Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 2

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 2

Published by pm.punnatat, 2022-08-16 07:17:27

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ม.1 เล่ม 2

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.1 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 พระมหาปัณณทตั อภิวฑฒฺ โน ครผู สู้ อน / ผจู้ ดั ทำแผนกำรเรยี นรู้

คานา กระทรวงศึกษาธกิ ารได้ประกาศใช้หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และได้ กาหนดมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั กลมุ่ สาระการเรยี นรตู้ ่างๆ เพ่อื ใหส้ ถานศกึ ษานาไปใชเ้ ป็นกรอบทศิ ทางใน การพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษา วางแผนจดั การเรยี นการสอนและจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาผู้เรยี นให้มี ความรคู้ วามสามารถ และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ทก่ี าหนดให้ พรอ้ มทงั้ ดาเนินการวดั ประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นใหม้ คี ุณภาพตามหลกั การของหลกั สูตร เพ่อื ให้เกดิ ผลสาเรจ็ ตาม เจตนารมณ์ของการปฏริ ปู การศกึ ษาไทย ดงั นนั้ ขนั้ ตอนการนาหลกั สตู รสถานศกึ ษาไปปฏบิ ตั จิ รงิ ในชนั้ เรยี นของ ครผู สู้ อน จงึ จดั เป็นหวั ใจสาคญั ของการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นใหบ้ รรลตุ ามเป้าหมายของหลกั สตู ร แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เพอ่ื ใช้ เป็นแนวทางวางแผนจดั การเรยี นรแู้ ก่ผูเ้ รยี น โดยจดั ทาเป็นหน่วยการเรยี นรู้องิ มาตรฐานและออกแบบกจิ กรรม การเรยี นรู้ตามแนวคิดการออกแบบย้อนกลับ (Backward Design) ท่ีมุ่งเน้นกระบวนการคิดและการประกัน คุณภาพผู้เรยี น ช่วยใหผ้ ปู้ กครองและหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา สามารถมนั่ ใจใน ผลการเรยี นรแู้ ละคณุ ภาพของผเู้ รยี นทม่ี หี ลกั ฐานตรวจสอบผลการเรยี นรอู้ ย่างเป็นระบบ ผจู้ ดั ทาหน่วยการเรยี นรอู้ งิ มาตรฐาน ไดด้ าเนินการออกแบบการจดั การเรยี นรตู้ ามรูปแบบทส่ี านักวชิ าการ และมาตรฐานการศกึ ษา (สวก.) กาหนดขน้ึ เพอ่ื เป็นเอกภาพเดยี วกนั ตามองคป์ ระกอบต่อไปน้ี

องคป์ ระกอบของหน่วยการเรยี นร้อู ิงมาตรฐาน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี เวลาเรยี น ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ชนั้ 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ (ถา้ ม)ี 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 7. การวดั และการประเมนิ ผล ) 7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น ) (ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ประจำหน่วยกำรเรยี นรู้ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.3 การประเมนิ หลงั เรยี น (ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น ประจำหน่วยกำรเรยี นรู้ 7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ชนั้ ชวั่ โมง เรือ่ ง เวลาเรยี น 1. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด 2. ตวั ชว้ี ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ (ถา้ ม)ี 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาถามกระตุ้นความคิด วิธีสอนและขนั้ ตอนการจดั กิจกรรม 7. การวดั และการประเมนิ ผล 8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

คานา (ต่อ) ผู้สอนสามารถนาแผนการจดั การเรยี นรู้เล่มน้ี ไปเป็นคู่มอื วางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ประกอบ การใชห้ นังสอื เรยี น รายวชิ าภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 (ฉบบั อนุญาต) ทท่ี าง บรษิ ทั จดั พมิ พจ์ าหน่าย โดยออกแบบการเรยี นรู้ (Instructional Design) ตามหลกั การสาคญั คอื 1 หลกั การจดั การเรยี นรอู้ ิงมาตรฐาน หน่วยการเรยี นรแู้ ต่ละหน่วย จะกาหนดมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั ไวเ้ ป็นเป้าหมายในการจดั การเรยี น การสอน ผสู้ อนจะตอ้ งศกึ ษาและวเิ คราะหร์ ายละเอยี ดของมาตรฐานตวั ช้วี ดั ทุกขอ้ ว่า ระบุให้ผู้เรยี นตอ้ งมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั เร่อื งอะไร และต้องสามารถลงมอื ปฏบิ ตั อิ ะไรได้บ้าง และผลการเรยี นรู้ท่เี กดิ ข้นึ กบั ผู้เรยี น ตามมาตรฐานตวั ชว้ี ดั น้จี ะนาไปสกู่ ารเสรมิ สรา้ งสมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นใดแก่ผเู้ รยี น มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั ผเู้ รยี นรอู้ ะไร นาไปสู่ ผเู้ รยี นทำอะไรได้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2 หลกั การจดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั เม่อื ผู้สอนวเิ คราะห์รายละเอยี ดของมาตรฐานตวั ช้วี ดั และได้กาหนดเป้าหมายการจดั การเรยี นการสอน เรยี บรอ้ ยแลว้ จงึ กาหนดขอบขา่ ยสาระการเรยี นรูแ้ ละแนวทางการจดั การเรยี นการสอนใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั ติ าม ขนั้ ตอนของกจิ กรรมการเรยี นรทู้ อ่ี อกแบบไวจ้ นบรรลุตวั ชว้ี ดั ทกุ ขอ้

มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั เป้าหมาย หลกั การจดั การเรยี นรู้ การเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น และการพฒั นา เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั คณุ ภาพ สนองควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคล คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ของผเู้ รียน เน้นพฒั นำกำรทำงสมอง ของผเู้ รยี น กระตุน้ กำรคดิ เน้นควำมรคู้ คู่ ณุ ธรรม 3 หลกั การบูรณาการกระบวนการเรยี นร้สู ่มู าตรฐานตวั ชี้วดั เม่อื ผสู้ อนกาหนดขอบขา่ ยสาระการเรยี นรู้ และแนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนไวแ้ ล้ว จงึ กาหนด รูปแบบการเรียนการสอนและกระบวนการเรียนรู้ท่ีจะฝึกฝนผู้เรยี นให้เกิดการเรยี นรู้บรรลุผลตามมาตรฐาน ตวั ช้วี ดั โดยเลอื กใช้กระบวนการเรยี นรู้ท่สี อดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ท่เี ป็นเป้ าหมายในหน่วยนัน้ ๆ เช่น กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการเรยี นรู้ด้วยตนเอง กระบวนการ เผชญิ สถานการณ์และการแก้ปัญหา กระบวนการเรยี นรู้จากประสบการณ์จรงิ กระบวนการพฒั นาลกั ษณะนิสยั กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการคดิ วเิ คราะหอ์ ยา่ งมวี จิ ารณญาณ กระบวนการทางสงั คม ฯลฯ กระบวนการเรยี นรู้ ท่ีมอบหมายให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัตินัน้ จะต้องนาไปสู่การเสริมสร้างสมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงคข์ องผเู้ รยี นตามสาระการเรยี นรูท้ ก่ี าหนดไวใ้ นแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ 4 หลกั การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน และกจิ กรรมการเรยี นรใู้ นแต่ละหน่วย ผสู้ อนตอ้ งกาหนดขนั้ ตอนและวธิ ี ปฏบิ ตั ใิ หช้ ดั เจน โดยเน้นใหผ้ เู้ รยี นไดล้ งมอื ฝึกฝนและฝึกปฏบิ ตั มิ ากทส่ี ดุ ตามแนวคดิ และวธิ กี ารสาคญั คอื 1) การเรียนรู้ เป็ นกระบวนการทางสติปัญญา ท่ีผู้เรียนทุกคนต้องใช้สมองคิดและทาความเข้าใจ ในส่ิงต่างๆ ร่วมกบั การลงมอื ปฏิบตั ิ ทดลองค้นคว้า จนสามารถสรุปเป็นความรู้ได้ด้วยตนเอง และ สามารถนาเสนอผลงาน แสดงองคค์ วามรทู้ เ่ี กดิ ขน้ึ ในแต่ละหน่วยการเรยี นรไู้ ด้

2) การสอน เป็นการเลือกวธิ ีการหรอื กจิ กรรมท่เี หมาะสมกบั การเรยี นรูใ้ นหน่วยนัน้ ๆ และท่ีสาคญั คอื ต้องเป็นวธิ กี ารท่ีสอดคล้องกบั สภาพผู้เรยี น ผู้สอนจงึ ต้องเลือกใช้วธิ กี ารสอน เทคนิคการสอน และ รปู แบบการสอนอย่างหลากหลาย เพอ่ื ช่วยใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างราบร่นื จนบรรลุ ตวั ชว้ี ดั ทุกขอ้ 3) รูปแบบการสอน ควรเป็นวธิ ีการและขนั้ ตอนฝึกปฏิบัตทิ ่ีส่งเสรมิ หรอื กระตุ้นให้ผู้เรยี นสามารถคดิ อย่างเป็นระบบ เช่น รูปแบบการสอนตามวฏั จกั รการสร้างความรู้แบบ 5E รูปแบบการสอนโดยใช้ การคดิ แบบโยนิโสมนสกิ าร รูปแบบการสอนแบบ CIPPA Model รปู แบบการเรยี นการสอนตามวฏั จกั ร การเรยี นรู้แบบ 4MAT รูปแบบการเรยี นการสอนแบบร่วมมอื เทคนิค JIGSAW, STAD, TAI, TGT เป็นตน้ 4) วิธีการสอน ควรเลอื กใชว้ ธิ กี ารสอนท่สี อดคลอ้ งกบั เน้ือหาของบทเรยี น ความถนัด ความสนใจ และ สภาพปัญหาของผู้เรยี น วธิ สี อนทด่ี จี ะช่วยใหผ้ เู้ รยี นบรรลุผลการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลสมั ฤทธิ์ ท่สี ูง เช่น วธิ ีการสอนแบบบรรยาย การสาธติ การทดลอง การอภปิ รายกลุ่มย่อย การแสดงบทบาท สมมติ การใช้กรณีตัวอย่าง การใช้สถานการณ์จาลอง การใช้ศูนย์การเรียน การใช้บทเรียนแบบ โปรแกรม เป็นตน้ 5) เทคนิ คการสอน ควรเลอื กใช้เทคนิคการสอนท่ีสอดคล้องกับวธิ กี ารสอน และช่วยให้ผู้เรยี นเข้าใจ เน้ือหาในบทเรยี นได้ง่ายข้นึ สามารถกระตุ้นความสนใจและจูงใจให้ผู้เรยี นร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมการ เรยี นรอู้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เช่น เทคนิคการใชผ้ งั กราฟิก (Graphic Organizers) เทคนิคการใชค้ าถาม เทคนิคการเล่านิทาน การเล่นเกม การใช้ตัวอย่างกระตุ้นความคดิ การใช้ส่อื การเรยี นรู้ท่ีน่าสนใจ เป็นตน้ 6) สือ่ การเรียนการสอน ควรเลอื กใชส้ ่อื หลากหลายกระตุ้นความสนใจ และทาความกระจ่างให้เน้ือหา สอดคลอ้ งกบั สาระการเรยี นรู้ และเป็นเคร่อื งมอื ช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ การเรยี นรบู้ รรลุตวั ชว้ี ดั อย่างราบร่นื เชน่ สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ เอกสารประกอบการสอน แถบวดี ทิ ศั น์ แผ่นสไลด์ คอมพวิ เตอร์ VCD LCD Visualizer เป็นตน้ ควรเตรยี มสอ่ื ใหค้ รอบคลุมทงั้ สอ่ื การสอนของครแู ละสอ่ื การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น

5 หลกั การจดั กิจกรรมการเรียนร้แู บบยอ้ นกลบั ตรวจสอบ เม่อื ผู้สอนวางแผนออกแบบการจดั การเรยี นรู้ รวมถงึ กาหนดรูปแบบการเรยี นการสอนไวเ้ รยี บร้อยแล้ว จงึ นาเทคนิควธิ กี ารสอน วธิ จี ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ และสอ่ื การเรยี นรูไ้ ปลงมอื จดั การเรยี นการสอน ซง่ึ จะนาผเู้ รยี น ไปสู่การสร้างช้ินงานหรือภาระงาน เกิดทักษะกระบวนการและสมรรถนะสาคญั ตามธรรมชาติวิชา รวมทัง้ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ให้บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั ท่ีเป็นเป้าหมายของหน่วยการเรยี นรู้ ตามลาดบั ขนั้ ตอนการเรยี นรทู้ ก่ี าหนดไว้ ดงั น้ี จากเป้าหมายและหลกั ฐาน เป้าหมายการเรยี นรขู้ องหน่วย คิดยอ้ นกลบั สู่จดุ เร่ิมต้น ของกิจกรรมการเรยี นรู้ หลกั ฐานชน้ิ งาน/ภาระงาน แสดงผลการเรยี นรขู้ องหน่วย 4 กจิ กรรม คาถามชวนคดิ 3 กจิ กรรม คาถามชวนคดิ จากกิจกรรมการเรียนรู้ 2 กจิ กรรม คาถามชวนคดิ ทีละขนั้ บนั ไดส่หู ลกั ฐาน 1 กจิ กรรม คาถามชวนคดิ และเป้ าหมายการเรียนรู้ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากจะเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ แลว้ จะตอ้ ง ฝึกฝนกระบวนการคดิ ทุกขนั้ ตอน โดยใชเ้ ทคนิคการตงั้ คาถามกระตุ้นความคดิ และใชร้ ะดบั คาถามให้สมั พนั ธ์ กับเน้ือหาการเรียนรู้ตัง้ แต่ระดับความรู้ ความจา ความเข้าใจ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมนิ ค่า นอกจากจะช่วยให้ผู้เรยี นเกิดความเขา้ ใจบทเรยี นอย่างลกึ ซ้ึงแลว้ ยงั เป็นการเตรยี มความ พร้อมเพ่ือสอบ O-NET ซ่ึงเป็นการทดสอบระดับชาติท่ีเน้นกระบวนการคิดระดบั วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ด้วย และในแต่ละแผนการเรยี นรจู้ งึ มกี ารระบุคาถามเพ่อื กระตุ้นความคดิ ของผูเ้ รยี นไวด้ ้วยทุกกจิ กรรม ผูเ้ รยี นจะได้ ฝึกฝนวธิ กี ารทาขอ้ สอบ O-NET ควบค่ไู ปกบั การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ดั ทส่ี าคญั

6 การเตรยี มความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพจากหน่วยงานภายนอก (สมศ. รอบที่ 3) ในปีการศกึ ษา 2554 ถงึ 2558 สถานศกึ ษาทุกแห่งต้องเตรยี มการรองรบั การประเมนิ คุณภาพภายนอก จาก สมศ. ในรอบท่ี 3 ตามตารางเปรยี บเทียบด้านคุณภาพผู้เรยี นตามมาตรฐานการศึกษาขนั้ พ้ืนฐานของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และมาตรฐานการประเมนิ คุณภาพภายนอกจาก สมศ. มาตรฐานการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2553 มาตรฐานเพอ่ื การประเมิน กระทรวงศึกษาธิการ คณุ ภาพภายนอก รอบสาม (ดำ้ นคุณภำพผเู้ รยี น 5 ตวั บ่งชห้ี ลกั ) (ดำ้ นคณุ ภำพผเู้ รยี น 6 มำตรฐำน) มาตรฐานที่ 1 ผเู้ รยี นมสี ขุ ภาวะทด่ี แี ละมสี ุนทรยี ภาพ ตวั บง่ ชี้ท่ี 1 ผเู้ รยี นมสี ขุ ภาพกาย มาตรฐานท่ี 2 ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม และสขุ ภาพจติ ทด่ี ี ทพ่ี งึ ประสงค์ ตวั บ่งชี้ท่ี 2 ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐานท่ี 3 ผเู้ รยี นมที กั ษะในการแสวงหาความรู้ และคา่ นิยมทพ่ี งึ ประสงค์ ดว้ ยตนเอง รกั การเรยี นรู้ และพฒั นาตนเอง ตวั บ่งชี้ที่ 3 ผเู้ รยี นมคี วามใฝ่รู้ และเรยี นรู้ อยา่ งต่อเน่อื ง มาตรฐานที่ 4 ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการคดิ อย่าง อย่างต่อเน่อื ง ตวั บ่งชี้ท่ี 4 ผเู้ รยี นคดิ เป็น ทาเป็น เป็นระบบ คดิ สรา้ งสรรค์ ตดั สนิ ใจ ตวั บ่งชี้ท่ี 5 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมสี ติ สมเหตุสมผล มาตรฐานท่ี 5 ผเู้ รยี นมคี วามรแู้ ละทกั ษะทจ่ี าเป็น ของผเู้ รยี น ตามหลกั สตู ร มาตรฐานท่ี 6 ผเู้ รยี นมที กั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผอู้ ่นื ไดแ้ ละมเี จตคติ ทด่ี ตี ่ออาชพี สจุ รติ การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอนในแต่ละหน่วยจะครอบคลุมกจิ กรรมการเรยี นรู้ และการประเมนิ ผล ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) และด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ตามหลกั สูตร แกนกลางฯ 2551 พรอ้ มทงั้ ออกแบบเคร่อื งมอื การวดั และประเมนิ ผล รวมทงั้ แบบบนั ทกึ ผลการเรยี นรดู้ า้ นต่างๆ ไว้ครบถ้วน สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานด้านคุณภาพผู้เรยี น และตวั บ่งช้ที ่ตี ้องรบั การประเมนิ ภายนอกจาก สมศ. เช่น แบบบันทึกผลด้านการคิดวเิ คราะห์ ด้านการอ่านและแสวงหาความรู้ ด้านสมรรถนะและคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ตามหลกั สูตร เป็ นต้น ผู้สอนสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และใช้ประกอบ การจดั ทารายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Reports) จงึ มนั่ ใจอย่างยง่ิ ว่า การนาแผนการจดั การ เรยี นรู้ฉบับปรบั ปรุงใหม่ไปเป็นแนวทางจดั การเรยี นการสอนตามแผนการสอนท่ีจดั ทาเป็นรายคาบไว้อย่าง ละเอยี ด จะช่วยพฒั นาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรยี นให้สูงข้นึ ตามมาตรฐานการศึกษาและการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษาทกุ ประการ ผจู้ ดั ทา

สารบญั  การพฒั นาศกั ยภาพการคิดของผเู้ รียน หน้า  คาอธิบายรายวิชา  โครงสรา้ งรายวิชา พเิ ศษ 1-26  โครงสรา้ งแผนการจดั การเรียนรู้ พเิ ศษ 27 พเิ ศษ 28-30 พเิ ศษ 31-36 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การอ่านออกเสียง 1-81 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การอ่านในชีวิตประจาวนั 82-204 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 การเขียนส่ือสารด้วยถอ้ ยคา 205-252 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การเขียนเพอ่ื การส่ือสาร 253-411 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากสื่อ 412-534 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 การฟังและการดสู ่ือ 535-573 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 การฟัง การดู และการพดู ในชีวิตประจาวนั 574-633 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เสียงในภาษาไทย และการสรา้ งคา 634-685 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค 686-721 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 10 ความแตกต่างของภาษา 722-768 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 11 สานวน คาพงั เพย และสภุ าษิต 769-790 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 12 การแต่งบทรอ้ ยกรอง 791-824

การพฒั นาศกั ยภาพการคิดของผเู้ รยี น 1 การคิดและกระบวนการคิด การคดิ เป็นพฤตกิ รรมการทางานทางสมองของมนุษยใ์ นการเรยี บเรยี งขอ้ มลู ความรแู้ ละความรสู้ กึ นึกคดิ ท่ี เกดิ จากกระบวนการเรยี นรผู้ ่านการดู การอ่าน การฟัง การสงั เกต การสมั ผสั และการดงึ ขอ้ มูลความรทู้ บ่ี รรจุอยู่ ในสมองเดมิ ตามประสบการณ์การเรยี นรทู้ ถ่ี กู สงั่ สมมา ทกั ษะการคดิ จงึ เป็นพฤตกิ รรมทม่ี นุษยแ์ สดงการกระทาออกมาได้อย่างชดั เจนมองเหน็ เป็นรูปธรรม เช่น พฤตกิ รรมการสงั เกต แสดงออกดว้ ยการเพ่งดูอย่างพนิ ิจพเิ คราะห์ หรอื พฤตกิ รรมการเปรยี บเทยี บ เป็นการนา ลกั ษณะของสง่ิ ของตงั้ แต่สองอยา่ งขน้ึ ไปมาเปรยี บเทยี บกนั เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ ถงึ สงิ่ เหมอื นหรอื สงิ่ ต่าง เป็นตน้ ดงั นัน้ การคดิ จงึ เป็นพฤตกิ รรมซบั ซ้อนทม่ี ลี กั ษณะแยกย่อยแตกต่างกนั ไป เช่น การคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สร้างสรรค์ การคดิ ไตร่ตรองโดยใช้วจิ ารณญาณ ซ่ึงล้วนเก่ยี วขอ้ งกบั กระบวนการทางานของร่างกาย ประสาท สมั ผสั ทงั้ 5 และการเช่อื มโยงระหว่างขอ้ มูลทร่ี บั รูเ้ ขา้ มาใหม่กบั ขอ้ มูลเก่าท่ถี ูกบรรจุอยู่ในคลงั สมองของคนเรา ตลอดเวลา หากเปรยี บเทียบการทางานของระบบคอมพิวเตอร์กบั สมองมนุษย์หรอื อาจเปรยี บได้กบั สมองคนกับ สมองกลจะพบว่า การทางานของสมองคน ประกอบดว้ ยความชาญฉลาด 3 ลกั ษณะ คอื 1. ความสามารถในการเรียนร้แู ละสืบค้น (Tactical Intelligence) ทงั้ ในรปู แบบการสงั เกต การคน้ หา การซกั ถาม การทดลองปฏบิ ตั ิ เป็นตน้ 2. ความสามารถในการแยกแยะคุณค่า (Emotional Intelligence) ทงั้ ในรูปแบบการตดั สนิ การลงมติ การแสดงความคดิ เห็น วพิ ากษ์วจิ ารณ์ ด้วยอารมณ์ความรู้สกึ ท่ีเหน็ ด้วย หรอื ต่อต้าน หรอื วางเฉย เป็นตน้ 3. ความสามารถในการประมวลเนื้ อหาสาระ (Content Intelligence) จากเร่ืองราวท่ีเรียนรู้ใหม่ ผสมผสานกบั ประสบการณ์เดมิ ทถ่ี ูกจดั เก็บอย่ใู นสมอง โดยผ่านกระบวนการกลนั่ กรอง และสงั เคราะห์ เป็นความรู้ใหม่ ท่ีมกั ประกอบไปด้วยความเข้าใจ เหตุผล และทัศนคติ ทงั้ ในเชิงบวกหรือเชิงลบ ซ่งึ ความรู้สกึ นึกคดิ ต่อเร่อื งราวต่างๆ น่ีเอง ท่สี มองกลของคอมพวิ เตอร์ไม่สามารถทางานได้เหมอื น สมองของมนุษย์ การฝึกฝนกระบวนการเรยี นรู้แก่ผูเ้ รยี นจงึ ต้องกระตุ้นการทางานและเสรมิ สรา้ งความสามารถของสมอง ทงั้ 3 ด้านท่กี ล่าวมา จงึ จะบงั เกิดผลการเรยี นรู้ท่สี มบูรณ์ คอื บงั เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจท่มี คี วามชดั เจนยง่ิ ข้นึ บงั เกดิ ความชานาญในทกั ษะและการปฏบิ ตั ไิ ด้คล่องแคล่วขน้ึ และท่ีสาคญั บงั เกดิ ค่านิยมคุณธรรมทง่ี อกงามข้นึ ในจติ ใจของผเู้ รยี น พิเศษ 1

2 การสร้างศกั ยภาพในการคิดของสมอง การจดั การเรยี นการสอนตามจุดหมายของการปฏริ ูปการเรยี นรูท้ ศวรรษท่ี 2 และเป้าหมายการเรยี นรขู้ อง หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 มจี ุดมุ่งหมายสาคญั คอื การฝึกฝนใหผ้ เู้ รยี นมคี วามสามารถ ในการคดิ และการเรยี นรู้ ผสู้ อนต้องจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หส้ มั พนั ธ์กบั กระบวนการทางานทางสมองของผเู้ รยี น (Brain-Based Learning : BBL) โดยฝึกฝนพฤตกิ รรมการคดิ ระดบั ต่างๆ ตามลาดบั ทกั ษะกระบวนการคดิ ท่เี ป็น แกนสาคญั (Core Thinking Processes) ดงั น้ี 1. การสงั เกตลกั ษณะของสง่ิ ตา่ งๆ 2. การสงั เกตและระบุความเหมอื น 3. การสงั เกตและจาแนกความแตกตา่ ง 4. การจดั หมวดหมสู่ งิ่ ของหรอื ตวั อย่างทเ่ี ขา้ พวก 5. การระบุสงิ่ ของและจาแนกตวั อย่างทไ่ี มเ่ ขา้ พวก 6. การเปรยี บเทยี บและระบขุ อ้ มลู ความรไู้ ดถ้ ูกตอ้ ง 7. การคน้ หาสง่ิ ของทม่ี ลี กั ษณะหมวดหม่เู ดยี วกนั 8. การรวบรวมและจดั ลาดบั สงิ่ ของตามขนาด 9. การรวบรวมและจดั ลาดบั เหตกุ ารณ์ตามกาลเวลา 10. การยกตวั อยา่ งและการกล่าวอา้ ง 11. การสรุปความหมายจากสง่ิ ทอ่ี า่ นหรอื ฟัง 12. การสรปุ ความหมายจากสง่ิ ทส่ี งั เกตและพบเหน็ 13. การวเิ คราะหเ์ ช่อื มโยงความสมั พนั ธ์ 14. การวเิ คราะหร์ ปู แบบและจดั ลาดบั ความสาคญั 15. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และสรา้ งความรคู้ วามคดิ 16. การนาเสนอขอ้ มลู ความรคู้ วามคดิ เป็นระบบ 17. การแยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ และรายละเอยี ดทเ่ี ป็นความคดิ เหน็ 18. การนยิ ามและการสรุปความ 19. การคน้ หาความเชอ่ื พน้ื ฐานและการอา้ งองิ 20. การแยกแยะรายละเอยี ดทเ่ี ชอ่ื มโยงสมั พนั ธก์ นั และการใชเ้ หตผุ ล 21. การคดิ วเิ คราะหข์ อ้ มลู ความรจู้ ากเรอ่ื งทอ่ี า่ นอย่างมวี จิ ารณญาณ 22. การตงั้ สมมตฐิ านและการตดั สนิ ใจ 23. การทดสอบสมมตฐิ าน อธบิ ายสาเหตุและผลทเ่ี กดิ ขน้ึ 24. การพนิ จิ พเิ คราะห์ ทาความกระจา่ ง และเสนอความคดิ ทแ่ี ตกตา่ ง 25. การคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ การจดั ระบบและโครงสรา้ ง 26. การออกแบบสรา้ งสรรคแ์ ละการประยกุ ตด์ ดั แปลง พิเศษ 2

รปู แบบการคดิ ทงั้ 26 ประเภทน้ี ผสู้ อนสามารถนามาสรา้ งเป็นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดั กจิ กรรมการเรยี น การสอน มอบหมายใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั แิ ละแสดงพฤตกิ รรมการคดิ ตามลาดบั เน้ือหาการเรยี นรู้ เหมาะสมกบั วยั และจติ วทิ ยาการเรยี นรู้ ตงั้ แต่ระดบั ช่วงชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-3 ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-6 และระดบั มธั ยมศกึ ษา ปีท่ี 1-6 ซ่งึ จะสะท้อนออกมาได้อย่างชดั เจนว่า ผูเ้ รยี นมคี วามสามารถคดิ คล่อง คดิ ละเอยี ด คดิ กวา้ ง คดิ ลกึ ซ้ึง คดิ หลากหลาย และคดิ สร้างสรรค์แตกต่างกนั ไปตามคุณลกั ษณะและภูมหิ ลงั ประสบการณ์การเรยี นรู้ท่ีสงั่ สม อย่ใู นสมองเดมิ ของผเู้ รยี นแตล่ ะคน 3 การพฒั นากระบวนการคิด การคดิ เป็น คดิ คล่อง คดิ ได้ชดั เจน จนสามารถคิดเป็น ปฏิบัติเป็น และแก้ปัญหาได้ จะมีลกั ษณะเป็น กระบวนการการพฒั นาการคดิ แก่ผูเ้ รยี น จงึ เป็นการสอนกระบวนการและฝึกฝนวธิ กี ารอย่างหลากหลายท่เี ป็น ปัจจยั สง่ เสรมิ เกอ้ื กลู กนั คอื 1. การสรา้ งความพรอ้ มดา้ นร่างกาย นับตงั้ แต่การรบั ประทานอาหาร ด่มื น้า การหายใจ การผ่อนคล าย การฟังเสยี งดนตรหี รอื ฟังเพลง การบรหิ ารสมองดว้ ยการบรหิ ารร่างกายอย่างถกู วธิ ี 2. การสรา้ งบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้อื อานวยต่อการคดิ การเสรมิ แรงให้ผู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้ และพฒั นาตนเอง 3. การจดั กจิ กรรมและการสรา้ งเน้ือหาการเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมต่อการฝึกฝนวธิ ีการคดิ รูปแบบต่างๆ โดยใช้ การเรยี นรกู้ ระตนุ้ ผา่ นการสอนและการฝึกทกั ษะการคดิ 4. การจดั กจิ กรรมและกระบวนการเรยี นรู้เพ่อื ส่งเสรมิ การคดิ ตามทฤษฎตี ่างๆ ทผ่ี ่านการวจิ ยั และพฒั นา มาแล้ว เช่น ทฤษฎีพหุปัญญา ทฤษฎีการสร้างความรู้ หลักเสริมสร้างความเป็นพหูสูตและหลัก โยนิโสมนสกิ ารของพุทธศาสนา การจดั กิจกรรมบูรณาการการสอนกบั การฝึกทกั ษะการคดิ ในกลุ่ม สาระต่างๆ และการเรยี นรผู้ ่านการทาโครงงาน เป็นตน้ 5. การใชเ้ ทคนิควธิ กี ารทส่ี ่งเสรมิ พฒั นาการคดิ ของผเู้ รยี น สอดแทรกในบทเรยี นต่างๆ เช่น เทคนิคการใช้ คาถาม การอภปิ รายโดยใชเ้ ทคนิคหมวก 6 ใบ การทาผงั กราฟิก แผนภูมคิ วามรู้ ผงั มโนทศั น์ และการ ใช้กิจกรรมบรหิ ารสมอง (brain gym) เป็นต้น ซ่ึงมผี ู้พฒั นาเทคนิควธิ กี ารเหล่าน้ีและได้รบั ความนิยม อย่างแพร่หลายในสถานศกึ ษาตา่ งๆ หมายเหตุ : การสร้างศกั ยภาพการคดิ ผ่านการจดั กระบวนการเรยี นรู้ท่สี ่งเสรมิ การคดิ ให้แก่ผูเ้ รยี นเป็น หัวใจสาคัญอย่างย่ิงของการปฏิรูปการศึกษา และยังใช้เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะครู รวมทัง้ มาตรฐานการ ปฏิบตั งิ านของวชิ าชพี ครู โปรดศกึ ษาวธิ ีการออกแบบการจดั การเรยี นรูท้ ่เี น้นกระบวนการคดิ จากคู่มอื ครูและ แผนการจดั การเรยี นรู้อิงมาตรฐาน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกรายวิชา ท่ีจดั พิมพ์เผยแพร่โดย บรษิ ัท อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั และศกึ ษาคน้ ควา้ จาก www.aksorn.com ไดต้ ลอดเวลา พิเศษ 3

จดุ เน้นการพฒั นาทกั ษะการคิดของผเู้ รียน ตามนโยบายปฏิรปู การศึกษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ. 2552-2561) ม.4-6 ทกั ษะการคดิ แกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ม.3 ทกั ษะกระบวนการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ ทกั ษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ ม.2 ทกั ษะการสงั เคราะห์ ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะการคิด ม.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ทกั ษะการประเมนิ ขนั้ สงู ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ ทกั ษะการคิด ป.6 ทกั ษะการสรุปอา้ งองิ ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ ขนั้ พ้นื ฐาน ป.5 ทกั ษะการแปลความ ทกั ษะการตคี วาม ป.4 ทกั ษะการตงั้ คาถาม ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล ป.3 ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู ทกั ษะการเชอ่ื มโยง ป.2 ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ ทกั ษะการจาแนกประเภท ป.1 ทกั ษะการสงั เกต ทกั ษะการจดั กลมุ่ ท่ีมา : สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รยี นสู่การปฏิบตั ิ. กรุงเทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 4

ทกั ษะการคิดท่ีนามาใช้ในการพฒั นาผเู้ รียนในแต่ละระดบั ชนั้ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ม.4-6 ทกั ษะการส่อื สาร (ฟัง พดู อา่ น เขยี น) ทกั ษะการสงั เกต ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ ทกั ษะการจาแนก ประเภท ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล ทกั ษะการตีความ ทักษะการแปลความ ทกั ษะการสรุปย่อ ทกั ษะการเช่อื มโยง ทกั ษะการใหเ้ หตุผล ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ ทกั ษะการทาใหก้ ระจา่ ง ทกั ษะ การสรุปลงความเห็น ทกั ษะการวเิ คราะห์ ทกั ษะการสงั เคราะห์ ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะการจัดระเบียบ ทักษะการสร้างความรู้ ทกั ษะการตัง้ เกณฑ์ ทกั ษะการประเมิน ทกั ษะ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ ทักษะกระบวนการคิด สรา้ งสรรค์ ทกั ษะการส่อื สาร (ฟัง พูด อ่าน เขียน) ทกั ษะการสงั เกต ทักษะการสารวจค้นหา ทักษะการ เปรียบเทียบ ทักษะการจาแนกประเภท ทักษะการตีความ ทักษะการแปลความ ทักษะการ ม.3 สรุปย่อ ทักษะการเช่ือมโยง ทักษะการให้เหตุผล ทักษะการสรุปอ้างอิง ทักษะการสรุป ลงความเห็น ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ ทกั ษะการวเิ คราะห์ ทกั ษะการสรา้ งองค์ความรู้ ทกั ษะ การประยุกต์ใช้ความรู้ ทกั ษะการตัง้ เกณฑ์ ทกั ษะการประเมนิ ทกั ษะกระบวนการคิดอย่างมี วจิ ารณญาณ ทกั ษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ ทกั ษะการส่อื สาร (ฟัง พดู อ่าน เขยี น) ทกั ษะการสงั เกต ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ ทกั ษะการจาแนก ประเภท ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู ทกั ษะการตคี วาม ทกั ษะการสรุปย่อ ทกั ษะการเช่อื มโยง ทกั ษะ ม.2 การใหเ้ หตุผล ทกั ษะการนาความรูไ้ ปใช้ ทกั ษะการสรุปลงความเห็น ทกั ษะการวเิ คราะห์ ทกั ษะ การสงั เคราะห์ ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะการตัง้ เกณฑ์ ทกั ษะการประเมิน ทักษะ กระบวนการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ทกั ษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ ทกั ษะการส่อื สาร (ฟัง พดู อ่าน เขยี น) ทกั ษะการสงั เกต ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ ทกั ษะการจาแนก ประเภท ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล ทกั ษะการตีความ ทกั ษะการแปลความ ทกั ษะการสรุปย่อ ม.1 ทกั ษะการเรียงลาดบั ทกั ษะการสรุปลงความเห็น ทักษะการให้เหตุผล ทกั ษะการสรุปอ้างอิง ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ ทกั ษะการวเิ คราะห์ ทกั ษะการให้คาจากดั ความ ทกั ษะการสงั เคราะห์ ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ ทกั ษะการประเมนิ ทกั ษะกระบวนการคดิ อยา่ งมี วจิ ารณญาณ ทกั ษะกระบวนการคดิ ตดั สนิ ใจ ทกั ษะกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ ท่ีมา : สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน. 2553. แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคิด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับ มธั ยมศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. พิเศษ 5

จดุ เน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน ตามนโยบายปฏิรปู การศึกษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ. 2552-2561) นโยบายปฏิรปู การศกึ ษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ. 2552-2561) วิสยั ทศั น์ คนไทยไดเ้ รยี นรตู้ ลอดชวี ติ อย่างมคี ณุ ภาพ เป้าหมาย ภายในปี 2561 มกี ารปฏริ ปู การศกึ ษาและการเรยี นรอู้ ย่างเป็นระบบ ประเดน็ หลกั ของเป้าหมายปฏิรปู การศกึ ษา 1. พฒั นาคุณภาพ มาตรฐานการศกึ ษา และการเรยี นรขู้ องคนไทย 2. เพมิ่ โอกาสทางการศกึ ษาและการเรยี นรอู้ ยา่ งทวั่ ถงึ และมคี ณุ ภาพ 3. สง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของทุกภาคสว่ นในการบรหิ ารและการจดั การศกึ ษา กรอบแนวทางในการปฏิรปู การศกึ ษา และการเรียนร้อู ยา่ งเป็นระบบ 1. พฒั นาคณุ ภาพคนไทยยคุ ใหม่ 2. พฒั นาคณุ ภาพครยู คุ ใหม่ 3. พฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษาและแหล่งเรยี นรใู้ หม่ 4. พฒั นาคุณภาพการบรหิ ารจดั การใหม่ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษา จดุ เน้นการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน ขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 • เป้าหมายหลกั สตู ร/คุณภาพผเู้ รยี น • ดา้ นความสามารถ ทกั ษะ และคณุ ลกั ษณะของผ้เู รยี น • การจดั การเรยี นรู้ โรงเรยี นจะตอ้ งประกนั ไดว้ า่ ผเู้ รยี นทกุ คนมคี วามสามารถ ทกั ษะ และคุณลกั ษณะของ • การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ผเู้ รยี นตามจดุ เน้น นโยบายด้านการศึกษาของรฐั บาล แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน มุ่งเน้นให้ผ้เู รยี น • ดา้ นการจดั การเรยี นรู้ • มคี วามสามารถในการรบั รู้ • รกั ทจ่ี ะเรยี นรใู้ นรปู แบบทห่ี ลากหลาย 1. โรงเรยี นจะตอ้ งจดั การเรยี นรใู้ หผ้ เู้ รยี นมคี วามสามารถ ทกั ษะ และคุณลกั ษณะทเ่ี ป็น • สนุกกบั การเรยี นรู้ จดุ เน้น พรอ้ มทงั้ ผลกั ดนั ส่งเสรมิ ใหค้ รผู สู้ อนออกแบบและจดั การเรยี นรตู้ ามความถนัด • มโี อกาสไดเ้ รยี นรนู้ อกหอ้ งเรยี น ความสนใจ เตม็ ศกั ยภาพของผเู้ รยี น อยา่ งสรา้ งสรรค์ 2. การจดั การเรยี นรพู้ งึ จดั ใหเ้ ช่อื มโยงกบั วถิ ชี วี ติ เน้นการปฏบิ ตั จิ รงิ ทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น โดยจดั กจิ กรรมนอกหอ้ งเรยี นไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 30 ของเวลาเรยี น 3. ใชส้ ่อื เทคโนโลยที ห่ี ลากหลาย เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสนุกกบั การเรยี น และเพมิ่ พนู ความรู้ ความเขา้ ใจ 4. แสวงหาความรว่ มมอื จากชุมชน จดั แหลง่ เรยี นรู้ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ มาร่วมในการจดั การเรยี นรู้ 5. ผบู้ รหิ ารตอ้ งเป็นผนู้ าทางวชิ าการ ตลอดจนกากบั ดแู ล นเิ ทศการจดั การเรยี นรู้ อย่างสม่าเสมอ และนาผลการนิเทศมาปรบั ปรงุ พฒั นาการเรยี นการสอนของครู • ด้านการวดั และประเมินผล ครทู ุกคนวดั ผลและประเมนิ ผลผเู้ รยี นเป็นรายบุคคลตามจุดเน้นดว้ ยวธิ กี ารและเครอ่ื งมอื ทห่ี ลากหลาย เน้นการประเมนิ สภาพจรงิ ใชผ้ ลการประเมนิ พฒั นาผเู้ รยี นอยา่ งต่อเน่อื ง และรายงานคณุ ภาพผเู้ รยี นตามจดุ เน้นอย่างเป็นระบบ ที่มา : สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผ้เู รยี นส่กู ารปฏิบตั ิ. กรงุ เทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 6

การขบั เคลอ่ื นหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 2551 และการปฏริ ปู การศกึ ษาในทศวรรษทส่ี อง (พ.ศ. 2552-2561) ใหป้ ระสบผลสาเรจ็ ตามจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น โดยใหท้ กุ ภาคสว่ นร่วมกนั ดาเนินการ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดก้ าหนดจดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ดงั น้ี ทกั ษะความสามารถ คณุ ลกั ษณะ จดุ เน้นตามช่วงวยั คณุ ลกั ษณะตามหลกั สตู ร ม.4-6 แสวงหาความรู้ เพอ่ื แกป้ ัญหา  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื การเรยี นรู้  ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  มุ่งมนั่ ในการศกึ ษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และการทางาน มที กั ษะการคดิ ขนั้ สงู ทกั ษะชวี ติ ทกั ษะ การสอ่ื สารอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั ม.1-3 แสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง  มวี นิ ยั ใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื การเรยี นรู้  ใฝ่เรยี นรู้  อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มที กั ษะการคดิ ขนั้ สงู ทกั ษะชวี ติ ทกั ษะ การสอ่ื สารอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั ป.4-6 อ่านคลอ่ ง เขยี นคลอ่ ง คดิ เลข  อย่อู ย่างพอเพยี ง คล่อง ทกั ษะการคดิ ขนั้ พน้ื ฐาน  มงุ่ มนั่ ในการทางาน  ใฝ่เรยี นรู้ ทกั ษะชวี ติ ทกั ษะการสอ่ื สารอยา่ ง สรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั ป.1-3 อา่ นออก เขยี นได้ คดิ เลขเป็น  ใฝ่ดี  รกั ความเป็นไทย มที กั ษะการคดิ ขนั้ พน้ื ฐาน  มจี ติ สาธารณะ ทกั ษะชวี ติ ทกั ษะการสอ่ื สารอยา่ ง สรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั ท่ีมา : สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รียนส่กู ารปฏิบตั ิ. กรงุ เทพมหานคร : สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 7

แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน การดาเนินการตามจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี นในการขบั เคล่อื นหลกั สูตร และการปฏริ ูปการศกึ ษา ในทศวรรษทส่ี อง (พ.ศ. 2552-2561) สูก่ ารปฏบิ ตั ใิ นสถานศกึ ษานนั้ ครูเป็นบุคลากรสาคญั ท่ีสุดในการดาเนินการ ในระดบั หอ้ งเรยี นในการจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นบรรลุเป้าหมายตามจุดเน้นการพฒั นา คณุ ภาพผเู้ รยี น ดงั แผนภูมิ แนวทางการปฏิบตั ิระดบั สถานศึกษา   นโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมายการพฒั นาผเู้ รยี น ทาความเข้าใจให้กระจ่าง  แนวทางการพฒั นาผเู้ รยี นตามจดุ เน้น  บทบาทหน้าทข่ี องผเู้ กย่ี วขอ้ ง  ตรวจสอบ ทบทวน  การจดั การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลายทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น วิเคราะหจ์ ดุ เด่น จดุ พฒั นา  คณุ ภาพผเู้ รยี นในภาพรวมของสถานศกึ ษา  คณุ ภาพผเู้ รยี นแยกเป็นรายวชิ าและระดบั ชนั้  จุดเด่น จุดพฒั นาของสถานศกึ ษา  กาหนดเป้าหมาย  จุดเดน่ จุดพฒั นาของผเู้ รยี น การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน ตามจดุ เน้น  ปีการศกึ ษา 2553 ระยะท่ี 1  ปีการศกึ ษา 2554 ระยะท่ี 2, 3  กาหนดภาระงาน  ปีการศกึ ษา 2555 ระยะท่ี 4, 5 การพฒั นาคณุ ภาพ ตามจดุ เน้น  ทบทวน ออกแบบหลกั สตู รการเรยี นรู้  ทบทวน ปรบั โครงสรา้ งเวลาเรยี น ตารางเรยี น  ดาเนินการ  ออกแบบการเรยี นรทู้ งั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น พฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน  การวดั ผลและประเมนิ ผลตามหลกั สตู รและจดุ เน้น  ดาเนินการพฒั นาผเู้ รยี นตามหลกั สตู รทอ่ี อกแบบ  นิเทศ กากบั ตดิ ตาม และประเมนิ ระหว่างการปฏบิ ตั งิ านตามแผน ตามจดุ เน้น  วดั ผลและประเมนิ ผลผเู้ รยี นตามจุดเน้น  ตรวจสอบ  ตรวจสอบ ปรบั ปรงุ พฒั นา ปรบั ปรงุ พฒั นา  นาผลการตรวจสอบ ปรบั ปรุงไปใชพ้ ฒั นา  สรปุ และรายงานผล  ผลการดาเนนิ งาน การพฒั นาผ้เู รียน  ความภาคภูมใิ จ และความสาเรจ็  ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข พิเศษ 8

แนวทางการปฏิบตั ิระดบั สถานศึกษา ขนั้ ท่ี ประเดน็ ท่ีเก่ียวข้อง วิธีการ ผลที่ได้รบั 1. ทาความเขา้ ใจ 1. นโยบาย จุดเน้น ยทุ ธศาสตร์ 1. ประชุมชแ้ี จง 1. ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งมคี วามตระหนัก ให้กระจ่าง และเป้าหมายการพฒั นาคณุ ภาพ 2. ประชาสมั พนั ธผ์ ่าน เหน็ ความสาคญั ในบทบาท ผเู้ รยี นตามจุดเน้น ของตนเอง ส่อื ต่างๆ ทงั้ ใน 2. แนวทางการพฒั นาคุณภาพ ระดบั สถานศกึ ษา 2. มคี วามเขา้ ใจในการนาจุดเน้น ผเู้ รยี นตามจดุ เน้น และชมุ ชน การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ 3. บทบาทหน้าทข่ี องผเู้ กย่ี วขอ้ ง ทงั้ ในและนอกโรงเรยี น 3. มคี วามรว่ มมอื ในระดบั องคก์ ร และชุมชน 4. แนวทางการออกแบบหลกั สตู ร และตารางการเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสม 4. ครมู คี วามรู้ ความเขา้ ใจ กบั การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ในการออกแบบหลกั สตู ร ตามจดุ เน้น และปรบั ตารางเรยี น ใหเ้ หมาะสมกบั จุดเน้น 5. มกี ารปรบั พฤตกิ รรมการเรยี น การสอนตามแนวทางปฏริ ปู การศกึ ษารอบสอง 2. ตรวจสอบ 1. คุณภาพผเู้ รยี นในภาพรวม 1. ตรวจสอบเอกสาร 1. ขอ้ มลู สารสนเทศ ทบทวน ของสถานศกึ ษาทงั้ จดุ เด่นและ ขอ้ มลู ต่างๆ 2. จดุ เด่น จุดพฒั นาดา้ น วิเคราะห์จดุ เด่น จดุ พฒั นา เช่น ผลการประเมนิ จดุ พฒั นา ในระดบั ชาติ สมศ. เขตพน้ื ท่ี 2. วเิ คราะหข์ อ้ มลู ท่ี คุณภาพผเู้ รยี น สถานศกึ ษา การศกึ ษา โรงเรยี น ฯลฯ เกย่ี วขอ้ ง และครผู สู้ อน 2. ผลการเรยี นของผเู้ รยี นแยกเป็น 3. ประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ระดบั ชนั้ และรายวชิ า ระดบั 4. ประชุมสมั มนา สถานศกึ ษา เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ฯลฯ 3. กาหนดเป้าหมาย 1. ตวั ชว้ี ดั ภาพความสาเรจ็ ของ 1. ประชุม วางแผน เป้าหมายสถานศกึ ษา และมี 2. จดั ทาแผนพฒั นา แผนการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น การพฒั นา สถานศกึ ษา ระยะท่ี 1 ตามจดุ เน้นในแต่ละระยะท่ี คุณภาพ สอดคลอ้ งกบั บรบิ ท และ คณุ ภาพผ้เู รยี น ภาคเรยี นท่ี 2/2553 ศกั ยภาพของสถานศกึ ษา/ผเู้ รยี น ตามจดุ เน้น 2. ตวั ชว้ี ดั ภาพความสาเรจ็ ของ สถานศกึ ษา ระยะท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1/2554 3. ตวั ชว้ี ดั ภาพความสาเรจ็ ของ สถานศกึ ษา ระยะท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2/2554 พิเศษ 9

ขนั้ ท่ี ประเดน็ ท่ีเก่ียวข้อง วิธีการ ผลท่ีได้รบั 4. ตวั ชว้ี ดั ภาพความสาเรจ็ ของ สถานศกึ ษา ระยะท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1/2555 5. ตวั ชว้ี ดั ภาพความสาเรจ็ ของ สถานศกึ ษา ระยะท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2/2555 4. กาหนดภาระงาน 1. ทบทวนจุดแขง็ จดุ ออ่ นของ 1. ประชมุ ทบทวน 1. สถานศกึ ษามหี ลกั สตู รการ เรยี นรทู้ ส่ี ่งเสรมิ การพฒั นา การพฒั นา องคป์ ระกอบ เชน่ วสิ ยั ทศั น์ หลกั สตู รฯ และ คณุ ภาพผเู้ รยี นตามจุดเน้น คณุ ภาพตาม โครงสรา้ งเวลาเรยี น การจดั ปรบั ปรงุ หลกั สตู ร 2. ตารางเรยี นใหม่ 3. ครผู สู้ อนมวี ธิ กี ารจดั การ จดุ เน้น รายวชิ า/กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ 2. ประชุม ปฏบิ ตั กิ าร เรยี นรทู้ ห่ี ลากหลายตาม การจดั ตารางเรยี น ฯลฯ ปรบั โครงสรา้ ง จุดเน้น 4. ส่อื แหล่งเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย 2. ออกแบบหลกั สตู รการเรยี นรทู้ ่ี เวลาเรยี น และจดั ทา 5. มเี ครอ่ื งมอื วธิ กี ารวดั ผล และประเมนิ ผลตามจุดเน้น สอดคลอ้ งกบั การพฒั นาคณุ ภาพ แผนการเรยี นรู้ ผเู้ รยี นตามจดุ เน้น (พจิ ารณาได้ 3. สารวจ จดั หา พฒั นา จากตวั อย่าง 4 ลกั ษณะ) ส่อื และแหลง่ การ 3. ปรบั โครงสรา้ งเวลาเรยี น และ เรยี นรู้ ตารางเรยี นใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั สตู รการเรยี นรทู้ อ่ี อกแบบไว้ 4. ออกแบบการจดั การเรยี นรใู้ ห้ ส่งเสรมิ การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ตามจุดเน้นทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น 5. จดั หา จดั ทาสอ่ื แหล่งเรยี นรู้ และ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ทเ่ี หมาะสมกบั การจดั การเรยี นรู้ 6. ออกแบบการวดั และประเมนิ ผล ทห่ี ลากหลายและเหมาะสมกบั ผเู้ รยี น โดยเน้นการประเมนิ สภาพจรงิ 5. ดาเนินการ 1. จดั การเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รและ 1. ครจู ดั กจิ กรรมการ 1. ผเู้ รยี นไดร้ บั การพฒั นาตาม พฒั นาคณุ ภาพ ผ้เู รียนตาม ตารางเรยี นทอ่ี อกแบบไว้ เรยี นรอู้ ย่างหลากหลาย จดุ เน้น จดุ เน้น โดยเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น 2. ครมู รี ปู แบบและนวตั กรรมการ ตามจุดเน้น 2. ออกแบบการวดั และ จดั การเรยี นรทู้ น่ี าไปพฒั นา 2. วดั และประเมนิ ผลความกา้ วหน้า ประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ ง คณุ ภาพผเู้ รยี นไดต้ ามจุดเน้น ของผเู้ รยี นระหว่างเรยี น กบั จุดเน้น 3. วดั และประเมนิ ผลคณุ ภาพผเู้ รยี น ตามตวั ชว้ี ดั ของจุดเน้น พิเศษ 10

ขนั้ ที่ ประเดน็ ท่ีเก่ียวข้อง วิธีการ ผลที่ได้รบั 6. ตรวจสอบ 1. ตรวจสอบ ประเมนิ ผลการพฒั นา 1. ประชมุ ครเู พ่อื 1. หลกั สตู รและการจดั การ ปรบั ปรงุ พฒั นา คณุ ภาพผเู้ รยี นตามจดุ เน้นในขนั้ ประเมนิ ผลการนา เรยี นรไู้ ดร้ บั การพฒั นา ท่ี 5 หลกั สตู รไปใช้ - การใชห้ ลกั สตู รการเรยี นรทู้ ่ี 2. กระบวนการบรหิ ารหลกั สตู ร สง่ เสรมิ การพฒั นาคุณภาพ 2. ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งประเมนิ มกี ารขบั เคลอ่ื น ผเู้ รยี นตามจุดเน้น ตนเอง - การใชโ้ ครงสรา้ งเวลาเรยี นและ 3. ผเู้ รยี นมกี ารพฒั นาตาม ตารางเรยี นตามรปู แบบของ 3. ตรวจสอบแผนการ จุดเน้น หลกั สตู รการเรยี นรู้ จดั การเรยี นรู้ - การจดั การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย ทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น - การวดั และประเมนิ ผลทเ่ี น้น การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี นตาม จดุ เน้น 2. นาผลการตรวจสอบปรบั ปรงุ จดุ อ่อน และพฒั นาจดุ เดน่ 7. สรปุ และรายงาน 1. สรุปผลการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น 1. ประชมุ สมั มนา 1. มผี ลการพฒั นาคุณภาพ ผลการพฒั นา ตามจุดเน้นในดา้ นการดาเนินงาน แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ผเู้ รยี นตามจุดเน้น ผเู้ รยี น ผลการดาเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ 2. นาเสนอผลงาน 2. มแี นวทางและนวตั กรรม คุณภาพผเู้ รยี น การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น 2. รายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพ ตามจดุ เน้น ตามจดุ เน้น ผเู้ รยี นตามจุดเน้น เมอ่ื สน้ิ สดุ ตาม ระยะท่ี 1-5 3. จดั นทิ รรศการ 3. มหี ลกั ฐานและร่องรอยในการ แสดงผลงานหรอื พฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นตาม 3. นาผลจากรายงานไปใชใ้ นการ ประชาสมั พนั ธผ์ ลงาน จุดเน้น วางแผนและพฒั นา ส่สู าธารณชน 4. มคี วามภาคภมู ใิ จใน 4. สรปุ รายงานผล เสนอ ความสาเรจ็ ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง 5. ไดข้ อ้ เสนอแนะเพ่อื การ พฒั นา ที่มา : สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รียนสู่การปฏิบตั ิ. กรงุ เทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 11

แนวทางการปฏิบตั ิระดบั ห้องเรียน  ตรวจสอบ  โครงสรา้ งรายวชิ า ตารางเรยี น ทบทวนรายวิชาและกิจกรรม  หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั กจิ กรรม และโครงการ ในความรบั ผิดชอบ  สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้  วิเคราะหผ์ ้เู รยี น  จดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศระดบั ชนั้ เรยี น รายบุคคล  จดั กลมุ่ การพฒั นาผเู้ รยี นตามจุดเน้น  กาหนดแนวทาง  รปู แบบกจิ กรรมในและนอกหอ้ งเรยี น การจดั การเรียนรู้  หน่วยการเรยี นรู้ กจิ กรรมโครงการ ท่ีสอดคลอ้ งกบั จดุ เน้น  แผนการจดั การเรยี นรู้   จดั การเรยี นรตู้ ามแนวทางทอ่ี อกแบบ  วดั และประเมนิ ผลการพฒั นาผเู้ รยี น ดาเนินการจดั การเรยี นรู้  วจิ ยั และนวตั กรรมการเรยี นรู้  นิเทศ ตดิ ตาม และแลกเปลย่ี นเรยี นรู้  นาเสนอผล  รายงานผลการพฒั นาผูเ้ รยี นรายบุคคล/กลุ่ม  รายงานผลการพฒั นาตามจุดเน้น การพฒั นาผ้เู รียน  รายงานการพฒั นาวจิ ยั /นวตั กรรมการเรยี นรู้  รายงานภาพความสาเรจ็ อปุ สรรค และปัญหา ตามจดุ เน้น พิเศษ 12

แนวทางการปฏิบตั ิระดบั ห้องเรียน ขนั้ ที่ ประเดน็ ที่เกี่ยวข้อง วิธีการ ผลที่ได้รบั 1. ตรวจสอบ 1. โครงสรา้ งรายวชิ า โครงสรา้ ง 1. ศกึ ษาเอกสาร ขอ้ มลู 1. ไดจ้ ดุ เด่น จดุ พฒั นาของ ทบทวนรายวิชา กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การ รายวชิ าและกจิ กรรมในความ และกิจกรรมใน พฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น รบั ผดิ ชอบ ความรบั ผิดชอบ 2. ตารางเรยี นหน่วยการเรยี นรู้ ตามจุดเน้น 3. แผนการจดั กจิ กรรมพฒั นา 2. ไดแ้ นวทางการปรบั ปรุง/ 2. วเิ คราะหจ์ ดุ เดน่ พฒั นารายวชิ าและกจิ กรรม ผเู้ รยี นและแผนปฏบิ ตั กิ าร จุดพฒั นาทุกดา้ น ใหส้ อดคลอ้ งกบั แนวทางการ โครงการต่างๆ พฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นตาม 4. ส่อื แหลง่ การเรยี นรู้ และ 3. นาขอ้ มลู ของสถานศกึ ษา จุดเน้นของ สพฐ. และ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ มาเปรยี บเทยี บกบั สถานศกึ ษา 5. คณุ ภาพผเู้ รยี นทกุ ระดบั ทงั้ แนวทางการพฒั นา ในภาพรวมและแยกรายวชิ า คณุ ภาพผเู้ รยี นตาม 3. มขี อ้ มลู พน้ื ฐานในการกาหนด เช่น NT, O-Net, สมศ., จดุ เน้นของ สพฐ. ทศิ ทางการพฒั นาคณุ ภาพ เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ผเู้ รยี นตามจุดเน้น 4. ตรวจสอบความ สอดคลอ้ งของสอ่ื แหล่ง การเรยี นรู้ สถานศกึ ษา ทป่ี รบั ปรุงใหมแ่ ละสง่ิ ท่ี ใชอ้ ย่เู ดมิ 2. วิเคราะห์ผเู้ รียน 1. ขอ้ มลู ดา้ นสตปิ ัญญา ทกั ษะ 1. ศกึ ษา รวบรวมขอ้ มลู 1. มขี อ้ มลู พน้ื ฐานของผเู้ รยี น เป็ นรายบุคคล ความสามารถ และคุณลกั ษณะ รายบุคคล โดยใชว้ ธิ กี าร เป็นรายบุคคล ดงั น้ี 2. สขุ ภาพ ร่างกาย - ตรวจสอบจากขอ้ มลู 2. มขี อ้ มลู ทเ่ี ป็นจดุ เดน่ จุดพฒั นา 3. พน้ื ฐานครอบครวั เศรษฐกจิ เอกสารของ ของผเู้ รยี นรายบคุ คล และ 4. สงั คม เพ่อื น และผเู้ กย่ี วขอ้ ง สถานศกึ ษา และ รายกลุ่ม 5. ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น Portfolio นักเรยี น 6. ผลงานทภ่ี าคภมู ใิ จประสบ - สอบถาม 3. มหี ลกั ฐาน ร่องรอยเพ่อื - สมั ภาษณ์ นาไปสกู่ ารพฒั นาผเู้ รยี นเป็น ความสาเรจ็ - สงั เกต ฯลฯ รายบคุ คล รายกล่มุ อย่างเป็น 7. ผลกระทบทเ่ี ป็นปัญหา รปู ธรรม 2. วเิ คราะหจ์ ดุ เด่น จุดดอ้ ย ของผเู้ รยี นรายบุคคล 3. จดั กลมุ่ ผเู้ รยี น โดยใหแ้ ต่ ละกลุ่มมคี วามสอดคลอ้ ง ใกลเ้ คยี งกนั ตามจดุ เน้น ระดบั ชนั้ พิเศษ 13

ขนั้ ท่ี ประเดน็ ที่เกี่ยวข้อง วิธีการ ผลที่ได้รบั 3. กาหนดแนวทาง 1. หน่วยการเรยี นรู้ 1. ออกแบบการจดั การ 1. มแี นวทางในการพฒั นาผเู้ รยี น การจดั การ 2. แผนการจดั การเรยี นรู้ เรยี นรทู้ ่ี 3. แผนการจดั กจิ กรรมพฒั นา เรยี นรแู้ ละการจดั กจิ กรรม เป็นรายบคุ คลและรายกลุ่ม สอดคลอ้ งกบั จดุ เน้น ผเู้ รยี น ทห่ี ลากหลายเหมาะสมกบั สอดคลอ้ งตามจุดเน้น 4. แผนปฏบิ ตั กิ ารโครงการและ จดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รยี น 2. มรี ปู แบบการจดั การเรยี นรู้ กจิ กรรมพเิ ศษต่างๆ 5. ส่อื แหลง่ การเรยี นรู้ ภมู ปิ ัญญา และตารางเรยี นทก่ี าหนด ทเ่ี หมาะสมกบั ผเู้ รยี นตาม 6. การวดั และประเมนิ ผล 2. จดั ทา จดั หาส่อื แหลง่ การ จดุ เน้น เรยี นรู้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั 3. มสี ่อื แหลง่ การเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี ทห่ี ลากหลายสอดคลอ้ ง ออกแบบ ตามจุดเน้น 3. ออกแบบเครอ่ื งมอื วดั ผล 4. มเี คร่อื งมอื วดั และประเมนิ และประเมนิ ผลท่ี คณุ ภาพผเู้ รยี นตามจดุ เน้น หลากหลาย โดยเน้นการ ประเมนิ สภาพจรงิ ใน ระดบั ชนั้ เรยี น 4. ดาเนินการ 1. การจดั การเรยี นรตู้ ามจุดเน้น 1. จดั การเรยี นรใู้ นหอ้ งเรยี น 1. ผเู้ รยี นมที กั ษะความสามารถ จดั การเรียนรู้ ทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ และคณุ ลกั ษณะตามจดุ เน้น 2. การประเมนิ ความกา้ วหน้าของ 2. จดั กจิ กรรมนอกหอ้ งเรยี น 2. ชมุ ชนมสี ว่ นรว่ มในการ ผเู้ รยี น ทส่ี ง่ เสรมิ จดุ เน้นตาม จดั การเรยี นรู้ 3. การประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รยี น ศกั ยภาพผเู้ รยี น 3. มกี ารใชน้ วตั กรรมการเรยี นรู้ ตามจุดเน้น 3. วดั และประเมนิ ตามจดุ เน้น 4. การพฒั นานวตั กรรมการ ความกา้ วหน้าของผเู้ รยี น 4. ผเู้ รยี นไดแ้ สดงออกตาม เรยี นรู้ และประเมนิ คุณภาพตาม ศกั ยภาพของตนเอง 5. การวจิ ยั เพ่อื พฒั นาคุณภาพ จุดเน้น 5. มกี ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ผเู้ รยี นในระดบั ชนั้ เรยี น 4. พฒั นานวตั กรรมการ โดยใชก้ ระบวนการวจิ ยั 6. การนิเทศ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เรยี นรทู้ ช่ี ่วยใหเ้ กดิ การ 6. มกี ารสรา้ งความร่วมมอื พฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพ ระหว่างครแู ละผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง ทงั้ รายบุคคลและรายกลมุ่ 7. มกี ารนาหลกั สตู รการเรยี นรู้ 5. นาผลการประเมนิ ไปใช้ ไปส่กู ารปฏบิ ตั ิ พฒั นาและแกไ้ ขปัญหา ผเู้ รยี นตาม กระบวนการวจิ ยั 6. ครผู สู้ อนและผเู้ กย่ี วขอ้ ง มกี ารนเิ ทศแลกเปลย่ี น เรยี นรู้ โดยเน้นการสรา้ ง ความรว่ มมอื พิเศษ 14

ขนั้ ท่ี ประเดน็ ท่ีเก่ียวข้อง วิธีการ ผลที่ได้รบั 5. นาเสนอผลการ 1. ผลการพฒั นาผเู้ รยี นตาม 1. ประเมนิ ผลการพฒั นา 1. มผี ลการพฒั นาผเู้ รยี นตาม พฒั นาผ้เู รียน จดุ เน้นรายบุคคลและรายกลมุ่ ตามจดุ เน้น คณุ ภาพผเู้ รยี นตาม จุดเน้นในทุกมติ ทิ งั้ รายบคุ คล 2. ผลการพฒั นานวตั กรรม การเรยี นรู้ จดุ เน้นดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ รายกลุม่ และระดบั หอ้ งเรยี น 3. ผลการวจิ ยั ในชนั้ เรยี น 2. วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการ 2. มหี ลกั สตู รการเรยี นรรู้ ะดบั 4. ผลการพฒั นาหลกั สตู ร พฒั นาผเู้ รยี นทงั้ รายกล่มุ หอ้ งเรยี นทเ่ี ป็นตวั อย่างใน การเรยี นรใู้ นระดบั หอ้ งเรยี น และรายบคุ คลตาม การพฒั นาผเู้ รยี นตามจดุ เน้น จดุ เน้น 3. มกี ารวจิ ยั ในชนั้ เรยี นทเ่ี ป็น 3. นาผลการพฒั นาผเู้ รยี น แนวทางในการพฒั นาผเู้ รยี น ไปจดั ทาเป็นขอ้ มลู ใน ตามจดุ เน้น ระดบั หอ้ งเรยี นเพ่อื ใชใ้ น 4. มรี ปู แบบความร่วมมอื ของครู การพฒั นาผเู้ รยี นตาม และผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง จดุ เน้น 5. มเี อกสารรายงานและขอ้ มลู 4. สรุปผลการนานวตั กรรม สารสนเทศทเ่ี ป็นรอ่ งรอย การเรยี นรแู้ ละการวจิ ยั หลกั ฐานในการพฒั นาผเู้ รยี น ในชนั้ เรยี น ตามจดุ เน้น 5. จดั ทารายงานผลการ พฒั นาผเู้ รยี นตามจดุ เน้น ระดบั หอ้ งเรยี นในความ รบั ผดิ ชอบ 6. จดั ทารายงานผลการ พฒั นาหลกั สตู รการ เรยี นรรู้ ะดบั หอ้ งเรยี นใน ความรบั ผดิ ชอบ ท่ีมา : สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รียนสู่การปฏิบตั ิ. กรุงเทพมหานคร : สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 15

แนวทางการประเมินตามจดุ เน้นคณุ ภาพผเู้ รยี น ภาษาไทย จดุ เน้น : อ่านออก ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ป.1 อ่านคาพน้ื ฐานและ - ใหผ้ เู้ รยี นอา่ นออกเสยี งคา - แบบทดสอบการอา่ น ผ่าน : เขา้ ใจความหมายของ ตามวงคาศพั ทข์ องชนั้ ป.1 ออกเสยี งและการ อ่านคาพน้ื ฐานและเขา้ ใจ คาพน้ื ฐานไดไ้ มน่ ้อย ทก่ี าหนด พรอ้ มทงั้ บอก บอกความหมาย ความหมายของคาพน้ื ฐาน กวา่ 600 คา ความหมายของคา โดย ของคา ชนั้ ป.1 ได้ 600 คาขน้ึ ไป การแสดงท่าทาง หรอื ช้ี - แบบบนั ทกึ ผลการ รปู ภาพทก่ี าหนด แลว้ อา่ นออกเสยี งและ บนั ทกึ ผล การอ่าน การ การบอกความหมาย บอกความหมายของคาลง ของคา ในแบบบนั ทกึ ป.2 อา่ นคาพน้ื ฐานและ - ใหผ้ เู้ รยี นอ่านออกเสยี งคา - แบบทดสอบการอ่าน ผา่ น : เขา้ ใจความหมายของ ตามวงคาศพั ทข์ องชนั้ ป.2 ออกเสยี งและการ อ่านคาพน้ื ฐานและเขา้ ใจ คาพน้ื ฐานเพมิ่ จาก ทก่ี าหนด พรอ้ มทงั้ บอก บอกความหมาย ความหมายของคาพน้ื ฐาน ชนั้ ป.1 ไดไ้ ม่น้อยกว่า ความหมายของคา โดย ของคา เพมิ่ จากชนั้ ป.1 ได้ 800 คา 800 คา และอ่าน การแสดงทา่ ทาง หรอื ช้ี - แบบบนั ทกึ ผลการ ขน้ึ ไป ขอ้ ความเรอ่ื งทม่ี คี วาม รปู ภาพทก่ี าหนด แลว้ อา่ นออกเสยี งและ ผ่าน : ยากงา่ ยใกลเ้ คยี งกบั บนั ทกึ ผล การอ่าน การ การบอกความหมาย หนังสอื เรยี น และมี บอกความหมายของคาลง - ของคา อา่ นขอ้ ความและเรอ่ื งทม่ี ี มารยาทในการอ่าน ในแบบบนั ทกึ - แบบทดสอบการอ่าน ความยากงา่ ยใกลเ้ คยี งกบั - ใหผ้ เู้ รยี นอา่ นออกเสยี ง ออกเสยี งขอ้ ความ หนงั สอื เรยี น ชนั้ ป.2 ขอ้ ความและเรอ่ื งทม่ี คี วาม และเร่อื ง ไดถ้ กู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ยากงา่ ยใกลเ้ คยี งกบั แบบบนั ทกึ ผลการอ่าน เวน้ วรรคตอน และมมี ารยาท หนังสอื เรยี น แลว้ บนั ทกึ ผล ออกเสยี งขอ้ ความ ในการอ่าน การอ่านลงในแบบบนั ทกึ และเร่อื ง พิเศษ 16

ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน ป.3 อา่ นคาพน้ื ฐานและ - ใหผ้ เู้ รยี นอ่านออกเสยี งคา - แบบทดสอบการอา่ น ผา่ น : เขา้ ใจความหมายของ ตามวงคาศพั ทข์ องชนั้ ป.3 ออกเสยี งและการ อา่ นคาพน้ื ฐานและเขา้ ใจ คาพน้ื ฐานเพมิ่ จาก ทก่ี าหนด พรอ้ มทงั้ บอก บอกความหมาย ความหมายของคาพน้ื ฐาน ชนั้ ป.2 ไดไ้ มน่ ้อยกว่า ความหมายของคา โดยการ ของคา เพม่ิ จากชนั้ ป.2 ได้ 1,200 คา 1,200 คา และอา่ น แสดงท่าทาง หรอื ชร้ี ปู ภาพ - แบบบนั ทกึ ผลการอา่ น ขน้ึ ไป ขอ้ ความ เร่อื ง ทก่ี าหนด หรอื พดู แลว้ ออกเสยี งและการบอก ผา่ น : บทรอ้ ยกรอง ทม่ี คี วาม ยากงา่ ยใกลเ้ คยี งกบั บนั ทกึ ผลการอ่าน การบอก ความหมายของคา อา่ นขอ้ ความ เรอ่ื ง หนังสอื เรยี น ดว้ ยความ ความหมายของคาลงใน - แบบทดสอบการอา่ น บทรอ้ ยกรองทม่ี คี วามยากงา่ ย เขา้ ใจ และมมี ารยาท แบบบนั ทกึ ใกลเ้ คยี งกบั หนังสอื เรยี น ในการอา่ น ออกเสยี งขอ้ ความ - ใหผ้ เู้ รยี นอา่ นออกเสยี ง เร่อื ง บทรอ้ ยกรอง ชนั้ ป.3 ไดถ้ กู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ขอ้ ความ เรอ่ื ง บทรอ้ ยกรอง และความเขา้ ใจใน ฉนั ทลกั ษณ์ เวน้ วรรคตอน ทม่ี คี วามยากงา่ ยใกลเ้ คยี ง - เรอ่ื งทอ่ี า่ น ถกู ตอ้ ง มมี ารยาทในการอา่ น กบั หนังสอื เรยี น ชนั้ ป.3 แบบบนั ทกึ ผลการอ่าน และตอบคาถามเกย่ี วกบั และตอบคาถามเกย่ี วกบั ออกเสยี งขอ้ ความ เรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ เรอ่ื งทอ่ี า่ น แลว้ บนั ทกึ ผล เรอ่ื ง บทรอ้ ยกรอง การอา่ นออกเสยี งและการ และความเขา้ ใจใน ตอบคาถามลงในแบบบนั ทกึ เรอ่ื งทอ่ี า่ น จดุ เน้น : อ่านคลอ่ ง ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน ป.6 อ่านขอ้ ความ เร่อื ง - ใหผ้ เู้ รยี นอา่ นออกเสยี ง - แบบทดสอบการอา่ น ผ่าน : บทรอ้ ยกรองทม่ี คี วาม ขอ้ ความ เรอ่ื ง บทรอ้ ยกรอง ออกเสยี งขอ้ ความ อ่านขอ้ ความ เรอ่ื ง ยากงา่ ยใกลเ้ คยี งกบั ทม่ี คี วามยากงา่ ยใกลเ้ คยี ง เร่อื ง บทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรองทม่ี คี วามยาก หนงั สอื เรยี น อย่าง กบั หนังสอื เรยี น ชนั้ ป.6 และสรปุ ใจความสาคญั งา่ ยใกลเ้ คยี งกบั หนงั สอื เรยี น คล่องแคลว่ สรุปใจความ และสรุปใจความสาคญั ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ คดิ เหน็ ชนั้ ป.6 ไดถ้ กู ตอ้ งตาม สาคญั แยกแยะ แยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น อกั ขรวธิ ี ฉนั ทลกั ษณ์ ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ คดิ เหน็ จากเร่อื งทอ่ี า่ น - แบบบนั ทกึ ผลการอ่าน เวน้ วรรคตอนถกู ตอ้ ง และมมี ารยาทในการอ่าน แลว้ บนั ทกึ ผลการอ่าน ออกเสยี งขอ้ ความ มมี ารยาทในการอา่ น ออกเสยี งและการสรุป เรอ่ื ง บทรอ้ ยกรอง สรุปใจความสาคญั และ ใจความสาคญั ขอ้ เทจ็ จรงิ และการสรปุ ใจความ ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ คดิ เหน็ จาก ขอ้ คดิ เหน็ ลงในแบบบนั ทกึ สาคญั ขอ้ เทจ็ จรงิ เรอ่ื งทอ่ี ่านไดต้ ามเวลาท่ี ขอ้ คดิ เหน็ กาหนด พิเศษ 17

จดุ เน้น : เขียนได้ ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน ป.1 เขยี นคาพน้ื ฐานไดไ้ ม่ - ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นคาพน้ื ฐาน - แบบทดสอบการ ผา่ น : น้อยกวา่ 600 คา ชนั้ ป.1 ตามคาบอก และ เขยี นคาพน้ื ฐานตาม เขยี นคาพน้ื ฐานเพมิ่ จากชนั้ ประโยคงา่ ยๆ ได้ และมี ใหน้ าคาพน้ื ฐานนนั้ มาแตง่ คาบอก และนาคา ป.1 ได้ 600 คาขน้ึ ไป เขยี น มารยาทในการเขยี น ประโยคงา่ ยๆ พน้ื ฐานนนั้ มาแต่ง ประโยคงา่ ยๆ ทส่ี อ่ื ความหมาย ประโยค ได้ โดยใชค้ าพน้ื ฐานชนั้ ป.1 และมมี ารยาทในการเขยี น ป.2 เขยี นคาพน้ื ฐานเพมิ่ - ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นคาพน้ื ฐาน - แบบทดสอบการเขยี น ผ่าน : จากชนั้ ป.1 ไดไ้ ม่ ชนั้ ป.2 ตามคาบอก และ คาพน้ื ฐานตามคาบอก เขยี นคาพน้ื ฐานเพมิ่ จากชนั้ น้อยกวา่ 800 คา เขยี น ใหผ้ เู้ รยี นเลอื กภาพทส่ี นใจ ป.1 ได้ 800 คาขน้ึ ไป เขยี น บรรยายภาพ และมี แลว้ เขยี นบรรยายภาพนนั้ บรรยายภาพไดส้ อดคลอ้ งกบั มารยาทในการเขยี น สาระสาคญั ของภาพ โดยใชค้ า พน้ื ฐานชนั้ ป.2 และมมี ารยาท ในการเขยี น ป.3 เขยี นคาพน้ื ฐานเพมิ่ - ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นคาพน้ื ฐาน - แบบทดสอบการเขยี น ผ่าน : จากชนั้ ป.2 ไดไ้ ม่น้อย ระดบั ชนั้ ป.3 ตามคาบอก คาพน้ื ฐานตามคาบอก เขยี นคาพน้ื ฐานเพม่ิ จากชนั้ กว่า 1,200 คา เขยี น และใหผ้ เู้ รยี นเลอื กภาพท่ี ป.3 ได้ 1,200 คาขน้ึ ไป เขยี น เร่อื งจากภาพ และมี สนใจ แลว้ เขยี นเรอ่ื งจาก เรอ่ื งจากภาพ เน้อื หาเชอ่ื มโยง มารยาทในการเขยี น ภาพนนั้ สมั พนั ธก์ นั ครอบคลมุ สาระสาคญั ของภาพ โดยใชค้ า พน้ื ฐาน ชนั้ ป.3 และมี มารยาทในการเขยี น จดุ เน้น : เขียนคล่อง ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน ป.6 เขยี นเรยี งความอยา่ ง - ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นเรยี งความ - แบบทดสอบการเขยี น ผ่าน : คลอ่ งแคล่ว และมี ตามหวั เรอ่ื งหรอื ประเดน็ ท่ี เรยี งความ ย่อความ เขยี นเรยี งความไดอ้ ย่าง มารยาทในการเขยี น กาหนด คล่องแคลว่ รวดเรว็ เน้อื หา สาระชดั เจน การใชภ้ าษา ถูกตอ้ งเหมาะสม องคป์ ระกอบถูกตอ้ งครบถว้ น และมมี ารยาทในการเขยี น พิเศษ 18

จดุ เน้น : การสื่อสารอยา่ งสร้างสรรค์ ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน ป.1 ตงั้ ใจฟัง และพดู ส่อื สาร - กาหนดใหผ้ เู้ รยี นฟัง - แบบประเมนิ ผา่ น : ใหเ้ ขา้ ใจโดยใชค้ า เรอ่ื งราว เหตุการณ์ หรอื การพดู พดู ส่อื สารเรอ่ื งทฟ่ี ังใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจ ไดถ้ กู ตอ้ งตามสาระสาคญั เรอ่ื งทฟ่ี ัง สภุ าพ นทิ าน อย่างใดอย่างหน่งึ แลว้ ออกมาพดู ใหเ้ พอ่ื นฟัง ป.2 ตงั้ ใจฟัง และพดู ส่อื สาร - กาหนดใหผ้ เู้ รยี นฟังนทิ าน - แบบประเมนิ ผา่ น : ไดช้ ดั เจน ตรงตาม เร่อื งสนั้ อย่างใดอย่างหน่งึ การพดู พดู สอ่ื สารเร่อื งทฟ่ี ังใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจ ไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน ตรงตาม วตั ถปุ ระสงคแ์ ละใชค้ า แลว้ ออกมาพดู ใหเ้ พอ่ื นฟัง วตั ถปุ ระสงค์ โดยใชภ้ าษาได้ ถูกตอ้ ง สุภาพ สภุ าพ ป.3 ฟัง ดู พดู อา่ น และ - กาหนดใหผ้ เู้ รยี นฟัง ดู อ่าน - แบบประเมนิ ผ่าน : เขยี นอย่างมมี ารยาท นทิ าน เร่อื งสนั้ บทรอ้ ยกรอง การพดู - พดู สอ่ื สารเรอ่ื งทฟ่ี ัง ดู อ่านให้ ผอู้ น่ื เขา้ ใจไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน และพดู เขยี นส่อื สารได้ อย่างใดอยา่ งหน่งึ แลว้ ให้ - แบบประเมนิ ตรงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องเร่อื ง ทฟ่ี ัง ดู อ่าน โดยใชภ้ าษาพดู ได้ อยา่ งชดั เจนและตรง ผเู้ รยี นพดู เขยี น สอ่ื สารจาก การเขยี น ถูกตอ้ ง สุภาพ และมมี ารยาท ตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ เรอ่ื งทไ่ี ดฟ้ ัง ดู อ่าน นนั้ - เขยี นเรอ่ื งทฟ่ี ัง ดู อ่าน โดยใช้ ภาษาทถ่ี ูกตอ้ ง เหมาะสม คาสภุ าพ ตรงประเดน็ ไมค่ ดั ลอกผลงาน ผอู้ น่ื และมมี ารยาท ป.6 ฟัง ดู พดู อา่ น และ - กาหนดใหผ้ เู้ รยี นฟัง ดู อ่าน - แบบประเมนิ ผา่ น : เขยี นอยา่ งมมี ารยาท นทิ าน เร่อื งสนั้ บทความ การพดู - พดู แสดงความคดิ เหน็ วเิ คราะห์ จากเรอ่ื งทฟ่ี ัง ดู อ่านไดอ้ ยา่ งมี และพดู เขยี นแสดง เอกสาร หนงั สอื ขา่ ว - แบบประเมนิ เหตุผล น่าเชอ่ื ถอื พดู ไดก้ ระชบั ตรงประเดน็ ใชภ้ าษาไดถ้ ูกตอ้ ง ความคดิ เหน็ วเิ คราะห์ เหตุการณ์ บทรอ้ ยกรอง การเขยี น สุภาพ และมมี ารยาท จากเร่อื งทฟ่ี ัง ดู อา่ น อย่างใดอย่างหน่งึ แลว้ พดู - เขยี นแสดงความคดิ เหน็ วเิ คราะหจ์ ากเรอ่ื งทฟ่ี ัง ดู อา่ น อยา่ งสมเหตุสมผล เขยี นส่อื สารเรอ่ื งทฟ่ี ัง อา่ น โดยใชภ้ าษาเขยี นทถ่ี ูกตอ้ ง มี เหตผุ ล ขอ้ เขยี นมคี วามแปลก ใหม่ น่าเชอ่ื ถอื ไม่คดั ลอก ผลงานผอู้ น่ื และมมี ารยาท ท่ีมา : สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รียนส่กู ารปฏิบตั ิ. กรงุ เทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 19

จดุ เน้น : การส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ม.1 ฟัง ดู พดู อ่าน เขยี น - กาหนดใหผ้ เู้ รยี นฟัง ดู อา่ น - แบบประเมนิ ผา่ น : อย่างมมี ารยาทและพดู นิทาน เร่อื งสนั้ บทความ การพดู - พดู อธบิ าย ชแ้ี จง สาระสาคญั และรายละเอยี ดเร่อื งทฟ่ี ัง ดู เขยี นเพ่อื อธบิ ายชแ้ี จง เอกสาร ขา่ ว เหตกุ ารณ์ - แบบประเมนิ อา่ น ไดห้ ลายแงม่ มุ อย่าง สมเหตุสมผล พดู ไดก้ ระชบั จากเรอ่ื งทฟ่ี ัง และดแู ละ บทรอ้ ยกรอง อยา่ งใดอยา่ ง การเขยี น ตรงประเดน็ ใหข้ อ้ คดิ ใชภ้ าษา ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และมมี ารยาท อ่านไดห้ ลายแงม่ มุ หน่งึ แลว้ พดู เขยี นสอ่ื สาร - เขยี น อธบิ าย ชแ้ี จงจากเรอ่ื งท่ี อย่างสมเหตุสมผล เร่อื งทฟ่ี ัง ดู อา่ น ฟัง ดู อ่าน โดยใชภ้ าษาเขยี น ทถ่ี กู ตอ้ ง มเี หตุมผี ล ขอ้ เขยี น ม.2 ฟัง ดู พดู อ่าน เขยี น 1. แบง่ กลมุ่ ใหว้ เิ คราะหข์ า่ ว - แบบประเมนิ มคี วามแปลกใหม่น่าเช่อื ถอื ไมค่ ดั ลอกผลงานผอู้ น่ื และมี อยา่ งมมี ารยาท และพดู จากหนังสอื พมิ พ์ วทิ ยุ การพดู มารยาท เขยี น โตแ้ ยง้ จากเร่อื งท่ี โทรทศั น์ อนิ เทอรเ์ นต็ - แบบประเมนิ ผ่าน : - ฟัง พดู ดู อา่ น ไดห้ ลายแงม่ มุ ฟัง ดแู ละอา่ นไดอ้ ยา่ ง แลว้ ส่งตวั แทนนาเสนอ การเขยี น อย่างสมเหตุสมผล พดู เขยี น สมเหตุสมผล ทไ่ี ม่เป็น และใหแ้ สดงความคดิ โตแ้ ยง้ ตรงประเดน็ ใหข้ อ้ คดิ ใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และ โทษตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื อย่างสมเหตสุ มผล มมี ารยาท - ฟัง พดู ดู อา่ น จากเรอ่ื งทฟ่ี ัง 2. เขยี นโตแ้ ยง้ เชงิ สรา้ งสรรค์ ใชภ้ าษาเขยี นทถ่ี ูกตอ้ ง มเี หตุ มผี ล ขอ้ เขยี นมคี วามแปลกใหม่ ทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเอง น่าเชอ่ื ถอื ไมค่ ดั ลอกผลงาน ผอู้ ่นื และมมี ารยาท และผอู้ ่นื 3. สรปุ ย่อขา่ วเหตกุ ารณ์ บทความ สารคดี และ วเิ คราะหแ์ สดงความ คดิ เหน็ ทงั้ ในส่วนทเ่ี ป็น ประโยชน์ และเป็นโทษ แลว้ นามารวมเล่มเพ่อื เผยแพร่ พิเศษ 20

ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน ม.3 ฟัง ดู พดู อ่าน เขยี น 1. รวบรวมขา่ วเหตุการณ์ทอ่ี ยู่ - แบบประเมนิ ผ่าน : อย่างมมี ารยาท และพดู ในความสนใจ แลว้ ร่วมกนั การพดู - ฟัง ดู พดู อา่ น เขยี น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์จากเร่อื งทฟ่ี ัง อยา่ ง เขยี น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ อภปิ รายอยา่ งมเี หตุผลใน - แบบประเมนิ สมเหตุสมผล ตรงประเดน็ ให้ ขอ้ คดิ ใชภ้ าษาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง จากเร่อื งทฟ่ี ัง ดู และ สว่ นทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อ การเขยี น และมมี ารยาท อา่ นอย่างมเี หตผุ ลทเ่ี ป็น ส่วนรวม แลว้ นามารวมเลม่ - ฟัง ดู พดู อ่าน เขยี น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์จากเรอ่ื งทฟ่ี ัง ใชภ้ าษา ประโยชน์ตอ่ สว่ นรวม เพอ่ื เผยแพรใ่ นสอ่ื ท่ี เขยี นทถ่ี กู ตอ้ ง มเี หตมุ ผี ล และมี มารยาท หลากหลาย 2. พดู และเขยี น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ขา่ ว เหตกุ ารณ์ ทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ สว่ นรวม 3. ใหฟ้ ัง และสรปุ ย่อ บทความ สารคดี เร่อื งสนั้ นวนิยาย แลว้ นาเสนอในชนั้ เรยี น แลว้ นามาเผยแพรใ่ นสอ่ื ทห่ี ลากหลาย 4. ฝึกเขยี น นิยาย เร่อื งสนั้ สารคดี เกย่ี วกบั สงิ่ ทเ่ี ป็น ประโยชน์ตอ่ สว่ นรวม เช่น อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม การ พฒั นาชมุ ชน แลว้ นาเสนอ ในชนั้ เรยี น เพอ่ื ใหท้ ุกคน แสดงความคดิ เหน็ และให้ ขอ้ เสนอแนะกอ่ นเผยแพร่ ในสอ่ื ทห่ี ลากหลาย พิเศษ 21

ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน ม.4-6 ฟัง ดู พดู อ่าน และ - กาหนดใหผ้ เู้ รยี นฟัง ดู อา่ น - แบบประเมนิ ผา่ น : เขยี นอยา่ งมมี ารยาท และพดู เขยี นโน้มน้าว นทิ าน เร่อื งสนั้ บทความ การพดู - พดู โน้มน้าว เชญิ ชวน และแสดง เชญิ ชวน และแสดง ความคดิ เหน็ ใหมใ่ หเ้ กดิ การ ความคดิ เหน็ ใหม่ จาก เอกสาร หนงั สอื ขา่ ว - แบบประเมนิ เปลย่ี นแปลงทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ เร่อื งทฟ่ี ัง ดู และอา่ น ส่วนรวม มเี หตผุ ล มมี ารยาท ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง เหตุการณ์ บทรอ้ ยกรอง การเขยี น ในการพดู พดู ไดต้ รงประเดน็ ทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ใชภ้ าษาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง สว่ นรวม อย่างใดอย่างหน่งึ แลว้ พดู - เขยี นโนม้ น้าว เชญิ ชวน และ เขยี นส่อื สารเร่อื งทฟ่ี ัง อา่ น แสดงความคดิ เหน็ ใหมจ่ าก เร่อื งทฟ่ี ัง ดู อา่ น โดยใหภ้ าษา เขยี นทถ่ี กู ตอ้ ง มเี หตมุ ผี ลทเ่ี ป็น ประโยชน์ตอ่ สว่ นรวม และมี มารยาท ท่ีมา : สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผเู้ รียนส่กู ารปฏิบตั ิ. กรุงเทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 22

แนวทางการประเมินตามจดุ เน้นคณุ ภาพผ้เู รยี น ทกั ษะการคิด จดุ เน้น : ทกั ษะการคิดขนั้ พืน้ ฐาน ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ป.1 ทกั ษะการสงั เกตและ 1. ใหผ้ เู้ รยี นสงั เกตรปู ภาพ - แบบทดสอบ ผ่าน : ทกั ษะการจดั กลมุ่ ผลไม้ หรอื สตั ว์ ฯลฯ แลว้ - แบบบนั ทกึ ใหผ้ เู้ รยี นจดั กลมุ่ รปู ภาพ ผเู้ รยี นจดั กลุม่ และบอกเหตุผล ผลไม้ หรอื สตั ว์ ฯลฯ การสงั เกต ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม พรอ้ มบอกเหตุผลในการ จดั กลมุ่ และบอก หมายเหตุ จดั กลุม่ หรอื เหตผุ ลการ จดั กลมุ่ เกณฑก์ ารประเมนิ อาจจะจดั เป็น 2. จดั วสั ดหุ รอื สงิ่ ของให้ ระดบั คณุ ภาพกไ็ ด้ ถา้ หากมกี าร ผเู้ รยี นสงั เกตแลว้ ใหผ้ ูเ้ รยี น จดั กลุ่มหรอื บอกเหตผุ ลหลาย จดั กลมุ่ วสั ดหุ รอื สง่ิ ของ รายการ เช่น พรอ้ มกบั บอกเหตุผลในการ จดั กลุม่ โดยมคี รคู อย ถา้ หากมกี ารสงั เกตแลว้ สงั เกตการณ์การจดั กลุ่ม สามารถจดั กลุ่ม และบอกเหตุผล และการอธบิ ายเหตผุ ล ได้ 6 รายการ อาจกาหนดเกณฑ์ ในการจดั กลุม่ ของผเู้ รยี น การประเมนิ ดงั น้ี ฯลฯ ระดบั 1 จดั กลุม่ แตบ่ อกเหตุผล ไมไ่ ด้ ระดบั 2 จดั กล่มุ และบอกเหตผุ ล ได้ 1-2 รายการ (ผา่ น) ระดบั 3 จดั กลุม่ และบอกเหตุผล ได้ 3-4 รายการ ระดบั 4 จดั กลมุ่ และบอกเหตผุ ล ได้ 5-6 รายการ พิเศษ 23

ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ป.2 ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1. ใหผ้ เู้ รยี นสงั เกตรปู ภาพ - แบบทดสอบ ผา่ น : และทกั ษะการจาแนก วสั ดุ หรอื สงิ่ ของ ฯลฯ ทม่ี ี - แบบบนั ทกึ ผเู้ รยี นเปรยี บเทยี บ หรอื จาแนก ขนาดต่างกนั แลว้ ให้ การสงั เกต และบอกเหตผุ ลไดถ้ กู ตอ้ ง นกั เรยี นเปรยี บเทยี บขนาด การเปรยี บเทยี บ เหมาะสม หรอื ความสงู และจาแนก และการจาแนก หมายเหตุ รปู ภาพ วสั ดุ หรอื สง่ิ ของ เกณฑก์ ารประเมนิ อาจจะจดั เป็น ฯลฯ ทม่ี ลี กั ษณะเหมอื นกนั ระดบั คุณภาพกไ็ ด้ ถา้ หากมกี าร หรอื คลา้ ยกนั พรอ้ มบอก เปรยี บเทยี บหรอื จาแนกแลว้ บอก เหตผุ ล หรอื เหตผุ ลหลายรายการ เชน่ 2. ใหน้ กั เรยี นสงั เกตวสั ดุหรอื ถา้ หากมกี ารสงั เกตแลว้ สง่ิ ของ ซง่ึ วสั ดหุ รอื สง่ิ ของ สามารถเปรยี บเทยี บ หรอื จาแนก ทน่ี ามาใหน้ ักเรยี นสงั เกต แลว้ บอกเหตุผลได้ 8 รายการ เป็นวสั ดุหรอื สง่ิ ของชนดิ อาจกาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ เดยี วกนั เชน่ กอ้ นหนิ ดงั น้ี ใบไม้ ดนิ สอ ปากกา ฯลฯ ระดบั 1 เปรยี บเทยี บ หรอื จาแนก แต่มขี นาด หรอื มคี วามสงู แต่บอกเหตุผลไมไ่ ด้ หรอื ความยาวต่างกนั ระดบั 2 เปรยี บเทยี บ หรอื จาแนก แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นเปรยี บเทยี บ แลว้ บอกเหตผุ ลได้ ขนาด หรอื ความสงู หรอื 1-3 รายการ (ผา่ น) ความยาว จากนนั้ ให้ ระดบั 3 เปรยี บเทยี บ หรอื จาแนก ผเู้ รยี นจาแนกสงิ่ ของท่ี แลว้ บอกเหตุผลได้ ไม่เหมอื นกนั หรอื แตกต่าง 3-4 รายการ กนั ไวเ้ ป็นหมวดหมู่ ระดบั 4 เปรยี บเทยี บ หรอื จาแนก พรอ้ มกบั อธบิ ายเหตผุ ล แลว้ บอกเหตุผลได้ การจาแนก ครสู งั เกต 5-6 รายการ การเปรยี บเทยี บและ การจาแนกของผเู้ รยี น ฯลฯ พิเศษ 24

ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ป.3 ทกั ษะการรวบรวม 1. ใหผ้ เู้ รยี นวางแผน/ - แบบทดสอบ ผ่าน : ขอ้ มลู และทกั ษะ ออกแบบ กาหนด สถานการณ์ การเช่อื มโยง จดุ ประสงค์ วธิ กี ารเกบ็ ปฏบิ ตั จิ รงิ - ผเู้ รยี นวางแผน/ออกแบบ รวบรวมขอ้ มลู และนาเสนอ กาหนดจุดประสงค์ วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู จากสถานการณ์ท่ี รวบรวมขอ้ มลู และนาเสนอ กาหนดให้ ขอ้ มลู ไดเ้ หมาะสมตามประเดน็ ทก่ี าหนด 2. ใหผ้ เู้ รยี นเลอื กขอ้ มูลท่ี เกย่ี วขอ้ งสมั พนั ธก์ นั และ - ผเู้ รยี นเลอื กขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง บอกความหมายของขอ้ มลู สมั พนั ธก์ นั และบอกความหมาย โดยอาศยั ความรู้ และ และอธบิ ายเหตุผลของขอ้ มลู ได้ ประสบการณ์เดมิ ของ เหมาะสม ตนเองพรอ้ มกบั อธบิ าย เหตผุ ลประกอบ ป.6 ทกั ษะการสรปุ อา้ งองิ 1. ประเมนิ ทกั ษะการสรุป - แบบทดสอบ ผ่าน : และทกั ษะการนา อา้ งองิ โดยการกาหนด การสรุปอา้ งองิ ความรไู้ ปใช้ สถานการณ์หรอื เรอ่ื งราว - สรปุ สถานการณ์ หรอื เร่อื งราว ต่างๆ จากหนงั สอื พมิ พ์ - แบบทดสอบการ ตา่ งๆ และมกี ารอา้ งองิ ขอ้ ความจากโฆษณา แลว้ นาความรไู้ ปใช้ แหลง่ ขอ้ มลู ไดเ้ หมาะสม ใหผ้ เู้ รยี นสรปุ ความเป็นไป ได้ พรอ้ มกบั สรปุ ขอ้ อา้ งองิ - สรปุ และบอกวธิ กี ารนาขอ้ สรุป จากแหลง่ ขอ้ มลู ทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ จากสถานการณ์หรอื เรอ่ื งราว ต่างๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. กาหนดเน้อื หาหรอื เรอ่ื งราว เหมาะสม ใหผ้ เู้ รยี นอ่าน แลว้ ให้ ผเู้ รยี นสรปุ และบอก วธิ กี ารทจ่ี ะนาไปใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั โดยการ ตอ่ ยอดจากเน้อื หาหรอื เรอ่ื งราวทอ่ี ่าน พิเศษ 25

ชนั้ ความสามารถ วิธีการวดั และประเมินผล และทกั ษะ วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน ม.1 ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1. ประเมนิ ทกั ษะการคดิ - แบบทดสอบ ผ่าน : ทกั ษะการประเมนิ วเิ คราะห์ โดยการกาหนด สถานการณ์ และทกั ษะการสรุป สถานการณ์ใหผ้ เู้ รยี น - วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากสถานการณ์ ความคดิ เหน็ แลว้ ตงั้ คาถามใหผ้ เู้ รยี น ไดเ้ หมาะสม วเิ คราะห์ - สรุปและอธบิ ายเหตุผลได้ 2. กาหนดสถานการณ์หรอื เหมาะสม คาถามแลว้ ใหผ้ เู้ รยี น ประเมนิ หรอื ตดั สนิ 3. กาหนดสถานการณ์ให้ ผเู้ รยี นแลว้ ตงั้ คาถามให้ ผเู้ รยี นสรุปพรอ้ มกบั อธบิ าย เหตุผล ม.4-6 ทกั ษะการคดิ แกป้ ัญหา ประเมนิ ทกั ษะการคดิ - แบบทดสอบ ผา่ น : อยา่ งสรา้ งสรรค์ แกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ สถานการณ์ทเ่ี น้น ผเู้ รยี นแกป้ ัญหาจากสถานการณ์ โดยการกาหนดสถานการณ์ การคดิ แกป้ ัญหา ทก่ี าหนดใหไ้ ดเ้ หมาะสมอย่าง ใหผ้ เู้ รยี นแกป้ ัญหา โดยเน้น อย่างสรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรคแ์ ละมคี วามเป็นไปได้ การแกป้ ัญหาเชงิ บวกทเ่ี ป็น ในการแกป้ ัญหาในชวี ติ จรงิ วธิ กี ารทส่ี รา้ งสรรค์ และมี ความเป็นไปไดใ้ นการนาไป ใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ติ จรงิ ที่มา : สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. 2553. แนวทางการนาจดุ เน้นการพฒั นาผ้เู รยี นส่กู ารปฏิบตั ิ. กรุงเทพมหานคร : สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พิเศษ 26

คาอธิบายรายวิชา รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี รหสั วชิ า ท เวลา 120 ชวั่ โมง/ปี ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟั ง การดู และการพูด การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีและ วรรณกรรม โดยศึกษาเก่ียวกบั การอ่านออกเสยี ง การอ่านจบั ใจความ การอ่านและปฏิบตั ิตามเอกสารคู่มอื การอ่านหนังสือตามความสนใจ ฝึกทักษะการคัดลายมือ การเขียนส่ือสาร เขียนบรรยายประสบการณ์ เขยี นเรยี งความ เขยี นยอ่ ความ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ การเขยี นจดหมายสว่ นตวั และจดหมายกจิ ธุระ การเขยี น รายงาน การพูดสรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคดิ อย่างสร้างสรรค์จากเร่อื งท่ีฟังและดู พูดประเมินความ น่าเช่ือถือของส่อื ท่ีมเี น้ือหาโน้มน้าว พูดรายงานการศกึ ษาค้นคว้า และศึกษาลกั ษณะของเสยี งในภาษาไทย การสร้างคาประสม คาซ้า คาซ้อน และคาพ้อง วเิ คราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคา ความแตกต่างของภาษาพูด และภาษาเขยี น การแต่งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 จาแนกและใชส้ านวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ วเิ คราะห์ ประเมนิ ค่า และขอ้ คดิ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเร่อื ง นิราศภูเขาทอง โคลงโลกนิติ สุภาษิต พระร่วง กาพยเ์ ร่อื งพระไชยสุรยิ า ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา กาพย์เห่ชมเคร่อื งคาวหวาน และนิทาน พน้ื บา้ น ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่านเพ่อื สรา้ งความรู้ความคดิ นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชวี ติ กระบวน การเขยี นเพ่อื การส่อื สารอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลอื กฟังและดู และ พูดแสดงความรู้ความคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ เพ่อื ให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา พลงั ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา วเิ คราะห์วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่าง เหน็ คุณค่านามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ รกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ และมนี ิสยั รกั การอ่าน การเขยี น มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู และการพดู ตวั ชี้วดั ท 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ท 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ท 3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ท 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ท 5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 รวม 35 ตวั ชี้วดั พิเศษ 27

โครงสรา้ งรายวิชา วิชาภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.1 ลาดบั ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ที่ เรียนร้/ู ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน 1 การอ่านออกเสียง ท 1.1 ม.1/1 การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและ 7 บทรอ้ ยกรอง ตอ้ งฝึกอ่านออกเสยี ง ใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั เร่อื งทอ่ี า่ น 2 การอ่าน ท 1.1 ม.1/2 การอ่านเพอ่ื นาความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ - 10 ในชีวิตประจาวนั ประจาวนั ตอ้ งจบั ใจความสาคญั ของ ม.1/3 เรอ่ื งทอ่ี า่ น ระบเุ หตแุ ละผล ขอ้ เทจ็ จรงิ ม.1/4 กบั ขอ้ คดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน ตคี วาม ม.1/5 คายาก ปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื แนะนาวธิ กี าร ม.1/6 ใชง้ านของเคร่อื งมอื หรอื เคร่อื งใช้ ม.1/7 วเิ คราะหค์ ณุ ค่าทไ่ี ดร้ บั จากการอ่าน ม.1/8 งานเขยี นอย่างหลากหลาย และมี ม.1/9 มารยาทในการอ่าน 3 การเขียนส่ือสาร ท 2.1 ม.1/1 การเขยี นสอ่ื สารดว้ ยการคดั ลายมอื 3 ด้วยถ้อยคา ม.1/2 ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบ ม.1/9 การเขยี นตวั อกั ษรไทย จะตอ้ งเลอื ก ใชถ้ อ้ ยคาทถ่ี กู ตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และมคี วามสละสลวย โดยคานงึ ถงึ มารยาทในการเขยี น 4 การเขียนเพ่อื การ ท 2.1 ม.1/3 การเขยี นบรรยายประสบการณ์ 14 สื่อสาร เรยี งความ ย่อความ จดหมาย ม.1/4 รายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และ ม.1/5 โครงงาน จะตอ้ งมคี วามรเู้ ร่อื ง ม.1/7 หลกั การเขยี น และมมี ารยาท ม.1/8 ในการเขยี น ม.1/9 พิเศษ 28

ลาดบั ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี เรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน 5 การเขียนแสดง ท 2.1 ม.1/6 การศกึ ษาสอ่ื ประเภทตา่ งๆ ตอ้ ง 12 ความคิดเหน็ จากสื่อ เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั สาระจากสอ่ื ทไ่ี ดร้ บั 6 การฟังและการดสู ่ือ ท 3.1 ม.1/6 การฟัง การดู และการพดู ทม่ี ี 4 ประสทิ ธภิ าพนนั้ ตอ้ งฝึกฝนให้ เกดิ ทกั ษะ และคานึงถงึ มารยาท ในการฟัง การดู และการพดู 7 การฟัง การดู ท 3.1 ม.1/1 การพดู เกย่ี วกบั สอ่ื ทฟ่ี ังและดู จะตอ้ ง 9 และการพดู พดู สรุปใจความสาคญั เล่าเรอ่ื งย่อ ในชีวิตประจาวนั ม.1/2 พดู แสดงความคดิ เหน็ พดู รายงาน ม.1/3 เรอ่ื งหรอื ประเดน็ ทศ่ี กึ ษาคน้ ควา้ ม.1/4 และมมี ารยาทในการพดู ม.1/5 ม.1/6 8 เสียงในภาษาไทย ท 4.1 ม.1/1 การศกึ ษาหลกั ภาษาไทย จะตอ้ ง 4 และการสร้างคา ม.1/2 เขา้ ใจลกั ษณะของเสยี งในภาษาไทย และหลกั การสรา้ งคาในภาษาไทย 9 ชนิดและหน้าที่ของ ท 4.1 ม.1/3 การศกึ ษาเร่อื งประโยคในภาษาไทย 3 คาในประโยค ตอ้ งวเิ คราะหช์ นิดและหน้าทข่ี องคา ในประโยคได้ 10 ความแตกต่างของ ท 4.1 ม.1/4 การวเิ คราะหค์ วามแตกต่างระหวา่ ง 4 ภาษา ภาษาพูดและภาษาเขยี น จะชว่ ยให้ สามารถใชภ้ าษาในการสอ่ื สารได้ อย่างถกู ตอ้ งและมปี ระสทิ ธภิ าพ พิเศษ 29

ลาดบั ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี เรียนร้/ู ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน 11 สานวน คาพงั เพย ท 4.1 ม.1/6 การศกึ ษาสานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพย 2 และสภุ าษิต และสภุ าษติ จะตอ้ งสามารถจาแนก ความแตกตา่ งและบอกหลกั การใช้ 3 ไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม 12 การแต่งบทรอ้ ยกรอง ท 4.1 ม.1/5 การแตง่ บทรอ้ ยกรองประเภท กาพยย์ านี 11 ตอ้ งมคี วามรเู้ รอ่ื ง ฉนั ทลกั ษณ์ และรจู้ กั เลอื กสรรคา มาใชใ้ หเ้ หมาะสม พิเศษ 30

โครงสรา้ งแผนฯ วิชาภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.1 เวลา 75 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา การเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 (ชวั ่ โมง) การอ่านออกเสียง 1. การอ่านออกเสยี ง - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ บทรอ้ ยแกว้ แบบ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 บรรยาย การอ่าน (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการประเมนิ ในชีวิตประจาวนั 2. การอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยแกว้ แบบ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 พรรณนา กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการประเมนิ 3. หลกั การอา่ น ออกเสยี งบท - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 2 รอ้ ยกรอง (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการประเมนิ 4. การอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยกรอง : - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 กลอน กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการประเมนิ 5. การอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยกรอง : - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 กาพยย์ านี 11 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการประเมนิ 6. การอา่ นออกเสยี ง บทรอ้ ยกรอง : - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 โคลง กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการประเมนิ 1. การอ่านจบั ใจความ สาคญั - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตคี วาม 1 1 2. การอ่านจบั ใจความ กระบวนการเรยี นความรู้ 2. ทกั ษะการแปลความ 2 จากนิทานชาดก 1 ความเขา้ ใจ 3. ทกั ษะการสรปุ ยอ่ 3. การอา่ นจบั ใจความ จากบทความ - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการตคี วาม 4. การอา่ นจบั ใจความ (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการแปลความ จากสารคดี 3. ทกั ษะการสรุปยอ่ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการจาแนก กระบวนการสรา้ งความคดิ 2. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล รวบยอด 3. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ - วธิ สี อนแบบ SQ4R 1. ทกั ษะการจาแนก 2. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 3. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ พิเศษ 31

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา การเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 (ชวั ่ โมง) การอ่าน ในชีวิตประจาวนั 5. การอ่านตคี วาม - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตคี วาม 1 (ต่อ) เอกสารทางวชิ าการ กระบวนการเรยี นความรู้ 2. ทกั ษะการแปลความ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การเขียนสื่อสาร ความเขา้ ใจ 3. ทกั ษะการใหค้ าจากดั ความ ด้วยถอ้ ยคา 6. การอา่ นตคี วาม - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการตคี วาม 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เอกสารคมู่ อื การเขียนเพ่อื การ (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ ส่ือสาร 7. การวเิ คราะห์ - วธิ สี อนแบบ SQ4R 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1 คุณค่าหนังสอื 2. ทกั ษะการประเมนิ ตามความสนใจ 3. ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ ความรู้ 4. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 8. การวเิ คราะห์ - วธิ สี อนแบบหน่วย 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1 คณุ ค่าหนงั สอื ท่ี (Unit Teaching Method) 2. ทกั ษะการประเมนิ ครแู ละนกั เรยี น 3. ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ช้ กาหนดร่วมกนั ความรู้ 4. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 1. หลกั การคดั ลายมอื - วธิ สี อนแบบบรรยาย 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 2. ทกั ษะการประเมนิ 2. การคดั ลายมอื - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการประเมนิ 3. การใชภ้ าษา - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ 1 ประกอบการเขยี น แบบรว่ มมอื : เทคนคิ คคู่ ดิ สรา้ งสรรค์ สส่ี หาย 2. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 3. ทกั ษะการประเมนิ 1. หลกั การเขยี น - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ 2 เรยี งความ (Inquiry Method : 5E) สรา้ งสรรค์ 2. ทกั ษะการประเมนิ 2. การเขยี นเรยี งความ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ 1 เชงิ พรรณนาตาม กระบวนการปฏบิ ตั ิ สรา้ งสรรค์ ความรสู้ กึ 2. ทกั ษะการประเมนิ 3. การเขยี นเรยี งความ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ 1 เชงิ พรรณนาตาม กระบวนการปฏบิ ตั ิ สรา้ งสรรค์ ความเป็นจรงิ 2. ทกั ษะการประเมนิ พิเศษ 32

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา การเรยี นรู้ จดั การเรยี นรู้ (ชวั ่ โมง) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 4. การเขยี นบรรยาย - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการเรยี งลาดบั 1 การเขียนเพ่ือการ 1 (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ ส่ือสาร (ต่อ) 5. การเขยี นย่อความ - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสรปุ ย่อ แบบร่วมมอื : เทคนคิ คคู่ ดิ 2. ทกั ษะการสงั เคราะห์ 6. การเขยี นจดหมาย - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1 ขอความช่วยเหลอื (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ 3. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 7. รปู แบบของ - วธิ สี อนแบบบรรยาย 1. ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1 2. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ จดหมายกจิ ธุระ 3. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 8. การเขยี นจดหมาย - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1 สอบถามขอ้ มลู กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ 3. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 9. หลกั การเขยี น - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสรปุ อา้ งองิ 1 รายงานการศกึ ษา แบบร่วมมอื : เทคนิคการต่อ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ คน้ ควา้ เรอ่ื งราว (Jigsaw) 10. การเขยี นรายงาน - วธิ สี อนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน 1. ทกั ษะการสรปุ อา้ งองิ 2 การศกึ ษาคน้ ควา้ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 11. หลกั การเขยี น - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 โครงงาน แบบรว่ มมอื : เทคนคิ การต่อ 2. ทกั ษะการสรุปอา้ งองิ เรอ่ื งราว (Jigsaw) 3. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4. ทกั ษะการประเมนิ 12. การเขยี นโครงงาน - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 1 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการสรุปอา้ งองิ 3. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4. ทกั ษะการประเมนิ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 1. หลกั การเขยี น - วธิ สี อนแบบบรรยาย 1. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 1 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ การเขียนแสดง แสดงความคดิ เหน็ ความคิดเหน็ จากส่ือ จากบทความ พิเศษ 33

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา การเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้ (ชวั ่ โมง) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 2. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 2 การเขียนแสดง ความคดิ เหน็ จาก ความคิดเหน็ จากส่ือ บทความแสดง กระบวนการคดิ อย่างมี 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ ความคดิ เหน็ (ต่อ) วจิ ารณญาณ 3. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 1 ความคดิ เหน็ จาก บทความวชิ าการ (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 1 ความคดิ เหน็ จาก กระบวนการสรา้ งความคดิ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ บทความสารคดี รวบยอด 5. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 1 ความคดิ เหน็ จาก บทความวจิ ารณ์ กระบวนการสรา้ งความ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ ตระหนัก 6. หลกั การเขยี นแสดง - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 1 ความคดิ เหน็ จาก กระบวนการสรา้ งความ 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ หนงั สอื อ่านนอกเวลา ตระหนกั 7. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนแบบอุปนยั 1. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 2 ความคดิ เหน็ จาก 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ หนงั สอื อ่านนอกเวลา 8. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนแบบ SQ4R 1. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 1 ความคดิ เหน็ จาก 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ ขา่ วและเหตกุ ารณ์ ประจาวนั 9. การเขยี นแสดง - วธิ สี อนแบบนิรนยั 1. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 2 ความคดิ เหน็ จาก 2. ทกั ษะการวเิ คราะห์ เหตุการณ์สาคญั ตา่ งๆ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 1. มารยาทในการฟัง - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 2 การฟังและการดสู ื่อ และการดู (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการประเมนิ 3. ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ 2. มารยาทในการพดู - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 2 (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการประเมนิ 3. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ พิเศษ 34

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา การเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 (ชวั ่ โมง) การฟัง การดู 1. การพดู จบั ใจความ - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการเรยี งลาดบั และการพดู สาคญั จากการฟัง 2 ในชีวิตประจาวนั และการดสู อ่ื (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการสรปุ ยอ่ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 2. การเลา่ เร่อื งจาก เสียงในภาษาไทย การฟังและการดสู อ่ื - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการเรยี งลาดบั 1 และการสรา้ งคา แบบรว่ มมอื : เทคนิคเลา่ เรอ่ื ง 2. ทกั ษะการสรปุ ย่อ 2 3. การพดู เชงิ รอบวง สรา้ งสรรค์ 2 - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการคดิ อย่างมี 2 4. การพดู เชงิ วชิ าการ 1 (1) (Inquiry Method : 5E) วจิ ารณญาณ 1 2 5. การพดู เชงิ วชิ าการ 2. ทกั ษะกระบวนการคดิ (2) สรา้ งสรรค์ 1. เสยี งในภาษาไทย (1) 3. ทกั ษะการประเมนิ 2. เสยี งในภาษาไทย 4. ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็ (2) - วธิ สี อนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 3. การสรา้ งคา 2. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 3. ทกั ษะการประเมนิ 2. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 3. ทกั ษะการประเมนิ 2. ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ แบบรว่ มมอื : เทคนิคการ แบง่ ปันความสาเรจ็ - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ แบบรว่ มมอื : เทคนิคค่คู ดิ สส่ี หาย - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการจาแนกประเภท (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ พิเศษ 35

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา การเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 (ชวั ่ โมง) ชนิ ดและหน้ าท่ี 1. ชนดิ และหน้าท่ี - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ 1 ของคาในประโยค ของคา (Inquiry Method : 5E) 2 2. การวเิ คราะห์ - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ ประโยค (Inquiry Method : 5E) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 1. ภาษาพดู - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1 ความแตกต่างของ แบบรว่ มมอื : เทคนิคคู่ 1 ตรวจสอบ 2 ภาษา 2 2. ภาษาเขยี น - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ แบบร่วมมอื : เทคนิคคคู่ ดิ สส่ี หาย 3. การเปรยี บเทยี บ - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ ภาษาพดู และภาษา (Inquiry Method : 5E) เขยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 11 1. สานวน คาพงั เพย - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 1. ทกั ษะการสงั เกต สานวน คาพงั เพย และสุภาษติ และสุภาษิต (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการจาแนกประเภท 3. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 12 1. หลกั การแตง่ บท - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 1 การแต่งบทรอ้ ยกรอง รอ้ ยกรองประเภท แบบรว่ มมอื : เทคนิคคู่ ตรวจสอบ กาพยย์ านี 11 2. การแต่งบท - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 2 รอ้ ยกรองประเภท กระบวนการปฏบิ ตั ิ กาพยย์ านี 11 พิเศษ 36

6หน่วยการเรียนรู้ที่ การฟังและการดสู ื่อ 4เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ท 3.1 ม.1/6 มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การฟัง การดู และการพดู ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพนนั้ ตอ้ งฝึกฝนใหเ้ กดิ ทกั ษะ และคานงึ ถงึ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - มารยาทในการฟัง การดู และการพดู 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการตงั้ เกณฑ์ 2) ทกั ษะการประเมนิ 3) ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 535 หลกั ภาษาฯ ม.1

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนผงั ความคดิ แสดงมารยาทในการฟัง การดู และการพดู 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เร่อื ง การฟังและการดสู อ่ื 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 6.1 เร่อื ง การฟังและการดสู อ่ื 2) ตรวจใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื ง ความสาคญั และมารยาทในการพดู 3) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 4) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 5) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 6) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เร่อื ง การฟังและการดสู อ่ื 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจแผนผงั ความคดิ แสดงมารยาทในการฟัง การดู และการพูด 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 6 536 หลกั ภาษาฯ ม.1

เรอ่ื งท่ี 1 มารยาทในการฟังและการดู 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครสู นทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั มารยาทไทย จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั บอกความหมายของมารยาท ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. นกั เรยี นรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมคั รใจ จากนนั้ ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรู้ เร่อื ง การฟังและการดสู อ่ื จากหนงั สอื เรยี น ตามประเดน็ ทค่ี รกู าหนด 2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ แบง่ หน้าทก่ี นั ศกึ ษาความรใู้ นประเดน็ ตา่ งๆ ตามความสนใจ ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มผลดั กนั อธบิ ายความรใู้ นประเดน็ ทต่ี นรบั ผดิ ชอบ จากนนั้ รว่ มกนั ซกั ถามขอ้ สงสยั และหาคาตอบรว่ มกนั 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มอภปิ รายเพอ่ื สรปุ ประเดน็ ความรตู้ ามทค่ี รกู าหนด ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 6.1 เร่ือง การฟังและการดสู ่ือ เป็นรายบคุ คล 2. สมาชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ นาคาตอบมาอภปิ รายร่วมกนั จนไดค้ าตอบทส่ี มบูรณ์และมคี วามเขา้ ใจกนั ทกุ คน ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครสู มุ่ เลอื กใบงานท่ี 6.1 จานวน 2-3 ใบงาน แลว้ ใหน้ กั เรยี นทเ่ี ป็นเจา้ ของใบงานออกมานาเสนอคาตอบ ทห่ี น้าชนั้ เรยี น 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ ก่ยี วกบั มารยาทในการฟังและการดู 537 หลกั ภาษาฯ ม.1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook