97 ภาพการแต่งกาย
98 ภาพการรบั ประทานอาหาร
- 99 ภาพการรบั ประทานอาหาร
100 ภาพการใช้จา่ ยเงิน
101 ภาพการใช้จา่ ยเงิน
102 แบบสังเกตพฤตกิ รรม กลุ่มท่.ี ..................ชน้ั ........................ ที่ พฤตกิ รรม ความรว่ มมอื การแสดงความ การตอบคําถาม การยอมรบั ฟงั การมสี ว่ นร่วมใน รวม ชื่อ คิดเหน็ ความคิดเห็น การอภปิ ราย ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน เกณฑก์ ารวดั ผล ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละกลุ่ม ดังน้ี ดมี ากเทา่ กบั ๔ ประสทิ ธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดีเท่ากบั ๓ ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลางเท่ากบั ๒ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรบั ปรุงเท่ากบั ๑ ประสิทธภิ าพต่าํ กวา่ เกณฑ์ ๕๐ % ( ลงชอ่ื ) ผูส้ งั เกต (.....................................................) .............../................./....................
103 แบบประเมินการปฏิบตั ติ นในการดาํ รงชวี ิตตามหลกั ความพอเพยี ง คําช้ีแจง ใหก้ าเคร่อื งหมาย ( / ) ลงในชอ่ งใหต้ รงกบั การปฏบิ ตั ขิ องนกั เรียน ระดบั ความเหมาะสมตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ที่ รายการประเมนิ ๕๔ ๓ ๒ ๑ ๑ การแตง่ กาย ๒ การรับประทานอาหาร ๓ การใชจ้ า่ ยเงิน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ระดับ ๕ หมายถึง มากทสี่ ุด ระดบั ๔ หมายถงึ มาก ระดบั ๓ หมายถึง ปานกลาง ระดับ ๒ หมายถงึ น้อย ระดบั ๑ หมายถงึ น้อยทส่ี ดุ ( ลงช่ือ ) ผูป้ ระเมนิ (...................................................) ............../..................../...............
104 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๓ ชือ่ หน่วย STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทุจริต ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๑ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง ความโปรง่ ใส ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบัตติ นเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต ๒.๒ ปฏบิ ัตติ นเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ความโปร่งใส คอื การกระทําการใด ท่ีสามารถมองเหน็ ได้ คาดเดาได้ และเขา้ ใจได้ การมรี ะบบงาน และขั้นตอนการทํางานทช่ี ัดเจน ถูกตอ้ ง อยา่ งตรงไป ตรงมา ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ ( สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ / ค่านิยม ๑)ใฝเุ รียนรู้ ๒) ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ / การจัดประสบการณ์ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ / ข้นั ตอนการจัดประสบการณ์ ๑) ชัว่ โมงที่ ๑ ๑. ครนู าํ เข้าสู่บทเรยี นโดยให้นักเรยี นรว่ มกันร้องเพลง ความซอื่ สตั ย์ พร้อมกัน และรว่ มกนั สรุป ความหมายของเพลง ๒. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ให้นกั เรยี นทราบถงึ พ้ืนฐานของความซอ่ื สัตย์ มาจากการกระทําการใด ท่ี สามารถมองเหน็ ได้ คาดเดาได้ และเขา้ ใจได้ การมรี ะบบงาน และขนั้ ตอนการทาํ งานทช่ี ดั เจน ถกู ต้อง อย่าง ตรงไป ตรงมา น้ันก็คอื หลักของความโปร่งใส ๓. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั อภปิ รายถงึ ความหมายของคาวา่ “ โปร่งใส ” ๔. ครแู ละนกั เรยี นสรุปความหมาย ความโปรง่ ใส รว่ มกนั อกี ครั้ง ๕. ใหน้ ักเรยี นจับคกู่ บั เพอ่ื นตามความสมคั รใจ ๖. ครูนาํ ตวั อยา่ งคําขวัญ ตดิ บนกระดาน “โปรง่ ใส ไรค้ อร์รปั ชน่ั ร่วมสรา้ งสรรค์สงั คมไทย ” ให้ นักเรียนอา่ นคําขวัญพร้อม กนั ๗. ครูอธิบายถงึ ความหมายของคําขวญั และอธิบายวิธกี ารเขยี นคาํ ขวญั ให้นักเรยี นจนเกิดความ เข้าใจ ๘. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคชู่ ่วยกนั แตง่ คาํ ขวัญรณรงค์ให้เกดิ ความโปรง่ ใส
105 ๙. นกั เรียนนาํ เสนอคาขวัญทรี่ ่วมกนั แตง่ หน้าชัน้ เรียน ๑๐. นักเรยี นรว่ มกนั ร้องเพลง ความซื่อสตั ย์ เปน็ การจบบทเรียน ๔.๒ สอื่ การเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) เพลงความซอื่ สัตย์ ๒) ตัวอย่างคาขวัญ “ โปร่งใส ไรค้ อร์รปั ชน่ั ร่วมสรา้ งสรรค์สังคมไทย ” ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน ๒) ตรวจผลงานการเขยี นคําขวญั ๕.๒ เครอื่ งมอื ที่ใช้ในการประเมิน ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน ๒) แบบตรวจผลงานการเขยี นคาํ ขวญั ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ๖. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ.......................................ครผู ู้สอน (.........................................) ๗. ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .....................................ผู้บริหาร (นายกุศล ชุมปัญญา) ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านศรวี ชิ า “คุรรุ าษฎร์อทุ ิศ”
106 ใบความรสู้ าํ หรบั ครู ความโปร่งใส (Transparency) หมายถึง การกระทาการใด ทีผ่ อู้ ่ืนสามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ การมรี ะบบงานและขนั้ ตอนการทาํ งานท่ชี ดั เจน (ซง่ึ จะดูไดจ้ าก กฎระเบยี บ หรอื ประกาศ) การ เปิดเผยขอ้ มลู ขา่ วสารท่ีถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา ความโปร่งใสจงึ เปน็ เครือ่ งมอื ท่สี ําคญั ในการตรวจสอบความ ถูกตอ้ ง และชว่ ยปูองกันไม่ใหเ้ กดิ การทุจรติ รวมท้ังนาไปสกู่ ารสรา้ งความไวว้ างใจซง่ึ กนั และกัน เพลงความซอ่ื สตั ย์ ความซ่อื สตั ยเ์ ปน็ สมบัติของคนดี หากว่าใครไมม่ ชี าตินีเ้ อาดีไม่ได้ มีความรทู้ ่วมหวั เอาตัวไมร่ อดถมไป คดโกงแลว้ ไซรใ้ ครจะรบั ให้รว่ มการงาน
107 แบบประเมินการเขยี นคาํ ขวัญ ท่ี พฤตกิ รรม ถกู ต้องตาม ตรงตาม คิดสร้างสรรค์ เสรจ็ ทนั เวลาท่ี รวม ชอื่ ฉนั ทลักษณ์ ความหมาย กําหนด ๑๖ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔๓๒ ๑๔๓ ๒ ๑๔ ๓ ๒๑ เกณฑก์ ารวดั ผล ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะกลุ่ม ดังน้ี ดีมากเทา่ กับ ๔ ประสิทธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดีเทา่ กับ ๓ ประสิทธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลางเทา่ กับ ๒ ประสิทธิภาพอย่ใู นเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรับปรงุ เท่ากับ ๑ ประสทิ ธภิ าพตํา่ กว่าเกณฑ์ ๕๐ % ( ลงชอ่ื ) ผ้สู ังเกต (.....................................................) .............../................./....................
108 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิกจิ กรรม ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดงความ การตอบคาถาม การยอมรับฟงั การทาํ งานที่ หมาย ชื่อ คิดเหน็ ความคิดเหน็ ไดร้ ับมอบหมาย เหตุ ๔ ๓ ๒๑๔ ๓๒๑๔ ๓๒ ๑ ๔ ๓๒๑ ๔ ๓ ๒๑ เกณฑ์การวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะกลมุ่ ดังนี้ ดมี ากเท่ากบั ๔ ประสทิ ธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดีเท่ากบั ๓ ประสทิ ธภิ าพอย่ใู นเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลางเท่ากับ ๒ ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรับปรงุ เทา่ กบั ๑ ประสทิ ธภิ าพต่ํากวา่ เกณฑ์ ๕๐ % ( ลงชื่อ ) ผู้สังเกต (.....................................................) .............../................./....................
109 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชอ่ื หน่วย STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจริต ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑ ช่วั โมง แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๓ เร่ือง ความตนื่ รู้ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการต่อตา้ นและปูองกันการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของการทุจริตได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกลักษณะของบคุ คลทม่ี ีความตื่นรใู้ นเร่ืองการทุจริตได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความต่นื รู้ ความตนื่ รู้ หมายถึง การจัดการความเป็นไปได้ใหม่ของชีวติ โดยทม่ี ีสตอิ ยูก่ ับสงิ่ ท่เี กิดขนึ้ รู้ความ จรงิ ของชีวติ ทเี่ ป็นสงิ่ ไมแ่ น่นอน เทา่ ทนั เหตุการณ์ ๓.๒ สมรรถนะสําคญั ของผ้เู รยี น ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๓.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ ๑) ให้นักเรยี นชมวดี ที ศั นเ์ รื่อง “แก้คอร์รปั ชนั เร่มิ ท่ใี คร” เปน็ เร่ืองเกย่ี วกับความหมายของการ ทุจรติ ทุกรปู แบบ เชน่ การรับสินบน การอปุ ถัมภพ์ วกพ้องเพื่อให้เขา้ ทํางาน เป็นตน้ ๒) ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เรอ่ื งท่ีชมวา่ การทุจรติ มหี ลายรปู แบบ เชน่ การใช้ไฟหลวงในการ ชาร์จแบตเตอร์รโี่ ทรศพั ท์ เปน็ ตน้ ๓) ครเู ลา่ ขา่ วเร่ือง “สงั่ เดง้ ๑๒ ตาํ รวจ รบั ส่วยรา้ นอะไหลร่ ถ” แล้วถามนกั เรยี นวา่ ใครรูข้ ่าว เร่อื งนีบ้ า้ ง และใครไมร่ ขู้ ่าวเร่ืองนบี้ ้าง ๔) ครสู รุปนักเรยี นทตี่ ดิ ตามและรูข้ า่ วเรอ่ื งน้ี แสดงวา่ นกั เรยี นเป็นผตู้ นื่ รู้ ๕) ครูอธิบายความหมายของคําว่าตน่ื รู้ ๖) ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกลกั ษณะของบุคคลทตี่ น่ื รู้ ในเร่ืองการทจุ รติ เช่น ตาํ รวจรับสนิ บน จากคนขับรถผดิ กฎจราจร แลว้ มพี ลเมืองดถี ่ายวดี ีโอแลว้ นําไปเผยแพรถ่ ึงการกระทําทไ่ี มเ่ หมาะสม แสดงวา่ พลเมืองดคี นนเ้ี ปน็ ผ้ตู ื่นรใู้ นเร่อื งการทุจรติ ๗) ครใู หน้ ักเรยี นรวบรวมขา่ วท่ี เกยี่ วกับการทุจรติ รูปแบบตา่ ง ๆ พรอ้ มวิเคราะหแ์ สดงความ คดิ เหน็ เกยี่ วกบั ขา่ วการทุจรติ
110 ๘) ครใู ห้นักเรยี นนาํ เสนอขา่ วหน้าชั้นเรยี นแลว้ นาไปจดั ปาู ยนิเทศบรเิ วณโรงเรียน ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้ ๑) ข่าวจากหนงั สอื พิมพ์ ๒) วีดที ศั น์ เรอ่ื ง “แกค้ อรร์ ปั ชนั เริ่มท่ใี คร” ๓) ห้องสมดุ ๔) อินเตอรเ์ นต็ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ตรวจผลงานการวเิ คราะหข์ า่ ว ๕.๒ เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานการวิเคราะหข์ า่ ว ๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรม เร่อื ง ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๖. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ .......................................ครผู สู้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เหน็ ผ้บู รหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .....................................ผบู้ รหิ าร (นายกุศล ชมุ ปญั ญา) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านศรวี ชิ า “ครุ ุราษฎรอ์ ทุ ศิ ”
111 แบบประเมนิ การเขยี นวิเคราะหข์ า่ ว รายการ เลขที่ ช่อื - สกุล เขียนได้ตรง เขียนแยกแยะ เขยี นมีเหตผุ ล การใช้ภาษาได้ การลําดับ สรุปผล เหมาะสม ความคิด การประเมิน ประเด็นได้ ประเดน็ ชดั เจน ประกอบอย่าง เหตกุ ารณอ์ ยา่ ง ๑๐ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน เหมาะสม ๒ คะแนน ต่อเน่ือง ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒๑ ๒ ๑๒ ผา่ น ไมผ่ า่ น เกณฑก์ ารประเมิน นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ลงชอ่ื ผ้ปู ระเมิน ( ) / //
112 แบบสงั เกตพฤติกรรม เร่ือง ซื่อสัตย์ สุจรติ คาชีแ้ จง การบนั ทึกใหท้ าเครื่องหมาย ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤตกิ รรมทเ่ี กิดขน้ึ จรงิ รายการ เลขที่ ช่ือ - สกุล พูด ไมล่ กั ตรงไป ทําตวั ร้จู กั สรปุ ผล ความ ขโมย ตรงมา น่าเชือ่ ถือ แยกแยะ การประเมนิ จริง ประโยชน์ สว่ นตน ผา่ น ไมผ่ า่ น กับ ประโยชน์ ส่วนรวม เกณฑ์การประเมิน ๓ รายการ ถือวา่ ผา่ น ปฏบิ ัติตั้งแต่ ๒ รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น ปฏบิ ัติ ลงช่อื ผู้ประเมนิ ( ) / //
113 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชือ่ หน่วย STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ เร่ือง ต่อตา้ นทจุ รติ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ ริต ๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเป็นผูท้ ่ี STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสาํ คัญของการต่อตา้ นและปอู งกนั การทุจรติ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกผลเสยี ของการทจุ รติ ได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถบอกการกระทาํ ท่ีเป็นการตอ่ ตา้ นการทุจรติ ได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความหมายของการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ การตอ่ ต้านการทจุ ริต หมายถงึ การไมส่ นับสนนุ กิจการของกลมุ่ หรอื บคุ คลท่ีกระทําการโดยมชิ อบใน การแสวงหาผลประโยชน์ ๓.๒ สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรยี น ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซือ่ สตั ย์สุจรติ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ ๑) ครูเลา่ ข่าวเกย่ี วกับปญั หาการทจุ รติ เรื่อง “จาคกุ ทายาทซัมซงุ ๕ ปี ในคดที ุจริต ” แล้วถาม นักเรียน ดังนี้ ๑.๑ ผลเสยี ของการทุจริตมอี ะไรบา้ ง ๑.๒ ถ้านกั เรยี นเปน็ ทายาทซมั ซุงคนนี้ นกั เรียนจะทุจรติ หรือไม่ เพราะเหตุใด ๒) ครใู ห้นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง “รูปแบบการทจุ รติ ” แล้วทําแผนผังความคิด ๓) ครูอธบิ ายความหมายของการต่อตา้ นการทุจริตและยกตัวอย่างการกระทําท่ีแสดงถงึ การตอ่ ต้าน การทจุ ริตทกุ รปู แบบ ๔) ครแู บง่ นกั เรยี นออกเป็น ๔ กลมุ่ ใหแ้ สดงบทบาทสมมติ เรื่อง การต่อตา้ นการทุจรติ รปู แบบตา่ ง ๆ ดังนี้ กลมุ่ ที่ ๑ เนื้อหาเกี่ยวกับการต่อตา้ นการทุจรติ ในการจํานําขา้ วของรฐั บาล กลมุ่ ท่ี ๒ เนอ้ื หาเกี่ยวกับการต่อต้านการทจุ รติ การเลือกตั้งนายก อบต. กลมุ่ ท่ี ๓ เนอ้ื หาเกี่ยวกับการตอ่ ต้านการทุจรติ โครงการตา่ ง ๆ เช่น โครงการสรา้ งทางรถไฟ เปน็ ต้น กลุ่มที่ ๔ เน้ือหาเกย่ี วกับการต่อตา้ นการทจุ รติ การใชอ้ ํานาจหนา้ ที่แสวงหาผลประโยชน์ เชน่ ข้าราชการทหารรับเงนิ ใตโ้ ตะ๊ เพอื่ รับฝากเข้าทํางาน
114 ๕) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกับลกั ษณะการกระทําท่แี สดงออกให้เหน็ ถึงการตอ่ ต้านการทุจรติ เช่น นักเรยี นเห็นเจา้ หนา้ ท่ตี าํ รวจจราจรกาํ ลังรบั เงนิ จากคนขบั รถฝาุ ไฟแดง นกั เรยี นโทรแจ้ง ๑๙๑ หรอื บอก ผูป้๖ก. คบรันอทงึกผหู้ใลหังญก่าเรปจ็นดั ตกน้ ารเรียนรู้ ……………………………๖)…ค…ร…ใู ห…น้ …ัก…เร…ยี …น…ท…าํ ใ…บ…งา…น…เ…รื่อ…ง…ผ…ล…เส…ยี …ข…อง…ก…าร…ท…ุจ…รติ…แ…ล…ะ…กา…ร…ก…ระ…ท…าํ …ทเี่…ป…น็ …กา…ร…ต…อ่ ต…า้ …น…ท…ุจร…ติ …แ…ล…้ว…………….. นาํ…ไ…ปจ…ัด…ป…าู …ยน…ิเ…ท…ศ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………๔….…๒…ส…่อื …ก…าร…เร…ยี …น…รู้……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………ข…่าว…“…จ…า…คกุ…ท…า…ย…าท…ซ…มั …ซ…งุ …๕…ป…ี ใ…น…ค…ดที…จุ…ร…ติ …”…………………………………………………………………………………………………….. ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ลงชื่อ.......................................ครผู สู้ อน ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน เรื่อง ผลเสียของการทจุ รติ และการกระทาํ ที่เป็นกา(ร..ต...่อ..ต...า้ ..น..ท...ุจ..ร..ติ....................) ๒) สงั เกตการแสดงบทบาทสมมติ ๗. ความคดิ เหน็ ผู้บร๓หิ )ารสงั เกตพฤติกรรมการซอ่ื สัตยส์ ุจรติ .........๕....๒....เ.ค...ร..่อื ..ง..ม..ือ...ท...่ใี .ช..ใ้..น..ก...า..ร..ป..ร..ะ...เ.ม..นิ............................................................................................................................................. ................................๑...)...แ..บ...บ..ใ..ห...้ค..ะ..แ..น...น...ก..า..ร..ต..ร..ว..จ...ใ.บ...ง..า..น....เ.ร..อ่ื ..ง...ผ...ล..เ.ส...ีย..ข..อ...ง.ก...า..ร..ท..ุจ...ร..ติ ..แ..ล...ะ..ก..า..ร..ก...ร..ะ..ท...าํ ..ท..เี่.ป...็น...ก..า..ร..ต..่อ...ต..้า..น.................... ทจุ ริต ลงชือ่ .....................................ผูบ้ รหิ าร ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมซ่ือสตั ย์สจุ ริต (นายกุศล ชุมปัญญา) ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นศรวี ชิ า “ครุ รุ าษฎรอ์ ุทศิ ” ระดบั ๓ หมายถึงดมี าก ระดับ ๒ หมายถึงดี ระดับ ๑ หมายถึงพอใช้
- 115 ขา่ ว เรอื่ ง “จําคุกทายาทซมั ซงุ ๕ ปี ในคดที ุจริต” นายลีถูกกล่าวหาว่าบรจิ าคเงนิ จานวน ๔๑ พนั ลา้ นวอน ใหก้ ับองค์กรการกุศลของนาง นางชเว ซูน ซิล เพ่อื นสนทิ ของประธานาธบิ ดปี กั ซึ่งถกู รฐั สภาเกาหลใี ตล้ งมติถอดถอนไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผา่ นมา โดยซมั ซงุ ถกู กลา่ วหาว่าบรจิ าคเงินใหอ้ งค์กรแหง่ น้ีเพ่อื แลกเปลย่ี นกบั ผลประโยชนท์ ่ีบรษิ ทั จะไดจ้ ากโครงการของรัฐบาล แตน่ ายลแี ละบริษัทซัมซุงยนื ยนั ว่าไม่เคยกระทาํ ความผดิ ใด ซ่งึ ศาลเกาหลีใตส้ งั่ จาคุกนายลี แจ-ยอง ทายาท มหาเศรษฐบี รษิ ัทซัมซงุ เป็นเวลา ๕ ปี ในความผดิ ฐานคอรร์ ปั ชัน
116 ใบงาน เร่ือง ผลเสยี ของการทจุ รติ และการกระทําทเี่ ปน็ การตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ช่อื ......................................................................................................ชนั้ ..........................เลขท่ี.................. คําชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามตอ่ ไปนี้ ๑. จงบอกผลเสียของการทุจริตอยา่ งน้อย ๓ ขอ้ ๑. ______________________________________________________________ ๒. ______________________________________________________________ ๓. ______________________________________________________________ ๒. จงบอกวิธกี ารหรอื การกระทาํ ทีเ่ ป็นการตอ่ ต้านการทุจรติ อย่างน้อย ๓ ข้อ ๑. ______________________________________________________________ ๒. _____________________________________________________________ ๓. _____________________________________________________________
117 แบบสังเกตพฤตกิ รรม เรอ่ื ง ซอื่ สตั ย์ สุจรติ คําชแ้ี จง การบันทกึ ใหท้ ําเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจรงิ รายการ เลขที่ ชือ่ - สกลุ พดู ไมล่ กั ตรงไป ทําตวั รู้จัก สรปุ ผล ความ ขโมย ตรงมา น่าเช่อื ถอื แยกแยะ การประเมนิ จริง ประโยชน์ ส่วนตน ผา่ น ไม่ผา่ น กับ ประโยชน์ สว่ นรวม เกณฑ์การประเมิน ปฏิบตั ิ ๓ รายการขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น ปฏิบตั ิ ๒ รายการถือวา่ ไม่ผา่ น ลงชือ่ ผูป้ ระเมนิ ( ) / //
118 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี ๓ ช่อื หนว่ ย STRONG /จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๑ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๕ เรื่อง มุ่งไปข้างหนา้ ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจรติ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ เพอื่ ให้นกั เรียนบอกความหมายของการมงุ่ ไปขา้ งหนา้ ได้ ๒.๒ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นบอกความหมายของความพอเพียงได้ ๒.๒ เพอื่ ให้นักเรยี นยกตวั อยา่ งบคุ คลท่ดี าํ รงชีวิตอยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การม่งุ ไปขา้ งหน้าหมายถงึ การพฒั นาต่อยอดเรอื่ งการตอ่ ตา้ นการทุจริต โดยใช้ชวี ิตอยา่ งพอเพยี ง เห็น ประโยชนส์ ่วนตนมากกว่าประโยชนส์ ว่ นรวม ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ / คา่ นิยม อยอู่ ย่างพอเพยี ง ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ ๑) ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพไรน่ าสวนผสมที่ประสบผลสาํ เร็จ ๒) ครูตงั้ คาถามให้นกั เรยี นตอบ ดงั ต่อไปนี้ ๒.๑ นักเรยี นเห็นอะไรในภาพ ( ภาพที่ดนิ ถูกแบ่งเป็นไร่นา สวน บ่อนา้ และบ้าน) ๒.๒ ชาวนาในภาพมคี วามมุ่งม่นั ในการทํางานของตัวเองหรอื ไม่ อยา่ งไร ( มคี วามมุง่ มัน่ เพราะต้ังใจท่จี ะยนื หยดั ด้วยตนเอง ) ๒.๓ จากภาพ นอกจากความมุ่งมัน่ แล้ว ชาวนายังมีความโดดเด่นในด้านใดอีก ( ยึดมนั่ ในเศรษฐกิจพอเพียง ) ๓) ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายถึงเรอื่ งเศรษฐกจิ พอเพียง ๔) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ความมงุ่ มั่นในการทางานควรอยู่บนพนื้ ฐานของความพอเพยี ง เพราะหาก บุคคลใดมุง่ มั่นทาํ งานโดยเบียดเบยี นผู้อืน่ การทาํ งานนน้ั ย่อมส่งผลเสียมากกว่าผลดี ๕) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปเกย่ี วกบั การอยู่อย่างพอเพยี ง แลว้ ทําใบงาน ๖) ครูนาแบบสาํ รวจพฤตกิ รรมนักเรียนมาใหน้ กั เรียนประเมนิ ตนเอง ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ภาพไร่นาสวนผสม ๒) ใบงาน
119 ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๖. บนั ทกึ หลังการ๑จดั) กสาังรเกเรตยี จนารกู้ การตอบคาํ ถาม …………………………๒…)…ต…รว…จ…ผ…ลง…า…น………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………๒….๑…ใ…บ…งา…น………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………๒….๒…แ…บ…บ…ป…ระ…เ…มนิ …พ…ฤ…ต…ิก…รร…ม…ค…วา…ม…พ…อ…เพ…ีย…ง …………………………………………………………………………….. ……………๕….๒…เ…คร…อ่ื …ง…มือ…ท…ใ่ี …ชใ้…น…ก…าร…ป…ร…ะเ…ม…ิน……………………………………………………………………………………………………………………….. แบบสงั เกตพฤติกรรมความพอเพยี ง ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน ลงชอ่ื .......................................ครผู ้สู อน นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไปถอื วา่ ผา่ น (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .....................................ผูบ้ รหิ าร (นายกุศล ชมุ ปญั ญา) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบ้านศรีวิชา “คุรรุ าษฎรอ์ ุทศิ ”
120 ภาพไร่นาสวนผสม
121 ใบงาน คําชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นผงั ความคดิ แสดงถงึ การอยอู่ ยา่ งพอเพียง
122 แบบสงั เกตพฤติกรรมความพอเพยี ง ที่ พฤตกิ รรม ระดบั ปฏิบัตกิ าร บางครง้ั น้อยคร้ัง ไมท่ าํ เลย ประจํา (๓) (๒) (๑) (๐) ๑ ใชท้ รพั ย์สินต่าง ๆ ของตนเอง เชน่ เงนิ สิง่ ของ เครื่องใช้ อยา่ งประหยดั ค้มุ ค่าและเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี ๒ ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยัด คุ้มค่าและเก็บ รักษาดแู ลอย่างดี ๓ ไม่ใช้ส่ิงของเกนิ ฐานะและความจาเป็น ๔ แบง่ ปันสง่ิ ของใหเ้ พ่ือนท่ีขาดแคลน ๕ ไมอ่ ยากไดข้ องผู้อ่นื มาเปน็ ของตน ๖ รูจ้ ักเกบ็ ออม ๗ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อื่น และไม่ ทาใหผ้ ้อู นื่ เดือดร้อน ๘ วางแผนการเรียน การทํางานและการใช้ชีวิต ประจําวนั บนพืน้ ฐานของความพอเพียง ๙ รเู้ ท่าทันการ เปลีย่ นแปลง ของสงั คม และสภาพ แวดลอ้ มยอมรับ และปรับตวั เพื่ออยู่ ร่วมกับ ผอู้ ื่นได้ อย่างมคี วามสุข ๑๐ เหน็ ประโยชน์สว่ นรวมมากกว่าประโยชน์สว่ นตน เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ ดีเยยี่ ม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๕-๑๐ คะแนน ปรบั ปรงุ ได้คะแนนรวมตา่ํ กว่า ๕ คะแนน ผปู้ ระเมิน ครู พอ่ แม่/ผปู้ กครอง ตนเอง เพ่ือน ลงชื่อ ...................................................ผู้ประเมิน (.................................................)
123 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๓ ชื่อหน่วย STRONG /จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจรติ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ เรื่อง ความเอ้อื อาทร เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ผลการเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ ๒.๑ เพ่ือให้นักเรียนบอกความหมายของความเอือ้ อาทรได้ ๒.๒ เพื่อให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งของความเอื้ออาทรได้ ๒.๓ เพือ่ ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ ีความเออื้ อาทร ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ความเอ้ืออาทรหมายถึง ความเอ้อื เฟอื้ ความเอ้อื อารี ความมนี า้ ใจ ตัวอยา่ งความเอื้ออาทร ไดแ้ ก่ การดูแล การมีน้ําใจชว่ ยเหลือกนั และความห่วงใยซงึ่ กนั และกัน ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ / คา่ นิยม มีจติ สาธารณะ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ ๑) ใหน้ กั เรียนดภู าพนทิ านเรอ่ื งราชสีห์กบั หนู ๒) ครูเลา่ นิทานเรือ่ งราชสีห์กับหนใู ห้นกั เรยี นฟัง ๓) ใหน้ กั เรียนบอกขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการฟัง เช่น หนูมีน้ําใจช่วยราชสหี ์ ๔) ให้นกั เรยี นอ่านนทิ านเร่ืองมดกบั นกเขาจากใบความรู้ ๕) ให้นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากเรอ่ื งท่อี ่าน เช่น นกเขาชว่ ยเหลือมดให้ขึ้นจากน้าํ ๖) ครูอธิบายเชื่อมโยงความเข้าใจให้นักเรยี นฟงั ถงึ ความหมายของความเออ้ื อาทรวา่ หมายถงึ ความ เออ้ื เฟอ้ื ความเอือ้ อารี ความมีนา้ ใจ เราสามารถนาํ แบบอย่างไปประยุกต์ปฏิบตั ใิ นการดาํ เนนิ ชีวติ ได้ ๗) นกั เรียนบอกวิธีปฏบิ ตั ติ นของนักเรียนทแ่ี สดงถงึ ความเอ้อื เฟือ้ โดยเขยี นลงในใบงานที่ ๑ ๘) สุ่มนักเรยี นนาํ เสนอวธิ ีปฏิบัตติ นเปน็ ผู้เออื้ อาทร ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ภาพนิทานเร่อื งราชสหี ์กบั หนู ๒) ใบความรู้ นทิ านเร่ือง ราชสหี ์กับหนู ๓) ใบความรู้ นทิ านเรื่อง มดกบั นกเขา ๔) ใบงานท่ี ๑ บอกวิธีปฏบิ ตั ิตนของนักเรยี นท่แี สดงถงึ ความเอ้ือเฟ้อื
124 ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ สังเกตจากการบอกขอ้ คดิ ทไี่ ดจ้ ากการฟังนทิ านเรื่องราชสีห์กับหนูและเรื่องมดกบั นกเขา และการ ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ คี วามเอือ้ อาทรในโรงเรียน ๕.๒ เครื่องมือท่ใี ช้ในการประเมิน ๑) แบบสงั เกตการบอกข้อคิดทไ่ี ดจ้ ากการฟงั และอ่านนทิ าน ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่าน ๖. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ .......................................ครผู ้สู อน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .....................................ผ้บู ริหาร (นายกุศล ชมุ ปญั ญา) ผ้อู านวยการโรงเรียนบ้านศรีวิชา “ครุ ุราษฎร์อทุ ศิ ”
125 นทิ านเรือ่ งราชสีหก์ ับหนู มรี าชสีหต์ ัวหนึ่งนอนพักผอ่ นยามบา่ ยอย่างมีความสขุ แตต่ ้องสะดงุ้ ตื่นขนึ้ มาเพราะมีหนตู วั หนึง่ ข้นึ มา ว่งิ ไต่ตามลําตวั โดยไมร่ วู้ ่าเปน็ รา่ งของเจา้ ปุา ราชสหี ใ์ ชอ้ ุ้งเท้าตะครบุ เอาไวด้ ว้ ยความโกรธเกรี้ยว ขณะจะลงมอื สังหารหนนู น้ั เองกไ็ ดย้ ินเสยี งหนูกลา่ วคําวิงวอนข้ึนว่า “ทา่ นผเู้ ปน็ ราชาแห่งสตั ว์ท้งั ปวง ได้โปรดไว้ชีวติ ขา้ สกั ครัง้ เถดิ ท่าน เพราะตวั ข้านน้ั ทําผดิ ไปโดยหารไู้ ม่ ตวั ข้าน้นั มไิ ด้มเี จตนาดูหมิน่ ท่านแมแ้ ตอ่ ยา่ งใด” “ฮึ..ก็ได้ ใน เม่ือเจ้าไมไ่ ด้มเี จตนาขา้ กจ็ ะปล่อยไปสักครง้ั หนงึ่ แล้วเจา้ อยา่ มากวนใจอกี ล่ะ ” ราชสีหไ์ ม่อยากได้ชื่อว่ารังแกผู้ ทอี่ อ่ นแอกวา่ จึงยอมเลิกรา “บุญคณุ ในครั้งน้ขี ้าจะไมล่ มื เลยตราบชวั่ ชวี ติ ของขา้ หากมโี อกาสในวนั หน้าข้าตอ้ ง ตอบแทนทา่ นอย่างแน่นอน ถา้ ท่านมีเร่ืองเดือนรอ้ นอันใดหละก็ โปรดสง่ เสยี งคําราม ข้าจะรีบมาหาทา่ น ในทนั ที” “ ฮะ..ฮะ..ฮะ..” ราชสหี ห์ วั เราะล่ันปุา “สตั ว์ตัวเลก็ เชน่ เจา้ จะทําอะไรให้ข้าได้ ไป..รบี ไปใหพ้ ้นข้า จะไดน้ อนต่อเสยี ที ”หลงั จากนั้นไม่นาน ในขณะท่ีราชสีห์ออกล่าเหยอ่ื เกิดพลาดทา่ เสยี ทีไปตดิ กับบว่ งของ นายพรานเขา้ ดิ้นอยา่ งไรกไ็ มส่ ามารถหลดุ ออกไปได้จึงได้สง่ เสยี งรอ้ งลั่นปาุ หนจู ําเสียงของราชสหี ์ได้จงึ รีบ มา ชว่ ยกัดบว่ งของนายพรานจนขาด ราชสีห์จึงไดเ้ ป็นอสิ ระอีกครั้ง นิทานเรื่องน้ีสอนให้รวู้ ่า อยา่ ดถู กู คนทตี่ าํ่ ตอ้ ยกว่าตน คนทอ่ี ยดู่ ว้ ยกันควรมีนาํ้ ใจเออ้ื อาทรตอ่ กนั สงั คมจะได้มีความสขุ -
126 นิทานอสี ป เร่ือง มดกบั นกเขา ในวนั ท่ปี ุาแห้งแลง้ ขาดแคลนนํา้ มดยักษต์ ัวหนึ่งทีก่ าลังกระหายนาํ้ อย่างมาก พยายามทจ่ี ะไตไ่ ปกนิ ตามบนนํ้าพทุ ่ไี หลเชย่ี ว ด้วยความทีเ่ ขาตวั เลก็ จึงพลาดตกลงไปและไหลไปตามลาธาร มดยักษต์ วั นัน้ พยายาม ตะเกียกตะกายขน้ึ ฝัง่ จนเจา้ นกตวั หนง่ึ เหน็ เข้าจงึ คาบใบไม้ทง้ิ ลงไปในนาํ้ ให้เจา้ มดยักษเ์ กาะ “ขอบใจเจ้ามากนะ” เจ้ามดยักษก์ ล่าวขอบคณุ นกในความช่วยเหลอื ในคร้ังน้ี “ไมเ่ ป็นไรหรอก ชวี ิตใครใครก็รัก” เจา้ นกกลา่ วตอบ “ขา้ รมู้ าว่าแถวน้นี ายพรานเยอะนะ เจา้ ไม่กลวั ถูกลา่ เหรอ” “ขา้ แคแ่ วะมาหาอาหารเท่านน้ั แหละ เดย๋ี วกไ็ ปแลว้ ” เจ้านกบอกพรอ้ มกับก้มลงหาอาหารตามพน้ื เพราะมวั แต่หาอาหารอยู่ทาํ ใหเ้ จา้ นกตัวนไ้ี ม่ได้สงั เกตดูว่า ภยั กําลงั มาถงึ ตวั แต่ดีท่วี า่ มเี จา้ มดยกั ษอ์ ยเู่ ปน็ เพอ่ื นดว้ ยเลยช่วยเหลอื ได้ทันเวลา ระหว่างทีก่ าํ ลังสนทนากันมด ยกั ษ์เหลอื บไปเหน็ นายพรานคนหนึง่ กาํ ลงั ใชต้ าข่ายเหว่ยี งจบั นกตัวนี้ เห็นดงั นัน้ มดยกั ษจ์ ึงรบี วิ่งไปกดั เทา้ ของ นายพรานเข้าทาํ ใหเ้ ขาเหว่ียงตาขา่ ยผิดทาง เจา้ นกไดย้ ินเสยี งรอ้ งลน่ั ด้วยความเจ็บปวดของนายพรานจึงบนิ หนี ไปเพอื่ เอาชีวติ รอด สว่ นเจา้ มดกร็ บี ว่งิ หนีไปก่อนจะโดยนายพรานเหยยี บตายเพราะดว้ ยความมีนาํ้ ใจของนกทาํ ให้มดยักษไ์ ด้ตอบแทนความชว่ ยเหลอื ทาํ ใหต้ ่าง ๆคนตา่ ง ๆมชี วี ิตรอด คติสอนใจจากนิทานอสี ปเรือ่ งน:้ี “การมีนํา้ ใจชว่ ยเหลือผอู้ ื่นย่อมไดร้ บั ความดตี อบแทน” ทมี่ า : http://www.charuaypontorranin.com/ http://dnfe๕.nfe.go.th/download/๘๐storytelling.pdf
127 แบบประเมินคณุ ธรรมความเอื้ออาทร ผู้ประเมิน นักเรยี น ครู ผปู้ กครอง คาช้ีแจง โปรดทําเคร่อื งหมาย ลงในแต่ละขอ้ รายการตอ่ ไปนท้ี ีต่ รงกับระดับความคิดเห็นของผปู้ ระเมนิ ตามเกณฑ์ในการพจิ ารณาดงั น้ี ระดับ ๕ หมายถึง นักเรยี นปฏิบตั ไิ ดค้ รบท้งั ๖ ดา้ น ระดบั ๔ หมายถงึ นักเรยี นปฏิบตั ิได้ครบ ๕ ด้าน ระดบั ๓ หมายถงึ นักเรียนปฏบิ ตั ไิ ด้ครบ ๔ ดา้ น ระดบั ๒ หมายถงึ นกั เรียนปฏบิ ตั ไิ ดไ้ มค่ รบ ๔ ดา้ น โดยมี ๑ – ๒ ด้าน ทตี่ ้องชแี้ นะกาํ กับและ ควบคุม ระดบั ๑ หมายถึง นักเรยี นปฏิบตั ิไดไ้ ม่ครบ ๔ ดา้ น โดยมี ๓ – ๔ ด้าน ท่ีต้องชีแ้ นะกํากบั และ ควบคมุ ท่ี รายการพฤตกิ รรม ระดับ พฤตกิ รรมการปฏิบตั ิ ๕ ระดบั ระดบั ระดบั ระดับ ๔๓๒๑ เอ้อื อาทรผู้อื่นและกตัญญูกตเวที ๑ นักเรียนมคี วามเอ้ือเฟ้ือเผอ่ื แผ่ มนี ้าใจ ใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้อืน่ ๒ นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมที่แสดงถึงการเป็นลูกท่ีดี (รวมถึงผปู้ กครองและ ผู้มีพระคุณ) ๓ นกั เรียนมพี ฤติกรรมทแ่ี สดงถึงการเปน็ นักเรยี นทด่ี ี ๔ นักเรียนปฏิบตั ติ นบาํ เพ็ญประโยชน์ตอ่ สงั คม ๕ นักเรยี นมคี วามโดดเด่นดา้ นบําเพ็ญประโยชน์ ๖ นักเรยี นมีความโดดเดน่ ด้านอืน่ อกี อย่างน้อย ๑ ดา้ น รวมจํานวนความถ่ีในแตล่ ะระดบั คุณภาพ สรุปผลการประเมนิ สรุปผลการประเมนิ ................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................
128 แบบสังเกตข้อคิดทไี่ ด้จากการฟังและการอ่านนทิ าน ชื่อ สกุล ราชสีห์กับหนู มดกบั นกเขา คะแนนทไ่ี ด้ สรุป บอกถกู บอกไม่ถูก บอกถูก บอกไมถ่ กู (๑๐) ผ่าน ไม่ผา่ น รวม ถอื วา่ ผ่าน ถือว่า ไมผ่ ่าน เกณฑก์ ารให้คะแนน บอกถูก ให้ ๕ คะแนน บอกไม่ถกู ให้ ๐ คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ตอบถูก ๑-๒ เรอื่ ง ตอบไม่ถูกท้ัง ๒ เร่อื ง
129 หนว่ ยท่ี ๔ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสังคม
130 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๔ ชือ่ หน่วย พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ เรื่อง การเคารพสิทธหิ น้าทีต่ อ่ ตนเองและผอู้ ่นื ท่มี ตี อ่ ครอบครัว เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ เกีย่ วกับพลเมืองและความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๑.๒ ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ท่ีพลเมอื งและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นบอกบทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชกิ ในครอบครัวได้ ๒.๒ นักเรียนบอกแนวทางการปฏิบัติตนในการเคารพสทิ ธหิ น้าทข่ี องสมาชิกในครอบครวั ได้ ๒.๓ นกั เรยี นบอกผลทไ่ี ด้รบั จากการปฏบิ ัตติ นในการเคารพสทิ ธิหนา้ ที่ของสมาชกิ ในครอบครวั ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ สทิ ธิในครอบครวั และความเปน็ สว่ นตัว เป็นสิทธทิ ี่ชาวไทยทุกคนได้รบั ตามรฐั ธรรมนญู ทกุ ครอบครวั ยอ่ มมสี ทิ ธิจดั การภายในครอบครวั ของตนเอง ในการนาํ พาครอบครวั ไปในด้านตา่ ง ๆ ตามความต้องการของ ตนเองได้ โดยจะตอ้ งไม่ขดั ต่อกฎหมาย วัฒนธรรมและประเพณีอนั ดีงามของไทย รวมท้ังจะต้องไมเ่ ปน็ การ รบกวนสิทธคิ รอบครวั ของบุคคลอนื่ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ ๑) ความสามารถในการส่อื สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๓.๓ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านิยม ๑) มวี นิ ัย ๒) ใฝุเรยี นรู้ ๓) มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๔) รกั ความเปน็ ไทย ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. นาํ ขา่ ว พอ่ ทาํ รา้ ยลูก มาอ่านใหน้ กั เรยี นฟงั ๒. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ตอบคาํ ถามต่อไปน้ี ๒.๑ นกั เรียนฟงั ขา่ วนแี้ ลว้ มีความรูส้ กึ เช่นไร ๒.๒ การกระทํานี้นกั เรียนชอบหรอื ไม่ชอบ ๒.๓ นักเรยี นคดิ วา่ จะเกดิ ผลอยา่ งไรกับทั้ง ๒ คนบ้าง ๓. นักเรยี นอา่ นใบความรู้ เรื่อง การเคารพสทิ ธิหน้าทตี่ ่อตนเองและผอู้ ืน่ ทม่ี ตี อ่ ครอบครวั ๔. แบง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละประมาณ ๔-๕ คน รว่ มกันอภปิ ราย แสดงความคดิ เห็น ค้นหา ขอ้ มูล ตอบคําถามลงในใบงานที่ ๑ เร่อื ง การเคารพสทิ ธหิ นา้ ที่ต่อตนเองและผู้อืน่ ที่มตี ่อครอบครัว
131 ๒) ชั่วโมงท่ี ๒ ๑. นกั เรียนฟงั เพลง ครอบครวั สุขสนั ตจ์ าก YouTube แลว้ รว่ มกนั รอ้ ง ๑-๒ เทีย่ ว ๒. นักเรียนวาดภาพ หัวข้อ “ครอบครวั สุขสนั ต”์ พร้อมบรรยายใตภ้ าพ ๓-๕ บรรทดั และ ระบายสีใหส้ วยงาม ๓. ครตู รวจผลงานนกั เรียน ๔.๒ สือ่ การเรยี นรู้ ๑) ขา่ วพอ่ ทารา้ ยลูก ๒) ใบความรู้ เร่ือง การเคารพสิทธิหน้าที่ ตอ่ ตนเองและผอู้ นื่ ท่มี ีต่อครอบครวั ๓) ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง การเคารพสทิ ธิหนา้ ท่ี ตอ่ ตนเองและผ้อู นื่ ท่มี ีตอ่ ครอบครวั ๔) YouTube เพลง ครอบครวั สุขสนั ต์ ๕) กระดาษ / สี ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) ตรวจใบงาน ๒) ประเมนิ ชิน้ งานการวาดภาพ ๕.๒ เครอื่ งมอื ในการประเมนิ ๑) ใบงาน เรือ่ ง การเคารพสทิ ธหิ น้าที่ ต่อตนเองและผูอ้ น่ื ท่ีมตี อ่ ครอบครัว ๒) แบบประเมนิ ผลงานนักเรียนเร่อื ง การวาดภาพครอบครัวสุขสันต์ ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน ๑) การตรวจใบงาน ร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผา่ น ๒) ประเมนิ ผลงานการวาดภาพ คะแนน ๖ – ๙ ถอื ว่าผา่ น ๖. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ.......................................ครผู ู้สอน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผ้บู รหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.....................................ผู้บริหาร (นายกศุ ล ชมุ ปัญญา) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นศรวี ิชา “ครุ รุ าษฎร์อทุ ศิ ”
132 แบบประเมนิ ผลงานนกั เรยี น เรือ่ ง การวาดภาพครอบครวั สขุ สนั ต์ เลขท่ี ชื่อ-สกุล รายการประเมนิ รวมคะแนน ผลการ ประเมิน เน้อื หา ความสวยงาม บรรยายภาพ ผ่าน/ไมผ่ ่าน ๓๒ ๑๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ลงชอ่ื ................................................ประเมิน (.................................................) เกณฑก์ ารตดั สิน คะแนน ๖ - ๙ ถอื วา่ ผ่าน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนน / ระดบั คุณภาพ ประเดน็ ทีป่ ระเมนิ ๓๒ ๑ ๑. เน้ือหา ตรงตามหวั ข้อสอ่ื ตรงตามหวั ขอ้ สอื่ ตรงตามหัวข้อส่ือ ๒. ความสวยงาม ๓. บรรยายภาพ ความหมายไดม้ ากท่ีสดุ ความหมายได้ปาน ความหมายได้ค่อนข้าง กลาง นอ้ ย ความสวยงามระดับ ความสวยงามระดบั ความสวยงามค่อนขา้ ง มาก ปานกลาง น้อย เนือ้ หาสัมพันธ์กับภาพ เนอื้ หาสมั พันธ์กบั ภาพ เนื้อหาไมส่ ัมพันธ์กบั ภาพ มากท่ีสุดครบตามท่ี ปานกลางครบตามที่ และไมค่ รบตามที่กาหนด กําหนด กาํ หนด
133 ใบความรู้ การเคารพสทิ ธิของตนเองและผูอ้ ืน่ ท่ีมีตอ่ ครอบครัว ครอบครวั ประกอบด้วย พอ่ แม่ ลูก ทกุ ครอบครัวมสี ทิ ธทิ จี่ ะได้รบั ความคุ้มครอง ตามรฐั ธรรมนญู เชน่ เรอ่ื งการใชค้ วามรนุ แรงการปฏิบัติอันไม่เปน็ ธรรม หมายความว่า พ่อแม่ และลกู จะตอ้ งไมใ่ ชค้ วามรนุ แรง หรอื ปฏิบตั ติ ามกันอย่างไม่เปน็ ธรรม สามี ภรรยา จะตอ้ งเคารพและรบั ฟงั ความเห็นของกนั และกัน ไมต่ ัดสนิ ปญั หา โดยใช้กาลัง สัง่ สอนบตุ รโดยใชเ้ หตผุ ล ไมใ่ ชก้ ารแกไ้ ขพฤติกรรมดว้ ยการเฆย่ี นตี เลีย้ งดู ดว้ ยความเข้าใจ บุตรตอ้ งเคารพเชอ่ื ฟงั บิดา มารดา มสี ทิ ธเิ สรภี าพในการแสวงหาความสุข ส่วนตัว แตต่ อ้ งอยู่ในของเขตและไมท่ าใหเ้ กดิ ความเดือดร้อนหรือสรา้ งปญั หาใด ใหแ้ ก่ บดิ ามารดา สิ ทธใิ นครอบครวั และความเป็นสว่ นตัว เป็นสิทธิ ที่ชาวไทยทกุ คนได้รับตาม รฐั ธรรมนญู ทุกครอบครวั ย่อมมสี ทิ ธิจดั การภายในครอบครวั ของตนเอง ในการนาํ พา ครอบครวั ไปในด้านตา่ ง ๆ ตามความตอ้ งการของตนเองได้ โดยจะตอ้ งไมข่ ัดตอ่ กฎหมาย วัฒนธรรมและประเพณอี นั ดีงามของไทย รวมทงั้ จะตอ้ งไมเ่ ป็นการรบกวนสทิ ธคิ รอบครัว ของบคุ คลอ่นื
134 ใบงานท่ี ๑ การเคารพสทิ ธิของตนเองและผูอ้ ืน่ ท่ีมตี ่อครอบครัว คําชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคาํ ถามตอ่ ไปน้ี ๑. จงบอกบทบาทหน้าทข่ี องสมาชิกในครอบครวั คนละ ๓ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน บดิ า มารดา บุตร ๑. ๑. ๑. ๒. ๒. ๒. ๓. ๓. ๓. ๒. จงบอกแนวทางการปฏิบัตติ นในการเคารพสทิ ธิหน้าท่ี ของสมาชกิ ในครอบครวั คนละ ๓ หวั ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน บิดา มารดา บุตร ๑. ๑. ๑. ๒. ๒. ๒. ๓. ๓. ๓. ๓. ผลท่ีได้รับจากการปฏิบัติตนในการเคารพสิทธหิ นา้ ทข่ี องสมาชกิ ในครอบครวั มอี ะไรบ้าง (๑๐ คะแนน) ๑. ๖. ๒. ๗. ๓. ๘. ๔. ๙. ๕. ๑๐. สมาชิกกลมุ่ ท่ี ....... ๑......................................................................เลขท่ี...............ชนั้ .................. ๒......................................................................เลขท่ี...............ชนั้ .................. ๓......................................................................เลขที.่ ..............ชนั้ .................. ๔......................................................................เลขท่.ี ..............ชนั้ .................. ๕......................................................................เลขท.่ี ..............ชนั้ ..................
135 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ ๔ ชอื่ หน่วย พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบต่อการทุจริต ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่ือง ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั พลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของ ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ขององค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถแสวงหาข้อมูลเกย่ี วกบั ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย ขององคก์ รหรอื หน่วยงานตา่ ง ๆ ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ กฎ คอื ขอ้ บงั คับ ที่อยูใ่ นความเป็นจรงิ เพื่อไม่ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ทรพั ย์สนิ และ ชีวิต ระเบียบ วินัย นน้ั เปน็ ส่งิ ซง่ึ มีความสําคญั ยิ่ง โดยเฉพาะกบั นกั เรียนหรือเยาวชน อันจะเป็นกาํ ลังอย่างมากในการพัฒนา ประเทศ ระเบียบวินยั คือ คณุ สมบตั ิทส่ี าํ คัญในการดาเนนิ ชวี ติ ความสามารถของบคุ คลในการควบคมุ อารมณ์ และพฤติกรรมของตนเอง ให้เป็นไปตามท่มี ุ่งหวัง โดยเกิดจากการสาํ นึก ซ่ึงต้องไมก่ ระทาํ การใด อนั เปน็ ผล ทําใหเ้ กิดความย่งุ ยากแกต่ นเองในอนาคต หากแตต่ อ้ งเปน็ ส่งิ ทก่ี ่อให้เกดิ ความเจรญิ รงุ่ เรอื งแกต่ นเองและผู้อ่ืน โดย กติกา คอื กฎเกณฑ์ ข้อตกลง หรือขอ้ กําหนด ท่บี คุ คลต้ังแต่ ๒ ฝาุ ยขนึ้ ไปใชเ้ ปน็ หลักปฏบิ ตั เิ พ่อื ให้ เกดิ ความเป็นธรรมแก่ทุกฝาุ ย กฎหมาย คือ กฎที่สถาบัน หรอื ผมู้ อี านาจสงู สดุ ในรฐั ตราขึ้น หรอื ที่เกิดขึน้ จากจารตี ประเพณีอนั เปน็ ทีย่ อมรบั นบั ถอื เพอ่ื ใช้ในการบริหารประเทศ เพอ่ื ใชบ้ งั คับบุคคลใหป้ ฏบิ ตั ติ าม ๓.๒ สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรยี น ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๓.๓ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ซอื่ สัตยส์ ุจรติ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ช่ัวโมงที่ ๑ ๑. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ ๔ กล่มุ ให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ และสรุปความรเู้ ปน็ แผนผงั ความคดิ ดังนี้ กลุ่มท่ี ๑ เรอ่ื ง ระเบียบ กลุ่มที่ ๒ เรอ่ื ง กฎ กลุม่ ที่ ๓ เรื่อง กตกิ า กลุม่ ที่ ๔ เรอ่ื ง กฎหมาย ๒. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มนําเสนอผลงานแผนผงั ความคดิ หน้าช้ันเรยี น
136 ๓. ครูตดิ แผนภมู กิ ติกาในหอ้ งเรียนแล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกวา่ มีข้อตกลง กติกา อะไรบา้ ง ๔. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม ค้นคว้าเกยี่ วกับ ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมายขององคก์ รหรือ หน่วยงานต่าง ๆ แล้วสรุปเพื่อนาํ เสนอหนา้ ชัน้ เรยี นในชวั่ โมงตอ่ ไป ดงั น้ี กลมุ่ ท่ี ๑ เรื่อง กฎ / ระเบยี บการใชห้ ้องสมดุ กลมุ่ ที่ ๒ เรอื่ ง กฎ / ระเบยี บการใช้สนามเดก็ เลน่ กลุ่มที่ ๓ เร่อื ง กฎ / ระเบยี บของสถานทร่ี าชการ กลุ่มท่ี ๔ เร่ือง กฎ / ระเบยี บการใชพ้ ้ืนที่สวนสาธารณะ ๒) ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอผลงานทไ่ี ปค้นควา้ หนา้ ช้ันเรยี น พร้ อมทง้ั บอกผลดีของการ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย และบอกผลเสยี ของการไม่ปฏิบตั ิตามระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ๒. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็น ๒ กลมุ่ ดังน้ี กล่มุ ที่ ๑ ให้บอกผลดขี องการปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบ กตกิ า กฎหมาย แลว้ จดั ทําเปน็ แผนภมู ิ กลุ่มที่ ๒ ให้บอกผลดีของการปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบ กตกิ า กฎหมาย แล้วจดั ทําเป็นแผนภมู ิ ๓. ใหน้ ักเรยี นนาํ เสนอผลงาน ๔. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปว่า การปฏิบัตติ นตามระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ของสงั คมจะ ทาํ ใหค้ นเปน็ คนดี มรี ะเบียบสังคมกจ็ ะสงบสขุ และประเทศชาติ จะสามารถพฒั นาไดร้ วดเรว็ กา้ วทนั อารยประเทศ ๕. ครใู ห้นกั เรียนนาํ แผนภมู ิไปติดปาู ยนิเทศภายในบริเวณโรงเรยี น ๔.๒ สือ่ การเรียนรู้ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑) ใบความรู้ เรอ่ื ง ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมายขององค์กรหรือหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ๒) แผนภมู ิกติกาของห้องเรียน ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ตรวจผลงานการทาแผนภมู เิ ก่ียวกับ ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมายขององค์กรหรือหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ๕.๒ เครื่องมือทีใ่ ช้ในการประเมิน ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานการทําแผนภมู เิ ก่ียวกับ ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมายขององค์กร หรือหนว่ ยงานต่าง ๆ ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรม เรอื่ ง ซื่อสตั ย์ สจุ รติ ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป ๖. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื .......................................ครผู ูส้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เหน็ ผูบ้ รหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .....................................ผบู้ ริหาร (นายกุศล ชมุ ปัญญา) ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านศรวี ชิ า “คุรุราษฎร์อุทิศ”
137 ใบความรู้ เรอื่ ง ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ระเบียบวนิ ัย คอื คณุ สมบตั ิท่สี าํ คัญในการดําเนนิ ชวี ิต ความสามารถของบุคคลในการควบคมุ อารมณ์ และพฤติกรรม ของตนเอง ให้เป็นไปตามทีม่ ุง่ หวงั โดยเกดิ จากการสํานกึ ซึ่งตอ้ งไมก่ ระทาํ การใด อนั เปน็ ผลทาใหเ้ กิดความยุ่งยากแก่ ตนเองในอนาคต หากแต่ตอ้ งเปน็ ส่งิ ทีก่ อ่ ให้เกดิ ความเจรญิ รุ่งเรืองแกต่ นเองและผู้อนื่ โดย กฎ คอื ข้อบังคบั ที่อยใู่ นความเป็นจริง เพอ่ื ไม่ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ทรัพยส์ นิ และ ชีวิต ระเบยี บวนิ ยั นั้นเปน็ สิ่งซ่ึง มีความสาํ คญั ยิง่ โดยเฉพาะกับนกั เรยี นหรอื เยาวชน อนั จะเป็นกาํ ลังอยา่ งมากในการพัฒนาประเทศ กตกิ า คือ กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง หรอื ข้อกาํ หนด ท่ีบุคคลตง้ั แต่ ๒ ฝุายไปใชเ้ ป็นหลักปฏบิ ัตเิ พอ่ื ใหเ้ กิดความ เป็นธรรมแก่ทุกฝาุ ย กฎหมาย คอื กฎที่สถาบัน หรือผ้มู ีอานาจสูงสุดในรฐั ตราขน้ึ หรือที่เกิดข้นึ จากจารีตประเพณีอันเปน็ ที่ ยอมรบั นบั ถือ เพอื่ ใช้ในการบรหิ ารประเทศ เพ่ือใชบ้ ังคบั บุคคลให้ปฏบิ ตั ิตาม
138 แบบสงั เกตพฤติกรรม เรื่อง ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ คําชี้แจง การบนั ทกึ ใหท้ าํ เครื่องหมาย ลงในช่องท่ตี รงกบั พฤตกิ รรมทเ่ี กดิ ข้ึนจริง รายการ เลขที่ ช่ือ - สกุล พูด ไมล่ กั ตรงไป ทําตัว ร้จู กั สรุปผล ความ ขโมย ตรงมา น่าเชอื่ ถือ แยกแยะ การประเมนิ จรงิ ประโยชน์ สว่ นตน ผา่ น ไม่ผา่ น กับ ประโยชน์ สว่ นรวม เกณฑ์การประเมนิ ๓ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่านต้ังแต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น ผา่ น ลงชอื่ ผู้ประเมนิ ( ) ///
139 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี ๔ ชอื่ หนว่ ย พลเมืองกับความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๓ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ เรื่อง ความรับผดิ ชอบ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความรับผดิ ชอบต่อสังคม ๑.๒ ปฏิบตั ติ นตามหน้าทพ่ี ลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของการมคี วามรบั ผดิ ชอบ ๒.๓ ยกตัวอยา่ งการปฏบิ ตั ติ นที่แสดงถงึ ความรับผิดชอบได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ความหมายของความรับผดิ ชอบ ความรับผดิ ชอบคือ การปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู ีความรับผดิ ชอบ มีวินยั ต่อ ตนเอง กระทําได้ โดยการปฏบิ ัตหิ น้าที่ทีต่ นไดร้ ับมอบหมายในฐานะนักเรยี น และการเป็นบตุ รในครอบครวั ด้วยความตัง้ ใจได้เปน็ อยา่ งดี เช่น - การต้ังใจเรยี นหนังสอื - ดูแลตนเองในกิจวัตรประจาวนั - เชื่อฟงั คาสัง่ สอนของพอ่ แม่ - มาโรงเรียนให้ทนั เวลา - ช่วยพอ่ แมท่ ํางานบา้ น ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ / ค่านิยม คานงึ ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ ๑) ชว่ั โมงที่ ๑ ๑. นักเรยี นดวู ดี ทิ ัศน์ เรอ่ื งรจู้ ักหน้าท่ี นกั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ ตวั ละครในเรอ่ื งดังกลา่ วมกี าร กระทําใดทแี่ สดงออกถึงการมคี วามรบั ผดิ ชอบหรอื ไม่ แล้วสง่ ผลกระทบตอ่ สิง่ ใดบ้าง ๒. นกั เรยี นดูแผนภาพความคดิ เพอื่ ศึกษาความรู้การปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีวนิ ัยต่อ ตนเองจาก แล้วชว่ ยกนั สรปุ การปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้มู คี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ินยั ตอ่ ตนเอง แล้วให้นักเรียนแสดงความ คดิ เหน็ ถึงผลกระทบจากการกระทําของบคุ คลในภาพว่าส่งผลตอ่ สงั คมละประเทศชาตอิ ยา่ งไร ๓. นักเรยี นดวู ิดโี อ เรอ่ื ง ความรบั ผิดชอบ และครตู ้ังคาถามรว่ มกันสนทนาเน้อื หาในวดิ ีโอเรอื่ ง ความรบั ผดิ ชอบ ๔. ครู และนักเรยี นช่วยกนั สรุป ความหมายของความรบั ผิดชอบว่า “ความรบั ผิดชอบ คอื การ ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ีความรับผดิ ชอบ มีวินัยตอ่ ตนเอง กระทาได้ โดยการปฏบิ ตั หิ นา้ ทที่ ่ตี นได้รบั มอบหมายใน ฐานะนกั เรียน และการเป็นบตุ รในครอบครวั ด้วยความต้งั ใจได้เปน็ อยา่ งดี”
140 ๒) ชัว่ โมงที่ ๒ ๑. นกั เรยี นจบั กลมุ่ ๕ – ๗ คน ทาํ ใบงานเร่ือง สดุ ยอดในตวั เรา ๒. นักเรยี นยกตัวอยา่ งการปฏิบัตติ นให้เปน็ ผู้มคี วามรบั ผิดชอบต่อโรงเรยี น และตอ่ พอ่ แม่ ว่าตอ้ ง ปฏิบัติอย่างไรบา้ งโดยให้นักเรยี นไปคน้ ควา้ จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ๓. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั นําเสนอผลงานกลมุ่ ในชน้ั เรียนโดยครูช่วยแนะนาเพม่ิ เติมในแนว ทางการปฏบิ ัตติ นใหเ้ ปน็ ผู้ทมี่ ีความรับผดิ ชอบ แลว้ ทาํ ใบงานเรื่อง เรื่อง สดุ ยอดในตวั เรา ๔. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ การปฏิบตั ิตนใหเ้ ปน็ ผู้มคี วามรบั ผดิ ชอบ ๕. ครใู ห้นักเรียนเขยี นเรียงความเรือ่ ง “ความรับผิดชอบของฉนั ” ๖. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ หนา้ ที่และความรับผิดชอบ “การปฏิบัตติ นตามความรับผดิ ชอบ เปน็ การปฏบิ ตั ิหนา้ ทีท่ ต่ี นไดร้ ับมอบหมายในฐานะนกั เรียน และการเปน็ บตุ รในครอบครัวดว้ ยความต้งั ใจได้ เปน็ อยา่ งดี เช่น - การตง้ั ใจเรยี นหนงั สอื - ดูแลตนเองในกจิ วตั รประจาวัน - เชอื่ ฟังคาสง่ั สอนของพ่อแม่ - มาโรงเรียนให้ทนั เวลา - ชว่ ยพอ่ แม่ทํางานบ้าน ฯลฯ” ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) วดี ีโอ เร่ืองร้จู กั หน้าที่ https://www.youtube.com/watch?v=GATjrfppBBA ๒) วดิ ีโอ เรอื่ งความรบั ผดิ ชอบ https://www.youtube.com/watch?v=๗kbnUOzerjg ๓) ใบงานเรอื่ ง สดุ ยอดในตัวเรา ๔) แผนภาพความคดิ การปฏบิ ตั ติ นใหม้ คี วามรบั ผิดชอบ ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑) ตรวจใบงานเรื่อง สดุ ยอดในตัวเรา ๒) ตรวจเรียงความ “เรอื่ งความรบั ผดิ ชอบของฉัน” ๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการประเมนิ ๑) ใบงานเรื่อง เขาทาํ อะไร ? ๒) เรียงความเรอื่ ง “ความรบั ผดิ ชอบของฉัน” ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ๘๐ ขึน้ ไป ๖. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื .......................................ครผู สู้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .....................................ผู้บรหิ าร (นายกศุ ล ชุมปญั ญา) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นศรีวิชา “คุรรุ าษฎรอ์ ทุ ศิ ”
141 แผนภาพความคิด การปฏบิ ัติตนใหม้ ความรับผิดชอบ ทํางานที่ได้รบั มอบหมายให้ ทาํ งานการบ้าน และทบทวนวิชา เสร็จทันเวลา ทเ่ี รียนมาทุกวนั ตัง้ ใจเรยี นหนังสอื ความรบั ผดิ ชอบ ดูแลตนเองในกจิ วตั รประจาํ วนั ทาํ เวรประจาวัน ชว่ ยพ่อแม่ทาํ งานบ้าน มาโรงเรยี นทันเวลา
142 ใบงาน สุดยอดในตัวเรา คําช้แี จง จงตอบคาํ ถามดังต่อไปนี้ ๑. นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู้ ีความรับผดิ ชอบ ตอ่ ตนเองในฐานะทเ่ี ปน็ นกั เรยี นไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ๑. ............................................................................................................................. ............................ ๒. ............................................................................................................................. ............................ ๓. ......................................................................................................................................................... ๔. ......................................................................................................................... ................................ ๕. ......................................................................................................................................................... ๒. นกั เรียนจะปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผคู้ วามรับผดิ ชอบต่อตนเองในฐานะท่เี ปน็ ลกู ของคุณพอ่ คณุ แม่ได้อย่างไร ๑. ......................................................................................................................................................... ๒. ......................................................................................................................... ................................ ๓. ......................................................................................................................... ................................ ๔. ............................................................................................................................. ............................ ๕. .........................................................................................................................................................
143 แผนการจดั การเรยี นรู้ ชันประถมศึกษาปที ่ี ๔้ หน่วยที่ ๔ ชื่อหนว่ ย พลเมอื งกับความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม เวลา ๓ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรื่อง ความเปน็ พลเมือง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับพลเมอื งและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ๑.๒ ปฏิบัตติ นตามหน้าทพี่ ลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของการเปน็ ผลเมอื งดีได้ ๒.๒ ยกตวั อย่างการปฏบิ ัตใิ หเ้ ปน็ พลเมืองทด่ี ไี ด้ ๒.๓ บอกผลเสียทเี่ กดิ จากการไมป่ ฏิบตั ติ นตามหน้าทข่ี องพลเมอื งทดี่ ไี ด้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ความหมายของพลเมอื งทีด่ ี พลเมอื งดี หมายถึง ผู้ท่ีปฏบิ ตั หิ น้าทพ่ี ลเมอื งได้ครบถ้วน ทง้ั กจิ ทตี่ อ้ งทาํ และกิจทีค่ วรทําหน้าที่ หมายถึง กจิ ท่ตี ้องทาํ หรอื ควรทาํ เปน็ ส่ิงทก่ี าํ หนดให้ทาํ หรอื ห้ามมใิ ห้กระทาํ ถา้ ทําก็ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลดี เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครัว หรือสงั คมสว่ นรวมแล้วแต่กรณี ถา้ ไม่ทําหรือไมล่ ะเวน้ การกระทําตามทก่ี าหนดจะได้รบั ผลเสยี โดยตรง คอื ไดร้ บั โทษ หรอื ถูกบังคบั เช่น ปรับ จาํ คุก หรอื ประหาร ชวี ติ เปน็ ต้น โดยทวั่ ไปส่ิงทร่ี ะบุกจิ ทตี่ อ้ งทํา ไดแ้ ก่ กฎหมาย เปน็ ตน้ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นิยม คานงึ ถึงผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาตมิ ากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชัว่ โมงที่ ๑ ๑. นักเรยี นดู วีดโี อ เรอ่ื งหกั เหล่ยี มคอร์รัปชั่น เรม่ิ ทค่ี ุณ...จบท่ีคุณ นกั เรยี นช่วยกนั วเิ คราะหว์ า่ ตัวละครในเรอ่ื งดงั กลา่ วมีการกระทาํ ใดทแี่ สดงออกถึงการเปน็ พลเมอื งดี การกระทําใดทแ่ี สดงว่าเป็นพลเมอื ง ไม่ดี และการเปน็ พลเมืองไมด่ ี มีผลกระทบต่อสงั คมอยา่ งไร ๒. นกั เรยี นดูภาพกิจกรรมตา่ ง ๆ ทีแ่ สดงถึงการมสี ่วนร่วมในสงั คม เชน่ ๒.๑ ภาพการปลกู ปาุ ๒.๒ ภาพการเลือกต้งั แล้วใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เหน็ ถงึ ผลกระทบจากการกระทําของบคุ คลในภาพวา่ สง่ ผลต่อ สังคมละประเทศชาติอย่างไร ๓. นักเรยี นทําใบงานเร่ือง เขาทาํ อะไร ? ๔. ครู และนกั เรยี นสรปุ ความหมายของพลเมอื งท่ีดี หมายถึง “ ผู้ ที่ปฏบิ ตั หิ น้าท่พี ลเมอื งได้ ครบถ้วน ท้ังกจิ ท่ตี ้องทํา และกจิ ทคี่ วรทําหนา้ ที่ หมายถึง กจิ ที่ตอ้ งทํา หรือควรทาํ เปน็ สิง่ ทีก่ าํ หนดใหท้ าํ หรือ ห้ามมใิ ห้กระทาํ ถา้ ทํากจ็ ะก่อให้เกดิ ผลดี เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครัว หรือสงั คมสว่ นรวมแลว้ แตก่ รณี
144 ถา้ ไมท่ าํ หรือไมล่ ะเว้นการกระทําตามทก่ี ําหนดจะไดร้ ับผลเสียโดยตรง คือ ไดร้ บั โทษ หรอื ถูกบังคบั เชน่ ปรับ จําคกุ หรือประหารชีวติ เปน็ ตน้ โดยทั่วไปส่ิงที่ระบกุ จิ ท่ตี ้องทาํ ได้แก่ กฎหมาย เปน็ ต้น” ๒) ช่ัวโมงท่ี ๒ ๑. นกั เรียนจับกลุม่ ๕ – ๗ คน ทําใบงานเรอ่ื ง บทบาทหนา้ ทพ่ี ลเมอื งท่ดี ี ๒. นกั เรยี นยกตวั อยา่ งการปฏบิ ตั ิตนใหเ้ ปน็ พลเมืองทด่ี ี วา่ ต้องปฏิบตั อิ ยา่ งไรบ้างโดยใหน้ ักเรียน ไปคน้ ควา้ จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ๓. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั นาํ เสนอผลงานกล่มุ ในชนั้ เรยี นโดยครชู ่วยแนะนาํ เพิ่มเตมิ ในแนว ทางการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทผ่ี ลเมืองทีด่ ี ๔. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ การปฏบิ ัตติ นให้เปน็ พลเมืองดี ๕. ครูใหน้ ักเรยี นกลุ่มเดมิ ช่วยกันวางแผนทํากจิ กรรมรว่ มกนั ท่แี สดงถงึ การปฏบิ ัตติ นตามบทบาท หน้าท่ีของพลเมืองดีและผลเสยี จากการไมป่ ฏบิ ัตติ ามหน้าท่ีการเป็นพลเมอื งดใี นขอบข่าย ดังน้ี ๕.๑ เคารพสิทธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผู้อน่ื ๕.๒ ทาประโยชน์ตอ่ สังคมและประเทศชาติ ๖. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ เขยี นแผนดาํ เนนิ กจิ กรรมลงในแบบบนั ทกึ ปฏิบตั ิตนพลเมืองดีและผลเสยี ที่ เกิดจากการไมป่ ฏบิ ัตติ ามหน้าท่ีพลเมืองดี แล้วสง่ แผนดําเนินกิจกรรมตอ่ ครู ๗. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปความเปน็ พลเมืองดีว่า “บคุ คลจะเป็นพลเมอื งดขี องสังคมนั้น ต้อง ตระหนักถงึ บทบาทหนา้ ที่ ทจ่ี ะตอ้ งปฏิบตั ิ และมงุ่ มน่ั เพือ่ ใหบ้ รรลเุ ปาู หมาย ด้วยความรับผดิ ชอบอย่างเตม็ ท่ี สอดคล้องกบั หลักธรรม วัฒนธรรมประเพณี และรฐั ธรรมนญู ที่กาหนดไว้ รวมทั้งบทบาททางสังคมท่ตี นดํารง อยู่ เพอ่ื ใหเ้ กิดประสทิ ธภิ าพสงู สุด และไดป้ ระสทิ ธผิ ลทั้งในส่วนตนและสังคม เมือ่ สามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ งสมบรู ณย์ อ่ มเกิดความภาคภูมิใจและเกิดผลดที ัง้ ต่อตนเองและสังคม ด้วยการเปน็ พลเมอื งดีทเ่ี คารพ กฎหมาย เคารพสิทธเิ สรีภาพของผู้อนื่ มคี วามกระตอื รอื ร้นทีจ่ ะเขา้ มามีสว่ นร่วมในการแกป้ ญั หาของชมุ ชน และสังคม มคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมเปน็ หลักในการดาํ เนนิ ชวี ิตอย่างผาสุข” ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) วีดีโอ เรอื่ งหกั เหลี่ยมคอรร์ ัปช่ัน เรม่ิ ทค่ี ณุ ...จบทีค่ ุณ https://www.youtube.com/watch?v=ihrlY๖zniZw ๒) ใบงานเรอ่ื ง เขาทาํ อะไร ? ๓) ใบงานเร่อื ง บทบาทหนา้ ที่พลเมอื งดี ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจใบงานเรอื่ ง เขาทําอะไร ? ๒) ตรวจใบงานเรอ่ื ง บทบาทหนา้ ท่ีพลเมืองดี ๕.๒ เครอื่ งมือที่ใช้ในการประเมนิ ๑) ใบงานเรื่อง เขาทาํ อะไร ? ๒) ใบงานเรื่อง บทบาทหนา้ ทพ่ี ลเมืองดี ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ๘๐ ขนึ้ ไป
145 ๖. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ.......................................ครผู ้สู อน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .....................................ผู้บริหาร (นายกุศล ชุมปญั ญา) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านศรีวิชา “คุรุราษฎรอ์ ทุ ิศ”
146 ใบงาน เรื่อง บทบาทหนา้ ท่ีพลเมืองดี คําชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นผังมโนทศั นแ์ สดงถึงบทบาทหนา้ ทผ่ี ลเมอื งดีต่อโรงเรยี นและสังคม บทบาทหน้าที่ พลเมอื งดีตอ่ โรงเรียน และสังคม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431