Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนสุขศึกษา ม.2

แผนการสอนสุขศึกษา ม.2

Published by Tarn Zenmax, 2021-05-10 03:32:24

Description: แผนการสอนสุขศึกษา ม.2

Search

Read the Text Version

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใชช้ วี ติ ประจําวันบนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยู่รว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทาํ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาํ เรจ็ 7.1 มีจติ สาํ นึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญ๎ ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทาํ งาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบ่งป๎นสิ่งของให้ผอู้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรุง

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เรอื่ ง อารมณแ์ ละความเครียด แผนการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง อารมณแ์ ละความเครียดท่ีมผี ลตอ่ สุขภาพ เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส้ อน นางสาวณัฐธดิ า แกว้ คําศรี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ผ้เู รียนได้รับความรู้ (K) นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การเกิดอารมณแ์ ละความเครียดของวยั รุ่น สามารถหาสาเหตุของ ความเครยี ดได้ โดยดจู ากลกั ษณะทบ่ี ่งบอก เมื่อเกดิ ความเครียดทาํ ใหส้ ่งผลตอ่ สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต ผเู้ รียนเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถอธิบายลกั ษณะอารมณ์และความเครียดของวัยรนุ่ อธบิ ายสาเหตุของความเครียดและ ลกั ษณะที่บ่งบอกเมอื่ เกดิ ความเครียด รวมทงั้ ระบผุ ลของอารมณ์และความเครยี ดต่อสุขภาพได้ ผ้เู รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม (A) นกั เรียนมที ัศนคติท่ีดตี อ่ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ขยันใฝุรู้ใฝุเรียน เชือ่ ม่นั ในตนเอง กล้าแสดงออกมี ความสุขต่อการเรียน ผู้เรียนเกดิ ทกั ษะการคิด ทกั ษะการระบุ ผเู้ รยี นมหี ลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ผู้เรียนเรียนร้ทู ่จี ะใชท้ รพั ยากรได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ปัญหาอุปสรรค (ถา้ ม)ี - ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณฐั ธดิ า แก้วคําศรี) ครูผสู้ อน

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 6 เร่อื ง อารมณแ์ ละความเครียด เวลา 4 ชวั่ โมง แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ลักษณะอาการเบ้ืองต้นของผู้มปี ญั หาสขุ ภาพจิต เวลา 1 ชั่วโมง ครูผูส้ อน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาศรี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ 1. สาระสาคัญ การมีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั อารมณแ์ ละความเครียด จะทาํ ให้เขา้ ใจลกั ษณะอาการเบอ้ื งต้นของผมู้ ปี ๎ญหา สุขภาพจติ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - อธิบายลกั ษณะอาการเบ้อื งต้นของผูม้ ีป๎ญหาสุขภาพจติ ได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ลักษณะอาการเบ้ืองต้นของผู้มีป๎ญหาสขุ ภาพจติ 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการระบุ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. มคี วามรับผิดชอบ 3. ใฝุเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั ลกั ษณะอาการของคนทม่ี ปี ๎ญหาทางด้านสุขภาพจิต โดยเปรียบเทียบกบั ลกั ษณะอาการของคนทม่ี สี ุขภาพจิตปกติ

2. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นว่า ผู้ทีม่ ปี ๎ญหาสุขภาพจติ น่าจะมสี าเหตมุ าจากอะไร โดยครูคอยกระต้นุ ใหน้ กั เรียน ทกุ คนมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ 3. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหน้ ักเรียนเขา้ ใจเกี่ยวกับลกั ษณะสาํ คัญของผทู้ ี่มสี ุขภาพจติ ดหี รอื สขุ ภาพจติ ปกติ 4. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุน้ ความคิด คาถามกระตุน้ ความคดิ  นกั เรียนคิดวา่ คนโรคจติ กบั ผมู้ ปี ญั หาสุขภาพจติ เหมอื นหรือต่างกันอย่างไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) ขนั้ ท่ี 2 จัดการเรียนรู้ 1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ (กลุ่มเดมิ จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1) รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เร่ือง ลกั ษณะอาการเบ้อื งตน้ ของผมู้ ี ปญ๎ หาสุขภาพจิต จากหนังสอื เรยี น หรือแหล่งข้อมลู สารสนเทศ แลว้ บันทกึ ความร้ทู ี่ไดล้ งในแบบบนั ทึกการอ่าน 2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั อภปิ รายเกีย่ วกับลักษณะอาการเบื้องต้นของผมู้ ีป๎ญหาสุขภาพจิต ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) ป๎ญหาทางดา้ นจติ ใจมีผลก่อใหเ้ กิดความผิดปกตทิ างร่างกายอยา่ งไร 2) อาการผิดปกตทิ างรา่ งกายอนั เป็นผลมาจากปญ๎ หาสขุ ภาพจิต มีลักษณะอยา่ งไร 3) การเกดิ ความรสู้ กึ ผดิ ปกติของผู้มีป๎ญหาสุขภาพจติ มีลักษณะอย่างไร 3. ตัวแทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาํ เสนอผลการอภปิ รายของกลมุ่ ตนเองหน้าชน้ั เรียน ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เพื่อให้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจชัดเจนมากยงิ่ ข้ึน 4. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 คาถามกระตุน้ ความคดิ 1. นักเรยี นคดิ ว่า การท่คี นเรามคี วามอดทนหรอื ควบคุมอารมณ์ไดด้ ี จดั วา่ เป็นลักษณะของผู้มสี ุขภาพจิตทดี่ ีอยา่ งไร (เป็นลกั ษณะของผู้ทีร่ ู้จกั และเข้าใจตนเอง ไม่ตกเป็น ทาสของอารมณ์ สามารถยอมรับได้ท้ังความสาํ เรจ็ และความ ผิดหวัง รจู้ ักพอและรู้จักประมาณตน) 2. นกั เรยี นคดิ ว่า คนท่มี ีสขุ ภาพจติ ที่ดีจะมีลกั ษณะสขุ ภาวะอยา่ งไร (พิจารณาตามคําตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน) ขนั้ ท่ี 3 สรปุ และนาหลักการไปประยกุ ต์ใช้ 1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรุปลกั ษณะอาการเบื้องตน้ ของผมู้ ปี ๎ญหาสุขภาพจิต แลว้ จดบันทึกความรู้ลงสมุด 2. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มช่วยกนั ทําใบงานท่ี 6.2 เร่ือง ปัญหาสุขภาพจติ เมือ่ ทาํ เสร็จแลว้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และเติมเต็มคําตอบใหส้ มบูรณ์ จากนน้ั นําส่งครูตรวจ 3. ครูแนะนาํ ให้นกั เรยี นนําความรทู้ ่ีได้จากการศึกษาไปประยุกต์ ใช้ในชวี ติ ประจาํ วนั เพอ่ื ให้เปน็ ผูท้ ี่มสี ุขภาพจติ ดี 4. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ้ ความคิด คาถามกระตุน้ ความคดิ  เพราะเหตใุ ด ผูม้ ีสุขภาพจติ ดีจะรจู้ กั ตนเองและ เขา้ ใจผู้อื่น อธบิ ายเหตุผล

(พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผูส้ อน) ข้ันที่ 4 วดั และประเมินผล 1. นกั เรยี นตอบคําถามกระตุ้นความคิด 2. ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรียนจากการทําใบงานที่ 6.2 3. ครูใหน้ กั เรยี นทาํ กิจกรรมตามตัวชว้ี ดั : กิจกรรมที่ 6.2 จากแบบวัดฯ เปน็ การบา้ น เสร็จแล้วนําสง่ ครตู รวจ คาํ ถามกระต้นุ ความคิด  นักเรียนคิดวา่ สขุ ภาพจิตเปน็ องคป์ ระกอบที่สาคญั ของสุขภาพหรือไม่ อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน) ภาระงาน/ชนิ้ งาน - แหล่งเรยี นรู้ / สือ่ 1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน สขุ ศึกษา ม.2 2) แบบวดั และบนั ทึกผลการเรียนรู้ สขุ ศึกษา ม.2 3) ใบงานที่ 6.2 เรอ่ื ง ปญ๎ หาสขุ ภาพจติ 2 แหล่งการเรยี นรู้  แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.dmh.go.th/test/thaihapnew/asheet.as?qid=1

การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ วธิ ีการ ใบงานท่ี 6.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แบบบนั ทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 6.2 แบบประเมินการนําเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทํางานกลมุ่ สงั เกตความมวี ินยั มีความรับผิดชอบ และใฝเุ รยี นรู้ ลงช่อื .......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แก้วคาํ ศรี) ครูผู้สอน ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ ฝาุ ยบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อาํ นวยการ ฝาุ ยบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................. ............. ลงชือ่ .............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผู้อํานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

ใบงานที่ 6.2 ปญั หาสขุ ภาพจติ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1. ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาภาพของผูม้ ีป๎ญหาทางดา้ นจิตใจหรือผู้ที่มคี วามเครยี ดสูงวา่ มคี วามรู้สกึ หรอื อาการ อย่างไร 2. ถ้าเพื่อนของนักเรยี นมีปญ๎ หาความเครยี ดสงู นักเรียนจะมีแนวทางชว่ ยเพอ่ื นไดอ้ ยา่ งไร

เฉลยใบงานท่ี 6.2 ปญั หาสุขภาพจติ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาํ ถามต่อไปน้ี 1. ให้นกั เรยี นพิจารณาภาพของผู้มปี ๎ญหาทางด้านจิตใจหรอื ผู้ทมี่ คี วามเครียดสงู วา่ มีความรู้สกึ หรืออาการ อยา่ งไร หงอยเหงา วา้ เหว่ น้อยใจ อยากรอ้ งไห้ รสู้ กึ วา่ ถกู ทอดท้งิ เบอื่ หน่าย เซง็ ไมม่ คี วามสขุ เศรา้ หมอง รสู้ กึ วา่ ตนเองไม่มคี ุณคา่ หงุดหงดิ กระวนกระวายใจ ไม่มคี วามสาคญั กระสบั กระสา่ ย รสู้ กึ จรงิ จงั กบั ทกุ ๆ เรอื่ ง วติ กกงั วล ซมึ เศรา้ หวาดกลวั 2. ถา้ เพ่ือนของนกั เรียนมปี ญ๎ หาความเครียดสงู นกั เรียนจะมีแนวทางชว่ ยเพื่อนไดอ้ ยา่ งไร ถา้ เพือ่ นมีปญั หาความเครียด เราควรชว่ ยเหลือเพอ่ื นโดยการให้คาแนะนาเพ่ือนหรือชวนเพื่อนไปทากจิ กรรม ที่ ช่วยสง่ เสรมิ สุขภาพหรอื ชว่ ยลดความเครียดใหห้ มดไป เชน่ ชวนเพ่ือนไปออกกาลังกาย ทากิจกรรมทชี่ ว่ ยผอ่ น คลายกล้ามเน้ือ เช่น การบบี คลายกลา้ มเนอ้ื หลงั หรือไหล่ น่ังในทา่ ที่สบายบนเก้าอแี้ ละหลบั ตา เป็นต้นการ พกั ผ่อน เช่น ไปดหู นงั ฟงั เพลง พักผ่อนหย่อนใจตามชายทะเล เป็นตน้ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน ประเมินการนาํ เสนอผลงานของนักเรียนตามรายการทกี่ าํ หนด แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 นาํ เสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกตอ้ ง 2 การลําดับขน้ั ตอนของเน้ือเรือ่ ง 3 การนาํ เสนอมีความน่าสนใจ 4 การมีสว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดับ ชือ่ -สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม ที่ ของผูร้ บั การประเมนิ ความคิดเห็น ฟงั คนอน่ื ตามทไ่ี ดร้ ับ ส่วนร่วมใน 20 มอบหมาย การปรับปรุง คะแนน ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของนกั เรียน 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 1.3 ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทํางานกับสมาชิกในโรงเรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคี 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 4. ใฝเุ รียนรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชุมชน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.5 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตนตามหลกั ของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมทเี่ กี่ยวกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี นและชมุ ชนจดั ข้นึ 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัติในสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะทาํ ความผดิ ทาํ ตามสญั ญาที่ ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบตั ติ อ่ ผูอ้ น่ื ด้วยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทีไ่ มถ่ กู ตอ้ ง 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครัว และโรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจาํ วัน และ รบั ผดิ ชอบในการทาํ งาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เครือ่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คุม้ ค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัตติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ื่น และไม่ทําใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมให้อภยั เม่ือผู้อน่ื กระทาํ ผดิ พลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใชช้ วี ิตประจาํ วนั บนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยู่รว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ย่างมคี วามสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทาํ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสําเร็จ 7.1 มีจติ สาํ นึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญ๎ ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทาํ งาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบ่งป๎นสง่ิ ของให้ผู้อนื่ 8.3 ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรือ่ ง อารมณแ์ ละความเครียด แผนการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง ลกั ษาณะและอาการเบ้ืองตน้ ของผมู้ ปี ๎ญหาสุขภาพจติ เวลา 1 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาวณฐั ธดิ า แก้วคาํ ศรี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ผเู้ รียนได้รับความรู้ (K) นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับการมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั อารมณ์และความเครยี ด จะทําใหเ้ ขา้ ใจ ลกั ษณะอาการเบื้องตน้ ของผู้มปี ๎ญหาสขุ ภาพจติ ผ้เู รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะอาการเบื้องตน้ ของผู้มีป๎ญหาสุขภาพจติ ได้ ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม (A) นกั เรียนมีทัศนคตทิ ่ีดีตอ่ วชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา ขยันใฝุรใู้ ฝุเรียน เชอ่ื ม่ันในตนเอง กล้าแสดงออกมี ความสุขต่อการเรียน ผ้เู รียนเกดิ ทกั ษะการคิด ทักษะการระบุ ผู้เรยี นมีหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ้เู รยี นเรียนรู้ที่จะใช้ทรพั ยากรได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ปญั หาอุปสรรค (ถ้ามี) - ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณัฐธิดา แก้วคําศรี) ครูผู้สอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (สุขศกึ ษา) ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6 เร่ือง อารมณแ์ ละความเครยี ด เวลา 4 ชวั่ โมง แผนการเรียนรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง ลักษณะอาการเบื้องตน้ ของผู้มปี ัญหาสขุ ภาพจติ เวลา 2 ช่ัวโมง ครูผู้สอน ........................................... วันที่..................................................... 1. สาระสาคัญ การจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ดดว้ ยวิธปี ฏิบัติตนทถี่ ูกตอ้ ง จะช่วยใหส้ ามารถจัดการกบั อารมณแ์ ละ ความเครียดได้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - บอกวิธปี ฏบิ ตั ิตนเพือ่ จดั การกบั อารมณ์และความเครียดได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - วิธปี ฏบิ ัตติ นเพอ่ื จดั การกับอารมณ์และความเครียด 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการสร้างความรู้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 3. ใฝเุ รยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการเรียนความร้คู วามเข้าใจ ขน้ั ที่ 1 นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. นักเรยี นตอบคําถามกระตนุ้ ความคิด

2. ครใู ห้นักเรียนกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1) ร่วมกันศึกษาความรเู้ ร่ือง วธิ ีปฏบิ ัติตนเพ่ือจดั การกับอารมณ์ และความเครยี ด จากหนงั สือเรยี น หรอื แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 3. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมาจบั สลากวิธกี ารจัดการกับอารมณแ์ ละความเครียด แล้วให้นาํ เสนอวิธกี ารจดั การ กับอารมณแ์ ละความเครียดในรปู แบบของแผนผังความคดิ ดงั นี้ - สลากหมายเลข 1 การพักผ่อน - สลากหมายเลข 2 การนอนหลับ - สลากหมายเลข 3 การออกกาํ ลงั กาย - สลากหมายเลข 4 การผอ่ นคลาย - สลากหมายเลข 5 การหวั เราะเพ่ือคลายเครียด - สลากหมายเลข 6 การฝกึ บริหารจติ คาถามกระต้นุ ความคดิ  ถ้านกั เรียนมคี วามเครียด นกั เรียนจะเลือกวิธีจดั การอารมณก์ ับความเครยี ดแบบใด เพราะเหตใุ ดจึงเลือกใช้วิธนี ั้น (พิจารณาตามคําตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู ้สู อน) ข้นั ที่ 2 วางแผนปฏิบตั ิ สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วางแผนการศึกษาและสรปุ วธิ ีการจดั การกบั อารมณแ์ ละความเครยี ด เพ่ือนาํ เสนอในรปู แบบของ แผนผังความคดิ ขั้นท่ี 3 ลงมอื ปฏิบัติ 1. นกั เรยี นตอบคําถามกระตุ้นความคิด 2. สมาชิกแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ศกึ ษาและสรปุ วิธีการจดั การกบั อารมณ์และความเครียด ในรปู แบบของแผนผังความคิด ตามท่ไี ดว้ างแผนร่วมกันไว้ คาถามกระตุ้นความคดิ การอ่านหนงั สือทน่ี กั เรียนชอบ เปน็ กิจกรรมท่ีทาใหส้ มองได้พกั ผอ่ นอย่างไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู ้สู อน) ขนั้ ที่ 4 พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ 1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานําเสนอแผนผังความคดิ แสดงวธิ ีการจดั การกับอารมณ์และความเครยี ดหนา้ ชั้นเรยี น 2. เม่ือนําเสนอครบทกุ กลมุ่ แล้ว ครูอธบิ ายใหน้ กั เรียนทราบว่า วิธีการจดั การกับอารมณ์และความเครยี ดแต่ละวธิ มี คี วาม เหมาะสมกับบุคคลต่างๆ แตกตา่ งกัน ดงั น้นั จึงควรเลอื กวธิ ีท่ีเหมาะสมกับตนเองมากท่ีสุด 3. นกั เรียนแต่ละคนทาํ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ : กจิ กรรมที่ 6.4 จากแบบวดั ฯ เสร็จแล้วนําส่งครูตรวจ คาถามกระตุ้นความคดิ  ถ้าเพื่อนของนกั เรียนมคี วามเครยี ดจนสง่ ผลใหน้ อนไม่หลับ นักเรยี นจะใหค้ าแนะนา

แก่เพือ่ นอย่างไร (พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน) ขน้ั ท่ี 5 สรปุ 1. นักเรยี นตอบคําถามกระตนุ้ ความคิด 2. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกบั ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการศึกษาวธิ กี ารปฏิบตั ิตน เพื่อจัดการกบั อารมณ์และ ความเครยี ด พร้อมระบุแนวทางในการนาํ ความรไู้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์สาํ หรบั ตนเองและบุคคลอนื่ คาถามกระตุ้นความคดิ  การผ่อนคลายสามารถช่วยลดความเครยี ดได้อย่างไร (การผ่อนคลายเป็นการหยดุ พักชั่วคราวจากกจิ กรรมประจําวันท่ีปฏบิ ตั อิ ยู่ ซง่ึ เปน็ วธิ หี น่งึ ทชี่ ่วยลดระดับของความวิตก กังวล และความเครียดไดเ้ ปน็ อยา่ งดี) ภาระงาน/ช้ินงาน ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ช่วยกันจดั ทาปูายนิเทศ เรือ่ ง อารมณแ์ ละความเครียด โดยใหค้ รอบคลมุ ประเด็นตามที่ กาํ หนด ดังน้ี 1) การอธบิ ายลกั ษณะอารมณ์และความเครียดของวัยรุ่น 2) การอธิบายลกั ษณะอาการเบ้ืองตน้ ของผูม้ ปี ๎ญหาสขุ ภาพจิต 3) การเสนอแนะวิธปี ฏบิ ตั ติ นเพื่อจดั การกับอารมณ์และความเครียด แหลง่ เรียนรู้ / สอื่ 1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน สขุ ศึกษา ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ สุขศกึ ษา ม.2 3) สลาก 2 แหลง่ การเรียนรู้  แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.allsands.com/health/copingskillsfo_rkt_gh.htm - http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?...

การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วิธีการ แบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลุ่ม สังเกตความมวี นิ ยั มีความรับผิดชอบ แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ และใฝเุ รยี นรู้ แบบประเมินปูายนเิ ทศ เรื่อง อารมณแ์ ละ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 ความเครยี ด ตรวจปาู ยนเิ ทศ เรื่อง อารมณแ์ ละความเครยี ด ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แก้วคําศรี) ครูผ้สู อน ความคดิ เห็นของหัวหนา้ ฝาุ ยบริหารวิชาการ ........................................................................................................................................... ................................... ............................................................................................... ............................................................................... ลงชอ่ื .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อํานวยการ ฝาุ ยบรหิ ารงานวชิ าการ ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผูอ้ ํานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินปาู ยนเิ ทศ เรื่อง อารมณแ์ ละความเครียด ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 432 1 การอธิบายลักษณะอารมณ์และความเครยี ดของวัยรุ่น 2 การอธบิ ายลกั ษณะอาการเบ้ืองต้นของผ้มู ปี ๎ญหา สขุ ภาพจติ 3 การเสนอแนะวธิ ีปฏิบตั ติ นเพ่ือจดั การกับอารมณ์ และความเครยี ด รวม ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = 2 คะแนน ปรับปรงุ = 1 คะแนน 11 - 12 ดมี าก 19 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน ประเมินการนาํ เสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทีก่ ําหนด แลว้ ขีด  ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 4321 1 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา 2 ความคิดสรา้ งสรรค์ 3 วิธีการนําเสนอผลงาน 4 การนาํ ไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอื่ .................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ลาดับ ชอื่ -สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความต้ังใจ การแกไ้ ข รวม ที่ ของผ้รู ับการประเมิน ร่วมมือกนั ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น ทางาน ปญั หา/หรือ 20 ทากจิ กรรม ปรับปรงุ คะแนน ผลงานกลุม่ 43214321432143214321 ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเม่ือไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าท่ีของนักเรยี น 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทํางานกบั สมาชิกในโรงเรยี น 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมและมีส่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมทสี่ รา้ งความสามคั คี 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 4. ใฝเุ รียนรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียนและชมุ ชน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.5 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนา 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมและมีสว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมทเี่ กีย่ วกบั สถาบัน พระมหากษตั รยิ ต์ ามที่โรงเรยี นและชุมชนจดั ข้นึ 2.1 ให้ข้อมูลทถ่ี ูกต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัติในสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะทาํ ความผดิ ทาํ ตามสัญญาที่ ตนให้ไวก้ บั เพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัตติ ่อผอู้ น่ื ด้วยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ไี มถ่ ูกต้อง 3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจําวัน และ รบั ผิดชอบในการทาํ งาน 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรูอ้ ย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง เชน่ สิง่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คุ้มคา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ัตติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ื่น และไม่ทาํ ใหผ้ ู้อนื่ เดอื ดร้อน พรอ้ มให้อภัยเม่ือผอู้ ืน่ กระทาํ ผิดพลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใชช้ วี ิตประจาํ วนั บนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรับตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยู่รว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทาํ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสําเร็จ 7.1 มีจติ สาํ นึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญ๎ ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทาํ งาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบ่งป๎นสง่ิ ของให้ผู้อนื่ 8.3 ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรุง

บันทกึ หลังแผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง อารมณแ์ ละความเครียด แผนการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง ลกั ษณะอาการเบ้ืองตน้ ของผู้มีป๎ญหาสุขภาพจิต เวลา 2 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวณัฐธดิ า แก้วคําศรี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ผเู้ รียนได้รับความรู้ (K) นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การจดั การกับอารมณ์และความเครยี ดดว้ ยวธิ ีปฏิบตั ิตนทีถ่ กู ตอ้ ง จะช่วย ใหส้ ามารถจดั การกับอารมณ์และความเครยี ดได้ ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถบอกวธิ ปี ฏิบัตติ นเพื่อจดั การกับอารมณแ์ ละความเครียดได้ ผู้เรียนมคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A) นักเรยี นมีทัศนคติท่ีดีต่อวิชาสุขศกึ ษาและพลศึกษา ขยนั ใฝุรู้ใฝเุ รียน เชอื่ มนั่ ในตนเอง กล้าแสดงออกมี ความสขุ ตอ่ การเรียน ผเู้ รียนเกิดทักษะการคิด ทักษะการระบุ ผ้เู รยี นมหี ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ผเู้ รียนเรยี นรู้ทจ่ี ะใช้ทรพั ยากรได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ปญั หาอุปสรรค (ถา้ มี) - ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณัฐธดิ า แก้วคาํ ศรี) ครผู สู้ อน

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอื่ ง การเลอื กใชบ้ ริการสุขภาพในชีวติ ประจาวนั กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสุขศึกษา รหัส พ 22102 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 4 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณฐั ธดิ า แก้วคาศรี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน พ 4.1 ตัวชีว้ ัด ม.2/1 เลอื กใช้บริการทางสุขภาพอย่างมเี หตุผล 2. สาระสาคญั สถานบรกิ ารสุขภาพมีขีดความสามารถในการใหบ้ ริการแตกต่างกนั จงึ ควรประเมินป๎ญหาสุขภาพของตนเอง กอ่ นพิจารณาเลือกสถานบริการสุขภาพทีเ่ หมาะสมและมีคุณภาพ เพ่ือให้ไดร้ ับการบริการสุขภาพท่ีดแี ละเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การเลอื กใช้บรกิ ารทางสุขภาพ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน (พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา) 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 3. ใฝเุ รียนรู้ 6. ชน้ิ งาน แผ่นพบั เร่อื ง การเลือกใชบ้ ริการทางสขุ ภาพในชวี ติ ประจาํ วนั

7. การวัดและประเมินผล (ภาระงาน/ชิ้นงาน) 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง การเลือกใชบ้ รกิ ารสุขภาพในชีวิตประจําวนั 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 7.1 เรือ่ ง สถานบริการสุขภาพ 2) ตรวจใบงานที่ 7.2 เรอ่ื ง หลักประกันสุขภาพ 3) ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น 4) ประเมนิ การนําเสนอผลงาน 5) สงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบุคคล 6) สงั เกตพฤติกรรมการทํางานกล่มุ 7) สังเกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.3 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 เรือ่ ง การเลือกใช้บรกิ ารสุขภาพในชีวิตประจําวัน 7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจแผ่นพับ เรื่อง การเลือกใช้บรกิ ารทางสขุ ภาพในชวี ติ ประจาํ วนั 8. กิจกรรมการเรยี นรู้

แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา (สุขศกึ ษา) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรื่อง การเลอื กใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในชีวิตประจาวนั เวลา 4 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง ระบบบรกิ ารสุขภาพในประเทศไทย เวลา 2 ช่ัวโมง ครูผูส้ อน นางสาวณฐั ธดิ า แกว้ คาศรี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ 1. สาระสาคัญ ระบบการบริการสขุ ภาพในประเทศไทยมหี ลายระดบั และกระจายอยทู่ ่ัวไปในภมู ิภาคตา่ งๆ ซึ่งสง่ ผลต่อการมี สขุ ภาพทดี่ ขี องประชาชนในชาติ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายการจดั ระบบบรกิ ารสุขภาพ และความเชื่อมต่อของระบบบรกิ ารสขุ ภาพในประเทศไทยได้ 2) ระบุบทบาทของสถานบริการสุขภาพได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - การเลือกใชบ้ ริการทางสขุ ภาพ 3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถนิ่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา) 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. มคี วามรบั ผิดชอบ 3. ใฝุเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้

วธิ สี อนตามรูปแบบ โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ขน้ั ที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม 1. ครนู ําข่าวเกี่ยวกบั หลักประกันสุขภาพถว้ นหนา้ หรอื 30 บาท รกั ษาทุกโรค มาสนทนากับนกั เรยี น แลว้ ใหน้ ักเรียน ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับการใหบ้ ริการสขุ ภาพ 2. ครอู ธิบายให้นกั เรียนเข้าใจวา่ การจัดระบบบริการสขุ ภาพในประเทศไทยนน้ั เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสขุ ที่จดั ขน้ึ เพื่อใหบ้ ริการประชาชนท้ังประเทศ โดยมุ่งหวงั ใหป้ ระชาชน ไดร้ บั การบริการทางสขุ ภาพท่ีดี 3. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตุ้นความคดิ ขอ้ 1-2 คาถามกระตุ้นความคดิ 1. นกั เรียนคิดวา่ ระบบบริการสขุ ภาพในประเทศไทยมีลกั ษณะอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน) 2. สถานบริการสุขภาพท่ีนักเรยี นร้จู ัก หรอื เคยใช้บรกิ าร มีอะไรบา้ ง (พจิ ารณาตามคําตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอน) ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ 1. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นข้าง ออ่ น และอ่อน แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรู้จากหนังสือเรยี น ห้องสมุด หรือแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศในประเด็น ต่อไปน้ี 1) ระบบบริการสขุ ภาพ 2) การจดั ระบบบริการสุขภาพในประเทศไทยแล้วนําความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษามาบนั ทึกลงในแบบบนั ทึกการอ่าน 2. นกั เรยี นตอบคําถามกระตุ้นความคดิ คาถามกระต้นุ ความคดิ  สถานบรกิ ารสุขภาพในชุมชนทน่ี กั เรยี นอาศัยอยู่จดั เป็นการบรกิ าร สาธารณสุขระดับใด ลักษณะของการให้บรกิ ารระดับนั้นเปน็ อยา่ งไร (พิจารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผ้สู อน) ขน้ั ที่ 3 ศกึ ษาทาความเข้าใจขอ้ มูล/ความรใู้ หม่ และเชื่อมโยงความรใู้ หมก่ ับความรเู้ ดิม 1. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มผลดั กันอภิปรายความรู้ทีต่ นได้ไปศึกษาให้สมาชิกคนอ่ืนๆ ในกลุ่มฟง๎ จนมีความเขา้ ใจทีช่ ดั เจน ตรงกนั 2. สมาชกิ ในกลุ่มจับคกู่ ันเป็น 2 คู่ แลว้ ให้แตล่ ะครู่ ว่ มมอื กนั ทําใบงานท่ี 7.1 เร่ือง สถานบริการสุขภาพ โดยนาํ ความรูท้ ่ีได้ จากการศึกษาและความรู้เดิมมาเป็นพ้นื ฐานในการทาํ ใบงาน ขัน้ ที่ 4 แลกเปลย่ี นความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม

1. สมาชกิ แตล่ ะคูผ่ ลัดกนั อธิบายคําตอบในใบงานที่ 7.1 ให้สมาชกิ อีกคู่หนึ่งภายในกลุ่มฟง๎ ถา้ ในกรณที ส่ี มาชิกมีความสงสัยให้ช่วยกันอธิบายหรือถามครูจนมคี วามเขา้ ใจทีช่ ดั เจน 2. ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยคําตอบในใบงานที่ 7.1 3. นกั เรยี นตอบคําถามกระตุ้นความคิด คาถามกระตุน้ ความคดิ  การใหบ้ ริการสขุ ภาพของกระทรวงสาธารณสขุ มอี งค์ประกอบสาคญั ในการ บรกิ ารครอบคลุมด้านใดบา้ ง (1. การสร้างเสรมิ สุขภาพ 2. การปอู งกนั และควบคุมโรค 3. การรักษาพยาบาล 4. การฟื้นฟูสมรรถภาพ) ข้ันท่ี 5 สรปุ และจัดระเบียบความรู้ 1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั เปรียบเทยี บความแตกต่างของการบริการ และขีดความสามารถของสถานบริการสขุ ภาพ ตามที่กําหนด ดงั นี้ โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลศนู ย์ โรงพยาบาลทวั่ ไป 2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรุปผลการเปรียบเทียบ แลว้ ครูยกตวั อย่างขีดความสามารถของสถานบริการตา่ งๆ ประกอบเพิ่มเตมิ เพอื่ ใหน้ ักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจมากยิ่งข้ึน 3. ครูคดั เลือกตวั แทนกลุ่ม 2-3 กลุม่ ออกมาเลา่ ถงึ การเขา้ รับบริการหรือเข้ารบั การรักษาจากสถานบรกิ ารสุขภาพให้ เพอ่ื นฟง๎ หนา้ ชน้ั เรยี น เมื่อนกั เรยี นเล่าจบแล้ว ครูอาจจะอธิบายเพม่ิ เติมเกี่ยวกับการให้บรกิ ารอืน่ ๆ ของสถานบรกิ ารนั้นๆ ให้นกั เรยี นฟง๎ 4. สมาชิกทกุ คนในกลุ่มช่วยกันสรปุ ระบบบรกิ ารสขุ ภาพ และการจัดระบบบริการสุขภาพในประเทศไทย โดยเตรยี ม นาํ เสนอความรูใ้ นรูปแบบทส่ี ร้างสรรค์ และเขา้ ใจงา่ ย ข้นั ที่ 6 ปฏิบัตแิ ละ/หรือแสดงผลงาน ตัวแทนกลุ่มนาํ เสนอผลงานเกี่ยวกบั ระบบบรกิ ารสุขภาพ และการจัดระบบบรกิ ารสุขภาพในประเทศไทย ในรูปแบบที่ สร้างสรรค์ และเขา้ ใจงา่ ยหน้าชัน้ เรยี น โดยมคี รเู ป็นผ้ตู รวจสอบความถูกต้อง และเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ขน้ั ท่ี 7 ประยุกตใ์ ช้ความรู้

1. ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า นกั เรยี นสามารถนําความรูเ้ ก่ยี วกับระบบบริการสขุ ภาพ และการจัดระบบ บริการสุขภาพในประเทศไทยไปใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างไร 2. นกั เรียนแต่ละคนทาํ กจิ กรรมฝกึ ทักษะ : กิจกรรมที่ 1 และกิจกรรมตามตัวช้ีวัด : กจิ กรรมท่ี 7.1 และ 7.2 จากแบบวดั ฯเป็นการบ้าน เสร็จแลว้ นาํ สง่ ครูตรวจในชัว่ โมงถดั ไป ภาระงาน/ชน้ิ งาน - แหล่งเรยี นรู้ / สอ่ื 1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น สขุ ศกึ ษา ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ สุขศกึ ษา ม.2 3) ตวั อย่างข่าว 4) ใบงานท่ี 7.1 เรื่อง สถานบริการสขุ ภาพ 2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http:// www.thaihealth.or.th/node/9523 - http:// www.seal2thai.org/sara/sara180.htm - http://thaigcd.ddc.moph.go.th/bird_flu_main.html

การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์ วธิ ีการ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 (ประเมินตามสภาพจริง) ใบงานที่ 7.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 7.1 แบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทํางานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนําเสนอผลงาน แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ่ สงั เกตความมวี นิ ัย มีความรับผดิ ชอบ และใฝเุ รยี นรู้ ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แกว้ คาํ ศรี) ครูผสู้ อน ความคิดเห็นของหัวหน้าฝุายบรหิ ารวิชาการ ....................................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................... ................................................... ลงช่ือ.............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อํานวยการ ฝาุ ยบริหารงานวชิ าการ ความคดิ เห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา .................................................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ........................................................................ ลงช่ือ.............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผูอ้ ํานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

ตวั อย่างข่าว ประกันสขุ ภาพถ้วนหน้า 30 บาท ยคุ ใหม่ แบบไหน-อยา่ งไร..น่ารู้ พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ต่อยอดเป็น 30 บาทยุคใหม่เพ่ิมคุณภาพ...นี่เป็น 1 ใน 4 เร่ืองท่ี วิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข แถลงไว้ว่าเป็นผลงานนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้านสาธารณสุข โดยมีการระบุด้วยว่า..ป๎จจุบันจากจํานวนคนไทยที่มีหลักประกันสุขภาพแล้วร้อยละ 99.85 หรือราว 64.3 ล้านคน ในจํานวนน้ีเป็นส่วนท่ีมีหลักประกันสุขภาพโดยใช้ 30 บาท รักษาทุกโรค ราว 48.5 ล้านคน กว่าคร่ึงของคนไทย ...ใชส้ ทิ ธิ 30 บาทรกั ษาทุกโรค กับ 30 บาทยุคใหม่ นัน้ ...จึงควรต้องเข้าใจให้ชดั ท้งั น้ี กบั เร่ือง 30 บาทยคุ ใหม่ หรอื การใช้สิทธิบัตรทองรักษาโรคตา่ งๆ โดยต้องจ่าย 30 บาทเหมือนที่เคยปฏิบัติกันใน ยุคก่อนนั้น ทาง สปสช. สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซ่ึงกระทรวงการคลังคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ด้านผลการ ดาํ เนนิ งานดเี ดน่ รางวลั ทนุ หมุนเวยี นปี 2554 ทาง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. แจกแจงมาว่า...ขณะนี้ได้มีการจัดทํา คู่มือบัตรทองจํานวน 3 ล้านฉบับ เพ่ือช้ีแจงเรื่องการร่วมจ่าย 30 บาท ซ่ึงในทางปฏิบัตินั้นจะมีกลุ่มประชาชนท่ีได้รับการ ยกเวน้ การรว่ มจา่ ย 30 บาท ทง้ั หมด 21 กลมุ่ ประกอบดว้ ย 1. ผู้เข้ารบั บริการด้านการสรา้ งเสริมสุขภาพ การปูองกันโรค กรณีเจบ็ ปุวยฉกุ เฉนิ วกิ ฤติ ฉกุ เฉินเร่งดว่ น หรอื เข้ารับบรกิ ารในหน่วยบรกิ ารทรี่ ะดับตํา่ กว่าโรงพยาบาลชุมชน 2. ผ้มู รี ายได้น้อย 3. ผนู้ ําชมุ ชน ไดแ้ ก่ กํานนั สารวัตรกํานนั ผู้ใหญ่บา้ น แพทยป์ ระจาํ ตาํ บล และบคุ คลในครอบครวั 4. อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมบู่ า้ น อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และบุคคลในครอบครวั 5. ผูท้ มี่ ีอายุเกิน 60 ปี 6. เด็กอายไุ มเ่ กนิ 12 ปี 7. คนพกิ าร ทัง้ ท่มี บี ัตรและไมม่ ีบัตรประจําตวั 8. พระภิกษุ สามเณร แม่ชี นักบวช นักพรต ผู้นําศาสนาอิสลามที่มีหนังสือรับรอง และบุคคลในครอบครัว ของผนู้ ําศาสนาอิสลาม 9. ทหารผ่านศึกทุกระดับที่มีบัตร และบุคคลในครอบครัว รวมถึงผู้ท่ีได้รับพระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ และทายาท 10. นักเรยี นไม่เกนิ ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 11. นกั เรียนทหารและทหารเกณฑ์ 12. ผไู้ ด้รับพระราชทานเหรียญงานพระราชสงครามในทวปี ยโุ รปและบคุ คลในครอบครัว 13. อาสาสมคั รมาเลเรยี ตามโครงการของกระทรวงสาธารณสุขและบคุ คลในครอบครัว 14. ช่างสุขภณั ฑห์ ม่บู ้านตามโครงการของกรมอนามัยและบคุ คลในครอบครวั 15. ผู้ท่ไี ดร้ บั พระราชทานเหรียญชายแดน 16. ผ้ทู ่ไี ด้รบั พระราชทานเหรียญพิทกั ษเ์ สรีชน

17. สมาชิกผู้บรจิ าคโลหิตของสภากาชาดไทยทมี่ หี นังสอื รบั รองว่าไดบ้ รจิ าคโลหติ ตง้ั แต่ 18 ครง้ั ข้ึนไป 18. หมออาสาหม่บู า้ นตามโครงการกระทรวงกลาโหม 19. อาสาสมัครคมุ ประพฤติ กระทรวงยตุ ิธรรม 20. อาสาสมคั รทหารพรานในสังกัดกองทัพบก 21. บุคคลทแ่ี สดงความประสงค์ไม่จา่ ยคา่ บรกิ าร ทัง้ 21 กลุ่มนไี้ ม่ตอ้ งจ่าย 30 บาท ผู้ที่เคยได้รับสิทธิยกเว้นการร่วมจ่าย 21 กลุ่ม กว่า 22.6 ล้านคน ได้รับการยกเว้นเหมือนเดิม และผู้ท่ี ใช้บริการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลทุกคน ไม่ว่าจะรับยาหรือไม่ ก็ไม่ต้องร่วมจ่าย 30 บาท โดย โครงการร่วมจ่ายค่าธรรมเนียมบริการ 30 บาทยุคใหม่ จะดาเนินการในโรงพยาบาลชุมชนข้ึนไปจนถึงโรงพยาบาล ท่ัวไป โรงพยาบาลศูนย์ ท้ังที่อยู่ในภาครัฐทุกสังกัด และโรงพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการฯ โดยประชาชนจะร่วมจ่าย เฉพาะกรณที ีม่ กี ารรบั ยาเท่านั้น และหากไมป่ ระสงค์จะร่วมจ่ายก็สามารถแจ้งความประสงค์และไม่ตอ้ งร่วมจ่ายได้ ด้าน นพ.วรี วฒั น์ พนั ธค์ รุฑ รองเลขาธิการ สปสช. เสริมข้อมูลในส่วนของ สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ว่า ต้ังแต่ปีงบประมาณ 2555 ได้เพิม่ ข้นึ 12 ข้อ“ดังนี้ 1. เจ็บปุวยฉุกเฉินถงึ ชีวิต รับบรกิ ารทีใ่ ดก็ไดต้ ามที่จาเป็น ไมต่ อ้ งสารองจ่าย 2. ผู้ปุวยเอดส์ได้รับการดูแลเท่าเทียมกันทุกสิทธิ เช่ือมข้อมูลผู้ปุวยแบบออนไลน์ ย้ายสิทธิหรือย้ายท่ีอยู่ ก็จะไดร้ ับบรกิ ารตอ่ เน่อื งไมต่ ้องเริม่ ต้นใหม่ 3. ผู้ปุวยไตวายเร้ือรังระยะสุดท้ายทุกสิทธิทุกคนใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในการขอรับบริการ ได้รับการดูแล ต่อเน่ืองแม้เปล่ียนสทิ ธิ 4. ผปู้ วุ ยทกุ คนทุกสิทธิไดร้ ับยาท่จี าเป็นอยา่ งเทา่ เทยี มตามมาตรฐานการรกั ษา 5. จดั ระบบปรึกษาออนไลน์จากแพทย์ผู้เช่ียวชาญผ่านระบบแพทย์ทางไกล ระหว่างหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้ บ้านกบั โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ซงึ่ จะพัฒนาให้ครอบคลมุ ท่ัวประเทศภายใน 2 ปี 6. เพม่ิ คณุ ภาพอาหารสุขภาพแกผ่ ปู้ วุ ยทพี่ ักรักษาตัวในโรงพยาบาล 7. ผู้ปวุ ยอายุ 70 ปขี ้ึนไป ได้รบั บริการช่องทางพิเศษ ไม่ตอ้ งเข้าคิวรอในโรงพยาบาลรฐั 8. สามารถรับบริการทีห่ นว่ ยบริการใกล้บา้ น ประหยัดเวลาและค่าใชจ้ ่ายกวา่ 4 เทา่ ตัว 9. เปล่ียนหน่วยบริการได้บ่อยขึ้น ปีละไม่เกิน 4 คร้ัง กรณีเปล่ียนที่อยู่ก็เลือกหน่วยบริการได้ปีละไม่เกิน 4 คร้ัง 10. ใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการลงทะเบียนสทิ ธหิ รือเปล่ยี นหน่วยบรกิ าร 11. โรงพยาบาลในสังกัดตง้ั แตโ่ รงพยาบาลชุมชนขนึ้ ไปให้บรกิ ารผ้ปู วุ ยนอกโดยไม่หยุดพักเทย่ี ง 12.ประชาชนจะได้รบั การตรวจคดั กรองสุขภาพ ลดความเสี่ยง เพ่ือปอู งกันโรคเรอื้ รัง ท่ีมา : http://www.skhealthfund.com/saraget.php?saraid=31;

ใบงานที่ 7.1 สถานบรกิ ารสขุ ภาพ ตอนที่ 1 คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนหาข่าวเกีย่ วกับโครงการบริการสุขภาพของสถานบริการสขุ ภาพท่ีนา่ สนใจ มา 1 ขา่ ว แลว้ วเิ คราะหป์ ระโยชน์ หรอื ผลดที ี่ประชาชนจะได้รับ ช่อื เรอ่ื ง (สาระสาคญั ของขา่ ว) ทม่ี า  ประโยชน์หรือผลดีท่ีประชาชนไดร้ ับจากโครงการบริการสขุ ภาพของสถานบริการข้างต้น มดี งั นี้

ตอนที่ 2 คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคําถาม หรอื แสดงความคิดเหน็ ในประเด็นท่ีกาํ หนด 1) สถานบรกิ ารสุขภาพใด ทเ่ี ขา้ ถงึ ประชาชนในถน่ิ ทุรกนั ดารไดม้ ากทส่ี ดุ เพราะเหตุใด 2) ศนู ยส์ าธารณสขุ มลู ฐานชุมชนมบี ทบาทต่อชมุ ชนของนกั เรยี นอยา่ งไร

เฉลยใบงานที่ 7.1 สถานบรกิ ารสขุ ภาพ ตอนท่ี 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นหาขา่ วเกีย่ วกับโครงการบริการสขุ ภาพของสถานบริการสุขภาพท่ีน่าสนใจ มา 1 ข่าว แล้ววิเคราะหป์ ระโยชน์ หรอื ผลดีที่ประชาชนจะได้รับ ช่อื เรอ่ื ง (สาระสาคญั ของขา่ ว) ทม่ี า  ประโยชน์หรือผลดีท่ีประชาชนได้รับจากโครงการบรกิ ารสุขภาพของสถานบริการข้างต้น มีดงั น้ี (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน)

ตอนที่ 2 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคําถาม หรือแสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นท่ีกาํ หนด 1) สถานบรกิ ารสุขภาพใด ทเ่ี ขา้ ถงึ ประชาชนในถนิ่ ทุรกนั ดารไดม้ ากทส่ี ดุ เพราะเหตุใด สถานอี นามยั เพราะเป็นสถานบรกิ ารทมี่ ปี ระจาอยทู่ กุ ตาบล และใหบ้ รกิ ารตรวจรกั ษาโรค ทไี่ มซ่ บั ซอ้ น และคดั กรองโรค เพอื่ สง่ ต่อผปู้ ่วยไปยงั สถานบรกิ ารสขุ ภาพทเี่ หมาะสมต่อ อาการของโรค ทงั้ น้ปี ระชาชนทวั่ ไปจะไดร้ บั บรกิ ารทางสขุ ภาพเบ้อื งตน้ จากสถานอี นามยั เช่น การฉีดวคั ซนี การฝากครรภ์ เป็นตน้ 2) ศูนยส์ าธารณสุขมลู ฐานชุมชนมบี ทบาทต่อชมุ ชนของนกั เรยี นอย่างไร ชว่ ยใหค้ วามรเู้ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั การป้องกนั โรค โดยมอี าสาสมคั รสาธารณสขุ (อสม.) เป็นผใู้ ห้ บรกิ ารทางดา้ นสาธารณสขุ มลู ฐานเป็นหลกั ซงึ่ ใหบ้ รกิ ารแต่สมาชกิ ในชุมชนดว้ ยการตรวจ คดั กรองโรคเบาหวาน โรคความดนั โลหติ สงู และใหค้ วามรแู้ ละประชาสมั พนั ธเ์ กยี่ วกบั การ ป้องกนั โรคต่างๆ เช่น โรคไขห้ วดั นก โรคไขห้ วดั 2009 เป็นตน้

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน ประเมินการนําเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการท่ีกําหนด แล้วขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 ความถูกต้องของเนอ้ื หา 2 ความคิดสรา้ งสรรค์ 3 วิธกี ารนาํ เสนอผลงาน 4 การนําไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื .................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอ่ื -สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความต้ังใจ การแกไ้ ข รวม ที่ ของผู้รบั การประเมนิ รว่ มมือกัน ความคิดเหน็ ความคดิ เหน็ ทางาน ปัญหา/หรือ 20 ทากจิ กรรม ปรับปรงุ คะแนน ผลงานกลมุ่ 43214321432143214321 ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องนกั เรียน 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 1.3 ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทํางานกบั สมาชิกในโรงเรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 4. ใฝเุ รียนรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชุมชน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.5 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถอื ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมทเี่ กีย่ วกบั สถาบัน พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรียนและชมุ ชนจดั ข้ึน 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัติในสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทาํ ความผดิ ทาํ ตามสัญญาที่ ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบตั ติ ่อผูอ้ น่ื ด้วยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ไี ม่ถกู ต้อง 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั และโรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจําวัน และ รบั ผดิ ชอบในการทาํ งาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มคา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัตติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ื่น และไม่ทําใหผ้ ูอ้ น่ื เดือดร้อน พรอ้ มให้อภัยเม่ือผอู้ ืน่ กระทํา ผดิ พลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใช้ชวี ติ ประจาํ วนั บนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยู่รว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทาํ งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสําเร็จ 7.1 มีจติ สาํ นึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมิป๎ญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทาํ งาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบง่ ป๎นสง่ิ ของให้ผู้อ่นื 8.3 ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

บนั ทึกหลังแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง การเลอื กใช้บริการสขุ ภาพในชวี ิตประจาํ วนั แผนการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่ือง ระบบบรกิ ารสขุ ภาพในประเทศไทย เวลา 2 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาํ ศรี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ผูเ้ รยี นไดร้ ับความรู้ (K) นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั ระบบการบรกิ ารสุขภาพในประเทศไทยมีหลายระดับ และกระจายอยู่ ท่วั ไปในภมู ภิ าคตา่ งๆ ซึ่งส่งผลต่อการมสี ุขภาพที่ดีของประชาชนในชาติ ผ้เู รยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถอธบิ ายการจัดระบบบริการสุขภาพ และความเชือ่ มต่อของระบบบริการสุขภาพใน ประเทศไทยได้และสามารถระบุบทบาทของสถานบริการสุขภาพได้ ผู้เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม (A) นักเรยี นมที ัศนคติท่ีดีต่อวชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา ขยันใฝุร้ใู ฝุเรยี น เชื่อมน่ั ในตนเอง กล้าแสดงออกมี ความสุขตอ่ การเรียน ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะการคดิ ทักษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ ผ้เู รยี นมหี ลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผ้เู รียนเรยี นร้ทู จ่ี ะใชท้ รัพยากรได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ปญั หาอุปสรรค (ถ้าม)ี - ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวณฐั ธดิ า แก้วคาํ ศรี) ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา (สขุ ศกึ ษา) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง การเลอื กใชบ้ รกิ ารสขุ ภาพในชีวิตประจาวนั เวลา 4 ชั่วโมง แผนการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง แนวทางการเลอื กใช้บรกิ ารทางสุขภาพ เวลา 2 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางสาวณฐั ธิดา แกว้ คาศรี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ 1. สาระสาคัญ การประเมนิ ปญ๎ หาภาวะสขุ ภาพของตนเองอยา่ งถูกต้อง จะทาํ ให้สามารถเลือกสถานบรกิ ารสขุ ภาพทมี่ ี ขดี ความสามารถในการบรกิ ารสุขภาพได้เหมาะสมและตรงกบั ความต้องการ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) อธบิ ายแนวทางในการเลือกใชบ้ ริการทางสขุ ภาพได้ 2) จาํ แนกรูปแบบของหลักประกันสขุ ภาพได้ 3) เลือกใชบ้ ริการสุขภาพไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - การเลือกใชบ้ รกิ ารทางสุขภาพ 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. มีความรบั ผิดชอบ 3. ใฝุเรยี นรู้

กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนโดยใช้ กรณีตัวอยา่ ง ขน้ั ที่ 1 ทบทวนความรเู้ ดมิ 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเกีย่ วกับสถานบริการสุขภาพ ทมี่ ใี นท้องถน่ิ และข้อมลู ขา่ วสารเกีย่ วกับสขุ ภาพท่ไี ดร้ บั การเผยแพร่ความรจู้ ากสถานบริการสุขภาพนน้ั ๆ 2. ครใู ห้นักเรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1) รว่ มกนั ศึกษาความรจู้ ากหนงั สือเรียน หอ้ งสมุด หรอื แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ดงั นี้ 1) แนวทางการเลือกใชบ้ ริการทางสุขภาพ 2) หลกั ประกนั สขุ ภาพ 3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศึกษาและแบง่ หน้าท่ีความรับผิดชอบตามความเหมาะสม แลว้ บนั ทึกความรู้จากการศึกษา ลงในแบบบันทึกการอา่ น ขั้นที่ 2 เสนอกรณีตวั อยา่ ง ครูนาํ กรณีตวั อย่าง การเจบ็ ปวุ ยของนํ้าหวาน และยายละมุนมาให้นกั เรยี นอ่าน ข้นั ที่ 3 วเิ คราะห์ 1. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั อาการของโรคท่ีเกดิ ข้นึ กับนํ้าหวาน และยาย ละมนุ วา่ ควรเข้ารบั การรกั ษาอย่างไร จึงจะเหมาะสมกบั อาการหรือโรคท่เี ป็น 2. สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรปุ ผลการวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ จากนั้นสง่ ตัวแทนกลุม่ นาํ เสนอ หน้าชั้นเรยี น 3. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า การประเมนิ ภาวะสุขภาพของตนเอง เม่ือเจ็บปุวย หรอื มีอาการผิดปกติเปน็ สง่ิ สําคญั เพราะจะชว่ ยให้สามารถเลือกสถานบริการสุขภาพได้ถกู ต้องและเหมาะสมกบั อาการของโรค 4. นกั เรียนตอบคําถามกระตุ้นความคดิ คาถามกระตุน้ ความคดิ  การประเมินภาวะสุขภาพของตนเอง ควรมกี าร ประเมินในเร่อื งใดเป็นสาคญั (ควรประเมินว่า ปญ๎ หาสุขภาพของเราเป็นอย่างไร ต้องการไดร้ ับบรกิ ารประเภทใด อาการของเรานั้น เป็นมาก นอ้ ยเพียงใด จําเปน็ ทีจ่ ะต้องเข้ารบั การ รกั ษาในสถานบรกิ ารสขุ ภาพทต่ี ้องใช้ความชาํ นาญ เป็นพเิ ศษหรือไม่ อย่างไร) ขั้นท่ี 4 สรปุ 1. ครูตง้ั คาํ ถามทีเ่ ปน็ ประโยชนใ์ หน้ กั เรยี นในกลมุ่ ชว่ ยกันตอบ เพื่อเป็นการประเมินความรู้ความเข้าใจ ดังนี้ - ครอบครวั ของขา้ ราชการจะไดร้ ับสวสั ดิการรักษาพยาบาลอย่างไร - สวัสดิการรกั ษาพยาบาลของข้าราชการมขี ้อจาํ กดั อยา่ งไร - หลักประกันสุขภาพถว้ นหนา้ มปี ระโยชน์อยา่ งไร

- ผปู้ ระกนั ตนในระบบประกันสังคมจะได้รับสิทธปิ ระโยชน์ในการรกั ษาพยาบาล หรือค้มุ ครองอย่างไร - เพราะเหตุใด ผู้ทีม่ ีฐานะดีจงึ นิยมซอ้ื การประกันสุขภาพภาคเอกชน 2. ครสู ังเกตการตอบคาํ ถามในแตล่ ะประเด็น พร้อมอธบิ ายเพิ่มเติมในประเด็นทีบ่ กพร่อง 3. นกั เรยี นร่วมกันสรุปแนวทางในการเลอื กใชบ้ ริการทางสขุ ภาพ 4. นักเรยี นแตล่ ะคนทาํ ใบงานท่ี 7.2 เรือ่ ง หลกั ประกันสขุ ภาพ เมอ่ื ทาํ เสรจ็ แลว้ ให้ตรวจความเรยี บรอ้ ยกอ่ นนาํ ส่งครู ตรวจ 5. นักเรียนตอบคาํ ถามกระต้นุ ความคดิ ขอ้ 1-22. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคําตอบในใบงานท่ี 7.1 คาถามกระต้นุ ความคดิ 1. นกั เรยี นคิดวา่ มแี นวทางการเลอื กใชบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพอย่างไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน) 2. นักเรยี นมีวธิ ีการตดั สนิ ใจในการเลอื กใช้บริการสขุ ภาพท่เี หมาะสมอย่างไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) ขนั้ ท่ี 5 ประเมินผล 1. ครูประเมินผลนกั เรยี นจากการทําใบงานที่ 7.2 2. นักเรียนแตล่ ะคนทํากิจกรรมตามตัวช้ีวดั : กจิ กรรมที่ 7.3และ 7.4 จากแบบวดั ฯ เปน็ การบ้าน เสรจ็ แลว้ นําสง่ ครู ตรวจในชัว่ โมงถดั ไป ภาระงาน/ช้ินงาน ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ จดั ทาแผ่นพับ เรื่อง การเลือกใชบ้ ริการทางสขุ ภาพในชวี ิตประจาวนั โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามกําหนด ดงั น้ี 4) การเสนอข้อมูลเกี่ยวกบั สถานบริการทางสขุ ภาพ 5) การวิเคราะห์ขอ้ มลู ในการใหบ้ รกิ ารทางสุขภาพ 6) การตดั สนิ ใจเลือกใชบ้ รกิ ารทางสุขภาพอยา่ งมเี หตุผล แหลง่ เรียนรู้ / สื่อ 1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ สุขศกึ ษา ม.2 3) กรณตี วั อยา่ ง 4) ใบงานที่ 7.2 เรอ่ื ง หลกั ประกันสุขภาพ 2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องสมุด

2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - www.thaihealth.or.th/node/9523 - www.seal2thai.org/sara/sara180.htm

การวัดและประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 7.2 ใบงานท่ี 7.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบันทกึ การอ่าน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน แบบประเมินการนําเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทํางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทาํ งานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทาํ งานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี ินยั มคี วามรับผิดชอบ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และใฝเุ รียนรู้ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแผน่ พบั เร่อื ง การเลือกใชบ้ รกิ ารทาง สขุ ภาพ แบบประเมนิ แผ่นพับ เรอ่ื ง การเลอื กใช้บรกิ าร ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ในชวี ติ ประจําวนั ทางสุขภาพในชวี ิตประจําวนั ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวณัฐธิดา แก้วคาํ ศรี) ครูผู้สอน ความคิดเห็นของหัวหนา้ ฝุายบรหิ ารวิชาการ .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อาํ นวยการ ฝุายบรหิ ารงานวชิ าการ ความคิดเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................... ........................... ....................................................................................................... ....................................................................... ลงชอ่ื .............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อํานวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ แผ่นพบั เร่ือง การเลอื กใชบ้ รกิ ารทางสุขภาพในชวี ติ ประจาวนั ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 432 1 การเสนอข้อมูลเกย่ี วกบั สถานบริการทางสขุ ภาพ 2 การวเิ คราะห์ข้อมูลในการใหบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพ 3 การตัดสนิ ใจเลือกใช้บรกิ ารทางสขุ ภาพอยา่ งมีเหตผุ ล รวม ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = 2 คะแนน ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 11 - 12 ดมี าก 19 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรุง

เอกสารประกอบการสอน กรณีตวั อย่างที่ 1 การเจบ็ ป่ วยของน้าหวาน น้าหวานอดหลบั อดนอนมาหลายวนั เพราะตอ้ งชว่ ยแม่เตรยี มขนของ เพ่อื อพยพออกจากบา้ นชวั่ คราว เน่ืองจาก น้าบรเิ วณบา้ นเรมิ่ ท่วมสงู มากขน้ึ เชา้ น้ีน้าหวานรสู้ กึ เวยี นศรี ษะและอาเจยี นอย่างรุนแรง แม่ของน้าหวานจงึ พาไปหา หมอทโ่ี รงพยาบาลศนู ยซ์ ง่ึ ตงั้ อย่ใู นตวั เมอื ง แต่น้าหวานบอกวา่ อาการทเ่ี กดิ ขน้ึ ไมจ่ าเป็นตอ้ งไปทโ่ี รงพยาบาลศนู ยไ์ ปแค่ สถานอี นามยั กพ็ อแลว้ คาถาม : นกั เรยี นคดิ วา่ น้าหวานหรอื แมท่ ต่ี ดั สนิ ใจเลอื กสถานพยาบาลไดอ้ ย่างเหมาะสม เพราะเหตุใด อธบิ ายเหตุผลประกอบ กรณีตวั อยา่ งท่ี 2 การเจบ็ ป่ วยของยายละมนุ ยายละมุนไดร้ บั การตรวจคดั กรองจาก อสม. ประจาหม่บู า้ น พบว่า มอี าการเป็นโรคเบาหวาน และภาวะความ ดนั โลหติ สงู รว่ มดว้ ย แต่ยายละมุนยงั ลงั เลวา่ ตนเองควรจะไปพบแพทยเ์ พอ่ื ทาการตรวจรกั ษาหรอื ไม่ หรอื ถา้ หากไปควร จะไปสถานพยาบาลในระดบั ใดจงึ จะไดร้ บั การรกั ษาทถ่ี กู ตอ้ ง และเหมาะสม คาถาม : ถา้ นกั เรยี นเป็นยายละมุน นกั เรยี นจะไปรกั ษาทส่ี ถานพยาบาลในระดบั ใด เพราะเหตใุ ด

ใบงานท่ี 7.2 หลกั ประกนั สุขภาพ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนสํารวจข้อมูลเกีย่ วกบั หลกั ประกันสุขภาพของสมาชกิ ในครอบครวั แลว้ สรปุ ประโยชน์ ทไ่ี ด้รับจากหลักประกนั สขุ ภาพ สมาชิกคนที่ ช่ือ-นามสกลุ หลักประกนั สุขภาพ  ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากหลักประกนั สขุ ภาพ คอื

ใบงานที่ 7.2 หลกั ประกนั สุขภาพ คาช้ีแจง ให้นักเรียนสํารวจขอ้ มลู เกยี่ วกับหลกั ประกันสุขภาพของสมาชิกในครอบครวั แล้วสรุปประโยชน์ ทไ่ี ดร้ บั จากหลกั ประกนั สขุ ภาพ สมาชิกคนท่ี ช่อื -นามสกลุ หลกั ประกันสุขภาพ  ประโยชน์ท่ีได้รับจากหลักประกันสขุ ภาพ คือ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook