Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนสุขศึกษา ม.2

แผนการสอนสุขศึกษา ม.2

Published by Tarn Zenmax, 2021-05-10 03:32:24

Description: แผนการสอนสุขศึกษา ม.2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรอ่ื ง เทคโนโลยที างสุขภาพและความเจริญกา้ วหน้าทางแพทย์ เวลา 5 ชว่ั โมง แผนการเรียนรู้ที่ 4 เร่อื ง ความเจริญกา้ วหน้าทางการแพทยท์ ่ีมีต่อสขุ ภาพ เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู ้สู อน นางสาวณฐั ธดิ า แกว้ คาศรี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ 1. สาระสาคัญ ความเจริญกา้ วหนา้ ทางการแพทยใ์ นปจ๎ จบุ ันสามารถจําแนกได้หลายระบบ และหลายประเภท สง่ ผลให้ผูใ้ ช้ บริการ ทางสุขภาพมที างเลือกทห่ี ลากหลายมากข้นึ และสามารถพิจารณาเลือกใช้บริการทางการแพทย์ตามความเหมาะสม และ สอดคล้องกบั ป๎ญหาสุขภาพไดต้ รงตามความตอ้ งการ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) จําแนกระบบการแพทย์ของประเทศไทยในป๎จจุบันได้ 2) บอกความสําคญั ของระบบการแพทยแ์ ตล่ ะประเภทได้ 3) วิเคราะห์ความเจริญกา้ วหนา้ ทางการแพทย์ทม่ี ีผลต่อสุขภาพได้ 4) บอกแนวทางในการพจิ ารณาเลอื กใชบ้ รกิ ารทางการแพทย์ท่ีเหมาะสมได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทยท์ ่ีมีผลต่อสขุ ภาพ 4 สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. ใฝเุ รยี นรู้

กิจกรรมการเรียนรู้ วิธสี อนแบบ หน่วย (Unit Teaching Method) ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูสนทนากบั นักเรยี นเก่ียวกับความเจริญทางดา้ นการแพทย์ แลว้ ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างประกอบ 2. ครนู าํ ตวั อย่างเครื่องตรวจวดั ระดบั น้ําตาลในเลือด (เครือ่ ง ตรวจเบาหวาน) มาให้นักเรียนดู จากนั้นครูอธบิ ายให้นักเรียนเข้าใจว่า ในป๎จจุบนั ทางการแพทย์มีการพัฒนาท่ที นั สมัยมาก ขนึ้ และเครื่องตรวจวัดระดับน้ําตาลในเลอื ดกเ็ ปน็ ส่ิงหน่งึ ท่ีชว่ ยอํานวยความสะดวกให้กับผู้ปวุ ยท่ีเป็นโรคเบาหวาน โดย สามารถชว่ ยตรวจวัดเบื้องต้นไดด้ ว้ ยตนเอง ช่วยใหป้ ระหยัดเวลาและคา่ ใช้จ่ายในการเดินทางไปตรวจรกั ษาที่โรงพยาบาล 3. นกั เรยี นตอบคําถามกระตนุ้ ความคิด คาถามกระตนุ้ ความคิด  นักเรยี นคิดวา่ ปัจจบุ นั การแพทยข์ องไทยได้รบั การพฒั นามากขน้ึ กว่าในสมัยอดตี อย่างไรบ้าง (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) ขัน้ ท่ี 2 นกั เรียนและครวู างแผนรว่ มกันในการปฏิบัตกิ ิจกรรม 1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1) จากนั้นนักเรียนและครูวางแผนรว่ มกันในการศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ความเจรญิ ก้าวหนา้ ทางการแพทย์ท่ีมผี ลตอ่ สขุ ภาพ โดยกําหนดความมุ่งหมายเพื่อวเิ คราะห์ความเจริญกา้ วหน้าทางการ แพทย์ที่มีผลต่อสขุ ภาพ 2. ครูกาํ หนดประเดน็ การวเิ คราะห์ความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางการแพทย์ท่ีมีผลตอ่ สขุ ภาพ ดงั น้ี 1) ระบบการแพทยข์ องประเทศไทยในป๎จจุบัน 2) หลักในการพจิ ารณาเลือกใช้บริการทางการแพทย์ท่เี หมาะสม 3. นกั เรียนช่วยกันตั้งป๎ญหาและแบง่ หัวข้อ กําหนดกจิ กรรม มอบหมายหนา้ ที่ปฏิบตั ิงานให้สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่ม และ กาํ หนดระยะเวลาในการรายงานผลการปฏิบัติงาน 4. นกั เรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด คาถามกระตนุ้ ความคิด  จงยกตัวอยา่ งความเจรญิ กา้ วหน้าทางการแพทย์ ท่ใี ชใ้ นการรักษาโรค (พิจารณาตามคําตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) ข้นั ที่ 3 ลงมือทางาน 1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาและรวบรวมความรู้เกยี่ วกบั ความเจริญกา้ วหนา้ ทางการแพทย์ที่มีผลต่อสุขภาพ จากหนังสอื เรียน หนงั สอื คน้ ควา้ เพมิ่ เติม หรือห้องสมดุ แลว้ บนั ทึกความรู้ลงในแบบบนั ทึกการอา่ น 2. นกั เรยี นรวบรวมขอ้ มูลมาจัดระบบเพื่อนําเสนอในรปู แบบต่างๆ ตามมติของสมาชกิ กล่มุ 3. นักเรียนตอบคําถามกระตุน้ ความคดิ คาถามกระตนุ้ ความคดิ  จงยกตัวอยา่ งรปู แบบการบาบดั รักษาของการแพทย์ทางเลือก

(พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน) ขัน้ ที่ 4 เสนอกจิ กรรม 1. นักเรียนแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมานาํ เสนอผลการศึกษาและรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการความเจริญก้าวหนา้ ทางการ แพทย์มีผลต่อสขุ ภาพ โดยเลือกใช้รูปแบบและวิธกี ารท่สี รา้ งสรรค์ 2. นกั เรียนกลุม่ อ่ืนหมุนเวยี นกนั อภิปรายแสดงความคิดเหน็ ในการนาํ เสนอผลงานของเพื่อนกลุ่มอนื่ ๆ 3. ครูอธบิ ายความร้เู พม่ิ เติมเกีย่ วกบั หลกั ในการพิจารณาเลอื กใชบ้ ริการทางการแพทย์ทีเ่ หมาะสมใหน้ กั เรียนฟ๎ง แลว้ ให้นกั เรียนรว่ มกนั สรุปความรู้ โดยมแี นวทางในการสรปุ ดังน้ี 1) หลักของความน่าเช่ือถือ 2) หลักของความปลอดภัย 3) หลกั ของการมปี ระสทิ ธผิ ล 4) หลักของความคุ้มค่า 4. นกั เรียนตอบคาํ ถามกระตุน้ ความคดิ คาถามกระตุน้ ความคิด  การแพทย์แผนไทยต่างจากการแพทยแ์ ผนปัจจบุ นั อยา่ งไร (การแพทย์แผนไทย เป็นกระบวนการทางการแพทยท์ ี่พยายามจะอธิบายถงึ ภาวะตา่ งๆ ท่ีเกยี่ วกับสขุ ภาพ โดยใชท้ ฤษฎี ความสมดุลของธาตุต่างๆ ในร่างกายเขา้ มาอธิบาย ซึ่งอาจจะไม่มอี งคค์ วามรู้ด้านกลไกการเกดิ โรคและเทคนิคทาง ศลั ยกรรมเหมือนกับแพทยแ์ ผนปจ๎ จบุ นั ) ขั้นที่ 5 ประเมินผล 1. ครปู ระเมนิ การนําเสนอผลการวิเคราะห์ความเจรญิ ก้าวหน้าทางการแพทยท์ ่ีมีผลต่อสขุ ภาพ โดยพจิ ารณาผลการ ปฏบิ ัติงานตามขั้นตอนและจุดประสงค์ของหนว่ ย 2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนทํากิจกรรมตามตัวชว้ี ัด : กิจกรรมที่ 8.4 จากแบบวดั ฯ เป็นการบ้าน เสร็จแลว้ นําสง่ ครูตรวจ ภาระงาน/ชน้ิ งาน ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มจดั นทิ รรศการ เร่ือง เทคโนโลยีทางสขุ ภาพ และความเจรญิ กา้ วหน้าทางการแพทย์ โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามทกี่ ําหนด ดงั น้ี 7) การวเิ คราะหผ์ ลกระทบของการใช้เทคโนโลยที ีม่ ตี ่อสุขภาพ 8) การวิเคราะห์ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทยท์ ี่มผี ลต่อสขุ ภาพ 9) การเสนอแนะแนวทางในการตดั สนิ ใจเลอื กรับและใชเ้ ทคโนโลยีทางสุขภาพ 10) การเสนอแนะหลกั ในการพจิ ารณาเลือกใช้บริการทางการแพทย์ท่เี หมาะสม

แหลง่ เรยี นรู้ / ส่อื 1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษา ม.2 2) แบบวดั และบันทึกผลการเรียนรู้ สขุ ศึกษา ม.2 3) หนงั สือค้นควา้ เพม่ิ เติม (1) สาทิส อนิ ทรกาํ แหง. 2544. การแพทยท์ างเลือก. กรงุ เทพมหานคร : คลินกิ สขุ ภาพ. (2) วิทติ วณั นาวิบูล และวิทวสั วัณนาวบิ ลู . 2548. ปรัชญาแนวคิดพ้นื ฐานการแพทย์ ตะวันออก - ตะวนั ตก. กรงุ เทพมหานคร : หมอชาวบ้าน. 4) เครือ่ งตรวจวัดระดบั น้ําตาลในเลอื ด 2 แหล่งการเรียนรู้ - หอ้ งสมดุ

การวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ วธิ กี าร แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนาํ เสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทํางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบคุ คล แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทํางานกลมุ่ สงั เกตความมวี ินยั มีความรบั ผดิ ชอบ แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 8 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ และใฝเุ รียนรู้ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 แบบประเมนิ นทิ รรศการ เร่อื ง เทคโนโลยีทาง ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจนิทรรศการ เร่อื ง เทคโนโลยที างสุขภาพและ สขุ ภาพและความเจรญิ กา้ วหนา้ ทาง ความเจรญิ ก้าวหน้าทางการแพทย์ การแพทย์ ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาํ ศรี) ครูผ้สู อน ความคิดเห็นของหัวหน้าฝุายบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผอู้ ํานวยการ ฝาุ ยบรหิ ารงานวชิ าการ ความคิดเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ลงชื่อ.............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผู้อาํ นวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินนิทรรศการ เร่ือง เทคโนโลยีทางสขุ ภาพ และความเจรญิ กา้ วหน้าทางการแพทย์ ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 432 1 การวเิ คราะห์ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยี ที่มีตอ่ สุขภาพ 2 การวเิ คราะห์ความเจรญิ ก้าวหน้าทางการแพทย์ ทีม่ ตี อ่ สุขภาพ 3 การเสนอแนะแนวทางในการตดั สินใจเลอื กรบั และใช้เทคโนโลยีทางสุขภาพ 4 การเสนอแนะหลักในการพิจารณาเลือกใช้บรกิ าร ทางการแพทย์ท่ีเหมาะสม รวม ลงชือ่ .................................................... ผู้ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = 2 คะแนน ปรับปรุง = 1 คะแนน 14 - 16 ดมี าก 11 - 13 ดี 18 - 10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

บนั ทกึ หลังแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรอ่ื ง เทคโนโลยีทางสุขภาพและความเจริญกา้ วหนา้ ทางแพทย์ แผนการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง ความเจรญิ ก้าวหน้าทางการแพทย์ทม่ี ีต่อสขุ ภาพ เวลา 1 ช่วั โมง ผู้สอน นางสาวณัฐธิดา แก้วคําศรี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ผ้เู รียนไดร้ บั ความรู้ (K) นักเรยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจเก่ียวกับความเจริญกา้ วหน้าทางการแพทย์ในป๎จจุบันสามารถจําแนกได้หลายระบบ และหลายประเภท ส่งผลใหผ้ ู้ใช้ บรกิ ารทางสขุ ภาพมีทางเลือกท่ีหลากหลายมากข้ึน และสามารถพจิ ารณาเลอื กใช้บริการทาง การแพทย์ตามความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั ปญ๎ หาสุขภาพได้ตรงตามความตอ้ งการ ผ้เู รยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) 1) นกั เรียนสามารถจาํ แนกระบบการแพทยข์ องประเทศไทยในปจ๎ จบุ ันได้ 2) นกั เรียนสามารถบอกความสาํ คญั ของระบบการแพทย์แตล่ ะประเภทได้ 3) นักเรยี นสามารถวเิ คราะหค์ วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางการแพทยท์ มี่ ผี ลตอ่ สุขภาพได้ 4) นักเรียนสามารถบอกแนวทางในการพจิ ารณาเลอื กใชบ้ ริการทางการแพทย์ที่เหมาะสมได้ ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม (A) นกั เรียนมที ัศนคติที่ดตี อ่ วชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ขยันใฝรุ ูใ้ ฝเุ รียน เช่อื ม่นั ในตนเอง กลา้ แสดงออกมคี วามสุขตอ่ การเรียน ผู้เรียนเกิดทักษะการคิด ทักษะการวเิ คราะห์ ผูเ้ รียนมหี ลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผูเ้ รียนเรยี นรทู้ จ่ี ะใชท้ รัพยากรไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ปัญหาอุปสรรค (ถา้ ม)ี - ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณัฐธดิ า แก้วคําศรี) ครูผูส้ อน

ชอ่ื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผูแ้ ตง่ แบบบนั ทึกการอ่าน สาํ นักพิมพ์ สถานท่พี มิ พ์ จํานวนหน้า บาท อา่ นวันท่ี เดอื น นามปากกา ปที ีพ่ ิมพ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาํ คัญของเร่ือง 2. วเิ คราะหข์ ้อคิด/ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน 3. สงิ่ ทสี่ ามารถนาํ ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจําวัน 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงชอ่ื นกั เรียน ลงช่อื ผูป้ กครอง ( )( ) ลงชื่อ ครผู สู้ อน ( ) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาํ เสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี ําหนด แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทีต่ รงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 นําเสนอเน้อื หาในผลงานได้ถูกต้อง 2 การลาํ ดับข้ันตอนของเนื้อเรอ่ื ง 3 การนําเสนอมีความนา่ สนใจ 4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล ชอ่ื ช้นั คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่อง ท่ีตรงกับระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟ๎งความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่นื 3 การทาํ งานตามหนา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ํา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานกล่มุ คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ท่ตี รงกับระดบั คะแนน ลาดับ ชอื่ -สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตงั้ ใจ การแก้ไข รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ รว่ มมือกัน ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น ทางาน ปัญหา/หรอื 20 ทากจิ กรรม ปรับปรุง คะแนน ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงชื่อ .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องนกั เรียน 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 1.3 ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทํางานกับสมาชิกในโรงเรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคี 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 4. ใฝเุ รียนรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชุมชน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.5 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมทเี่ กีย่ วกับสถาบัน พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรียนและชมุ ชนจัดขนึ้ 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัติในสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะทาํ ความผดิ ทาํ ตามสญั ญาที่ ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบตั ติ อ่ ผูอ้ น่ื ด้วยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไมถ่ ูกต้อง 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั และโรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาํ วัน และ รบั ผดิ ชอบในการทาํ งาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรูต้ ่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบัตติ นและตัดสนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ื่น และไม่ทําใหผ้ ูอ้ น่ื เดือดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเมื่อผ้อู ื่นกระทํา ผดิ พลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใชช้ วี ิตประจาํ วนั บนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยู่รว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทาํ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสําเร็จ 7.1 มีจติ สาํ นึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญ๎ ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทาํ งาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบ่งป๎นสง่ิ ของให้ผู้อนื่ 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 เรอ่ื ง การช่วยเหลือฟื้นฟูผ้ตู ิดสารเสพตดิ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชาสุขศกึ ษา รหัส พ 22102 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 3 ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวณฐั ธดิ า แก้วคาศรี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน พ 5.1 ตวั ช้ีวัด ม.2/1 ระบวุ ิธีการ ปจ๎ จัย และแหลง่ ที่ชว่ ยเหลอื ฟนื้ ฟผู ู้ติดสารเสพตดิ 2. สาระสาคญั การช่วยเหลอื ฟืน้ ฟผู ู้ตดิ สารเสพติดนนั้ มวี ธิ กี ารหลายรูปแบบ ซึ่งจะต้องอาศัยปจ๎ จยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เพื่อสง่ เสรมิ ให้การ บําบดั ฟ้ืนฟูประสบความสาํ เร็จ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - วธิ ีการ ป๎จจยั และแหลง่ ทช่ี ว่ ยเหลือฟน้ื ฟผู ู้ตดิ สารเสพตดิ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการสาํ รวจคน้ หา 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มจี ติ สาธารณะ 6. ชนิ้ งาน บทความ เรื่อง การช่วยเหลอื ฟืน้ ฟผู ูต้ ดิ สารเสพตดิ 7. การวัดและประเมินผล (ภาระงาน/ชิ้นงาน) 7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 9 เรอ่ื ง การชว่ ยเหลือฟ้นื ฟูผ้ตู ิดสารเสพติด 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 9.1 เรอ่ื ง การฟื้นฟูผตู้ ิดสารเสพติด

2) ตรวจใบงานที่ 9.2 เรอื่ ง วิธกี ารบําบดั ฟืน้ ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ 3) ตรวจใบงานท่ี 9.3 เรอ่ื ง แหล่งช่วยเหลอื ฟ้ืนฟูผู้ตดิ สารเสพติด 4) ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน 5) ประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน 6) สังเกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบคุ คล 7) สังเกตพฤตกิ รรมการทํางานกลมุ่ 8) สงั เกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 7.3 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 9 เรอ่ื ง การช่วยเหลือฟื้นฟผู ูต้ ิดสารเสพตดิ 7.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจบทความ เร่ือง การช่วยเหลอื ฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (สขุ ศึกษา) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 เรื่อง การชว่ ยเหลือฟ้นื ฟูผูต้ ดิ สารเสพตดิ เวลา 3 ชั่วโมง แผนการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอื่ ง การฟืน้ ฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ เวลา 1 ช่ัวโมง ครผู ู้สอน นางสาวณฐั ธดิ า แกว้ คาศรี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ 1. สาระสาคญั การฟ้ืนฟูผ้ตู ดิ สารเสพตดิ จะต้องเขา้ ใจเกีย่ วกบั วงจรการแพรร่ ะบาดของสารเสพตดิ และความสําคญั ของ การ ฟ้นื ฟูผตู้ ดิ สารเสพติด จึงจะสามารถใหค้ ําแนะนํา หรือชว่ ยเหลอื แกผ่ ้ทู ี่ติดสารเสพตดิ ได้อย่างถูกต้อง 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายวงจรการแพรร่ ะบาดของสารเสพตดิ ได้ 2) บอกความสําคญั ของการฟนื้ ฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - วิธีการ ปจ๎ จัย และแหลง่ ที่ชว่ ยเหลอื ฟน้ื ฟผู ูต้ ดิ สารเสพติด 4 สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการสํารวจคน้ หา 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. มคี วามรับผิดชอบ 3. ใฝเุ รียนรู้ 4. มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการเรียนความรคู้ วามเขา้ ใจ ขัน้ ที่ 1 สงั เกต ตระหนกั 1. ครูนําตัวอย่างข่าวเกี่ยวกับการจับกมุ ผคู้ า้ ยาเสพตดิ มาใหน้ กั เรียนอา่ น

2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับขา่ วดังกลา่ ว แลว้ ครูตั้งประเดน็ คาํ ถามถามนักเรียน เช่น - นกั เรยี นเคยเห็นข่าวที่แสดงถึงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของสารเสพตดิ ในรูปแบบใดบ้าง - นกั เรียนคดิ วา่ อะไรเป็นสาเหตุทีท่ ําให้เกดิ การแพร่ระบาดของสารเสพติดในป๎จจุบัน - นกั เรยี นคิดวา่ การช่วยเหลือฟ้นื ฟูผ้ตู ดิ สารเสพตดิ มีความสําคญั หรือไม่ อย่างไร 3. ครูอธบิ ายความรู้เพมิ่ เตมิ ให้นักเรียนตระหนักถึงความร้ายแรงของการแพร่ระบาดของสารเสพติดทเี่ กดิ ขึน้ ในป๎จจบุ ัน ขน้ั ท่ี 2 วางแผนปฏิบัติ 1. นกั เรียนตอบคําถามกระตนุ้ ความคดิ 2. นักเรยี นรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน ตามความสมัครใจ ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันวางแผนเพ่ือศึกษาความรู้ตามหัวขอ้ ท่กี ําหนด ดงั น้ี 1) วงจรการแพรร่ ะบาดของสารเสพติด 2) ความสําคญั และปจ๎ จัยในการฟื้นฟผู ้ตู ิดสารเสพตดิ คาถามกระตนุ้ ความคดิ  นักเรียนคิดว่า การตดิ สารเสพตดิ เกิดมาจากสาเหตุใด (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน) ขั้นท่ี 3 ลงมอื ปฏบิ ัติ 1. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มรว่ มกันศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง วงจร การแพรร่ ะบาดของสารเสพติด และความสําคัญและป๎จจัยในการฟ้ืนฟผู ตู้ ดิ สารเสพติด จากหนังสือเรยี น หนังสือคน้ คว้า เพิม่ เติม หอ้ งสมุด หรือแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ตามท่ีไดว้ างแผนไว้ 2. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด คาถามกระตุ้นความคดิ  นักเรียนคิดวา่ การชว่ ยเหลือฟ้ืนฟผู ู้ติดสารเสพตดิ มีความสาคญั หรือไม่ อย่างไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผู้สอน) ขน้ั ที่ 4 พัฒนาความรู้ ความเขา้ ใจ 1. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มนําความร้ทู ่ีไดจ้ ากการศึกษามาเปน็ แนวทางในการทําใบงานท่ี 9.1 เร่ือง การฟนื้ ฟผู ตู้ ดิ สารเสพติด 2. ครูสมุ่ ตวั แทนนักเรียน 5-6 กลมุ่ นําเสนอใบงานที่ 9.1 หนา้ ชน้ั เรยี น แล้วให้เพอ่ื นกลุม่ อื่นทมี่ ีคําตอบแตกตา่ ง ออกมานาํ เสนอเพ่ิมเติม 3. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตุน้ ความคิด คาถามกระตนุ้ ความคดิ  การฟนื้ ฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ ให้มคี วามมุง่ มั่นในการ เลกิ สารเสพตดิ ไดส้ าเรจ็ จะตอ้ ง ประกอบด้วยปจั จัยทสี่ าคญั ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง (ได้แก่ ผู้ตดิ สารเสพติดจะต้องมีความรู้ความเขา้ ใจพระราชบัญญตั ฟิ น้ื ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ สารเสพตดิ พ.ศ. 2545 ตอ้ งให้ ความรว่ มมือและมีความมุ่งม่ันในการเลิกสารเสพตดิ และต้องมีความยินยอมพร้อมใจทจี่ ะเขา้ รับการอบรมใน

กระบวนการฟ้นื ฟ)ู ขน้ั ที่ 5 สรุป 1. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั สรุปความร้เู ร่อื ง วงจรการแพรร่ ะบาดของสารเสพติดและความสาํ คัญและป๎จจัยในการฟ้ืนฟผู ู้ ตดิ สารเสพติด เป็นแผนผงั ความคดิ เสร็จแลว้ นําสง่ ครตู รวจ 2. นักเรยี นตอบคําถามกระตนุ้ ความคดิ 3. นกั เรียนทาํ กิจกรรมฝึกทกั ษะ : กิจกรรมท่ี 1 และกิจกรรมที่ 9.1 จากแบบวัดฯ เปน็ การบ้าน เสร็จแลว้ นาํ สง่ ครู ตรวจ ในชวั่ โมงถดั ไป คาถามกระต้นุ ความคดิ  นกั เรยี นมวี ิธกี ารปฏบิ ตั ติ นอย่างไร เพื่อปอู งกันตนเองจากสารเสพตดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน) ภาระงาน/ชนิ้ งาน - แหลง่ เรยี นรู้ / สอ่ื 1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น สุขศึกษา ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ สุขศึกษา ม.2 3) หนงั สอื คน้ ควา้ เพ่ิมเติม - สมภพ เรืองตระกลู . 2543. ยาเสพติด มหนั ตภยั เงียบที่ปูองกันได้. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพเ์ รือนแก้วการพิมพ์. 4) ตัวอยา่ งข่าว 5) ใบงานที่ 9.1 เร่ือง การฟืน้ ฟูผู้ติดสารเสพตดิ 2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ - http://www.ccd.rtaf.mi.th/ccd/ArticleDetail.asp?id=11

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 9 (ประเมินตามสภาพจรงิ ) รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 9.1 ใบงานที่ 9.1 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทาํ งานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทํางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานกล่มุ สงั เกตความมวี นิ ยั มีความรบั ผิดชอบ ใฝุเรียนรู้ และ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มจี ิตสาธารณะ ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวณัฐธิดา แกว้ คําศรี) ครผู สู้ อน ความคิดเห็นของหัวหนา้ ฝุายบรหิ ารวิชาการ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อํานวยการ ฝาุ ยบรหิ ารงานวชิ าการ ความคิดเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศึกษา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ ํานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

ตวั อย่างข่าว จบั นกั เรียนสาว ม. 6 คา้ ยาบ้า ข่าวอาชญากรรม รายงาน ตํารวจเมืองกําแพงเพชรจับนักเรียนวัยรุ่นสาว ม.6 พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด หลัง วางแผนลอ่ ซอ้ื ยาบ้า จากนกั เรียนวัยรุ่นดังกลา่ ว ทั้งนี้ จากการเขา้ ตรวจค้นภายในบา้ นพกั ของนักเรียนสาว พบยาบ้า อีก 645 เม็ด ดา้ นนักเรยี นสาวอ้างเป็นของพ่ีสาว เม่ือวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ต.อ. สุชาติ ภู่แก้ว ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรอําเภอเมืองกําแพงเพชร ทําการสอบสวนนางสาวเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาระดับ มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองกําแพงเพชร ซงึ่ ถกู จับกุมตวั ได้พรอ้ มของกลางยาบา้ จาํ นวน 100 เม็ด โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.สิทธิพงษ์ เกิดเทพ สว.สป. ได้วางแผนล่อซ้ือยาบ้า จากผตู้ ้องหาและสามารถจับกุมตัวพรอ้ มของกลาง และทําการขยายผลตรวจคน้ ภายในบา้ นพกั พบว่า ที่ลิ้นชักตู้ล็อคเกอร์เก็บของภายในห้องนอนของพี่สาวนางสาวเอ๋ ที่อาศัยอยู่บ้านพักเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตํารวจพบ ยาบ้าอีก 645 เม็ด พร้อมเงินสดจํานวน 16,900 บาท สร้อยข้อมือ 1 เส้น แหวนทองคํา 1 วง และสร้อยคอทองคําพร้อมพระ เลีย่ มทองอีก 1 เส้น ขณะทีพ่ ่ีสาวของนางสาวเอไ๋ ม่อย่ใู นทีบ่ ้านหลังดงั กลา่ ว จึงทําการอายดั ไวเ้ ป็นหลักฐาน จากการสอบสวน นางสาวเอ๋ ใหก้ ารรบั สารภาพวา่ จะขายบ้าให้กับลูกค้าท่ีมาสัง่ ซื้อเปน็ จํานวนมากเท่าน้ัน และยาบา้ ทถ่ี กู จบั ไดด้ งั กล่าวเปน็ ของพี่สาวไดน้ ํามาฝากไว้กบั ตน หลงั การสอบสวน เจา้ หน้าทต่ี ํารวจแจง้ ข้อหามียาเสพตดิ ให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่าย พร้อมกับนําตัวส่งให้ ร.ต.ต. ยุทธนันท์ จันทร์เนตร พนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรเมือง กําแพงเพชร เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ จะติดตามตัวพี่สาวของผู้ต้องหาตามที่ถูกให้การซัดทอด เพ่ือหา พยานหลกั ฐานหากเกย่ี วขอ้ งจะดาํ เนินคดีตามกฎหมายตอ่ ไปเชน่ เดียวกนั ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/17300

ใบงานท่ี 9.1 การฟื้นฟูผตู้ ดิ สารเสพติด คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปน้ี 1. การติดสารเสพติด เกิดมาจากสาเหตใุ ด 2. เพราะเหตุใด ผ้ตู ดิ สารเสพตดิ จงึ ผนั ตนเองจากผ้เู สพไปเป็นผู้จําหนา่ ยสารเสพติดแทน 3. นโยบายการฟื้นฟูผ้ตู ิดสารเสพติด ส่งผลให้เกิดประโยชนต์ อ่ ผู้ตดิ สารเสพติดอย่างไร 4. นโยบายการฟื้นฟผู ู้ติดสารเสพตดิ ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อสงั คมหรือประเทศชาติอยา่ งไร 5. ปจ๎ จัยสาํ คญั ทมี่ ผี ลต่อการฟ้นื ฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ ให้ประสบความสาํ เร็จ มีอะไรบ้าง

เฉลยใบงานท่ี 9.1 การฟน้ื ฟูผู้ตดิ สารเสพติด คาชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคําถามต่อไปนี้ 1. การตดิ สารเสพตดิ เกิดมาจากสาเหตุใด (ตวั อย่าง) ความอยากรู้ อยากลอง โดยเฉพาะวัยรุน่ มักจะเกดิ ความคึกคะนองและถกู ชักจูงได้ง่าย นอกจากน้กี ารใชย้ าอย่างพร่า เพรือ่ เป็นเวลานาน อาจสง่ ผลใหเ้ กดิ การเสพยาน้ันๆ ได้ 2. เพราะเหตุใด ผตู้ ดิ สารเสพติด จึงผนั ตนเองจากผู้เสพไปเปน็ ผจู้ ําหน่ายสารเสพตดิ แทน ผู้ติดสารเสพตดิ จาเป็นจะต้องเพม่ิ ปริมาณของสารเสพติดท่ีใชอ้ ยา่ งต่อเนือ่ ง แตบ่ างรายอาจไมม่ ีเงินเพยี งพอทจ่ี ะซอื้ สารเสพตดิ เหลา่ น้ันมาใช้ได้ จึงต้องผันตนเองมาเปน็ ผ้จู าหน่ายร่วมดว้ ย เพราะต้องการเงินมาซ้อื สารเสพตดิ เพ่อื นามาใช้ เสพตามความต้องการของตนเอง 3. นโยบายการฟืน้ ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ ส่งผลให้เกดิ ประโยชนต์ ่อผู้ตดิ สารเสพตดิ อยา่ งไร 1) ให้โอกาสผู้ติดสารเสพติดได้กลบั ตัวกลบั ใจเปน็ คนดี 2) ชว่ ยใหผ้ ู้ตดิ สารเสพตดิ ไมต่ ้องมีประวตั ิดา่ งพร้อย 3) สง่ ผลดีต่อสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตของผตู้ ิดสารเสพติด 4. นโยบายการฟนื้ ฟูผ้ตู ดิ สารเสพตดิ ส่งผลใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อสังคมหรือประเทศชาติอยา่ งไร 1) ลดการสญู เสียทรพั ยากรมนุษย์ที่อาจมีศักยภาพในการช่วยพฒั นาประเทศได้ 2) ช่วยลดปัญหาอาชญากรรมได้ในทางอ้อม 3) ช่วยลดปัญหาผตู้ ้องโทษลน้ เรือนจา และลดค่าใช้จ่ายท่ีต้องดแู ลเลย้ี งดผู ตู้ ้องโทษ 5. ป๎จจยั สําคญั ทีม่ ีผลต่อการฟ้นื ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ ใหป้ ระสบความสาํ เร็จ มีอะไรบ้าง 1) ผู้ติดสารเสพติดต้องมีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั พระราชบัญญัตฟิ ้ืนฟูสมรรถภาพผูต้ ิดสารเสพติด พ.ศ. 2545 2) ผูต้ ดิ สารเสพติดจะต้องมคี วามมุ่งมั่นในการเลิกสารเสพติด และจะต้องต้ังใจอยา่ งเด็ดเดี่ยวท่ีจะไม่กลับมาใช้ สารเสพตดิ อีกหลังจากพ้นการฟื้นฟู 3) ผตู้ ดิ สารเสพตดิ จะต้องมคี วามยินยอมพร้อมใจทจี่ ะเขา้ รบั การอบรมในกระบวนการฟืน้ ฟู เชน่ การเขา้ คา่ ย การถกู คมุ ประพฤติ เป็นต้น (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาช้แี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอ่ื -สกลุ ความมีวินัย ความมนี า้ ใจ การรับฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมิน เอื้อเฟ้อื ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ เวลา 20 เสยี สละ คะแนน 43214321432143214321 ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่อง ท่ีตรงกับระดบั คะแนน ลาดับ ช่ือ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตงั้ ใจ การแก้ไข รวม ท่ี ของผ้รู บั การประเมนิ ร่วมมือกัน ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น ทางาน ปญั หา/หรอื 20 ทากิจกรรม ปรับปรุง คะแนน ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงชื่อ .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเม่ือได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธิและหน้าทขี่ องนกั เรียน 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 1.3 ให้ความรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทํางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามคั คี 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 4. ใฝเุ รียนรู้ ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี นและชุมชน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัติในส่งิ ท่ถี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ที่จะทาํ ความผดิ ทําตามสญั ญาที่ ตนให้ไวก้ บั เพอื่ น พอ่ แม่ หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางท่ีไม่ถกู ตอ้ ง 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่างๆ ในชีวติ ประจาํ วัน และ รบั ผดิ ชอบในการทาํ งาน 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัตติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผ้อู ื่น และไม่ทาํ ใหผ้ ู้อน่ื เดือดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเม่ือผอู้ ่ืนกระทํา ผดิ พลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใชช้ วี ิตประจาํ วนั บนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยรู่ ว่ มกับผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทาํ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสําเร็จ 7.1 มจี ิตสาํ นกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญ๎ ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทํางาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบ่งป๎นสิ่งของให้ผู้อนื่ 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้าร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

บันทกึ หลังแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 เร่อื ง การช่วยเหลือฟนื้ ฟผู ตู้ ิดสารเสพติด แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง การฟ้นื ฟผู ู้ติดสารเสพติด เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวณัฐธิดา แก้วคาํ ศรี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ผเู้ รยี นไดร้ ับความรู้ (K) นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับการฟ้นื ฟูผู้ตดิ สารเสพติด จะต้องเข้าใจเกยี่ วกับวงจรการแพร่ระบาดของสาร เสพตดิ และความสําคัญของ การฟน้ื ฟูผตู้ ดิ สารเสพตดิ จึงจะสามารถให้คําแนะนํา หรอื ช่วยเหลือแกผ่ ทู้ ่ตี ดิ สารเสพตดิ ได้ อยา่ งถูกต้อง ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถอธบิ ายวงจรการแพร่ระบาดของสารเสพติดและบอกความสาํ คญั ของการฟน้ื ฟผู ู้ติดสารเสพติดได้ ผู้เรียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม (A) นกั เรียนมีทัศนคติท่ีดตี อ่ วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ขยันใฝรุ ู้ใฝุเรยี น เชอื่ มนั่ ในตนเอง กลา้ แสดงออกมีความสุขตอ่ การเรยี น ผู้เรียนเกิดทักษะการคดิ ทักษะการสํารวจคน้ หา ผเู้ รยี นมหี ลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผเู้ รียนเรยี นรู้ทจี่ ะใช้ทรัพยากรได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ปญั หาอุปสรรค (ถ้าม)ี - ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี) - ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แกว้ คาํ ศรี) ครูผู้สอน

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา (สุขศกึ ษา) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 9 เรื่อง การช่วยเหลือฟ้ืนฟูผู้ตดิ สารเสพติด เวลา 3 ชว่ั โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง วิธีการบาบัดฟน้ื ฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู ูส้ อน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาศรี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ 1. สาระสาคัญ การบาํ บัดผูต้ ดิ สารเสพตดิ อยา่ งถูกวธิ ีและมีความเหมาะสม จะสามารถชว่ ยเหลอื ผู้ตดิ สารเสพติดไดส้ ําเรจ็ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) ระบวุ ิธีการ และป๎จจยั ที่เก่ียวข้องกบั การฟ้นื ฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ ได้ 2) อธิบายวิธกี ารบาํ บดั ฟน้ื ฟูผู้ติดสารเสพตดิ ได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - วธิ ีการ ป๎จจยั และแหล่งที่ชว่ ยเหลอื ฟ้ืนฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ 4 สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการสาํ รวจค้นหา 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 3. ใฝเุ รียนรู้ 4. มจี ิตสาธารณะ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสรา้ งความตระหนัก ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูนําแนวคิดเก่ียวกับผู้ติดสารเสพตดิ มาสนทนากบั นักเรียน เพอ่ื ให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เห็น ดงั นี้ “มนุษยไ์ ม่ไดเ้ ลวโดยสนั ดาน การกระทาผดิ อาจเกดิ จากการคบเพอ่ื นไมด่ ี ร่วมกบั การไดร้ บั การ อบรมเลย้ี งดใู นสภาพแวดลอ้ มทไ่ี ม่ด”ี 2. อาสาสมคั รนักเรยี น 2-3 คน ออกมาแสดงความคดิ เหน็ หน้าชนั้ เรียน 3. ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นกั เรยี นเขา้ ใจว่า การฟน้ื ฟูผูต้ ิดสารเสพติดเปน็ กระบวนการสําคัญท่ีจะทําใหผ้ ู้เข้ารับการรักษา สามารถเลกิ ใช้สารเสพติดไดส้ ําเรจ็ และใช้ชวี ิตรว่ มกบั ผ้อู นื่ ในสังคมได้ 4. นักเรียนตอบคาํ ถามกระต้นุ ความคิด คาถามกระตุ้นความคดิ  ถา้ บคุ คลในครอบครัวของนักเรยี นตดิ สารเสพติด นักเรยี นจะมวี ธิ กี ารช่วยเหลือไดอ้ ย่างไร บ้าง (พิจารณาตามคําตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) ข้ันที่ 2 วเิ คราะห์วิจารณ์ 1. นกั เรยี นรวมกล่มุ เดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1) ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รื่อง วิธีการบําบัดพน้ื ฟูผตู้ ดิ สารเสพติด จากหนงั สือเรียน หนงั สือค้นควา้ เพิ่มเติม หอ้ งสมุด หรอื แหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นท่ีกําหนด ดังน้ี 1) รูปแบบการฟื้นฟูผูต้ ดิ สารเสพตดิ 2) องค์ประกอบทเ่ี กยี่ วข้องกบั การฟน้ื ฟูผูต้ ดิ สารเสพตดิ 3) ขน้ั ตอนในการฟืน้ ฟูผูต้ ดิ สารเสพติด 2. นักเรยี นแต่ละกลุ่มจดบนั ทึกความร้ลู งในแบบบันทึกการอ่าน 3. ครูให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ช่วยกันวิเคราะหป์ ระเด็นคําถามท่ีกําหนด ดังนี้ - เพราะเหตุใด เราจึงควรมีการช่วยเหลือฟ้นื ฟผู ู้ติดสารเสพติด - การบําบัดฟ้นื ฟผู ูต้ ดิ สารเสพติดแบบชมุ ชนบําบัด (Therapeutic Community) มลี ักษณะและข้ันตอนอย่างไร - การฟนื้ ฟผู ู้ตดิ สารเสพตดิ แบบเข้มข้นทางสายใหม่ (FAST Model) เป็นการบําบัดฟน้ื ฟผู ู้ติดสารเสพติดในลกั ษณะ และองคป์ ระกอบใดบา้ ง - องค์ประกอบของการบําบดั ฟ้ืนฟูแบบเข้มข้นทางสายใหม่ (FAST Model) ได้แก่อะไรบ้าง - องค์ประกอบใดของการบาํ บัดฟน้ื ฟผู ู้ตดิ สารเสพติดแบบเขม้ ขน้ ทางสายใหม่ (FAST Model) มคี วามสําคญั มาก ทีส่ ุด เพราะเหตุใด - การฟื้นฟูแบบผูป้ ุวยนอกตามรปู แบบกาย จิต สงั คมบาํ บดั (Matrix Program) เป็นรปู แบบการบาํ บดั ฟ้นื ฟูผ้ตู ดิ

สารเสพติดในลักษณะใด - การฟื้นฟผู ้ตู ิดสารเสพติดในระยะท่ี 1 Intensive Phase หรอื Intensive Outpatient เปน็ การบําบัดรักษาโดย การใชก้ ิจกรรมใดบา้ ง - หลกั การบําบัดฟืน้ ฟูผ้ตู ดิ สารเสพติดแบบจริ าสา มหี ลักการในการบําบดั อย่างไร 4. ตัวแทนนักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาํ เสนอคาํ ตอบทเี่ ป็นขอ้ สรปุ ของกลุ่มหน้าชัน้ เรียน 5. ครูและนักเรยี นกลมุ่ อนื่ ตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ามขี ้อบกพร่องให้นกั เรยี นกลุม่ อื่นเสนอแนะเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ 6. นักเรยี นแตล่ ะคนทําใบงานที่ 9.2 เรือ่ ง วธิ กี ารบาบัดฟ้นื ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ เมื่อทําเสร็จแล้วให้ตรวจความเรียบรอ้ ย ก่อนนําสง่ ครตู รวจ 7. นกั เรียนตอบคาํ ถามกระตนุ้ ความคิด คาํ ถามกระตนุ้ ความคดิ  นกั เรยี นเหน็ ด้วยกับวธิ กี ารบาบดั ฟ้นื ฟผู ู้ติดสารเสพตดิ แบบจริ าสาหรือไม่ จงอธบิ าย (พิจารณาตามคําตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน) ข้นั ท่ี 3 สรปุ 1. นักเรยี นร่วมกนั สรุปวธิ ีการบาํ บดั ฟน้ื ฟผู ู้ติดสารเสพติด และบอกแนวทางในการนาํ ความรู้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ใน ชีวิตประจาํ วนั แก่ตนเองและผู้อืน่ 2. นักเรยี นตอบคําถามกระตุ้นความคิด 3. ครใู หน้ ักเรยี นทํากิจกรรมฝึกทักษะ : กิจกรรมท่ี 9.2 จากแบบวดั ฯ เปน็ การบ้าน เสร็จแล้วสง่ ครตู รวจในชั่วโมงถดั ไป คาถามกระตุ้นความคิด  การบาบดั ฟ้นื ฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ ใหไ้ ด้ผลสาเร็จอย่างมปี ระสิทธภิ าพน้ัน จะตอ้ งดาเนินการ แบบองคร์ วมในการบาบัดดา้ นใดบา้ ง (ต้องดําเนินการในการบาํ บัดทางกาย การบําบัดทางจติ ใจ หรอื รักษาอาการทางจิต และการบาํ บัดชมุ ชน) ภาระงาน/ช้ินงาน - แหล่งเรยี นรู้ / ส่อื 1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน สขุ ศกึ ษา ม.2 2) แบบวัดและบนั ทึกผลการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษา ม.2 3) หนังสือคน้ คว้าเพิ่มเติม - สมภพ เรืองตระกูล. 2543. ยาเสพตดิ มหนั ตภยั เงียบท่ีปูองกนั ได้. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์เรือนแกว้ การพิมพ.์ 4) ใบงานที่ 9.2 เรื่อง วธิ ีการบําบดั ฟน้ื ฟูผู้ติดสารเสพติด 2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

- http://nctc.oncb.go.th/new/ - http://guru.sanook.com/encyclopedia/การบาํ บดั รักษาผู้ตดิ ยาเสพติด/ การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 9.2 ใบงานที่ 9.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนําเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนําเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทํางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม่ สงั เกตความมวี ินัย มีความรบั ผดิ ชอบ ใฝเุ รยี นรู้ และ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีจติ สาธารณะ ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แกว้ คาํ ศรี) ครูผู้สอน ความคิดเหน็ ของหัวหน้าฝุายบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ .............................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผู้อํานวยการ ฝุายบรหิ ารงานวชิ าการ ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ........................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................... ............................................................... ลงชื่อ.............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู าํ นวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ใบงานที่ 9.2 วธิ ีการบาบัดฟ้ืนฟูผู้ติดสารเสพติด ตอนท่ี 1 ให้นกั เรยี นเลือกหรอื จบั สลากรูปแบบการฟ้นื ฟูผตู้ ดิ สารเสพตดิ ตามทก่ี ําหนด คนละ 1 ประเภท คาช้ีแจง แลว้ อธิบายวธิ หี รือขั้นตอนในการฟน้ื ฟูผตู้ ิดสารเสพติดให้ถูกตอ้ ง  ชุมชนบาํ บดั (Therapeutic Community)  การฟื้นฟูผ้ตู ิดสารเสพติดแบบเข้มขน้ ทางสายใหม่ (FAST Model)  การฟ้นื ฟูแบบผปู้ วุ ยนอกตามรปู แบบกาย จิต สงั คมบําบัด (Matrix Program)  การบาํ บัดฟ้นื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพติดแบบจิราสา  โปรแกรมสํานกั งานคุมประพฤติ  รปู แบบการฟ้นื ฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ คอื  วธิ หี รอื ขนั้ ตอนในการฟน้ื ฟูผตู้ ิดสารเสพติด

ตอนที่ 2 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1. การฟื้นฟูผูต้ ดิ สารเสพติดมอี งค์ประกอบสาํ คัญอะไรบ้าง 2. ในการฟ้นื ฟูผู้ตดิ สารเสพติด ครอบครวั และญาติมีบทบาทและมีสว่ นสําคญั อย่างไร

เฉลย ใบงานท่ี 9.2 วิธกี ารบาบดั ฟ้ืนฟผู ูต้ ดิ สารเสพติด ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรียนเลอื กหรือจบั สลากรูปแบบการฟน้ื ฟูผูต้ ดิ สารเสพตดิ ตามที่กําหนด คนละ 1 ประเภท คาชี้แจง แลว้ อธิบายวิธีหรอื ข้ันตอนในการฟน้ื ฟผู ู้ตดิ สารเสพตดิ ให้ถูกต้อง  ชุมชนบาํ บดั (Therapeutic Community)  การฟื้นฟผู ู้ตดิ สารเสพติดแบบเขม้ ข้นทางสายใหม่ (FAST Model)  การฟ้นื ฟูแบบผปู้ ุวยนอกตามรปู แบบกาย จติ สังคมบําบดั (Matrix Program)  การบําบดั ฟน้ื ฟูผู้ตดิ สารเสพติดแบบจริ าสา  โปรแกรมสํานักงานคุมประพฤติ  รปู แบบการฟน้ื ฟูผ้ตู ิดสารเสพตดิ คอื  วิธีหรือขัน้ ตอนในการฟืน้ ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน)

ตอนที่ 2 คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1. การฟน้ื ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ มอี งคป์ ระกอบสาํ คัญอะไรบ้าง การฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพติด มีองคป์ ระกอบสาคัญท่จี ะต้องดาเนินการไปพรอ้ มๆ กัน คอื การบาบดั แบบองค์รวม ได้แก่ การบาบดั ทางกายของผตู้ ิดสารเสพตดิ เพราะมีอาการข้างเคียงหรอื มีพษิ ตกค้างจากการเสพ และอาจมโี รคแทรกซ้อน การบาบดั ทางจติ เปน็ การให้กาลังใจ หรอื การรักษาอาการทางจิตทีเ่ กิดขึน้ จากเซลล์สมองถกู ทาลาย และบาบดั ชุมชน โดยการปราบปรามการคา้ สารเสพตดิ แหลง่ มัว่ สุมเสพยา และจดั ให้มสี ภาพแวดลอ้ มเป็นชมุ ชนสีขาว 2. ในการฟ้นื ฟผู ูต้ ิดสารเสพตดิ ครอบครัวและญาตมิ ีบทบาทและมีส่วนสําคญั อย่างไร ครอบครวั และญาตมิ บี ทบาทและมีสว่ นสาคัญในการฟนื้ ฟูผูต้ ดิ สารเสพตดิ เพราะถือเป็น การบาบัดทางจติ ทเ่ี ปน็ กาลงั ใจ และให้ความเขา้ อกเขา้ ใจ และให้ความช่วยเหลือในการจัดสภาพแวดล้อมในครอบครัวใหเ้ กิดบรรยากาศที่ดี มคี วามปลอดภัย

ชอ่ื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผูแ้ ตง่ แบบบนั ทึกการอ่าน สาํ นักพิมพ์ สถานท่พี มิ พ์ จํานวนหน้า บาท อา่ นวันท่ี เดอื น นามปากกา ปที ีพ่ ิมพ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาํ คัญของเร่ือง 2. วเิ คราะหข์ ้อคิด/ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน 3. สงิ่ ทสี่ ามารถนาํ ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจําวัน 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงชอ่ื นกั เรียน ลงช่อื ผูป้ กครอง ( )( ) ลงชื่อ ครผู สู้ อน ( ) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาํ เสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กาํ หนด แลว้ ขีด  ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกับระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วิธกี ารนาํ เสนอผลงาน 4 การนําไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชือ่ .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกับระดบั คะแนน ลาดับ ชอื่ -สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตงั้ ใจ การแก้ไข รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ รว่ มมือกัน ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น ทางาน ปญั หา/หรอื 20 ทากจิ กรรม ปรับปรุง คะแนน ผลงานกลมุ่ 43214321432143214321 ลงชื่อ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าท่ีของนกั เรียน 2. ซื่อสัตย์ สจุ ริต 1.3 ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทํางานกับสมาชิกในโรงเรยี น 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 4. ใฝเุ รียนรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชุมชน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.5 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกับสถาบัน พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี นและชมุ ชนจัดขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบตั ิในสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ท่ีจะทาํ ความผดิ ทาํ ตามสัญญาท่ี ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏิบตั ติ อ่ ผูอ้ น่ื ด้วยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไมถ่ กู ต้อง 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว และโรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจําวนั และ รบั ผดิ ชอบในการทาํ งาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ งๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัตติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ื่น และไม่ทาํ ใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมื่อผอู้ ่ืนกระทํา ผดิ พลาด

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทํางานและการใชช้ วี ิตประจาํ วนั บนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งมนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางาน 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตวั 7. รกั ความเป็นไทย อยู่รว่ มกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทาํ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสําเร็จ 7.1 มีจติ สาํ นึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญ๎ ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ํางาน 8.2 อาสาทาํ งาน ช่วยคิด ชว่ ยทํา และแบ่งป๎นสิ่งของให้ผู้อนื่ 8.3 ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบตั ิของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ

บันทึกหลังแผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 เรือ่ ง การชว่ ยเหลือฟ้ืนฟผู ้ตู ิดสารเสพติด แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง วธิ ีการบําบัดฟน้ื ฟผู ้ตู ิดสารเสพติด เวลา 1 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาํ ศรี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ ผู้เรยี นได้รับความรู้ (K) นักเรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกับการบาํ บัดผู้ตดิ สารเสพติดอยา่ งถูกวธิ แี ละมคี วามเหมาะสม จะสามารถ ชว่ ยเหลือผู้ตดิ สารเสพติดไดส้ ําเรจ็ ผเู้ รียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถระบวุ ิธีการ และปจ๎ จัยทเี่ กี่ยวข้องกบั การฟ้ืนฟผู ู้ติดสารเสพตดิ และยังอธิบายวธิ กี าร บําบดั ฟ้ืนฟูผูต้ ิดสารเสพติดได้ ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A) นกั เรยี นมที ัศนคตทิ ี่ดีต่อวชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา ขยันใฝรุ ู้ใฝเุ รียน เช่อื มนั่ ในตนเอง กล้าแสดงออกมคี วามสุข ต่อการเรยี น ผู้เรยี นเกดิ ทกั ษะการคดิ ทกั ษะการสาํ รวจค้นหา ผู้เรยี นมีหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผู้เรียนเรียนรทู้ ีจ่ ะใช้ทรัพยากรได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ปญั หาอุปสรรค (ถา้ ม)ี - ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แกว้ คาํ ศรี) ครูผ้สู อน

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา (สขุ ศกึ ษา) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 เร่อื ง การชว่ ยเหลอื ฟื้นฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ เวลา 3 ช่ัวโมง แผนการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่อง แหล่งช่วยเหลือฟ้ืนฟผู ้ตู ดิ สารเสพตดิ เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู ้สู อน นางสาวณฐั ธิดา แก้วคาศรี โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ 1. สาระสาคัญ แหลง่ ช่วยเหลือฟน้ื ฟูผู้ติดสารเสพติด มคี วามสาํ คัญทจ่ี ะช่วยและสนับสนุนให้ผ้ตู ดิ สารเสพติดสามารถรกั ษาตนเอง ไดส้ าํ เร็จ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกแหลง่ ทช่ี ว่ ยเหลอื ฟน้ื ฟผู ู้ติดสารเสพตดิ ได้ 2) แนะนําแหลง่ ทีช่ ่วยเหลอื ฟน้ื ฟูผตู้ ิดสารเสพติดได้ถกู ต้อง เหมาะสม 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - วิธีการ ปจ๎ จัย และแหลง่ ท่ีช่วยเหลอื ฟืน้ ฟูผตู้ ิดสารเสพติด 4 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการสํารวจคน้ หา 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. มีความรับผดิ ชอบ 3. ใฝุเรยี นรู้ 4. มจี ติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ วธิ สี อนแบบ กระบวนการกลมุ่ สัมพันธ์ ขัน้ ที่ 1 นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1. ครูให้นกั เรยี นอาสาสมัคร หรือสมุ่ เรยี กนักเรยี น 2-3 คน ออกมาเล่าประสบการณก์ ารเข้าร่วมโครงการ หรอื กจิ กรรมที่มี สว่ นร่วมในการรณรงค์ปูองกนั และแก้ไขป๎ญหายาเสพติดให้เพอื่ นฟ๎งหนา้ ชั้นเรยี น พร้อมกับบอกประโยชนแ์ ละชักชวน ให้เพือ่ นเขา้ รว่ มโครงการหรือกิจกรรมดังกล่าว 2. ครูยกตัวอยา่ ง “โครงการ TO BE NUMBER ONE” ซึง่ เปน็ โครงการที่มีบทบาทสาํ คญั ในการรณรงค์ปูองกนั และแก้ไข ป๎ญหายาเสพตดิ โดยมที ูลกระหมอ่ มหญงิ อุบลรตั นราชกัญญาสิริวฒั นา พรรณวดี เปน็ องคป์ ระธาน ซงึ่ กลยุทธส์ ําคัญของ โครงการน้ี คอื 1) การรณรงค์ปลุกจิตสาํ นึกและสรา้ งกระแสนิยมท่เี อ้อื ต่อการปอู งกันและแกไ้ ขป๎ญหายาเสพติด 2) การเสรมิ สร้างภมู ิคุ้มกนั ทางจิตใจให้แก่เยาวชน 3) การสร้างและพฒั นาเครือข่ายเพื่อการปอู งกันและแกไ้ ขปญ๎ หายาเสพตดิ 3. ครูถามนักเรียนว่า นกั เรียนรู้จักแหลง่ ทใ่ี ห้ความช่วยเหลือฟื้นฟผู ู้ติดสารเสพตดิ หรือไม่ ถา้ นกั เรยี นรูจ้ ัก ใหน้ ักเรยี น ยกตัวอยา่ งใหเ้ พื่อนฟ๎ง 4. ครเู นน้ ยํา้ ใหน้ กั เรยี นตระหนักถงึ ภัยของสารเสพติด และการเข้ารว่ มกิจกรรมตา่ งๆ ท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อตนเองและสังคม 5. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุ้นความคดิ คาถามกระตุ้นความคิด หน่วยงานทใ่ี ห้ความช่วยเหลือฟ้ืนฟผู ู้ติดสารเสพตดิ มีบทบาทหน้าท่คี วามรบั ผดิ ชอบ อยา่ งไรบ้าง (พจิ ารณาตามคาตอบของผเู้ รยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน) ขน้ั ที่ 2 จัดการเรยี นรู้ 1. ครูใหน้ ักเรยี นกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1) ร่วมกันศึกษาและสืบคน้ ความรู้เรื่อง แหลง่ ช่วยเหลอื ฟื้นฟูผู้ติด สารเสพตดิ จากหนังสือเรยี น หอ้ งสมดุ หรอื แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ 2. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วางแผนการศกึ ษาและสืบคน้ ความรู้ 3. ตัวแทนแต่ละกล่มุ ออกมานาํ เสนอความรหู้ นา้ ช้นั เรยี น 4. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด คาถามกระตนุ้ ความคดิ  หนว่ ยงานหลกั ที่ทาหนา้ ท่ชี ่วยเหลือฟื้นฟูผู้ติดสารเสพตดิ คอื หนว่ ยงานใด (กรมคุมประพฤติ ซึง่ มหี นา้ ทใี่ นการคมุ ประพฤตทิ ่เี ก่ยี วข้องกับสารเสพติด และมีความผดิ ไม่ร้ายแรงโดยศาลจะสัง่ ให้ถูก คุมประพฤติ และจะต้องรายงานตวั ตอ่ เจ้าหน้าทีเ่ ปน็ ระยะๆ) ขัน้ ท่ี 3 สรปุ และนาหลกั การไปประยกุ ต์ใช้ 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้เร่อื ง แหล่งช่วยเหลือฟ้นื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ แล้วให้นักเรยี นทุกคนทําใบงานที่ 9.3 เร่ือง แหลง่ ช่วยเหลือฟ้ืนฟผู ู้ตดิ สารเสพตดิ 2. ครเู ฉลยคําตอบในใบงานที่ 9.3 โดยให้นักเรยี นจบั คกู่ นั ตรวจความถูกต้องของใบงาน 3. นกั เรยี นทกุ คนทาํ กจิ กรรมฝึกทักษะ : กิจกรรมท่ี 9.3 จากแบบวัดฯ เปน็ การบ้าน แล้วนาํ ส่งครูในวันถัดไป 4. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระต้นุ ความคดิ

คาถามกระตุ้นความคิด  ผู้ทีป่ ระสบปญั หาจากสารเสพติดและไมอ่ าจบาบดั แก้ไขได้ด้วยตนเอง สามารถบาบัดรักษา ด้วยวิธใี ด (อาจขอรับคําปรกึ ษาแนะนํา หรือขอรับบรกิ ารบําบดั รักษาสารเสพติดไดจ้ ากสถานบริการตา่ งๆ เช่น กองบําบดั รักษา สํานักงานคณะกรรมการปูองกันและปราบปรามยาเสพติด โรงพยาบาลของรัฐ เอกชนและคลินกิ ต่างๆ เป็นต้น) ขัน้ ท่ี 4 วัดและประเมนิ ผล 1. ครปู ระเมนิ ความรู้ความเขา้ ใจของนักเรยี นจากการทาํ ใบงานท่ี 9.3 2. นกั เรยี นตอบคําถามกระตุ้นความคิด คาถามกระตุน้ ความคิด  ครอบครวั ควรมีบทบาทและความสาคัญอยา่ งไรตอ่ การฟื้นฟผู ูต้ ดิ สารเสพติด (ครอบครัวและญาติมีบทบาทและมีสว่ นสําคัญในการฟื้นฟผู ู้ตดิ สารเสพติด เพราะถือได้ว่าเป็นการบําบัดทางจิตที่ ให้กาํ ลังใจ ใหค้ วามเขา้ อกเข้าใจ และใหค้ วามช่วยเหลือในการจัดสภาพแวดลอ้ มในครอบครัวใหเ้ กิดบรรยากาศท่ีดี มคี วาม ปลอดภยั ) ภาระงาน/ช้ินงาน ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นบทความ เรื่อง การช่วยเหลือฟื้นฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ โดยให้ครอบคลุม ประเด็นตามท่ีกําหนด ดังนี้ 11) การอธบิ ายวธิ ีการในการฟื้นฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ 12) การวิเคราะหป์ ๎จจยั ในการฟ้นื ฟผู ู้ติดสารเสพตดิ 13) การระบแุ หล่งช่วยเหลอื ฟน้ื ฟูผู้ตดิ สารเสพติด แหลง่ เรยี นรู้ / สือ่ 1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น สุขศกึ ษา ม.2 2) แบบวดั และบันทึกผลการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษา ม.2 3) ใบงานที่ 9.3 เรื่อง แหล่งชว่ ยเหลือฟื้นฟผู ู้ติดสารเสพตดิ 2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ - http://www.pcuinnovation.com/pcu/955 - http://www.uttaradit.police.go.th/ya005.html - http://www.navy.mi.th/wiwat2/wiwat2_his.htm

การวดั และประเมินผล วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 9.3 ใบงานท่ี 9.3 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน แบบประเมินการนาํ เสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบุคคล รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทาํ งานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั มคี วามรับผิดชอบ ใฝเุ รียนรู้ และ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มีจิตสาธารณะ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 9 ตรวจบทความ เร่อื ง การชว่ ยเหลอื ฟืน้ ฟูผตู้ ิด แบบประเมนิ บทความ เรอื่ ง การช่วยเหลอื สารเสพตดิ ฟื้นฟผู ูต้ ิดสารเสพตดิ ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวณฐั ธดิ า แกว้ คาํ ศรี) ครผู สู้ อน ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ ฝาุ ยบริหารวิชาการ .................................................................................................................................. ............................................ ...................................................................................... ........................................................................................ ลงชอ่ื .............................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผูอ้ ํานวยการ ฝาุ ยบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อาํ นวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ บทความ เรอ่ื ง การช่วยเหลือฟ้นื ฟูผูต้ ิดสารเสพติด ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 432 1 การอธบิ ายวธิ กี ารในการฟน้ื ฟูผ้ตู ดิ สารเสพติด 2 การวิเคราะห์ป๎จจยั ในการฟนื้ ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ 3 การระบแุ หลง่ ช่วยเหลอื ฟ้ืนฟูผ้ตู ดิ สารเสพตดิ รวม ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = 2 คะแนน ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 11 - 12 ดมี าก 19 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรงุ

ใบงานที่ 9.3 แหลง่ ช่วยเหลือฟ้ืนฟผู ้ตู ดิ สารเสพติด ตอนท่ี 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนนาํ ข้อความที่กําหนดใหเ้ ติมลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง สํานักงานตาํ รวจแหง่ ชาติ กรมราชทัณฑ์ กรมคมุ ประพฤติ กองทพั อากาศ กองบัญชาการตาํ รวจนครบาล กองทัพบก กรมการแพทย์ กรมพินจิ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน  หน่วยงานท่เี ก่ียวข้องกบั การบังคบั ใช้กฎหมาย ไดแ้ ก่  หนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้องกบั การควบคุมตวั ระหวา่ งการตรวจพิสูจน์ ได้แก่  หนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องกบั สถานที่เพ่ือการตรวจพสิ ูจน์การเสพหรอื ตดิ สารเสพติดและการฟนื้ ฟู สมรรถภาพผู้ตดิ สารเสพติด ไดแ้ ก่ ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรยี นบอกชอื่ หน่วยงานท่ีควบคุมสถานบําบดั ฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดแบบเขม้ งวดและแบบ คาช้ีแจง ไม่เข้มงวดลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง สถานบําบดั ฟื้นฟผู ู้ตดิ สารเสพตดิ แบบเข้มงวด สถานบําบัดฟน้ื ฟูผตู้ ดิ สารเสพติดแบบไมเ่ ข้มงวด

เฉลยใบงานท่ี 9.3 แหล่งช่วยเหลอื ฟืน้ ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ ตอนที่ 1 คาช้ีแจง ให้นักเรยี นนาํ ข้อความทกี่ ําหนดใหเ้ ตมิ ลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง สํานกั งานตํารวจแห่งชาติ กรมราชทณั ฑ์ กรมคมุ ประพฤติ กองทพั อากาศ กองบัญชาการตํารวจนครบาล กองทัพบก กรมการแพทย์ กรมพนิ ิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  หน่วยงานที่เก่ยี วข้องกับการบังคบั ใช้กฎหมาย ไดแ้ ก่ สานักงานตารวจแห่งชาติ กองบัญชาการ ตารวจนครบาล  หนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้องกบั การควบคมุ ตัวระหว่างการตรวจพิสจู น์ ไดแ้ ก่ กรมราชทัณฑ์ กรมพินจิ และคุ้มครองเดก็ และเยาวชน  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เพื่อการตรวจพสิ ูจน์การเสพหรือติดสารเสพติดและการฟน้ื ฟู สมรรถภาพผู้ติดสารเสพติด ได้แก่ กรมคุมประพฤติ กองทพั อากาศ กองทัพบก และกรมการ แพทย์ ตอนท่ี 2 ให้นกั เรียนบอกชอ่ื หนว่ ยงานท่ีควบคมุ สถานบําบดั ฟนื้ ฟูผูต้ ิดสารเสพตดิ แบบเขม้ งวดและแบบ คาชีแ้ จง ไมเ่ ข้มงวดลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง สถานบาํ บัดฟ้ืนฟผู ูต้ ิดสารเสพติดแบบเขม้ งวด  กรมคุมประพฤติ  กองทพั อากาศ สถานบําบดั ฟนื้ ฟูผู้ตดิ สารเสพตดิ แบบไมเ่ ข้มงวด  กองทพั บก  กองทพั เรอื  กรมการปกครอง  กรมการแพทย์

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาํ เสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี ําหนด แล้วขีด  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 นําเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถูกต้อง 2 การลาํ ดับขนั้ ตอนของเน้ือเรอื่ ง 3 การนําเสนอมีความน่าสนใจ 4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล ชอ่ื ช้นั คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่อง ท่ีตรงกับระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 การแสดงความคดิ เหน็ 2 การยอมรบั ฟ๎งความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่นื 3 การทาํ งานตามหนา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมนี ํา้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook