Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอนปรับปรุง 2564

เอกสารประกอบการสอนปรับปรุง 2564

Published by nirut jorncharoen, 2022-01-12 14:42:59

Description: เอกสารประกอบการสอนปรับปรุง 2564

Search

Read the Text Version

29 เทคโนโลยีด้านฮารด์ แวร์ องค์กร วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ กลยุทธ์องค์กร เทคโนโลยดี ้านซอฟตแ์ วร์ โครงสรา้ งองค์กร เทคโนโลยี ระบบสารสนเทศ กระบวนการทางธรุ กจิ สารสนเทศ วัฒนธรรมและการเมอื งองค์กร เทคโนโลยีด้านการจดั การ การบริหาร การแกป้ ญั หา ขอ้ มลู การวางกลยทุ ธ์ การสร้างผลิตภัณฑ์ บริการใหม่ เทคโนโลยดี า้ นเครือขา่ ย การจดั สรรทรพั ยากร โทรคมนาคม ภาพที่ 2.3 ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยสี ารสนเทศ การบรหิ าร และองค์กร ท่มี า (มฑุปายาส ทองมาก, 2559, หน้า 17) จากภาพที่ 2.3 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหาร และองค์กร กล่าวได้ ว่า ความแตกต่างกันของบริบทองค์กร จะทาให้ระบบสารสนเทศได้รับผลกระทบในเรื่องกลยุทธ์ โครงสรา้ ง กระบวนการทางธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร และสภาพแวดล้อมองค์กร ส่งผลถึงการนาระบบ สารสนเทศเข้ามาใช้งาน ระบบสารสนเทศเดียวกันไม่สามารถนามาใช้ในองค์กรท่ีต่างกันได้หากไม่มี การปรับเปลี่ยน หรือบางองค์กรอาจใช้ระบบสารสนเทศแล้วประสบความสาเร็จ ขณะเดียวกันอีก องค์กรอาจจะใช้แล้วไม่ประสบความสาเร็จก็ได้ ปัจจุบันเกือบทุกองค์กรไม่สามารถดาเนินงานได้หาก ขาดระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศช่วยลดบทบาทของผู้บริหารลงได้ เช่น การตัดสินใจสั่งเพ่ิม สนิ คา้ ผบู้ รหิ ารอาจไมต่ อ้ งตดั สินใจเองเพราะมรี ะบบสารสนเทศมาช่วยในการตัดสินใจแทน เมื่อมีการ นาระบบสารสนเทศเข้ามาใช้งานอย่างจริงจัง จะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางธุรกิจ ขัน้ ตอนบางขั้นตอนอาจถกู ยกเลกิ หรอื อาจทดแทนด้วยระบบอตั โนมัติ

30 เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ จากการท่ปี ระเทศพฒั นาไปอย่างไม่หยดุ ยงั้ ในดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้ส่งผลกระทบกับ กระบวนการทางธรุ กิจขององค์กรท่ีต้องปรับเปล่ียนเพ่ือให้ตนเองอยู่รอดได้ นอกจากน้ีแล้วเทคโนโลยี สารสนเทศยังมีบทบาทสาคัญในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการศึกษา ด้านการส่ือสาร โทรคมนาคม ด้านสารธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีรายละเอียดดังน้ี (วศิน เพิ่มทรัพย,์ 2561, หนา้ 174-176) 1. บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันสังคมไร้เงินสดถูกแทนท่ีระบบเงินสด ผู้คนไม่ใช้เงินสดแต่หันมาใช้เทคโนโลยีผ่านโ ปรแกรมประยุกต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (application) เงินสดกลายเป็นเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีระบบพร้อมเพย์ (promptpay) ระบบการ สแกนคิวอาร์-โค๊ด (QR-Code) เพ่ือจ่ายเงินของธนาคารและผู้ให้บริการต่าง ๆ ลดภาระดอกเบี้ยจาก การสารองเงินและสร้างความโปร่งใสทางการเงินท่ีสามารถตรวจสอบติดตามรอยได้ ลดปัญหาการ ฟอกเงินท่ีได้มาอย่างผิดกฎหมาย ทาให้สรรพากรสามารถเก็บภาษีได้เต็มอย่างเป็นธรรม ถึงแม้ว่าเรา อาจจะยังไมไ่ ปถึงสังคมไร้เงินสดแบบเต็มตวั ตัวอย่างระบบพร้อมเพย์ แสดงดังภาพที่ 2.4 ภาพที่ 2.4 ระบบพรอ้ มเพย์ ที่มา (วศนิ เพม่ิ ทรพั ย,์ 2561, หนา้ 174) 2. บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านสังคม สื่อสังคมออนไลน์มีผลกระทบต่อภาคสังคมเป็น อย่างมาก ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้หลายแง่มุม สามารถท่ีจะแสดงความคิดเห็น อย่างรวดเร็วและอิสระ หรือแม้กระทั่งการออกอากาศสด (live) แต่รู้หรือไม่ว่ามีผลเสียต่าง ๆ ท่ีจะ ตามมามากมาย บางคร้ังนามาซ่ึงความเข้าใจผิด ต่ืนตระหนก เกิดความขัดแย้ง ฉะนั้น สื่อสังคม ออนไลน์จะต้องเลือกใช้งานอย่างระมัดระวังและมีจริยธรรม ศีลธรรมอันดีงาม หรือความม่ันคงของ ประเทศ สาหรับตวั อย่างหนา้ เฟซบุก๊ แสดงดังภาพที่ 2.5

31 ภาพที่ 2.5 ตวั อยา่ งหนา้ Facebook 3. บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านการศึกษา ปัจจุบันกาลังอยู่ในยุคออนไลน์เข้าถึงได้ทุก ทที่ ุกเวลา การศึกษาเชน่ เดยี วกัน ส่ือตา่ ง ๆ ปรากฏอยู่บนอินเทอร์เนต็ มากมาย เราสามารถเรียนรู้เพ่ือ นามาพัฒนาตนเองและช่วยในการพัฒนาประเทศได้ ตัวอย่างสื่อออนไลน์เพ่ือเผยแพร่ความรู้ของ ตนเองให้แก่คนทั่วโลก หรือที่เรียกว่า มุ้กส์ (MOOC) หรือ (massive open online course) ซึ่งจะ มีบทเรยี นฟรี เราสามารถเรียนวิชาต่าง ๆ มากมายท้ังในและต่างประเทศได้บนหน้าจอที่บ้าน สาหรับ ตวั อยา่ งเวบ็ ไซต์ ไทยม้กุ ส์ (Thai MOOC) แสดงดงั ภาพท่ี 2.6 ภาพท่ี 2.6 เว็บไซต์ Thai MOOC (http://thaimooc.org) ท่มี า (วศิน เพ่มิ ทรพั ย์, 2561, หนา้ 175) 4. บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านส่ือสารและโทรคมนาคม ปัจจุบันการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคน ไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนในเมืองจังหวัดใหญ่ ๆ จัดว่ามีความเร็วสูงและไม่แพง หรือระบบ 4G ท่ีมีความเร็ว เทียบเท่าหรือดีกว่าในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงระบบ 5G ท่ีกาลังจะพัฒนา ผู้คนต่างใช้งานไม่เพียงแค่ดูหนังฟัง เพลง เข้าโปรแกรมประยุกต์ และเว็บไซตต์ ่าง ๆ เทา่ นนั้ สาหรบั ตวั อยา่ ง 3G 4G แสดงดังภาพท่ี 2.7

32 ภาพที่ 2.7 ตวั อยา่ ง 3G 4G ทม่ี า (วศนิ เพม่ิ ทรพั ย์, 2561, หนา้ 175) 5. บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศในดา้ นสาธารณสขุ การนาเอาความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยีมา ใช้เพ่ือสนับสนุนและแลกเปล่ียนข้อมูลการรักษาผู้ปุวย เป็นหนทางที่จะช่วยบรรเทาปัญหาทาให้ ประชาชนนั้นมีสุขภาพดีข้ึน บทบาทในด้านนี้จะเป็นการใช้สัญญาณดาวเทียมและเครือข่าย อินเทอรเ์ นต็ ควบคูก่ ัน จะมกี ารแลกเปลี่ยนขอ้ มูลทงั้ ภาพนง่ิ ภาพเคลือ่ นไหว เสียง ส่งสัญญาณถึงกันได้ เปรียบเสมอื นวา่ กาลงั อยู่ในห้องคนไข้เดียวกัน ซึ่งจะทาให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพมากข้ึน แต่ท้ังนี้ ก็ต้องพิจารณาถึงกฏหมายท่ีเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบและจรรยาบรรณของแพทย์ด้วย ว่า เอื้ออานวยให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้มากน้อยเพียงใด ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับ การแพทย์ แสดงดังภาพท่ี 2.8 ภาพที่ 2.8 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศกับการแพทย์ ท่มี า (สพุ รรษา ยวงทอง, 2557, หนา้ 225) 6. บทบาทเทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นสิง่ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ อินเทอร์เน็ตทาให้ทุกคน สามารถเข้าใช้งานแผนที่และภาพถ่ายดาวเทียมท้ังภาพปัจจุบันและอดีตได้แบบออนไลน์จาก โทรศัพทเ์ คล่อื นท่ี ในด้านนี้เราจะเรียกเทคโนโลยีว่าจีไอเอส (GIS) หรือ (Geographic Information System)

33 หรือทเี่ รยี กกันว่า ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ การใช้ประโยชน์จากระบบน้ีจะช่วยในด้านการประกอบ ธุรกิจและใช้ชีวิตประจาวัน เช่น การนาทางขับรถ ยังช่วยสร้างความตระหนักถึงความเปล่ียนแปลงทาง ธรรมชาติ การบุกรุกตัดไม้ทาลายปุา ส่วนประโยชน์ในภาครัฐจะใช้ประโยชน์ในระดับนโยบาย การพัฒนา พ้ืนที่เศรษฐกจิ ผังเมือง และอน่ื ๆ ตัวอย่างภาพถ่ายดาวเทียมของเวบ็ กรมทีด่ นิ แสดงดังภาพท่ี 2.9 ภาพท่ี 2.9 ภาพถา่ ยดาวเทียมของเว็บกรมท่ดี ิน ทีม่ า (วศิน เพิ่มทรพั ย์, 2561, หน้า 176) กลยุทธธ์ รุ กิจเพือ่ สรา้ งความไดเ้ ปรยี บทางการแขง่ ขนั ในยคุ ดิจทิ ลั กลยุทธ์ ยุทธวิธี หรือยุทธศาสตร์ จริง ๆ แล้วเป็นคาศัพท์ที่ใช้ทางการทหารเก่ียวกับสงคราม และแนวทางในการเอาชนะศัตรู กลยุทธ์เร่ิมได้รับความสนใจนามาใช้ในเชิงธุรกิจมากข้ึนและ กวา้ งขวางในหลายแนวทาง เช่น กลยุทธ์การตลาด กลยุทธ์การเงิน กลยุทธ์การผลิต ฯลฯ มีผู้กล่าวไว้ ว่า องค์การไม่จาเป็นต้องวางแผนกลยุทธ์ ถ้าปราศจากคู่แข่งขันทางธุรกิจ แต่ปัจจุบันนั้นการแข่งขัน ทางธุรกิจทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงทาให้การจัดการเชิงกลยุทธ์มีความสาคัญมากข้ึน และการนา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เชิงกลยุทธ์ก็เป็นเร่ืองท่ีต้องศึกษา โดยปกติแล้วเราจาแนกกลยุทธ์ตาม ระดบั และขอบเขตการดาเนนิ งานขององค์การออกเป็น 3 ระดับ คือ กลยุทธ์ระดับบริษัทหรือองค์การ (corporate level strategy) กลยทุ ธร์ ะดับธรุ กจิ (business unit level strategy) และกลยุทธร์ ะดบั หน้าท่ี (functional level strategy) โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี (โอภาส เอ่ียมสริ ิวงศ์, 2560, หนา้ 70-71) 1. กลยุทธ์ระดับองค์การ ถูกกาหนดโดยผู้บริหารระดับสูงขององค์การ ครอบคลุมระยะเวลา ยาวและท่ัวท้ังองค์การ องค์การควรจะดาเนินธุรกิจอย่างไร และจัดสรรทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างไรให้มี ประสิทธิภาพสงู สดุ ตอ่ การดาเนินงาน 2. กลยุทธ์ระดับหน่วยธุรกิจ ถูกกาหนดโดยผู้บริหารหน่วยธุรกิจ เพ่ือให้หน่วยธุรกิจของตน สามารถดาเนินการไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับภารกิจ (mission) และวตั ถปุ ระสงค์ (objective)

34 3. กลยุทธ์ระดับหน้าที่ ถูกกาหนดโดยหัวหน้าหน่วยงานตามที่ทางธุรกิจ เกี่ยวกับการ ปฏบิ ตั ิงานตามส่วนงานต่าง ๆ แต่ละฝุายหรือแผนกเป็นไปตามห่วงโซ่คุณค่า ไม่ว่าจะเป็นฝุายการเงิน การตลาด การดาเนินงาน และทรพั ยากรมนุษย์ เพื่อสนับสนนุ และสอดคล้องกับกลยุทธ์ระดับที่สูงกว่า กลยทุ ธน์ ้จี ะมลี ักษณะเฉพาะเจาะจงตามหนา้ ที่ทางธรุ กิจ จากกลยุทธ์ตามระดับและขอบเขตการดาเนินงานขององค์การทั้ง 3 ระดับ มีข้อแตกต่างกันใน ส่วนของผู้ท่ีกาหนดกลยุทธ์ ผู้บริหารแต่ละระดับจะทาหน้าที่กาหนดกลยุทธ์เพ่ือการบริหารจัดการ ธรุ กิจ ซึ่งระดับกลยทุ ธ์ แสดงดงั ภาพที่ 2.10 กลยุทธร์ ะดับองคก์ าร กลยทุ ธ์ระดับหนว่ ยธรุ กจิ กลยุทธ์ระดบั หน้าท่ี ภาพที่ 2.10 ระดับกลยุทธ์ ที่มา (โอภาส เอ่ียมสริ ิวงศ,์ 2560, หนา้ 70-71) ในช่วงศตวรรษท่ี 21 เกิดความท้าทายต่อการดารงชีวิตมนุษย์ในด้านต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะ เปน็ การเปลีย่ นแปลงในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็นต้น การเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ น้ี ลว้ นเกดิ จากการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ มนษุ ย์สามารถติดตอ่ สอื่ สารกนั ไดง้ า่ ย รวดเร็ว มากข้นึ มรี ะบบสานักงานอัตโนมัติ (office automatic) ท่ีสามารถช่วยให้การประกอบธุรกิจคล่องตัว และธุรกิจสามารถทางานต่าง ๆ อย่างมีคุณภาพด้วยตนเอง การเปลี่ยนแปลงข้างต้นนี้สร้างผลกระทบ ต่อการดารงอยู่และการเจริญเติบโตของธุรกิจ องค์การธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันต่อเหตุการณ์ เทคโนโลยีที่เคยนามาใช้ในแต่ละกิจกรรมหน้าที่ทางธุรกิจในด้านการเงิน การตลาด การดาเนินงาน และทรพั ยากรบุคคล ได้รับความสนใจมากขน้ึ ในการนามาใช้เชิงกลยุทธ์ เพ่ือธารงรักษาความสามารถ ในการแข่งขันการประกอบธุรกิจ โดยกลยุทธ์ท่ีสาคัญที่ธุรกิจนิยมนามาใช้ประยุกต์ในปัจจุบัน ได้แก่ แรงผลักดันจากลูกค้า (customer driven) การแข่งขันระดับโลก (global competition) การ กาหนดขนาดที่เหมาะสม (right sizing) คุณภาพ (quality) และเทคโนโลยี (technology) โดยมี รายละเอยี ดดงั น้ี 1. แรงผลักดันจากลูกค้า การเปิดเสรีทางการค้าทาให้คู่แข่งขันเข้ามาอยู่ในตลาดเป็นจานวน มาก ลูกค้ามีสิทธิเสรีในการตัดสินใจซื้อ ส่งผลให้ธุรกิจต้องให้ความสาคัญกับลูกค้า โดยหาวิธีการด้วย

35 การศกึ ษาและวจิ ยั ตลาด เพ่ือสนองความต้องการของลูกค้า หรือการนาเทคโนโลยีมาบริการกับลูกค้า เพื่อใหล้ กู ค้าพงึ พอใจและได้รับความชน่ื ชมของลูกคา้ 2. การแข่งขันระดับโลก การเติบโตที่รวดเร็วและพัฒนาการที่ต่อเน่ืองของระบบเศรษฐกิจใน แตล่ ะประเทศ สง่ ผลใหห้ ลายธรุ กิจขยายตวั จนมขี อบเขตข้ามพรมแดน เกดิ บรษิ ัทข้ามชาติ การแข่งขัน กันทางธุรกจิ ไมใ่ ชเ่ พียงแคใ่ นประเทศ แตต่ ้องอยู่รอดบนเวทีระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์ จึงต้องใช้ท้ังกลยุทธ์ เชงิ รุกและเชงิ รบั เพ่ือให้เจรญิ เตบิ โตและแขง่ ขนั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. การกาหนดขนาดที่เหมาะสม ขนาดในที่น้ีหมายถึงรูปแบบโครงสร้างองค์การ การ เปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลตอ่ การปรบั ตวั ของธรุ กิจ บางองค์การหันมาใช้ทรัพยากร ร่วมกัน เพ่ือลดความฟุมเฟือย นอกจากนี้แล้วยังมีแนวคิดที่เรียกว่า องค์การแห่งการเรียนรู้ พัฒนา บุคลากรให้เกิดความคิดที่เป็นระบบ พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ทาให้องค์การสามารถ ตอบสนองตอ่ สงิ่ เรา้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและรวดเรว็ 4. คุณภาพ ผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่มีคุณภาพ เกิดจากการบริหารงานที่ใช้หลักการ แนวคิดท่ีพยายามพัฒนาคุณภาพและบริการของตน เพราะลูกค้าไม่เพียงแค่ต้องการผลิตภัณฑ์หรือ บริการเท่าน้ัน แต่เขาต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพเหมาะสมกับเงินท่ีเสียไป หลายธุรกิจ จึงนาแนวคิดสมัยใหม่เข้ามาใช้ เช่น การจัดการคุณภาพโดยรวม (total quality management: TQM) การผลิตแบบไม่มีข้อผิดพลาด (zero defect) และคุณภาพจากแหล่งกาเนิด (quality at source) เป็นต้น 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้งานก็เพ่ือประโยชน์ในการ ผลิตภาพโดยรวม การลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาดาเนินงานให้สั้นลง แต่เทคโนโลยีสารสนเทศ กลายเป็นเคร่ืองมือท่ีสาคัญเชิงกลยุทธ์ ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ทาให้กลายเป็นผู้นา ดา้ นเทคโนโลยีของธรุ กิจ และยังชว่ ยสร้างภาพลักษณ์ท่ดี ีในความรู้สกึ ของผบู้ ริโภค กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเกิดความเข้มแข็งและสามารถปรับตัวอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจึงต้องกาหนดกลยุทธ์และดาเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อธารงธุรกิจให้คงอยู่ได้ ผู้ประกอบการต้องศึกษาและทาความเข้าใจท้ังในเร่ืองเทคโนโลยีสารสนเทศกับกลยุทธ์สาหรับธุรกิจ รวมไปถึงการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีกับงานธุรกิจด้านต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจดาเนินต่อไปได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ตวั อย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยใี นการประกอบธรุ กิจ เทคโนโลยีในที่นี้ คอื เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการส่ือสาร มีหน่วยงานท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน นาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น คอมพิวเตอร์กับการใช้ งานภาครัฐ คอมพิวเตอร์กับภาคธุรกิจ คอมพิวเตอร์กับการศึกษา คอมพิวเตอร์กับธุรกรรมต่าง ๆ คอมพิวเตอร์กับงานวิจัยวิทยาศาสตร์ การแพทย์ วิศวกรรม คอมพิวเตอร์กับงานด้านแผนที่และ สารสนเทศภูมิศาสตร์ เป็นต้น การใช้เทคโนโลยีในงานด้านต่าง ๆ สาหรับการประกอบธุรกิจ ผปู้ ระกอบการยคุ ใหม่หันมาให้ความสาคัญมากขึ้น เรียนรู้ท่ีจะใช้เทคโนโลยีเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการ ประกอบธุรกิจของตนเองให้ได้เปรียบในเชิงการแข่งขันในภาวะท่ีมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง จะ

36 สังเกตได้วา่ มีบทเรียนออนไลนต์ า่ ง ๆ หรอื มีผู้เชยี่ วชาญต่าง ๆ มากมาย พยายามที่จะสร้างองค์ความรู้ ในเรื่องการใช้เทคโนโลยีสาหรับการประกอบธุรกิจ จะเห็นได้ชัดเจนในด้านการตลาดท่ีมีผู้เชี่ยวชาญ ต่าง ๆ ออกมาสอนวิธีการหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมาย ดังตัวอย่างของผู้ท่ีออกมาประกอบธุรกิจโดย อาศยั เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยมีรายละเอียดดงั นี้ 1. ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz กล่าวไว้ว่า “ยุคเกษตรกรรมความมั่งคั่งอยู่ที่เจ้าของท่ีดิน ยุค อุตสาหกรรมความมั่งคั่งอยู่ที่โรงงาน และยุคข้อมูลข่าวสารความม่ังคั่งทั้งหมดอยู่ท่ีคนท่ีเป็นเจ้าของ ขอ้ มูล” หากในยคุ นเี้ ราเป็นคนทีม่ ีองคค์ วามรู้ อย่าดูถูกความรู้อันเล็กน้อยของตนเอง อาจจะทาเงินได้ ไม่น้อย คุณอาจจะมีความรู้ในด้านทักษะ ศิลปะ กีฬา ภาษา การค้าขาย หรือแม้แต่การทาอาหาร ง่าย ๆ เป็นต้น จากตัวอย่างน้ีได้ประยุกต์นาเอาองค์ความรู้ท่ีตนเองมีมาสร้างเป็นคอร์สออนไลน์ กลายเปน็ รายได้หลักแสนบาทในเวลาเพยี งอันสน้ั ตวั อยา่ ง Page Facebook ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz แสดงดังภาพท่ี 2.11 ภาพท่ี 2.11 Page Facebook ผกู้ องเบนซ์-Capt.Benz ที่มา (ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz, 2562) 2. โปรเชน-สหรัฐ ผสู้ รา้ งแรงบนั ดาลใจให้คนรุ่นใหม่ กล่าวไว้ว่า ชีวิตไม่ได้มีแค่ความสาเร็จ ยัง มีเรื่องของการพัฒนาตนเองและการให้ ถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้ โปรเชน-สหรัฐ มานิตยกุล กล่าวว่า อยากกลับไปแก้ไขสิ่งท่ีเขาเคยทา นักกอล์ฟ แชมป์ตีไกล 3 ปีซ้อนคนนี้ ปัจจุบัน หันไปเอาดีทางด้านการส่ือสารและโฆษณา เป็นเจ้าของบริษัท Chain Project จากัด สอนจิตวิทยา กอล์ฟท่ีมหาวิทยาลัยรามคาแหง เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ล่าสุดออกหนังสือเร่ือง (ก่อน) เวลาสุดท้าย คู่มอื การใชช้ วี ิตอย่างมีความหมาย ก่อนเวลาสดุ ทา้ ยจะมาถึง (กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, 2561) ตัวอย่าง Page Facebook Pro Chain-Saharath แสดงดังภาพท่ี 2.12

37 ภาพที่ 2.12 Page Facebook Pro Chain-Saharath ทีม่ า (โปรเชน สหรัฐ, 2562) 3. สริ ิลักษณ์ ตันศริ ิ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เป็นนักพูดในด้านการพัฒนาตนเอง สร้างแรง บนั ดาลใจ เป็นนักปลกุ พลังชวี ิต หรือนักโมติเวทหญิงคนแรกของเมืองไทยท่ีได้รับเชิญจากองค์กรใหญ่ ๆ ท่ัวเมืองไทยไปพูดปลุกพลังยักษ์ ปลุกพลังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานนับแสนคนจนเกิด การเปล่ยี นแปลงท่ดี ขี ้นึ มเี พจเฟสบคุ ที่ชื่อว่า Coach Siriluck Tansiri จากตัวอย่างน้ีจะเห็นได้ว่า เธอ ได้ใช้โอกาสความสามารถของตนเองที่มีโดยนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการประกอบธุรกิจ จนเธอเอง เป็นที่รู้จักกับคนอย่างกว้างขวางจากส่ือดังกล่าว (Coach Siriluck, 2560, หน้า 237) ตัวอย่าง Page Facebook Coach Siriluck Tansiri แสดงดงั ภาพที่ 2.13 ภาพที่ 2.13 Page Facebook Coach Siriluck Tansiri ท่มี า (สริ ิลักษณ์ ตันศริ ิ, 2562)

38 นอกตัวอย่างนีแ้ ลว้ ปจั จุบนั การสรา้ งธรุ กิจสตาร์ทอัพ (startups) เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในยุค ดิจิทัล ยิ่งการที่ติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างเป็นประจาแล้ว เราแทบไม่ต้องทา การตลาดเลย เพราะเราสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือถ่ายทอดให้ทุกคนรู้จักธุรกิจของเราให้ดี ยิ่งขนึ้ ได้ ถ้าจะให้ยกตวั อยา่ งธุรกิจแนวคิดดี ๆ ซ่ึงใช้เทคโนโลยีเป็นตัวแปรสาคัญได้อย่างจัดเต็ม คงจะ เป็นแกร๊บ(grab) หรอื อเู บอร์ (uber) ซ่งึ เปน็ แอปพลเิ คชันเรียกรถโดยสารท่ีทง้ั คนไทยและชาวต่างชาติ รจู้ ักเปน็ อยา่ งดี เพราะผู้ก่อต้ังจับความต้องการของลูกค้าท่ียังไม่มีใครมองเห็น มาผูกเข้ากับเทคโนโลยี ของสมาร์ทโฟนท่ีกาลังได้รับความนิยม เสริมทับด้วยความปลอดภัยท่ีสามารถการันตีได้ จึงได้กระแส ตอบรับอย่างล้นหลาม สาหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในไทยที่ถือกาเนิดข้ึนจากแนวความคิดดี ๆ เช่น ไวบัส (Viabus) แอปพลเิ คชนั บอกเวลารถเมล์ ฟกิ ส์ซ่ี (Fixzy) แอปพลิเคชันหาช่างซ่อมทุกอย่างบนโลก เทค มที วั ร์ (TakeMeTour) ใครก็เปน็ ไกด์พาเที่ยวไทยได้ โฟลวแอคเคาท์ (FlowAccount) ทาบัญชีง่าย ๆ และ วิชเบียร์ (WishBeer) แหล่งรวมเบียร์จากทั่วทุกมุมโลก เป็นต้น ตัวอย่างแอปพลิเคชันธุรกิจ สตาร์ทอพั แสดงดังภาพท่ี 2.14 ภาพท่ี 2.14 ตวั อย่างแอปพลเิ คชนั ธรุ กิจ startups ท่ีมา (โกรทบี ดาต้า ไซแอนท์ ฟอร์ ไทยพเี พิล้ , 2560) จากตัวย่างเหน็ ไดช้ ดั เจนกับความสาเร็จที่แต่ละท่านได้รับจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการ ประกอบธุรกิจของตนเอง มีองค์กรธุรกิจอีกมากมายนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ในระบบ สานักงานอัตโนมัติมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่การพิมพ์เอกสาร กรอกฟอร์ม การคานวณ งานนาเสนอ เชน่ โปรแกรมชุดสานกั งาน รวมไปถงึ การบนั ทกึ เอกสารตา่ ง ๆ ตัง้ แตก่ ารรับออเดอร์ การขาย เก็บเงิน ลงบัญชี และอืน่ ๆ ในโปรแกรมบัญชีและการขาย ตลอดจนโปรแกรมประเภทเอนเตอร์ไพรส์ รีซอร์ส แพลนน่ิง (enterprise resource planning) หรืออีอาร์พี (ERP) และอ่ืน ๆ แต่ก็มักจะมีปัญหาเร่ือง การเช่ือมโยงข้อมลู กนั ระหวา่ งหนว่ ยงานหรอื ระหวา่ งโปรแกรม ปญั หาตอ่ มา คือ การปรับปรุงกระบวนการทางานท้ังหมด ให้เป็นแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการตลาด การสั่งซ้ือ การผลิต การขาย การบันทึกบัญชี การบริการหลังการขาย ส่งต่อข้อมูลชุดเดียวถึงกันหมด ปัญหาสุดท้าย คือ การเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่าดิจิทัล ทรานส์ฟอร์มเมชัน (digital transformation) จะเลย ไปกว่านั้น คือ ถึงขั้นเปลี่ยนรูปแบบการทาธุรกิจไปจากเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม

39 จิตวทิ ยา และความตอ้ งการลูกค้าที่เปลี่ยนไปด้วย เช่น ธุรกิจส่ิงพิมพ์ เผยผลิตหนังสือขายลูกค้าเป็นเล่ม ๆ ก็ต้องเปล่ียนมาเป็นการทาดิจิทัล คอนเทนต์ (digital content) หรือการประกอบธุรกิจคอร์สออนไลน์ หรือแม้แตต่ วั อย่างที่ได้ยกมาแล้วขา้ งต้น (วศิน เพ่ิมทรพั ย์, 2561, หน้า 31-32) ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้งานทางธุรกิจในด้านใด ๆ ก็ตาม ก็ต้องอยู่ในขอบเขตนโยบายหรือ อยู่ภายใต้หนว่ ยงานทม่ี ีหน้าทด่ี แู ลสง่ เสรมิ เทคโนโลยีสารสนเทศ หน่วยงานทชี่ ว่ ยส่งเสริมสนบั สนุนการ ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ประเทศไทยได้ให้ความสาคัญกับเร่ืองนี้มาก จึงมีแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน หน่วยงานท่ีกากับดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม โดยมี หนว่ ยงานที่ดูแล โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี (วศนิ เพ่ิมทรัพย์, 2561, หน้า 177) 1. สานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (Office of National Digital Economy: ONDE) มีหนา้ ที่จดั ทาร่างนโยบายและแผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพัฒนาดิจิทัลเพ่ือ เศรษฐกิจและสังคม กิจกรรมหลักจะเป็นการวางแผนแม่บท และร่างกฎหมายต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ศกึ ษารายละเอยี ดไดท้ ่ีเว็บไซต์ www.onde.go.th 2. สานักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) หรือ สพธอ. (Electronic Transactions Development Agency: ETDA) มีหน้าท่ีพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการทา ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานท่ีสอดคล้องกัน รวมถึง มาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารทมี่ ง่ั คงปลอดภยั กิจกรรมของสานักงานหลัก ๆ จะเน้น ท่ีเกี่ยวข้องกับการวางระบบอีคอมเมิร์ซและมาตรฐานการชาระเงิน และการทาธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ ศึกษารายละเอยี ดได้ที่เว็บไซต์ www.etda.or.th 3. สานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Promotion Agency; DEPA) มี วัตถุประสงค์เพ่ือส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล พัฒนา และส่งเสริมให้เกิดการนาไปใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และ ความมั่นคงของประเทศ กิจกรรมหลักของสานักงานจะเน้นท่ีการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่ ภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมหรือจูงใจให้เกิดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากข้ึน ศึกษารายละเอียดได้ท่ี www.depa.or.th แต่ละหน่วยงานจะมหี นา้ ท่ีที่คลา้ ยกันตรงท่สี ่งเสริมและสนับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ความปลอดภัย ดังน้ันหากเราจะประยุกต์ใช้งาน เทคโนโลยสี ารสนเทศสงิ่ ที่จะละเลยไปไมไ่ ดค้ อื หน่วยงานทจี่ ะค่อยส่งเสริมสนับสนุนการทางานของเรา หรือคอยดแู ลอานวยความสะดวก หรอื แมแ้ ตก่ ฎหมายท่เี กี่ยวข้องก็ตามล้วนเป็นสิ่งท่ีควรทราบและถือ ปฏิบัติตามอยา่ งเครง่ ครดั เพ่อื ให้การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศเปน็ ไปตามนโยบายของประเทศ

40 สรุปท้ายบท เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นการผสมผสานประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการผลิต การ จัดการ การจัดเก็บ การส่ือสาร และการเผยแพร่ข้อมูล สามารถแยกย่อยเทคโนโลยีออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ เทคโนโลยีดา้ นฮาร์ดแวร์ ด้านซอฟต์แวร์ ด้านการจัดการข้อมูล และด้านเครือข่ายโทรคมนาคม ผู้ประกอบการจะนาเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในการประกอบธุรกิจจะต้องคานึงถึงการบริหารงาน การ วางแผนงาน การจัดการ การตัดสินใจ ผู้บริหารต้องมีพ้ืนฐานองค์ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจ กาหนดกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อจัดการความ ท้าทายทเ่ี กดิ ขน้ึ ในยคุ ที่ตอ้ งพ่ึงพาเทคโนโลยสี ารสนเทศ ซ่ึงกลยุทธธ์ ุรกิจออกเป็น 3 ระดับ คือ กลยุทธ์ ระดับบริษัทหรือองค์การ กลยุทธ์ระดับธุรกิจ และกลยุทธ์ระดับหน้าที่ ระบบสารสนเทศจึงได้รับ ผลกระทบจากมิติด้านการบริหาร และในส่วนของมิติด้านองค์กรจะประกอบด้วย กลยุทธ์องค์กร คน โครงสร้าง กระบวนการทางธรุ กจิ วฒั นธรรมการเมอื ง และสภาพแวดลอ้ มต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ฉะน้ัน องค์กรจึงต้องเรียนรู้การนาระบบสารสนเทศเข้ามาใช้งาน อาจกล่าวโดยรวมถึงความสัมพันธ์ของ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ระบบสารสนเทศ องค์กร และการบรหิ าร เทคโนโลยีสารสนเทศยังมีบทบาทสาคัญในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการศึกษา ด้านการ ส่ือสารโทรคมนาคม ด้านสารธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ สาหรับการ ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโนโลยีมาช่วยในการประกอบธุรกิจ ก็สามารถทาได้เช่นกัน ดังตัวอย่างในบทเรียนท่ี ไดก้ ล่าวถงึ ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz โปรเชน-สหรัฐ สิรลิ กั ษณ์ ตันศิริ นอกจากนั้นผู้ประกอบการปัจจุบันได้อาศัยเคร่ืองมือเทคโนโลยีมาช่วยใน การสร้างธุรกิจ Startups เร่มิ เป็นทีน่ ิยมมากขึ้นในยุคดิจิทัล ย่ิงการที่ติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างเป็น ประจาแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีอิสระในการดาเนินกิจกรรมอะไรก็ได้ด้วยเทคโนโลยี การใช้ เทคโนโลยียังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องคือ สานักงานคณะกรรมการ ดจิ ิทลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ สานักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และสานักงานส่งเสริม เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั

41 คาถามท้ายบท กจิ กรรมด้านทฤษฎี 1. จงอธิบายความหมายและความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. เทคโนโลยสี ารสนเทศประกอบด้วยสว่ นย่อย 4 สว่ น ไดแ้ ก่อะไรบ้าง 3. จงอธิบายคาวา่ เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ 4. จงอธิบายคาวา่ เทคโนโลยีการส่อื สารและโทรคมนาคม 5. อธิบายวา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศกับการพัฒนาประเทศในดา้ นเศรษฐกจิ เก่ียวข้องการประกอบธรุ กจิ ไดอ้ ยา่ งไร 6. จงอภิปรายว่าเทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศในแต่ละด้านมีคุณค่าต่อการพัฒนา ประเทศอย่างไร 7. จงอธบิ ายวธิ ีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการพัฒนากลยทุ ธ์ธรุ กจิ 8. จงอธิบายวา่ กลยทุ ธธ์ รุ กิจ แบง่ ออกเปน็ ก่รี ะดับ อะไรบา้ ง 9. จงยกตัวอยา่ งผู้ที่ประสบความสาเร็จจากการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีในการประกอบธุรกจิ นอกเหนือจากบทเรยี น 10.ถา้ นักศกึ ษาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ จะมแี นวทางในการนาเทคโนโลยีเข้าไปใช้งานในกระบวนการธรุ กจิ เรือ่ งใดบ้าง เพราะเหตใุ ด กิจกรรมดา้ นปฏิบตั ิ 1. แบง่ กลุม่ ผู้เรียนให้ยกตัวอย่างผทู้ ป่ี ระสบความสาเร็จจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการประกอบ ธุรกิจ โดยนาคาตอบจากข้อ 9 กิจกรรมด้านทฤษฎี มาร่วมกันวิเคราะห์ภายในกลุ่ม โดย เปรียบเทียบให้ชัดเจนว่ามีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแตกต่างกันอย่างไร นาเสนอข้อมูลหน้าช้ัน เรียนโดยเลือกใชส้ ื่อนาเสนออิเล็กทรอนิกส์ต่อไปน้ี 1.1 CANVA 1.2 BUNKRAPP 1.3 HAIKUDECK 1.4 Prezi 1.5 Slidesnack

42 เอกสารอ้างองิ กรุงเทพธรุ กจิ ออนไลน.์ (2561). โปรเชน-สหรัฐ ผสู้ ร้างแรงบันดาลใจใหค้ นร่นุ ใหม่. ค้นเมือ่ กุมภาพันธ์ 10, 2562, จาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/790087. โกรทบี ดาต้า ไซแอนท์ ฟอร์ ไทยพีเพล้ิ . (2560). 5 ธรุ กิจ Startups ในไทย. ค้นเมอ่ื กมุ ภาพันธ์ 10, 2562, จาก https://www.growthbee.com/thai-startups-idea/. โปรเชน สหรัฐ. (2562). Page Facebook Pro Chain-Saharath. คน้ เม่อื กมุ ภาพนั ธ์ 10, 2562, จาก https://www.facebook.com/ProSaharath/. ผู้กองเบนซ์-Capt.Benz. (2562). Page Facebook ผ้กู องเบนซ์-Capt.Benz. ค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 10, 2562, จาก https://www.facebook.com/polcaptbenz/?epa=SEARCH_BOX. มฑปุ ายาส ทองมาก. (2559). ระบบสารสนเทศเพือ่ การจัดการ การจัดการความท้าทายในยุคดจิ ิทัล. ปทมุ ธานี: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. วศิน เพมิ่ ทรัพย์. (2561). ความรู้เบ้อื งต้นเก่ยี วกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรงุ เทพฯ: โปรวชิ ่ัน. สริ ิลักษณ์ ตนั ศริ ิ. (2560). บทความ Coach Siriluck. ค้นเมื่อ กุมภาพนั ธ์ 10, 2562, จาก https://www.coachsiriluckonline.com/. สริ ิลักษณ์ ตันศิริ. (2562). Page Facebook Coach Siriluck Tansiri. ค้นเมอ่ื กุมภาพันธ์ 10, 2562, จาก https://www.facebook.com/CoachSiriluck.Page/?epa=SEARCH_BOX. สพุ รรษา ยวงทอง. (2557). ความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. กรงุ เทพฯ: โปรวิชน่ั . โอภาส เอย่ี มสริ วิ งศ์. (2560). ระบบสารสนเทศเพอื่ การจัดการ. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชน่ั . ________. (2561). วทิ ยาการคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยูเคชัน่ .

แผนบรหิ ารการสอนประจาบทท่ี 3 เทคโนโลยีด้านซอฟต์แวรส์ าหรับการประกอบธุรกจิ หัวข้อเนื้อหา 1. ความหมายของเทคโนโลยดี า้ นซอฟต์แวร์ 2. องค์ประกอบของเทคโนโลยดี ้านซอฟตแ์ วร์ 3. ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบตั ิการและหลกั การทํางาน 4. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตส์ ําหรับการประกอบธุรกจิ วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายความหมายของเทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ได้ 2. จําแนกองคป์ ระกอบของเทคโนโลยซี อฟต์แวร์ได้ 3. อธิบายหลกั การทาํ งานของระบบปฏบิ ัติการได้ 4. สาธติ วธิ ีการใช้ซอฟตแ์ วร์ประยุกตส์ ําหรบั การประกอบธรุ กิจได้ วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. วธิ ีสอน 1.1 วิธสี อนแบบบรรยาย 1.2 วธิ สี อนโดยใช้การอภิปรายกล่มุ ย่อย 1.3 วิธีสอนโดยใช้การสาธิต 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน 2.1 ผู้สอนตั้งคําถามว่า ระบบปฏิบัติบนโทรศัพท์มือแตกต่างจากระบบปฏิบัติการบน คอมพิวเตอรอ์ ยา่ งไร ผ้เู รยี นตอบคาํ ถามในลักษณะแลกเปล่ยี นความคดิ เห็น 2.2 ผสู้ อนบรรยายเรอื่ งตอ่ ไปนี้ 2.2.1 ความหมายของเทคโนโลยีดา้ นซอฟต์แวร์ 2.2.2 องค์ประกอบของเทคโนโลยดี า้ นซอฟต์แวร์ 2.2.3 ซอฟตแ์ วรร์ ะบบปฏิบตั กิ ารและหลักการทาํ งาน 2.2.4 ซอฟตแ์ วร์ประยุกตส์ าํ หรบั การประกอบธรุ กจิ 2.3 แบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อย จํานวน 4 กลุ่ม อภิปรายกลุ่มและนําเสนอหน้าช้ันเรียน โดยมีใบงานให้อภิปรายเรื่อง ระบบปฏิบัติการ android กับ iOS มีลักษณะเป็นอย่างไรและแตกต่าง กันอยา่ งไร พรอ้ มอภิปรายถงึ ขอ้ ดขี ้อเสีย

44 2.4 ผู้สอนแสดงวิธีการใช้งานโปรแกรมประยุกต์ทางธุรกิจ โดยการสาธิตการใช้งาน เบ้ืองตน้ และให้ผู้เรียนสาธิตและปฏิบัติตามจากใบงานฝึกปฏิบัติ เรื่อง โปรแกรมประยุกต์ท่ีเหมาะสม กบั งานธุรกจิ 2.5 ผู้เรียนทุกคนศึกษาเนื้อหาที่เรียนพร้อมเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนใน กลุ่มและตอบคาํ ถามทา้ ยบท ส่อื การเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน รายวิชา การใชโ้ ปรแกรมประยกุ ต์ทางธรุ กิจ 2. โปรแกรมสําเร็จรปู Power Point ประกอบการสอน 2.1 ความหมายของเทคโนโลยดี า้ นซอฟตแ์ วร์ 2.2 องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีด้านซอฟตแ์ วร์ 2.3 ซอฟตแ์ วร์ระบบปฏิบัติการและหลกั การทาํ งาน 2.4 ซอฟตแ์ วร์ประยุกตส์ ําหรับการประกอบธรุ กจิ 3. โปรแกรม web browser เพ่ือสบื ค้นข้อมูล 4. ใบงานฝกึ ปฏบิ ัติ เรอ่ื ง โปรแกรมประยุกต์ที่เหมาะสมกับงานธุรกจิ 5. ใบงานอภปิ รายกล่มุ เรอื่ ง ระบบปฏิบัติการ android กบั iOS มีลักษณะเปน็ อยา่ งไร และ แตกตา่ งกนั อย่างไร 6. บทเรียนออนไลน์ www.elearningbynirut.com/moodle/ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตจากพฤติกรรมการเรียน 2. สงั เกตการสนทนาและการอภิปราย 3. สังเกตการสืบค้นข้อมูลอภิปรายกลุ่ม 4. ตรวจผลงานการสาธติ และฝกึ ปฏิบัตกิ ารใช้โปรแกรมประยุกต์ 5. ตรวจผลงานการตอบคําถามท้ายบท

45 บทท่ี 3 เทคโนโลยดี า้ นซอฟต์แวรส์ าหรบั การประกอบธุรกิจ เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ท่ีมเี พียงชิน้ สว่ นและอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ คงไม่แตกต่างจากเศษเหล็กหาก ปราศจากซอฟต์แวร์เข้าไปควบคุมการทํางานเพื่อปลุกชีวิตให้กับคอมพิวเตอร์เหล่านั้น โดยเฉพาะ ระบบปฏบิ ตั กิ าร ซึง่ เป็นซอฟต์แวร์ระบบท่ีมีความสําคัญอย่างมาก ระบบปฏิบัติการจะถูกโหลดเข้าไป ยังหน่วยความจาํ หลกั เมอื่ มีการเปิดเคร่อื งบ๊ทู อพั (boot up) จากนั้นจะฝังตัวอยู่ภายในหน่วยความจํา และคอยสนับสนุนการใช้งานอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้เราใช้งานโปรแกรมประยุกต์อ่ืน ๆ ได้อย่างราบร่ืน และบรรลุวัตถุประสงค์ของธุรกิจ ซอฟต์แวร์ถือได้ว่าเป็นชุดคําส่ังที่ทํางานตามท่ีเราต้องการเป็น นามธรรมไม่สามารถจับต้องได้ เทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเทคโนโลยีท่ี ก่อให้เกิดข้อมูลสารสนเทศในธุรกิจ เราในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล จะมีวิธีการเลือกใช้ ซอฟต์แวร์อย่างไรให้มีความเหมาะสมกับเรา มีความจําเป็นท่ีต้องรู้และเข้าใจหลักการทํางานของ เทคโนโลยดี า้ นซอฟตแ์ วร์ หากมคี วามเข้าใจก็จะสามารถเลือกใช้งานซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม อันจะส่งผลทําใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพสงู สุดในการบริหารจดั การธรุ กจิ ในบทน้ีจะอธิบายถึง ความหมายของเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์ องค์ประกอบของเทคโนโลยี ด้านซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการและหลักการทํางาน ซอฟต์แวร์ประยุกต์สําหรับการ ประกอบธรุ กจิ โดยมรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้ ความหมายของเทคโนโลยดี ้านซอฟตแ์ วร์ องค์ประกอบที่สําคัญของระบบคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และ บุคลากร ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์ถือว่าได้เป็นหัวใจสําคัญของการทํางานของอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันเราไม่ได้มีเฉพาะแค่เคร่ืองคอมพิวเตอร์เท่าน้ันท่ีจะมีไว้ใช้ทํางาน แต่ยังมี อุปกรณ์สมัยใหม่อีกมากมายที่เกิดขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน (smart phone) สมาร์ทวอร์ท (smart watch) กูเก้ิล กลาส (google glass) เป็นต้น ดังนั้น เทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์จึงมีความแตกต่างกัน ไปสําหรบั แตล่ ะอุปกรณ์ ผูเ้ ขียนไดร้ วบรวมความหมายของซอฟต์แวรไ์ ว้ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี วศนิ เพิม่ ทรพั ย์ (2561, หน้า 41) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ หมายถึง ชุดคําส่ังเพ่ือให้คอมพิวเตอร์ ทํางานตามที่เราต้องการ ซ่ึงเขียนขึ้นโดยนักเขียนโปรแกรม (programmer) หรือบางท่ีเรียกว่า นกั พฒั นาซอฟตแ์ วร์ (software developer) ศศลกั ษณ์ ทองขาวและคณะ (2558, หน้า 4) อธบิ ายวา่ ซอฟต์แวร์ หมายถึง ชุดคําส่ังที่บอกให้ คอมพิวเตอรร์ ู้วา่ จะตอ้ งประมวลผลข้อมูลอย่างไร เพือ่ ให้ได้ผลลัพธ์ในรปู แบบทีต่ อ้ งการ สุพรรษา ยวงทอง (2557, หน้า 49) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ หมายถึง ส่วนหน่ึงของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่บรรจุคําส่ังเพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถทํางานได้ตามท่ีเราต้องการ โดยปกติแล้วจะถูก สร้างโดยบุคคลท่ีเรียกว่า นักเขียนโปรแกรม หรอื บางท่ีเรียกว่านักพฒั นาซอฟตแ์ วร์

46 โอภาส เอ่ียมสิริวงศ์ (2554, หน้า 149) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ หมายถึง โปรแกรมต่าง ๆ ท่ี สามารถนํามาใช้เพื่อปฏิบัติงานและจัดการกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้างเพื่อให้สามารถทํางาน ร่วมกนั ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ อาจกลา่ วไดว้ ่า ซอฟตแ์ วร์ คอื ตวั ปลุกชวี ติ ให้กับอุปกรณฮ์ ารด์ แวร์ กล่าวโดยสรุปว่า ซอฟต์แวร์ หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคําส่ังที่มีความสําคัญต่ออุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ มีหนา้ ที่ประมวลผลข้อมูลและช่วยให้อุปกรณ์รอบข้างทํางานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพอ่ื ให้ได้ผลลัพธใ์ นรปู แบบท่ีตอ้ งการ ซง่ึ มีองค์ประกอบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ (operating system) และ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) ประเภทของซอฟต์แวร์ แสดงดงั ภาพที่ 3.1 ซอฟต์แวร์ (software) ซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (systems software) (application software) ภาพที่ 3.1 ประเภทของซอฟต์แวร์ ท่ีมา (สุพรรษา ยวงทอง, 2557, หน้า 98) องค์ประกอบของเทคโนโลยีด้านซอฟตแ์ วร์ การใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ จาํ เป็นต้องมีซอฟต์แวร์ท่ีทาํ งานอยู่ในเครื่องอุปกรณ์นั้น ๆ ซึ่งสามารถแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์ อาจเปรียบได้ว่าซอฟต์แวร์ระบบเป็น โปรแกรมท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งาน ส่วนซอฟต์แวร์ประยุกต์เป็นโปรแกรมที่เราใช้งาน ผู้เขียนได้ รวบรวมความหมายของซอฟตแ์ วร์ระบบไว้ โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี วศนิ เพิม่ ทรพั ย์ (2561, หนา้ 78) อธบิ ายว่า ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ หมายถึง โปรแกรมทใ่ี ชค้ วบคุมอุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ให้ทํางานได้อย่างราบรื่น อาจแบ่งได้เป็นระบบปฏิบัติการ และโปรแกรม อรรถประโยชน์ ศศลักษณ์ ทองขาวและคณะ (2558, หน้า 5) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง โปรแกรมที่ ช่วยให้ผู้ใช้งานติดต่อสื่อสารกับซอฟต์แวร์ประยุกต์ และช่วยให้ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถ ติดต่อส่ือสารกับฮาร์ดแวร์เครื่องได้ ซอฟต์แวร์ระบบเป็นซอฟต์แวร์เบ้ืองหลังการดําเนินงานของ คอมพวิ เตอร์ ชว่ ยใหค้ อมพิวเตอรจ์ ัดการทรัพยากรภายในเครอ่ื งได้ สุพรรษา ยวงทอง (2557, หน้า 49) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง โปรแกรมท่ีทํา หน้าท่ีควบคุมระบบการทาํ งานของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ตวั อย่างที่รจู้ ักกันดี คือ ระบบปฏบิ ตั กิ าร

47 โอภาส เอ่ียมสิริวงศ์ (2554, หน้า 154) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง โปรแกรมท่ีทํา หน้าท่ีควบคุมการทํางานระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นตัวกลางในการเช่ือมประสานหรือการติดต่อกับ ผใู้ ช้ (interface) ระหวา่ งผูใ้ ชก้ บั คอมพวิ เตอร์ โอภาส เอ่ียมสิริวงศ์ (2561, หน้า 208) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง โปรแกรมท่ีมี บทบาทสําคัญต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ทําหน้าท่ีควบคุมการทํางานของ ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละคอยอํานวยความสะดวกแกผ่ ใู้ ชเ้ พื่อโตต้ อบหรือสง่ั งานให้คอมพิวเตอรท์ ํางาน กลา่ วโดยสรุปว่า ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง โปรแกรมที่ทําหน้าที่ควบคุมการทํางานของระบบ คอมพวิ เตอรใ์ ห้ทํางานประสานกนั ระหวา่ งผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยในการจัดสรรทรัพยากรภายใน เครอ่ื งใหท้ าํ งานร่วมกนั ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ หรอื ทท่ี กุ คนเรียกว่า ระบบปฏิบัติการ ถึงแม้ว่าเราจะมี ระบบปฏิบัติการเป็นส่ือกลางในการทํางานแล้วก็ตาม แต่คอมพิวเตอร์ประเภทเดียวกันหรือต่างชนิด กันก็อาจจะใช้ระบบปฏิบัติการที่ไม่เหมือนกันได้ ซึ่งในปัจจุบันระบบปฏิบัติการท่ีนิยมใช้งาน เช่น วินโดวส์ เอกซ์พี โพรเฟสชันนอล (Windows XP Professional) วินโดวส์ เอกซ์พี โฮม เอดิชัน (Windows XP Home Edition) วินโดวส์ วิสต้า (Windows Vista) วินโดวส์ 7 (Windows 7) วนิ โดวส์ 8 (Windows 8) โอเอสเอก็ ซ์ OSX Linux อบุ ูนตุ ลินุกซ์ (Ubuntu Linux) เป็นต้น แต่ละรุ่น (version) น้ี บางครั้งเรียกระบบปฏิบัติการแต่ละตัวว่า แพลตฟอร์ม (platform) ลักษณะการทํางาน แบบข้ามแพลตฟอร์ม (cross platform application) แสดงดงั ภาพที่ 3.2 โปรแกรมประยุกต์ (Application) ระบบปฏิบตั กิ าร ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏบิ ัตกิ าร ระบบปฏิบตั กิ าร Platform A Platform B Platform C Platform D ภาพที่ 3.2 การทํางานแบบ cross platform application ทีม่ า (สุพรรษา ยวงทอง, 2557, หนา้ 126) สาํ หรับในส่วนของความหมายของ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ผู้เขียนได้รวบรวมความหมายไว้ โดยมี รายละเอยี ดดังนี้ พิษณุ ปุระศิริ (2556, หนา้ 25) อธบิ ายว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึง โปรแกรมท่ีประยุกต์ใช้ งานต่าง ๆ ให้เข้ากับชวี ติ ประจาํ วนั ของเรา หากเราทาํ งานด้านใดกเ็ พยี งแต่หาโปรแกรมท่เี หมาะสมไปตดิ ตั้ง ไพบูลย์ เกียรติโกมล และณัฏฐพันธ์ เขจรนันท์ (2551, หน้า 18) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถงึ ชดุ คาํ สงั่ ทถี่ ูกเขยี นขึ้นเพ่ือใช้ใหค้ อมพิวเตอร์ทําการประมวลผลตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยชุดคําสั่งนี้อาจ เป็นโปรแกรมสําเร็จรูปที่หาได้ตามท้องตลาด หรอื ผู้ใชอ้ าจจะพัฒนาข้นึ เองจากภาษาคอมพิวเตอร์ใดภาษาหน่ึง

48 วศนิ เพ่ิมทรัพย์ (2561, หน้า 41) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึง กลุ่มของซอฟต์แวร์ท่ี สามารถตดิ ต้ังไดใ้ นภายหลงั จากการติดตง้ั ระบบปฏบิ ตั กิ ารแล้ว ท้ังน้ีข้ึนอยู่กับความเหมาะสมและการ ประยุกต์ใช้งานเป็นหลัก โดยปกติจะมุ่งใช้กับงานเฉพาะด้าน เช่น งานบัญชี งานด้านเอกสาร งานควบคุมสนิ คา้ คงคลัง เปน็ ต้น ศศลักษณ์ ทองขาวและคณะ (2558, หน้า 5) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึง ซอฟต์แวร์สําหรับผู้ใช้งาน ซ่ึงประกอบด้วยซอฟต์แวร์ประยุกต์พ้ืนฐาน ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน และโมบายแอปพลิเคชนั สุพรรษา ยวงทอง (2557, หน้า 49) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึง กลุ่มซอฟต์แวร์ท่ี สามารถติดตั้งได้ในภายหลังท้ังนี้ข้ึนอยู่กับความเหมาะสมและการประยุกต์ใช้งานเป็นหลัก เช่น งานด้าน บญั ชี งานด้านเอกสาร และงานควบคมุ สินคา้ คงคลัง เป็นตน้ ซึ่งจะมีบริษัทผู้ผลิตข้ึนมาเพอ่ื จําหน่ายโดยตรง หรือใหใ้ ช้โดยไมเ่ สียค่าใช้จา่ ย นอกจากนย้ี งั สามารถจ้างเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะหรอื เขียนข้ึนเองกไ็ ด้ โอภาส เอ่ียมสิริวงศ์ (2561, หน้า 208) อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึง โปแกรมใด ๆ ท่ี นํามาใช้เป็นเครื่องมือเพ่ือปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โปรแกรมชุดสํานักงาน (MS-Office) เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ท่ีได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ประกอบด้วยโปรแกรมประมวลผล คํา โปรแกรมตารางคํานวณ โปรแกรมนําเสนอ และโปรแกรมจัดการฐานข้อมลู เปน็ ต้น กล่าวโดยสรุปว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์ หมายถึง โปรแกรมชุดคําส่ังที่ติดต้ังภายหลังจากติดต้ัง ระบบปฏิบัติการ มีลักษณะท่ีผู้ใช้นํามาประยุกต์ใช้งานท่ัวไป และเฉพาะด้าน อาจจะเป็นงานจําพวก งานดา้ นบัญชี งานดา้ นเอกสาร และงานควบคุมสินค้าคงคลัง ทั้งนี้โปรแกรมดังกล่าวอาจมาในรูปของ โปรแกรมสาํ เร็จรูปหรือส่งั ให้เขียนข้นึ มาเฉพาะด้าน ตัวอยา่ งซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ แสดงดังภาพท่ี 3.3 ภาพท่ี 3.3 ตัวอยา่ งซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ ทม่ี า (เทคโนโลยี ดูเนีย, 2558) ซอฟต์แวรร์ ะบบปฏิบตั กิ ารและหลักการทางาน การเริ่มต้นการทํางานของคอมพิวเตอร์หรือเรียกว่า บูทอัพ (boot up) ก่อนที่เคร่ือง คอมพิวเตอร์จะทํางานได้น้ันจะต้องนําเอาระบบปฏิบัติการเข้าไปเก็บไว้ยังหน่วยความจําของเครื่อง เสียก่อน กระบวนการนี้เรียกว่า การบูทเครื่อง (Boot) ซึ่งจะเร่ิมทํางานทันทีตั้งแต่เปิดสวิทซ์เคร่ืองมี ขน้ั ตอนท่ีพอสรปุ ได้ดังนี้ (สพุ รรษา ยวงทอง, 2557, หน้า 127-128)

49 1. พาวเวอร์ซัพพลาย (power supply) ส่งสัญญาณไปให้ซีพียูเริ่มทํางาน ทําหน้าท่ีจ่ายพลังงาน ไฟฟ้าไปให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยจะเริ่มต้นทํางานทันทีเม่ือกดปุ่มเปิดเคร่ือง และเม่ือ เรม่ิ ทํางานกจ็ ะมสี ัญญาณส่งไปที่หน่วยประมวลผลกลาง (central processing unit) หรือซีพียู (CPU) 2. ซพี ียูจะสงั่ ให้ไบออสทํางาน ทันทที ่กี ระแสไฟฟา้ จา่ ยมายังคอมพิวเตอร์และมีสัญญาณให้เร่ิม ทํางาน หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียูจะพยายามเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในไบออส เพื่อทํางานตาม ชดุ คําส่ังท่ีเกบ็ ไว้โดยทันที 3. เริ่มทํางานตามกระบวนการเพื่อตรวจเช็คอุปกรณ์ต่าง ๆ (power on self-test) หรือเรียกว่า โพสต์ (POST) เป็นโปรแกรมส่วนหน่ึงในไบออส (BIOS) ซ่ึงทําหน้าท่ีตรวจสอบความพร้อมของ อุปกรณ์ท่ีติดตั้งอยู่ในเคร่ืองไม่ว่าจะเป็นเมนบอร์ด แรม ซีพียู รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงอ่ืน ๆ เช่น คยี บ์ อร์ด เมาส์ ซ่งึ สามารถสังเกตผลการตรวจสอบน้ีได้ทั้งจากข้อความที่ปรากฏบนจอภาพในระหว่าง การบทู เคร่อื ง และจากเสียงสญั ญาณท่คี อมพิวเตอรส์ ่งออกมา โดยปกติถา้ การตรวจสอบเรียบร้อยและ ไม่มีปัญหาใด ๆ ก็จะส่งเสียงสัญญาณดังปี๊บส้ัน ๆ 1 คร้ัง แต่หากมีอาการผิดปกติจะส่งสัญญาณที่มี รหสั เสียงสั้นและยาวตา่ งกนั แลว้ แตข่ ้อผดิ พลาด (error) 4. ผลลัพธ์จากกระบวนการโพสต์ จะถูกนําไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในซีมอส ข้อมูลของ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งแล้ว การกําหนดค่าต่าง ๆ ของเครื่อง (configuration) จะเก็บอยู่ในหน่วยความจํา ทีเ่ รียกวา่ ซมี อส (CMOS) ซง่ึ ใช้กระแสไฟฟา้ ปรมิ าณเล็กน้อยในการหล่อเลี้ยงโดยใช้แบตเตอร์รี่ตัวเล็ก บนเมนบอร์ดเพื่อให้เครื่องสามารถจําค่าต่าง ๆ ไว้ได้ ผลลัพธ์จากกระบวนการโพสต์ จะถูกนํามา ตรวจสอบกบั ขอ้ มูลในซีมอส ถา้ ถูกตอ้ งตรงกันก็ทํางานต่อไป ไม่เชน่ นัน้ ตอ้ งแจ้งผใู้ ช้ให้แก้ไขข้อมูลก่อน 5. ไบออสจะอ่านโปรแกรมสําหรับบูทจากฮาร์ดดิสก์หรือซีดี ไบออสจะเข้าไปอ่านโปรแกรม สําหรับบูทระบบปฏิบัติการจากเซคเตอร์ (sector) ของฮาร์ดดิสก์ (hard disk) หรือซีดี (CD) ซึ่ง สามารถต้ังค่าไบออสได้ว่าจะให้บูทเครื่องจากอุปกรณ์ตัวใดก่อนก็ได้ โดยท่ีไบออสจะมีความสามารถ ในการตดิ ตอ่ กับอปุ กรณเ์ หลา่ นน้ั ได้ 6. โปรแกรมส่วนสําคัญจะถูกถ่ายค่าลงหน่วยความจําแรม (RAM) เมื่อไบออสรู้จักระบบไฟล์ ของไดร์ฟที่บูทได้แล้วก็จะไปอ่านโปรแกรมส่วนสําคัญของระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า เคอร์เนล (kernel) เข้ามาเกบ็ ในหน่วยความจาํ หลกั หรอื แรมของคอมพวิ เตอรเ์ สียก่อน 7. ระบบปฏิบัติการเข้าควบคุมเคร่ืองและแสดงผลลัพธ์ เคอร์เนลท่ีถูกถ่ายโอนลง หนว่ ยความจาํ นั้นจะเข้าไปควบคมุ การทาํ งานของคอมพิวเตอร์โดยรวมและโหลดการกําหนดค่าต่าง ๆ พร้อมท้ังแสดงผลออกมาที่หน้าจอเดสทอป (desktop) ของผ้ใู ชเ้ พื่อรอรับคําส่งั การทาํ งานต่อไป การเร่ิมต้นการทํางานของระบบปฏิบัติการ เรียกว่า การบูทระบบ (booting) มี 2 วิธี ได้แก่ วอร์มบูท (warm boot) และโคลด์บูท (cold boot) ซึ่งวอร์มบูท เป็นการทําให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ท่ีกาํ ลังใชง้ านอยู่เริม่ ต้นการทาํ งานใหมอ่ กี ครั้ง โดยไมม่ ีการกดปุ่มสวิตช์ ปิด-เปิด ซ่ึงทําได้หลายวิธี เช่น การรีสตาร์ทเคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยการกดปุ่ม คอนโทรล (Ctrl) อัลเทอร์เนต (Alt) และ ดีลีท (Del) บนแป้นพิมพ์พร้อมกนั ส่วนการโคลด์บูท เป็นการเร่ิมต้นการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่หลังจากปิดเครื่องไป แล้ว ผู้ใช้มักปฏิสัมพันธ์กับระบบปฏิบัติการผ่านทางส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้เสมอ

50 ระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ได้จัดเตรียมพื้นท่ีท่ีเรียกว่า เดสก์ท็อป (desktop) สําหรับให้ผู้ใช้เข้าถึง ทรัพยากรคอมพวิ เตอรแ์ ละจัดเตรยี มสว่ นตอ่ ประสานกราฟิกกับผใู้ ชแ้ บบตา่ ง ๆ ได้แก่ 1. ตัวช่วยเหลือ (help) ผูช้ ่วยออนไลน์สาํ หรับแนะนาํ การใช้งานระบบปฏบิ ัติการ 2. ไอคอน (icon) มลี กั ษณะเป็นรปู ภาพกราฟิก ซง่ึ ใช้แทนโปรแกรม ชนดิ ของไฟล์ หรอื ฟังกช์ นั ตา่ ง ๆ 3. พอยน์เตอร์ (pointer) ถกู ควบคมุ โดยเมาส์ แผ่นสัมผสั พอยน์เตอร์สามารถเปลีย่ นรูปรา่ งได้ ซึง่ ข้นึ อยู่กบั การทาํ งานในขณะน้นั ตวั อยา่ งเชน่ พอยนเ์ ตอร์จะมีลักษณะเป็นรปู ลกู ศรสําหรบั ใชเ้ ลือก รายการตา่ ง ๆ เชน่ ไอคอน 4. หน้าต่าง (window) พ้ืนท่ีสี่เหล่ียมผืนผ้าสําหรับแสดงสารสนเทศ และดําเนินงานกับ โปรแกรมประยุกต์ เมนู (menu) รายการทางเลือก หรอื คําสั่งตา่ ง ๆ ท่สี ามารถเลือกใชไ้ ด้ 5. แท็บ (tab) พื้นท่สี ําหรบั แสดงเมนูต่าง ๆ ท่ีถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ เช่น แท็บเค้าโครง หนา้ กระดาษ แทบ็ มมุ มอง เปน็ ต้น 6. ไดอะล็อกบอกซ์ (dialog box) พ้ืนที่สี่เหลี่ยมสําหรับรับข้อมูล หรือแนะนําผู้ใช้ว่าควรทํา อะไรต่อไป 7. การส่งั งานด้วยการเคล่ือนไหว (gesture control) ความสามารถในการควบคุมการทํางาน ด้วยการเคลื่อนไหว เช่น การเล่ือน การลากน้ิว และการใช้น้ิวมือทําการหยิกเพื่อขยายออก และการ ทาํ ยดื เพื่อขยายหรือซมู (zoom) ระบบปฏิบตั ิการส่วนใหญ่จะเกบ็ ข้อมูลและโปรแกรมเป็นไฟล์และโฟลเดอร์บันทึกเก็บไฟล์ไว้ใน หน่วยความจําสํารอง เช่น ฮาร์ดดิสก์ (hard disk) ไฟล์ ใช้สาหรับเก็บข้อมูลและโปรแกรม ส่วน โฟลเดอร์ใช้เป็นที่จัดเก็บหรือรวบรวมไฟล์ท่ีมีความสัมพันธ์กัน รวมถึงโฟลเดอร์ย่อย เป็นต้น (ศศลกั ษณ์ ทองขาว และคณะ, 2558, หน้า 83) ตัวอย่างระบบปฏิบัติการ ได้แก่ ไมโครซอฟต์ วินโดวส์ (microsoft windows) วินโดวส์ เอ็กซ์พี โปรเฟซชันนัล (windows XP professional) วินโดวส์ วิสต้า (windows Vista) วินโดวส์ 7 (windows 7) วินโดวส์ 8 (Windows 8) วินโดวส์ 10 (windows 10) วินโดวส์ 11 (windows 11) โอเอส เอ็กซ์ (OS X) เมาท์เท่น ไลอ้อน (Mountain Lion) และ อุ-บูน-ตุ ลีนุกซ์ (ubuntu linux) เป็นต้น (พิษณุ ปุระศิร,ิ 2556, หนา้ 23-24) ไมโครซอฟต์ วินโดวส์ เป็นระบบปฏิบัติการที่ทุกคนรู้จักกันดี ถูกสร้างข้ึนมาจากบริษัท ไมโครซอฟต์ มีววิ ัฒนาการและพฒั นามาอย่างต่อเนื่องกว่าย่ีสิบปีแล้ว แบ่งผู้ใช้แยกออกจากกันเป็น 2 กลุ่ม คือ เคร่ืองที่ใช้งานตามบ้านหรือสานักงานท่ัวไป กับเคร่ืองที่ต้องเชื่อมต่อผ่านทางระบบเครือข่าย ซ่ึง ต้องมีความปลอดภัยของข้อมูลสูง จนกระทั่งพัฒนามาเป็นวินโดวส์ เอก็ ซ์พี ถึงได้รวมกลุ่มผู้ใช้งาน ทั้ง 2 ฝ่ังเข้าด้วยกัน โดยอาศัยการแบ่งด้วยเวอร์ชันของโปรแกรมให้เลือกไปใช้งาน นอกจากวินโดวส์ เอก็ ซ์พี แล้ว ยังมีการพัฒนามาอย่างต่อเน่ือง คือ วินโดวส์ วิสต้า วินโดวส์ เจ็ด วินโดวส์ แปด วินโดวส์ สิบ และเวอร์ชันล่าสุด คอื วินโดวส์ สิบเอด็ ท่ีเนน้ ไปทค่ี วามสวยงามของหน้าต่างโปรแกรมและหน้าจอ อินเตอร์เฟสต่าง ๆ รวมถึงความมีเสถียรภาพของตัวระบบ ตัวอย่างระบบปฏิบัติการแต่ละเวอร์ชัน แสดงดังภาพท่ี 3.4

51 Windows XP Professional Windows Vista Windows 7 Windows 8 Windows 10 Windows 11 OS X (Mountain Lion) ubuntu linux ภาพท่ี 3.4 ระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows XP, Windows Vista, Windows 7, Windows 8, Windows 10 Windows 11, OS X (Mountain Lion) และ ubuntu linux ทม่ี า (โอภาส เอีย่ มสิริวงศ,์ 2561, หนา้ 220-224) จากภาพท่ี 3.4 เป็นการแสดงภาพตัวอย่างของระบบปฏิบัติการจากอดีตสู่ปัจจุบันของ ระบบปฏบิ ัติการวินโดวส์ ระบบปฏิบัติการโอเอส เอ็กซ์ และระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ซึ่งความแตกต่าง ของแตล่ ะเวอร์ชนั อธิบายได้พอสงั เขป ดงั นี้

52 1. วินโดวส์ เอ็กซ์พี โปรเฟซชันนัล ใช้สําหรับเครื่องท่ีต้องการเช่ือมต่อกับระบบเครือข่ายขนาด ใหญ่ สามารถสั่งควบคุมด้วยการรีโมทเคร่ืองได้ (remote desktop) นอกจากนี้ยังสารองข้อมูลต่าง ๆ ได้ อีกด้วย และได้พัฒนามาเป็น วินโดวส์ เอ็กซ์พี โฮม อิดิชัน (windows XP home edition) ใช้สําหรับ เครอื่ งทใี่ ช้ภายในบา้ นหรือสํานักงานที่มีการเช่อื มต่อกับเครือข่ายในวงแคบ ๆ มีคอมพิวเตอร์ไมก่ ี่เคร่ือง 2. วนิ โดวส์ วสิ ตา้ เปน็ วนิ โดวส์ทเ่ี นน้ ไปทค่ี วามสวยงาม ดูหรหู ราน่าใชง้ าน แตเ่ น่ืองจากมกี ารใช้ งานท่คี อ่ นขา้ งยงุ่ ยาก จึงไม่เหมาะกับผู้ที่กําลังเร่ิมต้นใช้งาน เหมาะกับบุคคลเฉพาะกลุ่มมากกว่า เช่น กลุ่มที่เน้นเอาไปใช้ทําโฮมเธียเตอร์ภายในบ้าน 3. วินโดวส์ 7 เป็นวินโดวส์ท่ีมีหน้าตาคล้ายกับวิสต้า เน้นไปที่สวยงามลงตัว มีลูกเล่นต่าง ๆ ของ โปรแกรมท่หี ลากหลายดนู า่ ใช้) สว่ นการใช้งานนั้นทาให้ง่ายเหมือนกับเอ็กซ์พี ดังน้ัน จึงคาดเดากันว่า สามารถมาใช้ทดแทนเอก็ ซ์พไี ด้อย่างเตม็ ตวั 4. วนิ โดวส์ 8 เป็นระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดที่ถูกวิจัยและสร้างขึ้นโดยบริษัท ไมโครซอฟต์ โดย จะถกู พัฒนาให้เข้ามาแทนที่วินโดวส์ เจ็ด โดยมพี ืน้ ฐานการพัฒนาต่อยอดมาจากวินโดวส์ เจ็ด บวกเข้า กับวินโดวส์ โฟน 7 (windows phone 7) มีจุดเด่นอยู่ท่ีรองรับการทํางานและสั่งงานได้จาก เมาส์ (mouse) แป้นพิมพ์ หรือคีย์บอดร์ด (keyboard) และรองรับระบบสัมผัสจากจอทัชสกรีน (touch screen) ผา่ นหนา้ จอ ไม่ว่าจะเปน็ เครือ่ งคอมพิวเตอร์แบบพีซี (PC) โน้ตบุ๊ก (notebook) รวมทั้งแท็บ เล็ต (tablet) ตลอดจนแท็บเล็ตกึง่ พีซที ี่จะออกวางในอนาคต ในวนิ โดวส์ แปดน้นั จะเน้นจุดเด่นในเร่ือง ของการเช่ือมโยงเข้ากับโลกของสื่อสังคมออนไลน์ (social network) ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ นอกจากนนั้ ยังสามารถตรวจสอบจดหมายจากอีเมล์ต่าง ๆ ตรวจสอบสภาพอากาศ อัตราแลกเปล่ียน การซอื้ ขายหุ้นไดอ้ ีกดว้ ย ซงึ่ จะทาํ ให้ชวี ิตของคณุ นน้ั น่าสนุกมากยง่ิ ขน้ึ 5. วนิ โดวส์ 10 เปน็ ระบบปฏิบตั กิ ารจากทางไมโครซอฟต์ที่ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้กับ ทุกอปุ กรณท์ ี่ใช้ระบบปฏิบตั กิ ารวนิ โดวสใ์ นทกุ ขนาดหน้าจอ ทุกรปู แบบการใช้งานไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ แบบระบบสัมผัสทัชสกรีน หรืออุปกรณ์ควบคุมอย่างเมาส์หรือคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีระบบแอปพลิเคชัน ครอบจักรวาล (universal application) ท่ีให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ น้ัน สามารถใช้งานได้บนทุก อุปกรณ์ในระบบวินโดวส์ สบิ อีกดว้ ยเชน่ กนั 6. วินโดวส์ 11 เป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็นทีรุ่นใหม่ ที่พัฒนาโดยไมโครซอฟต์ เปิดตัวอย่าง เป็นทางการเมอื่ วันท่ี 24 มถิ ุนายน 2564 มีกําหนดอัปเดต (update) ระบบให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์วินโดวส์ 10 ที่รองรับการใช้งานโดยไมค่ ิดมลู ค่าอย่างเป็นทางการต้ังแต่วันท่ี 5 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไปผ่านวินโดวส์อัป เดต วินโดวส์ 11 ถอื เป็นวินโดวสร์ นุ่ ใหม่ถัดจากวินโดวส์ 10 ซงึ่ เปดิ ตวั มานานกวา่ 6 ปี 7. โอเอส เอ็กซ์ เมาท์เท่น ไลอ้อน เป็นระบบปฏิบัติการของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) เน้น ฟังก์ชันและลูกเล่นของการใช้งานท่ีดูสวยงามทันสมัยน่าใช้ เหมาะกับผู้ใช้งานโปรแกรมทางด้าน กราฟิกมาก เนื่องจากทํางานได้เร็วกว่าบนวินโดวส์ นอกจากนี้ยังมีความเสถียรภาพสูงในการทํางาน และปลอดภัยจากการถูกโจมตีจากไวรัสด้วย หากสนใจจะใช้ระบบปฏิบัติการตัวน้ี อาจต้องมีการ เรยี นร้กู ารใช้งานกันใหม่ เพราะคอ่ นข้างแตกตา่ งจากระบบวินโดวส์อยพู่ อสมควร 8. อุ-บูน-ตุ ลีนุกซ์ เป็นภาษาแอฟริกันโบราณ มีความหมายว่า เพ่ือมนุษยชาติและมิตรภาพ เป็นระบบปฏิบัติการอีกตัวหนึ่งที่น่าใช้งาน เนื่องจากเป็นโปรแกรมท่ีใช้งานฟรีนั่นเอง ผู้พัฒนา คือ บริษัท แคนนอนคิ ัล (Canonical) โดยนาํ เอาระบบปฏิบัตกิ ารลีนุกซ์มาแก้ไขดัดแปลงให้ดูสวยงามเน้น

53 ไปท่ีการใช้งานให้ง่ายข้ึน อีกทั้งยังมีคลังโปรแกรมการใช้งานด้านต่าง ๆ ให้โหลดมาใช้งานกันได้อีก นอกจากนีท้ างผู้ผลติ ยังให้สัญญาว่าจะออกเวอรช์ ันใหม่มาใช้งานกนั ไดฟ้ รี ๆ ทกุ 6 เดอื นอีกด้วย จากตัวอย่างซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการท่ีได้อธิบายไว้เบ้ืองต้น เป็นซอฟต์แวร์ที่มีความสําคัญ ตอ่ การทาํ งานของซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ ซอฟต์แวร์ประยุกต์จะทํางานบนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการที่มี ความเข้ากันได้ ดังน้ัน หากจะต้องมีการนําซอฟต์แวร์ประยุกต์เข้ามาใช้งานในการประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบการธุรกิจจะต้องคํานึงถึงซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการปัจจุบันด้วยว่ามีคุณสมบัติที่สามารถ รองรับกับซอฟต์แวร์ประยุกตท์ ่จี ะตดิ ต้งั ใชง้ านหรอื ไม่ ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์สาหรบั การประกอบธุรกจิ การประกอบธุรกิจสามารถได้เปรียบคู่แข่งขันได้ไม่ยาก ยิ่งเป็นยุคแห่งการใช้เทคโนโลยี ผู้ประกอบการธุรกิจหากจะปฏิเสธการนําเทคโนโลยีซอฟต์แวร์มาประยุกต์สําหรับการประกอบธุรกิจ คงเป็นได้ยาก ซอฟต์แวร์ประยุกต์ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สามารถท่ีจะเลือกหาได้ง่ายไม่เกิน ความสามารถ หรืออาจจะเขียนข้ึนมาใช้งานเองก็ไม่แปลก แต่สิ่งสําคัญนอกจากจะนําซอฟต์แวร์ ประยุกตม์ าใช้งานได้แลว้ ตอ้ งเลือกให้เหมาะสมกับงานธุรกิจของตนเอง กระบวนการธุรกิจมีกิจกรรม ที่ข้องกับงานบัญชี การตลาด การผลิตการดําเนินงาน และการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็น กิจกรรมหน้าท่ีหลัก ๆ ในงานธุรกิจที่ต้องดําเนินการ ซอฟต์แวร์ประยุกต์จึงเป็นทางเลือกสําหรับ ผ้ใู ชง้ าน ปัจจบุ นั อปุ กรณ์จําพวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมีความสามารถท่ีจะรันหรือใช้งานโปรแกรม ประยุกต์ที่ทํางานเฉพาะอย่างได้ นิยมเรียกว่า แอปพลิเคชัน ซ่ึงมีความหมายใกล้เคียงกับซอฟต์แวร์ ประยุกต์ เพยี งแต่มีขนาดเล็กและทํางานเฉพาะอย่าง (สพุ รรษา ยวงทอง, 2557, หน้า 50) ซอฟต์แวร์ประยุกตแ์ บ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ ซอฟต์แวร์ท่ีใช้งานทั่วไป และซอฟต์แวร์ท่ีใช้ งานเฉพาะด้าน ในขณะที่ ศศลักษณ์ ทองขาว และคณะ (2558, หน้า 5) ได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ประยุกต์พ้ืนฐาน ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน และ โมบายแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ดี ยังมีความหมายเหมือนกันในแต่ละประเภทเพียงแต่เพ่ิมซอฟต์แวร์ท่ีใช้งานบนสมาร์ทโฟน โดยมี รายละเอียดของซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์พืน้ ฐานท่ีนยิ มใช้อยา่ งกว้างขวาง แสดงดงั ตารางท่ี 3.1 ตารางที่ 3.1 ตวั อยา่ งซอฟต์แวรป์ ระยกุ ตพ์ ืน้ ฐาน ประเภทซอฟต์แวร์ ลักษณะการใช้งาน เบราว์เซอร์ เชอื่ มโยงกบั เว็บไซตแ์ ละแสดงข้อมูลเวบ็ เพจ ประมวลผลคํา เตรียมเอกสาร ตารางการคํานวณ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ข้อมูลที่เปน็ ตวั เลข การจัดการฐานขอ้ มลู รวบรวมและจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศ กราฟกิ ส์เพือ่ การนาํ เสนอ นาํ เสนอขอ้ มูล หรือโน้มน้าวผคู้ น ทมี่ า (ศศลักษณ์ ทองขาว และคณะ, 2558, หนา้ 6)

54 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาข้ึนมาเพ่ือใช้งานเฉพาะสาขาอาชีพใด อาชพี หน่ึง เชน่ ซอฟตแ์ วร์ด้านกราฟิกส์ ซอฟต์แวรก์ ารพฒั นาเว็บ เป็นต้น โมบายแอปพลิเคชัน (mobile application) เป็นโปรแกรมขนาดเล็กที่ออกแบบมาสําหรับ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต มีจํานวนมากกว่าล้านแอปพลิเคชันในปัจจุบัน ที่นิยมมากท่ีสุดในปัจจุบัน ได้แก่ ไลน์ (Line) เฟซบุ๊ก (Facebook) และ อนิ สตราแกรม (Instragram) เปน็ ตน้ เมื่อซอฟต์แวร์ประยุกต์เกิดจากการเขียนโปรแกรมขึ้นมาเอง หรือเป็นโปรแกรมสําเร็จรูปท่ีใช้ งานทั่วไปก็ตาม ย่อมมีสิทธ์ิในความเป็นเจ้าของโปรแกรม จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุญาตให้ ใช้งานโปรแกรม โดยผู้พัฒนาจะถือสิทธ์ิในความเป็นเจ้าของโปรแกรมดังกล่าวในลักษณะใด ไม่ว่าจะ อนุญาตให้นําไปจําหน่าย แบ่งปัน หรือแจกจ่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีการกําหนดขอบเขตการใช้งาน โปรแกรม ผู้ที่นํามาใช้งานต้องพึงท่ีควรศึกษาให้ดีเพราะมีผลต่อกฎหมายลิขสิทธ์ิ ที่เรียกกันทั่วไปว่า ลิขสิทธ์ซิ อฟตแ์ วร์ (software license) ภาพท่ี 3.5 ขอ้ ตกลงสญั ญาอนญุ าตใชซ้ อฟต์แวร์ ทมี่ า (บีคอมชอ๊ ป, 2559) นอกจากน้ีแล้วซอฟต์แวร์ประยุกต์ยังมีช่ือเรียกต่าง ๆ ตามมุมมองการตลาด ได้แก่ ซอฟต์แวร์ การพาณิชย์ (commercial software) แชร์แวร์ (shareware) ฟรีแวร์ (freeware) และซอฟต์แวร์ สาธารณะ (public domain software) แต่ละประเภทนี้จะแตกต่างกันในเร่ืองลิขสิทธ์ิความเป็น เจา้ ของ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นซอฟต์แวร์ระบบเปิด (open source software) ที่เปิดเผยรหัส ซ่ึง การเปดิ เผยนี้จะกระทาํ ได้โดยบคุ คลหรอื องคก์ รที่ไดร้ ับอนุญาตเท่าน้ัน ทุกวันนี้เราสามารถดาวน์โหลด และเลือกใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์เหล่าน้ีได้อย่างหลากหลาย อาจดาวน์โหลดนําไปใช้งานบน โทรศัพท์เคล่ือนท่ีท่ีเรียกว่าแอปพลิเคชัน นําไปใช้ติดตั้งบนระบบคลาวด์ (cloud) นอกจากดาวน์ โหลดเราอาจหาซ้ือซอฟต์แวร์เป็นชุด (software suites) เช่น โปรแกรมชุดสํานักงาน ชุดโปรแกรม กราฟิกส์ ชุดซอฟต์แวร์เพิ่มผลิตภาพ ซึ่งในชุดโปรแกรมเหล่าจะประกอบด้วย โปรแกรมประมวลคํา โปรแกรมตารางงาน โปรแกรมนําเสนอข้อมูล โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล และโปรแกรมรับส่งอีเมล์ เปน็ ตน้ (โอภาส เอ่ยี มสิริวงศ,์ 2561, หนา้ 237-241)

55 จากหวั ขอ้ ที่ผา่ นมาได้กล่าวถึง ซอฟต์แวร์ประยุกต์ชุดสํานักงาน ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ใช้ งานทั่วไป พร้อมตัวอย่างโปรแกรมต่าง ๆ โดยโปรแกรมประยุกต์เพื่องานท่ัวไป สามารถจําแนกเป็นงาน ด้านต่าง ๆ โดยมรี ายละเอียดดังนี้ (พษิ ณุ ปรุ ะศิร,ิ 2556, หนา้ 258) 1. โปรแกรมประยุกต์ด้านการพิมพ์และการจัดการเอกสาร โปรแกรมประยุกต์ท่ีช่วยงานด้าน การพิมพ์เอกสารมีช่ือเรียกทั่ว ๆ ไปว่า โปรแกรมประมวลผลคําหรือเวิร์ดโปรเซสเซอร์ หน้าท่ีของ โปรแกรมประมวลผลคําก็คือ เป็นโปรแกรมซ่ึงใช้สําหรับจัดพิมพ์เอกสาร จัดทํารายงานรวมทั้งงาน พิมพ์ต่าง ๆ โดยบันทึกหรือพิมพ์ข้อความ ต่าง ๆ ลงในคอมพิวเตอร์ รวมท้ังสามารถจัดเก็บเอกสารที่ พิมพแ์ ล้วลงในหนว่ ยความจาํ สาํ รอง เพื่อใชง้ านในภายหลังได้ดว้ ย ในอดีตงานพิมพ์เอกสารต่าง ๆ มักจะใช้เคร่ืองพิมพ์ดีดพิมพ์ ซึ่งจะต้องอาศัยฝีมือและความ ชาํ นาญของพนักงานพิมพ์ดีด ปัญหาท่ีมักจะพบในการใช้เครื่องพิมพ์ดีดพิมพ์เอกสาร คือ เม่ือเกิดการ พิมพ์ผิดพลาด ได้แก่ การพิมพ์ตกหล่น การพิมพ์ข้อความเกินความต้องการ การพิมพ์ผิด ผู้พิมพ์ จะต้องทําการแกไ้ ข ซึ่งบางครง้ั ตอ้ งใชย้ างลบหรือนาํ้ ยาลบคาํ ผิด หรอื บางคร้ังต้องพิมพ์เอกสารนั้นใหม่ เนอ่ื งจากไม่สามารถจะแก้ไขในเอกสารเดิมได้ หรอื การเคลื่อนย้ายกลุ่มข้อความท่ีพิมพ์แล้วย่อมเป็นไป ไมไ่ ด้ นอกเสยี จากตอ้ งพิมพ์ใหม่หรือตัดต่อข้อความท่ีพิมพ์โดยตัดปะกระดาษซ่ึงยุ่งยากมาก ถ้ากรณีที่ งานพิมพ์มีปริมาณมากฉบับหรือมีเน้ือหารูปแบบซ้ํา ๆ พนักงานพิมพ์ดีดก็ต้องพิมพ์เอกสารเหล่านั้น ใหม่ทุกคร้ัง ทําให้เกิดความเบื่อหน่ายและมีโอกาสท่ีจะพิมพ์ผิดมาก ในปัจจุบันน้ีการนําโปรแกรม ประมวลผลคําเข้ามาช่วยงานด้านการพิมพ์เอกสารน้ัน ช่วยทําให้งานด้านเอกสารทําได้รวดเร็วและ สะดวกมากข้นึ รวมทัง้ ยงั ช่วยลดต้นทุนการพมิ พ์เอกสารอกี ด้วย นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมประยุกต์ท่ีทําหน้าท่ีได้ท้ังการพิมพ์และจัดทําเอกสารแบบต้ังโต๊ะ หรือเดสค์ทอปพับบลิซช่ิง (desktop publishing) ซ่ึงเป็นโปรแกรมประมวลผลคําที่สามารถรวมเอา ภาพเข้าไว้ในเอกสารท่ีพิมพ์ได้ทําให้การจัดทําเอกสารมีความสวยงามและสะดวก ตัวอย่างโปรแกรม ประยกุ ตด์ ้านการพิมพ์และการจัดการเอกสาร แสดงดงั ภาพท่ี 3.6 ภาพท่ี 3.6 โปรแกรมประยุกต์ด้านการพมิ พ์และการจัดการเอกสาร

56 2. โปรแกรมประยุกต์เพ่ือใช้งานด้านการคํานวณ โปรแกรมประยุกต์เพื่อใช้งานด้านการคํานวณนี้ มีช่ือเรียกทั่ว ๆ ไปว่า สเปรดชีท (spreadsheet) หรือตารางทําการหรืออิเล็กทรอนิกส์เวิร์คชีท (electronic work sheet) หลักการทํางานของโปรแกรมประยุกต์ประเภทนี้ คือ การให้คอมพิวเตอร์ทํา หน้าที่เสมือนกระดาษทําการหรือเวิร์คชีท (worksheet) ของนักบัญชีซ่ึงทํางานในรูปของคอลัมน์ (column) และแถว (row) โดยนําตัวเลขที่บันทึกในแต่ละแถวในคอลัมน์ใด ๆ มาทําการคํานวณตามสูตร คณิตศาสตรท์ ่กี ําหนดไว้ เช่น การนําตัวเลขในแถวหรือคอลัมน์ใดมาคํานวณเพื่อจัดเป็นค่าของคอลัมน์ใหม่ เปน็ ต้น เมื่อมคี า่ ในคอลัมน์หรือแถวใดเปลย่ี นไป คา่ ทสี่ มั พันธ์กนั จะเปลี่ยนตามไปดว้ ยโดยอตั โนมัติ จุดเด่นที่สําคัญของโปรแกรมประยุกต์ประเภทน้ี คือ การช่วยทําให้งานคํานวณสะดวกและ รวดเร็วข้ึน ซ่ึงนับว่าเป็นเครื่องมือของนักธุรกิจในการทดลองค่าข้อมูลเพื่อคํานวณผลลัพธ์ในลักษณะ ต่าง ๆ ได้ รวมท้ังความสามารถในการแสดงผลลัพธ์ในรูปของตารางและกราฟหรือแผนภูมิต่าง ๆ ได้ ซ่ึงทําให้สามารถอ่านผลลัพธไ์ ด้ง่ายข้ึน ตวั อย่างโปรแกรมประยุกต์ด้านการคํานวณ แสดงดังภาพที่ 3.7 ภาพที่ 3.7 โปรแกรมประยุกต์ด้านการคาํ นวณ 3. โปรแกรมประยุกต์เพื่อใช้งานด้านการนําเสนอข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ท่ีจะกล่าวถึง คือ ไมโครซอฟต์ พาวเวอร์พอยท์ (microsoft powerpoint) ใช้สําหรับสร้างงานนําเสนอ ซ่ึงสามารถนํามาแสดง ผ่านเคร่ืองฉายภาพข้ามศีรษะ (projector) หรือสามารถพิมพ์ลงแผ่นใสเพื่อใช้บนเคร่ืองฉายสไลด์ เหมาะ สําหรับใช้นําเสนอผลงานในการประชุมต่าง ๆ ให้ประกอบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามสถาบันต่าง ๆ หรือประยุกต์นํามาใช้กบั การนาํ เสนอขายสินค้า เปน็ ตน้ โปรแกรมตัวนี้มีจุดเด่นอยู่ท่ีการสร้างงานนําเสนอที่สามารถใส่ได้ทั้งข้อความ รูปภาพ ไฟล์ วีดิโอต่าง ๆ ลงบนแผ่นสไลด์ (slide) เม่ือสร้างเสร็จเราสามารถใส่พวกเสียงประกอบ หรือทําให้ ขอ้ ความหรือรูปภาพมกี ารเคลอ่ื นไหว (animation) ลงไปได้อกี ด้วย ซ่ึงขั้นตอนการใชง้ านก็ไม่ยุ่งยาก

57 ภาพที่ 3.8 โปรแกรมประยุกต์ด้านการนาํ เสนอข้อมลู 4. โปรแกรมประยุกต์เพ่ือใช้งานด้านการจัดการฐานข้อมูล ปัจจุบันน้ีข้อมูลมีบทบาทสําคัญทุก ๆ ดา้ น ทงั้ ในดา้ นการปฏิบัติงานและการวาง แผนการตัดสินใจโปรแกรมประยุกต์เพ่ือใช้งานด้านจัดการ ฐานข้อมูลจึงนับว่าเป็นเคร่ืองมือสําคัญท่ีเข้ามาช่วยงานด้านการจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ ทั้งใน ดา้ นการจดั เก็บเข้าไปแล้วออกมาใช้โดยง่าย ส่ิงท่ีทําให้โปรแกรมประยุกต์เพ่ือจัดการฐานข้อมูลเข้ามา มบี ทบาทสําคัญในการจดั เก็บข้อมลู ก็ด้วยเหตุผลพืน้ ฐานประการสําคญั คอื ปัญหาในการจัดการข้อมูล ซ่งึ ไดแ้ ก่ การจดั เก็บขอ้ มูลมีความซับซ้อน ทําให้สิ้นเปลืองเนื้อที่และค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บโดยใช่เหตุ การค้นหาขอ้ มลู จะทาํ ไดย้ าก เน่ืองจากขอ้ มูลที่จัดเก็บมีหลายชุด ซ่ึงต้องใช้เวลาในการค้นหา และการ ดูแลรักษาการปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องและทันสมัยจะยุ่งยาก เน่ืองจากความซ้ําซ้อนของข้อมูลซึ่ง จัดเกบ็ หลายชุด เปน็ ต้น ตัวอยา่ งโปรแกรมประยุกต์ด้านการจดั การฐานข้อมูล แสดงดังภาพท่ี 3.9 ภาพท่ี 3.9 โปรแกรมประยุกตด์ ้านการจดั การฐานข้อมลู

58 การประยกุ ตใ์ ชง้ านดว้ ยซอฟต์แวรส์ ําเร็จรปู มักจะเนน้ การใช้งานทัว่ ไป แต่อาจจะนํามาประยุกต์ โดยตรงกับงานทางธรุ กิจบางอยา่ งไม่ได้ เชน่ ในกิจการธนาคาร มีการฝากถอน เงิน งานทางด้านบัญชี หรือในห้างสรรพสินค้าก็มีงานการขายสินค้า การออกใบเสร็จรับเงิน การควบคุมสินค้าคงคลัง ดังน้ัน จึงตอ้ งมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะสําหรับงานแต่ละประเภทให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ แตล่ ะราย การติดต้ังโปรแกรมประยุกต์ตระกูลสํานักงาน สิ่งแรกท่ีต้องทํา คือ ทําการติดตั้งโปรแกรม สาํ นกั งานในเครือ่ งคอมพวิ เตอรข์ องเรากอ่ น ซึ่งขั้นตอนน้ีทําได้ง่ายเหมือนการติดต้ังโปรแกรมท่ัวไปลง เครื่องน่ันเอง นอกจากต้องตรวจสอบระบบปฏิบัติการของเคร่ืองท่ีจะติดตั้งแล้ว ยังมีส่ิงอื่น ๆ ที่ ต้องการด้วย ซึ่งต้องพิจารณาจาก หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจํา พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ จอแสดงผล และสิง่ ที่สําคัญคือระบบปฏิบัติการ ซ่ึงสามารถสรุปความต้องการของระบบปฏิบัติการได้ แสดงดังตารางที่ 3.2 ตารางที่ 3.2 ตัวอยา่ งคณุ สมบตั ิพ้ืนฐานของคอมพิวเตอร์และระบบปฏบิ ตั ิการในการติดตงั้ โปรแกรมประยุกต์สาํ นักงานโดยทว่ั ไป ส่งิ ทต่ี ้องการ ขอ้ แนะนา หน่วยประมวลผลกลาง ความเร็ว 1 GHz หรอื มากกวา่ ถ้าต้องการได้ประสิทธภิ าพดที สี่ ุด หนว่ ยความจํา ขอแนะนาให้ใชท้ ค่ี วามเร็ว 2 GHz ขึ้นไป พน้ื ที่วา่ งบนฮารด์ ดสิ ก์ มากกว่า 1 GB สาหรับ Office 2013 รุน่ 32 บติ จอแสดงผล มากกว่า 2 GB สาหรับ Office 2013 รุ่น 64 บติ ระบบปฏบิ ตั กิ าร พื้นทว่ี ่าง 3 GB ความละเอยี ด 1024 x 576 พกิ เซล หรือสงู กวา่ Windows 7 (32 บติ หรือ 64 บติ ) Windows 8 (32 บติ หรือ 64 บติ ) Windows 8.1 (32 บติ หรือ 64 บติ ) Windows Server 2008 (64 บติ ) Windows Server 2012 (64 บติ ) ทม่ี า (อมั รินทร์ เพ็ชรกุล, 2558, หน้า 6) ในส่วนของโปรแกรมประยุกต์ในด้านอ่ืน ๆ ยังมีซอฟต์แวร์ประยุกต์ชนิดอ่ืน ๆ อีกจํานวนมาก ถูกสร้างขึ้นเพ่ือใช้งานส่วนบุคคล และใช้งานตามหน่วยงานธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของพนักงาน ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสําคัญต่อการดําเนินธุรกิจ เช่น โปรแกรมขายสินค้า โปรแกรมระบบบัญชี โปรแกรมควบคุมสินค้าคงคลัง และโปรแกรมจัดการงาน ขนส่ง ฯลฯ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพ่ือใช้ในงานใดงานหน่ึงเฉพาะ เช่น ซอฟต์แวร์สถานศึกษา ซอฟต์แวร์ออกแบบ และซอฟต์แวร์ควบคุมเคร่ืองจักรอัตโนมัติ เป็นต้น ในที่น้ีจะจําแนกหน้าท่ีการ ทํางานได้เป็น 2 ด้านใหญ่ ๆ คือ การประยุกต์เพื่องานด้านบริการ และการประยุกต์เพ่ืองานด้าน ปฏิบตั กิ ารและการบรหิ าร

59 1. การประยกุ ตเ์ พือ่ งานด้านบริการ ในการประยุกต์คอมพิวเตอร์เพ่ือใช้งานด้านบริการนั้น มี จุดประสงค์เพ่ือสามารถให้บริการลูกค้าของกิจการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ ตาม เน่ืองจากธุรกิจแต่ละประเภทจะมีลักษณะการดําเนินงานท่ีเฉพาะแตกต่างกันไป ดังน้ัน การ ประยุกต์เพอื่ งานดา้ นการบรหิ ารสามารถจาํ แนกตามประเภทของธุรกิจไดด้ ังน้ี 1.1 ด้านการเงินและการธนาคาร สถาบันการเงินได้นําคอมพิวเตอร์มาช่วยในการบริการ ลูกค้าในด้านบริการฝากถอนเงิน บริการรับจา่ ยเงนิ อัตโนมตั ิ หรือเอทีเอม็ (ATM) บรกิ ารดา้ นสนิ เช่อื 1.2 ด้านธรุ กจิ การบิน เป็นธุรกิจทม่ี ีการนาํ คอมพิวเตอรเ์ ข้ามาช่วยบริการผู้โดยสารในด้านต่าง ๆ เพ่ือให้สามารถบริการได้รวดเร็วและแข่งขันกับสาการบินอื่น ๆ ซึ่งได้แก่ ระบบการสํารองท่ีนั่งผู้โดยสาร ระบบการบันทึกตารางเท่ียวบิน ระบบการสํารองห้องพักโรงแรม ระบบงานพิมพ์ตั๋วเคร่ืองบิน ระบบครัว การบนิ และระบบสินค้าปลอดภาษี เปน็ ตน้ ตัวอย่างโปรแกรมสํารองทีน่ ั่งผู้โดยสาร แสดงดังภาพท่ี 3.10 ภาพท่ี 3.10 ตวั อย่างโปรแกรมสํารองทีน่ ั่งผโู้ ดยสาร ท่มี า (แอรพ์ าส, 2563) 1.3 ด้านการโรงแรม การนําคอมพิวเตอร์มาใช้ในธุรกิจโรงแรมน้ันจะเป็นการพ่วงต่อ เทอร์มินัลกับคอมพิวเตอร์ โดยติดต้ังเทอร์มินัลตามจุดบริการต่าง ๆ ของโรงแรมเพ่ือรับและส่งข้อมูล ทั้งน้ีการใหบ้ ริการลกู ค้าของธุรกิจการโรงแรมประกอบด้วยการจองห้องพัก และการบริการภัตตาคาร ภายในโรงแรม เป็นต้น ตัวอย่างโปรแกรมประยุกต์ในธุรกิจโรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์ แสดงดังภาพท่ี 3.11-3.13 ภาพที่ 3.11 ตวั อย่างโปรแกรมประยุกต์ในธุรกิจโรงแรมหรืออพารท์ เมน้ ท์ 1 ท่ีมา (ฮอร์แกไนซ์, 2563)

60 ภาพท่ี 3.12 ตัวอย่างโปรแกรมประยกุ ต์ในธุรกจิ โรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์ 2 ที่มา (ฮอร์แกไนซ์, 2563) ภาพที่ 3.13 ตัวอย่างโปรแกรมประยกุ ต์ในธุรกจิ โรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์ 3 ทีม่ า (ฮอร์แกไนซ์, 2563) 1.4 ด้านการศึกษา งานด้านการศึกษาได้มีการประยุกต์คอมพิวเตอร์เพ่ือช่วยบริการทาง การศึกษา เช่น งานการเรียนการสอน และงานบริการด้านห้องสมุด เป็นต้น ตัวอย่างโปรแกรมเช่า หนังสือ ระบบยืม คืนหนังสอื แสดงดงั ภาพที่ 3.14 ภาพที่ 3.14 ตัวอย่างโปรแกรมเชา่ หนังสือ ระบบยืม คืนหนังสือ ที่มา (ไทยแวร์, 2563)

61 2. การประยุกต์เพ่ืองานด้านปฏิบัติการและการบริหาร การนําคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยการ ปฏิบัติงานภายในองค์การหรือหน่วยงานใด ๆ นั้น เพื่อให้การดําเนินงานของกิจการเป็นไปอย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมท้ังสามารถนําข้อมูลที่ได้รับจากการปฏิบัติงานมาใช้การ วางแผนกาํ หนดนโยบายเพื่อการบริหารงานของกจิ การน้ันได้ ซ่ึงจาํ แนกตามประเภทของงานดังน้ี 2.1 ด้านการเงินและการธนาคาร โปรแกรมประยุกต์ที่นํามาใช้ในงานด้านปฏิบัติการและ การบริหารสําหรับงานการเงินและการธนาคาร ได้แก่ ระบบรายงาน ระบบบัญชีธนาคาร และระบบ ขอ้ มลู เพ่อื การบรหิ าร เปน็ ตน้ 2.2 ด้านธุรกิจการบิน โปรแกรมประยุกต์ที่นํามาใช้ในงานด้านปฏิบัติการและการ บริหาร สําหรับธุรกิจด้านการบินนัน้ จําแนกได้เปน็ งานประเภทตา่ ง ๆ คือ การจัดตารางการบินของเครื่องบิน การจัดตารางการทํางานของนักบินและลูกเรือ การขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ และระบบการจัดทําบัญชี และวางแผน เป็นตน้ 2.3 ด้านการโรงแรม การนําคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยงานด้านการปฏิบัติการและการบริหาร ของธรุ กจิ การโรงแรมนนั้ ได้แก่ 2.3.1 ระบบงานบัญชี บัญชีทรัพย์สิน บัญชี งบประมาณ บัญชีต้นทุน บัญชีทรัพย์สิน บญั ชแี ยกประเภท และบญั ชเี งนิ เดือน เป็นต้น 2.3.2 ระบบการบริหารบุคคล เป็นการนําคอมพิวเตอร์ช่วยงานด้านประวัติบุคลากร ในโรงแรม ได้แก่ ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางาน ตําแหน่งหน้าท่ี เงินเดือน เงินล่วงเวลา เงิน สวัสดิการ รวมท้ังเงินภาษีรายไดบ้ คุ คล เป็นตน้ 2.3.3 ระบบรายงาน เป็นการจัดทํารายงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานรายวัน และการ ให้บริการแก่ลูกค้าของโรงแรม ได้แก่ รายงานสรุปจํานวนผู้เข้าพักในโรงแรม รายงาน จํานวนห้องพักที่มี การสาํ รองและห้องพักทว่ี ่าง เปน็ ต้น ซึง่ ใช้ในการวางแผนในด้านต่าง ๆ ของกิจการ เปน็ ตน้ 2.4 ด้านอตุ สาหกรรม การนําคอมพิวเตอร์เพอ่ื ใชใ้ นงานดา้ นอุตสาหกรรมน้ัน มี จุดประสงค์ หลักเพื่อการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านกระบวนการผลิต ควบคุมคุณภาพของสินค้าที่ผลิตรวมท้ังการ ควบคุมระบบสินค้าคงคลัง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามระดับมาตรฐานด้วยต้นทุนการผลิต ท่ีตาํ่ เพื่อใหก้ จิ การมกี าํ ไรและแข่งขันในตลาดได้ ดังนนั้ การประยุกต์คอมพิวเตอร์ในด้านอุตสาหกรรมท้ังในส่วน ของการผลิตและการบริหาร สามารถจาํ แนกตามประเภทงานไดด้ งั นี้ 2.4.1 ด้านกระบวนการผลิต เปน็ การนําคอมพวิ เตอรม์ าชว่ ยในกระบวนการผลิตตั้งแต่ เริ่มตน้ จนกระทั่งถึงกระบวนการผลิต ได้แก่ การกําหนดประเภทของสินค้าท่ีต้องการผลิต เวลาท่ีต้อง ใช้ในการผลิตการออกแบบสินค้าน้ัน วัตถุดิบที่ต้องใช้ในการผลิตเครื่องจักร และจํานวนบุคลากรที่ นํามาใช้ในการผลิต เป็นต้น ตัวอย่างเช่น การนําโปรแกรมสําเร็จทางการออกแบบหรือแคด (computer aided design, CAD) มาช่วยงานด้านการออกแบบสินค้า เป็นต้น ตัวอย่างโปรแกรม Computer Aided Design, CAD แสดงดงั ภาพที่ 3.15

62 ภาพท่ี 3.15 ตวั อยา่ งโปรแกรม Computer Aided Design, CAD ทม่ี า (ไทยแวร์, 2563) 2.4.2 ดา้ นการควบคมุ คุณภาพ การควบคมุ คุณภาพนั้นจะมีโปรแกรม คอมพิวเตอร์เพื่อนํา ข้อมูลเกี่ยวกับตัวอย่างผลผลิตมาเปรียบเทียบกับข้อมูลที่กําหนดเป็น คุณภาพมาตรฐานที่วางไว้ ซึ่งทําให้ สามารถตรวจสอบคณุ ภาพของผลิตภัณฑไ์ ดร้ วดเร็ว และในปรมิ าณทม่ี าก ๆ ได้ เปน็ ต้น 2.4.3 ด้านการควบคุมสินค้าคงคลัง หลักการสําคัญในการควบคุมสินค้าคงคลังก็คือ การเก็บสินค้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยต้องไม่มีผลกระทบต่อการบริการลูกค้าและการผลิต ท้ังน้ีเพ่ือประหยัดค่าใช้จ่ายโปรแกรมประยุกต์ที่นํามาใช้ด้านน้ีจะสามารถบอกปริมาณสินค้าคงเหลือ และบอกเป็นรายงานในลักษณะต่าง ๆ สําหรับผู้เก่ียวข้องใช้เป็นเคร่ืองมือในการตัดสินใจเพ่ือให้ ทํางานรวดเรว็ ทนั ตอ่ เหตุการณแ์ ละมปี ระสิทธิภาพ 2.5 ดา้ นการศึกษา คอมพิวเตอร์ท่ีประยุกต์ใช้ในงานด้านการปฏิบัติการและการบริหารใน วงการศึกษาน้ันสามารถแบ่งได้ตามประเภทของงานต่อไปนี้ คืองานจัดเก็บทะเบียนประวัตินักศึกษา งานวัดผลการศกึ ษา และงานบริหารงานภายในสถานศกึ ษา เป็นต้น นอกเหนือจากท่ีกล่าวมา ซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้ถูกนํามาใช้งานอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจ สมยั ใหม่ ซึง่ มีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามเฉพาะงาน ซ่ึงแน่นอนว่างานหน้าที่หลัก ๆ ในธุรกิจมักจะหนี ไม่พ้นกิจกรรมงานบัญชี การเงิน การตลาด ทรัพยากรมนุษย์ การผลิต กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ถูกการนํา ซอฟต์แวร์ไปควบคุมดูแลไปเกินครึ่งแล้วในธุรกิจยุคดิจิทัล บางธุรกิจประสบความสําเร็จจากซอฟต์แวร์ ประยุกต์ แต่มิได้หมายความว่าทุกธุรกิจที่มีการใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์แล้วจะประสบความสําเร็จเสมอไป ทักษะหรอื ความสามารถในการประยกุ ต์ใช้ก็ยังเป็นเรอ่ื งสาํ คญั ท่ีตอ้ งหม่นั ฝกึ ฝนและเรยี นรู้อย่างต่อเนอ่ื ง

63 หากจะกล่าวโดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ หรือซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ ล้วนมีบทบาทและความสําคัญและต่อการใช้งานการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์สําหรับการประกอบธุรกิจ ซอฟต์แวร์ประยกุ ตเ์ ป็นโปรแกรมทีม่ ีความสาํ คญั อยา่ งหนึง่ ที่ผูป้ ระกอบการส่วนใหญ่เลือกและนํามาใช้ เพ่ือเป็นตัวช่วยในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ทางธุรกิจด้านการเงิน การบัญชี การตลาด การผลิต และ ทรัพยากรมนุษย์ ในทุกส่วนหน้าที่ต่างมีโปรแกรมท่ีจะมาช่วยแบ่งเบาภาระการปฏิบัติงานได้ไม่น้อย อาจเป็นโปรแกรมประยุกต์เฉพาะงาน หรือเป็นโปรแกรมประยุกต์ทั่วไป แม้แต่การประยุกต์ใช้โปรแกรม ประยุกต์บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็ตาม ซ่ึงผู้เรียนจะได้ศึกษาเน้ือหาแนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรม ประยกุ ต์ทางธรุ กิจในแตล่ ะหนา้ ที่ของธุรกจิ ในบทต่อไป

64 สรปุ ท้ายบท ซอฟต์แวร์ เป็นโปรแกรมหรือชดุ คําส่งั ทม่ี คี วามสําคัญต่ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ มีหน้าที่ประมวลผล ขอ้ มลู และชว่ ยใหอ้ ปุ กรณ์รอบข้างทํางานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในรูปแบบท่ี ต้องการ ซึง่ มอี งค์ประกอบแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ และ ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ ตัวอย่างซอฟตแ์ วร์ระบบหรือท่ีเรียกว่า ระบบปฏิบัติการ เช่น ไมโครซอฟต์ วินโดวส์ (microsoft windows) วินโดวส์ เอ็กซ์พี โปรเฟซชันนัล (windows XP professional) วินโดวส์ วิสต้า (windows Vista) วินโดวส์ 7 (windows 7) วินโดวส์ 8 (Windows 8) วินโดวส์ 10 (windows 10) วินโดวส์ 11 (windows 11) โอเอส เอ็กซ์ (OS X) เมาท์เท่น ไลอ้อน (Mountain Lion) และ อุ-บูน-ตุ ลีนุกซ์ (ubuntu linux) เป็นต้น การเริม่ ต้นการทํางานของระบบปฏิบัติการ เรียกว่า การบูทระบบมี 2 วิธี ได้แก่ วอร์มบูท และ โคลด์บทู ซึ่งวอรม์ บทู เป็นการทําให้เครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีกําลังใช้งานอยู่เร่ิมต้นการทํางานใหม่อีกครั้ง โดยไม่มีการกดปุ่มสวิตช์ ปิด-เปิด ซึ่งทําได้หลายวิธี เช่น การรีสตาร์ท (restart) เคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยการกดปุ่มคอนโทรล (Ctrl) อัลทิเนต (Alt) และดีลีท (Del) บนแป้นพิมพ์พร้อมกัน ในส่วนของ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ประยุกต์พื้นฐาน ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เฉพาะงาน และโมบายแอปพลิเคชนั ซอฟต์แวร์ประยุกต์พ้ืนฐานหรือโปรแกรมประยุกต์เพ่ืองานทั่วไป ประกอบด้วย โปรแกรม ประยุกต์ด้านการพิมพ์และการจัดการเอกสาร โปรแกรมประยุกต์เพ่ือใช้งานด้านการคํานวณ โปรแกรมประยุกตเ์ พือ่ ใชง้ านด้านการนําเสนอข้อมูล และโปรแกรมประยกุ ต์เพอื่ ใช้งานด้านการจัดการ ฐานข้อมูล ส่วนโปรแกรมประยุกต์เฉพาะงาน ประกอบด้วยการประยุกต์เพื่องานด้านบริการและการ ประยุกต์เพอ่ื งานด้านปฏิบัติการและการบริการ เช่น ด้านการเงินและการธนาคาร ด้านธุรกิจการบิน ด้านการโรงแรม ด้านการศึกษา และด้านอุตสาหกรรม เป็นต้น และในปัจจุบันได้มีการพัฒนา ซอฟต์แวรแ์ บบใหมข่ น้ึ มา ที่เรยี กวา่ โมบายแอปพลิเคชนั ซง่ึ ถอื วา่ เป็นซอฟต์แวร์ขนาดเล็กท่ีพัฒนาข้ึน ใช้งานบนอปุ กรณเ์ คลอื่ นท่ี เช่น สมารท์ โฟน และแทบ็ เลต็ เปน็ ต้น

65 คาถามท้ายบท กิจกรรมด้านทฤษฎี 1. จงอธิบายความหมายของเทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ 2. จงอภิปรายถึงความสาํ คญั ของเทคโนโลยีซอฟตแ์ วร์มอี ิทธิพลต่อการประกอบธุรกจิ อย่างไร 3. จงจาํ แนกองคป์ ระกอบของเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ พรอ้ มอธบิ าย 4. จงยกตวั อยา่ งซอฟต์แวร์ระบบท่ีนิยมใชใ้ นปจั จบุ ัน 5. จงยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ที่ใชง้ านท่ัวไป 6. จงยกตวั อย่างซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ที่ใชง้ านเฉพาะดา้ น 7. จงอธิบายหลกั การทาํ งานของระบบปฏิบตั กิ าร 8. จงอธบิ ายลกั ษณะของซอฟต์แวร์ประยุกตส์ ําหรับการประกอบธุรกิจ 9. การแสดงรายงานสรุปจาํ นวนผ้เู ขา้ พักในโรงแรม และรายงานจํานวนหอ้ งพกั ทม่ี กี ารสํารอง เป็น การใช้ประโยชนโ์ ปรแกรมประยกุ ต์เพ่ือวัตถุประสงคใ์ ด 10.จงคน้ คว้าหาขอ้ มลู ธรุ กจิ จากเพจเฟซบุ๊ก “อายุนอ้ ยรอ้ ยล้าน” ทม่ี กี ารนาํ โปรแกรมประยุกต์เข้าไปใช้งาน แล้วประสบความสําเรจ็ และระบุเหตุผลให้ไดว้ า่ ทาํ ไมจงึ ต้องนําโปรแกรมประยกุ ต์เข้าไปใช้งานในธุรกิจ กิจกรรมด้านปฏิบัติ 1. ฝกึ ปฏบิ ัติสาธิตการใช้งานโปรแกรมประยกุ ต์ทางธรุ กิจ โดยแบ่งประเภทดงั น้ี 1. โปรแกรมประยกุ ต์ท่วั ไป 2. โปรแกรมประยุกต์เฉพาะด้าน

66 เอกสารอา้ งอิง เทคโนโลยี ดเู นยี . (2558). ภาพตวั อยา่ งซอฟตแ์ วร์ประยุกต์. ค้นเมือ่ กุมภาพนั ธ์ 11, 2562, จาก http://technologi-dunia.blogspot.com/2017/01/5-aplikasi-office-untuk-android-terbaik.html. ไทยแวร์. (2563). ตวั อย่างโปรแกรมเชา่ หนังสือ ระบบยืม คืนหนงั สอื . ค้นเม่ือ กันยายน 29, 2563, จาก https://software.thaiware.com/10960-BookRent-Download.html. _______. (2563). โปรแกรม Computer Aided Design, CAD. ค้นเม่ือ กนั ยายน 29, 2563, จาก https://software.thaiware.com/download/โปรแกรม-CAD. บคี อมชอ๊ ป. (2559). ภาพตัวอย่างข้อตกลงสัญญาอนุญาตใช้ซอฟตแ์ วร์. ค้นเม่ือ กมุ ภาพันธ์ 11, 2562, จาก http://becomshop.com/blog/2016-02-01-594 พษิ ณุ ปรุ ะศิริ. (2556). คู่มือเรยี นรู้และใชง้ านคอมพวิ เตอรเ์ บ้อื งตน้ ฉบับสมบูรณ์. นนทบุรี: ไอดีซี. ไพบูลย์ เกยี รตโิ กมล และณฏั ฐพนั ธ์ เขจรนันท์. (2551). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชน่ั . วศิน เพ่ิมทรัพย.์ (2561). ความรูเ้ บือ้ งต้นเก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. กรุงเทพฯ: โปรวิชั่น. ศศลักษณ์ ทองขาว และคณะ. (2558). คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่. กรุงเทพฯ: แมคกรอ-ฮลิ . สุพรรษา ยวงทอง. (2557). ความรเู้ บ้อื งต้นเกี่ยวกบั คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรุงเทพฯ: โปรวชิ ่นั . อมั รินทร์ เพช็ รกลุ . (2558). สร้าง ปรบั แต่ง และจดั เอกสารด้วย Word 2013 ฉบบั สมบูรณ์. กรุงเทพฯ: REVIVA. แอรพ์ าส. (2563). โปรแกรมสารองทน่ี ัง่ ผูโ้ ดยสาร. ค้นเมอื่ มกราคม 29, 2563, จาก https://www.airpaz.com/th. โอภาส เอ่ยี มสริ วิ งศ.์ (2554). ระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยูเคช่ัน. ________. (2561). วิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ. กรงุ เทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชั่น. ฮอรแ์ กไนซ์. (2563). โปรแกรมประยุกตใ์ นธุรกิจโรงแรมอพาร์ทเม้นท์. คน้ เม่ือ กันยายน 29, 2563, จาก https://app.horganice.in.th/.

แผนบรหิ ารการสอนประจาบทท่ี 4 แนวคิดและเทคโนโลยโี ปรแกรมประยกุ ตท์ างธุรกิจ หัวขอ้ เนือ้ หา 1. แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยุกตก์ บั งานบญั ชแี ละการเงิน 2. แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยุกตก์ บั งานการตลาด 3. แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยกุ ต์กบั งานการผลติ และการดาเนนิ งาน 4. แนวคดิ และเทคโนโลยีโปรแกรมประยุกตก์ บั งานการจดั การทรัพยากรมนุษย์ 5. แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยุกต์ระบบบรหิ ารจัดการทรัพยากรภายในองค์การ วัตถุประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายแนวคิดการเลือกใชโ้ ปรแกรมประยุกตก์ บั งานบญั ชแี ละการเงินได้ 2. อธบิ ายแนวคิดการเลอื กใชโ้ ปรแกรมประยุกตก์ บั งานการตลาดได้ 3. อธิบายแนวคิดการเลอื กใชโ้ ปรแกรมประยกุ ต์กับงานการผลติ และการดาเนินงานได้ 4. อธิบายแนวคดิ การเลอื กใช้โปรแกรมประยกุ ต์กบั งานการจดั การทรัพยากรมนุษย์ได้ 5. ฝึกปฏิบัติทดลองใช้โปรแกรมประยุกต์ในการบริหารทรัพยากรองค์การที่เหมาะสมกับงาน เฉพาะด้านได้ วิธสี อนและกิจกรรมการเรียนการสอน 1. วิธีสอน 1.1 วิธสี อนแบบบรรยาย 1.2 วธิ สี อนแบบปฏิบตั ิ 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน 2.1 ผู้สอนเป็นผ้ตู ั้งคาถามเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจว่ามีการนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ใน ธุรกิจเกี่ยวกับงานด้านใดบ้าง เขียนเป็นแผนภาพ Mind Mapping เพ่ือสรุปแผนภาพให้เชื่อมโยงกับ เน้ือหาบทเรยี น 2.2 ผสู้ อนบรรยายเร่ืองต่อไปน้ี 2.2.1 แนวคิดและเทคโนโลยโี ปรแกรมประยกุ ตก์ ับงานบญั ชีและการเงิน 2.2.2 แนวคดิ และเทคโนโลยโี ปรแกรมประยกุ ต์กบั งานการตลาด 2.2.3 แนวคดิ และเทคโนโลยีโปรแกรมประยกุ ตก์ ับงานการผลติ และการดาเนินงาน 2.2.4 แนวคดิ และเทคโนโลยีโปรแกรมประยกุ ต์กับงานการจดั การทรัพยากรมนุษย์ 2.2.5 แนวคิดและเทคโนโลยโี ปรแกรมประยกุ ต์ระบบบริหารจดั การทรัพยากรภายในองคก์ าร

68 2.3 ฝึกปฏิบตั ิทดลองใช้งานโปรแกรมประยุกตท์ างธุรกจิ ท่ีเหมาะสมกับงานเฉพาะด้าน โดย ผูเ้ รยี นแต่ละคนเลือกใชง้ าน คนละ 1 ด้าน ตามเน้ือหาบทเรียน 2.4 ผู้เรยี นทกุ คนศึกษาเนอ้ื หาท่ีเรียนพรอ้ มเปิดโอกาสให้แลกเปลย่ี นความร้กู ับเพ่อื นใน หอ้ งเรียนและตอบคาถามทา้ ยบท ส่ือการเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า การใช้โปรแกรมประยกุ ตท์ างธรุ กจิ 2. โปรแกรมสาเรจ็ รปู Power Point ประกอบการสอน 2.1 แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยุกตก์ บั งานบญั ชแี ละการเงิน 2.2 แนวคิดและเทคโนโลยโี ปรแกรมประยกุ ต์กับงานการตลาด 2.3 แนวคดิ และเทคโนโลยโี ปรแกรมประยุกต์กับงานการผลติ และการดาเนินงาน 2.4 แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยุกต์กับงานการจดั การทรัพยากรมนุษย์ 2.5 แนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรมประยกุ ตร์ ะบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในองคก์ าร 3. โปรแกรม web browser สบื ค้นขอ้ มูล 4. ใบงานฝกึ ปฏิบตั ิ เรอ่ื ง โปรแกรมประยุกต์ทางธุรกจิ ทเี่ หมาะสมกับงานเฉพาะดา้ น 5. โปรแกรมสาเรจ็ รูป Microsoft office 6. บทเรยี นออนไลน์ www.elearningbynirut.com/moodle/ การวัดผลและประเมินผล 1. สงั เกตจากพฤติกรรมการเรยี น 2. สังเกตการสนทนาและตอบคาถาม 3. ตรวจผลงาน mind mapping 4. ตรวจผลงานการฝึกปฏบิ ัติ 5. ตรวจผลงานการตอบคาถามท้ายบท

บทท่ี 4 แนวคิดและเทคโนโลยโี ปรแกรมประยกุ ต์ทางธุรกิจ ปจั จุบนั คอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรมประยุกต์มีความสามารถทางานได้หลายอย่าง ผู้ใช้ควรเรียนรู้ว่า ใครควรจะใช้โปรแกรมใด ใช้ทาอะไร และใช้อย่างไร ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์ใช้โปรแกรมตารางทางาน การคานวณยอดขาย นักออกแบบกราฟิกใช้โปรแกรมอะโดบี โฟโต้ชอป (adobe photoshop) ตกแต่งภาพ เลขานุการใช้โปรแกรม ประมวลผลคาพิมพ์จดหมาย และใช้อีเมล์ในการติดต่อส่ือสารผ่านทางเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ประยุกต์เป็นโปรแกรมที่พัฒนาข้ึนเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทางานด้านต่าง ๆ ตาม ความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งถ้าโปรแกรมพัฒนาขึ้นเพ่ือความต้องการเฉพาะขององค์การใดองค์การหนึ่ง จะ เรยี กซอฟตแ์ วร์ประเภทน้วี ่า ซอฟต์แวร์เฉพาะงาน (custom program) ซึ่งข้อดี คือ โปรแกรมสามารถใช้ งานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพตามความประสงค์ของหนว่ ยงาน แต่ข้อเสียคือซอฟต์แวร์ประเภทน้ีจะใช้เวลาในการ พัฒนานานและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ในส่วนภาคองค์การธุรกิจน้ันจะมีหน้าที่สาคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการ บัญชกี ารเงนิ การตลาด การจัดการทรัพยากรมนุษย์ และการผลิตการดาเนินงาน เม่ือเราเป็นผู้ใช้งานโปรแกรม เราจะมีแนวทางในการเลือกใช้งานโปรแกรมประยุกตต์ ่าง ๆ ในหน้าทีท่ ี่แตกต่างกนั ออกไปอย่างไร ในบทนจ้ี ะอธบิ ายถึง แนวคิดและเทคโนโลยโี ปรแกรมประยุกตด์ า้ นการบญั ชีและการเงิน ด้านตลาด ด้านการผลิตและการดาเนินงาน ด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และแนวคิดและเทคโนโลยีโปรแกรม ประยุกต์ระบบบรหิ ารจัดการทรัพยากรองคก์ าร โดยมีรายละเอยี ดดังต่อไปน้ี แนวคดิ และเทคโนโลยีโปรแกรมประยกุ ต์ด้านการบัญชีและการเงนิ งานบัญชี (accounting) จะเป็นกิจกรรมในการรวบรวม วิเคราะห์ จัดประเภท และสรุปข้อมูล รายการต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปของตัวเลข โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนาข้อมูลเหล่านั้นมาใช้สาหรับการวางแผน และควบคมุ การดาเนินงานด้านต่าง ๆ ของธุรกิจ และเป็นหน้าท่ีท่ีต้องปฏิบัติเพ่ือให้เป็นไปตามท่ีกฏหมาย กาหนดไว้ (พนิดา พานิชกุล, 2554, หน้า 3) การบัญชถี อื วา่ เปน็ หนา้ ทงี่ านด้านการบริหารทรัพยากรขอ้ มูลทางการเงินของธรุ กิจ ซ่ึงในปัจจุบันได้ พัฒนาการด้านการทาบัญชีขององค์การธุรกิจท้ังในส่วนภาครัฐและเอกชน การพัฒนาเป็นระบบ สารสนเทศทางการบัญชี คือ ทิศทางหน่ึงของการใช้คอมพิวเตอร์ในงานบัญชีท่ีมุ่งเน้นเป้าหมายด้านการ รวบรวม จัดเก็บ ประมวลผล และนาเสนอสารสนเทศทางการบัญชีทั้งในส่วนของบัญชีการเงินและบัญชี บริหาร เพ่ือผลของการตัดสินใจท่ีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการทาบัญชีด้วยมือ ซ่ึงมัก ประกอบด้วยขน้ั ตอนท่ีค่อนขา้ งมคี วามซา้ ซอ้ น จงึ กอ่ ให้เกิดความล่าช้าในการออกรายงานทางการเงินและ รายงานการบริหาร ดังนั้น ถือว่าระบบสารสนเทศทางการบัญชี คือ อีกแนวทางหนึ่งท่ีช่วยเพิ่มมูลค่า สาหรับการดาเนินงานภายในธุรกิจ ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และรองรับการขยายตัวของ ธุรกิจในอนาคต (รุจิจันทร์ วชิ วิ านิเวศน์, 2560, หนา้ 249)

70 การนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์กับงานบัญชีเป็นเร่ืองท่ีจะต้องกระทาด้วยความรอบคอบและก่อน หน่วยงานอ่ืนและบริษัทจะต้องวางรูประบบบัญชีเอาไว้ หากบริษัทยังไม่มีระบบบัญชีที่ดีหรือไม่ได้จัดทา บัญชีด้วยมืออย่างเป็นระบบมาก่อนแล้ว การนาคอมพิวเตอร์มาใช้กับงานบัญชีอาจก่อให้เกิดปัญหามาก ยิง่ ขนึ้ กว่าเดิม ท้ังน้ีเพราะการจัดทาบัญชีด้วยมือน้ันปกติก็จะต้องบันทึกรายการต่าง ๆ ลงในสมุดบัญชีอยู่ แล้ว แต่การเปล่ียนมาใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทาบัญชีน้ันการบันทึกรายการต่าง ๆ จะตรงเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์เลย นักบัญชีอาจจะไม่ได้เห็นตัวเลขต่าง ๆ ดังท่ีเคยเห็นมาก่อนกับความมั่นคงปลอดภัยของ ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลบัญชีอาจหายไปเพราะถูกไวรัส (virus) ทาลาย หรืออาจถูก พนักงานที่ทุจริตแอบเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวเลขได้ เป็นต้น ดังนั้น ควรมีความเข้าใจในเทคโนโลยีทางการ บญั ชีเปน็ พนื้ ฐานเพื่อจะไดส้ ามารถประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ชลิต ผลอนิ ทรห์ อม (2559, หน้า 6-9) ได้อธิบายว่า ในสว่ นของเทคโนโลยีทางการบัญชีน้ันนักบัญชี ควรมีความรู้พื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต การแก้ปัญหา เบ้ืองต้น การทางานระยะไกล การใช้เครื่องมือเคร่ืองใช้สานักงาน เช่น สแกนเนอร์ (scanner) แฟกซ์ (fax) ปร้ินเตอร์ (printer) สามารถใช้เพื่อการติดต่อส่ือสารจาพวก อีเมล์ โปรแกรมเพื่อการสื่อสารอื่น ๆ เช่น ไลน์ (Line) สไกป์ (Skype) โปรแกรมสานักงานประยุกต์ ตารางคานวณ โปรแกรมพิมพ์งาน โปรแกรมนาเสนองาน ในส่วนของโปรแกรมประยุกต์เฉพาะด้าน ได้แก่ โปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชี โปรแกรมจัดการฐานข้อมลู สว่ นต่อขยายของระบบสารสนเทศทางการบัญชี และเทคโนโลยีต่อยอดการใช้ ข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางการบัญชี เช่น การเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างองค์กร คลังข้อมูล (data warehouse) โปรแกรมอัจฉริยะทางธุรกิจ (business intelligence) ไพวอร์ท (pivot) ซ่ึงในส่วนของ เทคโนโลยีทางการบัญชจี ะกลา่ วถึงเทคโนโลยสี ารสนเทศที่ธุรกิจต่างนิยมนามาใช้ร่วมกับระบบสารสนเทศ ทางการบัญชี คอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู ทางการบญั ชี รุจิจันทร์ วิชิวานิเวศน์ (2560, หน้า 272-276) ได้อธิบายว่า โปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชี (accounting software) คือ ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ประเภทหน่ึงท่ีวางขายในตลาดซอฟต์แวร์ถูก พฒั นาขึน้ เฉพาะงานด้านการบัญชี และใช้งานรว่ มกบั ระบบจัดการฐานขอ้ มูล เพ่ือสร้างระบบจัดเก็บข้อมูล ทางการบัญชีท่ีมีประสิทธิภาพ และสามารถออกรายงานทางการเงินและรายงานทางการบริหารได้ตาม ตอ้ งการของผูใ้ ช้ ท้งั นี้ จะต้องเน้นการควบคุมทางการบัญชีในส่วนการควบคุมเฉพาะระบบ ท้ังในด้านการ ควบคุมด้านการเข้าถึง การรับเข้า การประมวลผล และการส่งออกข้อมูลในส่วนการจัดส่งสารสนเทศให้ ผู้ใช้รายงาน โปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชีเป็นโปรแกรมที่เน้นการบันทึก การประมวลผลและการ นาเสนอรายงานท่ีเก่ียวกับธุรกรรม โดยมีการบันทึกข้อมูลรายวัน การผ่านบัญชีไปสมุดแยกประเภท และ การรายงานสรุปผลในงบการเงินต่าง ๆ ผลลัพธ์อาจอยู่ในรูปแบบเอกสารหรือรายงานต่าง ๆ เช่น ใบแจ้ง ชาระเงิน งบการเงิน หรือรายงานงบประมาณ เป็นต้น บางครั้งอาจจาแนกโปรแกรมออกเป็นโมดูลต่าง ๆ เชน่ ระบบจัดซ้อื ระบบควบคุมสินคา้ คงเหลอื ระบบขาย ระบบแจ้งหน้ี และระบบบัญชีแยกประเภท เป็น ตน้ มีกระบวนการทางานโครงสร้างขน้ั ตอนท่ีแตกตา่ งกนั ออกไป ดังนนั้ ราคาขายโปรแกรมสาเร็จรูปแต่ละ

71 ตัวจึงแตกต่างกัน จึงเป็นหน้าที่ของผู้ใช้ท่ีจะพิจารณาคัดเลือกโปรแกรมที่ตอบสนองความต้องการได้ดี มี ราคาทเี่ หมาะสมและค้มุ ค่าต่อการใช้งาน ซง่ึ มีคุณสมบัติดงั นี้ 1. มีองค์ประกอบพื้นฐานของโปรแกรมครบถ้วน การกาหนดรหัสผ่านและงวดบัญชี การปรับปรุง แฟ้มข้อมูลหลัก การรับเข้าและตรวจทานข้อมูล การผ่านบัญชี การปิดบัญชี การพิมพ์แบบฟอร์มเอกสาร และรายงานตลอดจนการโอนย้ายข้อมลู 2. มโี ปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility) ด้านการกาหนดขนาดแฟม้ ข้อมลู และการขยายขนาดพื้นที่ อัตโนมัติเม่ือพื้นท่ีจุดข้อมูลเต็ม ด้านการเก็บสารองข้อมูล ด้านการขจัดข้อมูลท่ีไม่ต้องการใช้งานออก ตลอดจนด้านการออกแบบฟอร์มเอกสาร 3. ความสามารถของโปรแกรมในการเช่ือมต่อกับระบบปฏิบัติการ ท่ีมีขีดความสามารถในการ ทางานสงู และมคี วามเหมาะสมกับการใช้งาน 4. มีความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบลูกข่าย -แม่ข่าย (client-server) และมีระบบการควบคมุ การรบั -ส่งขอ้ มลู ทดี่ ี กาหนดระดับการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้แต่ละ คน และมีระบบความมั่นคงบนเครอื ข่ายอีกด้วย 5. เป็นโปรแกรมท่ีมคี วามยืดหยุน่ ในการใชง้ านสงู ทผี่ ูใ้ ช้สามารถกาหนดทางเลือกการใช้งานได้ง่าย โดยมักอยู่ในรูปแบบการตั้งคาถามให้ผู้ใช้ตอบตอนติดต้ังระบบ ผู้ใช้จึงควรตอบคาถามเหล่านี้ด้วยความ ระมัดระวัง 6. มีระบบกาหนดรหัสผ่านหลายระดับ ซ่ึงสามารถควบคุมขั้นตอนในการทางาน ตลอดจนการใช้ แฟม้ ข้อมูลของผใู้ ช้ได้ นอกจากน้ผี ้ใู ช้ยังสามารถกาหนดงวดเวลาบัญชีทีต่ ้องการได้ 7. มีการสร้างแฟ้มหลัก รวมทั้งการปรับปรุงข้อมูลในแฟ้มหลัก เช่น การเพ่ิมหรือลดพนักงานหรือ การเปลย่ี นอตั ราเงนิ เดอื น เป็นต้น โปรแกรมท่ีดีจะต้องมีแฟ้มบันทึกผู้ใช้ ซ่ึงบันทึกการเปล่ียนแปลงข้อมูล ในแฟม้ หลัก 8. มีระบบการรับเข้าข้อมูลและการตรวจทานการรับเข้าข้อมูล โดยเฉพาะในการผ่านบัญชี อาจ ตอ้ งมีการสรา้ งรอยทางบัญชี (audit trail) ใหส้ ามารถยอ้ นกลับไปตรวจสอบรายการท่ีผิดปกตไิ ดอ้ ีกด้วย 9. การป้อนข้อมูลทางหน้าจอ ควรอยู่ในลักษณะของการรับข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งรายการ การใช้ ฟงั ก์ชั่นคีย์ และการกาหนดค่าข้อมูลอัตโนมตั ิเพ่ือความรวดเร็วในการป้อนขอ้ มลู มีการแสดงยอดรวมบัญชี ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องทางหน้าจอได้ กาหนดเขตข้อมูลที่เป็นค่าว่างไม่ได้ และมีความ คล่องตัวในการยา้ ยตาแหน่งการป้อนข้อมูลทางหน้าจอ 10. มีระบบปอ้ งกนั การผา่ นบัญชที ผ่ี ิดพลาด เช่น การสารองขอ้ มูลก่อนผ่านบัญชีทุกครั้ง หรือมีการ พิมพ์สมุดรายวนั อตั โนมัตกิ อ่ นผา่ นบัญชี โดยเฉพาะในส่วนของการเชื่อมโยงข้อมลู กบั ระบบอื่น 11. มคี วามยดื หย่นุ ของการปิดงวดบัญชี ในบางครั้งท่ีปิดบญั ชีไปแล้ว แต่มีรายการปรับปรุงเพิ่มเติม ในภายหลัง 12. มีโปรแกรมพิมพ์แบบฟอร์มเอกสารหรือรายงาน กาหนดช่วงข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการพิมพ์ได้ บางครง้ั อาจเลือกทีจ่ ะนาเสนอรายงานทางหนา้ จอคอมพวิ เตอร์ได้

72 13. การโอนย้ายข้อมูลภายในระบบ ตลอดจนบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพ่ือสร้างความคล่องตัว ให้กับผู้ใช้ข้อมูล เช่น การส่งออกข้อมูลงบการเงินไปเก็บในฐานข้อมูลของโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซ็ล เพอ่ื งานด้านการวิเคราะห์งบการเงนิ เปน็ ต้น สาหรบั ตวั อย่างของโปรแกรมสาเรจ็ รูปทางการบัญชี ปัจจุบันมีโปรแกรมประยุกต์หลายโปรแกรมท่ี นกั พัฒนาโปรแกรมไดอ้ อกแบบและพัฒนาข้ึนตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานอย่างกว้างขวาง ซึ่งวิธีการ นนั้ ธรุ กจิ อาจจ้างนักเขียนโปรแกรมมาพัฒนาหรือจะใช้วิธีการจ้างนักเขียนโปรแกรมจากภายนอกเข้ามาก็ สามารถทาได้เช่นกนั ซึ่งในปัจจุบันได้มีการออกแบบโปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชีแบบออนไลน์ข้ึนบน คลาวด์ ผ้ใู ชง้ านจะสามารถใชโ้ ปรแกรมบญั ชใี นการจดั เก็บข้อมูลบัญชี ประมวลผลข้อมูลบัญชีได้ตามความ ตอ้ งการผ่านระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ เหมอื งขอ้ มูลตา่ ง ๆ เหล่าน้ันเป็นกลุ่มก้อนเมฆ นั่นหมายความว่า เราสามารถทาบัญชี ออกใบกากับภาษี ทารายงานทางบัญชี หรือเรียกดูงบกาไรขาดทุน ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องเข้าสานักงานทุกคร้ัง โดยตัวอย่างโปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชีบน คลาวด์ แสดงดังภาพท่ี 4.1 ภาพที่ 4.1 ตวั อย่างโปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชีบนคลาวด์ ทมี่ า (โฟล แอคเค้า, 2564) เม่อื มีการนาโปรแกรมสาเร็จรูปทางการบัญชีเข้ามาใช้งาน จึงเกิดข้อเปรียบเทียบข้ึนระหว่างการ ทาบัญชีด้วยสมุดแบบเดิม กับการใช้โปรแกรมสาเร็จรูปน้ันให้ประโยชน์ท่ีแตกต่างกัน โดยข้อแตกต่าง ระหว่างการทาบญั ชีดว้ ยสมุด (Manual) กับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แสดงดงั ตารางท่ี 4.1

73 ตารางท่ี 4.1 ขอ้ แตกตา่ งระหว่างการทาบัญชีดว้ ยสมุด (Manual) กับการใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ การทาบัญชดี ว้ ยสมุด การทาบญั ชดี ้วยโปรแกรม ประโยชนท์ ี่ได้รับจากการใช้โปรแกรม 1. ต้องใชบ้ คุ ลากรจานวนมาก 1. ไมต่ อ้ งใช้บุคลากรจานวนมาก 1. ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย 2. บุคลากรมโี อกาสเหน่ือยล้าทาให้เกิด 2. คอมพิวเตอร์ทางานได้อย่างแม่นยา 2. ประหยัดเวลา ไดง้ านที่รวดเร็วและ ขอ้ ผิดพลาดไดง้ า่ ย รวดเร็วและถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง 3. ลายมือไม่สม่าเสมอ ทาให้มีโอกาส 3. คอมพิวเตอร์ไม่สับสนเรื่องตัวเลขและ 3. แสดงรายงานไดร้ วดเร็ว อา่ นงา่ ยและ ผดิ พลาดโยเฉพาะทางดา้ นตวั เลข ขอ้ ความ เก็บข้อมูลไดม้ ากตามเนอ้ื ท่ี ชัดเจน 4. ขั้นตอนในการผ่านบัญชีทาให้มี 4. ขณะทารายงานถ้าจานวนเงินเดบิต 4. การผ่านบัญชที าได้โดยอัตโนมตั ิ และไม่ โอกาสผิดพลาดสูง ทาให้งบทดลองไม่ และเครดิตไม่เท่ากันโปรแกรมจะไม่ เสียเวลาในการแกไ้ ข ตัวเลขเป็นปจั จุบัน เทา่ กนั การแก้ไขตัวเลขยุ่งยากและเสียง บันทกึ ให้ การแก้ไขตวั เลขโปรแกรมจะ ตลอดเวลา เวลาเนืองจากต้องตรวจสอบตัวเลข แก้ไขตวั เลขปัจจุบนั ใหท้ ันที ยอ้ นหลงั 5. ตอ้ งลงรายการกอ่ นจงึ สามารถ 5. สามารถออกรายงานได้ทันทีทั้ง 5. ทนั ตอ่ การสง่ รายงานให้หวั หน้างาน ทัน รายงานตา่ ง ๆ ไดก้ ารออกแบบรายงาน รายงานปัจจุบันและรายงานย้อนหลัง ต่อการส่งกรมสรรพากร กรณีท่ีเป็น ภาษีซื้อขายตอ้ งตรวจสอบใหถ้ ูกตอ้ ง ได้ รายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม มิฉะนั้นอาจเสีย เบยี้ ปรับ 6. ต้องบนั ทึกยอดมากอ่ นจึงจะมาบันทึก 6. บันทึกข้อมูลรายวันได้ โดยไม่ต้อง 6. ไม่เสียเวลารอคอยยอดยกมาในกรณีที รายการรายวันได้ รอยอดยกมา สามารถบันทึกท่หี ลังได้ ปิดบญั ชีไมไ่ ด้ 7. งบการเงินมักล่าช้า ไม่ทันต่อ 7. สามารถขอดูงบการเงินได้ทันทีทีมี 7. ได้รูปแบบงบทีตรงตามความต้องการ เหตุการณ์ ไม่ทันต่อความต้องการของ ข้อมูลหลัก และข้อมูลรายวัน ทันต่อ ของผูใ้ ช้ ฝา่ ยบรหิ าร ความตอ้ งการของผู้บรหิ าร 8. การเปรียบเทียบตัวเลขหรือข้อมูล 8. สามารถเปรียบเทียบข้อมูล 8. เป็นประโยชน์ในการตดั สนิ ใจของฝา่ ย ย้อนหลังทาได้ยุ่งยากหากการเก็บ ย้อนหลังได้หลายปี ท้ังข้อมูลจริงและ บริหาร ซงึ่ มผี ลกระทบต่อกาไรของกจิ การ เอกสารไมด่ ีพอ งบประมาณ 9. ทาให้มีความปลอดภัยต่อข้อมูลและทา 9. ไม่สามารถกาหนดรหัสผ่านการทา 9. สามารถกาหนดรหัสผ่านของแต่ละ ใหค้ วามลับกจิ การไม่รัวไหล บัญชีได้ บคุ คลไดไ้ ม่จากดั จานวน 10. ทาใหฝ้ ่ายบรหิ ารตดั สนิ ใจได้ง่ายขนึ้ 10. ตอ้ งเสียเวลาในการนาข้อมูล 10. สามารถโอนข้อมูลในส่วนของ มาสรา้ งกราฟ กระดาษทาการทดลองและงบทดลอง ไปทโี่ ปรแกรมทใี่ ชส้ ร้างกราฟได้ ทมี่ า (วชั นพี ร เศรษฐสักโก, 2560, หน้า 7)

74 นอกจากงานการบัญชที ี่ได้อธบิ ายไปข้างต้น จะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับงานการเงิน (financial) สาหรับแนวคิดงานการเงินจะเป็นกิจกรรมทางการจัดการด้านการเงิน ได้แก่ การจัดหาเงินทุน การเก็บ รกั ษาและการใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้การดาเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบร่ืน และเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ทธี่ รุ กิจหรอื กจิ การกาหนดไว้ (พนดิ า พานิชกลุ , 2554, หนา้ 3) ในส่วนภาระหน้าที่สาคัญอีกหนึ่งหน้าที่ คือ การเงิน ซึ่งถือว่ามีความสาคัญอย่างยิ่ง เป็นการ จัดการกระแสเงินสดเข้าและออกจากธุรกิจ จะเกี่ยวข้องกับทุก ๆ กิจกรรมการดาเนินงานแต่ละหน้าท่ี งาน ซึ่งก่อให้เกิดกระแสเงินสดเข้าและออกของแต่ละวัน ดังนั้น ธุรกิจจึงจาเป็นต้องมีการวางแผน การ จัดการและควบคุมทางการเงินที่ดี โปรแกรมสาเร็จรูปทางการเงินจะแสดงสารสนเทศที่เรียกว่า สารสนเทศทางการเงิน ซึ่งสารสนเทศนี้จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการนาเสนอข้อมูลทางการเงินเพื่อ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้สารสนเทศด้านการวางแผน การจัดการ การควบคุมและการ ตรวจสอบทางการเงิน โดยอาศัยการพยากรณ์และการวิเคราะห์ทางการเงินเป็นเครื่องมือสาคัญท่ีทาให้ กิจกรรมด้านต่าง ๆ ของธุรกิจ เช่น การตลาด การผลิต และการจัดการทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น สามารถดาเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะในส่วนของการจัดหาเงินทุนไว้สาหรับใช้จ่ายในกิจกรรม ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการจัดการเงินสดและเงินลงทุนของกิจการก่อให้เกิดมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเพื่อผลประโยชน์ ของธุรกิจ (รุจิจันทร์ วิชิวานิเวศน์, 2560, หน้า 219) โปรแกรมสาเร็จรูปทางการเงินท่ีดี จาเป็นต้องสามารถปรับเปล่ียนโปรแกรมให้สอดคล้องกับความ ต้องการของผู้ใช้ด้วย ซึ่งการปรับเปล่ียนนี้จะได้ผลเท่าใดขึ้นกับความสามารถและขั้นตอนการปรับเปล่ียน ของแต่ละโปรแกรม หากโปรแกรมที่เลือกใช้ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ ก็อาจส่งผลให้เกิด ความลม้ เหลวในการใชง้ านโปรแกรมสาเรจ็ รปู นน้ั ๆ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาโปรแกรมสาเร็จรูปทางการเงินในรูปแบบออนไลน์ ในท่ีนี้จะยกตัวอย่าง ระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (government fiscal management information system) ของกระทรวงการคลัง หรือเรียกว่าย่อ ๆ ว่า จีเอฟเอ็มไอเอส (GFMIS) โดยระบบ นี้หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ได้นามาใช้งานในการบริหารการเงินการคลังแบบออนไลน์ เป็นการกากับ ติดตามงบประมาณของภาครัฐของหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมบัญชีกลาง สานักงบประมาณ สานักงาน การตรวจเงินแผ่นดิน สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสานักงานบริหารหน้ี สาธารณะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการทางาน ด้านการบริหารงานการคลังของภาครัฐให้มี ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเพ่ือความโปร่งใสในการดาเนินงาน สาหรับตัวอยา่ งโปรแกรมแสดงดงั ภาพท่ี 4.2

75 ภาพที่ 4.2 ตวั อย่างโปรแกรมสาเรจ็ รปู ทางการเงนิ ในรูปแบบออนไลน์ ที่มา (ภาวนา สขุ เกษม, 2564, หนา้ 33-34) ในส่วนของเทคโนโลยีทางการเงิน กล่าวได้ว่า ธุรกิจต่างนิยมนามาใช้งานร่วมกับกระบวนการ ทางธุรกิจของระบบสารสนเทศทางการเงิน ประกอบด้วย โปรแกรมสาเร็จรูปทางการเงิน ระบบ ประยุกต์ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีด้านการชาระหนี้ และการทาเหมืองแร่ข้อมูล โดยมี รายละเอียดดังน้ี (รุจิจันทร์ วิชิวานิเวศน์, 2560, หน้า 240-246) 1. โปรแกรมสาเร็จรูปทางการเงิน เป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งท่ีพัฒนาข้ึนใช้งานเฉพาะด้านการ ประมวลผลธรุ กรรมทางการเงิน ซ่ึงบางครั้งก็อาจรวมไปกับระบบอื่น เช่น ระบบการตลาด หรือระบบการ ผลิต เป็นต้น และจาเป็นต้องการใช้ร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูลเพื่อสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลท่ีมี ประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถออกเอกสารหรือรายงานทางการเงินตามความต้องการของผู้ใช้ ตัวอย่าง โปรแกรมเช่น โปรแกรมสาเร็จรูปด้านจัดการทางการเงิน โปรแกรมสาเร็จรูปด้านงบประมาณ โปรแกรม สาเร็จรูปด้านจดั การค่าใช้จ่ายเดนิ ทางอัตโนมัติ เปน็ ตน้ 2. ระบบประยุกต์ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบนี้นามาใช้เพ่ือสนับสนุนงานด้านการจัดการ ทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศทางการเงินให้มากย่ิงข้ึน ตัวอย่างเช่น ระบบการแลกเปล่ียนหุ้นส่วนกลาง ระบบจัดการสกุลเงินตราต่างประเทศ ระบบหุ้นกู้อิเล็กทรอนิกส์ ระบบนาเสนอเช็คคืนอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ระบบนาเสนอใบเรียกเก็บเงิน และการจ่ายชาระตามใบเรียกเก็บเงิน อิเล็กทรอนิกส์ เปน็ ต้น 3. เทคโนโลยดี ้านการรับชาระหน้ี Turban et al. (2006, p. 272) อธบิ ายว่า ผู้ประกอบการธุรกิจ ในปัจจุบันได้นาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาบริหารเงินสด เพ่ือให้เกิดความสภาพคล่องในการชาระหน้ี ลด ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากดอกเบ้ียหรือต้นทุนเงินทุน และยังมีการนาเงินส่วนที่เหลือมาลงทุนด้านอ่ืน ๆ เพ่ือให้ เกิดผลประโยชน์สูงสุด ดังน้ัน ส่ิงท่ีสาคัญสาหรับผู้ประกอบการธุรกิจจาเป็นต้องมี คือ ทักษะการเลือกใช้ งานเคร่ืองมอื เหลา่ นี้ใหเ้ กดิ ความชานาญและนาไปประยุกต์ใช้งานได้เหมาะสมสามารถแก้ไขปัญหาอานวย ความสะดวกตอ่ ธรุ กจิ ซึ่งเทคโนโลยีทน่ี ยิ มนามาใช้ในปัจจุบันน้ีก็มีความหลากหลาย เช่น บัตรเครดิต บัตร

76 เดบิต ตู้ไปรษณีย์เช่าอิเล็กทรอนิกส์ เช็คท่ีได้รับอนุมัติล่วงหน้า เช็คอิเล็กทรอนิกส์ เงินสดอิเล็กทรอนิกส์ การโอนเงนิ อิเล็กทรอนิกส์ ระบบธนาคารศนู ย์กลาง 4. การทาเหมืองข้อมูลทางการเงิน Turban et al. (2006, p. 272) อธิบายว่า ระบบนี้นามาใช้ เพื่อสนับสนุนงานด้านการวิเคราะห์ทางการเงิน โดยนาสารสนเทศทางการเงินในอดีตมาใช้เพื่อการ พยากรณ์ทางการเงินในอนาคต ตัวอย่างระบบประยุกต์ด้านการทาเหมืองแร่ข้อมูลทางการเงินท่ีใช้ สนับสนุนระบบสารสนเทศทางการเงิน ได้แก่ ระบบการเข้าถึงรายงานทางการเงินและเศรษฐกิจ ระบบ วิเคราะหท์ างการเงนิ ระบบบริหารโซ่คุณค่าทางการเงนิ เป็นตน้ การนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงานด้านบัญชีการเงิน ผู้ประกอบการธุรกิจจะมีตัวช่วยในการ ตัดสินใจทางการบัญชีและการเงิน ในส่วนการบัญชีจะนาเสนอสารสนเทศที่กอให้เกิดประโยชน์ต่อความ ต้องการผู้ใช้รายงานทั้งในรูปแบบของเอกสารทางการบัญชี รายงานทางการเงิน และรายงานทางการ บริหาร เป็นสารสนเทศท่ีเกิดจากการประมวลผลของระบบประมวลผลธุรกรรม ระบบบัญชีแยกประเภท และรายงานทางการเงิน และในส่วนของการเงินจะถูกนามาใช้ในการพยากรณ์ทางการเงิน การตัดสินใจ เลือกโครงการลงทุนที่ดีท่ีสุดและการจัดทางบประมาณลงทุน รวมท้ังการวิเคราะห์ทางการเงินที่ จาเป็นต้องอาศัยตัวแบบทางการเงินเฉพาะเร่ืองท่ีต้องการตัดสินใจประกอบด้วยซ่ึงหน้าท่ีงานดังกล่าว จาเปน็ ต้องกระทาเพื่อสนบั สนนุ หนา้ ที่หลักทางการเงิน คือ การจัดการและการควบคุมทางการเงิน ดังน้ัน การใช้เทคโนโลยีจึงจะส่งผลให้ประสบความสาเร็จและช่วยให้ธุรกิจดารงอยู่และเติบโตได้ในอนาคต ตวั อย่างระบบสารสนเทศทางการเงนิ ของสหกรณ์กลุ่มเกษตรกร แสดงดงั ภาพที่ 4.3 ภาพท่ี 4.3 ตวั อยา่ งระบบสารสนเทศทางการเงินของสหกรณ์กลุ่มเกษตรกร ที่มา (กรมตรวจบญั ชีสหกรณ์, 2559)

77 แนวคดิ และเทคโนโลยีโปรแกรมประยกุ ต์ด้านการตลาด การดาเนินกิจกรรมด้านการขายและการตลาดจะถือว่าเป็นภาระงานที่สาคัญภายใต้โซ่คุณค่าของ องค์การ จากแนวคิดในการดาเนนิ ธรุ กิจในปัจจุบนั มกั จะเน้นทคี่ วามพงึ พอใจของลูกค้าเป็นสาคัญ องค์การ จึงต้องให้ความสาคัญกับการดาเนินงานด้านการตลาด รวมท้ังการสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากรของทุก หน่วยงาน ในการสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบต่อลูกค้าทุกราย สารสนเทศทางการตลาดนับว่าเป็น สว่ นหน่ึงของสารสนเทศทางธุรกิจ ถือว่าเป็นผลลัพธ์ของระบบสารสนเทศทางการตลาด ธุรกิจส่วนใหญ่มี การใชส้ ารสนเทศทางการตลาดท้ังในแบบของเอกสาร รายงานปฏบิ ัติงานและรายงานเพ่ือการบริหาร โดย การกาหนดรูปแบบรายงานตามความตอ้ งการของผ้ใู ช้รายงาน สารสนเทศทางการตลาด เป็นสารสนเทศที่ได้จากการประมวลผลของระบบสารสนเทศทาง การตลาด ต้องอาศยั ขอ้ มลู และสารสนเทศทั้งภายในและภายนอก ใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด ไม่ว่าจะเปน็ เรอื่ งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การจัดจาหน่าย การตั้งราคาผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจทางการตลาด การสอ่ื สารการตลาด และการพยากรณย์ อดขาย เป็นต้น กิจกรรมเหล่าน้ีมักจะใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี เข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็นด้านการโฆษณาและการขายผลิตภัณฑ์ ตลอดจนในด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้า และสนองตอบการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของธุรกิจใน ระยะยาว สารสนเทศทางการตลาดจาแนกได้เป็นสารสนเทศเชิงปฏิบัติการ สารสนเทศเชิงบริหารและ สารสนเทศภายนอกองค์การ โดยมรี ายละเอียดดังน้ี (รจุ ิจันทร์ วิชวิ านิเวศน,์ 2560, หนา้ 185-195) 1. สารสนเทศเชงิ ปฏิบตั ิการ ไดแ้ ก่ สารสนเทศด้านลกู ค้า สารสนเทศด้านการขาย และสารสนเทศ ด้านสนิ คา้ 2. สารสนเทศเชิงบรหิ าร ได้แก่ สารสนเทศด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ สารสนเทศด้านส่ือสารการตลาด สารสนเทศดา้ นการตง้ั ราคาสนิ คา้ หรอื บริการ และสารสนเทศดา้ นพยากรณ์ยอดขาย 3. สารสนเทศภายนอกองค์การ ได้แก่ สารสนเทศด้านการวิจัยการตลาด และสารสนเทศด้านข่าว กรองทางการตลาด ในส่วนเทคโนโลยีทางการตลาดที่ธุรกิจต่างนิยมนามาใช้งานร่วมกับกระบวนการทางธุรกิจของ ระบบสารสนเทศทางการตลาด ได้แก่ โปรแกรมสาเรจ็ รปู ดา้ นการตลาด นวัตกรรมด้านร้านค้าปลีก หน่วย ขายอัตโนมัติ การใช้งานอินทราเน็ตและอินเทอร์เน็ต และการทาเหมืองข้อมูลทางการตลาด โดยมี รายละเอียดดังนี้ (รุจิจันทร์ วิชวิ านเิ วศน์, 2560, หนา้ 208-217) 1. โปรแกรมสาเร็จรูปด้านการตลาด (marketing software) คือ โปรแกรมเชิงพาณิชย์ที่วางขายอยู่ใน ตลาดซอฟต์แวร์ ถูกพัฒนาข้ึนใช้เฉพาะงานด้านการตลาด และจาเป็นต้องใช้ร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูล เพื่อสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลท่ีมีประสิทธิภาพท่ีสามารถออกเอกสารและรายงานทางการตลาดตามความ ต้องการของผู้ใช้ เช่น โปรแกรมสาเรจ็ รปู ด้านการขาย โปรแกรมจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และโปรแกรมบริหารการ ขนส่ง เป็นต้น ในส่วนนี้ จะขอยกตัวอยา่ งโปรแกรมสาเร็จรูปด้านการตลาด 3 ประเภท ดงั น้ี

78 1.1 โปรแกรมสาเร็จรูปด้านการขาย ในส่วนนี้ต้องอาศัยการทางานร่วมกันของฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์ระบบการขายและรับชาระเงิน ในกรณีที่มีการขายสดหรือการขายหน้าร้าน โดยอาจใช้ เทคโนโลยีด้านการรับเข้าข้อมูลอัตโนมัติเข้าร่วมด้วย เช่น การใช้ระบบรหัสแท่งร่วมกับเครื่องกราดตรวจ การใช้ระบบขายทางจอสัมผัส เป็นต้น หรืออาจใช้ระบบขาย ณ จุดขายที่เช่ือมโยงข้อมูลกับการปรับยอด คงเหลอื ของสนิ ค้าในแฟม้ สนิ คา้ ตลอดจนมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบบัญชีแยกประเภทท่ัวไป ในท่ีน้ีขอ ยกตัวอย่างระบบพอยท์ ออฟ เซล (point of sale) หรือ พีโอเอส (POS) คือ ระบบขายหน้าร้าน เป็นจุด ขายหรอื จุดชาระเงินตรงแคชเชยี ร์ ทเี่ ห็นตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้ามินิมาร์ทต่าง ๆ โปรแกรมระบบขาย ณ จุดขายแบบออนไลน์ แสดงดังภาพท่ี 4.4 ภาพท่ี 4.4 ตวั อยา่ งโปรแกรมระบบขาย ณ จดุ ขายแบบออนไลน์ ทมี่ า (ซีเนยี ร์ ซอฟต์, 2559) 1.2 โปรแกรมจัดการลูกค้าสัมพันธ์ คือ โปรแกรมท่ีถูกพัฒนาขึ้นเพ่ือใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่ นามาซึ่งการสร้างความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับลูกค้าในระยะยาว โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การเพ่ิมรายได้ ให้กับองค์การ การสร้างความเช่ือมันแก่ลูกค้า และช่วยสร้างข้อเสนอทีดีสาหรับลูกค้าแต่ละราย หรือแต่ละ กลุ่มรวมท้ังการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านงานบริการ โดยยึดแนวคิดหลักท่ีว่าการบริการลูกค้าท่ีดีทาให้ ลูกคา้ เกดิ ความพึงพอใจ และเมอ่ื ใดก็ตามทลี่ ูกค้าเกิดความพงึ พอใจก็จะหนั กลบั มาซ้ือสนิ ค้ากบั กิจการอีก 1.3 โปรแกรมบริหารการขนส่ง ในระบบสาสนเทศทางการขายจะต้องมีการจัดการโลจิสติกส์ ด้านขาออก คือ การจัดการขนส่งเพ่ือส่งมอบสินค้าหรือบริการให้ถึงมือลูกค้าน่ันเอง โดยโปรแกรมจะจัด เส้นทางการขนส่ง โดยเลือกเส้นทางที่สามารถจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าเร็วที่สุด และประหยัดต้นทุนการ ขนส่งมากท่สี ุด โดยอาจจะใชร้ ะบบสนบั สนนุ การตัดสินใจทางานร่วมกับตัวแบบขนส่ง ระบบจีพีเอส (GPS) จะรับและบนั ทกึ ข้อมูลแบบอัตโนมัติ เมื่อติดอุปกรณ์ติดตามตาแหน่งไว้ท่ีรถบรรทุกจะสามารถบันทึกพิกัด ลงบนหน่วยความจาได้โดยอัตโนมัติ ถูกนามาใช้กับการติดตามรถยนต์บรรทุกของกิจการขนส่งสินค้ามาก ที่สุด ถ้าใช้แบบเรียลไทม์ (Real time) จะสามารถส่งสัญญาณแสดงแสดงพิกัดไปท่ีศูนย์ได้ทันทีทาให้ ทราบตาแหน่งของรถบรรทกุ ไดต้ ลอดเวลา ชว่ ยให้ทราบขอ้ มูลการเดินทางและอาจใช้ในด้านการสั่งการได้ ทันทที ันใดกบั ผู้ขับรถบรรทุก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook