ไขข้อข้องใจ โคย พรระธรรมกิตติวงส์ (ทองด สุรเตโช) มลนิร©รรมกาย 11 ท A M M A K A V A h <) r N [1 A I 1 () N www.kalyanamitra.org
ไขข้อข้องใจ พรรธรรมกิตติวงส์ (ทองค สุรเตโช ป.ธ.๙»0 ISBN 978-611-7047-13-8 พิมพ์กรั้งทํ่ ๑ ะ รนาทม ๒๕๕๒ จำ นวน \"๖.๐00 พ่บ จํ'คพิมพ์โตย ะ ส์าใ7กพิมพ์เสืยงเ^ยง นฆบปก/ฐปฟม ะ รุวทน! เกสิอบชุวรรรน. เทวํน สุวรรณกิ? พิมพ์ท ะ โรงพิมพ์เลึ๋บงเขยง โทร. ๐๒-๘d๒-๙®๙๑ www.kalyanamitra.org
ทนไf3ไนโกพิมพ์ หนังสือ ไขข้อข้องใจ เป็นหนังสือทรกมเอา๙ารพัคกำถาม ทมผู้เขยนจคหมายเฃัามาถามในสิงที๋ฅ้าเองย้งไม่^ม่เข้าไจในเรอง ทเกยวก'บหนักธรรมกำสิอนแลรพุทธศาสินาต่อพระเคซพร;ถุณ- พระธรรมกิกฅิวงกํ {ทองอี สุรเทโซ ป.ธ.C ราขนัณฑิฅ) ในสิมัย ทึ่ยังเป็นพระมหาทองอี ฟิรเคโข และพระเอขพระอุณก็่ไอ้ตอบปิญหา ไขข้อสิงนัยทก้างกาอยู่ในใจซองท่านผู้ถามเหล่านั้นอย่างแจ่มแจ้ง อีฑนั้งนังไอ้อธินายขยายกวามในเรํ่องทั๋เหี่นว่าน่าจะเป็นประโยขน เกอกูลฅ่อผู้ถามปิญหา เพํ่อให้เกิคกวามรู้กวามเข้าใจเพั๋มขนอกทาง .A หนงคิวย หนังสือเล่มนั้ เป็นหนังสือแนวถาม-คอบ ทมเนั้อหาฝ็าระ ทํ่น่ๆสินใจ และน่าคิอคามอ่านเป็นอย่างยั๋ง เพราะไอ้รวบรวมเอา ทุกกำถามและทุกกำคอบ ทงทั๋เป็นกำถามพนๆ ทั่วไป จนถง กำ ถามทสืกซั้ง ซั้งอ้องอานัยผู้คอบปิญหาทํ่ทรงภูมิธรรม มิกวามรู้ กวามเข้าใจ แถะไอ้อีกษาก้นกวาเกยวกบเรื่องทํ่ถูกถามมานั้นเป็น อย่างอี ทั่งนั้เพอทำให้ข้อสิงนัยหรือปิญหาทอ้างกาใจมานานก็่อี www.kalyanamitra.org
หรอกวามสง^ยทํ่เพั๋งเกิคฃั้นมากี่คึ ไ^บการกลํ่กลายลงจนเกิค กวามรู้แจ้ง หายกังวลอย่างแท้จริง ส์านักพิมพเลํ่ยงเซึยง เพยรเพํ่อพุทธศาลน์ ไค้เล็่งเหี่น กวามส์ากัญของพระพุทธศาลนาแลรกวามเป็นประ:โยซนเกอกูลแก่ ประชาชน จึงไค้นำเลนอหนังสือทึ๋ทรงกุณกำเซ่นนั้แก่กังกมเพึ๋อทำ หน้าทชองชาวพุทธให้ลมบูรณแบบยงฃนๆ ไป ลมกับเป็นส์านักพิมพ ทํ่ไค้รับใช้ลนองงานพระพุทธศาลนามาเป็นเวลาเนั๋นนาน ส์านักพิมพ์ ฯ ชอกราบชอบพระกุณพระเคชพระคุณเป็น อย่างลูงทึ่ไค้เมฅฅามอบกวามไว้วางใจให้เป็นผู้คำเนินการจัคพิมพ์ ไว้ ณ โอกาลนั้ค้วย และหวังเป็นอย่างยั๋งว่าจะไค้รับใช้ลนองงาน ส่วนนั้ในโอกาลกํอๆ ไป เพ์อเป็นการช่วยเผยแผ่และจรรโลงพระ- พุทธศาลนาให้เจริญรุ่งเรืองและคำรงอยู่เพ์อประโยชนํฝ็ขชองมวล มนษยชาติคราบนานเท่านาน ด้วยศร้ฑธาแล๗รารถนาค้ ส์านักพิมพ์เลํ่ยงเซยง เพยรเพึ๋อพุทธศาลน www.kalyanamitra.org
\"ไขข้อข้องใจ\" ซึ๋งเป็นขึ๋อหนังสือเต่มนั้ไค้คัคแปลงมา จากกอลั'มน \"ปิญหาข้องใจ\" ในหนังสือ \"มงกลสาร\" นิฅยสาร รายเคือนของวักปากนํ้า ภาษเจริญ ซํ่งเกยเฃ็ยนบหกวามแสะ คอบปิญหาลงพิมพ!นสนัยหนึ่งระหว่างป็ พ-ส. ๒๕๑ฝ-!๓๕๒๐ ซํ่งบัคนกี่ผ่านมากว่า ๓๐ ปีแล้ว กำ คอบส่วนใหญ่นอกจากจะคอบ เพอให้ผู้ถามกสายสงสยแล้ว ยังให้รายสะเอยคอื่นๆ อันเป็นเรอง ทกวรทู้พั่มเข้าไปห้วย มากบ้างน้อยบ้างคามเรองทํ่คอบ กำ คอบ บางข้อจึงก่อนข้างยาวจนเกือบจะกลายเป็นบทกวามไปกี่ม แค่ ทั้งนึ่ก็่ม่งให้กวามร้กวามเข้าใจในเรองธรรมะ เรองศาสนาและเรอง เกยวอับวัคโคยทั่วๆ ไปเป็นประมาณ กี่มบ้างทั่กำคอบเป็นเรองทั่เกิคฃนในยุกนั้น กำ ตอบจึงเป็น เรองทั่กนปิจจุบนอ่านแล้วอาจไม่เข้าใจเพราะเกิคไม่ทัน หรือยังเคึ๋ก เกินไปเพราะผ่านมา ๓๐ ป็เศษแล้ว แค่ผู้ทั่ผ่านเหตุการณเซ่นนั้น มาและสนใจคิคคามเรํ่องนั้นอยูในขณะนั้นย่อมเข้าใจไห้อันท เว้นแค่ ว่าผ่านมานานจนลืม เนึ่อมาอ่านใหม่แล้วทบทวนกวามหลังกรงนั้นกู กี่พอจะนึกออกไห้ว่าเป็นเรํ่องอะไร ทำ ไมจึงคอบอย่างนั้น แม้สืานวน www.kalyanamitra.org
ภาษากี่เซ่นfไน กำ บางกำ ส์านวนบางส์านวนนิยมใช้พูตใซ้เฃยนกัน อยู่ในอุกนั้น แต่บัคนั้กำนั้นส์านวนนั้นไม่นิยมใช้กันแล้ว เมํ่ออ่าน พบเช้ากี่อาจเหี่นเป็นของแปลกกี่ไค้ วัตถุประ:สงกํฃองการน่าของเก่ามาพิมไ^หม่นั้ค้ๆยมึวัฅถุ ประ:สงกํหลักอยู่ ๓ ประ:การคือ เพํ่อรักษาค้นฉบับไว้ให้อยู่ในท เคืยวกัน เพอเปรยบเทึยบถ้อยกำ ส์านวนภาษาและ;โวหารทใช้!น สมัยนั้นว่าเป็นอย่างไร และ:เพํ่อเป็นประ:โยซน่ค้านการเรัยนรู้พระ- 'พุทธศาสนาในอกรูปแบบหนึ่ง เพราะ:ปิญหาบางปิญหาแม้จะ;ถามกัน มานานแล้วแต่กี่บังมคนสงลัยไต่ถามกันอยู่อก จึงเท่ากับฅอบให้ ไปในตัว เพราะ:บัญหาเซ่นนั้นย่อมม้กำตอบเซ่นเคืยวกัน หวังว่า \"ไขข้อช้องใจ\" นิกงจะอำนวยประ:โยชน่ค้านการ เรยนรู้พระ:'พุทธศาสนาจากปีญหาช้องใจไค้ตามสมกๆT. {•พรร!ธรรมกิตติวงกํเ) วัคราชโอรสาราม กรุงเทพฯ ๙ ทุมภา'พันธ ๒๕๕๑ www.kalyanamitra.org
^ TO^๘^ ฝืไรบญ จาก \"มงครฟ้าร\" เคอนมกราคม ๒๕®๗ % เหตุใฅกนจึงทำร?!ทงทรู้ว่าผิค เ!?- เหตุใ?!กนทํ่เจริญแก้วจึงยังนับถอถูฅผปีศาจอยู่ % พระเกินขบวนฆิคหรือไม่ ist- พระ■ตุทธเจ้าฟ้อนเรองอฟ้.รแตะฟ้อนว่าอย่างไร จาก \"มงคฟ้ฟ้าร\" เคือนมนาคม ๒๕®๘ เ®- พระพรมนาพระตุทธนนคแก่ทหารไปรบผิ?เทรือไม่ ^ พระทํ่ถูกนิมนคใปร่วมเกินขบวนผิ?!ก้วยหรือ IW' พระทเกินขบวนไมใช่เรํ่องการเมืองผิ?!ก้วยหรือ ^ กำ ก้งฃองมหาเถรฟ้มาคมใช่!มไค้ ไม่มืกวามค้กกิ^ทt % พระเกินขบวนผิกกิฟ้ข้อไหนใน ๒๒๗ ข้อ การเจิมปี'ายเป็นกิจชองฟ้งฟ้หรือไม่ ^ เมอไรจะมืการรวมนิกายฟ้งฟ้ใทย เ» ฟ้มัยพระพุทธเจ้ามืระบบฟ้มณค้กกหรือไม่ จาก \"มงคลฟ้าร\" เคอนพฤษภาคม ๒๕®๘ ก่อนทำบุญทำไมค้องริบกิลก่อน ^ ริกษากิตแก้วจะมืโกกสมนักิไค้อย่างไร ^ ทำ ไมปิจจุนันนกนจึงห่างวั?!กันมาก www.kalyanamitra.org
จาก \"มงคลสาร\" เดือนกันยายน fcnS๑๘ k)G^ บวชเพืออะไร ทำ ไมจึงไค้บุญกุศลมาก ๓๑ ^ บวช ๗-๑๕ วน กับบวช ๑ พรรษา ไค้บุญค่างกันอย่างไร ^ การบวชพระซึ๋อว่าเป็นญาคิกับพระศาลนาอย่างไ3- mlcD ในงานบวชมการฆ่ากัฅว่ค้วย จะมบุญมากไค้อย่างไร ^g, ^ บุญแดะบาปนปงกันไค้หรือเปล่า <5'๕ ^ \"กนดิบกนลุก\" มกวามหมายว่าอย่างไร '๖๒ จาก \"มงคลสาร\" เดือนพฤศจิกายน ๒๕๑๘ \\ ^ ๘๕,000 พระธรรมขันธ์ย่อไหกันเหลือเท่าไร pJq ^ ลูกเกเรเพราะเหตุไก จะแก!ขอย่างไร จาก \"มงคลสาร\" เดือนธันวาคม ๒๕๑๘ ^ ทำ บุญอย่างไรจะไค้พบศาลนาพระศรือารย กัฅว์เครัจฉานพงธรรมแล้วไปเกิกเป็นเทวกาไค้อย่างไy ^ ทำ บุญค้องไม่เจาะจงจึงจะไค้บุญมาก เพราะเหตุไค ^ การปฏิบัติหน้าทํ่ค่อผู้ป้วยไค้บุญอย่างไร ISfr การพูคกับพระชองผู้หญิงกวรเป็นอย่างไy ^ ทุกข์จร ทุกข์จำ หมายกวามว่าอย่างไร ^ กนทึ๋ปากหวานก้นเปรยวบาปหรือไม่ ^ กรวกmไห้แก่กนเป็นไค้หรือไม่ จาก \"มงคลสาร\" เดือนมึนๆคม ๒๕๑0»/ (fij' ฆ่ากักว์เป็นบาปค้วยเหตุไค ฆ่ากักว!ปทำบุญจะไค้บุญไหน บัวแค่เข้าวักจะทันกนไค้อย่างไร ^ กายแล้วไปไหน นรกลวรรกมึจริงหรือไม่ ^ กวามลุชทํ่แท้จริงกืออะไร จะลุชอย่างนั้นไค้อย่างไร www.kalyanamitra.org
จาก \"มงคลสาร\" เดือนฌษายน ๒}๕ร)๗ ๗0^ ^ กํ่มสุราของตัวเองขิคฅรงไหน ทำ ไมฯงปรับโทษไว้ ๗๙ WJ- มงคลกืออะ:ไร มอิทธิพลต่อมนุษย์จริงหรือ ๘<1 จาก \"มงคลสาร\" เดือนพฤษภาคม ๒๕®>๙ ๘๘ ^ อายุของศาสนาพุทธมกํ่รืเ เรํ่มค้นแลรสินสุคเมึ๋อไร ๘๗ ใครเป็นยูรับอกขอบศาสนาพุทธ ๘๙ ^ ทำ ไมพุทธศวสนิกชนจึงถูกลักธิอื่นปราบปรามและเหยยกหยาม ๙0 ^ ผู้ทำ ลายศาสนาพุทธจรถูกกรรมคามทันในซาฅินั้!หม ^ ประเทศทถูกทำลายศาสนาพุทธมทาง^นขนมาใหมไหม ๙d ^ ศาสนาพุทธมจุคต่างพร้อยทํ่ไหนบ้าง ๙<1 ^ ผู้ทำ ลายศาสนาพุทธมใจโหกเหั้ยม หากขาวพุทธต่อค้านจะอกไหม ๙๕ จาก \"มงคลสาร\" เดือนมิธุนายน ๒๕๑๙ ๙๗ ^ เมอทำบุญทํ่บ้าน จะกั้งพระพุทธทันหน้าไปทางทิศไหน ๙๗ ^ เทศนแจง ๓ ธรรมาสนคือเทศนอย่างไร ๙๙ ^ ทํ่พระสอนว่าอย่ากบกนพาลนั้น มิเป็นการทอคทงกนพาลไปหรือ ๑0๒ จาก \"มงคลสาร\" เดือนกรกฎาคม ๒๕๑๙ ๑0๕ ^ เวลานั่งไหว้พระสงร์[ทํ่เกินผ่านพร้อมทำปากขมุบขมิบ เขาว่าอะไร ๑0๕ ^ เวลาอยู่บนรถโกยสาร พอผ่านวักหรือพระสิาตัญเขายกมือไหว้ ๑0๗ พร้อมทำปากขมุบขมิบ เขาว่าอะไร ๑0๘ เร^ ในงานแต่งงาน เมึ๋อไหว้รูใหญ่ทำไมค้องไหว้ m กรั้ง ๑๑0 ^ เมอเข้าหาพระ บางกนไหว้ ๓ กรั้ง เวลากลับไหว้กรั้งเคืยว <ร)<ร)(ร) ทำ อย่างไรจึงจะถูกค้อง ๑๑๗ ^ พิธิการบวขทํ่ถูกค้องและไค้บุญมากนั้นกวรทำอย่างไร ๑๑๗ จาก \"มงคลสาร\" เดือนสิงหาคม ๒๕๑๙ ^ ทำ ไมค้องประเกนพระก่อน พระจะหยิบฉันเองไมไค้หรือ www.kalyanamitra.org
% การรคนํ้าศพกับรคนํ้าสิ'งฃ์มมาแค่กรั้งไหน มกวามหมายอย่างไร ๑๒0 ^ รับสืถอุโบสถทางวิทยุหรือโทรทัศนจรเป็นอุไบศถไหม และทังเทศน ๑๒๕ ทางวิทยุกับทังทํ่วัคอย่างไหนไค้บุญมากกว่ากัน จาก \"มงคลสาร\" เดือนกันยายน ๒๕๑/ ๑๒G«/ ดืล ๕ แค่ละข้อมองฅดืตเท่าไร ถ้าละเมิคดืลไม่กรบองกจะบาปไหม ๑๒ร^ ^ เวลาขับรถตอนกลางกืนไปซนแมลงค่างๆ ตายไป จะบาปไหม ๑๓๒ ^ ล่วงเกินภรรยาของยูอื๋นเพยงภายนอก จะฆิคกิลข้อ ๓ ไหม ๑๓๓ % พระพูคอวฅอุตริกัน จะเป็นอาบัติอะไร ๑๓๕ ^ จิตมอำนาจกังไค้หรือไม่ ๑๓๗ จาก \"มงคลสาร\" เดือนตุลาคม ๒๕๑(ร/ ๑๕๑ ๑๕๑ ^ จุคประสงก์ของธรรมกายกืออะไร ๑๕๕ ^ แม่ซเมกอัพหน้าไค้หรือไม่ ๑๕๕ \\^ สร้างพระพุทธรูปแล้วสะเคาะเกราะหใค้จริงหรือ สร้างพระพุทธรูป ๑๕๘ มอานิสงล่อย่างไร พวกกักขโมยตักเกิยรพระบาปมากไหม บาปจะตามทันในขาตินหรือไม่ ๑๕0 กนทํ่คายหมู่เพราะตกเกรํ่องบินหรือรถขนกันเขาทำกรรมอรไรไว้ จาก \"มงคลสาร\" เดือนพฤศจิกายน ๒๕๑(ร/ ๑๕๗ กำ ว่า ปฏิรูป ค่างกับกำว่า ปฏิวัติ อย่างไร ๑๕๗ ตักบาตรเทโวมึประโยขน้อย่างไร มประวัติเป็นมาอย่างไร ๑^c>o ^ บวขจำพรรษาแล้วสืกก่อนรับกฐน เป็นพระไม่สมบูรณจริงหรือ ๑'๖๓ ^ กำ ว่า บวขเสิยน้าเหลือง หมายกวามว่าอย่างไร ๑๖๕ จาก \"มงคลสาร\" เดือนธันวาคม ๒๕๑(ร/ ๑๖๕/ ^ การปิกทองลูกนิมิตตามวัคค่างๆ ไค้บุญอย่างไร ๑๖๕/ ^ เขาว่าปิคทองลูกนิมิตกรบ ๑0 วัค จะไม่ตกนรกจริงหรือ ๑๗๕ ^ ไปงานปีคทองลูกนิมิตกวรทำบุญอะไรบ้าง และจะปิคทองลูกนิมิต ๑๗๖ ลกไหนก่อน www.kalyanamitra.org
1วตาใส่บาตรตอนเช้าบางกรงสืมถอครองเท้าและเผลอทำทัพพ ๑๗(๙ ถูกขอบบาตรจะบาปไหน จาก \"มงคลฟ้าร\" เตือนมกราคม ๒๕๒0 ๑๘๑ ^ อยากทราบวิธแก้กวามอิจฉาริษยา ๑๘๕ ^ อยากทราบวิช้หาเรึ๋องกุยตลกๆ จะไคมึเพํ่อนมากๆ ๑๘๘ WJ- วิธึไคทำให้ใจเช้มแขี่งไม่อ่อนไหวง่าย บังกับใจตนไค้ ๑๘๙ เหตุใตม่เพํ่อนน้อย ๑๙๑ อยากทราบวิธแก้เบื๋อเริยน ๑๙๑ % ทำ อย่างไรจึงจะพอใจสิงทม่อยู่ ๑๙๒ จาก \"มงคลฟ้าร\" เตือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒0 ๑๙๕ ^ ประโยซนของการให้ทานม่อย่างไร ๑๙๕ ^ ประโยซนของการรักษาตืลม่อย่างไร ๑๙๘ ประโยขนของการเจริญภาวนาม่อย่างไร ๒๑๑ จาก \"มงคลฟ้าร\" เตือนมนาคม ๒๕๒0 ๒0๕ ^ เมื่อก่อนวันฟ้งกรานตเป็นวัน!!ใหม่ซองไทย ปิจจุบันทำไมจึงยกเลิกเสิย ๒๑๕ ^ ทำ ไมเคยวนั้ประเพณฟ้งกรานตจึงกูจึคชืคนัก ไม่ก่อยมกนฟ้นใจเล่นกัน ๒๑>๑ ^ นิทานฟ้งกรานตตามทเต่าๆ กันมานั้นมรายถะเอยคอย่างไร ๒๑๙ ^ ฟ้งกรานต!นเมืองไทยคหรือไม่ ทมืการรคนั้า หยุคงานเล่นฟ้นุกกัน ๒๑๓ จาก \"มงคลฟ้าร\" เตือนฌษายน ๒๕๒๑ ๒๑๗ ^ อาหารพระพุทธกับอาหารพระภูมินั้นนำมาทานไค้หรือไม่ ๒๑๗ ^/ จะไหว้พระบูซากับพระภูมิเฉพาะในวันพระไค้!หม หรือค้องไหว้ทุกวัน ๒๑๘ ^ อาหารหวานทใหว้พระบูซากับพระภูมิจะมืเฉพาะผลไม้จะไค้หรือไม่ ๒๒๑ ^ เมื่อตุกตาทํ่ศาลพระภูมิแตกซำรุคจะทำอย่างไร ซอมาเปตํ่ยนไค้!หม ๒๒๓ ^ เมื่อไหว้ศาลพระภูมิเฟ้ร็่จแต้วค้องมืบทกรวคนั้าหรือไม่ มืวิธการอย่างไร ๒๒๕ ^ เมื่อทำบุญกรวคนั้าไปให้ญาติผู้ล่วงลับ หากท่านไม่รู้ จะไค้รับหรือไม่ ๒๒๕ www.kalyanamitra.org
จาก \"มงคลสาร\" เดือนพฤษภาคม ๒๕๒0 ๒๒0\"/ การบวชมึกิ่อย่าง ผู้หญิงจะบวชบ้างไค!หน ๒๒,?/ 15^ \"พุทธ\" แปลว่ายูรู้ กือรู้อย่างไร สอนให้ใครรู้ รู้แล้วไค้ประโยชนอย่างไร ๒๓๒ จาก \"มงคลสาร\" เดือนมิลุนายน ๒๕๒0 ๒๓,?ร' ^ กำ ว่า \"พระคึอยู่ทโบสก พระไม่โกรธอยู่ในสระ พระชอบจะอยูในวัค\" ๒๓,?/ ม่กวามหมายว่าอย่างไร ]sa<L<L ^ ทํ่กนจนว่า \"ทำบุญเสืยเปล่า ไหว้เจ้าคกว่า กลับมาไค้กิน\" หากถูกเชาถาม จะคอบอย่างไรค ทํ่โบราณว่า \"ดืกนหาม สามกนแห่ กนหนํ่งนั่งแคร่ สองกนคามหลัง\" ๒<£๗ ไค้แก่อะไรบ้าง ^ พระพุทธเจ้าท่านครัสรู้ค้วยฅนเองหรือไม่มั๋ใกรสอน แสะตรัสรู้อะไร ๒๕0 ^ พระอะไรทท่านไปแล้วไม่กลับ ท่านไค้คอะไรจึงไม่กลับ ๒๕๕ จาก \"มงคลสาร\" เดือนกรกฎาคม ๒๕๒0 ๒๕๕ ทำ บุญอย่างไรเรืยกว่าบุญบริสุทธิ้และประเสริฐ ๒๕๕ กัปปิยการก กับ ไวยาวัจกร เป็นกนเคึยวกันหรือไม่ มหน้าทอย่างไร ๒๕๗ ในงานทำบุญเลั้ยงพระทํ่บ้านจะจัคพระพุทธและโฅะหมู่อย่างไร ๒๕ร^ หันหน้าไปทางทิสไหน ๒^๑ พระภิกษุมอาวุธปีนเอาไว้ในกรอบกรอง จะผิคภิลทางวินัยหรือไม่ ๒^0๑ การกุมกำเนิคจะไม่เป็นบาปหรือ เพราะทำให้กนทํ่สมกวรเกิคไมไค้เกิค จาก \"มงคลสาร\" เดือนสิงหาคม ๒๕๒0 ๒๖๓ ^ ประเพณการเผาศพหรือฌาปนกิจศพมหลักฐานมาอย่างไร ๒๖๓ ^ ปิงศพไว้ไม่ขุคชนมาเผาจะเป็นอะไรหรือไม่ ๒๖๕ ^ ในบางศาสนาเชาใช้อง ไม่ฃุคมาเผาเลย เพราะอะไร ๒๖๖ ^ ผลจากการเผาและการกังศพค่างกันอย่างไร ๒๖๗ ^ บางท่านว่าถ้าไม่เผาก็่ใมใค้ใปผุคไปเภิค ต้องเผาจึงจะไก!ปสวรรกํ ๒๖๘ จริงหรือไม่ www.kalyanamitra.org
จาก \"มงคลสาร\" เดือนกันยายน ๒]๕๒0 ๒๗๑ ^ สร้างพระอภิธรรมเจ็่คก้มภรแล้วทคแทนกุณพ่อแมไค้จริงหรอไม่ ๒๗๑ ^ หลักสูตรนักธรรม น่าจะก้ตฃ้อธรรมทํ่ซํ้ากันบางข้อออก ๒๗๓ เพอง่ายต่อการจคจำ จาก \"มงคลสาร\" เดือนตุลาคม ๒๕๒0 ๒๗๗ ^ ม่หลักอปางไรส์าหรับพิจารณาว่าพระองค์ไหนเป็นพระโฟ้คา ฟ้ภิทากา ๒๗๗ อนากา หรืออรนันฅ ^ มวิธการอปางไรทํ่จะกำจัคกิเลสตัณหาให้เบาบางลงไค้Iนซวิฅประจำวัน ๒๘0 การบวชเป็นภิกษุ เหตุไคจึงแยกเป็นมหานิกายและธรรมยุต ๒๘๓ การสะเคาะเกราะห้!ห้ผลอปางไร ทำ ให้ตวงชะตาคฃั้นหรือไม่ ๒๘ ^ พระมายืมเงิน ล้าเราไมให้จะบาปไหม ๒๘๕ จาก \"มงคลสาร\" เดือนพฤศจิกายน ๒๕๒0 ๒๗๗ ^ กำ ว่ากิลกืออะไร ๒๘๗ ^ ภาวนาว่าอปางไรจึงจะไค้แก่ตนเอง ๒๘๘ ^ ฟ้วคมนค์ก่อนนอนควรสวคบทไหนบ้าง ๒๘๙ จาก \"มงคลสาร\" เดือนธันวาคม ๒๕๒0 ๒๙๕ ^ ทำ บุญใส่บาตรค้วยเนั้อลัตว์จะเป็นการเบยคเบยนลัฅว่หรือไม่ ๒๙๕ เมํ่อพระฉันไปจรทำให้กิลค่างพร้อยหรือไม่ ๒๙๗ ^ เราทำบุญก้นทุกวันนั้เป็นบุญทํ่แฝงค้วยบาปใช่หรือไม่ ๒๙๘ ^ การทำบุญค้วยอาหารมังสวิรัติมึอานิสงค์สูงส่งแกไหนเพิยงใค กำ ถามพิเศษ จาก \"มงคลสาร\" ๒๕๒0 ๓0๑ ^ การค่าแม่ว่า \"อบ้า'' จะบาปไหม เมึ๋อขอโทษท่านแล้วจะบาปหรือไม่ ๓0๑ ^ ในวันพระพิงเทศนทางวิทยุจะเหมือนก้บพิงทึ๋วัคหรือไม่ ๓0๒ www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
. <» .«T'*• • '• L พรรเธรรมกิตติวงส์ (ทองค สรเตโช) www.kalyanamitra.org
ฮญห!ข้อvlๆ จทก '•มงคลสาร'* เร®นมกราคม ๒&®๘ กามโคย... คุกแคชกล้า pw เทตุใดคนเTาจงimภ^ทำความผิค ทงททราบคอยู่แล้วว่ารดกฎหมาย บานเมองต้องไค้รับโทษติคตุกติดต:!Tางแล^ฆิค^ลรรรมอกด้วย แดกรงขืนทำ เ^แบ การทํ่กนขอบทำmามผิคนั้นพอสรปสาเหฅไค้ 1๓ ประ;การคือ ฟ้าเหตุ ภายใน กับ ฟ้าเหตุภายนอก ฟ้าเหตุภายใน คือเพราะกนเรากังมกิเสฟ้ กังมกวามค้องการอยู่ กิเถฟ้ทํ่ ทำ ให้กนทำรกนั้นม ๓ อย่างคือ ใสภะ โทสะ โมหะ พระท่านเรยกว่า \"อกุฟ้ฟ้ยูฟ้\" คือค้นเค้าของกวามซั่วร้ายต่างๆ บ่อเกิกของกวามรคต่างๆ ทํ่มนุษย่ทำลงไป โลภะ เป็นเหตุให้อยากไค้รํ๋าไป ให้ค้องการไม่นั้นสุก แม้'ใะมกินมใข้อุกม สมบูรณเหลือเทืเอแล้วก็่กังไม่พอ กังไม่อั๋ม คือกังไม่ตุใ'จ คืงขวนขวายหามาเกิม เมอไมไค้เกยขอบธรรม ก็่ม้กใช้เส่ห้เหถํ่ยมกลอุบายร้อยแปก เข่น โกง ลก ปล้น ชิง กอร้ปฃั่น หรือฆ่าแกงกัน www.kalyanamitra.org
โทส์ร; เป็นเหตุให้เกิดกวามอาฆาฅมาคหมาง พยาบาทจองเวรกันไม่สินสุด เพราะ!ไม่ชอบใจไม่พอใจในกันและ;กัน เป็นเหตุให้[กรธง่นง่าน ระ:งับอารมณใมได้ ทำ อะ:ไรด้วยกวามลืมคัว หุนหันพลันแล่น ถึงกับฅบฅทำร้ายกันและ:ฆ่าแกงกัน นเหร! เป็นเหตุให้ขาดกัญญา หลงงมงาย หลงคัวเอง ค็้อคึง เป็นคนเห็่นผิด เป็นชอบ เช่นเห็่นว่าอบายมุชเป็นเหตุใหรารวยได้ เหี่นว่าถ้าหุจริฅด้วยลมองกี่จะ! ไม่มใครจับได้ โดยไม่คำนึงว่ามันอาจเป็นเหตุแห่งความวิบัติกี่ใด้ ถ้าคนเTากำจัฅกิเถ(f ถา อย่างนั้!ฅ้กี่จะไม่ทำความขั่วเลย หรอถ้ามน้อย เท่าไรกี่จะทำจั่วทำมิคน้อยลงเท่านั้น อนึง เพราะ:กนเราบังชาดหิริโอดคัปปะ! ไม่เกรงกลัวบาปกรรม ไม่เชํ่อเรึ่อง บาปกรรม ขาดมนุษยธรรม ไม่เกี่นหัวอกกนอน บุ่งแคได้เฉพาะ;คัวเท่านั้น กนเรา ลงได้ชาดหิริโอดคัปปะ:เลืยแล้ว อ::ไรๆ กี่ทำ ได้ ไม่ว่าสิงนั้นจะ!เลวร้ายปานไค ล่วน สาเหตุภายนอก คือเพราะ:ความจำเป็นบังคับ เช่น มกัญหาเรํ่องการ ใช้จ่าย ค่ากรองซพลูง มกวามอดอยาก สงลารลูกหลาน จึงแก้กัญหาเฉพาะ:หน้า ด้วยการทำผิด เช่น ปล้น จึ ลักขโมย ประพฤติเลืยหายอย่างอื่น เพื๋อ่ไห้[ด้เงิน มาเลยงคัวและ:กรอบครัว ทั้งๆ ทึ๋ไม่มนิลัยเป็นโจรผู้ร้ายเลย คังทเป็นช่าวดาม หน้าหนังลือพิมพ์อยู่เลมอ ทพ่อแม่เทึ๋ยวขโมยชองมาเลั้ยงลูก แม้ชองนั้นจะ!มราคา ไม่มากมัก เพราะ:หากินโดยสุจริดไม่พอเลืยงปากเลืยงห้อง ประ:เภทนั้ถ้าหากมงาน ทำ เป็นหลักฐาน มรายได้พอเลั้ยงซึพแล้วจะ!เสิกทำผิดอย่างนั้นได้ นอกเถึยจากจะ: มลาเหตุภายไนคังกล่าวช้างด้นเช้ามาแทรกเท่านั้น นคือฝ็าเหฅุทํ่ทำให้คนเราทำจั่วทำมิคทั้งทํ่รู้ว่าเปีนบาปกรรม หรือค้องฅิค คุกติคฅะราง แคไม่กลัวบาปกรรมหรือคุกคะราง กลัวคัวเองจะลำบาก กลัวคัวเอง จะอค หรือกลัวลกจะอคทายมากกว่า ๒ I ใปีฃ้อช้อป๋% www.kalyanamitra.org
ถาม ตามทกต'าวกันวำการปับถึอภูฅCJปีศาจiปีนเรองชองยู้ทยงไม่เจfญ แต่ ก็่กังมนู้เจริญแล้วและมการต่กษาคนบถือฏตปีปีศาจ นบถือการทรงเจ้าเข้านึอปู เปีนเพรารเหตใด จรเรยกว่าเปีนมู้1ม'เจริญได้หรอไม' คอบ เรื่องการนบถอถูฅผ!เศานั้นฟ้นเรองมมานานแล้ว ทั้งtเงรากสืกอยู่ใน ๚คใๆฃองกนเราจนไม่อาพะคัคไคัฃากๆริงๆ ทั้งทรู้แตะพูกว่าไม่เชํ่อ ผไม่ม นฅ่ก็่ มักกลัวนคัวยกันทั้งนั้น บางกนยอมรับแคใม่นับถือ บางกนทั้งยอมรับและนับถือ เป็นทั๋พํ่ง ปิพุบันนกี่ทั้งถืไค้ๆริงๆ เถืยล้วย กังมส์านักทรงเจ้าเซัาฆอบ่เกตึ๋อนไป ในทั้เจริญแล้ว และเจ้าของส์านักกื่มกวามสมบูรณพูนสุฃสืทุกรายไปเถืยด้วย การนบถือภูฅรนั้^มมาแค่ดั้งเติม อาจกอ่าวไค้ว่าเปีนศาศนาแรกชองมนุษย ในโตกก็่ไค้ ความเชื่อถือนปีงอยูในใจมนุษยมานาน จนแม้จรปีศาศนาใหม่ๆ เกิฅฃ็้น มากมายแตรยอบรับกันแล้วก็่ยังไม่วายทํ่จ:ยอมรับเริ่องกูคปีไว้ไนใจ อยูในจิทอ่านก แม้จรปีความพูการถืกษาติก็่มิไค้หมายความว่าจะทำให้เขาเหอ่านั้นอ่าปีก แม้จรปี ความพูการถืกษาคกึ๋มิอาจขจัดความอ่าปีกนั้นหfธลฅความหวาครรแวงในอำนาจ คำ ปีคของร่งเหอ่านั้นลงไค้ ส์าหรับผู้เจริญในด้านจิคใจถืงขั้นเป็นอริยบุกกลหรือผู้เจริญแล้ว การนับถือ ถืงเหล่านั้จะหมกไปเอง กังนั้นรทยังนับถือเรื่องเหล่านั้อยู่อาจกล่าวได้ว่าเจริญแล้ว (เจริญภายนอก) แก่ยังไม่เจริญจริงๆ เรื่องนถ้ากนเรายังไม่รูจักศาสนา ยังไม่เข้าถืงฅ'วศาสนาจริงๆ กัวศาสนา ทั้แท้ ยังไม่รู้จักทั้งกัวเอง ไม่เซํ่อมั่นในกัวเอง ไม่ยอมทั้งธรรมหรือเขํ่อธรรมอัน เป็นสภาพทั้แท้แล้ว กี่มักจะหาทั้ทั้งอันอนทั้หาได้งาบกว่า เห็่นได้ง่ายกว่า ไม่ใช่เฉพาะภูฅถืป็ศาจเท่านั้น บางกนยังนับถือด้นไม้ ภูเขา ลำ ธาร เทวคา แสะอํ่นๆ อกมากเป็นทั้ทั้งทางใจของกน การจะให้เขาเลิกนับถือนั้นไมใช่ของง่าย มผู้พยายามท่ามาแล้วแก่ยังไม่ลำเรืจ นอกเสืยจากจะช่วยกันยกระกับปิญญาของกน และของกนให้สูงขั้นเท่านั้น เมอมปิญญา รู้นิครู้รอบกี่จะมเหกุขลกามมาและจะเลิก นับถือไปเอง พระสรรมกํตต้วงศ์ j ๓ www.kalyanamitra.org
ถาม V/T£i»นชบวนmijนช่ๆวมานล้วนนรททfอไม่ เมึ๋อเปีนเช่นนั้น ในฐๆนร ทึ๋เปีนซาวพุทธควรปฏิ1โติฅ้วอย่างไT ตอบ เรองนั้โ^บกาทิพากษวิจารณกันมาก บ้างณห็่นชอบค้วย เพราะเหื่นว่า พระช่วยขาวบ้านทํ่ยากจบ เป็นผู้นำของเขา บ้างกึ๋เม่เห็่นค้วย ต้วยถือว่าพระไม่เกยว ไมใช่กิจของพระฝ็งฆ บ้างกี่เฉยๆ ไม่ออกกวามเกี่น กอยฟงข่าวกราวว่าจะเป็น อย่างไรกันเท่านั้น บ้างกี่มองอย่างสมเพฃเวทนา แฅ่กึ่เๆงจรมบ้างทฅใ'าว่าทวามปTiCเงคขธงคัวใกต้■า:แปีนต^ๆ านา ทุกทแธ้ว เพรารพรรกำธังจรแฅกกน ชาวบ้านกับพรรกำร'งจรแทกกัน กำ ตัง ศรัทธาขธงซาวบ้านกำตังจรธฅน้ธยธ่ธนถงไป ไม่ร้าไม่นานนักคานาทงย่ท' แม่ๆ เปีนค้น กนพวกนั้กอผู้ทิฅบ่อนท่าลายสถาบันของขาวพุทธ■กอสกาบนกาสนา นั้นเอง เพราะเขาเหี่นว่าเมอก้องการจะทำลายสถาบันขาคิกี่ค้องทำลายสถาบันอั๋ก kn สถาบันกือ สถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากบักริย่ลงใหไก้สมใกเถืยบ่อน ถ้ายกนัญทาiTธงคนเทินขบวนทราวน^ขนมาพิจารณาวพคmsไม่ จรค้ธง ฅควานทนายกำว่า ''นิค'' เนิยก'ธน นิฅในทนแยกเป็น kn ปรรเฅ็่น ทธ ร). ผิดธรรม กือ ขิกหลักกำสอนของพระพุทธเจ้า ทแนะให้ทำอย่างนั้น อย่างนั้จงจะคั๋ ขิกธรรมนั้!ม่ถืงกับฅิคกกฅิฅคะราง เพราะเมอไม่ทำกี่ไม่มโทษอันใฅ เพึยงแฅไมไค้รับประโยขนํอะไร แค่เป็น \"โลกวั'ชชร\" กอซาวบ้านเขาตำหนิกิเคยน เขาไม่ขอบใจเท่านั้น ๒ว. ผิควินย กึอ ขิคข้อบัญญัคิทพระพุทธเจ้าทรงบัญญักิไๆว่าอย่าทำ อย่างบันอย่างนั้ ถ้าทำแส้วจะมกวามขิกอย่างนั้นอย่างนั้ 4งเราเรัยกกันว่า \"สืล\" ของพระม kokDcnl ข้อ และบังมั๋ฃ้อททรงบัญญักิไวัเกึ่ยวกับมารยาทของพระอก บับร้อยข้อ ขิกข้อบัญญัติอย่างนั้เรยก \"ขิควิบัย\" โทษทางขิกพระวิบัยนั้นไม่ถึงกับ คิกกุกคิกกะราง แค่จะเกิกโทษแก่คัวเอง เช่น คัวเองก้องเศร้าหมอง ก้องเกือกร้อนใจ จิกไม่สงบ เป็นก้น แค่เป็นสิงทิ่มองเหี่นไก้ยากกำหรับกนกั้อก้าน ใจธ้อฃ้อง% www.kalyanamitra.org
โทษทางพระวินัยอย่างแรงกื่ฃาคจากกวามเป็นพรรไป อย่างกลางๆ ก็่ฅัอง อยู่กรรม (อยู่ปริวาล) โคยปฏิบัฅิฅามพระวินัยเกร่งกรัคยํ่งฃน ทำ กิจบางอย่างทึ๋เกย ทำ ไมไค้ กล้ายกับลงโทษตัวเองนั่นแหละ อย่างเบาก็่ลารภาพแก่ภิกษุอน (แลคง อานัฅิ) ว่าไค้ทำผิคอย่างนั้นอย่างนั้มา และให้กำนั่นกัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำจะไม่พูค อย่างนั้อก นั้กือโทษทางผิคพระวินัย การผิคพระวินัยนั้นับรวมถึงการผิคระเบยบของกณะลงฆทไค้ฅราฃ็้นไว้ เพํ่อปกกรองพระลงฆไทยและกฎระเบยบอื๋นใคทเป็นไปคามพระธรรมวินัยอันผูมึ อำ นาจทางการปกกรองลงฆกำหนคฃนเซ่นกำกังเจ้าอาวาลเป็นค้นเข้าค้วย เพงmะเดินขบวนน เมอพิเครารห์ฅูฅามเหฅการณ์แล้วนิททั้งธรรมนิลทั้ง วินัย ทว่าผิคธรรม กือไม่ส์ารวมกายวาจาอันเป็นเรํ่องของพระลมณศากยบุตร ค้องเกร่งกรัค ฃาคกวามการวะต่อผูใหty ไม่เซํ่อฟิงท่าน ทำ คามใจตัวไม่กำรวม อินทริย่ให้คเป็นค้น ทว่าผิควินัย คือไม่เอั้อเฟ้อพระวินัย ประพฤติสิงไม่กวร (อนาจาร) อันไม่ใซ่ กิจซองลงฆ์ ไกรห้ามไม่ฟ้ง ผิคมารยาทของพระ (เลฃิยวัฅรและอภิลมาจาร) รวมทั้ง ผิคกฎระเบยบของลงฆซงออกไว้ไห้ฅณะลงฆประพฤติปฏิบัติเพิ่อกวามเป็นระเบยบ ในหมู่กณะค้วย แคในการผิคทั้งลองนั้ถึอว่าเป็นการผิค (อาบัติ) เล็่กน้อย ไม่ถึงกับขาคจาก กวามเป็นพระ แคโทษทํ่ไครับและผลทํ่ติคคามมาร้ายแรงนัก ชาวบ้านเขาติเคยน เป็นการก่อกวามปินป้วนไม่ลงบขนในหมู่ลงฆ ทำ ให้เกิคกวามแคกแยกกันในทาง ความกิค (ทิฐลานัญญคา) และกวามประพฤติ (ถึลฟ้ามัญญคา) ทำ ให้ศรัทธา ประซาชนกลอนแกลน มองพระลงฆไนอกแง'หนั่งว่าเป็นผู้ก่อกวน เป็นผู้นำทางกาย และวาจาค้วย แทนทื่จะเป็นเพยงผู้นำทางจิคใจเท่านั้น ปีญหาต่อไปทว่าเนั่อเป็นเซ่นนั้น ในฐานะทเป็นชาวพุทธควรจะปฎิบติ อย่างไร www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวงศ์ I £
ซ้อนเโาการวางตัววางใจIIเนกลาง (อุฌกขา) เกยปฏิบัติค่อพร:มาอย่างไร กี่ปฏิบัติฅ่อไปอย่างนั้น โคยไม่เห็่นmกี่นงามไปฅ้วย แฅะไม่กวรจ:กกอกฅกใจ ปล่อยให้เป็นเรื่องของdงฆจ:จกการกันเอง กวรอยู่วงนอก หรือถ้าหากว่ามกวาม ปร;สงกจ:ช่วยพยุงพร:พุทธศาฟ้นาแล:ข่วยขจคมลทินในพร:กาฟ้นา กี่ทำ ไกโฅย กงศรัทธาตงปสาท:ใหนั้นกง กิกว่านั้นเป็นเพั๋ยง เฌลงวนตัวหนงสองตัวทึ๋คกลง ไปในหม้อแกง กี่ควรเพยงตักเอาแมลงวันนั้นทง ไม่ควรเททงทงหม้อ เพรา:ศาสนานั้นปร:กอบค้ายองกกร กิอ (๑) องคศาสดา กิอผู้ก่อกั้งศาสนา (๒)ฉงคศาสนา กิอกำฟ้อนของศาสคานั้น {๓) องค้สาวก กือยู้เผยแผ่ศาสนา ยู'่ เป็นทายาทของศาสนา {<L) องคศาสนิก กือยู่นบถือปร:พฤติปฏิบัติกามกำฟ้อน (๕) องค้วัคถ ถือสิงของ ตัวแทน แล:สถานทั๋ทเกี่ยวซ้องกับศาสนา (๖) องค์พิธ ถือศาฟ้นพิธหรือพิธกรรมต่างๆ ทํ่มในศาสนา เรืองนั้มเพ็ยงองค์กรท ๓ ถือองค์สาวกบางล่านเท่านั้น ทเรื่มปร:พฤติ นอกล่นอกทาง และม่จำนวนไม่มากบัก เมื่อเกี่นว่าไม่สามารถจ:เยยวยารักษาไค้ กี่การจะตัคทง แก่เป็นไปโกยวิธการอันซอบธรรมไมใช่โคยพลการ และกวรทำบุญ ทำ กวามถืไปกามปกติและเลอกทำ ถือเมื่อกิคว่าถ้าทำไปแล้วจะเถิกบุญจ;เกิก กวามสุฃแก่ตัวเองหรือเป็นประโยซนก่อล่วนรามจริงๆ จึงก่อยทำ เพรา:การเลอก ทำ บุญนั้ แม้พระพุทธเจ้ากี่ทรงสรรเสริญไว้เป็นอเนกประการว่าเป็นสิงทคเยยม และนำผลมาให้แก่ยู้ทำจริง ถาม รเจ้าสอนirองอAt แสรสอนว่าอย่างไr ตอบ พระพุทธเจ้าทรงใซ้เวลาถืง ๖ ป็ เพํ่อก้นกว้าหากวามจริง และทรงใซ้ เวลาถืง ๕๕ ป็ เทยาประกาศกวามจริง (สิ'จธรรม) ทกรัสร'แล้ว เรื่องททรง ใขฃ้อข้ธง% www.kalyanamitra.org
ฟ้อนนั้นกือเรองทุกฃและ!เรองกวามดับทุกข (นิโรธ) ไม่ว่าจะ!ทรงฟ้อนใกร ทึ๋ไหน จุกประ!ศงกณพึ๋อให้เขารู้จักดัวทุกฃ รู้จักวิธแก!ขให้หมกทุกข โกยพระองค์ - ฟ้อนให้เกินทางฟ้ายกลาง กือปฎิบักิดัวไมให้กึงนัก ไมให้หย่อนนัก - ฟ้อนให้ช่วยดัวเอง ให้พึ่งดัวเองก่อน - ฟ้อนว่าสิงทั้งหลายมเหฅุมปิจจัย เป็นไปกามเหตุคามปิจจัย เมื๋อหมก เหตุขลก็่หมก เมํ่อผลมึก็่แฟ้กงว่าเหตุยังมอยู่ - ฟ้อนให้แกปิญหาด้วยการแก้ทเหตุ ไมใช่แก้ทผลอันเป็นปลายเหตุ - ฟ้อนให้ละชั่ว ให้ทำค ทำ ใจให้หมกจก ไม่ยึคมั่นถือมั่นในอะไรมากนัก - ฟ้อนให้มฟ้กิไม่ประมาทในเวลาทำ เวลาพูก เวลากิก กือให้ทำ พูก กิก แก่ในสิงทคงาม เป็นประโยชนทั้งแก่กนเองและผูอื่น ฟ้รุปแล้ว พระองค์ทรงฟ้อนให้!ม่ยกมั่นถือมั่นอันเป็นกิเลฟ้ส์ากัญ ทรงฟ้อน ให้รู้จักพอ ให้ปล่อยวาง เมํ่อปล่อยวางได้แล้วจะหลุกพ้น (วิมุติ) เข้าถืงกวาม ฟ้งบ (สิ'นติ) และไม่หวนกสิษมาผจญทุกฃกันอก (นิพพาน) คำ ({ปีนชองพระพุทรเจ้านั้เหมือนกับยา นู้เปีนไช้ฅ้ปีงบริโภคเช้าไปจื้งจะ ไค้รับนลชองยา คือหายเจี่บไช้ มิใช่เพยงแค่อ่าน({รรพคุณรู้({รรพคุฌทํ่เขยนฅิดไว้ ช้างขวฅยาหริปีช้างกล่องเท่านั้นกี่หายไขไค้ ผูป้ฏิบัติธรรมเท่านั้นจงจะรู้ร({และรับ รลธรรมไค้ หาใช่เพยงเรยนรู้และพูคไค้ตามตำราเท่านั้นไม่ พระมหาทองกิ ฟ้รเกโซ ป.ธ.(ะ^ www.kalyanamitra.org พระธรรมกิตติวป้ศ์ I ๗
www.kalyanamitra.org
b •'<• Qmhicjovlๆ จาก\"มงค0ฟ้าร'' เกอน ริรนาศม 1£อ๕๑๘ ถามโกย... คฺณฟ้รพงษ์ จันทรฟ้ม ถาม การทพรรเถรรบางรูปใปพรมนํ้าพรรพทธมน^ห้แก่ททารไปร}าทนใน แถรนอกปรรเทศนนฆิฅวัตถปรรสงฅชองพรรพุทธเจ้าหรือไม แถรเ!!นการมิค ก้บถมณถารูปทรึอไม' เปีนโถกวชชรไหม .พอบ เรองพรมนาพระพุทธนนฅทหารน1นฟ้มยพระพุทธเจ้าไม่ม เห็่นมแฅ่ทรงไห้ พระอานนท!ปพรมนํ้าพระ!Jริฅรบนกำแพงเมือง ประตูเมือง และบริเวณวังในเมือง เวฝ็าล็ คราวเกิคทุพภิกขภัยเท่านั้น จื้งไม่ทราบวัคถุประสงกํฃองพระองค แตะการ พรมนั้าพระพุทธมนค์นั้ท่านวางหลักไวให้!ซ้นั้าของนู้ทอะให้รคนั้ามนค แตะเขาขอร้อง ให้ท่าเท่านั้น ไม่มืขิคอะไร เริยกว่าไม่ขัคนิมนต์ เพราะเมํ่อท่าไปแล้วไม่เคือคร้อนไกร หากไม่ทำให้อาจท่าให้เกิคกวามไม่พอใ-}หรือกวามไม่เขาใจภัน เสืยหายในระยะยาว เ^ยอก การพรมนั้ามนต์ทหารนั้นเท่าทั๋ทราบมิไค้มืเจคนาจะพรมให้!ปรบ ไมให้!ป ฆ่าเขา แค่พรมเพํ่อกวามสวัตคืมืโซกในการไป เรืยกว่าท่านเพืยง '•รู้\" แค่ \"ไม่เหี่น\" www.kalyanamitra.org
และ \"ไม่เป็นใจ'' ด้วย พูคง่ายๆ คือท่านไมได้ฆ่าเองและไมไMmIปฆ่า จะเอาผิค ท่านตรงไหนกัน แล้วผิดฟ้มณสารูปหรือไม่ สมณสารูป หมายถึง มารยาทของพระ เช่น การเคิน การนั่ง การห่มผ้า การพูค เป็นด้น อันนั่ใม่อาจตอบได้เพราะไมได้เห็่นท่านเวลาพรมนามนฅอยู่ จึง ไม่ทราบว่าท่านเดิน นั่ง และห่มผ้าอย่างไร ส่วนจะเป็นโลกวัชชะไหม กึ๋ตอบได้เลยว่าก็่ชาวโลกเชาขอบไหม ถ้าชอบก็่ไม่เป็น ถ้าไม่ชอบและนำ ไปตำหนิติดิง กี่เป็นน่ะซ ถาม การเดินขบวนชองพรรทร่วมไปกับปรร(ชาชนชาวนาในครั้งนั้น โดยได้ฏก นิมนตได้ไปร่วมเพอช่วยเหลือชาวนาทเ!}นชาวพทธด้วยกัน ให้ได้รับความเปีน รรรมแลรปลอดกัยจากป้ายตรงข้าม แลรการกรรทำไปไนครั้งนั้กื่ด้วยจิดฒตตา ทึ๋เปีนกศล ผิดด้วยหรือ ตอบ; ฆิคหรือไม่ฆิคได้ตอบไปแล้ว ไม่ขอตอบอก แต่จะขอทำกวามเข้าใจกับคุณ หน่อย คือการใข้ธรรมของพระพุทธเจ้านั่นต้องรู้จักใข้ รู้จักเวลา รู'้ สถานท ไมใช่ ใข้!ด้เสมอทุกเวลา หากใซ1ม่ถูกกาลเทศะอาจมโทษ เช่นชาวนากับงูเห่านั่นแหละ วิธึช่วยเหลือกนอํ่นตามหลักธรรมมถมไป ไมใช่เฉพาะเมตตาอย่างเคืยว การทํ่พระ ไปร่วมนำขบวนนั่นไมใช่เป็นเมตตา แต่เป็นกรุณา เพราะเมตตาแปลว่ามกวามรัก ใกร่อยากจะให้เขาเป็นสุข เป็นเรื่องชองกิเลส ส่วนกรุณาแปลว่ามกวามสงสาร ต้องการให้เขาพ้นจากกวามทุกชกวามเคือกร้อน เมึ๋อช่วยเหลือไมได้ท่านต้องใข้ อุเบกขา วางเฉยเลืย เห็่นคนตกนั่า เราอยากประพฤติกรุณาจึงโดดลงไปช่วยเขาทั้งทํ่เราว่ายนํ้า ไม่เป็น อย่างนั่เป็นความฉลาดหรือไม่ การใช้ธรรมะต้องสูอย่างนั่ I๑๐ ใจข้อจ้อง% www.kalyanamitra.org
ถาม พร:1ภิกษุmovเคินขบวนกึ๋น}โซ่เรํ่องกาTเมืองไม่มเจหนาทํ่เ^นอกุriล คิด แค่เพึ๋ยงว่าตนกินขาวอาหารของปรรซาขนจึงสมควTเปีนพr:lชองปrรชาชน ไมใช่ พรรของพวกคิ'กดินาหรือนายทน แค่อาจขาคการใคร่ครองในชณร!นั้น คามหลัก ซองพร:!พุทรคาสนากึ๋ถอว่าไม่มรด ถงผิคก็่เพยงเล็่กน้อยเท่านั้น ท่านม่ความเห็่น อย่างไร หรือรคคิลข้อไหน 'ตอบ กุณ^ค้อย่างไรว่าใช่การฟ้องหรือไม่ใช่การเมือง ฅุณเอาอะไรมาวัคว่าแก่นั้ ฟ้นการฟ้อง แก่นม๊ไช่การฟ้อง และไมมหคนาฟ้นอกุศล และพวกค้กฅินาหรือ นายทุนนั้นเป็นอย่างไร อาตมาก็่อยากทราบเหมือนกัน ประพฤติอย่างไรอึงเป็น ประชาชน เป็นกักคินา เป็นนายทุน และกุณอะเกณช่ให้พระเป็นซองประซาขนท่า เคยว ไมให้เป็นพระของพวกกักตินาหรือนายทุน คุณเอาสิทธิอะไรไปอ้างอย่างนั้น ก็่พวกกักฅินาหรือนายทุนเขาไมไคใส่บาตรพระหรือ เขาทำบุญไม่เป็นคอกหรือ อาคมาไม่ทราบว่าใกรเป็นไกร ใกรทำบุญใส่บาครให้ก็่ร้บนั้งนั้น พระทั่วไปก็่กงเป็น อย่างนั้นั้งนั้น หรือจรมพรรองเๆโหนบ้างmofเาโยมจม่ย่บาฅรก็่ถามก่อนว่าโยมเปีนนายๆน หรือไม่ โยมเปีนกิ'กคินาไหม โยมเปีนประชาขนหรือเปถ'า ถ้าถามธย'ๆงนั้กงจะเกิน บาฅรเปล่ากลับวัคแน่นธน พระมหน้าที๋ฟึงเคราะหอนุเคราะหบุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นซาวนา กระยาจก หรือพระราชามหาอำมาคย ต้องเลมอหน้ากันหมค ไม่เลอกทรัก ขลกที๋ชง นึ๋คือพระ คุณทราบไค้อย่างไรว่าการทำมิคโคยขาคการไคร่ครองในขณะนั้น คามหลัก ของพระพุทธกาลนาถือว่าไม'มิค คุณเองกี่ยอมรับในประโยกค่อมาว่า \"ถืงมิคกี่ เพยงเลี่กน้อยเท่านั้น\" ในตำราพระวินัยของพระ (นวโกวาท) ซํ่งพระพอบวชไค้ พรรษาเคยวกี่ร้แล้วและอยู่หน้าค้นๆ เท่านั้นเอง ไค้ระบุไว้ว่าอาการทึ่ภิกบุจะค้อง อาบัติ (มิควินัย) นั้นมื ■๖ อย่างกอ ค้วยไม่ละอาย ๑ ค้วยไม่รู้ว่าสิงนั้จะเป็น อาบัติ ร) ค้วบลงลับแล้วขืนทำลงไป ร) ค้วยลำกัญว่ากวรในของทไม่กวร ร) ค้วยลำกัญว่าไม่กวรในของทํ่กวร ร) ค้วยลืมลติ ร) พระธรรมกิตติวป้ศ์ I aa www.kalyanamitra.org
พรร-^^ผิค^ตก็่ฅ้วยอากาททต่าบ ทำ ไปแล้วเป็นมิคทั้งนั้น จรอ้างว'าซๆค กาทํ1ฅร^ฅ7อง (ถืมสติ) แล้วไม่นิค จรทํเงขนหfอทฌ ตามกวามเหี่นของอาคมาไนiรองนกี่ฅอบไปแล้วเซ่นกัน ไหไปอ่านใหม่ ส่วนผิคสืลข้อไหนกี่ตอบไปแก้ว เพยงแคไม่ระบุซคไปว่าข้อไหนเท่านั้น ท่นั้ขอระบุ ไหขัคไปว่าผิฅข้อไหนบ้างกอ (๑) ทั๋ว่า เพราะไม่ม่เอั้อเฟ้อพระวินัยนั้นเป็นสิกขาบทท <1 แห่งสิรา- ปานวรรก ปาอิตคยกัณฑ (๒ว) ทว่า เพราะประพฤคิอนาจารนั้นเป็นสิกขาบททิ่ ๑ แห่งสิหธรรมิค- วรรก ปาจิตคยกัณฑ (๓) ทว่า ผิคมารยาทของพระ มหอายสิกขาบท ไนเสิฃิยวัตร กณไปหาอ่านไค!นหนังสิอนวโกวาทหรือวินัยมุข เส่ม ๑ ถาม คำ ร่'งชองมหาเถTสมาคมใช้ไม่ไค้ ไม่มความค้กติรทรเลย แม้นค' พรรเถrรกื่ยั'งขคคำสั่งเสมอ เซ่นเ7องภาrห้ามค้คงานแสดงมหTสพปTSจำปี ของวัค แตรห้ามมึ๋กาTเรยไรแลรอนๆ เค้าอาวาสส่วนมากกย้'งป็าปีนเสมอ เมอเป็นเซ่นนพรรเกรรทั้งหลายรดคำสั่งมหาเถรสมาคมหรือไม' คอบ กุณเอาอะไรมาฅัคสินว่ากำกังของมหาเถรสิมากมไข้!มไค้ เอาเพยงไม่ม กวามกักฅสิทธเพราะม่ผู้ละเมิคขัคกำกังเสิมอเท่านั้แก้าคคสินว่าไข้!มไค้ บ้าหาก กุณเข้าไจอย่างนั้น พระวินัยของพระพุทธเจ้าทํ่ทรงนัญญัฅิไว้กี่ไข้!มไค้ ไม่มกวาม กักคสิทธ!ปค้วยน่ะซ เพราะมพระล่วงละเมิฅพระวินัยกันเรํ่อยมา แม่ในสินัยพุทธกาล กี่ เป็นอย่างนั้ อย่าลมว่าไม่ว่าคำกังและกฎหมายย่อมม่ความกักคํ่สิทธึ๋ในคัว ใครทำคาม หรือไม่ทำตาม เป็นเรองของบุคคล ไมใช่ความนคของคำกังและกฎหมาย ใจธ้อข้อง รืจ www.kalyanamitra.org
เรองฑารห้ามๆ?!มหรสพในวัคนั้น อาคมาบๆชมากี่นานพอสมควรยังไม่1กย เห็่นทำนั้งของมหาเถรสมาคมเรองห้ามๆคงานแสคงมหรสพประจำ?เชองวัคเสย คุณไปเอามาๆากทไหน มีแฅ่ระเบยบห้านๆคมหรสพบางอย่าง ฟน รำ วง มวย การเค้นรำในวัคเท่านั้น โปรคเข้าใๆให้ถูกค้อง ส่วนห้ามการเรั๋ยไรกี่เหมือนกัน ท่าน ไมไค้ห้ามประซาชน ท่านห้ามพระเท่านั้น และกี่เปีคซ่องไว้ให้ค้วยว่าเมอค้องการ เรํ่ยไรก็่สามารถชออนุญาคไค้ ท่านมืกณะกรรมการคูแลเรํ่องนอยู่ ทํ่ว่าเๆาอาวาสส่วนมากกี่ทำ?)นอยู่เสมอนั้น \"ส่วนมาก\" ทํ่คุณว่ามิไค้ระบุ ไว้ให้แน่นอน ๆงอาๆเหมือนกส่าวอย่างเลอนสอยก็่ใค้ เพราะการเรี่ยไรทํ่ห้ามนั้น หมายถงพระเ?]นผู้นำทำโคยครง เซ่น พิมพขํ่อคัวลงในฎกา อย่างนั้ธคแน่ แค่กี่ มักๆะไม่มืเรี่อง เพราะไม่มืผู้รัองเรยนไป แค่ถ้าท่านไครับอนุญาคเป็นทางการๆาก ทั้งทำยกณะสงฆและทำยบ้านเมือง ท่านๆะผิคอย่างไร แค่การบอกบุญธรรมคาค้วยปากหรึอเขยนๆคหมายนั้นเป็นเรี่องธรรมคา เสืยแต้ว เพราะปิๆๆบันหากท่านไม่ทำอย่างนั้น วัคกี่ๆะโทรม สิงใหม่ๆ กี่ๆะไม่เกิคขน ในวัค ชาวบ้านเขากี่ๆะว่าอั๋กแหละว่าเๆาอาวาสวัคนั้กินแต้วนอน ไม่เหี่นทำอะไร กรนซวนญาคิโยมสร้างโน่นทำนบ้างกี่ถูกค่อว่าอกว่าเทั้ยวเรี่ยไรรบกวนซาวบ้าน สมภาทจ้าวัทมันหนักอย่างนแทถะๆณเอ๋ย ไม^จรเคินทางไทนถูก ถาม สัด ๒๒๗ ขัอนั้น พร;!เดินขบวนรดช้อไหน มข้อความว่าอย่างไร จงอธิบาย ตอบ บัญหาข้อนั้กี่ขากับของเก่ามาแต้วข้างค้น และคุณกี่ให้อ้างว่าข้อไหนทึ่ระบุ ว่าเคินขบวนมันผิคอย่างนั้นอย่างนั้ ไม่มืหรอกคุณในสิล ๒๒๗ ข้อน่ะ แค่ทผิค เพราะผิคข้ออนๆ คังกล่าวแต้ว ส่วนทํ่ๆะให้อธิบายนั้นเห็่นว่ามากข้อไป คุณไปหา อ่านหรือไปถามพระรูปทํ่ท่านเคินฃบวนกี่ใค้ ให้ท่านอธิบายให้vJง อันทํ่ๆริง การทๆะวิๆารณอะไรว่าคหรือไม่ ผิคหรือถูกนั้นเราควรๆะกี่กษา หากวามรูในเรี่องนั้นๆ ให้ถูกค้องถ่องแท้และให้รู้ๆริงเต้ยก่อน ไม่ใช่นึกเอาเอง www.kalyanamitra.org พระธรรมกัคตวงศ I em
กาคคะ!เนเอาเองว่ากวรเป็นอย่างนั้นอย่างนั้หรือต้องเป็นอย่างนั้นอย่างน็้ เพราะ; การนึกกรเนกับกวามจริงมักจะ:เกินสวนทางกันเสมอ รู้กนว่า วิกัยมักปราชญ์และ{คนดทังหลายเขาจรไมคเรือทั้งโกลน จร{ไม่ วิจารณ์อร!ไรบ่มปามโดยไม่รู้ฃ้อเท็จจริง ท็มแค่พวกคนพาลซอมหาเรื๋องเท่านั้น ท็ชอบปรร!พฤติอย่างนั้น และ;ท็ว่าพระ:ริกษานึล 1๓๒๗ ข้อนั้นเป็นเพยงทํ่มาในพระ;ปากิโมกข คือ ทํ่พระ;ประ;ชุมกันสวกและ;vlงกันทุกกิ่งเสือนเท่านั้น กิ่ไมใต้มาในพระ;ปากิโมกฃยังม อกมากมาย สรุปแล้วพระ;ริกษาคืสมากกว่า ๒๒๗ ข้อ แค่พอจะ;ยกมาอ้างในกิ่นั้ ไต้ว่าพระ;ริกษาคืลจริงๆ d ข้อเท่านั้น คือ (๑) ปาติโมกขมังวรคืล คือสำรวมในพระ;ปากิโมกข เว้นข้อกิ่พระ;พุทธเจ้า ห้าม ทำ กามข้อททรงอนุญาฅ ไต้แก่คืถทั้ง ๒๒๗ ข้อนั่นเอง (๒) อินทรืยมังวรคืล คือสำรวมระ;กังอินทรืย่ \"to คือ ฅา หู จมูก ลน กาย ใจ ไมให้ยินสืยินร้ายในเวลาเหื่นรูป ฟิงเสํยง เป็นต้น คือให้ระ;กังเรํ่อง มารยาททางกาย วาจา แตรใจนั่นเอง (๓) อาซวปาริลทธิคืล คือเตั้ยงชวิฅโกยทางทชอบ ไม่หลอกลวงเขา เลยงซวิฅ (d) มัจจัยมัจจเวกฃณคืล คือพิจารณาเสืยก่อนจรบริใภกปิจจัย d ไมให้ บริโภคต้วยตัณหา คืล d ข้อนั้พรรท่านต้องริกษา กุณลองนึกกูแล้วจรรู้เองว่าถ้าทำอย่างนั้น อย่างนั้จรผิคคืตข้อไหน ถาม การทพรรเถรานเถรรไปเจิมป็ายสถานทํ่ด่างๆ เช่น พรรคการเมือง โรงแรม สถานทอาบ อบ นวด นัน้ เปีนกิจของสงฆ์หรือไม' (ทไมใช่แล้วทำกิ'น ไปเพึ๋ออฆ์ร ตามหล้กของพรรIพทธสาสนามืสอนไว้หรือไม่ (ร)(ร^ I ไฃช้อข้อง% www.kalyanamitra.org
ตอบ การเจิม![ายนพร:;พุทธศาศนาไม่ใค้ศอนไว้ แท่™ไ™ข้อห้ามไว้เซ่นกัน ถ้าถามว่าเป็นกิๆฃองศงฟ้หรือไม่ ก็่ฅ้องฅอบว่าเป็น เพรารกิรของศงม่ อย่างหนํ่งกือรักษาศรัทธาของชาวบ้าน หากการรักษานั้นไม่ผิคธรรมไม่ผิควินัย พระร!นัคทำศรัทธาของขาวบ้านให้เสือมไป ท่านปรับผิศเป็นอากัฅิไปเสิยอก การทท่านไปเจิมบ้ายศามทท่างๆ นั้นท่านไปกันเพรา2เขานิมนศใป และ เมํ่อไปแล้วท่าน™ไค้เจิมอย่างเคยว บางองกท่านยงอบรมศอนธรรมให้เขาอกค้วย และก่อนทั๋เขาจะให้เจิมเขานัก'จะทำบุญทำทานก่อน กี่เป็นการศงเกราะหเขาให้!ค้ ทำ บุญ รักษาศรัทธาของเขา 'จะฆิคค้วยหรือ คุณมาทิ?}h?iTงสถานทํ่เฟานั้นเอง คุณไมไท้ฅิฅใจเfองกาทจิมเสย เพราะ ถัาฅิคhคุณกงถามแต้'วว่าเ^มร้านท้า เจิมปี'ายโรงเรยนมิคไหม ศถานทํ่ทํ่ท่านห้ามพระไปยุ่งเกี่ยวไม่กวรไปนั้นเรืยกว่าอโกจร เซ่น โรงเหล้า ร้านเหล้า ส์านักหญิงบำเรอซาย เป็นค้น ถ้าพระเข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นโลกกัซซะ ชาวบ้านเขาตำหนิ นท่ศถานททกุณยกมาอ้าง พระท่านไปไค้ ท่านไปทพรรกการเมือง มิใซไป เล่นการเมือง ไปเจิมบ้ายโรงแรม มิใขไปนอนในโรงแรม ไปเจิมศถานกี่อาบ อบ นวก มิใชไปให้เขาอาบอบนวคนํ่กุณ ท่านไปเพํ่อศงเศราะห้อนุเกราะห้เขา แท่ท่าน กี่ไค้รับโทษแล้วน คือถูกโลกาซซะไงล่ะๆณ ถาม เมอไรคฌะสงฆจะมการรวมมหานิกายและรรรมยตเข้า นอนเดั๋ยวก้น โคยให้เรยกว่า \"คณะสงฆ์ไทย\" แล้วเติกระบบสมณห้กดิ้ทงให้หมต เพราะมน เปีนการแปงทั้เวรรณะของพระภิกษุสงฆ์แสะรควตถุประสงค์ชองพระพุทธเจ้า ตอบ เรืองกา?รวมนิกายศงฆนั้นตอบไค้ทนทว่าไม่รู้ เรืองนั้ไม่อาจตอบไค้ เพราะ ไม่มืหน้ากี่ เป็นเรืองของพระ^หญ่ท่านจะพจารณา กุณไปร้องเรืยนหรือเศนอท่าน เอาเองเถิก จะเอาไจซ่วยค้วยกน www.kalyanamitra.org พระธรรมกตติวงศ์ i
ถาม Amsmsmrsyyสมณ^กค เข'น ms»T เจ้าคุณ สมเด็่จ มหfอไม่ ถ้าไม่ม่แส้วทำไมพภิกษเม่องไทยจงฅั้งกนขนมๆเพื๋อทจ้งเพอทวงijfiTtjsufiils- ยกเลิกทงทั้งทมตจร1คไหม ฟ้ธฆ ไมม แค่ทํ่ฅั้งกันชนมาเพอกวามศร?ทกในกาท]กกรอง เหมอนพระพทรเจ้า ทรงคั้งเอฅทักกะหรือกั้งอักรศาวกซ้ายชวานั่นแหละ แค่ศมัยก่อนกั้งกันฅามกวาม ศามารถ และกั้งพระทหมคกิเลศแล้วใงไม่ยุ่ง ศมัยนกิเลศยังพอมนั่กณ จงยุ่งยาก ขปางนั่ ยกเลิกทงกั้งหมกจะกไหม คอบง่ายมากว่า \"ก็่ฅน่ะชี!\" เพราะพระทํ่ไม่คิก ยกนั่นน่ะกือพระอรทันค่เท่ากั้น จะไฅ้เป็นพระอรทันฅกันมากๆ ไงล'ะกุณ แค่ใกรจะทำคามกุณ กนทํ่กิคอย่างกุณและพูคมากกว่ากุณมมาแล้วหลาย ศมัยหลายยุก แคใม่สำเรึ่จ และบางทํเป็นพระเสิยด้วยซํ้า พอได้เป็นพระกรู[จ้าเๆณ เข้าเห็่นเง่ยบไปทุกราย คามข้อเศนอชองกณทให้เรยกพระคามอายุพรรษากั้นก็่เข้าท่ากเหมือนกัน คูเหมือนทลังกาและทึ่กังกลาเทศเขากี่ใข้อย่างกั้นนึ่ แคในเมืองไทยนั๋เหี่นจะเป็นไป ได้ยาก เพราะมืฃนบประเพณค่างกัน เราทำเราเรยกกันมาอย่างนมานานแล้ว จนเป็นทยอมรบกันทั่วไปแล้ว คอบปิญหาชองกุณมายาวยืคหลายข้อ เส์คร้อนคิพอกวร อาจถูกใจหรือไม่ ก็่ได้ เพราะไม่หวังให้ถูกใจเศมอ เอากวามจริงกวามถูกเข้ามาว่า หรืออาจถูก \"ค่า\" กี่ได้ เพราะกนเราขอบกวามจริงกันทุกกน แคไม่ซอบพูคจริงและไม่ซอบกนพูคจริง ทุกกนไปมืใซ่หรือ อาจถูกแย้งว่าเป็นพวกทักกินา หรือนายทุน หรือนักอนุรักษ นิยมไม่ใช่ลังกมนิยมอ่อนๆ กี่คามแค่จะว่าเถอะ ยอมรับทังเศมอ พระมหาทองค ศุรเกโช ป.ธ.ร^ «๖ I ใธข้อข้อง ริจ www.kalyanamitra.org
ฮญห1ข้อVใจ จาก \"มงคกสาร\" เกจนพฤษภาคม ๒๕®๘ กาม่โคย... คุณสม?(กคิ้ คุขเสมอ ดาม ก่อนทำบญเช่น^งพร!!สวคมนต์หรอyiง าไม^องรั น ไม'ร้ม ไมไค้หรอ นลรถ้าร้มค้ลค้บพรรมๆนค้วไม'ร้หษาจ นบาปหfอไม่ การรับสืตก่อนจะ;ทำบุญต่างๆ นั้นนๆคปรรศงก่จะให้ผู้ทำบุญมกาย วาจา แถะใจบรสุทธสะ;อาคฟ้นฌองค้นก่อนที๋จะรับคุณกวามคอย่างอํ่น เหมือนการจะ ย้อมม้า ค้องชกม้านั้นให้สะอาคเสียก่อน สีทํ่ย้อมจึงจะคิคม้าค ยั๋งชักจนชาวศะอาค ค้วยแล้วกี่ยั๋งจะไค้สิทเค่นซคคามค้องการ พูคใค้ชัคกื่คือรับจึสเ'พํ่อใหใจเยี่นเสียก่อน นั่นเอง สีล แปลว่า ปกติ ก็่ไค้ แปลว่า เย็่น กึ๋ใค้ ทํ่แปลเข่นนั้นหมายกวามว่า สีลเย้นเกรองกวบกุมรักษากายวาจาให้อยู่ในสกาพปกคิ ให้สงบ ไมให้!ปก่อกวาม เคือคร้อนแก่ตนและผู้อั๋น เมํ่อกายวาจาเป็นปกคิดแล้ว จิฅใจก็่จะพลอยเยือกเยี่น สงบนั่งไปค้วย www.kalyanamitra.org
คนเราตองใจเย็่นเ^ยแล้วก็่เปีนอันเย็่นhไค้ว่าจ^จับจ:!ทาอ:!ไพมักจรตมเหตุ มมถแตรถูกค้องถ่องแค้ไปฅถอด((ๆย จร'^ศกันก็่ทู้รอง จรทำก็่คิดถ่อนทำ มความ (เบายอกตบายใจทํจรทำกิจนันๆ เหมือนกับคนทึ๋ร้อนมา พอไค้อาบนํ้าอาบท่า ปรรแกังชโตม'นาอบ■ราหอม พักผ่อนแล้ว จิฅใจกี่จรตบาย ความร้อนกี่จรหมฅไป ความกรรวนกรรวายกี่จรไม่มื จรจับจรทำอรไพ่อไปกี่เกี่มใจทำ ทำ ค้วยอารมณ์ท แจ่มใส การรับสืลก่อนทำบุญอืนๆ ก็่เหมือนก้บคนร้อนมาได้อาบนํ้าอาบท่าก่อน นนเอง เพราร{สืลจร!ทำใหจ้ตใจเยือกเย็่น มืกายวาจาเมืนปกติ มือารมณ์สร!อาด แจ่มใส พร้อมทจร!รับคุณความดอึ๋นๆ ได้อย่างเต็มท อันทจริงเมํ่อมองอกมุมหนึ๋ง การรับสืลนั้นกื่เปีนการtเกสมาธิจิตอย่างหนึ่ง กือฃณรนึ่กำลังรับสืถนั้น แม้ปากจร:ว่าตามพรร: แต่ในขณะ;นั้นใจก็่นึ่งสงบไม่วอกแวก ขัคส่ายไปด้วย กายกี่สงบนึ่งอยูในอาการส่ารวม มแต่วาจาเท่านั้นทเปส่งออก ลอง ลังเกตคูใหค เวลาฌู้านรับกํลกัน สถานทนั้นจะ!สงบนึ่ง หยุคการเกลื๋อนไหว ไม่มื เส่ยงอํ่นไคเข้ามารบกวน มืแต่เส่ยงพระ!ใหกี่ลและ!เสิยงกนว่าตามเท่านั้น บรรยากาก เซ่นนั้นคคูไมใช่เล่นเลย แตโคยธรรมเนยมนิยม การทำบุญในพระ!พุทธศาสนานั้น มืวิธิทำ ได้ ๓ อย่างกือ ทาน กี่ล และ!ภาวนา เมอจะ!ทำบุญอะ!ไรอย่างใคกี่มักจะ!ทำให้กรบทั้ง ๓ อย่าง เพอใหไค้ซอว่าทำบุญจริงๆ เซ่น จ3ให้ทานกี่รับค้ลก่อน จะ!ฟิงสวคมนฅ ฟิงเทศนชงมับเนึ่องในภาวนากี่รับค้ลก่อน หรือเนึ่อรักษาค้ลแล้วกี่นิยมให้ทาน นิยมทำสมาธิภาวนา ปฏิบัติกรรมฐานไปด้วย คังนั้เปีนด้น ก่อนจะ!ทำบุญนั้นๆ เราจะ!ไม'รับกี่ลก่อนกี่ใด้ แต่กี่เปีนการฃาคกวามบริสุทธ เบืองด้นไป ถ้าเหื่นว่าตัวเองบริศุทธิด้วยรักษาติลอย่างมั่นกงฅลอคมาแล้วจะ!ไม่รับ อั๋กกี่ได้ แต่รับซํ้าอกกี่ไม่เหื่นเปีนเรํ่องเส่ยหายแต่อย่างไค เท่ากับได้ตอกยํ้าความ บริสุทธิ้ฃองตัวเอง เปีนการคเส่ยอก ๑๘ 1 ไขอ้อช้อ0 ริจ www.kalyanamitra.org
อนํ่ง การท]สืลก่อนทำบุญนั้นกี่นเฉพาะกฤหัศถทั่วไปแตะรับสื๕ เท่านั้น ส่วนยูทเ^lนบTTพซิตแตะนักบวขก0พTะภิกษุf^ามเณT แม่^ ผู้ปฏิบัติธรรม ท่าน เหต่านั้รักษาติลประจำอยู่แต้ว ก่อนทำบุญจํงไม่มธรรมเนยมต้องรับสืตอก แตะ ติตฃองท่านก็่ตูงกว่าติตซองกฤหัตถอยู่แต้วค้วย ก่วนทว่าเมํ่อรับติตหับพระแต้วไม่รักษาวะบาปหรัอไม่นั้น ก็่แต้วแท่เวฅนา ลือหากเรามเวฅนามกวามฅั้งไววะรักษาแตะรับสืตหับพระไว้ ซึ่งเท่าหับไต้หัญญา หับท่านไว้ เมื่อรกสิ'ญญากเท่าหับเราขิฅหัววะ ไม่รักษาสิญญา เมื่อรฅสิญญาแต้ว ไปต่วงถะเนิกลืตเฃ้าก็่เป็นบาปแน่นอน บาปตรงททำรกลืตนั่นเอง หาใช่รดเพราะ รฅสิญญาไม่ เช่น รับลืตแต้วไปฟาสิฅว่ บาปณี่กิกวากการฟาสิตว่ เป็นต้น หาก ไม่มเวฅนาจะรักษากื่ไม่รดสิววะ แตะเมื่อไปทำรดเข้าณป็นบาปเพราะทำกวามซั่ว เหมือนหัน ดังนั้น กา?วะรับลืลหรือไม่ก็่ดาม หากรดข้อลืลแต้วถอว่าเป็นบาปทงนั้น แตทท้องรัย^ถนนณพํ่ธใmrาไฅ้^านกว่าเTาไค้d'ญญาไ^บพระ จะไท้ใม่ทิท ถ่วงละเมิดท้ถง่ายๆ เมํ่อจะทำรคก็่พอจะยับยั้งชั่งใจนึกถึงถ่จจะทํ่ใท้ไวกัยพระไท้บ้าง มิอานิสงท้ท้ถข้อหนงวำ \"มิเลน โภคลมฺปทา - จะถึงพร้อมค้วยโภค- สมบ้ฅิไดกเพราะมิล\" ยังมองไม่เหึ๋นว่ารกษามิลแล้วจะมิโภคสมบัติไค้อย่างไร บางคนรักษามิลยั๋งจนเมิยด้วยซาไป จะมิผิดไปหรอ ขอได้โปรดอธิบายให้หาย ข้องใจด้วย อานิตงส์ลืถข้อนั้ท่านว่าไว้ถูกต้องแต้ว กือยูรักษาลืลนั้นวะโกยเวดนาหรือไม่ กี่คาน เมื่อเขาไม่ทำชั่วกี่ถอว่ารักษาลืตทั้งนั้น เมื่อไม่ทำชั่วกี่!ม่มรดอะไร กนทไม่มื กวามรกกี่ตานารกวะอยู่ในสิงกมหับเขาไค้อย่างเปิดเผย ไม่ค้องหตบช่อน ไม่ค้อง หนหน้าไกร วะไปไหนมาไหนวะประกอบการธุรกิวอะไรกี่ทำไต้อย่างปกติ ทำ มาหากิน ไต้เหมือนขาวน้านทั่วไป เมื่อประกอบอาชพธุรกิวไต้อย่างนั้ ทรัพย์ตมบัติกี่นมา 'น้ากะ กี่เกิดฃนเรอยๆ รักษาลืตทำไหมโภกตนบัฅิอย่างนั้ www.kalyanamitra.org พระธรรมกํตติวป๋ศ์ I ๑๙
อึกอย่างหนง กาทักษๆอึถนั้นเปีนเหฅุให้ปTรหยัตแลย่เม่ร้นเปถึอง เพรๆ:; คนรักษาอึลจ:!ไมอึนเปลืองมาก ลดค่าใช้จ่ายทไม'จำเปีนไห้เกือบทั้งหมค แมทจำเปีน กี่ลดไห้เปีนค่วนใหญ่ โภคลมบัฅิทํ่มอย่กี่ไม่ลูญหายร้นเปลืองโฅย่ใช่เหดุ ทำ ให้ม โภคลมบัฅิเหลือไห้ทินใจไห้นาน นอกจากนันการรักษาสืลเป็นเหตุใ\"^ค้ฝ็มบัฅิอย่างสูงกือศมบัฅิทิพย เพยบ พร้อมด้วยสุขทิพย่ในแคนสวรรก์ เพราะฬูทษาสืลย่อมมสุกฅิศวรรคเป็นทํ่ไป ย่อมได้ เสวยสุฃฟ้มบัฅิในทนั้น หรือหากกลับมาเกิคใหม่ย่อมได้เกิคในคระกูอทํ่มั่งคั่งสมบูรณ ด้วยโภคสมบัคิ ไม่เกิคมายากจน สำ บากลำบนเหมือนกับคนทไม่เคยรักษาสืล สท]ว่า อานิสงส์สืลข้อนคือเป็นเหตุให้!ด้โภคะเพราะประกอบอาซพสุจริต เป็นเหตุให้รักษาโกคะไว้กินไว!ข้Iค้เพราะประหยัด ไม่■เ^มเ1^อย และเป็นเหตุให้ ไค้โภคะทิพยัโนสุคติภูมิ เหถ่านคืออานิสงส์กิลข้อทว่า \"คืเลน โภคสมฺปทา จะถึงพร้อมด้วยโภค ลมบัฅิได้ก็่เพราะคืล\" ทราบดังนแล้วกี่พงรักษาอึลกันเถิด ห้องการรารวย ห้องการอยู่ฅีมลุข ห้องการมโภคลมบัฅิ กี่ลองมารักษาอึลให้มนคงกันคูเถิด จจ่ไม'พลาดอานิลงล้กืล ช้อนเลย ฅรงกันข้าม หากไม่รักษาคืลหรือรักษาคืลแล้วไปละเมิคคืลเข้า เซ่น ไป ฆ่าคนหรือลักทรัพย์เขาไว้กี่ด้องหลบด้องซ่อนหนมือกฎหมาย ระแวงระวังอยู่ราไป ไม่เป็นอันทำมาหากิน อยู่ไม่เป็นท จะมาหาลูกเมืยแค่ละครั้งก็่ด้องหลบต้องซ่อน ประกอบกิจธุระประจำก!มได้ อย่างนั้แล้วทรัพย์สินจะเกิคมืได้อย่างไรกัน ถึงหาก ถูกจับไค้กี่ด้องถูกลงโทษอยู่ในคุกในคะราง ทำ มาหากินอย่างซาวบ้านไมได้ ทรัพย์ สมบัติทเคยมืถึร่อยหรอไป บางครั้งลูกเด้าก็่อคอยากขาคทํ่พึ๋ง บางคราวภรรยากี่ ไปมืสามืใหม่อภ จะห้ามปรามเขากี่ไม่ห้งเพราะหาเลั้ยงเขาไมได้เถึยแล้ว หรือเมื่อ ต้องหลบซ่อนคัวหนมือกฎหมายอยู่ กี่ด้องใข้จ่ายทรัพย์สินทมือยู่กินไข้ กี่หมคไป เรึ๋อยๆ หรือหากค้องค่อล้คคืความ กี่ด้องใข้จ่ายมหาศาลถึงหมคเนั้อหมคคัวกี่มื ๒๐ I ไขข้อข้อง'รืจ} www.kalyanamitra.org
นิท^(แพยงชัธเคึยวยังมโทaชนาคน ถ้านิคหตายๆ ช้ปี'^รเทื0คท้}นนตi นถาญโภคะชนาคไหน คังนั้บ ทิ่พรรท่านว่ากนทจะมีโภกสมบัติพรซมมูฅไทฑเพทรสืลนั้นจง ถูกก้กงแล้ว ทํ่ว่าทนรักษาสืลบางกนยากจนลงเรํ่อยๆ นั้นณ!เนจริงส์าหรับบางทนเท่านั้น แฅ่กี่มฃัอเที่จจริงอยู่ว่า เพยงแท่รักษาสืลรย่างเคยวบังไม่พอหรซกส์าหรับซาวบ้าน เพรารติลทำไหมโอกาสอยู่ร่วมกับซาวโลกซนไค้อย่างปกติสุข แท่หากจะให้เกิฅไง่าก ลมบัติแล้วค้ซงปรรพฤติธรรมกำกับค้วย กืซในซณรทรักษาติลนั้นกี่ค้องขยันหมั่นเพยร แสวงหาทรัพย่สมบัติโคยทางทํ่ถูกทิ่กวรค้วยจงจะมทรัพย่ตินมากมูล เริยกว่าใซ้ติล เป็นสะพานทอคไปหาโกกะ ใช้ธรรมะเป็นเกรํ่องมือฆลิคโภคะนั้นซนมา แค่คนทรักษาติถอย่างเคยวถงจะจนกี่จนแท่ทรัพบกายนอก ส่วนทรัพย่ ภายใน (อริยทรัพย่) ของเซามือย่างสมบูรณ กนอย่างนั้ทางศาสนามิไค้ถือว่าเป็น กนจนเลย กังพระบาลว่า อทรทุโทคิ ศํ อาทุ อใง่าขนฺคสฺส ขวิคํ ฯ แปลว่า ■'บัณฑิฅทั้งทถายเfยกบคคถ ธามั่นคง ม^ถ เ^ธมใฝ็ใน พ7รถงฆ์แถะมความเหื่นฅรงนั้นว่าถ้1ม่'^น ขั๋วิฅชองเขาไนไร้ค'าเถย\" กังนั้ กันทรัพย่กายในนแหละจะเป็นร่งอำนวยกวามมั่งมืไห้เขาในกายหน้า ทำ ไม!โจจบันนคนจงห่างวคกันมาก ไม่ค่ธยเข้าวคทำบญคักบาตฑํ^งเทคน เหมอนสมัยก'ธน ทำ อย่างไโจึ๋งจะฃักนำให้เข้าวคกนไค้ เพงาะถ้าขึนปต่อยให้ เห^กางฌย่านไปทำนองนเงอยๆ เงาคงจะเหื่นวดร้างเพมขนเงึ๋ธยๆ ปิญหาเรํ่องกนห่างวัคห่างศาสนานั้เป็นปิณหาใหญในปิจจุบัน เป็นทฺวิคก กันทั่วไป และจะเป็นเหมือนกันหมคทั่งบ้านนอกในกรุง ถ้าหากปส่อยไวัอย่างนั้ใป เรึ่อยๆ ติอแก!ม่คกแล้ว เห็่นทจะมืวัคร้างในประเทศไทยเพมจำนวนขนเรอยๆ อย่างว่าแน่ ทระธรรมกิตติวป็ส์ I ๒0 www.kalyanamitra.org
กวามรริงสมัยนกนเข้าวัคมากกว่าสมัยก่อน เพราะ!ปรรชากรสมัยนั้ม จำ นวนมากกว่า แค่มจุคบุ่งหมายในการเข้าวัคค่างกัน สมัยก่อนเข้าวัฅก็่เพึ๋อทำบุญตักบาตT ตังเทกนตังรTTม คุยธรรมตับพร;! เข้าวัตเพึ๋อหากวามสงบใจ เข้าวัคแล้วก็่สบายใจ สมัยนั้เข้าวัคเหมือนกัน แค่ส่วนมากมักจะ!เข้าวัคเพึ๋อหาทํ่พํ่งทั้งทางกายแลร ทางใจ กือมืนิวาสสถานอยู่ทํ่วัคบ้าง มาขอกวามช่วยเหลือจากพรรบ้าง หรือมา หาทระ!บายอารมณของคัวเองบ้าง มาหาของคในวักนั้นๆ เช่น วัคทุมงกลค่างๆ คูโขกซะ:คา ผูกควง รคนำมนค์ สร!เคาร!เกราะ!ห์ เป็นค้นบ้าง เรืยกว่ามาฃอยึก \"พรรสงฆเปีนสรณ;!\" พระ!ธรรมไม่ค่อยสนใจ อย่างนั้มืมาก แค่กี่จัคว่าเป็นผู้เข้าวัค เหมือนกัน กนเข้าวัคแบบหลังนั้จะ:เข้าวัคก็่เมํ่อมืกวามค้องการจรพงพรร พอไค้สม ประ!สงก์แล้วกี่ลืมพระ!ลืมวัคและ!มองวัคไปอกแง่หนง แค'เวลาเขาเข้าวัคมักจรนำ เงินทองเข้ามาในวัคไม่น้อย ถ้าวัคใคมืกนแบบนั้เข้าวัคมาก สิงทั้สร้างภายในวัคจร คูสวยงามใหญ่โคแลรรากาแพง ผู้ทํ่ไค้ประ!โยขนํจากกนกลุ่มนั้ลือวัค ทำ ไหวัคไค้ พัฒนาเจริญหูเจริญคาขน แค่เขาเหล่านั้นจะ:เข้าใจธรรมหรือไมไม่มืใกรทราบ เขาจรรูจักวัค รู้จักบุญ รู้จักศาสนาอย่างแท้จริงค้วยปิญญาแลรสามัญส่านึกของคัๆเองหรืลไม่ กี่ไม่มื ไกรทราบ เขาไม่รู้กี่ช่างเขาเถิค ให้เขามาทำบุญในวัคมากๆ กี่แล้วกัน กิคอย่างนั้กี่ ไม่นิค แคโปรคสงสารผู้ทำบุญโคยไม่รู้'แบบนั้บ้างเถิค กนกลุ่มนั้กี่เลยมักจรไมไค้ ลัมผัสบุญ แลร!ไม่ค่อยไค้ผลบุญเท่าไรมัก เพราะ!ยังไม่ลันทัคในวิธการทำบุญแบบ กรบวงจร เน้นหนักไปในทางให้ทานมากกว่ารักษากิลแลรเจริญภาวนา สรุปแล้ว กนเข้าวัคสมัยนั้มืมากกว่าสมัยก่อน แค่จุคปรรสงกของการเข้า วัคค่างกัน ๒๒ 1 ไขข้อข้องริจ้) www.kalyanamitra.org
ปิญหาทํ่ฅ้องแก้กี่กือทำอย่างไรจึงจร์1ห้กนเข้าวัคแลรรู้จักวัคคพอ แล้ว ไม่หันหลังให้วัค สาเหฅุทํ่กนห่างวัคนั้นพอฟ้รปย่อๆ ไค้ ๒ ปรร!การ คือ - สาเหตุจากคนเข้าวัด - สาเหตุจากวัดเอง สาเหตุแรกทกนห่างวัคไม่ก่อยจะไค้เข้าวัคนั้นเป็นเพราะ! - เวลาว่างทํ่จะ!เข้าวัคไม่ม - ฃาคกวามเลํ่อมใสในวัคหรือบุกกลในวัคนั้นๆ - เห็่นว่าเข้าวัคแล้วไมไค้ประ!โยชน์อะไร - เหี่นว่าเข้าวัคแล้วมักค้องเคืยเงินทำบุญ ฯลฯ ปิจจุบันโลกเจริญชั้นมาก ประชากรหนาแน่นชั้น ทุกกนค้องทำงานแช่ง หับเวลาและแช่งขันกันเอง ค้องใข้เวลาว่างจากกิจประจำวันหารายไค้พิเศษจุนเจึอ ปากท้องและกรอบครัว เวลาว่างจึงไม่ก่อยจะม โอกาสทจะไค้!ปวัคจึงน้อยลงไปค้วย หรือบางกนมเวลาว่างเหมือนกันแคใข้เวสาว่างนั้นไปหากวามสนกสนาน ไปพักผ่อน หย่อนใจในสถานเริงรมยฅ่างๆ เวลาว่างส์าหรับเข้าวัคจึงไม่มืเช่นกัน มิใช่เชาจะ ไม่อยากเข้าวัค แค่โอกาสไม่อำนวยให้จึงคูเป็นเหมือนกนไม่นับถือวัคไป บางกนอยากจะเข้าวัค อยากไปทำบุญหักบาตร คือมืศรัทธาเลือมใสใน พระ!ศาสนา เชอว่าทำคืไค้คทำชั่วไค้ชั่วเหมือนกัน แคไม่มืปสาทะ คือชาคกวาม เลํ่อมใสวัคหรือบุกกลในวัคนั้นๆ ลันเนั้องมาจากวัคไม่เป็นทน่าเสึ๋อมใส ทังบุกกล ในวัคไม่ทำหัวเป็นทํ่น่าเลอมใส เป็นค้น เลยไม่เข้าวัคนันๆ แค'เมือมืโอกาสมักจะ ไปทำบุญวัคอน หังเช่นบางกนอุคส่าห่เคินทางไกลไปทำบุญค่างถั๋น อยู่กังธนบุรืไป ทำ บุญ'กังพระนกร อยู่'กังพระนครไปทำบุญกังธนบุรื หังนั้กี่มื หรือไปทอคกจันบ้าง ทอคผ้าป้าบ้าง สร้างโบสถ์สร้างศาลาบ้าง คามวัคในชนบท แม้จะไปลำบากกี่คาม ทั้งนั้เพราะปสาทะไปเกิคชั้นในวัคหรือบุกกลในวัคนั้นเอง พระธรรมกิตติวงศ์ I torn www.kalyanamitra.org
บางกนเข้าวัคเพือปรรสงกอรไรบางอย่าง เช่น ก้องการกวามรู้ค้านธรรมร ก้องการวัตถุมงกลหรืออรไรอย่างอื่น เมํ่อเข้าไปแล้วไมไค้อื่งทตนก้องการเลยเฃ็่ค วคไม่อยากเข้าวัคอึก เพรารเหี่นว่าไมไค้ปรรโยซนอรไรจากการเข้าวัคของคัวเลย นก็่เป็นสาเหตุหนึ่งทกนไม่ค่อยเข้าวัค บางคนกลัววัฅจึงไม่เข้าวัค คือลังม่ความเจึยคายหวงแหนทรัพน(1มบัคิๆเอง คัวอยู่ เห็่น^ปวัคต้องเคืยเงินทำบุญอยู่ราไปเอยเกิคกลัวขั้นมา กลัวว่าถ้าไปวัค แถ้วจะต้องเคืยเงินเคืยทองอย่างเขาต้วย เลยไม่ยอมเข้าวัคลักทํ ถ้นอนอยู่กับ บ้านปบายใจดกว่า กลายเปีนคน \"กลัววัค'' ไป ยังมีอึกหลายสาเหตุททำให้กนห่างวัค เพรารเขาเหล่านั้นต่างก็่มีเหตุผลใน การไม่เข้าวัคของตน ทแสคงมานั้กื่ฅามทมองเห็่นทั่วไปเห่านั้น สาเหตุทกนไม่เข้าวัคปรรการทสอง คือ สาเหตุจากวัดเอง วัคเป็นสาเหตุ ใหญ่เหมือนกัน เพรารวัคไม่น้อยคูแล้วไม่น่าเข้าเหมือนกัน เนึ่องมาจาก - วักสกปรกรกรุงรัง ไม่เจริญหูเจริญตา - วัคขาตกวามเป็นรรเมียบ่ในการปกกรอง - บุกกลในวัคขาครรเมียบวินัย ปรรพฤติไม่เรืยบร้อย - วัคไม่อำนวยปรรโยขน้!ห้ผู้เข้าวัคตามสมกวร - วัคเรํ่ยไรมากแลรบ่อยเกินไป ฯลฯ คังนัน ถ้าจรพูคให้ถูกกี่คือว่าทกนไม่เข้าวัคหรือห่างวัคนั้นเนึ่องมาจาก วัคเองเป็นก้นเหตุ หากวัคไค้ปรับปรุงข้อบกพร่องต่างๆ ใหค็ขั้นแล้ว ปรรขาขน จรเห็่นกวามส์ากัญของวัคแลรจรเข้าวัคเอง ก็่เหมือนกับร้านขายลันค้านั่นแหละ หากรู้จักฅกแฅ่งหน้าร้านให้ลวยงาม คูแล้วลบายคา ภายในกึ๋มืลันค้าทมืคุณภาพเลนอไวัไห้เถือก มืคนขาย4งเปีนเจ้าของ เองหรอฺลูกจ้างทแฅ่งคัวเรยบร้อย พูคจาด ยมแย้มแจ่มใลไว้คอยต้อนรับให้บริการ ลูกค้า ไม่ข้าลูกค้าก็่จะเข้ามาคูมาชมขั้อหาลนองเจตนาของเจ้าของร้านจนไต้ ๒๔ II ไขจ้อฃ้อป๋ รืจ่' www.kalyanamitra.org
วัคกึ๋เซ่นกน ถ้าปร้ฆปรุงแก้!ฃตวเองให้มความคพอทจส์เtยกร้องความ สนใจรากเขาได้แถ้ว ไฉนเขาจรไม่เยึ๋ยมเยยนแลรติดใจวัดเล่า แค่วิธีปรับปรุงแก้!ขวัคนั้นก็่ทำไค!ปง่ายเหมือนกัน แค่กงไม่ยากเกินกว่าท จรทำกันไค้ หากคั้งใจแลรมืกวามกระคือรอร้นทจรทำ โคยร่วมมือกันทุกกน เซ่น ทำ วัคให้ละอาคอยู่เสมอ พยายามเก็่บกวาคบริเวณวัค บริเวณโบลถ วิหาร ศาลา กุฏิ เป็นค้นให้ละอาคฅาอยู่เสมอ ปรับปรุงสนามหญ้า ปลูกไมัคอกไม!บให้ ร่มเงาอันจะเป็นทรํ่นรมย!จไค้ ไม่ปล่อยให้วัครกรุงรังค้วยหญ้า กองขยะ และเศษ สิงของล่งกลั๋นเหม็่นแก่ฆู้ผ่านไปมา วัคทรุคโทรม เสนาสนะผุพัง ไม่มืเงินทองซ่อมแซม ก้!มมยู้คำหนี เพราะ เป็นเรองฟ้ควิกัย แค่กวามสะอาคเป็นเรองทำกันไค้ สือนีกัยรักกวามสะอาคของผู้อยู่ ในวัคไค้เป็นอย่างคื เพยงผู้อยู่ในวัคจะเอาธุระกักหน่อยเท่านั้น วัคก็่จะสะอาคน่าคู น่าซม น่าเข้า เห็่นแล้วไม่เกะกะคา หากวัคมืร่มเงาล่าหรับให้พักผ่อนยามผ่านไปมา มืบริเวณอันเขยวขจค้วยหญ้าท!ครับการปรับปรุงราบเรยบอยู่เสมอ ทำ ไค้คังนั้วัค กี่จะเป็น \"อาราม\" เป็นทรํ่นรมย่สมนามขนาคไหน จะเป็นทํ่พักผ่อนกายและใจ ของขาวบ้านไคกักปานใค ข้อนั้!ม'ค้องพูคกี่เห็่นภาพไคขัคเจน เมอแชกเmอเข้ามาในวัฅแล้วไค้ทเความสบายกายciบายใจ เย็่นหูเย็่นตา ไม'ว่าจ:!เทินไปมุมไหนของวัฅกี่น่าคูน่าชมทั้งนั้น หาข้อตำหนิไมไค้ ไฉนเสยเขาจ:! ไม'ทิตวัคแตน่ไม'หวนกล้บมาวัตนั้นค้วยความเตึ๋อมใสในใจอย่างเตื่มเปียมอก การปรับปรุงระเบยบวินัยภายในวัคให้รัคกุมคืงาม ข้อนั้เป็นข้อล่ากัญ แม้จะ ทำ ไค้ยากกี่จำค้องทำ เพราะหากวัคขาคระเบยบวินัย ปกกรองแบบคัวไกรคัวมันแล้ว บุกกลภายในวัคจะค่างกนค่างอยู่ ค่างกนค่างไป จะประพฤติอะไรคามใจชอบ การบุ่ง การห่ม การกินอยู่ การพูคกุยกี่จะไม่น่าคูไม่น่าพัง ยกคัวอย่างเพัยงการประนมมือ การกราบพระ อยู่วัคเคืยวกันแท้ๆ ยังประนมมือไม่เหมือนกัน ยังกราบไม่พร้อมกัน เลย เซ่นนั้จะเป็นปอเกิคแห่งปสาทะกวามเลํ่อมใสไค้อย่างไร พระธรรมกิตติวป๋ศ์ I ๒๕ www.kalyanamitra.org
การปทัเปรุงคนนนยาก'นกหนา ถ้าจร!ปnjปรุงคนอึ๋นต้องปnjปรุงตนเอง ก่อน ให้ตวเองมรร!เบยบวิ'นยอนดงามแลร!ถูกต้องก่อนแถ้วจึงค่อยปริญปรุงคนอึ๋น อย่างนจึงจรขอบแลรจรไต้รรเบยบไม่ข้านัก มไม่น้อยเลยทซาวบ้านไปเห็่นมารยาทของบุกกล่ในวิ'คm เกิคท้อแท้แลร ท้อถอยในการเข้าวิ'คแลรทำบุญ ไม่อยากเข้าวัคนั้นอก และไม่อยากว่ากล่าวคักเตือน ท้วยเพราะเห็่นว่า \"ข้วช่างช ดช่างลงฆ\" ปะไร ก็่น่าเห็่นใจเขา เพราะใจไม่ยอม เลํ่อมใสไม่ยอมนับถือเสืยแล้ว ร่างกายจะเกลอนเข้าวัคไท้อย่างไร คนเทลองไม่นับถือกันเ^ยแล้ว กึ๋ไม่อยากเหื่นหน้า ไม่อยากพบป:!ด้วย หากนับถือแล้วล:!ก็่เอาไงเอากัน ว่าไงว่าด้วย แค่จม่ด้เขานับถือได้ด้องมความต คนเราจ่ณับถือกันก็่นับถือกันทํ่ความฅ ล้ายังไม่เห็่นความฅก็่กังไม่นับถือ ล้าไปเห็่น ความไมด้ความบกพร่องเข้า^ม'นับถือ ทํ่นับถืออยู่แล้วถืคลายความนับถือลงหรือ เลิกนับถือไปเลย รรรมฅาโลกเปีนอย่างนิ้มาทุกยุคทุกลนัย รู้จกปฏิสิ'นถารเป็นอันค การปฏิล้นถารค้อนรับก็่เป็นวิธให้กนฅิควัคอย่าง หนัง บุกกลในวัครู้จัก'พูค ยมแย้มแจ่มใส ค้อนรับแขกท้วยกวามจริงใจไม่ใช่ท้วย กวามจำใจ กนไหนกวรค้อนรับค้วยวัฅถุ (อามิสปฏิล้นถาร) กนไหนกวรค้อนรับ ค้วยการสนทนา (ธัมมปฏิล้นถาร) ค้องรู้และซํ่าของพอสมกวร หากฉลาคในการ ปฏิล้นถารอย่างนั้แล้วกนจะฅิควัคและเข้าวัคปอย การค้อนรับขับล้เป็นการผูกไมฅริอย่างหนั้งเหมือนกัน หากทำไค้พอเหมาะ พอค ไม่ผิคสารูปของสมณะ ไม่เถือกทรักผล้กทซัง ค้อนรับเสมอเหมือนกันหมค โกยไม่เห็่นแก่หน้าแล้วจะผูกใจเขาไค้อย่างคเยยม ยํ่งหากไคคงกายกรรม วจึกรรม และมโนกรรมประกอบค้วยเมฅฅา จะทำ จะ'พูค จะกิคอะไรก็่ประกอบค้วยเมฅฅา ปรารถนาให้แขกทยังไม่มาก็่ขอ่ให้มาจะยินคค้อนรับ เมอมาแล้วก็่ส่งกวามหวังกค่อ แขกว่าให้อยู่เย็่นเป็นสุข ปราศจาก'ทุกข้ คามหลัก'พุทธศาสนค้วยแล้ว กี่ยั๋งจะเป็น มนฅผูกใจแขกไค้!ม'เถือมกลาย ๒๖ I ไtฃ้อข้อง% www.kalyanamitra.org
รู้จกส์นองความต้องการของผู้เข้าวดบ้าง กึอยู้เข้าวัคทุกกนมักม'รุค- ปรรสงกของคัวเอง หากวัคไค้สนองเ'จฅนาของเขาโคยไม่ผิคธรรมไม่ผิควิมัยแล้ว 'จร'จูงใจให้เขาคิกวัคไค้เหมือนกัน ถ้าเข้าวัคแล้วไมไค้ปรรโยซ'นทํ่ฅนต้องการเลย ซายังไค้เห็่นสิงไม่คิไม่งามภายในวัคเข้าค้วย ศรัทธาปสาทรเสยอับเฉาล่วงหล่นไป ไค้ง่ายๆ หากกนในวัคทำศรัทธาของซาวบ้านให้เสิอมถอย ท่านว่าเป็นกวามผิค เซัญซวนเขาบริจาคทำบุญแต่พอสมควร มืไม่น้อยเหมือนกันทํ่กนเฃ็่ควัค เพรารเข้าวัคทํไรเป็นโคน \"ท่านใบฎกา\" เล่นงานทุกทํ จรไม่ทำก็่อายเขา จะทำ น้อยก็่กลัวเขาจรว่า เลยเฃ็่คไม่อยากไปวัคนั้นอึก ก็่น่าเห็่นใจเขาถ้าพบเหตุการณ ทำ นองนั้บ่อยๆ การเรยไรของวัคกวรจรมืฃอบเขตบ้าง ไม่ปอยจนเกินไปจนเขารำกาญ จรสร้างอรไรทวัคกี่กวรคูฐานรของวัค ฐานรของซาวบ้านในเขฅนั้น คูกำ ลังซองเขา มืไม่น้อยทํ่วัคพยายามแข่งกันสร้างสิงปลูกสร้างภายในวัคใ'ท้ใหญ่โคจนเกินกวาม 'จำเป็น หรูหราจนเกินฐานร ในฃณรทํ่ซาวบ้านแถวนั้นยังอคอยากปากแห้ง อยู่ บ้านมุงแฝกหลังการั่ว ทำ มาหากินไม่ก่อยพอปากพอท้อง ซํ้าทางวัคยังพยายาม ให้สร้างอรไรฅ่อมิอรไรในวัคอึก เลยเฃ็่คบุญไปคามๆ กัน ครั้นจรไม่ทำกี่หาว่าไม่ให้ กวามร่วมมือ หมักเข้าไปอึก กลืนไม่เข้ากายไม่ออกกี่ฅรงนั้เอง มืกนเขยนข้อกวามเชิงกรรแหนรกรรแหนไว้บทหนั้งว่า \"งานของพรร คือภารรของชาวบ้าน\" อ่านแล้วแสบๆ คันๆ คเหมือนกัน ข่างโคนใจอรไรอย่างนั้นกี่ไม่รู้ การก่อ.1ร้างเป็นการ'คัณนาวัคอย่างหนํ่งกี่จริง แต่ค้องคูกำลังทำคามกำลัง ทำ นอง \"นกน้อยทำรังแต่พอคัว\" ไมให้!หญ่โคจนเกินความจำเป็นมัก ไม่อย่างนั้น ซาวบ้านจรรับภารรไมไหว พระธรรมกิตติวงศ์ 1 ๒๗ www.kalyanamitra.org
ในการก่อสร้างนั้นท่านให้หลักไว้ว่า - ต้องคงทนถาวร - ต้องราคาไม่แพง - ต้องใช้ปรร!โยชน์ใต้คุ้มค่าทสุค หลกทงสามนั้ก็่น่าจร:ทำได้โคยไม่ห้องแข่งขันกวามใหญ่โตหyviรากัน นั้งทึ๋ เมํ่อสร้างสิงนั้นเสร็่จแล้วไม่ก่อยไค!ซ้Iสืยห้วยซํ้า สร้างไว้อวคซาวบ้านเฉยๆ เท่านั้น ไม่คุ้มกับทํ่ลงทุน ยงมึอึกหลายทางทํวัคสามารถขักจูงให้กนเข้าวัคไห้ ลันนั้ก็่แล้วแค่วิธการ ของแค'ละ;วัคของแค่ละ!แห่งซึ่งไม่ก่อยเหมือนกัน ทกล่าวมานั้เป็นเพยงกวามกิคเห็่น เท่านั้น. พระ!มหาทองค สุรเฅโซ ป.ธ.๙ ๒๘ www.kalyanamitra.org
Qmniijovlๆ ^ จาก •'มงคกฟ้าร\" เรอน?ณยายน ๒๕®๘ กาม่โคน... คุณวรรณร แฟ้ค้ว, คุณเฉวยง ฟ้มณ? I กาTบวชพTiนั้นเพํ่อๆคปรรสงคอย่างไT ทำ ไมบวชแล้วจงไค้บุญแGi กุffลมๆก เรองจุฅประฟ้งกของการบวชนั้น เดิมแทัๆ ก็่เพํ่อต้องการพ้นจากทุกฃ เหมือนอย่างทพระทุทสเจ้าท่านทรงผนวชณพํ่อหาทางพ้นทุฑฃ ในฟ้มัยปิจจุบันกี่ ฅูเหมือนจะเพํ่ป็อย่างนั้นเข่นกัน ทใซ้กาว่า ''คูเหมือน\" นั้นกี่เพราะบางกนออก บวชเพึ่อจุคประสงกี่อึ่นกี่มื กังนั้นถ้าจะพอสรุปไต้ย่อๆ กี่มื <i ประเภท กอ (๑) ประเภท อุปมุยหิกา กือบวซต้วยกวามไม่รุ้ว่าบวชทำไม เขาให้บวช กี่บวช เขาว่าการบวชน่ะคกี่บวชกะเขาห้าง ไม่เป็นกัๆชองกัวเอง บวชแต้วทำอย่างไร จะปฏิบัติจะประพฤฅิกัวอย่างไรไม่รู้ นอนรอนับกันนับกึนให้ออกพรรษาหรอให้กรบ กำ หนกทํ่คนกั้งใจเรื่วๆ มืกวามรู้สืกว่า การมาบวซนั้เหมือนมาอยู่ในกุก เมํ่อไรจะ พ้นโทษต้กทํ อย่างนั้จัคอยู่ในประเภทบวชต้วยกวามงมงาย ย่อมไมไต้อานิสงต้ การบวชทแห้จริงเสย www.kalyanamitra.org
(๒) ประ!เภท อุปเวิกา กึอบวชเพึ๋อหวังเลั้ยงเพ เพราะ!ฅอนเป็นฆราวาฝ็ หาไม่ก่อยพอปากพอท้อง อคๆ อยากๆ หรือบางทึอายุมากแล้วลูกหลานไม่ก่อย ดูแลเอาใจใส่ ไม่เลั้ยงดู เลยหันเข้าพงศาศนา เพราะ!ในศาสนานั้ซาวบ้านเขาศรัทธา ให้ข้าวใท้นํ้าเป็นประ!จำ เรืยกว่าบวชเพื๋อเอาหัวรอค (ทาย) ก็่แล้วกัน (๓) ปรรเภท อุป'ดูสิกๆ คือบวชอย่างเวิยไมไค้อย่างแบบแรก พอบวช แล้วจึงหัคกวามเป็นอยู่แบบฆราวาสไมไค้ เกยเทํ่ยว สนุกสนาน กิน นอน อย่างไร เป็นพระ!แล้วก็่ยัง\"ทำเซ่นนัน ไม่สนใจเรืยนธรรมะ! ไม่สนใจระ!เบยบวินัย เอาแก่สนุก สนาน เข้าฮาเย็่นเฮ เล่นหมากรุก หมากฮอส หังเพลง กวามประ!พฤติกระ;!ดก กระ!เดก นุ่งห่มไม่เรืยบร้อย เป็นค้น ประ!เภทนเป็นประ!เภททำลายพระ!ศาสนา เป็น \"สนิมศาสนา\" ทํ่ค้องฃัดค้องเกลาออก หากฃึนปล่อยไว้เป็นอันดรายก่อวัคและ! ศาสนาแน่ๆ (<1) ประ!เภท อุปนิส์สรณิกา คือบวชเ'พื๋อพ้นทุกฃ บวชเ'พอทำพระ!นิพพาน ให้แจ้ง ไค้แก'ท่านทํ่บวชแล้วพยายาม'ทำคืทุกวิถทางเ■พึ๋อใ'ห้หัวเองเป็นพระ:จริงพระ! แท้ ปฏิบัติหัวอยูในกรอบระ!เบยบวินัย พยายามกำจัดกิเลส เซ่น. กวามเห็่นแก'หัว กวามเห็่นแกไค้ กวามมัวเมาในลาภยศ กวาม'ท้งเพ้อ กวามทุนหันพลันแล่น เป็นค้น ให้หมดไป ภาวะ!เหล่านั้ถือว่าเป็นกิเลส เป็นทางปิดประ!คูพระ!นิพพาน บวชแล้ว พยายามหลกดะ!ภาวะ!เหล่านัน แม้จะ!เปิดประ!คูพระ!นิพพานไมไค้ทเดึ๋ยวนัก แก่ก็่ พยายามรำไป นุ่งหน้าปฏิบัติคืปฏิบัติชอบดามพระ:ธรรมวินัย ทำ หัวสงบเสงึ๋ยม เรยบร้อยงดงาม สองประ!เภทแรก'นั้นไม่เกิดผลดก่อพระ!ศาสนาเป็นส่วนรวมเลย แก่ถ้าหาก ว่าในดอนแรกบวชทำหัวอย่างนั้น ดอนหลังกลับหัวกลับใจไค้ประ!พฤติดปฏิบัติชอบ ดามระ!เบยบทึ๋วางไว้ก็่จัดเข้าในประ!เภททํ่คืไค้ ส่วนประ!เภททึ๋สามมแก่สมกวรจะ:กำจัด ให้หมดไปจากวงการศาสนาอย่างเค็่ดขาด 'พูดง่ายๆ คือเลยงไมไค้แล้วว่างั้นเถอะ: อนง ผู้บวชประ!เภทแรกเรืยกว่า \"บวชเพึ๋อศาศนา\" เพราะ!สามารถทำให้ โลกนั้เฅ็่มไปค้วยผู้นุ่งเหลืองห่มเหลือง อร่ามงามไปค้วยผ้ากาสาวพ้สดร ทำ ให้กน ทั่วไปเห็่นว่าพระ:ศาสนาจะ!บังกงอยูไค้เหมือนกัน ๓0 1 ไปีข้อธัอง'รืจ้) www.kalyanamitra.org
ปรรเภททฟิธง1รึยกว่า \"บวชพิงศาสนา\" กึอบวซเพองิงเอาคัวรอท ประเภททฟ้ามเรยกว่า \"บวชพงศาสนา\" กือบวซแถัวสามารถทำถาย พระศาสนาให้เ^อมเสิยหรือให้สูญรนไค้ง่ายๆ ประเภททรเรืยกว่า \"บวชพงศาสนา\" สือม่งเอาพระศาสนาเป็นทํ่นำทาง ออกจากกองทุกฃ่ §1# ทารบว'รพTS ๗ วัน ร}๕ วัน ยมเทึ๋นนบวชทนมาท ในเมื่อท่อนๆ น ไม่ค่อยจ^มึ๋ อย่าง'น้อยท็่ต้องบวช (ร} พรรษา อยาททราบว่าจรไต้บญเพมอนทน หรอค่างกนอย่างไร แแทฒิ การนวซนัอยบวชนานนั้นท่านไม่จำกัค แค่ก่อนจริงๆ ท่านเบํ่อหน่ายในซีวิฅ รเราวาสแล้วจึงมาบวขกัน จึงมวซกันไม่สืก มอบกายถวายซั๋วิศไว้กับพระศาสนา ทถอคไป อย่างเซ่นการบวชสมัยพระพุทธเค้า ค่อมาก็่บวชกันเพื่อพ้นทุกข พยายาม แล้วพยายามเส่าก!ม่ส์าเรืจ เลยสิกหาลาเพศไป บุกหลังๆ บวชกันกามประเพณ็ เท่านั้น อย่างทเราพูกกันว่า \"บวชพอเป็นนิลัย\" มันแหละ บวชอย่างนก็่พรรษา หนึ๋งหรือนานหน่อยกี่ ๒-๓ พรรษาเป็นอย่างมาก ส่วนในปีจๅบันกนเรามภาระ ทค้องทำมาก มหนาทํ่ทค้องรับขิกชอบทิงไมไค้ หรือคามใจผู้ปกกรอง เห็่นแก่พ่อแม่ จึงมโอกาสบวชกันไค้แก่เคือนกรํ่งเคือนเท่ามัน เนํ่อว่าถงอานิฟ้งส่พื่ไค้รับจากการบวช ค้องพิจารณาดูว่าบวชน้อยบวชนาน น่ะเช้าลักษณะการบวชประเภทไหน บวชอยูไค้นานกี่จริง แค่บวชแบบ ๓ ประเภท แรกกี่ไมไหวเหมือนกัน แน้บวชนานกี่ไม่เกิคประโบชนมัก ส์าหรับท่านทบวชนานแสะทำคัวคืประพฤกิปฏิบัติคื มืคืลบริสุทธ เป็นพระ จริงๆ กี่ต้องยกถวายท่าน บวชเคือนกรงเคือนกี่ถัท่านไมไค้แน่ ส่วนผู้บวชน้อยเพิยงเคือนกรงเดือนมัน อานิสงถัทจะไค้รับกี่ดูจะน้อยเกี่มทํ เพราะกลํ่นผ้าเหลืองบังไม่คับคัวเสย ห่มผ้าบังไม่เป็นเลืยค้วยขำกี่ลืกไป บังไม่กันไค้ พระสรรฆกิตติวงศ I 01«) www.kalyanamitra.org
เรยน!'อรไร ยังไม่ประสิประอาในกวามเป็นพรรIอย ภารบวชๆงไม่อำนวยบุญนflร ประโยชน!หัผู้บวฃมากนัก แฅ่ปถเกิคบุญอย่างอน เซ่น การให้ทาน ขํ่งหมายสิง การบริจากทรัพยเอของ อาทาร และปิจจัยอํ่นๆ ถวายพระและเลยงแขกเหรอท มาในงาน การรักษาสิลอย่างบริสุทธิ้ขณะบวช การทำใจให้ผ่องใจกรัทธา ทริอการ ไค้อบรมบ่มเพาะนิยัย เป็นค้นนั้น ผู้บวชย่อมไค้รับเฅ็่มทํ่ เรยกว่าเป็นอานิสงส์ พลอยไค้จากการบวช mrnรฉรนั้น กา7บวชจึงไมไค้อยู่ทบวขน้อยนวชนานเป็นหลักiท่าh หาก ธยู่ทึ่เมํ่ธบวชแค้วทำลัวเป็นพ7รวริงๆ หfธไม่เท่านั้น แค่ถ้าฅต่อคเหมือนกันกื่ค้ ผูบ้ วชนานไมไค้ เป็นกวามจริงทํ่มธงเหึ๋นกันไค้ .ถ!าม] £1ม0งmรท'ๆนเท?{น้ทำขวัญนาค พอจรวับใจ'ความไค้ฅอนหพว่าทำบุญ อรไ7กึ๋ตามไม่ค้ใค้บุตรหลานไค้บวขพrรแล้วจรไค้บุญมาก แตรเป็นญาติกับพรร- ติาสนาค้วย ข้อนั้!มใค้ถาม แค่อ่านกูแล้วกล้ายๆ กับจะถามว่า ทึ่พระท่านเทศนันั้น ถูกไหมเท่านั้น ก็่กอบไค้เพยงกันๆ ว่าท่านเทศนถูกค้องแล้ว ถา)J: การไค้บุญมากกับเป็นญาติพรรติาสนานั้นเป็นอย่างไร ในเมองานนั้นมื การฆาหมู เป็ค ไก ๆลฯ ทำ ลายขวิฅชองเขาเอามาเลยงคน นมเห็่นแล้วไม่รู้ ว่าทำบุญกับบาปจรล้มกันหรือไม่ พธ่บฺ' เป็นการขยายกำฅอบของข้อข้างค้นทั๋กอบว่าถูกค้องแล้ว ทํ่ว่า การบวชนั้นเป็นการไค้บุญมากว่าการทำบุญอื่นๆ กออย่างนั้ ใน พระพุทธศาสนานั้ท่านแสคงสิงทั๋หาไค้ยากไว (L อย่าง กึอ (๑) พระพุทธเจ้า (๒ว) พระธรรน [ ไธข้อข้อป้% www.kalyanamitra.org
(๓) ผู้บวช id) ศร้ฑธา ทํ่ว่าหาไค้ยากก็่เพรารนานๆ จงจร:เกิคขนไค้ อย่างเซ่นพระ:พุทธเจ้าแฅ่ลร: พรร:องกกว่าจ::ไค้ครฝ็รู้ก็่ค้องบำเพ็่ญบารมมานานนับค้วยหมึ๋นค้วยแสน!! พระ:ธรรมกว่าจร:เกิฅในโลกไค้ก็่ค้องรอให้พระ:พุทธเจ้าท่านตรัสรู้ก่อนแล้ว ทรงแสคงล้งสอนเผยแพร่ บางครั้งเขยแพร่อยู่ในถํ่นหนํ่ง ไม่เจริญแผ่ขยายไปถึง อกถํ่นหนํ่ง กนก็่เลยไม่ก่อยไค้!ไค้เรยน แม้ยู้บวซกเหมือนกัน กว่าจะบวชกันไคกค้องอากัยปิจจัยหลายๆ อย่าง เซ่นค้องอยู่ในถํ่นของพรร:ธรรม ค้องมืกุณสมบัติกรมถ้วนตามหลักเกณฑ หริออย่างศรัทธาก็่เกิคไค้ยาก บางกรั้งแม้จะ:อยู่ในคงของยู้มืศรัทธาแล้ว แต่ตัวเองกึ๋ไม่มืศรัทธาไม่ยอมเชึ๋อถึอเรองบาปบุญคุณโทษอร:ไรเลย อย่างนั้จึงถึอว่าทั้งส์ประการนั้^หาไค้ยากในโลก อนึ่ง การบูชาในศาสนานึ่มื ๒ อย่างกอ อามิสบูชา กับ ปฏิบัติบูชา อามิสบูชา ไค้แก่ การบูชาค้วยวัคคุสิงของ เซ่น คอกไม้ ธูปเทยน ข้าว นํ้า s-^ ปฏิบัติบูชา ไค้แก่ การบูชาค้วยการลงมือทำตามกำสอน หาประสบการณ์ หากวามชำนาญ เซ่น การกราบ การไหว้ การทำสมาธิ การอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นค้น กราวนึ่มาว่าถึงเรึ๋องการบวชทไค้บุญมากกัน ไนการไค้บวชนั้นถึอว่าขู้บวชไค้รับสิงทหาไค้ยากข้างค้นกรบทุกอย่างแล้ว กึอ พระพุทธเจ้ากี่ยังมือยู่ แม้จะไมใซ่องกํแห้องก่จริง เป็นเพยงองก่แทนกี่เป็นเหมือน องกํจริง พระธรรมกำสอนกี่เข้าถึงจิตใจแล้ว ผู้บวชเองกี่มืคุณสมบัติพร้อม มือวัยวะ มืสติปิญญาสมบูรณ์ เป็นพระกะเขาไค้ ทั้งศรัทธากี่เกิตมืสมบูรณ์จัคเป็นบุญตอนหนึ่ง พระธรรมกิตติวงศ์ 1 ๓๓ www.kalyanamitra.org
อฉอย่างหนึ๋ง การบวชนั้นมิใช่แต่เพยงแก่โกนหัวแลัากว้าอัฐบริขารเข้าโบสถ์ เท่านัน แต่ฅ้องทำกิจอย่างอํ่น เช่น รับกิล หังทำขวัญ หังพรรเทศน ถวายของพรร เลั้ยงเพอนฝูง และกิจอึ๋นๆ ด้วย วัคเป็นได้ทำอามิลบูขาไ!Aนฅัว และ!เมื่อบวขแล้ว กึ๋!ด้ประพฤฅิปฏิบัติฅัวค บำ เพี่ญคนให้เป็นประโยขน อยู่ในกรอบระเบยบวิบัยของ พระด้วยค ไค้ป็กหัวอัคนิอัยของคัว ได้กล่อมเกลากิเลสบางอย่างให้เบาบางไป เป็นอันได้ทำปฏิบัติบูขาอกข้อหมื่ง ชงปฏิบัติบูขานั้พระพุทธเจ้ายกย่องว่าเลิศกว่า อามิสบูชามากนัก รวมแล้วจะได้บุญมากก็่ครงทมกรบอย่างว่า ถ้าไม่กรบกพร่องไปคามล่วน มาถงนัญหาทว่าการได้บวชถือว่าได้เป็นญาติกบพระศาสนาอย่างไร กือมประเพณมาแคโบราณ คูเหมือนจะสมัยพระพุทธเจ้าโน่นเทยว ว่าไกร มืลูกมืหลานแล้วยอมให้บวชพระจะไค้ซอว่าเป็นญาติกับพระศาสนา จึงถือปฏิบัติกัน มาจนทุกวันนั้ นับว่าแยบกายค้ ทำ ไมจึงว่าแยบกายค ถืออย่างนั้ กำ ว่า \"ญาติ\" แปลว่า ผูรูวักกัน มื ๒ว ประเภทถือ ญาติ ทางสายเถือค ซํ่งเราเรยกว่า ญาติสายโลหิต กับญาติทางธรรม ซึ๋งเราเริยกว่า ญาติธรรม ถือมิไค้ถืบเมื่องกันมาทางสายเถือคเลย แต่มารู้วักนักด้นปรองคอง อยู่สถานมื่เคยวกัน บุ่งห่ม มืระเบยบวินัยเหมือนกัน ก็่ถือว่าเป็นญาติโคยธรรม ผู้บวชมิใช่จะพาคัวเข้ามาเป็นญาติกับพระศาสนาทำคัวใหรู้วักพระศาสนา อย่างเคยวเท่านั้น ยังพาโยมพ่อโยมแม่ พาญาติสนิทมิครสหายพวกพ้องมารู้วัก นักด้นกับพระศาสนายงๆ ขั้นไปอกด้วย ทำ ให้เขาเหล่านั้นไค้ใกล้ชิควัคใกล้ชิคพระ และใกล้ซั้คพระศาสนาไปในคัว เมื่อมาวัคบ่อยๆ กึ๋ใค้มโอกาสทำบุญทำกุศลปอย ได้ทำกวามคเ!ฒขั้น พูดง่ายๆ ก็่ถือพลอยเป็น \"พระ\" กันไปด้วย เช่น เป็นพ่อพระ เป็นแม่พระ เป็นปูพระ เป็นคาพระ ย่าพระ ยายพระ น้องพระ พึ๋พระ นับเมื่องกับ พระไปหมค มื่เป็นญาติกับพระศาสนาอย่างนั้ จึงว่าท่านถือกันมาแยบกายค ๓๔ 1 ไขข้อจ้อป็'ริจ้) www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320