Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คัมภีร์สูตรขนมอบเพื่อสร้างอาชีพ

คัมภีร์สูตรขนมอบเพื่อสร้างอาชีพ

Published by Guset User, 2022-11-01 16:00:43

Description: คัมภีร์สูตรขนมอบเพื่อสร้างอาชีพ

Keywords: chefnapat01

Search

Read the Text Version

P a g e | 323 ขนั้ ตอนการทำ ขั้นตอนการทำแปง้ พายร่วน 1. รอ่ นแปง้ 1 ครั้ง พักไว้ 1. ๒. ใส่เกลอื เนยสด และเนยขาว ลงในแปง้ ใช้เบลนเดอรต์ ัดส่วนผสมเปน็ เม็ดเล็กๆขนาดเทา่ เมลด็ ถวั่ เขยี ว ไมต่ ้องนวด 2. ๓. ละลายนำ้ ตาลไอซง่ิ ใส่น้ำเยน็ และนมสดผสมรวมกัน ค่อยๆใสล่ งในส่วนผสมแปง้ 3. ๔. เคลา้ ส่วนผสมเบาๆ ใหส้ ่วนผสมรวมตัวกนั เปน็ ก้อน 4. ๕. พกั แปง้ ให้คลายตัว เป็นเวลาประมาณ 20 - 30 นาที ขนั้ ตอนการขึ้นรปู รา่ งกงั หนั สับปะรด นำแป้งมาคลึงหนา 1/8 น้ิว ตดั แป้งเป็นรูปส่เี หลี่ยม ขนาดกว้างxยาว 1.5 x 1.5 นิ้ว ใช้ลูกกลิ้ง ตัดแป้ง แล้วตัดมุมทั้ง 4 ด้านเข้าไปเกือบถึงจุดกึ่งกลางทั้ง 4 มุม ปั้นไส้สับปะรดให้กลม ขนาด 1/2 น้ิว วางตรงจุดกึ่งกลาง จับมุมแป้งพับเข้าหาตรงกลางให้เป็นรูปกังหัน วางบนถาดที่ทาเนยขาวบางๆ ทา ผิวหนา้ ด้วยไข่ให้ท่ัว นำเขา้ เตาอบ ไฟบน-ลา่ งอุณหภูมิ 200 °C เป็นเวลา 15-20 นาที จนขนมสุกเหลือง นำพายออกจากถาด พกั ใหเ้ ยน็ บนตะแกรง ใส่บรรจุภัณฑ์ ปดิ ให้มดิ ชดิ ข้นั ตอนการทำแปง้ พายร่วน ขั้นตอนท่ี ๑ 1.1 แป้งอเนกประสงค์ 1.2 รอ่ นแปง้ (ภาพที่ ๕.๓3 ขนั้ ตอนการทำแป้งพายร่วน หันสับปะรด ขัน้ ตอนที่ ๑)

P a g e | 324 ขน้ั ตอนท่ี ๒ 2.1 เกลอื 2.2 เนยสด 2.3 เนยขาว 2.4 ใช้เบลนเดอรต์ ัดสว่ นผสม (ภาพที่ ๕.๓4 ข้ันตอนการทำแปง้ พายร่วน หันสบั ปะรด ขน้ั ตอนที่ ๒) ขั้นตอนท่ี ๓ ๓.๑ นำ้ ตาลไอซง่ิ และนำ้ ๓.๒ นมสดจืด ๓.๓ คนให้เขา้ กัน ๓.๔ ใส่ลงในสว่ นผสมของแป้ง (ภาพท่ี ๕.๓5 ขัน้ ตอนการทำแปง้ พายร่วน หนั สับปะรด ข้นั ตอนที่ ๓)

P a g e | 325 ขั้นตอนท่ี ๔,๕ ส่วนผสมรวมกันเปน็ ก้อน พักไว้ ๒๐-๓๐ นาที (ภาพท่ี ๕.๓6 ขน้ั ตอนการทำแป้งพายร่วน หันสับปะรด ข้นั ตอนที่ ๔,๕) - ขัน้ ตอนการขนึ้ รูปรา่ งกังหันสบั ปะรด นำแป้งท่ีไดม้ าคลงึ หนา ๑/๘ นิ้ว ตัดแป้งเปน็ รปู ส่ีเหลยี่ ม ขนาด ๑.๕ x ๑.๕ นิ้ว ตัดมุมทั้งส่ดี า้ น นำไสส้ บั ปะรด วางตรงจุดกง่ึ กลางของแปง้ แลว้ จบั มมุ แปง้ พบั เขา้ หาตรงกลางทั้ง ๔ ดา้ น ใหเ้ ปน็ กังหัน

P a g e | 326 ทาไขใ่ หท้ ่วั นำเข้าเตาอบ นำออกจากเตาอบ พกั ให้เยน็ (ภาพที่ ๕.๓7 ขน้ั ตอนการขึน้ รปู รา่ งกงั หันสับปะรด)

P a g e | 327 ทาร์ตบราวน่ี (ภาพที่ ๕.๓8 ทารต์ บราวนี่) อุปกรณ์ 1. ชอ้ นตวง 7. อ่างผสม 2. ถว้ ยตวงของแหง้ 8. ถ้วยเตรยี ม 3. ถ้วยตวงของเหลว 9. ถาดอบ 4. เครอ่ื งช่ัง 10. กระดาษไข 5. เขยี ง 11. เตาอบ 6. มดี 12. พายไม้

P a g e | 328 สว่ นผสม (ภาพท่ี ๕.39 สว่ นผสมทารต์ บราวน่ี) ส่วนผสม ปรมิ าณ หนว่ ย ส่วนผสมทารต์ เนยสดเค็ม 135 กรมั แป้งสาลอี เนกประสงค์ 170 กรัม นำ้ ตาลทราย 45 กรัม เกลอื 1/4 ชอ้ นชา ไขไ่ ก่ 1/4 ฟอง ส่วนผสมบราวนี่ 100 กรัม ดาร์กชอ็ คโกแลต 30 กรัม ผงโกโก้ 100 กรมั แปง้ สาลีอเนกประสงค์ 1/4 ชอ้ นชา เกลอื 200 กรมั นำ้ ตาลทราย 2 ฟอง ไข่ไก่ 6 กรัม กลนิ่ วนลิ า 85 กรัม เนยสดเค็ม 1/4 ช้อนชา ผงฟู

P a g e | 329 ขั้นตอนการทำ ขน้ั ตอนการทำทารต์ นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ ร่อนรวมกับเกลือ และน้ำตาลทราย จากนั้นนำเนยที่หั่นเป็นก้อนเล็กๆ สับลงในแป้งจนเข้ากัน จากนั้นตามด้วยไข่ไก่ กรุใส่พิมพ์ อบไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 170 °C เป็นเวลา 30 นาที ขน้ั ตอนการทำบราวนี่ 1. ร่อนแปง้ กับผงฟูพักไว้ 2. ร่อนผงโกโก้ลงในส่วนผสมข้อท่ี (๑) พักไว้ แลว้ นำดารก์ ชอ็ คโกแลต และเนยสดเคม็ ใส่หม้อตุ๋น คนจนละลายเข้ากนั 3. ตไี ข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ และกลิ่นวนลิ าจนสอี ่อนลง 4. เทส่วนผสมจากขอ้ ท่ี (2) ลงในข้อ (3) คนให้เขา้ กนั 5. เทใส่ทารต์ ที่อบแลว้ จากนั้นนำไปอบไฟบน-ลา่ ง อณุ หภูมิ 180 °C เปน็ เวลา 15 นาที ขัน้ ตอนการทำทารต์ รอ่ นแป้งอเนกประสงค์ เกลือ นำ้ ตาลทราย เนยสดเค็ม ใชเ้ บลนเดอร์ตดั สว่ นผสม

P a g e | 330 ไข่ไก่ คลุกเคลา้ ใหเ้ ข้ากนั เป็นก้อน นำแป้งใสพ่ มิ พ์ กรใุ ห้ทว่ั พมิ พ์ แลว้ เรียงใสถ่ าดอบ นำเข้าเตาอบ นำออกจากเตา พักใหเ้ ย็น (ภาพท่ี ๕.40 ขัน้ ตอนการทำทารต์ ) ขั้นตอนการทำบราวน่ี ขัน้ ตอนที่ ๑ ๑.๑ แปง้ สาลอี เนกประสงค์ ๑.๒ ผงฟู ๑.๓ รอ่ นรวมกัน (ภาพท่ี ๕.41 ข้ันตอนการทำบราวนี่ ขน้ั ตอนที่ ๑)

P a g e | 331 ข้นั ตอนที่ ๒ ๒.๑ รอ่ นผงโกโก้ ๒.๒ เนยสดเคม็ ๒.๓ ดารก์ ช็อคโกแลต ๒.๔ ตง้ั ไฟ คนจนละลาย (ภาพท่ี ๕.42 ขัน้ ตอนการทำบราวน่ี ข้ันตอนท่ี ๒) ขัน้ ตอนท่ี ๓ ๓.๑ ไข่ไก่ ๓.๒ เกลือ ๓.๓ นำ้ ตาลทราย ๓.๔ กล่ินวนลิ า ๓.๕ คนใหเ้ ข้ากัน (ภาพที่ ๕.43 ข้นั ตอนการทำบราวน่ี ข้ันตอนที่ ๓)

P a g e | 332 ขน้ั ตอนท่ี ๔ ๔.๑ นำส่วนผสมทกุ อย่างรวมกัน ๔.๒ คนให้สว่ นผสมทุกอยา่ งเข้ากนั (ภาพท่ี ๕.๔4 ข้ันตอนการทำบราวนี่ ขัน้ ตอนท่ี ๔) ขน้ั ตอนที่ ๕ ๕.๑ เทใส่ทารต์ ๕.๒ เรยี งใสถ่ าด นำเข้าอบ ๕.3 นำออกจากเตาอบ พักใหเ้ ยน็ (ภาพที่ ๕.๔5 ขนั้ ตอนการทำบราวนี่ ขัน้ ตอนที่ ๔)

P a g e | 333 ทารต์ ผลไม้ (ภาพท่ี ๕.๔6 ทารต์ ผลไม้) อปุ กรณ์ 1. ช้อนตวง 7. อา่ งผสม 2. ถว้ ยตวงของแหง้ 8. ถว้ ยเตรียม 3. ถ้วยตวงของเหลว 9. ถาดอบ 4. เครือ่ งชัง่ 10. หมอ้ ตนุ๋ 5. เขยี ง 11. เตาอบ 6. มีด 12. พายไม้

P a g e | 334 ส่วนผสม (ภาพท่ี ๕.๔7 ส่วนผสมทาร์ตผลไม้) ส่วนผสม ปรมิ าณ หน่วย ส่วนผสมทาร์ต เนยสดเค็ม 120 กรมั แปง้ สาลีอเนกประสงค์ 200 กรมั นำ้ ตาลทราย 50 กรัม เกลอื 1/2 ชอ้ นชา ไข่ไก่ 1 ฟอง กลนิ่ วนลิ า 5 กรัม สว่ นผสมไส้คสั ตารด์ 3 ฟอง ไข่แดง 75 กรัม นำ้ ตาลทราย 50 กรมั แปง้ สาลีอเนกประสงค์ 5 กรมั กลน่ิ วนลิ า 250 กรัม นมอุ่นชนดิ จดื 20 กรัม เนยสดเคม็

P a g e | 335 ข้นั ตอนการทำ ขัน้ ตอนการทำทาร์ต นำแปง้ สาลีอเนกประสงค์ ร่อนรวมกับเกลอื และน้ำตาลทราย จากนนั้ นำเนยท่ีห่นั เป็นก้อนเล็กๆ สบั ลงในแป้งจนเขา้ กนั จากน้ันตามด้วยไข่ไก่ และกลิน่ วนิลา กรใุ ส่พมิ พ์ อบไฟบน-ลา่ ง อุณหภมู ิ 170 °C เปน็ เวลา 30 นาที ขน้ั ตอนการทำไสค้ ัสตารด์ 1. ใส่นมลงในหม้อตุ๋น 2. ตไี ข่แดงกับนำ้ ตาลทรายในอา่ งผสมด้วยตะกร้อมือ ใส่แปง้ สาลอี เนกประสงค์ 3. นำ้ ส่วนผสมขอ้ ท่ี (1) เทลงในสว่ นผสมข้อท่ี (2) กรองผ่านกระชอนถ่ีๆ แล้วเทกลับใส่หม้อตุ๋นอีก ครง้ั 4. ต้ังไฟจนขน้ ปดิ ไฟ ใสเ่ นยสดเคม็ และกลน่ิ วนลิ า พกั ให้เย็น นำเข้าตูเ้ ยน็ ช่องธรรมดา ตักใส่ถงุ บีบ 5. จากน้ันบบี ลงในทาร์ตที่เตรยี มไว้ ตกแต่งดว้ ยผลไม้ ขน้ั ตอนการทำทาร์ต ร่อนแปง้ อเนกประสงค์ เกลอื นำ้ ตาลทราย เนยสดเค็ม ใช้เบลนเดอรต์ ัดสว่ นผสม

P a g e | 336 ไขไ่ ก่ กลิ่นวนลิ า คลุกเคล้าให้เขา้ กันเปน็ ก้อน กรแุ ป้งใสใ่ นพิมพ์ให้ทว่ั แล้วเรยี งใสถ่ าดอบ นำเข้าเตาอบ นำออกจากเตา พักให้เย็น (ภาพที่ ๕.๔8 ข้ันตอนการทำทาร์ต ทารต์ ผลไม้) ขั้นตอนการทำไสค้ ัสตาร์ด ขัน้ ตอนที่ ๑ ๑.๑ ใส่นมลงในหม้อตี (ภาพที่ ๕.49 ขัน้ ตอนการทำไสค้ สั ตารด์ ทารต์ ผลไม้ ข้ันตอนท่ี ๑)

P a g e | 337 ขัน้ ตอนท่ี ๒ ๒.๑ ไข่แดง ๒.๒น้ำตาลทราย ๒.๓ แปง้ สาลีอเนกประสงค์ ๒.๔ คนใหเ้ ข้ากัน (ภาพที่ ๕.50 ขั้นตอนการทำไสค้ ัสตารด์ ทารต์ ผลไม้ ข้ันตอนท่ี ๒) ข้นั ตอนที่ ๓ ๓.๑ เทนมจดื ๓.๒ คนให้เข้ากนั ๓.๓ นำมากรอง ๓.๔ เทกลบั ใสห่ ม้อตุ๋น (ภาพที่ ๕.51 ข้นั ตอนการทำไสค้ สั ตาร์ด ทาร์ตผลไม้ ข้ันตอนที่ ๓)

P a g e | 338 ข้ันตอนที่ ๔ ๔.๑ ตัง้ ไฟคนจนข้น ๔.๒ กลน่ิ วนิลา ๒.๓ ปิดไฟ เนยสดเค็ม ๔.๔ คนจนสว่ นผสมหนืด บบี ได้ (ภาพที่ ๕.52 ขนั้ ตอนการทำไสค้ สั ตารด์ ทารต์ ผลไม้ ข้ันตอนที่ ๔) ขัน้ ตอนที่ ๕ ๕.๑ บีบไสค้ ัสตารด์ ๕.๒ ตกแต่งหนา้ ทาร์ตดว้ ยผลไม้ตามชอบ (ภาพที่ ๕.53 ขั้นตอนการทำไสค้ สั ตารด์ ทาร์ตผลไม้ ขั้นตอนที่ ๕)

P a g e | 339 แบบทดสอบหลังเรยี น (post-test) วชิ า ขนมอบ หน่วยท่ี ๕ หลักการและวธิ กี ารทำพาย ระดับ ปริญญาตรี เวลา 15 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน ผู้สอน อ.ดร. ณภัทร นาคสวัสดิ์ .................................................................................................................................................. .............. คำชี้แจง จงอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ ง พายหนา้ ปิดหรอื เปลือกพายคู่ หรอื พายร่วน หรือพายหวาน กับ พายหนา้ เปิดหรือเปลอื กพายเดยี่ ว หรือพายชนั้ หรือพัฟเพสตรี้ ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ช่ือ ............................................................................ สาขา ....................................................... ห้อง ......

P a g e | 340 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น (post-test) วิชา ขนมอบ หน่วยท่ี ๕ หลกั การและวิธีการทำพาย 1. พายหน้าปดิ หรอื เปลอื กพายคู่ หรือพายรว่ น หรือพายหวาน พายชนิดนี้จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนไส้และส่วนเปลือก โดยส่วนเปลือกพายจะต้องทำ 2 ชิ้น ชิ้นนึงเป็นเปลือกพายล่างสำหรับบรรจุไส้ ส่วนอีกชิ้นเป็นเปลือกพายบนสำหรับปิดไส้ เปลือกพาย จะทำจากแป้งสาลีผสมกับไขมัน และส่วนผสมอื่นๆ ลักษณะที่ดีของเปลือกพายจะต้องกรอบ นุ่ม ร่วน สี น้ำตาลอ่อน ไม่ขึ้นฟูเป็นรูโพรงอากาศ และสามารถรองรับไส้พายที่มีความหนืดและความชื้นสูงได้ เพื่อ ป้องกันไม่ให้ไสไ้ หลซึมออกจากเปลอื กพาย เช่น ทาร์ตชนิดตา่ ง ๆ กังหนั สับปะรด เปน็ ตน้ 2. พายหน้าเปิดหรือเปลือกพายเดียว หรือพายชั้น หรือพัฟเพสตรี้ พายชนิดนี้จะมีแค่เปลือก ร่างเท่านั้น โดยเปลือกพายจะมีลักษณะเป็นชั้นบางๆ แห้ง กรอบ เบาทั้งด้านในและด้านนอก มีสีเหลือง เปลอื กพายจะอบก่อนใส่ไส้หรือจะอบพร้อมกับไส้ก็ได้ สว่ นไสพ้ ายสามารถใช้ได้ทั้งผลไม้และเน้ือสัตว์ เช่น พฟั ข้าวโพดมะพร้าวออ่ น พฟั ไสไ้ ก่ เปน็ ตน้

P a g e | 341 แผนการสอน หน่วยที่ 6 การจดั ตกแตง่ บรรจภุ ัณฑข์ นมอบ สัปดาหท์ ี่ 14 - 15 จำนวนชวั่ โมง 4 ชวั่ โมง หัวข้อ/รายละเอียด หนว่ ยที่ 6 การจัดตกแตง่ บรรจภุ ัณฑ์ขนมอบ 1. ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์ 2. ประโยชนข์ องบรรจุภัณฑ์ 3. การเลอื กใชและจัดตกแตงบรรจุภัณฑ สรุปเน้ือหาหนว่ ยท่ี 5 การจดั ตกแตง่ บรรจุภัณฑ์ขนมอบ กิจกรรมการเรยี นการสอนและสอื่ ท่ีใช้ 1. บรรยาย/ อภปิ รายในชั้นเรียน ส่อื การสอน 1.เอกสารประกอบการสอนการทำขนมอบ 2.แบบทดสอบก่อนเรียน (pre-test) 3.แบบทดสอบหลงั เรยี น (post-test) 4.กิจกรรมการฝกึ ปฏบิ ัติ

P a g e | 342 หน่วยท่ี ๖ การจัดตกแตง่ บรรจภุ ณั ฑข์ นมอบ แนวคิด “บรรจุภัณฑ์” เป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วยในการ ป้องกัน ลำเลียง จัดส่ง และนำเสนอสินค้า ตั้งแต่วัตถุดิบถึงสินค้าที่ผ่านการผลิต และตั้งแต่ผู้ผลิตถึงผู้ใช้หรือผู้บรโิ ภค โดย ไม่ให้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะอากาศ หรือการขนส่ง ในปัจจุบันบรรจุภัณฑ์มีให้เลือกหลาย รูปแบบหลายชนิด เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษ บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากแก้ว หรือบรรจุภัณฑ์ที่ทำจาก พลาสติก บรรจภุ ัณฑ์แต่ชนิดกม็ ักมีคุณสมบตั ิท่ีแตกต่างกันสำหรับการใช้งาน นอกจากน้ียังช่วยเพิ่มมูลค่า ให้กบั สิ้นค่าไดด้ ีด้วย สาระการเรียนรู้ 1. ประเภทของบรรจุภัณฑ์ 2. ประโยชน์ของบรรจุภณั ฑ์ 3. การเลอื กใชและจดั ตกแตงบรรจภุ ณั ฑ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักศกึ ษาสามารถบอกหลักการเลือกใช้บรรจภุ ัณฑ์แต่ละประเภทไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. นกั ศึกษาสามารถนำความรู้ความเขา้ ใจ เรื่อง การจดั ตกแต่งบรรจุภัณฑ์ขนมอบ ไป ออกแบบบรรจุภณั ฑ์ขนมอบได้ 3. นักศกึ ษาสามารถบอกประโยชน์ของบรรจุภณั ฑ์ได้ 4. นักศึกษามีกิจนิสัยในการปฏิบัติงานด้วยความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ประณีต รอบคอบ และคำนงึ ถึงความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน

P a g e | 343 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (pre-test) วิชา ขนมอบ หน่วยที่ ๖ การจัดตกแต่งบรรจุภณั ฑข์ นมอบ ระดบั ปริญญาตรี เวลา 15 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน ผ้สู อน อ.ดร. ณภัทร นาคสวสั ดิ์ ................................................................................................................................................................ คำชีแ้ จง จงทำเครือ่ งหมายกากบาท × หนา้ ข้อความท่ีเปน็ เท็จ และทำเคร่ืองหมายถูกต้อง ✓ หนา้ ข้อความทีเ่ ป็นจรงิ 1. ..........บรรจภุ ณั ฑเ์ ฉพาะหนว่ ย คือ เปน็ บรรจภุ ัณฑ์ชน้ั แรกที่สัมผสั กบั ผลิตภณั ฑ์ เพ่ือใหส้ นิ ค้ามี เอกลกั ษณ์ 2. ..........บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกสุด คือ มีหน้าที่ในการรวบรวมบรรจุภัณฑ์ชิ้นแรกเข้าด้วยกันเป็นชุด ตั้งแต่ 2 ชิน้ – 24 ชิ้น 3. ..........การเลอื กใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก จะตอ้ งระวงั ไมใ่ ห้โดนน้ำ เพราะขาดได้งา่ ย 4. .........กันน้ำ กันความช้ืน กันแสง กนั แก๊ส เมอื่ อณุ หภูมิสูงหรือต่ำ ด้านทานมิใหผ้ ลติ ภณั ฑ์แปร สภาพไม่ แตไ่ ม่ฉีกขาดงา่ ย คือประโยชน์ของบรรจภุ ณั ฑ์ ดา้ นกา้ นป้องกัน 5. .........เพิ่มยอดขาย คือ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าใดได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี จะสามารถดึงดูดตา ดงึ ดูดใจผู้บริโภคและก่อใหเ้ กิดการซอ้ื ในท่ีสุด 6. .........สนิ คาทจ่ี ัดอยูในประเภทท่ตี องการใหผูซอ้ื เหน็ รูปลักษณ์ เพือ่ ให้ผ้บู รโิ ภคหยบิ ได้งา่ ย 7. .........การเลือกใชบรรจุภัณฑควร คํานึงถึงตนทุนของบรรจุภัณฑ โดยพิจารณาราคาของสินคาให เหมาะสมกับราคาของบรรจภุ ณั ฑ 8. .........บรรจุภัณฑ์ที่ดีตองชวยโฆษณาผลิตภัณฑ์ คือช่วยให้ผลิตผลิตภัณฑ์น่าซื้อ น่าสนใจ โดยมี รายละเอียดตาง ๆ ของผลิตภณั ฑประกอบอยูด่ ้วย 9. ......... ควรสํารวจตลาดรูปแบบบรรจุภัณฑอยูเสมอ เพื่อนํามาประยุกตใชกับสินคา ใหมีรูปแบบท่ี ทนั สมยั อยูเสมอ 10. ........บรรจุภัณฑ์โลหะ โลหะเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ เช่น เป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี นำ ความรอ้ นได้ดีมาก ไม่ยอมใหแ้ สงผ่านและมคี วามแข็งแรงมาก ช่ือ ............................................................................ สาขา ....................................................... ห้อง ......

P a g e | 344 หน่วยที่ ๖ การจัดตกแตง่ บรรจุภณั ฑ์ขนมอบ “บรรจุภัณฑ์” หมายถึง สิ่งทำจากวัสดุใด ๆ ที่นำมาใช้สำหรับห่อหุ้ม ป้องกัน ลำเลียง จัดส่ง และนำเสนอสนิ คา้ ตั้งแตว่ ตั ถุดบิ ถงึ สินคา้ ท่ผี า่ นการผลิต และต้งั แตผ่ ู้ผลิตถึงผ้ใู ช้หรอื ผู้บริโภค โดยไม่ให้รับ ความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะอากาศ หรือการขนส่ง ในปัจจุบันบรรจุภัณฑ์มีให้เลือกหลายรูปแบบ หลายชนดิ เช่น บรรจุภัณฑท์ ี่ทำจากกระดาษ บรรจุภัณฑท์ ี่ทำจากแก้ว หรือบรรจุภณั ฑ์ท่ีทำจากพลาสติก บรรจุภัณฑ์แต่ชนิดก็มักมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันสำหรับการใช้งาน ช่วยยืดอายุการเก็บของอาหารให้ ยาวนานขึ้น และสามารถรักษาคุณภาพของอาหารให้คงอยู่จนกระทั่งบริโภคหมด หรือแม้แต่รักษา คุณภาพของกลิ่นและยังคงรสชาติไว้ ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจและศึกษาเก่ียวกับบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ เลอื กบรรจุภัณฑท์ ีเ่ หมาะสมกบั ผลิตภณั ฑ์ (ภาพท่ี ๖.๑ บรรจภุ ณั ฑเ์ บเกอร่)ี

P a g e | 345 1. ประเภทของบรรจุภณั ฑ์ ในปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ วัสดุที่ทำมาจากพืช เช่น กระดาษ ไม้ tracing ท่อต่างๆ วัสดุที่ทำมาจากพลาสติก วัสดุที่ทำมาจากโลหะ และวัสดุที่ทำมาจากแก้ว และเซรามิค แต่ละชนิดก็มีความหลากหลายถั่วเขียวของคุณลักษณะ แต่การแบ่งประเภทของบรรจุ ภณั ฑส์ ามารถแบ่งไดต้ ามเกณฑด์ งั ต่อไปนี้ 1. การแบ่งประเภทตามวิธบี รรจแุ ละวิธีการขนถ่าย 1.1 บรรจภุ ัณฑเ์ ฉพาะหนว่ ย (Individual Package) เป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นแรกที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ เป็นสิ่งที่บรรจุผลิตภัณฑ์เอาไว้เฉพาะหน่วย มี วัตถุประสงค์ของบรรจุภัณฑ์ชั้นนี้ คือ เป็นการเพิ่มคุณค่าในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้สินค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะ และเพิม่ มูลค่าให้กบั สนิ ค้า อีกทง้ั ยังทำหนา้ ท่ีป้องกนั สนิ คา้ โดยตรง 1.2 บรรจภุ ณั ฑช์ นั้ ใน (Inner package) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ถัดออกมาเป็นชิ้นที่ 2 มีหน้าที่ในการรวบรวมบรรจุภัณฑ์ชิ้นแรกเข้า ด้วยกันเป็นชุด ตั้งแต่ 2 ชิ้น – 24 ชิ้น มีวัตถุประสงค์ คือ ป้องกันรักษาผลิตภัณฑ์จากความร้อน น้ำ ความช้นื แสง และแรงกระแทก เชน่ คุกก้ี 1 กล่องทบี่ รรจถุ งุ คุกกี้ 1 โหล เปน็ ตน้ 1.3 บรรจภุ ณั ฑช์ ั้นนอกสดุ เป็นบรรจุภณั ฑท์ ่เี ปน็ หน่วยรว่ มขนาดใหญ่ที่ใชใ้ นการขนสง่ โดยผบู้ ริโภคจะไมไ่ ดเ้ หน็ บรรจุภัณฑ์ มีวัตถุประสงค์ คือ ทำหน้าที่ป้องกันผลิตภัณฑ์ในระหว่างการขนส่งเท่านั้น ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ ประเภทนี้ ได้แก่ กล่องลังกระดาษขนาดใหญ่ท่ีภายในมกี ารบรรจุสินค้า ลังกระดาษ ตะกร้าพลาสติก โดย จะมขี อ้ มูลท่ีจำเป็นตอ่ การขนสง่ ตดิ อยู่เท่านน้ั เชน่ ราคาสินคา้ เลขที่ ตราสนิ ค้า เป็นต้น ๒. การแบ่งประเภทบรรจภุ ัณฑต์ ามวัตถุประสงค์ของการใช้ ๒.1 บรรจุภณั ฑ์กระดาษ กระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์ที่แพร่หลายมานานและได้รับความนิยมใช้กันมากโดยกระดาษมีหลาย ชนิด ผลิตจากเยือ่ กระดาษที่มีคุณภาพแตกต่างกัน และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มตี ้นทุนต่ำ สามารถทำการพิมพ์ ใสส่ แี ละลวดลายได้ง่ายตามต้องการและไมท่ ำลายสิ่งแวดลอ้ ม คุณสมบัติกระดาษ ตอ่ การนำมาทำบรรจภุ ัณฑ์ ขอ้ ดี • มีคุณสมบัติหลายประการของกระดาษที่เหมาะสมต่อการนำมาบรรจุภัณฑ์และทําให้ได้รับความ นยิ ม ขอ้ เสีย • บรรจุภัณฑ์ ไม่สามารถป้องกันความชื้น และความแข็งแรงน้อยกว่าบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ และ การนำมาประกอบวัสดอุ น่ื ทาํ ไดย้ าก

P a g e | 346 ข้อพิจารณาคุณสมบัติของกระดาษ ในการเลอื กนำมาทำบรรจุภัณฑ์ การทกี่ ระดาษมาทําบรรจภุ ัณฑม์ ีคณุ สมบัติท่ีนำมาพจิ ารณาดังตอ่ ไปนี้ ✓ นำ้ หนักมาตรฐาน ✓ ความเรยี บ / ความเป็นรพู รนุ ✓ การตา้ นไขมัน / นำ้ มัน ✓ การต้านแรงดึงและการยดื ตัว ✓ ความคงทนตอ่ การโคง้ งอ ( ความแขง็ ตวั ) ✓ ความทนทานต่อการขัด ✓ ความหนา ✓ ความขาวสวา่ ง ✓ การดดู ซึมนำ้ ✓ การต้านแรงฉีกขาดและทมิ่ ทะลุ ( ความเหนียว ) ✓ การต้านแรงกดในแนวต้ัง แนวนอน ประเภทของกระดาษทนี่ ำมาทาํ บรรจภุ ณั ฑ์ 1. กระดาษธรรมดา ( Papers ) กระดาษธรรมดาที่นำมาใช้ในงานบรรจุภัณฑ์มีหลายชนิดดัง รายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี – เย่อื ไม้ ( Tissue ) – กระดาษบีช และลามิเนตธรรมชาติ( Bleached or natural laminating paper ) – กระดาษบีช และการพิมพ์ธรรมชาติ ( Bleach or natural printing paper) – กระดาษถงุ ( Pouch paper ) – กระดาษกันนํ า้ มัน (Grease Proof) – กระดาษไขโปร่งแสง (Glassine ) – กระดาษหนงั 2. กระดาษแขง็ ( Paperborad ) กระดาษแขง็ ท่ใี ชส้ ำหรับผลิตบรรจุภัณฑม์ ีดงั น้ี – คลปิ บอรด์ ( Chipbodrds ) – บอร์ดมนิลาแข็ง ( Solid Manila Boards ) – บอร์ดไซลินเดอรค์ ราฟท์ – บอรด์ กระดาษคราฟท์สาํ หรบั ใส่เคร่ืองด่มื บรรจุภัณฑ์กระดาษทีน่ ยิ มใชใ้ นท้องตลาดทว่ั ไป 8 ประเภท ดงั นี้ ๑. ซองกระดาษ ( Paper Envelopes ) ผลิตมาจากเยื่อเคมี และเน้ือไม้ต่าง ๆ ที่นำมาผ่าน กระบวนการเคมี ทำให้ได้กระดาษที่มีคุณสมบัติที่แข็งแรง คงทน และมีความเหนียวสูง โดยทั่วไปจะนิยม นำกระดาษคราฟท์มาใช้ เพราะกระดาษคราฟท์มีคุณสมบัติที่ดีกว่ากระดาษชนิดอื่น ๆ อย่างเช่น ความ แขง็ แรง ความคงทดต่อการสัมผัสน้ำ และสามารถย่อยสลายไดง้ ่าย เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดล้อม

P a g e | 347 2. ถุงกระดาษ ( Paper Bag ) มีหลายชนิด หลายลักษณะทั้งแบบแบนราบ แบบมีขยายข้าง และกน้ ซึง่ เปดิ -ปิด ได้ด้านเดียว และแบบผนึก 4 ดา้ น สามารถผลติ ขึ้นโดยกรรมวิธีการพับ ปดิ ผนึก ด้วย กาว หรือเย็บประกอบขึ้นรูปร่างตา่ ง ๆ รวมทั้งอาจทําขึ้นจากกระดาษชิ้นเดียว ถุงกระดาษโดยทั่วไปมีอยู่ 4 รูปแบบ 1. แบบกน้ ถงุ อตั โนมตั ิ(Automatic Bottom หรือ Self-Opening : SOS ) 2. แบบกน้ สีเ่ หล่ียมและก้นแคบ( Square Bottom and Pinch Bottom ) 3. ถงุ แบน ( Flat Bag ) 4. แบบกน้ กระเปา๋ หนังสือ ( Satchel Bottom ) 3. ถุง หรือ กระสอบกระดาษหลายชั้น ( Multiwall paper Sack ) ใช้สำหรับบรรจุสินค้าที่มี น้ำหนักมากว่า 10 กิโลกรัม นิยมใช้กับการบรรจุสินค้าประเภทปูนซีเมนต์ อาหารสัตว์ เม็ดพลาสติก สารเคมี ฯลฯถุง หรอื กระสอบแบบนี้มีทัง้ ปากปิดและแบบมีลิน้ แต่ละแบบอาจมสี ่วนขยายข้างด้วย นิยม ใช้กระดาษเหนียว ที่ทําจากเส้นใยยาว หรืออาจเคลือบพลาสติกหรือยางมะตอยอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่ม คุณสมบตั ดิ ้านการป้องกันความช้นื ๔. เยื่อกกระดาษขึ้นรูป (Molded Pulp Container ) มีทั้งชนิดที่ทําจากเยื่อบริสุทธิ์ ซึ่งใช้ บรรจุอาหารสำเร็จรูปและอาหารท่ีเข้าตู้อบไมโครเวฟได้ และชนิดที่ทําจากเยื่อเศษกระดาษซึง่ ใชบ้ รรจุไข่ ผัก ผลไม้สด และทําเป็นวัสดุกันกระแทก การเลือกใช้ต้องคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ที่บรรจุเป็นสำคั ญเพราะ เกยี่ วขอ้ งกับความปลอดภัยของผ้บู ริโภค ๕. กระป๋องกระดาษ และลูกผสม ( Paper/composite Can )บรรจุภัณฑ์รูปทรงกระบอกที่ได้ จากการพ้นกระดาษทับกนั หลาย ๆชั้น พันแบบเกลียวหรือแบบแนวตรง แต่ถ้าใช้กระดาษเหนียวแต่เพียง อย่างเดยี วเรียกว่า “กระป๋องกระดาษ” นยิ มใชบ้ รรจุของแห้ง แตถ่ า้ ใชว้ สั ดรุ ว่ มระหวา่ งกระดาษเหนียวกับ อลูมิเนียมฟอยล์พลาสติก จะเรยี กว่า “กระป๋องลูกผสม” จะใช้ในการบรรจอุ าหารจำพวกขนมขบเคยี้ วต่าง ๆ และฝา กระป๋องมักเปน็ โลหะหรอื พลาสติก บางครง้ั ใชแ้ บบมีห่วงเพอ่ื ให้สามารถเปดิ ไดง้ า่ ย 6. ถังกระดาษ ( Fiber Drum ) มีลักษณะเช่นเดียวกันกับกระป๋องกระดาษแต่มีขนาดใหญ่ใช้ เพ่ือการขนส่งสนิ คา้ ทน่ี ยิ มบรรจุคอื สารเคมี เมด็ พลาสตกิ ฯลฯ การเลอื กใชต้ อ้ งคำนึงถึงความแข็งแรงเม่ือ เรยี งซ้อนกันเป็นหลักโดยการทดสอบคา่ ของการต้านแรงกด 7. กลองกระดาษแข็ง ( Paperboard Box ) เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้กัน อย่างแพรห่ ลาย ทง้ั ในการขายปลกี และการขายสง่ สามารถทําจากกระดาษแข็งได้หลายชนิดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. กล่องกระดาษแขง็ แบบพบั ได้ 2. กล่องกระดาษแข็งแบบคงรปู หรือ ประกอบตามขนาดท่ีกาํ หนด ๘. กลอ่ งกระดาษลูกฟกู ( Corrugated Paperboard Box) เป็นบรรจุภัณฑ์กระดาษทมี่ บี ทบาท และปริมาณการใช้สูงสุด มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักมากกว่ากระดาษแข็งจึงสามารถ บรรจุสนิ คา้ ได้ นานาชนดิ ได้แก่

P a g e | 348 1. กลอ่ งกระดาษลูกฟกู 2. ลอนลกู ฟูก ( Corrugations) 3. กระดาษทาํ ลูกฟกู ( Corrugating Medium ) 2.๒ บรรจภุ ัณฑ์พลาสตกิ เป็นวัสดุในการผลิตภาชนะบรรจุหรือหีบห่อในรูปแบบต่าง ๆ พลาสติกนั้นเป็นสารประกอบ อนิ ทรยี ์ท่ีสงั เคราะห์ขนึ้ ใช้แทนวสั ดุธรรมชาตบิ างชนิดเมื่อเย็นจะเกิดการแข็งตวั และเมอ่ื ถูกความร้อนก็จะ เกิดความอ่อนตัว บางชนิดแข็งตัวถาวร เช่น ไนลอน ยางหนัง เป็นต้น ใช้ผลิตเป็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย เชน่ เสอื้ ผ้า ฟิลม์ ภาชนะ สว่ นประกอบเรือหรอื รถยนต์ เปน็ ตน้ พลาสติกแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ เทอร์โม พลาสติกและเทอรโ์ มเซตมี คณุ สมบตั ขิ องพลาสตกิ ตอ่ การนำมาทำบรรจภุ ัณฑ์ ขอ้ ดี 1. มนี ำ้ หนกั เบา ไม่นำความรอ้ น ไม่นำไฟฟา้ มคี วามเหนยี ว 2. ราคาไม่แพง 3. สามารถป้องกนั การซมึ ของอากาศ นำ้ ไขมัน 4. ทนต่อความรอ้ นหรอื เยน็ 5. สามารถแปรรูปได้ง่ายมีใหเ้ ลอื กหลายชนดิ 6. สามารถใชร้ ่วมกับวสั ดุบรรจุภณั ฑอ์ นื่ ๆ ไดด้ ี 7. สามารถพมิ พส์ ีและลวดลายต่าง ๆ ลงบนภาชนะไดไ้ มย่ าก ขอ้ เสีย 1. มีความแขง็ แรงน้อยใชไ้ ด้จำกดั 2. ยากต่อการทำลาย 3. กระบวนการผลิตส่วนมากกระทาํ ได้ในส่วนของอตุ สาหกรรม 4. มผี ลกระทบตอ่ สุขภาพอนามัยของผู้บรโิ ภค ข้อพิจารณาดา้ นคุณสมบัติของพลาสติก ในการเลือกนาํ บรรจุภณั ฑม์ ีดังนี้ 1. ความปลอดภยั 2. การแพรก่ ระจาย 3. เน้ือพลาสตกิ 4. ความมันวาว 5. ความใส หรอื ความขุ่นมวั 6. ความหนา 7. การตา้ นแรงดึงและการยืดตัว 8. การต้านไขมัน หรือนำ้ มนั

P a g e | 349 9. การต้านแรงฉีกขาดความแข็งแรง 10. การร่ัวซมึ 11. ความคงทนต่อการขัด 12. ความทนต่ออณุ หภมู ิ สารเคมี ประเภทของพลาสตกิ พลาสตกิ หรอื โพลเี มอร์ ( Polymer) ทน่ี ำมาทาํ บรรจุภณั ฑ์ เปน็ วสั ดปุ ระกอบด้วยมาโครโมเลกุล ทม่ี ีอยตู่ ามธรรมชาติ โดยวตั ถุดบิ ในการผลิตพลาสตกิ อยู่ใน รูปของเม็ด และผงโดยโรงงานนําไปแปรรูป ซึ่งพลาสติกสามารถแยกชนิดออกเป็น 6 กลุ่ม ซึ่งในบรรจุ ภัณฑ์มักมีการใช้รหัสบอก ชนิดของพลาสติกเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการคัดแยก โดยพลาสติกแต่ละ ชนิดมีดังน้ี 1 กลุ่มโพลีเอสเตอร์ PET มีความใส มีแรงทนทานและเหนียว ทนความร้อนและเย็นสามารถ ทําเป็นรูปเหลีย่ มลอนต่าง ๆ ในพื้นผิวได้ดีป้องกันการผ่านของก๊าซได้ดี นิยมนำมาใช้ทําบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ขวดน้ำดม่ื ขวดนำ้ ปลา หรอื ขวดเครอ่ื งดมื่ อน่ื ๆ เป็นต้น 2. กลุ่มโพลีเอทีลีนชนิดความหนาแน่นสูง HDPE เป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง ลักษณะ ค่อนข้างนิ่ม มีความเหนี่ยว ไม่แตกง่าย นิยมนำมาใช้ทําบรรจุภัณฑ์ทําความสะอาด เช่น แชมพู ถุงร้อน ชนิดขุน่ ขวดนม เปน็ ต้น 3. กลมุ่ โพลีไวนลิ คอลไรด์ PVC มีความแข็งแรงเหนียว ยืดหย่นุ มลี ักษณะคล้ายยาง มีคุณสมบัติ เหลว เหนยี วมากกว่าพลาสติกอ่นื ๆ 4. กลุ่มที่เป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นต่ำ LDPE สัญลักษณ์ คือ มีความแน่นกว่า มีความ เหนียว ยืดตัวได้ระดับหนึ่งส่วนใหญ่ใสมองเห็นได้จุดหลอมเหลว 110 องศาเซลเซียส นิยมนำมาใช้ทํา แผ่นฟลิ ม์ หอ่ อาหารและห่อของ 5. กลุ่มโพลีพรอพพีลีน PP เป็นพลาสติกที่ส่วนใหญ่มีความหนาแน่นค่อนข้างต่ำ มีความแข็ง และเหนียว คงรูป ทนต่อความร้อนและสารเคมี นิยมนำมาใช้ทำบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารในครัวเรือน เช่น ถุงร้อน ชนดิ ใสชาม อปุ กรณไ์ ฟฟา้ บางชนิด และถุงบรรจขุ นมกรอบเค้ยี วตา่ ง ๆ หรอื นำมาใช้ทาํ ขวด ฝาจุกขวด แต่ ไมน่ ยิ มใช้เป็นบรรจุภัณฑอ์ าหารแชแ่ ข็งเพราะจะเปราะ 6. กลุ่มโพลีสเตอรีน PSพลาสติกที่มีความใสแข็งแต่เปราะแตกง่าย สามารถทำเป็นโฟมได้ ทน ความร้อนระดบั หนึง่ นิยมมาทําภาชนะพลาสติก เช่น ขวดนมเปรีย้ ว ถาดบรรจุอาหาร บลิสเตอร์แพค ซ่ึง พลาสติกกลุมนี้เป็นพลาสติกชนิดที่นิยมนําไปผลิตเป็นโฟม เพราะทนต่อกรด ด่าง แอลกอฮอล์ อีกทั้งยัง ทนต่อนำ้ มันชิดต่าง ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ ไขมนั พชื หรือไขมนั สัตว์ แตจ่ ะไมท่ นต่อนำ้ มันเบนซนิ การใช้หลกั เกณฑต์ ่าง ๆ ในการนำพลาสติกมาทำเป็นบรรจุภณั ฑ์ 1. การใช้เกณฑ์ด้านการหลอมตัวเป็นเกณฑ์ ซึ่งจะพิจารณาจากการหลอมขึ้นรูปแล้วสามารถ หลอมด้วยความรอ้ นได้หรอื ไม่ ในกรณดี ังตอ่ ไปนี้ สามารถแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื

P a g e | 350 1.๑ เทอรโ์ มเซท็ ติง้ (Thermosetting) สามารถใหค้ วามร้อนแลว้ พมิ พ์เป็นผลิตภณั ฑ์ใน รูปของหีบห่อได้เพียงครั้งเดียว แข็งตัวแล้วอาจแตกได้ ไม่สามารถทําให้หลอมตัวด้วยความรอ้ นหรอื พิมพ์ ใหม่ได้ เช่น พลาสติกชนิดเมลามีน เมื่อได้รับความร้อนจนแขง็ ตวั และไมส่ ามารถหลอมให้เหลวได้ ทําจาก พลาสตกิ ประเภทท่ี เรยี กวา่ เรซ่ิน (Resin) ๑.2 เทอร์โมพลาสตกิ (Thermoplastic) เป็นชนดิ ที่สามารถให้ความร้อนทําการหลอม ตัว แล้วพิพม์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หรอื บรรจุภัณฑ์ได้หลาย ๆ ครั้งตามต้องการ เช่น ถุงพลาสติก ขวดน้ำ พลาสตกิ หลอดพลาสตกิ เปน็ ต้น 2. การใชเ้ กณฑ์ดา้ นรปู แบบของพลาสติกเป็นเกณฑ์ สามารถจาํ แนกเป็น 2 ประเดน็ คือ ๒.1 ฟลิ ม์พลาสติก (Plastic Film) คอื พลาสตกิ ที่เปา่ รีดเป็นแผ่นบางอาจเป็นชั้นเดียว หรือ หลายชัน้ เช่น ถงุ พลาสติกชน้ั เดยี ว ถงุ หลายชนั้ ฟิลมห์ ด ฟิมลย์ ืด กระสอบพลาสติก 2.๒ ภาชนะพลาสติก (Plastic Container) คือ พลาสติกที่มีการข้ึนรูปเปน็ รูปทรงตา่ ง ๆ ตามแม่แบบและกรรมวิธผี ลติ เปน็ รูปร่างบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑพ์ ลาสตกิ ที่นิยมใช้ในท้องตลาดท่ัวไป ดังนี้ 1. ถุงเย็น ทาํ มาจากเม็ดพลาสติกโพลิเอทลิ ีนชนดิ ความหนาแนน่ ต่ํา (LDPE) มลี กั ษณะค่อนข้าง ใส นิ่ม ยืดหยนุ่ พอสมควรใช้บรรจุของท่ัวไป รวมท้งั อาหารแขง็ 2. ถุงร้อน ทํามาจากเม็ดพลาสติกโพลิพริพพิลีน (PP) มีลักษณะใสมากมีความ กระด้างกว่าถุง เย็น ไม่เหมาะกบั การบรรจอุ าหารแช่แข็งเพราะพลาสตกิ จะเปรา 3. ถุงห้ิว ทาํ จากพลาสติกโพลเิ อทลิ ินชนดิ ความหนาแนน่ ตํา่ (LDPE) มักนําถงุ พลาสติกที่ใช้แล้ว มาทําความสะอาดแล้วหลอมใหม่ใสส่ ีให้ดูสวยงาม ไม่ปลอดภัยกบการบรรจุอาหารทเ่ี น้ือ อาหารสัมผัสกับ ถงุ โดยตรง 4. ถุงซิป (Zip Lock Back) ที่ปากถุงมีล็อคเพือ่ สะดวกในการเปิดและปิด บรรจอุ าหารสำเรจ็ รูป ประเภทของแห้งและยาเมด็ 5. ถุงพลาสติกทีใ่ ช้ในอุตสาหกรรม ถุงมีมากมายให้เลือกตามความเหมาะสม มีทั้งทําจาก ฟิล์ม พลาสตกิ ชั้นเดียวและหลายช้นั 6. ถุงหลายชั้น เพื่อเก็บถนอมอาหารไว้ในเวลานานโดยไม่ให้คุณภาพเปลี่ยนแปลง ควรใช้ถุง บรรจุอาหารที่ทําด้วยฟิล์มพลาสติกต่างชนิดประกบกัน หรือระหว่าฟิล์มพลาสติกกับวัตถุอื่น เพื่อให้มี คณุ สมบัติครบถว้ นตามตอ้ งการดงั น้ี – ถงุ พลาสติกท่ีตม้ ได้ – ถุงพลาสตกิ สำหรบั บรรจุอาหารแบบสุญญากาศ – ถงุ พลาสตกิ ที่ใช้บรรจอุ าหารแหง้ – ถุงพลาสติกชนิดต้มในน้ำเดอื ดได้ – ถุงพลาสติกชนิดกันแสงสวา่ ง ความชนื้ และก๊าซ

P a g e | 351 ๒.3 บรรจุภัณฑ์โลหะ โลหะเปน็ วสั ดุทีม่ ีคุณสมบัติพเิ ศษหลายประการ เช่น เปน็ ตัวนำไฟฟ้าได้ดี นำความร้อนได้ดีมาก ไม่ยอมให้แสงผ่านและมีความแข็งแรงมาก ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์โลหะที่ใช้มี 2 ชนิด เหล็กเคลือบ ดบี ุกและอะลูมเิ นยี ม คณุ สมบัติของโลหะ ตอ่ การนำมาทำบรรจุภัณฑ์ ข้อดี 1. แขง็ แรงทนทาน 2. สามารถเคลอื บผวิ ภายในเพื่อช่วยลดการสึกกร่อน 3. สามารถป้องกนั ไอนำ้ และกา๊ ซได้ดี 4. สามารถนาํ ไปหลอมแปรรปู และนำมาใชไ้ ด้ใหม่อีก 5. ทนความร้อน จงึ สามารถฆ่าเชือ้ ด้วยกระบวนการความร้อนสงู ได้ 6. สามารถทาํ บรรจุภณั ฑล์ ักษณะต่าง ๆ ได้ ข้อเสยี 1. มีน้ำหนกั มาก 2. ราคาสูง 3. เมื่อผลิตเป็นผลติ ภัณฑ์จะมีจุดอ่อนเร่ืองรอยตอ่ หรือฝาโลหะ 4. ในขัน้ ตอนการพมิ พฉ์ ลากโลหะ ต้องพมิ พ์ทเ่ี น้อื โลหะ ขอ้ พิจารณาด้านคุณสมบตั ขิ องโลหะ ในการเลอื กนำมาทำบรรจุภัณฑ์ ในการเลือกบรรจุภัณฑ์โลหะมีสิ่งที่นำมาพิจารณาได้แก่ คุณภาพของตะเข็บ การรั่วซึม ความ ทนทานต่อความดัน ปฏิกิริยากับตัวสนิ ค้าการเป็นสนมิ และความสมำ่ เสมอของแลกเกอร์ ประเภทของโลหะนำมาทําบรรจภุ ัณฑ์ 1. แผน่ เหลก็ ดบี ุก 2. แผ่นเหลก็ ไรด้ ีบกุ 3. อลมู ิเนยี ม และแผน่ เปลวอลมู ิเนยี ม บรรจภุ ัณฑ์พลาสติกทนี่ ิยมใช้ในท้องตลาดท่ัวไป ดงั นี้ 1. กระป๋อง 2. ปบ๊ี 3. หลอดบีบ 4. กระปอ๋ งฉดี พ่น 5. ถงั ถงั หหู ิว้ 6. อลมู ิเนยี มฟอยล์ หรอื อลูมเิ นียมแผน่ เปลว

P a g e | 352 ๒.4 บรรจุภณั ฑแ์ กว้ แก้วเป็นวัสดุแข็ง คงรูปและเป็นเนื้อเดียว มีซิลิคอนไดออกไซด์เป็นองค์ประกอบแก้วนับเป็น บรรจุภัณฑ์ที่มีความเฉื่อยต่อการทำปฏิกิริยากับสารเคมีชีวภาพต่าง ๆ ทนความร้อนสูงเมื่อเทียบกับวั สดุ บรรจุภัณฑ์อื่นๆ และรักษาคุณภาพสินค้าได้ดีมาก ข้อดีของแก้วคือมีความใสและทำเป็นสีต่าง ๆ ได้ สามารถทนต่อแรงกดได้สูงแตเ่ ปราะแตกง่าย ในด้านส่งิ แวดลอ้ มแก้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% คุณสมบัตขิ องแก้ว ตอ่ การนำมาทำบรรจุภัณฑ์ ข้อดี 1. แกว้ มคี วามเปน็ กลาง ไม่ทําปฏิกริ ิยากับสารใด ๆ 2. มีความใส ทําให้เห็นตวั สินค้า 3. ป้องกันการซึมผ่านของไอนำ้ และ กา๊ ซได้ 4. มคี วามคงรปู 5. ทนความร้อนสูง ขอ้ เสยี 1. มนี ้ำหนกั มาก 2. ราคาสงู 3. แกว้ มคี วามแข็งแตเ่ ปราะ แตกหักง่าย 4. มีปัญหาเก่ยี วกับปากขวด มักบิ่นแตก ชำรดุ 5. ไมส่ ามารถทําเปน็ บรรจุภณั ฑ์ไดห้ ลายรูปแบบเท่าพลาสตกิ ประเภทของแก้วที่นำมาทําบรรจุภัณฑ์ แก้วประเภทที่ 1 หมายถึง แก้วอโรซิลิเกต ซ่ึงเป็นแก้วที่มีความทนทานสูง โดยทั่วไปใช้ทํา ภาชนะบรรจยุ าสำหรับฉดี แก้วประเภท 2 หมายถึง แก้วโซดาไลม์ ที่ผ่านกรรมวิธีทางผิวโดยวิธีอัลคาไลส์อย่างเหมาะสม โดยท่ัวไปใชท้ าํ ภาชนะบรรจยุ าสำหรบั ฉดี ท่ีมคี วามเป็นกรดหรือเปน็ กลาง แก้วประเภทท่ี 3 หมายถงึ แกว้ โซดาไลม์ ซ่ึงโดยทว่ั ไปไม่ใช่ทาํ ภาชนะบรรจยุ าสำหรับฉดี ยกเว้น ยาฉดี ทที่ ดสอบความคงตวั ไวว้ ่าแล้วว่าไม่มกี ารเปลี่ยนแปลงเม่ือบรรจุ แก้วประเภทที่ 4 NP หมายถึง แก้วโซดาไลม์ ใช้ทําภาชนะบรรจุยาที่ใช้ภายในและภายนอก เฉพาะท่แี ตไ่ ม่ใช้สำหรบั ประเภทฉีด

P a g e | 353 ๒. ประโยชน์ของบรรจภุ ัณฑ์ 1. การป้องกัน (Protection) การป้องกันผลิตภัณฑ์ไม่ใหย้ ุบ สลาย เสียรูป หรือคงสภาพของ ตัวบรรจุภัณฑ์ เช่น กันน้ำ กันความชื้น กันแสง กันแก๊ส เมื่ออุณหภูมิสูงหรือต่ำ ด้านทานมิให้ผลิตภัณฑ์ แปรสภาพไม่แต่ไม่ฉีกขาดง่าย ปกป้องให้สินค้าอยู่ในสภาพใหม่สดอยู่ในสภาวะแวดล้อมของตลาดได้ใน วงจรยาว โดยไมแ่ ปรสภาพขนานแทแ้ ละดง้ั เดมิ 2. การจัดจำหน่ายและการกระจาย (Distribution) เหมาะสมต่อพฤติกรรมการซื้อขาย เอื้ออำนวยการแยกขาย ส่งต่อ การตั้งโชว์ การกระจาย การส่งเสริมจูงใจในตัว ทนต่อการขนย้าย ขนส่ง และการคลงั สนิ คา้ ด้วยต้นทุนสมเหตสุ มผล ไม่เกิดรอยขดู ขดี หรือการชำรดุ ตั้งแตจ่ ุดผลติ และบรรจุจนถึง มอื ผู้ซ้ือ หรอื ผบู้ ริโภค และทนทานต่อการเกบ็ ไว้นานได้ 3. การส่งเสริมการจำหน่าย (Promotion) เพื่อยึดพื้นที่แสดงจุดเด่น โชว์ตัวเองได้อย่าง สะดดุ ตา สามารถระบุแจง้ เงอ่ื นไข แจ้งขอ้ มลู เก่ียวกบั การเสนอผลประโยชน์เพ่มิ เติมเพอ่ื จูงใจผูบ้ รโิ ภค เม่ือ ต้องการจัดรายการเพื่อเสริมพลังการแข่งขัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงและจัดทำได้สะดวก ควบคุมได้และ ประหยัด 4. การบรรจุภัณฑ์กลมกลืนกับสินค้า และกรรมวิธีการบรรจุ (Packaging) เหมาะสมทั้งใน แง่การออกแบบ และเพื่อให้มีโครงสร้างเข้ากับขบวนการบรรจุ และเอื้ออำนวยความสะดวกในการหิ้ว – ถือกลับบ้าน ตลอดจนการใช้ได้กับเครื่องมือการบรรจุที่มีอยู่แล้ว หรือจัดหามาได้ ด้วยอัตราความเร็วใน การผลิตที่ต้องการ ต้นทุนการบรรจุภัณฑ์ต่ำหรือสมเหตุสมผล ส่งเสริมจรรยาบรรณแล ะรับผิดชอบต่อ สังคม ไมก่ ่อให้เกดิ มลพษิ และอย่ใู นทำนองคลองธรรมถูกต้องตามกฎหมายและพระราชบัญญตั ิตา่ ง ๆ 5. เพิ่มยอดขาย เนื่องจากในตลาดมีสินค้าและคู่แข่งเพิ่มขึ้นตลอดเวลา หากบรรจุภัณฑ์ของ สินคา้ ใดได้รบั การออกแบบเป็นอย่างดี จะสามารถดึงดดู ตา ดงึ ดดู ใจผบู้ ริโภคและก่อให้เกิดการซ้ือในที่สุด รวมทั้งการลดต้นทนุ การผลิต 3. การเลอื กใชและจัดตกแตงบรรจภุ ณั ฑ 1. ลักษณะและคุณสมบัติของสินค้าสินค้าที่ผลิตขึ้นจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นประเภท ของผลิตภัณฑ์ การทดต่อสภาพแวดล้อม เช่น อากาศ ความชื้น เป็นต้น อายุของผลิตภัณฑ์ เพราะฉะน้ัน จึงควรพิจารณาลักษณะของผลิตภัณฑ์ เพื่อจะได้เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม เช่น ถ้าสินค้ามีลักษณะ เป็นของเหลว ต้องเลือกบรรจภุ ัณฑท์ ส่ี ามารถปอ้ งกนั การร่วั ซมึ ได้ เปน็ ตน้ 2. บรรจุภัณฑ์ที่จะดีจะต้องช่วยโฆษณาผลิตภัณฑ์ เช่น การช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าซ้ือ นา่ สนใจ โดยจะตอ้ งระบรุ ายละเอยี ดต่าง ๆ ของผลติ ภัณฑ เชน่ สว่ นผสม ปริมาณ หรอื สรรพคุณต่าง และ อาจจะเป็นข้อควรระวังให้ชัดเจน การใส่ภาพผลิตภัณฑหรือโลโก้ของผลิตภัณฑ์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะจะเป็นสิ่งดึงดูดใจของผู้บริโภค เพราะฉนั้นตัวหนังสือตองใหอานงาย สบายตา หรืออาจจะบอก องคป์ ระกอบอ่ืน ๆ ดว้ ยกไ็ ด้ เช่น วัน เดือน ปทผ่ี ลิตและหมดอายุ ราคาสนิ ค้า ช่อื ราน เปน็ ตน้

P a g e | 354 3. สินค้าที่จัดอยู่ในประเภทที่ต้องการใหผูซื้อเห็นรูปลักษณ์ เพื่อสรางแรงจูงใจในการซื้อ ควร เลือกใชบรรจุภัณฑที่มีชองเปดบรรจุภัณฑ แลวใชกระดาษแกวหรือพลาสติกบางใสปด เพื่อใหมองเห็น สินคา เชน ขนมเคก คุกกี้ พายตาง ๆ เปนตน หากไมสามารถทําบรรจุภัณฑใหมองเห็นสินคาภายในได ควรใชรปู ภาพเหมือนจริงประกอบ บนบรรจุภณั ฑน้นั เชน รปู คุกกีร้ ูปเคก รปู พาย รูปโดนัท เป็นต้น เพ่ือ กระตุนใหผูซื้อตดั สนิ ใจซอ้ื สินคา 4. การเลือกใชบรรจุภัณฑควร คํานึงถึงตนทุนของบรรจุภัณฑ โดยพิจารณาราคาของสิ้นค้าให้ เหมาะสมกับราคาของบรรจุภัณฑ เพราะบรรจุภัณฑ์แต่ละชนิดจะมีความแตกตางกัน เช่น คุณสมบัติ รปู รา่ งลกั ษณะ บรรจุภัณฑท์ ใี่ ช้ตอ้ งไม่แพงจนมากเกนิ ไป แตไ่ ด้คณุ ภาพ 5. ควรสํารวจตลาดรปู แบบบรรจุภัณฑอยูเสมอ เพื่อนำมาปรบั ปรุงแก้ไขสินค้าให้มีความทนั สมัย ทนั ตอ่ ความต้องการของตลาด ตลอดจนการดงึ ดดู ใจของผซู้ อื้ หากมกี ารปรบั เปลีย่ นพฒั นาอยเู่ รอ่ื ย ๆ ให้มี ความทนั สมยั กอ็ าจจะเป็นสว่ นหน่งึ ในการช่วยเพิม่ ยอดขายให้กบั สนิ ค้า

P a g e | 355 สรุปเนือ้ หาหน่วยที่ ๖ การจดั ตกแต่งบรรจุภัณฑข์ นมอบ 1. ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์ การแบ่งประเภทตามวธิ ีบรรจแุ ละวธิ กี ารขนถา่ ย 1.1 บรรจุภัณฑ์เฉพาะหน่วย (Individual Package) เป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นแรกที่สัมผัสกับ ผลิตภัณฑ์ เป็นส่งิ ทบี่ รรจผุ ลิตภัณฑ์เอาไวเ้ ฉพาะหนว่ ย 1.2 บรรจุภัณฑ์ชั้นใน (Inner package) มีหน้าที่ในการรวบรวมบรรจุภัณฑ์ชิน้ แรกเข้าด้วยกัน เป็นชดุ ต้ังแต่ 2 ชน้ิ – 24 ชน้ิ 1.3 บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกสุด เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นหน่วยร่วมขนาดใหญท่ ี่ใช้ในการขนส่ง หน้าที่ ป้องกันผลิตภัณฑ์ในระหว่างการขนส่งเทา่ นั้น ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ ได้แก่ กล่องลังกระดาษ ขนาดใหญ่ทีภ่ ายในมกี ารบรรจสุ นิ คา้ ลงั กระดาษ เป็นตน้ 2. การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวัตถุประสงคข์ องการใช้ ๒.1 บรรจภุ ัณฑ์กระดาษ กระดาษเปน็ บรรจภุ ณั ฑ์ที่แพรห่ ลายมานานและได้รบั ความนิยมใช้กัน มากโดยกระดาษมีหลายชนิด ผลิตจากเย่ือกระดาษที่มีคุณภาพแตกต่างกัน และเป็นบรรจุภัณฑ์ท่ีมีต้นทุน ต่ำ สามารถทำการพิมพใ์ ส่สีและลวดลายไดง้ ่ายตามต้องการและไม่ทำลายสงิ่ แวดล้อม 2.๒ บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นวัสดุในการผลิตภาชนะบรรจุหรือหีบห่อในรูปแบบต่าง ๆ พลาสติกนั้นเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สังเคราะห์ขึ้นใช้แทนวัสดุธรรมชาติบางชนิดเมื่อเย็นจะเกิดการ แขง็ ตัว และเม่ือถกู ความรอ้ นก็จะเกดิ ความออ่ นตวั บางชนดิ แขง็ ตวั ถาวร เช่น ไนลอน ยางหนัง เป็นต้น ใช้ ผลติ เป็นส่ิงต่าง ๆ มากมาย เชน่ เสอ้ื ผ้า ฟลิ ม์ ภาชนะ ส่วนประกอบเรือหรือรถยนต์ เปน็ ต้น พลาสติกแบ่ง ออกเปน็ 2 ประเภท คือ เทอรโ์ มพลาสติกและเทอรโ์ มเซตมี ๒.3 บรรจภุ ัณฑโ์ ลหะ โลหะเปน็ วสั ดุท่มี ีคุณสมบัติพเิ ศษหลายประการ เช่น เปน็ ตัวนำไฟฟา้ ได้ดี นำความร้อนได้ดีมาก ไม่ยอมให้แสงผ่านและมีความแข็งแรงมาก ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์โลหะที่ใช้มี 2 ชนิด เหล็กเคลือบ ดีบุกและอะลมู เิ นียม ๒.4 บรรจุภัณฑ์แก้ว แก้วเป็นวัสดุแข็ง คงรูปและเป็นเนื้อเดียว มีซิลิคอนไดออกไซด์เป็น องค์ประกอบแก้วนับเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความเฉื่อยต่อการทำปฏิกิริยากับสารเคมีชีวภาพต่าง ๆ ทนความ ร้อนสูงเมอ่ื เทยี บกับวสั ดุบรรจุภัณฑ์อ่นื ๆ และรักษาคุณภาพสนิ ค้าได้ดีมาก ข้อดขี องแก้วคือมีความใสและ ทำเปน็ สตี า่ ง ๆ ได้ สามารถทนตอ่ แรงกดได้สงู แตเ่ ปราะแตกง่าย ในดา้ นสิ่งแวดลอ้ มแกว้ สามารถนำกลับมา ใชใ้ หม่ได้ 100% ๒. ประโยชนข์ องบรรจุภณั ฑ์ ๒.1 การป้องกัน (Protection) การป้องกันผลิตภัณฑ์ไม่ให้ยุบ สลาย เสียรูป หรือคงสภาพของ ตวั บรรจภุ ัณฑ์

P a g e | 356 ๒.๒ การจัดจำหน่ายและการกระจาย (Distribution) เหมาะสมต่อพฤติกรรมการซ้ือขาย เออื้ อำนวยการแยกขาย สง่ ต่อ การต้ังโชว์ การกระจาย การส่งเสริมจงู ใจในตวั ทนต่อการขนยา้ ย ขนส่ง ๒.๓ การส่งเสริมการจำหน่าย (Promotion) เพอ่ื ยึดพ้ืนท่ีแสดงจุดเด่น โชว์ตวั เองได้อย่างสะดุด ตา สามารถระบแุ จ้งเง่ือนไข แจ้งข้อมลู เกีย่ วกับการเสนอผลประโยชนเ์ พิม่ เตมิ เพื่อจูงใจผู้บริโภค ๒.๔ การบรรจุภัณฑ์กลมกลืนกับสินค้า และกรรมวิธีการบรรจุ (Packaging) เหมาะสมทั้งในแง่ การออกแบบ และเพื่อให้มีโครงสร้างเข้ากับขบวนการบรรจุ และเอื้ออำนวยความสะดวกในการหิ้ว – ถือ กลับบ้าน ตลอดจนการใชไ้ ด้กบั เครอ่ื งมอื การบรรจุท่ีมอี ยู่แล้ว หรอื จัดหามาได้ ๒.๕ เพิ่มยอดขาย เนื่องจากในตลาดมีสินค้าและคู่แข่งเพิ่มขึ้นตลอดเวลา หากบรรจุภัณฑ์ของ สินค้าใดได้รบั การออกแบบเป็นอย่างดี จะสามารถดึงดูดตา ดึงดดู ใจผ้บู รโิ ภค 3. การเลอื กใชและจัดตกแตงบรรจุภณั ฑ์ ๓.๑ ลักษณะและคุณสมบัติของสินค้าสินค้าที่ผลิตขึ้นจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ประเภทของผลิตภณั ฑ์ การทดต่อสภาพแวดลอ้ ม ๓.๒ บรรจุภัณฑ์ที่จะดีจะต้องช่วยโฆษณาผลิตภัณฑ์ เช่น การช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความน่าซื้อ นา่ สนใจ โดยจะตอ้ งระบุรายละเอียดต่าง ๆ ของผลติ ภัณฑ์ ๓.๓ สนิ คา้ ทจ่ี ดั อยู่ในประเภทท่ีต้องการใหผูซ้ือเห็นรูปลักษณ์ เพื่อสรางแรงจูงใจในการซื้อ ควร เลือกใชบรรจุภัณฑที่มีชองเปดบรรจุภัณฑ แลวใชกระดาษแกวหรือพลาสติกบางใสปด เพื่อใหมองเห็น สินคา ๓.๔ การเลอื กใชบรรจภุ ัณฑควร คํานึงถึงตนทนุ ของบรรจภุ ัณฑ โดยพจิ ารณาราคาของส้ินค้าให้ เหมาะสมกับราคาของบรรจุภณั ฑ เพราะบรรจภุ ณั ฑแ์ ต่ละชนิดจะมีความแตกตางกนั ๓.๕ ควรสํารวจตลาดรูปแบบบรรจุภัณฑอยูเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขสินค้าให้มีความ ทันสมัย ทันตอ่ ความต้องการของตลาด ตลอดจนการดึงดดู ใจของผู้ซื้อ

P a g e | 357 กจิ กรรมการฝึกปฏบิ ัติ หน่วยที่ ๖ การจัดตกแต่งบรรจุภณั ฑ์ขนมอบ คำช้แี จง 1. นักศึกษาแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน 2. ใหน้ กั ศึกษาออกแบบบรรจุภณั ฑ์ขนมอบ 1 ช้ิน พรอ้ มเขียนท้งั เขยี นบอกเหตุผลของ การนำวสั ดุบรรจภุ ัณฑ์มาใช้ และเหตุของของการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ช้นิ น้ี ...................................................................................................... ................................................................ ...................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................. ................................................................................................................. ..................................................... ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................. ........ ......................................................................................................................... ............................................. ......................................................................................................................................................................

P a g e | 358 แบบทดสอบหลังเรียน (post-test) วชิ า ขนมอบ หน่วยท่ี ๖ การจดั ตกแตง่ บรรจุภณั ฑข์ นมอบ ระดับ ปริญญาตรี เวลา 15 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน ผสู้ อน อ.ดร. ณภทั ร นาคสวัสดิ์ ................................................................................................................................................................ คำชี้แจง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท × หนา้ ข้อความทเี่ ป็นเทจ็ และทำเครอื่ งหมายถูกต้อง ✓ หนา้ ข้อความทีเ่ ป็นจรงิ 1. ..........บรรจุภัณฑเ์ ฉพาะหนว่ ย คือ เป็นบรรจุภณั ฑ์ช้นั แรกทีส่ ัมผัสกับผลติ ภัณฑ์ เพื่อให้สนิ คา้ มี เอกลักษณ์ 2. ..........บรรจภุ ณั ฑ์ชั้นนอกสดุ คือ มหี นา้ ที่ในการรวบรวมบรรจภุ ณั ฑช์ ้นิ แรกเข้าดว้ ยกันเป็นชดุ ต้งั แต่ 2 ชน้ิ – 24 ช้นิ 3. ..........การเลอื กใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก จะต้องระวงั ไม่ให้โดนน้ำ เพราะขาดได้งา่ ย 4. .........กนั น้ำ กนั ความชน้ื กนั แสง กนั แก๊ส เมอื่ อุณหภมู ิสูงหรือตำ่ ดา้ นทานมใิ หผ้ ลติ ภณั ฑ์แปร สภาพ ไมแ่ ต่ไม่ฉีกขาดงา่ ย คือประโยชน์ของบรรจภุ ณั ฑ์ ดา้ นกา้ นป้องกัน 5. .........เพม่ิ ยอดขาย คือ บรรจุภัณฑข์ องสนิ ค้าใดไดร้ ับการออกแบบเป็นอย่างดี จะสามารถดึงดูดตา ดึงดดู ใจผู้บริโภคและก่อให้เกิดการซ้ือในทส่ี ุด 6. .........สนิ คาทจ่ี ัดอยูในประเภททต่ี องการใหผูซ้ือเห็นรูปลักษณ์ เพ่ือให้ผูบ้ รโิ ภคหยิบได้ง่าย 7. .........การเลือกใชบรรจุภัณฑควร คาํ นงึ ถงึ ตนทุนของบรรจุภัณฑ โดยพจิ ารณาราคาของสินคาให เหมาะสมกับราคาของบรรจภุ ณั ฑ 8. .........บรรจภุ ณั ฑ์ทีด่ ีตองชวยโฆษณาผลิตภัณฑ์ คือช่วยใหผ้ ลติ ผลติ ภณั ฑ์นา่ ซื้อ นา่ สนใจ โดยมี ราย ละเอยี ดตาง ๆ ของผลิตภณั ฑประกอบอยูด่ ้วย 9. ......... ควรสาํ รวจตลาดรูปแบบบรรจภุ ณั ฑอยูเสมอ เพ่อื นํามาประยุกตใชกบั สนิ คา ใหมี รูปแบบท่ีทนั สมยั อยูเสมอ 10. ........บรรจภุ ณั ฑโ์ ลหะ โลหะเป็นวสั ดทุ ี่มีคุณสมบตั ิพิเศษหลายประการ เช่น เป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี นำ ความรอ้ นได้ดีมาก ไมย่ อมให้แสงผ่านและมีความแข็งแรงมาก ช่อื ............................................................................ สาขา ....................................................... ห้อง ......

P a g e | 359 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน (post-test) วชิ า ขนมอบ หนว่ ยท่ี ๖ การจดั ตกแตง่ บรรจุภณั ฑ์ขนมอบ 1. ....✓.... บรรจภุ ัณฑ์เฉพาะหน่วย คอื เปน็ บรรจภุ ณั ฑ์ชัน้ แรกที่สัมผสั กับผลิตภณั ฑ์ เพื่อใหส้ ินคา้ มี เอกลกั ษณ์ 2. .... ×.... บรรจุภัณฑ์ช้ันนอกสดุ คอื มหี นา้ ทีใ่ นการรวบรวมบรรจภุ ัณฑ์ช้นิ แรกเข้าดว้ ยกันเป็นชดุ ตั้งแต่ 2 ช้นิ – 24 ช้นิ 3. .... ×.... การเลือกใช้บรรจุภณั ฑ์พลาสติก จะต้องระวังไม่ให้โดนน้ำ เพราะขาดได้งา่ ย 4. .... ×.... กนั นำ้ กันความชื้น กันแสง กนั แกส๊ เม่ืออณุ หภูมิสงู หรือต่ำ ด้านทานมใิ หผ้ ลิตภัณฑ์แปร สภาพไมแ่ ต่ไม่ฉีกขาดงา่ ย คือประโยชน์ของบรรจุภณั ฑ์ ดา้ นก้านปอ้ งกนั 5. ...✓... เพม่ิ ยอดขาย คอื บรรจุภัณฑ์ของสินคา้ ใดได้รับการออกแบบเปน็ อย่างดี จะสามารถ ดึงดดู ตา ดงึ ดดู ใจผูบ้ ริโภคและก่อให้เกิดการซื้อในทส่ี ดุ 6. .... ×.... สินคาทีจ่ ัดอยูในประเภททต่ี องการใหผูซ้ือเหน็ รูปลักษณ์ เพื่อให้ผูบ้ ริโภคหยิบไดง้ ่าย 7. ...✓... การเลือกใชบรรจุภณั ฑควร คํานึงถึงตนทุนของบรรจุภณั ฑ โดยพจิ ารณาราคาของสินคาให เหมาะสมกบั ราคาของบรรจภุ ณั ฑ 8. ...✓... บรรจุภัณฑ์ทีด่ ีตองชวยโฆษณาผลิตภณั ฑ์ คือชว่ ยให้ผลิตผลติ ภณั ฑน์ ่าซ้อื น่าสนใจ โดยมี รายละเอยี ดตาง ๆ ของผลิตภัณฑประกอบอยูด่ ้วย 9. ...✓... ควรสํารวจตลาดรปู แบบบรรจุภัณฑอยูเสมอ เพ่ือนาํ มาประยุกตใชกบั สนิ คา ใหมี รปู แบบทท่ี ันสมยั อยูเสมอ 10. ...✓... บรรจุภัณฑโ์ ลหะ โลหะเปน็ วัสดุท่มี ีคุณสมบัตพิ เิ ศษหลายประการ เชน่ เปน็ ตวั นำไฟฟา้ ไดด้ ี นำความรอ้ นไดด้ มี าก ไมย่ อมให้แสงผ่านและมีความแขง็ แรงมาก

P a g e | 360 บรรณานกุ รม กรมอาชวี ศึกษา. คมู่ อื การเรยี นการสอนการบรรจุภณั ฑ.์ กรงุ เทพฯ : กรมอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร, ม.ป.ป. จรยิ า เดชกุญชร. สุดยอด CUPCAKE. (พิมพค์ รงั้ ที่ 1). กรงุ เทพฯ : เพชรการเรือน, 2553. จติ ธนา แจม่ เมฆและอรอนงค์ นยั วิกลุ . เบเกอร่เี ทคโนโลยเี บอื้ งตน้ . กรุงเทพฯ : ภาควชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2542. ดวงพร สาระมาศ และคณะ. บรรจภุ ณั ฑพ์ ลาสติกสำหรบั อาหารสด. วารสารบรรจภุ ณั ฑ์ไทย, กรกฎาคม-กนั ยายน, 2547, ปีท่ี 14, ฉบับท่ี 55, หน้า 37-44. ดวงฤทยั ธำรงโชต.ิ หน้าท่แี ละความสำคัญของภาชนะบรรจุ. เทคโนโลยภี าชนะบรรจุ (Packaging Technology), กรงุ เทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2550, หน้า 1-21. ทพิ าวรรณ เฟื่องเรือง. ขนมอบ. กรงุ เทพฯ : ทีพีเพรส, 2533 นวรัตน์ เอ่ียมพทิ กั ษก์ ิจ. ขนมอบ. กรงุ เทพฯ :แมบ่ ้าน, (ม.ป.ป.). . เค้กและการแต่งหนา้ เคก้ . กรงุ เทพฯ :แมบ่ ้าน, (ม.ป.ป.). บรษิ ทั ยเู อฟเอม็ ฟ้ดู เซน็ เตอร์ จำกัด. ตำราทำขนมจากแปง้ สาลี ฉบับรวมเลม่ 1,2. กรุงเทพฯ : โรง พมิ พก์ รงุ เทพฯ, (ม.ป.ป.) ปัญจย์ ศ มงคลชาต.ิ การพฒั นาบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เพื่อเพมิ่ มูลคา่ การตลาดและโลจสิ ติกส์ และการยืดอายุผลิตภัณฑ์. เอกสารการฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั กิ าร หลักสูตร “การเพ่มิ กลยทุ ธ์ การตลาดแกผ่ ปู้ ระกอบการ OTOP และวสิ าหกิจชุมชน” กรุงเทพฯ : สำนักเทคโนโลยีชมุ ชน กรม วิทยาศาสตรบ์ ริการ, 2559. ยงิ่ ศกั ดิ์ จงเลศิ เจษฎาวงศ์. FOOD NEWS. กรุงเทพฯ, 2541. เศรษฐพงษ์ เผา่ วฒั นา. ของหวาน ๆ พืน้ ฐานการทำเค้ก. กรงุ เทพฯ : สำนักพมิ พบ์ ้านและสวน, 2544.

P a g e | 361 สโุ ขทยั ธรรมาธิราช, มหาวทิ ยาลัย, สาขาคหกรรมศาสตร์. เทคโนโลยอี าหารและเคร่ืองด่ืม หน่วยที่ 1-2. พมิ พ์ครง้ั ที่ 2. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2542. สำนกั พมิ พแ์ ม่บ้าน. The Bread Book. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1. กรงุ เทพฯ : บริษทั แมบ่ า้ น จำกดั , 2552. สำนักพิมพแ์ สงแดด. คุกกแี้ ละขนมปัง. พมิ พ์ครั้งท่ี 4. กรุงเทพฯ : แสงแดด, 2551. . เค้ก พาย พฟั เพสตร้.ี พมิ พ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : แสงแดด, 2553. . เคก้ อย่างงา่ ย. พิมพ์คร้งั ที่ 2. กรงุ เทพฯ : แสงแดด, 2548. . Home Made Cookies. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1. กรงุ เทพฯ : แสงแดด, 2549. อรอนงค์ นัยวิกุล. ข้าวสาลี. กรงุ เทพฯ : สมาคมขา้ วสาลแี หง่ อเมรกิ า, 2532 . คณุ สมบตั แิ ละการเปลี่ยนแปลงของวัตถดุ บิ ในการผลติ เบเกอรรี่ และการคำนวณ เกีย่ วกับผลติ ภณั ฑข์ นมอบ. กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2532. องนุ่ ดาราวโิ รจน์. เอกสารประกอบการสอนวชิ าเบเกอรี่ 2. กรุงเทพฯ : สถาบันเทคโนโลยีราช มงคล วิทยาเขตพระนครใต้, 2541 องั สนา กาญจนากร. เอกสารประกอบการเรยี นวิชาเบเกอร.่ี กรงุ เทพฯ : สถาบนั เทคโนโลยีราช มงคล วิทยาเขตพระนครใต้, 2543. . เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าเบเกอร่ี 1. กรุงเทพฯ : สถาบนั เทคโนโลยีราช มงคล วิทยาเขตพระนครใต้, 2542. อแี อลเอสฟ้ดู คลับ. คกุ กี้. กรงุ เทพฯ : ยูไนเต็ดบุ๊คส,์ 2535. . เค้ก. กรงุ เทพฯ : ยูไนเตด็ บุ๊คส,์ 2535. วาณี ชนเห็นชอบ. เทคโนโลยีการบรรจุอาหาร (Food Packaging Technology). [ออนไลน์] [อา้ งถงึ วันท่ี 3 กมุ ภาพนั ธ์ 2565] เข้าถงึ จาก http://synergysupply.co.th/docs/lamination_knowledge.pdf

P a g e | 362 ภาคผนวก

P a g e | 363 ภาคผนวก ก - เอกสารประกอบการสอน ๑. Power Point ประกอบการสอน หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ความรเู้ บ้อื งตน้ สำหรับผลติ ภัณฑ์ขนมอบ

P a g e | 364 ๒. Power Point ประกอบการสอน หนว่ ยท่ี 1 เรอื่ ง อปุ กรณเ์ ครอ่ื งมือเคร่อื งใช้

P a g e | 365 ๓. Power Point ประกอบการสอน หน่วยท่ี 2 เร่อื ง หลกั การและวธิ ีการทำขนมปัง

P a g e | 366 ๔. Power Point ประกอบการสอน หนว่ ยท่ี ๓ เร่อื ง หลกั การและวธิ ีการทำคุกกี้

P a g e | 367 ๕. Power Point ประกอบการสอน หน่วยท่ี ๔ เร่ือง หลักการและวิธีการทำเค้ก

P a g e | 368 ๖. Power Point ประกอบการสอน หนว่ ยท่ี ๕ เรอ่ื ง หลักการและวิธกี ารทำพาย

P a g e | 369 ๗. Power Point ประกอบการสอน หนว่ ยท่ี ๖ เรือ่ ง การจดั ตกแตง่ บรรจุภณั ฑข์ นมอบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook