เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 251 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò วเิ คราะหแ หงนามกติ ก ศพั ททุกตัวท่ีจะสำเร็จรปู เปนนามกิตกได ยอ มตองมกี ารต้งั วเิ คราะห คือแยก ใหเห็นรูปเดิมของศัพทน้ันๆ เสียกอน จึงจะสำเร็จรูปเปนสาธนะได ท้ังท่ีเปนนามนาม และคุณนาม เพราะฉะนั้น ปจจัยท้ัง ๓ พวกดังที่กลาวมาแลว ซ่ึงทานจัดไวเปน เคร่ืองหมายรูปและสาธนะน้ัน จึงจำตองมีการตั้งวิเคราะหดวยกันทุกตัว ตามหนาท่ี และอำนาจที่ปจ จยั นน้ั ๆ จะพงึ มีไดอยางไร ซ่ึงจะไดแสดงดงั ตอ ไป น้:ี - ปจ จัยนามกติ กใ นหมวดกิตปจ จยั กฺวิ ปจจยั ปจ จยั ตัวน้ี เมอื่ ลงประกอบกับธาตุแลว โดยมากมักลงทง้ิ เสียไมป รากฏรปู ให เห็น จึงเปน การยากที่จะสังเกตได แตกม็ หี ลักพอท่จี ะกำหนดรไู ดบ า ง คอื :- ๑. ใชล งในธาตุทีม่ บี ทอ่ืนนำหนาเสมอ. ๒. ถา ลงในธาตตุ วั เดยี วคงไว ไมล บธาตุ. ๓. ถา ลงในธาตุสองตัวขนึ้ ไป ลบท่สี ดุ ธาตุ. ๔. เฉพาะ วิทฺ ธาตุ ไมล บที่สดุ ธาตุ แตต อ งลง อู อาคม ๑. ที่วา ใชลงในธาตุท่ีมบี ทอ่ืนนำหนา เสมอ นัน้ หมายความวา ธาตทุ ่ี จะใชลงปจ จยั น้ี ตอ งมีศัพทอื่นเปน บทหนา ของธาตุ คือ เปนนามนามบาง คุณนามบา ง สพั พนามบา ง อุปสัคบา ง นบิ าตบา ง. ก. นามนามเปนบทหนา เชน ภชุ โค สัตวไ ปดว ยขนด (พญานาค) ภชุ บท หนา คมฺ ธาตุ ลง กวฺ ิ และลบทีส่ ดุ ธาตเุ สีย ต้งั ว.ิ วา ภเุ ชน คจฉฺ ตี-ติ ภชุ โค. (สัตวใ ด) ยอมไป ดวยขนด เหตุน้ัน (สัตวนั้น) ชื่อวา ภุชโค (ผูไปดวยขนด) หรือ เชน อุรโค ดงั ท่ที านยก อุ. ไวใ นแบบ. ข. คุณนามเปน บทหนา เชน ตรุ โค สัตวไ ปเร็ว (มา ) ตรุ บทหนา คมฺ ธาตุ ลบ กฺวิ และลบท่สี ุดธาตุเสีย ตั้ง ว.ิ วา ตรุ คจฺฉตี-ติ ตรุ โค. (สัตวใ ด) ยอมไปเร็ว เหตุ น้นั (สัตวน นั้ ) ชอื่ วา ตรุ โค (ผูไปเรว็ ). 251
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 252 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ค. สัพพนามเปนบทหนา เชน สพฺพาภภิ ู ผูครอบงำซึง่ ธรรมทง้ั ปวง สพพฺ + อภิ บทหนา ภู ธาตุ ลบ กวฺ ิ คงธาตไุ วต ามรปู เดมิ ตงั้ ว.ิ วา สพพฺ อภภิ วต-ี ติ สพพฺ อภภิ ู แลว เขา สนธเิ ปน สพพฺ าภภิ .ู (พระผมู พี ระภาคเจา ใด) ยอ มทรงครอบงำ ซง่ึ ธรรมทง้ั ปวง เหตุนนั้ (พระผูม พี ระภาคเจา นัน้ ) ชือ่ วา สพฺพาภภิ ู (ผูทรงครอบงำซึ่งธรรมทงั้ ปวง). ง. อปุ สคั เปน บทหนา เชน อภภิ ู (ผเู ปน ยงิ่ ) อภิ บทหนา ภู ธาตุ ลบ กวฺ ิ คง ธาตไุ วต ามรปู เดมิ ตง้ั ว.ิ วา อภิ วสิ ฏิ เ น ภวต-ี ติ อภภิ .ู (พระผมู พี ระภาคเจา ใด) ยอ ม เปน ยงิ่ คอื วา โดยยงิ่ เหตนุ น้ั (พระผมู พี ระภาคเจา นน้ั ) ชอ่ื วา อภภิ ู (ผเู ปน ยงิ่ ) ในที่น้ี อภิ ไขความออก เปน วิสิฏเน ตามลักษณะการตงั้ วิเคราะห จ. นิบาตเปนบทหนา เชน สยมฺภู (ผูเปนเอง) สย (เอง)เปนบทหนา ภู ธาตุ ลบ กวฺ ิ และคงธาตุไวตามรปู เดมิ พงึ ดูวิเคราะหใ นแบบ. ๒. ลงในธาตตุ ัวเดยี วคงไว ไมล บธาตุ หมายความวา ถาธาตทุ ล่ี งปจ จยั นี้ เปนธาตุตัวเดยี ว ใหคงธาตุตวั นนั้ ไว ไมลบ เชน อภภิ ู สยมฺภู. ดังท่ีตง้ั วิ. ใหดแู ลว ขา ง ตน . หรือเชนคำวา มารชิ (ผชู นะมาร) มาร บทหนา ชิ ธาตุในความชนะ วิ. วา มาร ชนิ าตี-ติ มารชิ (พระผูมีพระภาคเจาใด) ยอมชนะ ซึ่งมาร เหตุนน้ั (พระผมู พี ระภาคเจา น้นั ) ชอ่ื วา มารชิ (ผชู นะซ่งึ มาร). ๓. ลงในธาตสุ องตัวขน้ึ ไป ตอ งลบที่สุดธาตุ หมายความวา ถา ธาตทุ ่จี ะ ลงปจจัยนี้มีสองตัวข้ึนไป ใหลบเสียตัวหน่ึง และตัวท่ีถูกลบนั้นตองเปนตัวอยูขางหลัง เชน อุรโค, ตุรโค, ภุชโค ดังทีต่ งั้ ว.ิ ใหดแู ลวขา งตน . ๔. เฉพาะ วิทฺ ธาตุ ไมลบท่ีสุดธาตุ แตตองลง อู อาคม เชน สพฺพวิทู (ผรู ซู ึ่งสิง่ ทงั้ ปวง), โลกวทิ ู (ผรู ูซ่งึ โลก) เปนตน สพพฺ วิทู เปน สพพฺ บทหนา วิทฺ ธาตุ ในความรู ต้ัง วิ. วา สพฺพ วิทตี-ติ สพฺพวิทู. (พระผูมีพระภาคเจาใด) ยอมทางรู ซ่งึ ธรรมท้งั ปวง เหตนุ นั้ (พระผูมพี ระภาคเจานั้น) ช่ือวา สพพฺ วทิ ู (ผรู ซู ่งึ ธรรมท้ังปวง). โลกวิทู เปน โลก บทหนา วิทฺ ธาตุ วิ. วา โลก วิทตี-ติ โลกวทิ ู (พระผูมี พระภาคเจาใด) ยอมทรงรู ซ่ึงโลก เหตุนั้น (พระผูมีพระภาคเจาน้ัน) ชื่อวา โลกวิทู (ผูท รงรซู ่งึ โลก). พงึ สังเกตในบทนสี้ ำหรบั วทิ ฺ ธาตุ ในเวลาต้ังวเิ คราะห ทานมกั ใช า ธาตุ มี วิ เปนบทหนาแทน ซ่ึงแปลวา รูแจง เหมือนกัน.ปจจัยนี้เปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะ 252
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 253 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò และใชเปนคุณนามอยางเดียวนำไปแจกในวิภัตตินามไดทั้ง ๒ ลิงค เปลี่ยนแปลงไป ตามตวั นามนามนัน้ ๆ. ณี ปจจัย ปจจัยนี้ลงประกอบกับธาตุแลว ลบ ณ เสีย เหลือไวแตสระ อี และมีอำนาจ ใหทฆี ะและพฤทธิ์ตนธาตทุ ี่เปนรสั สะ เพราะเปน ปจ จยั ท่ีเนื่องดว ย ณ เม่อื จะกลา วตาม หลกั เกณฑของปจจยั น้ี กอ็ าจจะยอมกลา วไดด งั นี้ คอื :- ๑. ตน ธาตุเปนรสั สะ มีอำนาจพฤทธ์ิตน ธาตุได. ๒. ตนธาตเุ ปน ทฆี ะ หรอื มตี ัวสะกด หา มมิใหพฤทธ.ิ์ ๓. มอี ำนาจใหแ ปลงตัวธาตุ หรอื พยญั ชนะทีส่ ุดธาตไุ ด. ๔. ถาธาตุมี อา เปนท่ีสดุ ตองแปลงเปน อาย. อนง่ึ ปจ จยั นโี้ ดยมากใชล งในตสั สลี สาธนะ และเปน สมาสรปู ตสั สลี สาธนะไดด ว ย. ๑. พฤทธติ์ นธาตทุ ่ีเปนรัสสะ นั้น คือ ถาธาตุเปนรสั สะ เชน วท,ฺ กร,ฺ จรฺ เปน ตน เม่ือลง ณี ปจ จัยแลว ตองพฤทธ์ติ น ธาตุ เชน พฤทธิ์ อ เปน อา, อิ เปน เอ, อุ เปน อุ หรอื เปน โอ. ก. พฤทธ์ิ อ เปน อา เชน ปฺุการี ปฺุ (บุญ) บทหนา กรฺ ธาตุ ลง ณี ลบ ณ เสียคงไวแต อี แลวพฤทธ์ิ อ เปน อา ตั้ง วิ. วา ปฺุ กโรติ สีเลนา-ติ ปุ ฺการ.ี (ชนใด) ยอ มทำซึง่ บุญ โดยปกติ เหตนุ น้ั (ชนน้นั ) ช่อื ปฺุการี (ผทู ำซงึ่ บญุ โดยปกต)ิ , หรอื ตง้ั เปน สมาสรปู ตสั สลี สาธนะวา ปุ ฺ กาตุ สลี -มสสฺ า-ติ ปุ ฺ การ.ี การทำซง่ึ บญุ เปน ปกตขิ องชนนนั้ เหตนุ นั้ (ชนนน้ั ) ชอื่ วา ปุ ฺ การ.ี (ผมู กี ารทำซ่งึ บญุ เปน ปกติ). ข. พฤทธิ์ อิ เปน เอ เชน สนธฺ ิจฺเฉที สนธฺ ิ (ท่ีตอ) บทหนา ฉทิ ฺ ธาตุ ลง ณี ลบ ณ เสียคงไวแต อี พฤทธิ์ อิ ท่ี ฉิทฺ เปน เอ ต้ัง วิ. วา สนฺธึ ฉินฺทติ สีเลนา-ติ สนธฺ จิ เฺ ฉท.ี (ชนใด) ยอมตัดซึ่งที่ตอ โดยปกติ เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ชื่อวา สนธฺ ิ ฉนิ ทฺ ติ ุ สลี มสฺสา-ติ สนธฺ จิ เฺ ฉที การตดั ซง่ึ ทตี่ อ เปน ปกติ ของชนนนั้ เหตนุ นั้ (ชนน้นั ) ช่อื วา สนฺธิจเฺ ฉที (ผูมกี ารตัดซึง่ ท่ตี อ เปนปกต)ิ ซอน จฺ หลงั สนธฺ ิ เพราะมี ฉ อยูเบ้อื งหลัง ตามลักษณะของสนธิ. 253
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 254 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ค. พฤทธ์ิ อุ เปน อู เชน ธมมฺ รจู ี ธมมฺ (ธรรม) เปน บท หนา รจุ ฺ ธาตุ ลง ณี ลบ ณ คงไวแ ต อี ทฆี ะ อุ ที่ รุ เปน อู ตัง้ ว.ิ วา ธมมฺ โรเจติ สเี ลนา-ติ ธมมฺ รูจ.ี (ชน ใด) ยอมชอบใจ ซึ่งธรรม โดยปกติ เหตุนน้ั (ชนนนั้ ) ชื่อวา ธมมฺ รูจี (ผูช อบใจซงึ่ ธรรม โดยปกติ), หรือต้ังเปนสมาสรูปตัสสีลสาธนะวา ธมมฺ โรเจตุ สลี มสสฺ มา-ติ ธมฺมรูจี. ความชอบใจ ซึ่งธรรม เปนปกติ ของชนนั้น เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ช่ือวา ธมฺมรูจี (ผูมี ความชอบใจซึง่ ธรรมเปนปกต)ิ . ง. พฤทธิ์ อุ เปน โอ เชน กามโภคี กาม (กาม) เปนบทหนา ภชุ ฺ ธาตุ ลง ณี เสยี คงไวแ ต อี พฤทธิ อุ ที่ ภุ เปน โอ แปลง ชฺ เปน คฺ ตงั้ ว.ิ วา กาม ภุ ชฺ ติ สีเลนา-ติ กามโภคี. (ชนใด) ยอมบริโภค ซ่ึงกาม โดยปกติ เหตุน้ัน (ชนนั้น) ชื่อวา กามโภคี (ผูบริโภคซ่ึงกามโดยปกติ). หรือต้ังเปนสมาสรูปตัสสีลสาธนะวา กาม ภฺุชิตุ สีลมสฺสา-ติ กามโภคี การบริโภค ซึ่งกาม เปนปกติ ของชนน้ัน เหตุนั้น (ชนน้ัน) ชื่อวา กามโภคี (ผูมีการบริโภคซงึ่ กามเปนปกต)ิ . ๒. ตนธาตุเปนทีฆะหรือมีตัวสะกด หามมิใหพฤทธิ์ หมายความวา อักษรตัวหนาธาตุเปนทีฆะ คือเปนสระยาวอยูแลว เชน ภาสฺ, ชีวฺ เปนตน หรือท่ีมี ตัวสะกดซ่ึงเรียกวา พยัญชนะสังโยค. เชน ลกฺข, จินฺต, มนฺต เปนตน เหลานี้ ไมตอ งพฤทธิ์ ก. ตนธาตุเปนทีฆะ เชน สุภาสิตภาสี สุภาสิต (คำอันเปนสุภาษิต) เปน บทหนา ภาสฺ ธาตุ ลง ณี ลบ ณ เสียคงไวแต อี ต้ัง ว.ิ วา สภุ าสติ ภาสติ สเี ลนา-ติ สภุ าสติ ภาส.ี (ชนใด) ยอ มกลา ว ซงึ่ คำอนั เปน สภุ าษติ โดยปกติ เหตนุ น้ั (ชนน้ัน) ช่ือวา สุภาสติ ภาสี (ผกู ลา วซ่ึงคำอนั เปนสุภาษติ โดยปกต)ิ , หรือตั้งเปน สมาสรปู ตัสสีลสาธนะ วา สุภาสิต ภาสิตุ สีลมสฺสา-ติ สุภาสิตภาสี. การกลาว ซึ่งคำอันเปนสุภาษิต เปน ปกติ ของชนนั้น เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ช่ือวา สุภาสิตภาสี (ผูมีการกลาวซึ่งคำอันเปน สุภาษติ เปนปกติ). ข. ตนธาตุมีพยัญชนะสังโยค เชน วาจานุรกฺขี วาจา (วาจา) บทหนา รกฺข ธาตุ ลง ณี ลบ ณ เสียคงไวแต อี ต้ัง. วิ. วา วาจ อนุรกฺขติ สีเลนา-ติ วาจานุรกฺขี. (ชนใด) ยอมตามรักษา ซึ่งวาจาโดยปกติ เหตุน้ัน (ชนนั้น) ช่ือวา วานานุรกฺขี (ผูตามรักษาซ่ึงวาจาโดยปกติ). หรอื ตง้ั เปนสมาสรปู ตัสสีลสาธนะวา วาจํ 254
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 255 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò อนุรกฺขิตุ สลี มสสฺ า-ติ วาจานรุ กฺขี การตามรกั ษา ซึง่ วาจา เปน ปกติ ของชนน้ัน เหตุ นั้น (ชนน้นั ) ชื่อวา วาจานรุ กฺขี (ผมู ีการตามรกั ษาซึง่ วาจาเปนปกต.ิ ) ๓. มอี ำนาจใหแ ปลงตวั ธาตุ หรอื พยญั ชนะทส่ี ดุ ธาตไุ ด หมายความวา เมอื่ ธาตเุ ดมิ เปน เชน ไร ไมค งไวต ามรปู เดมิ แตแ ปลงใหผ ดิ จากรปู แหง ธาตเุ ดมิ ไปเสยี เชน ภยทสฺสี (ผูเ หน็ ซง่ึ ภัยโดยปกต)ิ เดมิ เปน ภย (ภัย) บทหนา ทสิ ฺ ธาตุ แปลง ทสิ ฺ เปน ทสสฺ , ปาณฆาตี (ผฆู า ซงึ่ สตั วโ ดยปกต)ิ เดมิ เปน ปาณ (สตั ว) บทหนา หนฺ ธาตุ แปลง หนฺ เปน ฆาตฺ แตการแปลธาตุเชนนี้แมในอาขยาตก็มีอำนาจแปลงไดเชนเดียวกัน ภยทสฺสี ตง้ั ว.ิ วา ภย ปสฺสติ สเี ลนา-ติ ภยทสสฺ ี. (ชนใด) ยอ มเหน็ ซงึ่ ภยั โดยปกติ เหตนุ น้ั (ชนนนั้ ) ชอื่ วา ภยทสสฺ ี (ผเู หน็ ซง่ึ ภยั โดยปกต)ิ . ปาณฆาตี ตัง้ ว.ิ วา ปาณ หนติ สีเลนา-ติ ปาณฆาตี. (ชนใด) ยอมฆา ซ่ึง สัตว โดยปกติ เหตุนน้ั (ชนนั้น) ชอ่ื วา ปาณฆาตี (ผูฆา ซ่ึงสัตวโ ดยปกต)ิ . ๔. ธาตุมี อา เปน ทส่ี ดุ แปลงเปน อาย หมายความวา ธาตตุ ัวใดทีม่ ีสระ อา อยูหลัง ใหแปลงเปนอาย เสมอไป เชน อทินฺนาทายี เดิมเปน อทินฺน (ของที่ เขาไมใ ห) อา บทหนา ทา ธาตุ แปลง อา ที่ ทา เปน อาย ลง ณี ปจ จัย ลบ ณ เสีย มชฺชปายี เดมิ เปน มชชฺ (น้ำเมา) บทหนา ปา ธาตุ แปลง อา ที่ ปา เปน อาย ลง ณี ปจ จัย ลบ ณ เสีย. ก. อทินนฺ าทายี ตง้ั ว.ิ วา อทนิ ฺน อาทยิ ติ สีเลนา-ติ อทนิ นฺ าทายี (ชนใด) ยอ มถือเอา ซึ่งสิง่ ของทเ่ี ขาไมให โดยปกติ เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ชื่อวา อทินฺนาทายี (ผูถอื เอา ซ่ึงส่ิงของท่ีเขาไมใหโดยปกติ), หรือต้ังเปนสมาสรูปตัสสีลสาธนะวา อทินฺน อาทาตุ สีลมสฺสา-ติ อทินฺนาทานี การถือเอา ซึ่งสิ่งของท่ีเขาไมให เปนปกติ ของชนนั้น เหตุน้ัน (ชนน้นั ) ชื่อวา อทินฺนาทายี (ผมู กี ารถือเอาซ่งึ สง่ิ ของท่เี ขาไมใหเปนปกติ). ข. มชชฺ ปายี ต้งั วิ. วา มชฺช ปว ติ สีเลนา-ติ มชชฺ ปายี (ชนใด) ยอ มด่มื ซ่ึง น้ำเมา โดยปกติ เหตุน้ัน (ชนนั้น) ช่ือวา มชฺชปายี (ผูด่ืมซ่ึงน้ำเมาโดยปกติ). หรือ ตัง้ เปน สมาสรูป ตสั สลี สาธนะวา มชชฺ ปาตุ สีลมสฺสา-ติ มชชฺ ปายี. การดืม่ ซ่งึ น้ำเมา เปนปกติ ของชนน้ัน เหตุน้ัน (ชนนนั้ ) ชอื่ วา มชฺชปายี (ผูม ีการดื่มซง่ึ นำ้ เมาเปน ปกต)ิ . ปจจัยนี้ เม่ือลงสำเร็จรูปแลว เปนคุณนามลวน แจกไดท้ัง ๓ ลิงค คือ เปน ปงุ ลงิ ค แจกตามแบบ อี การันต (เสฏ ี), ถาเปน อิตถีลงิ ค ลง อนิ ี ปจจัย เชน กามโภคี 255
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 256 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) เปน กามโภคินี, ธมฺมจารี เปน ธมฺมจารินี เปนตน, แลวแจกตามแบบ อี การันต อติ ถลี ิงค (นารี), ถาเปน นปุงสกลิงค ตองรัสสะ อี เปน อิ เชน กามโภคี เปน กามโภค,ิ ธมฺมจารี เปน ธมฺมจาริ เปนตน แลวแจกตามแบบ อิ การนั ต นปงุ สกลิงค (อกขฺ )ิ . ปจ จยั นเี้ ปน ไดเ ฉพาะกตั ตรุ ปู กตั ตสุ าธนะอยา งเดยี ว. ณฺวุ ปจจยั ปจ จยั น้ี เมือ่ ลงประกอบกับธาตุแลว มักแปลงรูปเปนอยา งอ่นื คือ แปลงเปน อก บา ง เปน อานนก บาง และมีอำนาจเชน เดียวกับ ณี เพราะเปนปจ จยั ที่เน่อื งดว ย ณ เมอ่ื จะกลาวโดยหวั ขอ กค็ ือ :- ๑. ตอ งแปลง ณฺวุ เปน อก ในธาตทุ ้งั ปวง. ๒. เฉพาะ า ธาตุ ใหแ ปลงเปน อานนก. ๓. ตนธาตเุ ปนรัสสะ ใหพ ฤทธ์ิได. ๔. ตน ธาตเุ ปนทีฆะหรอื มีตัวสะกด หามมิใหพ ฤทธ.์ิ ๕. ธาตมุ ี อา อยเู บอ้ื งหลงั ลง ย ปจจัยหลงั ธาตุ. ๖. ธาตตุ ัวเดยี วถึงเปน ทีฆะกพ็ ฤทธ์ิได. ๗. มีอำนาจใหแปลงตวั ธาตุไดบา ง. ๑. ตอ งแปลง ณวฺ ุ เปน อก ในธาตุทั้งปวง คือ ธาตทุ กุ ตัวทีน่ ำมาลง ณวฺ ุ ปจจัยแลว ณฺวุ ปจจยั จะตองแปลงเปน อก เสมอไปไมคงไวตามเดมิ เชน อนสุ าสโก, ฆาตโก เปน ตน. ๒. เฉพาะ า ธาตุใหแปลงเปน อานนก คือ มีธาตุน้ีตัวเดียวเทาน้ันท่ี แปลงเปน อานนก เชน ชานนโก (ผูร)ู เปน า ธาตุ แลวแปลงเปน ชา ลง ณฺวุ ปจจยั แลว แปลง ณวฺ ุ เปน อานนก ตง้ั วิ. วา ชานาตี-ติ ชานนโก. (ชนใด) ยอ มรู เหตนุ น้ั (ชนน้ัน) ชอื่ วา ผรู .ู เปนกตั ตุรปู กัตตสุ าธนะ. ๓. ตนธาตุเปนรัสสะใหพฤทธิ์ได เชน โภชโก ภุชฺ ธาตุ ลง ณฺวุ ปจ จยั แลว แปลงเปน อก เพราะ ณวฺ ุ ให พฤทธ์ิ อุ ที่ ภุ เปน โอ ตงั้ ว.ิ วา ภุ ชฺ ต-ี ติ โภชโก. (ชนใด) ยอมบริโภค เหตนุ ั้น (ชนน้ัน) ช่อื วา ผบู รโิ ภค. เปนกตั ตุรปู กัตตสุ าธนะ. 256
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 257 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๔. ตนธาตุเปนทีฆะหรือมีตัวสะกด หามมิใหพฤทธิ์ เชน ยาจโก ยาจฺ ธาตุ ลง ณวฺ ุ ปจ จยั แลว แปลงเปน อก ไมต อ งพฤทธิ์ ตง้ั ว.ิ วา ยาจต-ี ติ ยาจโก. (ชนใด) ยอ มขอ เหตนุ ้นั (ชนนัน้ ) ช่ือวา ผขู อ. รกขฺ โก รกฺข ธาตุ ลง ณวฺ ุ ปจ จยั แลว แปลงเปน อก ไมตองพฤทธ์ิ ตงั้ ว.ิ วา รกฺขต-ี ติ รกฺขโก. (ชนใด) ยอ มรักษา เหตุนนั้ (ชนนั้น) ชือ่ วา ผูรกั ษา. ๒ นี้เปน กตั ตรุ ปู กัตตุสาธนะ. ๕. ธาตุมี อา อยูเบื้องหลัง ลง ย ปจจัยหลังธาตุ เชน ปายโก ทายโก เปนตน. ปายโก ปา ธาตุ ลง ณฺวุ แลวแปลงเปน อก ลง ย ปจจัยหลังธาตุ ต้ัง วิ. วา ปวตี-ติ ปายโก (ชนใด) ยอมด่ืม เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ชื่อวา ผูด่ืม. เปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะ. สวน ทายโก ตง้ั วิ. เหมอื นในแบบ. ๖. ธาตตุ ัวเดียวแมเปน ทฆี ะกพ็ ฤทธไ์ิ ด เชน นายโก เปน นี ธาตุ พฤทธิ์ อี ท่ี นี เปน เอ แลวเอาเปน อาย ดัง วิ. ในแบบนน้ั . ๗. มีอำนาจใหแปลงตัวธาตุได เชน แปลง หนฺ ธาตุ เปน ฆาต เชน ฆาตโก, แปลง หนฺ เปน วธฺ เชน วธโก, ฆาตโก ตง้ั ว.ิ วา หนต-ี ติ ฆาตโก. (ชนใด) ยอมฆา เหตุน้ัน (ชนนั้น) ช่ือวา ผูฆา. วธโก ตั้ง วิ. วา หนตี-ติ วธโก. (ชนใด) ยอมฆา เหตุนนั้ (ชนนน้ั ) ชอื่ วา ผูฆ า . ๒ น้ีเปน กตั ตรุ ูป กัตตุสาธนะ. อน่ึง ปจจัยน้ี ยังมีอำนาจบังคับ ฉัฏฐีวิภัตติ ใหเปน ทุติยาวิภัตติ ได คือ ออกเสยี งคำแปล ใชอ ายตนบิ าตของทตุ ยิ าวภิ ตั ติ เชน อ.ุ วา สพรฺ หมฺ จารนี อนกุ มปฺ โก ผูเอน็ ดู ซึ่งเพอ่ื นสพรหมจารีท้ังหลาย, ธมฺมสฺส เทสโก ผแู สดงซง่ึ ธรรม เปนตน. นอกจากนี้ ยังใชเปนเหตุกัตตุวาจก ในเวลาตั้งรูปวิเคราะหอีกดวย เชน สมฺปหสโก, สมตุ เฺ ตชโก, การาปโก เปน ตน . สมปฺ หส โฏ เปน ส+ป บทหนา หสฺ ธาตุ ลง ณฺวุ ปจจัย แลวแปลงเปน อก ต้ัง วิ. วา สมฺปหฺเสตี-ติ สมฺปหสโก. (ชนใด) ยอ มยังชน ใหร าเริง เหตุนัน้ (ชนนน้ั ) ช่อื วา ผูยงั ชนใหร า เรงิ . สมุตฺเตชโก เปน ส+อุ บทหนา ติชฺ ธาตุ ตั้ง วิ. วา สมุตฺเตเชตี-ติ สมุตฺเตชโก. (ชนใด) ยอมยังชน ใหอาจหาญ เหตุนั้น (ชนน้ัน) ช่ือวา ผูยังชน ใหอาจหาญ. การาปโก เปน กรฺ ธาตุ ตั้ง วิ. วา การาเปตี-ติ การาปโก. (ชนใด) ยอ มยงั ชน ใหทำ เหตุนนั้ (ชนนนั้ ) ช่ือวา ผูย งั ชนใหท ำ ๓ นเี้ ปนกัตตรุ ปู กัตตสุ าธนะ. 257
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 258 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) การท่ีจะทราบไดวาเปน เหตุกัตตุวาจก ในรูปวิเคราะห ก็ดวยสังเกตคำแปล คอื ตอ งมคี ำวา “ยงั ” ตดิ อยูเ สมอ เม่ือเปนเชน น้ีในรปู วิเคราะหตอ งตงั้ ใหเปน เหตุกตั ตุ วาจก. สำหรับปจจัยน้ี ก็เปนไดเฉพาะกัตตุรูป กัตตุสาธนะ เชนกัน และเมื่อ สำเร็จรูปแลว ใชเปนคุณนามเทาน้ัน แจกไดทั้ง ๓ ลิงค ในปุงลิงคแจกตามแบบ อ การันต (ปุริส). ในอิตถีลงิ ค ลง อิ อาคมทพ่ี ยัญชนะหลังธาตุ (อิกา) แลวแจกตามแบบ อา การันต (กฺา) เชน นายิกา, ทายิกา, สาวิกา, เปนตน. สวนในนปุงสกลิงค แจกตามแบบ อ การนั ต (กลุ ). ตุ ปจ จัย ปจจัยนี้ เม่ือลงประกอบกับธาตุแลว คงไวตามรูปเดิม ไมเปล่ียนแปลง เชน กตตฺ ุ (ผูท ำ), วตตฺ ุ (ผกู ลา ว) เปนตน แตมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงธาตบุ าง เมอื่ รวม กลา วโดยยอแลวกค็ อื :- ๑. ใหล บท่สี ดุ ธาตไุ ด. ๒. พฤทธสิ์ ระตนธาตไุ ดบ าง. ๓. แปลงพยัญชนะทสี่ ุดธาตเุ ปนอยา งอืน่ ได ๔. ลง อิ อาคมหลังธาตุไดบาง. ๕. ธาตุตวั เดยี วท่เี ปน สระยาวคงไว. ๑. ใหลบที่สุดธาตุได คือ ธาตุท่ีมี ๒ ตัว พยัญชนะตัวหลังเม่ือนำมาลง ปจจัยน้ีใหลบเสีย แลวซอน ต เขามาตัวหนึ่ง ซึ่งเปนพยัญชนะในวรรคเดียวกันตาม หลกั สนธิ เชน วตตฺ ,ุ ขตตฺ ุ เปน ตน วตตฺ ุ เปน วทฺ ธาตุ ลง ตุ ปจ จยั แลว คงไว ลบ ทฺ ที่สดุ ธาตุ ซอ น ตฺ เขา ขางหนา ต.ุ ว.ิ วา วทติ-ตี วตฺตา. (ชนใด) ยอมกลา ว เหตุน้นั (ชนนั้น) ชื่อวา ผกู ลาว. ขตฺตุ เปน ขนฺ ธาตุ ลง ตุ แลวคงไว ลบ นฺ ท่ีสดุ ธาตุ ซอ น ตฺ วิ. วา ขนตี-ติ ขตฺตา (ชนใด) ยอมขุด เหตุนั้น (ชนน้ัน) ชื่อวาผูขุด. ๒ น้ีเขากับปฐมา วภิ ตั ตเิ อกวจนะแหง นามเปน วตฺตา ขตตฺ า โดยวิธีนาม (๖๖), เปนกตั ตรุ ูป กตั ตสุ าธนะ. 258
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 259 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๒. พฤทธิ์สระตนธาตุได เชน โสต,ุ เนต.ุ โสตุ เปน สุ ธาตุ ลง ตุ ปจ จัย แลวคงไว พฤทธิ์ อุ ท่ี สุ เปน โอ. วิ. วา สุณาตี-ติ โสตา. (ชนใด) ยอ มฟง เหตุนัน้ (ชนน้ัน) ช่ือวาผูฟง. เนตุ เปน นี ธาตุ ลง ตุ แลวคงไว พฤทธิ์ อี ที่ นี เปน เอ. ว.ิ วา เนต-ี ติ เนตา (ชนใด) ยอ มนำไป เหตนุ นั้ (ชนนน้ั ) ชอ่ื วา ผนู ำไป ๒ นี้ เปนกตั ตุรูป กัตตุสาธนะ. ๓. แปลงพยัญชนะที่สุดธาตุได คือ ใหแปลงไดเฉพาะพยัญชนะท่ีจะซอน ต ได คือ ตองเปน พยัญชนะในวรรคเดยี วกับ ต เชน หนตุ, ชนตฺ ุ เปน ตน . หนฺตุ เปน หนฺ ธาตุ ลง ตุ ปจจัยแลวคงไว แปลง น หลงั ธาตุเปน ตัวสะกด คือ เปน นฺ ว.ิ วา หนตี -ติ หนฺตา (ชนใด) ยอ มฆา เหตนุ ้ัน (ชนน้นั ) ช่ือวา ผูฆ า . ชนตฺ ุ เปน ชนฺ ธาตุ ลง ตุ แลว คงไว แปลง น หลังธาตเุ ปน ตวั สะกด คอื เปน นฺ ว.ิ วา ชายต-ี ติ ชนตฺ .ุ (สตั วใ ด) ยอ มเกดิ เหตนุ น้ั (สตั วน นั้ ) ชอื่ วา ผเู กดิ . ๒ น้ี เปน กตั ตรุ ปู กตั ตุสาธนะ. ศัพทน ไี้ มแ จก ตามแบบ สตฺถุ (๖๖) แตแ จกตามแบบ ครุ (๕๐) ป. เอก. จงึ คงเปน ชนฺต.ุ ๔. ลง อิ อาคมหลงั ธาตุได เชน สริตุ เปน สรฺ ธาตุ ในความไป, ระลึก ลง ตุ ปจ จยั และลง อิ อาคมหลังธาตุ วิ. วา สรต-ี ติ สรติ า. (ชนใด) ยอมแลน ไป เหตนุ ั้น (ชนน้ัน) ชอื่ วา ผแู ลน ไป. เปนกัตตุรปู กัตตสุ าธนะ. ๕. ธาตุตวั เดยี วท่เี ปนสระยาวคงไว เชน ทาตุ, าตุ เปน ตน ทาตุ เปน ทา ธาตุ ลง ตุ ปจ จยั ว.ิ วา เทตี-ติ ทาตา (ชนใด) ยอ มให เหตนุ ้ัน (ชนนัน้ ) ชอ่ื วา ผใู ห. าตุ เปน า ธาตุ ลง ตุ ปจ จัย วิ. วา ชานาต-ี ติ าตา. (ชนใด) ยอ มรู เหตนุ น้ั (ชนนนั้ ) ชอื่ วา ผรู .ู ทง้ั ๒ น้ี เปน กตั ตรุ ปู กตั ตสุ าธนะ.ปจ จยั น้ี ทา นใหใ ชเปนตัสสีลสาธนะ กไ็ ด เชน โสตุ ถา จะตงั้ ใหเปน ตัสสลี สาธนะ ก็ตอ งตง้ั ว.ิ วา สณุ าติ สีเลนา-ติ โสตา. (ชนใด) ยอมฟง โดยปกติ เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ชื่อวา ผูฟงโดยปกติ. ถึงในศัพทอื่นๆ ก็พงึ ตง้ั ว.ิ ตามนัยน้.ี นอกจากน้ี ยงั มีอำนาจทีจ่ ะบงั คับฉัฏฐีวภิ ตั ติ ซ่ึงเขา ในปจ จยั นี้ ใหล งในอรรถ แหง ทตุ ิยาวิภัตติใชอ ายนิบาตวา “ซึง่ ” ได เชน อุ. วา อคฺคสสฺ ทาตา ชนผใู หซง่ึ ส่งิ ที่ เลิศ. ธมมฺ สฺส อฺาตาโร ชน ท.ผูรูท่ัวถึงซึ่งธรรม เปน ตน . 259
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 260 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อนึ่ง ปจจัยน้ี เมื่อลงในธาตุสำเร็จรูปแลว ใชเปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะ อยาง เดียว และใชเปนคุณนาม แจกไดท้ัง ๓ ลิงค ในปุงลิงคแจกตามแบบ สตฺถุ แตใน อิตถีลิงคและนปุงสกลิงคยังไมปรากฏวามีที่ใช โดยมากมักเปนบทคุณของศัพทที่ เปนกลางๆ ไมเจาะจง เชน ชโน ปุคคฺ โล สตตฺ า เปน ตน . รู ปจ จยั . ปจจยั น้ี เม่ือลงประกอบกบั ธาตแุ ลว ตองลงตัว ร ท้งิ เสยี คงไวแต อู แลวนำ อู ทเ่ี หลอื อยนู นั้ มาประกอบกบั ธาตุ เพอื่ เปน เครอ่ื งหมาย และมอี ำนาจหนา ท่ี ๆ จะตอง ทำกับธาตุดังตอ ไปนี้ คือ :- ๑. ถาลงในธาตุตวั เดียว คงธาตุไว. ๒. ถาลงในธาตุสองตัว มกั ลบทีส่ ดุ ธาต.ุ ๓. ลงในธาตสุ องตัว ถา ไมลบ มกั รสั สะ อู เปน อุ. ๑. ลงในธาตตุ วั เดยี ว คงธาตไุ ว คอื ธาตทุ ล่ี งปจ จยั นเี้ ปน ธาตตุ วั เดยี ว ให คงธาตุไวตามเดิม เชน มตฺตฺู เปน มตตฺ (ประมาณ) บทหนา า ธาตุ ลง รู ปจ จัย ลบ ร คง อู ไว แลว นำมาประกอบดว ย า ธาตุ ลบสระ า ท่ี า เสยี นำ อู มาประกอบ เขา ว.ิ วา มตตฺ ชานาต-ี ติ มตฺตฺู. (ชนใด) ยอมรู ซ่งึ ประมาณ เหตุนน้ั (ชนน้ัน) ชื่อวา ผูรูประมาณ. เปน กตั ตุรปู กัตตสุ าธนะ. ๒. ลงในธาตุสองตัว มักลบที่สุดธาตุ คือ ถาธาตุสองตัวเม่ือลงปจจัยน้ี แลว ลบตวั ท่อี ยหู ลงั เสียตัวหน่ึง เชน อุ. วา อนตฺ คู เปน อนตฺ (ทส่ี ดุ ) บทหนา คมฺ ธาตุ ลง รู ปจจยั ลบ มฺ ทีส่ ุดธาตเุ สยี ว.ิ วา อนฺต คจฺฉตี-ติ อนตฺ ค.ู (ชนใด) ยอมถึง ซง่ึ ท่ีสดุ เหตนุ ้นั (ชนน้นั ) ชือ่ วา ผูถึงท่สี ดุ . เปน กัตตรุ ูป กตั ตุสาธนะ. ๓. ลงในธาตสุ องตัว ถา ไมล บที่สุดธาตุ ใหรสั สะ อู ที่ รู เปน อ.ุ แลว ลบ ร เสีย เชน อ.ุ ภิกฺขุ ดงั ท่ีทานยกไวในแบบน้ัน. อนึ่ง ปจจัยตัวนี้ ยังใชลงในอรรถแหงตัสสีลสาธนะไดอีก เชน กตฺู ตั้ง ว.ิ เปน ตสั สลี สาธนะวา กต ชานาติ สเี ลนา-ติ กตฺ ู (ชนใด) ยอ มรู ซ่ึงอปุ การะ 260
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 261 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ท่ีชนอื่นทำแลว โดยปกติ เหตุนั้น (ชนน้ัน) ช่ือวา ผูรู ซ่ึงอุปการท่ีชนอ่ืนทำแลวโดย ปกต.ิ แมในศัพทอ นื่ ก็พึงเทียบเคยี งโดยนัยน้ี. ปจจัยนี้ เมื่อลงในธาตุสำเร็จรูปแลว เปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะและเปนคุณนาม แจกไดท้ัง ๓ ลิงค แตใชเปนปุงลิงคโดยมาก ลิงคอ่ืนไมคอยมีใช ในปุงลิงค แจกตาม แบบ อู การนั ต (วิฺ )ู , อติ ถลี ิงค แจกตามแบบ อู การนั ต (วธู), ถาตอ งการใหเปน นปงุ สกลิงค ตอ งรัสสะ อู เปน อ.ุ แลว แจกตามแบบ อุ การนั ต (วตถฺ )ุ 261
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 262 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ปจจัยนามกิตกใ นหมวดกิจจปจ จยั ข ปจจัย ปจจัยน้ี เม่ือลงประกอบกับธาตุแลว มักลบทิ้งเสีย และไมมีอำนาจอะไรท่ีจะ แปลงตัวธาตุได หลักที่จะพึงสังเกตในปจจัยนี้ ก็คือ ตองมีบทหนา และบทหนาน้ันก็ จำกัดเฉพาะ ๓ ตวั นี้ คือ ทุ (ชัว่ , ยาก) ๑, ส,ุ (ดี, งาม, งา ย) ๑ และ อีส (หนอยหน่งึ ) ๑ เทา น้นั นอกนี้หาใชไดไ ม พงึ เห็นอุทาหรณด งั ตอไปนี้:- ทุ เปน บทหนา อุ. ทุททฺ ส เปน ทุ บทหนา ทิสฺ ธาตใุ นความเหน็ ข ปจจัย ลบเสยี และ ลบ อิ ที่ ทิ เสยี ดว ย ซอน ทฺ ว.ิ วา ทุกฺเขน ปสฺสยิ เต-ติ ททุ ทฺ ส. (จิตใด) (เตน อันเขา) ยอมเห็นได โดยยาก. เหตุนั้น (จิตนั้น) ช่ือวา อันเขาเห็นไดโดยยาก. น้เี ปนกัมมรปู กัมมสาธนะ. ทุชฺชีว เปน ทุ บทหนา ชีวฺ ธาตุ ในความเปนอยู ซอน ชฺ วิ. วา ทุกฺเขน ชวี ยเต-ติ ทชุ ฺชีว. (เตน อนั เขา) ยอมเปน อยูไ ดโ ดยยาก เหตนุ ้ัน ชอ่ื วา ความเปนอยู โดยยาก. นีเ้ ปนภาวรูป ภาวสาธนะ. สุ เปน บทหนา อ.ุ สลุ ภา เปน สุ บทหนา ลภฺ ธาตุ ว.ิ วา สเุ ขน ลพภฺ ต-ี ติ สุลภา. (ภกิ ษาใด) (เตน อันเขา) ยอมไดโดยงา ย เหตุนน้ั (ภิกษนุ นั้ ) ช่อื วา อันเขาได โดยงาย. นี้เปน กัมมรูป กัมมสาธนะ. สชุ วี เปน สุ บทหนา ชวี ฺ ธาตุ ข ปจ จยั ลบเสยี ว.ิ วา สเุ ขน ชวี ยเต-ติ สชุ วี . (เตน อันเขา) ยอ มเปน อยูไดโ ดยงา ย เหตุนนั้ ชือ่ วา ความเปน อยไู ดโ ดยงาย. การตั้งวิเคราะหสำหรับศพั ทท ลี่ ง ข ปจจยั ซึง่ มี ท,ุ สุ เปนบทหนา ทุ ทานใช คำวา ทุกเฺ ขน แทน สวน สุ กใ็ ชคำวา สเุ ขน แทนและวางไวห นากิริยาเสมอ. อนึ่ง พงึ สงั เกตศัพททม่ี ี ทุ, สุ เปนบทหนามิใชจ ะลง ข ปจจยั ทง้ั หมด เพราะบทหนาทง้ั ๒ นี้ อาจจะนำไปประกอบกบั ศพั ทอ น่ื มใิ ช ข ปจ จยั กไ็ ด เชน สขุ ทกุ ขฺ สคุ ติ ทคุ คฺ ติ เปน ตน เหลานี้ หาใช ข ปจจัยไม สวนศัพทท่ีลง ข ปจจัยน้ัน ตองสังเกตที่ตัวธาตุ คือ ที่สุด ธาตไุ มถกู ลบ คงไวตามรูปเดมิ เชน สุวโจ เปน สุ บทหนา วจฺ ธาต,ุ ทกุ กฺ ร เปน ทุ บท หนา กรฺ ธาต,ุ ททุ ทฺ โม เปน ทุ บทหนา ทมฺ ธาตุ เปนตน. 262
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 263 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò อีส เปน บทหนา เชน อสี กฺกรํ เปน อีส บทหนา กรฺ ธาตุ ลง ข ปจ จัย ลบ นคิ คหิต เสีย ซอน กฺ วิ. วา อสี กรยิ ต-ี ติ อสี กฺกร.ํ (กรรมใด) (เตน อันเขา) ยอ มทำ หนอยหน่งึ เหตนุ น้ั (กรรมน้นั ) ช่อื วา อันเขาทำหนอยหนงึ่ . เปน กมั มรปู กมั มสาธนะ. สำหรับ อสี น้ี ทานกลาววา เปนอปั ปต ถวาจกนบิ าต คอื เปน นบิ าตทก่ี ลาว ถึงอรรถวา นอ ย และไมคอยปรากฏวา มใี ชในปกรณต าง ๆ มากนกั . ธาตุที่ลงปจจัยนี้ เม่ือสำเร็จรูปแลวเปน กัมมรูป กัมมสาธนะ ๑ ภาวรูป ภาวสาธนะ ๑ และใชเ ปน นามนามก็ได คุณนามก็ได ถาเปน ภาวสาธนะ ใชเปนนามนาม ถาเปนกัมมสาธนะ ใชเปนคุณนาม แจกไดทั้ง ๓ ลิงค คือ ถาเปนปุงลิงค แจกตามแบบ อ การนั ต (ปรุ สิ ) ถา เปน อติ ถลี งิ ค แจกตามแบบ อา การนั ต (กฺ า) ถา เปน นปงุ สกลงิ ค แจกตามแบบ อ การนั ต (กลุ ) ทใ่ี ชเ ปน นามนาม มกั ใชเ ปน นปงุ สกลงิ ค. ณฺย ปจจัย ปจจยั น้ี เปนปจจยั ทเี่ นือ่ งดวย ณ จึงมอี ำนาจเหมอื น ณี ปจจยั ดงั กลา วแลว และยังมีพิเศษออกไปอีกบาง เม่ือลงประกอบกับธาตุแลว ลบ ณ เสีย คงไวแต ย รวมกลา วไดเ ปนหวั ขอ ดงั ตอไปน้ี:- ๑. ลบ ณฺ แลว แปลง ย กบั พยญั ชนะทีส่ ดุ ธาตเุ ปน อยา งอน่ื . ๒. ลบ ณฺ แลว คง ย ไวบ าง. ๓. เมื่อลบ ณฺ คง ย ไวแลว แปลงที่สดุ ธาตเุ ปน อยา งอื่น. ๔. ธาตุ มี อา เปน ท่สี ุด แปลง ณฺย เปน เอยยฺ . ๕. ธาตมุ ี หฺ เปน ท่ีสดุ ลบ ณฺ แลวแปร ย ไวหนา ห ไวหลัง. ๖. เฉพาะ ภู ธาตุ เมื่อลง ณฺย ปจจัยแลว ใหแปลง อู กับ ณฺย เปน อพพฺ . ๑. ลบ ณฺ แลวแปลง ย กับพยัญชนะท่ีสุดธาตุเปนอยางอ่ืน. นี้ก็ถือ หลักอยางเดียวกับ ณย ปจจัย ในอาขยาตโดยมาก การแปลงน้ัน แปลงเหมือนกับ พยญั ชนะที่สดุ ธาตกุ ็มี ตา งกนั กม็ ี. ก. ท่ีเหมือนกนั เชน คมฺโม เปน คมฺ ธาตุ ในความถึงลง ณฺย ปจ จัย ลบ ณฺ เสีย แปลง ย กบั ที่สดุ ธาตุเปน มฺม ว.ิ วา คมิตพฺโพ-ติ คมโฺ ม. (ธรรมใด) (เตน อนั เขา) พงึ ถึง เหตนุ ั้น (ธรรมน้นั ) ช่ือวา อันเขาพึงถงึ . เปนกัมมรปู กมั มสาธนะ หรอื จะใหเ ปน 263
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 264 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ภาวรูป ภาวสาธนะ ก็เปน คมฺม คมฺ ธาตุ เปนไปในความไป วิ. วา คนฺตพฺพนฺ-ติ คมฺม. (เตน อันเขา) พึงไป เหตุนั้น ชื่อวา ความไป. หรือตั้ง วิ. เปนรูปอาขยาตวา คจฉฺ ยิ เต-ติ คมฺม (เตน อันเขา) ยอ มไป เหตุนนั้ ชอ่ื วา ความไป. หรือ เชน ปพฺพชฺชา เปน ป บทหนา วชฺ ธาตุ ในความไป ลง ณฺย ลบ ณฺ แลวแปลง ย กับท่ีสุดธาตุเปน ชฺช แปลง ว หนา ช เปน พ ตามวิธีสนธิ วิ. วา ปพฺพชิตพฺพนฺ-ติ ปพฺพชฺชา. (เตน อันเขา) พึงบวช เหตุน้ัน ชื่อวา การบวช. เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ หรอื เชน ทมฺโม ในแบบน้นั . ข. ท่ตี างกัน เชน วิชชฺ า เปน วิทฺ ธาตุ ในความรู ลง ณยฺ ปจจัย ลบ ณฺ เสยี แปลง ย กบั ทฺ ทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ชชฺ ว.ิ วา วิ ฺ าตพพฺ า-ติ วชิ ชฺ า. (ธรรมชาตใิ ด) (เตน อันเขา) พึงรู เหตุน้ัน (ธรรมชาตนิ น้ั ) ชอ่ื วา อันเขาพึงร.ู วชฺฌ เปน วธฺ ธาตุ ในความฆา ลง ณฺย ปจ จยั ลบ ณฺ เสยี แปลง ย กับ ธฺ ทส่ี ุดธาตุเปน ชฺฌ ว.ิ วา วธิตพฺพน-ฺ ติ วชฺฌ. (กเิ ลสชาตใด) (มคเฺ คน อันมรรค) พงึ ฆา เหตุน้ัน (กิเลสชาตนั้น) ชื่อวา อันมรรคพึงฆา. ท้ัง ๒ นี้เปนกัมมรูป กัมมสาธนะ. ถา จะใหเ ปนภาวรปู ภาวสาธนะ. วชิ ชฺ า ว.ิ วา วิชานนํ วชิ ชฺ า. ความรู ชือ่ วา วชิ ชา. วชฌฺ ว.ิ วา วธติ พพฺ น-ฺ ติ วชฌฺ .ํ (เตน อนั เขา) พงึ ฆา เหตนุ น้ั ชอ่ื วา ความฆา . ๒. ลบ ณฺ แลวคง ย ไว คือ เมื่อลบ ณฺ แลว ใหคง ย ไวไมแปลง เปนอยางอ่ืน แตมีวิธีอีกอยางหนึ่ง คือ ใหลง อิ อาคมที่หลังธาตุบาง แปลงท่ีสุดบาง ซอ นพยัญชนะบาง. ก. ลง อิ อาคม เชน การยิ เปน กรฺ ธาตุ ลง ณยฺ ปจ จัยลบ ณฺ เสีย คง ย ไว ทฆี ะ อ ท่ี ก เปน อา ลง อิ อา ลง อิ อาคม วิ. เหมือนในแบบ หรือเชน จรยิ า เปน จรฺ ธาตุ ลง ณฺย ปจจยั ลบ ณฺ คง ย ไว ลง อิ อาคม ที่ ร ไมท ฆี ะตน ธาตุ ว.ิ วา จรณ จริยา ความประพฤติ ช่อื วา จรยิ า. เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. ข. แปลงที่สุดธาตุ เชน อิจฺฉา เปน อีส ธาตุ ในความปรารถนา ลง ณฺย ปจจัย ลบ ณฺ คง ย ไว แปลกับ สฺ ท่ีสุดธาตุเปน จฺฉ วิ. วา อิจฺฉิตพฺพนฺ-ติ อิจฺฉา. (เตน อนั เขา) พงึ ปรารถนา เหตุน้นั ชือ่ วา ความปรารถนา. เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ และพึง ดตู วั อยา ง ในขอ ๑ ดว ย. ค. ซอ นพยัญชนะบาง เชน เวเนยโฺ ย เปน วิ บทหนา นี ธาตุ ลง ณยฺ ปจ จยั ลบ ณฺ เสยี พฤทธ์ิ อิ ท่ี วิ และ อี ที่ นี เปน เอ ซอน ยฺ ว.ิ วา วิเนตพฺโพ-ติ เวเนยฺโย. 264
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 265 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò (ชนใด) (เตน อันเขา) พึงแนะนำได เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ชื่อวา อันเขาพึงแนะนำได. เปนกัมมรูป กมั มสาธนะ. ๓. ลบ ณฺ คง ย ไว แปลงที่สุดธาตุเปนอยา งอืน่ เชน อตวิ ากฺย เปน อติ บทหนา วจฺ ธาตุ ลง ณฺย ลบ ณฺ เสยี คง ย ไวแปลง จฺ ท่สี ุดธาตุ เปน กฺ ทฆี ะตน ธาตุ วิ. วา อติ วตฺตพฺพนฺ-ติ อติวากฺย. (คำใด) (เตน อันเขา) พึงกลาวลวงเกิน เหตุนั้น (คำน้ัน) ชอ่ื วา อนั เขาพึงกลาวลวงเกนิ . เปน กัมมรูป กัมมสาธนะ. ๔. ธาตุมี อา เปน ท่ีสดุ แปลง ณฺย เปน เอยฺย เชน เทยยฺ . เปน ทา ธาตุ ลง ณยฺ ปจ จัย แลว แปลงเปน เอยยฺ วิ. วา ทาตพพฺ น-ฺ ติ เทยยฺ . (วตั ถุใด) (เตน อนั เขา) พงึ ให เหตนุ น้ั (วตั ถนุ นั้ ) ชอื่ วา อนั เขาพงึ ให. เปน กมั มรปู กมั มสาธนะ. วิ เฺ ยฺย เปน วิ บทหนา า ธาตุ ณฺย ปจ จยั แลวแปลงเปน เอยฺย ว.ิ วา วิฺาตพฺพนฺ-ติ วิเฺ ยฺย. (อารมณใ ด) (เตน อันเขา) พงึ รูแจง เหตุน้นั อารมณน ้ัน) ชอ่ื วา อันเขาพึงรูแจง . เปนกัมมรูป กัมมสาธนะ. ๕. ธาตุมี หฺ เปน ทสี่ ุด ลบ ณฺ แลว แปร ย ไวห นา หฺ ไวห ลังเชน ปสยฺโห เปน ป บทหนา สหฺ ธาตุ ในความครอบงำ ลง ณฺย ปจ จัย ลบ ณฺ เสยี แลว แปร ย ทคี่ ง อยไู วห นา นำ หฺ ทสี่ ดุ ธาตไุ วห ลงั ว.ิ วา ปสหติ พโฺ พ-ติ ปสยโฺ ห. (ชนใด) (เตน อนั เขา) พงึ ขม เหตนุ น้ั (ชนนน้ั ) ชอื่ วา อนั เขาพงึ ขม . เปน กมั มรปู กมั มสาธนะ แม คารยหฺ ใน แบบก็เชนกัน. ๖. เฉพาะ ภู ธาตุ เมื่อลง ณฺย ปจจัย ใหแปลง อู กับ ณฺย เปน อพฺพ เชน ภพพฺ เปน ภู ธาตุ ลง ณยฺ แลว แปลง ณยฺ กับ อู เปน อพพฺ วิ. วา ภูยเต-ติ ภพพฺ . (เตน อนั เขา) ยอ มม-ี เปน เหตนุ นั้ ชอื่ วา ความม-ี เปน . เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. อีกนยั หนง่ึ แปลวา ‘เกดิ ’ กไ็ ด นี้เปน ไดแต ภาวรูป ภาวสาธนะ เทา นั้นเพราะเปน อกัมมธาต.ุ ธาตุที่ประกอบดวยปจจัยน้ี เม่ือสำเร็จรูปแลว เปนไดท้ังนามนามและ คุณนาม และเปนได ๒ สาธนะ คอื กัมมรูป กัมมสาธนะ และภาวรปู ภาวสาธนะ ที่เปนกัมมรูป กัมมสาธนะ ใชเปนคุณนาม ภาวรูป ภาวสาธนะ ใชเปน นามนาม, ทเี่ ปน คณุ นาม เปน ไดท งั้ ๓ ลงิ ค ปงุ ลงิ ค แจกตามแบบ อ การนั ต (ปรุ สิ ), อติ ถลี งิ ค แจกตามแบบ อา การนั ต (กฺ า), นปงุ ลงิ คแ จกตามแบบ อ การนั ต (กลุ ). อนงึ่ ปจจัยตวั นี้ เม่อื ประกอบกบั ธาตุสำเรจ็ รปู แลว ใชเปน กิรยิ าหมายพากย เหมอื นกิริยากติ กก ไ็ ด. 265
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 266 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ปจจยั นามกติ ก ในหมวดกติ กจิ จปจ จยั อ ปจจยั ปจ จยั น้ี เมอ่ื ลงประกอบกับธาตุ ยอมลบเสีย เพราะไมม ตี วั อ ปรากฏ แตที่ ปรากฏไดก็คือเสียงสระ ะ ที่ติดอยูทายธาตุ และปจจัยน้ี มีหลักพึงสังเกตดังตอไปน้ี คือ :- ๑. ถา มศี พั ทหนาเปนกมั ม ใหลง นุ อาคม. ๒. บางศัพทมีกัมมเปนบทหนา แตไมลง นุ อาคม เชนนี้ตองซอน พยัญชนะลงตนธาต.ุ ๓. ถาไมม กี มั มเปนบทหนา ลง นุ อาคมไมได. ๔. เฉพาะ ททฺ ธาตุ ซงึ่ มี ปรุ เปน บทหนา ใหแ ปลง อ แหง ปรุ เปน อ.ึ ๑. ถามีศัพทหนาเปนกัมม ใหลง นุ อาคม หมายความวา ตัวท่ีนำหนา ธาตเุ ปน ตวั กมั ม คือ เปนทุตยิ าวิภตั ติ ใหล ง นุ อาคม อ.ุ ทีปงกฺ โร เปน ทปี บทหนา กรฺ ธาตุ ลง นุ อาคมท่ีศพั ทอนั เปน ท่สี ุดแหง บทหนา แปล นุ นน้ั เปน นิคคหิต แลว จึง แปลงนคิ คหิตนน้ั เปน งฺ เพราะมี ก อยูหลัง วิ. วา ทปี กโรตี-ติ ทปี งกฺ โร. (ชนใด) ยอ ม ทำ ซง่ึ ทพี่ งึ่ เหตนุ น้ั (ชนนนั้ ) ชอื่ วา ผนู ำซงึ่ ทพี่ งึ่ เปน กตั ตรุ ปู กตั ตุสาธนะ. เวสสฺ นฺตโร เปน เวสสฺ บทหนา ตฺร ธาตุ ลง นุ อาคมที่ ส อันเปน ท่สี ุดของ ศพั ทหนา แปลง นุ เปนนิคคหติ แลวจงึ แปลงนิคคหติ นน้ั เปน นฺ เพราะมี ต อยหู ลงั ว.ิ วา เวสฺส ตรตี-ติ เวสฺสนฺตโร. (ชนใด) ยอมขาม ซ่ึงตรอก เหตุน้ัน (ชนนั้น) ช่ือวา ผขู า มซึง่ ตรอก. เปนกัตตรุ ปู กัตตสุ าธนะ. นุ อาคม มีวธิ แี ปลดังนี้ คือ :- ถา พยัญชนะตนธาตเุ ปน ก วรรค คือ ก ข ค ฆ ง ใหแ ปลงเปน งฺ ถา พยญั ชนะตนธาตเุ ปน ค วรรค คอื จ ฉ ช ฌ ใหแ ปลงเปน ฺ ถา พยญั ชนะตน ธาตุเปน ฏ วรรค คอื ฏ ฑ ฒ ณ ใหแ ปลงเปน ณฺ ถาพยญั ชนะตนธาตเุ ปน ต วรรค คอื ต ถ ท ธ น ใหแปลงเปน นฺ ถา พยัญชนะตนธาตเุ ปน ป วรรค คอื ป ผ พ ภ ม ใหแปลงเปน มฺ 266
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 267 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๒. ศัพทท่ีมีกัมมเปนบทหนา แตไมลง นุ อาคม ตองซอนพยัญชนะลง ตนธาตุ คือ ตอ งซอ นตัวสะกดเขา มาขา งหนา ธาตตุ ามวรรคของพยัญชนะตองธาตุ เชน อุ. หิตกฺกโร เปน หิต บทหนา กรฺ ธาตุ ไมลง นุ อาคม แตซอ น กฺ หนา กรฺ ธาตุ ดู ว.ิ ในแบบ ตกกฺ โร เปน ต บทหนา กรฺ ธาตุ ไมล ง นุ อาคม แตซ อน กฺ หนา กรฺ ธาตุ วิ. วา ต กรต-ี ติ ตกฺกโร. (ชนใด) ยอมทำ (ซ่ึงกรรม) น้ัน เหตุนัน้ (ชนนั้น) ชื่อวา ผทู ำซง่ึ กรรมนั้น เปน กตั ตุรปู กตั ตุ-สาธนะ. ๓. ถาไมมีกัมมเปนบทหนา ลง นุ อาคมไมได หมายความวา ถึงมีบท หนา แตม ใิ ชก มั มกด็ ี ไมม บี ทหนา กด็ ี มอี ปุ สคั เปน บทหนา กด็ ี ลง นุ อาคมไมไ ด. ก. มีบทหนาแตมิใชกัมม เชน อนฺตลิกฺขจโร เปน อนิตลิกฺข (กลางหาว) บทหนา จรฺ ธาตุ อ ปจจยั วิ. วา อนตฺ ลิกฺเข จรต-ี ติ อนฺตลิกฺขจโร. (นกใด) ยอมเท่ยี ว ไป ในกลางหาว เหตุนั้น (นกน้ัน) ชื่อวา ผูเท่ียวไปในกลางหาว. เปน กัตตุรูป กัตตุสาธนะ. ข. ไมมีกัมม เชน นโย เปน นี ธาตุ อ ปจจัย พฤทธิ์ อี ท่ี นี เปน เอ แลว เอาเปน อย ว.ิ วา นยน นโย. การนำไป ชอื่ วา นยั , หรือ ชโย เปน ชิ ธาตุ อ ปจจยั พฤทธิ์ อิ ท่ี ซิ เปน เอ แลว เอาเปน อย วิ. วา ชยน ชโย. ความชนะ ช่อื วา ชัย. ๒ นี้ เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. หรอื เชน สิกขฺ า ที่ทาน ยก อุ. ไวในแบบนนั้ . ค. มอี ุปสัคนำหนา เชน สนนฺ ิจโย เปน ส+ นิ บทหนา จิ ธาตุในความสั่งสม พฤทธ์ิ อิ ที่ จิ เปน เอ แลวเอาเปน อย วิ. วา สนฺนิจยน สนนฺ จิ โย. การสงั่ สม ชอ่ื วา สนั นิจยะ. หรือเชน ปฏสิ มฺภทิ า ในแบบ. ๔. เฉพาะ ททฺ ธาตซุ ่ึงมี ปรุ เปน บทหนา ใหแ ปลง อ แหง ปุร เปน อึ เชน อุ. วา ปุรินฺทโท เปน ปุร (ในกอน) บทหนา ททฺ ธาตุ ลง อ ปจจัย แปลง อ แหง ปุร เปน อึ เพราะมี ท อยูเบื้องหลัง จึงแปลงนิคคหิตเปน นฺ วิ. วา ปุเร (ทาน) ททาตี-ติ ปุรินฺทโท. (ทาวสักกะใด) ยอมให (ซ่ึงทาน) ในกาลกอน เหตุนั้น (ทา วสักกะน้นั ) ชื่อวา ผูใหทานในกาลกอ น. ศัพทที่ประกอบดวยปจจัยนี้ เมื่อสำเร็จรูปแลว เปนนามนามบาง คุณนาม บาง และเปนไดทุกรูปทุกสาธนะ ที่เปนคุณนาม แจกไดทั้ง ๓ ลิงค ปุงลิงค แจกตาม แบบ อ การันต (ปุริส), อิตถีลิงคแจกตามแบบ อา การันต (กฺา), นปุงสกลิงค แจกตามแบบ อ การนั ต (กุล). 267
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 268 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อิ ปจจยั ปจจัยน้ี เมื่อประกอบกับธาตุแลว ยอมคง อิ ไวไมลบและไมมีวิธี เปล่ียนแปลงธาตุอยางไร ทั้งไมมีการนิยมบทหนาดวยจึงไมมีหลักอะไรที่จะพึง อธิบายมาก ในมูลกัจจายนทานกลาววาลงไดเฉพาะธาตุ ๒ ตัว คือ ทา และ ธา ธาตุ เทาน้ัน แตไมแนนัก เพราะในธาตุอื่นก็มีอีกมาก เชน นนฺทิ, มุนิ, รุจิ. นนฺทิ เปน นนทฺ ธาตุ ลง อิ ปจ จยั ว.ิ วา นนทฺ น นนฺท.ิ ความเพลดิ เพลินชอื่ วา นนฺท.ิ มนุ ิ เปน มุนฺ ธาตุ ลง อิ ปจจัย วิ. วา มุนาตี-ติ มุนิ. (ชนใด) ยอมรู เหตุน้ัน (ชนน้ัน) ชอ่ื วา ผรู .ู รจุ ิ เปน รจุ ฺ ธาตใุ นความรงุ เรอื ง-ชอบใจ ลง อิ ปจ จยั ว.ิ วา โรเจต-ี ติ รจุ .ิ (ชนใด) ยอ มรุง เรือง เหตนุ ัน้ (ชนน้ัน) ชื่อวา ผรู งุ เรอื ง. โรจน รจุ .ิ ความชอบใจ ชือ่ วา รจุ ิ. เชน นี้เปน ตน. ศัพทท่ีประกอบดวยปจจัยนี้ เม่ือสำเร็จรูปแลว เปนไดท้ังนามนาม และ คุณนาม และทุกรูป ทุกสาธนะแลวแตจะเหมาะ ที่เปนคุณนาม แจกไดท้ัง ๓ ลิงค ปุงลิงค แจกตามแบบ อิ การันต (มุนิ), อิตถีลิงค แจกตามแบบ อิ การันต (รตฺติ), นปุงลงิ ค แจกตามแบบ อิ การนั ต (อกฺข)ิ . ณ ปจ จัย ปจจัยนี้ เปน ณ ปจจัยแท มีอำนาจทีฆะและพฤทธ์ิเชนเดียวกับปจจัยท่ี เนื่องดวย ณ เชน ณี ณวุ ณฺย ดังที่ไดอธิบายมาแลว และปจจัยนี้ เม่ือลงประกอบท่ี ธาตุแลว ยอ มลบเสยี มอี ำนาจและหนา ทที่ ีจ่ ะทำดังตอไปน้ี คอื :- ๑. ตน ธาตุเปนรสั สะ ตอ งพฤทธิ์. ๒. ตน ธาตเุ ปนทฆี ะหรือเปนพยัญชนะสังโยค ไมต อ งพฤทธิ์. ๓. แปลงทส่ี ุดธาตุเปนอยางอนื่ ไดบ า ง ๔. ธาตุมี อา เปนทีส่ ดุ ลง ย ปจจยั . ๕. แปลงตวั ธาตุเปนอยางอน่ื . ๑. ตนธาตุเปนรัสสะ ตองพฤทธิ์. เชน อุ.คาโห เปน คหฺ ธาตุ ลง ณ ปจ จัยแลวลบเสีย ทีฆะตนธาตุ วิ. วา คณหฺ าตี-ติ คาโห. (ชนใด) ยอ มถอื เอา เหตนุ นั้ 268
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 269 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò (ชนน้ัน) ชื่อวา ผูถือเอา นี้เปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะ. คหณ คาโห. การถือเอา ชื่อวา คาหะ น้ีเปนภาวรปู ภาวสาธนะ. ปรวิ าโร เปน ปริ บทหนา วรฺ ธาตุ ในความกัน้ -ปด ถือเอาความวา “แวดลอม.” วิ. วา ปริวาเรตี-ติ ปรวิ าโร. (ชนใด) ยอ มแวดลอม เหตุนัน้ (ชนนนั้ ) ช่ือวา ผูแวดลอ ม. เปนกัตตุรปู กตั ตุสาธนะ. มาตุคาโม มาตุ (มารดา) เปนบทหนา คมฺ ธาตุ ในความถึง ว.ิ วา มาตุยา (สมฺภาว) คจฺฉตี-ติ มาตุคาโม. (ชนใด) ยอมถึง (ซ่ึงความเปนผูเสมอ) ดวยมารดา เหตุนน้ั (ชนน้นั ) ชือ่ วา มาตคุ าม (ผหู ญิง). ๒. ตนธาตุเปนทีฆะหรือเปนพยัญชนะสังโยค ไมตองพฤทธ์ิ เชน ที่ เปนทีฆะ อุ. วา อาพาโธ เปน อา บทหนา พาธฺ ธาตุ ลง ณ ปจจัยแลวลบเสีย ไมพฤทธ์ิ วิ. วา อาพาธตี-ติ อาพาโธ. (สภาพใด) ยอมเบียดเบียนย่ิง เหตุน้ัน (สภาพน้นั ) ช่อื วา ผูเบยี ดเบียนยิง่ . เปน กัตตรปู กตั ตสุ าธนะ. ที่เปน พยัญชนะสังโยค. เชน อ.ุ ธมมฺ ตกโฺ ก เปน ธมมฺ บทหนา ตกกฺ ธาตุ ลง ณ ปจ จัยแลวลบเสีย ไมพฤทธิ์ ว.ิ วา ธมฺม ตกเฺ กตี-ติ ธมมฺ ตกฺโก. (ชนใด) ยอมตรกึ ซึง่ ธรรม เหตนุ นั้ (ชนน้นั ) ช่ือวา ผูตรกึ ซงึ่ ธรรม. เปน กตั ตรุ ปู กัตตสุ าธนะ. ๓. แปลงท่สี ดุ ธาตุเปน อยา งอน่ื ไดบ า ง เชน อ.ุ จาโค เปน จชฺ ธาตุ ลง ณ ปจจยั แลว ลบเสีย แปลง ชฺ ท่ีสุดธาตุเปน คฺ แลวทีฆะตนธาตุ วิ. วา จชตี-ติ จาโค. (ชนใด) ยอมสละ เหตุนั้น (ชนน้ัน) ชื่อวา ผูสละ. น้ีเปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะ. จชน จาโค. การสละ ชอ่ื วา จาคะ. นเ้ี ปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. แม โรโค ในแบบกเ็ ชน เดยี วกนั . โสโก เปน สุจฺ ธาตุ ในความแหง ลง ณ ปจจยั แลว ลบเสีย แปลง จฺ ทีส่ ดุ ธาตุ เปน ก พฤทธ์ิ อุ ที่ สุ เปน โอ วิ. วา โสจต-ี ติ โสโก. (ชนใด) ยอมเศรา โศก เหตนุ ้นั (ชนนั้น) ช่ือวา ผูเศราโศก. โสจน โสโก. ความเศราโศก ช่ือวา โสกะ. แม ปาโก ในแบบก็เชน เดียวกัน. บางคราว ถาธาตุมีตัวสะกด เม่ือแปลงท่ีสุดธาตุแลว ก็มักแปลงตัวสะกดน้ัน เปนนิคคหิต แลวอาเทสเปนพยัญชนะที่สุดวรรคในวรรคเดียวกับตัวที่แปลงนั้น เชน สงฺโค เปน สฺช ธาตุ ลง ณ ปจจัย แลว ลบเสีย แปลง ชฺ เปน คฺ แปลง ฺ เปน นิคคหิต แลวอาเทสเปน งฺ ซึ่งเปนพยัญชนะท่ีสุดวรรคในวรรคเดียวกัน คฺ วิ. วา สชฺ ต-ี ติ สงโฺ ค. (ชนใด) ยอ มของ เหตุนน้ั (ชนน้นั ) ชื่อวา ผูข อง. เปน กัตตุรูป กัตตุ สาธนะ. สฺชน สงฺโค. ความของ ชื่อวา สังคะ. เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. 269
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 270 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) รงฺโค เปน รฺช ธาตุ ณ ปจจยั แลว ลบเสีย แปลง ชฺ เปน คฺ. แปลง ฺ เปน นิคคหิตแลวอาเทสเปน งฺ วิ. วา รฺชตี-ติ รงฺโค. (ชนใด) ยอมกำหนัด เหตุน้ัน (ชนนนั้ ) ชือ่ วา ผูกำหนัด. เปน กตั ตรุ ปู กัตตุสาธน. รฺชติ เอตฺถา-ติ รงฺโค.(ชน) ยอม กำหนัด ในประเทศน่ัน เหตุน้ัน (ประเทศนั้น) ช่ือวา เปนท่ีกำหนัดแหงชน (หมายถึงสถานทีเ่ ตน รำ). เปน กัตตรุ ปู อธิกรณสาธนะ. บางคราว แปลงตน ธาตทุ เี ดยี วก็มี เชน อุ. ปริฬาโห เปน ปริ บทหนา ฑหฺ ธาตุ ในความเผา-รอ น ลง ณ ปจจัยแลว ลบเสีย แปลง ฑ ตน ธาตเุ ปน ฬ แลวทฆี ะตน ธาตเุ ปน อา วิ. วา ปริฑหตี-ติ ปริฬาโห. (ชนใด) ยอ มเรา รอ น เหตนุ ้ัน (ชนน้ัน) ช่อื วา ผเู รารอน. เปนกัตตุรปู กตั ตสุ าธนะ. ปริฑหน ปรฬิ าโห. ความเรารอ น ช่อื วา ปรฬิ าหะ. เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ. ๔. ธาตุมี อา เปนที่สุด ลง ย ปจจัย เชน อุ. ทาโย เปน ทา ธาตุ ลง ณ ปจจัยแลวลบเสีย ลง ย ปจจัย หรือ จะกลาววาแปลง อา เปน อาย ก็ได วิ. วา ทาตพฺพนฺ-ติ ทาย. (วัตถุใด) (เตน อันเขา) พึงให เหตุน้ัน (วัตถุน้ัน) ช่ือวา อันเขา พงึ ให. (หมายถงึ รางวัล) เปนกมั มรูป กมั มสาธนะ. ทาน ทาโย. การให ชอ่ื วา ทายะ. เปนภาวรปู ภาวสาธนะ. ๕. แปลงตวั ธาตุเปนอยา งอ่ืน เชน อุ. วโธ. เปน หนฺ ธาตุ ลง ณ ปจจัย แลวลบเสีย แปลง หนฺ เปน วธฺ ว.ิ วา หนต-ี ติ วโธ (ชนใด) ยอ มฆา เหตุนั้น (ชนนัน้ ) ชื่อวา ผูฆา . สงฺขารา เปน ส บทหนา กรฺ ธาตุ ณ ปจจัย แปลง กรฺ เปน ขรฺ ทีฆะ อ ตน ธาตเุ ปน อา แปลนคิ คหติ เปน งฺ ว.ิ วา ส สฏุ ุ กรยิ นเฺ ต-ติ สงขฺ ารา. (ธรรมทง้ั หลาย เหลา ใด) (ปจฺจเยน อันปจจัย) ยอมทำพรอม คอื วาดว ยดี เหตนุ ้ัน (ธรรมทงั้ หลายเหลา น้ัน) ชอื่ วา อันปจจัยกระทำพรอม. เปน กัมมรูป กัมมสาธนะ. อภิสงฺขาโร. เปน อภิ+ส บทหนา กรฺ ธาตุ ณ ปจจัย วิ. อภิ วิสิฏเน ส สฏุ ุ กโรต-ี ติ อภสิ งขฺ าโร. (สภาพใด) ยอ มทำ ยงิ่ คอื วา โดยวเิ ศษ ดี คอื วา ดว ยดี เหตุ นนั้ (สภาพนั้น) ชือ่ วา ผทู ำยง่ิ ด.ี เปน กัตตุรูป กัตตสุ าธนะ. ปริกฺขาโร เปน ปริ บทหนา กรฺ ธาตุ ลง ณ ปจจัยแลวลบเสียแปลง กรฺ เปน ขรฺ ทฆี ะตอ งธาตุเปน อา ซอ น กฺ ว.ิ วา ปริ สมนตฺ โต กโรติ เตนา-ติ ปรกิ ขฺ าโร 270
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 271 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò (ชน) ยอ มทำรอบ คอื วาโดยรอบดว ยเครื่องประดบั น้นั เหตนุ ัน้ เครอ่ื งประดบั นน้ั ชือ่ วา เปนเครื่องทำรอบ (แหง ชน). เปนกัตตุรูป กรณสาธนะ. ปุเรกฺขาโร เปน ปุร บทหนา กรฺ ธาตุ ลง ณ ปจจัยแลวลบเสีย แปลง กรฺ เปน ขรฺ ทีฆะตน ธาตุเปน อา ซอ น กฺ วิ. วา ปุเร กรณ ปุเรฺกฺขาโร การทำในเบอ้ื งหนา ชอื่ วา ปเุ รกขาระ. ถอื เอาความวา ความยกยอ ง. ปริกฺขาโร แปลได ๓ นัย คือ : เคร่ืองลอม ไดแก คู เชน นครปริกฺขาโร คเู มอื ง ๑, เครื่องประดับ เชน รโถ เสตปริกฺขาโร รถมเี ครื่องประดับขาว ๑, เครื่องใช เชน ชีวติ ปริกขฺ าโร เครือ่ งใชส ำหรบั ชวี ติ ๑. ปจจัยน้ีเมื่อลงประกอบกับธาตุแลว เปนนามนามก็ได คุณนามก็ได ที่ เปนนาม มใี ชแ ตภาวรปู ภาวสาธนะ สว นสาธนะนอกนน้ั เปนไดเ ฉพาะคุณนาม แจกได ทง้ั ๓ ลงิ ค ปงุ ลงิ ค แจกตามแบบ อ การนั ต (ปรุ สิ ), อติ ถลี งิ ค แจกตามแบบ อา การนั ต (กฺา), นปุงสกลิงค แจกตามแบบ อ การันต (กุล), และเปนไดทุกรูป ทุกสาธนะ ไมม ีจำกัด. เตวฺ ปจ จัย ปจ จยั ตวั นี้ แปลกจากปจ จยั ตวั อนื่ ๆ คอื ไมใ ชล งในรปู และสาธนะอะไรๆ แต เมื่อลงแลว ใชแทนวิภัตตินามได และวิภัตติที่ใชแทนน้ัน ก็เฉพาะจตุตถีวิภัตติเดียว และใชอายตนิบาตวา “เพื่อ” เทานั้น ท้ังจะนำไปแจกตามจตุตถีวิภัตติ หรือวิภัตติ อ่ืนๆ ก็ไมไดทั้งสิ้น จึงนับวาเปนพวก อัพยยปจจัย คือ จะแจกตามวิภัตตินามไมได และไมมีการต้ังวิเคราะหเหมือนปจจัยอ่ืนๆ คือ เมื่อลงประกอบกับธาตุแลว เปนอัน สำเร็จรปู ทเี ดียว ตัวปจจัยเองคงไวตามเดิมไมลบและเปล่ียนแปลง และมีอำนาจใหแปลงตัว ธาตุไดบ าง เชน อุ. กาเตวฺ เพื่อจะทำ เปน กรฺ ธาตุ แปลง กรฺ เปน กา ลง เตฺว ปจจัย แปลงทีส่ ุดธาตบุ าง เชน อุ. คนเฺ ตวฺ เพ่ือจะไป เปน คมฺ ธาตุ แปลง มฺ ทสี่ ุด ธาตุเปน นฺ นอกจากนี้ ก็คงไวตามรูปเดิม เชน อุ. าเตฺว เพ่ือความรู เปน า ธาตุ, ปหาเตวฺ า เพือ่ จะละ เปน ป บทหนา หา ธาตุ. พฤทธิ์ตน ธาตไุ ดบา ง อุ. เนเตฺว เพือ่ จะนำไป เปน นี ธาต.ุ 271
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 272 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ติ ปจจยั ปจ จยั น้ี เมอ่ื ลงประกอบกบั ธาตแุ ลว โดยมากคงรปู เปน ติ ไวเ สมอ ไมล บและ เปล่ียนแปลง แตท่ีเปลี่ยนแปลงเปนอยางอ่ืนก็มีบางและมีอำนาจหนาที่ ๑ จะตองทำ กบั ตวั ธาตุดงั นี้ คอื :- ๑. ธาตุสองตวั ลบพยญั ชนะที่สุดธาตไุ ด. ๒. ธาตตุ ัวเดียว คงไวตามเดมิ . ๓. แปลงพยญั ชนะท่สี ดุ ธาตเุ ปนอยางอ่ืน บา ง. ๔. เฉพาะ า ธาตุ ตองแปลง อ เปน อ,ิ ปา ธาตแุ ปลง อา เปน อ.ี ๕. บางคราวแปลงตวั ปจ จัยเองบา ง. ๖. แปลงตัวธาตบุ า ง. ๑. ธาตุสองตวั ลบพยัญชนะทสี่ ุดธาตุได คือ เมอื่ ลบทีส่ ุดธาตแุ ลว ก็ลง ปจจัยแทนตัวที่ลบน้ัน หลักเกณฑนี้โดยมากอนุโลมตามอยาง ต ปจจัยในกิริยากิตก คือ ธาตทุ ม่ี ี ม,ฺ น,ฺ และ ร,ฺ เปนท่ีสุดใหล บที่สุดธาตเุ สีย เชน อ.ุ รต,ิ สมมฺ ต,ิ วิกต.ิ รติ เปน รมฺ ธาตุ ในความยนิ ดี ลง ติ ปจจัย แลว ลบที่สุดธาตเุ สยี ว.ิ วา รมนํ รต.ิ ความยนิ ดี ชอื่ วา รต.ิ เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. รมติ เอตายา-ติ รต.ิ (ชน) ยอ มยินดี ดวยธรรมชาตินั่น เหตุน้ัน (ธรรมชาตินั่น) ชื่อวา เปนเคร่ืองยินดี (แหงชน). เปน กัตตรุ ูป กรณสาธนะ. แม คติ ในแบบมีนยั เชนกนั . สมฺมติ เปน ส บทหนา มนฺ ธาตุ ในความรู ลง ติ ปจจัยลบท่ีสุดธาตุเสีย แปลงนิคคหิตท่ี ส เปน มฺ เพราะมี ม อยูหลัง วิ. วา ส สุฏุ มฺตี-ติ สมฺมติ. (ธรรมชาติใด) ยอมรูพรอม คือวา ดวยดี เหตุนั้น (ธรรมชาตินั้น) ช่ือวา ผูรูพรอม. เปนกัตตุรูป กัตตุสาธนะ. สมฺมนน สมฺมติ ความรูพรอม ชื่อวา สมฺมติ, เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. สํ สุฏุ มฺติ เอตายา-ติ สมฺมติ. (ชน) ยอมรูพรอม คือวา ดวยดี ดวยธรรมชาติน่ัน เหตุนั้น (ธรรมชาตินั่น) ชื่อวา เปนเครื่องรูพรอม (แหงชน). เปน กตั ตุรูป กรณสาธนะ. สนฺตติ เปน ส บทหนา ตนฺ ธาตุ ในความสืบตอ ลง ติ ปจจัยลบที่สุดธาตุ แปลงนคิ คหติ ท่ี ส เปน นฺ เพราะ มี ต อยูห ลัง วิ. วา สนฺตนน สนตฺ ติ ความสบื ตอ ช่ือวา สนตฺ ติ. เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ. 272
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 273 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò วิกติ เปน วิ บทหนา กรฺ ธาตุ ในความทำ ลง ติ ปจ จัยลบที่สดุ ธาตุ วิ. วา วิวิเธน อากาเรน กรณ วิกติ. ความทำโดยอาการมีอยางตางๆ ช่ือวา วิกติ. เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ แม สติ ในแบบกม็ ีนัยเดยี วกนั . ๒. ธาตุตัวเดยี วคงไวตามเดิม เชน อุ. วิภูติ เปน วิ บทหนา ภู ธาตุ ใน ความมี-เปน ลง ติ ปจ จยั วิ. วา วเิ สสโต ภวต-ี ติ วิภตู .ิ (ธรรมชาตใิ ด) ยอ มเปน โดย วิเศษ เหตุน้ัน (ธรรมชาตินั้น) ช่ือวา ผูเปนโดยวิเศษ. เปนกัตตุรูป กตั ตวุ สาธนะ. วภิ วน วภิ ตู ิ ความเปน โดยวเิ ศษ ชอ่ื วา วภิ ตู .ิ เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. ถตุ ิ เปน ถุ ธาตุ ในความชมเชย ลง ติ ปจจยั วิ. วา ถวน ถตุ .ิ ความชมเชย ช่อื วา ถุติ. เปนภาวรปู ภาวสาธนะ. บางคราวธาตุตัวเดยี วเปน ทีฆะ รสั สะเสียบางกม็ ี เชน อ.ุ ปติ เปน ปา ธาตุ ในความรักษา ลง ติ ปจจยั แลว รัสสะ อา ท่ี ปา เปน อ วิ. วา ปาตี-ติ ปต.ิ (ชนใด) ยอ มรักษา เหตนุ ้ัน (ชนนั้น) ชือ่ วา ผูร กั ษา. (ผวั ,นาย). บางคราวเมือ่ รสั สะแลว ซอน ตฺ กม็ ี อ.ุ วิฺตตฺ ิ เปน วบิ ทหนา า ธาตุ ลง ติ ปจ จัย รสั สะ อา ท่ี า เปน อ ซอน ตฺ ว.ิ วา วิ ฺ าปน วิ ฺตฺติ. การใหร ตู า ง ๆ ชื่อวา วิ ฺตฺติ (การขอ). ๓. แปลงพยญั ชนะที่สดุ ธาตเุ ปน อยา งอ่ืน นี้โดยมากอนโุ มตาม ต ปจ จยั ในกริ ิยากติ กเหมือนกัน คือ ธาตทุ ี่มี จ,ฺ ช,ฺ ป,ฺ และ ทฺ เปน ที่สุด แปลงทส่ี ุดธาตุเปน ตฺ เชน อ.ุ วมิ ตุ ตฺ ิ, ภตฺต,ิ วิภตฺติ, คุตฺติ, อาปตตฺ ิ. วิมุตฺติ เปน วิ บทหนา มุจฺ ธาตุ ในความพน ลง ติ ปจจัยแลวแปลง จฺ ที่สุดธาตุเปน ตฺ วิ. วา วิมุจฺจน วิมุตฺติ. ความพนวิเศษ ช่ือวา วิมุตฺติ. เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. ภตตฺ ิ เปน ภชฺ ธาตุ ในความแจกจำแนก-คบ ลง ติ ปจ จยั แปลง ชฺ ท่สี ดุ ธาตุ เปน ตฺ วิ. วา ภชน ภตฺติ. การคบ ช่ือวา ภตฺติ วิภตฺติ วิ บทหนา ภชฺ ธาตุ วิ. วา วิภชน วภิ ตฺติ. การจำแนก ชอื่ วา วภิ ตฺต.ิ เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. คตุ ตฺ ิ เปน คุปฺ ธาตุ ในความคมุ ครอง ลง ติ ปจ จยั แลว แปลง ปฺ ท่ีสุดธาตุ เปน ตฺ ว.ิ วา คปุ น คตุ ตฺ .ิ ความคมุ ครอง ชอื่ วา คตุ ตฺ ิ เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. ติตฺติ เปน ติปฺ ธาตุ ในความอ่ิม ลง ติ ปจจัย แลวแปลง ปฺ ท่ีสุดธาตุเปน ตฺ วิ. วา ตปิ น ติตฺต.ิ ความอ่ิม ชอื่ วา ติตฺต.ิ เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ. 273
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 274 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อาปตฺติ เปน อา บทหนา ปทฺ ธาตุ ในความถึง ลง ติ ปจจัยแลวแปลง ทฺ ท่ีสดุ ธาตเุ ปน ตฺ ว.ิ วา อาปชชฺ น อาปตตฺ .ิ ความตอ ง ชอื่ วา อาปตตฺ .ิ เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. ๔. เฉพาะ า ธาตุ แปลง อา เปน อ,ิ ปา ธาตุ แปลง อา เปน อี อ.ุ ติ ,ิ ปต .ิ ติ ิ เปน า ธาตุ ในความยืน-ตั้งอยู ลง ติ ปจจัย แปลง อา ท่ี า เปน อิ ว.ิ วา าน ิต.ิ ความต้งั อยู ชอ่ื วา ิติ. ปติ เปน ปา ธาตุ ในความดม่ื ลง ติ ปจจยั แปลง อา ที่ ปา เปน อี ว.ิ วา ปวน ปติ. ความดื่ม ช่ือวา ปติ. ๒ นี้เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ. ที่กลาวนี้เปนมติ ในมูลกัจจายน แตในอภิธานนัปปทีกาสุจิ กลาววา ปติ เปนธาตุในความใหเอิบอ่ิม ตงั้ ว.ิ วา ปเณตี-ติ ปต .ิ ธรรมชาตใิ ด ยอมยงั ใจใหเ อิบอ่ิม เหตุนั้น ธรรมชาตนิ ้นั ชื่อวา ผยู ังใจใหเ อบิ อม่ิ เรียกวาปต.ิ ความจรงิ นาจะเปน ปนฺ แปลง นฺ เปน ณฺ และทานกก็ ลาว วา ปร ฺ ธาตุ กับ ป ธาตุ มีความอยางเดียวกนั . ปติ โดยมากแปลกนั วา ความเอบิ อ่มิ มิไดแ ปลวา ความด่ืม ๕. บางคราวแปลงตัวปจจัยเองบาง น้ีโดยมากก็ถือตาม หลัก ต ปจจัย ในกริ ยิ ากิตกกเ็ ชน เดียวกัน คอื :- ก. ธาตุมี ธฺ, ภฺ เปน ทีส่ ดุ แปลง ติ เปน ทธฺ ิ แลว ลบที่สุดธาตุ อ.ุ พทุ ฺธ,ิ ลทธฺ ิ, วิสทุ ธฺ ,ิ สมทิ ฺธิ. พุทฺธิ เปน พุธฺ ธาตุ ในความรู ลง ติ ปจจัย แลวแปลง ติ เปน ทฺธิ วิ. วา พุชฺฌติ เอตายา-ติ พุทฺธิ. (ชน) ยอมรูชัดดวยปญญานั่น เหตุนั้น (ปญญานั่น) ชอ่ื วา เปนเครอ่ื งรู (แหง ชน).เปน กตั ตรุ ปู กรณสาธนะ. ลทธฺ ิ เปน ลภฺ ธาตุ ในความได ลง ติ ปจจัย แลว แปลง ติ เปน ทฺธิ วิ. วา ลภติ เอตายา-ติ ลทฺธ.ิ (ชน) ยอมได ดว ยธรรมชาตินั่น เหตนุ ั้น (ธรรมชาติน่ัน) ช่ือวา เปน เหตุได (แหงชน). เปนกัตตรุ ปู กรณสาธนะ. วิสุทฺธิ เปน วิ บทหนา สุธฺ ธาตุ ในความหมดจด วิ. วา วิสุชฺฌน วิสุทฺธิ. ความหมดจด ชือ่ วา วสิ ทุ ธฺ .ิ สมิทฺธิ เปน ส บทหนา อิธฺ ธาตุ ในความสำเร็จ วิ. วา สมิชฺฌน สมิทฺธิ. ความสำเร็จพรอม ชือ่ วา สมทิ ฺธ.ิ ทัง้ ๒ นเี้ ปนภาวรปู ภาวสาธนะ. 274
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 275 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ข. ธาตมุ ี มฺ เปน ทส่ี ดุ แปลง ติ เปน นตฺ ิ แลว ลบทส่ี ดุ ธาตุ อ.ุ นกิ นตฺ ,ิ สนตฺ .ิ นกิ นตฺ ิ เปน นิ บทหนา กมฺ ธาตุ ในความปรารถนา ลง ติ ปจจยั แลวแปลง ติ เปน นฺติ ว.ิ วา นิกมน นิกนฺต.ิ ความใคร ชื่อวา นกิ นฺต.ิ สนตฺ ิ เปน สมฺ ธาตุ ในความสงบ ลง ติ ปจ จยั แลวแปลง ติ เปน นตฺ ิ วิ. วา สมน สนตฺ ิ ความสงบ ชื่อวา สนฺต.ิ ๒ นี้เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. ค. ธาตุมี สฺ เปนท่ีสุด แปลง ติ เปน ฏิ แลวลบที่สุดธาตุ อุ. อนุสิฏิ, สนฺตุฏิ, ทิฏ.ิ อนุสฏิ ิ เปน อนุ บทหนา สาสฺ ธาตุ ในความสอน ลง ติ ปจ จัย แปลง อา ท่ี ส เปน อิ แลวแปลง ติ เปน ฏิ วิ. วา อนสุ าสน อนสุ ิฏ ิ. การตามสอน ชื่อวา อนสุ ฏิ .ิ สนฺตุฏิ เปน ส บทหนา ตุสฺ ธาตุ ในความยินดี ลง ติ ปจจัยแลวแปลง ติ เปน ฏิ ว.ิ วา สนตฺ สุ ฺสน สนตฺ ุฏ ิ. ความยินดพี รอมช่ือวา สนตฺ ฏุ .ิ ทิฏ ิ เปน ทิสฺ ธาตใุ นความเหน็ ลง ติ ปจ จยั แลวแปลง ติ เปน ฏ ิ วิ. วา ทสฺสน ทิฏ .ิ ความเหน็ ชือ่ วา ทฏิ .ิ ๒ นเ้ี ปนภาวรปู ภาวสาธนะ. ๖. แปลงตัวธาตุ เชน ชาติ เปน ชนฺ ธาตุ ในความเกิด ลง ติ ปจ จยั แลว แปลง ชนฺ เปน ชา [แตก ารแปลงเชน น้ี ไมเฉพาะแตป จ จัยนี้ แมใ นที่อน่ื ก็แปลงไดเชน ในอาขยาตเปน ชายติ (ยอ มเกิด), กริ ิยากติ กเ ปน ชาโต (เกดิ แลว) เปน ตน ] ว.ิ ชนน ชาต.ิ ความเกดิ ช่อื วา ชาติ. เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. ปจจัยน้ี เมื่อลงประกอบกับธาตุสำเร็จรูปแลว เปนไดทุกรูปและทุกสาธนะ ใชเปน นามนามก็ได คณุ นามกไ็ ด เฉพาะภาวรูป ภาวสาธนะ เปนไดแตน ามนาม นอก นน้ั เปนคุณนาม การแจกตามลงิ คมีท่นี ยิ มใชเ ฉพาะ อิ การนั ต อิตถลี ิงค (รตฺต)ิ เทาน้นั . ตุ ปจ จัย ปจจัยน้ี คลายกับ เตฺว ปจจัยที่กลาวแลว คือ ไมลงในรูปและสาธนะอะไร เมือ่ ลงประกอบกบั ธาตสุ ำเรจ็ รปู แลว ใชแทนวภิ ัตตินามได ๒ วภิ ัตติ คือ ปฐมาวิภัตติ และ จุตตถีวิภัตติ ใชอายตนิบาตคือ ปฐมาวิภัตติวา “อันวา อัน-” ถือเอาความวา “การ-” หรอื “ความ-,” จตตุ ถีวภิ ัตติวา “เพือ่ -” แตหาแจกตามวิภัตตนิ ามไดไ ม คงตัว อยูตามรูปเดิม และไมมีการต้ังวิเคราะหเหมือนปจจัยอ่ืน และมีอำนาจหนาท่ีจะทำกับ ธาตุคลา ยกับ ต ปจ จยั ในกิรยิ ากิตกบ างประการ ดงั ตอไปนี้ คอื :- 275
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 276 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๑. ธาตุสองตัว ไมลบ แตตองลง อิ อาคมหลงั ธาต.ุ ๒. ธาตุตัวเดยี วคงไวคงตามเดิมบาง พฤทธิ์ตนธาตบุ าง. ๓. แปลงพยัญชนะทีส่ ุดธาตบุ าง. ๔. แปลงตวั ธาตเุ ปนอยา งอนื่ บาง. ๕. แปลงตัวเองบาง. ๑. ธาตุสองตวั ไมลบ แตต อ งลง อิ อาคมหลังธาตุ หมายความวา ธาตุ สองตัว ใหลง อิ อาคมหลงั ธาตุ ไมม กี ารแปลงตวั ธาตหุ รอื ลบพยัญชนะท่ีสดุ ธาตุ ใหคง ธาตไุ วตามเดมิ เชน อุ. ลภิตุ เปน ลภฺ ธาตุ สมิตุ เปน สมฺ ธาตุ ลง ตุ ปจ จัย คงทส่ี ดุ ธาตุไว ลง อิ อาคมหลงั ธาต.ุ อนงึ่ ธาตทุ สี่ ำเรจ็ รปู มาจากอาขยาตแลว เมอ่ื มาลงปจ จยั นคี้ งอยตู ามรปู เดมิ และ ให ลง อิ อาคม เชน อุ. ลิมฺปตุ เปน ลปิ ฺ ธาตุ ลงนคิ คหิตอาคมแลว แปลงเปน มฺ ตาม หมวด รธุ ฺ ธาตุ เมอื่ ลง ตุ ปจ จยั ตองลง อิ อาคมหลงั ธาต.ุ วิมุจฺจิตุํ เปน วิ บทหนา มจุ ฺ ธาตุ ลง ย ปจจยั หมวด ทวิ ฺ ธาตุ แปลง ย กบั ที่สดุ ธาตุเปน จฺจ เมื่อลง ตุ ปจ จัย ตองลง อิ อาคมหลงั ธาตุ. ชนิ ิตุ เปน ชิ ธาตุ นา ปจจัย หมวด กี ธาตุ ตุ ปจจยั ลง อิ อาคมที่ นา ปจ จัย. ๒. ธาตุตัวเดียวคงไวตามเดิมบาง พฤทธิ์ตนธาตุบาง ท่ีคงไวตามเดิม หมายเอาเฉพาะธาตทุ ่ีเปนทีฆะ คอื เปน สระยาวอยูแ ลว เม่อื ลง ตุ ปจจยั ใหคงไว เชน อ.ุ าตุ เปน า ธาตุ ในความรู. ปาตุ เปน ปา ธาตุ ในความดมื่ . พฤทธิท์ ี่ตน ธาตุ คอื ใหพฤทธ์ิตนธาตุไดเฉพาะที่เปนรัสสะเทาน้ัน เชน อุ เชตุ เปน ชิ ธาตุในความชนะ พฤทธิ์ อิ เปน เอ. โหตุ เปน หุ ธาตุ ในความม-ี เปน พฤทธ์ิ อุ เปน โอ. แตบ างคราว ธาตทุ ีเ่ ปน ไปในความถึงท่ีเปนทีฆะ แตก พ็ ฤทธ์ิไดบ าง อุ. เนตุ เปน นี ธาตุ ในความนำ ไป พฤทธ์ิ อี เปน เอ. สยิตุ เปน สี ธาตุ ในความนอน พฤทธิ์ อี เปน เอ แลว เอาเปน อย. อน่ึง ธาตุตัวเดียวน่ันแหละ เมื่อเปล่ียนแปลงไปเปนสองตัวแลว ก็นับวาเปน ธาตุสองตวั ได และใหน ำหลกั ในขอ ๑ มาใช คอื ใหล ง อิ อาคมที่ตัวหลัง เชน สี ธาตุ เมอื่ แปลง อี เปน เอ แลว เอาเปน อย ไดรูปเปน สย จงึ กลายเปน ธาตุสองตวั ไป ใหล ง อิ อาคมได เปน สยติ ,ุ ภู ธาตุ พฤทธิ์ อู เปน โอ แลว เอาเปน อว เปน ภว ลง อิ อาคม ได อ.ุ ภวติ .ุ หรือท่ีเปลีย่ นแปลงโดยวธิ ีอัพภาส กลายเปน พยัญชนะสองตัวขน้ึ ตอ งลง 276
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 277 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò อิ อาคมเชนกัน อุ. ชหิตุ เปน หา ธาตุ ในความละ เทฺวภาวะ ห ไวหนา แลวแปลง พยัญชนะนน้ั เปน ช ลง อิ อาคม. ๓. แปลงพยัญชนะท่ีสดุ ธาตุ คือ แปลงพยญั ชนะตวั หลังธาตเุ ปน อยางอื่น :- ก. ธาตุมี ทฺ เปนท่ีสุด แปลงท่ีสุดธาตุเปน ตฺ. อุ. ปตฺตุ เปน ปทฺ ธาตุ ในความถงึ ลง ตุ ปจจัย แปลง ทฺ ทส่ี ุดธาตุเปน ต.ฺ วตตฺ ุ. เปน วทฺ ธาตุ ในความกลา ว ลง ตุ ปจจยั แปลง ทฺ ทสี่ ดุ ธาตุ เปน ตฺ. ข. ธาตุมี รฺ เปน ท่ีสุด เชน อ.ุ กตฺตุ เปน กรฺ ธาตุ ในความทำ ลง ตุ ปจ จยั แปลง รฺ ทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ต,ฺ หรอื จะเรยี กตามแบบวา ลบ ร ซอ น ตฺ กไ็ ดท งั้ ๒ นยั . ค. ธาตมุ ี มฺ, น.ฺ เปนที่สุด เชน คนฺตุ เปน คมฺ ธาตุ แปลงที่สดุ ธาตุเปน นฺ หนฺตุ เปน หนฺ ธาตุ แปลง นฺ ทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ตวั สะกด. ๔. แปลงตัวธาตเุ ปนอยางอน่ื เชน อุ. กาตุ เปน กรฺ ธาตุ ลง ตุ ปจจัย แลวแปลง กรฺ เปน กา, ปวิตุ เปน ปา ธาตุ ในความดื่ม ลง ตุ ปจจัย แลวแปลง ปา เปน ปว .ฺ ๕. แปลงตวั เอง คอื แปลง ตุ ปจ จยั กบั ท่ีสุดธาตุเปน อยา งไร วธิ แี ปลงตอ ง แลวแตพยัญชนะท่ีสุดธาตุ และอนุโลมตาม ต ปจจัยในกิริยากิตกไดบางบางอยาง เชน :- ก. ธาตมุ ี ภฺ เปน ที่สุด แปลง ตุ ปจจยั กบั ที่สดุ ธาตุเปน ทฺธุ อุ. ลทฺธุ เปน ลภฺ ธาตุ ในความได ลง ตุ ปจ จัย แปลง ตุ กับทีส่ ุดธาตุเปน ทธฺ .ุ ข. ธาตุมี สฺ เปนท่ีสุด แปลง ตุ ปจจัยกับที่สุดธาตุเปน ฏุ อุ. ทฏุ เปน ทิสฺ ธาตุ ในความเห็น ลง ตุ ปจจยั แปลง ตุ กบั ทสี่ ุดธาตุเปน ฏุ ลบ อิ ท่ี ทิ เสีย. ผฏุ ุ เปน ผสุ ฺ ธาตุ ในความถูกตอ ง ลง ตุ ปจจยั แปลง ตุ กับที่สุดธาตุเปน ฏ .ุ ยุ ปจจัย ปจจัยน้ี เม่ือลงประกอบกับธาตุ หาคงตัวอยูตามเดิมไม คงเปล่ียนแปลงไป และใชลงในตัสสีลสาธนะไดอีกดวย ก็วิธีเปล่ียนแปลงของปจจัยน้ี คงไมมีมากเทาไร นกั เมื่อจะกลา วตามหลักก็เปลีย่ นแปลงได ๓ อยางเทาน้นั คอื :- 277
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 278 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๑. แปลง ยุ เปน อน การแปลงเชน น้ี ใชไ ดในธาตุทั่วไปไมจ ำกัดทีส่ ุดธาตุ คอื ไมวาทีส่ ุดธาตจุ ะเปน เชนไร เม่อื ลง ยุ ปจ จัยแลว ใหแปลง ยุ นน้ั เปน อน เสมอไป อ.ุ วิโรจโน เปน วิ บทหนา รจุ ฺ ธาตุ ในความรุงเรือง ยุ ปจ จัย พฤทธิ์ อุ ที่ รุ เปน โอ แปลง ยุ เปน อน ว.ิ วา วิโรจตี-ติ วโิ รจโน. (ชนใด) ยอ มรงุ เรอื ง เหตนุ ้นั (ชนนัน้ ) ชอ่ื วา ผรู ุง เรือง. เปน กตั ตุรูป กัตตุสาธนะ. วโิ รจติ สเี ลนา-ติ วโิ รจโน. (ชนใด) ยอ มรงุ เรอื ง โดยปกติ เหตนุ นั้ (ชนนัน้ ) ชอื่ วา ผรู งุ เรอื งโดยปกติ เปน กตั ตุรปู ตัสสีลสาธนะ. วจน เปน วจฺ ธาตุ ในความกลาว ลง ยุ ปจจัย แลวแปลงเปน อน วิ. วา วจิตพฺพนฺ-ติ วจน. (สัททชาตใด) (เตน อันเขา) พึงกลาว เหตุน้ัน (สัททชาตนั้น) ชอ่ื วา อันเขาพึงกลาว. เปน กมั มรูป กัมมสาธนะ. วจยิ เต-ติ วจน. (เตน อนั เขา) ยอ ม กลา ว เหตนุ น้ั ชอื่ วา การกลา ว. เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. วจติ เตนา-ติ วจน. (ชน) ยอ ม กลาว ดวยสัททชาตนั้น เหตุนั้น (สัททชาตน้ัน) ช่ือวา เปนเคร่ืองกลาว (แหงชน) เปน กัตตรุ ูป กรณสาธนะ. ๒. แปลง ยุ เปน อณ น้ีแปลงไมไดในธาตุท่ัวไป คือ จำกัดเฉพาะธาตุ บางตวั ท่นี ยิ มใชก ็คือธาตุทม่ี ี ร,ฺ หฺ เปนที่สดุ เทา นั้น. ก. ธาตมุ ี รฺ เปน ทสี่ ดุ เชน อ.ุ ปูรณ เปน ปูรฺ ธาตุ ในความเตม็ ลง ยุ ปจ จยั แปลง ยุ เปน อณ ว.ิ วา ปูรยเต-ติ ปรู ณ. (เตน อันเขา) ยอมใหเต็ม เหตนุ นั้ ชื่อวา ความใหเต็ม (การบำเพญ็ ). มรณ เปน มรฺ ธาตุ ในความตาย ลง ยุ ปจจัย แปลง ยุ เปน อณ วิ. วา มรติ พพฺ น-ฺ ติ มรณ. (เตน อนั เขา) พึงตายเหตนุ นั้ ช่ือวา ความตาย. เปนภาวรปู ภาว สาธนะ. มรติ เอตฺถา-ติ มรณ. (ชน) ยอ มตาย ในท่ีน่ัน เหตนุ นั้ (ที่น่นั ) ชอื่ วา ท่เี ปนที่ ตาย (แหง ชน). เปนกตั ตรปู อธกิ รณสาธนะ. ข. ธาตุมี หฺ เปนทส่ี ดุ เชน อ.ุ คหณ เปน คหฺ ธาตุ ในความถือเอา ลง ยุ ปจจัย แปลง ยุ เปน อณ วิ. วา คเหตพพฺ น-ติ คหณ. (เตน อันเขา) พงึ ถอื เอา เหตนุ ัน้ ชอื่ วา ความถอื เอา. เปน ภาวรูป ภาวสาธนะ. แตธาตุมี หฺ เปนท่ีสุดน้ี ไมสูนิยมแนนอนเหมือนธาตุมี รฺ เปนท่ีสุดนัก คอื อาจแปลงเปน อน กไ็ ด อ.ุ อปุ นยหฺ น เปน อปุ บทหนา นหฺ ธาตุ ในความผกู ลง ย ปจจัย (อาขยาต) แปลง ย กับท่ีสุดธาตุ เปน ยหฺ แลวลง ยุ ปจจัย แปลง ยุ 278
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 279 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เปน อน วิ. วา อปุ นยหฺ ยเต-ติ อปุ นยฺหน. (เตน อันเขา) ยอมเขาไปผูก เหตุนน้ั ชอื่ วา ความผกู เปน ภาวรปู ภาวสาธนะ. นอกจากนี้ บางคราวถึงธาตทุ ่มี ใิ ชมี ร,ฺ หฺ เปน ทีส่ ุด แตแ ปลงเปน อณ กม็ ี ท่ี เปนเชนนี้ กม็ ีโดยสว นนอย เชน อ.ุ ปฺาณ เปน ป บทหนา า ธาตุ ในความรู ลง ยุ ปจ จยั แปลง ยุ เปน อณ ซอ น ฺ ว.ิ วา ปชานาติ เตนา-ติ ปฺาณ. (ชน) ยอม ปรากฏ ดวยคุณชาตน้ัน เหตุน้ัน (คุณชาตน้ัน) ชื่อวา เปนเคร่ืองปรากฏ (แหงชน). เปนกัตตุรูป กรณสาธนะ. แมศัพทวา าณ (คุณชาตเปนเคร่ืองรู), วิฺาณ ความรแู จง (ซ่งึ อารมณ) ซงึ่ ออกจาก า ธาตุ ก็เชนเดยี วกนั . าณ วิ. วา ชานาติ เตนา-ติ าณ. (ชน) ยอมรู ดวยคุณชาตน้ัน เหตุน้ัน (คุณชาตน้ัน) ชื่อวา เปน เครื่องรู (แหงชน). เปนกัตตุรูปกรณสาธนะ. ชานน าณ. ความรู ชื่อวา ญาณ. เปนภาวรูปภาวสาธน. วิฺาณ วิ. วา วิฺาตพฺพนฺ-ติ วิฺาณ. (เตน อันเขา) พึงรูแจง เหตนุ ้ัน ชื่อวา ความรูแจง (ซ่ึงอารมณ) เปนภาวรปู ภาวสาธนะ. สมโณ เปน สมฺ ธาตุ ในความสงบ ลง ยุ ปจ จัย แลว แปลง ยุ เปน อณ วิ. วา สเมตี-ติ สมโณ. (ชนใด) ยอมสงบ เหตุนั้น (ชนนั้น) ชื่อวา ผูสงบ. เปนกัตตุรูป กตั ตุสาธนะ. ๓. แปลง ยุ เปน อานน นี้จำกัดใหใชไดแตเฉพาะ า ธาตุตัวเดียว เทานน้ั และ า ตัวนน้ั ตองแปลงเปน ชา เสมอไป อุ.ชานน, วิชานน. ชานน เปน า ธาตุ ในความรู แปลง า เปน ชา ลง ยุ ปจจยั แลวแปลง ยุ เปน อานน ว.ิ วา ชานน ชานน. ความรูช ่อื วา ชานนะ. วิชานน เปน วิ บทหนา า ธาตุ แปลง า เปน ชา ลง ยุ ปจจยั แปลง ยุ เปน อานน วิ. วา วิชานน วิชานน. ความรูแจงช่ือวา วิชานนะ. ๒ น้ี เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. ปจ จยั น้ี เมือ่ ลงในธาตสุ ำเรจ็ รูปแลว เปนไดทงั้ นามนามและคณุ นาม. ภาวรปู ภาวสาธนะ เปนนามนาม. นอกนั้นเปนคุณนามที่เปนคุณนามแจกไดทั้ง ๓ ลิงค ในปุงลิงค แจกเหมือน อ การันต (ปุริส), อิตถีลิงค แจกเหมือน อา การันต (กฺ า), นปุงสกลงิ คแจกเหมือน อ การนั ต (กลุ ). 279
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 280 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อน่ึง ปจจัย ยังมีอำนาจบังคับนามศัพท ซึ่งเปนฉัฏฐีวิภัตติใหแปลอายต- นบิ าตของทตุ ยิ าวิภัตตวิ า (ซ่ึง)ได อ.ุ สพฺพปาปสสฺ อกรณ. การไมท ำ ซึ่งบาปท้ังปวง เปน ตน. ปจจัยในแบบเหลานี้ เม่ือประกอบกับธาตุสำเร็จรูปแลว ที่เปนคุณนาม ยอม แจกไดทง้ั ๓ ลงิ ค และเปลย่ี นรปู ไปตามวิภัตตขิ องนามเสมอ สวนทเ่ี ปนนามนาม ยอม คงตัวอยู คือ เปนลิงคใด ก็คงเปนลิงคนั้น ไมเปล่ียนไป บางศัพทก็นิยมเปนปุงลิงค เมอ่ื เปน ปงุ ลงิ คแ ลว จะเปน ลงิ คอ น่ื ไมไ ด. เชน โกโธ (ความโกรธ) โทโส (ความประทษุ รา ย) เปนตน . บางศพั ทกน็ ิยมเปนอติ ถลี ิงค เชน เจตนา (ความจงใจ), ปพพฺ ชฺชา (การบวช), อจิ ฺฉา (ความปรารถนา) เปน ตน . บางศัพทกน็ ยิ มเปน นปุงลงิ ค เชน กรณ (ความทำ) วจน (คำเปนเคร่อื งกลา ว), สวน (การฟง ) เปน ตน . ฉะน้ัน เมอื่ ตองการเปน วิภัตติอะไร กจ็ งนำไปแจกใหตรงตามลงิ คแ ละการนั ตนน้ั ๆ เถิด. ปจจัยนอกแบบ ปจจัยเหลาน้ี ไดแก ปจจัยท่ีมิไดปรากฏในแบบบาลีไวยากรณแตมีปรากฏ อยูใ นมูลกัจจายน เปนปจจัยซ่งึ มที ่ีใชน อ ย และจดั เปน หมวดหมไู มไ ดส ะดวก เพราะไม แนนอน คือ บางคราวก็ลงไดเฉพาะธาตุบางตัว และบางคราวก็เปนไดแตบางสาธนะ ไมทั่วไป ตอไปนี้จะไดนำมาแสดงไว เพ่ือผูตองการจะเรียนรพู ศิ ดาร จะไดท ราบตาม ความประสงค กป็ จ จยั เหลา นท้ี งั้ หมดดว ยกนั มอี ยู ๑๔ ตวั คือ อาวี, อิน, อิก, ณุก, ตาย, ตกุ , ม, ร, รตถฺ ุ, รมฺม, รจิ ฺจ, ริตุ, รริ ิย, ราตุ. ๑. อาวี ปจจัย ปจ จัยนี้ ใชลงในอรรถแหง ตสั สลี สาธนะ เชน อ.ุ วา ภยทสสฺ าวี เปน ภย บท หนา ทิสฺ ธาตุ ในความเห็น แปลง ทสิ ฺ เปน ทิสสฺ แลว ลบ อิ ท่ี ทิ ออกเสยี วิ. ภย ปสฺสติ สีเลนา-ติ ภยทสฺสาวี. (ชนใด) ยอมเห็น ซ่ึงภัย โดยปกติ เหตุนั้น (ชนนั้น) ช่อื วา ผเู ห็นซ่ึงภยั โดยปกติ. เปน กัตตุรปู กตั ตสุ าธนะลงในอรรถแหงตสั สลี ะ. 280
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 281 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๒. อนิ ปจ จัย ปจจัยนี้ ใชล งได ๒ สาธนะ คือ กตั ตสุ าธนะ ๑ ภาวสาธนะ ๑ เทานนั้ นอกน้ี หาลงไดไม เชน อ.ุ วา ชิโน, สุปน. ชิโน เปน ชิ ธาตุ ในความชนะ ลง อิน ปจจัย ลง อิ ท่ี ชิ เสีย วิ. วา ชินาตี-ติ ชิโน. (พระผูมีพระภาคเจาใด) ยอมชนะ เหตุนั้น (พระผูมีพระภาคเจาน้ัน) ช่อื วา ผูชนะ. เปน กตั ตรุ ปู กตั ตุสาธนะ. สุปน เปน สุปฺ ธาตุ ในความหลับ ลง อิน ปจจัย วิ. วา สุปยเต-ติ สุปน. (เตน อันเขา) ยอมหลับ เหตุนั้น ช่ือวา ความหลับ, ถือเอาความวา “ความฝน”. เปนภาวรูป ภาวสาธนะ. ๓. อกิ ปจ จยั ปจจยั นี้ มที ใ่ี ชโ ดยมาก เปนกตั ตุรปู กตั ตุสาธนะ และตามคมั ภีรม ลู กจั จายน กลาววา ลงในอรรถวา ควร วิธีตั้งวิเคราะห มีรูปและลักษณะคลายตัทธิต แตบางตัว มิไดลงในอรรถวา ควร เสมอไปเชน อุ. วา คมโิ ก. เปน คมฺ ธาตุ ลง อกิ ปจ จยั ว.ิ วา คนตฺ ุ ภพโฺ พต-ิ คมโิ ก. (ภกิ ษใุ ด) เปน ผคู วรเพอื่ จะไป เหตนุ นั้ (ภกิ ษนุ ั้น) ชือ่ วา ผคู วร เพื่อจะไป. ในอภิธานนัปปทีปกาสูจิ วา ลงในอรรถวา ปรารถนา ก็ได วิ. วา คนฺตุ อิจฺฉตี-ติ คมิโก. (ภิกษุใด) ยอมปรารถนา เพ่ือจะไป เหตุน้ัน (ภิกษุน้ัน) ช่ือวา ผูปรารถนาเพ่ือจะไป, หรือไมลงในอรรถอะไรก็ได วิ. วา คจฺฉตี-ติ คมิโก. (ภิกษุใด) ยอ มไป เหตุนน้ั (ภิกษุนนั้ ) ช่ือวา ผูไป. โอปนยโิ ก เปน อุป บทหนา นี ธาตุ ในความนำไป ลง อกิ ปจจยั พฤทธิ์ อุ ที่ อปุ เปน โอ แปลง อี ที่ นี เปน เอ แลว เอาเปน อย วิ. วา (อตฺตน)ิ อุปเนตุ ภพโฺ พ-ติ โอปนยิโก. (ธรรมใด) เปนสภาพควร เพื่ออันนำเขาไป (ในตน) เหตุน้ัน (ธรรมนั้น) ชอ่ื วา ควรเพอ่ื อนั นำเขา ไป (ในตน). ทตี่ ง้ั ว.ิ เชน น้ี โดยอนโุ ลมศพั ทว า คมโิ ก แตในมูล กัจจายนต้งั วิ. วา อุปนเย นยิ ตุ โฺ ต-ติ โอปนยิโก. (ธรรมใด) ควรแลว ในอนั นอ มเขา ไป เหตนุ นั้ (ธรรมนนั้ ) ชอ่ื วา โอปนยกิ ะ. ศพั ทน ี้ เปน ตทั ธติ กไ็ ด. 281
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 282 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ทีปก า เปน ทิปฺ ธาตุ ในความสองสวา ง ลง อิก ปจ จยั ทฆี ะอิ ท่ี ทิ เปน อี ว.ิ วา ทิปฺปตี-ติ ทีปกา. (ธรรมชาติใด) ยอมสองสวาง เหตุน้ัน (ธรรมชาติน้ัน) ช่ือวา ผูสองสวา ง. ศพั ทนี้มไิ ดใชลงในอรรถวา ควร และใชเปน รูปอติ ถลี ิงคเสมอ. ๔. ณกุ ปจ จยั ปจจยั นีม้ ีนิยมใชเ ปนกัตตรุ ปู กตั ตุสาธนะ. และใชล งในอรรถแหง ตสั สลี สาธนะ. เชน อุ. การุโก เปน กรฺ ธาตุ ในความทำลง ณุก ปจจัย เพราะปจจัยนี้เปนปจจัยท่ี เนื่องดวย ณ จึงมีอำนาจใหทีฆะ อ ตนธาตุเปน อา และลบ ณ เสีย วิ. วา กโรติ สีเลนา-ติ การโุ ก. (ชนใด) ยอมทำ โดยปกติ เหตุนัน้ (ชนน้นั ) ชอ่ื วา ผทู ำโดยปกต.ิ กามโุ ก เปน กามฺ ธาตุ ในความใคร ลง ณกุ ปจ จยั ว.ิ วา กามติ สเี ลนา-ติ กามุโก. (ชนใด) ยอ มใคร โดยปกติ เหตนุ นั้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา ผใู ครโ ดยปกติ. ๕. ตยฺย ปจ จัย ปจจัยน้ี เมอื่ ลงประกอบกบั ธาตุแลว มีลักษณะเชน เดยี วกนั กบั พวกกจิ จปจ จัย เพราะเปนได ๒ สาธนะเหมือนกัน คือ เปนกัมมสาธนะก็ได ภาวสาธนะก็ได และ มอี ำนาจหนาท่ที ่ีจะตอ งทำกับธาตุดงั นี้ คอื :- ๑. ธาตุตวั เดยี วคงไวต ามเดิม. ๒. ธาตุสองตัวแปลงที่สดุ ธาต.ุ ๓. แปลง ต แหง ตยยฺ เปนอยา งอ่นื แลว ลบที่สดุ ธาตุ. ๑. ธาตุตัวเดียวคงไวตามเดิม เชน อุ. วา าตยฺย เปน าธาตุ ในความรู ลง ตยฺย ปจจัย คงธาตุไว วิ. วา าตพฺพนฺ-ติ าตยฺย. (คุณชาตใด) (เตน อันเขา) พึงรู เหตุนน้ั (คุณชาตนนั้ ) ชอ่ื วา อนั เขาพงึ ร.ู ปาตยฺย เปน ปา ธาตุ ในความด่ืม ลง ตยฺย ปจจัย คงธาตุไว วิ. วา ปาตพพฺพนฺ-ติ ปาตยฺย. (น้ำใด) (เตน อันเขา) พึงด่ืม เหตุนั้น (น้ำนั้น) ช่ือวา อนั เขาพึงด่มื . ท้ัง ๒ นี้เปน กัมมรูป กัมมสาธนะ. ๒. ธาตุสองตัวแปลงท่ีสุดธาตุ เชน อุ. วา ปตฺตยฺย เปน ปทฺ ธาตุ ใน ความถงึ ลง ตฺยย ปจจัย แปลง ทฺ ทสี่ ดุ ธาตุเปน ตฺ หรอื จะเรียกวาลบ ทฺ ซอ น ตฺ กไ็ ด 282
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 283 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ว.ิ วา ปตฺตพฺพนฺ-ติ ปตตฺ ยยฺ . (ทใี่ ด) (เตน อนั เขา) พงึ ถึง เหตนุ ้นั (ที่นั้น) ช่อื วา อัน เขาพึงถงึ . เปนกัมมรปู กัมมสาธนะ. ๓. แปลง ต แหง ตยฺย เปนอยางอ่ืน แลวลบที่สุดธาตุ ลักษณะนี้ อนุโลมตาม ต ปจ จัยในกิริยากิตกไดป ระการ เชน :- ก. ธาตมุ ี สฺ เปน ท่สี ุด แปลง ต เปน ฏ อ.ุ ทฏ ยยฺ เปน ทสิ ฺ ธาตุ ลง ตยยฺ ปจ จยั แปลง ต เปน ฏ ลบ อิ ท่ี ทิ เสยี แลว ลบ ทสี่ ดุ ธาตุ ว.ิ วา ทฏ พพฺ น-ติ ทฏยฺย (รูปใด) (เตน อันเขา) พึงเห็น เหตุนั้น (รูปน้ัน) ช่ือวา อันเขาพึงเห็น. ศัพทน้ีในมูล กัจจายนท านกลา ววา เอา ต แหง ตยยฺ เปน รฏ ลบ ส ท่ีสดุ ธาตุ และ ร แหง รฏ เสยี พรอมท้ังลบ อิ ที่ ทิ ดว ย. แตท แ่ี สดงไวนั้น เหน็ พออนโุ ลมตามหลกั ของ ต ปจจยั ในกริ ิยากิตกก็ได และเปนการงายทีจ่ ะจดจำ เพราะมหี ลักอยแู ลว จึงแสดงไวเ ชน นน้ั . ข. ธาตุมี ภฺ เปนที่สุด แปลง ต เปน ทฺธ อุ. ลทฺธยฺย เปน ลภฺ ธาตุ ใน ความได ลง ตยฺย ปจจัย แปลง ต เปน ทฺธ แลวลบท่ีสุดธาตุ วิ. วา ลภิตพฺพนฺ-ติ ลทธฺ ยยฺ (สิ่งใด) (เตน อันเขา) พึงได เหตุนั้น (สิ่งน้ัน) ชื่อวา อันเขาพึงได ทั้ง ๒ นี้ เปน กมั มรปู กัมมสาธนะ. ๖. ตุก ปจ จัย ปจจัยน้ี เทาปรากฏเห็น ลงไดเฉพาะ คมฺ ธาตุ มี อา เปนบทหนาตัวเดียว เทา นน้ั เชน อ.ุ วา อาคนตฺ โุ ก เปน อา บทหนา คมฺ ธาตุ ในความไป ลง ตกุ ปจจยั แปลง มฺ ท่ีสุดธาตุ เปน นฺ วิ. วา อาคจฉฺ ต-ี ติ อาคนตฺ ุโก (ภิกษุใด) ยอ มมา เหตุน้นั (ภิกษนุ น้ั ) ช่ือวา ผมู า. เปน กัตตรุ ูป กัตตุสาธนะ. ๗. ม ปจ จัย ปจ จัยน้ี ใชล งไดทกุ ธาตแุ ละทกุ สาธนะ มไิ ดจำกัด เชน อุ. วา ทโุ ม. เปน ทุ ธาตุ ในความเจริญ ลง ม ปจจัย วิ. วา ทวต-ี ติ ทโุ ม. (ตนไมใด) ยอมเจริญ เหตุนั้น (ตนไมน นั้ ) ชอื่ วา ผเู จรญิ . เปน กตั ตุรูป กตั ตสุ าธนะ. อีกนัยเปน ทุ ธาตุ ในความเบียดเบียน วิ. วา ทุนียตี-ติ ทุโม. (ตนไมใด) (เตน อนั เขา) ยอ มเบยี ดเบยี น เหตนุ น้ั (ตน ไมน น้ั ) ชอ่ื วา ผอู นั เขาเบยี ดเบยี น. เปน กมั มรปู กมั มสาธนะ. 283
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 284 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ถาโม เปน า ธาตุ ในความตง้ั อยู ลง ม ปจ จยั แปลง า เปน ถา วิ. วา าตี-ติ ถาโม. (สภาพใด) ยอมตั้งอยู เหตุน้ัน (สภาพนั้น) ช่ือวา ผูต้ังอยู. ถือเอา ความวา “เรย่ี วแรง” เปน กัตตุรูป กตั ตสุ าธนะ. ๘. ร ปจจยั ปจจัยน้ี เม่ือประกอบกับธาตุแลว มีอำนาจใหลบที่สุดธาตุไดและลบตัวเอง ดวย ถึงปจจัยอื่นท่ีเนื่องดวย ร ก็มีนัยเชนเดียวกัน เชน อุ. วา อนฺตโก เปน อนฺต (ทส่ี ดุ) บทหนา กรฺ ธาตุ ในความทำ ลง ร ปจจยั ลบ รฺ ที่สุดธาตุ แลวลบ ร ปจจัยเสยี ว.ิ วา อนตฺ กโรต-ี ติ อนฺตโก. (สภาพใด) ยอ มทำ ซงึ่ ท่ีสุด เหตนุ น้ั (สภาพน้นั ) ช่อื วา ผูทำซง่ึ ทสี่ ดุ . ถือเอาความวา “ความตาย” เปนกัตตรุ ปู กตั ตสุ าธนะ. ๙. รตฺถุ ปจจยั ปจ จัยนี้ นบั เปน ปจจัยทเ่ี นื่องดว ย ร เพราะฉะนัน้ เม่ือลงประกอบกับธาตแุ ลว จงึ มีอำนาจใหล บทส่ี ุดธาตไุ ด และ ลบ ร เสยี เชน อุ. วา วตฺถุ เปน วสฺ ธาตุ ในความอยู ลง รตถฺ ุ ปจ จยั ลบทสี่ ดุ ธาตุ และลบ ร เสยี ว.ิ วา วสติ เอตถฺ า-ติ วตถฺ .ุ (ชน) ยอมอยูใน ทีน่ ่นั เหตุนัน้ (ทนี่ น่ั ) ช่ือวา เปน ทีอ่ ยู (แหง ชน).เปน กตั ตุรปู อธกิ รณสาธนะ. สตฺถุ เปน สาสฺ ธาตุ ในความสอน ลง รตฺถุ ปจ จัย ลบท่ีสดุ ธาตุน้ัน และลบ ร เสีย วิ. วา สาสตี-ติ สตฺถา (ชนใด) ยอมสอน เหตุนั้น (ชนน้ัน) ช่ือวา ผูสอน. เปน กตั ตรุ ูป กตั ตสุ าธนะ. ๑๐. รมมฺ ปจจยั ปจ จยั นี้ นับวาเปนปจจยั ทเ่ี นื่องดว ย ร จงึ มีอำนาจและหนา ท่ีเชน เดียวกบั ร ปจ จยั เชน อุ. วา กมฺม เปน กรฺ ธาตุ ลง รมฺม ปจจยั ลบ รฺ ทส่ี ุดธาตุ และลบ ร แหง รมฺม ดวย วิ. วา กาตพฺพนฺ-ติ กมฺม (กิจใด) (เตน อันเขา) พึงทำ เหตุนั้น (กิจนั้น) ชื่อวา อันเขาพึงทำ. เปน กัมมรปู กัมมสาธนะ. ธมฺโม เปน ธรฺ ในความทรงไว ลง รมฺม ปจจัย ลบ รฺ ที่สุดธาตุ และลบ ร แหง รมมฺ ดว ย ว.ิ วา ธาเรต-ี ติ ธมโฺ ม (สภาพใด) ยอ มทรงไว เหตนุ นั้ (สภาพนนั้ ) ช่อื วา ผทู รงไว. เปน กตั ตุรปู กตั ตสุ าธนะ. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 284
เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 285 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๑๑. รจิ ฺจ ปจจยั น้ีกเ็ ปน ปจ จัยที่เน่ืองดว ย ร เชน เดยี วกนั แตมีจำกัดใหล งไดเ ฉพาะ กรฺ ธาตุ เทา น้ัน เชน อ.ุ วา กิจฺจ เปน กรฺ ธาตุ ลง ริจฺจ ปจจัย ลบทสี่ ุดธาตุ และลบ ร แหง ริจฺจ เสีย วิ. วา กาตพฺพน-ติ กิจฺจ. (กรรมใด) (เตน อันเขา) พึงทำ เหตุนั้น (กรรมน้ัน) ชื่อวา อันเขาพงึ ทำ. เปนกมั มรูป กมั มสาธนะ. ๑๒. ริตุ ปจจัย นี้เปนปจจัยท่เี นอื่ งดวย ร เชน เดียวกัน มอี ำนาจและหนา ท่ีดังกลาวแลว เชน อ.ุ วา ธตี ุ เปน ธรฺ ธาตุ ในความทรงไว ลง รติ ุ ปจจยั ลบ รฺ ทสี่ ดุ ธาตุ และ ร แหง รติ ุ ทีฆะ อิ แหง ริ เปน อี ว.ิ วา ธรยิ เต-ติ ธตี า. (หญงิ สาวใด) (มาตาปตูหิ อันมารดาและ บิดาทั้งหลาย) ยอมทรงไว เหตุน้ัน (หญิงสาวน้ัน) ช่ือวา ผูอันมารดาและบิดาทรงไว. หมายความวา ธิดา หรือ ลูกหญิง. เปนกัมมรูป กัมมสาธนะ. เขากับปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ แหงนาม เปน ธตี า แจกตามแบบ มาตุ โดยวธิ นี าม (๖๘). ปตุ เปน ปา ธาตุ ในความรักษา ลง รติ ุ ปจจยั ลบ อา ที่ ปา เสยี และลบ ร แหง ริตุ ดวย วิ. วา (ปุตฺต) ปาตี-ติ ปตา. (บุรุษใด) ยอมรักษา (ซึ่งบุตร) เหตุนั้น (บุรุษนั้น) ช่ือวา ผูรักษา (ซ่ึงบุตร). หมายความวา บิดา หรือ พอ. เปนกัตตุรูป กตั ตสุ าธนะ. เขา กบั ปฐมาวภิ ตั ติ เอกวจนะ แหง นาม เปน ปต า โดยวธิ นี าม (๖๗). ๑๓. รริ ิย ปจจยั นก้ี ็เปน ปจ จัยทีเ่ นื่องดวย ร ดงั ทีก่ ลาวแลว เชน อ.ุ วา กริ ิยา เปน กรฺ ธาตุ ในความทำ ลง ริริยา ปจจัย ลบ รฺ ที่สุดธาตุและ ร ตัวหนาแหงริริยาดวย ต้ัง วิ. วา กาตพพฺ น-ฺ ติ กริ ยิ า. (ธรรมชาตใิ ด) (เตน อนั เขา) พงึ ทำ เหตนุ นั้ (ธรรมชาตนิ น้ั ) ชื่อวา อันเขาพึงทำ. เปนกัมมรูป กัมมสาธนะ. หรือต้ังเปนภาวรูป ภาวสาธนะก็ได วิ. วา กรณ กิริยา. ความทำ ช่อื วา กริ ยิ า. ศพั ทน ้ีสำเร็จรปู แลว ใชเ ปน อิตถีลิงคเสมอ. 285
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 286 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๑๔. ราตุ ปจ จยั นีก้ ็เปนปจ จยั ทเี่ นื่องดว ย ร ดงั กลา วแลว เชน อุ. วา ภาตุ เปน ภาสฺ ธาตุ ใน ความกลาว ลง ราตุ ปจ จยั ลบ สฺ ทีส่ ดุ ธาตุ และ ร แหง ราตุ ปจ จยั ดวย ต้งั ว.ิ วา (ปุพฺเพ) ภาสตี-ติ ภาตา (ชนใด) ยอมกลาว ในกอน เหตุนั้น (ชนน้ัน) ชื่อวา ผกู ลา วกอ น. หมายความวา ผพู ูดไดกอน ไดแก พี่ชาย เขากบั ปฐมาวิภตั ติ เอกวจนะ แหง นาม เปน ภาตา แจกตามแบบ ปต ุ โดยวธิ นี าม (๖๗). ศพั ทว า ภาตุ น้ี เปน คำกลางๆ อาจหมายถึงพ่ีชายก็ได นองชายก็ได เม่ือจะใหมีความหมายตางกัน โดยมาก พี่ชาย ใช เชฏ เปน เชฏภาตุ พ่ชี าย. นองชายใช กนฏิ นำหนาเปน กนิฏภาตุ นอ งชาย. ถาใชศัพทโดยเด่ียวและเปนเอก. หมายถึงพี่ชายโดยเฉพาะ และเปนรูป ภาติก ก็มี. ถา เปน พห.ุ แปลวา พ่ชี าย นอ งชาย รวมกนั . มาตุ เปน มนฺ ธาตุ ในความนับถือ ลง ราตุ ปจจัย ลบ นฺ ที่สุดธาตุและ ร แหง ราตุ ปจจัยดว ย ตั้ง วิ. วา (ธมฺเมน ปุตตฺ ) มาเนตี-ติ มาตา. (หญิงใด) ยอ มนบั ถอื (ซึ่งบุตร โดยธรรม) เหตุน้ัน (หญิงน้ัน) ช่ือวา ผูนับถือ (ซึ่งบุตร). หมายความวา มารดาหรอื แม. นเ้ี ปน กัตตรุ ปู กัตตุสาธนะ. เขากับปฐมาวิภตั ติ เอกวจนะแหง นามเปน มาตา โดยวธิ ีนาม (๖๘). ปจจัยทั้งหลายท่ีนำมาแสดงเหลานี้ พอเปนตัวอยางเฉพาะท่ีลงในบางศัพท เทาน้ัน นอกจากศัพทที่นำมาแสดงเปนอุทาหรณเหลาน้ีแลว ก็ยังอาจลงในศัพทอื่นได อีกมาก และศัพทที่ลงในปจจัยตัวหนึ่งแลว ยังอาจนำไปใชประกอบกับศัพทอื่นๆ ได อีก ขอน้ียอมแลวแตวาจะไดความในรูปและสาธนะอะไร เมื่อไมการขัดของทางปจจัย ซงึ่ บางตวั ทานจำกดั ใหล งเฉพาะธาตุและสาธนะแลว กน็ บั วา ใชได. จบปจจัยนอกแบบ จบนามกิตกแ ตเทา น้ี. 286
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 287 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò แบบประเมินผลตนเองกอ นเรยี น หนวยที่ ๙ วัตถปุ ระสงค เพื่อประเมินความรูเดิมของนกั เรียนเก่ยี วกับเรอื่ ง “ปจ จยั นามกิตก” คำส่งั ใหนกั เรยี นอานคำถาม แลว เขยี นวงกลมลอมรอบขอ คำตอบท่ีถูกตอ ง ท่ีสุดเพยี งขอ เดียว ๑. ปจจยั ในกติ ปจจยั นยิ มตั้งวเิ คราะหเ ปน รปู และสาธนะอะไร ? ก. กัตตุรปู กัตตสุ าธนะ ข. กัมมรปู กมั มสาธนะ ค. ภาวรูป ภาวสาธนะ ง. กัตตุรูป กรณสาธนะ ๒. ปจจยั ใดตอไปนมี้ ิไดจดั อยูในหมวดกติ ปจ จัย ? ก. ณี ข. ณวฺ ุ ค. ณยฺ ง. ตุ ๓. ปจจัยใดตอไปน้ีไมนิยมลงในอรรถแหงตัสสลี ะ ? ก. กวฺ ิ ข. ณี ค. ตุ ง. รู ๔. กฺวิ ปจจัย ลงแลวมีอำนาจหลายประการยกเวนขอใด ? ก. ลบตวั เองทงิ้ ข. ตอ งมบี ทหนา ค. ธาตตุ ัวเดยี วคงธาตไุ วตามเดิม ง. ธาตุ ๒ ตัวตน ธาตุเปนรัสสะใหพ ฤทธ์ิ ๕. บทตอไปน้ีคอื “ปุ ฺ+กร+ณี” สำเร็จรูปเปน อะไร ? ก. ปฺุกรี ข. ปุ ฺ การี ค. ปุ ฺกรณี ง. ปุ ฺการณี ๖. คำวา “ทายกิ า” มาจากธาตแุ ละปจจยั อะไร ? ก. ทา+กวฺ ิ ข. ทา+ณี ค. ทา+ณฺวุ ง. ทา+ตุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 287
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 288 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๗. ณฺวุ ปจจยั เม่ือนำมาประกอบกบั ธาตุแลวมีอำนาจหลายประการยกเวนขอใด ? ก. แปลงเปน อก ข. ตนธาตุเปนรสั สะใหพ ฤทธ์ิ ค. ธาตุมี อา เปน ทสี่ ดุ แปลง อา เปน อาย ง. ธาตุ ๒ ตัว ใหลบทส่ี ุดธาตุ ๘. ศัพทใ ดตอ ไปน้ีมิไดสำเรจ็ มาจาก ตุ ปจจัย ? ก. อาจริยา รุกฺขา โลกา ข. วตฺตาโร กตตฺ าโร ขนฺตาโร ค. ชนฺตุ นตตฺ ุ เนตุ ง. โสตา ทาตา สรติ า ๙. ปจ จัยใดตอ ไปนีเ้ มื่อลงในธาตุ ๒ ตวั แลว มักลบทส่ี ุดธาตุ ? ก. ณี ข. ณฺวุ ค. ตุ ง. รู ๑๐. ปจจัยใดตอ ไปนนี้ ยิ มแปลหกั ฉฏั ฐีวภิ ตั ตลิ งในกรรม ? ก. กฺวิ ข. ณี ค. ณฺวุ ง. รู ๑๑. ปจจยั นามกิตกในกจิ จปจจยั นิยมประกอบวิเคราะหเปน รปู และสาธนะอะไร ? ก. กตั ตรุ ูป กัตตสุ าธนะ ข. กัตตุรปู กมั มสาธนะ ค. กัมมรูป กมั มสาธนะ ง. กมั มรูป กรณสาธนะ ๑๒. ปจ จัยใดตอไปนจ้ี ัดอยใู นหมวดกิจจปจ จยั ? ก. ข ณฺย ข. อ อิ ค. ณ เตฺว ง. ตุ ยุ ๑๓. ปจจยั คอื ข นยิ มบทหนา หลายตวั ยกเวน ขอใดตอไปน้ี ? ก. ทุ ข. สํ ค. อสี ง. สุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 288
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 289 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๑๔. ณฺย ปจ จยั เมอ่ื ลงกบั ธาตแุ ลวมีอำนาจหลายประการยกเวนขอใด ? ก. ลบ ณฺ แลว แปลง ย กบั พยัญชนะทธี่ าตุ ข. ข. ธาตมุ ี อา เปน ที่สดุ แปลง ณยฺ เปน เอยยฺ ค. แปลง ณยฺ กับ อู แหง ภู ธาตุ เปน อพฺพ ง. ลบ ย แลวคง ณฺ ไวบ าง ๑๕. คำวา “ว+ิ า+ณยฺ ” สำเร็จรูปเปน อะไร ? ก. วิายํ ข. วิาณฺยํ ค. วิเฺ ยยฺ ํ ง. วิ ฺาณํ ๑๖. อิ ปจ จยั นยิ มลงกับธาตตุ วั ใด ? ก. ทา ธา ข. กรฺ มรฺ ค. ปจฺ ภุชฺ ง. จนิ ฺตฺ มนฺตฺ ๑๗. ปจจยั นามกิตกห มวดกิตปจ จัยมีเทาไร ? ก. ๒ ตวั ข. ๓ ตวั ค. ๕ ตวั ง. ๗ ตวั ๑๘. ศัพทใ ดตอ ไปนม้ี ไิ ดลง ณ ปจ จัย ? ก. ทาโย โสโก ข. สงฺขาโร จาโค ค. สมโณ คหณํ ง. ปรวิ าโร อาพาโธ ๑๙. ปจจัยในกิตกิจจปจ จัยเปนรูปและสาธนะใดไมได ? ก. กตั ตุรปู กตั ตุสาธนะ ข. กตั ตุรูป กัมมสาธนะ ค. กมั มรปู กรณสาธนะ ง. กมั มรูป ภาวสาธนะ ๒๐. ปจ จยั ในนามกติ กต ัวใดถา มกี รรมเปนบทหนา ใหลง นุ อาคม ? ก. กฺวิ ข. อ ค. ณฺย ง. ตุ ๒๑. ปจ จยั นามกติ กใดไมเ ปนรปู และสาธนะอะไรเลย ? ก. ข ณฺย ข. อ อิ ค. เตฺว ตุ ง. ติ ยุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 289
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 290 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๒๒. ปจจัยตวั ใดนิยมแปลหกั ฉฏั ฐวี ิภัตติลงในอรรถแหงทุตยิ าวิภตั ติ ? ก. กฺวิ ณยฺ ติ ข. ณี รู ข ค. ณวฺ ุ ตุ ยุ ง. อ อิ ณ ๒๓. ปจจยั ตอ ไปนีเ้ ม่ือลงแลว ตองแปลงเปน อน หรอื อณ เสมอ ? ก. เตฺว ข. ติ ค. ตุ ง. ยุ ๒๔. ตุ ปจ จยั ใชแทนวภิ ตั ตินาม ๒ วิภัตติคืออะไร ? ก. ทตุ ิยาวภิ ัตตแิ ละสตั ตมีวิภัตติ ข. ตติยาวิภตั ติและปญ จมีวภิ ัตติ ค. จตตุ ถีวภิ ัตตแิ ละฉัฏฐีวภิ ัตติ ง. ปฐมาวิภตั ติและจตุตถีวภิ ัตติ ๒๕. รปู วิเคราะหวา “พุชฌฺ ติ เอตายาติ พุทฺธิ” เปนรปู และสาธนะอะไร ? ก. กัตตรุ ปู กัตตสุ าธนะ ข. กตั ตุรูป กัมมสาธนะ ค. กตั ตรุ ปู กรณสาธนะ ง. กตั ตุรปู อธกิ รณสาธนะ ๒๖. ปจ จยั ตอไปน้ตี วั ใดมิใชปจจัยนอกแบบในนามกติ ก ? ก. ยิร ปฺป อี ข. ณกุ ตยฺย ตุก ค. รตถฺ ุ รมฺม ริจฺจ ง. อาวี อิน อกิ ๒๗. รปู วิเคราะหว า “ภยํ ปสสฺ ติ สีเลนาติ ภยทสสฺ าวี” เปน รูปและสาธนะอะไร ? ก. กตั ตรุ ูป กตั ตุสาธนะ ข. กตั ตุรปู ตัสสีลสาธนะ ค. สมาสรูป ตสั ลลี สาธนะ ง. กัตตรุ ูป อปาทานสาธนะ ๒๘. คำวา “โอปนยโิ ก – ควรเพ่อื อนั นำเขาไป(ในตน)” มีวิเคราะหว าอยา งไร ? ก. อปุ เนติ สเี ลนาติ โอปนยโิ ก ข. อปุ เนตุ สลี มสสฺ าติ โอปนยโิ ก ค. อุปเนตุ อิจฺฉตตี ิ โอปนยิโก ง. อปุ เนตุ ภพโฺ พติ โอปนยโิ ก ๒๙. ปจ จัยใดตอ ไปนเี้ มอื่ ลงแลว ไมมอี ำนาจลบท่สี ดุ ธาตุ ? ก. ณฺวุ ข ยุ ข. ริจฺจ รติ ุ ริรยิ ค. ราตุ กวฺ ิ รู ง. ร รตถฺ ุ รมฺม ๓๐. คำวา “มาตุ – ผนู ับถอื (ซึ่งบตุ รโดยธรรม)” มาจากธาตแุ ละปจ จยั อะไร ? ก. นมฺ+ตุ ข. มน+ฺ ราตุ ค. มนฺตฺ+รู ง. มร+ตุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 290
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 291 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๓๑. อิ ปจจัย นิยมลงกับธาตุตวั ใด ? ก. ทา ธา ข. ปจฺ ภุชฺ ค. กรฺ มรฺ ง. จนิ ตฺ ฺ มนฺตฺ ๓๒. ปจจยั นามกติ กห มวดกติ กจิ จปจจัยมีเทาไร ? ก. ๓ ตวั ข. ๕ ตวั ค. ๑๔ ตัว ง. ๗ ตวั ๓๓. ศพั ทใดตอไปนี้มิไดลง ณ ปจ จยั ? ก. ทาโย โสโก ข. ปรวิ าโร อาพาโธ ค. สมโณ คหณํ ง. สงฺขาโร จาโค ๓๔. ปจ จยั ในกิตกิจจปจ จยั เปนรปู และสาธนะใดไมได ? ก. กมั มรปู กรณสาธนะ ข. กัตตรุ ูป กัมมสาธนะ ค. กัตตุรปู กัตตุสาธนะ ง. กมั มรปู ภาวสาธนะ ๓๕. ปจจัยในนามกิตกตวั ใดถา มีกรรมเปน บทหนา ใหล ง นุ อาคม ? ก. ณยฺ ข. อ ค. กวฺ ิ ง. ตุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 291
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 292 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò แบบประเมนิ ผลตนเองหลังเรียน หนว ยท่ี ๙ วตั ถุประสงค เพือ่ ประเมินผลความกาวหนาของนักเรียนเกย่ี วกบั เรื่อง “ปจจยั นามกติ ก” คำสงั่ ใหนักเรยี นอานคำถาม แลวเขียนวงกลมลอมรอบขอ คำตอบที่ถูกตอง ทีส่ ุดเพียงขอ เดียว ๑. ปจ จัยในกิตปจ จัย นยิ มตงั้ วเิ คราะหเปน รูปและสาธนะอะไร ? ก. กมั มรปู กมั มสาธนะ ข. กัตตรุ ปู กรณสาธนะ ค. กตั ตรุ ปู กัตตุสาธนะ ง. ภาวรปู ภาวสาธนะ ๒. ปจจยั ใดตอ ไปนี้มไิ ดจ ดั อยูใ นหมวดกติ ปจ จัย ? ก. ตุ ข. ณยฺ ค. ณี ง. ณฺวุ ๓. ปจจัยใดตอไปนไ้ี มน ิยมลงในอรรถแหงตสั สลี ะ ? ก. ตุ ข. รู ค. ณี ง. กฺวิ ๔. กฺวิ ปจ จัย ลงแลว มอี ำนาจหลายประการยกเวนขอใด ? ก. ธาตุ ๒ ตวั ตนธาตเุ ปนรสั สะใหพฤทธิ์ ข. ธาตตุ ัวเดียวคงธาตไุ วต ามเดิม ค. ลบตวั เองทิ้ง ง. ตองมบี ทหนา ๕. บทตอไปนีค้ ือ “ปุ ฺ+กร+ณี” สำเร็จรูปเปนอะไร ? ก. ปฺุกรณี ข. ปฺุ การณี ค. ปฺุ การี ง. ปุ ฺ กรี ๖. คำวา “ทายิกา” มาจากธาตแุ ละปจจัยอะไร ? ก. ทา+ณี ข. ทา+ตุ ค. ทา+กวฺ ิ ง. ทา+ณวฺ ุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 292
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 293 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๗. ณฺวุ ปจจยั เมอื่ นำมาประกอบกบั ธาตุแลวมีอำนาจหลายประการยกเวน ขอใด ? ก. ธาตมุ ี อา เปนทส่ี ดุ แปลง อา เปน อาย ข. ธาตุ ๒ ตัว ใหลบทีส่ ดุ ธาตุ ค. ตนธาตุเปน รัสสะใหพ ฤทธิ์ ง. แปลงเปน อก ๘. ศัพทใ ดตอไปน้มี ไิ ดส ำเร็จมาจาก ตุ ปจจยั ? ก. วตตฺ าโร กตฺตาโร ขนตฺ าโร ข. อาจรยิ า รกุ ฺขา โลกา ค. โสตา ทาตา สริตา ง. ชนตฺ ุ นตตฺ ุ เนตุ ๙. ปจจยั ใดตอไปนเี้ มือ่ ลงในธาตุ ๒ ตัวแลว มักลบที่สดุ ธาตุ ? ก. รู ข. ตุ ค. ณี ง. ณวฺ ุ ๑๐. ปจจัยใดตอไปนี้นยิ มแปลหกั ฉฏั ฐวี ภิ ตั ตลิ งในกรรม ? ก. ณี ข. รู ค. กฺวิ ง. ณวฺ ุ ๑๑. ปจจยั นามกิตกใ นกิจจปจจัยนยิ มประกอบวิเคราะหเปน รูปและสาธนะอะไร ? ก. กัตตุรูป กัมมสาธนะ ข. กตั ตรุ ูป กัตตสุ าธนะ ค. กมั มรปู กรณสาธนะ ง. กมั มรูป กัมมสาธนะ ๑๒. ปจจัยใดตอ ไปนจ้ี ดั อยใู นหมวดกจิ จปจ จัย ? ก. อ อิ ข. ณ เตวฺ ค. ข ณฺย ง. ตุ ยุ ๑๓. ปจจยั คือ ข นยิ มบทหนาหลายตัวยกเวนขอใดตอ ไปนี้ ? ก. อสี ข. สุ ค. ทุ ง. สํ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 293
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 294 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๑๔. ณฺย ปจ จัยเม่อื ลงกับธาตุแลวมอี ำนาจหลายประการยกเวนขอใด ? ก. ลบ ย แลวคง ณฺ ไวบ าง ข. แปลง ณยฺ กบั อู แหง ภู ธาตุ เปน อพฺพ ค. ลบ ณฺ แลวแปลง ย กับพยัญชนะทีธ่ าตุ ง. ธาตุมี อา เปนท่ีสดุ แปลง ณฺย เปน เอยยฺ ๑๕. คำวา “วิ+า+ณยฺ ” สำเร็จรปู เปน อะไร ? ก. วิ าณฺยํ ข. วิฺเยยฺ ํ ค. วิฺ าณํ ง. วิายํ ๑๖. ททุ ฺทสํ มวี ิเคราะหวาอยางไร ก. ทุกฺเขน ทฏ พโฺ พ-ติ ททุ ฺทสํ. ข. ทกุ ฺเขน ทสฺเสต-ี ติ ททุ ทฺ สํ. ค. ทกุ ฺเขน ปสฺสยิ เต-ติ ทุทฺทส.ํ ง. ทุกฺเขน เทเสต-ี ติ ทุททฺ สํ. ๑๗. นามกิตกบทใดตอ ไปน้ี ไมไดลง ข ปจจัย ก. สุวโจ ข. ทกุ ฺขํ ค. สชุ ีวํ ง. อสี กฺกรํ ๑๘. ปพพฺ ชชฺ า มีวเิ คราะหว าอยางไร ก. ปพฺพชนฺตี-ติ ปพพฺ ชชฺ า. ข. ปพฺพชิตํุ สลี มสสฺ า-ติ ปพพฺ ชชฺ า. ค. ปพฺพาเชติ สเี ลนา-ติ ปพฺพชฺชา. ง. ปพฺพชิตพฺพนฺ-ติ ปพฺพชฺชา. ๑๙. นามกติ กบทใดตอ ไปนี้ ไมไดล ง ณยฺ ปจ จยั ก. ทายํ ข. เทยฺยํ ค. อิจฺฉา ง. คมฺมํ ๒๐. รปู วิเคราะหตอไปน้ี เปน รปู และสาธนะอะไร วิ. “จรณํ จริยา.” ก. กัตตุรปู กัตตุสาธนะ ข. สมาสรูป ตัสสลี ะสาธนะ ค. กัมมรปู กมั มสาธนะ ง. ภาวรูป ภาวสาธนะ ๒๑. ปจ จยั นามกติ กใดไมเ ปน รูปและสาธนะอะไรเลย ? ก. ข ณฺย ข. เตวฺ ตุ ค. อ อิ ง. ติ ยุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 294
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 295 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๒๒. ปจจยั ตวั ใดนิยมแปลหกั ฉัฏฐีวิภัตตลิ งในอรรถแหง ทุตยิ าวภิ ตั ติ ? ก. ณวฺ ุ ตุ ยุ ข. ณี รู ข ค. กวฺ ิ ณฺย ติ ง. อ อิ ณ ๒๓. ปจจยั ตอไปน้เี มอื่ ลงแลวตอ งแปลงเปน อน หรอื อณ เสมอ ? ก. ติ ข. ยุ ค. ตุ ง. เตวฺ ๒๔. ตุ ปจ จัยใชแทนวภิ ตั ตินาม ๒ วิภตั ตคิ ืออะไร ? ก. ปฐมาวภิ ัตติและจตตุ ถีวิภัตติ ข. ตติยาวิภตั ติและปญจมีวภิ ัตติ ค. จตตุ ถวี ภิ ัตติและฉฏั ฐีวภิ ัตติ ง. ทตุ ิยาวภิ ัตตแิ ละสตั ตมีวภิ ตั ติ ๒๕. รูปวเิ คราะหวา “พชุ ฺฌติ เอตายาติ พุทธฺ ิ” เปน รปู และสาธนะอะไร ? ก. กัตตรุ ปู อธกิ รณสาธนะ ข. กัตตรุ ปู กรณสาธนะ ค. กตั ตุรปู กมั มสาธนะ ง. กตั ตุรูป กตั ตุสาธนะ ๒๖. ปจ จัยตอไปน้ีตวั ใดมิใชปจจัยนอกแบบในนามกติ ก ? ก. ณุก ตยฺย ตกุ ข. รตถฺ ุ รมมฺ รจิ ฺจ ค. ยริ ปฺป อี ง. อาวี อนิ อิก ๒๗. รูปวเิ คราะหว า “ภยํ ปสสฺ ติ สีเลนาติ ภยทสฺสาว”ี เปน รปู และสาธนะอะไร ? ก. กตั ตรุ ปู อปาทานสาธนะ ข. กตั ตุรปู กัตตุสาธนะ ค. สมาสรปู ตสั ลลี สาธนะ ง. กัตตรุ ูป ตัสสลี สาธนะ ๒๘. คำวา “โอปนยิโก – ควรเพ่ืออันนำเขาไป(ในตน)” มวี เิ คราะหวาอยางไร ? ก. อปุ เนตุ สลี มสฺสาติ โอปนยิโก ข. อปุ เนตุ อิจฉฺ ตตี ิ โอปนยิโก ค. อุปเนตุ ภพโฺ พติ โอปนยโิ ก ง. อปุ เนติ สเี ลนาติ โอปนยิโก ๒๙. ปจจยั ใดตอ ไปน้เี มื่อลงแลว ไมม ีอำนาจลบท่สี ุดธาตุ ? ก. ริจฺจ รติ ุ ริริย ข. ราตุ กวฺ ิ รู ค. ร รตฺถุ รมฺม ง. ณฺวุ ข ยุ ๓๐. คำวา “มาตุ – ผูน บั ถอื (ซงึ่ บุตรโดยธรรม)” มาจากธาตุและปจ จัยอะไร ? ก. มนฺตฺ+รู ข. มน+ฺ ราตุ ค. มร+ตุ ง. นม+ฺ ตุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 295
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 296 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ๓๑. อิ ปจ จัย นยิ มลงกับธาตุตัวใด ? ก. กรฺ มรฺ ข. ปจฺ ภุชฺ ค. ทา ธา ง. จนิ ฺตฺ มนตฺ ฺ ๓๒. ปจจยั นามกติ กห มวดกิตกิจจปจ จัยมีเทา ไร ? ก. ๓ ตัว ข. ๕ ตัว ค. ๗ ตวั ง. ๑๔ ตัว ๓๓. ศพั ทใดตอ ไปนม้ี ไิ ดลง ณ ปจจยั ? ก. สมโณ คหณํ ข. ปรวิ าโร อาพาโธ ค. ทาโย โสโก ง. สงฺขาโร จาโค ๓๔. ปจ จยั ในกติ กจิ จปจ จัยเปนรปู และสาธนะใดไมไ ด ? ก. กมั มรูป กรณสาธนะ ข. กัมมรปู ภาวสาธนะ ค. กัตตุรปู กตั ตสุ าธนะ ง. กัตตุรูป กัมมสาธนะ ๓๕. ปจ จยั ในนามกติ กต วั ใดถา มกี รรมเปน บทหนา ใหล ง นุ อาคม ? ก. อ ข. ณยฺ ค. กวฺ ิ ง. ตุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 296
¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 297 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เฉลยแบบประเมนิ ผลตนเอง หนว ยที่ ๙ ขอ กอนเรยี น หลังเรียน ๑. ก ค ๒. ค ข ๓. ก ง ๔. ง ก ๕. ข ค ๖. ค ง ๗. ง ข ๘. ก ข ๙. ง ก ๑๐. ค ง ๑๑. ค ง ๑๒. ก ค ๑๓. ข ง ๑๔. ง ก ๑๕. ค ข ๑๖. ก ค ๑๗. ค ข ๑๘. ค ง ๑๙. ง ก ๒๐. ข ง เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 297
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 298 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ขอ กอ นเรียน หลงั เรยี น ๒๑. ค ข ๒๒. ค ก ๒๓. ง ข ๒๔. ง ก ๒๕. ค ข ๒๖. ก ค ๒๗. ข ง ๒๘. ง ค ๒๙. ก ง ๓๐. ข ข ๓๑. ก ค ๓๒. ง ค ๓๓. ค ก ๓๔. ง ข ๓๕. ข ก เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 298
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 299 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò แบบฝก หดั ประเมินผลนักเรยี น เร่ือง “กิตก” รวมหนว ยที่ ๗–๙ จุดประสงค เพ่ือประเมินความรูความเขาใจของนักเรียนเกี่ยวกับเร่ือง “กิตก” หนว ยการเรียนการสอนที่ ๗–๙ คำสั่ง แบบฝกหัดท้ังหมดมี ๓ ตอน ใหเวลาในการทำแบบฝกหัด รวม ๓ ชว่ั โมง ตอนที่ ๑ ใหน ักเรยี นตอบคำถามตอไปน้ีใหถกู ตอง (ขอละ ๑๐ คะแนน) ตอนที่ ๒ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบ ท่ถี กู ตอ งท่ีสุดเพยี งขอเดียว (ขอละ ๒ คะแนน) ตอนท่ี ๓ ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตองและ ทำเคร่อื งหมายผิด ( ) หนาขอทีผ่ ิด (ขอละ ๑ คะแนน) ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นตอบคำถามตอ ไปนใี้ หถ กู ตอ ง (ปญ หามี ๕ ขอ ๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. อะไรเรียกวา กติ ก ? มเี ทา ไร ? อะไรบา ง ? ๒. ปจจัยในกิริยากิตกมีเทาไร ? อะไรบาง ? ปจจัยไหนบอกกาลอะไร และมี คำแปลวาอะไร ? ๓. ปจ จยั กริ ิยากิตกในหมวดกิตปจจัยเปน ไดก ่วี าจก ? อะไรบาง ? และปจจัยกิริยา กิตกตัวใดบางที่ใชเปนนามกิตกได จงตอบพรอมตัวอยาง ? ทิฏโ,อุปปชช แปลวา อะไร สำเรจ็ มาจากธาตุ และปจจยั อะไร ? ๔. อะไรเรียกวาสาธนะ ? มีเทาไร ? อะไรบาง ? เฉพาะอปาทานสาธนะ หมายความวาอะไร และมีคำแปลประจำสาธนะวาอะไร ? ๕. ปจจัยนามกิตกหมวดกิจจปจจัยมีเทาไร ? อะไรบาง ? และเปนไดกี่รูป ? ก่ีสาธนะ ? อะไรบาง ? ปจจัยนามกิตกตัวใดท่ีใชเปนกิริยากิตกได จงตอบ พรอมตัวอยาง ? นิสสโย ลงปจจัยอะไร ? เปนรูปและสาธนะอะไร ? และ มีวเิ คราะหวา อยา งไร ? เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 299
¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 300 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ตอนที่ ๒ ใหน ักเรียนอา นคำถามแลว เขยี นวงกลมลอ มรอบขอ คำตอบทถี่ ูกตองทสี่ ุด เพยี งขอ เดยี ว (ปญหามี ๒๕ ขอๆ ละ ๒ คะแนน) ๑. กติ กม วี เิ คราะหว าอยา งไร ? ก. กิตปจจฺ เยน กรี ยิ เตติ กติ โก ข. กติ ปจจฺ เยน กรี ตตี ิ กิตโก ค. กติ ปจจฺ เยน กรี ติ เอเตนาติ กิตโก ง. กิตปจฺจเยน กรี ติ เอตถฺ าติ กิตโก ๒. ในกิริยากติ กแบงวาจกออกเปน เทาไร ? ก. ๓ ข. ๔ ค. ๕ ง. ๖ ๓. ปจ จัยใดตอ ไปนีเ้ ปน กตั ตุวาจกและเหตกุ ัตตุวาจก ไดเ ทา น้ัน ? ก. อนยี , ตพฺพ ข. อนฺต, ตวนตฺ ,ุ ตาวี ค. มาน, ต ง. ตนู , ตฺวา, ตฺวาน ๔. า ธาตุ ประกอบกบั ตวนฺตุ ปจจัย ในปุลิงค ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ ไดร ปู เปน อะไร ? ก. ชานิตวา ข. ชานติ วนตฺ ุ ค. ชานิตวตี ง. ชานิตวนตฺ ํ ๕. ปจ จัยใดตอไปน้ไี มน ยิ มใชเปนภาววาจก ? ก. อนยี ข. ตพพฺ ค. มาน ง. ต ๖. ปจจัยใดตอ ไปนเ้ี ปน อพั พยศพั ท (แจกดว ยวิภตั ตินามไมได) ? ก. อนตฺ มาน ข. อนีย ตพฺพ ค. ต ตวนตฺ ุ ตาวี ง. ตูน ตวฺ า ตวฺ าน ๗. ตพพฺ ปจ จยั ทเ่ี ปนอิตถลี งิ ค แจกตามแบบอะไร ? ก. อา การันต (กฺ า) ข. อี การนั ต (นาร)ี ค. อุ การันต (รชชฺ )ุ ง. อู การันต (วธู) เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 300
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356