Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอน การบัญชีชั้นกลาง 2

เอกสารประกอบการสอน การบัญชีชั้นกลาง 2

Published by kitthanachon01, 2022-06-14 00:34:41

Description: เอกสารประกอบการสอน การบัญชีชั้นกลาง 2

Search

Read the Text Version

251 2.2 หุนบุริมสิทธิชนิดสะสมและไมรวมรับ หมายถึง หุนบุริมสิทธิจะไดัรับเงิน ปน ผล ณ ปท ่ีมีการประกาศจายและรวมกับปนผลที่ยังไดรับไมครบในปที่ผานมาแลวหรือปท่ีไมมี การประกาศจายเงินปนผล และไมรว มรบั เงนิ ปนผลทเี่ หลอื ดงั นั้นเงินปนผลท่ีเหลือจากจายปนผล ใหห นุ บรุ ิมสิทธแิ ลวจะเปน ของหุนสามญั ท้ังหมด ตัวอยา งที่ 7.8 จากตวั อยางที่ 7.7 ใหคาํ นวณหาเงนิ ปน ผลตอ หุนของหุนบุริมสทิ ธิและหุนสามญั การคาํ นวณ หุน บุริมสทิ ธิ หนุ สามัญ รวม ประกาศจา ยปน ผลป 25x1 15,000 คิดปนผลใหหนุ บรุ มิ สิทธิ (4,000 x 100 x 5%) (15,000) 15,000 . 15,000 15,000 - . 15,000 ประกาศจายปน ผลป 25x2 60,000 คิดปน ผลใหหนุ บรุ ิมสทิ ธิ : 5,000 ป 25x1 ป 25x2 (4,000 x 100 x 5%) 20,000 (25,000) 25,000 25,000 คิดปน ผลใหห ุนสามญั ทง้ั หมด 35,000 (35,000) . 35,000 35,000 25,000 35,000 60,000 ป 25x 1 หุนบุรมิ สทิ ธไิ ดรับเงินปนผลหนุ ละ(15,000 ÷ 4,000 หุน) = 3.75 บาท ป 25x 2 หนุ บุริมสิทธไิ ดร บั เงนิ ปน ผลหนุ ละ(25,000 ÷ 4,000 หนุ ) = 6.25 บาท 1.75 บาท หุนสามญั ไดรบั เงินปนผลหนุ ละ (35,000 ÷ 20,000 หุน) = 250

252 2.3 หุนบุริมสิทธิชนิดไมสะสมและรวมรับ หมายถึง หุนบุริมสิทธิไมสะสมจะ ไดัรับเงินปนผลเพียงเฉพาะปที่มีการประกาศจายปเดียวเทาน้ัน และรวมรับเงินปนผลท่ีเหลือกับ หุนสามัญอกี ครงั้ หนงึ่ หลงั จากจา ยปน ผลใหห นุ บรุ มิ สทิ ธแิ ละหุนสามญั รอบแรกแลว ตวั อยา งที่ 7.9 จากตัวอยางที่ 7.7 ใหค าํ นวณหาเงินปน ผลตอหุนของหนุ บรุ มิ สิทธิและหนุ สามัญ การคํานวณ หุนบรุ มิ สทิ ธิ หุนสามญั รวม ประกาศจา ยปน ผลป 25x1 15,000 คดิ ปน ผลใหห นุ บุริมสิทธิ (4,000 x 100 x 5%) (15,000) 15,000 . 15,000 15,000 - . 15,000 ประกาศจายปนผลป 25x2 60,000 คิดปน ผลใหหุน บรุ ิมสิทธิ (4,000 x 100 x 5%) (20,000) 20,000 20,000 40,000 คิดปนผลใหห นุ สามญั (20,000 x 10 x 5%) (10,000) 10,000 10,000 4 30,000 6 หนุ บุริมสทิ ธิรวมรบั เงินปน ผล (30,000 x ) (20,000) 20,000 20,000 (10,000) . 10,000 หุนสามัญรวมรับเงนิ ปน ผล (30,000 x 2 ) 10,000 6 30,000 30,000 60,000 ป 25x 1 หนุ บุรมิ สิทธไิ ดรบั เงินปน ผลหนุ ละ(15,000 ÷ 4,000 หุน) = 3.75 บาท ป 25x 2 หุนบุรมิ สทิ ธิไดรับเงนิ ปนผลหุน ละ(30,000 ÷ 4,000 หุน ) = 7.50 บาท 1.50 บาท หุนสามญั ไดรับเงนิ ปน ผลหุน ละ (30,000 ÷ 20,000 หนุ ) = จากตัวอยางที่ 7.9 การรวมรับเงินปนผลที่เหลืออีกจํานวน 30,000 บาทจะคํานวณ จากมูลคาของหุนบุริมสิทธิจํานวน (4,000 หุน x 100 บาท) 400,000 บาท และมูลคาของหุน สามัญจํานวน (20,000 หุน x 10 บาท) 200,000 บาท รวมทั้งหมดเปนมูลคารวม 600,000 บาท โดยแบงตามสดั สว นของมลู คาหนุ ตอ มมลู คา รวม 251

253 2.4 หุนบุริมสิทธิชนิดสะสมและรวมรับ หมายถึง หุนบุริมสิทธิไมสะสมจะ ไดัรับเงินปนผลเพียงเฉพาะปที่มีการประกาศจายปเดียวเทานั้น และรวมรับเงินปนผลที่เหลือกับ หนุ สามัญอกี คร้ังหน่งึ หลังจากจา ยปนผลใหห นุ บรุ ิมสิทธแิ ละหุนสามัญรอบแรกแลว ตัวอยา งท่ี 7.10 จากตวั อยางท่ี 7.7 ใหคํานวณหาเงนิ ปนผลตอหนุ ของหนุ บรุ ิมสทิ ธแิ ละหุน สามญั การคาํ นวณ หนุ บุริมสิทธิ หนุ สามัญ รวม ประกาศจา ยปนผลป 25x1 15,000 คิดปนผลใหห ุนบุริมสทิ ธิ (4,000 x 100 x 5%) (15,000) 15,000 . 15,000 15,000 - . 15,000 ประกาศจายปนผลป 25x2 60,000 คดิ ปนผลใหหนุ บุริมสิทธิ : ป 25x1 5,000 ป 25x2 (4,000 x 100 x 5%) 20,000 (25,000) 25,000 25,000 35,000 คดิ ปน ผลใหหนุ สามญั (20,000 x 10 x 5%) (10,000) 10,000 10,000 4 25,000 6 หนุ บรุ มิ สทิ ธิรวมรับเงินปนผล (25,000 x ) (16,667) 16,667 16,667 (8,333) . 8,333 8,333 หุนสามญั รวมรับเงินปน ผล (25,000 x 2 ) 6 41,667 18,333 60,000 ป 25x 1 หนุ บรุ มิ สิทธิไดรบั เงนิ ปน ผลหนุ ละ(15,000 ÷ 4,000 หุน) = 3.75 บาท ป 25x 2 หนุ บรุ ิมสทิ ธิไดร ับเงินปน ผลหนุ ละ(41,667 ÷ 4,000 หนุ ) = 10.42 บาท 0.92 บาท หุน สามญั ไดรบั เงินปนผลหุนละ (18,333 ÷ 20,000 หุน) = 252

254 วนั ทีเ่ กยี่ วขอ งกบั การจายปน ผล วนั ที่เก่ียวขอ งกบั การจายปนผล มีดวยกนั 4 วนั ดังน้ี 1. วันประกาศจาย (date of declaration) เปนวันที่บริษัทประกาศจายปนผล ในวันน้ี ถือวาบริษัทมีภาระผูกพันกับผูถือหุนเกิดขึ้น ดังนั้นบริษัทจะตองลงบันทึกบัญชีตั้งแต วันประกาศจายปนผล โดยบริษัทมหี น้ีสินคอื เงินปนผลคางจายเกดิ ขึ้น 2. วันทบ่ี นั ทึกชอื่ ผูมีสทิ ธิไดร บั เงินปนผล (date of record) คณะกรรมการบริษัทตอง กําหนดวาการจายเงินปนผลน้ีจะจายใหกับผูถือหุนที่มีรายช่ือปรากฎอยูในทะเบียนผูถือหุนใน วนั ทใ่ี ด 3. วันปดรับการโอนหุน (ex-dividend date) กอนบริษัทจะทําการรวบรวมรายชื่อ ผูถือหุนท่ีมีสิทธิไดรับเงินปนผลตามท่ีปรากฏอยูในทะเบียนผูถือหุนท่ีคณะกรรมการบริษัท กําหนด บริษัทมักจะประกาศงดการรับโอนหุนเปนเวลา 3-5 วัน ดังนั้นในชวง 3-5 วันนี้หากมี การซ้ือขายหุน ผูถอื หนุ คนใหมจะไมมสี ทิ ธไิ ดรบั เงนิ ปน ผล 4. วันจายเงินปนผล (date of payment) ในการจายประกาศจายเงินปนผลจะ กําหนดวันจา ยปน ผลไวด วยซงึ่ โดยทวั่ ไปจะกําหนดวันจายปนผลภายหลงั จากวนั ทก่ี าํ หนดผถู อื หนุ ท่ีมีชื่ออยูในทะเบียนผูถือหุนประมาณ 2-4 สัปดาห ในวันน้ีการจายปนผลจะเปนการลดหน้ีสิน ของบริษัทคือเงนิ ปนผลคา งจายลงน่นั เอง การจายเงินปนผลระหวางกาล เงินปนผลระหวางกาล (interim dividend) เปนเงินปนผลท่ีบริษัทจายคืนใหกับ ผูถือหุนหลังจากดําเนินงานมาแลว 6 เดือน และคณะกรรมการบริษัทแนใจวาจะมีกําไรจากการ ดาํ เนนิ งานในงวดน้นั เมื่อดาํ เนนิ งานครบรอบปจึงจะสามารถคาํ นวณกาํ ไรขาดทุนท่แี นนอนและ จายปนผลไดเทาใด จึงนําสวนของเงินปนผลระหวางกาลท่ีจายไปแลวมาหักออกจากเงินปนผล ทั้งหมด สว นทีเ่ หลือเปน เงนิ ปน ผลทต่ี อ งจายตอนสนิ้ ป ตัวอยางที่ 7.11 บริษัทแหงหน่ึงมีทุนจดทะเบียน ออกจําหนายและเรียกชําระแลว 1,000,000 บาท วันท่ี 1 เมษายน 25x1 บริษัทจายเงินปนผลระหวางกาล 20,000 บาท ส้ินปบริษัทประกาศจาย เงนิ ปนผล 5% 253

255 การคํานวณ = 1,000,000 x 5% เงินปนผล = 50,000 บาท = 50,000 – 20,000 ดังน้นั ตองจา ยเงนิ ปน ผลเพ่ิมอกี = 30,000 บาท การบนั ทึกบญั ชเี ปนดังน้ี สมดุ รายวันทวั่ ไป วันที่ รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต 25x1 1 เงินปน ผลระหวา งกาล บญั ชี 20,000 - 20,000 - 100,000 - เม.ย. เงินสด 100,000 - บันทกึ การจายเงินปน ผลระหวางกาล ธ.ค. 31 กาํ ไรสะสม เงินปน ผลระหวา งกาล โอนปด บัญชีเงนิ ปนผลระหวางกาลเขา กาํ ไร สะสม ชนิดของเงินปนผลและการบันทกึ บญั ชี เมื่อบริษัทดําเนินงานประสบผลสําเร็จจะแบงกําไรสวนหน่ึงใหแกผูถือหุนเปนการ ตอบแทนการลงทุน โดยทั่วไปบริษัทจะจายปนผลเปนเงินสดแตในบางครั้งก็อาจจายปนผลเปน สินทรพั ยอ ื่นก็ได ดังนี้ 1. การจายเงินสดปนผล (cash dividends) โดยทั่วไปการจายปนผลจะจายเปน เงินสด ซ่ึงจะมีผลกระทบทําใหสินทรัพยของบริษัทลดลง ดังนั้นกอนการตัดสินใจจายเงินปน ผลเปน เงนิ สดจึงควรพิจารณาปจ จยั ตาง ๆ ดงั น้ี 1.1 ตองมเี งินสดเพียงพอ เน่ืองจากการท่บี รษิ ัทมกี ําไรไมไดห มายความวาบรษิ ทั มีเงินสดเพ่ิมข้ึนจึงควรพิจารณาถึงเงินสดวาหลังจากจายเงินปนผลแลวมีเงินสดเพียงพอท่ีจะใช หมุนเวียนภายในบรษิ ทั หรอื ไม 254

256 1.2 การจัดหาสินทรัพยไวใชเพ่ิมเติมหรือทดแทนของเดิม หรือความตองการที่ จะขยายกิจการตามแผนท่ีกําหนดไว บริษัทจําเปนที่จะตองเตรียมเงินสดไวใหเพียงพอหรือเมื่อ จายปน ผลไปแลวจะยงั มีเงนิ สดคงเหลอื เพยี งพอในการดําเนนิ งานตามทก่ี ําหนดไว 1.3 วันครบกําหนดชําระหน้ีท่ีเปนจํานวนเงินมาก คณะกรรมการควรตองกัน เงนิ สดไวเ พ่อื ใหเ พยี งพอตอ การชําระหน้ี 1.4 เงินทุนหมุนเวียน บริษัทตองระวังการจายปนผลในอัตราสูงเกินไปจะทําให อตั ราเงินทุนหมนุ เวยี นของบรษิ ัทลดลงจนถึงขดี อนั ตราย ตวั อยางท่ี 7.12 บรษิ ทั แหง หนึง่ มีหนุ สามญั ท้งั หมด 10,000 หนุ ราคาตามมูลคาหุน ๆ ละ 100 บาท ประกาศจายเงินปนผลเม่ือวันท่ี 4 มีนาคม 25x1 หุนละ 3 บาท โดยจะจายปนผลในวันที่ 30 เมษายน 25x1 ใหแ กผ ถู อื หนุ ท่มี รี ายชอ่ื อยูในทะเบียนผูถือหนุ ในวันที่ 20 มีนาคม 25x1 การบนั ทึกบญั ชีเปนดงั น้ี สมุดรายวันทวั่ ไป วนั ท่ี รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต 25x1 4 กาํ ไรสะสม 30,000 - บญั ชี มี.ค. เงินปน ผลคา งจา ย 30,000 - ประกาศจา ยปน ผลหนุ ละ 3 บาท 30,000 - เม.ย. 30 เงนิ ปน ผลคางจาย 30,000 - เงินสด จายเงินปน ผล ณ วันที่ประกาศจายเงินปนผล บริษัทอาจจะเดบิตบัญชีเงินปนผลแทนบัญชีกําไร สะสมแตสนิ้ ปจะตอ งปด บญั ชเี งินปน ผลเขาบญั ชกี ําไรสะสมดว ย และในวันท่ีบันทึกช่ือผูมีสิทธิ ไดรับเงินปนผลไมตองบันทึกบัญชีใด ๆ ท้ังสิ้น นอกจากนี้บริษัทจะไมจายเงินปนผลใหสําหรับ หนุ ทุนซื้อคืน เพราะมไิ ดอ ยใู นมอื บุคคลภายนอก 2. การจายปนผลเปนสินทรัพย (property dividends) บริษัทอาจจายปนผลเปน สินทรัพยอื่นที่มิใชเงินสดก็ได เชน สินคา หรือหลักทรัพยของบริษัทอ่ืนท่ีถือไวเปนเงินลงทุน ช่วั คราว หรือเงินลงทุนระยะยาว เปนตน เมื่อมีการประกาศจายเงินปนผลสินทรัพยในปจจุบันนี้ 255

257 เมื่อมกี ารประกาศจายเงนิ ปนผลใหบ ันทกึ บญั ชีโดยเดบติ บัญชีกําไรสะสมดวยมูลคายุตธิ รรมของ สินทรัพยน้ัน ซ่ึงก็คือราคาท่ีจะสามารถขายสินทรัพยนั้นได ณ วันประกาศจายหรือในเวลา ใกลเ คยี งกบั วนั ทีป่ ระกาศจาย ถาไมทราบมลู คา ยุตธิ รรมกอ็ าจใชร าคาที่ตขี ้ึนก็ได APB Opinion No.29 ไดกลาวถึงการบัญชีสําหรับการจายเงินปนผลเปนสินทรัพยท่ี มิใชเงินสดวาการโอนสินทรัพยที่มิใชเงินสดใหแกผูถือหุนหรือกิจการอ่ืนโดยมิไดรับสินทรัพย อืน่ เปนการแลกเปล่ียน ควรจะบันทึกการโอนสินทรัพยน้ันโดยใชมูลคายุติธรรม และรับรูกําไร หรอื ขาดทุนจากการโอนสินทรพั ยน น้ั การบันทึกการจา ยเงินปนผลดว ยมลู คายตุ ธิ รรมของสินทรพั ย ชวยใหบริษัทสามารถ เปรียบเทียบอัตราเงินปนผลในอนาคตได ถาตอมาบริษัทตองการจายเงินสดปนผลแทน สินทรัพยก็สามารถคํานวณหาอัตราเงินปนผลไดงายขึ้น เมื่อมีการประกาศจายเงินปนผลเปน สินทรัพย บริษัทจะตองปรับปรุงบัญชีสินทรัพยใหเทากับมูลคายุติธรรม และรับรูกําไรหรือ ขาดทุนซ่ึงเกิดจากผลตางระหวางมูลคายุติธรรม และราคาตามบัญชีของสินทรัพย ณ วันท่ี ประกาศจาย แลวบันทึกบัญชีโดยเดบิตบัญชีกําไรสะสม และเครดิตบัญชีเงินปนผลคางจายดวย มูลคายุติธรรมของสินทรัพยนั้น บัญชีเงินปนผลคางจายในท่ีนี้ถือเปนหนี้สินหมุนเวียนในงบดุล ณ วนั ทีจ่ ายเงนิ ปน ผลก็จะเดบิตเงินปน ผลคางจาย และเครดิตบัญชีสินทรัพยดวยมูลคายุติธรรมท่ี ไดปรับปรุงไวแ ลว ตัวอยางท่ี 7.13 บริษัทแหงหน่ึง ไดประกาศจายเงินปนเปนผลหลักทรัพยในความตองการ ของตลาด เมื่อวันท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 หลกั ทรัพยม ีราคาทุน 750,000 บาท โดยจะจายปนผลวันที่ 22 มกราคม 25x2 ใหกับผูถือหุน ซึ่งมีรายช่ืออยู ณ วันท่ี 10 มกราคม 25x2 ณ วันที่ประกาศ จายเงินปนผลหลักทรพั ยมีมลู คายตุ ธิ รรม 900,000 บาท 256

258 การบนั ทึกบัญชีเปน ดงั นี้ สมุดรายวนั ทว่ั ไป วนั ที่ รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต 25x1 31 เงนิ ลงทนุ ในหลักทรพั ย บญั ชี 150,000 - 150,000 - ธ.ค. รายการกําไรจากการปรบั มลู คา 900,000 - 900,000 - หลกั ทรัพย 900,000 - 900,000 - ปรับราคาหลกั ทรัพยใหแ สดงดว ยมลู คา ยุติธรรม กาํ ไรสะสม เงนิ ปนผลคางจาย- เงนิ ลงทนุ ประกาศจายปน ผลเปน หลกั ทรัพย 25x2 22 เงินปน ผลคางจา ย - เงินลงทนุ ม.ค. เงนิ ลงทุนในหลกั ทรัพย จา ยเงินปน ผลใหผถู ือหนุ เปน หลกั ทรพั ย 3. การจายปนผลเปนเอกสารแสดงหนี้ (scrip dividends) บริษัทอาจจายปนผลเปน เอกสารหนี้แทนการจายเงินสดปนผล เนื่องจากบริษัทมีเงินสดคงเหลือไมเพียงพอท่ีจะจาย เงินปนผล บริษัทจึงอาจเลือกจายเงินปนผลโดยยืดระยะเวลาออกไปอีกชวงระยะเวลาหนึ่ง โดย การจายเปนเอกสารแสดงหน้ีซ่ึงมักจะจายเปนตั๋วเงิน ดังนั้นเมื่อมีการประกาศจายเงินปนผลเปน ต๋ัวเงิน บริษัทจะบันทึกบัญชีโดยเดบิตบัญชีกําไรสะสมและเครดิตบัญชีเงินปนผลคางจายดวย มูลคาหนาตั๋ว บัญชีน้ีจะแสดงเปนหน้ีสินหมุนเวียนในงบดุลเม่ือครบกําหนดจายเงินตามต๋ัวเงิน บริษัทจะบันทึกบัญชีโดยเดบิตบัญชีเงินปนผลคางจาย - ตั๋วเงิน และเครดิตบัญชีเงินสด ถาเปน ตวั๋ เงินชนิดมีดอกเบย้ี เม่อื ครบกาํ หนดผถู ือตั๋วเงนิ กจ็ ะไดรบั เงินสดพรอมดอกเบ้ียบริษัทจะบันทึก ดอกเบีย้ เปน คาใชจา ยเพราะดอกเบีย้ ไมไ ดถอื เปน สว นหน่ึงของเงนิ ปน ผล 257

259 ตัวอยางท่ี 7.14 บริษัทแหงหนึ่ง ซ่ึงตองการที่จะจายเงินปนผลอยางสมํ่าเสมอแตขาดเงินสดใน ขณะนี้ ไดประกาศจายเงินปนผลเม่ือวันที่ 10 มกราคม 25x2 โดยออกเปนต๋ัวเงินกําหนดเวลา 1 เดือน ใหกับหุนสามัญที่นําออกจําหนายแลว 100,000 หุน ในอัตราหุนละ 10 บาท สําหรับผูมี รายช่ืออยู ณ วันท่ี 27 ธันวาคม 25x1 ต๋ัวเงินมีอัตราดอกเบ้ีย 6% ตอป จะครบกําหนดในวันที่ 10 กุมภาพนั ธ 25x2 การบนั ทกึ บญั ชีเปนดังน้ี สมุดรายวันทวั่ ไป วนั ท่ี รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต บญั ชี 25x2 10 กาํ ไรสะสม (100,000 หุน x 10 บาท) 1,000,000 - ม.ค. เงินปน ผลคางจาย - ต๋ัวเงนิ 1,000,000 - ประกาศจายเงนิ ปนผลเปนตวั๋ เงิน 1,000,000 - ก.พ. 10 เงนิ ปนผลคางจาย - ตัว๋ เงนิ 5,000 - ดอกเบี้ยจาย(1,000,000 x 6% x 112 ) 1,005,000 - เงินสด จา ยเงนิ ปน ผลตามตั๋วเงิน 4. การจายปนผลในลักษณะคืนทุน (liquidating dividends) เงินปนผลโดยทั่วไปจะ จายจากกําไรสะสมซ่ึงเกิดจากการดําเนินกิจการแลวมีกําไร แตในบางครั้งบริษัทอาจจาย ปน ผลเกินกวากําไรสะสมท่ีหาได ดังนั้นสวนของปนผลที่จายเกินกวากําไรสะสมจึงถือเปนการจาย คนื ทุน บริษทั จึงควรระบขุ อมลู ใหชัดเจนไปพรอ มกบั การจายเงนิ ปนผลวาเปน การแบงกาํ ไรหรอื การจายคืนทุน ซึ่งการจายเงินปนผลในลักษณะคืนทุนมักจะนํามาใชกับบริษัทผูจายปนผล ดาํ เนินกิจการเกย่ี วกับทรพั ยากรธรรมชาติ เชน เหมอื งแร ปาไม เปนตน หรือบริษัทผูจายปนผล กําลงั เลกิ กจิ การ 258

260 ตัวอยางทึ่ 7.15 บริษัท เหมืองธนากร จํากัด ไดประกาศจายเงินปนผลมูลคา 3,000,000 บาท ใหก บั ผูถือหุนสามัญโดยระบุวา เงินจาํ นวน 1,000,000 บาท เปน การจา ยจากกาํ ไรสวนท่เี หลือถือ เปนการจายคนื ทุน โดยมีรายละเอียดในงบดลุ ดงั น้ี บรษิ ัท เหมืองธนากร จาํ กดั งบดลุ วันท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 (หนว ย:บาท) สนิ ทรัพย หนี้สินและสว นของผูเปนหนุ สว น เงินสด ลูกหนี้ 3,500,000 - เจา หน้ี 2,000,000 - อุปกรณ เหมืองแร 500,000 - ทนุ เรอื นหุน 5,800,000 - หกั มูลคา เส่อื มสิน้ รวมสนิ ทรัพย 800,000 - กําไรสะสม 1,000,000 - 5,000,000 1,000,000 4,000,000 - 8,800,000 - รวมหน้สี ินและสวนของผเู ปน หุน สวน 8,800,000 - การบันทกึ บญั ชีเปนดังน้ี สมุดรายวนั ทว่ั ไป วนั ที่ รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต บญั ชี กําไรสะสม 1,000,000 - เงนิ ทนุ จายคืนผูถือหุน 2,000,000 - เงินปนผลคางจา ย 3,000,000 - ประกาศจายเงนิ ปนผล 3,000,000 - เงนิ ปนผลคางจา ย 3,000,000 - เงินสด จายเงินปน ผล 259

261 จากตัวอยางการจายปนผลมีเงินสดเพียงพอท่ีจะจายเงินปนผลได 3,000,000 บาท โดยเปนการจายปนผลจากกําไรสะสมเพียง 1,000,000 บาท ที่เหลืออีก 2,000,000 บาทถือวาเปน การจา ยคืนทุน ทงั้ น้ีหลังจากการจายปน ผลงบดุลจะเปน ดงั น้ี บรษิ ัท เหมอื งธนากร จาํ กัด งบดลุ วันท่ี 31 ธันวาคม 25x1 (หนว ย:บาท) สินทรพั ย หน้สี นิ และสวนของผูเปนหนุ สวน เงินสด ลูกหน้ี 500,000 - เจา หน้ี 2,000,000 - อปุ กรณ เหมอื งแร 500,000 - ทนุ เรอื นหุน 5,800,000 หกั มลู คา เสือ่ มส้นิ รวมสินทรัพย 800,000 - หกั เงนิ ทุนจายคนื 5,000,000 ผูถ อื หุน 2,000,000 3,800,000 - 1,000,000 4,000,000 - 5,800,000 - รวมหนสี้ ินและสว นของผูเปน หนุ สว น 5,800,000 - 5. การจายหุนปนผล (stock dividends) บริษัทอาจมีเงินสดไมเพียงพอตอการ จายเงินปนผล หรืออาจเกิดจากบริษัทตองการเก็บเงินสดไวเพื่อสรางสภาพคลอง หรือตองการ ขยายกิจการ โดยจะโอนกําไรสะสมบางสวนขึ้นเปนทุนอยางถาวร บริษัทอาจออกหุนทุน เพ่ิมเติมหรือนําหุนทุนที่ยังไมไดออกจําหนายมาจายปนผลใหกับผูถือหุนตามสัดสวนของหุนท่ี ถืออยู โดยท่ัวไปแลวหุนปนผลจะเปนชนิดเดียวกับหุนที่ถืออยูเดิม เชน ประกาศจายหุนสามัญ ปนผลใหกับผูถือหุนสามัญ เปนตน ดังนั้นจึงไมทําใหสัดสวนของการถือหุนเปลี่ยนแปลง แต หากมีการประกาศจายหนุ ปนผลคนละชนิดกบั หุนที่ถอื อยู เชน ประกาศจา ยหุนบรุ ิมสทิ ธใิ หกบั ผู ถือหุนสามัญ หรือประกาศจายหุนสามัญใหกับผูถือหุนบุริมสิทธิ เปนตน การจายหุนปนผลน้ี บริษัทจะไมไดจายสินทรัพยออกไป เพียงแตมีการโอนเปล่ียนแปลงกําไรสะสมเปนทุนเทานั้น จึงไมท ําใหส ว นของผูถอื หุน ผูถ ือหุนโดยยอดรวมเปลยี่ นแปลงไป การบันทึกบัญชี ณ วันประกาศจายหุนปนผล บริษัทจะโอนกําไรสะสมไปยังบัญชี ทุนเรือนหุนและบัญชีสวนเกินกวามูลคาหุน ซ่ึงการราคาหุนท่ีโอนไปน้ีคณะกรรมการหลักการ 260

262 บัญชีของสถาบันนักบัญชีของประเทศสหรัฐอเมริกาไดเสนอแนวทางการประเมินมูลคาไวดังน้ี (พัชรินทร ไตรรัตนร ุงเรอื ง, 2547, หนา 8-51) 1. ใหตีราคาของหุนปนผลดวยราคาตลาดของหุนในปจจุบัน ถามีอัตราการจายหุนปน ผลไมเกนิ 20 – 25% ถือวา หุนปนผลมีจาํ นวนไมม ากพอท่ีอาจจะกระทบตอราคาตลาดในปจ จุบนั 2. ใหตีราคาของหุนปนผลดวยราคาตามมูลคาหรือราคาอยางต่ําท่ีคาดวาจะจําหนาย ไดตามที่กฎหมายประเทศสหรัฐอเมริกากําหนด ถามีอัตราการจายปนผลเกิน 20 – 25% ถือวา หุนปนผลมีจํานวนมากพอที่อาจจะกระทบตอราคาตลาดในปจจุบัน อาจจะทําใหราคาตลาด ปรบั ลดลงกไ็ ดถา ปริมาณของหุน เขา ตลาดมากเกนิ ไป ตัวอยางที่ 7.16 บริษัทแหงหน่ึงมีทุนหุนสามัญจดทะเบียนนําออกจําหนายและอยูในมือผูถือ หุนแลว จํานวน 1,000 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 100 บาท นําออกจํานายในราคาตามมูลคาหุน ในวันส้นิ งวดบญั ชวี ันท่ี 31 ธันวาคม 25x1 บริษัทมียอดกําไรสะสมคงเหลือ 50,000 บาท บริษัท ประกาศจายหุนสามัญปนผลในอัตรา 10% ราคาตลาดของหุนสามัญในวันน้ีหุนละ 108 บาท การจายหุนปนผลกรณีน้ีเปนการจายหุนปนผลไมเกิน 20 – 25% บริษัทจะตองใชราคาตลาดใน ปจ จบุ ันบันทกึ บญั ชี ดังนี้ จาํ นวนหนุ ปนผลท่ีประกาศจา ย = 1,000 x 10% = 100 หนุ การบันทกึ บญั ชีเปน ดังน้ี สมุดรายวนั ทว่ั ไป วันที่ รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต กําไรสะสม (100 x 108 ) บัญชี 10,800 - 10,000 - หุนสามญั ปน ผลคา งจา ย(100 x 100) 10,800 - 800 - สว นเกินกวา มูลคา หนุ สามญั (100 x 8) 10,800 - ประกาศจายหนุ ปนผลในอัตรา10% หุนสามัญปน ผลคา งจา ย ทนุ หนุ สามญั จายหนุ ปน ผลในราคาตลาดปจจบุ นั 261

263 จากตัวอยางที่ 7.16 ผลของการจายหุนปนผลไมไดกระทบสินทรัพยหรือหน้ีสิน แต เปนเพียงการโอนจัดประเภทบัญชีในสวนของผูถือหุนใหมเทาน้ัน ไมวามูลคาของหุนสามัญ ณ วันประกาศจายจะเปนเทาใดก็ตามผูถือหุนสามัญยังคงมีสัดสวนของหุนในบริษัทเทาเดิม เพื่อ แสดงถงึ ผลของการประกาศจา ยหนุ สามัญปนผล ใหพิจารณาผลกระทบจากตวั อยา งท่ี 7.16 ดงั น้ี หุนสามัญปน ผล 10% กอนประกาศจา ยหนุ สามัญปน ผล หุนสามัญ 1,000 หุน ราคาตามมูลคา หนุ ละ 100 บาท 100,000 กาํ ไรสะสม 50,000 รวมสว นของผูถ ือหุน 150,000 สทิ ธสิ วนไดเสียของผูถือหุนในบรษิ ทั (จาํ นวนผถู อื หุนอาจไมตรงกบั ความเปน จริง) นาย เอ 600 หุน สทิ ธิสว นไดเ สีย 60% ราคาตามบญั ชี 90,000 นาย บี 300 หุน สิทธิสวนไดเ สีย 30% ราคาตามบัญชี 45,000 นาย ซี 100 หุน สทิ ธิสวนไดเสยี 10% ราคาตามบัญชี 15,000 150,000 หลังจากประกาศจา ยแตก อ นการจา ยหุน สามัญปนผล 10% หนุ สามญั 1,000 หุน ราคาตามมลู คาหนุ ละ 100 บาท 100,000 หุนสามญั ปนผลคางจา ย 100 หุน ราคาตามมลู คาหนุ ละ 100 บาท 10,000 สวนเกินมลู คา หนุ สามัญ 800 กําไรสะสม (50,000 – 10,800) 39,200 รวมสว นของผูถ อื หนุ 150,000 หลังจากจายหนุ สามญั ปนผล 10% หนุ สามัญ 1,100 หุน ราคาตามมูลคา หนุ ละ 100 บาท 110,000 สว นเกนิ มลู คา หนุ สามัญ 800 กําไรสะสม 39,200 รวมสวนของผถู ือหุน 150,000 สิทธิสว นไดเ สียของผถู อื หนุ ในบรษิ ทั นาย เอ 660 หุน สิทธสิ วนไดเ สีย 60% ราคาตามบัญชี 90,000 นาย บี 330 หนุ สิทธิสวนไดเสยี 30% ราคาตามบัญชี 45,000 นาย ซี 110 หุน สิทธสิ วนไดเ สยี 10% ราคาตามบญั ชี 15,000 150,000 262

264 จากสวนของผูถือหุนขางตนจะเห็นวา หลังจากประกาศจายหุนสามัญปนผลแลว สว นของผถู ือหนุ รวมและสิทธสิ ว นไดเ สยี ของผูถอื หนุ จะไมเ กดิ การเปล่ยี นแปลง ตัวอยา งที่ 7.17 จากตวั อยางท่ี 7.16 สมมติวาบริษัทประกาศจายหุนปนผลในอัตรา 30% การจาย หุนปนผลกรณีน้ีเปนการจายหุนปนผลเกิน 20 – 25% บริษัทจะตองใชราคาตามมูลคาหุนบันทึก บัญชี ดังน้ี จํานวนหนุ ปนผลที่ประกาศจา ย = 1,000 x 30% = 300 หุน การบันทึกบญั ชเี ปนดังนี้ สมุดรายวันทวั่ ไป วนั ท่ี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ กําไรสะสม (300 x 100) บัญชี 30,000 - 30,000 - 30,000 - หุน สามัญปนผลคา งจา ย(300 x 100) 30,000 - ประกาศจายหนุ ปน ผลในอัตรา30% หนุ สามัญปนผลคา งจาย ทนุ หุนสามญั จา ยหนุ ปน ผลในราคาตามมูลคา หนุ จากตัวอยางท่ี 7.17 ณ วันประกาศจายหุนปนผลผูถือหุนสามัญยังคงมีสัดสวนของหุน ในบริษัทเทาเดิม เพ่ือแสดงถึงผลของการประกาศจายหุนสามัญปนผล ใหพิจารณาผลกระทบ จากตวั อยางที่ 7.17 ดังน้ี 263

265 หนุ สามัญปนผล 10% กอ นประกาศจายหนุ สามัญปนผล หุนสามญั 1,000 หุน ราคาตามมูลคาหนุ ละ 100 บาท 100,000 กําไรสะสม 50,000 รวมสว นของผูถือหนุ 150,000 สทิ ธสิ ว นไดเสียของผถู อื หุน ในบรษิ ทั (จาํ นวนผถู ือหนุ อาจไมต รงกบั ความเปน จรงิ ) นาย เอ 600 หนุ สิทธิสวนไดเ สีย 60% ราคาตามบัญชี 90,000 นาย บี 300 หุน สทิ ธิสวนไดเ สยี 30% ราคาตามบัญชี 45,000 นาย ซี 100 หนุ สทิ ธิสว นไดเ สยี 10% ราคาตามบญั ชี 15,000 150,000 หลงั จากประกาศจา ยแตก อ นการจายหุนสามัญปนผล 10% หุนสามัญ 1,000 หนุ ราคาตามมูลคาหุนละ 100 บาท 100,000 หนุ สามัญปนผลคางจา ย 300 หนุ ราคาตามมูลคาหนุ ละ 100 บาท 30,000 สว นเกนิ มูลคาหนุ สามญั 2,400 กาํ ไรสะสม (50,000 – 32,400) 17,600 รวมสว นของผูถอื หุน 150,000 หลงั จากจา ยหุนสามญั ปน ผล 10% หุนสามญั 1,300 หนุ ราคาตามมลู คา หนุ ละ 100 บาท 130,000 สว นเกนิ มูลคา หนุ สามัญ 2,400 กาํ ไรสะสม 17,600 รวมสวนของผถู อื หุน 150,000 สิทธสิ ว นไดเสยี ของผถู ือหุน ในบรษิ ัท นาย เอ 780 หุน สิทธสิ ว นไดเ สีย 60% ราคาตามบญั ชี 90,000 นาย บี 390 หนุ สทิ ธสิ วนไดเสยี 30% ราคาตามบัญชี 45,000 นาย ซี 130 หนุ สทิ ธิสว นไดเ สีย 10% ราคาตามบญั ชี 15,000 150,000 จากสวนของผูถือหุนขางตนจะเห็นวา หลังจากประกาศจายหุนสามัญปนผลแลว สว นของผถู อื หุนรวมและสทิ ธิสว นไดเ สยี ของผูถอื หนุ จะไมเ กดิ การเปลยี่ นแปลง 264

266 สิทธิรบั หนุ ปนผลไมเ ต็มหนุ ในกรณีท่ีบริษัทประกาศจายหุนปนผลอาจผูถือหุนอาจประสบปญหาเก่ียวกับการ ออกใบหุนซ่ึงผูถือหุนท่ีมีหุนของบริษัทอยูนอย อาจไดรับหุนปนผลไมเต็มหุน เชน บริษัท ประกาศจายหุนสามัญ 5% ผูท่ีถือหุนสามัญอยูนอยกวา 20 หุน จะไดรับหุนปนผลไมเต็มหุน เปน ตน เพอื่ หลกี เล่ยี งปญหาดงั กลา ว บริษัททป่ี ระกาศจา ยหุน ปน ผลจะใหทางเลอื กแกผูถือหุนท่ี จะรับเงินสดสําหรับหุนเปนผลที่ไมเต็มหุนน้ันตามมูลคายุติธรรม หรือบริษัทอาจออกใบสําคัญ แสดงสิทธิรับหุนปนผลใหสําหรับหุนปนผลไมเต็มหุน เชน นายสงกรานตถือหุนสามัญของ บริษัทมีสุขอยู 110 หุน บริษัทประกาศจายหุนสามัญปนผล 5% นายสงกรานตจะไดรับหุน 5.5 หุน (110 หุน x 5%) บริษัทจะออกใบสําคัญแสดงสิทธิใหนายสงกรานต 0.5 หุน หลังจากออก ใบสําคัญแสดงสิทธิแลวใบสําคัญแสดงสิทธิจะมีการซ้ือขายกันในทองตลาด นายสงกรานต อาจจะขายใบสําคัญแสดงสิทธิ 0.5 หุนของตนใหผูถือหุนรายอื่น หรืออาจซื้อใบสําคัญแสดง สทิ ธิ 0.5 หนุ จากผถู ือหนุ อื่นก็ได หรือไมใ ชส ิทธิโดยปลอ ยใหส ิทธิหมดอายุไป เปน ตน การบันทกึ บัญชใี นกรณีรบั หนุ ปนผลไมเ ตม็ หนุ ตอ งพิจารณากอ นวา บรษิ ัทจายปนผล ในอัตราเทาใด ถาจายหุนปนผลในอัตราไมเกิน 20 – 25% ใหใชราคาตลาดปจจุบันบันทึกบัญชี แตถาจายหนุ ปน ผลในอตั ราเกิน 20 – 25% ใหใ ชราคาตามมลู คาหนุ บนั ทึกบญั ชี ตัวอยางที่ 7.18 บริษัทแหงหนึ่งไดประกาศจายหุนสามัญปนผลในอัตรา 10% (ผูถือหุนสามัญ 10 หุน จะไดหุนสามัญปนผล 1 หุน) บริษัททจดทะเบียนหุนสามัญและนําออกจําหนายแลว 1,000 หุน ราคาตามมูลคาหุนละ 10 บาท หุนสามัญปนผลที่ตองจายทั้งหมด 100 หุนน้ัน บริษัท ออกเปนใบหุน 70 หุน และใบสําคัญแสดงสิทธิอีก 300 สิทธิ ใบสําคัญแสดงสิทธิ 1 สิทธิ จะมี 1 สทิ ธิไดร บั หุน 10 หุน ณ วันน้ีหุน สามัญมมี ูลคา ยุตธิ รรมหุนละ 20 บาท 265

267 การบันทกึ บญั ชีเปน ดงั น้ี เดบติ เครดิต สมุดรายวันทว่ั ไป 2,000 - 1,000 - วันท่ี รายการ เลขที่ 1,000 - 1,000 - บญั ชี 700 - กําไรสะสม (100 x 20) 300 - หุน สามญั ปน ผลคางจา ย(100 x 10) สวนเกนิ มลู คาหุนสามญั (100 x 10) ประกาศจายหนุ ปน ผลในอัตรา10% หนุ สามญั ปนผลคางจาย ทนุ หนุ สามญั (70 x 10) สทิ ธิในหนุ ปนผลไมเ ต็มหุน (30 x 10) จายหนุ ปนผลในราคาตลาดปจ จบุ นั พรอม ใบสําคัญแสดงสิทธิ จากตัวอยา ง ผูถือหนุ สามารถนาํ ใบสาํ คญั แสดงสิทธิมาใชใ นกรณีตาง ๆ ดงั น้ี 1. ผูถือหุนนําใบสําคัญแสดงสิทธิท้ังหมด จากตัวอยางท่ี 7.18 สมมติวาผูถือหุนนํา ใบสาํ คัญแสดงสทิ ธมิ ารบั หนุ ปน ผลไปทัง้ หมด 30 หุน การบนั ทึกบัญชเี ปน ดังน้ี เดบติ เครดติ สมดุ รายวนั ทว่ั ไป 300 - วนั ที่ รายการ เลขที่ บญั ชี สิทธใิ นหนุ ปน ผลไมเตม็ หนุ ทนุ หุนสามญั 300 - นําใบสาํ คญั แสดงสิทธิมารับหนุ ปน ผลไป ท้งั หมด 30 หนุ 266

268 2. ผูถือหุนนําใบสําคัญแสดงสิทธิมาใชสิทธิบางสวน โดยสมมติวาจากตัวอยางท่ี 7.18 ผูถือหุนนําสิทธิมาใช 80% รับหุนไป 24 หุน (80% x 30 หุน) ท่ีเหลือปลอยใหสิทธิ หมดอายุ การบันทึกบัญชเี ปน ดังนี้ สมดุ รายวนั ทว่ั ไป วันที่ รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต 300 - บัญชี สทิ ธใิ นหนุ ปน ผลไมเ ตม็ หนุ ทนุ หนุ สามญั (24 x 10) 240 - สวนเกินทนุ จากการไมใชส ทิ ธริ ับ 60 - หุนปน ผล นําใบสาํ คญั แสดงสิทธิมารับหนุ ปน ผลไป 80% ท่ีเหลือปลอยใหหมดอายุ 3. ผูถือหุนนําใบสําคัญแสดงสิทธิมาใชสิทธิบางสวน และสวนที่เหลือบริษัทจะ จา ยเงนิ สดใหตามสิทธิ โดยสมมติวาจากตวั อยางท่ี 7.18 ผูถือหุน นําสิทธิมาใช 80% รับหุนไป 24 หนุ (80% x 30 หนุ ) สทิ ธทิ เ่ี หลือบรษิ ทั จายเงนิ สดใหส ิทธลิ ะ 2 บาท การบันทึกบญั ชเี ปน ดังน้ี สมดุ รายวันทว่ั ไป วันท่ี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต 300 - บัญชี สิทธใิ นหุน ปน ผลไมเ ตม็ หนุ (30 หนุ x 10) สวนเกนิ กวา มลู คา หุนสามญั (6 หุน x 10) 60 - ทุนหุน สามญั (24 หุน x 10) 240 - เงนิ สด (60 สทิ ธิ x 2) 120 - นาํ ใบสาํ คญั แสดงสทิ ธมิ ารับหุน สามัญและ เงนิ สด 267

269 4. บริษัทไมออกใบสําคัญแสดงสิทธิแตจายเงินสดใหผูถือหุนสําหรับสิทธิรับหุน ปนผลไมเต็มหุน จากตัวอยางที่ 7.18 สมมติวา บริษัทจายเงินสดใหผูถือหุนสําหรับสิทธิรับหุน ปนผลไมเต็มหุน 300 สิทธิ สิทธลิ ะ 2 บาท การบนั ทึกบัญชีเปน ดงั นี้ เดบติ เครดิต สมดุ รายวันทว่ั ไป 2,000 - วนั ท่ี รายการ เลขที่ บญั ชี กาํ ไรสะสม (100 x 20) หนุ สามญั ปนผลคางจาย(100 x 10) 1,000 - สวนเกินมลู คา หุนสามญั (100 x 10) 1,000 - ประกาศจา ยหนุ ปน ผลในอตั รา10% หุน สามัญปนผลคา งจาย 1,000 - สวนเกนิ มูลคาหนุ สามัญ (30 x 10) 300 - ทนุ หนุ สามญั (70 x 10) 700 - เงินสด (300 x 2) 600 - จา ยหนุ ปน ผลและเงนิ สด บริษัทการออกใบสําคัญแสดงสิทธิใหผูถือหุนน้ันเปนอีกหนทางหน่ึงที่สามารถทํา ไดในการจายหุนปนผลไมเต็มหุนและผูถือหุนก็มีทางเลือกในการนําใบสําคัญแสดงสิทธิไปใช ซงึ่ ผถู ือหนุ อาจเลอื กใชส ทิ ธหิ รอื ไมกไ็ ด 268

270 งบการเงิน ธุรกิจทุกประเภทตองจัดทํางบการเงินเพ่ือรวบรวมรายการคาหรือเหตุการณทาง บัญชีโดยวัดคาเปนตัวเงิน ทั้งน้ีเมื่อสิ้นงวดบัญชีบริษัทตองจัดทํางบการเงินท่ีแสดงฐานะ และ ผลการดําเนินงานของกิจการ ซ่ึงโดยท่ัวไปบริษัทจะจัดทํางบการเงิน ซึ่งตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 35 เร่ือง การนําเสนองบการเงิน ไดกําหนดใหกําหนดงบการเงินท่ีสมบูรณตอง ประกอบดวยงบดังตอไปน้ี (สมาคมนักบัญชีและผูสอบบัญชีรับอนุญาตแหงประเทศไทย, 2542, หนา 6) 1. งบดุล 2. งบกาํ ไรขาดทนุ 3. งบใดงบหนง่ึ ตอไปน้ี 3.1 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในสวนของเจาของ 3.2 งบกาํ ไรขาดทนุ แบบเบด็ เสรจ็ 4. งบกระแสเงนิ สด 5. นโยบายการบญั ชแี ละหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ การจัดทํางบการเงินควรจัดทําตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการคา เรื่อง กําหนด รายการยอท่ีตองมีในงบการเงิน พ.ศ. 2544 สําหรับงบการเงินท่ีมีรอบปบัญชีเริ่มตนในหรือหลัง วันท่ี 1 มกราคม 2545 เปนตนไป แบบรายการยอดังกลาวจะเปนแนวทางที่กําหนดใหแสดง รายการแยกเปนแตละบรรทัดพรอมจํานวนเงินหากมีรายการตามท่ีกําหนดตองแสดงไวในงบ การเงินตามประเภทและลักษณะของรายการนั้น แตหากรายการใดไมมีก็ไมตองแสดง เชน ใน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสวนของผูถือหุนของบริษัทจํากัด ถาในระหวางปมีการเปลี่ยนแปลง เฉพาะกําไร (ขาดทุน) สุทธิประจําปเทานั้นไมมีการเปล่ียนแปลงในรายการอ่ืนก็ใหแสดงเฉพาะ การเปลย่ี นแปลงในกําไร (ขาดทุน) สุทธเิ ทา นนั้ เปน ตน ในกรณีท่ีมาตรฐานการบัญชีกําหนดใหมีรายการยอนอกเหนือจากรายการท่ีกําหนด ในประกาศดังกลาวขางตน ก็ตองแสดงรายการน้ันเพ่ิมเติมดวย และหากมีรายการท่ีตองการ แสดงนอกเหนอื จากรายการยอทกี่ ฎหมายหรือมาตรฐานการบญั ชกี ําหนดกใ็ หแ สดงรายการนนั้ ๆ ไดต ามความจําเปน และเหมาะสมแกกรณี ท้ังน้ีงบการเงินตามท่ีบริษัทมีหนาที่จัดทําน้ันตองเปรียบเทียบกัน 2 ป ซ่ึงแสดงได ดงั นี้ (กรมพัฒนาธรุ กิจการคา, 2547, หนา 27-33) 269

271 1. งบดลุ บรษิ ัทจํากัด งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 25x1 และพ.ศ. 25x0 (หนว ย:บาท) 25x1 25x0 สนิ ทรัพย 1. สนิ ทรพั ยหมนุ เวียน 1.1 เงินสด และเงนิ ฝากสถาบนั การเงิน 1.2 เงนิ ลงทุนช่ัวคราว 1.3 ลกู หนก้ี ารคา – สทุ ธิ 1.4 เงนิ ใหก ูย มื ระยะสน้ั แกบ ุคคลหรอื กจิ การที่เกี่ยวของกัน 1.5 เงนิ ใหก ูยมื ระยะสนั้ อืน่ 1.6 สนิ คา คงเหลอื 1.7 สนิ ทรัพยห มุนเวยี นอ่นื รวมสนิ ทรัพยห มนุ เวียน 2. สินทรัพยไมห มนุ เวยี น 2.1 เงินลงทนุ ซ่งึ บนั ทึกโดยวธิ สี วนไดเ สีย 2.2 เงินลงทนุ ระยะยาวอืน่ 2.3 เงินใหก ยู มื ระยะยาวแกบ ุคคลหรือกิจการที่เก่ียวของกนั 2.4 เงินใหก ูยมื ระยะยาวอ่ืน 2.5 ที่ดิน อาคาร และอปุ กรณ - สทุ ธิ 2.6 สนิ ทรัพยไ มม ีตัวตน 2.7 สินทรัพยไ มหมนุ เวยี นอน่ื รวมสนิ ทรพั ยไ มห มนุ เวียน รวมสนิ ทรัพย 270

272 (หนว ย:บาท) 25x1 25x0 หน้สี นิ และสวนของผถู อื หุน 3. หนส้ี นิ หมนุ เวยี น 3.1 เงินเบกิ เกนิ บัญชแี ละเงนิ กยู มื ระยะส้นั จากสถาบนั การเงิน 3.2 เจา หนก้ี ารคา 3.3 เงินกยู ืมระยะยาวท่ีถึงกาํ หนดชําระภายในหน่งึ ป 3.4 เงินกูย มื ระยะส้นั จากบคุ คลหรือกจิ การทเ่ี กย่ี วขอ งกนั 3.5 เงินกยู ืมระยะสน้ั อ่นื 3.6 หนสี้ นิ หมุนเวยี นอ่นื รวมหน้สี นิ หมุนเวียน 4. หนีส้ ินไมห มุนเวยี น 4.1 เงนิ กยู ืมระยะยาวจากบคุ คลหรอื กิจการท่เี กี่ยวของกนั 4.2 เงินกยู มื ระยะยาวอน่ื 4.3 ประมาณการหนีส้ ิน 4.4 หนสี้ นิ ไมห มนุ เวยี นอ่ืน รวมหนี้สินไมห มุนเวียน รวมหน้สี นิ 271

273 (หนว ย:บาท) 25x1 25x0 5. สวนของผถู อื หนุ 5.1 ทนุ เรือนหนุ 5.1.1 ทุนจดทะเบยี น 5.1.1.1 หนุ บรุ มิ สิทธิ 5.1.1.2 หุนสามัญ 5.1.2 ทนุ ท่ีออกและชําระแลว 5.1.2.1 หนุ บรุ มิ สิทธิ 5.1.2.2 หนุ สามญั 5.2 สวนเกนิ (ตาํ่ กวา ) ทนุ 5.2.1 สวนเกนิ มูลคา หนุ บรุ มิ สทิ ธิ 5.2.2 สว นเกนิ มลู คา หนุ สามัญ 5.2.3 สวนเกนิ ทุนอ่นื 5.2.4 สว นตา่ํ กวา ทนุ อนื่ 5.3 กําไร (ขาดทนุ ) สะสม 5.3.1 จัดสรรแลว 5.3.1.1 สาํ รองตามกฎหมาย 5.3.1.2 อน่ื ๆ 5.3.2 ยงั ไมไ ดจ ัดสรร รวมสวนของผูถ ือหนุ รวมหนีส้ นิ และสวนของผูถอื หุน 272

274 2. งบกําไรขาดทุน (เลอื กแสดงแบบขนั้ เดียว หรือหลายขน้ั อยา งใดอยา งหนึ่ง) บรษิ ทั จํากัด งบกาํ ไรขาดทนุ แสดงแบบข้นั เดยี ว สาํ หรบั ปส น้ิ สดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม พ.ศ. 25x1 และพ.ศ. 25x0 (หนว ย:บาท) 25x1 25x0 1. รายได 1.1 รายไดจ ากการขาย และหรอื การใหบ รกิ าร 1.2 รายไดอนื่ 1.3 สว นแบง กาํ ไรจากเงนิ ลงทุนตามวธิ สี ว นไดเ สยี รวมรายได 2. คา ใชจ า ย 2.1 ตนทุนขายและหรือตน ทนุ การใหบรกิ าร 2.2 คาใชจ ายในการขายและบริการ 2.3 คา ใชจายอืน่ 2.4 สวนแบงขาดทนุ จากเงนิ ลงทุนตามวธิ สี ว นไดเ สีย รวมคา ใชจ าย 3. กาํ ไร (ขาดทนุ ) กอนดอกเบยี้ จาย และภาษีเงนิ ได 4. ดอกเบย้ี จาย 5. ภาษีเงนิ ได 6. กาํ ไร (ขาดทนุ ) จากกิจกรรมตามปกติ 7. รายการพเิ ศษ - สุทธิ 8. กาํ ไร (ขาดทุน) สทุ ธิ 9. กําไรตอหนุ 9.1 กาํ ไร (ขาดทนุ ) จากกจิ กรรมตามปกติ 9.2 รายการพเิ ศษ - สุทธิ 9.3 กําไร (ขาดทนุ ) สทุ ธิ 273

275 บริษัทจาํ กดั งบกาํ ไรขาดทนุ แสดงแบบหลายขั้น สําหรับปสิน้ สดุ วันท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 25x1 และพ.ศ. 25x0 (หนว ย:บาท) 25x1 25x0 1. รายไดจากการขาย และหรือการใหบรกิ าร 2. ตนทุนขาย และหรือตนทนุ การใหบ รกิ าร 3. กําไรขนั้ ตน 4. คา ใชจา ยในการขาย และบริหาร 5. กําไร (ขาดทุน) จากการขาย และหรอื การใหบรกิ าร 6. รายไดอน่ื 7. คา ใชจายอน่ื 8. กําไร (ขาดทุน) จากการดาํ เนนิ งาน 9. สว นแบง กาํ ไร (ขาดทุน) จากเงนิ ลงทุนตามวธิ ีสวนไดเ สีย 10. กาํ ไร (ขาดทุน) กอ นดอกเบี้ยจาย และภาษีเงนิ ได 11. ดอกเบยี้ จา ย 12. ภาษีเงนิ ได 13. กําไร (ขาดทนุ ) จากกจิ กรรมตามปกติ 14. รายการพเิ ศษ (สุทธิ) 15. กําไร (ขาดทุน) สทุ ธิ 16. กาํ ไรตอหนุ 16.1 กําไร (ขาดทนุ ) จากกจิ กรรมตามปกติ 16.2 รายการพเิ ศษ - สุทธิ 16.3 กําไร (ขาดทนุ ) สุทธิ 274

276 3. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสวนของผูถือหนุ หรอื งบกําไรขาดทุนเบด็ เสรจ็ บริษัทจํากัด งบแสดงการเปล่ียนแปลงสว นของผูถอื หุน สําหรับปสนิ้ สดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม พ.ศ. 25x1 และพ.ศ. 25x0 ทุนเรือนหนุ ที่ ออก สว นเกนิ สวนเกิน (ตํ่ากวา) กาํ ไร(ขาดทนุ ) รวม และชําระแลว มลู คา หุน ทุนอ่นื สะสม 1. ยอดคงเหลอื ตน งวด 25x0 2. ผลสะสมจากการแกไขขอ ผิดพลาด 3. ยอดคงเหลอื ทป่ี รบั ปรุงแลว 4. สวนเกนิ ทนุ อ่ืน 5. สว นตา่ํ กวาทุนอนื่ 6. รายการทยี่ งั ไมร ับรูในงบกําไรขาดทนุ 7. กําไร (ขาดทุน) สทุ ธิ 8. เงินปนผลจา ย 9. หุนบรุ ิมสิทธิ 10. หนุ สามัญ 11. ยอดคงเหลอื ปลายงวด 25x0 12. ผลสะสมจากการแกไขขอ ผดิ พลาด 13. ยอดคงเหลือท่ปี รบั ปรงุ แลว 14. สว นเกนิ ทุนอนื่ 15. สวนต่ํากวาทนุ อน่ื 16. รายการทย่ี ังไมร บั รใู นงบกําไรขาดทนุ 17. กาํ ไร (ขาดทุน) สทุ ธิ 18. เงนิ ปนผลจาย 19. หนุ บุรมิ สิทธิ 20. หนุ สามัญ 21. ยอดคงเหลือปลายงวด 25x1 275

277 งบการเงินของบริษัทจาํ กดั งบกาํ ไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็ สําหรบั ปสิ้นสดุ วันท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 25x1 และพ.ศ. 25x0 (หนว ย:บาท) 1. รายการทยี่ งั ไมร บั รูในงบกาํ ไรขาดทนุ 1.1 สว นเกนิ ทนุ อ่ืน 1.2 สวนตํา่ กวา ทุนอ่นื รวมรายการทย่ี งั ไมร บั รใู นงบกําไรขาดทุน 2. กําไร (ขาดทนุ ) สุทธิ 3. กาํ ไร (ขาดทุน) เบด็ เสร็จกอ นปรับปรงุ 4. ผลสะสมจากการแกไขขอ ผดิ พลาด 5. กําไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จหลังปรบั ปรงุ ในกรณีที่กจิ การเลือกแสดงงบกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ ตองเปด เผยรายการดังตอไปน้ี ในหมายเหตุประกอบงบการเงินดว ย 1. รายการเกยี่ วกับเงนิ ทุนทไี่ ดจ ากเจาของ และการแบง ปนสว นทนุ ใหเ จา ของ 2. ยอดคงเหลอื ของกาํ ไรหรอื ขาดทนุ สะสม ณ วนั ตน งวดและ ณ วนั ทใี่ นงบดลุ รวมถึงรายการเปลี่ยนแปลงระหวางงวด 3. รายการกระทบยอดในสว นทุนแตละประเภท สวนเกนิ มลู คา หนุ และสาํ รอง แตละชนดิ ระหวางตน งวดกบั ปลายงวด โดยใหแ ยกแสดงการเปลย่ี นแปลงของแตล ะรายการ 4. หมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ หมายเหตุประกอบงบการเงนิ ตอ งจดั ทําใหส อดคลองกบั มาตรฐานการบญั ชี โดยมี 2 สว น คอื 1. สรปุ นโยบายการบัญชที ส่ี าํ คัญ 2. ขอ มลู เพม่ิ เติมอนื่ จากการกําหนดของมาตรฐานฉบับดังกลาวกิจการในรูปของบริษัทไดมีคําชี้แจงกรม ทะเบียนการคา เรื่อง กําหนดรายการยอท่ีตองมีในงบการเงิน เน่ืองจากกรมทะเบียนการคาได ออกประกาศกรมทะเบียนการคา เร่ือง กําหนดรายการยอที่ตองมีในงบการเงิน พ.ศ. 2544 ซึ่ง 276

278 ประกาศ ณ วันท่ี 14 กันยายน พ.ศ. 2544 ออกตามความในมาตรา 11 วรรคสาม ของพระราชบัญญัติ การบัญชี พ.ศ. 2543 กําหนดใหง บการเงนิ ของผูมีหนาทจี่ ัดทําบัญชตี อ งมรี ายการยอ ดงั นี้ ความหมายของรายการยอในงบการเงินของบริษัทจาํ กัด งบดุล เปนงบทแ่ี สดงรายการเกีย่ วกบั สนิ ทรัพย หนีส้ ิน และสว นของผูถือหุน มี รายละเอียด ดงั น้ี สินทรัพย 1. สินทรัพยห มนุ เวียน (current assets) 1.1 เงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน (cash and deposits at financial institutions) เงินสด หมายถึง เงินสดในมือและเงินฝากธนาคารทุกประเภท แตไมรวมเงินฝาก ประเภทท่ีตอ งจายคนื เมื่อส้ินระยะเวลาท่กี าํ หนด เชน 1.1.1 ธนบัตรและเหรียญกษาปณท่ีบริษัทมีอยู รวมท้ังเงินสดยอย ธนาณัติ ต๋ัวแลกเงนิ ไปรษณยี  1.1.2 เงินฝากธนาคารกระแสรายวันและออมทรัพย ทั้งน้ี ไมรวมเงินฝาก ธนาคารประเภทจายคืนเมื่อสิ้นระยะเวลา (เงินฝากประจํา) รวมทั้งบัตรเงินฝากที่ออกโดย ธนาคารและสถาบันการเงนิ ซงึ่ กาํ หนดใหแ สดงไวในรายการท่ี 1.2 และรายการท่ี 2.2 แลว 1.1.3 เช็คท่ีถึงกําหนดชําระแตยังมิไดนําฝาก เช็คเดินทาง ดราฟตของ ธนาคาร 1.2 เงินลงทุนชั่วคราว (Current investments) หมายถึง เงินลงทุนช่ัวคราวตามท่ี กําหนดในมาตรฐานการบัญชีเงินลงทุนดังกลาวใหแสดงมูลคาสุทธิหลังจากหักคาเผ่ือการปรับ มลู คา เงนิ ลงทนุ และคา เผอ่ื การดอยคาเงนิ ลงทนุ 1.3 ลูกหน้ีการคา – สุทธิ (trade account receivables, net) หมายถึง เงินที่ลูกคา คางชําระคาสินคาหรือคาบริการท่ีบริษัทไดขายไปตามปกติและลูกหนี้ตามต๋ัวเงินรับอันเกิดจาก คาสินคาหรือบริการดังกลาว ทั้งนี้ ใหรวมถึงลูกหนี้และตั๋วเงินรับการคาที่เปนกรรมการ พนกั งาน ลกู จา งและกจิ การทเี่ กย่ี วของกนั ดว ยลูกหนีก้ ารคาดังกลา ว ใหแสดงมลู คาสุทธิหลังจาก หกั คาเผื่อหนสี้ งสยั จะสูญ 1.4 เงินใหกูยืมระยะส้ันแกบุคคลหรือกิจการที่เก่ียวของกัน (short-term loans to related parties) หมายถึง เงินใหกูยืมระยะสั้นแกบุคคลหรือกิจการที่เก่ียวของกัน รวมท้ัง 277

279 ลูกหน้ีในลักษณะอ่ืนใดซึ่งจัดเปนสินทรัพยหมุนเวียน นอกจากลูกหน้ีที่เกิดจากการซื้อสินคา หรอื บริการ ซงึ่ กําหนดใหแสดงไวในรายการท่ี 1.3 ท้ังน้ี ความหมายของบุคคลหรือกิจการท่ีเก่ียวของกันใหเปนไปตามที่กําหนดใน มาตรฐานการบญั ชี 1.5 เงินใหก ูยืมระยะส้ันอ่นื (other short-term loans) หมายถงึ เงินใหกูยืมระยะสั้น อืน่ ทไ่ี มส ามารถจัดเขารายการที่ 1.4 ได 1.6 สินคาคงเหลือ (inventories) หมายถึง สินคาสําเร็จรูป งานหรือสินคา ระหวา งทํา วัตถดุ ิบและวัสดทุ ่ีใชในการผลิตเพื่อขายหรือใหบรกิ ารตามปกติของบรษิ ทั 1.7 สินทรัพยหมุนเวียนอ่ืน (other current assets) หมายถึง คาใชจายลวงหนา รายไดคางรับ และสินทรัพยหมุนเวียนอื่นใด นอกจากที่กําหนดใหแสดงไวในรายการท่ี 1.1 ถึง รายการที่ 1.6 2. สินทรัพยไมห มนุ เวียน (non-current assets) 2.1 เงินลงทุนซ่ึงบันทึกโดยวิธีสวนไดเสีย (investments for using the equity method) หมายถึง เงินลงทุนในบริษัทรวมหรือบริษัทยอยซึ่งบันทึกโดยวิธีสวนไดเสียตามที่ กําหนดไวใ นมาตรฐานการบญั ชี 2.2 เงินลงทุนระยะยาวอื่น (other long-term investments) หมายถึง เงินลงทุน ระยะยาวในบคุ คลอื่นหรือกิจการอน่ื ท่มี ิใชบุคคลหรือกิจการที่เกีย่ วของกัน นอกจากท่กี าํ หนดให แสดงไวใ นรายการท่ี 2.1 เงนิ ลงทุนดังกลา ว ใหแสดงมลู คา สุทธหิ ลงั จากหักคา เผ่ือการปรับมูลคา หรอื คา เผอื่ การดอยคา ของเงนิ ลงทุน 2.3 เงินใหกูยืมระยะยาวแกบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวของกัน (long-term loans to related parties) หมายถึง เงินใหกูยืมแกบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวของกันตามคํานิยามในขอ 1.4 ซ่ึงไมจ ดั เปน สินทรพั ยหมุนเวียน 2.4 เงินใหกูยืมระยะยาวอื่น (other long-term investments) หมายถึง เงินใหกูยืม แกบุคคลอ่ืนหรือกิจการอื่นที่มิใชบุคคลหรือกิจการท่ีเกี่ยวของกันนอกจากท่ีกําหนดใหแสดงไว ในรายการท่ี 2.3 2.5 ท่ีดิน อาคารและอุปกรณ - สุทธิ (property, plant and equipment, net) หมายถึง สินทรัพยที่มีตัวตนท่ีกิจการมีไวเพ่ือใชประโยชนในการผลิต เพื่อใชในการจําหนาย สินคาหรือใหบริการ เพื่อใหเชาหรือเพ่ือใชในการบริหารงาน โดยกิจการคาดวาจะใชประโยชน มากกวาหนึ่งรอบปบัญชี สินทรัพยดังกลาวใหแสดงมูลคาสุทธิหลังจากหักคาเสื่อมราคาสะสม และคาเผอื่ การดอ ยคาของสนิ ทรพั ย 278

280 2.6 สินทรัพยไมมีตัวตน (intangible assets) หมายถึง สินทรัพยท่ีไมมีรูปรางซ่ึง กอใหเกิดประโยชนเชิงเศรษฐกิจในอนาคตแกกิจการ เชน ลิขสิทธ์ิ สิทธิบัตร สัมปทาน หรือคา ความนยิ ม 2.7 สินทรัพยไมหมุนเวียนอ่ืน (other non-current assets) หมายถึง สินทรัพยไม หมนุ เวียนอนื่ ใดนอกจากทก่ี ําหนดใหแสดงไวใ นรายการท่ี 2.1 ถงึ รายการท่ี 2.6 หนีส้ นิ และสว นของผูถ ือหนุ 3. หนสี้ นิ หมนุ เวยี น (current liabilities) 3.1 เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกูยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน (bank overdrafts and short-term loans from financial institutions) หมายถึง เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร หน้ีสินที่ เกิดขนึ้ จากการกูยืมระยะสั้นจากธนาคารพาณิชยห รือสถาบันการเงินอ่ืน รวมทั้งการขายหรือขาย ชวงลดต๋ัวเงินกบั สถาบนั การเงนิ ซง่ึ จดั เปนหนี้สนิ หมนุ เวยี น 3.2 เจาหนี้การคา (trade account payables) หมายถึง เงินที่บริษัทคางชําระคา สินคาหรือคาบริการท่ีซ้ือมาเพ่ือขายหรือเพ่ือใชในการผลิตสินคาหรือบริการตามปกติธุระ และ ตั๋วเงินจายท่ีบริษัทออกใหเพื่อชําระคาสินคาหรือบริการดังกลาวทั้งนี้ ใหรวมถึงเจาหน้ีและตั๋ว เงนิ จา ยการคา ทเ่ี ปนกรรมการ พนกั งาน ลกู จา ง และกจิ การท่เี กีย่ วของกนั ดวย 3.3 เงินกูยืมระยะยาวที่ถึงกําหนดชําระภายในหน่ึงป (current portion of long- term loans) หมายถงึ เงินกยู ืมระยะยาวทีจ่ ะถงึ กําหนดชําระคนื ในรอบระยะเวลาบญั ชถี ัดไป 3.4 เงนิ กูยืมระยะสนั้ จากบคุ คลหรือกิจการท่เี กย่ี วขอ งกนั (short-term loans from related parties) หมายถึง เงินกูยืมระยะสั้นและเงินทดรองจากบุคคลหรือกิจการท่ีเก่ียวของกัน รวมท้ังหน้ีสินในลักษณะอ่ืนใดซึ่งจัดเปนหนี้สินหมุนเวียน นอกจากหน้ีสินท่ีเกิดจากการซ้ือ สินคา หรอื บรกิ าร ซึ่งกําหนดใหแ สดงไวใ นรายการที่ 3.2 3.5 เงินกูยืมระยะสั้นอื่น (other short-term loans) หมายถึง เงินกูยืมระยะส้ันอื่น นอกจากทกี่ าํ หนดใหแ สดงไวในรายการที่ 3.3 ถงึ รายการที่ 3.4 3.6 หน้ีสินหมุนเวียนอ่ืน (other current liabilities) หมายถึง คาใชจายคางจาย รายได รับลวงหนา และหนี้สินหมุนเวียนอ่ืนใด นอกจากที่กําหนดใหแสดงไวในรายการท่ี 3.1 ถึง รายการที่ 3.5 279

281 4. หน้ีสนิ ไมห มนุ เวียน (non-current liabilities) 4.1 เงินกยู ืมระยะยาวจากบคุ คลหรอื กจิ การท่ีเก่ียวของกัน (long-term loans from related parties) หมายถึง เงินกูยืมระยะยาวท่ีบริษัทกูยืมจากบุคคลหรือกิจการที่เก่ียวของกัน รวมท้ังหนสี้ ินในลกั ษณะอน่ื ใด ซงึ่ จดั เปน หนี้สินไมห มุนเวยี น 4.2 เงินกูยืมระยะยาวอื่น (other long-term loans) หมายถึง เงินกูยืมจากบุคคล ธรรมดาหรอื นติ บิ ุคคลอนื่ รวมทัง้ จากธนาคารพาณชิ ยแ ละสถาบนั การเงนิ ที่ถึงกําหนดชําระคืนเกิน กวาหนงึ่ ปน บั จากวนั ท่ใี นงบการเงนิ ท้งั นไี้ มรวมหนี้สนิ ทีก่ ําหนดใหแสดงไวใ นรายการท่ี 4.1 4.3 ประมาณการหนี้สิน (provisions) หมายถึง หน้ีสินท่ีมีความไมแนนอน เกี่ยวกับจังหวะเวลาหรือจํานวนเงินท่ีตองจายชําระซึ่งบริษัทสามารถประมาณมูลคาหน้ีสินนั้น ไดอยางนาเช่ือถือ และเปนภาระผูกพันในปจจุบันซึ่งมีความเปนไปไดคอนขางแนท่ีจะทําให บริษัทสูญเสียทรพั ยากรทม่ี ปี ระโยชนเ ชิงเศรษฐกิจตอบรษิ ัทเพอ่ื จา ยชําระภาระผูกพนั ดังกลาว 4.4 หน้ีสินไมหมุนเวียนอ่ืน (other non-current liabilities) หมายถึง หน้ีสินไม หมนุ เวียนอ่ืนนอกจากท่กี ําหนดใหแสดงไวใ นรายการที่ 4.1 ถึงรายการที่ 4.3 5. สวนของผูถ อื หุน (shareholders’ equity) 5.1 ทุนเรือนหุน (share capital) 5.1.1 ทุนจดทะเบียน (authorized share capital) หมายถึง ทุนของบริษัทที่จด ทะเบียนตามกฎหมาย ใหแสดงชนิดของหุน จํานวนหุนและมูลคาท่ีตราไวตามที่จดทะเบียนแต ละชนดิ ดังน้ี 5.1.1.1 หุนบุริมสทิ ธิ (preferred stocks) 5.1.1.2 หุนสามัญ (common stocks) 5.1.2 ทุนที่ออกและชําระแลว (issued and paid-up share capital) หมายถึง จาํ นวนหนุ และมูลคาหุน ทไ่ี ดนําออกจําหนายและเรยี กใหชําระมูลคาหุนแลวใหแสดงเปนหุนแต ละชนิด ดังนี้ 5.1.2.1 หนุ บรุ ิมสทิ ธิ (preferred stocks) 5.1.2.2 หุนสามญั (common stocks) ในกรณีท่มี กี ารใหส ิทธพิ ิเศษใดแก หนุ บรุ มิ สทิ ธใิ หเปดเผยไวดวย 5.2 สวนเกนิ (ตํา่ กวา ) ทุน (additional paid-in capital) 5.2.1 สวนเกินมูลคาหุนบุริมสิทธิ (premium on preferred stocks) หมายถึง เงนิ ท่ีไดจ ากการขายหุนบุริมสิทธสิ ว นทสี่ งู กวามลู คาท่ตี ราไวตามทจ่ี ดทะเบียนของหุน บรุ มิ สทิ ธิ 280

282 5.2.2 สวนเกินมูลคาหุนสามัญ (premium on common stocks) หมายถึง เงิน ท่ไี ดจากการขายหุนสามญั สวนทีส่ งู กวามูลคา ทต่ี ราไวตามท่ีจดทะเบยี นของหุนสามัญ 5.2.3 สวนเกินทุนอ่ืน (other surpluses) หมายถึง สวนเกินทุนท่ีเกิดจาก รายการตา ง ๆ นอกจากสวนเกนิ มูลคา หุน เชนสวนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพยเพ่ิม สวนเกิน ของราคาตามบัญชีกับมูลคายุติธรรมของเงินลงทุน เปนตน ทั้งน้ีตองเปนไปตามเกณฑที่ มาตรฐานการบัญชกี ําหนด 5.2.4 สวนตํ่ากวาทุนอื่น (other deficits) หมายถึง สวนตํ่ากวาทุนท่ีเกิดจาก รายการตาง ๆ นอกจากสวนต่ํากวามูลคาหุนเชน สวนตํ่าระหวางราคาตามบัญชีกับมูลคา ยตุ ธิ รรมของเงินลงทนุ เปนตน ทง้ั นต้ี อ งเปนไปตามเกณฑม าตรฐานการบญั ชีกาํ หนด 5.3 กําไร (ขาดทุน) สะสม (retained earnings) 5.3.1 จดั สรรแลว (appropriated) 5.3.1.1 สํารองตามกฎหมาย (legal reserve) หมายถึง สํารองที่กันไว จากกาํ ไรสทุ ธิประจาํ ปตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย 5.3.1.2 อื่น ๆ (others)หมายถึง จํานวนท่ีจัดสรรจากกําไรสะสม เพ่ือ การใด ๆ ตามมติที่ประชุมผูถือหุน ท้ังนี้ใหแสดงเปนแตละประเภท เชน เพ่ือรักษาระดับเงินปน ผล เพอ่ื ขยายกจิ การหรอื ตามเง่อื นไขของภาระผูกพัน 5.3.2 ยังไมไดจัดสรร (unappropriated) หมายถึง กําไรสะสมและกําไรสุทธิ ของรอบระยะเวลาบัญชีปจจุบันที่คงเหลือหลังจากการจัดสรรในกรณีท่ีมียอดดุลสุทธิเปนผล ขาดทนุ สะสม ใหแสดงจํานวนเงินไวใ นเคร่อื งหมายวงเล็บและเรียกเปน \"ขาดทนุ สะสม\" งบกําไรขาดทุน แสดงแบบข้ันเดียว เปนงบที่แสดงรายการเกี่ยวกับ รายไดและ คา ใชจ าย มรี ายละเอียดดงั น้ี 1. รายได (revernues) 1.1 รายไดจากการขายและหรือการใหบริการ (revenues from the sale of goods and the rendering of services) หมายถึง รายไดที่เกิดจากการขายสินคา สิทธิ หรือบริการ ซ่ึงเปน ธุรกิจหลักของบริษัทเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินสด สิทธิเรียกรองใหชําระเงิน หรือส่ิงอื่นที่มีมูลคา คิดเปนเงินได ท้ังนี้ใหแสดงเปนยอดสุทธิหลังหักรายการรับคืนและสวนลดแลว โดยแยกแสดง เปนรายไดแ ตล ะประเภทเชน รายไดจ ากการขายสินคา รายไดจากการใหบ รกิ าร 1.2 รายไดอื่น (other incomes) หมายถึง รายไดจากการดําเนินงานนอกจากที่ กาํ หนดใหแ สดงไวในรายการท่ี 1.1ท้ังนี้ใหรวมกําไรอื่นท่ีไมจัดเปนรายการพิเศษ เชน กําไรจาก 281

283 การขายเงินลงทุน ท่ีดิน อาคารอุปกรณ และสินทรัพยอื่น ในกรณีที่มีคาใชจายในการขาย สินทรัพยดังกลาวใหนํามาหักจากรายการนี้เพ่ือแสดงยอดสุทธิ กรณีที่ยอดสุทธิเปนผลขาดทุน ใหแสดงไวในรายการที่ 2.3 1.3 สวนแบงกําไรจากเงินลงทุนตามวิธีสวนไดเสีย (share of profits from investments for using the equity method) หมายถึง สวนแบงกําไรจากเงินลงทุนซ่ึงบันทึกโดย วิธสี วนไดเสยี ตามทกี่ าํ หนดไวในมาตรฐานการบัญชี 2. คา ใชจาย (expenses) 2.1 ตนทุนขายและหรือตนทุนการใหบริการ (costs of the sale of goods and the rendering of services)หมายถึง ตนทุนของสินคา สิทธิ หรือบริการที่ขาย รวมถึงราคาซื้อ ตนทุน การผลิต และคาใชจายตาง ๆ ท่ีจายไปเพ่ือใหสินคาอยูในสภาพพรอมที่จะขาย โดยแยกแสดง เปนตนทุนตามประเภทของธุรกิจหลักของกิจการตามที่ไดแสดงไวในรายการท่ี 1 เชน ตนทุน ของสินคาท่ขี าย ตน ทุนของการใหบริการ เปน ตน 2.2 คาใชจายในการขายและบริหาร (selling and administrative expenses) หมายถึง คาใชจายที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการขาย และคาใชจายท่ัวไปท่ีเกิดขึ้นในการ ดําเนินงานอันเปนสวนรวม ทั้งนี้ ไมรวมคาใชจายอ่ืนและดอกเบ้ียจาย ซ่ึงกําหนดใหแสดงไวใน รายการท่ี 2.3 และรายการที่ 4 2.3 คาใชจายอ่ืน (other expenses) หมายถึง คาใชจายในการดําเนินงานนอกจาก ที่กําหนดใหแสดงไวในรายการท่ี 2.1 ถึงรายการที่ 2.2ท้ังน้ีใหรวมถึงขาดทุนอ่ืนที่ไมจัดเปน รายการพิเศษ เชน ขาดทุนจากการขายเงินลงทุน ที่ดินอาคาร อุปกรณ และสินทรัพยอื่น และ ขาดทุนจากการหยุดงานของพนักงาน เปนตน ในกรณีท่ีมีรายไดจากการขายสินทรัพยดังกลาว ใหน ํามาหักจากรายการนี้เพอ่ื แสดงยอดสุทธิ 2.4 สวนแบงขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีสวนไดเสีย (share of losses from investments for using the equity method) หมายถงึ สวนแบง ขาดทุนจากเงินลงทุนซ่ึงบันทึกโดย วิธีสวนไดเ สยี ตามทีก่ าํ หนดไวใ นมาตรฐานการบัญชี 3. กําไร (ขาดทุน) กอนดอกเบี้ยจายและภาษีเงินได (profit (loss) before interest and income tax expenses) หมายถึง ยอดรวมรายไดหกั ดวยยอดรวมคา ใชจ าย แตกอ นหกั ดอกเบี้ยจาย และกอนภาษีเงนิ ได หากมผี ลขาดทุนใหแสดงจาํ นวนเงินไวใ นเครอ่ื งหมายวงเล็บ 4. ดอกเบี้ยจาย (interest expenses) หมายถึง ดอกเบี้ยหรือคาตอบแทนเน่ืองจากการ ใชประโยชนจากเงินหรอื เงินทนุ 282

284 5. ภาษีเงินได (income tax expenses) หมายถึง ภาษีเงินไดนิติบุคคลท่ีคํานวณขึ้น ตามวิธกี ารบญั ชหี รือตามบทบญั ญตั ิแหงประมวลรัษฎากร 6. กําไร (ขาดทุน) จากกิจกรรมตามปกติ (profit (loss) from ordinary activities) หมายถึง กําไร (ขาดทุน) จากกิจกรรมซ่ึงเปนสวนหน่ึงของการประกอบธุรกิจของบริษัท หรือ เกิดข้ึนจากการดําเนินงานตามปกติของบริษัท รวมท้ังกิจกรรมอื่นซ่ึงเก่ียวเน่ืองกับการประกอบ ธรุ กจิ หรอื การดาํ เนนิ งานดังกลา ว 7. รายการพิเศษ-สุทธิ (extraordinary items, net) หมายถึง รายไดหรือคาใชจายท่ี เกิดจากรายการหรือเหตุการณทางบัญชีท่ีมีความแตกตางอยางชัดเจนจากการดําเนินงาน ตามปกตขิ องกิจการ และไมค าดวา จะเกดิ ขึน้ เปนประจําหรือเกิดข้ึนไมบอย เชน คาเสียหายท่ีเกิด จากไฟไหม นํ้าทวม หรือภัยธรรมชาติอยางอื่น เปนตน รายการพิเศษนี้ใหแสดงเปนยอดสุทธิ จากภาษีเงินไดท่ีเกี่ยวของในกรณีท่ีรายการพิเศษเปนผลขาดทุน ใหแสดงจํานวนเงินไวใน เคร่อื งหมายวงเล็บ 8. กําไร (ขาดทุน) สุทธิ (net profit (loss)) หมายถึง กําไรหรือขาดทุนหลังจากหัก หรอื รวมรายการพเิ ศษแลว หากมผี ลขาดทุนสทุ ธใิ หแสดงจาํ นวนเงนิ ไวในเครอ่ื งหมายวงเล็บ 9. กาํ ไรตอหนุ (earnings per share) วิธกี ารคาํ นวณใหเปน ไปตามมาตรฐานการบญั ชี วา ดว ยเรื่องกําไรตอหุน หากมีผลขาดทุนใหแสดงจํานวนเงินไวในเคร่ืองหมายวงเล็บ โดยแสดง แยกเปน 9.1 กาํ ไร (ขาดทนุ ) จากกิจกรรมตามปกติ (profit (loss) from ordinary activities) 9.2 รายการพิเศษ-สทุ ธิ (extraordinary items, net) 9.3 กาํ ไร (ขาดทนุ ) สุทธิ (net profit (loss)) งบกําไรขาดทุน แสดงแบบหลายข้ัน เปนงบที่แสดงรายการเกี่ยวกับ รายไดและ คา ใชจา ย มีรายละเอียดดังนี้ 1. รายไดจากการขายและหรือการใหบริการ (revenues from the sale of goods and the rendering of services) หมายถึง รายไดที่เกิดจากการขายสินคา สิทธิ หรือบริการ ซึ่งเปน ธุรกิจหลักของบริษัทเพื่อแลกเปล่ียนกับเงินสด สิทธิเรียกรองใหชําระเงิน หรือส่ิงอ่ืนท่ีมีมูลคา คิดเปนเงินได ท้ังนี้ใหแสดงเปนยอดสุทธิหลังหักรายการรับคืนและสวนลดแลว โดยแยกแสดง เปนรายไดแตละประเภท เชน รายไดจ ากการขายสินคา รายไดจากการใหบริการ เปน ตน 2. ตนทุนขายและหรือตนทุนการใหบริการ (costs of the sale of goods and the rendering of services) หมายถงึ ตนทุนของสนิ คา สทิ ธิ หรือบริการท่ีขาย รวมถึงราคาซื้อ ตนทุน 283

285 การผลิต และคาใชจายตาง ๆ ที่จายไปเพื่อใหสินคาอยูในสภาพพรอมท่ีจะขาย โดยแยกแสดง เปนตนทุนตามประเภทของธุรกิจหลักของกิจการตามที่ไดแสดงไวในรายการท่ี 1 เชน ตนทุน ของสนิ คาทขี่ าย ตน ทนุ ของการใหบ รกิ าร เปนตน 3. กําไรขั้นตน (gross profit) หมายถึง สวนของรายไดจากการขายสินคาและหรือ บรกิ ารสทุ ธิท่สี ูงกวาตนทุนขายและหรอื ตนทุนของการใหบริการ 4. คาใชจายในการขายและบริหาร (selling and administrative expenses) หมายถึง คาใชจายท่ีเกิดข้ึนอันเน่ืองมาจากการขาย และคาใชจายทั่วไปที่เกิดข้ึนในการดําเนินงานอันเปน สว นรวม ทั้งน้ี ไมรวมคา ใชจา ยอ่นื และดอกเบ้ยี จาย ซึ่งกาํ หนดใหแ สดงไวใ นรายการที่ 7 และ 11 5. กําไร (ขาดทุน) จากการขายและหรือการใหบริการ (profit (loss) from the sale of goods and the rendering of services) หมายถึง กําไร (ขาดทุน) จากการขายและหรือการ ใหบริการซ่งึ ไมร วมรายไดอ ืน่ และคาใชจ า ยอนื่ ทก่ี าํ หนดใหแ สดงในรายการท่ี 6 และ 7 6. รายไดอ่ืน (other incomes) หมายถึง รายไดจากการดําเนินงานนอกจากท่ี กําหนดใหแสดงไวในรายการที่ 1ท้ังน้ีใหรวมกําไรอ่ืนท่ีไมจัดเปนรายการพิเศษ เชน กําไรจาก การขายเงินลงทุน ที่ดิน อาคาร อุปกรณ และสินทรัพยอื่น เปนตน ในกรณีท่ีมีคาใชจายในการ ขายสินทรัพยดังกลา วใหน ํามาหักจากรายการนเ้ี พอื่ แสดงยอดสทุ ธิ 7. คาใชจายอ่ืน (other expenses) หมายถึง คาใชจายในการดําเนินงานนอกจากที่ กาํ หนดใหแ สดงไวในรายการที่ 2 และ 4ทั้งน้ีใหรวมถึงขาดทุนอื่นที่ไมจัดเปนรายการพิเศษ เชน ขาดทุนจากการขายเงินลงทุน ที่ดิน อาคาร อุปกรณ และสินทรัพยอื่น และขาดทุนจากการหยุด งานของพนักงาน เปนตน ในกรณีที่มีรายไดจากการขายสินทรัพยดังกลาว ใหนํามาหักจาก รายการน้เี พื่อแสดงยอดสุทธิ 8. กําไร (ขาดทุน) จากการดําเนินงาน (profit (loss) from operations) หมายถึง กําไร (ขาดทนุ ) จากการขายและหรอื การใหบ ริการทีร่ วมรายไดอ นื่ และหกั คาใชจ า ยอน่ื 9. สวนแบงกําไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนตามวิธีสวนไดเสีย (share of profits (losses) from investments for using the equity method) หมายถึง สวนแบงกําไร (ขาดทุน) จาก เงินลงทุนซึ่งบนั ทึกโดยวธิ สี วนไดเ สียตามทก่ี ําหนดไวใ นมาตรฐานการบญั ชี 10. กําไร (ขาดทุน) กอนดอกเบี้ยจายและภาษีเงินได (profit (loss) before interest and income tax expenses) หมายถึง ยอดรวมรายไดหักดวยยอดรวมคาใชจาย แตกอนหัก ดอกเบยี้ จา ยและกอ นภาษเี งนิ ไดห ากมผี ลขาดทนุ ใหแ สดงจํานวนเงินไวในเครอ่ื งหมายวงเลบ็ 11. ดอกเบี้ยจาย (interest expenses) หมายถึง ดอกเบี้ยหรือคาตอบแทนเน่ืองจาก การใชป ระโยชนจากเงินหรือเงนิ ทุน 284

286 12. ภาษีเงินได (income tax expenses) หมายถึง ภาษีเงินไดนิติบุคคลที่คํานวณข้ึน ตามวธิ กี ารบญั ชีหรือตามบทบัญญตั แิ หง ประมวลรัษฎากร 13. กําไร (ขาดทุน) จากกิจกรรมตามปกติ (profit (loss) from ordinary activities) หมายถึง กําไร (ขาดทุน) จากกิจกรรมซ่ึงเปนสวนหนึ่งของการประกอบธุรกิจของบริษัท หรือ เกิดขึ้นจากการดําเนินงานตามปกติของบริษัท รวมท้ังกิจกรรมอ่ืนซ่ึงเก่ียวเน่ืองกับการประกอบ ธรุ กิจหรือการดําเนินงานดงั กลาว 14. รายการพิเศษ-สุทธิ (extraordinary items, net) หมายถึง รายไดหรือคาใชจายที่ เกิดจากรายการหรือเหตุการณทางบัญชีท่ีมีความแตกตางอยางชัดเจนจากการดําเนินงาน ตามปกติของกิจการ และไมค าดวาจะเกดิ ขึ้นเปนประจําหรือเกิดข้ึนไมบอย เชน คาเสียหายท่ีเกิด จากไฟไหม นํ้าทวม หรือภัยธรรมชาติอยางอื่น เปนตน รายการพิเศษน้ี ใหแสดงเปนยอดสุทธิ จากภาษีเงินไดท่ีเก่ียวของในกรณีที่รายการพิเศษเปนผลขาดทุน ใหแสดงจํานวนเงินไวใน เครื่องหมายวงเล็บ 15. กําไร (ขาดทุน) สุทธิ (net profit (loss) หมายถึง กําไรหรือขาดทุนหลังจากหัก หรือรวมรายการพิเศษแลว หากมผี ลขาดทนุ สทุ ธิใหแสดงจาํ นวนเงนิ ไวใ นเคร่อื งหมายวงเล็บ 16. กําไรตอหุน (earnings per share) วิธีการคํานวณใหเปนไปตามมาตรฐานการ บัญชีวาดวยเรื่องกําไรตอหุน หากมีผลขาดทุนใหแสดงจํานวนเงินไวในเครื่องหมายวงเล็บ โดย แสดงแยกเปน 16.1 กาํ ไร (ขาดทุน) จากกิจกรรมตามปกติ (profit (loss) from ordinary activities) 16.2 รายการพเิ ศษ-สทุ ธิ (extraordinary items, net) 16.3 กําไร (ขาดทุน) สุทธิ (net profit (loss)) งบแสดงการเปล่ยี นแปลงในสวนของเจาของ เปนงบแสดงการเปลี่ยนแปลงในสวน ของเจาของซ่งึ ตอ งแสดงรายการดงั นี้ 1. กาํ ไรหรอื ขาดทนุ สุทธิสําหรับงวดบญั ชี 2. รายไดคาใชจาย รายการกําไรขาดทุนแตละรายการที่กําหนดใหรับรูโดยตรงใน สวนของเจา ของตามมาตรฐานฉบบั อืน่ โดยใหแ สดงยอดรวมของรายการเหลา นไ้ี วดว ย 3. ผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบญั ชแี ละของการแกไ ขขอ ผดิ พลาด 4. รายการเกยี่ วกับเงนิ ทุนที่ไดรับจากเจาของและการแบง ปนสว นทนุ ใหเจาของ 5. ยอดคงเหลือของกําไรหรือขาดทุนสะสม ณ ตนงวด และ ณ วันที่ในงบดุล รวมถึงรายการเปล่ียนแปลงระหวา งงวด 285

287 6. รายการกระทบยอดในสวนทุนแตละประเภท สวนเกินมูลคาหุน และสํารองแต ละชนดิ ระหวา งตนงวดกบั ปลายงวด โดยใหแยกแสดงการเปลีย่ นแปลงของแตล ะรายการ งบกําไรขาดทุนเบด็ เสร็จ เปนงบท่ตี อ งแสดงรายการดงั น้ี 1. กาํ ไรหรือขาดทุนสุทธิสาํ หรับงวดบัญชี 2. รายไดคาใชจาย รายการกําไรขาดทุนแตละรายการท่ีกําหนดใหรับรูโดยตรงใน สวนของเจา ของตามมาตรฐานฉบับอืน่ โดยใหแสดงยอดรวมของรายการเหลา น้ีไวดวย 3. ผลสะสมของการเปลีย่ นแปลงนโยบายการบญั ชแี ละของการแกไ ข นอกจากน้ีงบกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จตองเปดเผยรายการตอไปน้ีเปนหมายเหตุ ประกอบงบการเงิน 1. รายการเกี่ยวกบั เงนิ ทนุ ทีไ่ ดรบั จากเจาของและการแบง ปน สว นทนุ ใหเจา ของ 2. ยอดคงเหลือของกําไรหรือขาดทุนสะสม ณ วันตนงวด และ ณ วันท่ีในงบดุล รวมถึงรายการเปลี่ยนแปลงระหวา งงวด 3. รายการกระทบยอดในสวนทุนแตละประเภท สวนเกินมูลคาหุน และสํารองแต ละชนิดระหวา งตนงวดกับปลายงวด โดยใหแยกแสดงการเปล่ยี นแปลงของแตละรายการ 286

288 สรปุ กําไรสะสม ไดแก กําไรหรือขาดทุนสุทธิจากการดําเนินงานท่ีสะสมมาตั้งแตเริ่มตน กจิ การ และยงั คงสะสมอยใู นบรษิ ทั แบง เปน กาํ ไรสะสมท่ีจัดสรรแลว และกําไรสะสมที่ยังไมได จัดสรร โดยกําไรสะสมที่จดั สรรแลวแบงจดั สรรตามขอ สะสม กําหนดของกฎหมาย จัดสรรตาม ขอผูกพัน และจัดสรรตามนโยบายของบริษัทและกําไรสะสมที่ยังไมไดจัดสรรเปนกําไรที่ยัง ไมไดถ ูกกันไวเ พือ่ วตั ถุประสงคเฉพาะอยางใดอยา งหนึ่ง เงินปนผล เปนสวนแบงกําไรที่จายใหกับผูถือหุนตามจํานวนหุนท่ีถืออยูในมือ บุคคลภายนอก และไดสงใชเงินคาหุนแลว การจายปนผลตองไดรับอนุญาตจากที่ประชุมใหญ ผูถือหุนกอน และตองมีการบอกกลาวใหผูถือหุนทราบโดยสงจดหมายหรือโฆษณาใน หนังสอื พมิ พแ หงทองถน่ิ อยา งนอย 2 ครงั้ การคํานวณการจา ยปน ผลตองแยกพจิ ารณาวาบริษัทมี หุนสามัญเพียงชนิดเดียว หรือมีทั้งหุนบุริมสิทธิ และหุนสามัญ หากมีหุนบุริมสิทธิอยูใหจาย ปนผลใหกับหุนบุริมสิทธิกอน การจายปนผลอาจจายไดหลายลักษณะ ไดแก การจายเงินสดปน ผล การจายปนผลเปนสินทรัพย การจายปนผลเปนเอกสารแสดงหน้ี การจายปนผลในลักษณะ คืนทนุ และการจา ยหนุ ปนผล งบการเงิน บริษัทตองจัดทํางบการเงิน ไดแก งบดุล งบกําไรขาดทุน งบแสดงการ เปลี่ยนแปลงในสวนของเจาของ หรืองบกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบกระแสเงินสด นโยบาย การบญั ชี และหมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน 287

289 แบบฝกหดั ทายบท 1. จงอธิบายความหมายของกําไรสะสม 2. การจัดสรรกําไรสะสม จดั สรรไดอ ยา งไร 3. เงินปนผลหมายถึงอะไร มีหลกั เกณฑ และวธิ กี ารจา ยปน ผลอยา งไร 4. การคํานวณการจายปนผล ทําไดอยางไรบา ง 5. งบการเงนิ ที่สมบูรณข องบรษิ ทั ประกอบดว ยอะไรบาง 6. บริษัท โทคอม จํากัด จดทะเบียนทุนหุนสามัญจํานวน 100,000 หุน มูลคาหุนละ 10 บาท และหุนบุริมสิทธิชนิด 10 % จํานวน 20,000 บาท หุน มูลคาหุนละ 50 บาท บริษัทไดนํา ออกจาํ หนายทง้ั หมด และเก็บเงินคาหุนครบแลว ปรากฏวาเมื่อส้ินงวดบัญชีป 25x1, 25x2, 25x3 บริษัทมีกําไรสุทธิจํานวน 90,000 บาท 250,000 บาท และ 310,000 บาท ตามลําดับบริษัทได ประกาศจา ยเงนิ ปนผล ทุกปท ี่มกี ําไร ใหท ํา ใหคํานวณวาในแตละปหุนท้ังสองชนิดไดรับเงินปนผลหุนละเทาใด โดยสมมติวา หนุ บุริมสิทธิ เปน หนุ บรุ ิมสิทธชิ นิดพเิ ศษ กรณีดงั ตอ ไปน้ี 1. ไมส ะสม และไมรวมรับ 2. สะสมแตไ มรว มรบั 3. ไมส ะสมแตร ว มรบั 4. สะสมและรว มรบั 5. ไมส ะสมแตร ว มรบั ไดไ มเ กิน 12% 7. บริษัท สุโขทัย จํากัด มีงบดุลเพียงบางสวนซ่ึงแสดงเฉพาะสวนของผูถือหุนในวันที่ 31 ธันวาคม 25x1 ดังนี้ ทุนเรอื นหนุ จดทะเบียนจํานวน 50,000 หนุ มลู คาหนุ ละ 100 บาท นาํ ออกจําหนายและออกใบหุนครบแลว จํานวน 40,000 หุน 4,000,000 บาท สวนเกินมูลคาหุน 200,000 บาท สวนตํ่ากวา มูลคา หุน 120,000 บาท กําไรสะสม (กาํ ไรสทุ ธิปน ี้ = 1,057,000 บาท) 1,657,000 บาท บริษัทไดประกาศจายเงินปนผลตามมติของท่ีประชุมผูถือหุน เมื่อวันท่ี 1 มีนาคม 25x2 โดยจายเปนเงินสดในอัตรา 10% พรอมทั้งใหต้ังสํารองตามที่กฎหมายกําหนด สํารองเพ่ือ 288

290 การขยายงาน 10% และสํารองเพ่ือสวัสดิการ พนักงาน 5% บริษัทไดจายเงินปนผลในวันท่ี 15 มนี าคม 25x2 ใหทํา บันทึกการจดั สรรกาํ ไรในสมุดรายวนั ทั่วไป 8. ตอ ไปนี้เปนรายการเก่ียวกบั หนุ ทุนของบริษัท 25x2 ม.ค. 1 บริษัทจดทะเบียนทุนหุนสามัญ 5,000 หุน มูลคาหุนละ 100 บาท และหุนบุริมสิทธิ ชนดิ 10% จํานวน 2,500 หนุ มูลคาหนุ ละ 100 บาท 7 จําหนายหุนสามัญได 3,000 หุน ในราคาตามมูลคา และจําหนายหุนบุริมสิทธิได ท้งั หมดในราคาหนุ ละ 98 บาท 14 จาํ หนายหนุ สามัญทเ่ี หลือทง้ั หมดในราคา 105% ก.ค. 1 บรษิ ทั มกี าํ ไรสทุ ธิงวดครงึ่ ปแรก จํานวน 42,500 บาท 15 ประกาศจายเงินปนผลงวดคร่ึงปใหแกหุนท้ัง 2 ชนิด โดยหุนบุริมสิทธิจายเปนเงิน สดสวนหุนสามญั จา ยเปนหนุ ปนผลในอัตรา 6% ราคาในทองตลาดหุน ละ 102 บาท ส.ค.15 จายเงนิ ปน ผลตามทป่ี ระกาศจายในวนั ท่ี 15 ก.ค. ธ.ค.31 บริษทั มกี ําไรสทุ ธิในงวดครึ่งปหลงั 48,500 บาท ใหท าํ บนั ทึกรายการขา งตนในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 9. บรษิ ทั กอไผ จํากัด มีงบดุลทแ่ี สดงเฉพาะสว นของผถู ือหุน เมือ่ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25x1ดังน้ี ทนุ หนุ สามัญจดทะเบียนจาํ นวน 250,000 หุน มูลคาหุนละ 10 บาท นําออกจาํ หนา ยและเก็บเงินคาหุนครบแลวจํานวน 150,000 หุน 1,500,000 บาท สวนเกินมูลคา หนุ 275,000 บาท สว นตา่ํ กวามูลคา หนุ 125,000 บาท สํารองตามกฎหมาย 6,250 บาท กาํ ไรสะสม (กาํ ไรสุทธิป 25x1 = 49,250 บาท) 625,000 บาท บริษัทไดประกาศจายเงินปนผลเปนเงินสดหุนละ 1 บาท และจายเปนหุนปนผลใน อตั รา 3% พรอมทั้งต้ังสํารองตามกฎหมายดวยในวันท่ี 20 กุมภาพันธ 25x2 ตอมาไดจายเงินปนผล ท้ังหมดในวันท่ี 30 มีนาคม 25x2 ราคาตลาดหนุ สามญั วนั น้ีหนุ ละ 20 บาท 289

291 ใหท าํ 1. บนั ทกึ การจดั สรรกําไรขา งตนในสมุดรายวันท่ัวไป 2. แสดงสวนของผถู อื หนุ ในงบดุลเม่ือวันท่ี 30 มนี าคม 25x2 10. บริษัท อังคาร จํากัด กําไรสะสมตนป จํานวน 125,000 บาท และมีงบดุลซ่ึงแสดงเฉพาะ สว นของผถู ือหุน ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x1 ดงั น้ี ทุนเรือนหนุ ทุนจดทะเบยี น หุนสามญั 50,000 หนุ มูลคาหนุ ละ 10 บาท 500,000 หนุ บุรมิ สิทธิ 10% 35,000 หุน มลู คา หนุ ละ 10 บาท 350,000 850,000 ทนุ ทอี่ อกและเรียกชาํ ระแลว ทุนหนุ สามัญ 20,000 หุน มูลคาหนุ ละ 10 บาท 200,000 ทุนหนุ บรุ มิ สทิ ธิ 1,500 หนุ มูลคา หนุ ละ 10 บาท (หุนนี้มีราคาไถถอนหุนละ 110 บาท และอาจ เปลยี่ นเปนหนุ สามญั ในอตั รา 6:5) 150,000 350,000 สิทธซิ อ้ื หุนสามญั 500 หนุ ซ่ึงใหแกพนักงานซ้ือหุนได ในราคาหนุ ละ 110 บาท (หมดอายุในวนั ที่ 30 ก.ย. x1) 2,500 สวนเกนิ ทุน สว นเกนิ มลู คา หุนสามัญ 10,000 สว นต่ํากวามลู คา หุนบรุ มิ สิทธิ (15,000) (5,000) กําไรสะสม 125,000 472,500 ในระหวางป 25x1 มีรายการตา ง ๆ ทาํ ใหสวนของผูถอื หนุ เปลย่ี นแปลงดังน้ี ม.ค. 5 บรษิ ทั ไดซ อื้ หนุ สามญั คืนมา 2,000 หนุ ในราคาหนุ ละ 110 บาท ก.พ.10 บริษัทไดใหสิทธิแกผูถือหุนบุริมสิทธิเดิมท่ีจะซื้อหุนบุริมสิทธิใหมเพ่ิมเติมได 1 หุน ในราคาหุนละ 120 บาท โดยตองใชสิทธิภายในส้ินเดือนเมษายน 25x1 ราคาตลาด ของหุนบรุ มิ สทิ ธิในวนั นีห้ นุ ละ 115 บาท มี.ค. 15 ผูถือหุนบุริมสิทธิเดิมทุกคนไดใชสิทธิจองซ้ือหุนบุริมสิทธิใหม ราคาตลาดของหุน บุริมสิทธิในวันนี้ราคาหุนละ 130 บาท และบริษัทไดเรียกเก็บเงินคาหุนครอบใน วันที่ 30 มีนาคม 25x1 290

292 เม.ย. 10 พนักงานท่ีไดรับสิทธิซื้อหุนสามัญใชสิทธิซ้ือหุนสามัญ 4,000 หุน ราคาตลาดของ หุนสามัญในวนั น้ี หนุ ละ 120 บาท มิ.ย. 30 บริษัทไดประกาศ และจายเงินปนผลเปนเงินสดใหแกผูถือหุนบุริมสิทธิเปนเงินสด ในงวด 6 เดือนแรก ก.ค. 1 บรษิ ทั ไดไถถ อนหนุ บุริมสิทธิจํานวน 2,500 หุน ตามเง่ือนไขที่วางไว ส.ค. 7 ผถู ือหนุ บรุ ิมสทิ ธิไดนําหุนบรุ มิ สทิ ธิ 3,000 หุน มาขอแปลงสภาพเปน หุนสามัญ ต.ค. 9 บรษิ ัทไดขายหนุ สามัญทีซ่ อ้ื คืนมาท้งั หมดในราคาหนุ ละ 105 บาท พ.ย. 30 บริษัทไดรับบริจาคหุนสามัญของบริษัทเองจํานวน 500 หุน และไดขายหุนน้ีไปใน ราคาหุน ละ 105 บาท ธ.ค. 15 บริษัทไดประกาศจายหุนปนผลใหแกหุนสามัญในอัตรา 10% ราคาตลาดของ หุนสามัญในวันน้ี หุนละ 110 บาท ในการจายหุนปนผลคร้ังน้ีบริษัทไดออกใบมอบ สิทธิในหุนปนผลไมเ ต็มหนุ ให 600 หนุ ใบมอบสิทธิมีอายุ 3 เดอื น 31 บริษัทไดประกาศและจายเงินปนผลใหแกหุนบุริมสิทธิเปนเงินสดในงวด 6 เดือน หลงั และในวนั นีไ้ ดประกาศและจายหุนปนผลใหแกหุนสามัญ กําไรสุทธิประจําปน้ี เทากับ 140,000 บาท สําหรับใบมอบสิทธิในหุนปนผลไมเต็มหุนมีผูนํามารับใบหุน เพียง 400 หนุ ใหทํา บันทึกรายการขางตนในสมุดรายวันท่ัวไป และแสดงงบดุล(เฉพาะสวนของผูถือหุน) วันที่ 31 ธันวาคม 25x2 291

บทที่ 8 ราคาตามบัญชตี อ หนุ กาํ ไรตอหุน การเลกิ บรษิ ัท การประเมินสวนของผูถือหุนเปนสิ่งท่ีผูถือหุน เจาหน้ี และผูเก่ียวของทุกคน ใหความสนใจ โดยการประเมินสวนของผูถือหุนดังกลาวเปนการคํานวณมูลคาหุนของบริษัท เพื่อใหผูถือหุนไดรับทราบความคุมคาของการลงทุนและนําขอมูลมาพิจารณากําหนดราคาซ้ือ ขายหุนไดอยางสมเหตุสมผล โดยท่ัวไปการคํานวณมูลคาหุนจะคํานวณหาราคาตามบัญชีตอหุน ซ่ึงเปนความสามารถในการชําระคืนเงินทุนหรือสวนไดเสียในเงินทุนตอหุนใหกับผูถือหุนหาก ในวันนั้นไดเลิกบริษัทไป และการคํานวณหากําไรตอหุน ซ่ึงเปนการวัดความสามารถใน การดําเนินงานของบริษัท ท้ังน้ีเพ่ือใหผูถือหุนไดรับประโยชนสูงสุดควรนําราคาตามบัญชีตอหุน และกําไรตอหุนไปเปรียบเทียบกับราคาตลาดของหุน เพื่อประกอบการพิจารณาลงทุนซื้อหุนเพ่ิม หรอื ควรขายหุน ออกไป ราคาตามบญั ชตี อ หนุ นักวิชาการใหความหมายราคาตามบัญชีตอหุน (book value per share) ไวหลาย ทศั นะ ดังนี้ ราคาตามบัญชีตอหุน หมายถึง สิทธิสวนไดเสียในเงินทุนตอหุน หรือสวนเฉลี่ยของ มูลคา สทิ ธิของสินทรพั ยทเี่ ปน ของผถู ือหุนสามัญหนง่ึ หนุ ราคาตามบญั ชตี อหนุ เปนจาํ นวนเงินที่ ผูถือหุนมีสิทธิไดรับคืนโดยสมมติวาบริษัทเลิกกิจการ ณ วันนั้น (เมธากุล เกียรติกระจาย และ ศิลปพร ศรีจน่ั เพชร, 2547, หนา 17-20) ราคาตามบัญชีตอหุน หมายถึง สิทธิสวนไดเสียในเงินทุนของบริษัทตอหน่ึงหุนซ่ึง คํานวณไดจากงบดุลของบริษัท ณ วันใดวันหนึ่ง หรือกลาวอีกลักษณะหน่ึงคือ เปนราคาที่เมื่อ เลกิ กิจการบริษัทแลว ผูถือหุนแตละคนจะไดรับการจายคืนทุนเทาไร (พัชรินทร ไตรรัตนรุงเรือง, 2547, หนา 9-4) ราคาตามบัญชีตอหนุ หมายถึง สิทธหิ รอื สวนไดเ สียในเงินทุนของบริษัทตอหนึ่งหุน ซ่ึงคํานวณราคาเปนจํานวนเงินท่ีผูถือหุนมีสิทธิไดรับคืน โดยสมมติวาบริษัทเลิกกิจการ ณ วัน นน้ั (อังคณา นุตยกุล, 2547, หนา 241) 292

294 จากความหมายของราคาตามบัญชีตอหุนดังกลาวขางตนสรุปไดวา ราคาตามบัญชีตอหุน หมายถึง สิทธิสวนไดเสียในเงินทุนของบริษัทตอหุนที่ผูถือหุนจะไดรับคืน โดยสมมติวาบริษัท เลิกกจิ การ ณ วนั นน้ั ซง่ึ การคาํ นวณราคาตามบญั ชีตอ หุนคาํ นวณไดดังนี้ 1. บริษัทมีหุนทุนเพียงชนิดเดียว กรณีที่บริษัทมีหุนทุนเพียงชนิดเดียว คือ หุน สามัญ การคาํ นวณราคาตามบญั ชตี อหนุ เปน ดังนี้ ราคาตามบญั ชตี อหุน = เงินทุนทง้ั สิ้นของบริษทั จาํ นวนหนุ ทอี่ ยูในมอื ของผถู อื หุน จํานวนเงินทุนทั้งสิ้นของบริษัท เปนเงินทุนทั้งหมดในสวนของผุถือหุนท่ีปรากฎอยู ในงบดุล หากบรษิ ทั มหี ุนทุนไดรบั คืน ใหนําหุนทนุ ซ้อื คืนมาหักจากสวนของผูถือหนุ กอ นนาํ ไป คํานวณราคาตามบัญชตี อหุน จํานวนหุนท่ีอยูในมือของผูถือหุน เปนจํานวนหุนท่ีบริษัทไดจําหนายและออกใบหุน ใหผูถือหุนเรียบรอยแลวรวมกับจํานวนหุนท่ีใหจองซ่ึงยังรับชําระคาหุนไมครบจึงยังไมออกใบ หุนใหผ ูถ อื หนุ หกั ดว ยจาํ นวนหุนสามญั ไดรบั คนื ตัวอยางที่ 8.1 ตอไปนีเ้ ปน งบดุลเฉพาะสว นของผถู ือหนุ ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 สว นของผูถ อื หุน ทนุ เรอื นหนุ : หนุ สามญั จดทะเบยี น 20,000 หนุ มลู คาหนุ ละ 10 บาท ออกจําหนา ยอยใู นมือบุคคลภายนอกแลว 16,000 หุน 160,000 หุนสามัญใหจ อง 2,000 หุน 20,000 สวนเกนิ มูลคา หนุ สามัญ 20,000 กาํ ไรสะสม ท่ยี งั ไมไ ดจัดสรร 40,000 ที่จดั สรรแลว : จดั สรรตามกฎหมาย 20,000 จัดสรรเพือ่ หุน สามัญซอื้ คนื 30,000 50,000 90,000 รวม 290,000 หัก หุนสามัญที่ซอื้ คนื 1,000 หนุ ราคาทนุ 15,000 รวม 275,000 293

295 จํานวนหุน ทอี่ ยูในมอื บุคคลภายนอก = 16,000 + 2,000 - 1,000 ราคาตามบัญชีตอหุน = 17,000 หุน = 275,000 17,000 = 16.18 บาทตอ หนุ 2. บริษัทมีหุนทุนสองชนิด กรณีมีหุนบุริมสิทธิ บริษัทตองคืนทุนใหหุนบริมสิทธิ กอนหุนสามัญ ดังนั้นถาบริษัทมีทั้งหุนบุริมสิทธิและหุนสามัญ สวนของผูถือหุนตองถูกแบง ออกเปน 2 สวน โดยตองแบงใหกับหุนบุริมสิทธิกอน สวนท่ีเหลือจึงเปนของหุนสามัญ การ คาํ นวณสิทธขิ องผูถอื หนุ บรุ มิ สิทธมิ รี ายละเอียดดังน้ี 2.1 มูลคาของหุนบุริมสิทธิเมื่อเลิกกิจการ การคํานวณหาราคาตามบัญชีตอหุน ตั้งอยบู นสมมติวา บริษทั จะเลกิ กิจการ ณ วนั น้ัน จึงตอ งประเมินราคาของหุน การกําหนดมูลคา ของหุนเมื่อเลิกกิจการอาจมีการกําหนดไวลวงหนา โดยอาจกําหนดไวเทากับราคาตามมูลคา หรือไมก็ ถาไมสามารถที่จะทราบราคาของหุนบุริมสิทธิเมื่อเลิกกิจการแลวอาจจะใชราคา ตามมูลคา การคํานวณมลู คา หุนบุริมสิทธเิ มอื่ เลกิ กิจการคาํ นวณไดด ังน้ี มลู คาของหุน บุรมิ สิทธิเมอ่ื เลิกกจิ การ = ราคาของหนุ บรุ มิ สทิ ธิเมอื่ เลิกกจิ การ x จํานวนหนุ บุริมสิทธทิ ่อี ยใู นมอื ผูถือหุน 2.2 เงินปนผล นอกจากมูลคาของหุนบุริมสิทธิเมื่อเลิกกิจการแลว ผูถือหุน บุริมสิทธิยังไดรับสิทธิอีกประการหน่ึง คือ เงินปนผล การคํานวณสวนของผูถือหุนซึ่งเปนของ หุนบุรมิ สทิ ธิจะมีความแตกตางกนั ทสี่ ทิ ธิพเิ ศษในเรื่องเงินปน ผล ซ่ึงแบงไดดังนี้ 2.2.1 หนุ บรุ มิ สิทธชิ นดิ ไมส ะสมและไมรว มรบั การคาํ นวณราคาตามบัญชี ตอหุน จะเปน ดงั น้ี 294

296 ตวั อยา งที่ 8.2 ตอไปน้ีเปนงบดุลเฉพาะสว นของผถู อื หุนของบรษิ ัท ทวิภพ จํากัด ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 25x1 เปนดงั นี้ สว นของผูถอื หนุ ทนุ เรอื นหุน : หุนสามัญจดทะเบียน 50,000 หุน มูลคา หุนละ 10 บาท ออกจําหนายอยใู นมอื บคุ คลภายนอกแลว 400,000 หุน สามัญใหจอง 20,000 ทุนเรอื นหนุ : หนุ บรุ ิมสทิ ธิ 5% จดทะเบียน 10,000 หนุ มูลคาหนุ ละ 100 บาท ราคาไถถ อนหุนละ 120 บาท ราคาของหุนเม่ือเลกิ กิจการ หนุ ละ 130 บาท ออกจาํ หนา ยอยใู นมือบุคคลภายนอกแลว 600,000 สว นเกินมูลคา หุนสามญั 48,000 สว นเกินมลู คา หุนบุริมสทิ ธิ 5% 14,000 สวนเกินทุนจากการไถถอนหุนบุริมสทิ ธิ 10,000 กาํ ไรสะสม 415,000 หกั หนุ สามญั ท่ซี อ้ื คนื ราคาทุนหนุ ละ 13 บาท 13,000 รวม 1,494,000 การคํานวณ สิทธทิ ี่ผูถือหุนบุริมสิทธจิ ะไดร บั 1,494,000 เงินทนุ ทัง้ หมด (สว นของผุถือหนุ ทั้งหมด) เงินทนุ สวนที่เปนของหุนบุริมสทิ ธิ : 780,000 810,000 30,000 684,000 มลู คา เมอ่ื เลิกกจิ การ (6,000 X 130) เงินปน ผล (600,000 X 5%) เงินทุนสว นทเ่ี ปนของผถู อื หุนสามัญ ราคาตามบญั ชีตอหนุ ของหนุ บรุ มิ สทิ ธิ = 810,000 = 6,000 135 บาท ราคาตามบัญชตี อ หนุ ของหนุ สามญั = 684,000 = 4,000 + 2,000 -1,000 136.80 บาท 295

297 2.2.2 หุนบุริมสิทธิชนิดสะสมและไมรวมรับ การคํานวณราคาตามบัญชี ตอหุนจะเปน ดังนี้ ตัวอยา งท่ี 8.3 จากตัวอยางท่ี 8.2 สมมติวา บริษทั ไมไดจ ายเงนิ ปนผลมาเปนเวลา 2 ป รวมท้งั ป ปจจบุ นั การคํานวณ สิทธิท่ผี ูถือหุนบรุ ิมสทิ ธจิ ะไดร บั เงนิ ทุนทั้งหมด (สว นของผถู ือหนุ ท้ังหมด) 1,494,000 เงินทุนสว นทีเ่ ปน ของหนุ บรุ มิ สทิ ธิ : มูลคา เม่อื เลกิ กิจการ (6,000 x 130) 780,000 เงินปน ผล (600,000 x 5% x 2) 60,000 840,000 เงนิ ทนุ สว นทเ่ี ปน ของผูถอื หนุ สามัญ 654,000 ราคาตามบญั ชีตอหนุ ของหนุ บรุ มิ สิทธิ = 840,000 ราคาตามบัญชตี อหนุ ของหุนสามัญ 6,000 = = 140 บาท 654,000 = 4,000 + 2,000 -1,000 130.80 บาท 2.2.3 หุนบุริมสิทธิชนิดไมสะสมและรวมรับ การคํานวณราคาตามบัญชี ตอหนุ จะเปน ดังน้ี ตัวอยา งที่ 8.4 จากตัวอยางที่ 8.2 สมมตวิ าบรษิ ทั ไมไดจ า ยเงนิ ปน ผลมาเปนเวลา 2 ป รวมทั้งป ปจ จบุ ัน 296

298 ประกาศจา ยปน ผลป 25x1 415,000 หุน หุน สามัญ รวม คดิ ปน ผลใหห นุ บุริมสิทธิ (600,000 x 5%) (30,000) บรุ ิมสทิ ธิ 20,500 385,000 30,000 คดิ ปนผลใหหนุ สามัญ (410,000 x 5%) (20,500) 30,000 20,500 364,500 216,535 หนุ บรุ มิ สิทธริ วมรบั เงนิ ปน ผล (216,535) 216,535 600 (364,500 x 1,010 ) หนุ สามญั รว มรบั เงินปนผล (147,965) . 147,965 147,965 410 (364,500 x 1,010 ) 246,535 168,465 415,000 การคํานวณ สิทธิทผ่ี ูถ ือหุน บรุ มิ สทิ ธิจะไดรับ 1,494,000 เงินทุนทง้ั หมด (สว นของผถู ือหนุ ทัง้ หมด) เงนิ ทนุ สวนทเี่ ปน ของหนุ บรุ ิมสทิ ธิ : 780,000 1,026,535 246,535 467,465 มลู คา เม่ือเลกิ กิจการ (6,000 x 130) เงินปน ผล เงนิ ทุนสวนทเ่ี ปนของผูถือหนุ สามญั ราคาตามบญั ชตี อหนุ ของหนุ บุริมสทิ ธิ = 1,026,535 ราคาตามบัญชตี อหนุ ของหนุ สามญั 6,000 = = 171.09 บาท 467,465 = 4,000 + 2,000 -1,000 93.49 บาท 297

299 2.2.4 หุนบุริมสิทธิชนิดสะสมและรวมรับ การคํานวณราคาตามบัญชีตอ หุนจะเปน ดงั นี้ ตัวอยางท่ี 8.5 จากตัวอยางที่ 8.2 สมมตวิ า บริษัทไมไดจ ายเงินปน ผลมาเปนเวลา 2 ป รวมทงั้ ป ปจจุบนั หนุ หุน สามญั รวม บรุ มิ สิทธิ ประกาศจายปนผลป 25x1 415,000 คิดปนผลใหหุนบรุ มิ สิทธ(ิ 600,000 x 5% x 2ป) (60,000) 30,000 30,000 355,000 คดิ ปนผลใหหุนสามญั (410,000 x 5%) (20,500) 20,500 20,500 334,500 หนุ บรุ ิมสิทธิรวมรบั เงินปน ผล (198,713) 198,713 198,713 600 (334,500 x 1,010 ) หนุ สามัญรว มรับเงินปน ผล (135,787) . 135,787 135,787 410 (334,500 x 1,010 ) 228,713 156,287 415,000 การคํานวณ สิทธทิ ี่ผูถ อื หนุ บุรมิ สิทธจิ ะไดรบั 1,494,000 เงินทนุ ท้งั หมด (สว นของผูถอื หนุ ทงั้ หมด) เงนิ ทุนสวนทีเ่ ปนของหุนบรุ ิมสทิ ธิ : 780,000 มลู คา เม่ือเลกิ กิจการ (6,000 x 130) 228,713 1,008,713 เงนิ ปนผล เงนิ ทุนสว นท่เี ปนของผถู ือหนุ สามญั 1,008,713 485,287 6,000 ราคาตามบัญชีตอ หนุ ของหุน บรุ มิ สิทธิ = ราคาตามบญั ชตี อ หนุ ของหุนสามัญ = 168.12 บาท = 485,287 4,000 + 2,000 -1,000 = 97.06 บาท 298

300 กาํ ไรตอ หุน นกั วิชาการใหความหมายกาํ ไรตอหุน (earnings per share) ไวหลายทศั นะ ดงั นี้ กําไรตอหุน หมายถึง สวนเฉลี่ยของกําไรตอหุนสามัญหน่ึงหุนหรือจํานวนกําไร สทุ ธิประจํางวดท่ีเปนของหุนสามัญหนึ่งหุน (เมธากุล เกียรติกระจาย และศิลปพร ศรีจ่ันเพชร, 2547, หนา 17-21) กําไรสุทธิ หมายถึง กําไรตอหุนสามัญหรือผลตอบแทนของผูถือหุนสามัญนั่นเอง (อสิ รยี  โชวววิ ฒั นา, 2547, หนา 10-5) กําไรตอ หนุ หมายถงึ สว นเฉลย่ี ของกาํ ไรตอ หุนสามัญหนง่ึ หนุ (สมาคมนักบญั ชี และผสู อบบญั ชรี บั อนุญาตแหหง ประเทศไทย, 2538, หนา 44) จากความหมายของกําไรตอหุนดังกลาวขางตนสรุปไดวา กําไรตอหุน หมายถึง สวน เฉลยี่ ของกําไรหรือผลตอบแทนตอ หนุ สามัญหนึ่งหนุ โดยท่ัวไปจะไมม กี ารคํานวณหากําไรตอหุน ของหุนบุริมสิทธิ เนื่องจากหุนบุริมสิทธิจะไดรับเงินปนผลในอัตราคงท่ี ยกเวนหุนบุริมสิทธิ ชนดิ รวมรบั เงินปนผล การคํานวณกําไรตอหุนจะถูกใชประโยชนในการเปรียบเทียบความสามารถในการ ทํากําไรของบริษัทท่ีอาจมีขนาดของเงินทุนแตกตางกันซ่ึงไมอาจวัดความสามารถในการทํา กําไรจากยอดรวมของกําไรสุทธิไดจึงใชกําไรตอหุนเพ่ือเปรียบเทียบความสามารถในการทํา กําไรจากหุนสามัญหน่งึ หนุ ดงั น้ี ตัวอยางที่ 8.6 บริษัท หนึ่ง จํากัด มีหุนสามัญจดทะเบียน 1,000,000 หุน (ราคาตามมูลคาหุนละ 10 บาท) และมีผลกําไรจํานวน 1,000,000 บาท มีกําไรตอหุน 1 บาท สวนบริษัท สอง จํากัด มีหุนสามัญจดทะเบียน 100,000 หุน (ราคาตามมูลคาหุนละ 10 บาท) และมีผลกําไรจํานวน 200,000 บาท มีกําไรตอ หนุ 2 บาท บรษิ ัท หนง่ึ จาํ กดั บริษทั สอง จํากดั กําไรสทุ ธิ 1,000,000 บาท 200,000 บาท กาํ ไรตอ หนุ 1 บาท 2 บาท ถา พิจารณาจากกาํ ไรสทุ ธิแลว บริษัท หน่ึง จํากัด สามารถทํากําไรไดมากกวา บริษัท สอง จํากัด แตถาพิจารณาเปรียบเทียบจากกําไรตอหุน จะเห็นวาบริษัท สอง จํากัดมีกําไรตอหุน มากกวาบริษัท หน่ึง จํากัด ทั้งน้ีเน่ืองจากขนาดธุรกิจมีความแตกตางกันมาก จึงควรพิจารณา เปรียบเทยี บโดยใชก าํ ไรตอ หนุ จึงจะเหน็ ความสามารถในการทํากําไรไดชดั เจนยิง่ ข้นึ 299


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook