ผลงานนาเสนอใน PULINET 9th เนอื้ หาด้านไอที
AV Self-Check บรกิ ารยมื โสตทศั นวสั ดุด้วยตนเองผา่ น QR Code หอสมดุ จอห์น เอฟ เคนเนด้ี กิตตศิ กั ดิ์ แก้วเนียม, นริ มิตร์ ยอดเกลี้ยง หอสมดุ จอหน์ เอฟ เคนเนดี้ สำนักวทิ ยบรกิ ำร มหำวทิ ยำลัยสงขลำนครนิ ทร์ วิทยำเขตปตั ตำนี e-mail: [email protected], [email protected] บทคดั ย่อ AV Self-Check คอื บรกิ ำรยืมโสตทศั นวัสดดุ ว้ ยตนเองผำ่ น QR Code ของหอสมุด จอห์น เอฟ เคนเนดี้ สำนักวทิ ยบริกำร มหำวิทยำลยั สงขลำนครนิ ทร์ วทิ ยำเขตปัตตำนี เปน็ กำรอำนวยควำมสะดวกแก่ผ้ใู ช้ในกำรเข้ำถงึ เนื้อเร่ืองย่อ รบั ชมวดิ โี อตัวอย่ำง และทำรำยกำรยมื โสตทัศนวสั ดุประเภทภำพยนตรบ์ ันเทิงดว้ ยตนเองโดยไมต่ ้องผำ่ นเจ้ำหน้ำที่ ด้วยกำรสแกนสญั ลกั ษณ์ QR Code ทีต่ ิดอย่บู นตัวสอ่ื โสตทศั นวัสดุ มีจุดมุ่งหมำยเพ่ือเพ่ิมช่องทำง รวมถงึ ลดขน้ั ตอนและเวลำ ในกำรให้บรกิ ำรยืมโสตทัศนวัสดุ และส่งเสรมิ ให้มีกำรใช้งำนทรัพยำกรสำรสนเทศของห้องสมดุ เพิ่มมำกขึ้น ข้นั ตอนกำรดำเนินงำนแบง่ ออกเปน็ 4 ส่วน คอื 1) กำรศึกษำกระบวนกำรทำงำนของ ระบบห้องสมุดอัตโนมัตใิ นข้นั ตอนกำรยืมโสตทศั นวสั ดุ 2) กำรพฒั นำระบบสำรสนเทศ 3) กำรจัดกำร ข้อมูลส่ือโสตทัศนวสั ดุ และจัดเตรยี มสือ่ โสตทัศนวสั ดุเพื่อให้บริกำร และ 4) กำรประชำสมั พันธ์และ ประเมนิ ควำมพึงพอใจต่อกำรใชบ้ รกิ ำร ผลประเมนิ ควำมพึงพอใจท่ไี ด้จำกกำรทดลองให้บริกำรกับ กล่มุ ตัวอย่ำงจำนวน 30 คน พบวำ่ ไดร้ บั ผลอยู่ในระดบั มำกทสี่ ุด โดยมีคำ่ เฉลย่ี เท่ำกับ 4.81 คาสาคัญ: AV Self-Check, โสตทัศนวัสดุ, ภำพยนตร์บันเทิง, QR Code, ยืมด้วยตนเอง, บรกิ ำรเชิงรุก บทนา ภำพยนตร์บันเทงิ ถือเป็นทรัพยำกรสำรสนเทศประเภทโสตทัศนวัสดุ (Audio visual) ทม่ี กี ำรใช้บริกำรมำกท่ีสดุ ของหอสมุดจอห์น เอฟ เคนเนด้ี สำนักวทิ ยบริกำร แตส่ ภำพกำรให้บรกิ ำร ในปัจจุบนั เจำ้ หน้ำที่ผ้ปู ฏิบัติงำนยังขำดควำมคล่องตวั ในกำรจดั กำรหลำยด้ำนจนเปน็ ท่ีมำของ ปัญหำต่ำง ๆ เชน่ กำรตดิ บำร์โคด้ ลำเบลเลขเรียกและชื่อเรื่อง รวมถึงใบประทับวนั กำหนดส่งคืนท่ีไป บดบังเนื้อเร่ืองย่อและข้อมูลสำคัญบำงสว่ น จงึ เกิดกำรแกะลอกลำเบลออกโดยผใู้ ช้ สรำ้ งควำมชำรดุ เสียหำยใหต้ วั กลอ่ งที่บรรจุแผน่ และหนำ้ ปกของสื่อโสตทศั นวสั ดุ ปญั หำไมพ่ บส่ือโสตทศั นวสั ดุทีช่ ้ัน แผน่ สญู หำย จัดเกบ็ ไมต่ รงชั้น มกั เกดิ จำกผูใ้ ช้นำสื่อโสตทศั นวัสดุเข้ำออกจำกช้ันโดยไม่ผ่ำนกำรยืม
เพื่อนำไปเปิดชมตวั อยำ่ งของภำพยนตรท์ ีจ่ ุดบรกิ ำรทีวเี ฉพำะบุคคลหรอื จดุ บรกิ ำรเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หรอื กำรที่ผ้ปู ฏิบตั งิ ำนมหี น้ำท่ีควำมรบั ผิดชอบในหลำยสว่ น ไม่สำมำรถน่งั ประจำจุดบริกำรยมื -คนื ไดต้ ลอดเวลำ ทำให้ในบำงคร้ังผ้ใู ช้ตอ้ งรอคอยเปน็ เวลำนำน เป็นตน้ เพ่ือขจัดปัญหำดังที่กล่ำวมำและยกระดับคณุ ภำพกำรให้บริกำรโสตทัศนวัสดุ งำนเทคโนโลยีสำรสนเทศจงึ ได้รว่ มมอื กับผ้ปู ฏบิ ตั ิงำนหอ้ งสมุดประจำบริกำรโสตทัศนวสั ดุ ทำกำรคิดค้นและพัฒนำนวตั กรรมบรกิ ำรในลักษณะ e-Services ทที่ ำงำนร่วมกับระบบห้องสมดุ อตั โนมัติผ่ำน QR Code สำมำรถช่วยใหผ้ ้ใู ช้รบั รเู้ น้ือเรื่องย่อและชมตัวอยำ่ งภำพยนตร์ได้โดย ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับบำร์โค้ด ลำเบล และใบประทบั วนั กำหนดส่งคืน และยังสำมำรถทำรำยกำรยืม ส่อื ภำพยนตร์ด้วยตวั เองได้ทันทผี ำ่ นโทรศพั ท์มือถือ โดยไม่ต้องรอหรือผำ่ นเจำ้ หน้ำที่ผู้ปฏิบัติงำนตรง จุดให้บริกำรยมื -คนื ในช่ือโครงกำรว่ำ AV Self-Check วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือใหผ้ ใู้ ช้บรกิ ำรสำมำรถอ่ำนเนือ้ เรื่องย่อและรบั ชมวดิ ีโอตวั อยำ่ งของโสตทัศนวสั ดุ ไดอ้ ย่ำงรวดเรว็ โดยไมต่ ้องยุ่งเก่ียวกับบำร์โคด้ ลำเบล และใบประทับวันกำหนดสง่ คืนทีต่ ิดอยู่บรเิ วณ ด้ำนหนำ้ และหลังกล่องบรรจุแผน่ ส่ือโสตทศั นวสั ดุ 2. เพ่ือใหผ้ ู้ใชบ้ รกิ ำรสำมำรถทำรำยกำรยืมสื่อโสตทศั นวสั ดไุ ดใ้ นทันทีทีต่ ้องกำร โดยไมต่ ้องรอหรือผำ่ นเจ้ำหน้ำท่ผี ู้ปฏบิ ัตงิ ำนตรงจุดให้บริกำรยืม-คนื 3. เพื่อลดขน้ั ตอนและระยะเวลำในกำรใหบ้ รกิ ำร และสง่ เสรมิ ใหม้ ีกำรใช้ทรัพยำกร สำรสนเทศของหอ้ งสมดุ เพิ่มมำกขึ้น ข้ันตอนและวธิ กี ารดาเนินงาน การศกึ ษากระบวนการทางานของระบบห้องสมุดอตั โนมัตใิ นขนั้ ตอนการยมื โสตทศั นวสั ดุ กำรใหบ้ รกิ ำรยืมโสตทศั นวัสดุเรม่ิ ตน้ จำกผู้ใช้บริกำรนำแผ่นสื่อโสตทศั นวสั ดุท่ีตอ้ งกำรยมื ซ่ึงผำ่ นกำรตรวจสอบควำมสมบรู ณ์ของตัวแผ่นแล้วมำยังจดุ บรกิ ำรยืม-คืนพรอ้ มบตั รสมำชกิ หอ้ งสมดุ ผู้ปฏบิ ตั งิ ำนจะทำรำยกำรยมื ผ่ำนระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิและประทับวันกำหนดสง่ คนื กำรศกึ ษำ กระบวนกำรทำงำนนช้ี ว่ ยใหน้ ักพัฒนำระบบทรำบถึง Input Process และ Output ทีเ่ กิดข้นึ นำไปสู่ กำรสรำ้ งระบบสำรสนเทศทเ่ี ชื่อมกำรทำงำนกับระบบห้องสมุดอตั โนมัติไดอ้ ย่ำงถูกตอ้ ง สรุปขนั้ ตอนกำรให้บรกิ ำรยืมโสตทศั นวัสดุ 1. ผใู้ ชบ้ ริกำรนำแผ่นสอื่ โสตทัศนวัสดุทต่ี อ้ งกำรยืมพร้อมบัตรสมำชกิ ห้องสมุดมำที่ จดุ ให้บรกิ ำรยมื -คนื 2. เจำ้ หนำ้ ท่ีผ้ปู ฏบิ ตั งิ ำนระบุบำรโ์ ค้ดสมำชิกห้องสมดุ ระบบหอ้ งสมดุ อัตโนมตั ิ ทำกำรตรวจสอบสถำนะและเง่อื นไขของสมำชกิ หำกสมำชิกอยูใ่ นสถำนะปกติจะเข้ำสูข่ ั้นตอนที่ 3 แตห่ ำกสมำชิกมสี ถำนะท่ผี ดิ เง่ือนไขใด ๆ กับกฎกำรยืมของหอ้ งสมุดก็จะไม่สำมำรถทำรำยกำรยืมได้ 3. เจำ้ หน้ำที่ผ้ปู ฏบิ ตั ิงำนระบุบำร์โค้ดโสตทัศนวัสดเุ พ่ือทำกำรยมื ระบบห้องสมุดอตั โนมตั ิ บันทึกข้อมลู กำรยืมเข้ำสฐู่ ำนขอ้ มลู ทรัพยำกรสำรสนเทศและฐำนข้อมูลสมำชกิ พร้อมคำนวณวนั ส่งคืน
4. เจำ้ หนำ้ ท่ีผปู้ ฏิบัตงิ ำนประทบั วันกำหนดส่งคนื ทดี่ ้ำนหลังแผ่นโสตทศั นวสั ดุ สรปุ Input ทจ่ี ำเปน็ ต่อกำรทำรำยกำรยมื โสตทัศนวสั ดุของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ 1. บำร์โค้ดสมำชกิ ห้องสมดุ (กรณียืมด้วยตนเองจะตอ้ งใชก้ ำรยนื ยนั ตวั ตนด้วย บญั ชสี มำชิกหอ้ งสมดุ ของผู้ใช้) 2. บำร์โค้ดโสตทัศนวัสดุ 3. วัน/ เวลำทย่ี มื สรุป Process กำรทำรำยกำรยืมโสตทศั นวสั ดุของระบบห้องสมดุ อตั โนมตั ิ 1. กำรพิสจู น์ตวั ตนผู้ใช้ (กรณียมื ดว้ ยตนเองจะมีกำรเข้ำรหสั ข้อมูลสมำชิกกอ่ น) 2. กำรตรวจสอบสถำนะผู้ใช้ 3. กำรตรวจสอบสถำนะโสตทศั นวัสดุ 4. กำรยมื โสตทัศนวัสดุ สรุป Output ทไี่ ดจ้ ำกกำรทำรำยกำรยมื โสตทัศนวสั ดุของระบบหอ้ งสมดุ อัตโนมตั ิ 1. สถำนะกำรยืม (หำกยืมไม่สำเรจ็ จะแจง้ สถำนะผู้ใช้หรือสถำนะโสตทัศนวัสดทุ เี่ ปน็ สำเหต)ุ 2. วันกำหนดส่งคืนโสตทัศนวสั ดุ (ในกรณีที่ยืมสำเรจ็ ) การพัฒนาระบบสารสนเทศ ทมี งำนประชมุ หำรือเพื่อรวบรวมและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของระบบ AV Self-Check ไดแ้ ก่ 1. รองรับกำรนำเข้ำ (Import) ข้อมลู บรรณำนกุ รมของโสตทัศนวสั ดุจำกระบบห้องสมดุ อตั โนมัตใิ นขอบเขตข้อมลู เลขทบี่ รรณำนกุ รม เลขทบี่ ำรโ์ ค้ด ชื่อเรอ่ื ง และ เลขเรยี กได้ 2. รองรบั กำรเพ่ิมข้อมูลเน้ือเรือ่ งยอ่ และวิดีโอตวั อย่ำงภำพยนตรข์ องโสตทัศนวัสดไุ ด้ 3. เพ่มิ ลบ แกไ้ ข ขอ้ มูลโสตทัศนวสั ดุใหมไ่ ด้ 4. สร้ำงสญั ลกั ษณ์ QR Code ประจำแผ่นโสตทศั นวสั ดุได้ 5. ตรวจสอบและนบั จำนวนกำรเข้ำถึงโสตทัศนวสั ดแุ ต่ละชือ่ เรื่องได้ 6. รองรบั กำรยมื โสตทัศนวัสดุดว้ ยตนเองได้ 7. บนั ทกึ ประวัติกำรทำรำยกำรยมื ด้วยตนเอง (Self-Check transaction log) ของผู้ใช้ได้ 8. แจง้ เตือนเมื่อมีกำรทำรำยกำรยมื ดว้ ยตนเองไปยังเจำ้ หน้ำทีผ่ ปู้ ฏิบัติงำนผำ่ นทำง อีเมลได้ ผู้พฒั นำได้ใชแ้ นวทำงในกำรออกแบบระบบตำมหลกั กำรของวงจรกำรพัฒนำระบบ (SDLC) ตัง้ แตก่ ำรวำงแผน กำหนดขอบเขตควำมเป็นไปได้และขอ้ จำกัดของระบบ สูก่ ำรออกแบบ และพัฒนำระบบ กำรควบคุมกำรเขำ้ ถึงข้อมลู หนำ้ ท่ีและควำมสำมำรถในแต่ละระดับช้นั ของผู้ใชง้ ำน ระบบ กำรพัฒนำระบบโดยใช้เทคโนโลยเี ว็บแอปพลเิ คช่ัน (Web-based application technology) ผพู้ ฒั นำไดเ้ ลือกใช้โปรแกรมภำษำ PHP และ JavaScript ทำงำนรว่ มกบั ระบบจัดกำรฐำนขอ้ มูล MySQL และซอฟตแ์ วร์สำหรับบริกำรเคร่ืองแม่ขำ่ ย Apache ซึง่ ทงั้ หมดเปน็ Open Source Software ทไี่ ม่มลี ขิ สทิ ธ์แิ ละคำ่ ใช้จำ่ ยสำหรบั กำรเช่อื มต่อกำรทำงำนกบั ระบบหอ้ งสมุดอัตโนมัติ ในสว่ นของกำรยืมโสตทศั นวสั ดุ จะดำเนนิ กำรผำ่ น Web Service สำหรบั กำรยืมทรัพยำกร
ประกอบดว้ ย EncodePassword, PatronAuthen, และ CheckOutItem ตำมลำดับ ซึ่งไดร้ ับ กำรชว่ ยเหลอื จำกทีมผพู้ ฒั นำระบบหอ้ งสมุดอตั โนมัตเิ ปน็ อยำ่ งดี ภำพที่ 1 Context Diagram ของระบบ AV Self-Check ภำพท่ี 2 หนำ้ จอ Back Office ของระบบ AV Self-Check
การจัดการข้อมูลส่อื โสตทัศนวัสดุ และจัดเตรียมส่ือโสตทัศนวัสดุเพือ่ ใหบ้ รกิ าร ในคร้ังแรกจะทำกำรนำเข้ำข้อมลู บรรณำนกุ รมของโสตทัศนวสั ดุจำกระบบหอ้ งสมุด อตั โนมตั ิเขำ้ สู่ฐำนข้อมูลระบบ AV Self-Check ผู้ปฏบิ ัติงำนจะทำกำรปรับปรุงข้อมลู เหลำ่ น้นั โดยกำรเพม่ิ เน้ือเรื่องย่อและรหสั คลปิ วดิ ีโอตัวอยำ่ งทีใ่ ช้ดงึ วิดีโอจำกเวบ็ ไซต์ Youtube มำแสดงผล ในครั้งต่อ ๆ ไปจะเปน็ กำรบนั ทึกข้อมลู สอ่ื โสตทัศนวสั ดุใหม่ตำมปกติ ข้นั ตอนกำรทำงำน มีดังนี้ 1. ผู้ปฏิบัตงิ ำนห้องสมุดได้รับโสตทศั นวสั ดใุ หมจ่ ำกงำนลงรำยกำรทรพั ยำกรสำรสนเทศ ทำกำรบันทึกข้อมูลเขำ้ สู่ระบบฐำนขอ้ มลู AV Self-Check 2. ผู้ปฏบิ ตั ิงำนห้องสมุดจัดพิมพ์และติดสัญลกั ษณ์ QR Code ทีไ่ ดจ้ ำกระบบ AV Self-Check ไวบ้ นปกหนำ้ ของสอื่ โสตทัศนวสั ดุแลว้ นำขึ้นช้นั เพ่ือให้บริกำร 3. ผู้ปฏิบตั งิ ำนห้องสมุดปรบั เปลีย่ นสถำนะกำรติดสญั ลักษณ์ QR Code ประจำ สือ่ โสตทัศนวสั ดุ ภำพที่ 3 กำรบันทึกข้อมูลสอ่ื โสตทศั นวัสดุใหม่
ภำพที่ 4 หน้ำจอกำรสรำ้ ง QR Code ตำมลำดบั เลขเรยี ก ภำพท่ี 5 ขัน้ ตอนกำรพมิ พ์และตดิ QR Code ท่ปี กหนำ้ ของสื่อโสตทศั นวสั ดุ
3. การประชาสมั พนั ธ์และประเมินความพึงพอใจต่อการใชบ้ รกิ าร ทำกำรประชำสมั พนั ธ์ผ่ำนทำงชอ่ งทำงต่ำง ๆ ได้แก่ เว็บไซต์ อเี มล หน้ำจอประชำสัมพนั ธ์ ดิจิทัล และ Social Network ของห้องสมุด รวมถึงจัดทำป้ำยโฆษณำในลักษณะโฟมบอร์ดวำงไวใ้ น ตำแหน่งท่ีมผี ูใ้ ช้บริกำรสัญจรไปมำและภำยในห้องโสตทศั นวสั ดุ เพ่อื ดงึ ดดู ควำมสนใจและเชิญชวน ใหเ้ ขำ้ ใช้บริกำร ทมี งำนได้เชิญกลุม่ ตัวอย่ำงซึ่งเปน็ นกั ศกึ ษำสำขำวิชำกำรจัดกำรสำรสนเทศ คณะมนษุ ยศำสตร์และสังคมศำสตร์ จำนวน 30 คน มำทดลองใชบ้ ริกำรระบบ AV Self-Check พรอ้ มทำกำรประเมินควำมพงึ พอใจต่อกำรใช้บริกำรในประเดน็ ตำ่ ง ๆ ไดผ้ ลตำมตำรำงท่ี 1 ภำพที่ 6 กำรจดั ทำกรำฟิกประกอบกำรประชำสัมพันธ์และบรรยำกำศกำรทดลองใช้งำนระบบ
ภำพท่ี 7 หนำ้ จอกำรใช้งำนระบบ AV Self-Check เมอ่ื ทำกำรอำ่ น QR Code ดว้ ยสมำรท์ โฟน ภำพที่ 8 จดุ บริกำรตัวเองสำหรับประทับวันกำหนดส่งคนื หลังจำกทำกำรยมื ดว้ ยตนเองสำเร็จ สรุปผล อภิปรายผล ขอ้ เสนอแนะและการนาไปใชป้ ระโยชน์ กำรพัฒนำระบบ AV Self-Check บริกำรยืมโสตทัศนวสั ดุด้วยตนเองผ่ำน QR Code ของหอสมุดจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ผใู้ ชบ้ ริกำรสำมำรถอ่ำนเน้ือเรอ่ื งย่อและรับชมวดิ ีโอตวั อยำ่ งของ โสตทัศนวัสดุได้อยำ่ งรวดเร็วโดยไม่ต้องยงุ่ เก่ียวกบั บำรโ์ คด้ ลำเบล และใบประทับวนั กำหนดส่งคืน ทตี่ ดิ อยบู่ ริเวณดำ้ นหนำ้ และหลงั กลอ่ งบรรจแุ ผน่ สอื่ โสตทัศนวสั ดุ และผู้ใชบ้ รกิ ำรสำมำรถทำรำยกำร ยมื สือ่ โสตทัศนวสั ดไุ ด้ในทนั ทีทีต่ อ้ งกำร โดยไม่ต้องรอหรอื ผ่ำนเจำ้ หน้ำที่ผู้ปฏบิ ตั ิงำนตรงจุดใหบ้ รกิ ำร ยมื -คนื ซ่ึงสง่ ผลให้ลดข้นั ตอนและระยะเวลำในกำรใหบ้ ริกำร และสง่ เสริมให้มีกำรใช้งำนทรัพยำกร สำรสนเทศของหอ้ งสมดุ เพ่ิมมำกข้ึน
ผลประเมินจำกกำรทดลองให้บริกำรกบั กลมุ่ ตวั อย่ำงจำนวน 30 คน ในประเด็น ควำมพงึ พอใจด้ำนตำ่ ง ๆ (ตำรำงท่ี 1) พบว่ำ ไดร้ บั กำรแปลผลอยู่ในระดับมำกท่สี ดุ ทกุ ประเด็น โดยคำถำมในหวั ข้อกำรสแกน QR Code ที่ตัวโสตทศั นวัสดุ มคี ่ำเฉลี่ยสงู ทีส่ ุด (4.88) ตำรำงที่ 1 สรุปผลประเมนิ ควำมพึงพอใจในกำรใชบ้ รกิ ำร AV Self-Check ของผใู้ ช้บริกำร ความพงึ พอใจในการใชบ้ รกิ าร AV Self-Check สรปุ ผลการประเมนิ 1. กำรสแกน QR Code ท่ตี ัวโสตทัศนวสั ดุ X SD แปลผล 2. กำรแสดงข้อมลู ที่หนำ้ จออปุ กรณ์ 3. ควำมสะดวกในกำรรบั ชมตวั อยำ่ งโสตทศั นวสั ดุ 4.88 0.10 มำกที่สดุ 4. ควำมสะดวกในกำรอ่ำนเนอ้ื เรอ่ื งยอ่ ของโสตทศั นวัสดุ 4.81 0.12 มำกทสี่ ดุ 5. กำรทำรำยกำรยมื โสตทัศนวสั ดุด้วยตนเอง 4.85 0.11 มำกทีส่ ดุ 6. กำรประทบั วนั กำหนดส่งคนื ทห่ี ลงั แผน่ โสตทนั วสั ดกุ ่อนนำออกจำกห้อง 4.72 0.14 มำกที่สุด 7. บรกิ ำรนมี้ ีสว่ นช่วยในกำรใช้บริกำรส่อื โสตทัศนวัสดขุ องหอ้ งสมดุ 4.82 0.11 มำกทส่ี ุด 4.75 0.13 มำกทส่ี ุด เฉล่ียรวม 4.85 0.11 มำกที่สุด 4.81 0.12 มากทส่ี ดุ ผลประเมินจำกกำรใชง้ ำนระบบ AV Self-Check ของผู้ให้บริกำร (ผู้ปฏิบัตงิ ำนหอ้ งสมุด) จำนวน 1 คน ในประเดน็ ควำมพึงพอใจด้ำนกระบวนกำรและข้ันตอนกำรทำงำนตำ่ ง ๆ (ตำรำงท่ี 2) พบว่ำ ไดร้ บั กำรแปลผลอยู่ในระดบั มำกท่สี ุดทุกประเด็น ตำรำงท่ี 2 สรปุ ผลประเมินควำมพงึ พอใจในกำรใช้งำนระบบ AV Self-Check ของผใู้ ห้บรกิ ำร ความพึงพอใจในการใช้งานระบบ AV Self-Check สรปุ ผลการประเมนิ 1. กำร Login เข้ำใชง้ ำนระบบ X SD แปลผล 2. กำรเข้ำถึงเมนเู พอ่ื ทำงำนต่ำง ๆ 3. กำรบนั ทึกและจัดกำรข้อมูลโสตทศั นวัสดุ 5.00 0.00 มำกทส่ี ดุ 4. กำรสร้ำง QR-Code ประจำโสตทัศนวัสดุ 5.00 0.00 มำกทส่ี ุด 5. กำรคน้ หำข้อมลู โสตทัศนวสั ดุ 5.00 0.00 มำกที่สุด 6. กำรตรวจสอบกำรทำรำยกำรยมื ของผใู้ ชบ้ รกิ ำร 5.00 0.00 มำกท่ีสดุ 7. ควำมถูกตอ้ ง ครบถ้วน สมบูรณข์ องขอ้ มลู โสตทัศนวสั ดุ 5.00 0.00 มำกท่ีสดุ 8. ประสิทธิภำพและเสถียรภำพในกำรทำงำนของระบบ 5.00 0.00 มำกทส่ี ุด 9. ควำมพงึ พอใจที่มีตอ่ ระบบในภำพรวม 4.50 0.50 มำกทสี่ ดุ 5.00 0.00 มำกที่สุด เฉลี่ยรวม 5.00 0.00 มำกทส่ี ุด 4.94 0.05 มากท่ีสดุ
ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รบั 1. ผูใ้ ช้บรกิ ำรสำมำรถอำ่ นเนื้อเรอื่ งย่อและรบั ชมวิดีโอตัวอย่ำงของโสตทศั นวัสดุ ไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ โดยไมต่ อ้ งยุ่งเกี่ยวกบั บำรโ์ ค้ด ลำเบล และใบประทับวนั กำหนดส่งคืนที่ติดอยู่บริเวณ ดำ้ นหนำ้ และหลังกล่องบรรจุแผ่นสอ่ื โสตทศั นวสั ดุ 2. ผใู้ ชบ้ รกิ ำรสำมำรถทำรำยกำรยืมสื่อโสตทัศนวสั ดุไดใ้ นทันทที ีต่ ้องกำร โดยไม่ต้องรอ หรอื ผ่ำนเจำ้ หนำ้ ท่ผี ้ปู ฏิบัตงิ ำนตรงจดุ ให้บริกำรยมื -คืน 3. เป็นกำรเพม่ิ ชอ่ งทำง รวมถึงลดขน้ั ตอนและเวลำในกำรใหบ้ รกิ ำรยมื โสตทัศนวสั ดุ ของห้องสมุด 4. ส่งเสรมิ ใหม้ ีกำรใช้งำนทรัพยำกรสำรสนเทศของห้องสมุดเพมิ่ มำกข้นึ 5. ผูใ้ ชบ้ รกิ ำรมรี ะดับควำมพึงพอใจโดยรวมตอ่ กำรใหบ้ รกิ ำรของห้องสมดุ มำกยิ่งข้นึ การนาไปใช้ประโยชน์ในงานหอ้ งสมุด บริกำร AV Self-Check จะเข้ำมำปรับปรงุ รปู แบบกำรบริกำรโสตทศั นวสั ดุใหส้ อดรับ กบั วิถชี ีวิตยคุ ดจิ ิทลั ของผู้ใช้กล่มุ ใหม่อยำ่ งลงตัว เปน็ บริกำรเชงิ รุกทช่ี ว่ ยยกระดับคุณภำพสนิ ค้ำและ บริกำรจำกกำรประยุกต์ใช้อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ และเทคโนโลยีทท่ี นั สมยั ก่อให้เกิดประสิทธิผลทค่ี ุม้ ค่ำ สร้ำงภำพลักษณท์ ดี่ ีให้แก่ห้องสมุด และเปน็ แนวทำงในกำรสรำ้ งนวัตกรรมบรกิ ำรแบบพงึ่ ตนเอง (Self-services) ท่เี พ่ิมมำกข้ึนในอนำคต อนั จะชว่ ยลดกำรสนิ้ เปลืองทรัพยำกรและเวลำ ในกำรดำเนนิ งำนของห้องสมุดลงได้อีกมำกต่อไป
ห้องสมดุ เพื่อเกษตรกรไทย: ระบบบรกิ ารความรเู้ พ่อื เกษตรกรยุคใหม่ Thai Farmer’s Library: Integrated Services Platform for Providing Agricultural Knowledge for New Age Farmers ถริ นันท์ ดารงคส์ อน, อารยี ์ ธญั กิจจานุกจิ ฝ่ายสารสนเทศ สานักหอสมดุ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ e-mail: [email protected] บทคัดยอ่ ห้องสมดุ เพอื่ เกษตรกรไทย เป็นระบบบรกิ ารความรู้ด้านการเกษตรแบบครบวงจร จดั ทาโดยมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตรร์ ว่ มกับหนว่ ยงานความร่วมมอื เพ่ือสง่ เสริมใหเ้ กษตรกร ใชฐ้ านความรู้ในการพฒั นาและแก้ปัญหาการผลิตดา้ นการเกษตร โดยสนับสนนุ ใหเ้ กษตรกรไทย เข้าถงึ แหล่งความรูด้ ้านการเกษตรไดโ้ ดยสะดวก หอ้ งสมดุ เพ่อื เกษตรกรไทย ประกอบด้วย บริการข้อมลู ขา่ วสารและการแจ้งเตือนเพ่ือให้เกษตรกรเตรียมพร้อมกบั ทุกสถานการณ์ ระบบบรกิ าร คลังความรูด้ จิ ทิ ัลดา้ นการเกษตรของประเทศไทย ระบบบริการความรู้ด้านการเกษตรจากตา่ งประเทศ ระบบบริการ “กรู ูเกษตรศาสตร์” ซงึ่ เปน็ ระบบตอบคาถามโดยผู้เชีย่ วชาญดา้ นการเกษตร ระบบ บรกิ ารหอ้ งสมุดเพื่อเกษตรกรไทยเป็นแหลง่ บริการความรู้ท่ีสามารถเขา้ ถงึ ได้จากทกุ ท่ี ทุกเวลา โดยไม่มีคา่ ใชจ้ า่ ย เพ่ือพัฒนาศกั ยภาพของเกษตรกรยุคใหม่ และเพ่ิมขีดความสามารถในการแขง่ ขัน ของประเทศไทย ในยุค Thailand 4.0 คาสาคญั : ห้องสมุดเพ่อื เกษตรกรไทย, เกษตรกรยุคใหม่, ไทยแลนด์ 4.0, กูรูเกษตรศาสตร์ Abstract Thai Farmer’s Library served as an integrated services platform for providing agricultural knowledge developed by Kasetsart University in collaboration with cooperation agencies. Its purpose is to encourage Thai farmers to improve and solve agricultural production problems based on agricultural knowledge. By all means the services platform provides Thai farmers an easy access to those agricultural knowledge. The services platform consists of agricultural information, news and alerts to keep farmers prepared for any situation. It provided not only agricultural knowledge within Thailand but also online agriculture databases from oversea. Also, it provides “GuruKasetsart” service, which is the service that helps to respond to
questions concerning agriculture by agricultural experts from various fields. Thai Farmer’s Library provides agricultural knowledge that can be accessed anywhere, anytime at free of charge and aims to enhance the potential of new age farmers and to increase the competitiveness of Thailand in the era of Thailand 4.0. Keywords: Thai Farmer’s Library, New Age Farmer, Smart Farmer, Thailand 4.0, GuruKasetsart บทนา ปจั จุบนั ภาคการเกษตรของไทยยงั คงประสบกบั ปัญหามากมาย เกษตรกรส่วนใหญ่ ประสบปัญหาการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้องและจาเปน็ สง่ ผลใหป้ ระสิทธภิ าพการผลิต ภาคการเกษตรอยู่ในระดบั ตา่ มกี ารใช้ปจั จยั การผลติ อย่างไมเ่ หมาะสม การวจิ ัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวตั กรรมใหม่ ๆ ในภาคการเกษตรมีจากดั และมฐี านข้อมูลด้านการเกษตรท่ีทนั สมยั แต่ยัง ไมค่ รอบคลมุ ในทุกมิติ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2559) การพฒั นาการผลติ ทางการเกษตร ในปจั จบุ ัน นอกจากต้องเผชิญกับการแขง่ ขันในตลาดโลกท่รี ุนแรงขึน้ เร่ือย ๆ แลว้ ยังพบกบั ปญั หา ความแปรปรวนของสภาพแวดลอ้ ม ซึ่งจาเป็นท่จี ะต้องใช้องคค์ วามรใู้ นการวางแผน บรหิ ารจัดการ และการแกป้ ญั หาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็ว ทนั เหตุการณ์ ตรงความตอ้ งการ และก่อใหเ้ กิดมลู คา่ เพ่ิม การแสวงหาความรู้จากฐานความรทู้ ่ีถกู ต้องและครบวงจร ตัง้ แต่การวางแผนการผลติ การแปรรูป เชอื่ มโยงถงึ การตลาด การบริหารจัดการในเชิงธรุ กิจ และการใช้เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมเพอื่ การผลติ ประกอบกับการไดค้ าแนะนาจากผ้เู ชย่ี วชาญ จึงเป็นปัจจยั สนับสนนุ ท่ีมคี วามสาคัญตอ่ การสง่ เสริม การเรียนร้ขู องเกษตรกรยุคใหม่ อนั จะนาไปสู่การพัฒนาการผลิตและการแก้ปญั หาดว้ ยความรู้ สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ในฐานะของศนู ย์สนเทศทางการเกษตรแหง่ ชาติ ซง่ึ ทาหน้าทรี่ วบรวมองค์ความรูด้ ้านการเกษตรของประเทศ มาอย่างตอ่ เน่ืองเปน็ เวลากว่า 35 ปี จงึ ร่วมมือกับหน่วยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ ง พฒั นาระบบบริการห้องสมดุ เพื่อเกษตรกรไทย โดยเปิดโอกาส ใหเ้ กษตรกรไดเ้ ข้าถงึ ข้อมลู ข่าวสาร และคลงั ความร้ดู ิจิทลั ดา้ นการเกษตร โดยไมเ่ สยี ค่าใชจ้ า่ ย เพ่ือสนบั สนนุ ใหเ้ กษตรกรนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ เพอ่ื พัฒนาการผลิตทางการเกษตรด้วยฐาน ความรู้ ในยคุ เศรษฐกิจดิจทิ ลั ตามนโยบาย Thailand 4.0 (อารีย์ ธญั กิจจานุกิจ, 2560) วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาระบบบริการความรดู้ ้านการเกษตรสาหรบั เกษตรกรไทย 2. เพ่ือสนับสนนุ ใหเ้ กษตรกรไทยเข้าถงึ แหลง่ ความรูด้ า้ นการเกษตรไดโ้ ดยสะดวก ข้ันตอนและวธิ ีการดาเนนิ งาน 1. วางแผน ศกึ ษาปัญหาและความตอ้ งการ โดยประชมุ ระดมความคิด ร่วมกับผ้ใู ชบ้ ริการ ท่เี ปน็ เกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย โดยเชญิ ผู้แทนเกษตรกรกลุ่มคนกลา้ คืนถิ่น มาร่วมวางแผนพฒั นา
ระบบ เพ่ือให้ข้อมูลเก่ียวกบั ความต้องการความรูเ้ พือ่ การพัฒนาการผลติ และการแกป้ ัญหา รูปแบบ และวิธีการเขา้ ถงึ ข้อมูลท่ีมีความเหมาะสมกับเกษตรกรยุคใหม่ 2. วิเคราะหร์ ะบบ วิเคราะห์ความต้องการของผใู้ ช้ โดยการนาความตอ้ งการที่ไดม้ าจาก ขน้ั ตอนแรกมาวิเคราะห์ในรายละเอยี ด วิเคราะห์สภาพแวดลอ้ ม ปญั หา ข้อดี ข้อเสยี ของระบบ บรกิ ารความร้ดู า้ นการเกษตรทใ่ี หบ้ รกิ ารอยู่ในปจั จบุ ัน เพ่ือกาหนดสว่ นประกอบของระบบ และรายละเอยี ดขั้นตอนกระบวนการทางานในระบบ 3. ออกแบบระบบ ออกแบบและกาหนดรปู แบบการใหบ้ ริการท่ีสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้ใชบ้ รกิ าร ออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบ กาหนดคุณลกั ษณะของโปรแกรม ทจี่ ะพฒั นา ออกแบบหน้าจอในการตดิ ต่อกับผใู้ ชง้ าน ออกแบบโครงสร้างข้อมลู และออกแบบ รายงาน 4. พฒั นาระบบ พฒั นาระบบงานด้วยการสรา้ งชดุ คาส่ังหรือเขยี นโปรแกรม โดยมี การศึกษาและเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม ดังนี้ 4.1 เป็นเทคโนโลยีทท่ี นั สมัย รองรับการพฒั นาต่อยอดในอนาคต 4.2 มปี ระสิทธิภาพสงู รองรับผใู้ ชง้ านจานวนมาก 4.3 ฐานขอ้ มลู มีความเร็วในการอ่าน-เขยี นข้อมูลทีม่ าก รองรบั ข้อมูลจานวนมาก 4.4 ระบบสบื คน้ มีประสทิ ธภิ าพในการจัดทาดชั นี สามารถตดั คาและใชง้ านกบั ภาษาไทยได้สบื ค้นขอ้ มลู ได้รวดเร็ว และแม่นยา 4.5 ใช้ซอฟต์แวร์แบบเปดิ เผยรหสั (Open source) เพื่อลดตน้ ทุน 4.6 รองรบั การใชง้ านผ่านอุปกรณโ์ ทรศัพทม์ ือถือ หรอื Tablet ได้อย่างไม่มปี ัญหา เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการพัฒนาระบบห้องสมดุ เพอื่ เกษตรกรไทย มดี งั น้ี 4.7 ระบบปฏิบตั ิการ: Ubuntu 4.8 เวบ็ เซิรฟ์ เวอร:์ Nginx 4.9 ภาษาและเคร่ืองมือ: Node.js/ Javascript/ CSS 4.10 ระบบจัดการฐานข้อมลู : MongoDB/ Elasticsearch 5. ทดสอบระบบ ทดสอบระบบเบ้อื งตน้ ก่อนเปิดใชง้ านจริง โดยผใู้ ช้งานระบบ 3 กลุ่ม ไดแ้ ก่ ผดู้ ูแลระบบ ผใู้ ชบ้ ริการ (เกษตรกร) ผู้ใหบ้ ริการ (ผู้เชี่ยวชาญ นักเอกสารสนเทศ เจา้ หน้าที่ บนั ทึกข้อมูล) ด้วยการสร้างข้อมลู จาลองเพื่อตรวจสอบการทางานของระบบบนั ทึกข้อมลู ระบบ สบื ค้นขอ้ มูล ระบบการแสดงผล ระบบการจัดทารายงาน ระบบจดั การข้อมลู และระบบจดั การ ถาม-ตอบ หากมีข้อผิดพลาดเกดิ ขึน้ หรอื พบวา่ ไมต่ รงตามความตอ้ งการของผู้ใช้ก็ย้อนกลับไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขในขน้ั ตอนการพฒั นาระบบใหม่ แล้วทดสอบซ้าจนมคี วามม่นั ใจแล้วว่าระบบสามารถทางาน ได้จริง ไม่พบข้อผิดพลาดและตรงกบั ความต้องการของผู้ใช้ระบบ 6. ตดิ ตง้ั ใชง้ านระบบ ดาเนินการติดตงั้ ระบบเพ่อื ใชง้ านจริง เรมิ่ ตัง้ แต่การจดั เตรียม เครอ่ื งคอมพิวเตอรแ์ ม่ข่ายที่เหมาะสม ตดิ ต้ังซอฟตแ์ วร์ระบบ บันทกึ ข้อมูลเข้าระบบ จัดทาคู่มือ ฝกึ อบรมผู้ใชง้ านระบบ และประชาสัมพนั ธ์ ส่งเสริมการใชร้ ะบบ 7. บารุงรักษาระบบ ปรบั ปรุงแกไ้ ขระบบหลังจากท่ีไดม้ ีการตดิ ตัง้ และใช้งานแลว้ ประเมินผลการใช้งานระบบ สารวจปญั หาและความพึงพอใจตอ่ การใชง้ านระบบ เพ่ือใชเ้ ป็นข้อมูล
ในการวางแผนการพัฒนาปรับปรุงระบบต่อไป สรปุ ผล อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะ และการนาไปใชป้ ระโยชน์ ระบบห้องสมดุ เพ่ือเกษตรกรไทย ประกอบด้วย ส่วนต่าง ๆ ดงั นี้ 1. ระบบบริการห้องสมุดเพ่ือเกษตรกรไทยสาหรบั ผู้ใช้บริการ เปิดให้บรกิ ารความรู้ ดา้ นการเกษตรผา่ นทางเว็บไซต์ http://thaifarmer.lib.ku.ac.th อย่างเปน็ ทางการ เมื่อวนั ท่ี 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เกษตรกรหรอื ผสู้ นใจสามารถใชง้ านและคน้ หาขอ้ มลู ความรู้ด้านการเกษตร ไดจ้ ากทกุ ท่ี ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ โดยไม่มคี ่าใชจ้ า่ ย ขอ้ มูลที่ให้บริการในระบบ ประกอบดว้ ยข่าวสาร ถาม-ตอบ แจ้งเตือน และแหลง่ ความรูด้ ้านการเกษตร ที่สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ได้รวบรวม และคัดเลอื กเนื้อหาทเี่ ปน็ ประโยชน์กับเกษตรกร จากแหล่งข้อมลู ที่นา่ เช่ือถือ สาหรับสมาชิกของระบบจะได้รับสทิ ธิพิเศษ สามารถค้นหาความรูจ้ าก คลงั ความรู้ดิจิทลั ด้านการเกษตร พร้อมดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็ม ค้นหาข้อมูลจากฐานขอ้ มลู ออนไลนต์ า่ งประเทศ และถามปญั หา “กรู เู กษตรศาสตร์” ผ่านทางเวบ็ ไซตห์ รือผา่ นชอ่ งทาง Line @GuruKasetsart เกษตรกรสามารถสมัครสมาชกิ ได้ โดยกรอกข้อมูลลงทะเบยี นผ่านทาง เวบ็ ไซตห์ รอื สมัครผา่ นบญั ชี Line เมื่อไดร้ บั อเี มลยืนยันการเป็นสมาชิก พรอ้ มแจง้ รายละเอียด การใช้งานระบบแล้ว สามารถลงชื่อเขา้ ใช้งานระบบไดท้ ันที ภาพที่ 1 ภาพรวมและหนา้ จอหลักของระบบของระบบหอ้ งสมุดเพือ่ เกษตรกรไทย ส่วนประกอบของระบบ มรี ายละเอยี ด ดงั น้ี 1.1 ข่าวสาร เปน็ ข้อมูล ข่าวสาร เรอ่ื งนา่ รู้ด้านการเกษตรสาหรับเกษตรกร 1.2 ถาม-ตอบ เป็นปัญหาด้านการเกษตรท่ีเกษตรกรถามกูรเู กษตรศาสตร์เป็นคาถาม ท่ีนา่ สนใจหรอื คาถามท่ถี ามบ่อย 1.3 แจง้ เตอื น เปน็ ข้อมูลการแจ้งเตอื นภัยด้านการเกษตรจากหนว่ ยงานราชการ เพื่อให้เกษตรกรเตรียมพร้อมรับมอื กับสถานการณ์ต่าง ๆ 1.4 เร่อื งคดั สรร เป็นข่าวสาร แจง้ เตอื น ถาม-ตอบ และแหลง่ ขอ้ มลู ทรี่ ะบบคัดสรร ให้ตามความเกยี่ วข้องและความสนใจของสมาชิกจากข้อมลู ท่ไี ดล้ งทะเบียนไว้
1.5 แหลง่ ความรู้ เปน็ แหล่งข้อมลู ท่ีเกษตรกรสามารถค้นหาความรู้ไดผ้ ่านเครือข่าย อินเทอรเ์ น็ต 1.6 คลังความรูด้ ิจทิ ลั ด้านการเกษตรของประเทศไทย เป็นระบบรกิ ารความรู้ ดา้ นการเกษตร ทีร่ วบรวมหนังสือ ตารา เอกสาร บทความด้านการเกษตร ท้ังทีเ่ ป็นผลงานวจิ ยั และบทความรทู้ ่ัวไป จากสื่อหลากหลายประเภท พร้อมเอกสารฉบับเตม็ และหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ 1.6.1 ฐานขอ้ มลู ออนไลนด์ ้านการเกษตร เปน็ ระบบบรกิ ารความรูด้ า้ นการเกษตร จากตา่ งประเทศ ได้แก่ องค์การอาหารและเกษตรแหง่ สหประชาชาติ สานักพมิ พ์ CABI, Ebsco, iGroup และอีกหลากหลายองคก์ รจากทว่ั โลก 1.6.2 แหลง่ ความรู้ด้านการเกษตรอ่นื ๆ เปน็ แหลง่ ความรู้จากเว็บไซต์ของ หน่วยงานราชการ และองค์กรด้านการเกษตร ภาพท่ี 2 แหล่งความรู้ดา้ นการเกษตร 1.7 ระบบสบื คน้ ข้อมลู คน้ หาขอ้ มูลในระบบ ได้แก่ ข่าวสาร แจ้งเตือน ถาม-ตอบ และแหล่งความรู้ด้านการเกษตร พรอ้ มทงั้ เชือ่ มโยงข้อมลู กับคลงั ความรู้ดิจทิ ลั ด้านการเกษตร 1.8 ระบบ “กรู ูเกษตรศาสตร์” เป็นระบบตอบคาถามด้านการเกษตรผา่ นระบบ ห้องสมดุ เพอ่ื เกษตรกรไทย เมนู “ถามกรู ู” หรอื ผ่านไลน์ @GuruKasetsart โดยผู้เชยี่ วชาญ ดา้ นการเกษตรของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ และผู้ทรงความรดู้ า้ นการเกษตรของประเทศ
ภาพท่ี 3 ระบบ “กรู ูเกษตรศาสตร์” 2. ระบบบรหิ ารจดั การสาหรับเจา้ หนา้ ทีแ่ ละผ้ดู ูแลระบบ สาหรบั ต้ังค่าและบรหิ ารจัดการ ข้อมูลในระบบ จัดการระบบถาม-ตอบ ตงั้ ค่าการใชง้ านระบบ จัดการผใู้ ชใ้ นระบบ และรายงานขอ้ มูล สถิตติ า่ ง ๆ ผ้เู ข้าใช้งานหลักในส่วนนคี้ ือผู้ดูแลระบบ เจา้ หน้าทท่ี ่ไี ด้รบั สิทธิ และผูเ้ ชย่ี วชาญท่ีทาหนา้ ที่ ตอบคาถาม ระบบบรหิ ารจัดการข้อมลู หอ้ งสมุดเพ่ือเกษตรกรไทย มีรายละเอยี ดดังน้ี 2.1 การจัดการเน้ือหา สาหรบั จดั การเนื้อหาข้อมลู ในระบบ เพิม่ แก้ไข ลบ และเลือก แสดงรายการข้อมลู ในเว็บไซต์ระบบบรกิ าร ได้แก่ ข่าวสาร แจง้ เตอื น แหล่งความรดู้ ้านการเกษตร โครงสร้างขอ้ มูลหลักของเน้ือหา ประกอบด้วย ชื่อเรือ่ ง รายละเอียด หมวดหมู่ คาสาคญั แหลง่ ที่มา สถานะ วันท่ีของข้อมูล วนั ที่เร่ิมตน้ และวนั ท่ีส้ินสุดของการแสดงข้อมูลในเวบ็ ไซต์ระบบบรกิ าร 2.2 การตง้ั คา่ ผ้ใู ช้ ผใู้ ข้งานในระบบ แบง่ ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าท่ี ผู้เช่ยี วชาญ และเกษตรกร ผูด้ แู ลระบบมีหน้าท่จี ัดการผใู้ ชง้ านในระบบ ได้แก่ เพ่ิม แก้ไข และลบข้อมูล โครงสรา้ ง ข้อมูลหลกั ของผู้ใช้ ประกอบดว้ ย 3 ส่วน คือ ชอ้ มูลสว่ นตัว ข้อมลู ทางการเกษตร และข้อมูล ความเชย่ี วชาญ ผู้ใช้งานท่ีเปน็ สมาชิกในระบบทั้ง 3 ประเภท สามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแกไ้ ขขอ้ มูล ของตนเองได้ 2.3 การจัดการถาม-ตอบ คอื สว่ นจดั การคาถาม-คาตอบที่ผู้ใชส้ ง่ เข้ามาผา่ นระบบ “กรู เู กษตรศาสตร์” ทง้ั ทางหน้าเวบ็ ไซต์เมนูถามกูรู และทางไลน์ ตงั้ แตร่ บั คาถาม ส่งต่อคาถามไปยงั เจา้ หนา้ ท่แี ละผู้เชย่ี วชาญ ตอบคาถาม จนกระทั่งปดิ คาถาม และเผยแพร่คาถาม-คาตอบ ในระบบ ห้องสมุดเพือ่ เกษตรกรไทย 2.4 รายงานสถติ ิ ประกอบด้วย รายงานภาพรวมของระบบ แสดงจานวนข้อมลู ในระบบทั้งหมด ได้แก่ จานวนคาถามแยกตามสถานะ จานวนผู้ใช้แยกตามประเภท และจานวน เนือ้ หา ขา่ วสาร แจง้ เตือน และแหล่งความรู้ รายงานถาม-ตอบ แสดงจานวนคาถาม ระยะเวลาเฉลี่ย ในการตอบ รายละเอยี ดของคาถาม และรายงานผูใ้ ช้งานในระบบ อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ ระบบหอ้ งสมุดเพื่อเกษตรกรไทย เริม่ เปิดให้บรกิ ารอย่างเป็นทางการ เมื่อวนั ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ 2560 ปจั จบุ ันมีจานวนเกษตรกรทเ่ี ป็นสมาชกิ ระบบห้องสมุดเพื่อเกษตรกรไทย
แบบใหบ้ ริการผา่ นเวบ็ ไซต์ จานวน 412 คน และเป็นสมาชกิ Line @GuruKasetsart จานวน 1,190 คน จากการจัดกิจกรรม ประชาสมั พันธเ์ ผยแพร่และสง่ เสรมิ การใช้ พบวา่ เกษตรกรให้ ความสนใจเปน็ สมาชกิ Line@ จานวนมาก และมจี านวนสมาชกิ เพิม่ ขึ้นอย่างต่อเนอื่ ง ท้งั นี้ เนอื่ งจาก เกษตรกรสามารถใชง้ านแอพพลเิ คชันไลน์ผ่านโทรศัพทม์ ือถอื ได้โดยสะดวก จากทกุ ท่ี ทุกเวลา และ สามารถแชร์ตอ่ ไดง้ า่ ย สอดคล้องกบั ผลการวจิ ยั ของสินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม (2558) ทพ่ี บวา่ เกษตรกรมคี วามสามารถในการใชง้ านแอพพลิเคชนั ไลน์ ในระดบั มากท่สี ุด ดงั นน้ั Line@ จงึ เป็น ชอ่ งทางที่เหมาะสมในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ข้อมลู ข่าวสาร ใหก้ ับเกษตรกรยุคใหม่ได้ อย่างสะดวกและรวดเร็ว จานวนครง้ั การเข้าใช้งานระบบ % ผใู้ ช้งานระบบจาแนกตามระบบปฏิบตั กิ าร 3000 2759 2757 0.42% 0.12% 0.10% 5.04% 2500 2183 14.85% 2000 1733 27.96% 51.52% 1500 1147 1000 740 674 844 500 0 Android Windows iOS Macintosh Windows Phone Linux อนื่ ๆ ภาพท่ี 4 สถิติการใช้งานระบบหอ้ งสมุดเพอื่ เกษตรกรไทย สถิติการเขา้ ใช้งานระบบห้องสมุดเพื่อเกษตรกรไทย ระหว่างเดือน ก.พ.-ก.ย 2561 มีจานวน 12,837 ครั้ง ภาพท่ี 4 แสดงจานวนครั้งการเข้าใช้งานระบบเป็นรายเดือน พบวา่ สถิติ การเข้าใช้ระบบเพ่ิมขึน้ อย่างต่อเน่อื ง และมีแนวโน้มเพมิ่ สูงข้นึ อย่างไรกต็ าม สถิติการใช้งานที่ ค่อนข้างสูงดงั กล่าวเมอื่ เทย่ี บกบั จานวนเกษตรกรทงั้ หมดในประเทศไทยแล้ว ยงั ถอื วา่ อยู่ในระดับตา่ ดงั นนั้ จงึ จาเปน็ ตอ้ งเรง่ ดาเนินการประชาสัมพนั ธ์ เผยแพร่ระบบใหม้ ากขึ้น เม่อื พิจารณาปริมาณการเข้าใช้งานระบบจาแนกตามระบบปฏิบัติการ พบว่า ผู้ใช้สว่ นใหญ่ ใช้งานผ่านโทรศัพท์มอื ถือ หรือ Tablet คดิ เป็นร้อยละ 66.48% โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Android มากทสี่ ดุ คิดเป็นรอ้ ยละ 51.52 รองลงมาคอื IOS คิดเป็นร้อยละ 14.85 และ Windows Phone คดิ เป็นร้อยละ 0.12 ตามลาดบั ผูใ้ ชง้ านระบบผ่านเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ คดิ เปน็ ร้อยละ 28.48 โดยใช้ ระบบปฏิบัตกิ าร Windows มากทส่ี ดุ คิดเป็นรอ้ ยละ 27.96 รองลงมาคือ Macintosh คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.42 และ Linux คิดเป็นร้อยละ 0.10 ตามลาดับ และระบบปฏิบตั ิการอน่ื คิดเป็นร้อยละ 5.04 ซง่ึ จากผลการวจิ ยั เร่ืองรูปแบบพฤตกิ รรมและเง่ือนไขการเรียนรู้การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ของเกษตรกร พบว่า เกษตรกรมีการใชโ้ ทรศัพทม์ ือถือในการรับข้อมลู ข่าวสารและแลกเปล่ียนเรยี นรู้ อยา่ งมีนยั สาคัญ และมีพฤตกิ รรมการศึกษาความรูเ้ พ่ิมเติมเกีย่ วกับการเกษตรจากการศึกษาดว้ ย ตนเองมากทสี่ ดุ (สินีนชุ ครุฑเมอื ง แสนเสริม และพลสราญ สราญรมย์, 2558) ดังนนั้ การพัฒนา
ระบบเพิ่มเติมในอนาคต จงึ ได้วางแผนทจี่ ะออกแบบการพัฒนาท่ีรองรับการใชง้ านผ่านโทรศัพท์มอื ถือ หรอื Tablet โดยมฟี ังก์ชันการทางานครบสมบรู ณเ์ ทียบเท่ากบั การทางานผา่ นเครื่องคอมพวิ เตอร์ จากการประเมินผลความพงึ พอใจต่อการใช้งานระบบห้องสมดุ เพ่ือเกษตรกรไทย โดยภาพรวมมคี วามพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ดี ที่ค่าเฉลี่ย 3.97 ผตู้ อบแบบประเมินมีความพึงพอใจ ทุกหัวขอ้ ในระดับดี โดยพงึ พอใจหวั ขอ้ ความมปี ระโยชน์ของข้อมลู ที่ได้รับ มากท่ีสดุ ที่ค่าเฉล่ีย 4.14 รองลงมาคอื หัวข้อ ขอ้ มูลท่ีไดต้ รงตามความต้องการ ที่คา่ เฉล่ีย 3.98 ระบบใชง้ านงา่ ยและไมซ่ ับซอ้ น และระบบสามารถใช้งานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ทค่ี า่ เฉล่ีย 3.97เทา่ กนั รูปแบบและวิธีการสบื ค้น ขอ้ มูล ที่คา่ เฉล่ีย 3.92 และข้อมลู ท่ีไดเ้ พียงพอกับความต้องการ ที่คา่ เฉลี่ย 3.87 ตามลาดับ จากผลสารวจพบวา่ ผูใ้ ช้มปี ญั หาเร่ืองวธิ กี ารใชง้ านระบบ จึงมแี ผนท่ีจะจัดทาคู่มือหรือคลิปวิดโี อ แนะนาการใช้งานระบบอย่างงา่ ย เพือ่ ให้เกษตรกรสามารถเรียนร้ไู ดด้ ว้ ยตนเอง นอกจากน้ี เกษตรกรไดใ้ ห้ความเห็นวา่ สารสนเทศในระบบยังมีไม่เพยี งพอ ยงั ไม่ทันสมยั และเป็นสารสนเทศ ทางวชิ าการมากเกินไป ดงั นัน้ ทางศนู ย์สนเทศทางการเกษตรแห่งชาติ จงึ จะทาการเช่อื มโยงข้อมลู เพ่ือใหส้ ามารถใชง้ านร่วมกันในระบบ เพื่อเพ่ิมปรมิ าณและความทนั สมัยของสารสนเทศให้มากยิง่ ข้นึ พรอ้ มกับแปรรปู สารสนเทศวิชาการใหม้ ีรูปแบบและเน้ือหาทเ่ี ข้าใจงา่ ยสาหรับเกษตรกรและนาไปใช้ ประโยชน์ไดจ้ รงิ การนาไปใชป้ ระโยชน์ ระบบบริการห้องสมุดเพ่ือเกษตรกรไทย เปน็ ระบบบรกิ ารความรู้ดา้ นการเกษตรแบบ ครบวงจร เกษตรกรหรือผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมลู ความรู้ดา้ นการเกษตรได้จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต โดยไมม่ ีค่าใชจ้ ่าย สนับสนุนให้เกษตรกรนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ใน การพัฒนาการผลิตทางการเกษตรดว้ ยฐานความรู้ในยคุ เศรษฐกจิ ดจิ ิทลั ตามนโยบาย Thailand 4.0 กลุ่มเป้าหมายท่ใี ช้ประโยชนจ์ ากระบบห้องสมดุ เพ่ือเกษตรกรไทย คือ เกษตรกรยุคใหม่ 3 กลมุ่ ได้แก่ บณั ฑิตจบใหม่สาขาการเกษตร เกษตรกรเดมิ หรอื ลูกหลานเกษตรกรที่มคี วามพร้อม และกลุม่ คนท่ีอยู่ภาคการผลิตอืน่ แต่สนใจเข้าสู่ภาคเกษตร ซงึ่ เป็นกลุ่มเกษตรกรท่มี ีศกั ยภาพ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ สามารถคดิ วิเคราะหแ์ ละตอ่ ยอดความรู้ เป็นกาลงั สาคญั ของ การเกษตรยุคใหม่ (อารีย์ ธญั กิจจานุกิจ, 2561) โดยการนาความรู้จากคลังความรู้ดิจิทลั ด้าน การเกษตรท้ังในประเทศและต่างประเทศ ซ่งึ เป็น Explicit knowledge บวกกับ Tacit knowledge ของผ้เู ชีย่ วชาญ ไปประยุกตใ์ ช้ เพ่อื การพฒั นาการผลติ และการแกป้ ัญหา โดยมีเพื่อนคู่คิดถามตอบ ปัญหาผา่ นระบบ กรู ูเกษตรศาสตร์ เพื่อพฒั นาศักยภาพ และเพิม่ ขดี ความสามารถในการแข่งขันในยุค Thailand 4.0 รายการอ้างอิง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (2559). ยทุ ธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560- 2579). เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.oic.go.th สินีนุช ครุฑเมอื ง แสนเสรมิ . (2558). การศึกษาพฤตกิ รรมการเรียนรู้ การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศท่เี หมาะสมกับเกษตรกรไทย. นนทบุรี: มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช.
สินนี ชุ ครฑุ เมือง แสนเสริม และพลสราญ สราญรมย์. (2558). รปู แบบพฤติกรรมและเง่ือนไข การเรียนรู้การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศของเกษตรกร. วารสารอิเล็กทรอนิกสก์ ารเรยี นรู้ ทางไกลเชงิ นวตั กรรม, 5(2), 87-105. อารีย์ ธญั กิจจานุกจิ . (2560). แนวคิดการพัฒนาห้องสมุดเพื่อเกษตรกรไทย. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. อารยี ์ ธัญกจิ จานกุ จิ . (2561). รายงานฉบบั สมบรู ณ์ โครงการหอ้ งสมดุ เพอื่ เกษตรกรไทยภายใต้ โครงการเกษตร อาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ เพ่ือการขับเคล่อื น Thailand 4.0. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ระบบตดิ ตามถังขยะอจั ฉริยะ Smart Trash Tracking System ทพิ านนั พงษ์สุวรรณ, อนพุ งษ์ ตติ ะ, ภานุวตั ร อุทยั บาล สำนกั หอสมุด มหำวทิ ยำลยั ขอนแก่น e-mail: [email protected], [email protected], [email protected] บทคัดยอ่ ระบบตดิ ตำมถังขยะอจั ฉรยิ ะ Smart Trash Tracking System เปน็ ระบบที่ใช้ใน กำรจัดกำรปัญหำขยะที่เต็มก่อนกำหนดและมีกลนิ่ เหมน็ โดยมกี ำรแจง้ เตือนสว่ นกลำงให้ทรำบถึง ถังขยะท่ใี กลจ้ ะเต็มแลว้ ขยะมกี ลน่ิ เหม็น หรือตรวจสอบวำ่ ขยะทเี่ ต็มแล้วนน้ั ถูกวำงไว้จดุ ใด เปน็ กำรแกป้ ัญหำจำกทีก่ ลำ่ วมำข้ำงต้นโดยกำรใชเ้ ซ็นเซอร์แสงอนิ ฟรำเรดติดทจี่ ดุ ต่ำง ๆ เพ่อื วัด ปริมำณขยะในถัง กำรนำเซ็นเซอร์วัดคณุ ภำพอำกำศเพื่อตรวจสอบกลนิ่ เหมน็ ที่ออกมำจำกขยะ จำกนั้นจะสง่ ตำแหนง่ ของถังขยะโดยใชร้ ะบบนำทำง (GPS) ข้อมูลปริมำณและกล่นิ ของขยะ ผำ่ นทำงอุปกรณ์ตรวจจบั แล้วนำสง่ ขอ้ มูลไปยงั เครือ่ งแม่ขำ่ ย (Server) และมรี ะบบรำยงำนแจ้งเตอื น ทั้งทำงเวบ็ และแอพพลิเคชน่ั บนมือถือ เพื่อบรหิ ำรจดั กำรและแก้ไขปัญหำขยะในห้องสมุด คาสาคัญ: ระบบตดิ ตำมถังขยะอจั ฉริยะ, ขยะ, เซ็นเซอร์แสงอินฟำเรด, ระบบแจง้ เตอื น, แอพพลิเคชัน่ Abstract The Smart Trash Tracking System [1-7] is a system that is used to tackle the problem of prematurely garbage and odor. The central notification to the trash is close to full. Garbage stink Or check that the full waste is placed at any point. Solve the problem mentioned above by using an infrared light sensor attached at various points to measure the amount of rubbish in the tank. Implementing an air quality sensor [4,6] to detect odors coming out of the garbage. It then sends the location of the trash using the GPS [5], the volume and odor of the garbage through the detector, sends it to the server, and reports on both the web and the app [3]. Mobile Application To manage and solve garbage problem in library.
Keywords: Smart, Trash, Smart Trash, Trash Tacking, IOT, Internet of Thing บทนา สำนกั หอสมุด มหำวทิ ยำลัยขอนแก่น ในแตล่ ะวันมีปริมำณขยะจำนวนมำก ซงึ่ ไดเ้ ปดิ ใหบ้ รกิ ำรพื้นที่ 24/7 ที่มผี ู้เขำ้ มำใชง้ ำนประมำณ 4 พนั คนต่อวนั โดยเฉพำะในชว่ งสอบพุ่งขนึ้ สูงถึง 7 พนั คน ปัญหำท่เี กิดข้ึนก็คือ ปรมิ ำณทผี่ คู้ นทิ้งขยะลงถงั ตลอด 24 ชั่วโมง สง่ ผลให้มีขยะจำนวนมำก ล้นออกมำ เนอ่ื งจำกผ้รู บั ผดิ ชอบทำงำนได้ไม่ท่ัวถึง จงึ ทำให้เกิดกลิ่นท่ีไม่พึงประสงค์ ซึ่งส่งผลทำให้ เสยี สุขภำพและยงั มีผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อม เร่มิ แรกทำงสำนกั หอสมุด มหำวทิ ยำลยั ขอนแก่น ไดแ้ ก้ปัญหำโดยกำรเพิม่ ขนำดของถงั ขยะใหใ้ หญ่ขนึ้ และเพ่ิมพนกั งำนเพ่ือรองรบั กำรเก็บขยะ ให้ถม่ี ำกขึน้ อย่ำงไรกต็ ำมกำรตดิ ตำม (Tracking) วำ่ ถงั ขยะเต็ม และกำรจดบนั ทึกข้อมลู ด้วยคน เปน็ กำรบรหิ ำรจัดกำรทยี่ งั เป็นปญั หำเนอ่ื งจำกใช้เวลำนำนและตอ้ งเพ่ิมคำ่ ใช้จำ่ ยในกำรจำ้ งงำนคน มำกขน้ึ สำนักหอสมุดจึงคดิ คน้ นวตั กรรมท่ีตอบโจทย์สังคม ของผู้ใช้บรกิ ำรในกำรบรหิ ำรจดั กำร ขยะจำนวนมำกจำกกำรเขำ้ ใชพ้ ืน้ ท่เี ปดิ ตลอด 24 ช่ัวโมง ตอบโจทยพ์ ันธกจิ สำนักหอสมดุ เปน็ แหล่งเรยี นรู้ของคนยคุ ใหม่ ท่ีสำมำรถเข้ำถึงสำรสนเทศ ควำมรู้ และไดร้ บั กำรบริกำรได้อยำ่ ง เสมอภำคทุกเวลำ และทุกสถำนที่ (Access and discovery) รวมถงึ ยุทธศำสตรส์ ำนกั หอสมดุ เป็นศนู ยก์ ลำงควำมรู้ และบริกำร เพื่อสนับสนุนกำรกำรผลิตบณั ฑติ และกำรทำวจิ ัยของมหำวิทยำลัย เพอื่ ควำมเป็นเลิศ และกำรพัฒนำกำรบรกิ ำรลูกคำ้ และกำรตลำดเพอื่ กำรบรกิ ำรทเ่ี ป็นเลิศ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือพฒั นำแอพพลิเคชั่น เพือ่ ตดิ ตำมและจดั กำรปัญหำขยะภำยในสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลยั ขอนแก่น 2. นำอปุ กรณ์ IOT (Internet of Thing) มำชว่ ยในกำรแก้ไขปัญหำ โดยมเี ซนเซอร์ วัดค่ำต่ำง ๆ ดงั นี้ 2.1 วัดปรมิ ำณขยะ 2.2 วัดควำมชื้น 2.3 ตรวจจบั กลิน่
2.4 ระบตุ ำแหน่ง 3. เพ่ือพัฒนำหวั ข้อวิจัยเชิงประยุกตแ์ ละได้ถูกกนำมำใช้จรงิ ในสำนกั หอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแกน่ ขนั้ ตอนและวธิ ีการดาเนนิ งาน ปัจจบุ ัน Internet of Things ได้รบั ควำมนยิ มอย่ำงแพร่หลำยท้งั ในประเทศและ ตำ่ งประเทศ ในเมืองอจั ฉรยิ ะ (Smart cities) เชน่ ประเทศสิงคโปรค์ ิดวิธกี ำรทีจ่ ะลดปริมำณของเสยี โดยกำรท่รี วมถังขยะธรรมดำกับอปุ กรณ์ IOT เพือ่ เช่ือมโยงกัน และทำใหเ้ ป็นกำรลดต้นทุนใน กำรเก็บขยะอีกด้วย หรอื ประเทศเม็กซโิ กก็ใช้ระบบติดตำมรถบรรทกุ ของเสียแบบดจิ ทิ ัล หรอื เมอื งซำนตำมำรต์ ำในประเทศโคลัมเบยี ก็มเี ครือข่ำยขยะอจั ฉริยะโดยใช้ถงั อดั พลงั งำนแสงอำทติ ย์ ขนำด 130 ลิตร หรอื เมืองบรำเดอร์ก็ใช้เซน็ เซอรภ์ ำยในตวั ถงั ขยะเมื่อถึงเวลำถังขยะเตม็ แล้ว กจ็ ะ ส่งสัญญำณแจง้ ไปยงั ผทู้ ีด่ ูแลในกำรเกบ็ ของเสยี ให้ทรำบ ดงั นนั้ รศ.ดร. วนิดำ แก่นอำกำศ อำจำรย์ ประจำภำควิชำวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ ผู้อำนวยกำรสำนักหอสมุด มหำวิทยำลยั ขอนแกน่ และ ทีมนกั ศึกษำวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ พัฒนำเป็นหวั ข้อวจิ ัยเชงิ ประยุกต์และไดถ้ ูกกนำมำใช้จรงิ ใน สำนกั หอสมุด มหำวทิ ยำลัยขอนแกน่ เพ่อื ช่วยในกำรจดั กำรปญั หำถงั ขยะลน้ ถงั และขยะมกี ลิ่น และแจ้งเตือนก่อนเต็มเพ่ือให้ไดร้ ับกำรบรหิ ำรจัดกำรไดท้ นั อย่ำงมีประสิทธิภำพ วิธีการแก้ไขปญั หาและปรับปรุงการบริการ/ คณุ ภาพชีวิตของผู้รับบริการ ระบบตดิ ตำมถังขยะ (Smart Trash Tracking System) เปน็ ระบบทใี่ ช้ในกำรจดั กำร ปญั หำขยะที่เต็มกอ่ นกำหนดและมกี ล่นิ เหมน็ โดยมีกำรแจ้งเตอื นแกส่ ว่ นกลำงใหท้ รำบถึงถังขยะ ท่ใี กล้จะเตม็ แล้ว ขยะมกี ลิ่นเหม็น หรือตรวจสอบวำ่ ขยะที่เตม็ แลว้ นน้ั ถูกวำงไวจ้ ดุ ใด เป็นกำรแก้ปัญหำจำกที่กล่ำวมำข้ำงต้นโดยกำรใช้ เซ็นเซอรแ์ สงอนิ ฟำเรดติดที่จุดตำ่ ง ๆ เพื่อวัดปรมิ ำณ ขยะในถงั กำรนำเซ็นเซอรว์ ัดคุณภำพอำกำศเพื่อ ตรวจสอบกล่นิ เหมน็ ท่ีออกมำจำกขยะ จำกนัน้ จะสง่ ตำแหน่งของถงั ขยะโดยใชร้ ะบบนำทำง (GPS) ขอ้ มูล ปรมิ ำณและกลิ่นของขยะผ่ำนทำงอุปกรณ์ตรวจจับ แลว้ นำส่งข้อมูลไปยงั เครื่องแมข่ ำ่ ย (Server) และมี ระบบรำยงำนแจ้งเตือนทง้ั ทำงเว็บและแอปพลเิ คชัน่ บนมอื ถือ แนวคิดกำรออกแบบ Smart Trash Tracking System สำมำรถแบง่ ออกได้เปน็ 2 ส่วนหลกั ดว้ ยกัน ไดแ้ ก่ Smart Trash Tracking System และ สว่ นระบบแจง้ เตอื นผ่ำนมือถือ/ บรหิ ำรจัดกำรผำ่ นเว็บไซต์ ถังขยะอัจฉริยะ (Smart Trash Tracking System) ภำยในถังขยะนีจ้ ะประกอบดว้ ย เซนเซอร์ 3 ประเภท ประกอบด้วย 1. เซ็นเซอรแ์ ก๊ส - ใชต้ รวจจบั กลน่ิ ของของเสยี ใน Smart Trash Tracking System 2. เซน็ เซอร์ GPS ใชร้ ะบตุ ำแหน่งของถังขยะ
3. เซ็นเซอร์อนิ ฟรำเรดที่มฟี งั ก์ช่นั เพอื่ ตรวจสอบระดับของขยะในถงั สว่ นแรกจะมเี ซ็นเซอร์ อินฟรำเรดสองตัววำงอยู่ตรงกลำง และสว่ นท่สี องจะอย่ใู กล้ดำ้ นบนของถงั ขยะ กำรใชเ้ ซ็นเซอร์ อินฟรำเรดสองตัวทำใหก้ ำรตัดสนิ ใจมคี วำมแม่นยำมำกข้ึน ดงั ภำพ นอกจำกนย้ี ังมเี ซน็ เซอร์ทตี่ ดิ ต้ังอยใู่ นฝำภำชนะซึ่งจะคอยตรวจจับระดับของสิง่ ของข้ำงใน ว่ำอยู่ระดบั ไหนแลว้ นน่ั เอง โดยใช้เทคโนโลยี อินฟรำเรด และสง่ ข้อมลู ไปยังแพลตฟอรม์ IOT Cloud ซ่ึงข้อมลู จะถูกประมวลผลและแจกจ่ำยไปยงั Mobile Application Web Application ทจี่ ะชว่ ย วำงแผนในกำรเก็บขยะได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ และระบบน้ีถกู ออกแบบมำโดยทไี่ ม่ตอ้ งมีเจ้ำหน้ำที่ มำน่ังเฝ้ำดูถังขยะ ภำยในถงั ขยะจะประกอบไปด้วยอุปกรณแ์ ละเซนเซอร์ต่ำง ๆ ดังนี้ 1. NodeMcu 2. Infrared Distance Sensor (เซน็ เซอรว์ ดั ระยะทำง) 3. LED Infrared Sensor (เซ็นเซอรส์ ิ่งกีดขวำง) 4. MQ-135 Sensor (เซน็ เซอร์วัดคณุ ภำพอำกำศ) 5. GPS Module (โมดลู ตรวจจับพิกดั ) การออกแบบระบบภายในถังขยะ นอกจำกนย้ี ังมีเซ็นเซอร์ทต่ี ดิ ตั้งอยู่ในฝำภำชนะซ่ึงจะคอยตรวจจบั ระดบั ของสงิ่ ของข้ำงใน ว่ำอยู่ระดับไหนแล้วนนั่ เอง โดยใช้เทคโนโลยี อนิ ฟรำเรด และสง่ ข้อมลู ไปยังแพลตฟอรม์ IOT Cloud ซงึ่ ข้อมลู จะถูกประมวลผลและแจกจำ่ ยไปยงั Mobile Application Web Application ทจี่ ะชว่ ย วำงแผนในกำรเก็บขยะได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ
ระบบแจ้งเตือนผ่ำนมือถือ (Mobile application) และบริหำรจัดกำรผำ่ นเวบ็ ไซต์ เมอ่ื ได้ตดิ ต้ังระบบใน Smart Trash เรียบรอ้ ยแล้ว ระบบแจ้งเตอื นปรมิ ำณของขยะกจ็ ะเชอื่ มต่อกับ สมำร์ทโฟนแบบเรยี ลไทม์ และแจง้ เตือนกับผู้ที่เกย่ี วข้องโดยทนั ที เพื่อท่จี ะสำมำรถดำเนินกำรและ วำงแผนกำรเกบ็ ขยะได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ และยงั มีแผนทแ่ี สดงท่ีตงั้ ของถังขยะเหล่ำนี้ใหอ้ กี ดว้ ย แผนผงั กำรติดตำมว่ำถงั ขยะใบไหนในหอ้ งสมุดของมหำวิทยำลัยขอนแก่นเตม็ บ้ำงและก็มีสถติ ิต่ำง ๆ เช่น ค่ำเฉลีย่ ของปริมำณขยะในแต่ละเดือน ปริมำณขยะแบบรำยวัน ระบบนี้ยงั เป็นแบบเรียลไทม์ ซึง่ สำมำรถบริหำรระบบในกำรจัดเกบ็ ขยะได้อยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ โดยที่ปอ้ งกันไม่ให้เกิดกำรลน้ ของ ถังขยะได้ ซึง่ กำรแจ้งเตือนตลอดเวลำทำใหเ้ รำประหยดั เวลำในกำรบริหำรจัดกำรขยะ รองรบั ผู้ท่ีใช้ บรกิ ำรหอ้ งสมุดจำนวนมำก และถงั ขยะจะไมล่ ้นและสง่ กลนิ่ ที่ไม่พงึ ประสงค์
จำกกำรพัฒนำกำรบริกำรนวัตกรรมกำรระบบตดิ ตำมถังขยะ เพื่อชว่ ยในกำรจัดกำรปญั หำ ถงั ขยะลน้ ถงั และขยะมีกล่ิน และแจ้งเตือนก่อนเตม็ ได้เผยแพรอ่ อกสูห่ น่วยงำนภำยในมหำวิทยำลยั หอ้ งสมุดคณะตำ่ ง ๆ ภำยใตส้ ำนกั หอสมุด และมหำวทิ ยำลัยขอนแกน่ รว่ มกบั บริษัท แอดวำนซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอรค์ จำกดั จัดพิธบี ันทึกข้อตกลงโครงกำรสร้ำงควำมรว่ มมือดำ้ นสนบั สนนุ และสง่ เสริม กำรวิจัยและพัฒนำเทคโนโลยีเอน็ บี - ไอโอที (NB-IOT) กำรทำงำนรว่ มกนั ในครัง้ น้มี ุ่งเนน้ กำรทำงำน วจิ ยั รว่ มกัน เพือ่ ออกแบบและพัฒนำอปุ กรณ์ NB-IOT ใหส้ อดคล้องกับรปู แบบกำรใช้งำน โดยเน้น ไปท่ีออกแบบกรณตี ัวอย่ำง (Use cases) กำรใช้งำนอปุ กรณแ์ ละโครงข่ำย NB-IOT กับด้ำนพลังงำน (Smart energy) ด้ำนกีฬำ (International marathon) และ ด้ำนสิ่งแวดล้อม (Smart environment) อย่ำงเหมำะสม เช่น โครงกำร Smart Trashหรือ ถงั ขยะอัจฉรยิ ะ ทจี่ ะใช้เซ็นเซอร์เพื่อดูปรมิ ำณขยะ ในถงั เจำ้ หน้ำท่สี ำมำรถตรวจเช็คท่หี น้ำจอแสดงผลทีเ่ รม่ิ จำกสเี ขียวท่ปี รมิ ำณนอ้ ย เม่ือใกล้เตม็ ถงั จะแสดงสแี ดงและจะสง่ สัญญำณแจ้งไปท่มี ือถือของผ้ทู ่เี ก่ียวข้อง เพ่ือดำเนนิ กำรให้เจ้ำหน้ำทมี่ ำเก็บ ซ่ึงไม่จำเป็นตอ้ งมำดูทุกวัน สำมำรถลดกำรใชท้ รพั ยำกรไปไดห้ ลำยด้ำน ขณะเดยี วกนั ก็ทำให้กำรทำงำน มปี ระสทิ ธิภำพมำกยิ่งข้ึน และยังสำมำรถวเิ ครำะหป์ ริมำณกำรท้งิ ของเสยี ไดท้ ุกรำยสปั ดำหร์ ำยเดือน และรำยปี หำกทีมวิจยั พฒั นำถังได้สมบูรณ์แบบแล้วจะนำไปติดที่โรงพยำบำลศรนี ครนิ ทร์ใหเ้ ป็น ต้นแบบ ภำยในปี 2561
สรุปผล อภปิ รายผล ข้อเสนอแนะและการนาไปใช้ประโยชน์ ระบบติดตำมขยะอัจฉริยะในหอ้ งสมดุ ได้นำเทคโนโลยที หี่ ลำกหลำยมำใชง้ ำนได้อยำ่ งมี ประสิทธภิ ำพและประสบผลควำมสำเรจ็ ซ่ึงไดแ้ สดงถงึ ควำมทำ้ ทำยในกำรจดั กำรของเสีย โดยใช้ กำรตรวจจบั ถังขยะและเคร่ืองมอื ในกำรติดตำมตำแหน่ง (GPS) และยังใช้ IOT เข้ำมำช่วยใน กำรสอ่ื สำรระหวำ่ งอปุ กรณ์ (Machine-to-Machine: M2M) โดยระบบตรวจสอบนีจ้ ะเช่ือมต่อกบั เซน็ เซอร์ อัตโนมตั ิและสำมำรถแบ่งปนั ข้อมลู ร่วมกนั เพื่อตรวจหำวำ่ ถงั ขยะไหนทีเ่ ตม็ แล้วบำ้ ง โดยไมต่ ้องมีมนุษย์เข้ำมำเก่ยี วข้องเลย โดยแอพพลเิ คช่ันจะโทรหำผเู้ ก่ียวข้องโดยอตั ิโนมตั ิ ทำใหป้ ระหยัดทงั้ เวลำ ลดตน้ ทุน และชว่ ยเพ่ิมควำมพึงพอใช้ของผู้ใช้งำนหอ้ งสมุดของ มหำวทิ ยำลัยขอนแกน่ อกี ด้วย ปัญหำขยะในพน้ื ที่ 24 ช่วั โมง ยงั เปน็ ปญั หำอนั ดับตน้ ๆ ท่ีมีข้อร้องเรียน สำนักหอสมดุ ไดป้ ระยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเทอรเ์ นต็ ของทุกสรรพสิ่ง IOT (Internet of Things) ในกำรตรวจจับ ระดับของกำรท้ิงขยะในถงั ท่ีสำมำรถแจง้ พกิ ดั ของตำแหน่งท่วี ำงของถังขยะได้ พร้อมทั้งกลิน่ เข้ำมำ ทเี่ ว็บและมือถือให้ผเู้ กีย่ วข้อง เพ่ือจะไดด้ ำเนนิ กำรจดั กำรขยะทใ่ี กลจ้ ะเต็มและสำมำรถวเิ ครำะห์ ปริมำณกำรท้ิงของเสยี ไดท้ ุกรำยสปั ดำห์ รำยเดอื น และรำยปี เพื่อบรหิ ำรจดั กำรขยะ ภำยใน สำนักหอสมดุ เพื่อจัดกำรปัญหำและข้อร้องเรียนเก่ยี วกับขยะตอ่ ไป ปัจจัยแหง่ ควำมสำเรจ็ คือ กำรสนบั สนุนในทุก ๆ ด้ำนจำกผู้บริหำรองค์กรทีม่ ีวสิ ัยทัศน์ คดิ คน้ นวัตกรรมกำรให้บริกำร และกำรได้รบั ควำมรว่ มมือจำกหนว่ ยงำนต่ำง ๆ สำมำรถต่อยอดสร้ำง ควำมย่งั ยืนในกำรบรหิ ำรขยะในประเทศ ท้งั ภำครฐั และเอกชน นำระบบตดิ ตำมถังขยะอจั ฉรยิ ะ ไปใช้ในกำรบริหำรขยะในหน่วยงำน และทส่ี ำคญั คอื กำรนำเทคโนโลยีมำผสำนกับควำมคดิ สรำ้ งสรรคใ์ หมๆ่ ขยำยรปู แบบกำดำเนินกำรไปยงั หนว่ ยงำนอ่นื ภำยในมหวิทยำลัยขอนแก่น และ บริษัทเอกชน เช่น บริษทั แอดวำนซ์ อนิ โฟร์ เซอร์วิส AIS, บริษัท พลัส พร็อพเพอรต์ ี้ จำกัด, จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลยั และมหำวทิ ยำลัยสงขลำนครินทร์
บรษิ ทั พลสั พร็อพเพอรต์ ้ี จำกัด ตดิ ตัง้ Smart Trash (ถงั ขยะอจั ฉริยะ) เทคโนโลยีจำก มหำวิทยำลัยขอนแก่น ซ่ึงเป็นผ้คู ิดคน้ วิจยั และออกแบบพัฒนำ โดยได้นำมำใชใ้ นกำรบรหิ ำรจัดกำร ขยะภำยในโครงกำรเพื่อเพม่ิ ประสิทธภิ ำยในกำรจัดเก็บใหด้ ียง่ิ ขึน้ ซึ่งได้เริม่ ติดตัง้ ที่ 6 โครงกำร โซนชะอำ-หวั หิน ไดแ้ ก่ บ้ำนไขม่ ุก เรน ชะอำ-หวั หิน บ้ำนเคียงฟ้ำ บำ้ นแสนสขุ บ้ำนเพยี งเพลนิ และ ออทัมน์ หัวหิน และจะดำเนนิ กำรขยำยผลไปยงั โครงกำรตำ่ ง ๆ ทบ่ี รหิ ำรจดั กำรโดย พลสั พรอ็ พเพอร์ตี้ ระบบติดตำมถังขยะได้ถูกพฒั นำด้วยเทคโนโลยีอนิ เทอรเ์ น็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) เพ่อื ลดปริมำณขยะและลดขั้นตอน ในกำรจดั กำรปริมำณขยะในสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลัยขอนแก่น ระบบน้ไี ดถ้ ูกออกแบบให้ตดิ ตำมระดบั ของปริมำณขยะทอ่ี ยู่ในถัง และวิเครำะห์คณุ ภำพของขยะเพ่ือช่วยใหเ้ กดิ กำรบริหำรรอบเวลำในกำรนำไปทงิ้ ได้ ดว้ ยโปรแกรม บนมือถือไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ซ่ึงเพม่ิ ศักยภำพในกำรบรหิ ำรจัดกำรกำลังคน และกำรจดั กำรพืน้ ท่ี ได้ดกี วำ่ ระบบกำรบริหำรจัดกำรขยะในแบบเดมิ ระบบติดตำมถงั ขยะนี้ไดช้ ่วยให้หอ้ งสมุด บรรลเุ ปำ้ หมำยในกำรพฒั นำพื้นที่ใหบ้ ริกำรเปน็ หอ้ งสมดุ สีเขยี ว ลดค่ำใช้จ่ำย เพิม่ พื้นท่ีสะอำด ถกู สุขลกั ษณะ และเพ่มิ ควำมพึงพอใจให้กบั ลูกค้ำทมี่ ำรับบรกิ ำร
รำงวัลเลิศรฐั ประจำปี พ.ศ. 2561 สำขำบริกำรภำครฐั “ระบบติดตำมถังขยะอัจฉริยะ มข.”ควำ้ รำงวัลเลิศรฐั ระดับดีเดน่ ประจำปี 2561 สำนกั หอสมุด มหำวิทยำลัยขอนแก่น เข้ำรบั รำงวลั เลิศรฐั สำขำบรกิ ำรภำครัฐ ประเภท นวตั กรรมกำรบริกำรระดบั ดีเดน่ ประจำปี พ.ศ. 2561 จำกสำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำระบบ รำชกำร (ก.พ.ร.)
ระบบเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ทางบรรณานกุ รม ของผลงานวชิ าการจากฐานขอ้ มูลสากล (International Databases) สู่ฐานขอ้ มูลซง่ึ ใช้โปรแกรม DSpace ได้แบบอตั โนมตั ิ Automatic Synchronization System for Bibliographic Data of Academic Publications from International Databases to Databases under DSpace Program ปราชญ์ สงวนศักด์ิ, ดวงฤทัย ณ ทงุ่ ฝาย, ภิญญาพชั ญ์ ญานะคา สำนกั หอสมุด มหำวิทยำลยั เชยี งใหม่ e-mail: [email protected], [email protected], [email protected] บทคดั ย่อ ระบบเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ทำงบรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมลู สำกล (International databases) สู่ฐำนขอ้ มลู ซง่ึ ใชโ้ ปรแกรม DSpace ไดแ้ บบอัตโนมัติ ถูกพัฒนำขึน้ โดยมีวัตถปุ ระสงค์ เพ่ือระบบ เชื่อมโยงท่สี ำมำรถดึงข้อมลู ทำงบรรณำนกุ รมของผลงำนวชิ ำกำรของมหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่ท่เี ผยแพร่ ในฐำนขอ้ มลู สำกล ใหบ้ นั ทกึ ลงในคลงั ปญั ญำมหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่ (CMU IR) แบบอัตโนมัติ ระบบน้ี พัฒนำขึ้นจำกเฟรมเวิร์ค Angular โดยเชื่อมโยงขอ้ มูลกับ International Database API และ DSpace API นอกจำกนี้ ยังสำมำรถเชือ่ มโยงขอ้ มูลกบั คลังข้อมลู ของหนว่ ยงำนอ่ืนท่ีพฒั นำ คลังข้อมลู โดยใช้ DSpace จำกกำรทดสอบระบบดว้ ยกำรเชื่อมโยงข้อมูลระหว่ำงคลงั ปญั ญำ มหำวิทยำลยั เชียงใหม่ (CMU IR) กบั ฐำนขอ้ มลู สำกล พบว่ำ ข้อมลู มีควำมถูกต้องในอัตรำร้อยละ 100 ประโยชน์ที่ได้รบั จำกกำรพัฒนำระบบดังกล่ำว สำมำรถลดภำระงำน และลดขั้นตอนกำรสรำ้ ง ระเบยี นบรรณำนุกรมในคลังปัญญำ CMU IR ได้เป็นอยำ่ งดี คาสาคญั : กำรเชื่อมโยงข้อมูล, คลงั ปญั ญำมหำวทิ ยำลยั เชยี งใหม่, DSpace, API, ฐำนข้อมูลสำกล, กำรพัฒนำโปรแกรม Abstract The automatic synchronization system for bibliographic data from the international databases to the one under DSpace program has been created with
the aim to develop the synchronization system that could extract bibliographic databases of Chiang Mai University’s academic publications published in international databases and automatically enter the data in Chiang Mai University Intellectual Repository (CMU IR). This system has been developed from Angular framework by synchronizing the databases with International Database API and DSpace API. Besides, the system could also synchronize the databases with repository of other organizations that developed the databases by applying DSpace. After testing the system by synchronizing the databases between CMU IR and international databases, it was found that the accuracy of the data was 100%. Thus, the benefit from developing this system could help decreasing the amount of work load and also perfectly help reducing the number of steps in creating bibliographic records in CMU IR. Keywords: Data Synchronization, Chiang Mai University Intellectual Repository (CMU IR), DSpace, API, International Databases, Program Development บทนา มหำวิทยำลัยเชียงใหมไ่ ด้พฒั นำคลังปัญญำมหำวทิ ยำลยั เชยี งใหม่ (CMU Intellectual Repository: CMU IR) เมอื่ ปี พ.ศ. 2557 โดยมวี ตั ถุประสงค์เพ่ือพัฒนำคลังผลงำนวิชำกำรของ มหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่ ซง่ึ กำรดำเนินงำนตำมโครงกำรดงั กล่ำว เปน็ กำรทำงำนในรปู คณะกรรมกำร ซง่ึ มคี ณะกรรมกำรมำจำก 4 ส่วนงำนท่เี กยี่ วข้อง ไดแ้ ก่ สำนักหอสมดุ สำนักบริกำรเทคโนโลยี สำรสนเทศ บัณฑติ วทิ ยำลยั และศนู ยบ์ รหิ ำรกำรวจิ ัย สำนกั หอสมดุ มหำวิทยำลัยเชยี งใหม่ ในฐำนะส่วนงำนที่รับผดิ ชอบกำรจัดหำและจดั ระบบ ทรพั ยำกรสำรสนเทศเพื่อสนับสนนุ กำรเรียนกำรสอนและกำรวจิ ยั ของมหำวิทยำลัย จึงไดร้ บั มอบหมำยใหร้ บั ผิดชอบในกำรรวบรวมขอ้ มลู ผลงำนวชิ ำกำรของมหำวิทยำลัยเชยี งใหม่และนำเขำ้ สู่ คลงั ปญั ญำ CMU IR ซึง่ พัฒนำขนึ้ โดยใชโ้ ปรแกรม DSpace ซง่ึ เปน็ โปรแกรมที่มมี ำตรฐำนกำรจดั เก็บ ในระดับสำกล และมมี หำวทิ ยำลัยในประเทศไทยหลำยแหง่ นำไปใช้พัฒนำฐำนขอ้ มลู เชน่ คลังปญั ญำ จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลยั (Chulalongkorn University Intellectual Repository-CUIR), ฐำนขอ้ มลู งำนวิจยั และผลงำนวชิ ำกำร บคุ ลำกรมหำวิทยำลัยมหิดล (Mahidol University Institutional Repository Database-Mahidol-IR) และคลังปญั ญำมหำวิทยำลัยสงขลำนครนิ ทร์ (PSU Knowledge Bank) โดยขอบเขตของข้อมลู ท่ีสำนักหอสมดุ ได้รับมอบหมำยให้ทำกำรรวบรวม มดี งั นี้ 1. งำนวจิ ัย (Technical reports) 2. วทิ ยำนิพนธ์ (Theses) และกำรค้นควำ้ แบบอสิ ระ (Independent study) 3. บทควำมวชิ ำกำร (Journal articles)
4. Conference papers 5. Working papers 6. Official report or Project 7. วำรสำรอิเล็กทรอนกิ ส์ (e-Journals) 8. สิทธบิ ตั ร (Patents) 9. Book or book chapter จำกกำรรวบรวมข้อมูลพบว่ำ สำมำรถแยกขอ้ มลู ไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื ขอ้ มลู ท่มี ี กำรจัดเกบ็ อยแู่ ลว้ ในสำนกั หอสมุด เช่น วทิ ยำนพิ นธ์ กำรค้นคว้ำแบบอิสระ และข้อมลู ผลงำนวิชำกำร ของมหำวิทยำลยั เชียงใหม่ที่เผยแพรใ่ นฐำนข้อมลู สำกล ซ่งึ ข้อมลู ท่สี ำนักหอสมดุ ไมไ่ ดจ้ ัดเกบ็ น้ี สำนักหอสมุดไม่สำมำรถคัดลอกข้อมูลบรรณำนกุ รมไปยงั คลังปญั ญำแบบอัตโนมตั ไิ ด้ ดงั นน้ั เพอื่ เปน็ กำรลดภำระงำนและลดขั้นตอนกำรปฏิบตั ิงำนของบุคลำกรสำนักหอสมุด จึงจำเปน็ จะต้องพฒั นำ ระบบเชื่อมโยงข้อมลู ทำงบรรณำนุกรมของผลงำนวิชำกำรมหำวิทยำลยั เชียงใหมท่ ีเ่ ผยแพร่ใน ฐำนขอ้ มูลสำกล ส่รู ะบบคลังปญั ญำมหำวิทยำลัยเชยี งใหม่ วตั ถุประสงค 1. เพ่ือพัฒนำระบบเชือ่ มโยงฐำนขอ้ มลู สำกล ให้สำมำรถนำเขำ้ ข้อมลู ทำงบรรณำนุกรม ของผลงำนวชิ ำกำรสู่คลงั ปัญญำ (Intellectual repository) ซงึ่ พฒั นำโดยใช้โปรแกรม DSpace ไดแ้ บบอัตโนมตั ิ 2. เพ่ือพฒั นำระบบเชอื่ มโยงทส่ี ำมำรถตรวจสอบควำมถูกต้องและควำมซ้ำซ้อนของข้อมูล ท่มี ีอยู่ในโปรแกรม DSpace 3. เพ่ือจัดทำ Cloud Platform ให้หน่วยงำนอน่ื ทีใ่ ช้โปรแกรม DSpace ในกำรพฒั นำ ฐำนข้อมลู ให้สำมำรถเช่ือมโยงข้อมูลจำกฐำนข้อมลู สำกลกับฐำนข้อมูลของหนว่ ยงำนได้ ข้ันตอนและวิธีการดาเนนิ งาน กำรดำเนินงำนพัฒนำระบบเชอ่ื มโยงบรรณำนุกรมจำกฐำนขอ้ มลู สำกลนนั้ ผู้พัฒนำ ไดเ้ ลอื กใช้วิธีกำรพัฒนำแบบ Agile ซึง่ มีกำรกำหนดรอบอำยุของระบบในรปู แบบ Sprint ทที่ ำให้ ระบบถูกปรับปรุงใหส้ นบั สนนุ ควำมตอ้ งกำรของผู้ใชง้ ำนอยเู่ สมอ โดยในแตล่ ะรอบอำยุของระบบ สำมำรถแบ่งออกเป็นกระบวนกำรย่อย ดงั นี้ 1. วิเครำะห์และออกแบบ (System analysis and design) ในข้นั ตอนกำรวเิ ครำะหแ์ ละออกแบบระบบมีวัตถปุ ระสงคใ์ นกำรวำงแผนกำรพัฒนำระบบ โดยดูจำกกลุ่มผใู้ ชง้ ำน (Stakeholder) ระบบทเี่ ก่ียวขอ้ ง เคร่อื งมือที่ใช้ในกำรพฒั นำ และนำมำ รอ้ ยเรยี งเป็นขนั้ ตอนและกระบวนกำรทำงำนของระบบท่ีพัฒนำ ซ่ึงระบบเชือ่ มโยงขอ้ มูลทำง บรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมูลสำกล สำมำรถออกแบบกำรทำงำนออกมำไดเ้ ปน็ กระบวนกำร ดังน้ี
Repository 1 Repository 2 Repository 3 Repository 4 Users CMUL Scholarly Sync. International Database International Database API AP ภำพท่ี 1 กระบวนกำรทำงำนของระบบเช่อื มโยงขอ้ มลู ทำงบรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมลู สำกล จำกกำรออกแบบกระบวนกำรทำงำนของระบบเชอ่ื มโยงข้อมลู ทำงบรรณำนุกรมจำก ฐำนขอ้ มูลสำกล จะเหน็ ว่ำระบบถกู ออกแบบใหส้ ำมำรถเชื่อมโยงข้อมูลกับคลังปัญญำได้หลำยแห่ง ขึ้นอย่กู ับสทิ ธทิ ่ไี ดร้ บั ในกำรแกไ้ ขข้อมลู ของผู้ใช้งำน โดยไม่จำกัดวำ่ จะต้องสำมำรถเชอ่ื มโยงกบั คลังปญั ญำของมหำวิทยำลยั เชยี งใหม่เทำ่ นัน้ โดยเม่ือผใู้ ช้งำนตง้ั คำ่ กำรเช่ือมโยงข้อมลู กับส่วนติดต่อ กบั ผู้ใช้งำน (User interface) ระบบจะทำกำรเชื่อมโยงข้อมูลตำมท่ตี ้งั คำ่ ไว้กับฐำนข้อมูลปลำยทำง ทนั ที 2. พฒั นำระบบ (System development) จำกกำรวิเครำะห์และออกแบบระบบทำใหผ้ ู้พฒั นำสำมำรถกำหนดขอบเขตของกำรพัฒนำ ระบบ ผังกระบวนกำรทำงำนของระบบ จะพบว่ำระบบเช่ือมโยงข้อมูลทำงบรรณำนุกรมจำก ฐำนข้อมูลสำกลนน้ั มีสว่ นเชอื่ มต่อ (Interface) อยู่ทั้งหมด 3 จุด คอื 2.1 ส่วนเชอ่ื มตอ่ กบั ผู้ใชง้ ำน 2.2 สว่ นเชื่อมต่อกบั ฐำนข้อมูลสำกล 2.3 ส่วนเช่อื มต่อกับคลังปัญญำ
โดยส่วนเชื่อมตอ่ ทัง้ 3 จดุ จะทำงำนตำมลำดับคือ ส่วนเช่อื มต่อกับผใู้ ชง้ ำนจะรับข้อมูล กำรต้งั ค่ำกำรกำรเช่ือมโยงข้อมูลกับผใู้ ช้งำน จำกนัน้ ระบบเชอ่ื มโยงข้อมูลทำงบรรณำนุกรมจำก ฐำนขอ้ มลู สำกล จะทำกำรร้องขอ (Request) ขอ้ มลู จำกฐำนข้อมลู สำกลตำมทีผ่ ใู้ ช้งำนได้ตัง้ คำ่ ไว้ และทำกำรบันทึกข้อมลู ท่รี วบรวมไดล้ งฐำนขอ้ มูลคลังปญั ญำผำ่ นสว่ นเชอื่ มตอ่ กับคลังปัญญำ ดงั นน้ั ในกำรพฒั นำระบบ ผู้พฒั นำจึงเลอื กใช้เคร่ืองมอื ในกำรพัฒนำจำกกำรเช่ือมต่อทงั้ 3 ของระบบดังนี้ 1. Angular สำหรบั พฒั นำระบบในส่วนเช่ือมต่อกบั ผู้ใช้งำนในกำรสรำ้ งระบบในส่วนของ Front-end ผำ่ นเวบ็ ไซตเ์ พือ่ ใหผ้ ใู้ ช้งำนสำมำรถใชง้ ำนไดง้ ำ่ ยในทกุ ที่ ทกุ เวลำ และทกุ อุปกรณส์ ่อื สำร 2. International database API สำหรบั พัฒนำระบบในสว่ นเช่อื มตอ่ กบั ฐำนขอ้ มลู สำกล ในกำรรวบรวมขอ้ มูล (Data harvesting) เมทำดำทำของระเบยี นบรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมูลตำม มำตรฐำน PRISM Dublin Core Metadata Specification (PRISMDCMS) ในรปู แบบโครงสร้ำง ขอ้ มลู แบบ JSON (JavaScript Object Notation) 3. DSpace API สำหรับพัฒนำในสว่ นเชือ่ มตอ่ กับคลงั ปัญญำ เพอื่ เปน็ ชอ่ งทำงใน กำรตรวจสอบควำมซ้ำซ้อนของข้อมูลท่ีรวบรวมมำ และบันทึกข้อมูลลงในคลงั ปัญญำ กำรพฒั นำระบบโดยแบง่ ส่วนเชอื่ มต่อออกเปน็ 3 จุดนี้ ยังมีขอ้ ดีในกำรบูรณำกำรเชอื่ มโยง กับฐำนข้อมูลสำกลได้ทุกฐำนที่มีกำรเปดิ ให้เชือ่ มโยงข้อมลู ดว้ ย API โดยไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งพัฒนำ โปรแกรมใหมท่ ้ังหมด เมือ่ ผู้พัฒนำได้พฒั นำระบบเสรจ็ สิ้นแล้ว จึงไดน้ ำระบบอัพโหลดขึน้ ไปยังเครือ่ งแมข่ ่ำย คอมพิวเตอรเ์ พื่อเตรียมควำมพร้อมในกำรวิพำกษ์ระบบในขั้นตอนถดั ไป 3. วิพำกษ์ระบบ (System review) หลงั จำกพฒั นำระบบเสร็จสิน้ ผู้พฒั นำได้นำระบบเช่ือมโยงข้อมูลทำงบรรณำนุกรมจำก ฐำนขอ้ มลู สำกลมำนำเสนอภำยในงำนวันนวัตกรรม สำนักหอสมุด 2561 (CMUL Innovation Day 2018) ให้ผเู้ ขำ้ ร่วมงำน ซง่ึ ประกอบด้วยบคุ ลำกรสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลยั เชยี งใหม่ บุคลำกร ภำควชิ ำบรรณำรกั ษศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั เชียงใหม่ บคุ ลกรจำกสำนกั หอสมุด มหำวทิ ยำลยั แม่โจ้ และบคุ ลำกรจำกสำนกั หอสมุด มหำวิทยำลยั พำยัพ เขำ้ รว่ มกำรวพิ ำกษร์ ะบบ จำนวน 105 คน เพื่อแสดงควำมคิดเห็นในกำรพัฒนำระบบ และประเมนิ ควำมพึงพอใจในระบบเปน็ ครั้งสุดท้ำย กอ่ นนำระบบไปใช้งำนจริง ซงึ่ จำกกำรวพิ ำกษร์ ะบบเช่ือมโยงขอ้ มลู ทำงบรรณำนกุ รมจำกฐำนขอ้ มูล สำกล ไดร้ ับควำมพงึ พอใจในระดบั มำกที่สุด (4.30) และมีขอ้ เสนอแนะดังน้ี 3.1 สำนกั หอสมดุ มหำวิทยำลยั เชียงใหม่ ควรจัดอบรมกำรใช้งำนระบบเชื่อมโยงขอ้ มลู ทำงบรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมลู สำกลให้กบั หน่วยงำนภำยนอก 3.2 สำนกั หอสมุด มหำวิทยำลัยเชยี งใหม่ ควรเปดิ ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทำง บรรณำนกุ รมจำกฐำนข้อมลู สำกลใหห้ น่วยงำนภำยนอกเขำ้ ถงึ ได้ 4. กำรใช้งำนจริง (Launch) เมอื่ ทำกำรแก้ไขระบบตำมกำรวพิ ำกษ์ผู้พฒั นำจึงได้อัพโหลดระบบขน้ึ บนเครือ่ งแม่ข่ำย คอมพิวเตอร์ท่มี ีคุณสมบตั ิดังนี้ 4.1 ระบบปฏิบตั กำร Windows 2016 Server 4.3 หนว่ ยประมวลผลกลำง 2 แกนประมวลผลแบบเสมือน (2 vCore)
4.4 หน่วยควำมจำหลกั 4 GB 4.5 ฮำร์ดดิสก์ 200 GB SSD จำกน้นั ทำกำรเช่ือมต่อกับคลังปญั ญำมหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่ พร้อมกับแจ้งให้ผูเ้ กยี่ วข้อง ในกำรปรบั ปรุงคลังปัญญำ เพ่ือใชง้ ำนจรงิ ต่อไป สรุปผล อภปิ รายผล ขอเสนอแนะ และการนาไปใชประโยชน สรปุ ผล ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทำงบรรณำนุกรมของผลงำนวิชำกำรจำกฐำนขอ้ มูลสำกล (International databases) ส่ฐู ำนขอ้ มูล ซึ่งใช้โปรแกรม DSpace ไดแ้ บบอัตโนมัติ ถูกพัฒนำขนึ้ โดยมีวัตถปุ ระสงค์ในกำรรวบรวมข้อมลู ผลงำนวชิ ำกำรของมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ บนั ทึกลงสู่ คลังปญั ญำมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ (CMU IR) ไดแ้ บบอตั โนมัติ โดยระบบถูกออกแบบมำให้สำมำรถ ใชง้ ำนรว่ มกับฐำนข้อมูลที่พฒั นำด้วยโปรแกรม DSpace ดงั นนั้ จงึ สำมำรถใชง้ ำนไดก้ บั ฐำนขอ้ มลู ของทุกหน่วยงำน ที่พฒั นำด้วยโปรแกรม DSpace นอกเหนอื จำกคลังปัญญำมหำวทิ ยำลยั เชียงใหม่ ซง่ึ ขน้ึ อยู่กบั URL ปลำยทำงท่ีผูใ้ ชง้ ำนต้งั ค่ำท่หี นำ้ โปรแกรม ภำพที่ 2 หนำ้ หลักระบบเชื่อมโยงข้อมูลทำงบรรณำนุกรมจำกฐำนขอ้ มูลสำกล สู่ฐำนขอ้ มลู ท่พี ฒั นำ โดยใช้โปรแกรม DSpace ระบบเช่อื มโยงขอ้ มูลทำงบรรณำนกุ รมจำกฐำนข้อมลู สำกล ถกู พฒั นำข้นึ ใหใ้ ชง้ ำนง่ำย (User friendly) โดยผู้ใชง้ ำนตงั้ คำ่ ในกำรเชอื่ มโยงเพยี งแค่ 3 ขน้ั ตอน คือ 1. ตงั้ ค่ำ URL ของฐำนข้อมลู ปลำยทำง 2. ระบุ Collection ปลำยทำงทจ่ี ะนำขอ้ มลู เขำ้ 3. กำหนดขอบเขตข้อมลู ทีจ่ ะนำเขำ้ และกำรยืนยันตนเอง
จำกกำรทดสอบระบบเชื่อมโยงขอ้ มลู บรรณำนกุ รมจำกฐำนขอ้ มูลสำกล โดยกำรเชือ่ มโยง ข้อมลู ระหว่ำงคลงั ปัญญำมหำวิทยำลัยเชยี งใหม่กับฐำนข้อมูลสำกล และรวบรวมระเบยี น บรรณำนุกรมตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2553-2562 (ค.ศ. 2010-2019) ณ วนั ท่ี 1 ตุลำคม พ.ศ. 2561 พบว่ำ ระบบเช่อื มโยงขอ้ มลู ทำงบรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมลู สำกล สำมำรถรวบรวมระเบยี นบรรณำนุกรม ลงคลังปญั ญำมหำวทิ ยำลยั เชียงใหม่ ไดจ้ ำนวน 11,003 ระเบียน ซึ่งมคี วำมคลำดเคลื่อนจำกข้อมูล ในฐำนขอ้ มลู สำกล ร้อยละ 0 ภำยในระยะเวลำ 1 ช่วั โมง ภำพที่ 3 กำรเปรียบเทียบจำนวนขอ้ มูลจำกฐำนข้อมลู สำกลกับจำนวนข้อมูลทร่ี ะบบเช่ือมโยงขอ้ มูล ทำงบรรณำนกุ รมฯสำมำรถรวบรวมได้ ปัญหาและข้อเสนอแนะ จำกกำรทดสอบระบบโดยกำรเชื่อมโยงข้อมูลกบั คลังปญั ญำมหำวทิ ยำลัยเชยี งใหม่ พบว่ำ ระบบระบบเช่ือมโยงข้อมลู ทำงบรรณำนุกรมจำกฐำนข้อมูลสำกล สำมำรถใชง้ ำนได้ดี มีควำมแม่นยำ ในระดับ 100% แตเ่ ม่ือนำระบบมำทดสอบกับฐำนข้อมลู อ่ืน ทพี่ ัฒนำข้นึ จำกโปรแกรม DSpace กลบั พบปญั หำ ไม่สำมำรถบันทึกระเบยี นบรรณำนุกรมลงในเขตข้อมลู ของฐำนข้อมูลท่ีมีกำรแก้ไข เมทำดำทำ (Metadata) เพ่ิมเตมิ นอกเหนอื จำกทโี่ ปรแกรม DSpace มีให้ เนอื่ งจำกระบบเช่อื มโยง ข้อมูลทำงบรรณำนุกรมฯ และฐำนขอ้ มลู สำกลท่ใี ช้ทดสอบกำรเชือ่ มโยง ใชม้ ำตรฐำน PRISMDCMS ดังน้นั จึงไมส่ ำมำรถรองรับเขตข้อมลู ท่อี ยนู่ อกเหนือจำกมำตรฐำนได้ จำกปัญหำที่พบผู้พัฒนำจึงมขี ้อเสนอแนะในกำรพฒั นำระบบในรุ่นถดั ไป ให้มีกำรตั้งคำ่ ดำ้ นกำรบริหำรจัดกำรเขตข้อมลู ในสว่ นเชือ่ มต่อกับผใู้ ช้งำน เพือ่ ให้ผใู้ ชง้ ำนสำมำรถสรำ้ งเขต ข้ึนมำใหม่เพื่อให้รองรับกบั เมทำดำทำที่เพ่ิมขึน้ จำกกำรเพ่ิมเขตข้อมูลในโปรแกรม DSpace
การนาไปใช้ประโยชน์ 1. ประโยชน์ที่มีต่อมหำวิทยำลยั เชียงใหม่ หลงั จำกพฒั นำระบบเชอ่ื มโยงข้อมูลทำงบรรณำนกุ รมจำกฐำนข้อมูลสำกลเสรจ็ สน้ิ แล้ว สำนกั หอสมุดได้เปดิ ระบบให้กับบคุ คลภำยนอกใช้ผำ่ นระบบอินเทอรเ์ นต็ และแจ้งให้กบั ผดู้ ูแลระบบ คลงั ปัญญำมหำวทิ ยำลัยเชียงใหม่รบั ทรำบ ซ่ึงวันที่ 1 ตลุ ำคม พ.ศ. 2561 ระบบดังกลำ่ วไดร้ วบรวม ผลงำนวิชำกำรของมหำวิทยำลยั เชียงใหม่ บันทกึ ลงในคลังปญั ญำแลว้ จำนวน 12,955 ระเบยี น กำรพฒั นำระบบดงั กลำ่ ว ช่วยใหส้ ำนักหอสมดุ มหำวิทยำลยั เชียงใหม่ สำมำรถลดจำนวนบคุ ลำกร ในกำรสร้ำงระเบียนบรรณำนุกรมผลงำนวิชำกำรของมหำวิทยำลัยเชียงใหม่ที่ได้รบั กำรเผยแพรใ่ น ฐำนขอ้ มลู สำกล จำนวน 2 คน 2. ประโยชนท์ ี่มีตอ่ หนว่ ยงำนอนื่ หนว่ ยงำนอื่นทีใ่ ช้โปรแกรม DSpace ในกำรพฒั นำระบบคลงั ปัญญำหรือฐำนข้อมูลผลงำน วิชำกำร สำมำรถใช้ Cloud platform รวบรวมขอ้ มูล เพ่ือบันทกึ ระเบียนบรรณำนุกรมลงคลัง ปญั ญำแบบอตั โนมตั ิได้ รายการอางอิง Highsmith, J. (2004). Agile project management: Creating innovative products (Agile software development series). Boston: Addison-Wesley. PRISM: Publishing requirements for industry standard metadata. (2012). Retrieved from. http://www.prismstandard.org/specifications/3.0/ PRISM_Dublin_Core_Metadata_3.0.pdf
การจดั เกบ็ สถิติการใช้ทรัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมดุ (In-House Usage) ดว้ ยโปรแกรมปอ้ นรหัสบาร์โคด้ แบบกลมุ่ (Barcode Batch Check In) รักเผ่า เทพปัน, ณชญาดา ภริ าษร ศนู ย์บรรณสารและส่ือการศกึ ษา มหาวิทยาลยั แม่ฟ้าหลวง e-mail: [email protected], [email protected] บทคัดย่อ ผบู้ รหิ าร บรรณารกั ษแ์ ละเจ้าหน้าทข่ี องศนู ยบ์ รรณสารและสือ่ การศึกษา มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ า้ หลวงไดค้ านึงถึงวา่ การจดั เกบ็ สถิติการใช้งานทรัพยากรสารสนเทศที่ใชง้ านภายในหอ้ งสมุด โดยไม่ไดย้ ืมออกน้ันมคี วามสาคญั สมควรจัดเกบ็ สถิติการใช้งานประเภทน้ีไว้ นอกจากน้ียงั มี ทรพั ยากรสารสนเทศบางประเภทที่ไม่อนญุ าตให้ผู้ใชบ้ ริการยมื ออกจากห้องสมุด แตจ่ ดั ให้ใชภ้ ายใน หอ้ งสมุดเท่านั้น ซ่งึ ทรัพยากรสารสนเทศประเภทนี้กค็ วรจะมีการบนั ทึกสถติ ิการใช้งานด้วยเช่นกัน จงึ เห็นสมควรพฒั นาเคร่ืองมอื สาหรบั จดั เก็บสถติ กิ ารใชง้ านทรัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมดุ (In-ouse usage) เพ่อื ใชใ้ นการประเมนิ คุณคา่ ทรพั ยากรสารสนเทศที่บอกรับ การพจิ ารณาเพิ่ม จานวนฉบบั (Copy) ให้เพยี งพอกับความต้องการ ตลอดจนใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ประกอบการจาหนา่ ย ทรัพยากรสารสนเทศออกจากห้องสมดุ ต่อไป ศูนยบ์ รรณสารฯ จงึ ได้พฒั นาโปรแกรมป้อนรหัสบารโ์ ค้ดแบบกล่มุ (Barcode batch check in) ดว้ ย .NET Framework (C#) ในรปู แบบ Desktop application สาหรบั ชว่ ยส่งขอ้ มลู รายการรหสั บารโ์ คด้ ของทรัพยากรสารสนเทศที่มกี ารใช้ภายในห้องสมุดที่จัดเกบ็ ในรปู แบบไฟล์ ข้อความ (Text file) ไปยงั หน้า “Check in” แบบ “In-house usage” ของสว่ นติดต่อผูใ้ ชแ้ บบ กราฟิก (GUI) ของโปรแกรมระบบหอ้ งสมุดอัตโนมตั ิท่ีศนู ย์บรรณสารฯ ใชง้ าน (VTLS) เป็นการบนั ทกึ รายการทรพั ยากรสารสนเทศที่ใชง้ านภายในห้องสมุดเขา้ สู่ฐานขอ้ มลู ของระบบหอ้ งสมุดอตั โนมตั ิ ครั้งละจานวนมาก จากการประยกุ ต์ใช้งานโปรแกรมป้อนรหัสบาร์โค้ดแบบกลุ่มทพี่ ัฒนาขึ้น หลงั จากมี การทดสอบและปรับแตง่ โปรแกรมหลายครั้ง พบว่ามคี วามสะดวกรวดเร็ว ถูกต้องและแมน่ ยาใน การจัดเกบ็ สถิตกิ ารใชง้ านทรัพยากรสารสนเทศ ส่งผลใหฝ้ ่ายบริการสารนเิ ทศได้ข้อมลู ประกอบการ ประเมนิ คุณค่าทรัพยากรสารสนเทศเพ่ือรายงานผู้บริหาร และสามารถใชเ้ ป็นข้อมลู ใหฝ้ ่ายพฒั นา ทรัพยากรเพ่ิมจานวนฉบับ (copy) ให้เพียงพอกับความต้องการ และใชป้ ระกอบการจาหน่ายออก ทรพั ยากรสารสนเทศของห้องสมุดต่อไป คาสาคญั : สถติ กิ ารใชง้ านทรัพยากรสารสนเทศ, .NET Framework
Abstract Administrators and librarians of the Learning Resources and Education Media Center, Mae Fah Luang University, consider that it is important to store statistics on the usage of library resources that are used in the library without having to borrow them (In-house use). There are also some types of resources that only for use in the library. Usage statistics of these type resources should also be kept as well. It is therefore advisable to develop a tool for collecting in-house usage statistics of library resources in order to evaluate the value of information resources and make consideration to increase the number of copies to meet the need. These statistics are also included to make a decision to withdrawn unwanted items from the library. “Barcode Batch Check In” which is desktop application has been developed with the .NET Framework (C#). It is for importing barcodes of in-house use items which are stored in a text file. Then, this software will enter these barcodes to \"In- house usage Check-In\" window of the graphical user interface (GUI) of VTLS which is the client of the library automation system. It makes it possible to record in-house usage of library resources into the library automation system’s database in batch. Using this “Barcode Batch Check In” developed program, after testing and refining the program several times, supports library staffs to collect in-house usage statistics of library resources conveniently and accurately. As a result, the library has statistical information to assess the value of information resources to report to the board. These statistics are also included to make consideration to increase the number of copies to meet the need or withdrawn unwanted items from the library. Keywords: In-House Usage Satistic, .NET Framework บทนา ขอ้ มูลสถติ ิการใช้ทรัพยากรสารสนเทศมีความสาคญั และจาเป็นต่อการบริหารงานหอ้ งสมุด เป็นเครอ่ื งมือสาหรับห้องสมุดในการประเมินคุณค่าทรัพยากรสารสนเทศ การจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การ ใชท้ รพั ยากรสารสนเทศ การเพมิ่ จานวนฉบับ (Copy) และการจาหน่ายออกของทรพั ยากรสารสนเทศ ท่ีไม่มีการใชง้ าน โดยปกตแิ ล้วหอ้ งสมุดสถาบนั อดุ มศึกษาแตล่ ะแหง่ จะเกบ็ สถิติการยืมทรัพยากร สารสนเทศผ่านระบบห้องสมุดอตั โนมัติท่ีใชง้ าน โดยสามารถจัดเก็บสถิติเปน็ รายวัน รายเดือน รายปี ตามรายช่อื ทรัพยากรสารสนเทศ ซง่ึ ห้องสมุดสามารถนาตัวเลขเหล่านั้นมาใชใ้ นการวางแผน งานตา่ ง ๆ อาทิ การประเมินคณุ คา่ ทรพั ยากรสารสนเทศ การสง่ เสริมการใช้ทรพั ยากรสารสนเทศ การเพ่ิมจานวนฉบบั (Copy) และการจาหนา่ ยออก ทง้ั นี้ ผู้บรหิ าร บรรณารักษ์และเจ้าหนา้ ทข่ี อง
ศูนย์บรรณสารและสื่อการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั แม่ฟ้าหลวง ไดค้ านงึ ถงึ ว่าการจัดเกบ็ สถติ ิการใชง้ าน ทรัพยากรสารสนเทศที่ใช้งานภายในหอ้ งสมุดโดยไม่ได้ยืมออก (In-house usage) ก็มีความสาคัญ เช่นกัน นอกจากน้ี ยังมีทรัพยากรสารสนเทศบางประเภท เชน่ วารสาร นติ ยสาร หนงั สืออา้ งองิ ทไี่ ม่อนุญาตให้ผู้ใชบ้ รกิ ารยืมออก แต่จดั ให้ใช้บริการภายในห้องสมุดเท่าน้ัน ซง่ึ ทรัพยากรสารสนเทศ ประเภทน้กี ็ควรจะมีการเกบ็ สถติ กิ ารใชง้ านดว้ ย ดังนนั้ ศนู ยบ์ รรณสารและสื่อการศึกษา มหาวทิ ยาลัยแมฟ่ ้าหลวง จึงไดพ้ ัฒนาโปรแกรม ปอ้ นรหัสบาร์โคด้ หนงั สอื แบบกลมุ่ “Barcode batch check in” สาหรบั ป้อนรหสั บาร์โค้ดหนังสอื เข้าสฐู่ านข้อมูลระบบห้องสมุดอตั โนมตั คิ รั้งละจานวนมาก และได้นาโปรแกรมมาประยุกต์ใช้ตงั้ แต่ ปี พ.ศ. 2560 โดยนาโปรแกรมดังกลา่ วมาช่วยป้อนรหสั บารโ์ ค้ด เพอื่ บนั ทึกสถิติการใชง้ านทรพั ยากร สารสนเทศเข้าสูฐ่ านข้อมูลของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ VTLS ที่ศูนย์บรรณสาร ฯ ใชง้ าน โดย เจา้ หนา้ ทีห่ อ้ งสมุดจะเกบ็ ข้อมูลสถติ ิการใช้งานทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆ ได้แก่ วารสาร นติ ยสาร หนงั สืออ้างอิง ตาราเรยี นและหนังสอื ทั่วไป ท่มี ีการใชง้ านภายในหอ้ งสมดุ โดยได้ขอความ ร่วมมือจากผ้ใู ช้บริการใหน้ าทรัพยากรสารสนเทศท่ีอ่านแล้ว ไปวางไวท้ ช่ี ้นั พักหนงั สอื เท่านัน้ จากน้นั เจ้าหนา้ ทหี่ อ้ งสมุดจะนาเครื่องอ่านบารโ์ ค้ดแบบพกพาไปอ่านรหัสบารโ์ ค้ดของทรพั ยากรสารสนเทศ เหล่านั้นในช่วงเช้าและบา่ ยของทุกวัน จากการประยกุ ต์ใช้งานโปรแกรม “Barcode batch check in” พบว่าฝ่ายบริการ สารนเิ ทศสามารถจัดเกบ็ สถติ ิการใชง้ านทรัพยากรทกุ ประเภทที่ไม่อนญุ าตให้ยมื ออก รวมถงึ ทรพั ยากรสารสนเทศท่ีมกี ารใช้งานภายในหอ้ งสมดุ โดยผู้ใช้บรกิ ารไมป่ ระสงคย์ ืมออกไป และสามารถ เปน็ ข้อมูลให้ฝา่ ยพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศใช้ในการเพิ่มจานวนฉบบั (Copy) เมอื่ มีอาจารยเ์ สนอซอ้ื เพมิ่ ได้ และสามารถใชเ้ ปน็ ข้อมูลประกอบการจัดกิจกรรมสง่ เสริมและประชาสัมพันธไ์ ด้ นอกจากน้ยี งั สามารถใชเ้ ป็นข้อมูลประกอบการประเมินคณุ ค่า และการจาหน่ายทรัพยากรสารสนเทศออกจาก ห้องสมุดได้ วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ จดั เกบ็ สถติ ขิ ้อมลู การใช้ทรพั ยากรสารสนเทศที่ใชง้ านภายในห้องสมุด รวมถึง ทรพั ยากรสารสนเทศทจี่ ดั ให้มีการใชเ้ ฉพาะภายในหอ้ งสมุดโดยไมอ่ นุญาตให้ยมื ออก ได้อยา่ งถูกต้อง แมน่ ยา และรวดเร็ว 2. เพอ่ื เปน็ ข้อมลู ประกอบการประเมนิ คุณค่าทรพั ยากร การเพิม่ จานวนฉบับ (Copy) และการจาหนา่ ยออกทรัพยากรของห้องสมุด ตามเกณฑ์ท่ีหอ้ งสมุดกาหนดไว้ได้ ข้นั ตอนและวิธกี ารดาเนินงาน ศูนยบ์ รรณสารและสื่อการศึกษามีขนั้ ตอนการดาเนินงานในการเกบ็ สถิติการใช้งาน ทรัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมดุ ดงั น้ี 1. สังเกตพฤติกรรมการใชท้ รัพยากรสารสนเทศภายในหอ้ งสมุดในแตล่ ะวนั 2. จดั หาเคร่ืองมือที่เหมาะสม โดยเจา้ หน้าวเิ คราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ของ
ศนู ย์บรรณสารฯ พัฒนาโปรแกรมปอ้ นรหสั บารโ์ ค้ดแบบกลุ่มโดยใช้ .NET Framework เขยี นด้วย ภาษา C# ในรปู แบบ desktop application ซง่ึ สามารถทางานได้บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 7, 8 และ 10 ภาพท่ี 1 โปรแกรมป้อนรหสั บารโ์ ค้ดแบบกลมุ่ (Barcode batch check in) ท่พี ฒั นาข้ึน 3. จัดทาป้ายขอความรว่ มมือใหผ้ ใู้ ช้บริการ นาทรพั ยากรสารสนเทศทีน่ าไปอ่านแลว้ มาวางในจดุ พักที่ได้จดั เตรียมไว้เทา่ นัน้ 4. เจ้าหนา้ ท่นี าเครอื่ งอ่านบาร์โค้ดแบบพกพา ไปอ่านรหัสบารโ์ คด้ ของทรัพยากร สารสนเทศท่วี างไว้ทจี่ ดุ พักหนงั สอื จะได้รายการรหัสบาร์โค้ดของทรพั ยากรสารสนเทศที่มีการใช้งาน ในห้องสมดุ บันทึกไวใ้ นหนว่ ยความจาของเคร่ืองอา่ นบาร์โค้ดแบบพกพา
ภาพท่ี 2 ใช้งานของเครื่องอ่านบารโ์ คด้ แบบพกพาในการอ่านและบันทึกรหัสบารโ์ คด้ ของทรพั ยากร สารสนเทศ 5. นาเครื่องอ่านบาร์โคด้ แบบพกพามาเชื่อมต่อกบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพือ่ ทาการดาวน์ โหลดข้อมูลรหสั บารโ์ ค้ดเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอรใ์ นรูปแบบไฟลข์ ้อความ (Text file) ภาพที่ 3 การเช่ือมต่อเคร่ืองอา่ นบารโ์ คด้ แบบพกพากบั ระบบคอมพวิ เตอร์เพอ่ื ทาการดาวนโ์ หลดขอ้ มลู รายการรหสั บารโ์ คด้ ท่เี กบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจาของเครอื่ ง
ภาพที่ 4 ไฟลข์ ้อความ (Text file) รายการรหสั บารโ์ คด้ ซ่งึ ไดจ้ ากเคร่อื งอ่านบารโ์ ค้ดแบบพกพา 6. เปดิ โปรแกรมระบบห้องสมุด VTLS โดยเปดิ หนา้ ตา่ ง Check in คา้ งไว้ แล้วตงั้ ค่าให้ เปน็ การเช็คอินแบบ In-house usage และกาหนดวันเวลาทตี่ ้องการบนั ทึกสถติ ิการใชง้ านหนงั สือให้ ถูกต้อง ภาพท่ี 5 การเปดิ โปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัตแิ ละตั้งคา่ ให้เป็นการเช็คอนิ แบบ In-house usage 7. ทดสอบการใช้โปรแกรมที่พฒั นาขนึ้ โดยนาไฟลข์ ้อความท่ีจัดเก็บรายการเลขบารโ์ ค้ด หนังสอื ทไี่ ดจ้ ากข้อ 5 มาเปดิ ด้วยโปรแกรมป้อนรหัสบารโ์ ค้ดแบบกลุม่
ภาพท่ี 6 การนาไฟล์ขอ้ ความทไ่ี ดม้ าเปดิ ด้วยโปรแกรมปอ้ นรหัสบาร์โคด้ แบบกลุ่ม 8. คลิกท่ีปุ่ม “Check in all” ที่โปรแกรมป้อนรหสั บาร์โค้ดแบบกลุ่ม เพื่อใหโ้ ปรแกรม เริม่ ดาเนินการป้อนรายการรหัสบารโ์ ค้ดของทรัพยากรสารสนเทศ เข้าส่หู น้า Check in ของโปรแกรม VTLS จนครบทุกเล่ม ภาพท่ี 7 การสง่ ขอ้ มูลบาร์โค้ดของทรพั ยากรสารสนเทศเข้าสหู่ น้า Check in ของโปรแกรม VTLS 9. ตรวจสอบความถูกต้องในการปอ้ นรหสั บารโ์ คด้ เพื่อปรับค่าพารามิเตอร์การทางาน ของโปรแกรมใหท้ างานได้อย่างแมน่ ยามากขึ้น ยกตวั อยา่ งเชน่ ในการป้อนรหสั บาร์โคด้ 1 หมายเลข จะตง้ั ให้โปรแกรมมีการหนว่ งเวลาไว้ 0.3 วินาที เนอ่ื งจากการทดสอบพบวา่ หากโปรแกรมป้อนรหสั บาร์โคด้ แบบกลุ่มทาการป้อนรหสั บารโ์ ค้ดเร็วเกินไปแล้ว โปรแกรม VTLS จะทางานไม่ทนั โดยเฉพาะ ในช่วงท่กี ารเชื่อมต่อเครอื ข่ายลา่ ชา้
10. นาโปรแกรมป้อนรหัสบาร์โคด้ แบบกลมุ่ (Barcode batch check in) ไปใชง้ านจรงิ ในการบนั ทึกสถิติการใชง้ านทรัพยากรสารสนเทศภายในหอ้ งสมุดเปน็ รายวัน โดยมีกระบวนการ ปฏิบตั งิ านตามแผนผัง ดังน้ี เริ่มตน้ เตรียมไฟล์รายการรหัสบาร์โค้ดหนงั สือ - บนั ทึกรหัสบารโ์ ค้ดหนงั สอื ทมี่ ีการใชง้ านในหอ้ งสมดุ ด้วยเคร่อื งอา่ นรหสั บาร์โคด้ แบบพกพา (ภาพที่ 2) - ถ่ายโอนรหัสบารโ์ คด้ จากเครือ่ งอ่านรหัสบาร์โคด้ แบบพกพา เข้าสเู่ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ (รปู ที่ 3) ในรปู แบบไฟลข์ อ้ ความ (.txt) (รูปที่ 4) เตรยี มโปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิ ใหพ้ รอ้ มสาหรับการปอ้ นรหัสบาร์โค้ด - เปิดโปรแกรมระบบห้องสมดุ VTLS และเปิดหนา้ ต่าง Check in - เลือก In-house usage check in - กาหนดวันเวลาทีต่ ้องการบันทึกสถติ กิ ารใชง้ านหนังสอื (ภาพท่ี 5) ป้อนรายรหสั บารโ์ ค้ด เขา้ สโู่ ปรแกรมระบบห้องสมดุ อตั โนมตั ิ - เปิดโปรแกรมปอ้ นรหสั บารโ์ คด้ แบบกลมุ่ - เลอื กไฟลร์ ายการเลขบาร์โคด้ หนังสอื (.txt) ที่บนั ทกึ ไว้ (ภาพที่ 6) - คลกิ ที่ปุ่ม Check in all (ภาพท่ี 7) สน้ิ สุด ภาพท่ี 8 กระบวนการปฏิบัติงานตามแผน
สรุปผล อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะ และการนาไปใชป้ ระโยชน์ จากการท่ีศนู ย์บรรณสารและส่อื การศึกษาได้นาโปรแกรมป้อนรหัสบาร์โค้ดแบบกลุ่ม (Barcode batch check in) มาใชใ้ นการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศประเภททไ่ี ม่อนุญาตให้ยืมออก หรือประเภทที่มีการใชง้ านภายในห้องสมุดแตผ่ ใู้ ช้ไมป่ ระสงค์ยืมออก ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2560 พบว่า ศนู ย์บรรณสาร ฯ สามารถบนั ทกึ ข้อมลู สถิติการใช้ทรัพยากรสารสนเทศท่มี ีการใช้งายภายในห้องสมุด โดยเมอ่ื นามารวมกบั สถิติการยืม-คืนทรัพยากรสารสนเทศในฐานข้อมลู ของระบบห้องสมุดอัตโนมตั ิ แลว้ ทาให้ได้ข้อมลู ท่ีครบถว้ น ถกู ต้อง สาหรับรายงานผู้บริหารและใช้เปน็ ข้อมลู ใหฝ้ า่ ยพัฒนา ทรพั ยากรสารสนเทศในกรณีท่อี าจารยต์ ้องการเพ่ิมจานวนฉบับ (Copy) และใช้เปน็ ข้อมูล ประกอบการประเมนิ คุณคา่ และการจาหน่ายออกทรัพยากรสารสนเทศตามเกณฑท์ ่ีกาหนดไว้ได้ ทัง้ นกี้ ารจัดเกบ็ สถติ ิการใชท้ รัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมดุ (In-house usage) ดว้ ยการใช้โปรแกรมป้อนรหัสบาร์โคด้ แบบกลุม่ (Barcode batch check in) ที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถ เปน็ แนวทางให้ห้องสมุดอนื่ ๆ ทีส่ นใจนาไปประยุกต์ใชใ้ นการจัดเกบ็ สถิตขิ ้อมลู ทรพั ยากรสารสนเทศ ประเภทหนังสืออา้ งอิง วารสาร นิตยสาร ตลอดจน หนังสือ ตารา ท่มี ีการใช้ในหอ้ งสมุดโดยผใู้ ช้ ไม่ประสงค์ยมื ออกได้ตอ่ ไป
การวเิ คราะหข์ อ้ มลู และการนาเสนอข้อมลู เชิงภาพ เพือ่ ประยกุ ตใ์ ชก้ บั การแสดงขอ้ มลู สถิตขิ องสานักหอสมุด มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ The Applied of Data Analytics and Data Visualization for Library Statistic, Kasetsart University Library อภิยศ เหรยี ญวพิ ัฒน์ สำนักหอสมดุ มหำวทิ ยำลัยเกษตรศำสตร์ email: [email protected] บทคัดยอ่ สำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลยั เกษตรศำสตร์ มแี นวคิดในกำรประยุกตใ์ ชข้ ้อมลู ทำงสถิตเิ พ่ือ เพิ่มประสิทธภิ ำพในกำรให้บริกำรแกผ่ ูใ้ ช้ โดยทำกำรศึกษำกับตัวเลขของกำรให้บริกำรในดำ้ นตำ่ ง ๆ ที่กระจัดกระจำยอยูเ่ ป็นจำนวนมำก มีปริมำณข้อมูลสงู และยงั ไม่เคยผำ่ นกำรวเิ ครำะห์ทำงด้ำนสถิติ มำก่อน โดยกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลนี้ จะวิเครำะห์ข้อมูลที่มหี ลำกหลำย ท้ังจำกกำรเขำ้ ใช้งำนอำคำร ของสำนักหอสมุด และกำรใชบ้ ริกำรพ้ืนฐำนและบริกำรพิเศษต่ำง ๆ โดยใช้วิธีวิเครำะห์ข้อมูล แสดงควำมสมั พันธ์ และนำมำแสดงผลในรูปแบบของ Data visualization โดยใชภ้ ำพ ตวั เลข แผนภมู ิ กรำฟ และอนื่ ๆ ซ่งึ ชว่ ยเพ่ิมควำมพึงพอใจแกผ่ บู้ ริหำรใหส้ ำมำรถรบั รขู้ ้อมลู ที่มำกข้นึ และสำมำรถนำข้อมลู ที่ไดไ้ ปใช้ในกำรสนับสนุนกำรตดั สนิ ใจ คาสาคัญ: กำรนำเสนอขอ้ มลู เชิงภำพ, กำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู , Business Intelligence Abstract Office of the University Library, Kasetsart University has held a project to applying statistic information for improve efficiency of service. Using an immense statistic data collected from different sources and never use for predictive analytics. By combining data analytic techniques and data visualization techniques to calculate measures and show a connections between different data and transform these information into the form of images, graphic or map, in the way that the information would be provides access to information, interesting, motivating, easy to understand and to be recognized and building influence and motivation awareness, including applying to effective decision making in the future.
Keywords: Data Visualization, Data Analytics, Business Intelligence บทนา ปัจจุบันสำนักหอสมุด มหำวทิ ยำลัยเกษตรศำสตร์ เปน็ หน่วยงำนดำ้ นกำรสนับสนุน วิชำกำร ใหบ้ รกิ ำรดำ้ นวิชำกำรและกจิ กรรมต่ำง ๆ ใหแ้ กผ่ ูใ้ ช้บรกิ ำร ทงั้ นิสติ อำจำรย์ บคุ ลำกร นักวจิ ยั รวมถงึ ประชำชนทัว่ ไป ซ่ึงผใู้ ช้ในแตล่ ะ่ ประเภทมีควำมต้องกำรใช้บรกิ ำรท่ีแตกต่ำงกันไป กำรจดั รูปแบบกำรให้บริกำรที่สอดคล้องและตรงกับควำมต้องกำรของผู้ใช้ จะทำให้ผ้ใู ช้เข้ำถงึ บริกำร ท่ีตนเองต้องกำร และเกดิ ประโยชน์สงู สุดแกต่ นเองได้ ซง่ึ ทำงสำนกั หอสมุดเองไดม้ ีบริกำรท่หี ลำกหลำย ทงั้ บริกำรพื้นฐำนทำงด้ำนสำรสนเทศ จนถึงบริกำรพเิ ศษต่ำง ๆ เชน่ บริกำรอินเตอรเ์ น็ต บรกิ ำรฐำนขอ้ มูลออนไลน์ บรกิ ำรห้องศึกษำ เป็นตน้ ทผ่ี ำ่ นมำมีกำรเก็บสถิติกำรใช้บรกิ ำรในบำงบริกำร และไม่ได้มกี ำรนำมำวเิ ครำะหก์ บั ข้อมูล ของผใู้ ชบ้ รกิ ำร เพรำะข้อมลู ที่มีปริมำณมำกซ่ึงเปน็ กำรยำกในกำรดงึ ข้อมลู ออก ซงึ่ เกิดปัญหำคือทำให้ ไมท่ รำบถงึ ควำมสัมพันธ์ของข้อมลู ที่ซอ่ นอยู่รวมถงึ ปัญหำท่เี ชื่อมโยงข้อมูลของกำรใหบ้ รกิ ำรกบั ข้อมูล ผใู้ ช้บริกำรได้ ซ่งึ ขอ้ มูลเหล่ำนี้ถำ้ ถกู นำมำวเิ ครำะหห์ ำควำมสมั พันธ์ทซี่ ่อนอยู่ ใช้กำรจัดแสดงผลใน รปู แบบเทคนิคกำรสร้ำงภำพนำมธรรมหรือ Data visualization โดยกำรใช้ภำพเพื่อแสดงขอ้ มูล เชงิ ปรมิ ำณที่วดั ได้ในรูปแบบภำพ 2 มิติและ 3 มติ ิ กำรใช้แสง สี ควำมสว่ำง เส้น และแผนท่ี เพ่อื สรำ้ งควำมโน้มน้ำวและแรงจูงใจในกำรรับรู้ ใช้ผลลพั ธ์ท่ีได้เพ่อื ประโยชนใ์ ห้ผบู้ รหิ ำรใชใ้ น กำรวำงแผนกลยทุ ธดำ้ นตำ่ ง ๆ รวมถงึ เพ่ิมประสทิ ธิภำพในกำรให้บรกิ ำร และเพ่ิมปริมำณกำรใช้ บริกำรของหอ้ งสมุด วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือวเิ ครำะห์ข้อมูลทำงสถติ แิ ละแสดงควำมสมั พันธข์ องขอ้ มูลผู้ใช้บริกำรกบั รปู แบบ กำรให้บริกำรต่ำง ๆ ของหอ้ งสมุด 2. เพอื่ ออกแบบกำรสร้ำงภำพนำมธรรมท่ีมีประสทิ ธิภำพ และนำข้อมลู ท่ีได้ไปใช้ ประโยชน์ ขั้นตอนและวธิ ีการดาเนนิ งาน แนวคดิ กำรนำเทคนิคกำรทำ Data analytics และ Data visualization มำทำกำรวเิ ครำะห์ ขอ้ มลู สถติ ิกำรเข้ำใช้บริกำรห้องสมดุ รวมถึงบริกำรพิเศษอ่ืน ๆ เช่น บรกิ ำรฐำนขอ้ มูลออนไลน์ บริกำรคอมพิวเตอร์ บรกิ ำรอินเตอรเ์ น็ต บรกิ ำรห้องศึกษำ เป็นตน้ โดยเชอ่ื มโยงข้อมลู ระหวำ่ ง ปรมิ ำณและประเภทกำรใชบ้ รกิ ำรกบั ประเภทผใู้ ชบ้ รกิ ำร ทำให้สำมำรถวเิ ครำะห์ขอ้ มลู เชิงลกึ ท่ีให้ รำยละเอียดได้มำกกวำ่ และนำมำแสดงผลในรปู แบบภำพนำมธรรม ทำใหส้ ำมำรถเข้ำถึงรำยละเอยี ด ของขอ้ มลู ไดม้ ำกย่งิ ขึน้ ตอบสนองต่อควำมต้องกำรของท้งั ผู้บริหำรและผ้ใู ช้บรกิ ำรห้องสมุด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439