คูม อื ครูรายวชิ าเพ่ิมเตมิ คณิตศาสตร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 341 11. 1) A−B = 1 2 − 3 2 3 0 0 −1 1− 3 2 − 2 = 3 − 0 0 − (−1) = −2 0 1 3 ( A − B)2 = −2 0 −2 0 3 1 3 1 (−2)(−2) + 0(3) (−2)(0) + 0(1) = 3(0) +1(1) 3(−2) +1(3) 4 + 0 0 + 0 = (−6) + 3 0 +1 = 4 0 −3 1 A2 = 1 2 1 2 3 0 3 0 1(1) + 2(3) 1(2) + 2(0) = 3(1) + 0(3) 3(2) + 0(0) = 1+ 6 2 + 0 3 + 0 6 + 0 = 7 2 3 6 AB = 1 2 3 2 3 0 0 −1 1(3) + 2(0) 1(2) + 2(−1) = 3(3) + 0(0) 3(2) + 0(−1) = 3 + 0 2 − 2 9 + 0 6 + 0 = 3 0 9 6 สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
342 คมู อื ครรู ายวชิ าเพิม่ เติมคณิตศาสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 B2 = 3 2 3 2 0 −1 0 −1 = 3(3) + 2(0) 3(2) + 2(−1) 0(2) + (−1)(−1) 0 (3) + ( −1) ( 0) 9 + 0 6 − 2 = 0 + 0 0 +1 9 4 = 0 1 A2 − 2 AB + B2 = 7 2 − 2 3 0 + 9 4 3 6 9 6 0 1 = 7 2 − 6 0 + 9 4 3 6 18 12 0 1 10 6 = −15 −5 ดงั นน้ั ( A − B)2 ≠ A2 − 2AB + B2 2) A+ B = 1 2 + 3 2 3 0 0 −1 1+ 3 2 + 2 = 3 + 0 0 + (−1) = 4 4 3 −1 (A+ B)(A− B) = 4 4 −2 0 3 −1 3 1 4(−2) + 4(3) 4(0) + 4(1) = 3(−2) + (−1)(3) 3(0) + (−1)(1) −8 +12 0 + 4 = (−6) − 3 0 −1 4 4 = −9 −1 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครูรายวชิ าเพ่ิมเติมคณติ ศาสตร ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 343 A2 − B2 = 7 2 − 9 4 3 6 0 1 = 7 − 9 2 − 4 3 − 0 6 −1 = −2 −2 5 3 ดังนน้ั ( A + B)( A − B) ≠ A2 − B2 12. เน่ืองจาก A ≠ 0 จะได 0 a b 0 a b A2 = 0 0 c 0 0 c 0 0 0 0 0 0 0(0) + a(0) + b(0) 0(a) + a(0) + b(0) 0(b) + a(c) + b(0) 0(b) + 0(c) + c(0) = 0(0) + 0 ( 0) + c (0) 0(a) + 0(0) + c(0) 0(0) + 0(0) + 0(0) 0(a) + 0(0) + 0(0) 0(b) + 0(c) + 0(0) 0 0 ac = 0 0 0 0 0 0 เนอ่ื งจาก ac ≠ 0 จึงไดว า A2 ≠ 0 A3 = AA2 0 a b 0 0 ac = 0 0 c 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0(0) + a(0) + b(0) 0(0) + a(0) + b(0) 0(ac) + a(0) + b(0) 0(ac) + 0(0) + c(0) = 0(0) + 0 ( 0) + c (0) 0(0) + 0(0) + c(0) 0(0) + 0(0) + 0(0) 0(0) + 0(0) + 0(0) 0(ac) + 0(0) + 0(0) 0 0 0 = 0 0 0 0 0 0 น่นั คือ A3 = 0 ดงั น้นั จํานวนเต็มบวก n ท่นี อยทส่ี ดุ ท่ีทาํ ให An = 0 คือ 3 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
344 คูมือครรู ายวิชาเพิม่ เติมคณิตศาสตร ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 5 เลม 1 13. จาก A2 = 1 1 1 1 x y x y = 1(1) +1( x) 1(1) +1( y) x(1) + y ( y) x (1) + y ( x) = 1+ x 1+ y x + yx x + y2 เนอ่ื งจาก A2 = 0 จะได 1+ x 1+ y = 0 0 x + yx x + y2 0 0 นน่ั คอื 1+ x= 0, 1+ y= 0, x + yx= 0 และ x + y2 =0 ดงั น้นั x = −1 และ y = −1 14. ให และA = aij m×n B = bij n× p จะได เมือ่AB = cij m×p cij = ai1b1 j + ai2b2 j + + ainbnj นั่นคอื =k ( AB) k=cij m ×p kcij m ×p จาก kA = kaij m×n จะได (kA) B = dij m×p เมอื่ dij = (kai1 )b1 j + (kai2 )b2 j + + (kain )bnj ( ) ( ) ( )= k ai1b1 j + k ai2b2 j + + k ainbnj ( )= k ai1b1 j + ai2b2 j + + ainbnj = kcij ดงั น้นั k ( AB) = (kA) B และจาก kB = kbij n×p จะได A(kB) = eij m×p เมอ่ื ( ) ( ) ( )eij = ai1 kb1 j + ai2 kb2 j + + ain kbnj ( ) ( ) ( )= k ai1b1 j + k ai2b2 j + + k ainbnj ( )= k ai1b1 j + ai2b2 j + + ainbnj = kcij น่นั คือ k ( AB) = A(kB) สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวชิ าเพ่ิมเตมิ คณติ ศาสตร ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 1 345 ดังนั้น k=( AB) (=kA) B A(kB) 15. 1) เปนเทจ็ เชน ให A= 1 1 จะได −1 −1 A2 = 1 1 1 1 −1 −1 −1 −1 1(1) +1(−1) 1(1) +1(−1) = (−1)(1) + (−1)(−1) (−1)(1) + (−1)(−1) 1 −1 1 −1 = −1 +1 −1 +1 = 0 0 0 0 แต A≠ 0 0 0 0 2) เปนเทจ็ เชน ให A= 0 1 จะได 0 1 A2 = 0 1 0 1 0 0 1 1 0(0) +1(1) 0(1) +1(0) = 1(0) + 0(1) 1(1) + 0(0) 0 +1 0 + 0 = 0 + 0 1+ 0 = 1 0 0 1 แต A≠ 1 0 และ A ≠ −1 0 0 1 0 −1 3) เปน เท็จ เชน ให A = 1 0 จะได 0 0 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
346 คมู อื ครูรายวชิ าเพ่มิ เติมคณิตศาสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 5 เลม 1 A2 = 1 0 1 0 0 0 0 0 = 1(1) + 0(0) 1(0) + 0(0) 0(0) + 0(0) 0 (1) + 0 ( 0) 1+ 0 0 + 0 = 0 + 0 0 + 0 1 0 = 0 0 แต A ≠ 0 0 และ A ≠ 1 0 0 0 0 1 4) เปนเทจ็ เชน ให A = 1 −2 จะได 1 −1 A2 = 1 −2 1 −2 1 −1 1 −1 1(1) + (−2)(1) 1(−2) + (−2)(−1) = 1(1) + (−1)(1) 1(−2) + (−1)(−1) = 1 − 2 −2 + 2 −2 +1 1 − 1 = −1 0 0 −1 น่นั คือ A2 = −I2 16. ให Aเปนเมทรกิ ซแสดงขอมลู จากตารางแสดงยอดขายขาวแตละชนดิ ของโรงสรี วมใจชาวนา นัน่ คือ A = 20 45 8 55 10 14 23, 000 ให B = 25,000 เปน เมทริกซแสดงราคาขายขาวแตละชนดิ ในราคาปกติ 17, 000 23, 000 =2505 1405 148 1275,,000000 1, 721, 000 =ดงั นน้ั AB 1, 753, 000 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูม ือครรู ายวิชาเพิม่ เติมคณติ ศาสตร ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 347 นน่ั คือ รายรบั ของโรงสรี วมใจชาวนาที่ขายขาวทุกชนิดในราคาปกติของสาขาจงั หวัด บรุ ีรัมยแ ละจังหวัดเชยี งใหม เปน 1,721,000 บาท และ 1,753,000 บาท ตามลาํ ดับ 22, 000 23, 500 ให C = เปนเมทรกิ ซแสดงราคาขายขา วแตล ะชนิดในราคาสมาชกิ 15, 000 22, 000 1, 617, 500 =2505 1405 148 1253,,500000 1, 655, 000 =ดงั น้นั AC น่นั คือ รายรบั ของโรงสรี วมใจชาวนาที่ขายขาวทุกชนิดในราคาสมาชกิ ของสาขาจังหวัด บุรรี ัมยแ ละจังหวัดเชียงใหม เปน 1,617,500 บาท และ 1,655,000 บาท ตามลาํ ดบั 17. ให A เปนเมทรกิ ซแสดงขอมลู จากตารางแสดงยอดขายรถยนตม ือสองและรถยนตใ หมของ วริ ชั และดวงใจในเดือนตลุ าคม 2561 นั่นคอื A = 5 15 1.35 0 และให B เปน เมทริกซแ สดงขอมลู จากตารางแสดงยอดขายรถยนตมอื สองและรถยนตใหม ของวริ ัชและดวงใจในเดือนพฤศจิกายน 2561 นั่นคอื B = 7.5 16 2.09 8.5 1) A + B เปนเมทรกิ ซแสดงยอดขายรถยนตมือสองและรถยนตใหมของแตล ะคนรวมทั้ง สองเดอื น จะได A+ B = 5 15 + 7.5 16 1.35 0 2.09 8.5 = 12.5 31 3.44 8.5 ดงั น้ัน ยอดขายรถยนตมือสองและรถยนตใหมของวริ ชั รวมท้ังสองเดือนเปน 12.5 ลานบาท และ 31 ลานบาท ตามลําดับ และ ยอดขายรถยนตมอื สองและรถยนตใหมของดวงใจ รวมทั้งสองเดือนเปน 3.44 ลานบาท และ 8.5 ลานบาท ตามลาํ ดับ 2) B − A เปน เมทรกิ ซแสดงยอดขายรถยนตมอื สองและรถยนตใหมของวิรชั และดวงใจ ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ทเี่ พม่ิ ข้ึนจากเดือนตลุ าคม 2561 จะได B−A = 7.5 16 − 5 15 2.09 8.5 1.35 0 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
348 คมู อื ครรู ายวิชาเพมิ่ เติมคณติ ศาสตร ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 5 เลม 1 B−A = 2.5 1 0.74 8.5 ดังนัน้ ยอดขายรถยนตม ือสองและรถยนตใหมของวิรัชในเดือนพฤศจิกายน 2561 เพม่ิ ขึน้ จากเดือนตลุ าคม 2561 2.5 ลานบาท และ 1 ลา นบาท ตามลาํ ดบั และยอดขาย รถยนตมอื สองและรถยนตใหมของดวงใจในเดือนพฤศจิกายน 2561 เพม่ิ ข้นึ จากเดือน ตลุ าคม 2561 เปนจํานวน 0.74 ลานบาท และ 8.5 ตามลําดับ 3) 3 B เปน เมทรกิ ซแสดงคา นายหนาสําหรบั รถยนตม อื สองและรถยนตใ หมข อง 100 ทัง้ สองคน ในเดือนพฤศจกิ ายน 2561 จะได 3B = 3 7.5 16 100 100 2.09 8.5 0.225 0.48 = 0.0627 0.255 ดงั นนั้ คา นายหนาสําหรบั รถยนตมอื สองและรถยนตใหมของวิรัชเปน 0.225 ลา นบาท และ 0.48 ลานบาท ตามลําดับ และ คา นายหนาสาํ หรบั รถยนตมือสองและรถยนตใ หม ของดวงใจเปน 0.0627 ลานบาท และ 0.255 ลานบาท ตามลําดับ แบบฝกหัด 2.2 1. 1) 2 −1 = 2(3) − (−1)(6) 63 = 12 2) −2 1 = (−2)(2) − (1)(−3) −3 2 = −1 3) วธิ ีท่ี 1 2 −1 0 4 2 1 = 2(2)(1) + (−1)(1)(4) + 0(4)(2) − 4(2)(0) − 2(1)(2) −1(4)(−1) 4 21 =0 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูม อื ครูรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 349 วธิ ีที่ 2 (จากทฤษฎีบท 4 ขอ 5) 2 −1 0 4 21 = 0 4 21 4) วธิ ีท่ี 1 −2 2 3 1 −1 0 = (−2)(−1)(4) + 2(0)(0) + 3(1)(1) − 0(−1)(3) −1(0)(−2) − 4(1)(2) 0 14 =3 (เนื่องจากเมทริกซใหมเกิดจากการคูณ สมาชิกแตล ะตัวในแถวท่ี 2 ดว ย 2 แลว วธิ ีท่ี 2 นาํ ไปบวกกับสมาชิกแตละตวั ในแถวท่ี 1) −2 2 3 0 03 1 −1 0 = 1 −1 0 0 14 0 14 = ( )−1 1+3 (3) 1 −1 (จากบทนยิ าม 12 โดยการกระจายตาม แถวที่ 1) 01 = 3(1(1) − (−1)(0)) =3 5) วธิ ีที่ 1 −2 1 4 1 4 −2 = (−2)(4)(−6) +1(−2)(3) + 4(1)(6) − 3(4)(4) − 6(−2)(−2) − (−6)(1)(1) 3 6 −6 =0 (เน่ืองจากเมทรกิ ซใหมเกิดจากคูณ สมาชกิ แตล ะตวั ในหลักที่ 1 ดวย 2 แลว วิธที ่ี 2 นําไปบวกกับสมาชกิ แตละตวั ในหลกั ที่ 3) −2 1 4 −2 1 0 1 4 −2 = 1 4 0 3 6 −6 360 = 0 (จากบทนยิ าม 12 โดยการกระจายตาม หลักท่ี 1) สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
350 คมู ือครรู ายวิชาเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 6) วธิ ีที่ 1 23 1 0 5 −2 = 2(5)(−2) + 3(−2)(0) +1(0)(0) − 0(5)(1) − 0(−2)(2) − (−2)(0)(3) 0 0 −2 = −20 วธิ ีที่ 2 23 1 (จากบทนิยาม 12 โดยการกระจายตาม แถวที่ 1) 0 5 −2 = ( )−1 1+1 (2) 5 −2 0 −2 0 0 −2 = 2((5)(−2) − (−2)(0)) = −20 7) วิธที ่ี 1 −2 2 5 1 −1 −2 = (−2)(−1)2 + 2(−2)3 + 5(1)(−5) − 3(−1)(5) − (−5)(−2)(−2) − 2(1)(2) 3 −5 2 = −2 วิธีท่ี 2 (เนอ่ื งจากเมทรกิ ซใหมเ กิดจากการคูณ สมาชกิ แตละตัวในแถวท่ี 2 ดว ย 2 −2 2 5 00 1 แลว นําไปบวกกับสมาชิกแตละตัวในแถวท่ี 1) 1 −1 −2 = 1 −1 −2 3 −5 2 3 −5 2 = ( )−1 1+3 1 −1 (จากบทนิยาม 12 โดยการกระจายตาม แถวท่ี 1) 3 −5 = 1(1(−5) − (−1)(3)) = −2 8) วธิ ที ่ี 1 = 1(2)(3) + 2(3)(7) + 3(7)(6) − 7(2)(3) − 6(3)(1) − 3(7)(2) 123 = 72 723 763 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมอื ครูรายวิชาเพิ่มเตมิ คณิตศาสตร ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 1 351 วิธีท่ี 2 (เน่อื งจากเมทริกซใหมเกิดจากการคูณ สมาชิกแตละตัวในแถวท่ี 1 ดวย −1 123 12 3 แลว นาํ ไปบวกกบั สมาชิกแตล ะตัวในแถวท่ี 2) 723 = 600 763 763 = ( )−1 2+1 (6) 2 3 (จากบทนิยาม 12 โดยการกระจายตาม แถวท่ี 2) 63 = 72 9) วิธีที่ 1 070 1 3 5 = 0(3)(0) + 7(5)(−6) + 0(1)(2) − (−6)(3)(0) − 2(5)(0) − 0(1)(7) −6 2 0 = −210 วิธที ่ี 2 (จากบทนิยาม 12 โดยการกระจายตาม แถวท่ี 1) 070 1 3 5 = ( )−1 1+2 (7) 1 5 −6 0 −6 2 0 = −7(1(0) − 5(−6)) = −210 a2 ab ac ab c 10) ab b2 bc = a ab b2 bc (จากทฤษฎบี ท 4 ขอ 3) ac bc c2 ac bc c2 ab c (จากทฤษฎบี ท 4 ขอ 3) = ab a b c ac bc c2 = ab(0) =0 2. จาก det ( A) = 7 −2 = 7(−1) − (−2)(4) = 1 4 −1 จะไดวา de=t ( At ) d=et ( A) 1 และ det ( A5=) (det ( A))5= 15= 1 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
352 คมู ือครูรายวิชาเพ่มิ เติมคณติ ศาสตร ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 5 เลม 1 และจาก 12 5 det ( B) = −3 0 −2 21 3 = ( )−1 2+1 (−3) 2 5 + ( )−1 2+3 (−2) 1 2 13 2 1 = 3(2(3) − 5(1)) + 2(1(1) − 2(2)) = −3 จะไดวา det (Bt ) = det (B) = −3 และ (det B6 ) =(det ( B))6 =(−3)6 =729 แบบฝก หัด 2.3 1. 1) เนอ่ื งจากดเี ทอรมิแนนตข องเมทริกซน เ้ี ทากับ 3(2) − (−1)(−5) =1 ซ่งึ ไมเทา กบั 0 ดังนั้น เมทริกซน ี้มีเมทริกซผ กผัน คอื 1 2 1 = 2 1 1 5 3 5 3 2) เนอ่ื งจากดเี ทอรม แิ นนตของเมทรกิ ซน ้เี ทากับ 1(4) − 2(2) =0 ดังนั้น เมทรกิ ซน จี้ ึงไมมีเมทริกซผ กผนั 3) เนอื่ งจากดเี ทอรมิแนนตของเมทริกซนี้เทา กบั 0(0) − (1)(1) =−1 ซง่ึ ไมเทากับ 0 ดงั น้ัน เมทรกิ ซน ้ีมเี มทริกซผ กผัน คอื 10 −1 = 0 1 −1 −1 0 1 0 4) เน่อื งจากดเี ทอรมแิ นนตของเมทริกซนี้เทา กับ (cosθ )(cosθ ) − (−sinθ )(sin=θ ) cos2 θ + sin=2 θ 1 ซึ่งไมเ ทากับ 0 ดังนน้ั เมทรกิ ซน้ีมีเมทรกิ ซผ กผัน คอื 1 cosθ sinθ = cosθ sinθ 1 −sinθ cosθ − sin θ cosθ 2. ให AB = 0 และ B ≠ 0 สมมตวิ า A มีเมทริกซผ กผนั จะได =A−1AB A=−1 ( AB) A−1 0 เน่อื งจาก A−1A=B ( )A−1A =B I=B B และ A−10 = 0 จะได B = 0 ซ่ึงขัดแยง กบั สมมติฐานวา B ≠ 0 ดังน้นั A ไมม ีเมทริกซผ กผัน สถาบันสงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูม อื ครูรายวชิ าเพิ่มเติมคณติ ศาสตร ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 353 แบบฝกหัด 2.4 1. =1) ให A =52 177 , X x และ B = 1 y −2 เขยี นระบบสมการในรปู สมการเมทรกิ ซ AX = B ไดดงั นี้ 5 17 x = 1 2 −2 7 y หาเมทริกซผ กผันของ A จะได A−1 = 1 7 −17 5(7) −17(2) −2 5 = 7 −17 −2 5 เนื่องจาก X = A−1B ดังนน้ั x 7 −17 1 y = −2 5 −2 = 7(1) −17(−2) + 5(−2) − 2(1) 41 = −12 นั่นคอื x = 41 และ y = −12 ดังนั้น (41, −12) เปน คําตอบของระบบสมการ =2) ให A =131 −−14 , X x และ B = 2 y 3 เขียนระบบสมการในรปู สมการเมทริกซ AX = B ไดดังนี้ 11 − 4 x = 2 1 y 3 3 − หาเมทริกซผกผนั ของ A จะได A−1 = 1 −1 4 11(−1) − (− 4)(3) −3 11 = −1 4 −3 11 สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
354 คูมือครรู ายวิชาเพม่ิ เตมิ คณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 เลม 1 เนอ่ื งจาก X = A−1B ดงั นัน้ x −1 4 2 y = −3 11 3 = −1(2) + 4(3) −3(2) + 11(3) 10 = 27 นน่ั คือ x = 10 และ y = 27 ดงั นนั้ (10, 27) เปนคําตอบของระบบสมการ 2. 1) เมทริกซแตง เตมิ ของระบบสมการน้ี คอื 5 −7 12 1 4 −2 ใชการดําเนินการตามแถวเพื่อแปลงเมทริกซแตงเติมไดดังน้ี 5 −7 12 1 4 −2 R1 ↔ R2 1 4 −2 5 −7 12 1 4 −2 0 −27 22 −5R1 + R2 1 4 − 2 0 1 − 22 − 1 R2 27 27 1 0 34 − 4R2 + R1 27 0 22 1 − 27 เมอื่ แปลงเมทรกิ ซน ใ้ี หอยูในรูประบบสมการจะได x = 34 27 y = − 22 27 ดังนนั้ 34 , − 22 เปนคาํ ตอบของระบบสมการเพยี งคาํ ตอบเดียว 27 27 สถาบันสง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาเพ่ิมเติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 355 2) เมทรกิ ซแตง เติมของระบบสมการน้ี คือ 1 −3 −5 − 2 6 10 ใชการดําเนนิ การตามแถวเพื่อแปลงเมทริกซแ ตงเตมิ ไดดงั น้ี 1 −3 −5 1 −3 −5 − 2 0 6 10 0 0 2 R1 + R2 เม่ือแปลงเมทริกซนีใ้ หอยูใ นรูประบบสมการจะได ------- (1) x −3y = −5 0=0 ------- ( 2) เนือ่ งจากสมการ (2) เปนจรงิ เสมอ จงึ หาเฉพาะคา ของ x และ y ท่สี อดคลอง กับสมการ (1) กเ็ พยี งพอ จากสมการ (1) จะได =x 3y − 5 จะเห็นวา x ข้นึ อยูกบั y นนั่ คอื สามารถเลือก y ใหเปนจาํ นวนจรงิ ใดก็ได ในทน่ี ใ้ี ห y = t เมือ่ t เปน จํานวนจริงใด ๆ ดังนั้น คาํ ตอบของระบบสมการคือ (3t − 5, t) เม่อื t เปน จาํ นวนจริงใด ๆ 1 3 1 2 3) เมทรกิ ซแตงเตมิ ของระบบสมการน้ี คอื 1 −1 −3 −6 2 −3 0 7 ใชก ารดาํ เนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแตงเติมไดด ังนี้ 1 3 1 2 1 3 1 2 1 −1 −3 − 6 0 − 4 − 4 −8 −R1 + R2 2 −3 0 7 0 −9 −2 3 −2R1 + R3 1 3 1 2 1 0 4 0 1 1 2 − R2 −9 −2 3 1 0 − 2 − 4 −3R2 + R1 0 1 1 2 0 0 7 21 9R2 + R3 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
356 คูม ือครูรายวิชาเพิ่มเตมิ คณิตศาสตร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 5 เลม 1 1 0 − 2 − 4 0 1 2 0 0 1 3 1 R3 1 7 1 0 0 2 2R3 + R1 0 1 0 −1 −R3 + R2 0 0 1 3 เม่ือแปลงเมทรกิ ซน ใ้ี หอยใู นรูประบบสมการจะได x=2 y = −1 z =3 ดังนั้น (2, −1, 3) เปนคาํ ตอบของระบบสมการเพยี งคําตอบเดียว 4 5 −5 6 4) เมทรกิ ซแตง เติมของระบบสมการนี้ คอื 1 2 −1 1 1 −1 − 2 3 ใชการดาํ เนินการตามแถวเพื่อแปลงเมทรกิ ซแตง เติมไดด งั นี้ 4 5 −5 6 1 2 −1 1 R1 ↔ R2 1 2 −1 1 4 5 −5 6 1 −1 − 2 3 1 −1 − 2 3 1 2 −1 1 0 −3 −1 2 − 4R1 + R2 0 −3 −1 2 −R1 + R3 1 2 −1 1 0 −3 −1 2 0 0 0 0 −R2 + R3 1 2 −1 1 0 1 1 − 2 − 1 R2 3 3 3 0 0 0 0 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูม ือครูรายวชิ าเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 357 1 0 −5 7 −2R2 + R1 3 3 0 1 1 2 3 − 3 0 0 0 0 เมือ่ แปลงเมทรกิ ซน ใ้ี หอยใู นรูประบบสมการจะได x−5z = 7 ------- (1) 33 ------- ( 2) ------- (3) y+1z = −2 33 0=0 เนอื่ งจากสมการ (3) เปน จริงเสมอ จงึ หาเฉพาะคา ของ x, y และ z ท่ีสอดคลอง กับสมการ (1) และ (2) กเ็ พียงพอ จากสมการ (1) และ (2) จะได x = 5z + 7 และ y = −z − 2 33 จะเห็นวา x และ y ข้นึ อยูกับ z นัน่ คอื สามารถเลือก z ใหเ ปน จาํ นวนจรงิ ใดกไ็ ด ในท่นี ี้ให z = t เมอื่ t เปนจํานวนจริงใด ๆ ดังนน้ั คําตอบของระบบสมการคือ 5t + 7 , −t − 2 , t เมอ่ื t เปนจาํ นวนจริงใด ๆ 3 3 2 1 7 6 5) เมทรกิ ซแตง เติมของระบบสมการน้ี คือ 1 −2 −2 −2 3 −1 5 −16 ใชการดําเนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแ ตงเตมิ ไดด งั นี้ 2 1 7 6 1 − 2 − 2 − 2 R1 ↔ R2 1 − 2 − 2 − 2 2 1 7 6 3 −1 5 −16 3 −1 5 −16 1 − 2 − 2 − 2 0 5 11 10 −2R1 + R2 0 5 11 −10 −3R1 + R3 1 − 2 − 2 − 2 0 5 11 10 0 0 0 −20 −R2 + R3 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
358 คูม อื ครรู ายวชิ าเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ชั้นมธั ยมศึกษาปท่ี 5 เลม 1 เม่ือแปลงเมทรกิ ซนี้ใหอยใู นรูประบบสมการจะได ------- (1) x − 2y − 2z = −2 5y +11z = 10 ------- ( 2) 0 = − 20 ------- (3) จะเหน็ วา สมการ (3) เปนไปไมได แสดงวาระบบสมการต้ังตน นําไปสูระบบสมการซึ่ง ไมสอดคลองกนั ดงั นน้ั ระบบสมการน้ีไมมีคําตอบ 3 2 − 2 −6 เมทริกซแตง เติมของระบบสมการน้ี คอื 5 0 6) −3 − 3 1 4 −3 −11 ใชก ารดาํ เนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแ ตงเตมิ ไดดังน้ี 3 2 − 2 −6 1 4 −3 −11 R1 ↔ R3 5 0 −3 5 0 −3 − 3 − 3 1 4 −3 −11 3 2 − 2 − 6 1 4 −3 −11 0 −20 12 52 −5R1 + R2 0 −10 7 27 −3R1 + R3 1 4 −3 −11 0 −3 13 1 1 5 − 5 − 20 R2 0 −10 7 27 1 0 −3 − 3 − 4R2 + R1 5 5 0 −3 13 1 5 − 5 0 0 1 1 10R2 + R3 สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมอื ครรู ายวชิ าเพ่มิ เตมิ คณติ ศาสตร ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 359 1 0 0 0 3 R3 + R1 1 5 0 0 0 − 2 3 R3 + R2 0 5 1 1 เม่ือแปลงเมทริกซน ี้ใหอยใู นรูประบบสมการจะได x=0 y = −2 z =1 ดงั นั้น (0, − 2, 1) เปน คําตอบของระบบสมการเพยี งคาํ ตอบเดียว 1 0 −3 −1 7) เมทริกซแตงเติมของระบบสมการนี้ คือ 3 1 −2 3 2 2 1 3 ใชการดาํ เนนิ การตามแถวเพื่อแปลงเมทรกิ ซแตง เตมิ ไดด ังน้ี 1 0 −3 −1 1 0 −3 −1 3 1 − 2 3 0 1 7 6 −3R1 + R2 2 2 1 3 0 2 7 5 −2R1 + R3 1 0 −3 −1 0 1 7 6 0 0 − 7 − 7 −2R2 + R3 1 0 −3 −1 0 1 6 0 0 7 1 − 1 R3 1 7 1 0 0 2 3R3 + R1 0 1 0 −1 −7R3 + R2 0 0 1 1 เม่ือแปลงเมทรกิ ซน้ีใหอยูในรูประบบสมการจะได x=2 y = −1 z =1 ดังน้ัน (2, −1, 1) เปน คําตอบของระบบสมการเพียงคําตอบเดยี ว สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
360 คูม ือครูรายวชิ าเพิ่มเติมคณติ ศาสตร ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี 5 เลม 1 2 1 1 3 8) เมทริกซแตงเติมของระบบสมการนี้ คอื 1 2 1 4 1 1 2 5 ใชการดาํ เนินการตามแถวเพื่อแปลงเมทริกซแ ตง เตมิ ไดด งั น้ี 2 1 1 3 1 1 2 5 R1 ↔ R3 1 2 1 4 1 2 1 4 1 1 2 5 2 1 1 3 1 1 2 5 0 1 −1 −1 −R1 + R2 0 −1 −3 − 7 −2R1 + R3 1 0 3 6 −R2 + R1 0 1 −1 −1 0 0 − 4 −8 R2 + R3 1 0 3 6 0 −1 0 1 −1 2 1 0 1 4 − R3 1 0 0 0 −3R3 + R1 0 1 0 1 R3 + R2 0 0 1 2 เม่อื แปลงเมทรกิ ซน้ีใหอยูใ นรูประบบสมการจะได x=0 y =1 z=2 ดังนัน้ (0, 1, 2) เปนคําตอบของระบบสมการเพียงคําตอบเดียว 1 2 3 0 9) เมทริกซแตงเติมของระบบสมการนี้ คอื 4 5 6 4 7 8 9 7 ใชการดําเนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทริกซแ ตง เติมไดดังนี้ 1 2 3 0 1 2 3 0 4 5 6 4 0 −3 − 6 4 −4R1 + R2 7 8 9 7 0 − 6 −12 7 −7R1 + R3 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครูรายวชิ าเพิ่มเติมคณติ ศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 361 1 2 3 0 0 −3 − 6 4 0 0 0 −1 −2R2 + R3 เมอ่ื แปลงเมทริกซนใี้ หอยูในรูประบบสมการจะได ------- (1) x + 2y + 3z = 0 −3y − 6z = 4 ------- ( 2) 0 = −1 ------- (3) จะเหน็ วา สมการ (3) เปน ไปไมได แสดงวา ระบบสมการตัง้ ตน นําไปสูระบบสมการซึ่ง ไมส อดคลอ งกนั ดงั น้นั ระบบสมการนไ้ี มมคี ําตอบ 3 2 1 2 10) เมทริกซแตง เติมของระบบสมการน้ี คอื 1 1 −2 −4 5 4 1 6 ใชการดําเนนิ การตามแถวเพื่อแปลงเมทริกซแตง เติมไดด งั นี้ 3 2 1 2 1 1 − 2 − 4 R1 ↔ R2 1 1 − 2 − 4 3 2 1 2 5 4 1 6 5 4 1 6 1 1 − 2 − 4 0 −1 7 14 −3R1 + R2 0 −1 11 26 −5R1 + R3 1 1 − 2 − 4 0 1 −7 −14 − R2 0 −1 11 26 1 0 5 10 −R2 + R1 0 1 − 7 −14 0 0 4 12 R2 + R3 1 0 5 10 0 0 1 −7 −14 0 1 3 1 R3 4 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
362 คมู อื ครูรายวชิ าเพิม่ เตมิ คณติ ศาสตร ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 5 เลม 1 1 0 0 −5 −5R3 + R1 0 1 0 7 7R3 + R2 0 0 1 3 เมอื่ แปลงเมทรกิ ซนใี้ หอยูในรูประบบสมการจะได x = −5 y=7 z=3 ดังนัน้ (−5, 7, 3) เปนคําตอบของระบบสมการเพียงคําตอบเดียว 2 −1 − 4 −1 11) เมทริกซแตง เตมิ ของระบบสมการน้ี คือ 3 −1 −5 0 1 − 2 −5 −5 ใชก ารดําเนินการตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแ ตง เตมิ ไดดงั นี้ 2 −1 − 4 −1 1 − 2 −5 −5 R1 ↔ R3 3 −1 −5 0 3 −1 −5 0 1 − 2 −5 −5 2 −1 − 4 −1 1 − 2 −5 −5 0 5 10 15 −3R1 + R2 0 3 6 9 −2R1 + R3 1 2 −1 1 0 −3 −1 2 0 0 0 0 −R2 + R3 1 − 2 −5 −5 1 0 3 5 0 1 2 9 R2 3 6 1 0 −1 1 2R2 + R1 0 1 2 3 0 0 0 0 −3R2 + R3 เม่ือแปลงเมทรกิ ซน ใี้ หอยูในรูประบบสมการจะได ------- (1) x−z = 1 y + 2z = 3 ------- ( 2) 0=0 ------- (3) สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครูรายวชิ าเพิม่ เตมิ คณิตศาสตร ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 5 เลม 1 363 เนอ่ื งจากสมการ (3) เปน จรงิ เสมอ จงึ หาเฉพาะคา ของ x, y และ z ท่สี อดคลอง กับสมการ (1) และ (2) กเ็ พียงพอ จากสมการ (1) และ (2) จะได x= z +1 และ y =− 2z + 3 จะเหน็ วา x และ y ขึ้นอยูกบั z นนั่ คือ สามารถเลอื ก z ใหเ ปนจํานวนจริงใดกไ็ ด ในทน่ี ใี้ ห z = t เมือ่ t เปนจาํ นวนจริงใด ๆ ดังนั้น คาํ ตอบของระบบสมการคอื (t +1, − 2t + 3, t) เมือ่ t เปนจาํ นวนจรงิ ใด ๆ 1 −2 −7 −6 12) เมทริกซแตงเติมของระบบสมการน้ี คอื 3 1 −2 −2 2 1 1 − 2 ใชก ารดาํ เนินการตามแถวเพ่ือแปลงเมทริกซแตง เตมิ ไดดังนี้ 1 −2 −7 −6 1 − 2 −7 −6 3 1 − 2 − 2 0 7 19 16 −3R1 + R2 2 1 1 − 2 0 5 15 10 −2R1 + R3 1 − 2 −7 −6 0 16 0 7 19 2 1 R3 1 3 5 1 − 2 −7 −6 0 1 3 2 R2 ↔ R3 0 7 19 16 1 0 −1 − 2 2R2 + R1 0 1 3 2 0 0 − 2 2 −7R2 + R3 1 0 −1 − 2 0 1 2 0 0 3 −1 − 1 R3 1 2 1 0 0 −3 R3 + R1 0 1 0 5 −3R3 + R2 0 0 1 −1 สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
364 คมู ือครรู ายวชิ าเพิม่ เตมิ คณติ ศาสตร ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 เมื่อแปลงเมทริกซน ใี้ หอยูในรูประบบสมการจะได x = −3 y=5 z = −1 ดงั น้นั (−3, 5, −1) เปน คาํ ตอบของระบบสมการเพียงคําตอบเดยี ว 3. ให x แทน จํานวนบุคคลท่วั ไปที่มาใชบริการ y แทน จํานวนนกั เรียนทมี่ าใชบริการ z แทน จาํ นวนผูส งู อายุที่มาใชบริการ จากโจทย สามารถเขยี นเปน ระบบสมการเชงิ เสน ไดด งั น้ี x + y + z = 2, 420 14x + 9 y + 7z = 32,540 x −10 y −10z = 0 1 1 1 2, 420 เมทริกซแตง เตมิ ของระบบสมการนี้ คือ 14 9 7 32,540 1 −10 −10 0 ใชก ารดําเนินการตามแถวเพื่อแปลงเมทรกิ ซแตง เตมิ ไดด ังนี้ 1 1 1 2, 420 1 1 1 2, 420 14 0 9 7 32, 540 −5 −7 −1, 340 −14 R1 + R2 1 −10 −10 0 0 −11 −11 −2, 420 −R1 + R3 1 1 1 2, 420 0 340 0 −5 −7 −1, 220 1 1 − 1 R3 11 1 1 1 2, 420 0 1 1 220 R2 ↔ R3 0 −5 − 7 −1,340 1 0 0 2, 200 −R2 + R1 0 1 1 220 0 0 − 2 −240 5R2 + R3 1 0 0 2, 200 0 1 1 220 0 0 1 120 − 1 R3 2 สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวชิ าเพ่ิมเติมคณิตศาสตร ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 5 เลม 1 365 1 0 0 2, 200 0 1 0 100 − R3 + R2 0 0 1 120 เมือ่ แปลงเมทริกซน ใ้ี หอยูในรูประบบสมการจะได x = 2, 200 y = 100 z = 120 นัน่ คอื (2200, 100, 120) เปน คาํ ตอบของระบบสมการเพยี งคําตอบเดยี ว ดังน้ัน มบี คุ คลทวั่ ไป นกั เรยี น และผสู งู อายุมาใชบ รกิ าร 2200, 100 และ 120 คน ตามลําดับ 4. ให x แทน ราคากุงตอกโิ ลกรัม y แทน ราคาปลาหมึกตอกิโลกรมั z แทน ราคาหอยแครงตอกโิ ลกรมั จากโจทย สามารถเขยี นเปนระบบสมการเชิงเสน ไดด งั นี้ 50x + 70 y + 20z = 22,100 15x + 60 y + 45z = 15,600 70x + 20 y + 30z = 19, 400 50 70 20 22,100 เมทรกิ ซแตงเติมของระบบสมการนี้ คือ 15 60 45 15,600 70 20 30 19, 400 ใชการดําเนินการตามแถวเพ่ือแปลงเมทริกซแ ตงเตมิ ไดดงั นี้ 50 70 20 22,100 50 70 20 22,100 1 040 15 15 60 45 15,600 1 4 3 1, 400 R2 70 20 30 19, 400 20 30 19, 70 1 4 3 1,040 R1 ↔ R2 50 70 20 22,100 70 20 30 19, 400 สถาบันสงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
366 คมู ือครรู ายวชิ าเพิม่ เตมิ คณิตศาสตร ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 1 4 3 1,040 0 −130 −130 −29,900 −50R1 + R2 0 −260 −180 −53, 400 −70R1 + R3 1 4 3 1,040 1 0 230 130 0 1 1 400 − R2 −260 −180 −53, 1 0 −1 120 −4R2 + R1 0 1 1 230 0 0 80 6, 400 260R2 + R3 1 0 −1 120 0 1 230 0 0 1 80 1 R3 1 80 1 0 0 200 R3 + R1 0 1 0 150 −R3 + R2 0 0 1 80 เม่อื แปลงเมทรกิ ซนีใ้ หอยใู นรูประบบสมการจะได x = 200 y = 150 z = 80 น่ันคือ (200, 150, 80) เปน คําตอบของระบบสมการเพยี งคําตอบเดยี ว ดังนน้ั มกี ุง ปลาหมึก และหอยแครงราคากิโลกรัมละ 200, 150 และ 80 บาท ตามลาํ ดับ 5. 1) ให x แทนคาซักกางเกงยีนสต อตวั y แทนคาซักกางเกงขาส้ันตอตวั z แทนคา ซักเส้ือเชต้ิ ตอตวั จากโจทย สามารถเขียนเปนระบบสมการเชิงเสน ไดด ังน้ี x + 5y + 3z = 115 2x + 5y + z = 105 3x + 4z = 120 1 5 3 115 เมทรกิ ซแตง เติมของระบบสมการนี้ คือ 2 5 1 105 3 0 4 120 สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวชิ าเพ่ิมเตมิ คณติ ศาสตร ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 367 ใชการดําเนินการตามแถวเพ่ือแปลงเมทริกซแตงเติมไดด งั น้ี 1 5 3 115 1 5 3 115 2 5 1 105 0 −5 −5 −125 −2R1 + R2 3 0 4 120 0 −15 −5 −225 −3R1 + R3 1 5 3 115 1 0 25 5 0 1 1 −225 − R2 −15 −5 1 0 − 2 −10 −5R2 + R1 0 1 1 25 0 0 10 15015R2 + R3 1 0 − 2 −10 0 1 25 0 0 1 15 1 R3 1 10 1 0 0 20 2R3 + R1 0 1 0 10 −R3 + R2 0 0 1 15 เม่ือแปลงเมทริกซน ี้ใหอยูใ นรูประบบสมการจะได x = 20 y = 10 z = 15 น่ันคือ (20, 10, 15) เปนคาํ ตอบของระบบสมการเพยี งคําตอบเดียว ดังนัน้ รา นนุมหอมนานคดิ คาซกั กางเกงยนี ส กางเกงขาส้ัน และเสื้อเช้ิตตัวละ 20, 10 และ 15 บาท ตามลาํ ดบั 2) ให A เปน เมทริกซแสดงคา ซกั ผา แตละชนิด จะได A = [20 10 15] 6 ให B = 2 เปนเมทรกิ ซแสดงจาํ นวนกางเกงยีนส กางเกงขาสั้น และ 7 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
368 คูมือครรู ายวิชาเพมิ่ เติมคณิตศาสตร ช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 6 เสื้อเชิต้ ทป่ี ระสทิ ธ=์ิสงซัก จะได AB [=20 10 15]2 [245] 7 ดังน้นั ถาประสิทธิ์สงซักกางเกงยนี ส 6 ตัว กางเกงขาสั้น 2 ตัว และเส้ือเชิ้ต 7 ตวั เขาจะตองจายเงนิ ทั้งหมด 245 บาท 6. ให y = ax2 + bx + c เปนสมการพาราโบลาที่ตองการหา เมื่อ a, b และ c เปน จาํ นวนจริง เน่ืองจากพาราโบลาผานจุด (−1, 9) , (1, −1) และ (2, 3) จะไดวา 9 = a(−1)2 + b(−1) + c −1 = a(1)2 + b(1) + c 3 = a(2)2 + b(2) + c สามารถเขียนเปนระบบสมการเชงิ เสน ไดด งั นี้ a−b+c = 9 a + b + c = −1 4a + 2b + c = 3 1 −1 1 9 เมทริกซแตง เตมิ ของระบบสมการน้ี คอื 1 1 1 −1 4 2 1 3 ใชการดาํ เนนิ การตามแถวเพื่อแปลงเมทรกิ ซแ ตง เตมิ ไดดังนี้ 1 −1 1 9 1 −1 1 9 1 1 1 −1 0 2 0 −10 −R1 + R2 4 2 1 3 0 6 −3 −33 − 4R1 + R3 1 −1 1 9 1 0 − 5 2 0 1 0 −33 R2 6 −3 1 0 1 4 R2 + R1 0 1 0 −5 0 0 −3 −3 −6R2 + R3 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู ือครรู ายวิชาเพม่ิ เตมิ คณิตศาสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 5 เลม 1 369 1 0 1 4 0 5 0 1 0 − 1 0 1 − 1 R3 3 1 0 0 3 −R3 + R1 0 1 0 −5 0 0 1 1 เมือ่ แปลงเมทริกซนี้ใหอยูในรูประบบสมการจะได a =3 b = −5 c =1 นน่ั คอื (3, −5, 1) เปน คําตอบของระบบสมการเพียงคําตอบเดียว ดังนนั้ สมการพาราโบลาทผ่ี า นจุด (−1, 9) , (1, −1) และ (2, 3) คอื y = 3x2 − 5x +1 7. ให x แทน จาํ นวนการส่ังซอื้ สินคาแบบ 1 ชนิ้ y แทน จาํ นวนการสั่งซอ้ื สินคา แบบ 2 ชิ้น z แทน จาํ นวนการสั่งซอ้ื สนิ คา แบบ 3 ช้ินข้นึ ไป จากโจทย สามารถเขยี นเปน ระบบสมการเชิงเสน ไดด งั น้ี x + y + z = 300 15x + 60 y + 45z = 5,500 −x + z = 100 1 1 1 300 เมทริกซแตง เติมของระบบสมการนี้ คอื 50 30 0 5,500 −1 0 1 100 ใชการดําเนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแ ตงเตมิ ไดดังน้ี 1 1 1 300 1 1 1 300 50 30 0 5,500 0 −20 −50 −9,500 −50R1 + R2 −1 0 1 100 0 1 2 400 R1 + R3 1 1 1 300 0 1 2 400 R2 ↔ R3 0 −20 −50 −9,500 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
370 คมู อื ครูรายวิชาเพม่ิ เติมคณติ ศาสตร ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 5 เลม 1 1 0 −1 −100 −R2 + R1 0 1 2 400 0 0 −10 −1,500 20R2 + R3 1 0 −1 −100 0 1 400 0 0 2 150 − 1 R3 1 10 1 0 0 50 R3 + R1 0 1 0 100 −2R3 + R2 0 0 1 150 เมือ่ แปลงเมทริกซน้ีใหอยใู นรูประบบสมการจะได x = 50 y = 100 z = 150 นั่นคอื (50, 100, 150) เปนคาํ ตอบของระบบสมการเพียงคาํ ตอบเดยี ว ดังนั้น มกี ารสัง่ ซื้อสนิ คา แบบ 1 ชนิ้ 2 ชน้ิ และ 3 ช้ินขึน้ ไปอยางละ 50, 100 และ 150 ครง้ั ตามลําดับ 8. ให x แทน ปริมาณเห็ดฟาง (100 กรมั ) y แทน ปรมิ าณเห็ดหอม (100 กรมั ) z แทน ปริมาณเห็ดโคน (100 กรัม) จากโจทย สามารถเขียนเปนระบบสมการเชงิ เสน ไดด งั นี้ 3x + 2 y + 6z = 85 0.1x + 0.1y + 0.3z = 4 5x + 4 y + 5z = 95 3 2 6 85 เมทรกิ ซแตง เติมของระบบสมการนี้ คอื 0.1 0.1 0.3 4 5 4 5 95 ใชการดาํ เนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทริกซแตง เติมไดด ังน้ี 3 2 6 85 3 2 6 85 0.1 0.1 0.3 4 1 1 3 4010R2 5 4 5 95 5 4 5 95 สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู อื ครูรายวิชาเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 371 1 1 3 40 R1 ↔ R2 3 2 6 85 5 4 5 95 1 1 3 40 0 −1 −3 − 35 −3R1 + R2 0 −1 −10 −105 −5R1 + R3 1 1 3 40 0 1 3 35 −R2 0 −1 −10 −105 1 0 0 5 −R2 + R1 0 1 3 35 0 0 − 7 −70 R2 + R3 1 0 0 5 0 35 0 1 3 10 1 0 1 7 − R3 1 0 0 5 0 1 0 5 −3R3 + R2 0 0 1 10 เมอื่ แปลงเมทริกซนใี้ หอยูใ นรูประบบสมการจะได x=5 y=5 z = 10 นน่ั คือ (5, 5, 10) เปนคําตอบของระบบสมการเพยี งคาํ ตอบเดียว ดงั น้ัน ถาตองการผดั เห็ดรวมมติ รท่ีมโี ปรตีน 85 กรัม ไขมัน 4 กรมั และคารโบไฮเดรต 95 กรัม จะตองใชเหด็ ฟาง เหด็ หอม และเห็ดโคน อยางละ 500, 500 และ 1,000 กรมั ตามลําดับ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
372 คมู อื ครรู ายวิชาเพม่ิ เตมิ คณติ ศาสตร ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 แบบฝก หัดทา ยบท 1. จาก y −z − 2 x y = −4 2 3 −1 2 1 2 −5 z จะได 3y −3z − 2x 2y = −4 2 −3 6 2 4 −5 z 3y − 2x −3z − 2 y −4 2 6 − 4 = −5 z −3 − 2 3y − 2x −3z − 2 y = −4 2 2 −5 −5 z จะไดว า 3y − 2x =−4, − 3z − 2y =2 และ z = 2 แทน z ดวย 2 ใน −3z − 2y =2 จะได y = −4 แทน y ดวย −4 ใน 3y − 2x =−4 จะได x = −4 ดงั นนั้ x, y และ z คือ −4, − 4 และ 2 ตามลาํ ดบั 2. จาก x[1 −2] − 2y[2 −1] = [−2 −2] จะได [x −2x] − [4y −2y] = [−2 −2] [x − 4y −2x + 2y] = [−2 −2] จะไดว า x − 4 y = −2 --------- (1) --------- (2) และ −2x + 2y = −2 --------- (3) จาก (1) จะได 2x − 8y = −4 จาก (2) และ (3) จะได y =1 แทน y ดวย 1 ใน (1) จะได x = 2 ดังนั้น x = 2 และ y =1 3. 1) 62B + 38B − 2A = 100B − 2A = −2 2 − 1 2 100 −1 2 −1 0 3 = −200 200 − 2 4 −100 −2 0 300 = −202 196 302 −100 สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู อื ครรู ายวิชาเพม่ิ เติมคณิตศาสตร ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 373 2) CD = 1 3 −2 0 −2 2 0 −4 2 1 3) 3 −1 จะได 1(0) + 3(2) + (−2)(3) 1(−2) + 3(1) + (−2)(−1) = 2(0) + 0(2) + (−4)(3) 2(−2) + 0(1) + (−4)(−1) = 0 3 −12 0 0 −2 1 3 −2 2 1 2 0 −4 DC = 3 −1 0(1) + (−2)(2) 0(3) + (−2)(0) 0(−2) + (−2)(−4) 2(−2) +1(−4) = 2(1) +1(2) 2(3) +1(0) 3(1) + ( −1) ( 2) 3(3) + (−1)(0) 3(−2) + (−1)(−4) −4 0 8 −8 = 4 6 1 9 −2 AB = 1 2 −2 2 −1 0 −1 3 1(−2) + 2(3) 1(2) + 2(−1) = (−1)(−2) + 0(3) (−1)(2) + 0(−1) = 4 0 2 −2 ( AB)t = 4 2 0 −2 At Bt = 1 −1 −2 3 2 0 −1 2 = 1(−2) + (−1)(2) 1(3) + (−1)(−1) 2(3) + 0(−1) 2(−2) + 0(2) = −4 4 −4 6 สถาบนั สงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
374 คมู อื ครรู ายวิชาเพ่มิ เติมคณติ ศาสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 1 Bt At = −2 3 1 −1 2 −1 2 0 = (−2)(1) + 3(2) (−2)(−1) + 3(0) 2(−1) + (−1)(0) 2 (1) + ( −1) ( 2 ) 4 2 = 0 −2 1 −1 0 1 0 0 4) ( E + I3 ) = −2 2 −3 + 0 1 0 0 5 3 0 0 1 2 −1 0 = −2 3 −3 0 5 4 (E − I3 ) = 1 −1 0 1 0 0 −2 2 −3 − 0 1 0 0 5 3 0 0 1 0 −1 0 = −2 1 −3 0 5 2 จะได (E + I3 )(E − I3 ) = 2 −1 0 0 −1 0 −2 3 −3 −2 1 −3 0 5 4 0 5 2 2(0) + (−1)(−2) + 0(0) 2(−1) + (−1)(1) + 0(5) 2(0) + (−1)(−3) + 0(2) = (−2)(0) + 3(−2) + (−3)(0) (−2)(−1) + 3(1) + (−3)(5) (−2)(0) + 3(−3) + (−3)(2) 0(0) + 5(−3) + 4(2) 0(0) + 5(−2) + 4(0) 0(−1) + 5(1) + 4(5) 2 −3 3 −15 = −6 −10 −10 25 −7 5) จากขอ 2) และขอ 3) จะได AB − 2CD = 4 0 − 2 0 3 2 −2 −12 0 = 4 0 − 0 6 2 −2 −24 0 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูม อื ครรู ายวิชาเพม่ิ เตมิ คณิตศาสตร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 5 เลม 1 375 AB − 2CD = 4 −6 26 −2 1 −1 0 1 −1 0 6) E2 = −2 2 −3 −2 2 −3 0 5 3 0 5 3 1(1) + (−1)(−2) + 0(0) 1(−1) + (−1)(2) + 0(5) 1(0) + (−1)(−3) + 0(3) = (−2)(1) + 2(−2) + (−3)(0) (−2)(−1) + 2(2) + (−3)(5) (−2)(0) + 2(−3) + (−3)(3) 0(0) + 5(−3) + 3(3) 0(1) + 5(−2) + 3(0) 0(−1) + 5(2) + 3(5) 3 −3 3 −15 = −6 −9 −10 25 −6 จากขอ 2) จะได −4 0 8 3 −3 3 −1 −2 0 −8 −15 0 DC − E2 + 4F = 4 6 − −6 −9 + 4 3 1 1 9 −2 −10 25 −6 4 2 −1 −4 0 8 3 −3 3 −4 −8 0 −8 −9 −15 + 12 0 = 4 6 − −6 4 1 9 −2 −10 25 −6 16 8 −4 −11 −5 5 19 7 = 22 27 −8 0 1 2 1 3 −2 7) AC = −1 0 2 0 −4 1(1) + 2(2) 1(3) + 2(0) 1(−2) + 2(−4) = (−1)(1) + 0(2) (−1)(3) + 0(0) (−1)(−2) + 0(−4) 5 3 −10 = −1 −3 2 0 2 3 1 −1 0 −2 1 −1 −2 2 −3 Dt E = 0 5 3 0(1) + 2(−2) + 3(0) 0(−1) + 2(2) + 3(5) 0(0) + 2(−3) + 3(3) = (−2)(1) +1(−2) + (−1)(0) (−2)(−1) +1(2) + (−1)(5) (−2)(0) +1(−3) + (−1)(3) สถาบันสง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
376 คูมือครูรายวชิ าเพิ่มเตมิ คณติ ศาสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 Dt E = −4 19 3 −4 −1 −6 จะได 2AC + Dt E = 5 3 −10 + −4 19 3 = 2 −1 −3 2 −4 −1 −6 = 8) At B = 10 6 −20 + −4 19 3 = −2 −6 4 −4 −1 −6 = 6 25 −17 DtCt = −6 −7 −2 = 1 −1 −2 2 = 2 0 3 −1 จะได ( )At B t − DtCt = 1(−2) + (−1)(3) 1(2) + (−1)(−1) 2(2) + 0(−1) = 2(−2) + 0(3) −5 3 −4 4 0 2 3 1 2 −2 1 −1 0 3 −4 −2 0(1) + 2(3) + 3(−2) 0(2) + 2(0) + 3(−4) (−2)(1) +1(3) + (−1)(−2) (−2)(2) +1(0) + (−1)(−4) 0 −12 3 0 −5 −4 − 0 −12 4 3 0 3 −5 8 4 0 9) BDt = −2 2 0 2 3 −1 −2 1 −1 3 = (−2)(0) + 2(−2) (−2)(2) + 2(1) (−2)(3) + 2(−1) 3(3) + (−1)(−1) 3(0) + ( −1) ( −2 ) 3(2) + (−1)(1) = −4 −2 −8 2 5 10 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวชิ าเพมิ่ เตมิ คณิตศาสตร ชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 377 −4 −1 −2 0 F = 2 −2 −8 1 0 ( )BDt 5 10 3 2 −1 4 = (−4)(−1) + (−2)(3) + (−8)(4) (−4)(−2) + (−2)(1) + (−8)(2) (−4)(0) + (−2)(0) + (−8)(−1) 2(−2) + 5(1) +10(2) 2(0) + 5(0) +10(−1) 2(−1) + 5(3) +10(4) = −34 −10 8 21 −10 53 ( )จะได −34 −10 8 1 3 −2 BDt F + C = 53 21 −10 + 2 0 −4 = −33 −7 6 21 −14 55 1 3 −2 1 −1 0 = 2 0 −4 −2 2 −3 10) CE 0 5 3 1(1) + 3(−2) + (−2)(0) 1(−1) + 3(2) + (−2)(5) 1(0) + 3(−3) + (−2)(3) = 2(1) + 0(−2) + (−4)(0) 2(−1) + 0(2) + (−4)(5) 2(0) + 0(−3) + (−4)(3) = −5 −5 −15 2 −22 −12 −5 −5 −15 0 −2 2 −22 −12 2 1 (CE) D = 3 −1 (−5)(0) + (−5)(2) + (−15)(3) (−5)(−2) + (−5)(1) + (−15)(−1) = 2(−2) + (−22)(1) + (−12)(−1) 2(0) + (−22)(2) + (−12)(3) = −55 20 −80 −14 A2 = 1 2 1 2 −1 0 −1 0 1(1) + 2(−1) 1(2) + 2(0) = (−1)(1) + 0(−1) (−1)(2) + 0(0) −1 2 = −1 −2 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
378 คมู ือครูรายวชิ าเพิม่ เตมิ คณิตศาสตร ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 1 จากขอ 2) จะได (CE ) D − CD + 3A2 = −55 20 − 0 3 + 3 −1 2 −80 −14 −12 0 −1 −2 = −55 20 − 0 3 + −3 6 −80 −14 −12 0 −3 −6 = −58 23 −71 −20 4. จาก A2 = x −1 x −1 = x2 −1 −x − y 1 y 1 y x + y −1 + y2 และ 3I2 = 1 0 3 0 3 0 1 = 0 3 จะได x2 −1 −x − y 3 0 = 0 3 x + y −1 + y2 น่นั คือ x2 −1 = 3, − x − y = 0, x + y = 0 และ y2 −1 =3 จาก x2 −1 =3 จะได x = 2 หรือ x = −2 จาก y2 −1 =3 จะได y = 2 หรอื y = −2 และจาก x + y =0 และ −x − y จะได x = −y ดังนั้น ถา x = 2 จะได y = −2 และ ถา x = −2 จะได y = 2 5. 1) At B = 2 −2 1 1 −1 0 −2 1 = 2(1) + (−2)(0) 2(1) + (−2)(−2) 1(1) + (−1)(−2) 1(1) + ( −1) ( 0) = 2 6 1 3 พจิ ารณา A2 = 2 1 2 1 −2 −1 −2 −1 2(2) +1(−2) 2(1) +1(−1) = (−2)(2) + (−1)(−2) (−2)(1) + (−1)(−1) = 2 1 −2 −1 =A สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
คมู อื ครูรายวิชาเพิม่ เติมคณิตศาสตร ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 5 เลม 1 379 พจิ ารณา A=3 A2=A A=A A=2 A และ A=4 A3=A A=A A=2 A จะเห็นวา An = A สาํ หรับทุกจาํ นวนนับ n ดงั น้ัน A40,000 = A= 2 1 จาก −2 −1 2 X − At B = A40,000 X = 1 A40,000 + At B ( )จะได 2 = 1 2 1 + 2 6 −2 −1 3 2 1 = 1 4 7 2 −1 2 2 7 = 2 − 1 1 2 2) BA = 1 1 2 1 0 −2 −2 −1 = 1(2) +1(−2) 1(1) +1(−1) 0(1) + (−2)(−1) 0 ( 2) + ( −2)( −2) = 0 0 4 2 B −1 1 −2 −1 1 = 1(−2) −1(0) 0 = 1 −2 −1 −2 0 1 1 1 = 2 0 − 1 2 จาก ( )BA = 2 X − B−1 จะได X = 1 BA + B−1 2 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
380 คูมอื ครรู ายวชิ าเพม่ิ เติมคณติ ศาสตร ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 5 เลม 1 1 1 = 1 0 0 + 0 2 2 4 2 − 1 2 1 1 0 0 + 0 2 = 2 1 − 1 2 1 1 = 2 2 1 2 6. 1) จาก 1 −3 a = −1 0 2 b 2 a − 3b = −1 2b 2 จะได a − 3b =−1 และ 2b = 2 น่นั คือ b =1 และ a = 2 2) จาก 5 5 a = 5 −6 −4 b 4 5a + 5b = 5 −6a − 4b 4 จะได 5a + 5b = 5 -------- (1) -------- (2) −6a − 4b = 4 -------- (3) จาก (1) จะได 4a + 4b = 4 -------- (1) จาก (2) และ (3) จะได a = −4 และ b = 5 -------- (2) 3) จาก 7 4 a b = −1 1 5 3 c d 0 −3 7a + 4c 7b + 4d −1 1 = −3 5a + 3c 5b + 3d 0 จะได 7a + 4c = −1 5a + 3c = 0 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมือครรู ายวชิ าเพ่ิมเตมิ คณิตศาสตร ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 1 381 จาก (1) จะได 21a +12c = −3 -------- (3) จาก (2) จะได 20a +12c = 0 -------- (4) จาก (3) และ (4) จะได a = −3 และ c = 5 -------- (5) และ 7b + 4d = 1 -------- (6) -------- (7) 5b + 3d = −3 -------- (8) จาก (5) จะได 21b +12d = 3 -------- (1) จาก (6) จะได 20b +12d = −12 -------- (2) จาก (7) และ (8) จะได b =15 และ d = −26 ดังนนั้ a =−3, b =15, c =5 และ d = −26 -------- (3) -------- (4) 4) จาก −2 −3 a b = −1 5 2 4 c d 1 4 −2a − 3c −2b − 3d −1 5 = 4 2a + 4c 2b + 4d 1 จะได −2a − 3c = −1 2a + 4c = 1 จาก (1) และ (2) จะได c = 0 และ a = 1 2 และ −2b − 3d = 5 2b + 4d = 4 จาก (3) และ (4) จะได d = 9 และ b = −16 ดงั น้นั a =1 , b =−16, c =0 และ d = 9 2 7. 1) 111 111 (เนอ่ื งจากเมทริกซใหมเกิดจากการคูณ 234 = 234 สมาชิกแตล ะตัวในแถวท่ี 1 ดว ย −3 แลว 13 3 นาํ ไปบวกกบั สมาชิกแตล ะตัวในแถวท่ี 3) −2 0 0 = ( )−1 3+1 (−2) 1 1 (จากบทนยิ าม 12 โดยการกระจาย ตามแถวที่ 3) 34 = −2(1(4) −1(3)) = −2 สถาบนั สงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
382 คมู อื ครรู ายวชิ าเพ่มิ เติมคณติ ศาสตร ช้นั มธั ยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 12 3 12 3 (เนือ่ งจากเมทริกซใหมเกิดจากการคูณ สมาชกิ แตล ะตวั ในแถวที่ 1 ดว ย −2 2) 4 5 6 = 2 1 0 แลวนําไปบวกกับสมาชิกแตละตวั ในแถวท่ี 2 2 10 2 10 = 0 (จากทฤษฎบี ท 4 ขอ 5) 11 0 7 = (−1)2+2 (−8) 11 7 (จากบทนิยาม 12 โดยการกระจาย 3) −20 −8 −12 ตามหลกั ท่ี 2) 10 9 10 0 9 = (−8)(11(9) − 7(10)) = −232 −2 1 −4 = ( )−1 3+1 (5) 1 −4 (จากบทนิยาม 12 โดยการกระจาย 4) −5 −1 3 ตามแถวที่ 3) −1 3 50 0 = 5(1(3) − (−4)(−1)) 3 50 = −5 (เน่ืองจากเมทรกิ ซใหมเกิดจากการคูณ 5) −1 2 −1 0 11 −3 สมาชิกแตล ะตวั ในแถวท่ี 2 ดวย 3 แลว นาํ ไปบวกกบั สมาชกิ แตล ะตัวในแถวท่ี 1) 0 −4 3 = −1 2 −1 0 −4 3 = ( )−1 2+1 (−1) 11 −3 (จากบทนยิ าม 10 โดยการกระจาย ตามหลักท่ี 1) −4 3 = 1(11(3) − (−3)(−4)) 3 −2 5 = 21 (เนอื่ งจากเมทรกิ ซใหมเ กิดจากการคูณ 6) −2 3 −1 3 −2 5 2 −1 6 = −2 3 −1 สมาชกิ แตล ะตัวในแถวท่ี 2 ดวย 1 แลว 025 นําไปบวกกับสมาชกิ แตล ะตวั ในแถวท่ี 3 = (−1)3+2 (2) 3 5 + ( )−1 3+3 (5) 3 −2 −2 −1 −2 3 (จากบทนิยาม 10 โดยการกระจาย ตามแถวท่ี 3) = −2(3(−1) − 5(−2)) + 5(3(3) − (−2)(−2)) = 11 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คมู ือครูรายวิชาเพิ่มเตมิ คณติ ศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 5 เลม 1 383 1 −1 2 (เน่ืองจากเมทรกิ ซใหมเกิดจากการคูณ สมาชิกแตละตวั ในแถวที่ 1 ดวย −4 แลว 8. จาก det ( A) = 4 0 4 นําไปบวกกับสมาชิกแตล ะตัวในแถวท่ี 2) 0 −5 3 1 −1 2 = 0 4 −4 0 −5 3 = ( )−1 1+1 (1) 4 −4 (จากบทนิยาม 10 โดยการกระจาย ตามหลักท่ี 1) −5 3 (จากบทนิยาม 10 โดยการกระจาย ตามแถวท่ี 3) = 1((4)(3) − (−4)(−5)) (เนื่องจากเมทริกซใหมเ กิดจากการคูณ สมาชิกแตละตวั ในแถวท่ี 2 ดว ย 2 แลว = −8 นาํ ไปบวกกับสมาชิกแตละตัวในแถวท่ี 1) 2 3 −2 det ( B) = 1 4 −1 10 0 = ( )−1 3+1 (1) 3 −2 4 −1 = 1(3(−1) − (−2)(4)) =5 −3 −1 2 det (C ) = 2 4 −1 130 17 0 = 2 4 −1 13 0 = ( )−1 2+3 (−1) 1 7 (จากบทนิยาม 10 โดยการกระจาย ตามหลกั ท่ี 3) 13 = 1(1(3) − 7(1)) = −4 ( ) ( )1) det At + det ( B) − det Ct = det ( A) + det ( B) − det (C ) = −8 + 5 − (−4) =1 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
384 คมู อื ครูรายวชิ าเพมิ่ เติมคณิตศาสตร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 1 2) det ( ABC ) = det ( A)det ( B)det (C ) = (−8)(5)(−4) = 160 ( ) ( )3) det A3B2C2 − det AB3C5 = det ( A3 )det (B2 )det (C2 ) − det ( A)det (B3 )det (C5 ) = (det ( A))3 (det (B))2 (det (C ))2 − det ( A)(det (B))3 (det (C ))5 = (−8)3 (5)2 (−4)2 − (−8)(5)3 (−4)5 ( )= (−8)(5)2 (−4)2 (−8)2 − 5(−4)3 = −1, 228,800 − 1 1 −1 1 − 1 ( −1) + 1 1 − 1 1 + 1 1 2 2 2 2 2 4 9. จาก 2 1 2 = และ 2 ดังนนั้ 1 1 1( −1) + 2 1 1 1 + 2 1 จาก 4 2 2 4 = 1 0 0 1 −1 1 − 1 1 ( −1) − 1 + 1 (1) ( −1) (1) + 1 ( 2 ) 2 2 2 2 2 1 1 2 = 1 4 2 1 − 1 + 1 (1) 1 (1) + 1 ( 2) 2 2 4 2 4 = 1 0 0 1 − 1 1 −1 1 2 2 และ 1 2 เปน เมทรกิ ซผ กผนั ซึ่งกันและกนั 2 1 1 4 − 1 1 ( −2 ) − 1 + 2 1 ( −2 ) 1 + 2 1 4 4 4 2 2 −2 2 1 2 = 1 1 1 1 − 1 + 1 1 1 1 + 1 1 4 2 4 4 2 2 1 0 = 0 1 สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาเพิม่ เตมิ คณิตศาสตร ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 1 385 − 1 1 − 1 ( −2) + 1 (1) − 1 ( 2) + 1 (1) 4 4 2 4 2 และ 2 −2 2 = 1 1 1 1 (1) 1 (−2) + 1 (1) 1 ( 2) + 1 4 2 4 2 42 = 1 0 0 1 − 1 1 4 ดังน้นั −2 2 และ 2 เปนเมทริกซผ กผันซงึ่ กันและกนั 1 1 1 1 4 2 10. 1) เนื่องจากดีเทอรมิแนนตของเมทรกิ ซนีเ้ ทากบั 1(−2) − 4(2) =−10 ซึง่ ไมเทา กับ 0 1 2 5 ดังน้นั เมทรกิ ซน้ีมีเมทริกซผกผนั คอื 1 −2 −4 = 1 5 −10 −2 1 5 −1 10 2) เนือ่ งจากดเี ทอรมิแนนตของเมทรกิ ซน ี้เทากบั 4(3) − 5(−2) =22 ซ่ึงไมเทา กับ 0 3 − 5 22 ดงั นน้ั เมทริกซน ้ีมเี มทรกิ ซผ กผัน คือ 1 3 −5 = 22 22 2 4 1 2 11 11 3) เนอื่ งจากดเี ทอรม ิแนนตของเมทรกิ ซนเี้ ทากับ (−6)(2) − (−3)(4) =0 ดงั นน้ั เมทรกิ ซนี้ไมมีเมทริกซผกผนั 4) เนอื่ งจากดเี ทอรม ิแนนตของเมทรกิ ซน เ้ี ทา กับ tan2θ − sec2θ =−1 ซงึ่ ไมเทา กบั 0 ดังน้นั เมทริกซนี้มเี มทริกซผ กผนั คอื 1 tanθ − secθ = − tanθ secθ −1 −secθ tanθ secθ − tanθ 11. 1) A+ B = 2 1 + 1 1 −2 −1 0 −2 = 3 2 −2 −3 เนอื่ งจากดเี ทอรมแิ นนตของเมทรกิ ซน เี้ ทากบั 3(−3) − 2(−2) =−5 ซงึ่ ไมเ ทา กับ 0 สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
386 คูมือครูรายวชิ าเพิ่มเตมิ คณิตศาสตร ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 เลม 1 3 2 ดงั นั้น A+ B มีเมทริกซผกผัน คือ 1 −3 −2 = 5 5 −5 2 3 − 2 5 − 3 5 2) AB = 2 1 1 1 −2 −1 0 −2 2(1) +1(0) 2(1) +1(−2) = (−2)(1) + (−1)(0) (−2)(1) + (−1)(−2) = 2 0 −2 0 เนอ่ื งจากดเี ทอรม แิ นนตของเมทริกซน เ้ี ทากับ 2(0) − 0(−2) =0 ดงั น้นั AB ไมมีเมทริกซผกผัน 12. 1=) ให A =52 13 , X x และ B = 20 y 17 เขียนระบบสมการในรูปสมการเมทริกซ AX = B ไดดงั นี้ 2 1 x = 20 5 3 y 17 หาเมทริกซผกผันของ A จะได =A−1 2=(3)1−1(5) −53 −21 3 −1 − 5 2 เนอ่ื งจาก X = A−1B ดังนัน้ x = 3 −1 20 − 5 2 17 y = 3(20) −1(17) −5(20) + 2(17) = 43 −66 นั่นคอื x = 43 และ y = − 66 ดงั นนั้ (43, − 66) เปน คําตอบของระบบสมการ สถาบนั สงเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครรู ายวิชาเพิ่มเติมคณติ ศาสตร ช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 1 387 =2) ให A =74 −−53 , X x และ B = 13 y 13 เขยี นระบบสมการในรปู สมการเมทริกซ AX = B ไดด งั นี้ 4 −3 x = 13 7 −5 y 13 หาเมทรกิ ซผกผันของ A จะได =A−1 4=(−5)1+ 3(7) −−75 34 −5 3 − 7 4 เนอ่ื งจาก X = A−1B ดงั น้ัน x = −5 3 13 y − 7 4 13 = −5(13) + 3(13) −7(13) + 4(13) = −26 −39 นนั่ คอื x = − 26 และ y = − 39 ดังน้ัน (−26, − 39) เปนคาํ ตอบของระบบสมการ 13. 1) เมทรกิ ซแตง เตมิ ของระบบสมการน้ี คอื 1 2 5 3 4 11 ใชก ารดาํ เนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแตง เตมิ ไดด งั นี้ 1 2 5 1 2 5 3 4 11 0 −2 − 4 −3R1 + R2 1 2 5 1 0 1 2 2 − R2 1 0 1 −2R2 + R1 0 1 2 เมื่อแปลงเมทริกซนใ้ี หอยใู นรูประบบสมการจะได x =1 y =2 ดงั นน้ั (1, 2) เปน คาํ ตอบของระบบสมการเพียงคาํ ตอบเดียว สถาบนั สง เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
388 คมู ือครูรายวชิ าเพม่ิ เตมิ คณิตศาสตร ช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 5 เลม 1 2) เมทรกิ ซแตง เติมของระบบสมการนี้ คอื 1 −3 − 2 − 3 9 6 ใชการดาํ เนนิ การตามแถวเพ่ือแปลงเมทรกิ ซแ ตง เติมไดด ังน้ี 1 −3 − 2 1 −3 − 2 − 3 9 6 0 0 0 3R1 + R2 เม่ือแปลงเมทริกซน ใ้ี หอยใู นรูประบบสมการจะได ------- (1) x −3y = −2 0 =0 ------- ( 2) เนอ่ื งจากสมการ (2) เปน จริงเสมอ จึงหาเฉพาะคาของ x และ y ทสี่ อดคลอง กบั สมการ (1) กเ็ พยี งพอ จากสมการ (1) จะได =x 3y − 2 จะเหน็ วา x ข้นึ อยูก ับ y น่นั คอื สามารถเลอื ก y ใหเปนจํานวนจริงใดกไ็ ด ในทีน่ ใี้ ห y = t เมอื่ t เปน จํานวนจรงิ ใด ๆ จะได x= 3t − 2 ดงั นัน้ คาํ ตอบของระบบสมการ คือ (3t − 2, t) เมือ่ t เปน จาํ นวนจรงิ ใด ๆ 1 2 4 7 3) เมทริกซแตงเติมของระบบสมการน้ี คือ 1 2 3 6 1 1 2 4 ใชการดาํ เนินการตามแถวเพ่ือแปลงเมทริกซแ ตง เตมิ ไดดังน้ี 1 2 4 7 1 2 4 7 1 2 3 6 0 0 −1 −1 − R1 + R2 1 1 2 4 0 −1 − 2 −3 −R1 + R3 1 2 4 7 0 0 1 1 − R2 0 1 2 3 −R3 1 2 4 7 0 1 2 3 R2 ↔ R3 0 0 1 1 สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
คูมือครรู ายวิชาเพม่ิ เตมิ คณิตศาสตร ช้นั มัธยมศกึ ษาปที่ 5 เลม 1 389 1 0 0 1 −2R2 + R1 0 1 2 3 0 0 1 1 1 0 0 1 0 1 0 1 −2R3 + R2 0 0 1 1 เมื่อแปลงเมทริกซน ้ใี หอยูในรูประบบสมการจะได x =1 y =1 z =1 ดังน้นั (1, 1, 1) เปนคําตอบของระบบสมการเพียงคาํ ตอบเดียว −1 1 5 15 4) เมทริกซแตงเตมิ ของระบบสมการนี้ คือ 2 −3 4 29 3 1 − 2 −5 ใชก ารดําเนนิ การตามแถวเพื่อแปลงเมทรกิ ซแ ตง เติมไดดงั น้ี −1 1 5 15 1 −1 −5 −15 −R1 2 29 2 −3 4 29 −3 4 3 1 − 2 −5 3 1 − 2 −5 1 −1 −5 −15 0 −1 14 59 −2R1 + R2 0 4 13 40 −3R1 + R3 1 −1 −5 −15 0 1 −14 −59 −R2 0 4 13 40 1 0 −19 −74 R2 + R1 0 1 −14 −59 0 0 69 276 −4R2 + R3 1 0 −19 −74 0 −59 0 1 −14 4 1 0 1 69 R3 สถาบนั สง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
390 คูมอื ครรู ายวิชาเพิ่มเตมิ คณิตศาสตร ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 เลม 1 1 0 0 219R3 + R1 0 1 0 −314R3 + R2 0 0 1 4 เม่ือแปลงเมทริกซน ใี้ หอยูใ นรูประบบสมการจะได x =2 y = −3 z =4 ดงั นนั้ (2, −3, 4) เปนคาํ ตอบของระบบสมการเพียงคาํ ตอบเดียว 1 2 5 16 5) เมทรกิ ซแตงเตมิ ของระบบสมการน้ี คอื 2 2 6 20 1 2 6 18 ใชก ารดําเนนิ การตามแถวเพื่อแปลงเมทรกิ ซแ ตงเติมไดด งั นี้ 1 2 5 16 1 2 5 16 2 2 6 20 0 1 2 6 18 −2 −4 −12 −2 R1 + R2 0 0 1 2 −R1 + R3 1 2 5 16 1 0 1 2 2 0 0 1 6 − R2 2 1 0 1 4 −2R2 + R1 0 1 2 6 0 0 1 2 1 0 0 2 −R3 + R1 0 1 0 2 −2R3 + R2 0 0 1 2 เมื่อแปลงเมทริกซนใี้ หอยใู นรูประบบสมการจะได x =2 y =2 z =2 ดงั นั้น (2, 2, 2) เปนคําตอบของระบบสมการเพยี งคาํ ตอบเดียว 2 0 2 2 6) เมทรกิ ซแตงเตมิ ของระบบสมการน้ี คือ 1 1 2 1 3 −1 2 1 สถาบันสงเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 481
Pages: