คูมอื ครูรายวชิ าเพิม่ เตมิ คณติ ศาสตร ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 2 391 38. ให S แทนปรภิ ูมิตวั อยางของการทดลองสุม นี้ จะได n(S ) = 10! 2!3!2!1!1!1! ให E แทนเหตกุ ารณทหี่ ลอดไฟหลอดสุดทายเปน สมี ว งหรือสีสม เนอื่ งจากจดั เรียงหลอดไฟหลอดสุดทา ยเปนสีมวงหรือสีสม จะแบงเปน 2 ข้ันตอน ขน้ั ท่ี 1 จดั หลอดไฟหลอดสุดทายเปนสีมว งหรอื สีสม ได 2 วธิ ี ขั้นที่ 2 จัดหลอดไฟทเ่ี หลือ 9 หลอด ได 9! วธิ ี 2!3!2!1!1! โดยหลกั การคูณ จะมวี ธิ ีจัดใหหลอดไฟหลอดสุดทายเปนสีมวงหรือสม ได 2× 9! วิธี 2!3!2!1!1! น่ันคือ n(E)= 2× 9! 2!3!2!1!1! จะได P ( E ) =nn((ES )) =2 × 2!3!92!!1!1! × 2!3!2!1!1!1! =1 10! 5 ดังนน้ั ความนา จะเปน ท่หี ลอดไฟหลอดสดุ ทายเปนสีมว งหรือสีสม เทา กับ 1 5 39. ให S แทนปรภิ ูมติ วั อยางของการทดลองสุมน้ี จะได n(S ) =(6 −1)!=120 1) ให E1 แทนเหตกุ ารณท ีไ่ มม ีสมาชิกในครอบครวั เดยี วกนั นงั่ ตดิ กนั จดั ใหสมาชกิ ครอบครัวแรกท่ีมี 3 คน น่ังกอน ได (3 −1)!=2 วธิ ี ตอมาจัดใหส มาชกิ อกี ครอบครัวหนึ่งน่ังแทรกระหวา งสมาชิกของครอบครัวแรก ได 3!= 6 วิธี ดงั นั้น จะจดั ใหไ มมีสมาชิกในครอบครัวเดียวกนั นั่งติดกัน ได 2× 6 =12 วิธี นัน่ คือ n(E1) =12 จะได P ( E=1 ) nn((ES=1)) 1=2 1 120 10 ดังนัน้ ความนาจะเปน ท่ีไมมสี มาชกิ ในครอบครัวเดยี วกนั นัง่ ติดกนั เทากับ 1 10 2) ให E2 แทนเหตุการณท ่สี มาชกิ ในครอบครวั เดียวกนั น่ังติดกนั พิจารณาวา คนในครอบครัวเดียวกันนั่งตดิ กนั เปนคน 1 คน นั่นคือ จะมคี น 2 คน ซึ่งจัดเรยี งเปน วงกลมได (2 −1)!=1 วธิ ี ในแตล ะวิธีนี้ สามารถจัดสมาชกิ ในแตละครอบครัวนงั่ ได 3!3!= 36 วธิ ี สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
392 คมู ือครรู ายวชิ าเพม่ิ เตมิ คณิตศาสตร ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 5 เลม 2 ดงั นั้น มีวิธที ส่ี มาชิกในครอบครวั เดียวกันน่ังติดกัน 36 วิธี นน่ั คอื n(E2 ) = 36 จะได P ( E=2 ) nn((ES=2)) 3=6 3 120 10 ดงั นั้น ความนาจะเปนทสี่ มาชิกในครอบครัวเดยี วกันนง่ั ติดกัน เทา กับ 3 10 40. ให S แทนปริภมู ิตวั อยางของการทดลองสุมนี้ จะได n(S ) =(5 −1)!=24 1) ให E1 แทนเหตกุ ารณท่ีลกู ทงั้ สามนัง่ ตดิ กนั พิจารณาใหลูกทง้ั สามคนที่นงั่ ตดิ กนั เปน คน 1 คน นั่นคอื มีคน 3 คน ซงึ่ จัดเรยี งเปน วงกลมได (3 −1)!=2 วธิ ี ในแตล ะวธิ ีนี้ ลูกท้ังสามคนสามารถนง่ั สลับกนั ได 3!= 6 วิธี ดังนั้น มีวธิ ที ล่ี ูกทงั้ สามนัง่ ติดกนั 2× 6 =12 วิธี นน่ั คือ n(E1) =12 จะได P ( E=1 ) nn((ES1=)) 1=2 1 24 2 ดงั น้ัน ความนาจะเปนท่ลี กู ทั้งสามคนนัง่ ติดกนั เทากับ 1 2 2) วิธีท่ี 1 ให E2 แทนเหตุการณท ี่พอ และแมไ มนง่ั ติดกนั จดั ใหล ูกทง้ั สามคนน่งั กอน ได (3 −1)!=2 วธิ ี ตอมาใหพอและแมนั่งแทรกลูก ซง่ึ สามารถนั่งได 3 ท่ี นน่ั คือ มวี ธิ ที ี่พอและแมน ่ังแทรกระหวา งลกู ท้ังสาม P3,2 = 6 วิธี ดังนัน้ มวี ธิ ที ่ีพอและแมไมน ่ังติดกัน 2× 6 =12 วธิ ี นัน่ คอื n(E2 ) =12 จะได P ( E=2 ) 1=2 1 24 2 ดงั นั้น ความนาจะเปน ท่พี อและแมไมนง่ั ติดกัน เทากับ 1 2 วธิ ที ่ี 2 ให E2 แทนเหตุการณท่ีพอและแมไมนง่ั ติดกนั นัน่ คอื เหตุการณท ี่มีลกู หนงึ่ คนนง่ั ระหวางพอและแม เลือกลกู 1 คน จาก 3 คน มานงั่ ระหวา งพอและแม ได 3 วธิ ี สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูม ือครูรายวิชาเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 2 393 พจิ ารณาวา พอแมและลูก 1 คน ท่นี ง่ั ตดิ กันเปน คน 1 คน น่นั คอื มีคน 3 คน ซ่ึงจัดใหนัง่ เปนวงกลมได (3 −1)!=2 วิธี ในแตล ะวิธี พอและแมส ามารถนง่ั สลับกันได 2 วธิ ี ดงั นัน้ มีวธิ ีจัดใหล กู หน่ึงคนน่งั ระหวา งพอและแมได 3× 2× 2 =12 วธิ ี หรอื มวี ิธีท่พี อและแมไมนง่ั ติดกนั 12 วธิ ี นน่ั คอื n(E3 ) =12 จะได P ( E=3 ) 1=2 1 24 2 ดังนน้ั ความนาจะเปนท่พี อและแมไมน่ังตดิ กนั เทา กบั 1 2 41. ให A แทนเหตุการณทธี่ งชัยสอบผา นวิชาคณิตศาสตร B แทนเหตุการณทธี่ งชัยสอบผานวิชาภาษาองั กฤษ จะได A∪ B แทนเหตกุ ารณท ธ่ี งชยั สอบผานอยางนอย 1 วชิ า A∩ B แทนเหตกุ ารณท่ธี งชัยสอบผานทั้งสองวชิ า ตองการหา P( A ∩ B) โจทยกําหนดใ=ห P( A) 0=.6, P(B) 0.5 และ P( A ∪ B) =0.8 จาก P( A ∪ B) = P( A) + P(B) − P( A ∩ B) จะได P( A ∩ B=) P( A) + P( B) − P( A ∪ B) = 0.6 + 0.5 − 0.8 = 0.3 ดงั นั้น ความนาจะเปน ทธี่ งชยั จะสอบผานท้งั สองวิชาน้ี เทา กบั 0.3 42. ให S แทนปริภูมติ ัวอยา งของการทดลองสมุ น้ี จะได n(S ) =120 ให A แทนเหตุการณทนี่ กั เรียนคนน้ชี อบเรยี นวชิ าคณิตศาสตร น่ันคอื n( A) = 60 จะได P(=A) 6=0 1 120 2 ให B แทนเหตกุ ารณที่นกั เรียนคนนีช้ อบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ นนั่ คอื n(B) = 50 จะได P(=B) 5=0 5 120 12 จะได A∩ B แทนเหตกุ ารณทีน่ กั เรียนคนน้ีชอบเรียนทงั้ สองวชิ า นนั่ คอื n( A ∩ B) =20 สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
394 คูมือครูรายวิชาเพม่ิ เตมิ คณติ ศาสตร ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 2 จะได P( A ∩ B) = 20 = 1 120 6 1) จะได A∪ B แทนเหตกุ ารณทน่ี ักเรียนคนน้ชี อบเรยี นอยางนอย 1 วชิ า จาก P( A ∪ B) = P( A) + P(B) − P( A ∩ B) จะได P( A ∪ B) = 1 + 5 − 1 = 3 2 12 6 4 ดงั นั้น ความนา จะเปนท่นี ักเรียนคนน้ีชอบเรียนอยางนอ ย 1 วชิ า เทากับ 3 4 2) จะได A′ ∩ B′ แทนเหตุการณทน่ี ักเรียนคนน้ไี มช อบเรียนทง้ั สองวิชา จากสมบัติของเซต ไดวา A′ ∩ B′ = ( A ∪ B)′ ( )จาก P ( A ∪ B)′ = 1− P( A ∪ B) ( )จะได P ( A ∪ B)′ = 1− 3 = 1 44 นนั่ คือ P( A′ ∩ B′) =1 4 ดังนน้ั ความนา จะเปน ทน่ี กั เรียนคนนีไ้ มชอบเรยี นทง้ั สองวิชา เทากบั 1 4 3) จะได A − B แทนเหตกุ ารณท่ีนักเรียนคนนช้ี อบเรยี นวิชาคณติ ศาสตร แตไ มชอบเรียน วชิ าภาษาอังกฤษ จาก P( A − B) = P( A) − P( A ∩ B) จะได P( A − B) = 1 − 1 = 1 26 3 ดงั นน้ั ความนาจะเปน ทน่ี กั เรียนคนนชี้ อบเรียนวิชาคณิตศาสตร แตไ มชอบเรยี นวชิ า ภาษาอังกฤษ เทากับ 1 3 4) จะได ( A ∩ B)′ แทนเหตุการณที่นักเรียนคนนชี้ อบเรยี นอยางมาก 1 วชิ า จาก P( A ∩ B)′ = 1− P( A ∩ B) จะได P( A ∩ B)′ = 1− 1 = 5 66 ดังน้ัน ความนาจะเปนที่นักเรียนคนนช้ี อบเรยี นอยางมาก 1 วชิ า เทากับ 5 6 43. ให S แทนปรภิ มู ิตวั อยางของการทดลองสมุ น้ี จะได n(S ) = 300 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวชิ าเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 2 395 ให A แทนเหตุการณทผี่ ูเขา รว มประชมุ คนน้ปี ระกอบอาชีพคาขาย นั่นคือ n( A) =160 จะได P(=A) 1=60 8 300 15 ให B แทนเหตกุ ารณท่ีผูเขา รว มประชุมคนน้ีประกอบอาชีพรับจาง นน่ั คอื n(B) = 90 จะได P(=B) 9=0 3 300 10 จะได A∩ B แทนเหตกุ ารณที่ผเู ขารวมประชุมคนนีป้ ระกอบอาชีพคาขายและรบั จาง น่นั คือ n( A ∩ B) =40 จะได P( A ∩ B) = 40 = 2 300 15 นั่นคอื ( A ∪ B)′ แทนเหตุการณที่ผูเขารว มประชมุ คนนี้จะไมป ระกอบอาชีพคาขายหรือ รบั จาง ( )ตองการหา P ( A ∪ B)′ จาก P( A ∪ B) = P( A) + P(B) − P( A ∩ B) จะได P( A ∪ B) = 8 + 3 − 2 = 7 15 10 15 10 ( )จาก P ( A ∪ B)′ = 1− P( A ∪ B) ( )จะได P ( A ∪ B)′ = 1− 7 = 3 10 10 ดงั นัน้ ความนาจะเปน ทีผ่ ูเ ขา รว มประชุมคนนีจ้ ะไมประกอบอาชีพคาขายและรับจา ง เทากับ 3 10 44. ให A แทนเหตกุ ารณทคี่ อมพิวเตอรชํารุดจากกระแสไฟฟามากเกินไป B แทนเหตกุ ารณที่คอมพวิ เตอรชํารดุ จากฮารด ดิสกเ สีย C แทนเหตกุ ารณท่คี อมพวิ เตอรช ํารุดจากซีพยี ูทํางานหนกั จากโจทยก ําหนดให P( A) = 0.06 , P(B) = 0.03 , P(C) = 0.01 P( A ∩ B)= P( A ∩ C )= P( B ∩ C )= 0 และ P ( A ∩ B ∩ C ) =0 ตอ งการหา P( A ∪ B ∪ C) สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
396 คูมอื ครูรายวชิ าเพม่ิ เติมคณติ ศาสตร ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 5 เลม 2 จากสมบตั ขิ องเซต จะไดวา P( A∪ B ∪C) = P( A) + P(B) + P(C) − P( A∩ B) − P( A∩C) −P(B ∩C) + P(A∩ B ∩C) = 0.06 + 0.03 + 0.01− 0 − 0 − 0 + 0 = 0.1 ดังนน้ั ความนาจะเปน ทีค่ อมพวิ เตอรจะชาํ รดุ จากกระแสไฟฟา มากเกินไปหรือฮารดดิสกเสีย หรือซพี ียูทํางานหนัก เทากับ 0.1 45. ให S แทนปรภิ มู ติ ัวอยา งของการทดลองสมุ น้ี จะได n(S ) = 6× 6 = 36 ให E แทนเหตุการณที่ทอดลูกเตาสองครั้ง แลว หมากจะตกไปอยูบนชองหมายเลขนอยกวา หรือเทา กับ 16 เนอ่ื งจาก E = {(1,1), (1, 2), (1, 3), (1, 4), (1, 6), (3,1), (3, 5), (4,1), (4, 2), (4, 4), (4, 5), (4, 6), (5, 3), (6, 2)} น่ันคอื n(E) =14 จะได P( E=) n(E) 1=4 7 n ( S=) 36 18 ดงั นน้ั ความนาจะเปน ที่อีกสองตา หมากจะตกไปอยูบ นชองหมายเลขนอ ยกวาหรือเทากับ 16 เทากับ 7 18 46. ให S แทนปรภิ มู ิตวั อยางของการทดลองสมุ นี้ จะได n(S ) = 8! ให E แทนเหตกุ ารณทไี่ มมีหนังสือคณิตศาสตรส องเลมใดอยตู ิดกนั ขัน้ ท่ี 1 จดั หนงั สอื วชิ าอื่นท่ีไมใชห นงั สือคณิตศาสตรจํานวน 5 เลม ได 5! วธิ ี ขน้ั ที่ 2 จดั หนังสอื คณิตศาสตร 3 เลม แทรกได 6 ตาํ แหนง จดั ได P6,3 วิธี โดยหลกั การคูณ มีวธิ ีจัดไมใ หหนังสือคณิตศาสตรส องเลมใดอยตู ิดกนั 5!× P6,3 วิธี นนั่ คือ n( E)= 5!× P6,3 จะได P=( E ) nn=((ES )) 5!×=P6,3 5 8! 14 ดังนน้ั ความนาจะเปน ที่ไมม ีหนงั สือคณิตศาสตรสองเลมใดอยูตดิ กัน เทา กบั 5 14 สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวชิ าเพ่มิ เตมิ คณิตศาสตร ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 5 เลม 2 397 47. ให S แทนปรภิ มู ิตวั อยางของการทดลองสุมน้ี จะได n(=S ) 1=5! 6,435 7!8! ให E แทนเหตุการณทเี่ ดินทางจากจุด O ไปยงั จดุ P โดยไมผานจุด A เนือ่ งจาก การเดนิ ทางโดยผานจุด A จะแบง ออกเปน 2 ข้นั ตอน ขน้ั ที่ 1 เสนทางเดินจากจุด O ไปยังจุด A มี 8! เสนทาง 4!4! ข้นั ท่ี 2 เสน ทางเดินจากจุด A ไปยงั จุด P มี 7! เสน ทาง 4!3! ดังนน้ั จํานวนเสน ทางเดนิ ทัง้ หมดจากจุด O ไปยงั จดุ P โดยผา นจดุ A มี 8! × 7! =2,450 เสน ทาง 4!4! 4!3! ดังนน้ั จํานวนเสน ทางเดินทงั้ หมดจากจดุ O ไปยงั จุด P โดยไมผานจุด A มี 6,435 − 2,450 =3,985 เสน ทาง นัน่ คอื n(E) = 3,985 จะได P=( E ) n(E) 3,=985 797 n=(S ) 6, 435 1, 287 ดังน้ัน ความนา จะเปนทเี่ ดนิ ทางจากจุด O ไปยังจดุ P โดยไมผานจดุ A เทากับ 797 1, 287 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
398 คมู อื ครูรายวชิ าเพ่มิ เตมิ คณิตศาสตร ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 5 เลม 2 แหลงเรยี นรเู พมิ่ เติม forvo.com เปนเว็บไซตท่ีรวบรวมการออกเสียงคําในภาษาตาง ๆ กอตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2008 โดยมจี ดุ มงุ หมายเพื่อพฒั นาการส่ือสารทางการพูด ผานการแลกเปลี่ยนการออกเสียงคําในภาษา ตาง ๆ ทั้งจากบุคคลท่ีเปนเจาของภาษาและบุคคลที่ไมใชเจาของภาษา forvo.com ไดรับคัดเลือก จากนติ ยสาร Times ใหเปน 50 เว็บไซตท่ีดีท่ีสุดใน ค.ศ. 2013 (50 best websites of 2013) ปจจุบัน เว็บไซตน้ีเปนฐานขอมูลท่ีรวบรวมการออกเสียงท่ีใหญท่ีสุด มีคลิปเสียงท่ีแสดงการออกเสียง คาํ ศัพทประมาณสี่ลา นคําในภาษาตา ง ๆ มากกวา 330 ภาษา ครูอาจใชเว็บไซต forvo.com เพ่ือศึกษาเพิ่มเติมเก่ียวกับการออกเสียงคําศัพทคณิตศาสตร หรอื ชอ่ื นกั คณติ ศาสตรในภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ที่ปรากฏในหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม คณิตศาสตร ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 5 เลม 2 ได เชน conjugate ซ่ึงเปนคําศัพทคณิตศาสตรใน ภาษาอังกฤษ หรือ De Moivre นักคณิตศาสตรช าวฝร่ังเศส สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวิชาเพมิ่ เติมคณิตศาสตร ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 5 เลม 2 399 บรรณานุกรม สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลย.ี (2556). คูมือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร เลม 2 ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 4 – 6 กลมุ สาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลย.ี (2554). คมู ือครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร เลม 4 ชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 4 – 6 กลุมสาระการเรียนรูคณติ ศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ สกสค. ลาดพรา ว. สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลย.ี (2562). หนังสอื เรยี นรายวิชาเพ่ิมเติม คณติ ศาสตร ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 2 ตามผลการเรียนรกู ลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: ศูนยหนงั สือแหงจุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลัย. สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี. (2557). หนงั สอื เรียนรเู พ่ิมเตมิ เพ่ือเสรมิ ศักยภาพคณิตศาสตร ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 – 6 ความนาจะเปน . กรุงเทพฯ: พัฒนา คุณภาพวชิ าการ. สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี. (2557). หนงั สอื เรียนรเู พิ่มเติมเพอื่ เสริม ศักยภาพคณิตศาสตร ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 4 – 6 จํานวนเชงิ ซอน. กรงุ เทพฯ: พฒั นา คณุ ภาพวิชาการ. สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี. (2557). หนงั สอื เรยี นรเู พิ่มเตมิ เพอ่ื เสริม ศกั ยภาพคณติ ศาสตร ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 4 – 6 ระบบจาํ นวนจริง. กรุงเทพฯ: พัฒนา คณุ ภาพวชิ าการ. สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน. (2560). ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรแู กนกลาง กลมุ สาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พชุมนุมสหกรณการเกษตร แหง ประเทศไทย. สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
400 คูมอื ครูรายวชิ าเพม่ิ เตมิ คณติ ศาสตร ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 2 คณะท่ีปรึกษา คณะผูจ ัดทาํ ศ. ดร.ชกู จิ ลิมปจาํ นงค ดร.ศรเทพ วรรณรัตน สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ดร.วนิดา ธนประโยชนศ กั ด์ิ สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี คณะผูจ ัดทาํ คูมอื ครู สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี นางสาวปฐมาภรณ อวชัย สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นางสาวอมั รสิ า จนั ทนะศิริ สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นายพฒั นชัย รววิ รรณ สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นางสาวภิญญดา กลับแกว สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ดร.ศศวิ รรณ เมลอื งนนท สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ดร.สุธารส นลิ รอด สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นายกฤษณะ ปอมดี สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ดร.จณิ ณวัตร เจตนจ รุงกจิ สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี นายทศธรรม เมขลา โรงเรยี นสรุ ศกั ดม์ิ นตรี กรงุ เทพฯ นายกษมะ นจิ จนั ทรพนั ศรี โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลยั ฝา ยมัธยม ดร.กลุ นดิ า ปลื้มปตวิ ริ ยิ ะเวช กรุงเทพฯ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร จงั หวดั นครปฐม ดร.ธนากร ปริญญาศาสตร คณะผูพ จิ ารณาคมู อื ครู นายประสาท สอานวงศ สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี รศ. ดร.สมพร สตู นิ ันทโ อภาส สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี นางสาวจินตนา อารยะรงั สฤษฏ สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นางสาวจาํ เริญ เจยี วหวาน สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นายสุเทพ กติ ตพิ ิทักษ สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี ดร.สุพตั รา ผาติวสิ ันติ์ สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ดร.อลงกรณ ตัง้ สงวนธรรม สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี วาท่ีรอยเอก ดร.ภณฐั กวยเจรญิ พานชิ ก สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวชิ าเพิม่ เติมคณิตศาสตร ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 2 401 ผศ.ตรี วชิ ช ทนิ ประภา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา กรุงเทพฯ ผศ. ดร.ธนชั ยศ จําปาหวาย มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา กรุงเทพฯ บรรณาธกิ าร รศ. ดร.สริ ิพร ทิพยค ง สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี คณะทํางานฝา ยเสรมิ วิชาการ โรงเรยี นราชวินิตบางเขน กรุงเทพฯ นางสาวขวญั ใจ ภาสพนั ธุ โรงเรียนสาธติ แหง มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร นายณรงคฤ ทธิ์ ฉายา ศูนยว จิ ยั และพฒั นาการศึกษา กรุงเทพฯ โรงเรียนสตรภี เู ก็ต จังหวัดภูเกต็ นายถนอมเกยี รติ งานสกุล โรงเรียนทบั ปุดวิทยา จงั หวัดพังงา นางนงนุช ผลทวี โรงเรยี นสตรสี ริ ิเกศ จงั หวดั ศรีสะเกษ นางมยุรี สาลีวงศ โรงเรียนบางละมงุ จังหวดั ชลบรุ ี นางสาวศราญลกั ษณ บตุ รรตั น โรงเรียนวทิ ยาศาสตร จฬุ าภรณราชวทิ ยาลยั เพชรบุรี นายศรณั ย แสงนิลาวิวัฒน จังหวดั เพชรบุรี โรงเรยี นเฉลมิ ขวญั สตรี จงั หวัดพิษณุโลก วา ทีร่ อยตรีสามารถ วนาธรตั น ขาราชการบํานาญ นางศภุ รา ทวรรณกลุ ขาราชการบาํ นาญ นายสกุ จิ สมงาม ขา ราชการบาํ นาญ นางสุปราณี พวงพี นักวชิ าการอิสระ นายชัยรตั น สุนทรประพี สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ฝา ยนวตั กรรมเพอ่ื การเรียนรู สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี นางสาวปย าภรณ ทองมาก สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414