150 แบบฝกหดั ทายบท 1. การเลิกหางหุนสว น หมายถงึ อะไรทาํ ไดก ว่ี ิธอี ะไรบาง 2. ผูชําระบัญชีเก่ียวขอ งกับการเลิกหา งหนุ สว นอยางไร 3. ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 1055 1056 และ 1057 กลาวถึงเหตุผลในการ เลกิ หา งหุนสว นโดยสรปุ มอี ะไรบาง 4. แอน ตาย นก เปนหุนสวนกันรวมกันจัดตั้งเปนหางหุนสวนสามพ่ีนอง แบงกําไรขาดทุน เทากันไดประกอบการคารวมกนมาเปนเวลาหลายป ตอมาเศรษฐกิจของประเทศไมดีทําให หางหุนสวนสามพี่นองประสบกับปญหาขาดทุน จึงตกลงเลิกกิจการเม่ือวันที่ 1 กรกฏาคม 25x1 หลงั จากปดบญั ชคี รึ่งป หาผลการดาํ เนนิ งานแลว งบดลุ ของหางหนุ สว นปรากฏดงั น้ี หา งหุนสวน สามพน่ี อง งบดุล ณ วันท่ี 30 มิถนุ ายน 25x1 (หนว ย:บาท) สินทรพั ย หนส้ี นิ และสว นของผเู ปน หนุ สว น สนิ ทรพั ยหมนุ เวยี น หน้สี ินหมนุ เวยี น เงินสด 60,000 เจาหนี้ 100,000 ลกู หน้ี (สทุ ธิ) 140,000 ต๋ัวเงนิ จาย 40,000 140,000 สนิ คาคงเหลือ 100,000 เงนิ กู – แอน 10,000 ลูกหนีแ้ ละเงินใหกยู ืมแกผเู ปน หุนสว น เงินกู – ตา ย 30,000 40,000 กระแสทุน – นก 20,000 สวนของผเู ปนหุนสว น ทีด่ นิ อาคารและอปุ กรณ ทนุ – แอน 180,000 สนิ ทรพั ยถ าวร (สุทธิ) 400,000 ทนุ – ตาย 180,000 ทนุ – นก 180,000 540,000 720,000 720,000 150
151 ผูชําระบัญชีไดดําเนินการขายสินทรัพยท่ีมีอยูท้ังส้ินในคร้ังเดียวไดเงินสุทธิ 340,000 บาท เสียคาใชจายในการชาํ ระบัญชีจาํ นวน 30,000 บาท ใหทาํ 1. งบชําระบญั ชีของหา งหุนสวนสามพ่ีนอง ณ วนั ที่ 1 กรกฎาคม 25x1 2. บันทึกรายการเก่ยี วกบั การชําระบญั ชใี นสมุดรายวันทว่ั ไป 5. ดี จัง และเลย เปนหุนสวนกัน แบงกําไรขาดทุนกัน 50% 30% และ20% ตามลําดับ หางหุนสวน ไดปดบัญชีทุกวันท่ี 31 ธันวาคมของทุกป ตอมาทั้งสามคนมีความเห็นสอดคลองกันที่จะเลิก กจิ การหางหุนสวนรวมการคา ในวันท่ี 31 กรกฎาคม 25x2 งบดุลในวนั นป้ี รากฏดังนี้ หางหุนสวน สามการคา งบดุล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 25x2 (หนว ย : บาท) สินทรัพย หนี้สนิ และสว นของผูเปน หนุ สวน เงนิ สด 37,500 เจาหนี้ 54,000 สินทรพั ย (สทุ ธิ) 500,000 คา ใชจา ยคา งจา ย 3,500 เงินกู – ดี 24,000 เงินกู – จัง 16,000 ทุน – ดี 120,000 ทนุ – จัง 150,000 ทนุ – เลย 170,000 537,500 537,500 หางหุนสวนไดดําเนินการขายสินทรัพยที่มีอยูท้ังหมดได 370,000 บาท โดยเสีย คาใชจ ายในการเลกิ กิจการเปน เงนิ 13,000 บาท ใหทํา 1. งบชาํ ระบัญชี วันท่ี 31 กรกฎาคม 25x1 2. บนั ทึกรายการในสมดุ รายวนั ท่วั ไปเกี่ยวกบั การชําระบัญชี 151
152 7. เจ พลอย พี เปนหุนสวนกันแบงกําไรขาดทุนกันในอัตราสวน 3 : 2 : 5 ไดรวมกันจัดต้ังหาง หุนสวนสามหลาน มาเปนเวลาหลายป การดําเนินงานในระยะหลัง ๆ ไมประสบผลสําเร็จ เทา ทีค่ วร จึงไดต กลงรว มกันทจ่ี ะเลกิ กิจการในวนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x3 โดยมีงบดุลปรากฏดงั น้ี หางหนุ สว น สามหลาน งบดุล ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม 25x3 (หนว ย : บาท) สินทรัพย เงินสด 30,000 ต๋ัวเงนิ รบั 120,000 ลูกหนี้ 90,000 หกั คาเผอ่ื หนส้ี งสยั จะสญู 9,000 81,000 สินคา 129,000 อาคาร 550,000 หัก คาเสื่อมราคาสะสม - อาคาร 110,000 440,000 800,000 หนสี้ นิ และสวนของผูเ ปน หนุ สวน เจาหนี้การคา 86,000 เจาหนี้เงนิ กู 300,000 เงินกู – พลอย 14,000 ทนุ - เจ 100,000 ทุน - พลอย 60,000 ทุน - พี 240,000 400,000 800,000 152
153 หางหุนสวนไดดําเนินการขายสินทรัพยท่ีมีอยูทั้งหมดภายในวันเดียวไดเงินสด ทั้งสิ้น 400,000 บาท จึงไดดําเนินตามข้ันตอนของการชําระบัญชี มีคาใชจายเกิดข้ึนจํานวน 20,000 บาท ปรากฏวา พลอยสามารถนําเงินสดมาชําระสวนขาดของตนได แต เจ ไมสามารถนํา เงนิ มาชาํ ระสวนขาดได เพราะเปนบคุ คลมหี นส้ี ินลนพนตัว ใหท าํ 1. งบชาํ ระบัญชีในวนั เลกิ กจิ การหา งหุน สว น 2. บันทึกรายการในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 8. ตอ ไปนเ้ี ปนงบดลุ กอ นการเลิกหา งหนุ สวนสามตอ ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 25x3 ซง่ึ มนี ายตอ นายแตน และนายเตา เปนหุนสวนกันแบง กาํ ไรขาดทนุ ในอัตราสว น 2 : 3 : 4 หา งหุนสวน สามตอ งบดลุ ณ วันที่ 31 เมษายน 25x3 (หนว ย : บาท) สินทรพั ย หน้ีสินและสว นของผูเปน หนุ สว น เงนิ สด 100,000 เจา หน้ี 180,000 สินทรพั ยอ่นื ๆ (สุทธิ) 400,000 เงินกู – นายแตน 20,000 ทุน – นายตอ 20,000 ทุน – นายแตน 120,000 ทุน – นายเตา 160,000 300,000 500,000 500,000 ผูเปนหุนสวนท้ังสามไดตกลงเลิกกิจการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 25x3 โดยการขาย สินทรัพยและจายคืนทุนเปนงวดและกรณีที่หุนสวนคนใดมียอดทุนคงเหลือทางดานเดบิต สามารถนําเงินมาชาํ ระสวนขาดได การขายสินทรัพยม ีดังน้ี วนั ที่ 5 พฤษภาคม ขายสนิ ทรพั ยม ูลคา 100,000 บาท ไดเ งิน 118,000 บาท วนั ท่ี 20 พฤษภาคม ขายสินทรพั ยทีเ่ หลอื ไดเ งิน 274,000 บาท 153
154 ใหทํา 1. งบแสดงการชําระบัญชี 2. แสดงการคํานวณการจายคืนทนุ 3. บนั ทึกรายการในสมุดรายวนั ทัว่ ไป 9. เริง ราญ รวย รอง เปนหุนสวนกัน ดําเนินกิจการคาเปนหางหุนสวน รํ่ารวย โดยประสบ ผลสําเร็จในการคาดวยดีเสมอมา ตอมาปรากฏวาเริง และ ราญ ไมสามารถรวมดําเนินการคาใน หางหุนสวนไดอีกตอไป หุนสวนทั้งสี่จึงไดตกลงเลิกกิจการหางหุนสวนในวันที่ 1 กันยายน 25x3 โดยมยี อดคงเหลอื ของบัญชสี นิ ทรัพย หน้ีสนิ และทุน ดงั น้ี สินทรัพยส ุทธิ 348,000 หนีส้ นิ 100,000 เงนิ กู - เรงิ 20,000 ทนุ – เริง 54,000 ทุน – ราญ 100,000 ทุน - รวย 42,000 ทุน - รอง 44,000 หางหนุ สวนไดดาํ เนินการขายสินทรพั ยท ีม่ ีอยทู ้ังหมด ยกเวนเงินสด จํานวน 12,000 บาท ทุกครั้งที่มีการขายสินทรัพยไดดําเนินการคืนทุนใหแกผูเปนหุนสวนเทาท่ีมีเงินสดอยู โดยมี รายละเอียดของการขายสนิ ทรัพยในแตละครง้ั ดงั นี้ วนั ทขี่ ายสินทรัพย ราคาสนิ ทรพั ยต ามบัญชี จาํ นวนเงนิ ทข่ี ายได 1 ก.ย. 25x3 168,000 108,000 20 ต.ค. 25x3 140,000 100,000 7 พ.ย. 25x3 32,000 24,000 31 ธ.ค. 25x3 8,000 2,000 154
155 ผูเปนหุนสวนท้ังหมดไดตกลงแบงกําไรขาดทุนกันดังน้ี คือ เริง 20% ราญ 40% รวย 10% และ รอง 30% ใหทาํ : 1. งบชาํ ระบญั ชี ในการเลกิ กิจการของหา งหุน สว น 2. แสดงการคํานวณการจา ยคืนทุนในแตล ะคร้งั 3. บนั ทกึ รายการเลิกกิจการหา งหุนสวนในสมุดรายวันทว่ั ไป 10. แด จัง กึม เปนหุนสวนกันแบงกําไรขาดทุน ในอัตรา 1 : 2 : 2 ไดตกลงที่จะเลิกกิจการเม่ือ วนั ท่ี 1 ตุลาคม 25x3 งบดลุ กอนเลกิ กจิ การมดี งั นี้ หางหนุ สวนเกาหลี งบดุล ณ วนั ที่ 1 ตลุ าคม 25x3 (หนว ย : บาท) สนิ ทรพั ย หน้สี นิ และสว นของผเู ปน หนุ สว น เงนิ สด 114,000 เจาหนกี้ ารคา 51,400 ลูกหน้ี 50,000 คา ใชจ ายคางจา ย 8,600 หกั คาเผอ่ื หนสี้ งสัยจะสญู 10,000 40,000 กระแสทนุ – แด 40,000 สนิ คา คงเหลอื 89,000 กระแสทนุ – จงั 32,000 ทีด่ ิน 180,000 กระแสทุน – กึม 48,0000 120,000 อาคาร 250,000 ทุน – แด 110,000 หัก คา เสอื่ มราคาสะสม 75,000 175,000 ทนุ – จงั 180,000 อปุ กรณส าํ นักงาน 70,000 ทุน – กมึ 170,000 460,000 หกั คาเส่อื มราคาสะสม 28,000 42,000 640,000 640,000 ผูเปนหุนสวนไดแตงต้ังผูชําระบัญชีเสียคาใชจายในการชําระบัญชีจํานวน 4,000 บาท โดยดําเนนิ การขายสนิ ทรัพยและจายคนื ทุนทกุ ครัง้ ที่มีการขายสนิ ทรัพยด งั นี้ พ.ค. 5 ขายท่ีดนิ อาคารและอุปกรณไ ดเงนิ 220,000 บาท เสียคา นายหนา 5% 155
156 ม.ิ ย. 25 จา ยชาํ ระหนี้ภายนอก ก.ค. 11 เก็บเงนิ จากลูกหนไ้ี ดทัง้ หมดสวนสนิ คา ขายไดเ งนิ 30,000 บาท ใหทํา 1. งบชาํ ระบญั ชี 2. แสดงการคาํ นวณการจา ยคนื ทุนในแตล ะงวด 3. บันทกึ รายการในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 156
บทท่ี 5 บรษิ ัทจาํ กัด การดําเนินงานของธุรกิจอีกรูปแบบหน่ึงที่มีการระดมทุนไดมากกวาหางหุนสวน คือ บริษัท ซึ่งมีสวนของเจาของ เรียกวา สวนของผูถือหุน โดยแบงทุนเปนออกเปนหุน แตละหุนมี มูลคาเทา ๆ กัน หุนในบริษัทสามารถโอนเปล่ียนมือไดงายแมจะมีการเปลี่ยนตัวผูถือหุนซึ่งเปน เจาของบริษทั เน่ืองจากผูถือหุนตางรับผิดจํากัดจํานวนเพียงไมเกินจํานวนเงินท่ีตนยังสงใชไมครบ มูลคาของหุนที่ตนถือ นอกจากน้ีบริษัทยังสามารถควบเขากับบริษัทอื่นเพื่อขยายธุรกิจไดงายกวา โดยใชเสียงขางมากซึ่งนับตามจํานวนหุนท่ีผูถือหุนถืออยูมิใชนับจากจํานวนผูถือหุนดังหาง หนุ สวน แตบริษัทมีขอเสียคือมีกฎเกณฑ ขอบังคับยุงยากซับซอนมากกวาหางหุนสวน โดยท่ัวไป บริษัทจะถูกจัดต้ังในลักษณะเปนบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด ซึ่งมีรายละเอียดในการ จัดต้งั และการบันทึกบัญชดี ังน้ี ประเภทของบรษิ ทั จาํ กดั ตามกฎหมายไดจาํ แนกประเภทของบรษิ ัทจาํ กัดไวเปน 2 ประภท ดงั น้ี 1. บริษัทจํากัด (company limited) ถูกจัดตั้งและกํากับโดยประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย มีผูเร่ิมจัดตั้ง 7 คนข้ึนไป และตองรวมกันซื้อหุนของบริษัทที่จัดตั้งข้ึนอยางนอยคน ละ 1 หนุ ทงั้ นี้การเสนอขายหนุ ตอประชาชนจะลงโฆษณาช้ชี วนไมไ ด 2. บรษิ ัทมหาชน (public company limited) ถูกจัดต้ังและกํากับโดยพระราชบัญญัติ บริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. 2535 แกไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544 มีผูเริ่มจัดต้ัง 15 คนขึ้นไป และตอง รวมกันจองหุนของบรษัทโดยหุนท่ีจองท้ังหมดตองเปนหุนที่ชําระคาหุนเปนมูลคารวมไมนอย กวา 5% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งไมมีการกําหนดจํานวนทุนจดทะเบียนขั้นตํ่าไว และมี วัตถุประสงคท่ีจะโฆษณาเสนอขายหุนตอประชาชนได ทั้งน้ีมูลคาหุนและการชําระเงินคาหุน หุนของบริษัทมหาชนจํากัดแตละหุนจะตองมีมูลคาเทากัน และตองชําระคาหุนครั้งเดียวเต็ม มลู คา หนุ 157
158 การดาํ เนินการจดั ตั้งบริษทั จาํ กดั ในการจดั ต้งั บริษทั จาํ กัดนัน้ จะตอ งดาํ เนินการตามลําดับข้ันตอน ดงั นี้ 1. ตองมีผเู ร่มิ กอ การตัง้ แต 7 คนข้นึ ไป เขาชือ่ กนั ทําหนังสือบริคณหสนธิขน้ึ แลว ไปจดทะเบยี น โดยหนงั สือบรคิ ณหส นธิ ตอ งมีรายการตอ ไปนี้ 1.1 ชอ่ื บริษทั ซึง่ ตองมคี าํ วา จํากดั ไวปลายชือ่ นั้นเสมอ 1.2 ทอี่ ยขู องสํานักงานของบรษิ ัทซึ่งบอกทะเบยี นนั้นจะตัง้ อยู ณทใ่ี ดในราชอาณาจักร 1.3 วตั ถปุ ระสงคท ั้งหลายของบรษิ ัท 1.4 ถอ ยคําที่แสดงวา ความรบั ผดิ ของผูถอื หนุ จะมจี ํากัด 1.5 จาํ นวนทนุ เรือนหุน ซง่ึ บริษัทคดิ กาํ หนดจะจดทะเบยี นแบง ออกเปนหุนมมี ลู คา กําหนดหนุ ละเทาใด 1.6 ชื่อ สาํ นกั อาชีวะ และลายมือชือ่ ของบรรดาผูเริ่มกอการท้ังจํานวนหุน ซงึ่ ตางคนตางเขา ชอื่ ไวค นละเทา ใด หนังสอื บริคณหสนธติ องจดั ทําไวอยางนอย 2 ฉบับ และใหล งลายมอื ช่ือของผู เริ่มกอ การ และพยานลงชือ่ รับรองดว ย 2 คน หนงั สอื บรคิ ณหสนธฉิ บับหน่ึงใหไปจดทะเบยี น และมอบไวใหท ่ี ณ สาํ นกั งานทไ่ี ปจดทะเบยี นซึง่ บอกทะเบยี นท่ีตั้งสาํ นกั งานของบรษิ ัทนัน้ 2. เมื่อไดจดทะเบียนหนังสือบริคณหสนธิแลว ผูเริ่มกอการตองจัดใหหุนของ บรษิ ัทที่จะตง้ั ข้ึนน้นั มีผเู ขา ชื่อจองซอ้ื หุนจนครบ 3. ดําเนินการประชุมต้ังบริษัท โดยตองสงคําบอกกลาวนัดประชุมใหผูจองทราบ ลวงหนา อยา งนอ ย 7 วัน กอนวันประชุม 4. เม่ือไดประชมุ ต้ังบริษทั และที่ประชุมไดแ ตงตั้งกรรมการบรษิ ทั แลว ผูเร่ิมกอการ ตองมอบหมายกจิ การใหกรรมการบรษิ ทั รบั ไปดาํ เนนิ การตอ ไป 5. กรรมการบริษัทเรียกใหผูเร่ิมกอการและผูจองหุนชําระคาหุนอยางนอยรอยละ 25 ของมูลคาหุน (ทุนของบรษิ ัทจะแบง เปน กห่ี นุ กไ็ ด แตต อ งไมต ํา่ กวา หุนละ 5 บาท) 6. เมื่อไดรับเงินคาหุนแลว กรรมการตองไปจดทะเบียนเปนบริษัทภายใน 3 เดือน ภายหลังจากการประชุมตั้งบริษัท โดยคําขอและขอความที่ลงในทะเบียนนั้น ใหระบุรายการ ดังตอ ไปนี้ 6.1 จํานวนหุนท้ังสิ้นซ่ึงไดมีผูเขาช่ือซ้ือ หรือไดจัดออกใหแลว แยกใหปรากฎ วาเปน ชนิดหนุ สามัญเทา ใด หุน บรุ มิ สทิ ธเิ ทาใด 158
159 6.2 จํานวนหุนสามัญหรือหุนบุริมสิทธิ ซ่ึงออกใหเหมือนหนึ่งวาไดใชเต็มคา แลวหรือไดใชแตบางสวนแลว นอกจากท่ีใชเปนตัวเงินและหุนที่ไดใชแตบางสวนนั้น ใหบอก วา ไดใชแลว เพียงใด 6.3 จํานวนเงนิ ที่ไดใ ชแ ลวหนุ ละเทาใด 6.4 จาํ นวนเงนิ ทีไ่ ดร ับไวเ ปน คา หุน รวมทง้ั ส้นิ เทา ใด 6.5 ช่ือ อาชีวะ และท่สี าํ นักของกรรมการทกุ คน 6.6 ถาใหกรรมการตางมีอํานาจจัดการงานของบริษัทโดยลําพังตัว ใหแสดง อาํ นาจของกรรมการนั้น ๆ วา คนใดมเี พยี งใด และบอกจํานวนหรือช่ือกรรมการ ซึ่งจะลงชื่อเปน สาํ คญั ผูกพันบริษัทไดน น้ั ดว ย 6.7 ถาตั้งบริษัทขึ้นชั่วคราวตามกําหนดระยะเวลาหนึ่ง ใหบอกกําหนด ระยะเวลานน้ั ดวย 6.8 ท่ตี ัง้ สาํ นักงานแหงใหญแ ละสาขาทง้ั หมด หนาทีข่ องบริษัทจํากัด บรษิ ัทเมื่อจดทะเบยี นเปน นติ บิ ุคคลจึงมีหนาที่ตามกฎหมายดงั นี้ 1. บริษัทจํากัด ตองทํางบการเงินอยางนอยครั้งหนึ่งทุกรอบสิบสองเดือน โดยมีผูสอบ บัญชีอยางนอยหน่ึงคนตรวจสอบ แลวนําเสนอที่ประชุมใหญสามัญผูถือหุนอนุมัติงบการเงิน ภายใน 4 เดือน นับแตวันปดรอบปบัญชี พรอมท้ังย่ืนงบการเงินตอสํานักบริการขอมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการคา หรือท่ีสํานักงานพัฒนาธุรกิจการคาจังหวัด ภายใน 1 เดือน นับต้ังแตวัน อนมุ ตั งิ บการเงิน ทง้ั น้ีรวมถึงบริษัทที่แมวาจะยังมิไดประกอบกิจการก็ตาม จะตองสงงบการเงิน ดว ย มฉิ ะนน้ั มคี วามผิดตอ งระวางโทษปรบั ไมเ กินหาหมืน่ บาท 2. จัดทําบัญชีรายช่ือผูถือหุน ณ วันที่ที่ประชุมใหญสามัญผูถือหุนและใหนําสงตอ สํานักงานทะเบียนหุนสวนบริษัทกรุงเทพมหานคร หรือท่ีสํานักงานทะเบียนหุนสวนบริษัท จังหวัดแลวแตกรณี ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ประชุม มิฉะนั้นมีความผิดตองระวางโทษปรับ ไมเกินหน่งึ หมืน่ บาท 3. ตองจัดใหมีการประชุมใหญสามัญ ภายหลัง 6 เดือน นับแตวันจดทะเบียน เปนนิติ บุคคล และจัดประชุมครง้ั ตอไปอยางนอ ย 1 ครัง้ ทุกระยะเวลา 12 เดอื น 159
160 4. ตองจัดทําใบหุนมอบใหผูถือหุนของบริษัท มิฉะนั้นมีความผิดตองระวางโทษปรับ ไมเกนิ หนง่ึ หม่นื บาท 5. ตองจัดทําสมุดทะเบียนผูถือหุนของบริษัท มิฉะนั้นมีความผิดตองระวางโทษ ปรับ ไมเกนิ สองหมน่ื บาท การดาํ เนนิ การจัดตงั้ บรษิ ทั มหาชน ในการจดั ต้ังบรษิ ทั มหาชนนน้ั จะตอ งดาํ เนนิ การตามลาํ ดบั ข้ันตอน ดังนี้ 1. ตองมีผูเร่ิมกอการต้ังแต 15 คนขึ้นไป เขาชื่อกันทําหนังสือบริคณหสนธิข้ึน แลว ใหผูเริ่มจัดตั้งบริษัทมหาชนทุกคนลงลายมือช่ือและนําไปขอจดทะเบียนตอนายทะเบียน โดย หนังสือบริคณหสนธิ ตอ งมรี ายการตอไปน้ี 1.1 ชื่อบริษัทมหาชน ซึ่งตองมีคําวา บริษัท นําหนา และ จํากัด (มหาชน) ตอทายหรือใชอักษรยอวา บมจ. นําหนา แทนคําวา บริษัท และจํากัด (มหาชน) ก็ได แตในกรณี ที่ใชชื่อเปนอักษรภาษาตางประเทศ จะใชคําซ่ึงมีความหมายวาเปน บริษัทมหาชนจํากัด ตามที่ กาํ หนดในกฎกระทรวงแทนกไ็ ด ท้ังน้ี ชื่อบริษัทมหาชนตองมีลักษณะตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติบรษิ ัทมหาชนจํากัด พ.ศ. 2535 ดังตอไปนี้ (สุรศักด์ิ วาจาสิทธ์ิ, และคนอื่น ๆ, 2547, หนา 136 – 138) 1.1.1 บริษัทมหาชนตองไมใชช่ือดังตอไปน้ี เปนชื่อหรือสวนหนึ่งของช่ือ บริษัทมหาชนโดยมไิ ดรบั พระบรมราชานุญาต หรือมิไดร บั อนญุ าตจากรฐั มนตรที ีเ่ กยี่ วขอ ง 1.1.1.1 พระนามของพระเจาแผนดิน พระมเหสี หรือรัชทายาท หรอื พระบรมวงศานวุ งศในราชวงศป จจบุ นั 1.1.1.2 ช่ือประเทศ กระทรวง ทบวง กรม สวนราชการ ราชการ สวนทอ งถ่นิ หนว ยงานของรฐั หรือองคการของรฐั 1.1.1.3 ช่ือที่ความหมายแสดงวา บริษัทมหาชนหรือกิจการของ บริษัทมหาชนเปนบริษัทมหาชนหรือกิจการท่ีรัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม สวนราชการ ราชการสวนทองถ่ิน หนวยงานของรัฐหรือองคการของรัฐท้ังของประเทศไทยหรือตางประเทศ รวมทัง้ องคการระหวางประเทศ เปนเจาของหรอื ผูดําเนินกิจการ 160
161 1.1.2 บริษัทมหาชนตองไมใชชื่อ คํา หรือขอความท่ีมีลักษณะอยางหน่ึง อยางใดดังตอไปนี้ เปน ชอ่ื หรือสว นหนงึ่ ของช่ือบริษทั มหาชน 1.1.2.1 ขัดตอแนวนโยบายแหงรัฐ หรือขัดตอความสงบเรียบรอย หรือศีลธรรมอันดขี องประชาชน 1.1.2.2 อาจกอใหเกิดความสําคัญผิด หรือการหลอกลวงประชาชน เก่ยี วกบั ความเปนเจา ของ ลกั ษณะ วัตถุประสงค หรอื ฐานะของกจิ การ หรือในประการอืน่ 1.1.3 ในกรณีที่ใชชื่อเปนภาษาตางประเทศ บริษัทมหาชนตองเขียนชื่อ ภาษาตางประเทศนั้นเปนภาษาอังกฤษ ใหมีการออกเสียงตรงกันหรือมีความหมายตรงกับชื่อ ภาษาไทย โดยมคี าํ วา public company limited ตอทา ยชือ่ 1.1.4 ในกรณีท่บี รษิ ทั มหาชนประกอบกจิ การธนาคาร บริษัทมหาชนจะไม ใชค ําวา บริษทั นาํ หนา ชือ่ ก็ได 1.2 ความประสงคของบริษทั มหาชนทีจ่ ะเสนอขายหนุ ตอ ประชาชน 1.3 วตั ถุประสงคของบริษทั มหาชน ซ่ึงตอ งระบุประเภทของธุรกจิ โดยชัดแจง 1.4 ทนุ จดทะเบยี นซง่ึ ตองแสดงชนดิ จาํ นวน และมูลคาของหนุ 1.5 ทต่ี ้งั สาํ นักงานใหญซ ึ่งตองระบุวา จะตง้ั อยู ณ ทองท่ีใดในราชอาณาจักร 1.6 ช่ือ วันเดือนปเกิด สัญชาติ และที่อยูของผูเร่ิมจัดตั้งบริษัทมหาชน และ จาํ นวนหนุ ท่แี ตละคนจองไว 2. เม่ือไดจดทะเบียนหนังสือบริคณหสนธิแลว ใหผูเร่ิมจัดตั้งบริษัทมหาชนหรือ บริษัทมหาชนจัดสงเอกสารเก่ียวกับการเสนอขายหุนตอประชาชนที่ตองจัดทําและสงให หนวยงานตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพย โดยสงใหนายทะเบียนหนึ่งชุด ภายใน 15 วันนบั แตวันทีส่ ง ใหแกห นว ยงานดงั กลาวแกน ายทะเบียนตามหลักเกณฑ วิธกี าร และ เงื่อนไขทน่ี ายทะเบยี นกาํ หนด 3. ดําเนินการประชุมต้ังบริษัทมหาชน โดยผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทมหาชนตองเรียก ประชุมจัดตั้งบริษัทมหาชนเมื่อมีการจองหุนครบตามจํานวนที่กําหนดไวในหนังสือชี้ชวน หรือ เอกสารเกี่ยวกับการเสนอขายหุนตอประชาชน ซึ่งตองไมนอยกวารอยละ 50 ของจํานวนหุนท่ี กําหนดไวในหนังสือบริคณหสนธิ โดยการเรียกประชุมดังกลาวตองกระทําภายใน 2 เดือนนับ แตวันท่ีมีการจองหนุ ครบตามจํานวนทก่ี ําหนดไวแตตองไมเกิน 6 เดือนนับแตวันที่นายทะเบียน รบั จดทะเบียนหนงั สือบริคณหสนธิ 4. เม่ือไดประชุมตง้ั บริษทั มหาชน และท่ีประชุมไดเลือกตั้งกรรมการบริษัทมหาชน แลว ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทมหาชนตองมอบกิจการและเอกสารท้ังปวงของบริษัทมหาชนแก 161
162 คณะกรรมการภายใน 7 วันนับแตวันท่ีเสร็จส้ินการประชุมจัดต้ังบริษัทมหาชนใหกรรมการ บรษิ ทั มหาชนรบั ไปดาํ เนนิ การตอ ไป ทงั้ นี้จาํ นวนกรรมการ ตองมีจํานวนไมนอยกวา 5 คน และ กรรมการไมนอ ยกวา กึง่ หน่งึ ตองมีท่ีอยูในประเทศไทย 5. เม่ือไดรับมอบกิจการและเอกสารแลว ใหคณะกรรมการมีหนังสือแจงใหผูจองหุน ชําระเงนิ คาหุนเตม็ จาํ นวนภายในเวลาทก่ี ําหนดไวในหนังสอื แจง ซง่ึ ตอ งไมนอ ยกวา 40 วนั นับแต วันท่ีไดรับหนังสือแจงพรอมกับเรียกใหผูจองหุนท่ีชําระคาหุนดวยทรัพยสินอ่ืนท่ีมิใชตัวเงินโอน กรรมสทิ ธทิ รพั ยส ินนนั้ หรอื ทําเอกสารหลกั ฐานการใชสทิ ธิตา ง ๆ ใหแกบริษทั มหาชนตามวิธีการ และภายในเวลาที่กําหนดไวในหนังสือแจงน้ันซ่ึงตองไมนอยกวา 1 เดือนนับแตวันจดทะเบียน บริษทั มหาชน ในการรับชําระคาหนุ จะหกั กลบลบหนกี้ ับผเู รม่ิ จดั ตั้งบรษิ ทั มหาชนไมไ ด หากผูจ องหุนคนใดไมสามารถชาํ ระเงนิ คาหนุ หรือไมโ อนกรรมสิทธทิ รพั ยส นิ ใหแ ก บริษัทมหาชน ใหคณะกรรมการมีหนังสือเตือนใหชําระคาหุนใหเสร็จส้ิน หรือดําเนินการโอน กรรมสิทธิ์ทรพั ยสนิ หรือทาํ เอกสารหลักฐานการใชสิทธิตาง ๆ ใหแกบริษัทมหาชนภายใน 14 วัน นับแตวันท่ีมีหนังสือเตือนพรอมกับแจงไปดวยวาถาไมดําเนินการตามวิธีการ และภายใน กําหนดเวลาดงั กลาว คณะกรรมการจะนาํ หนุ น้ันออกขายทอดตลาดตอไป 6. เม่ือไดรับชําระเงินคาหุนครบตามขอ 3 แลว ใหคณะกรรมการดําเนินการขอจด ทะเบียนเปนบริษัทมหาชนภายใน 3 เดือน นับแตวันประชุมจัดตั้งบริษัทมหาชนโดยแสดง ดังตอ ไปนี้ 6.1 ทนุ ชาํ ระแลว ซงึ่ ตอ งระบุวา เปน เงินทงั้ สนิ้ เทา ใด 6.2 จํานวนหนุ ที่จําหนา ยไดท งั้ หมดโดยแยกออกเปน 6.2.1 หุนสามญั และหนุ บรุ ิมสิทธิ (ถาม)ี ท่ีชาํ ระคาหนุ เปนตัวเงนิ 6.2.2 หุนสามัญและหุนบุริมสิทธิ (ถามี) ท่ีชําระคาหุนดวยสินทรัพยอื่น นอกจากตัวเงนิ และแสดงเกณฑในการตรี าคาทรพั ยสนิ ดว ย 6.2.3 หุนสามัญและหุนบุริมสิทธิ (ถามี) ท่ีชําระคาหุนดวยทรัพยสินอ่ืน หรือใหใชลิขสิทธิในงานวรรณกรรม ศิลปะ หรือวิทยาศาสตร สิทธิบัตร เครื่องหมายการคา แบบหรอื หนุ จําลอง แผนผัง สตู ร หรอื กรรมวิธีลับใด ๆ หรือใหขอสนเทศเก่ียวกับประสบการณ ทางอตุ สาหกรรม การพาณิชย หรือวทิ ยาศาสตร และแสดงรายการโดยสงั เขปไวด ว ย 6.3 ชอ่ื วนั เดือนปเ กิด สัญชาติ และทีอ่ ยูของกรรมการ 6.4 ชื่อและจํานวนกรรมการซึ่งมีอํานาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทมหาชนและ ขอ จํากดั อํานาจ (ถา ม)ี ตามท่รี ะบไุ วในขอ บังคับ 6.5 ท่ีตั้งสาํ นักงานใหญแ ละสํานักงานสาขา (ถาม)ี 162
163 หนาที่ของบริษัทมหาชนจํากัด บริษทั มหาชนเปน นิตบิ คุ คลเชน เดยี วกบั บรษิ ัทจํากัด ซึง่ มีหนาทด่ี งั นี้ 1. บริษัทมหาชนตองย่ืนบัญชีรายชื่อผูถือหุน วันประชุมสามัญประจําปตอนาย ทะเบียนภายใน 1 เดอื น นับแตว นั เสรจ็ สนิ้ การประชุม 2. บริษัทมหาชนตองจัดสงรายงานประจําป สําเนางบการเงิน สําเนารายงานการ ประชุมผูถือหุนเก่ียวกับ อนุมัติงบการเงิน การจัดสรรกําไร และการแบงเงินปนผลไปยัง นายทะเบียนภายใน 1 เดือน นับแตวันที่ ที่ประชุมผูถือหุนอนุมัติงบการเงินน้ันและตองโฆษณา ทางหนงั สือพิมพอ ยา งนอ ย 1 วนั 3. บริษัทมหาชนตองจัดทําปายชื่อไวหนาสํานักงานแหงใหญและสํานักงานสาขา 4. บริษัทมหาชนตองแสดงช่ือ ท่ีตั้งสํานักงาน และเลขทะเบียนไวในจดหมาย ประกาศใบแจง ความ ใบสงของและใบเสรจ็ รับเงนิ 5. บริษัทมหาชนตองจัดทําใบหุนมอบแกผูถือหุนภายใน 2 เดือน นับแตวันที่ไดรับ จดทะเบียนเปน บริษัทมหาชนจํากดั หรือนบั แตวนั ทไี่ ดร ับเงนิ คา หนุ ครบและไดจ ดทะเบยี นเพม่ิ ทนุ แลว 6. บริษทั มหาชนตองจดั ทาํ ทะเบยี นผถู อื หุน ทะเบียนกรรมการ รายงาน การประชุม คณะกรรรมการ และรายงานการประชุมผูถือหุนของบริษัทมหาชน เก็บไว ณ สํานักงานแหงใหญ หรือเกบ็ ไวทบี่ ุคคลอน่ื ทไี่ ดแจง ใหน ายทะเบยี นทราบแลว 7. บรษิ ทั มหาชนตองจัดทาํ และเกบ็ รกั ษา บัญชี งบดุล บัญชีกําไรขาดทุน รวมท้ังให ผูส อบบัญชี ตรวจสอบ และนําเสนอตอท่ปี ระชุมผูถอื หนุ เพ่ือพิจารณาอนมุ ัติ 8. บริษัทมหาชนตองจัดสงรายงานประจําปของคณะกรรมการ งบดุล บัญชีกําไร ขาดทุนท่ีผูสอบบัญชีตรวจสอบแลว ใหผูถือหุนพรอมหนังสือนัดประชุมสามัญประจําป 9. บริษัทมหาชนตองโฆษณาทางหนังสือพิมพเก่ียวกับเอกสารดังตอไปนี้ 9.1 หนงั สอื นดั ประชมุ ตงั้ บริษัทมหาชน 9.2 หนงั สือนดั ประชมุ ผถู ือหุน 9.3 การจายเงินปนผล 9.4 งบดุลทีผ่ ูถ ือหนุ อนุมตั ิ 9.5 การเพิ่มทุนและลดทุน ภายหลงั ไดร บั จดทะเบยี นแลว 163
164 วิธกี ารจดทะเบยี น การจดทะเบียนบริษัทมีขั้นตอนดังตอไปนี้ 1. ในกรณีจดทะเบียนจัดต้ังบริษัทหรือแกไขเปล่ียนแปลงช่ือบริษัท ใหผูเร่ิมกอการ หรือกรรมการของบริษัทจะตองขอตรวจและจองช่ือบริษัทเสียกอนวา ชื่อท่ีจะใชนั้นจะซ้ําหรือ คลายกับคนอ่ืนที่จดทะเบียนไวกอนหรือไม เมื่อจองช่ือไดแลวจะตองขอจดทะเบียนหนังสือ บรคิ ณหสนธิ ภายใน 30 วนั 2. ซื้อคําขอและแบบพิมพจากกรมพัฒนาธุรกิจการคา หรือสํานักงานบริการจด ทะเบยี นธุรกจิ ทัง้ 7 แหง หรอื สาํ นักงานพัฒนาธรุ กิจการคาจังหวัด 3. จัดทําคําขอจดทะเบียนและเอกสารประกอบคําขอยื่นตอนายทะเบียนเพื่อตรวจ พิจารณา 4. ชําระคาธรรมเนียมตามใบส่งั ของเจาหนาท่ี 5. ถาประสงคจะไดหนังสือรับรองรายการในทะเบียนใหยื่นคําขอและชําระ คาธรรมเนียมตอเจา หนาที่ 6. รบั ใบสําคัญแสดงการจดทะเบียนและหนงั สอื รบั รองรายการในทะเบยี นได สถานที่รับจดทะเบียน สถานท่รี ับจดทะเบยี นสามารถย่ืนจดทะเบยี นดว ยตนเองหรือทางอนิ เทอรเน็ตไดด งั น้ี 1. สํานักงานแหงใหญต้ังอยูในกรุงเทพมหานคร สามารถย่ืนจดทะเบียนไดที่ สํานักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1-7 และสวนจดทะเบียนกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการคา ถนน นนทบรุ ี 1 จงั หวดั นนทบุรี หรอื ทางอินเทอรเ น็ตเวบ็ ไซต www.dbd.go.th 2. สํานักงานแหงใหญตั้งอยูในเขตภูมิกาค สามารถย่ืนจดทะเบียนไดที่สํานักงาน พัฒนาธรุ กิจการคาจงั หวดั น้นั ๆ ยกเวน จงั หวัดนนทบรุ ี สมุทรปราการ และปทมุ ธานี สามารถขอ จดทะเบยี นไดท างอินเทอรเ น็ตเว็บไซต www.dbd.go.th อกี ทางหนึ่ง 164
165 ตารางท่ี 5.1 สรุปกฎหมายทเ่ี ก่ียวของกบั การบญั ชีบริษัท บรษิ ทั จาํ กดั บรษิ ทั มหาชนจํากดั ความหมาย คอื บรษิ ทั ประเภทซึ่งตั้งขึ้นดวยแบง คือ บริษัทประเภทซึ่งตั้งข้ึนดวยความ ทุนเปนหุนมีมูลคาเทา ๆ กัน โดยผู ประสงคที่จะเสนอขายหุนตอประชาชน ถือหุนตางรับผิดจํากัดเพียงไมเกิน โดยผูถือหุนมีความรับผิดจํากัดไมเกิน จํานวนเงินท่ีตนยังสงใชไมครบ จํานวนเงินคาหุนท่ีตองชําระ และ มูลคาของหุนท่ีตนถือ (มาตรา บริษัทดังกลาวไดระบุความประสงค 1094) เชนน้นั ไวในหนังสือบริคณหสนธิ ผเู รมิ่ จะตองมีผูเร่ิมการการจํานวนตั้งแต จะตองมีผูเร่ิมจัดตั้งไมนอยกวา 15 คน 7 คนข้ึนไป ทุกคนจะตองลงช่ือซ้ือ และตองจองซ้ือหุนของบริษัทและหุน หุนอยางนอยคนละ 1 หุน (มาตรา ที่จองตองเปนหุนท่ีชําระคาหุนดวย 1096) เงินรวมกันไมนอยกวารอยละ 5 ของ ทุนจดทะเบยี น (มาตรา 17) ลักษณะของหนุ 1. มลู คา หุนแตล ะหนุ จะตองเทากัน ทํานองเดียวกนั ยกเวน มลู คา หนุ จะมี (มาตรา 1096) มูลคาเทา ใดกไ็ ดแตต อ งมมี ลู คา (แกไข 2. มูลคา หุนจะต่าํ กวา 5 บาทไมไ ด ตามมาตรา 50) (มาตรา 1117) 3. หนุ แบงแยกไมไ ด (มาตรา 1118) 4. การชําระคาหุน ตองใชเ ปน เงนิ จนเตม็ คา หนุ (มาตรา 1119) 5. หุนสามารถโอนกนั ได (มาตรา 1129 วรรคแรก) การออกหนุ บรษิ ทั จะออกหนุ ใหมรี าคาตา่ํ กวา บริษทั ทด่ี ําเนนิ การมาแลว ไมนอ ยกวา มลู คา ของหนุ ท่ตี ัง้ ไวไมไ ด แต 1 ป ถามผี ลขาดทนุ จะเสนอขายหนุ ต่ํา สามารถออกใหมีมูลคาสูงกวา ทตี่ ัง้ กวามลู คา หุน ก็ไดแ ตตองไดร ับความ ไวไ ดถ า หากวา หนงั สอื บรคิ ณห เห็นชอบจากทป่ี ระชมุ ผูถือหนุ กําหนด สนธใิ หอํานาจไว (มาตรา 1105 อตั ราสว นลดไวอยางแนน อนและระบุ วรรคแรกและวรรคสอง) ไวใ นหนงั สอื ช้ีชวนดว ย 165
166 ตารางที่ 5.1 สรปุ กฎหมายทเ่ี กย่ี วของกบั การบัญชีบริษทั (ตอ) บรษิ ัทจาํ กดั บริษัทมหาชนจาํ กดั การเรยี กให การเรียกใหชําระคาหุนคร้ังแรก การเรียกใหชําระคาหุน ใหชําระคา ชาํ ระคาหนุ จะตองไมนอยกวารอยละ 25 หากมี หุนเต็มจํานวน ภายในเวลาท่ีกําหนด ผลของการผิด นดั ไมช าํ ระ การออกหนุ ในราคาที่สูงกวามูลคาที่ (มาตรา 37) คาหนุ กําหนด ในสวนที่ลํ้ามูลคาจะตอง สงใชพรอมกับการสงใชเงินคราว แรก (มาตรา 1110 วรรคสอง) 1. ถา ผถู อื หนุ ชําระคาหุนชากวาเวลา ห า ก ผู จ อ ง หุ น ไ ม ชํ า ร ะ ค า หุ น ที่กําหนดใหชําระ ผูถือหุนจะตอง กรรมการบริษัทก็จะดําเนินการนําหุน เสียดอกเบ้ียนับแตวันที่กําหนดให ของผูน้ันออกขายทอดตลาดข้ันตอนที่ สงเงินคา หนุ จนถงึ วนั ท่สี งเงินคาหุน กฎหมายกาํ หนด (มาตรา 38) เสร็จเรียบรอย อัตราดอกเบ้ีย เปนไปตามขอบังคับของบริษัท ห า ก ไ ม ไ ด ระ บุ ไ ว ใ ห ถื อ อั ต ร า ดอกเบ้ียตามที่กฎหมายกําหนด คือ 7.5% ตอ ป (มาตรา 1122) 2. ถาผูถือหุนคนใดละเลยไมชําระ คาหุนตามวันที่กําหนด กรรมการ บริษัทไดสงจดหมายลงทะเบียน ไปรษณียเปนครั้งท่ีสอง และมี ขอความถึงการริบหุนดวย หากผูถือ หุนยังละเลยไมชําระเงินคาหุนอยู อีกกรรมการบริษัทจะบอกริบหุน เมื่อใดก็ได (มาตรา 1123 และ มาตรา1124) 166
167 ตารางท่ี 5.1 สรปุ กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ งกบั การบัญชีบริษทั (ตอ) บรษิ ทั จํากัด บริษัทมหาชนจํากัด การรบิ หุน หลังจากริบหุนไปผูถือหุนคางชําระ ทํานองเดยี วกัน คาหุนแลวกรรมการบริษัทจะตอง เอาหุนท่ีริบออกขายทอดตลาดโดย ไมชักชา เม่ือขายทอดตลาดไดเงิน เทาใดก็ใหหักใชคาหุนท่ีคางรวมท้ัง ดอกเบี้ยหากยังมีเงินเหลืออยูก็ตอง คนื ใหผถู อื หนุ ถ า บ ริ ษั ท ริ บ หุ น อ อ ก ข า ย ทอดตลาดไดเงินมาไมพอกับคาหุน ที่คางชําระและดอกเบ้ีย ผูถือหุนที่ ถกู รบิ ตองรับผดิ ชอบ (มาตรา 1125) การถือหุนของ กฎหมายหามบริษัทจํากัดเปน บริษัทอาจซื้อหุนคืนได (แกไขตาม ตนเอง เจาของหุนของตนเองหรือรับจํานํา มาตรา 66/1) หุนของตน (มาตรา 1143) ความหมายของ เงินปนผล คือ เงินจากผลกําไรที่ ทํานองเดียวกัน เงินปนผล บริษัทจายใหแกผูถือหุนโดยคิดตาม สวนจํานวนซึ่งผูถือหุนไดสงใชแลว ในหนุ หน่งึ ๆ (มาตรา 1200) หลักเกณฑใน 1. หามมิใหจายเงินปนผลโดยมิได 1. การจายเงินปนผลตองไดรับอนุญาต การจายเงิน รับอนุญาตที่ประชุมใหญผูถือหุน จากท่ีประชุมผถู อื หนุ ปน ผลให (มาตรา 1201 วรรคแรก) 2.จายจากเงินประเภทอ่ืนนอกจากเงิน ผถู ือหนุ 2. หามมิใหจายเงินปนผลจากเงิน กําไรไมได ประเภทอื่นนอกจากกําไร (มาตรา 3. ถาบริษัทมียอดขายทุนสะสม หาม 1201 วรรคสาม) มใิ หจ ายเงินปน ผล 3. หามมิใหจายเงินปนผลจนกวา 4. เงินปนผลใหแบงตามจํานวนหุน บริษัทจะหายขาดทุน ถาบริษัทเคย หุนละเทาๆ กันเวนแตจะมีขอบังคับ ขาดทนุ มาในปกอ น ๆ บรษิ ทั ตอง กาํ หนดไวเ ปนอยา งอน่ื ในเร่ืองหุน 167
168 ตารางที่ 5.1 สรปุ กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ งกับการบญั ชีบริษัท (ตอ) บรษิ ัทจํากัด บริษัทมหาชนจํากัด หลักเกณฑใน นาํ กาํ ไรในปปจ จบุ นั ไปชดใชสวนท่ี บุริมสิทธิ โดยการจายเงินปนผลตอง การจายเงนิ ขาดทุนเสียกอนจนกวาจะหาย ไดร ับอนมุ ัตจิ ากท่ีประชุมผูถ ือหุน ปนผลให ขาดทุนจึงจะจายเงินปนผลได 5. บ ริ ษั ท ต อ ง จั ด ส ร ร กํ า ไ ร สุ ท ธิ ผถู ือหนุ (มาตรา 1201 วรรคสาม) ประจําปสวนหน่ึงไวเปนทุนสํารองไม 4. ตองจัดสรรกําไรไวเปนทุน นอยกวารอยละหาของกําไรสุทธิ สํารองกอนจายเงินปนผลทุกคร้ังที่ ประจําปหักดวยยอดเงินขาดทุนสะสม แจกเงินปนผล บริษัทตองจัดสรร ยกมา (ถามี) จนกวาทุนสํารองนี้จะมี กําไรไวเปนทุนสํารองอยางนอย จํานวนไมนอยกวารอยละสิบของทุน รอยละหาของจํานวนผลกําไรซ่ึง ของทุนจดทะเบียนเวนแตบริษัทจะมี บริษัททํามาหาไดจนกวาทุนสํารอง ขอบังคับหรือกฎหมายอันกําหนดให จะมีจํานวนถึงรอยละสิบของ ตอ งมีทนุ สาํ รองมากกวาน้ัน จํานวนทุนของบริษัทหรือมากกวา 6. บริษัทอาจจะจายเงินปนผลท้ังหมด นั้นหากมีขอบังคับของบริษัทได หรือบางสวนโดยออกเปนหุนสามัญ กาํ หนดไวม ากกวา (มาตรา 1202) ใหมใหแกผูถือหุน โดยไดรับความ เห็นชอบจากทปี่ ระชุมผถู อื หุน ก็ได การเพม่ิ ทนุ ของ บริษัทจํากัดอาจเพ่ิมทุนของบริษัท ทาํ นองเดียวกัน บริษทั ขึ้นไดดวยการออกหุนใหมโดยมติ พิเศษของที่ประชุมผูถือหุน การ ออกหุนใหมตองออกใหมีมูลคาหุน เทา เดิม (มาตรา 1220) หลักเกณฑการ 1. ตองเสนอขายใหแกผูถือหุน เสนอขายหุนท้ังหมดหรือบางสวนก็ เสนอขายหุนที่ ทั้งหลายตามสวนท่ถี ืออยกู อ น ไดโดยจะเสนอขายใหแกผูถือหุนตาม ออกใหม (มาตรา 1222 วรรคแรก) สวนจํานวนที่ผูถือหุนแตละคนถืออยู 2. ถาพนกําหนดวันท่ีกําหนดแลว ก อ น แ ล ว ห รื อ จ ะ เ ส น อ ข า ย ต อ หรือผูถือหุนแจงมาวาไมรับซ้ือ ประชาชนหรือบุคคลอื่นไมวาทั้งหมด กรรมการบริษัทจึงมีสิทธิเอาหุนนั้น หรอื บางสว นกไ็ ด ขายใหแ กผูถ อื หุน คนอื่นหรือจะรบั 168
169 ตารางท่ี 5.1 สรุปกฎหมายทเี่ ก่ยี วขอ งกับการบญั ชีบริษทั (ตอ) บรษิ ทั จาํ กัด บริษัทมหาชนจํากดั ซ้อื ไวเ องกไ็ ด (มาตรา 1222 หลักเกณฑการ วรรคสาม) เสนอขายหุนที่ ออกใหม บริษัทสามารถลดทุนของตนเองลง ในกรณีท่ีบริษัทมีขาดทุนสะสมและ การลดทุนของ บรษิ ทั ไดแตจะลดลงไปใหเหลือตํ่ากวา ไดมีการชดเชยผลขาดทุนสะสมจาก วิธกี ารลดทุน รอยละ 25 ของทุนที่ไดจดทะเบียน กําไรสะสมที่มิไดจัดสรรทุนสํารอง ของบริษัท ไวไ มได (มาตรา 1225) ตามกฎหมายและสวนเกินมูลคาหุน แลวก็ยังมีขาดทุนสะสมอยู บริษัท สามารถลดทุนลงไปเกินกวาหน่ึงในสี่ ของทุนได (แกไขตามมาตรา 119 และ มาตรา 139) 1. ลดมูลคา หุนใหตํ่าลง แตจะลดลง 1. ลดมลู คาหนุ ทําใหทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ 2. ลดจาํ นวนหนุ บริษัทเหลือตํ่ากวารอยละ 25 ไมได เปนจํานวนเทาใดและวิธีการใดจะ และบริษัทจะลดมูลคาหุนใหเหลือ กระทําไดเมื่อท่ีประชุมผูถือหุนลงมติ ตาํ่ กวา 5 บาทก็ไมได ดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในสี่ 2. ลดจาํ นวนหนุ ใหน อ ยลง ของจํานวนเสียงท้ังหมดของผูถือหุน (มาตรา 1224) ที่ ม า ป ร ะ ชุ ม แ ล ะ มี สิ ท ธิ อ อ ก เ สี ย ง ลงคะแนน ที่มา (นุชจรี พเิ ชฐกุล, 2547, หนา 309 - 311) 169
170 เงินทุนของบรษิ ัท เงินทนุ ของบรษิ ัทสามารถจําแนกไดหลายลกั ษณะดงั น้ี 1. เงินทุนจดทะเบียน (authorized capital) หมายถึง มูลคาของหุนท้ังหมดที่ได จดทะเบียนระบุไวใ นหนงั สือบรคิ ณหส นธิ คํานวณไดด ังนี้ เงินทนุ จดทะเบยี น = จาํ นวนหนุ ท่จี ดทะเบยี น x ราคาตามมลู คาหนุ 2. เงินทุนตามกฎหมาย (legal capital) หมายถงึ มลู คา ของหุนทน่ี าํ ออกจําหนายและ เรียกเกบ็ เงินครบแลวหรือไดออกใบหนุ ไปแลว รวมกับมูลคาหุนทใ่ี หจ อง คาํ นวณไดดังน้ี เงนิ ทนุ ตามกฎหมาย = (จาํ นวนหนุ ทอ่ี อกจําหนา ยแลว + จาํ นวนหนุ ท่ีใหจ อง) x ราคาตามมลู คา หุน 3. เงินทุนที่นํามาลง (paid – in capital) หมายถึง มูลคาของหุนที่ออกจําหนายแลว ซ่ึงเทากับเงินทุนตามกฎหมาย รวมดวยสวนเกินมูลคาหุน หรือหักดวยสวนตํ่ากวามูลคาหุน คาํ นวณไดดังน้ี เงนิ ทุนทนี่ ํามาลง = เงนิ ทุนตามกฎหมาย + สว นเกนิ มูลคาหุน หรอื - สว นต่ํากวามลู คา หุน 4. เงินทุนท่ีออกและเรียกชําระแลว (issued capital) หมายถึง มูลคาของหุนทุนท่ี ออกจาํ หนา ยเรียกเกบ็ เงินครบแลว และออกใบหุน ให คาํ นวณไดดงั น้ี เงนิ ทนุ ทอ่ี อกและเรยี กชําระแลว = จาํ นวนหุนท่ีออกจาํ หนา ยแลว x ราคาตามมลู คา หุน ตวั อยางท่ี 5.1 บริษัท กา มใหญ จาํ กัด จดทะเบยี นหุนสามัญ จาํ นวน 1,000 หุน มูลคาหุนละ 10 บาท นาํ ออกจาํ หนา ยในราคาหุนละ 12 บาท เรียกเก็บเงินครบแลวจํานวน 800 หุน ที่เหลือมีผูจองซ้ือ หุนครบแลว ใหคาํ นวณหาเงินทนุ ของบรษิ ัท เงนิ ทนุ จดทะเบียน = จํานวนหุน ทจี่ ดทะเบยี น x ราคาตามมลู คาหนุ = 1,000 x 10 = 10,000 บาท เงินทนุ ตามกฎหมาย = (จาํ นวนหนุ ท่ีออกจาํ หนายแลว + จํานวนหุนท่ใี หจอง) x ราคาตามมลู คา หนุ = (800 + 200) x 10 = 10,000 บาท 170
171 เงนิ ทุนทน่ี าํ มาลง = เงินทุนตามกฎหมาย + สวนเกินมลู คา หนุ เงนิ ทุนทอ่ี อกและเรยี กชาํ ระแลว = 10,000 + (1,000 x 20) = 12,000 บาท = จาํ นวนหนุ ท่ีออกจําหนา ยแลว x ราคาตามมูลคา หุน = 800 x 10 = 8,000 บาท สว นของผถู ือหุน สว นของผูถอื หนุ ของบริษัท จะถูกแบงออกเปนหุน หุนละเทา ๆ กัน ทั้งนี้สวนของผู ถือหุนเปนสิทธิสวนไดเสียในสินทรัพยที่เหลือหลังจากการจายชําระหนี้แลว เรียกวา สินทรัพย สุทธิ ซ่ึงการแสดงรายการในสวนของเจา ของระหวา งบรษิ ทั จํากัด กบั บรษิ ทั มหาชนจํากัดมีดงั น้ี 171
172 ตารางท่ี 5.2 เปรยี บเทยี บสวนของเจา ของระหวา งบริษทั จํากดั กบั บรษิ ัทมหาชนจาํ กดั บริษัทจํากัด บรษิ ทั มหาชนจาํ กดั ทุนเรือนหุน ทนุ เรอื นหนุ ทุนจดทะเบยี น ทนุ จดทะเบียน หนุ บรุ มิ สทิ ธิ XXX หุนบรุ มิ สทิ ธิ XXX หนุ สามญั XXX XXX หนุ สามัญ XXX XXX ทนุ ทอี่ อกและชําระแลว ทุนทอ่ี อกและชําระแลว หนุ บรุ ิมสิทธิ XXX หนุ บุริมสทิ ธิ XXX หนุ สามัญ XXX XXX หนุ สามัญ XXX XXX ใบสาํ คัญแสดงสิทธิทจี่ ะซื้อหุน สว นเกนิ (ตํา่ กวา)ทนุ สว นเกนิ (ตํ่ากวา)ทุน สวนเกินมลู คา หุน สว นเกินมูลคาหุน บุริมสทิ ธิ XXX บรุ ิมสิทธิ XXX สว นเกนิ มลู คาหุน สามญั XXX สวนเกินมลู คา หนุ สามญั XXX สว นเกินทุนอนื่ XXX สวนเกินทนุ อ่ืน XXX สวนตาํ่ กวาทนุ อืน่ XXX XXX สวนต่ํากวา ทนุ อ่นื XXX XXX กาํ ไรสะสม กําไรสะสม จัดสรรแลว จัดสรรแลว สาํ รองตามกฎหมาย XXX สาํ รองตามกฎหมาย XXX สํารองอนื่ XXX XXX สํารองอนื่ XXX XXX ยังไมไ ดจ ดั สรร XXX ยงั ไมไ ดจ ดั สรร XXX รวมสว นของผูถ ือหนุ XXX รวมสว นของผูถ อื หนุ XXX ทมี่ า (นุชจรี พิเชฐกุล, 2547, หนา 314) 172
173 ชนดิ ของหนุ ทนุ หุนทุนของบริษัทตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย อาจแบงตามชนิดของใบ หุนไดเปน ใบหุนชนิดระบุชื่อผูถือ และใบหุนชนิดไมระบุช่ือผูถือ โดยหุนชนิดระบุช่ือผูถือจะ ระบุชื่อผูถือหุนอยูบนใบหุน ซึ่งจะออกใหกับผูถือถึงแมวาบริษัทจะยังรับชําระเงินไมครบ การ โอนเปลี่ยนมือจะตองแจงใหบริษัททราบเพื่อทําการเปล่ียนแปลงช่ือผูถือหุนในทะเบียนผูถือหุน พรอมออกใบหุนใหม สวนใบหุนชนิดไมระบุชื่อผูถือ จะเปนใบหุนที่ไมระบุช่ือผูถือหุนไว การโอนเปลีย่ นมือจะทําโดยการสงมอบ โดยทั่วไปการแบงหนุ ทนุ จะแบง ตามการจดทะเบียน ดังน้ี 1. หุนสามัญ (common stock) เปนหุนที่ทุกบริษัทตองจดทะเบียน ผูถือหุนสามัญ เปน ผมู คี วามเสี่ยงตอผลกําไรหรือขาดทุนอันเนื่องมาจากความไมแนนอนในการดําเนินธุรกิจ มี สิทธิในการเลือกกรรมการบริหารบริษัท สิทธิในการลงคะแนนเสียงในท่ีประชุม โดย 1 หุน เทากับ 1 เสยี ง 2. หุนบุริมสิทธิ (preferred stock) หุนบุริมสิทธิเปนหุนที่อาจมีหรือไมมีก็ได ผูถือ หุนบุริมสิทธิจะมีสิทธิเหนือหุนสามัญในเร่ืองการรับเงินปนผล และการไดรับคืนทุนกอนผูถือ หนุ สามัญ แตอาจไมไ ดร บั สทิ ธิในการออกเสยี ง ซ่งึ หนุ บุรมิ สิทธิจาํ แนกไดห ลายลักษณะดงั นี้ 2.1 หุนบุริมสิทธิชนิดไมสะสมเงินปนผล (non – cumulative preferred stock) หุนบุริมสิทธิชนิดนี้จะมีสิทธิไดรับเงินปนผลเฉพาะปท่ีมีการประกาศจายเงินปนผลปเดียว เทานั้น ป เชน ป 25x1 บริษัทไมมีการประกาศจายเงินปนผล แตในป 25x2 บริษัทดําเนินธุรกิจ ประสบความสาํ เร็จสามารถจายปนผลใหกับผูถือหุนได ดังน้ันผูถือหุนบุริมสิทธิชนิดน้ีจึงมีสิทธิ ไดร ับเงินปนผลเพยี งปเดียวเทานนั้ คอื ป 25x2 เปน ตน 2.2 หุนบุริมสิทธิชนิดสะสมเงินปนผล (cumulative preferred stock) หุน บรุ ิมสทิ ธิชนิดนี้เปนหุนบุริมสิทธิท่ีมีสิทธิไดรับเงินปนผลของปที่ไมไดมีการประกาศจายเงินปนผล ซ่ึงอาจไดรับเงินปนผลมากกวา 1 ป เชน ป 25x1 บริษัทไมมีการประกาศจายเงินปนผล แตในป 25x2 บริษัทดําเนินธุรกิจประสบความสําเร็จสามารถจายปนผลใหกับผูถือหุนได ดังน้ันผูถือหุน บุริมสิทธชิ นดิ นี้จะไดร บั เงนิ ปน ผลของ ป 25x1 รวมกับ ป 25x2 เปนตน 2.3 หนุ บรุ ิมสิทธชิ นิดไมรวมรับเงินปนผล (non – participating preferred stock) หุนบุริมสิทธิชนิดน้ีจะไดรับเงินปนผลตามอัตราท่ีกําหนด หรือจํานวนที่กําหนดไวเทานั้น หาก เงินปนผลยังมีเหลืออยูภายหลังหักเงินปนผลของหุนบุริมสิทธิแลวจะเปนของผูถือหุนสามัญ ทง้ั หมด 173
174 2.4 หุนบุริมสิทธิชนิดรวมรับเงินปนผล (participating preferred stock) หุน บุริมสิทธิชนิดน้ีจะไดรับเงินปนผลตามอัตรา หรือจํานวนที่กําหนดแลว 1 คร้ัง และยังมีเงินปนผล เหลืออยูใหจายปนผลใหกับหุนสามัญกอน 1 ครั้ง สวนที่เหลือหลังหักเงินปนผลของหุน บุริมสิทธิ และหุนสามัญรอบแรกแลว และยังมีเงินปนผลเหลืออีกจึงทําการแบงใหกับหุน บุริมสิทธิ และหุนสามัญอีกครั้งหน่ึง ทั้งน้ีการจัดสรรเงินปนผลในคร้ังหลังน้ีหุนบุริมสิทธิอาจ รวมรับเต็มท่ี หรือรวมรับเพียงบางสวน ซ่ึงหากรวมรับเต็มท่ี จะรวมรับตามมูลคาหุนของหุน บุริมสิทธิ สําหรับการรวมรับเพียงบางสวนจะรวมรับตามอัตราที่กําหนดและรวมรับเฉพาะสวน ท่ีขาดไปเทา นั้น 2.5 หุนบุริมสิทธิชนิดแปลงสภาพได (convertible preferred stock) หุน บุริมสิทธิชนิดนี้จะตองกําหนดต้ังแตการออกหุนวาเปนหุนบุริมสิทธิชนิดแปลงสภาพเปน หลักทรัพยช นดิ อ่ืนได โดยทวั่ ไปมกั จะแปลงเปนหนุ สามัญ 2.6 หุนบุริมสิทธิชนิดเรียกไถคืนได (redeemable preferred stock) หุนบุริมสิทธิ ชนิดนี้จะสามารถเรียกมาไถคืนไดตามเงื่อนไข และระยะเวลาที่กําหนด ซ่ึงโดยทั่วไปหุน บุรมิ สิทธไิ มม ีกําหนดระยะเวลาไถค ืน การบนั ทึกบญั ชเี ก่ียวกบั การจาํ หนา ยหนุ การออกหุนอาจจําแนกไดเปนหุนท่ีไมมีมูลคา และหุนที่มีมูลคา โดยหุนท่ีไมมี มลู คา เปน หนุ ที่ไมร ะบรุ าคาของหุน ไวในใบหุน หรืออาจมีราคาท่ีกาํ หนดไว (stated value) แทน ราคาตามมลู คา (par value) เมือ่ จําหนายหุน ไดเมอ่ื ใดจงึ จะบันทกึ บัญชีดวยราคาที่จําหนาย แตใน ประเทศไทยกําหนดใหออกหุนท่ีมีมูลคาไดเพียงประเภทเดียวโดยกําหนดมูลคาหุนไวในใบหุน นอกจากนกี้ ารเก็บเงินคา หุนอาจเก็บเงินคร้ังเดียวหรืออาจใหจองหุนกอนจึงเรียกเก็บเงินก็ได ซึ่ง ในบทนีจ้ ะขออธบิ ายเฉพาะหนุ ท่ีมมี ูลคา ตามกฎหมายไทยเทานั้น ดังน้ี 1. การจําหนายหุนเปนเงินสด ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 1 การ เรยี กเก็บเงนิ คาหนุ จะตอ งเรยี กเก็บเงนิ ครง้ั เดยี ว และในมาตรา 1105 ไดกําหนดใหบริษัทขายหุน ในราคาต่ํากวามูลคาหุนไมได แตถาเปนบริษัทมหาชนดําเนินธุรกิจมาแลวไมต่ํากวา 1 ป และ ประสบผลขาดทุนสามารถขายหุนในราคาตํ่ากวามูลคาหุนได นอกจากน้ีการจําหนายหุนเปน เงินสดจะสามารถจําหนายหุนในราคาเทากับราคาตามมูลคาหุน ราคาสูงกวามูลคาหุน (at premium) หรือราคาตาํ่ กวามูลคา หุน (at discount) ก็ได ดังนี้ 174
175 ตัวอยางที่ 5.2 วันท่ี 1 เมษายน 25x1 บริษทั สุดทะเล จํากัด จดทะเบียนหุนสามัญจํานวน 10,000 หุน มูลคาหุนละ 100บาท และหุนบุริมสิทธิจํานวน 8,000 หุน มูลคาหุนละ 100 บาท ตอมาไดมี การจําหนา ยหุน ออกไปดงั นี้ 25x1 เม.ย. 7 จาํ หนายหุนสามัญ จํานวน 4,000 หุน ในราคาหุนละ 100 บาท 10 จําหนายหุน บรุ มิ สิทธิ จาํ นวน 8,000 หนุ ในราคาหนุ ละ 90 บาท 12 จาํ หนา ยหนุ สามัญ จาํ นวน 6,000 หนุ ในราคาหุนละ 120 บาท การบันทึกบญั ชเี ปน ดังนี้ สมดุ รายวันทว่ั ไป วันท่ี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต บญั ชี 25x1 1 บนั ทกึ ความทรงจํา : จดทะเบยี นหนุ สามัญ เม.ย. จาํ นวน 10,000 หุน มูลคาหนุ ละ 100 บาท และหนุ บรุ ิมสทิ ธิจํานวน 8,000 หุน มูลคา หนุ ละ 100 บาท 7 เงนิ สด (4,000 x 100) 400,000 - ทนุ หนุ สามัญ (4,000 x 100) 400,000 - ขายหนุ สามญั ในราคาตามมลู คาหนุ 10 เงนิ สด (8,000 x 90) 720,000 - สว นตํ่ากวา มลู คา หนุ บุรมิ สิทธิ (8,000 x 10) 80,000 - ทุนหุน บรุ มิ สทิ ธิ (8,000 x 100) 800,000 - ขายหุน บุริมสทิ ธิในราคาตํ่ากวามลู คา หุน 12 เงนิ สด (6,000 x 120) 720,000 - สว นเกินมูลคาหนุ หนุ สามัญ (6,000 x 20) 120,000 - ทนุ หนุ สามญั (6,000 x 100) 600,000 - ขายหุน สามญั ในราคาสงู กวา มลู คา หุน 175
176 จากตัวอยางท่ี 5.2 การลงบันทึกรายการในวันจดทะเบียนหุนจะบันทึกโดยการ บันทึกเปนความทรงจําไว เนื่องจากในวันจดทะเบียนหุนยังไมมีรายการท่ีกระทบตอการ เปล่ียนแปลงในสินทรัพย หน้ีสิน หรือสวนของผูถือหุน ในกรณีจําหนายหุนจะบันทึกบัญชีทุน หุนสามัญ หรือทุนหุนบุริมสิทธิดวยราคาตามมูลคาหุนเสมอ สวนผลตางที่เกิดจากการจําหนาย หุนในราคาสงู กวา ราคาตามมลู คา หนุ เรยี กวา สวนเกินมลู คาหนุ หนุ ซงึ่ ควรระบวุ า เปน ของหนุ ชนดิ ใด และมยี อดคงเหลอื ดานเดบติ สวนผลตา งท่เี กดิ จากการจาํ หนา ยหุน ในราคาตํ่ากวา ราคาตามบัญชี เรียกวา สวนต่ํากวาราคาตามมูลคาหุน ซ่ึงควรระบุวาเปนของหุนชนิดใด และมียอดคงเหลือดาน เครดิต ซ่ึงจากการบันทกึ บัญชสี ามารถนํามาจดั ทํางบดุลเฉพาะสวนของผถู อื หนุ ไดดังน้ี บริษัท สดุ ทะเล จํากัด (หนว ย:บาท) งบดุล (เฉพาะสว นของผถู อื หนุ ) 800,000 ณ วันที่ 30 เมษายน 25x1 1,000,000 1,800,000 ทุนเรือนหนุ 800,000 ทนุ จดทะเบียน 1,000,000 1,800,000 หุน บรุ มิ สทิ ธิ หุนสามญั (80,000) ทนุ ท่ีออกและชําระแลว 120,000 40,000 หุนบรุ มิ สิทธิ หนุ สามญั 1,840,000 สว นเกิน(ต่ํากวา)มูลคา หุน สวนตา่ํ กวามูลคาหุน บรุ ิมสทิ ธิ สว นเกินมลู คาหุนหนุ สามญั รวมสว นของผถู ือหนุ 176
177 2. การจําหนายหุนโดยใหจอง เปนการนําหุนท่ีจดทะเบียนไวออกจําหนายโดยการ ใหจ องอาจเกิดจากบรษิ ัทมีความตองการท่ีจะเสนอขายหุนใหกับประชาชนท่ัวไปไดใชสิทธิโดย เทาเทียมกัน ซึ่งเปนวิธีท่ีบริษัทมหาชนใชกันเน่ืองจากมีผูตองการซ้ือหุนเปนจํานวนมากจึงเปด ใหมีการจองหนุ โดยกาํ หนดระยะเวลาในการจองไวอยางชัดเจน การจองหุนหากมีผูประสงคซื้อ หนุ จองหนุ มากกวา จํานวนหนุ ทจ่ี ดทะเบียนไวก็อาจใชวิธสี มุ เลือก หรอื อาจใชว ธิ จี ดั ลาํ ดบั เรยี งวา ใครสั่งจองกอนไดกอนก็ได ท้ังน้ีประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยไดกําหนดใหผูซื้อหุนตอง จายชําระคาหุนท้ังหมดในคราวเดียวจะแยกจายชําระเปนงวด ๆ ไมได แตในบริษัทจํากัดมิไดมี การระบไุ ว ดังนัน้ ในวนั ท่จี องซอ้ื หนุ อาจลงบันทกึ บัญชีไดในหลายลกั ษณะดังน้ี 2.1 ณ วันที่จองหุนบริษัทไมเรียกชําระเงิน กลาวคือในวันที่จองซ้ือหุนผูจองซ้ือหุน ไมตองจายชําระคาหุนใด ๆ ท้ังสิ้น แตบริษัทจะมีการกําหนดเง่ือนไขในการชําระเงินไวหากผู จองซื้อหุนไดรับเลือกใหเปนผูถือหุนของบริษัทในกรณีท่ีมีผูจองซื้อหุนมากกวาจํานวนหุนที่ จดทะเบยี นไว ทัง้ น้โี ดยการรบั ชําระคาหุนครั้งแรกตองไมใหนอยกวารอยละ 25 ของราคาตามมูลคา หุนรวมกับสวนเกินมูลคาหุนหุน หรือหักดวยสวนตํ่ากวามูลคาหุนท้ังหมดในครั้งแรก และเมื่อ บริษัทยังไมไดรับชําระคาหุนครบตามมูลคาที่ขายจึงยังไมออกใบหุนใหกับผูจองซ้ือหุน ดังนั้น ในการจองหุนจึงต้ังผูซื้อหนุ ไวเ ปน ลกู หนี้ และบันทึกทุนหนุ ใหจ องโดยระบุชนดิ ของหุน ตวั อยางที่ 5.3 ตอ ไปน้ีเปน รายการเกีย่ วกับการจดทะเบยี นและจาํ หนา ยหนุ ของบรษิ ทั สขุ ใจ จํากดั 25x1 ม.ค. 2 จดทะเบยี นหุนสามญั จํานวน 100,000 หุน ราคาตามมูลคา หุน ละ 10 บาท และหุน บรุ ิมสทิ ธจิ าํ นวน 50,000 หนุ ราคาตามมูลคาหนุ ละ 100 บาท 5 เปดใหจองซ้ือหุนสามัญ ในราคาหุนละ 15 บาท และหุนบุริมสิทธิ ในราคาหุนละ 98 บาท โดยยงั ไมร ับชําระคา หุน ซึง่ มผี จู องมาครบตามจํานวน 10 รบั ชาํ ระคา หนุ งวดแรก ท้ังหุนสามญั และหุนบรุ มิ สทิ ธิ 30% ของราคาตามมูลคา หนุ 15 รับชาํ ระคา หุนที่เหลือทั้งหมด พรอมทั้งออกใบหุนใหกับผูถือหุนสามัญและผูถือหุน บุริมสทิ ธิ การคาํ นวณ การเรยี กชาํ ระเงนิ คาหุน สามัญ เรยี กชาํ ระเงินงวดแรก 30% = 30% ของราคาตามมูลคาหนุ + สว นเกนิ มลู คา หนุ หนุ = (30% x 10) + 5 = 8 บาทตอหุน 177
178 เรียกชาํ ระเงินคาหนุ ที่เหลืออีก 70% = 70% ของราคาตามมูลคาหุน = (70% x 10) = 7 บาทตอหุน การคํานวณ การเรียกชําระเงนิ คา หนุ บุรมิ สิทธิ เรียกชาํ ระเงนิ งวดแรก 30% = 30% ของราคาตามมูลคา หุน – สว นตาํ่ กวา มลู คา หนุ = (30% x 100) - 2 = 28 บาทตอ หุน เรียกชําระเงินคา หุน ทเี่ หลืออกี 70% = 70% ของราคาตามมูลคา หุน = (70% x 100) = 70 บาทตอหนุ การบันทกึ บัญชเี ปนดังน้ี สมุดรายวันทวั่ ไป วนั ท่ี รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต บัญชี 25x1 2 บนั ทกึ ความทรงจํา : จดทะเบียนหนุ สามัญ ม.ค. จาํ นวน 100,000 หนุ มูลคาหนุ ละ 10 บาท และหุน บุริมสทิ ธิจํานวน 50,000 หนุ ราคาตามมูลคา หุนละ 100 บาท 5 ลูกหนี้คาจองหนุ สามัญ (100,000 x 15) 1,500,000 - สวนเกินมลู คาหนุ สามัญ (ผลตา ง) 500,000 - ทุนหุน สามัญใหจ อง (100,000 x 10) 1,000,000 - ขายหนุ สามัญในราคาตามมลู คา หนุ ลกู หน้คี าจองหุนบรุ มิ สิทธิ (50,000 x 98) 4,900,000 - สวนตํ่ากวามูลคา หุนบุรมิ สิทธิ(ผลตาง) 100,000 - ทนุ หุน บรุ มิ สิทธิใหจอง(50,000x100) 5,000,000 - ขายหุน บรุ ิมสทิ ธิในราคาตามมูลคา หุน 178
179 สมดุ รายวนั ทว่ั ไป วันท่ี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต บัญชี 25x1 10 เงนิ สด (100,000 x 8) 800,000 - ม.ค. ลกู หน้ีคา จองหนุ สามัญ 800,000 - เรยี กชาํ ระเงินคาหุนสามัญงวดแรก 30% พรอมสวนเกนิ มูลคา หุน เงินสด (50,000 x 28) 1,400,000 - ลูกหนีค้ า จองหนุ บรุ ิมสทิ ธิ 1,400,000 - เรียกชําระเงินคาหุนบุริมสทิ ธงิ วดแรก 30% พรอมสว นเกนิ มลู คา หุน 12 เงินสด (100,000 x 7) + (50,000 x 70) 4,200,000 - ลูกหน้ีคาจองหนุ สามัญ 700,000 - ลูกหนค้ี าจองหนุ บุรมิ สิทธิ 3,500,000 - เรยี กชาํ ระเงินคาหุนทเ่ี หลืออกี 70% ทุนหนุ สามัญใหจอง 1,500,000 - ทนุ หนุ บรุ ิมสทิ ธิใหจ อง 5,000,000 - ทนุ หุน สามัญ 1,500,000 - ทุนหุนบรุ ิมสทิ ธิ 5,000,000 - ออกใบหนุ ใหผซู ื้อหนุ ทจ่ี า ยชําระคา หุน ครบแลว จากตัวอยางท่ี 5.3 การลงบันทึกบัญชีเก่ียวกับการรับชําระเงินคาหุนอาจบันทึก รายการแยกกันระหวางหุนสามัญกับหุนบุริมสิทธิตามรายการวันท่ี 5 มกราคม หรืออาจลงการ รับชําระเงินคาหนุ รวมกันกไดต ามรายการวนั ท่ี 12 มกราคมก็ได 2.2 ณ วันท่ีจองซื้อหุนบริษัทเรียกชําระเงินบางสวน การเรียกชําระคาหุน ณ วันท่ี จองซ้ือหุนถือเปนการชําระคาหุนงวดแรก ซึ่งตองเรียกเก็บไมต่ํากวา 25% รวมสวนเกินหรือหัก ดวยสว นตํ่ากวามลู คา หุน โดยแยกเปน 2 ลักษณะ ดังน้ี 2.2.1 เงินท่ีเรียกชําระถือเปนการชําระคาหุนบางสวน ณ วันท่ีจองซื้อหุน บริษัทไดเรียกชําระคาหุนบางสวนโดยถือวาเปนการรับชําระเงินคาหุนงวดแรก ดังน้ันในการ 179
180 บันทึกบัญชีจะรับรูเงินสด และสิทธิในการจองหุน ซ่ึงต้ังเปนบัญชีลูกนี้คาจองหุนไวจนกวาจะ เกบ็ เงินครบจึงจะออกใบหุนใหผูจ องซ้ือหุนดังตวั อยางตอไปนี้ ตัวอยางท่ี 5.4 ตอไปน้ีเปนรายการเกยี่ วกบั การจดทะเบยี นและจําหนายหุนของบรษิ ัท สบาย จํากัด 25x1 ม.ค. 2 จดทะเบียนหนุ สามัญจํานวน 10,000 หุน ราคาตามมลู คา หุน ละ 100 บาท 5 เปดใหจองซื้อหุนสามัญ ในราคาหุนละ 120 บาท โดยเรียกรับชําระคาหุนในวันนี้ 25% ของราคาตามมลู คา หนุ พรอ มสวนเกินมูลคาหนุ 10 รบั ชาํ ระคาหนุ งวดที่ 2 อีก 40% ของราคาตามมูลคาหนุ 15 รับชาํ ระคา หุนที่เหลือทงั้ หมด พรอ มทง้ั ออกใบหนุ ใหกับผูถอื หุนสามัญ การคํานวณ การเรียกชาํ ระเงนิ คาหนุ สามัญ เรยี กชําระเงินงวดแรก 25% = 25% ของราคาตามมลู คาหุน + สว นเกนิ มลู คา หนุ หุน = (25% x 100) + 20 = 45 บาทตอหนุ เรยี กชําระเงินคา หุนงวดท่ี 2 อีก 40% = 40% ของราคาตามมลู คา หนุ = (40% x 100) = 40 บาทตอหุน เรียกชาํ ระเงนิ คา หนุ งวดสุดทาย 35% = 35% ของราคาตามมลู คาหนุ = (35% x 100) = 35 บาทตอหนุ 180
181 การบันทกึ บญั ชีเปนดงั น้ี สมดุ รายวันทวั่ ไป วนั ที่ รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต บญั ชี 25x1 2 บนั ทึกความทรงจาํ : จดทะเบยี นหนุ สามัญ ม.ค. จํานวน 10,000 หนุ มูลคา หนุ ละ 100 บาท 5 เงนิ สด (10,000 x 45) 450,000 - ลกู หนี้คา จองหุนสามัญ (10,000 x 75) 750,000 - สวนเกินมูลคา หนุ สามัญ (ผลตาง) 200,000 - ทนุ หนุ สามญั ใหจ อง (10,000 x 100) 1,000,000 - ใหจ องหนุ สามญั ในราคาหนุ ละ 120 บาท โดยเรยี กเก็บเงนิ คาหนุ 25% 10 เงนิ สด (10,000 x 40) 400,000 - ลกู หนค้ี าจองหนุ สามัญ 400,000 - เรียกชาํ ระเงนิ คาหนุ สามัญงวดที่ 2 อีก 40% 12 เงนิ สด (10,000 x 35) 350,000 - ลูกหนคี้ า จองหนุ สามัญ 350,000 - เรียกชาํ ระเงินคา หนุ ทีเ่ หลืออกี 35% ทนุ หุนสามญั ใหจ อง 1,000,000 - ทนุ หนุ สามัญ 1,000,000 - ออกใบหุนใหผ ซู ้ือหนุ ท่จี ายชําระคา หนุ ครบแลว จากตัวอยางที่ 5.4 ณ วันจองซ้ือหุนมีการเรียกรับชําระเงินคาหุนบางสวน ซ่ึงการ บันทึกบัญชีจะบันทึกรับเงินสดตามที่ไดรับเงินสดจริง และตองต้ังลูกหน้ีคาหุนตามยอดท่ียังคง คางอยู หลังจากนัน้ จึงบนั ทกึ การออกใบหนุ ใหผ จู องซ้อื หนุ เมือ่ บรษิ ทั ไดรับชําระคา หนุ ครบแลว 181
182 2.2.2 เงินท่ีเรียกชําระถือเปนเงินมัดจําในการจองหุน ณ วันที่จองซ้ือหุน บริษัทไดเรียกชําระเงินคาหุนบางสวนโดยใหถือเปนเงินมัดจําในการจองหุน ดังนั้นในการเรียก เก็บเงินมัดจําคาหุนจะเรียกเก็บเงินมัดจําเทาใดก็ไดไมจําเปนตองเรียกเก็บครั้งแรกไมนอยกวา 25% เพราะไมใชคาหุน เงินมัดจําที่เรียกเก็บนี้เปนหน้ีสินของบริษัทจะถูกโอนไปเปนเงินคาหุน เมือ่ บริษทั เรียกชาํ ระเงนิ คาหุนงวดที่ 1 และในกรณที มี่ ีผจู องซ้ือหุนจองซื้อหุนและจายเงินคาจอง หนุ เกินกวาจํานวนทจ่ี ดทะเบยี นไว บรษิ ัทจะทําการคืนเงินคาจองหุนใหกับผูจองท่ีไมไดสิทธิใน การถือหนุ ดังตัวอยา งตอ ไปน้ี ตวั อยา งที่ 5.5 ตอไปนเี้ ปน รายการเกีย่ วกับการจดทะเบียนและจําหนายหุนของบริษทั สะดวก จาํ กดั 25x1 ม.ค. 2 จดทะเบียนหุน สามญั จํานวน 10,000 หุน ราคาตามมูลคาหนุ ละ 100 บาท 5 เปดใหจองซื้อหุนสามัญ ในราคาหุนละ 120 บาท โดยเรียกรับชําระเงินมัดจําคาหุนใน วันนี้ หุนละ 20 บาท มีผจู องซ้อื หุนมาท้ังหมด 11,000 หนุ 10 รบั ชําระคาหนุ งวดแรก 50% ของราคาตามมูลคา หนุ 15 รบั ชําระคา หนุ ทเี่ หลือทงั้ หมด พรอมทั้งออกใบหนุ ใหกบั ผถู ือหุนสามญั การคํานวณ การเรียกชาํ ระเงนิ คาหุน สามญั เรยี กชําระเงินงวดแรก 50% = 50% ของราคาตามมลู คาหุน + สวนเกนิ มลู คา หุนหุน = (50% x100) + 20 = 70 บาทตอหนุ เรียกชําระเงนิ คาหุนงวดสุดทาย 50% = 50% ของราคาตามมลู คาหนุ = (50% x 100) = 50 บาทตอหนุ 182
183 การบันทกึ บัญชเี ปนดงั นี้ สมดุ รายวนั ทวั่ ไป วันท่ี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ บญั ชี 25x1 2 บันทึกความทรงจาํ : จดทะเบยี นหนุ สามญั ม.ค. จาํ นวน 10,000 หุน มลู คาหุนละ 100 บาท 5 เงินสด (11,000 x 20) 220,000 - เงนิ มดั จาํ คาจองหนุ สามญั 220,000 - ใหจ องหนุ สามญั ในราคาหนุ ละ 120 บาท โดย เรียกเกบ็ เงนิ คา จองหนุ ๆ ละ 20 บาท ลกู หน้คี า จองหนุ สามญั (10,000 x 120) 1,200,000 - สวนเกินมลู คา หนุ สามญั (ผลตาง) 200,000 - ทุนหนุ สามญั ใหจ อง (10,000 x 100) 1,000,000 - ใหจองหุนสามัญในราคาหนุ ละ 120 บาท เงนิ มัดจําคาจองหนุ สามญั (1,000 x 20) 20,000 - เงนิ สด 20,000 - คืนเงินมดั จาํ คา จองหุน ใหผ ูจองซ้ือหนุ ท่ี ไมไดรบั สิทธิเปนผูถอื หนุ 10 เงินมดั จาํ คาจองหนุ สามญั (10,000 x 20) 200,000 - เงินสด [(10,000 x 70) – 200,000] 500,000 - ลูกหน้คี า จองหนุ สามัญ 700,000 - เรยี กชําระเงนิ คา หนุ สามญั งวดแรก 50% 12 เงนิ สด (10,000 x 50) 500,000 - ลูกหนีค้ าจองหนุ สามัญ 500,000 - เรียกชําระเงินคา หุนทเ่ี หลอื อกี 50% ทนุ หุน สามัญใหจ อง 1,000,000 - ทุนหนุ สามญั 1,000,000 - ออกใบหุนใหผ ซู ื้อหุนท่ีจา ยชาํ ระคา หุน ครบแลว 183
184 3. การจําหนายหุนเปนหนวยรวม เปนการจําหนายหุน 2 ชนิดท่ีนํามารวมกันใน ราคาทีก่ าํ หนด โดยทไี่ มสามารถแยกหนุ แตละชนดิ ออกจําหนา ยจากกนั ได เชน การนําหุนสามัญ 2 หุน กับหนุ บุรมิ สิทธิ 1 หุน รวมกันเปน 1 หนว ยรวม หรอื อาจนําหนุ สามัญ 1 หุนกับหุนกู 1 หุน รวมกันเปน 1 หนวยรวม เปนตน การบันทึกบัญชีตองบันทึกราคาของหุนแตละชนิดดวยมูลคา ยุติธรรมซึ่งมูลคายุติธรรม เปนจํานวนเงินที่ผูซื้อและผูขายตกลงแลกเปลี่ยนสินทรัพยกันใน ขณะที่ทั้งสองฝายมีความรอบรูและเต็มใจในการแลกเปลี่ยน และสามารถตอรองราคากันได อยางเปนอิสระในลักษณะของผูท่ีไมมีความเก่ียวของกัน ปญหาการบันทึกบัญชี สําหรับการ จําหนายหุนเปนหนวยรวมโดยกําหนดราคาเดียว คือ การแบงมูลคาของหุนท้ัง 2 ชนิดซึ่งอาจทํา การแบง มลู คา ของหนุ โดยพจิ ารณาไดดังนี้ 3.1 ถาทราบมูลคายุติธรรมของหุนท้ัง 2 ชนิด ใหแบงมูลคาของการจําหนายหุน โดยใชส ดั สวนของมลู คา ยุติธรรมของหุนทั้ง 2 ชนิดเปน เกณฑใ นการคาํ นวณ ตัวอยางที่ 5.6 บริษัท รัศมี จํากัด จําหนายหุนเปนหนวยรวม โดย 1 หนวยรวมประกอบดวย หุนสามัญ 2 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 100 บาท และหุนบุริมสิทธิ 1 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 50 บาท บริษัทจําหนายไป 200 หนวย ในราคาหนวยละ 270 บาท ถาหุนสามัญมีมูลคายุติธรรม หนุ ละ 120 บาท และหนุ บุริมสทิ ธมิ ีมลู คา ยตุ ธิ รรมหุน ละ 60 บาท การคาํ นวณ มลู คายตุ ธิ รรมรวม มลู คา ยุตธิ รรมของหุน สามัญ (200 x 2 x 120) = 48,000 บาท มูลคายุตธิ รรมของหนุ บรุ มิ สิทธิ (200 x 1 x 60) = 12,000 บาท มูลคา ยตุ ธิ รรมรวม = 60,000 บาท หาเงินสดจากการจาํ หนา ยหนุ เปน หนว ยรวม (200 x 270) = 54,000 บาท แบงมลู คาขายโดยใชส ัดสว นของมูลคายตุ ิธรรมเปนเกณฑ 48,000 มูลคา ของหุนสามัญ (54,000 x 60,000 ) = 43,200 บาท = 10,800 บาท มูลคา ของหุนบุรมิ สิทธิ (54,000 x 12,000 ) 60,000 184
185 การบันทึกบญั ชีเปนดงั นี้ เดบติ เครดติ 54,000 - สมดุ รายวนั ทวั่ ไป 40,000 - 3,200 - วันที่ รายการ เลขที่ บญั ชี 10,000 - 800 - เงินสด ทนุ หนุ สามัญ (200 x 2 x 100) สว นเกนิ มลู คาหนุ สามัญ (43,200 – 40,000) ทุนหุนบุริมสิทธิ (200 x 1 x 50) สวนเกินมูลคา หนุ บุริมสิทธิ (10,800 – 10,000) จาํ หนา ยหนุ เปน หนว ยรวม 3.2 ถาทราบมลู คายุตธิ รรมของหุนเพียงชนิดเดียว ใหใชมูลคายุติธรรมของหุนท่ี ทราบมูลคายุติธรรมเปน ราคาของหุนชนิดน้นั ตัวอยา งท่ี 5.7 จากตัวอยา งท่ี 5.6 สมมติวา มูลคายตุ ิธรรมของหุน สามญั ราคาหุนละ 120 บาท แต ไมทราบมลู คา ยุติธรรมของหุนบรุ ิมสิทธิ การคาํ นวณ หามูลคา จําหนา ยหุน บรุ มิ สิทธิ มูลคาจําหนายหนุ รวม(200 x 270) = 54,000 บาท หกั มูลคา ยุติธรรมของหนุ สามัญ (200 x 2 x 120) = 48,000 บาท มลู คา จาํ หนา ยหุนบรุ ิมสทิ ธิ = 6,000 บาท 185
186 การบนั ทกึ บัญชีเปน ดงั น้ี สมุดรายวนั ทวั่ ไป วันท่ี รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต บญั ชี 54,000 - 40,000 - 4,000 - 8,000 - เงินสด 10,000 - สวนตํา่ กวามลู คา หุนบุรมิ สิทธิ ทนุ หุนสามญั (200 x 2 x 100) สวนเกินมลู คา หนุ สามัญ (48,000 – 40,000) ทนุ หุนบุริมสิทธิ (200 x 1 x 50) จาํ หนายหนุ เปน หนว ยรวม 3.3 ถาไมทราบมูลคายุติธรรมของหุนทั้ง 2 ชนิด ใหแบงมูลคาของการจําหนาย หุน โดยใชสัดสวนของมูลคาราคาตามมูลคาหุนของหุนท้ัง 2 ชนิดเปนเกณฑในการคํานวณ ตอมาเม่ือทราบมูลคายุติธรรมของหุนชนิดใดชนิดหนึ่งจึงปรับสวนเกินมูลคาหุนหุนหรือ สวนต่าํ กวา มูลคา หนุ ใหถกู ตอง ตัวอยา งท่ี 5.8 จากตวั อยางที่ 5.6 สมมตวิ า ไมท ราบมลู คา ยตุ ธิ รรมของหุน ทัง้ 2 ชนดิ การคํานวณ หาราคาตามมูลคา หุนรวม ราคาตามมูลคาหนุ ของหนุ สามญั (200 x 2 x 100) = 40,000 บาท ราคาตามมลู คาหนุ ของหุน บรุ ิมสทิ ธิ (200 x 1 x 50) = 10,000 บาท ราคาตามมูลคา หนุ รวม = 50,000 บาท หาเงินสดจากการจาํ หนายหุนเปนหนว ยรวม (200 x 270) = 54,000 บาท แบง มูลคาขายโดยใชส ัดสว นของมลู คา ยตุ ิธรรมเปน เกณฑ 40,000 มลู คา ของหนุ สามญั (54,000 x 50,000 ) = 43,200 บาท = 10,800 บาท มูลคาของหุนบุริมสิทธิ (54,000 x 10,000 ) 50,000 186
187 การบนั ทึกบัญชีเปน ดังน้ี เดบติ เครดติ 54,000 - สมดุ รายวันทวั่ ไป 40,000 - 3,200 - วนั ที่ รายการ เลขที่ 10,000 - บัญชี 800 - เงนิ สด ทุนหุนสามญั (200 x 2 x 100) สวนเกินมูลคาหนุ สามญั (43,200 – 40,000) ทนุ หุนบรุ มิ สิทธิ (200 x 1 x 50) สวนเกนิ มลู คา หนุ บุริมสทิ ธิ (10,800 – 10,000) จาํ หนายหนุ เปน หนว ยรวม 4. การนําหุนแลกเปลี่ยนสินทรัพยอื่นที่มิใชเงินสด การบันทึกรายการนําหุน ออกจาํ หนา ยโดยไดร ับคาหุนเปน สนิ ทรัพยอนื่ ที่มใิ ชเงินสดตอ งพิจารณาวาจะใชมูลคาตลาดของ สินทรัพยหรือมูลคายุติธรรมของหุนในการบันทึกบัญชี ท้ังน้ีขึ้นอยูกับความนาเชื่อถืออยาง สมเหตสุ มผล โดยมแี นวทางปฏิบตั ิดังนี้ 4.1 ถาทราบราคาตลาดของสินทรัพยใหใชราคาตลาดของของสินทรัพยในการ บันทึกบัญชี ตัวอยางท่ี 5.9 บริษัท อาญา จํากัด นําหุนสามัญจํานวน 1,000 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 100 บาท เพอ่ื แลกเปลย่ี นกับเคร่อื งจกั ร ซึ่งมีราคาตลาด 125,000 บาท 187
188 การบันทกึ บญั ชีเปน ดงั น้ี สมุดรายวันทวั่ ไป วันที่ รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต 125,000 - บัญชี 100,000 - 25,000 - เครอื่ งจักร ทนุ หนุ สามญั (1,000 x 100) สว นเกนิ มลู คา หนุ สามญั (ผลตาง) นําหุน สามัญแลกเปลีย่ นกับเคร่ืองจกั ร 4.2 ถาทราบราคาตลาดของหุน ใหใ ชราคาตลาดของหุนในการบันทึกบญั ชี ตัวอยางท่ี 5.10 จากตัวอยางท่ี 5.9 สมมติวาไมทราบราคาตลาดของเคร่ืองจักร แตในวันนี้ หนุ สามัญมีราคาตลาดหุนละ 110 บาท การบนั ทกึ บัญชเี ปนดังนี้ สมุดรายวนั ทวั่ ไป วนั ท่ี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดติ 110,000 - บญั ชี 100,000 - 10,000 - เคร่อื งจักร ทนุ หนุ สามัญ (1,000 x 100) สวนเกนิ มลู คาหนุ สามญั (1,000x10) นําหุน สามญั แลกเปลี่ยนกบั เครื่องจกั ร 4.3 ถาไมทราบราคาตลาดของสินทรัพยและราคาตลาดของหุน ใหบริษัทวาจาง ผูประเมนิ ราคาอิสระจากภายนอกเปน ผูประเมินมลู คา ยตุ ธิ รรมเพอ่ื ใชในการบนั ทกึ บญั ชี ตัวอยางที่ 5.11 จากตัวอยางที่ 5.9 สมมติวาไมทราบราคาตลาดของเคร่ืองจักรและราคาตลาด ของหุน แตผูประเมินอิสระไดประเมินราคาเครื่องจักรเทากับ 105,000 บาท และคณะกรรมการ บรษิ ัทเหน็ ชอบดวย 188
189 การบนั ทึกบัญชีเปนดังนี้ เดบิต เครดติ สมดุ รายวนั ทว่ั ไป 105,000 - 100,000 - วนั ท่ี รายการ เลขที่ 5,000 - บญั ชี เคร่ืองจักร ทุนหุนสามัญ (1,000 x 100) สว นเกินมูลคา หนุ สามัญ(1,000x10) นําหุนสามัญแลกเปลี่ยนกับเคร่อื งจักร 5. การชาํ ระคาบริการดว ยหุน การนําหนุ ออกชาํ ระคาบริการ เชน คา จดั ตงั้ บริษทั คา ทนายความ เปนตน ดังนั้นคาบริการที่เกิดข้ึนไดมีการตกลงคาบริการอยางชัดเจนจึงใหใชราคา คาบริการเปนเกณฑการบนั ทึกบัญชี ตัวยางท่ี 5.12 บริษัท กุศล จํากัด นําหุนสามัญจํานวน 1,000 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 50 บาท มาชําระคาทนายความกอต้ังบริษัท ราคา 54,000 บาท ในวันน้ีราคาตลาดของหุนสามัญมีมูลคา หนุ ละ 60 บาท การบันทกึ บญั ชีเปนดงั น้ี เดบติ เครดิต สมุดรายวันทวั่ ไป 54,000 - 50,000 - วันท่ี รายการ เลขที่ 4,000 - บญั ชี คาใชจ ายในการจัดตั้งบริษัท ทุนหุนสามญั (1,000 x 50) สว นเกนิ มูลคาหนุ สามัญ(ผลตาง) นาํ หนุ สามญั แลกเปล่ียนกบั เครื่องจักร 189
190 คาใชจา ยในการจาํ หนายหนุ การออกหุนจําหนายจะมีคาใชจายตาง ๆ เกิดข้ึนจํานวนมาก ไดแก คาธรรมเนียม จดทะเบียนทุน คาธรรมเนียมทนายความ คานายหนาและคาใชจายในการประกันการขาย คาใชจายในการพิมพและจัดสงเอกสารที่เก่ียวของ คาใชจายในการจัดเตรียมการออกหุน คาใชจายในการโฆษณาหุน ในกรณีที่มีการขายหุนโดยใหบริษัทอื่นท่ีทําหนาท่ีค้ําประกันการขาย หุน คาสงเสริมการขายหุนท้ังหมดถือเปนคาใชจายในการจําหนายหุน (stock issue cost) คา ใชจายในการจําหนายหุนเปนจํานวนเงินไมมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับจํานวนทุนที่ไดรับเขามา การปฏิบัติในทางบัญชีในสวนท่ีเกี่ยวกับคาใชจายในการจําหนายหุนสามารถทําได 3 วิธี ดังนี้ (ธารี หิรัญรัศมี, 2546, หนา 177) 1. นําคาใชจายในการจําหนายหุนไปหักกลบกับเงินทุนที่ไดรับ ผูท่ีเห็นดวยกับวิธีน้ี ใหความเห็นวาคาใชจายเชนนี้เปนคาใชจายท่ีเกิดขึ้นเพียงคร้ังเดียว แตยากที่จะแบงไปเปน คาใชจายเพื่อหักกับรายไดในอนาคต นอกจากน้ี เงินสดรับสุทธิจากการจําหนายหุนนาจะเปน ราคาที่แทจริงของทุนที่ออกจําหนาย ดังนั้นตามวิธีน้ีจะนําคาใชจายในการจําหนายหุนไปหัก กลบกับสวนเกินมูลคาหุน แตวิธีนี้อาจมีปญหาหากการจําหนายหุนมิไดมีสวนเกินมูลคาหุน หรอื สวนเกนิ มูลคา หนุ มีจํานวนตํา่ กวา คา ใชจ ายในการจาํ หนา ยหุน 2. ถือคาใชจายในการจําหนายหุนเปนคาใชจายตั้งพักเพื่อตัดจําหนาย สําหรับ ชวงเวลาหนึ่งท่ีเหมาะสม ผูเห็นดวยกับวิธีนี้ใหความเห็นวาคาใชจายเชนนี้กอใหเกิดสินทรัพย ไมมีตัวตนอยางหนึ่งข้ึนมาซ่ึงสามารถตัดจําหนายเปนคาใชจายไปหักจากรายไดท่ีจะมีมาใน อนาคตตามหลกั การจบั คูรายไดกับคา ใชจ าย 3. บันทึกคาใชจายในการจําหนายหุนเปนคาใชจายในงวดท่ีมีรายการน้ันเกิดข้ึน ผูเห็นดวยกับวิธีนี้ใหความเห็นวาคาใชจายเชนน้ีมิไดกอใหเกิดประโยชนในอนาคต จึงไมควร ตั้งพักเพื่อตัดจําหนายเปนคาใชจายในอนาคต สวนการบันทึกหักจากเงินรับคาหุนก็มีความไม สะดวกบางประการหากมีการจําหนายหุน โดยไมม ีสวนเกินมลู คา หุน หรือมีสวนเกินมูลคาหุนแต จํานวนดงั กลา วนอ ยกวา คาใชจ ายในการออกหนุ 190
191 การรบิ หุน การเรียกชาํ ระคา หุนในงวดแรกตองไมนอยกวารอยละ 25 ของราคาตามมูลคาหุนจึง จะทําการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได หลังจากน้ันการรับชําระคาหุนก็จะมีเฉพาะเงินคาหุน ท่ียังสงใชไมครบราคาตามมูลคาหุนซึ่งเปนสวนท่ีที่ประชุมใหญจะไดกําหนดใหสงใชตอไป หากท่ีประชุมใหญมิไดกําหนดวางเง่ือนไขใด ๆ ไว กรรมการบริษัทก็มีสิทธิท่ีจะเรียกใหผูถือหุน ชาํ ระคา หุนเม่อื ใดกไ็ ดที่ตองการเงนิ ทนุ เพิ่มเตมิ ถาเงินสงใชคาหุนตามเรียกนั้นผูถือหุนคนใดมิไดสงใชตามวันท่ีกําหนด ซ่ึงตาม ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา 1123 บัญญัติวา ถาผูถือหุนคนใดละเลยไมสงใชเงิน ที่เรียกคาหุนตามวันกําหนด กรรมการจะสงคําบอกกลาวดวยจดหมายลงทะเบียนไปรษณียไป ยงั ผูน้ันใหส ง ใชเงินท่เี รยี กกบั ท้ังดอกเบี้ยดวยก็ได คําบอกกลาวอันน้ีใหกําหนดเวลาไปพอสมควรเพื่อใหใชเงินที่เรียกกับท้ังดอกเบ้ีย และตองบอกไปดวยวาใหสงใช ณ สถานท่ีใด อน่ึง ในคําบอกกลาวน้ันจะแจงไปดวยก็ไดวา ถาไมใชเ งนิ ตามเรยี ก หุน นน้ั อาจจะถกู ริบ กฎหมายใหคิดดอกเบี้ยไดไมเกินรอยละ 15 ตอปแตถามิไดกําหนดไวก็ตองเปนไป ตามท่กี ฎหมายกาํ หนดคอื รอยละ 7.5 ตอ ปทั้งนหี้ ากผถู ือหุน ไมสามารถสงใชคาหุนไดบริษัทตอง สงคําบอกกลาวดวยจดหมายสงทางไปรษณียลงทะเบียนสองคร้ัง คร้ังแรกตองบอกลวงหนาไม นอ ยกวา 21 วัน และมีคาํ เตือนเรอ่ื งการสงเงนิ คา หนุ และดอกเบี้ย สําหรบั ครง้ั หลงั ไมจําเปนตอง บอกกลาวลวงหนา 21 วัน แตใหเวลาตามสมควร ซึ่งควรข้ึนกับจํานวนเงิน และควรมีคําเตือน ระบุไปพรอมกับจดหมายเรื่องการรบิ หุน มาตรา 1124 บัญญัติวา ถาในคําบอกกลาวมีขอแถลงความถึงการริบหุนดวยแลว หากเงินคาหุนท่ีเรียกกับท้ังดอกเบี้ยยังคงคางชําระอยูตราบใด กรรมการจะบอกริบหุนนั้น ๆ เมื่อใดกไ็ ด มาตรา 1125 บัญญัติวา หุนท่ีถูกริบแลวน้ันใหเอาออกขายทอดตลาดโดยไมชักชา ไดจํานวนเงินเทาใดใหเอาหักใชคาหุนที่เรียกกับดอกเบี้ยคางชําระ ถายังมีเงินเหลือเทาใดตอง สงคืนใหแกผถู อื หนุ นั้น (สุรศกั ดิ์ วาจาสทิ ธิ์, และคนอืน่ ๆ, 2548, หนา 358) ดังนน้ั หุน ท่ีริบมานน้ั ตองมกี ารนําออกจําหนาย เน่ืองจากตามกฎหมายในประเทศไทย หามมิใหบริษัทรับซื้อหุนของตนเองไว เพราะการทําเชนนั้นก็คือการลดทุนวิธีหนึ่ง ถาการนํา หุนออกจําหนายไดเงินไมพอกับคาหุนที่เรียกใหชําระพรอมทั้งดอกเบ้ียก็สามารถเรียกสวนที่ 191
192 ขาดจากผูถือหุนท่ีถูกริบ และในทางตรงขาม ถามีเงินเหลือก็ควรสงคืนแกผูถือหุนที่ถูกริบ น้ันดว ย ตัวอยางท่ี 5.13 บริษัท โกศล จํากัด นําหุนสามัญจํานวน 1,000 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 100 บาท ออกจําหนายในราคาหุนละ 110 บาท มีการเรียกเก็บเงินคาหุน 3 งวด ๆ ละ 50% 20% และ 30% ตามลําดับ หลังจากผูถือหุนชําระมูลคาหุนงวดแรกแลว ไดมีการเรียกชําระคาหุนงวดที่ 2 ปรากฏวามีผูถือหุนจํานวน 100 หุน ไมสามารถชําระคาหุนได บริษัทมีมติใหริบหุนดังกลาวแลวนํา ออกขายทอดตลาดในราคาหุนละ 104 บาท เสียคาใชจายในการขายทอดตลาด 120 บาท เงินที่เหลือ ทัง้ หมดหลงั หักผลขาดทนุ และคา ใชจายแลวถามีเงนิ เหลือบริษทั จะไดคืนใหแกผูถอื หุน ทถ่ี ูกริบ การบนั ทึกบัญชเี ปนดงั น้ี สมดุ รายวันทวั่ ไป วันที่ รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต บัญชี 25x2 30 ทุนหนุ สามญั ใหจ อง (100 x 100) 10,000 - ม.ี ค. สว นเกนิ มูลคาหนุ หนุ สามัญ (100 x 10) 1,000 - ลกู หนี้คา จองหนุ สามัญ (100 x 50) 5,000 - เจาหนีผ้ ถู ือหนุ ทถี่ กู รบิ (100 x 60) 6,000 - ยกเลกิ หนุ ทถ่ี กู ริบจํานวน 100 หุน 30 เงนิ สด (100 X 104) 10,400 - เจา หนี้ผถู ือหนุ ท่ีถูกรบิ [100 x (110 – 104)] 600 - ทุนหุนสามัญ (100 x 100) 10,000 - สวนเกนิ มลู คาหนุ สามัญ(100 x 10) 1,000 - ขายหนุ ทีถ่ ูกรบิ และหกั สว นขาดจากผูถ ือหนุ ทีถ่ กู รบิ เจา หนี้ผูถอื หนุ ทีถ่ ูกริบ 120 - เงินสด 120 - จายคา ใชจ ายในการริบหุน เจา หนผ้ี ูถ อื หนุ ท่ีถกู ริบ (6,000 - 600 - 120) 5,280 - เงินสด 5,280 - คืนเงินท่ีเหลือใหผ ถู ือหนุ ท่ถี กู ริบ 192
193 การเปลี่ยนจากหา งหนุ สว นเปน บริษัท หางหุนสวนที่ดําเนินกิจการประสบความสําเร็จอาจจะเลือกท่ีจะขยายกิจการไปเปน บริษัทเน่ืองจากสามารถระดมเงินทุนไดมากกวาและความรับผิดในหนี้สินของบริษัทมีจํานวน จํากัด ดังน้ันในการเปล่ียนจากหางหุนสวนเปนบริษัทตองดําเนินการจัดตั้งใหถูกตองตาม ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยตามที่กลาวไว และรับโอนสินทรัพย หน้ีสินของหางหุนสวน โดยชําระการโอนดวยหุนทุนของบริษัท ซ่ึงผูเปนหุนสวนจะนําไปแบงกันตามสิทธิสวนไดเสีย ของผูเ ปน หนุ สวนเปน การส้ินสดุ ของหางหนุ สวน และผเู ปน หนุ สวนจะมีสถานภาพเปนผูถือหุน ของบริษัท ทงั้ นกี้ ารบันทกึ บญั ชเี กี่ยวกับการเปลีย่ นจากหา งหนุ สวนเปน บริษัทมดี ังนี้ 1. การใชส มุดบญั ชีชดุ ใหมเ ปนสมุดบญั ชีของบริษทั มขี ้ันตอนการปฏิบัติดังนี้ 1.1 ดา นหา งหนุ สวน มขี น้ั ตอนการปฏิบตั ทิ างบญั ชี ดงั น้ี 1.1.1 ปรับปรุงสินทรัพยและหนี้สิน ตามราคาท่ีบริษัทจะรับโอนไป ผลตางจากการปรับปรุงใหโอนเขาบัญชีทุนของผูเปนหุนสวน โดยแบงตามอัตราสวนแบง กาํ ไรขาดทุน 1.1.2 คํานวณหาคาความนิยมหรือเงินที่จะคืนใหแกผูเปนหุนสวน โดย คํานวณมูลคาหุนที่โอนตามราคาตลาดของหุนทุน ณ วันใด เปรียบเทียบกับมูลคาของกิจการท่ี รับโอนมา ถามูลคาหุนท่ีโอนน้ีสูงกวามูลคาของกิจการที่รับโอนมาจะถือเปนคาความนิยมที่ เกิดข้ึน แตถามูลคาหุนที่โอนนี้ตํ่ากวามูลคาของกิจการท่ีรับโอนมา สวนตางในกรณีนี้จะถือเปน การคืนเงินใหกับหุนสวนแตละคนตามอัตราสวนแบงกําไรขาดทุน แตในกรณีท่ีการรับโอนหุน ของบรษิ ัทใหแ กหุนสวนในราคามูลคาก็ตองใชมูลคาเปรียบเทียบกับมูลคาของกิจการที่รับโอนมา แลวแบง ใหแ กผ ูเปน หนุ สวนตามอตั ราสว นแบง กําไรขาดทนุ การคาํ นวณสามารถทาํ ไดดงั น้ี ถาสงู กวา มูลคาหุนท่โี อน (ราคาตลาด) = XX หกั ทนุ เดิมของหา งหุนสว น ± ทุนทีป่ รับปรุงเพม่ิ ขึน้ = XX หรอื ลดลง – เงินสดทหี่ างไมไดโ อนไป = XX คา ความนิยม = XX ถาต่าํ กวามลู คา หนุ ทโี่ อน (ราคาตลาด) หกั ทุนเดิมของหา งหุน สว น ± ทนุ ทป่ี รับปรงุ เพ่ิมข้นึ = XX = XX หรือลดลง – เงินสดทห่ี างไมไ ดโ อนไป เงินสด 193
194 1.1.3 ปด บญั ชีสนิ ทรัพย และหนี้สนิ หลงั ปรับปรงุ แลว เพอ่ื แลกกับใบหุน 1.1.4 นําใบหุนท่ีไดรับจายคืนทุนใหแกผูถือหุนสวน (ในกรณีท่ีมีการโอน สินทรัพย และหน้ีสินท้ังหมด ทุนของผูเปนหุนสวนเหลืออยูเทาใดก็ใหคืนตามน้ัน แตในกรณีที่ ไมไดโอนสินทรัพย และหนี้สินท้ังหมด โดยยกเวนเงินสดจะแบงตามอัตราสวนแบงกําไร ขาดทนุ ) 1.2 ดานบรษิ ทั จํากดั มีข้ันตอนการปฏบิ ัติทางบญั ชี ดังนี้ 1.2.1 รับโอนกิจการจากหางหุนสวน โดยออกเปนหุนสามัญหรือหุน บุรมิ สทิ ธใิ ห 1.2.1 นาํ หนุ ทีเ่ หลอื ออกขายตอ ไป ตวั อยางที่ 5.14 ใชส มุดบัญชีชุดเดิมของหางหุนสวนเปนสมุดบัญชีของบริษัท จา และ มร เปน หุนสวนกัน แบงกําไรขาดทุนกันในอัตราสวน 3:2 ตอมาในวันที่ 31 ธันวาคม 25x2 ทั้งสองได ตกลงขยายกิจการจากหา งหนุ สวน จา มร ใหเ ปนบริษัทเทพสนิ จาํ กัด งบดลุ ของหา งหนุ สวน จามร มดี งั นี้ หา งหุน สวน จามร งบดุล ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x2 สินทรัพย (หนว ย:บาท) เงินสด 40,000 ลูกหนี้ 140,000 หกั คา เผ่อื หนส้ี งสัยจะสญู 10,000 130,000 สินคาคงเหลือ 60,000 ทด่ี นิ 100,000 330,000 หนสี้ ินและสวนของผเู ปน หนุ สวน เจา หนี้ 40,000 ทุน – จา 160,000 ทุน – มร 130,000 290,000 330,000 194
195 ในการเปลี่ยนกิจการครั้งนี้ไดมีการปรับปรุงสินทรัพย และหนี้สินใหม ดังนี้ สินคา ใหมีราคาเหลือเพียง 50,000 บาท และที่ดินใหมีราคาเพิ่มข้ึนอีก 60,000 บาท บริษัทไดรับโอน สินทรพั ย และหนีส้ ินทั้งหมดยกเวนเงนิ สด (โดยมีสนิ ทรพั ย และหนี้สินอืน่ รับโอนในราคาทุน) บริษัทเทพสินจํากัด มีทุนจดทะเบียนเปนหุนสามัญทั้งหมด จํานวน 6,000 หุน ๆ ละ 100 บาท ในการรับโอนกิจการจากหางหุนสวนมาเปนบริษัทนี้ กิจการไดออกหุนสามัญให จาํ นวน 4,000 หุน ในราคามลู คา หนุ ทเี่ หลอื บรษิ ทั ไดน ําออกขายในราคาหนุ ละ 120 บาท การคํานวณหาคาความนิยมทําไดด ังนี้ มูลคาหุน ทร่ี ับโอน (4,000 x 100) = 400,000 หกั ทนุ เดมิ (290,000) + ทุนท่ีปรบั ปรุง (50,000) - เงนิ สดทไ่ี มไ ดโ อน (40,000) = 300,000 คา ความนยิ ม = 100,000 การบันทกึ บัญชเี ปนดังนี้ สมดุ รายวันทวั่ ไป วนั ที่ รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต บัญชี 25x2 31 ทด่ี ิน 60,000 - ธ.ค. สินคา คงเหลอื 10,000 - ทนุ - จา (50,000 x 3/5) 30,000 - ทนุ - มร (50,000 x 2/5) 20,000 - ปรับปรุงสนิ ทรัพย และหน้ีสนิ กอนเปลย่ี น กจิ การเปน บรษิ ัทจํากดั คาความนิยม 100,000 - ทุน – จา 60,000 - ทนุ – มร 40,000 - บนั ทึกคาความนิยม โดยแบง เขา บัญชีทนุ จา และทุน มร 195
196 สมุดรายวนั ทว่ั ไป วันที่ รายการ เลขท่ี เดบิต เครดติ 240,000 - บญั ชี 160,000 - 400,000 - 25x2 31 ทนุ - จา (400,000 x 3/5) 10,000 - 40,000 - 30,000 - 200,000 - ธ.ค. ทนุ - มร (400,000 x 2/5) 40,000 - 240,000 - ทนุ เรือนหนุ (40,000 x 100) เปลยี่ นบัญชที นุ ผเู ปน หนุ สว นใหเ ปน หนุ สามัญ ทุน – จา (160,000 + 90,000 – 240,000) ทุน – มร (130,000 + 60,000 – 160,000) เงนิ สด จายเงนิ สดคืนทุนที่เหลอื ใหแ กผเู ปนหนุ สว น เงนิ สด (2,000 x 120) ทนุ เรอื นหนุ (2,000 x 100) สวนเกนิ มูลคา หุน (2,000 x 20) นาํ หนุ ทเ่ี หลอื ออกขายในราคาหุนละ120บาท 196
197 บรษิ ัท เทพสิน จํากดั งบดลุ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x2 (หนว ย:บาท) สินทรพั ย เงนิ สด (40,000 – 40,000 + 220,000) 140,000 220,000 ลูกหนี้ 10,000 หกั คา เผื่อหน้ีสงสัยจะสญู 130,000 สินคา คงเหลือ (60,000 – 10,000) 50,000 ทด่ี ิน (100,000 + 60,000) 160,000 คา ความนิยม 100,000 660,000 หน้สี นิ และสว นของผูเ ปน หนุ สว น 600,000 40,000 เจาหน้ี 20,000 ทุนเรอื นหนุ (400,000 + 200,000) 620,000 สวนเกินมูลคาหุน 660,000 2. การใชสมุดบัญชีของหางหุนสวนเปนสมุดบัญชีของบริษัทตอไป มีข้ันตอนการ ปฏิบตั ิทางบญั ชี ดงั นี้ 2.1 ปรับปรงุ บัญชีสินทรัพย และหนี้สินตามราคาที่บริษัทจะรับโอน ผลตางจาก การปรับปรงุ ใหน ําไปเขาบญั ชที ุนของผเู ปน หุนสวน โดยแบง ตามอัตราสวนแบง กําไรขาดทุน 2.2 คํานวณหาคาความนิยมหรือเงินที่จะคืนใหแกผูเปนหุนสวนเหมือนกับวิธีท่ี 1 แลว แบงใหแกผ ูเ ปนหนุ สว นตามอตั ราสวนแบงกาํ ไรขาดทุน 2.3 โอนปดบัญชีทุนของผูเปนหุนสวนทุกคนไปยังบัญชีทุนหุนสามัญ หรือ บญั ชที ุนหุนบุริมสทิ ธิ ตามราคาตลาดของหนุ ทุนในวันทรี่ บั โอน 2.4 เงินสดที่กิจการมีอยูตองคืนใหแกผูเปนหุนสวนตามยอดบัญชีทุนแตละคน เทาท่ีเหลืออยู แตถามีความจําเปนตองเรียกเงินสดคืนจากหุนสวน เพ่ือใหการปดบัญชีทุนของ หนุ สว นแตล ะคนหมดไป 2.5 บรษิ ทั นาํ หนุ ท่เี หลือออกขายใหแกบคุ คลภายนอกตอไป 197
198 ตัวอยางท่ี 5.15 จากตัวอยางท่ี 5.14 ใชสมุดบัญชีชุดเดิมของหางหุนสวนเปนสมุดบัญชีของ บริษัท จา และ มร เปนหุนสวนกัน แบงกําไรขาดทุนกันในอัตราสวน 3:2 ตอมาในวันท่ี 31 ธันวาคม 25x2 ทั้งสองไดตกลงขยายกิจการจากหางหุนสวน จา มร ใหเปนบริษัทเทพสินจํากัด งบดลุ ของหา งหนุ สว น จา มร มดี งั น้ี ดานหา งหุนสว น การบนั ทกึ บัญชีเปนดงั นี้ สมุดรายวันทวั่ ไป วันท่ี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต บญั ชี 25x2 31 ทดี่ นิ 60,000 - ธ.ค. สินคา คงเหลือ 10,000 - ทุน - จา 30,000 - ทุน - มร 20,000 - ปรบั ปรุงสนิ ทรัพย และหนส้ี นิ กอนเปล่ยี น กิจการเปน บริษัทจาํ กดั คา ความนิยม 100,000 - ทุน – จา 60,000 - ทุน – มร 40,000 - บนั ทึกคาความนยิ ม โดยแบง เขา บัญชที นุ จา และทุน มร คาเผือ่ หนี้สงสยั จะสญู 10,000 - เจา หน้ี 40,000 - ทุนเรอื นหุน (4,000 x 100) 400,000 - ลกู หน้ี 140,000 - สนิ คา คงเหลือ 50,000 - ที่ดนิ 160,000 - คาความนิยม 100,000 - โอนสินทรพั ย และหนสี้ นิ เพอื่ แลกกับ หนุ สามญั จาํ นวน 4000 หนุ ๆ 100 บาท 198
199 สมุดรายวันทว่ั ไป วนั ท่ี รายการ เลขที่ เดบิต เครดติ 240,000 - 400,000 - บญั ชี 160,000 - 40,000 - 25x2 31 ทนุ - จา (400,000 x 3/5) 10,000 - 30,000 - ธ.ค. ทนุ - มร (400,000 x 2/5) ทุนเรือนหนุ แบง หุน สว นใหแ กห ุนสวนตามอัตรา สว นแบงกาํ ไรขาดทนุ ทนุ – จา (160,000 + 90,000 – 240,000) ทุน – มร (130,000 + 60,000 – 160,000) เงินสด จายเงนิ สดคนื ทุนที่เหลือใหแ กผ ูเปนหนุ สว น ทางดานบริษทั การบนั ทกึ บัญชเี ปนดังน้ี สมดุ รายวันทวั่ ไป วันท่ี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ บัญชี 140,000 - 10,000 - 50,000 - 40,000 - 25x2 31 160,000 - 400,000 - 100,000 - ธ.ค. ลูกหน้ี สินคาคงเหลือ ทด่ี ิน คา ความนยิ ม คาเผ่อื หนส้ี งสยั จะสูญ เจา หน้ี ทุนเรือนหนุ (4,000 x 100) ออกหนุ สามญั 4,000 หนุ ๆ ละ 100 บาท เพื่อแลกกับสนิ ทรพั ย และหนีส้ นิ ของหางหนุ สว น 199
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373