Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายภาค ประถมศึกษา 1-65

แผนการจัดการเรียนรู้รายภาค ประถมศึกษา 1-65

Published by suckseedeua_20325, 2022-08-22 19:29:04

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายภาค ประถมศึกษา 1-65

Search

Read the Text Version

ความหมายของการหมิน่ ประมาท พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ และกฎหมายทเ่ี กี่ยวกับการหมิ่น ประมาทออนไลน์ ขั้นตอนการดำเนนิ การเม่ือถูกหมน่ิ ประมาทออนไลน์ บทลงโทษของการหม่ินประมาท ออนไลน์ : การหมน่ิ ประมาทออนไลน์ ตวั ชีว้ ดั 1. บอกความหมายและอธิบายความหมายของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ 2. ตระหนักถงึ ความสำคญั ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 3. อธบิ ายสาระสำคัญของพ.ร.บ.คอมพวิ เตอรแ์ ต่ละฉบับได้ 4. อธิบายการกระทำความผิดเก่ียวกบั พ.ร.บ.คอมพวิ เตอรร์ ูปแบบตา่ งๆและโทษท่จี ะไดร้ ับได้ 5.ตระหนกั ถึงโทษท่ีจะไดร้ ับจากการกระทำความผิดเก่ียวกับ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ 6.สามารถยกตวั อยา่ งของภยั คกุ คามทางโลกออนไลน์ได้ 7.ตระหนักถึงภัยคกุ คามทางโลกออนไลน์ 8.วเิ คราะห์กรณีศกึ ษา : การทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่กำหนดใหศ้ กึ ษาได้ 9.ตระหนกั ถึงผลกระทบของการทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 10. อธบิ ายความหมายของลขิ สทิ ธิ์ การได้มาซ่ึงลิขสิทธ์ิ หลักเกณฑ์ในการพิจารณางานลิขสิทธิง์ าน อนั มีลิขสิทธิแ์ ละไม่มลี ิขสทิ ธ์ิ ประเภทของงานอันมีลิขสิทธิ์ ผูถ้ อื ครองลขิ สทิ ธ์ิการคุ้มครองลขิ สทิ ธ์ิและอายุ ของการคุ้มครองลิขสทิ ธ์ไิ ด้ 11. บอกประโยชน์ของลขิ สิทธไ์ิ ด้ 12. ตระหนักถึงประโยชนข์ องลขิ สทิ ธ์ิได้ 13. อธบิ ายขั้นตอนการแจ้งข้อมลู ลิขสิทธไิ์ ด้ 14. บอกความแตกตา่ งของการละเมดิ ลขิ สทิ ธโ์ิ ดยตรงและการละเมิดลิขสทิ ธ์ิโยกออ้ มได้ 15. บอกบทกำหนดโทษจากการละเมิดลิขสทิ ธ์ิได้ 16. บอกวธิ กี ารปฏิบัติตนหากถูกละเมิดลิขสิทธ์ทิ างโลกออนไลนไ์ ด้ 17. วเิ คราะหก์ รณศี กึ ษา : การละเมิดลขิ สิทธ์ิในโลกออนไลน์ได้ 18. ตระหนกั ถึงผลกระทบที่เกดิ ขนึ้ จาการละเมิดลขิ สทิ ธบ์ิ นโลกออนไลน์ได้ 19. อธบิ ายความหมายของการหม่ินประมาทได้ 20. อธบิ ายสาระสำคัญของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และกฎหมายทีเ่ ก่ียวกับของการหม่นิ ประมาทออนไลน์ ได้ 21. ตระหนกั ถึงความสำคญั ของพ.ร.บ.คอมพวิ เตอรแ์ ละกฎหมายทีเ่ ก่ียวกบั การของการหม่นิ ประมาท ออนไลน์ 22 สามารถบอกข้ันตอนการปฏบิ ัตติ นในการดำเนินการเม่ือถกู หม่นิ ประมาทออนไลนไ์ ด้ 23. วเิ คราะหโ์ ทษของการหมิ่นประมาทได้ 24. วิเคราะหก์ รณีศึกษา : การหมิ่นประมาททางออนไลน์ท่ีกำหนดใหศ้ ึกษาได้

25. ตระหนักถึงผลกระทบท่ีเกดิ ข้นึ จากฝ่าฝืนพ.ร.บ.คอมพิวเตอรแ์ ละกฎหมายทเ่ี กี่ยวกับการหมิ่น ประมาทออนไลน์ เน้ือหา 1. ขอ้ ควรรพู้ .ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2. การกระทำความผดิ เกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และโทษท่ไี ด้รบั 3. ภัยคกุ คามทางโลกออนไลน์ 4. กรณีศึกษา : การกระทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ 5. ลขิ สทิ ธแ์ิ ละเรอื่ งทคี่ วรรู้ 6. ประโยชน์ของลขิ สิทธิ์ 7. ขัน้ ตอนการแจ้งข้อมูลลขิ สิทธิ์ 8. ประเภทของการละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ 9. บทกำหนดโทษจากกการละเมิดลิขสทิ ธิ์ 10. ขอ้ ควรรู้หากถูกละเมิดลขิ สทิ ธิ์ 11.กรณศี ึกษา : การละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิในโลกออนไลน์ 12. ความหมายของการหมนิ่ ประมาท 13. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายท่เี กยี่ วกับหมิ่นประมาทออนไลน์ 14. ข้นั ตอนการดำเนินการเม่ือถกู หม่ินประมาทออนไลน์ 15. บทลงโทษของการหมน่ิ ประมาทออนไลน์ 16. กรณีศึกษา : หมนิ่ ประมาทออนไลน์ ข้นั ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขั้นตอนท่ี 1 การสร้างแรงบันดาลใจ ( Passion : P ) 1. ครูทักทายผู้เรียน พร้อมท้ังแนะนำตนเองและแผนการจัดการเรียนรู้ซ่ึงการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียน จะต้องเรียนรู้ร่วมกันในคร้ังนี้ คือ เรื่อง “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ” และชวนคิดชวนคุยเก่ียวกับเรื่องที่จะเรียนรู้ เพ่ือกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและมีความกระตือรือร้นในการเช่ือมโยงและสร้ างความพร้อมท่ีจะเรียนรู้ หรือทำกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรียนรคู้ รั้งนี้ 2. ครูชีแ้ จงวตั ถปุ ระสงค์ เน้ือหา กจิ กรรม การวดั และประเมินผลของการเรียนรู้ในคร้งั นี้ ทสี่ อดคล้องกับ ตัวชี้วัดตามแผนการจัดการเรียนรูค้ รั้งน้ี เพื่อให้ผู้เรยี นเข้าใจอย่างชัดเจนวา่ ผู้เรยี นจะต้องเรียนรู้ให้บรรลตุ ัวช้ีวดั ที่กำหนดตามแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และลิขสทิ ธใิ์ นโลกออนไลนท์ ี่ควรรู้”ในครั้งน้ี โดยใหน้ กั ศกึ ษาทำใบงานท่ี 1 จำนวน 2 ข้อ อธิบายความสำคญั และความจำเปน็ ในการพัฒนาอาชีพ 3. ใหผ้ ้เู รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และลขิ สิทธใิ์ นโลกออนไลน์ท่ีควรรู้” โดยใชเ้ วลา 10 นาที

4. ครูใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาหนังสอื เรยี นรายวชิ ากฎหมายทีค่ วรรคู้ ูโ่ ลกออนไลน์ สค 0200038 ระดับ ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย เรอ่ื ง อธบิ ายความสำคญั พรอ้ มทั้ง แนะนำแหล่งศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากอนิ เทอร์เนต็ ซ่ึงผ้เู รียนสามารถไปเรยี นรู้ไดด้ ้วยตนเองและทำกิจกรรม ตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมายดว้ ย ทั้งน้คี รคู วรจะชแ้ี จงใหผ้ ูเ้ รียนทราบวา่ ในการพบกลมุ่ ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ครง้ั น้ี ผู้เรยี นจะต้องเรียนร้แู ละทำกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับเน้ือหาท่เี รยี น โดยปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การ แลกเปลยี่ นเรียนรูโ้ ดยการอภิปรายรว่ มกับเพ่ือนในกลมุ่ รวมท้ังมีการทดสอบหลงั เรียนด้วย นอกจากน้ี ในการพบกลุ่มแต่ละคร้งั น้นั ครูจะมอบหมายงานใหผ้ ู้เรยี นไปเรยี นร้ดู ้วยวิธีการเรยี นรูด้ ้วย ตนเอง ซ่งึ วธิ กี ารเรียนรดู้ ว้ ยตนเองจะต้องเกดิ ขน้ึ ในทุกๆ ตัวช้วี ัดและเน้อื หาทก่ี ำหนดโดยผเู้ รยี นจะต้องปฏิบตั ิ กจิ กรรมที่กำหนดใหด้ ว้ ยวิธีเรยี นรอู้ อนไลน์ และศึกษาจากเอกสารประกอบการเรยี นดังน้ัน ครจู ะตอ้ งเช่อื มโยง รายละเอยี ดดังกลา่ วขา้ งตน้ ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ กดิ ความเข้าใจและเกดิ แรงบนั ดาลใจในการเรียนรู้ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ เพราะ การมอบหมายงานใหผ้ ูเ้ รยี นไปเรยี นรู้ด้วยวธิ ีเรียนรูด้ ้วยตนเองน้นั ผเู้ รียนจะต้องเรยี นรูอ้ อนไลนผ์ า่ น อนิ เทอรเ์ นต็ และศึกษาเอกสารประกอบการเรยี น 5. ครูชวนคิดชวนคุยเก่ียวกับประสบการณ์เดิมของครูในเร่ืองที่จะเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้น้ี โดยครสู ุ่มผเู้ รียนตามความสมัครใจ จำนวน 4 –5 คนให้ตอบคำถาม จำนวน 1 ประเด็น ดงั น้ี ประเดน็ ท่ี 1 “ท่านทราบหรือไมว่ ่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และลิขสิทธิใ์ นโลกออนไลนท์ ่คี วรรู้ คอื อะไร ” แนวคำตอบ คอื พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฉบบั ล่าสดุ เปน็ กฎหมายที่วา่ ดว้ ยการกระทำผิดเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ โน็ตบุค๊ สมาร์ตโฟน รวมไปถึงระบบต่าง ๆ ทีถ่ ูกควบคมุ การกระทำระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึง เป็น พ.ร.บ. คอม ท่ีออกมาเพื่อป้องกัน และควบคมุ การกระทำผิดทีจ่ ะเกิดข้นึ ได้การใช้คอมพวิ เตอร์ หาก ผูใ้ ดกระทำผิดกจ็ ะต้องได้รบั การลงโทษตามท่ี พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ 2560 ทกี่ ำหนดไว้ ประเด็นท่ี 2 “ท่านทราบหรือไม่ว่า ลิขสทิ ธ์ิในโลกออนไลน์ คอื อะไร ” แนวคำตอบ คือ เนือ่ งจากของแท้มรี าคาแพง และมีคา่ ใช้จ่ายสงู การละเมิดลิขสิทธ์ทิ ำได้ง่ายและรวดเรว็ ตัว สินคา้ ก็มีคุณภาพเทยี บเท่าของจรงิ เปน็ วฒั นธรรมในบางสงั คม ซง่ึ มีมาเป็นเวลายาวนาน เชน่ การ เอ้อื เฟื้อเผือ่ แผ่ มีการแบ่งปนั กันในสังคมมาโดยตลอด จงึ ทำให้ผูท้ ่ไี ดล้ ะเมดิ ลิขสทิ ธ์ิไมค่ ิดว่าตนเองได้ กระทำความผิดกลไกในการบังคบั ใชก้ ฎหมายท่ียงั ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเทา่ ท่ีควร และการหาตัวผกู้ ระทำ ความผิดก็ทำไดย้ ากเชน่ กัน ขนั้ ตอนท่ี 2 การนำไปใช้ประโยชน์ (Utilization : U) 1. ครูให้ผูเ้ รียนแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ กล่มุ ละ 4 – 5 คน ดำเนนิ กิจกรรม เป็นรายกลุม่ ศึกษาเน้ือหา ในหนงั สอื เรียนรายวิชากฎหมายที่ควรรคู้ ู่โลกออนไลน์ สค 0200038 ระดับ มัธยมศึกษาตอนตน้

ให้แต่ละกลุ่มแลกเปล่ียนเรียนรู้ และส่งผู้แทนนำเสนอต่อกลุ่มใหญ่ครูและผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้ รว่ มกนั และให้ผ้เู รยี นสรปุ ส่ิงที่ไดเ้ รยี นร้ลู งในสมดุ บันทึกผลการเรยี นรู้ของตน 2. ครแู นะนำแหลง่ เรยี นร้ใู ห้กับผ้เู รียนเพ่อื ใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง อาทิ ห้องสมุด แหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน หน่วยงาน สถานศกึ ษาต่าง ๆ รวมท้งั การใชอ้ นิ เตอร์เน็ตเพ่ือการเรยี นรู้ดว้ ย ตนเอง เปน็ ต้น 3. ครดู ำเนนิ การทำหนา้ ท่ีนำการอภิปราย โดยให้ผู้เรียนกลุ่มใหญ่ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ คิดวิเคราะห์ อภิปราย และวิเคราะหใ์ ห้ขอ้ มูลเพิ่มเติมในเนื้อหาหรือประเด็นที่ยังไมช่ ัดเจน ตามรายละเอยี ดท่ี ผเู้ รียนได้แลกเปล่ียนเรียนร้รู ่วมกนั หากผเู้ รยี นกลุ่มใหญห่ รือครูเหน็ ว่ายงั ไม่สมบรู ณ์ มคี วามต้องการในการ เรียนรเู้ พิ่มเติม ครจู ะช่วยเตมิ เตม็ ความรูใ้ ห้กับผ้เู รียน หลงั จากนั้นครูและผู้เรียนสรุปส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรู้ในภาพรวม ทงั้ หมดแล้วใหผ้ เู้ รียนสรปุ สิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรลู้ งในสมดุ บนั ทึกการเรยี นรู้ของตน หมายเหตุ : ในการดำเนินกิจกรรมกลมุ่ ครูช้ีแจงบทบาทหน้าที่ในการทำงานให้ผเู้ รียนได้มีความรับผดิ ชอบร่วมกัน ในการทำงาน ซึ่งมอบหมายให้ผู้เรียนดำเนินการแต่งตั้งประธานหรือผู้นำในการอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบในภารกิจต่างๆ รวมถึงการแต่งต้ังเลขานุการของกลุ่มเป็นผู้จดบันทึกและ ผู้รักษาเวลา เพ่ือปฏิบัติงานของกลุ่มใหญ่ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และพิจารณาว่าสมาชิกลุ่มทุกคน ควรมีความเข้าใจตรงกันว่า ตนมีบทบาทหน้าท่ีที่จะต้องช่วยให้กลุ่มทำงานได้สำเร็จ ครูควรให้คำแนะนำถึง ความสำคัญของการให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีส่วนร่วมในการอภิปรายอย่างท่ัวถึง ไม่ให้มีการผูกขาดการ อภิปรายโดยผใู้ ดผ้หู น่งึ และควรมีการจำกัดเวลาของการอภิปรายแตล่ ะประเดน็ ในระหว่างการทำกิจกรรมของผู้เรียน ครูมีบทบาทในการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน คอย กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้โดยบันทึกล งในแบบบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของ ผู้เรียน และเครื่องมอื ประเมินการสังเกตแบบประมาณคา่ 4. ครูเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นท้ังกลุม่ รว่ มกนั สนทนา เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะในการฟัง พดู คิดวเิ คราะห์ การทำงานร่วมกบั ผอู้ ่ืน การคิดสรา้ งสรรค์ ความรบั ผิดชอบ และการนำความรูใ้ นเนื้อหามาใช้ โดยครูบรู ณาการ เน้ือหาการเรียนรู้ มีการใช้สอ่ื เทคโนโลยีทเ่ี ปน็ คลิปวิดโี อจาก youtubeและ TikTok ทส่ี ัมพนั ธก์ ับเน้อื หา ท้งั นี้ ครเู ชื่อมโยงสง่ิ ท่ีไดเ้ รียนร้ตู ามขน้ั ตอนท่ี 1 ในการนำความรไู้ ปสกู่ ารปฏบิ ัติและประยุกต์ใช้ผ่านคลิปวิดโี อ โดย ครเู ปดิ คลปิ วดิ โี อ เร่ือง “กฎหมายที่ควรรู้คู่โลกออนไลน์ ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=9- IE9SaW9xk ชว่ งเวลา 2.54 นาที หลังจากนนั้ ครูดำเนนิ การ ดังน้ี (1) ครูบรรยายเนื้อหาตามใบความรู้สำหรบั ครู เรอ่ื ง“ความสำคัญ และความจำเปน็ ของ กฎหมายท่ีควรร้คู ่โู ลกออนไลน์” เพ่อื ใชส้ ำหรับประกอบกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง “ความสำคัญ และความ จำเปน็ ของกฎหมายท่ีควรร้คู ู่โลกออนไลน์” ในส่วนของผเู้ รียนใหศ้ กึ ษาใบความรู้สำหรับผเู้ รียน ประกอบการ บรรยายของครตู ามใบความรู้สำหรับผูเ้ รยี น เร่อื ง “ความสำคญั และความจำเปน็ ของกฎหมายทีค่ วรรูค้ ู่โลก ออนไลน์”

(2) ครูอธิบาย เรือ่ ง “กฎหมายลขิ สทิ ธิ์”พรอ้ มทง้ั ให้ผ้เู รียนไดแ้ ลกเปลีย่ นเรยี นรู้ โดยให้ผูเ้ รียน ตั้งประเดน็ ข้อสงสัย หรือส่ิงที่ตอ้ งการเรยี นรู้ และเชอ่ื มโยงสู่การนำไปใช้ในชีวติ จริงของผู้เรียนต่อไป 5.ครแู ละผู้เรียนอภปิ รายและสรปุ ผลการเรยี นรรู้ ่วมกนั ขั้นตอนที่ 3 การสะทอ้ นความคิดจากการเรยี นรู้ ( Reflection : R ) 1. แบ่งผ้เู รียนออกเป็น กลุ่ม ๆ ละ 4 – 5 คนให้ผเู้ รยี นแตล่ ะกล่มุ ศกึ ษาเน้ือหา โดยผูเ้ รยี นแต่ละกลมุ่ วางแผนและดำเนนิ การเกี่ยวกบั การทำรายงาน เรอื่ งที่ 1 ลิขสิทธิท์ ่ีควรรู้และประโยชน์ของลขิ สทิ ธ์ิ เร่ืองท่ี 2 ขน้ั ตอนการแจ้งข้อมูลลขิ สิทธ์ิ ประเภทของการละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ เร่ืองท่ี 3 บทกำหนดโทษจากการละเมดิ ลิขสทิ ธิ์และขอ้ ควรรหู้ ากถกู ละเมิดลิขสิทธ์ิ เรื่องท่ี 4 กรณีศึกษา : การละเมดิ ลขิ สิทธิใ์ นโลกออนไลน์ 2. ใหผ้ ู้เรียนแต่ละกล่มุ ตามข้อ 1 ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามใบกิจกรรม เรอื่ ง ลขิ สิทธ์ิทีค่ วรรแู้ ละประโยชน์ ของลิขสิทธ์ิ ขั้นตอนการแจง้ ข้อมูลลิขสทิ ธ์ิ ประเภทของการละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ บทกำหนดโทษจากการละเมิด ลิขสิทธ์แิ ละข้อควรรหู้ ากถกู ละเมดิ ลิขสิทธ์ิ กรณีศึกษา : การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ ครจู ะต้องกำกับการปฏิบตั ิกิจกรรมของผู้เรียนจนกิจกรรมแล้วเสร็จตามใบกิจกรรมสำหรบั ครู เรอื่ ง “ลขิ สทิ ธ์ิที่ควรรู้และประโยชนข์ องลิขสิทธิ์ ขั้นตอนการแจง้ ขอ้ มลู ลิขสทิ ธ์ิ ประเภทของการละเมิดลิขสิทธิ์ บทกำหนดโทษจากการละเมิดลิขสิทธแ์ิ ละข้อควรร้หู ากถกู ละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิ กรณศี กึ ษา : การละเมิดลขิ สทิ ธ์ิใน โลกออนไลน์ 3. ใหผ้ ู้เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอ เรือ่ ง ลขิ สทิ ธ์ิท่ีควรรแู้ ละประโยชน์ของลขิ สิทธ์ิ ขนั้ ตอนการแจง้ ขอ้ มูล ลิขสทิ ธ์ิ ประเภทของการละเมิดลิขสทิ ธ์ิ บทกำหนดโทษจากการละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์และข้อควรร้หู ากถูกละเมดิ ลิขสิทธิ์ กรณศี ึกษา : การละเมิดลิขสทิ ธ์ิในโลกออนไลน์ ตามใบกจิ กรรมของผูเ้ รียน การนำเสนอผลการศึกษา ค้นคว้าเพ่ือนำมาวเิ คราะหเ์ รื่องลขิ สทิ ธท์ิ ี่ควรรู้และประโยชน์ของลิขสิทธิ์ ข้ันตอนการแจ้งข้อมูลลขิ สทิ ธิ์ ประเภทของการละเมดิ ลิขสิทธิ์ บทกำหนดโทษจากการละเมิดลขิ สทิ ธิ์และขอ้ ควรรหู้ ากถูกละเมิดลิขสทิ ธิ์ กรณศี ึกษา : การละเมิดลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ 4. ครูให้ผูเ้ รียนสะท้อนความคดิ ในการเรยี นรู้ท่ีไดจ้ ากการเรยี นรู้ จากข้ันตอนที่ 1 ถงึ ขนั้ ตอนที่ 3 นี้ 5. ครูและผู้เรยี นอภิปรายและสรุปผลการเรยี นรูร้ ่วมกัน ขน้ั ตอนที่ 4 การตดิ ตามประเมินและแก้ไข (Action : A) 1. ครูสนทนากับผ้เู รียนเกี่ยวกับเรื่องทไี่ ด้เรยี นรู้ตามแผนการจัดการเรียนรนู้ ้ีโดยครูสุ่มผู้เรยี นตามความ สมัครใจ จำนวน 2 – 3 คน ใหต้ อบคำถามในประเด็นต่อไปนี้ ประเดน็ “ ทา่ นจะนำความรู้เร่ือง พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์และลิขสิทธใิ์ นโลกออนไลน์” แนวคำตอบ ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้เรื่อง ลิขสิทธิ์ท่ีควรรู้และประโยชน์ของ ลิขสิทธิ์ ขั้นตอนการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ ประเภทของการละเมิดลิขสิทธ์ิ บทกำหนดโทษจากการละเมิดลิขสิทธิ์ และข้อควรรู้หากถกู ละเมิดลิขสทิ ธิ์ กรณีศึกษา : การละเมิดลขิ สิทธ์ิในโลกออนไลน์ ไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริงได้ ดงั น้ี

เรื่องของ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ ความหมาย ความสำคญั และสาระสำคัญของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การ กระทำความผดิ เก่ียวกบั พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ ภัยคกุ ตามทางโลกออนไลน์ เรือ่ งทคี่ วรรลู้ ิขสทิ ธิ์ ประโยชน์ของ ลิขสิทธ์ิ ข้ันตอนการแจง้ ข้อมูลลขิ สิทธ์ปิ ระเภทของการละเมิดลขิ สิทธิ์ และบทกำหนดโทษจากการละเมิด ลิขสทิ ธ์ิ 2. ครูและผู้เรียนอภปิ รายและสรุปผลการเรยี นรูร้ ่วมกนั เร่ือง ลขิ สิทธิท์ ่คี วรรู้และประโยชนข์ อง ลิขสทิ ธ์ิ ขน้ั ตอนการแจ้งข้อมูลลิขสทิ ธิ์ ประเภทของการละเมิดลิขสทิ ธิ์ บทกำหนดโทษจากการละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ และข้อควรรู้หากถูกละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ กรณศี ึกษา : การละเมิดลขิ สิทธ์ิในโลกออนไลน์ ซงึ่ จะทำให้ผูเ้ รยี นเกดิ ความ เข้าใจในกจิ กรรมการเรียนรู้มากยงิ่ ขนึ้ 3. ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และลิขสิทธ์ิในโลกออนไลนท่ีควรรู้ จำนวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 10 นาที 4. ครแู ละผูเ้ รยี นสรุปภาพรวมสงิ่ ทไี่ ด้เรียนรรู้ ว่ มกนั นอกจากน้ี ในตอนท้ายของการพบกลุ่ม หลังจากเสร็จส้ินขั้นตอนที่ 3 ครูมอบหมายงานให้เรียนรู้ ดว้ ยตนเอง รายละเอยี ดดงั นี้ การมอบหมายงานให้เรยี นรู้ด้วยตนเอง 1. ครูชี้แจงให้ผูเ้ รยี นทราบวา่ ในการพบกล่มุ แตล่ ะครง้ั ผู้เรียนจะไดร้ ับมอบหมายงานให้ไปเรยี นรดู้ ว้ ย วิธเี รยี นรูด้ ว้ ยตนเองในลกั ษณะท่ีครูจะมอบหมายงานใหผ้ ้เู รียนไปศกึ ษา “หนังสือเรียนรายวชิ ากฎหมายทีค่ วรรู้ คู่โลกออนไลน์ สค0200038 ระดบั ประถมศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย โดย ให้ศึกษาเนอื้ หาและปฏิบตั กิ จิ กรรมทา้ ยเรื่อง รายละเอยี ดของเนือ้ หา แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น ดงั นี้ สว่ นท่ี 1 เน้อื หาการเรียนร้ตู ามแผนการจดั การเรยี นรู้ครง้ั น้ี ส่วนท่ี 2 เนื้อหาการเรยี นร้เู พ่มิ เติมในหนังสอื เรยี นเรยี นดังกลา่ ว 2. ครมู อบหมายงานใหผ้ ้เู รยี นเรยี นร้ดู ้วยตนเอง โดยใหไ้ ปศึกษา “หนงั สือเรียนรายวิชากฎหมายทคี่ วร รู้คโู่ ลกออนไลน์ สค0200038 ระดับประถมศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย รายละเอียดของกจิ กรรมที่ผูเ้ รยี นจะต้องปฏิบัติ แบง่ ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ สว่ นท่ี 1 เนื้อหาการเรยี นร้ตู ามแผนการจดั การเรียนร้คู ร้ังน้ี ไดแ้ ก่ หนงั สือเรียนรายวชิ ากฎหมายทคี่ วรรู้คู่โลกออนไลน์ สค0200038 ระดบั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สว่ นท่ี 2 มอบหมายงานให้ผู้เรียนเรียนรดู้ ้วยตนเอง ซ่ึงเนื้อหาการเรียนรูเ้ พ่ิมเติมใน“หนังสือเรียน รายวิชากฎหมายท่คี วรรคู้ ูโ่ ลกออนไลน์ สค0200038 ระดับประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ได้แก่ 1) เร่ืองพ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ 2) เรือ่ งลขิ สิทธิใ์ นโลกออนไลนท์ ่ีควรรู้ หลงั จากน้นั ครูและผ้เู รียนมีการนดั หมายทบทวน ตรวจสอบ และแลกเปล่ียนเรยี นรรู้ ว่ มกนั ผ่าน ทางสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ ต่อไป

หมายเหตุ : ให้ผ้เู รียนลงมอื ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยตนเอง ซึง่ การใหผ้ ู้เรยี นลงมือปฏิบตั กิ จิ กรรมด้วยตนเองนนั้ อาจ มีความแตกต่างกันบ้างในข้ันตอน โดยพิจารณาจากพน้ื ฐานของผู้เรยี น ในกรณที ผ่ี ู้เรียนมีพน้ื ฐานน้อยหรือไมม่ ี พืน้ ฐานมาก่อนก็ควรจดั การเรียนรู้พนื้ ฐานทจี่ ำเป็นและพอเพยี งกบั ผู้เรียน หลังจากนัน้ ให้ผู้เรยี นไดป้ ฏบิ ตั ดิ ้วย ตนเองในช่วงระยะหนงึ่ แล้วจงึ คอ่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นคิดหวั ขอ้ ทอ่ี ยากจะทำ หรือถ้าผู้เรยี นมีพื้นความรู้มาก่อนแลว้ ให้ คิดหัวข้อท่ีสนใจจะทำและให้ลงมอื ปฏิบัติได้ สอ่ื วัสดอุ ปุ กรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่ือง “พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์และลิขสิทธ์ทิ ีค่ วรรูใ้ นโลกออนไลน์” 2. คลิปวดิ ีโอ เรอ่ื ง “กฎหมายท่คี วรรู้คโู่ ลกออนไลน์” จาก https://www.youtube.com/watch?v=9-IE9SaW9xk ชว่ งเวลา 2.54 นาที 3. ใบความรสู้ ำหรบั ผเู้ รียน เรอ่ื ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และลิขสิทธทิ์ ค่ี วรรู้ในโลกออนไลน์ 4. ใบความรู้สำหรบั ผู้เรยี น เรอ่ื ง “ลขิ สทิ ธิ์ท่ีควรรู้ในโลกออนไลน์” 5. บทสรปุ ประกอบ PowerPoint สำหรบั ครู “เรือ่ งพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และลขิ สทิ ธิท์ ี่ควรรูใ้ นโลก ออนไลน์” 9. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และลิขสิทธท์ิ ีค่ วรรูใ้ นโลกออนไลน์” 10. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนักเรยี นต่อการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ความตั้งใจ และความสนใจของผ้เู รียน 2. ผลการทดสอบก่อนและหลังเรียน 3. ผลการออกแบบและสร้างสรรค์นวตั กรรมและสิง่ ท่ีต้องการพัฒนา/ช้ินงาน/ผลงาน 4. ผลการประเมินความพงึ พอใจของผ้เู รยี น สื่อวสั ดุอุปกรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง “พ.ร.บ.คอมพิวเตอรแ์ ละลิขสิทธท์ิ ่คี วรรใู้ นโลกออนไลน์” 2. คลิปวดิ โี อ เรอื่ ง “กฎหมายที่ควรรู้ค่โู ลกออนไลน์” จาก https://www.youtube.com/watch?v=9-IE9SaW9xk ช่วงเวลา 2.54 นาที 3. ใบความรสู้ ำหรับผู้เรยี น เรอ่ื ง พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์และลิขสิทธิท์ ีค่ วรรูใ้ นโลกออนไลน์ 4. ใบความรู้สำหรบั ผู้เรียน เรือ่ ง “ลิขสิทธท์ิ ี่ควรรใู้ นโลกออนไลน์”

5. บทสรุปประกอบ PowerPoint สำหรบั ครู “เรื่องพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และลขิ สิทธท์ิ ี่ควรรูใ้ นโลก ออนไลน์” 6. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และลิขสทิ ธิท์ ี่ควรรูใ้ นโลกออนไลน์” 7. แบบประเมินความพงึ พอใจของนักเรยี นตอ่ การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ใบความรู้ เร่อื ง กฎหมายที่ควรรู้คโู่ ลกออนไลน์ อาชญากรรมออนไลน์ ความหมาย การกระทำผิดทางอาญาในระบบคอมพิวเตอร์ หรือการใช้ คอมพิวเตอร์เพื่อกระทำผิดทางอาญา เช่น ทำลาย เปลี่ยนแปลง หรือขโมยข้อมูลต่าง ๆ เป็นต้น ระบบ คอมพิวเตอรใ์ นที่น้ี หมายรวมถึงระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ทเ่ี ชอ่ื มกับระบบดังกลา่ วดว้ ย

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ คือ 1.การกระทำการใด ๆ เก่ียวกับการใช้คอมพิวเตอร์ อันทำให้เหย่ือได้รับความเสียหาย และผู้กระทำ ไดร้ ับผลประโยชน์ตอบแทน 2.การกระทำผดิ กฎหมายใด ๆ ซ่งึ ใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอรเ์ ป็นเคร่ืองมอื และในการสืบสวนสอบสวน ของเจา้ หนา้ ทเ่ี พือ่ นำผู้กระทำผิดมาดำเนนิ คดี ต้องใชค้ วามรูท้ างเทคโนโลยเี ชน่ เดียวกนั การประกอบอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อเศรษฐกิจของประเทศจำนวน มหาศาล อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ จึงจัดเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ อาชญากรรมทางธุรกิจ รปู แบบ หนงึ่ ท่มี คี วามสำคัญ ประเภทของอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ อาชญากรคอมพิวเตอร์จะก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันท่ัวโลกจัดออกเป็น 9 ประเภท (ตามขอ้ มูลคณะอนกุ รรมการเฉพาะกจิ ร่างกฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์) 1. การขโมยข้อมลู ทางอนิ เตอรเ์ น็ต ซึง่ รวมถึงการขโมยประโยชนใ์ นการลกั ลอบใชบ้ รกิ าร 2. อาชญากรนำเอาระบบการสอื่ สารมาปกปดิ ความผิดของตนเอง 3. การละเมดิ สทิ ธ์ปิ ลอมแปรงรปู แบบ เลียนแบบระบบซอพต์แวร์โดยมิชอบ 4. ใช้คอมพวิ เตอรแ์ พรภ่ าพ เสียง ลามก อนาจาร และข้อมูลทีไ่ ม่เหมาะสม 5. ใชค้ อมพวิ เตอร์ฟอกเงนิ 6. อนั ธพาลทางคอมพิวเตอร์ทเ่ี ช้าไปก่อกวน ทำลายระบบสาราณปู โภค เชน่ ระบบจ่ายน้ำจ่ายไฟ ระบบการจราจร 7. หลอกลวงใหร้ ว่ มคา้ ขายหรือลงทนุ ปลอม 8. แทรกแซงข้อมลู แล้วนำขอ้ มลู น้ันมาเป็น)ระโยชน์ต่อตนโดยมชิ อบ เชน่ ลักรอบค้นหารหัสบัตร เครดติ คนอื่นมาใช้ ดกั ข้อมูลทางการคา้ เพ่ือเอาผลประโยชน์น้ันเป็นของตน 9. ใชค้ อมพิวเตอรแ์ อบโอนเงินบัญชผี ูอ้ ่ืนเข้าบัญชีตัวเอง อาชญากรคอมพิวเตอร์ อาชญากรคอมพิวเตอร์ คือ ผู้กระทำผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนสำคัญ มีการ จำแนกไว้ดงั น้ี

1. พวกมือใหม่ (Novices) หรือมือสมัครเล่น อยากทดลองความรู้และส่วนใหญ่จะมิใช่ผู้ ท่ีเป็นอาชญากร โดยนิสัย มิได้ดำรงชีพโดยการกระทำผิด อาจหมายถึงพวกท่ีเพิ่งได้รับความไว้วางใจให้เข้าสู่ระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ 2. Darnged person คือ พวกจิตวิปริต ผิดปกติ มีลักษณะเป็นพวกชอบความรุนแรง และอันตราย มัก เปน็ พวกท่ีชอบทำลายทกุ ส่งิ ทีข่ วางหน้าไมว่ ่าจะเปน็ บุคคล สง่ิ ของ หรือสภาพแวดลอ้ ม 3. Organized Crime พวกนี้เป็นกลุ่มอาชญากรท่ีร่วมมือกันทำผิดในลักษณะขององค์กรใหญ่ๆ ที่มีระบบ พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์ท่ีต่างกัน โดยส่วนหน่ึงอาจใช้เป็นเคร่ืองหาข่าวสาร เหมือนองค์กรธุรกิจท่ัวไป อีก ส่วนหน่ึงก็จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นตัวประกอบสำคัญในการก่ออาชญากรรม หรือใช้เทคโนโลยีกลบเกล่ือนร่อง รอ่ ย ให้รอดพน้ จากเจา้ หนา้ ท่ี 4. Career Criminal พวกอาชญากรมืออาชีพ เป็นกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มาก กลุ่มนี้น่าเป็น หว่ งมากทส่ี ุด เนอื่ งจากนบั วนั จะทวีจำนวนมากขึน้ เร่อื ยๆ โดยจับผดิ แล้วจับผิดเล่า บอ่ ยครั้ง 5. Com Artist คือพวกหัวพัฒนา เป็นพวกท่ีชอบความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้มาซ่ึง ผลประโยชน์ส่วนตน อาชญากรประเภทน้ีจะใช้ความก้าวหน้า เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และความรู้ของตน เพือ่ หาเงนิ มชิ อบทางกฎหมาย 6. Dreamer พวกบา้ ลัทธิ เปน็ พวกที่คอยทำผิดเนือ่ งจากมคี วามเชือ่ ถอื สิง่ หน่ึงส่งิ ใดอยา่ งร่นุ แรง 7. Cracker หมายถึง ผู้ที่มคี วามรู้และทกั ษะทางคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี จนสามารถลักลอบเขา้ สรู่ ะบบได้ โดยมีวัตถุประสงค์เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง มักเข้าไปทำลายหรือลบไฟล์ หรือทำให้ คอมพิวเตอรใ์ ชก้ ารไมไ่ ด้ รวมถงึ ทำลายระบบปฏิบตั กิ าร 8. นักเจาะข้อมูล (Hacker) ผู้ที่ชอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อ่ืน พยายามหาความท้าทายทาง เทคโนโลยเี ขา้ ไปในเครือข่ายของผูอ้ ่นื โดยที่ตนเองไม่มอี ำนาจ 9. อาชญากรในรูปแบบเดิมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ เช่นพวกลักเล็กขโมยน้อยที่ พยายามขโมยบัตร ATM ของผอู้ ื่น 10. อาชญากรมืออาชีพ คนพวกนี้จะดำรงชีพจากการกระทำความผิด เช่นพวกท่ีมักจะใช้ ความรู้ทาง เทคโนโลยีฉ้อโกงสถาบนั การเงิน หรอื การจารกรรมขอ้ มลู ไปขาย เปน็ ตน้ 11. พวกหัวรุนแรงคล่ังอุดมการณ์หรือลัทธิ มักก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เพื่อ อุดมการณ์ทาง การเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา หรือสทิ ธิมนุษย์ชน เปน็ ต้น แหล่งที่มาจาก : บทเรยี นบนเครือขา่ ยอินเตอร์เนต็ รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 5 ผพู้ ฒั นาเว็บ :: นายรัศมี พุดสเี สน โรงเรยี นจตุรพักตรพมิ านรัชดาภิเษก อำเภอจตรุ พักตรพิมาน จังหวัดรอ้ ยเอ็ด email :: [email protected] / http://www.cpr.ac.th/krunuii/01mal.html ใบความรู้ เรอ่ื ง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560

สรุป 13 ขอ้ สาระสำคัญจำง่ายๆ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 ถ้ายังจำกันได้ถึงการผลักด้น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ท่ีสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบเมื่อเดือนธันวาคม เม่ือปี 2559 และได้ ประกาศลงราชกจิ จานุเบกษาเมอ่ื วนั ที่ 24 มกราคม 2560 มผี ลบังคับใช้แล้วในวนั ที่ 24 พ.ค.2560 เพื่อการใช้ออนไลน์อย่างถูกกฎหมาย สำหรับสาระสำคัญท่ีหลายคนควรพึงระวังใน พ.ร.บ. ว่าด้วย กระทำความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 หรอื พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ ฉบับ 2 มสี าระสำคัญจำง่ายๆ ดังนี้ 1. การฝากรา้ นใน Facebook, IG ถือเปน็ สแปม ปรบั 200,000 บาท 2. ส่ง SMS โฆษณา โดยไม่รับความยินยอม ให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลน้ันได้ ไม่เช่นน้ันถือเป็นส แปม ปรับ 200,000 บาท 3. ส่ง Email ขายของ ถอื เปน็ สแปม ปรับ 200,000 บาท 4. กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ยกเว้นการกดไลค์ เป็นเร่ืองเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่าย ความผิดมาตรา 112 หรือมคี วามผดิ รว่ ม 5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่แชร์มีผลกระทบต่อผู้อ่ืน อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ โดยเฉพาะท่กี ระทบตอ่ บุคคลท่ี 3 6. พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอรข์ องเรา แต่ไม่ใช่สิ่งท่ีเจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานท่ีรับผิดชอบได้ หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ความเห็นในเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงเฟซบุ๊ก ท่ีให้แสดงความคิดเห็น หากพบว่าการแสดงความเห็นผิด กฎหมาย เมอ่ื แจ้งไปท่หี นว่ ยงานท่รี ับผิดชอบเพ่ือลบได้ทันที เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไมม่ ีความผิด 7.สำหรับ แอดมินเพจ ที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เม่อื พบข้อความท่ผี ดิ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เม่ือลบออก จากพื้นทท่ี ตี่ นดแู ลแลว้ จะถอื เป็นผู้พน้ ผิด 8. ไมโ่ พสตส์ งิ่ ลามกอนาจาร ทที่ ำให้เกดิ การเผยแพร่สปู่ ระชาชนได้ 9. การโพสเก่ยี วกบั เด็ก เยาวชน ตอ้ งปิดบงั ใบหน้า ยกเว้นเม่ือเป็นการเชดิ ชู ช่นื ชม อย่างใหเ้ กยี รติ 10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทำให้เกิดความเส่ือมเสียเช่อื เสียง หรือถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ญาตสิ ามารถฟอ้ งรอ้ งไดต้ ามกฎหมาย 11. การโพสต์ด่าว่าผู้อน่ื มกี ฏหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีขอ้ มูลจริง หรอื ถูกตัดตอ่ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผดิ ผู้ โพสตไ์ ด้ และมโี ทษจำคุกไมเ่ กิน 3 ปี ปรบั ไมเ่ กนิ 200,000 บาท 12. ไม่ทำการละเมิดลขิ สทิ ธ์ผิ ใู้ ด ไม่วา่ ข้อความ เพลง รปู ภาพ หรอื วดิ ีโอ 13. ส่งรปู ภาพแชรข์ องผู้อ่ืน เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผดิ ถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชงิ พาณิชย์ หารายได้ นี่เป็นเพียงส่วนหน่ึงของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ซ่ึงยังมีอีกหลายประเด็นที่ส่งผล กระทบต่อการใช้งานสือ่ สงั คมออนไลน์ ดงั นั้นจึงควรรกู้ ฎกติกาการใชง้ านไว้ก่อน ก็จะช่วยป้องกนั ไมใ่ ห้เราเสย่ี ง ต่อการทำผดิ กฎหมายได้ ใบความรู้ เรอื่ ง การละเมดิ ลิขสิทธิใ์ นโลกออนไลนท์ ่คี วรรู้

การละเมิดลิขสิทธิ์ หมายถึงการนําผลงานของผู้อ่ืนมาใช้ เผยแพร่ ดัดแปลง ทําซ้ำ โดยผู้เป็นเจ้าของ ผลงานไมอ่ นุญาตหรอื ไม่ไดร้ บั ทราบ ปกติแลว้ กรรมสิทธิ์ และลขิ สทิ ธ์ขิ องผ้สู รา้ งสรรค์โดยปริยาย โดยหลัก ๆ ลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ที่ควรรู้จะเกี่ยวข้องเพียง 3 เรื่อง เท่าน้ัน ได้แก่ ลิขสิทธ์ิสิทธิบัตร เคร่ืองหมายการค้า ส่วนพระราชบัญญัติตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้องกับแผนผงั ภูมวิ งจรรวม ความลับทางการค้า ส่ิงบ่งชี้ ภูมิศาสตร์ การคุ้มครองพันธุ์พืช จะไม่ได้สอนในวิชากฎหมายลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ที่ควรรู้ แต่มี พระราชบัญญัติการคุ้มครองกฎหมายลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ท่ีควรรู้จะเก่ียวข้องกับกฎหมายลิขสิทธิ์ในโลก ออนไลนท์ ีค่ วรร้คู อื 1. พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (Trade Marks) เป็นเร่ืองเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า 2. พระราชบัญญัติสิทธิบัตร (Patent) พระราชบัญญัติสิทธิบัตรของไทยจะครอบคลุมถึง สิ ท ธิ บั ต ร แ ล ะ ก า ร อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ Design) ท า ง WIPO ได้ แ ย ก Design อ อ ก ต่ า ง ห า ก และมีบางประเทศทีแ่ ยกกฎหมาย Design ออกต่างหากจากสิทธบิ ตั ร แนวคดิ การให้ความคมุ้ ครองทรพั ยสินทางปญั ญา 1. เพอื่ ตอบแทนความคดิ สร้างสรรคข์ องบคุ คล 2. เพื่อสง่ เสรมิ และจงู ใจใหส้ ร้างสรรคผ์ ลงาน 3. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหส้ ่งเสริมใหม้ ีการเปิดเผยความร้สู ่สู ังคม 4. เพือ่ ป้องกนั การแขง่ ขอั ันไมเ่ ปน็ ะรรม 5. กระตุ้นการแข่งขนั โดยเสรี 6. เพอ่ื คุ้มครองผ้บู ริโภค 7. เพื่อรักษาผลประโยชนท์ างการคา้ ระหว่างประเทศ สิทธขิ องเจ้าของลขิ สิทธ์ใิ นโลกออนไลนท์ ค่ี วรรู้ ผูท้ รงสทิ ธิในลิขสิทธิ์ในโลกออนไลนท์ ี่ควรรู้มีสทิ ธทิ ี่จะหวงกันไม่ให้ผอู้ ่ืนมาใช้ผลงานทางปัญญาท่ีตนได้ สรา้ งสรรค์หรือพฒั นาขน้ึ เรยี กว่า สิทธเิ ด็ดขาด หรอื สิทธแิ ตเ่ พียงผู้เดยี ว (Exclusive rights) มีสทิ ธจิ าํ หนา่ ยจา่ ยโอนหรอื ทาํ ให้เกดิ ภาระตดิ พนั ใด ๆ แกล่ ขิ สิทธิ์ในโลกออนไลนท์ ่คี วรรู้ของตน มสี ทิ ธทิ ่จี ะฟอ้ งคดีแพ่งหรือระงบั การละเมดิ และเรยี กค่าสินไหมทดแทน มีสทิ ธใิ นการดาํ เนนิ คดอี าญาตามพระราชบญั ญตั ิและประมวลกฎหมายอาญา 1. การกระทาํ อยา่ งใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปน้ี 1.1 ทําซาํ้ หรอื ดัดแปลง ซ่งึ งานอนั มีลขิ สทิ ธิ์ 1.2 เผยแพร่ตอ่ สาธารณชน ซึง่ งานอันมลี ขิ สทิ ธิ์ 2. แกง่ านอันมีลิขสทิ ธิ์ 3. โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ตามมาตรา 15 (5) ต้องระวางโทษปรับต้ังแต่20,000 ถึง 200,000 บาท (มาตรา 69) บทลงโทษ

มคี วามผิดทั้งทางแพง่ และทางอาญา ผลกระทบของการละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ในโลกออนไลนท์ ีค่ วรรู้ - ทําให้เกิดการฟ้องร้องดําเนินคดีเพ่ือโต้แย้งสิทธ์ิในความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ที่ควรรู้ ระหวา่ งกันข้นึ - ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจการส่งออกไทย ก่อให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือแก่นานาชาติ เป็นเหตุให้ผู้ ส่งออกชาวไทยไม่สามารถส่งสินค้าไปจําหน่ายที่ต่างประเทศได้ ทําให้สูญเสียรายได้และลดการขยายตัวของ ตลาดสง่ ออก - ถูกกดดันจากต่างประเทศที่เป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิในโลกออนไลน์ท่ีควรรู้ ก่อให้เกิดความไม่ม่ันใจแก่นัก ลงทุนในการลงทนุ ภายในประเทศ - ผู้สร้างสรรค์ขาดแรงจูงใจในการสร้างสรรค์งานใหม่เน่ืองจากการถูกลอกเลียนแบบ ส่งผลให้ขาดการ พัฒนานวัตกรรม ต้องนําเข้าความรู้และเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทําให้การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นไปอย่าง ลา่ ช้า วิธกี ารป้องกันสิทธิในลขิ สิทธ์ใิ นโลกออนไลนท์ ี่ควรรู้ - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมัน่ ลงสํารวจพน้ื ท่ีเขา้ ขา่ ยทจ่ี ะมกี ารละเมดิ ลิขสทิ ธิใ์ นโลกออนไลน์ทีค่ วรรู้ และ ดําเนินการปราบปรามการละเมิดหรือการกระทําที่ผิดกฎหมายเก่ียวกับลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ที่ควรรู้อย่าง จริงจัง- จัดมาตรการคุ้มครองสทิ ธิในลิขสิทธใ์ิ นโลกออนไลน์ที่ควรรู้ ณ จดุ นําเข้า – ส่งออก ตัวอยา่ งเชน่ สินค้า ปลอมหรือเลยี นเครอื่ งหมายการค้า หรอื สินค้าทท่ี ําซํ้าหรอื ดัดแปลงงานอันมลี ิขสิทธ์ิ เปน็ ตน้ - จัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าพนักงานตํารวจและเจ้าหน้าที่ กรมศุลกากรให้เข้าใจถึงสิทธิในลิขสิทธิ์ใน โลกออนไลนท์ ่ีควรรู้ - ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนทราบถึงการกระทําท่ีถือเป็นการละเมิดซ่ึงสิทธิในลิขสิทธิ์ในโลก ออนไลน์ที่ควรรู้ และโทษทีไ่ ด้รับ เช่น จดั พิธีทําลายของกลางคดลี ะเมดิ ลิขสิทธ์ิในโลกออนไลน์ท่ีควรรู้ เพอ่ื มิให้ เกดิ การกระทําอนั เป็นเยีย่ งอยา่ ง เปน็ ตน้ - รณรงค์ให้ประชาชนไม่สนับสนุนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ท่ีเกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์ท่ี ควรรู้

แบบทดสอบ ครัง้ ท่ี 9 คำช้แี จง ใหผ้ เู้ รยี นเลอื กคำตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพียงข้อเดียวแลว้ ทำเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ 1. ข้อใดกลา่ วถึงอินเทอร์เน็ตไดถ้ กู ต้องท่สี ดุ ก. เป็นการเชื่อมต่อกนั ระหวา่ งเครือขา่ ย ข. เปน็ การเชือ่ มต่อกันระหวา่ งบุคคลกบั บุคคล ค. เป็นการเชื่อมต่อกนั ระหว่างบุคคลกบั องคก์ ร ง. เป็นการเชือ่ มต่อกนั ระหว่างองค์กรกบั องคก์ ร 2.ไปรษณยี ์อเิ ล็กทรอนิกส์ คอื ข้อใด ก. Chat ข. E -mail ค. Net ง. Web 3. มาตราที่ 14 ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางทาไมเ่ กินกป่ี ี ก. 1 ปี ข. 5 ปี ค. 10 ปี ง. 15 ปี 4. มาตราที่ 8 มฐี านความผิด คือ การดักข้อมลู คอมพวิ เตอรแ์ ล้วมีโทษจำคุกก่ีปี ก. 1 ปี หรือปรบั ไม่เกินหกหม่ืนบาท หรือท้ังจำท้งั ปรับ ข. 2 ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หกหมื่นบาท หรือท้ังจำท้ังปรับ ค. 3 ปี หรอื ปรับไมเ่ กินหกหม่ืนบาท หรือทง้ั จำทงั้ ปรับ ง. 4 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ หกหม่ืนบาท หรือทง้ั จำทั้งปรบั 5. พระราชบญั ญัติว่าดว้ ยการกระทำความผดิ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 วา่ ด้วยเรอื่ งอะไร ก. ความผดิ เกย่ี วกบั กฎหมาย ข. ความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ ค. ความผิดเกย่ี วกับพระราชบัญญตั ิ ง. ความผดิ เกี่ยวกับพนักงานเจา้ หน้าที่ 6. มาตรา ๖ ฐานความผดิ วา่ ด้วยการลว่ งรมู้ าตราป้องกนั การเข้าถงึ ระบบคอมพวิ เตอร์ ต้องระวางโทษตามขอ้ ใด

ก. ทั้งจำท้งั ปรับ ข. จำคกุ ไม่เกนิ หน่งึ ปี ค. ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ง. ถกู ทกุ ขอ้ 7. “ขอ้ มลู จราจรทางคอมพวิ เตอร์” หมายความว่าอยา่ งไร ก. ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อส่ือสารของระบบคอมพวิ เตอร์ ข. ข้อมูล ข้อความ คำสงั่ ชุดคำสง่ั หรอื สง่ิ อนื่ ใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพวิ เตอร์ ค. ถกู ทง้ั ข้อ ก. และ ข. ง. ไมม่ ีข้อถูก 8. การกระทำผดิ ในข้อใดต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไมเ่ กินหา้ ปี หรอื ปรับไมเ่ กินหนงึ่ แสนบาท หรือท้งั จำทัง้ ปรับ ก. การกระทำที่กอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายแก่ประชาชน ไมว่ ่าความเสยี หายน้ันจะเกิดขึน้ ในทนั ทีหรือใน ภายหลังและไมว่ า่ จะเกิดขน้ึ พร้อมกันหรือไม่ ข. เป็นการกระทำทน่ี ่าจะทำใหผ้ ู้อื่นนน้ั เสยี ชอ่ื เสียง ถกู ดหู ม่ิน ถูกเกลยี ดชัง หรอื ได้รับความอับอาย และภาพนน้ั เปน็ ภาพท่เี กดิ จากการสรา้ งขน้ึ ตัดต่อ ค. เป็นการกระทำโดยประการที่นา่ จะเกิดความเสยี หายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ ทีเ่ กี่ยวกับการรักษาความม่นั คงปลอดภยั ของประเทศ ง. นำเขา้ สรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ซง่ึ ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์อันเปน็ เท็จ โดยประการท่ีน่าจะเกดิ ความเสยี หาย ต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตืน่ ตระหนกแกป่ ระชาชน 9. ผใู้ ดกระทำโดยมิชอบดว้ ยวิธีการทางอิเล็กทรอนกิ สเ์ พอื่ ดักรบั ไวข้ องผอู้ ่นื ที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบ คอมพวิ เตอร์ จะตอ้ งระวางโทษตามข้อใด ก. จำคุกไม่เกนิ หา้ ปี ข. จำคกุ ไมเ่ กินสปี่ ี ค. ปรับไมเ่ กินแปดหม่นื บาท ง. ปรับไม่เกนิ หกหมนื่ บาท 10. ฐานในขอ้ ใดตอ่ ไปนต้ี ้องระวางโทษจำคุกต้ังแตส่ ามปถี ึงสิบหา้ ปี และปรบั ต้ังแตห่ กหมื่นบาทถึงสามแสน บาท ก. นำเข้าสรู่ ะบบคอมพวิ เตอรซ์ ่ึงข้อมูลคอมพวิ เตอร์ปลอมใดๆ อนั เป็นความผดิ เก่ยี วกบั ความม่ันคง แหง่ ราชอาณาจักร

ข. ผ้ใู ดเขา้ ถงึ โดยมชิ อบซง่ึ ระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีมาตรการป้องกันการเข้าถงึ โดยเฉพาะและมาตรการ นั้นมไิ ดม้ ีไว้สำหรับตน ค. การกระทำโดยประการทีน่ ่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพวิ เตอร์ที่เกยี่ วกบั การรักษาความ มนั่ คงปลอดภัยของประเทศ ง. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซง่ึ ข้อมูลคอมพิวเตอรใ์ ดๆ ทม่ี ีลกั ษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้นั ประชาชนทวั่ ไปอาจเขา้ ถึงได้ เฉลย 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ข 6. ง 7. ก 8. ง 9. ง 10. ค

บันทกึ ผลหลงั การจดั กระบวนการเรยี นรู้ คร้งั ท่ี........ วนั ท่ี.......เดอื น............................พ.ศ............... ผลการใชแ้ ผนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. จำนวนเนอ้ื หากบั จำนวนเวลา  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบเุ หตุผล………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การเรยี งลำดับเนือ้ หากับความเข้าใจของผเู้ รยี น  เหมาะสม  ไมเ่ หมาะสม ระบเุ หตผุ ล………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การนำเขา้ สบู่ ทเรยี นกับเน้อื หาแตล่ ะหัวข้อ  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบเุ หตผุ ล………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้กบั เนื้อหาในแต่ละข้อ  เหมาะสม  ไมเ่ หมาะสม ระบเุ หตุผล………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การประเมนิ ผลกับตัวช้วี ัดในแต่ละเนอ้ื หา  เหมาะสม  ไมเ่ หมาะสม ระบเุ หตุผล………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ผลการเรียนรูข้ องผู้เรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการจดั กระบวนการเรยี นรขู้ องครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ................................................ ผบู้ นั ทึก () ครู กศน.ตำบล ความเหน็ ของผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................. ............................................................................. ลงช่ือ .................................................. (นางมาลี เพง็ ดี) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอหนองไผ่

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผ้เู รยี น ชื่อโครงการ/กิจกรรม........................................................................................................................ ชื่อโรงเรียน/สถานศกึ ษา …………………………………………………………………………………………………….. ชอ่ื หวั หนา้ โครงการ/กิจกรรม............................................................................................................. คำชี้แจง ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมายถูก () ลงในช่องระดับพฤติกรรมของผู้เรียน โดยมีเกณฑ์ระดับคุณภาพการ ประเมินดังนี้ 5 มพี ฤตกิ รรมการเรียนรู้ มากทส่ี ดุ 4 มพี ฤติกรรมการเรียนรู้ มาก 3 มีพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ปานกลาง 2 มพี ฤตกิ รรมการเรียนรู้ น้อย 1 มพี ฤติกรรมการเรียนรู้ น้อยท่สี ดุ เกณฑก์ ารพจิ ารณาระดับคณุ ภาพ คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 0 - 50 ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ 50 - 69 ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 70 – 79 ระดับคณุ ภาพ ดี คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 80 – 89 ระดับคณุ ภาพ ดมี าก คะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 90 - 100 ระดับคุณภาพ ดีเยย่ี ม พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดบั พฤตกิ รรม 54321 1. ความต้งั ใจในการทำงาน 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. ความกระตอื รอื รน้ 4. การตรงตอ่ เวลา 5. ผลสำเร็จของงาน 6. การทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ 7. มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ 8. มีการวางแผนในการทำงาน 9. การมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็นในกลมุ่ 10. การมสี ่วนร่วมในการแกไ้ ขปญั หาในกลุ่ม

ลงชือ่ ......................................................................ผปู้ ระเมิน ............../.............................../..................... แผนการจดั การเรียนรรู้ ายภาค ครงั้ ที่ 10 เรื่อง โจทยป์ ัญหา การคณู การหาร (บญั ญตั ิไตรยางศ์) และการประยุกต์ เวลาเรียน 6 ชวั่ โมง แนวคดิ การแก้โจทย์ปัญหาการคูณและการหาร ดำเนินการโดยการอ่านโจทย์ให้เข้าใจ หาแนวคิด โจทย์บอก และถามอะไร คิดหาคำตอบและตรวจสอบ เพ่ือใหส้ มเหตุสมผล ตัวชว้ี ดั แกโ้ จทย์ปัญหาการคูณ การหาร (บัญญตั ิไตรยางศ์) ของจำนวนนับ และนำไปประยุกตใ์ ช้ เน้อื หา โจทย์ปัญหา การคณู การหาร (บญั ญตั ิไตรยางศ)์ และการประยุกต์ ข้ันตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขนั้ ตอนที่ 1 การสร้างแรงบันดาลใจ (Passion : P) 1. ครูทักทายผู้เรียน และชวนคิดชวนคุยเก่ียวกับเร่อื งที่จะเรียนรู้เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ และมีความกระตือรือร้นในการเช่ือมโยงและสร้างความพร้อมท่ีจะเรียนรู้หรือทำกิจกรรมการเรียนรู้ตาม แผนการจดั การเรยี นรู้ครั้งน้ี และเพื่อทบทวนความรู้เดมิ สู่การเตรียมความพร้อมในการรับเน้อื หาใหม่ โดยครใู ห้ ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง “โจทย์ปัญหา การคูณ การหาร (บัญญัติไตรยางศ์) และการประยุกต์” จำนวน 5 ข้อ โดยใชเ้ วลา 10 นาที 2. ครชู ี้แจงวตั ถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม การวดั และประเมินผลของการเรียนรู้ในครัง้ นี้ ทส่ี อดคล้อง กับตัวชวี้ ัดตามแผนการจดั การเรียนรคู้ รั้งนี้ เพื่อใหผ้ ู้เรยี นเข้าใจอยา่ งชดั เจนวา่ ผูเ้ รียนจะตอ้ งเรยี นรู้ให้บรรลุ ตัวช้วี ัด ท่กี ำหนดตามแผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 4 เร่ือง“โจทยป์ ัญหา การคูณ การหาร (บัญญตั ิไตรยางศ)์ และ การประยุกต”์ พร้อมทงั้ แนะนำแหลง่ ศึกษาค้นควา้ เพ่มิ เตมิ จากอินเทอรเ์ น็ต ซึ่งผูเ้ รยี นสามารถไปเรียนรู้ไดด้ ว้ ย ตนเองและทำกจิ กรรมตามที่ไดร้ บั มอบหมายด้วย ท้ังนี้ ครูควรจะชีแ้ จงให้ผู้เรยี นทราบวา่ ในการพบกล่มุ ตาม แผนการจดั การเรียนรู้คร้งั นี้ ผู้เรียนจะตอ้ งเรียนรแู้ ละทำกิจกรรมทส่ี อดคล้องกับเนื้อหาท่ีเรยี น โดยปฏิบัติ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ได้แก่ การศึกษาคลปิ วดิ โี อ และการแลกเปลีย่ นเรียนรู้โดยการอภปิ รายรว่ มกบั เพื่อนในกลมุ่ รวมท้ังมีการทดสอบหลงั เรยี นดว้ ย

นอกจากนี้ ในการพบกลุ่มแต่ละครัง้ นั้น ครูจะมอบหมายงานให้ผู้เรียนไปเรียนรดู้ ้วยวิธีการเรียนรู้ด้วย ตนเอง ซ่ึงวิธีการเรียนรู้ดว้ ยตนเองจะต้องเกดิ ข้ึนในทกุ ๆ ตวั ช้ีวัดและเน้อื หาท่ีกำหนด โดยผู้เรยี นจะต้องปฏิบตั ิ กจิ กรรมทีก่ ำหนดให้ด้วยวธิ ีเรยี นร้อู อนไลน์ และศกึ ษาจากเอกสารประกอบการเรยี น ดังนน้ั ครูจะต้องเช่ือมโยง รายละเอียดดังกล่าวข้างต้นให้ผู้เรียนได้เกิดความเข้าใจและเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้น เพราะ การมอบหมายงานให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ด้วยวิธีเรียนรู้ด้วยตนเองน้ัน ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ออนไลน์ผ่าน อินเทอรเ์ นต็ และศกึ ษาเอกสารประกอบการเรียน 3. ครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนท้ังกลุ่มร่วมกันสนทนา เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะในการฟัง พูด คิดวิเคราะห์ การทำงานรว่ มกบั ผู้อ่นื การคิดสรา้ งสรรค์ ความรับผิดชอบ และการนำความรใู้ นเนื้อหามาใช้ โดยครบู รู ณาการ เน้ือหาการเรียนรู้ มีการใช้สื่อเทคโนโลยีท่ีเป็นคลิปวิดีโอจาก Youtube ที่สมั พันธก์ ับเนื้อหา เรื่อง โจทย์ปัญหา การคณู การหาร (บัญญตั ไิ ตรยางศ์) และการประยุกต์ เร่อื งท่ี 1 โจทยป์ ญั หาการคูณและการหารบัญญตั ิไตรยางศ์ https://www.otpchelp.com/elearning-view.php?getVideoNo=1142 ช่วงเวลา 11.45 นาที เรื่องท่ี 2โจทยป์ ญั หาร้อยละเกย่ี วกบั การซ้ือขาย h https://www.youtube.com/watch?v=ZVCiP_X_Xpc ชว่ งเวลา 12.31 นาที หลงั จากที่ไดช้ มคลิปวดิ ีโอแล้ว ครูได้อธบิ ายตามเน้ือหาในบทเรยี น ประเดน็ ท่ี 1 โจทยป์ ญั หาการคูณ การหาร บญั ญัติไตรยางศ์ ครอู ธบิ าย เร่ือง โจทย์ปัญหาการคูณ การหาร บัญญัติไตรยางศ์ ตามหนงั สือเรยี นรายวชิ าคณติ ศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) หน้า 125 -127 ประเด็นที่ 2 โจทยป์ ญั หารอ้ ยละเกีย่ วกบั การซื้อขาย ครูอธบิ าย เร่ือง โจทย์ปัญหาร้อยละเกยี่ วกบั การซือ้ ขาย ตามหนังสอื เรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หนา้ 128 ครใู หผ้ ู้เรยี นแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เปน็ รายบุคคลและรายกลุ่ม หลังจากนัน้ ครูและผู้เรียนสรปุ ผลการเรยี นรู้ ร่วมกนั และให้ผู้เรยี นสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รยี นรลู้ งในสมุดบนั ทึกผลการเรยี นรขู้ องตน 4. ครูให้ผู้เรียนศึกษา ตามหนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพิ่มเติม เร่ือง โจทย์ปัญหา การคูณ การหาร (บัญญัติไตรยางศ์) และการประยุกต์ หน้า 125 -128 5. ครูเชื่อมโยงสิง่ ทไ่ี ด้เรียนรู้จากการศกึ ษาคลิปวิดโี อทัง้ 2 เรอื่ ง โจทย์ปัญหาการคณู บัญญัติไตรยางศ์ และโจทย์ปญั หาร้อยละเก่ียวกบั การซ้ือขาย ให้ผู้เรียนรายบคุ คลและรายกลมุ่ ตอบคำถามในประเด็น โจทย์ ปัญหาการคูณ การหาร บญั ญัติไตรยางศ์ โดยใหผ้ ู้เรียนฝกึ ทำแบบฝึกหดั เพ่ือให้ได้คำตอบทเ่ี ป็นผลลพั ธ์ของ การเรยี นรู้อนั ตรงตามวัตถุประสงค์ของการเรยี นรใู้ นคร้ังนี้ ขนั้ ตอนที่ 2 การนำไปใชป้ ระโยชน์ (Utilization : U)

1. แบง่ ผเู้ รยี นออกเปน็ กล่มุ ๆ 5 - 8 คน ให้ศกึ ษานยิ าม ตามหนงั สือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) หน้า 125 -128 เรื่อง โจทย์ปัญหาการคณู การหาร บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ และการประยุกต์ โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ และสง่ ผู้แทนนำเสนอตอ่ กล่มุ ใหญใ่ น 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 โจทย์ปัญหาการคูณ การหาร บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ ประเดน็ ท่ี 2 โจทยป์ ัญหาร้อยละเกี่ยวกับการซ้อื ขาย ครูและผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน และให้ผู้เรียนสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ลงในสมุดบันทึกผลการ เรยี นรูข้ องตน 2. ครแู นะนำแหลง่ เรียนรู้ให้กับผู้เรยี นเพอ่ื ใช้เปน็ เครอ่ื งมอื ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง อาทิ ห้องสมุด แหลง่ เรยี นรูใ้ นชุมชน หน่วยงาน สถานศึกษาต่าง ๆ รวมทงั้ การใช้อินเตอรเ์ น็ตเพ่อื การเรียนรู้ดว้ ย ตนเอง เปน็ ตน้ และให้ผ้เู รียนเป็นรายบคุ คลศึกษาเนื้อหา ในตามหนงั สือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) เร่อื ง โจทย์ปญั หาการคูณ การหาร บัญญัตไิ ตรยางศ์ และการ ประยุกต์ 3. ครดู ำเนนิ การทำหนา้ ทีน่ ำการอภปิ ราย โดยใหผ้ เู้ รียนกลุ่มใหญ่รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ คิด วเิ คราะห์ อภิปราย และวเิ คราะห์ให้ข้อมูลเพม่ิ เติมในเนื้อหาหรอื ประเด็นที่ยังไมช่ ัดเจน ตามรายละเอยี ดที่ ผูเ้ รียนไดแ้ ลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ว่ มกัน หากผูเ้ รียนกลุ่มใหญห่ รือครูเห็นวา่ ยงั ไมส่ มบูรณ์ มคี วามตอ้ งการในการ เรียนรู้เพิม่ เตมิ ครูจะช่วยเติมเต็มความร้ใู ห้กบั ผเู้ รียน หลังจากนัน้ ครแู ละผเู้ รียนสรุปส่ิงทีไ่ ด้เรียนร้ใู นภาพรวม ทงั้ หมดแล้วให้ผเู้ รยี นสรปุ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรลู้ งในสมดุ บันทึกการเรยี นรูข้ องตน หมายเหตุ : ในการดำเนินกิจกรรมกลุม่ ครูชี้แจงบทบาทหน้าที่ในการทำงานให้ผูเ้ รียนได้มีความรับผดิ ชอบรว่ มกัน ในการทำงาน ซึ่งมอบหมายให้ผู้เรียนดำเนินการแต่งต้ังประธานหรือผู้นำในการอภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้ และการมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบในภารกิจต่าง ๆ รวมถึงการแต่งต้ังเลขานุการของกลุ่มเป็นผู้จดบันทึกและ ผู้รักษาเวลา เพื่อปฏิบัติงานของกลุ่มใหญ่ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และพิจารณาว่าสมาชิกลุ่มทุกคน ควรมีความเข้าใจตรงกันว่า ตนมีบทบาทหน้าท่ีที่จะต้องช่วยให้กลุ่มทำงานได้สำเร็จ ครูควรให้คำแนะนำถึง ความสำคัญของการให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีส่วนร่วมในการอภิปรายอย่างทั่วถึง ไม่ให้มีการผูกขาดการ อภิปรายโดยผู้ใดผ้หู นึง่ และควรมกี ารจำกดั เวลาของการอภปิ รายแตล่ ะประเด็น ในระหว่างการทำกิจกรรมของผู้เรยี น ครูมีบทบาทในการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน คอย กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ โดยบันทึกลงในแบบบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของ ผู้เรยี น และเครอ่ื งมอื ประเมนิ การสงั เกตแบบประมาณค่า 4. ครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนท้ังกลุ่มร่วมกันสนทนา เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะในการฟัง พูด คิดวิเคราะห์ การทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื การคิดสรา้ งสรรค์ ความรับผดิ ชอบ และการนำความรใู้ นเนอื้ หามาใช้ โดยครบู รู ณาการ เนื้อหาการเรียนรู้ มีการใช้ส่ือเทคโนโลยีที่เป็นคลิปวิดีโอจาก youtube ท่ีสัมพันธ์กับเนื้อหา ท้ังนี้ครูเชื่อมโยง

สิ่งที่ได้เรียนรู้ตามข้ันตอนท่ี 1 ในการนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ และประยุกต์ใช้ผ่านคลิปวิดีโอ โดยครูเปิดคลิป วดิ ีโอ ดังนี้ เรอื่ งท่ี 1 โจทยป์ ญั หาการคูณและการหารบัญญัติไตรยางศ์ https://www.otpchelp.com/elearning-view.php?getVideoNo=1142 ช่วงเวลา 11.45 นาที เร่อื งท่ี 2โจทย์ปัญหาร้อยละเกย่ี วกบั การซื้อขาย h https://www.youtube.com/watch?v=ZVCiP_X_Xpc ชว่ งเวลา 12.31 นาที หลงั จากนน้ั ครูดำเนนิ การ ดงั นี้ (1) ครูบรรยายเน้ือหาตามใบความรู้สำหรับครู เร่ือง “เร่ือง โจทย์ปัญหาการคูณ การหาร บัญญตั ิไตรยางศ์ และการประยกุ ต”์ เพื่อใชส้ ำหรับประกอบกจิ กรรมการเรียนรู้ ในส่วนของผู้เรียนให้ศึกษาใบความรู้สำหรับผู้เรียน ประกอบการบรรยายของครตู ามใบความรู้สำหรับ ผู้เรียน เร่ือง “สมบัติของการบวก การลบ การคูณ และการหารจำนวนจริง เลขยกกำลัง ท่ีมีเลขชี้กำลังเป็น จำนวนตรรกยะ และจำนวนจรงิ ในรปู ของกรณฑ์” (2) ครูอธิบายและให้ผู้เรียนฝึกทำแบบฝึกหัดโจทย์ เร่ือง “โจทย์ปัญหาการคูณ การหาร บัญญัติไตรยางศ์ และการประยุกต์” พร้อมทั้งให้ผู้เรียนร่วมปฏิบัติในการสาธิตของครูด้วย ทั้งนี้เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้แลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยให้ผู้เรยี นตั้งประเด็นข้อสงสัย หรอื สิ่งท่ีต้องการเรยี นรใู้ นกระบวนการของการ ฝกึ ทำแบบฝึกหดั 5. ครูและผู้เรยี นอภปิ รายและสรปุ ผลการเรียนรู้รว่ มกนั ข้ันตอนท่ี 3 การสะท้อนความคดิ จากการเรียนรู้ (Reflection : R) 1. แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 - 8 คน ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มลงมือฝึกแก้โจทย์ เรือ่ ง “โจทย์ปัญหา การคูณ การหาร บัญญัติไตรยางศ์ และการประยุกต์” ตามหนังสือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ พค11001 ระดับ ประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หน้า 127 และหน้า 129 โดยผู้เรียนแต่ละกลุ่มฝึกทำแบบฝึกหัด เร่ือง “โจทยป์ ัญหาการคณู การหาร บัญญตั ไิ ตรยางศ์ และการประยุกต”์ ตามใบกจิ กรรมของผู้เรียน 2. ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มตามข้อ 1 ทำแบบฝึกหักตามกิจกรรม เรื่อง “โจทย์ปัญหาการคูณ การหาร บญั ญตั ิไตรยางศ์ และการประยุกต”์ ท้ังน้ี ครูจะต้องกำกับการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนจนกิจกรรมแล้วเสร็จ ตามใบกิจกรรมสำหรับครู เรอ่ื ง “โจทยป์ ญั หาการคูณ การหาร บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ และการประยกุ ต”์ 3. ให้ผู้เรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอการแก้โจทยเ์ ลขกิจกรรมตาม ข้อที่ 1 เร่อื ง “โจทย์ปัญหาการคณู การ หาร บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ และการประยุกต”์ 4. ครูให้ผู้เรียนสะท้อนความคิดในการเรียนรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้และการปฏิบัติการ จากข้ันตอนที่ 1 ถึง ข้นั ตอนท่ี 3 น้ี 5. ครูและผเู้ รียนอภิปรายและสรุปผลการเรียนรรู้ ว่ มกัน ขน้ั ตอนท่ี 4 การตดิ ตามประเมินและแก้ไข (Action : A)

1. ครูสนทนากับผู้เรียนเกี่ยวกับเร่ืองท่ีได้เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้นี้ โดยครูสุ่มผู้เรียนตาม ความสมัครใจจำนวน 2 – 3 คน ให้ตอบคำถามในประเด็น ต่อไปน้ี ประเด็น ที่ 1 “โจทยป์ ญั หาการคณู การหาร บญั ญตั ไิ ตรยางศ์” โจทยถ์ ามว่า ถา้ เงินไทยประมาณ 35 บาท แลกเงนิ ดอลลารส์ หรัฐอเมริกาได้ 1 ดอลลาร์ เงินไทย 1,400 บาท จะแลกเงนิ ดอลลาร์สหรฐั อเมรกิ าไดป้ ระมาณกดี่ อลลาร์ แนวคำตอบ ประเด็น ท่ี 2 รถยนต์คันหนึ่งแล่นระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 5 ลิตร ถ้าแล่นในระยะ 150 กิโลเมตร ต้องใช้น้ำมนั กีล่ ติ ร แนวคำตอบ

2. ครูและผู้เรียนอภิปรายและสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน ตาม PowerPoint สำหรับครู เร่ือง “การ แก้ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางค์” เพื่อเป็นการสรุปภาพรวมของกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิด ความเข้าใจในกจิ กรรมการเรยี นรูม้ ากย่ิงขึ้น 3. ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง โจทย์ปัญหาการคูณ การหาร บัญญัติไตรยางศ์ และการ ประยุกต์ จำนวน 10 ขอ้ โดยใช้เวลา 10 นาที 4. ครแู ละผ้เู รียนสรุปภาพรวมสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรูร้ ว่ มกนั นอกจากนี้ ในตอนท้ายของการพบกลุ่ม หลังจากเสร็จส้ินขั้นตอนที่ 3 ครูการมอบหมายงานให้ เรยี นรูด้ ้วยตนเอง รายละเอียดดังนี้ การมอบหมายงานให้เรยี นรดู้ ้วยตนเอง 1. ครูชี้แจงให้ผู้เรียนทราบว่า ในการพบกลุ่มแต่ละคร้ังผู้เรียนจะได้รับมอบหมายงานให้ไปเรียนรูด้ ้วย วิธีเรยี นรู้ด้วยตนเองในลักษณะที่ครจู ะมอบหมายงานให้ผู้เรียนไปศึกษา ตามหนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพ่ิมเติม เรื่อง โจทย์ปัญหา การคูณ การหาร (บัญญัติไตรยางศ์) และการประยุกต์ หน้า 125 -128 ทั้งภาคทฤษฎแี ละปฏิบัติ โดยให้ศึกษาเน้ือหาและปฏิบัติ กจิ กรรมทา้ ยเร่อื ง รายละเอียดของเน้อื หา แบง่ ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ สว่ นที่ 1 เนื้อหาการเรียนรูต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ครง้ั นี้ สว่ นท่ี 2 เนอ้ื หาการเรียนรู้เพม่ิ เติมในหนงั สือเรียนเรยี นดังกล่าว 2. ครูมอบหมายงานใหผ้ ู้เรยี นเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยให้ไปศึกษา ตามหนังสอื เรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพ่ิมเติม เรื่อง โจทย์ปัญหา การคูณ การหาร (บัญญัติไตรยางศ์) และการประยุกต์ หน้า 125 –129 รายละเอียดของกิจกรรมท่ีผู้เรียนจะต้องปฏิบัติ แบ่ง ออกเป็น 2 สว่ น ดังน้ี สว่ นท่ี 1 เน้ือหาการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรยี นรคู้ รั้งนี้ ได้แก่ โจทย์ปัญหา การคูณ การหาร (บัญญตั ิไตรยางศ)์ และการประยุกต์ หน้า 125 -128 (กิจกรรมทา้ ยเรอื่ งในหนงั สือเรยี น 127 และหนา้ 129) ส่วนที่ 2 มอบหมายงานให้ผู้เรยี นเรียนร้ดู ้วยตนเอง ซึ่งเน้ือหาการเรียนรเู้ พ่ิมเตมิ ใน “หนังสือเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ไดแ้ ก่ 1) ความหมายของรอ้ ยละ (หน้า 121-124) (กิจกรรมท้ายเร่อื งในหนังสือเรยี น 123 -124) 2) ความสมั พนั ธ์ระหว่างเศษส่วนและร้อยละ (หน้า 124-125) (กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งในหนงั สือเรียน 125) หลงั จากน้ัน ครูและผู้เรียนมีการนัดหมายทบทวน ตรวจสอบ และแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านทาง สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ ตอ่ ไป

หมายเหตุ : ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ซ่ึงการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วย ตนเองนั้น อาจมีความแตกต่างกันบ้างในขั้นตอน โดยพิจารณาจากพื้นฐานของผู้เรียน ในกรณีท่ีผู้เรียนมี พ้ืนฐานน้อยหรือไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็ควรจัดการเรียนรู้พื้นฐานท่ีจำเป็นและพอเพียงกับผู้เรียน หลังจากน้ันให้ ผู้เรียนได้ปฏิบัติด้วยตนเองในช่วงระยะหน่ึงแล้วจึงค่อยให้ผู้เรียนคิดหัวข้อที่อยากจะทำ หรือถ้าผู้เรียนมีพ้ืน ความรู้มากอ่ นแลว้ ให้คิดหวั ขอ้ ที่สนใจจะทำและใหล้ งมือปฏิบตั ิได้ สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์ พค 11001 ระดบั ประถมศึกษา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) หน้า 125-129 2. คลิปวดิ ีโอ เร่ืองที่ 1 โจทย์ปัญหาการคูณและการหารบัญญตั ิไตรยางศ์ https://www.otpchelp.com/elearning-view.php?getVideoNo=1142 ชว่ งเวลา 11.45 นาที 3. คลปิ วดิ โี อ เรอ่ื งท่ี 2โจทยป์ ัญหาร้อยละเกี่ยวกบั การซื้อขาย h https://www.youtube.com/watch?v=ZVCiP_X_Xpc ชว่ งเวลา 12.31 นาที การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วม ความตัง้ ใจ และความสนใจของผเู้ รียน 2. ผลการทดสอบกอ่ นและหลงั เรียน 3. ผลการออกแบบและสรา้ งสรรคน์ วัตกรรมและส่งิ ทีต่ อ้ งการพฒั นา/ชิ้นงาน/ผลงาน 4. ผลการประเมินความพึงพอใจของผ้เู รยี น รายละเอยี ดสอ่ื วัสดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1.แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน เรอื่ ง “โจทยป์ ญั หาการคูณ การหาร บญั ญัติไตรยางศ์ และการประยุกต์” 2. ใบความรสู้ ำหรบั ผูเ้ รยี น เรื่อง โจทยป์ ัญหาการคูณ การหาร บัญญตั ไิ ตรยางศ์ และการประยุกต์ 3. คลิปวิดโี อ เรื่องท่ี 1 โจทย์ปัญหาการคูณและการหารบัญญตั ิไตรยางศ์ https://www.otpchelp.com/elearning-view.php?getVideoNo=1142 ช่วงเวลา 11.45 นาที 4. คลิปวิดโี อ เรอ่ื งที่ 2โจทยป์ ัญหารอ้ ยละเกยี่ วกับการซอื้ ขาย

https://www.youtube.com/watch?v=ZVCiP_X_Xpc ช่วงเวลา 12.31 นาที 6. แบบฝึกหัดที่ 1 พร้อมเฉลย 8. PowerPoint สำหรบั ครู เร่อื ง การแกป้ ญั หาโดยใช้บญั ญตั ไิ ตรยางค์ 9. บทสรปุ ประกอบ PowerPoint สำหรับครู เรื่อง การแก้ปญั หาโดยใชบ้ ัญญัตไิ ตรยางศ์ 10. แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง “การแกป้ ัญหาโดยใช้บัญญตั ิไตรยางค์” แบบทดสอบก่อน-หลัง เรียน เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาการคณู การหาร บญั ญัตไิ ตรยางศ์ และการประยุกต์ คำชแ้ี จง แบบทดสอบก่อนเรียน มจี ำนวนทงั้ หมด 10 ขอ้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สมุด 12 เลม่ ราคา 180 บาท สมดุ 7 เลม่ ราคากี่บาท ก. 90 บาท ข. 105 บาท ค. 120 บาท ง. 135 บาท 2. พ่อค้าขายของขาดทนุ 10% หมายความวา่ อยา่ งไร ก. ซ้อื ของ 90 บาท ลดราคา 10 บาท ข.ซอื้ ของ 90 บาท ขายไป 100 บาท ค. ซอื้ ของ 100 บาท ขายไป 90 บาท ง. ซ้ือของ 110 บาท ลดราคา 10 บาท 3.ซอื้ โตะ๊ มา 1,999 บาท ขายไป 2,380 บาท ได้กำไรกี่บาท ก. 481 บาท ข. 471 บาท ค. 381 บาท ง. 371 บาท 4. โรงเรยี นแหง่ หนึง่ มีนกั เรียนท้งั หมด 2,520 บาท เป็นนกั เรียนหญิง 45% โรงเรยี นแหง่ นีม้ นี กั เรียนชายก่ีคน ก. 1,496 คน ข. 1,486 คน ค. 1,396 คน ง. 1,386 คน 5. วิทยุราคาเคร่ืองละ 1,785 บาท ขายไป 2,142 บาท ได้กำไรก่ีเปอร์เซ็นต์

ก. 10% ข. 15% ค. 20% ง. 25% 6. แหวนเพชรวงหนึง่ ราคา 26,700 บาท ขายไปขาดทนุ 8% ขายไปราคาเท่าไร ก. 22,564 บาท ข. 23,564 บาท ค. 24,565 บาท ง. 25,564 บาท 7. ลดราคากล้องถา่ ยรูป 5% ถา้ ติดราคาไว้ 28,500 บาท จะขายใหล้ ูกค้ากีบ่ าท ก. 27,000 บาท ข. 27,075 บาท ค. 27,250 บาท ง. 27,500 บาท 8.ขายโทรทัศน์เครื่องหนง่ึ ราคา 20,125 บาท ไดก้ ำไร 15% ถา้ ต้องการขายให้ ได้กำไร 25% จะตอ้ งขายก่ีบาท ก. 21,975 บาท ข. 21,875 บาท ค. 20,975 บาท ง. 20,875 บาท 9.ฝากเงิน 8,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.75% ตอ่ ปี เมื่อครบปีจะไดด้ อกเบยี้ กบี่ าท ก. 60 บาท ข. 80 บาท ค. 100 บาท ง. 120 บาท 10. วีณาฝากเงินธนาคารไว้ 75,000 บาท ได้ดอกเบ้ีย 1.25% ตอ่ ปีเมื่อครบ 1 วีณาจะได้ดอกเบีย้ รวมเงินตน้ ก่ี บาท ก. 75,937.50 บาท ข. 75,193.25 บาท ค. 75,239.75 บาท ง. 75,099.75 บาท เฉลย 1.ข 2.ค 3.ค 4. ง 5.ค 6.ค 7.ข 8.ข 9.ก 10.ก

แบบฝกึ ทักษะท่ี 1 คำชีแ้ จง โจทย์ปญั หาการคูณ การหาร บญั ญตั ิไตรยางศ์ จงแสดงวธิ ีทำ 1. ชา่ งตดั กางเกง 2 ต้องใช้ผ้ายาว 3 เมตร ถา้ ตอ้ งการตัดกางเกงขนาดเดียวกนั 12 ตวั ต้องใชผ้ า้ ยาวก่เี มตร ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ ................................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................... .......................................... ......................................................................................... ..................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. จาน 1 โหล ราคา 240 บาท ถ้าคณุ แม่ซื้อ 9 ใบ ต้องจ่ายเงินเท่าใด ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. นำ้ ด่มื 1 โหล ราคา 108 บาท ถา้ คุณพ่อจ่ายเงนิ 90 บาท ต้องได้นำ้ ดมื่ กีข่ วด ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... 4. ลกู เปด็ 6 ตัว ราคา 70 บาท ถา้ เกษตรกรซื้อ 42 ตวั ต้องจา่ ยเงนิ เท่าใด .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. 5. มะมว่ ง 100 ผล ราคา 580 บาท ถา้ พ่อซื้อ 300 ผล ตอ้ งจา่ ยเงนิ เทา่ ใด ....................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. ................. .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ......................................................................

เฉลย



แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรขู้ องผู้เรียน ชื่อโครงการ/กจิ กรรม........................................................................................................................ ชอ่ื โรงเรียน/สถานศกึ ษา …………………………………………………………………………………………………….. ช่อื หัวหนา้ โครงการ/กจิ กรรม............................................................................................................. คำช้ีแจง ให้ผู้ประเมินทำเคร่ืองหมายถูก () ลงในช่องระดับพฤติกรรมของผู้เรียน โดยมีเกณฑ์ระดับ คุณภาพการประเมินดงั น้ี 5 มพี ฤติกรรมการเรียนรู้ มากทส่ี ุด 4 มีพฤติกรรมการเรยี นรู้ มาก 3 มีพฤติกรรมการเรียนรู้ ปานกลาง

2 มพี ฤติกรรมการเรยี นรู้ น้อย 1 มพี ฤติกรรมการเรียนรู้ น้อยท่ีสดุ เกณฑก์ ารพจิ ารณาระดบั คณุ ภาพ คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 0 - 50 ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 50 - 69 ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนนเฉล่ียร้อยละ 70 – 79 ระดบั คุณภาพ ดี คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 80 – 89 ระดับคุณภาพ ดมี าก คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ 90 - 100 ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดับพฤตกิ รรม 54321 1. ความตงั้ ใจในการทำงาน 2. ความรับผดิ ชอบ 3. ความกระตือรือรน้ 4. การตรงตอ่ เวลา 5. ผลสำเร็จของงาน 6. การทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืน 7. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 8. มีการวางแผนในการทำงาน 9. การมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในกลุ่ม 10. การมีส่วนรว่ มในการแก้ไขปัญหาในกล่มุ ลงช่อื ......................................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.............................../..................... บันทึกผลหลังการจัดกระบวนการเรียนรู้ ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ 1. จำนวนเนือ้ หากบั จำนวนเวลา เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ระบุเหตุผล……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การเรยี งลำดบั เน้ือหากบั ความเขา้ ใจของผูเ้ รยี น

เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ระบุเหตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การนำเขา้ สู่บทเรยี นกบั เน้ือหาแต่ละหวั ข้อ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ระบุเหตุผล……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. วิธกี ารจัดการเรยี นรกู้ ับเนื้อหาในแตล่ ะข้อ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ระบุเหตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การประเมนิ ผลกบั ตัวชีว้ ัดในแต่ละหน่วย เหมาะสม ไม่เหมาะสม ระบุเหตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการเรียนของผเู้ รยี น ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ผลการจดั การเรียนรู้ของครู ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................... .............

............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ใบความรสู้ ำหรบั ผู้เรยี น 1. วิธที ำ

2. 3.



สงิ่ ของต่อไปน้ีมีคุณภาพเหมือนกนั ใหพ้ ิจารณาราคาในร้าน ก และร้าน ข แลว้ ตอบว่าส่ิงของแต่ละ อยา่ งในร้านใดราคาถกุ กว่า



แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายภาค คร้ังท่ี 11 เร่ือง โจทย์ปญั หาของการหาพนื้ ที่ของรูปเรขาคณติ และ การหาปริมาตรและความจุของทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉากและการแก้ปญั หา เวลาเรยี น 6 ชวั่ โมง แนวคดิ โดยทั่วไปการหาพื้นท่ีรูปทรงเรขาคณิต ใช้วิธีคำนวณด้วยการแทนค่าลงในสูตรหาพื้นท่ีของรูปทรง เรขาคณิตท่ีมีสูตรรองรับอยู่แล้ว เช่น สูตรหาพื้นท่ีรูปสี่เหล่ียมผืนผ้า สูตรหาพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมคางหมู สูตรหา พ้นื ทีร่ ูปว่าว สตู รหาพ้นื ท่รี ปู สามเหลย่ี ม สตู รหาพืน้ ทรี่ ปู วงกลม ฯลฯ ตวั ช้วี ดั 1. แก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับการหาพน้ื ทข่ี องรูปเรขาคณิต 2. หาปริมาตรและความจุของ ทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉากและแก้ปัญหา เน้อื หา 1. โจทยป์ ัญหาของการหาพนื้ ทข่ี องรปู เรขาคณติ 2. การหาปริมาตรและความจขุ องทรงสเี่ หลย่ี มมุมฉากและการแกป้ ัญหา ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ข้นั ตอนที่ 1 การสร้างแรงบันดาลใจ (Passion : P) 1. ครูทักทายผ้เู รียน และชวนคิดชวนคุยเก่ยี วกับเร่ืองท่ีจะเรยี นรู้เพอ่ื กระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนเกิดความสนใจและมี ความกระตอื รือร้นในการเช่อื มโยงและสรา้ งความพร้อมทจ่ี ะเรยี นร้หู รือทำกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแผนการ จดั การเรียนรู้ครงั้ นี้ และเพ่ือทบทวนความรู้เดมิ สู่การเตรยี มความพร้อมในการรบั เน้ือหาใหม่ โดยครูให้ ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง โจทย์ปญั หาของการหาพืน้ ที่ของรูปเรขาคณิต จำนวน 10 ขอ้ โดยใช้ เวลา 10 นาที 2. ครชู ้แี จงวัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม การวดั และประเมนิ ผลของการเรยี นรู้ในคร้งั นี้ ทส่ี อดคล้องกบั ตวั ชว้ี ัดตามแผนการจดั การเรียนรูค้ รงั้ น้ี เพ่ือให้ผ้เู รียนเขา้ ใจอยา่ งชัดเจนว่า ผเู้ รียนจะต้องเรยี นร้ใู ห้บรรลุ ตัวชี้วัด ทีก่ ำหนดตามแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง โจทยป์ ัญหาของการหาพ้ืนที่ของรูปเรขาคณิต พรอ้ มทัง้ แนะนำแหลง่ ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากอินเทอรเ์ น็ต ซ่งึ ผูเ้ รียนสามารถไปเรียนรไู้ ดด้ ้วยตนเองและทำ กิจกรรมตามท่ีไดร้ บั มอบหมายดว้ ย ท้งั นี้ ครคู วรจะชีแ้ จงให้ผู้เรยี นทราบว่าในการพบกลุ่มตามแผนการจดั การ เรียนรู้ครง้ั นี้ ผเู้ รยี นจะต้องเรียนรู้และทำกิจกรรมทสี่ อดคล้องกับเนื้อหาทีเ่ รยี น โดยปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ ได้แก่

การศึกษาคลิปวิดีโอ และการแลกเปลี่ยนเรียนรูโ้ ดยการอภิปรายรว่ มกบั เพื่อนในกลมุ่ รวมท้ังมีการทดสอบหลงั เรียนด้วย นอกจากนี้ ในการพบกลุ่มแต่ละครั้งน้ัน ครูจะมอบหมายงานให้ผู้เรียนไปเรียนรูด้ ้วยวิธีการเรียนรู้ด้วย ตนเอง ซ่ึงวิธีการเรียนรู้ดว้ ยตนเองจะต้องเกิดข้ึนในทกุ ๆ ตัวชี้วัดและเนอื้ หาท่ีกำหนด โดยผู้เรียนจะตอ้ งปฏิบตั ิ กจิ กรรมทีก่ ำหนดให้ดว้ ยวธิ ีเรียนร้อู อนไลน์ และศกึ ษาจากเอกสารประกอบการเรียน ดังนนั้ ครูจะตอ้ งเชอื่ มโยง รายละเอียดดังกล่าวข้างต้นให้ผู้เรียนได้เกิดความเข้าใจและเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ท่ีจะเกิดขึ้น เพราะ การมอบหมายงานให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ด้วยวิธีเรียนรู้ด้วยตนเองน้ัน ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ออนไลน์ผ่าน อนิ เทอร์เน็ต และศกึ ษาเอกสารประกอบการเรยี น 3. ครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนท้ังกลุ่มร่วมกันสนทนา เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการฟัง พูด คิดวิเคราะห์ การทำงานรว่ มกับผู้อน่ื การคิดสรา้ งสรรค์ ความรบั ผิดชอบ และการนำความรใู้ นเนื้อหามาใช้ โดยครบู รู ณาการ เนื้อหาการเรียนรู้ มีการใช้ส่ือเทคโนโลยีที่เป็นคลิปวิดีโอจาก Youtube ที่สัมพันธ์กับเนื้อหา จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ เรือ่ งท่ี 1 โจทยป์ ญั หาของการหาพน้ื ท่ีของรปู เรขาคณิต คลปิ วดิ โี อ เร่ือง โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั พ้ืนที่ คณิตศาสตร์ ป.5 https://www.youtube.com/watch?v=1SlG78kDnJA ยาวคลปิ 15.34 นาที หลังจากที่ไดช้ มคลิปวิดีโอแลว้ ครใู หผ้ เู้ รียนตอบคำถามในประเด็น “จากการศกึ ษาคลิปดังกลา่ ว โจทย์ปญั หาของการหาพน้ื ที่ของรูปเรขาคณติ อธบิ ายพอสังเขป” เรือ่ งท่ี 2 หาปรมิ าตรและความจุของ ทรงสเี่ หล่ียมมุมฉากและแกป้ ัญหา โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับปริมาตรความจขุ องทรงสเี่ หลีย่ มมุมฉาก คณติ ศาสตร์ ป.6 https://www.youtube.com/watch?v=JCwfPWHb7yk ความยาวคลิป 9.43 นาที หลงั จากท่ไี ดช้ มคลปิ วดิ ีโอแลว้ ครไู ด้อธบิ ายตามเน้ือหาในบทเรียน ประเด็นท่ี 1 โจทย์ปัญหาของการหาพืน้ ท่ขี องรูปเรขาคณติ ครูอธบิ าย เรอื่ ง โจทย์ปญั หาของการหาพ้นื ที่ของรูปเรขาคณิต ตามหนังสอื เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หนา้ 153 ประเดน็ ท่ี 2 หาปริมาตรและความจุของ ทรงสเี่ หลีย่ มมมุ ฉากและแก้ปญั หา ครูอธิบาย เรื่อง หาปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหล่ียมมุมฉากและแก้ปัญหาตามหนังสือเรียน รายวชิ าคณติ ศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) หน้า 154-156 ครใู หผ้ ู้เรียนแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เป็นรายบคุ คลและรายกลุ่ม หลงั จากนั้น ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ ผลการเรยี นรู้ ร่วมกัน และให้ผ้เู รยี นสรุปส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ลงในสมุดบนั ทกึ ผลการเรยี นรูข้ องตน

4. ครูให้ผู้เรียนศึกษา ตามหนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับ ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) เพิม่ เติม เรอื่ ง โจทย์ปัญหาของการหาพน้ื ทีข่ องรปู เรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุ ของ ทรงสเ่ี หลีย่ มมมุ ฉากและแก้ปญั หา 5. ครูเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการศึกษาคลิปวิดีโอท้ัง 2 เรื่อง โจทย์ปัญหาของการหาพื้นที่ของรูป เรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหลี่ยมมมุ ฉากและแกป้ ญั หา ให้ผเู้ รียนรายบุคคลและรายกลุ่ม ตอบคำถามในประเด็น โจทย์ปัญหาของการหาพื้นท่ีของรูปเรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรง สี่เหล่ียมมุมฉากและแก้ปัญหาโดยให้ผู้เรียนฝึกทำแบบฝึกหัด เพ่ือให้ได้คำตอบท่ีเป็นผลลัพธ์ของการเรียนรู้อัน ตรงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการเรียนรู้ในคร้ังนี้ ขัน้ ตอนท่ี 2 การนำไปใชป้ ระโยชน์ (Utilization : U) 1. แบ่งผเู้ รียนออกเป็น 2 กลมุ่ ใหศ้ กึ ษานิยาม จากหนังสอื เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค11001 ระดับ ประถมศึกษา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) หน้า 153-156 เรื่อง โจทย์ปัญหาของการหาพื้นทข่ี องรปู เรขาคณิต และหาปรมิ าตรและความจุของ ทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉากและแกป้ ัญหา ทกี่ ำหนดให้ ดังนี้ กลุ่มท่ี 1 โจทยป์ ญั หาของการหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิต กลมุ่ ที่ 2 หาปรมิ าตรและความจขุ อง ทรงสเี่ หลย่ี มมมุ ฉากและแกป้ ญั หา โดยให้แต่ละกลุม่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสง่ ผแู้ ทนนำเสนอต่อกลมุ่ ใหญ่ใน 2 ประเด็น ประเด็นท่ี 1 โจทย์ปญั หาของการหาพน้ื ทขี่ องรูปเรขาคณิต ประเด็นท่ี 2 หาปรมิ าตรและความจุของ ทรงสี่เหล่ยี มมุมฉากและแก้ปัญหา ครูและผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน และให้ผู้เรียนสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ลงในสมุดบันทึกผลการ เรยี นรขู้ องตน 2. ครูแนะนำแหล่งเรียนรูใ้ ห้กับผูเ้ รยี นเพอื่ ใช้เปน็ เคร่ืองมอื ในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง อาทิ ห้องสมดุ แหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน หน่วยงาน สถานศึกษาต่าง ๆ รวมทั้งการใชอ้ นิ เตอร์เน็ตเพอื่ การเรยี นรดู้ ้วย ตนเอง เปน็ ต้น และให้ผูเ้ รียนเปน็ รายบคุ คลศึกษาเน้ือหา ในหนงั สือเรียนรายวชิ าคณติ ศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) หนา้ 153 -156 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาของการหาพื้นทข่ี องรูป เรขาคณิต และหาปริมาตรและความจขุ อง ทรงสี่เหล่ียมมุมฉากและแก้ปัญหา 3. ครดู ำเนินการทำหน้าที่นำการอภิปราย โดยใหผ้ เู้ รยี นกลุ่มใหญร่ ว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ คดิ วิเคราะห์ อภิปราย และวเิ คราะหใ์ ห้ข้อมลู เพ่ิมเติมในเน้ือหาหรอื ประเด็นท่ยี ังไม่ชดั เจน ตามรายละเอียดที่ ผ้เู รยี นไดแ้ ลกเปลี่ยนเรียนรรู้ ว่ มกนั หากผ้เู รยี นกลุ่มใหญ่หรือครูเห็นว่ายังไมส่ มบรู ณ์ มคี วามตอ้ งการในการ เรยี นรู้เพิ่มเติม ครจู ะชว่ ยเติมเต็มความร้ใู ห้กับผู้เรียน หลงั จากน้ันครแู ละผู้เรยี นสรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรใู้ นภาพรวม ท้ังหมดแลว้ ใหผ้ เู้ รียนสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ลงในสมดุ บนั ทกึ การเรียนรขู้ องตน หมายเหตุ : ในการดำเนินกิจกรรมกลมุ่ ครูชี้แจงบทบาทหน้าท่ีในการทำงานให้ผู้เรียนได้มีความรับผดิ ชอบรว่ มกัน ในการทำงาน ซ่ึงมอบหมายให้ผู้เรียนดำเนินการแต่งตั้งประธานหรือผู้นำในการอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้

และการมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบในภารกิจต่าง ๆ รวมถึงการแต่งต้ังเลขานุการของกลุ่มเป็นผู้จดบันทึกและ ผู้รักษาเวลา เพ่ือปฏิบัติงานของกลุ่มใหญ่ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้ และพิจารณาว่าสมาชิกลุ่มทุกคน ควรมีความเข้าใจตรงกันว่า ตนมีบทบาทหน้าที่ท่ีจะต้องช่วยให้กลุ่มทำงานได้สำเร็จ ครูควรให้คำแนะนำถึง ความสำคัญของการให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีส่วนร่วมในการอภิปรายอย่างท่ัวถึง ไม่ให้มีการผูกขาดกา ร อภปิ รายโดยผใู้ ดผูห้ นงึ่ และควรมีการจำกดั เวลาของการอภปิ รายแตล่ ะประเด็น ในระหว่างการทำกิจกรรมของผู้เรียน ครูมีบทบาทในการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนคอย กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ โดยบันทึกลงในแบบบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของ ผู้เรียน และเคร่อื งมอื ประเมินการสงั เกตแบบประมาณค่า 4. ครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนท้ังกลุ่มร่วมกันสนทนา เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในการฟัง พูด คิดวิเคราะห์ การทำงานร่วมกับผอู้ น่ื การคิดสรา้ งสรรค์ ความรบั ผดิ ชอบ และการนำความรู้ในเนือ้ หามาใช้ โดยครบู ูรณาการ เนื้อหาการเรียนรู้ มีการใช้ส่ือเทคโนโลยีท่ีเป็นคลิปวิดีโอจาก youtube ที่สัมพันธ์กับเน้ือหา ท้ังนี้ครูเชื่อมโยง ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ตามข้ันตอนที่ 1 ในการนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ และประยุกต์ใช้ผ่านคลิปวิดีโอ โดยครูเปิดคลิป วดิ โี อ ดังนี้ เรื่องท่ี 1 โจทยป์ ัญหาของการหาพ้นื ที่ของรูปเรขาคณติ คลิปวิดโี อ เร่อื ง โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับพืน้ ท่ี คณิตศาสตร์ ป.5 https://www.youtube.com/watch?v=1SlG78kDnJA ยาวคลปิ 15.34 นาที หลังจากทไ่ี ดช้ มคลปิ วดิ ีโอแลว้ ครใู ห้ผเู้ รียนตอบคำถามในประเดน็ “จากการศกึ ษาคลปิ ดังกลา่ ว โจทยป์ ญั หาของการหาพ้นื ท่ีของรูปเรขาคณิต อธิบายพอสังเขป” เรอ่ื งท่ี 2 หาปริมาตรและความจขุ อง ทรงส่เี หลยี่ มมุมฉากและแกป้ ัญหา โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับปริมาตรความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก คณติ ศาสตร์ ป.6 https://www.youtube.com/watch?v=JCwfPWHb7yk ความยาวคลปิ 9.43 นาที หลงั จากท่ีไดช้ มคลิปวิดโี อแล้ว ครไู ด้อธิบายตามเนื้อหาในบทเรยี น หลังจากน้ัน ครูดำเนนิ การ ดงั น้ี (1) ครูบรรยายเนื้อหาตามใบความรสู้ ำหรบั ครู เรื่อง “โจทย์ปัญหาของการหาพนื้ ท่ีของรูป เรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหล่ยี มมุมฉากและแก้ปัญหา” เพื่อใชส้ ำหรบั ประกอบ กิจกรรมการเรยี นรู้ ในส่วนของผูเ้ รยี นใหศ้ ึกษาใบความรู้สำหรับผเู้ รียน ประกอบการบรรยายของครูตามใบความร้สู ำหรับ ผเู้ รียน เรือ่ ง “โจทยป์ ญั หาของการหาพ้นื ท่ขี องรูปเรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรงสเ่ี หล่ยี มมุม ฉากและแก้ปัญหา” (2) ครูอธิบายและให้ผูเ้ รยี นฝึกทำแบบฝึกหดั โจทย์ เรอ่ื ง “โจทย์ปัญหาของการหาพ้นื ท่ีของ รปู เรขาคณติ และหาปริมาตรและความจุของ ทรงส่ีเหลีย่ มมุมฉากและแกป้ ญั หา” พร้อมทง้ั ใหผ้ ู้เรียนร่วม ปฏบิ ัติในการสาธิตของครูด้วย ท้ังนเ้ี ปิดโอกาสให้ผ้เู รยี นได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยใหผ้ ู้เรยี นตั้งประเดน็ ขอ้ สงสัย หรอื ส่ิงทีต่ ้องการเรียนรู้ในกระบวนการของการฝกึ ทำแบบฝึกหัด

5. ครแู ละผเู้ รียนอภิปรายและสรปุ ผลการเรียนรู้รว่ มกนั ขนั้ ตอนท่ี 3 การสะทอ้ นความคดิ จากการเรียนรู้ (Reflection : R) 1. แบ่งผู้เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4 - 8 คน ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลุม่ ลงมือฝึกแก้โจทย์ เรอื่ ง “โจทย์ปัญหา ของการหาพื้นทีข่ องรปู เรขาคณิต และหาปริมาตรและความจขุ อง ทรงสเี่ หล่ียมมุมฉากและแกป้ ญั หา” ตาม หนังสอื เรยี นรายวชิ าคณติ ศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) เร่ืองโจทย์ปัญหา ของการหาพน้ื ทีข่ องรูปเรขาคณิต และหาปริมาตรและความจขุ อง ทรงสเี่ หลีย่ มมมุ ฉากและแกป้ ญั หา หนา้ 153 และ 156 โดยผ้เู รยี นแต่ละกล่มุ ฝึกทำแบบฝึกหัด เรื่อง “โจทย์ปัญหาของการหาพน้ื ท่ขี องรปู เรขาคณติ และหาปริมาตร และความจุของ ทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉากและแก้ปญั หา” ตามใบกิจกรรมของผเู้ รยี น เร่ือง “โจทย์ปญั หาของการหา พ้นื ทข่ี องรูปเรขาคณติ และหาปริมาตรและความจุของ ทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉากและแกป้ ญั หา” 2. ให้ผู้เรยี นแต่ละกลุ่มตามข้อ 1 ทำแบบฝึกหัดตามกิจกรรม เรื่อง “โจทย์ปัญหาของการหาพื้นท่ีของ รูปเรขาคณิต และหาปรมิ าตรและความจุของ ทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉากและแกป้ ัญหา” ทั้งน้ี ครูจะต้องกำกับการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนจนกิจกรรมแล้วเสร็จ ตามใบกิจกรรมสำหรับครู เร่อื ง “โจทยป์ ัญหาของการหาพื้นท่ีของรูปเรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหล่ียมมมุ ฉากและ แกป้ ญั หา” 3. ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอการแก้โจทย์เลขกิจกรรมตาม ข้อที่ 1 เรื่อง “โจทย์ปัญหาของการหา พ้ืนท่ีของรูปเรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉากและแก้ปัญหา” ตามใบกิจกรรม ของผเู้ รียน เร่อื ง “โจทย์ปัญหาของการหาพ้ืนที่ของรูปเรขาคณติ และหาปริมาตรและความจุของ ทรงส่ีเหล่ียม มุมฉากและแก้ปัญหา” 4. ครูให้ผู้เรียนสะท้อนความคิดในการเรียนรู้ที่ได้จากการเรียนรู้และการปฏิบัติการ จากขั้นตอนที่ 1 ถงึ ข้นั ตอนที่ 3 น้ี 5. ครูและผู้เรียนอภปิ รายและสรุปผลการเรียนรูร้ ่วมกนั ขน้ั ตอนที่ 4 การติดตามประเมินและแก้ไข (Action : A) 1. ครูสนทนากับผู้เรียนเกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้น้ี โดยครูสุ่มผู้เรียนตาม ความสมัครใจจำนวน 2 – 3 คน ให้ตอบคำถามในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ท่ี 1 “โจทยป์ ญั หาของการหาพืน้ ท่ขี องรปู เรขาคณิต” แนวคำตอบ

ประเด็น ท่ี 2 “หาปริมาตรและความจขุ อง ทรงสีเ่ หล่ียมมุมฉากและแกป้ ัญหา” แนวคำตอบ 2. ครูและผู้เรียนอภิปรายและสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน ตาม PowerPoint สำหรับครู เร่ือง “หา ปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหลี่ยมมมุ ฉากและแก้ปญั หา” เพ่อื เป็นการสรุปภาพรวมของกิจกรรมการเรียนรู้ ซึง่ จะทำให้ผเู้ รยี นเกดิ ความเข้าใจในกิจกรรมการเรยี นรมู้ ากย่ิงขึ้น 3. ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง หาปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหล่ียมมุมฉากและ แก้ปญั หาจำนวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 20 นาที 4. ครูและผู้เรียนสรุปภาพรวมส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้ร่วมกัน นอกจากน้ี ในตอนท้ายของการพบกลุ่ม หลังจากเสร็จส้ินข้ันตอนท่ี 3 ครูการมอบหมายงานให้เรียนรู้ ดว้ ยตนเอง รายละเอียดดังน้ี

การมอบหมายงานให้เรยี นรู้ด้วยตนเอง 1. ครชู ี้แจงใหผ้ เู้ รยี นทราบวา่ ในการพบกลมุ่ แตล่ ะครั้งผเู้ รยี นจะได้รบั มอบหมายงานให้ไปเรียนร้ดู ว้ ย วิธีเรยี นรู้ดว้ ยตนเองในลกั ษณะทคี่ รูจะมอบหมายงานให้ผ้เู รียนไปศกึ ษา “หนงั สือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ พค 11001 ระดับประถมศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)” เรือ่ ง โจทย์ปญั หาของการหาพื้นที่ของรปู เรขาคณิต หน้า 153 และเรื่อง หาปรมิ าตรและความจุของ ทรงสีเ่ หลีย่ มมุมฉากและแก้ปัญหา หน้า 154 - 156 ท้งั ภาคทฤษฎีและปฏิบตั ิ โดยให้ศกึ ษาเน้ือหาและปฏบิ ัติกจิ กรรมท้ายเร่ือง รายละเอียดของเนือ้ หา แบง่ ออกเปน็ 2 สว่ น ดังน้ี ส่วนที่ 1 เนอ้ื หาการเรียนรูต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ครั้งนี้ สว่ นที่ 2 เน้ือหาการเรียนรู้เพ่มิ เติมในหนงั สอื เรียนเรยี นดงั กล่าว 2. ครูมอบหมายงานให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยให้ไปศึกษา “หนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)” รายละเอียดของกิจกรรมท่ีผู้เรียนจะต้องปฏิบัติ แบ่งออกเป็น 2 สว่ น ดงั นี้ สว่ นที่ 1 เนื้อหาการเรยี นร้ตู ามแผนการจดั การเรียนรคู้ รง้ั น้ี ได้แก่ 1) เร่อื ง โจทยป์ ญั หาของการหาพ้นื ท่ีของรปู เรขาคณิต หนา้ 153 (กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งในหนังสือเรียน 153) 2) เรื่อง หาปริมาตรและความจุของ ทรงสี่เหล่ียมมุมฉากและแก้ปัญหา หน้า 153 – 156 กิจกรรมทา้ ยเรอื่ งในหนงั สือเรียน 156) ส่วนท่ี 2 มอบหมายงานให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ซ่ึงเนื้อหาการเรียนรู้เพ่ิมเติมใน “หนังสือเรียน รายวชิ าคณติ ศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศกึ ษา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)” ได้แก่ 1. เร่อื งท่ี 1 การวดั ความยาวและระยะทาง หนา้ 132-137 (กจิ กรรมทา้ ยเรื่องในหนังสือเรยี น 137) 2. การช่งั และการตวง หน้า 138-149 (กจิ กรรมท้ายเรื่องในหนงั สือเรยี น 149-150) 3. ทศิ ทางของแผนผงั หนา้ 156-158 (กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งในหนังสือเรียน 158) 4. เงนิ หนา้ 161-169 (กิจกรรมทา้ ยเรอื่ งในหนงั สือเรียน 164 และ 168-169 5. อณุ หภมู ิ หนา้ 169-179 (กิจกรรมท้ายเรื่องในหนงั สือเรียน 170) 6. เวลา หน้า 171-177 (กิจกรรมท้ายเรื่องในหนังสือเรยี น 177) 7. การคาดคะเน หน้า 179

หลงั จากนั้น ครูและผู้เรียนมีการนัดหมายทบทวน ตรวจสอบ และแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านทาง ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ต่อไป หมายเหตุ : ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ซึ่งการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วย ตนเองนั้น อาจมีความแตกต่างกันบ้างในข้ันตอน โดยพิจารณาจากพ้ืนฐานของผู้เรียน ในกรณีที่ผู้เรียนมี พ้ืนฐานน้อยหรือไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็ควรจัดการเรียนรูพ้ ้ืนฐานท่ีจำเป็นและพอเพียงกับผู้เรียน หลังจากน้ันให้ ผู้เรียนได้ปฏิบัติด้วยตนเองในช่วงระยะหน่ึงแล้วจึงค่อยให้ผู้เรียนคิดหัวข้อท่ีอยากจะทำ หรือถ้าผู้เรียนมีพื้น ความรู้มาก่อนแลว้ ให้คดิ หัวขอ้ ที่สนใจจะทำและให้ลงมอื ปฏิบัตไิ ด้ สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ พค11001 ระดับประถมศึกษา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หนา้ 153-156 2. เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาของการหาพนื้ ทีข่ องรปู เรขาคณิต คลิปวดิ โี อ เร่ือง โจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั พ้นื ที่ คณติ ศาสตร์ ป.5 จาก https://www.youtube.com/watch?v=1SlG78kDnJA ยาวคลิป 15.34 นาที 3. เร่อื งที่ 2 หาปรมิ าตรและความจขุ อง ทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉากและแกป้ ัญหาโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ปริมาตรความจุของทรงสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉาก คณิตศาสตร์ ป.6 https://www.youtube.com/watch?v=JCwfPWHb7yk ความยาวคลปิ 9.43 นาที การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมีสว่ นรว่ ม ความตัง้ ใจ และความสนใจของผู้เรียน 2. ผลการทดสอบก่อนและหลงั เรียน 3. ผลการออกแบบและสรา้ งสรรคน์ วัตกรรมและสิง่ ท่ีตอ้ งการพัฒนา/ช้ินงาน/ผลงาน 4. ผลการประเมินความพงึ พอใจของผเู้ รยี น รายละเอียดส่ือ วสั ดุ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง “โจทยป์ ญั หาของการหาพื้นทีข่ องรูปเรขาคณติ และหาปริมาตรและความจขุ อง ทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉากและแก้ปัญหา” 2. ใบความรู้สำหรับผเู้ รยี น เรอ่ื ง “โจทย์ปัญหาของการหาพื้นทข่ี องรูปเรขาคณิต และหาปริมาตรและความจุของ ทรงสีเ่ หลี่ยมมุมฉากและแกป้ ัญหา” 3. เร่ือง โจทยป์ ญั หาของการหาพ้นื ทีข่ องรปู เรขาคณิต คลิปวดิ โี อ เร่ือง โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับพนื้ ท่ี คณิตศาสตร์ ป. 5 จาก https://www.youtube.com/watch?v=1SlG78kDnJA ยาวคลิป 15.34 นาที 4. เรื่องท่ี 2 หาปริมาตรและความจุของ ทรงสีเ่ หล่ยี มมุมฉากและแก้ปญั หาโจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั ปริมาตรความจุ ของทรงสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก คณิตศาสตร์ ป.6 https://www.youtube.com/watch?v=JCwfPWHb7yk ความยาวคลปิ 9.43 นาที 5. แบบฝกึ หดั พรอ้ มเฉลย

6. PowerPoint สำหรับครู เรอื่ ง โจทย์ปญั หาของการหาพ้ืนทีข่ องรูปเรขาคณติ และหาปรมิ าตรและความจุของ ทรง สเ่ี หล่ยี มมมุ ฉากและแกป้ ัญหา 7. บทสรปุ ประกอบ PowerPoint สำหรบั ครู เรื่อง โจทยป์ ญั หาของการหาพน้ื ท่ขี องรปู เรขาคณิต และหา ปริมาตรและความจุของ ทรงส่เี หลีย่ มมุมฉากและแกป้ ญั หา” 8. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง “โจทย์ปญั หาของการหาพื้นที่ของรูปเรขาคณติ และหาปริมาตรและความจขุ อง ทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉากและแกป้ ัญหา แบบทดสอบก่อน – หลัง เรยี น เร่ือง โจทยป์ ัญหาของการหาพื้นที่ของรปู เรขาคณติ และหาปริมาตรและความจุของทรงสเี่ หลี่ยมมมุ ฉากและแก้ปญั หา ............................................................................................................................................................... คำชแ้ี จง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท (X) หนา้ ข้อทถ่ี ูกต้องท่ีสดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1.ถังนำ้ ทรงลกู บาศก์มีความจุ 1 ลกู บาศก์เมตรระดบั น้ำในถังสงู 0.05 เซนตเิ มตร มนี ำ้ อยู่ในถงั กี่ลูกบาศก์ เซนตเิ มตร ก. 200 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ข. 300 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร ค. 400 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ง. 500 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร 2. นำลวดขดหนง่ึ มาตัดเป็นท่อน เท่าๆกันแล้วนำลวดแต่ละท่อนมาเช่ือมกันเป็นขอบของลกู บาศก์ ได้ลูกบาศก์ ทม่ี ปี รมิ าตร 729 ลบ.ซม. ลวดขดนีย้ าวกีเ่ มตร ก. 1.08 เมตร ข. 2.08 เมตร ค. 2.08 เมตร ง. 2.08 เมตร 3. กลอ่ งทรงสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉากมีดา้ นยาวยาวเปน็ 5 เทา่ ของดา้ นกวา้ งความสูงเป็น 2 เทา่ ของด้านกวา้ งกล่องใบน้ี มีความจุ 3,430 ลกู บาศก์เซนติเมตร กลอ่ งใบนมี้ ีขนาดเท่าใด ก. 12 เซนติเมตร ข. 14 เซนตเิ มตร ค. 16 เซนตเิ มตร ง. 20 เซนตเิ มตร 4. ดนิ น้ำมันทรงสี่เหล่ียมมมุ ฉากกว้าง 4 เซนตเิ มตรยาว 8 เซนตเิ มตรสงู 5 เซนตเิ มตรถ้านำดนิ นำ้ มนั มาป้นั ใหม่ เปน็ ทรงลกู บาศก์ มีความยาวด้านละ 2 เซนตเิ มตรจะปน้ั ได้ทัง้ หมดก่ีก้อน

ก. 15 กอ้ น ข. 18 กอ้ น ค. 20 ก้อน ง. 25 กอ้ น 5. นมกลอ่ งทรงสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉากกวา้ ง 4 เซนตเิ มตรยาว 6 เซนตเิ มตรสงู 10 เซนตเิ มตรนำไปบรรจลุ งในลงั กระดาษแข็งทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉากใบใหญ่กว้าง 12 เซนตเิ มตรยาว 30 เซนตเิ มตรสูง 20 เซนตเิ มตรจะบรรจุนม กลอ่ งไดก้ ่ีกล่อง ก. 20 กลอ่ ง ข. 30 กลอ่ ง ค. 40 กลอ่ ง ง. 50 กล่อง 6. กระตกิ น้ำแขง็ ทรงส่ีเหลีย่ มมมุ ฉากกวา้ ง 16 เซนติเมตรยาว 24 เซนติเมตรสูง 10 เซนติเมตร ใส่น้ำแข็งทรงลกู บาศก์ก้อนละ 64 ลูกบาศก์เซนตเิ มตรได้กีก่ ้อน(หา้ มทุบหรือตัดนำ้ แข็ง และเมื่อใสน่ ำ้ แข็งแล้วตอ้ งปิดฝากระติกได้) ก. 45 กอ้ น ข. 46 กอ้ น ค. 48 กอ้ น ง. 50 กอ้ น 7. สนามรูปสเ่ี หลย่ี มผนื ผ้ากว้าง 7.5 เมตร ยาว 12 เมตร ต้องการปลูกหญา้ โดยเวน้ ที่ไว้ทำถนนโดยรอบ 1.25 เมตร พื้นท่ีปลูกหญ้าเป็นกี่ตารางเมตร ก. 42.5 ตารางเมตร ข. 47.5 ตารางเมตร ค. 50.5 ตารางเมตร ง. 52.5 ตารางเมตร 8. พ้ืนห้องรปู สี่เหล่ียมผืนผ้ามีขนาดกวา้ ง 10 เมตร ยาว 12 เมตร ต้องการปูกระเบื้องให้เต็มพ้นื ห้อง จะต้องซ้ือ กระเบื้องเป็นเงินทงั้ หมดก่ีบาท ถา้ กระเบ้อื งราคากล่องละ 120 บาท ปูพื้นท่ีได้ 1.5 ตารางเมตร ก. 4,500 บาท ข. 5,600 บาท ค. 7,500 บาท ง. 9,600 บาท 9. ทีด่ นิ รูปสเ่ี หลย่ี มมุมฉากมคี วามยาว 96 เมตร กวา้ ง 43 เมตร ถา้ จะทำสรา้ งร้วั รอบลอ้ มทีด่ ินโดยจะต้องใชร้ ั้ว ยาวท้ังหมดเทา่ ไร ก. 4,125 ข. 4,128 ค. 4,135 ง. 4,140 10. สเี่ หลยี่ มผืนผา้ รูปหน่ึงดา้ นยาวยาวกว่าด้านกว้าง 6 นิว้ สเ่ี หลี่ยมรูปนีม้ เี สน้ รอบรปู 60 น้ิว จงหาพื้นทีข่ อง สีเ่ หลยี่ มรปู นี้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook