Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

(เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

Description: (เล่ม2) นามและอัพยยศัพท์

Search

Read the Text Version

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 119 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๔. ครูสอนนักเรียนเปล่ยี นวภิ ตั ติ และการนั ต กลุ , อกขฺ ิ, วตถฺ ุ เปนแบบอยา ง แลวใหนักเรียนวาทีละองค หรือทีละแถว หรือทีละกลุม ตามเหมาะสม จนครบ ๕. บัตรคำ ๖. ครูสรุปเนือ้ หาทงั้ หมด ๗. ประเมนิ ผลหลังเรียน ๘. ใบงาน - ใหน กั เรียนแจกศพั ทเ หมือน กลุ , อกฺขิ, วตฺถุ ๓-๕ ศพั ทเ ปนการบา น - ใหนักเรียนคนหาศัพทที่แจกอยาง กุล, อกฺขิ, วตฺถุ จากหองสมุด หนังสือพจนานกุ รม มคธ-ไทย หรือคัมภรี อภธิ านัปปทีปกา ๙. กจิ กรรมเสนอแนะ ครสู อนควรใหน ักเรยี น ๑. ทองแมแบบได ๒. ใหนักเรียนหดั สงั เกตการันต ๓. เปลยี่ นวภิ ตั ติ และการันตไ ดถ ูกตอ ง ๔. แจกศพั ทท ่ีแจกอยาง กุล, อกฺขิ, วตฺถุ ได (สั่งเปนการบานดวย) ส่อื การสอน ๑. ตำราทีใ่ ชประกอบการเรยี น-การสอน ๑.๑ หนังสอื พระไตรปฎก ๑.๒ หนงั สอื พจนานกุ รม มคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบญุ สำนักเรยี นวดั ปากน้ำ ๑.๓ หนังสือพจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนงั สอื พจนานกุ รมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท โดย พระธรรมปฎก (ป.อ. ปยตุ โฺ ต) ๑.๕ หนังสือคมู อื บาลไี วยากรณ นพิ นธ โดย สมเด็จพระมหาสมณเจา ฯ ๑.๖ หนงั สือปาลิทเทศ ของ สำนักเรยี นวัดปากน้ำ ๑.๗ คัมภรี อ ภธิ านปั ปทีปก า 119

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 120 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๒. อปุ กรณทีค่ วรมปี ระจำหองเรียน ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรอื กระดานไวทบ อรด ๒.๒ เครื่องฉายขามศรี ษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพวิ เตอร เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร ๓. บตั รคำ ๔. ใบงาน วิธีวดั ผล-ประเมินผล ๑. สอบถามความเขา ใจ ๒. สังเกตพฤติกรรมการมสี ว นรว มในกิจกรรม ๓. สังเกตความกาวหนาดา นพฤติกรรมการเรียนรขู องผเู รียน ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอนเรยี น-หลงั เรียน 120

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 121 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ในนปุงสกลิงคมีการันต ๓ คือ อ, อิ, อุ มีวิธีแจก และวิธีเปลี่ยนวิภัตติและ การนั ต ดังนี้ ๑. อ การันต ในนปงุ สกลิงค แจกอยาง กุล (ตระกลู ) ดังนี้ เอก. พหุ. ป. กลุ ํ กลุ านิ ท.ุ กุลํ กลุ านิ ต. กุเลน กเุ ลหิ กเุ ลภิ จ. กลุ สฺส กุลาย กลุ ตฺถํ กุลานํ ป.ฺ กลุ สฺมา กลุ มหฺ า กุลา กเุ ลหิ กเุ ลภิ ฉ. กุลสสฺ กุลานํ ส. กุลสมฺ ึ กุลมหฺ ิ กเุ ล กเุ ลสุ อา. กุล กลุ านิ กลุ (ตระกูล) มวี ธิ เี ปล่ยี นวภิ ัตตแิ ละการนั ต ในหมวด ตติยาวภิ ัตต-ิ สัตตมีวิภัตติ เหมือนกันกับ ปุริส (บุรุษ) อ การันตในปุงลิงค ตางกัน เฉพาะหมวดปฐมาวภิ ตั ติ, ทตุ ยิ าวภิ ัตติ และอาลปนะ ดงั นี้ กลุ ํ ศัพทเดิมมาจาก กุล อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ แปลง สิ เปน อํ สำเรจ็ รปู เปน กลุ ํ กลุ ํ แปลวา อ.ตระกลู กลุ านิ ศัพทเดิมมาจาก กุล อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทฆี ะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเร็จรปู เปน กุลานิ กลุ านิ แปลวา อ.ตระกลู ท. กุลํ ศัพทเดิมมาจาก กุล อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรปู เปน กลุ ํ กุลํ แปลวา ซึ่งตระกลู กุลานิ ศัพทเดิมมาจาก กุล อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหุวจนะ ทฆี ะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเร็จรูปเปน กุลานิ กลุ านิ แปลวา ซึง่ ตระกูล ท. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 121

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 122 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กุล ศัพทเดิมมาจาก กุล อ การนั ต ในนปุงสกลิงค ลง สิ อาลปนะ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิง้ เสยี สำเร็จรปู เปน กลุ กุล แปลวา แนะ ตระกลู กลุ านิ ศัพทเดิมมาจาก กลุ อ การันต ในนปุงสกลงิ ค ลง โย อาลปนะ พหวุ จนะ ทีฆะ อ เปน อา แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รปู เปน กุลานิ กุลานิ แปลวา แนะ ตระกลู ท. ศัพททเ่ี ปน อ การันตเชนน้ี แจกเหมอื น กุล องคฺ องค ธน ทรพั ย อิณ หนี้ ปณณฺ ใบไม, หนังสอื อุทร ทอ ง ผล ผลไม โอฏ รมิ ฝปาก พล กำลัง, พล กฏ ไม ภตตฺ ขาวสวย กมล ดอกบัว มชฺช นำ้ เมา ฆร เรือน ยนฺต ยนต จกฺก จักร, ลอ รฏ แวน แควน ฉตตฺ ฉัตร, รม รตน แกว ชล น้ำ วตฺถ ผา ตล พนื้ สกฏ เกวยี น เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 122

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 123 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แจกศัพทเ ปน ตัวอยาง องคฺ (องค) เปน อ การนั ต ในนปงุ สกลงิ ค แจกอยางนี้ เอก. พหุ. ป. องคฺ ํ องคฺ านิ ท.ุ องฺคํ องคฺ านิ ต. องเฺ คน องฺเคหิ องฺเคภิ จ. องคฺ สสฺ องคฺ าย องคฺ ตถฺ ํ องฺคานํ ปฺ. องคฺ สฺมา องฺคมหฺ า องคฺ า องฺเคหิ องฺเคภิ ฉ. องฺคสฺส องฺคานํ ส. องคฺ สฺมึ องคฺ มหฺ ิ องเฺ ค องเฺ คสุ อา. องฺค องคฺ านิ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 123

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 124 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๒. อิ การนั ต ในนปุงสกลิงค แจกอยา ง อกฺขิ (นัยนต า) ดังน้ี เอก. พหุ. ป. อกขฺ ิ อกฺขนี ิ อกขฺ ี ท.ุ อกฺขึ อกขฺ นี ิ อกฺขี ต. อกขฺ นิ า อกฺขหี ิ อกฺขภี ิ จ. อกฺขสิ สฺ อกขฺ ิโน อกฺขนี ํ ป.ฺ อกฺขิสฺมา อกขฺ ิมหฺ า อกฺขีหิ อกฺขภี ิ ฉ. อกฺขสิ สฺ อกขฺ โิ น อกฺขนี ํ ส. อกขฺ ิสมฺ ึ อกฺขิมฺหิ อกขฺ สี ุ อา. อกขฺ ิ อกขฺ นี ิ อกฺขี อกขฺ ิ (นยั นต า) มวี ธิ เี ปลย่ี นวภิ ตั ตแิ ละการนั ตในหมวดตตยิ าวภิ ตั ต-ิ สัตตมีวิภัตติ เหมือนกันกับ มุนิ (ผูรู) อิ การันต ในปุงลิงค ตางกัน เฉพาะหมวดปฐมาวิภตั ต,ิ ทตุ ิยาวิภตั ติ และอาลปนะ ดังน้ี อกฺขิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทงิ้ เสีย สำเรจ็ รูปเปน อกฺขิ อกขฺ ิ แปลวา อ.นัยนต า อกขฺ ีนิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อิ เปน อี แปลง โย เปน นิ สำเร็จรปู เปน อกขฺ นี ิ อกขฺ นี ิ แปลวา อ.นยั นตา ท. อกขฺ ี ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทฆี ะ อิ เปน อี ลง โย ลบ โย ท้งิ เสยี สำเรจ็ รปู เปน อกฺขี อกขฺ ี แปลวา อ.นยั นตา ท. อกฺขึ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรปู เปน อกฺขึ อกขฺ ึ แปลวา ซึ่งนัยนตา เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 124

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 125 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ อกฺขีนิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อิ เปน อี แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รปู เปน อกขฺ นี ิ อกขฺ นี ิ แปลวา ซงึ่ นยั นต า ท. อกฺขี ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อิ เปน อี ลง โย ลบ โย ทิ้งเสยี สำเร็จรปู เปน อกฺขี อกฺขี แปลวา ซึ่งนยั นต า ท. อกขฺ ิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ อาลปนะ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ท้ิงเสีย สำเรจ็ รปู เปน อกฺขิ อกขฺ ิ แปลวา แนะ นัยนต า อกขฺ ีนิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย อาลปนะ พหวุ จนะ ทีฆะ อิ เปน อี แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รปู เปน อกขฺ นี ิ อกขฺ ีนิ แปลวา แนะ นยั นต า ท. อกขฺ ี ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย อาลปนะ พหวุ จนะ ทฆี ะ อิ เปน อี ลง โย ลบ โย ทง้ิ เสีย สำเรจ็ รปู เปน อกขฺ ี อกฺขี แปลวา แนะนัยนตา ท. ศัพทที่เปน อิ การนั ตเชนน้ี แจกเหมอื น อกขฺ ิ อจฺจิ เปลวไฟ ทธิ นมสม อฏิ กระดกู สปปฺ  เนยใส เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 125

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 126 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แจกศพั ทเ ปน ตัวอยา ง อจฺจิ (กระดกู ) เปน อิ การันต ในนปงุ สกลิงค แจกอยา งนี้ เอก. พหุ. ป. อจฺจิ อจจฺ นี ิ อจฺจี ทุ. อจจฺ ึ อจฺจีนิ อจฺจี ต. อจจฺ ินา อจจฺ หี ิ อจจฺ ีภิ จ. อจจฺ ิสสฺ อจฺจโิ น อจฺจีนํ ปฺ. อจฺจิสมฺ า อจจฺ มิ หฺ า อจจฺ หี ิ อจจฺ ภี ิ ฉ. อจฺจิสสฺ อจฺจิโน อจฺจนี ํ ส. อจฺจสิ มฺ ึ อจฺจิมฺหิ อจฺจสี ุ อา. อจฺจิ อจจฺ นี ิ อจฺจี เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 126

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 127 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๓. อุ การนั ต ในนปงุ สกลงิ ค แจกอยาง วตฺถุ (พสั ดุ) ดงั น้ี เอก. พห.ุ ป. วตถฺ ุ วตฺถูนิ วตถฺ ู ท.ุ วตถฺ ํุ วตถฺ ูนิ วตถฺ ู ต. วตถฺ ุนา วตถฺ หู ิ วตฺถูภิ จ. วตฺถุสฺส วตฺถโุ น วตฺถนู ํ ป.ฺ วตถสุ ฺมา วตถมุ หฺ า วตถฺ หู ิ วตฺถภู ิ ฉ. วตถฺ ุสฺส วตถโุ น วตถฺ นู ํ ส. วตถฺ ุสฺมึ วตถฺ มุ หฺ ิ วตถฺ สู ุ อา. วตฺถุ วตฺถนู ิ วตฺถู วตถฺ ุ (พัสด)ุ มีวธิ ีเปลี่ยนวภิ ตั ติและการันต ในหมวด ตติยาวภิ ตั ติ - สตั ตมีวภิ ตั ติ เหมอื นกนั กับ ครุ (ครู) อุ การันต ในปุงลงิ ค ตางกันเฉพาะ หมวดปฐมาวภิ ัตต,ิ ทุติยาวภิ ตั ติ และอาลปนะ ดงั นี้ วตฺถุ ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิง้ เสีย สำเร็จรปู เปน วตฺถุ วตถฺ ุ แปลวา อ.พสั ดุ วตถฺ ูนิ ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รูปเปน วตถฺ นู ิ วตถฺ ูนิ แปลวา อ.พัสดุ ท. วตฺถู ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ปฐมาวิภัตติ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ทง้ิ เสีย สำเรจ็ รปู เปน วตถฺ ู วตฺถู แปลวา อ.พสั ดุ ท. วตฺถุํ ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง อํ ทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ ลง อํ คง อํ ไว สำเร็จรูปเปน วตถฺ ุ วตฺถุ แปลวา ซึ่งพัสดุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 127

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 128 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ วตถฺ นู ิ ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหวุ จนะ ทฆี ะ อุ เปน อู แปลง โย เปน นิ สำเร็จรูปเปน วตฺถนู ิ วตฺถนู ิ แปลวา ซง่ึ พสั ดุ ท. วตถฺ ู ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทุติยาวิภัตติ พหวุ จนะ ทฆี ะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ท้งิ เสีย สำเรจ็ รปู เปน วตฺถู วตฺถุ แปลวา ซ่ึงพสั ดุ ท. วตฺถุ ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ อาลปนะ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิง้ เสีย สำเรจ็ รปู เปน วตถฺ ุ วตฺถุ แปลวา แนะพสั ดุ วตฺถูนิ ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย อาลปนะ พหุวจนะ ทีฆะ อุ เปน อู แปลง โย เปน นิ สำเร็จรปู เปน วตถฺ นู ิ วตฺถูนิ แปลวา แนะพสั ดุ ท. วตฺถู ศัพทเดิมมาจาก วตฺถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย อาลปนะ พหุวจนะ ทฆี ะ อุ เปน อู ลง โย ลบ โย ท้ิงเสยี สำเร็จรปู เปน วตฺถู วตถฺ ู แปลวา แนะ พัสดุ ศพั ทท่เี ปน อุ การันตเชน นี้ แจกเหมอื น วตถฺ ุ อมพฺ ุ น้ำ ธนุ ธนู อสฺสุ นำ้ ตา มธุ นำ้ ผ้งึ อายุ อายุ มสสฺ ุ หนวด จกฺขุ นัยนต า วปุ กาย ชตุ ยาง สชฌฺ ุ เงิน เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 128

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 129 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แจกศพั ทเปน ตัวอยา ง จกฺขุ (นัยนต า) เปน อุ การนั ต ในนปงุ สกลิงค แจกอยา งน้ี เอก. พหุ. ป. จกขฺ ุ จกขฺ นู ิ จกขฺ ู ท.ุ จกฺขุํ จกขฺ นู ิ จกขฺ ู ต. จกฺขุนา จกฺขูหิ จกขฺ ูภิ จ. จกขฺ สุ ฺส จกขฺ โุ น จกขฺ ูนํ ปฺ. จกฺขุสฺมา จกขฺ ุมหฺ า จกฺขูหิ จกฺขูภิ ฉ. จกขฺ สุ สฺ จกฺขุโน จกขฺ ูนํ ส. จกฺขสุ ฺมึ จกขฺ มุ ฺหิ จกฺขูสุ อา. จกฺขุ จกฺขูนิ จกฺขู เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 129

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 130 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ แบบประเมินผลตนเองกอ นเรยี น หนวยที่ ๗ วัตถุประสงค เพือ่ ประเมนิ ผลความรเู ดมิ ของนกั เรียนเก่ียวกบั เรื่อง คำชแ้ี จง “การแจก อ, อิ และ อุ การันต ในนปงุ สกลิงค” ใหนักเรียนอานคำถาม แลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบที่ ถกู ตอ งท่สี ุดเพยี งขอ เดียว ๑. ในนปุงสกลงิ คไมม กี ารนั ตใ ด ? ก. อ การนั ต ข. อิ การันต ค. อุ การนั ต ง. อู การันต ๒. ศัพทใ ดตอ ไปนี้ แจกตามแบบ อ การนั ต ในนปุงสกลงิ ค ? ก. อาจริย ข. วานร ค. อุทร ง. รุกขฺ ๓. ศพั ทใ ดตอไปนี้ แจกตามแบบ อิ การันต ในนปงุ สกลิงค ? ก. นิธิ ข. ยฏ ิ ค. อฏิ ง. มณิ ๔. ศพั ทใดตอไปนี้ แจกตามแบบ อุ การันต ในนปงุ สกลิงค ? ก. เหตุ ข. อุรุ ค. มสสฺ ุ ง. พนฺธุ ๕. โย ป. และ ทุ. พหุ. ใน นปงุ สกลงิ ค เม่ือลงแลว ตอ งทำอยา งไร ? ก. ทฆี ะการันต ข. รสั สะการนั ต ค. แปลงการนั ต ง. ลบการนั ต ๖. ในนปุงสกลิงคทั้งสนิ้ เอา โย เปน อะไร ? ก. โย ข. โว ค. นิ ง. เว ๗. ส จ. เอก. ใน อ การนั ต นปงุ สกลงิ ค แปลงรปู ไดหลายแบบ ยกเวน ขอใด ? ก. แปลงเปน สสฺ ข. แปลงกับ อ เปน อาย ค. แปลงเปน ยา ง. แปลงเปน ตถฺ ํ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 130

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 131 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๘. อิ อุ การันต ในนปงุ สกลงิ ค ฝายพหุ. ตองทำอยางไร ? ก. คงไวตามเดิม ข. ทีฆะใหยาว ค. รสั สะใหส้นั ง. แปลงเปน ย หรือ ว ๙. อ อิ อุ การนั ต นปงุ สกลิงคตอ ไปน้ี ขอ ใดแจกผิดจากแมแบบ ? ก. กลุ ตฺถํ ข. กุลา ค. อกฺขโิ น ง. วตฺถุหิ ๑๐. ขอ ใดตอไปน้ี แจกไดถกู ตอ งตามแมแบบ ? ก. ภตตฺ าย ข. องฺคายํ ค. อจฺจมิ ฺห ง. จกฺขสู ฺมึ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 131

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 132 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ แบบประเมนิ ผลตนเองหลังเรียน หนวยที่ ๗ วตั ถุประสงค เพื่อประเมนิ ผลความกา วหนาของนักเรียนเก่ียวกับเรอื่ ง คำชีแ้ จง “การแจก อ, อิ และ อุ การนั ต ในนปงุ สกลิงค” ปญ หามี ๓ ตอน ตอนที่ ๑ ขอใหนักเรียนบอกวิธีเปลี่ยนวิภัตติ และการันตของ กุล, อกฺขิ, วตฺถุ ในวภิ ัตติตอ ไปน้ีมาใหถกู ตอง ๑. อา. เอก. อกฺขิ ๒. จ. เอก. กลุ าย ๓. ต. พห.ุ อกขฺ ภี ิ ๔. ท.ุ พหุ. วตถฺ ูนิ ๕. ส. พห.ุ กเุ ลสุ ตอนท่ี ๒ ใหนักเรียนแปลบทตอไปน้ีใหถูกตองตามสำเนียงอายตนิบาตใน วภิ ัตตขิ องตน ๑. ป. พห.ุ ผลานิ ๒. ต. เอก. กมเลน ๓. จ. พหุ. ทธีนํ ๔. ฉ. เอก. ธนโุ น ๕. อา. เอก. มสสฺ ุ ตอนที่ ๓ ใหน กั เรียนแจกศพั ทตอไปน้ีมาใหถ กู ตอ งตามแบบ ทัง้ ๗ วิภตั ติ ๑. จกกฺ ๒. สปฺป ๓. มธุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 132

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 133 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแบบประเมินผล หนวยที่ ๗ กอนเรียน ๑. ง. ๒. ค. ๓. ค. ๔. ค. ๕. ก. ๖. ค. ๗. ค. ๘. ข. ๙. ง. ๑๐. ก. หลังเรียน ตอนที่ ๑ ไดบอกวิธีเปลยี่ นวิภตั ติ และการันต กุล, อกขฺ ิ, และวตถฺ ุ ในวภิ ัตติ เหลา นัน้ ดังตอ ไปน้ี ๑. อา. เอก. อกฺขิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สิ อาลปนะ เอกวจนะ ลง สิ ลบ สิ ทิง้ เสยี สำเร็จรปู เปน อกฺขิ อกฺขิ แปลวา แนะ นัยนต า ๒. จ. เอก. กุลาย ศัพทเดิมมาจาก กุล อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง ส จตุตถวี ิภตั ติ เอกวจนะ เอา อ กบั ส เปน อาย สำเรจ็ รปู เปน กลุ าย กลุ าย แปลวา แกต ระกลู ๓. ต. พหุ. อกฺขีภิ ศัพทเดิมมาจาก อกฺขิ อิ การันต ในนปุงสกลิงค ลง หิ ตติยาวิภตั ติ พหวุ จนะ ทฆี ะ อิ เปน อี แปลง หิ เปน ภิ สำเรจ็ รปู เปน อกฺขีภิ อกฺขภี ิ แปลวา ดวยนยั นตา ท. ๔. ทุ. พหุ. วตฺถูนิ ศัพทเดิมมาจาก วตถุ อุ การันต ในนปุงสกลิงค ลง โย ทตุ ยิ าวภิ ตั ติ พหุวจนะ ทฆี ะ อุ เปน อู แปลง โย เปน นิ สำเรจ็ รปู เปน วตถฺ นู ิ วตฺถูนิ แปลวา ซ่ึงพสั ดุ ท. ๕. ส. พหุ. กุเลสุ ศพั ทเดิมมาจาก กุล อ การันต ในนปุงสกลิงค ลง สุ สัตตมีวิภัตติ พหวุ จนะ เอา อ เปน เอ ลง สุ คง สุ ไว สำเร็จรปู เปน กเุ ลสุ กเุ ลสุ แปลวา ในตระกูล ท. ตอนท่ี ๒ ไดแปลบทเหลานั้นใหถูกตองตามสำเนียงอายตนิบาตในวิภัตติ ของตนดงั ตอไปนี้ ๑. ป. พหุ. ผลานิ แปลวา อ.ผลไม ท. ๒. ต. เอก กมเลน แปลวา ดวยดอกบวั ๓. จ. พห.ุ ทธนี ํ แปลวา แกน มสม ท. ๔. ฉ. เอก. ธนุโน แปลวา แหง ธนู ๕. อา. เอก. มสสฺ ุ แปลวา แนะหนวด เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 133

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 134 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ตอนที่ ๓ ไดแจกศัพทเหลา นน้ั ตามแบบ ทงั้ ๗ วภิ ัตตดิ ังตอ ไปน้ี ๑. จกฺก เปน อ การันต ใน นปุงสกลงิ ค แจกอยา งน้ี เอก. พห.ุ ป. จกฺกํ จกฺกานิ ท.ุ จกฺกํ จกกฺ านิ ต. จกเฺ กน จกฺเกหิ จกเฺ กภิ จ. จกกฺ สสฺ จกฺกาย จกฺกตถฺ ํ จกฺกานํ ปฺ. จกกฺ สฺมา จกฺกมหฺ า จกกฺ า จกฺเกหิ จกฺเกภิ ฉ. จกฺกสสฺ จกฺกานํ ส. จกกฺ สฺมึ จกฺกมหฺ ิ จกเฺ ก จกฺเกสุ อา. จกกฺ จกกฺ านิ ๒. สปฺป เปน อิ การนั ต ใน นปงุ สกลงิ ค แจกอยา งนี้ เอก. พห.ุ ป. สปฺป สปฺปน ิ สปฺป ท.ุ สปฺป สปปฺ น ิ สปฺป ต. สปฺปน า สปฺปหิ สปฺปภ ิ จ. สปฺปสสฺ สปฺปโน สปปฺ น ํ ปฺ. สปฺปส ฺมา สปปฺ ม ฺหา สปปฺ หิ สปปฺ ภ ิ ฉ. สปฺปสฺส สปปฺ โ น สปฺปน ํ ส. สปปฺ สมฺ ึ สปปฺ ม หฺ ิ สปฺปสุ อา. สปปฺ  สปฺปนิ สปปฺ  เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 134

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 135 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๓. มธุ เปน อุ การันต ใน นปุงสกลิงค แจกอยางนี้ เอก. พห.ุ ป. มธุ มธูนิ มธู ท.ุ มธุํ มธนู ิ มธู ต. มธุนา มธหู ิ มธูภิ จ. มธสุ สฺ มธโุ น มธูนํ ป.ฺ มธสุ ฺมา มธมุ ฺหา มธหู ิ มธูภิ ฉ. มธสุ ฺส มธุโน มธนู ํ ส. มธสุ ฺมึ มธุมหฺ ิ มธูสุ อา. มธุ มธูนิ มธู เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 135

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 136 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ แบบฝก หัดประเมนิ ผลนกั เรียน นามตอนตน รวมหนวยที่ ๑ - ๗ วัตถุประสงค เพ่ือประเมินผลความรูความเขาใจของนักเรียนเก่ียวกับเรื่องนาม คำชี้แจง ตอนตน หนวยท่ี ๑ - ๗ แบบฝก หดั ท้ังหมดมี ๓ ตอน ใหเวลาในการทำแบบฝก หัดรวม ๓ ชัว่ โมง ตอนที่ ๑ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบ ขอ คำตอบที่ถูกท่ีสดุ เพยี งขอ เดียว (ขอ ละ ๒ คะแนน) ตอนท่ี ๒ ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอท่ีถูกตอง และทำเคร่ืองหมายผิด ( ) หนาขอท่ีผิด (ขอละ ๑ คะแนน) ตอนที่ ๓ ใหนักเรียนตอบคำถามตอไปน้ีใหถูกตอง (ขอละ ๑๐ คะแนน) ตอนที่ ๑ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบท่ีถูก ทส่ี ุดเพียงขอ เดียว (ปญหามี ๒๕ ขอ ๆ ละ ๒ คะแนน) ๑. คำวา “มคธภาษา” หมายถึงขอใด ? ก. ภาษาของชาวมคธ ข. ภาษาทีเ่ กดิ ในแควนมคธ ค. ภาษาท่ีพระพุทธเจาใชป ระกาศศาสนาคร้งั แรก ง. ถกู ทุกขอ ๒. คำวา “ไวยากรณ” มาจากรากศพั ทใด ? ก. วิ+กรฺ+ณ ข. วิ+กร+ฺ ยุ ค. ว+ิ ย+กร+ฺ ณี ง. วิ+กรฺ+อ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 136

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 137 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๓. คำวา “บาล”ี หมายถึงอะไร ? ก. ภาษาที่รักษาไวซ ึ่งพระพทุ ธพจน ข. ภาษาทม่ี แี บบแผน ค. ภาษาท่เี กิดในอนิ เดีย ง. ภาษาของชาวมคธ ๔. นามศัพทแ บง ออกเปน ๓ ประเภท คืออะไรบาง ? ก. ปกตินาม วเิ สสนาม อตวิ ิเสสนาม ข. นามนาม คุณนาม สพั พนาม ค. สาธารณนาม อสาธารณนาม สาธารณาสาธารณนาม ง. นยิ มนาม อนยิ มนาม นยิ มานยิ มนาม ๕. คำวา “นครํ - เมอื ง” เปน นามนามประเภทใด ? ก. สาธารณนาม ข. อสาธารณนาม ค. นิยมนาม ง. วิเสสนาม ๖. “สาธารณนาม” คอื อะไร ? ก. ช่อื ที่ท่ัวไป ข. นามที่เจาะจง ค. นามที่ใชแทนนามนามโดยตรง ง. นามที่แสดงลกั ษณะของนามนามไดด ีท่สี ดุ ๗. คำวา “ลิงค” หมายถึงอะไร ? ก. ลกั ษณะอาการของนามศพั ท ข. คำบอกจำนวนของนามศัพท ค. คำใชแ ทนนามศพั ท ง. เพศของนามศพั ท ๘. “วจนะ” หมายถงึ อะไร ? ก. สวนแหง คำพูด ข. คำกลา วถงึ ลกั ษณะของนาม ค. คำสำหรบั บอกใหรจู ำนวนของนาม ง. คำทเ่ี ปน ประธานในประโยค ๙. ขอใดตอ ไปนี้มิใชป ระโยชนของวจนะ ? ก. เปน เครื่องบอกใหรจู ำนวนมากนอ ย ข. ใชแ สดงความเคารพ ค. เปน เครือ่ งหมายใหรูวิภัตติ ง. เปน เครื่องหมายใหร ูลิงค ๑๐. คำวา “วิภตั ติ” หมายถงึ อะไร ? ก. การแบง จำนวนของนามศพั ท ข. การแบงเพศของนามศัพท ค. การแบง ลิงคข องนามศพั ท ง. การแจกหรอื จำแนกนามศัพท เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 137

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 138 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๑๑. คำวา “อายตนิบาต” หมายถึงอะไร ? ก. คำเชอ่ื มคำตอนามกับกริ ิยาใหเ นอื่ งกนั ข. คำบอกใหรจู ำนวนนามนาม ค. คำที่แสดงลักษณะของนามนาม ง. คำที่ใชแ ทนนามนามเพื่อมิใหเปน การซำ้ ซาก ๑๒. สำเนยี งอาตนิบาตในหมวดจตตุ ถีวิภัตติ คืออะไร ? ก. ซง่ึ , สู, ยัง ข. ดว ย, โดย, อนั ค. แก, เพือ่ , ตอ ง. แต, จาก, กวา ๑๓. อายตนบิ าต ฝายพหุ. หมายรดู ว ยอะไร ? ก. อ. (อัน) ข. ท. (ท้งั หลาย) ค. ส. (สัตตมี) ง. อา. (อาลปนะ) ๑๔. “ปรุ ิสสสฺ ” มีสำเนยี งอายตนบิ าตวา อะไร ? ก. ซงึ่ บุรุษ ข. ดว ยบรุ ษุ ท. ค. เพื่อบุรุษ ท. ง. ของบรุ ุษ ๑๕. วิภัตติหมวดไหน ใน อ การันต ปุงลิงค ท่ีคงรูปไวตามเดิมก็ได แปลงเสีย กไ็ ด ? ก. สิ ข. หิ ค. นํ ง. สุ ๑๖. ศัพทใ ดตอไปนี้ แจกตามแบบ อิ การันต ในปงุ ลิงค ? ก. อคคฺ ิ ข. รตฺติ ค. อจจฺ ิ ง. ภมู ิ ๑๗. ส วิภัตติ ใน อิ อี อุ อู การันต ปุงลิงค นอกจากแปลงเปน สฺส แลว ยังแปลง เปนอะไรไดอกี ? ก. ยา ข. โน ค. มฺหิ ง. มหฺ า เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 138

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 139 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๑๘. วภิ ตั ติตัวไหน ลงแลว ทีฆะ อิ เปน อี และ อุ เปน อู ในลิงคท งั้ ปวง ? ก. หิ ข. โย ค. ส ง. นา ๑๙. อํ วภิ ตั ติ ใน อี การนั ต อิตถีลงิ คน อกจากคงไวแลว แปลงเปน อะไรไดอ กี ? ก. นํ ข. ยํ ค. ยา ง. ย ๒๐. ในอิตถีลิงค อา อยูหนา เอา วิภัตติ เอกวจนะ คือ นา ส สฺมา สฺมึ กับ อา เปน อะไร ? ก. ยา ข. ย ค. อาย ง. เอ ๒๑. อิ อี อุ อิตถีลิงค อยูขางหนา เอาวิภัตติ เอกวจนะ คือ นา ส สฺมา สฺมึ เปน อะไร ? ก. ยา ข. อาย ค. ยํ ง. ลบทิ้งเสยี ๒๒. ศัพทใดตอไปน้ี แจกตามแบบ อู การันต ในอิตถลี งิ ค ? ก. กตฺ ู ข. สยมภฺ ู ค. เวทคู ง. ชมฺพู ๒๓. ในนปุงสกลงิ คท ้งั สนิ้ เอา โย เปน อะไร ? ก. โย ข. โว ค. นิ ง. เว ๒๔. ขอ ใดตอไปนี้ แจกไดถ กู ตอ งตามแมแ บบ ? ก. อาภยา ข. ชลฺยํ ค. ถินํ ง. ลาวุหิ ๒๕. อิ อี อุ อู การนั ต ในปุงลงิ คตอไปนี้ ขอใดแจกผิดจากแมแ บบ ? ก. มุนโย ข. ครโว ค. เสฏินํ ง. วิ ฺ ุสสสฺ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 139

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 140 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ตอนที่ ๒ ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตอง และทำ เครือ่ งหมายผิด ( ) หนาขอ ท่ีผิด (ปญ หามี ๒๕ ขอๆ ละ ๑ คะแนน) ( ) ๑. นามศพั ทแบงออกเปน ๒ คอื สาธารณนาม ๑ อสาธารณนาม ๑ ( ) ๒. นามศพั ทหมายถึงเสียงหรือสำเนียงที่บง ถึงชอ่ื ( ) ๓. กรุงเทพมหานคร (เทวนคร)ํ จัดเปนอสาธารณนาม ( ) ๔. พระภิกษุ (ภิกขฺ )ุ จดั เปน สาธารณนาม ( ) ๕. ปณฺฑิตตโร เปน คณุ นามชั้นวเิ สส ( ) ๖. ปาปตโม เปนคณุ นามช้ันอตวิ ิเสส ( ) ๗. คณุ นามเปน นามทใ่ี ชเ รียกชอ่ื คน สตั ว สิ่งของ ( ) ๘. สัพพนาม หมายถึงนามทแี่ สดงลักษณะอาการของนามนาม ( ) ๙. คุณนามแบง เปน ๒ คอื ปกติ ๑ วิเสส ๑ ( ) ๑๐. สัพพนามแบง เปน ๓ คือ ปรุ สิ สัพพนาม ๑ อิตถสี พั พนาม ๑ วเิ สสนสัพพนาม ๑ ( ) ๑๑. พทุ โฺ ธ เปน ศัพทประเภทสัญชาตศิ พั ท ( ) ๑๒. สัญญัตศิ ัพทค อื ศพั ทท ผ่ี สมปรงุ แตง มาจากธาตุและปจ จยั ตางๆ ( ) ๑๓. เอกวจนะ คอื คำพูดกลา วถึงของหลายสงิ่ ( ) ๑๔. วิภตั ติมปี ระโยชน คอื บอกใหร ูว จนะและอายตนิบาต ( ) ๑๕. ลิงคเปน ประโยชนในการแจกวิภตั ตแิ ละนำนามศัพทไปแจกตามการนั ต ( ) ๑๖. คณุ นามและสพั พนามเปนได ๓ ลงิ ค ( ) ๑๗. อํ - โย เปน ทุติยาวิภตั ติ ( ) ๑๘. วิภัตติคอื การแจกหรอื จำแนกนามศพั ท ( ) ๑๙. สมฺ า - หิ เปน ฉฏั ฐีวภิ ัตติ ( ) ๒๐. ปฐมาวภิ ัตตนิ ัน้ แบง เปน ๒ คอื ลิงคฺ ตฺโถ หรอื กตตฺ า ๑ อาลปนํ ๑ ( ) ๒๑. วจนะมปี ระโยชนค อื บอกใหร ูจำนวนของนามนาม ( ) ๒๒. อติ ถีลิงค แปลวา เพศชาย ( ) ๒๓. ปเทโส เปน ลิงคโ ดยกำเนดิ ( ) ๒๔. อกขฺ ร เปนได ๒ ลิงค คือ ปุงลิงค และ อิตถลี ิงค ( ) ๒๕. ทาโร เปน ลิงคโ ดยสมมติ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 140

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 141 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ตอนท่ี ๓ ใหนักเรยี นตอบคำถามตอ ไปนใ้ี หถ ูกตอ ง (ปญหามี ๕ ขอ ๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. จงเขียนรูปวเิ คราะหของบาลีไวยากรณ พรอมทั้งคำแปลมาใหถกู ตอ ง ? ๒. วิภัตติคอื อะไร มเี ทา ไร อะไรบาง และมปี ระโยชนอ ยา งไร ตอบมาใหครบ ? ๓. จงเขยี นสำเนียงอายตนิบาตมาใหครบทกุ วภิ ตั ติ ทั้งฝายเอก. และพห.ุ ? ๔. อะไรเรียกวาการนั ต ๆ มีเทาไร อะไรบาง และมปี ระโยชนอ ยางไร ? ๕. จงแจกศัพทตอไปนมี้ าใหถ กู ตองตามการันต และลงิ คของตน ก. มนสุ สฺ ข. ภิกฺขุ ค. ฉวิ 141

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 142 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เฉลยแบบประเมินผลนักเรยี น นามตอนตน รวมหนวยท่ี ๑-๗ เฉลยแบบประเมนิ ผลตนเอง ขอ ตอนท่ี ๑ ตอนท่ี ๒ ๑. ง ๒. ข ๓. ก ๔. ข ๕. ก ๖. ก ๗. ง ๘. ค ๙. ง ๑๐. ง ๑๑. ก ๑๒. ค ๑๓. ข ๑๔. ง ๑๕. ข ๑๖. ก ๑๗. ข ๑๘. ก ๑๙. ข ๒๐. ค ๒๑. ก ๒๒. ง ๒๓. ค ๒๔. ข ๒๕. ง เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 142

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 143 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ตอนท่ี ๓ ใหนักเรียนตอบคำถามตอไปนี้ใหถูกตอง (ปญหามี ๕ ขอๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. บาลีไวยากรณ มีรูปวเิ คราะหวา “ปาลึ วฺยากโรตตี ิ ปาลเิ วยฺยากรณ”ํ แปลวา “ย-ํ ปกรณํ อ.ปกรณใด วยฺ ากโรติ ยอ มทำใหแจง ปาลึ ซง่ึ บาลี อิติ เพราะเหตุน้ัน ตํ-ปกรณํ อ.ปกรณนั้น ปาลิเวยฺยากรณํ ชื่อวา ปาลิเวยฺยากรณๆ แปลวา ปกรณอนั กระทำใหแจงซึง่ บาลี (ภาษาทีร่ กั ษาไวซ่งึ พระพุทธพจน) ” ฯ ๒. วภิ ัตตคิ ือการแจกหรือจำแนกนามศพั ทเ พอ่ื นำไปใชใ นทน่ี ้ัน ๆ วิภัตตินนั้ วา โดยหมมู ี ๒ หมวด คือ เอกวจนะ ๑ พหวุ จนะ ๑ วา โดยหมวด มี ๗ คอื ปฐมาวิภัตติ ๑ ทตุ ยิ าวภิ ตั ติ ๑ ตติยาวภิ ัตติ ๑ จตตุ ถี วิภัตติ ๑ ปญจมวี ภิ ัตติ ๑ ฉฏั ฐวี ิภัตติ ๑ สัตตมวี ภิ ตั ติ ๑ เมือ่ นบั เรยี งตัวมี ๑๔ ตัว คือ แบง เปน เอก. ๗ พหุ. ๗ ในวภิ ัตตทิ ้ัง ๗ ดงั น้ี วิภตั ติ เอก. พห.ุ ปฐมา ท่ี ๑ สิ โย ทตุ ิยา ที่ ๒ อํ โย ตติยา ท่ี ๓ นา หิ จตุตถี ท่ี ๔ ส นํ ปญจมี ท่ี ๕ สมฺ า หิ ฉัฏฐี ท่ี ๖ ส นํ สตั ตมี ที่ ๗ สฺมึ สุ วิภัตติมปี ระโยชน ๓ อยา ง คอื ๑. บอกใหร วู จนะ ๒. บอกใหรอู ายตนิบาต ๓. กำหนดลิงคไ ดแ มน ยำ ฯ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 143

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 144 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๓. สำเนยี งอายตนิบาตจดั ตามวภิ ัตติ ๗ หมวด ทง้ั ฝาย เอก. และพหุ. ดังน้ี เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อ. (อันวา) อ.-ท. (อันวา-ทง้ั หลาย) ทุ. ซ่ึง, สู, ยัง, ส้ิน, ตลอด, กะ, ซึง่ -ท., ส-ู ท., ยงั -ท., สิน้ -ท., ตลอด-ท., เฉพาะ กะ-ท.,เฉพาะ-ท. ต. ดวย, โดย, อัน, ตาม, เพราะ, ดว ย-ท., โดย-ท., อนั -ท., ตาม-ท., เพราะ- มี ท., มี-ท. จ. แก, เพอื่ , ตอ แก-ท., เพื่อ-ท., ตอ-ท. ป.ฺ แต, จาก, กวา, เหตุ แต- ท., จาก-ท., กวา-ท., เหตุ-ท. ฉ. แหง, ของ, เมอื่ แหง -ท., ของ-ท., เม่อื -ท. ส. ใน, ใกล, ท่,ี คร้นั เม่อื , ในเพราะ, ใน-ท., ใกล- ท., ท-่ี ท., คร้นั เมอื่ -ท., ใน เหนอื , บน เพราะ-ท., เหนอื -ท., บน-ท. อา. แนะ, ดกู อ น, ขา แต แนะ -ท., ดูกอ น-ท., ขา แต- ท. ๔. สระท่สี ุดแหงศัพท เรยี กวา “การนั ต” การนั ตน ั้นแบง ออกเปน ๒ ประเภท คอื โดยยอ ๑ โดยพิศดาร ๑ โดยยอ มี ๖ คือ อ อา อิ อี อุ อู ฯ โดยพิสดารมี ๑๓ จดั ตามลงิ คทง้ั ๓ นั้น คือ ในปุง. มีการนั ต ๕ คอื อ อิ อี อุ อู ในอิต. มีการนั ต ๕ คอื อา อิ อี อุ อู ในนปุง. มกี ารันต ๓ คือ อ อิ อุ ฯ ประโยชนข องการนั ต ๑. ใชนำนามศพั ทท ัง้ ๓ ไปแจก ๒. ทำใหล ิงคเ ปน หมเู ดียวกนั ฯ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 144

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 145 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๕. ไดแจกศัพทเ หลานนั้ ตามการนั ตและลงิ คข องตนดังตอไปน้ี ก. มนสุ ฺส เปน อ การนั ตในปงุ ลิงค แจกอยา งนี้ เอก. พหุ. ป. มนุสโฺ ส มนสุ ฺสา มนุสฺเสภิ ทุ. มนสุ ฺสํ มนุสฺเส มนสุ ฺเสภิ ต. มนุสเฺ สน มนุสฺเสหิ จ. มนสุ สฺ สสฺ มนสุ ฺสาย มนสุ สฺ ตถฺ ํ มนุสฺสานํ ปฺ. มนสุ ฺสสมฺ า มนสุ ฺสมหฺ า มนุสฺสา มนสุ ฺเสหิ ฉ. มนุสฺสสสฺ มนสุ ฺสานํ ส. มนุสสฺ สมฺ ึ มนสุ ฺสมฺหิ มนุสเฺ ส มนสุ เฺ สสุ อา. มนสุ ฺส มนุสสฺ า ข. ภกิ ฺขุ เปน อ การนั ตในปุงลิงค แจกอยา งน้ี เอก. พหุ. ภกิ ขฺ ู ภกิ ขฺ ู ป. ภกิ ฺขุ ภิกขฺ โว ภิกขฺ ภู ิ ทุ. ภกิ ขฺ ุ ภิกฺขโว ต. ภิกฺขนุ า ภิกฺขูหิ ภกิ ฺขูภิ จ. ภิกฺขุสสฺ ภกิ ฺขุโน ภิกขฺ นู ํ ป.ฺ ภิกขฺ สุ มฺ า ภิกฺขุมหฺ า ภิกฺขหู ิ ภิกขฺ โว ฉ. ภิกขฺ ุสฺส ภิกขฺ ุโน ภกิ ฺขนู ํ ส. ภกิ ฺขสุ ฺมึ ภิกฺขุมหฺ ิ ภกิ ขฺ สู ุ อา. ภิกฺขุ ภกิ ขฺ เว เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 145

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 146 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ค. ฉวิ เปน อิ การนั ตในอิตถลี ิงค แจกอยางน้ี เอก. พห.ุ ป. ฉวิ ฉวิโย ฉวี ท.ุ ฉวึ ฉวโิ ย ฉวี ต. ฉวิยา ฉวหี ิ ฉวีภิ จ. ฉวิยา ฉวีนํ ป.ฺ ฉวิยา ฉวยฺ า ฉวหี ิ ฉวีภิ ฉ. ฉวยิ า ฉวีนํ ส. ฉวิยา ฉวิยํ ฉวยฺ ํ ฉวีสุ อา. ฉวิ ฉวโิ ย ฉวี เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 146

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 147 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แผนการสอนวิชาบาลีไวยากรณ หนว ยท่ี ๘ เรื่อง การแปลมคธเปน ไทย และการแปลไทยเปนมคธเบอ้ื งตน (เฉพาะนามนามและคณุ นาม) เวลาทำการสอน ๓ คาบ สาระสำคญั การแปลมคธเปนไทย และการแปลไทยเปน มคธ เบอื้ งตน เฉพาะบทนามนาม และบทคุณนาม ตองกำหนดการแจกศัพท และสำเนียงอายตนิบาตของวิภัตติ แตละ หมวดไดแมนยำและตองศึกษาการเรียงภาษามคธใหเขาใจเพราะภาษามคธ กับภาษา ไทย มหี ลักการเรยี งไมเหมอื นกนั จุดประสงค ๑. เพื่อใหน กั เรียนแปลมคธเปน ไทย ประโยคท่มี ีนามนามกบั นามนาม และ นามนามกับคณุ นามได ๒. เพือ่ ใหน ักเรยี นแปลไทยเปนมคธ ประโยคท่ีมีนามนามกบั นามนาม และ นามนามกบั คุณนามได เนื้อหา ๑. หลักการเรียงภาษามคธเบ้ืองตนเฉพาะนามศัพท เชน นามนามกับ นามนาม และนามนามกบั คุณนาม ๒. หลักการแปลภาษามคธเปน ไทยใหถ กู ตองตามสำเนียงอายตนิบาต กิจกรรม ๑. ประเมนิ ผลกอนเรยี น ๒. ครูนำเขาสูบทเรยี น และอธบิ ายเน้อื หา 147

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 148 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๓. บัตรคำ จับฉลากคำถามใหนักเรียนแปลมคธเปนไทย และแปลไทย เปนมคธ ๔. ครสู รปุ เน้อื หาทงั้ หมด ๕. ประเมนิ ผลหลังเรยี น ๖. ใบงาน สอ่ื การสอน ๑. ตำราที่ใชป ระกอบการเรียน-การสอน ๑.๑ หนังสอื พระไตรปฎก ๑.๒ หนังสือพจนานุกรม มคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบุญ สำนกั เรยี นวดั ปากน้ำ ๑.๓ หนังสอื พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนังสือพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบบั ประมวลศพั ท โดย พระธรรมปฎก (ป.อ. ปยตุ ฺโต) ๑.๕ หนังสือคูมือบาลีไวยากรณ นิพนธ โดย สมเด็จพระมหา- สมณเจาฯ ๑.๖ หนงั สือปาลทิ เทศ ของ สำนกั เรียนวดั ปากน้ำ ๑.๗ คัมภรี อ ภธิ านปั ปทีปกา ๑.๘ หนังสอื อุภยั พากยป รวิ ัตน ๒. อุปกรณทคี่ วรมีประจำหอ งเรียน ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรือ กระดานไวทบ อรด ๒.๒ เครื่องฉายขา มศีรษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพวิ เตอร และเคร่อื งฉายโปรเจคเตอร ๓. บตั รคำ ๔. ใบงาน 148

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 149 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ วิธวี ัดผล-ประเมินผล ๑. สอบถามความเขาใจ ๒. สังเกตพฤติกรรมการมสี วนรวมในกจิ กรรม ๓. สังเกตความกา วหนา ดานพฤติกรรมการเรยี นรขู องผูเรยี น ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอ นเรยี น-หลังเรยี น 149

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 150 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) แปลไทยเปนมคธ และแปลมคธเปนไทย เมื่อนักเรียนไดศึกษาบาลีไวยากรณเบ้ืองตน เร่ืองนามศัพททั้ง ๓ พรอมทั้ง เคร่ืองประกอบคือ ลิงค วจนะ วิภัตติ จนพอเขาใจแลว ตอไปจะไดนำเร่ืองเหลานั้น โดยเฉพาะเรือ่ งวภิ ตั ติมาฝกทักษะการแปลมคธเบ้อื งตน การแปลมคธมี ๒ ประเภท คอื แปลมคธเปนไทย ๑ แปลไทยเปน มคธ ๑ ใน ๒ ประเภทนี้ การแปลมคธเปนไทย นักเรียนนอกจากจะตองทราบวานามศัพทแตละ ศัพทแปลวาอะไรแลว ยังตองกำหนดดูวิภัตติขางหลังนามศัพทนั้น ๆ ใหไดวาเปน วิภัตติใด วิภัตตินั้นมีสำเนียงอายตนิบาตวาอยางไร ดังนี้ จึงจะแปลมคธเปนไทยไดดี ในเบอ้ื งตน แมการแปลไทยเปนมคธ ก็มีวิธีกำหนดคลาย ๆ กัน เพียงแตนักเรียนตอง กำหนดดูคำแปลเปนไทยใหไดวา คำแปลนั้นเปนสำเนียงอายตนิบาตของวิภัตติใด แลว ก็แจกนามศัพทด วยวิภตั ติน้นั วธิ ดี ังกลาวน้จี ดั เปน วธิ แี ปลไทยเปนมคธในเบือ้ งตน อน่ึง กอนจะแปลภาษามคธ นักเรียนตองทราบลักษณะขอความภาษามคธ กอน เพราะภาษามคธท่ีเขียนดวยอักษรไทย เวลาอานก็ดี เขียนก็ดี เร่ิมจากซายไป ขวาเหมือนภาษาไทย แตเ วลาแปลเปนภาษาไทย ตอ งเร่ิมแปลจากขวาไปซา ย คอื เรมิ่ แปลจากบทหลังไปหาบทหนา เชน ภาษามคธวา “พุทธฺ สฺส สาวโก” บทท้ัง ๒ น้ี นักเรียนกำหนดไดวาแตละบทประกอบดวยวิภัตติใด วิภัตติ นั้นมีสำเนียงอายตนิบาตวาอยางไรแลว จะเร่ิมแปลบทวา “พุทฺธสฺส” กอนบทวา “สาวโก” เหมือนในเวลาอานวา “ของพระพุทธเจา อ.สาวก” อยางน้ีก็จะไมได ความหมาย แตเ มอ่ื เรม่ิ แปลจากบทหลงั ไปหาบทหนา วา “อ.สาวก ของพระพทุ ธเจา ” อยา งน้จี ึงจะมีความหมายทีฟ่ ง แลว เขา ใจได แมในการแปลขอ ความภาษาไทยใหเ ปนภาษามคธ กต็ อ งกำหนดในลกั ษณะ เดียวกัน คือจะแปลไปตามลำดับขอความภาษาไทยไมได ตองเร่ิมแปลจากบทหลังไป หาบทหนา 150

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 151 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เชนความไทยวา “อ.ตนไม ท. บนภูเขา” นักเรยี นทราบวา “ตนไม” ศพั ทม คธคือ “รกุ ขฺ ” เปน ปงุ ลงิ ค, “ภเู ขา” ศัพท มคธคือ “ปพฺพต” กเ็ ปน ปุงลงิ ค และกำหนดสำเนียงอายตนิบาตไดว า “อ.__ท.” เปน สำเนยี งของปฐมาวภิ ัตติ พหุวจนะ และ “บน” เปน สำเนียงของสตั ตมวี ภิ ัตติ เอกวจนะ แลวประกอบเปนภาษามคธวา “รุกฺขา ปพฺพตสฺมึ” อยางน้ีผิดหลักนิยมภาษามคธ ตองแปลวา “ปพฺพตสมฺ ึ รกุ ฺขา” จงึ จะถกู ตอง ตอไปน้ีจะแสดงการแปลมคธเปนไทย และการแปลไทยเปนมคธ ระหวาง นามนามกับนามนาม และระหวา งนามนามกับคุณนาม เปน ลำดับไป 151

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 152 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) แปลมคธเปน ไทย ๑. บทนามนามกับบทนามนาม บทนามนาม คือ นามนามทน่ี ำไปแจกดวยวิภัตติท้ัง ๗ เรยี บรอ ยแลว ดังนน้ั การแปลบทนามนามแตละบทเขาดวยกัน ตองใชสำเนียงอายตนิบาตของวิภัตติท่ี ประกอบกบั นามนามนน้ั แปลเชอ่ื มความเขา หากัน เชน มคธ คาเม๑ อาวาโส๒ ไทย อ.อาวาส๒ ใกลบา น๑ มคธ ปพฺพตสสฺ ๑ สิขเร๒ เกตุ๓ ไทย อ.ธง๓ บนยอด๒ ของภูเขา๑ ๒. บทนามนามกบั บทคุณนาม คุณนาม เมื่อทำหนาที่ขยายนามนามบทใด ตองมีลิงค วจนะ และวิภัตติ เหมือนกบั นามนามบทนัน้ และนยิ มเรียงไวห นา นามนามบทนั้น เชน มคธ อจุ โฺ จ๑ รกุ โฺ ข๒ ไทย อ.ตนไม๒ สงู ๑ มคธ อจุ ฺเจ๑ รุกฺเข๒ สกโุ ณ๓ ไทย อ.นก๓ บนตนไม๒ สงู ๑ อน่งึ ในการแปลมคธเปน ไทยระหวางบทนามนามกบั บทคณุ นามนั้น คุณนาม ซง่ึ ทำหนา ทข่ี ยายนามนาม ถา เปน คณุ ลกั ษณะของคน แปลวา “ผ.ู ..” ถา เปน คณุ ลกั ษณะ ของสงิ่ ของ แปลวา “อัน...” ถาเปนคณุ ลักษณะของสตั ว แปลวา “ตวั ...” เปน ตน เชน คณุ ลกั ษณะของคน มคธ กุลโล อาจริโย ไทย อ.อาจารย ผูฉ ลาด มคธ โสภา นารี ไทย อ.นาง ผูง าม 152

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 153 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ คุณลักษณะของสิง่ ของ มคธ อฑฺฒํ กลุ ํ ไทย อ.ตระกลู อนั มงั่ ค่ัง มคธ ไทย วิสาลํ เขตตฺ ํ อ.นา อันกวา งขวาง คณุ ลกั ษณะของสัตว มคธ ไทย สพฺพเสโต หตถฺ ี อ.ชา ง ตัวมอี วัยวะทัง้ ปวงขาว มคธ ไทย (ตวั ขาวปลอด, เผอื ก) อุรโค สตฺโต อ.สัตว ตัวไปดวยอก เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 153

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 154 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) แปลไทยเปนมคธ ๑. บทนามนามกับบทนามนาม กำหนดสำเนียงอายตนิบาตของนามนามที่แปลเปนไทยวาเปนสำเนียงของ วภิ ัตติใดแลวจงึ แจกนามนามน้นั ดวยวภิ ัตติน้ัน เชน ไทย อ.ศษิ ย ท.๑ ของอาจารย ท.๒ มคธ อาจารยิ านํ๒ สสิ สฺ า๑ ไทย อ.ขาวเปลอื ก ท.๑ ในถงุ ๒ ของโจร ท.๓ มคธ โจรานํ๓ ถวิกาย๒ วหี โย๑ ๒. บทนามนามกับบทคณุ นาม เมอ่ื เหน็ ขอ ความไทยแลวกำหนดไดวานามนามเปน ลงิ คใด วจนะใด และแจก ดวยวภิ ัตติใด ก็ประกอบคณุ นามเปน ลิงคนน้ั วจนะน้ัน และแจกดวยวภิ ัตตนิ ัน้ เชน ไทย ในมา ท.๑ ตวั ขยนั ๒ มคธ ทกฺเขส๒ุ ตุรเคสุ๑ ไทย อ.สุนัข๑ ในอาวาส๒ ตวั ดรุ าย๓ มคธ จณโฺ ฑ๓ อาวาเส๒ สุนโข๑ 154

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 155 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ประโยคตอไปน้ใี หนักเรียนแปลเปนไทย ๑. ประโยคทมี่ ีนามนามกบั นามนาม ๑. ธมเฺ ม ปสาโท ๒. สาวกานํ สงโฺ ฆ ๓. อาจรยิ สฺส สสิ ฺสา ๔. อทุ เก มจฺฉา ๕. ทณฑฺ สิ สฺ หตเฺ ถ ทณฺโฑ ๖. อิตฺถีสุ รติ ๗. เสตมุ หฺ ิ รโถ ๘. เวทานํ ปารคุโน ๙. วิฺ หู ิ อปุ สเํ สโว ๑๐. อริมหฺ า อตุ ฺราโส ฯ ๒. ประโยคทีม่ นี ามนามกับคณุ นาม ๑. สตฺตานํ อคฺโค พุทฺโธ ๒. สุนทฺ รสฺส ธมฺมสฺส วิปาโก ๓. มหนฺโต สาวกานํ สงโฺ ฆ ๔. อคฺคสฺส พทุ ธฺ สฺส สาสนํ ๕. อาตาปโน สิสฺสา ๖. กุสลสสฺ อาจริยสสฺ มติ ๗. อฑฺฒสสฺ กลุ สฺส ปตุ ฺโต ๘. สุคนฺเธ ปปุ เฺ ผ ภมโร ๙. ทารุเณหิ โจเรหิ ภยํ ๑๐. มหตยิ ํ สาลายํ ชนา ฯ 155

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 156 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแปลเปน ไทย ๑. ประโยคทม่ี นี ามนามกบั นามนาม ๑. อ. ความเล่อื มใส ในธรรม ๒. อ. หมู แหงสาวก ท. ๓. อ. ศิษย ท. ของอาจารย ๔. อ. ปลา ท. ในน้ำ ๕. อ. ทอ นไม ในมือ ของคนมีไมเ ทา ๖. อ. ความยนิ ดี ในหญิง ท. ๗. อ. รถ บนสะพาน ๘. อ. ชนผถู งึ ฝง ท. แหงเวท ท. ๙. อ. การเขาไปสองเทพ ดวยผรู วู ิเศษ ท. ๑๐. อ. ความสะดุง แตขาศึก ๒. ประโยคท่ีมีนามนามกบั คณุ นาม ๑. อ. พระพทุ ธเจา ผูเลศิ แหง สตั ว ท. ๒. อ. ผล แหงธรรม อนั งาม ๓. อ. หมู แหง สาวก ท. ใหญ ๔. อ. คำสอน ของพระพุทธเจา ผเู ลิศ ๕. อ. ศษิ ย ท. ผูมคี วามเพยี ร ๖. อ. ความรู ของอาจารย ผูฉ ลาด ๗. อ. บตุ ร ของตระกูล อันม่งั คงั่ ๘. อ. แมลงภู ในดอกไม มีกลน่ิ หอม ๙. อ. ภยั แตโ จร ท. ผูโหดราย ๑๐. อ. ชน ท. ในศาลา หลังใหญ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 156

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 157 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ประโยคตอ ไปนใ้ี หนักเรียนแปลเปนมคธ ๑. ประโยคที่มีนามนามกบั นามนาม ๑. อ.ความเชื่อ ในพระพทุ ธเจา ๒. อ.ผล ของพระธรรม ๓. อ.เดก็ ท. ในวดั ใกลเ มือง ๔. อ.กง่ิ ท. แหงตนไม ในปา ๕. อ.เชือก ทคี่ อ ของสุนัข ๖. อ.จกุ ทห่ี ัว ของเด็ก ๗. อ.กอง แหง ขา วเปลอื ก ท. ๘. อ.หมู แหงปลา ท. ในสระ ๙. อ.เสา แหง สะพาน ใกลห มบู าน ๑๐. อ.คอก แหงสัตวเ ล้ียง ท. ของเศรษฐี ในเมือง ฯ ๒. ประโยคทม่ี ีนามนามกบั คณุ นาม ๑. อ.พระพทุ ธเจา ผูทพ่ี ่งึ ของสตั ว ท. ๒. อ.อานภุ าพ ของพระพุทธเจา ผูเลศิ ๓. อ.ความเล่ือมใส ในพระธรรม อันเลิศในโลก ๔. อ.คุณ ของบุคคล ท. ผูประเสรฐิ ๕. อ.โอรส ผูเจรญิ ท่สี ุด ของพระกษตั ริยผเู ปน ใหญใ นแควน มคธ ๖. อ.รศั มี ของพระอาทติ ย รอ น ๗. อ.รศั มี ของพระจันทร เยน็ ๘. อ.ธง บนยอด แหงพระสถปู สงู ๙. อ.กระดกู ท. แหง ควาย เผอื ก ๑๐. อ.หนงั แหง โค ท. ดำ 157

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 158 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เฉลยแปลเปนมคธ ๑. ประโยคทมี่ นี ามนามกับนามนาม ๑. พุทเฺ ธ สทธฺ า ๒. ธมฺมสฺส วิปาโก ๓. นคเร อาราเม ทารกา ๔. อรเฺ  รุกขฺ สสฺ สาขา ๕. สนุ ขสฺส ขนฺเธ รชชฺ ุ ๖. ทารกสสฺ สเี ส จุฬา ๗. วีหนี ํ ราสิ ๘. สเร มจฺฉานํ คโณ ๙. คาเม เสตสุ ฺส ถมโฺ ภ ๑๐. ธานิยํ เสฏ สิ สฺ ปสูนํ วโช ๒. ประโยคที่มนี ามนามกับคณุ นาม ๑. สตฺตานํ นาโถ พุทฺโธ ๒. อคคฺ สฺส พทุ ฺธสฺส อานุภาโว ๓. โลเก อคเฺ ค ธมเฺ ม ปสาโท ๔. อรยิ านํ ปคุ ฺคลานํ คุโณ ๕. มาคธสฺส ขตตฺ ิยสฺส เชฏโ  ปุตโฺ ต ๖. อณุ หฺ สสฺ อาทิจจฺ สส อาภา ๗. สตี ลสสฺ จนทฺ สฺส รสํ ิ ๘. อุจจฺ สสฺ ถูปสสฺ มตฺถเก ธโช ๙. เสตสสฺ มหสิ สสฺ อฏ นี ิ ๑๐. กาฬานํ โคณานํ ตโจ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 158

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 159 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมินผลตนเองกอนเรยี น หนว ยท่ี ๘ วตั ถุประสงค เพอ่ื ประเมินผลความรเู ดมิ ของนักเรียนเกี่ยวกบั เรือ่ ง “การแปลมคธ คำชแ้ี จง เปนไทย และการแปลไทยเปนมคธเบ้ืองตน (เฉพาะนามนาม กบั คุณนาม)” ใหน กั เรียนอานคำถาม แลวเขยี นวงกลมลอ มรอบขอ คำตอบท่ีถกู ตอง ทส่ี ดุ เพยี งขอเดยี ว ๑. คำวา “อ.นก บนตน ไม” ตรงกับขอใด ? ก. รุกฺเข สกุโณ ข. รกุ ฺขํ สกุโณ ค. รกุ ขฺ า สกณุ า ง. รุกขฺ สสฺ สกโุ ณ ๒. คำวา “อ.มา ของชน” ตรงกับขอใด ? ก. ชนานํ ตรุ โค ข. ชนตฺถํ ตรุ โค ค. ชนสฺมา ตุรโค ง. ชนสฺส ตุรโค ๓. คำวา “อ.ดอกบัว ในนำ้ ” ตรงกับขอใด ? ก. ชลสมฺ ึ กมลา ข. ชลสมฺ า กมลานิ ค. ชเล กมลํ ง. ชลสสฺ กมลํ ๔. คำวา “อ.นาง ท. ในศาลา” ตรงกบั ขอใด ? ก. สาลาย นารสี ุ ข. สาลายํ นารี ค. สาลาสุ นารโิ ย ง. สาลาโย นาริโย ๕. คำวา “อ.ตระกูล ท. ของชางไม ท.” ตรงกับขอ ใด ? ก. ถปตีนํ กุลานิ ข. ถปตีนํ กุลา ค. ถปตสี ุ กุลานิ ง. ถปติโน กลุ ํ ๖. คำวา “อ.หญงิ ผูขยนั ” ตรงกับขอ ใด ? ก. ทกฺโข อติ ฺถี ข. ทกขฺ ํ อิตฺถี ค. ทกขฺ า อิตฺถี ง. ทกขฺ าโย อติ ฺถิโย ๗. คำวา “อ.บรุ ุษ ผูมีบาป” ตรงกับขอ ใด ? ก. ปาปา ปรุ ิสา ข. ปาโป ปุริสา ค. ปาโป ปรุ ิโส ง. ปาป ปรุ สิ ํ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 159

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 160 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ๘. คำวา “อ.ตระกลู อันมลี าภ” ตรงกับขอ ใด ? ก. ลาภี กุลํ ข. ลาภิ กลุ ํ ค. ลาภินี กุลานิ ง. ลาภํ กุลํ ๙. คำวา “อ.เศรษฐี ผมู โี ภคะ” ตรงกับขอ ใด ? ก. โภคนิ ี เสฏิโน ข. โภคิ เสฏิ ค. โภโค เสฏ ี ง. โภคี เสฏ ี ๑๐. คำวา “อ.สุนขั ตัวดุรา ย” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. จณฺโฑ สนุ โข ข. จณฑฺ า สุนขา ค. จณฺฑํ สนุ ขํ ง. จณโฺ ฑ สนุ ขี ๑๑. คำวา “กมุ ารานํ อาจริโย” ขอ ใดแปลถกู ตอ ง ? ก. อ.อาจารย ท. ของเดก็ ข. อ.อาจารย ของเดก็ ท. ค. อ.อาจารย แกเดก็ ท. ง. อ.อาจารย ในเด็ก ท. ๑๒. คำวา “อคารสมฺ ึ ทารกา” ขอ ใดแปลถกู ตอง ? ก. อ.เดก็ ชาย ในเรอื น ท. ข. อ.เด็กชาย ท. ของเรอื น ค. อ.เด็กชาย ท. ในเรอื น ง. อ.เดก็ ชาย ดว ยเรอื น ๑๓. คำวา “ทารุเณหิ โจเรหิ ภย”ํ ขอใดแปลถกู ตอ ง ? ก. อ.ความกลัว ดวยโจร ท. ผูทารณุ ข. อ.ความกลัว เพอ่ื โจร ท. ผทู ารุณ ค. อ.ความกลวั ในโจร ท. ผูท ารุณ ง. อ.ความกลัว แตโ จร ท. ผทู ารณุ ๑๔. คำวา “ธมมฺ ิกา อปุ าสกิ า” ขอ ใดแปลถกู ตอ ง ? ก. อ.อุบาสก ท. ผูต้งั อยูในธรรม ข. อ.อบุ าสกิ า ผูตั้งอยใู นธรรม ค. อ.อุบาสกิ า ท. แตธ รรม ง. อ.อุบาสกิ า เพราะธรรม ๑๕. คำวา “สทธฺ ํ กลุ ํ” ขอใดแปลถกู ตอง ? ก. อ.ตระกลู ซ่ึงศรัทธา ข. อ.ตระกูล อันมีศรัทธา ค. อ.ตระกูล มศี รทั ธามาก ง. อ.ตระกลู ท. ผปู ระกอบดวยศรัทธา เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 160

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 161 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ แบบประเมนิ ผลตนเองหลังเรียน หนวยท่ี ๘ วตั ถุประสงค เพ่ือประเมินผลความกาวหนาของนักเรียนเก่ียวกับเร่ือง “การ คำชแี้ จง แปลมคธเปนไทย และการแปลไทยเปนมคธเบื้องตน (เฉพาะ นามนามกบั คุณนาม)” ใหนักเรยี นอา นคำถาม แลวเขียนวงกลมลอ มรอบขอคำตอบที่ถกู ตอ ง ท่สี ดุ เพยี งขอเดยี ว ๑. คำวา “อ.นก บนตน ไม” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. รุกฺขสสฺ สกโุ ณ ข. รุกฺขํ สกโุ ณ ค. รกุ ฺขา สกณุ า ง. รุกเฺ ข สกโุ ณ ๒. คำวา “อ.มา ของชน” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. ชนานํ ตรุ โค ข. ชนสฺส ตรุ โค ค. ชนสมฺ า ตุรโค ง. ชนตฺถํ ตุรโค ๓. คำวา “อ.ดอกบวั ในน้ำ” ตรงกบั ขอใด ? ก. ชลสฺมึ กมลา ข. ชลสฺมา กมลานิ ค. ชลสฺส กมลํ ง. ชเล กมลํ ๔. คำวา “อ.นาง ท. ในศาลา” ตรงกับขอใด ? ก. สาลาย นารสี ุ ข. สาลาสุ นารโิ ย ค. สาลายํ นารี ง. สาลาโย นารโิ ย ๕. คำวา “อ.ตระกูล ท. ของชางไม ท.” ตรงกับขอใด ? ก. ถปตโิ น กุลํ ข. ถปตนี ํ กลุ า ค. ถปตีสุ กุลานิ ง. ถปตีนํ กุลานิ ๖. คำวา “อ.หญิง ผขู ยนั ” ตรงกับขอ ใด ? ก. ทกขฺ า อิตถฺ ี ข. ทกขฺ ํ อิตถฺ ี ค. ทกฺโข อติ ถฺ ี ง. ทกขฺ าโย อติ ถฺ ิโย ๗. คำวา “อ.บรุ ษุ ผูมีบาป” ตรงกบั ขอใด ? ก. ปาปา ปุรสิ า ข. ปาโป ปรุ สิ า ค. ปาป ปรุ ิสํ ง. ปาโป ปรุ โิ ส เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 161

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 162 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ ๘. คำวา “อ.ตระกูล อันมีลาภ” ตรงกับขอ ใด ? ก. ลาภํ กุลํ ข. ลาภี กุลํ ค. ลาภนิ ี กลุ านิ ง. ลาภิ ภลุ ํ ๙. คำวา “อ.เศรษฐี ผมู ีโภคะ” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. โภคี เสฏ ี ข. โภคิ เสฏ ิ ค. โภโค เสฏี ง. โภคินี เสฏ โิ น ๑๐. คำวา “อ.สุนัข ตวั ดุรา ย” ตรงกับขอ ใด ? ก. จณฺฑา สนุ ขา ข. จณโฺ ฑ สนุ โข ค. จณฑฺ ํ สุนขํ ง. จณโฺ ฑ สนุ ขี ๑๑. คำวา “กุมารานํ อาจรโิ ย” ขอใดแปลถกู ตอ ง ? ก. อ.อาจารย ของเดก็ ท. ข. อ.อาจารย ท. ของเดก็ ค. อ.อาจารย แกเ ดก็ ท. ง. อ.อาจารย ในเดก็ ท. ๑๒. คำวา “อคารสฺมึ ทารกา” ขอ ใดแปลถูกตอ ง ? ก. อ.เดก็ ชาย ในเรือน ท. ข. อ.เดก็ ชาย ท. ของเรือน ค. อ.เดก็ ชาย ดว ยเรือน ง. อ.เดก็ ชาย ท. ในเรือน ๑๓. คำวา “ทารเุ ณหิ โจเรหิ ภยํ” ขอใดแปลถกู ตอ ง ? ก. อ.ความกลัว ดว ยโจร ท. ผทู ารุณ ข. อ.ความกลัว เพอ่ื โจร ท. ผทู ารณุ ค. อ.ความกลัว แตโจร ท. ผูทารุณ ง. อ.ความกลวั ในโจร ท. ผทู ารณุ ๑๔. คำวา “ธมมฺ ิกา อุปาสิกา” ขอใดแปลถูกตอง ? ก. อ.อบุ าสก ท. ผตู ้งั อยูใ นธรรม ข. อ.อบุ าสิกา เพราะธรรม ค. อ.อุบาสิกา ท. แตธรรม ง. อ.อุบาสกิ า ผูต ั้งอยใู นธรรม ๑๕. คำวา “สทธฺ ํ กลุ ”ํ ขอ ใดแปลถูกตอง ? ก. อ.ตระกลู ซง่ึ ศรัทธา ข. อ.ตระกูล มศี รทั ธามาก ค. อ.ตระกูล อนั มศี รัทธา ง. อ.ตระกูล ท. ผปู ระกอบดว ยศรทั ธา เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 162

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 163 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ñ เฉลยแบบประเมินผลตนเอง หนว ยท่ี ๘ ขอ กอ นเรียน หลังเรียน ๑. ก ง ๒. ง ข ๓. ค ง ๔. ข ค ๕. ก ง ๖. ค ก ๗. ค ง ๘. ข ง ๙. ง ก ๑๐. ก ข ๑๑. ข ก ๑๒. ค ง ๑๓. ง ค ๑๔. ข ง ๑๕. ข ค เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 163

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 164 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) แผนการสอนวิชาบาลีไวยากรณ หนว ยท่ี ๙ เร่อื ง กตปิ ยศัพท : อตฺต, พรฺ หมฺ , ราช, ภควนตฺ ุ เวลาทำการสอน ๓ คาบ สาระสำคัญ ในบาลีไวยากรณ ยังมีศัพทพิเศษอีกกลุมหนึ่ง มีวิธีแจกเฉพาะตน ไมท่ัวไปแกศัพทอื่น มี ๑๒ ศัพท มี อตฺต พฺรหฺม เปนตน เรียกวา กติปยศัพท หรือ ปกณิ ณกศัพท วิธีการแจก, วิธีเปล่ียนวิภัตติ และการันต และขอควรจำของ อตฺต พฺรหฺม ราช ภควนฺตุ จดุ ประสงค ๑. นักเรียนรถู ึงความหมายของกติปยศัพท ๒. นักเรียนรจู ำนวนของกติปยศัพท ๓. นักเรียนรูวิธีการแจก และวิธีเปล่ียนวิภัตติ และการันต กติปยศัพท อตตฺ , พรฺ หมฺ , ราช, ภควนฺตุ, ไดถ ูกตอง ๔. นักเรียนรูขอ ควรจำของ อตฺต, พรฺ หมฺ , ราช, ภควนตฺ ุ เน้อื หา ๑. กตปิ ยศพั ท ๒. อตฺต ศพั ท ๓. พฺรหมฺ ศัพท ๔. ราช ศพั ท ๕. ภควนฺตุ ศพั ท 164

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 165 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ กิจกรรม ๑. ประเมนิ ผลกอนเรยี น ๒. ใหน ักเรียนทองแบบแจก อตตฺ , พฺรหฺม, ราช, ภควนตฺ ุ ๓. ครนู ำเขา สบู ทเรยี น และอธิบายเนือ้ หา ๔. ครสู อนนักเรียนเปล่ียนวิภัตติ และการันตข อง อตฺต, พรฺ หมฺ , ราช, ภควนฺตุ เปนแบบอยาง แลวให นักเรียนวาทีละองค หรือทีละแถว หรือทลี ะกลมุ ตามเหมาะสม จนครบ ๕. บัตรคำ ๖. ครูสรุปเนื้อหาท้งั หมด ๗. ประเมนิ ผลหลังเรยี น ๘. ใบงาน - ใหนักเรียนแจกศพั ทเ หมอื น ราช, ภควนฺตุ ๓-๕ ศัพทเ ปน การบาน ๙. กิจกรรมเสนอแนะ ครูสอนควรใหนักเรยี น ๑. ทองแมแ บบได ๒. เปล่ยี นวิภัตติ และการันตไดถ กู ตอง ๓. แจกศัพททแ่ี จกอยา ง ราช, ภควนตฺ ุ ได (ส่ังเปน การบานดวย) สื่อการสอน ๑. ตำราที่ใชป ระกอบการเรยี น-การสอน ๑.๑ หนังสอื พระไตรปฎ ก ๑.๒ หนงั สอื พจนานกุ รมมคธ-ไทย โดย พนั ตรี ป. หลงสมบญุ สำนักเรียนวดั ปากนำ้ จัดพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๐ ๑.๓ หนงั สอื พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนังสอื พจนานกุ รมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท โดย พระธรรมปฎก (ป.อ. ปยตุ ฺโต) ๑.๕ หนงั สือคูมือบาลีไวยากรณ นิพนธ โดย สมเดจ็ พระมหาสมณเจาฯ ๑.๖ หนงั สอื ปาลทิ เทส ของ สำนักเรียนวัดปากนำ้ ๑.๗ คัมภีรอภิธานปั ปทปี ก า ๑.๘ หนังสอื อุภัยพากยปริวตั น 165

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 166 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ñ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) ๒. อปุ กรณท่คี วรมปี ระจำหอ งเรียน ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรือ กระดานไวทบ อรด ๒.๒ เครอื่ งฉายขา มศรี ษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพิวเตอร และเครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร ๓. บัตรคำ ๔. ใบงาน วิธวี ัดผล-ประเมนิ ผล ๑. สอบถามความเขา ใจ ๒. สงั เกตพฤติกรรมการมีสวนรว มในกจิ กรรม ๓. สังเกตความกาวหนา ดานพฤตกิ รรมการเรียนรูของผูเ รียน ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอนเรยี น-หลังเรียน 166

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 167 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ñ กติปยศัพท มีศัพทพิเศษอีกกลุมหนึ่งซึ่งมีวิธีแจกเปนสวนเฉพาะ ไมทั่วไปแกศัพทอ่ืน มี วิธีแจกดวยวิภัตติท้ัง ๗ ตางจากท่ีกลาวมาแลวขางตน คงมีแบบแจกของกติปยศัพท บางศัพทที่จะใหศัพทอ่ืนแจกตามไดบาง ศัพทเหลาน้ี เรียกวา กติปยศัพท หรืออีก อยางหนึง่ เรียกวา ปกิณณกศพั ท ความหมายของคำวา กตปิ ยศพั ท และ ปกณิ ณกศัพท คำวา กตปิ ยศัพท หรือ ปกิณณกศัพท นน้ั ไดม ีนกั วชิ าการหลายแขนงให คำจำกัดความหมายแตกตา งกนั ออกไป ดังตอ ไปน้ี คือ กตปย (วิ.) นอ ย, เล็ก, เลก็ นอย, นิดหนอย, ไมมาก, สองสามสิง่ , สองสามคน. สททฺ (ว.ิ ) ส. กตปย. (พจนานุกรม มคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบุญ สทฺท (ปุ.) สำนกั เรียน วดั ปากนำ้ จดั พมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๐ หนา ๑๖๔) ออกเสียง, กลา ว, เปลง, รอ งเรียก, ทอง, สาธยาย. ปกณิ ณฺ ก (ว.ิ ) การกลาว, ฯลฯ, เสียง, สำเนียง, คำ, ถอยคำ, คำพูด, คำกลาว, ศัพท. วิ. สทฺทียตีติ สทฺโท. สทฺทเน, อ. แปลงท่ีสุดธาตุเปน ทุท. สปนฺติ อเนนาติ วา สทฺโท. สปฺสมวาเย. โท ทฺวิตตํ, ปฺโลโป. (พจนานุกรม มคธ-ไทย โดย พันตรี ป. หลงสมบุญ สำนักเรียน วัดปากน้ำ จดั พมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๐ หนา ๗๐๐) ตางๆ, นานา, เกลื่อนกลน, เรี่ยราย, กระจาย, ระคน, ระคนกัน, คละกัน, เบด็ เตลด็ , ปกณิ ณกะ, ปกิณกะ, ประกีรณกะ, ประกรี ณก, ประเกียรณก. ปปุพโฺ พ, กริ ฺ วกิ ริ เณ, โต. ลบท่ีสุดธาตุ แปลง ต เปน อณิ ฺณ ก สกดั . ส. ปฺรกรี ณก. (พจนานกุ รม มคธ-ไทย โดย พนั ตรี ป. หลงสมบุญ สำนักเรยี น วดั ปากนำ้ จัดพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๐ หนา ๔๑๐) เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 167

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 168 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ñ ปกิณกะ (ปะกนิ นะกะ) ว. เร่ียราย, เบ็ดเตล็ด, กระจาย, ระคนกัน, คละกัน. (มักใช ประกอบหนาศัพท) เชน ปกิณกคดี. (ป. ปกณิ ฺณก ; ส. ปฺรกรี ฺณก) (พจนานกุ รม ฉบับบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ หนา ๔๓๙) ปกริ ณกะ ขอ เบ็ดเตล็ด, ขอ เล็กๆ นอ ยๆ. ขอ ปลกี ยอ ย (พจนานกุ รมพทุ ธศาสน ฉบับประมวลศัพท พระธรรมปฎ ก (ป. อ. ปยุตโต) หนา ๑๔๒) ในหนงั สือคูมอื เลมนี้ จะใหค ำจำกดั ความหมายวา กตปิ ยศัพท หมายถงึ ศพั ทเ ลก็ ๆ นอ ยๆ ปกณิ ณกศัพท หมายถงึ ศัพทเ บด็ เตลด็ กติปยศัพท มี ๑๒ ศัพท ดังน้ี คือ อตฺต (ตน), พฺรหฺม (พรหม), ราช (พระราชา), ภควนฺตุ (พระผมู พี ระภาค), อรหนตฺ (พระอรหันต) , ภวนตฺ (ผูเจรญิ ), สตถฺ ุ (ผูสอน), ปต ุ (บิดา), มาตุ (มารดา), มน (ใจ), กมมฺ (กรรม), โค (โค). ศัพทเหลาน้ีบางศัพทก็เปนลิงคเดียว บางศัพทก็เปน ๒ ลิงค ในท่ีน้ีจะแจก เฉพาะที่แตกตางจากแบบท่ีไดแจกดวยวิภัตติท้ัง ๗ มาแลวขางตน ในศัพทที่เปน ๒ ลงิ ค จะแจกไวเ พียงลงิ คเ ดยี ว สวนอีกลิงคห นึ่งน้ันพงึ เขาใจเถิดวา แจกตามการนั ตทีม่ ี มาแลวในลิงคทั้ง ๓ น้ัน ตัวอยางเชน ราช ศัพท เปน ๒ ลิงค จะแจกเฉพาะปุงลิงค สว นอติ ถีลงิ คจะไมแจก เพราะในอิตถลี ิงคมรี ูปเปน ราชินี แจกตามแบบ อี การันต ใน อติ ถลี งิ ค (นาร)ี กติปยศัพทท้งั ๑๒ ศพั ทนนั้ ในหนว ยน้ี จักแสดงเฉพาะ ๔ ศัพทขา งตน คอื อตฺต, พรฺ หฺม, ราช, ภควนฺตุ สว นศพั ทที่เหลือจกั แสดงในหนวยตอ ไป เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 1) 168


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook