Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1_compressed (1)

Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1_compressed (1)

Published by NaraSci, 2022-01-19 03:24:43

Description: Thailands-SDGs-report-2016-2020-book_for-web-1_compressed

Search

Read the Text Version

11 ท�ำให้เมอื งและการต้งั ถ่ินฐานของมนษุ ย์ มคี วามครอบคลุม ปลอดภยั ยืดหย่นุ SDG ตอ่ การเปล่ยี นแปลงและย่งั ยืน 11.b เพิ่มจ�ำนวนเมืองและถิน่ ฐานของมนษุ ยท์ ส่ี นองรับและด�ำเนนิ การตามนโยบายและแผนทบ่ี ูรณาการ เพ่ือใหเ้ กดิ ความครอบคลมุ การใชท้ รัพยากรอย่างประสิทธภิ าพ การลดผลกระทบ และปรบั ตวั ต่อการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ และการมภี มู ติ า้ นทานต่อภยั พิบตั ิ ตลอดจนพัฒนาและด�ำเนนิ การตามหลกั การบริหารความเสี่ยงจากภัยพิบัตแิ บบองค์รวมในทกุ ระดับ โดยเป็นไปตามกรอบการดำ� เนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558 – 2573 ปัจจุบันจ�ำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองทั่วโลกเพ่ิ มสูงข้ึนอย่างรวดเร็วและคาดว่าจะยังคงเพิ่ มสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง โดยสหประชาชาติคาดการณ์ว่าภายในปี 2593 ประชากรโลกท่ีอาศัยในเมืองจะมีมากถึงร้อยละ 68 (7 พั นล้านคน) ของจ�ำนวนประชากรท่ัวโลก เพ่ิ มข้ึนจากร้อยละ 55 (4.2 พั นล้านคน) ในปี 2561 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก ความต้องการมีงานท�ำ ความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค และสวัสดิการสังคมที่เมืองมีความพร้อมมากกว่า อย่างไรก็ดี ผลจากการเปล่ียนแปลงของสภาพภูมิอากาศท่ีท�ำให้อัตราการเกิดภัยพิ บัติมีความรุนแรงและ บ่อยคร้ังข้ึน ดังน้ันจึงมีการสนับสนุนให้ทุกเมืองจัดท�ำแผนบริหารจัดการความเส่ียงจากภัยพิ บัติอย่างรอบด้าน เพื่ อให้เป็นไปตามกรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพื่ อการลดความเสี่ยงจากภัยพิ บัติ พ.ศ. 2558-2573 โดยก�ำหนด เป้าหมายการด�ำเนินงานเบ้ืองต้นไว้ที่ปี 2563 สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย การด�ำเนินการท่ีผ่านมา ประเทศไทยได้จัดท�ำและด�ำเนินการตามแผนการป้องกัน ภ า ค รั ฐ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร พั ฒ น า อ ง ค์ ค ว า ม รู้ แ ล ะ และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 ท่ีมี เสริมสร้างความเข้มแข็งหน่วยงานระดับท้องถิ่นให้มี ความสอดคล้องกับกรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพื่ อ ศักยภาพในการรับมือภัยพิ บัติมากขึ้น ควบคู่ไปกับ การลดความเสี่ยงจากภัยพิ บัติ พ.ศ. 2558-2573 การจัดท�ำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับ โดยแผนดังกล่าวมุ่งพัฒนาระบบการป้องกัน การเตรียม พื้ นที่ นอกจากน้ี ยังได้ด�ำเนินการปรับปรุง ทบทวนและ ความพร้อม และการพั ฒนาภูมิความรู้และความเข้มแข็ง จั ด ท� ำ ร่ า ง แ ผ น ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ บ ร ร เ ท า ส า ธ า ร ณ ภั ย ของชุมชนในการรับมือกับภัยพิ บัติ ในระยะที่ผ่านมา แห่งชาติฉบับใหม่ โดยคาดว่าจะน�ำเสนอคณะรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งบูรณาการแผนระดับชาติสู่ และประกาศใช้ในปี 2564 การปฏิบัติในระดับพื้ นท่ี ซ่ึงในปี 2563 องค์กรส่วน ท้องถ่ินร้อยละ 50 ได้จัดท�ำและด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ ความท้าทาย การลดความเสี่ยงจากภัยพิ บัติในระดับท้องถิ่น รวมทั้ง ไ ด้ มี ก า ร แ ต่ ง ตั้ ง ผู้ ป ร ะ ส า น ง า น ห ลั ก ด้ า น ก า ร ล ด แม้ภาครัฐได้มีการจัดท�ำแผนระดับชาติและระดับจังหวัด ความเสี่ยงจากภัยพิ บัติ (DRR Focal Point) ในระดับ เพ่ื อรับมือกับภัยพิ บัติได้ครบถ้วนแล้ว แต่การจัดท�ำ กระทรวง กรม จังหวัด และในระดับคณะท�ำงานย่อย แผนและยุทธศาสตร์ระดับอ�ำเภอและท้องถ่ินอย่างท่ัวถึง เพื่ อท�ำหน้าท่ีประสานและแลกเปล่ียนเรียนรู้การขับเคล่ือน และสร้างการมีส่วนร่วมในการจัดท�ำแผนร่วมกับประชาชน การจัดการความเสี่ยงจากภัยพิ บัติ ในพื้ นท่ียังคงเป็นความท้าทายส�ำคัญที่ประเทศไทย จะตอ้ งเรง่ ดำ� เนนิ การเพ่ิมเตมิ ตอ่ ไป 300 รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ทำ� ให้เมอื งและการต้งั ถน่ิ ฐานของมนุษย์ 11 มีความครอบคลมุ ปลอดภยั ยดื หยุน่ SDG ตอ่ การเปลี่ยนแปลงและยง่ั ยืน 11.b เพ่ิมจำ� นวนเมืองและถิ่นฐานของมนุษยท์ ีส่ นองรับและด�ำเนนิ การตามนโยบายและแผนท่บี ูรณาการ เพื่อใหเ้ กดิ ความครอบคลุม การใชท้ รพั ยากรอย่างประสิทธภิ าพ การลดผลกระทบ และปรบั ตัวตอ่ การเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ และการมีภมู ิต้านทานตอ่ ภัยพิบตั ิ ตลอดจนพัฒนาและด�ำเนินการตามหลกั การบรหิ ารความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิแบบองค์รวมในทุกระดับ โดยเป็นไปตามกรอบการดำ� เนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภยั พิบตั ิ พ.ศ. 2558 – 2573 ขอ้ เสนอแนะ อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ ว โ ด ย ข า ด ก า ร ค ว บ คุ ม แ ล ะ ก า ร ว า ง แ ผ น ที่ดี การใช้ประโยชน์ที่ดินไม่เหมาะสม และความเสื่อมโทรม ควรร่วมกันพั ฒนาองค์ความรู้เร่ืองการจัดท�ำแผน ของทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ รวมท้ังให้ การบริหารจัดการภัยพิ บัติ โดยเฉพาะการด�ำเนินงาน ความส�ำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชน ใ น ร ะ ดั บ ท้ อ ง ถิ่ น ร ว ม ทั้ ง ส ร้ า ง ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม จ า ก โดยเฉพาะกลุ่มยากจนและกลุ่มเปราะบางในการเตรียม ภาคประชาชนในฐานะผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงในพ้ื นที่ ความพร้อมเพื่ อรับมือกับวิกฤตในด้านต่าง ๆ อาทิ ตลอดจนควรพั ฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูล ประมวล การพั ฒนาทักษะทางการเงิน (financial literacy) และ ผลและรายงานผลการด�ำเนินงานตามแผน เพ่ื อให้ ทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (digital การด�ำเนินงานเพ่ื อลดความเส่ียงจากภัยพิ บัติเป็นไป literacy) อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังควรให้ความส�ำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้านอ่ืน ๆ ท่ี ส่ ง ผ ล ส� ำ คั ญ ต่ อ ค ว า ม เ ส่ี ย ง จ า ก ภั ย พิ บั ติ อ า ทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขยายตัวของเมือง รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 301 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

11 ทำ� ใหเ้ มืองและการต้งั ถิ่นฐานของมนษุ ย์ มคี วามครอบคลมุ ปลอดภัย ยดื หยุน่ SDG ตอ่ การเปลย่ี นแปลงและยง่ั ยืน 11.c สนบั สนนุ ประเทศพัฒนานอ้ ยทีส่ ุดผา่ นทางความช่วยเหลอื ทางการเงนิ และวชิ าการในการพัฒนาสิ่งปลูกสรา้ งท่ยี ่งั ยืนและมีความต้านทาน และยืดหย่นุ โดยใชว้ สั ดทุ อ้ งถ่นิ ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง ท่ี อ ยู่ อ า ศั ย แ ล ะ ส่ิ ง ป ลู ก ส ร้ า ง โ ด ย ค� ำ นึ ง ถึ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม เ ป็ น ห น่ึ ง ใ น ปั จ จั ย ส� ำ คั ญ ที่ส่งผลต่อการพั ฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์อย่างย่ังยืน เน่ืองจากไม่เพี ยงแต่จะช่วยลดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากวัสดุและกระบวนการก่อสร้าง ยังช่วยลดต้นทุนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้อีกด้วย ทั้งนี้ การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างสีเขียวจ�ำเป็นต้องใช้เงินทุน และองค์ความรู้สมัยใหม่ในการด�ำเนินการซึ่งเป็นสิ่งท่ีกลุ่มประเทศพั ฒนาน้อยท่ีสุดมีข้อจ�ำกัด จึงควรให้ การสนับสนุนทางการเงินและวิชาการในการออกแบบและพั ฒนาส่ิงปลูกสร้างที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมและ มีความต้านทานยืดหยุ่น โดยอาศัยวัสดุท้องถิ่น สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย การดำ� เนินการทีผ่ า่ นมา แม้ว่าไทยในฐานะประเทศก�ำลังพั ฒนาจะไม่มีพั นธกรณี เม่ือเดือนตุลาคม ปี 2562 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศพั ฒนาน้อยที่สุด ประเทศไทยได้เผยแพร่องค์ความรู้ด้านการออกแบบ แต่การด�ำเนินงานของรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนไทย แ ล ะ ก่ อ ส ร้ า ง อ า ค า ร ที่ ยั่ ง ยื น ห รื อ อ า ค า ร สี เ ขี ย ว แ ก่ ท่ีด�ำเนินธุรกิจท่ีเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและพลังงาน ค ณ ะ เ จ้ า ห น้ า ที่ อ า วุ โ ส ด้ า น พ ลั ง ง า น แ ก่ ก ลุ่ ม ป ร ะ เ ท ศ ก็ ไ ด้ มี ส่ ว น ใ น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม เ รื่ อ ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง อ า ค า ร พั ฒนาน้อยที่สุด อาทิ สปป.ลาว กัมพู ชา และเมียนมา และสิ่งปลูกสร้างสีเขียว ผ่านการเผยแพร่องค์ความรู้ ใ น โ อ ก า ส ท่ี เ ดิ น ท า ง ร่ ว ม กั บ ค ณ ะ เ จ้ า ห น้ า ท่ี อ า วุ โ ส เร่ืองการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานให้แก่ผู้สนใจ ด้านพลังงานอาเซียน ส่วนคณะกรรมการกองทุนเพ่ื อ ท้ังในและต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น สถาบันอาคารเขียว ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร อ นุ รั ก ษ์ พ ลั ง ง า น ไ ด้ อ นุ มั ติ ง บ ส� ำ ห รั บ ไ ท ย ซ่ึ ง เ ป็ น ห น่ ว ย ง า น อิ ส ร ะ จ า ก ก า ร ร ว ม ก ลุ่ ม กั น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร อ นุ รั ก ษ์ พ ลั ง ง า น แ ล ะ ใ ช้ พ ลั ง ง า น ของสถาปนิกและวิศวกร ได้ด�ำเนินการจัดฝึกอบรม ท ด แ ท น ใ น ก ลุ่ ม โ ร ง ง า น อุ ต ส า ห ก ร ร ม อ า ค า ร ที่ อ ยู่ หลักสูตรสร้างผู้เช่ียวชาญด้านการตรวจสอบอาคาร อ า ศั ย เ พ่ื อ ใ ช้ ใ น ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ 2 5 6 4 เ ป็ น จ� ำ น ว น เขียว รวมท้ังจัดงานสัมมนาเพ่ื อส่งเสริมให้เกิดความรู้ 2,200 ล้านบาท ค ว า ม เ ข้ า ใ จ เ ร่ื อ ง อ า ค า ร เ ขี ย ว ท่ี ถู ก ต้ อ ง แ ก่ ส ถ า ป นิ ก วิศวกร หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนท่ัวไปอย่าง น อ ก จ า ก นี้ ส ถ า บั น อ า ค า ร เ ขี ย ว ไ ท ย ไ ด้ จั ด ห ลั ก สู ต ร ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ไทยยังได้ขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าว อ บ ร ม ผู้ เ ชี่ ย ว ช า ญ อ า ค า ร เ ขี ย ว ไ ป แ ล้ ว 2 4 รุ่ น แ ล ะ ภายในประเทศอย่างต่อเน่ือง โดยรัฐบาลได้จัดต้ัง มี ส่ ว น ส� ำ คั ญ ใ น ก า ร ท� ำ ใ ห้ อ า ค า ร ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เ ข้ า รั บ กองทุนเพื่ อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีบทบาทใน ก า ร ป ร ะ เ มิ น เ พื่ อ ข อ รั บ ก า ร รั บ ร อ ง เ ป็ น อ า ค า ร เ ขี ย ว ก า ร ส่งเสริม กา รประหยัดพลังงานและใช้พลั ง ง าน 127 อาคาร ซึ่งผ่านการรับรองแล้ว 71 อาคาร ในขณะ ทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร ที่อยู่อาศัย ที่ ก า ร ใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ป ร ะ เ ท ศ พั ฒ น า น้ อ ย ท่ี สุ ด พ ร้ อ ม ทั้ ง ไ ด้ จั ด ท� ำ คู่ มื อ ก า ร อ อ ก แ บ บ อ า ค า ร ภ า ค รั ฐ ยังไม่มีการด�ำเนินการอย่างเป็นทางการ ที่จะก่อสร้างใหม่ให้เป็นอาคารเขียว 302 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ท�ำให้เมืองและการต้งั ถน่ิ ฐานของมนุษย์ 11 มคี วามครอบคลมุ ปลอดภัย ยดื หยนุ่ SDG ตอ่ การเปลี่ยนแปลงและยง่ั ยนื 11.c สนับสนนุ ประเทศพัฒนานอ้ ยทีส่ ุดผา่ นทางความชว่ ยเหลอื ทางการเงิน และวิชาการในการพัฒนาสิ่งปลกู สร้างทยี่ ัง่ ยนื และมีความตา้ นทาน และยดื หยุ่นโดยใช้วัสดทุ ้องถ่นิ ความทา้ ทาย ข้อเสนอแนะ ความตระหนักรู้เร่ืองการก่อสร้างอาคารท่ีย่ังยืนภายใน ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ค ว ร มี ก า ร จั ด เ ก็ บ แ ล ะ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ประเทศยังจ�ำกัดอยู่ในเขตเมืองของพ้ื นท่ีหัวเมือง ก า ร ใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ก า ร ส ร้ า ง อ า ค า ร ที่ ยั่ ง ยื น แ ก่ ขนาดใหญ่เท่าน้ัน รวมท้ังยังขาดการรวบรวมข้อมูล ประเทศพั ฒนาน้อยท่ีสุดเพ่ื อติดตามความคืบหน้าได้ การด�ำเนินงานเพ่ื อให้ความช่วยเหลือด้านการก่อสร้าง โดยด�ำเนินการควบคู่ไปกับการเพ่ิ มความเข้มข้นใน อ า ค า ร ที่ ยั่ ง ยื น แ ก่ ก ลุ่ ม ป ร ะ เ ท ศ พั ฒ น า น้ อ ย ที่ สุ ด การสร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการพั ฒนาอาคาร ข ณ ะ เ ดี ย ว กั น อ ง ค์ ค ว า ม รู้ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ใ น เ รื่ อ ง ที่ย่ังยืนแก่ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป เพื่ อท�ำให้ ก า ร ส ร้ า ง อ า ค า ร ท่ี ย่ั ง ยื น ส่ ว น ใ ห ญ่ ยั ง ต้ อ ง พ่ึ ง พิ ง ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น ใ น ป ร ะ เ ด็ น ดั ง ก ล่ า ว ด� ำ เ นิ น ก า ร อ ย่ า ง ต่างประเทศ จึงท�ำให้บทบาทในการให้ความช่วยเหลือ ต่ อ เ นื่ อ ง น อ ก จ า ก นี้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ค ว ร เ ร่ ง พั ฒ น า ประเทศพั ฒนาน้อยท่ีสุดของไทยใ น เ ร่ื อ ง ดั ง ก ล่ า ว องค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านอาคารที่ยั่งยืนเป็นของ มีข้อจ�ำกัด ต น เ อ ง เ พ่ื อ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร แ ส ด ง บ ท บ า ท ข อ ง ไ ท ย ใ น การให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศพั ฒนาน้อยท่ีสุด ต่อไป รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 303 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

เป้าหมายท่ี 12 สร้างหลกั ประกันใหม้ แี บบแผน การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน SDG 12: Ensure sustainable consumption and production patterns 304 รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDG Progress Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกันใหม้ แี บบแผนการผลติ 12 และการบริโภคทย่ี ่งั ยนื SDG 12 การผลิตและการบริโภคที่ย่ังยืนมีความส�ำคัญต่อการพั ฒนาที่ยั่งยืนบนพื้ นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ ตระหนักถึงต้นทุนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและบริการของบริษัท องค์กร ตลอดจนกรอบคิดและพฤติกรรมของประชาชน ให้มี ความสอดคล้องกับความสามารถในการรองรับของธรรมชาติ ผ่านการด�ำเนินงานอย่างบูรณาการของทุกภาคส่วน ต้ังแต่ระดับนโยบายไปจนถึงระดับปฏิบัติอย่างครอบคลุมและเป็นรูปธรรม สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมาย บัญชีต้นทุนด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (System of Environmental-Economic Accounting: SEEA) ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ด้ จั ด ท� ำ แ ผ น ขั บ เ ค ล่ื อ น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ร่วมกับบัญชีประชาชาติด้านการท่องเท่ียว (Tourism การบรโิ ภคทย่ี งั่ ยนื พ.ศ. 2560 – 2580 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) Satellite Account) เพ่ือสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของ เพ่ื อวางกรอบการด�ำเนินงานเพ่ื อปรับเปล่ียนสังคมไทยสู่ การท่องเท่ียวต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม สังคมที่มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าและสมดุลกับฐานทรัพยากรของประเทศ รวมท้ัง อยา่ งไรกต็ าม ยงั คงมคี วามทา้ ทายส�ำคญั ดา้ นการสูญเสีย ส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาเพ่ื อให้คนไทยทุกคนได้ และขยะอาหาร โดยคาดการณ์ว่าประเทศไทยมีปริมาณ รั บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ เ รี ย น รู้ ต ล อ ด ชี วิ ต อ ย่ า ง มี คุ ณ ภ า พ ขยะอาหารประมาณ 78.69 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซ่ึงสูง สร้างเสริม คุณภาพชีวิตที่เป็ นมิตรกับ สิ่งแว ด ล้ อ ม กว่าค่าเฉล่ียของประเทศรายได้ปานกลางระดับสูง และ ต า ม แ น ว ท า ง ที่ ก� ำ ห น ด ไ ว้ ใ น แ ผ น ก า ร ศึ ก ษ า แ ห่ ง ช า ติ ยังขาดการติดตามและจัดเก็บข้อมูลด้านการสูญเสีย พ . ศ . 2 5 6 0 - 2 5 7 9 ใ น ข ณ ะ ที่ ภ า ค เ อ ก ช น ไ ด้ ใ ห้ และขยะอาหารอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ทุกภาคส่วน ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร ด� ำ เ นิ น ธุ ร กิ จ อ ย่ า ง ย่ั ง ยื น ม า ก ข้ึ น ค ว ร เ ร่ ง ด� ำ เ นิ น ก า ร อ ย่ า ง จ ริ ง จั ง เ พื่ อ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า โดยในปี 2563 ร้อยละ 20.14 ของ บริษัทจดทะเบียนไทย การจัดการขยะและของเสียอันตราย เนื่องจากมีปริมาณ ไ ด้ จั ด ท� ำ ร า ย ง า น ค ว า ม ย่ั ง ยื น ต า ม ค ว า ม ส มั ค ร ใ จ ขยะมูลฝอยเพิ่ มข้ึนอย่างต่อเนื่อง แต่สัดส่วนของขยะ แ ล ะ เ ปิ ด เ ผ ย ข้ อ มู ล ใ น มิ ติ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม สั ง ค ม แ ล ะ มู ล ฝ อ ย ท่ี ไ ด้ รั บ ก า ร ก� ำ จั ด ถู ก ต้ อ ง มี แ น ว โ น้ ม ล ด ล ง บ ร ร ษั ท ภิ บ า ล ( E nv i ro n m e n ta l , Soc i a l a n d จากร้อยละ 35.37 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 34.17 ใน Governance: ESG) รวมทั้งส่งเสริมการพั ฒนา ปี 2562 เช่นเดียวกันกับการจัดการของเสียติดเช้ือ อุตสาหกรรมสีเขียวท่ีมีกระบวนการผลิตและการบริหาร จากชุมชนซึ่งในปี 2562 ของเสียอันตรายชุมชนได้รับ จัดการท่ีมีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม การจัดการอย่างถูกต้องเพี ยงร้อยละ 16.13 และสงิ่ แวดลอ้ ม โดยระหวา่ งปี 2554 - 2563 มโี รงงาน/ สถานประกอบการได้รับใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว การดำ� เนนิ การท่ผี ่านมา รวม 40,799 ใบรับรองและต้ังเป้าหมายให้โรงงาน อุ ต ส า ห ก ร ร ม ภ า ย ใ ต้ ก า ร ก� ำ กั บ ดู แ ล ข อ ง ก ร ะ ท ร ว ง ในภาคอุตสาหกรรมและการก�ำจัดขยะ ได้มีการส่งเสริม อุตสาหกรรมที่มีอยู่กว่า 71,130 โรงท่ัวประเทศพั ฒนาสู่ เ ค รื อ ข่ า ย อุ ต ส า ห ก ร ร ม สี เ ขี ย ว ค ว บ คู่ ไ ป กั บ ก า ร ส ร้ า ง การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวภายในปี 2568 นอกจากน้ี ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ห ว่ า ง ผู้ ป ร ะ ก อ บ กิ จ ก า ร โ ร ง ง า น ภ า ค พ ลั ง ง า น ไ ด้ ล ด ก า ร อุ ด ห นุ น เ ช้ื อ เ พ ลิ ง ฟ อ ส ซิ ล ล ง อุตสาหกรรมกับชุมชน อาทิ การยกระดับและพั ฒนา อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการใช้พลังงาน โ ร ง ง า น อุ ต ส า ห ก ร ร ม ใ น พื้ น ที่ เ มื อ ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม หมุนเวียนเพิ่ มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นจากสัดส่วนก�ำลัง เ ชิ ง นิ เ ว ศ ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ มู ล ฝ อ ย ต า ม ห ลั ก 3 Rs ผลิตติดตั้งของการผลิตไฟฟา้ จากพลังงานหมุนเวียน (Reduce, Reuse, Recycle) ตลอดจนการจัดท�ำแผน ต่อหัวประชากรท่ีมีแนวโน้มเพ่ิ มข้ึนจาก 136.90 วัตต์ ปฏิบัติการจัดการขยะพลาสติก ระยะท่ี 1 (พ.ศ. 2561 - ต่อคนในปี 2559 เป็น 163.82 วัตต์ต่อคนในปี 2561 2565) และการจัดท�ำฐานข้อมูลปริมาณกากอุตสาหกรรม อี ก ทั้ ง ยั ง เ ร่ ง ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว อ ย่ า ง ย่ั ง ยื น ท่ีไม่เป็นของเสียอันตราย ในภาคเกษตรและอาหาร ที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อชุมชน ระบบนิเวศ และ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร จั ด ท� ำ แ ผ น ท่ี น� ำ ท า ง ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมท้ังเตรียมการจัดท�ำ รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020 305

12 สร้างหลักประกนั ให้มีแบบแผนการผลิต และการบริโภคทยี่ ง่ั ยนื SDG 12 อ า ห า ร ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย แ ล ะ เ ต รี ย ม ก า ร จั ด ท� ำ ดั ช นี การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวซ่ึงไม่เอื้อให้พิ จารณาสินค้า ความสูญเสียอาหารระดับชาติ เพื่ อใช้ในการก�ำหนด และบริการท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม เน่ืองจากราคา น โ ย บ า ย ใ น ก า ร ล ด ป ริ ม า ณ ก า ร สู ญ เ สี ย ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ สินค้าท่ีค่อนข้างสูงจากวัตถุดิบท่ีมีความจ�ำเพาะเจาะจง เ ก ษ ต ร แ ล ะ อ า ห า ร ต ล อ ด ห่ ว ง โ ซ่ คุ ณ ค่ า ส่ ง เ ส ริ ม และ (4) ฐานขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การผลติ และการบรโิ ภค ความม่ันคงทางอาหาร และการใช้ทรัพยากรในระบบ ท่ีย่ังยืนที่ยังไม่สมบูรณ์ อาทิ ดัชนีการสูญเสียและ การผลิตอาหารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในภาคการศึกษา ขยะอาหาร ท�ำให้ไม่สามารถประเมินสถานการณ์และ และการสร้างความตระหนักรู้ ได้มีการจัดการศึกษา ความก้าวหน้าของการด�ำเนินการเพื่ อแก้ไขปัญหา ด้านการพั ฒนาท่ีย่ังยืนและหน้าท่ีพลเมืองในสถานศึกษา ดงั กลา่ วไดอ้ ยา่ งชดั เจน แ ล ะ ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร ท� ำ ค ว า ม ดี ด้ ว ย หั ว ใ จ ล ด ภั ย ส่ิงแวดล้อม ซึ่งได้จัดฝึกอบรมการลดและคัดแยก ข้อเสนอแนะ ข ย ะ มู ล ฝ อ ย ใ น ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ ใ น ภ าคพลั งงา น ได้ส่งเสริมการผลิตไฟฟา้ จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ควรให้ความส�ำคัญกับการถ่ายทอดรูปแบบการผลิต และรับซ้ือไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากผู้ผลิตไฟฟ้า และบริโภคที่ย่ังยืนสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ด้วย รายเล็กในโครงการพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ การสนับสนุนทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต ชี ว ม ว ล ข ย ะ แ ล ะ ก๊ า ซ ชี ว ภ า พ ต ล อ ด จ น ส่ ง เ ส ริ ม เพ่ื อให้เกิดระบบ Remanufacturing ตามแนวคิด การใช้พลังงานทดแทนภายในประเทศให้เพ่ิ มสูงข้ึน เศรษฐกิจหมุนเวียน การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ผ่านการสนับสนุนการวิจัยการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศจากผู้ประกอบการ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง ใ น ภ า ค ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ท่ีมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่การผลิตให้กับธุรกิจ ไ ด้ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว สี เ ขี ย ว ท่ี เ ป็ น มิ ต ร ต่ อ ขนาดกลางและรายย่อย รวมท้ังการปรับปรุงระเบียบ สิ่งแวดล้อมและให้ชุมชนมีบทบาทในการพั ฒนาการ ก า ร จั ด ซ้ื อ จั ด จ้ า ง สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ท่ี เ ป็ น มิ ต ร กั บ ท่องเท่ียวเชิงพ้ื นที่มากข้ึน รวมท้ังมีการตรวจประเมิน สิ่งแวดล้อมท่ีท�ำให้การด�ำเนินงานง่ายข้ึน นอกจากน้ี มาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเท่ียวในอุทยานแห่งชาติ ยังควรเร่งรัดการจัดท�ำฐานข้อมูลด้านขยะและของเสีย เพ่ื อน�ำผลมาเป็นแนวทางในการพั ฒนาแหล่งท่องเท่ียว ของประเทศให้สมบูรณ์ และเน้นการเสริมสร้างศักยภาพ ท่ีย่ังยืนของประเทศไทยและพั ฒนาให้มีมาตรฐานใน ชุ ม ช น ใ น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ข อ ง เ สี ย ค ว บ คู่ ไ ป กั บ ระดับสากล ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ จั ด ก า ร ข อ ง เ สี ย จ า ก แ ห ล่ ง ก� ำ เ นิ ด มลพิ ษในภาคอุตสาหกรรม เพิ่ มสัดส่วนการผลิตไฟฟา้ ความท้าทาย จากพลังงานทดแทนและเพ่ิ มประสิทธิภาพของระบบ ไ ฟ ฟ ้า พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น ท้ั ง ด้ า น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร ใ ช้ ความท้าทายหลักประกอบด้วย (1) การขับเคล่ือนการน�ำ ไฟฟ้าอย่างต่อเน่ือง โดยพั ฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้า แนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมท่ีตั้งอยู่บนพ้ืนฐานของ สมาร์ทกริดและพั ฒนาระบบกักเก็บพลังงานที่ครอบคลุม เศรษฐกจิ ชวี ภาพเศรษฐกจิ หมนุ เวยี นและเศรษฐกจิ สีเขยี ว ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ (Bio-Circular-Green Economy: BCG Economy) ผลการประเมินสถานะของ SDG 12 ไปสู่การปฏิบัติยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากต้นทุนที่สูง ประกอบกับมาตรการทางเศรษฐศาสตร์และกฎหมาย ต�่ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเส่ียง: ท่ี ยั ง ไ ม่ ส า ม า ร ถ ก ร ะ ตุ้ น ใ ห้ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ ป ล่ี ย น ร ะ บ บ สถานการณ์อยู่ในช่วง 51-75% ของค่าเป้าหมาย การผลิตท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมมากขึ้น (2) การบริหาร จัดการขยะและของเสี ยโดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น SDG SDG บรรลุค่าเป้าหมาย: สามารถบรรลุค่าเป้าหมาย 100% 12.3 12.4 SDG SDG SDG SDG SDG 12.1 12.a 12.c 12.5 12.7 ยังมีศักยภาพไม่เพี ยงพอในการจัดการให้ถูกต้องและ เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมท้ังมีการปล่อยของเสีย SDG SDG ที่ยังไม่ได้รับการบ�ำบัดเพิ่ มสูงขึ้น (3) กฎระเบียบ 12.2 12.6 ต่�ำกว่าค่าเป้าหมาย: SDG SDG สถานการณ์อยู่ในช่วง 76-99% ของค่าเป้าหมาย 12.8 12.b 306 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกันใหม้ ีแบบแผนการผลิต 12 และการบรโิ ภคท่ีย่งั ยืน SDG 12 กรณีศึกษา Chula Zero Waste ภายในมหาวิทยาลัย (5) การปรับปรุงและพั ฒนารูปแบบ การจัดการขยะอินทรีย์ โดยยกระดับระบบการเก็บรวบ รวมขยะเศษอาหารเพ่ื อส่งเข้าระบบการผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas) และ (6) การพั ฒนาเน้ือหาและส่ือการเรียน การสอนผ่านการจัดท�ำเนื้อหาการสอนด้านการจัดการขยะ อย่างย่ังยืนส�ำหรับเด็กและเยาวชนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา Chula Zero Waste หรือโครงการพั ฒนาต้นแบบ ผลการด�ำเนินงานที่ผ่านมาในช่วง 6 เดือนแรกของ การจัดการขยะมูลฝอยและขยะอันตรายอย่างย่ังยืนใน ปี 2562 พบว่า มหาวิทยาลัยสามารถลดปริมาณการใช้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นความร่วมมือระหว่าง ถุงพลาสติกชนิดหูห้ิวลดลงร้อยละ 80 ในทุกร้านค้า สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม ส�ำนักบริหารระบบกายภาพ เลิกใช้แก้วพลาสติกในโรงอาหาร โดยเปลี่ยนเป็นแก้ว และเครือข่ายคณาจารย์และนิสิต เพื่ อพั ฒนาระบบ ที่ใช้ซ้�ำได้ หรือแก้วกระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพ การจัดการขยะอย่างครบวงจร โดยเร่ิมตั้งแต่การบรรจุ ลดปริมาณการใช้หลอดพลาสติก ช้อน-ส้อมพลาสติก หลักสูตรการคัดแยกและจัดการขยะในระบบการศึกษา ลงร้อยละ 20 ผ่านมาตรการ “ขอก่อนค่อยให้” และ กิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ และการปฏิบัติจริงทั้งใน ลด-งด แจกเอกสารในการประชุมและการจัดงานพิ เศษ บริเวณมหาวิทยาลัย และพ้ื นท่ีภาคีเครือข่าย บนพ้ื นฐาน ต่ า ง ๆ ด้ ว ย ต ล อ ด จ น ก ร ะ ตุ้ น แ ล ะ ผ ลั ก ดั น ใ ห้ เ กิ ด หลักการ 3Rs เพื่ อให้การด�ำเนินงานเป็นไปอย่างเป็น การพั ฒนาประสิทธิภาพการลดและแยกขยะของคณะ รูปธรรม โครงการ Chula Zero Waste ได้จัดท�ำแผน ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติการการจัดการขยะมูลฝอยและขยะอันตรายอย่าง ย่ังยืนในจุฬาลงกรณ์ ฯ (พ.ศ. 2560 - 2564) ซ่ึงประกอบ ท่ีมา: โครงการ Chula Zero Waste และ salika.com ไปด้วย 6 แผนงาน ได้แก่ (1) การพัฒนากลไกการท�ำงาน และจัดท�ำข้อมูลพ้ืนฐาน (2) การลดการเกิดขยะ ณ แหล่ง รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 ก�ำเนิด โดยผลักดันให้ลดการใช้ถุงพลาสติก ส่งเสริม Thailand’s SDGs Report 2016-2020 การใช้แก้วน้�ำ และขวดน้�ำส่วนตัวเพ่ื อลดขยะพลาสติก ( 3 ) ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง ร ะ บ บ ก า ร คั ด แ ย ก ข ย ะ ณ แหล่งก�ำเนิด (4) การปรับปรุงระบบเก็บรวบรวมขยะ 307

12 สร้างหลกั ประกันใหม้ แี บบแผนการผลิต และการบรโิ ภคท่ยี ่งั ยนื SDG ดำ� เนนิ การใหเ้ ป็นผลตามกรอบการด�ำเนนิ งานระยะ 10 ปี ว่าด้วยแบบแผนการผลิต และการบรโิ ภคทีย่ ั่งยนื ทกุ ประเทศน�ำไปปฏบิ ัตโิ ดยประเทศทพ่ี ัฒนาแล้วเป็นผนู้ ำ� 12.1 โดยค�ำนงึ ถึงการพัฒนาและขดี ความสามารถของประเทศกำ� ลังพัฒนา การยกระดับสังคมไทยสู่การผลิตและการบริโภคท่ีย่ังยืนเพื่ อลดผลกระทบทางลบต่อส่ิงแวดล้อมท่ีเกิดขึ้นจาก กระบวนการผลิตและการบริโภค ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชากร จ�ำเป็นต้องอาศัย กรอบแนวทางการด�ำเนินงานท่ีชัดเจน เพ่ื อให้การขับเคล่ือนและส่งเสริมการผลิตและบริโภคท่ียั่งยืนเป็นไปในทิศทาง เดียวกัน ครอบคลุมทุกภาคส่วนและทุกระดับในสังคม ซึ่งประเทศไทยได้จัดท�ำแผนขับเคลื่อนการผลิตและ การบริโภคที่ย่ังยืน พ.ศ. 2560 - 2580 (ฉบับปรับปรุง) ที่สอดคล้องกับกรอบการด�ำเนินงานระยะ 10 ปี ว่าด้วยแบบแผน การผลิตและการบริโภคท่ียั่งยืน (The 10 Year Framework of Programmes on Sustainable Consumption and Production Patterns: 10YFP) ที่ประเทศสมาชิกสหประชาชาติร่วมกันรับรองไว้ สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย การศึกษาให้ครอบคลุมเรื่องการผลิตและการบริโภคที่ ย่ังยืน สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึง แ ผ น ขั บ เ ค ลื่ อ น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค ที่ ย่ั ง ยื น ส่งเสริมการยกระดับธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบ พ . ศ . 2 5 6 0 - 2 5 8 0 ( ฉ บั บ ป รั บ ป รุ ง ) ไ ด้ ว า ง ต่อสังคมในทุกภาคส่วน กรอบการด�ำเนินงานของประเทศไทยในระยะยาวที่จะน�ำไปสู่ การปรับเปล่ียนสังคมไทยสู่สังคมท่ีมีการใช้ทรัพยากร การด�ำเนนิ การท่ีผ่านมา ธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และสมดุลกับ ฐ าน ท รัพยากร ของประเทศ ตามหลักป รัชญ าขอ ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมร่วมกับ เศรษฐกิจพอเพี ยง ตลอดจนมีความสอดคล้องกับ สหภาพยุโรปด�ำเนินโครงการ Towards SDG12 - SCP กรอบ 10YFP ของสหประชาชาติ โดยแผนขับเคลื่อนฯ Patterns through the Implementation of ให้ความส�ำคัญกับการเพ่ิ มศักยภาพของอุตสาหกรรม 10-Year Framework of Programmes (10YFP) การผลิตผ่านการผนวกเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าสู่ i n T h a i l a n d ซึ่ ง เ ป็ น ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ท า ง วิ ช า ก า ร กระบวนการผลิต การใช้วัสดุ พลังงานและทรัพยากร เ พื่ อ จั ด ท� ำ ร่ า ง แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร ว่ า ด้ ว ย ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า การรับรองอุตสาหกรรม ก า ร บ ริ โ ภ ค ท่ี ย่ั ง ยื น ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ร ะ ย ะ 5 ปี สี เ ขี ย ว แ ล ะ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ก า ก อุ ต ส า ห ก ร ร ม แ บ บ (พ.ศ. 2561 - 2565) ที่ถูกพั ฒนาขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูล ครบวงจรการส่งเสริมภาคเกษตรกรรมและอาหาร โดย เ ป้ า ห ม า ย ตั ว ชี้ วั ด วิ ธี ต ร ว จ ติ ด ต า ม แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล เน้นการท�ำเกษตรกรรมท่ียั่งยืน เพ่ื อลดผลกระทบต่อ ภ า ย ใ ต้ แ ผ น ขั บ เ ค ล่ื อ น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การป้องกันการปล่อย ท่ี ย่ั ง ยื น พ . ศ . 2 5 6 0 - 2 5 8 0 เ พื่ อ พั ฒ น า ก ล ไ ก มลพิ ษสู่ส่ิงแวดล้อม และการส่งเสริมการท่องเที่ยว ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น แ ล ะ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ท่ี ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ที่มีคุณภาพโดยแผนขับเคล่ือนฯ ยังเน้นให้มีการจัดซ้ือ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก รู้ แ ก่ ผู้ บ ริ โ ภ ค จั ด จ้ า ง สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ปรับปรุงกฎระเบียบท่ีเก่ียวข้องกับการจัดซ้ือจัดจ้าง ภาครัฐและด�ำเนินการประชาสัมพั นธ์อย่างทั่วถึง ใ น ข ณ ะ ที่ อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น ไ ด้ ด� ำ เ นิ น การขับเคลื่อนเมืองที่ย่ังยืนด้วยการใช้ทรัพยากรอย่าง มีประสิทธิภาพและอยู่บนความสมดุล ลดการปล่อย ม ล พิ ษ อ อ ก สู่ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม จั ด ใ ห้ มี ก า ร เ ข้ า ถึ ง พื้ น ที่ สาธารณะสีเขียวท่ีปลอดภัย ครอบคลุม และเข้าถึงได้ โดยถ้วนหน้า ตลอดจนพั ฒนาและปรับปรุงหลักสูตร 308 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกนั ใหม้ แี บบแผนการผลิต 12 และการบรโิ ภคทยี่ ง่ั ยนื ดำ� เนนิ การให้เป็นผลตามกรอบการด�ำเนนิ งานระยะ 10 ปี วา่ ด้วยแบบแผนการผลติ SDG และการบรโิ ภคท่ยี ง่ั ยืน ทุกประเทศนำ� ไปปฏิบัตโิ ดยประเทศทพ่ี ัฒนาแลว้ เป็นผูน้ �ำ 12.1 โดยคำ� นงึ ถึงการพัฒนาและขีดความสามารถของประเทศกำ� ลังพัฒนา นอกจากนี้ ยังได้มีการด�ำเนินโครงการด้านการผลิต ขอ้ เสนอแนะ แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค ท่ี ย่ั ง ยื น ท่ี มี ค ว า ม ส� ำ คั ญ ใ น ร ะ ดั บ ช า ติ อ า ทิ โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ก า ร ป รั บ เ ป ลี่ ย น รู ป แ บ บ ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค สู่ ส่วนท้องถ่ินให้สามารถด�ำเนินการตามแผนขับเคล่ือนฯ ค ว า ม ยั่ ง ยื น จ� ำ เ ป็ น ต้ อ ง ไ ด้ รั บ ค ว า ม ร่ ว ม มื อ จ า ก ทุ ก โ ค ร ง ก า ร ใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ท า ง เ ท ค นิ ค ใ น ก า ร น� ำ ภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง เพ่ื อผลักดันให้เกิดการปรับเปล่ียน ห ลั ก ก า ร ป ร ะ เ มิ น วั ฏ จั ก ร ชี วิ ต ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ม า ใ ช้ กั บ กระบวนการผลิตและบริการที่ค�ำนึงถึงความเป็นมิตร วั ส ดุ ก่ อ ส ร้ า ง เ พื่ อ ก า ร เ ลื อ ก ใ ช้ ใ น ท้ อ ง ถิ่ น แ ล ะ ต่ อ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ต ล อ ด ห่ ว ง โ ซ่ อุ ป ท า น ร ว ม ถึ ง ป รั บ โครงการวิจัยและพั ฒนาปริมาณเช้ือเพลิง ชีวมวล พฤติกรรมการบริโภคให้มีความพอดีและพอประมาณ จ า ก ข อ ง เ สี ย แ ล ะ ข อ ง เ ห ลื อ ใ ช้ จ า ก ภ า ค เ ก ษ ต ร ผ่านกลไกทางการศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้ อย่างต่อเน่ือง การบังคับใช้กฎหมายและกลไกเชิง ความท้าทาย มาตรการส�ำหรับการลดของเสียที่มีมลพิ ษ มลภาวะ ทางอากาศ และการเพ่ิ มอัตราการน�ำกลับมาใช้ใหม่ ประเทศไทยยังมีรูปแบบการผลิตและบริโภคที่มีการใช้ การปรับปรุงกฎระเบียบการจัดซ้ือจัดจ้างสีเขียวให้มี ทรัพยากรและปล่อยมลพิ ษและของเสียเกินกว่าศักยภาพ ค ว า ม ยื ด ห ยุ่ น แ ล ะ ส อ ด รั บ กั บ ง บ ป ร ะ ม า ณ ร ว ม ทั้ ง ในการรองรับของระบบนิเวศ อาทิ ภาคเกษตรที่เน้น ก า ร ป รั บ ป รุ ง ร ะ บ บ ก า ร เ ก็ บ ข้ อ มู ล แ ล ะ ก า ร บู ร ณ า ก า ร การเพาะปลูกพื ชเชิงเด่ียว ภาคอุตสาหกรรมท่ีเน้น ระหว่างหน่วยงาน ซึ่งจะช่วยให้การจัดท�ำนโยบาย การลดต้นทุนการผลิตเพื่ อการแข่งขันและการส่งออก การผลิตและการบริโภคที่ย่ังยืนมีความจ�ำเพาะและต้ังอยู่ น�ำไปสู่การลดศักยภาพของกระบวนการผลิตท่ีค�ำนึง บนหลักฐานเชิงประจักษ์มากยิ่งข้ึน ถึงส่ิงแวดล้อม อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคยังขาด ความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ ท่ีย่อยสลายได้ยาก และการไม่คัดแยกประเภทของขยะ ก่อนท้ิง นอกจากน้ี ยังมีข้อจ�ำกัดด้านการบังคับใช้ กฎหมายท่ีเก่ียวข้อง เน่ืองจากยังคงพบการลักลอบ ก า ร ท้ิ ง ก า ก อุ ต ส า ห ก ร ร ม ท่ี ยั ง ไ ม่ ไ ด้ รั บ ก า ร บ� ำ บั ด ล ง สู่ แหล่งน้�ำสาธารณะ รวมท้ังการด�ำเนินธุรกิจท่ีสร้างมลพิษ ต่อชุมชนรอบข้าง ประกอบกับข้อจ�ำกัดของการสร้าง ระบบฐานข้อมูลที่ครอบคลุมและบูรณาการ เช่น ดัชนี การสูญเสียอาหาร และการพัฒนาเครื่องมือทางการบัญชี ข อ ง ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว ท่ี ย่ั ง ยื น ส่ ง ผ ล ใ ห้ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ข อ ง น โ ย บ า ย แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร ท่ี เ ก่ี ย ว ข้ อ ง มคี วามทา้ ทาย รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 309 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สรา้ งหลกั ประกนั ให้มีแบบแผนการผลติ และการบริโภคท่ียง่ั ยืน SDG บรรลุการจดั การทีย่ ง่ั ยืนและการใชท้ รัพยากรธรรมชาติ 12.2 อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ภายในปี 2573 การเพิ่ มข้ึนของจ�ำนวนประชากรและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพิ่ มมากขึ้น ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคบริการ ซึ่งในระยะที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ให้ความส�ำคัญกับการพั ฒนา ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล สอดคล้องกับแนวทางของการส่งเสริมให้มีการผลิตและการบริโภค ท่ียั่งยืน เพื่ อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ท่ีดีของประชาชนทุกคนบนหลักของการบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนโดยลดความเข้มการใช้วัสดุ และการใช้พลังงานของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และลดการปล่อยมลพิ ษและของเสียในกระบวนการสกัดทรัพยากร การผลิต การบริโภค และการก�ำจัด ซ่ึงสามารถพิ จารณาความก้าวหน้าของการด�ำเนินการจากค่าร่องรอยการใช้ วัตถุดิบ (Material Footprint: MF) และการใช้วัตถุดิบในประเทศ (Domestic Material Consumption: DMC) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายย่อย การใช้วัตถุดิบในประเทศต่อประชากร เมื่อพิ จารณาค่าการใช้วัตถุดิบในประเทศ (DMC) ต่อ หน่วย: ตันต่อคน ประชากร พบว่าค่า DMC ต่อประชากรของประเทศไทย ปรับตัวเพิ่ มข้ึนจาก 12.18 ตันต่อคน ในปี 2558 เป็น ท่ีมา: United Nations Global SDG Database 12.73 ตันต่อคนในปี 2560 ซ่ึงในประเทศท่ีพั ฒนาแล้ว ส่วนมากจะมีแนวโน้มค่า DMC ต่อประชากรลดลง การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ปี 2554 - 2563 อย่างไรก็ดี ควรพิ จารณาค่าร่องรอยการใช้วัตถุดิบ (MF) ท่ีสะท้อนประสิทธิภาพด้านการผลิตร่วมด้วย ซึ่ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร จั ด ท� ำ ข้ อ มู ล ตั ว ชี้ วั ด MF และ DMC เพ่ื อให้สามารถสะท้อนสถานการณ์ ด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนของประเทศไทย ได้ดีย่ิงข้ึน นอกจากนี้ ภาครฐั ไดส้ นบั สนนุ ใหม้ กี ารพัฒนาอตุ สาหกรรม ที่มา: กระทรวงอุตสาหกรรม สีเขียวท่ีมีกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการท่ีมี ประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมเพ่ื อให้มี อุตสาหกรรมในก�ำกับที่มีอยู่กว่า 71,130 โรงทั่วประเทศ การประกอบกิจการท่ีมีความรับผิดชอบต่อสังคมตลอด พั ฒนาสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวภายในปี 2568 ห่วงโซ่อุปทาน โดยระหว่างปีงบประมาณ 2554 – 2563 มีจ�ำนวนโรงงาน/สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งได้รับใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว 40,799 ใบ รับรอง1 โดยสถานประกอบการได้ขยายขอบเขตของ ก า ร เ ป็ น อุ ต ส า ห ก ร ร ม สี เ ขี ย ว จ า ก ภ า ย ใ น อ ง ค์ ก ร ไ ป สู่ ภายนอกตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมท้ังสนับสนุนให้คู่ค้า และพั นธมิตรเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวด้วย ทั้งน้ี กรม โรงงานอุตสาหกรรมมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้โรงงาน 1 แบ่งเป็น 5 ระดับ ตามระดับของการพั ฒนาสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ดังน้ี ระดับที่ 1 ความมุ่งม่ันสีเขียว (Green Commitment) ระดับท่ี 2 ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity) ระดับท่ี 3 ระบบสีเขียว (Green System) ระดับท่ี 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) และระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) 310 รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกนั ให้มแี บบแผนการผลติ 12 และการบริโภคท่ีย่งั ยนื SDG บรรลกุ ารจดั การที่ยง่ั ยืนและการใชท้ รัพยากรธรรมชาติ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ภายในปี 2573 12.2 การด�ำเนนิ การที่ผา่ นมา ความทา้ ทาย ก ร ะ ท ร ว ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม การสร้างความย่ังยืนของภาคอุตสาหกรรมให้ควบคู่ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ใ น ภ า ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม อ ย่ า ง ต่ อ เ นื่ อ ง ไ ป กั บ ก า ร ย ก ร ะ ดั บ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร แ ข่ ง ขั น ยั ง เ พ่ื อ ขั บ เ ค ลื่ อ น ก า ร พั ฒ น า ธุ ร กิ จ อุ ต ส า ห ก ร ร ม สู่ เผชิญกับข้อจ�ำกัดในการขับเคล่ือนสู่การปฏิบัติ อาทิ ค ว า ม ย่ัง ยื น ค ว บ คู่ ไ ป กั บ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ห ว่ า ง ความช่วยเหลือและมาตรการจูงใจที่อาจยังไม่เพี ยงพอที่ ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมกับชุมชน อาทิ จะช่วยเร่งรัดให้ผู้ประกอบการด�ำเนินการตามแนวทาง โครงการโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว และโครงการ ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ อุ ต ส า ห ก ร ร ม ที่ ต้ั ง อ ยู่ บ น พื้ น ฐ า น ยกระดับและพั ฒนาโรงงานอุตสาหกรรมในพ้ื นท่ีเมือง ของประสิทธิภาพเชิงเศรษฐนิเวศ (eco-efficiency) อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 7 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา หรือโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี สุราษฎร์ธานี เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: และสงขลา) รวมถึงการผลักดันให้โรงงานอุตสาหกรรม BCG Economy) รวมท้ังความท้าทายในการบูรณาการ ลดความเข้มข้นของการใช้ทรัพยากรเพ่ื อการผลิต ความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ท�ำให้ภาคอุตสาหกรรม ด้วยการน�ำเทคโนโลยีระบบการจัดการส่ิงแวดล้อมไป ไม่สามารถก้าวไปสู่ระบบการผลิตที่ใช้ทรัพยากรอย่างมี ประยุกต์ใช้ อาทิ โครงการเพิ่ มศักยภาพการผลิตของ ประสิทธิภาพและปล่อยคาร์บอนต่�ำได้อย่างเต็มศักยภาพ โรงงานอุตสาหกรรมด้วยระบบการจัดการส่ิงแวดล้อม แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร ถ่ า ย ท อ ด เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร ผ ลิ ต ที่ ส ะ อ า ด ขอ้ เสนอแนะ ส�ำหรับอุตสาหกรรมรายสาขา เพื่ อให้บรรลุการจัดการท่ียั่งยืนและการใช้ทรัพยากร ใน ด้าน การ เกษตร ไ ด้มีการด�ำเนินการเพื่ อ บรรเท า อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกภาคส่วนควรร่วมกันบูรณาการ ปัญหาการสูญเสียและขยะอาหาร อาทิ การเตรียมการ ใ น ก า ร ว า ง แ ผ น ก า ร ผ ลิ ต ท้ั ง ใ น ภ า ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม จั ด ท� ำ แ ผ น ที่ น� ำ ท า ง ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ อ า ห า ร ข อ ง ภาคเกษตร และภาคบริการ ในการประยุกต์ใช้แนวคิด ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ก า ร เ ต รี ย ม ก า ร จั ด ท� ำ ดั ช นี ค ว า ม สู ญ เ สี ย การพั ฒนาที่ย่ังยืนและเศรษฐกิจ BCG ให้เกิดผลใน อ า ห า ร ร ะ ดั บ ช า ติ ( N at i o na l Food Loss I n d ex ) เชิงปฏิบัติ อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงมาตรการท่ีเน้น เพื่ อใช้ในการก�ำหนดนโยบายและมาตรการในการลด ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ จู ง ใ จ ใ ห้ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ป รั บ โ ม เ ด ล ธุ ร กิ จ ป ริ ม า ณ ก า ร สู ญ เ สี ย ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ เ ก ษ ต ร แ ล ะ อ า ห า ร เพ่ื อ เพิ่ ม ประ สิ ท ธิ ภาพก ารผ ลิ ต คว บคู่ ไ ปกั บก า ร ลด ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ผลกระทบทางส่ิงแวดล้อม อาทิ มาตรการทางภาษีท่ี แ ล ะ ท� ำ ใ ห้ ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ใ น ร ะ บ บ ก า ร ผ ลิ ต อ า ห า ร มี เอื้อต่อการน�ำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ในการผลิต รวมถึง ประสิทธิภาพย่ิงข้ึน ก า ร แ ล ก เ ป ลี่ ย น แ น ว ป ฏิ บั ติ อั น เ ป็ น เ ลิ ศ จ า ก ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ตั ว อ ย่ า ง ต ล อ ด ห่ ว ง โ ซ่ ก า ร ผ ลิ ต เ พ่ื อ ก ร ะ ตุ้ น ใ ห้ เกิดการขยายเครือข่ายโรงงานสีเขียวอย่างต่อเนื่อง ต ล อ ด จ น ก า ร ข ย า ย จ� ำ น ว น แ ล ะ ส า น ต่ อ ผ ล ลั พ ธ์ ข อ ง โครงการน�ำร่องท่ีเก่ียวกับการผลิตท่ีย่ังยืนให้ครอบคลุม ในระดับพื้ นท่ีมากยิ่งข้ึน รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 311 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สรา้ งหลักประกนั ให้มแี บบแผนการผลติ และการบริโภคท่ยี ่งั ยืน SDG ลดขยะอาหารของโลกในระดับค้าปลกี และผบู้ ริโภคลงครึ่งหน่งึ 12.3 และลดการสูญเสียอาหารตลอดกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการสูญเสียหลังการเกบ็ เกีย่ ว ภายในปี 2573 ปั ญ ห า ก า ร สู ญ เ สี ย อ า ห า ร แ ล ะ ข ย ะ อ า ห า ร 1ส ะ ท้ อ น ใ ห้ เ ห็ น ถึ ง แ บ บ แ ผ น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค ท่ี ไ ม่ ย่ั ง ยื น มีประสิทธิภาพต�่ำ รวมทั้งก่อให้เกิดต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมที่สูงและเกิดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน โดยขยะอาหาร ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนซึ่งเป็นหน่ึงในก๊าซเรือนกระจกประมาณร้อยละ 8 ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดท่ีปล่อยสู่ ชั้นบรรยากาศ และจะตกค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศโลกนานถึง 10 ปีก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคม ในหลายมิติ โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization: FAO) ประเมินว่ามีการสูญเสียอาหารของโลกตลอดห่วงโซ่อุปทานอยู่ที่ร้อยละ 13.8 ในปี 2559 ขณะท่ีโครงการส่ิงแวดล้อม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) คาดการณ์ว่าในปี 2562 ร้อยละ 17 ของผลผลิตอาหารโลกกลายเป็นขยะอาหารหรือคิดเป็น 931 ล้านตัน ซึ่งร้อยละ 61 มาจากครัวเรือน สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายย่อย การดำ� เนินการทผ่ี ่านมา รายงานดัชนีขยะอาหาร (Food Waste Index Report) ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมได้ร่วมด�ำเนินการเพื่ อ ในปี 2564 ของ UNEP คาดการณ์ว่าประเทศไทยมี ล ด ป ริ ม า ณ ข ย ะ อ า ห า ร แ ล ะ น� ำ อ า ห า ร ส่ ว น เ กิ น ที่ ยั ง มี ปริมาณขยะอาหารจากครัวเรือน 5.48 ล้านตันต่อปี คุ ณ ภ า พ ดี ไ ป บ ริ จ า ค อ า ทิ ก ลุ่ ม มู ล นิ ธิ รั ก ษ์ อ า ห า ร หรือ 78.69 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซ่ึงสูงกว่าค่าเฉล่ีย (Scholars of Sustenance Thailand: SOS ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ร า ย ไ ด้ ป า น ก ล า ง ร ะ ดั บ สู ง ที่ อ ยู่ ใ น ร ะ ดั บ Thailand) ซ่ึงรับบริจาคอาหารส่วนเกินท่ีเหลือจาก 76 กิโลกรัมต่อคนต่อปี อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทย การบริโภคจากโรงแรม ภัตตาคาร เพ่ื อส่งต่อไปยัง ยังขาดการจัดเก็บข้อมูลอาหารส่วนเกินและขยะอาหาร ผู้ที่ต้องการแต่ไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ นอกจากน้ี อย่างเป็นระบบ ท�ำให้การประมาณการดังกล่าวอาจ บ ม จ . ก า ร บิ น ไ ท ย ร่ ว ม กั บ ส ว ท ช . ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร ไม่สะท้อนสถานการณ์ได้แม่นย�ำนัก ท้ังนี้ หน่วยงาน Food Waste Management ซึ่งท�ำให้การบินไทย ท่ี เ กี่ ย ว ข้ อ ง อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ด� ำ เ นิ น ก า ร จั ด ท� ำ ร ะ บ บ ฐ า น ลดการสูญเสียวัตถุดิบจากการผลิตอาหารถึง 400 ข้ อ มู ล ป ริ ม า ณ ก า ร สู ญ เ สี ย อ า ห า ร ใ น ห่ ว ง โ ซ่ อุ ป ท า น กิโลกรัมต่อวันหรือคิดเป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท และฐานข้อมูลขยะอาหาร เพื่ อใช้สนับสนุนการก�ำหนด ต่อปี โดยแนวทางการด�ำเนินงานเน้นการทวนสอบ นโยบายและมาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เ พ่ื อ พั ฒ น า แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง ร ะ บ บ ก า ร ผ ลิ ต อ า ห า ร แ ล ะ การบริการทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ จนถึง ดัชนีขยะอาหาร (Food Waste Index Report) ในปี 2564 การบริหารจัดการขยะบนเท่ียวบิน ที่มา: Food Waste Index Report 2021, UNEP ภาครัฐได้ด�ำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านการลด การสูญเสียอาหาร โดยในคราวประชุมครั้งที่ 1 / 2562 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ได้มีมติคัดเลือกชนิด ข อ ง สิ น ค้ า เ ก ษ ต ร น� ำ ม า ศึ ก ษ า ก า ร สู ญ เ สี ย อ า ห า ร ไ ด้ แ ก่ ( 1 ) ก ลุ่ ม ธั ญ พื ช แ ล ะ ถั่ ว คื อ ข้ า ว ถั่ ว เ ขี ย ว ( 2 ) ก ลุ่ ม ผ ล ไ ม้ แ ล ะ ผั ก คื อ ก ล้ ว ย ล� ำ ไ ย ม ะ เ ขื อ เ ท ศ ก ะ ห ล่� ำ ป ลี ข้ า ว โ พ ด ฝั ก อ่ อ น พ ริ ก ( 3 ) ก ลุ่ ม พื ช หั ว และน�้ำมัน คือ มันส�ำปะหลังปาล์มน�้ำมัน (4) กลุ่ม 1 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาตินิยามการสูญเสียอาหาร (food loss) ว่าหมายรวมถึง การลดลงของอาหารทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณตลอดห่วงโซ่อุปทาน ต้ังแต่การเก็บเกี่ยว การขนส่ง การเก็บรักษาผลผลิตและการแปรรูป ก่อนถึงระดับการค้าปลีก โดยอาหารที่สูญเสียน้ันไม่ได้กลับเข้าสู่กระบวนการผลิตอื่น ๆ ในขณะท่ีนิยามขยะอาหาร (food waste) ว่าเป็นการสูญเสียอาหาร ในตอนปลายห่วงโซ่อุปทานในข้ันตอนการค้าปลีกและการบริโภค 312 รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลกั ประกันใหม้ ีแบบแผนการผลิต 12 และการบรโิ ภคที่ย่งั ยนื SDG ลดขยะอาหารของโลกในระดับค้าปลีกและผบู้ รโิ ภคลงคร่งึ หน่ึง และลดการสูญเสียอาหารตลอดกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน 12.3 รวมถึงการสูญเสียหลังการเก็บเกีย่ ว ภายในปี 2573 ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ คือ นม และ (5) กลุ่มผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอแนะ จากสัตว์น้�ำ คือ ปลานิล กุ้งขาว ควรด�ำเนินการร่วมกับภาคส่วนที่เก่ียวข้องในการจัดท�ำ น อ ก จ า ก นี้ ก ร ม ค ว บ คุ ม ม ล พิ ษ ยั ง ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ศึ ก ษ า ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในด้านปริมาณขยะอาหาร ซ่ึงจะ ส ถ า น ก า ร ณ์ ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ อ า ห า ร ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย น�ำไปสู่การออกแบบและด�ำเนินมาตรการบริหารจัดการ เพ่ื อรวบรวมข้อมูลขยะอาหารที่เกิดข้ึนต้ังแต่ผู้จ�ำหน่าย ข ย ะ อ า ห า ร ไ ด้ อ ย่ า ง ยั่ ง ยื น ร ว ม ทั้ ง ค ว ร ส่ ง เ ส ริ ม ผู้ประกอบอาหารและผู้บริโภคเพื่ อสนับสนุนการลดขยะ การน�ำอาหารไปบริจาค ผ่านการตรากฎหมายที่เอ้ือให้ อาหารและการขับเคล่ือนด้านความม่ันคงตลอดห่วงโซ่ องค์กรกลางสามารถกระจายอาหารเพ่ื อการบริจาค ตามกรอบยุทธศาสตร์การจัดการอาหารของประเทศไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนก�ำหนดมาตรฐาน พ.ศ.2561–2580 การถนอมอาหารและการขนส่งอาหารท่ีบริจาค และ ก�ำหนดแนวทางส่งเสริมให้มีการน�ำขยะอาหารไปแปรรูป ความท้าทาย อ า ทิ ก า ร ส นั บ ส นุ น ใ ห้ แ ย ก จั ด เ ก็ บ ข ย ะ อิ น ท รี ย์ อ อ ก จากขยะท่ัวไป การปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมจัดเก็บ ประเทศไทยประสบกับข้อจ�ำกัดในการจัดการขยะอาหาร ขยะในทุกพื้ นท่ี และมีศูนย์แปรรูปขยะอาหารในระดับ ท่ีมีประสิทธิภาพในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การผูกขาดของ ท้องถ่ิน เพ่ื อให้ธุรกิจขนาดย่อมหรือครัวเรือนสามารถ บริษัทเอกชนที่ให้บริการจัดเก็บและการน�ำขยะกลับมา น�ำขยะอาหารมาแปรรูปเพื่ อใช้ประโยชน์อ่ืนได้ ใช้ใหม่ในพื้ นที่ต่าง ๆ โดยในปัจจุบันมีเพี ยงไม่กี่กลุ่มที่มี ระบบในการขนส่งอาหารตามมาตรฐานสุขอนามัยเพื่ อน�ำ ไปบริจาค นอกจากนี้ พฤติกรรมของประชาชนที่ไม่มี การคัดแยกประเภทขยะ การขาดการคัดแยกขยะของ ห น่ ว ย จั ด เ ก็ บ ข ย ะ แ ล ะ ค ว า ม ไ ม่ พ ร้ อ ม ข อ ง ฐ า น ข้ อ มู ล การจัดการขยะอาหารยังคงเป็นความท้าทายที่ส�ำคัญ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่ี ท� ำ ใ ห้ ป ริ ม า ณ ข ย ะ เ ศ ษ อ า ห า ร ห รื อ ข ย ะ เ ปี ย ก ที่ ถู ก ทิ้ ง ปะปนกับขยะทั่วไปมีปริมาณเพิ่ มข้ึน ทั้งขยะเศษอาหาร เดลเิ วอรแี่ ละขยะจากอาหารทปี่ รงุ ในสถานท่ีพั กอาศัย รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 313 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สร้างหลกั ประกนั ใหม้ แี บบแผนการผลติ และการบริโภคทย่ี ง่ั ยืน SDG บรรลุเร่อื งการจัดการสารเคมีและของเสียทกุ ชนดิ ตลอดวงจรชวี ติ ของสิ่งเหลา่ นน้ั ดว้ ยวธิ ที ่เี ป็นมติ รตอ่ สิ่งแวดล้อม ตามกรอบความรว่ มมือระหวา่ งประเทศทต่ี กลงรว่ มกัน 12.4 และลดการปล่อยสิ่งเหลา่ นน้ั ออกสู่อากาศ นำ้� และดินอยา่ งมนี ยั ส�ำคญั เพื่อจะลดผลกระทบทางลบต่อสุขภาพของมนุษยแ์ ละสิ่งแวดล้อมภายในปี 2563 ประเทศไทยได้ร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาด้านการจัดการสารเคมีและของเสียหลายฉบับ และได้ด�ำเนินการตาม พั นธกรณีและข้อผูกพั นในการจัดการสารเคมีและของเสียตามที่ก�ำหนดไว้ในแต่ละอนุสัญญา อาทิ การควบคุม ก ลุ่ ม ส า ร ไ ฮ โ ด ร ค า ร์ บ อ น - ฮ า โ ล เ จ น ท่ี ส่ ง ผ ล ต่ อ ก า ร ท� ำ ล า ย ช้ั น บ ร ร ย า ก า ศ โ อ โ ซ น ต า ม ข้ อ ก� ำ ห น ด ข อ ง พิ ธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารท�ำลายช้ันบรรยากาศโอโซน การข้ึนบัญชีสารมลพิ ษท่ีตกค้างยาวนาน (Persistent Organic Pollutants: POPs) ภายใต้อนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิ ษที่ตกค้างยาวนาน เพื่ อคุ้มครอง สุขภาพอนามัยของมนุษย์และส่ิงแวดล้อม นอกจากน้ี ยังได้ผลักดันนโยบายระดับประเทศอ่ืน ๆ ในการจัดการ ของเสียอันตรายอย่างถูกวิธีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการก�ำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิ ษ สารอันตรายจากแหล่งก�ำเนิด เพื่ อให้เกิดระบบการจัดการสารเคมีและของเสียที่สอดคล้องกับบริบทของไทยและ ความตกลงระหว่างประเทศ สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย ปริมาณของเสียอันตรายตามแหล่งก�ำเนิด ระหว่างปี 2559 - 2562 (ล้านตัน) ประเทศไทยได้ลงนามร่วมเป็นภาคีใน (1) อนุสัญญาบาเซล ว่ า ด้ ว ย ก า ร ค ว บ คุ ม ก า ร เ ค ล่ื อ น ย้ า ย ข้ า ม แ ด น ข อ ง เ สี ย ท่ีมา: กระทรวงอุตสาหกรรม อันตรายและการก�ำจัด เพื่อควบคุมการน�ำเข้า-ส่งออก และ น�ำผ่านของเสียอันตรายให้เกิดความปลอดภัย ไม่ก่อให้ การลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศท้ัง 5 ฉบับ เ กิ ด ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ สุ ข ภ า พ อ น า มั ย แ ล ะ มุ่ ง ล ด ป ริ ม า ณ ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถบรรลุตัวชี้วัด SDG 12.4.1 สารพิ ษท่ีเกิดจากของเสียหรือขยะ (2) อนุสัญญา ที่ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร เ ข้ า ร่ ว ม แ ล ะ มุ่ ง เ น้ น ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ร อ ต เ ต อ ร์ ดั ม ว่ า ด้ ว ย ก ร ะ บ ว น ก า ร แ จ้ ง ข้ อ มู ล ส า ร เ ค มี พั น ธ ก ร ณี แ ล ะ ข้ อ ก� ำ ห น ด ต่ า ง ๆ ท่ี บั ญ ญั ติ ภ า ย ใ ต้ ล่วงหน้าส�ำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกัน อนุสัญญาฯ แต่ละฉบับ ก�ำจัดศัตรูพื ชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ เพ่ื อสร้างความร่วมมือในการปกป้องสุขภาพอนามัยของ ในระหว่างปี 2559 - 2562 กากของเสียอุตสาหกรรม ม นุ ษ ย์ แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม จ า ก อั น ต ร า ย ข อ ง ส า ร เ ค มี ท่ีเป็นอันตรายท่ีมีการแจ้งการขนส่งในระบบและน�ำเข้าสู่ และส่งเสริมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยต่อส่ิงแวดล้อม ร ะ บ บ ก า ร จั ด ก า ร ก า ก ข อ ง เ สี ย อุ ต ส า ห ก ร ร ม ข อ ง (3) อนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิ ษที่ตกค้าง กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีแนวโน้มลดลงจาก 2.8 ล้านตัน ยาวนาน เพื่ อคุ้มครองสุขภาพอนามัยของมนุษย์และ ในปี 2559 เป็น 1.34 ล้านตันในปี 2562 ซ่ึงอาจเป็น สิ่งแวดล้อม โดยการลดและ/หรือเลิกการผลิตการใช้ เ พ ร า ะ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ข น า ด ก ล า ง แ ล ะ ข น า ด เ ล็ ก ยั ง และการปลดปล่อยสารมลพิ ษท่ีตกค้างยาวนาน (POPs) ขาดความรู้ความเข้าใจท่ีเพี ยงพอในการปฏิบัติตาม (4) อนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท มุ่งเน้นการลด ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ มี ภ า ร ะ ค่ า ใ ช้ จ่ า ย ท่ี ค่ อ น ข้ า ง สู ง ใ น ก า ร ส่ ง ความเสี่ยงเป็นแนวทางหลักในการด�ำเนินงานเพื่ อ ของเสียไปก�ำจัดหรือบ�ำบัด นอกจากน้ี ปริมาณมูลฝอย การจัดการปรอทระหว่างประเทศในระยะยาว ท้ังน้ี กรมควบคุมมลพิ ษท�ำหน้าท่ีเป็นหน่วยงานประสานหลัก ระดับชาติของอนุสัญญาฯ ท้ัง 4 ฉบับ และ (5) พิ ธีสาร ม อ น ท รี อ อ ล ว่ า ด้ ว ย ส า ร ท� ำ ล า ย ชั้ น บ ร ร ย า ก า ศ โ อ โ ซ น เพ่ื อควบคุมยับยั้ง รณรงค์ให้ลดการผลิตและการใช้ สารท�ำลายช้ันบรรยากาศโอโซน และบรรลุการจัดการ สารเคมีและของเสียทุกชนิดตลอดวงจรชีวิตของสิ่ง เหล่านั้นด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ผลจาก 314 รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันให้มีแบบแผนการผลติ 12 และการบรโิ ภคทย่ี ง่ั ยนื บรรลเุ รื่องการจัดการสารเคมีและของเสียทุกชนิดตลอดวงจรชวี ติ ของสิ่งเหลา่ นน้ั SDG ดว้ ยวธิ ีทเ่ี ป็นมติ รตอ่ สิ่งแวดล้อม ตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศท่ตี กลงร่วมกัน 12.4 และลดการปลอ่ ยสิ่งเหล่านัน้ ออกสู่อากาศ นำ้� และดินอย่างมีนัยส�ำคัญ เพ่ือจะลดผลกระทบทางลบตอ่ สุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมภายในปี 2563 ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลงจาก 55,646 ตันในปี 2559 ความทา้ ทาย เป็น 53,173 ตันในปี 2562 ในขณะท่ีของเสียอันตราย จากชุมชน ซึ่งรวมซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและ ป ร ะ เ ด็ น ท้ า ท า ย ส� ำ คั ญ ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด้ ว ย ก า ร เ พ่ิ ม อิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มเพิ่ มข้ึน จาก 0.606 ล้านตัน ประสิทธิภาพของระบบการจัดการของเสียอันตรายและ ในปี 2559 เป็น 0.648 ล้านตัน ในปี 2562 สารเคมีท่ีจ�ำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ท้ังจากภาคการบริโภคและและภาคการผลิต ซึ่งจะช่วย เม่ือพิ จารณาการจัดการของเสียอันตราย พบว่ามี ขับเคล่ือนให้บรรลุตามเป้าหมายท่ีก�ำหนด ซ่ึงในระดับ แ น ว โ น้ ม ก า ร จั ด ก า ร มู ล ฝ อ ย ติ ด เ ช้ื อ อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง ไ ด้ ครัวเรือนยังขาดการคัดแยกของเสียอันตรายอย่างถูกวิธี ดีขึ้น โดยในปี 2562 มูลฝอยติดเชื้อร้อยละ 93.02 ได้รับ ในขณะท่ียังพบการลักลอบท้ิงของเสียและสารเคมีในภาค การจัดการอย่างถูกต้อง เพิ่ มขึ้นจากร้อยละ 88.16 ในปี การผลิตท�ำให้กากอุตสาหกรรมเข้าสู่กระบวนการก�ำจัด 2559 อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงมีความท้าทาย และบ�ำบัดท่ีถูกต้องได้น้อยลง นอกจากนี้ ยังเผชิญกับ ในการจัดการของเสียติดเช้ือจากชุมชน โดยในปี 2562 ข้อจ�ำกัดการใช้ประโยชน์จากเคร่ืองมือในการวางแผน มีของเสียอันตรายชุมชนที่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง การลดใช้สารเคมีในภาคการผลิต เน่ืองจากการจัดท�ำ เพี ยงร้อยละ 16.13 ซึ่งยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ข้อมูลท�ำเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิ ษ ของประเทศท่ีก�ำหนดให้มีสัดส่วนของเสียอันตรายชุมชน (Pollution Release and Transfer Registers: PRTR) ที่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ที่ยังไม่สมบูรณ์ ท�ำให้ฐานข้อมูลท่ีแสดงปริมาณสารเคมี ต า ม แ ผ น แ ม่ บ ท ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ข ย ะ มู ล ฝ อ ย ข อ ง ทีเ่ ป็นอันตรายหรือมลพิษท่มี กี ารปลดปลอ่ ยออกสู่ตวั กลาง ประเทศ (พ.ศ. 2559 - 2564) ส่ิงแวดล้อมยังไม่ครอบคลุม การดำ� เนินการทผ่ี า่ นมา ข้อเสนอแนะ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร ท บ ท ว น แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง ควรเร่งรัดการด�ำเนินงานตามแนวทางภายใต้ยุทธศาสตร์ แผนจัดการระดับชาติเพื่ อการปฏิบัติตามอนุสัญญา การจัดการมลพิ ษ 20 ปี ที่จะน�ำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ สตอกโฮล์มฯ และจัดท�ำท�ำเนียบข้อมูลมลพิ ษท่ีตกค้าง ของระบบการจัดการของเสียอันตรายและสารเคมีให้ ย า ว น า น ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมท้ังการจัดการ ขีดความสามารถของประเทศร่วมกับชาติอ่ืน ๆ ใน มลพิ ษที่ต้นทาง ที่ก�ำหนดให้ภาคการผลิตขับเคลื่อน ภูมิภาคเอเชีย และได้ปรับปรุงข้อมูลท�ำเนียบปรอท เศรษฐกิจควบคู่กับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดท�ำแผนปฏิบัติการระดับชาติ ด้านการจัดการ แ ล ะ มี ม ล พิ ษ ต่� ำ ต ล อ ด จ น เ ร่ ง รั ด ก า ร จั ด ท� ำ ร่ า ง ป ร อ ท น อ ก จ า ก น้ี ยั ง ไ ด้ ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ก า ร จั ด ก า ร ซ า ก เ ค ร่ื อ ง ใ ช้ ไ ฟ ฟ ้า แ ล ะ ล ด แ ล ะ เ ลิ ก ใ ช้ ส า ร ไ ฮ โ ด ร ค ล อ โ ร ฟ ลู อ อ โ ร ค า ร์ บ อ น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ... และปรับปรุงกฎหมาย ( Hyd roc h l o rofl u o roc a r bo n s : H C FCs ) ด้ ว ย ท่ีเก่ียวข้องเพื่ อให้การจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ เป็นไป การสนับสนุนทางการเงินและเทคนิคผ่านโครงการลด อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมุ่งส่งเสริมให้ภาคส่วน และเลิกใช้สาร HCFCs ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2557-2561) ต่าง ๆ ลดการใช้ทรัพยากรท่ีก�ำจัดยาก ลดการเกิด แ ล ะ จั ด ส ร ร สิ ท ธิ ป ริ ม า ณ ก า ร น� ำ เ ข้ า ส า ร H C F C s ของเสียและมลพิ ษต่อส่ิงแวดล้อม รวมท้ังมีการบริโภค แ ล ะ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น ก า ร จั ด ก า ร ส า ร เ ค มี แ ล ะ สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม เ ป็ น ห ลั ก ของเสีย เพ่ื อลดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และ ในชีวิตประจ�ำวัน นอกจากน้ี ควรให้ความส�ำคัญกับ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ภ า ย ใ ต้ อ นุ สั ญ ญ า ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ด้ า น การพั ฒนาระบบ PRTR ผ่านกลไกทางกฎหมาย เพ่ื อ สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ น�ำข้อมูลปริมาณการปล่อยมลพิ ษไปใช้ในการก�ำหนด นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 315 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สรา้ งหลกั ประกันให้มแี บบแผนการผลติ และการบรโิ ภคที่ยง่ั ยนื SDG ลดการเกดิ ของเสียอยา่ งมีนัยส�ำคญั ด้วยการป้องกัน การลดปรมิ าณ 12.5 การใช้ซ้ำ� และการน�ำกลบั มาใชใ้ หม่ ภายในปี 2573 ขยะมูลฝอยชุมชนท่ีเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นบ้านพั กอาศัย ร้านค้า สถานประกอบการ สถานบริการ ตลาดสด รวมถึงเศษวัสดุก่อสร้าง มีปริมาณเพ่ิ มมากข้ึนอย่างต่อเน่ือง อันเป็นผลมาจากการบริโภคท่ีเพ่ิ มสูงข้ึน พร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของชุมชนเมือง ท�ำให้เกิดความท้าทายในการบริหารจัดการขยะ ให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับพ้ื นท่ีก�ำจัดขยะมูลฝอยยังไม่เพี ยงพอ และการคัดแยกขยะมูลฝอยต้ังแต่ต้นทาง ยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง ดังนั้น ภาครัฐจึงได้ก�ำหนดให้การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีการจัดท�ำแผนที่น�ำทางการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย รวมทั้งแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะ มูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. 2559 – 2564) และยุทธศาสตร์การด�ำเนินงานด้านการลดและน�ำของเสียมาใช้ประโยชน์ เพื่ อควบคุมปริมาณของเสียท่ีแหล่งก�ำเนิดและเพ่ิ มประสิทธิภาพการคัดแยก ส่งเสริมการน�ำของเสียกลับมาใช้ซ้�ำ และใช้ประโยชน์ใหม่ การคัดแยกขยะมูลฝอยเพ่ื อใช้ประโยชน์ใหม่และส่วนท่ีเหลือน�ำไปก�ำจัดโดยวิธีท่ีถูกหลักวิชาการ ซึ่งจะช่วยน�ำไปสู่การด�ำเนินการจัดการขยะมูลฝอยที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพอย่างย่ังยืน สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายยอ่ ย การด�ำเนินการทีผ่ ่านมา ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์มลพิ ษของประเทศไทย ก ร ม ค ว บ คุ ม ม ล พิ ษ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ง า น ต า ม แ ผ น แ ม่ บ ท ปี 2562 ระบุว่าในช่วงปี 2553 - 2562 ประเทศไทยมี ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ข ย ะ มู ล ฝ อ ย ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ปริมาณขยะมูลฝอยเพ่ิ มขึ้นจาก 24.22 ล้านตัน ในปี (พ.ศ. 2559 - 2564) โดยได้ด�ำเนินโครงการท�ำความดี 2553 เป็น 28.71 ล้านตันในปี 2562 และในปี 2562 ด้ ว ย หั ว ใ จ ล ด ภั ย ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ซ่ึ ง ไ ด้ จั ด ฝึ ก อ บ ร ม มีขยะมูลฝอยท่ีได้รับการก�ำจัดถูกต้องร้อยละ 34.17 ก า ร ล ด แ ล ะ คั ด แ ย ก ข ย ะ มู ล ฝ อ ย ใ น ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ ของขยะมูลฝอยท้ังหมด ซ่ึงลดลงจากร้อยละ 35.37 การจัดท�ำคู่มือทางวิชาการให้กับองค์กรปกครองส่วน ในปี 2559 อย่างไรก็ตาม มีปริมาณขยะมูลฝอยที่มี ท้ อ ง ถ่ิ น ก า ร ฝึ ก อ บ ร ม เ พ่ื อ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ม ล พิ ษ จ า ก ก า ร น� ำ ก ลั บ ม า ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ใ ห ม่ เ พ่ิ ม ม า ก ข้ึ น อ ย่ า ง การจัดการขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้อง และการด�ำเนิน ต่อเน่ืองจาก 5.81 ล้านตันในปี 2559 (ร้อยละ 21.47 ของ มาตรการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก ซ่ึงได้มีการจัดต้ัง ปริมาณขยะมูลฝอยท้ังหมด) เป็น 12.52 ล้านตันใน คณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติก เพ่ื อจัดท�ำ ปี 2562 (ร้อยละ 43.61 ของปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด) แผนท่ีน�ำทางการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 ร ว ม ท้ั ง จั ด ท� ำ ร่ า ง แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร ด้ า น ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ ปริมาณขยะมูลฝอยท่ีเกิดขึ้น การน�ำกลับมาใช้ประโยชน์ พ ล า ส ติ ก ร ะ ย ะ ท่ี 1 ( พ . ศ . 2 5 6 1 -2 5 6 5 ) ใ น ข ณ ะ ท่ี การก�ำจัดถูกต้องและไม่ถูกต้อง ปี 2553 - 2562 ก ร ม ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น ไ ด้ ร ณ ร ง ค์ ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ มี ก า ร ร ว ม ก ลุ่ ม ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ข ย ะ ผ่ า น ก า ร จั ด ส วั ส ดิ ก า ร ก อ ง ทุ น ธ น า ค า ร ข ย ะ ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถ่ิ น แ ล ะ ก ร ม ส่ ง เ ส ริ ม คุ ณ ภ า พ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ไ ด้ ส นั บ ส นุ น ก า ร เ ติ ม เ ต็ ม ก า ร เ ป็ น ภ า คี สมาชิกข้อตกลงพหุภาคี ด้านสิ่งแวดล้อมเรื่องของเสีย ท่ีเป็นอันตรายและสารเคมี รวมทั้งเสริมสร้างวินัย และการมีส่วนร่วมของคนในชาติ เพื่ อมุ่งสู่การจัดการ ขยะและสิ่งแวดล้อมที่ย่ังยืน 316 ที่มา: กรมควบคุมมลพิ ษ รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกนั ให้มีแบบแผนการผลิต 12 และการบริโภคที่ย่งั ยนื SDG ลดการเกดิ ของเสียอย่างมนี ยั ส�ำคญั ดว้ ยการป้องกัน การลดปรมิ าณ การใช้ซ�้ำ และการน�ำกลับมาใช้ใหม่ ภายในปี 2573 12.5 ความท้าทาย ขอ้ เสนอแนะ ปัจจุบันยังพบว่าการจัดระบบการน�ำขยะมาใช้ใหม่ของ ควรเร่งเสริมสร้างความรู้และจิตส�ำนึกของประชาชนใน ไทยไม่สามารถเพ่ิ มปริมาณการรีไซเคิลในวัสดุอ่ืน ๆ การแยกขยะ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้เกิดการแยก นอกเหนือจากวัสดุอลูมิเนียมได้ เน่ืองจากขยะประเภท ข ย ะ โ ด ย เ น้ น ใ ห้ มี ก า ร ทิ้ ง ข ย ะ ที่ แ ย ก ป ร ะ เ ภ ท แ ล้ ว ใ น อ่ืนไม่ได้รับการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง เช่น แก้วที่แตก แต่ละวันของสัปดาห์บนความร่วมมือกับภาคประชาสังคม เศษอาหารที่ปะปนอยู่ ตลอดจนซากอิเล็กทรอนิกส์ที่ปะปน และภาคเอกชนในการขับเคล่ือนเชิงพฤติกรรมอย่าง อยู่ในกองขยะมูลฝอย เน่ืองจากประชาชนยังไม่มีความรู้ มีระบบ และอ�ำนวยความสะดวกในการจัดการขยะ แ ล ะ จิ ต ส� ำ นึ ก ที่ เ พี ย ง พ อ ใ น ก า ร แ ย ก ข ย ะ ใ น ข ณ ะ ท่ี ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมทั้งควรก�ำหนดนโยบาย ภาคอุตสาหกรรมยังประสบกับต้นทุนที่ค่อนข้างสูงใน การลดใช้ขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) โดยน�ำร่องใน การติดต้ังระบบเทคโนโลยีรีไซเคิลเพ่ื อลดการปลดปล่อย สถานศึกษา และขับเคล่ือนวินัยการแยกขยะ 5Rs โดย ของเสียสู่แหล่งธรรมชาติ นอกจากนี้ สถานการณ์ เพ่ิ มจากหลัก 3Rs คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบเติม การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปี 2563 ส่งผล (Refill) และการซ่อมแซมวัสดุเก่ากลับมาใช้ซ้�ำ (Repair) ให้เกิดปริมาณขยะเพิ่ มมากขึ้น โดยเฉพาะมูลฝอยติดเชื้อ และควรสนับสนุนให้มีการน�ำกากอุตสาหกรรมหรือวัสดุ และขยะท่ีเกิดจากการใช้เพี ยงคร้ังเดียว ด้วยเหตุผลทาง ส่วนเกินกลับเข้ามาใช้ใหม่โดยอาจด�ำเนินการผ่านมาตรการ สุขอนามัย เช่น บรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือภาชนะส�ำหรับ เ ชิ ง ภ า ษี ที่ ส ร้ า ง แ ร ง จู ง ใ จ ใ ห้ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ล ง ทุ น ใ น ใส่อาหารที่มาพร้อมกับบริการส่งอาหารเดลิเวอรี่ เทคโนโลยีรีไซเคิลขั้นสูง นอกจากนี้ ยังควรเร่งจัดท�ำ ฐานข้อมูลเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีเพ่ื อลดการใช้วัสดุและเลือกใช้ วัสดุท่ีเป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 317 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สรา้ งหลักประกนั ใหม้ แี บบแผนการผลติ และการบริโภคท่ียง่ั ยนื SDG สนบั สนุนให้บริษทั โดยเฉพาะบริษทั ขา้ มชาติและบรษิ ัทขนาดใหญ่ 12.6 รับแนวปฏบิ ัติท่ยี ั่งยนื ไปใช้ และผนวกข้อมูลด้านความยัง่ ยืนไว้ ในรอบการรายงานของบริษัทเหลา่ นน้ั การพั ฒนาองค์กรให้ยั่งยืนถือเป็นหัวใจส�ำคัญของการพั ฒนาภาคธุรกิจ ที่ช่วยวางรากฐานให้องค์กรเติบโตได้ ในระยะยาว ซึ่งองค์กรควรให้ความส�ำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีนโยบายและแผนธุรกิจภายใต้ หลักบรรษัทภิบาลและสามารถบริหารจัดการความเส่ียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเงินทุนและผลก�ำไรท่ีใช้ในการขยาย กิจการ มีผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการด�ำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากน้ี นักลงทุนในปัจจุบันหันมาให้ความส�ำคัญกับการลงทุนท่ีสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและส่ิงแวดล้อม มากย่ิงขึ้น โดยการจัดท�ำรายงานความย่ังยืนเป็นเคร่ืองมือหน่ึงที่จะช่วยให้บริษัทแสดงถึงความโปร่งใสและ ความรับผิดชอบต่อผลกระทบจากการด�ำเนินธุรกิจ ซ่ึงครอบคลุมท้ังด้านการต่อต้านการทุจริต อาชีวอนามัย และความปลอดภัย การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซ่ึงในประเทศไทย ส�ำนักงานคณะกรรมการก�ำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องส่งเสริม ให้บริษัทจดทะเบียนไทยเปิดเผยข้อมูลและจัดท�ำรายงานความย่ังยืนท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานสากลตามแนวทาง การรายงานความยั่งยืนของ Global Reporting Initiative (GRI) สถานการณ์การบรรลุเป้าหมายยอ่ ย ประเด็นส�ำคัญด้านความย่ังยืนที่เป็นพื้ นฐาน ในระยะที่ผ่านมาส�ำนักงาน ก.ล.ต. ได้สนับสนุนให้บริษัท จ ด ท ะ เ บี ย น ไ ท ย เ ปิ ด เ ผ ย ข้ อ มู ล แ ล ะ จั ด ท� ำ ร า ย ง า น ความย่ังยืนตามความสมัครใจ โดยข้อมูล ณ วันท่ี 31 สิงหาคม 2563 มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีรายงานหัวข้อการด�ำเนินงานด้านความย่ังยืน 146 บริษัทจาก 725 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.14 ท้ังนี้ ต้ังแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ส�ำนักงาน ก.ล.ต. ได้ก�ำหนดให้ บริษัทจดทะเบียนทุกบริษัทต้องจัดท�ำรายงานตามแบบ 56-1 One Report โดยให้เปิดเผยข้อมูลที่ครอบคลุมมิติ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ซึ่งรวมถึงข้อมูล การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเคารพสิทธิมนุษยชน และการมีกองทุนส�ำรองเล้ียงชีพซ่ึงจะเร่ิมใช้บังคับกับ รอบระยะเวลาบัญชีส้ินสุดวันท่ี 31 ธันวาคม 2564 นอกจากน้ี ในปี 2562 ยังมีบริษัทจดทะเบียนท่ีจัดท�ำ ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย และประเด็นส�ำคัญด้าน ความยั่งยืน ครอบคลุมมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล ตามกรอบการรายงานของ GRI จ�ำนวน 98 บริษัท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14 ซึ่งมีแ น ว โ น้ ม ดี ขึ้ น จ า ก ร้ อ ย ล ะ 1 3 แ ล ะ ร้ อ ย ล ะ 1 1 ใ น ปี 2 5 6 1 และ ปี 2560 ตามล�ำดับ 318 รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกันใหม้ ีแบบแผนการผลติ 12 และการบริโภคท่ยี ่งั ยืน SDG สนบั สนนุ ให้บริษทั โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติและบริษัทขนาดใหญ่ รบั แนวปฏบิ ตั ทิ ี่ย่ังยืนไปใช้ และผนวกขอ้ มลู ดา้ นความยั่งยนื ไว้ 12.6 ในรอบการรายงานของบริษทั เหล่านน้ั การด�ำเนนิ การท่ผี ่านมา ความท้าทาย ส�ำนักงาน ก.ล.ต. ได้จัดท�ำแผนยุทธศาสตร์ส�ำนักงาน แนวความคิดเรื่องความยั่งยืนยังคงจ�ำกัดอยู่ในเฉพาะ คณะกรรมการก�ำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มคนของบริษัท โดยเฉพาะผู้บริหารและคณะกรรมการ พ.ศ. 2562 - 2564 โดยมียุทธศาสตร์ท่ี 2 สร้างโอกาส บริหาร ซึ่งถ้าหากไม่มีการผลักดันจากผู้น�ำขององค์กร ในระดมทุนอย่างมีคุณภาพเพื่ อให้ตลาดทุนเติบโตอย่าง อ า จ ก ล า ย เ ป็ น อุ ป ส ร ร ค ส� ำ คั ญ ต่ อ ก า ร น� ำ ไ ป ป ฏิ บั ติ ใ ห้ ย่ังยืน โดยให้ความส�ำคัญกับการผลักดันให้บริษัทจด เกิดผลเป็นรูปธรรม ท้ังน้ี หลายบริษัทยังมองเรื่อง ทะเบียนน�ำหลักการก�ำกับดูแลกิจการท่ีดี (Corporate เป้าหมายการพั ฒนาที่ยั่งยืนแยกออกจากการด�ำเนิน G ove r na n c e Cod e : CG Cod e ) ไ ป ป รั บ ใ ช้ เ พ่ื อ งานหลักของบริษัท อาจมิได้ผนวกเข้าเป็นส่วนหน่ึงของ สร้างคุณค่าแก่กิจการอย่างยั่งยืนและยกระดับกิจการ แ ผ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ข อ ง บ ริ ษั ท แ ล ะ ก า ร ร า ย ง า น ผ ล ในตลาดทุนสู่ความย่ังยืน รวมถึงการพั ฒนาคุณภาพ ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น อ ย่ า ง เ ป็ น ร ะ บ บ ส่ ง ผ ล ใ ห้ กิ จ ก ร ร ม ก า ร ร า ย ง า น ค ว า ม ย่ั ง ยื น ส� ำ ห รั บ บ ริ ษั ท จ ด ท ะ เ บี ย น ส่วนใหญ่ท่ีผ่านมาเน้นเฉพาะการจัดท�ำโครงการอนุรักษ์ โ ด ย อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร “ O n e Re po r t ” สิ่งแวดล้อมระยะส้ัน นอกจากนี้ ศักยภาพในการน�ำ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่ ออ�ำนวย แนวปฏิบัติท่ียังยืนไปใช้ของบริษัทขนาดกลางและขนาด ความสะดวกแก่บริษัทจดทะเบียนในการลดความซ้�ำซ้อน ยอ่ มของไทย โดยเฉพาะในภาคบรกิ าร ยงั เปน็ ความทา้ ทาย ของแบบแสดงรายการข้อมูลประจ�ำปี (แบบ 56-1) ส� ำ คั ญ ใ น ก า ร ข ย า ย เ ค รื อ ข่ า ย ข อ ง บ ริ ษั ท ย่ั ง ยื น แ ล ะ ร า ย ง า น ป ร ะ จ� ำ ปี ( แ บ บ 5 6 - 2 ) ที่ มี ส า ร ะ ส� ำ คั ญ เนื่องจากมีข้อจ�ำกัดในด้านองค์ความรู้และแนวปฏิบัติ ใ ก ล้ เ คี ย ง กั น ใ ห้ เ ห ลื อ เ พี ย ง แ บ บ เ ดี ย ว โ ด ย มี สำ� คญั เทคโนโลยี รวมทั้งเงินทุน แ ผ น ก า ร ส่ื อ ส า ร แ ล ะ เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม บ ริ ษั ท จ ด ท ะ เ บี ย น ใ ห้ ส า ม า ร ถ ร า ย ง า น ข้ อ มู ล ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ต า ม ขอ้ เสนอแนะ เกณฑ์ใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2565 นอกจากน้ี เพ่ื อส่งเสริมการปฏิบัติอย่างย่ังยืนของบริษัทอย่าง ภาครัฐควรส่งเสริมรูปแบบการท�ำธุรกิจท่ีย่ังยืนให้กลาย ต่ อ เ น่ื อ ง ส� ำ นั ก ง า น ก . ล . ต . ไ ด้ ริ เ ร่ิ ม โ ค ร ง ก า ร เ พ่ื อ เป็นแนวปฏิบัติหลักของธุรกิจทุกขนาด ผ่านการกระจาย ส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านความย่ังยืน (Sustainability อ ง ค์ ค ว า ม รู้ แ ล ะ แ น ว ป ฏิ บั ติ ท่ี ชั ด เ จ น ใ น ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น in Practice) อาทิ โครงการ Kick Start Your SD ความยง่ั ยนื ในหว่ งโซอ่ ปุ ทาน การแลกเปลย่ี นประสบการณ์ Journey ส�ำหรับให้ค�ำปรึกษาอย่างใกล้ชิดแก่กลุ่ม ด้านการจัดการความย่ังยืนท่ีประสบความส�ำเร็จของ บริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็ก ธุรกิจแต่ละขนาด การพั ฒนากลไกทางเศรษฐศาสตร์ มาตรการทางภาษีหรือการสนับสนุนทางการเงินเพ่ื อ สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการบริษัทขนาดกลางและ 319 เล็กสามารถน�ำหลักการการพั ฒนาที่ย่ังยืนไปปฏิบัติ ได้อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ในระดับบริษัทควร จัดล�ำดับการด�ำเนินงานด้านการพั ฒนาท่ียั่งยืนใน ลักษณะที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร การสื่อสาร ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ด้ า น แ น ว ท า ง ป ฏิ บั ติ ที่ ยั่ ง ยื น จ า ก ระดับนโนบายสู่การปฏิบัติจริง ตลอดการสนับสนุน ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ผู้ มี ส่ ว น ไ ด้ ส่ ว น เ สี ย ทั้ ง ภ า ย ใ น แ ล ะ ภายนอกองค์กร เพื่ อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบ ธรรมภิบาลปรับปรุงการรายงานความย่ังยืนให้สามารถ สะท้อนมุมมองท่ีหลากหลาย โปร่งใสและครบถ้วน ซ่ึงจะ เป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สร้างหลกั ประกันให้มีแบบแผนการผลิต และการบริโภคที่ยง่ั ยนื SDG ส่งเสรมิ แนวปฏบิ ัติดา้ นการจัดซือ้ จดั จา้ งของภาครฐั ทีย่ ัง่ ยืน 12.7 ตามนโยบายและการใหล้ ำ� ดบั ความความส�ำคัญของประเทศ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ กั บ ก า ร ส ร้ า ง ก ล ไ ก ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ ป็ น มิ ต ร ต่ อ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ผลิตภัณฑ์ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและช่วยลดการสร้างมลพิ ษตลอดวัฏจักรชีวิตให้เหลือน้อยที่สุด รวมถึง การมีแผนส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งครอบคลุมทั้งหน่วยงานส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัย หน่วยงานในก�ำกับของภาครัฐ และองค์กร มหาชน และจะขยายผลไปยังภาคเอกชนและประชาชน เพ่ื อส่งเสริมให้เกิดการเปล่ียนแปลงรูปแบบการผลิต สนับสนุนให้เกิดการบริโภคสินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นในอนาคต สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย การด�ำเนินการทผ่ี ่านมา แ ผ น ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร จั ด ซื้ อ จั ด จ้ า ง สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ท่ี ภ า ค รั ฐ ไ ด้ อ อ ก พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ก า ร จั ด ซ้ื อ จั ด จ้ า ง แ ล ะ เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ก า ร บ ริ ห า ร พั ส ดุ ภ า ค รั ฐ พ . ศ . 2 5 6 0 เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริ ม ได้ก�ำหนดเป้าหมายให้เพิ่ มหน่วยงานภาครัฐ องค์กร ก า ร คั ด เ ลื อ ก ข้ อ เ ส น อ ก า ร จั ด ซ้ื อ จั ด จ้ า ง ท่ี ค� ำ นึ ง ถึ ง ปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภายใต้การก�ำกับ พั สดุท่ีอนุรักษ์พลังงานหรือสิ่งแวดล้อม และเพื่ อให้ ของรัฐเข้าร่วมโครงการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการ ห น่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ ไ ด้ มี ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ที่ ค ล่ อ ง ตั ว ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ร้ อ ย ล ะ 1 0 0 ก ล่ า ว คื อ ม า ก ข้ึ น แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ แ น ว ป ฏิ บั ติ น า น า ช า ติ หน่วยงานภาครัฐท้ังหมดจะต้องมีรายการการจัดซ้ือ ร ว ม ถึ ง ก า ร ผ ลั ก ดั น ก ฎ ก ร ะ ท ร ว ง เ พื่ อ ช่ ว ย เ ห ลื อ จัดจ้างสีเขียว แม้ว่าในปี 2562 ประเทศไทยยังไม่บรรลุ ผู้ประกอบการ SMEs ภายในประเทศ และส่งเสริมการใช้ ตามเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ แต่หน่วยงานมีแนวโน้มท่ีจะ พั ส ดุ ที่ ผ ลิ ต ภ า ย ใ น ป ร ะ เ ท ศ แ ล ะ พั ส ดุ ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ เข้าร่วมโครงการจัดซ้ือจัดจ้างฯ เพ่ิ มมากข้ึน โดยใน ส่ิงแวดล้อม สอดรับกับกรอบนโยบาย BCG Economy ปี 2562 มีหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเข้าร่วม โครงการฯ มากถึงร้อยละ 97 และร้อยละ 98 ตามล�ำดับ น อ ก จ า ก น้ี ยั ง ไ ด้ มี ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม กิจกรรมเชิงบวกเพ่ื อกระตุ้นให้ประชาชนได้รับทราบ ร้อยละของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการจัดซ้ือจัดจ้าง ข้ อ มู ล ข่ า ว ส า ร มี ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ แ ล ะ เ ห็ น ถึ ง สินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความส�ำคัญของความย่ังยืน โดยได้สร้างมาตรฐาน และรับรองคุณภาพในระบบโรงแรมสีเขียว (Green Hotel) แก่ผู้ประกอบการโรงงานระดับท้องถิ่น อาทิ โครงการพั ฒนาผู้ประกอบการโรงแรมในการเข้าสู่ ม า ต ร ฐ า น โ ร ง แ ร ม สี เ ขี ย ว ใ น ร ะ ดั บ จั ง ห วั ด แ ล ะ ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว ที่ ล ด ค า ร์ บ อ น ร ว ม ท้ั ง ก า ร จั ด ตั้ ง ศู น ย์ ข้ อ มู ล บั ญ ชี ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ท่ี เ ป็ น มิ ต ร กั บ สิ่งแวดล้อมเพื่ อบริการภาคเอกชน ที่มา: กรมควบคุมมลพิ ษ นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิ ษได้ร่วมกับภาคส่วนที่ เกี่ยวข้องด�ำเนินการสนับสนุนมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ ส ร้ า ง ม า ต ร ฐ า น แ ล ะ อ อ ก ฉ ล า ก สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ต่ า ง ๆ เพ่ื อสนับสนุนการจัดซ้ือจัดจ้างที่ยั่งยืนส�ำหรับองค์กร และประชาชน โดยในการด�ำเนินการของภาคเอกชนนั้น 320 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกันให้มแี บบแผนการผลติ 12 และการบรโิ ภคที่ยง่ั ยนื SDG ส่งเสรมิ แนวปฏบิ ัตดิ ้านการจดั ซื้อจดั จา้ งของภาครัฐที่ยั่งยืน ตามนโยบายและการให้ลำ� ดับความความส�ำคัญของประเทศ 12.7 ส ภ า อุ ต ส า ห ก ร ร ม แ ห่ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ด้ จั ด ท� ำ ร ะ บ บ ข้อเสนอแนะ การรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศรายการสินค้า ที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม รวมถึงการด�ำเนินการสร้าง ค ว ร ป รั บ ป รุ ง ร ะ เ บี ย บ ที่ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร จั ด ซื้ อ จั ด จ้ า ง นิ ค ม อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ ชิ ง นิ เ ว ศ สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ใ ห้ เ อื้ อ ต่ อ ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ข อ ง ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ แ ล ะ ภ า ย ใ ต้ ความทา้ ทาย การก�ำกับดูแลของรัฐมากข้ึน ซ่ึงจะท�ำให้โครงการ จัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของประเทศไทยประสบความส�ำเร็จ ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ แ ล ะ ห น่ ว ย ง า น ภ า ย ใ ต้ มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังควรส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ การก�ำกับดูแลของรัฐให้เข้าร่วมโครงการจัดซ้ือจัดจ้าง ข้อมูลบัญชีผลิตภัณฑ์ บัญชีผู้ประกอบการ และเผย สี เ ขี ย ว ยั ง มี ข้ อ จ� ำ กั ด ด้ า น ง บ ป ร ะ ม า ณ ท่ี ไ ด้ รั บ จั ด ส ร ร แพร่ประโยชน์ท่ีได้รับจากการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้าและ ยั ง ไ ม่ เ อื้ อ ใ ห้ พิ จ า ร ณ า สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ที่ เ ป็ น มิ ต ร บริการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม รวมถึงพั ฒนาระบบ ต่อส่ิงแวดล้อม เน่ืองจากราคาสินค้าท่ีค่อนข้างสูง รับรองฉลากสิ่งแวดล้อมเพื่ อเพิ่ มประเภทและจ�ำนวน จากวัตถุดิบท่ีมีความจ�ำเพาะเจาะจง หรือใช้เคร่ืองมือ สินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจน อุปกรณ์มากกว่าการด�ำเนินงานทั่วไป จึงส่งผลต่อ ผลักดันการใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ อสนับสนุน การตัดสินใจในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องด�ำเนิน การจัดซื้อจัดจ้างที่ย่ังยืน เพื่ อกระตุ้นให้ภาคเอกชน การตามระเบียบของภาครัฐ รวมถึงข้อจ�ำกัดของ ทุกระดับเข้าร่วมโครงการมากย่ิงขึ้น นโยบายและมาตรการเพ่ื อส่งเสริมให้น�ำระบบจัดซ้ือ จัดจ้างสินค้าสีเขียวเป็นส่วนหน่ึงของการด�ำเนินธุรกิจ ซ่ึงมีเพี ยงธุรกิจขนาดใหญ่ที่สามารถขับเคลื่อนการจัดซื้อ จดั จา้ งท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 321 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สรา้ งหลักประกนั ให้มีแบบแผนการผลิต และการบริโภคที่ย่งั ยนื SDG สรา้ งหลักประกนั วา่ ประชาชนในทกุ แห่งมีขอ้ มลู ทีเ่ กยี่ วข้องและมีความตระหนกั ถงึ การพัฒนาทีย่ ่ังยนื และวิถีชวี ติ ที่สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติ ภายในปี 2573 12.8 การปรับเปลี่ยนรูปแบบการด�ำเนินชีวิตของประชาชนเพื่ อให้เกิดการพั ฒนาที่สมดุลในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมนั้น จ�ำเป็นต้องปลูกฝังแนวคิดด้านการพั ฒนาที่ย่ังยืนตั้งแต่ในวัยเด็ก ซึ่งการศึกษาเป็นส่วนส�ำคัญ ในการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว ผ่านการก�ำหนดนโยบายและหลักสูตรการศึกษาที่ส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ ท่ีเอ้ือต่อการสร้างและปรับพฤติกรรมท่ีสอดคล้องกับการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม พั ฒนาการจัดการเรียนรู้ ตลอดชีวิตด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา มีการประเมินด้านความตระหนักรู้และแนวทาง การด�ำรงชีวิตท่ีสอดคล้องกับการพั ฒนาอย่างย่ังยืนซึ่งมุ่งเน้นผลลัพธ์ระยะยาวอย่างเป็นระบบ สถานการณ์การบรรลเุ ป้าหมายย่อย ใ น ด้ า น ห ลั ก สู ต ร ไ ด้ มี ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น หมวดวิชาแกนกลางกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และวิชาการ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 ก�ำหนด จัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม นอกจากน้ี แนวทางการจัดการศึกษา โดยยึดหลักการจัดการศึกษา ได้มีการจัดการศึกษาขั้นพื้ นฐาน ตามหลักสูตรการศึกษา เพื่ อปวงชน เท่าเทียมและทั่วถึง บนหลักการมีส่วนร่วม นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้ นฐาน พ.ศ. 2551 ให้กับ ของทุกภาคส่วน และเป้าหมายการพั ฒนาที่ยั่งยืน ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ป ร ะ ช า ช น ท่ั ว ไ ป ท่ี ไ ม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ น ร ะ บ บ เ พ่ื อ ใ ห้ ค น ไ ท ย ทุ ก ค น ไ ด้ รั บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ เ รี ย น รู้ โรงเรียนในรายวิชาบังคับใน 5 สาระการเรียนรู้ ได้แก่ ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สร้างเสริมคุณภาพชีวิต สาระทักษะการเรียนรู้ สาระความรู้พื้ นฐาน สาระการ ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ประกอบอาชีพ สาระทักษะการด�ำเนินชีวิต และสาระการ การเปลี่ยนแปลงของโลก โดยมุ่งพั ฒนาผู้เรียนทุกคน พั ฒนาสังคม ซ่ึงในเรื่องความเป็นพลเมือง และการศึกษา ให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 เ พ่ื อ ก า ร พั ฒ น า ที่ ย่ั ง ยื น จ ะ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร จั ด ซึ่ ง น อ ก จ า ก ทั ก ษ ะ ด้ า น ก า ร อ่ า น อ อ ก เ ขี ย น ไ ด้ แ ล ะ การเรียนการสอนในสาระการพัฒนาสังคม รายวิชาสังคม คิดเลขเป็น (Reading, Writing, Arithmetic) ศึกษา รายวิชาศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง และรายวิชา ยั ง ค ร อ บ ค ลุ ม ทั ก ษ ะ ด้ า น อ่ื น ๆ อ า ทิ ทั ก ษ ะ ด้ า น การพั ฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ ทักษะ ด้านความร่วมมือ การท�ำงานเป็นทีม และภาวะผู้น�ำและ ความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็น ทักษะส�ำคัญส�ำหรับการเป็นพลเมืองโลก 322 รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกันให้มแี บบแผนการผลติ 12 และการบริโภคทย่ี ง่ั ยืน สร้างหลกั ประกันวา่ ประชาชนในทกุ แหง่ มีข้อมลู ท่เี กยี่ วขอ้ งและมคี วามตระหนกั SDG ถงึ การพัฒนาที่ยัง่ ยนื และวิถีชวี ติ ทีส่ อดคล้องกบั ธรรมชาติ ภายในปี 2573 12.8 การด�ำเนนิ การท่ผี า่ นมา นอกจากนี้ ภาครัฐได้สนับสนุนการสร้างเครือข่ายอาสา ส มั ค ร พิ ทั ก ษ์ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม หมู่บ้าน (ทสม.) อย่างต่อเน่ือง เพ่ื อส่งเสริมการเรียนรู้ น อ ก ห้ อ ง เ รี ย น แ ล ะ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ใ น พื้ นที่ อาทิ การจัดการขยะมูลฝอย การพิ ทักษ์และ ฟ้ ืนฟู ป่าไม้ การอนุรักษ์และฟ้ ืนฟู ทรัพยากรน�้ำ โดยใน ปัจจุบันมี ทสม. ทั่วประเทศ 254,368 คน ภาครัฐร่วมกันภาคส่วนต่าง ๆ ได้ร่วมกันเสริมสร้าง ความท้าทาย ก า ร ต ร ะ ห นั ก รู้ แ ล ะ ป ลู ก ฝั ง จิ ต ส� ำ นั ก ด้ า น ก า ร อ นุ รั ก ษ์ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม โ ด ย พั ฒ น า ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น เ พ่ื อ ส ร้ า ง ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก รู้ เ ร่ื อ ง องค์ความรู้ หลักสูตรและกิจกรรมต้นแบบและสื่อการ การพั ฒนาท่ีย่ังยืนส่วนใหญ่ยังคงกระจุกตัวอยู่ในภาครัฐ เรียนการสอน เพื่ อส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลกและ เป็นหลัก นอกจากนี้ การกระจุกตัวของบุคลากรทาง ก า ร ศึ ก ษ า เ พื่ อ ก า ร พั ฒ น า ที่ ย่ั ง ยื น อ า ทิ โ ร ง เ รี ย น การศึกษาและองค์ความรู้ด้านการพั ฒนาที่ย่ังยืนเฉพาะ ส่ิงแวดล้อมศึกษาเพื่ อการพั ฒนาที่ย่ังยืนหรืออีโคสคูล ในสถานศึกษาบางแห่ง ส่งผลต่อความเหลื่อมล้�ำใน (Eco-School) ที่สนับสนุนแนวคิดการจัดการศึกษา การเข้าถึงข้อมูลและการรับรู้ข่าวสารด้านการพั ฒนาที่ เพื่ อการพั ฒนาท่ียั่งยืนโดยเน้นการพั ฒนาโรงเรียน ยั่ ง ยื น ข อ ง นั ก เ รี ย น ก ลุ่ ม ต่ า ง ๆ ท้ัง นี้ ก า ร จั ด ใ ห้ มี ท้ังระบบ ตั้งแต่ระดับนโยบายของโรงเรียน การจัด การศึกษาด้านพลเมืองโลกและการพั ฒนาท่ีย่ังยืน กระบวนการเรียนรู้ท่ีเชื่อมโยงกับท้องถ่ิน การจัดการ ไม่อาจรับประกันว่าจะมีการน�ำองค์ความรู้เหล่านั้นไปปฏิบัติ ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ใ น โ ร ง เ รี ย น แ ล ะ ก า ร ป ร ะ ส า น ได้จริงในชีวิตประจ�ำวัน ความร่วมมือกับชุมชนและภาคส่วนอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้อง โ ด ย ใ น ปั จ จุ บั น มี จ� ำ น ว น โ ร ง เ รี ย น อี โ ค ส คู ล ทั้ ง ส้ิ น ข้อเสนอแนะ 189 โรงเรียน ครอบคลุมทุกภาคท่ัวประเทศ แบ่งเป็น ระดับประถมศึกษา 135 โรงเรียน และระดับมัธยมศึกษา ควรเน้นการสร้างความตระหนักรู้เร่ืองการพั ฒนา 54 โรงเรียน นอกจากนี้ ยังได้มีการสนับสนุนกิจกรรม ท่ียั่งยืนและความเป็นพลเมืองโลก ผ่านรูปแบบสื่อ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ประชาสัมพั นธ์ท่ีหลากหลาย อาทิ การจัดเวทีถ่ายทอด ใ น ม ห า วิ ท ย า ลั ย โ ร ง เ รี ย น แ ล ะ เ ค รื อ ข่ า ย เ ย า ว ช น ค ว า ม รู้ ผ่ า น ท า ง โ ท ร ทั ศ น์ วิ ท ยุ สื่ อ ดิ จิ ทั ล แ ล ะ สื่ อ อ า ทิ ก า ร พั ฒ น า สู่ ม ห า วิ ท ย า ลั ย สี เ ขี ย ว ( G r e e n สังคมออนไลน์ การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ University) การฝึกอบรมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากร ออนไลน์ท่ีรองรับผู้เรียนจ�ำนวนมาก (Massive Open ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม Online Courses: MOOC) รวมทั้งควรมีการพั ฒนา ศักยภาพของบุคลากรหลักสูตรการเรียนการสอนด้าน การพัฒนาท่ียั่งยืน และมีการประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรม ต ล อ ด จ น บู ร ณ า ก า ร ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ข อ ง ภ า ค ส่ ว น ที่ เกี่ยวข้อง อาทิ การจับคู่บริษัทกับสถาบันการศึกษาและ ป ร ะ ช า สั ง ค ม ใ น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ชุ ม ช น การสร้างจิตส�ำนึกและความรู้ในการผลิตและการบริโภค ท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมการลด ละ เลิกสร้างขยะด้วยตัวเรา เป็นต้น รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 323 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สร้างหลกั ประกันใหม้ ีแบบแผนการผลิต และการบรโิ ภคทยี่ ง่ั ยืน SDG สนับสนุนประเทศก�ำลงั พัฒนาในการเสรมิ ความแขง็ แกรง่ 12.a ของขดี ความสามารถด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีทจ่ี ะขบั เคลือ่ น ไปสู่แบบแผนการผลิตและการบรโิ ภคทย่ี งั่ ยืนย่งิ ขน้ึ ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น แ บ บ แ ผ น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร บ ริ โ ภ ค ท่ี ย่ั ง ยื น จ� ำ เ ป็ น ต้ อ ง อ า ศั ย ก า ร พั ฒ น า ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่ อช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้เกิดการปรับเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตและ การบริโภคไปสู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ลดมลพิ ษและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงช่วยเพ่ิ มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตร อุตสาหกรรมและบริการ ด้วย การยกระดับศักยภาพการผลิต พั ฒนารูปแบบและสร้างมูลค่าเพ่ิ มให้กับสินค้าและบริการ ตลอดจนช่วยกระตุ้นและ สร้างความตระหนักรู้ของผู้บริโภคไปสู่พฤติกรรมการบริโภคท่ีย่ังยืน ท้ังนี้ หนึ่งในแนวทางการเสริมความแข็งแกร่ง ของขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่ อขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน สามารถท�ำได้ ผ่านการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนท่ีผลิตได้ภายในประเทศเพ่ิ มขึ้น ส่งเสริมการวิจัย พั ฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีที่เก่ียวข้อง เพื่ อเพิ่ มผลิตภาพการผลิต และลดต้นทุนทางสังคมและส่ิงแวดล้อม สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย ก�ำลังผลิตติดตั้งของการผลิตไฟฟา้ จากพลังงานหมุนเวียนต่อประชากร ปี 2559 - 2561 ข้อมูลจาก UN Global SDG Database ระบุว่าสัดส่วน ก� ำลังผลิตติดตั้งของการผลิตไ ฟฟ้าจากพลั ง ง าน หมุนเวียน ต่อหัวประชากรของประเทศไทยมีแนวโน้ม เพิ่ มขึ้นอย่างต่อเน่ือง โดยในปี 2561 มีก�ำลังผลิต ติดตั้งฯ อยู่ที่ 163.822 วัตต์ ต่อคนเพ่ิมข้ึนจากปี 2560 และปี 2559 ที่มีก�ำลังผลิตติดต้ังฯ อยู่ท่ี 148.003 วัตต์ ต่อคน และ 136.895 วัตต์ต่อคน ตามล�ำดับ ซ่ึงสะท้อน ถึ ง แ น ว โ น้ ม ก า ร เ ข้ า ถึ ง บ ริ ก า ร พ ลั ง ง า น ส ะ อ า ด ที่ ดี ข้ึ น ของประเทศไทย ในมิติความร่วมมือระหว่างประเทศ ประเทศไทยได้ร่วม ที่มา: UN Global SDG Database ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม แ ผ น ป ฏิ บั ติ ก า ร ว่ า ด้ ว ย ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ด้านพลังงานอาเซียน (ASEAN Plan of Action ในปี 2563 อยู่ท่ี 11,890 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นร้อยละ 18 for Energy Cooperation (APAEC) 2016 - 2025) ของก�ำลังการผลิตติดต้ังไฟฟา้ จากพลังงานทดแทนของ ซ่ึงประกอบไปด้วย 7 สาขาความร่วมมือ ครอบคลุม อาเซียน ด้านความม่ันคงทางพลังงาน การใช้พลังงานอย่างมี ประสิทธิภาพและการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงาน ห มุ น เ วี ย น โ ด ย ก� ำ ห น ด เ ป้ า ห ม า ย ร่ ว ม กั น ใ น ก า ร ล ด ความเข้มการใช้พลังงานในภาคการก่อสร้างการขนส่ง และอุตสาหกรรมลงร้อยละ 32 (จากค่าปี 2548) ภายใน ปี 2568 และเพิ่ มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ ร้อยละ 35 เทียบกับปริมาณก�ำลังการผลิตติดต้ังของ โรงไฟฟา้ ทั้งหมด ภายในปี 2025 ซึ่งในปัจจุบันประเทศ สมาชิกอาเซียนด�ำเนินการได้เพี ยงร้อยละ 27.1 โดย ประเทศไทยมีก�ำลังการผลิตติดต้ังจากพลังงานทดแทน 324 รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สร้างหลักประกันใหม้ แี บบแผนการผลติ 12 และการบริโภคที่ย่งั ยนื SDG สนับสนนุ ประเทศกำ� ลงั พัฒนาในการเสริมความแขง็ แกรง่ ของขีดความสามารถดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีทจ่ี ะขบั เคล่อื น 12.a ไปสู่แบบแผนการผลติ และการบรโิ ภคท่ยี ่ังยนื ยง่ิ ข้นึ การด�ำเนินการทผ่ี า่ นมา พลังงานหมุนเวียนเพ่ื อผลิตไฟฟา้ อาทิ การขออนุญาต ผ ลิ ต ไ ฟ ฟ ้า จ า ก พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น ท่ี มี ค ว า ม ซั บ ซ้ อ น ประเทศไทยได้ด�ำเนินโครงการ Renewable Energy การเข้าถึงเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่ยังมีต้นทุนสูง Technologies in Cities and Urban Planning ตลอดจนข้อจ�ำกัดด้านเสถียรภาพของไฟฟา้ พลังงาน for Renewable Energy Applications in หมุนเวียนที่ผลิตได้จากวัตถุดิบต่าง ๆ ภายในประเทศ Thailand ซ่ึงเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพั ฒนา พ ลั ง ง า น ท ด แ ท น แ ล ะ อ นุ รั ก ษ์ พ ลั ง ง า น ร่ ว ม กั บ นอกจากน้ี งบการลงทุนด้านการวิจัยและพั ฒนาของ สมาชิกทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ รั ฐ วิ ส า ห กิ จ ด้ า น พ ลั ง ง า น ใ น ไ ท ย ยั ง ค่ อ น ข้ า ง น้ อ ย (International Renewable Energy Agency: เ ม่ื อ เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ ว ง เ งิ น ที่ ก� ำ ห น ด ใ ห้ รั ฐ วิ ส า ห กิ จ มี I R E N A ) เ พ่ื อ ข อ ค� ำ แ น ะ น� ำ ด้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี พ ลั ง ง า น ก า ร จั ด ส ร ร ง บ ป ร ะ ม า ณ เ พ่ื อ ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า ห มุ น เ วี ย น ใ น ก า ร อ อ ก แ บ บ เ มื อ ง น อ ก จ า ก นี้ ยั ง ไ ด้ อย่างน้อยร้อยละ 3 ของก�ำไรสุทธิในแต่ละปี ตามมติคณะ ผลักดันการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพ่ื อผลิตไฟฟ้า รัฐมนตรีเม่ือวันท่ี 24 กันยายน 2556 อีกท้ังการลงทุน โ ด ย พั ฒ น า เ ค รื่ อ ง ก� ำ เ นิ ด ไ ฟ ฟ้า ข อ ง กั ง หั น ล ม ผ ลิ ต ส่วนใหญ่ไม่สามารถต่อยอดหรือพั ฒนางานวิจัยไปสู่ ไฟฟา้ ขนาดเล็ก การเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี การสร้างนวัตกรรมเพ่ื อก่อให้เกิดรายได้แก่องค์กร แ ล ะ ก า ร ผ ลิ ต ข อ ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ ชื้ อ เ พ ลิ ง ชี ว ม ว ล แ ล ะ ไดส้ ำ� เรจ็ โรงไฟฟ้าพลังน�้ำชุมชน ข้อเสนอแนะ นอกจากนี้ กองทุนเพื่ อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ไ ด้ ส นั บ ส นุ น ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า ท่ี ส� ำ คั ญ ก า ร น� ำ ควรเพิ่ มความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและ พ ลั ง ง า น แ ส ง อ า ทิ ต ย์ แ ล ะ พ ลั ง ง า น ล ม ไ ป ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ภาควิชาการท้ังภายในและต่างประเทศ เพื่ อศึกษาวิจัย ก า ร เ พ่ิ ม ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ก า ร ใ ช้ พ ลั ง ง า น ด้ ว ย ร ะ บ บ พั ฒ น า แ ล ะ แ ล ก เ ป ล่ี ย น เ ท ค โ น โ ล ยี ด้ า น พ ลั ง ง า น Internet of Things (IoT) และการพั ฒนาเทคโนโลยี หมุนเวียนและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และควรสนับสนุน ก า ร กั ก เ ก็ บ พ ลั ง ง า น แ ล ะ เ ซ ล ล์ เ ช้ือ เ พ ลิ ง ( E n e rgy การวิจัยและพั ฒนาและการลงทุนในโครงสร้างพ้ื นฐาน S t o r a g e & Fu e l C e l l ) ร ะ บ บ ส ม า ร์ ท ก ริ ด แ ล ะ ด้านพลังงานและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ควบคู่ไปกับ ไมโครกริด การวางแผนและพั ฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ เพ่ื อสร้าง ความย่ังยืนให้กับองค์กร โดยมุ่งเน้นการน�ำผลงาน ความทา้ ทาย วิจัยมาใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ และลดการน�ำเข้าเทคโนโลยีและอุปกรณ์จากต่างประเทศ ก า ร เ ป ล่ี ย น ผ่ า น ไ ป สู่ ก า ร ใ ช้ พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น เ พ่ื อ การผลิตไฟฟ้าที่สูงข้ึนยังเป็นความท้าทายส�ำคัญเชิง นอกจากน้ี ยังควรพั ฒนาระบบโครงข่ายไฟฟา้ อัจฉริยะ นโยบายของภาครัฐ เนื่องจากแผนพัฒนาก�ำลังการผลิต ระบบสายส่งไฟฟ้าให้เช่ือมโยงกันมากข้ึนแต่ละพ้ื นที่ ไฟฟา้ ของประเทศไทย พ.ศ. 2561 - 2580 (Thailand รวมทั้งประสิทธิภาพของระบบกักเก็บพลังงาน ตลอดจน Power Development Plan 2018: PDP2018) ได้ ป รั บ ป รุ ง น โ ย บ า ย รั บ ซื้ อ ไ ฟ ฟ ้า ใ ห้ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ต้ น ทุ น ก�ำหนดให้มีการขยายสัดส่วนของก�ำลังการผลิตไฟฟา้ ก า ร ผ ลิ ต ที่ แ ท้ จ ริ ง แ ล ะ ผ ลั ก ดั น ก า ร แ ก้ ไ ข ป รั บ ป รุ ง จากเช้ือเพลิงฟอสซิล โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเป็น กฎระเบียบ และกระบวนการออกใบอนุญาตการด�ำเนิน ร้อยละ 58 ภายในปี 2580 เมื่อเปรียบเทียบกับแผน ธุ ร กิ จ ด้ า น พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น ใ ห้ ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ ส ะ ด ว ก PDP2015 ซ่ึงก�ำหนดไว้เพียงร้อยละ 37 ภายในปี 2579 ย่ิงขึ้น แต่ยังคงสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนไว้เท่าเดิมที่ รอ้ ยละ 20 ทง้ั น้ี ยงั มอี ปุ สรรคอนื่ ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การใช้ รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 325 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สร้างหลักประกันให้มแี บบแผนการผลติ และการบรโิ ภคทีย่ ง่ั ยนื SDG พัฒนาและด�ำเนินการใช้เคร่ืองมือเพ่ือติดตามผลกระทบของการพัฒนาท่ยี งั่ ยืน ต่อการท่องเท่ยี วที่ยั่งยนื ทม่ี ีการสร้างงานและส่งเสรมิ วฒั นธรรม 12.b และผลติ ภัณฑ์ท้องถน่ิ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ทรัพยากร เพ่ิ มข้ึน ซึ่งเม่ือเกินความสามารถในการรองรับของพ้ื นท่ี ชุมชนจะได้รับผลกระทบในทางลบมากกว่าผลประโยชน์ ดังน้ัน การท่องเท่ียวจึงจ�ำเป็นต้องมีการปรับรูปแบบให้มีความย่ังยืน ซ่ึงนอกจากการสร้างรายได้ให้กับชุมชนแล้ว ยังสามารถสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ย่ังยืน สร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งน้ี ภาครัฐจ�ำเป็นต้องพั ฒนา เครื่องมือทางการบัญชีเพ่ื อติดตามผลกระทบในมิติทางเศรษฐกิจและส่ิงแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เพ่ื อใช้สนับสนุน การจัดท�ำนโยบายด้านการท่องเที่ยวท่ีย่ังยืนบนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ต่อไป สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย อันดับขีดความสามารถด้านความยั่งยืน ของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว (Travel & Tourism Competitiveness Index: TTCI) ที่มา: TTCI ซ่ึงจัดท�ำโดย World Economic Forum สะท้อนให้ เห็นว่าประเทศไทยมีพั ฒนาการท่ีดีข้ึนอย่างต่อเน่ือง โดยในปี 2562 ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 31 ของโลก จาก 140 ประเทศท่ัวโลก ปรับตัวดีข้ึนจากอันดับท่ี 34 ในปี 2560 และอันดับท่ี 35 ในปี 2558 อย่างไรก็ดี เ ม่ื อ พิ จ า ร ณ า อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ย่ อ ย ด้ า น ค ว า ม ยั่ ง ยื น ด้านส่ิงแวดล้อม พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับท่ี 130 ในปี 2562 ซึ่งห่างจากค่าเป้าหมายในแผนแม่บทฯ ป ร ะ เ ด็ น ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ที่ ก� ำ ห น ด ไ ว้ ที่ อั น ดั บ ที่ 1 1 0 ภายในปี 2565 อีกท้ังยังมีการปรับตัวลดลงของ อันดับในด้านการบ�ำบัดน้�ำเสีย การเปล่ียนแปลงของ สภาพป่า และค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ทั้งน้ี องค์ประกอบย่อยด้านทรัพยากรทาง วั ฒ น ธ ร ร ม แ ล ะ ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว เ พ่ื อ ธุ ร กิ จ ข อ ง ไ ท ย ปรับตัวดีขึ้น โดยอยู่อันดับที่ 35 ในปี 2562 ดีขึ้นจาก อันดับท่ี 37 ในปี 2560 326 นอกจากน้ี กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬายังได้เร่ิม การศึกษาแนวทางการจัดท�ำบัญชีต้นทุนด้านทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม (System of Environmental- Economic Accounting: SEEA) ร่วมกับบัญชี ประชาชาติด้านการท่องเท่ียว (Tourism Satellite Account) ซึ่งจะเป็นการประเมินการท่องเที่ยวอย่าง ย่ั ง ยื น ต า ม ก ร อ บ แ น ว ท า ง ข อ ง Wo r l d To u r i s m Organization (UNWTO) เพ่ื อสะท้อนให้เห็นถึงผล กระทบของการท่องเท่ียวต่อทรัพยากรน้�ำ พลังงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการสร้างขยะ รายงานความกา้ วหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลักประกันใหม้ แี บบแผนการผลิต 12 และการบริโภคทยี่ ง่ั ยนื พัฒนาและด�ำเนนิ การใช้เคร่อื งมือเพื่อตดิ ตามผลกระทบของการพัฒนาท่ยี ัง่ ยนื SDG ตอ่ การท่องเทีย่ วทย่ี ัง่ ยืนท่มี ีการสร้างงานและส่งเสรมิ วัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์ทอ้ งถน่ิ 12.b การดำ� เนินการทผี่ า่ นมา ความทา้ ทาย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดท�ำยุทธศาสตร์ การบังคับใช้กฎหมายเพื่ อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมยัง การส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) ไม่เข้มงวดมากพอ โดยเฉพาะในพ้ื นที่ท่องเท่ียวหลักท่ีมี พ . ศ . 2 5 6 0 - 2 5 6 4 ซ่ึ ง ส อ ด รั บ กั บ แ ผ น พั ฒ น า จ�ำนวนนักท่องเท่ียวเกินความสามารถในการรองรับ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว แ ห่ ง ช า ติ ฉ บั บ ที่ 2 ซึ่ ง มุ่ ง พั ฒ น า การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่ อลดความแออัด การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม และส่งเสริม ของนักท่องเท่ียวยังเผชิญกับข้อจ�ำกัดด้านการขนส่ง ให้ชุมชนมีบทบาทส�ำคัญในการพั ฒนาการท่องเท่ียว สาธารณะและโครงสรา้ งพื้นฐาน นอกจากนี้ การท่องเทีย่ ว เ ชิ ง พ้ื น ท่ี ม า ก ข้ึ น แ ล ะ ก ร ม อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ สั ต ว์ ป่ า เ ชิ ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ยั ง ข า ด ค ว า ม ชั ด เ จ น และพั นธ์ุพื ช มีการตรวจประเมินมาตรฐานคุณภาพ ในรูปแบบและยังมีข้อจ�ำกัดในการจัดเก็บและรวบรวม แหล่งท่องเท่ียวในอุทยานแห่งชาติเพ่ื อน�ำผลการตรวจ ข้ อ มู ล ส่ ง ผ ล ใ ห้ ก า ร จั ด ท� ำ น โ ย บ า ย ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ประเมินดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการพั ฒนาแหล่ง ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ข อ ง ชุ ม ช น ใ ห้ เ ป็ น ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน รวมทั้งได้ด�ำเนินโครงการประกวด แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ท่ี ย ว เ ชิ ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ยั ง ไ ม่ มี ค ว า ม ชั ด เ จ น อุทยานแห่งชาติสีเขียว (Green National Parks) ต ล อ ด จ น ข้ อ จ� ำ กั ด ใ น ก า ร บู ร ณ า ก า ร ข้ อ มู ล ร ะ ห ว่ า ง ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่ อพั ฒนา หน่วยงานและการจัดเก็บข้อมูลระดับพื้ นที่ ส่งผลให้ยัง อุทยานแห่งชาติให้มีมาตรฐานในระดับสากล นอกจากน้ี ไม่สามารถจัดท�ำบัญชี TSA-SEEA ได้อย่างเป็นรูปธรรม ยังได้มีการจัดต้ังหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการด�ำเนิน การด้านการพั ฒนาสินค้าและบริการเชิงสร้างสรรค์ ข้อเสนอแนะ แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม อ า ทิ อ ง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ก า ร พั ฒ น า พื้ น ที่ พิ เ ศ ษ เ พื่ อ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว อ ย่ า ง ยั่ ง ยื น แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร บั ง คั บ ใ ช้ ก ฎ ห ม า ย ท่ี จ ริ ง จั ง ผ่ า น ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตลอดจน การเพ่ิ มศักยภาพของเจ้าหน้าท่ีรัฐ รวมท้ังการประยุกต์ ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ห ว่ า ง ม ห า วิ ท ย า ลั ย ใช้เทคโนโลยี เพ่ื อดูแลรักษาส่ิงแวดล้อม ส่งเสริม กับชุมชนเพ่ื อพั ฒนาสินค้าและบริการ OTOP ให้ได้ ก า ร ศึ ก ษ า ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ร อ ง รั บ ข อ ง พื้ น ที่ มาตรฐานในระดับสากลอีกด้วย ท่องเที่ยวในประเทศเพื่ อน�ำไปประกอบการออกแบบ น โ ย บ า ย แ ล ะ แ ผ น ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว เ พื่ อ ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว อย่างยั่งยืน สนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่ 327 ส ร้ า ง ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ภ า ค รั ฐ ภ า ค เ อ ก ช น แ ล ะ ภาคประชาสังคมในรูปแบบ Ecotourism Startups หรือกิจการเพื่ อสังคม นอกจากนี้ เน้นการบริหาร จั ด ก า ร ฐ า น ข้ อ มู ล ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว เ ชิ ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ท่ี มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ เ พ่ื อ ก� ำ ห น ด แ น ว ท า ง การพั ฒนานโยบายและมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ได้อย่างเหมาะสม ท้ังนี้ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควร บู ร ณ า ก า ร ก า ร ท� ำ ง า น ร่ ว ม กั น ต้ั ง แ ต่ ก า ร เ ช่ื อ ม โ ย ง การท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ไปจนถึงการสร้างมูลค่า เ พ่ิ ม ใ ห้ กั บ สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร ร ว ม ท้ั ง เ ร่ ง รั ด ใ ห้ มี ก า ร จั ด ท� ำ บั ญ ชี ป ร ะ ช า ช า ติ ด้ า น ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ที่ ร ว ม ต้นทุนด้านส่ิงแวดล้อมเพ่ื อส่งเสริมให้เกิดการจัดท�ำ นโยบายท่องเที่ยวท่ีค�ำนึงถึงต้นทุนทางด้านสิ่งแวดล้อม อยา่ งเป็นระบบในระยะต่อไป รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

12 สรา้ งหลกั ประกันให้มแี บบแผนการผลิต และการบรโิ ภคทย่ี ง่ั ยืน SDG ทำ� ใหก้ ารอดุ หนุนเช้อื เพลงิ ฟอสซิลทไี่ ร้ประสิทธิภาพและน�ำไปสู่การบรโิ ภคที่ส้ินเปลือง มีความสมเหตุสมผล โดยกำ� จดั การบดิ เบอื นทางการตลาดโดยให้สอดคล้องกบั สภาวะแวดลอ้ ม 12.c ของประเทศ รวมถึงการปรบั โครงสร้างภาษีและยกเลิกการอุดหนุนที่กอ่ ให้เกิดผลกระทบเชิงลบ เหล่าน้นั เพ่ือสะทอ้ นผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม โดยค�ำนงึ อยา่ งเต็มที่ถงึ ความจ�ำเป็น และเงอ่ื นไขเฉพาะของประเทศกำ� ลังพัฒนาและลดผลกระทบทางลบที่อาจเกดิ ขึน้ ตอ่ การพัฒนา ของประเทศเหล่านน้ั ในดา้ นการคมุ้ ครองคนยากจนและชมุ ชนที่ไดร้ ับผลกระทบ การใช้พลังงานจากเช้ือเพลิงฟอสซิลมีส่วนส�ำคัญต่อการเติบโตและการพั ฒนาโดยรวมของไทย ภาครัฐจึงมี การให้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิง ทั้งในภาคการขนส่ง ครัวเรือน และการผลิตไฟฟา้ เพื่ อสนับสนุนการยกระดับสถานะ ทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ดี การอุดหนุนดังกล่าวถือเป็นภาระทางการเงินต่อภาครัฐและเศรษฐกิจของ ประเทศ อีกทั้งยังมีส่วนในการกระตุ้นการบริโภคพลังงานที่มากเกินจําเป็น ส่งผลต่อผลิตภาพของเศรษฐกิจโดยรวม และยังก่อให้เกิดการปล่อยมลพิ ษและก๊าซเรือนกระจกมากข้ึน จึงมีความพยายามสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน รูปแบบต่าง ๆ ท้ังเชื้อเพลิงชีวภาพ และการผลิตไฟฟา้ จากพลังงานหมุนเวียน เพื่ อช่วยลดภาระการอุดหนุนเชื้อเพลิง ฟอสซิลและบรรเทาผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม สถานการณก์ ารบรรลุเป้าหมายย่อย การด�ำเนนิ การที่ผ่านมา เม่ือพิ จารณาจากเงินอุดหนุนเช้ือเพลิงฟอสซิลของ ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ ไ ด้ ใ ห้ ค ว า ม ส� ำ คั ญ ต่ อ ก า ร เ พิ่ ม ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย โ ด ย อ้ า ง อิ ง จ า ก U N G l oba l S DG ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ก า ร ใ ช้ พ ลั ง ง า น อ ย่ า ง ต่ อ เ น่ื อ ง โ ด ย Database พบว่าค่าใช้จ่ายในด้านดังกล่าวลดลงอย่าง สนับสนุนการลดการอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่เป็น ต่อเนื่อง โดยในปี 2560 เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล สาเหตุส�ำคัญของมลพิ ษและก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริม อยู่ท่ี 0.42 พั นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 1.05 การใช้พลังงานทดแทนภายในประเทศให้เพ่ิ มสูงขึ้น พั นล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 0.87 พั นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในระหว่างปี 2562 - 2563 ภาครัฐได้สนับสนุน ในปี 2558 และ ในปี 2560 ตามล�ำดับ ซึ่งเป็นไปใน การด�ำเนินงานที่เก่ียวข้องอาทิ โครงการเพ่ิมประสิทธิภาพ ทิศทางเดียวกันกับสัดส่วนของเงินอุดหนุนเช้ือเพลิง การใช้พลังงานและการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสม ฟอสซิลต่อ GDP โดยลดลงจากร้อยละ 0.27 ในปี ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ใ น อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ ค ร่ือ ง ท� ำ ค ว า ม เ ย็ น ซ่ึง เ ป็ น 2556 เป็น 0.09 ในปี 2560 ซึ่งแนวโน้มที่ลดลง ความร่วมมือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายและมาตรการท่ีเป็นผลในการลด ส� ำ นั ก ง า น น โ ย บ า ย แ ล ะ แ ผ น ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ การอุดหนุนเช้ือเพลิงฟอสซิลของไทย สิ่งแวดล้อมและองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของเยอรมนี (GIZ) และโครงการเพิ่ มประสิทธิภาพ เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลของประเทศไทย การใช้พลังงานทางเลือก รวมถึงการส่งเสริมการวิจัย และพั ฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก หน่วย: ดอลลาร์ สรอ. อ า ทิ โ ค ร ง ก า ร ศึ ก ษ า ท บ ท ว น บั ญ ชี ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ราคาขายปลีกน้�ำมันเช้ือเพลิงและก๊าซ LPG ตลอดจน การปรับโครงสร้างภาษีเพ่ื อช่วยสร้างความเป็นธรรม ในการจัดเก็บภาษีและท�ำให้กลไกตลาดสามารถท�ำงาน ได้อย่างสมบูรณ์ โดยกระทรวงการคลังได้ด�ำเนินการ ปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ท่ีจัดเก็บภาษี ตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ท่ีจะช่วยลดการปล่อย CO2 ส่งเสริมการใช้รถยนต์ ประหยัดพลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้า 328 ที่มา: UN Global SDG Database รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

สรา้ งหลกั ประกนั ให้มแี บบแผนการผลติ 12 และการบริโภคทีย่ ่งั ยืน ท�ำใหก้ ารอุดหนุนเชอ้ื เพลงิ ฟอสซิลทไ่ี รป้ ระสิทธิภาพและนำ� ไปสู่การบรโิ ภคทีส่ ้ินเปลอื ง SDG มีความสมเหตุสมผล โดยกำ� จดั การบดิ เบือนทางการตลาดโดยให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม 12.c ของประเทศ รวมถงึ การปรับโครงสร้างภาษแี ละยกเลิกการอดุ หนุนทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบเชิงลบ เหล่าน้นั เพื่อสะทอ้ นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยค�ำนึงอยา่ งเต็มทีถ่ ึงความจำ� เป็น และเงอ่ื นไขเฉพาะของประเทศก�ำลังพัฒนาและลดผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้นตอ่ การพัฒนา ของประเทศเหลา่ น้นั ในด้านการค้มุ ครองคนยากจนและชุมชนทไ่ี ด้รบั ผลกระทบ ความท้าทาย ขอ้ เสนอแนะ ในระยะแรก การปรับลดการอุดหนุนพลังงานเชื้อเพลิง ค ว ร มี ก า ร ว า ง แ ผ น ก า ร ล ด ก า ร อุ ด ห นุ น เ ช้ื อ เ พ ลิ ง ท่ีจ�ำเป็น อาทิ แก๊สหุงต้ม และน�้ำมันดีเซล เพื่อให้สามารถ ฟอสซิลอย่างรอบคอบ เพ่ื อให้ภาคส่วนต่าง ๆ สามารถ ส ะ ท้ อ น ร า ค า ท่ี แ ท้ จ ริ ง ข อ ง ต ล า ด ม า ก ย่ิ ง ข้ึ น อ า จ ส่ ง ป รั บ ตั ว ต่ อ ร า ค า พ ลั ง ง า น จ ะ ส ะ ท้ อ น ต้ น ทุ น ท่ี แ ท้ จ ริ ง ผลกระทบต่อการด�ำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะ ในอนาคต โดยควรคงมาตรการอุดหนุนท่ีเฉพาะเจาะจง ผู้ท่ีมีรายได้น้อย ในขณะท่ีการปรับเปล่ียนพฤติกรรม กั บ ก ลุ่ ม ผู้ มี ร า ย ไ ด้ น้ อ ย เ ท่ า ที่ จ� ำ เ ป็ น ใ น ร ะ ย ะ ย า ว การใช้พลังงานของประชาชน ครัวเรือน องค์กร และ ค ว ร เ น้ น ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ใ ช้ พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น อ ย่ า ง ภาคอุตสาหกรรมและคมนาคม ถือเป็นความท้าทาย จริงจังเพ่ื อทดแทนพลังงานฟอสซิล ผ่านการส่งเสริม ส�ำคัญในระยะยาว เน่ืองจากต้องอาศัยการบูรณาการ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการผลิต และการใช้พลังงาน การขับเคลื่อนมาตรการในมิติต่าง ๆ อย่างเป็นองค์รวม ทดแทนอย่างกว้างขวาง การปรับมาตรการจูงใจ ต ล อ ด จ น ข้ อ จ� ำ กั ด ด้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ใ น ส� ำ ห รั บ ก า ร ล ง ทุ น จ า ก ภ า ค เ อ ก ช น ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม กั บ ก า ร พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ ข อ ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม พ ลั ง ง า น สถานการณ์ การแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่ยัง ทางเลือกในไทย ซ่ึงมีต้นทุนสูงและยังต้องพ่ึ งพา ไม่เอ้ือต่อการพั ฒนาพลังงานทดแทน การปรับปรุง อ ง ค์ ค ว า ม รู้ แ ล ะ แ น ว ป ฏิ บั ติ จ า ก ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ เ ป็ น ห ลั ก ระบบโครงสร้างพื้ นฐาน การประชาสัมพั นธ์และสร้าง ร ว ม ทั้ ง ข้ อ ก� ำ จั ด ใ น เ ชิ ง ภู มิ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ซึ่ ง มี ความรู้ความเข้าใจต่อประชาชน ตลอดจนการส่งเสริม ศักยภาพในการรองรับการผลิตพลังงานหมุนเวียนท่ี ให้งานวิจัยเป็นเคร่ืองมือในการพั ฒนาอุตสาหกรรม แตกต่างกันไป พลังงานทดแทนแบบครบวงจร รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 329 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

เป้าหมายที่ 13 ปฏบิ ตั ิการอยา่ งเรง่ ด่วนเพื่ อต่อสู้ กบั การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ และผลกระทบทเ่ี กดิ ข้ึน SDG 13: Take urgent action to combat climate change and its impacts 330 รายงานความกา้ วหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDG Progress Report 2016-2020

ปฏิบัติการอย่างเร่งดว่ นเพื่ อต่อสกู้ ับการเปลี่ยนแปลง 13 สภาพภูมิอากาศและผลกระทบทเ่ี กิดขน้ึ SDG 13 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินชีวิตของมนุษย์ สิ่งแวดล้อมและการพั ฒนาทาง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของฤดูกาล การเกิดภัยพิ บัติ การสูญพั นธุ์ของสิ่งมีชีวิต ตลอดจน การเปลี่ยนรูปแบบการกระจายของเชื้อโรคและพาหะน�ำโรค ปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือก๊าซเรือนกระจก ซ่ึงมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และมีเทน (CH4) ท่ีมีแหล่งก�ำเนิดหลักมาจากการเผาไหม้ เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นองค์ประกอบส�ำคัญ การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศยังเป็นหน่ึงสาเหตุหลักของการเกิด ภัยพิ บัติทางธรรมชาติท่ีมีความถ่ีและมีแนวโน้มท่ีจะทวีความรุนแรงมากข้ึน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและ สังคมในวงกว้าง ซ่ึงประชาคมโลกได้ร่วมกันหาแนวทางความร่วมมือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและบรรเทา ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและได้พั ฒนามาเป็นความตกลงปารีส เพ่ื อควบคุมการเพ่ิ มขึ้น ของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก เพิ่ มขีดความสามารถในการปรับตัวและฟ้ ืนตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการพั ฒนาแบบคาร์บอนต�่ำท่ีไม่กระทบการผลิตอาหาร มีภูมิต้านทานและสามารถฟ้ นื ตัว จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมให้สัตยาบันเมื่อวันท่ี 21 กันยายน 2559 สถานการณ์การบรรลเุ ป้าหมาย ประเทศไทยได้จัดส่งข้อเสนอการมีส่วนร่วมในการลด ขณะเกิดภัยและหลังเกิดภัย รวมท้ังก�ำกับการด�ำเนินการ ก๊าซเรือนกระจกและการด�ำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลง ให้เป็นไปตามกรอบพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา สภาพภูมิอากาศ (NDC) ต่อส�ำนักเลขาธิการ UNFCCC1 สาธารณภัย พ.ศ. 2550 และสอดคล้องกับกรอบเซนได ซ่ึงในปี 2563 ร้อยละ 50 ขององค์กรปกครองส่วน โ ด ย ก� ำ ห น ด เ ป้ า ห ม า ย ล ด ก า ร ป ล่ อ ย ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก ท้องถ่ินได้จัดท�ำและด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ การลด ข้ันต�่ำที่ร้อยละ 20 จากกรณีปกติ2 และเป้าหมายขั้นสูง ความเสี่ยงจากภัยพิ บัติระดับท้องถิ่นที่สอดคล้องกับ ที่ร้อยละ 25 จากกรณีปกติ ภายในปี 2573 และได้ ยุทธศาสตร์ระดับประเทศ บรู ณาการมาตรการดา้ นการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ในนโยบายและแผนระดับชาติ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ ในมิติต่างประเทศ ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือ แผนพั ฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 ทางวิชาการแก่ประเทศก�ำลังพั ฒนาและประเทศพั ฒนา น้อยที่สุดในด้านการจัดการภัยพิบัติ และการเสริมสร้าง ร ว ม ท้ั ง อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร จั ด ท� ำ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ร ะ ย ะ ย า ว ใ น ขีดความสามารถในการรับมือและปรับตัวต่อผลกระทบ การพั ฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่�ำของประเทศไทย จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการฝึก โ ด ย ใ น ร ะ ย ะ ที่ ผ่ า น ม า ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ส า ม า ร ถ ล ด อบรมระยะสั้นและการให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท การปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้แล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 14 นอกจากน้ี ประเทศไทยยังได้รับการสนับสนุนจาก หรือลดได้ท้ังส้ิน 51.72 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ กองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund: เทียบเท่า (MtCO2eq) ในปี 2563 ซ่ึงมีแนวโน้มว่าจะ GCF) ในการด�ำเนินกิจกรรมด้านการเพ่ิ มศักยภาพและ สามารถบรรลุเป้าหมายข้ันต�่ำท่ีก�ำหนดไว้ใน NDC ได้ เตรียมความพรอ้ มของหน่วยประสานงานหลักของประเทศ ภายในปี 2573 และยังด�ำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่ อ พั ฒนาศักยภาพการบริหารจัดการและการลดความเสี่ยง จากภัยพิ บัติ รวมทั้งจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทา ส า ธ า ร ณ ภั ย 3แ ห่ ง ช า ติ พ . ศ . 2 5 5 8 เ พ่ื อ พั ฒ น า ระบบการป้องกัน การเตรียมความพร้อม ตลอดจน การลดความเส่ียงจากสาธารณภัยต้ังแต่ก่อนเกิดภัย 1 กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) 331 2 กรณีปกติ หรือ Business-as-Usual (BAU) หมายถึง กรณีท่ีไม่มีการด�ำเนินมาตรการลดก๊าซเรือนกระจก ซ่ึงในกรณีของประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพ่ิ มข้ึนจาก 279.129 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (MTCO2eq) ในปี 2548 เป็น 554.649 MTCO2e ในปี 2573 3 สาธารณภัยเป็นการประยุกต์แนวคิดเร่ืองภัยพิ บัติตามบริบทของประเทศไทย โดยพระราชบัญญัติป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550ก�ำหนดให้สาธารณภัย หมายถึง อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์น้�ำ การระบาดของศัตรูพื ช ตลอดจนภัยอ่ืน ๆ อันมีผลกระทบต่อสาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ท�ำให้เกิดข้ึน อุบัติเหตุ หรือเหตุอื่นใด ซ่ึงก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชนหรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ และให้หมายความรวมถึงภัยทางอากาศ และการก่อวินาศกรรมด้วย รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

13 ปฏบิ ัตกิ ารอย่างเรง่ ด่วนเพื่ อตอ่ สกู้ ับการเปลีย่ นแปลง สภาพภูมิอากาศและผลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ SDG 13 การดำ� เนนิ การที่ผา่ นมา ร ะ บ บ ติ ด ต า ม พ ย า ก ร ณ์ แ ล ะ เ ตื อ น ภั ย ล่ ว ง ห น้ า ใ น ระดับพ้ื นท่ีท่ีแม่นย�ำ อีกท้ังกระบวนการท�ำงานของ ประเทศไทยได้จัดท�ำแผนท่ีน�ำทางการลดก๊าซเรือนกระจก ภาครัฐไม่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่น ของประเทศ ปี พ.ศ. 2564 - 2573 และอยู่ระหว่างจัดท�ำ รวมท้ังภาคเอกชนในพื้ นท่ีเท่าท่ีควร ท�ำให้การรับรู้ ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเส่ียงและการเตรียมความพร้อมท่ีเหมาะสมของ เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ใ ห้ มี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ป ริ ม า ณ ก า ร ป ล่ อ ย ประชาชนยังอยู่ในวงจ�ำกัด การกักเก็บ การลดก๊าซเรือนกระจก และการจัดท�ำ รายงาน โดยวิธีตรวจวัดรายงานและทวนสอบที่ได้ ขอ้ เสนอแนะ มาตรฐานตามพั นธกรณีระหว่างประเทศ ควรเพิ่ มพู นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ น อ ก จ า ก น้ี ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร ส ร้ า ง ก า ร ต ร ะ ห นั ก รู้ แ ล ะ และภาคส่วนอื่น ๆ ทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น ใน ปลูกฝังจิตส�ำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม รั บ มื อ กั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก สิ่งแวดล้อม รวมทั้งพั ฒนาองค์ความรู้ หลักสูตรและ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ โ ด ย ก� ำ ห น ด ส่ือการเรียนการสอน เพ่ื อส่งเสริมความเป็นพลเมือง เ ป้ า ห ม า ย ร่ ว ม กั น แ ล ะ ห า รื อ แ น ว ท า ง ท่ี เ ห ม า ะ ส ม กั บ โ ล ก แ ล ะ ก า ร ศึ ก ษ า เ พื่ อ ก า ร พั ฒ น า ท่ี ย่ั ง ยื น อ า ทิ ลักษณะทางกายภาพ และวิถีการด�ำเนินชีวิตในพื้ นที่ โรงเรียนส่ิงแวดล้อมศึกษาเพ่ื อการพั ฒนาท่ียั่งยืน นอกจากนี้ ควรใช้เทคโนโลยีในการส่ือสารความเส่ียง แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า เ ค รื อ ข่ า ย อ า ส า ส มั ค ร พิ ทั ก ษ์ แ ล ะ ส ร้ า ง ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก รู้ เ กี่ ย ว กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ที่ จ ะ ส่ ง ผ ล ต่ อ ก า ร ด� ำ ร ง ชี วิ ต ข อ ง ซ่ึงในปัจจุบัน มี ทสม. ทั่วประเทศ จ�ำนวน 254,368 คน ป ร ะ ช า ช น ต ล อ ด จ น เ ร่ ง พั ฒ น า แ ล ะ บู ร ณ า ก า ร ฐ า น ข้ อ มู ล เ ก่ี ย ว กั บ ภั ย พิ บั ติ ท่ี ค ร บ ถ้ ว น แ ล ะ เ ป็ น ปั จ จุ บั น ความทา้ ทาย เ พ่ื อ ส นั บ ส นุ น ก า ร ก� ำ ห น ด น โ ย บ า ย แ ล ะ ม า ต ร ก า ร ใ น การบริหารจัดการและการลดความเสี่ยงจากภัยพิ บัติ ข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเพื่ อให้ประชาชนมีการรับรู้ ข อ ง ภ า ค เ อ ก ช น แ ล ะ ก า ร จั ด เ ก็ บ ข้ อ มู ล ก า ร ป ล่ อ ย ค ว า ม เ ส่ี ย ง ต่ อ ภั ย พิ บั ติ ม า ก ข้ึ น แ ล ะ มี ก า ร เ ต รี ย ม ก๊าซเรือนกระจกท่ีไม่เป็นระบบ ส่งผลต่อการติดตาม ความพร้อมท่ีเหมาะสม และประสานความร่วมมือกับ ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ด้ า น ก า ร ล ด ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก ข อ ง ภ า ค ส่ ว น อ่ื น ๆ ใ น ก า ร เ ร่ ง รั ด ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ป ร ะ เ ท ศ ใ ห้ แ ม่ น ย� ำ แ ล ะ เ ป็ น ไ ป ต า ม ม า ต ร ฐ า น ส า ก ล แผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ รวมถึงการลด อี ก ท้ั ง ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ม า ต ร ก า ร แ ล ะ แ น ว ป ฏิ บั ติ ท่ี ข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงข้อมูลเพื่ อจัดท�ำบัญชีก๊าซเรือน ก�ำหนดไว้ใน NDC ต้องใช้การลงทุนสูง โดยเฉพาะใน กระจกของประเทศ ด้ า น เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ โ ค ร ง ส ร้ า ง พ้ื น ฐ า น ซึ่ ง ยั ง ข า ด ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีในประเทศ ผลการประเมินสถานะของ SDG 13 นอกจากนี้ ประเภทของความเสี่ยงและความรุนแรง บรรลุค่าเป้าหมาย: ของผลกระทบจากภัยพิ บัติยังแตกต่างกันในแต่ละ สามารถบรรลุค่าเป้าหมาย 100% พื้ นท่ีตามความล่อแหลมต่อภัยพิ บัติและศักยภาพใน การรับมือ ส่งผลให้มีความท้าทาย ทั้งในด้านการจัดท�ำ SDG SDG และด�ำเนินการตามแผนการป้องกันและลดความเสี่ยง จากอันตรายและภัยพิ บัติระดับท้องถ่ิน รวมถึงการมี 13.a 13.b SDG SDG SDG 13.1 13.2 13.3 ต�่ำกว่าค่าเป้าหมาย: สถานการณ์อยู่ในช่วง 76-99% ของค่าเป้าหมาย 332 รายงานความกา้ วหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ปฏิบัตกิ ารอย่างเรง่ ด่วนเพื่ อต่อสกู้ ับการเปลี่ยนแปลง 13 สภาพภูมิอากาศและผลกระทบทเ่ี กิดข้ึน SDG 13 กรณศี กึ ษา โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมคั รใจตามมาตรฐาน ของประเทศไทย (TVER) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) การด�ำเนินโครงการ T-VER เช่น ช่วยลดมลพิ ษด้าน (อบก.) ได้จัดท�ำโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ส่ิงแวดล้อมสนับสนุนเศรษฐกิจในชุมชน เพ่ิ มรายได้แก่ ตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary ชุมชนและเพิ่ มพ้ื นท่ีสีเขียว และอ่ืน ๆ รวมถึงส่งเสริม Emission Reduction Program T-VER) เพื่อส่งเสริม การพั ฒนาอาชีพใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจก ในประเทศด้วยความสมัครใจ โดยสามารถน�ำปริมาณ การพั ฒนาโครงการ ก า ร ล ด ห รื อ ดู ด ซั บ ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก ท่ี ผ่ า น ก า ร รั บ ร อ ง และหลกั เกณฑก์ ารเขา้ ร่วมโครงการ ที่เรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” ไปขายในตลาดคาร์บอน ภาคสมัครใจภายในประเทศได้ ท้ังนี้ อบก. ได้ก�ำหนด ผู้พั ฒนาโครงการต้องตรวจสอบขนาดของโครงการ หลักเกณฑ์และข้ันตอนการพั ฒนาโครงการ โดยจะต้อง เ นื่ อ ง จ า ก โ ค ร ง ก า ร ข น า ด ใ ห ญ่ ต้ อ ง ผ่ า น ก า ร พิ สู จ น์ เ ป็ น โ ค ร ง ก า ร ท่ี เ ข้ า ข่ า ย ป ร ะ เ ภ ท โ ค ร ง ก า ร ดั ง ต่ อ ไ ป น้ี การด�ำเนินงานเพ่ิ มเติมจากการด�ำเนินงานตามปกติ (1) การเพิ่ มประสิทธิภาพพลังงาน (2) พลังงานทดแทน (additionality) โดยโครงการประเภทผลิตพลังงาน (3) การจัดการของเสีย (4) การจัดการในภาคขนส่ง (5) ไ ฟ ฟ้า จ า ก พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น พิ จ า ร ณ า จ า ก ก� ำ ลั ง ป่าไม้และพ้ื นที่สีเขียว (6) การเกษตร (7) อ่ืน ๆ ตามท่ี การผลิตติดต้ัง โครงการประเภทการเพ่ิ มประสิทธิภาพ อบก. ก�ำหนด มีการก�ำหนดระเบียบวิธีการในการลด พลังงานพิ จารณาจากปริมาณพลังงานท่ีคาดว่าจะ ก๊าซเรือนกระจก การขึ้นทะเบียนและการรับรองปริมาณ สามารถลดการใช้ได้ ส่วนโครงการประเภทอ่ืน ๆ พิจารณา ก๊าซเรือนกระจกส�ำหรับประเทศไทย อีกท้ังยังก�ำหนด จากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้ กรณีที่ ให้มีการประเมินผลประโยชน์ร่วม (Co-benefit) ท้ังใน โครงการมีท่ีตั้งมากกว่า 1 แห่งให้พิ จารณาขนาดของ ด้ า น เ ศ ร ษ ฐ กิ จ สั ง ค ม แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ที่ เ กิ ด จ า ก โครงการจากค่ารวมของทุกแห่ง โดยมีรายละเอียดตาม แผนภาพ รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 333 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

13 ปฏิบตั กิ ารอย่างเรง่ ดว่ นเพื่ อต่อสูก้ ับการเปล่ียนแปลง สภาพภูมอิ ากาศและผลกระทบท่เี กดิ ขึ้น SDG เสริมสรา้ งภูมติ ้านทานและขีดความสามารถในการปรบั ตวั ต่ออนั ตราย 13.1 และภัยพิบัตทิ างธรรมชาติทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ภูมิอากาศในทกุ ประเทศ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ภั ย พิ บั ติ ท า ง ธ ร ร ม ช า ติ มี แ น ว โ น้ ม ท่ีจ ะ ท วี ค ว า ม รุ น แ ร ง ม า ก ข้ึ น เ นื่ อ ง จ า ก ก า ร เ ป ล่ีย น แ ป ล ง สภาพภูมิอากาศส่งผลให้การเกิดภัยพิ บัติมีความถี่เพ่ิ มมากขึ้น ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชน รวมท้ังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะในระดับชุมชนและท้องถ่ินท่ียังมี ขีดความสามารถด้านการรับมือกับภัยพิ บัติท่ีจ�ำกัด ท�ำให้ประเด็นการบริหารจัดการและการลดความเส่ียงจากภัยพิ บัติ เป็นวาระส�ำคัญที่นานาประเทศร่วมมือกันพั ฒนาแนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่ อรับมือกับภัยพิ บัติได้อย่างมี ประสิทธิภาพและบรรเทาความรุนแรงของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยประเทศสมาชิกสหประชาชาติรวมถึงประเทศไทย ได้รับรองกรอบการด�ำเนินงานเซนไดเพื่ อการลดความเสี่ยงจากภัยพิ บัติ พ.ศ. 2558 - 2573 หรือกรอบเซนได (Sendai Framework for Disaster Risk Reduction 2015 – 2030: Sendai Framework) เพื่อเป็นแนวทาง ในการก�ำหนดนโยบายและวางแผนการป้องกันและลดความเส่ียงจากอันตรายและภัยพิ บัติ ตลอดจนสร้าง ขีดความสามารถในการปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพ่ือรับมือและฟ้ นื ฟู กลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย จ�ำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิ บัติ ต่อประชากร 100,000 คน ประเทศไทยได้มีการด�ำเนินการอย่างต่อเนื่องเพ่ื อพั ฒนา ศักยภาพในการบริหารจัดการและการลดความเสี่ยง ท่ีมา: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จากภัยพิ บัติ รวมท้ังการจัดท�ำแผนการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ1 พ.ศ. 2558 เพ่ื อพั ฒนา การด�ำเนินการท่ีผ่านมา ระบบการป้องกัน การเตรียมความพร้อม การสร้าง ภูมิคุ้มกัน ตลอดจนการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย ห น่ ว ย ง า น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ไ ด้ ด� ำ เ นิ น ก า ร เ พื่ อ เ ต รี ย ม ตั้ ง แ ต่ ก่ อ น เ กิ ด ภั ย ข ณ ะ เ กิ ด ภั ย แ ล ะ ห ลั ง เ กิ ด ภั ย ค ว า ม พ ร้ อ ม ป้ อ ง กั น แ ล ะ บ ร ร เ ท า ค ว า ม สู ญ เ สี ย จ า ก ร ว ม ท้ั ง ก� ำ กั บ ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น ใ ห้ เ ป็ น ไ ป ต า ม ภัยพิ บัติอย่างต่อเน่ือง โดยจัดการฝึกการป้องกันและ กรอบพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น อาทิ พ.ศ. 2550 และสอดคล้องกับกรอบเซนได ซึ่งในปี 2563 การฝึกซ้อมแผนการบริหารวิกฤตการณ์ด้านสาธารณภัย ร้อยละ 50 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินได้จัดท�ำ ร ะ ดั บ ช า ติ แ ล ะ พั ฒ น า ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร เ พื่ อ ล ด และด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์การลดความเสี่ยงจาก ความเส่ียงจากภัยพิ บัติให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ภั ย พิ บั ติ ร ะ ดั บ ท้ อ ง ถิ่ น ที่ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ย่ิ ง ขึ้ น อ า ทิ ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร พ ย า ก ร ณ์ อ า ก า ศ ระดับประเทศ นอกจากนี้ เมื่อพิ จารณาข้อมูลผู้ได้รับ ผลกระทบจากภัยพิ บัติ ประกอบด้วยอุทกภัย ภัยแล้ง วาตภัย และอัคคีภัย พบว่าในช่วงปี 2559 - 2561 จ� ำ น ว น ผู้ ไ ด้ รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ภั ย พิ บั ติ ล ด ล ง อ ย่ า ง ต่อเน่ือง โดยในปี 2561 มีประชากรท่ีประสบภัยพิ บัติ จำ� นวน 1,845 คน ตอ่ ประชากร 100,000 คน ลดลงจาก 6,553 คน ต่อประชากร 100,000 คน ในปี 2559 โดยภัยพิ บัติที่ส่งผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ อุทกภัย และภยั แลง้ ตามลำ� ดบั 1 สาธารณภัยเป็นการประยุกต์แนวคิดเรื่องภัยพิ บัติตามบริบทของประเทศไทย โดยพระราชบัญญัติป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550ก�ำหนดให้สาธารณภัย หมายถึง อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์น้�ำ การระบาดของศัตรูพื ช ตลอดจนภัยอ่ืน ๆ อันมีผลกระทบต่อสาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ท�ำให้เกิดข้ึน อุบัติเหตุหรือเหตุอ่ืนใด ซ่ึงก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชนหรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ และให้หมายความรวมถึงภัยทางอากาศ และการก่อวินาศกรรมด้วย 334 รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ปฏิบัตกิ ารอย่างเรง่ ดว่ นเพื่ อต่อสู้กับการเปล่ียนแปลง 13 สภาพภมู ิอากาศและผลกระทบท่เี กิดขึ้น SDG เสริมสรา้ งภมู ติ า้ นทานและขดี ความสามารถในการปรับตัวตอ่ อนั ตราย และภยั พิบัตทิ างธรรมชาติทีเ่ กย่ี วข้องกบั ภูมอิ ากาศในทกุ ประเทศ 13.1 ด้วยคอมพิ วเตอร์สมรรถนะสูงเพื่ อให้ผลการพยากรณ์ ข้อเสนอแนะ อากาศมีความถูกต้องแม่นย�ำสูงและเจาะจงพื้ นที่ได้ มากขึ้น การจัดท�ำระบบป้องกันและเตือนภัยธรณีวิทยา ภาครัฐควรเร่งรัดการจัดท�ำและด�ำเนินการตามแผนการ และธรณีภัยพิ บัติ การพั ฒนาระบบติดตาม เตือนภัย ป้องกันและลดความเส่ียงจากอันตรายและภัยพิ บัติ ม ล พิ ษ แ ล ะ ภั ย พิ บั ติ ท า ง ท ะ เ ล ค ร อ บ ค ลุ ม พ้ื น ท่ี ท้ั ง ระดับท้องถ่ินท่ีบูรณาการ มีกลไกการประสานงานและ อ่าวไทยและอันดามัน อีกท้ังได้สนับสนุนบทบาทของ การด�ำเนินงานที่ชัดเจน ครอบคลุมภัยพิ บัติทุกรูปแบบ ชุมชนให้มีส่วนร่วมจัดท�ำแผนพั ฒนาต�ำบลในทุกมิติ รวมทั้งให้ความส�ำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชากร เพื่ อสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนในการเตรียมพร้อม ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง นอกจากน้ี ยังควรเร่ง รับมือกับสาธารณภัยและสามารถปรับตัวต่ออันตราย พั ฒ น า แ ล ะ บู ร ณ า ก า ร ฐ า น ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ ภั ย พิ บั ติ และภัยพิ บัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศ ที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน เพื่ อสนับสนุนการก�ำหนด ได้ดีย่ิงข้ึน นโยบายและมาตรการในการบริหารจัดการและการลด ความเส่ียงจากภัยพิ บัติที่มีประสิทธิภาพและแก้ปัญหา ความท้าทาย ได้ตรงจุด รวมท้ังเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเพ่ื อ ให้ประชาชนมีการรับรู้ความเส่ียงต่อภัยพิ บัติมากข้ึน เ นื่ อ ง จ า ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ค ว า ม เ ส่ี ย ง แ ล ะ ค ว า ม รุ น แ ร ง และมีการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสม ของผลกระทบจากภัยพิ บัติแตกต่างกันไปในแต่ละ พื้ นท่ีตามความล่อแหลมต่อภัยพิ บัติและศักยภาพใน นอกจากนี้ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องยังควรให้ความส�ำคัญ การรับมือ ส่งผลให้มีความท้าทายในการบริหารจัดการ กั บ ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ด้ า น อื่ น ๆ ที่ ส่ ง ผ ล ส� ำ คั ญ ต่ อ และการลดความเส่ียงจากภัยพิ บัติให้มีประสิทธิภาพ ค ว า ม เ ส่ี ย ง จ า ก ภั ย พิ บั ติ อ า ทิ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง และครอบคลุม ทั้งในด้านการจัดท�ำและด�ำเนินการตาม สภาพภูมิอากาศ การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว แ ผ น ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ ล ด ค ว า ม เ ส่ี ย ง จ า ก อั น ต ร า ย แ ล ะ โดยขาดการควบคุมและการวางแผนท่ีดี รวมท้ังให้ ภัยพิ บัติระดับท้องถิ่น อีกทั้งกระบวนการท�ำงานและ ความส�ำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชน ก ฎ ร ะ เ บี ย บ ข อ ง ภ า ค รั ฐ ไ ม่ เ อ้ื อ ต่ อ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง โดยเฉพาะกลุ่มยากจนและกลุ่มเปราะบาง เพื่ อเตรียม ชุมชนและท้องถิ่น รวมท้ังภาคเอกชนในพ้ื นท่ี ท�ำให้ ค ว า ม พ ร้ อ ม รั บ มื อ กั บ วิ ก ฤ ต ใ น ด้ า น ต่ า ง ๆ อ า ทิ การสื่อสารเพื่ อเพิ่ มการรับรู้ความเสี่ยงและการเตรียม การพั ฒนาทักษะทางการเงิน (financial literacy) ความพร้อมท่ีเหมาะสมของประชาชนยังอยู่ในวงจ�ำกัด และทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (digital อี ก ทั้ ง ยั ง มี ค ว า ม ท้ า ท า ย ใ น ก า ร จั ด เ ก็ บ แ ล ะ บู ร ณ า ก า ร literacy) ข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการความเสี่ยงจาก ภัยพิ บัติ เพ่ื อน�ำไปใช้ประกอบการประเมินผลกระทบ ทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการจัดท�ำแผนและ ยุทธศาสตร์ในการรับมือภัยพิ บัติที่ครอบคลุมประชากร ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มยากจนและกลุ่มเปราะบาง รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 335 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

13 ปฏิบตั กิ ารอยา่ งเรง่ ดว่ นเพื่ อตอ่ ส้กู ับการเปลีย่ นแปลง สภาพภมู ิอากาศและผลกระทบทเ่ี กิดขึ้น SDG บรู ณาการมาตรการดา้ นการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศในนโยบาย 13.2 ยุทธศาสตร์ และการจดั ทำ� แผนระดับชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม และการด�ำรงชีวิตของมนุษย์ทั่วโลก ท� ำ ใ ห้ น า น า ป ร ะ เ ท ศ ร่ ว ม กั น ห า แ น ว ท า ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ล ด ก า ร ป ล่ อ ย ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก แ ล ะ บ ร ร เ ท า ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และได้พั ฒนามาเป็นความตกลงปารีส ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมให้สัตยาบัน เมื่อวันท่ี 21 กันยายน 2559 โดยความตกลงปารีสเป็นส่วนขยายเพิ่ มเติมของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีวัตถุประสงค์เพ่ื อควบคุมการเพ่ิ มข้ึนของอุณหภูมิเฉล่ียของโลก เพิ่ มขีดความสามารถในการปรับตัวและฟ้ ืนตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริม การพั ฒนาแบบคาร์บอนต่�ำท่ีไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร และท�ำให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพ่ื อสนับสนุน แนวทางการพั ฒนาแบบคาร์บอนต�่ำ และก�ำหนดให้ภาคีสมาชิกจัดท�ำการมีส่วนร่วมที่ประเทศก�ำหนด (Nationally Determined Contributions: NDCs) อย่างต่อเน่ือง นอกจากน้ี ประเทศภาคีจะต้องจัดท�ำและด�ำเนิน มาตรการในประเทศเพื่ อสนับสนุนการด�ำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ รวมถึงจัดท�ำแผนการปรับตัว ระดับชาติ (National Adaptation Plan: NAP) และน�ำเสนอรายงานแห่งชาติ (national communications) สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายย่อย ในการด�ำเนินงานเพ่ื อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งได้ก�ำหนดค่าเป้าหมายของแผนแม่บทฯ ประเด็น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ด้ จั ด ส่ ง ข้ อ เ ส น อ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง การเติบโตอย่างย่ังยืน ระหว่างปี 2561 – 2565 ให้ลด ประเทศในการลดก๊าซเรือนกระจกและการด�ำเนินงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างน้อย ร้อยละ 12 ด้านการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายหลังปี จากกรณีปกติน้ัน พบว่าในปี 2563 สามารถลดปริมาณ ค.ศ. 2020 (Intended Nationally Determined การปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้แล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 14 Contribution: INDC)1 เม่ือวันที่ 1 ตุลาคม 2558 และ หรือลดได้ทั้งส้ิน 51.72 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ NDC ฉบับปรับปรุงของประเทศไทย (Thailand’s เ ที ย บ เ ท่ า ( M t C O 2e q ) ซ่ึ ง บ ร ร ลุ เ ป้ า ห ม า ย ข อ ง U pdate d NDC) ต่อ ส�ำนักเลขาธิการ UN FCCC แผนแม่บทฯ ในระยะแรกแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะสามารถ เม่ือวันที่ 26 ตุลาคม 2563 โดยก�ำหนดเป้าหมาย บรรลุเป้าหมายขั้นต่�ำท่ีก�ำหนดไว้ใน NDC ได้ภายใน ขั้นต่�ำท่ีร้อยละ 20 จากกรณีปกติ และเป้าหมายขั้นสูง ปี 2573 ที่ร้อยละ 25 จากกรณีปกติ ภายในปี 2573 และ มี ก า ร บู ร ณ า ก า ร ม า ต ร ก า ร ด้ า น ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง สภาพภูมิอากาศในนโยบายและแผนระดับชาติ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพั ฒนาเศรษฐกิจและสังคม แ ห่ ง ช า ติ ฉ บั บ ที่ 1 2 ร ว ม ทั้ ง อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร จั ด ท� ำ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ร ะ ย ะ ย า ว ใ น ก า ร พั ฒ น า แ บ บ ป ล่ อ ย ก๊าซเรือนกระจกต�่ำของประเทศไทย ท้ังยังได้จัดท�ำและ น�ำเสนอรายงานแห่งชาติต่อส�ำนักเลขาธิการ UNFCCC แล้วท้ังสิ้นรวม 3 ฉบับ และจัดท�ำรายงานความก้าวหน้า รายสองปี (Biennual Update Report: BUR) ทั้งส้ิน 3 ฉบับเพ่ื อรายงานความก้าวหน้าในการจัดท�ำ บั ญ ชี ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก แ ล ะ ร า ย ง า น ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ในการด�ำเนินงานด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 336 1 ภายหลังจากความตกลงปารีสมีผลบังคับใช้เม่ือวันท่ี 4 พฤศจิกายน 2559 (ครบก�ำหนด 30 วันหลังจากจ�ำนวนประเทศท่ีให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีครบ 55 ประเทศ และครอบคลุมปริมาณการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นร้อยละ 55 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก) การมีส่วนร่วมของประเทศในการลดก๊าซเรือนกระจกและการด�ำเนินงานด้านการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายหลังปี ค.ศ. 2020 (INDCs) จึงเปลี่ยนมาใช้ค�ำว่า “การมีส่วนร่วมท่ีประเทศก�ำหนด” (NDCs) รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่ อตอ่ สกู้ บั การเปลยี่ นแปลง 13 สภาพภูมอิ ากาศและผลกระทบท่เี กิดข้ึน SDG บรู ณาการมาตรการดา้ นการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศในนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และการจดั ท�ำแผนระดับชาติ 13.2 การด�ำเนินการท่ีผ่านมา ความทา้ ทาย ประเทศไทยจัดท�ำแผนท่ีน�ำทางการลดก๊าซเรือนกระจก แ ม้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย จ ะ ป ร ะ ส บ ค ว า ม ส� ำ เ ร็ จ ใ น ร ะ ดั บ ท่ี น่ า ของประเทศปี พ.ศ. 2564 - 2573 รวมทั้งยุทธศาสตร์และ พึ งพอใจ โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ แผนรายสาขาเพื่ อรับมือกับผลกระทบการเปลี่ยนแปลง ตามเป้าหมายของแผนแม่บทฯ ในระยะแรก แต่ยังมี สภาพภูมิอากาศ อาทิ ยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง ความท้าทายในการรักษาสถานภาพดังกล่าว และเร่ง ภูมิอากาศด้านการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พั ฒนาให้เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น (พ.ศ.2560-2564) โ ด ย ม า ต ร ก า ร แ ล ะ แ น ว ป ฏิ บั ติ ที่ ก� ำ ห น ด ไ ว้ ใ น N DC จ�ำเป็นต้องใช้การลงทุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้าง ปัจจุบัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ้ื นฐาน ซ่ึงประเทศไทยยังขาดความเช่ียวชาญและ อยู่ระหว่างจัดท�ำ(ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีในประเทศ สภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ... และ (ร่าง) กรอบหลักการ ก ฎ ห ม า ย ล� ำ ดั บ ร อ ง เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ใ ห้ มี ก า ร ป ร ะ เ มิ น นอกจากน้ี การจัดเก็บข้อมูลเพ่ื อจัดท�ำบัญชีปริมาณ ปริมาณการปล่อย การกักเก็บ การลดก๊าซเรือนกระจก การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งก�ำเนิดต่าง ๆ แ ล ะ ก า ร จั ด ท� ำ ร า ย ง า น โ ด ย วิ ธี ต ร ว จ วั ด ร า ย ง า น ยังไม่สามารถด�ำเนินการได้อย่างครบถ้วน เนื่องจาก แ ล ะ ท ว น ส อ บ ท่ีไ ด้ ม า ต ร ฐ า น ต า ม พั น ธ ก ร ณี ร ะ ห ว่ า ง ข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเทศ รวมท้ังก�ำหนดกลไกส่งเสริมการลดปริมาณ ของภาคเอกชน และยังขาดการจัดเก็บข้อมูลการปล่อย ก า ร ป ล่ อ ย ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก แ ล ะ ก า ร ป รั บ ตั ว ต่ อ ก๊าซเรือนกระจกท่ีเป็นสัดส่วน ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ น อ ก จ า ก นี้ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร น โ ย บ า ย ข้อเสนอแนะ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติได้เห็นชอบ ให้ประเทศไทยเข้าร่วมกลุ่ม Nitric Acid Climate ควรประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการผลักดัน Ac t i o n G r o u p ( N ACAG ) เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ล ด ให้เกิดการด�ำเนินการตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจก ก๊าซไนตรัสออกไซด์จากการผลิตกรดไนตริก ซ่ึงจะช่วย ซึ่ ง เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ ส า ข า ก า ร ผ ลิ ต ท่ี ห ล า ก ห ล า ย โ ด ย ผลักดันการด�ำเนินงานเพ่ื อลดก๊าซเรือนกระจกของ บูรณาการความร่วมมือให้การท�ำงานมีความสอดประสาน ป ร ะ เ ท ศ ใ ห้ มี ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ม า ก ยิ่ ง ข้ึ น และไม่เกิดความซ้�ำซ้อน โดยเฉพาะเครือข่ายภาคเอกชน ซ่ึงจะช่วยส่งเสริมการด�ำเนินธุรกิจท่ียั่งยืนและเป็นมิตร นอกจากน้ี ได้พั ฒนาระบบสารสนเทศการปล่อยก๊าซเรือน ต่อส่ิงแวดล้อม ตลอดท้ังห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมี กระจกของประเทศไทย (Thailand Greenhouse นัยส�ำคัญ นอกจากนี้ ยังควรพั ฒนาขีดความสามารถ Gas Emissions Inventory System: TGEIS) ซึ่งจะ ขององค์กรเครือข่ายทุกระดับ เพื่ อให้มีองค์ความรู้ ช่ ว ย ใ ห้ มี ฐ า น ข้ อ มู ล ก ล า ง ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ใ น ก า ร ป ร ะ เ มิ น และสามารถรับมือกับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลง และจัดเก็บข้อมูลบัญชีก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ที่ จ ะ เ กิ ด ขึ้ น ไ ด้ อ ย่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ส า ม า ร ถ ค� ำ น ว ณ ก า ร ป ล่ อ ย ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก ต า ม ตลอดจนใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ อส่งเสริม แนวทางของคู่มือการจัดท�ำบัญชีฯ ค.ศ. 2006 ของ ธุรกิจท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม อาทิ ภาษีคาร์บอนและ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง การยกเว้นภาษีเงินได้แก่นิติบุคคลที่ปฏิบัติตามเงื่อนไข สภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซ่ึงจะช่วยสร้างแรงจูงใจ Climate Change: IPCC) ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ล ด ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก โ ด ย ส มั ค ร ใ จ ม า ก ยิ่ ง ข้ึ น รายงานความก้าวหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 337 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

13 ปฏบิ ตั ิการอย่างเร่งด่วนเพื่ อตอ่ สู้กับการเปลยี่ นแปลง สภาพภูมิอากาศและผลกระทบทเ่ี กิดขน้ึ SDG พัฒนาการศึกษา การสร้างความตระหนักรู้ และขีดความสามารถของมนษุ ย์ และของสถาบนั ในเรือ่ งการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวและการลดผลกระทบ 13.3 จากการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ และการเตอื นภัยลว่ งหน้า ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เ ป็ น ห นึ่ ง ใ น 1 0 ป ร ะ เ ท ศ ที่ ไ ด้ รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ สู ง ที่ สุ ด ในช่วงปี 2542 - 2561 ซ่ึงสะท้อนในดัชนีความเส่ียงด้านสภาพอากาศ (Climate Risk Index) ท่ีจัดท�ำโดย องค์กร Germanwatch โดยได้รับผลกระทบทั้งจากอุณหภูมิที่เพิ่ มสูงขึ้น อุทกภัย ภัยแล้ง วาตภัย และการกัดเซาะ ชายฝ่ ังที่มีความถ่ีและความรุนแรงมากข้ึน ดังน้ัน การส่งเสริมความตระหนักรู้และเพ่ิ มขีดความสามารถของ ประชากร ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เก่ียวกับการบรรเทาผลกระทบและการปรับตัวต่อ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงเป็นเรื่องส�ำคัญ รวมถึงการพั ฒนาระบบการเตือนภัยล่วงหน้าเพื่ อสนับสนุน ให้มีการบริหารจัดการภัยพิ บัติที่มีประสิทธิภาพ และช่วยลดการสูญเสียทั้งต่อชีวิตมนุษย์และทรัพย์สิน สถานการณ์การบรรลเุ ป้าหมายย่อย การด�ำเนินการที่ผ่านมา แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 ก�ำหนด ในระยะที่ผ่านมา หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องได้ร่วมกันเสริม แนวทางการจัดการศึกษาโดยยึดหลักการจัดการศึกษา สร้างการตระหนักรู้และปลูกฝังจิตส�ำนักด้านการอนุรักษ์ เพ่ื อปวงชน เท่าเทียม และท่ัวถึง หลักการมีส่วนร่วม ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม รวมท้ังพั ฒนา ของทุกภาคส่วนของสังคม และเป้าหมายการพั ฒนา อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ต้ น แ บ บ แ ล ะ สื่ อ ที่ ยั่ ง ยื น เ พื่ อ ใ ห้ ค น ไ ท ย ทุ ก ค น ไ ด้ รั บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ การเรียนการสอน เพื่ อส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลก เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สร้างเสริมคุณภาพ และการศึกษาเพ่ื อการพั ฒนาท่ียั่งยืน อาทิ โรงเรียน ชี วิ ต ที่ เ ป็ น มิ ต ร กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ สิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่ อการพั ฒนาที่ย่ังยืนที่สนับสนุน การเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่ง แ น ว คิ ด ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า เ พ่ื อ ก า ร พั ฒ น า ท่ี ย่ั ง ยื น พั ฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ใน โดยเน้นการพั ฒนาโรงเรียนทั้งระบบ โดยในปัจจุบัน ศ ต ว ร ร ษ ท่ี 2 1 อ า ทิ ทั ก ษ ะ ด้ า น ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ต่ า ง มี จ� ำ น ว น โ ร ง เ รี ย น ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ฯ 1 8 9 โ ร ง เ รี ย น วั ฒ น ธ ร ร ม ต่ า ง ก ร ะ บ ว น ทั ศ น์ ซ่ึง เ ป็ น ทั ก ษ ะ ส� ำ คั ญ ค ร อ บค ลุ ม ทุ ก ภ า ค ท่ัว ป ร ะ เ ทศ แ ล ะ ไ ด้ ส นั บส นุ น กิ จ ก ร ร ม ส�ำหรับการเป็นพลเมืองโลก ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในมหาวิทยาลัย โรงเรียนและเครือข่ายเยาวชน อาทิ ใ น ด้ า น ห ลั ก สู ต ร ไ ด้ มี ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น โครงการมหิงสาสายสืบปฐมวัยส�ำหรับเด็กอายุต่�ำกว่า ห ม ว ด วิ ช า แ ก น ก ล า ง ก ลุ่ ม วิ ช า วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ วิ ช า 8 ปี แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร ม หิ ง ส า ส า ย สื บ ส� ำ ห รั บ เ ด็ ก อ า ยุ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และมี 8 - 18 ปี เพื่ อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพั ฒนา การจัดการศึกษาขั้นพื้ นฐาน ตามหลักสูตรการศึกษา ศักยภาพตามช่วงวัย โดยการท�ำกิจกรรมส�ำรวจและ น อ ก ร ะ บ บ ร ะ ดั บ ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พ้ื น ฐ า น พ . ศ . 2 5 5 1 ดูแลรักษาพ้ื นที่ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในท้องถ่ิน ใ ห้ กั บ ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย ป ร ะ ช า ช น ทั่ ว ไ ป ท่ี ไ ม่ ไ ด้ อ ยู่ ใ น ร ะ บ บ โรงเรียนในรายวิชาบังคับใน 5 สาระการเรียนรู้ ได้แก่ ส า ร ะ ทั ก ษ ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ส า ร ะ ค ว า ม รู้ พ้ื น ฐ า น ส า ร ะ การประกอบอาชีพ สาระทักษะการด�ำเนินชีวิต และสาระ การพั ฒนาสังคม ซ่ึงในเร่ืองความเป็นพลเมืองและ ก า ร ศึ ก ษ า เ พื่ อ ก า ร พั ฒ น า ที่ ย่ั ง ยื น จ ะ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ การจัดการเรียนการสอนในสาระการพั ฒนาสังคม รายวิชาสังคมศึกษา รายวิชาศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง และรายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 338 รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ปฏบิ ัติการอยา่ งเรง่ ดว่ นเพื่ อต่อสู้กบั การเปลีย่ นแปลง 13 สภาพภูมิอากาศและผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ พัฒนาการศึกษา การสร้างความตระหนักรู้ และขดี ความสามารถของมนษุ ย์ SDG และของสถาบนั ในเรือ่ งการลดกา๊ ซเรอื นกระจก การปรบั ตัวและการลดผลกระทบ 13.3 จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ และการเตือนภัยลว่ งหนา้ ใ น ช่ ว ง ปี 2 5 6 1 - 2 5 6 2 ภ า ค รั ฐ ไ ด้ ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร ความทา้ ทาย เพื่ อสร้างจิตส�ำนึกและความรู้ในการผลิตและบริโภคที่ เ ป็ น มิ ต ร ต่ อ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม แม้ว่าในการพั ฒนาหลักสูตรการศึกษาภายใต้แผนปฏิบัติ ของประชาชนในพ้ื นที่ เช่น โครงการค่ายเยาวชนรักษ์ ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร ล ด ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ พ ง ไ พ ร แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า เ ค รื อ ข่ า ย อ า ส า ส มั ค ร ปี 2564-2573 ได้มีการสนับสนุนการท�ำ Flagship พิ ทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน Project โครงการพั ฒนาหลักสูตรด้านการเปลี่ยนแปลง (ทสม.) นอกจากน้ี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ สภาพภูมิอากาศและการลดก๊าซเรือนกระจกในทุกระดับ และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้น�ำประเด็นการเปล่ียนแปลง การเรียนรู้หน่วยงานหลัก แต่เนื่องจากปัจจุบันแผน สภาพภูมิอากาศพั ฒนาคู่มือครูให้มีความสอดคล้อง ดั ง ก ล่ า ว อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร ป รั บ ป รุ ง ท� ำ ใ ห้ ยั ง ไ ม่ ไ ด้ มี กับเน้ือหาหลักสูตร สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ก า ร ป ร ะ ก า ศ ใ ช้ อ ย่ า ง เ ป็ น ท า ง ก า ร ซ่ึ ง อ า จ จ ะ ท� ำ ใ ห้ แ ล ะ ตั ว ชี้ วั ด ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ การด�ำเนินการตามโครงการมีความล่าช้า นอกจากน้ี วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในช่องทางของ CITC ที่ประชาชนหรือบุคคลทั่วไป สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง สามารถเข้าถึงข้อมูลหลักสูตรออนไลน์ได้นั้น ในบางครั้ง 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้ นฐาน ประสบปัญหาในการเชื่อมต่อระบบและการประชาสัมพั นธ์ พ.ศ. 2551 รวมท้ังได้ด�ำเนินโครงการวิทยาศาสตร์ ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร สิ่งแวดล้อมโลก (GLOBE) ซ่ึงเป็นโครงการนานาชาติ ที่ส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ข้อเสนอแนะ ในระดับโรงเรียน หน่วยงานภาครัฐที่เก่ียวข้องควรประสานความร่วมมือ ขณะท่ีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้จัดท�ำ (ร่าง) กั บ ภ า ค เ อ ก ช น แ ล ะ ป ร ะ ช า สั ง ค ม ใ น ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ที่ แผนยุทธศาสตร์ระดับประเทศด้านปฏิบัติการเสริมพลัง ส� ำ คั ญ เ ช่ น โ ค ร ง ก า ร จั บ คู่ บ ริ ษั ท ไ ท ย กั บ ส ถ า บั น ความร่วมมือด้านภูมิอากาศ เพ่ื อขับเคล่ือนการด�ำเนิน การศึกษาในพ้ื นท่ีและประชาสังคมในการร่วมกันจัดการ งานตามภารกิจ “การปฏิบัติการเพื่ อเสริมพลังรับมือ ส่ิงแวดล้อมและโครงการส�ำนึกอนุรักษ์ชุมชนบ้านเกิด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ทั้งด้านการศึกษา อีกทั้งทุกภาคส่วนยังควรเข้ามามีส่วนร่วมในการพั ฒนา ฝึ ก อ บ ร ม แ ล ะ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก รู้ อ ย่ า ง มี ห ลั ก สู ต ร เ กี่ ย ว กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการมีส่วนร่วม ในทุกระดับการเรียนรู้ โดยต้องพั ฒนาท้ังหลักสูตร ข อ ง ป ร ะ ช า ช น อ ง ค์ ก ร แ ล ะ เ ค รื อ ข่ า ย ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง เพื่ อการศึกษาในระบบและนอกระบบ เพ่ื อให้ประชาชนมี ร ว ม ถึ ง อ ง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ก๊ า ซ เ รื อ น ก ร ะ จ ก ความรู้ความเข้าใจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (องค์การมหาชน) ได้จัดต้ังศูนย์วิชาการนานาชาติ ซึ่ ง จ ะ เ ป็ น ก า ร ส ร้ า ง ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร ป รั บ ตั ว ต่ อ ด้ า น ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ( C l i mat e ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ แ ล ะ น� ำ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย Change International Technical and Training ไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพั ฒนาท่ีย่ังยืน C e n t e r : C I TC ) ซึ่ ง จ ะ เ ส ริ ม ส ร้ า ง ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ ขี ด ความสามารถเร่ืองการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้ทั้งหน่วยงานส่วนกลางและส่วนท้องถ่ิน โดยพั ฒนา และจัดท�ำหลักสูตรด้านการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ท้ังหลักสูตรภาษาไทยและนานาชาติ รายงานความกา้ วหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 339 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

13 ปฏิบตั กิ ารอย่างเร่งด่วนเพื่ อตอ่ สู้กับการเปล่ยี นแปลง สภาพภูมิอากาศและผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ SDG ดำ� เนินการให้เกิดผลตามพันธกรณที ีผ่ ูกพันตอ่ ประเทศพัฒนาแลว้ ซึ่งเป็นภาคีของอนสุ ัญญา สหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ ทีม่ เี ป้าหมายร่วมกนั ระดมทุนจากทกุ แหลง่ 13.a ใหไ้ ดจ้ ำ� นวน 1 แสนลา้ นเหรยี ญสหรฐั ต่อปี ภายในปี 2563 เพื่อสนองความต้องการของประเทศ กำ� ลงั พัฒนา ภายใต้บริบทของการดำ� เนินการลดก๊าซเรือนกระจกทีช่ ัดเจนและมีความโปรง่ ใส ในการดำ� เนินงาน ตลอดจนทำ� ให้กองทนุ ภมู อิ ากาศสีเขยี ว (Green Climate Fund) ด�ำเนินการไดอ้ ย่างเตม็ รปู แบบผ่านการระดมทุนโดยเร็วทส่ี ุด ใ น ก า ร บ ร ร ลุ ข้ อ ต ก ล ง ป า รี ส ใ น ก า ร ป ร ะ ชุ ม ส มั ช ช า ป ร ะ เ ท ศ ภ า คี อ นุ สั ญ ญ า ส ห ป ร ะ ช า ติ ว่ า ด้ ว ย ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง สภาพภูมิอากาศ คร้ังที่ 21 (COP21) ในเดือนธันวาคม 2558 ณ กรุงปารีส ประเทศพั ฒนาแล้วได้ให้ค�ำม่ันว่า จะให้เงินทุนสนับสนุนแก่ประเทศก�ำลังพั ฒนาและประเทศพั ฒนาน้อยที่สุดในการด�ำเนินการด้านการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจะระดมทุนจ�ำนวน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ภายในปี 2563 ซึ่งรวมถึงการให้ทุนสนับสนุนกองทุนภูมิอากาศสีเขียว1 (Green Climate Fund: GCF) และจะยังคงให้การสนับสนุนเงินทุนข้ันต่�ำปีละ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างต่อเน่ืองไปจนถึงปี 2568 โดยจะหารือถึงจ�ำนวนเงินทุนสนับสนุนที่จะปรับเพิ่ มขึ้นอีกครั้ง สถานการณ์การบรรลเุ ป้าหมายย่อย กองทุน GCF โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณแล้ว 5.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่ อเพิ่ มศักยภาพและเตรียม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558 มอบหมาย ค ว า ม พ ร้ อ ม ข อ ง ห น่ ว ย ป ร ะ ส า น ง า น ห ลั ก ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ให้ส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ 7 กิจกรรม ส่ิงแวดล้อม (สผ.) ท�ำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานหลัก (National Designated Authority) ของกองทุน ภู มิ อ า ก า ศ สี เ ขี ย ว ซึ่ ง มี จุ ด มุ่ ง ห ม า ย เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม ร่ ว ม มื อ แ ล ะ ก า ร บู ร ณ า ด้ า น ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ กั บ ผู้เกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วน ท้ังภาครัฐ เอกชนและ ภาคประชาสังคม ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศ เพ่ื อก่อให้เกิดการประสานเป้าหมายด้านการเปล่ียนแปลง สภาพภูมิอากาศเข้ากับแหล่งทุนต่าง ๆ ทั้งในและ ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ อั น จ ะ น� ำ ไ ป สู่ น โ ย บ า ย ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ มีระบบการติดตามการด�ำเนินการที่ครอบคลุมและเกิด ประโยชน์สูงสุดต่อการพั ฒนาด้านการเปลี่ยนแปลง ข อ ง ส ภ า พ อ า ก า ศ อ ย่ า ง ไ ร ก็ ดี ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เ ป็ น ประเทศนอกภาคผนวกและเป็นประเทศก�ำลังพั ฒนา จึงไม่มีพั นธกรณีในการระดมทุนภายใต้ UNFCCC โ ด ย ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เ ป็ น ผู้ ไ ด้ รั บ ก า ร ส นั บ ส นุ น ภ า ย ใ ต้ 1 กองทุนภูมิอากาศสีเขียวเป็นกลไกทางการเงินเพื่ อสนับสนุนการปรับเปล่ียนกระบวนทัศน์ของประชาคมโลกสู่การพั ฒนาอย่างยั่งยืนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่�ำและมีความสามารถใน การรับมือต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยค�ำนึงถึงความต้องการของประเทศเป็นหลัก โดยจะมีการจัดสรรเงินทุนท่ีระดมได้ในสัดส่วนท่ีเท่ากันเพ่ื อใช้ในการด�ำเนินงานด้านการลดก๊าซ เรือนกระจกและการปรับตัวต่อผลกระทบ โดยร้อยละ 50 ของเงินด้านการปรับตัวจะจัดสรรให้กับประเทศท่ีมีความเปราะบางเป็นพิ เศษ ได้แก่ ประเทศพั ฒนาน้อยท่ีสุด ประเทศก�ำลังพั ฒนาที่เป็น เกาะขนาดเล็ก และกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยได้ก�ำหนดกรอบยุทธศาสตร์เพ่ื อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4 ด้าน ได้แก่ (1) เพ่ิ มการผลิตและการเข้าถึงพลังงานท่ีมีการปล่อยคาร์บอนต�่ำ (2) เพ่ิ มการขนส่งที่มีระบบการปล่อยคาร์บอนต่�ำ (3) อาคาร เมืองอุตสาหกรรมและอุปกรณ์เคร่ืองใช้ไฟฟา้ และ (4) การใช้ท่ีดิน การตัดไม้ท�ำลายป่าการจัดการป่าไม้แบบย่ังยืน เพ่ิ มการดูดกลับคาร์บอน ในภาคป่าไม้ และเพ่ื อการปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4 ด้าน ได้แก่ (1) สุขภาพความเป็นอยู่และความม่ันคงด้านอาหารและน้�ำ (2) การด�ำรงชีวิตของผู้คนและชุมชนในพ้ื นท่ีเส่ียงภัย (3) ระบบสาธารณูปโภคและสภาวะแวดล้อม และ (4) ระบบนิเวศและการบริการ 340 รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ปฏบิ ัตกิ ารอย่างเร่งด่วนเพื่ อตอ่ สูก้ บั การเปลยี่ นแปลง 13 สภาพภมู ิอากาศและผลกระทบท่เี กดิ ข้ึน ด�ำเนินการใหเ้ กดิ ผลตามพันธกรณที ี่ผกู พันต่อประเทศพัฒนาแล้วซึง่ เป็นภาคีของอนุสัญญา SDG สหประชาชาตวิ ่าด้วยการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ที่มเี ป้าหมายรว่ มกันระดมทนุ จากทุกแหลง่ ให้ไดจ้ ำ� นวน 1 แสนล้านเหรียญสหรฐั ต่อปี ภายในปี 2563 เพื่อสนองความตอ้ งการของประเทศ 13.a ก�ำลงั พัฒนา ภายใต้บริบทของการด�ำเนนิ การลดก๊าซเรอื นกระจกทีช่ ัดเจนและมคี วามโปรง่ ใส ในการด�ำเนินงาน ตลอดจนท�ำให้กองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund) ด�ำเนนิ การได้อยา่ งเต็มรปู แบบผ่านการระดมทนุ โดยเร็วทีส่ ุด การด�ำเนินการท่ผี ่านมา ความท้าทาย ส� ำ นั ก ง า น น โ ย บ า ย แ ล ะ แ ผ น ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม ได้เสนอขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน สีเขียว ซ่ึงมุ่งเน้นการสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการ GCF เพื่ อเตรียมความพร้อมให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และแผนงานท่ีได้รับการพั ฒนาจากหน่วยงานท้ังภาครัฐ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ห น่ ว ย ง า น ภ า ค รั ฐ และภาคเอกชน โดยต้องเป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์ ภ า ค เ อ ก ช น ภ า ค ธุ ร กิ จ แ ล ะ ภ า ค ส ถ า บั น ก า ร เ งิ น ของ GCF โดยหน่วยงานปฏิบัติการท่ีได้รับการรับรอง การธนาคาร โดยขอรับการสนับสนุนโครงการเตรียม (Accredited Entity: AE) ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยัง ค ว า ม พ ร้ อ ม 5 โ ค ร ง ก า ร ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ( 1 ) N DA ไม่มีหน่วยงานท่ีมีคุณสมบัติดังกล่าว เน่ืองจากอยู่ Strengthening support for Thailand through ระหว่างขั้นตอนการสมัครของกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งมี GIZ (2) Strategic framework support for โครงการอยู่ระหว่างรอการพิ จารณาจากกองทุนเป็น Thailand through CTCN and UNEP (3) Strategic จ�ำนวนมากท�ำให้เกิดความล่าช้า ดังน้ัน จึงมีความจ�ำเป็น framework support for Thailand through GIZ ที่จะต้องยกระดับศักยภาพของหน่วยงานให้มีคุณสมบัติ (4) Strategic framework support for Thailand ตรงตามมาตรฐานการขอรับทุนสนับสนุนจาก GCF through GGGI และ (5) NDC Strengthening and เพ่ือทจ่ี ะไดส้ ามารถใชป้ ระโยชนจ์ าก GCF ไดอ้ ยา่ งสงู สดุ country programming support for Thailand through GIZ และยังได้เสนอโครงการเพิ่ มเติม ได้แก่ ข้อเสนอแนะ โครงการ Building Climate Change Mitigation and Climate Resilient Coastal Communities ประชาคมโลกควรเร่งรัดการด�ำเนินการตามพั นธสัญญา and Ecosystems in Asia เพื่ อลดผลกระทบจาก ที่ร่วมให้สัตยาบันเข้าร่วมในข้อตกลงปารีส เพ่ื อให้ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ แ ล ะ รั ก ษ า การด�ำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ค ว า ม ส ม ดุ ล ข อ ง ร ะ บ บ นิ เ ว ศ ช า ย ฝ่ ั ง แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร มีความเข้มข้นและบรรลุเป้าหมายได้โดยเร็ว ในส่วนของ Enhance Climate Resilience in Thailand ประเทศไทย ภาครัฐควรประชาสัมพั นธ์ให้หน่วยงาน through Effective Water Management and ปฏิบัติท้ังภาครัฐและเอกชนที่สนใจเข้ารับการสนับสนุน Sustainable Agriculture ซ่ึงมุ่งเน้นการสร้างสังคม จาก GCF และสนับสนุนหน่วยงานเหล่าน้ันในการเข้าถึง ท่ี มั่ น ค ง แ ล ะ มี ค ว า ม ท น ท า น ต่ อ ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ผ่ า น เ งิ น ทุ น จ า ก ก อ ง ทุ น สี เ ขี ย ว ม า ก ข้ึ น อี ก ท้ั ง ค ว ร มี การบริหารจัดการน�้ำท่ีมีประสิทธิภาพ ความจริงจังในการสนับสนุนการบรรจุมิติการปรับตัว ต่ อ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ไว้ในแผนงานหรือโครงการ เพ่ื อให้เกิดการบูรณาการใน ทุกภาคส่วน รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 341 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

13 ปฏบิ ัตกิ ารอยา่ งเร่งดว่ นเพื่ อตอ่ สกู้ บั การเปลีย่ นแปลง สภาพภูมอิ ากาศและผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ SDG ส่งเสรมิ กลไกท่จี ะเพิ่มขีดความสามารถในการวางแผนและการบรหิ ารจัดการ 13.b ทเี่ ก่ียวข้องกบั การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศอยา่ งมีประสิทธิผล ในประเทศพัฒนานอ้ ยที่สุด และใหค้ วามส�ำคัญตอ่ ผหู้ ญิง เยาวชน และชมุ ชนทอ้ งถน่ิ และชายขอบ การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจ�ำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกประเทศในการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก และเสริมสร้างขีดความสามารถในการรับมือและปรับตัวต่อผลกระทบที่จะเกิดข้ึน อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับการพั ฒนาของประเทศท่ีแตกต่างกันส่งผลต่อศักยภาพในการด�ำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเทศก�ำลังพั ฒนา และประเทศพั ฒนาน้อยที่สุดที่ยังมีข้อจ�ำกัดในด้านเงินทุน เทคโนโลยี องค์ความรู้ และความเช่ียวชาญ รวมทั้งมีประเด็นปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าอื่น ๆ เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน และการพั ฒนาโครงสร้างพื้ นฐาน ดังนั้น การสนับสนุนทางการเงินและวิชาการแก่ประเทศเหล่านี้จึงมีความส�ำคัญ ต่อการบรรลุเป้าหมายร่วมกันของโลกเพ่ื อยับยั้งการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ สถานการณก์ ารบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย การด�ำเนินการท่ผี ่านมา ในระยะท่ีผ่านมา ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือทาง ประเทศไทยด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ วิชาการแก่กลุ่มประเทศพั ฒนาน้อยที่สุดและประเทศ ใ น ป ร ะ เ ด็ น ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ผ่ า น ที่ เ ป็ น ห มู่ เ ก า ะ ใ น ห ล า ก ห ล า ย ด้ า น อ า ทิ ก า ร จั ด ก า ร หน่วยงานทุกภาคส่วน อาทิ การจัดการอบรมภายใต้ ภั ย พิ บั ติ ก า ร รั บ มื อ แ ล ะ ก า ร ส ร้ า ง ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น โครงการ Green Energy for Low Carbon Society การปรับตัว โดยท่ีผ่านมา กรมความร่วมมือระหว่าง โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเทศ ในฐานะผู้ประสานงานหลักได้จัดท�ำโครงการ เพื่ อแบ่งปันประสบการณ์ของไทยด้านพลังงานสะอาด ใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ใ น ก า ร พั ฒ น า อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ด้ า น เ ช่ น โ ค ร ง ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ดั บ ภู มิ ภ า ค การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศระยะแรก (พ.ศ.2560 - ใ น ก า ร ว า ง แ ผ น ป รั บ ตั ว ต่ อ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ 2562) ผ่านหลักสูตรศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตร ภูมิอากาศ โดยส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร นานาชาติ (Thailand International Postgraduate ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ซ่ึ ง มุ่ ง เ น้ น ก า ร ศึ ก ษ า Programme: TIPP) นอกจากน้ี ยังได้วางแผนการจัดท�ำ วิเคราะห์ และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจาก โครงการต่อเน่ืองในระยะที่ 2 (พ.ศ. 2563 - 2565) โดย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเปราะบาง ได้คัดเลือกหลักสูตรปริญญาโทนานาชาติเพื่ อบรรจุ ข อ ง พื้ น ท่ี ชุ ม ช น ร อ ย ต่ อ ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ แ ล ะ ช่ ว ย ใ น แ ผ น ง า น แ ล้ ว จ� ำ น ว น 1 1 ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ จั ด อ บ ร ม ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร แ ล ก เ ป ล่ี ย น อ ง ค์ ค ว า ม รู้ แ ล ะ เ ส ริ ม ส ร้ า ง ระยะส้ันเพ่ื อให้ความรู้กับประเทศต่าง ๆ จากทุกภูมิภาค ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ใ น ชุ ม ช น ร อ ย ต่ อ ร ะ ห ว่ า ง ทั่วโลก ซึ่งท่ีผ่านมาประเทศไทยให้ความส�ำคัญกับ ประเทศ นอกจากน้ี มูลนิธิสถาบันส่ิงแวดล้อมไทยได้ การเสริมสร้างศักยภาพของสตรี โดยมีแนวโน้มผู้รับทุน ด�ำเนินโครงการเพื่ อบริหารจัดการกับการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นเพศหญิงเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 38.07 สภาพภูมิอากาศอีกหลายโครงการ อาทิ เครือข่าย ในปี 2560 เป็นร้อยละ 48.72 ในปี 2562 เ มื อ ง เ อ เ ชี ย เ พ่ื อ รั บ มื อ กั บ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ข อ ง สภาพภูมิอากาศ (Asian Cities Climate Change R e s i l i e n c e N e t w o r k : A C C C R N ) มุ่ ง เ น้ น การด�ำเนินการให้ 10 เมืองน�ำร่องของ 4 ประเทศใน เอเชีย ได้แก่ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย มี ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ ค ว า ม พ ร้ อ ม ใ น ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร รั บ มื อ กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ผ่ า น ก า ร บู ร ณ า ก า ร ร ะ ห ว่ า ง หุ้ น ส่ ว น ก า ร พั ฒ น า ใ น ร ะ ดั บ ท้องถ่ิน เพ่ื อพั ฒนาศักยภาพและเตรียมพร้อมรับมือ กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ 342 รายงานความกา้ วหน้าเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

ปฏิบัติการอยา่ งเรง่ ด่วนเพื่ อต่อสกู้ บั การเปล่ียนแปลง 13 สภาพภมู ิอากาศและผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ SDG ส่งเสรมิ กลไกทจ่ี ะเพิ่มขีดความสามารถในการวางแผนและการบริหารจดั การ ทเี่ กี่ยวข้องกบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศอย่างมีประสิทธผิ ล 13.b ในประเทศพัฒนานอ้ ยที่สุด และใหค้ วามส�ำคัญต่อผู้หญิง เยาวชน และชมุ ชนทอ้ งถน่ิ และชายขอบ ความทา้ ทาย ข้อเสนอแนะ การให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยต่อประเทศอ่ืน ๆ ก า ร ใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ท า ง วิ ช า ก า ร ค ว ร มี ก า ร จั ด เป็นการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบของความช่วยเหลือ หลักสูตรให้เช่ือมโยงกับผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วน ทางวิชาการเป็นหลัก จากการด�ำเนินงานท่ีผ่านมา เ ช่ น ภ า ค เ ก ษ ต ร ก ร ร ม ภ า ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ พื่ อ ใ ห้ พบว่า การถ่ายทอดองค์ความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่ การเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการจัดการสภาพแวดล้อม เกี่ยวข้องกับการจัดการสภาพภูมิอากาศให้แก่บุคลากร และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จากประเทศก�ำลังพั ฒนายังไม่สามารถท�ำได้อย่างเต็มท่ี มีความครอบคลุม ช่วยให้เกิดความรู้ความเข้าใจได้ เน่ืองจากพื้ นฐานความรู้ของผู้รับการอบรม อีกทั้ง มากข้ึน และมีความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ ระบบการศึกษาที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศอาจเป็น นอกจากนี้ ควรมีการจัดเก็บข้อมูลที่มีการจ�ำแนกตาม อุปสรรคในการศึกษาต่อของผู้รับทุน รวมถึงการเก็บ ร า ย ส า ข า วิ ช า ห รื อ ร า ย ภู มิ ภ า ค โ ด ย ร ะ บุ ผู้ ไ ด้ รั บ ทุ น ข้อมูลของประเทศไทยยังไม่มีการเก็บแบบเฉพาะเจาะจง ตามเพศ เพ่ื อสะท้อนถึงความเสมอภาคเท่าเทียมกัน จำ� แนกตามเพศ และแยกเป็นรายสาขาวิชาที่ให้ทุน และเป็นแนวทางในการจัดสรรทุนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รายงานความก้าวหน้าเปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 343 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

เป้าหมายท่ี 14 อนุรกั ษ์และใชป้ ระโยชนจ์ ากมหาสมุทร ทะเล และทรพั ยากรทางทะเลอยา่ ง ยัง่ ยืนเพื่ อการพั ฒนาทย่ี ั่งยนื SDG 14: Conserve and sustainably use the oceans, seas and marine resources for sustainable development 344 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDG Progress Report 2016-2020

อนุรกั ษแ์ ละใช้ประโยชน์จากมหาสมทุ ร ทะเล 14 และทรัพยากรทางทะเลอย่างยง่ั ยืน SDG เพื่ อการพั ฒนาที่ย่งั ยนื 14 มหาสมุทรและทะเลมีความส�ำคัญอย่างย่ิงต่อส่ิงมีชีวิตบนโลก ไม่ว่าจะเป็นวัฏจักรฝน น้�ำด่ืม ภูมิอากาศ ชายฝ่ ัง รวมถึงแหล่งอาหารและกิจกรรมต่าง ๆ ล้วนเก่ียวข้องกับมหาสมุทรและทะเล โดยประเทศไทยมีพ้ืนที่ทะเลและชายฝ่ ัง คิดเป็นร้อยละ 60 ของอาณาเขตทางบก ทรัพยากรทางทะเลเหล่าน้ีเป็นส่วนส�ำคัญของการพั ฒนาเศรษฐกิจและ หล่อเลี้ยงชีวิต อย่างไรก็ดี ปัญหาท้องทะเลไทยที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เช่น มลพิ ษทางทะเล ปรากฏการณ์ ทะเลกรด การกัดเซาะชายฝ่ ัง ปริมาณสัตว์ทะเลลดลง เช่น การท�ำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และการควบคุม (IUU Fishing) และการท�ำประมงพ้ืนบ้าน จากการตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ประเทศไทยจึงส่งเสริมการอนุรักษ์และ ใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพ่ื อการพั ฒนาที่ย่ังยืน สถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย การดำ� เนินการทีผ่ ่านมา ประเทศไทยได้จัดท�ำคู่มือการวางแผนเชิงพื้ นที่ทางทะเล ภ า ค ส่ ว น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ไ ด้ ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร อ นุ รั ก ษ์ ฟ้ ืน ฟู ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการของการจัดการท่ีมีระบบนิเวศเป็น ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ แ ล ะ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ท รั พ ย า ก ร ท า ง ท ะ เ ล ศูนย์กลาง และการวางแผนพื้ นที่ทะเลและชายฝ่ ัง เพื่ อ และชายฝ่ ังอย่างยั่งยืน อาทิ การจัดต้ังคณะกรรมการ การบริหารจัดการพื้นที่ทะเลและชายฝ่ ังให้ครอบคลุมทุกมิติ นโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และได้ด�ำเนินการแก้ไขปัญหาการประมง IUU จนสามารถ ชายฝ่ ังแห่งชาติ การจัดท�ำแผนการบริหารจัดการประมง ปลดใบเหลืองของคณะกรรมาธิการยุโรปได้อย่างเป็น ทะเลของประเทศไทย พ.ศ. 2563–2567 การจัดท�ำแผน ทางการในปี 2562 จากผลการประเมินดัชนีคุณภาพ อนุรักษ์พะยูนแห่งชาติระยะท่ี 1 ( พ.ศ. 2563 – 2565) มหาสมุทร (Ocean Health Index:OHI) ปี 2562 ก า ร อ อ ก ร ะ เ บี ย บ ก ร ม ป ร ะ ม ง ว่ า ด้ ว ย ก า ร ข อ แ ล ะ ประเทศไทยได้ 66 คะแนน จาก 100 คะแนน ตำ�่ กวา่ คา่ เฉลยี่ การออกใบรับรองมาตรฐานการท�ำประมงพ้ื นบ้านอย่าง ของโลก (71 คะแนน) และถกู จดั อยอู่ นั ดบั ท่ี 130 จาก 221 ย่ังยืนและแปรรูปสินค้าประมงพ้ื นบ้าน พ.ศ. 2563 เขตเศรษฐกิจจ�ำเพาะ โดยมีตัวช้ีวัดท่ีต้องเฝ้าระวัง ตลอดจนการจัดท�ำ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก ได้แก่ การเป็นแหล่งอาหาร และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ พ.ศ. 2561–2573 และแผนแม่บทการจัดการขยะมูลฝอย นอกจากน้ี ข้อมูลจาก UN Global SDG Database ของประเทศ(พ.ศ. 2559 –2564) ประเมินว่าปริมาณขยะทะเลของประเทศไทยเพิ่ มข้ึนจาก 447,946 ช้ิน ต่อตารางกิโลเมตร ในปี 2559 เป็น ห น่ ว ย ง า น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ไ ด้ จั ด ท� ำ ฐ า น ข้ อ มู ล ก ล า ง แ ล ะ 804,727 ชน้ิ ตอ่ ตารางกโิ ลเมตร ในปี 2561 ซง่ึ เพ่ิมขน้ึ ถงึ มาตรฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ ัง ติดตาม ร้อยละ 79.65 และมีความเข้มข้นของคลอโรฟิลล์-เอ ระดับความเป็นกรดของทะเลและมหาสมุทรโดยตรวจ ที่ผิดปกติจากการส�ำรวจระยะไกล (Chlorophyl-a วัดด้วยเครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์ความละเอียดสูง Anomaly, Remote Sensing) อยู่ในระดับที่สูง โดยอยู่ รวมท้ังบูรณาการข้อมูลจากเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ท่ีร้อยละ 1.36 ในปี 2563 เพิ่ มขึ้นจากร้อยละ 0.57 และข้อมูลอื่น ๆ เพ่ื อให้การวิเคราะห์และประมวลผล ในปี 2561 บ่งชี้ถึงสถานการณ์การเกิดปรากฏการณ์ เป็นไปอย่างแม่นย�ำและรวดเร็วย่ิงขึ้นตลอดจนพั ฒนา ยโู ทรฟเิ คชน่ั ในทอ้ งทะเลไทย ส่ ว น เ ช่ื อ ม ต่ อ แ บ บ จ� ำ ล อ ง py G N O M E เ พ่ื อ ใ ช้ ใ น การคาดการณ์ผลกระทบท่ีจากน้�ำมันร่ัวไหลต่อทรัพยากร ผลการประเมินดัชนีคุณภาพมหาสมุทร ทางทะเลและชายฝ่ ัง ของประเทศไทย ปี 2562 ท่ีมา: Ocean Health Index ในการแก้ไขปัญหาการประมง IUU ภาครัฐได้จัดต้ังศูนย์ 345 บัญชาการแก้ไขการท�ำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เพ่ื อเร่งรัดการแก้ไขปัญหา โดยปรับปรุงกฎหมาย และข้อบังคับท่ีเกี่ยวข้องกับการท�ำการประมง ด�ำเนิน มาตรการประเทศไทยปลอดสัตว์น�้ำและสินค้าสัตว์น�้ำ รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

14 อนุรักษแ์ ละใชป้ ระโยชน์จากมหาสมทุ ร ทะเล SDG และทรัพยากรทางทะเลอยา่ งยง่ั ยนื เพ่ื อการพั ฒนาทย่ี ง่ั ยนื 14 ท่ี ม า จ า ก ก า ร ท� ำ ป ร ะ ม ง I U U ร ว ม ท้ั ง ผ ลั ก ดั น ใ ห้ มี ขอ้ เสนอแนะ การจัดต้ังเครือข่ายอาเซียนเพื่ อต่อต้านการประมง IUU เพ่ื อแลกเปล่ียนข้อมูลเพ่ิ มประสิทธิภาพมาตรการ การบูรณาการระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพ่ื อร่วมกัน ตรวจสอบ ควบคุมและเฝ้าระวังของประเทศสมาชิก แก้ไขปัญหาทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ ัง เป็นปัจจัย ใ น ก า ร ต่ อ ต้ า น ก า ร ป ร ะ ม ง I U U ใ น อ า เ ซี ย น แ ล ะ ไ ด้ ส�ำคัญในการขับเคลื่อน SDG 14 ให้ประสบผลส�ำเร็จ จั ด ต้ั ง ศู น ย์ อ� ำ น ว ย ก า ร รั ก ษ า ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง ช า ติ รวมท้ังควรพั ฒนาฐานข้อมูลด้านทรัพยากรทางทะเลท่ี ทางทะเล (ศรชล.) ท�ำหน้าที่ในการคุ้มกันผลประโยชน์ ครอบคลุมและสามารถแลกเปล่ียนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทางทะเล เพื่ อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการรักษา ต ล อ ด จ น น� ำ ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ ข้ อ มู ล ภู มิ ส า ร ส น เ ท ศ ท่ี ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. 2562 ทันสมัยมาสนับสนุนการก�ำหนดนโยบายและแผนการ บริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ น อ ก จ า ก น้ี ไ ด้ ท บ ท ว น แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง แ ก้ ไ ข ก ฎ ห ม า ย ยิ่งขึ้น นอกจากน้ี ควรเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้ ท า ง ท ะ เ ล ใ ห้ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ อ นุ สั ญ ญ า ส ห ป ร ะ ช า ช า ติ กับผู้ประกอบการท�ำประมงและประชาชนท่ัวไปให้เห็นถึง ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 รวมท้ัง เตรียมการ ความส�ำคัญของการท�ำประมงอย่างย่ังยืนท่ีรับผิดชอบ เพื่ อรองรับพั นธกรณีและพั ฒนาการของกฎหมาย ต่อสังคม และส่ิงแวดล้อม รวมท้ังด�ำเนินมาตรการท่ี ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ท่ี จ ะ มี ก า ร ต ร า ข้ึ น ม า ใ ห ม่ แ ล ะ ท่ี จ ะ ป รั บ สนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการท�ำประมงขนาด เปล่ียนไปในอนาคต เล็กควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย เพ่ื อขจัดการท�ำ ประมง IUU โดยค�ำนึงถึงความม่ันคงทางอาหาร วิถีชีวิต ความท้าทาย และวัฒนธรรมของการท�ำประมงพื้ นบ้าน การแก้ไขปัญหาท่ีเก่ียวข้องกับทรัพยากรทางทะเลและ ผลการประเมินสถานะของ SDG 14 ชายฝ่ ังมีความซับซ้อน และเก่ียวข้องกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะในทะเล ท่ีต้องมีการจัดการและ ต่�ำกว่าค่าเป้าหมายข้ันวิกฤต : บรรลุค่าเป้าหมาย : บ�ำบัดขยะท่ีมีประสิทธิภาพต้ังแต่ต้นก�ำเนิดท้ังบนแผ่นดิน สถานการณ์ต่�ำกว่า 50% ของค่าเป้าหมาย สามารถบรรลุค่าเป้าหมาย 100% และในมหาสมุทร ปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคช่ันของพ้ื นท่ี แนวชายฝ่ ัง ซึ่งต้องมีการจัดการของเสียและมลพิ ษ SDG SDG SDG SDG SDG จากการท�ำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมท้ังความเป็นกรด ข อ ง ท ะ เ ล แ ล ะ ม ห า ส มุ ท ร อั น เ น่ื อ ง ม า จ า ก ป ริ ม า ณ ก๊ า ซ 14.1 14.5 14.2 14.6 14.7 คาร์บอนไดออกไซด์ที่เพ่ิมสูงข้ึนในชั้นบรรยากาศ ซ่ึงต้อง อาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนท่ีเป็นต้นเหตุส�ำคัญ SDG SDG SDG SDG SDG ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเฉพาะภาค พลังงาน ภาคอุตสาหกรรม และภาคคมนาคมขนส่ง 14.3 14.b 14.c 14.4 14.a นอกจากน้ี การพัฒนาการประมงอย่างย่ังยืนของประเทศ ไทยยังคงมีความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมายอย่าง ต่�ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเส่ียง : ต่�ำกว่าค่าเป้าหมาย : เคร่งครัด เช่น การห้ามการท�ำประมงท่ีท�ำลายสัตว์ สถานการณ์อยู่ในช่วง 51-75% ของค่าเป้าหมาย สถานการณ์อยู่ในช่วง 76-99% ของค่าเป้าหมาย วัยอ่อน และการลดจ�ำนวนของเรือป่ ันไฟจับสัตว์น�้ำที่ใช้ อวนตาถ่ี 346 รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาทีย่ ั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

อนรุ ักษแ์ ละใชป้ ระโยชนจ์ ากมหาสมทุ ร ทะเล 14 และทรพั ยากรทางทะเลอย่างย่งั ยนื SDG เพื่ อการพั ฒนาที่ย่งั ยืน 14 กรณศี กึ ษา แนวคิด SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยยง่ั ยนื 1. การจัดวางปะการังเทียมระยะที่ 1 จ�ำนวน 1,000 แท่ง ในพ้ื นที่ต�ำบลกระดังงา อ�ำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา และต�ำบลปะนาเระ อ�ำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี 2. การจัดวางปะการังเทียมระยะท่ี 2 จ�ำนวน 1,000 แท่ง ในพื้ นที่ชุมชนทะเลชายฝ่ ัง อ�ำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอ�ำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส แนวคิด SEACOSYSTEM เป็นความร่วมมือในการพัฒนา 3. โครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ที่ด�ำเนิน และฟ้ ืนฟู ท้องทะเลไทยระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน การต่อเน่ืองมาต้ังแต่ปี 2557 โดยสามารถร่วมอนุรักษ์ ภาคประชาสังคม และชุมชนเจ้าของพื้ นท่ี ในการจัดการ และฟ้ นื ฟู ป่าชายเลนได้รวม 2,388 ไร่ในพื้ นท่ี 5 จังหวัด กับปัญหาทะเลไทยที่ก�ำลังเข้าสู่ระยะวิกฤติจากปัญหา ได้แก่ ระยอง สมุทรสาคร ชุมพร สงขลา และพังงา ข ย ะ ใ น ท ะ เ ล ป ะ ก า รั ง ฟ อ ก ข า ว ป ะ ก า รั ง เ ส่ื อ ม โ ท ร ม ก า ร สูญพั นธุ์ของมวลสัตว์น้�ำ ตลอดจนผลกระทบต่อการท�ำ 4. รณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกตามเกาะต่าง ๆ ในทะเล ประมงพื้ นบ้าน ซ่ึงแนวคิด SEACOSYSTEM จะยึดหลัก ฝ่ ั ง อั น ด า มั น แ ล ะ อ่ า ว ไ ท ย เ ช่ น โ ค ร ง ก า ร เ ก็ บ ข ย ะ การอนุรักษ์และฟ้ นื ฟู ระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเล ข้ามเวลาบริเวณอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตรา และ เ ชิ ง บู ร ณ า ก า ร ผ่ า น ก า ร ด� ำ เ นิ น โ ค ร ง ก า ร ที่ ห ล า ก ห ล า ย อ่าวต่าง ๆ บนเกาะเขาใหญ่ แหล่งท่องเท่ียวทางทะเล โดยเน้นความส�ำคัญ 5 ด้าน ตั้งแต่นโยบายในการพัฒนา ของชาวสตูล รูปแบบการท�ำธุรกิจที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดย ค�ำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและส่ิงแวดล้อม และการมี 5. กิจกรรรมรณรงค์สร้างการเรียนรู้การจัดการขยะ ส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย การส่งเสริมศักยภาพชีวิต สู่การพั ฒนาการขับเคล่ือนตรังย่ังยืน ท�ำความดีด้วย ชมุ ชน โดยพัฒนาความเปน็ อยทู่ ีด่ อี ยา่ งยัง่ ยนื ดว้ ยรปู แบบ หัวใจลดภัยสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติการ Save เพื่อนมาเรียม ธุรกิจเพ่ื อสังคม การสร้างแหล่งท่ีอยู่อาศัยสัตว์น�้ำ เช่น รณรงค์เก็บขยะทะเล เขตเลเสบ้าน เพ่ื อตรังยั่งยืน โครงการป่าชายเลน โครงการปะการังเทียม บ้านปลา แนวเขตและกติกาเพ่ื อการอนุรักษ์ทรัพยากรของชุมชน 6. การเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์และฟ้ นื ฟู การขยายพันธุ์สัตว์น้�ำ เช่น โครงการธนาคารสัตว์น้�ำ และ ท รั พ ย า ก ร ท า ง ท ะ เ ล ต ล อ ด จ น ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ย ก การวิจัยและพั ฒนา โดยร่วมผลักดันให้เกิดการพั ฒนา ระดับคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้ นบ้าน ณ จังหวัด ด้านทรัพยากรทางทะเลระดับประเทศ ผ่านงานวิจัยท่ีเกิด นครศรีธรรมราช จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มา: เครือเจริญโภคภัณฑ์ จ�ำกัด มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรมประมง และกลุ่มภาคประชา สังคมในพื้นที่ ได้ด�ำเนินการในโครงการต่าง ๆ ดังน้ี รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 347 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

14 อนุรักษ์และใชป้ ระโยชนจ์ ากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างย่งั ยนื SDG เพื่ อการพั ฒนาทีย่ ่งั ยนื 14.1 ป้องกนั และลดมลพิษทางทะเลทุกประเภทอยา่ งมนี ยั ส�ำคญั โดยเฉพาะจากกจิ กรรมบนแผ่นดนิ รวมถงึ เศษซากขยะในทะเล และมลพิษจากธาตุอาหาร (nutrient pollution) ภายในปี 2568 ปญั หามลพิษทางทะเลมคี วามซบั ซอ้ นอยา่ งยงิ่ เนอ่ื งดว้ ยลกั ษณะของทะเลทอี่ ยปู่ ลายนำ�้ ทำ� ใหก้ จิ กรรมและเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขนึ้ บนแผ่นดินและชายฝ่ ังมีโอกาสท�ำให้เกิดสิ่งปนเป้ ือนลงสู่ทะเล อาทิ การปล่อยน�้ำเสีย ภาวะอุทกภัย การทิ้งขยะ จากแผ่นดินและชายฝ่ ัง ตลอดจนการปนเป้ ือนของมลพิ ษจากการท�ำกิจกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งส่งผลท�ำให้คุณภาพน้�ำทะเลมีสภาพไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพื ชพรรณและสัตว์ทะเล ก่อให้เกิดความเส่ียง ในการสูญพั นธุ์ของส่ิงมีชีวิตพ้ื นถิ่นในทะเล สถานการณ์การบรรลเุ ป้าหมายยอ่ ย คุณภาพน�้ำทะเลชายฝ่ ังของประเทศไทย ปี 2553 - 2562 ผลการประเมินคะแนนของตัวชี้วัดด้านคุณภาพน�้ำทะเล (Clean ocean waters) ภายใต้ดัชนีคุณภาพมหาสมุทร (Ocean Health Index: OHI) ที่จัดท�ำโดย Global OHI Team ซึ่งครอบคลุมการวัดการปนเป้ ือนของน�้ำ ทะเลจากสารเคมี ธาตุอาหารส่วนเกิน จุลินทรีย์ที่มาจาก มนุษย์และขยะ พบว่า ในปี 2562 คุณภาพมหาสมุทรของ ประเทศไทยปรับตัวดีข้ึน จาก 58 คะแนน ในปี 2561 เป็น 60 คะแนน จาก 100 คะแนนเต็ม และอยู่ในอันดับที่ 107 จาก 221 ประเทศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ ท่ีมา: กรมควบคุมมลพิษ ข้อมูลที่จัดเก็บโดยกรมควบคุมมลพิ ษที่ระบุว่าในรอบ 10 ปีท่ีผ่านมา คุณภาพน�้ำทะเลชายฝ่ ังของไทยที่อยู่ใน อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ด้านการจัดการและลดขยะทะเลของ เกณฑ์ดีมีสัดส่วนเพิ่ มสูงข้ึน โดยในปี 2562 คุณภาพ ประเทศไทยยังไม่ดีเท่าที่ควร และมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถ น้�ำทะเลชายฝ่ ังของไทยอยู่ในเกณฑ์ดีมีสัดส่วนร้อยละ 59 บรรลุ SDG 14.1 ภายในปี 2568 และเปา้ หมายของกระทรวง พอใช้ร้อยละ 34 เส่ือมโทรมร้อยละ 3 เส่ือมโทรมมากร้อยละ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ีมุ่งลดขยะในทะเล 2 และระดับดีมากร้อยละ 2 ลงร้อยละ 50 ภายในปี 2570 โดยในปี 2560 พบว่ามี ปรมิ าณขยะมลู ฝอยในพื้นทจี่ งั หวดั ชายฝ่ ังทะเล 23 จงั หวดั ผลการประเมินคะแนนคุณภาพน�้ำทะเลของประเทศไทย มากถึง 11.47 ล้านตัน แบ่งเป็นขยะที่มีการก�ำจัดอย่าง ปี 2558 - 2562 ถกู ตอ้ ง 6.89 ลา้ นตนั (รอ้ ยละ 60) นำ� กลบั ไปใชป้ ระโยชน์ 3.02 ลา้ นตนั (รอ้ ยละ 26) และกำ� จดั ไมถ่ กู ตอ้ ง 1.55 ลา้ นตนั (ร้อยละ 14) ในจ�ำนวนดังกล่าวจะมีขยะพลาสติกอยู่ ประมาณ 340,000 ตัน โดยร้อยละ 10-15 มีโอกาส ปนเป้ ือนลงสู่ทะเลได้ นอกจากน้ี ข้อมูลจาก UN Global SDG Database ประเมินว่าในปี 2561 ประเทศไทยมี ปรมิ าณขยะทะเล (beach litter) 804,727 ชนิ้ ตอ่ ตาราง กิโลเมตร เพิ่ มข้ึนจาก 447,946 ชิ้นต่อตารางกิโลเมตร ในปี 2559 และมีความเข้มข้นของคลอโรฟิลล์-เอ ที่ผิดปกติจากการส�ำรวจระยะไกล (Chlorophyl-a anomaly, remote sensing) อยู่ในระดับท่ีสูง โดยอยู่ท่ี ที่มา: Ocean Health Index รอ้ ยละ 1.36 ในปี 2563 เพ่ิมขน้ึ จากรอ้ ยละ 0.57 ในปี 2561 ซึ่งข้อมูลคลอโรฟลิ ล์-เอ ดังกล่าวช่วยบ่งชี้สถานการณ์ 348 การเกดิ ปรากฏการณย์ โู ทรฟเิ คชน่ั รายงานความก้าวหนา้ เปา้ หมายการพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020

อนุรกั ษ์และใชป้ ระโยชนจ์ ากมหาสมุทร ทะเล 14 และทรพั ยากรทางทะเลอยา่ งยง่ั ยนื เพื่ อการพั ฒนาที่ยง่ั ยนื SDG ป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทกุ ประเภทอยา่ งมนี ัยส�ำคญั 14.1 โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดนิ รวมถึงเศษซากขยะในทะเล และมลพิษจากธาตอุ าหาร (nutrient pollution) ภายในปี 2568 การด�ำเนินการท่ีผ่านมา ความท้าทาย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ ังได้จัดท�ำฐานข้อมูล การจัดเก็บขยะส่วนใหญ่ท่ีด�ำเนินการอยู่ในประเทศไม่มี กลางและมาตรฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ ัง การแยกประเภทของขยะ ตลอดจนระดับและประสิทธิภาพ รวมถึงการศึกษาวิจัยที่เก่ียวข้องกับพื ชทะเล สัตว์ ของการใช้ประโยชน์หรือการแปรรูปขยะเป็นพลังงาน ท ะ เ ล ก า ร กั ด เ ซ า ะ ช า ย ฝ่ ัง แ ล ะ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ใ น ยังมีขีดความสามารถท่ีจ�ำกัด โดยส่วนใหญ่จบลงด้วย เขตพื้ นท่ีอนุรักษ์ อาทิ โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ การเทกองการเผาแบบเปิด การฝังกลบที่ไม่ถูกหลักการ ทรัพยากรชายฝ่ ังทะเลอ่าวไทย และโครงการบริหาร เผาในเตาเผา และการท้ิงในแม่น้�ำล�ำคลองและมหาสมุทร จัดการขยะทะเล ขณะเดียวกัน ยังได้ด�ำเนินการวัด ซึ่ ง ไ ด้ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ร ะ บ บ นิ เ ว ศ ท า ง ท ะ เ ล สั ต ว์ ท ะ เ ล ค ว า ม ถ่ี ข อ ง ก า ร เ กิ ด ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ น้� ำ ท ะ เ ล เ ป ล่ี ย น สี การประมง และการท่องเที่ยว รวมถึงท�ำให้คุณภาพน�้ำ (red tide)ในพื้ นท่ีอ่าวไทยตอนบน และออกมาตรการ ทะเลเสื่อมโ ท ร ม ล ง อ ย่ า ง มี นั ย ส� ำ คั ญ ที่เก่ียวข้องทางกฎหมาย และการรณรงค์ต่าง ๆ ขอ้ เสนอแนะ นอกจากน้ี ได้มีการจัดท�ำ Roadmap การจัดการขยะ พลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 และขับเคล่ือนแผนแม่บท ควรให้ความส�ำคัญกับการพั ฒนาระบบการบริหารจัดการ การจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. 2559–2564) ขยะและน�้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ เพื่ อป้องกันไม่ให้ไหลลง ซึ่ ง มุ่ ง เ น้ น ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ มู ล ฝ อ ย ใ ห้ ค ร อ บ ค ลุ ม สู่ทะเล นอกจากน้ี ควรให้ความส�ำคัญกับการบังคับใช้ ท้ังต้นทางกลางทาง และปลายทาง รวมท้ังเร่งด�ำเนิน กฎหมายกับผู้ก่อมลพิ ษที่มีการทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือปล่อย ก า ร เ พ่ื อ ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ข ย ะ พ ล า ส ติ ก ท่ี มี น้�ำเสียลงสู่ทะเลโดยตรง พร้อมทั้งพัฒนาและประยุกต์ใช้ ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม โ ด ย มุ่ ง ย ก เ ลิ ก ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร แ ล ะ ก� ำ จั ด ข ย ะ ท่ี ทั น ส มั ย พลาสติก 4 ประเภท1 อย่างสิ้นเชิง และน�ำพลาสติก เพื่ อจัดการขยะอย่างถูกวิธีและน�ำขยะกลับมาใช้ใหม่ ก ลั บ เ ข้ า สู่ ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ห มุ น เ วี ย น ไ ม่ น้ อ ย ก ว่ า พร้อมกันนี้ควรบูรณาการข้อมูลทะเลและชายฝ่ ังให้ ร้อยละ 50 ภายในปี 2565 ท้ังน้ี หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เป็นระบบและครอบคลุมประเด็นมลพิ ษทางทะเลในทุกมิติ อยู่ระหว่างการประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่ อน�ำมา เพ่ื อให้เกิดการวัดผลการด�ำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ วิเคราะห์สถานการณ์การเกิดปรากฏการณ์ยูโทรฟเิ คชั่น และมีความต่อเนื่อง ห รื อ ส ภ า ว ะ ที่ มี ธ า ตุ อ า ห า ร ใ น ม ว ล น�้ ำ อุ ด ม ส ม บู ร ณ์ ม า ก เ กิ น ไ ป แ ล ะ ท� ำ ใ ห้ แ พ ล ง ก์ ต อ น พื ช เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต อย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อความสมดุลของ ระบบนิเวศในทะเลของประเทศไทย 1 พลาสติก 4 ประเภท ประกอบด้วย (1) ถุงพลาสติกหูห้ิว แบบบาง ถุงพลาสติกหูหิ้ว ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน (2) กล่องโฟมบรรจุอาหาร ไม่รวมถึงโฟมท่ีใช้กันกระแทกในภาคอุตสาหกรรม 349 (3) แก้วพลาสติกบาง แก้วพลาสติก ความหนาน้อยกว่า 100 ไมครอน และ (4) หลอดพลาสติก ยกเว้นการใช้กรณีจ�ำเป็น ได้แก่ การใช้ในเด็ก คนชรา ผู้ป่วย รายงานความกา้ วหนา้ เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ั่งยนื ของประเทศไทย พ.ศ. 2559-2563 Thailand’s SDGs Report 2016-2020


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook