Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1_compressed (1)

Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1_compressed (1)

Published by NaraSci, 2022-01-19 03:24:43

Description: Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1_compressed

Search

Read the Text Version

03 สร้างหลกั ประกนั การมสี ุขภาวะท่ดี ี และส่งเสรมิ ความเปน็ อยู่ท่ดี สี �ำหรบั ทกุ คนในทกุ ชว่ งวยั SDG 3 ความท้าทาย ข้อเสนอแนะ แม้จะมีการประชาสัมพั นธ์เพ่ื อป้องกันและช้ีให้เห็นถึง ค ว ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร จั ด ก า ร สุ ข ภ า ว ะ ท่ี เ ห ม า ะ ส ม ผ่ า น ผลกระทบทางสุขภาพของพฤติกรรมท่ีอาจก่อให้เกิด ความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพ่ื อปลูกฝังค่านิยมและ โ ร ค ไ ม่ ติ ด ต่ อ ม า โ ด ย ต ล อ ด แ ต่ จ� ำ น ว น ผู้ ป่ ว ย แ ล ะ ปรับเปล่ียนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนไทย อาทิ ผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อ อาทิ โรคเบาหวาน มะเร็ง การเลือกบริโภคอาหารท่ีมีประโยชน์ การลด ละ เลิก หัวใจ และหลอดเลือดหัวใจ ยังเพ่ิ มข้ึนอย่างต่อเน่ือง การด่ืมแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ และการปฏิบัติ อีกท้ังปัจจุบันปัญหามลพิ ษ โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังจ�ำเป็น ไ ด้ ท วี ค ว า ม รุ น แ ร ง ม า ก ข้ึ น แ ล ะ จ ะ น� ำ ไ ป สู่ วิ ก ฤ ติ ต้องพั ฒนาระบบสาธารณสุขเชิงรุก มีคุณภาพ รวดเร็ว ด้านสุขภาพอื่น ๆ ดังนั้น มาตรการป้องกันโรคและ ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่ อขยายโอกาส ก า ร จั ด ก า ร ปั ญ ห า ม ล พิ ษ ดั ง ก ล่ า ว ยั ง ต้ อ ง ไ ด้ รั บ การเข้าถึงยาและการรักษาท่ีครอบคลุม และการผนึก การเร่งรัด ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการเพิ่ มขึ้นของ ก�ำลังระหว่างหน่วยงาน โดยมุ่งเน้นการท�ำงานร่วมกัน โรคทางจิตเวชก็ยังเป็นปัญหาส�ำคัญและยังถูกตีตรา ในทุกระดับ โดยเฉพาะในประเด็นเชิงบูรณาการ อาทิ จ า ก สั ง ค ม ท� ำ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม กั ง ว ล ใ น ก า ร ป รึ ก ษ า แ พ ท ย์ การแก้ไขปัญหามลพิ ษเพ่ื อป้องกันปัญหาสุขภาพท่ีจะ เมื่อป่วยในระยะเร่ิมต้น ในมิติของโรคติดต่อ การแก้ไข ตามมา อีกท้ังควรเร่งจัดสรรและเสริมสร้างศักยภาพ ปัญหาโรคเอดส์ โรคไข้มาลาเรีย วัณโรค และโรคเขตร้อน ของบุคลากรสาธารณสุขและอาสาสมัครในระดับท้องถิ่น ที่ส�ำคัญอื่น ๆ ยังมีข้อจ�ำกัดในแง่ของการเข้าถึงบริการ สร้างความเข้มแข็งของหน่วยสุขภาพปฐมภูมิเพ่ื อแก้ไข กลุ่มเสี่ยงที่มีการติดเช้ือตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ส่งผลให้ ปั ญ ห า ท า ง สุ ข ภ า พ ที่ ต้ น เ ห ตุ แ ล ะ ล ด ค ว า ม แ อ อั ด ใ น เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไปสู่กลุ่มอื่น ๆ โรงพยาบาล ตลอดจนจัดหาแนวทางที่เป็นรูปธรรม ในสังคม นอกจากนี้ การเพิ่ มขึ้นของอุบัติเหตุทางถนน เพ่ื อการลดภาระทางการคลังและสร้างความย่ังยืนให้ ยั ง เ ป็ น ปั ญ ห า ส� ำ คั ญ ซ่ึ ง น� ำ ไ ป สู่ ก า ร บ า ด เ จ็ บ แ ล ะ กับระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศ การเสียชีวิตของคนไทย ผลการประเมินสถานะของ SDG 3 ต�่ำกว่าค่าเป้าหมายข้ันวิกฤต: บรรลุค่าเป้าหมาย: สถานการณ์ต่�ำกว่า 50% ของค่าเป้าหมาย สามารถบรรลุค่าเป้าหมาย 100% SDG SDG SDG SDG SDG 3.4 3.6 3.9 3.1 3.2 SDG SDG 3.c 3.d SDG SDG SDG SDG 3.3 3.5 3.7 3.8 ต�่ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเส่ียง: SDG SDG สถานการณ์อยู่ในช่วง 51-75% ของค่าเป้าหมาย 3.a 3.b ต่�ำกว่าค่าเป้าหมาย: สถานการณ์อยู่ในช่วง 76-99% ของค่าเป้าหมาย 100 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ง่ั ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกนั การมสี ุขภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสรมิ ความเป็นอยทู่ ่ดี ีส�ำหรับทุกคนในทกุ ชว่ งวัย SDG 3 กรณีศกึ ษา อสม. รากฐานของสาธารณสุขไทย บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำหมู่บ้าน (อสม.) ป ร ะ ช า ช น ใ น ก า ร ดู แ ล สุ ข ภ า พ ด่ า น แ ร ก ข อ ง ต น เ อ ง ในช่วงท่ีผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการระบาด ครอบครัว และชุมชน (Front-line Service) และยังถือ ของไข้หวัดนกไว้ในปี 2550 ตลอดจนการควบคุม เป็นทุนทางสังคมท่ีส�ำคัญของระบบสุขภาพไทย ช่วยลด การระบาดของโรคโควิด-19 ถือว่ามีความโดดเด่นและ ช่องว่างที่เจ้าหน้าที่รัฐเพี ยงล�ำพั งไม่สามารถท�ำได้ เป็นท่ีประจักษ์ในสายตานานาชาติ โดยได้รับการชื่นชม อย่างครอบคลุม โดยหน้าที่หลักของ อสม. จะด�ำเนินการ จากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นก�ำลังส�ำคัญ แจ้งข่าวสารด้านสาธารณสุขแก่ชาวบ้าน เช่น การประกาศ ในการสร้างความรู้และเฝ้าระวังการระบาดฯ ในระดับ แจ้งเร่ืองโรคระบาดหรือโรคติดต่อในท้องถ่ิน การให้ ชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไทยเป็นหน่ึงใน ค�ำแนะน�ำชาวบ้านทั้งการใช้ยา การรักษาอนามัยร่างกาย ประเทศท่ีประสบความส�ำเร็จในการควบคุมการติดเช้ือ การส่งเสริมสุขภาพจิต การป้องกันอุบัติเหตุ รวมถึงเป็น โควิด-19 มากท่ีสุดในโลก (ThaiPBS, 2563) ผู้ ใ ห้ บ ริ ก า ร แ ก่ ป ร ะ ช า ช น อ ย่ า ง ก า ร ติ ด ต า ม ดู แ ล ผู้ ป่ ว ย ตามบ้าน ปัจจุบันมีเครือข่าย อสม. จ�ำนวนมากกว่า 1 ล้านคนท่ัวประเทศ โดย อสม. 1 คน จะดูแลประชากรใน ละแวกใกล้เคียงจ�ำนวน 20 หลังคาเรือน (กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์, 2563) อสม. เป็นแนวความคิดที่ได้รับการบรรจุในแผนการพัฒนา ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อสม. ได้ด�ำเนิน ส า ธ า ร ณ สุ ข ฉ บั บ ท่ี 4 ( 2 5 2 0 - 2 5 2 4 ) ซ่ึ ง มุ่ ง เ น้ น การเชิงรุกเพื่ อป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ก า ร แ ก้ ไ ข แ ล ะ ล ด ช่ อ ง ว่ า ง ข อ ง ปั ญ ห า ส า ธ า ร ณ สุ ข อ ย่ า ง ใ ก ล้ ชิ ด โ ด ย มุ่ ง ส� ำ ร ว จ แ ล ะ ส ร้ า ง ค ว า ม รู้ ใ น (กระทรวงสาธารณสุข, 2559) โดย อสม. เป็นอาสาสมัคร ระดับครัวเรือน ให้ค�ำแนะน�ำในการ “กินร้อน ช้อนกลาง ชาวบ้านในพ้ื นท่ีท่ีได้รับ การฝึ กอบรมจากเจ้าหน้าท่ี ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และออกก�ำลังกาย” สาธารณสุข เพ่ื อให้สามารถท�ำการรักษาพยาบาลได้ (ส�ำนักงานวิจัยและพั ฒนาก�ำลังคนด้านสุขภาพ, 2563) อย่างง่าย (Primary Care) สร้างการมีส่วนร่วมของ ด�ำเนินการคัดกรองกลุ่มปกติและกลุ่มเส่ียง และส่งต่อ กลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน ตลอดจน การเย่ียมติดตามและรายงานผล นอกจากน้ี อสม. ยังได้เป็นตัวแทนในการรับและกระจายยาให้กับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังในช่วงวิกฤตโควิด (Grab Drug) โดยมีจุดเร่ิมต้นในจังหวัดเชียงราย และได้ขยายผล ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเพื่ อให้สามารถเข้าถึงยาได้ อย่างต่อเนื่อง รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 101 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลักประกันการมสี ขุ ภาวะท่ดี ี และสง่ เสริมความเปน็ อยู่ทด่ี ีสำ� หรบั ทุกคนในทุกชว่ งวัย SDG ลดอัตราการตายของมารดาทั่วโลก 3.1 ใหต้ ่ำ� กวา่ 70 คนต่อการเกิดมชี ีพ 100,000 คน ภายในปี 2573 รัฐบาลได้ให้ความส�ำคัญกับการลดอัตราการตายของมารดาในประเทศไทยมาอย่างต่อเน่ือง โดยมีการจัดท�ำ ระบบเฝ้าระวังการตายของมารดา เพื่ อก�ำกับและติดตามสถานการณ์การตายของมารดาในพื้ นที่ต่าง ๆ ทั้งใน โรงพยาบาลรัฐและเอกชนท่ัวประเทศ ซ่ึงเป็นประโยชน์ต่อการด�ำเนินการเชิงรุกและสามารถน�ำข้อมูลมาใช้ใน การวางแผนเฝ้าระวังและป้องกันการเสียชีวิตของมารดา โดยแนวทางการลดโอกาสการตายของมารดาจาก การคลอดบุตรควรเน้นการส่งเสริมอนามัยแม่และเด็กตั้งแต่เริ่มต้ังครรภ์ ตลอดจนการพั ฒนาระบบสุขภาพให้มี ประสิทธิภาพ โดยด�ำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านอนามัยการเจริญพั นธุ์ สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย อัตราการตายของมารดาต่อการเกิดมีชีพแสนคน อัตราการตายของมารดาในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง *ข้อมูลเดือนเมษายน อย่างต่อเน่ืองตั้งแต่ปี 2559 ซ่ึงข้อมูล ณ เมษายน 2563 ระบุว่ามีอัตราการตายของมารดาที่ 20.24 คน ที่มา: ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อประชากรแสนคน ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงระบบ ส า ธ า ร ณ สุ ข ท่ี มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ใ น ก า ร ล ด อั ต ร า ก า ร ต า ย การดำ� เนนิ การท่ผี า่ นมา ของมารดาในประเทศไทย โดยมีระบบเฝ้าระวังและ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ด้ า น ส า ธ า ร ณ สุ ข ท่ี ก ร ม อ น า มั ย ไ ด้ ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร ตั้ ง ค ร ร ภ์ คุ ณ ภ า พ เข้มแข็งส่งผลให้การรายงานอัตราการตายของมารดา เพื่ อลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย เพื่ อให้บุคลากรในพื้ นที่ มีความรวดเร็วและแม่นย�ำ ผนวกกับการมีบุคลากร สามารถรายงานสถานการณ์ในระบบเฝ้าระวังการตาย ด้านสาธารณสุขท่ีมีความเช่ียวชาญ ซ่ึงจากการส�ำรวจ ของมารดาได้อย่างทันท่วงทีผ่าน Department of สถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยปี 2562 พบว่า Health (DOH) Dashboard นอกจากน้ี มีการจัดท�ำ ผู้หญิงอายุ 15 - 49 ปี ท่ีคลอดบุตรเกิดมีชีพโดย โครงการต้ังครรภ์คุณภาพระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) บุคลากรวิชาชีพด้านสาธารณสุขสูงถึงร้อยละ 99.1 ก า ร จั ด ท� ำ แ ผ น ง า น โ ค ร ง ก า ร ร อ ง รั บ ร ะ ดั บ เ ข ต แ ล ะ ระดับจังหวัดเพื่ อลดการตายมารดาสู่ผู้ปฏิบัติผ่าน ปั จ จั ย เ ห ล่ า นี้ ส่ ง ผ ล ใ ห้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ส า ม า ร ถ บ ร ร ลุ ศูนย์อนามัย การประชุมเพื่ อปรึกษาปัญหารายกรณี เป้าหมายย่อย SDG 3.1 ท่ีก�ำหนดให้ลดอัตราการตาย เพื่ อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขเมื่อมีการตายของ ของมารดาทั่วโลกให้ต�่ำกว่า 70 คนต่อการเกิดมีชีพ ม า ร ด า เ กิ ด ข้ึ น 100,000 คน ภายในปี 2573 102 รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันการมีสขุ ภาวะท่ดี ี 03 และสง่ เสริมความเป็นอยู่ท่ดี ีส�ำหรบั ทกุ คนในทุกช่วงวยั SDG ลดอตั ราการตายของมารดาทัว่ โลก ใหต้ ่�ำกวา่ 70 คนตอ่ การเกดิ มชี ีพ 100,000 คน ภายในปี 2573 3.1 ความทา้ ทาย ข้อเสนอแนะ ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น เ พื่ อ ล ด อั ต ร า ต า ย ข อ ง ม า ร ด า ข ณ ะ ค ว ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง ศั ก ย ภ า พ ใ น ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ข อ ง ภ า คี ค ล อ ด ยั ง มี ค ว า ม ท้ า ท า ย ห ล า ย ป ร ะ ก า ร ไ ด้ แ ก่ ( 1 ) เครือข่ายในแต่ละพื้ นที่ให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน โดยน�ำ ความแตกต่างของศักยภาพการด�ำเนินงานของแต่ละ ต้นแบบพื้ นที่ท่ีมีการด�ำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาคีเครือข่ายสาธารณสุข ส่งผลให้พื้ นท่ีท่ีมีเครือข่าย มาเป็นพ่ี เลี้ยงหรือท่ีปรึกษาให้กับพ้ื นที่อื่น ๆ รวมท้ัง เข้มแข็งจะสามารถด�ำเนินงานเพ่ื อเฝ้าระวังและลด น�ำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้เพื่ อถ่ายทอด การตายของมารดาในพื้ นท่ีได้ดีกว่า (2) การถ่ายทอด ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น แ ก่ เ ค รื อ ข่ า ย ท า ง ส า ธ า ร ณ สุ ข แ ล ะ ข้ันตอนการด�ำเนินงานให้กับเครือข่ายทางสาธารณสุข ผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ควรก�ำหนดให้มี แ ล ะ ผู้ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง ที่ ไ ม่ ต่ อ เ น่ื อ ง แ ล ะ ( 3 ) เ น่ื อ ง จ า ก การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันการติดไวรัส การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีความท้าทาย โควิด-19 อย่างเคร่งครัดในกลุ่มหญิงต้ังครรภ์เพ่ื อ ในการป้องกันการติดเช้ือโควิด-19 ในหญิงต้ังครรภ์ การคลอดอย่างปลอดภัย รวมถึงคุ้มครองบุคลากรทาง ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่มีความเส่ียงสูง การแพทย์ที่ปฏิบัติการในแผนกผดุงครรภ์ และจัดท�ำ คู่มือการปฏิบัติตนเพื่ อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส�ำหรับหญิงตั้งครรภ์ รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 103 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สร้างหลักประกนั การมีสุขภาวะทด่ี ี และส่งเสริมความเปน็ อยูท่ ด่ี สี �ำหรบั ทุกคนในทุกชว่ งวัย SDG ยตุ ิการตายท่ีป้องกนั ได้ของทารกแรกเกิดและเด็กอายตุ ำ่� กว่า 5 ปี 3.2 โดยทุกประเทศมงุ่ ลดอัตราการตายในทารกลงให้ต่ำ� ถงึ 12 คน ตอ่ การเกดิ มีชีพ 1,000 คน และลดอัตราการตายในเดก็ อายตุ ่ำ� กว่า 5 ปี ลงใหต้ �ำ่ ถงึ 25 คน ตอ่ การเกิดมชี ีพ 1,000 คน ภายในปี 2573 ปัจจุบันประเทศไทยต้องเผชิญกับการเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรอันเน่ืองมาจากอัตราเกิดน้อย ประกอบกับ ก�ำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 โดยจะมีประชากรสูงอายุกว่าร้อยละ 20 ของประชากร ทั้งหมด ส่งผลให้การขาดแคลนแรงงานจะเป็นปัญหาส�ำคัญของประเทศในอนาคตอันใกล้ ฉะนั้น การส่งเสริม การเกิดและเล้ียงดูอย่างมีคุณภาพจึงมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิง โดยหน่ึงในแนวทางส�ำคัญ คือการยุติการตายท่ี ป้องกันได้ของทารกแรกเกิดและเด็กอายุต่�ำกว่า 5 ปีผ่านการส่งเสริมอนามัยแม่และเด็กต้ังแต่เร่ิมต้ังครรภ์ ต ล อ ด จ น ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ใ ห้ โ ร ง พ ย า บ า ล ทุ ก ร ะ ดั บ แ ล ะ ห น่ ว ย ง า น ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง ด� ำ เ นิ น ง า น ต า ม ม า ต ร ฐ า น งานอนามัยแม่และเด็ก สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายย่อย อัตราการตายของทารกแรกเกิดและเด็กอายุต่�ำกว่า 5 ปี ต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คน อั ต ร า ก า ร ต า ย ข อ ง ท า ร ก แ ร ก เ กิ ด ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ใ น ปี 2562 อยู่ที่ 3.1 คนต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คน ลดลง ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข จาก 3.5 คนต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คน ในปี 2559 ในขณะที่อัตราการตายของเด็กอายุต�่ำกว่า 5 ปี ใน ด้านการตรวจและการฝากครรภ์ ค่าคลอดบุตร การให้ ปี 2562 อยู่ที่ 7.9 คนต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คนลดลง เงินอุดหนุน/เงินสงเคราะห์บุตร การลาและเงินสงเคราะห์ จาก 8.8 คนต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คนในปี 2559 การหยุดงานเพื่ อคลอดบุตร การลดหย่อนภาษีจาก ซ่ึงถือว่าประเทศไทยได้บรรลุเป้าหมาย SDG 3.2 ซึ่ง ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์หรือคลอดบุตร การลดหย่อน ก� ำ ห น ด ใ ห้ ทุ ก ป ร ะ เ ท ศ ล ด อั ต ร า ก า ร ต า ย ใ น ท า ร ก ล ง ใ ห้ ภาษีส�ำหรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย การลดหย่อน ต่�ำถึง 12 คน ต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คน และลดอัตรา ภาษีเพ่ื อส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็ก โดยใน การตายในเด็กอายุต่�ำกว่า 5 ปี ลงให้ต่�ำถึง 25 คน ต่อ ปี 2 5 5 9 - 2 5 6 2 ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร ด� ำ เ นิ น การเกิดมีชีพ 1,000 คน ภายในปี 2573 แล้ว โ ค ร ง ก า ร ต่ า ง ๆ อ า ทิ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ร อ บ รู้ ด้ า น อนามัยเจริญพั นธ์ุผ่านส่ือออนไลน์ โครงการต้ังครรภ์ การด�ำเนนิ การทผ่ี ่านมา คุณภาพเพื่ อลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย และโครงการ บู ร ณ า ก า ร ง า น ส่ ง เ ส ริ ม สุ ข ภ า พ เ ด็ ก ป ฐ ม วั ย ใ น ชุ ม ช น ก ร ม อ น า มั ย อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น น โ ย บ า ย แ ล ะ เพื่ อให้เด็กอายุ 0 – 5 ปี ให้มีลักษณะ “สูงดีสมส่วน ยุทธศาสตร์การพั ฒนาอนามัยการเจริญพั นธ์ุแห่งชาติ พั ฒนาการสมวัย และฟันไม่ผุ” ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 - 2569) ว่าด้วยการส่งเสริม การเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมี กลไกขับเคลื่อนการด�ำเนินงาน 3 คณะ ได้แก่ ( 1 ) คณะกรรมการพั ฒนาอนามัยการเจริญพั นธ์ุแห่งชาติ ( 2 ) ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น น โ ย บ า ย แ ล ะ ยุทธศาสตร์การพั ฒนาอนามัยการเจริญพั นธ์ุแห่งชาติ ฉ บั บ ท่ี 2 แ ล ะ ( 3 ) ค ณ ะ ท� ำ ง า น วิ ช า ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม การเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งน้ี การด�ำเนินงานเชิงบูรณาการเพื่ อขับเคลื่อนนโยบายและ ยุทธศาสตร์ ส่งผลให้ประเทศไทยมีการพั ฒนาบริการ ด้านสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมหลายด้านท่ีเอ้ือ ต่อการเกิดและเติบโตของทารก อาทิ สิทธิประโยชน์ 104 รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกนั การมีสขุ ภาวะทด่ี ี 03 และสง่ เสริมความเปน็ อยทู่ ด่ี สี �ำหรับทกุ คนในทกุ ชว่ งวยั SDG ยุติการตายทีป่ ้องกนั ไดข้ องทารกแรกเกิดและเดก็ อายตุ ่ำ� กว่า 5 ปี โดยทกุ ประเทศมงุ่ ลดอตั ราการตายในทารกลงให้ตำ่� ถึง 12 คน ต่อการเกดิ 3.2 มีชพี 1,000 คน และลดอตั ราการตายในเด็กอายุต่ำ� กว่า 5 ปี ลงใหต้ ่ำ� ถึง 25 คน ตอ่ การเกิดมชี ีพ 1,000 คน ภายในปี 2573 ความท้าทาย ข้อเสนอแนะ ประเทศไทยได้บรรลุเป้าหมายในด้านการลดอัตราตาย ทุกภาคส่วนควรร่วมกันด�ำเนินงานเพื่ อลดอัตราการตาย ของทารกแรกเกิดและอัตราตายของเด็กอายุต�่ำกว่า ของกลุ่มเด็กอายุต�่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้ นที่ 5 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิ จารณาอัตราตายของเด็ก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยควรออกแบบระบบ อายุต่�ำกว่า 5 ปี รายภูมิภาค พบว่า ในปี 2561 ภาคใต้ การดูแลอนามัยแม่และเด็กให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและ มีอัตราการตายสูงสุดกว่า 10.6 คนต่อการเกิดมีชีพ บริบทของพื้ นท่ี โดยให้บุคลากรทางการแพทย์และ 1,000 คน ซ่ึงสูงกว่าค่าเฉล่ียท้ังประเทศท่ี 8.4 คนต่อ สาธารณสุขท�ำงานร่วมกับโต๊ะบีแด1 ท่ีเป็นผู้น�ำความเชื่อ การเกิดมีชีพ 1,000 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้ นท่ี และศรัทธาของชาวไทยมุสลิม โดยพั ฒนาสมรรถนะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และ ของโต๊ะบีแดในการประเมินปัจจัยเส่ียงของหญิงมีครรภ์ นราธิวาส ซึ่งมีอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 17.4, 12.3 และ 14.4 การส่งต่อและท�ำคลอดฉุกเฉินอย่างปลอดภัย รวมไป คนต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คน ตามล�ำดับ ซึ่งเป็นอัตรา ถึ ง ก า ร ส นั บ ส นุ น อั ต ร า ก� ำ ลั ง บุ ค ล า ก ร ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ ท่ีค่อนข้างสูง สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างการด�ำเนินการ ด้านงานอนามัยแม่และเด็กเพ่ิ มเติมในพื้ นท่ีเส่ียง อาทิ ในระดับพ้ื นท่ี ท่ีจ�ำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเป็น ก า ร จั ด ใ ห้ มี โ ค ว ต า ก า ร ศึ ก ษ า ด้ า น สู ติ น รี แ พ ท ย์ เ ป็ น รปู ธรรม กรณีพิ เศษในพ้ื นท่ี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผนวก กั บ ก า ร อ บ ร ม แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ใ น วิ ถี ชี วิ ต แ ล ะ ความเช่ือของคนไทยมุสลิมให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขในพื้ นที่ นอกจากน้ี ภาครัฐควรด�ำเนินการเสริมสร้างคุณภาพ ข อ ง ป ร ะ ช า ก ร ไ ท ย ตั้ ง แ ต่ อ ยู่ ใ น ค ร ร ภ์ ม า ร ด า โ ด ย ใ ห้ ความส�ำคัญกับแนวทางการพั ฒนาดังต่อไปน้ี (1) การสร้างปัจจัยแวดล้อมที่ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยเน้น การเสริมสร้างสุขภาพและโภชนาการท่ีดีของมารดา เพ่ือ ลดโอกาสความพิ การและการเสียชีวิตของทารก และ (2) การพั ฒนาและเสริมสร้างคุณภาพของเด็กไทย ทั้งในด้านสุขภาพและพั ฒนาการเพื่ อลดความเหลื่อมล�้ำ ด้านสุขภาพและคุณภาพของเด็กไทย เช่น การส่งเสริม และแนะน�ำให้ประชาชนเล้ียงลูกด้วยนมแม่เพ่ื อเสริมสร้าง พั ฒ น า ก า ร ข อ ง เ ด็ ก ไ ท ย ด้ า น ส ติ ปั ญ ญ า ต ล อ ด จ น การเสริมสร้างพั ฒนาการของเด็กในช่วง 5 ปีแรก ซ่ึงมี ความส�ำคัญในการวางรากฐานชีวิตประชากรไทย 1 โต๊ะบีแด (ภาษามลายูท้องถิ่นของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) เป็นบุคคลท่ีมีความช�ำนาญในการดูแลสุขภาพในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ระยะคลอดและหลังคลอด รวมถึงดูแลสุขภาพในกลุ่มเด็กอายุ 0-5 ปี โดยใช้องค์ความรู้ ด้วยภูมิปัญญาท้องถ่ินให้การดูแลในชุมชน ซ่ึงประชาชนในพื้ นท่ี 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้ความเคารพและศรัทธา รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 105 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลกั ประกันการมีสุขภาวะทด่ี ี และสง่ เสรมิ ความเปน็ อยทู่ ่ดี สี ำ� หรบั ทุกคนในทกุ ช่วงวัย SDG ยตุ กิ ารแพร่ระบาดของเอดส์ วัณโรค มาลาเรีย และโรคเขตรอ้ นทีถ่ ูกละเลย และต่อสู้กบั โรคตับอักเสบ โรคติดตอ่ ทางน�้ำ และโรคติดตอ่ อ่นื ๆ ภายในปี 2573 3.3 การแพร่ระบาดของเอดส์ วัณโรค มาลาเรีย และโรคติดต่ออ่ืน ๆ เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขท่ีส�ำคัญและส่งผลกระทบ โดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของคนไทย อีกท้ังยังเป็นความท้าทายต่อการพั ฒนาทรัพยากรมนุษย์และยกระดับผลิตภาพ แรงงานให้อยู่ในระดับสูงเพื่ อเพิ่ มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยประเทศได้ให้ความส�ำคัญกับ การดูแลรักษา และยุติการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวบนความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคม ส่งผลให้สถานการณ์ ในประเทศดีข้ึนอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย อัตราอุบัติการณ์การติดเช้ือเอชไอวี (HIV Incidence Rate) ต่อประชากรไม่ติดเชื้อ 1,000 คน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราอุบัติการณ์การติดเชื้อเอชไอวี ห รื อ จ� ำ น ว น ผู้ ติ ด เ ช้ื อ เ อ ช ไ อ วี ร า ย ใ ห ม่ ต่ อ ป ร ะ ช า ก ร ไม่ติดเชื้อ 1,000 คน ของประเทศไทย มีแนวโน้มลงลง อย่างต่อเน่ือง โดยในปี 2561 มีอัตราอุบัติการณ์ฯ ท่ี 0.09 ลดลงจาก 0.16 ในปี 2557 และ 0.28 ใ น ปี 2 5 5 1 โ ด ย มี อั ต ร า ก า ร เ สี ย ชี วิ ต จ า ก ก า ร ป่ ว ย ท่ีเก่ียวเน่ืองกับโรคเอดส์ต่อประชากร 100,000 คน ล ด ล ง เ ช่ น กั น จ า ก อั ต ร า ที่ 8 9 . 9 3 ใ น ปี 2 5 4 5 เป็น 42.97 ในปี 2551 และ 26.59 ในปี 2561 การดำ� เนินการที่ผา่ นมา ที่มา: กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพั นธ์ กรมควบคุมโรค ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ สุ ข ไ ด้ ร่ ว ม กั บ ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ใ น ไวรัส ร้อยละ 95 สามารถกดปริมาณไวรัสในเลือด ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ยุ ติ ปั ญ ห า เ อ ด ส์ ผ่ า น ม า ต ร ก า ร ที่ ไ ด้ ส� ำ เ ร็ จ ( ปี 2 5 6 2 มี ร้ อ ย ล ะ 8 6 ที่ ท� ำ ไ ด้ ส� ำ เ ร็ จ ) หลากหลาย อาทิ การให้สิทธิในการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ขณะเดียวกัน ได้ด�ำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ปีละ 2 คร้ัง และหากติดเชื้อสามารถเข้ารับยาต้านไวรัส แ ล ะ ค ว บ คุ ม โ ร ค ไ ข้ ม า ล า เ รี ย อ ย่ า ง เ ข้ ม แ ข็ ง ไ ด้ แ ก่ ได้ฟรีภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึง การเฝ้าระวังโดยใช้เทคโนโลยีการรายงานผู้ป่วยผ่าน การบรรจุให้ยา PrEP1 ซ่ึงสามารถป้องกันการติดเชื้อ ระบบมาลาเรียออนไลน์เพ่ื อใช้ติดตามสถานการณ์ ได้มากกว่าร้อยละ 95 อยู่ในสิทธิประโยชน์หลักประกัน อย่างใกล้ชิด การรายงานติดตามสอบสวนการป่วยและ สุขภาพแห่งชาติ นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังด�ำเนิน ด� ำ เ นิ น ก า ร ค ว บ คุ ม ก� ำ จั ด ก า ร แ พ ร่ เ ช้ื อ โ ร ค ไ ข้ ม า ล า เ รี ย มาตรการ 95 – 95 – 95 เพ่ื อให้สามารถยุติปัญหา อย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกัน เอดส์ภายในปี 2573 กล่าวคือ (1) การท�ำให้ผู้ติดเชื้อ ยุ ง พ า ห ะ ส� ำ ห รั บ ป ร ะ ช า ช น ใ น พื้ น ท่ี ท่ี มี เ ช้ื อ ม า ล า เ รี ย เอชไอวีร้อยละ 95 รู้ถึงสถานะการติดเชื้อของตนเอง การแลกเปล่ียนข้ อ มู ล ส ถ า น ก า ร ณ์ โ ร ค ไ ข้ ม า ล า เ รี ย โดยเน้นกลุ่มเส่ียง อาทิ กลุ่มชายมีเพศสัมพั นธ์กับชาย ระหว่างประเทศ และการเฝ้าระวังการดื้อยาของเช้ือ สาวประเภทสอง พนักงานบริการ และผู้ใช้ยาด้วยวิธี มาลาเรีย ฉีด (ปี 2562 รู้สถานะแล้วร้อยละ 94) (2) การท�ำให้ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 95 เข้ารับการรักษาด้วยยา นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการระดับชาติ ต้านไวรัส (ปี 2562 มีเพี ยงร้อยละ 79 ท่ีเข้ารับการรักษา ด้ า น ก า ร ต่ อ ต้ า น วั ณ โ ร ค แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง สิ ท ธิ ป ร ะ โ ย ช น์ ด้วยยาต้านไวรัส) และ (3) การท�ำให้ผู้ได้รับยาต้าน การบริการผู้ป่วยวัณโรค ภายใต้กองทุนหลักประกัน 1 Pre-Exposure Prophylaxis (PrEP) คือ การให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ที่ยังไม่ติดเช้ือเอชไอวีก่อนมีการสัมผัสที่เส่ียงต่อการติดเชื้อ 106 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ่งั ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกันการมสี ขุ ภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสริมความเป็นอย่ทู ่ดี สี �ำหรบั ทกุ คนในทกุ ชว่ งวยั ยุตกิ ารแพร่ระบาดของเอดส์ วัณโรค มาลาเรีย และโรคเขตร้อนทีถ่ กู ละเลย SDG และต่อสู้กบั โรคตบั อักเสบ โรคตดิ ต่อทางน�้ำ และโรคตดิ ตอ่ อ่นื ๆ ภายในปี 2573 3.3 สุ ข ภ า พ แ ห่ ง ช า ติ ( ก อ ง ทุ น บั ต ร ท อ ง ) ต า ม แ น ว ท า ง ขอ้ เสนอแนะ การควบคุมวัณโรคประเทศไทยปี 2561 (National Tuberculosis Control Program Guideline, ภาครัฐควรเร่งรัดการด�ำเนินการเพื่ อยุติปัญหาเอดส์ Thailand 2018: NTP 2018) และท่ีปรับปรุงเพิ่ มเติม โ รคไ ข้ ม าล าเรี ย วั ณ โ รค แ ล ะ โ รคเขต ร้ อ น ท่ีส� ำ คั ญ เ พื่ อ ล ด อุ บั ติ ก า ร ณ์ วั ณ โ ร ค แ ล ะ ก า ร ค้ น ห า ผู้ ป่ ว ย ใ น ต่าง ๆ ของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก ลุ่ ม เ ส่ี ย ง เ น้ น ก ลุ่ ม ผู้ สั ม ผั ส วั ณ โ ร ค ผู้ ต้ อ ง ขั ง ใ น โ ด ย ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร ค้ น ห า ผู้ ป่ ว ย เ ชิ ง รุ ก แ ล ะ เรือนจ�ำ และแรงงานข้ามชาติ ซ่ึงจะช่วยให้การดูแล ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ ป ร ะ ช า ก ร ก ลุ่ ม เ สี่ ย ง ส า ม า ร ถ เ ข้ า ถึ ง บ ริ ก า ร ค ร อ บ ค ลุ ม แ ล ะ ท่ั ว ถึ ง ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย / ก ลุ่ ม เ ส่ี ย ง ม า ก รักษาที่ได้มาตรฐานและต่อเน่ือง การสร้างความร่วมมือ ยิ่งข้ึน ตลอดจนการสนับสนุนการรักษาวัณโรคด้วย กั บ ภ า ค ป ร ะ ช า สั ง ค ม เ พื่ อ เ พิ่ ม ก า ร บ ริ ก า ร ใ น ร ะ ดั บ สูตรยารักษาวัณโรคดื้อยา ซึ่งจะช่วยน�ำไปสู่การลด พ้ื นที่และกลุ่มเสี่ยงที่เข้าถึงได้ยาก การพั ฒนาระบบ อุบัติการณ์การแพร่ระบาดของวัณโรคในประเทศไทย ฐานข้อมูลส�ำหรับการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด/ ไ ด้ ต า ม เ ป้ า ห ม า ย ที่ ก� ำ ห น ด ไ ว้ ประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และผลลัพธ์ทางสุขภาพของ การให้บริการ เพื่ อปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องกับ ความทา้ ทาย สภาพปัญหาท่ีเป็นปัจจุบัน รวมถึงการพั ฒนาการสื่อสาร สาธารณะเพื่ อให้สังคมลดการตีตรากลุ่มผู้ติดเชื้อเพื่ อ แม้ว่าการขับเคลื่อนเพื่ อยุติปัญหาโรคเอดส์ โรคไข้ ให้ผู้ติดเชื้อยอมรับการเข้ามาใช้บริการที่ได้มาตรฐาน มาลาเรีย วัณโรค และโรคเขตร้อนท่ีส�ำคัญต่าง ๆ เพิ่ มขึ้น อันจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับหลาย เช้ือในสังคม ภาคส่วน แต่ยังมีความท้าทายที่ส�ำคัญ คือ การเพิ่มอัตรา การเข้าถึงบริการกลุ่มเสี่ยงที่มีการติดเชื้อตั้งแต่ระยะ เริ่มแรก เพ่ื อให้ได้รับบริการการรักษาท่ีได้มาตรฐาน และต่อเนื่อง และป้องกันมิให้มีการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ กลุ่มอ่ืน ๆ ในสังคม รวมถึงป้องกันความเสี่ยงการด้ือยา ของเช้ือที่จะท�ำให้การรักษายากข้ึนและต้องใช้งบประมาณ อีกจ�ำนวนมาก นอกจากน้ี การด�ำเนินการดังกล่าวยังขาด ฐานข้อมูลท่ีบูรณาการเพ่ื อใช้ในการติดตามสถานการณ์ และผลลัพธ์การให้บริการกลุ่มเป้าหมาย อันส่งผลให้ ค ว า ม ค ร อ บ คุ ล ม ข อ ง ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ข อ ง ภ า ค ส่ ว น ที่ เกยี่ วขอ้ งลดลง รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 107 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลกั ประกนั การมีสขุ ภาวะท่ดี ี และสง่ เสริมความเป็นอยทู่ ่ดี ีส�ำหรับทกุ คนในทกุ ชว่ งวัย SDG ลดอตั ราการตายกอ่ นวยั อนั ควรจากโรคไม่ตดิ ตอ่ ใหล้ ดลงหนง่ึ ในสาม 3.4 ผ่านการป้องกันและการรกั ษาโรค และสนบั สนนุ สุขภาพจิต และความเป็นอยทู่ ีด่ ี ภายในปี 2573 ในช่วงท่ีผ่านมา ประชากรไทยมีแนวโน้มเป็นโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) มากข้ึน ซ่ึงเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย เนื่องจากการมีพฤติกรรมเส่ียงทางสุขภาพ ขาดการออกก�ำลังกาย อย่างต่อเน่ือง เกิดความเครียดจากการท�ำงาน ขาดความรอบรู้ด้านสุขภาวะ ตลอดจนปัญหาส่ิงแวดล้อม ในเขตเมืองที่ทวีความรุนแรงข้ึน ดังนั้น การด�ำเนินงานเพื่ อลดจ�ำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จึงให้ความส�ำคัญกับการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะและควบคุมปัจจัยเส่ียงท่ีคุกคามสุขภาวะ รวมท้ังการพั ฒนา ภาคีเครือข่ายภาคประชาชนให้มีความรู้และศักยภาพในการป้องกันโรค สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (30-69 ปี) ด้วยโรคไม่ติดต่อเร้ือรังที่ส�ำคัญ (ต่อประชากรแสนคน) ในช่วงปี 2559 - 2562 พบว่าอัตราการตายด้วยโรคไม่ ติดต่อเรื้อรังที่ส�ำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่มา: ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคทางเดิน หายใจ มีแนวโน้มเพ่ิ มข้ึน โดยมีอัตราการเสียชีวิตก่อน วัยอันควรด้วยโรคหลอดเลือดสมองสูงท่ีสุดที่ 48.9 ต่อประชากรแสนคนในปี 2562 นอกจากน้ี โรคมะเร็งยัง คงเป็นสาเหตุการตายอันดับหน่ึง โดยมีอัตราการตาย ท่ี 120.3 ต่อประชากรแสนคน ในปี 2561 เพ่ิมจาก 117.7 ในปี 2559 ในขณะท่ีอัตราการฆ่าตัวตายมีแนวโน้ม เพ่ิ มสูงขึ้นโดยในปี 2563 มีอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 7.37 ต่อประชากรแสนคน เพ่ิมข้ึนจาก 6.35 ในปี 2559 ท้ังน้ี เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเป้าหมาย ท่ีมุ่งลดอัตรา การตายก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อให้ลดลงหนึ่ง ในสาม พบว่า ยังไม่สามารถบรรลุได้ เน่ืองจากยังมี แนวโน้มการตายเพิ่ มขึ้น การด�ำเนินการทผี่ า่ นมา ที่ผ่านมาได้มีการพั ฒนาระบบบริการทางการแพทย์ ในเขตบริการสุขภาพท่ีมีความเส่ียงสูง การดูแลภาวะ โดยเฉพาะการน�ำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ส�ำหรับรักษา แ ท ร ก ซ้ อ น จ า ก โ ร ค เ บ า ห ว า น แ ล ะ โ ร ค ค ว า ม ดั น โ ล หิ ต โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตลอดจนการฝึกอบรมบุคลากร สู ง ที่ ย า ก ต่ อ ก า ร รั ก ษ า ห น่ ว ย ง า น ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง ไ ด้ ทางการแพทย์ให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดย ด�ำเนินการโครงการส�ำคัญเพื่ อลดอัตราการฆ่าตัวตาย กระทรวงสาธารณสุขได้ด�ำเนินโครงการเพ่ื อยกระดับ อาทิ การใช้โปรแกรม 3ส+ ในการเฝ้าระวังและป้องกัน ก า ร รั ก ษ า โ ร ค ไ ม่ ติ ด ต่ อ เ ร้ื อ รั ง อ า ทิ ก า ร ล ง บั น ทึ ก ก า ร ฆ่ า ตั ว ต า ย ร ะ ดั บ เ ข ต สุ ข ภ า พ โ ด ย บู ร ณ า ก า ร กั บ ข้อมูลผู้ป่วยโรคหัวใจผ่านโปรแกรม (Thai Acute กลไกท้องถ่ิน การจัดท�ำองค์ความรู้การปฐมพยาบาล Co r o n a r y Sy n d r o m e Re g i s t r y : TAC S ) แ ล ะ ทางใจส�ำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตเพื่ อเผยแพร่ไป ก า ร ป รั บ ป รุ ง ฐ า น ข้ อ มู ล ด้ า น โ ร ค หั ว ใ จ ต ล อ ด จ น ยังสถานบริการสาธารณสุขในพื้ นท่ีจัดอบรมการดูแล การอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในด้าน ผู้พยายามฆ่าตัวตายด้วยโปรแกรม PST (Problem ต่ า ง ๆ อ า ทิ ก า ร ต ร ว จ คั ด ก ร อ ง ม ะ เ ร็ ง ป า ก ม ด ลู ก Solving Therapy) ให้กับผู้รับผิดชอบงานสุขภาพจิต แนวใหม่ การพั ฒนาศักยภาพศัลยแพทย์ด้านมะเร็งตับ และจิตเวชในระดับเขต 108 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ่ังยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกนั การมีสุขภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสรมิ ความเป็นอยทู่ ด่ี สี ำ� หรบั ทุกคนในทกุ ช่วงวยั SDG ลดอตั ราการตายกอ่ นวยั อันควรจากโรคไม่ตดิ ต่อให้ลดลงหน่งึ ในสาม ผ่านการป้องกันและการรกั ษาโรค และสนบั สนุนสุขภาพจติ 3.4 และความเป็นอยทู่ ีด่ ี ภายในปี 2573 น อ ก จ า ก น้ี ยั ง มี ก า ร จั ด อ บ ร ม เ ชิ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร ด้ า น ขอ้ เสนอแนะ ก า ร เ ฝ้ า ร ะ วั ง แ ล ะ ป้ อ ง กั น ก า ร ฆ่ า ตั ว ต า ย ใ ห้ เ จ้ า ห น้ า ท่ี โ ร ง พ ย า บ า ล ส่ ง เ ส ริ ม สุ ข ภ า พ ต� ำ บ ล แ ล ะ อ า ส า ส มั ค ร ควรบูรณาการฐานข้อมูลโรคไม่ติดต่อเร้ือรังระหว่าง สาธารณสุขประจ�ำหมู่บ้าน (อสม.) เพ่ื อกระตุ้นให้ชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกพื้ นท่ี ทุกระดับ รวมถึง ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ปั ญ ห า แ ล ะ ส า ม า ร ถ รั บ รู้ สั ญ ญ า ณ เ ตื อ น พั ฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วย โดยเฉพาะในพื้ นท่ีห่างไกลให้ ของการฆ่าตัวตายของคนใกล้ชิดได้ ตอบสนองนโยบายผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients: ความทา้ ทาย U C E P ) พ ร้ อ ม ท้ั ง ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ เ พ่ื อ ใ ห้ ค� ำ ป รึ ก ษ า แ ก่ ผู้ ป่ ว ย โ ร ค ไ ม่ ติ ด ต่ อ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ข้ อ มู ล ยั ง เ ป็ น ค ว า ม ท้ า ท า ย ส� ำ คั ญ เร้ือรัง โดยพั ฒนาระบบที่ค�ำนึงถึงการลดช่องว่าง ของประเทศไทย เน่ืองจากการรายงานสาเหตุการตาย ความเหล่ือมล้�ำด้านเทคโนโลยี เพ่ื อให้ผู้ป่วยทุกคน ที่ไม่สมบูรณ์ และยังมีข้อจ�ำกัดในการรายงานข้อมูล สามารถเข้าถึงระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) โ ด ย ส ถ า น พ ย า บ า ล ท้ั ง ข อ ง รั ฐ แ ล ะ ข อ ง เ อ ก ช น ท่ี มี นอกจากนี้ ควรก�ำหนดให้มีมาตรการประเมินสุขภาพจิต ความเก่ียวข้องกับหลายหน่วยงาน อีกท้ังการส่งต่อ ทั้งในระดับปัจเจกและในโรงพยาบาล อาทิ การประเมิน ผู้ป่วยในพ้ื นที่ห่างไกลยังเป็นไปด้วยความยากล�ำบาก สุขภาพจิตตัวเองด้วยแบบคัดกรองผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ การใช้ระบบการดูแลเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายในการคัดกรอง โรคโควิด-19 ยังส่งผลให้ประชาชนขาดรายได้และเกิด กลุ่มเส่ียงในโรงพยาบาล และการสร้างการรับรู้ถึง ปัญหาการว่างงาน ซึ่งท�ำให้เสี่ยงต่อการมีภาวะเครียด สัญญาณเตือนของการฆ่าตัวตายให้กับประชาชนท่ัวไป เพ่ิ มขึ้น โดยข้อมูลของกรมสุขภาพจิต พบว่า ในช่วง ครอบครัว อสม. และแกนน�ำในชุมชน พร้อมกับให้ เดือนมีนาคม 2563 ซ่ึงเป็นช่วงวิกฤตในการระบาด ค ว า ม รู้ แ ก่ ส่ื อ ม ว ล ช น ใ น ก า ร น� ำ เ ส น อ ข่ า ว ฆ่ า ตั ว ต า ย ที่ ข อ ง โ ร ค โ ค วิ ด - 1 9 มี ป ร ะ ช า ช น ใ ช้ บ ริ ก า ร ส า ย ด่ ว น ถูกต้องเพ่ื อป้องกันพฤติกรรมลอกเลียนแบบ รวมท้ัง กรมสุขภาพจิต 1322 เพ่ิมขึ้น 15 เท่า โดยมีการโทรศัพท์ สร้างความร่วมมือกับสถานศึกษาในการค้นหากลุ่มเส่ียง เพื่อปรกึ ษาปัญหามากกวา่ 600 ครง้ั และก�ำหนดแนวทางป้องกันการฆ่าตัวตายในกลุ่มวัยรุ่น รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 109 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลกั ประกันการมสี ขุ ภาวะท่ดี ี และสง่ เสรมิ ความเปน็ อยูท่ ่ดี ีสำ� หรบั ทกุ คนในทกุ ชว่ งวัย SDG 3.5 เสริมสร้างการป้องกนั และการรักษาการใชส้ ารในทางทีผ่ ดิ ซ่งึ รวมถึงการใช้ยาเสพติดในทางทีผ่ ดิ และการใช้แอลกอฮอล์ในทางทเ่ี ป็นอันตราย ประเทศไทยเผชิญกับปัญหายาเสพติดและการบริโภคแอลกอฮอล์ท่ีเป็นอันตรายมาอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงการเสพ ย า เ ส พ ติ ด แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ ปั ญ ห า ห ล า ย ป ร ะ ก า ร อ า ทิ ปั ญ ห า ด้ า น อ า ร ม ณ์ การปรับตัวเข้ากับสังคม การใช้ความรุนแรง ปัญหาครอบครัว และการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยเหตุน้ี แนวทางการบรรเทา และแก้ไขปัญหาจึงมุ่งเน้นการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะเพ่ื อลดความเส่ียง และด�ำเนินมาตรการท่ีครอบคลุม การรักษาผู้เสพติด โดยให้มีการเข้าถึงการบ�ำบัดรักษาอย่างท่ัวถึง ผ่านการคัดกรองท่ีมีประสิทธิภาพ ก�ำหนดแผนการ ดูแลและให้การบ�ำบัดรักษาท่ีเหมาะสม มีมาตรฐาน พร้อมท้ังให้การติดตามช่วยเหลือ ฟ้ นื ฟู สมรรถภาพในทุกมิติ สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย ร้อยละของผู้ป่วยยาเสพติดที่เข้าสู่กระบวนการบ�ำบัดรักษา ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ สุ ข ร่ ว ม มื อ กั บ ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ใ น จนถึงการติดตาม (Retention Rate) การรักษาผู้เสพยาเสพติดภายใต้นโยบาย “ผู้เสพคือ ผู้ป่วย” โดยให้โอกาสผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการ ท่ีมา: ระบบข้อมูลการบ�ำบัดรักษาและฟ้ นื ฟู ผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.) รั ก ษ า แ ท น ก า ร น� ำ เ ข้ า สู่ ก ร ะ บ ว น ก า ร ยุ ติ ธ ร ร ม เ น้ น แนวทางปฏิบัติท่ีให้ผู้เสพติดได้รับการบ�ำบัดรักษาและ ปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ต่อประชากรผู้ใหญ่ ฟ้ ืนฟู สมรรถภาพอย่างมีมาตรฐาน ผ่านการให้ชุมชน ปี 2559 - 2562 เป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจ�ำนวน ข อ ง ผู้ ป่ ว ย ย า เ ส พ ติ ด ท่ี เ ข้ า สู่ ก ร ะ บ ว น ก า ร บ� ำ บั ด รั ก ษ า ไ ด้ รั บ ก า ร ดู แ ล อ ย่ า ง มี คุ ณ ภ า พ อ ย่ า ง ต่ อ เ นื่ อ ง จ น ถึ ง การติดตาม (Retention Rate) ลดลงจากร้อยละ 48.57 ในปี 2561 เป็นร้อยละ 43.53 ในปี 2563 ซึ่งยังห่าง จากค่าเป้าหมายท่ีตั้งไว้ร้อยละ 55 ในปี 2568 ในขณะท่ี ป ริ ม า ณ ก า ร บ ริ โ ภ ค แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ต่ อ ป ร ะ ช า ก ร ผู้ ใ ห ญ่ ลดลงจาก 7.12 ลิตรของแอลกอฮอล์บริสุทธ์ิต่อคน ต่อปีในปี 2559 เป็น 6.86 ลิตร/คน/ปี ในปี 2562 ซึ่งถือว่ามีการด�ำเนินการดีกว่าค่าเป้าหมายท่ีต้ังไว้ใน ปี 2563 ที่ 7.32 ลิตร/คน/ปี ตามยุทธศาสตร์นโยบาย แอลกอฮอล์ระดับชาติ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเร่ง ด�ำเนินการ เพ่ื อลดปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ต่อ ประชากรให้ได้ตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก ที่ก�ำหนดไว้ท่ี 6.40 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2568 ที่มา: ส�ำนักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ (2563) 110 รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ่งั ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกนั การมีสุขภาวะท่ดี ี 03 และสง่ เสริมความเป็นอยทู่ ่ดี ีส�ำหรับทุกคนในทกุ ช่วงวยั SDG เสรมิ สร้างการป้องกนั และการรักษาการใชส้ ารในทางทีผ่ ดิ 3.5 ซ่ึงรวมถึงการใชย้ าเสพตดิ ในทางทีผ่ ดิ และการใชแ้ อลกอฮอลใ์ นทางท่เี ป็นอันตราย การดำ� เนนิ การทผี่ า่ นมา ความท้าทาย ในด้านการรักษาผู้ใช้สารเสพติด ในปี 2562 มีผู้ป่วย ประเด็นท้าทายในการด�ำเนินงาน ได้แก่ (1) การเข้าถึง ยาเสพติดท่ีได้รับบริการด้านการแพทย์ระดับตติยภูมิ1 ระบบบ�ำบัดรักษายังไม่ครอบคลุม รวมทั้งความแตกต่าง จ� ำ น ว น 1 5, 3 7 1 ค น แ ล ะ ผู้ ป่ ว ย ติ ด สุ ร า บุ ห รี่ ท่ี ไ ด้ รั บ ในเชิงคุณภาพและมาตรฐาน (2) การมีส่วนร่วมของ บริการด้านการแพทย์ระดับตติยภูมิจ�ำนวน 5,988 คน ชุ ม ช น แ ล ะ ภ า ค ส่ ว น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ยั ง มี อ ยู่ อ ย่ า ง จ� ำ กั ด นอกจากนี้ ได้มีการอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ (3) การจัดสรรงบประมาณและการพั ฒนาระบบบริการ แ ก่ แ พ ท ย์ แ ล ะ พ ย า บ า ล ใ น ด้ า น เ ว ช ศ า ส ต ร์ ส า ร เ ส พ ติ ด ยังไม่ครอบคลุมในทุกมิติ อาทิ การป้องกัน บ�ำบัด แ ล ะ ก า ร พ ย า บ า ล ผู้ ใ ช้ ย า แ ล ะ ส า ร เ ส พ ติ ด ต ล อ ด จ น รั ก ษ า แ ล ะ ฟ้ ืน ฟู ส ม ร ร ถ ภ า พ ผู้ ใ ช้ ส า ร เ ส พ ติ ด แ ล ะ อ นุ ญ า ต จั ด ต้ั ง ส ถ า น พ ย า บ า ล ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ( 4 ) ก า ร บู ร ณ า ก า ร ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น เ พ่ื อ ล ด ป ริ ม า ณ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จ�ำนวน 12 แห่ง รวมทั้ง การบริโภคแอลกอฮอล์และการจัดท�ำข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง พั ฒ น า ติ ด ต า ม แ ล ะ ก� ำ กั บ ดู แ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ข อ ง ยังไม่เป็นรูปธรรม ส ถ า น พ ย า บ า ล แ ล ะ ส ถ า น ฟ้ ืน ฟู ส ม ร ร ถ ภ า พ ผู้ ติ ด ย า เ ส พ ติ ด ใ ห้ เ ป็ น ไ ป ต า ม ห ลั ก วิ ช า ก า ร แ ล ะ มี คุ ณ ภ า พ ข้อเสนอแนะ ร ว ม ทั้ ง ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ชุ ม ช น แ ล ะ พั ฒนาศักยภาพเครือข่ายในการให้ความรอบรู้ด้าน ค ว ร ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร เ ข้ า ถึ ง ร ะ บ บ ก า ร บ� ำ บั ด สุขภาวะ รักษาของผู้ติดยาเสพติดโดยสมัครใจ ตามนโยบาย ผู้เสพคือผู้ป่วย รวมทั้งสนับสนุนให้ครอบครัว ชุมชน ข ณ ะ ท่ี ก า ร ล ด ป ริ ม า ณ ก า ร ดื่ ม แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ไ ด้ มี และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีส่วนร่วมในการคัดกรอง ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ต า ม ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ น โ ย บ า ย แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ เชิงรุก อีกท้ังควรบูรณาการระบบบริการสุขภาพให้ ระดับชาติ อาทิ การประเมินสื่อการเรียนการสอนที่มี ครอบคลุมในมิติด้านการป้องกัน บ�ำบัดรักษา และ เนื้อหาเก่ียวข้องกับการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ฟ้ นื ฟู สมรรถภาพ นอกจากนี้ ในการลดปริมาณการดื่ม และยาสูบในระดับประถมศึกษา การพั ฒนาศักยภาพ แอลกอฮอล์ควรบูรณาการการท�ำงานโดยประยุกต์ใช้ บุคลากรเพื่ อการคัดกรองบ�ำบัดรักษาฟ้ ืนฟู สภาพผู้มี แนวคิดทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ (Health in All ปัญหาการดื่มเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์และการใช้มาตรการ Po l i c i e s ) กั บ ก า ร ล ด ป ริ ม า ณ ก า ร ด่ื ม แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ชุมชนเพ่ื อควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ โดยให้หน่วยงานที่เก่ียวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนและ ป ร ะ ช า สั ง ค ม เ ข้ า ม า มี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร อ อ ก แ บ บ แ ล ะ ด�ำเนินนโยบายเพื่ อลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ พ ร้ อ ม กั น นั้ น ค ว ร เ ผ ย แ พ ร่ ค ว า ม รู้ เ กี่ ย ว กั บ ค ว า ม เ สี่ ย ง ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร บ ริ โ ภ ค แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ท่ี เ ป็ น อั น ต ร า ย ใ ห้ ค ร อ บ ค ลุ ม ป ร ะ ช า ก ร ทุ ก ก ลุ่ ม รวมทั้งควรพั ฒนาระบบข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภค แอลกอฮอล์เพ่ื อใช้ประโยชน์ในการเฝ้าระวังและติดตาม ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ใ น ก า ร ค ว บ คุ ม ก า ร บ ริ โ ภ ค แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ภายในประเทศ 1 หน่วยบริการระดับตติยภูมิ (Tertiary Care) หมายถึง โรงพยาบาลท่ัวไปบางแห่ง โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลเฉพาะทาง หรือหน่วยบริการอ่ืน ๆ ทั้งหน่วยบริการของภาครัฐและเอกชน ซ่ึงภารกิจของหน่วยบริการระดับนี้จะขยายขอบเขตการรักษาพยาบาลท่ีจ�ำเป็นต้องใช้แพทย์เฉพาะทางสาขาต่อยอด (Sub-specialty) รายงานความกา้ วหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 111 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สร้างหลักประกันการมสี ุขภาวะทด่ี ี และสง่ เสรมิ ความเปน็ อยทู่ ่ดี สี �ำหรับทกุ คนในทุกช่วงวัย SDG ลดจ�ำนวนการตายและบาดเจบ็ จากอบุ ตั ิเหตุ 3.6 จากการจราจรทางถนนทั่วโลกลงครึ่งหนึง่ ภายในปี 2563 ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นล�ำดับต้น ๆ ของโลก น�ำไปสู่ความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจและสังคม ท้ังนี้ ภาครัฐให้ความส�ำคัญต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเน่ือง และได้ก�ำหนด ให้ปี 2554 - 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน (Decade of Action for Road Safety) ซึ่งเน้น การด�ำเนินการเพ่ื อลดจ�ำนวนการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างบูรณาการและเป็นรูปธรรม ครอบคลุมการยกระดับมาตรฐานเส้นทางคมนาคมและยานพาหนะ การกวดขันวินัยการจราจร การลดพฤติกรรมเส่ียง จากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ยานพาหนะ ตลอดจนการพั ฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน และการรักษา และฟ้ นื ฟู ผู้บาดเจ็บทางถนน สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายยอ่ ย จ�ำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนระหว่าง ปี 2559 - 2563 แนวโน้มจ�ำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนระหว่าง ปี 2559 – 2563 ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมี ที่มา: ส�ำนักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ (2563) ผู้เสียชีวิตจ�ำนวน 17,831 คน ในปี 2563 ซึ่งลดลงจาก 21,745 คน ในปี 2559 ท้ังนี้ การปรับตัวลดลงอย่าง มีนัยส�ำคัญของจ�ำนวนผู้เสียชีวิตในปี 2563 อาจเป็น ผ ล ม า จ า ก กิ จ ก ร ร ม ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ท่ี ช ะ ล อ ตั ว ล ง จ า ก สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รวมถึงการใช้ มาตรการปิดเมืองและมาตรการปฏิบัติงาน ณ ท่ีพักอาศัย อย่างไรก็ดี จ�ำนวนผู้เสียชีวิตในปีล่าสุดยังห่างจาก ค่ า เ ป้ า ห ม า ย ท่ี ต้ อ ง ก า ร ล ด จ� ำ น ว น ก า ร เ สี ย ชี วิ ต แ ล ะ บ า ด เ จ็ บ จ า ก อุ บั ติ เ ห ตุ จ า ก ก า ร จ ร า จ ร ท า ง ถ น น คร่ึงหนึ่งอย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อพิ จารณาข้อมูล ส ถิ ติ ก า ร เ กิ ด อุ บั ติ เ ห ตุ ท า ง ถ น น ช่ ว ง เ ท ศ ก า ล แ ล ะ ช่วงปีใหม่ (ปี 2559 - 2562) ของศูนย์อ�ำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พบว่า อุบัติเหตุทางถนน ส่วนใหญ่เกิดจากการมีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่าปริมาณ ท่ีกฎหมายก�ำหนด (ร้อยละ 41.47) ซึ่งจักรยานยนต์เป็น ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาคือการขับรถ เร็วเกินก�ำหนด (ร้อยละ 28.17) และมีบางส่วนที่เกิดจาก ปัญหาทางกายภาพของโครงสร้างพื้ นฐานทางถนน (ร้อยละ 7.57) 112 รายงานความกา้ วหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกนั การมสี ุขภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสริมความเปน็ อยทู่ ่ดี ีส�ำหรบั ทกุ คนในทกุ ชว่ งวยั SDG ลดจำ� นวนการตายและบาดเจบ็ จากอบุ ตั ิเหตุ จากการจราจรทางถนนทั่วโลกลงครง่ึ หนึง่ ภายในปี 2563 3.6 การด�ำเนนิ การท่ผี า่ นมา ความท้าทาย การขับเคลื่อนความปลอดภัยบนท้องถนนถือเป็นวาระ การลดอุบัติเหตุทางถนนยังมีความท้าทายหลายประการ แ ห่ ง ช า ติ ที่ ทุ ก ภ า ค ส่ ว น ต้ อ ง ร่ ว ม กั น แ ก้ ไ ข โ ด ย อาทิ (1) ความไม่สอดคล้องกันของกฎหมาย โดย ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร น โ ย บ า ย ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ ล ด อุ บั ติ เ ห ตุ ค ว า ม ไ ม่ ชั ด เ จ น ข อ ง ก ฎ ห ม า ย ล� ำ ดั บ ร อ ง ท� ำ ใ ห้ เ กิ ด ทางถนนแห่งชาติ ได้จัดท�ำแผนแม่บทความปลอดภัย ค ว า ม สั บ ส น ใ น เ ชิ ง ป ฏิ บั ติ โ ด ย เ ฉ พ า ะ เ มื่ อ ต้ อ ง มี ทางถนนปี 2561 - 2564 ที่ให้ความส�ำคัญกับการบริหาร การบูรณาการการท�ำงานระหว่างหน่วยงาน (2) ระบบ จัดการท้ังด้านผู้ใช้รถใช้ถนน ยานพาหนะ เส้นทาง และ ก า ร จั ด ก า ร ข้ อ มู ล อุ บั ติ เ ห ตุ ยั ง ไ ม่ เ กิ ด ก า ร บู ร ณ า ก า ร สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างย่ิงในระดับชุมชน ผ่าน อย่างเต็มประสิทธิภาพท�ำให้การจัดการอุบัติเหตุทาง การด�ำเนินงานของคณะกรรมการพั ฒนาคุณภาพ ถนนยังขาดความคล่องตัว (3) ประชาชนยังขาดความ ชี วิ ต ร ะ ดั บ อ� ำ เ ภ อ แ ล ะ ศู น ย์ ป ฏิ บั ติ ก า ร ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ตระหนักรู้ในด้านความปลอดภัยทางถนน รวมถึง ท า ง ถ น น อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น ต ล อ ด จ น ก า ร ป ลู ก ฝั ง วิ นั ย จ ร า จ ร ใ ห้ กั บ เ ย า ว ช น ยั ง อ ยู่ ใ น การพั ฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม อาทิ ร ะ ดั บ ต�่ ำ โ ด ย ห ลั ก สู ต ร ขั บ ขี่ ป ล อ ด ภั ย ยั ง ไ ม่ ไ ด้ รั บ การใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพื่ อเพิ่ มศักยภาพ การบูรณาการเข้าสู่ระบบการศึกษา ดังเห็นได้จากอัตรา การบังคับใช้กฎหมาย โดยการตรวจจับการกระท�ำผิด การสวมหมวกนิรภัยที่ยังน้อย การขับรถเร็ว และ เช่น การฝ่าสัญญาณจราจร การจอดในที่ห้ามจอด การด่ืมแล้วขับ และ (4) การบังคับใช้กฎหมายในระดับ ร ว ม ท้ั ง ก า ร ป รั บ ป รุ ง ก ร ะ บ ว น ก า ร ช่ ว ย เ ห ลื อ ห ลั ง ชมุ ชนยังมีข้อจ�ำกัดท้ังด้านก�ำลังคนและการใช้เทคโนโลยี เกิดเหตุ การใช้อุปกรณ์ตรวจวัดแอลกอฮอล์ส�ำหรับ พนักงานขับรถและผู้ขับข่ีรถส่วนบุคคล ตลอดจน ข้อเสนอแนะ ก า ร ก� ำ ห น ด พื้ น ท่ี ค ว บ คุ ม พิ เ ศ ษ เ พื่ อ เ ป็ น เ ข ต จ ร า จ ร ป ล อ ด ภั ย ใ น พ้ื น ท่ี ท่ี เ กิ ด เ ห ตุ บ่ อ ย ค ร้ั ง เ ส้ น ท า ง ท่ี มี การลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในระยะ ก า ร จ ร า จ ร คั บ คั่ ง ต ล อ ด จ น จุ ด ที่ มี ค ว า ม เ สี่ ย ง เ ช่ น ต่อไป ควรให้ความส�ำคัญกับการด�ำเนินงานดังต่อไปน้ี หน้าโรงเรียน หน้าตลาดสด (1) การแก้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพและการบังคับใช้ กฎหมายอย่างจริงจัง อาทิ การเชื่อมโยงค่าปรับกับ การต่อภาษีประจ�ำปี หรือการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ รวมถึงการตัดคะแนนใบอนุญาตขับรถ (2) การเสริมสร้าง ประสิทธิภาพการด�ำเนินงานในระดับพ้ื นที่ โดยเชื่อมโยง การด�ำเนินงานระหว่างศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัย ทางถนนในระดับอ�ำเภอ ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัย ทางถนนท้องถิ่น และคณะกรรมการพั ฒนาคุณภาพ ชีวิตระดับอ�ำเภอ และ (3) การพั ฒนาประสิทธิภาพ อ ง ค์ ก ร แ ล ะ ก ล ไ ก ก า ร บ ริ ห า ร ง า น ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ทางถนนอย่างบูรณาการ ตลอดจนสร้างทางเลือก การเดินทางในอนาคต โดยการพั ฒนาระบบขนส่ง สาธารณะขนาดใหญ่ อาทิ ระบบราง ระบบขนส่งทางบก และระบบขนส่งทางน้ำ� ท่ีปลอดภัย เพ่ือลดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินอย่างย่ังยืน รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 113 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สร้างหลักประกันการมสี ขุ ภาวะท่ดี ี และสง่ เสริมความเปน็ อยทู่ ด่ี สี ำ� หรบั ทุกคนในทุกช่วงวยั SDG สรา้ งหลักประกนั ถ้วนหนา้ ในการเขา้ ถงึ บรกิ ารสุขภาวะทางเพศ 3.7 และอนามัยการเจรญิ พันธ์ุ รวมถึงการวางแผนครอบครัว ขอ้ มูลข่าวสาร และความรู้ และการบูรณาการอนามยั การเจริญพันธใุ์ นยุทธศาสตร์ และแผนงานระดับชาติ ภายในปี 2573 การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัย เน่ืองจากอัตราการเกิดอยู่ในระดับต่�ำกว่าอัตราทดแทน ของประชากร เป็นหน่ึงในประเด็นท้าทายท่ีส�ำคัญของไทย ดังน้ัน การส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโต อย่างมีคุณภาพ ผ่านการพัฒนาระบบบริการสุขภาวะทางเพศและอนามัยการเจริญพันธ์ุ ซึ่งครอบคลุมการเข้าถึงบริการ สาธารณสุขตั้งแต่ระยะก่อนสมรส ระยะก่อนมีบุตร ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด การจัดสวัสดิการ ทางสังคมเพ่ื อเอ้ือให้คู่สมรสตัดสินใจท่ีจะมีบุตรและเล้ียงดูบุตร รวมถึงการวางแผนครอบครัว และการแก้ไขปัญหา การต้ังครรภ์ในวัยรุ่น ด้วยการกระจายองค์ความรู้เร่ืองเพศศึกษาในวัยรุ่น และการส่งเสริมบทบาทของครอบครัว จึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับการพั ฒนาประเทศในระยะต่อไป สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย อัตราการคลอดในหญิงอายุ (15 - 19 ปี) ต่อผู้หญิงอายุ (15 - 19 ปี) 1,000 คน ในภาพรวม อัตราการคลอดของกลุ่มแม่วัยรุ่น (10-14 ปี และ 15-19 ปี) มีแนวโน้มลดลง โดยอัตราการคลอดของ หญิงอายุ 10-14 ปี ต่อประชากรหญิง 10-14 ปี พั นคน ในช่วงปี 2559 - 2562 ลดลงอย่างต่อเน่ืองจาก 1.4 ในปี 2559 เป็น 1.1 ในปี 2562 ซ่ึงเป็นไปในทิศทาง เดียวกันกับอัตราคลอดของหญิงอายุ 15-19 ปี ต่อ ประชากรหญิง 15-19 ปี พั นคน ซึ่งลดลงจาก 42.5 ในปี 2559 เป็น 31.3 ในปี 2562 อย่างไรก็ดี เม่ือ พิ จารณาสัดส่วนของหญิงวัยเจริญพั นธ์ุท่ีพึ งพอใจกับ การวางแผนครอบครัวด้วยวิธีสมัยใหม่ จากการส�ำรวจ ที่มา: สถานการณ์อนามัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน, กรมอนามัย (2563) สถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2562 พบว่า มีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 93.2 ในปี 2559 การดำ� เนินการที่ผา่ นมา เป็นร้อยละ 88 ในช่วงปี 2562 ทั้งน้ี ประชากรบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มชาติพั นธุ์หรือกลุ่มคนที่อยู่ห่างไกลจาก กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายขับเคล่ือน ชุมชนเมือง ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบหลักประกัน นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธ์ุ สุขภาพ รวมถึงบริการสุขภาวะทางเพศและอนามัย แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 - 2569) ซึ่งมีเป้าหมาย การเจริญพั นธ์ุที่เหมาะสม ห ลั ก ใ น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร เ กิ ด แ ล ะ ก า ร เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต อัตราการคลอดในหญิงอายุ (10 - 14 ปี) อ ย่ า ง มี คุ ณ ภ า พ โ ด ย มุ่ ง เ น้ น ใ ห้ ก า ร เ กิ ด ทุ ก ร า ย มี ต่อผู้หญิงอายุ (10 - 14 ปี) 1,000 คน ก า ร ว า ง แ ผ น แ ล ะ ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ตั้ ง แ ต่ ก่ อ น ต้ังครรภ์ รวมถึงได้รับความช่วยเหลือในการมีบุตร ส่งเสริมให้ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย ได้รับการดูแล หลังคลอดที่ดี และเด็กได้รับการเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อม ท่ี เ อื้ อ ต่ อ ก า ร เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต แ ล ะ พั ฒ น า ก า ร ท่ี ส ม วั ย ผ่านการด�ำเนินงานต่าง ๆ อาทิ การจัดต้ังกลไกระดับ จั ง ห วั ด เ พ่ื อ ด� ำ เ นิ น ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ก า ร ต้ั ง ค ร ร ภ์ ใ น วั ย รุ่ น ก า ร พั ฒ น า ส่ื อ ใ ห้ ค ว า ม รู้ กั บ ป ร ะ ช า ช น เ ร่ื อ ง ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ก่ อ น มี บุ ต ร และการจัดท�ำฐานข้อมูลอนามัยเจริญพั นธ์ุประเทศไทย 114 ที่มา: สถานการณ์อนามัยเจริญพั นธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชน, กรมอนามัย (2563) รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ่ังยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกนั การมสี ุขภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสรมิ ความเปน็ อยูท่ ่ดี ีสำ� หรบั ทกุ คนในทุกช่วงวัย สรา้ งหลกั ประกนั ถ้วนหน้าในการเขา้ ถึงบริการสุขภาวะทางเพศ SDG และอนามยั การเจรญิ พันธ์ุ รวมถงึ การวางแผนครอบครวั ขอ้ มูลขา่ วสาร 3.7 และความรู้ และการบูรณาการอนามัยการเจรญิ พันธุ์ในยทุ ธศาสตร์ และแผนงานระดับชาติ ภายในปี 2573 (http://rhdata.anamai.moph.go.th) นอกจากน้ี ขอ้ เสนอแนะ ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม น โ ย บ า ย ก า ร ป้ อ ง กั น ก า ร ตั้ ง ค ร ร ภ์ ภาครัฐควรเร่งรัดการพั ฒนาอนามัยการเจริญพั นธุ์ ซ�้ ำ ใ น วั ย รุ่ น โ ด ย ส นั บ ส นุ น ค่ า บ ริ ก า ร คุ ม ก� ำ เ นิ ด ช นิ ด ในประเด็นที่เป็นอุปสรรคและมีความส�ำคัญสูง มุ่งเน้น ก่ึ ง ถ า ว ร ด้ ว ย ก า ร ใ ส่ ห่ ว ง อ น า มั ย แ ล ะ ฝั ง ย า คุ ม ก� ำ เ นิ ด มาตรการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยให้สามารถเข้าถึง แก่วัยรุ่นที่มีอายุต่�ำกว่า 20 ปี และหญิงวัยเจริญพั นธุ์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ท่ีมีราคาไม่แพงจนเกินไปและ อายุ 20 ปีขึ้นไป รวมทั้งการสนับสนุนค่าบริการยุติ เ ชื่ อ ถื อ ไ ด้ ค ว บ คู่ ไ ป กั บ ก า ร ก� ำ ห น ด น โ ย บ า ย ส ร้ า ง ก า ร ตั้ ง ค ร ร ภ์ ที่ ป ล อ ด ภั ย ใ ห้ กั บ ส ถ า น บ ริ ก า ร สุ ข ภ า พ ความสมดุลระหว่างการท�ำงานและการมีชีวิตครอบครัว เพื่ อส่งเสริมให้วัยรุ่นและสตรีที่ต้ังครรภ์โดยไม่พร้อม อาทิ การเพิ่ มระยะเวลาการลาคลอดโดยที่ได้รับค่าจ้าง สามารถเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพั นธ์ุได้มาก ใ น อั ต ร า ท่ี เ ห ม า ะ ส ม ก า ร ล า เ พ่ื อ ดู แ ล บุ ต ร แ ร ก เ กิ ด ย่ิงข้ึน ส�ำหรับบิดาในระยะเวลาท่ีเหมาะสม และการก�ำหนด ช่ัวโมงการท�ำงานท่ียืดหยุ่นเพ่ื อช่วยให้พ่ อแม่สามารถ ความทา้ ทาย ใ ช้ เ ว ล า ที่ บ้ า น ไ ด้ ม า ก ขึ้ น น อ ก จ า ก นี้ ค ว ร พั ฒ น า หลักสูตรเพศศึกษาให้ครอบคลุมประเด็นส�ำคัญ อาทิ บริบททางเศรษฐกิจและสังคมท่ีเปล่ียนแปลงไป อาทิ สิทธิ อ�ำนาจ และเพศสภาพ ตลอดจนสร้างค่านิยม ค่านิยมการอยู่เป็นโสด การแต่งงานหรือการมีครอบครัว เ รื่ อ ง เ พ ศ สั ม พั น ธ์ ท่ี มี สุ ข ภ า ว ะ ร ว ม ถึ ง ก า ร ป้ อ ง กั น ช้า และการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของผู้หญิงใน ก า ร ท้ อ ง ไ ม่ พ ร้ อ ม ใ น ห มู่ เ ย า ว ช น อ ย่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ตลาดแรงงาน ท�ำให้ระบบบริการสุขภาวะทางเพศและ ในขณะเดียวกัน ควรพั ฒนาระบบบริการยุติการต้ังครรภ์ อนามัยการเจริญพั นธ์ุในรูปแบบเดิมไม่สอดคล้องกับ ท่ีปลอดภัยส�ำหรับการตั้งครรภ์ท่ีไม่ได้วางแผนส�ำหรับ ความต้องการของผู้หญิงในปัจจุบัน ซ่ึงอาจต้องการ กลุ่มเยาวชนให้เข้าถึงได้มากข้ึน ด้วยการรณรงค์เชิงรุก มีบุตรเมื่อสูงวัย ท�ำให้ประสบกับภาวะการมีบุตรยาก เพื่ อสร้างความตระหนักรู้ผ่านช่องทางที่สอดคล้อง แต่ในปัจจุบันการรักษาภาวะมีบุตรยากยังไม่ได้ถูกรวม กั บ พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร เ ส พ สื่ อ ข อ ง เ ย า ว ช น ก า ร ข ย า ย ในสิทธิประโยชน์ภายใต้หลักประกันสุขภาพของภาครัฐ ความร่วมมือกับสถานบริการสุขภาวะอนามัยเจริญพั นธ์ุ อีกท้ังสวัสดิการทางสังคมเพ่ื อเอ้ือให้คู่สมรสตัดสินใจ ของเอกชนที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนมีแนวทางเยียวยา ท่ีจะมีบุตรและเล้ียงดูบุตร เช่น การลาคลอดโดยท่ี จิ ต ใ จ ส� ำ ห รั บ เ ย า ว ช น ที่ ไ ด้ รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ อ ย่ า ง เ ป็ น ได้รับค่าจ้าง และการลาเพ่ือดูแลบุตรแรกเกิดส�ำหรับบิดา ระบบ มีอยู่อย่างจ�ำกัด นอกจากนี้ เพศศึกษาเป็นประเด็นท่ี ละเอียดอ่อนในสังคมไทย ท�ำให้เด็กและเยาวชนไม่ได้รับ ข้อมูลความรู้ด้านอนามัยการเจริญพั นธ์ุ รวมถึงประเด็น ด้านสิทธิ อ�ำนาจ และเพศสภาพอย่างเพี ยงพอน�ำไปสู่ ปัญหาการต้ังครรภ์ในวัยรุ่น รวมถึงการยุติการต้ังครรภ์ ทไี่ มป่ ลอดภยั รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 115 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลกั ประกนั การมีสขุ ภาวะทด่ี ี และสง่ เสริมความเป็นอยู่ทด่ี สี ำ� หรับทุกคนในทกุ ชว่ งวยั SDG บรรลุการมหี ลักประกันสุขภาพถว้ นหนา้ รวมถึงการป้องกนั ความเสี่ยง 3.8 ทางการเงนิ การเขา้ ถึงการบริการสาธารณสุขจำ� เป็นที่มคี ณุ ภาพ และเข้าถงึ ยาและวัคซีนจำ� เป็นทีป่ ลอดภยั มปี ระสิทธิภาพ มีคุณภาพ และมีราคาทส่ี ามารถซ้อื หาได้ ประเทศไทยด�ำเนินการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอย่างต่อเน่ือง โดยได้มีการออกพระราชบัญญัติ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และต่อมาได้มีการพั ฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ โดยเพิ่ มสิทธิประโยชน์ ท้ังด้านการให้บริการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษา และการฟ้ นื ฟู อย่างรอบด้าน ส่งผลให้ประชาชนไทย มีสิทธิในการเข้าถึงบริการสุขภาพท่ีจ�ำเป็น นอกจากน้ี ผลลัพธ์ท่ีส�ำคัญของการด�ำเนินงานด้านหลักประกันสุขภาพ ถ้วนหน้าคือการขยายสิทธิประโยชน์ให้คนท่ีมีรายได้น้อยท่ีอยู่ในเมืองและชนบท รวมท้ังประชาชนท่ีอาศัยในพื้ นท่ี ห่างไกลสามารถเข้าถึงการบริการสุขภาพของรัฐได้มากย่ิงข้ึน เป็นการลดค่าใช้จ่าย ตลอดจนความเส่ียงทาง ด้านการเงินอันเนื่องมาจากการรักษาพยาบาล สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย ร้อยละครัวเรือนที่เกิดวิกฤตทางการเงิน จากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ปี 2545 - 2560 การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับประชาชน ทุกคนต้ังแต่ปี 2545 ส่งผลให้แนวโน้มของครัวเรือน ท่ีมา: รายงานการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2562, สปสช. ที่เกิดวิกฤตทางการเงินจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 660,000 ครัวเรือน (ร้อยละ การด�ำเนินการท่ผี า่ นมา 4.06) ในปี 2545 เป็น 480,000 ครัวเรือน (ร้อยละ 2 . 2 6 ) ใ น ปี 2 5 6 0 น อ ก จ า ก นี้ เ มื่ อ พิ จ า ร ณ า ดั ช นี ระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยได้มีการพั ฒนา ความครอบคลุมของบริการด้านสุขภาพที่จ�ำเป็น1 พบว่า อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเพิ่ มสิทธิประโยชน์และ อัตราความครอบคลุมของไทยเพิ่ มข้ึนจากร้อยละ 68 ใน กลุ่มเป้าหมายให้สามารถเข้าถึงบริการที่จ�ำเป็น อาทิ ปี 2553 เป็นร้อยละ 82 ในปี 2563 ซ่ึงเป็นอัตราท่ีสูง ก า ร จั ด ส ร ร ง บ ป ร ะ ม า ณ ร ะ บ บ ห ลั ก ป ร ะ กั น สุ ข ภ า พ ท่ีสุดในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากน้ี แ ห่ ง ช า ติ ส� ำ ห รั บ ก า ร ใ ห้ บ ริ ก า ร เ ฉ พ า ะ โ ร ค ท่ี แ ย ก จ า ก ใ น มิ ติ ข อ ง ก า ร เ ข้ า ถึ ง ย า แ ล ะ วั ค ซี น ท่ี จ� ำ เ ป็ น พ บ ว่ า บริการข้ันพ้ื นฐาน ซ่ึงเริ่มต้นจากการเพ่ิ มงบบริการ ในปี 2562 มีอัตราความครอบคลุมของการได้รับวัคซีน ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS (ปี 2549) ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ของเด็กไทยอายุ 1 ปี ท่ี (ปี 2552) ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเบาหวาน/ความดันโลหิต ร้อยละ 97 และอัตราความครอบคลุมของการได้รับวัคซีน สูง (ปี 2553) ผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง (ปี 2554) ผู้สูงอายุ ป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นของคนไทย ท่ีร้อยละ 87 ที่มีภาวะพึ่ งพิ ง (ปี 2559) และค่าบริการสาธารณสุข สู ง ก ว่ า ค่ า เ ฉ ล่ี ย ข อ ง ภู มิ ภ า ค เ อ เ ชี ย ต ะ วั น อ อ ก เ ฉี ย ง ใ ต้ ส� ำ ห รั บ ก า ร บ ริ ก า ร ร ะ ดั บ ป ฐ ม ภู มิ ท่ี มี แ พ ท ย์ ป ร ะ จ� ำ สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการสร้างหลักประกัน ครอบครัว (ปี2561) รวมท้ังได้เพ่ิ มบริการสุขภาพอ่ืน ๆ สุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย ซ่ึงส่งผลให้สามารถ อาทิ การคัดกรองโรคดาวน์ซินโดรมในหญิงต้ังครรภ์ ป้องกันความเสี่ยงทางการเงินและการเข้าถึงการบริการ ส า ธ า ร ณ สุ ข จ� ำ เ ป็ น ใ ห้ กั บ ค น ไ ท ย ไ ด้ ใ น ร ะ ดั บ สู ง แต่ยังจ�ำเป็นต้องพั ฒนาให้ก้าวหน้าไปอย่างต่อเน่ือง เพื่ อสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ท่ั ว ถึ ง แ ล ะ ครอบคลุมทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ 116 1 ข้อมูลจากรายงาน Monitoring progress on universal health coverage and the health-related Sustainable Development Goals in the South-East Asia Region: 2020 update ขององค์การอนามัยโลก (WHO) . รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ่งั ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกันการมสี ขุ ภาวะท่ดี ี 03 และส่งเสริมความเปน็ อยทู่ ด่ี ีส�ำหรบั ทุกคนในทกุ ช่วงวัย SDG บรรลุการมีหลกั ประกันสุขภาพถว้ นหน้า รวมถึงการป้องกนั ความเสี่ยง ทางการเงิน การเขา้ ถึงการบรกิ ารสาธารณสุขจ�ำเป็นที่มีคณุ ภาพ 3.8 และเขา้ ถึงยาและวคั ซนี จำ� เป็นทีป่ ลอดภยั มปี ระสิทธิภาพ มีคณุ ภาพ และมรี าคาท่สี ามารถซ้อื หาได้ การสนับสนุนติดตามพั ฒนาการเด็ก และการฉีดวัคซีน ขอ้ เสนอแนะ รวมหัด คางทูม และหัดเยอรมันในเด็ก บริการดูแลผู้ป่วย ต่อเนื่องหลังจากพ้ นระยะฉุกเฉินในโรคหลอดเลือด ภ า ค รั ฐ ค ว ร ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ย่ั ง ยื น สมอง การบาดเจ็บทางสมอง/ไขสันหลัง และบริการ ทางการคลังให้แก่ระบบหลักประกันสุขภาพในระยะยาว เชิงรุกดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในชุมชน ตลอดจนเน้น โดยควรมุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคที่รองรับมาตรการ แ ล ะ จั ด ก า ร กั บ ภั ย คุ ก ค า ม สุ ข ภ า พ อ ย่ า ง เ ป็ น รู ป ธ ร ร ม เว้นระยะห่างทางสังคม เช่น บริการร้านยาสุขภาพ ผ่านการกระจายอ�ำนาจให้การคลังท้องถ่ินเข้ามาร่วมจัด ชุ ม ช น บ ริ ก า ร ร ะ บ บ ส า ธ า ร ณ สุ ข ท า ง ไ ก ล ร ว ม ท้ั ง บ ริ ก า ร สุ ข ภ า พ แ ก่ ป ร ะ ช า ช น เ พ่ิ ม ขึ้ น โ ด ย เ ฉ พ า ะ จัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังผู้ป่วยท่ีบ้าน บริการด้าน การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การบริการ ก า ย ภ า พ บ� ำ บั ด แ ล ะ ด้ า น เ ค มี บ� ำ บั ด ท่ี บ้ า น ใ น ผู้ ป่ ว ย ระดับปฐมภูมิให้แก่ประชาชนในพ้ื นที่ และการเช่ือมโยง มะเร็งล�ำไส้ใหญ่ ซึ่งการด�ำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ ร ะ บ บ บ ริ ก า ร ห ลั ก แ ล ะ ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ข อ ง ห น่ ว ย ง า น ประชาชนไทยเข้าถึงบริการสุขภาพท่ีจ�ำเป็นเพ่ิ มข้ึน ภาคส่วนอ่ืน ๆ นอกจากน้ี ควรพิ จารณาการใช้แนวทาง ลดภาระค่าใช้จ่าย และลดจ�ำนวนครัวเรือนที่จะต้อง การรับภาระค่าใช้จ่ายร่วมกัน (cost sharing) ระหว่างรัฐ กลายเป็นครัวเรือนยากจนจากค่ารักษาพยาบาล และผู้ใช้บริการตามเศรษฐานะ อาทิ การต้ังกองทุน อ อ ม ท รั พ ย์ เ พื่ อ สุ ข ภ า พ โ ด ย ใ ห้ ป ร ะ ช า ช น จ่ า ย ส ม ท บ ความท้าทาย เข้ากองทุน การให้ผู้ป่วยร่วมจ่ายเม่ือเข้ารับบริการ (co-payment) และการให้ผู้ป่วยรับภาระค่ารักษา การเพ่ิ มคุณภาพบริการของระบบหลักประกันสุขภาพ พยาบาลส่วนแรกก่อนแล้วให้รัฐเป็นผู้รับภาระในส่วน ภาครัฐ โดยใช้วิธีการขยายความคุ้มครอง/สิทธิประโยชน์ ท่ีเกิน (deductible) เพ่ื อกระตุ้นให้เกิดจิตส�ำนึกใน เพ่ิ มเติมจากการจัดสรรงบประมาณโดยภาครัฐเพี ยง ก า ร ดู แ ล สุ ข ภ า พ แ ล ะ ค ว บ คุ ม ร ะ ดั บ ค่ า ใ ช้ จ่ า ย ใ ห้ อ ยู่ ใ น ด้านเดียว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของภาครัฐ ระดับที่เหมาะสม ท้ังนี้ แนวทางการรับภาระค่าใช้จ่าย เพ่ิ มขึ้นอย่างต่อเน่ือง และรายจ่ายดังกล่าวมีแนวโน้ม ร่ ว ม กั น ดั ง ก ล่ า ว ต้ อ ง ไ ม่ เ ป็ น ก า ร กี ด กั น ก า ร เ ข้ า ถึ ง เพิ่ มขึ้นเมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ในขณะท่ี บริการสุขภาพที่จ�ำเป็นของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดย ปัจจุบันยังมีข้อก�ำจัดในการจัดท�ำมาตรการหาแหล่งเงิน จั ด ต้ั ง ก ล ไ ก ใ น ก า ร ส นั บ ส นุ น ป ร ะ ช า ช น ทุ ก ก ลุ่ ม ใ ห้ เพิ่ มเติม หรือแนวทางควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิผล ส า ม า ร ถ เ ข้ า ถึ ง บ ริ ก า ร สุ ข ภ า พ ขั้ น พ้ื น ฐ า น ที่ จ� ำ เ ป็ น เพี ยงพอ เพ่ื อรองรับความเส่ียงทางการคลังในอนาคต อาทิ การก�ำหนดกลุ่มประชากรที่อาจได้รับการยกเว้น และสร้างความยั่งยืนให้แก่ระบบหลักประกันสุขภาพใน การร่วมจ่ายและการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยก�ำหนดอัตรา ระยะยาว ร่วมจ่ายท่ีน้อยกว่าหรือการก�ำหนดเพดานร่วมจ่ายต่อ ระยะเวลา รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 117 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สร้างหลกั ประกนั การมีสุขภาวะท่ดี ี และส่งเสรมิ ความเปน็ อยทู่ ด่ี สี �ำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย SDG 3.9 ลดจ�ำนวนการตายและการเจ็บปว่ ยจากสารเคมีอันตรายและจากมลพิษ และการปนเป้ อื นทางอากาศ น�ำ้ และดนิ ให้ลดลงอย่างมาก ภายในปี 2573 ปัจจุบันปัญหามลพิ ษทางอากาศ น้�ำ ดินและสารเคมีท่ีเกิดจากการเผาไหม้เช้ือเพลิง การเผาพ้ื นท่ีท�ำการเกษตร ไฟไหม้ป่า การใช้สารเคมีในการเกษตร การทิ้งน�้ำและสิ่งปฏิกูลจากแหล่งชุมชนหรือโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนเป็นสาเหตุหน่ึงที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ดังน้ัน ปัญหามลพิ ษจึงควรได้รับการแก้ไข อย่างเร่งด่วน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อส่ิงแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย จากรายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2562 พบว่า คุณภาพอากาศมีปัญหามลพิษหลัก คือ ฝุ่นละออง PM2.5 ฝุ่นละออง PM10 และก๊าซโอโซน ท่ีมีแนวโน้ม เกินค่ามาตรฐานมากขึ้น โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 ซ่ึง เกินค่ามาตรฐานในหลายพ้ืนที่ โดยมีค่าเฉล่ีย 24 ช่ัวโมง อยู่ที่ 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม) (ค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม) และค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 25 มคก./ลบ.ม (ค่ามาตรฐาน 25 มคก./ลบ.ม) ในขณะที่ สถานการณค์ ณุ ภาพนำ�้ ใน 59 แมน่ ำ้� สายหลกั และ 6 แหลง่ น�้ำนิ่ง อยู่ในเกณฑ์ดีมากร้อยละ 2 เกณฑ์ดีร้อยละ 32 เกณฑ์พอใช้ร้อยละ 48 และเกณฑ์เสื่อมโทรมร้อยละ 18 ทั้งน้ี เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานประเภทแหล่งน�้ำผิวดิน ที่ก�ำหนด มีเพี ยง 9 แหล่ง (ร้อยละ 15) ท่ีเป็นไปตาม มาตรฐาน ในชว่ ง 10 ปีทผี่ า่ นมา (พ.ศ. 2553 - 2562) นอกจากน้ี ในช่วงปี 2559 - 2562 ประเทศไทยมี ที่มา: ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) การน�ำเข้าสารเคมีเข้ามาใช้ประโยชน์ท้ังในด้านเกษตร อุตสาหกรรม และสาธารณสุข เพิ่ มขึ้น แต่ยังขาด การดำ� เนินการทผ่ี ่านมา การควบคุมอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การน�ำเข้าสารตั้งต้น การผลิต การน�ำไปใช้ประโยชน์ ตลอดจนการท�ำลาย ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ห่ ง ช า ติ มี ม ติ เ มื่ อ กากของเสียจากการใช้งาน อีกท้ังยังตรวจพบสารเคมี เดือนมกราคม 2563 ให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด�ำเนินงาน ตกค้างในส่ิงแวดล้อมท้ังในดิน น้�ำ และตะกอน โดยเฉพาะ ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไข สารเคมีก�ำจัดศัตรูพื ช โดยฐานข้อมูลผู้ป่วยในระบบ ปั ญ ห า ม ล พิ ษ ด้ า น ฝุ่ น ล ะ อ อ ง ” โ ด ย ม อ บ อ� ำ น า จ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า มีประชาชนที่เข้ารับ ผู้ ว่ า ร า ช ก า ร จั ง ห วั ด บู ร ณ า ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ช่ ว ง ค่ า ฝุ่ น การรักษาจากการเจ็บป่วยท่ีมีสาเหตุจากการได้รับสารเคมี วิ ก ฤ ต พ ร้ อ ม บั ง คั บ ใ ช้ ก ฎ ห ม า ย อ ย่ า ง เ ข้ ม ข้ น ต า ม 3 กำ� จดั ศตั รพู ืช ในปี 2562 3,067 ราย เสยี ชวี ติ 407 ราย มาตรการ ได้แก่ (1) การเพ่ิ มประสิทธิภาพในการบริหาร ลดลงจากปี 2559 ซ่ึงมีผู้ป่วย 4,876 ราย เสียชีวิต จัดการเชิงพื้ นท่ีในช่วงระหว่างเกิดสถานการณ์วิกฤต 606 ราย ท้ังน้ี จ�ำนวนผู้เสียชีวิตท่ีมีสาเหตุจากการได้รับ สารเคมีก�ำจัดศัตรูพื ชในช่วงปี 2559 - 2562 มีจ�ำนวน ถึง 2,193 ราย ซ่ึงยังไม่รวมผู้ป่วยในสิทธิรักษาพยาบาล อนื่ ๆ 118 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันการมสี ุขภาวะท่ดี ี 03 และส่งเสรมิ ความเปน็ อยู่ทด่ี สี �ำหรบั ทุกคนในทกุ ช่วงวยั ลดจ�ำนวนการตายและการเจ็บปว่ ยจากสารเคมอี นั ตรายและจากมลพิษ SDG และการปนเป้ อื นทางอากาศ น�้ำ และดนิ ใหล้ ดลงอยา่ งมาก ภายในปี 2573 3.9 (2) การป้องกันและลดการเกิดมลพิ ษที่ต้นทาง โดย ข้อเสนอแนะ การควบคุมมลพิ ษจากการเผาในท่ีโล่ง การก่อสร้าง และผังเมือง การอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน และ ค ว ร บู ร ณ า ก า ร ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม ร่ ว ม มื อ จ า ก ทุ ก ภ า ค ส่ ว น (3) การเพ่ิ มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิ ษ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการลดกิจกรรม ผ่านการพั ฒนาระบบ เคร่ืองมือ กลไกในการบริหาร ที่ท�ำให้เกิดฝุ่นฝุ่นละออง PM2.5 อาทิ การเผาในท่ีโล่ง จัดการ รวมถึงการศึกษาวิจัยเพื่ อพั ฒนาองค์ความรู้ การก่อสร้างและผังเมือง การอุตสาหกรรม และการปล่อย เ พื่ อ เ ป็ น ข้ อ มู ล ป ร ะ ก อ บ ก า ร ตั ด สิ น ใ จ แ ล ะ ก� ำ ห น ด มลพิ ษจากท่อไอเสียรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมาก แ น ว ท า ง ม า ต ร ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ใ น อ น า ค ต เ กิ น ค ว ร แ ล ะ ค ว ร ย ก ร ะ ดั บ ร ะ บ บ ข น ส่ ง ส า ธ า ร ณ ะ ใ ห้ มี ตลอดจนการพั ฒนาเครือข่ายการติดตามตรวจสอบ การบริการที่ดี สะอาด ปลอดภัย มีราคาที่สมเหตุสมผล คุณภาพอากาศ นอกจากนี้ ได้มีการขึ้นบัญชีพาราควอต และเข้าถึงได้ง่าย ซ่ึงจะส่งผลให้เกิดการลดการใช้ แ ล ะ ค ล อ ร์ ไ พ ริ ฟ อ ส ซ่ึ ง เ ป็ น ส า ร เ ค มี ก� ำ จั ด วั ช พื ช รถยนต์ส่วนบุคคลอันเป็นต้นเหตุส�ำคัญของมลพิ ษ ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดท่ี 4 ห้ามมิให้มีการผลิต น�ำเข้า ทางอากาศ นอกจากนี้ ควรใช้มาตรการทางกฎหมาย หรือส่งออก ต้ังแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป และเศรษฐศาสตร์เพื่ อก�ำกับและควบคุมการก่อมลพิ ษ ต ล อ ด จ น เ ร่ ง รั ด ก า ร บ� ำ บั ด ข อ ง เ สี ย ก่ อ น ป ล่ อ ย อ อ ก สู่ ความท้าทาย ส่ิงแวดล้อม พร้อมท้ังเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปรู้จักป้องกันตนเองจาก ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เป็นปัญหาเรื้อรังท่ีมีแนวโน้ม มลพิ ษ ทั้งนี้ ควรส่งเสริมให้มีการจัดท�ำฐานข้อมูลด้าน รุ น แ ร ง ม า ก ข้ึ น จ า ก กิ จ ก ร ร ม ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ ก า ร ใ ช้ การเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากสารเคมีและมลพิ ษ ชีวิตประจ�ำวันของประชาชน โดยขาดความตระหนักรู้ และการปนเป้ ือนทางอากาศและทางน้�ำอย่างเป็นระบบ ถึ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ท่ี จ ะ เ กิ ด ข้ึ น ต่ อ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ สุ ข ภ า พ เพื่ อเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในการจัดท�ำมาตรการลด ของมนุษย์ อีกท้ังยังมีความท้าทายในการบังคับใช้ ผลกระทบที่เกี่ยวข้องต่อไป กฎหมาย เนื่องจากมาตรการท่ีเก่ียวข้องกับการควบคุม ฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในพระราชบัญญัติหลายฉบับ โดย แต่ละฉบับมุ่งเน้นการควบคุมกิจการเฉพาะด้าน ซึ่งมิได้ ก� ำ ห น ด แ น ว ท า ง เ ฉ พ า ะ เ จ า ะ จ ง ใ น ก า ร แ ก้ ไ ข ฝุ่ น ล ะ อ อ ง PM2.5 แบบองค์รวม ซึ่งจ�ำเป็นต้องบูรณาการการท�ำงาน ระหวา่ งองคก์ รในทุกมิติเพื่ อการแก้ไขปัญหาอย่างย่ังยืน นอกจากนี้ การใช้สารเคมีเพื่ อเพ่ิ มผลผลิตยังมีอยู่ อย่างแพร่หลาย โดยในภาคเกษตร มีเกษตรกรจ�ำนวน ม า ก ที่ ข า ด ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ถึ ง อั น ต ร า ย ที่ อ า จ เ กิ ด ขึ้ น จ า ก การใช้สารเคมีต่อสุขภาพของตนเองและผู้บริโภค ใน ขณะท่ีการบ�ำบัดของเสียก่อนปล่อยออกสู่ส่ิงแวดล้อม ใ น ภ า ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม ยั ง ไ ม่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ เ ท่ า ท่ี ค ว ร ส่งผลให้เกิดปัญหามลพิ ษและการปนเป้ ือนของสารเคมี ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 119 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลกั ประกนั การมสี ุขภาวะทด่ี ี และส่งเสริมความเป็นอยูท่ ด่ี ีสำ� หรับทกุ คนในทกุ ชว่ งวยั SDG เพ่ิมความเขม้ แข็งในการดำ� เนนิ งานตามกรอบอนุสัญญาขององคก์ ารอนามัยโลก วา่ ดว้ ยการควบคุมยาสูบในทุกประเทศตามความเหมาะสม 3.a กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพ่ื อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากพิ ษภัยของการบริโภคยาสูบและการสูดดมควันยาสูบ และเพ่ื อยับย้ังการแพร่กระจายผลิตภัณฑ์ยาสูบไปสู่ประเทศก�ำลังพั ฒนา เน่ืองจากพฤติกรรมการบริโภคยาสูบ เป็นพฤติกรรมเสี่ยงท่ีก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง น�ำไปสู่ความเจ็บป่วยและการเสียชีวิต จากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งปอด และโรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ การเสพติดยาสูบจะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการบริโภคที่เพ่ิ มมากขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หากเกิดโรค โดยประเทศไทยได้ลงนามเข้าร่วมเป็นรัฐภาคีตามกรอบอนุสัญญาดังกล่าว และประกาศใช้ พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นมา สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายย่อย แนวโน้มการสูบบุหรี่ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จ�ำแนกตามเพศ พ.ศ. 2547 - 2560 จากผลการส�ำรวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีและการด่ืมสุรา ของประชากรในระยะที่ผ่านมา พบว่าแนวโน้มการสูบบุหรี่ หมายเหตุ: พ.ศ. 2549 2552 2556 และ 2558 จากผลการส�ำรวจ ในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ลดลงเล็กน้อย จากร้อยละ อนามัยและสวัสดิการ 19.9 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 19.1 ในปี 2560 โดยผู้ชาย ที่สูบบุหรี่ลดลงมากกว่าผู้หญิง จากร้อยละ 39.3 ใน ที่มา: ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2558 เป็นร้อยละ 37.7 ในปี 2560 ขณะท่ีผู้หญิง ลดลงจากร้อยละ 1.8 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 1.7 ใน ม า ต ร ก า ร ค ว บ คุ ม ย า สู บ แ ล ะ บุ ห ร่ี ท่ี ส� ำ คั ญ อ า ทิ ปี 2560 อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีการเข้าถึงยาสูบ (1) การบังคับใช้ซองบุหร่ีแบบเรียบเพ่ื อป้องกันไม่ให้ ได้ง่าย ขาดการควบคุมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะใน ธุ ร กิ จ ย า สู บ ใ ช้ พื้ น ที่ ซ อ ง บุ ห รี่ เ ป็ น สื่ อ โ ฆ ษ ณ า แ ล ะ กลุ่มเด็กและเยาวชน ซ่ึงเป็นประเด็นท่ีประเทศไทย ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ข า ย ตั้ ง แ ต่ วั น ท่ี 1 0 กั น ย า ย น 2 5 6 2 ควรเร่งด�ำเนินการแก้ไข และ (2) การก�ำหนดสถานที่สาธารณะปลอดบุหรี่ตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ก�ำหนดประเภท การด�ำเนนิ การทผี่ ่านมา หรือช่ือสถานท่ีสาธารณะ สถานท่ีท�ำงานและยานพาหนะ ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือท้ังหมดเป็ นเขตปลอดบุหรี่ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย พั ฒ น า ก ฎ ห ม า ย เ พื่ อ เ ป็ น เ ค รื่ อ ง มื อ ใ น หรือเขตสูบบุหร่ีในเขตปลอดบุหร่ี พ . ศ . 2 5 6 1 เ พื่ อ ก า ร ค ว บ คุ ม ก า ร บ ริ โ ภ ค ย า สู บ แ ล ะ ก า ร แ พ ร่ ร ะ บ า ด คุ้ ม ค ร อ ง สุ ข ภ า พ ผู้ ไ ม่ สู บ บุ ห รี่ ของผลิตภัณฑ์ยาสูบ ซึ่งยึดโยงกับสาระส�ำคัญและ แ น ว ป ฏิ บั ติ ข อ ง ก ร อ บ อ นุ สั ญ ญ า ว่ า ด้ ว ย ก า ร ค ว บ คุ ม ย า สู บ ข อ ง อ ง ค์ ก า ร อ น า มั ย โ ล ก โ ด ย มุ่ ง ป รั บ ป รุ ง ม า ต ร ก า ร ท า ง ก ฎ ห ม า ย ใ ห้ ทั น ส มั ย ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ส ถ า น ก า ร ณ์ แ ล ะ ส ภ า พ ปั ญ ห า ร ว ม ถึ ง ก ล ยุ ท ธ์ การตลาดของธุรกิจยาสูบรูปแบบใหม่ ๆ เพ่ื อให้เด็ก แ ล ะ เ ย า ว ช น ห่ า ง ไ ก ล จ า ก ก า ร บ ริ โ ภ ค ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ยาสูบ ตลอดจนคุ้มครองสิทธิและสุขภาพในสถานที่ สาธารณะของประชาชนผู้ไม่สูบบุหรี่ ท้ังน้ี ได้จัดท�ำ 120 รายงานความกา้ วหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ่งั ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันการมีสขุ ภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสรมิ ความเปน็ อยทู่ ่ดี ีสำ� หรับทุกคนในทุกชว่ งวยั เพิ่มความเขม้ แขง็ ในการดำ� เนินงานตามกรอบอนสุ ัญญาขององค์การอนามัยโลก SDG วา่ ด้วยการควบคมุ ยาสูบในทกุ ประเทศตามความเหมาะสม 3.a ความทา้ ทาย ขอ้ เสนอแนะ แ ม้ ว่ า ก ฎ ห ม า ย จ ะ ห้ า ม มิ ใ ห้ ข า ย ย า สู บ แ ก่ บุ ค ค ล ท่ี มี อ า ยุ เพื่ อให้การควบคุมยาสูบภายในประเทศมีประสิทธิภาพ ต่�ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ แต่เด็กและเยาวชนก็ยังสามารถ แ ล ะ ส า ม า ร ถ ล ด ค ว า ม ชุ ก ข อ ง ก า ร ใ ช้ ย า สู บ แ ล ะ บุ ห รี่ ใ น เ ข้ า ถึ ง ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ย า สู บ ไ ด้ ง่ า ย โ ด ย ผ ล วิ จั ย เ รื่ อ ง ปั จ จุ บั น ข อ ง ก ลุ่ ม ผู้ สู บ บุ ห ร่ี ท่ี มี อ า ยุ ต้ั ง แ ต่ 1 5 ปี ข้ึ น การพั ฒนามาตรการเฝ้าระวังและจ�ำกัดการเข้าถึง ไ ป ไ ด้ ม า ก ข้ึ น ภ า ค รั ฐ ค ว ร บั ง คั บ ใ ช้ ม า ต ร ก า ร ท า ง ผลิตภัณฑ์ยาสูบในเด็กและเยาวชน ปี 2562 ของ ก ฎ ห ม า ย เ พื่ อ ค ว บ คุ ม แ ล ะ ต่ อ ต้ า น ก า ร ค้ า บุ ห ร่ี ที่ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ พบว่า เด็กไทย 1 ใน 5 สูบบุหร่ี อายุเฉล่ีย 14 ปี ขณะท่ี เก่ียวกับพิ ษภัยยาสูบ/บุหร่ีแก่เด็กและเยาวชนอย่าง ผู้ประกอบการร้านค้าร้อยละ 85 ไม่ตรวจสอบอายุของ ต่ อ เ น่ื อ ง ร ว ม ถึ ง ก า ร ใ ห้ ก า ร รั ก ษ า อ า ก า ร เ ส พ ติ ด ลูกค้าก่อนขายบุหรี่ ท้ังน้ี โดยประมาณ 2 ใน 3 เคยขาย สารนิโคตินโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และการฝึกอบรมบุคลากร บหุ รใ่ี หบ้ คุ คลอายตุ ำ่� กวา่ 20 ปี ทางการแพทย์ให้สามารถบ�ำบัดรักษาผู้เสพติดสารนิโคติน ต ล อ ด จ น ส ร้ า ง แ ร ง จู ง ใ จ ใ น ก า ร เ ลิ ก บ ริ โ ภ ค ย า สู บ / บุ ห รี่ อย่างถาวร รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 121 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สร้างหลกั ประกนั การมีสขุ ภาวะทด่ี ี และส่งเสริมความเปน็ อยู่ท่ดี สี �ำหรบั ทุกคนในทุกช่วงวัย SDG สนับสนุนการวิจยั และการพัฒนาวคั ซนี และยาส�ำหรับโรคตดิ ต่อและไมต่ ดิ ตอ่ ทสี่ ่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศก�ำลงั พัฒนา เพื่อให้มกี ารเข้าถงึ ยาและวคั ซีนจำ� เป็นในราคา 3.b ที่สามารถซ้อื หาได้ตามปฏิญญาโดฮาว่าด้วยความตกลงทรพั ย์สินทางปัญญาทีเ่ กย่ี วข้อง กบั การคา้ (TRIPS) และการสาธารณสุข ซึ่งเนน้ ย�้ำสิทธิส�ำหรบั ประเทศกำ� ลงั พัฒนา ท่จี ะใช้บทบัญญตั ใิ นความตกลง TRIPS อยา่ งเตม็ ที่ ในเรือ่ งการผอ่ นปรน เพื่ อปกป้องสุขภาพสาธารณะและโดยเฉพาะการเข้าถึงยาโดยถ้วนหนา้ ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกมีความเส่ียงที่จะเผชิญกับโรคติดต่อมากข้ึน ท้ังโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ�้ำ อาทิ โรคโควิด-19 โรคไข้หวัดนก และโรคมาลาเรียสายพั นธุ์ใหม่ นอกจากน้ี พฤติกรรมสุขภาพและการบริโภค ที่ส่งผลเสียต่อร่างกายยังก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเร้ือรังในหมู่ประชาชนอย่างแพร่หลาย ในขณะท่ีวัคซีน และยาที่ค้นพบใหม่มีราคาสูงขึ้น ดังนั้น จึงควรมีการวิจัยและการพั ฒนาวัคซีนและยาส�ำหรับโรคติดต่อและไม่ติดต่อ ตลอดจนการขยายความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนให้สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง เพื่ อให้สามารถควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถานการณ์การบรรลเุ ป้าหมายย่อย ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนขั้นพ้ื นฐาน ในเด็กอายุครบ 1 ปี เ ม่ื อ พิ จ า ร ณ า ค ว า ม ค ร อ บ ค ลุ ม ก า ร ไ ด้ รั บ วั ค ซี น ขั้ น พ้ื นฐานในเด็กอายุครบ 1 ปี ซึ่งประกอบด้วยวัคซีน ท่ีมา: กระทรวงสาธารณสุข วัณโรค (BCG) วัคซีนหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR1) และวัคซีนโปลิโอ (OPV3) ในช่วงปี 2559 - 2562 พบว่า ประสิทธิภาพ อีกท้ังได้จัดต้ังคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่เพ่ื อ อัตราการได้รับวัคซีน BCG เพิ่ มขึ้นจากร้อยละ 94.70 ให้มีการจัดบริการวัคซีนส�ำหรับผู้ใหญ่ท่ีมีความจ�ำเป็น ในปี 2559 เป็นร้อยละ 97.41 ในปี 2562 เช่นเดียวกับ ตามความเส่ียงทางสุขภาพของแต่ละบุคคล ตลอดจน วัคซีน-คางทูม-หัดเยอรมัน ซ่ึงเพ่ิมขึ้นจากร้อยละ 90.90 ข ย า ย ก า ร ใ ห้ บ ริ ก า ร วั ค ซี น ป้ อ ง กั น ม ะ เ ร็ ง ป า ก ม ด ลู ก ในปี 2559 เป็นร้อยละ 91.48 ในปี 2562 และวัคซีน (HPV) ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายท่ัวประเทศอย่าง โปลิโอ ซึ่งเพิ่ มข้ึนจากร้อยละ 92.0 ในปี 2559 เป็น เท่าเทียม ร้อยละ 92.5 ในปี 2562 ทั้งน้ี ในด้านความสามารถ นอกจากน้ี ได้ส่งเสริมให้เกิดการพั ฒนาวัคซีนอย่าง ใ น ก า ร ผ ลิ ต วั ค ซี น ข อ ง ไ ท ย ซ่ึ ง ผู้ ผ ลิ ต ค ร อ บ ค ลุ ม ค ร บ ว ง จ ร ผ่ า น ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ต า ม น โ ย บ า ย แ ล ะ ส ถ า น เ ส า ว ภ า ส ภ า ก า ช า ด ไ ท ย แ ล ะ บ ริ ษั ท ร่ ว ม ทุ น องค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จ�ำกัด สามารถ ผลิตวัคซีนระดับปลายน้�ำ (downstream production) ได้หลายชนิด อาทิ วัคซีนคอตีบและบาดทะยัก วัคซีน พิ ษสุนัขบ้า วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเช้ือตาย และ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ การด�ำเนนิ การทผ่ี า่ นมา ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ สุ ข ไ ด้ ป รั บ ป รุ ง ฐ า น ข้ อ มู ล ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนของประเทศไทย ในคลังข้อมูลสุขภาพให้เป็นปัจจุบัน พร้อมท้ังได้แก้ไข ระบบการรายงานเพื่ อให้การบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีน สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง และถูกต้องตาม ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ที่ ไ ด้ รั บ วั ค ซี น น อ ก จ า ก นี้ ไ ด้ พั ฒ น า ศักยภาพของบุคลากร ท้ังในระดับพ้ื นท่ี อ�ำเภอ และ จังหวัด ให้สามารถควบคุม ก�ำกับ และเป็นที่ปรึกษา ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ส ร้ า ง เ ส ริ ม ภู มิ คุ้ ม กั น โ ร ค ไ ด้ อ ย่ า ง มี 122 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกันการมสี ุขภาวะท่ดี ี 03 และส่งเสริมความเปน็ อยูท่ ่ดี ีส�ำหรบั ทกุ คนในทุกช่วงวยั สนับสนุนการวิจยั และการพัฒนาวคั ซนี และยาส�ำหรับโรคติดตอ่ และไมต่ ดิ ต่อ SDG ทส่ี ่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศกำ� ลงั พัฒนา เพื่อให้มกี ารเข้าถึงยาและวคั ซนี จ�ำเป็นในราคา 3.b ท่สี ามารถซื้อหาไดต้ ามปฏญิ ญาโดฮาวา่ ดว้ ยความตกลงทรพั ย์สินทางปัญญาที่เก่ยี วขอ้ ง กบั การค้า (TRIPS) และการสาธารณสุข ซึง่ เน้นย�้ำสิทธิส�ำหรับประเทศก�ำลังพัฒนา ท่ีจะใชบ้ ทบญั ญตั ิในความตกลง TRIPS อย่างเตม็ ที่ ในเร่ืองการผอ่ นปรน เพ่ือปกป้องสุขภาพสาธารณะและโดยเฉพาะการเข้าถงึ ยาโดยถ้วนหน้า แ ผ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ค ว า ม มั่ น ค ง ด้ า น วั ค ซี น แ ห่ ง ช า ติ ขอ้ เสนอแนะ พ.ศ. 2563–2565 ซ่ึงเป็นแผนยุทธศาสตร์การพั ฒนา เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ด้ า น วั ค ซี น ใ น ร ะ ย ะ 3 ปี ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า วั ค ซี น แ ล ะ ย า ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย โดยมีเป้าหมายส�ำคัญ คือ การสร้างความมั่นคงและ ควรให้ความส�ำคัญกับการสร้างความร่วมมือระหว่าง การพ่ึ งพาตนเองด้านวัคซีน ให้ประชาชนท่ัวไปมีวัคซีน ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ ที่ มี ภ า ร กิ จ ห ลั ก ใ น ก า ร ส นั บ ส นุ น ใช้ได้อย่างเพี ยงพอ สามารถเข้าถึงการสร้างเสริม ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า อ า ทิ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ภูมิคุ้มกันโรคท่ีมีคุณภาพ เป็นธรรม และเท่าเทียมท้ัง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ วิ จั ย แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม แ ล ะ ส� ำ นั ก ง า น ในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน การวิจัยแห่งชาติ ตลอดจนการยกระดับศักยภาพของ เทคโนโลยีการผลิต โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยี ความท้าทาย จากต่างประเทศ เพื่ อให้สามารถเป็นผู้ผลิตวัคซีนและยา ได้เองภายในประเทศ อีกท้ังควรยกระดับระบบวิจัยและ ข้อจ�ำกัดด้านโครงสร้างพ้ื นฐาน เทคโนโลยี การวิจัย พั ฒนาวัคซีนและยาให้สามารถรองรับโรคอุบัติใหม่ พั ฒนาและการผลิตวัคซีน ยังเป็นความท้าทายหลักใน อุบัติซ้�ำ รวมถึงสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ได้อย่าง การพั ฒนาระบบวัคซีนของไทย อีกทั้งตลาดวัคซีนใน ทันท่วงที พั ฒนาและเพ่ิ มจ�ำนวนบุคลากร ตลอดจน ประเทศยังเป็นตลาดขนาดเล็ก ส่งผลให้ผู้ผลิตท่ีจ�ำหน่าย ขยายความครอบคลุมของการให้บริการการฉีดวัคซีน เฉพาะในประเทศไม่เกิดการประหยัดต่อขนาด (economy และสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องเก่ียวกับวัคซีน of scale) นอกจากน้ี ในแง่ของความครอบคลุมการฉีด โดยเฉพาะในพื้ นที่ห่างไกลและจังหวัดบริเวณชายแดน วั ค ซี น พ บ ว่ า ยั ง มี ก ลุ่ ม ป ร ะ ช า ก ร ท่ี มี ค ว า ม เ ส่ี ย ง ต่ อ นอกจากนี้ ควรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านวัคซีน ก า ร ไ ม่ ไ ด้ รั บ วั ค ซี น ห รื อ ไ ด้ รั บ ไ ม่ ค ร บ ถ้ ว น ต า ม เ ก ณ ฑ์ แ ล ะ ย า ข อ ง ไ ท ย ส า ม า ร ถ ส่ ง อ อ ก สิ น ค้ า ไ ป จ� ำ ห น่ า ย ยั ง ได้แก่ กลุ่มเด็กอายุ 3 - 5 ปี ซ่ึงส่วนใหญ่อยู่ใน ต่างประเทศ เพ่ื อลดข้อจ�ำกัดด้านขนาดของตลาดใน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล แรงงานต่างด้าว ประเทศ และสามารถใช้ประโยชน์จากการประหยัด และผู้สูงอายุ ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวมีความเส่ียงต่อ ต่อขนาดได้มากขึ้น การเจบ็ ปว่ ยทสี่ ามารถปอ้ งกนั ไดม้ ากขนึ้ รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 123 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สรา้ งหลกั ประกันการมีสุขภาวะทด่ี ี และสง่ เสรมิ ความเป็นอยูท่ ด่ี สี �ำหรับทุกคนในทกุ ช่วงวยั SDG เพิ่มการใช้เงนิ สนบั สนนุ ด้านสุขภาพ และการสรรหา การพัฒนา การฝึกฝน 3.c และการเก็บรกั ษากำ� ลังคนดา้ นสุขภาพในประเทศกำ� ลงั พัฒนา โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในประเทศพัฒนานอ้ ยทีส่ ุดและรัฐกำ� ลงั พัฒนาทีเ่ ป็นเกาะขนาดเล็ก ก�ำลังคนด้านสุขภาพเป็นปัจจัยส�ำคัญท่ีสนับสนุนให้ระบบสาธารณสุขและการบริการด้านสุขภาพประสบความส�ำเร็จ การวางแผนพั ฒนาระบบบริการสาธารณสุขจึงต้องเน้นการวางแผนก�ำลังคนด้านสุขภาพท้ังในเชิงปริมาณ และคุณภาพ ส่งเสริมให้มีการกระจายบุคลากรอย่างทั่วถึงและมีความเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละพื้ นท่ี ยกระดับศักยภาพของบุคลากรให้มีความเช่ียวชาญและสามารถส่งต่อองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนมีมาตรการจูงใจในการรักษาก�ำลังคนในระบบสาธารณสุข เพ่ื อให้มีบุคลากรเพี ยงพอต่อการให้บริการ ด้านสุขภาพต่อไป สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายยอ่ ย ความหนาแน่นและการกระจายตัวของบุคลากรสาธารณสุข ค ว า ม ห น า แ น่ น แ ล ะ ก า ร ก ร ะ จ า ย ตั ว ข อ ง บุ ค ล า ก ร ด้ า น สาธารณสุข ตลอดช่วงปี 2559-2562 มีแนวโน้มสูงขึ้น ในทุกสาขาอาชีพ โดยความหนาแน่นฯ ของแพทย์ เพ่ิ มขึ้นจาก 4.84 คน ต่อประชากรหมื่นคน ในปี 2559 เป็น 5.97 คน ต่อประชากรหมื่นคน ในปี 2562 ในขณะที่ ความหนาแน่นฯ ของพยาบาลเพ่ิ มขึ้นจาก 23.62 คน ต่อประชากรหม่ืนคน เป็น 26.42 คน ต่อประชากรหมื่นคน นอกจากน้ี ความหนาแน่นฯ ของทันตแพทย์เพ่ิ มข้ึน จาก 1.06 คนต่อประชากรหม่ืนคน เป็น 1.23 คนต่อ ประชากรหมื่นคน และความหนาแน่นฯ ของเภสัชกรเพ่ิมขึ้น จาก 1.95 ต่อประชากรหม่ืนคน เป็น 2.29 ต่อประชากร หม่ืนคน ในช่วงเวลาเดียวกัน การด�ำเนนิ การท่ผี า่ นมา ที่มา: รายงานข้อมูลทรัพยากรสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข 2563 ป ร ะ เ ด็ น ก� ำ ลั ง ค น ด้ า น สุ ข ภ า พ ไ ด้ รั บ ก า ร บ ร ร จุ ใ น เม่ือวันท่ี 7 เมษายน 2563 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติอัตรา แผนปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข (พ.ศ.2561-2565) ข้ า ร า ช ก า ร ต้ั ง ใ ห ม่ ต า ม ท่ี ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ สุ ข เ ส น อ ที่มุ่งเน้นให้สัดส่วนบุคลากรด้านสุขภาพต่อประชากร 45,684 ต�ำแหน่ง พร้อมอนุมัติมาตรการสร้างขวัญ เ พี ย ง พ อ แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ร ะ ดั บ ก า ร พั ฒ น า ข อ ง แ ล ะ ก� ำ ลั ง ใ จ บุ ค ล า ก ร ส า ธ า ร ณ สุ ข ใ น ก า ร ต่ อ สู้ แ ล ะ ประเทศ ลดความเหลื่อมล�้ำของการกระจายบุคลากร ค ว บ คุ ม ก า ร แ พ ร่ ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค โ ค วิ ด - 1 9 อ า ทิ สุขภาพ และพั ฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศระดับชาติ ก า ร จั ด ส ร ร โ ค ว ต า พิ เ ศ ษ ค ว า ม ดี ค ว า ม ช อ บ พิ เ ศ ษ ที่รวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ ท้ังจ�ำนวนการกระจาย ส� ำ ห รั บ บุ ค ล า ก ร ส า ธ า ร ณ สุ ข แ ล ะ ก า ร ล ด ด อ ก เ บ้ี ย ก า ร จ้ า ง ง า น แ ล ะ ก า ร เ ค ลื่ อ น ย้ า ย เ พื่ อ เ ส ริ ม ส ร้ า ง เงินกู้ส่วนบุคคลกรุงไทยธนวัฎ/ธนาคารออมสินระยะ ความเข้าใจในสภาพตลาดแรงงานของบุคลากรสุขภาพ เวลา 1 ปี ส�ำหรับบุคลากรสาธารณสุข ที่ครอบคลุมท้ังในภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากน้ี 124 รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ย่งั ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกนั การมีสุขภาวะท่ดี ี 03 และส่งเสริมความเปน็ อยู่ทด่ี ีส�ำหรบั ทกุ คนในทกุ ช่วงวยั SDG เพิ่มการใชเ้ งินสนับสนุนด้านสุขภาพ และการสรรหา การพัฒนา การฝึกฝน และการเกบ็ รกั ษากำ� ลงั คนด้านสุขภาพในประเทศกำ� ลงั พัฒนา 3.c โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในประเทศพัฒนานอ้ ยทีส่ ุดและรฐั กำ� ลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก ความท้าทาย ข้อเสนอแนะ ความท้าทายด้านก�ำลังคนที่ไม่เพี ยงพอเมื่อเทียบกับ ภาครัฐควรก�ำหนดแนวทางบริหารจัดการให้สามารถ สัดส่วนประชากรในพ้ื นท่ีต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตพ้ื นท่ี จั ด ส ร ร บุ ค ล า ก ร ส า ธ า ร ณ สุ ข ไ ด้ อ ย่ า ง เ พี ย ง พ อ แ ล ะ ห่างไกล ส่งผลให้มีแพทย์ไม่เพี ยงพอกับความต้องการ เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละพื้ นที่ทั่วประเทศ ในแต่ละพ้ื นท่ี โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทางท่ีส�ำคัญ อาทิ อาทิ การให้โควตาการผลิตบุคลากรทางการแพทย์เพิ่ ม วิสัญญีแพทย์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน และรังสีรักษา ส� ำ ห รั บ จั ง ห วั ด ที่ มี ค ว า ม ข า ด แ ค ล น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ซ่ึ ง บุ ค ล า ก ร ส า ธ า ร ณ สุ ข ส่ ว น ใ ห ญ่ ก ร ะ จุ ก ตั ว อ ยู่ ใ น ก า ร เ รี ย น รู้ ข อ ง บุ ค ล า ก ร ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ โ ด ย ใ ช้ ชุ ม ช น กรุงเทพมหานคร โดยความหนาแน่นฯ ของแพทย์ใน เป็นฐานเพ่ื อให้เกิดความผูกพั นกับชุมชน อันจะส่งผล กรุงเทพมหานคร 17 คน ต่อประชากรหมื่นคน ในขณะที่ ให้สามารถบริการประชาชนในพ้ื นที่ได้ดีย่ิงขึ้น อีกท้ัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีประมาณ 4 คนต่อประชากร ควรสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรอยู่ในระบบสาธารณสุข หมื่นคน และความหนาแน่นฯ ของพยาบาลวิชาชีพใน ข อ ง รั ฐ ผ่ า น ก า ร ก� ำ ห น ด ค่ า ต อ บ แ ท น ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม กั บ กรุงเทพมหานคร 60 คน ต่อประชากรหม่ืนคน แต่ใน ภาระงานและความเสี่ยงจากการท�ำงานและการขยาย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเพี ยง 19 คน ต่อประชากร อัตราก�ำลังของบุคลากรสาธารณสุขเพ่ื อแบ่งเบาภาระ หม่ืนคน สะท้อนให้เห็นว่าการขาดแคลนบุคลากรทาง จากบุคลากรที่มีอยู่เดิม นอกจากน้ี ควรบูรณาการ ก า ร แ พ ท ย์ ใ น ภู มิ ภ า ค ยั ง ค ง เ ป็ น ค ว า ม ท้ า ท า ย ส� ำ คั ญ ร่วมกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเพ่ื อต่อยอดพั ฒนาการ นอกจากน้ัน ยังพบว่าอัตราก�ำลังของต�ำแหน่งพยาบาล ท� ำ ง า น ข อ ง บุ ค ล า ก ร ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ ใ ห้ เ ป็ น รู ป ธ ร ร ม มีจ�ำนวนจ�ำกัดไม่เพี ยงพอต่อความต้องการที่เพิ่ มขึ้น ทางการแพทย์และสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) อย่างต่อเน่ือง รวมทั้งยังมีความท้าทายจากภาวะที่ เพื่ อให้ประชาชนได้รับการบริการอย่างทั่วถึงและแก้ไข แพทย์ออกจากระบบราชการไปยังภาคเอกชนหรือเปิด ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ สถานประกอบเวชกรรมของตนเอง เนื่องจากได้รับ คา่ ตอบแทนสงู กวา่ รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 125 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

03 สร้างหลกั ประกนั การมีสขุ ภาวะท่ดี ี และส่งเสรมิ ความเปน็ อยู่ทด่ี สี ำ� หรับทุกคนในทุกชว่ งวยั SDG เสริมขดี ความสามารถของทกุ ประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ประเทศกำ� ลังพัฒนา 3.d ในดา้ นการแจ้งเตือนล่วงหนา้ การลดความเสี่ยง และการบริหารจดั การ ความเสี่ยงดา้ นสุขภาพทง้ั ในระดับประเทศและระดับโลก ปัจจุบันท่ัวโลกเผชิญกับปัญหาภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซ่ึงเกิดจากโรคติดต่อและไม่ติดต่อ อุบัติเหตุ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ท่ีมีผลกระทบด้านสาธารณสุขท่ีรุนแรงผิดปกติ หรือไม่คาดคิดมาก่อน จนส่งผลกระทบต่อการด�ำเนิน กิจกรรมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง หากขาดการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ได้อย่างทันท่วงที ทั้งน้ี ประเทศไทยได้ให้ความส�ำคัญต่อการรับมือกับการระบาดของโรคและภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ผ่านการด�ำเนินการติดตามและประเมินสถานการณ์เชิงรุก ตลอดจนการรักษาบุคลากรทางการแพทย์ โดยไม่เสีย ค่าใช้จ่ายในกรณีเจ็บป่วยจากการท�ำงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการด�ำเนินงานเชิงพ้ื นที่อย่างเข้มแข็ง ซึ่งเอื้อให้ ไทยสามารถจัดการกับโรคระบาด MERS และโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายยอ่ ย ดัชนีคะแนนอันดับด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทาง สาธารณสุขของประเทศไทย ปี2562 ดัชนีความม่ันคงทางด้านสุขภาพ (Global Health Security Index) ซึ่งจัดท�ำโดยมหาวิทยาลัย Johns ท่ีมา: Global Health Security Index Report, 2562 H o p k i n s แ ล ะ อ ง ค์ ก ร ค ว า ม ริ เ ร่ิ ม ด้ า น ภั ย คุ ก ค า ม นิวเคลียร์ (Nuclear Threat Initiative) ในปี 2562 การดำ� เนนิ การที่ผ่านมา ได้จัดอันดับประเทศไทยเป็นที่ 6 ของโลกจาก 195 ประเทศ ในด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ด้ จั ด ท� ำ แ ผ น ก า ร จั ด ก า ร ภ า ว ะ ฉุ ก เ ฉิ น โดยได้รับคะแนน 73.2 จาก 100 คะแนน แสดงให้เห็นว่า ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ แ ล ะ ก า ร ส า ธ า ร ณ สุ ข แ บ บ บู ร ณ า ก า ร เป็นประเทศท่ีมีความพร้อมสูง โดยมีศักยภาพมากกว่า พ.ศ. 2560 – 2564 เพ่ื อให้สามารถตอบสนองต่อ หรือเทียบเท่ากับประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ทั้งน้ี เมื่อพิ จารณา ส ถ า น ก า ร ณ์ ฉุ ก เ ฉิ น ต่ า ง ๆ ไ ด้ อ ย่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ปัจจัยย่อย พบว่า ในด้านการป้องกันโรค ไทยได้รับ และทันท่วงที โดยมุ่งพั ฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน คะแนน 75.7 คะแนน (อันดับ 3 ของโลก) ความสามารถ ให้มีมาตรฐาน เพื่ อลดผลกระทบที่เกิดจากโรค/ภาวะ ในการตรวจจับโรคและรายงานที่รวดเร็ว 81 คะแนน ฉุ ก เ ฉิ น แ ล ะ ใ ห้ ผู้ ป่ ว ย ไ ด้ รั บ ก า ร รั ก ษ า ท่ีไ ด้ ม า ต ร ฐ า น (อันดับ 15 ของโลก) การตอบโต้และบรรเทาผลกระทบ อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง แ ล ะ เ ท่ า เ ที ย ม ผ่ า น ก า ร พั ฒ น า ก ล ไ ก ของโรคระบาดอย่างรวดเร็ว 78.6 คะแนน (อันดับ 5 ก า ร จั ด ก า ร ภ า ว ะ ฉุ ก เ ฉิ น ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ ท้ัง ใ น ร ะ ดั บ ของโลก) การมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็งและมั่นคง 70.5 ประเทศและภูมิภาค อาทิ โครงการสนับสนุนการสร้าง คะแนน (อันดับ 2 ของโลก) ความมุ่งม่ันในการพั ฒนา ความเข้มแข็งด้านการจัดการภัยพิ บัติทางการแพทย์ ศักยภาพของประเทศ มีแผนงบประมาณด้านการป้องกัน แ ล ะ ส า ธ า ร ณ สุ ข ใ น เ ค รื อ ข่ า ย ป ร ะ เ ท ศ ส ม า ชิ ก อ า เ ซี ย น ควบคุมโรคและด�ำเนินงานตามแนวปฏิบัติสากล 70.9 ภ า ย ใ ต้ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ท า ง วิ ช า ก า ร ร่ ว ม กั บ ป ร ะ เ ท ศ คะแนน (อันดับ 12 ของโลก) และความเสี่ยงต่อภัยคุกคาม ด้านชีวภาพ 56.4 คะแนน (อันดับ 93 โลก) 126 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกนั การมสี ขุ ภาวะทด่ี ี 03 และส่งเสริมความเป็นอยทู่ ด่ี สี ำ� หรบั ทกุ คนในทุกชว่ งวัย SDG เสรมิ ขีดความสามารถของทกุ ประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ประเทศกำ� ลังพัฒนา ในดา้ นการแจง้ เตือนลว่ งหน้า การลดความเสี่ยง และการบริหารจัดการ 3.d ความเสี่ยงดา้ นสุขภาพทัง้ ในระดบั ประเทศและระดับโลก ญี่ปุ่น (ARCH) การพั ฒนาศักยภาพและการมีส่วนร่วม ความท้าทาย ข อ ง ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ใ น ทุ ก ร ะ ดั บ ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร สื่ อ ส า ร ส า ธ า ร ณ ะ ใ น ร ะ บ บ ก า ร แ พ ท ย์ ฉุ ก เ ฉิ น สู่ ข้อจ�ำกัดในการบูรณาการการรับมือกับภัยพิ บัติและ ประชาชน ตลอดจนการฟ้ ืนฟู ผู้ประสบภัยจากภาวะ การจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันท�ำให้ ฉุกเฉินทางการแพทย์โดยใช้ระบบประเมินความต้องการ การสนธิก�ำลังจากส่วนต่าง ๆ ยังไม่เกิดประสิทธิภาพ ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขภายหลังเหตุการณ์ สูงสุด ความท้าทายในการวางแผนสถานการณ์ฉุกเฉิน สาธารณภัย (Post Disaster Needs Assessment: ใน ภาพรว ม ที่เป็ น เอ ก ภาพ ต ล อ ด จ น ข้ อ จ� ำ กั ด ด้ า น P D N A ) ร่ ว ม กั บ ห น่ ว ย ง า น ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ใ น ร ะ ดั บ การวิจัยและพั ฒนาระบบการจัดการสาธารณภัยของ ปฏิบัติการพ้ื นที่ ไทย นอกจากนี้ ถึงแม้ประเทศไทยสามารถจัดการกับ ก า ร แ พ ร่ ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค ติ ด ต่ อ ทั้ ง ใ น อ ดี ต แ ล ะ ปั จ จุ บั น นอกจากน้ี ได้จัดท�ำแผนจัดการภัยพิ บัติด้านการแพทย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สถานการณ์การแพร่ระบาด และสาธารณสุขส�ำหรับคนพิ การ ฉบับท่ี 1 พ.ศ. 2560 - ของโรคโควิด-19 ทั่วโลกยังไม่สิ้นสุด ส่งผลให้ไทย 2564 เพ่ื อเป็นแนวทางปฏิบัติการส�ำหรับหน่วยงานท่ี ยั ง ค ง เ ผ ชิ ญ กั บ ค ว า ม เ สี่ ย ง จ า ก ก า ร แ พ ร่ ร ะ บ า ด ฯ เกี่ยวข้องโดยเน้นข้อระลึกถึงพิ เศษตามความต้องการ ระลอกใหม่ ซ่ึงจ�ำเป็นต้องบริหารจัดการสถานการณ์ จ�ำเฉพาะของความพิ การแต่ละประเภทในทุกขั้นตอน และมาตรการที่เก่ียวข้องอย่างรัดกุมและต่อเนื่อง ใ น ก า ร รั บ มื อ กั บ ก า ร แ พ ร่ ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค โ ค วิ ด - 1 9 ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ม า ต ร ก า ร อ า ทิ ก า ร ก� ำ ห น ด ม า ต ร ก า ร ข้อเสนอแนะ ท า ง สั ง ค ม ก า ร จั ด ล� ำ ดั บ พื้ น ที่ ต่ า ง ๆ เ พื่ อ ก� ำ ห น ด มาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่เหมาะสม การสร้าง ควรมุ่งเน้นการยกระดับการบริหารจัดการและการลด ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ท่ี ถู ก ต้ อ ง เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ป้ อ ง กั น โ ร ค บ น ค ว า ม เ ส่ี ย ง จ า ก ภ า ว ะ ฉุ ก เ ฉิ น ด้ า น ส า ธ า ร ณ สุ ข ใ ห้ มี พื้ นฐานทางวิทยาศาสตร์ผ่านการรณรงค์ให้ประชาชน ความพร้อมและสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ สวมใส่หน้ากากและล้างมือเป็นประจ�ำ การด�ำเนินการ โ ด ย เ ฉ พ า ะ ก า ร รั บ มื อ กั บ ภั ย พิ บั ติ แ ล ะ ก า ร จั ด ก า ร เ ชิ ง รุ ก ใ น ร ะ ดั บ พ้ื น ท่ี ผ่ า น เ ค รื อ ข่ า ย อ า ส า ส มั ค ร ส า ธ า ร ณ ภั ย อ า ทิ ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร บู ร ณ า ก า ร แ ล ะ สาธารณสุขประจ�ำหมู่บ้าน (อสม.) การเพ่ิ มความเข้มข้น การวางแผนการท�ำงานระหว่างหน่วยงานในทุกระดับ ก า ร คั ด ก ร อ ง เ ชิ ง ส า ธ า ร ณ สุ ข ส� ำ ห รั บ แ ร ง ง า น จ า ก ก า ร พั ฒ น า บุ ค ล า ก ร ใ ห้ มี ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ชี่ ย ว ช า ญ ประเทศเพ่ื อนบ้าน ตลอดจนการจัดหาวัคซีนเพ่ื อใช้ สามารถปฏิบัติการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว การให้ ภายในประเทศ ความรู้ในการปฏิบัติตนในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ท่ี ถู ก ต้ อ ง แ ก่ ป ร ะ ช า ช น ก า ร พั ฒ น า โ ค ร ง ส ร้ า ง พ้ื นฐานเทคโนโลยีและนวัตกรรมส�ำหรับให้บริการทาง สาธารณสุขในภาวะฉุกเฉินแก่ประชาชนได้อย่างท่ัวถึง และรวดเร็ว การพั ฒนาระบบฐานข้อมูลที่สามารถเชื่อม โยงทุกหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนการส่งเสริม การวิจัยและพั ฒนาศักยภาพในการตอบโต้และรับมือกับ ความเสี่ยงทางด้านสุขภาพในบริบทที่ เ ห ม า ะ ส ม กั บ ประเทศไทย รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 127 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

เป้าหมายที่ 04 สรา้ งหลักประกนั ว่าทกุ คนมีการศึกษา ท่มี คี ุณภาพอยา่ งครอบคลมุ และเท่าเทียม และสนับสนนุ โอกาสในการเรียนร้ตู ลอดชีวิต SDG 4: Ensure inclusive and equitable quality education and promote lifelong learning opportunities for all 128 รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDG Progress Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกันวา่ ทุกคนมีการศึกษาท่มี ีคณุ ภาพ 04 อย่างครอบคลุมและเท่าเทยี ม และสนับสนนุ โอกาส SDG ในการเรียนรู้ตลอดชีวติ 4 เป้าหมายการพั ฒนาท่ีย่ังยืนเป้าหมายท่ี 4 มุ่งเน้นสร้างหลักประกันว่าเด็กท้ังชายและหญิงสามารถเข้าถึงการศึกษา ต้ังแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เยาวชนและผู้ใหญ่สามารถเข้าถึงการฝึกอบรมทักษะ อาชีพในราคาที่เหมาะสมอย่างเท่าเทียมกัน ขจัดความไม่เสมอภาคทางเพศและความเหลื่อมล�้ำ ตลอดจนบรรลุ การเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างถ้วนหน้า ท้ังนี้ เน่ืองจากการศึกษาเป็นฟนั เฟอื งท่ีส�ำคัญ ในการพั ฒนาประเทศ การเข้าถึงการศึกษาอย่างท่ัวถึงจะช่วยยกระดับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปิดช่องว่าง ทางสังคมสร้างความเป็นธรรม และลดความเหล่ือมล�้ำในทุกมิติ สถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย การศึกษาและส�ำเร็จการศึกษาของคนไทย ปี 2559 และ ปี 2562 การเข้าถึงการศึกษาและส�ำเร็จการศึกษาของคนไทย มี แ น ว โ น้ ม สู ง ขึ้ น โ ด ย สั ด ส่ ว น เ ด็ ก ท่ี เ ข้ า ศึ ก ษ า ใ น ที่มา: ส�ำนักเลขาธิการสภาการศึกษา ระดับปฐมวัยเพิ่ มข้ึนจากร้อยละ 84.7 ในปี 2559 เป็น ร้อยละ 86.3 ในปี 2562 และในระดับประถมศึกษา การด�ำเนนิ การที่ผ่านมา และมัธยมศึกษาตอนต้น มีสัดส่วนผู้ส�ำเร็จการศึกษา เพ่ิ มขึ้นจากร้อยละ 91.8 และร้อยละ 90.1 ในปี 2559 ภาครัฐได้ด�ำเนินการพั ฒนาระบบการศึกษา หลักสูตร เป็นร้อยละ 98.2 และร้อยละ 96.9 ในปี 2562 ตามล�ำดับ แ ล ะ สื่ อ ก า ร ส อ น ใ ห้ ทั น ส มั ย แ ล ะ มี คุ ณ ภ า พ อ า ทิ น อ ก จ า ก น้ี ค ว า ม เ ท่ า เ ที ย ม ท า ง เ พ ศ ใ น ก า ร เ ข้ า ถึ ง การจัดการเรียนรู้ “สะเต็มศึกษา (STEM Education)” ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง ไ ท ย ป รั บ ตั ว ดี ขึ้ น เ ห็ น ไ ด้ จ า ก ดั ช นี เพ่ื อเสริมสร้างกระบวนการคิด วิเคราะห์ และแก้ไข ความเสมอภาคระหว่างเพศ (Gender Parity Index: ปั ญ ห า ใ ห้ แ ก่ ผู้ เ รี ย น โ ค ร ง ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม กิ จ ก ร ร ม GPI) ที่มีแนวโน้มดีขึ้นในทุกระดับการศึกษาตั้งแต่ งานวิจัยเพ่ื อจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การวิจัย ปี 2559 เป็นต้นมา เป็นพ้ื นฐาน และโครงการยกระดับการบริหารจัดการ ผ่านการจัดพ้ื นที่นวัตกรรมการศึกษา เพ่ื อเปิดโอกาส อย่างไรก็ดี ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของคนไทยกลับ ใ ห้ ส ถ า น ศึ ก ษ า ไ ด้ มี ค ว า ม ยื ด ห ยุ่ น ใ น ก า ร พั ฒ น า มีแนวโน้มลดลง เมื่อพิจารณาจากผลคะแนนการทดสอบ หลักสูตรมากย่ิงข้ึน นอกจากน้ี ยังได้น�ำเทคโนโลยี การศึกษาระดับชาติขั้นพ้ื นฐาน (O-NET) ของนักเรียน สารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับ ในแต่ละระดับชั้น โดยในปี 2562 คะแนนเฉลี่ยของระดับ บริบทของโลกในศตวรรษท่ี 21 อาทิ การจัดต้ังดิจิทัล ประถมศึกษาปีท่ี 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับ แพลตฟอร์มเพ่ื อการเรียนรู้แห่งชาติ และการจัดตั้ง ท่ีต�่ำกว่า 50 คะแนนในเกือบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ T h a i M O O C เ พื่ อ เ ป็ น แ พ ล ต ฟ อ ร์ ม ส นั บ ส นุ น โดยในระดับประถมศึกษาปีท่ี 6 มีแนวโน้มคะแนนเฉล่ีย การเรียนรู้ตลอดชีวิต ส�ำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเรียนและ ลดลงในทุกรายวิชา เมื่อเทียบกับปี 2559 ในขณะที่ระดับ นอกวัยเรียน รองรับการ Reskill/ Upskill ตามพลวัต มัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีแนวโน้มคะแนนเฉล่ียสูงขึ้นในวิชา ข อ ง โ ล ก ท่ี เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ไ ป อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ ว ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ลดลงในวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ในขณะท่ีครูและบุคลากรทางการศึกษา นอกจากน้ี ได้ส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ได้รับการฝึกอบรมตามเกณฑ์มาตรฐานเพิ่ มมากขึ้น ข อ ง ค น ทุ ก ก ลุ่ ม วั ย ผ่ า น โ ค ร ง ก า ร ส นั บ ส นุ น ค่ า ใ ช้ จ่ า ย โดยในปีงบประมาณ 2561 มีครูท่ีเข้าร่วมโครงการ ใ น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ต้ั ง แ ต่ ร ะ ดั บ อ นุ บ า ล จ น จ บ ก า ร พั ฒนาครูรูปแบบครบวงจร (คูปองครู) และผ่านเกณฑ์ ศึ ก ษ า ข้ั น พื้ น ฐ า น โ ค ร ง ก า ร ข ย า ย โ อ ก า ส ส� ำ ห รั บ ผู้ การพัฒนา 274,264 คนคิดเป็นร้อยละ 77 ของจ�ำนวน ครูที่ลงทะเบียนทั้งหมด เพิ่ มข้ึนจาก 175,987 คน หรือ ร้อยละ 60 ในปีงบประมาณ 2560 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 129 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลกั ประกันวา่ ทกุ คนมกี ารศกึ ษาท่มี ีคุณภาพ อยา่ งครอบคลุมและเทา่ เทยี ม และสนับสนุนโอกาส SDG ในการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4 พิ การ โครงการพั ฒนาคนตลอดช่วงวัย โครงการ ขอ้ เสนอแนะ ส ร้ า ง โ อ ก า ส แ ล ะ ล ด ค ว า ม เ ห ล่ื อ ม ล้� ำ ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ในระดับพ้ื นที่ รวมท้ังสนับสนุนความร่วมมือระหว่าง ควรจัดสรรทรัพยากรการศึกษาให้มีความเป็นธรรมและ ประเทศทางด้านการศึกษา ผ่านการให้ทุนฝึกอบรม มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล�้ำ โดยให้ความส�ำคัญใน และทุนการศึกษาแก่ประเทศก�ำลังพั ฒนา การสร้างหลักประกันทางสังคม ผ่านมาตรการท่ีสอดรับ กับสถานการณ์และบริบทในปัจจุบัน เร่งพั ฒนาโอกาส ความท้าทาย ทางการศึกษาเพื่ อเอ้ือให้คนทุกเพศ ทุกช่วงวัย และ ทุกสถานะ สามารถเข้าถึงการศึกษาได้สะดวกทุกที่และ ความเหล่ือมล้�ำทางการศึกษาเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ทุกเวลา อีกท้ังควรเร่งพั ฒนาศักยภาพของบุคลากร แ ม้ ว่ า ภ า ค รั ฐ จ ะ มี ค ว า ม พ ย า ย า ม ใ น ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ทางการศึกษาอย่างต่อเน่ือง และปรับเปล่ียนบทบาท ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงพบความเหลื่อมล�้ำ ของครูให้สามารถพั ฒนาสมรรถนะพ้ื นฐานของผู้เรียน ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ไ ด้ ใ น ห ล า ย พ้ื น ท่ี โ ด ย เ ฉ พ า ะ ใ น พ้ื น ที่ ได้อย่างเต็มความสามารถ ส่งเสริมการกระจายทรัพยากร ห่างไกลที่มีข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงโครงสร้างพื้ นฐาน ทางการศึกษาท้ังในเร่ืองการจัดสรรครูและการสนับสนุน ทางการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ นอกจากน้ัน เ ค รื่ อ ง มื อ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ที่ ส อ ด ค ล้ อ ง แ ล ะ มี ค ว า ม ความเหล่ือมล�้ำทางเศรษฐานะยังเป็นสาเหตุหนึ่งของ จ�ำเป็นในแต่ละพื้ นที่ รวมทั้งเร่งพั ฒนาโครงสร้าง “การเลิกเรียนกลางคัน” ท�ำให้เด็กบางกลุ่มต้องห่างหาย พ้ื นฐานด้านดิจิทัลและทักษะด้านดิจิทัลในการเรียน จากการศึกษา และอาจหลุดออกจากระบบการศึกษา การสอนให้แก่ครูและนักเรียน นอกจากน้ี ภาคส่วนที่ ในทส่ี ดุ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ค ว ร ป ร ะ ส า น ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ช่ ว ย เ ห ลื อ ก ลุ่ ม เป้าหมายอย่างเป็นระบบ ผ่านการพั ฒนาการเชื่อมโยง การจัดการศึกษาส�ำหรับกลุ่มเปราะบางยังเป็นอีกหน่ึง ระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ มีการวิเคราะห์ ความท้าทายส�ำคัญ เห็นได้จากการขาดแคลนครูการศึกษา ข้อมูลในมิติที่เก่ียวข้องกับผู้เรียน โดยเฉพาะกลุ่ม พิ เศษและนักวิชาชีพ และการขาดระบบสนับสนุนที่ตรง เปราะบางอย่างรอบด้าน เพื่ อให้สามารถระบุความ ตามความจ�ำเป็นพิ เศษของเด็ก นอกจากนั้น การแพร่ ต้องการที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ และแก้ปัญหาเด็กตกหล่นทางการศึกษาได้อย่างตรงจุด การศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มเด็กผู้มีรายได้น้อยท่ีอาจต้อง อ อ ก จ า ก ร ะ บ บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ ก ร ะ ท บ ต่ อ บุ ค ล า ก ร ท า ง ผลการประเมินสถานะของ SDG 4 ก า ร ศึ ก ษ า ที่ ต้ อ ง ป รั บ เ ป ลี่ ย น รู ป แ บ บ ก า ร ส อ น ผ่ า น สื่ อ ออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะของผู้เรียนที่ ต�่ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเสี่ยง: บรรลุค่าเป้าหมาย: ไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร สถานการณ์อยู่ในช่วง 51-75% ของค่าเป้าหมาย สามารถบรรลุค่าเป้าหมาย 100% SDG SDG 4.1 4.b SDG SDG 4.2 4.3 SDG SDG SDG 4.4 4.5 4.6 ต�่ำกว่าค่าเป้าหมาย: SDG SDG SDG สถานการณ์อยู่ในช่วง 76-99% ของค่าเป้าหมาย 4.7 4.a 4.c 130 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกันว่าทุกคนมกี ารศึกษาทม่ี ีคุณภาพ 04 อย่างครอบคลมุ และเท่าเทียม และสนบั สนนุ โอกาส SDG ในการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4 กรณีศกึ ษา โครงการลูกพระดาบสสมุทรปราการตามพระราชดำ� ริ การด�ำเนินงานของโครงการลูกพระดาบส แบ่งตาม ลักษณะการจัดการเรียนการสอนเป็น 2 รูปแบบ คือ โครงการ “ลูกพระดาบส“ เป็นโครงการลูกของ“มูลนิธิ (1) การเรียนการสอนศิษย์พระดาบส แบ่งการเรียน พระดาบส“ อยู่ในความรับผิดชอบร่วมกันของส�ำนัก การสอนออกเป็น 8 หลักสูตร ประกอบด้วย 7 หลักสูตร พระราชวัง มูลนิธิพระดาบส และจังหวัดสมุทรปราการ ส�ำหรับผู้สมัครเพศชายท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้แก่ จัดต้ังข้ึนเม่ือวันท่ี 15 มิถุนายน 2541 บนท่ีดินราชพั สดุ หลักสูตรวิชาช่างยนต์, หลักสูตรวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์, และทด่ี นิ พระราชทาน รวม 475 ไร่ ที่ ต.บางปลา อ.บางพลี หลักสูตรวิชาชีพช่างไฟฟา้ , หลักสูตรวิชาชีพการเกษตร จ.สมุทรปราการ โดยมี ดาบสอาสา ซ่ึงคืออาจารย์ พอเพี ยง, หลักสูตรวิชาชีพช่างซ่อมบ�ำรุง, หลักสูตร ผู้ถ่ายทอดความรู้ และศิษย์พระดาบส คือนักเรียนท่ีมา วิชาชีพช่างเชื่อม, หลักสูตรวิชาชีพช่างไม้เครื่องเรือน ศึกษาหาความรู้ โดยศิษย์พระดาบสจะต้องมีการเรียนหลักสูตรเตรียมช่าง ก่อนเป็นระยะเวลา 6 เดือน แล้วจึงเลือกวิชาเฉพาะทาง จาก 7 หลักสูตรน้ี ส่วนหลักสูตรส�ำหรับผู้สมัครเพศ หญิง ได้แก่ หลักสูตรเคหะบริบาล ซึ่งสอนเก่ียวกับ การดูแลเด็ก คนชรา และผู้ป่วย ซ่ึงจะได้ลงมือปฏิบัติ งานจริงและเม่ือจบไปสามารถไปท�ำงานตามโรงพยาบาล และสถานบริบาลท่ัวไปได้ โดย 8 หลักสูตรน้ีจะเปิดรับ ผู้สมัครอายุตั้งแต่ 18 - 35 ปี ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ใน ก า ร ศึ ก ษ า แ ต่ มี ค ว า ม ต้ั ง ใ จ จ ริ ง มี ศี ล ธ ร ร ม มี วิ นั ย ไม่ข้องเก่ียวกับอบายมุขทุกชนิด และพร้อมท่ีจะศึกษา หาความรู้โดยมีที่พั ก อาหาร ให้ฟรีตลอดหลักสูตรตลอด 1 ปี และ (2) กิจกรรมการเกษตร มุ่งเน้นการถ่ายทอด เทคโนโลยีวิชาความรู้สู่ชุมชน ซึ่งเมื่อฝึกอบรมเสร็จ สามารถน�ำทักษะไปประกอบอาชีพได้ รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 131 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สร้างหลกั ประกนั ว่าทกุ คนมกี ารศกึ ษาทม่ี คี ุณภาพ อย่างครอบคลุมและเทา่ เทียม และสนบั สนนุ โอกาส SDG ในการเรยี นรู้ตลอดชีวติ 4.1 สรา้ งหลกั ประกนั ว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนส�ำเรจ็ การศกึ ษา ระดบั ประถมศกึ ษา และมัธยมศกึ ษาท่มี ีคณุ ภาพ เทา่ เทียม และไม่มีค่าใชจ้ ่าย นำ� ไปสู่ผลลัพธ์ทางการเรยี นท่มี ีประสิทธิผล ภายในปี 2573 การศึกษาเป็นปัจจัยส�ำคัญในการยกระดับทุนมนุษย์ อันเป็นรากฐานส�ำคัญในการพั ฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศ โดยเด็กทุกคนควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างครอบคลุม เท่าเทียม และไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่ อให้กลายเป็นคนที่มีทักษะ คุณลักษณะ และสมรรถนะที่เหมาะสมต่อการด�ำรงชีวิต ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งการสร้างหลักประกันในการเข้าถึงการศึกษาจะช่วยลดความเหลื่อมล�้ำและสร้างความ เป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายยอ่ ย คะแนนเฉลี่ย O-NET ระดับชั้น ป.6 ปีการศึกษา 2559 - 2562 จ า ก ข้ อ มู ล ข อ ง ส� ำ นั ก ง า น เ ล ข า ธิ ก า ร ส ภ า ก า ร ศึ ก ษ า พบว่า ในช่วงปีการศึกษา 2559 – 2561 อัตราการส�ำเร็จ ที่มา: สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) การศึกษาของนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ตอนต้นมีแนวโน้มสูงข้ึน จากร้อยละ 91.8 และร้อยละ 90.1 คะแนนเฉลี่ย O-NET ระดับชั้น ม.3 เป็นร้อยละ 98.2 และร้อยละ 96.9 ตามล�ำดับ ในขณะท่ี ปีการศึกษา 2559 - 2562 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีแนวโน้มลดลง จากร้อยละ 81.7 เป็นร้อยละ 78.6 ท้ังน้ี เม่ือพิ จารณาผลคะแนน เฉล่ียของ PISA ปี 2561 พบว่ามีคะแนนลดลง โดยมี คะแนนเฉล่ียรวมอยู่ที่ 413 คะแนน ลดลงจาก 415 คะแนน ในปี 2558 และพบว่ามีความแตกต่างของคะแนน PISA ร ะ ห ว่ า ง ก ลุ่ ม โ ร ง เ รี ย น ที่ มี ค ะ แ น น เ ฉ ลี่ ย ม า ก ท่ี สุ ด แ ล ะ กลุ่มโรงเรียนท่ีมีคะแนนเฉล่ียน้อยท่ีสุดมากข้ึน โดยผล PISA ปี 2561 กลุ่มโรงเรียนซึ่งเน้นการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดที่ 580 คะแนน และ โรงเรียน/วิทยาลัยอาชีวศึกษามีคะแนนเฉลี่ยน้อยสุด ท่ี 370 คะแนน ต่างกัน 210 คะแนน ในขณะท่ีปี 2558 มีคะแนนแตกต่างกัน 180 คะแนน อย่างไรก็ตาม การประเมิน PISA ใช้นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่มา: สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ประมาณ 8,600 คน ซ่ึงส่งผลให้การวัดเป้าหมาย ย่อยจากผลประเมิน PISA อาจไม่สะท้อนผลสัมฤทธิ์ การศึกษา 2562 พบว่า ทั้งระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ข อ ง ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ไ ด้ ค ร อ บ ค ลุ ม เ ท่ า กั บ ผ ล จ า ก ก า ร และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีคะแนนเฉล่ียเกือบ ทดสอบ O-NET โดยระหว่างปีการศึกษา 2559 – 2562 ทุกสาระการเรียนรู้ต�่ำกว่า 50 คะแนน ยกเว้นวิชา คะแนน O-NET ของนักเรียนระดับช้ันประถมศึกษา ภาษาไทยของระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปีที่ 6 มีแนวโน้มลดลงในทุกสาระการเรียนรู้ ขณะที่ระดับ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีแนวโน้มคะแนนเฉล่ียสูงขึ้น ในวิชาภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่ลดลงในวิชา คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ในปี 132 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนมีการศึกษาทม่ี ีคณุ ภาพ 04 อยา่ งครอบคลุมและเทา่ เทยี ม และสนับสนุนโอกาส SDG ในการเรยี นรูต้ ลอดชีวติ 4.1 สร้างหลกั ประกันว่าเด็กชายและเดก็ หญิงทุกคนส�ำเร็จการศกึ ษา ระดับประถมศกึ ษา และมธั ยมศึกษาท่ีมีคณุ ภาพ เท่าเทยี ม และไม่มีค่าใชจ้ า่ ย นำ� ไปสู่ผลลพั ธท์ างการเรยี นทม่ี ปี ระสิทธิผล ภายในปี 2573 การด�ำเนนิ การท่ผี า่ นมา ความท้าทาย ใ น ร ะ ย ะ ท่ี ผ่ า น ม า ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ แม้ประเทศไทยจะได้ด�ำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น เพ่ื อเป็นหลักประกันให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้ อ า ทิ ก า ร จั ด ตั้ ง ก อ ง ทุ น เ พื่ อ ค ว า ม เ ส ม อ ภ า ค ท า ง เท่าเทียมและทั่วถึง แต่ยังพบว่ามีเด็กบางกลุ่มที่ยังไม่ การศึกษา(กสศ.) เพื่ อสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่ สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในพื้ นท่ี นักเรียนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ การยกร่างหลักสูตร ห่างไกลและอยู่ในครอบครัวท่ีมีรายได้น้อย ซ่ึงมีแนวโน้ม การศึกษาข้ันพื้ นฐาน โดยปรับปรุงหลักสูตรแกนกลาง ที่ จ ะ ไ ม่ เ ข้ า สู่ ร ะ บ บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ เ ลิ ก เ รี ย น ก ล า ง คั น ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พ้ื น ฐ า น 2 5 5 1 ใ ห้ เ ป็ น ห ลั ก สู ต ร ฐ า น นอกจากนี้ ความเหลื่อมล�้ำในการจัดสรรทรัพยากร ส ม ร ร ถ น ะ อิ ง ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล แ ล ะ เ น้ น พั ฒ น า เ ด็ ก ระหว่างโรงเรียนกลุ่มต่าง ๆ อาทิ โรงเรียนในเขต ต า ม ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ ต า ม ค ว า ม ถ นั ด ข อ ง ตั ว เ อ ง แ ล ะ นอกเขต ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ยังเป็นอุปสรรคต่อ ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น ก า ร เ รี ย น รู้ ส ะ เ ต็ ม ศึ ก ษ า ( S T E M การสร้างทักษะการเรียนรู้ท่ีส�ำคัญอันจะน�ำไปสู่ผลลัพธ์ Education) โดยปรับเปลี่ยนระบบการจัดการเรียน การเรียนท่ีมีประสิทธิผลในภาพรวมได้ อีกท้ังการแพร่ ก า ร ส อ น ห้ อ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ก า ร บ่ ม เ พ า ะ ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการศึกษา อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ด้ า น วิ ท ย า ก า ร ค� ำ น ว ณ จั ด ต้ั ง ส ถ า บั น ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เน่ืองจากการเรียน คุรุพั ฒนา เพื่ อรองรับการคัดเลือกหลักสูตรพั ฒนาครู อ อ น ไ ล น์ ห รื อ ก า ร ถ่ า ย ท อ ด ก า ร ส อ น ผ่ า น สั ญ ญ า ณ และการฝึกอบรมผ่านโครงการคูปองครูเพ่ื อพั ฒนา โทรทัศน์ จะส่งผลให้เกิดความเหล่ือมล้�ำในเด็กบางกลุ่ม ศักยภาพครูในรูปแบบครบวงจร โ ด ย เ ฉ พ า ะ เ ด็ ก ใ น ค ร อ บ ค รั ว ท่ี มี ฐ า น ะ ย า ก จ น เ ข้ า ไ ม่ ถึ ง โอกาสในการศึกษา สร้างภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ปกครอง เกิดภาวะการเรียนถดถอย และอาจผลักให้นักเรียนกลุ่ม ดังกล่าวหลุดออกจากระบบการศึกษาได้ ขอ้ เสนอแนะ ค ว ร จั ด ส ร ร ท รั พ ย า ก ร ก า ร ศึ ก ษ า ใ ห้ เ กิ ด ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ สูงสุด สนับสนุนการพั ฒนาศักยภาพและสมรรถนะครู อย่างต่อเน่ือง รวมถึงส่งเสริมการพั ฒนาให้ผู้เรียน มีทักษะสอดรับกับทักษะท่ีจ�ำเป็นในอนาคตโดยเฉพาะ ทักษะการอ่านและการคิดวิเคราะห์ ตลอดจนควรมี การติดตามปัญหาเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษาเพ่ื อ ช่วยขยายโอกาสให้แก่เด็กทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม และมีคุณภาพ และเพิ่ มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการ การศึกษา โดยประเมินคุณภาพท่ีเน้นผลลัพธ์ของ ผู้เรียน รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 133 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สร้างหลักประกนั ว่าทกุ คนมกี ารศึกษาทม่ี คี ุณภาพ อยา่ งครอบคลมุ และเท่าเทยี ม และสนับสนนุ โอกาส SDG ในการเรียนรตู้ ลอดชีวิต 4.2 สรา้ งหลักประกนั วา่ เด็กชายและเดก็ หญงิ ทกุ คนเข้าถึงการพัฒนา การดแู ล และการจดั การศกึ ษาระดับกอ่ นประถมศึกษา ส�ำหรบั เด็กปฐมวยั ทมี่ คี ณุ ภาพ เพื่อใหเ้ ดก็ เหล่านน้ั มีความพร้อมส�ำหรับการศกึ ษา ระดบั ประถมศึกษา ภายในปี 2573 การพั ฒนา การดูแล และการจัดการศึกษาเพื่ อเตรียมความพร้อมของเด็กปฐมวัยมีความส�ำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สมองมีการพั ฒนาสูงสุดและเป็นช่วงส�ำคัญของการเรียนรู้และการเติบโต ซึ่งจะส่งผลต่อ สติปัญญา บุคลิกภาพ และความฉลาดทางอารมณ์ อีกท้ังการพั ฒนาเด็กปฐมวัยยังเป็นรากฐานในการพั ฒนามนุษย์ ให้เติบโตได้ตามศักยภาพ และเป็นพลเมืองคุณภาพในอนาคต สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย ผลการส�ำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2562 จากการส�ำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2562 พบวา่ รอ้ ยละ 92.9 ของเดก็ อายุ 36 - 59 เดอื น หมายเหตุ: วัดจากคู่มือเป้าระวังและส่งเสริมพั ฒนาการเด็กปฐมวัย ในประเทศไทย มีพั ฒนาการเป็นไปตามเกณฑ์คู่มือ (Developmental Surveillance and Promotion Manual: DSPM) เฝ้าระวังและส่งเสริมพั ฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) และผลการตรวจคัดกรองผ่านครบ 5 ด้าน ประกอบด้วย ใ น ส่ ว น ข อ ง อั ต ร า ก า ร เ ข้ า เ รี ย น ใ น ร ะ ดั บ ป ฐ ม วั ย พ บ ว่ า การเคลื่อนไหว กล้ามเน้ือมัดเล็กและสติปัญญา การเข้าใจภาษา ร้อยละ 86.3 ของเด็กอายุ 36 – 59 เดือน ก�ำลังเรียนอยู่ การใช้ภาษา และการช่วยเหลือตนเองและสังคม ในหลักสูตรปฐมวัย โดยเด็กที่อยู่นอกเขตเทศบาล เข้าเรียนร้อยละ 89.8 ในขณะท่ีเด็กท่ีอยู่ในเขตเทศบาล ท่ีมา: การส�ำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2562 เข้าเรียนน้อยกว่า อยู่ที่ร้อยละ 80.3 การดำ� เนนิ การทีผ่ า่ นมา หากพิ จารณาตามภูมิภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียง เ ห นื อ มี อั ต ร า ก า ร เ ข้ า เ รี ย น ข อ ง เ ด็ ก ป ฐ ม วั ย ม า ก ที่ สุ ด ภ า ค รั ฐ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร พั ฒ น า เ ด็ ก ป ฐ ม วั ย ม า อ ย่ า ง ที่ร้อยละ 92.4 ในขณะท่ีกรุงเทพมหานคร มีอัตราการเข้า ต่อเน่ือง โดยได้มีการตราพระราชบัญญัติการพั ฒนา เรียนของเด็กปฐมวัยต่�ำท่ีสุด ท่ีร้อยละ 71.2 เด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 และการออกมาตรฐานสถาน พั ฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ. 2561 อีกท้ังยังมี ร้อยละของเด็กอายุ 36 - 59 เดือนที่ก�ำลังเรียน การด�ำเนินโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการเรียนฟรี ในหลักสูตรปฐมวัย ประเทศไทย พ.ศ.2562 15 ปี ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาถึงระดับมัธยม จ�ำแนกตามภูมิภาค ศึกษาตอนปลาย โครงการจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยใน ศูนย์พั ฒนาเด็กเล็กและอนุบาล โครงการเงินอุดหนุน ที่มา: การส�ำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2562 เ พื่ อ ก า ร เ ลี้ ย ง ดู เ ด็ ก แ ร ก เ กิ ด 6 0 0 บ า ท ต่ อ เ ดื อ น โครงการสนับสนุนงบประมาณเพื่ อการจัดหาอาหาร กลางวันและนมส�ำหรับเด็กปฐมวัย โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรก ที่ให้วิตามินเสริมธาตุเหล็กและโฟลิก ก่อนต้ังครรภ์ 3 เดือนจนถึงหลังคลอด 6 เดือน และให้ การตรวจครรภ์/ฝากครรภ์ฟรี และโครงการ 9 ย่าง ท่ีส่ง เสริม คว าม รอบรู้ด้าน สุขภาพ การเจริญเติบโต และ กระบวนการโรงเรียนพ่ อแม่เพื่ อฝึกทักษะเล้ียงดูลูก 134 รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกนั วา่ ทกุ คนมีการศกึ ษาท่มี คี ุณภาพ 04 อยา่ งครอบคลมุ และเท่าเทียม และสนับสนนุ โอกาส SDG ในการเรยี นร้ตู ลอดชีวิต 4.2 สรา้ งหลักประกันวา่ เด็กชายและเดก็ หญิงทกุ คนเขา้ ถึงการพัฒนา การดูแล และการจัดการศึกษาระดบั กอ่ นประถมศึกษา ส�ำหรับเด็กปฐมวยั ท่ีมีคณุ ภาพ เพื่อใหเ้ ด็กเหลา่ นั้นมคี วามพร้อมส�ำหรบั การศกึ ษา ระดบั ประถมศกึ ษา ภายในปี 2573 ความท้าทาย ขอ้ เสนอแนะ ความพร้อมของครูหรือผู้ดูแลเด็กปฐมวัยในการจัดการ ภ า ค รั ฐ ค ว ร จั ด ใ ห้ มี ร ะ บ บ ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม ค ว บ คู่ กั บ ก า ร ความท้าทายในห้องเรียนและส่งเสริมทักษะให้กับเด็ก ปฏิบัติงาน (in-service training) และระบบพ่ี เลี้ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคท่ีมีการเปล่ียน (coaching and mentoring) เพื่อยกระดับคุณภาพครู แปลงของเทคโนโลยีอย่างฉับพลัน มีผลต่อกระบวน และผู้ดูแลในสถานพั ฒนาเด็กปฐมวัยทุกแห่ง และสร้าง การเรียนรู้ของเด็ก ซ่ึงจะต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว แ ร ง จู ง ใ จ ใ น ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ข อ ง ค รู แ ล ะ ผู้ ดู แ ล เ ด็ ก มากข้ึนตามบริบทของโลกท่ีเปล่ียนไป ดังน้ัน ความพร้อม ปฐมวัย เพื่ อชักจูงให้ก�ำลังคนคุณภาพประกอบอาชีพ ของบุคลากรจะช่วยให้สามารถบ่มเพาะเด็กปฐมวัยให้ ดังกล่าวมากข้ึน นอกจากน้ี ยังควรพั ฒนาระบบติดตาม โตข้ึนได้อย่างมีคุณภาพ เหมาะสมต่อการด�ำรงชีวิต การพั ฒนาทักษะและการเรียนรู้ของเด็กให้สามารถ ในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ ยังพบว่าข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง เก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง แม่นย�ำ และมีรายละเอียด กั บ เ ด็ ก ป ฐ ม วั ย ยั ง มิ ไ ด้ มี ก า ร จั ด เ ก็ บ อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ข้อมูลรายบุคคล เพ่ื อให้สามารถน�ำฐานข้อมูลดังกล่าว ท�ำให้การก�ำหนดมาตรการเพ่ื อยกระดับการพั ฒนา ไปใช้ในการก�ำหนดนโยบายการพั ฒนาเด็กปฐมวัย การดูแลและการจัดการศึกษาของเด็กป ฐ ม วั ย มี ข้ อ ได้อย่างเหมาะสม จ�ำกัดอยู่อย่างมีนัยส�ำคัญ รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 135 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลักประกันวา่ ทุกคนมีการศกึ ษาทม่ี ีคณุ ภาพ อยา่ งครอบคลมุ และเท่าเทยี ม และสนับสนนุ โอกาส SDG ในการเรียนรู้ตลอดชวี ิต 4.3 สรา้ งหลักประกันใหช้ ายและหญงิ ทกุ คนเข้าถงึ การศกึ ษาระดบั อาชวี ศึกษา และอุดมศกึ ษาที่มีคณุ ภาพ ในราคาท่สี ามารถจ่ายได้ ภายในปี 2573 การศึกษาในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษามีส่วนส�ำคัญต่อการพั ฒนาก�ำลังคนให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการ ของตลาดแรงงาน ขับเคล่ือนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก ดังน้ัน การสร้างหลัก ประกันให้คนในประเทศสามารถเข้าถึงการศึกษาในระดับดังกล่าวได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน จะเป็นการสร้าง หลักประกันต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้ในอีกทางหน่ึง ทั้งยังเป็นการเสริมสร้าง ศักยภาพของคนในประเทศให้สามารถท�ำงานท่ีมีคุณค่า มีรายได้ที่เหมาะสม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายย่อย จ�ำนวนนิสิต และนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาของไทย ปี 2559 - 2562 ในปี 2562 ประเทศไทยมีจ�ำนวนนิสิตและนักศึกษาในระดับ อุดมศึกษา 2,076,924 คน ลดลงจาก 2,319,717 คน ในปี 2559 เมื่อจ�ำแนกตามประเภทสถาบันการศึกษา พบว่า ในปี 2562 มีนิสิตและนักศึกษาในสถาบันของรัฐ 1,690,385 คน ลดลงจาก 2,051,787 คน ในปี 2559 ในขณะท่ีมีนิสิตและนักศึกษาในสถาบันการศึกษาของ เอกชน 386,539 คนในปี 2562 เพิ่ มขึ้นจาก 267,930 คนในปี 2559 อย่างไรก็ดี เมื่อจ�ำแนกข้อมูลเป็นการศึกษาในระดับ ที่มา: ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา พบว่า ในช่วงปีการศึกษา 2559 - 2562 อัตราการเข้าเรียนระดับอาชีวศึกษามี อัตราการเข้าเรียน จ�ำแนกตามระดับการศึกษา แนวโน้มเพ่ิ มขึ้น ขณะท่ีระดับอุดมศึกษามีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลจากส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาแสดง ใ ห้ เ ห็ น ว่ า จ� ำ น ว น นั ก เ รี ย น ร ะ ดั บ อ า ชี ว ศึ ก ษ า ต่ อ จ� ำ น ว น ประชากรท้ังหมดในกลุ่มอายุ 15 - 17 ปี มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 24 ในปีการศึกษา 2559 เป็นร้อยละ 26 ในปี การศึกษา 2562 ขณะที่สัดส่วนนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ต่อประชากรท้ังหมดในกลุ่มอายุ 18 - 21 ปี มีแนวโน้ม ลดลงอย่างต่อเน่ืองจากประมาณร้อยละ 60 ในปี การศึกษา 2559 เหลือเพี ยงร้อยละ 54 ในปีการศึกษา 2 5 6 2 ทั้ ง นี้ อ า จ เ ป็ น ผ ล ม า จ า ก ค่ า นิ ย ม ใ น ก า ร เ รี ย น อาชีวศึกษาซึ่งเป็นสายอาชีพสูงขึ้นและความต้องการ ในการเข้าสู่ตลาดแรงงานเร็วขึ้น ท่ีมา: ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 136 รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกนั วา่ ทกุ คนมีการศึกษาท่มี ีคุณภาพ 04 อย่างครอบคลมุ และเทา่ เทยี ม และสนบั สนุนโอกาส SDG ในการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ 4.3 สร้างหลักประกันให้ชายและหญงิ ทกุ คนเขา้ ถึงการศึกษาระดับอาชวี ศึกษา และอุดมศกึ ษาที่มคี ุณภาพ ในราคาท่สี ามารถจ่ายได้ ภายในปี 2573 การด�ำเนนิ การทีผ่ ่านมา ขอ้ เสนอแนะ ภาครัฐได้ด�ำเนินการเพื่ อส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษา ควรมีการสร้างโอกาสการเข้าถึงอาชีวศึกษาและอุดม ร ะ ดั บ อ า ชี ว ศึ ก ษ า แ ล ะ อุ ด ม ศึ ก ษ า อ า ทิ ก า ร จั ด ตั้ ง ศึกษาอย่างท่ัวถึงและเป็นธรรม ขยายการให้บริการ กองทุนเพ่ื อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และ ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ท่ี ร อ ง รั บ ป ร ะ ช า ก ร ทุ ก ก ลุ่ ม ส ถ า บั น ก อ ง ทุ น เ งิ น ใ ห้ กู้ ยื ม เ พื่ อ ก า ร ศึ ก ษ า ( ก ย ศ . ) โ ด ย ใ ห้ การศึกษาจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทการจัดการศึกษา การสนับสนุนนักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไม่เฉพาะเพี ยงผู้ที่อยู่ในวัยศึกษา (aged group) รวมท้ังส้ิน 5,771,585 คน (ข้อมูล ณ เมษายน 2563) เท่ านั้น แ ต่ ต้ อ ง รอ ง รั บก ารพั ฒ น าคน ก ลุ่ ม น อ ก วั ย การจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนอาชีวศึกษาเพ่ื อแก้ไข ศึกษาด้วย (non-aged group) โดยเฉพาะวัยแรงงาน ปัญหาความยากจนในชนบท และเงินอุดหนุนทุนเฉลิม และวัยสูงอายุ รวมทั้งยังควรสร้างความร่วมมือกับ ร า ช กุ ม า รี เ พื่ อ จั ด ส ร ร ทุ น ก า ร ศึ ก ษ า ใ ห้ แ ก่ นั ก เ รี ย น หน่วยงานและภาคีในพ้ื นที่ในการน�ำเด็กและเยาวชน และนักศึกษาในสถานศึกษาที่อยู่ในพื้ นท่ีห่างไกลและ ผู้ว่างงานท่ีอยู่นอกระบบการศึกษา (NEET) กลับสู่ระบบ มี อั ต ร า ก า ร ศึ ก ษ า ต่ อ ต่� ำ ใ ห้ ไ ด้ มี โ อ ก า ส ศึ ก ษ า ต่ อ ใ น การศึกษา หรือการพั ฒนาทักษะอาชีพปรับการบริหาร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจนจบระดับปริญญาตรี จั ด ก า ร ใ ห้ ร อ ง รั บ ผู้ เ รี ย น ท้ั ง ก ลุ่ ม วั ย ศึ ก ษ า แ ล ะ น อ ก วั ย ศึกษาให้สามารถเรียนร่วมกันได้ ส่งเสริมการเรียนรู้ ความท้าทาย ตลอดชีวิตโดยการพั ฒนาระบบการเรียนที่ยืดหยุ่น โดยเฉพาะหลักสูตรระยะส้ัน ระบบสะสมหน่วยกิตและ การหลุดออกจากระบบการศึกษายังคงเป็นความท้าทาย การเทียบโอนประสบการณ์ ส� ำ คั ญ ต่ อ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม เ ส ม อ ภ า ค ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า โดยข้อมูลของส�ำนักงานกองทุนเพ่ื อความเสมอภาค ทางการศึกษาชี้ว่า แม้ความเหลื่อมล�้ำด้านการเข้าถึง การศึกษาข้ันพื้ นฐานมีแนวโน้มลดลง เน่ืองจากรัฐมี การสนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่ส�ำหรับการศึกษาระดับใน สูงกว่าข้ันพ้ื นฐานน้ันยังมีความเหล่ือมล้�ำค่อนข้างสูง โดยผู้ท่ีมาจากกลุ่มครอบครัวยากจนเพี ยงร้อยละ 5 เท่านั้นท่ีมีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เม่ือเทียบ กับกลุ่มครัวเรือนท่ีรวยท่ีสุดท่ีได้เรียนต่อกว่าร้อยละ 63 โดยสถานการณ์การลดลงของจ�ำนวนประชากรยังได้ เน้นย้�ำให้เห็นถึงความส�ำคัญของความต้องการก�ำลัง คนที่มีคุณภาพในทุกช่วงวัย ท้ังผู้ท่ีอยู่ในวัยเรียนและ นอกวัยเรียน ซ่ึงเป็นก�ำลังส�ำคัญในการพั ฒนาประเทศ ให้เติบโตไปอย่างยั่งยืน รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 137 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลกั ประกนั ว่าทกุ คนมกี ารศึกษาท่มี ีคณุ ภาพ อย่างครอบคลุมและเทา่ เทยี ม และสนับสนนุ โอกาส SDG ในการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4.4 เพ่ิมจ�ำนวนเยาวชนและผู้ใหญ่ทีม่ ที ักษะที่เกยี่ วข้องจ�ำเป็น รวมถึงทกั ษะทางเทคนคิ และอาชพี ส�ำหรบั การจา้ งงาน การมงี านทีม่ คี ณุ คา่ และการเป็นผปู้ ระกอบการ ภายในปี 2573 ก�ำลังแรงงานท่ีมีประสิทธิภาพจะเป็นแรงขับเคล่ือนท่ีส�ำคัญในการพั ฒนาประเทศ โดยประเทศท่ีมีผลิตภาพ แรงงานสูงจะมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบมากกว่าประเทศที่มีผลิตภาพแรงงานต�่ำ เนื่องจากสามารถลดอัตรา การสูญเสียในกระบวนการผลิตได้มากกว่า ดังน้ัน การสร้างแรงงานท่ีมีผลิตภาพจึงมีความจ�ำเป็นอย่างย่ิง โดยภาครัฐควรร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พั ฒนาทักษะทางเทคนิคและอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดแรงงาน สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายย่อย การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน ปี 2559 - 2562 จ า ก ก า ร ส� ำ ร ว จ ก า ร มี ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ และการส่ือสารในครัวเรือน ในช่วงปี 2559 – 2562 ท่ีมา: ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าผู้มีงานท�ำ (อายุ 15 ปีข้ึนไป) มีแนวโน้มการใช้ คอมพิ วเตอร์ลดลงจากร้อยละ 24.0 เหลือร้อยละ 18.7 ในขณะท่ีการใช้อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มเพ่ิ มมากข้ึนจาก ร้อยละ 47.0 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 71.7 ในปี 2562 เน่ืองจากปัจจุบันมีการพั ฒนาอุปกรณ์ทางเลือกท่ี หลากหลายในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น อาทิ สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ซึ่งสะดวกต่อการพกพา และ สามารถใช้งานได้รวดเร็วกว่า โดยผู้มีงานท�ำส่วนใหญ่ มีทักษะในการคัดลอก/ตัด/วาง ข้อความในเอกสาร (ร้อยละ 82.6) รองลงมา ได้แก่ คัดลอก/เคลื่อนย้าย ไฟล์งานหรือแฟม้ งาน (ร้อยละ 81.2) และใช้สูตรเบื้องต้น ในเอกสารประเภทสเปรดชีต (ร้อยละ 64.4) ในขณะที่ มีเพี ยงร้อยละ 32.2 ท่ีสามารถสร้างงานน�ำเสนอด้วย โปรแกรมน�ำเสนอและร้อยละ 3.5 ที่มีทักษะในการเขียน โปรแกรมด้วยภาษาคอมพิ วเตอร์ สะท้อนให้เห็นถึง ทั ก ษ ะ ใ น ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ แ ล ะ ก า ร สื่ อ ส า ร ในการท�ำงานที่ยังไม่ซับซ้อนมากนัก นอกจากน้ี หากพิ จารณาการจัดอันดับความสามารถ ใ น ก า ร แ ข่ ง ขั น ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ( I M D ) ปี 2 5 6 2 ด้ า น โ ค ร ง ส ร้ า ง พ้ื น ฐ า น ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี พ บ ว่ า มี ผู้ ล ง ท ะ เ บี ย น ใ ช้ ง า น อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต บ ร อ ด แ บ น ด์ ผ่ า น อุปกรณ์เคลื่อนท่ีอยู่ในอันดับที่ 4 จาก 63 ประเทศ ซึ่งเป็นจ�ำนวนที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ทักษะ แรงงานด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีท่ีแม้จะมีการพั ฒนา ข้ึนมาเป็นล�ำดับที่ 49 ในปี 2562 จากอันดับที่ 51 ใน ปี 2559 แต่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเร่งพั ฒนา เพ่ิ มเติม เพื่ อให้แรงงานมีทักษะที่เหมาะสมกับการท�ำงาน ในศตวรรษท่ี 21 138 รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันวา่ ทกุ คนมกี ารศึกษาท่มี ีคณุ ภาพ 04 อยา่ งครอบคลุมและเทา่ เทียม และสนบั สนุนโอกาส SDG ในการเรียนรตู้ ลอดชีวิต 4.4 เพิ่มจ�ำนวนเยาวชนและผูใ้ หญ่ที่มีทักษะท่เี กี่ยวขอ้ งจำ� เป็น รวมถึงทักษะทางเทคนคิ และอาชพี ส�ำหรบั การจ้างงาน การมีงานทีม่ ีคณุ ค่า และการเป็นผปู้ ระกอบการ ภายในปี 2573 การด�ำเนินการทผี่ า่ นมา ความท้าทาย ภาครัฐได้ด�ำเนินการพั ฒนาศักยภาพแรงงานทั้งก่อน การพั ฒนาทักษะฝีมือแรงงานส่วนใหญ่ยังจ�ำกัดอยู่ เข้าสู่ตลาดแรงงานและผู้ท่ีอยู่ในตลาดแรงงาน อาทิ ในกลุ่มแรงงานในระบบ ไม่ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ การปรับหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนแบบใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม ท�ำให้ช่องว่าง เพื่ อผลิตก�ำลังคนให้มีคุณลักษณะที่สอดคล้องรองรับ ผลิตภาพแรงงานของแรงงานทั้งสองกลุ่มเพ่ิ มสูงขึ้น ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ใ น ศ ต ว ร ร ษ ท่ี 2 1 ก า ร ผ ลิ ต บั ณ ฑิ ต นอกจากนั้น การยกระดับทักษะแรงงานยังขาดความ พั นธุ์ใหม่เพ่ื อสร้างก�ำลังคนท่ีมีสมรรถนะสูงเพ่ื อขับ สอดคล้องกับการพั ฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ เคลื่อนเศรษฐกิจ (New Growth Engines) ที่เน้น เปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ท�ำให้การผลิตแรงงาน ก า ร ฝึ ก ป ฏิ บั ติ จ า ก ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ จ ริ ง ก า ร จั ด ตั้ ง ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซ่งึ เป็นข้อจ�ำกัด Thai MOOC (Thailand Massive Open Online ต่อการพั ฒนาเศรษฐกิจของประเทศ Course) เพื่ อเป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ซึ่งเน้นการพั ฒนารายวิชาที่รองรับการ ขอ้ เสนอแนะ Re s k i l l / U p s k i l l ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ กั บ ภ า ค เอกชนและภาคส่วนต่าง ๆ ในการผลิต และพั ฒนา ควรมีการพั ฒนาระบบการยกระดับทักษะอย่างครบ ก�ำลังคน เช่น การจัดสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิง วงจร โดยควรประมาณการความต้องการแรงงานใน บูรณาการกับการท�ำงาน (Cooperative and Work อนาคตและทักษะที่จ�ำเป็น เพื่ อให้มีการวางแผนพั ฒนา Integrated Education: CWIE) การจัดต้ังสถาบัน ทักษะแรงงานที่สอดรับกับความต้องการได้ในเชิงลึก เทคโนโลยีการผลิตสุมิพล (Sumipol Institute of ส ร้ า ง วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ อุ ป นิ สั ย ก า ร เ รี ย น รู้ ต ล อ ด ชี วิ ต Manufacturing Technology – SIMTec) การพั ฒนา ค ว ร บู ร ณ า ก า ร รู ป แ บ บ เ รี ย น รู้ ท้ั ง ก า ร เ รี ย น รู้ ใ น ร ะ บ บ เ ค รื อ ข่ า ย ก า ร พั ฒ น ก� ำ ลั ง ค น ดิ จิ ทั ล เ ช่ น โ ค ร ง ก า ร การเรียนรู้นอกระบบ และการเรียนรู้ตามอัธยาศัย Smart University@EEC การพั ฒนาและยกระดับ ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ ส ถ า บั น ก า ร ศึ ก ษ า จั ด ท� ำ ห ลั ก สู ต ร ร ะ ย ะ ส้ั น ฝี มื อ แ ร ง ง า น โ ด ย จั ด ตั้ ง ศู น ย์ ฝึ ก อ บ ร ม แ ร ง ง า น ก�ำหนดมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการ ร ว ม ถึ ง ก� ำ ห น ด ม า ต ร ฐ า น แ ล ะ ค่ า จ้ า ง เ พื่ อ จู ง ใ จ ใ ห้ มี ข น า ด ก ล า ง ที่ มี ศั ก ย ภ า พ เ ข้ า ร่ ว ม ร ะ บ บ ท วิ ภ า คี ห รื อ การพั ฒนาศักยภาพแรงงาน เช่น ก�ำหนดมาตรฐาน สหกิจศึกษาเพ่ิ มขึ้น พั ฒนาหลักสูตรออนไลน์ท่ีเชื่อมโยง ฝี มื อ แ ร ง ง า น แ ห่ ง ช า ติ แ ล ะ คุ ณ วุ ฒิ วิ ช า ชี พ แ ล ะ อั ต ร า กับความต้องการของตลาด/ผูกโยงกับการจ้างงาน ค่ า จ้ า ง ต า ม ม า ต ร ฐ า น ฝี มื อ แ ร ง ง า น หลังจบหลักสูตร พั ฒนาระบบเทียบโอนความรู้และ ประสบการณ์ที่ชัดเจน และพัฒนาระบบจัดการการรับรอง ความสามารถของบุคคล (Credential Management Platform) เพ่ื อเป็นกลไกกลางในการเก็บข้อมูลหลักฐาน ความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังช่วยให้ น า ย จ้ า ง คั ด ก ร อ ง แ ล ะ ต ร ว จ ส อ บ ข้ อ เ ท็ จ จ ริ ง เ กี่ ย ว กั บ สมรรถนะรายบุคคลได้ รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 139 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาท่มี ีคณุ ภาพ อย่างครอบคลุมและเทา่ เทียม และสนบั สนุนโอกาส ในการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต SDG ขจัดความเหลี่อมล�ำ้ ทางเพศด้านการศกึ ษา และสรา้ งหลกั ประกัน ว่ากลุ่มที่เปราะบางซึง่ รวมถึงผู้พิการ ชนพื้นเมือง และเด็กในสถานการณเ์ ปราะบาง 4.5 เข้าถงึ การศกึ ษาและการฝึกอาชีพทุกระดับอย่างเท่าเทียม ภายในปี 2573 การจัดการศึกษาของภาครัฐเป็นกลไกส�ำคัญในการสร้างความเท่าเทียมให้เกิดข้ึนในสังคม โดยรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ก�ำหนดให้บุคคลมีหน้าที่ในการเข้ารับการศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบังคับ และรัฐต้องด�ำเนินการจัดการศึกษาให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ต้ังแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษา ภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีความเหล่ือมล�้ำทางการศึกษาอยู่ในสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้พิ การ ชนพ้ื นเมือง และเด็ก ท่ีมีข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงบริการทางการศึกษา ซึ่งเป็นสิทธิพ้ื นฐานที่ทุกคนพึ งได้รับ สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายย่อย ดัชนีความเสมอภาคระหว่างเพศ (Gender Parity Index: GPI) ในช่วงปี 2559 – 2562 ดัชนีความเสมอภาคระหว่างเพศ ในภาพรวมทุกระดับการศึกษาบอุดมศึกษาของไทย (Gender Parity Index: GPI) ในภาพรวมทุกระดับการ ศึกษามีแนวโน้มเพิ่ มข้ึนอย่างต่อเน่ือง โดยในปี 2562 ปี 2559 - 2562 ดัชนี GPI อยู่ที่ 1.07 เพิ่มข้ึนจาก 1.04 ในปี 2559 สะท้อน ให้เห็นถึงการเข้าเรียนของเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ที่มา: ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เล็กน้อย โดยในช่วงอายุ 3 - 11 ปี มีความเท่าเทียมระหว่าง เพศมากขึ้น เห็นได้จากดัชนี GPI ในปี 2562 ของระดับ การด�ำเนนิ การทผ่ี า่ นมา ก่อนประถมศึกษาอยู่ที่ 0.99 เพิ่มข้ึนจาก 0.97 ในปี 2559 และระดับประถมศึกษา ในปี 2562 อยู่ที่ 0.98 เพ่ิ มข้ึน ภ า ค รั ฐ ไ ด้ มี ก า ร ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร ที่ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร เ ข้ า ถึ ง จาก 0.92 ในปี 2559 ท้ังน้ี แนวโน้มการเข้าถึงการศึกษา โอกาสทางการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ ข อ ง เ พ ศ ห ญิ ง จ ะ สู ง ก ว่ า เ พ ศ ช า ย เ ม่ื อ ร ะ ดั บ ก า ร ศึ ก ษ า ส นั บ ส นุ น ค่ า ใ ช้ จ่ า ย ใ น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ตั้ ง แ ต่ ร ะ ดั บ สูงขึ้นไป โดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษาเป็นต้นไป อนุบาลจนจบการศึกษาข้ันพ้ื นฐาน โครงการขยาย โ อ ก า ส ส� ำ ห รั บ ผู้ พิ ก า ร โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า ค น ต ล อ ด สัดส่วนการเข้าศึกษาของเพศหญิงที่มากกว่าเพศชาย ช่วงวัย โครงการขับเคล่ือนการพั ฒนาการศึกษาท่ี ในระดับการศึกษาที่สูงข้ึน อาจเป็นผลมาจากการที่ ยั่งยืน โครงการหน่ึงอ�ำเภอหน่ึงทุน โครงการสร้าง เพศชายเข้าสู่ตลาดแรงงานเร็วกว่าเพศหญิง โดยข้อมูล โอกาสและลดความเหล่ือมล�้ำทางการศึกษาในระดับพ้ื นท่ี สถิติแรงงานจากส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ แสดงให้ โครงการพั ฒนาทักษะอาชีพแบบบูรณาการ และโครงการ เห็นว่า อัตราแรงงานอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไปในทุก พั ฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย อันเป็น ไตรมาสของปี 2562 – 2563 มีสัดส่วนแรงงานท่ีเป็น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม เ พ่ื อ ใ ห้ นั ก เ รี ย น ทุ ก ค น ไ ด้ รั บ ก า ร ศึ ก ษ า เพศชายมากกว่าเพศหญิง นอกจากน้ี ปัจจัยเชิง ข้ันพ้ื นฐานจนจบอย่างมีคุณภาพ สนับสนุนการจัด เศรษฐกิจและสังคม อาทิ วัฒนธรรมการเลือกปฏิบัติ การศึกษาตามวัย พั ฒนาการ และกลุ่มเป้าหมายอย่าง ระหว่างเพศท่ีลดลงภายในครอบครัวและตลาดแรงงาน มีคุณภาพ รวมท้ังเป็นการพั ฒนาศักยภาพในกลุ่ม ส่งผลให้เพศหญิงมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาในระดับท่ีสูง เ ป ร า ะ บ า ง ใ ห้ ส า ม า ร ถ ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ แ ล ะ มี ร า ย ไ ด้ ใ น ข้ึน และผลตอบแทนท่ีสูงข้ึนจากระดับการศึกษาที่สูงขึ้น การเล้ียงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน 140 รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกนั วา่ ทุกคนมีการศกึ ษาทม่ี ีคณุ ภาพ 04 อยา่ งครอบคลุมและเทา่ เทียม และสนบั สนนุ โอกาส ในการเรียนร้ตู ลอดชวี ติ ขจดั ความเหลี่อมล้ำ� ทางเพศด้านการศกึ ษา และสร้างหลกั ประกนั SDG ว่ากลุม่ ท่เี ปราะบางซึง่ รวมถงึ ผู้พิการ ชนพื้นเมอื ง และเดก็ ในสถานการณ์เปราะบาง 4.5 เขา้ ถงึ การศึกษาและการฝึกอาชีพทกุ ระดับอยา่ งเท่าเทยี ม ภายในปี 2573 ความทา้ ทาย ขอ้ เสนอแนะ ภาครัฐยังไม่มีการจัดเก็บข้อมูลแบบแยกกลุ่มส�ำรวจ ภ า ค รั ฐ ค ว ร ส ร้ า ง ห ลั ก ป ร ะ กั น ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ (disaggregated data) ท�ำให้ขาดข้อมูลที่ส�ำคัญใน ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม กั บ ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย แ ล ะ ก า ร ก� ำ ห น ด น โ ย บ า ย แ ล ะ ม า ต ร ก า ร ที่ ต ร ง ต า ม ค ว า ม บูรณาการการท�ำงานระหว่างหน่วยงานเพื่ อช่วยเหลือ ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ท้ังผู้พิ การ ชนพ้ื นเมือง และเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้ง ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ด้อยโอกาส และผู้ท่ีมีความหลากหลาย ควรเร่งจัดท�ำข้อมูลท่ีจ�ำแนกกลุ่มส�ำรวจ เพ่ื อน�ำมาใช้ ทางเพศ นอกจากนี้ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยังคง ใ น ก า ร ว า ง แ ผ น แ ล ะ ก� ำ ห น ด น โ ย บ า ย ท่ี ต ร ง ค ว า ม เป็นความท้าทายของภาครัฐและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหา อันเป็นผลมาจากข้อจ�ำกัดด้านพื้ นท่ีและด้านการบริหาร “ภาวะตกหล่น” ของกลุ่มคนในสังคมได้ นอกจากน้ี จัดการรวมไปถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ท่ียังคงต้องเร่ง ควรมีมาตรการทางการศึกษาที่สอดรับกับสถานการณ์ ปรับปรุงให้เหมาะสม และบริบทปัจจุบัน และควรส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร แ จ้ ง ข้ อ มู ล เ ด็ ก ท่ีไ ม่ ไ ด้ รั บ ก า ร ศึ ก ษ า เพ่ื อภาครัฐจะได้ด�ำเนินการช่วยเหลือและจัดการศึกษา ให้เด็กกลุ่มดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนควร ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ ค รู แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า มี ค ว า ม รู้ ความเข้าใจ รวมถึงมีแนวทางการปฏิบัติท่ีเหมาะสม ใ น ป ร ะ เ ด็ น ค ว า ม เ ท่ า เ ที ย ม แ ล ะ ค ว า ม เ ส ม อ ภ า ค ทั้ ง ใ น มิติทางเพศสภาพสถานภาพทางกายและชาติพั นธ์ุ รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 141 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลักประกันวา่ ทุกคนมีการศึกษาทม่ี คี ุณภาพ อยา่ งครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาส SDG ในการเรียนรู้ตลอดชวี ติ 4.6 สร้างหลักประกันว่าเยาวชนทกุ คนและผู้ใหญ่ ท้งั ชายและหญิงในสัดส่วนสูง สามารถอา่ นออกเขียนไดแ้ ละคำ� นวณได้ ภายในปี 2573 การอ่านออกเขียนได้และการคิดค�ำนวณเป็นรากฐานส�ำคัญของการพั ฒนา โดยการอ่านและการเขียนจะเป็นเคร่ืองมือ ส�ำหรับการเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ท่ีจะช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ในการพั ฒนาศักยภาพ ของบุคคล ในขณะที่การคิดค�ำนวณจะช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดอย่างมีเหตุมีผล มีขั้นตอนการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นระบบ และสร้างกระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ ซ่ึงมีความส�ำคัญอย่างย่ิงต่อการด�ำรงชีวิตและประกอบ อาชีพในศตวรรษท่ี 21 สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย การอ่าน เขียน และค�ำนวณได้ (ทั้ง 3 อย่าง) ข้ อ มู ล จ า ก ร า ย ง า น ก า ร ส� ำ ร ว จ ก า ร อ่ า น ข อ ง ป ร ะ ช า ก ร พ.ศ. 2561 พบว่า ในปี 2561 มีประชากรไทยท่ีสามารถ อ่าน เขียน และค�ำนวณได้ (ท้ัง 3 อย่าง) ร้อยละ 92.6 เพิ่ มข้ึนเล็กน้อยจากร้อยละ 91.5 ในปี 2558 เม่ือจ�ำแนก ตามช่วงอายุแล้ว พบว่า วัยเยาวชนและวัยท�ำงานมี สัดส่วนผู้ท่ีสามารถอ่าน เขียน และค�ำนวณได้ อยู่ในระดับ สูง ท่ีร้อยละ 97.9 และ 95.8 ตามล�ำดับ เม่ือเปรียบเทียบ กับวัยเด็กและวัยสูงอายุ ท่ีมีสัดส่วนเพี ยงร้อยละ 90.9 และ 79.5 ตามล�ำดับ เม่ือพิจารณาเฉพาะทักษะการอ่านและการเขียน (2 อย่าง) ท่ีมา: ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในปี 2561 ประชากรไทยมีอัตราการอ่านออกเขียน ได้ร้อยละ 93.9 เพิ่ มขึ้นจากร้อยละ 93.0 ในปี 2558 การดำ� เนินการท่ีผ่านมา โดยวัยเยาวชนมีความสามารถในการอ่านออกและเขียน ได้เกือบทุกคน (ร้อยละ 98.1) ขณะท่ีผู้สูงอายุที่สามารถ ใ น ช่ ว ง ปี 2 5 5 9 - 2 5 6 3 ภ า ค รั ฐ ไ ด้ พั ฒ น า ร ะ บ บ อ่านออกเขียนได้มีสัดส่วนท่ีน้อยกว่าอย่างมีนัยส�ำคัญ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ห ลั ก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ ส่ื อ (ร้อยละ 82.5) ท้ังนี้ แม้สัดส่วนคนไทยท่ีมีความสามารถ ก า ร เ รี ย น รู้ ใ ห้ มี คุ ณ ภ า พ โ ด ย ไ ด้ น� ำ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ในการอ่าน การเขียน และการคิดค�ำนวณ จะมีแนวโน้ม น วั ต ก ร ร ม ม า ป รั บ ใ ช้ กั บ ห ลั ก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ า ใ ห้ ม า ก ข้ึ น ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบว่ามีผู้ที่ควรได้รับการ น อ ก จ า ก นี้ ยั ง ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง ส ม ร ร ถ น ะ พั ฒนาทักษะดังกล่าวอยู่ ข อ ง ผู้ เ รี ย น ใ ห้ ทั น ต่ อ ค ว า ม เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง อ า ทิ โครงการจัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ด้ า น ก า ร ศึ ก ษ า โ ค ร ง ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น การจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา (STEM Education) แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ ด้ า น วิ ท ย า ก า ร ค� ำ น ว ณ ( Co m put i ng Sci e nce ) รว ม ท้ัง ยั ง มี ก ารด� ำ เ นิ น การท่ีเก่ียวข้องกับการพั ฒนาและการสร้างช่องทาง การเรียน ผ่านการน�ำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ควบคู่ กับการเรียน การสอ น อ าทิ โ ครง การดิจิทัล แ พล ต ฟอร์ม เพื่ อการเรียนรู้แห่งชาติ (National Digital Learning Platform) 142 รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกันว่าทุกคนมกี ารศึกษาท่มี คี ณุ ภาพ 04 อย่างครอบคลมุ และเท่าเทยี ม และสนบั สนนุ โอกาส SDG ในการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ 4.6 สร้างหลกั ประกันวา่ เยาวชนทกุ คนและผ้ใู หญ่ ทั้งชายและหญงิ ในสัดส่วนสูง สามารถอา่ นออกเขียนไดแ้ ละคำ� นวณได้ ภายในปี 2573 ความทา้ ทาย ข้อเสนอแนะ แ ม้ ว่ า สั ด ส่ ว น ค น ไ ท ย ท่ี มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ด้ า น ก า ร อ่ า น ภาครัฐควรเร่งพั ฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และ ก า ร เ ขี ย น แ ล ะ ก า ร คิ ด ค� ำ น ว ณ อ ยู่ ใ น ร ะ ดั บ สู ง แ ล ะ มี การคิดค�ำนวณในกลุ่มคนที่อยู่ใน “ภาวะตกหล่น” เพื่ อให้ แนวโน้มท่ีจะดีข้ึนก็ตาม แต่ยังมีคนบางกลุ่มท่ีไม่สามารถ เป็นหลักประกันว่าคนทุกคนในสังคมจะสามารถอ่านออก อ่านออกเขียนได้ เน่ืองจากไม่ได้รับการการพั ฒนาทักษะ เขียนได้ และสามารถด�ำรงชีวิตได้อย่างไม่ยากล�ำบาก พ้ืนฐานดังกล่าว นอกจากน้ี ยังมีปัญหาเด็กตกหล่นหรือ นอกจากน้ี ยังควรพั ฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน หลุดจากระบบการศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเปราะบาง ทั้งในและนอกโรงเรียนให้มีความทันสมัย สอดคล้อง ที่ ไ ม่ ส า ม า ร ถ เ ข้ า สู่ ร ะ บ บ ก า ร เ รี ย น รู้ ที่ รั ฐ จั ด ส ร ร ใ ห้ ไ ด้ กั บ บ ริ บ ท ข อ ง โ ล ก ใ น ศ ต ว ร ร ษ ที่ 2 1 น� ำ เ ท ค โ น โ ล ยี อันเป็นผลมาจากความเหล่ือมล้�ำในการจัดสรรทรัพยากร แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ม า ใ ช้ ใ น ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ใ ห้ ม า ก ขึ้ น และการบริหารจัดการของภาครัฐ รวมท้ังพั ฒนาระบบการวัดผลทางการศึกษาให้เป็นไป ตามมาตรฐานสากล รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 143 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลกั ประกนั วา่ ทุกคนมีการศึกษาทม่ี ีคณุ ภาพ อยา่ งครอบคลมุ และเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาส ในการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ SDG สรา้ งหลกั ประกันวา่ ผู้เรียนทกุ คนไดร้ ับความรู้และทกั ษะท่จี ำ� เป็นส�ำหรับส่งเสริม การพัฒนาทย่ี ั่งยืน รวมถงึ การศึกษาส�ำหรบั การพัฒนาทีย่ งั่ ยืน การมวี ถิ ีชีวติ ที่ยั่งยืน 4.7 สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุข และการไมใ่ ช้ความรนุ แรง การเป็นพลเมอื งของโลก การชืน่ ชมในความหลากหลายทางวฒั นธรรม และการทว่ี ฒั นธรรมมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ภายในปี 2573 ประเทศไทยมีการวางแผนและการสร้างหลักประกันทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง พั ฒนาและเปลี่ยนแปลงไป ตามบริบทของโลกท่ีเปล่ียนไปอยู่เสมอ โดยปัจจุบันการศึกษาของไทยได้มุ่งยกระดับการเรียนรู้ให้สอดรับกับบริบท ของโลกในศตวรรษท่ี 21 ท่ีมีการเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างฉับพลัน และมีมิติการเรียนรู้ท่ีกว้างข้ึน มากกว่าอยู่แค่เพี ยงในห้องเรียนเท่านั้น ดังนั้น การสร้างความตระหนักรู้ต่อประเด็นการพั ฒนาที่ยั่งยืน การศึกษา ส�ำหรับการพั ฒนาท่ียั่งยืน การพั ฒนาองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาค การส่งเสริมวัฒนธรรม แห่งความสงบสุข และการสร้างความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม จึงมีความส�ำคัญและเป็นเรื่องที่ทุกคน ควรเรียนรู้เพ่ื อสร้างความตระหนักในฐานะการเป็นพลเมืองของโลก สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย การดำ� เนินการท่ผี า่ นมา ประเทศไทยได้พั ฒนาองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมการพั ฒนา ภ า ค รั ฐ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร เ พ่ื อ ส ร้ า ง ห ลั ก ป ร ะ กั น ว่ า ค น ที่ยั่งยืน สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาค และความหลาก ทุกคนในประเทศไทยจะมีความรู้ และทักษะท่ีจ�ำเป็น หลายทางวัฒนธรรม ผ่านกระบวนการพั ฒนาหลักสูตร ต่อการสร้างสรรค์สังคมโลกที่ความยั่งยืน โดยได้ ในหลายระดับการศึกษา ต้ังแต่ระดับปฐมวัยไปถึงระดับ จั ด ท� ำ แ ผ น ก า ร ศึ ก ษ า แ ห่ ง ช า ติ พ . ศ . 2 5 6 0 - 2 5 7 9 วัยท�ำงาน อาทิ การจัดหลักสูตรการศึกษาด้านการ ท่ี ก� ำ ห น ด เ ป้ า ห ม า ย ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ทุ ก ค น มี คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ พั ฒนาที่ยั่งยืนในระดับมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน ทั ก ษ ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ใ น ศ ต ว ร ร ษ ท่ี 2 1 ค ร อ บ ค ลุ ม ทั ก ษ ะ ก า ร บ ร ร จุ ห ลั ก สู ต ร ก า ร พั ฒ น า ที่ ยั่ ง ยื น ใ น ห ลั ก สู ต ร ด้ า น ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ต่ า ง วั ฒ น ธ ร ร ม ต่ า ง ก ร ะ บ ว น ทั ศ น์ แกนกลางขั้นพ้ื นฐานของนักเรียน การขับเคล่ือนแผน ( Cross Cu l tu ra l U n d e rsta n d i n g ) ท่ี เ ป็ น ทั ก ษ ะ พั ฒนาสิทธิมนุษยชนไปสู่การปฏิบัติ ผ่านการด�ำเนิน ส�ำคัญส�ำหรับการเป็นพลเมืองโลก นอกจากน้ี ในระดับ งานของคณะท�ำงานด้านการส่งเสริมการเคารพสิทธิ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร ศึ ก ษ า ไ ท ย ไ ด้ ใ ช้ มนุษยชน และการจัดท�ำแผนการขับเคล่ือนการส่งเสริม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ื นฐาน พ.ศ. 2551 ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2563 - 2565 นอกจากน้ี ในการจัดการเรียนการสอนข้ันพ้ื นฐาน โดยก�ำหนดให้ ภ า ค รั ฐ อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร เ ส น อ ป รั บ ป รุ ง แ ล ะ พั ฒ น า ผู้ เ รี ย น ไ ด้ เ รี ย น รู้ ทั ก ษ ะ ก า ร อ ยู่ ร่ ว ม กั น ใ น สั ง ค ม โ ล ก หลักสูตรเพื่ อส่งเสริมความเข้าใจในเร่ืองความเท่าเทียม อย่างสันติสุข การเป็นพลเมืองดี และการเห็นคุณค่า ทางเพศและหลักสูตรอบรบครูผู้สอนให้มีความรู้ความ ของทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เ ข้ า ใ จ ท่ี ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ส า ม า ร ถ ถ่ า ย ท อ ด อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ไ ด้ อย่างมีประสิทธิภาพ ใ น ส่ ว น ข อ ง ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร เ รี ย น รู้ สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ภ า ค รั ฐ ไ ด้ จั ด ท� ำ ห ลั ก สู ต ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ศึ ก ษ า แ ล ะ คู่ มื อ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ศึ ก ษ า ส� ำ ห รั บ การศึกษาข้ันพ้ื นฐาน และได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมสิทธิ ม นุ ษ ย ชน ศึ ก ษ า ส� ำ ห รั บ ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย เ ฉพ า ะ ท้ัง บุ ค ล า ก ร ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ยุ ติ ธ ร ร ม ภ า ค ธุ ร กิ จ แ ล ะ ผู้ บ ริ ห า ร ระดับสูงในองค์กร ในส่วนการส่งเสริมความเสมอภาค ระหว่างเพศ ภาครัฐได้บรรจุประเด็นความหลากหลาย ท า ง เ พ ศ เ ข้ า ไ ว้ ใ น ห ลั ก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พื้ น ฐ า น เพ่ื อสร้างความเข้าใจเก่ียวกับเพศสภาพและเพศวิถี ให้กับผู้เรียนในทุกระดับ รวมทั้งส่งเสริมความเข้าใจ 144 รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกนั ว่าทกุ คนมีการศกึ ษาท่มี คี ณุ ภาพ 04 อย่างครอบคลมุ และเท่าเทยี ม และสนับสนุนโอกาส ในการเรยี นรตู้ ลอดชีวิต สร้างหลักประกันวา่ ผ้เู รียนทุกคนได้รบั ความรู้และทกั ษะทจ่ี �ำเป็นส�ำหรับส่งเสริม SDG การพัฒนาทย่ี ั่งยนื รวมถงึ การศกึ ษาส�ำหรบั การพัฒนาทีย่ งั่ ยืน การมวี ิถชี ีวิตที่ยัง่ ยนื สิทธมิ นุษยชน ความเสมอภาคระหวา่ งเพศ การส่งเสริมวฒั นธรรมแห่งความสงบสุข 4.7 และการไมใ่ ชค้ วามรนุ แรง การเป็นพลเมอื งของโลก การชืน่ ชมในความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการท่วี ัฒนธรรมมสี ่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยงั่ ยนื ภายในปี 2573 ในการเคารพและยอมรับในความเสมอภาคและความ ข้อเสนอแนะ เท่าเทียมทางเพศ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม เ ป็ น พ ล เ มื อ ง โ ล ก จ ะ ต้ อ ง ด� ำ เ นิ น ก า ร นอกจากน้ี ภาครัฐยังได้ด�ำเนินโครงการต่าง ๆ ใน ในรูปแบบท่ีหลากหลาย และเลือกใช้วิธีการท่ีเข้าถึง สถานศึกษา อาทิ การเรียนรู้การด�ำเนินชีวิตตามหลัก คนจ�ำนวนมาก อาทิ การสอดแทรกผ่านสื่อดิจิทัลและ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพี ยง การส่งเสริมบทบาท ส่ือสังคมออนไลน์ การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ ผู้น�ำและจิตอาสา การสร้างความเข้าใจในกติกาการอยู่ ออนไลน์ท่ีรองรับผู้เรียนจ�ำนวนมาก (Massive Open ร่วมกันของชุมชน การพั ฒนาผู้น�ำชุมชนและบุคคล Online Courses: MOOC) ซ่ึงมีความสะดวกต่อตัว ให้เป็นต้นแบบด้านคุณธรรมและจริยธรรม รวมถึง ผู้เรียน เนื่องจากสามารถเข้าถึงบทเรียนได้จากทุกที่ ก า ร น� ำ เ ท ค โ น โ ล ยี เ ข้ า ม า มี ส่ ว น ช่ ว ย ใ น ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง ทุ ก เ ว ล า อี ก ทั้ ง ยั ง จ ะ เ ป็ น ก า ร ข ย า ย ก า ร ศึ ก ษ า ที่ มี กระบวนการเรียนรู้ให้มีคุณภาพและครอบคลุม เช่น คุณภาพให้ทั่วถึง รวมทั้งต้องมีการกระจายทรัพยากร โครงการโรงเรียนประชารัฐ และโครงการพั ฒนาศูนย์ ทางการศึกษาซ่ึงส่งเสริมการเข้าถึงบทเรียนดังกล่าว เรียนรู้ระดับต�ำบล ผ่ า น ก า ร ส นั บ ส นุ น เ ค รื่ อ ง มื อ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ที่ ส อ ด คล้องกับความจ�ำเป็นในแต่ละพื้ นท่ี เพื่อให้การด�ำเนินการ ความท้าทาย พั ฒนาการศึกษาประสบผลส�ำเร็จและเห็นผลเป็นรูปธรรม มากยงิ่ ขน้ึ การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และหลักการ พั ฒนาที่ย่ังยืนนั้น เป็นประเด็นที่ต้องอาศัยระยะเวลา ในการบ่มเพาะต้ังแต่ช่วงวัยเด็ก รวมท้ังต้องอาศัย กลไกการมีส่วนร่วมและการบูรณาการการท�ำงานร่วมกัน จากทุกภาคส่วนในสังคม อย่างไรก็ดี การด�ำเนินงานท่ี ผ่านมาส่วนใหญ่ยังคงมีภาครัฐเป็นหลักและมีลักษณะ ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ท่ี แ ย ก ส่ ว น กั น ต า ม ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ท่ี รับผิดชอบเท่านั้น อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินชีวิต ข อ ง ป ร ะ ช า ก ร โ ล ก แ ล ะ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ อย่างมากโดยอาจก่อให้เกิด “New Norm ในความ สั ม พั น ธ์ ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ” ท่ี แ ต่ ล ะ ป ร ะ เ ท ศ ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร จั ด ก า ร กั บ ปั ญ ห า ใ น ป ร ะ เ ท ศ ข อ ง ตนเองมากกว่าการด�ำเนินการผ่านกลไกความร่วมมือ ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ท� ำ ใ ห้ ค น มี ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก ใ น ค ว า ม ส�ำคัญของการเป็นพลเมืองโลกลดลง และให้ความ ส�ำคัญกับการเป็นพลเมืองรัฐมากข้ึน นอกจากน้ัน ยั ง อ า จ เ กิ ด ค ว า ม ห ว า ด ร ะ แ ว ง แ ล ะ ทั ศ น ค ติ เ ชิ ง ล บ กั บ ช า ว ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ท่ี อ า จ น� ำ ไ ป สู่ ก า ร ป ฏิ บั ติ ท่ี ล ะ เ มิ ด ต่ อ สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น ซึ่ ง จ ะ เ ป็ น ค ว า ม ท้ า ท า ย ใ ห ม่ ใ น การบรรลุเป้าหมายการพั ฒนาดังกล่าวได้ รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 145 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลกั ประกันว่าทุกคนมกี ารศึกษาทม่ี ีคณุ ภาพ อยา่ งครอบคลมุ และเทา่ เทียม และสนับสนุนโอกาส ในการเรียนรู้ตลอดชวี ติ SDG สร้างและยกระดบั สถานศกึ ษา ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์การศึกษา ที่ออ่ นไหวตอ่ เด็ก ผู้พิการ และเพศภาวะ และจัดใหม้ ีสภาพแวดลอ้ มทางการเรยี นรู้ 4.a ทีป่ ลอดภยั ปราศจากความรนุ แรง ครอบคลมุ และมีประสิทธผิ ลส�ำหรับทกุ คน การยกระดับโครงสร้างพ้ืนฐานทางการศึกษามีความจ�ำเป็นต่อการพั ฒนาการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวม เน่ืองจาก สภาวะแวดล้อมที่ดีและบรรยากาศที่เอ้ือต่อการเรียนการสอนจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ เกิดการ แลกเปล่ียนความคิดและประสบการณ์ระหว่างผู้เรียน อันน�ำมาซึ่งผลลัพธ์ทางการศึกษาในเชิงประจักษ์ โดยสถานศึกษา ควรจัดให้มีระบบสาธารณูปโภคท่ีจ�ำเป็นทั้งต่อผู้เรียนและผู้สอน รวมท้ังโครงสร้างพ้ื นฐานทางเทคโนโลยี อาทิ คอมพิ วเตอร์ อินเทอร์เน็ต และส่ือการสอนเชิงสร้างสรรค์ให้พร้อมต่อการเรียนในทุกระดับช้ัน รวมท้ังต้องส่งเสริม ให้มีสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่ปลอดภัย ปราศจากความรุนแรงทุกรูปแบบ สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายยอ่ ย พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ไ ป ยั ง โ ร ง เ รี ย น ใ ห้ ค ร อ บ ค ลุ ม ท่ัวประเทศ ซ่ึงในปี 2562 มีการด�ำเนินการแล้วเสร็จ ข้ อ มู ล ข อ ง ส� ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร ศึ ก ษ า ขั้ น 1,187 โรงเรียน โครงการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต พื้ นฐาน (สพฐ.) ช้ีให้เห็นว่า โรงเรียนในประเทศไทยมี เ พ่ื อ ก า ร ศึ ก ษ า ฟ รี ซ่ึ ง ด� ำ เ นิ น ก า ร โ ด ย บ ริ ษั ท 3 B B การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตประมาณร้อยละ 90 ซึ่งโรงเรียน ติ ด ต้ั ง อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ใ ห้ กั บ โ ร ง เ รี ย น ใ น พ้ื น ที่ ห่ า ง ไ ก ล ที่ ไ ม่ มี อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ป็ น โ ร ง เ รี ย น ท่ี อ ยู่ ใ น ท่ัวประเทศ 2,271 แห่ง โครงการพั ฒนาระบบน�้ำดื่ม พ้ื นท่ีห่างไกล (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2563) นอกจากน้ี สะอาดในโรงเรียนโครงการพั ฒนาคุณภาพการจัดการ ยังพบว่ามีโรงเรียนที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 14 ศึ ก ษ า แ บ บ เ รี ย น ร ว ม ส� ำ ห รั บ เ ด็ ก พิ ก า ร ใ น โ ร ง เ รี ย น โรงเรียน ประสบปัญหาสัญญาณโทรศัพท์ 291 โรงเรียน ทั่ ว ไ ป ที่ จั ด ก า ร ศึ ก ษ า แ บ บ เ รี ย น ร ว ม ( i n c l u s i ve และไม่สามารถเข้าถึงไฟฟา้ ได้ 415 โรงเรียน education) อีกท้ังได้มีการด�ำเนินการผ่านโครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพั ฒนา ในด้านการอ�ำนวยความสะดวกด้านการศึกษาแก่กลุ่ม ก า ร ศึ ก ษ า ส� ำ ห รั บ ค น พิ ก า ร อ า ทิ โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า เป้าหมายเฉพาะ อาทิ กลุ่มผู้พิ การ ในปี 2563 มี ทั ก ษ ะ ก า ร ท� ำ ข้ อ ส อ บ G AT / PAT ส� ำ ห รั บ นั ก เ รี ย น สถานศึกษาท่ีจัดการศึกษาพิ เศษเพ่ื อเด็กพิ การและ บกพร่องทางการมองเห็น โครงการสนับสนุนการจัด ผู้ ด้ อ ย โ อ ก า ส ที่ อ ยู่ ใ น ค ว า ม ดู แ ล ข อ ง ส� ำ นั ก บ ริ ห า ร ง า น ก า ร ศึ ก ษ า น อ ก ร ะ บ บ แ ล ะ ก า ร ศึ ก ษ า ต า ม อั ธ ย า ศั ย การศึกษาพิ เศษ 172 แห่ง และมีการด�ำเนินการเพื่ อ ส�ำหรับผู้เรียนพิ การทางการได้ยินและโครงการล่าม สนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่มีความ ภาษามือเพ่ื อการสื่อสาร นอกจากนี้ ยังมีการจัดท�ำ ปลอดภัย โดยการพั ฒนาแนวทางการด�ำเนินงาน แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล รวมถึงมีหลักสูตร คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนในกรณีต่าง ๆ อาทิ การฝึกอบรมครูด้านการสอนคนพิ การ พ.ศ. 2561 ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ความรุนแรงไม่ได้รับความเป็น เ พื่ อ เ พ่ิ ม ส ม ร ร ถ น ะ ใ ห้ ค รู มี ค ว า ม รู้ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ธรรมจากระบบการศึกษายาเสพติด ภัยพิ บัติ และ ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ส� ำ ห รั บ ค น พิ ก า ร ห รื อ ผู้ เ รี ย น ที่ มี การกล่ันแกล้งรังแก ความต้องการจ�ำเป็นพิ เศษ มีการจัดสิ่งอ�ำนวยความ ส ะ ด ว ก แ ล ะ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า อ า ทิ การดำ� เนินการทีผ่ ่านมา อุ ป ก ร ณ์ ช่ ว ย ก า ร ม อ ง เ ห็ น ก า ร ไ ด้ ยิ น ก า ร เ ขี ย น ห นั ง สื อ เ สี ย ง ห นั ง สื อ อั ก ษ ร เ บ ร ล ล์ เ พ่ื อ พั ฒ น า ในช่วงปี 2559 - 2563 ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชน ประสิทธิภาพการเรียนการสอนส�ำหรับคนพิ การให้มี ด� ำ เ นิ น ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ ก า ร เ รี ย น คุณภาพ ก า ร ส อ น ผ่ า น โ ค ร ง ก า ร ต่ า ง ๆ อ า ทิ โ ค ร ง ก า ร เ น็ ต ป ร ะ ช า รั ฐ ที่ ไ ด้ ข ย า ย อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ค ว า ม เ ร็ ว สู ง เ พื่ อ 146 รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกันวา่ ทุกคนมกี ารศึกษาท่มี ีคุณภาพ 04 อย่างครอบคลุมและเท่าเทยี ม และสนับสนุนโอกาส ในการเรยี นรู้ตลอดชีวิต สร้างและยกระดบั สถานศึกษา ตลอดจนเครอ่ื งมอื และอุปกรณ์การศกึ ษา SDG ทีอ่ ่อนไหวต่อเดก็ ผ้พู ิการ และเพศภาวะ และจัดใหม้ สี ภาพแวดลอ้ มทางการเรยี นรู้ 4.a ท่ปี ลอดภยั ปราศจากความรุนแรง ครอบคลมุ และมีประสิทธิผลส�ำหรับทุกคน ความท้าทาย ขอ้ เสนอแนะ การยกระดับโครงสร้างพื้ นฐานในโรงเรียนที่อยู่ในพื้ นท่ี ควรเร่งพั ฒนาโครงสร้างพื้ นฐานทางการศึกษาให้ ห่างไกลยังเป็นความท้าทายหลักในการบรรลุเป้าหมาย ครอบคลุมทุกพ้ื นท่ีของประเทศ เพ่ื อลดความเหลื่อมล้�ำ ย่ อ ย ท่ี 4 . a เ น่ื อ ง จ า ก ข้ อ จ� ำ กั ด ใ น ก า ร เ ข้ า ถึ ง พ้ื น ท่ี ทางการศึกษาให้ได้มากที่สุด รวมทั้งควรยกระดับ และความพร้อมในการใช้ประโยชน์โครงสร้างพ้ื นฐาน มาตรฐานการจัดการศึกษาเรียนรวม อาทิ จัดห้องเรียน ทางการศึกษาของผู้เรียนและผู้สอน รวมทั้งการจัดสรร พิ เศษให้คนพิ การในสถานศึกษา พั ฒนาความรู้ทักษะ งบประมาณภาครัฐท่ีมีข้อจ�ำกัด โดยเฉพาะอย่างย่ิง แ ล ะ เ จ ต ค ติ ท่ีดี ข อ ง บุ ค ล า ก ร ท่ีเ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร จั ด ในภาวะที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากน้ี การเรียนรวมมีการจัดเก็บและปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับ นโยบายการจัดการศึกษาส�ำหรับคนพิ การสู่การปฏิบัติ นักเรียนที่มีความจ�ำเป็นพิ เศษให้มีความทันสมัย เช่น ยังขาดความต่อเน่ืองและไม่ครอบคลุมทุกมิติ ขาดแคลน ข้อมูลโครงสร้างพ้ื นฐานและส่ิงอ�ำนวยความสะดวกท่ี ครูการศึกษาพิเศษและนักวิชาชีพ และขาดระบบสนับสนุน จ�ำเพาะเจาะจงกับคนกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้เกิดการพั ฒนา ท่ีตรงตามความจ�ำเป็นพิ เศษของเด็กท่ีบกพร่องแต่ละ นโยบายและมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมและสอดรับ ประเภทในการจัดการเรียนรวม ตลอดจนอาคารสถานท่ี กับบริบทเฉพาะบุคคลมากย่ิงขึ้น และสภาพแวดล้อมยังไม่เอ้ือต่อการเรียนรู้และเข้าถึง บริการทางการศึกษาของผู้พิ การ รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 147 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

04 สรา้ งหลกั ประกนั ว่าทุกคนมีการศกึ ษาทม่ี ีคุณภาพ อย่างครอบคลมุ และเทา่ เทยี ม และสนบั สนุนโอกาส SDG ในการเรียนรตู้ ลอดชีวิต 4.b เพ่ิมจำ� นวนทุนการศึกษาท่วั โลกทีใ่ ห้แก่ประเทศก�ำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศพัฒนาน้อยทีส่ ุด รฐั ก�ำลงั พัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก และประเทศในทวีปแอฟริกา เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดบั อดุ มศกึ ษา รวมถงึ การฝึกอาชพี และโปรแกรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดา้ นเทคนคิ ดา้ นวิศวกรรม และด้านวิทยาศาสตร์ ในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศก�ำลงั พัฒนาอืน่ ๆ ภายในปี 2563 ประเทศไทยได้เร่ิมมีบทบาทในการให้ความร่วมมือทางวิชาการแก่ต่างประเทศต้ังแต่ปี 2498 ในลักษณะ Third Country Training Program โดยจัดการศึกษาและการฝึกอบรมดูงานให้แก่ผู้รับทุนจากประเทศก�ำลัง พั ฒนา ตามที่องค์กรระหว่างประเทศหรือประเทศผู้ให้อื่น ๆ เสนอขอความร่วมมือ และยังคงให้ความส�ำคัญต่อ การด�ำเนินภารกิจความร่วมมือเพื่ อการพั ฒนาระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยได้ก�ำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นแผนแม่บทด้านการต่างประเทศ ที่มุ่งส่งเสริมให้ไทยมีเกียรติภูมิและบทบาทที่สร้างสรรค์ในเวทีโลก สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายย่อย การด�ำเนนิ การที่ผา่ นมา ในระยะที่ผ่านมา แม้ว่าไทยจะไม่ได้อยู่ในสถานะของ ภ า ค รั ฐ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ผู้ให้ (donor) แต่ไทยได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของ ระหว่างประเทศทางด้านการศึกษา ได้แก่ 1) ถ่ายทอด การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเพ่ื อการพั ฒนา โดยได้ อ ง ค์ ค ว า ม รู้ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ส นั บ ส นุ น วั ส ดุ แ ล ะ ให้เงินช่วยเหลือเพ่ื อการพั ฒนาอย่างเป็นทางการ อุปกรณ์ 2) พั ฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยจัดสรรทุน (Official Development Assistance: ODA) แก่ประเทศ ฝึกอบรมนานาชาติประจ�ำปี (Annual International ที่มีความต้องการเพ่ิ มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 Training Course: AITC) และทุนศึกษาปริญญาโท ประเทศไทยมีมูลค่า ODA อยู่ท่ี 4,561.78 ล้านบาท นานาชาติ (Thailand International Postgraduate คิดเป็นร้อยละ 0.03 ของรายได้มวลรวมประชาชาติ1 Programme: TIPP) เพื่ อศึกษาในหลักปรัชญาของ จ�ำแนกเป็น (1) เงินกู้ 447.01 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.8 เศรษฐกิจพอเพี ยงความมั่นคงทางอาหารการเปลี่ยน (2) เงินให้เปล่าและความร่วมมือทางวิชาการ 1,662.45 แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ห รื อ ก า ร ส า ธ า ร ณ สุ ข แ ล ะ ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 36.44 และ (3) เงินบริจาคให้ 3 ) จั ด ส่ ง อ า ส า ส มั ค ร เ พ่ื อ น ไ ท ย ( Fr i e n d s f r o m แก่องค์การระหว่างประเทศ 2,452.32 ล้านบาท คิดเป็น T h a i l a n d ) ห รื อ ผู้ เ ช่ี ย ว ช า ญ ต า ม ค� ำ ข อ เ พ่ื อ ไ ป ร้อยละ 53.76 นอกจากนั้นไทยยังได้ให้ความช่วยเหลือ ปฏิบัติงาน ณ ประเทศคู่ร่วมมือภายใต้โครงการหรือ ใ น รู ป แ บ บ ที่ ไ ม่ เ ป็ น ตั ว เ งิ น อ า ทิ ก า ร จั ด ฝึ ก อ บ ร ม ใ ห้ ต า ม ค� ำ ข อ กับประเทศเพื่ อนบ้านและประเทศก�ำลังพั ฒนาอื่น ๆ ในสาขาวิชาท่ีไทยมีศักยภาพ เช่น การเกษตร การศึกษา มูลค่าทุนการศึกษาที่รัฐบาลเสนอให้กับต่างประเทศ และการสาธารณสุข (Annual International Training Course: AITC) จ�ำแนกตามสาขาวิชา ที่มา: กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ 1 OECD สนับสนุนให้ประเทศผู้ให้ต่าง ๆ ให้ความช่วยเหลือที่เกณฑ์ร้อยละ 0.7 ของ GNI โดยล่าสุดในปี 2561 มูลค่า ODA ของไทย (ซึ่งยังอยู่ในกลุ่มประเทศผู้รับ) อยู่ท่ีร้อยละ 0.0309 ของ GNI 148 รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันว่าทกุ คนมกี ารศึกษาท่มี ีคณุ ภาพ 04 อยา่ งครอบคลุมและเท่าเทยี ม และสนบั สนุนโอกาส SDG ในการเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ 4.b เพิ่มจ�ำนวนทุนการศกึ ษาท่วั โลกทใ่ี ห้แก่ประเทศก�ำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศพัฒนานอ้ ยที่สุด รัฐกำ� ลงั พัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก และประเทศในทวปี แอฟริกา เพื่อเขา้ ศกึ ษาตอ่ ในระดบั อดุ มศกึ ษา รวมถงึ การฝึกอาชพี และโปรแกรมดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ด้านเทคนคิ ดา้ นวิศวกรรม และดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำ� ลังพัฒนาอืน่ ๆ ภายในปี 2563 ความท้าทาย ข้อเสนอแนะ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท�ำให้ การให้ความช่วยเหลือเพ่ื อการพั ฒนาระหว่างประเทศควร ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างงบประมาณเพื่ อช่วยเหลือ มุ่งเน้นรูปแบบที่ไม่ใช่ตัวเงินมากขึ้น และใช้แพลตฟอร์ม เยียวยาประชาชนในประเทศและฟ้ ืนฟู เศรษฐกิจและ ออนไลน์ในการส่ือสารระหว่างประเทศ ซ่ึงรวมถึงการ สังคมอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้กรอบวงเงินงบประมาณ ให้ความช่วยเหลือทางการศึกษาท่ีควรปรับเปล่ียนเป็น ส�ำหรับ ODA ลดลง ท�ำให้การให้ความช่วยเหลือประเทศ การเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เพ่ื อลดความเส่ียงต่อ ท่ีพัฒนาน้อยกว่ามีข้อจ�ำกัด นอกจากนั้น การเป็นประเทศ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากน้ี ประเทศไทย ร า ย ไ ด้ ป า น ก ล า ง ข้ั น สู ง ท� ำ ใ ห้ มี ข้ อ จ� ำ กั ด ใ น ก า ร ไ ด้ รั บ ควรรักษาผลประโยชน์ของการเป็นผู้รับความช่วยเหลือ ความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศพั ฒนาแล้ว ซึ่งมีสถานะ จ า ก ป ร ะ เ ท ศ พั ฒ น า แ ล้ ว อ า ทิ ญ่ีปุ่ น จี น เ ย อ ร ม นี เป็นผู้ให้ ท�ำให้เสียเปรียบทางการแข่งขันเม่ือเปรียบเทียบ สหรัฐอเมริกา และฝร่ังเศส ในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ กับประเทศก�ำลังพั ฒนาอื่น ๆ ที่มีสถานะเป็นผู้รับและ วิทยาการและเทคโนโลยีจากประเทศที่มีความก้าวหน้า ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยตรงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ จ ะ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร พั ฒ น า ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง ไ ท ย และส่งเสริมให้ไทยปรับบทบาทมาเป็นผู้ให้มากขึ้น รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 149 Thailand’s SDGs Report 2016-2020


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook