Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กรอบโครงสร้าง ต้านทุจริต

กรอบโครงสร้าง ต้านทุจริต

Published by Indytitle Channel, 2022-07-07 08:41:18

Description: กรอบโครงสร้าง ต้านทุจริต

Keywords: ต้านทุจริต

Search

Read the Text Version

136

13 เนอื หาสาระ หน่วยที่ ชื่อหน่วย เวลา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทรัพยากรน้าและ (ชัว่ โมง) น้าบาดาล ก 1 การเดนิ ทางของ 2 - เพ่อื ให้มคี วำมรู้ นา้ ผวิ ดิน สายนา้ ควำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั - วัฏจักรของน้ำ ทรัพยำกรนำ้ และน้ำบำดำล - ประเภทของ - เพ่ือให้สำมำรถวเิ ครำะห์ แหล่งน้ำ สภำพทรพั ยำกรนำ้ และ - คณุ คำ่ และกำรใช้ นำ้ บำดำลในชมุ ชนได้ ประโยชน์ เชน่ กำรอุปโภคบริโภค กำรอุตสำหกรรม กำรเกษตร กำรชลประทำน กำรคมนำคม และกำรท่องเที่ยว - องคป์ ระกอบ ปรมิ ำณ และคณุ ภำพ นา้ บาดาล - ก้ำเนิดน้ำบำดำล - ประเภทแหล่งนำ้ บำดำล (ช้ันทรำย หนิ แขง็ หินปนู ) - องคป์ ระกอบ ปริมำณ และคณุ ภำพ

37 ะ วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ แหลง่ เรียนรู้ การประเมนิ ผล การทจุ ริต/ - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบกอ่ น การขดั กนั แหง่ - กำร์ตูน ข้อมลู จำกเวบ็ ไซต์ และหลังเรียน ผลประโยชน์ - คลิปวดี ิโอ สำ้ นกั งำน - อินโฟกรำฟฟกิ ทรัพยำกรน้ำ - แหง่ ชำติ (สนทช.) - เอกสำรและ ขอ้ มูลจำกเวบ็ ไซต์ กรมทรัพยำกรนำ้ - เอกสำรและ ขอ้ มลู จำกเว็บไซต์ กรมทรพยำกรน้ำ บำดำล - เอกสำรและ ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ กรมชลประทำน - ห้องสมดุ โรงเรยี น - พิพิธภณั ฑ์ใน ชมุ ชน/ทอ้ งถ่ิน - ผู้น้ำชมุ ชนหรือ ปรำชญ์ชมุ ชน

13 Tip - ร้ไู หมหรอื ไมว่ ำ่ น้ำบำดำลท้ำให้ เกดิ ถ้ำ - โอเอซสิ และนำ้ พุ เกดิ ขึ้นได้อยำ่ งไร 2 เกิดอะไรขึนกบั สายนา้ 4 - เพ่ือใหส้ ำมำรถวิเครำะห์ การพฒั นาและ ST ผลกระทบเชิงบวกและ การใช้ประโยชน์ M เชิงลบของกำรพฒั นำ น้าผวิ ดิน ทรัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำล - กำรขุดลอกแหล่งนำ้ คว - เพ่อื ใหต้ ระหนักถึง กำรขุดบ่อ กำรขุดสระ คว ผลกระทบเชงิ บวกและ - กำรสบู น้ำจำกแหลง่ กัน เชงิ ลบของกำรพฒั นำ นำ้ สำธำรณะเพอื่ ท้ำ ใน ทรพั ยำกรน้ำและนำ้ บำดำล กำรเกษตร ทร โดยปฏบิ ตั ิตนอย่ำง - กำรคมนำคมทำงนำ้ เหมำะสมและส่ือสำรอยำ่ ง (คลอง แมน่ ำ้ และ ใน มปี ระสิทธภิ ำพ ทะเล) ปร - กำรประมง (คลอง สำ แม่นำ้ และทะเล) สง่ิ การพัฒนาและการ แห ใช้ประโยชน์น้า สงิ่ บาดาล กร - รจู้ ักบ่อบำดำล เชน่ เป บอ่ ตอก บอ่ วง และ น้ำ บอ่ มำตรฐำน กำ

38 TRONG - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบหลงั Model - กำรอภปิ รำยกลุม่ - คลิปวดี ิโอ ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ เรียนหรอื หลงั ทำ้ S และ G : - กำรศกึ ษำดงู ำนหรือ - อนิ โฟกรำฟฟกิ ส้ำนักสง่ เสรมิ และ กจิ กรรม วำมพอเพียงและ กำรทำ้ กิจกรรมส้ำรวจ บรู ณำกำรกำรมี - กำรสังเกตกำร วำมเอ้อื อำทรต่อ แหล่งนำ้ ในชุมชนหรือ สว่ นร่วมตำ้ นทุจรติ ปฏิบัตงิ ำนกลมุ่ / น ท้องถ่นิ เชน่ แมน่ ้ำ สำ้ นกั งำน ป.ป.ช. กำรอภิปรำย นกำรใช้ ล้ำคลอง อ่ำงเกบ็ นำ้ ( STRONG - กำรสงั เกต รพั ยำกรนำ้ แหลง่ นำ้ ประปำชมุ ชน Model) พฤติกรรม R : ควำมตนื่ รู้ ทำ่ เรอื แหลง่ ทำ้ กำร - เอกสำรและ - กำรประเมนิ ผลงำน นกำรรกั ษำ ประมงในชมุ ชนหรอื ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ และตรวจผลงำน ระโยชน์ ท้องถน่ิ สำ้ นกั งำน (สว่ นบคุ คล/กลมุ่ ) ำธำรณะ ไม่ทิ้ง - กจิ กรรมกำรเก็บ ทรัพยำกรน้ำ งปฏกิ ลู ลงใน ตวั อยำ่ งน้ำ วิเครำะห์ แหง่ ชำติ (สนทช.) หลง่ นำ้ ไมส่ ร้ำง กล่ิน สี สำ้ รวจกำร - เอกสำรและ งกอ่ สรำ้ งหรือ บ้ำบดั น้ำเสยี กอ่ น ขอ้ มูลจำกเวบ็ ไซต์ ระทำ้ กำรใด ๆ ที่ ปล่อยลงสแู่ หล่งนำ้ กรมทรัพยำกรนำ้ ป็นกำรลว่ งล้ำลำ้ สำธำรณะ จำกฟำร์ม - เอกสำรและ ำ ปศุสตั ว์ บ่อกงุ้ และ ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ N : ควำมรู้ใน โรงงำนอุตสำหกรรม กรมทรพยำกร ำรใชท้ รพั ยำกร ฯลฯ น้ำบำดำล

13 คุณภาพและการใช้ น้ำ ประโยชนน์ ้าและ บำ้ นา้ บาดาลในชุมชน คร - ผลของกำรพัฒนำท้งั เก ในเชิงบวกและเชิงลบ อน นำ้ การส่อื สาร แล - กำรสื่อสำรเพ่ือสรำ้ ง ส่ือ ควำมตระหนักร้แู ละ ชุม ปรบั พฤติกรรม

39 - เอกสำรและ ขอ้ มลู จำกเวบ็ ไซต์ ำ/ควำมรูใ้ นกำร กรมชลประทำน ำบัดนำ้ เสียจำก - เอกสำรและ รัวเรอื น/ควำมรู้ ขอ้ มูลจำกเวบ็ ไซต์ กย่ี วกับกำรขอ กรมควบคุม นุญำตขดุ เจำะ มลพษิ ำบำดำล/ควำมรู้ - เอกสำรและ ละทกั ษะในกำร ขอ้ มลู จำกเวบ็ ไซต์ อสำรกับคนใน กรมโรงงำน มชน อตุ สำหกรรม - เอกสำรและ ข้อมลู จำกเว็บไซต์ กรมประมง - เอกสำรและ ข้อมูลจำกเว็บไซต์ กรมเจ้ำทำ่ - ห้องสมุด โรงเรยี น - พิพิธภัณฑใ์ น ชมุ ชน/ทอ้ งถน่ิ - ผูน้ ้ำชมุ ชนหรอื ปรำชญ์ชมุ ชน

14 3 นกั สืบสายน้า 8 - เพื่อใหม้ คี วำมรู้ - กา ควำมเขำ้ ใจกำรขดั กนั ของ ผล ผลประโยชนส์ ่วนตนและ สว่ ผลประโยชน์ส่วนรวม ผล เก่ยี วกับกำรใชท้ รพั ยำกรน้ำ สว่ และน้ำบำดำลใน -น ชีวติ ประจ้ำวนั - คว แล - เพอ่ื ใหร้ เู้ ทำ่ ทันกำรละเมดิ หรอื กำรกระทำ้ ควำมผดิ การวิเคราะหค์ ุณภาพ ST เกีย่ วกบั กำรใชท้ รพั ยำกรน้ำ น้าอยา่ งงา่ ย M และน้ำบำดำลใน - เครือ่ งมือในกำร -พ ชีวิตประจำ้ วนั วเิ ครำะห์ กร กร - เพ่ือใหม้ คี วำมรู้ no ควำมเขำ้ ใจ และทักษะ ในกำรวิเครำะหค์ ณุ ภำพน้ำ อย่ำงง่ำย (สี กล่ิน รส)

40 ารขัดกนั ของ - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบหลงั ลประโยชน์ - กำรอภปิ รำยกลุม่ - ภำพยนตส์ ั้น ข้อมลู จำกเว็บไซต์ เรียนหรือหลงั ท้ำ วนตวั และ - สถำนกำรณจ์ ำ้ ลอง หรือคลิปวดี โิ อ ส้ำนกั กำรขัดกนั กจิ กรรม ลประโยชน์ - โครงงำน (Project (ทงั้ ออนไลน์ แห่งผลประโยชน์ - กำรสงั เกตกำร วนรวม based Learning) และออฟไลน์) สำ้ นกั งำน ป.ป.ช. ปฏบิ ัติงำนกลมุ่ / นยิ ำม - ปัญหำเป็นฐำน - สถำนกำรณ์ - เอกสำรและ กำรอภิปรำย วำมหมำย (Problem based ปญั หำ ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ - กำรสงั เกต ละประเภท Learning) - อนิ โฟกรำฟฟกิ สำ้ นักงำน พฤติกรรม - ปรำกฎกำรเปน็ ฐำน ทรัพยำกรน้ำ - กำรประเมินผลงำน TRONG (Phenomenon แห่งชำติ (สนทช.) และตรวจผลงำน Model based Learning) - เอกสำรและ (สว่ นบุคคล/กลมุ่ ) พฤตกิ รรมทีค่ วร - กำรยกกรณศี กึ ษำ ขอ้ มลู จำกเว็บไซต์ ระท้ำและไมค่ วร เช่น เร่อื งใกลต้ วั ที่ควร กรมทรพั ยำกรน้ำ ระทำ้ (Do/Do รู้ กำรทง้ิ ส่งิ ปฏิกลู ลง - เอกสำรและ ot) ในแหลง่ น้ำ บ่อดกั ข้อมลู จำกเว็บไซต์ ไขมนั กำรเติมน้ำใต้ กรมทรพยำกรนำ้ ดิน บอ่ ท้ิงขยะ บำดำล - กจิ กรรม นกั สืบ - ห้องสมดุ สำยน้ำ เชน่ เกบ็ โรงเรียน ตัวอยำ่ งน้ำ วิเครำะห์ - พิพิธภัณฑ์ กล่นิ สี ส้ำรวจกำร ในชมุ ชน/ทอ้ งถนิ่ ปล่อยนำ้ จำกฟำร์ม - ผนู้ ้ำชมุ ชนหรือ โรงงำนอุตสำหกรรม ปรำชญ์ชมุ ชน สำ้ รวจเล้ำหมู บอ่ กุ้ง - เอกสำรและ ฯลฯ และวิเครำะหว์ ำ่ ขอ้ มลู จำกเวบ็ ไซต์ เปน็ กำรขัดกนั ระวำ่ ง ส้ำนักส่งเสรมิ และ

14 4 ผู้พิทักษส์ ายน้า 6 - เพื่อใหม้ เี จตคติหวงแหน - ผลกระทบทเ่ี กดิ จำก ST ทรพั ยำกรนำ้ และน้ำบำดำล กำรใชแ้ ละพฒั นำท่ไี ม่ M โดยกำรแสดงออกถงึ กำรมี ถูกตอ้ ง -ก สว่ นรว่ มในกำรเฝ้ำระวงั คว แจ้งเบำะแส กำรใช้ เจ ทรัพยำกรนำ้ และน้ำบำดำล -ก - เพอ่ื ให้สำมำรถแสดงออก เป อยำ่ งเหมำะสมเมือ่ พบกำร Ro ละเมิดทรัพยำกรน้ำและน้ำ -ก บำดำล สำ -ก แจ พ

41 ผลประโยชน์ส่วนตวั บูรณำกำรกำรมี และผลประโยชน์ หรือไม่ ส่วนรว่ มตำ้ น ทจุ รติ สำ้ นักงำน ป.ป.ช. (STRONG Model) TRONG - บรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบหลัง Model - อภิปรำย - ภำพยนต์สั้น ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ เรียนหรอื หลงั ท้ำ กำรปลกุ ฝงั - สถำนกำรณจ์ ้ำลอง หรอื คลปิ วดี โิ อ ส้ำนกั ส่งเสรมิ และ กจิ กรรม วำมรสู้ ึกเปน็ - โครงงำนผพู้ ทิ ักษ์ (ทง้ั ออนไลน์ บูรณำกำรกำรมี - กำรสังเกตกำร จ้ำของ สำยนำ้ และออฟไลน์) ส่วนรว่ มต้ำน ปฏบิ ัติงำนกลมุ่ /กำร กำรปฏิบัติตน - สถำนกำรณ์ ทุจรติ ส้ำนักงำน อภปิ รำย ปน็ แบบอย่ำง ปญั หำ ป.ป.ช. - กำรสงั เกต ole Model - อินโฟกรำฟฟิก (STRONG พฤติกรรม กำรรว่ มกิจกรรม Model) - กำรประเมนิ ผลงำน ำธำรณประโยชน์ - เอกสำรและ และตรวจผลงำน กำรเฝำ้ ระวัง ข้อมลู จำกเว็บไซต์ (ส่วนบคุ คล/กลมุ่ ) จง้ เบำะแส (ขั้น สำ้ นกั งำน - เกณฑก์ ำรให้ พนื้ ฐำน) ทรัพยำกรน้ำ คะแนน (scoring แหง่ ชำติ (สนทช.) rubric) - เอกสำรและ ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ กรมทรพั ยำกรน้ำ - เอกสำรและ ข้อมลู จำกเวบ็ ไซต์

14

42 กรมทรพยำกรน้ำ บำดำล - ห้องสมดุ โรงเรียน - พพิ ิธภณั ฑ์ใน ชุมชน/ท้องถิน่ - ผนู้ ำ้ ชมุ ชนหรอื ปรำชญ์ชุมชน

143 5. แนวทางการจดั การเรียนร้แู ละประเมนิ ผล กิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเน้นกำรลงมือปฏิบัติจริง (Learning by Doing) โดยใช้วิธีกำรศึกษำด้วย ตนเอง กรณีศึกษำ กำรบรรยำย กำรฝึกปฏิบัติรำยบุคคล กำรอภิปรำยกลุ่มย่อย กำรระดมสมอง และกำร น้ำเสนอผลงำน กำรจัดกำรเรียนรู้เชิงรุก Active learning เน้นผ้เู รียนเป็นสำ้ คญั กำรจดั กำรเรียนร้ทู ่เี นน้ ควำมแตกต่ำง ระหว่ำงบุคคล สอดคล้องกับพัฒนำกำรทำงสมอง จัดกระบวนกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย กระบวนกำรเรียนรู้ท่ี จ้ำเป็นส้ำหรับกำรเตรียมเข้ำสู่โลกอนำคต เช่น เกม (Game based Learning) โครงงำน (Project based Learning) ปัญหำเป็นฐำน (Problem based Learning) ปรำกฎกำรเป็นฐำน (Phenomenon based Learning) สบื เสำะหำควำมรู้ (Inquiry based Learning) กำรวัดและประเมนิ ผล เนน้ กำรประเมินเพอ่ื พัฒนำ กำรประเมนิ ตำมสภำพจรงิ เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทำงกำรประเมิน ที่ส่งผลต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้และกำรเรียนรู้ท่ี จะช่วยให้ครูสร้ำงบรรยำกำศในกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชั้นได้อย่ำงมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์กำร ประเมิน (Rubric) 2) กำรประเมินกำรปฏิบัติงำน (Performance based Assessments: PBAs) 3) กำร ประเมินจำกแฟ้มสะสมผลงำน (Portfolios Assessment) 4) กำรประเมินตนเอง (Student self- assessment) 5) กำรประเมินเพื่อนประเมินเพื่อน (Peer-Assessment) 6) กำรใหข้ ้อมูลป้อนกลับแกน่ ักเรียน (Student Response) 6. แนวทางการนา้ หลกั สตู รไปใช้ (1) เปดิ รำยวิชำเพิ่มเติม (2) บูรณำกำรกำรเรียนกำรสอนกบั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูส้ งั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม (3) บรู ณำกำรกำรเรียนกำรสอนกบั กลมุ่ สำระอื่น ๆ (4) จัดในกจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี น (5) จัดเปน็ กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร (6) บูรณำกำรกบั วถิ ชี ีวติ ในโรงเรียน

144 หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา เรือ่ ง การพทิ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นา้ และนา้ บาดาล สา้ หรบั ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย 1. ความเปน็ มาของหลักสตู ร น้ำเป็นทรัพยำกรธรรมชำติท่ีมีควำมส้ำคัญต่อมนุษย์และส่ิงมีชีวิตในโลก ท้ังใช้ในกำรอุปโภคบริโภค ในชีวิตประจำ้ วนั รวมทัง้ ใชเ้ พ่ือกำรพำณิชย์และกำรอุตสำหกรรมอีกดว้ ย ดงั นน้ั กำรรักษำดูแลรวมถึงกำรสร้ำง จติ สำ้ นกึ ให้สงั คมมคี วำมตระหนกั ถึงคณุ ค่ำของน้ำจงึ เป็นเรื่องที่จ้ำเป็น ประเทศไทยนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประชำชนนิยมปลูกบ้ำนอยู่ริมฝ่ังแม่น้ำ ประชำชนบำงรำยได้ มีกำรต่อแพไม้และปลูกเรือนอยู่บนแพไม้เพ่ือใช้เป็นที่อยูอ่ ำศัยริมล้ำคลอง ทั้งนี้ เพื่อควำมสะดวกจำกกำรใชน้ ำ้ ในกำรคมนำคมทำงน้ำ กำรทำ้ เกษตรกรรม กำรคำ้ ขำย และบรรยำกำศริมฝงั่ น้ำยังก่อให้เกิดควำมเย็นสบำยแก่ ผู้ท่ีพักอำศัยอยู่ริมฝ่ังน้ำ จนกลำยเป็นวิถีชีวิตของคนไทยที่อยู่อำศัยร่วมกับสำยน้ำมำโดยตลอด ต่อมำเมื่อ ประเทศได้มีกำรพัฒนำมำกข้ึน โดยเปล่ียนจำกสังคมเกษตรกรรมมำเป็นสังคมอุตสำหกรรมท้ำให้ควำมต้องกำร ใช้พ้ืนท่ีริมฝั่งแม่น้ำจึงมีสูงขึ้น จึงก่อให้เกิดกำรรุกล้ำล้ำน้ำโดยมีกำรปลูกสร้ำงส่ิงล่วงล้ำล้ำน้ำ หรือกำรใช้ ประโยชนจ์ ำกทรพั ยำกรจำกแหล่งนำ้ มำกยง่ิ ข้ึน ในพื้นท่ีอื่น ๆ ที่มิได้อยู่ติดแม่น้ำล้ำคลอง ประชำชนนิยมสูบน้ำบำดำลข้ึนมำใช้เพ่ือกำรอุปโภคบริโภค บำงแห่งใช้น้ำบำดำลเพ่ือกำรเกษตรกรรมและอุตสำหกรรม บำงพ้ืนท่ีมีกำรขุดเจำะแหล่งน้ำบำดำลจ้ำนวนมำก จนก่อให้เกิดปัญหำดินทรุด หรือบำงพื้นที่ได้มีกำรขุดหน้ำดินไปขำยจนพ้ืนที่ดังกล่ำวกลำยเป็นบ่อขนำดใหญ่ จำกน้นั ได้มีกำรน้ำขยะมำฝังกลบในบ่อ สง่ ผลใหส้ ำรเคมจี ำกขยะปนเป้ือนลงสู่น้ำบำดำล หรอื ไหลซมึ ลงสู่แม่น้ำ ล้ำคลอง คณะกรรมกำร ป.ป.ช. เคยไดร้ ับเรอื่ งกล่ำวหำร้องเรยี นเกย่ี วกับกำรกำรใช้ประโยน์จำกทรัพยำกรน้ำใน ลักษณะละเมิด ไม่ว่ำจะเป็นกำรปลูกส่ิงก่อสร้ำงล่วงล้ำล้ำน้ำ กำรทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้ำ หรือกรณีอ่ืน ๆ ท่ีส่งผลให้เกิดควำมเสียหำยต่อทรัพยำกรน้ำ โดยมีเจ้ำหน้ำท่ีของรัฐกระท้ำควำมผิดฐำนทุจริตต่อหน้ำที่ หรือ กระท้ำควำมผิดต่อต้ำแหน่งหน้ำท่ีรำชกำร โดยกำรละเลย เพิกเฉย หรือเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบำงรำย ซ่ึงไดส้ ่งผลกระทบรำ้ ยแรงตอ่ ควำมม่นั คงทำงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศเปน็ อย่ำงมำก ดังนั้น กำรพิทักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ “น้ำและน้ำบำดำล” โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง กำรป้องกันกำรทุจริต ท่ีเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่ำว เป็นส่ิงที่คณะกรรมกำร ป.ป.ช. ให้ควำมส้ำคัญ จึงได้สร้ำงหลักสูตรกำรเรียนรู้ ด้ำนกำรป้องกันกำรทุจริต หรือ หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ เรื่อง กำรพิทักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ น้ำและน้ำบำดำล ท่ีมีเนื้อหำสอดคล้องและมีประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน คือ กำรใช้ทรัพยำกรน้ำในลักษณะที่เปน็ กำรละเมิด (Abuse) ต่อผลประโยชน์สำธำรณะ เพ่ือให้ผู้เรียนทุกระดับชั้นได้มีควำมตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์ ทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำลตำมบทบำทหน้ำท่ีของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในกำรเรียนกำรสอน ตลอดหลักสูตร โดยนักเรียนในระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย เป็นผู้ที่มีควำมส้ำคัญและจ้ำเป็นอย่ำงย่ิงท่ีจะต้อง เรียนรู้คุณค่ำและควำมส้ำคัญของทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล เพื่อให้เกิดควำมรู้สึกหวงแหน และมีส่วนรวมใน กำรปกป้องรักษำทรัพยำกรน้ำ ร่วมถึงมีส่วนร่วมในกำรเฝ้ำระวังไม่ให้เกิดกำรใช้ทรัพยำกรน้ำไปในทำงท่ีผิด หรอื กำรแสวงหำประโยชนจ์ ำกกำรใช้ทรัพยำกรน้ำเพอื่ ประโยชน์สว่ นตนในชุมชน สังคมใกลต้ ัว

145 2. วตั ถุประสงค์ของหลักสูตร 2.1 เพื่อใหม้ คี วำมรู้ควำมเข้ำใจเกยี่ วกบั ทรัพยำกรน้ำ และนำ้ บำดำล 2.2 เพอ่ื ให้วิเครำะห์สภำพทรัพยำกรนำ้ และน้ำบำดำลในระดับภูมิภำคได้ 2.3 เพื่อให้วิเครำะห์ผลกระทบเชงิ บวกและเชิงลบของกำรพฒั นำทรัพยำกรนำ้ และน้ำบำดำล 2.4 เพอื่ ใหต้ ระหนักถงึ ผลกระทบเชิงบวกและเชงิ ลบของกำรพัฒนำทรัพยำกรน้ำ และน้ำบำดำล ใน ระดบั ภมู ภิ ำค โดยปฏบิ ตั ติ นอยำ่ งเหมำะสม และสอื่ สำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ 2.5 เพื่อใหม้ ีควำมรู้ควำมเข้ำใจกำรขัดกนั ของผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมเกย่ี วกับ กำรใชท้ รพั ยำกรน้ำ และนำ้ บำดำลในชีวติ จรงิ 2.6 เพอ่ื ให้รูเ้ ท่ำทันกำรละเมิด หรือกำรกระท้ำควำมผดิ เก่ียวกบั กำรใช้ทรัพยำกรน้ำ และนำ้ บำดำลใน ชวี ติ จรงิ 2.7 เพื่อให้มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจ และทักษะในกำรวิเครำะห์คุณภำพน้ำ (วิธีทดสอบคุณภำพทำง วิทยำศำสตรด์ ้วยเครือ่ งมือหรือวธิ กี ำรอย่ำงงำ่ ย เชน่ DO BOD) 2.8 เพอ่ื ให้มเี จตคตหิ วงแหนทรัพยำกรน้ำ และน้ำบำดำล โดยกำรแสดงออกถงึ กำรมีส่วนร่วมในกำร เฝำ้ ระวงั แจง้ เบำะแสกำรกระท้ำควำมผิดเกีย่ วกับกำรใชท้ รัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล 2.9 เพื่อให้สำมำรถแสดงออกอยำ่ งเหมำะสมเมื่อพบกำรละเมดิ ทรัพยำกรน้ำ และนำ้ บำดำล 3. โครงสร้างเนอื หาสาระ ระยะเวลา (ชว่ั โมง) ลา้ ดบั เนอื หาสาระ 2 1 การเดนิ ทางของสายน้า น้ำผวิ ดิน - วฏั จักรของน้ำ - ประเภทของแหลง่ นำ้ - คณุ ค่ำและกำรใชป้ ระโยชน์ เช่น นำ้ เพื่อกำรอุปโภคบริโภค กำร อตุ สำหกรรม กำรเกษตร กำรชลประทำน กำรคมนำคม และกำรท่องเท่ียว) - องค์ประกอบ ปรมิ ำณ และคุณภำพ - ควำมแตกต่ำงของนำ้ ผิวดินในแตล่ ะภูมิภำค/ภูมิศำสตร์ นำ้ บำดำล - ก้ำเนิดน้ำบำดำล - ประเภท (ช้ันทรำย หนิ แขง็ หนิ ปูน) - องค์ประกอบ ปริมำณ และคณุ ภำพ - แหล่งนำ้ บำดำล - ควำมแตกตำ่ งของนำ้ ผวิ ดินในแตล่ ะภมู ภิ ำค/ภูมิศำสตร์ คณุ คำ่ และกำรใชป้ ระโยชน์ - หลักกำรพ้นื ฐำน Tip - รู้หรอื ไม่ว่ำน้ำบำดำลท้ำให้เกดิ ถำ้ - โอเอซสิ และน้ำพุ เกิดขึ้นไดอ้ ย่ำงไร

146 ล้าดบั เนือหาสาระ ระยะเวลา (ชวั่ โมง) 2 เกิดอะไรขึนกบั สายน้า 4 กำรพัฒนำและกำรใช้ประโยชนน์ ้ำผวิ ดนิ - กำรขุดลอกแหล่งนำ้ กำรขดุ บ่อ กำรขดุ สระ กำรพฒั นำและกำรใช้ประโยชน์นำ้ บำดำล - ร้จู ักบ่อบำดำล เชน่ บอ่ ตอก บ่อวง และบ่อมำตรฐำน คุณภำพและกำรใช้ประโยชนน์ ้ำและนำ้ บำดำลในหมบู่ ำ้ น/ชมุ ชน/ท้องถ่นิ - ผลของกำรพฒั นำเชิงบวกและเชงิ ลบ - กำรใชป้ ระโยชนท์ รัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำลในแตล่ ะภูมิภำค กำรส่อื สำร - กำรสอื่ สำรเพอื่ สร้ำงควำมตระหนักรู้และปรบั พฤติกรรม - STRONG Model 3 นกั สืบสายน้า 8 นิยำมควำมหมำย - ผลประโยชน์สว่ นตัวและผลประโยชนส์ ำธำรณะ - พฤติกรรมท่ีควรกระท้ำและไม่ควรกระทำ้ - STRONG Model 4 ผพู้ ิทกั ษ์สายน้า 6 - ผลกระทบท่ีเกิดจำกกำรใชท้ รัพยำกรนำ้ และพฒั นำท่ีละเลยมิตกิ ำร อนรุ กั ษ์ - กำรปลุกฝงั ควำมรู้สึกเป็นเจำ้ ของทรัพยำกรน้ำในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถน่ิ - กำรปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่ำง (Role Model) ที่ดใี นกำรพิทกั ษ์ทรัพยำกรน้ำ - กำรรว่ มกิจกรรมสำธำรณประโยชน์เกยี่ วกบั กำรพทิ ักษ์ทรัพยำกรน้ำใน ชุมชนหรอื ทอ้ งถนิ่ รวมทัง้ กำรเฝ้ำระวงั และแจ้งเบำะแสกำรละเมดิ ขัน้ พ้นื ฐำน - STRONG Model รวม 20 โมเดล STRONG เป็นกำรน้ำตัวอกั ษรแรกของศัพท์ภำษำอังกฤษท่ีมีควำมหมำยเชิงบวก จำ้ นวน 6 คำ้ มำประกอบเป็นค้ำศัพท์สื่อควำมหมำยถึง “ควำมแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในกำรต่อต้ำนกำรทุจริต โดยมีควำมมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้ำนทุจริต ร่วมกันพัฒนำชุมชนให้ก้ำวไปข้ำงหน้ำด้วยกำรประยุกต์ และบูรณำกำรหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงเข้ำกับควำมโปร่งใส กำรแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม กำรตระหนักรู้และใส่ใจปัญหำกำรทุจริต และร่วมกันพัฒนำชุมชนให้มีควำมเอ้ืออำทร บนพื้นฐำนของจริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ำยชุมชนจิตพอเพียงต้ำนทุจริตและเป็นแกนน้ำ สร้ำงวัฒนธรรมไม่ทนต่อกำรทุจริต ซึ่งโมเดล STRONG ได้มีกำรสร้ำงและพัฒนำโดยรองศำสตรำจำรย์ ดร. มำณี ไชยธรี ำนวุ ฒั ศิริ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงได้ดังแผนภำพ ดงั นี้

147 * แผนภาพที่ 1 โมเดล STRONG – จิตพอเพียงต้านทจุ ริต ปี พ.ศ. 2562 จำกแผนภำพขำ้ งต้น สำมำรถอธิบำยนิยำมเชิงปฏิบัตกิ ำรได้ดังน้ี (1) พอเพียง (Sufficient : S) คำ้ นยิ ำมปี พ.ศ. 2562 ควำมพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่ำงกันตำมวิธีคิด สภำพควำมพร้อมและ ควำมสำมำรถ รวมทง้ั ตำมสถำนภำพทำงเศรษฐกจิ และสังคมของบคุ คลและครอบครวั กลไกหลัก คือ ปรับวิธีคิดท่ีแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมได้อย่ำงถูกต้อง ชัดเจน และเปน็ อตั โนมัตจิ ะน้ำไปสู่จติ สำ้ นกึ ที่พอเพียง ไมก่ อบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่เบียดเบยี นผู้อน่ื ไม่ เบียดบังรัฐ ไม่รับอำมิสสินบนโดยมิต้องจ้ำกัดขอบเขตของกำรประกอบอำชีพท่ีสุจริต สำมำรถหำทรัพย์สินเงิน ทองได้ตำมควำมสำมำรถ ท้งั นี้ โดยไม่เดือดรอ้ นตนเองและผู้อนื่ (2) โปร่งใส (Transparent : T) ค้ำนิยำมปี พ.ศ. 2562 ควำมโปรง่ ใส ทำ้ ให้เหน็ ภำพหรือปรำกฏกำรณช์ ัดเจน กลไกหลกั คือ สรำ้ งควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ และวิธีสังเกตเกี่ยวกับควำมโปรง่ ใสของโครงกำรตำ่ ง ๆ (3) ตืน่ รู้ (Realize : R) ค้ำนิยำมปี พ.ศ. 2562 เมื่อบคุ คลรพู้ ิษภัยของกำรทจุ รติ และไม่ทนที่จะเห็นกำรทจุ รติ เกิดขึ้น กลไกหลัก กำรเรียนรู้สถำนกำรณ์กำรทุจริตในพ้ืนที่ ในชุมชน หรือในกรณีท่ีปรำกฏกำรทุจริต ข้ึน หรอื กรณศี กึ ษำทีเ่ กิดขน้ึ มำแลว้ และมีค้ำพิพำกษำถงึ ท่สี ุดแล้ว

148 (4) มุ่งไปขา้ งหนา้ (Onward : O) คำ้ นยิ ำมปี พ.ศ. 2562 กำรไม่มีกำรทจุ ริตของภำครฐั จะทำ้ ให้เงินภำษถี กู นำ้ ไปใช้ในกำรพัฒนำอย่ำงเต็มที่ กลไกหลัก คือ กำรป้องกันและกำรป้องปรำม ด้วยกระบวนกำรมีส่วนร่วมในกำรเฝ้ำระวังพ้ืนที่ ทีม่ ีควำมเส่ียง ในกำรทุจรติ เช่น กำรบกุ รุกพื้นทีส่ ำธำรณะ หรือเฝ้ำระวงั โครงกำรให้ด้ำเนนิ กำรด้วยควำมโปรง่ ใส (5) ความรู้ (Knowledge : N) คำ้ นิยำมปี พ.ศ. 2562 ควำมรู้ดำ้ นต่ำง ๆ มีควำมจำ้ เปน็ ตอ่ กำรป้องกนั และปอ้ งปรำมกำรทจุ ริต กลไกหลกั คอื กำรใหค้ วำมรู้ในรูปแบบกำรฝึกอบรม หรอื ให้ส่ือเรยี นรู้อย่ำงตอ่ เนื่อง เชน่ (1) ควำมรู้เกี่ยวกับรูปแบบกำรทุจริตแบบต่ำง ๆ ท้ังแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบท่ี อำจจะเกดิ ขนึ้ ในอนำคต (2) ควำมรูเ้ กีย่ วกบั กำรทุจริตในตำ่ งประเทศ (3) วธิ ีกำรปอ้ งกัน - ป้องปรำมแบบตำ่ ง ๆ (4) ควำมรเู้ ก่ียวกบั กำรเฝ้ำระวัง (5) ควำมรเู้ กย่ี วกับกฎหมำยท่เี ก่ียวขอ้ ง (6) เออื อาทร (Generosity : G) ค้ำนิยำมปี พ.ศ. 2562 กำรพฒั นำสังคมไทยใหม้ ีน้ำใจ โอบออ้ มอำรี เออื้ เฟื้อเผื่อแผ่ โดยไม่มีผลประโยชนต์ อบแทนหรือ หวังผลตอบแทน ในฐำนะเพือ่ นมนษุ ย์ กลไกหลกั กิจกรรมจติ อำสำ ช่วยเหลือบคุ คล ชุมชน/สังคมในยำมวิกฤติ หรอื กำรร่วมมือในกำร ร่วมพัฒนำชมุ ชน จำกนิยำมข้ำงต้น STRONG: จิตพอเพียงต้ำนทุจริต จึงหมำยถึง ผู้ท่ีมีควำมพอเพียง ไม่เบียดเบียน ตนเองและผู้อื่น (S) มุ่งอนำคตที่เจริญท้ังตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักควำมโปร่งใสตรวจสอบได้ (T) พ้ืนฐำนจิตใจมีมนุษยธรรมเอ้ืออำทร ช่วยเหลือเพ่ือนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ต่ำงตอบแทน ( G) ให้ควำมส้ำคัญต่อกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อกำรด้ำรงชีวิตในทำงท่ีชอบ (N) แต่ตื่นรู้เร่ืองภัยทุจริตที่ร้ำยแรง สง่ ผลตอ่ สังคม รังเกียจกำรทุจริตประพฤตมิ ิชอบท้ังปวง ไม่ยอมทนตอ่ กำรทจุ รติ ทกุ รปู แบบ (R) นอกจำกน้ี ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีกำรพัฒนำโมเดล STRONG โดยเพิ่มในเร่ืองของกำรมีส่วนร่วม (Participation) อันเป็นกลไกส้ำคัญในกำรเชื่อมโยงและขับเคลื่อนหลักกำรของโมเดล STRONG ไปสู่กำร ป้องกันกำรทุจริตได้เป็นรูปธรมอย่ำงมีประสิทธิภำพ ซ่ึงกำรเผยแพร่หลักกำรของโมเดล STRONG สู่ชุมชน จะด้ำเนินกำรโดยส้ำนักงำน ป.ป.ช. ประจ้ำจังหวัด และมีกำรคัดเลือกผู้แทน/ผู้น้ำชมุ ชนในจงั หวัดท่ีมีเครือขำ่ ย มีควำมสำมำรถและทักษะในกำรถ่ำยทอดองค์ควำมรู้มำอบรมให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับโมเดล STRONG กำรน้ำไปประยุกต์ใช้ในกำรกำรต่อต้ำนกำรทุจริต เช่น กำรคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ ส่วนรวม ควำมไม่ทนและควำมอำยตอ่ กำรทจุ รติ หลกั กำรจติ พอเพียงด้วยวธิ ีกำรที่เหมำะสม เป็นต้น เพ่ือให้ ผู้ ไดร้ บั กำรคดั เลอื กเปน็ โค้ช (coach) ถำ่ ยทอดควำมรเู้ ก่ยี วกับหลักกำรของโมเดล STRONG และกำรตอ่ ตำ้ นกำร ทุจริตให้แก่ผู้ที่อำศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีกำรจัดตั้งชมรม STRONG เพ่ือให้ทุกภำคส่วนมีควำมตระหนักรู้ เลง็ เห็นถึงควำมสำ้ คัญของปัญหำกำรทจุ รติ และมีสว่ นร่วมในกำรเฝ้ำระวงั และแจ้งเบำะแสกำรทุจรติ

149

15 4. หน่วยการเรียนรู้ เนือหาสาระ หน่วยที่ ชอื่ หนว่ ย เวลา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทรัพยากรนา้ และ (ชวั่ โมง) นา้ บาดาล ก 1 การเดนิ ทางของ 2 - เพือ่ ใหม้ คี วำมรู้ น้าผิวดิน สายนา้ ควำมเข้ำใจเกีย่ วกับ - วฏั จักรของน้ำ ทรพั ยำกรน้ำและน้ำบำดำล - ประเภทของแหลง่ - เพื่อใหส้ ำมำรถวิเครำะห์ น้ำ สภำพทรัพยำกรนำ้ และ - คณุ ค่ำและกำรใช้ นำ้ บำดำลในระดบั ภมู ภิ ำคได้ ประโยชน์ เชน่ กำร อปุ โภคบรโิ ภค กำร อุตสำหกรรม กำรเกษตร กำรชลประทำน กำรคมนำคม และกำรท่องเทีย่ ว - องค์ประกอบ ปริมำณ และคณุ ภำพ - ควำมแตกตำ่ ง ระหว่ำงภูมภิ ำค/ ภมู ศิ ำสตร์ นา้ บาดาล - ก้ำเนดิ นำ้ บำดำล - ประเภทแหลง่ น้ำ บำดำล (ชั้นทรำย หิน แข็ง หินปูน)

50 ะ วิธีการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ การประเมนิ ผล การทุจรติ / - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและข้อมลู แบบทดสอบก่อน การขัดกันแห่ง - กำร์ตนู จำกเวบ็ ไซต์ และหลังเรยี น ผลประโยชน์ - คลปิ วีดโิ อ ส้ำนกั งำนทรัพยำกร - อินโฟกรำฟฟกิ น้ำแห่งชำติ (สนทช.) - - เอกสำรและข้อมูล จำกเว็บไซต์กรม ทรัพยำกรนำ้ - เอกสำรและขอ้ มูล จำกเวบ็ ไซต์กรมทรพ ยำกรนำ้ บำดำล - เอกสำรและขอ้ มูล จำกเว็บไซตก์ รม ชลประทำน - ห้องสมุดโรงเรยี น - พิพธิ ภัณฑ์ใน ชมุ ชน/ทอ้ งถ่นิ - ผนู้ ำ้ ชมุ ชนหรอื ปรำชญ์ชุมชน

15 - องคป์ ระกอบ ปรมิ ำณ และคณุ ภำพ - ควำมแตกตำ่ ง ระหวำ่ งภมู ภิ ำค/ ภูมิศำสตร์ Tip - รหู้ รอื ไมว่ ำ่ นำ้ บำดำลทำ้ ให้ เกดิ ถ้ำ - โอเอซสิ และน้ำพุ เกิดขน้ึ ไดอ้ ย่ำงไร 2 เกดิ อะไรขึนกับสายนา้ 4 - เพอื่ ใหส้ ำมำรถวิเครำะห์ การพัฒนาและ ST ผลกระทบเชงิ บวกและ การใช้ประโยชน์ M เชงิ ลบของกำรพฒั นำ น้าผวิ ดิน ทรัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำล - กำรขุดลอกแหล่งน้ำ คว - เพ่ือใหต้ ระหนักถึง กำรขุดบอ่ กำรขดุ สระ คว ผลกระทบเชิงบวกและ - กำรสบู นำ้ จำกแหลง่ ต่อ เชงิ ลบของกำรพฒั นำ น้ำสำธำรณะเพอื่ ท้ำ ใน ทรพั ยำกรน้ำและน้ำบำดำล กำรเกษตร ทร ในระดับภมู ิภำค โดยปฏิบัติ - กำรคมนำคมทำงน้ำ ตนอยำ่ งเหมำะสมและ (คลอง แมน่ ำ้ และ ใน สื่อสำรอย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ ทะเล) ปร - กำรประมง (คลอง สำ แม่น้ำ และทะเล) สิ่ง การพัฒนาและ แห ส่ิง การใชป้ ระโยชน์ กร น้าบาดาล

51 TRONG - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและขอ้ มลู - แบบทดสอบหลัง Model - กำรอภปิ รำยกล่มุ - คลิปวดี โิ อ จำกเวบ็ ไซต์ส้ำนกั เรียนหรอื หลังท้ำ - กำรศึกษำดงู ำนหรือ - อนิ โฟกรำฟฟกิ ส่งเสรมิ และบรู ณำ กจิ กรรม S และ G : กำรทำ้ กิจกรรมส้ำรวจ - เกมส์ กำรกำรมสี ว่ นรว่ ม - กำรสงั เกตกำร วำมพอเพียงและ แหลง่ น้ำในชุมชนหรอื - กำร์ตูน ต้ำนทจุ ริต ส้ำนักงำน ปฏิบัตงิ ำนกลมุ่ / วำมเอื้ออำทร ท้องถนิ่ เชน่ แม่นำ้ ป.ป.ช. กำรอภิปรำย อกัน ลำ้ คลอง อ่ำงเกบ็ นำ้ ( STRONG Model) - กำรสงั เกต นกำรใช้ แหลง่ น้ำประปำชุมชน - เอกสำรและข้อมลู พฤติกรรม รัพยำกรนำ้ ทำ่ เรอื แหลง่ ทำ้ กำร จำกเว็บไซต์ - กำรประเมินผล R : ควำมตืน่ รู้ ประมงในชุมชนหรือ สำ้ นกั งำนทรัพยำกร งำนและตรวจ นกำรรกั ษำ ท้องถน่ิ นำ้ แห่งชำติ (สนทช.) ผลงำน ระโยชน์ - กิจกรรมกำรเกบ็ - เอกสำรและขอ้ มูล (สว่ นบคุ คล/กลมุ่ ) ำธำรณะ ไมท่ ้ิง ตัวอยำ่ งน้ำ วเิ ครำะห์ จำกเว็บไซตก์ รม งปฏกิ ลู ลงใน กลน่ิ สี ส้ำรวจกำร ทรพั ยำกรน้ำ หล่งน้ำ ไมส่ รำ้ ง บ้ำบัดน้ำเสยี ก่อน - เอกสำรและขอ้ มลู งก่อสร้ำงหรือ ปลอ่ ยลงสแู่ หล่งน้ำ จำกเวบ็ ไซตก์ รมทรพ ระท้ำกำรใด ๆ สำธำรณะ จำกฟำร์ม ยำกรน้ำบำดำล

15 - รจู้ ักบ่อบำดำล เช่น ท่ีเ บ่อตอก บอ่ วง และ ล้ำ บอ่ มำตรฐำน คุณภาพและการใช้ กำ ประโยชน์นา้ และ น้ำ นา้ บาดาลในชมุ ชน บ้ำ - ผลของกำรพฒั นำทั้ง คร ในเชงิ บวกและเชิงลบ เก - กำรใช้ประโยชนน์ ำ้ อน และนำ้ บำดำลในแต่ น้ำ ละภมู ิภำค แล การสอ่ื สาร ส่อื - กำรสือ่ สำรเพอื่ สรำ้ ง ชุม ควำมตระหนักรู้และ ปรบั พฤติกรรม 3 นกั สืบสายน้า 8 - เพอื่ ใหม้ คี วำมรูค้ วำมเข้ำใจ - กา กำรขดั กนั ของผลประโยชน์ ผล สว่ นตนและผลประโยชน์ สว่ ส่วนรวมเกยี่ วกับกำรใช้ ผล ทรพั ยำกรน้ำ และน้ำ สว่ บำดำลในชวี ติ จริง -

52 เปน็ กำรลว่ งลำ้ ปศสุ ัตว์ บอ่ กุ้ง และ - เอกสำรและขอ้ มูล ำน้ำ โรงงำนอตุ สำหกรรม จำกเว็บไซตก์ รม ฯลฯ ชลประทำน N : ควำมรใู้ น - กจิ กรรมวิศวกรน้อย - เอกสำรและข้อมลู ำรใช้ทรพั ยำกร ส้ำรวจแหล่งน้ำ จำกเวบ็ ไซต์กรม ำ/ควำมร้ใู นกำร (นำ้ ผิวดนิ /น้ำบำดำล) ควบคุมมลพิษ ำบัดน้ำเสยี จำก - เอกสำรและขอ้ มูล รัวเรอื น/ควำมรู้ จำกเว็บไซต์กรม ก่ียวกับกำรขอ โรงงำนอตุ สำหกรรม นุญำตขุดเจำะ - เอกสำรและขอ้ มลู ำบำดำล/ควำมรู้ จำกเวบ็ ไซต์กรม ละทักษะในกำร ประมง อสำรกับคนใน - เอกสำรและข้อมูล มชน จำกเว็บไซต์ กรมเจำ้ ทำ่ - ห้องสมุดโรงเรยี น - พิพธิ ภณั ฑใ์ น ชมุ ชน/ท้องถิน่ - ผนู้ ำ้ ชุมชนหรอื ปรำชญ์ชมุ ชน ารขัดกนั ของ - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและข้อมูล - แบบทดสอบหลงั ลประโยชน์ - กำรอภิปรำยกลุ่ม - ภำพยนตส์ ั้น จำกเวบ็ ไซตส์ ำ้ นกั เรยี นหรอื หลงั ท้ำ วนตวั และ - สถำนกำรณจ์ ้ำลอง หรอื คลปิ วดี โิ อ กำรขัดกันแห่ง กจิ กรรม ลประโยชน์ - โครงงำน (Project (ท้ังออนไลน์ ผลประโยชน์ - กำรสังเกตกำร วนรวม based Learning) และออฟไลน์) สำ้ นกั งำน ป.ป.ช. ปฏบิ ตั ิงำนกลมุ่ / - สถำนกำรณ์ - เอกสำรและข้อมูล กำรอภิปรำย ปญั หำ จำกเว็บไซต์

15 - เพื่อให้รเู้ ท่ำทนั กำรละเมดิ -น หรอื กำรกระทำ้ ควำมผิด คว เกย่ี วกับกำรใช้ทรัพยำกรน้ำ ปร และน้ำบำดำลในชวี ติ จริง การวิเคราะห์คณุ ภาพ ST น้าอยา่ งงา่ ย M - เพื่อใหม้ คี วำมรูค้ วำม - เคร่ืองมือในกำร -พ เขำ้ ใจ และทักษะในกำร วิเครำะห์ กร วเิ ครำะหค์ ุณภำพนำ้ (วธิ ี ทดสอบคุณภำพทำง กร วทิ ยำศำสตรด์ ้วยเครื่องมือ หรอื วธิ ีกำรอย่ำงง่ำย เชน่ no DO BOD) 4 ผ้พู ทิ กั ษส์ ายน้า 6 - เพื่อใหม้ ีเจตคติหวงแหน - ผลกระทบทเ่ี กดิ จำก ST ทรัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำล กำรใชแ้ ละพฒั นำท่ไี ม่ M โดยกำรแสดงออกถึงกำรมี ถูกต้อง สว่ นรว่ มในกำรเฝ้ำระวัง

53 นยิ ำม - ปญั หำเป็นฐำน - อินโฟกรำฟฟิก ส้ำนักงำนทรัพยำกร - กำรสังเกต วำมหมำย และ (Problem based น้ำแหง่ ชำติ (สนทช.) พฤตกิ รรม ระเภท Learning) - เอกสำร - เอกสำรและข้อมูล - กำรประเมินผล TRONG - ปรำกฎกำรเป็นฐำน - ภำพยนต์สั้น จำกเวบ็ ไซตก์ รม งำนและตรวจ Model (Phenomenon หรอื คลิปวดี โิ อ ทรพั ยำกรน้ำ ผลงำน (ส่วน พฤติกรรมท่คี วร based Learning) - เอกสำรและขอ้ มูล บคุ คล/กล่มุ ) ระท้ำและไมค่ วร - กำรยกกรณศี ึกษำ จำกเวบ็ ไซต์กรมทรพ ระท้ำ (Do/Do เช่น เรอื่ งใกลต้ ัวท่คี วร ยำกรนำ้ บำดำล - แบบทดสอบหลงั ot) รู้ กำรท้ิงส่ิงปฏิกลู ลง - ห้องสมุดโรงเรยี น เรยี นหรือหลงั ท้ำ ในแหล่งน้ำ บ่อดัก - พิพธิ ภัณฑใ์ น กจิ กรรม TRONG ไขมัน กำรเตมิ น้ำใต้ ชมุ ชน/ท้องถ่ิน Model ดนิ บ่อทง้ิ ขยะ - ผนู้ ำ้ ชุมชนหรอื - กจิ กรรม นักสบื ปรำชญช์ ุมชน สำยน้ำ เช่น เก็บ - เอกสำรและขอ้ มูล ตัวอย่ำงน้ำ วิเครำะห์ จำกเว็บไซต์ส้ำนัก กล่ิน สี ส้ำรวจกำร ส่งเสรมิ และบรู ณำ ปลอ่ ยนำ้ จำกฟำร์ม กำรกำรมสี ่วนรว่ ม โรงงำนอตุ สำหกรรม ต้ำนทุจรติ ส้ำนักงำน สำ้ รวจเล้ำหมู บ่อกุ้ง ป.ป.ช. ฯลฯ และวเิ ครำะห์วำ่ (STRONG Model) เป็นกำรขัดกันระวำ่ ง ผลประโยชน์สว่ นตวั - เอกสำรและข้อมลู และผลประโยชน์ จำกเวบ็ ไซต์ส้ำนัก หรอื ไม่ ส่งเสรมิ และบูรณำ กำรกำรมสี ว่ นรว่ ม - บรรยำย - อภปิ รำย - สถำนกำรณจ์ ำ้ ลอง

แจง้ เบำะแสกำรกระทำ้ 15 ควำมผดิ เกยี่ วกับกำรใช้ ทรพั ยำกรน้ำและน้ำบำดำล -ก คว - เพ่ือใหส้ ำมำรถแสดงออก เจ อย่ำงเหมำะสมเมอ่ื พบกำร -ก ละเมิดทรัพยำกรน้ำและนำ้ เป บำดำล Ro -ก สำ -ก แจ (ข -ผ จำ พ

54 (ทงั้ ออนไลน์ ต้ำนทจุ รติ สำ้ นักงำน - กำรสงั เกตกำร และออฟไลน์) ป.ป.ช. ปฏบิ ตั งิ ำนกลมุ่ / กำรปลกุ ฝัง - โครงงำนผู้พิทกั ษ์ - สถำนกำรณ์ (STRONG Model) กำรอภปิ รำย วำมรสู้ ึกเปน็ สำยน้ำ ปัญหำ - เอกสำรและข้อมลู - กำรสงั เกต จ้ำของ - อินโฟกรำฟฟิก จำกเวบ็ ไซต์ พฤติกรรม กำรปฏิบัติตน - เกมส์ สำ้ นักงำนทรพั ยำกร - กำรประเมนิ ผล ป็นแบบอย่ำง - กำร์ตูน น้ำแห่งชำติ (สนทช.) งำนและตรวจ ole Model - เอกสำรและขอ้ มูล ผลงำน (ส่วน กำรร่วมกิจกรรม จำกเวบ็ ไซต์กรม บุคคล/กลมุ่ ) ำธำรณประโยชน์ ทรัพยำกรน้ำ - เกณฑ์กำรให้ กำรเฝ้ำระวัง - เอกสำรและขอ้ มลู คะแนน (scoring จง้ เบำะแส จำกเวบ็ ไซต์กรมทรพ rubric) ขนั้ พ้ืนฐำน) ยำกรน้ำบำดำล ผลกระทบท่เี กดิ - ห้องสมุดโรงเรียน ำกกำรใชแ้ ละ - พพิ ธิ ภณั ฑใ์ น พฒั นำทีไ่ มถ่ ูกต้อง ชมุ ชน/ท้องถิ่น - ผนู้ ำ้ ชมุ ชนหรือ ปรำชญช์ ุมชน

155 5. แนวทางการจัดการเรียนรู้และประเมินผล กิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นกำรลงมือปฏิบัติจริง (Learning by Doing) โดยใช้วิธีกำรศึกษำด้วย ตนเอง กรณีศึกษำ กำรบรรยำย กำรฝึกปฏิบัติรำยบุคคล กำรอภิปรำยกลุ่มย่อย กำรระดมสมอง และกำร นำ้ เสนอผลงำน กำรจัดกำรเรียนรู้เชิงรกุ Active learning เนน้ ผู้เรียนเปน็ ส้ำคัญ กำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่เน้นควำมแตกต่ำง ระหว่ำงบุคคล สอดคล้องกับพัฒนำกำรทำงสมอง จัดกระบวนกำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำย กระบวนกำรเรียนรู้ท่ี จ้ำเป็นส้ำหรับกำรเตรียมเข้ำสู่โลกอนำคต เช่น เกม (Game based Learning) โครงงำน (Project based Learning) ปัญหำเป็นฐำน (Problem based Learning) ปรำกฎกำรเป็นฐำน (Phenomenon based Learning) สบื เสำะหำควำมรู้ (Inquiry based Learning) กำรวดั และประเมนิ ผล เนน้ กำรประเมินเพอื่ พัฒนำ กำรประเมินตำมสภำพจรงิ เคร่ืองมือประเมินและกลยุทธ์ทำงกำรประเมิน ที่ส่งผลต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้และกำรเรียนรู้ที่ จะช่วยให้ครูสร้ำงบรรยำกำศในกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียนในชั้นได้อย่ำงมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์กำร ประเมิน (Rubric) 2) กำรประเมินกำรปฏิบัติงำน (Performance based Assessments: PBAs) 3) กำรประเมิน จำกแฟ้มสะสมผลงำน (Portfolios Assessment) 4) กำรประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) กำร ประเมนิ เพอื่ นประเมินเพ่ือน (Peer-Assessment) 6) กำรใหข้ ้อมลู ปอ้ นกลบั แก่นักเรียน (Student Response) 6. แนวทางการน้าหลกั สตู รไปใช้ (1) เปดิ รำยวิชำเพ่ิมเติม (2) บรู ณำกำรกำรเรยี นกำรสอนกบั กล่มุ สำระกำรเรยี นร้สู งั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม (3) บรู ณำกำรกำรเรยี นกำรสอนกบั กลุ่มสำระอ่นื ๆ (4) จัดในกิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น (5) จดั เป็นกจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร (6) บรู ณำกำรกับวถิ ชี วี ติ ในโรงเรียน

156 หลักสูตรต้านทุจริตศกึ ษา เรอื่ ง การพิทักษท์ รัพยากรธรรมชาติ น้าและน้าบาดาล ส้าหรบั ระดบั อุดมศึกษา 1. ความเป็นมาของหลกั สูตร น้ำเป็นทรัพยำกรธรรมชำติท่ีมีควำมส้ำคัญต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวติ ในโลก ทั้งใช้ในกำรอุปโภคบริโภคใน ชีวิตประจ้ำวัน รวมทั้งใช้เพ่ือกำรพำณิชย์และกำรอุตสำหกรรมอีกด้วย ดังน้ัน กำรรักษำดูแลรวมถึงกำรสร้ำง จติ ส้ำนึกใหส้ ังคมมคี วำมตระหนกั ถึงคุณค่ำของน้ำจงึ เปน็ เรื่องทจ่ี ำ้ เป็น ประเทศไทยนับต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประชำชนนิยมปลูกบ้ำนอยู่ริมฝ่ังแม่น้ำ ประชำชนบำงรำย ได้มีกำรต่อแพไม้และปลูกเรือนอยู่บนแพไม้เพื่อใช้เป็นที่อยู่อำศัยริมล้ำคลอง ทั้งน้ี เพ่ือควำมสะดวกจำกกำรใช้ น้ำในกำรคมนำคมทำงน้ำ กำรท้ำเกษตรกรรม กำรค้ำขำย และบรรยำกำศริมฝั่งน้ำยังก่อให้เกิดควำมเย็นสบำย แก่ผู้ที่พักอำศัยอยู่ริมฝ่ังน้ำ จนกลำยเป็นวิถีชีวิตของคนไทยที่อยู่อำศัยร่วมกับสำยน้ำมำโดยตลอด ต่อมำเมื่อ ประเทศได้มีกำรพัฒนำมำกข้ึน โดยเปล่ียนจำกสังคมเกษตรกรรมมำเปน็ สังคมอุตสำหกรรมท้ำให้ควำมต้องกำร ใช้พ้ืนที่ริมฝ่ังแม่น้ำจึงมีสูงข้ึน จึงก่อให้เกิดกำรรุกล้ำล้ำน้ำโดยมีกำรปลูกสร้ำงส่ิงล่วงล้ำล้ำน้ำ หรือกำรใช้ ประโยชน์จำกทรัพยำกรจำกแหล่งน้ำมำกย่งิ ขึ้น ในพื้นที่อื่น ๆ ท่ีมิได้อยู่ติดแม่น้ำล้ำคลอง ประชำชนนิยมสูบน้ำบำดำลข้ึนมำใช้เพื่อกำรอุปโภคบริโภค บำงแห่งใช้น้ำบำดำลเพื่อกำรเกษตรกรรมและอุตสำหกรรม บำงพ้ืนที่มีกำรขุดเจำะแหลง่ น้ำบำดำลจ้ำนวนมำก จนก่อให้เกิดปัญหำดินทรุด หรือบำงพ้ืนท่ีได้มีกำรขุดหน้ำดินไปขำยจนพ้ืนท่ีดังกล่ำวกลำยเป็นบ่อขนำดใหญ่ จำกนน้ั ได้มีกำรน้ำขยะมำฝังกลบในบ่อ สง่ ผลให้สำรเคมจี ำกขยะปนเป้ือนลงสู่น้ำบำดำล หรอื ไหลซึมลงสู่แม่น้ำ ลำ้ คลอง คณะกรรมกำร ป.ป.ช. เคยไดร้ บั เร่ืองกลำ่ วหำร้องเรยี นเกี่ยวกบั กำรกำรใชป้ ระโยน์จำกทรัพยำกรน้ำใน ลักษณะละเมิด ไม่ว่ำจะเป็นกำรปลูกสิ่งก่อสร้ำงล่วงล้ำล้ำน้ำ กำรทิ้งส่ิงปฏิกูลลงแหล่งน้ำ หรือกรณีอ่ืน ๆ ที่ส่งผลให้เกิดควำมเสียหำยต่อทรัพยำกรน้ำ โดยมีเจ้ำหน้ำที่ของรัฐกระท้ำควำมผิดฐำนทุจริตต่อหน้ำที่ หรือ กระท้ำควำมผิดต่อต้ำแหน่งหน้ำที่รำชกำร โดยกำรละเลย เพิกเฉย หรือเอ้ือประโยชน์ให้แก่เอกชนบำงรำย ซึ่ง ไดส้ ง่ ผลกระทบรำ้ ยแรงต่อควำมม่ันคงทำงสังคม เศรษฐกจิ และส่ิงแวดลอ้ มของประเทศเป็นอยำ่ งมำก ดังน้ัน กำรพิทักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ “น้ำและน้ำบำดำล” โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง กำรป้องกันกำรทุจริต ท่ีเก่ียวข้องกับประเด็นดังกล่ำว เป็นส่ิงที่คณะกรรมกำร ป.ป.ช. ให้ควำมส้ำคัญ จึงได้สร้ำงหลักสูตรกำรเรียนรู้ ด้ำนกำรป้องกันกำรทุจริต หรือ หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ เร่ือง กำรพิทักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ น้ำและน้ำบำดำล ที่มีเน้ือหำสอดคล้องและมีประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน คือ กำรใช้ทรัพยำกรน้ำในลักษณะท่ีเปน็ กำรละเมิด (Abuse) ต่อผลประโยชน์สำธำรณะ เพื่อให้ผู้เรียนทุกระดับช้ันได้มีควำมตระหนักรู้และร่วมพิทักษ์ ทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำลตำมบทบำทหน้ำที่ของตน โดยประยุกต์ใช้ STRONG Model ในกำรเรียนกำรสอน ตลอดหลกั สตู ร โดยนกั ศกึ ษำในระดับอดุ มศึกษำ เปน็ ผู้ทมี่ ีควำมสำ้ คัญและจำ้ เป็นอย่ำงย่ิงท่ีจะต้องเรียนรู้คุณค่ำ และควำมส้ำคัญของทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล เพ่ือให้เกิดควำมรู้สึกหวงแหน และมีส่วนรวมในกำรปกป้อง รักษำทรัพยำกรน้ำ ร่วมถึงมีส่วนร่วมในกำรเฝ้ำระวังไม่ให้เกิดกำรใช้ทรัพยำกรน้ำไปในทำงที่ผิด หรือกำร แสวงหำประโยชน์จำกกำรใชท้ รัพยำกรน้ำเพอ่ื ประโยชน์สว่ นตนในชุมชน สงั คมใกล้ตวั

157 2. วัตถุประสงคข์ องหลักสูตร 2.1 เพ่อื ให้มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจเกย่ี วกบั ทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล และกำรใช้ประโยชนใ์ นทอ้ งถน่ิ ของตนเอง 2.2 เพ่ือให้สำมำรถวิเครำะห์สภำพทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำลในระดับภมู ิภำคได้ 2.3 เพื่อให้สำมำรถวิเครำะห์ผลกระทบเชงิ บวกและเชิงลบของกำรพฒั นำทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล 2.4 เพอื่ ใหต้ ระหนักถงึ ผลกระทบเชงิ บวกและเชงิ ลบของกำรพฒั นำทรัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำลใน ระดับภมู ิภำค โดยปฏิบตั ิตนอย่ำงเหมำะสม และสือ่ สำรอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ 2.5 เพื่อใหม้ คี วำมรู้ควำมเข้ำใจกำรขดั กนั ของผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมเกย่ี วกบั กำรใชท้ รัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำลในชีวติ จริง 2.6 เพื่อใหร้ เู้ ทำ่ ทันกำรละเมิด หรือกำรกระท้ำควำมผิดเกี่ยวกับกำรใช้ทรัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำลใน ชีวิตจรงิ 2.7 เพ่อื ใหม้ คี วำมรู้ควำมเข้ำใจและทักษะในกำรวิเครำะห์คุณภำพน้ำ และนำ้ ผลกำรวเิ ครำะหไ์ ปใช้ ประโยชนต์ อ่ อำชีพได้ 2.8 เพอื่ ใหม้ ีเจตคติหวงแหนทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล โดยกำรแสดงออกถงึ กำรมสี ว่ นร่วมในกำร เฝ้ำระวัง แจ้งเบำะแส กำรกระทำ้ ควำมผดิ เก่ยี วกับกำรใชท้ รัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล 2.9 เพื่อให้สำมำรถรว่ มตรวจสอบและแกไ้ ขกำรละเมดิ ทรัพยำกรนำ้ และน้ำบำดำลได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ 3. โครงสร้างเนือหาสาระ ระยะเวลา (ชว่ั โมง) ล้าดบั เนือหาสาระ 5 1 การเดนิ ทางของสายน้า 10 - แหล่งน้ำผิวดินและนำ้ บำดำลจ้ำแนกตำมภูมภิ ำคและภูมิศำสตร์ - กำรพัฒนำและผลกระทบ 15 2 เกิดอะไรขนึ กับสายนา้ - STRONG Model - Mindset และมมุ มองทม่ี ีตอ่ กำรพัฒนำทรัพยำกรน้ำและน้ำบำดำล - ผลกระทบทำงบวก - ผลกระทบทำงลบ - ควำมเสีย่ งหรือโอกำสทีเ่ กดิ กำรทุจรติ หรือไม่โปร่งใส 3 นกั สืบสายนา้ - STRONG Model - มำตรฐำนแหลง่ น้ำและน้ำบำดำล (ควำมรเู้ บื้องต้น) - กฎหมำยและกำรขออนญุ ำต(ควำมรูเ้ บ้ืองต้น) - กำรสอ่ื สำรตอ่ สงั คมชุมชน - water footprint /กำรผลิตทีม่ ีน้ำเป็นต้นทนุ

158 ระยะเวลา (ชั่วโมง) ล้าดับ เนอื หาสาระ 15 - กรอบแนวคดิ กำรขัดกนั ระหว่ำงประโยชนส์ ว่ นตนกบั ประโยชนส์ ว่ นรวม - มำตรฐำนวิชำชพี ที่เกีย่ วข้อง 45 - กฎหมำยและกำรขออนุญำต - กำรมสี ่วนรว่ มในกำรตรวจสอบ 4 ผู้พิทกั ษ์สายน้า - STRONG Model - กำรปลุกฝงั จิตส้ำนกึ และควำมรสู้ กึ เปน็ เจ้ำของ - กำรปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่ำง Role Model - กิจกรรมสำธำรณะประโยชน์ - กำรมสี ว่ นรว่ มในกำรเฝ้ำระวัง แจ้งเบำะแส รวม โมเดล STRONG เปน็ กำรนำ้ ตวั อักษรแรกของศัพท์ภำษำอังกฤษท่ีมคี วำมหมำยเชงิ บวก จ้ำนวน 6 ค้ำ มำประกอบเป็นค้ำศัพท์สื่อควำมหมำยถึง “ควำมแข็งแกร่ง” ของบุคคลและองค์กรในกำรต่อต้ำนกำรทุจริต โดยมีควำมมุ่งหวังให้ชุมชนเกิดจิตพอเพียงต้ำนทุจริต ร่วมกันพัฒนำชุมชนให้ก้ำวไปข้ำงหน้ำด้วยกำรประยุกต์และ บูรณำกำรหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงเข้ำกับควำมโปร่งใส กำรแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม กำรตระหนักรู้และใส่ใจปัญหำกำรทุจริต และร่วมกันพัฒนำชุมชนให้มีควำมเอื้ออำทรบนพ้ืนฐำนของ จริยธรรมและจิตพอเพียง ตลอดจนเกิดเครือข่ำยชุมชนจิตพอเพียงต้ำนทุจริตและเป็นแกนน้ำสร้ำงวัฒนธรรมไม่ทน ต่อกำรทุจริต ซ่ึงโมเดล STRONG ได้มีกำรสร้ำงและพัฒนำโดยรองศำสตรำจำรย์ ดร. มำณี ไชยธีรำนุวัฒศิริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 แสดงได้ดังแผนภำพ ดงั น้ี

159 * แผนภาพท่ี 1 โมเดล STRONG – จิตพอเพียงตา้ นทุจริต ปี พ.ศ. 2562 จำกแผนภำพข้ำงตน้ สำมำรถอธบิ ำยนิยำมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ำรได้ดงั นี้ (1) พอเพยี ง (Sufficient : S) คำ้ นิยำมปี พ.ศ. 2562 ควำมพอเพียงของปัจเจกบุคคล ย่อมที่ระดับที่แตกต่ำงกันตำมวิธีคิด สภำพควำมพร้อมและ ควำมสำมำรถ รวมท้งั ตำมสถำนภำพทำงเศรษฐกจิ และสงั คมของบุคคลและครอบครวั กลไกหลัก คอื ปรับวธิ คี ดิ ที่แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตวั และส่วนรวมได้อย่ำงถูกต้อง ชัดเจน และ เปน็ อัตโนมตั ิจะนำ้ ไปสู่จติ ส้ำนึกท่ีพอเพียง ไม่กอบโกยผลประโยชนโ์ ดยมิชอบ ไมเ่ บยี ดเบยี นผู้อ่นื ไมเ่ บียดบังรัฐ ไม่รับอำมิสสินบนโดยมิต้องจ้ำกัดขอบเขตของกำรประกอบอำชีพที่สุจริต สำมำรถหำทรัพย์สินเงินทองได้ตำม ควำมสำมำรถ ทงั้ น้ี โดยไมเ่ ดือดรอ้ นตนเองและผอู้ ื่น (2) โปรง่ ใส (Transparent : T) คำ้ นิยำมปี พ.ศ. 2562 ควำมโปร่งใส ทำ้ ให้เห็นภำพหรือปรำกฏกำรณ์ชัดเจน กลไกหลัก คอื สรำ้ งควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และวิธสี งั เกตเกยี่ วกับควำมโปรง่ ใสของโครงกำรต่ำง ๆ (3) ตืน่ รู้ (Realize : R) ค้ำนยิ ำมปี พ.ศ. 2562 เมื่อบุคคลรพู้ ษิ ภยั ของกำรทุจรติ และไมท่ นทีจ่ ะเหน็ กำรทุจรติ เกิดขึ้น กลไกหลัก กำรเรียนรู้สถำนกำรณ์กำรทุจริตในพ้ืนที่ ในชุมชน หรือในกรณีท่ีปรำกฏกำรทุจริต ขึ้น หรือกรณีศกึ ษำทเ่ี กิดขึ้นมำแล้วและมีคำ้ พพิ ำกษำถงึ ทีส่ ุดแลว้

160 (4) มุง่ ไปข้างหน้า (Onward : O) คำ้ นิยำมปี พ.ศ. 2562 กำรไมม่ ีกำรทจุ รติ ของภำครัฐ จะทำ้ ใหเ้ งนิ ภำษีถกู น้ำไปใชใ้ นกำรพฒั นำอยำ่ งเต็มท่ี กลไกหลัก คือ กำรป้องกนั และกำรป้องปรำม ดว้ ยกระบวนกำรมสี ว่ นรว่ มในกำรเฝำ้ ระวังพื้นที่ท่ี มคี วำมเสีย่ ง ในกำรทุจริต เช่น กำรบกุ รุกพนื้ ท่สี ำธำรณะ หรือเฝำ้ ระวังโครงกำรใหด้ ำ้ เนนิ กำรด้วยควำมโปรง่ ใส (5) ความรู้ (Knowledge : N) คำ้ นยิ ำมปี พ.ศ. 2562 ควำมรู้ด้ำนต่ำง ๆ มคี วำมจำ้ เป็นต่อกำรป้องกนั และป้องปรำมกำรทุจริต กลไกหลกั คอื กำรให้ควำมรใู้ นรปู แบบกำรฝกึ อบรม หรือให้ส่ือเรยี นรู้อย่ำงต่อเนอ่ื ง เช่น (1) ควำมรู้เก่ียวกับรูปแบบกำรทุจริตแบบต่ำง ๆ ท้ังแบบสมัยอดีต แบบปัจจุบัน และแบบที่ อำจจะเกิดข้ึนในอนำคต (2) ควำมรู้เกี่ยวกบั กำรทจุ รติ ในตำ่ งประเทศ (3) วิธกี ำรป้องกัน - ปอ้ งปรำมแบบต่ำง ๆ (4) ควำมรเู้ กี่ยวกบั กำรเฝ้ำระวงั (5) ควำมรเู้ กยี่ วกบั กฎหมำยที่เก่ียวขอ้ ง (6) เอืออาทร (Generosity : G) คำ้ นิยำมปี พ.ศ. 2562 กำรพฒั นำสังคมไทยใหม้ ีน้ำใจ โอบออ้ มอำรี เอ้อื เฟ้ือเผ่ือแผ่ โดยไมม่ ีผลประโยชน์ตอบแทนหรือ หวงั ผลตอบแทน ในฐำนะเพ่ือนมนษุ ย์ กลไกหลกั กจิ กรรมจติ อำสำ ชว่ ยเหลือบุคคล ชมุ ชน/สงั คมในยำมวิกฤติ หรือกำรรว่ มมือในกำร ร่วมพัฒนำชมุ ชน จำกนิยำมข้ำงต้น STRONG: จิตพอเพียงต้ำนทุจริต จึงหมำยถึง ผู้ท่ีมีควำมพอเพียง ไม่เบียดเบียน ตนเองและผู้อื่น (S) มุ่งอนำคตที่เจริญท้ังตนเองและส่วนรวม (O) โดยใช้หลักควำมโปร่งใสตรวจสอบได้ (T) พ้นื ฐำนจติ ใจมีมนษุ ยธรรมเอ้อื อำทร ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นมนษุ ย์โดยไม่เห็นแก่ประโยชนต์ ่ำงตอบแทน (G) ให้ ควำมส้ำคัญต่อกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือกำรด้ำรงชีวิตในทำงท่ีชอบ (N) แต่ต่ืนรู้เร่ืองภัยทุจริตที่ร้ำยแรงส่งผล ต่อสงั คม รังเกยี จกำรทุจรติ ประพฤติมชิ อบทัง้ ปวง ไมย่ อมทนตอ่ กำรทจุ ริตทุกรปู แบบ (R) นอกจำกนี้ ในปี พ.ศ. 2562 ได้มีกำรพัฒนำโมเดล STRONG โดยเพิ่มในเร่ืองของกำรมีส่วนร่วม (Participation) อันเป็นกลไกส้ำคัญในกำรเชื่อมโยงและขับเคล่ือนหลักกำรของโมเดล STRONG ไปสู่กำร ป้องกันกำรทุจริตได้เป็นรูปธรรมอย่ำงมีประสิทธิภำพ ซ่ึงกำรเผยแพร่หลักกำรของโมเดล STRONG สู่ชุมชน จะด้ำเนินกำรโดยส้ำนักงำน ป.ป.ช. ประจ้ำจังหวัด และมีกำรคัดเลือกผู้แทน/ผู้น้ำชมุ ชนในจงั หวัดท่ีมีเครอื ข่ำย มีควำมสำมำรถและทักษะในกำรถ่ำยทอดองค์ควำมรู้มำอบรมให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจเก่ียวกับโมเดล STRONG กำรน้ำไปประยุกต์ใช้ในกำรกำรต่อต้ำนกำรทุจริต เช่น กำรคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ ส่วนรวม ควำมไม่ทนและควำมอำยต่อกำรทุจริต หลักกำรจิตพอเพียงด้วยวิธีกำรท่ีเหมำะสม เป็นต้น เพ่ือให้ผู้ ได้รบั กำรคัดเลือกเปน็ โค้ช (coach) ถ่ำยทอดควำมร้เู ก่ยี วกับหลักกำรของโมเดล STRONG และกำรต่อตำ้ นกำร ทุจริตให้แก่ผู้ท่ีอำศัยอยู่ในชุมชน รวมถึงยังมีกำรจัดตั้งชมรม STRONG เพ่ือให้ทุกภำคส่วนมีควำมตระหนักรู้ เลง็ เห็นถงึ ควำมส้ำคัญของปญั หำกำรทจุ รติ และมสี ว่ นรว่ มในกำรเฝำ้ ระวังและแจง้ เบำะแสกำรทจุ ริต

161

4. หน่วยการเรยี นรู้ 16 หนว่ ยที่ ช่ือหนว่ ย เวลา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื หาสาระ (ชว่ั โมง) ทรัพยากรนา้ และ นา้ บาดาล ก ผ 1 การเดินทางของ 5 - เพอื่ ให้มีควำมรู้ นา้ ผิวดิน สายน้า ควำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั - วัฏจักรของนำ้ ทรพั ยำกรน้ำและน้ำบำดำล - ประเภทของแหล่งน้ำ และกำรใชป้ ระโยชน์ใน - คณุ ค่ำและกำรใช้ ทอ้ งถน่ิ ของตนเอง ประโยชน์ เชน่ กำร - เพ่ือใหส้ ำมำรถวเิ ครำะห์ อปุ โภคบรโิ ภค กำร สภำพทรพั ยำกรน้ำและ อตุ สำหกรรม น้ำบำดำลในระดับภูมภิ ำคได้ กำรเกษตร กำรชลประทำน กำรคมนำคม และกำรทอ่ งเท่ียว - องค์ประกอบ ปรมิ ำณ และคณุ ภำพ - ควำมแตกต่ำง ระหว่ำงภูมภิ ำค/ ภูมิศำสตร์ น้าบาดาล - ก้ำเนดิ น้ำบำดำล - ประเภทแหล่งน้ำ บำดำล (ชนั้ ทรำย หนิ แข็ง หนิ ปูน) - องคป์ ระกอบ ปริมำณ และคณุ ภำพ

62 ะ วิธีการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ การประเมนิ ผล การทุจริต/ - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบกอ่ น การขัดกนั แห่ง - กำรอภิปรำยกลมุ่ - กำรต์ ูน ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ และหลงั เรียน ผลประโยชน์ - กำรศกึ ษำดงู ำน - คลปิ วีดโิ อทง้ั สำ้ นักงำน - กำรใชค้ ้ำถำมและ แหลง่ นำ้ ผวิ ดนิ และ ออนไลน์และ ทรัพยำกรนำ้ ให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั - น้ำบำดำลในพนื้ ที่ ออฟไลน์ แหง่ ชำติ (สนทช.) - กำรสังเกตกำร - กจิ กรรมสำ้ รวจ - อินโฟ - เอกสำรและ ปฏบิ ตั งิ ำนกลมุ่ /กำร สถำนกำรณืน้ำใน กรำฟฟิก ข้อมูลจำกเว็บไซต์ อภิปรำยกลมุ่ ประเทศไทย (ตำม กรมทรพั ยำกรน้ำ - กำรสังเกตฤติกรรม ประเดน็ Hot Issue) - เอกสำรและ - กำรประเมินผลงำน ข้อมลู จำกเวบ็ ไซต์ และกำรตรวจผลงำน กรมทรัพยำกรน้ำ (สว่ นบุคคล/กลมุ่ ) บำดำล - เกณฑก์ ำรให้ - เอกสำรและ คะแนน (Scoring ขอ้ มูลจำกเวบ็ ไซต์ Rubric) กรมชลประทำน - ห้องสมดุ โรงเรียน - พิพิธภณั ฑ์ใน ชุมชน/ท้องถิ่น - ผู้น้ำชุมชนหรอื ปรำชญ์ชมุ ชน

16 - ควำมแตกต่ำง ระหวำ่ งภูมภิ ำค/ ภูมศิ ำสตร์ 2 เกดิ อะไรขนึ กบั สายน้า 10 - เพือ่ ใหส้ ำมำรถวิเครำะห์ การพัฒนาและ ST ผลกระทบเชงิ บวกและ การใช้ประโยชน์ Mo เชิงลบของกำรพัฒนำ น้าผวิ ดิน S ทรพั ยำกรนำ้ และน้ำบำดำล - กำรขดุ ลอกแหล่งน้ำ คว - เพือ่ ใหต้ ระหนกั ถึง กำรขดุ บ่อ กำรขดุ สระ คว ผลกระทบเชิงบวกและ - กำรสูบน้ำจำกแหลง่ กนั เชงิ ลบของกำรพัฒนำ น้ำสำธำรณะเพ่ือทำ้ ทร ทรัพยำกรน้ำและนำ้ บำดำล กำรเกษตร ในระดบั ภมู ภิ ำค โดยปฏบิ ตั ิ - กำรคมนำคมทำงน้ำ R ตนอย่ำงเหมำะสมและ (คลอง แม่น้ำ และ ในก สื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ ทะเล) ปร - กำรประมง (คลอง สำ สง่ิ ป แม่น้ำ และทะเล) แห การพัฒนาและ ส่ิงก การใชป้ ระโยชน์ กร นา้ บาดาล ทเี่ ป - รู้จกั บ่อบำดำล เช่น ล้ำ บอ่ ตอก บอ่ วง และ บอ่ มำตรฐำน N กำ น้ำ คณุ ภาพและการใช้ บ้ำ ประโยชน์น้าและ คร นา้ บาดาลในชมุ ชน เกย่ี อน

63 TRONG - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบหลงั ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ เรยี นหรือหลังทำ้ odel - กำรอภิปรำยกลมุ่ - คลิปวีดโิ อทง้ั สำ้ นักสง่ เสรมิ และ กจิ กรรม บูรณำกำรกำรมี - กำรสังเกตกำร S และ G : - กำรศกึ ษำดูงำนหรอื ออนไลน์และ สว่ นร่วมต้ำนทุจรติ ปฏิบตั ิงำนกลมุ่ /กำร สำ้ นกั งำน ป.ป.ช. อภปิ รำย วำมพอเพียงและ กำรท้ำกิจกรรมสำ้ รวจ ออฟไลน์ ( STRONG - กำรสังเกต Model) พฤติกรรม วำมเออ้ื อำทรต่อ แหล่งน้ำในชุมชนหรือ - อินโฟ - เอกสำรและ - กำรประเมินผลงำน ข้อมลู จำกเว็บไซต์ และตรวจผลงำน นในกำรใช้ ท้องถ่ิน เช่น แมน่ ำ้ กรำฟฟกิ ส้ำนักงำน (สว่ นบุคคล/กลมุ่ ) ทรัพยำกรน้ำ - เกณฑก์ ำรให้ รพั ยำกรนำ้ ล้ำคลอง อ่ำงเกบ็ น้ำ แห่งชำติ (สนทช.) คะแนน (Scoring - เอกสำรและ Rubric) R : ควำมตืน่ รู้ แหลง่ นำ้ ประปำชมุ ชน ข้อมลู จำกเว็บไซต์ กรมทรพั ยำกรน้ำ กำรรกั ษำ ทำ่ เรือ แหล่งท้ำกำร - เอกสำรและ ขอ้ มลู จำกเว็บไซต์ ระโยชน์ ประมงในชุมชนหรอื กรมทรพยำกรน้ำ บำดำล ำธำรณะ ไม่ท้งิ ท้องถ่ิน - เอกสำรและ ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ ปฏกิ ูลลงใน - กิจกรรมกำรเก็บ กรมชลประทำน หลง่ น้ำ ไมส่ ร้ำง ตวั อยำ่ งน้ำ วิเครำะห์ ก่อสร้ำงหรอื กล่ิน สี สำ้ รวจกำร ระทำ้ กำรใด ๆ บ้ำบัดน้ำเสยี กอ่ น ป็นกำรล่วงลำ้ ปลอ่ ยลงสแู่ หลง่ นำ้ ำนำ้ สำธำรณะ จำกฟำร์ม N : ควำมรูใ้ น ปศุสัตว์ บ่อกงุ้ และ ำรใชท้ รพั ยำกร โรงงำนอุตสำหกรรม ำ/ควำมรู้ในกำร ฯลฯ ำบัดน้ำเสียจำก รัวเรอื น/ควำมรู้ ยวกับกำรขอ นญุ ำตขดุ เจำะ

16 - ผลของกำรพัฒนำ น้ำ ทงั้ ในเชงิ บวกและ แล เชิงลบ สอื่ - กำรใชป้ ระโยชนน์ ้ำ ชุม และน้ำบำดำลในแต่ - ค ละภมู ิภำค โอก การสอ่ื สาร กำ - กำรส่อื สำรเพ่ือสรำ้ ง พฒั ควำมตระหนักร้แู ละ ปร ปรับพฤตกิ รรม ทร น้ำ กำ อน ละ รุก

64 - เอกสำรและ ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ ำบำดำล/ควำมรู้ กรมควบคุมมลพิษ ละทกั ษะในกำร - เอกสำรและ อสำรกับคนใน ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ มชน กรมโรงงำน ควำมเสีย่ งและ อตุ สำหกรรม กำสท่จี ะเกิด - เอกสำรและ ำรทุจริตจำกกำร ขอ้ มลู จำกเว็บไซต์ ฒนำหรอื กำรใช้ กรมประมง ระโยชน์ดำ้ น - เอกสำรและ รัพยำกรน้ำและ ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ ำบำลดำล เชน่ กรมเจ้ำท่ำ ำรอนุมัติ - เอกสำรและ นญุ ำต และกำร ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ ะเมดิ หรือกำรบุก ส้ำนักงำน กล้ำน้ำสำธำรณะ ทรัพยำกรธรรมชำติ และสิง่ แวดล้อม จงั หวัด (ทสจ.) - ห้องสมดุ โรงเรียน - พพิ ิธภัณฑใ์ น ชุมชน/ท้องถนิ่ - ผูน้ ้ำชุมชนหรือ ปรำชญ์ชุมชน - ชมรม Strong จิต พอเพยี งตำ้ นทจุ รติ ประจำ้ จงั หวดั

16 3 นกั สืบสายนา้ 15 - เพอ่ื ให้มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจ - มำตรฐำนแหล่งน้ำ กา กำรขัดกนั ของผลประโยชน์ และนำ้ บำดำล ผล ส่วนตนและผลประโยชน์ (ควำมร้เู บื้องต้น) สว่ สว่ นรวมเกย่ี วกับกำรใช้ - กฎหมำยทเ่ี ก่ยี วข้อง ผล ทรัพยำกรนำ้ และน้ำบำดำล และกำรขออนุญำต สว่ ในชวี ิตจริง ด้ำเนนิ กำรหรอื ใช้ - น - เพื่อให้รเู้ ทำ่ ทันกำรละเมดิ ประโยชนจ์ ำก คว หรอื กำรกระท้ำควำมผิด ทรัพยำกรน้ำและ ปร เกย่ี วกับกำรใชท้ รพั ยำกรน้ำ น้ำบำดำล (ควำมรู้ -ก และน้ำบำดำลในชวี ิตจริง เบอ้ื งตน้ ) กำ - กำรสื่อสำรตอ่ สงั คม ปร - เพ่อื ใหม้ ีควำมรูค้ วำม ชุมชน กับ เข้ำใจและทกั ษะในกำร - water footprint / ส่ว กำรผลติ ทม่ี นี ำ้ เปน็ วเิ ครำะหค์ ณุ ภำพน้ำ และ ต้นทนุ ST น้ำผลกำรวิเครำะหไ์ ปใช้ - มำตรฐำนวชิ ำชพี ที่ Mo ประโยชนต์ ่ออำชพี ได้ เกี่ยวขอ้ ง -พ กร กร no -ก กำ ละ กร เกี่ย ทร น้ำ

65 ารขัดกนั ของ - กำรบรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบหลัง ลประโยชน์ - กำรอภปิ รำยกลุ่ม - ภำพยนต์ส้ัน ข้อมลู จำกเวบ็ ไซต์ เรียนหรือหลังทำ้ วนตวั และ - สถำนกำรณจ์ ำ้ ลอง หรือคลิปวดี ิโอ สำ้ นักกำรขดั กนั กจิ กรรม ลประโยชน์ - โครงงำน (Project (ทั้งออนไลน์ แห่งผลประโยชน์ - กำรสงั เกตกำร วนรวม based Learning) และออฟไลน)์ ส้ำนักงำน ป.ป.ช. ปฏิบตั ิงำนกลมุ่ / นิยำม - ปญั หำเปน็ ฐำน - สถำนกำรณ์ - เอกสำรและ กำรอภปิ รำย วำมหมำย และ (Problem based ปญั หำ ข้อมลู จำกเวบ็ ไซต์ - กำรสงั เกต ระเภท Learning) - อนิ โฟ ส้ำนกั งำน พฤติกรรม กรอบแนวคิด - ปรำกฎกำรเปน็ ฐำน กรำฟฟกิ ทรัพยำกรนำ้ - กำรประเมินผลงำน ำรขัดกันระหว่ำง (Phenomenon แหง่ ชำติ (สนทช.) และตรวจผลงำน ระโยชนส์ ว่ นตน based Learning) - เอกสำรและ (ส่วนบคุ คล/กลมุ่ ) บประโยชน์ - กำรยกกรณศี กึ ษำ ข้อมลู จำกเว็บไซต์ วนรวม เช่น เรอื่ งใกล้ตวั ท่ี กรมทรพั ยำกรน้ำ TRONG ควรรู้ กำรทิ้งส่งิ ปฏกิ ูล - เอกสำรและ odel ลงในแหลง่ น้ำ บอ่ ดกั พฤตกิ รรมทค่ี วร ไขมัน กำรเตมิ น้ำใตด้ นิ ขอ้ มลู จำกเวบ็ ไซต์ ระทำ้ และไมค่ วร บอ่ ทงิ้ ขยะ ระทำ้ (Do/Do - กิจกรรมนกั สืบ กรมทรพยำกร ot) สำยน้ำ เชน่ เกบ็ กำรมีส่วนร่วมใน ตัวอยำ่ งนำ้ วเิ ครำะห์ น้ำบำดำล ำรตรวจสอบกำร กลนิ่ สี สำ้ รวจกำร ะเมิดหรือกำร ปลอ่ ยนำ้ จำกฟำรม์ - เอกสำรและ ระท้ำควำมผิด โรงงำนอตุ สำหกรรม ยวกับกำรใช้ สำ้ รวจเล้ำหมู บอ่ กงุ้ ขอ้ มูลจำกเว็บไซต์ รัพยำกรน้ำและ ฯลฯ และวเิ ครำะหว์ ำ่ ำบำดำล เป็นกำรขดั กนั ระว่ำง กรมเจ้ำทำ่ ผลประโยชน์ส่วนตวั - เอกสำรและ ขอ้ มลู จำกเว็บไซต์ ส้ำนักงำน ทรัพยำกรธรรมชำติ และสง่ิ แวดลอ้ ม จังหวดั (ทสจ.) - หอ้ งสมดุ โรงเรยี น

16 4 ผพู้ ทิ กั ษ์สายนา้ 15 - เพือ่ ให้มีเจตคตหิ วงแหน - ผลกระทบทเ่ี กดิ จำก ST ทรพั ยำกรนำ้ และนำ้ บำดำล กำรใชแ้ ละพฒั นำที่ Mo โดยกำรแสดงออกถงึ กำรมี ไม่ถูกตอ้ ง -ก ส่วนรว่ มในกำรเฝ้ำระวัง คว แจง้ เบำะแสกำรกระท้ำ เจ้ำ ควำมผดิ เกี่ยวกับกำรใช้ -ก ทรพั ยำกรนำ้ และนำ้ บำดำล เป็น - เพือ่ ให้สำมำรถรว่ ม Ro ตรวจสอบและแกไ้ ขกำร -ก ละเมิดทรัพยำกรน้ำและน้ำ สำ บำดำลได้อย่ำงมี -ก ประสิทธภิ ำพ แจ พ้ืน

66 และผลประโยชน์ - พพิ ธิ ภัณฑใ์ น หรือไม่ ชุมชน/ท้องถน่ิ - ผนู้ ้ำชมุ ชนหรอื ปรำชญ์ชมุ ชน - เอกสำรและ ข้อมูลจำกเว็บไซต์ ส้ำนกั ส่งเสรมิ และ บรู ณำกำรกำรมี สว่ นรว่ มตำ้ นทจุ ริต สำ้ นักงำน ป.ป.ช. (STRONG Model) - ชมรม Strong จติ พอเพยี งตำ้ นทุจริต ประจำ้ จังหวดั TRONG - บรรยำย - เอกสำร - เอกสำรและ - แบบทดสอบหลงั - ภำพยนต์ส้ัน odel - อภิปรำย หรอื คลิปวดี ิโอ ข้อมลู จำกเว็บไซต์ เรยี นหรอื หลังทำ้ (ทงั้ ออนไลน์ กำรปลกุ ฝัง - สถำนกำรณจ์ ำ้ ลอง และออฟไลน)์ สำ้ นักส่งเสรมิ และ กิจกรรม - สถำนกำรณ์ วำมรสู้ ึกเป็น - โครงงำนผพู้ ิทักษ์ ปญั หำ บรู ณำกำรกำรมี - กำรสงั เกตกำร - อนิ โฟ ำของ สำยน้ำ กรำฟฟิก สว่ นรว่ มตำ้ นทจุ ริต ปฏิบัติงำนกลมุ่ / - เกมส์ กำรปฏิบตั ติ น - กำรต์ ูน ส้ำนกั งำน ป.ป.ช. กำรอภปิ รำย นแบบอยำ่ ง (STRONG Model) - กำรสงั เกต ole Model - เอกสำรและ พฤตกิ รรม กำรร่วมกจิ กรรม ข้อมูลจำกเวบ็ ไซต์ - กำรประเมนิ ผลงำน ำธำรณประโยชน์ สำ้ นกั งำน และตรวจผลงำน กำรเฝ้ำระวัง ทรพั ยำกรน้ำ (สว่ นบุคคล/กลมุ่ ) จง้ เบำะแส (ข้ัน แห่งชำติ (สนทช.) - เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน นฐำน) (scoring rubric)

16 -ผ จำก พัฒ

67 - เอกสำรและ ข้อมลู จำกเว็บไซต์ ผลกระทบท่เี กดิ กรมทรพั ยำกรน้ำ กกำรใชแ้ ละ - เอกสำรและ ฒนำที่ไม่ถูกตอ้ ง ข้อมูลจำกเว็บไซต์ กรมทรพยำกรน้ำ บำดำล - เอกสำรและ ข้อมลู จำกเว็บไซต์ กรมเจำ้ ท่ำ - เอกสำรและ ขอ้ มูลจำกเวบ็ ไซต์ สำ้ นักงำน ทรัพยำกรธรรมชำติ และสง่ิ แวดลอ้ ม จังหวัด (ทสจ.) - หอ้ งสมุดโรงเรียน - พิพธิ ภณั ฑใ์ น ชมุ ชน/ทอ้ งถ่นิ - ผู้นำ้ ชุมชนหรอื ปรำชญช์ มุ ชน

168 5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้และประเมนิ ผล กิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเน้นกำรลงมือปฏิบัติจริง (Learning by Doing) โดยใช้วิธีกำรศึกษำด้วย ตนเอง กรณีศึกษำ กำรบรรยำย กำรฝึกปฏิบัติรำยบุคคล กำรอภิปรำยกลุ่มย่อย กำรระดมสมอง และกำร นำ้ เสนอผลงำน กำรจดั กำรเรยี นรู้เชงิ รุก Active learning เน้นผ้เู รียนเปน็ สำ้ คญั กำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่เี นน้ ควำมแตกต่ำง ระหว่ำงบุคคล สอดคล้องกับพัฒนำกำรทำงสมอง จัดกระบวนกำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำย กระบวนกำรเรียนรู้ที่ จ้ำเป็นส้ำหรับกำรเตรียมเข้ำสู่โลกอนำคต เช่น เกม (Game based Learning) โครงงำน (Project based Learning) ปัญหำเป็นฐำน (Problem based Learning) ปรำกฎกำรเป็นฐำน (Phenomenon based Learning) สบื เสำะหำควำมรู้ (Inquiry based Learning) กำรวัดและประเมินผล เนน้ กำรประเมินเพื่อพฒั นำ กำรประเมนิ ตำมสภำพจรงิ เครื่องมือประเมินและกลยุทธ์ทำงกำรประเมิน ที่ส่งผลต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้และกำรเรียนรู้ที่ จะช่วยให้ครูสร้ำงบรรยำกำศในกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียนในช้ันได้อย่ำงมีประสิทธิผล อันได้แก่ 1) เกณฑ์กำร ประเมิน (Rubric) 2) กำรประเมินกำรปฏิบัติงำน (Performance based Assessments: PBAs) 3) กำรประเมิน จำกแฟ้มสะสมผลงำน (Portfolios Assessment) 4) กำรประเมินตนเอง (Student self-assessment) 5) กำรประเมินเพ่ือนประเมินเพ่ือน (Peer-Assessment) 6) กำรให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักเรียน (Student Response) 6. แนวทางการน้าหลักสูตรไปใช้ (1) จัดทำ้ เป็น 1 รำยวชิ ำ จำ้ นวน 3 หนว่ ยกติ (2) จัดท้ำเป็นหน่วยกำรเรียนรู้ โดยอำจำรย์ผู้สอนสำมำรถน้ำเน้ือหำใหม่ในหน่วยกำรเรียนรตู้ ่ำง ๆ ไปปรับใช้/ประยุกต์ใช้ในรำยวิชำของตนเอง (3) จัดทำ้ เปน็ วิชำเลือก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook