Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แฟ้มสะสมงาน ด.ญ. ฐิตา สิงห์ทองลา

แฟ้มสะสมงาน ด.ญ. ฐิตา สิงห์ทองลา

Published by phrapun, 2023-04-19 14:49:42

Description: แฟ้มสะสมงาน ด.ญ. ฐิตา สิงห์ทองลา ปีการศึกษา 2565

Search

Read the Text Version

80 บันทกึ ผลหลงั การสอน ทกั ษะจำเปน็ เฉพาะความพิการ มาตรฐาน : ทักษะจำเป็นเฉพาะความพกิ ารสำหรบั บุคคลออทสิ ติก (อต ๐๒๐๘) ตวั ชีว้ ัด: อต ๑.๓/๕ การจัดการอารมณ์ตนเองในสถานการณต์ า่ ง ๆ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมขอ้ ท่ี ๓ เมอ่ื ใหเ้ ด็กหญงิ ฐิตา สิงห์ทองลา จดั การอารมณ์ตนเองในสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยการบอกอารมณค์ วามรสู้ ึก ของตนเอง (ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว) ผ่านอปุ กรณ์ชว่ ยในการสอ่ื สาร เด็กหญงิ ฐิตา สิงหท์ องลา สามารถทำไดถ้ ูกตอ้ ง ๘ ใน ๑๐ ครงั้ ภายในเดอื น มนี าคม ๒๕๖๖ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมขน้ั ตอนท่ี ๒ เมอื่ ใหเ้ ดก็ หญงิ ฐติ า สิงหท์ องลา จัดการอารมณ์ตนเองในสถานการณต์ า่ ง ๆ โดยการบอกอารมณค์ วามรสู้ กึ ของตนเอง (ดีใจ เสียใจ โกรธ กลวั ) ผา่ นอปุ กรณ์ช่วยในการสือ่ สาร เดก็ หญงิ ฐิตา สงิ ห์ทองลา สามารถทำไดถ้ ูกตอ้ ง ๘ ใน ๑๐ ครง้ั ภายในเดอื น กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ วนั ที่ ๑ ๒ ๓ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๗ ๒๘ สรปุ สอน ระดบั ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ ผ่าน คุณภาพ ทีไ่ ด้ เดก็ หญงิ ฐติ า สิงห์ทองลา บอกอารมณค์ วามร้สู กึ ของตนเอง (ดใี จ เสียใจ) ผ่านอปุ กรณช์ ่วยในการสื่อสาร ได้ ถูกต้อง ๘ ใน ๑๐ ครัง้ ระดบั คณุ ภาพ ๔ หมายถึง สามารถบอกอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง (ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว) ผ่านอุปกรณ์ช่วย ในการส่ือสาร ได้ถูกต้อง ๘ ใน ๑๐ ครั้ง ๓ หมายถึง สามารถบอกอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง (ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว) ผ่านอุปกรณ์ช่วย ในการสือ่ สาร ได้ถกู ต้อง ๖ ใน ๑๐ ครง้ั ๒ หมายถึง สามารถบอกอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง (ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว) ผ่านอุปกรณ์ช่วย ในการสือ่ สาร ไดถ้ กู ตอ้ ง ๔ ใน ๑๐ ครั้ง ๑ หมายถึง สามารถบอกอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง (ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว) ผ่านอุปกรณ์ช่วย ในการสือ่ สาร ไดถ้ กู ต้อง ๒ ใน ๑๐ ครัง้ ๐ หมายถึง ไมใ่ ห้ความร่วมมอื /ทำไมไ่ ด/้ ไม่ทำ กลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง ปรับปรุง ณ วันท่ี ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๒

81 หมายเหตุ ๑ สงั เกตจากการปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนตามทก่ี ำหนดไว้ ๒ สงั เกตจากความสำเรจ็ ของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผู้เรยี นที่ทำไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง ลงช่ือ.................................................ครูผสู้ อน (นางสาวสวุ มิ ล ใจมา) ตำแหนง่ ครู วนั /เดอื น/ปี ๒๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ ความคดิ เหน็ ฝา่ ยวชิ าการ / ผู้แทน (✓) สอนตามแผนการสอนขัน้ ตอนตอ่ ไป ( ) ควรปรับแก้ ............................................................................................................. ลงชื่อ................................................................... (นายจกั รพงศ์ หมนื่ สุ) หัวหนา้ งานให้บริการชว่ ยเหลอื ระยะแรกเริม่ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรียมความพร้อม วัน/เดือน/ปี ๒๘ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๖ ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร หรือผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย (✓) สอนตามแผนการสอนขัน้ ตอนตอ่ ไป ( ) ควรปรบั แก้ ............................................................................................................. ลงชื่อ................................................................... (นายนภสนิ ธุ์ ดวงประภา) ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ วัน/เดือน/ปี ๒๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ปรับปรุง ณ วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๒

82 ภาคผนวก

83

84

85

86

87

88

89

90

91

92

93

94

95 ขอ มูลนักเรยี นรายบคุ คล หอ งเรียนประสานสายตา ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๑. ข้อมูลดา้ นนกั เรียน ๑.๑ ข้อมลู ส่วนตัวนักเรยี น ชื่อ-นามสกลุ เดก็ หญิงฐิตา สิงหท์ องลา ชอื่ เล่น ฝ้าย ประเภทความพกิ าร ออทิสติก เกดิ วนั ที่ ๒ เดอื น ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ อายุ ๑๒ ปี เชอื้ ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ เลขบัตรประจำตัวประชาชน 1-5299-02424-49-3 หมโู่ ลหติ โอ การจดทะเบยี นคนพกิ าร  ไม่ต้องการจดทะเบยี น  ยงั ไม่จดทะเบียน  จดทะเบียนแล้ว ทีอ่ ย่ปู จั จุบนั บา้ นเลขที่ ๘๐ ตรอก/ซอย - หมทู่ ี่ ๑๗ ชอื่ หมูบ่ ้าน/ถนน - ตำบล/แขวง บอ่ แฮ้ว อำเภอ/เขต เมอื งลำปาง จงั หวดั ลำปาง รหัสไปรษณยี ์ ๕๒๑๐๐ ๑.๒ ดา้ นสุขภาพ ๑) สขุ ภาพกาย  มีสุขภาพรา่ งกายสมบรู ณ์แขง็ แรง  เจบ็ ปว่ ยบอ่ ย (ระบุ)............................................................................  มโี รคประจำตวั (ระบุ) ลมชกั  ปว่ ยเปน็ โรครา้ ยแรง/เร้อื รงั (วัณโรค โรคอ้วน โรคทางเดนิ หายใจเร้อื รัง (หอบหืด) โรคหัวใจและหลอดเลอื ด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรงั โรคมะเร็ง ภาวะภมู ิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน ภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรนุ แรง ลมชัก ฯลฯ ระบุโรค)............................................................... น้ำหนัก ๔๐ กิโลกรัม ส่วนสูง ๑๕๓ เซนติเมตร  นำ้ หนกั ผดิ ปกติไมส่ มั พันธ์กับสว่ นสงู หรอื อายุ  นอนติดเตยี ง ๒) สขุ ภาพจติ /อารมณ์/พฤติกรรม  อารมณด์ ี ยิ้มง่าย  มปี ฏสิ มั พันธ์ท่ีเหมาะสมกับผ้อู น่ื  อารมณห์ งุดหงิดงา่ ย/โมโหงา่ ย  ไม่มีปฏิสมั พนั ธก์ ับผอู้ ่นื เช่น เฉยเมย ไม่สบตา  ไม่มีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์  ซมึ เศร้า  แยกตัวออกจากกล่มุ  หวาดระแวง  ไมพ่ บพฤติกรรมท่ีไม่พงึ ประสงค์  พบพฤติกรรมท่ีไม่พงึ ประสงคท์ ี่สง่ ผลกระทบไมร่ นุ แรงต่อตนเอง/ผ้อู น่ื /สงิ่ ของ  พบพฤติกรรมท่ไี ม่พึงประสงคท์ ีส่ ่งผลกระทบรุนแรงต่อตนเอง/ผอู้ ่ืน/สงิ่ ของ

96 ๑.๓ ดา้ นการเรยี นรู้ ๑) พัฒนาการ/ความสามารถ  พัฒนาการ/ความสามารถเทยี บเทา่ กับอายจุ รงิ  พฒั นาการ/ความสามารถล่าชา้ กวา่ อายุจริง ๑ – ๓ ปี  พัฒนาการ/ความสามารถล่าชา้ กวา่ อายุจริง ๓ ปี ข้นึ ไป ๒) การชว่ ยเหลือตนเอง  สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้  สามารถช่วยเหลือตนเองได้บ้าง  ไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ ๑.๔ ด้านสิทธคิ นพกิ าร/สนับสนนุ ชว่ ยเหลือจากองค์กรภาครัฐหรือเอกชน ๑) เบย้ี ยังชพี คนพกิ าร  ได้รับ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท/เดือน  ไม่ได้รบั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๒) บรกิ ารฟน้ื ฟทู างการแพทย์  ได้รับ (ระบโุ รงพยาบาล) สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครนิ ทร์  ไม่ไดร้ บั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวก  ไดร้ ับ (ระบุสิง่ ท่ีได้รบั ) สิง่ อำนวยความสะดวก สือ่ บริการ และความช่วยเหลอื อื่นใดทาง การศึกษา (ระบุหน่วยงานทไ่ี ด้รับ) ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง  ไมไ่ ดร้ บั เนื่องจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศึกษา/เงินชว่ ยเหลอื อืน่ ๆ  ไดร้ ับ (ระบุชื่อทุนการศึกษา/เงนิ ชว่ ยเหลืออื่น ๆ) มลู นิธคิ ุณพุม่ จำนวน…………………….บาท  ไม่ได้รับ เน่ืองจาก ไม่ประสงค์ขอทนุ ๕) รบั บริการสวัสดกิ ารทางสังคม  ไดร้ ับ (สงิ่ ทีไ่ ด้รบั เช่น บริการเคสเมเนเจอร์ บรกิ ารรับส่งไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบ)ุ .......... (หน่วยงานท่ไี ด้รับ เช่น พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไ่ ดร้ ับ เนื่องจาก...............................................................................................................

97 ๑.๕ ดา้ นการเดินทางในชีวติ ประจำวนั ๑) ยานพาหนะทใ่ี ช้ในครอบครัว  ไมม่ ยี านหนะใช้ภายในครอบครวั  มียานพาหนะ โปรดระบุประเภท  จกั รยาน  จกั รยานยนต์  จกั รยานยนต์พ่วง  รถเก๋ง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนทา้ ยบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนทา้ ยบรรทุกมีหลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนแวน)  รถตู้สว่ นบุคคล ๒) วิธกี ารเดนิ ทางในชวี ติ ประจำวนั  เดิน  ใชย้ านพาหนะ โปรดระบุประเภท  จักรยาน  จกั รยานยนต์  จกั รยานยนต์พว่ ง  รถเก๋ง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนทา้ ยบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนทา้ ยบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน)  รถรับจ้าง / รถรบั -ส่งนักเรียน  รถโดยสารประจำทาง  รถตู้ส่วนบคุ คล ๓) ระยะทางจากที่พกั อาศัยมายังสถานศกึ ษา (ระบุระยะทาง) ๖ กโิ ลเมตร

98 ๒. ขอ้ มูลด้านครอบครัว ๒.๑ ขอ้ มูลบิดา  มีชีวิตอยู่  ถงึ แกก่ รรม  ไมม่ ขี ้อมลู ช่ือ-นามสกลุ บดิ า พ.ต.ท.สิทธศิ กั ดิ์ สิงหท์ องลา อายุ………………………….ปี เชื้อชาติ………… สญั ชาติ…………….ศาสนา…………………………….  ไมม่ ีงานทำ  มีงานทำ อาชีพ นักการเมอื งท้องถ่นิ รายได้ ๓๐,๐๐๐ บาท/เดอื น ระดับการศกึ ษา  ไม่ได้รบั การศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนุปริญญา  ปรญิ ญา ท่อี ยูป่ ัจจุบัน  ทีอ่ ยู่เดียวกบั นักเรยี น  ที่อยู่ตา่ งจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขที.่ ....................ตรอก/ซอย...............หมทู่ .ี่ ..........ชอื่ หมู่บ้าน/ถนน................................................... ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................... จังหวดั ............................................ รหสั ไปรษณีย์..............................................เบอรโ์ ทรศพั ท.์ ........................................................................... (ไม่มีขอ้ มูลเนอื่ งจากบิดา มารดาได้แยกทางกนั ) ๒.๒ ข้อมูลมารดา  มีชวี ิตอยู่  ถงึ แก่กรรม  ไม่มขี ้อมลู ช่อื -นามสกุล มารดา นางสาวณัฏฐพ์ ทิ ์ชา พรหมเทศ อายุ ๔๐ ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ  ไมม่ งี านทำ  มงี านทำ อาชีพ ธรุ กจิ สว่ นตวั รายได้ ๕๐, ๐๐๐บาท/เดอื น ระดับการศกึ ษา  ไม่ไดร้ ับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนปุ รญิ ญา  ปรญิ ญา ที่อย่ปู จั จุบนั  ท่ีอยู่เดียวกับนักเรียน  ท่ีอยู่ต่างจากนักเรยี น (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขท.ี่ ....................ตรอก/ซอย...............หมทู่ .่ี ..........ชือ่ หมบู่ ้าน/ถนน................................................... ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................... จังหวดั ............................................ รหัสไปรษณยี .์ .............................................เบอรโ์ ทรศพั ท์............................................................................

99 ๒.๓ ข้อมูลผู้ปกครอง  บิดา มารดา  ผปู้ กครองไมใ่ ชบ่ ดิ า/มารดา (โปรดกรอกข้อมลู ) ช่อื -นามสกลุ ผู้ปกครอง ร.ต.ท.ประพนธ์ พรหมเทศ อายุ ๖๕ ปี เชอื้ ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ อาชีพ ข้าราชการบำนาญ รายได้ ๒๒,๐๐๐ บาท/เดือน ระดบั การศกึ ษา  ไมไ่ ด้รบั การศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนุปรญิ ญา  ปริญญา ทีอ่ ยปู่ ัจจุบัน  ที่อยู่เดยี วกับนักเรียน  ที่อยตู่ ่างจากนักเรยี น (โปรดกรอกข้อมูล) บา้ นเลขที.่ ....................ตรอก/ซอย...............หมู่ที่...........ชอื่ หมู่บา้ น/ถนน................................................... ตำบล/แขวง....................................อำเภอ/เขต................................... จังหวดั ............................................ รหสั ไปรษณีย์..............................................เบอรโ์ ทรศพั ท์............................................................................ รายไดค้ รอบครัว  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ขน้ึ ไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี  ไม่เกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท/ปี สภาพความเป็นอยู่ในครอบครัว  อยูร่ ว่ มกบั บดิ ามารดา  อย่กู ับบดิ า  อยกู่ ับมารดา  อยกู่ บั ผู้อนื่ (ระบุ) ยาย สถานภาพของบดิ ามารดา  อย่ดู ว้ ยกัน  หย่ารา้ ง  แยกกนั อยู่  บดิ าถึงแก่กรรม  มารดาถงึ แกก่ รรม  บิดา มารดาถงึ แก่กรรม ครอบครวั ของนักเรยี นมีสมาชิกทั้งหมด ๔ คน ประกอบด้วย ตา ยาย แม่ นักเรียน พช่ี าย นอ้ งชาย พเ่ี ลยี้ ง บุคคลในครอบครัวมีการใช้สารเสพติด  มี  ไมม่ ี เกี่ยวข้องเป็น...............................กบั นกั เรยี น ประเภทสารเสพติดท่ีใชค้ ือ  บหุ รี่  สุรา  ยาบา้  อืน่ ๆ ระบุ............................. ความถีใ่ นการใชส้ ารเสพติดของบุคคลในครอบครัว  เปน็ ประจำ  บางคร้งั บคุ คลในครอบครวั เกย่ี วขอ้ งกับการเลน่ การพนนั  มี  ไมม่ ี ความถี่ในการเลน่ การพนนั ของบุคคลในครอบครวั  เปน็ ประจำ  บางครัง้ ภายในครอบครวั มีความขัดแย้งและมีการใช้ความรนุ แรง  มี  ไมม่ ี บคุ คลในครอบครัวเจ็บปว่ ยด้วยโรครุนแรง/เร้ือรัง  มี  ไม่มี อาชพี บดิ า/มารดา/ผูป้ กครองเสี่ยงต่อกฎหมาย  มี  ไม่มี

100 ๒.๔ ดา้ นเศรษฐกิจครอบครัว  มรี ายได้เพียงพอสำหรบั เลีย้ งดูครอบครัวไดอ้ ย่างดี  มรี ายไดเ้ พียงพอสำหรบั เลย้ี งดคู รอบครวั เฉพาะทีจ่ ำเป็น  มีหนี้สิน  มรี ายไดเ้ พียงเล็กน้อย ไม่เพยี งพอสำหรับครอบครัว  ไม่มรี ายได้เลย ตอ้ งพึ่งพาผูอ้ ่ืนท้ังหมด และมีหนสี้ ิน ๒.๕ ด้านการคุม้ ครองนกั เรียน ๑) การดูแลเอาใจใส่นักเรียน  สมาชิกทกุ คนในครอบครัวช่วยกนั ดูแลเอาใจใสน่ ักเรยี นเป็นประจำสม่ำเสมอ  ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนกั เรียนเปน็ บางคร้งั  ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรียน/ไม่มีผู้ดูแล  นกั เรียนถูกลว่ งละเมิดทางเพศ  นกั เรยี นถกู ทำร้ายทารุณ ๒) การชว่ ยเหลือในการพฒั นานกั เรียน  สมาชกิ ทกุ คนในครอบครัวเขา้ ใจ/ร่วมมือในการช่วยเหลอื ในการพัฒนานกั เรียนเป็นอย่างดี  สมาชิกในครอบครัวบางคนไม่มีความเขา้ ใจ/รว่ มมอื ในการชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี น  สมาชิกทุกคนในครอบครัวขาดความเข้าใจ/รว่ มมือในการช่วยเหลอื ในการพฒั นานักเรียน ๒.๖ ดา้ นเจตคตติ ่อนักเรยี น ครอบครัวมีความคาดหวงั ในการพัฒนานักเรียน  นักเรียนสามารถพฒั นาไดแ้ ละมีการแสวงหาความรู้ในการพัฒนานักเรยี นอย่เู สมอ  มคี วามคาดหวังในการพัฒนานกั เรียนแต่ไมม่ ีการแสวงหาความรูเ้ พ่ือนำมาพัฒนานักเรียน  ไม่มคี วามคาดหวังในการพัฒนานักเรียนและนักเรยี นเปน็ ภาระของครอบครวั ๒.๗ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะของผู้ปกครองในการพัฒนานกั เรียน ๑) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะของผู้ปกครองในการจัดกิจกรรมเพอื่ พัฒนานักเรยี น  มกี ารจัดกิจกรรมเพ่ือพฒั นานกั เรียนเป็นประจำทกุ วนั  มีการจดั กจิ กรรมเพ่ือพัฒนานักเรยี นเป็นบางคร้งั  ไมเ่ คยมีการจดั กจิ กรรมเพ่อื พฒั นานักเรียน

101 ๒) ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะของผู้ปกครองในการฝกึ ด้วยเทคนคิ /กจิ กรรม  มีการฝึกดว้ ยเทคนิค/กิจกรรมทหี่ ลากหลายเปน็ ประจำทุกวนั  มีการฝกึ ดว้ ยเทคนิค/กิจกรรมเปน็ บางครัง้  ไมเ่ คยฝึกดว้ ยเทคนคิ /กิจกรรม ๓. ขอ้ มูลด้านสภาพแวดล้อม ๓.๑ สภาพแวดลอ้ มภายในศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง/หนว่ ยบรกิ าร ๑) บริเวณภายในห้องเรียนอาคารเรียน  สภาพแวดล้อมในห้องเรยี น/อาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกับความตอ้ งการจำเปน็ พิเศษของ นกั เรียนและปลอดภัยตอ่ การดำรงชวี ิต  สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรยี น/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความตอ้ งการจำเป็น พิเศษของนกั เรยี นแต่ยังสามารถใชไ้ ด้อย่างปลอดภัยตอ่ การดำรงชีวิต  สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน/อาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความตอ้ งการจำเป็น พเิ ศษของนักเรยี นและไมป่ ลอดภัยตอ่ การดำรงชีวติ  สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรียนทกุ อยา่ งไม่มีความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของนกั เรียนและไม่ปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ิต ระบรุ ายละเอียดเพ่ิมเตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บริเวณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนมีความเหมาะสมกับความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษของนักเรียน และปลอดภัยต่อการดำรงชวี ติ  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ของนักเรยี นแต่ยงั สามารถใช้ได้อย่างปลอดภยั ตอ่ การดำรงชีวิต  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเป็นพิเศษ ของนักเรียนและไม่ปลอดภัยตอ่ การดำรงชีวติ  สภาพแวดล้อมนอกอาคารเรียนทกุ อย่างไม่มีความเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพิเศษของ นกั เรยี นและไมป่ ลอดภยั ตอ่ การดำรงชีวิต ระบุรายละเอยี ดเพมิ่ เติม...........................................................................................................................................

102 ๓) ผเู้ ก่ียวขอ้ ง  ครู/พเี่ ลีย้ งเดก็ พกิ าร/ผปู้ ฏิบัติงานให้ราชการ ทกุ คนพร้อมให้การช่วยเหลอื นักเรยี น  ครู/พเี่ ลยี้ งเดก็ พิการ/ผปู้ ฏิบตั ิงานให้ราชการ บางคนละเว้นไม่ให้การช่วยเหลอื นักเรียน  คร/ู พ่ีเล้ียงเด็กพิการ/ผปู้ ฏิบัติงานให้ราชการ บางคนรังเกียจนักเรยี น  เพ่อื นทุกคนยอมรบั /ใหเ้ ข้ากลุ่มทำกจิ กรรม  เพื่อนบางคนไม่ยอมรับ/ไมใ่ หเ้ ขา้ กลมุ่ ทำกจิ กรรม  เพ่ือนทุกคนไมย่ อมรับ/ไม่ให้เข้ากลมุ่ ทำกจิ กรรม ๓.๒ สภาพแวดลอ้ มภายในบ้าน ๑) บริเวณภายในบ้าน  สะอาดปลอดภยั เอื้อตอ่ การพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แต่ไม่เอ้ือต่อการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน  ไมส่ ะอาดและไมป่ ลอดภัย ๒) บรเิ วณภายนอกบ้าน  สะอาดปลอดภัยเอ้ือต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ่ ม่เอื้อตอ่ การพฒั นาศกั ยภาพนักเรียน  ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดล้อมภายในชุมชน ๑) เจตคติของชุมชนที่มตี ่อนักเรยี นและครอบครัว  เปน็ ภาระของสังคม  พรอ้ มให้ความชว่ ยเหลอื  ความเชอื่ เร่ืองเวรกรรม  มีสิทธิเทา่ เทยี มกับคนทว่ั ไป  น่ารงั เกยี จ  คนพกิ ารสามารถพัฒนาได้  ไม่สนใจ ๒) ความสัมพนั ธข์ องนกั เรียนกับชุมชน  เป็นท่ีรู้จักในชุมชน  มีส่วนรว่ มในชุมชน  เปน็ ที่รักของคนในชุมชน  ชุมชนใหค้ วามช่วยเหลือ  ไม่มคี นในชมุ ชนรู้จกั  ไม่สนใจ  สรา้ งความเดือดร้อนให้คนในชมุ ชน

103 ๔. ขอ้ มูลดา้ นความปลอดภัยสถานศกึ ษา ๔.๑ ภยั ทเ่ี กิดจากการใช้ความรนุ แรงของมนุษย์ ๑) การล่วงละเมิดทางเพศ  นักเรยี นมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นักเรียนมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นมักถูกท้งิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มีผดู้ แู ล  นกั เรียนมปี ฏิสมั พนั ธ์ทางสงั คมโดยมีระยะห่างกับผู้อื่น  นักเรยี นมพี ฤติกรรมกอดหรือหอมแก้มเพศตรงขา้ มท่ีไม่ใชญ่ าติหรอื คนรจู้ กั  นักเรียนมพี ฤติกรรมล้วงหรือจับอวัยวะเพศของตนเอง  นักเรียนมีพฤติกรรมล้วงหรอื จบั อวัยวะเพศของผู้อนื่  นกั เรียนมพี ฤติกรรมกระตนุ้ ตนเองทางเพศเปน็ บางคร้ัง  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมกระต้นุ ตนเองทางเพศบ่อยครง้ั /เปน็ ประจำ  นกั เรียนมพี ฤติกรรมการเขา้ ใชส้ ื่อเทคโนโลยโี ดยไมม่ กี ารควบคุมดูแล  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมชอบดูส่ืออนาจารลามก ๒) การทะเลาะวิวาท  นกั เรยี นมีผู้ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  นกั เรียนมผี ้ดู ูแลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นักเรียนมกั ถูกทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรือไม่มีผูด้ ูแล  นักเรยี นมกี ริยาทา่ ทางเรียบรอ้ ย สุภาพ ไม่กา้ วรา้ ว ไม่มพี ฤติกรรมทำร้ายตนเองหรอื ผูอ้ น่ื  นักเรียนมีพฤตกิ รรมเล่นไม่เป็นหรือแยง่ ส่ิงของ ของเพื่อนหรือผู้อืน่ เป็นบางคร้ัง  นักเรยี นมพี ฤติกรรมชอบแย่งของ ของผู้อื่นหรือเพื่อนบ่อยครงั้ /เปน็ ประจำ  นักเรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ือ่ หรอื ให้ความสนใจสือ่ ท่มี ีความรนุ แรงในสังคม  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพูดท่กี ้าวรา้ วรนุ แรงเมื่อเหน็ ผู้อ่ืนทำหรือ จากการเสพสอื่  นกั เรียนมักแสดงพฤติกรรมหรอื คำพูดที่กา้ วร้าวรนุ แรงตอ่ ผ้อู ่นื  นักเรยี นได้รบั ยาท่ีมีฤทธิ์ในการปรับพฤตกิ รรม (ยากลมุ่ จติ เวช) แตท่ านยาไมส่ ม่ำเสมอ

104 ๓) การกลั่นแกลง้ รงั แก  นักเรียนมีผดู้ ูแลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นกั เรียนมีผู้ดแู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นมักถูกทิง้ ใหอ้ ยูต่ ามลำพงั หรือไม่มีผู้ดูแล  นักเรยี นมกี รยิ าท่าทางเรียบรอ้ ย สภุ าพ ไม่กา้ วร้าว ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือผอู้ ่ืน  นักเรียนมีพฤติกรรมเลน่ ไม่เป็นหรอื แยง่ สิ่งของ ของเพื่อนหรือผอู้ ืน่ เป็นบางครั้ง  นักเรยี นมพี ฤติกรรมชอบแย่งของ ของผู้อื่นหรือเพ่ือนบ่อยๆ/เป็นประจำ  นักเรียนมีพฤติกรรมชอบดูสื่อหรือให้ความสนใจสื่อทม่ี ีความรนุ แรงในสงั คม  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมเลยี นแบบการกระทำหรือคำพดู ท่ีแสดงถึงการกลน่ั แกล้งรงั แก เช่น พูดแซว พดู คำหยาบคาย ดึงผมผู้อน่ื กัดหยิกหรือตีผู้อ่นื เมื่อเหน็ ผอู้ น่ื ทำหรือจากการเสพส่ือ  นกั เรียนมักแสดงพฤติกรรมหรอื คำพดู ที่แสดงถงึ การกล่ันแกลง้ รังแก เช่น พูดแซว พูดคำ หยาบคาย ดงึ ผมผอู้ น่ื กัดหยิกหรอื ตผี อู้ น่ื อย่เู สมอ ๔) การชมุ นุมประทว้ งและการจลาจล  นักเรียนมีผู้ดูแลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นกั เรียนมีผดู้ ูแลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรียนมกั ถูกท้ิงให้อยู่ตามลำพงั หรือไม่มผี ู้ดูแล  นกั เรียนมกี ริยาท่าทางเรียบรอ้ ย สุภาพ ไม่มีพฤติกรรม ก้าวร้าว ก่อกวน ทำร้ายตนเองหรอื ผู้อื่น และไมม่ ีการแสดงพฤติกรรมทีก่ ่อใหเ้ กดิ การชมุ นุม ชักจงู ผู้อ่นื หรือการประท้วง  นักเรียนมพี ฤติกรรมชอบดูส่อื หรือให้ความสนใจสอื่ ทีเ่ กี่ยวกบั การชมุ นุมประทว้ งและ การจลาจลในสงั คม  นกั เรียนเส่ียงต่อการถูกชักชวนจากผู้อน่ื ไปรว่ มหรือก่อการชมุ นมุ ประท้วงและการจลาจล  นกั เรียนถูกชกั ชวนไปร่วมการชุมนุมประท้วงและการจลาจล ๕) การกอ่ วนิ าศกรรม  นักเรยี นมผี ้ดู ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นกั เรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรียนมักถูกทงิ้ ใหอ้ ยู่ตามลำพงั หรือไม่มีผูด้ ูแล  นักเรียนมีกริยาทา่ ทางเรียบร้อย สภุ าพ ไมม่ ีพฤตกิ รรม ก้าวรา้ ว ก่อกวน ทำร้ายตนเองหรอื ผู้อน่ื และไม่มีการแสดงพฤติกรรมทเก่ียวกับ ทำรา้ ยผู้อื่น ทำลายสาธารณะสมบตั ใิ นสงั คม เปน็ ต้น  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมชอบดูสื่อหรอื ให้ความสนใจสื่อทีเ่ กี่ยวกบั ทำร้ายผู้อื่น ทำลายสาธารณะ สมบัตใิ นสังคม เปน็ ตน้  นักเรยี นเสย่ี งต่อการถกู ชักชวนจากผู้อืน่ ไปร่วมหรือก่อการชุมนมุ ประทว้ งและการจลาจล  นกั เรียนถูกชักชวนไปร่วม ทำรา้ ยผอู้ ่นื ทำลายสาธารณะสมบัติในสังคม เปน็ ต้น

105 ๖) การระเบดิ  นกั เรยี นมผี ูด้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ูด้ แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นมักถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพงั หรือไม่มีผูด้ แู ล  นักเรียนไม่มีแนวโน้มท่จี ะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเล่นสารเคมหี รือวตั ถทุ ่ีอาจ ก่อให้เกิดระเบดิ  บคุ คลในครอบครวั นักเรียนมกี ารใช้สารเคมหี รือวัตถุที่อาจกอ่ ให้เกิดระเบิดในครอบครวั หรอื ในการประกอบอาชีพของครอบครัว เชน่ ยาฆา่ แมลงวัชพืช หรอื สารประกอบในป๋ยุ เคมี หรือสารเคมที ำประทัด พลุ หรือบง้ั ไฟ หรือมีวัตถอุ ันตราย เช่น กระป๋องสเปรย์ น้ำมนั ไมข้ ดี ไฟ ไฟแช็ค ในบ้าน  นักเรยี นคลกุ คลีกับบคุ คลมกี ารใชส้ ารเคมหี รือใชว้ ัตถุอัตรายในการประกอบอาชพี ที่อาจ ก่อให้เกิดระเบดิ  นกั เรียนคลุกคลกี ับบคุ คลมีการใช้สารเคมีหรือใชว้ ตั ถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรอื บงั้ ไฟ  นักเรียนเสยี่ งตอ่ การถูกชักชวนจากผอู้ ื่นในการพกพาหรือเล่นสารเคมหี รือใชว้ ตั ถทุ ี่อาจ กอ่ ให้เกิดระเบดิ  นักเรยี นมีพฤติกรรมพกพาหรอื นำสารเคมีหรือวัตถทุ ่ีอาจกอ่ ให้เกดิ ระเบดิ เชน่ ยาฆา่ แมลง วัชพชื หรือสารประกอบในปุ๋ยเคมี หรือสารเคมที ำประทดั พลุ หรือบงั้ ไฟ หรือมีวัตถุอันตราย เชน่ กระปอ๋ งสเปรย์ นำ้ มนั ไม้ขดี ไฟ ไฟแช็ค ๗) สารเคมีและวตั ถุอนั ตราย  นักเรียนมีผู้ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  นกั เรียนมผี ดู้ แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นมักถูกท้ิงให้อยูต่ ามลำพังหรือไม่มผี ดู้ ูแล  นกั เรียนไม่มีแนวโน้มท่ีจะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเล่นสารเคมีหรือวตั ถอุ ันตราย  บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก นำ้ ยาซกั ฟอก กระปอ๋ งสเปรย์ น้ำมัน ไม้ขีดไฟ ไฟแชค็ เป็นต้น  นักเรยี นคลุกคลีกบั บุคคลมีการใชส้ ารเคมีหรอื ใช้วตั ถุอตั รายในการประกอบอาชีพ  นักเรยี นคลกุ คลกี ับบุคคลมีการใช้สารเคมีหรือใชว้ ตั ถุอตั รายในการทำประทดั พลุ หรอื บง้ั ไฟ  นักเรียนเส่ยี งตอ่ การถูกชักชวนจากผู้อ่นื ในการพกพาหรือเลน่ สารเคมหี รือใช้วัตถอุ นั ตราย  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมพกพาหรือนำสารเคมีหรือวตั ถุอัตรายนำ้ ยาล้างจาน นำ้ ยาล้างหอ้ งนำ้ น้ำสม้ สายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก กระป๋องสเปรย์ นำ้ มนั ไมข้ ีดไฟ ไฟแช็ค เป็นตน้

106 ๘) การล่อลวง ลักพาตัว  นักเรียนมผี ้ดู แู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นักเรยี นถกู ท้ิงอยูต่ ามลำพังในห้องเรยี นหรอื ที่บ้านหรือสถานทส่ี าธารณะในชมุ ชนเปน็ บางคร้ัง  นกั เรียนถกู ทิ้งอยตู่ ามลำพังในห้องเรยี นหรือทีบ่ ้านหรือสถานที่สาธารณะในชุมชนบ่อยคร้งั หรอื เปน็ ประจำ  นักเรียนสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเม่ือถูกชักชวนจากผอู้ ื่นหรือคนแปลกหน้า  นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธเมื่อถูกชกั ชวนจากผู้อน่ื หรอื คนแปลกหน้าเป็น บางคร้ัง  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธหรือไม่รับของจากผูอ้ ืน่ หรือคนแปลกหน้าที่ให้ สิ่งของ/ขนม  นกั เรยี นไม่สามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเมื่อถูกชกั ชวนจากผ้อู ื่นหรอื คนแปลกหน้า  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธในการรบั ของจากผู้อ่นื หรอื คนแปลกหน้าท่ีให้ สง่ิ ของ/ขนมเปน็ บางครง้ั  นักเรียนไม่สามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธในการรับของจากผู้อืน่ หรือคนแปลกหน้าทีใ่ ห้ ส่ิงของ/ขนม ๔.๒ ภัยที่เกิดจากอุบตั ิเหตุ ๑) ภยั ธรรมชาติ ๑.๑) ภัยจากนำ้ ท่วม (จมนำ้ /ไฟดูด/สัตวม์ พี ิษ)  นกั เรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผ้ดู ูแลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสัญลักษณใ์ นการเตือนภัยทีเ่ กดิ ขน้ึ ได้  นกั เรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภยั ทเ่ี กิดข้ึน ได้  นกั เรยี นสามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้  นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรียนมีพฤตกิ รรม ชอบเลน่ น้ำ ชอบเอาน้ิวไปแหย่ ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใสป่ าก  นักเรียนบอกไม่ได้เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนได้ ไม่สามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ และมีพฤตกิ รรม ชอบเล่นน้ำ ชอบเอานิ้วไปแหย่ ชอบไปจับ ชอบเอาของหรอื มือใส่ปาก และถูกทงิ้ ให้อยตู่ ามลำพัง หรอื ไมม่ ีผดู้ ูแล

107 ๑.๒) ไฟไหมป้ ่าหรอื ไฟไหมท้ ่ีลุกลามในสถานทตี่ ่าง ๆ  นกั เรยี นมผี ูด้ แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรยี นมีผดู้ ูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยที่เกิดขน้ึ ได้  นักเรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภัยทเ่ี กิดขึ้น ได้  นักเรยี นสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณ์ได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณ์ได้  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบเลน่ วตั ถไุ วไฟ วตั ถุที่ก่อให้เกดิ ไฟหรือเช้ือเพลิง  นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ข้ึน ไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณไ์ ด้ และมี พฤติกรรม ชอบเล่นวตั ถุไวไฟ วตั ถุทกี่ ่อให้เกิดไฟหรอื เช้ือเพลิง และถูกท้งิ ให้อยู่ตามลำพงั หรือไม่มีผดู้ แู ล ๑.๓) พายุ  นักเรยี นมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรียนมีผดู้ แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณ์ในการเตือนภัยทเี่ กิดขนึ้ ได้  นักเรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสัญลักษณใ์ นการเตอื นภยั ทเ่ี กดิ ขึ้น ได้  นักเรียนสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณไ์ ด้  นักเรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณ์ได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขึ้น ไมส่ ามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถกู ทง้ิ ใหอ้ ย่ตู ามลำพังหรอื ไม่มีผดู้ ูแล ๑.๔) แผ่นดนิ ไหว  นักเรยี นมีผดู้ แู ลใกลช้ ิดตลอดเวลา  เรยี นมผี ู้ดูแลใกลช้ ดิ เปน็ บางเวลา  นักเรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภัยทีเ่ กิดขึน้ ได้  นกั เรียนไมส่ ามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตอื นภยั ที่เกิดขน้ึ ได้  นักเรยี นสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณ์ได้  นักเรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณ์ได้  นักเรียนไมส่ ามารถบอกเหตกุ ารณ์ที่เกิดขน้ึ ไม่สามารถดูแลตวั เองเม่ือเกิดเหตุการณไ์ ด้ และ ถกู ท้งิ ให้อยู่ตามลำพังหรือไมม่ ีผดู้ แู ล

108 ๑.๕) ภยั ธรรมชาตใิ นช่วงฤดูหนาว  นักเรียนมผี ดู้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  เรยี นมีผดู้ ูแลใกลช้ ดิ เปน็ บางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภยั หรอื ภาพสัญลักษณใ์ นการเตือนภัยทีเ่ กิดข้นึ ได้  นักเรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณ์ในการเตือนภยั ที่เกดิ ขนึ้ ได้  นักเรียนสามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรียนไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณ์ได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกเหตุการณ์ทเี่ กดิ ขึ้น ไม่สามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตุการณไ์ ด้ และ ถกู ทง้ิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไมม่ ีผดู้ ูแล ๒) ภัยจากอาคารเรียน ส่ิงก่อสรา้ ง  นักเรยี นมผี ู้ดแู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  เรียนมผี ู้ดูแลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภัยท่เี กิดข้ึนได้  นักเรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภัยทีเ่ กิดขึ้น ได้  นักเรียนสามารถดูแลตวั เองเม่ือเกดิ เหตุการณไ์ ด้  นักเรียนไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้  นกั เรียนไมส่ ามารถบอกเหตุการณท์ ี่เกิดขน้ึ ไมส่ ามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้ และ ถกู ท้งิ ให้อยตู่ ามลำพังหรือไมม่ ีผดู้ ูแล ๓) ภัยจากยานพาหนะ  นกั เรียนมีผดู้ แู ลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ู้ดแู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติตนเมื่อใช้หรอื โดยสารยานพาหนะทจ่ี ำเป็นในชวี ติ ประจำวนั ได้ เช่น รถจักรยาน รถจกั รยานยนต์ รถยนต์ เปน็ ต้น  นักเรียนไม่สามารถปฏบิ ตั ิตนเมอ่ื ใชห้ รือโดยสารยานพาหนะทจี่ ำเปน็ ในชีวติ ประจำวนั ได้ เชน่ รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต์ รถยนต์ เป็นตน้  นักเรียนสามารถปฏิบัติตนในการปอ้ งกนั อันตรายที่อาจเกิดจากยานพาหนะในชีวิตประจำวัน  นกั เรยี นไมส่ ามารถปฏิบตั ิตนในการป้องกันอนั ตรายที่อาจเกิดจากยานพาหนะใน ชวี ิตประจำวนั ได้  นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตนเมื่อใช้หรือโดยสารยานพาหนะและไม่สามารถปฏิบัติตนใน การป้องกันอันตรายท่อี าจเกดิ จากยานพาหนะในชวี ิตประจำวันได้ รวมถงึ มักถูกทง้ิ ให้อย่ตู ามลำพงั หรอื ไม่มีผดู้ ูแล

109 ๔) ภยั จากการจัดกิจกรรม  นกั เรยี นมผี ดู้ แู ลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิตามกฎ กติกา ขอ้ ตกลงได้  นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ข้อตกลงไดเ้ ปน็ บางคร้ัง  นกั เรียนไม่สามารถปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ข้อตกลงได้ และ มักถูกท้ิงใหอ้ ยู่ตามลำพงั หรือไม่มี ผดู้ ูแล ๕) ภยั จากเคร่ืองมือ อุปกรณ์  นกั เรยี นมีผดู้ ูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  นกั เรียนมผี ดู้ ูแลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ /เคร่อื งมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ได้ด้วยตนเองอยา่ งปลอดภัย  นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า/เครือ่ งมือชา่ งในบ้านหรอื สถานศึกษา ได้ดว้ ยตนเองอยา่ งปลอดภยั  นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า/เคร่ืองมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัย และมักถูกท้ิงให้อยู่ตามลำพัง หรอื ไม่มีผดู้ แู ล ๔.๓ ภัยทเ่ี กดิ จากการถกู ละเมิดสิทธ์ิ ๑) การถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง  นักเรยี นไดร้ ับการดแู ลเลย้ี งดูจากผ้ปู กครองและผดู้ แู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรยี นถูกปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดท้ิง เปน็ บางคร้งั  นกั เรยี นถูกปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดท้งิ เป็นบ่อยครงั้ ๒) การคกุ คามทางเพศ  นักเรียนรวู้ ิธกี ารเอาตัวรอดจากการคกุ คามทางเพศ  นักเรยี นได้รับการดูแลเลี้ยงดจู ากผปู้ กครองและผ้ดู แู ลเปน็ อยา่ งดี  นกั เรียนถกู ทิ้งให้อยูบ่ ้านเพียงลำพังเปน็ บางครงั้  นกั เรยี นถูกทิ้งให้อยู่บ้านเพยี งลำพังเปน็ ประจำ  บ้านนักเรียนอยใู่ นพน้ื ทห่ี ่างไกลชุมชน  บ้านนกั เรียนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลชุมชน เม่ือมีเหตุสดุ วสิ ัยไมส่ ามารถขอความชว่ ยเหลอื จาก ผอู้ นื่ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทันที

110  บา้ นนักเรยี นอยใู่ นพน้ื ท่ที ่ีมกี ารม่วั สุม เชน่ ยาเสพตดิ สุรา การพนนั  บ้านนกั เรียนอยใู่ นพนื้ ท่ีท่ีมีการม่วั สุม เชน่ ยาเสพตดิ สุรา การพนนั เมื่อมีเหตุสุดวสิ ยั ไม่ สามารถขอความช่วยเหลอื จากผอู้ ืน่ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทนั ที ๓) การไมไ่ ด้รบั ความเปน็ ธรรมจากระบบการศกึ ษา  นกั เรยี นไดร้ บั การศกึ ษาและการพัฒนาตนเองจากหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องกบั ระบบการศกึ ษา  ครอบครัวนักเรียนขาดการรับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานต่าง ๆ เนื่องจากอยู่ในพื้นท่ี ห่างไกล บนเขา ติดชายแดน หรอื พื้นที่เสยี่ งภยั  ผปู้ กครองกลัวลกู ถูกรังแกหรือกลน่ั แกลง้ หรือไม่ได้รับการดแู ลเทา่ ที่ควรเหมาะสม  ผู้ปกครองขาดความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับระบบการศกึ ษา เพราะคิดว่าเด็กพิการไมต่ ้องเขา้ ระบบการศกึ ษา  การคมนาคมและระบการตดิ ตอ่ สอ่ื สารไมส่ ะดวก  การส่ือสารดา้ นภาษา เช่น กลมุ่ ชาตพิ ันธ์ กล่มุ ชนกลุ่มน้อย ๔.๔ ภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสขุ ภาวะทางกายและจิตใจ ๑) ภาวะจติ เวช  นักเรยี นได้รับการดแู ลเล้ียงดูจากผู้ปกครองและผ้ดู ูแลเปน็ อยา่ งดี  นักเรยี นมีพฤติกรรม อารมณ์ รา่ งเรงิ แจ่มใส่ หรือสามารถแสดงพฤติกรรม อารมณ์ได้อยา่ ง เหมาะสมและสอดคล้องตามสถานการณ์  นกั เรียนมีพฤติกรรม อารมณ์ไมเ่ หมาะสมบางสถานการณ์  นักเรียนปัญหาด้านครอบครวั ส่งผลกระทบต่อจิตใจ  นักเรียนมีปญั หาด้านสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชน ท่ีสง่ ผลตอ่ พฤติกรรม  นักเรียนมีภาวะอาการโรคซึมเศรา้  นกั เรยี นมปี ญั หาทางดา้ นพฤติกรรมและอารมณ์ท่รี ุนแรง ๒) ตดิ เกม  นักเรียนไดร้ บั การดูแลเลยี้ งดจู ากผ้ปู กครองและผดู้ แู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรียนสามารถแบ่งเวลาในการเล่นเกมและทำกิจกรรมอ่ืน ๆ โดยไม่มีภาวะพฤติกรรม ต่อตา้ น  นักเรียนถกู ปลอ่ ยปละละเลยให้เลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดูแล เปน็ บางครงั้  นกั เรยี นถกู ปลอ่ ยปละละเลยให้เล่นโทรศัพทห์ รือเล่นคอมพิวเตอรโ์ ดยไมม่ ีการควบคุม ดูแล บ่อยครง้ั  สภาพแวดล้อมท่ีใกลช้ ิดทำให้นักเรียนมีพฤติกรรมเลยี นแบบ เชน่ ผ้ดู ูแลเลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ หรือมอื ถืออย่างไมร่ ะมัดระวงั

111  นักเรยี นแสดงพฤติกรรมหรืออารมณ์ท่ีกา้ วร้าวรุนแรง เมอ่ื ถูกห้าม ยึด หรือจำกดั เวลาใน การเล่นเกม  ผู้ดแู ลขาดความเขา้ ใจในส่ือออนไลนไ์ ม่สามารถแนะนำใหน้ กั เรยี นเล่นเกมอยา่ งระมดั ระวงั ได้ ๓) ยาเสพติด  นักเรยี นได้รับการดูแลเลีย้ งดูจากผู้ปกครองและผ้ดู แู ลเป็นอยา่ งดี  นกั เรยี นสามารถรับรู้ถงึ โทษของยาเสพตดิ  นักเรียนอยู่ในสภาพแวดล้อม ครอบครัวหรือชุมชน ท่ีมีการใช้สารเสพติดหรือมีความ เก่ียวข้องกบั ยาเสพติด และการกระทำผิดกฎหมาย  นักเรียนถกู ชกั ชวนจากผู้อื่นไดง้ ่าย  นกั เรียนมพี ฤติกรรม เลียนแบบหรอื ทำตามผ้อู นื่  นกั เรียนเคยทดลองใช้ยาเสพติด  นกั เรียนใช้ยาเสพตดิ  นกั เรียนถกู หลอกใชใ้ หเ้ ป็นผู้ส่ง-รบั ยาเสพตดิ  นักเรียนเปน็ ผขู้ ายหรอื ผซู้ ื้อยาเสพตดิ ๔) โรคระบาดในมนุษย์  นกั เรยี นได้รบั การดแู ลเลยี้ งดูจากผ้ปู กครองและผูด้ ูแลเปน็ อย่างดี  นกั เรยี นมีผ้ดู แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรียนมักถูกทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพงั หรือไม่มีผดู้ ูแล  นักเรียนรู้จกั วิธกี ารป้องกันและสามารถดแู ลตนเองให้ปลอดภยั จากโรคระบาดได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถดูแลตนเองจากโรคระบาดได้ เชน่ การใส่แมส ล้างมอื ทำความสะอาด รา่ งกาย  นักเรยี นอาศยั หรือใชช้ ีวิตอยูใ่ นสภาพแวดล้อมท่เี ปน็ แหล่งแพร่เชอื้ โรค  นักเรียนอยใู่ กลช้ ดิ กับผ้ปู ว่ ย เชน่ บคุ คลในครอบครวั เพ่ือน  ผใู้ กล้ชดิ หรอื บคุ คลในครอบครวั เปน็ โรคระบาดและนักเรียนไมส่ ามารถปอ้ งกันตวั เองได้  นกั เรยี นปว่ ยเปน็ โรคระบาดและไมส่ ามารถป้องกันการแพร่กระจายเชือ้ จากตนเองไปสูผ่ ู้อ่นื ได้ ๕) ภยั ไซเบอร์  นกั เรยี นไดร้ บั การดูแลเล้ียงดจู ากผ้ปู กครองและผดู้ ูแลเปน็ อยา่ งดี  นักเรียนสามารถแบง่ เวลาในใช้สอ่ื เครือข่ายสังคมออนไลน์และทำกิจกรรมอืน่ ๆ โดยไม่มี ภาวะพฤติกรรมต่อต้าน เป็นบางคร้งั  นักเรยี นถกู ปล่อยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ท์หรือเล่นคอมพิวเตอรโ์ ดยไมม่ ีการควบคุม ดูแล  สภาพแวดลอ้ มทใี่ กล้ชดิ ทำให้เด็กมีพฤติกรรมเลยี นแบบ เช่น ผดู้ แู ลใชส้ อ่ื เครอื ข่ายสังคม ออนไลนอ์ ยา่ งไมร่ ะมัดระวัง

112 ระมดั ระวงั ได้  ผดู้ ูแลขาดความเขา้ ใจในใชส้ อ่ื เครือข่ายสังคมออนไลน์ ไม่สามารถแนะนำ ให้เด็กใชอ้ ย่าง บ่อยครงั้  นักเรียนถูกปลอ่ ยปละละเลยให้เลน่ โทรศัพทห์ รือเลน่ คอมพิวเตอรโ์ ดยไม่มีการควบคุม ดูแล นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมหรอื อารมณ์ที่ก้าวรา้ วรุนแรง เมื่อถกู ห้าม ยึด หรือจำกัดเวลาในใช้สื่อ เครอื ข่ายสงั คมออนไลนแ์ ละทำกจิ กรรมอืน่ ๆ ๖) การพนนั  นักเรยี นได้รบั การดูแลเล้ยี งดจู ากผู้ปกครองและผู้ดูแลเปน็ อย่างดี  นักเรยี นสามารถรับรูถ้ งึ โทษของการเลน่ การพนัน  นักเรยี นอยใู่ นครอบครวั ชมุ ชนหรือสภาพแวดล้อม ท่ีมีการเลน่ พนนั  นกั เรียนถกู ชักชวนจากเพ่ือนหรอื ผู้ใกล้ชดิ ใหเ้ ลน่ การพนัน  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมอยากทดลอง เลียนแบบการเล่นการพนันตามเพ่ือนหรอื ผู้ท่ีอยูใ่ กลช้ ดิ  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมส่อไปทางการเลน่ หรือติดการพนัน ๗) มลภาวะเปน็ พษิ  นักเรยี นไดร้ บั การดแู ลเล้ยี งดจู ากผูป้ กครองและผดู้ แู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรียนรจู้ ักวิธกี ารป้องกันและสามารถดแู ลตนเองให้ปลอดภัยจากมลภาวะต่าง ๆ ได้  นักเรยี นอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีเป็นแหล่งมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางนำ้  นักเรยี นไม่สามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได้ เชน่ การใสแ่ มสเพื่อป้องกันมลภาวะทาง อากาศ  นกั เรยี นป่วยหรอื เปน็ โรคที่เกิดจากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางนำ้ เชน่ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคทเี่ กยี่ วกับการไดย้ ินเสียง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสขุ ภาวะทางกายอนื่ ๆ ท่ี เกดิ จากมลภาวะเปน็ พิษ ๘) โรคระบาดในสัตว์  นกั เรยี นได้รบั การดูแลเล้ยี งดูจากผู้ปกครองและผู้ดูแลเป็นอยา่ งดี  ครอบครวั นกั เรยี นรู้จกั วธิ ีการป้องกันและสามารถดูแลสตั ว์เลย้ี งและคนในครอบครวั ให้ ปลอดภยั จากโรคระบาดหรือโรคตดิ ต่อจากสัตวไ์ ด้  ครอบครวั นกั เรียนไม่มีความรใู้ นการดูแล ปอ้ งกันโรคต่าง ๆ จากสัตว์เลี้ยง  นกั เรยี นอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือชมุ ชนท่ีมีการเลี้ยงสัตว์ ทำการปศุสัตว์  นักเรียนอยู่ในสภาพแวดลอ้ มหรอื ชมุ ชนที่มีการเกดิ โรคระบาดสัตว์  นักเรียนปว่ ยหรือตดิ เช้อื จากโรคต่าง ๆ จากสตั วเ์ ลย้ี ง หรือโรคระบาดในสัตว์ เชน่ โรคพษิ สุนขั บา้ โรคไขเ้ ลือดออก ไข้หวัดนก โรคฉ่หี นู โรคอหิวาในสตั ว์ โรคเช้ือราผิวหนงั โรคเกี่ยวกบั พยาธใิ นสตั ว์ เปน็ ต้น

113 ๙) โรคภาวะทพุ โภชนาการ  นักเรยี นสามารถรบั ประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถกู ต้องตามหลกั โภชนาการ ครบ 5 หมู่  นักเรียนรูจ้ ักโทษของอาหารที่ไม่มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย  นกั เรยี นสามารถออกกำลังกายได้อยา่ งสมำ่ เสมอ  ผ้ปู กครองดูแลและมีความรูค้ วามเข้าใจดา้ นโภชนาการอย่างถูกต้อง  นกั เรียนรบั ประทานท่ีไม่มปี ระโยชน์ ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ  ผ้ปู กครองขาดความรู้และไม่มีเวลาในการดูแลจัดอาหารใหถ้ ูกต้องตามหลักโภชนาการ  นกั เรยี นมีน้ำหนกั ผิดปกติไม่สมั พันธ์กบั ส่วนสูงหรืออายุ  นกั เรียนป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร  นกั เรยี นปว่ ยเปน็ โรคขาดสารอาหารหรอื มีปัญหาทางด้านสุขภาพตั้งแต่กำเนดิ ๔.๕ ภยั สังคมในเทศกาลตา่ ง ๆ ๑) ถูกจีป้ ล้น/ถูกวงิ่ ราวทรัพย/์ ถูกล้วงกระเปา๋  นกั เรียนรจู้ กั วิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการถูกจ้ีปลน้ /ถูกวิ่งราวทรัพย์/ถูกล้วงกระเป๋า และผู้ปกครองดูแลอยา่ งใกลช้ ิด  นกั เรยี นไม่รูจ้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถูกจี้ปลน้ /ถูกวง่ิ ราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเปา๋ แตผ่ ปู้ กครองดแู ลอย่างใกล้ชดิ  นักเรียนรู้จกั วธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถูกจ้ีปล้น/ถูกวิ่งราวทรพั ย/์ ถูกล้วงกระเปา๋ และมผี ดู้ ูแลใกลช้ ดิ บางเวลา  นกั เรียนไมร่ ู้จักวธิ ีการป้องกนั ตนเองต่อการถูกจป้ี ลน้ /ถูกวงิ่ ราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเปา๋ และมีผูด้ ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นักเรียนรู้จักวิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการถูกจป้ี ล้น/ถูกวิ่งราวทรพั ย/์ ถูกล้วงกระเป๋า แต่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพงั หรือไมม่ ีผ้ดู แู ล  นักเรียนไม่รจู้ ักวธิ กี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกจปี้ ล้น/ถูกวง่ิ ราวทรัพย์/ถูกล้วงกระเปา๋ และถูกทงิ้ ให้อยู่ตามลำพงั หรือไม่มผี ูด้ ูแล ๒) ถกู ล่อลวง/ถูกหลอก  นักเรยี นรจู้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอก และผู้ปกครองดแู ลอย่าง ใกล้ชดิ  นักเรยี นไมร่ จู้ กั วิธีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกล่อลวง/ถูกหลอก แตผ่ ู้ปกครองดูแลอยา่ ง ใกล้ชิด  นักเรียนรจู้ กั วิธีการป้องกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอกและมีผดู้ ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นกั เรียนไม่รจู้ ักวธิ ีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกล่อลวง/ถูกหลอกและมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิดบางเวลา

114  นกั เรียนรูจ้ ักวิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู ล่อลวง/ถูกหลอกแต่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหรอื ไม่ มีผูด้ แู ล  นกั เรยี นไม่รู้จักวิธกี ารป้องกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถูกหลอก และถกู ทิ้งให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มผี ูด้ แู ล ๓) ถูกลกั พาตัว  นักเรยี นรู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู ลกั พาตวั และผู้ปกครองดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ  นกั เรยี นไมร่ ้จู ักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกลักพาตวั แตผ่ ูป้ กครองดแู ลอย่างใกลช้ ิด  นักเรยี นร้จู ักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู ลกั พาตัวและมผี ้ดู ูแลใกล้ชิดบางเวลา  นักเรียนไมร่ ู้จกั วิธกี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกลกั พาตวั และมผี ู้ดูแลใกล้ชิดบางเวลา  นักเรียนรจู้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถกู ลักพาตวั แต่ถกู ท้ิงให้อยูต่ ามลำพงั หรอื ไม่มีผู้ดแู ล  นกั เรียนไมร่ ู้จกั วิธีการป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกลักพาตวั และถกู ท้งิ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไม่มี ผู้ดูแล ๔) ถกู วางยาด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ  นกั เรยี นรจู้ กั วิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาดว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ และผูป้ กครองดูแลอย่าง ใกล้ชิด  นกั เรียนไมร่ ู้จักวธิ ีการป้องกนั ตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวิธกี ารต่าง ๆ แต่ผปู้ กครองดแู ล อย่างใกล้ชดิ  นกั เรียนรู้จักวธิ ีการปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และมผี ดู้ แู ลใกล้ชดิ บาง เวลา  นกั เรียนไม่รจู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวิธีการตา่ ง ๆ และมผี ้ดู แู ลใกลช้ ิด บางเวลา  นักเรยี นรูจ้ ักวิธกี ารป้องกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ แต่ถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มผี ้ดู ูแล  นกั เรยี นไม่รู้จกั วิธกี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ และถูกทง้ิ ให้อยตู่ าม ลำพงั หรือไมม่ ีผ้ดู ูแล ๕) อนาจารขม่ ขนื กระทำชำเรา  นกั เรยี นรู้จักวธิ ีการปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเรา และผูป้ กครองดูแล อยา่ งใกลช้ ดิ  นกั เรียนไม่รจู้ ักวธิ ีการป้องกันตนเองต่อการอนาจารขม่ ขนื กระทำชำเรา แต่ผู้ปกครองดูแล อย่างใกล้ชดิ  นักเรยี นรจู้ ักวิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเราและมีผดู้ ูแลใกล้ชดิ บาง เวลา

115  นักเรียนไม่รจู้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเราและมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิด บางเวลา  นกั เรยี นร้จู กั วิธีการปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราแต่ ถูกท้งิ ให้อยู่ตาม ลำพงั หรอื ไมม่ ีผู้ดูแล  นักเรียนไม่รจู้ กั วิธกี ารป้องกันตนเองตอ่ การอนาจารขม่ ขนื กระทำชำเรา และถูกทิง้ ให้อยู่ตาม ลำพงั หรือไมม่ ีผูด้ ูแล ลงชอ่ื ...............................................ผบู้ นั ทกึ ข้อมลู (นางสาวสุวมิ ล ใจมา) ตำแหนง่ ครู

116 แบบรวบรวมข้อมลู ผู้เรยี น ตามกรอบคิดแนวเชงิ นิเวศ (Ecological System) ช่อื -นามสกลุ นกั เรียน เด็กหญิงฐิตา สิงห์ทองลา ชอ่ื เลน่ ฝ้าย ระดบั ชั้น เตรียมความพร้อม ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบริการ ในศนู ย์ ชือ่ สถานศกึ ษา ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง อาเภอ เมอื งลาปาง จงั หวดั ลาปาง ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี ๑ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

117 รวบรวมข้อมลู ผู้เรยี น ข้อมูลของผูเ้ รยี น ๑. ขอ้ มลู ของผู้เรียน ชอื่ -นามสกลุ นกั เรียน เด็กหญิงฐติ า สงิ หท์ องลา ชื่อเล่น ฝา้ ย อายุ ๑๒ ปี เพศ หญิง เชื้อชาติ ไทย ประเภทความพิการ บคุ คลออทิสติก โรคประจาตวั ปฏเิ สธการมโี รคประจาตวั  ลักษณะความพกิ าร นักเรียนมีพฤติกรรมกระตุ้นตัวเอง ซ่ึงเป็นพฤติกรรมซ้าๆ เช่น สะบัดนิ้วมือ เล่นมือ ดม เคาะ หรือหมุน ส่ิงของ มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผัส เช่น เดินเขย่งปลายเท้า ไม่ชอบการกอดรัด ทนต่อเสียงบางอย่างไม่ได้ มีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง เช่น ชอบวิ่ง เดินไปมารอบห้อง ไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น เช่น ไม่เข้าใจเวลาเพ่ือนโกรธ เศร้า เสียใจ แสดงความต้องการโดยการจูงมือ เช่น เด็กจะจูงมือผู้ปกครอง / ครู เพ่ือนาไปทาสิ่งที่ต้องการ ไม่สามารถเริ่มต้นบทสนทนากับผู้อ่ืนได้ ไม่เข้าใจคาที่เป็นนามธรรม เช่น การเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่ แสดงพฤติกรรม การตอบสนองทางอารมณ์ และสงั คมไม่เหมาะสม เช่น ส่งเสียงกรีดร้อง ทาร้ายตนเองหรือผู้อื่นเม่ือถูกขัดใจ แยกตัว ออกมาอย่ตู ามลาพัง เชน่ ในขณะท่เี พือ่ นทากจิ กรรมกลุม่ ไม่ยอมเข้ารว่ มกิจกรรม  พฤตกิ รรมของผู้เรียน พฤติกรรมส่วนบุคคล นักเรียนมีปัญหาทางด้านทักษะสารสื่อสารแสดงความต้องการโดยการจูงมือเพื่อนาไปทาส่ิงท่ีต้องการ หากไม่ได้ในสิ่งท่ีตนเองต้องการก็จะมีพฤติกรรมร้องไห้โวยวาย สมาธิส้ัน ต้องรับประทานยาก่อนนอนทุกคืน ทานอาหารได้ทุกชนิดโดยเฉพาะเมนูไข่ตม้ หรือข้าวมันไก่ท่ีมหี นังไก่เยอะๆ เมื่ออยู่ตามลาพังนกั เรียนจะชอบฟงั เพลง และโยกตัวเต้นตามเพลง มีการตอบสนองทางอารมณ์และสังคมไม่เหมาะสม เช่น กรีดร้อง โวยวาย กระทืบส้นเท้า ลงพื้น ทุบท่ีขาและอกตัวเอง เม่ือถูกขัดใจ ชอบแยกตัวออกมาอยู่ตามลาพงั ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ระเบียบ หรือขอ้ ตกลงได้ ไมร่ ้จู ักการรอคอย มีการกระต้นุ ตวั เองโดยการโยกตวั ไปมา พฤติกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถแสดงความต้องการของตนเอง โดยจับมือไปเอาในสิ่งท่ีตนเองต้องการ และแสดง การปฏิเสธโดยการ แสดงออกทางท่าทางและสีหน้าไม่พึ่งพอใจและใช้มือผลักออก นักเรียนไม่สามารถสื่อสารด้วย ภาษาท่ีมีความหมาย สามารถฟังและทาตามคาส่ังได้ดี และสามารถทาตามตัวแบบได้นักเรียนทากิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง สามารถช่วยเหลือตนเองในกิจกรรมพ้ืนฐานได้โดยไม่ต้องช่วยเหลือ ในระหว่างการฝึกการเรียนรู้ ผ้เู รียนสามารถเรยี นร้ไู ด้โดยผ่านการมอง การฟัง เป็นลาดับขั้นตอนการทางานจากขั้นตอนง่ายๆไปหาข้ันตอนที่ยาก กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

118 ข้ึนด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา โดยการใช้สื่ออุปกรณ์ที่เป็นของจริงท่ีเหมาะสมกับผู้เรียนใน ชวี ติ ประจาวันและใช้การประสมประสานทกุ วธิ ีในการทา ภาพนกั เรยี น กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

119 รวบรวมข้อมลู ผูเ้ รยี น ข้อมลู ความสามารถผเู้ รยี น  ความสามารถพ้ืนฐานของผ้เู รยี น จุดออ่ น ๑.๑ ความสามารถพื้นฐานทางด้านรา่ งกาย ๑. นักเรียนไมส่ ามารถเดนิ ขน้ึ -ลงบันไดโดยมอื จุดเด่น ท้ังสองขา้ งถือของไว้ ๑. นกั เรียนสามารถเดินขนึ้ -ลงบันไดโดยไมม่ ีราวจับ ๒. นกั เรียนไม่สามารถรับลูกบอลทก่ี ระดอนข้ึน บนั ไดแบบสลบั เท้าได้ จากพืน้ ไดด้ ้วยตนเอง ๒. นักเรยี นสามารถรบั ลูกบอลขนาดใหญท่ โี่ ยนสง่ มา ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถกระโดดและว่ิงเขา้ จงั หวะเพลง ดว้ ยมือทั้งสองข้าง งา่ ยๆ ได้ ๓. นักเรยี นสามารถพยายามเคลือ่ นไหวเข้าจงั หวะ เคาะของเคร่ืองดนตรี ๑.๒ ความสามารถพ้นื ฐานทางด้านอารมณ์ จติ ใจ จดุ เด่น จุดอ่อน ๑. นกั เรยี นสามารถแสดงอารมณ์ ความรู้สกึ พน้ื ฐาน ๑. นักเรยี นไม่สามารถจดั การอารมณ์ตนเองใน ของตนเองได้ สถานการณต์ า่ งๆ ได้ เช่น เม่ือเจอกับสถานการณ์ท่ี ไม่ไดด้ ัง่ ใจตนเองเองก็จะมีพฤติกรรมกรีดร้อง โวยวายและทาร้ายตนเอง ๒. นักเรยี นสามารถแสดงสหี นา้ อารมณ์ไดเ้ หมาะสม ๒. นักเรยี นไม่สามารถตคี วามหมายสหี น้า ทา่ ทาง เม่ือไดร้ บั คาชมเชย คาติชม หรือคาเตือนจากผู้อืน่ ภาษากาย และนา้ เสียงของผ้อู ื่นและตอบสนอง อารมณข์ องผอู้ ืน่ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง

120 รวบรวมข้อมูลผเู้ รยี น ข้อมลู ความสามารถผู้เรยี น ๑.๓ ความสามารถพื้นฐานทางด้านสงั คม จุดอ่อน ๑. นักเรียนไม่สามารถเล่นแบบมจี นิ ตนาการโดยใช้ จุดเดน่ ๑. นกั เรียนสามารถเล่นเลยี นบทบาทงา่ ยๆ เช่น ของเล่น (รถ ก้อนไม้ ตุ๊กตา สตั ว)์ เป็นส่วนประกอบ ๒. นกั เรยี นไม่สามารถไหว้ผู้ใหญท่ ค่ี ุน้ หน้า ท่าทางสตั ว์ ได้ ๒. นักเรียนสามารถพดู “สวัสดี” หรือทกั ทาย โดยไม่ต้องเตือนให้ทา ๓. นักเรยี นไม่สามารถขออนุญาตใชส้ ่งิ ของทผี่ ู้อื่น ด้วยการไหวต้ ามท่ผี ู้ใหญ่บอก ๓. นักเรียนสามารถแสดงทา่ ทางในการบอก หรือ ครอบครองอยู่ เชน่ เหน็ เพอ่ื นกาลังดูหนงั สือนิทาน กจ็ ะเข้าไปแยง่ จากมือเพ่ือนมาโดยไมม่ ีการขอก่อน ขอ เชน่ ขอด่ืมน้า กจ็ ะเอาแกว้ แล้วเดนิ มาหาครู ๑.๔ ความสามารถพนื้ ฐานทางด้านสตปิ ัญญา จดุ ออ่ น ๑. นักเรียนไมส่ ามารถชส้ี ่วนของร่างกายได้ ๑๒ แห่ง จุดเดน่ ๑. นกั เรยี นบอกช่อื ส่วนของร่างกายได้ ๑๐ แห่ง เมื่อเอย่ ชอ่ื (เช่น ตา หู จมูก เทา้ ขา แขน ผม ปาก ฟนั มือ ทอ้ ง แก้ม เข่า เลบ็ ) ๒. นกั เรียนสามารถจัดเรยี งภาพกจิ กรรม ๓ ภาพ ๒. นกั เรียนไมส่ ามารถจดั ลาดับกจิ วัตรประจาวนั ๕ ตามลาดับเหตุการณ์ได้ กจิ กรรม ตามเวลาทเ่ี กดิ ข้ึนในวนั ใดวันหนึ่ง ๓. นกั เรียนไมส่ ามารถบอกเวลากลาวัน กลางคืน ๓. นักเรียนสามารถบอกเวลากลาวันและกลางคนื ได้ โดยสัมพนั ธก์ ับกจิ วัตรประจาวนั ท่เี กิดขนึ้ ๑.๕ ความสามารถพืน้ ฐานทางด้านทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ าร จุดเด่น จดุ ออ่ น นกั เรยี นสามารถแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึกได้ นักเรียนไม่สามารถจดั การอารมณ์ตนเองใน เหมาะสม เช่น อารมณ์ดใี จ เสียใจ โกรธ กลวั สถานการณต์ ่าง ๆ ได้ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง

121 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรยี น กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคิดตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดา้ นสภาพแวดลอ้ มของผเู้ รยี น (Microsystem)  บุคคลภายในครอบครัวท่ีผูเ้ รียนไว้วางใจ พี่ แ พ ร เป็ น ผู้ ดู แ ล ห ลั ก แ ล ะ เป็ น ผู้ ท่ี นั ก เรีย น ไว้ว างใจ ม าก ท่ี สุ ด ใน ทุ ก ๆ วัน พ่ี แ พ ร เป็นผู้ดูแลกิจวัตรประจาวันท้ังหมดของนักเรยี น ได้แก่ การบอกให้อาบน้า แปรงฟัน ดูแลเร่ืองเส้ือผ้า การมัดผม การทาอาหาร เนื่องจากเป็นพีเ่ ล้ียงทผ่ี ้ปู กครองจ้างมาดแู ลนกั เรยี นโดยเฉพาะ ตาพนธ์ เป็นคนที่นักเรียนไวว้ างใจรองลงมาจากพีแ่ พร มหี น้าที่รับส่งนักเรียนมาโรงเรียน ดูแลเรื่อง สุขภาพรา่ งกาย พฤตกิ รรม รวมถงึ อาการเจ็บปว่ ยต่างๆ รว่ มกบั แม่ และยาย ของนกั เรียน แม่นา เป็นคนที่นักเรียนไว้วางใจรองลงมาจากพ่ีแพร ดูแลร่วมกับตาพนธ์ เนื่องจากต้องออกไป ทางานนอกบา้ นหรอื ต่างจงั หวัดบอ่ ยจึงไมค่ ่อยมีเวลาดูแลนกั เรียน ลักษณะทอี่ ยู่อาศัย (ห้องอะไรบ้าง / ความสะอาด) เป็นบ้านปูน ๒ ช้ัน มีลานหน้าบ้านสามารถจอดรถยนต์ได้ ในบริเวณบ้านประกอบด้วยบ้านปูนชั้น เดียว จานวน ๑ หลัง และตึกปูน ๒ ช้ัน จานวน ๑ หลัง ที่ใช้ทาเป็นบริษัทของแม่นักเรียน ล้อมรอบบ้านด้วยร้ัว ปูนและประตูเลื่อนทาจากเหล็กอลูมิเนียม ปิดไว้ตลอดเวลา และเปิดเมื่อมีผู้เข้าออกบ้าน ด้านข้างของบ้าน ติดถนน โดยนักเรียนแยกมานอนบ้านปนู ๑ ช้นั กับพี่เลี้ยง โดยในบ้านมี ๒ ห้องนอน ๒ ห้องน้า ๑ ห้องโถง และ ๑ ห้องครัวบริเวณบ้าน ของผู้เรียนท้ังด้านในและด้านนอกมีความสะอาดเรียบร้อย อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเข้าถงึ  ลักษณะห้องนา้ (ระบรุ ายละเอยี ด) มหี อ้ งน้าแบบชักโครก แบ่งมุมสาหรบั วางอ่างล้างหนา้ ฝักบัวอาบน้า ราวแขวนผา้ มชี น้ั วางอปุ กรณ์ ทาความสะอาดรา่ งกายและอุปกรณท์ าความสะอาดห้องน้าเปน็ สดั สว่ นเหมาะสม สะอาด โล่งสบาย มีประตแู บบ กลอนปดิ มิดชิด  ลักษณะหอ้ งนอน (ระบุรายละเอียด) เตียงของนักเรียนเป็นเตียง ขนาด ๖ ฟุต รอบเตียง มีหมอนหนุนและหมอนข้าง กว้างขวางและ เพียงพอต่อผู้เรียนและพี่เลี้ยง มีหน้าต่างระบาย เพ่ือให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการจัดวางของท่ีเป็นระเบียบ เปน็ สดั ส่วน  พน้ื ท่ีในการฝึก/ทากจิ กรรมกับผ้เู รียน (ระบรุ ายละเอยี ด) บ ริ เว ณ บ้ า น ข อ งนั ก เรี ย น พื้ น ที่ ใน ก า ร ฝึ ก ใน ด้ า น ข อ ง วิ ช า ก า ร ส า ม า ร ถ ใช้ พ้ื น ท่ี ห้ อ งน่ั งเล่ น ในการฝกึ กิจกรรมต่างๆ ในส่วนของการฝกึ ทักษะการดารงชีวิต มีพื้นที่ ห้องครัว ห้องน้า สามารถฝึกการใช้ชีวิต ของผ้เู รยี นได้ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง

122 รวบรวมข้อมูลผู้เรยี น กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๒ ด้านความสมั พันธ์และปฏสิ ัมพันธ์ระหว่างบุคคลทเ่ี กี่ยวข้องของผเู้ รียน (Mesosystem)  ลักษณะของครอบครัวและความสมั พนั ธ์ของบุคคลในครอบครวั นักเรียนอยู่ร่วมกับแม่นา ตาพนธ์ พี่แพร และญาติพ่ีน้อง มีปฏิสัมพันธ์ที่ดี แต่ไม่ได้อาศัย อยู่ร่วมกับบิดา เนื่องจากบิดามารดาแยกทางกัน มารดาทาธุรกิจส่วนตัวเป็นผู้หารายได้ให้กับ ครอบครัวจึงมคี วามจาเปน็ ต้องไปติดต่องานต่างจังหวัดค่อยข้างบ่อย หน้าท่ีในการดูแลนักเรียนส่วน ใหญจ่ ึงเป็นของตาพนธ์ และพแ่ี พรซึ่งผ้ปู กครองได้จ้างมาดูแลนกั เรียนโดยเฉพาะ ความสมั พนั ธ์กับบคุ คลในห้องเรียน/โรงเรยี น นักเรียนได้มารับบริการในห้องเรียนประสานสายตา ๒ โดยมีครูสุวิมล ใจมา เป็นครู ประจาชั้นโดยให้บริการทางการศึกษาพิเศษและคาแนะนาแก่ผู้ปกครองของนักเรียน โดยมี ครูจิราพร จริยภมรกุร เป็นครูประจาช้ันร่วม รวมทั้งมีพี่เล้ียงเด็กพิการท่ีคอยช่วยเหลือครูประจา ชน้ั ในการดูแลนักเรยี น จานวน ๒ คน คือ นางสาวศิรพิ ร จันทร์สบื และนางสาวจฑุ ามาศ นนั ต๊ะแขม นอกจากนั้นมีครูบริการสอนเสริมวิชาการได้แก่ ครูรินรดา ราศรี เป็นครูกิจกรรมบาบัดมีหน้าที่ ให้บริการจัดการเรียนการสอนด้านการบูรณาการประสาทความรู้สึก การปรบั กิจกรรมให้เหมาะสม กับศักยภาพของนักเรียน และครูศศิกมล เป็นครูจิตวิทยาคลินิกมีหน้าที่ให้บริการจัดการเรียน การสอนด้านเรื่องพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และแก้ไขปัญ หาพฤติกรรมของนักเรียน ครูธนิษฐ์ โชติชาติ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้านงานเกษตร ครูธวัชชัย อุตสาสาร จัดกิจกรรม การเรียนการสอนศิลปะ และครูสราวุธ แก้วมณีวรรณ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเทคโนโลยี สารสนเทศ (ICT) ใหก้ ับนกั เรียน  ความสมั พนั ธ์กับบุคคลอ่นื ๆ เช่น ญาติพนี่ อ้ ง เพือ่ น เพือ่ นบา้ น คนในชุมชน เป็นตน้ บ้านนักเรียนอยู่ในสังคมเมืองจึงไม่ค่อยมีญาติหรือเพ่ือนบ้านมาเย่ียม จะอยู่กันในเฉพาะ ครอบครัว โดยนักเรียนจะอยู่กับพ่ีเลี้ยงคือพ่ีแพรเป็นส่วนใหญ่ กิจกรรมที่นักเรียนชอบทาขณะอยู่ บา้ น คือการฟังเพลงจากรายการทีวี และเตน้ ตาม กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง

123 รวบรวมข้อมลู ผเู้ รียน กรอบแนวคิดตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๓ ดา้ นสิง่ แวดล้อมและสภาพสงั คมที่มผี ลต่อครอบครัว (Exosystem)  สถานการณป์ ัจจบุ นั ท่สี ง่ ผลกระทบกบั ผู้เรยี น เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (Covid 2019) ในปัจจุบัน ส่งผล ให้นักเรียนไม่ได้มารับบริการท่ีห้องเรียนประสานสายตา ๒ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัด ลาปาง อย่างต่อเน่ือง ทาให้การพัฒนานักเรียนเป็นไปได้ไม่เต็มศักยภาพ บางคร้ังเม่ือนักเรียนกลับมา เรยี นกจ็ ะมีพฤตกิ รรมท่ีไมพ่ งึ ประสงคต์ ามมา เช่น ไม่รจู้ กั การรอคอย ไม่รจู้ กั การแบ่งปัน  สถานท่ที างานของพ่อแม่/ผ้ปู กครอง สถานท่ีทางานของมารดาคือที่บ้านของนักเรียนเอง โดยจัดต้ังเป็นบริษัท แต่มารดามักไม่ ค่อยได้อยู่บ้านเนื่องจากต้องไปติดต่องานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศค่อยข้างบ่อย ส่วนตาพนธ์ เปน็ ข้าราชการบานาญ ไม่ได้ออกไปทางานนอกบา้ นมหี น้าทไ่ี ปรบั ไปสง่ นกั เรยี นมารบั บริการ  สภาพแวดล้อมทางกายภาพ หรือ การจดั สง่ิ อานวยความสะดวกของชุมชนทผ่ี เู้ รียน อาศัยอยู่ ชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่เป็นชุมชนเมือง ใกล้สถานท่ีสาคัญ ได้แก่ สถานีตารวจ โรงเรียน โรงพยาบาล วัด ห้างสรรพสินค้า มีถนนผ่านหน้าบ้านนักเรียนทาให้ การเดินทางสะดวก ส่งผลให้ได้รบั บรกิ ารทันทว่ งทเี ม่อื มีเหตุฉุกเฉนิ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

124 รวบรวมขอ้ มูลผ้เู รยี น กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๔ ด้านวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมของสงั คม (Macrosystem) ครอบครัวของนักเรียนนับถือศาสนาพุทธ เช่ือในการทาความดี แต่ไม่ได้มีความเช่ือเร่ืองเวรกรรมที่ ทาให้นักเรียนมีความพิการ สมาชกิ ในครอบครัวดูแลนักเรียนด้วยความรักและคดิ ว่าเป็นหน้าที่ของสมาชิก ในครอบครวั ที่ต้องชว่ ยเหลือกัน ถงึ แม้ว่าบางครัง้ การดูแลนักเรียนจะทาให้สมาชิกในครอบครัวไม่ได้ไปเข้า ร่วมกิจกรรมของชมุ ชน กิจกรรมทางศาสนา หรือกิจกรรมประเพณตี ่างๆ ๒.๕ ดา้ นสิง่ ตา่ งๆที่อาจกระทบตอ่ ผู้เรยี น เชน่ กฎหมาย การไดร้ บั สทิ ธดิ ้านตา่ งๆ เทคโนโลยี หรอื แอพพลิเคชนั่ ที่เกยี่ วข้องกับผู้เรียนในชวี ติ ประจาวนั (Chronosystem) นักเรียนได้รับเบ้ียพิการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จากเบี้ยยังชีพคนพิการ และได้รับบริการทาง การแพทย์ ตามโครงการ ๓๐ บาทรักษาทกุ โรคตามสวัสดิการของรัฐ นักเรียนได้รับการให้บริการทางการศึกษาจากศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ห้องเรียน ประสานสานตา ๒ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกท้ังนักเรียนสามารถเข้าถึงสื่อเทคโนโลยีผ่านทางโทรศัพท์ แทบ็ เลต และโทรทศั น์โดยมีผู้ปกครองกากับดแู ล กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง

125 รวบรวมข้อมูลผ้เู รียน สรปุ เป้าหมายในการพัฒนา ๓. ความคาดหวงั ของผปู้ กครองทม่ี ตี ่อตัวผู้เรียน ๑) ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้นักเรียนสามารถส่ือสารความต้องการ การบอกความรู้สึกของตนเอง ได้ ๒) ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้านการดารงชีวิตประจาวันของตนเองได้ เพอ่ื ใหส้ ามารถดารงชีวิตอยู่ไดด้ ้วยตนเองในอนาคต ๔. เป้าหมายหลกั ที่ผเู้ รียนควรได้รบั การพัฒนา/สง่ เสรมิ ๑) นักเรียนควรได้รับการพัฒนาด้านการส่ือสารโดยใช้อุปกรณ์ช่วย เนื่องจากเป็นสิ่งท่ีผู้ปกครองเห็น ความสาคญั และจากการประเมนิ ความสามารถพ้ืนฐานเบอื้ งต้น ๒) นกั เรยี นควรได้รบั การส่งเสรมิ ด้านการดารงชีวติ ประจาวัน เพอื่ ใหน้ ักเรียนสามารถดแู ลตนเองได้ลดภาระ ของผ้ปู กครอง ๓) นกั เรยี นควรไดร้ บั การปรบั พฤตกิ รรมท่ไี ม่พงึ ประสงค์ ไดแ้ ก่ การกรดี รอ้ ง โวยวาย กระทาร้ายตนเอง ๕. เปา้ หมายหลกั ท่ีผู้เรียนควรได้รบั การปอ้ งกัน/แก้ไขปัญหา ๑) ควรไดร้ บั ส่ืออานวยความสะดวกทเ่ี หมาะสมกับความพิการของผ้เู รยี น ๒) ครูผู้สอนควรจัดกิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับอาการและความสามารถของนักเรียนและ เพอื่ ให้นักเรยี นสามารถเรยี นรไู้ ด้อย่างเต็มตามศกั ยภาพ . ผบู้ ันทกึ ข้อมลู …………………………………………… (นางสาวสวุ มิ ล ใจมา) ตาแหน่ง ครู วนั ที่ ๑ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง

126 ๕ - ๔ / / / /

127 / .......จ..า..ก..ก...า..ร..ค..ัด...ก..ร..อ..ง..ผ...ูเ .ร..ีย..น...ม..แี..น...ว..โ..น..ม...ท..่จี...ะ..เ.ป...น ..บ...คุ..ค...ล..อ...อ..ท...สิ ..ต...ิก...ค...ว..ร..ส..ง..ต..อ...ใ.ห...แ ..พ...ท..ย..ว..นิ...จิ..ฉ...ยั ..ต..อ...ไ.ป............................ .................................................. .. . () .. .. .................................................. () .................................................. ()

128 // ....... .................................. // / / / / .. ................................................. ()

129 : - IEP / IFSP


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook