Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1006 ด.ช. กฤตบุญ โชคชมพูนท

1006 ด.ช. กฤตบุญ โชคชมพูนท

Published by jiratchayaoye1606, 2023-04-21 00:30:33

Description: 1006 ด.ช. กฤตบุญ โชคชมพูนท

Search

Read the Text Version

78 ท่ีอย่ปู จั จุบัน  ทอ่ี ย่เู ดียวกบั นักเรียน  ท่อี ยูต่ า่ งจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมูล) บา้ นเลขท.ี่ ....................ตรอก/ซอย...............หมทู่ ี่...........ช่ือหมู่บา้ น/ถนน................................................... ตาบล/แขวง....................................อาเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหัสไปรษณีย.์ .............................................เบอรโ์ ทรศพั ท์............................................................................ รายไดค้ รอบครัว  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ขนึ้ ไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี  ไม่เกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท/ปี สภาพความเป็นอยใู่ นครอบครวั  อย่รู ว่ มกบั บิดามารดา  อย่กู ับบดิ า  อยูก่ ับมารดา  อยกู่ บั ผ้อู ่ืน (ระบ)ุ ....................................................................... สถานภาพของบิดามารดา  อยู่ดว้ ยกนั  หย่าร้าง  แยกกันอยู่  บดิ าถึงแก่กรรม  มารดาถงึ แกก่ รรม  บิดา มารดาถงึ แกก่ รรม ครอบครัวของนักเรียนมีสมาชิกทั้งหมด......๖............คน ประกอบดว้ ย.......บ..ิด...า..,..ม..า..ร..ด...า..,..น..ัก...เ.ร..ีย..น...,..พ...่ีช..า..ย....... บคุ คลในครอบครวั มีการใชส้ ารเสพติด  มี  ไมม่ ี เก่ียวข้องเปน็ ...............................กับนกั เรยี น ประเภทสารเสพติดทใ่ี ช้คือ  บุหรี่  สุรา  ยาบ้า  อ่ืนๆ ระบ.ุ ............................ ความถใ่ี นการใช้สารเสพตดิ ของบคุ คลในครอบครวั  เป็นประจา  บางครัง้ บคุ คลในครอบครัวเกย่ี วข้องกับการเลน่ การพนัน  มี  ไม่มี ความถีใ่ นการเล่นการพนนั ของบุคคลในครอบครัว  เป็นประจา  บางคร้งั ภายในครอบครัวมีความขัดแยง้ และมีการใช้ความรนุ แรง  มี  ไม่มี บุคคลในครอบครัวเจ็บป่วยด้วยโรครุนแรง/เรอื้ รงั  มี  ไม่มี อาชีพบดิ า/มารดา/ผู้ปกครองเส่ยี งตอ่ กฎหมาย  มี ไม่มี ๒.๔ ดา้ นเศรษฐกิจครอบครัว  มรี ายได้เพียงพอสาหรับเล้ยี งดูครอบครวั ไดอ้ ย่างดี  มีรายไดเ้ พียงพอสาหรับเลีย้ งดูครอบครัวเฉพาะทีจ่ าเป็น  มีหนสี้ ิน  มีรายไดเ้ พยี งเลก็ น้อย ไม่เพียงพอสาหรบั ครอบครวั  ไม่มีรายไดเ้ ลย ต้องพ่งึ พาผูอ้ ืน่ ท้ังหมด และมหี น้สี นิ

79 ๒.๕ ดา้ นการคุ้มครองนักเรยี น ๑) การดแู ลเอาใจใส่นักเรยี น  สมาชิกทกุ คนในครอบครัวชว่ ยกันดูแลเอาใจใส่นกั เรียนเปน็ ประจาสม่าเสมอ  ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนกั เรียนเปน็ บางคร้งั  ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรียน/ไม่มผี ู้ดูแล  นกั เรยี นถกู ล่วงละเมิดทางเพศ  นักเรยี นถกู ทาร้ายทารุณ ๒) การชว่ ยเหลือในการพัฒนานกั เรียน  สมาชิกทุกคนในครอบครัวเขา้ ใจ/ร่วมมือในการช่วยเหลือในการพฒั นานักเรยี นเปน็ อย่างดี  สมาชกิ ในครอบครัวบางคนไม่มีความเข้าใจ/ร่วมมือในการช่วยเหลือในการพฒั นานักเรียน  สมาชิกทุกคนในครอบครัวขาดความเข้าใจ/ร่วมมือในการช่วยเหลือในการพัฒนานักเรยี น ๒.๖ ด้านเจตคตติ อ่ นกั เรียน ครอบครัวมีความคาดหวงั ในการพัฒนานักเรยี น  นักเรยี นสามารถพฒั นาไดแ้ ละมีการแสวงหาความรู้ในการพัฒนานักเรยี นอยู่เสมอ  มคี วามคาดหวังในการพัฒนานกั เรยี นแต่ไม่มีการแสวงหาความรูเ้ พื่อนามาพัฒนานักเรียน  ไม่มคี วามคาดหวงั ในการพัฒนานักเรยี นและนักเรยี นเปน็ ภาระของครอบครวั ๒.๗ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะของผู้ปกครองในการพฒั นานกั เรยี น ๑) ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะของผู้ปกครองในการจดั กิจกรรมเพอ่ื พัฒนานกั เรียน  มีการจดั กิจกรรมเพ่ือพฒั นานกั เรยี นเปน็ ประจาทุกวัน  มกี ารจัดกิจกรรมเพ่ือพฒั นานักเรียนเป็นบางคร้งั  ไมเ่ คยมีการจัดกจิ กรรมเพ่อื พฒั นานกั เรยี น ๒) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะของผู้ปกครองในการฝึกด้วยเทคนคิ /กจิ กรรม  มกี ารฝกึ ด้วยเทคนิค/กิจกรรมท่ีหลากหลายเป็นประจาทุกวนั  มีการฝึกดว้ ยเทคนิค/กิจกรรมเป็นบางครัง้  ไมเ่ คยฝึกด้วยเทคนคิ /กิจกรรม

80 ๓. ขอ้ มูลดา้ นสภาพแวดลอ้ ม ๓.๑ สภาพแวดลอ้ มภายในศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง/หนว่ ยบรกิ าร ๑) บริเวณภายในหอ้ งเรียนอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ้ มในห้องเรียน/อาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกบั ความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของ นักเรยี นและปลอดภยั ตอ่ การดารงชีวติ  สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจาเป็น พิเศษของนกั เรยี นแต่ยังสามารถใชไ้ ด้อย่างปลอดภัยตอ่ การดารงชีวติ  สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษของนักเรียนและไม่ปลอดภยั ตอ่ การดารงชวี ิต  สภาพแวดล้อมในห้องเรยี น/อาคารเรียนทุกอย่างไมม่ ีความเหมาะสมกับความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษของนักเรียนและไมป่ ลอดภัยตอ่ การดารงชีวติ ระบรุ ายละเอยี ดเพม่ิ เติม........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกับความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของนักเรยี น และปลอดภยั ต่อการดารงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษ ของนักเรยี นแตย่ งั สามารถใช้ไดอ้ ย่างปลอดภัยตอ่ การดารงชีวิต  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษ ของนักเรียนและไม่ปลอดภยั ตอ่ การดารงชีวติ  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นทุกอย่างไมม่ คี วามเหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ พิเศษของ นักเรียนและไม่ปลอดภัยต่อการดารงชีวิต ระบุรายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ........................................................................................................................................... ๓) ผูเ้ กี่ยวขอ้ ง  คร/ู พเี่ ลยี้ งเด็กพกิ าร/ผปู้ ฏบิ ตั งิ านให้ราชการ ทกุ คนพร้อมให้การชว่ ยเหลอื นกั เรยี น  ครู/พ่ีเลีย้ งเด็กพกิ าร/ผปู้ ฏิบัติงานให้ราชการ บางคนละเว้นไม่ให้การช่วยเหลือนักเรียน  คร/ู พ่ีเล้ียงเดก็ พิการ/ผู้ปฏิบตั ิงานใหร้ าชการ บางคนรังเกยี จนกั เรยี น  เพือ่ นทุกคนยอมรับ/ให้เข้ากลมุ่ ทากิจกรรม  เพือ่ นบางคนไม่ยอมรับ/ไมใ่ ห้เข้ากลมุ่ ทากิจกรรม  เพือ่ นทุกคนไม่ยอมรับ/ไม่ใหเ้ ขา้ กลุ่มทากิจกรรม

81 ๓.๒ สภาพแวดลอ้ มภายในบ้าน ๑) บริเวณภายในบ้าน  สะอาดปลอดภยั เอื้อต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรยี น  สะอาดปลอดภยั แต่ไม่เอ้ือตอ่ การพฒั นาศกั ยภาพนักเรียน  ไมส่ ะอาดและไม่ปลอดภัย ๒) บริเวณภายนอกบ้าน  สะอาดปลอดภยั เอื้อตอ่ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภัยแต่ไม่เอื้อตอ่ การพัฒนาศกั ยภาพนักเรียน  ไมส่ ะอาดและไมป่ ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ้ มภายในชุมชน ๑) เจตคติของชุมชนที่มตี ่อนักเรียนและครอบครัว  เป็นภาระของสังคม  พรอ้ มให้ความชว่ ยเหลือ  ความเชื่อเร่ืองเวรกรรม  มสี ทิ ธิเท่าเทยี มกับคนทว่ั ไป  น่ารงั เกยี จ  คนพกิ ารสามารถพฒั นาได้  ไมส่ นใจ ๒) ความสัมพนั ธ์ของนกั เรยี นกับชุมชน  เปน็ ทีร่ ้จู กั ในชมุ ชน  มสี ว่ นร่วมในชุมชน  เปน็ ทรี่ ักของคนในชุมชน  ชมุ ชนให้ความช่วยเหลือ  ไม่มคี นในชมุ ชนรูจ้ ัก  ไมส่ นใจ  สร้างความเดอื ดร้อนให้คนในชุมชน

82 แบบรวบรวมขอ มูลผูเรยี น ตามกรอบคิดแนวเชิงนิเวศ (Ecological System) ช่ือ-นามสกลุ นักเรียน เด็กชายกฤตบญุ โชคชมพนู ท ช่ือเลน ตน บุญ ระดับชัน้ เตรียมความพรอม ปก ารศึกษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบริการหอ งเรยี นมงุ สูด วงดาว ชื่อสถานศึกษา ศูนยการศกึ ษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง อําเภอ เมอื งลําปาง จังหวัด ลาํ ปาง ขอมลู ณ วนั ท่ี ๑ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยการศกึ ษาพิเศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปาง

83 รวบรวมขอ มูลผูเรียน ขอมูลของผูเ รียน ๑. ขอมูลของผูเรยี น ช่ือ-นามสกลุ นกั เรยี น เดก็ ชายกฤตบญุ โชคชมพนู ท ชื่อเลน ตนบญุ อายุ ๘ ป เพศ ชาย เชื้อชาติ ไทย ประเภทความพิการ บุคคลที่มคี วามบกพรองทางสติปญญา โรคประจาํ ตัว สมองฝอ  ลกั ษณะความพิการ นักเรียนสามารถเคลื่อนไหวรางกายเดิน ว่ิงได แตอาจชาบาง มีโรคประจําตัว คือ จากการสอบถาม ผปู กครองทราบวา มีโรคประจําตัว คือ สมองฝอ ตอ งรบั ประทานยากันชัก ยาปรับคลื่นสมอง เดก็ มมี ีปญ หา พูดไมชัด พฤตกิ รรมดานอารมณแ ละพฤติกรรมเปน เด็กท่ีฉุนเฉียว เขา หองไดดว ยตอนเอง แตงตัวเองไไดเอง โดยตองจัดเตรียม เส้ือผาให ใสเส้ือยืดคอกลม กางเกงเอวยืด ใสเส้ือติดกระดุมไมได สามารถทําตามคําส่ังได ไมแพอาหาร ไมแพยา พูดจาเพอเจอ ดื้อบางเปนบางคร้ังไมสั่งก็ไมทํา ชอบเลนมือถืด ไมรูจักคาของเงิน นอนประมาณ ๔ - ๕ ทุม เวลา นอนจะใสผาออมสําเร็จรูปนอน หมอที่โรงพยาบาลลําปางนัดรับยาทุก ๆ สามเดือน ขอมูลจากโรงพยาบาล ครู การศกึ ษาพิเศษสอนใหจับคูรปู ภาพ จับคูตามจํานวน ดานการฝกพูด ใหอา ปาก พูดสระ ออกเสยี งสระ อะ อา อิ อี อุ อู ดา นกิจกรรมบําบดั ใหจ ดั กิจกรรมท่ตี องเคล่ือนไหวเยอะ ๆ เชน การว่ิง กระโดด โหนบาร และวายน้ํา สรุปปญหาของนักเรียนของนักกิจกรรมบําบัด เด็กชายกฤตบุญ โชคชมพูนท นักเรียนมีปญหา Visual perception (การรับรูทางสายตา มีผลตอการอานเขียน), Cognition (ระบบความคิด ความจํา เชน บุคคล เวลา สถานท)ี่ , Time and Speech (เวลา การพดู และการสื่อภาษา) สรุปปญหาและแนวทางการรักษาทางกายภาพบําบัด เด็กชายกฤตบุญ โชคชมพูนท ไมมีปญหาดาน กายภาโดยพบทักษะการปรับตัวไมผาน ๑๐ ทักษะ จาก ๑๐ ทักษะ คือ ใชภาษาไมสมวัย ตองกระตุนในการปฏิบัติ กิจวัตรประจําวันอยูเสมอ ชวยเหลือตนเองในชีวิตประจําวันไดตํ่ากวาวัยชอบเลนกับเด็กท่ีมีอายุนอยกวา หรือไม สามารถเลนกับเพ่ือนตามวัย เลนเลียนแบบผูอื่นอยางไมเหมาะสมกับวัย มีปญหาดานพฤติกรรมในการใชสิ่งของ สาธารณะประโยชน เชน ชอบทําลายหรือใชอยางไมระมัดระวัง ไมรูจักวิธีการใช การจัดเก็บ และการดูแลรักษา ของสวนรวม จึงมีแนวโนมที่จะเปนบุคคลที่มีความบกพรองทางสติปญญา ควรไดรับการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ตอไป  พฤตกิ รรมของผเู รยี น พฤตกิ รรมสว นบคุ คล นักเรียนมีพฤติกรรมชุกชนตามวัย กอกวน ชกตอยเมื่อถูกแยงของ พูดจาเพอเจอ ติดมือถือ เน่ืองจากตองอาศัยอยูบานกับพอในตอนกลางวัน เมื่อแมกับพ่ีชายออกไปทํางานตอนกลางวัน แมจะท้ิงมือ ถือไวให สําหรับใชติดตอส่ือสาร เน่ืองจากพอมีอายุมากแลวและเปนโรคหัวใจ และความจําเส่ือม จึงเปน โอกาศใหเ ด็กไดใชม ือถอื เลน เกม หรือดแู ละเรียนแบบพฤติกรรมท่ีไมเหมาะสมเชน คําพูดหยาบคาย การใข ความรุนแรง เร่อื งเพศ เปนตน กลุมบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก ารศึกษาพเิ ศษประจําจงั หวดั ลาํ ปาง

84 พฤตกิ รรมการเรียนรู นักเรียนสามารถเรียนรูได ทุกคร้ังที่มอบหมายงานตองคอยกระตุนเตือน และใหรางวัล สิ่งแรงที่ สงผลตอนักเรียน คือ ภาพนักดับเพลิง รถดับเพลิง ความสามารถในการใชมือระบายสีออกนอกกรอบ เขยี นตามรอยไดแตไ มตรงเสน ทอ ง ๑-๑๐ ไดเขยี น ๑-๑๐ ตามรอยไดส ามารถตอบคาํ ถามได ภาพนักเรียน กลุมบรหิ ารงานวิชาการ ศูนยการศึกษาพเิ ศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง

85 รวบรวมขอ มูลผเู รียน ขอ มลู ความสามารถผูเ รียน  ความสามารถพนื้ ฐานของผเู รียน จดุ ออน ๑.๑ ความสามารถพื้นฐานทางดา นรางกาย ๑.นกั เรียนไมส ามารถควบคมุ กลา มเนอ้ื มอื เพ่ือใช จุดเดน ดนิ สอเขยี นตามแบบได ๑. นกั เรียนสามารถเคลื่อนไหวทางรางกายในการยนื ๒. นักเรยี นไมส ามารถใชก รรไกรได เดนิ กระโดด วงิ่ และการเคลื่อนไหวตามจัวหวะได ๒. นกั เรียนสามารถเลน ทํากิจกรรมและปฏิบัตอผอู น่ื ได ๓. นักเรียนสามารถมอง การกลนื การเคี้ยวไดเ อง สามารถกินอาหารออนแขง็ ไดปกติ ๑.๒ ความสามารถพ้นื ฐานทางดานอารมณ จติ ใจ จุดเดน จุดออน ๑. นักเรยี นสามารถแสดงอารมณค วามรูสึกได ๑. นักเรยี นไมแสดงอาการกลัวคนแปลกหนา เหมาะสม กับบางสถานการณ ๒. นักเรยี นมคี วามรูส กึ ทีด่ ตี อตนเองและผอู ื่นสามารถ ๒. นกั เรียนไมส ามารถแสดงความพอใจในผลงานและ บอกความตองการของตนเอง แสดงความภูมิใจเม่ือ ความสามารถของตนเองและผูอ่นื ทาํ สง่ิ ตางๆ กลา พูดกลาแสดงออก ได ๓. นกั เรยี นตอบสนองตอธรรมชาติ เสียงเพลง ๓. เมอ่ื ใหร องเพลงยงั ไมส ามารถรองเพลงบางคํา หรือ จังหวะดนตรี และสิ่งสวยงามตาง ๆ อยา ง รอ งเพลงคลอ ตามทาํ นอง เพลดิ เพลนิ กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก ารศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง

86 รวบรวมขอมลู ผเู รียน ขอ มูลความสามารถผูเ รียน ๑.๓ ความสามารถพื้นฐานทางดา นสงั คม จุดออ น นักเรยี นแสดงพฤติกรรมไมเหมาะสมในการ เลน การ จดุ เดน ทาํ กิจกรรมรวมกบั ผูอื่น เชน การหยิบของโดยไมไดร ับ นักเรยี นรูจักบุคคลภายในครอบครวั ของตนเอง ไดแก อนุญาต เลน หรือใชข องไมถูกประเภท เปนตน ยาย ตา แม พอ และนกั เรียนรูจ ัก ครูและเพือ่ นใน หองเรียน และเพ่ือนบา น นกั เรียนมีโอกาสในการ ออกไปขา งนอกบา นเพ่ือมปี ฏิสัมพันธกับคนภายใน ชมุ ชน ๑.๔ ความสามารถพน้ื ฐานทางดานสตปิ ญ ญา จดุ ออน นกั เรยี นยงั ไมม ที ักษะในการแยกแยะวตั ถุ สง่ิ ของ จดุ เดน เคร่อื งใช การระบผุ ลทเ่ี กิดขนึ้ ในเหตุการณ นักเรียนสามารถแสดงออกและ/หรือพูดเพื่อสือ่ หรือการกระทาํ ไมส ามารถสรางผลงานศิลปะเพ่อื ความหมาย สนทนาโตต อบและเลาเรอื่ งใหผูอ่ืนเขา ใจ สื่อสารความคิด ความรูสึกของตนเองโดยมีการ ได สามารถตดั สนิ ใจเรือ่ งงายๆ แกปญ หาโดยลองผิด ดัดแปลงแปลกใหมจ ากเดิม ลองถกู มีกระตอื รือรน ในการเขา รว มกจิ กรรม และ สามารถใชป ระโยคคําถามวา “ใคร” “อะไร” ในการคนหาคาํ ตอบ ๑๕ ความสามารถพ้ืนฐานทางดานทักษะจาํ เปนเฉพาะความพกิ าร จุดเดน จุดออ น นักเรยี นไดรบั การบริการปรบั พฤติกรรมจากครู ๑. นักเรยี นไมส ามารถดแู ลตนเองและความปลอดภัย จิตวิทยา รบั บรกิ ารเตรยี มอาชีพการเพาะปลูกผกั สวน ในชวี ิตประจําวนั ได ครัว และการใชค อมพวิ เตอร ๒. นกั เรียนไมสามารถมีปฏสิ มั พันธทางสังคมกบั ผูอนื่ อยา งเหมาะสม ๓. นักเรยี นไมสามารถใชส งิ่ ของสาธารณะอยา ง เหมาะสม กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนยการศึกษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลําปาง

87 รวบรวมขอมลู ผเู รียน กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework การรวบรวมขอ มลู ผเู รยี นตามกรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. การเขา ใกล- ถอนหนี (Approach-Withdrawal) การดูปฏิกิรยิ าของเดก็ ในการเผชญิ สง่ิ ใหม ประสบการณ บคุ คล/สถานที่ สง่ิ ของ ความคดิ ๑.๑ อะไรที่เปนตัวชบ้ี อกวา เด็กเขา รว ม มีสวนรว มกิจกรรมทจ่ี ัดขึ้น ๑.๒ อะไรทเี่ ปนตัวชบ้ี อกวา เด็กไมเ ขา รวม แยกตัว ไมเ ขารวมกจิ กรรม ๑.๓ มีอะไรท่ีสงั เกตเหน็ วาจงู ใจเด็กบา ง แยกตวั ๑.๔ อะไรทสี่ ังเกตเหน็ วาเด็กไมส นใจ/หลกี หนีบาง แยกตัว ไมร วมกิจกรรม ๒. ชอ งทางการเรยี นรดู านประสาทการรบั รู (Sensory Learning Channels) ๒.๑ เดก็ รบั ขอ มลู ไดโ ดยวธิ ีใดบาง การมอง การฟง และการสัมผัส ๒.๒ เดก็ ตอบสนองตอเสียงอยา งไร หันตามเสยี ง ๒.๓ เดก็ ตอบสนองตอสิ่งเรา ทางสายตาอยา งไร มองตาม ๒.๔ เด็กตอบสนองตอการสมั ผัสอยา งไร เขา หาเม่ือเปนสัมผัสท่ีพึงประสงค ถอยหนเี มื่อเปน สัมผัสทไ่ี มพงึ ประสงค ๒.๕ เดก็ ใชประสาทสมั ผัสมากกวาหน่ึงอยางในเวลา ใช เดียวกนั หรอื ไม ๒.๖ เด็กแสดงตวั ช้แี นะการรว มหรือไมเ ขารวมในการ ไม ตอบสนองขอ มูลทางประสาทสัมผัสเฉพาะหรือไม ๓. สถานะทางชีวพฤตกิ รรม (Biobehavioral State) ชดุ ของสภาพการณดานชวี พฤติกรรมและกายภาพต้งั แตก ารนอนหลับจนถึงการตืน่ นอนและการรอง ๓.๑ สภาพปจ จบุ ันของเด็กคอื อะไร เคล่อื นไหวรางกายได ๓.๒ เด็กสามารถควบคุม/เปลย่ี นสภาพของตนได ได หรอื ไม ๓.๓ เดก็ ใชเ วลาในการต่ืนตวั มากนอยแคไหน 1-2 นาที ๓.๔ มีชวงกวางของแตล ะสภาพเทา ใดที่เด็กแสดงให - เห็นและมีแบบแผนการเปลย่ี นแปลงอะไรระหวาง สภาพ ๓.๕ มีตวั แปรอะไรบา งท่ีกระทบตอสภาพเดก็ - กลุมบรหิ ารงานวิชาการ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลาํ ปาง

88 รวบรวมขอ มูลผูเรียน กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๔. การตอบสนองปฏกิ ริ ิยาตอบสนองของรา งกายในสภาพแวดลอม (Orienting Response) ๔.๑ มปี จ จัยอะไรบา งท่ีทาํ ใหเ ด็กการตอบสนองไป ความสนใจ ในทศิ ทางนนั้ ไดช ดั แจง ๔.๒ เดก็ แสดงการตอบสนองตอทศิ ทางออกอยางไร ตอบสนองได ๔.๓ ประสาทการรับรชู องทางใดทปี่ รากฏเชื่อมโยง การมอง การฟง การสัมผัส กับการตอบสนอง (ขอมูลประสาทการรับรทู ่ีกระตุน ใหม ีการตอบสนองและประสาทการรบั รทู ่ีใช ประโยชน) ๕. ความจํา (Memory) ใช ๕.๑ เด็กใช/คนุ กับสง่ิ เราที่คนุ ชินหรือไม ๕.๒ การนาํ เสนอสิ่งเราจาํ เปนตอ งใชเวลานานหรอื กี่ ๑ - ๒ ครั้ง คร้ังกอนทเ่ี ดด็ จะคุนชนิ ๕.๓ เดก็ เขารวมอีกครงั้ ไหมเมื่อเปลยี่ นแปลง เขารวม ลกั ษณะของส่ิงเรา ๕.๔ การตอบสองแตกตา งไปหรือไม ไม ๕.๕ เด็กแสดงการตองสนองแตกตา งหรือไมกบั ไม บคุ คลทค่ี ุยเคยและไมคุนเคย ๕.๕ เด็กแสดงการรบั รหู รือไมวา สงิ่ ของนั้นยงั อยแู ม รบั รู จะไมอยใู นสายตาตอนนน้ั ๕.๖ เดก็ เช่ือมโยงเหตกุ ารณท่ีกําลังเผชญิ กบั สิง่ ที่ ได ตามมาไหม ๕.๗ เด็กแสดงการคาดเดาตอส่งิ /เหตกุ ารณท่ีกําลัง ได เผชญิ หรอื ไม ๕.๘ เดก็ แสดงอาการหรอื ไมเ มอื่ ส่งิ ทเ่ี กดิ ใหมไมตรง ไม กบั ความคาดหวัง ๕.๙ เด็กสามารถเรยี นรูกิจวตั รงา ย ๆ ไดหรอื ไม ได ๕.๑๐ กิจวัตรที่ใหเดก็ เรียนรูจาํ ไดไหม ได กลมุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวดั ลําปาง

89 รวบรวมขอมูลผเู รยี น กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework ๖. ปฏิสมั พนั ธท างสังคม (Social Interactions) หนั ๖.๑ เด็กหันไปหาบคุ คลหรือไม ไช ๖.๒ เดก็ แสดงความผกู พันวามีความปลอดภยั กบั มี บคุ คลสําคัญในชีวิตของเขา/เธอหรือไม มี ๖.๓ เดก็ มสี วนรว มในการผลดั เปลยี่ นกนั เม่ือเริ่มมี แลวแตสถานการณ ปฏสิ มั พนั ธหรอื ไม ใช ๖.๔ เด็กมีสว นรวมในการผลัดเปล่ียนกันเมื่อคนอนื่ เร่มิ ปฏสิ มั พันธหรือไม สามารถพูดส่ือสารได ๖.๕ เดก็ ผลดั เปล่ยี นก่ีรอบกอนทจี่ ะไมร ว ม ๖.๖ เดก็ เพ่มิ การผลดั เปลยี่ นการมปี ฏสิ ัมพันธม าก ใช ขน้ึ เพื่อตอบสนองตอปฏิสมั พันธข องคหู รือไม เด็กสามารถพูดจาส่ือสารได ๗. การส่อื สาร (Communication) เลอื กได ๗.๑ เด็กแสดงใหเหน็ ความตงั้ ใจในการส่ือสารผา น ได การใชง านของสัญญาณ การเปลงเสยี ง ทาทาง ฯลฯ ได หรอื ไม อธบิ ายการสื่อสารที่ใช พูดหรือแสงดงออกดวยการปฏบิ ตั ิ ๗.๒ เด็กใชส ญั ญาณอยา งสอดคลองกันหรือไม ๗.๓ เด็กใชการสอ่ื สารแตกตา งกนั หรอื ไม อธิบาย พดู หรอื แสงดงออกดว ยการปฏิบตั ิ การสื่อสารและความความหมายที่นา จะเปน ไม ๗.๔ เม่อื นําเสนอตัวเลอื กเด็กตดั สินใจเลือกหรือไม เขาใจ ๗.๕ เดก็ ใชทา ทางเหมือนบุคคลทั่วไปใชห รือไม เขา ใจ ๗.๖ เด็กสามารถใชของหน่ึงอยา งหรอื สญั ลกั ษณ แกปญ หาไดเอง แทนกจิ กรรมหรือวัตถุหรือไม รกั ษา ๗.๗ เด็กแสดงใหเหน็ ความเขาใจในการสื่อสารโดย ใชสัญลกั ษณห รือไม (การไดย ิน ภาพ หรอื การ สมั ผัส) ๗.๘ เดก็ ใชก ารส่ือสารทางสญั ลกั ษณห รือไม อธิบาย ๘. การแกปญ หา (Problem solving) ๘.๑ เดก็ แสดงใหเห็นสาเหตแุ ละผลกระทบหรือไม ๘.๒ เด็กแสดงความเขาใจในวิธีการ/จุดสน้ิ สดุ หรือ การใชขัน้ ตอนกลางเพื่อแกป ญหาหรอื ไม ๘.๓ เด็กแสดงความเขา ใจในหนา ที่ของวัตถุท่ัวไป หรอื ไม ๘.๔ เดก็ มีวิธกี ารแกป ญ หาอยางไร ๘.๕ เดก็ รกั ษาความสนใจและคงอยูกับส่งิ น้นั หรือไม กลุม บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก ารศกึ ษาพิเศษประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง

90 รวบรวมขอมูลผเู รียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดานสภาพแวดลอมของผเู รยี น (Microsystem)  บุคคลภายในครอบครัวที่ผูเ รียนไวว างใจ แมกุล เปนผูดูแลหลักและเปนผูที่นักเรียนไววางใจมากท่ีสุด ในทุกๆวันแมกุลจะคอย ไดดูแลกิจวัตรประจําวันทั้งหมดของนักเรียน ตั้งแตเชา กอนไปโรงเรียน จนเขานอน ไดแก ทําความสะอาด รา งกาย เปลย่ี นเส้อื ผา จัดเตรียมอาหาร และใหยาตามเวลาทแี่ พทยส ั่ง ไปรบั ไปสงไปศูนย แมกุลทํางานเปนหมอ นวดทร่ี านเสรมิ สวยแถวหมบู า น เปน ผหู ารายไดหลักในครอบครวั พอโชค เปนคนท่ีนักเรียนตองคอยดูแลเม่ือเวลา แมกุลกับพี่ ไปทํางาน พอโชคมีอาการความจํา เส่อื มและเปนโรคหัวใจ เวลาผเู รยี นอยบู า น จงึ ตองคอยอยูเ ปนเพ่อื นพอ โชค พ่ีพี เปนคนท่ีนักเรียนไววางใจรองลงมาจากตาพอโชค ออกไปทํางานทุกวัน และชวยดูแลนักเรยี น ในบางคร้งั เม่ือไมตดิ ธุระ  ลักษณะท่อี ยอู าศัย (หองอะไรบา ง / ความสะอาด) อยูใ นหมบู านจัดสรรคเปนบา น ๒ ช้นั ข้นั ลา งเปน ปูน ช้ันบนเปน ไม ทุกคนอาศยั อูช น้ั ลา งของบา น • ลักษณะหองน้าํ (ระบรุ ายละเอยี ด) ไมมีขอมูล • ลกั ษณะหองนอน (ระบรุ ายละเอยี ด) ไมม ขี อมูล • พืน้ ทใ่ี นการฝก /ทาํ กิจกรรมกับผเู รียน (ระบุรายละเอียด) ไมมขี อ มูล กลุม บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจําจงั หวดั ลาํ ปาง

91 รวบรวมขอมูลผูเรยี น กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๒ ดานความสมั พนั ธแ ละปฏสิ ัมพนั ธร ะหวา งบุคคลที่เกยี่ วขอ งของผเู รียน (Mesosystem)  ลักษณะของครอบครวั และความสัมพันธของบคุ คลในครอบครัว ท่ีบานอาศัยอยูดวยกัน ๔ คนแมกุลกับพอโชค มีลกู ดวยกัน คือ กฤตบุญ สวนพ่ีที่อาศัยอยู ดวยเปน พ่คี นละแม ชงื่ พ่มี อี ายหุ า งจากกฤตบุญมาก  ความสัมพนั ธก บั บุคคลในหองเรียน/โรงเรียน นักเรียนเรยี นเรยี นอยใู นหองเรยี นมงุ สดู วงดาว มีครูประจําชนั้ คือครสู ุพตั รา ครูจิรัชยา ครสู ุภาภรณ เปนพี่เลีย้ งเด็กพิการ มีเพ่ือนในหองเรยี น ๘ คนคอื หาร จโี น มานาว ตนบุญ นาํ้ ตาล เชลซี และปน มคี รูรนิ รดา ใหบ ริการกจิ กรรมบาํ บัด ครศู ศิกมลใหบริการปรบั พฤติกรรม ครทู รงพลใหบรกิ ารแผน ไทย ครธู วชั ชัยสอนศิลปะ ครูศราวธุ สอน ICT ครธู นิษฐส อนเกษตร  ความสัมพนั ธกบั บคุ คลอ่นื ๆ เชน ญาติพ่ีนอ ง เพ่อื น เพ่ือนบาน คนในชุมชน เปนตน ไมมีขอ มูล ๒.๓ ดานส่งิ แวดลอมและสภาพสงั คมท่ีมผี ลตอ ครอบครัว (Exosystem)  สถานการณป จจุบนั ที่สง ผลกระทบกบั ผูเ รียน เน่ืองจากสถานการณการแพรระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นักเรียนมีความเส่ียงตอการติดเช้ือผานระบบทางเดินหายใจไดงายและเสี่ยงตอการไดรับเช้ือ และ นักเรียนไมไดรับวัคซีนเพื่อปองกันโรค ทําใหสมาชิกครอบครัวตองคอยระมัดระวังตนเองและ ลดการออกไปพบเจอผูคน จากสภาพเศรษฐกจิ ในปจจุบัน สิง่ ของมีราคาแพงขน้ึ ทําใหรายไดที่ไดรบั ไมเพยี งพอตอ การ นําไปใชท้ังครอบครัว โดยเฉพาะอยางยิ่งการดูแลนักเรียนท่ีมีคาใชจายเพ่ิมเติม เชน คารถนักเรียน คาเดินทางไปหาหมอ คา ใชจายประจาํ วนั และคา จปิ าถะอ่นื ๆ  สถานทีท่ ํางานของพอแม/ ผูปกครอง แมกลุ ทํางานเปนหมอนวดท่ีรา นเสริมสวยแถวหมูบา น เปน ผหู ารายไดหลกั ในครอบครัว ทกุ คนท่ีทาํ งานของแมแตน รักและเอ็นดผู ูเรยี นเปน อยางดี  สภาพแวดลอ มทางกายภาพ หรือ การจดั สง่ิ อาํ นวยความสะดวกของชมุ ชนทีผ่ ูเรียน อาศยั อยู ชมุ ชนท่นี ักเรียนอาศัยอยูเปน หมูบานจัดสรรค จึงไมคอยมีความสัมพันธก ัยเพือนบาน บาน ของนักเรยี นอยูติดถนนสายหลักของหมบู าน หากตองเดนิ ทางเขามาในตวั เมอื งบา งครงั้ ใชมอเตอรไชต กลุมบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก ารศึกษาพเิ ศษประจาํ จังหวัดลาํ ปาง

92 รวบรวมขอ มลู ผเู รยี น กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๔ ดา นวฒั นธรรม ประเพณี คานยิ มของสังคม (Macrosystem) ครอบครัวของนกั เรยี นนับถือศาสนาพุทธ เช่ือในการทําความดี ไมม ีความเช่ือเร่ืองเวรกรรมที่ทําให นกั เรียนมีความพกิ าร สมาชิกในครอบครัวดูแลนักเรียนดวยความรักและเอาใจใส ๒.๕ ดานสง่ิ ตางๆทีอ่ าจกระทบตอผเู รียน เชน กฎหมาย การไดรบั สทิ ธิดานตางๆ เทคโนโลยี หรอื แอพพลเิ คชนั่ ทเี่ กี่ยวขอ งกับผูเรยี นในชีวติ ประจําวนั (Chronosystem) นักเรียนไดรับเบี้ยพิการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จากเบี้ยยังชีพคนพิการ และไดรับบริการทาง การแพทย ตามโครงการ ๓๐ บาทรกั ษาทกุ โรค ตามสวสั ดิการของรฐั นักเรียนไดรับการใหบริการทางการศึกษาจากศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง หองเรียน มงุ สดู วงดาว โดยไมเสียคา ใชจาย ๓. ความคาดหวังของผูป กครองทม่ี ีตอ ตวั ผูเรยี น ๑) ผูปกครองมคี วามคาดหวังใหน ักเรยี นชวยเหลอื ตนเองในชวี ิตประจําวันได ๒) ผปู กครองมคี วามคาดหวงั ใหผ ูเรียนดาํ รงชีวิตในสงั คมไดอ ยางมคี วามสุข ๔. เปา หมายหลกั ท่ผี เู รียนควรไดร บั การพัฒนา/สงเสริม ๑) นักเรียนไดรบั การเตรยี มความพรอมดานวชิ าการตามหลกั สตู รสถานศกึ ษากาํ หนด ๒) นกั เรียนไดร บั การเตรยี มความพรอ มดา นอาชพี ๕. เปาหมายหลักท่ีผูเรียนควรไดร บั การปองกนั /แกไ ขปญหา ๑) นักเรียนมีปญ หาดา นพฤติกรรมสวนบุคคลในเรื่อง ชอบเลน มือถอื ๒) ครูผูสอนควรจัดกิจกรรมใหมีความเหมาะสมกับความตองการจําเปนของนักเรียน เพ่ือใหนักเรียน สามารถเรยี นรไู ดอ ยา งเตม็ ตามศกั ยภาพ . ผบู นั ทกึ ขอมลู …………………………………………… (นางสาวสุพตั รา นามวงค) ตําแหนง ครูชํานาญการพิเศษ วันท่ี ๑ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนยการศึกษาพิเศษประจําจังหวัดลําปาง

93 - / // ) …… / “” “ ” /

94 / .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................. -- ( -- -- .................................................. ( .................................................. (

95 คำยนิ ยอมของผ้ปู กครอง ขา้ พเจา้ (นาย / นาง / นางสาว)..........ป..ร..ะ...ภ..สั...ส..ร.....โ.ช..ค...ช..ม...พ..นู...ท................................... เป็นผปู้ กครองของ (ด.ช. / ด.ญ./ นาย / นางสาว) .......ก..ฤ..ต...บ...ญ.....โ..ช..ค...ช..ม..พ...นู...ท.....................................................................................  ยินยอม  ไม่ยินยอม ใหด้ ำเนินการคัดกรอง (ด.ช./ ด.ญ./ นาย/ น.ส.)......ก..ฤ..ต...บ..ญุ......โ..ช..ค...ช..ม..พ...นู...ท........... ตามแบบคัดกรองนี้ เมอื่ พบวา่ มแี นวโน้มเป็นผทู้ ่มี คี วามบกพรอ่ งตามแบบคดั กรองข้างตน้  ยินดี  ไมย่ นิ ดี ใหจ้ ัดบริการชว่ ยเหลือทางการศกึ ษาพเิ ศษต่อไป ลงช่ือ ................................................. ผปู้ กครอง (นางประภสั สร โชคชมพูนท)

96 : IEP / IFSP

97 IIP/FCSP

98 IIP/FCSP IIP/FCsP

99 IIP/FCsP

100 IIP/FCsP IIP/FCSP

101

102 แบบประเมนิ ความสามารถพน้ื ฐาน หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน สำหรบั ผเู้ รยี นพิการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ทักษะจำเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางสติปัญญา ชื่อ-สกุล เด็กชายกฤตบุญ โชคชมพนู ท วันที่ประเมิน ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คำช้แี จง ๑. แบบประเมินตามหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เรียน พกิ าร ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ใช้ประเมินสำหรับเด็กท่ีอยู่ใน ระดบั การศึกษาภาคบังคับ ๒. แบบประเมินฉบบั นสี้ ามารถใชไ้ ด้กับผู้รับการประเมนิ ทุกประเภทความพิการ เกณฑก์ ารประเมินผลก่อนพัฒนา ระดับ ๔ หมายถึง ไมต่ ้องชว่ ยเหลือ/ทำได้ดว้ ยตนเอง ระดับ ๓ หมายถึง กระตนุ้ เตอื นด้วยวาจา ระดบั ๒ หมายถงึ กระตุ้นเตือนด้วยท่าทาง และวาจา ระดับ ๑ หมายถงึ กระตุน้ เตอื นทางกาย ทา่ ทาง และวาจา ระดับ ๐ หมายถงึ ตอบสนองผิดหรือไม่มกี ารตอบสนอง

103 หมายเหตุ กระตุ้นเตอื นทางกาย หมายถงึ ผ้สู อนจบั มอื ทำ เมอ่ื เด็กทำได้ลดการชว่ ยเหลือลงโดยให้ แตะข้อศอกของเด็กและกระต้นุ โดยพดู ซำ้ ใหเ้ ดก็ ทำ กระตนุ้ เตือนด้วยท่าทาง หมายถงึ ผู้สอนชใ้ี ห้เด็กทำ/ผงกศีรษะเมื่อเด็กทำถกู ต้อง/ส่ายหนา้ เม่ือเดก็ ทำไม่ถูกตอ้ ง กระตุ้นด้วยวาจา หมายถงึ ผู้สอนพูดให้เด็กทราบในสิ่งท่ผี สู้ อนต้องการใหเ้ ด็กทำ

104 สาระทักษะจำเป็นเฉพาะความพิการ มาตรฐานท่ี ๕.๓ ทกั ษะจำเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางสติปญั ญา ตัวช้ีวัด ๕.๓.๑ สามารถสอ่ื สารไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ ระดบั ขอ้ ท่ี ตวั ชวี้ ัด ความสามารถ สรุป ๑ สป ๑.๑/๑ ก่อนการ ส่อื สารได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP ✓ ตวั ชว้ี ดั ๕.๓.๒ สามารถดแู ลตนเองและความปลอดภัยในชีวิตประจำวนั ระดบั ขอ้ ที่ ตวั ชีว้ ัด ความสามารถ สรุป ๑ สป ๑.๒/๑ ก่อนการ ดูแลตนเองและความปลอดภัยใน ชวี ิตประจำวัน ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ✓ ตวั ช้ีวัด ๕.๓.๓ การควบควบคมุ ตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนับถอื ตนเอง และสำนึกรู้ผดิ ชอบชว่ั ดี ระดบั ข้อท่ี ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั ความสามารถ สรุป การควบคมุ ตนเองขณะอยทู่ ่ีบา้ น ก่อนการ ๑ สป ๑.๓.๑/๑ สามารถพดู /ส่ือสารใหเ้ หมาะสมกับ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP สถานการณ์** ✓ การควบคุมตนเองในห้องเรยี น ๑ สป ๑.๓.๒/๑ ✓✓ สามารถปฏิบตั ติ นตามกติกาของ ห้องเรยี นได*้ *

105 ระดับ ข้อที่ ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง ความสามารถ สรุป ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP การควบคมุ ตนเองในชุมชน/ท่สี าธารณะ ✓ ๑ สป ๑.๓.๓/๑ สามารถควบคุมตนเองในการทำ ๒ กสปจิ ก๑รร.๓ม.ร๓ว่ /ม๒กับผูอ้ ่นื ใน ✓ ชสามุ มชานรถ/คทวส่ี บาคธุมาอรณาระมไณด*้ ต์ *นเองในการ ๓ สทปำ ๑.๓.๓/๓ กจิ กรรมร่วมกับผ้อู ื่นเม่ือสถานการณ์ ✓ เปลี่ยนแปลงได้** การสำนกึ รู้ผิดชอบชั่วดีต่อการกระทำความดีทต่ี นเองกระทำ ๑ สป ๑.๓.๔/๑ สามารถแสดงความซ่ือสัตยท์ ่ีตนเอง ✓ กระทำได้** ๒ สป ๑.๓.๔/๒ ✓ สามารถแบง่ ปันสงิ่ ของได*้ * ตวั ชีว้ ัด ๕.๓.๔ มปี ฏสิ ัมพันธท์ างสังคมกบั ผู้อื่นอย่างเหมาะสม ระดบั ขอ้ ท่ี ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง ความสามารถ สรุป ๑ สป ๑.๔/๑ ก่อนการ มปี ฏสิ ัมพันธ์ทางสงั คมกบั ผู้อ่ืนอย่าง เหมาะสม ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP ✓

106 ตัวชว้ี ัด ๕.๓.๕ ปฏิบัตติ นตามตารางกิจวตั รประจำวนั และแก้ปัญหาใน ชวี ิตประจำวัน ระดับ ข้อท่ี ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั ความสามารถ สรปุ ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP วนั ทำการ (วันจนั ทร์-ศุกร์) กิจวตั รประจำวันก่อนไปโรงเรียน ๑ สป ๑.๕.๑/๑ ✓ สามารถปฏิบัตติ นตามตารางกิจวัตร กิจกรรมในปโรระงจเรำยีวนั ก่อนไปโรงเรียนได้ ** ✓ ๒ สกป่อน๑ไป.๕โ.ร๑ง/เร๒ยี นได้ สามารถปฏิบัตติ นตามตารางกจิ กรรมใน กจิ วตั รปรโะรจงำเรวยีนั นหไลดงั ้ เ*ล*ิกเรียน ๓ สป ๑.๕.๑/๓ ✓ สามารถปฏบิ ตั ติ นตามตารางกิจวตั ร วันหยุด ป(วรนั ะเจสำาวรนั ์ ห–ลวงั นั เลอกิาเทริตียยน์)ได้** กิจกรรมชหว่ ลงังเชเลา้ ิกเรยี นได้ ๑ สป ๑.๕.๒/๑ ✓ สามารถปฏิบัตติ นตามตารางกจิ วตั ร กิจกรรมรปะหระวจ่างำวนั ช่วงเชา้ ได้** ๒ สป ๑.๕.๒/๒ ✓ สามารถปฏบิ ตั ิตนตามตารางกิจวัตร กิจกรรมปรระะหจวำ่าวงันวชัน่วไงดเ้*ย*็น ๓ สป ๑.๕.๒/๓ ✓ สามารถปฏิบัตติ นตามตารางกิจวตั ร การตดั สินปใรจะจำวนั ช่วงเยน็ ได้** ๑ สป ๑.๕.๓/๑ ✓ สามารถตัดสินใจเลือกส่ิงของใน ชีวติ ประจำวนั ของตนเองได้**

107 ตัวช้วี ดั ๕.๓.๖ รู้จักใช้ทรัพยากรในชมุ ชน ระดบั ขอ้ ท่ี ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง ความสามารถ สรปุ ๑ สป ๑.๖/๑ ก่อนการ ใชส้ ง่ิ ของสาธารณะอย่างเหมาะสม ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ✓ ตัวช้วี ัด ๕.๓.๗ การปฏิบตั ติ นตามกฎระเบียบ ปฏบิ ัติตามกฎหมาย และการร้จู กั การไมล่ ะเมดิ สิทธขิ องผู้อน่ื ระดบั ข้อที่ ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวัง ความสามารถ สรุป ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP การปฏบิ ตั ิตนตามกฎระเบียบของสังคมในชวี ิตประจำวนั ๑ สป ๑.๗.๑/๑ สามารถปฏิบตั ิตนตามกฎระเบียบของ ✓ สังคมได้ การปฏิบตั ิตนตามกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับตนเองในการเป็นพลเมืองดี ๒ สป ๑.๗.๒/๑ ✓ สามารถปฏิบัตติ นตามกฎหมายที่ เก่ียวขอ้ งกับตนเองในการเป็น ✓ ✓ การไมล่ ะเมพดิ ลสเมิทือธงิขดอี*ง*ผู้อ่ืน ๓ สป ๑.๗.๓/๑ ไม่ละเมดิ สิทธิทางรา่ งกายของผอู้ ื่น** สป ๑.๗.๓/๒ ไม่ละเมดิ สทิ ธทิ างทรพั ย์สินของ ผู้อนื่ **

108 ตวั ช้ีวดั ๕.๓.๘ สามารถใช้เทคโนโลยสี ิ่งอำนวยความสะดวกเครื่องช่วยในการ เรยี นรู้ ระดบั ขอ้ ท่ี สภาพทพี่ ึงประสงค์ / ความสามารถ สรุป ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ สป ๑.๕/๑ ✓ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในการสือ่ สารทางเลอื ก ๒ สป ๑.๕/๒ ✓ ใช้อุปกรณช์ ่วยในการเข้าถงึ คอมพิวเตอรเ์ พื่อการเรียนรู้ ๓ สป ๑.๕/๓ ✓ ใช้โปรแกรมเสริมผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อ ชว่ ยในการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ๕.๓.๙ การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ระดบั ข้อท่ี สภาพท่ีพึงประสงค์ / ความสามารถ สรปุ ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP ด้านดนตรี การเล่นเคร่อื งดนตรี ✓ ✓ ๑ สป ๑.๙.๑/๑ สามารถฟังเพลงหรือดนตรีตามความ สนใจของตนเองได*้ * ๒ สป ๑.๙.๑/๒ สามารถเล่นเครื่องดนตรีตามความสนใจ ของตนเองได*้ * การรอ้ งเพลง / การแสดงออกทางการเคลื่อนไหว ๓ สป ๑.๙.๑/๓ ✓ สามารถรอ้ งเพลงและแสดงออกทางการ เคลอื่ นไหวตามจังหวะเพลงท่ี เหมาะสม**

109 ระดับ ข้อท่ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ / ความสามารถ สรุป ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ดา้ นศิลปะ ✓ ๑ สป ๑.๙.๒/๑ การสร้างสรรค์ผลงานตามความถนดั ✓ และความสนใจ ✓ ๒ สป ๑.๙.๒/๒ ✓ สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานในเชงิ ศิลปะ ได้ตามความถนัดและความสนใจ** ด้านกฬี าและนนั ทนาการ กิจกรรมกีฬาอนชุ น YA (Young Athletes) ๑ สป ๑.๙.๓/๑ สามารถเล่นกีฬาอนชุ น YA (Young Athletes) ตามความสนใจและความ เหมาะสม** กจิ กรรมกีฬา Special Olympics ๒ สป ๑.๙.๓/๑ สามารถเล่นกีฬา Special Olympics ตามความสนใจและความเหมาะสม** ตัวช้ีวัด ๕.๓.๑๐ ทกั ษะดา้ นการทอ่ งเที่ยว การใช้ยานพาหนะ และการดูแลความ ปลอดภัยของตนเองจากบคุ คลหรือสงิ่ แวดลอ้ มที่ไมป่ ลอดภยั ระดับ ข้อที่ สภาพท่ีพึงประสงค์ / ความสามารถ สรปุ ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวัง ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP การทอ่ งเท่ียว ✓ ๑ สป ๑.๑๐.๑/๑ สามารถเลือกสถานที่ท่องเทยี่ วได้ตาม ความสนใจ

110 ระดับ ขอ้ ที่ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ / ความสามารถ สรุป ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวัง ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP ๒ สป ๑.๑๐.๑/๑ สามารถเลอื กปฏบิ ตั ิตนใหเ้ หมาะสมกบั ✓ สถานที่ท่องเทีย่ ว** การใช้ยานพาหนะสว่ นบุคคล ๑ สป ๑.๑๐.๒/๑ ✓ สามารถใช้ยานพาหนะได้อย่าง ปลอดภัย** การปฏบิ ตั จิ ากบคุ คลทไ่ี มป่ ลอดภัย ๑ สป ๑.๑๐.๓/๑ ✓ สามารถแก้ปญั หา / หลกี เลยี่ งอนั ตราย จากบุคคลได้** การปฏิบัตติ นจากสง่ิ แวดล้อมทีไ่ ม่ปลอดภยั ๑ สป ๑.๑๐.๓/๑ ✓ สามารถแก้ปัญหา / หลกี เลี่ยงอันตราย จากบคุ คลได*้ *

111 ตัวช้วี ัด ๕.๓.๑๑ ทกั ษะการใช้ทรพั ยากรในชุมชนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ระดบั ข้อที่ สภาพท่พี งึ ประสงค์ / ความสามารถ สรุป ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั ก่อนการ ๔ ๓ พฒั ๒นา ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การร้จู ักวิธรี กั ษาห้องน้ำสาธารณะ ✓ ๑ สป ๑.๑๑.๑/๑ ✓ สามารถบำรุงรักษาห้องน้ำสาธารณะ ✓ ได*้ * การร้จู กั วธิ ใี ชส้ วนสาธารณะ สป ๑.๑๑.๒/๑ สามารถบำรุงรกั ษาต้นไม้ อุปกรณ์ เคร่ืองเล่นในสวนสาธารณะได้** การรู้จกั ใช้ส่ิงแวดล้อม สป ๑.๑๑.๓/๑ สามารถบำรุงรกั ษาแหล่งท่องเทีย่ ว** ทม่ี า * สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๖๒). หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยสำหรับเด็ก ** ที่มคี วามต้องการจำเป็นพิเศษ พทุ ธศักราช ๒๕๖๒. อดั สำเนา. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. (๒๕๕๘). (รา่ ง) แนวทางการจัดกจิ กรรมตาม หลักสตู รสำหรบั เด็กที่มีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษระยะแรกเรมิ่ ของศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘. อดั สำเนา ลงชอ่ื ..............................ผปู้ ระเมิน ลงชื่อ..............................ผปู้ ระเมิน (นางสาวสพุ ตั รา นามวงค์) (นางจริ ัชยา อนิ นนั ชยั ) ตำแหนง่ ครชู ำนาญการพิเศษ ตำแหน่ง พนักงานราชการ ลงชอ่ื ..............................ผู้ประเมิน (นายธวัชชยั อตุ สาสาร) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

112 ชอื่ -สกลุ เดก็ ชายกฤตบุญ โชคชมพูนท วันที่ประเมิน ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ แบบประเมินทางกจิ กรรมบำบัด ผู้ประเมิน นางสาวรนิ รดา ราศรี ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง 1. ลกั ษณะโดยทั่วไป (General appearance) เด็กผชู้ ายแต่งกายสะอาดเรียบรอ้ ย มีความเป็นผ้นู ำและเรียนรู้ได้เร็ว กว่าเพื่อนในชน้ั เรยี น ฟังคำสง่ั เขา้ ใจและสามารถปฏิบัติตามคำส่ังอย่างง่ายได้ ๒-๓ ขน้ั ตอน 2. การประเมนิ ความสามารถดา้ นการเคลอื่ นไหว (Motor Function) 2.1 ทกั ษะกล้ามเนอื้ มดั ใหญ่ (Gross Motor) รายการ ระดับความสามารถ (ระบุอายทุ ที่ ำได้) รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ (ระบุอายุทที่ ำได้) ประเมนิ ทำได้ด้วย ทำได้แตต่ อ้ ง ทำไมไ่ ด้ ทำได้ดว้ ย ทำได้แต่ต้อง ทำไมไ่ ด้ ตนเอง ชว่ ยเหลือ ตนเอง ช่วยเหลือ ชนั คอ ✓ ว่งิ ✓ พลิกตะแคงตัว ✓ เดนิ ขนึ้ -ลงบันได (เกาะราว) ✓ พลกิ คว่ำหงาย ✓ กระโดด 2 ขา ✓ นั่งได้เอง ✓ เดนิ ขึ้น-ลงบันได (สลบั เท้า) ✓ คลาน ✓ ป่นั จกั รยาน 3 ล้อ ✓ เกาะยืน ✓ ยนื ขาเดยี ว ✓ ยืน ✓ กระโดดขาเดยี ว ✓ เดนิ ✓ 2.2 การข้ามแนวกลางลำตวั (Crossing the Midline) • สามารถมองตามขา้ มแนวกลางลำตวั  มี □ ไมม่ ี • สามารถนำมือท้งั สองข้างมาใชใ้ นแนวกลางลำตวั  มี □ ไม่มี 2.3 ขา้ งทถ่ี นดั (Laterality)  ซา้ ย □ ขวา 2.4 การทำงานรว่ มกันของร่างกายสองซีก (Bilateral integration)  มี □ ไม่มี 2.5 การควบคมุ การเคลื่อนไหว (Motor control) • สามารถเปล่ียนรูปแบบการเคลือ่ นไหว  มี □ ไมม่ ี • ความสามารถในการเคลือ่ นไหว (Mobility)  มี □ ไมม่ ี • รปู แบบการเคลื่อนไหวที่ผดิ ปกติ □ มี □ อาการส่ัน (Tremor) □ การบิดหมุนของปลายมือปลายเทา้ คลา้ ยการฟ้อนรำ (Chorea) □ การเคล่ือนไหวของแขนขาสะเปะสะปะ (Athetosis) □ ความตึงตวั ของกล้ามเนอื้ ไมแ่ น่นอน (Fluctuate)  ไมม่ ี • มีการเดินสะเปะสะปะ เหมือนการทรงตัวไม่ดี (Ataxic Gait) □ มี  ไม่มี • เดนิ ต่อส้นเท้า  ทำได้ □ ทำไม่ได้ • ทดสอบ Finger to Nose Test  ทำได้ □ ทำไม่ได้ □ มีการกะระยะไมถ่ ูก (Dysmetria) • ทดสอบการเคลอ่ื นไหวสลับแบบเรว็ (Diadochokinesia) □ ทำได้  ทำไม่ได้ 2.6 การวางแผนการเคล่ือนไหว (Praxis) *มแี บบทดสอบมาตรฐาน* - การเลยี นแบบท่าทาง  ทำได้ □ ทำไม่ได้ - การเลยี นแบบเคล่ือนไหว  ทำได้ □ ทำไม่ได้ 2.7 การประสานงานของกล้ามเน้ือมดั เลก็ (Fine coordination) ......................Good integration..............................

113 แบบประเมนิ ทักษะการเคล่ือนไหวของกลา้ มเนือ้ มัดเล็ก ระดับความสามารถ รายการประเมิน ทำไดด้ ว้ ยตนเอง ทำได้แต่ตอ้ งให้การช่วยเหลอื ทำไมไ่ ด้ การสบตา (eye contact) ✓ การมองตาม (eye following) ✓ การใช้แขนและมือ ➢ การเอือ้ ม (Reach Out) ✓ ➢ การกำ (Grasp) 1. การกำ (Power grasp) ✓ •การกำแบบตะขอ (Hook) ✓ ✓ • การกำทรงกลม (Spherical grasp) • การกำทรงกระบอก (Cylindrical grasp) 2. การหยบิ จับ (Precise grasp) ➢ การนำ (Carry /hold ) ✓ ➢ การปล่อย (Release) ✓ การใช้สองมือ การใชก้ รรไกร ✓ การใชอ้ ปุ กรณ์เครือ่ งใชใ้ นการรบั ประทานอาหาร ✓ ✓ การใช้มอื ในการเขียน ✓ ความคลอ่ งแคลว่ ของการใชม้ ือ การประสานสัมพันธร์ ะหว่างมอื กบั ตา ✓ (eye-hand coordination) การควบคุมการเคลอ่ื นไหวริมฝปี าก ✓ ➢ การปิดปาก (Lip Closure) ✓ ➢ การเคลอื่ นไหวลนิ้ (Tongue) ✓ ➢ การควบคมุ ขากรรไกร (Jaw control) ✓ ➢ การดูด (Sucking) / การเป่า ✓ ➢ การกลืน (Swallowing) ✓ ➢ การเค้ียว (Chewing) ความผิดปกตอิ วยั วะในช่องปากทพี่ บ 1. ภาวะลิ้นจกุ ปาก (Tongue thrust) □ พบ  ไมพ่ บ 2. ภาวะกัดฟนั (Tooth Grinding) □ พบ  ไม่พบ 3. ภาวะนำ้ ลายไหลยืด (Drooling) □ พบ  ไม่พบ 4. ภาวะล้นิ ไกส่ นั้ □ พบ  ไมพ่ บ 5. ภาวะเคลือ่ นไหวลิน้ ได้น้อย □ พบ  ไมพ่ บ 6. ภาวะปากแหวง่ เพดานโหว่ □ พบ  ไม่พบ หมายเหตุ (ข้อมลู เพม่ิ เติม)

114 การประเมินการรบั ความร้สู กึ 1. ตระหนักร้ถู ึงส่งิ เร้า  มี □ ไม่มี 2. การรบั ความรูส้ กึ (Sensation) ใส่ N=Normal (ปกต)ิ I=Impaired (บกพร่อง) L=Loss (สูญเสยี ) การรับความร้สู กึ ทางผวิ หนัง (Tactile) - การรับรถู้ ึงสมั ผสั แผว่ เบา (Light touch) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย - แรงกด (Pressure) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย - อณุ หภูมิ (Temperature) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย - ความเจ็บ (Pain) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย - แรงสั่นสะเทือน (Vibration) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสยี การรบั ความร้สู ึกจากกลา้ มเนือ้ เอ็นและข้อ (Proprioceptive):  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย การรับความรูส้ กึ จากระบบการทรงตวั (Vestibular) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสยี การรับขอ้ มลู จากการมองเห็น (Visual) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี การรบั ข้อมลู จากการไดย้ นิ (Auditory) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย การรับขอ้ มูลจากตมุ่ รบั รส (Gustatory) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย 3. กระบวนการรบั รู้  มี □ ไมม่ ี การรบั รโู้ ดยการคลำ (Stereognosis)  มี □ ไม่มี การรับรู้การเคลื่อนไหว (Kinesthesis)  มี □ ไม่มี การตอบสนองต่อความเจ็บปวด (Pain Response)  มี □ ไม่มี การรับรู้สว่ นต่างๆของร่างกาย (Body Scheme) □ มี  ไม่มี การรับรู้ซ้าย-ขวา (Right-Left Discrimination)  มี □ ไมม่ ี การรับรรู้ ปู ทรง (Form constancy)  มี □ ไม่มี การรบั รู้ตำแหน่ง (Position in space)  มี □ ไมม่ ี การรับรู้ภาพรวม (Visual-Closure)  มี □ ไม่มี การรับรกู้ ารแยกภาพ (Figure Ground)  มี □ ไมม่ ี การรบั รคู้ วามลึก (Depth Perception)  มี □ ไมม่ ี การรบั รู้มิติสัมพันธ์ (Spatial Relation)

115 แบบแจกแจงปัญหาและการต้ังเปา้ ประสงค์ ➢ สรุปปญั หาของนักเรียน ................................................................................................... ............................................................................. ........ไ.ม...่พ..บ...ป...ัญ...ห...า.ท...า..ง..ก..จิ...ก..ร..ร..ม..บ...ำ..บ...ัด......................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................... ............. ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................... ............................. ➢ เป้าประสงค์ ............................................................................................................................................................................. .................ส..ง่..เ.ส...ร..มิ ..ผ..่า..น...ก..จิ..ก...ร..ร..ม..บ...ูร..ณ...า..ก...า..ร..ป..ร..ะ..ส...า..ท..ค...ว..า..ม..ร..ู้ส...ึก...โ..ด..ย..เ..น..น้....๓....ร..ะ...บ..บ...ห...ล..ัก....ไ.ด...้แ..ก..่..ร..ะ..บ...บ..ก...า..ย..ส..มั..ผ...สั ....... ...ร..ะ..บ...บ..ก...ล..้า..ม..เ..น..ื้อ....เ.อ...็น..แ...ล..ะ..ข...้อ..ต..่อ....แ..ล...ะ..ร..ะ..บ...บ...เ.ว..ส..ต...ิบ..ลู...า..ร..์ .เ.พ...อ่ื..ล...ด..พ...ฤ..ต...ิก..ร..ร..ม...อ..ย..ู่ไ..ม..่น..ิ่ง..ข...อ..ง..ผ..้เู.ร..ยี...น..ใ..ห...้ส..า..ม..า..ร..ถ..น...งั่..ท...ำ... ...ก..จิ..ก...ร..ร..ม..ใ..น..ช...นั้ ..เ..ร..ีย..น....แ..ล...ะ..ก..ิจ..ก...ร..ร..ม..ก...า..ร..ด..ำ..เ.น...นิ ..ช...ีว..ติ ..ต..่า..ง....ๆ...ไ..ด..เ้..ห..ม...า..ะ..ส..ม...ต..า..ม...ว..ัย...................................................... ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. (ลงช่อื ) ( นางสาวรนิ ดา ราศรี ) นกั กิจกรรมบำบดั วันท่ี ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕

11 แบบสรุปการรบั บรกิ ารกิจกร ชอื่ -สกุล เด็กชายกฤตบญุ โชคชมพูนท ประเภทความพกิ าร บุคคลท่ีมคี วามบกพ ห้องเรียนมงุ่ สู่ดวงดาว ๑ สรปุ ปัญหาของนักเรยี น ผลการประเมนิ ก่อน เปา้ ปร การรับบริการ นักเรียนมีการตอบสนองทางพฤติกรรมท่ี - เหมาะสม โดยสามารถนั่งทำกิจกรรมได้นาน - เป็นเวลา ๕ นาที จึงให้เพียงการส่งเสริมและ สนับสนุนให้นักเรียนสามารถทำกิจกรรมได้ ตามความสามารถของนักเรียนต่อไป ผ่าน กิจกรรมกระตุ้นการบูรณาการระบบประสาท ความรู้สึก และกิจกรรมการรับรู้ทางสายตา (Visual perception) สรุปผลการใหบ้ รกิ ารกิจกรรมบำบดั ๑. ปญั หาท้งั หมด - ข้อ ๒. ผลการพัฒนา บรรลุเปา้ ประสงค์ - ขอ้ ไมบ่ รรลุเป้าประสงค์ - ข้อ ขอ้ เสนอแนะในปตี อ่ ไป สง่ เสริมและสนับสนนุ ให้นกั เรียนสามารถทำกิจกรรมไดต้ ามความสา

16 รรมบำบัดปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ พร่องทางสติปัญญา ระสงค์ ผลการประเมินหลัง ผลการพัฒนาตามเปา้ ประสงค์ การรับบริการ บรรล/ุ ผา่ น ไมบ่ รรล/ุ ไม่ผ่าน - - -- ามารถของนักเรยี นตอ่ ไป ผ่านกจิ กรรมกระตุน้ การบูรณาการระบบประสาทความรสู้ ึกตอ่ ไป (ลงชอ่ื )..................................................... (นางสาวรินรดา ราศรี) นักกิจกรรมบำบดั

11 แบบสรุปการรบั บรกิ ารกิจกร ชอื่ -สกุล เด็กชายกฤตบญุ โชคชมพูนท ประเภทความพกิ าร บุคคลท่ีมคี วามบกพ ห้องเรียนมงุ่ สู่ดวงดาว ๑ สรปุ ปัญหาของนักเรยี น ผลการประเมนิ ก่อน เปา้ ปร การรับบริการ นักเรียนมีการตอบสนองทางพฤติกรรมท่ี - เหมาะสม โดยสามารถนั่งทำกิจกรรมได้นาน - เป็นเวลา ๕ นาที จึงให้เพียงการส่งเสริมและ สนับสนุนให้นักเรียนสามารถทำกิจกรรมได้ ตามความสามารถของนักเรียนต่อไป ผ่าน กิจกรรมกระตุ้นการบูรณาการระบบประสาท ความรู้สึก และกิจกรรมการรับรู้ทางสายตา (Visual perception) สรุปผลการใหบ้ รกิ ารกิจกรรมบำบดั ๑. ปญั หาท้งั หมด - ข้อ ๒. ผลการพัฒนา บรรลุเปา้ ประสงค์ - ขอ้ ไมบ่ รรลุเป้าประสงค์ - ข้อ ขอ้ เสนอแนะในปตี อ่ ไป สง่ เสริมและสนับสนนุ ให้นกั เรียนสามารถทำกิจกรรมไดต้ ามความสา

17 รรมบำบัดปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ พร่องทางสติปัญญา ระสงค์ ผลการประเมินหลัง ผลการพัฒนาตามเปา้ ประสงค์ การรับบริการ บรรล/ุ ผา่ น ไมบ่ รรล/ุ ไม่ผ่าน - - -- ามารถของนกั เรยี นตอ่ ไป ผา่ นกจิ กรรมกระตุน้ การบูรณาการระบบประสาทความรสู้ ึกตอ่ ไป (ลงชอ่ื )..................................................... (นางสาวรินรดา ราศรี) นักกิจกรรมบำบดั

118 แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบัด ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง วนั ท่รี ับการประเมิน ๓ ตลุ าคม ๒๕๖๕ ผปู้ ระเมนิ นางสาวอรทัย อามาตย์ ๑. ข้อมูลทัว่ ไป ช่อื เดก็ ชายกฤตบุญ โชคชมพูนท ชอื่ เลน่ ต้นบญุ เพศ  ชาย  หญงิ วนั เดือน ปเี กิด ๑ พ.ย. ๒๕๕๖ อายุ ๘ ปี ๑๑ เดือน โรคประจาตัว ......-........................... การวนิ จิ ฉยั ทางการแพทย์ สตปิ ญั ญา อาการสาคญั (Chief complaint) ไม่มีปัญหาทางกล้ามเนือ้ ขอ้ ตอ่ และกระดูก ข้อควรระวงั ................-.......................................................................................................................... ห้องเรยี น มงุ่ สู่ดวงดาว ๑ ครปู ระจาช้ัน นางสาวสุพัตรา นามวงค์ ๒. การสังเกตเบือ้ งตน้ ปกติ ผิดปกติ การสังเกต ปกติ ผดิ ปกติ การสังเกต  ๙. เทา้ ปุก   ๑๐. เท้าแบน  ๑. ลกั ษณะสีผวิ  ๑๑. แผลกดทับ  ๒. หลงั โกง่  ๑๒. การหายใจ  ๓. หลังคด  ๑๓. การพูด  ๔. หลังแอน่  ๑๔. การมองเหน็  ๕. เขา่ ชดิ  ๑๕. การเคย้ี ว  ๖. เข่าโกง่  ๑๖. การกลืน  ๗. ระดบั ขอ้ สะโพก ๘. ความยาวขา ๒ ขา้ ง เพิม่ เติม ไม่มีอาการปวดของกลา้ มเน้ือ และขอ้ ตอ่ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครั้งท่ี ๓ วนั ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

119 ๓. พัฒนาการตามวยั ความสามารถ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ความสามารถ ทาได้ ทาไม่ได้ ๑. ชนั คอ  ๖. น่ังทรงตวั  ๒. พลิกควา่ พลิกหงาย  ๗. ลุกข้นึ ยืน  ๓. คืบ  ๘. ยนื ทรงตัว  ๔. คลาน  ๙. เดิน  ๕. ลุกข้นึ นัง่  ๑๐. พดู  เพ่ิมเติม ................................................................................................................................. .................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. ................................... ๔. การประเมินทางกายภาพบาบดั มาตรฐานท่ี ๑ การเพิ่มหรอื คงสภาพองศาการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสังเกต ๑.๑ เพิ่มหรือคง ๑. ยกแขนข้นึ ได้   เต็มชว่ งการเคล่ือนไหว สภาพองศาการ   ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว เคลอื่ นไหวของ  จากดั การเคลือ่ นไหว ร่างกายส่วนบน เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................ ๒. เหยยี ดแขนออกไป ดา้ นหลังได้  เต็มชว่ งการเคล่ือนไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ๓. กางแขนออกได้   จากดั การเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ๔. หุบแขนเข้าได้  ................................................ ๕. งอขอ้ ศอกเขา้ ได้   เต็มช่วงการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  จากัดการเคล่ือนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................  เต็มชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จากดั การเคล่ือนไหว เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลือ่ นไหว  จากัดการเคลื่อนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครงั้ ท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

120 ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสังเกต ๖. เหยยี ดข้อศอกออกได้   เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว ๗. กระดกข้อมือลงได้   จากดั การเคล่อื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ๘. กระดกข้อมือขน้ึ ได้  ................................................ ๙. กามอื ได้   เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว ๑๐. แบมอื ได้   จากดั การเคลือ่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ๑.๒ เพม่ิ หรือคง ๑. งอข้อสะโพกเขา้ ได้  ................................................ สภาพองศาการ  เคลื่อนไหวของ  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว ร่างกายสว่ นล่าง  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากัดการเคลอื่ นไหว ๒. เหยยี ดข้อสะโพก เพม่ิ เตมิ ................................. ออกได้ ................................................ ๓. กางข้อสะโพกออกได้   เต็มชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................  เต็มช่วงการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอื่ นไหว  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากัดการเคลือ่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................  เต็มช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครั้งที่ ๓ วันท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

121 ตวั บ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต ๔. หบุ ข้อสะโพกเขา้ ได้ ๕. งอเขา่ เขา้ ได้   เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ๖. เหยียดเข่าออกได้ ๗. กระดกข้อเทา้ ลงได้  ไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ๘. กระดกข้อเทา้ ขน้ึ ได้  จากัดการเคลอื่ นไหว ๙. หมุนข้อเท้าได้ เพิ่มเตมิ ................................. ๑๐. งอน้วิ เท้าได้ ................................................   เตม็ ช่วงการเคลือ่ นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคลอื่ นไหว เพิม่ เตมิ ................................. ................................................   เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคลื่อนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................   เต็มชว่ งการเคล่ือนไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................   เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากดั การเคลื่อนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................   เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคล่อื นไหว เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................   เต็มช่วงการเคล่อื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครงั้ ที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

122 มาตรฐานท่ี ๒ การปรับสมดุลความตงึ ตัวของกลา้ มเนอ้ื ตวั บ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๒.๑ ปรบั สมดุล ๑. ปรับสมดุลความ   ระดับ ๐  ระดับ ๑   ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ความตงึ ตัว ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ   ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ของกล้ามเน้ือ ยกแขนข้นึ ได้ ................................................. ร่างกายสว่ นบน  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ๒. ปรบั สมดลุ ความ  ระดบั ๓  ระดบั ๔ ตงึ ตัวกลา้ มเนื้อ เพ่มิ เตมิ ................................. เหยยี ดแขนออกไป ................................................. ด้านหลงั ได้  ระดับ ๐  ระดบั ๑ ๓. ปรับสมดุลความ  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ  ระดบั ๓  ระดบั ๔ กางแขนออกได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ปรับสมดลุ ความ  ตึงตัวกลา้ มเน้ือ  ระดับ ๐  ระดับ ๑ หุบแขนเขา้ ได้  ระดบั ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดับ ๔ ๕. ปรบั สมดุลความ  เพิ่มเตมิ ................................. ตึงตัวกลา้ มเนื้อ ................................................. งอข้อศอกเขา้ ได้  ระดบั ๐  ระดับ ๑ ๖. ปรับสมดลุ ความ   ระดบั ๑+  ระดับ ๒  ระดับ ๓  ระดบั ๔ ตึงตวั กลา้ มเนื้อ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. เหยยี ดขอ้ ศอกออกได้  ระดับ ๐  ระดับ ๑ ๗. ปรับสมดุลความ   ระดบั ๑+  ระดับ ๒ ตงึ ตัวกลา้ มเน้ือ  ระดับ ๓  ระดบั ๔ กระดกข้อมือลงได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ปรับสมดุลความ  ตึงตัวกล้ามเนื้อ  ระดับ ๐  ระดบั ๑ กระดกข้อมือข้นึ ได้  ระดบั ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. .................................................  ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครัง้ ที่ ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

123 ตัวบ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสงั เกต ๙. ปรบั สมดลุ ความ   ระดับ ๐  ระดับ ๑ ตงึ ตัวกล้ามเน้ือ  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ กามือได้  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ๑๐. ปรบั สมดลุ ความ  ................................................. ตงึ ตวั กลา้ มเนื้อ แบมอื มือได้  ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ๒.๒ ปรับสมดลุ ๑. ปรบั สมดลุ ความตงึ ตัว   ระดบั ๓  ระดบั ๔  เพม่ิ เตมิ ................................. ความตึงตวั กลา้ มเนอ้ื งอสะโพก ................................................. ของกลา้ มเนื้อ เขา้ ได้  ระดบั ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ รา่ งกายส่วนลา่ ง  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ๒. ปรับสมดลุ ความตงึ ตวั ................................................. กลา้ มเนอ้ื เหยียด สะโพกออกได้  ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ ๓. ปรับสมดุลความตึงตัว   ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. กลา้ มเนื้อกางสะโพก ................................................. ออกได้  ระดบั ๐  ระดบั ๑ ๔. ปรบั สมดุลความตึงตัว   ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ กลา้ มเนือ้ หบุ สะโพก เพม่ิ เตมิ ................................. เข้าได้ ................................................. ๕. ปรับสมดุลความตงึ ตวั   ระดับ ๐  ระดบั ๑  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ กล้ามเนอื้ งอเข่าเขา้ ได้  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพ่ิมเตมิ ................................. ๖. ปรบั สมดลุ ความตึงตัว  ................................................. กลา้ มเนื้อเหยยี ดเข่า  ระดบั ๐  ระดับ ๑ ออกได้  ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. .................................................  ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครั้งที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

124 ตัวบ่งชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสงั เกต ๗. ปรับสมดุลความตึงตัว   ระดับ ๐  ระดับ ๑  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ กลา้ มเนือ้ กระดก  ระดับ ๓  ระดับ ๔ ข้อเท้าลงได้ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ปรับสมดลุ ความตงึ ตัว   ระดบั ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนอื้ กระดก  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ข้อเท้าขนึ้ ได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. หมายเหตุ ๐ หมายถึง ความตงึ ตวั ของกลา้ มเนอ้ื ไมม่ กี ารเพ่มิ ข้ึน ๑ หมายถงึ ความตึงตัวของกลา้ มเน้ือสูงขึน้ เล็กน้อย (เฉพาะช่วงการเคล่อื นไหวแรกหรือสดุ ทา้ ย) ๑+ หมายถงึ ความตงึ ตวั ของกลา้ มเนือ้ สงู ขน้ึ เลก็ น้อย (ช่วงการเคลือ่ นไหวแรกและยงั มีอยแู่ ต่ไมถ่ ึงคร่งึ ของช่วงการเคลอื่ นไหว ๒ หมายถงึ ความตงึ ตวั ของกลา้ มเนอื้ เพ่มิ ตลอดช่วงการเคล่อื นไหว แตส่ ามารถเคลื่อนได้จนสดุ ช่วง ๓ หมายถงึ ความตงึ ตวั ของกล้ามเนือ้ มากข้ึนและทาการเคล่อื นไหวไดย้ ากแตย่ งั สามารถเคล่ือนไดจ้ นสุด ๔ หมายถึง แข็งเกรง็ ในทา่ งอหรอื เหยยี ด มาตรฐานที่ ๓ การจัดทา่ ให้เหมาะสมและการควบคมุ การเคลอ่ื นไหวในขณะทากจิ กรรม ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๓.๑ จัดทา่ ให้ ๑. จัดทา่ นอนหงาย   ทาได้ดว้ ยตนเอง เหมาะสม ได้อยา่ งเหมาะสม  มผี ้ชู ว่ ยเหลือเล็กน้อย  มผี ูช้ ว่ ยเหลือปานกลาง ๒. จดั ทา่ นอนควา่   มผี ูช้ ว่ ยเหลือมาก ไดอ้ ย่างเหมาะสม เพม่ิ เตมิ ......................................... ....................................................... ๓. จดั ท่านอนตะแคง  ไดอ้ ย่างเหมาะสม  ทาได้ดว้ ยตนเอง  มีผชู้ ว่ ยเหลือเล็กน้อย  มีผู้ชว่ ยเหลือปานกลาง  มผี ู้ชว่ ยเหลือมาก เพมิ่ เตมิ ......................................... .......................................................  ทาไดด้ ้วยตนเอง  มผี ู้ช่วยเหลอื เล็กน้อย  มผี ชู้ ว่ ยเหลอื ปานกลาง  มีผูช้ ่วยเหลอื มาก เพมิ่ เตมิ ......................................... ....................................................... กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงคร้งั ท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

125 ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๓.๒ ควบคุมการ ๔. จดั ทา่ นัง่ ขาเปน็ วง   ทาไดด้ ้วยตนเอง เคลอื่ นไหว ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มีผู้ชว่ ยเหลือเลก็ น้อย ในขณะ  มีผู้ช่วยเหลอื ปานกลาง ทากิจกรรม ๕. จดั ท่านัง่ ขัดสมาธิ   มีผู้ช่วยเหลอื มาก ไดอ้ ย่างเหมาะสม เพิม่ เตมิ ......................................... ....................................................... ๖. จดั ทา่ นั่งเกา้ อ้ี  ไดอ้ ย่างเหมาะสม  ทาได้ด้วยตนเอง  มผี ูช้ ว่ ยเหลอื เลก็ นอ้ ย ๗. จดั ทา่ ยืนเข่า   มผี ู้ช่วยเหลือปานกลาง ไดอ้ ย่างเหมาะสม  มผี ู้ช่วยเหลือมาก เพม่ิ เตมิ ......................................... ๘. จดั ท่ายืนไดเ้ หมาะสม  ....................................................... ๙. จัดทา่ เดินได้เหมาะสม   ทาได้ด้วยตนเอง  มผี ู้ชว่ ยเหลือเลก็ น้อย ๑. ควบคุมการเคลื่อนไหว   มผี ู้ช่วยเหลือปานกลาง  มผี ชู้ ว่ ยเหลอื มาก ขณะนอนหงายได้ เพิ่มเตมิ ......................................... .......................................................  ทาได้ด้วยตนเอง  มผี ู้ช่วยเหลือเล็กน้อย  มผี ชู้ ่วยเหลอื ปานกลาง  มผี ชู้ ว่ ยเหลอื มาก เพ่ิมเตมิ ......................................... .......................................................  ทาได้ด้วยตนเอง  มีผชู้ ่วยเหลอื เลก็ น้อย  มผี ูช้ ว่ ยเหลอื ปานกลาง  มีผชู้ ว่ ยเหลอื มาก เพม่ิ เตมิ ......................................... .......................................................  ทาไดด้ ว้ ยตนเอง  มีผชู้ ว่ ยเหลือเล็กนอ้ ย  มีผชู้ ว่ ยเหลือปานกลาง  มผี ู้ชว่ ยเหลือมาก เพมิ่ เตมิ ......................................... .......................................................  Loss  Poor  Fair  Good  Normal เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครงั้ ที่ ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook