Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การศึกษาทางวิชาการเพื่อการพัฒนางานขององค์กรปกครองท้องถิ่น

การศึกษาทางวิชาการเพื่อการพัฒนางานขององค์กรปกครองท้องถิ่น

Published by ชัยยะ มหาปราบ, 2021-12-11 07:09:09

Description: การศึกษาทางวิชาการเพื่อการพัฒนางานขององค์กรปกครองท้องถิ่น

Search

Read the Text Version

นักบริหารงานทว่ั ไป ร่นุ ที ๘๔ ปลัดกระทรวงมหำดไทย เปน็ รองผบู้ ญั ชำกำรป้องกันและบรรเทำสำธำรณภยั แห่งชำติ - ชว่ ยเหลอื ผู้บัญชาการ - ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีตามที่ผู้บญั ชาการมอบหมาย - บงั คับบัญชา และสงั่ การ รองจากผู้บัญชาการ กรมปอ้ งกนั และบรรเทำสำธำรณภัย องค์กรกลางของรัฐ ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แก่ สานักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ทุกจังหวัด กากับดูแล สนับสนุนการปฏิบัติด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยในจังหวัดหรือตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 - 18 ปฏบิ ตั ิงานสนับสนนุ ในกลุม่ จงั หวัดทร่ี บั ผิดชอบ - ผบู้ ญั ชาการ/ผู้อานวยการ - ท่ีปรกึ ษา/ผเู้ ชีย่ วชาญ - ศนู ย์ขอ้ มลู ประชาสัมพันธร์ ว่ ม - ศูนย์ประสานงานการปฏิบตั ิ -ส่วนปฏิบัติการ (สปฉ.๑ คมนาคม, สปฉ.๔ ผจญเพลิง, สปฉ.๗ สนับสนุนทรัพยากรทาง ทหาร, สปฉ.๘ การแพทย์และสาธารณสุข, สปฉ.๙ ค้นหาและกู้ภัย, สปฉ.๑๐ สารเคมี วัตถุอันตรายฐ, สปฉ. ๑๓ รักษาความสงบเรียบร้อย) - สว่ นอานวยการ (สปฉ.๕ การจดั การในภาวะฉุกเฉิน, สปฉ.๑๕ ตา่ งประเทศ, กฎหมาย) หนา้ 345 - ส่วนสนับสนุน (สปฉ.๒ เทคโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, สปฉ.๓ สาธารณูปโภคและ โครงสร้างพ้ืนฐาน, สปฉ.๖ สวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สปฉ.๑๑ เกษตร, สปฉ.๑๒ พลังงาน, สปฉ.๑๔ ฟ้ืนฟูเศรษฐกิจ ศึกษาและวัฒนธรรม, สปฉ.๑๗ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สปฉ.๑๘ งบประมาณและการบริจาค) กรณีอคั คภี ัย ศูนย์ ปภ.เขต สนบั สนุนทรัพยากรเครอื่ งจกั รกล/เครอ่ื งสบู น้าขบั ด้วยเครื่องยนต์ ดเี ซลฯ/รถดับเพลิงอาคาร/รถยานยนตด์ ับเพลงิ ฉดี น้า/รถก้ภู ัยอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ระดบั กำรจดั กำร ผูม้ อี ำนำจตำมกฎหมำย ระดบั ๑ สาธารณภยั ขนาดเล็กผูอ้ านวยการอาเภอ ผูอ้ านวยการท้องถ่ิน และ/หรอื ผู้ช่วย ผู้อานวยการ กทม. ควบคุม และสั่งการ ระดับ ๒ สาธารณภัยขนาดกลางผอู้ านวยการจังหวัด หรือผู้อานวยการกรุงเทพมหานคร ควบคุม และสง่ั การ ระดบั ๓ สาธารณภัยขนาดใหญ่ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ควบคมุ สั่งการ และบัญชาการ ระดบั ๔ สาธารณภยั รา้ ยแรงอยา่ งย่งิ นายกรัฐมนตรี หรือ รองนายกรัฐมนตรี ทน่ี ายกรฐั มนตรมี อบหมาย ควบคุม ส่ังการ และบัญชาการ กำรยกระดบั กำรจัดกำรสำธำรณภยั - พนื้ ที่ จานวนพืน้ ทที่ ่ีไดร้ ับความเสยี หาย - ประชำกร จานวนและลักษณะประชากรในพนื้ ท่ี

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป รุน่ ที ๘๔ - ควำมซับซ้อน ความยากง่าย สถานการณ์แทรกซ้อน เงอ่ื นไขทางเทคนิคของสถานการณ์ - ศักยภำพด้ำนทรัพยำกร ความสามารถในการปฏิบัติงาน กาลังคน เคร่ืองมือ อุปกรณ์ งบประมาณ - กำรพจิ ำรณำตดั สินใจของผ้บู ญั ชำกำร การประเมินสถานการณ์ ท้ังนี้ ให้ใช้เกณฑ์เง่ือนไขข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างประกอบกัน เป็นเกณฑ์ใน การนาเสนอผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ/นายกรัฐมนตรี พิจารณาตัดสินใจ ในการ ยกระดับการจดั การสาธารณภัยเป็น ระดับ 3 - 4 เจ้าพนักงาน หมายความว่า ผู้ซ่ึงได้รับแต่งตั้ง ให้ปฏิบัติหน้าท่ีในการป้องกันและบรรเทาสา ธารณภยั ในพนื้ ทีต่ ่างๆ ตามพระราชบัญญตั ิน้ี เจ้าพนักงาน ตาม พรบ. ปภ. ๒๕๕๐ (ม.๓๙) - ผู้อานวยการทุกระดับ มีอานาจแต่งตั้งเจ้า พนกั งานเพ่อื ปฏบิ ตั ิหนา้ ทใี่ นเขตรับผดิ ชอบของตน หมวด ๕ มาตรา ๓๙ (๑) ผ้อู านวยการกลาง มอี านาจแต่งตั้งเจ้าพนกั งานให้ปฏิบัติหนา้ ทไี่ ด้ ทั่วราชอาณาจักร (๒) ผู้อานวยการจงั หวัด มีอานาจแต่งตง้ั เจา้ พนักงานให้ปฏบิ ัติหน้าท่ไี ด้ ในเขตจงั หวัด หน้า (๓) ผูอ้ านวยการอาเภอ มอี านาจแตง่ ตง้ั เจา้ พนักงานให้ปฏิบตั ิหน้าท่ีได้ ในเขตอาเภอ (๔) ผู้อานวยการท้องถ่ิน มีอานาจแต่งต้ังเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าท่ีได้ ในเขตองค์กร 346 ปกครองส่วนท้องถน่ิ แห่งพ้นื ที่ (๕) ผู้อานวยการกรุงเทพมหานคร มีอานาจแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ให้ปฏิบัติหน้าท่ีได้ ในเขต กรงุ เทพมหานคร ระเบยี บกระทรวงมหำดไทย ว่ำด้วยหลกั เกณฑ์ กำรแต่งตง้ั และกำรปฏิบัติหน้ำท่ี ของ เจ้ำ พนักงำนป้องกันและบรรเทำสำธำรณภยั พ.ศ. ๒๕๕๓ คุณสมบัตผิ ทู้ ี่จะได้รบั การแต่งต้งั เปน็ เจา้ พนกั งานฯ - เป็นผู้ท่ีปฏิบัติงาน หรือเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ เปน็ ผู้ทผี่ ่านการอบรมหลักสูตรตามที่ กรม ปภ. กาหนด หรอื หลักสูตรอ่นื ที่ กรม ปภ. ให้การรับรอง และ - เป็นข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผูใ้ หญ่บา้ น แพทยป์ ระจาตาบล หรือสารวัตรกานนั - ในกรณีที่ไม่มีบุคคลตาม(๒) หรือมีแต่ไม่เพียงพอ และมีความจาเป็นเพ่ือประโยชน์ในการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อานวยการอาจแต่งตั้งบคุ คลอื่นที่มีคุณสมบัติ ตาม(๑) ให้เป็นเจ้าพนักงานฯ ก็ได้ - ในกรณีท่ีมีความจาเป็น ผู้อานวยการอาเภอจะแต่งตั้ง กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจาตาบลหรือสารวัตรกานัน เป็นเจ้าพนักงานฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ เฉพาะในเขตท้องท่ีตาบลหรือ หมู่บ้านที่มีอานาจหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะปกครองท้องท่ี ก่อนการฝึกอบรม ตาม (๑) ก็ได้ ท้ังน้ี ให้ กรม ปภ. จัดใหม้ ีการฝึกอบรมผไู้ ด้รับการแต่งตงั้ ทีย่ งั ไมผ่ ่านการอบรมดังกลา่ วด้วย

นักบริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ หน้าท่ีและอานาจของเจ้าพนักงาน ปภ. ปฏิบัติตามคาส่ังของผู้มีอานาจตาม ม.๓๑ ม.๑๓ ม. หน้า ๑๔ ม.๑๕ ม.๑๙ ม.๒๐ แลว้ แตก่ รณี 347 ม.๒๔ เขา้ ดาเนินการเบือ้ งตน้ / คุ้มครองชวี ติ / ป้องกนั ภยนั ตราย ม.๒๕ รบั คาสง่ั ให้ดดั แปลง ทาลาย เคลือ่ นย้าย ส่งิ ทเี่ ปน็ อุปสรรค ม.๒๖ เข้าไปในอาคารสถานที่ใกลท้ ี่เกดิ เหตเุ พื่อป้องกันบรรเทา ม.๒๗ รับมอบหมายให้บรรเทาสาธารณภัย ม.๒๘ รบั มอบหมายใหส้ งั่ อพยพ ม.๔๐ พบเห็นอาคารที่อาจเกดิ ภัย แจ้ง จพง. พรบ.ควบคมุ อาคาร/ พบเห็นวัตถอุ นั ตราย แจง้ พนกั งานเจา้ หน้าท่ตี ามกฎหมาย ม.๔๒ รับมอบหมายให้จัดสถานท่ีให้องค์กรการกุศล อาสาสมัครที่เข้าช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในระหวา่ งเกดิ สาธารณภยั ตามสมควร เครอ่ื งแบบ เครื่องหมำยและบัตรประจำตวั (ม.๔๕) - ให้มีเคร่ืองแบบ เคร่ืองหมาย และบัตรประจาตัว สาหรับเจ้าพนักงานและอาสาสมัครเพื่อ แสดงตวั ขณะปฏบิ ัติหน้าท่ีในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย - เครื่องแบบ เครื่องหมาย และบัตรประจาตัวตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่ มท. กาหนด - ในกรณีที่ ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อานวยการ หรือผู้ช่วยผู้อานวยการประสงค์จะ แตง่ เครือ่ งแบบ ก็ให้กระทาไดต้ ามแบบที่ มท. กาหนด ระเบียบกระทรวงมหำดไทย ว่ำด้วยกิจกำร อำสำสมัครป้องกันภัยฝ่ำยพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๓ ศูนย์ อปพร. หมายความว่า ศูนย์ อปพร.กลาง / ศูนย์ อปพร.เขต / ศูนย์ อปพร.จังหวัด / ศูนย์ อปพร.กรุงเทพมหานคร / ศูนย์ อปพร.เมืองพัทยา/ศูนย์ อปพร.เทศบาล และ ศูนย์ อปพร.องค์การ บริหารสว่ นตาบล ผู้บญั ชาการ หมายความวา่ ผู้บัญชาการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผู้อานวยการ หมายความว่า ผู้อานวยการกลาง ผู้อานวยการจังหวัด ผู้อานวยการอาเภอ ผูอ้ านวยการ ทอ้ งถน่ิ และ ผอู้ านวยการกรุงเทพมหานคร หมวด ๒ การบรหิ าร และกากบั ดแู ล ข้อ ๑๕ ให้ผู้บัญชาการ เป็นผู้บัญชาการศูนย์ อปพร. กลาง มีอานาจบังคับบัญชาและส่ังการ ผู้อานวยการศูนย์ อปพร. ฯ ผู้อานวยการกลาง เป็น ผู้อานวยการศูนย์ อปพร. กลาง ผู้อานวยการจังหวัด เปน็ ผู้อานวยการศูนย์ อปพร. จังหวัด ผู้อานวยการอาเภอ เป็น ผู้อานวยการศูนย์ อปพร. อาเภอ ผู้อานวยการ ทอ้ งถ่นิ เปน็ ผู้อานวยการศูนย์ อปพร. อปท. แหง่ พืน้ ที่ ข้อ ๒๓ การแบง่ โครงสรา้ ง ศนู ย์ อปพร. ฝา่ ยปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝา่ ยรักษาความสงบเรยี บรอ้ ย

นกั บรหิ ารงานทัว่ ไป รนุ่ ที ๘๔ ฝ่ายสงเคราะห์ผูป้ ระสบภัย ฝ่ายปฏิบัตกิ ารกชู้ พี กูภ้ ัย ฝา่ ยอน่ื ๆ ตามความจาเป็น สทิ ธิ วนิ ยั สวัสดกิ ำร อปพร. คา่ ตอบแทน สมาชกิ อปพร. การปฏบิ ัติหนา้ ท่ี การเบิกจ่ายค่าชดุ แตง่ กาย การยกย่องเชดิ ชเู กยี รติ เสนอขอเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ สมาชกิ อปพร. ทาความดี อื่น ๆ หน้ำทีแ่ ละกำรมอบหมำยงำน (ตำมหมวด ๕) ข้อ ๓๗ อปพร. มีหน้าท่ีปฏิบัติการตามคาส่ังของผู้บังคับบัญชา และเจ้าพนักงานในการ ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั และปฏิบัติตามระเบียบฯ ระเบียบกระทรวงมหำดไทย ว่ำด้วยกำรเบิกคำ่ ใช้จ่ำยให้แก่อำสำสมัครป้องกันภัยฝ่ำยพล เรอื น ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๐ การเบิกคา่ ใช้จ่ายสาหรับ สมาชิก อปพร. ท่ีปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ให้เป็นไปตามอัตราค่าใช้จ่ายที่กาหนดไว้ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสา ธารณภยั แห่งชาตวิ า่ ดว้ ยคา่ ใชจ้ ่ายของอาสาสมัครในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ.๒๕๖๐ โดยให้ตง้ั หน้า งบประมาณไว้ในหมวดค่าตอบแทน ประเภทค่าตอบแทนปฏิบัติราชการอันเป็นประโยชน์แก่ อปท. ท้ังนี้ ให้ คานึงถงึ ฐานะทางการเงินการคลังของ อปท. ตามความเหมาะสมจาเปน็ ดว้ ย 348 องค์กำรสำธำรณกศุ ล หรอื บคุ คล (ม.๔๒) ให้ผู้อานวยการหรือเจ้าพนักงานท่ีได้รับมอบหมายมีอานาจมอบหมายภารกิจหรอื จัดสถานที่ ให้องค์การสาธารณกุศลและบุคคลทีเ่ ข้ามาช่วยเหลือการปฏิบัติหนา้ ที่ของเจ้าพนกั งานในระหวา่ งเกิดสาธารณ ภัย ในการให้ความช่วยเหลือได้ตามที่เห็นสมควร เพ่ือให้การช่วยเหลือหรือบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปอย่างมี ประสทิ ธิภาพ ให้ผู้อานวยการแจ้งให้องค์การสาธารณกุศลและบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ในการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยท่ีอยู่ ในพ้ืนท่ีท่ีรับผิดชอบทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตามแผนการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด หรือแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั กรุงเทพมหานคร และวิธีการประสานงานใน การปฏิบตั ิหน้าท่ี แนวทำงกำรปฏิบตั ิงำน - การแจง้ ลงทะเบยี นตามแผนฯ เพอื่ เขา้ ปฏบิ ัติงานในพ้ืนท่ี (ช่อื หน่วยงาน ทรพั ยากรทนี่ าเข้า ร่วมปฏบิ ัตงิ าน) - รบั มอบภารกจิ กอ่ นลงปฏิบตั งิ านในพน้ื ที่ - รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานอย่างตอ่ เนอื่ งจนกว่าสถานการณ์จะคล่คี ลาย - แจ้งการถอนกาลังกลับ เม่ือเสรจ็ สนิ้ ภารกจิ กำรเฝำ้ ระวังแจ้งเตือนภยั

นักบริหารงานท่ัวไป รนุ่ ที ๘๔ กำรแจ้งเตือนภัย และประเมินสถำนกำรณ์ หน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีในการแจ้งเตือนภัย แจ้ง เตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ กอ.ปภ. ในเขตพื้นท่ี คาดว่าจะเกิดภัย เพ่ือแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า แก่ผู้ที่คาดว่า จะได้รับผลกระทบให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ พิจารณาเคลื่อนย้ายไปสู่ที่ ปลอดภัยได้ หนว่ ยงำนทร่ี ับผิดชอบในกำรเตือนภัย ได้แก่ ๑. กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทาหน้าท่ีเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย ระดบั ประเทศ ๒. กรมชลประทาน ทาหน้าที่แจง้ เตือนสถานการณ์น้า ๓. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับข้อมูลการแจ้งเตือนภัย จาก กรมอุตุนิยมวิทยา กรม ชลประทาน และ ศนู ย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เพอ่ื แจง้ เตือนไปสพู่ น้ื ท่ี ระดับสีตำมแผนกำรป้องกนั และบรรเทำสำธำรณภัยแหง่ ชำติ พ.ศ. ๒๕๕๘ กาหนดระดบั ของสถานการณ์ ดงั นี้ สเี ขียว = แจง้ ขา่ ว สีนา้ เงิน = เฝ้าระวัง สเี หลือง = เตอื นภัย สีสม้ = ภาวะเส่ยี ง- ให้อพยพ สีแดง = ภาวะเส่ยี ง-ตอ้ งอพยพ สแี ดง หมายถงึ สถานการณ์อยใู่ นภาวะอนั ตรายสูงสดุ ใหอ้ าศยั อยแู่ ต่ในสถานทป่ี ลอดภัยและ ปฏิบัตติ ามขอ้ ส่ังการ สีส้ม หมายถึง สถานการณ์อยู่ในภาวะเส่ียงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กาลังควบคุมสถานการณ์ หนา้ 349 ให้อพยพไปยังสถานทป่ี ลอดภยั และปฏิบตั ิตามแนวทางท่กี าหนด สีเหลือง หมายถึง สถานการณ์อยู่ในภาวะเส่ียงอันตราย มีแนวโน้มที่สถานการณ์จะรุนแรง มากขนึ้ ให้จัดเตรยี มความพร้อมรับสถานการณ์ และปฏิบัตติ ามคาแนะนา สนี า้ เงิน หมายถึง สถานการณอ์ ยู่ในภาวการณเ์ ฝ้าระวัง ให้ตดิ ตาม ขอ้ มลู ข่าวสารอยา่ งใกลช้ ิด ทกุ ๆ 24 ชวั่ โมง สเี ขยี ว หมายถึง สถานการณอ์ ยใู่ นภาวะปกติ ให้ตดิ ตามขอ้ มูลขา่ วสาร เป็นประจา *ให้จัดเตรียมสัญญำณเตือนภัย รูปแบบต่ำง ๆ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน จัดให้มี ป้ายเตือนภัย ป้ายเส้นทางหนีภัย เคร่ืองหมายสัญญาณอ่ืน ๆ และแจ้งให้ประชาชนทราบถึงความหมายของ สัญญาณเตือนภัยนั้น ๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติหรือเตรียมการอพยพได้ทันทีหากเหตุการณ์ภัยพิบัติ น้ันมีระดับความรุนแรงเกนิ กวา่ จะรบั มอื ได้ *กำรเฝ้ำระวัง ให้มีการติดตามสถานการณ์ รวบรวมข้อมูล และประเมินสถานการณ์ท่ีอาจ เกิดขน้ึ ตลอด ๒๔ ชว่ั โมง เพอ่ื เป็นขอ้ มลู ในการแจง้ เตอื นภยั *กำรแจ้งเตือนภัยระดับจังหวัด แจ้งเตือนภัย ระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารและส่ือ ประชาสัมพันธ์ ทางราชการและเอกชน เช่น วิทยุกระจายเสียงวิทยุ ส่ือสาร โทรสาร ประชาสัมพันธ์จังหวัด *กำรแจ้งเตือนภัยระดับอำเภอ แจ้งเตือนภัยระบบ เครือข่ายและระบบสื่อสารและส่ือ ประชาสมั พันธ์ ทางราชการและเอกชน เช่น วิทยชุ ุมชน วทิ ยสุ ือ่ สาร โทรสาร เป็นตน้ *กำรแจ้งเตือนภัยระดับตำบล/หมู่บ้ำน แจ้งเตือน โดย ผู้นาชุมชน กานัน ผู้ใหญ่บ้าน จิต อาสา อาสาสมัครและเครือข่ายเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยระดับชุมชน โดยใช้ระบบส่ือสารหรือเครื่องมือ แจ้ง

นกั บริหารงานท่วั ไป รุ่นที ๘๔ เตือนภยั ของชมุ ชน เช่น เสยี งตามสาย วทิ ยุ หอกระจายข่าว ไซเรนเตือนภยั แบบมือหมนุ โทรโขง่ นกหวีด หรอื สญั ญาณเสยี ง ท่กี าหนดให้เป็นสัญญาณเตอื นภัยประจาหม่บู ้านหรือตาบล วิธีกำรแจ้งเตือนภัย ทำได้โดย ๑. แจ้งเตือนประชาชนโดยตรง โดยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ วิทยุสมัครเล่น โทรสาร โทรศัพท์มือถือ หอกระจายข่าว เสียงตามสาย ไซเรนเตือนภัยแบบมือหมุน และหอเตือนภัย ๒. แจ้งเตือนผ่านหน่วยงาน โดยใช้กลไกระบบการบริหารราชการต้ังแต่ระดับส่วนกลาง ระดับ ภูมภิ าค ระดบั ท้องถิ่น หน่วยงานช่วยเหลือบรรเทาสาธารภยั กลุ่มผไู้ ด้รบั ผลกระทบ และประชาชนทว่ั ไป ผา่ น หนว่ ยงานระดบั ตา่ ง ๆ ไปสู่ระดบั พื้นทีต่ ามวธิ ีการแจง้ เตือนภยั ผา่ นหนว่ ยงาน ๑. การเฝ้าระวงั และตดิ ตามสถานการณ์ (Monitoring) ๒. การแจ้งเตอื นล่วงหน้า (Early Warning) ๓. การแจง้ เตอื น (Warning) ๔. การอพยพประชาชน (Evacuation) กรมอุตุนิยมวิทยำ รับผิดชอบ ติดตามสภาพภูมิอากาศ และการพยากรณ์อากาศเม่ือมีการ คาดหมายลักษณะ อากาศท่ีจะมีผลกระทบต่อพ้ืนที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย จะจัดทาการประกาศแจ้งเตือนภัย ล่วงหน้าผ่านทางสื่อสารมวลชนแขนงต่าง ๆ ทางระบบสารสนเทศ ระบบข้อความส้ัน (SMS) และแจ้งกรม ป้องกันและบรรเทาสารณภยั ทราบเพ่อื แจง้ เตอื นไปยงั จงั หวัด อาเภอ ในพ้ืนทเ่ี สีย่ งภยั หนา้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชำติ รับผิดชอบ การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ด้านการเกิด แผน่ ดินไหว (ทั้งบนบกและในทะเล) ทีอ่ าจส่งผลกระทบทาให้เกดิ ความเสียหายต่อพ้นื ท่ีตา่ ง ๆ ในประเทศไทย 350 โดยจะทาการกระจายขา่ วแจ้งเตือนภัย ผ่านทางสือ่ สารมวลชนแขนงต่าง ๆ ทางระบบสารสนเทศ หอเตือนภัย ระบบข้อความส้ัน (SMS) ไปยังหน่วยงานที่เก่ียวข้องในพื้นที่จังหวัด อาเภอ ตาบล หมู่บ้านในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย โดยจัดทาเป็นมาตรฐานข้ันตอนการปฏิบัติ (SOP: Standard Operating Procedure) และแจ้งกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยทราบโดยตรง ทางระบบสายตรง (Hot line) เพ่ือแจ้งเตือนไปยัง จังหวัด อาเภอ ใน พน้ื ท่เี ส่ยี งภัย กรมชลประทำน รับผิดชอบ การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สภาพน้าในอ่างเก็บน้า ขนาดใหญ่ ขนาดกลางท่ัวประเทศ การติดตามสภาพน้าท่าในแม่น้าสายหลักทั่วประเทศ รวมท้ังการบริหาร จั ด ก า ร น้าในลุ่มน้าต่าง ๆ การควบคุมการจัดสรรน้า การแจ้งเตือนภัยเพ่ือการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ ภัยแลง้ ทอ่ี าจจะเกิดขึน้ ในพ้นื ท่ีตา่ ง ๆ กรมทรัพยำกรธรณี รับผิดชอบ เฝ้าระวังติดตาม สถานการณ์การเกิดธรณีพิบัติภัย เช่น การเกิดดิน โคลนถล่ม ดินไหล หินถล่ม รอยแยก หลุมยุบ ท่ีอาจเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยจะจัดทาประกาศกรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้มีการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัย ในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย และแจ้งกรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทราบ เพือ่ แจ้งเตอื นไปยงั จงั หวดั อาเภอ ในพน้ื ทเี่ สย่ี งภัย ดาเนนิ การตามแผน เผชญิ เหตุ ของแต่ละพ้นื ที่ ตอ่ ไป กรมป้องกนั และบรรเทำสำธำรณภัย รบั ผิดชอบจดั ชุดเฝา้ ระวังและติดตามสถานการณ์ และ ประสานงานแลกเปล่ียนข้อมูลด้านการพยากรณ์ อากาศ และการแจ้งเตือนล่วงหน้า โดยตรงกับกรม

นักบริหารงานทว่ั ไป รนุ่ ที ๘๔ อุตุนิยมวิทยา (บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติ ลว.26 หน้า กนั ยายน พ.ศ. 2549) และศนู ยเ์ ตอื นภยั พบิ ตั ิแหง่ ชาติ 351 กำรบริหำรจดั กำรภัยพิบัติในพืน้ ที่ *แผนปฏิบัติในกำรป้องกันและบรรเทำสำธำรณภัย* สถานการณภ์ ยั ข้อมลู พ้นื ฐาน องค์กรปฏบิ ตั ิ แตล่ ะระดับ การปฏิบัติกอ่ นเกดิ ภยั การปฏบิ ัติขณะเกดิ ภัย การปฏบิ ัตหิ ลงั เกิดภยั การสอ่ื สาร หน่วยทหำร (ม. ๔๖) การดาเนินการภายในเขตทหารหรือท่ีเกี่ยวกับกิจการ เจ้าหน้าที่ หรือ ทรัพยส์ นิ ในราชการทหาร มาตรา ๒๑ (การใชอ้ านาจหนา้ ทข่ี อง ผอ.ท้องถน่ิ เมอื่ เกดิ หรอื คาดว่าจะเกดิ สาธารณภัย) มาตรา ๒๒ (การใช้อานาจหนา้ ทขี่ อง ผอ.อาเภอ และ ผอ.จงั หวดั เมอื่ เกิดหรอื คาดวา่ จะเกิดสา ธารณภัย) มาตรา ๒๕ (การใช้อานาจสงั่ ดัดแปลง ทาลาย หรอื เคลอื่ นย้าย) มาตรา ๒๘ (อานาจส่ังอพยพ) หรือ มาตรา ๒๙ (ประกาศหา้ มมใิ หบ้ คุ คลเขา้ ไปอยู่อาศัยหรือดาเนนิ กิจการ) ให้เป็นไปตามความตกลงเป็นหนังสือร่วมกันระหวา่ งผู้อานวยการจังหวัด หรือ ผู้อานวยการ กทม. และผูบ้ งั คบั บัญชาของทหารในเขตพื้นท่ีท่ีเกี่ยวข้อง เว้นแต่เปน็ กรณีการส่ังการของนายกรัฐมนตรีหรือ รองนายก รฐั มนตรีตาม มาตรา ๓๑ แผนกำรบรรเทำทุกข์และฟน้ื ฟพู น้ื ท่ีประสบภัย (ระยะเรง่ ด่วน) แหลง่ ที่มาของงบประมาณ ๑. งบกลาง (รัฐบาล / อปท.) ๒. เงนิ ทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง ๓. เงินบรจิ าค หรือเงินจากองค์กรสาธารณกุศล ๔. กองทนุ เงนิ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบสาธารณภยั สานกั นายกรัฐมนตรี ระเบียบกระทรวงมหำดไทยว่ำด้วยค่ำใช้จ่ำยเพ่ือช่วยเหลือประชำชนตำมอำนำจหน้ำที่ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๖ กรณีเกิดสาธารณภัยในพ้ืนท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่า จะมีการประกาศ เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน หรือไม่ก็ตาม อปท. สามารถดาเนินการช่วยเหลือ ประชาชนในเบอื้ งต้น โดยฉับพลันทันที เพอ่ื การดารงชีพ หรือบรรเทาความเดือดรอ้ นเฉพาะหน้า หรือระงบั สา ธารณภยั หรือเพื่อคุม้ ครองชวี ติ และทรัพยส์ ิน หรือป้องกันภยนั ตรายทจ่ี ะเกดิ แก่ประชาชน ไดต้ ามความจาเป็น ภายใต้ขอบอานาจหน้าท่ตี ามกฎหมาย โดยไม่ต้องเสนอคณะกรรมการพจิ ารณา

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ ระเบียบกระทรวงกำรคลัง ว่ำด้วยเงินทดรองรำชกำรเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณี ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ 1. การประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่........(เพ่ือให้ส่วนราชการ หน่วยงาน อปท. และภาคเอกชนท่ีเก่ียวข้อง เข้าดาเนินการตามอานาจหน้าท่ีในเขตพื้นท่ีประสบภัยดังกล่าว ภายใต้ พรบ.ปภ. ๒๕๕๐ แผน ปภ.ชาติ ๒๕๕๘/จังหวดั ฯลฯ) 2 .การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน..........(ประกาศเพ่ือให้ ความช่วยเหลอื เป็นกรณีเร่งดว่ น ทั้งนี้ ตอ้ งไมเ่ กิน ๓ เดอื น นบั แต่วนั ที่เกดิ ภัย ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไข ฯลฯ) แนวทำงกำรชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั คณะกรรมการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบตั ิ “คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอาเภอ” เรียกโดยย่อว่า “ก.ช.ภ.อ.”ิ ประกอบด้วย นายอาเภอ หรือ ปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอ เป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วน ราชการประจาอาเภอหรือก่ิงอาเภอ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง หรอื ผูแ้ ทนไม่เกนิ สค่ี น ผแู้ ทนกระทรวงกลาโหมหน่ึงคน ผแู้ ทน กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยหน่ึงคน ผแู้ ทนองคก์ ร ปกครองส่วนท้องถ่ินในเขตอาเภอหรือกิ่งอาเภอนั้น หน่งึ คน เป็นกรรมการ และปลดั อาเภอหัวหน้าฝา่ ยความมัน่ คง เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร “คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด” เรียกโดยย่อว่า “ก.ช.ภ.จ.”ิ หน้า ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ ปลัดจังหวัด พาณิชย์จังหวัด โยธาธิการและผังเมือง จังหวัด ผู้แทนกระทรวงกลาโหม หน่ึงคน ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หนึ่งคน 352 ผแู้ ทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงสาธารณสขุ หนงึ่ คน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหนึ่งคน ผู้แทน ส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องกับภัยพิบัติกรณี ฉกุ เฉินไมเ่ กนิ ส่ีคน สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หรอื ประธานหอการคา้ จงั หวัดหรือผู้แทนในเขตจงั หวัดนน้ั หนึ่งคน เปน็ กรรมการ และหัวหน้าสานกั งานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด เป็นกรรมการและเลขานกุ าร ข้อ ๒๗ การจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้จ่ายเป็น ค่าใช้จ่าย ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตรา ตามที่กระทรวงการคลังกาหนด หากมีความจาเป็นต้อง จ่ายนอกเหนอื หลักเกณฑต์ ามวรรคหน่งึ ตอ้ งไดร้ บั อนุมัติจากกระทรวงการคลังก่อน กำรบรรเทำสำธำรณภยั (ม.๒๗) - ผู้อานวยการ และเจ้าพนกั งานซง่ึ ไดร้ ับมอบหมายจาก ผู้อานวยการ มีอานาจหนา้ ท่ี (๑) จัดใหม้ ีสถานท่ชี ั่วคราว ให้ผู้ประสบภัยอยู่อาศัย หรือรบั การปฐมพยาบาล และการรักษา ทรพั ย์สนิ ของผ้ปู ระสบภยั (๒) จัดระเบยี บการจราจรชั่วคราวในพ้นื ท่ีทีเ่ กิดสาธารณภยั และพืน้ ทีใ่ กลเ้ คียง (๓) ปิดก้ันไมใ่ หผ้ ไู้ ม่มสี ่วนเกยี่ วข้องเขา้ ไปในพืน้ ท่ีท่ีเกิดสาธารณภัยและพื้นท่ใี กล้เคียง (๔) จัดให้มกี ารรักษาความสงบเรยี บรอ้ ยและปอ้ งกันเหตุโจรผู้ร้าย (๕) ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและช่วยขนย้ายทรัพย์สินในพ้ืนท่ีท่ีเกิดสาธารณภัยและพื้นที่ ใกล้เคียง เมอ่ื เจา้ ของหรือผู้ครอบครองร้องขอ ในการดาเนินการข้างต้นผู้อานวยการ และเจ้าพนักงานซง่ึ ได้รับ มอบหมายจากผอู้ านวยการ

นักบรหิ ารงานท่วั ไป รนุ่ ที ๘๔ - จะจัดให้มีเคร่ืองหมายหรืออาณัติสัญญาณเพื่อใช้ในการกาหนดสถานท่ีหรือดาเนินการ หน้า ดังกลา่ วก็ได้ 353 - อาจมอบให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจในพื้นที่เป็นผู้ดาเนินการหรือช่วยดาเนินการ ตาม (๒) (๕) ก็ได้ - อาจมอบหมายใหอ้ งคก์ ารสาธารณกศุ ลเปน็ ผู้ดาเนินการหรือชว่ ยดาเนินการตาม (๕) ก็ได้ ๗.๓ การดาเนินการหลังเกิดสาธารณภัย (ม.๓๐) ให้ผู้อานวยการในเขตพ้ืนท่ีท่ีรับผิดชอบ ดาเนินการ - สารวจความเสยี หายจากสาธารณภัยทเี่ กดิ ขนึ้ - จดั ทาบญั ชีรายชื่อผูป้ ระสบภยั และทรัพย์สินทเี่ สยี หายไว้เป็นหลักฐาน - ออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภยั หรือเจ้าของหรอื ผู้ครอบครองทรัพย์สนิ ท่ีร้องขอหลักฐาน เพอื่ รบั การสงเคราะห์หรือบรกิ ารอนื่ ใด (ต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสงเคราะห์และการฟ้ืนฟูที่ผู้ประสบภัยมีสิทธิได้รับจากทาง ราชการ หน่วยงานท่ีเป็นผู้ให้ การสงเคราะห์หรือฟ้ืนฟูและสถานท่ีติดต่อของหน่วยงานน้ัน ไว้ด้วย ทั้งนี้ตาม แบบทอี่ ธิบดกี าหนดและระเบยี บท่ี มท.กาหนด) - เอกสารราชการของผู้ประสบภัยที่สูญหายหรือเสียหายเนื่องจากสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้น เม่ือ ประสบภยั ร้องขอต่อ อปท. แห่งพืน้ ท่ีท่เี กิดสาธารณภัย หรือท่ีเปน็ ภูมิลาเนาของผู้ประสบภัย ให้เปน็ หน้าท่ีของ อปท.แห่งพ้ืนท่ีน้ัน แจ้งให้หน่วยงานของรัฐและ อปท. ท่ีเก่ียวข้องทราบ และให้หน่วยงานของรัฐและ อปท. ท่ี เกี่ยวข้อง ออกเอกสารทางราชการดังกล่าวให้ใหม่ตามหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของตน ส่งมอบให้แก่ ผู้ประสบภัยหรือ ส่งมอบผ่านทาง อปท. แห่งพ้ืนท่ีท่ีเป็น ผู้แจ้ง โดยผู้ประสบภัย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือ ค่าบริการ แม้ว่าตามกฎหมายท่ีเก่ียวกับการออกเอกสารราชการดังกล่าวจะกาหนดให้ต้อง เสียค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการกต็ าม การขอรับการสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือตามข้อ ๒๒ และข้อ ๒๓ ให้ทาเป็นหนังสอื ซ่งึ อยา่ งนอ้ ยให้มีรายการ ดังตอ่ ไปนี้ (๑)ประเภทของภยั พิบตั ิกรณีฉกุ เฉนิ (๒) วนั เดอื น ปีทีเ่ กดิ ภัยพิบตั กิ รณีฉกุ เฉิน และวนั เดือน ปี ท่เี กดิ ความเสียหาย (๓)สถานที่เกิดเหตุ (ใหร้ ะบชุ ่อื ถนน หมบู่ า้ น ตาบล อาเภอ) (๔)จานวนผ้ปู ระสบภยั พิบัติโดยประมาณ (๕)ความเสียหายโดยประมาณ เช่น จานวนบ้านเรือน ท่ีเสียหาย ทรัพย์สินที่เสียหาย รวมทง้ั มูลคา่ ความเสยี หายท่ีเกดิ ขน้ึ โดยประมาณ จานวนผู้บาดเจ็บ ผูเ้ สยี ชวี ิต เป็นตน้ กำรจดั กำรสำธำรณภยั ในภำวะฉุกเฉนิ กำรเฝำ้ ระวัง กำรประเมนิ สถำนกำรณภ์ ยั และกำรแจ้งเตอื นภัย การต้ังศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด/อาเภอ/ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น เพ่ือเป็น ศูนย์กลางในการระดมสรรพกาลงั ในการจดั การสาธารณภัย - วเิ คราะห์และประเมนิ สถานการณ์ในภาวะฉกุ เฉิน - ประเมนิ ความเส่ียงภัยพิบตั ิซา้ ซอ้ น อ่นื ๆ ท่ีจะเกดิ ตามมา

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รนุ่ ที ๘๔ - ตรวจสอบพืน้ ท่ีเสี่ยงภัย และพื้นท่ีท่คี าดว่าจะได้รบั ผลกระทบ - กาหนดขอบเขต หรือพนื้ ท่เี สีย่ งสาธารณภัย ประกำศเขตพ้ืนที่ประสบสำธำรณภัยเพื่อประโยชน์ในกำรป้องกัน และบรรเทำสำธำรณ ภัย และให้ส่วนรำชกำร หน่วยงำนต่ำง ๆ ให้ควำมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้ตำมระเบียบกฎหมำย ท่ี เก่ียวขอ้ ง ประกำศเขตกำรให้ควำมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตำมระเบียบ กระทรวงกำรคลังว่ำด้วยเงินทดรองรำชกำรเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีใช้เงินทด รองรำชกำรเพื่อช่วยเหลอื ผู้ประสบภัย) กำหนดบริเวณพื้นที่อันตรำยหำ้ มเข้ำ - แบง่ โซนพื้นทป่ี ระสบสาธารณภัยเพอื่ เขา้ สนับสนุนและช่วยเหลือผูป้ ระสบภัย - กาหนดเสน้ ทางคมนาคม และจดุ จอดเฮลิคอปเตอร์ เพ่ือเขา้ สนับสนนุ ความช่วยเหลือ มีกำรส่ังกำรให้เขำ้ ควบคมุ สถำนกำรณ์และระงบั เหตุ ใหย้ ุตโิ ดยเร็ว - อพยพประชาชน สัตว์เลย้ี ง พ้นื ท่ีเสยี่ งภัย - จัดต้ังศูนยพ์ ักพงิ ชวั่ คราวใหม้ มี าตรฐาน - กาหนดบรเิ วณพ้นื ท่ีอันตรายหา้ มเข้า - กู้ชีพ กภู้ ยั และชว่ ยชวี ติ หน้า - ช่วยเหลือและสงเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั - รกั ษาพยาบาลผู้ป่วย ผไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ 354 - จดั ระเบยี บการจราจรช่วั คราวในพื้นที่ทีเ่ กิดภยั และพ้นื ทใ่ี กลเ้ คยี ง - กรณมี ีผู้เสยี ชีวิตจานวนมากจัดหาหรือสร้างท่เี ก็บศพชั่วคราว - จดั ใหม้ กี ารตรวจพสิ ูจน์เอกลกั ษณ์บคุ คลตามหลักนติ ิวิทยาศาสตร์ - ป้องกนั สถานที่สาคัญ หนว่ ยราชการ เช่น โรงพยาบาล วัด โรงเรยี น ฯลฯ - รวบรวมข้อมูลความเสียหายและความสูญเสีย - เฝ้าระวังและแจง้ เตือนภยั ในภาวะฉกุ เฉนิ หากเกิดเหตสุ าธารณภัยขึน้ อกี - สารวจความตอ้ งการของผปู้ ระสบภยั เพื่อชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภยั กำรเข้ำชว่ ยเหลอื บรรเทำทุกข์ - สารวจความตอ้ งการความช่วยเหลือในเบือ้ งตน้ - จัดใหม้ อี าหาร นา้ ดื่ม น้าใช้ เสอื้ ผ้า เครอ่ื งนงุ่ หม่ ยารักษาโรค เช่น การจดั ตงั้ โรงครัวชั่วคราว หน่วยแพทยเ์ คล่อื นที่ เป็นตน้ - บริหารจดั การศนู ย์พกั พิงชัว่ คราว - แจก-จ่าย สิ่งของบรรเทาทกุ ข์ เช่น ถุงยังชพี ให้ทวั่ ถึง เป็นธรรม - ให้บริการดา้ นแพทย์ และ สาธารณสขุ - บาบดั สขุ ภาพกายและสุขภาพจิต เช่น จัดศนู ยฟ์ ื้นฟสู ุขภาพจิต - สถานทผี่ อ่ นคลายความเครียด

นกั บรหิ ารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ - บริการประชาชนให้เข้าถึงการบริการของภาครัฐ เช่น ด้านทะเบียนและบัตรการเข้าถึง หนา้ ข้อมูลผู้สญู หาย เสยี ชีวติ บ้านเรือนทไ่ี ด้รับความเสียหาย 355 กำรสำรวจควำมเสยี หำยเบ้ืองต้น - ผู้เสยี หายและผ้ไู ด้รับบาดเจ็บ เพอื่ กาหนดมาตรการให้ความช่วยเหลอื - เสน้ ทางคมนาคม เช่น ถนน ทางรถไฟ ฯลฯ ซอ่ มแซมเพื่อใหส้ ัญจรได้ - ส่งิ สาธารณปู โภค เชน่ ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ ซ่อมแซมให้สามารถใช้การได้ - โครงสรา้ งพื้นฐานและสิง่ สาธารณประโยชน์ เชน่ สะพาน เขอ่ื น ฝาย และ คันกัน้ น้า ฯลฯ - สถานทสี่ าคัญ หรอื หน่วยงานราชการทีไ่ ดร้ ับความเสยี หาย ดำ้ นอน่ื ๆ ท่ีมีควำมเส่ยี ง และอำจสง่ ผลกระทบต่อผปู้ ระสบภัย - ควบคุมปอ้ งกัน และกาหนดพื้นท่เี สย่ี งท่อี าจเกดิ ปญั หาจากเหตอุ นามัย ส่งิ แวดล้อม และโรค ระบาด - จัดอาสาสมัครอานวยความสะดวกแกป่ ระชาชนในเสน้ ทางคมนาคมท่เี สีย่ งอันตราย - จดั ตั้งศูนยร์ บั แจ้งความเสยี หายและรับเร่ืองรอ้ งเรยี น - จัดอาสาสมัคร อานวยความสะดวก คอยเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ท้ัง บา้ นเรือนของผู้ประสบภัย บริเวณพื้นที่เกดิ สาธารณภยั และพื้นทศ่ี นู ย์พักพงิ ชวั่ คราว - จัดตง้ั ศูนยร์ ับบรจิ าค และจดั ระบบการแจก – จา่ ยสง่ิ ของบริจาค - ประชาสัมพันธ์และจัดการข่าวสารในภาวะฉุกเฉิน - กาหนดมาตรการฉกุ เฉินในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และภาคธุรกจิ - สรุปและรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ และสรุปความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ให้ หนว่ ยเหนอื ขึ้นไปได้รบั ทราบเป็นระยะ ๆ แนวทำงปฏิบัติในกำรประเมินควำมเสียหำย และควำมต้องกำรควำมช่วยเหลือ (Damage and Need Assessment : DANA) กองอานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละระดับ จะประเมินความเสียหายท่ี เกิดข้ึน จากสาธารณภัย เพื่อประเมินสถานการณ์ และวิเคราะห์ความสามารถของผู้ประสบภัยในการตอบโต้ สถานการณฉ์ กุ เฉินดว้ ยตนเอง รวมทงั้ ความต้องการความชว่ ยเหลอื ดา้ นอาหาร น้าดมื่ การรักษาพยาบาล สุขภาพอนามัย และการกาจัดสิ่งปฏกิ ูล ความช่วยเหลือ ด้านสุขภาวะ ท่ีพัก พิง อุปกรณย์ ังชพี เป็นตน้ การประเมนิ น้ี เป็นกระบวนการท่ีสาคัญในการปฏิบัติงานดา้ นมนษุ ยธรรม และ การ ช่วยเหลือผูป้ ระสบภยั ให้อยู่รอดปลอดภัย โดยมหี ลักการปฏบิ ัติ ดังน้ี ๑. กำรประเมนิ แบบรวดเร็ว(rapid assessment) -กระทาทนั ทีภายหลังมีเหตุการณ์สาธารณภยั เกดิ ข้ึน โดยมากภายในสัปดาห์แรกของการเกิด ภัย เป็นการประเมินแบบคร่าวๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลความต้องการ สิ่งที่ควรปฏิบัติหลักจากเกิดภัย และ ทรัพยากรที่จาเปน็ ทุก ๆ ด้าน ทั้งผู้ประสบภยั โครงสรา้ งพ้ืนฐาน สงิ่ แวดลอ้ ม ลาดับความสาคัญ ก่อน – หลัง การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เพ่ือให้ทันต่อ ความต้องการ ในภาวะฉุกเฉนิ ๒. กำรประเมินแบบละเอียด (detailed assessment)

นกั บรหิ ารงานท่ัวไป ร่นุ ที ๘๔ - เป็นการดาเนินการทันทีเม่ือภาวะฉุกเฉิน สิ้นสุดลง หรืออย่างน้อยภายใน ๒ สัปดาห์ หลงั จากเกดิ สาธารณภยั ทง้ั น้ี ขึน้ อยกู่ บั การเข้าถงึ พ้ืนทป่ี ระสบภยั ซ่ึงเปน็ การประเมินเพ่อื ใชใ้ นการฟ้ืนฟูระยะ ยาวได้อกี ด้วย - เป็นการระบุมูลค่าความเสียหายทางกายภาพ โครงสร้างทางสังคม ประมาณการด้าน การเงนิ และวัสดุอุปกรณ์ท่ีจะต้องใช้ในการให้ความช่วยเหลือและความต่อเนื่อง ท้ังน้ี จาเป็นต้องใช้ ผเู้ ชี่ยวชาญในแตล่ ะสาขาดาเนินการประเมินความเสียหายและความต้องการในแต่ละด้าน การประเมินความเสยี หายและความต้องการ ความช่วยเหลือ จะต้องมคี วามเชือ่ มโยงกบั การ ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ไดร้ ับผลกระทบ ตามหลกั มาตรฐาน โดยคานึงถงึ ปจั จัยด้านต่าง ๆ เช่น อายุ เพศ เชอ้ื ชาติ ศาสนา สตรมี คี รรภ์ และ ผพู้ กิ าร เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย กลยุทธ์กำรพัฒนำระบบกำรประเมินควำมต้องกำรหลังเกิดสำธำรณภัย (Post-Disaster Need Assessment : PDNA) - เป็นการประมาณการความเสียหายของสินทรัพย์ทางกายภาพและสาธารณูปโภคท่ีได้รับ ผลกระทบจากสาธารณภัยขนาดใหญ่และความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจที่เป็นผลตามมา รวมทั้งเป็นการ ประเมินมิติทางด้านสังคม โดยเฉพาะความต้องการในการฟื้นฟูระดับชุมชน และภาคส่วน/สาขาการผลิต หน้า (Sector) กำรประเมนิ ควำมเสยี หำย (Damages Assessment) 356 - สินทรัพย์ทางกายภาพที่ถูกทาลายทั้งหมดหรือบางสว่ น อันรวมถึงอาคารและส่วนประกอบ โครงสร้างพืน้ ฐาน สินค้าทีเ่ ก็บไวใ้ นคลงั ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ - ความเสียหายเกดิ ขึ้นระหวา่ งหรอื หลังเกดิ เหตุการณ์ ในทนั ที - ความเสยี หายคานวณในเชงิ กายภาพและคดิ คานวณด้วย มลู ค่าทดแทนเปน็ เงิน - คานวณหามลู คา่ ในการซ่อมแซมหรอื สร้างคืนใหม่ ของทรัพยส์ นิ ที่ถูกทาลาย กำรประเมนิ ควำมสูญเสีย (Losses Assessment) - การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่เปล่ียนแปลงไปอันเนื่อง มาจากสาธารณภัย - ความสูญเสีย เช่น ผลผลิตที่ไม่สามารถเกิดข้ึนและ ขายได้ และมีผลให้เกิดค่าใช้จ่ายท่ี เพ่ิมขึ้นจากกระบวน การผลิตมูลค่าต้นทุนการดาเนินการต่อหน่วยเพ่ิมขึ้นและ รายได้ท่ีลดลงรายจ่ายท่ีไม่ได้ คาดหมาย (เชน่ การ ชว่ ยเหลือทางมนุษยธรรม การรือ้ ถอน และการขนย้าย ซากปรกั หกั พงั )

นกั บริหารงานทว่ั ไป รุ่นที ๘๔ กำรพัฒนำศกั ยภำพ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ด้ำนกำรปอ้ งกันและบรรเทำสำธำรณภัย หน้า ด้ำนเอกสำร 357 • มีแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน • มแี ผนปฏบิ ัตกิ ารฯ แต่ละประเภทภยั • มกี ารฝกึ ซ้อมแผนฯ อยา่ งน้อยปลี ะ 1 คร้งั • มกี ารทบทวนแผนฯ ด้ำนกำรเฝำ้ ระวงั และแจง้ เตอื นภัย • มคี าสั่งแตง่ ต้งั /มอบหมายเจ้าหน้าที่เพื่อทาหน้าทเ่ี ฝา้ ระวัง ตดิ ตามสถานการณส์ าธารณภัย และ แจง้ เตือนภัยในพ้ืนท่ี • มีการติดตามและเฝา้ ระวังการรายงานสภาพอากาศ ปรากฏการณธ์ รรมชาติ ข้อมลู สถานการณ์ และการแจ้งขา่ วการเตอื นภัยจากหนว่ ยงานรัฐ • มคี าสั่งแต่งตงั้ /มอบหมายอาสาสมัครและเครอื ข่ายเฝ้าระวงั เพอ่ื ทาหนา้ ทเ่ี ฝ้าระวังและติดตาม สถานการณ์สาธารณภัย และแจ้งขา่ วเตอื นภัยแก่ชุมชน/หมบู่ ้าน • มอี ุปกรณใ์ นการเฝ้าระวงั และติดตามสถานการณ์สาธารณภัย เชน่ เครือ่ งวดั ปรมิ าณนา้ ฝนอุปกรณ์ วดั ระดับน้า ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) • มอี ปุ กรณ์แจง้ เตือนภัย ผังโครงสรา้ งระบบการสอ่ื สารเพื่อติดต่อประสานงาน และช่องทางการแจง้ เตอื นภัยสู่ประชาชน เชน่ เสยี งตามสายประจาชมุ ชน ไซเรนมอื หมนุ หอกระจายขา่ ว สถานวี ทิ ยชุ มุ ชน หอ เตือนภัย ระบบ Line หรือ แอปพลเิ คช่ัน (Application) เป็นตน้ • มีแผนท่แี สดงพน้ื ทเ่ี สีย่ งภยั ในชุมชน/หมู่บา้ น เช่น พืน้ ท่ีเสยี่ งภัย พืน้ ท่ปี ลอดภัย เส้นทางอพยพจุด ตดิ ตั้งอปุ กรณด์ บั เพลิงประปาหวั แดงดับเพลงิ เป็นต้น • มกี ารจัดทาระเบยี บปฏิบัติประจา (Standard operating Procedure: SOP) ดา้ นการแจ้งเตือน ภัยสาหรับผู้ปฏบิ ตั งิ าน • มีคู่มือการปฏบิ ัตงิ านด้านการแจ้งภัย ดำ้ นงบประมำณ • มีการใชจ้ า่ ยงบประมาณเพื่อการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั • มีงบประมาณจ้างเจ้าหนา้ ท่ี/เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั • งบประมาณจดั หาเคร่ืองมือ อุปกรณส์ าหรบั การป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย • งบประมาณในการจดั ฝกึ อบรมใหค้ วามรู้ด้านสาธารณภัยให้เจา้ หน้าที่และประชาชนในพื้นท่ี • งบประมาณพัฒนาเจา้ หน้าท/่ี เจ้าพนักงานฯ ในการฝึกอบรม สัมมนาด้านการป้องกนั และบรรเทา สาธารณภยั อย่างนอ้ ย 1 หลักสตู ร/ปีงบประมาณ • งบประมาณในการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ของหน่วยงานภายในและ หนว่ ยงานภายนอกพ้นื ท่ี • มีสวัสดิการให้เจา้ หน้าท/่ี เจา้ พนกั งาน เช่น การตดั ชุดเครื่องแบบชดุ ปฏิบตั ิงาน • มกี องทนุ สงเคราะห์เจา้ หน้าท่ีทไี่ ด้รบั บาดเจบ็ หรือเสียชีวิตจากการปฏบิ ัตงิ าน ฯลฯ

นกั บรหิ ารงานทัว่ ไป รุน่ ที ๘๔ ดำ้ นเครื่องมอื และอุปกรณ์ • มแี ผนปฏบิ ัติการด้านการดับเพลิงและกภู้ ยั , แผนการฝึกการใชเ้ ครอ่ื งมืออุปกรณป์ ระจาสัปดาห/์ เดอื น • มรี ะเบียบปฏบิ ตั ปิ ระจา ในการตรวจสอบความพร้อมของเคร่อื งมือ และอปุ กรณป์ ระจาวัน • มีแผนการบารงุ รักษา ซ่อมบารุง และตรวจเชค็ สภาพของเคร่อื งจักรกลยานพาหนะ รถดับเพลงิ และกู้ภยั และเครอื่ งมืออุปกรณ์ รวมถึงอปุ กรณ์ส่ือสารอย่างเปน็ ระบบ ทสี่ ามารถรองรับจัดการปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภัยทุกประเภทความเสยี่ งภัยในพื้นท่ี • มขี อ้ มูลบัญชที รัพยากร เช่น ทะเบียนคุมยานพาหนะ เครอื่ งมืออุปกรณใ์ นการดับเพลงิ และก้ภู ัย และอปุ กรณส์ ื่อสาร • มีสถานท่ีจอดรถดับเพลิงและกภู้ ัย • มหี อ้ ง/คลงั เก็บเครอ่ื งมอื อุปกรณด์ บั เพลงิ และกูภ้ ัย รวมถงึ อุปกรณส์ อื่ สารอย่างเป็นระบบ • มศี นู ยว์ ทิ ยสุ ื่อสารรบั แจง้ เหตุ หรอื ระบบ Call Center และผังแสดงเส้นทางคมนาคม รวมถงึ จดุ จ่ายน้าเพอ่ื สนบั สนนุ การดับเพลิง ดำ้ นบคุ ลำกร • มีคาสั่งแต่งต้งั เจา้ หน้าที่ให้ปฏบิ ัตงิ านดา้ นการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั • มคี าส่ังแตง่ ตั้งเจา้ พนักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ประจาหนว่ ยงาน หนา้ • เจ้าหน้าที่/เจ้าพนักงานฯ ผา่ นการฝึกอบรมและมีความรู้ ความสามารถ ทักษะในการใช้เคร่อื งมือ วสั ดุ อุปกรณ์ ยานพาหนะ รวมถงึ อุปกรณส์ ่ือสาร 358 • มีการประสานงาน สงั่ ใช้และมอบหมายภารกจิ ให้ อปพร. รวมถึงอาสาสมัครมลู นิธิ องค์การสา ธารณกศุ ล ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกบั เจ้าหนา้ ท่ี/เจา้ พนักงานฯ • มีการสนบั สนนุ ใหเ้ จ้าหน้าท่/ี เจา้ พนกั งานฯ ฝึกอบรม พฒั นาเพ่มิ ทักษะเฉพาะทาง เชน่ การ ดับเพลงิ การกภู้ ัยในอาคารถล่ม การกู้ภยั ทางน้า การกภู้ ัยจากอุบตั เิ หตทุ างถนน การก้ภู ยั สารเคมี ฯลฯ และ การฝึกอบรม ความรู้เกีย่ วกับการจัดการในภาวะวกิ ฤติ เชน่ ระบบบญั ชาการเหตุการณ์ การประเมิน สถานการณ์ความเส่ยี ง ฯลฯ • จดั หนา้ ท่ใี นการตรวจสอบอาคารในพ้ืนที่ เช่น อาคารสงู อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารชมุ นมุ คน โรงมหรสพ โรงแรม สถานบริการ อาคารชุด อาคารโรงงาน และปา้ ย หรอื สิ่งท่สี รา้ งขึน้ สาหรับติดตั้งป้ายทีส่ ูง จากพ้ืนดนิ ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ด้ำนกำรปฏิบตั ิกำรเผชิญเหตุและกำรช่วยเหลือผปู้ ระสบภัย • มีการจดั ตัง้ กองอานวยการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดับท้องถิ่น (กอปภ.อปท.) • มีการแต่งตัง้ คณะกรรมการอานวยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดบั ท้องถ่ิน (กอปภ. อปท.) • มโี ครงสร้างสายการบงั คับบญั ชาและการมอบหมายหน้าที่ปฏบิ ัติงาน • มกี ารรับแจง้ เหตสุ าธารณภัยและสามารถออกปฏิบตั ิหนา้ ที่ภายในเวลาทเี่ หมาะสมในแต่ละประเภท ภัย • มีชดุ ปฏบิ ตั ิการเคล่ือนทีเ่ รว็ เข้าปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในการจัดการในภาวะวกิ ฤติ

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป ร่นุ ที ๘๔ • มชี ่องทางในการประสานงานกบั หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องในการเผชญิ เหตุ • มกี ารวางแผนกาหนดพ้นื ท่ีปฏิบตั ิการและพืน้ ท่รี วบรวมทรัพยากร (Staging Area) • มกี ารเตรียมความพร้อมทรพั ยากรในการจัดตง้ั ศูนย์ปฏิบตั ิการฉุกเฉินท้องถนิ่ (Incident Command Post : ICP) เมื่อเกิดสาธารณภยั ข้นึ • มีการจัดตัง้ ศูนยป์ ระชาสมั พนั ธ์ช้ีแจงขอ้ มูลสถานการณภ์ ัยที่เกิดขนึ้ แกป่ ระชาชนและรายงาน ผู้บังคับบญั ชาตามลาดับ ในกรณีเกดิ สาธารณภยั • มกี ารรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านต่อผูบ้ ังคับบัญชา • จัดให้มสี ถานทรี่ องรบั การอพยพ และสงิ่ อานวยความสะดวก ให้แก่ ผูป้ ระสบภัย • มีขอ้ มูลการช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยในสถานทเี่ กดิ เหตุ (อัคคีภยั อทุ กภัย และอบุ ัติเหตทุ างถนนในพน้ื ท)่ี หน้า 359

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ การวางแผน การเขยี นโครงการและกระบวนการบริหารงบประมาณ หวั ใจสาคญั ในการต้ังงบประมาณ และการจา่ ยเงิน คือ กฎหมาย ระเบยี บ หนังสอื สงั การ มท. การจ่ายเงนิ ตามกฎหมายจัดตั้ง 1. รายจ่ายอ่ืนใดท่จี าเปน็ ตอ้ งจ่ายในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ 2. หรือ ตามขอ้ ผกู พัน 3. หรอื รายจา่ ยตามทม่ี ีกฎหมาย 4. หรือ ระเบยี บของกระทรวงมหาดไทย กาหนดไว้ อานาจหนา้ ท่ตี ามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด พ.ศ. ๒๔๔o แก้ไขเพิ่มเติมถงึ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๖๒ กฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั พ.ศ.๒๕๔๓ ประกาศคณะกรรมการการกระจายอานาจใหแ้ ก่ อปท. เร่ือง กาหนดอานาจและหนา้ ท่ีในการจัดระบบ บริการสาธารณะของ อบจ. ลงวนั ที่ ๑๓ สงิ หาคม ๒๕4๖ พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๖ และแกไ้ ขเพมิ่ เติมถงึ (ฉบับท่ี ๑๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ร.บ.สภาตาบลและองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล พ.ศ. ๒๔๓๗ และแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ถงึ (ฉบับที่ ๗) หน้า พ.ศ. ๒๕๖๒ 360 พ.ร.บ.องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั พ.ศ. ๒๔๔๐ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ ถงึ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๔๕ - เพ่ิม 6/1 ให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนในการดูแลการจราจรและการรักษา ความสงบเรียบรอ้ ย - เพิม่ 7 ตรี จดั การ สง่ เสริมและสนับสนนการจัดการศึกษา รวมทงั การจัดการหรือสนับสนุน การดแู ลและพัฒนาเดก็ เล็ก พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๖ และท่แี กไ้ ขเพิ่มเติมถงึ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. 2562 มาตรา ๕o - เพ่ิม ๒/๑ รักษาความเป็นระเบียบเรียบรอย การดูแล การจราจร และส่งเสริม สนับสนุน หนว่ ยงานอน่ื ในการปฏิบตั หิ น้าที่ดังกล่าว - แก้ไข (๖) จัดการ ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการ ศาสนา และการฝึกอบรมให้แก่ ประชาชน รวมทั้งการจัดการหรือสนับสนนุ การดูแลและพัฒนาเด็กเล็ก พ.ร.บ.สภาตาบลและองค์การบริหารส่วนตาบล พ.ศ. ๒๔๓๗ และแก้ไขเพ่ิมเติมถึง (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๖๗ - เพิ่ม ๑ / ๑ รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย การดูแลการจราจร และส่งเสริมสนับสนุน หน่วยงานอื่นในการปฏิบัตหิ น้าทดี่ ังกล่าว

นกั บรหิ ารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ - แก้ไข (๕) จัดการ ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาศาสนา วัฒนธรรมและการ หนา้ ฝึกอบรมให้แก่ประชาชน รวมทั้งการจัดการหรือสนับสนุนการดูแลและพัฒนาเด็กเล็กตามแนวทางที่ 361 เสนอแนะจากกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศกึ ษา ระเบยี บที่เช่ือมโยงกับงบประมาณ - ระเบยี บแผน ขอ้ 25 ใหใ้ ชแ้ ผนเป็นกรอบในการจัดทางบประมาณ - ระเบยี บงบประมาณ ข้อ 22 ให้ใช้แผนเปน็ แนวทางในการจดั ทางบประมาณ - ระเบียบ มท.วา่ ดว้ ยการเบิกคา่ ใชจ้ า่ ยเกย่ี วกบั การปฏิบัติราชการของ อปท.พ.ศ. 2542ข้อ 6 - ค่าใช้จ่ายปฏิบัติราชการในเรื่องใดท่ีกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้กาหนดไว้ให้ใช้ระเบียบ คาสั่ง หนงั สอื ส่ังการของกระทรวงการคลงั โดยอนุโลม ระเบียบที่เชอื่ มโยงกับงบประมาณ - พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุกาครัฐ มาตรา 97 วรรค 3 การแก่ไข สัญญาหรือข้อตกลงจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หากมีความจาเป็นต้องเพิ่ม หรือลดวงเงิน หรือเพิ่มหรือลดระยะเวลาสง่ มอบหรอื ระยะเวลาในการทางาน ใหต้ กลงพร้อมกนั ไป - ระเบียบงบประมาณ ข้อ 31การแก้ไขเปล่ียนแปลงคาช้ีแจงงบประมาณรายการท่ีได้ก่อหนี้ ผกู พันไวแ้ ล้ว หากมิไดเ้ พ่มิ วงเงินใหเ้ ปน็ อานาจอนุมติของผู้บริหารทอ้ งถ่ิน - หนังสือกระทรวงมหาดไทย - หนงั สือซักซอ้ มการจดั ทางบประมาณ - งบประมาณสอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาท้องถน่ิ - หนังสอื จาแนกงบประมาณรายจา่ ย - บญั ชรี าคามาตรฐานครภุ ัณฑ์ - หลักเกณฑแ์ ละอตั ราคา่ ใชจ้ ่ายประกอบงบประมาณ - หนงั สอื ตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วขอ้ ง - การเผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์งบประมาณในเวป็ ไซต์ ระเบยี บเบกิ จา่ ย - ข้อ 39 การขอเบกิ เงนิ ตามงบประมาณปีใดให้เบิกจา่ ยไดเ้ ฉพาะปีงบประมาณนั้น - ข้อ 56 ค่าใช้จ่ายท่ีเป็นรายจ่ายประจาปีท่ีเกิดข้ึนในปีใด ให้เบิกจากงบประมาณรายจ่ายใน ปีนั้น - ข้อ 57 กรณกี ่อหนีถ้ กู พนั ไว้ก่อนสิ้นปีหากเบิกเงนิ ไม่ทัน ให้นายกฯ กันเงินไว้เบิกในปถี ดั ไป - ข้อ 59 หมวดคา่ ครภุ ณั ฑท์ ีด่ นิ สงิ่ ก่อสร้าง ยังมไิ ดก้ อ่ หนี้ ใหก้ นั เงนิ ตอ่ สภาทอ้ งถิ่น กรณีโครงการที่ตอ้ งนามาบรรจใุ นแผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน

นกั บริหารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ - ครุภัณฑ์ท่ีดินและสิ่งก่อสร้าง ที่ต้องนามาบรรจุในแผนพัฒนาท้องถิ่นให้จัดทาเฉพาะ ครภุ ัณฑท์ ่ดี นิ และส่ิงกอ่ สรา้ ง - โครงการพัฒนาท่ีดาเนินการจัดทาบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะ เพ่ือประชาชน ได้ใช้/รับประโยชน์จากครุภัณฑ์ท่ีดินและสิ่งก่อสร้างนั้นเป็นไปตามอานาจหน้าที่ขององค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิน่ นส.กระทรวงมหาดไทย ด่วนทีส่ ุด ท่ี มท0810.3/32931 ลงวนั ที่ 15 พฤษภาคม 2562 กรณีโครงการที่ไม่ตอ้ งนามาบรรจใุ นแผนพัฒนาทอ้ งถ่นิ - หมวดเงนิ เดอื นและค่าจ้างประจา - หมวดค่าจ้างชวั่ คราว - หมวดคา่ สาธารณูปโภค - หมวดรายจา่ ยอ่นื - หมวดค่าตอบแทนใช้สอยและวสั ดุยกเวน้ ประเภทรายจ่ายเก่ียวเนื่องกับการปฏบิ ัติราชการที่ไม่ เขา้ - ลกั ษณะรายจา่ ยหมวดอนื่ ๆ เฉพาะการจดั กิจกรรมสาธารณะ หน้า การเสนองบประมาณตอ่ สภาทอ้ งถน่ิ 362 เสนอต่อสภาทอ้ งถิ่นภายในวันที่ 15 สิงหาคม กรณเี สนอไม่ทันให้ขอขยายเวลาต่อประธานสภา มีเอกสารประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการก่อสร้างอีกหน่ึงเล่มนอกเหนือจากข้อบัญญัติ/เทศ บญั ญัติ กรณไี ม่ต้องแก้ไข หรอื เปลย่ี นแปลงหรือเพ่มิ เติมแผนพัฒนาทอ้ งถนิ่ เมื่อใชแ้ ผนพฒั นาทอ้ งถิ่นเป็นกรอบในการจดั ทางบประมาณแลว้ เมือ่ สภาทอ้ งถิ่นให้ความเหน็ ชอบวิธกี ารงบประมาณแล้ว ต่อมาภายหลังเกณฑ์ราคากลาง หรือบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ หรือราคากลางโครงสร้าง พ้นื ฐาน มีคุณลกั ษณะ มาตรฐาน ราคาปรับเปล่ยี นไมห่ รอื เพอื่ ใหเ้ ปน็ ไปตาม พรบ.จัดซอ้ื จัดจา้ ง ใหด้ าเนนิ การตามวธิ กี ารงบประมาณ นส.กระทรวงมหาดไทย ที่ มท.0810.3 6732 ลงวันที่ 6 พฤศจกิ ายน 2562 เอกสารการจดั ทางบประมาณ 2565 แผนพฒั นาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ บัญชรี าคามาตรฐานครภุ ัณฑ์

นักบริหารงานทั่วไป รุน่ ที ๘๔ โครงการเสนอขอรบั เงินอดุ หนนุ หน้า เอกสารประมาณการค่าใช้จา่ ยโครงการก่อสรา้ ง 363 เอกสารประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการจัดงานแข่งขันกีฬา หนังสือสัง่ การ พระราชบญั ญัติวนิ ัยการเงินการคลงั ของรัฐ พ.ศ.2561 มาตรา 20 การต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีตอ้ งดาเนินการตามหลักเกณฑ์ (1) งบประมาณรายจ่ายลงทุนต้องมีจานวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่าย ประจาปแี ละตอ้ งไม่ นอ้ ยกวา่ วงเงินสว่ นที่ขาดดลุ ของงบประมาณประจาปนี นั้ (ไม่ใช้กับทอ้ งถนิ่ ) ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กาหนดสัดส่วนต่าง ๆ เพ่ือเป็น กรอบวนิ ยั การเงนิ การคลังของรฐั พ.ศ.2561 ลงวนั ท่ี 7 มถิ นุ ายน 2561 1. สัดส่วนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสารองจ่ายเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจาเป็น ต้อง ตงั้ ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละสอง แตไ่ ม่เกนิ รอ้ ยละสามจดุ หา้ ของงบประมาณรายจ่าย ประจาปี (ไม่ใชก้ บั ทอ้ งถิ่น) 2 .สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีงบประมาณต้องไม่เกินร้อยละสิบของ งบประมาณรายจา่ ยประจาปี (ไมใ่ ช้กับท้องถ่ิน) พระราชบัญญตั วิ นิ ัยการเงินการคลงั ของรฐั พ.ศ.2561 มาตรา 65 การจัดทางบประมาณขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ตอ้ งทาอยา่ งโปรง ใส และตรวจสอบได้โดยต้องพิจารณาผลสัมฤทธ์ิ ความคุ้มค่า ความประหยัด และภาระทางการคลังท่ีจะ เกิดขึน้ ในอนาคต มาดรา 66 การจัดทางบประมาณประจาปีขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้ พิจารณาฐานะการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความจาเป็นท่ีต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณ การจัดเก็บ รายได้ ในปีงบประมาณน้ัน โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ว่าด้วยการจัดตั้งองค์ารปกครองส่วนท้องถ่ิน และ พระราชบัญญตั ิน้ี หนังสือกระทรวงการคลงั ดว่ นท่สี ุด ท่ี กค (กวจ) 0405.2 ว110 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2561 ใหก้ าหนดเง่ือนไขและหลักเกณฑส์ ัญญาแบบปรับราคาได้ (คา่ K) ไว้ในประกาศ เอกสารเชิญ ชวน และหนังสือเชิญชวนรวมถึงระบุไว้ในสัญญาจ้างก่อสร้างเพิ่มเติม ในแบบสัญญาจ้างก่อสร้างที่ คณะกรรมการปโยบายการจัดซอ้ื จัดจา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั กาหนด พระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ด้วยการตรวจเงนิ แผน่ ดิน พ.ศ.2561 มาตรา 97เจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้ใดมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง ของรัฐ จงใจไม่ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ให้ผวู้ า่ การเสนอต่อคณะกรรมการใหล้ งโทษทางปกครองผู้น้นั

นกั บรหิ ารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ มาตรา 98 โทษทางปกครอง มดี ังต่อไปนี้ 1. ภาคทณั ฑ์ 2. ตาหนิโดยเปด็ เผยต่อสาธารณชน 3.ปรบั ทางปกครอง (ลงโทษปรบั เปน็ เงินเกินเงนิ เดอื นสิบสองเดือน ของผู้ถกู ลงโทษมิได้) - เงินชดเชยสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าK) - แผนงาน อุตสาหกรรมและการโยธา - งานกอ่ สร้าง - งบลงทุน คา่ ที่ดินและสิ่งกอ่ สร้าง ประเภท ค่าชดเชยสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าK) เพ่อื เป็นคา่ ชดเซยกรณีเงินชดเชยสัญญาแบบ ปรับราคาได้ (ค่า K) ฐานอานาจ หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว110 ลงวันท่ี 5 มีนาคม 2561 ไม่อยู่ในแผนพัฒนาท้องถ่ิน ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ท่ี มท 0810.3/ว2931 ลงวนั ที่ 15 พฤษภาคม 2562 หน้า 364 การต้งั บประมาณรายจ่ายทก่ี าหนดรอ้ ยละ 1. เงนิ เดอื นประโยชน์ตอบแทนอน่ื ไมเ่ กินร้อยละ 40 2. การจัดงานและแข่งขันกีฬา อบจ. ทน.10 ทม, ทต./อบต. 5 3. การอุดหนนุ เงนิ ใหห้ นว่ ยงานอ่นื อบจ.10 หน. 2 ทม/ทต. 3 อบต. 5 4. โบนสั งบลงทุนต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 5. คา่ รับรอง ร้อยละ 1 (ยกเลิกแลว้ ) 6. ศกึ ษาดูงานร้อยละ 2 /2.5 /3 7. กองทนุ บาเหน็จบานาญ อบจ. ท.3 /อบต.2 8. เงินสมทบ สปสช. รายจา่ ยงบกลาง ประกอบดว้ ย - ค่าชาระหน้เี งินตน้ - คา่ ชาระหนดี้ อกเบี้ย - เงนิ สมทบกองทนุ ประกนั สังคม - เงนิ สมทบกองทุนทดแทน

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รุ่นที ๘๔ - รายจ่ายงบกลาง ประกอบดว้ ย หนา้ - เงินสนับสนนุ งบประมาณรายจา่ ยกิจการประปา 365 - เงนิ สนับสนนุ งบประมาณรายจา่ ยกิจการสถานธนานุบาล - เงนิ สนบั สนุนจากกิจการสถานีขนสง่ หรอื กิจการทา่ เรอื - เงินสนับสนุนโรงพยาบาลและหนว่ ยบรหิ ารสาธารณสุขของ อปท. - เงินสนบั สนุนรายจา่ ยกจิ การโครงการอน่ื เบ้ยี ยังชีพผู้สูงอายุ - เบ้ียยงั ชพี ความพกิ าร - เบี้ยยงั ชพี ผูป้ ่วยเอดส์ - สารองจ่าย - รายจา่ ยตามข้อถกู พนั - เงินช่วยพิเศษ งบกลาง – รายจา่ ยตามขอ้ ผกู พัน 1. ผกู พนั กับรัฐ – EX เงนิ สบทบ สปสช. 2. กระทรวงมหาดไทยส่ัง EX - ค่าใชจ้ ่ายในการจดั การจราจร - สงเคราะห์ผ้ปู ่วยยากไร้ (อบจ.) 3. นอกเหนือจากนน้ั ตัง้ งบประมาณตามหมวดที่เกย่ี วข้อง เงนิ สมทบ สปสช.(หลกั ประกนั สุขภาพในระดับทอ้ งถนิ่ หรือพ้ืนท่ี) 1. จัดสรรให้เทศบาล/อบต. 45 บาท/ประชาชนในพ้ืนทีห่ นงึ่ คน 2. อปท.สมทบเงนิ เขา้ กองทนุ ในอตั ราร้อยละของเงนิ ท่ีได้รับจดั สรร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 กรณีรายไดไ้ ม่รวมเงนิ อดุ หนนุ ตา่ กว่า 6 ลา้ น ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 40 กรณรี ายได้ไม่รวมเงินอุดหนุนต้งั แต่ 6 ลา้ น ถงึ 20 ล้าน ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 50 กรณรี ายไดไ้ ม่รวมเงนิ อุดหนุนสูงกว่า 20 ลา้ น เงนิ สมทบกองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการสว่ นท้องถนิ่ (ก.บ.ท.) อบจ/เทศบาล : ร้อยละ 3 ของประมาณการรายได้ อบต : รอ้ ยละ 2 ของประมาณการรายได้ ไม่นารายรบั ประเภทพันธบตั ร เงินกู้ เงนิ ที่มผี ู้อุทิศ หรือเงนิ อุดหนุนมารวมคานวณ ระเบยี บ มท. วา่ ด้วยค่าใช้จ่ายในการสงเคราะหผ์ ู้ป่วยท่ยี ากไรข้ อง อบจ. พ.ศ. ๒๕๖๐

นกั บริหารงานทั่วไป ร่นุ ที ๘๔ “การสงเคราะห์” การช่วยเหลือผู้ปว่ ยทย่ี ากไรเ้ ปน็ คา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทาง “ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง” ค่าพาหนะสาหรับเดินทางของผู้ป่วยท่ียากไร้เพ่ือเข้ารับการ รักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลของทางราชการ “ผู้ป่วยที่ยากไร้” ผปู้ ่วยทยี่ ากจน ซ่ึงมสี ิทธิได้รบั การสงเคราะห์ตามหลกั เกณฑ์การสงเคราะห์ของ พม. หลกั เกณฑ์การช่วยเหลือ ๑. ผปู้ ่วยทย่ี ากไร้ ยน่ื ขอรับการสงเคราะห์จาก พม. ก่อน ๒. ได้รับการสงเคราะห์จาก พม. ไม่เพียงพอ หรือไม่ได้รับการสงเคราะห์เนื่องจากจากัดด้วย งบประมาณ อบจ. ให้การสงเคราะห์เพิ่มเติมได้ตามท่ีจ่ายจริงไม่เกินคร้ังละ ๒,๐๐๐ บาทต่อคน และไม่เกิน ๓ ครง้ั ต่อคนต่อปงี บประมาณ (เกนิ ๓ ครั้ง ขอผวู้ า่ ราชการจังหวัด) ความแตกต่างการใช้งบประมาณสาธารณภยั งบประมาณ-งบกลาง ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ หนา้ หลงั เกดิ เหตุ 366 เงนิ สะสม–สาธารณภัยฉุกเฉนิ –ขณะเกดิ เหตุ งบเงินอดุ หนนุ เงนิ อดุ หนุน งบลงทนุ ค่าครุภณั ฑ์ ค่าท่ดี นิ และส่งิ ก่อสร้าง งบรายจ่ายอน่ื หมวดรายจ่ายอืน่ ประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นเร่ือง การกาหนดรายการ คา่ ใชจ้ ่าย เงินเดือน ประโยชน์ตอบแทนอ่ืน และค่าจ้างของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้าง และพนักงานจ้าง (ฉบบั ท่ี 2) ลงวันที2่ 4กรกฎาคม 2558 1. เงนิ ประจาตาแหน่งของข้าราชการหรือพนกั งานสว่ นทอ้ งถน่ิ 2. เงินตอบแทนอ่ืนๆหรือเงินคา่ ตอบแทนอื่นๆหรือเงินเพ่ิมพิเศษหรือเงินเพมิ่ อ่ืนๆตามท่ีกฎหมาย กฎหรอื ระเบยี บกาหนดในลกั ษณะดังนี้

นักบริหารงานทั่วไป รุ่นที ๘๔ 2.1 เงินค่าตอบแทนนอกเหนอื จากเงินเดือน หน้า 2.2 ค่าตอบแทนพเิ ศษ 367 2.3 เงนิ เพิ่มการครองชพี ชั่วคราว 2.4 เงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พ.ต.พ.) 2.5 เงินเพิม่ สาหรบั ตาแหนง่ ทมี่ เี หตพุ ิเศษของผปู้ ฎบิ ตั งิ านดา้ นการสาธารณสขุ (พ.ต.ส.) 2.6 เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้หน่วยงานบริการในสังกัดองค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถน่ิ 2.7 เงินเพมิ่ พเิ ศษสาหรับการส้รู บ (พ.ส.ร.) 2.8 เงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งทมี่ เี หตุพิเศษของผูป้ ฏบิ ัตงิ านด้านการป้องกันภยั และดับเพลิง 2.9 เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมายตาแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) 2.10 เงนิ เพ่ิมสาหรับตาแหน่งท่มี ีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัตงิ านครู การศกึ ษา (พ.ค.พ.) 2.11 เงนิ วทิ ยฐานะ 2.12 เงนิ ช่วยพิเศษเกีย่ วกับศพ 2.13 เงินอ่ืนๆ ทจี่ ่ายควบกับเงนิ เดอื นในลักษณะเดยี วกัน 3. เงินสวัสดิการสาหรับการปฏิบัติงานประจาสานกั งานในพ้นื ทพี่ เิ ศษ (สปพ) 4. เงินตอบแทนพเิ ศษรายเดือนใหแ้ ก่เจ้าหนา้ ทผ่ี ปู้ ฏบิ ัตงิ านในพื้นที่จังหวดั ชายแดนภาคใต้ 5. เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร รนครวมถึงเงินทุนสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรข้าราการ และลูกจ้าง ประจาของกรุงเทพมหานครและ ขา้ ราชครกู รงุ เทพมหานคร 6. เงนิ สวสั ดกิ ารเกี่ยวกบั การรักษาพยาบาล 7. เงินตอบแทนผู้ปฏิบัติงานด้านความเจ็บป่วยนอกเวลาราชการและวันหยุดราชการเฉพาะสา หรบั ขา้ ราชการหรือพนักงานส่วนท้องถ่นิ ลกู จา้ งและพนักงานจา้ ง (แพทย์ พยาบาล ทนั ตแพทย์ ฯลฯ) 8. เงินเพิ่มพิเศษสาหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขสาหรับแพทย์ ทันตแพทย์ และ เภสชั กรทไี่ ม่ปฏบิ ตั เิ วชปฏิบัตสิ ว่ นตัว 9. เงนิ ค่าเช่าบา้ น 10. เงินทาขวัญข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถ่ิน ลูกจ้างและพนักงาน จ้างซึ่งได้รับอันตราย หรือเจ็บป่วยเพราะการปฏิบตั ิหน้าท่ี 11. เงินเก่ียวกับศพข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้าง และพนักงานจ้าง ซึ่งถึงแก่ ความตายในระหวา่ งเดนิ ทางไปราชการ

นกั บริหารงานท่วั ไป ร่นุ ที ๘๔ 12. เงินบาเหนจ็ ลูกจ้างประจา 13. เงินช่วยเหลือค่าครองชีพผู้รับบานาญของข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นท่ีมิใช่ ตาแหน่งครู (ชคบ)รวมถึงเงินช่วยเหลือรายเดือนผู้รับบานาญซ่ึงลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุของ กรุงเทพมหานคร (ชรบ) 14. เงนิ สมทบกองทนุ ประกันสังคม 15. เงนิ สมทบกองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการส่วนท้องถนิ่ 16. เงินสมทบกองทนุ บาเหน็จบานาญข้าราชการกรงุ เทพมหานคร 17.บาเหน็จความชอบค่าทดแทนและการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และประชาชน ผู้ปฏิบัติหน้าท่ี ราชการหรอื ชว่ ยราชการเน่ืองในการปอ้ งกันอธิปไตยและรกั ษาความสงบเรยี บร้อยของประเทศ 18. เงินประโยชน์ตอบแทนอ่ืนเป็นกรณีพิเศษอันมีลักษณะเป็นเงินรางวัลประจาปีแก่ข้าราชการ หรือพนกั งานส่วนท้องถิ่น ลกู จา้ ง และพนกั งานจา้ ง 19. ทุนการศึกษา 20. เงินเกษียณอายกุ ่อนกาหนด ประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นเร่ือง การกาหนดรายการ หนา้ ค่าใช้จ่ายเงินเดือน ประโยชน์ตอบแทนอ่ืน และค่าจ้างของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้าง และ 368 พนกั งานจา้ ง (ฉบับที่ 3) ลงวนั ท่ี 18 ธนั วาคม 2561 21. เงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ตามกฎหมายวา่ ด้วยเงนิ ทดแทน คา่ ตอบแทนประเภท ค่าตอบแทนผปู้ ฏบิ ัตริ าชการอันเป็นประโยชน์แก่อปท. • โบนสั • คา่ ตอบแทนคณะกรรมการตามกฎหมายพัสดภุ าครัฐ • คา่ ปว่ ยการ อปพร. • คา่ ป่วยการอาสาสมคั รบริบาลท้องถ่ิน • คา่ ตอบแทนเจา้ หนา้ ทใ่ี นการเลือกตัง้ ประเภท ค่าตอบแทนการปฏบิ ัติงานนอกเวลาราชการ • เงินตอบแทนการปฏบิ ัตงิ านนอกเวลาราชการ ค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการผรู้ บั ผิดชอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครฐั • หัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจกาหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการบริหารงบประมาณรายจ่ายเพื่อ ควบคมุ คา่ ตอบแทนบคุ คลหรือคณะกรรมการไดต้ ามความจาเป็น ประหยดั และเหมาะสม • การเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคคลหรือกรรมการ (ด่วนท่ีสุด ท่ี กค 0402.5/ว 85 ลงวันท่ี 6 กันยายน 2561)

นกั บรหิ ารงานทว่ั ไป ร่นุ ที ๘๔ คา่ ใชส่ อย หน้า • รายจา่ ยเพ่ือให้ไดม้ าซ่ึงบรกิ าร 369 • รายจ่ายเกยี่ วกบั การรบั รองและพิธกี าร • รายจา่ ยเกี่ยวเนอ่ื งกบั การปฏบิ ตั ริ าชการทไี่ ม่เขา้ ลกั ษณะรายจ่ายหมวดอื่น ๆ • ค่าบารงุ และซอ่ มแซม คา่ รบั รองและพธิ ีการ มท 0808.4/ว 2381 ลว. 28 กรกฎาคม 2548(ยกเลิกแลว้ ) ค่ารับรองในการต้อนรับบุคคลหรือคณะบุคคล ไม่เกินร้อยละ 1ของรายได้จริง ในปีท่ีล่วงมา ไม่รวมเงนิ อุดหนุน เงินกู้ เงนิ สะสม เงนิ ท่ีมผี อู้ ุทศิ ให้ เล้ียงรับรองในการประชุมสภาท้องถ่ิน หรือคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการที่ได้รับ แต่งตั้งตามกฎหมาย หรือตามระเบียบ หรือหนังสือส่ังการของกระทรวงมหาดไทย เท่าที่จ่ายจริงอยู่ในดุลย พนิ ิจผบู้ ริหาร ยกเลิกโดยนส.มท.ท่ีมท.0808.2/0766ลงวันที่5กุมภาพันธ์2563โดยอาศัยอานาจตาม ระเบียบ มท. ว่าดว้ ยการเบกิ ค่าใช้จา่ ยในการบริหารงานขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ พ.ศ.2562 หนังสือ มท. ด่วนมาก ท่ี มท ๐๘๐๘.๒/ว ๔๐๔๔ ลงวันท่ี ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เร่ือง หลักเกณฑก์ ารดาเนนิ การจ้างเอกชนและการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างเหมาบริการของ อปท. หนงั สือ มท.ที่ มท ๐๘๐๘.๒/ว ๔๐๔๔ ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ดลุ พนิ ิจของผบู้ ริหารทอ้ งถนิ่ ในการพจิ ารณาให้เบิกจ่าย จาเปน็ จะจ้างนิตบิ ุคคล หรอื บคุ คลธรรมดาได้ ตง้ั จา่ ยในหมวดค่าตอบแทนใช้สอยและวสั ดุ ประเภทรายจ่ายเพอื่ ให้ได้มาซึ่งบรกิ าร ถือปฏิบัติตามกฎหมายพสั ดุภาครัฐ ทาข้อตกลงการจา้ ง/สัญญาการจา้ ง ลักษณะการซือ้ บรกิ ารเป็นรายชิ้น มุ่งถึงเน้นผลสาเร็จของงาน และระยะเวลาท่ีกาหนดเป็นสาคัญ ตามข้อตกลงจ้างหรือสัญญา จา้ งเท่านัน้ การเขียนโครงการ • ห้าม ใส่ครุภณั ฑ์ในโครงการ • ห้าม ใส่เงินอุดหนนุ ในโครงการ • โครงการ หมายถงึ งานยอ่ ยทป่ี ระกอบด้วยกจิ กรรมหลายกิจกรรม • โครงการตอ้ งสัมพันธ์กัน

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ • ค่าใช้จ่ายในโครงการเปน็ การวัดถงึ ตน้ ทนุ • โครงการย่อยซ้อนโครงการใหญ่ • งบประมาณควรตรงกับกิจกรรม การเขยี นรายละเอยี ดคาชแี้ จงงบประมาณรายจ่าย • ค่าใช้สอย ประเภทรายจ่ายเก่ียวเน่ืองกับการปฏิบัติราชการที่ไม่เข้าลักษณะรายจ่ายหมวดอ่ืน และค่าครุภัณฑท์ ่ดี นิ และสิ่งก่อสร้าง • ต้ังงบประมาณเปน็ รายโครงการ • จัดทาเปน็ ร่างโครงการเพอื่ ประกอบการพิจารณาของสภาและผู้กากับดูแล • เมอ่ื งบประมาณมีผลใชบ้ ังคับกอ่ นดาเนนิ โครงการให้เสนอนายกอนมุ ตั ิโครงการ • หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0808.2/0444 ลงวนั ท่ี 24 มกราคม 2561 ราคากลางท่ีนามาเปน็ ฐานในการตง้ั งบประมาณรายจ่ายประจาปี 1. ราคาที่ได้มาจากการคานวณตามหลกั เกณฑ์ท่คี ณะกรรมการราคากลางกาหนด 2. ราคาทไ่ี ดม้ าจากฐานขอ้ มลู ราคาอ้างอิงของพสั ดุท่ีกรมบัญชกี ลางจัดทา 3. ราคามาตรฐานท่ีสานักงบประมาณหรอื หน่วยงานกลางอืน่ กาหนด หน้า 4. ราคาทีไ่ ด้มาจากการสบื ราคาจากทอ้ งตลาด 370 5. ราคาท่เี คยซือ้ หรือจ้างครัง้ หลงั สดุ ภายในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ 6. ราคาอื่นใดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัตขิ องหนว่ ยงานของรฐั นั้น ๆ

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ กำรพัฒนำกำรบริหำรจดั กำรภำครัฐและธรรมำภบิ ำล หน้า ธรรมาภิบาล เป็นหลักการบริหารการปกครองท่ีมุ่งประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ 371 โดยยดึ หลกั เหตุผลและความเปน็ ธรรม กฎหมำยทีเ่ กี่ยวข้องกับกำรบริหำรจัดกำรบ้ำนเมอื งท่ีดี ประกอบดว้ ย พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 3/1 วรรคแรก ไดก้ าหนดวา่ “ในการปฏิบัตหิ นา้ ทขี่ องสว่ นราชการต้องใช้วิธีการบรหิ ารจดั การบา้ นเมืองทดี่ ี” พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ได้ กาหนดไวด้ งั น้ี 1. เพอ่ื ประโยชนส์ ุขของประชาชน 2. เพือ่ ให้เกิดผลสัมฤทธ์ติ อ่ ภารกิจของรัฐ 3. มีประสทิ ธภิ าพและเพอ่ื ความคมุ้ คา่ ในเชงิ ภารกจิ ของรฐั 4. ไม่มีข้ันตอนการปฏิบตั ิงานทเ่ี กินความจาเปน็ 5. การปรบั ปรุงภารกจิ ของสว่ นราชการให้ทนั ตอ่ สถานการณ์ 6. ประชาชนได้รับการอานวยความสะดวกและตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน 7. มีการประเมินผลการปฏบิ ัตริ าชการอย่างสมา่ เสมอ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารบรหิ ารจัดการบา้ นเมืองท่ดี ี (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2562 มสี าระสาคญั ดังน้ี 1. การจดั ทาแผนปฏิบตั ริ าชการของส่วนราชการ 2. การปรับโครงสร้างส่วนราชการ ให้ส่วนราชการทบทวนภารกิจของตนว่าภารกิจใดมีความ จาเปน็ หรอื สมควรยกเลกิ ปรับปรงุ หรอื เปลย่ี นแปลงการดาเนนิ การต่อไปหรอื ไม่ 3. การยกระดับภาครัฐโดยการเชอื่ มโยงผา่ นแพลตฟอร์มดิจทิ ัลกลาง พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2562 มาตรา 45/1 กาหนดว่า การปฏิบตั ิงานตามหน้าท่ขี ององค์การบริหารสว่ นจังหวัด ตอ้ งเป็นไปเพ่อื ประโยชน์สุขของประชาชน พระรำชบญั ญัตเิ ทศบำล (ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2562 มาตรา 50 วรรคสอง กาหนดว่า การปฏบิ ตั งิ าน ตามหน้าทขี่ องเทศบาล ตอ้ งเปน็ ไปเพ่ือประโยชน์สขุ ของประชาชน พระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบริหารส่วนตาบล (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มาตรา 69/1 กาหนดวา่ การปฏิบตั ิงานตามหนา้ ที่ขององค์การบรหิ ารส่วนตาบล ต้องเปน็ ไปเพื่อประโยชน์สขุ ของประชาชน เป้ำหมำยของกำรบริหำรจดั กำรบ้ำนเมอื งท่ดี ขี ององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน 1. ม่งุ ให้เกิดประโยชนส์ ขุ ของประชาชน - ยดึ ประชาชนเปน็ ศูนยก์ ลาง (citizen-centric) - มีเป้าหมายให้เกิดความผาสุกและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ความสงบและปลอดภัยของ สงั คมสว่ นรวมตลอดจนประโยชนส์ งู สดุ ของประเทศ 2. มุ่งใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธ์ิตอ่ ภารกิจขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ - มกี ารบรู ณาการการปฏิบตั งิ าน - มีการกาหนดภารกิจที่ชดั เจน

นกั บริหารงานทัว่ ไป รนุ่ ที ๘๔ - มีดชั นีช้ีวัดท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ประโยชน์และความคุ้มคา่ ในการใช้ทรพั ยากร ซึ่งจะแสดงให้ เห็นถงึ ความสามารถในการบรหิ ารงานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน 3. มีประสทิ ธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชงิ ภารกิจขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ - มีการเปรียบเทียบตน้ ทุนค่าใช้จ่ายในการดาเนนิ งาน - มีการเปิดเผยแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อให้บุคคลท่ัวไป ตรวจสอบความคมุ้ ค่า โปร่งใส และประสทิ ธิภาพในการดาเนนิ งานขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน 4. ไมม่ ขี นั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ านเกนิ ความจาเป็น - ลดระยะเวลาในการปฏิบตั ิงานและลดข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ านท่ีเกินความจาเปน็ - การกระจายอานาจการตัดสินใจเพ่ือให้ประชาชนเกิดความสะดวกรวดเร็ว และลด ความเสียหายท่อี าจจะเกดิ ขนึ้ ต่อประชาชนอันเนอ่ื งมาจากความลา่ ช้า - มีหลักเกณฑ์การควบคุม ติดตาม และกากับดูและการใช้อานาจและความรับผิดชอบ ของผรู้ บั มอบอานาจ เพือ่ ให้เกิดความรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าที่ 5. การปรบั ปรงุ ภารกิจขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินให้ทนั ต่อสถานการณ์ - มีการทบทวนภารกิจและกระบวนงานของตนอยู่เสมอว่ามีความจาเป็นและสอดคล้อง กับความเปล่ยี นแปลงของชมุ ชนและสงั คมท่เี ปลี่ยนแปลงไปหรอื ไม่ - ประเมินความคุ้มค่าที่ได้รับ ถ้าไม่จาเป็นควรยกเลิกหรือปรับปรุงภารกิจนั้น เพ่ือให้มี หน้า ประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน 6. ประชาชนไดร้ บั การอานวยความสะดวกและได้รบั การตอบสนองความต้องการ 372 - มีการกาหนดระยะเวลาการในการให้การบรกิ ารประชาชนในและกจิ กรรม/งาน - มีการจัดช่องทางการส่ือสารที่หลากหลาย เพ่ืออานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนใน การติดต่อสอบถามหรือขอขอ้ มลู หรอื แสดงความคิดเหน็ 7. การประเมนิ ผลการปฏบิ ัตริ าชการอย่างสม่าเสมอ - มีการประเมนิ ผลการปฏิบัติราชการ ว่ามผี ลสัมฤทธ์ิตรงกับเปา้ หมายท่ีกาหนดไว้หรือไม่ - ประชาชนมคี วามพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ใด - มีการตรวจสอบประสิทธภิ าพการทางานในหน่วยงานอย่างสม่าเสมอ เพ่ือพัฒนาระบบ การควบคุมตนเอง (internal control) และกากับการปฏิบัติงานของบุคลากรให้เป็นไปอย่างคุ้มค่าและมี ประสทิ ธิภาพ ควำมสำคญั ของกำรบริหำรจดั กำรบ้ำนเมอื งทีด่ ีต่อกำรพฒั นำกำรบรหิ ำรจดั กำรภำครัฐ มติ ภิ าครฐั เปา้ หมายคอื การยึดประโยชนส์ ขุ ของประชาชนและประเทศชาติ มีสาระสาคญั ดังน้ี 1. ใหค้ วามสาคญั กบั ประสิทธภิ าพในการบริหารภาครฐั อยา่ งจรงิ จังมากขน้ึ ๒. มีการปรับปรุงกระบวนการทางานให้มีความรวดเร็ว และประหยัดเวลาและงบประมาณ มีความ คมุ้ คา่ มากข้ึน วดั ไดจ้ ากความพึงพอใจของประชาชนผรู้ ับบริการ 2. ให้ความสาคญั กับผลสาเรจ็ หรือผลงานมากกว่าทาเสรจ็ 3. มคี วามตระหนัก สานกึ รบั ผดิ ต่อประชาชนและองคก์ รมากข้ึน 4. ยดึ กฎหมายเปน็ หลกั ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่มากกวา่ การใชด้ ลุ ยพินจิ

นักบรหิ ารงานทว่ั ไป รนุ่ ที ๘๔ 5. ตระหนักถึงความสาคัญของคุณธรรม จรยิ ธรรม ในการปฏิบัติหน้าท่ขี องตนในฐานะเป็นผู้ หนา้ ใหบ้ ริการ 373 6. ทาให้ระบบบริหารภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ประสิทธผิ ลมากขึ้น 7. ทาให้ระบบบริหารภาครฐั มีความโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบยี บ ของภาครฐั ทรี่ ดั กมุ และเปดิ เผยต่อสาธารณะให้รับรู้ 8. ทาใหร้ ะบบบรหิ ารภาครฐั เปน็ ระบบเปิดและเปิดโอกาสให้ประชาชนมชี ่องทางมสี ว่ นร่วมในการ บรหิ ารภาครัฐอย่างหลากหลายและเป็นรูปธรรมมากขึน้ มติ ิภาคประชาชน มีสาระสาคัญดังน้ี 1. ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐได้มากขึ้น เน่ืองจากระบบราชการได้ เปิดกวา้ งมากข้ึน อนั เปน็ ผลมาจากการปรบั ปรุงแก้ไขกฎหมายเก่ยี วกับข้อมลู ข่าวสารของทางราชการ 2. ประชาชนมคี วามตระหนักถึงสทิ ธิ หนา้ ท่ขี องพลเมอื งมากขึ้นหลังจากได้รับข้อมลู ขา่ วสาร จากภาครฐั และแหลง่ อ่นื ๆ มากขึน้ และเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการบริหารภาครฐั อยา่ งเป็นรปู ธรรม 3. ทาให้ประชาชนได้รับบริการท่ีรวดเร็วมากข้ึน อันเป็นผลมาจากการปรับร้ือกฎหมาย กฎระเบียบ ทาให้มีการลดขั้นตอนและระยะเวลาการดาเนินการ และภาครัฐได้ตอบสนองความต้องการของ ประชาชนอย่างเป็นรปู ธรรม โดยยึดหลกั ประชาชนเปน็ ศูนยก์ ลาง 4. ทาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของระบบบริหารภาครัฐ รวมถึงมีการใช้ สิทธพิ ลเมืองในการเรยี กร้อง รอ้ งเรียน และฟอ้ งรอ้ งต่อศาลในกรณีทีถ่ ูกละเมดิ สทิ ธิ มติ ิภาคธุรกิจเอกชน มีสาระสาคัญดงั นี้ ๑. ทาให้การบริหารกิจการธุรกิจได้รับความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันเชิง ธรุ กิจดาเนนิ ไปได้ดว้ ยดี ๒. ทาให้ตน้ ทุนทางธรุ กิจเป็นไปตามต้นทุนท่ีแท้จริง เน่อื งจากภาครัฐมีความโปร่งใสในการทางาน มาก ๓. ทาให้ประเทศชาติสามารถแข่งขันทางธุรกิจในเวทีการค้าโลกได้อย่างไม่เสียเปรียบ โดยมี การบริหารภาครฐั เปน็ ตัวสนับสนนุ เออื้ อานวยเคียงค่กู ับภาคธุรกิจเอกชน แนวทำงขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ เพ่ือให้บรรลุเป้ำหมำยกำรบริหำรจัดกำรบ้ำนเมืองที่ ดีมีดังน้ี 1. การบริหารราชการเพ่อื เกดิ ประโยชน์สขุ ของประชาชน - มีการเปิดเผยขอ้ มลู การปฏบิ ัตงิ านให้ประชาชนสามารถตดิ ตามตรวจได้ - มีการจดั ทารายงานการประเมนิ ผลการควบคุมภายในขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ - มีการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ - มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจาปีและการจัดซ้ือจัดจ้าง เพ่ือให้ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้โดยสะดวกผ่านช่องทางการส่ือสารที่หลากหลายขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น

นกั บรหิ ารงานทั่วไป ร่นุ ที ๘๔ - ก่อนการดาเนินการ ต้องจัดให้มีการวิเคราะห์ผลดีผลเสียทุกด้าน กาหนดขั้นตอนการ ดาเนินงานทโี่ ปรง่ ใส มกี ลไกตรวจสอบการดาเนนิ การในและขั้นตอน 2. การบรหิ ารราชการเพ่อื ให้เกดิ ผลสมั ฤทธติ์ อ่ ภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น - มกี ารจัดทาแผนพัฒนาฯ - มีคมู่ อื หลกั เกณฑ์การบริหารจัดการบา้ นเมืองทดี่ ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ - ประสานแผนพัฒนาในระดับพ้ืนท่ี - ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนพัฒนา และนาผลที่ได้มาปรับปรุง แผนพัฒนาดังกลา่ ว - การนาแผนพัฒนาท้องถ่ินมาใช้เป็นกรอบในการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีและ งบประมาณรายจา่ ยเพิ่มเติมขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน - การจัดทาข้อตกลงการปฏิบัติราชการระหว่างข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถ่ินกับ ผู้บรหิ ารองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ - พิจารณาบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและ รว่ มกับหนว่ ยงานอ่นื ๆ - สง่ เสริมการพัฒนาความรใู้ นหน่วยงาน 3. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจขององค์กร หน้า ปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ - กาหนดเป้าหมาย แผนการดาเนินงาน ระยะเวลาแล้วเสร็จของงานหรือโครงการ และ 374 งบประมาณทีใ่ ช้ และตอ้ งเผยแพรใ่ หป้ ระชาชนได้ทราบโดยทว่ั กนั - ดาเนนิ การจดั ซอ้ื จดั จ้างโดยเปดิ เผยและเทย่ี งธรรม - แจง้ ผลการพิจารณาการย่ืนคาขอใหก้ ับหน่วยงานทย่ี ่นื คาขอภายในสิบหา้ วนั - การพจิ ารณาวินิจฉัยช้ีขาดปญั หาโดยเร็ว - กาหนดกรอบระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาและติดตามพร้อมรายงานผลการแก้ไข ปัญหา - การสั่งราชการให้กระทาเป็นลายลักษณ์อักษร 4. การลดข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน - การกระจายอานาจการตัดสินใจ ให้แก่ผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบ เพ่ือให้เกิดความรวดเร็ว และลดขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน - จัดให้มีการควบคุม ติดตาม และกากับดูแลการใช้อานาจและความรับผิดชอบของผู้รับ มอบอานาจและผู้มอบอานาจ - ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรอื โทรคมนาคมตามความเหมาะสมและกาลงั งบประมาณ - จัดทาแผนภูมิขั้นตอนและระยะเวลาการดาเนินการ ประชาสัมพันธ์ ไว้ ณ ที่ทาการ และในระบบเครือข่ายสารสนเทศของหนว่ ยงาน - จัดตง้ั หรือสนับสนุนศูนย์บรกิ ารรว่ ม รวมถงึ การใหบ้ ริการเชงิ รุก

นักบริหารงานทว่ั ไป รุน่ ที ๘๔ - การบรกิ ารประชาชนและการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานด้วยกัน สามารถทา หน้า โดยใช้แพลตฟอร์มดจิ ทิ ลั กลางท่สี านักงานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) กาหนด 375 5. การปรับปรงุ ภารกจิ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ - การพิจารณาทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบทบาทภารกิจตามความ จาเป็น - จัดให้มีการแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกข้อบัญญัติ/เทศบัญญัติ เพ่ือให้สอดคล้อง เหมาะสมกบั สถานการณ์ 6. การอานวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน - กาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานบริการสาธารณะและประกาศให้ประชาชน รับทราบ - ให้ตอบคาถามหรือแจ้งผลการดาเนินการกรณีมีการร้องเรียนภายในสิบห้าวันหรือ ภายในระยะเวลาท่กี าหนดไวเ้ ปน็ การเฉพาะ - จดั ให้มีช่องทางการส่อื สารที่หลากหลาย 7. การประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน - จัดใหม้ บี คุ คลภายนอกรว่ มในการประเมินผลการปฏบิ ตั ิงาน - การประเมินบุคคลให้คานึงถึงผลการปฏิบัติงานของข้าราชการหรือพนักงานส่วน ท้องถนิ่ ในตาแหนง่ ที่ปฏบิ ตั ิและประโยชน์ทีห่ น่วยงานได้รับ - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจพิจารณาจัดสรรเงินรางวัลให้ข้าราชการหรือพนักงาน สว่ นทอ้ งถิ่นตามหลกั เกณฑ์ทก่ี าหนด กำรมีส่วนรว่ มของประชำชน การมีส่วนร่วมของประชาชน หมายถึง การที่กลุ่มประชาชนหรือขบวนการที่สมาชิกของ ชุมชนท่กี ระทาการออกมาในลักษณะของการทางานร่วมกันที่จะแสดงให้เห็นถึงความต้องการรว่ ม ความสนใจ ร่วม มีความต้องการท่ีจะบรรลุถึงเป้าหมายร่วมทางเศรษฐกิจหรือการเมือง หรือการดาเนินการร่วมกันเพ่ือให้ เกิดอิทธิพลต่อรองอานาจ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม หรือการดาเนินการเพื่อให้เกิดอิทธิพลต่อรองอานาจ ทางการเมอื ง เศรษฐกิจ การปรับปรุงสถานภาพทางสงั คมในกลุม่ ชุมชน การมีส่วนร่วมชองประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ หมายถึง การเปิดโอกาสให้ ประชาชนมีสิทธิในกระบวนการนโยบายสาธารณะ ทั้งในด้านการให้และรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การให้ความ คิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ การร่วมตัดสินใจ ท้ังในข้ันตอนการริเร่ิมนโยบาย การจัดทาแผนงาน โครงการหรือ กจิ กรรมที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวติ และส่ิงแวดล้อม การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การจัดการ ส่ิงแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ รวมทัง้ การปฏบิ ตั ิ การตดิ ตาม และประเมนิ ผลตามนโยบายแผนงานโครงการ หรือกจิ กรรมนัน้ ระดับของการมสี ่วนรว่ ม มี 5 ระดับ ดงั น้ี 1. Inform หมายถึง รฐั ต้องใหข้ ้อมลู ข่าวสารที่ชุมชนควรรู้ เปน็ ขอ้ มูลท่มี ผี ลกระทบกบั บุคคล หรือชุมชน 2. Consult หมายถงึ การร่วมปรึกษาหารอื ให้ขอ้ คดิ เหน็

นกั บริหารงานท่ัวไป ร่นุ ที ๘๔ 3. Involve หมายถึง ประชาชนเขา้ มาเกีย่ วข้อง รว่ มปฏบิ ตั หิ รือเสนอแนะแนวทาง 4. Collaboration หมายถึง การร่วมมือของประชาชนหรือผู้แทนภาคสาธารณะในการทา กิจกรรมตา่ งๆ อยา่ งต่อเน่อื ง 5. Empower หมายถงึ เสริมอานาจแกป่ ระชาชนให้เป็นผูต้ ัดสินใจ e – Participation คือ การมีส่วนร่วมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นกลไกในการอานวยความ สะดวกให้กับประชาชน ตัวอย่างเช่น การจองคิวทาใบขับข่ีรถยนต์ออนไลน์ โครงการคนละครึ่ง การร่วมแสดง ความคิดเห็นรา่ งกฎหมาย ประโยชนข์ อง e – Participation 1. ประชาชนไดร้ บั การอานวยความสะดวกและสามารถเขา้ ถงึ บริการหรอื ข้อมูลไดง้ ่ายขึ้น 2. สามารถเสนอแนะในสว่ นทตี่ ้องปรับปรงุ แก้ไขแก่ภาครฐั เพ่อื ทจี่ ะได้ปรับปรงุ ตอ่ ไป 3. การจัดเก็บและดึงข้อมูลภาครัฐสะดวกและรวดเร็วย่ิงขึ้น และได้รับข้อเสนอแนะจาก ประชาชนผู้ใชบ้ รกิ ารได้โดยตรง เพ่อื นาไปพัฒนาระบบให้มีประสทิ ธภิ าพตอ่ การให้บริการประชาชนตอ่ ไป ปัญหาท่ีทาให้ประชาชนไม่เข้ามาใช้บริการ e – Participation ของรัฐ มี 4 ระดับ ประกอบดว้ ย  ระดบั ท่ี 1 ประชาชนไม่ร้วู ่ามบี ริการนอ้ี ยู่ หน้า  ระดบั ที่ 2 ประชาชนรวู้ า่ มีบรกิ าร แต่ไมร่ ู้ว่าต้องใช้ที่ไหน  ระดับที่ 3 ประชาชนรู้วา่ มีบรกิ าร และรูว้ า่ ใชบ้ รกิ ารท่ไี หน แตใ่ ช้งานยาก 376  ระดับที่ 4 ประชาชนใช้แลว้ พบปัญหา แลว้ มผี ลสะทอ้ นตอ่ บริการแตไ่ ม่มกี ารแก้ไขปัญหา สิง่ ทคี่ วรปรับปรงุ เพือ่ ให้ประชาชนเข้ามาใชบ้ ริการ e – Participation ของรฐั มดี งั นี้ 1. ควรมีเว็บไซต์หรอื แอพพลิเคชัน่ ของรัฐท่ีเป็นระบบกลาง คือ รวมบริการท่ีมีอยูม่ ากมายหลาย เวบ็ ไซตห์ รือแอพพลเิ คชั่นให้มาอยู่ทเี่ ดยี วกนั 2. ควรแยกแยะผู้ใช้บริการ หรือความต้องการของผู้ใช้บริการหรือกลุ่มเป้าหมายของบริการ เพอ่ื ให้ บรกิ ารไดต้ รงกบั ผใู้ ชง้ านจริงได้ 3. เนื้อหาหรือบริการควรเข้าใจง่าย การสรุปจากภาษากฎหมาย หรือราชการเป็นภาษาที่ ประชาชนเขา้ ใจง่าย 4. การเช่อื มโยงรหสั เขา้ ใช้บริการของรัฐให้เป็น 1 รหสั สามารถเขา้ ถึงทกุ บรกิ ารของรฐั 5. ช่องทางการส่ือสารหรือประชาสัมพันธ์ให้ตรงกับคานิยมของคนไทยท่ีชอบเล่นในโซเชียล มเี ดยี เช่น Line Facebook Instagram สงิ่ ที่ทาให้ประชาชนภาครฐั มี e – Participation 1. การสื่อสารกับประชาชนต้องเข้าใจง่าย ไมค่ วรใชภ้ าษากฎหมายหรือถ้อยคาที่มีความหมายไม่ ชดั เจน 2. การออกแบบระบบต้องง่ายต่อการใช้งาน เม่ือระบบนั้นมีการใช้งานท่ีง่ายซับซ้อน ประชาชน กจ็ ะยากท่จี ะเปิดใจในการใชง้ าน

นักบรหิ ารงานทัว่ ไป รุ่นที ๘๔ กฎหมำย ระเบียบ และแนวทำงปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั ควำมรับผดิ ทำงละเมดิ ของเจำ้ หนำ้ ที่ หน้า เก่ียวข้องกับ 377 พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมดิ ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเก่ียวกับความรับผิดทางล ะเมิดของ เจ้าหนา้ ที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ การกระทาที่จะเป็นการกระทาละเมดิ ในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี มี 2 องค์ประกอบ คือ 1. การกระทาละเมดิ ๒. โดยเจ้าหนา้ ท่ใี นการปฏิบตั หิ น้าท่ี ความหมายของการกระทาทเี่ ป็นละเมิด ป.พ.พ. มาตรา ๔00 บัญญัติไว้ว่า \"ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทาต่อบุคคลอื่นโดยผิด กฎหมาย ให้เขาเสียหายจนถึงแก่ชีวิตก็ดีแก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่ง อยา่ งใดกด็ ี ท่านว่าผนู้ น้ั ทาละเมิด จาต้องใช้ค่าสนิ ไหมสนิ ไหมทดแทนเพ่ือการน้นั \" การกระทาโดยประมาทเลินเล่อ หมายถึง การกระทาโดยไม่จงใจ แต่ผกู้ ระทา ได้กระทาโดยขาด ความระมัดระวัง ตามสมควร \"ละเมดิ \" ตา่ งกบั คา \"เหตสุ ดุ วสิ ยั \" และไมส่ ามารถใชร้ ว่ มกันได้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘ คาว่า \"เหตุสุดวิสัย\" หมายความว่า เหตุใดๆ อันอาจจะเกิดข้ึนก็ดี จะให้ผลพิบัติก็ดี ไม่มีใครจะอาจป้องกันได้ แม้ท้ังบุคคลผู้ต้องประสบหรือใกล้จะต้อง ประสบเหตนุ น้ั จะไดจ้ ัดการระมัดระวงั ตามสมควร อนั พงึ คาดหมายได้จากบคุ คลน้ันในฐานะเช่นน้นั \"เหตุสุดวิสัย\" หมายถึง เหตุการณ์ใดใด ที่เกิดข้ึนโดยฉับพลัน โดยไม่มีบุคคลใดคาดหมายหรือ คาดคิดว่าจะเกิดข้ึน และไม่อาจป้องกันหรือหลีกเล่ียงให้พ้นไปได้ แม้ว่าตนเองจะได้ใช้ความระมัดระวังแล้วก็ ตาม ทาให้ตนเองหลดุ พน้ จากความรบั ผดิ ทั้งปวง ไม่ว่าจะเปน็ ความรับผิด ทางแพ่งหรือทางอาญาก็ตาม ซง่ึ ตาม พจนานกุ รมให้ความหมายของคาว่า \"เหตุสุดวิสัย\" ว่า คือเหตุทีพ่ ้นความสามารถของใครอันที่ป้องกนั ได้ การดาเนินการเม่ือหน่วยงานของรัฐเกิดความเสียหาย ดาเนินการรายงานผู้บังคับบัญชา ตามลาดับ หลังจากน้นั ดาเนนิ การสอบข้อเทจ็ จริงเบื้องต้น และแตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับ ผดิ ทางละเมิด บทท่ัวไป แนวคดิ พื้นฐาน คอื เป็นกฎหมายที่วางหลักเกณฑ์ทัว่ ไปว่าดว้ ยการพจิ ารณาทางปก ครอง เพ่ือให้การดาเนนิ งานเปน็ ไปโดยถูกตอ้ ง ขอบเขต (ม.๓) คือ เป็นกฎหมายกลาง/ทั่วไป เป็นกฎหมายเฉพาะต้องไม่ต่ากว่าหลักเกณที่ ประกนั ความเปน็ ธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ราชการหากไม่มีกฎหมายเฉพาะให้ใช้พระราชบญั ญัตินี้

นกั บริหารงานทัว่ ไป รุ่นที ๘๔ ไมใ่ ชบ้ ังคบั (ม.๔) เชน่ รฐั สภา คณะรฐั มนตรี องค์กรท่ีใชอ้ านาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ คาจากัดความ/นยิ าม (ม.๕) เช่น คาส่งั ทางปกครอง ไม่รวมการออกกฎ คณะกรรมการวิธีปฏิบตั ริ าชการทางปกครองจานวนไมน่ ้อยกว่า ๕ คน แตไ่ มเ่ กิน ๙ คน (ม.๗) บทราชการทางปกครอง วาระคราวละ ๓ ปี อาจไดร้ บั แตง่ ตง้ั อีก กรณพี ้นตาแหนง่ ตามวาระตามกรณพี ้นตาแหน่ง คือ ตาย นอกจากวาระตาม.๘ลาออก เป็นบคุ คลล้มละลายๆลฯ (ตาม.๙+ม.๗๖) คาสังทางปกครองกระทาโดยเจ้าหน้าท่ี ๑.เจา้ หน้าที่ ม.๑i๒ - ม.๒๐ ประกองด้วย ๑.๒ จดั ตงั้ ในระบบราชการ/รฐั วิสาหกจิ ๑.๓จัดต้ังในกิจการอื่นของรัฐองค์กรมหาชจัดตั้งในกิจการอ่ืนของเอกชน บุคคลรมต. อธิบดี ผวจ. /นายกเทศมนตรี คณะบุคคลพลเรือน คณะกรรมการอานารและคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน/สภาเทศบาล/หน่วยงานอิสระขางรัฐ/เอกชนท่ีได้รับอนุญาตให้ตรวจสภาพรถยนต์/แพทย สภาทนายความ/อปท./กระทรวง ทบวง กรม/รัฐวสิ าหกิจ หนา้ เมื่อมีกรณีตามมา.๑๓/กรณีคัดค้านว่าเจ้าหน้าท่ีผู้ใด เป็นบุคคลตามม.ออให้เจ้าหน้าที่หยุดการ 378 พิการณา+แจงผู้บังคับบัญชาเหนือตนขึ้นไปทราบเพ่ือผู้บังคับบัญชาจะได้มีคาส่ังต่อไปเม่ือมีกรณีตามม.จ๗/อุ กรณีคัดค้านว่ากรรมการในคณะกรรมการที่มีอานาจพิจารณาทางปกครองขณนะใด มีลักษณะดังกล่าว ให้ ประธานกรรมการเรยี กประชมุ เพ่ือพิจารณาเขตุคดั ค้าน (ม.๑๕) ㆍ.เป็นคู่กรณีเองเป็นตุ่หม้ัน/คู่สมรสของคู่กรณี.เปน็ ญาติของคู่กรณี (ปพพ.ม.๑ b๒๙จ.เปน็ หรอื เคยเปน็ ผู้แทนโดยชอบธรรม/ผู้พิทกั ษ/์ ผ้แู ทน/ตัวแทน.เป็นเจ้าหน้ี/ลูกหน/้ี นายจ้างของคู่กรณี ๖.กรณอี ืน่ ตามกฎกระทรวงความเป็นกลางของเจ้าหน้าทก่ี รณีมีส่วนได้เสยี (ม.๑๓)

นักบรหิ ารงานทว่ั ไป รุ่นที ๘๔ แนวคิดพน้ื ฐานคณะกรรมการวธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง เป็นกฎหมายท่ีวางหลกั เกณฑท์ ่ัวไปวา่ ดว้ ยการพิจารณาทางปกครองเพื่อให้การดาเนนิ งาน หน้า เปน็ ไปโดยถูกตอ้ ง 379 คณะกรรมการวธิ ีปฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง - มจี านวนไม่น้อยกว่า 5 คน แตไ่ มเ่ กนิ 9 คน - วาระคราวละ 3 ปี อาจได้รบั แตง่ ต้งั อกี - มอี านาจหนา้ ที่ เชน่ สอดสอ่ ง ดูแล ให้คาแนะนะเกย่ี วกับการดาเนินงานของเจา้ หน้าที่ รวมถึงให้คาปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกบั การปฏิบตั ิตาม พรบ.นี้ คาสงั่ ทางปกครอง ซ่ึงกระทาโดยเจา้ หน้าท่ี 1. ความเป็นกลางของเจา้ หนา้ ที่/กรณมี สี ่วนได้เสีย 1. เปน็ คู่กรณีกันเอง 2. เปน็ คูห่ ม้นั /ค่สู มรสของคกู่ รณี 3. เป็นญาติของคู่กรณี 4. เปน็ หรอื เคยเป็นผแู้ ทนโดยชอบธรรม/ผู้พทิ ักษ์/ผู้แทน/ตวั แทน 5. เปน็ เจา้ หน้/ี ลกู หน้/ี นายจา้ งของคู่กรณี 6. กรณีอ่นื ตามกฎกระทรวง 2. คู่กรณี คอื บคุ คลทเ่ี ปน็ คูก่ รณี ตาม ม.5 บุคคล/คณะบุคคล/นิตบิ ุคคล ซงึ่ ใชอ้ านาจ/ได้รบั มอบหมาย ใหใ้ ช้อานาจทางปกครอง ตามกฎหมาย ความสามารถของคู่กรณี (ตาม มาตรา 22) - ผซู้ ง่ึ บรรลุนติ ิภาวะ - ผู้ซึ่งมกี ฎหมายเฉพาะกาหนดให้มคี วามสามารถทาในเร่ืองท่ีกาหนดได้ - นิติบคุ คล/คณะบุคคล - ผซู้ ่ึงมปี ระกาศของนายก รมต./นายก รมต.มอบหมาย 3. การพิจารณา เจ้าหนา้ ท่ีผมู้ ีอานาจพิจารณาทางปกครอง - เจ้าหนา้ ที่มีอานาจตามกฎหมาย (ม.12) o อานาจในแงข่ อง เร่ือง พ้ืนที่ เวลา o ปัญหาขอ้ กฎหมายทเี่ กี่ยวข้องกบั ความสงบเรียบร้อย

นกั บริหารงานทัว่ ไป ร่นุ ที ๘๔ o ดารงตาแหนง่ โดยชอบด้วยกฎหมาย (แต่งต้ังโดยชอบ ไม่ขาดคุณสมบตั ิ ไม่มลี ักษณะต้องห้าม) - เจา้ หน้าที่มเี หตบุ กพร่องในการดารงตาแหน่ง o การงานที่ทาไปได้รบั การค้มุ ครอง (ม.19) - เอกสารยนื่ ตอ่ เจ้าหนา้ ที่ ภายในเวลาทก่ี าหนด - เจา้ หนา้ ทแ่ี จ้งสทิ ธิ หน้าท่ีในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองใหค้ ู่กรณีทราบ - คาขอ/คาแถลง ให้เจา้ หน้าท่ีแนะนาให้ถกู ต้อง - เจ้าหน้าที่ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ตามความเหมาะสม - กรณคี าสัง่ ทางปกครองกระทบถงึ สทิ ธิของค่กู รณี ตอ้ งแจ้งให้คู่กรณีได้ทราบข้อเท็จจริง - คู่กรณีมสี ิทธขิ อตรวจดูเอกสารท่จี าเป็นตอ้ งรเู้ พ่อื โตแ้ ย้ง/ป้องกันสิทธิของตน - กรณที ี่ตอ้ งรกั ษาไวเ้ ปน็ ความลับ เจา้ หนา้ ทอ่ี าจไมอ่ นุญาตให้ตรวจดูเอกสารได้ รูปแบบของคาสง่ั ทางปกครอง - ทาเป็นหนงั สอื ด้วยวาจา หรอื รูปแบบอืน่ แต่ต้องมีความหมายชดั เจนพอเขา้ ใจได้ (ม.34) ถา้ ออกคาสัง่ ด้วยวาจาคู่กรณีขอใหย้ นื ยันเป็นหนงั สือได้ (ม.35) หนา้ - ระบุวนั เดอื น ปี ทท่ี าคาสัง่ ชอ่ื และตาแหน่งของเจ้าหนา้ ท่ีผู้ทาคาสง่ั ลายมือชอื่ ของเจ้าหนา้ ท่ี 380 (ม.36) - ระบุเหตผุ ลประกอบคาส่งั (ม.37) - จดแจ้งสิทธิอทุ ธรหรือโต้แย้ง (ม.40) การระบุเหตุผลประกอบคาสัง่ ทางปกครอง 1. เหตุผลประกอบด้วย - ขอ้ เทจ็ จริงอนั เปน็ สาระสาคัญ - ขอ้ กฎหมายทีอ่ ้างอิง - ขอ้ พจิ ารณาและข้อสนับสนนุ ในการใชด้ ลุ พินจิ 2. เหตผุ ลต้อง - มคี วามครบถ้วนและชัดเจน - ไมใ่ ช่ระบุพอเปน็ พธิ ี 3. การระบุเหตผุ ลประกอบคี าสั่งทางปกครอง - คาสัง่ ทางปกครองตาม ม.37 วรรคหน่ึง - คาส่งั ทางปกครองท่ที าเป็นหนังสอื หรือยืนยนั เปน็ หนงั สอื

นักบริหารงานทว่ั ไป รุ่นที ๘๔ - ถ้าไม่ให้เหตุผลไว้ในคาสั่งอาจเยียวยาความบกพร่องโดยให้เหตุผลในภายหลังได้ ตาม ม.41 หนา้ วรรคหนงึ่ (2) 381 - คาส่งั ทางปกครองตาม ม.37 วรรคสอง - คาส่ังทางปกครองที่มีการประกาศสานักนายกรัฐมนตรีฯ ให้ต้องระบุเหตุผลไว้ในคาส่ัง หรือเอกสารแนบทา้ ยคาส่งั ฯ - ต้องใหเ้ หตุผลเม่อื แจ้งคาส่งั ไมอ่ าจใหเ้ หตผุ ลในภายหลังได้ (คาพพิ ากษา ศป.อ 147/2558) 4. การอุทธรณค์ าสัง่ ทางปกครอง - ทาเป็นหนังสอื - การอทุ ธรณ์ไมเ่ ป็นการทุเลาการบงั คบั ทางปกครอง - คู่กรณีอทุ ธรณ์ 15 วนั นบั แต่วันที่ไดร้ บั แจ้ง - เจ้าหน้าทีพ่ ิจารณาภายใน 30 วนั 5. การเพกิ ถอนคาสง่ั ทางปกครอง - พจิ ารณาเบื้องต้นเกย่ี วกับการเพกิ ถอน เจ้าหน้าทีเ่ พกิ ถอนคาส่ังได้ภายใน 90 วนั - การเพิกถอนคาสง่ั ทไี่ มช่ อบดว้ ยกฎหมาย 1. อาจเพิกถอนทัง้ หมด/บางสว่ น 2. ซ่ึงเปน็ การให้เงนิ /ใหท้ รัพย์/ใหป้ ระโยชน์ โดยคานึงถงึ ความเช่ือโดยสจุ รติ ของผู้รบั ประโยชน์ 3. กรณีไม่อยู่ในบังคบั ม.51 อาจถกู เพิกถอนทั้งหมด/บางสว่ น แต่ผถู้ กู กระทบจากการถกู เพิก ถอนมสี ิทธิได้รับค่าทดแทน โดยรอ้ งขอภายใน 180 วัน - การเพิกถอนคาส่งั ท่ีชอบด้วยกฎหมาย 1. ไมเ่ ป็นการให้ประโยชนแ์ กผ่ รู้ ับคาส่ังทางปกครองอาจถูกเพิกถอนท้ังหมด/บางส่วน โดยมีผล ต้ังแต่ขณะที่เพิกถอน/มผี ลในอนาคต 2. เฉพาะกรณีมีกฎหมายกาหนดให้เพิกถอนได/้ สงวนสิทธเ์ิ พิกถอนได้ในคาสง่ั /คาสง่ั มี ขอ้ กาหนดให้ผ้รู ับประโยชน์ต้องปฏิบตั ิแต่ไมม่ ีการปฏบิ ัติภายในเวลาทก่ี าหนด - การเยียวยาประโยชนท์ ่ีเสียหาย ตาม ม.51 , ม.53 6. การขอให้พิจารณาใหม่ - เหตุทีค่ กู่ รณขี อให้พจิ ารณาใหม่ - มีพยานหลกั ฐานใหม่ - ค่กู รณีไดเ้ ข้ามาในกระบวนพจิ ารณา - เจา้ หนา้ ทีไ่ ม่มอี านาจทาคาส่ัง - ข้อเทจ็ จรงิ ข้อกฎหมายเปลีย่ นแปลง

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รนุ่ ที ๘๔ - ตอ้ งพจิ ารณาใหม่ภายใน 90 วนั 7. การบังคับทางปกครอง 8. ระยะเวลา - หา้ มมใิ ห้นบั วันแรกแหง่ ระยะเวลารวมเขา้ ด้วย - ใหน้ บั วนั สน้ิ สดุ ของระยะเวลานั้นรวมเขา้ ดว้ ย แมจ้ ะเป็นวันหยุด ถา้ เปน็ วนั สดุ ทา้ ยเปน็ วนั หยุด ให้ถือว่าระยะเวลานน้ั ส้นิ สดุ ในวันทางานท่ีถัดจากวนั หยุด - หา้ มมใิ หน้ บั วันแรกแห่งระยะเวลารวมเขา้ ด้วย ระยะเวลาท่ีกาหนดไวอ้ าจขยายได้ โดยยน่ื คา ขอภายใน 15 วัน 9. การแจง้ -แจ้งด้วยวาจา/หนงั สือ -แจ้งโดยวิธีให้บุคคลนาไปส่ง ถ้าผู้รับไม่ยอมรับ/ไม่พบผู้รับ/ส่งให้บุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะ เทา่ กบั ได้รับแจง - แจ้งทางไปรษณีย์ มคี รบ 7 วนั ภายในประเทศ ครบ 15 วนั ตา่ งประเทศ - แจ้งโดยวิธีปิดประกาศ ที่ว่าการอาเภอ ณ ที่ทาการของเจ้าหน้าที่ เมื่อพ้น 15 วัน นับแต่วันที่ หนา้ ได้รับแจ้ง 382 - แจ้งโดยประกาศในหนังสอื พิมพ์/โทรสาร หนงั สอื พมิ พ์ถือว่าไดร้ ับแจง้ เม่ือพน้ 15 วนั โทรสาร ตอ้ งมีหลกั ฐานการส่ง จดั สง่ ตวั จริงตามทันทีทอ่ี าจกระทาได้

นักบริหารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ การศกึ ษาดงู านนอกสถานท่ี หน้า 383 เทศบาลเมืองบางกะดี ได้จัดตั้งโดยเปลี่ยนแปลงฐานะจากเทศบาลตาบลบางกะดี เป็นเทศบาลเมืองบางกะดี ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 137 ตอนพิเศษ 204 ง โดยมผี ลบังคบั ใช้ต้ังแตว่ นั ท่ี 8 กันยายน 2563

นกั บริหารงานท่ัวไป รุน่ ที ๘๔ แผนท่เี ทศบาลเมอื งบางกะดี เทศบาลเมืองบางกะดี จังหวัดปทุมธานี ต้ังอยู่บนพื้นที่ราบลุ่ม ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้า เจ้าพระยา สานักงานตั้งอยู่เลขท่ี 195 หมู 5 ตาบลบางกะดี อาเภอเมอื งปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี มี พื้นท่ีครอบคลุมตาบลบางกะดีท้ังตาบล จานวน 5 หมูบ้านมีพ้ืนท่ีทั้งหมด 8.3 ตารางกิโลเมตร หรือ 5,187.5 ไร่ จานวน 5 หมูบาน 28 ชุมชน จานวนประชากร 14,934 คน มีครัวเรือน 7,454 ครัวเรอื น รายไดป้ ระจาปีงบประมาณ 2564 รวมทัง้ สิน้ 159,384,408.72 บาท ในพ้ืนที่ตาบลบางกะดี มีสถานประกอบการ จานวน 82 แห่ง ประกอบด้วย สถานประกอบการที่อยู่ในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี จานวน 42 แห่ง และสถาน ประกอบการนอกสวนอตุ สาหกรรมบางกะดี จานวน 39 แห่ง - สนามกอล์ฟ จานวน ๒ แห่ง (ริเวอร์เดลกอลฟ์ คลบั และบางกอกกอล์ฟคลับ) หนา้ 384 - ศนู ยก์ ารค้า ๒ แหง่ (โลตสั สาขาบางกะดี และเดอะไนน์เซน็ เตอร์) - มวี ดั ในพนื้ ท่ี จานวน ๔ วัด ได้แก่ วดั บางกะดี วัดบางกฎุ ีทอง วัดสงั ลาน และ วัดเกริน - โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบล ๒ แห่ง ต้ังอยู่หมู่ท่ี ๑ และหมู่ท่ี ๔

นักบรหิ ารงานท่ัวไป ร่นุ ที ๘๔ - โรงเรยี นในสังกัดเทศบาลเมืองบางกะดี ๓ แหง่ ศูนย์พัฒนาเด็กเลก็ เทศบาล เมืองบางกะดี โรงเรยี นอนบุ าลเทศบาลเมอื งบางกะดี และโรงเรยี นเทศบาล เมอื งบางกะดี เปิดสอนระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ และ ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น - โรงเรียนสังกัด สพฐ. จานวน ๒ แห่ง โรงเรียนวดั บางกุฎที อง และโรงเรียน ชมุ ชนวัดบางกะดี - สถาบันเทคโนโลยนี านาชาตสิ ริ ินธร มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เปดิ สอนระดับอุดมศึกษา - มสี ถานท่อี อกกาลังกาย 2 แหง่ ประกอบด้วย สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ หนา้ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ต้ังอยู่หมูท่ ่ี 4 และสนามกฬี าจังหวดั ปทุมธานี 385 ตงั้ อยู่หมทู่ ี่ 1 ซง่ึ ไดร้ ับถ่ายโอนมาจากองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั ปทุมธานี ความเป็นมาของการกอ่ ตัง้ กองทุน CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี

นกั บรหิ ารงานท่ัวไป รุ่นที ๘๔ กองทุน CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี ก่อตั้งขณะเปน็ เทศบาลตาบลบางกะดี เม่อื ปี พ.ศ. 2553 สืบเนื่องจากในพื้นที่ตาบลบางกะดีมีสถานประกอบการเป็นจานวนมาก และสถานประกอบการ จักต้องดาเนินกิจกรรม CSR (Corporrate Social Responsibility) เพื่อคืนประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่ง ในขณะน้ันมีสถานประกอบการหลายแห่งท่ีทากิจกรรม CSR ท้ังท่ีทาในพ้ืนท่ีตาบลบางกะดีและนอก พื้นท่ีตาบลบางกะดี ซ่ึงนายธวัชชัย อ้ึงอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีตาบลบางกะดี ในขณะน้ัน ได้มี แนวความคิดว่าหากสถานประกอบการต้ังอยู่ในพ้ืนที่ตาบลบางกะดี ก็ควรทากิจกรรม CSR คืน ประโยชน์ให้กับสงั คมในพื้นทตี่ าบลบางกะดี ดว้ ย จงึ ได้เชิญสถานประกอบการมารว่ มประชุมหารือ เพื่อ เสนอแนวความคิดและแนวทางในการทากิจกรรม CSR ซ่ึงนายกธวัชชัย อ้ึงอัมพรวิไล ได้เสนอให้ตั้ง (MOU)กองทนุ CSR ข้นึ โดยได้มกี ารลงนามบันทึกข้อตกลง ระหว่าง เทศบาลตาบลบาง กะดี กับ สถานประกอบการท่ีเข้าร่วมกิจกรรม โดยเชิญ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายธานี สามารถกจิ เปน็ สักขพี ยาน หน้า 386 นอกจากนี้ ยงั ไดม้ ีการจดั ทาขอ้ บังคบั กองทนุ CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี ขึ้นมาอีก ด้วย โดยได้กาหนดหลักเกณฑ์ให้สถานประการที่เป็นสมาชิกบริจาคเงินเข้ากองทุน CSR ตาม หลักเกณฑ์ที่กาหนดทุกปี คือ ตามขนาดการประกอบกิจการของสถานประกอบการ เร่ิมตั้งแต่ สถานประกอบการขนาดเล็ก บริจาคเงินเข้ากองทุนปีละ 5,000 บาท ขนาดกลาง 10,000 บาท / 20,000 บาท / 30,000 บาท และสูงสุด 40,000 บาท ปัจจุบันมีสถานประกบการ เป็นสมาชิก จานวน 41 แห่ง ในหน่ึงปีมีเงินบริจาคเข้ากองทุน จานวน 480,000 บาท นอกจากนี้แล้ว ยังมีสถานประกอบการนอกพ้ืนท่ีที่เข้ามาประกอบกิจการเป็นคร้ังคราวในพ้ืนท่ี ตาบลบางกะดี ท่เี ล็งเหน็ ถึงความสาคญั ของการคนื ประโยชนใ์ หส้ งั คม ไดส้ มบทบรจิ าคเขา้ กองทุน อีกด้วย

นักบรหิ ารงานท่วั ไป รนุ่ ที ๘๔ การดาเนินกิจกรรม จะมีการต้ังคณะกรรมการบริหารกองทุน จานวน 30 ท่าน ประกอบด้วย ผู้แทนจากเทศบาลเมืองบางกะดี และผู้นาชุมชน จานวน 15 ท่าน ผู้แทนสถาน ประกอบการที่เป็นสมาชิก จานวน 15 ท่าน เพ่ือทาหน้าที่ในการพิจารณาอนุมตั ิโครงการในการ ใช้จ่ายเงินกองทุน บริหารควบคุมและติดตามให้มีการใช้จ่ายเงินของกองทุนให้เป็นไปตาม วตั ถปุ ระสงคแ์ ละตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ วัตถุประสงค์หลกั กองทุน CSR สถำนประกอบกำรในตำบลบำงกะดี ประกอบดว้ ย หนา้ 1. เพือ่ สนับสนนุ การให้บริการสาธารณะประโยชนแ์ กป่ ระชาชน 387 2. เพ่อื ส่งเสริม สนับสนุน การรกั ษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มที่ดี 3. เพ่ือให้สถานประกอบการได้มีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วย การให้ความร่วมมือ ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ อาทิเช่น ด้านการศึกษา ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณที อ้ งถ่นิ รวมถงึ การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตท่ดี ีของประชาชน การส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษา ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมหลักของการ ดาเนนิ กจิ กรรมของกองทนุ CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี เน่อื งจากทา่ นนายกธวชั ชยั อ้ึงอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเมืองบางกะดี ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญทางด้ านการศึกษา โดยเฉพาะการศึกษาในระดับปริญญาตรี เนื่องจากยังมีเยาวชนในตาบลบางกะดีหลายคนขาด โอกาสในการศึกษาต่อเพราะมีฐานะยากจน และขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงได้ดาเนินการมอบ ทนุ การศกึ ษามาอยา่ งตอ่ เน่ือง ตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2553 จนถงึ ปัจจบุ นั รวมระยะเวลา 11 ปี ในแตล่ ะ ปีจะมีนักศึกษาย่ืนใบสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษาทุกปี ซ่ึงจะต้องผ่านการพิจารณาคัดเลอื กจาก คณะกรรมการบริหารทุน ซ่ึงคณะกรรมการ ประกอบด้วย 3 ฝ่าย คือ ผู้แทนจากเทศบาลเมือง บางกะดี ผู้แทนจากสถานประกอบการและผู้แทนชุมชน ร่วมกันพิจารณาตามหลักเกณฑ์ท่ี กาหนด นกั ศกึ ษาท่ีผ่านการคัดเลือกจะไดร้ ับทนุ การศึกษาระดบั ปริญญาตรี ประเภทต่อเนือ่ ง และ ในปีการศึกษาต่อไป นักศึกษาจะต้องส่ง ใบรายงานผลการเรียนเพ่ือประกอบการรับ ทุนการศึกษา ในปีการศึกษาต่อไป จนจบการศึกษา โดยการมอบทุนการศึกษา ทุนละ 10,000 บาท ต่อภาคการศึกษา รวมปีการศึกษาละ 20,000 บาท ซึ่งการมอบทุนการศึกษาในแต่ ละคร้ัง เทศบาลเมืองบางกะดี จะจัดพิธีมอบทุนการศึกษาโดยเชิญ คณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล สถานประกอบการที่เป็นสมาชิกและผู้แทนชุมชน เข้าร่วมพิธีมอบ ทุนการศกึ ษาทกุ ครั้ง กำรสร้ำงควำมยั่งยืนของโครงกำร/กิจกรรมกอ งทุน CSR สถำน ประกอบกำรในตำบลบำงกะดี

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป ร่นุ ที ๘๔ การลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างเทศบาล กับ สถานประกอบการ ถือเป็นพันธ สัญญาวา่ สถานประกอบการจะสนับสนุนงบประมาณเขา้ กองทนุ CSR ทุกๆปี นอกจากนี้ การเปดิ โอกาส ให้สถานประกอบการ และ ชุมชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของกองทุน CSR อาทิเช่น ร่วมเป็น คณะกรรมการบริหารกองทุน กรรมการพิจารณาทุนการศึกษา การร่วมกิจกรรมมอบทุนการศึกษา ถือ ได้ว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการดาเนินกิจกรรมของกองทุน CSR ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูล ข่าวสารของการดาเนนิ งาน เช่น การจดั ทารายงานผลการดาเนนิ กิจกรรม และรายงานผลการใช้จา่ ยเงิน จากกองทุน CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี ให้กับสถานประกอบการที่เป็นสมาชิกได้ทราบ ทุกปี ซ่ึงการดาเนินการทกุ ขั้นตอนท่ีผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทาให้การดาเนินกิจกรรมบรรลุและเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนในพื้นที่ตาบลบางกะดี ได้ดี ยิ่งขึ้น หน้า 388 ควำมสำเร็จ การจัดต้ังกองทุน CSR (Corporrate Social Responsibility) เทศบาลเมืองบางกะดี จังหวัดปทุมธานี ถือเป็นต้นแบบแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ในด้านความรับผิดชอบต่อ สังคม ที่มีการดาเนินงานแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบของไตรภาคี ระหว่างภาครัฐคือเทศบาลเมืองบาง กะดี ภาคเอกชนโดยตัวแทนสถานประกอบการในพ้ืนที่ และภาคประชาชน ได้แก่ ตัวแทนชุมชน เปน็ การดาเนินการทสี่ ร้างสรรคค์ วบคู่ไปกับการสานสัมพันธท์ ี่ดีระหว่างกัน

นักบรหิ ารงานทัว่ ไป รนุ่ ที ๘๔ ปัจจุบันการจดั การ CSR ของ เทศบาลเมอื งบางกะดี ผวู้ ่าราชการจงั หวัดปทุมธานี เป็นประธานในพธิ ีมอบทุนการศกึ ษาจาก เงนิ กองทุน CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี จังหวดั ปทมุ ธานี 18 พ.ย. 2564 หนา้ 389 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาจากเงินกองทุน CSR สถาน ประกอบการในตาบลบางกะดี จงั หวดั ปทมุ ธานี

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุน่ ที ๘๔ เมื่อวันที่ (18 พ.ย. 64) นายณรงค์ศักด์ิ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็น ประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาจากเงินกองทุน CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี จังหวัด ปทุมธานี โดยมีนายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเมืองบางกะดี ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมอื งบางกะดี หนา้ 390

นกั บรหิ ารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ โดยพธิ ีมอบทนุ การศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรีจากเงนิ กองทนุ CSR สถานประกอบการในตาบลบางกะดี ใน วันท่ี 18 พฤศจกิ ายน 2564 หน้า 391

นกั บริหารงานท่วั ไป รุ่นที ๘๔ การจดั ทาโครงการของสวนอตุ สาหกรรมบางกะดีกบั ชุมชน หนา้ 392

นกั บรหิ ารงานทั่วไป รนุ่ ที ๘๔ การจัดการสงิ่ แวดลอ้ มในสวนอุตสาหกรรมบางกระดี จังหวัดปทุมธานี เทศบาลเมืองบางกะดี ข้อมูลด้านกายภาพ คณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดปทุมธานีได้มีการคัดเลอื กพ้ืนที่ตาบลบางกระดี เป็นพ้ืนท่ีเป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เป้าหมายรวม 91 โรงงาน โดยมโี รงงานทไี่ ดร้ ับการรับการรบั รองระบบบริหารงานระดบั สากลและระดบั ประเทศดังตาราง หนา้ 393

นกั บริหารงานทวั่ ไป รุ่นที ๘๔ การวางผังท่ีตั้งและการจัดพ้ืนท่ีพ้ืนท่ีเป้าหมายในตาบลบางกะดี อยู่ในเขตการปกครอง 1 องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น. คือ เทศบาลตาบลบางกะดี และมีอาณาเขตครอบคลุมสวนอุตสาหกรรม 1 สวน อุตสาหกรรม ได้แก่ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี หนา้ 394 ข้อมูลระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ สวนอุตสาหกรรมบางกะดีมีพ้ืนที่ 1,222 ไร่ โดยมีการ จัดสรรพ้ืนท่ีภายในโครงการ 3 ส่วน ได้แก่ เขตอุตสาหกรรมท่ัวไป ร้อยละ 75 เขตท่ีอยู่-การพาณิชยก รรม ร้อยละ 9 และระบบสาธารณปู โภค ร้อยละ 16 บริษัท สวนอตุ สาหกรรมบางกะดี จากดั มกี ารดูแล งานดา้ นสาธารณูปโภค 3 ส่วน คือ การผลิตนา้ ประปา บาบัดน้าเสยี รวม และดแู ลพื้นที่สว่ นกลาง