เฉลยใบงานที่ 4.1 พฤติกรรมการลว่ งละเมดิ ทางเพศ คาชแ้ี จง ให้นักเรียนอธิบายลักษณะของพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ 1. การล่วงละเมดิ ทางเพศด้วยวาจา เปน็ การกระทาอนาจารต่อบคุ คลอ่ืนด้วยคาพดู เพอื่ ตอบสนองความพงึ พอใจของตนเองในเร่ืองเพศ ถือว่าเปน็ การ กระทาท่ไี มร่ นุ แรง เชน่ การวิพากษว์ จิ ารณ์หนา้ ตาของผูอ้ ื่นทีส่ อ่ ไปในทางลามกอนาจาร การตามจบี หรือพูดจา เกยี้ วพาราสี การเล่าเร่อื งตลกลามก เร่อื งสองแงส่ องง่ามในเรอื่ งเพศ การใชค้ าพูดแทะโลมหยาบคายเร่ืองเพศ การใช้ คาพดู เพือ่ กระตุ้นอารมณท์ างเพศ การใช้โทรศัพทพ์ ดู คุยเรื่องเพศ ลวนลาม หรือกระตนุ้ อารมณท์ างเพศ 2. การล่วงละเมิดทางเพศดว้ ยการกระท้าทไี่ มถ่ กู เนื้อต้องตวั เปน็ การกระทาอนาจารตอ่ บุคคลอนื่ ดว้ ยการกระทาต่างๆ อาจจะดว้ ยสายตา การอวดอวัยวะเพศ ตลอดจนการใช้ สื่อตา่ งๆ เพ่ือตอบสนองความพงึ พอใจของตนเองในเรอ่ื ง เพศ เช่น การจ้องมองบรเิ วณของสงวนของผ้อู น่ื เช่น หนา้ อก อวัยวะเพศ เปน็ ตน้ การแอบดูหรอื แอบถา่ ยตามห้องน้า หอ้ งเปลยี่ นเส้ือผ้า หอ้ งนอน หอ้ งแตง่ ตัว บนั ไดเล่ือน หรือสถานที่สว่ นตัวอ่นื ๆ การอวดอวัยวะเพศ การอวดภาพท่สี อ่ ไปในทางลามกอนาจาร การเผยแพรส่ อื่ ลามก การแพร่ภาพลามกอนาจารทางอินเทอร์เน็ต 3. การลว่ งละเมิดทางเพศที่เป็นการกระทา้ อย่างชดั เจน เป็นการกระทาอนาจารดว้ ยการกระทาอย่างชัดเจนโดยการถกู เนื้อตอ้ งตวั ร่างกายบคุ คลอน่ื ทไี่ มย่ ินยอมพรอ้ มใจ เพอ่ื สนองความพึงพอใจของตนเองในเรอ่ื งเพศ การแตะเนอื้ ต้องตวั โดยท่บี ุคคลอนื่ ไมพ่ ึงประสงค์ เช่น การเสยี ดสี รา่ งกาย การแตะเน้ือตอ้ งตัว การกระทาอนาจาร เชน่ กอด จูบ ลูบ คลา เป็นตน้ ซึ่งเป็นการแสดงความใครท่ างเพศ การขอมีเพศสมั พนั ธ์ การถกู บงั คบั ใหม้ ีเพศสมั พันธ์ การข่มขืน (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)
บนั ทกึ หลังแผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา2563 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง การปอู งกันการถกู ล่วงละเมิดทางเพศ แผนการสอนที่ 1 เรอื่ ง ความหมายและลักษณะของพฤติกรรมการลว่ งละเมิดทางเพศ จ้านวน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวณัฐธิดา แกว้ ค้าศรี บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ (K) นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความหมายของพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ และ พฤติกรรมการลว่ งละเมิดทางเพศ ผเู้ รียนเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถการบอกความหมายของพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศและอธบิ ายลกั ษณะของ พฤติกรรมการลว่ งละเมดิ ทางเพศได้ ผู้เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม (A) นกั เรียนมที ศั นคติทีด่ ตี ่อวิชาสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ขยนั ใฝุรู้ใฝุเรียน เชอื่ ม่ันในตนเอง กล้าแสดงออกมี ความสุขตอ่ การเรียน ผ้เู รียนเกิดทกั ษะการคิด การคิดสรา้ งสรรค์ การคิดวเิ คราะห์ ผูเ้ รยี นมีหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผ้เู รยี นเรยี นรทู้ ี่จะใชท้ รพั ยากรได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ปญั หาอุปสรรค (ถา้ มี) - ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี) - ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณฐั ธดิ า แกว้ คา้ ศร)ี ครูผู้สอน ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ลงชอ่ื .............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ า้ นวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจดั การเรียนรู้ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา (สขุ ศกึ ษา) เวลา 4 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง การปูองกันการถกู ล่วงละเมิดทางเพศ เวลา 1 ช่ัวโมง แผนการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง สาเหตุของการถกู ล่วงละเมินทางเพศ ครผู สู้ อน นางสาวณัฐธดิ า แก้วคาศรี 1. สาระสาคญั ปัญหาการถูกลว่ งละเมิดทางเพศเป็นภัยใกล้ตวั ทเี่ กิดขึ้นไดง้ ่าย และมีหลายสาเหตุ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - บอกสาเหตขุ องการถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - ทกั ษะปฏิเสธเพื่อปูองกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ 3.2 สาระการเรียนร้ทู อ้ งถนิ่ (พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา) 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะกระบวนการคดิ ตัดสนิ ใจ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. มคี วามรับผิดชอบ 3. ใฝเุ รียนรู้ 4. มุง่ ม่ันในการท้างาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรยี นความรู้ความเข้าใจ ขั้นท่ี 1 สังเกต ตระหนกั 1. ครูใหน้ กั เรียนดูบตั รภาพ แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ ภาพดังกลา่ วเปน็ สาเหตุของการถูกลว่ งละเมิดทางเพศหรือไม่ อย่างไร 2. ครูให้นกั เรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1) ศึกษาสาเหตุของการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ จาก หนังสอื เรียน หอ้ งสมุด หรือแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ตามประเด็นท่ีก้าหนดให้ต่อไปน้ี 1) สถานภาพและความสมั พันธข์ องบุคคล 2) สถานท่ีอยู่อาศัยไม่เหมาะสม 3) สภาพการท้างาน 4) การถูกกระตุน้ จากสื่อต่างๆ 5) การไมร่ ักนวลสงวนตัว 6) สถานการณ์คับขนั หรอื เหตุการณไ์ มค่ าดคดิ ขน้ั ที่ 2 วางแผนปฏบิ ัติ ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผนศกึ ษาความรเู้ ร่ือง สาเหตขุ องการถูกล่วงละเมิดทางเพศ จากหนังสือเรียน หอ้ งสมุด หรือแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ขั้นที่ 3 ลงมือปฏบิ ัติ นกั เรียนแบง่ หนา้ ท่ีกนั ศึกษาข้อมลู โดยศึกษาจากหนงั สือเรียน หอ้ งสมุด หรอื แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ แลว้ เขียน ค้าตอบลงในกระดาษ ขนั้ ท่ี 4 พฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจ 1. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาน้าเสนอผลการศกึ ษาค้นคว้า หนา้ ช้ันเรยี น 2. นกั เรยี นทกุ คนทา้ ใบงานที่ 4.2 เรื่อง สาเหตุของการถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ เสร็จแล้วนา้ สง่ ครตู รวจ 3. นักเรยี นตอบค้าถามกระตุ้นความคดิ คาถามกระตุ้นความคดิ การแตง่ กายที่ไม่เหมาะสมมีผลตอ่ การถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ สาเหตุของการถูกล่วงละเมิด ทางเพศ 2. นกั เรียนตอบคา้ ถามกระต้นุ ความคิด
คาถามกระตนุ้ ความคิด นกั เรียนคดิ วา่ อะไรเป็นสาเหตทุ ่ีสาคญั ของการถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครูผู้สอน) ภาระงาน/ชนิ้ งาน - แหล่งเรียนรู้ / ส่ือ 1. สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน สขุ ศึกษา ม.1 2) บตั รภาพ 3) ใบงานท่ี 4.2 เรื่อง สาเหตุของการถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ -http://www.yenta4.com/webboard/upload_images/1086399.jpg -http://www.weekendhobby.com/board/boat/picture2010%5C154255313929.jpg
การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.2 ใบงานที่ 4.2 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมินการน้าเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนา้ เสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการท้างานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทา้ งานรายบคุ คล สงั เกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทา้ งานกลมุ่ สงั เกตความมีวินัย มคี วามรบั ผดิ ชอบ ใฝเุ รียนรู้ และ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มุ่งมน่ั ในการท้างาน ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวณฐั ธดิ า แกว้ ค้าศรี) ครผู ้สู อน ความคดิ เห็นของหัวหน้าฝาุ ยบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผูอ้ ้านวยการฝาุ ยบรหิ ารวิชาการ ความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ลงช่ือ.............................................. (นายอดิศร แดงเรอื น) ผอู้ ้านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
บตั รภาพ ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ท่ีมา : ภาพท่ี 1 http://www.yenta4.com/webboard/upload_images/1086399.jpg ภาพท่ี 2 http://www.weekendhobby.com/board/boat/picture2010%5C154255313929.jpg
ใบงานที่ 4.2 สาเหตขุ องการถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเครอ่ื งหมาย หน้าขอ้ ความทเ่ี ปน็ สาเหตุของการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ และเขยี นเครอ่ื งหมาย หน้าขอ้ ความที่ไมไ่ ดเ้ ปน็ สาเหตขุ องการถูกลว่ งละเมดิ ทางเพศ 1. วาเปน็ วยั รุ่นที่ตดิ ยาเสพตดิ ทุกประเภท 2. นุมคี วามผิดปกติทางจิตและปุวยเป็นโรคประสาททางเพศ 3. ซัลมาแตง่ ตวั มดิ ชดิ ตามหลกั ศาสนาอิสลาม 4. ชมุ ชนแออดั เป็นแหล่งมั่วสุมของพวกติดยาเสพตดิ 5. บ้านของจินอยใู่ กลก้ ับสถานบรกิ ารทางเพศ 6. นุ้ยท้างานเป็นคนรับใชอ้ ยใู่ นคฤหาสนแ์ หง่ หน่งึ 7. แตงชอบดภู าพยนตรล์ ามกอนาจารเปน็ ประจา้ ทุกวัน 8. สองชอบแต่งกายเลียนแบบวัยรนุ่ เกาหลี 9. นนั ชอบเทยี่ วเตรส่ ถานเรงิ รมยใ์ นเวลากลางคืนเปน็ ประจ้า 10. วิทย์ใสก่ างเกงขาสน้ั ออกไปซ้ือของในร้านสะดวกซ้ือ 11. โอไ๋ วใ้ จเพื่อนมาก โดยเฉพาะเพื่อนทีร่ จู้ ักกนั ทางอนิ เทอรเ์ น็ต 12. แจว๋ ใสช่ ดุ ราตรีไปงาน คนื สูเ่ หยา้ ชาวสีมว่ ง 13. ตาลมีรา่ งกายไมส่ มประกอบและไม่สามารถช่วยเหลอื ตัวเองได้ 14. สมชายออกจากบา้ นเวลากลางคนื เสมอ 15. สมหวังประกอบอาชีพเปน็ คนขบั รถมอเตอรไ์ ซคร์ บั จา้ ง
เฉลยใบงานท่ี 4.2 สาเหตุของการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ คาชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นเคร่อื งหมาย หน้าข้อความทเี่ ปน็ สาเหตุของการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ และเขียนเคร่ืองหมาย หนา้ ขอ้ ความที่ไมไ่ ด้เป็นสาเหตขุ องการถูกล่วงละเมิดทางเพศ 1. วาเปน็ วัยรุ่นทต่ี ิดยาเสพตดิ ทุกประเภท 2. นมุ ีความผดิ ปกติทางจิตและปุวยเป็นโรคประสาททางเพศ 3. ซัลมาแตง่ ตวั มิดชิดตามหลกั ศาสนาอสิ ลาม 4. ชุมชนแออัดเปน็ แหล่งมวั่ สมุ ของพวกติดยาเสพตดิ 5. บ้านของจินอยู่ใกลก้ ับสถานบริการทางเพศ 6. น้ยุ ทา้ งานเปน็ คนรับใช้อยูใ่ นคฤหาสน์แหง่ หน่งึ 7. แตงชอบดภู าพยนตร์ลามกอนาจารเปน็ ประจา้ ทุกวนั 8. สองชอบแต่งกายเลยี นแบบวัยรุ่นเกาหลี 9. นันชอบเท่ยี วเตรส่ ถานเรงิ รมย์ในเวลากลางคนื เป็นประจา้ 10. วิทยใ์ ส่กางเกงขาส้ันออกไปซื้อของในรา้ นสะดวกซ้ือ 11. โอ๋ไว้ใจเพ่ือนมาก โดยเฉพาะเพอื่ นทรี่ ู้จักกนั ทางอินเทอรเ์ น็ต 12. แจว๋ ใส่ชดุ ราตรีไปงาน คืนสเู่ หยา้ ชาวสมี ่วง 13. ตาลมรี ่างกายไม่สมประกอบและไม่สามารถช่วยเหลือตวั เองได้ 14. สมชายออกจากบา้ นเวลากลางคนื เสมอ 15. สมหวงั ประกอบอาชีพเปน็ คนขบั รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง
บนั ทึกหลังแผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา2563 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ .....4........ เรือ่ ง การปอู งกันการถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ แผนการสอนท่ี ......2...... เรือ่ ง…สาเหตขุ องการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ จ้านวน 1 ช่วั โมง ผูส้ อน นางสาวณัฐธดิ า แก้วคา้ ศรี บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ ผู้เรยี นได้รับความรู้ (K) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับสาเหตุและปญั หาการถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศเป็นภยั ใกล้ตัวทเ่ี กิดขึน้ ได้งา่ ย ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถบอกบอกสาเหตุของการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม (A) นักเรยี นมีทัศนคตทิ ่ีดตี อ่ วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา ขยันใฝุรู้ใฝุเรียน เช่ือม่นั ในตนเอง กล้าแสดงออกมคี วามสขุ ต่อ การเรยี น ผู้เรียนเกิดทักษะการคิด 1) ทักษะการสา้ รวจ 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทกั ษะการเช่ือมโยงความรู้ ผเู้ รียนมหี ลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ้เู รยี นเรยี นรูท้ ี่จะใช้ทรัพยากรได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ปัญหาอุปสรรค (ถ้าม)ี - ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) - ลงชื่อ.......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แก้วคา้ ศรี) ครูผูส้ อน ความคดิ เห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ....................................................... ........................................................................................................................................................................ ลงช่ือ.............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผู้อ้านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุม่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา (สุขศึกษา) เวลา 4 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การปอู งกันการถกู ล่วงละเมิดทางเพศ เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่ือง ผลกระทบจากการถูกล่วงละเมินทางเพศ ครผู ู้สอน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาศรี 1. สาระสาคญั การถกู ล่วงละเมิดทางเพศก่อให้เกดิ ผลกระทบต่อร่างกาย อารมณแ์ ละจิตใจ พฤตกิ รรมและบุคลิกภาพ ตอ่ ครอบครัว และชวี ติ ประจ้าวนั 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - บอกผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - ทกั ษะปฏิเสธเพอ่ื ปูองกนั การถูกลว่ งละเมดิ ทางเพศ 3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะกระบวนการคิดตัดสนิ ใจ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มีความรับผดิ ชอบ 3. ใฝุเรียนรู้ 4. มุง่ ม่ันในการท้างาน
กิจกรรมการเรียนรู้ วิธสี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ คู่คิดสส่ี หาย ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครตู ดิ บตั รภาพ บนกระดาน แล้วถามนักเรียนว่า จากภาพเป็นผลกระทบจากการถกู ล่วงละเมิดทางเพศอย่างไร 2. นักเรียนตอบคา้ ถามกระตุ้นความคดิ ค้าถามกระตนุ้ ความคิด บคุ คลประเภทใดบ้างท่ีมักจะถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพินิจของครูผูส้ อน) ขน้ั สอน 1. ครใู ห้นักเรยี นกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1) ร่วมกันศึกษาผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิด ทางเพศจากหนงั สือเรียน หรือคน้ คว้าข้อมูลจากห้องสมดุ 2. ครแู จกใบงานที่ 4.3 เร่ือง ผลกระทบจากการถกู ล่วงละเมิดทางเพศ ใหน้ ักเรยี นทุกคน 3. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มจับคู่กับเพ่ือนในกลุ่มช่วยกันท้าใบงานที่ 4.3 4. นกั เรยี นรวมกลมุ่ 4 คน (กลุ่มเดิมทแี่ บง่ ไว้) ซง่ึ มาจากนักเรียน 2 คู่ เมอ่ื เขา้ กลมุ่ แล้วผลดั กันอธบิ ายการท้าใบ งาน ที่ 4.3 ใหเ้ พื่อนฟัง แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มสรุปเปน็ มติของกล่มุ 5. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานา้ เสนอผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ หนา้ ช้ันเรียน ข้นั สรุป 1. นกั เรียนตอบค้าถามกระตนุ้ ความคิด 2. นักเรียนทกุ คนรว่ มกันสรุปผลกระทบจากการถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ โดยใหน้ ักเรยี นสรปุ เป็นสาระสา้ คัญลงใน สมดุ ส่งครู คา้ ถามกระต้นุ ความคดิ การถกู ลว่ งละเมิดทางเพศมีผลกระทบต่อสงิ่ ใดบ้าง (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) ภาระงาน/ช้นิ งาน - แหล่งเรียนรู้ / สอ่ื 1. สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน สุขศึกษา ม.1 2) บัตรภาพ 3) ใบงานท่ี 4.3 เรื่อง ผลกระทบจากการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ 2. แหล่งการเรยี นรู้
- ห้องสมุด การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 4.3 ใบงานที่ 4.3 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การน้าเสนอผลงาน แบบประเมินการน้าเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการท้างานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล สังเกตพฤตกิ รรมการท้างานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกล่มุ สงั เกตความมีวินัย มคี วามรับผดิ ชอบ ใฝเุ รียนรู้ และ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มงุ่ มน่ั ในการทา้ งาน ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวณัฐธดิ า แกว้ ค้าศร)ี ครผู สู้ อน ความคิดเหน็ ของหัวหน้าฝาุ ยบริหารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผ้อู า้ นวยการฝุายบริหารวิชาการ ความคดิ เห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ า้ นวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
บตั รภาพ ภาพท่ี 1 ภาพที่ 2 ที่มา : ภาพท่ี 1 http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2372380 ภาพท่ี 2 http://www.i-friendonline.com/private_folder/090318E0N6457.jpg
ใบงานที่ 4.3 ผลกระทบจากการถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ คาชี้แจง ให้นกั เรยี นบอกผลกระทบจากการถูกลว่ งละเมิดทางเพศด้านรา่ งกาย อารมณ์และจิตใจ พฤติกรรม 1. และบคุ ลกิ ภาพ ตอ่ ครอบครวั และชีวติ ประจ้าวัน 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
เฉลยใบงานที่ 4.3 ผลกระทบจากการถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นบอกผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจ พฤติกรรม และบคุ ลกิ ภาพ ต่อครอบครัวและชวี ติ ประจ้าวัน (ตวั อยา่ ง) 1. เกิดการต้งั ครรภท์ ไ่ี ม่พงึ ประสงค์ 2. เกดิ การทาแทง้ 3. เสยี โอกาสทางการศึกษา 4. เกดิ เปน็ ปมดอ้ ยในจติ ใจไปตลอดชวี ติ 5. เสียอนาคต 6. คณุ ภาพชีวิตต่าลง 7. เกิดความอับอาย จนเกดิ ภาวะเครียด และซึมเศร้า 8. เกดิ ความรสู้ กึ ผดิ และรสู้ กึ วา่ ตนเองไร้ค่า 9. เกิดความกลัว วติ กกังวล 10. ทาใหต้ ดิ โรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ และโรคเอดส์ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)
บันทึกหลังแผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา2563 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การปูองกันการถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ แผนการสอนที่ 3 เร่ือง ผลกระทบจากการถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ จา้ นวน 1 ชวั่ โมง ผูส้ อน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คา้ ศรี บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ผู้เรียนได้รับความรู้ (K) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั การถูกลว่ งละเมิดทางเพศอาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อรา่ งกาย อารมณ์และ จิตใจ พฤติกรรมและบคุ ลิกภาพต่อครอบครวั และชีวติ ประจ้าวันได้ ผ้เู รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถบอกผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม (A) นกั เรียนมที ัศนคตทิ ่ีดีตอ่ วิชาสุขศกึ ษาและพลศึกษา ขยันใฝุรูใ้ ฝเุ รยี น เชื่อมน่ั ในตนเอง กล้าแสดงออกมคี วามสุขต่อ การเรยี น ผเู้ รียนเกดิ ทกั ษะการคิด 1) ทกั ษะการส้ารวจ 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทักษะการนา้ ความรู้ไปใช้ ผ้เู รยี นมีหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผูเ้ รยี นเรียนรู้ทีจ่ ะใชท้ รัพยากรไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
ปัญหาอุปสรรค (ถ้าม)ี - ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) - ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวณัฐธดิ า แกว้ ค้าศรี) ครผู ้สู อน ความคดิ เห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ....................................................... ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ.............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผู้อา้ นวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจดั การเรยี นรู้ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา (สขุ ศกึ ษา) เวลา 4 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การปอู งกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แผนการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ือง การปูองกันและหลีกเล่ียงสถานการณ์เส่ียงต่อการ เวลา 1 ชว่ั โมงครผู ู้สอน ถกู ลว่ งละเมิดทางเพศ นางสาวณฐั ธิดา แกว้ คาศรี 1. สาระสาคญั ปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศสามารถปูองกันได้ หากรู้จกั วิธกี ารปูองกันและหลีกเลีย่ งสถานการณ์ เส่ียงตอ่ การถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - บอกวธิ กี ารปูองกนั และหลีกเล่ยี งสถานการณเ์ ส่ยี งต่อการถูกลว่ งละเมดิ ทางเพศได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - ทกั ษะปฏิเสธเพอ่ื ปูองกนั การถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ 3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น (พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศกึ ษา) 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะกระบวนการคดิ ตัดสินใจ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. มีความรบั ผิดชอบ 3. ใฝเุ รียนรู้ 4. มุ่งม่ันในการท้างาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ สี อนโดยการจัดการเรียนรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ การเล่าเร่ืองรอบวง ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. นักเรยี นและครรู ่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการถูกลว่ งละเมดิ ทางเพศ 2. ครูนา้ ตัวอยา่ งข่าวเกี่ยวกับการถกู ลว่ งละเมิดทางเพศมาให้นกั เรียนอ่าน จากนั้นใหร้ ว่ มกันอภิปรายถึงสาเหตุ ท่ที ้าใหเ้ กดิ พฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ และบทบาทส้าคัญของนักเรียนทีช่ ว่ ยใหส้ ังคมปลอดภัยจากการถูก ล่วงละเมิดทางเพศ 3. นกั เรียนตอบค้าถามกระตนุ้ ความคิด ค้าถามกระตุ้นความคดิ การเดนิ ทางมาโรงเรยี นของนกั เรยี น มีความเสี่ยงตอ่ การถกู ลว่ งละเมิดทางเพศบา้ งหรือไม่ อยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน) ข้นั สอน 1. ครใู หน้ ักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1) จากนั้นใหน้ กั เรียนรว่ มกันศกึ ษาความร้เู รื่อง การปอู งกนั และหลีกเล่ยี งสถานการณเ์ ส่ียงต่อการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ จากหนังสอื เรยี น ห้องสมดุ และ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 2. ครมู อบหมายให้แต่ละกลมุ่ สบื ค้นข่าวเกยี่ วกบั การถูกลว่ งละเมิดทางเพศจากสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต แลว้ น้าขา่ วที่ได้จากการสืบค้นและรวบรวมมาวิเคราะห์ และสรุปความรู้รว่ มกัน 3. นกั เรยี นแตล่ ะคนในกลุ่มผลัดกนั เล่าถึงสาเหตุท่ีท้าใหเ้ กดิ พฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ และวธิ ีการ ปูองกันและหลกี เล่ียงสถานการณ์เสย่ี งตอ่ การถูกลว่ งละเมิดทางเพศ ตามเวลาท่กี ้าหนดจนครบทุกคน 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภิปรายถึงสาเหตุท่ีท้าให้เกิดพฤติกรรมการลว่ งละเมดิ ทางเพศ และวิธีการ ปอู งกันและหลกี เลยี่ งสถานการณเ์ ส่ียงตอ่ การถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ 5. ตวั แทนกลุ่มออกมานา้ เสนอผลการอภปิ ราย หนา้ ชน้ั เรียน 6. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาและยกตวั อย่างเกีย่ วกบั วธิ ีการปูองกนั ตนเองจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แลว้ ใหต้ วั แทนนักเรยี นออกมาเขยี นสรปุ เปน็ ข้อๆ บนกระดาน 7. ครเู สนอแนะวธิ ีการใชเ้ ทคนิคในการปูองกันตนเองจากการถูกลว่ งละเมิดทางเพศด้วยการใชเ้ ทคนคิ การ ปอู งกันตวั ท่ีเหมาะสม (เชิญวทิ ยากรมาใหค้ วามรแู้ ละสาธิตเทคนคิ การใชอ้ วัยวะและสิ่งของใกล้ตวั เปน็ อาวุธ) 8. นักเรยี นดกู ารสาธิตเทคนิคการใช้อวยั วะและสง่ิ ของใกล้ตัวเป็นอาวธุ จากวทิ ยากร แล้วให้สอบถาม หากมีข้อ สงสัยหรอื ลองปฏิบตั ิหลงั จากดกู ารสาธิตแลว้ เพอื่ ใหว้ ิทยากรสามารถให้คา้ แนะน้าอยา่ งใกลช้ ดิ 9. ตัวแทนนักเรียนกลา่ วขอบคุณวทิ ยากรและบอกประโยชนท์ ่ีได้รับ ข้นั สรุป 1. นักเรียนตอบคา้ ถามกระต้นุ ความคิด 2. นักเรียนร่วมกนั บอกวิธกี ารปูองกันและหลีกเลีย่ งสถานการณ์เสย่ี งตอ่ การถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ
ภาระงาน/ชิน้ งาน ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มกาหนดสถานการณ์ แลว้ แสดงบทบาทสมมตเิ กย่ี วกบั การใช้ทักษะปฏเิ สธ เพ่อื ปอู งกันการถกู ล่วงละเมิดทางเพศ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามท่ีก้าหนด ดังน้ี 1) การก้าหนดสถานการณ์ 2) การวเิ คราะห์และระบุทางเลือกในการใชท้ ักษะปฏเิ สธ 3) การแสดงการใชท้ ักษะปฏิเสธเพือ่ ปูองกันตนเองจากการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ แหลง่ เรยี นรู้ / ส่อื 1. สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน สขุ ศึกษา ม.1 2) หนงั สือพิมพ์ 3) ตัวอย่างข่าวเกยี่ วกบั การถูกล่วงละเมิดทางเพศ 2. แหลง่ การเรียนรู้ 1) วทิ ยากร 2) หอ้ งสมดุ 3) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://news.sanook.com
การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ประเมนิ การน้าเสนอผลงาน แบบประเมินการน้าเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทา้ งานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทา้ งานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกลุม่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมวี ินยั มคี วามรบั ผดิ ชอบ ใฝุเรยี นรู้ และ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ มุ่งม่ันในการท้างาน ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตการแสดงบทบาทสมมติเกย่ี วกบั การใช้ทักษะ แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติเก่ยี วกับ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ปฏเิ สธเพือ่ ปูองกนั การถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ การใชท้ ักษะปฏเิ สธเพ่ือปอู งกัน การถกู ลว่ ง ละเมดิ ทางเพศ ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณัฐธดิ า แก้วคา้ ศรี) ครูผู้สอน ความคิดเห็นของหัวหนา้ ฝุายบริหารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. . ลงชื่อ.............................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผอู้ ้านวยการฝาุ ยบริหารวิชาการ ความคดิ เห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................. ............. ลงชื่อ.............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผู้อ้านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมตเิ กี่ยวกับ การใชท้ ักษะปฏเิ สธเพอื่ ปอู งกนั การถูกลว่ งละเมิดทางเพศ ลาดบั รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 ที่ 32 1 การก้าหนดสถานการณ์ 2 การวิเคราะห์และระบุทางเลือกในการใช้ทกั ษะ ปฏิเสธ 3 การแสดงการใชท้ ักษะปฏเิ สธเพื่อปูองกันตนเอง จาก การถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ รวม ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก ดี = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ = 3 คะแนน ปรับปรงุ = 2 คะแนน 11 - 12 ดมี าก = 1 คะแนน 9 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรงุ
ตวั อย่างข่าว ตวั อยา่ งข่าวเก่ยี วกบั การถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ ข่าวที่ 1 โค้ชฟุตบอลวัยดกึ ตุย๋ หน่มุ มหาลยั นาน 15 ปี สา้ นกั ขา่ วตา่ งประเทศรายงานวา่ ส่ือทอ้ งถิ่นของอเมรกิ าและประชาชนทงั้ ประเทศ ต่างหันมาสนใจการ พพิ ากษาคดที ารณุ กรรมทางเพศเดก็ และเยาวชนที่ออ้ื ฉาวทสี่ ุดอกี ครง้ั หนงึ่ ในประวัตศิ าสตร์ “นายเจอรร์ ี แซนดสั กี อายุ 68 ป”ี อดีตโคช้ อเมริกนั ฟุตบอล มหาวทิ ยาลยั เพนน์ สเตท มลรฐั เพนซลิ เวเนีย ซงึ่ ถกู จับกมุ เม่อื ปลายปที ีแ่ ล้ว ใน ขอ้ หาลว่ งละเมิดทางเพศเด็กชาย 10 คน มาเป็นระยะเวลามากกว่า 15 ปี หลังจากหนึ่งในเหยือ่ ทถ่ี ูกกระทา้ ออกมาเปิด โปงเรื่องดังกล่าว เน่ืองจากทนตอ่ พฤติกรรมสุดวติ ถารของโคช้ ท่เี ปน็ ผผู้ ลักดันท้าให้ทีมอเมริกนั ฟตุ บอลมหาวิทยาลยั ควา้ ชยั ชนะระดบั ภูมิภาคไดอ้ ย่างสมเกยี รติ” ข่าวท่ี 2 ชอ็ ค! คนไทยถกู ละเมิดทางเพศ 71 รายต่อวนั มลู นธิ ิหญงิ ชายกา้ วไกล เผยสถานการณ์ความรุนแรงต่อเดก็ และผูห้ ญงิ เพ่มิ ข้นึ สถติ ลิ ่วงละเมดิ ทางเพศพุ่ง เฉลย่ี 71 รายต่อวัน ขณะท่ี 11% เปน็ เพศชาย ผสู้ ่ือข่าวรายงานวา่ (1 ก.ค.) “นายจะเด็จ เชาวนว์ ไิ ล ผอู้ า้ นวยการมลู นธิ หิ ญงิ ชายกา้ วไกล กลา่ ววา่ ขอ้ มลู ของศนู ยพ์ ่งึ ไดร้ ะบุว่า สถานการณ์ความรนุ แรงตอ่ เด็กและผู้หญงิ มีแนวโนม้ เพิม่ ขน้ึ อยา่ งนา่ ตกใจ โดยในปี 2552 มผี ้เู ขา้ รับบรกิ าร 22,925 ราย เฉล่ียวันละ 63 ราย หรือชั่วโมงละ 3 คน สว่ นปี 2553 เพม่ิ มากขนึ้ ถงึ 25,744 ราย หรอื เฉลี่ยวนั ละ 71 ราย ซ่งึ ผทู้ ่ีถูกทา้ รา้ ย เปน็ เด็ก 51% สตรี 48% หากแบ่งสดั สว่ นจะเปน็ เด็กผู้หญิง 88% เดก็ ผชู้ าย 11% เฉล่ียอายุอยทู่ ี่ 10-15 ปี สาเหตขุ องการกระท้ารุนแรงเปน็ เรื่องเพศ 68% รองลงมา ทา้ รา้ ย รา่ งกาย 21% โดยผู้ทก่ี ระท้าเปน็ เพอ่ื นและแฟน” ข่าวท่ี 3 สลด! ด.ญ.12 ปี ถกู พช่ี าย 3 คน ขม่ ขืนนานกวา่ 3 ปี พบเดก็ หญิงวยั 12 ปี ท่ี จ.อ่างทอง ถกู พ่ชี าย 3 คน ขม่ ขนื จนฉีไ่ ม่ออก ตอ้ งไปหาหมอ ถามจนทราบถูกล่วง ละเมิดทางเพศตง้ั แต่อายุ 9 ปี ผ้สู อ่ื ข่าวรายงานวา่ เม่อื เวลา 16.00 น. (16 เม.ย.) นายสทิ ธิ กะสผุ ล กา้ นัน ต.บา้ นแห อ.เมืองอา่ งทอง พาตวั เดก็ หญงิ เอ (นามสมมตุ ิ) อายุ 12 ปี นกั เรียนช้ัน ป.6 โรงเรยี นแหง่ หนึ่ง เปน็ ลูกบ้านเข้า แจง้ ความที่ สภ.เมอื งอา่ งทอง ว่า เด็กหญงิ เอถูกพช่ี ายทง้ั สามคน ซง่ึ มีอายุ 17, 15 และ 13 ปี ท่ีติดยาเสพตดิ กนั ทกุ คน บังคับข่มขืนมาตลอดต้ังแตอ่ ายุ 9 ขวบ ขา่ วท่ี 4 พอ่ ร้องลูกสาว 12 ปี ถูกครูทอมล่วงละเมิดทางเพศ ต้ารวจ สภ.เมอื งนนทบรุ ี สดุ ทนร้องสื่อลูกสาววยั 12 ปี ถกู ครทู อมลว่ งละเมดิ ทางเพศ แต่โรงเรยี นตน้ สังกดั เพิกเฉย และครทู อมมีนามสกลุ ดัง ผสู้ ่อื ข่าวรายงานว่า “ด.ต.สมภพ อรรคพิน ผบ.หม่งู านปูองกนั และปราบปราม สภ. เมอื งนนทบรุ ี เข้ารอ้ งเรยี นกับผสู้ อื่ ขา่ วประจ้าจงั หวดั นนทบรุ ี วา่ ลูกสาวบุญธรรม วยั 12 ปี ซึ่งเรียนอยชู่ น้ั ประถมศกึ ษา ปีท่ี 6 ของโรงเรียนแห่งหน่งึ ใน ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบรุ ี ถกู ครูประจ้าชั้นที่ชอ่ื ครตู า่ ย อายุ 26 ปี ซงึ่ มี ลกั ษณะคล้ายทอมบอยพาเขา้ โรงแรมและล่วงละเมดิ ทางเพศหลายครัง้ และทา้ รา้ ยร่างกาย” ที่มา : ขา่ วท่ี 1 http://news.sanook.com/1125883 ข่าวท่ี 2 http://news.sanook.com/1037506 ข่าวท่ี 3 http://news.sanook.com/1016331 ข่าวที่ 4 http://news.sanook.com/995355
บันทึกหลังแผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา2563 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง การปูองกนั การถูกล่วงละเมิดทางเพศ แผนการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่ือง การปูองกนั และหลกี เล่ียงสถานการณ์เสีย่ งต่อการ ถูกลว่ งละเมิดทางเพศ เวลา 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวณัฐธดิ า แก้วค้าศรี บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ผ้เู รียนได้รบั ความรู้ (K) นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ปญั หาการถูกลว่ งละเมดิ ทางเพศสามารถปูองกนั ได้ หากรจู้ กั วธิ ีการปูองกนั และหลีกเลยี่ งสถานการณ์ เส่ียงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถบอกวิธีการปูองกันและหลกี เล่ยี งสถานการณเ์ สี่ยงต่อการถูกลว่ งละเมิดทางเพศได้ ผูเ้ รยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม (A) นักเรียนมที ัศนคติท่ีดีต่อวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ขยันใฝุร้ใู ฝเุ รยี น เชอื่ มั่นในตนเอง กล้าแสดงออกมคี วามสุขต่อ การเรียน ผู้เรยี นเกดิ ทักษะการคดิ 1) ทกั ษะการสา้ รวจ 2) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะการน้าความรู้ไปใช้ ผเู้ รียนมีหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผูเ้ รยี นเรียนรูท้ จ่ี ะใช้ทรพั ยากรได้อย่างมีประสิทธภิ าพ
ปญั หาอุปสรรค (ถ้ามี) - ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี) - ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แก้วคา้ ศรี) ครูผสู้ อน ความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................. ....................................... ลงชอื่ .............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผูอ้ ้านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง วัยรุ่นกบั โภชนาการเพอื่ สรา้ งเสรมิ สุขภาพ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชาสุขศกึ ษา รหสั พ 21102 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 4 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวณัฐธิดา แกว้ คาศรี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน พ 4.1 ตัวชีว้ ัด ม.1/1 เลือกกินอาหารท่ีเหมาะสมกบั วัย ม.1/2 วิเคราะหป์ ญั หาที่เกิดจากภาวะโภชนาการท่มี ีผลกระทบต่อสขุ ภาพ 2. สาระสาคัญ ปัญหาภาวะโภชนาการจะเกิดจากการรบั ประทานอาหารที่มผี ลกระทบต่อสุขภาพ จึงควรวเิ คราะห์ ภาวะ โภชนาการของตนเองเพ่อื เลือกรบั ประทานอาหารทีม่ ีคุณคา่ และเหมาะสมกับวัย 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) หลกั การเลอื กอาหารท่เี หมาะสมกบั วัย 2) ปญั หาท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการ - ภาวะการขาดสารอาหาร - ภาวะโภชนาการเกิน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ (พิจารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะกระบวนการตดั สนิ ใจ 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ตรงต่อเวลา 3. มีความรับผดิ ชอบ 6. ช้นิ งาน การก้าหนดรายการอาหารสา้ หรับตนเอง และสมาชิกในครอบครวั
7. การวัดและประเมนิ ผล (ภาระงาน/ชน้ิ งาน) 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง วยั รุ่นกับโภชนาการเพอ่ื สร้างเสรมิ สขุ ภาพ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 5.1 เรือ่ ง อาหารและภาวะโภชนาการ 2) ตรวจใบงานท่ี 5.2 เรอื่ ง การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพทด่ี ขี องคนไทย 3) ตรวจใบงานท่ี 5.3 เรือ่ ง อาหารท่ีเหมาะสมกบั วัยร่นุ 4) ตรวจใบงานท่ี 5.4 เรอ่ื ง ฉลากบนผลิตภณั ฑอ์ าหาร 5) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน 6) ประเมนิ การนา้ เสนอผลงาน 7) สงั เกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล 8) สงั เกตพฤตกิ รรมการท้างานกล่มุ 9) สังเกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง วยั รนุ่ กับโภชนาการเพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 7.4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจการกา้ หนดรายการอาหารส้าหรบั ตนเอง และสมาชกิ ในครอบครัว 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนการจดั การเรยี นรู้ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา (สุขศกึ ษา) เวลา 4 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง วยั รุ่นกบั โภชนาการเพอ่ื สรา้ งเสรมิ สุขภาพ เวลา 1 ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ความรูท้ ั่วไปเกี่ยวกับอาหารและภาวะโภชนาการ ครผู ้สู อน นางสาวรัฐธิดา แก้วคาศรี 1. สาระสาคญั อาหารมีประโยชน์ต่อรา่ งกาย จงึ ตอ้ งเลือกบรโิ ภคอาหารให้เหมาะสมกับวัย โดยคา้ นงึ ถงึ ความประหยัดและ คุณคา่ ทางโภชนาการ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) จา้ แนกประเภทของภาวะโภชนาการได้ 2) อธบิ ายปัญหาทเ่ี กดิ จากภาวะการขาดสารอาหาร และภาวะโภชนาการเกินได้ 3) วิเคราะหป์ ัญหาท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการที่มผี ลกระทบต่อสุขภาพได้ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ปญั หาทเี่ กดิ จากภาวะโภชนาการ - ภาวะการขาดสารอาหาร - ภาวะโภชนาการเกนิ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ตรงต่อเวลา 3. มีความรับผดิ ชอบ
กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคูค่ ดิ ส่สี หาย ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูให้นกั เรยี นดบู ตั รภาพ แลว้ ให้นักเรียนตอบคา้ ถามและแสดงความคิดเห็นในประเดน็ ท่ีครกู ้าหนด เช่น - ถ้าให้นกั เรยี นเลือกรับประทานอาหารประเภทของว่าง นกั เรียนจะเลอื กรับประทานอะไร เพราะเหตุใด - นกั เรียนคดิ วา่ ของว่างทน่ี ักเรียนเลือกรับประทานมีประโยชนห์ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด - ของว่างทีเ่ ลอื กรบั ประทานเหมาะสมกับภาวะโภชนาการของนกั เรยี นหรือไม่ เพราะเหตุใด 2. ครสู มุ่ เลือกนักเรียน 3-5 คน ตอบคา้ ถามและแสดงความคิดเห็น จากน้ันครอู ธิบายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า อาหารวา่ ง จากบัตรภาพท้ัง 2 ชนดิ มีคุณคา่ และประโยชน์ต่อร่างกาย แตจ่ ะต้องค้านึงถึงภาวะโภชนาการของตนเองวา่ ควรจะ รบั ประทานอะไร รับประทานปรมิ าณเท่าใด จึงจะเหมาะสมกบั ตนเอง 3. นักเรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด ค้าถามกระตนุ้ ความคดิ เพราะเหตุใด จึงไมค่ วรเลอื กรบั ประทานอาหารเฉพาะอาหารที่ตนเองชอบเพียงอย่างเดยี ว (เพราะจะทา้ ใหเ้ กิดโรคขาดสารอาหารและเกิดการสะสมสารพิษจากอาหารชนดิ เดมิ ที่รบั ประทานซา้ ๆ) ขน้ั สอน 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเกง่ ปานกลางคอ่ น ขา้ งอ่อน และอ่อน ให้แต่ละกลุ่มรว่ มกันศกึ ษาและสบื ค้นความรู้เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ จากหนังสือเรียน และ แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ ตามประเดน็ ที่กา้ หนด ดังนี้ 1) ความหมายของอาหารและโภชนาการ 2) คุณค่าของอาหารต่อสุขภาพ 3) ประเภทของภาวะโภชนาการ 4) ปญั หาการเกิดโรคภาวะทุพโภชนาการ 2. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันวางแผนการศึกษาและสบื ค้นความรู้ โดยครเู สนอแนะให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าท่ีกัน รบั ผิดชอบตามความเหมาะสม 3. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายในแตล่ ะประเดน็ และผลัดกันซักถามข้อสงสยั จนได้รับค้าตอบท่ที ้าให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจทช่ี ัดเจน จากน้นั สรปุ ความร้ลู งในแบบบันทึก การอ่าน 4. นักเรียนตอบคา้ ถามกระตนุ้ ความคดิ 5. นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ทา้ ใบงานท่ี 5.1 เรื่อง อาหาร และภาวะโภชนาการ โดยใหส้ มาชกิ กลุ่มหาค้าตอบดว้ ย ตนเองจนครบทุกขอ้ จากนนั้ จับคู่กบั เพ่อื นในกลุม่ เพอื่ ผลดั กนั อธิบายคา้ ตอบใหค้ ่ขู องตนฟัง (สมาชิกในกลุ่มอีกคูห่ น่งึ ก็ ปฏบิ ตั เิ ช่นเดยี วกัน) 6. สมาชิกรวมกลุ่ม 4 คน (ตามเดมิ ) แลว้ ผลดั กันอธิบายค้าตอบของคขู่ องตนเองให้สมาชิกอีกค่หู น่ึงภายในกลุ่มฟัง จากนนั้ สรุปคา้ ตอบที่เปน็ มตขิ องกลุ่มลงในใบงานที่ 5.1 เพ่ือนา้ สง่ ครตู รวจ 7. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันวิเคราะห์ปญั หาการเกดิ โรคทีเ่ กดิ จากภาวะทุพโภชนาการ จากนน้ั ร่วมกนั สรปุ ผล แล้วส่งตวั แทนน้าเสนอผลการวิเคราะห์ หน้าช้ันเรียน
คา้ ถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียนคิดว่า ตนเองมภี าวะโภชนาการอย่างไร เพราะเหตุใด (พิจารณาตามคา้ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน) ขัน้ สรปุ 1. นักเรียนตอบคา้ ถามกระตนุ้ ความคดิ 2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปปัญหาการเกดิ โรคที่เกดิ จากภาวะทพุ โภชนาการ และเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาท่ีถูกต้องและ เหมาะสม คา้ ถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นคิดวา่ ตนเองเลือกรับประทานอาหารอยา่ งมีสตหิ รอื ไม่ เพราะเหตุใด (พจิ ารณาตามคา้ ตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ภาระงาน/ชน้ิ งาน - แหลง่ เรียนรู้ / ส่ือ 1. สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น สขุ ศึกษา ม.1 2) บตั รภาพ 3) ใบงานท่ี 5.1 เรื่อง อาหารและภาวะโภชนาการ 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://www.ipst.ac.th/chemistry/articles11/vitamin.pdf 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ - http://bozomeaw.exteen.com/20091103/entry - http://talkaboutsex.thaihealth.or.th/news/424
การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 วิธีการ ใบงานที่ 5.1 (ประเมินตามสภาพจรงิ ) ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 แบบบันทึกการอ่าน ตรวจใบงานท่ี 5.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการท้างานรายบุคคล รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น แบบสงั เกตพฤติกรรมการท้างานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทา้ งานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทา้ งานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมีวินัย ตรงตอ่ เวลา และมคี วาม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รับผดิ ชอบ ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณัฐธดิ า แกว้ คา้ ศรี) ครูผ้สู อน ความคดิ เห็นของหัวหน้าฝุายบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ลงชอ่ื .............................................. (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผอู้ ้านวยการฝุายบรหิ ารวชิ าการ ความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ลงชอื่ .............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ า้ นวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31
บตั รภาพ ภาพขนมเค้ก ภาพผลไมช้ นิดต่างๆ ภาพขนมหวาน ภาพสลัดผกั ท่ีมา : ภาพท่ี 1 http://www.cake2thailand.com/th/images/Black-Forest-1.jpg 1 2 ภาพท่ี 2 http://theccn-news.com/admin/uppic/imagstock/ac6db783a20e3ad8bb0ab51c4dfbd5c4.jpg ภาพท่ี 3 http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2009/09/L8353178/L8353178-1.jpg 3 4 ภาพท่ี 4 http://1.bp.blogspot.com/-JBB2kbKrUms/UGgAQGmz2HI/AAAAAAAAABk/A4-iaEyjXvk/ s1600/84_m_month4.jpg
ใบงานท่ี 5.1 อาหารและภาวะโภชนาการ 5.1 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบค้าถามท่ีกา้ หนดใหถ้ กู ต้อง 1. อาหารที่มปี ระโยชน์ให้คณุ ค่าต่อสขุ ภาพของเราอยา่ งไร 2. ภาวะโภชนาการทด่ี ี มลี กั ษณะอย่างไร 3. ภาวะโภชนาการเกินเปน็ สาเหตสุ ้าคัญของการเกิดโรคใด เพราะเหตใุ ด 4. คนปุวยท่มี ีภาวะโลหิตจางเกดิ จากสาเหตใุ ด และควรเลอื กรับประทานอาหารอย่างไร 5. ถ้าต้องการลดน้าหนกั ควรหลกี เลย่ี งการรับประทานผลไม้ชนิดใด และควรเลอื กรบั ประทานผลไม้ชนดิ ใด
เฉลย ใบงานท่ี 5.1 อาหารและภาวะโภชนาการ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบค้าถามที่กา้ หนดใหถ้ ูกต้อง 1. อาหารท่มี ปี ระโยชน์ให้คุณค่าตอ่ สขุ ภาพของเราอยา่ งไร 1) ช่วยให้ร่างกายเจรญิ เติบโต และซอ่ มแซมสว่ นทส่ี กึ หรอของรา่ งกาย 2) ให้พลังงานและความอบอนุ่ ต่อร่างกาย 3) ช่วยใหอ้ วัยวะต่างๆ ภายในร่างกายทางานไดต้ ามปกติ 4) ชว่ ยเสริมสร้างภูมติ ้านทานโรคให้ร่างกาย 2. ภาวะโภชนาการทดี่ ี มีลักษณะอยา่ งไร เปน็ ภาวะท่ีรา่ งกายได้บรโิ ภคอาหารในปรมิ าณทเ่ี พียงพอ ถกู สัดส่วน มีความหลากหลาย เหมาะสม และครบถว้ น ตามความตอ้ งการของรา่ งกาย โดยสามารถนาสารอาหารท่ีได้รับไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ อ่ ร่างกายและจติ ใจ 3. ภาวะโภชนาการเกินเปน็ สาเหตุส้าคัญของการเกดิ โรคใด เพราะเหตใุ ด เปน็ สาเหตสุ าคัญของการเกดิ โรคอ้วน เพราะร่างกายไดร้ ับสารอาหารท่เี กนิ ความจาเป็น จงึ เกดิ การสะสมพลังงาน ท่ีเกินไว้ในรปู ของไขมัน ส่งผลทาใหเ้ กดิ โรคอ้วน และโรคอน่ื ๆ ที่สมั พนั ธ์กัน เช่น โรคความดนั โลหติ สูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขข้ออกั เสบ เป็นตน้ 4. คนปุวยทมี่ ีภาวะโลหติ จางเกิดจากสาเหตุใด และควรเลอื กรับประทานอาหารอย่างไร ภาวะโลหติ จาง มสี าเหตมุ าจากร่างกายขาดธาตเุ หล็ก จึงควรเลือกรบั ประทานอาหารทม่ี ธี าตุเหลก็ อยา่ งเพียงพอ สาหรับรา่ งกาย เช่น นม ถวั่ เมลด็ แห้ง ขา้ วโพด เน้ือสัตว์ ไข่ เปน็ ต้น 5. ถ้าต้องการลดน้าหนกั ควรหลกี เลีย่ งการรบั ประทานผลไม้ชนิดใด และควรเลอื กรบั ประทานผลไมช้ นดิ ใด การลดนา้ หนกั ควรหลีกเล่ยี งการรบั ประทานผลไมท้ ีม่ ปี รมิ าณน้าตาลสูง เชน่ กลว้ ย ขนนุ มะมว่ งสุก ทเุ รียน เป็นตน้ และควรเลอื กรับประทานผลไม้ทม่ี ปี ริมาณนา้ ตาลต่า เช่น ฝร่งั แตงโม ชมพู่ แอปเปิล เปน็ ตน้
ชือ่ หนังสอื ช่อื ผูแ้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่าน ส้านกั พมิ พ์ จา้ นวนหนา้ สถานทพ่ี ิมพ์ นามปากกา ปีทพ่ี ิมพ์ ราคา บาท อา่ นวันที่ เดอื น พ.ศ. เวลา 1. สาระส้าคญั ของเร่ือง 2. วิเคราะหข์ ้อคิด/ประโยชนท์ ไ่ี ด้จากเร่ืองทอ่ี ่าน 3. สิ่งท่ีสามารถนา้ ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจ้าวนั 4. ขอ้ เสนอแนะของครู ลงชอื่ นักเรียน ลงช่ือ ผปู้ กครอง ( )( ) ลงช่ือ ครูผู้สอน () เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานมคี วามสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพร่องเพยี งเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพรอ่ งมาก
แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาช้แี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความมีวินัย ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงตอ่ รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมนิ เอ้อื เฟ้ือ ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน 43214321432143214321 ลงชอ่ื .................................................... ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่ คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับระดับคะแนน ลาดบั ชอื่ -สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมีนา้ ใจ การมี รวม ท่ี ของผ้รู บั การประเมนิ ความคิดเห็น ฟังคนอื่น ตามท่ีไดร้ บั สว่ นร่วมใน 20 มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ด้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ เพลงชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสิทธิและหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซอื่ สัตย์ สุจรติ 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ รว่ มใจ ในการท้างานกบั สมาชิกในชน้ั เรียน 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ตอ่ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 4. ใฝุเรยี นรู้ โรงเรียนและชมุ ชน 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถอื ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 1.6 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกบั สถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามท่โี รงเรยี น และ ชมุ ชนจดั ขนึ้ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ท่ถี กู ตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในส่ิงทถี่ กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะทา้ ความผดิ ท้าตามสญั ญาท่ี ตนใหไ้ ว้กับเพื่อน พ่อแมห่ รือผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัตติ อ่ ผ้อู ื่นด้วยความซื่อตรง 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว และ โรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจา้ วัน 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อย่างมเี หตผุ ล 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เครือ่ งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด ค้มุ ค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อ่นื และไม่ท้าใหผ้ ้อู น่ื เดือดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภัยเม่อื ผูอ้ น่ื กระทา้ ผดิ พลาด
คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ดา้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทา้ งานและการใช้ชวี ิตประจ้าวันบนพ้ืนฐานของ 6. มุ่งม่ันในการ ความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสาร ทางาน 5.6 รู้เทา่ ทันการเปล่ียนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรับตัว 7. รกั ความเป็นไทย อย่รู ่วมกับผอู้ น่ื ได้อย่างมคี วามสขุ 8. มจี ติ สาธารณะ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทา้ งานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือให้งานส้าเรจ็ 7.1 มีจิตสา้ นึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ้างาน 8.2 อาสาท้างาน ชว่ ยคิด ชว่ ยท้า และแบง่ ปันสงิ่ ของให้ผอู้ นื่ 8.3 รจู้ กั ดูแล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชื่อ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรุง
บนั ทึกหลังแผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา2563 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง วัยรุ่นกบั โภชนาการเพือ่ สร้างเสรมิ สุขภาพ แผนการสอนท่ี 1 เร่อื ง ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกับอาหารและภาวะโภชนาการ จ้านวน 1 ช่วั โมง ผูส้ อน นางสาวณฐั ธดิ า แก้วค้าศรี บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ผ้เู รียนไดร้ บั ความรู้ (K) นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั อาหารมีประโยชน์ต่อรา่ งกาย จงึ ต้องเลอื กบรโิ ภคอาหารให้เหมาะสมกบั วัย โดยค้านึงถงึ ความประหยัดและคุณค่าทางโภชนาการ ผู้เรียนเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถจ้าแนกประเภทของภาวะโภชนาการอธบิ ายปัญหาท่ีเกดิ จากภาวะการขาดสารอาหาร และ ภาวะโภชนาการเกนิ ได้ และสามารถวิเคราะห์ปญั หาท่ีเกดิ จากภาวะโภชนาการท่มี ผี ลกระทบตอ่ สุขภาพได้ ผูเ้ รยี นมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม (A) นักเรยี นมีทัศนคตทิ ี่ดตี ่อวชิ าสุขศกึ ษาและพลศึกษา ขยันใฝุรู้ใฝเุ รียน เชอื่ มั่นในตนเอง กล้าแสดงออกมี ความสขุ ตอ่ การเรยี น ผ้เู รยี นเกิดทักษะการคดิ การคดิ วเิ คราะห์ ผเู้ รียนมหี ลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผู้เรยี นเรยี นร้ทู ่ีจะใช้ทรพั ยากรไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
ปัญหาอุปสรรค (ถ้ามี) - ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี) - ลงช่อื .......................................................... (นางสาวณฐั ธิดา แกว้ ค้าศรี) ครผู ู้สอน ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................................. ลงช่ือ.............................................. (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ า้ นวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจัดการเรยี นรู้ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา (สขุ ศึกษา) เวลา 4 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรื่อง วัยรุ่นกบั โภชนาการเพอ่ื สร้างเสรมิ สขุ ภาพ เวลา 1 ช่วั โมง แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง โภชนบัญญตั ิและธงโภชนาการ ครผู ู้สอน นางสาวณัฐธดิ า แก้วคาศรี 1. สาระสาคญั การเลือกรับประทานอาหารตามหลักโภชนบญั ญัตแิ ละธงโภชนาการ จะตอ้ งเลอื กใหถ้ ูกต้อง และเหมาะสมกับวัย 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) บอกขอ้ ปฏิบัตใิ นการบริโภคอาหารตามหลกั โภชนบญั ญัติ 9 ประการได้ 2) อธบิ ายหลกั การเลือกบรโิ ภคอาหารตามธงโภชนาการได้ 3) บอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารได้ถูกต้องและเหมาะสมกบั วยั 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - หลกั การเลอื กอาหารท่ีเหมาะสมกบั วยั 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ (พิจารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะกระบวนการตดั สินใจ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ตรงต่อเวลา 3. มคี วามรับผดิ ชอบ
กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรยี นความรู้ความเข้าใจ ขั้นท่ี 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครใู หน้ กั เรยี นดูบัตรภาพอาหารแตล่ ะชนดิ แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกนั พจิ ารณาวา่ อาหารแต่ละชนิดใหส้ ารอาหารใด แกร่ า่ งกาย 2. นกั เรยี นรว่ มกนั จัดหมวดหมู่บัตรภาพอาหารท่ีเหมาะสมส้าหรับวัยรุน่ ท่ีมีภาวะโภชนาการต้า่ และภาวะโภชนาการเกนิ 3. ครูเลือกตัวแทนนักเรียนตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมแสดงเหตผุ ลประกอบ แล้วใหเ้ พ่ือนในชนั้ เรยี นรว่ มกัน ตรวจสอบ อีกคร้งั 4. ครใู หน้ ักเรยี นกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1) ร่วมกนั ศึกษาและสบื คน้ ความรู้เรื่อง โภชนบัญญตั ิ และธงโภชนาการ 5. นกั เรยี นตอบคา้ ถามกระตุ้นความคิด คา้ ถามกระตุ้นความคดิ ทาไมคนเราถึงตอ้ งรับประทานอาหารใหค้ รบ 3 มือ้ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู น ดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน) ขน้ั ท่ี 2 วางแผนปฏิบตั ิ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั วางแผนการศกึ ษาและสบื ค้นความรู้เร่อื ง โภชนบัญญตั แิ ละธงโภชนาการ โดยแบ่งหน้าที่กนั รบั ผิดชอบตามความเหมาะสม หรอื ความสนใจของสมาชิกกลุ่ม ข้ันที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 1. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันศึกษาและสืบคน้ ความรู้เร่ือง โภชนบญั ญัติและธงโภชนาการ จากหนงั สือเรียน และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ ตามท่ีไดว้ างแผนร่วมกันไว้ แล้วบันทึกความรู้ทไ่ี ด้ลงในแบบบันทึกการอา่ น 2. นักเรยี นตอบค้าถามกระตุ้นความคดิ ค้าถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรยี นคดิ วา่ การบรโิ ภคอาหารม้ือดึกมีประโยชน์หรอื ไม่ อธิบายเหตผุ ล (การบรโิ ภคอาหารในมอื้ ดึกไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นสาเหตทุ าใหอ้ ว้ น) ข้นั ที่ 4 พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ 1. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ ตัง้ คา้ ถามคนละ 1 ข้อ จากน้ันน้าคา้ ถามมาผลดั กนั ถาม-ตอบกับสมาชิกในกล่มุ เพอ่ื ประเมิน ความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั โภชนบญั ญตั ิและธงโภชนาการ และบนั ทึกความรูล้ งในแบบบันทึกการอ่าน 2. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอธิบายแนวทางในการเลอื กรับประทานอาหารตามข้อปฏิบตั ใิ นโภชนบัญญัติ 9 ประการ จากนนั้ ส่งตวั แทนกลุ่มนา้ เสนอการเลอื กรบั ประทานอาหารทด่ี ตี ่อสุขภาพตามประเด็น “กนิ พอดีและ หลากหลาย” ประกอบแผนภาพธงโภชนาการ 3. ตวั แทนกลุ่มออกมาน้าเสนอการเลือกรับประทานอาหารที่ดีตอ่ สขุ ภาพตามประเด็น “กนิ พอดีและหลากหลาย” ประกอบแผนภาพธงโภชนาการ หนา้ ชั้นเรยี น 4. ครชู มเชยตวั แทนกลมุ่ ทนี่ ้าเสนอได้ถกู ต้อง เข้าใจง่าย และมคี วามคิดสร้างสรรค์ เพ่ือเป็นการเสรมิ ก้าลงั ใจและเปน็
แบบอย่างทด่ี ีในการนา้ เสนอความรู้ 5. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกันทา้ ใบงานที่ 5.2 เรอื่ ง การรบั ประทานอาหารเพอื่ สุขภาพท่ีดขี องคนไทย โดยให้ สมาชิกในกลมุ่ จับคู่กนั เปน็ 2 คู่ แลว้ ให้สมาชิกคนหน่ึงของ แตล่ ะคู่คดิ หาคา้ ตอบและเขยี นค้าตอบและสมาชกิ อีกคนหนง่ึ เป็นฝุายสังเกต (นกั เรียนอกี คู่หนงึ่ ทอ่ี ยใู่ นกล่มุ เดียวกันก็ปฏิบัตใิ นทานองเดยี วกนั ) 6. นักเรียนทท่ี า้ หน้าท่เี ป็นฝาุ ยสังเกต จะท้าหน้าท่ตี รวจสอบและแสดงความคิดเห็นดว้ ย เมื่อตรวจสอบว่าเปน็ ค้าตอบ ท่ถี ูกต้องพร้อมแสดงความยินดี 7. นักเรยี นแตล่ ะค่เู ปลี่ยนบทบาทกนั ในคา้ ถามข้อต่อไป จากผู้ตอบเปน็ ผสู้ งั เกต และจากผู้สงั เกตเปน็ ผ้ตู อบ เมื่อจบการ ตอบคา้ ถามให้นักเรยี นแต่ละคู่ในกลมุ่ เดยี วกนั (กลุ่ม 4 คน) เปรยี บเทยี บค้าตอบ และแสดงความคดิ เห็นเพื่อความกระจ่าง ชัดเจนของค้าตอบ จากนน้ั ตรวจสอบความเรียบรอ้ ยก่อนน้าใบงานท่ี 5.2 ส่งครูตรวจ ขนั้ ที่ 5 สรปุ 1. นกั เรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคดิ 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั สรปุ ความร้เู กยี่ วกับข้อปฏิบัติในการบรโิ ภคอาหารเพ่ือสขุ ภาพท่ดี ีของคนไทย และหลักการ เลอื กรบั ประทานอาหารตามสัดส่วนของธงโภชนาการ ค้าถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นคดิ วา่ อาหารมื้อเช้ามีความจาเป็นต่อรา่ งกายหรอื ไม่ อธบิ ายเหตผุ ล (พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดยให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน) ภาระงาน/ชน้ิ งาน - แหล่งเรยี นรู้ / สือ่ 1. ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศึกษา ม.1 2) บัตรภาพ 3) แผนภาพธงโภชนาการ 4) ใบงานที่ 5.2 เรื่อง การรบั ประทานอาหารเพื่อสขุ ภาพที่ดีของคนไทย 2. แหล่งการเรยี นรู้ แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/อาหารตามวยั - http://www.horapa.com/content.php?CS tegury=Kidsfood&No=471
การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ ใบงานท่ี 5.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วิธกี าร แบบบันทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 5.2 แบบประเมินการนา้ เสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การน้าเสนอผลงาน แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการท้างานกลุ่ม สังเกตความมีวนิ ัย ตรงตอ่ เวลา และมีความ รับผดิ ชอบ ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวณฐั ธดิ า แก้วค้าศร)ี ครผู ูส้ อน ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ ฝุายบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ .............................................. (นายวิเศษ ฟองตา) รองผอู้ า้ นวยการฝุายบรหิ ารวิชาการ ความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .............................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผู้อ้านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
เอกสารประกอบการสอน แผนภาพธงโภชนาการ ที่มา : พรสขุ หุ่นนิรินดร์ และคณะ. [ม.ป.ป.]. หนังสอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน สขุ ศกึ ษา ม.1. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทศั น.์
บตั รภาพ ภาพสลดั ผักนา้ ใส ภาพยารวมมิตร ภาพข้าวผัดนา้ พริกปลาทู ภาพข้าวขาหมู ภาพสม้ ตาไข่เค็ม ภาพขา้ วเหนยี วมะม่วง ท่ีมา : ภาพท่ี 1 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ancient-japan&month=08-02-2009&group=6&gblog=4 1 2 ภาพท่ี 2 http://static4.th.orstatic.com/UserPhoto/Recipe/0/1/0008N5683FE4AF9A70561l.jpg ภาพท่ี 3 http://www.tlcthai.com/webboard/data/162/1/20-09-2010/102731/images/102731_headline?1291944596 3 4 ภาพท่ี 4 http://อาชพี เสรมิ .th/wp-content/uploads/2009/07/pig-leg-rice1.jpg 5 6 ภาพท่ี 5 http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201108085841200.jpg ภาพท่ี 6 http://kalamata-online.com/wp-content/uploads/2011/12/pr-montien-riverside-hotel-apr21.jpg
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357