ประวัติ ป.6 (จ้า)

1 ตวั อยา งแผนการจัดการเรียนรู หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 6 กลุมสาระการเรยี นรสู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ผูเรียบเรียง : นางยรุ าพร สมบุญสขุ

2 ตารางกาํ หนดการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ ระดับช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6 หน่วยที่ หน่วยการเรียนรู้ ช่ัวโมง 1 สืบค้นเร่ืองราวในอดีต 3 2 เร่ือง วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ 3 เร่ือง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ 2 1 ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย 1 เร่ือง การสถาปนาอาณาจกั รรัตนโกสินทร์ 1 เร่ือง พฒั นาการของไทยสมยั รัตนโกสินทร์ 1 -พฒั นาการดา้ นการปกครองสมยั สมบรู ณาญาสิทธิราชย์ 1 -พฒั นาการดา้ นการปกครองสมยั ประชาธิปไตย 2 -พฒั นาการดา้ นเศรษฐกิจ 2 -พฒั นาการดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ 1 -พฒั นาการดา้ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศสมยั รัตนโกสินทร์ 3 เร่ือง เหตุการณ์สาํ คญั ในสมยั รัตนโกสินทร์ 4 เร่ือง บุคคลสาํ คญั ในสมยั รัตนโกสินทร์ 4 -บุคคลสาํ คญั (1) -บุคคลสาํ คญั (2) 3 ภูมปิ ัญญาไทยและวฒั นธรรมไทย เรื่อง ภูมิปัญญาไทย เรื่อง พระบรมมหาราชวงั และวดั ประจาํ รัชกาล เรื่อง มหรสพไทยสี่ภาค

หน่วยท่ี หน่วยการเรียนรู้ 3 4 เพอื่ นบ้านของไทย เร่ือง ประเทศเพอื่ นบา้ นของไทย (1) ช่ัวโมง เร่ือง ประเทศเพื่อนบา้ นของไทย (2) 1 เร่ือง ประเทศเพอ่ื นบา้ นของไทย (3) 1 เร่ือง ประเทศเพอ่ื นบา้ นของไทย (4) 1 เร่ือง ประเทศเพอ่ื นบา้ นของไทย (5) 1 1 รวม 34

4 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1 คาํ ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว แลว้ ตอบลงในกระดาษคาํ ตอบ 1. การศึกษาประวตั ศิ าสตร์เรื่องใดสําคญั ทส่ี ุด ก. ขอ้ มูล ข. ขอ้ สรุป ค. ขอ้ เทจ็ จริง ง. ขอ้ สนั นิษฐาน 2. ข้อใดไม่ใช่วธิ ีการหาความรู้ทางประวตั ศิ าสตร์ ก. การกาํ หนดหวั ขอ้ ข. การรวบรวมขอ้ มูล ค. การสร้างหลกั ฐานข้ึนเอง ง. การนาํ เสนอขอ้ มลู 3. สุดาได้ข้อมูลมาจากหลายแหล่งสุดาควรทาํ อย่างไรกบั ข้อมูลทไี่ ด้มา ก. สรุปขอ้ มลู ท้งั หมด ข. เลือกมาเพยี งขอ้ มลู เดียว ค. รวบรวมขอ้ มลู ท้งั หมด ง. เปรียบเทียบขอ้ มลู ท้งั หมดแลว้ สรุป 4. ข้นั สุดท้ายของวธี ีการทางประวตั ิศาสตร์ คอื ก. อาํ นาจอยากทราบเรื่องทอ้ งถ่ินตนเอง ข. อาํ นาจตรวจสอบหลกั ฐานที่ไดม้ า ค. อาํ นาจเขียนรายงานเรื่องทอ้ งถ่ินของฉนั ง. อาํ นาจคน้ ควา้ ขอ้ มูลท่ีศนู ยว์ ฒั นธรรม 5. เม่ือนักเรียนได้ยนิ ข่าวลอื ว่ามผี ู้พบจระเข้ยกั ษ์โผล่ทสี่ ระในหมู่บ้านนักเรียนจะทาํ ตามข้อใด ก. เชื่อถือวา่ ขา่ วน้นั เป็นขา่ วจริง เพราะเคยมีผนู้ าํ จระเขไ้ ปปล่อยไว้ ข. ยงั ไม่เชื่อจนกวา่ จะมีหลกั ฐานแน่นอน ค. ไม่เช่ือเพราะเป็นข่าวลือ ง. ไปสมั ภาษณ์ผพู้ บจระเขย้ กั ษ์

5 6. หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ข้อใดคอื หลกั ฐานช้ันต้น ก. เคร่ืองป้ันดินเผาบา้ นเชียง ข. พระบรมราชานุสาวรียพ์ ระเจา้ ตากสินมหาราช ค. อนุสาวรียช์ าวบา้ นบางระจนั ง. อนุสาวรียท์ า้ วเทพกษตั รีทา้ วศรีสุนทร 7. หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ข้อใดเป็ นหลกั ฐานช้ันรอง ก. ตาํ นาน ข. พงศาวดาร ค. จดหมายเหตุ ง. หนงั สือเรียน 8. หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ข้อใดทเี่ ป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร ก. จารึก ข. คาํ บอกเล่า ค. ภาพวาด ง. อนุสาวรีย์ 9. ถ้านักเรียนอยากศึกษาเรื่องราวเกยี่ วกบั พระมหากษตั ริย์ไทยในอดีตควรใช้หลกั ฐานประเภทใด ก. ตาํ นาน ข. พงศาวดาร ค. ศิลาจารึก ง. เอกสารราชการ 10. ข้อใดไม่ใช่แหล่งค้นคว้าข้อมูลทางประวตั ิศาสตร์ ก. หอ้ งสมุด ข. พพิ ธิ ภณั ฑ์ ค. ศูนยว์ ฒั นธรรม ง. หา้ งสรรพสินคา้ ช่ือ .........................................................................เลขที่ ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ท่ี .......................................

6 แบบทดสอบหน่วยที่ 2 คาํ ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว แลว้ ตอบลงในกระดาษคาํ ตอบ 1. สาเหตุท่พี ระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ คอื ข้อใด ก. ขา้ ศึกเขา้ ตีไดง้ ่าย ข. มีราษฎรจาํ นวนมาก ค. มีการคมนาคมท่ีสะดวก ง. มีชยั ภูมิที่เหมาะสม 2. พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชทรงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์แบบราชธานีใด ก. กรุงธนบุรี ข. กรุงศรีสชั นาลยั ค. กรุงศรีอยธุ ยา ง. กรุงสุโขทยั 3. การปกครองส่ วนท้อถ่ินเทศบาลและสุขาภิบาลท่ีทําให้ประชาชนมีส่ วนร่วมในการบริหาร ท้องถ่นิ เกดิ ขนึ้ ในรัชกาลใด ก. รัชกาลท่ี 3 ข. รัชกาลที่ 4 ค. รัชกาลที่ 5 ง. รัชกาลที่ 6 4.. หลงั จากการเปลย่ี นแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 โครงสร้างการปกครองของไทยถูกกาํ หนดโดย สิ่งใด ก. รัฐธรรมนูญ ข. พระมหากษตั ริย์ ค. พรรคการเมือง ง. จารีตประเพณี 5. เศรษฐกจิ แบบรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีลกั ษณะเช่นไร ก. เศรษฐกิจแบบการตลาด ข. เศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม ค. เศรษฐกิจแบบพ่ึงพาตนเอง ง. เศรษฐกิจแบบประชาธิปไตย

7 6. การทาํ สนธิสัญญาเบาว์ริงมผี ลทาํ ให้เศรษฐกจิ ไทยเปลยี่ นแปลงอย่างไร ก. การคา้ เสรี ข. การคา้ ผกู ขาด ค. การคา้ แบบผสม ง. การคา้ แบบแลกเปล่ียน 7. ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งคล้ายคลงึ กบั เศรษฐกจิ แบบใด ก. เศรษฐกิจแบบทุนนิยม ข. เศรษฐกิจแบบพ่ึงตนเอง ค. เศรษฐกิจแบบพาณิชย์ ง. เศรษฐกิจแบบผกู ขาด 8. รัชกาลทไี่ ด้รับการยกย่องว่าเป็ นยุคทองแห่งวรรณคดี ก. รัชกาลที่ 1 ข. รัชกาลท่ี 2 ค. รัชกาลที่ 3 ง. รัชกาลท่ี 4 9. เหตุการณ์ใดทร่ี ัฐบาลประกาศเป็ นวนั ประชาธิปไตย ก. เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2514 ข. เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2516 ค. เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ง. เหตุการณ์ 10 ตุลาคม 2549 10. พระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัวมพี ระปรีชาสามารถด้านใดเป็ นพเิ ศษ ก. การคา้ ข. การสงคราม ค. การปกครอง ง. การปฏิรูป ชื่อ .........................................................................เลขที่ ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ที่ ......................................

8 แบบทดสอบหน่วยที่ 3 คาํ ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว แลว้ ตอบลงในกระดาษคาํ ตอบ 1. ความรู้ทไี่ ด้ส่ังสมสืบทอดและปฏิบตั สิ ืบต่อกนั มาจากคนรุ่นหน่ึงไปสู่คนอกี รุ่นหน่ึงเพอ่ื แก้ปัญหา ต่าง ๆ และเพอื่ ทาํ ให้คุณภาพชีวติ ดีขึน้ เรียกว่า ก. ค่านิยม ข. ประเพณี ค. ความเช่ือ ง. ภูมิปัญญา 2. สมุนไพรใดชวยลดไขมนั ในเส้นเลอื ด ก. ขิง ข. หอม ค. กระเทียม ง. กระชาย 3. ข้อใดคอื ภูมปิ ัญญาไทยในการถนอมอาหารด้วยแสงแดด ก. ปลาร้า ข. ปลาแดดเดียว ค. ปลาสม้ ง. ปลาหมึก 4. ข้อใดคอื ภูมปิ ัญญาไทยในด้านมารยาทไทย ก. การไหว้ ข. การทกั ทาย ค. ความมีน้าํ ใจ ง. ความเมตตา 5. วดั ใดทไี่ ด้ชื่อว่าเป็ นมหาวทิ ยาลยั แห่งแรกของไทย ก. วดั สุทศั นเ์ ทพวราราม ข. วดั พระเชตุพนวิมลมงั คลาราม ค. วดั ราชโอรส ง. วดั บวรนิเวศ

9 6. ภูมิปัญญญาไทยทว่ี ดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม คอื ข้อใด ก. สมุนไพร ข. ศิลปะไทย ค. แพทยแ์ ผนไทย ง. นาฏศิลป์ ไทย 7. ศิลปะการแสดงข้นั สูงของไทย คอื ก. โขน ข. ละครนอก ค. ละครใน ง. ละครพนั ทาง 8. ลเิ กเป็ นมหรสพทเ่ี กดิ ขนึ้ ในรัชสมัยใด ก. พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลก ข. พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ค. พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ง. พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั 9. การขับซอเป็ นมหรสพภาคใด ก. ภาคกลาง ข. ภาคเหนือ ค. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ง. ภาคใต้ 10. การอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยเป็ นหน้าทข่ี องใคร ก. หน่วยราชการ ข. ครูและนกั เรียน ค. คนไทยทุกคน ง. กาํ นนั และผใู้ หญ่บา้ น ช่ือ .........................................................................เลขท่ี ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ท่ี .......................................

10 แบบทดสอบหน่วยท่ี 4 คาํ ช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาํ ตอบที่ถูกตอ้ งเพียงขอ้ เดียว แลว้ ตอบลงในกระดาษคาํ ตอบ 1. สิ่งทแี่ สดงให้เห็นว่าดนิ แดนภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้มคี วามเจริญมาต่งั แต่สมยั ก่อน ประวตั ิสาสตร์ คอื ข้อใด ก. หลกั ฐานทางโบราณคดี ข. หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ค. หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์จากคาํ บอกเล่า ง. หลกั ฐานจากแผนท่ี 2. ชนชาติใดทเี่ รียกดนิ แดนภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ว่าสุวรรณภูมิ ก. จีน ข. อินเดีย ค. พม่า ง. ลาว 3. “สุวรรณภูม”ิ หมายถึง ก. ดินแดนแห่งความสุข ข. ดินแดนแห่งทองคาํ ค. ดินแดนแห่งภูเขา ง. ดินแดนแห่งความสงบ 4. ข้อใดคอื ลกั ษณะพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ ของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ก. การบริการ ข. การหตั ถกรรม ค. การเกษตรกรรม ง. การอุตสาหกรรม 5. อาณาจกั รฟูนันมศี ูนย์กลางทางการค้าอยู่ทป่ี ระเทศใด ก. ลาว ข. เมียนมาร์ ค. กมั พชู า ง. อินโดนีเซีย

11 6. ประเทศใดมีความแตกต่างจากประเทศอน่ื ในด้านลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ก. กมั พชู า ข. อินโดนีเซีย ค. ฟิ ลิปปิ นส์ ง. สิงคโปร์ 7. ชาวเวยี ดนามมลี กั ษณะการดําเนินชีวติ คล้ายกบั ประเทศใดมากทสี่ ุด ก. ไทย ข. จีน ค. พม่า ง. กมั พชู า 8. ข้อใดคอื เอกลกั ษณ์ของชาวพม่า ก. ใส่หมวกปลายแหลม ข. ผหู้ ญิงใชผ้ า้ โพกศีรษะ ค. ผหู้ ญิงประแป้ งหนา้ ขาว ง. อาหารพ้นื เมืองคือแหนมเนือง 9. ข้อใดไม่ใช่วตั ถุประสงค์ในการรวมกลุ่มของอาเซียน ก. เพ่ือพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ ข. เพ่อื ร่วมกนั ต่อตา้ นการเขา้ มาลงทุนของต่างชาติ ค. เพ่ือเสริมสร้างความมน่ั คงปลอดภยั ทางการเมือง ง. เพ่ือร่วมสงเสริมความเขา้ ใจอนั ดีต่อกนั ระหวา่ งประเทศ 10. การรวมกลุ่มอาเซียนก่อให้เกดิ ผลดีกบั ประเทศใดมากทสี่ ุด ก. ไทย ข. มาเลเซีย ค. ฟิ ลิปปิ นส์ ง. ทุกประเทศที่เป็นสมาชิก ช่ือ .........................................................................เลขท่ี ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ท่ี .......................................

12 เฉลย หน่วยที่ 1-4 ข้อสอบหน่วยท่ี 1 1. ค 2. ค 3. ง 4. ค 5. ข 6. ก 7. ง 8. ก 9. ข 10. ง ข้อสอบหน่วยที่ 2 1. ง 2. ค 3. ค 4. ก 5. ค 6. ก 7. ข 8. ข 9. ก 10. ก ข้อสอบหน่วยท่ี 3 1. ง 2. ค 3. ข 4. ก 5. ข 6. ค 7. ก 8. ค 9. ข 10. ค ข้อสอบหน่วยที่ 4 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ค 6. ก 7. ข 8. ค 9. ข 10. ง

13 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ จาํ นวน 3 ชั่วโมง ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6 สาระประวตั ิศาสตร์ รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสําคญั ของเวลา และ ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์สามารถใช้ วิธีการ ท า ง ป ร ะ ว ัติ ศ า ส ต ร์ ม า วิ เ ค ร า ะ ห์ เ ห ตุ ก า ร ณ์ ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ 1. ความคดิ รวบยอด วิธีการทางประวตั ิศาสตร์เป็ นข้นั ตอนที่ใชใ้ นการศึกษาคน้ ควา้ และเรียบเรียงเรื่องราวใน อดีตจากหลกั ฐานขอ้ มลู ต่าง ๆ เพอื่ ใหไ้ ดเ้ รื่องราวท่ีถกู ตอ้ งน่าเชื่อถือที่สุด 2. ตวั ชี้วดั ส4.1(1) อธิบายความสําคัญของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวทาง ประวตั ิศาสตร์อยา่ งง่าย ๆ 3. จุดประสงค์ − อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ได้ − บอกข้นั ตอนในการศึกษาคน้ ควา้ เรื่องราวในอดีตได้ − นาํ เสนอเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์ได้ 4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน − ความสามารถในการส่ือสาร − ความสามารถในการคิด − ความสามารถในการแกป้ ัญหา − ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

14 − รักชาติศาสนก์ ษตั ริย์ − วินยั − ใฝ่ เรียนรู้ − มุ่งมน่ั การทาํ งาน − รักความเป็นไทย − มีจิตสาธารณะ 6. ค่านิยมหลกั ของคนไทย − มีความรักชาติศาสนาพระมหากษตั ริย์ − ซื่อสตั ยเ์ สียสละอดทนมีอุดมการณ์ในส่ิงท่ีดีงามเพ่ือส่วนรวม − ใฝ่ หาความรู้หมน่ั ศึกษาเล่าเรียนท้งั ทางตรงและทางออ้ ม − รักษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม − มีศีลธรรมรักษาความสตั ยห์ วงั ดีต่อผอู้ ่ืนเผอื่ แผแ่ ละแบ่งปัน − คาํ นึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง 7. สาระการเรียนรู้ − 1. ความหมายและความสาํ คญั ของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งง่ายๆ ท่ีเหมาะกบั นกั เรียน − 2. การนาํ วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ไปใชใ้ นการศึกษาเรื่องราวในทอ้ งถ่ินเช่นความ เป็นมาของภูมินามสถานท่ีในทอ้ งถ่ิน 8. ชิ้นงาน/หลกั ฐานร่อยรอยแสดงความรู้ − แบบประเมินพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน − ใบงาน

15 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูนาํ หนงั สือประวตั ิศาสตร์ท่ีน่าสนใจมาให้นกั เรียนดูแลว้ เล่าเร่ืองส้ัน ๆพอสังเขปให้ นกั เรียนฟังเช่นเร่ืองสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชเรื่องสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชเร่ืองสงครามเกา้ ทพั เร่ืองไทยรบพม่าเป็นตน้ 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั การเรียนหนงั สือประวตั ิศาสตร์น้นั ผเู้ ขียนจะ เขียนไดอ้ ยา่ งไรเพราะประวตั ิศาสตร์เป็ นเร่ืองที่เกิดข้ึนในอดีตมีระยะเวลาท่ีผา่ นมายาวนานครูและ นกั เรียนช่วยกนั หาคาํ ตอบ 3. ครูอธิบายความหมายและความสาํ คญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ 4. แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่มกลุ่มละ 3 คน มีคนเก่ง 1 คน คนปานกลาง 1 คน คนอ่อน 1 คน ทาํ ใบงานที่ 1 เร่ืองความหมายความสาํ คญั ของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ โดยศึกษาเน้ือหาจาก หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 ของสาํ นกั งานคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้ืนฐานของกระทรวงศึกษาธิการเพ่มิ เติม 5. นกั เรียนนาํ ผลงานติดป้ ายนิเทศหนา้ ช้นั เรียนเพอ่ื ใหเ้ พ่ือนกลุ่มอ่ืนศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกนั ช่ัวโมงที่ 2 1. ครูทบทวนความรู้เดิมเร่ืองความหมายและความสาํ คญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ 2. ให้นกั เรียนที่มีประสบการณ์ที่เคยสืบคน้ ประวตั ิตนเองประวตั ิครอบครัวหรือประวตั ิ ชุมชนทอ้ งถ่ินออกมาเล่าวิธีการสืบคน้ ใหเ้ พอื่ นฟัง

16 3. นกั เรียนกลุ่มเดิมศึกษาเน้ือหา เร่ืองข้นั ตอนวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 ของสาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 4. สุ่มนกั เรียน 2-3 กลุ่มออกมารายงานออกมารายงานหนา้ ช้นั เรียนนกั เรียนกลุ่มอ่ืนและครู ช่วยเพิ่มเติมใหส้ มบรู ณ์ถกู ตอ้ งชดั เจน 5.ครูสรุปโดยใชแ้ ผนภูมิแสดงข้นั ตอนวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ 6.นกั เรียนทาํ ใบงานที่ 1.1 เร่ืองวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ 7.ครูเฉลยใบงาน ชวั่ โมงท่ี 3 1. ครูทบทวนความรู้เดิมเร่ืองวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ เพ่ือเช่ือมโยงกรณีศึกษา เร่ือง พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โดยวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ 2. ครูอธิบายกรณีศึกษา เร่ืองพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในประเดน็ -การต้งั ประเดน็ สืบคน้ -การรวบรวมขอ้ มลู -การตรวจสอบขอ้ มูล -การสรุปขอ้ มูลเป็นเร่ืองราว -การนาํ เสนอ 3. นกั เรียนศึกษาตวั อย่างจากการนาํ เสนอพระราชประวตั ิพระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวจากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 ของสาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 4. นกั เรียนทาํ ใบงานที่ 1.2 เร่ืองพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั 5. ใหน้ กั เรียนศึกษาเรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์ที่นกั เรียนสนใจหน่ึงเร่ืองโดยใชว้ ิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ เช่น ความเป็ นมาของภูมินามสถานท่ีในทอ้ งถิ่น บุคคลสําคญั ในทอ้ งถิ่น บุคคล สาํ คญั ระดบั ประเทศ ฯลฯ

17 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 10.1 ส่ือ − หนงั สือเร่ืองพระนเรศวรมหาราช − หนงั สือเร่ืองพระเจา้ ตากสินมหาราช − หนงั สือเร่ืองสงครามเกา้ ทพั − หนงั สือเร่ืองไทยรบพม่า − หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 ของ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ − ใบงานท่ี 1.1 เร่ืองความหมายและความสาํ คญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ − ใบงานที่ 1.2 เร่ืองวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ − ใบงานที่ 1.3 เร่ืองพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั 10.2 แหล่งการเรียนรู้ − หอ้ งสมุดโรงเรียน − หอ้ งสมุดประชาชน − หอ้ งสมุดประจาํ หน่วยราชการ − สาํ นกั หอสมุดแห่งชาติ − สาํ นกั หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ − ศูนยว์ ฒั นธรรมแห่งประเทศไทย − พพิ ธิ ภณั ฑป์ ระจาํ จงั หวดั − พพิ ธิ ภณั ฑส์ ถานแห่งชาติ − www.google.com

18 11. การวดั และประเมินผล 11.1 วิธีวดั − สงั เกตการณ์ตอบคาํ ถาม − สงั เกตการณ์ทาํ งานกลุ่ม − สงั เกตการณ์ทาํ รายงาน − การทาํ ใบงาน − การทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน 11.2 เคร่ืองมือวดั − แบบประเมินพฤติกรรมเป็นรายบุคคล − แบบประเมินพฤติกรรมการทาํ งานกลุ่ม − แบบประเมินการรายงาน − ตรวจผลงานจากใบงาน − แบบทดสอบหลงั เรียน

19 12. เกณฑ์การวดั และประเมินผล แบบสังเกตพฤตกิ รรม คาํ ชี้แจง: ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ทาํ เครื่องหมายถกู () ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ ชื่อ-นามสกุล รับฟัง การ การตอบ สามคั ค/ี ตรงต่อเวลา ความ แสดงออก คาํ ถาม มนี ํา้ ใจ 321 คดิ เห็น 321 321 321 321 ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ............../.................../................ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าํ เสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ังให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ังให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 12 – 15 ระดบั คุณภาพ 8 – 11 ดี 1–7 พอใช้ ปรับปรุง

20 แบบสังเกตพฤติกรรมกล่มุ คาํ ชี้แจง: ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ทาํ เคร่ืองหมายถกู () ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ รับฟัง แบ่งงานกนั การมี สามคั ค/ี ตรงต่อเวลา ความ อย่าง ส่วนร่วม มนี ํา้ ใจ คดิ เห็น เหมาะสม 321321321321321 ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ............../.................../................ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าํ เสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ังให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ังให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ระดบั คุณภาพ 12 – 15 ดี 8 – 11 1–7 พอใช้ ปรับปรุง

21 แบบประเมินการนําเสนอ คาํ ชี้แจง: ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ทาํ เคร่ืองหมายถกู () ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ ชื่อ-นามสกุล ความ ความคดิ การใช้ภาษา การมสี ่วน ตรงต่อเวลา ถูกต้องของ สร้างสรรค์ 321 ร่วมของ 321 321 สมาชิก เนือ้ หา 321 321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าํ เสมอให้ ............../.................../................ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ังให้ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ังให้ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ช่วงคะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 12 – 15 ระดบั คุณภาพ 8 – 11 ดี 1–7 พอใช้ ปรับปรุง

22 บนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรียนรู้ สรุปผลการเรียนรู้ 1. ดา้ นเน้ือหาสาระ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. ดา้ นสมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รียน ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 4. อ่ืนๆ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. แนวทางการแก้ไขและพฒั นา ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................ผสู้ อน (..............................................)

23 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ หนังสือเร่ืองพระนเรศวรมหาราช

24 หนังสือเรื่องพระเจ้าตากสินมหาราช หนังสือเรื่องสงครามเก้าทพั

25 หนังสือเร่ืองไทยรบพม่า

26 แผนภูมขิ ้นั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ การต้งั ประเด็นสืบค้น  การกาํ หนดหัวข้อทผ่ี ู้ศึกษาประวตั ศิ าสตร์สนใจ การรวบรวมข้อมูล  การรวบรวมข้อมูลจากหลกั ฐานประเภทต่างๆ ให้ครบถ้วน การตรวจสอบข้อมูล  การทผี่ ู้ศึกษาต้องตรวจสอบข้อมูลทรี่ วบรวมมาได้ว่าถูกต้อง การสรุปข้อมูลเป็ น น่าเชื่อถอื หรือไม่ เรื่องราว  การนําข้อมูลมาจดั ลาํ ดบั ตามเวลาก่อนหลงั หรือจดั เหตุการณ์เรื่อง การนําเสนอ ดยี วกนั หรือทเี่ กยี่ วข้องกนั ไว้ด้วยกนั ตามหัวข้อเร่ืองทศี่ ึกษา  การเรียบเรียงเพอื่ ตอบคาํ ถามหรืออธิบายข้อสงสัยตามหัวข้อท่ี ต้องการศึกษา การนําเสนอมหี ลายรูปแบบเช่น การเขียนเรียงความ เขียนรายงาน แสดงนิทรรศการ เป็ นต้น

27 ใบงานที่ 1 เร่ือง ความหมายและความสําคญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ คาํ ชี้แจง 1.ให้นักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1. วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ หมายถึง …………………………………………………………………………………………… ………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ช่ือ .........................................................................เลขที่ ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ท่ี .......................................

28 2. ให้นักเรียนระดมสมองทาํ ผงั ความคดิ เรื่อง ความสําคญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ความสาํ คัญของ วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ชื่อ .........................................................................เลขท่ี ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ที่ .......................................

29 ใบงานที่ 1.1 เร่ือง วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ คาํ ชี้แจง 1. ให้นักเรียนเรียงลาํ ดบั ข้นั ตอนวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ช่ือ .........................................................................เลขท่ี ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ท่ี .......................................

30 2. ให้นักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ ช่ือ .........................................................................เลขท่ี ................................... ช้ันประถมศึกษาป่ี ที่ .......................................

31 ใบงานที่ 1.2 เร่ือง พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปน้ี 1. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รับพระฉายาระหว่างผนวชว่าอะไร ………………………………………………………………………………………………….. 2. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้สร้างถนนสายใดบ้าง ………………………………………………………………………………………………….. 3. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนําความรู้ทางดาราศาสตร์มาคาํ นวณการเกดิ ปรากฏการณ์ใดบ้าง ………………………………………………………………………………………………….. 4. ศาสนสถานใดทพี่ ระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณะ ………………………………………………………………………………………………….. 5. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพบศิลาจารึกทจี่ ารึกในสมยั ใด ………………………………………………………………………………………………….. ช่ือ .........................................................................เลขท่ี ................................... ช้ันประถมศึกษาปี่ ท่ี .......................................

ใบงานท่ี 1 32 เร่ือง ความหมายและความสําคญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ เฉลย คาํ ชี้แจง 1.ให้นักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1. วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ หมายถงึ …………………………………………………………………………………………… ………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… (หมายเหตพุ ิจารณาตามคําตอบของนกั เรียนโดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน)

33 เฉลย 2. ให้นักเรียนระดมสมองทาํ ผงั ความคดิ เร่ือง ความสําคญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ความสาํ คัญของ วิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ (หมายเหตพุ ิจารณาตามคําตอบของนกั เรียนโดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน)

34 เฉลย ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ คาํ ชี้แจง 1. ให้นักเรียนเรียงลาํ ดบั ข้นั ตอนวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์

35 เฉลย 2. ให้นักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้

36 เฉลย ใบงานที่ 1.2 เร่ือง พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปน้ี 1. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รับพระฉายาระหว่างผนวชว่าอะไร วชิรญาณเถระ 2. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้สร้างถนนสายใดบ้าง ถนนเจริญกรุง ถนนบํารุงเมือง ถนนเฟื่ องนคร 3. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนําความรู้ทางดาราศาสตร์มาคาํ นวณการเกดิ ปรากฏการณ์ใดบ้าง การเกดิ ดาวหาง สุริยุปราคา จนั ทรุปราคา 4. ศาสนสถานใดทพ่ี ระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณะ พระปฐมเจดีย์ พระเจดยี ์ภูเขาทอง 5. พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพบศิลาจารึกทจี่ ารึกในสมัยใด สมยั สุโขทยั

37 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ จาํ นวน 3 ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 สาระประวตั ศิ าสตร์ รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาํ คญั ของเวลา และยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์สามารถใชว้ ิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อยา่ ง เป็ นระบบ 1. ความคดิ รวบยอด หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์เป็นขอ้ มลู สาํ คญั ในการศึกษาคน้ ควา้ เร่ืองราวในอดีตของมนุษย์ 2. ตวั ชี้วดั ส 4.1(2) นาํ เสนอขอ้ มูลจากหลกั ฐานที่หลากหลายในการทาํ ความเขา้ ใจเรื่องราวสาํ คญั ใน อดีต 3.จุดประสงค์ − อธิบายความหมายและความสาํ คญั ของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้ − ระบุประเภทของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้ − บอกลกั ษณะของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้ − บอกแหล่งขอ้ มูลในการศึกษาหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้ 4.สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน − ความสามารถในการส่ือสาร − ความสามารถในการคิด − ความสามารถในการแกป้ ัญหา − ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

38 5.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ − รักชาติศาสนก์ ษตั ริย์ − วินยั − ใฝ่ เรียนรู้ − มุ่งมน่ั การทาํ งาน − รักความเป็นไทย 6.ค่านิยมหลกั ของคนไทย − มีความรักชาติศาสนาพระมหากษตั ริย์ − ซ่ือสตั ยเ์ สียสละอดทนมีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพ่ือส่วนรวม − ใฝ่ หาความรู้หมน่ั ศึกษาเล่าเรียนท้งั ทางตรงและทางออ้ ม − รักษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม − มีศีลธรรมรักษาความสตั ยห์ วงั ดีต่อผอู้ ื่นเผอ่ื แผแ่ ละแบ่งปัน − คาํ นึงถึงผลประโยชนข์ องส่วนรวมและของชาติมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง 7. สาระการเรียนรู้ − ตวั อยา่ งหลกั ฐานท่ีเหมาะสมกบั นกั เรียนท่ีจะนาํ มาใชใ้ นการศึกษาเหตกุ ารณ์สาํ คญั ใน ประวตั ิศาสตร์ไทยสมยั รัตนโกสินทร์ − สรุปขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากหลกั ฐานท้งั ความจริงและขอ้ เทจ็ จริง − การนาํ เสนอขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ดว้ ยวิธีการต่าง ๆเช่นการเล่า เร่ืองการจดั นิทรรศการการเขียนรายงาน

39 8. ชิ้นงาน/หลกั ฐานร่อยรอยแสดงความรู้ − แบบประเมินพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน − ใบงาน 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 1. ครูนาํ แผนภูมิพระราชดาํ รัสในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั วา่ “การสร้างอาคารสมยั น้ีคงจะเป็นเกียรติสาํ หรับผสู้ ร้างคนเดียวแต่เร่ืองโบราณสถานน้นั เป็น เกียรติของชาติอิฐเก่า ๆ แผน่ เดียวก็มีค่าควรช่วยกนั รักษาไวถ้ า้ เราขาดสุโขทยั อยธุ ยาและกรุงเทพฯ แลว้ ประเทศไทยกไ็ ม่มีความหมาย” ติดบนกระดานดาํ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั 2. ครูแจ้งนักเรียนว่าชั่วโมงน้ีเรียนเร่ืองหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ พร้อมท้งั แจ้ง วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ 3. ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั พระราชดาํ รัสว่ามีความหมายอย่างไร และ เกี่ยวขอ้ งกบั หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งไร 4. ให้นักเรียนศึกษาเน้ือหาเรื่อง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ จากหนงั สือเรียน รายวิชา พ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 ของสาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 5. สุ่มนกั เรียน 3-5 คนให้อธิบายความหมายความสําคญั และประเภทหลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์โดยครูคอยเพิ่มเติมใหช้ ดั เจนสมบรู ณ์ยงิ่ ข้ึน 6. นักเรียนทาํ ใบงานท่ี 2 เร่ืองความหมายความสําคญั และประเภทหลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์แลว้ อภิปรายร่วมกนั 7. ครูเฉลยใบงานเพอ่ื สรุปความหมายความสาํ คญั และประเภทหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์

40 ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครู ทบทวนความรู้เดิมเร่ื องความหมายความสําคัญและประเภทหลักฐานทาง ประวตั ิศาสตร์เพ่ือเช่ือมโยงเร่ืองประเภทหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งละเอียด 2. ใหน้ กั เรียนดูภาพหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ เช่น ภาพขวานสาํ ริด ภาพศิลาจารึก ภาพ เจดียท์ รงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ ภาพเคร่ืองทอง ภาพหนงั สือพงศาวดารภาพพระบรมมหาราชวงั ภาพวดั ไชย วฒั นาราม ภาพอุทยานประวตั ิศาสตร์สุโขทยั ภาพเคร่ืองป้ันดินเผาบา้ นเชียง เป็นตน้ 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายภาพต่างๆ ในประเดน็ − ลกั ษณะของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ช้นั ตน้ พร้อมยกตวั อยา่ ง − ลกั ษณะหลกั ฐานช้นั รองทางประวตั ิศาสตร์ พร้อมยกตวั อยา่ ง − ลกั ษณะหลกั ฐานที่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรทางประวตั ิศาสตร์ พร้อมยกตวั อยา่ ง − ลกั ษณะหลกั ฐานท่ีไม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรทางประวตั ิศาสตร์ พร้อม ยกตวั อยา่ ง − การใชห้ ลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ประเภทต่างๆ 4. นกั เรียนศึกษาเน้ือหา เร่ืองหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ จากหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6 ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 5. นกั เรียนทาํ ใบงานที่ 2.1 เร่ืองประเภทหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ 6. ครูสรุปโดยการเฉลยใบงาน 7.แบ่งนกั เรียนเป็ นกลุ่มๆ ละ 5 คนตามความสมคั รใจให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มสาํ รวจขอ้ มูล ทางประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินหรือชุมชนของตนเองตามใบงานท่ี 2.2

41 ชว่ั โมงที่ 3 1. ครูสนทนาซกั ถามเก่ียวกบั ปัญหาอุปสรรคจากการไปสาํ รวจแหล่งขอ้ มูลในการศึกษา ประวตั ิศาสตร์และหลกั ฐานประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ิน 2. นักเรี ยนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเล่าผลการสํารวจแหล่งข้อมูลในการศึกษา ประวตั ิศาสตร์และหลกั ฐานประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ิน 3. ครูอธิบายเช่ือมโยงระหว่างแหล่งขอ้ มูลและหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินกบั แหล่งขอ้ มลู และหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ของชาติ 4. นกั เรียนศึกษาเน้ือหาเรื่องแหล่งขอ้ มูลและตวั อยา่ งหลกั ฐานในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ ไทยจากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6 สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ระดมสมองทาํ ใบงานท่ี 2.3 เรื่องแหล่งขอ้ มูลและหลกั ฐาน ทางประวตั ิศาสตร์ 6. นกั เรียนนาํ ผลงานติดป้ ายนิเทศหนา้ ช้นั เรียนเพือ่ ใหเ้ พื่อนกลุ่มอื่นไดศ้ ึกษาเรียนรู้ร่วมกนั 10. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 10.1 ส่ือ − แผนภูมิพระราชดาํ รัสในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั − ภาพขวานสาํ ริด − ภาพศิลาจารึก − ภาพเจดียท์ รงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ − ภาพเครื่องทอง − ภาพหนงั สือพงศาวดาร − ภาพพระบรมมหาราชวงั − ภาพวดั ไชยวฒั นาราม − ภาพอุทยานประวตั ิศาสตร์สุโขทยั

42 − ภาพเคร่ืองป้ันดินเผาบา้ นเชียง − หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน วิชาประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ − ใบงานท่ี 2 เรื่องความหมายความสาํ คญั และประเภทของหลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์ − ใบงานที่ 2.1 เร่ืองประเภทของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ − ใบงานท่ี 2.2 เร่ืองการสาํ รวจขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์ − ใบงานท่ี 2.3 เร่ืองแหล่งขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์ 10.2 แหล่งการเรียนรู้ − หอ้ งสมุดโรงเรียน − หอ้ งสมุดประชาชน − หอ้ งสมุดประจาํ หน่วยราชการ − สาํ นกั หอสมุดแห่งชาติ − สาํ นกั หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ − ศูนยว์ ฒั นธรรมแห่งประเทศไทย − พพิ ธิ ภณั ฑป์ ระจาํ จงั หวดั − พิพิธภณั ฑส์ ถานแห่งชาติ − www.google.com

43 11. การวดั และประเมินผล 11.1 วธิ ีวดั − สงั เกตการณ์ตอบคาํ ถาม − สงั เกตการณ์ทาํ งานกลุ่ม − สงั เกตการณ์ทาํ รายงาน − การทาํ ใบงาน − การทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน 11.2 เครื่องมือวดั − แบบประเมินพฤติกรรมเป็นรายบุคคล − แบบประเมินพฤติกรรมการทาํ งานกลุ่ม − แบบประเมินการรายงาน − ตรวจผลงานจากใบงาน − แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 1

44 12. เกณฑ์การวดั และประเมินผล แบบสังเกตพฤตกิ รรม คาํ ชี้แจง: ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ทาํ เครื่องหมายถกู () ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ ชื่อ-นามสกุล รับฟัง การ การตอบ สามคั ค/ี ตรงต่อเวลา ความ แสดงออก คาํ ถาม มนี ํา้ ใจ 321 คดิ เห็น 321 321 321 321 ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ............../.................../................ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าํ เสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ังให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ังให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 12 – 15 ระดบั คุณภาพ 8 – 11 ดี 1–7 พอใช้ ปรับปรุง

45 แบบสังเกตพฤติกรรมกล่มุ คาํ ชี้แจง: ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ทาํ เคร่ืองหมายถกู () ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ ช่ือ-นามสกลุ รับฟัง แบ่งงานกนั การมี สามคั ค/ี ตรงต่อเวลา ความ อย่าง ส่วนร่วม มนี ํา้ ใจ คดิ เห็น เหมาะสม 321321321321321 ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ............../.................../................ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าํ เสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ังให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ังให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ระดบั คุณภาพ 12 – 15 ดี 8 – 11 1–7 พอใช้ ปรับปรุง

46 แบบประเมินการนําเสนอ คาํ ชี้แจง: ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ทาํ เคร่ืองหมายถกู () ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ ชื่อ-นามสกุล ความ ความคดิ การใช้ภาษา การมสี ่วน ตรงต่อเวลา ถูกต้องของ สร้างสรรค์ 321 ร่วมของ 321 321 สมาชิก เนือ้ หา 321 321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าํ เสมอให้ ............../.................../................ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ังให้ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ังให้ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ช่วงคะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 12 – 15 ระดบั คุณภาพ 8 – 11 ดี 1–7 พอใช้ ปรับปรุง

47 แผนภูมพิ ระราชดาํ รัส ...การสร้างอาคารสมยั นี้คงจะเป็ นเกยี รติสําหรับผ้สู ร้างคนเดยี ว แต่เร่ืองโบราณสถานน้ันเป็ นเกยี รติของชาติ อิฐเก่า ๆ แผ่นเดยี วกม็ ีค่าควรช่วยกนั รักษาไว้ ถ้าเราขาดสุโขทยั อยธุ ยาและกรุงเทพฯ แล้ว ประเทศไทยกไ็ ม่มีความหมาย...

48 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ขวานสําริด ศิลาจารึก เจดีย์ทรงข้าวบิณฑ์ เครื่องทอง

49 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ หนังสือพงศาวดาร พระบรมมหาราชวงั

50 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ วดั ไชยวฒั นาราม อทุ ยานประวตั ศิ าสตร์สุโขทยั