Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ว31102

แผนการจัดการเรียนรู้ ว31102

Published by Saovaluck Tornonsung, 2021-05-09 05:54:30

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ว31102

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รหสั วิชา ว31102 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 โดย นางสาวเสาวลักษณ์ ตอโนนสูง ตาแหนง่ ครู โรงเรียนหว้ ยซอ้ วทิ ยาคม รชั มงั คลาภิเษก ตาบลหว้ ยซอ้ อาเภอเชียงของ จงั หวดั เชียงราย สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 36

คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ว31102) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 จัดทาข้ึน เพ่ือใช้ เปน็ คู่มอื ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวชิ าวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ว31102) ประจาภาคเรยี น ที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนห้วยซ้อวิทยาคม รัชมังคลาภิเษกของผู้เขียน ทั้งน้ีเพ่ือให้บรรลุผลการเรียนรูท้ ่ี คาดหวังตามสาระหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนห้วยซ้อวิทยาคม รัชมัง คลาภิเษก ตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ทั้งน้ีได้ปรับให้ สอดคลอ้ งกบั สภาพทแ่ี ท้จรงิ และยดื หยุ่นเวลาตามความเหมาะสม ผู้เขียนหวังเป็นอย่างย่ิงว่า แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ จะมีประโยชน์ต่อครูผู้สอนและผู้ที่ต้องการ ศึกษาเพื่อใช้ในการเตรียมการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาในการเตรียมการจัดการ เรียนรู้ของครู และช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีทักษะกระบวนการทั้งในทางวิทยาศาสตร์และการ ทางานรว่ มกนั รวมถงึ การเรียนรตู้ ามผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั อย่างมคี ณุ ภาพมากขน้ึ อนึ่ง แผนการจัดการเรียนรู้น้ียังมีข้อผิดพลาด บกพร่องหลายประการ หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้เขยี นยินดีที่จะพิจารณาเสมอ และจะปรับปรุงให้ดีข้นึ ในโอกาสต่อไป นางสาวเสาวลักษณ์ ตอโนนสงู ครู

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย โรงเรยี นหว้ ยซ้อวทิ ยาคม รชั มงั คลาภเิ ษก รายวิชา วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ รหสั ว31102 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรียนรู้ การลาเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ เร่ือง เซลล์ของสิ่งมชี ีวติ เวลา 2 ชัว่ โมง สอนวนั ท.่ี ........... เดอื น....................... พ.ศ. ........ ผู้สอน นางสาวเสาวลักษณ์ ตอโนนสูง มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ว1.2 : เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสมั พันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสรา้ งและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพชื ท่ที างานสมั พันธก์ ัน รวมทั้งนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ม.4/1 อธิบายโครสร้างและสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ที่สัมพันธ์กับการลาเลียงสาร และเปรยี บเทียบการลาเลียงสารผ่านเย่อื หุ้มเซลล์แบบตา่ งๆ สาระสาคญั เซลล์ Cell เป็นหน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิตทุกชนิด ประกอบด้วยโครงสร้างพ้ืนฐาน 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ ประกอบด้วยเยื่อหุ้มเซลล์ท่ีมีโครงสร้างเรียกว่าลิพิดไบเลเยอร์ ทาหน้าท่ีควบคุมการผ่านเข้า - ออก ของเซลล์ และผนังเซลล์ที่พบเฉพาะในเซลล์พืชเท่านั้น ส่วนท่ี 2 คือ ไซโทพลาซึม มีลักษณะเป็นของเหลว ประกอบด้วยออร์แกเนลล์หลายชนิดที่ทาหน้าท่ีแตกต่างกัน เช่น ไมโทคอนเดรีย ไรโบโซม คลอโรพลาสต์ เป็นต้น และส่วนท่ี 3 คือ นิวเคลียส ทาหน้าที่ควบคุมกิจกรรมต่างๆภายในเซลล์ โดยเซลล์แต่ละชนิดจะมีรูปร่าง ลักษณะ และหน้าที่แตกต่างกัน ในเซลล์ท่ีมีรูปร่างและหน้าที่เหมือนกันจะมารวมกลุ่มเป็นเน้ือเยื่อเพ่ือทาหน้าที่อย่าง เดียวกัน เนื้อเยื่อหลายชนิดรวมกันเป็นอวัยวะ หลายอวัยวะรวมกันเป็นระบบอวัยวะ และระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทางานรว่ มกนั เป็นร่างกายของสิง่ มชี วี ติ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เมอ่ื เรียน เร่อื ง เซลลข์ องส่งิ มชี วี ิต และผเู้ รยี นสามารถ 1. ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายลักษณะ และหน้าท่ีโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ของสง่ิ มีชวี ิต 2) อธบิ ายโครงสรา้ งและสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ 3) อธบิ ายหนา้ ท่ีของออร์แกเนลล์ตา่ งๆ ภายในเซลล์ 4) เปรียบเทยี บความแตกต่าง ระหว่างเซลล์พืชและเซลล์สัตว์

2. ดา้ นทักษะ/ กระบวนการ (P) 1) ใช้เครื่องมอื ทางวิทยาศาสตร์ การใช้กล้องจุลทรรศนอ์ ย่างถกู วิธี รู้วธิ ีเกบ็ และรกั ษากลอ้ งจุลทรรศน์ 3. คณุ ลักษณะ (A) 1) มีความใฝเ่ รยี นรู้ 2) ตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมและการเข้าชั้นเรียน สาระการเรยี นรู้ เย่ือหุ้มเซลล์มีโครงสร้างเป็นเย่ือห้มุ สองช้นั ท่ีมีลิพิดเป็นองค์ประกอบและมีโปรตีนแทรกอยู่ สารท่ีละลาย ได้ในลิพิดและสารท่ีมีขนาดเล็กสามารถแพร่ผ่านเย่ือหุ้มเซลล์ได้โดยตรง ส่วนสารขนาดเล็กท่ีมีประจุต้องลาเลียง ผ่านโปรตนี ท่ีแทรกอยู่ทเ่ี ยอื่ ห้มุ เซลล์ซ่ึงมี 2 แบบ คือการแพร่แบบฟาซลิ เิ ทต และแอกทฟี ทรานสปอรต์ ในกรณสี าร ขนาดใหญ่ เช่นโปรตนี จะลาเลยี งเข้าโดยกระบวนการเอนโดไซโทซสิ และลาเลียงออกโดยกระบวนการเอกโซไซโทซิส สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการทางานกลุม่ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ช้นิ งาน/ภาระงาน - กจิ กรรมปฏิบตั ิการ โครงสรา้ งของเซลล์

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ช่วั โมงที่ 1 (60 นาท)ี ) กิจกรรมนาสูก่ ารเรียน 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (5 นาที) 1.1 ครูชี้แจงโครงสร้างรายวชิ า ตวั ช้ีวัดและการประเมินผลรายวิชาใหน้ กั เรียนทราบ 1.2 ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 1.3 ครูใช้คาถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี น ดงั น้ี 1) นกั เรียนทราบหรอื ไมว่ า่ หนว่ ยย่อยพืน้ ฐานของสงิ่ มชี ีวติ คอื อะไร (หนว่ ยยอ่ ยพื้นฐานของสิ่งมชี วี ติ คอื เซลล)์ 2) ทาไมรา่ งกายของมนษุ ยจ์ งึ ประกอบด้วยเซลล์จานวนมาก ใหน้ กั เรยี นระดมความคิดแลว้ ตอบคาถาม (เนื่องจากมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ ซึ่งจะรวมกลุ่มกันทาหน้าท่ีเฉพาะอย่าง โดยร่างกายของสิ่งมีชีวิต จาเป็นต้องมีการกินอาหาร การหายใจ การขับถ่าย ซึ่งกระบวนการต่างๆเหล่าน้ีจะมีเซลล์มาทาหน้าที่ร่วมกันเพื่อให้กระบวนการ ตา่ งๆ อยใู่ นสภาวะปกติ ทาใหร้ ่างกายมนุษย์ต้องประกอบด้วยเซลล์จานวนมาก เพ่อื ใหก้ ารทางานของรา่ งกายเป็นปกต)ิ กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 2) ขนั้ สารวจและค้นหา (15 นาท)ี 2.1 ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุม่ ละ 4-5 คน 2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นเกี่ยวกับเซลล์ซึ่งเป็นหน่วยพ้ืนฐานที่เล็กท่ีสุดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด โดยท่ัวไปเซลล์มีขนาดเล็กไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์ประเภทต่างๆ มาศึกษา รูปรา่ งลักษณะของเซลล์ 2.3 ให้นักเรียนศึกษาโครงสร้างพ้ืนฐานของเซลล์ ทั้งเซลล์พืชและเซลล์สัตว์จากหนังสือเรียน และส่ือ นาเสนอ Power Point สังเกตและเปรยี บเทียบความเหมือนและแตกตา่ งระหวา่ เซลล์ทั้งสองชนิด 2.4 ครใู ห้นักเรยี นทากิจกรรมเสนอแนะ - กิจกรรมปฏิบัติการ โครงสร้างของเซลล์ ( เพื่อให้นักเรียนสามารถสรุปเก่ียวกับโครงสร้างและ องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของเซลล์ ) 3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (30 นาท)ี 3.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการสืบค้นและศึกษาเก่ียวกับโครงสร้างและองค์ประกอบพื้นฐานของ เซลล์ และเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งที่สงั เกตเห็นระหวา่ งเซลลพ์ ชื กับเซลล์สัตว์ 3.2 นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ไดผ้ ลการสบื ค้นและผลการศึกษาเหมือนหรอื ตา่ งกันอย่างไร เพราะเหตใุ ด 3.3 ครูตงั้ คาถามเพอื่ นาสู่การลงขอ้ สรปุ ดังน้ี - นกั เรียนบอกได้หรือไมว่ า่ เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั วเ์ หมอื นหรอื แตกต่างกันอย่างไร ( โครงสร้างและออร์แกเนลล์ที่พบในเซลล์พืชแต่ไม่พบในเซลล์สัตว์ ได้แก่ ผนังเซลล์ และคลอโรพลาสต์ ส่วน โครงสร้างและออร์แกเนลล์ทีพ่ บในเซลลส์ ตั วแ์ ต่ไม่พบในเซลลพ์ ชื ไดแ้ ก่ เซนทริโอล ) 3.4 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความสัมพันธ์ของรูปร่างต่อการทาหน้าท่ีของเซลล์ พร้อม ยกตัวอยา่ งชนิดของเซลล์

กิจกรรมรวบยอด 4) ข้นั ขยายความรู้ (5 นาท)ี 4.1 ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมกับนักเรียนว่าส่ิงมีชีวิตอาจจาแนกได้เป็น 2 พวกคือโพรคาริโอตและยูคาริโอต โดยพจิ ารณาการมีหรือไม่มเี ย่อื หุ้มนวิ เคลยี สเป็นเกณฑ์ โดยเซลล์ของสิ่งมชี ีวิตที่ไม่มีเยื่อหุ้มนวิ เคลยี สเรียกว่า เซลล์ โพรคาริโอต เช่น เซลล์ของแบคทีเรีย สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน ส่วนเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เรยี กว่า เซลลย์ คู าริโอต เชน่ เซลล์ของคน สัตว์ พืช โพรติสต์ เป็นตน้ 5) ขนั้ ประเมินผล (5 นาที) 5.1 ด้านความรู้ (K) ประเมินจาก 1. การทดสอบความรู้ผา่ นบทปฏิบัตกิ าร 2. องค์ความรทู้ น่ี กั เรยี นสบื ค้นข้อมูลและจดบนั ทกึ 5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ประเมินจาก 1. กระบวนการทางาน 2. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน (การสือ่ สารสงิ่ ที่เรียนรู)้ 5.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ประเมินจาก 1. การคิดวิพากษ์วิจารณ์ การคดิ อยา่ งมีเหตุมผี ล การคดิ อย่างสร้างสรรค์ 2. การทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื 3. ความสนใจใฝ่รู้ ใฝห่ า กิจกรรมนาสู่การเรยี น (ชว่ั โมงท่ี 2 (60 นาที)) 1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (5 นาท)ี 1.1 ตั้งประเด็นคาถามโดยใช้ภาพถ่ายจากกล้องจุลทรรศน์ประเภทต่างๆ ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายละออง เรณูจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ภาพพารามีเซียมจากกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง ภาพ องค์ประกอบภายในเซลล์จากกล้องจุลทรรศนอ์ ิเล็กตรอนแบบสอ่ งผา่ น ภาพสว่ นประกอบของแมลงจากกลอ้ งสเตอรโิ อ กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ 2) ขน้ั สารวจและคน้ หา (15 นาท)ี 2.1 จัดกลุ่มนักเรียน 4-5 คน ศกึ ษาสว่ นประกอบตา่ งๆ ของกลอ้ งจุลทรรศนแ์ บบใชแ้ สง 2.2 ฝึกปฏิบัติวิธีการใช้ การเก็บ การดูแลรักษากล้องจุลทรรศน์ หรืออาจศึกษาควบคู่กับการดูวีดิทัศน์ เรอ่ื งการใช้กลอ้ งจุลทรรศน์ 3) ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (30 นาท)ี 3.1 ครใู ห้นกั เรยี นทบทวนขนั้ ตอนปฏิบัตวิ ธิ ีการใชก้ ล้องจลุ ทรรศน์ 3.2 ครูควรให้นักเรียนได้ตระหนักถึงข้อควรระวังในการใช้กล้องจุลทรรศน์ ตลอดจนการเก็บรักษากล้อง จลุ ทรรศนเ์ พราะเปน็ อุปกรณ์ท่มี ีราคาแพงและอาจชารดุ ได้งา่ ย

กิจกรรมรวบยอด 4) ขน้ั ขยายความรู้ (5 นาท)ี 4.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบหลักการทางานของกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงและ กลอ้ งจุลทรรศนอ์ เิ ลก็ ตรอน โดยเปรยี บเทยี บในประเดน็ ตา่ งๆ ดังน้ี 1) ส่วนประกอบหลักของกลอ้ ง 2) ความสามรถในการขยายและการเห็นรายละเอียดของภาพ 3) การเกิดภาพ 4.2 ครูสรุปเร่ืองประสิทธิภาพของกล้องจุลทรรศน์ประเภทต่างๆ เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นและใน ขณะเดยี วกันนักเรยี นจะไดร้ จู้ กั หน่วยวัดขนาดดว้ ย 5) ขั้นประเมนิ ผล (5 นาท)ี 5.1 ดา้ นความรู้ (K) ประเมินจาก 1. การทดสอบความรู้ (การฝึกปฏิบัติวธิ กี ารใช้กล้องจุลทรรศน์แบบใชแ้ สง) 2. องคค์ วามรู้ทนี่ กั เรยี นสบื ค้นขอ้ มูล (จดบนั ทกึ ข้อมลู ทไี่ ด้จากการสืบคน้ ) 5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ประเมนิ จาก 1. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน (การส่ือสารสง่ิ ที่เรยี นรู้) 2. ทกั ษะการคิดต่างๆ ทส่ี ังเกตจากการอภิปราย การแสดงความคิดเห็นของนกั เรียน 3. ทักษะการทางานร่วมกนั ในกลุม่ 4. ทักษะการนาเสนอผลงานหรือส่อื สารสงิ่ ทเ่ี รียนรู้ 5.3 ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ หรือจิตวิทยาศาสตร์ (A) ประเมนิ จาก 1. การคิดวพิ ากษ์วจิ ารณ์ การคดิ อย่างมเี หตมุ ีผล การคดิ อย่างสร้างสรรค์ 2. การทางานร่วมกบั ผูอ้ น่ื 3. ความสนใจใฝร่ ู้ ใฝ่หา 4. การแสดงออกถงึ ความคดิ เหน็ 5. ความรับผิดชอบ ส่ือ / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 2. สือ่ คลปิ วีดโี อเก่ยี วกับเซลล์ 3. สือ่ คลิปวดี โี อเกย่ี วกบั การใชก้ ล้องจุลทรรศน์ 4. สื่อนาเสนอ Power Point เรอ่ื งโครงสร้างและองค์ประกอบของเซลล์ 5. สื่อนาเสนอ Power Point เร่อื งกลอ้ งจลุ ทรรศน์ 6. ใบความรู้ เร่ือง เซลล์ของส่ิงมชี ีวติ 7. ฐานขอ้ มลู จาก internet/ คลงั สอ่ื DLIT

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมินการผา่ น จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมินกจิ กรรม คะแนน 4 หมายถงึ ดเี ยย่ี ม (K) อธิบายลักษณะ และหนา้ ท่ี คะแนน 3 หมายถึง ดี โครงสรา้ งพื้นฐานของเซลลข์ อง ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ กิจกรรม คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ สิ่งมชี วี ิต คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรงุ ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมินกจิ กรรม ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป (K) อธิบายหนา้ ทข่ี อง ถือว่าผา่ น ออร์แกเนลลต์ ่างๆ ภายในเซลล์ สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล คะแนน 4 หมายถึง ดีเยย่ี ม สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คะแนน 3 หมายถึง ดี (K) เปรยี บเทียบความแตกตา่ ง สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ ระหว่างเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้ึนไป (P) ใช้เครือ่ งมือทาง ถอื ว่าผา่ น วิทยาศาสตร์ การใช้กล้อง คะแนน 4 หมายถึง ดเี ยี่ยม จุลทรรศนอ์ ยา่ งถกู วธิ ี รวู้ ิธเี กบ็ คะแนน 3 หมายถึง ดี และรักษากลอ้ งจลุ ทรรศน์ คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ (A) มีความใฝเ่ รยี นรู้ คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง (A) ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติ ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป กิจกรรมและการเขา้ ช้ันเรียน ถอื วา่ ผา่ น ผูเ้ รยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพ พอใช้ ขึ้นไป ถือว่าผ่าน ผเู้ รยี นไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น ผู้เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น

รายละเอียดเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมนิ นา้ หนกั 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 คะแนน 32 1. ระบโุ ครงสร้างพ้นื ฐาน 1 ระบโุ ครงสร้างพื้นฐาน ระบุโครงสรา้ งพื้นฐาน ระบโุ ครงสรา้ งพืน้ ฐาน ระบโุ ครงสร้างพื้นฐาน และส่วนประกอบของเซลล์ และสว่ นประกอบของ และสว่ นประกอบของ และส่วนประกอบของ และส่วนประกอบของ เซลล์ถูกต้อง 10 ส่วน เซลล์ถกู ตอ้ ง 7-9 สว่ น เซลลถ์ ูกตอ้ ง 4-6 สว่ น เซลลถ์ ูกตอ้ ง 1-3 ส่วน ข้ึนไป 2. ระบหุ นา้ ท่ขี องโครงสร้าง 2 ระบหุ น้าท่ขี อง ระบหุ น้าทขี่ อง ระบหุ น้าทข่ี อง ระบหุ น้าทข่ี อง พน้ื ฐานและส่วนประกอบของ โครงสร้างพืน้ ฐานและ โครงสรา้ งพ้ืนฐานและ โครงสร้างพ้ืนฐานและ โครงสร้างพื้นฐาน เซลล์ สว่ นประกอบของเซลล์ สว่ นประกอบของเซลล์ ส่วนประกอบของเซลล์ และสว่ นประกอบของ ถูกตอ้ ง 10 ส่วนข้ึนไป ถกู ต้อง 7-9 สว่ น ถกู ต้อง 4-6 สว่ น เซลล์ ถกู ต้อง 1-3 ส่วน 3. เปรียบเทียบความแตกตา่ ง 2 เปรียบเทยี บความ เปรียบเทยี บความ เปรียบเทยี บความ เปรยี บเทยี บความ ระหว่างเซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ แตกตา่ งระหวา่ งเซลล์ แตกตา่ งระหว่างเซลล์ แตกตา่ งระหวา่ งเซลล์ แตกต่างระหว่าง พืชและเซลลส์ ัตว์ พชื และเซลลส์ ัตว์ พืชและเซลลส์ ตั ว์ เซลล์พชื และเซลล์ ถูกตอ้ ง 6 ข้อขนึ้ ไป ถกู ต้อง 4-5 ขอ้ ถูกตอ้ ง 2-3 ข้อ สัตว์ ถกู ตอ้ ง 1 ขอ้ เกณฑก์ ารตดั สิน ระดับ 4 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพดีเยี่ยม ระดับ 3 หมายถึง มรี ะดับคุณภาพดี ระดบั 2 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ได้ระดบั 3 ข้นึ ไป ร้อยละ 60 ถือวา่ ประสบผลสาเรจ็ ในการสอน

แบบประเมนิ ใบกิจกรรมปฏิบัตกิ าร เซลล์ของส่งิ มชี ีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4/1 คาชีแ้ จง ใหค้ รผู ู้สอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแลว้ ใหท้ าเคร่ืองหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ที่ ช่อื – สกุล เนื้อหา การสรปุ ประโยชน์ของ การตรงตอ่ รวม สอดคลอ้ งกบั ความรู้ การเขียนสอ่ื การนาขอ้ มูล เวลา 20 หวั ข้อ ความ ไปใช้ คะแนน 43214321432143214321 1 นายไทยทัศน์ ภนู สุวรรณ์ 2 นายพรี ะพฒั น์ เจงิ ชยั ภมู ิ 3 นายวรากร ธรรมวงค์ 4 นายรชั ชานนท์ เมธีสทิ ธิกลุ 5 นางสาวปริษญา ประสทิ ธ์ิ 6 นางสาวพัทธธ์ รี า ตอ่ มคา 7 นางสาวจฬุ ารตั น์ พทุ ธวงค์ 8 นางสาวณัฐณิชา ปัญญาอ่ินแกว้ 9 นางสาวณัฐธิดา สุทธะ 10 นางสาวปริยากร จองรตั น์ 11 นางสาวมณฑิตา บวั เส้ยี ว 12 นางสาวอรจิรา ศรีอ่อน 13 นางสาวจรญิ าภรณ์ กุมกัน 14 นางสาวชญานิศ วงค์จักร 15 นางสาวสุดารัตน์ วิชา 16 นางสาวเฌอกาญจน์ ปญั ญาสุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั คุณภาพ ลงช่อื ................................................................ผู้ประเมิน ดมี าก ชว่ งคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 10-13 ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ต่ากวา่ 10 ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมปฏิบัติการ เซลลข์ องสงิ่ มชี ีวิต ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/2 คาชีแ้ จง ใหค้ รูผู้สอนประเมินใบงานของนกั เรียนแลว้ ให้ทาเครอื่ งหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน ที่ ชื่อ – สกุล เนื้อหา การสรุป ประโยชนข์ อง การตรงต่อ รวม สอดคลอ้ งกบั ความรู้ การเขยี นส่อื การนาขอ้ มลู เวลา 20 หัวขอ้ ความ ไปใช้ คะแนน 43214321432143214321 1 นายชยั ภสั พาลพล 2 นายกติ ติพงษ์ ธรรมวงค์ 3 นายประสพโชค แซ่ลี 4 นายธชั นนท์ แกว้ ระกา 5 นายกฤศธชั เปรมทอง 6 นายธรี ภทั ร พงศพ์ ชร 7 นายณัชพล สมโรย 8 นายนนทพัทธ์ ว่ิงพิมาย 9 นายวราวธุ กมุ กนั 10 นางสาว ญาณิศา จนั ทมิ า 11 นางสาว ประวีณา ธะนะ 12 นางสาว รัตนมณี แตงอ่อน 13 นางสาว เออื้ องั กรู หลีใจ 14 นางสาวจิรภญิ ญา ปญั ญาอ่นิ แกว้ 15 นางสาวเจนจริ า เมืองมลู 16 นางสาวปราญชลี เมอื งใจ 17 นางสาวฐิติพร บญุ แก้ว 18 นางสาวฐติ นิ ันท์ กอ้ นศรลี า 19 นางสาวพรรณกาญจน์ ตากองค์ 20 นางสาวอชิรญา ทา่ ล้อ เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคณุ ภาพ ลงชอ่ื ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ดมี าก ชว่ งคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 10-13 ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ตา่ กวา่ 10 ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน

แบบประเมินใบกจิ กรรมปฏิบตั กิ าร เซลลข์ องสิง่ มชี ีวติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4/3 คาชี้แจง ให้ครูผู้สอนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแลว้ ให้ทาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนน ที่ ชอื่ – สกลุ เนอ้ื หา การสรุป ประโยชนข์ อง การตรงต่อ รวม สอดคล้อง ความรู้ การเขียนส่ือ การนาขอ้ มูล เวลา 20 กบั หัวข้อ คะแนน ความ ไปใช้ 43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1 นายวรี ยทุ ธ พงศ์พชั ร 2 นายจารวุ ฒั น์ แซ่ซวิ 3 นายทิตนิ นั ต์ ปอแสง 4 นายสมศักดิ์ แซ่หย่ิง 5 นายสุรตั น์ แซ่เหอ้ 6 นายนคเรศ แซย่ ่าง 7 นายวรเวช ลี 8 นายไชยวัฒน์ ยเู บีย 9 นางสาวพัณณติ า ยอดมณบี รรพต 10 นางสาวรุจฬิ า กลู ตะ๊ 11 นางสาวภูมิณัฐดา ธนสธิ เทพธิฤทธิ์ 12 นางสาวภัสดา มาเยอะ 13 นางสาวณชิ กมล แซท่ ่อ 14 เด็กหญิงพรรณราย เหลก็ ดี 15 นางสาวภัทรชริ าภรณ์ ใจบญุ มา 16 นางสาวกนกวรรณ นะลี 17 นางสาวหมจี่ ู แซเ่ หมา 18 นางสาววิชดุ า แซ่เฮ้อ 19 นางสาวรชั ฎาภรณ์ หมน่ั พัฒนาการ เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคณุ ภาพ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมนิ ดมี าก ช่วงคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 10-13 ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ต่ากวา่ 10 ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน

แบบประเมนิ ใบกิจกรรมปฏิบัตกิ าร เซลล์ของส่งิ มชี ีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4/4 คาชีแ้ จง ใหค้ รผู ูส้ อนประเมินใบงานของนกั เรยี นแลว้ ใหท้ าเคร่ืองหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ที่ ชอื่ – สกลุ เนื้อหา การสรปุ ประโยชน์ของ การตรงตอ่ รวม สอดคลอ้ งกบั ความรู้ การเขียนสอ่ื การนาขอ้ มูล เวลา 20 หวั ข้อ ความ ไปใช้ คะแนน 43214321432143214321 1 นายนรวชิ ญ์ จนั ตะ๊ นาเขต 2 นายสุวนิ ัย ไชยชนะ 3 นายขจรเกียรติ ขันธพันธ์ 4 นายจกั รพรรด์ิ รู้อา่ น 5 นายจิรวัฒน์ ปิงเมือง 6 นายฐติ กิ ร นันทะเสน 7 นายพงศธร เตชะนันท์ 8 นายมานะ นันทะเสน 9 นายปยิ ะวฒั น์ ผะก่าคาแหลง 10 นายศาศวัต พลยุทธศาสตร์ 11 นายสุภทั ร อนิ ถานา 12 นายฐิติวุฒิ จอมลุน 13 นายวชั รพงค์ มูลบัวภา 14 นายสงกรานต์ สิรภิ มู ิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั คุณภาพ ลงช่อื ................................................................ผู้ประเมิน ดมี าก ช่วงคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 10-13 ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ต่ากวา่ 10 ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลกิจกรรมปฏิบัติการ เซลล์ของสิ่งมชี วี ิต ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมิน 4 3 21 เนอื้ หาสอดคล้อง ผลงานสอดคล้องกับหวั ข้อ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานไมค่ อ่ ยสอดคล้อง ผลงานไมส่ อดคลอ้ ง กบั หวั ข้อ หรอื เรือ่ งที่กาหนด หวั ข้อหรอื เรื่องทกี่ าหนด กับหวั ขอ้ หรอื เร่อื งท่ี กบั หวั ข้อหรอื เรอ่ื งที่ ในบางส่วน กาหนด กาหนด การสรปุ ความรู้ มกี ารสรุปความรู้ความ มกี ารสรปุ ความร้คู วาม มกี ารสรปุ ความรูค้ วาม มีการสรุปความร้ไู ม่ เข้าใจเกย่ี วกบั เร่ืองทีศ่ ึกษา เขา้ ใจเก่ยี วกบั เร่อื งที่ เขา้ ใจเกีย่ วกับเรอ่ื งท่ี ชดั เจน ไดช้ ดั เจน ครบถว้ น ศกึ ษาได้ชดั เจนดี ศกึ ษาได้ สมบรู ณ์ การเขียนสือ่ เขยี นสือ่ ความไดถ้ กู ต้อง เขยี นสอ่ื ความไม่ถกู ต้อง เขียนสอื่ ความไม่ถกู ตอ้ ง เขยี นสือ่ ความได้นอ้ ย ความ ตามอกั ขรวิธี ตรงประเดน็ ตามอกั ขรวิธี 4-5 แหง่ ตามอกั ขรวิธี 2-3 แห่ง ไม่ตรงประเดน็ และเขา้ ใจง่าย ตรงประเด็น ตรงประเด็น ประโยชน์ของ สามารถนาขอ้ มลู ทไี่ ด้ไป สามารถนาข้อมูลทไ่ี ดไ้ ป สามารถนาขอ้ มูลทไ่ี ดไ้ ป ไม่สามารถนาขอ้ มูลที่ การนาขอ้ มลู ประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียน การสอนและใน ประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียน ปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ได้ไปปรบั ใชไ้ ด้ ไปใช้ ชีวติ ประจาวัน การสอนได้ ได้ ความตรงต่อ สง่ งานตรงเวลามีความ รับผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ ับ ทางานที่ไดร้ ับ ทางานท่ีได้รบั เวลา รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย สง่ งานตรง มอบหมายได้ มอบหมายไม่ครบทกุ มอบหมายสร้างสรรคง์ าน เวลาบางครง้ั สว่ น ศิลปะไดอ้ ย่างถูกต้อง

แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นรายบคุ คล ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นร้วู นั ที่.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน รวม ระดับ ที่ ชือ่ – สกลุ ความต้งั ใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นร่วมใน (16) คุณภาพ ในการเรยี น และการ คาถาม กิจกรรม (4) 1 นายไทยทัศน์ ภูนสุวรรณ์ ซักถาม (4) 2 นายพรี ะพฒั น์ เจงิ ชยั ภูมิ (4) (4) 3 นายวรากร ธรรมวงค์ 4 นายรชั ชานนท์ เมธสี ทิ ธกิ ลุ 5 นางสาวปริษญา ประสิทธ์ิ 6 นางสาวพทั ธธ์ ีรา ต่อมคา 7 นางสาวจุฬารตั น์ พทุ ธวงค์ 8 นางสาวณฐั ณชิ า ปญั ญาอิน่ แก้ว 9 นางสาวณฐั ธดิ า สทุ ธะ 10 นางสาวปริยากร จองรัตน์ 11 นางสาวมณฑติ า บวั เสี้ยว 12 นางสาวอรจิรา ศรอี ่อน 13 นางสาวจรญิ าภรณ์ กุมกนั 14 นางสาวชญานิศ วงค์จกั ร 15 นางสาวสดุ ารัตน์ วิชา 16 นางสาวเฌอกาญจน์ ปญั ญาสุ เกณฑ์การให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย ลงชือ่ ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ...................../..................../................... 14-16 ดมี าก 11-13 ดี เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน นักเรยี นทีไ่ ดร้ ะดับคุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถือว่า ผา่ น

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายบุคคล ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/2 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นร้วู ันท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน รวม ระดับ มีสว่ นรว่ มใน (16) คุณภาพ ท่ี ชือ่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ ในการเรยี น และการ คาถาม กจิ กรรม (4) 1 นายชัยภัส พาลพล ซกั ถาม (4) 2 นายกติ ติพงษ์ ธรรมวงค์ (4) (4) 3 นายประสพโชค แซ่ลี 4 นายธชั นนท์ แก้วระกา 5 นายกฤศธชั เปรมทอง 6 นายธีรภัทร พงศ์พชร 7 นายณัชพล สมโรย 8 นายนนทพัทธ์ ว่ิงพิมาย 9 นายวราวธุ กมุ กนั 10 นางสาว ญาณิศา จันทิมา 11 นางสาว ประวีณา ธะนะ 12 นางสาว รัตนมณี แตงออ่ น 13 นางสาว เออื้ อังกรู หลใี จ 14 นางสาวจิรภิญญา ปญั ญาอิ่นแกว้ 15 นางสาวเจนจริ า เมืองมลู 16 นางสาวปราญชลี เมืองใจ 17 นางสาวฐิตพิ ร บุญแก้ว 18 นางสาวฐิตนิ ันท์ ก้อนศรีลา 19 นางสาวพรรณกาญจน์ ตากองค์ 20 นางสาวอชริ ญา ท่าล้อ เกณฑ์การใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย ลงช่อื ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ...................../..................../................... 14-16 ดมี าก 11-13 ดี เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั น้ี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน นักเรยี นท่ีไดร้ ะดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียนรายบุคคล ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรวู้ นั ท่ี.......................เดือน................................................พ.ศ.................................. เกณฑก์ ารให้คะแนน รวม ระดับ มสี ว่ นรว่ มใน (16) คุณภาพ ท่ี ชอื่ – สกุล ความต้งั ใจ ความสนใจ การตอบ ในการเรยี น และการ คาถาม กจิ กรรม (4) 1 นายวีรยุทธ พงศพ์ ชั ร ซักถาม (4) 2 นายจารุวัฒน์ แซ่ซิว (4) (4) 3 นายทติ ินันต์ ปอแสง 4 นายสมศักดิ์ แซห่ ยิ่ง 5 นายสุรตั น์ แซเ่ หอ้ 6 นายนคเรศ แซย่ ่าง 7 นายวรเวช ลี 8 นายไชยวัฒน์ ยเู บีย 9 นางสาวพัณณิตา ยอดมณีบรรพต 10 นางสาวรจุ ฬิ า กลู ตะ๊ 11 นางสาวภูมณิ ัฐดา ธนสธิ เทพธิฤทธิ์ 12 นางสาวภัสดา มาเยอะ 13 นางสาวณชิ กมล แซท่ ่อ 14 เด็กหญงิ พรรณราย เหลก็ ดี 15 นางสาวภัทรชิราภรณ์ ใจบญุ มา 16 นางสาวกนกวรรณ นะลี 17 นางสาวหม่จี ู แซเ่ หมา 18 นางสาววิชดุ า แซ่เฮอ้ 19 นางสาวรชั ฎาภรณ์ หมั่นพฒั นาการ ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบท้าย เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดังน้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไี่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึ้นไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนรายบุคคล ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/4 สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรวู้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน รวม ระดับ ที่ ชื่อ – สกลุ ความตง้ั ใจ ความสนใจ การตอบ มีส่วนร่วมใน (16) คุณภาพ ในการเรียน และการ คาถาม กจิ กรรม (4) 1 นายนรวิชญ์ จนั ตะ๊ นาเขต ซกั ถาม (4) 2 นายสุวนิ ัย ไชยชนะ (4) (4) 3 นายขจรเกียรติ ขันธพนั ธ์ 4 นายจกั รพรรดิ์ รู้อา่ น 5 นายจิรวฒั น์ ปงิ เมือง 6 นายฐิติกร นันทะเสน 7 นายพงศธร เตชะนนั ท์ 8 นายมานะ นันทะเสน 9 นายปิยะวัฒน์ ผะกา่ คาแหลง 10 นายศาศวตั พลยทุ ธศาสตร์ 11 นายสุภัทร อนิ ถานา 12 นายฐติ ิวฒุ ิ จอมลนุ 13 นายวชั รพงค์ มลู บวั ภา 14 นายสงกรานต์ สริ ภิ มู ิ เกณฑ์การให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย ลงช่ือ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ...................../..................../................... 14-16 ดีมาก 11-13 ดี เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั น้ี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑ์การสรุปผลการประเมิน นกั เรยี นท่ไี ด้ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือว่า ผา่ น

เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบุคคล ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรงุ (1) 1. ความตั้งใจใน การเรียน สนใจในการเรียนไมค่ ยุ สนใจในการเรียนคุยกนั สนใจในการเรียนคุยกนั ไมส่ นใจในการเรยี น 2. ความสนใจ หรือเล่นกันในขณะเรยี น เล็กน้อยในขณะเรยี น และเลน่ กันในขณะเรยี น คยุ และเล่นกนั ในขณะ และการซกั ถาม เปน็ บางครง้ั เรยี น 3. การตอบ คาถาม มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ีตนไม่ มีการถามในหัวขอ้ ท่ีตน มีการถามในหวั ขอ้ ทตี่ น ไมถ่ ามในหัวข้อทีต่ น 4. มสี ่วนร่วมใน เขา้ ใจทุกเรือ่ งและกล้า ไมเ่ ขา้ ใจเป็นสว่ นมาก ไม่เข้าใจเปน็ บางคร้งั ไมเ่ ขา้ ใจและไม่กลา้ กิจกรรม แสดงออก และกลา้ แสดงออก และไม่คอ่ ยกลา้ แสดงออก แสดงออก รว่ มตอบคาถามในเรือ่ งที่ รว่ มตอบคาถามในเร่อื ง รว่ มตอบคาถามในเรื่อง ไม่ตอบคาถาม ครถู ามและตอบคาถามถูก ทีค่ รถู ามและตอบ ทคี่ รูถามเปน็ บางครัง้ ทกุ ข้อ คาถามสว่ นมากถูก และตอบคาถามถกู เป็น บางคร้ัง ร่วมมือและช่วยเหลือ รว่ มมอื และช่วยเหลอื รว่ มมอื และชว่ ยเหลือ ไม่มีความร่วมมือ เพื่อนในการทากจิ กรรม เพอ่ื นเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพอื่ นในการทากิจกรรม ในขณะทากิจกรรม การทากจิ กรรม เปน็ บางครั้ง

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรวู้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดบั ชื่อ – สกุล การปฏิสมั พนั ธก์ ัน การสนทนาเรอ่ื ง การ พฤตกิ รรมการ รวม ระดบั ท่ี (4) ทก่ี าหนด ติดต่อสอ่ื สาร ทางานกลมุ่ (16) คุณภาพ (4) (4) (4) 1 นายไทยทศั น์ ภนู สวุ รรณ์ 2 นายพีระพฒั น์ เจงิ ชยั ภมู ิ 3 นายวรากร ธรรมวงค์ 4 นายรัชชานนท์ เมธีสทิ ธกิ ลุ 5 นางสาวปรษิ ญา ประสทิ ธิ์ 6 นางสาวพัทธธ์ ีรา ต่อมคา 7 นางสาวจุฬารตั น์ พุทธวงค์ 8 นางสาวณัฐณิชา ปญั ญาอน่ิ แก้ว 9 นางสาวณัฐธดิ า สทุ ธะ 10 นางสาวปรยิ ากร จองรตั น์ 11 นางสาวมณฑติ า บวั เสี้ยว 12 นางสาวอรจิรา ศรอี อ่ น 13 นางสาวจริญาภรณ์ กมุ กัน 14 นางสาวชญานิศ วงคจ์ ักร 15 นางสาวสุดารัตน์ วชิ า 16 นางสาวเฌอกาญจน์ ปัญญาสุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบท้าย ลงชอื่ ................................................................ผู้ประเมิน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ...................../..................../................... ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-16 ดีมาก เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 11-13 ดี นกั เรยี นท่ีไดร้ ะดับคณุ ภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่า ผ่าน 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/2 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้วันท่ี.......................เดือน................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การให้คะแนน ลาดับ ชอ่ื – สกุล การปฏิสมั พันธก์ นั การสนทนาเรอ่ื ง การ พฤตกิ รรมการ รวม ระดบั ที่ (4) ทางานกลุ่ม (16) คุณภาพ ท่กี าหนด ติดตอ่ สอ่ื สาร (4) (4) (4) 1 นายชยั ภัส พาลพล 2 นายกิตติพงษ์ ธรรมวงค์ 3 นายประสพโชค แซล่ ี 4 นายธัชนนท์ แก้วระกา 5 นายกฤศธัช เปรมทอง 6 นายธรี ภทั ร พงศ์พชร 7 นายณัชพล สมโรย 8 นายนนทพัทธ์ วงิ่ พิมาย 9 นายวราวุธ กมุ กนั 10 นางสาว ญาณิศา จันทิมา 11 นางสาว ประวีณา ธะนะ 12 นางสาว รัตนมณี แตงอ่อน 13 นางสาว เอ้ือองั กรู หลใี จ 14 นางสาวจริ ภญิ ญา ปัญญาอน่ิ แกว้ 15 นางสาวเจนจริ า เมอื งมลู 16 นางสาวปราญชลี เมืองใจ 17 นางสาวฐติ พิ ร บุญแกว้ 18 นางสาวฐิตนิ ันท์ กอ้ นศรีลา 19 นางสาวพรรณกาญจน์ ตากองค์ 20 นางสาวอชิรญา ทา่ ล้อ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นักเรียนทไี่ ด้ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ้นึ ไป ถอื วา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/3 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนร้วู นั ท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การให้คะแนน ลาดบั ช่อื – สกลุ การปฏิสมั พันธก์ นั การสนทนาเรือ่ ง การ พฤติกรรมการ รวม ระดบั ท่ี (4) ทางานกลมุ่ (16) คุณภาพ ทกี่ าหนด ตดิ ตอ่ สอื่ สาร (4) (4) (4) 1 นายวรี ยทุ ธ พงศพ์ ัชร 2 นายจารวุ ัฒน์ แซ่ซิว 3 นายทติ ินันต์ ปอแสง 4 นายสมศักดิ์ แซห่ ยงิ่ 5 นายสรุ ตั น์ แซ่เห้อ 6 นายนคเรศ แซย่ ่าง 7 นายวรเวช ลี 8 นายไชยวัฒน์ ยเู บีย 9 นางสาวพัณณติ า ยอดมณีบรรพต 10 นางสาวรจุ ฬิ า กลู ต๊ะ 11 นางสาวภมู ิณฐั ดา ธนสธิ เทพธิฤทธ์ิ 12 นางสาวภัสดา มาเยอะ 13 นางสาวณิชกมล แซ่ท่อ 14 เด็กหญงิ พรรณราย เหลก็ ดี 15 นางสาวภัทรชริ าภรณ์ ใจบญุ มา 16 นางสาวกนกวรรณ นะลี 17 นางสาวหมี่จู แซเ่ หมา 18 นางสาววชิ ดุ า แซเ่ ฮอ้ 19 นางสาวรชั ฎาภรณ์ หมัน่ พัฒนาการ เกณฑ์การให้คะแนนดังตารางแนบท้าย ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมิน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ...................../..................../................... 14-16 ดีมาก 11-13 ดี เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรงุ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน นักเรยี นทีไ่ ด้ระดับคุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป ถือว่า ผ่าน

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/4 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรวู้ ันที่.......................เดือน................................................พ.ศ.................................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดับ ชื่อ – สกลุ การปฏิสมั พนั ธก์ ัน การสนทนาเรอ่ื ง การ พฤตกิ รรมการ รวม ระดบั ที่ (4) ทางานกลมุ่ (16) คุณภาพ ทก่ี าหนด ติดต่อสอ่ื สาร (4) (4) (4) 1 นายนรวิชญ์ จันตะ๊ นาเขต 2 นายสุวินยั ไชยชนะ 3 นายขจรเกยี รติ ขนั ธพันธ์ 4 นายจักรพรรดิ์ รู้อา่ น 5 นายจิรวฒั น์ ปงิ เมือง 6 นายฐติ ิกร นันทะเสน 7 นายพงศธร เตชะนนั ท์ 8 นายมานะ นันทะเสน 9 นายปยิ ะวฒั น์ ผะก่าคาแหลง 10 นายศาศวตั พลยุทธศาสตร์ 11 นายสภุ ทั ร อนิ ถานา 12 นายฐติ ิวุฒิ จอมลนุ 13 นายวัชรพงค์ มลู บัวภา 14 นายสงกรานต์ สริ ภิ มู ิ เกณฑ์การใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบท้าย ลงชอื่ ................................................................ผู้ประเมิน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ...................../..................../................... ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-16 ดีมาก เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 11-13 ดี นกั เรยี นท่ีไดร้ ะดับคณุ ภาพพอใช้ขึ้นไป ถือว่า ผ่าน 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรงุ

เกณฑ์การวัดและประเมินผลการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายกลุม่ ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมนิ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ตอ้ งปรบั ปรุง (1) 1. การ ปฏิสัมพนั ธ์กัน ร่วมมอื และชว่ ยเหลอื เพ่ือน รว่ มมือและช่วยเหลอื ร่วมมอื และชว่ ยเหลอื ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ ในขณะทากจิ กรรม 2. การสนทนา ในการทากิจกรรม เพื่อนเปน็ สว่ นใหญใ่ น เพ่อื นในการทากิจกรรม เร่อื งทีก่ าหนด สนทนาไมต่ รงประเดน็ การทากจิ กรรม เป็นบางคร้ัง 3. การ ไมม่ ีการปรกึ ษาครูและ ตดิ ตอ่ ส่อื สาร สนทนาตรงประเด็น สนทนาตรงประเด็น สนทนาตรงประเดน็ เพือ่ นกล่มุ อนื่ ๆ 4. พฤตกิ รรมการ ครอบคลมุ เนอ้ื หา ครอบคลมุ เนอ้ื หา ไม่มีการวางแผนอย่าง ทางาน เป็นระบบ และไม่มี บางส่วน การแบง่ หนา้ ท่ขี อง สมาชิกในกลมุ่ มกี ารปรกึ ษาครูและเพ่อื น มีการปรึกษาครูและ มีการปรึกษาครแู ละ กลมุ่ อ่ืน ๆ เพอ่ื นกลุ่มอ่นื ๆ เปน็ เพอื่ นกลุ่มอนื่ ๆ เป็น สว่ นใหญ่ บางครงั้ มกี ารวางแผนอยา่ งเปน็ มีการวางแผนอยา่ งเป็น มีการวางแผนอย่างเป็น ระบบ และแบง่ หน้าทข่ี อง ระบบ และแบง่ หน้าท่ี ระบบ และแบง่ หน้าที่ สมาชกิ ของสมาชกิ ของสมาชิก ในกลมุ่ ในกล่มุ เป็นสว่ นใหญ่ ในกลุ่มเปน็ บางครง้ั

บันทึกผลหลงั การการเรียนรู้ ข้อสังเกต / ข้อค้นพบ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางแก้ไขเพ่อื การปรบั ปรงุ พฒั นา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ผลการพฒั นา (บนั ทกึ หลังจากท่ีได้พัฒนาผูเ้ รยี นดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆแลว้ ) ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ...............................................ครผู ู้สอน (นางสาวเสาวลักษณ์ ตอโนนสูง) ............./................../.............. ภาคผนวก - เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการวดั ประเมินผล - ใบงาน / ใบกจิ กรรม - แนวคาตอบของใบงาน / ใบกิจกรรม - แบบบันทึกการประเมนิ ตา่ ง ๆ - หากในชั่วโมงนนั้ มีแบบทดสอบให้ใส่แบบทดสอบพรอ้ มเฉลยดว้ ย

กิจกรรมปฏบิ ตั ิการเรอ่ื ง โครงสร้างของเซลล์ จดุ ประสงค์ 1. ระบโุ ครงสรา้ งพน้ื ฐาน และส่วนประกอบของเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ 2. เปรียบเทยี บลกั ษณะและส่วนประกอบของเซลล์ ระหว่างเซลลพ์ ืชและเซลล์สัตว์ วัสดุ อุปกรณ์ 6. นา้ 1. เข็มเข่ยี 7. ก้านสาลี 2. หลอดหยด 8. สารละลายไอโอดนี 3. กลอ้ งจุลทรรศน์ 9. สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 4. ปากคบี ปลายแหลม 10. สาหร่ายหางกระรอก 5. กระจกสไลด์และกระจกปิดสไลด์ ตอนท่ี 1 ศึกษาเซลล์ใบสาหร่ายหางกระรอก 1. หยดน้าลงบนกระจกสไลด์ 2. ใชป้ ากคบี ปลายแหลมเด็ดใบของสาหร่ายหางกระรอกบริเวณใกล้สว่ นยอด 1 ใบ 3. วางบนหยดน้าบนกระจกสไลด์ ปดิ ดว้ ยกระจกปดิ สไลด์ 4. นาไปศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยใช้เลนส์ใกล้วัตถกุ าลงั ขยายต่าสดุ (4x) และกาลังขยายสงู สุด (40x) ตามลาดบั สังเกตและวาดภาพทเ่ี ห็นภายใต้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ ตอนที่ 2 ศึกษาเซลล์เย่ือบุข้างแกม้ 1. หยดสารละลายโซเดยี มคลอไรดล์ งบนกระจกสไลด์ 2. ใช้ก้านลาสที ีส่ ะอาดขดู เบาๆ ที่ด้านในของกระพงุ้ แกม้ แลว้ นาไปแตะลงบนกระจกสไลดท์ ม่ี ีหยด สารละลายโซเดยี มคลอไรด์อยู่ 3. หยดสารละลายไอโอดนี 1 หยด ลงบนเยือ่ บขุ ้างแก้มบนกระจกสไลด์ แล้วปิดดว้ ยกระจกปดิ สไลด์ 4. นาไปศึกษาภายใต้กลอ้ งจุลทรรศน์ โดยใช้เลนสใ์ กล้วตั ถุกาลังขยายต่าสดุ และกาลังขยายสงู สุด ตามลาดบั สงั เกตและวาดภาพที่เหน็ ภายใต้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ คาถามท้ายกจิ กรรม 1. จงอธบิ ายลักษณะและสว่ นประกอบของเซลลส์ าหรา่ ยหางกระรอกและเซลลเ์ ยอื่ บุข้างแกม้ 2. จากการศึกษาเซลลภ์ ายใต้กล้องจุลทรรศน์ สว่ นประกอบใดท่ีพบในเซลล์สาหรา่ ยหางกระรอกแต่ใม่พบ ในเซลล์เย่ือบุขา้ งแก้ม เพราะเหตใุ ด 3. เพราะเหตุใดจึงตอ้ งหยดสารละลายไอโอดีนลงบนเยื่อบขุ ้างแกม้ 4. วาดรปู เซลล์ และระบอุ งค์ประกอบของเซลล์ พร้อมบอกหนา้ ท่ใี หถ้ ูกต้อง

แนวคาตอบ…กิจกรรมปฏบิ ตั ิการเรอื่ ง โครงสรา้ งของเซลล์ จดุ ประสงค์ 1. ระบุโครงสร้างพ้นื ฐาน และสว่ นประกอบของเซลล์พืชและเซลลส์ ตั ว์ 2. เปรยี บเทยี บลกั ษณะและสว่ นประกอบของเซลล์ ระหว่างเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ ปญั หา เซลล์พชื และเซลลส์ ัตว์มีโครงสรา้ งและส่วนประกอบตา่ งกันหรอื ไม่ สมมติฐาน เซลลพ์ ืช (สาหรา่ ยหางกระรอก) มลี ักษณะค่อนขา้ งเหลย่ี ม ประกอบดว้ ย ผนงั เซลล์ เยือ่ ห้มุ เซลล์ ไซ โทพลาสซึม นิวเคลียส และคลอโรพลาสต์ ส่วนเซลลส์ ตั ว์ (เซลล์เย่อื บขุ ้างแกม้ ) มีลักษณะคอ่ นข้างกลม ประกอบด้วย เย่อื หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาสซึม และนิวเคลยี ส วัสดุ อุปกรณ์ 6. น้า 1. เขม็ เข่ยี 7. ก้านสาลี 2. หลอดหยด 8. สารละลายไอโอดนี 3. กลอ้ งจลุ ทรรศน์ 9. สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 4. ปากคีบปลายแหลม 10. สาหรา่ ยหางกระรอก 5. กระจกสไลด์และกระจกปิดสไลด์ ตอนท่ี 1 ศกึ ษาเซลล์ใบสาหรา่ ยหางกระรอก 1. หยดน้าลงบนกระจกสไลด์ 2. ใชป้ ากคีบปลายแหลมเดด็ ใบของสาหร่ายหางกระรอกบริเวณใกล้ส่วนยอด 1 ใบ 3. วางบนหยดน้าบนกระจกสไลด์ ปดิ ดว้ ยกระจกปดิ สไลด์ 4. นาไปศึกษาภายใต้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ โดยใชเ้ ลนสใ์ กล้วัตถุกาลงั ขยายตา่ สุด (4x) และกาลังขยายสูงสุด (40x) ตามลาดบั สังเกตและวาดภาพที่เห็นภายใต้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ ตอนท่ี 2 ศกึ ษาเซลล์เยื่อบุข้างแก้ม 1. หยดสารละลายโซเดียมคลอไรด์ลงบนกระจกสไลด์ 2. ใช้กา้ นลาสที สี่ ะอาดขูดเบาๆ ที่ด้านในของกระพุง้ แก้ม แล้วนาไปแตะลงบนกระจกสไลด์ทมี่ ีหยด สารละลายโซเดียมคลอไรด์อยู่ 3. หยดสารละลายไอโอดีน 1 หยด ลงบนเยอื่ บขุ ้างแก้มบนกระจกสไลด์ แลว้ ปิดด้วยกระจกปดิ สไลด์ 4. นาไปศกึ ษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยใช้เลนสใ์ กลว้ ตั ถุกาลังขยายต่าสดุ และกาลงั ขยายสูงสดุ ตามลาดบั สังเกตและวาดภาพที่เห็นภายใต้กลอ้ งจลุ ทรรศน์

บนั ทกึ ผลการทดลอง เซลลเ์ ย่ือบขุ า้ งแกม้ เซลล์สาหรา่ ยหางกระรอก ตัวอย่างภาพ ลักษณะท่ีมองเห็นภายใต้ ตวั อย่างภาพ ลกั ษณะทีม่ องเหน็ ภายใตก้ ลอ้ ง กล้องจลุ ทรรศน์ จุลทรรศน์ สว่ นเซลลเ์ ยอ่ื บขุ ้างแกม้ เซลลส์ าหรา่ ยหางกระรอกมรี ูปร่าง เหลี่ยมประกอบดว้ ยวิง่ ทีห่ อ่ หุ้ม มรี ปู รา่ งกลม มเี ยื่อหุ้มเซลล์เป็น เซลล์ 2 ช้ัน ไดแ้ ก่ ผนังเซลล์อยู่ ด้านนอกและเยื่อหมุ้ เซลลอ์ ยดู่ ้าน สว่ นท่ีห้อหุ้มเซลลเ์ พียงชนั้ เดยี ว ใน ภายในไซโทพลาสซึมจะ สามารถเห็นเพียงนวิ เคลียสที่มี ภายในไซโทพลาสซมึ พบเพยี ง ลกั ษณะกลมใส แตล่ ะเซลลจ์ ะมี เพียง 1 นิวเคลยี ส และเหน็ คลอ นิวเคลียสท่ีย้อมติดสขี อง โรพลาสต์ท่ีมีลักษณะกลมสเี ขยี ว กระจายอย่ภู ายในเซลลเ์ ป็น สารละลายไอโอดีน และไม้พบ จานวนมาก ออรแ์ กเนลลช์ นิดอ่ืนๆ อภปิ รายผลการทดลอง จากกจิ กรรมตอนที่ 1 พบวา่ เซลลส์ าหรา่ ยหางกระรอกซ่ึงเปน็ เซลลพ์ ชื จะมีลกั ษณะคอ่ นขา้ งเหลยี่ ม ประกอบดว้ ย สว่ นประกอบสาคญั คอื ผนงั เซลล์ เยอื่ หุ้มเซลล์ ไซโทพลาสซมึ นิวเคลียส และคลอโรพลาสต์ จากกจิ กรรมตอนที่ 2 พบว่า เซลลเ์ ย่ือบขุ า้ งแก้ม ซ่งึ เปน็ เซลลส์ ตั ว์ จะมีลักษณะค่อนขา้ งกลมหรอื ไมแ่ นน่ อน ประกอบดว้ ยส่วนประกอบสาคญั คอื เย่อื ห้มุ เซลล์ ไซโทพลาสซมึ และนวิ เคลียส จากกิจกรรมทัง้ 2 ตอนพบว่า เซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์จะมรี ูปร่างของเซลล์ที่แตกต่างกัน ซ่งึ เซลล์พชื มลี กั ษณะค่อนข้าง เหลีย่ ม เน่ืองจากมีผนงั เซลล์ท่ีมีรปู รา่ งแนน่ อน แต่เซลลส์ ัตวม์ ลี ักษณะคอ่ นขา้ งกลม โดยสว่ นประกอบที่พบในเซลล์พืชและเซลล์ สตั ว์ คือ เยอ่ื หมุ้ เซลล์ ไซโทพลาสซึม และนวิ เคลยี ส แตใ่ นเซลล์พชื จะพบผนังเซลล์ซึ่งเป็นโครงสรา้ งทเ่ี พ่มิ ความแขง็ แรงให้แก่เซลล์ พชื และคลอโรพลาสต์ ซง่ึ ทาหน้าทส่ี ร้างอาหารใหแ้ ก่พชื ซงึ่ ทั้งผนังเซลลแ์ ละคลอโรพลาสตจ์ ะไมพ่ บในเซลล์สตั ว์ แนวการตอบ…คาถามทา้ ยกิจกรรม 1. จงอธิบายลกั ษณะและสว่ นประกอบของเซลล์สาหร่ายหางกระรอกและเซลล์เย่ือบุขา้ งแกม้ เซลล์สาหร่ายหางกระรอกมีรูปร่างเหลี่ยมประกอบด้วยว่ิงท่ีห่อหุ้มเซลล์ 2 ชั้น ได้แก่ ผนังเซลล์อยู่ด้านนอกและเย่ือหุ้ม เ ซ ล ล์ อ ยู่ ด้ า น ใ น ภ า ย ใ น ไ ซ โ ท พ ล า ส ซึ ม พ บ ค ล อ โ ร พ ล า ส ต์ แ ล ะ นิ ว เ ค ลี ย ส ส่ ว น เ ซ ล ล์ เ ยื่ อ บุ ข้ า ง แ ก้ ม มีรูปรา่ งกลม มีเยือ่ ห้มุ เซลลเ์ ปน็ สว่ นทห่ี ้อหุ้มเซลล์เพยี งชัน้ เดยี ว ภายในไซโทพลาสซึมพบเพียงนิวเคลยี สเทา่ นัน้ 2. จากการศกึ ษาเซลลภ์ ายใตก้ ล้องจลุ ทรรศน์ ส่วนประกอบใดที่พบในเซลลส์ าหรา่ ยหางกระรอกแต่ใม่พบ ในเซลล์เยอ่ื บุข้างแกม้ เพราะเหตุใด คลอโรพลาสตแ์ ละผนังเซลล์ เนอ่ื งจากจะพบในเซลล์พืชเท่าน้ัน 3. เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งหยดสารละลายไอโอดนี ลงบนเยอ่ื บุข้างแกม้ การหยดสารละลายไอโอดีนบนเซลล์เย่ือบุข้างแก้ม เพ่ือช่วยในการย้อมสีเซลล์ให้เห็นรายละเอียดโครงสร้างต่างๆ ของ เซลลไ์ ดช้ ัดเจนมากข้ึน

4. (แนวการวาดรปู และการตอบ) นิวเคลยี ส เก็บบรรจุสารพนั ธุกรรม ผนงั เซลล์ เพม่ิ ความแข็งแรงให้แกเ่ ซลล์ คลอโรพลาสต์ สรา้ งอาหารให้แก่เซลลโ์ ยผา่ น กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง ไซโทพลาสซมึ แหลง่ ท่ีอย่ขู องโครงสร้างที่ เรียกว่า ออร์แกเนลล์แต่ละชนดิ แวคิวโอล สะสมสารต่างๆ เชน่ นา้ ตาล นวิ เคลยี ส เกบ็ บรรจสุ ารพันธกุ รรม เยื่อหุ้มเซลล์ เปน็ เยอื่ เลือกผ่าน ควบคุมแรงดัน ปริมาณสารต่างๆ ไมโทคอนเดรีย เป็นแหล่งสรา้ งพลงั งาน ให้แก่เซลล์ ไลโซโซม ย่อยสลายอนภุ าคและโมเลกลุ ของ สารอาหารภายในเซลล์ เยื่อหมุ้ เซลล์ เป็นเย่อื เลอื กผ่าน ควบคุมแรงดนั ปรมิ าณสารต่างๆ

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนหว้ ยซอ้ วิทยาคม รชั มังคลาภิเษก รายวิชา วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ รหัส ว31102 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรู้ การลาเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ เรื่อง การลาเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ เวลา 2 ชวั่ โมง สอนวนั ท่ี....... เดือน....................... พ.ศ. ........ ผู้สอน นางสาวเสาวลกั ษณ์ ตอโนนสงู มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ว1.2 : เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ โครงสรา้ งและหน้าทข่ี องอวัยวะต่างๆ ของพชื ทีท่ างานสมั พันธก์ ัน รวมทง้ั นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชีว้ ัด ม.4/1 อธิบายโครสร้างและสมบัตขิ องเย่อื หุ้มเซลลท์ ี่สัมพนั ธก์ บั การลาเลยี งสาร และเปรยี บเทียบการลาเลียงสารผา่ นเยือ่ หุม้ เซลลแ์ บบต่างๆ สาระสาคัญ เซลล์จาเป็นต้องไดร้ ับสารตา่ งๆ เชน่ น้า อาหาร และแกส๊ เข้าสเู่ ซลล์ กาจัดสารหรอื ของเสียต่างๆ ออกจากเซลลเ์ พือ่ รักษาดลุ พภาพและการดารงชวี ิตของเซลล์ โดยเซลลอ์ าศยั การลาเลยี งสารผ่านเข้า - ออกเซลล์ ซงึ่ มหี ลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ การแพร่ การแพร่แบบฟาซลิ ิเทต ออสโมซิส การลาเลยี งสารแบบใชพ้ ลงั งาน การลาเลยี ง สารขนาดใหญ่ (เอนโดไซโทซสิ เอกโทไซโทซสิ ) ซึง่ จะมีรปู แบบและกลไกที่แตกตา่ งกนั จุดประสงค์การเรยี นรู้ เมื่อเรยี น เร่อื ง การลาเลียงสารเขา้ -ออกเซลล์ และผู้เรียนสามารถ 1. ด้านความรู้ (K) 1) อธิบายหลกั การลาเลยี งสารผา่ นเข้าออกเซลลร์ ูปแบบตา่ งๆ 2) เปรียบเทียบการลาเลยี งสารแบบการแพร่ และการแพร่แบบฟาซลิ เิ ทต 3) เปรยี บเทียบการลาเลียงสาร การแพรแ่ บบฟาซลิ ิเทต กับการลาเลียงโดยอาศัยพลงั งาน 4) เปรยี บเทียบการลาเลียงสารขนาดใหญก่ ับการลาเลียงสารขนาดเล็กรปู แบบต่างๆ 2. ด้านทกั ษะ/ กระบวนการ (P) 1) เขยี นลาดบั ขั้นการลาเลยี งสารขนาดใหญ่เข้า-ออกเซลล์ได้

3. คณุ ลกั ษณะ (A) 1) มีความใฝเ่ รยี นรู้ 2) ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมและการเข้าชน้ั เรยี น สาระการเรียนรู้ เยื่อหุ้มเซลล์มีโครงสร้างเป็นเยื่อหมุ้ สองชน้ั ที่มีลิพิดเป็นองค์ประกอบและมีโปรตีนแทรกอยู่ สารท่ีละลาย ได้ในลิพิดและสารท่ีมีขนาดเล็กสามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ได้โดยตรง ส่วนสารขนาดเล็กท่ีมีประจุต้องลาเลียง ผา่ นโปรตีนทีแ่ ทรกอยู่ทีเ่ ย่อื หุม้ เซลลซ์ ่งึ มี 2 แบบ คือการแพร่แบบฟาซลิ เิ ทต และแอกทฟี ทรานสปอรต์ ในกรณสี าร ขนาดใหญ่ เชน่ โปรตีนจะลาเลยี งเข้าโดยกระบวนการเอนโดไซโทซิส และลาเลยี งออกโดยกระบวนการเอกโซไซโทซสิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการระบุ - ทักษะการเปรียบเทยี บ - ทักษะการใหเ้ หตุผล - ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ - กระบวนการทางานกลมุ่ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ช้นิ งาน/ภาระงาน - แบบทดสอบ เรือ่ ง การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ - สมุดบนั ทกึ และแบบฝึกหัดท้ายบท เรอื่ ง การลาเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ - กิจกรรมปฏบิ ตั ิการ เร่อื ง การแพรแ่ ละการออสโมซิส กิจกรรมการเรยี นรู้ (ช่ัวโมงท่ี 1 (60 นาที)) กิจกรรมนาสูก่ ารเรยี น 1) ข้นั สร้างความสนใจ (10 นาท)ี 1.1 ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ในชีวิตประจาวัน เช่น แม่ค้าผักจะใช้น้าพรมและใช้ผ้าขาวบางคลุมผักไว้ เพ่อื ไมใ่ หผ้ กั เหย่ี ว หรอื อาจตง้ั คาถามกับนักเรียน ดังนี้

1) ทาไมต้องแช่ดอกไม้สดในแจกันทีม่ ีนา้ 2) นา้ เขา้ สเู่ ซลลข์ องพืชได้อย่างไร 3) นา้ มีความสาคญั อย่างไรตอ่ เซลล์ของสิ่งมีชวี ติ กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ 2) ข้ันสารวจและคน้ หา (30 นาท)ี 2.1 ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลมุ่ ละ 3-4 คน 2.2 ครูใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรม เพ่อื ศกึ ษาการลาเลียงสารผ่านเซลลพ์ ชื 2.3 ในการทากิจกรรมครูต้องเตรียมสารละลายกลูโคสความเข้มข้น 10% ไว้ล่วงหน้าพร้อมนัดหมาย นกั เรยี นใหเ้ ตรยี มเนื้อเยอื่ พืช เชน่ หวั หอม ใบว่านกาบหอย หรือหวั ใจสมี ่วง 2.4 กอ่ นทากิจกรรมครทู บทวนการใชก้ ล้องจลุ ทรรศนแ์ ละสาธิตวธิ ีการลอกเย่ือหอม หรอื เนื้อเยอ่ื พชื 2.5 ครูแนะนาการสังเกตเซลล์พืชว่ามีการลาเลียงสารเกิดข้ึนหรือไม่ โดยให้นักเรียนสังเกตที่เย่ือหุ้มเซลล์ ของเซลล์เย่ือหอมในสภาวะปกติเม่ืออยู่ในน้าก่อนทาการทดลอง เพื่อเปรียบเทียบกับเซลล์เยื่อหอมเม่ืออยู่ใน สภาวะท่ีมกี ลโู คสแทนท่ีน้า 3) ข้นั อธิบายและลงข้อสรุป (30 นาท)ี 3.1 ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการสบื ค้นและร่วมกนั อภปิ รายผลการทดลองตามประเด็นต่างๆ ดงั นี้ 1) ก่อนการทดลองลักษณะของเซลล์เมื่ออยู่ในน้าเปน็ อย่างไร ( เซลลท์ ่อี ย่ใู นนา้ จะอยู่ในสภาพเซลล์เต่ง เยอื่ หมุ้ เซลล์และผนังเซลลอ์ ยใู่ นสภาพปกติ ) 2) ลกั ษณะของเซลล์ทีอ่ ยู่ในสารละลายกลูโคส กบั เซลลท์ ่ีอยใู่ นน้าเหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร ( ลักษณะของเซลลท์ ่ีอยู่ในน้าสารละลายกลูโคสต่างจากเซลลท์ ่ีอยู่นา้ คือเยื่อหุ้มเซลล์จะอยู่ห่างจากผนังเซลลแ์ สดง วา่ เซลลเ์ ร่มิ เหย่ี วลง ) 3) นักเรียนจะอธิบายการเปลีย่ นแปลงของเซลล์ในกจิ กรรมน้ี อย่างไร ( เมือ่ เซลล์อยใู่ นนา้ ความเขม้ ขน้ ของสารละลายนอกเซลล์น้อยกว่าภายในเซลล์ โมเลกุลของน้าจากภายนอกเซลล์จะ ออสโมซิสเข้าสเู่ ซลล์ทาให้เซลล์เตง่ ในทางตรงกันข้ามเม่อื เซลลอ์ ยูใ่ นสารละลายกลโู คสความเข้มขน้ ของสารละลายภายนอกเซลล์ เข้มข้นกวา่ ภายในเซลลท์ าใหน้ ้าจากภายในเซลล์ออสโมซิสออกสู่ภายนอก เซลล์จึงเหี่ยว ) กจิ กรรมรวบยอด 4) ข้ันขยายความรู้ (10 นาที) 4.1 ครูให้นักเรียนศึกษาการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดงในสารละลายชนิดต่างๆ และถาม คาถามดังน้ี 1) เซลล์เม็ดเลือดแดงทั้ง 3 ภาพมรี ูปร่างอย่างไร 2) ทศิ ทางการเคลอ่ื นท่เี ข้าและออกของนา้ เป็นอย่างไร 3) จากทั้ง 3 กรณี นักเรียนคิดว่าความเข้มข้นของสารละลายที่อยภู่ ายนอกของเซลล์มีค่าเหมือนหรือ ต่างจากสารละลายภายในเซลล์อย่างไร

4.2 ครูเพิม่ เตมิ ว่า - สารละลายที่มคี วามเข้มขน้ เทา่ กบั สารละลายภายในเซลล์ เรยี กว่า สารละลายไอโซโทนกิ (เซลลป์ กติ) - สารละลายทม่ี ีความเข้มข้นมากกว่าสารละลายภายในเซลล์ เรยี กว่า สารละลายไฮเพอรโ์ ทนิก (เซลล์เห่ยี ว) - สารละลายที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าสารละลายภายในเซลล์ เรยี กว่า สารละลายไฮโพโทนกิ (เซลลเ์ ตง่ ) การเคล่ือนท่ีของน้าผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ โดยท่ีเซลล์มีการเปล่ียนแปลงสภาพเมื่ออยู่ในสารละลายประเภท ต่างๆ เราเรียกการเคล่อื นทีข่ องน้าว่า การแพรแ่ บบออสโมซสิ 5) ขัน้ ประเมนิ ผล (5 นาท)ี 1. ดา้ นความรู้ (K) ประเมินจาก 1. การทดสอบความรู้ 2. องค์ความรทู้ นี่ กั เรียนสืบค้นขอ้ มลู และจดบนั ทกึ 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ประเมนิ จาก 1. กระบวนการทางาน (การเตรยี มสไลด์เพ่ือศึกษาการลาเลียงสารผ่านเซลลพ์ ชื ) 2. ทักษะการนาเสนอผลงาน (การสือ่ สารส่ิงที่เรียนร้)ู 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ประเมนิ จาก 1. การคดิ วพิ ากษว์ ิจารณ์ การคดิ อย่างมีเหตมุ ีผล การคดิ อย่างสร้างสรรค์ 2. การทางานรว่ มกับผู้อนื่ 3. ความสนใจใฝร่ ู้ ใฝห่ า 4. การแสดงออกถงึ ความคิดเห็น 5. ความรับผิดชอบ กจิ กรรมนาส่กู ารเรียน (ชัว่ โมงที่ 2 (60 นาที)) 1) ขั้นสร้างความสนใจ (10 นาท)ี 1.1 จากผลการทากิจกรรมการลาเลียงสารผ่านเซลล์พืช โดยศึกษาการเปล่ียนแปลงสภาพของเซลล์เม่ือ อยู่ในสารละลายที่มีความเข้มข้นต่างกัน นักเรียนทราบหรือไม่ว่าเซลล์มีการลาเลียงสารเข้า-ออกจากเซลล์ได้ อย่างไร 1.2 ครูสาธิตโดยใช้เกล็ดด่างทับทิมลงในบีกเกอร์ท่ีมีน้าให้นักเรียนสังเกตการณ์เปล่ียนแปลงพร้อมถาม คาถาม ดังน้ี 1) การแพรม่ ที ิศทางการเคลอื่ นท่ีของสารอย่างไร 2) สารท่แี พร่มีสถานนะใดได้บ้าง 3) การแพรจ่ าเปน็ ต้องผ่านเย่ือหมุ้ เซลล์หรอื ไม่ 4) เมือ่ ถงึ จดุ สมดุลของการแพรแ่ ลว้ สารท่แี พร่จะหยดุ การเคล่ือนทีห่ รอื ไม่

กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 2) ขนั้ สารวจและค้นหา (30 นาที) 2.1 จดั กลุ่มนกั เรยี น 3-4 คน ศึกษาเกี่ยวกบั การลาเลยี งสารแบบต่างๆ 2.2 ให้นักเรียนสังเกตความแตกต่างระหว่างการแพร่แบบธรรมดากับการแพร่แบบฟาซิลิเทต โดยอาจตั้ง คาถามเพ่มิ เติม ดังนี้ 1) การแพรแ่ บบฟาซิลิเทตมลี กั ษณะแตกต่างจากการแพร่แบบธรรมดาอย่างไร (เป็นการแพร่ของสารทต่ี ้องอาศัยโปรตีนเป็นตัวพา) 2) อัตราการแพรแ่ บบฟาซลิ ิเทตต่างจากการแพร่แบบธรรมดาอย่างไร เพราะเหตุใด (มีอตั ราเรว็ สงู กว่าเพราะมีโปรตีนทเ่ี ย่อื หมุ้ เซลลเ์ ป็นตวั พาสารเขา้ สูเ่ ซลล)์ 2.3 ให้นักเรียนสังเกตความแตกต่างระหว่างการแพร่กับการลาเลียงแบบใช้พลังงาน โดยอาจต้ังคาถาม เพมิ่ เตมิ ดงั นี้ 1) ทศิ ทางการเคลื่อนที่ของสารเหมือนหรือต่างจากการแพร่อย่างไร (ตรงกนั ขา้ มโดยการเคลอ่ื นท่ีของสารแบบใช้พลังงานเป็นการเคลื่อนท่ีของสารจากบริเวณทม่ี คี วามเขม้ ข้นนอ้ ยไปยัง บรเิ วณท่มี ีความเขม้ ข้นสงู ) 2) หากเปรียบเทียบการแพร่ของน้าเหมือนการปล่อยน้าจากที่สูง การลาเลียงแบบใช้พลังงาน เปรยี บเทยี บได้กับเหตกุ ารณ์ใด (การใช้เคร่อื งสูบน้าโดยพลังงานไฟฟา้ ข้ึนสูต่ ึกสูง) 3) พลังงานทเ่ี ซลลใ์ ช้ ไดม้ าจากสารใด (ATP Adenosine triphosphate) 4) การลาเลยี งสารแบบฟาซลิ ิเทตเหมอื นหรอื ตา่ งกับการลาเลียงสารแบบใชพ้ ลงั งานอย่างไร (เหมือนกันคือต้องอาศัยโปรตีนที่แทรกอยู่ในเย่ือหุ้มเซลล์เป็นตัวพา ต่างกันตรงท่ีการแพร่แบบฟาซิลิเทตเป็นการ แพรข่ องสารแบบไมใ่ ช้พลงั งาน สารเคลอื่ นทจ่ี ากบริเวณทมี่ ีความเขม้ ข้นสงู ไปบรเิ วณทีม่ คี วามเขม้ ข้นตา่ ) 2.4 ให้นักเรยี นสบื ค้นข้อมลู วิธีการนา้ สารขนาดใหญ่เขา้ สู่เซลล์ และวิธีการลาเลยี งสารแต่ละแบบ 3) ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรุป (30 นาที) 3.1 สรุปการลาเลียงโดยการสร้างถุงจากเยื่อหุ้มเซลล์ ซ่ึงเป็นการลาเลียงสารขนาดใหญ่มี 3 แบบ คือ ฟาโกไซโทซสิ พโิ นไซโทซสิ และการนา้ สารเขา้ สู่เซลล์โดยอาศยั ตวั รบั ซึ่งมีวิธีการลาเลียงสารท่แี ตกต่างกนั กิจกรรมรวบยอด 4) ขั้นขยายความรู้ (10 นาที) 4.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการลาเลียงสารผ่านเข้า-ออกเซลล์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตา่ งกันของแตล่ ะวิธี 4.2 ครูขยายความรู้โดยตั้งคาถามว่า นักเรียนจะนาความรู้เก่ียวกับออสโมซิสมาใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจาวันได้อย่างไรบ้าง

(นาความรู้เกยี่ วกับออสโมซสิ มาใช้ในชีวติ ประจาวัน เช่น การแชผ่ ักในนา้ เพอ่ื ไมใ่ หผ้ กั เหยี่ ว การดองผกั และผลไมเ้ พอื่ เก็บ รักษา และถนอมอาหาร การแช่อม่ิ ผลไมร้ สเปรี้ยวต่างๆ เป็นตน้ ) 5) ขัน้ ประเมนิ ผล (5 นาที) 1. ดา้ นความรู้ (K) ประเมนิ จาก 1. การทดสอบความรู้ เร่อื ง การลาเลียงสารผ่านเขา้ และออกจากเซลล์ 2. องคค์ วามรทู้ ่นี ักเรยี นสบื คน้ ข้อมูล (จดบนั ทึกขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการสบื ค้น) 2. ด้านทักษะกระบวนการ (P) ประเมินจาก 1. ทกั ษะการนาเสนอผลงาน (การสอ่ื สารสิง่ ที่เรยี นรู)้ 2. ทักษะการคิดตา่ งๆ ทส่ี ังเกตจากการอภิปราย การแสดงความคดิ เห็นของนักเรยี น 3. ทักษะการทางานร่วมกันในกล่มุ 4. ทกั ษะการนาเสนอผลงานหรือส่ือสารสิ่งทเี่ รยี นรู้ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมินจาก 1. การคิดวิพากษ์วิจารณ์ การคดิ อย่างมีเหตุมผี ล การคดิ อย่างสร้างสรรค์ 2. การทางานร่วมกับผูอ้ ่นื 3. ความสนใจใฝร่ ู้ ใฝห่ า 4. การแสดงออกถงึ ความคิดเหน็ 5. ความรบั ผิดชอบ สือ่ / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 2. สือ่ คลิปวดี ีโอเกย่ี วกบั การเปลีย่ นสภาพของเซลลใ์ นสารละลายต่างชนดิ กนั 3. สือ่ นาเสนอ Power Point เรอื่ งการลาเลยี งสารผ่านเข้าและออกจากเซลล์ 4. ฐานขอ้ มลู จาก internet/ คลังสื่อ DLIT

การวัดและประเมินผล วิธีการวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ การผ่าน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินกจิ กรรม คะแนน 4 หมายถงึ ดีเยี่ยม (K) อธบิ ายหลักการลาเลียงสาร คะแนน 3 หมายถึง ดี ผา่ นเข้าออกเซลล์รูปแบบต่างๆ ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมินกจิ กรรม คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรุง (K) เปรยี บเทยี บการลาเลียง ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ กจิ กรรม ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป สารแบบการแพร่ และการแพร่ ถือวา่ ผา่ น แบบฟาซลิ ิเทต ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กจิ กรรม คะแนน 4 หมายถึง ดีเยย่ี ม คะแนน 3 หมายถงึ ดี (K) เปรียบเทยี บการลาเลียง สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตการณ์ทางานกล่มุ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ สาร การแพรแ่ บบฟาซลิ ิเทต สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ กับการลาเลียงโดยอาศยั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้ึนไป พลังงาน ถอื ว่าผ่าน คะแนน 4 หมายถึง ดเี ยีย่ ม (K) เปรยี บเทยี บการลาเลียง คะแนน 3 หมายถงึ ดี สารขนาดใหญก่ ับการลาเลยี ง คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ สารขนาดเลก็ รปู แบบต่างๆ คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้ึนไป (P) เขยี นลาดับขน้ั การลาเลยี ง ถือว่าผ่าน สารขนาดใหญเ่ ข้าและออกจาก คะแนน 4 หมายถงึ ดีเย่ียม เซลลไ์ ด้ คะแนน 3 หมายถงึ ดี (A) มีความใฝ่เรยี นรู้ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ผู้เรียนได้ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไป ถือว่าผ่าน ผเู้ รยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน ผเู้ รยี นไดร้ ะดับคุณภาพ พอใช้ ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน

รายละเอียดเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมนิ นา้ หนัก ระดบั คณุ ภาพ คะแนน 4 32 1 1. อธบิ ายหลกั การลาเลยี งสาร 2 อธิบายหลกั การ อธบิ ายหลกั การ อธิบายหลักการ อธบิ ายหลกั การ ลาเลยี งสารผา่ นเข้า ลาเลียงสารผ่านเข้า ผา่ นเขา้ ออกเซลลร์ ปู แบบ ออกเซลล์ถกู ต้องทุก ลาเลยี งสารผ่านเข้า ลาเลยี งสารผ่านเขา้ ออกเซลล์ถกู ตอ้ ง 1-2 รูปแบบ รูปแบบ ต่างๆ เปรยี บเทยี บการ ออกเซลล์ถกู ต้อง 5-6 ออกเซลล์ถูกตอ้ ง 3-4 เปรียบเทยี บการ ลาเลียงสารแบบการ ลาเลยี งสารแบบการ แพร่ และการแพร่ รปู แบบ รปู แบบ แพร่ และการแพร่ แบบฟาซลิ เิ ทต แบบฟาซลิ เิ ทต ไม่ 2. เปรียบเทียบการลาเลยี ง 1 ถกู ต้อง เปรยี บเทยี บการ เปรยี บเทยี บการ ถกู ตอ้ ง สารแบบการแพร่ และการ เปรียบเทยี บการ เปรียบเทยี บการ แพรแ่ บบฟาซลิ เิ ทต ลาเลยี งสาร การแพร่ ลาเลียงสารแบบการ ลาเลยี งสารแบบการ ลาเลยี งสาร การแพร่ แบบฟาซลิ เิ ทต กับ แบบฟาซิลิเทต กบั การลาเลยี งโดยอาศยั แพร่ และการแพร่ แพร่ และการแพร่ การลาเลยี งโดยอาศยั พลังงานถกู ต้อง พลงั งานไม่ถกู ตอ้ ง แบบฟาซลิ ิเทต แบบฟาซิลิเทต เปรียบเทยี บการ เปรยี บเทยี บการ ลาเลียงสารขนาดใหญ่ ถูกต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ งบางประเดน็ ลาเลยี งสารขนาด กับการลาเลียงสาร ใหญก่ ับการลาเลยี ง 3. เปรยี บเทียบการลาเลยี ง 1 ขนาดเลก็ รปู แบบ เปรียบเทยี บการ เปรยี บเทยี บการ สารขนาดเล็กรปู แบบ สาร การแพร่แบบฟาซลิ ิเทต ตา่ งๆ ถกู ต้อง ตา่ งๆ ไม่ถกู ตอ้ ง กับการลาเลยี งโดยอาศยั ลาเลยี งสาร การแพร่ ลาเลียงสาร การแพร่ พลังงาน แบบฟาซลิ ิเทต กับ แบบฟาซลิ เิ ทต กบั การลาเลยี งโดยอาศัย การลาเลยี งโดยอาศัย พลงั งานถูกต้องเป็น พลังงานถูกต้องบาง ส่วนใหญ่ ประเด็น 4. เปรยี บเทียบการลาเลยี ง 1 เปรียบเทยี บการ เปรยี บเทยี บการ สารขนาดใหญ่กับการลาเลียง สารขนาดเลก็ รปู แบบต่างๆ ลาเลยี งสารขนาดใหญ่ ลาเลยี งสารขนาดใหญ่ กับการลาเลียงสาร กบั การลาเลียงสาร ขนาดเลก็ รูปแบบ ขนาดเล็กรูปแบบ ตา่ งๆ ถกู ต้องเป็นส่วน ตา่ งๆ ถกู ตอ้ งบาง ใหญ่ ประเดน็ เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดับ 4 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดีเยยี่ ม ระดับ 3 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดี ระดับ 2 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผ่าน ได้ระดับ 3 ขน้ึ ไป ร้อยละ 60 ถอื ว่าประสบผลสาเรจ็ ในการสอน

แบบประเมิน สมุดบนั ทึกและแบบฝกึ หดั ท้ายบท เร่ือง การลาเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/1 คาชีแ้ จง ใหค้ รูผูส้ อนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแลว้ ให้ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับคะแนน การบรรยาย ความ ความ ความถกู ตอ้ ง การตรงต่อ รวม จุดประสงค์ ครอบคลุม สวยงามการ เวลา 20 ท่ี ช่อื – สกลุ ของเนอ้ื หา คะแนน ตกแตง่ ช้นิ งาน 43214321432143214321 1 นายไทยทัศน์ ภูนสวุ รรณ์ 2 นายพรี ะพัฒน์ เจิงชัยภมู ิ 3 นายวรากร ธรรมวงค์ 4 นายรัชชานนท์ เมธีสิทธกิ ลุ 5 นางสาวปรษิ ญา ประสทิ ธิ์ 6 นางสาวพัทธธ์ ีรา ต่อมคา 7 นางสาวจุฬารตั น์ พทุ ธวงค์ 8 นางสาวณัฐณิชา ปัญญาอ่ินแกว้ 9 นางสาวณฐั ธิดา สุทธะ 10 นางสาวปริยากร จองรตั น์ 11 นางสาวมณฑิตา บัวเสย้ี ว 12 นางสาวอรจิรา ศรอี อ่ น 13 นางสาวจรญิ าภรณ์ กุมกนั 14 นางสาวชญานิศ วงคจ์ ักร 15 นางสาวสุดารตั น์ วิชา 16 นางสาวเฌอกาญจน์ ปญั ญาสุ ลงชือ่ ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 18-20 ดมี าก ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรงุ ตา่ กว่า 10

แบบประเมนิ สมดุ บนั ทึกและแบบฝกึ หัดทา้ ยบท เร่อื ง การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/2 คาช้ีแจง ใหค้ รผู ู้สอนประเมินใบงานของนกั เรียนแลว้ ให้ทาเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน การบรรยาย ความ ความ ความถูกต้อง การตรงต่อ รวม จดุ ประสงค์ ครอบคลมุ สวยงามการ เวลา 20 ที่ ชื่อ – สกลุ ของเนอื้ หา คะแนน ตกแต่ง ช้นิ งาน 43214321432143214321 1 นายชัยภสั พาลพล ลงชอื่ ................................................................ผปู้ ระเมนิ 2 นายกติ ติพงษ์ ธรรมวงค์ 3 นายประสพโชค แซล่ ี ...................../..................../................... 4 นายธชั นนท์ แกว้ ระกา 5 นายกฤศธัช เปรมทอง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ 6 นายธรี ภทั ร พงศ์พชร 7 นายณัชพล สมโรย ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 8 นายนนทพัทธ์ ว่ิงพิมาย 18-20 ดีมาก 9 นายวราวธุ กุมกนั 14-17 ดี 10 นางสาว ญาณศิ า จนั ทมิ า 10-13 พอใช้ 11 นางสาว ประวีณา ธะนะ ปรบั ปรงุ 12 นางสาว รตั นมณี แตงอ่อน ตา่ กวา่ 10 13 นางสาว เอือ้ องั กรู หลีใจ 14 นางสาวจริ ภญิ ญา ปญั ญาอิน่ แกว้ 15 นางสาวเจนจริ า เมืองมลู 16 นางสาวปราญชลี เมอื งใจ 17 นางสาวฐติ ิพร บญุ แกว้ 18 นางสาวฐิตินันท์ ก้อนศรีลา 19 นางสาวพรรณกาญจน์ ตากองค์ 20 นางสาวอชิรญา ท่าล้อ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน

แบบประเมิน สมดุ บันทึกและแบบฝกึ หัดท้ายบท เร่ือง การลาเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/3 คาชี้แจง ให้ครผู ู้สอนประเมนิ ใบงานของนกั เรียนแล้วใหท้ าเคร่ืองหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน การบรรยาย ความ ความ ความถกู ต้อง การตรงต่อ รวม จดุ ประสงค์ ครอบคลมุ สวยงามการ เวลา 20 ที่ ชือ่ – สกลุ ของเนอ้ื หา คะแนน ตกแตง่ ช้ินงาน 43214321432143214321 1 นายวรี ยุทธ พงศพ์ ชั ร 2 นายจารุวัฒน์ แซซ่ ิว 3 นายทติ ินนั ต์ ปอแสง 4 นายสมศักดิ์ แซ่หยิง่ 5 นายสุรตั น์ แซเ่ ห้อ 6 นายนคเรศ แซย่ า่ ง 7 นายวรเวช ลี 8 นายไชยวัฒน์ ยเู บยี 9 นางสาวพณั ณติ า ยอดมณบี รรพต 10 นางสาวรุจฬิ า กลู ต๊ะ 11 นางสาวภมู ณิ ฐั ดา ธนสธิ เทพธิฤทธิ์ 12 นางสาวภัสดา มาเยอะ 13 นางสาวณชิ กมล แซท่ ่อ 14 เด็กหญงิ พรรณราย เหลก็ ดี 15 นางสาวภัทรชริ าภรณ์ ใจบุญมา 16 นางสาวกนกวรรณ นะลี 17 นางสาวหมจี่ ู แซ่เหมา 18 นางสาววชิ ดุ า แซ่เฮอ้ 19 นางสาวรัชฎาภรณ์ หมั่นพัฒนาการ ลงชื่อ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน 18-20 ดีมาก ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน 14-17 ดี ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 10-13 พอใช้ ตา่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน สมดุ บนั ทึกและแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท เรอื่ ง การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/4 คาชแี้ จง ให้ครผู ้สู อนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแล้วใหท้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนน การบรรยาย ความ ความ ความถกู ตอ้ ง การตรงตอ่ รวม จุดประสงค์ ครอบคลมุ สวยงามการ เวลา 20 ท่ี ช่อื – สกลุ ของเน้อื หา คะแนน ตกแต่ง ช้ินงาน 43214321432143214321 1 นายนรวิชญ์ จันตะ๊ นาเขต 2 นายสุวินยั ไชยชนะ 3 นายขจรเกยี รติ ขนั ธพันธ์ 4 นายจกั รพรรด์ิ ร้อู ่าน 5 นายจิรวฒั น์ ปิงเมือง 6 นายฐิตกิ ร นนั ทะเสน 7 นายพงศธร เตชะนันท์ 8 นายมานะ นนั ทะเสน 9 นายปิยะวัฒน์ ผะกา่ คาแหลง 10 นายศาศวัต พลยุทธศาสตร์ 11 นายสภุ ัทร อนิ ถานา 12 นายฐิตวิ ฒุ ิ จอมลนุ 13 นายวชั รพงค์ มลู บวั ภา 14 นายสงกรานต์ สริ ภิ ูมิ ลงชอ่ื ................................................................ผูป้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน 18-20 ดีมาก ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั ให้ 1 คะแนน 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ปรบั ปรุง ต่ากวา่ 10

เกณฑ์การวัดและประเมินผล สมดุ บนั ทึกและแบบฝกึ หดั ท้ายบท เร่อื ง การลาเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ ประเดน็ การ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมิน 4 3 21 การบรรยาย บรรยายเก่ียวกับ บรรยายเกย่ี วกบั บรรยายเกี่ยวกับ บรรยายเกย่ี วกับ จุดประสงค์ จดุ ประสงคใ์ นการ จุดประสงคใ์ นการ จดุ ประสงค์ในการ จุดประสงคใ์ นการ สร้างสรรคผ์ ลงานได้ สรา้ งสรรคผ์ ลงานได้ สร้างสรรคผ์ ลงานได้ สร้างสรรคผ์ ลงานได้ ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถกู ต้องเป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องเป็นบางสว่ น ถกู ต้องเพียงส่วนนอ้ ย ความครอบคลมุ การนาเสนอเป็นไป การนาเสนอเป็นไป การนาเสนอเป็นไป การนาเสนอเปน็ ไป ของเนื้อหา ตามลาดบั ขั้นตอน ความ ตามลาดบั ข้ันตอน ความ ตามลาดับขน้ั ตอน ความ ตามลาดบั ขนั้ ตอน ถกู ตอ้ งของเน้อื หา 100% ถูกตอ้ งของเน้ือหา 80% ถูกต้องของเนอ้ื หา 70% ความถูกตอ้ งของ เนอื้ หา 50% ความสวยงามการ ใชเ้ ครอื่ งหมาย รูปภาพ ใชเ้ ครอ่ื งหมาย รปู ภาพ ใชเ้ คร่อื งหมาย รปู ภาพ ไม่ไดใ้ ชเ้ ครือ่ งหมาย ตกแต่งช้ินงาน สมการ สญั ลกั ษณ์แทนกฎ สมการ สัญลักษณแ์ ทน สมการ สญั ลกั ษณแ์ ทน รูปภาพ สมการ ทฤษฎี หลักการ กฎ ทฤษฎี หลกั การ กฎ ทฤษฎี หลกั การ สญั ลักษณแ์ ทนกฎ นยิ ามต่างๆ ไดถ้ ูกต้องและ นิยามตา่ งๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง นยิ ามตา่ งๆ ไดไ้ ม่ถูกต้อง ทฤษฎี หลักการ ครบถว้ น แต่ไมค่ รบถว้ น และไมค่ รบถ้วน นิยามต่างๆ ความถูกตอ้ ง ใช้สที ีช่ ่วยจดจา เพลนิ ตา ใชส้ ที ชี่ ว่ ยจดจา เพลิน ใชส้ ีทชี่ ว่ ยจดจา เพลนิ ไมไ่ ดใ้ ช้สีท่ชี ว่ ยจดจา สเี ดียวตลอด แตล่ ะสไี มซ่ า้ ตา สเี ดยี วตลอด บางสี ตา แต่สเี ดียวกนั เพลนิ ตา กนั ซา้ กนั ความตรงต่อเวลา สง่ งานครบถ้วนตรงตาม ส่งงานครบถว้ นแตช่ า้ สง่ งานครบถ้วนแต่ช้า สง่ งานครบถ้วนแต่ชา้ เวลาท่ีกาหนด กวา่ เวลาท่กี าหนด กวา่ เวลาทก่ี าหนด กวา่ เวลาทก่ี าหนด 5 1-2 วัน 3-4 วนั วันขึน้ ไปหรือไมส่ ง่

แบบประเมินใบกจิ กรรมปฏิบัตกิ าร การแพรก่ ับการออสโมซสิ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 คาชแ้ี จง ใหค้ รูผู้สอนประเมินใบงานของนกั เรียนแล้วใหท้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน ที่ ชือ่ – สกุล เน้อื หา การสรุป ประโยชน์ของ การตรงต่อ รวม สอดคล้องกับ ความรู้ การเขียนสอื่ การนาข้อมลู เวลา 20 หวั ขอ้ ความ ไปใช้ คะแนน 43214321432143214321 1 นายไทยทัศน์ ภนู สุวรรณ์ 2 นายพรี ะพัฒน์ เจงิ ชยั ภูมิ 3 นายวรากร ธรรมวงค์ 4 นายรัชชานนท์ เมธีสทิ ธกิ ุล 5 นางสาวปริษญา ประสิทธิ์ 6 นางสาวพทั ธ์ธีรา ตอ่ มคา 7 นางสาวจุฬารตั น์ พุทธวงค์ 8 นางสาวณัฐณิชา ปัญญาอิ่นแกว้ 9 นางสาวณฐั ธดิ า สุทธะ 10 นางสาวปริยากร จองรัตน์ 11 นางสาวมณฑิตา บวั เส้ยี ว 12 นางสาวอรจริ า ศรีออ่ น 13 นางสาวจรญิ าภรณ์ กุมกัน 14 นางสาวชญานศิ วงคจ์ ักร 15 นางสาวสดุ ารตั น์ วิชา 16 นางสาวเฌอกาญจน์ ปญั ญาสุ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับคุณภาพ ลงชื่อ................................................................ผูป้ ระเมนิ ดีมาก ชว่ งคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรุง เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 10-13 ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ต่ากว่า 10 ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมปฏิบตั ิการ การแพร่กบั การออสโมซสิ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4/2 คาชแ้ี จง ใหค้ รผู สู้ อนประเมินใบงานของนกั เรียนแลว้ ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน ท่ี ช่ือ – สกุล เน้อื หา การสรุป ประโยชน์ของ การตรงต่อ รวม สอดคลอ้ งกับ ความรู้ การเขียนส่อื การนาขอ้ มูล เวลา 20 หัวข้อ ความ ไปใช้ คะแนน 43214321432143214321 1 นายชยั ภัส พาลพล 2 นายกิตตพิ งษ์ ธรรมวงค์ 3 นายประสพโชค แซ่ลี 4 นายธัชนนท์ แกว้ ระกา 5 นายกฤศธัช เปรมทอง 6 นายธรี ภัทร พงศพ์ ชร 7 นายณัชพล สมโรย 8 นายนนทพัทธ์ ว่ิงพิมาย 9 นายวราวุธ กุมกัน 10 นางสาว ญาณิศา จันทมิ า 11 นางสาว ประวีณา ธะนะ 12 นางสาว รัตนมณี แตงออ่ น 13 นางสาว เออื้ องั กูร หลีใจ 14 นางสาวจริ ภญิ ญา ปัญญาอ่นิ แกว้ 15 นางสาวเจนจริ า เมืองมลู 16 นางสาวปราญชลี เมอื งใจ 17 นางสาวฐติ พิ ร บุญแก้ว 18 นางสาวฐติ ินันท์ กอ้ นศรลี า 19 นางสาวพรรณกาญจน์ ตากองค์ 20 นางสาวอชริ ญา ท่าล้อ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับคุณภาพ ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมิน ดมี าก ชว่ งคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 10-13 ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ตา่ กวา่ 10 ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน

แบบประเมนิ ใบกิจกรรมปฏิบตั กิ าร การแพร่กับการออสโมซิส ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/3 คาชแี้ จง ใหค้ รผู สู้ อนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแล้วให้ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับคะแนน ที่ ชอื่ – สกุล เนอ้ื หา การสรุป ประโยชน์ของ การตรงต่อ รวม สอดคลอ้ ง ความรู้ การเขยี นสอื่ การนาข้อมูล เวลา 20 กบั หวั ข้อ คะแนน ความ ไปใช้ 43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1 นายวีรยทุ ธ พงศ์พัชร 2 นายจารวุ ฒั น์ แซ่ซวิ 3 นายทติ ินนั ต์ ปอแสง 4 นายสมศักด์ิ แซห่ ยง่ิ 5 นายสุรตั น์ แซ่เห้อ 6 นายนคเรศ แซย่ า่ ง 7 นายวรเวช ลี 8 นายไชยวัฒน์ ยเู บีย 9 นางสาวพณั ณติ า ยอดมณีบรรพต 10 นางสาวรุจิฬา กลู ตะ๊ 11 นางสาวภมู ณิ ฐั ดา ธนสธิ เทพธิฤทธ์ิ 12 นางสาวภัสดา มาเยอะ 13 นางสาวณชิ กมล แซ่ท่อ 14 เด็กหญิงพรรณราย เหล็กดี 15 นางสาวภทั รชิราภรณ์ ใจบุญมา 16 นางสาวกนกวรรณ นะลี 17 นางสาวหม่ีจู แซเ่ หมา 18 นางสาววิชุดา แซเ่ ฮอ้ 19 นางสาวรชั ฎาภรณ์ หมน่ั พัฒนาการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั คณุ ภาพ ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมิน ดมี าก ชว่ งคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ 10-13 ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ต่ากว่า 10 ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน

แบบประเมินใบกจิ กรรมปฏิบตั กิ าร การแพร่กบั การออสโมซสิ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4/4 คาชแี้ จง ให้ครผู ู้สอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแล้วให้ทาเครือ่ งหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน ท่ี ช่อื – สกุล เนื้อหา การสรุป ประโยชนข์ อง การตรงตอ่ รวม สอดคล้องกบั ความรู้ การเขยี นสือ่ การนาขอ้ มลู เวลา 20 หวั ข้อ ความ ไปใช้ คะแนน 43214321432143214321 1 นายนรวิชญ์ จันตะ๊ นาเขต 2 นายสวุ ินัย ไชยชนะ 3 นายขจรเกียรติ ขนั ธพนั ธ์ 4 นายจกั รพรรดิ์ รู้อ่าน 5 นายจิรวัฒน์ ปิงเมอื ง 6 นายฐติ ิกร นนั ทะเสน 7 นายพงศธร เตชะนนั ท์ 8 นายมานะ นนั ทะเสน 9 นายปยิ ะวฒั น์ ผะกา่ คาแหลง 10 นายศาศวัต พลยทุ ธศาสตร์ 11 นายสภุ ทั ร อินถานา 12 นายฐติ วิ ฒุ ิ จอมลุน 13 นายวัชรพงค์ มูลบวั ภา 14 นายสงกรานต์ สริ ภิ มู ิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับคุณภาพ ลงช่ือ................................................................ผูป้ ระเมิน ดมี าก ชว่ งคะแนน ดี ...................../..................../................... 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 10-13 ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ต่ากว่า 10 ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผลกิจกรรมปฏบิ ตั ิการ การแพร่กบั การออสโมซิส ประเดน็ การ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมิน 4 3 21 เนอื้ หาสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ งกบั หัวข้อ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานไมค่ ่อยสอดคลอ้ ง ผลงานไม่สอดคลอ้ ง กบั หัวข้อ หรือเรื่องท่กี าหนด หวั ขอ้ หรือเรอ่ื งที่กาหนด กบั หวั ข้อหรอื เรือ่ งที่ กับหวั ข้อหรอื เร่ืองที่ ในบางส่วน กาหนด กาหนด การสรุปความรู้ มีการสรุปความรู้ความ มกี ารสรปุ ความรูค้ วาม มีการสรุปความรู้ความ มีการสรุปความรู้ไม่ เขา้ ใจเก่ียวกับเร่อื งที่ศกึ ษา เขา้ ใจเกี่ยวกับเรอ่ื งที่ เขา้ ใจเกี่ยวกับเรื่องที่ ชดั เจน ได้ชดั เจน ครบถว้ น ศึกษาได้ชัดเจนดี ศึกษาได้ สมบูรณ์ การเขยี นสอ่ื เขียนสอื่ ความไดถ้ ูกต้อง เขยี นส่ือความไมถ่ ูกตอ้ ง เขียนส่อื ความไมถ่ กู ตอ้ ง เขยี นสอ่ื ความไดน้ อ้ ย ความ ตามอกั ขรวิธี ตรงประเด็น ตามอกั ขรวิธี 4-5 แห่ง ตามอกั ขรวิธี 2-3 แห่ง ไม่ตรงประเดน็ และเขา้ ใจงา่ ย ตรงประเด็น ตรงประเด็น ประโยชนข์ อง สามารถนาขอ้ มลู ทไ่ี ดไ้ ป สามารถนาขอ้ มลู ทไี่ ด้ไป สามารถนาข้อมูลทไ่ี ด้ไป ไม่สามารถนาข้อมลู ท่ี การนาขอ้ มูล ประยกุ ตใ์ ช้ในการเรียน การสอนและใน ประยุกตใ์ ชใ้ นการเรยี น ปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวัน ไดไ้ ปปรบั ใช้ได้ ไปใช้ ชวี ติ ประจาวนั การสอนได้ ได้ ความตรงตอ่ ส่งงานตรงเวลามีความ รบั ผดิ ชอบในงานที่ไดร้ ับ ทางานที่ได้รับ ทางานที่ได้รับ เวลา รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ส่งงานตรง มอบหมายได้ มอบหมายไม่ครบทุก มอบหมายสร้างสรรคง์ าน เวลาบางครั้ง สว่ น ศิลปะได้อย่างถกู ต้อง

แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นรายบคุ คล ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นร้วู นั ที่.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน รวม ระดับ ที่ ชือ่ – สกลุ ความต้งั ใจ ความสนใจ การตอบ มสี ว่ นร่วมใน (16) คุณภาพ ในการเรยี น และการ คาถาม กิจกรรม (4) 1 นายไทยทัศน์ ภูนสุวรรณ์ ซักถาม (4) 2 นายพรี ะพฒั น์ เจงิ ชยั ภูมิ (4) (4) 3 นายวรากร ธรรมวงค์ 4 นายรชั ชานนท์ เมธสี ทิ ธกิ ลุ 5 นางสาวปริษญา ประสิทธ์ิ 6 นางสาวพทั ธธ์ ีรา ต่อมคา 7 นางสาวจุฬารตั น์ พทุ ธวงค์ 8 นางสาวณฐั ณชิ า ปญั ญาอิน่ แก้ว 9 นางสาวณฐั ธดิ า สทุ ธะ 10 นางสาวปริยากร จองรัตน์ 11 นางสาวมณฑติ า บวั เสี้ยว 12 นางสาวอรจิรา ศรอี ่อน 13 นางสาวจรญิ าภรณ์ กุมกนั 14 นางสาวชญานิศ วงค์จกั ร 15 นางสาวสดุ ารัตน์ วิชา 16 นางสาวเฌอกาญจน์ ปญั ญาสุ เกณฑ์การให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย ลงชือ่ ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ...................../..................../................... 14-16 ดมี าก 11-13 ดี เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน นักเรยี นทีไ่ ดร้ ะดับคุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป ถือว่า ผา่ น

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายบุคคล ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/2 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นร้วู ันท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ.................................. เกณฑ์การใหค้ ะแนน รวม ระดับ มีสว่ นรว่ มใน (16) คุณภาพ ท่ี ชือ่ – สกลุ ความต้ังใจ ความสนใจ การตอบ ในการเรยี น และการ คาถาม กจิ กรรม (4) 1 นายชัยภัส พาลพล ซกั ถาม (4) 2 นายกติ ติพงษ์ ธรรมวงค์ (4) (4) 3 นายประสพโชค แซ่ลี 4 นายธชั นนท์ แก้วระกา 5 นายกฤศธชั เปรมทอง 6 นายธีรภัทร พงศ์พชร 7 นายณัชพล สมโรย 8 นายนนทพัทธ์ ว่ิงพิมาย 9 นายวราวธุ กมุ กนั 10 นางสาว ญาณิศา จันทิมา 11 นางสาว ประวีณา ธะนะ 12 นางสาว รัตนมณี แตงออ่ น 13 นางสาว เออื้ อังกรู หลใี จ 14 นางสาวจิรภิญญา ปญั ญาอิ่นแกว้ 15 นางสาวเจนจริ า เมืองมลู 16 นางสาวปราญชลี เมืองใจ 17 นางสาวฐิตพิ ร บุญแก้ว 18 นางสาวฐิตนิ ันท์ ก้อนศรีลา 19 นางสาวพรรณกาญจน์ ตากองค์ 20 นางสาวอชริ ญา ท่าล้อ เกณฑ์การใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย ลงช่อื ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ...................../..................../................... 14-16 ดมี าก 11-13 ดี เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั น้ี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรุง เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน นักเรยี นท่ีไดร้ ะดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมนกั เรียนรายบุคคล ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/3 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรวู้ นั ท่ี.......................เดือน................................................พ.ศ.................................. เกณฑก์ ารให้คะแนน รวม ระดับ มสี ว่ นรว่ มใน (16) คุณภาพ ท่ี ชอื่ – สกุล ความต้งั ใจ ความสนใจ การตอบ ในการเรยี น และการ คาถาม กจิ กรรม (4) 1 นายวีรยุทธ พงศพ์ ชั ร ซักถาม (4) 2 นายจารุวัฒน์ แซ่ซิว (4) (4) 3 นายทติ ินันต์ ปอแสง 4 นายสมศักดิ์ แซห่ ยิ่ง 5 นายสุรตั น์ แซเ่ หอ้ 6 นายนคเรศ แซย่ ่าง 7 นายวรเวช ลี 8 นายไชยวัฒน์ ยเู บีย 9 นางสาวพัณณิตา ยอดมณีบรรพต 10 นางสาวรจุ ฬิ า กลู ตะ๊ 11 นางสาวภูมณิ ัฐดา ธนสธิ เทพธิฤทธิ์ 12 นางสาวภัสดา มาเยอะ 13 นางสาวณชิ กมล แซท่ ่อ 14 เด็กหญงิ พรรณราย เหลก็ ดี 15 นางสาวภัทรชิราภรณ์ ใจบญุ มา 16 นางสาวกนกวรรณ นะลี 17 นางสาวหม่จี ู แซเ่ หมา 18 นางสาววิชดุ า แซ่เฮอ้ 19 นางสาวรชั ฎาภรณ์ หมั่นพฒั นาการ ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบท้าย เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดังน้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไี่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึ้นไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 0-7 ปรับปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook