงของเงินสดที่เปล่ียนแปลงไปในทิศทางเดียวกับการ เปล่ียนแปลงของหนสี้ นิ และสวนของเจาของ ในรูปบญั ชีแยกประเภทไดด ังภาพท่ี 14.2 บญั ชเี งนิ สด เพิ่มข้นึ ลดลง บญั ชหี น้ีสิน ลดลง เพ่ิมขนึ้ การจายชาํ ระเวินกู การกูยืมระยะสั้น การกูย มื ระยะยาว บญั ชีสวนของเจาของ ลดลง เพิม่ ขึน้ จายเงนิ ปน ผล ขายหนุ เพ่มิ ลดทุน ภาพท่ี 8.2 แสดงการเปล่ียนแปลงของบัญชเี งนิ สดเม่ือหน้ีสนิ และสว นของเจาของเปลย่ี นแปลง และจากสมการ เงินสดจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงขามกับการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย หมายความวา ถาสินทรัพยเปล่ียนแปลงโดยการเพิ่มข้ึน จะสงผลทําใหเงินสดลดลงและถาสินทรัพย เปลี่ยนแปลงโดยการลดลงจะสงผลทําใหเงินสดเพิ่มข้ึน ตามหลักการบันทึกบัญชี สินทรัพยเพ่ิมขึ้น จะบันทึก บัญชที างดา นเดบิตซ่ึงเปนการบันทึกทางดานซายของบัญชีแยกประเภท บัญชีสินทรัพยลดลงจะบันทึกทางดาน 385 3821302 หลกั การบญั ชีเบ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
เครดิตหรือทางขวาของบัญชีแยกประเภท สามารถเขียนการเปล่ียนแปลงของบัญชีเงินสดเม่ือสินทรัพยอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไดดงั ภาพที่ 14.3 บญั ชีเงนิ สด เพิม่ ขนึ้ ลดลง บัญชีสินทรพั ย เพม่ิ ข้ึน ลดลง ซือ้ สินทรพั ย ขายสนิ ทรพั ย ภาพที่ 8.3 แสดงการเปล่ียนแปลงของบัญชีเงินสดเม่อื สินทรัพยอืน่ ๆเปลย่ี นแปลง 3. วิธีกระดาษทําการ เปนการคํานวณหากระแสเงินสดโดยใชกระดาษทําการในการจัดทํา โดย จะมีขอมูลงบดุล ณ วันตนงวด ขอมูลการเปลี่ยนแปลง และกระทบยอดในระหวางงวด เพ่ือแสดงถึงกระแสเงิน สดที่ไดรับ และใชไปในระหวางงวด และขอมูลงบดุล ณ วันส้ินงวด จากนั้นจึงนําผลกระทบในระหวางงวดมา จัดทํางบกระแสเงินสดตอ ไป ซึง่ วิธนี ีจ้ ะเหมาะกับงบการเงนิ ของกจิ การท่มี รี ายการซบั ซอน ยากตอ การวเิ คราะห ตัวอยางการจัดทํางบกระแสเงนิ สด จากขอมูลที่ใชในการจดั ทาํ งบกระแสเงินสด ของบริษทั ดาว เหนือ จาํ กดั ประกอบดว ย งบดุล งบกําไรขาดทุน และรายละเอียดเพิม่ เติม ดงั น้ี 386 3821302 หลักการบญั ชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
บริษทั ดาวเหนอื จํากัด 31 ธ.ค. 25x4 งบดุลเปรียบเทียบ 57,800 ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 25x4 และ 25x5 123,500 31 ธ.ค. 25x5 108,900 65,000 สินทรพั ย - เงินสด 93,400 278,600 (87,400) ลูกหนีก้ ารคา (สุทธ)ิ 125,000 546,400 สินคาคงเหลือ 146,500 74,000 6,000 เงนิ ลงทนุ ระยะยาว - 15,700 70,000 ทดี่ ิน 145,000 200,000 180,700 อปุ กรณ 367,600 546,400 คาเสอื่ มราคาสะสม – อปุ กรณ (110,900) 724,700 423,100 รวม 766,600 301,600 หน้สี ินและสวนของผูถือหุน 82,400 126,400 เจา หน้ีการคา 175,200 คาใชจ า ยในการดาํ เนินงานคา งจาย 6,700 30,000 205,200 เงนิ ปน ผลคา งจาย 18,400 ทุนหุน สามญั (@ 10 บาท) 100,000 สวนเกนิ มลู คาหุนสามญั 320,000 กําไรสะสม 239,100 รวม 766,600 บรษิ ทั ดาวเหนอื จํากดั งบกําไรขาดทนุ สาํ หรับระยะเวลา 1 ปส ิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25x5 ขาย ตนทุนขาย กําไรขัน้ ตน คาใชจ ายในการเนนิ งาน : คา เสอ่ื มราคาอุปกรณ 23,500 คาใชจา ยดําเนนิ งานอื่นๆ 102,900 กําไรจากการดาํ เนนิ งาน รายไดและคา ใชจา ยอืน่ ๆ รายไดอ นื่ กาํ ไรจากการขายเงนิ ลงทุนระยะยาว กาํ ไรกอนภาษเี งินได 387 3821302 หลกั การบัญชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
ภาษีเงินได 73,200 กําไรสุทธิ 132,000 รายละเอียดเพ่ิมเตมิ ประกอบการพจิ ารณา 1. ซอื้ ท่ดี ินและอุปกรณเ ปนเงนิ สดในระหวางป 2. ไมมกี ารขายอปุ กรณใ นระหวา งป 3. ขายเงินลงทุนระยะยาวไดร บั เงินสด 95,000 บาท 4. ออกจําหนายหุน สามญั เปนเงินสด จาํ นวน 3,000 หุน ราคาหุน ละ 50 บาท 5. ประกาศจา ยเงินปนผล จาํ นวน 73,600 บาท 1. วิธกี ารคํานวณ ขั้นตอนการจัดทํางบกระแสเงินสดของ (วธิ ีทางตรง) มี 5 ขน้ั ตอนดงั ตอไปนี้ ขัน้ ท่ี 1 คํานวณหาการเปลี่ยนแปลงสุทธิในบัญชีเงินสด โดยการเปรียบเทียบระหวางยอดเงินสด ตนปกับยอดเงินสดคงเหลือปลายป เพื่อดูวาเงินสดเพิ่มขึ้นหรือลดลงสุทธิในระหวางปเปนจํานวนเทาใด ซ่ึง ตวั เลขทไี่ ดจ ะเปนตวั เลขเปาหมายทจ่ี ะนําไปแสดงในตอนทายของงบกระแสเงินสด ข้ันที่ 2 คํานวณหาการเปล่ียนแปลงสุทธิของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนเงินสด) เพื่อดูวามีการ เปล่ียนแปลงที่เพิ่มขน้ึ หรือลดลงในระหวา งป (ตวั อยา ง- บริษทั ดาวเหนือ จํากดั ) บรษิ ัทดาวเหนอื จาํ กัด งบดุลเปรยี บเทยี บ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 254x4 และ 25x5 31 ธ.ค. 31 ธ.ค. การ 25x5 25x4 เปลีย่ นแปลง สินทรพั ย (บาท) เงนิ สด 93,400 57,800 +35,600 ลกู หนี้การคา (สุทธิ) 125,000 123,500 +1,500 สินคา คงเหลอื 146,500 108,900 +37,600 เงินลงทุนระยะยาว 0 65,000 -65,000 ทีด่ ิน 145,000 0 +145,000 อุปกรณ 367,600 278,600 +89,000 คาเสื่อมราคาสะสม –อุปกรณ (110,900) (87,400) (+23,500) รวม 766,600 546,400 220,200 หน้ีสนิ และสว นของผถู ือหุน เจาหนีก้ ารคา 82,400 74,000 +84,000 คาใชจายในการดําเนินงานคางจาย 6,700 6,000 +7000 เงนิ ปนผลคา งจาย 18,400 15,700 +2,700 ทุนหุนสามยั (10 บาท) 100,000 70,000 +30,000 สวนเกนิ มูลคา หุนสามญั 320,000 200,000 +120,000 388 3821302 หลกั การบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
กําไรสะสม 239,100 180,700 +58,400 รวม 766,600 546,400 220,200 ขั้นท่ี 3 ใหนําผลการเปล่ียนแปลงของบัญชีสินทรัพยหมุนเวียน และหนี้สินหมุนเวียนไปปรับกับ รายการในงบกําไรขาดทุน ซง่ึ จะไดเ ปน กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดําเนนิ งานในแตละรายการ การปรับรายการในงบกําไรขาดทนุ ใหเปน รายการกระแสเงินสด รายการในงบกําไร การปรบั ปรุงรายการ กระแสเงินสด จาก ขาดทนุ บวก หัก กิจกรรมดําเนนิ งาน 1. ขาย 724,700 - สนิ ทรพั ยเพิ่ม 1,500 เงนิ สดรับจากลูกคา = 723,200 2. ตนทนุ ขาย 423,100 สินทรพั ยเพ่ิม เจาหน้เี พม่ิ 8,400 เงนิ สดุ จา ยซอื้ สินคา/เจาหนี้ 37,600 = 452,300 3. คา ใชจา ยในการ - คาใชจา ยคางจา ย เงนิ สดจายคาใชจา ย ดําเนินงาน 102,900 เพิ่มขึน้ 700 ดาํ เนนิ งาน = 102,000 4. ภาษีเงินได 73,200 - - เงนิ สดจายภาษี 73,200 จะไดกระแสเงนิ สดจากกิจกรรมดาํ เนนิ งาน ดังนี้ 723,200 เงนิ สดรบั จากลกู คา (452,300) เงินสดจายซ้ือสินคา (102,200) เงนิ สดจา ยคาใชจ า ยดําเนนิ งาน (73,200) เงินสดจา ยภาษเี งินได 95,500 (1) รวมกระแสเงนิ สดรบั (จาย) สทุ ธิจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน ขั้นท่ี 4 ใหนําผลการเปลี่ยนแปลงของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนบัญชีเงินสด, สินทรัพย หมุนเวียน และหน้ีสินหมุนเวียน) มาพิจารณาวาเปนสาเหตุทําใหเกิดกระแสเงินสดรับหรือกระแสเงินสดจายใน กจิ กรรมลงทุนหรือกจิ กรรมจัดหาเงิน จากตัวอยางของบริษัทดาวเหนือ จํากัด จะพิจารณากิจกรรมลงทุนจากบัญชีเงินลงทุนระยะยาว, บญั ชีทดี่ นิ , บัญชีอุปกรณและคาเส่ือมราคาสะสม สวนกิจกรรมจัดหาเงิน พิจารณาจากบัญชีเงินปนผลคางจาย, บญั ชีหนุ สามญั บัญชสี ว นเกินมูลคา หนุ สามัญ และบญั ชีกาํ ไรสะสม จะไดก ระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทนุ ดังนี้ เงินสดรบั จากการขายเงินลงทุนระยะยาว (1) 95,000 เงนิ สดจา ยซ้ืออปุ กรณ (2) (89,000) เงินสดจายซ้ือที่ดนิ (3) (145,000) กระแสเงินสดรับ (จา ย) สุทธิจากกจิ กรรมลงทุน (139,000) (2) กระแสเงินสดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ ดงั นี้ เงินสดจา ยปน ผล (4) (70,900) เงินสดรับจากการขายหนุ (5) 150,000 กระแสเงนิ สดรบั (จาย) สทุ ธจิ ากกจิ กรรมจดั หาเงิน 79,100 (3) 389 3821302 หลกั การบัญชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
การวเิ คราะหบัญชี (1) บัญชเี งนิ ลงทนุ ระยะยาว มีกรลดลงระหวางปจํานวน 65,000 บาท แสดงวากิจการมีขายเงินทุนระยะยาวและในงบ กําไรขาดทุนยังแสดงกําไรจากการขายเงินลงทุน 30,000 แสดงวากิจการไดรับเงินสดท้ังสิ้น 95,000 บาท จึง เปน กระแสเงนิ สดรบั จากกิจกรรมลงทุน (2) บัญชอี ปุ กรณและคาเส่ือมราคาสะสม - อุปกรณ อุปกรณมีการเพิ่มขึ้นระหวางป จํานวน 89,000 บาท แสดงวากิจการมีการจายเงินสดซื้อ อุปกรณ 89,000 จึงเปนกระแสเงนิ สดจายจากกิจกรรมลงทนุ คาเส่ือมราคาสะสม – อปุ กรณ เพมิ่ ข้ึน – ไมม ีผลกระทบตอ เงินสด (3) บัญชที ่ีดิน มีการเพิ่มข้ึนระหวางป 145,000 บาท แสดงวากิจการไดมีการจายเงินสดซ้ือที่ดินจึงเปน กระแสเงินสดจา ยจากกจิ กรรมลงทนุ (4) บญั ชีเงินปนผลคา งจาย และบญั ชกี าํ ไรสะสม บัญชีกําไรสะสมเพิ่มข้ึนระหวางป 58,4000 บาท เกิดจากกําไรสุทธิ 132,000 บาท และมี การประกาศจา ยเงินปนผลเปนจํานวน 73,600 บาท คาํ นวณเงนิ สดจา ยปนผล กําไรสะสม เงินปนผลคา งจา ย จายปนผล 73,600 ยอดยกมา 180,700 จายเงินสด 70,900 ยอดยกมา 15,700 ยอดยกไป 239,100 กาํ ไรสุทธิประจาํ ป 132,000 ยอดยกไป 18,400 ป ร ะ ก า ศ 73,600 จา ย ดังน้ันมีการจายปนผลเปนเงินสดจํานวน 70,900 บาท จึงเปนกระแสเงินสดจายจากกิจกรรม จัดหาเงิน (5) บญั ชีหุนสามัญและสว นเกินมลู คาหุนสามัญ หุนสามัญเพ่ิมขึ้นระหวางป 30,000 บาท และมีสวนเกินมูลคาหุนสามัญเพ่ิมขึ้น 120,000 เน่ืองจากการนําหุนออกจําหนายในราคาสูงกวาราคาตามมูลคา จึงเปนกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมจัดหาเงิน จาํ นวน 150,000 บาท ข้ันท่ี 5 นําเงินสดรับและเงินสดจายท่ีเกิดข้ึนในแตละกิจกรรม มาจัดทํางบกระแสเงินสด ซึ่งผลที่ ไดจะเทากบั เงินสดสุทธิท่เี พมิ่ ข้ึน (ลดลง) ในระหวา งงวด (จากการคาํ นวณขน้ั ที่ 1) 390 3821302 หลักการบญั ชีเบ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
บริษัทดาวเหนอื จํากดั งบกระแสเงินสด - วธิ ีทางตรง สาํ หรับระยะเวลา 1 ปสน้ิ สดุ วันที่ 31 ธันวาคม 25x5 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน เงนิ สดรับจากลูกคา 723,200 เงินสดจายซอ้ื สินคา (452,300) เงนิ สดจายคาใชจ ายดําเนนิ งาน (102,200) เงนิ สดจา ยคาภาษเี งินได (73,200) กระแสเงินสดรบั (จา ย) สทุ ธจิ ากกจิ กรรมดําเนินงาน 95,000 (1) กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทนุ (139,000) (2) เงินสดรับจากการขายเงนิ ลงทนุ ระยะยาว 95,000 79,100 (3) 35,600. เงนิ สดจายซือ้ อุปกรณ (89,000) เงินสดจายซื้อทดี่ ิน (145,000) กระแสเงินสดรบั (จา ย) สทุ ธิจากกจิ กรรมลงทนุ กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ 150,000 เงนิ สดรับจากการขายหนุ เงินสดจายปนผล (70,900) กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธิจากกิจกรรมจดั หาเงิน กระแสเงนิ สดสทุ ธทิ ่เี พิม่ ข้นึ (ลดลง) ระหวางงวด ข้นั ตอนการจัดทาํ งบกระแสเงนิ สดของวิธีคํานวณ(วิธที างออ ม) มี 5 ขั้นตอน ดงั ตอ ไปนี้ ขั้นท่ี 1 คํานวณหาการเปลี่ยนแปลงสุทธิในบัญชีเงินสด เพื่อดูวาเงินสดเพิ่มข้ึนหรือลดลงสุทธิใน ระหวา งปเปนจาํ นวนเทาใด ซง่ึ จะเปน ตัวเลขทเ่ี ปาหมายทีจ่ ะนําไปแสดงตอนทา ยของงบกระแสเงนิ สด ตวั อยา ง ขอ มูลบริษทั ดาวเหนือ เงนิ สดตน ป (31 ธ.ค. 25x4) 57,800 เงนิ สดปลายป (31 ธ.ค. 25x5) 93,400 เงินสดเพ่ิมข้ึนสุทธิ 35,600 ขน้ั ที่ 2 คํานวณหาการเปลีย่ นแปลงสุทธขิ องบัญชตี างๆ ในงบดุล (ยกเวน เงนิ สด) เพอ่ื ดวู ามีการ เปลี่ยนแปลงเพ่ิมขึน้ หรอื ลดลงในระหวางป มีผลกระทบตอเงนิ สดอยางไร และเปน กิจกรรมใด (ตวั อยาง บรษิ ทั ดาวเหนือ จํากัด) 391 3821302 หลักการบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
รายการ 31 ธ.ค. 31 ธ.ค. การ ผลกระทบ กิจกรรม 25x5 เงนิ สด 25x4 เปล่ียนแปลง ตอเงินสด ดาํ เนินงาน ลกู หน้ีการคา สุทธิ 93,400 ดาํ เนินงาน สินคา คงเหลอื 125,000 57,800 ลงทนุ เงินลงทุนระยะยาว 146,500 ลงทนุ ที่ดนิ 123,500 +1,500 ง/ส- ลงทนุ อุปกรณ 0 ดาํ เนนิ งาน คา เสอื่ มราคาสะสมอุปกรณ 145,000 108,900 +37,600 ง/ส- ดําเนนิ งาน เจา หน้ีการคา 367,600 ดําเนินงาน คา ใชจายในการดําเนนิ งานคางจาย (110,900) 65,000 -65,000 ง/ส+ จัดหาเงนิ เงินปนผลคางจาย 82,400 จัดหาเงิน ทนุ หนุ สามญั 0 +145,000 ง/ส- จดั หาเงนิ สวนเกนิ มูลคาหุนสามญั 6,700 ดําเนินงาน 18,400 278,600 +89,000 ง/ส+ จดั หาเงิน กาํ ไรสะสม 100,000 320,000 278,600 +89,000 ง/ส+ 239,100 74,000 +8,400 ง/ส+ 6,000 +700 ง/ส+ 15,700 +2,700 ง/ส+ 70,000 +30,000 ง/ส+ 200,000 +120,000 ง/ส+ 180,700 +58,400 ง/ส+ ง/ส- ขนั้ ที่ 3 คาํ นวณกระแสเงนิ สดสทุ ธิจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งานโดยวธิ ีทางออม ดังทก่ี ลา วมาแลว เชน กาํ ไรสทุ ธิ (จาก P/L) 132,000 บวก คาเสื่อมราคา – อปุ กรณ 23,500 หัก กาํ ไรจากการขายเงินลงทุนระยะยาว (30,000) 125,000 บวก รายการที่ทาํ ใหเ งินสดเพ่มิ ขน้ึ เจาหน้กี ารคา เพ่มิ ขน้ึ 8,400 คา ใชจายดาํ เนนิ งานคา งจายเพิม่ ข้ึน 700 9,100 134,600 หกั รายการท่ีทาํ ใหเ งนิ สดลดลง สนิ คาคงเหลือเพม่ิ ข้ึน (37,600) ลูกหน้เี พิ่มขึน้ (1,500) (39,100) กระแสเงนิ สดสุทธจิ ากกจิ กรรมดําเนนิ งาน 95,500 (1) ขั้นที่ 4 ใหนําผลการเปล่ียนแปลงของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนเงินสด, สินทรัพย หมุนเวียน และหน้ีสินหมุนเวียน) มาพิจารณาวาเปนสาเหตุทําใหเกิดกระแสเงินสดรับหรือกระแสเงินสดจายในกิจกรรม ลงทนุ หรอื กิจกรรมดาํ เนนิ งาน (ตวั อยา ง - เหมือนกบั วิธที างตรง) ขั้นท่ี 5 นําเงินสดรับและเงินสดจายที่เกิดข้ึนในแตละกิจกรรมมาจัดทํางบกระแสเงินสดซ่ึงผลท่ี ไดจะเทา กบั เงนิ สดสทุ ธทิ เี่ พม่ิ ข้นึ (ลดลง) ในระหวางงวด (จากการคาํ นวณ ขนั้ ท่ี 1) 392 3821302 หลกั การบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
บริษัทดาวเหนอื จํากดั งบกระแสเงนิ สด - วิธีทางออ ม สําหรบั ระยะเวลา 1 ปสิ้นสุดวันท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน กาํ ไรสุทธิ 132,000 บวก คาเสือ่ มราคา-อปุ กรณ 23,500 หกั กําไรขายเงินลงทนุ ระยะยาว (30,000) 125,500 บวก รายการที่ทําใหเงนิ สดเพิม่ ข้ึน 9,100 134,600 คา ใชจาย ดําเนินงานคา งจา ยเพิม่ ขึ้น 700 (39,100) 95,000 (1) เจา หน้กี ารคาเพ่ิมข้ึน 8,400 (139,000) (2) หกั รายการทที่ าํ ใหเงนิ สดลดลง 79,100 (3) สนิ คาเพิ่มขึ้น 37,600 35,600 . ลกู หน้ีเพ่ิมขน้ึ 1,500 กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สุทธิจากกจิ กรรมดําเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทนุ เงินสดรับจากการขายเงินลงทนุ ระยะยาว 95,000 เงินสดจา ยซือ้ อุปกรณ (89,000) เงินสดจา ยซอ้ื ท่ีดนิ (145,000) กระแสเงนิ สดรับ (จาย) สทุ ธิจากกิจกรรมลงทนุ กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมจดั หาเงนิ เงนิ สดรบั จากการขายหุนสามญั 150,000 เงนิ สดจา ยปน ผล (70,900) กระแสเงนิ สดรับ (จา ย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมจดั หาเงิน กระแสเงินสดสทุ ธทิ ่เี พิม่ ขน้ึ (ลดลง) ระหวางงวด วธิ กี ารวิเคราะหทางบญั ชี ข้ันท่ี1. คํานวณหาการเปลี่ยนแปลงสุทธิของบัญชีตางๆ ในงบดุล (ยกเวนเงินสด) เพ่ือดูวามีการ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงในระหวางป มีผลกระทบตอเงินสดอยางไร และจัดเปนกิจกรรมใด ดังตัวอยาง การวิเคราะหบ ัญชี ของ บริษทั ดาวเหนอื จาํ กัด 393 3821302 หลกั การบญั ชเี บื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
ชอ่ื บญั ชี งบดุล การเปลี่ยนแปลงระหวา งป งบดุล 31 ธ.ค.x4 Dr. Cr. 31 ธ.ค. x5 เงนิ สด 35,600 ลูกหนี้ (สทุ ธ)ิ 57,800 1,500 93,400 สินคา 123,500 37,600 125,000 เงินลงทนุ ระยะยาว 108,900 65,000 146,000 ทด่ี นิ 65,000 145,000 อุปกรณ 89,000 0 คาเสือ่ มราคาสะสมอปุ กรณ 0 23,500 145,000 เจา หนก้ี ารคา 278,600 8,400 367,600 คาใชจ ายคางจาย (87,000) 700 (110,900) เงินปนผลคางจาย (74,000) 2,700 (82,400) ทนุ หนุ สามัญ @10 (6,000) 30,000 (6,700) สวนเกนิ มูลคาหุนสามัญ (15,700) 120,000 (18,400) กาํ ไรสะสม (70,000) 73,600 132,000 (100,000) รวม (200,000) (320,000) (180,700) (239,100) 0 0 ขั้นท่ี 2. นําผลการวิเคราะหไปเขียนลงในบัญชีแยกประเภทเงินสด และบัญชีท่ีเกี่ยวของโดยเขียน ทางดา นเดบติ ถาการเปล่ียนแปลงน้ันทําใหเงินสดเพ่ิมข้ึน และเขียนทางดานเครดิตถาการเปล่ียนแปลงน้ันทําให เงนิ สดลดลง สว นบญั ชีทีเ่ กย่ี วขอ งจะอยดู า นตรงขามกับเงนิ สด โดยแยกตามกจิ กรรมกระแสเงนิ สด ดังตอ ไปน้ี ยอดยกมา บญั ชีเงนิ สด 57,800 กระแสเงินสดจากกจิ กรรมดาํ เนินงาน กําไรสทุ ธ(ิ 1) 132,000 คา เสอ่ื มราคาสะสมอุปกรณเ พ่ิมขึ้น(7) 23,500 ลกู หนีก้ ารคาเพิ่มขนึ้ (2) 1,500 37,600 คาใชจายคางจายเพมิ่ ขนึ้ (9) 700 สนิ คาคงเหลอื เพ่มิ ขนึ้ (3) 145,000 เจาหนก้ี ารคาเพ่ิม(8) 8,400 89,000 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมลงทุน เงินลงทนุ ระยะยาวลดลง(4) 65,000 ท่ีดินเพ่มิ ข้ึน(5) อปุ กรณเพิม่ ขึน้ (6) 394 3821302 หลักการบัญชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
กระแสเงินสดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ เงินปน ผลคางจายเพม่ิ ขนึ้ (12) 2,700 จา ยปนผล 73,600 ทุนหนุ สามญั เพิ่มขนึ้ (10) 30,000 สวนเกินมูลคา หุนสามัญเพมิ่ ขนึ้ (11) 120,000 ลูกหน(้ี สุทธิ) ยอดยกมา สินคา 146,500 ยอดยกมา 123,500 ยอดยกไป 125,000 (3) 108,900 ยอดยกไป +37,600 (2) +1,500 เงินลงทุนระยะยาว ทด่ี นิ ยอดยกมา 65,000 ยอดยกไป - ยอดยก - ยอดยกไป 145,000 (4) 65,000 (5) 145,000 อุปกรณ คาเสื่อมราคาสะสม-อุปกรณ ยอดยกมา 278,600 ยอดยกไป 367,600 ยอดยกไป 110,900 ยอดยกมา 87,400 (6) 89,000 (7) 23,500 ยอดยกไป เจาหนีก้ ารคา 74,000 ยอดยกไป คาใชจา ยคา งจา ย 6,000 82,400 ยอดยกมา 8,400 6,700 ยอดยกมา 700 (8) (9) ทุนหุน สามญั 70,000 ยอดยกไป เงนิ ปน ผลคา งจา ย 15,700 ยอดยกไป 100,000 ยอดยกมา 30,000 18,400 ยอดยกมา 2,700 (10) (12) สว นเกินมูลคา หนุ 200,000 ยอดยกไป กําไรสะสม ยอดยกไป 320,000 ยอดยกมา 120,000 จายปนผล 239,100 ยอดยกมา 180,700 73,600 +กาํ ไรสทุ ธิ(1) 132,000 (11) 395 3821302 หลกั การบญั ชเี บือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
ข้นั ที่ 3. นาํ รายการในบัญชเี งินสดทจ่ี ดั ทําไวม าทํางบกระแสเงินสด บริษัทดาวเหนอื จํากัด งบกระแสเงินสด - วิธที างออ ม สําหรับระยะเวลา 1 ปส้ินสุดวันท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาํ เนนิ งาน กาํ ไรสทุ ธิ 132,000 บวก คาเส่ือมราคา-อปุ กรณ 23,500 หกั กาํ ไรขายเงนิ ลงทุนระยะยาว (30,000) 125,500 บวก รายการท่ีทาํ ใหเ งนิ สดเพม่ิ ขนึ้ 9,100 134,600 คา ใชจ า ย ดาํ เนินงานคางจายเพิ่มข้ึน 700 (39,100) 95,000 (1) เจาหน้ีการคา เพิ่มข้ึน 8,400 (139,000) (2) หัก รายการที่ทาํ ใหเงนิ สดลดลง 79,100 (3) สนิ คาเพิ่มข้ึน 37,600 35,600 ลูกหน้ีเพ่ิมขนึ้ 1,500 กระแสเงนิ สดรับ (จาย) สทุ ธจิ ากกิจกรรมดาํ เนนิ งาน กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทนุ เงนิ สดรับจากการขายเงินลงทนุ ระยะยาว 95,000 เงนิ สดจายซ้อื อปุ กรณ (89,000) เงนิ สดจายซ้อื ท่ีดิน (145,000) กระแสเงินสดรบั (จาย) สทุ ธิจากกจิ กรรมลงทนุ กระแสเงินสดจากกิจกรรมจดั หาเงนิ เงนิ สดรบั จากการขายหุนสามญั 150,000 เงินสดจายปน ผล (70,900) กระแสเงินสดรบั (จาย) สุทธิจากกจิ กรรมจัดหาเงิน กระแสเงินสดสทุ ธิท่ีเพิม่ ขนึ้ (ลดลง) ระหวางงวด 396 3821302 หลกั การบญั ชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
สรุป งบแสดงการหมุนเวียนเปนงบท่ีแสดงรายละเอียดการเคล่ือนไหวของเงินทุนในระหวางงวดของ กจิ การ ประกอบดว ย งบกําไรขาดทุน งบแสดงการเปล่ียนแปลงฐานะการเงนิ งบแสดงแหลงที่มาและการใชไป ของเงินทุนดําเนินงานสุทธิ และงบแสดงการรับและจายเงินสดหรืองบกระแสเงินสดเปนงบท่ีแสดงรายละเอียด การเคลื่อนไหวของเงินทุนในระหวางงวดโดยผานบัญชีเงินสดที่เกิดข้ึนโดยเฉพาะ หรืออีกนัยหน่ึงคือรายการที่ เกดิ ขน้ึ ในบัญชเี งินสดนน่ั เอง เงินทุนดําเนินงานหมายถึงเงินทุนดําเนินงานสุทธิเปนสวนเกินของทรัพยสิน หมุนเวียนที่มีมากกวา หน้ีสินหมุนเวียน เงินทุนดําเนินงานเปนรายการที่เกิดจากการดําเนินงานเปนสวนใหญ หรือเกิดเพราะรอบการ ดําเนินงาน เชน ซ้ือสินคาดวยเงินสด ขายสินคาไดกลายเปนลูกหนี้ และเปลี่ยนจากลูกหน้ีเปนเงินสดโดยการ เรียกเก็บเงินจากลูกหน้ี แลวนําไปซ้ือสินคาอีกเปนอยางนี้เรื่อย ๆ ไป การวิเคราะหเงินทุนดําเนินงาน จะทําให กิจการทราบวากิจการควรจะวางแผนการจัดหาทรัพยากร มาใชในการดําเนินงานหรือลงทุนโดยวิธีใด กิจการ ควรจะเลือกการลงทุนหรือซ้ือทรัพยสินประเภทใดจึงจะไดประโยชนสูงสุด กิจการควรวางแผนการใชทรัพยากร หรือใชเงินทุนอยางไร กิจการควรจะกําหนดการวางแผนไถถอนชําระหน้ีระยะยาวและกําหนดนโยบายการ จายเงนิ ปน ผลทเี่ หมาะสม การวิเคราะหเ งินทุนดําเนินงาน อาจทําไดจ ากการจัดทํางบแสดงการเปลี่ยนแปลงเงนิ ทนุ ดําเนนิ งาน สุทธิ งบทีแ่ สดงแหลง ทีม่ าของทนุ ดําเนินงาน และงบกระแสเงนิ สด งบกระแสเงินสด เปนรายกงานท่ีแสดงแหลงที่มาและใชไปของเงินสดท่ีเกิดขึ้นในระหวางงวด โดยจะแบง กจิ กรรมทก่ี อใหเกิดเงินสดเปน 3 กิจกรรม คือ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน กระแสเงินสดจากกิจกรรม ลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน การรายงานกระแสเงินสดสามารถจัดทําได 3 วิธี คือ วิธี ทางตรงกับวิธีทางออม โดยอาศัยขอมูลจากงบดุลเปรียบเทียบ งบกําไรขาดทุนระหวางป และขอมูลอ่ืนๆ ท่ี เก่ียวของ งบกระแสเงินสดจะแสดงใหเห็นถึงแหลงที่มาและใชไปของเงินสดที่เกิดขึ้นในระหวางปซ่ึงจะมี ประโยชนตอผูใชงบการเงินในการประเมิน ความสามารถในการบริหารเงินสดของกิจการความสามารถของ กิจการท่ีจะกอใหเกิดกระแสเงินสดรับในอนาคต ความสามารถของกิจกากรในการจายชําระหน้ีสินและเงินปน ผล สาเหตทุ ่ที ําใหเ กดิ ความแตกตา งกันระหวา งกาํ ไรสทุ ธกิ บั กระแสเงนิ สดสทุ ธจิ ากกจิ การดําเนินงาน 397 3821302 หลักการบัญชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
แบบฝก หัด 1. จงอธิบายความหมายของงบแสดงการหมุนเวียน 2. จงอธิบายความหมายของการวเิ คราะหเ งินทุนดําเนนิ งานและเงินสด 3. จงอธบิ ายความสําคัญของการวิเคราะหเ งนิ ทนุ ดําเนินงานและเงินสด 4. จงอธบิ ายการวเิ คราะหเ งินทนุ ดาํ เนินงานและเงนิ สด 5. จงอธิบายข้ันตอนในการวิเคราะหเงนิ ทุนดาํ เนนิ งาน 6. ในงบกระแสเงนิ สดประกอบดวยกระแสเงินสดจากกจิ กรรมใดบาง 7. จากรายการตอไปน้ี ใหร ะบวุ า เปนกระแสเงนิ สด จากกิจกรรมใด หรอื ไมม ผี ลกระทบตอ เงนิ สด กิจกรรม กจิ กรรมลงทนุ กจิ กรรม ไมกระทบ ดาํ เนินงาน จัดหาเงนิ เงนิ สด ออกจาํ หนา ยหนุ สามญั เพ่มิ ทนุ จา ยเงินสดปน ผล ขายเงนิ ลงทนุ ระยะยาว ไถถ อนหนุ บรุ มิ สิทธ์ิ ซ้อื อปุ กรณส ํานักงาน กําไรสทุ ธิ ออกหุนสามัญและกับทด่ี นิ เงินกรู ะยะส้ันเพิ่มขึน้ เงินฝากประจํา 2 ป จายคา แรงพนักงาน ซือ้ ทดี่ ิน คาเสือ่ มราคา จายภาษีเงินได ซ้ือหลักทรัพยในความตองการของ ตลาด รบั ชาํ ระจากลูกคา ไถถอนหนุ บรุ มิ สิทธ์ิ จายซ้อื สินคา ชาํ ระคนื เงนิ กู ไถถ อนหนุ กู ขาดทนุ สทุ ธิ 398 3821302 หลักการบัญชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
8. จากรายการตอ ไปน้ี ใหร ะบุวา นําไปบวกหรือหักกําไรสุทธิ เพ่ือคํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน- วิธที างออ ม กจิ กรรม กิจกรรมลงทุน กิจกรรม ไมก ระทบ ดําเนนิ งาน จดั หาเงนิ เงนิ สด บัญชลี ูกหน้เี พมิ่ ข้นึ บัญชเี จาหน้ีลดลง คา เส่อื มราคาสินทรัพย หน้สี ญู คา แรงคา งจายเพิ่มข้นึ ขาดทุนจากการขายสนิ ทรัพย คาเบ้ียประกนั จายลวงหนา เพิ่มข้นึ คา ตัดจาํ หนายสทิ ธิบตั ร สนิ คาคงเหลือลดลง 9. บริษัทบานสวย จํากัด มีกําไรสุทธิประจําป 25x5 จํานวน 134,800 บาท มีคาเสื่อมราคาอุปกรณ 27,400 บาท มีรายละเอยี ดของงบดลุ บางสวน ดังน้ี 31 ธ.ค. 25x5 31 ธ.ค. 25x4 เงินสด 23,500 37,400 ลูกหน้สี ทุ ธิ 98,500 94,350 สนิ คาคงเหลอื 100,200 94,300 คาใชจา ยลวงหนา 5,760 6,090 เจาหนกี้ ารคา 71,600 69,100 เงนิ เดอื นคา งจาย 5,580 6,710 ใหทํา คํานวณกระแสเงินสดจากกิจกรรมดาํ เนนิ งานสุทธิ (วธิ ีทางออม) ในงบกระแสเงินสด 11. ขอมลู บงสว นจากงบการเงนิ ของบริษทั เพชร จํากดั มีดังนี้ ขาย 240,000 บาท ตน ทนุ ขาย 152,000 บาท กาํ ไรสทุ ธิ 12,400 บาท 31 ธ.ค. 25x5 31 ธ.ค. 25x4 เงินสด 77,600 60,000 ลูกหน้ี 32,000 34,400 สินคา 46,400 39,200 เจาหนี้การคา 28,000 25,600 ใหท ํา จากขอมูลขา งตน คาํ นวณหา 1. จาํ นวนเงินสดทไ่ี ดร บั ชําระลกู หนี้ 2. จํานวนเงินสดทจ่ี า ยชําระแกเ จา หน้ี 399 3821302 หลกั การบัญชเี บือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
12. ขอ มลู บางสวนจากงบการเงิน ของบรษิ ทั พลอย จาํ กัด มดี ังนี้ ตน ป ปลายป อปุ กรณสุทธิ 145,400 บาท 145,800 คา เสอ่ื มราคาประจําป มจี ํานวน 12,000 บาท ในระหวา งปม ีการซื้ออุปกรณเ พิม่ ราคาทุน 72,000 บาท และมีการขายอุปกรณไปโดยเกิดผล “ขาดทุน จากการขายสนิ ทรัพย” จาํ นวน 27,200 บาท ใหท ํา คาํ นวณจาํ นวนเงนิ สดรับทไ่ี ดจากการขายอุปกรณใ นระหวา งป จัดเปน กิจกรรมใดใน งบกระแสเงนิ สด 13. ขอมลู เกีย่ วกับกาํ ไรสะสมของบริษทั มรกต จาํ กัด มดี งั นี้ 31 ธ.ค. 25x5 31 ธ.ค. 25x4 กําไรสะสม 84,000 70,000 เงินปนผลคา งจา ย 6,000 4,000 และกําไรสุทธิประจาํ ป 84,000 บาท ใหท าํ คาํ นวณจาํ นวนเงนิ ปน ผลที่จายในระหวางป จัดเปนกิจกรรมใดในงบกระแสเงินสด 14. บรษิ ทั จนิ นี่ จาํ กัด มีรายการคา ทเ่ี กดิ ขนึ้ บางในในระหวางป 25x5 ดังนี้ 1. ขายอปุ กรณไ ปในราคา 30,000 บาท โดยอุปกรณมีราคาทุน 90,000 บาท มคี า เสอื่ ม ราคาสะสมถึงวนั ขายเทา กบั 64,500 บาท 2. ซื้อท่ีดินมูลคา 950,000 บาท โดยจายเงินสด 30,000 บาท และสวนที่เหลือออกตั๋วสัญญาใชเงิน อายุ 90 วนั ให 3. ซื้อหนุ สามญั ของธนาคารกรงุ ไทย ราคา 50,000 บาท 4. ชําระหนีร้ ะยะยาว 20,000 บาท 5. จายปน ผลเปนเงนิ สด 100,000 บาท 6. ซ้อื เครอื่ งจกั ใหม ราคา 50,000 บาท 7. ซือ้ พนั ธบตั รของธนาคารแหง ประเทศไทย อายุ 5 ป จาํ นวน 50,000 บาท 8. ออกจาํ หนา ยหุน สามัญเพม่ิ ทนุ 20,000 หุน ในราคาหุนละ 15 บาท ราคาตามมูลคา (@ 10 บาท) 9. กเู งินจากธนาคาร จํานวน 200,000 บาท โดยออกตวั๋ สัญญาใชเ งิน กาํ หนด 2 ป 10. ออกหนุ สามญั เพอ่ื ชาํ ระหนีร้ ะยะยาว 1,000 หนุ ในราคาตามมลู คา @ 10 บาท ใหท าํ คาํ นวณกระแสเงินสดสุทธิจากกจิ กรรมลงทนุ และกจิ กรรมจดั หาเงนิ ในงบกระแสเงนิ สด 400 3821302 หลกั การบญั ชเี บอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
15. บริษัทนํ้าทิพย จํากัด มีรายการตางๆ ในงบดุล (ซึ่งไมไดจัดทําตามแบบงบดุลท่ีดี) ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 25x5, 25x4 ดงั ตอ ไปนี้ (ป 25x5) (ป 25x4) ลกู หนกี้ ารคา 523,000 385,000 เงินสด 354,100 142,000 สนิ คา คงเหลอื 625,000 816,000 คา ใชจา ยลว งหนา 46,000 67,000 อาคารและอุปกรณ 280,000 225,000 รายไดค า งรับ 72,000 38,000 คาเสือ่ มราคาสะสม – อาคารและอปุ กรณ (89,100) (90,000) ทด่ี ิน 2,750,000 2,000,000 รวมสนิ ทรัพย 4,563,000 3,583,000 เจาหน้กี ารคา 389,000 327,000 คา ใชจา วคางจาย 37,000 186,000 ดอกเบยี้ คางจาย 52,000 77,000 ตว๋ั เงินจายระยะยาว 1,000,000 500,000 หนุ กู 125,000 250,000 หุนสามญั 2,000,000 1,500,000 กาํ ไรสะสม 960,000 743,000 รวมหน้ีสนิ และสว นผูถ ือหุน 4,563,000 3,586,000 บรษิ ทั ฯ มกี ําไรสทุ ธิตามงบกําไรขาดทุนป 25x5 จํานวน 317,000 บาท และมีขอ มูลเพิ่มเตมิ ตอไปน้ี 1. มกี ารออกจาํ หนา ยหุนสามัญเพ่ิมทุน 50,000 หนุ ในราคาหุนละ 10 บาท 2. มีการซ้ือท่ีดินมูลคา 750,000 บาท โดยออกชําระเปนต๋ัวเงินจายระยะยาว 500,000 บาท และ สวนทีเ่ หลือชาํ ระเปน เงนิ สดทันที่ 3. มีการคิดคา เสอ่ื มราคา – อาคารและอปุ กรณ ระหวา งป จํานวน 22,500 บาท 4. มกี ารซอื้ อปุ กรณสาํ นักงานเพิ่มเตมิ ระหวา งป 135,000 บา และมีการขายอุปกรณสํานักงานท่ีไมได ใชง านราคาทนุ 78,000 บาท มคี า เสอื่ มราคาสะสม 23,400 บาท ในราคาขาดทนุ 12,000 บาท 5. มีการจายเงนิ ปน ผล 100,000 บาท และมีการจายชาํ ระหนุ กใู นระหวา งป 125,000 บาท ใหทํา งบกระแสเงนิ สดโดยใชวธิ ีทางออม 401 3821302 หลกั การบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
16. ตอ ไปนเ้ี ปน งบกําไรขาดทุนและงบดลุ ของบริษทั พลอยสอ ง จาํ กดั งบกําไรขาดทนุ สาํ หรบั ระยะเวลา 1 ปส น้ิ สดุ วันท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 ขาย 2,000,000 1,100,000 หัก ตนทุนขาย 900,000 กําไรขั้นตน 500,000 หัก คาใชจ ายดาํ เนนิ งาน 400,000 คา ใชจ ายในการขาย 440,000 คา เส่อื มราคา 50,000 หนีส้ งสยั จะสญู 10,000 กําไรสทุ ธิ สนิ ทรพั ย งบดลุ 120,000 เงินสด ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x4และ 25x5 320,000 ลกู หนี้สุทธิ 70,000 สนิ คา 100,000 35,000 คา ใชจ ายลว งหนา 300,000 1,350,000 สนิ ทรพั ยถ าวรสทุ ธิ 80,000 1,895,000 50,000 1,000,000 1,530,000 หนส้ี ินและทนุ 200,000 100,000 เจาหนี้ 0 500,000 เงินกูร ะยะยาว 20,000 คาใชจายคา งจา ย 30,000 50,000 เงินปน ผลคางจา ย 100,000 1,100,000 ทนุ เรือนหนุ 1,000,000 125,000 กําไรสะสม 200,000 1,895,000 1,530,000 ขอ มลู เพ่มิ เตมิ : ไมมกี ารขายสินทรพั ยถ าวรในระหวางป สนิ้ ปกิจการทาํ การซือ้ สินทรัพย ถาวรเขา มาจํานวนหนงึ่ ใหทํา งบกระแสเงินสดวธิ ที างออ ม สาํ หรบั ระยะเวลา 1 ปสน้ิ สดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x5 402 3821302 หลักการบญั ชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
บรรณานกุ รม กชกร เฉลิมกาญจนา และคณะ. (2545). การบญั ชีการเงนิ 2. (พมิ พค รัง้ ท่ี 3). เทก็ ซ แอนดเจอรน ลั พบั ลเิ คช่ัน . กชกร เฉลิมกาญจนา, วชริ ะ บุณยเนตร, ปริญดา มณีโรจน, และสุพัชชา โมรากุล. (2545). การบญั ชกี ารเงนิ . กรุงเทพมหานคร: แอคทฟี พริน้ ท. กตญั ู หิรญั ญสมบรู ณ. (2546). การจดั การธุรกิจขนาดยอ ม. พมิ พครั้งที่ 6.กรงุ เทพมหานคร: เทก็ ซ แอนด เจอรนัล พับลเิ คชัน่ กรมทะเบยี นการคา.(2544).คาํ ชี้แจงกรมทะเบยี นการคา เร่ืองการกําหนดรายการยอทีต่ อ งมใี นงบการเงิน. กอบแกว รตั นอบุ ล. (2548). การบญั ชีชั้นกลาง. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร. กัลยาภรณ ปานมะเริง เบอรค. (2546). การบัญชีการเงิน. กรุงเทพมหานคร: สํานกั พมิ พทอ ป. กาญจนา ศรพี งษ. (2545). การบัญชีการเงิน. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร. กงิ่ กนก พทิ ยานุคณุ , สุนทรี จรูญ,รวิวลั ย ภิยโยพนากลุ . (2545). การบัญชตี นทนุ . กรุงเทพมหานคร :มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร. เชาวลยี พงศผ าติโรจน. (2546). การบัญชีขัน้ ตน 2. กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย. ดวงมณี โกมารทตั . (2546). การบญั ชีตนทุน. (พมิ พคร้งั ท่ี 9).กรงุ เทพมหานคร:จุฬาลงกรณมหาวิทยาลยั . ดวงสมร อรพินท, กชกร เฉลิมกาญจนา, แพร กีระสุนทรพงษ, ปริญดา มณีโรจน, และสมพงษ พรอุปถัมภ. (2546). การบัญชีการเงิน. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลัย ดุษฎี สงวนชาติ และคณะ. (2546). การบญั ชีช้ันกลาง. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณมหาวิทยาลยั . ตลาดหลักทรัพยแหง ประเทศไทย. (2543). มาตรฐานการบญั ชี แนวทางในการปฏบิ ัติ และตัวอยางการเปด เผย ขอ มูล.กรงุ เทพมหานคร: แอล. ท.ี ทวีเกยี รติ มีนะกนิษฐ. (2546). กฎหมายเบอ้ื งตน ทางธรุ กิจ. (พิมพครงั้ ท่ี 10). กรุงเทพมหานคร :มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร. ธารี หริ ญั รัศมแี ละคณะ. (2547). การบญั ชีการเงนิ . กรงุ เทพมหานคร:วิทยพัฒน. ธารนิ ี พงศส ุพัฒน. (2548). การบญั ชีสินทรพั ย. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร. ธรี ะพล อรณุ ะกสิกรและคณะ. (2548). ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย บรรพ 1-6 ฉบับทนั สมยั . กรงุ เทพมหานคร:วิญชู น. นักบัญชแี ละผสู อบบัญชีรับอนญุ าตแหงประเทศไทย,สมาคม. (2538). ศทั พบ ัญช.ี (พมิ พค รง้ั ท่ี 6).กรุงเทพมหานคร: พ.ี เอ.ลีฟว่ิง. . (2544). มาตรฐานการบญั ชีของประเทศไทยฉบบั รวมเลม พ.ศ.2544 เลม1.กรงุ เทพมหานคร: พี.เอ.ลฟี วง่ิ . ________. (2546). มาตรฐานการบญั ชีของไทย ฉบบั รวมเลม (ปรับปรุง พ.ศ. 2546) เลม 1. กรุงเทพมหานคร: พี.เอ. ลิฟว่ิง
________. (2546). มาตรฐานการบัญชีของไทย ฉบบั รวมเลม (ปรบั ปรุง พ.ศ. 2546) เลม 2กรุงเทพมหานคร: พ.ี เอ. ลิฟวิ่ง. พรรณนิภา รอดวรรณะและคณะ. (2550). การบัญชีข้ันกลาง2.กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม หาวทิ ยาลัย. เมธากุล เกียรติกระจายและศิลปพร จั่นเพชร. (2544). ทฤษฎีการบญั ชี. พิมพคร้งั ที่ 10. กรุงเทพมหานคร: บุญศิรกิ ารพิมพ. เยาวลกั ษณ ชาติบญั ชาชัย. (2545). เอกสารการสอนชดุ วชิ า คอมพวิ เตอรก บั การบัญชหี นวยที่ 8-15. นนทบรุ :ี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช. สภาวิชาชพี บญั ชี.(2550). แมบ ทการบัญชี.(พิมพค ร้ังท่ี8).กรุงเทพมหานคร: พี.เอ.ลฟี วิ่ง _____________.(2551). มาตรฐานการบญั ชีฉบบั ท3่ี 1(ปรบั ปรุง2550) เรอ่ื งสินคา คงเหลอื .พมิ พครงั้ ท่ี3). กรุงเทพมหานคร: (พ.ี เอ.ลฟี วงิ่ . _____________.(2550). มาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที3่ 3(ปรับปรงุ 2550) เร่อื งตนทุนการกยู มื (พิมพคร้ังที่2). กรงุ เทพมหานคร: พี.เอ.ลฟี ว่งิ . _____________.(2550). มาตรฐานการบัญชฉี บบั ท่ี35(ปรบั ปรุง2550) เรือ่ งการนาํ เสนองบการเงนิ (พิมพค รั้งท1่ี ). กรงุ เทพมหานคร: พ.ี เอ.ลฟี วิ่ง. _____________.(2551). มาตรฐานการบญั ชฉี บับท5่ี 1 (ปรับปรงุ 2550) เร่ืองสนิ ทรัพยไมม ตี วั ตน (พมิ พค ร้งั ท่ี1) .กรงุ เทพมหานคร: พ.ี เอ.ลีฟวิ่ง. สมใจ จันทรเ ต็ม. (2545). หลกั การบัญชี 2. กรงุ เทพมหานคร: หา งหนุ สวนจาํ กัด ทพี เี อ็น เพรส. สมชาย หิรญั กติ ตแิ ละศิรวิ รรณ เสรรี ัตน. (2542). การบรหิ ารธรุ กจิ ขนาดยอ ม. กรุงเทพมหานคร: ธรี ะฟลม และไซเทก็ ซ จาํ กัด. สมเดช โรจนคุรีเสถยี ร.(2545).การบญั ชีภาษีอากรของธุรกจิ ทไ่ี ดรบั การสง เสริมการลงทุน.(พมิ พคร้งั ท่ี 4). กรงุ เทพมหานคร: ธรรมนิติ เพรส. สมุ นา เศรษฐนันท. (2546). การจดั ทําบัญชแี ละงบการเงินตาม พ.ร.บ. บัญชี พ.ศ. 2543. (ฉบับสมบูรณ). พิมพ ครั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม หาวทิ ยาลัย. สโุ ขทัยธรรมาธิราช,มหาวทิ ยาลัย. (2545). เอกสารการสอนชุดวิชา การบญั ชีการเพอ่ื และการบญั ชีเพือ่ การจดั การ สาํ หรบั นักการเงนิ . (พมิ พคร้งั ที่ 4)กรงุ เทพมหานคร: นา่ํ กงั การพิมพ. . (2545). เอกสารการสอนชุดวชิ า การบญั ชีขนั้ กลาง 2 (ฉบบั ปรับปรงุ ). (พิมพค รัง้ ท่ี 5).นนทบุรี ชวนพิมพ. 404 3821302 หลักการบัญชีเบอ้ื งตน (Fundamental Accounting Principles)
สรุ ียพ ร จารุวสั ตร. (2542). การบญั ชตี นทนุ .(พมิ พคร้งั ท่ี 4).กรุงเทพมหานคร. สุวมิ ล เหลอื งประเสรฐิ . (2545). คอมพวิ เตอรก ับการบญั ช.ี พิมพค รง้ั ที่ 4. นนทบุร:ี สุโขทยั ธรรมาธริ าช. เสนีย พวงยาณี, มัณฑนา ไตรสิทธิ,์ จุฑาทิพย สองเมอื ง, และศริ ิมา แกว เกดิ . (2548). การบัญชีข้ันตน 2. กรงุ เทพมหานคร: ทริปเพ้ิล เอ็ดดเู คชัน่ . ราชบัณฑติ ยสถาน. (2546). ศัพทเศรษฐศาสตร อังกฤษ-ไทย ไทย-อังกฤษ ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน. กรงุ เทพมหานคร:อรุณการพิมพ. เรวตั ิ ตันตยานนท. (2546). กอรา งสรา งกิจการ. (พิมพค ร้งั ท่ี 2). กรงุ เทพมหานคร:ตลาดหลักทรัพยแ หง ประเทศไทย. วรรณวภิ า ทพั วงศ. (2543). การบญั ชกี ารเงิน. กรงุ เทพมหานคร: ศนู ยหนงั สอื มหาวทิ ยาลยั ธุรกิจบัณฑิตย. วช นพี ร เศรษฐสักโก.(2544). ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี.(พมิ พครง้ั ท่ี 2). กรงุ เทพมหานคร:ว.ี เจ.พรนิ้ ต้งิ วัฒนะ ศิวะเกือ้ , ดษุ ฎี สงวนชาติ, และนนั ทพร พิทยะ. (2548). การบญั ชีช้ันตน. พิมพครั้งท่ี 3.กรงุ เทพมหานคร: ดา นสทุ ธาการพมิ พ. วพิ ฒั น พฒั นพูนสนิ . (2540). การบัญชหี นีส้ นิ และสวนของเจาของ. กรุงเทพมหานคร: นลี นารา การพิมพ. อรวรรณ หันแมนเทพอมรและคณะ.(2551).รูลกึ มาตรฐานการบัญชี รูว ิธีวิเคราะหงบการเงนิ .กรงุ เทพมหานคร. ชวนพมิ พ5 0. อรุณี อยางธารา, อรสา วีระประดษิ ฐ, ณัฏฐพร เหลา ธรรมทัศน, และวิภาดา ตันติประภา. (2539). การบัญชกี ารเงนิ . กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร. อังคณา นตุ ยกุล. (2549). บัญชีชน้ั กลาง. กรุงเทพมหานคร: ศูนยหนังสอื มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ . องั ครัตน เพรียบจริยวัฒน. (2547). มาตราฐานการบัญชี สาระสาํ คัญและตัวอยา งการเปดเผยขอ มูล ธันวาคม 2546.กรุงเทพมหานคร:บุญศิริการพิมพ. อัมพร ณ ตะกวั่ ทุง. (2548). คําอธิบาย กฎหมายแพง และพาณชิ ย ลกั ษณะตั๋วเงิน.กรงุ เทพมหานคร.นิติบรรณการ. อํานวย ศรสี ุโข. (2547). การบัญชี 2. กรุงเทพมหานคร: บญุ ศิรกิ ารพิมพ. Brealey, R. A., & Myers, S. C. (2002). Principle of corporate finance. (6thed.). McGraw-Hill. Collin, P.H. ,David York , Adrian Joliffe. (2001). Dictionary of Accounting. (2nd ed.). Peter Collin Publishing Ltd. Weygandt, J. J., Kieso, D. E. & Kimmel, P. D. (2005). Accounting principle. (7thed.). New York: John Wiley & Sons, Inc. 405 3821302 หลักการบญั ชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
406 3821302 หลกั การบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
ภาคผนวก พระราชบญั ญัติ การบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓ ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วนั ที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ เปนปท ี่ ๕๕ ในรัชกาลปจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ใหประกาศวา โดยทเ่ี ปนการสมควรปรับปรงุ กฎหมายวาดว ยการบญั ชี พระราชบญั ญัตนิ ม้ี ีบทบัญญตั ิบางประการเกี่ยวกับการจํากดั สิทธิและเสรภี าพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบ กับมาตรา ๓๕ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐ ของรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทย บัญญัตใิ หก ระทําไดโดยอาศัย อาํ นาจตามบทบญั ญตั แิ หงกฎหมาย จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ ดยคาํ แนะนาํ และยินยอมของรัฐสภาดังตอ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้เี รยี กวา \"พระราชบญั ญัติการบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓\" มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินีใ้ หใ ชบังคบั เมอื่ พนกาํ หนดเกาสิบวันนับแตว ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตนไป มาตรา ๓ ใหยกเลิกประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๒๘๕ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน้ี “งบการเงนิ ” หมายความวา รายงานผลการดาํ เนนิ งาน ฐานะการเงิน หรือการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินของ กจิ การ ไมว าจะรายงานโดยงบดุล งบกาํ ไรขาดทนุ งบกาํ ไรสะสม งบกระแสเงินสด งบแสดงการเปล่ียนแปลงสวนของผู ถือหนุ งบประกอบ หรอื หมายเหตุประกอบงบการเงนิ หรอื คาํ อธิบายอน่ื ซ่งึ ระบไุ วว าเปนสว นหนึง่ ของงบการเงิน “มาตรฐานการบัญชี” หมายความวา หลักการบญั ชีและวิธปี ฏิบตั ทิ างการบญั ชีที่รบั รองทั่วไปหรือมาตรฐานการ บัญชที กี่ ําหนดตามกฎหมายวา ดวยการนัน้ “ผมู ีหนาที่จดั ทําบัญชี” หมายความวา ผูมีหนา ทีจ่ ัดใหม ีการทําบญั ชตี ามพระราชบัญญตั นิ ้ี “ผทู าํ บัญช”ี หมายความวา ผูรบั ผดิ ชอบในการทําบัญชขี องผมู ีหนาทีจ่ ดั ทาํ บญั ชี ไมวา จะไดก ระทําในฐานะเปน ลกู จา ง ของผูมีหนา ท่จี ัดทาํ บญั ชีหรือไมก ็ตาม “สารวตั รใหญบ ญั ช”ี หมายความวา อธบิ ดี และใหห มายความรวมถึงผูซ ึ่งอธบิ ดมี อบหมายดว ย “สารวัตรบัญช”ี หมายความวา ผซู ่งึ อธิบดีแตงต้ังใหเปนสารวตั รบัญชปี ระจําสํานกั งานบญั ชีประจาํ ทองที่ [ดูคําส่ังกรมพัฒนาธรุ กจิ การคา ท่ี ๒๘๘/๒๕๔๗ เร่ือง มอบหมายใหข า ราชการเปนสารวตั รใหญบ ัญชี และแตง ตง้ั สารวตั รบญั ชี] [ดูคําส่ังกรมพัฒนาธรุ กิจการคา ที่ ก ๑๔๒/๒๕๕๑ เรอื่ ง มอบหมายใหข า ราชการเปนสารวัตรใหญบญั ชี และ แตงตั้งสารวัตรบญั ช]ี [ดูคําส่ังกรมพฒั นาธุรกิจการคา ที่ ๑๘/๒๕๕๒ เร่ือง มอบหมายใหขา ราชการเปน สารวัตรใหญบ ญั ชี และแตงต้ัง สารวตั รบญั ชี] “อธบิ ด”ี หมายความวา อธบิ ดกี รมทะเบียนการคา “รัฐมนตรี” หมายความวา รฐั มนตรีผูรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๕ ใหรฐั มนตรีวา การกระทรวงพาณิชยรกั ษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ และใหมีอาํ นาจออกกฎกระทรวง
เพ่อื ปฏิบัตกิ ารตามพระราชบัญญัติน้ี [ดูกฎกระทรวง วา ดวยการยกเวนไมตองจัดใหงบการเงนิ ไดรับการตรวจสอบและแสดงความเหน็ โดยผูสอบบัญชี รับอนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๔] หมวด ๑ บทท่วั ไป มาตรา ๖ ใหก รมทะเบียนการคา กระทรวงพาณชิ ย เปน สํานักงานกลางบัญชี ใหอ ธิบดมี อี ํานาจจัดตง้ั สาํ นักงาน บญั ชปี ระจาํ ทอ งท่ี โดยข้ึนตรงตอสํานกั งานกลางบัญชี และมีสารวัตรบญั ชคี นหนงึ่ เปนหัวหนา สํานักงานบญั ชีประจาํ ทอ งท่ี [ดูประกาศกรม ทะเบยี นการคา เรือ่ ง จัดตัง้ สาํ นักงานบัญชีประจําทอ งท่ี และแตงตั้งหัวหนา สาํ นักงานบัญชี ประจาํ ทอ งท่ี พ.ศ. ๒๕๔๓] การจัดตั้งสํานักงานบัญชปี ระจําทองท่ีใหป ระกาศในราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗ อธบิ ดีมอี าํ นาจประกาศ ในราชกิจจานุเบกษากําหนดในเร่ือง ดังตอไปนี้ (๑) ชนดิ ของบญั ชีที่ตองจัดทาํ [ดปู ระกาศกรมทะเบยี นการคา เรอ่ื ง กําหนดชนดิ ของบัญชที ่ีตอ งจัดทําหลักเกณฑและวิธกี ารเกยี่ วกบั วันเริ่มทํา บัญชี และวธิ กี ารจัดทําบัญชขี องผูม หี นาท่ีจัดทาํ บญั ชซี ึ่งเปนบคุ คลธรรมดาหรือหางหนุ สว นทม่ี ิไดจดทะเบยี น พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรอ่ื ง กาํ หนดชนดิ ของบญั ชีทตี่ องจดั ทํา หลกั เกณฑและวิธีการเก่ยี วกับวัน เรมิ่ ทําบญั ชี และวธิ กี ารจัดทาํ บัญชีของผูมีหนา ท่ีจัดทาํ บัญชซี ึ่งเปน บุคคลธรรมดาหรอื หางหนุ สว นทีม่ ิไดจ ดทะเบียนท่ี ประกอบธรุ กิจเกย่ี วกับงาชาง พ.ศ. ๒๕๕๒] (๒) ขอ ความและรายการทีต่ องมใี นบญั ชี (๓) ระยะเวลาทต่ี อ งลงรายการในบญั ชี (๔) เอกสารที่ตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชี [ดปู ระกาศกรมทะเบียนการคา เรอ่ื ง กาํ หนดชนิดของบญั ชที ต่ี อ งจดั ทําขอความและรายการทตี่ อ งมีในบัญชี ระยะเวลาท่ีตอ งลงรายการในบัญชแี ละเอกสารท่ตี องใชประกอบการลงบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เรอื่ ง กาํ หนดชนิดของบัญชีที่ตองจัดทํา ขอความและรายการที่ตองมีในบญั ชี ระยะเวลาทต่ี องลงรายการในบัญชี และเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบญั ชี (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒] (๕) กําหนดขอยกเวน ใหผูม หี นาทจ่ี ัดทําบญั ชหี รือผูทาํ บัญชี ไมต อ งปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานการบัญชใี นเร่อื งใดเร่อื ง หน่ึงหรือสว นใดสวนหนึง่ (๖) คุณสมบัตแิ ละเงื่อนไขของการเปน ผูทําบัญชีตามพระราชบัญญตั ิน้ี [ดูประกาศกรมทะเบยี นการคา เรือ่ ง กําหนดคณุ สมบัตแิ ละเง่อื นไขของการเปนผทู าํ บัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓] [ดูประกาศกรมทะเบยี นการคา เร่อื ง กาํ หนดคุณสมบัตแิ ละเงอ่ื นไขของการเปนผูท ําบญั ชี (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕] [ดปู ระกาศกรมทะเบียนการคา เร่อื ง กําหนดคณุ สมบัติและเงอ่ื นไขของการเปนผทู ําบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธุรกิจการคา เรื่อง กาํ หนดคุณสมบัติและเง่ือนไขของการเปน ผทู ําบัญชี (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. 408 หลักการบญั ชเี บอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
๒๕๔๘] [ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา เรอื่ ง กาํ หนดหลักเกณฑ วิธีการ และระยะเวลาในการพัฒนาความรูตอเนื่อง ทางวชิ าชีพของผทู าํ บัญชี (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙] ในการประกาศขอกําหนดตามวรรคหน่งึ ใหอ ธิบดีคาํ นึงถึงมาตรฐานการบัญชี และขอ คิดเห็นของหนวยงานที่ เกี่ยวขอ งและสถาบนั วชิ าชพี บญั ชี ขอ กําหนดตาม (๕) และ (๖) ตองไดรับความเหน็ ชอบจากรัฐมนตรดี วย ขอกาํ หนดตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) หากเรือ่ งน้นั มกี ฎหมายเฉพาะบัญญัติไว เปนอยา งอืน่ เมื่อผูมหี นาทจี่ ดั ทํา บญั ชปี ฏบิ ัตติ ามกฎหมายเฉพาะน้นั แลว ใหถ อื วาไดจดั ทาํ บัญชโี ดยถูกตอ งตามพระราชบัญญัตนิ ้แี ลว หมวด ๒ ผมู หี นาทจ่ี ดั ทําบัญชี มาตรา ๘ ใหหางหุนสว นจดทะเบยี น บริษัทจํากดั บริษัทมหาชนจํากดั ท่ีจดั ตั้งข้ึนตามกฎหมายไทย นติ บิ ุคคลที่ ต้งั ขึน้ ตามกฎหมายตา งประเทศท่ีประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการรว มคาตามประมวลรษั ฎากร เปน ผมู หี นาทจ่ี ัดทํา บัญชี และตองจัดใหมีการทําบัญชีสําหรบั การประกอบธุรกิจของตนโดยมีรายละเอยี ด หลกั เกณฑ และวิธีการตามที่ บญั ญตั ไิ วใ นพระราชบัญญัตนิ ี้ ในกรณีทผ่ี ูม ีหนาทจี่ ดั ทําบญั ชปี ระกอบธรุ กจิ เปน ประจําในสถานท่ีหลายแหง แยกจากกัน ใหผูม หี นาท่ีรับผิดชอบ ในการจดั การธรุ กจิ ในสถานทนี่ ้ันเปนผมู หี นาทีจ่ ัดทําบญั ชี ในกรณีท่ีผมู ีหนาท่จี ดั ทําบญั ชเี ปน กิจการรว มคา ตามประมวลรัษฎากร ใหบคุ คลซึ่งรับผดิ ชอบในการดาํ เนินการ ของกิจการน้ันเปนผมู หี นา ท่ีจัดทําบญั ชี รฐั มนตรีโดยความเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรมี อี าํ นาจประกาศในราชกิจจานุเบกษา กําหนดใหบคุ คลธรรมดาใด หรอื หางหนุ สว นทีม่ ไิ ดจ ดทะเบยี นที่ประกอบธุรกิจใดในประเทศไทยตามเงอื่ นไขใดเปนผมู หี นาที่จัดทําบัญชตี าม พระราชบญั ญตั ินไี้ ด [ดปู ระกาศกระทรวงพาณิชย เร่อื ง กาํ หนดใหบคุ คลธรรมดาหรือหา งหุนสว นทม่ี ิไดจ ดทะเบียน เปนผมู หี นาทีจ่ ัดทํา บญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดปู ระกาศกระทรวงพาณิชย เรื่อง กาํ หนดใหผปู ระกอบธุรกิจเกีย่ วกับงาชา งเปนผูมหี นาทจี่ ัดทําบญั ชี พ.ศ. ๒๕๕๑] ประกาศของรัฐมนตรตี ามวรรคสี่ ใหป ระกาศในราชกิจจานุเบกษาลว งหนาไมนอยกวา หกเดอื นกอนวันใชบ งั คับ ในกรณีที่มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคส่ี ใหอ ธิบดกี าํ หนดหลกั เกณฑและวธิ กี ารเกีย่ วกบั วันเร่ิมทําบัญชีครั้ง แรก และกาํ หนดวิธกี ารจัดทําบัญชีของบคุ คลธรรมดาหรอื หางหนุ สวนท่ีมไิ ดจ ดทะเบียนนน้ั [ดูประกาศกรมทะเบียนการคา เรอ่ื ง กําหนดชนิดของบัญชีทตี่ องจัดทาํ หลักเกณฑแ ละวธิ กี ารเกย่ี วกับวนั เร่ิมทํา บัญชีและวธิ ีการจดั ทาํ บัญชีของผมู ีหนาท่จี ัดทาํ บัญชีซึง่ เปน บุคคลธรรมดาหรือหางหุนสว นทมี่ ิไดจ ดทะเบียน พ.ศ. ๒๕๔๔] [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธรุ กิจการคา เรอื่ ง กาํ หนดชนิดของบญั ชที ีต่ อ งจดั ทํา หลักเกณฑแ ละวิธีการเกี่ยวกับวนั เริ่มทาํ บัญชี และวิธีการจดั ทาํ บัญชีของผูมหี นาทจี่ ดั ทําบัญชซี ่งึ เปน บุคคลธรรมดาหรอื หา งหุนสว น ทมี่ ไิ ดจ ดทะเบยี นที่ ประกอบธุรกิจเกยี่ วกบั งาชาง พ.ศ. ๒๕๕๒] มาตรา ๙ ผูม หี นาที่จดั ทําบัญชตี อ งจัดใหมีการทาํ บัญชนี ับแตวนั เรมิ่ ทําบัญชี ดงั ตอไปน้เี ปนตน ไป 409 หลักการบญั ชีเบ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
(๑) หา งหุน สว นจดทะเบียน บรษิ ัทจํากดั หรือบริษทั มหาชนจาํ กดั ใหเ ริ่มทาํ บญั ชนี บั แตว ันทหี่ างหุน สวนจด ทะเบยี น บรษิ ัทจํากัด หรอื บรษิ ัทมหาชนจํากดั น้นั ไดรับการจดทะเบยี นเปน นติ ิบคุ คลตามกฎหมาย (๒) นติ ิบคุ คลทตี่ ้ังขึน้ ตามกฎหมายตา งประเทศที่ประกอบธรุ กิจในประเทศไทย ใหเริม่ ทําบญั ชนี ับแตว นั ทนี่ ติ ิ บคุ คลท่ีตัง้ ขึ้นตามกฎหมายตา งประเทศนั้นไดเ ริ่มตนประกอบธรุ กิจในประเทศไทย (๓) กิจการรวมคา ตามประมวลรัษฎากร ใหเ รม่ิ ทาํ บญั ชีนับแตว นั ที่กิจการรวมคา นนั้ ไดเรม่ิ ตนประกอบกจิ การ (๔) สถานที่ประกอบธุรกิจเปนประจําตามมาตรา ๘ วรรคสอง ใหเ ริม่ ทําบญั ชีนับแตว นั ท่สี ถานทปี่ ระกอบธรุ กจิ เปนประจําน้นั เริ่มตนประกอบกิจการ มาตรา ๑๐ ผมู หี นา ที่จดั ทําบัญชีตอ งปดบัญชีครงั้ แรกภายในสิบสองเดอื นนับแตวนั เร่มิ ทําบญั ชที ่ีกําหนดตาม มาตรา ๘ วรรคหก หรือวนั เรม่ิ ทําบญั ชตี ามมาตรา ๙ แลวแตก รณี และปด บัญชีทุกรอบสิบสองเดอื นนบั แตว นั ปดบญั ชี ครัง้ กอน เวนแต (๑) เมื่อไดรบั อนญุ าตจากสารวตั รใหญบ ัญชีหรือสารวตั รบญั ชใี หเ ปล่ียนรอบปบ ญั ชีแลวอาจปด บญั ชกี อ น ครบรอบสิบสองเดอื นได (๒) ในกรณมี หี นาท่ีจัดทาํ บัญชตี ามมาตรา ๘ วรรคสอง ใหป ดบญั ชีพรอ มกับสํานกั งานใหญ มาตรา ๑๑ ผูมีหนาทจี่ ัดทําบญั ชซี ึง่ เปนหา งหนุ สว นจดทะเบยี นท่จี ัดต้งั ขึ้นตามกฎหมายไทย นิตบิ ุคคลที่ตง้ั ข้ึน ตามกฎหมายตางประเทศและกิจการรว มคา ตามประมวลรษั ฎากร ตอ งจดั ทํางบการเงนิ และยื่นงบการเงนิ ดังกลา วตอ สาํ นักงานกลางบญั ชีหรือสํานักงานบัญชปี ระจําทอ งทีภ่ ายในหาเดือนนบั แตวนั ปดบัญชตี ามมาตรา ๑๐ สําหรับกรณีของ บรษิ ทั จาํ กดั หรือบริษทั มหาชนจํากดั ที่จัดต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยใหย นื่ ภายในหน่งึ เดอื นนบั แตวันทงี่ บการเงนิ นน้ั ไดรับ อนุมตั ใิ นที่ประชุมใหญ ท้งั นี้ เวน แตม เี หตจุ าํ เปนทาํ ใหผูมีหนาท่ีจัดทําบัญชไี มสามารถจะปฏบิ ตั ิตามกาํ หนดเวลา ดังกลา วได อธบิ ดีอาจพจิ ารณาสั่งใหขยายหรอื เลือ่ นกาํ หนดเวลาออกไปอกี ตามความจาํ เปน แกกรณไี ด การยนื่ งบการเงนิ ใหเ ปนไปตามหลักเกณฑแ ละวธิ ีการทอ่ี ธบิ ดีกําหนด [ดูประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เรื่อง หลักเกณฑแ ละวธิ กี ารในการยืน่ งบการเงิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เรื่อง หลกั เกณฑและวธิ ีการในการยน่ื งบการเงนิ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๙] [ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกิจการคา เรอื่ ง หลักเกณฑแ ละวิธกี ารในการยน่ื งบการเงิน (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๒] งบการเงินตองมรี ายการยอ ตามที่อธบิ ดีประกาศกาํ หนดโดยความเห็นชอบของรฐั มนตรี เวน แตกรณีท่ีไดมี กฎหมายเฉพาะกําหนดเพมิ่ เตมิ จากรายการยอ ของงบการเงินที่อธิบดีกาํ หนดไวแลวใหใ ชรายการยอตามทกี่ าํ หนดใน กฎหมายเฉพาะนน้ั [ดูประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา เรอื่ ง กําหนดรายการยอทต่ี อ งมใี นงบการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๒] งบการเงินตอ งไดร ับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผูสอบบัญชรี ับอนุญาต เวน แตง บการเงินของผมู ีหนา ท่ี จดั ทําบญั ชีซงึ่ เปนหา งหนุ สว นจดทะเบยี นทีจ่ ดั ต้งั ขนึ้ ตามกฎหมายไทยทม่ี ีทุน สินทรพั ย หรือรายได รายการใดรายการ หนง่ึ หรอื ทกุ รายการ ไมเ กนิ ทีก่ ําหนดโดยกฎกระทรวง [ดูกฎกระทรวง วาดว ยการยกเวน ไมตอ งจัดใหง บการเงินไดร ับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผูสอบบญั ชี รบั อนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๔] มาตรา ๑๒ ในการจดั ทําบญั ชี ผูมีหนา ท่ีจดั ทําบญั ชตี อ งสงมอบเอกสารท่ีตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชีใหแกผ ูทํา บัญชีใหถ ูกตอ งครบถวน เพ่อื ใหบญั ชที จี่ ดั ทาํ ข้นึ สามารถแสดงผลการดําเนินงาน ฐานะการเงิน หรอื การเปล่ียนแปลง ฐานะการเงินทีเ่ ปน อยตู ามความเปนจรงิ และตามมาตรฐานการบญั ชี 410 หลักการบัญชเี บ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
มาตรา ๑๓ ผูม ีหนา ทจี่ ัดทําบญั ชตี อ งเก็บรักษาบัญชีและเอกสารทต่ี อ งใชประกอบการลงบัญชไี ว ณ สถานทท่ี าํ การ หรอื สถานท่ีท่ใี ชเปนทีท่ ําการผลิตหรอื เกบ็ สินคา เปนประจาํ หรือสถานทท่ี ีใ่ ชเปนท่ีทํางานประจาํ เวนแตผูมหี นาที่ จดั ทําบญั ชีจะไดรับอนญุ าตจากสารวตั รใหญบ ัญชีหรือสารวตั รบัญชีใหเ ก็บรักษาบญั ชีและเอกสารที่ตอ งใชป ระกอบการ ลงบญั ชีไว ณ สถานทอี่ น่ื ได การขออนญุ าตและการอนุญาตตามวรรคหนึง่ ใหเ ปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารทีอ่ ธบิ ดีกาํ หนดและในระหวา ง รอการอนุญาตใหผ มู หี นาทีจ่ ัดทําบญั ชีเกบ็ รกั ษาบญั ชแี ละเอกสารท่ีตอ งใชประกอบการลงบญั ชไี วในสถานท่ีทีย่ นื่ ขอน้ัน ไปพลางกอ นได [ดปู ระกาศกรมทะเบยี นการคา เรอื่ ง หลักเกณฑและวธิ ีการในการขออนญุ าตและการอนญุ าตใหเกบ็ รักษาบัญชี และเอกสารทต่ี องใชประกอบการลงบญั ชไี ว ณ สถานที่อ่ืน และการแจงบญั ชีหรือเอกสารทต่ี องใชป ระกอบการลงบัญชี สูญหายหรอื เสียหาย พ.ศ. ๒๕๔๓] ในกรณีท่ีจดั ทาํ บญั ชดี ว ยเครือ่ งคอมพิวเตอรหรอื เครอ่ื งมอื อ่ืนใดในสถานที่อ่นื ใดในราชอาณาจกั รทมี่ ใิ ชส ถานที่ ตามวรรคหนงึ่ แตมีการเชอื่ มโยงเครอื ขายคอมพิวเตอรหรือเครอื่ งมอื นั้นมายังสถานท่ตี ามวรรคหนึง่ กรณดี งั กลา วน้ีใหถอื วา ไดมีการเก็บรักษาบัญชไี ว ณ สถานทีต่ ามวรรคหนึ่งแลว มาตรา ๑๔ ผูมีหนาทจ่ี ัดทําบัญชตี อ งเกบ็ รักษาบัญชแี ละเอกสารที่ตองใชประกอบการลงบัญชไี วเ ปนเวลาไมน อย กวา หา ปน บั แตวันปด บญั ชหี รือจนกวาจะมกี ารสงมอบบัญชแี ละเอกสารตามมาตรา ๑๗ เพ่อื ประโยชนใ นการตรวจสอบบญั ชีของกจิ การประเภทใดประเภทหนึ่ง ใหอธบิ ดีโดยความเหน็ ชอบของรัฐมนตรมี ี อํานาจกาํ หนดใหผูมหี นา ที่จัดทําบัญชีเก็บรกั ษาบญั ชแี ละเอกสารทีต่ อ งใชป ระกอบการลงบัญชีไวเกินหาปแ ตต องไมเกนิ เจ็ดปไ ด มาตรา ๑๕ ถา บญั ชีหรือเอกสารทต่ี อ งใชประกอบการลงบญั ชสี ญู หายหรือเสียหาย ใหผมู ีหนาที่จัดทําบญั ชีแจง ตอสารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวตั รบญั ชีตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารท่อี ธิบดีกําหนดภายในสิบหาวนั นับแตวันทที่ ราบหรือ ควรทราบถงึ การสญู หายหรอื เสียหายนน้ั [ดปู ระกาศกรมทะเบยี นการคา เรื่อง หลักเกณฑและวธิ กี ารในการขออนญุ าตและการอนญุ าตใหเกบ็ รักษาบญั ชี และเอกสารทต่ี องใช ประกอบการลงบัญชีไว ณ สถานท่อี น่ื และการแจงบัญชหี รือเอกสารทีต่ อ งใชป ระกอบการลงบัญชี สูญหายหรือเสยี หาย พ.ศ. ๒๕๔๓] มาตรา ๑๖ ในกรณีทีส่ ารวัตรใหญบ ัญชหี รอื สารวตั รบญั ชีตรวจพบวา บัญชแี ละเอกสารที่ตองใชประกอบการ ลงบัญชที เ่ี ปนสาระสาํ คญั แกการจัดทาํ บัญชีสญู หายหรือถูกทาํ ลาย หรอื ปรากฏวา บัญชแี ละเอกสารดงั กลาวมไิ ดเ ก็บไว ในท่ีปลอดภยั ใหส นั นิษฐานวา ผมู ีหนาท่จี ัดทาํ บญั ชีมีเจตนาทําใหเ สยี หาย ทาํ ลาย ซอ นเรน หรือทําใหส ญู หายหรอื ทําให ไรประโยชนซง่ึ บญั ชีหรอื เอกสารน้นั เวน แตผมู หี นา ทจี่ ดั ทาํ บญั ชีจะพสิ จู นใ หเ ช่ือไดวา ตนไดใชค วามระมดั ระวังตาม สมควรแกกรณแี ลว เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หบญั ชหี รือเอกสารท่ตี อ งใชประกอบการลงบัญชสี ญู หายหรอื เสยี หาย มาตรา ๑๗ เมือ่ ผมู ีหนาท่ีจัดทาํ บัญชเี ลกิ ประกอบธรุ กิจดวยเหตุใดๆ โดยมิไดม ีการชาํ ระบญั ชี ใหสงมอบบญั ชแี ละ เอกสารทีต่ อ งใชประกอบการลงบัญชแี กส ารวัตรใหญบ ัญชีหรอื สารวัตรบญั ชภี ายในเกาสบิ วันนบั แตวันเลกิ ประกอบ ธุรกิจ และใหส ารวตั รใหญบญั ชีหรือสารวัตรบัญชีเก็บรกั ษาบัญชีและเอกสารท่ีตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชีดงั กลา วไวไ ม นอ ยกวาหา ป เมื่อผูมีหนา ทจ่ี ดั ทาํ บญั ชีรองขอ ใหสารวัตรใหญบ ัญชหี รือสารวัตรบญั ชีมีอํานาจขยายเวลาการสง มอบบัญชแี ละ 411 หลักการบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
เอกสารตามวรรคหนงึ่ ได แตร ะยะเวลาทข่ี ยายเม่ือรวมกนั แลวตองไมเกินหนึ่งรอ ยแปดสิบวนั นับแตวันเลกิ ประกอบธุรกิจ ในกรณที ผี่ มู หี นาท่ีจดั ทาํ บัญชีสง มอบบัญชแี ละเอกสารทต่ี องใชป ระกอบการลงบญั ชีไมครบถวนถูกตอ ง สารวตั ร ใหญบ ัญชีหรือสารวัตรบญั ชมี ีอาํ นาจเรียกใหผมู ีหนา ทจี่ ดั ทําบญั ชีสง มอบบญั ชีและเอกสารที่ตอ งใชประกอบการลงบญั ชี ใหครบถว นถูกตองภายในเวลาที่กาํ หนด มาตรา ๑๘ งบการเงิน บัญชี และเอกสารทสี่ ารวัตรใหญบัญชีหรือสารวตั รบญั ชไี ดร บั และเก็บรักษาไวต ามมาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๗ ผมู สี วนไดเสียหรอื บคุ คลทั่วไปอาจขอตรวจดูหรอื ขอภาพถายสําเนาไดโ ดยเสียคา ใชจา ยตามทอ่ี ธิบดี กาํ หนด [ดปู ระกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา เรอื่ ง กําหนดคา ใชจ า ยในการขอตรวจดู หรือขอภาพถา ยสาํ เนางบการเงนิ ของ ผมู ีหนา ทจี่ ัดทําบัญชี (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๙] หมวด ๓ ผูท ําบญั ชี มาตรา ๑๙ ผูม หี นา ทจ่ี ัดทําบัญชีตอ งจดั ใหม ีผทู าํ บญั ชซี ง่ึ เปนผูมีคณุ สมบัตติ ามท่ีอธบิ ดกี ําหนดตามมาตรา ๗ (๖) เพอื่ จัดทําบญั ชีตามพระราชบัญญัตินี้ และมีหนาที่ควบคมุ ดูแลผทู ําบญั ชใี หจัดทําบัญชใี หตรงตอ ความเปนจริงและ ถูกตอ งตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ผมู ีหนา ที่จดั ทําบัญชซี ึ่งเปนบคุ คลธรรมดาจะเปน ผูทําบญั ชีสําหรับกิจการของตนเองกไ็ ด มาตรา ๒๐ ผูทําบัญชีตอ งจดั ทําบญั ชีเพื่อใหม กี ารแสดงผลการดําเนินงาน ฐานะการเงินหรือการเปลย่ี นแปลง ฐานะการเงินของผมู ีหนา ทจี่ ดั ทาํ บัญชีท่ีเปนอยูตามความเปนจริงและตามมาตรฐานการบญั ชี โดยมเี อกสารที่ตองใช ประกอบการลงบัญชีใหถ กู ตองครบถว น มาตรา ๒๑ ในการลงรายการในบญั ชี ผทู ําบัญชตี องปฏิบัติดังตอไปน้ี (๑) ลงรายการเปน ภาษาไทย หากลงรายการเปนภาษาตางประเทศใหมีภาษาไทยกํากบั หรอื ลงรายการเปนรหสั บัญชีใหม ีคูมอื แปลรหัสที่เปน ภาษาไทยไว (๒) เขยี นดว ยหมกึ ดดี พิมพ ตพี ิมพ หรอื ทําดว ยวิธีอ่นื ใดท่ีไดผ ลในทาํ นองเดยี วกัน หมวด ๔ การตรวจสอบ มาตรา ๒๒ สารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบัญชมี ีอาํ นาจตรวจสอบบัญชแี ละเอกสารท่ีตองใชประกอบการ ลงบญั ชีเพื่อใหเ ปนไปตามพระราชบญั ญัติน้ี ในการน้ีใหม อี าํ นาจเขา ไปในสถานที่ทําการหรอื สถานท่เี ก็บรกั ษาบัญชแี ละ เอกสารท่ตี อ งใชประกอบการลงบัญชขี องผูมีหนาที่จัดทําบญั ชหี รือผทู าํ บัญชีหรือสถานท่รี วบรวมหรอื ประมวลขอมลู ของ บุคคลดงั กลา วไดใ นระหวา งเวลาทําการของสถานทีน่ ั้น ในกรณที ่มี เี หตุอนั ควรเช่อื ไดว า มีการฝาฝนหรือไมปฏบิ ัตติ ามบทบญั ญตั ิแหง พระราชบัญญัตนิ ้ี ใหสารวตั รใหญ บญั ชหี รอื สารวัตรบญั ชมี ีอาํ นาจเขา ไปในสถานทตี่ ามวรรคหนง่ึ เพ่ือยึด หรืออายัดบญั ชีและเอกสารทต่ี องใชประกอบการ ลงบญั ชไี ดใ นระหวา งเวลาพระอาทิตยข้ึนจนถงึ พระอาทติ ยตกหรือในเวลาทาํ การของสถานที่นั้น เมือ่ มีเหตอุ ันควรเชอ่ื ได วาหากเนิน่ ชา กวา จะเอาหมายคน มาได บญั ชเี อกสารท่ีตองใชประกอบการลงบญั ชี หรอื เอกสารหรือหลักฐานอ่ืนท่ี เกยี่ วของกับความผิดดงั กลาวนั้นจะถกู ยักยา ย ซกุ ซอน ทําลาย หรอื ทาํ ใหเ ปลยี่ นสภาพไปจากเดิม มาตรา ๒๓ ในการปฏิบัติการตามพระราชบญั ญตั ินี้ สารวัตรใหญบ ญั ชแี ละสารวตั รบญั ชีตอ งแสดงบัตรประจําตวั ตอ ผทู ี่เกี่ยวของ 412 หลกั การบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
บัตรประจําตวั ใหเ ปนไปตามแบบทอี่ ธิบดกี าํ หนดโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา [ดปู ระกาศกรมทะเบียนการคา เร่ือง บัตรประจําตัวสารวัตรใหญบ ญั ชีและสารวัตรบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓] มาตรา ๒๔ ในการปฏิบตั ิหนา ทตี่ ามพระราชบัญญัตนิ ี้ ใหสารวัตรใหญบัญชีและสารวัตรบญั ชมี อี าํ นาจสั่งเปน หนงั สอื (๑) ใหผูมหี นาทจี่ ัดทาํ บัญชี ผูทาํ บัญชี หรอื บคุ คลท่ีเกย่ี วขอ งมาใหถอยคําเก่ยี วกับการจัดทาํ บญั ชีหรอื การเกบ็ รักษาบัญชแี ละเอกสารทีต่ อ งใชประกอบการลงบญั ชี (๒) ใหผ มู หี นาทจี่ ัดทําบัญชีหรือผทู ําบญั ชีสงบัญชี เอกสารท่ตี องใชประกอบการลงบัญชี หรอื รหสั บัญชีมาเพอ่ื ตรวจสอบ หนังสือที่สง่ั ตามวรรคหนึ่ง ใหส งโดยทางไปรษณยี ล งทะเบียนตอบรับหรอื ใหนําสง ณ ภูมลิ ําเนาหรือถน่ิ ท่อี ยูหรือ สถานท่ีประกอบธุรกจิ ของผมู หี นาทีจ่ ัดทําบัญชี ผูทําบญั ชี หรือบุคคลที่เก่ียวของถาไมพบผูรับ ณ ภูมิลําเนาหรอื ถิ่นทอี่ ยู หรอื สถานท่ีประกอบธรุ กจิ ของผูน้นั จะสง ใหแกบคุ คลใดซึง่ บรรลุนติ ิภาวะแลว และอยหู รอื ทาํ งานอยูในบา นหรอื สถานท่ี ประกอบธรุ กิจที่ปรากฏวา เปนของผรู บั นน้ั ก็ได ในกรณีที่ไมส ามารถสงตามวธิ กี ารในวรรคสอง หรือผูมหี นา ทจี่ ดั ทําบัญชี ผทู าํ บัญชหี รือบุคคลทเ่ี กยี่ วของน้ัน ออกไปนอกราชอาณาจกั ร ใหใ ชว ิธีปดหนงั สอื ดงั กลา วในท่ซี ง่ึ เห็นไดงา ย ณ ท่ีอยูหรอื สถานท่ีประกอบธรุ กิจของผูนนั้ หรอื บานท่ผี ูน้ันมชี ่ืออยใู นทะเบียนตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร หรอื โฆษณาขอ ความยอ ในหนังสือพมิ พท่ี จาํ หนา ยเปน ปกติในทองที่น้ันกไ็ ด เมอ่ื ไดป ฏิบตั ติ ามวิธกี ารดังกลาวขางตน แลว ใหถ ือวาเปน อันไดรับแลว มาตรา ๒๕ หา มมิใหผูใ ดเปดเผยขอความใดๆ ทท่ี ราบหรือไดม าเน่ืองจากการปฏบิ ตั ิตามมาตรา ๒๒ หรือมาตรา ๒๔ เวน แตจะมีอํานาจที่จะทาํ ไดโ ดยชอบดว ยกฎหมาย มาตรา ๒๖ ในการปฏบิ ตั หิ นาท่ี ใหสารวัตรใหญบ ญั ชีและสารวตั รบญั ชเี ปนเจา พนกั งานตามประมวลกฎหมาย อาญา หมวด ๕ บทกําหนดโทษ มาตรา ๒๗ ผูใดฝาฝน หรือไมป ฏิบัตติ ามประกาศของอธบิ ดที ่อี อกตามมาตรา ๗ (๑) (๒) (๓) (๔) หรอื (๖) ตอง ระวางโทษปรับไมเ กนิ หน่ึงหมื่นบาท กรณีท่ีฝาฝน หรือไมปฏบิ ตั ิตามประกาศของอธบิ ดที ่ีออกตามมาตรา ๗ (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ใหปรบั เปน รายวันอกี ไมเกนิ วันละหา รอยบาทจนกวาจะปฏิบตั ิใหถ กู ตอง มาตรา ๒๘ ผูม หี นาท่จี ัดทําบัญชีผูใดไมจ ัดใหมกี ารทําบัญชีตามมาตรา ๘ หรอื มาตรา ๙ ตองระวางโทษปรับไม เกนิ สามหมน่ื บาท และปรับเปนรายวนั อีกไมเ กนิ วนั ละหน่งึ พันบาทจนกวาจะปฏบิ ัติใหถ ูกตอ ง มาตรา ๒๙ ผูมีหนาท่จี ัดทําบัญชผี ใู ดไมปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๙ วรรคหน่ึง ตอ งระวาง โทษปรับไมเ กินหนงึ่ หมื่นบาท มาตรา ๓๐ ผูมหี นาทจี่ ดั ทําบญั ชผี ใู ดไมป ฏิบัตติ ามมาตรา ๑๑ วรรคหน่ึง ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ หา หมื่นบาท มาตรา ๓๑ ผูม หี นา ท่จี ัดทําบญั ชีผูใดไมป ฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๑๑ วรรคสาม มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ หรอื มาตรา ๑๗ ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หาพันบาท มาตรา ๓๒ ผูมหี นา ที่จัดทําบัญชผี ใู ดไมปฏิบตั ติ ามมาตรา ๑๑ วรรคสี่ ตองระวางโทษปรับไมเกนิ สองหม่ืนบาท มาตรา ๓๓ ผูมีหนา ท่ีจัดทําบญั ชีผใู ดแจง ขอ ความตามมาตรา ๑๕ เปนเท็จตอสารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวตั ร 413 หลกั การบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
บญั ชวี า บัญชีหรือเอกสารที่ตอ งใชป ระกอบการลงบญั ชสี ญู หาย หรอื เสยี หายตองระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ หกเดอื น หรือ ปรบั ไมเกนิ หนงึ่ หมน่ื บาท หรือทง้ั จาํ ท้ังปรบั มาตรา ๓๔ ผูใ ดไมปฏิบตั ิตามมาตรา ๒๐ ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ หนง่ึ หม่นื บาท มาตรา ๓๕ ผใู ดไมปฏิบตั ิตามมาตรา ๒๑ ตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ หาพันบาท มาตรา ๓๖ ผใู ดขดั ขวางการปฏบิ ัตหิ นา ที่ของสารวตั รใหญบญั ชีหรอื สารวัตรบัญชี ซง่ึ ปฏิบตั กิ ารตามมาตรา ๒๒ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินหนงึ่ ป หรอื ปรับไมเกินสองหมื่นบาท หรอื ทัง้ จาํ ท้งั ปรับ ผใู ดไมอ าํ นวยความสะดวกแกสารวัตรใหญบัญชหี รือสารวัตรบัญชีซงึ่ ปฏบิ ัตหิ นา ทีต่ ามมาตรา ๒๒ หรอื ฝาฝน คําสง่ั ของสารวตั รใหญบญั ชหี รอื สารวัตรบัญชี ซึ่งสง่ั การตามมาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกไมเกนิ หนึง่ เดือน หรือปรบั ไมเ กนิ สองพันบาท หรอื ท้ังจาํ ทัง้ ปรับ มาตรา ๓๗ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๒๕ ตองระวางโทษจําคุกไมเ กนิ หกเดอื นหรือปรบั ไมเ กินหนึ่งหมน่ื บาท หรือทัง้ จําท้งั ปรับ ในกรณีทผ่ี กู ระทาํ ความผิดตามวรรคหนงึ่ เปนสารวัตรใหญบัญชี สารวตั รบัญชี หรอื เจาพนักงาน ตอ งระวางโทษ จําคุกไมเ กินหนึ่งป หรือปรับไมเกนิ สองหม่ืนบาทหรือท้ังจําทงั้ ปรับ มาตรา ๓๘ ผูใดทาํ ใหเสียหาย ทาํ ลาย ซอนเรน หรอื ทาํ ใหสญู หายหรอื ทาํ ใหไ รประโยชนซึง่ บัญชหี รอื เอกสารที่ ตอ งใชประกอบการลงบญั ชี ตองระวางโทษจาํ คุกไมเกนิ หน่งึ ป หรอื ปรับไมเกนิ สองหม่นื บาท หรือทั้งจาํ ทั้งปรับ ในกรณีทผ่ี ูกระทาํ ความผิดตามวรรคหนึ่งเปนผมู หี นาทจี่ ัดทาํ บญั ชี ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ สองป หรือปรับไม เกนิ ส่หี มืน่ บาท หรือทง้ั จาํ ท้งั ปรับ มาตรา ๓๙ ผใู ดลงรายการเทจ็ แกไข ละเวน การลงรายการในบัญชีหรืองบการเงนิ หรือแกไ ขเอกสารท่ีตอ งใช ประกอบการลงบญั ชเี พ่อื ใหผิดความเปน จรงิ ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกินสองป หรือปรบั ไมเกินสหี่ ม่ืนบาท หรอื ทัง้ จําท้งั ปรบั ในกรณีที่ผูก ระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเปนผูมหี นาที่จัดทาํ บัญชี ตอ งระวางโทษจําคุกไมเ กนิ สามป หรือปรับไม เกนิ หกหมน่ื บาท หรือทง้ั จําทงั้ ปรับ มาตรา ๔๐ ในกรณที ผ่ี กู ระทาํ ความผิดซึง่ ตองรับโทษตามพระราชบญั ญัติน้ีเปน นิตบิ ุคคล ใหก รรมการผูจ ัดการ หนุ สวนผูจัดการ ผแู ทนนิติบุคคล หรอื บุคคลใดซง่ึ รับผิดชอบในการดาํ เนินการของนิตบิ ุคคลน้นั ตอ งรบั โทษตามท่ี กฎหมายกําหนดไวส าํ หรับความผิดน้ันๆ ดว ย เวน แตจะพสิ ูจนไ ดวา ตนมไิ ดมีสวนรเู หน็ หรือยนิ ยอมในการกระทํา ความผิดของนติ ิบุคคลนนั้ มาตรา ๔๑ บรรดาความผิดตามมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ วรรคสอง ใหอธบิ ดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายมอี ํานาจเปรียบเทียบได และเมอื่ ผูก ระทาํ ความผดิ ไดชําระคา ปรับตามท่ีไดเปรียบเทียบแลว ใหคดีเปนอนั เลกิ กันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา [ดูคําสัง่ กรมทะเบยี นการคา ท่ี ๑๘๒/๒๕๔๔ เรอื่ ง มอบหมายใหขา ราชการมอี ํานาจเปรยี บเทียบตาม พระราชบญั ญัติบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๓] บทเฉพาะกาล มาตรา ๔๒ บรรดากฎกระทรวง หรือประกาศที่ออกตามประกาศของคณะปฏวิ ัตฉิ บับที่ ๒๘๕ ลงวนั ท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทใี่ ชบังคบั อยกู อ นวันทีพ่ ระราชบัญญตั ินี้ใชบ งั คบั ใหย งั คงใชบงั คับไดต อ ไปเทา ท่ีไมขัดหรือแยง กบั พระราชบัญญตั ิน้ี ท้ังนี้ จนกวาจะไดม กี ฎกระทรวง หรอื ประกาศท่ีออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ใชบงั คบั 414 หลกั การบัญชีเบื้องตน (Fundamental Accounting Principles)
ผใู ดเปนผทู าํ บญั ชขี องผูมหี นาท่ีจัดทําบัญชีอยูกอ นวนั ท่ีพระราชบัญญตั นิ ี้ใชบ ังคบั ไมน อยกวา หา ป แตไมม ี คุณสมบัติของการเปน ผทู าํ บญั ชีตามที่อธบิ ดกี ําหนดตามมาตรา ๗ (๖) หากประสงคจ ะเปน ผูทําบัญชีตาม พระราชบัญญตั นิ ้ีตอไป ใหแ จง ตออธิบดีตามหลักเกณฑ วิธีการ และเง่อื นไขที่อธบิ ดีประกาศกาํ หนด ภายในหกสิบวนั นบั แตวันท่พี ระราชบญั ญัตินใ้ี ชบงั คับ และเมอื่ ผนู ัน้ เขา รบั การอบรมและสําเร็จการอบรมตามหลกั เกณฑ วิธีการ และ ระยะเวลาที่อธิบดปี ระกาศกําหนดแลว ใหผูน ้ันเปนผทู ําบญั ชตี อไปไดเ ปน เวลาแปดปน บั แตวนั ที่พระราชบญั ญตั นิ ใี้ ช บงั คบั มาตรา ๔๓ ระหวางทย่ี ังไมมมี าตรฐานการบญั ชีทกี่ ฎหมายกําหนด ใหถือวา มาตรฐานการบญั ชีทีก่ าํ หนดโดย สมาคมนักบญั ชีและผสู อบบญั ชีรับอนญุ าตแหง ประเทศไทยซึ่งคณะกรรมการควบคมุ การประกอบวชิ าชีพสอบบัญชไี ดมี มตใิ หประกาศใชแ ลว เปน มาตรฐานการบัญชตี ามพระราชบัญญตั ินี้ มาตรา ๔๔ ใหกจิ การรวมคา ตามประมวลรัษฎากร ซง่ึ เรมิ่ ตนประกอบกิจการรว มคาอยูกอนวนั ท่ีพระราชบัญญตั ินี้ ใชบังคบั ไมตองปฏบิ ัตติ ามพระราชบญั ญัตนิ ี้ จนกวาจะเริม่ รอบระยะเวลาบญั ชใี หมห ลงั จากวันที่พระราชบัญญัตินีใ้ ช บังคับแลว มาตรา ๔๕ ใหผ มู หี นาทจี่ ัดทาํ บัญชีจัดใหมผี ทู าํ บัญชีใหถูกตอ งตามมาตรา ๑๙ ภายในหนง่ึ ปนับแตว ันท่ี พระราชบญั ญัตินม้ี ผี ลใชบังคบั กําหนดระยะเวลาตามวรรคหน่ึง อธิบดีโดยความเหน็ ชอบของรฐั มนตรี จะขยายออกไปอีกตามความจําเปนแก กรณกี ไ็ ดท ั้งนี้ ตองไมเกนิ หนงึ่ ป ในระหวางระยะเวลาตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิใหน ําบทบัญญัตมิ าตรา ๒๙ มาใชบ ังคับแกผมู ีหนาทจ่ี ัดทาํ บัญชที ่ีมิไดจ ดั ใหมีผูทาํ บัญชตี ามมาตรา ๑๙ วรรคหนง่ึ ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลกี ภยั นายกรฐั มนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี คือ โดยทป่ี ระกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๒๘๕ ลงวันท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ซ่งึ เปนกฎหมายวา ดวยการบญั ชีไดใชบ ังคับมาเปนเวลานาน มีหลักการเก่ยี วกับการทาํ บญั ชหี ลายประการทยี่ ังไมสอดคลอ งกบั ความกาวหนา ทางการบญั ชแี ละการจัดทําบญั ชี และไมสอดคลอ งกบั สถานการณท างเศรษฐกจิ การคา ทเ่ี ปล่ยี นแปลงไป สมควรปรบั ปรงุ กฎหมายวา ดวยการบัญชีใหท ันสมัยย่งิ ขึน้ จึง จําเปน ตองตราพระราชบัญญัติน้ี 415 หลกั การบัญชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
พระราชบัญญัติ วิชาชีพบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๗ ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไ ว ณ วนั ที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เปนปท่ี ๕๙ ในรชั กาลปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ใหประกาศวา โดยที่เปน การสมควรใหมกี ฎหมายวา ดว ยวิชาชีพบญั ชี พระราชบัญญัตนิ มี้ บี ทบญั ญตั บิ างประการเก่ยี วกับการจาํ กดั สิทธแิ ละเสรีภาพของบุคคล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๕๐ ของรฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญตั ิใหก ระทาํ ได โดยอาศัยอาํ นาจตาม บทบัญญตั แิ หง กฎหมายวา จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติขนึ้ ไวโ ดยคําแนะนาํ และยินยอมของรัฐสภาดงั ตอไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินเี้ รียกวา “พระราชบัญญัตวิ ิชาชพี บัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนิ ้ีใหใ ชบงั คับตงั้ แตว ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตน ไป มาตรา ๓ ใหยกเลิกพระราชบัญญัตผิ ูสอบบญั ชี พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั ิน้ี “วชิ าชพี บัญชี” หมายความวา วิชาชพี ในดานการทาํ บัญชี ดา นการสอบบญั ชี ดา นการบญั ชบี รหิ าร ดาน การวางระบบบัญชี ดานการบัญชภี าษีอากร ดานการศกึ ษาและเทคโนโลยีการบัญชี และบริการเก่ยี วกบั การบัญชี ดานอ่นื ตามทก่ี ําหนดโดยกฎกระทรวง “ผทู าํ บัญช”ี หมายความวา ผทู ําบญั ชีตามกฎหมายวาดวยการบัญชี “การประชุมใหญ” หมายความวา การประชุมใหญส ามญั หรือการประชุมใหญว ิสามัญ “สมาชิก” หมายความวา สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี “รฐั มนตรี” หมายความวา รฐั มนตรีผูรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี มาตรา ๕ ใหร ัฐมนตรีวา การกระทรวงพาณชิ ยรักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี และใหม อี าํ นาจออก กฎกระทรวง เพ่ือปฏบิ ตั ิการตามพระราชบญั ญัติน้ี กฎกระทรวงน้ันเมอื่ ไดประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลวใหใชบังคับได 416 หลกั การบัญชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
หมวด ๑ สภาวิชาชพี บัญชี มาตรา ๖ ใหมีสภาวชิ าชีพบญั ชี มฐี านะเปนนติ ิบุคคล โดยมวี ัตถปุ ระสงคเพอ่ื สงเสริมและพัฒนาวิชาชพี บัญชี มาตรา ๗ สภาวชิ าชีพบัญชีมีอาํ นาจหนาที่ ดังตอไปนี้ (๑) สงเสริมการศกึ ษา การอบรม และการวิจัยเก่ียวกบั วชิ าชีพบญั ชี (๒) สงเสริมความสามัคคีและผดงุ เกียรติของสมาชิก จัดสวสั ดกิ ารและการสงเคราะหระหวา งสมาชิก (๓) กําหนดมาตรฐานการบญั ชี มาตรฐานการสอบบัญชี และมาตรฐานอน่ื ทเี่ กีย่ วกับวิชาชพี บัญชี (๔) กําหนดจรรยาบรรณผปู ระกอบวิชาชพี บญั ชี (๕) รับขนึ้ ทะเบยี นการประกอบวิชาชีพบัญชี ออกใบอนญุ าต พกั ใช หรือเพกิ ถอนใบอนุญาตผปู ระกอบ วชิ าชพี บัญชี (๖) รับรองปรญิ ญาหรือประกาศนียบัตรในวิชาการบัญชีของสถาบันการศึกษาตาง ๆ เพ่ือประโยชนใ นการ รบั สมัครเปน สมาชิก (๗) รับรองความรคู วามชาํ นาญในการประกอบวชิ าชีพบญั ชี (๘) รับรองหลักสตู รการฝกอบรมเปนผชู าํ นาญการ และการศกึ ษาตอ เนอื่ งในดานตา ง ๆ ของผปู ระกอบ วิชาชพี บัญชี (๙) ควบคุมความประพฤตแิ ละการดําเนินงานของสมาชิกและผูขน้ึ ทะเบียนอนั เก่ยี วกับการประกอบ วชิ าชีพบัญชใี หถูกตองตามจรรยาบรรณแหง วชิ าชพี บัญชี (๑๐) ชวยเหลอื แนะนาํ เผยแพร และใหบ ริการวชิ าการแกป ระชาชนเกี่ยวกับวชิ าชีพบัญชี (๑๑) ออกขอบงั คับสภาวิชาชพี บญั ชี [ดูขอบังคับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๑) เรื่อง วธิ ีการเสนอและการพจิ ารณารางขอบงั คบั พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อบงั คับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๒) เรอ่ื ง สมาชิกและการรบั สมัครสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดูขอบังคับสภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๓) เร่ือง คาบาํ รุงสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๔) เรอื่ ง คณุ สมบัตแิ ละลกั ษณะตอ งหา มของนายกสภาวชิ าชีพบัญชี กรรมการผทู รงคุณวุฒิ และกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชี และหลกั เกณฑและวธิ กี ารเลือกต้งั พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๕) เร่ือง คณุ สมบตั แิ ละลักษณะตอ งหา ม การเลือกตงั้ หรอื การแตงตง้ั การดาํ รงตําแหนง การพน จากตําแหนงของประธานคณะกรรมการหรอื กรรมการวิชาชีพบญั ชแี ตล ะดาน อาํ นาจ หนา ท่ี และการดาํ เนนิ การอืน่ ของคณะกรรมการวชิ าชีพบัญชีแตล ะดา น พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดูขอ บงั คบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบับที่ ๖) เรือ่ ง ผทู ําบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คบั สภาวิชาชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๗) เรื่อง การออกใบอนุญาต และคา ธรรมเนยี มใบอนุญาตเปนผูสอบ บญั ชีรบั อนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อบังคับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๘) เรอ่ื ง การประชุมใหญและการเสนอเรื่องใหท่ีประชุมใหญพ ิจารณา พ.ศ. ๒๕๔๗] [ดขู อ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๙) เร่อื ง คุณสมบัติและลักษณะตองหา ม การเลือกต้งั หรอื การแตงตงั้ 417 หลกั การบญั ชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
การดํารงตาํ แหนง การพนจากตําแหนง ของประธานคณะกรรมการ หรือกรรมการวชิ าชีพบัญชีแตล ะดา น อํานาจ หนาท่ี และการดําเนินการอื่นของคณะกรรมการวชิ าชพี บญั ชีแตล ะดา น (ฉบบั แกไ ขเพม่ิ เติม) พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดขู อบงั คบั สภาวิชาชีพบัญชี (ฉบับท่ี ๑๐) เรื่อง ระยะเวลาการประกอบวชิ าชพี บัญชขี องผดู าํ รงตําแหนง กรรมการจรรยาบรรณ พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดขู อ บงั คบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบับที่ ๑๑) เรือ่ ง คุณสมบตั ิ ลกั ษณะตองหา ม การคดั เลือก และการพนจาก ตําแหนง ของกรรมการผทู รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการกาํ หนดมาตรฐานการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๘] [ดูขอบงั คับสภาวิชาชีพบัญชี (ฉบับที่ ๑๒) เรื่อง การพิจารณาเกีย่ วกบั จรรยาบรรณ พ.ศ. ๒๕๔๙] [ดขู อบงั คบั สภาวิชาชีพบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๑๓) เรอื่ ง หลกั เกณฑและวิธกี ารฝกหดั งาน การทดสอบเก่ียวกับ วชิ าชพี บญั ชีของผขู อรบั ใบอนญุ าตเปน ผูสอบบัญชีรับอนญุ าต พ.ศ. ๒๕๔๙] [ดูขอบงั คับสภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ที่ ๑๔) เรื่อง การปฏบิ ตั ิหนา ท่ี อาํ นาจหนาที่ และการพนจากตําแหนง ของผูดาํ รงตําแหนงอุปนายก เลขาธิการ เหรญั ญกิ นายทะเบียน และตําแหนง อนื่ ๆ ตามท่ีคณะกรรมการสภาวิชาชีพ กาํ หนด พ.ศ. ๒๕๔๙] (๑๒) เปน ตัวแทนของผปู ระกอบวชิ าชีพบัญชี (๑๓) ใหค าํ ปรึกษาและเสนอแนะตอรัฐบาลเกย่ี วกับนโยบายและปญ หาของวิชาชีพบัญชี (๑๔) ดาํ เนนิ การอน่ื เพื่อใหเปนไปตามวตั ถุประสงคและอํานาจหนา ท่ีของสภาวิชาชีพบัญชตี าม พระราชบัญญตั ินี้ มาตรา ๘ สภาวิชาชีพบัญชีอาจมรี ายได ดงั ตอ ไปน้ี (๑) คา บํารุงสมาชิกและคาธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตนิ ี้ (๒) เงนิ อดุ หนนุ จากงบประมาณแผน ดนิ (๓) ผลประโยชนจากการจดั การทรพั ยส ินและการดําเนินกจิ การของสภาวิชาชีพบญั ชี (๔) เงินและทรัพยสินซึ่งมผี ูใหแกส ภาวิชาชีพบัญชี (๕) ดอกผลของเงนิ และทรัพยส ินตาม (๑) (๒) (๓) และ(๔) มาตรา ๙ ภายใตบังคับบทบญั ญัติหมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพดานการสอบบัญชี และ หมวด ๖ การควบคุมการประกอบวิชาชพี ดานการทาํ บัญชี ในกรณีท่ีการประกอบวิชาชีพบญั ชีดานใด มีผลกระทบตอ ประโยชนไดเ สียของประชาชน หรอื เพ่อื ประโยชนท่ีจะใหมกี ารคมุ ครองประชาชนและพัฒนาหรอื จดั ระเบยี บการ ประกอบวชิ าชพี บัญชีดานใด จะตราพระราชกฤษฎกี ากําหนดใหก ารประกอบวิชาชีพบัญชีดา นนั้นตอ งไดร ับ ใบอนญุ าตหรือตอ งขนึ้ ทะเบียนไวก บั สภาวชิ าชพี บญั ชกี ็ได มาตรา ๑๐ เมือ่ มพี ระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๙ ใชบ ังคับสําหรับวชิ าชพี บัญชดี านใด หา มมใิ หผ ูใ ด ประกอบวชิ าชพี บญั ชดี า นนัน้ เวน แตไ ดรบั ใบอนญุ าตหรือข้ึนทะเบียนกับสภาวชิ าชีพบญั ชี การขอรับใบอนญุ าต การอนุญาต การออกใบอนญุ าต และการขึ้นทะเบยี นผูป ระกอบวิชาชพี บญั ชตี าม วรรคหนงึ่ ใหเปนไปตามแบบ หลกั เกณฑ วิธกี าร และเงอ่ื นไขท่กี าํ หนดในขอบงั คับสภาวชิ าชพี บญั ชี ในการขน้ึ ทะเบียนประกอบวิชาชีพบัญชี สภาวชิ าชีพบญั ชจี ะกําหนดใหผ ขู ึ้นทะเบียนซึ่งมไิ ดเปนสมาชกิ ตองเสยี คาธรรมเนียมเปนรายปกไ็ ด แตจะกําหนดคาธรรมเนียมดงั กลา วใหสงู กวาคา บาํ รุงสมาชกิ และคา ธรรมเนยี ม ใบอนุญาตท่ีเรียกเก็บจากสมาชิกสภาวิชาชพี บัญชเี ปน รายปไมได 418 หลกั การบัญชเี บ้ืองตน (Fundamental Accounting Principles)
มาตรา ๑๑ นิติบคุ คลซึ่งประกอบกิจการใหบริการดานการสอบบัญชีหรอื ดา นการทําบัญชี หรอื ใหบ รกิ าร วิชาชีพบัญชีดา นอ่ืนตามทีก่ าํ หนดโดยพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๙ ตอ งจดทะเบียนตอ สภาวชิ าชพี บัญชีตาม เง่ือนไข ดงั ตอไปนี้ (๑) นิติบุคคลนัน้ ตองจัดใหม หี ลักประกันเพอ่ื ประกันความรบั ผิดตอ บคุ คลท่ีสาม ทัง้ นี้ ตามประเภท จาํ นวน หลกั เกณฑ และวธิ ีการทก่ี าํ หนดโดยกฎกระทรวง (๒) ในกรณีประกอบกจิ การใหบ ริการการสอบบัญชี บคุ คลซ่ึงมีอํานาจลงนามผูกพนั นิตบิ ุคคลในการ ใหบริการการสอบบญั ชีตองเปนผูไดรับใบอนญุ าตใหเ ปน ผูสอบบัญชรี ับอนญุ าต การกําหนดหลักประกันตามวรรคหน่งึ (๑) ใหคาํ นึงถงึ ขนาดและรายไดของนติ บิ ุคคลน้ัน และใหน ํา ความเห็นของหนว ยงานที่เก่ียวขอ งและสภาวิชาชีพบัญชีมาพิจารณาประกอบดวย ในกรณที ีผ่ สู อบบัญชีตอ งรับผิดชอบตอบคุ คลท่ีสาม ใหน ติ บิ คุ คลซง่ึ ผูสอบบัญชนี ้ันสังกดั อยูรวมรับผดิ ดวย อยา งลกู หน้ีรว ม และ ในกรณีท่ยี ังไมสามารถชาํ ระคาเสียหายไดครบจาํ นวน ใหห นุ สว นหรือกรรมการผูมอี าํ นาจลง นามผกู พนั นิตบิ ุคคล หรือผแู ทนนิติบคุ คลใด ซึง่ ตองรบั ผิดชอบในการดําเนนิ การของนติ ิบคุ คลนั้น ตอ งรว มรับผิดจน ครบจํานวน เวน แตพ ิสจู นไ ดว าตนมิไดม สี ว นรเู ห็นหรอื ยินยอมในการกระทาํ ผิดทตี่ อ งรับผดิ หมวด ๒ สมาชิกสภาวิชาชพี บัญชี มาตรา ๑๒ สมาชกิ สภาวชิ าชีพบญั ชมี สี ่ปี ระเภท ดังนี้ (๑) สมาชิกสามัญ (๒) สมาชิกวิสามัญ (๓) สมาชกิ สมทบ (๔) สมาชิกกติ ตมิ ศกั ด์ิ มาตรา ๑๓ สมาชิกสามัญตอ งเปน ผูม ีคณุ สมบัติและไมมีลกั ษณะตอ งหา ม ดงั ตอ ไปน้ี (๑) มีอายุไมตา่ํ กวา ย่ีสบิ ปบ ริบูรณ (๒) มีสญั ชาตไิ ทย (๓) สําเร็จการศึกษาวชิ าการบญั ชีไมต ่ํากวาระดับปริญญาตรี หรอื ไดรับประกาศนยี บัตร หรอื วุฒอิ น่ื เทียบเทา ปริญญาตรสี าขาวิชาชีพการบัญชที ี่สภาวิชาชีพบัญชรี ับรอง หรือสาํ เร็จการศกึ ษาสาขาอน่ื ตามท่สี ภาวิชาชพี บญั ชีกาํ หนด (๔) ไมเปน ผปู ระพฤติผิดจรรยาบรรณอันนํามาซงึ่ ความเส่อื มเสียเกียรตศิ กั ด์ิแหง วชิ าชีพบญั ชีตามที่กําหนด ในขอบังคบั สภาวิชาชพี บญั ชี (๕) ไมเ คยตองโทษจําคุกโดยคําพพิ ากษาถึงทสี่ ุดใหจําคกุ ในคดีท่เี ปนการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะ นํามาซึ่งความเส่ือมเสียเกยี รตศิ ักด์ิแหงวชิ าชพี ตามที่กําหนดในขอบังคบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (๖) ไมเ ปน คนไรค วามสามารถหรือคนเสมอื นไรความสามารถ หรือเปน โรคตามทกี่ าํ หนดในขอ บงั คับสภา วชิ าชพี บญั ชี [ดูขอ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบับท่ี ๒) เรอ่ื ง สมาชิกและการรับสมคั รสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] 419 หลกั การบัญชเี บือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
มาตรา ๑๔ สมาชิกวสิ ามญั และสมาชิกสมทบตอ งเปนผูม สี ัญชาติไทย และตองมคี ณุ สมบัตแิ ละไมมี ลกั ษณะตอ งหา มตามทก่ี ําหนดในขอ บงั คบั สภาวชิ าชพี บญั ชี ความในวรรคหนึ่ง มใิ หใ ชบงั คับกบั ผูซ่ึงไมม สี ัญชาตไิ ทยแตมสี ญั ชาตขิ องประเทศ ซ่งึ ยินยอมใหผมู ีสัญชาติ ไทยประกอบอาชีพสอบบญั ชใี นประเทศน้นั ได และประสงคจะสมคั รเขาเปน สมาชิกวิสามญั แตผ ูนัน้ จะตองมี คณุ สมบัติและไมมลี ักษณะตองหา มตามมาตรา ๑๓ (๑) (๓) (๔) (๕) และ (๖) [ดูขอบงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบบั ท่ี ๒) เร่ือง สมาชกิ และการรบั สมัครสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] มาตรา ๑๕ สมาชิกกิตตมิ ศกั ด์ิ ไดแก ผูท รงคุณวุฒซิ งึ่ ไดร บั เชญิ เปนสมาชิกตามมติของคณะกรรมการสภา วชิ าชีพบัญชี มาตรา ๑๖ สมาชกิ สามญั มสี ทิ ธแิ ละหนา ท่ี ดงั ตอไปน้ี (๑) แสดงความคิดเห็นในการประชมุ ใหญ (๒) ออกเสยี งลงคะแนนในการประชุมใหญ (๓) เลือกต้ัง รบั เลอื กตงั้ หรือรบั แตงตั้ง เปน กรรมการหรือดาํ รงตาํ แหนงอื่นอันเกย่ี วกับกิจการของสภา วิชาชพี บัญชตี ามพระราชบัญญตั ิน้ี (๔) ชาํ ระคาบํารงุ สมาชิกหรือคา ธรรมเนียมตามที่กาํ หนดในขอบงั คบั สภาวิชาชพี บัญชี [ดขู อ บังคบั สภาวิชาชีพบญั ชี (ฉบับที่ ๓) เรอื่ ง คาบาํ รุงสมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] (๕) ผดงุ ไวซ ง่ึ เกยี รติศักดิ์แหง วิชาชพี บัญชแี ละปฏบิ ตั ิตนตามบทบัญญัตแิ หง พระราชบัญญตั นิ ี้ (๖) สิทธิและหนาที่อื่นตามทสี่ ภาวิชาชีพบญั ชีกําหนด สมาชิกวิสามัญ สมาชิกสมทบ และสมาชิกกิตติมศักด์ิ มีสิทธแิ ละหนา ทตี่ าม (๑) (๔) (๕) และ (๖) มาตรา ๑๗ สมาชิกภาพของสมาชกิ สิ้นสุดลง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคณุ สมบัตหิ รือมลี กั ษณะตอ งหามตามมาตรา ๑๓ หรอื มาตรา ๑๔ หรอื คณะกรรมการสภาวชิ าชพี บญั ชมี ีมติเพกิ ถอนสาํ หรบั กรณีสมาชกิ กิตติมศักดิ์ (๔) ไมช าํ ระคา บาํ รุงสมาชิก โดยไมมีเหตอุ ันสมควรตามท่ีกาํ หนดในขอบังคบั สภาวชิ าชพี บญั ชี [ดขู อ บังคบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ที่ ๓) เร่ือง คา บํารงุ สมาชิก พ.ศ. ๒๕๔๗] มาตรา ๑๘ ใหมกี ารประชมุ ใหญสามัญสภาวิชาชีพบัญชีอยา งนอยปละหน่ึงคร้งั การประชมุ ใหญอ ืน่ นอกจากการประชมุ ใหญส ามัญ เรียกวา การประชุมใหญว สิ ามญั [ดูกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิผูสอบบญั ชี พ.ศ. ๒๕๐๕] มาตรา ๑๙ สมาชิกสามญั อาจขอใหม ีการประชุมใหญว สิ ามญั ไดตามหลักเกณฑและวิธกี ารทกี่ ําหนดใน ขอบังคบั สภาวชิ าชพี บญั ชี ในการนี้ นายกสภาวิชาชพี บัญชีตอ งเรยี กประชุมใหญวสิ ามัญภายในสามสบิ วันนับแต วันท่ไี ดรับคําขอ [ดขู อ บังคบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบบั ท่ี ๘) เรื่อง การประชมุ ใหญแ ละการเสนอเรื่องใหท่ีประชมุ ใหญพิจารณา พ.ศ. ๒๕๔๗] 420 หลกั การบัญชีเบือ้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
มาตรา ๒๐ ในการประชุมใหญ ตองมีสมาชิกสามญั มาประชมุ ไมนอยกวาสองรอ ยคนจงึ เปน องคประชุม การประชุมใหญครั้งใด เม่ือลว งพน เวลาทก่ี ําหนดไวเปน เวลาสามสบิ นาทีแลวมสี มาชิกสามัญมาประชุมไม ครบองคป ระชมุ ตามวรรคหนึง่ และการประชุมน้ันไดเ รยี กประชุมตามมาตรา ๑๙ ใหง ดการประชุมครั้งน้ัน แตถ า คณะกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชีเปนผูจดั ใหมีการประชุม ใหเ ล่อื นการประชมุ น้นั ออกไป โดยใหน ายกสภาวชิ าชีพ บัญชีเรยี กประชุมใหญอีกครงั้ หน่งึ ภายในสามสิบวันและในการประชมุ ใหญค รง้ั นี้ ใหอ งคป ระชมุ ประกอบดว ยสมาชกิ สามัญเทาที่มาประชมุ มาตรา ๒๑ ในการประชมุ ใหญ ใหน ายกสภาวิชาชีพบัญชีเปนประธานในที่ประชุม ในกรณที นี่ ายกสภา วชิ าชีพบัญชไี มอ ยูใ นทปี่ ระชมุ หรอื ไมสามารถปฏบิ ัติหนา ท่ไี ด หรือไมปฏิบตั ิหนา ท่ี ใหอ ปุ นายกสภาวชิ าชีพบัญชคี นที่ หนงึ่ หรือคนทีส่ องตามลําดับเปน ประธานในท่ีประชุม ถานายกสภาวิชาชพี บัญชแี ละอปุ นายกสภาวิชาชีพบญั ชไี มอ ยู ในที่ประชมุ หรือไมส ามารถปฏบิ ัตหิ นาทไี่ ดหรอื ไมปฏบิ ัตหิ นา ที่ ใหส มาชิกสามัญท่ีมาประชมุ เลอื กสมาชิกสามญั คน หนึ่งทําหนา ทเี่ ปนประธานในที่ประชมุ หมวด ๓ คณะกรรมการสภาวชิ าชพี บัญชี มาตรา ๒๒ ใหมคี ณะกรรมการสภาวิชาชีพบญั ชี ประกอบดวย (๑) นายกสภาวชิ าชพี บญั ชี ซึ่งที่ประชมุ ใหญเลอื กต้ังจากสมาชกิ สามัญ (๒) กรรมการโดยตําแหนง ไดแ ก ประธานคณะกรรมการวชิ าชีพบญั ชีทุกดา น ประธานคณะกรรมการ กําหนดมาตรฐานการบญั ชี และประธานคณะกรรมการจรรยาบรรณ (๓) กรรมการผูท รงคุณวฒุ ิ ซ่งึ นายกสภาวชิ าชีพบัญชีและกรรมการโดยตาํ แหนงตาม (๒) มมี ติแตง ต้ังจาก ผูทรงคณุ วฒุ ิเก่ียวกับวชิ าการบัญชีสองคน และผทู รงคณุ วฒุ ิทางดานกฎหมายหนง่ึ คน (๔) กรรมการซ่งึ ท่ีประชมุ ใหญเลือกตง้ั จากสมาชิกสามัญ มจี ํานวนไมเ กินหาคน ใหเลขาธกิ ารสภาวิชาชพี บญั ชเี ปน กรรมการและเลขานุการ และจะใหมีผชู ว ยเลขานุการกไ็ ดต ามความ จําเปนและตามมติของคณะกรรมการสภาวชิ าชีพบญั ชี คณุ สมบตั ิและลกั ษณะตอ งหามของนายกสภาวชิ าชพี บัญชี กรรมการตาม (๓) และ (๔) และหลกั เกณฑ และวิธกี ารเลือกต้งั นายกสภาวิชาชีพบัญชี และกรรมการตาม (๔) ใหเ ปน ไปตามขอ บังคบั สภาวชิ าชพี บัญชี [ดูขอ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (ฉบับที่ ๔) เร่ือง คณุ สมบตั แิ ละลักษณะตองหามของนายกสภาวชิ าชีพบัญชี กรรมการผูท รงคุณวุฒิและกรรมการสภาวิชาชีพบญั ชี และหลกั เกณฑแ ละวธิ ีการเลอื กตงั้ พ.ศ. ๒๕๔๗] มาตรา ๒๓ นายกสภาวชิ าชีพบญั ชี และกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) มวี าระการดาํ รงตาํ แหนง คราวละสามป ในกรณที ี่นายกสภาวิชาชพี บญั ชี หรอื กรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) พน จากตาํ แหนง กอ นครบ วาระ หรอื ในกรณีที่ท่ปี ระชุมใหญเลอื กกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๔) เพ่ิมขนึ้ ในระหวา งทีก่ รรมการซึง่ เลอื กตั้งไวแ ลว ยงั มวี าระอยใู นตําแหนง ใหผูไดรับเลอื กตัง้ หรอื แตง ตัง้ แทนตําแหนงทีว่ างหรือเปน กรรมการเพ่มิ ขึ้น อยใู นตาํ แหนง เทา กับวาระที่เหลืออยูข องกรรมการซึง่ ไดเลอื กหรอื แตง ตั้งไวแ ลว เมื่อครบกาํ หนดตามวาระในวรรคหนง่ึ หากยงั มิไดมีการเลอื กต้ังนายกสภาวชิ าชีพบญั ชหี รือยังมิไดมีการ 421 หลกั การบัญชีเบ้อื งตน (Fundamental Accounting Principles)
แตง ตงั้ กรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) หรือยงั มไิ ดมกี ารเลือกกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๔) ขนึ้ ใหม ใหนายกสภา วิชาชีพบญั ชีหรือกรรมการซึ่งพนจากตําแหนงตามวาระนนั้ อยูในตาํ แหนง เพอ่ื ดาํ เนนิ งานตอไปจนกวา นายกสภา วชิ าชพี บญั ชหี รือกรรมการซ่ึงไดรับเลือกหรอื แตง ตง้ั ใหมเขา รบั หนาที่ นายกสภาวิชาชพี บัญชีหรือกรรมการซ่ึงพน จากตําแหนงตามวาระ อาจไดร บั เลือกตั้งหรือแตง ตง้ั อีกได แต นายกสภาวชิ าชีพบัญชจี ะดาํ รงตาํ แหนง เกินสองวาระติดตอกนั ไมไ ด มาตรา ๒๔ นอกจากการพนจากตาํ แหนงตามวาระ ใหนายกสภาวิชาชพี บญั ชีและกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) พนจากตําแหนง เม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) พนจากสมาชิกภาพของสมาชกิ สภาวิชาชพี บัญชี (๔) ขาดคุณสมบัตหิ รือมีลักษณะตองหามตามขอ บังคับสภาวชิ าชพี บญั ชี (๕) รัฐมนตรีมีคาํ สง่ั ใหพ นจากตาํ แหนง ตามมาตรา ๖๓ มาตรา ๒๕ ใหน ายกสภาวิชาชพี บญั ชีเลอื กกรรมการเพ่ือแตงตั้งใหด ํารงตําแหนงอปุ นายกตามจาํ นวนท่ี คณะกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชีกําหนด ตาํ แหนงเลขาธิการ เหรัญญิก และนายทะเบยี น ตําแหนงละหนึ่งคน และ ตําแหนง อนื่ ตามทีค่ ณะกรรมการสภาวชิ าชพี บญั ชีกาํ หนดตามความจาํ เปน การปฏบิ ัตหิ นาที่ อํานาจหนา ท่ี และการพน จากตาํ แหนง ของผดู ํารงตําแหนงตามวรรคหนงึ่ ใหเปนไปตาม ขอบงั คับสภาวิชาชีพบัญชี [ดขู อบังคบั สภาวชิ าชีพบัญชี (ฉบับท่ี ๑๔) เรอื่ ง การปฏิบตั ิหนาท่ี อาํ นาจหนาท่ี และการพนจากตําแหนง ของผดู าํ รงตําแหนง อปุ นายก เลขาธิการ เหรัญญกิ นายทะเบียน และตาํ แหนงอน่ื ๆ ตามที่คณะกรรมการสภาวิชาชพี กาํ หนด พ.ศ. ๒๕๔๙] มาตรา ๒๖ การประชุมคณะกรรมการสภาวิชาชพี บญั ชีตองมีกรรมการมาประชุมไมน อยกวาก่งึ หน่ึงของ จาํ นวนกรรมการท้ังหมด จงึ จะเปน องคประชุม มตขิ องท่ีประชุมใหถ ือเสยี งขา งมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนงึ่ ในการลงคะแนนถาคะแนนเสียงเทากัน ใหป ระธานในท่ีประชมุ ออกเสียงเพิ่มขึ้นอกี เสียงหน่งึ เปนเสยี งชข้ี าด [ดกู ฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชบัญญัตผิ ูส อบบญั ชี พ.ศ. ๒๕๐๕] มาตรา ๒๗ คณะกรรมการสภาวชิ าชีพบัญชี จะแตง ต้ังคณะอนกุ รรมการเพือ่ พจิ ารณาหรอื ปฏบิ ัติการ ตามทมี่ อบหมายก็ได ใหนาํ ความในมาตรา ๒๖ มาใชบ ังคบั แกก ารประชมุ ขอคณะอนกุ รรมการโดยอนุโลม มาตรา ๒๘ ใหคณะกรรมการสภาวชิ าชพี บญั ชมี อี าํ นาจหนาท่ี ดงั ตอไปน้ี (๑) บริหารกิจการของสภาวิชาชพี บญั ชใี หเ ปน ไปตามวัตถุประสงค (๒) กระทํากิจการทีอ่ ยใู นอํานาจหนา ท่ขี องสภาวิชาชพี บญั ชตี ามพระราชบัญญัติน้ี (๓) เสนอรางขอ บังคับสภาวิชาชีพบญั ชีในกิจการตา งๆ ท่กี ําหนดไวในพระราชบญั ญตั ิน้ตี อท่ีประชุมใหญ สภาวชิ าชีพบญั ชี 422 หลักการบญั ชีเบอื้ งตน (Fundamental Accounting Principles)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 476
Pages: