47 แบบสังเกตพฤตกิ รรม เรื่อง ซอื่ สตั ย์ สุจรติ คําชี้แจง การบันทกึ ใหท้ าํ เครือ่ งหมาย ลงในช่องทตี่ รงกบั พฤตกิ รรมที่เกดิ ข้ึนจรงิ รายการ รู้จกั เลขท่ี ช่อื - สกลุ พูด ตรงไป ทาํ ตวั แยกแยะ สรุปผล ความ นา่ เช่ือถอื ประโยชน์ การประเมนิ จรงิ ไม่ลัก ตรงมา ส่วนตน ขโมย กบั ประโยชน์ สว่ นรวม ผา่ น ไมผ่ า่ น เกณฑ์การประเมนิ ๓ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น ผ่าน ลงช่ือ ผปู้ ระเมิน () ///
48 แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ ๑ ชือ่ หน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ เร่ือง ประโยชน์สว่ นตนกับประโยชน์ส่วนรวม เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. ผลการเรียนรู้ นักเรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกการกระทําท่ีเป็นผลประโยชนส์ ่วนตนกับการกระทําทีเ่ ป็นผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ประโยชนส์ ว่ นตน หมายถึง การทบ่ี ุคคลทวั่ ไปในสถานะเอกชนหรือเจา้ หน้าท่ีของรฐั ไดท้ าํ กิจกรรมหรอื ได้ กระทาํ การต่าง ๆ เพือ่ ประโยชน์สว่ นตน ครอบครวั ญาติ เพ่อื นหรอื ของกลุ่มในสังคม ประโยชน์สว่ นรวมหรอื ประโยชน์สาธารณะ หมายถึง การที่บุคคลใด ในสถานะทเี่ ป็นเจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั ได้กระทําการใด ตามหนา้ ท่หี รอื ไดป้ ฏบิ ัตหิ นา้ ที่ อนั เปน็ การดาํ เนินการในอกี ส่วนหน่ึง ที่แยกออกมาจากการ ดาํ เนินการตามหนา้ ทีใ่ นสถานะของเอกชน ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) ซือ่ สัตยส์ ุจรติ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงที่ ๑ ๑. ครใู ห้นักเรยี นดภู าพเกย่ี วกับสาธารณะสมบตั ิ เชน่ สวนสาธารณะ รถไฟสาธารณะ หอ้ งสมุด เป็น ตน้ ๒. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสนทนาเกีย่ วกับภาพ ดงั น้ี ๒.๑ ภาพนเ้ี ก่ียวกบั อะไร ๒.๒ ภาพน้มี กี ิจกรรมอะไรบา้ ง ๒.๓ สง่ิ ของในภาพนี้อะไรทเี่ ปน็ ของสว่ นตวั ๒.๔ ส่งิ ของในภาพนอ้ี ะไรท่ีเปน็ ของสว่ นรวม ๓. ครสู รุปความหมายของคาํ วา่ “ผลประโยชน์สว่ นตน” กบั “ผลประโยชน์สว่ นรวม” ๔. ครซู ักถามนักเรยี นเก่ยี วกับสิ่งของสว่ นรวม ดงั นี้
49 ๔.๑ ส่ิงของทเี่ ป็นของส่วนรวมมปี ระโยชน์อย่างไร ๔.๒ ใครเปน็ ผไู้ ดร้ ับประโยชนจ์ ากสิง่ ของส่วนรวมนนั้ ๖. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ๔.๓ ใครเปน็ ผดู้ แู ลรกั ษาส่ิงของสว่ นรวม ………………………………………………………๔….๔……มวี…ธิ …กี …าร…ด…แู …ลร…ัก…ษ…าส…ง่ิ …ข…อง…ส…ว่ …นร…ว…ม…อย…า่ …ง…ไร………………………………………………………….. ………………………………………๕….…ค…ร…ซู …ักถ…า…ม…นัก…เ…รยี…น…เก…ยี่ …ว…ก…ับส…่งิ …ข…อง…ส…่ว…นต…น……ดงั…น…ี้ ………………………………………………………………….. ………………………………………………………๕….๑……ส่ิง…ข…อ…งท…ีเ่ …ป็น…ข…อ…ง…ส่ว…น…ต…น…มีป…ร…ะ…โย…ช…น…์อ…ยา่…ง…ไร……………………………………………………….. ………………………………………………………๕….๒……ใค…ร…เป…น็ …ผ…ไู้ ด…ร้ …ับ…ปร…ะ…โย…ช…น…์จ…าก…ส…ง่ิ ข…อ…ง…สว่…น…ต…น…น…้ัน………………………………………………….. ๕.๓ ใครเปน็ ผดู้ ูแลรกั ษาส่ิงของสว่ นตน ๒) ช่ัวโมงที่ ๒ ๕.๔ มีวิธกี ารดแู ลรักษาส่งิ ของส่วนตนอย่างลไงรชื่อ.......................................ครผู ู้สอน (.........................................) ๑. ครูให้นักเรียนทาํ ใบงาน เรื่อง ผลประโยชนส์ ่วนตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวม ๗. ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ๒. ใหน้ กั เรยี นนําเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน .............................................๓.....น...กั ..เ.ร..ยี..น...น...าํ ..ผ..ล..ง..า..น...ไ.ป...ต..ดิ...ท..่ีป...ูา..ย..ป...ร..ะ..ช..า..ส...มั ..พ...นั..ธ...์ข..อ..ง..โ.ร..ง..เ..ร..ยี ..น.............................................................. .....๔....๒....ส...อื่ ..ก..า..ร..เ..ร..ยี ..น..ร..ู้..................................................................................................................................................................... ๑) รปู ภาพเกยี่ วกับสาธารณะสมบตั ิ เชน่ สวนสาธารณะ เป็นต้น ๒) ใบงาน เร่ือง ผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ลงชอื่ .....................................ผู้บริหาร ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (นายกศุ ล ชมุ ปญั ญา) ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านศรีวิชา “ครุ รุ าษฎร์อุทิศ” ๑) ตรวจผลงานการทาใบงาน เรื่อง ผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ๒) สงั เกตพฤติกรรม ซื่อสัตย์ สุจริต ๕.๒ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานใบงาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรม ซ่อื สตั ยส์ ุจริต ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป
50 ใบงาน เรอ่ื ง ผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ช่ือ.....................................................................................................ช้ัน................ ..........เลขท่.ี ................. คําชแ้ี จง ให้นกั เรยี นวาดภาพระบายสี เกย่ี วกับสิง่ ของที่เป็นของส่วนตนและสงิ่ ของทีเ่ ปน็ ขอสว่ นรวมอยา่ งละ ๓ - ๕ ภาพ สง่ิ ของที่เป็นของส่วนตน สิ่งของทีเ่ ปน็ ของสว่ นรวม
51 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เรอ่ื ง ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ คําช้แี จง การบันทกึ ใหท้ ําเครื่องหมาย ลงในช่องทต่ี รงกบั พฤตกิ รรมทีเ่ กิดขึน้ จรงิ รายการ รจู้ กั เลขที่ ชอ่ื - สกลุ พูด ตรงไป ทาํ ตัว แยกแยะ สรุปผล ความ นา่ เชอ่ื ถอื ประโยชน์ การประเมิน จรงิ ไมล่ กั ตรงมา ส่วนตน ขโมย กับ ประโยชน์ ส่วนรวม ผา่ น ไมผ่ า่ น เกณฑก์ ารประเมิน ๓ รายการข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น ปฏิบตั ติ ัง้ แต่ ๑ - ๒ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน ปฏบิ ตั ิ ลงชื่อ ผ้ปู ระเมิน ( ) ///
52 หน่วยท่ี ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
53 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๒ ชือ่ หน่วย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๑ ช่วั โมง แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ือง การทาํ การบ้าน ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ความเข้าใจ เก่ยี วกบั ความไม่ทนและความละอายตอ่ การทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้ไมท่ นและละอายตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถเรยี นรแู้ ละมีความเขา้ ใจเกย่ี วกับความไม่ทนและความละอายต่อการทจุ ริต ๒.๒ นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผไู้ มท่ นและละอายตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การทาํ การบ้านถือวา่ เปน็ การฝกึ ฝนและการทบทวนบทเรียนทไ่ี ดเ้ รยี นมา แต่ถ้าหากลอกการบ้านถอื ว่า เปน็ การกระทําทไี่ ม่ถูกต้องเปน็ การกระทาํ ทีท่ ุจรติ ทกี่ อ่ ให้เกิดผลเสยี ตอ่ ตนเองและผูอ้ น่ื นอกจากนีย้ ังเปน็ การ ประพฤตไิ มต่ รงตามความเปน็ จรงิ ท้งั ตอ่ ตนเองและผู้อน่ื ดว้ ยกาย วาจา และใจ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ ๑) ทักษะกระบวนการคดิ ๒) ความสามรถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านิยม ๑) ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ๒) ใฝเุ รียนรู้ ๓) มุ่งม่ันในการทํางาน ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขน้ั การเรยี นรู้ ๑) ใหน้ กั เรียนดภู าพ ๒ ภาพ เกี่ยวกับ การลอกการบา้ น กบั การทาํ การบ้านดว้ ยตนเอง ๒) ใหน้ ักเรยี นคิดวเิ คราะหต์ ามหัวข้อดังตอ่ ไปนี้ โดยทาํ ลงในใบงาน เร่ือง เด็กดี มคี วามสุจริตท่ีครเู ตรยี มให้ ๒.๑ การลอกการบา้ นเปน็ สงิ่ ท่ีควรทาํ หรอื ไม่ ๒.๒ การทาํ การบ้านดว้ ยตนเองนนั้ มีผลดอี ย่างไรบา้ ง ๓) ครใู หน้ กั เรียนส่งตัวแทนออกมานําเสนอการวเิ คราะหข์ องตนเองหน้าชั้นเรยี นต่อการกระทําทีไ่ ม่ถูกตอ้ ง ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑) รปู ภาพ เกย่ี วกับ การลอกการบ้าน กบั การทาํ การบา้ นด้วยตนเอง ๒) ใบงาน
54 ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมในการทาํ งานเปน็ รายบคุ คล ๒) ประเมนิ ผลงานนักเรยี น ๕.๒ เคร่ืองมอื ในการประเมนิ ๑) แบบประเมนิ ผลงานนกั เรยี น ๒) แบบตรวจผลงานนกั เรยี น ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ ๑) เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล ๑. การใหค้ ะแนน ให้ ๑ คะแนน ๒. การสรปุ ผลการประเมนิ ให้เป็นระดบั คุณภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ กาํ หนดเกณฑไ์ ดต้ ามความเหมาะสมหรอื อาจใชเ้ กณฑด์ งั น้ี ๙–๑๐ คะแนน = ๔ (ดีมาก) ๗–๘ คะแนน = ๓ (ดี) ๕–๖ คะแนน = ๒ (พอใช้) ๐–๔ คะแนน = ๑ (ควรปรบั ปรงุ ) ๒) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน ประเดน็ ทีป่ ระเมิน คะแนน ๑. ผลงานตรงกับจดุ ประสงค์ที่ กําหนด ๔ ๓๒ ๑ ๒. ผลงานมคี วามถูกต้องสมบรู ณ์ ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่ จุดประสงค์ทกุ ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง สอดคล้องกับ ๓. ผลงานมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ประเด็น กบั จุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ จุดประสงค์ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ ๔. ผลงานมคี วามเป็นระเบยี บ ผลงานถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง ครบถว้ น เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เป็นส่วนใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานถูกตอ้ งเปน็ ผลงานถูกตอ้ งเปน็ ผลงานไม่แสดง ถึงความคิด สว่ นใหญ่ บางประเด็น แนวคดิ ใหม่ สรา้ งสรรค์แปลก ใหมแ่ ละเป็น ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมาความ ระบบ แปลกใหมแ่ ตย่ งั ไม่ น่าสนใจ แต่ยงั ไม่ ผลงานมคี วามเปน็ เปน็ ระบบ มแี นวคดิ แปลก ระเบยี บแสดงออก ใหม่ ถงึ ความประณตี ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานส่วนใหญ่ ความเปน็ ระเบียบ ระเบียบแต่มไี ม่เป็นระเบียบ แต่ยังมี ขอ้ บกพร่องและมขี ้อบกพรอ่ ง ขอ้ บกพร่อง บางส่วน ๓) เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ นักเรยี นไดค้ ะแนน ๑๓ คะแนนข้นึ ไปรอ้ ยละ ๘๐ ถอื วา่ ผ่าน
55 ๖. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื .......................................ครผู สู้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เหน็ ผู้บรหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.....................................ผบู้ รหิ าร (นายกศุ ล ชมุ ปญั ญา) ผ้อู านวยการโรงเรยี นบา้ นศรีวชิ า “ครุ รุ าษฎร์อุทิศ”
56 แบบประเมนิ ผลงานนักเรยี น ชอ่ื .....................................................................................................................ชั้น..........................เลขท่ี.................. หนว่ ยการเรยี นรู้ท.่ี ........กจิ กรรม............................................................. คําชี้แจง ให้ผ้ปู ระเมนิ ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ประเด็นทีป่ ระเมนิ ผูป้ ระเมนิ ๑. ตรงจดุ ประสงค์ทีก่ ําหนด ตนเอง เพอ่ื น ครู ๒. มคี วามถกู ตอ้ ง ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔๑ ๒ ๓ ๔ ๓. มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ๔. มีความเปน็ ระเบียบ รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ยี ลงชือ่ ผปู้ ระเมนิ ................................................(ตนเอง) ลงช่ือผปู้ ระเมนิ ................................................(เพ่อื น) ลงชอื่ ผู้ประเมิน................................................(ครู)
57 เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นทปี่ ระเมนิ คะแนน ๑. ผลงานตรงกบั จดุ ประสงคท์ ี่ กาํ หนด ๔ ๓๒ ๑ ๒. ผลงานมคี วามถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่ จดุ ประสงคท์ ุก สอดคลอ้ งกบั ๓. ผลงานมีความคดิ สร้างสรรค์ ประเดน็ กับจุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ เน้อื หาสาระของ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น เนอ้ื หาสาระของ ๔. ผลงานมีความเป็นระเบียบ ผลงานถูกต้อง เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ครบถ้วน ผลงานถูกตอ้ งเปน็ ผลงานถกู ต้องเปน็ เปน็ ส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่ บางประเด็น ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมาความ ผลงานไม่แสดง ถงึ ความคิด แปลกใหมแ่ ตย่ ังไม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไม่ แนวคดิ ใหม่ สรา้ งสรรคแ์ ปลก เปน็ ระบบ มแี นวคดิ แปลก ใหม่และเปน็ ใหม่ ผลงานสว่ นใหญ่ ระบบ ผลงานสว่ นใหญม่ ี ไม่เปน็ ระเบียบ ความเปน็ ระเบียบ ผลงานมีความเปน็ และมีข้อบกพรอ่ ง ผลงานมีความเป็น แต่ยังมี ระเบียบแต่มี ระเบียบแสดงออก ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง ถึงความประณตี บางส่วน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ นักเรียนได้คะแนน ๑๓ คะแนนขนึ้ ไปรอ้ ยละ ๘๐ ถือวา่ ผ่าน
58 แบบประเมนิ พฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบคุ คล ผลงาน/กจิ กรรมที่ ........ เรื่อง ............................................................................................ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ................................................................................................................ คําช้ีแจง สงั เกตพฤติกรรมในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมของนักเรยี น แล้วเขยี นเคร่ืองหมาย ลงในช่องรายการ พฤตกิ รรมท่นี ักเรยี นปฏิบตั ิ เลข รายการพฤติกรรม ระดบั ที่ คณุ ภาพ เคา ทํา รวม ๔๓ ๒ ๑ ช่อื – รพ ตาม คะ สกลุ สนใจ ตอบ เสนอ รับฟงั ให้ ม่งุ มน่ั ประเมนิ ข้อตก หนา้ พอใจ แนน ในการ คําถาม ความ ความ ความ และปรับ ลงของ ที่ที่ กับ ทํางาน ตรง คิด คิดเหน็ ชว่ ย ทาํ งาน ปรุงงาน ได้รับ ความ ของ เหลือ ให้สาํ ด้วยความ กล่มุ มอบ สําเรจ็ ประ เหน็ ผู้อื่น ผูอ้ ่นื เรจ็ เตม็ ใจ หมาย ของ เดน็ งาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. การให้คะแนน ให้ ๑ คะแนน ๒. การสรปุ ผลการประเมนิ ให้เป็นระดับคณุ ภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ กาหนดเกณฑ์ได้ตามความ เหมาะสมหรอื อาจใช้เกณฑ์ดงั น้ี ๙–๑๐ คะแนน = ๔ (ดมี าก)๗–๘ คะแนน = ๓ (ดี) ๕–๖ คะแนน = ๒ (พอใช)้ ๐–๔ คะแนน = ๑ (ควรปรับปรงุ )
59 ใบงาน เดก็ ดี มคี วามสุจริต คําชแี้ จง : ให้นกั เรียนวิเคราะห์ประเด็นดังต่อไปนี้ ๑. การลอกการบา้ นเปน็ ส่ิงท่คี วรทําหรอื ไม่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...................................................................................................................... ๒. การทาการบา้ นด้วยตนเองนั้นมผี ลดอี ย่างไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. .
แผนการจดั การเรยี นรู้ 60 หนว่ ยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๑ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง การทาเวร ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ความเขา้ ใจ เกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ๑.๒ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั พลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๑.๓ สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๑.๔ ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ท่พี ลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ เกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ ส่วนรวม ๒.๒ นักเรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมอื งและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ๒.๓ นกั เรยี นสามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๒.๔ นกั เรียนสามารถปฏิบตั ติ นตามหน้าที่พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม จําเป็นอย่างย่ิงทเ่ี ราตอ้ งรูจ้ ักมคี วามรบั ผดิ ชอบรู้หนา้ ทขี่ องตนเอง แยกแยะระหว่าง ผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวม มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม รักษาสมบตั สิ ่วนตนและส่วนรวม หนา้ ทีข่ องพลเมือง หมายถงึ ผู้ทปี่ ฏิบตั หิ น้าทีพ่ ลเมอื งไดค้ รบถ้วน ทง้ั กิจท่ตี อ้ งทาํ และกิจทคี่ วรทาํ ซงึ่ เป็น สิ่งทีก่ าํ หนดให้ทํา หรือหา้ มมใิ หก้ ระทํา ถา้ ทาํ กจ็ ะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลดี เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครัว หรอื สังคม ส่วนรวมแล้วแตก่ รณี ถ้าไม่ทําหรอื ไม่ละเว้นการกระทาํ ตามทีก่ าํ หนดจะไดร้ ับผลเสียโดยตรง คือ ไดร้ ับโทษ หรอื ถูก บงั คับ เชน่ ปรบั จาํ คกุ หรอื ประหารชวี ติ เป็นตน้ โดยท่ัวไปสงิ่ ท่รี ะบกุ ิจทต่ี อ้ งทาํ ไดแ้ ก่ กฎหมาย เปน็ ตน้ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ ๑) ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๒) ความสามรถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๓.๓ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑) มวี นิ ัย ๒) มจี ติ สารธารณะ ๓) มุ่งมนั่ ในการทํางาน ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั การเรยี นรู้ ๑) ให้นักเรียนดคู ลปิ เรือ่ ง หัวหน้าหอ้ ง ๒) ใหน้ กั เรยี นคดิ วิเคราะหต์ ามหวั ข้อดงั ต่อไปนี้ โดยทําลงในใบงานท่ีครูเตรยี มให้
61 ๑. นกั เรียนมคี วามคดิ เหน็ อย่างไรเกี่ยวกับพฤติกรรมของปนั ปนั ๒. ถา้ นักเรียนเป็นเพ่อื นของปนั ปันจะชว่ ยแกไ้ ขพฤตกิ รรมของปนั ปนั ไดอ้ ย่างไร ๓) ครใู ห้นกั เรียนสง่ ตัวแทนออกมานําเสนอการวเิ คราะห์ของตนเองหน้าช้ันเรียน ๔) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ “การอยรู่ ่วมกนั ในสังคมจาํ เปน็ จะต้องรหู้ นา้ ท่ีของตนเองและการพึง่ พา อาศัยซึง่ กนั และกนั ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ ๑) คลิปวิดโี อ เรือ่ ง หวั หน้า ๒) ใบงาน ๓) ใบความรู้เก่ยี วกบั พลเรือนและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) สงั เกตการพฤติกรรมรายบุคคล ๒) ตรวจใบงาน ๕.๒ เครือ่ งมือในการประเมนิ ๑) แบบประเมนิ ผลงานนักเรยี น ๒) แบบตรวจใบงาน ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน ๑) เกณฑก์ ารประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล ๑. การให้คะแนน ให้ ๑ คะแนน ๒. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ปน็ ระดบั คุณภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ กาหนดเกณฑไ์ ดต้ ามความเหมาะสม หรอื อาจใช้เกณฑด์ ังนี้ ๙–๑๐ คะแนน = ๔ (ดีมาก) ๗–๘ คะแนน = ๓ (ดี) ๕–๖ คะแนน = ๒ (พอใช)้ ๐–๔ คะแนน = ๑ (ควรปรบั ปรงุ ) ๖. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ.......................................ครผู ูส้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .....................................ผู้บรหิ าร (นายกุศล ชุมปญั ญา) ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านศรีวิชา “คุรุราษฎรอ์ ุทิศ”
62 ๒) เกณฑ์การใหค้ ะแนนผลงาน คะแนน ประเดน็ ที่ประเมิน ๔ ๓๒ ๑ ๑. ผลงานตรงกบั จดุ ประสงคท์ ี่ ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่ กําหนด จุดประสงคท์ ุก สอดคล้องกบั ประเด็น กับจดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ จดุ ประสงค์ ๒. ผลงานมคี วามถูกต้องสมบูรณ์ เนอ้ื หาสาระของ เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น เนือ้ หาสาระของ ผลงานถูกตอ้ ง เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถกู ต้องเป็น เป็นสว่ นใหญ่ สว่ นใหญ่ บางประเด็น ๓. ผลงานมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมาความ ผลงานไม่แสดง ๔. ผลงานมีความเปน็ ระเบียบ ถึงความคดิ แปลกใหม่แตย่ ังไม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไม่ แนวคดิ ใหม่ สร้างสรรคแ์ ปลก เปน็ ระบบ มีแนวคดิ แปลก ใหม่และเปน็ ระบบ ใหม่ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่ ระเบียบแสดงออก ความเป็นระเบยี บ ระเบียบแตม่ ี ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ถึงความประณตี แตย่ งั มี ข้อบกพรอ่ ง และมีขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง บางส่วน ๓) เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ นกั เรยี นได้คะแนน ๑๓ คะแนนขน้ึ ไปร้อยละ ๘๐ ถอื ว่าผ่าน
63 แบบประเมนิ ผลงานนกั เรียน ชอ่ื .....................................................................................................................ช้ัน..........................เลขท่ี.................. หน่วยการเรียนรู้ท.ี่ ........กจิ กรรม............................................................. คําชี้แจง ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ใสเ่ ครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ประเด็นทีป่ ระเมิน ผูป้ ระเมิน ๑. ตรงจดุ ประสงค์ท่ีกาหนด ตนเอง เพอื่ น ครู ๒. มีความถูกต้อง ๑ ๒ ๓๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๓. มีความคิดสรา้ งสรรค์ ๔. มีความเป็นระเบยี บ รวม รวมทกุ รายการ เฉลี่ย ลงชอื่ ผูป้ ระเมิน................................................(ตนเอง) ลงชอื่ ผ้ปู ระเมนิ ................................................(เพอื่ น) ลงชื่อผู้ประเมิน................................................(ครู)
64 เกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน คะแนน ประเด็นทปี่ ระเมิน ๔ ๓๒ ๑ ๑. ผลงานตรงกับจดุ ประสงค์ท่ี ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่ กาํ หนด จุดประสงค์ทุก สอดคลอ้ งกบั ๒. ผลงานมคี วามถูกต้องสมบูรณ์ ประเด็น กบั จุดประสงค์ กับจุดประสงค์ จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น เนอ้ื หาสาระของ ๓. ผลงานมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ผลงานถกู ต้อง เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ ผลงานไมถ่ กู ต้อง ครบถ้วน ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้องเป็น เป็นสว่ นใหญ่ ส่วนใหญ่ บางประเด็น ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมาความ ผลงานไม่แสดง ถึงความคดิ แปลกใหมแ่ ตย่ งั ไม่ นา่ สนใจ แตย่ งั ไม่ แนวคิดใหม่ สร้างสรรค์แปลก เป็นระบบ มีแนวคิดแปลก ใหมแ่ ละเป็นระบบ ใหม่ ๔. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบียบ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บแสดงออก ความเปน็ ระเบียบ ระเบียบแตม่ ี ไม่เป็นระเบยี บ ถงึ ความประณตี แตย่ ังมี ข้อบกพรอ่ ง และมีข้อบกพร่อง ข้อบกพรอ่ ง บางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ นกั เรยี นได้คะแนน ๑๓ คะแนนขน้ึ ไปร้อยละ ๘๐ ถือวา่ ผา่ น
65 แบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบคุ คล ผลงาน/กจิ กรรมท่ี ........ เร่อื ง ............................................................................................ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ................................................................................................................ คําชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมในการปฏิบัตกิ จิ กรรมของนกั เรยี น แลว้ เขยี นเครือ่ งหมาย ลงในชอ่ งรายการ พฤติกรรมที่นักเรยี นปฏิบตั ิ เลขที่ รายการพฤติกรรม ระดับ คณุ ภาพ ๔๓ ๒๑ ชอื่ –สกุล ทํา ตาม รับฟัง ประเมนิ เคารพ หนา้ ที่ พอใจกบั สนใจใน ตอบคา เสนอ และ ข้อตก ทีไ่ ด้รบั ความสาํ การ ถามตรง ความ ความ ให้ความ มงุ่ ม่นั ปรับปรุง ลงของ มอบ เรจ็ ของ ทาํ งาน ประเด็น คิดเหน็ คิดเหน็ ชว่ ยเหลอื ทาํ งาน งานดว้ ย กลุ่ม งาน ของผ้อู ื่น ผอู้ นื่ ให้สาํ เรจ็ ความเต็ม ใจ หมาย รวม คะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ เกณฑก์ ารประเมิน ๑. การให้คะแนน ให้ ๑ คะแนน ๒. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ปน็ ระดบั คณุ ภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ กาหนดเกณฑไ์ ดต้ ามความ เหมาะสมหรอื อาจใช้ เกณฑด์ งั นี้ ๙–๑๐ คะแนน = ๔ (ดมี าก)๗–๘ คะแนน = ๓ (ดี) ๕–๖ คะแนน = ๒ (พอใช้)๐–๔ คะแนน = ๑ (ควรปรับปรุง)
66 ใบงาน หัวหน้าหอ้ ง คําช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์ประเดน็ ดังต่อไปน้ี ๑. นักเรียนมคี วามคดิ เหน็ อยา่ งไรเก่ยี วกับพฤตกิ รรมของปันปนั ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... ๒. ถ้านักเรียนเปน็ เพ่ือนของปนั ปันจะช่วยแก้ไขพฤติกรรมของปันปนั ไดอ้ ยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
67 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ ๒ ชอื่ หน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๒ ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ เรือ่ ง การสอบ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเป็นผูล้ ะอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ ทุกรูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสาํ คัญของการต่อตา้ นและการปูองกนั การทจุ รติ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกกฎระเบยี บในการสอบได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถบอกการกระทาํ ที่ไมเ่ หมาะสมในขณะทําการสอบได้ ๒.๓ นักเรยี นสามารถบอกผลเสยี ของการทุจรติ ในการสอบได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ กฎระเบียบในการสอบ ผเู้ ขา้ สอบตอ้ งปฏิบัตดิ ังต่อไปน้ี ๑) การแต่งกาย ถ้าเป็นนกั เรียนหรอื นกั ศึกษาต้องแตง่ เครอื่ งแบบนกั เรยี นหรอื นักศกึ ษาแล้วแตก่ รณี ถ้า เป็นผู้สมัครสอบต้องแต่งกายใหส้ ภุ าพเรยี บรอ้ ยตามประเพณีนยิ ม ๒) ไปถงึ สถานที่สอบก่อนเวลาเรมิ่ สอบตามสมควร ผใู้ ดไปไมท่ นั เวลา ลงมือสอบวิชาใด ไมม่ สี ทิ ธเิ ขา้ สอบ วิชานน้ั แตส่ าหรบั การสอบวชิ าแรกในตอนเชา้ ของ แต่ละวนั ผู้ใดเขา้ ห้องสอบหลังจากเวลาลงมือสอบแลว้ ๑๕ นาที จะไมไ่ ด้รบั อนญุ าตใหส้ อบวชิ านัน้ เว้นแตม่ ีเหตุความจาํ เปน็ ใหอ้ ยใู่ นดุลพินจิ ของประธานดาํ เนินการสอบ พจิ ารณาอนญุ าต ๓) ไมเ่ ขา้ หอ้ งสอบก่อนไดร้ บั อนญุ าต ๔) ไม่นาเอกสาร เครอื่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ สห์ รอื เครอ่ื งมอื สอื่ สารใด เขา้ ไปในหอ้ งสอบ ๕) นงั่ ตามท่ีกาหนดให้ จะเปลี่ยนที่น่ังก่อนไดร้ ับอนุญาตไมไ่ ด้ ๖) ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบเกย่ี วกับการสอบ และคาสั่งของผกู้ าํ กับการสอบ โดยไมท่ จุ ริตในการสอบ ๗) มิใหผ้ ้เู ข้าสอบคนอ่ืนคัดลอกคาํ ตอบของตน รวมทัง้ ไม่พดู คยุ กับผูใ้ ดในเวลาสอบ เมื่อมขี ้อสงสยั หรอื มี เหตุจาเป็นให้แจง้ ตอ่ ผู้กาํ กบั การสอบ ๘) ประพฤติตนเป็นสุภาพชน ๙) ผใู้ ดสอบเสร็จก่อน ผนู้ นั้ ต้องออกไปห่างจากหอ้ งสอบ และไมก่ ระทาํ การใด อนั เปน็ การรบกวนแกผ่ ู้ที่ ยงั สอบอยู่ แตท่ ั้งนผี้ ้เู ข้าสอบทกุ คนจะออกจากห้องสอบกอ่ นเวลา ๒๐ นาที หลังจากเร่มิ สอบวิชาน้ันไมไ่ ด้ ๑๐) ไม่นากระดาษสําหรับเขียนคาตอบทผ่ี ู้กาํ กบั การสอบแจกให้ออกไปจากห้องสอบ ๓.๒ สมรรถนะสําคญั ของผู้เรยี น ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคดิ
68 ๓) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๓.๓ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ซ่ือสตั ย์สจุ รติ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงที่๑ ๑. ครสู นทนาเกีย่ วกบั การเรียนการสอบของนกั เรียน เช่น ในการเรยี นจะต้องมีการทดสอบเพอื่ ให้ นกั เรียนได้รคู้ วามสามารถของตนเอง การสอบมีหลายคร้ัง ไดแ้ ก่ การสอบทา้ ยบทเรยี น การสอบกลางภาคเรยี น เป็นตน้ ๒. ครแู นะนาเรือ่ ง การทดสอบประเภทตา่ ง ๆ เช่น ๒.๑ การสอบภายในโรงเรียน ๒.๒ การสอบแขง่ ขนั ประเภทตา่ ง ๆ ๒.๓ การสอบเขา้ ทางาน ๓. ครแู นะนาเรอื่ งกฎระเบยี บกตกิ าในการเข้าห้องสอบ ไดแ้ ก่ ไม่นําหนังสือเข้าห้องสอบ ไมส่ ง่ เสยี งดัง เป็นต้น ๔. ครูใหน้ ักเรียนชมวีดีทศั น์ เร่อื ง คะแนนเตม็ ๕. ครใู ห้นักเรยี นวพิ ากษว์ ิจารณเ์ กย่ี วกับเรอ่ื งคะแนนเตม็ ตามประเดน็ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๕.๑ ทาํ ไมแจค็ จงึ คิดเงนิ ผดิ ๕.๒ ผลสดุ ทา้ ยของเรอ่ื งแจ็คเปน็ อย่างไร ๖. ครูให้นักเรียนช่วยกนั บอกพฤติกรรมทไี่ มเ่ หมาะสมในขณะทําการสอบ เชน่ เคาะโตะ๊ คุยกัน เป็นตน้ ๗. ครูให้นกั เรยี นช่วยกันบอกผลเสยี ของการทุจรติ ในการสอบ เช่น ถูกทําโทษ เป็นต้น ๘. ใหน้ ักเรียนทาํ ใบงานที่ ๑ เรือ่ ง การสอบ ตามประเด็นดังต่อไปนี้ ๘.๑ กฎระเบยี บในการสอบ ๘.๒ การกระทําทไี่ ม่เหมาะสมในการสอบ ๒) ชั่วโมงที่๒ ๑. ครใู ห้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ เป็น ๕ กลมุ่ หรือตามความเหมาะสม โดยใหศ้ กึ ษาค้นคว้าจากหอ้ งสมุด และอินเตอรเ์ น็ตเกี่ยวกับเรื่องการทจุ ริตในการสอบประเภทตา่ ง ๆ ๒. ครใู ห้นกั เรยี นนําเสนอขา่ ว/เหตุการณจ์ ากการศึกษาค้นคว้าหนา้ ชน้ั เรียน แล้วนาไปจดั ปาู ยนิเทศ ภายในบริเวณโรงเรียน ๓. ครใู ห้นักเรียนรอ้ งเพลง “ความซอ่ื สตั ย”์ และสรุปใจความสาํ คญั ของเน้อื เพลง ๔. ให้นักเรียนบอกผลเสยี ของการทจุ ริต โดยเขยี นลงในใบงานที่ ๒ แลว้ นําเสนอหนา้ ช้นั เรยี น ๕. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเกย่ี วกับผลเสยี ของการทุจรติ ในการสอบ ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ ๑. เพลง ความซอื่ สตั ย์ ๒. วดี ที ศั น์ เรอ่ื ง คะแนนเตม็
69 ๓. ใบงานที่ ๑ เรอ่ื ง การสอบ ๔. ใบงานท่ี ๒ เรื่อง ผลเสยี ของการทุจริตในการสอบ ๕. กา๖รป. บระนั เทมึกินหผลลังกกาารรเรจียดั นกราู้ รเรยี นรู้ …๕….…๑…ว…ธิ กี…า…ร…ปร…ะ…เม…ิน…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………๑….…ต…รว…จ…ผ…ลง…า…นใ…บ…งา…น…ท…่ี ๑……แ…ละ…ใ…บง…า…น…ท…ี่ ๒…………………………………………………………………………………………….. …………………………๒….…ส…ังเ…กต…พ…ฤ…ต…ิก…รร…ม…ซ…ื่อ…ส…ตั ย…ส์ …ุจ…รติ………………………………………………………………………………………………………….. …๕….…๒…เ…คร…่ือ…งม…ือ…ท…่ใี ช…้ใ…น…กา…ร…ป…ระ…เ…มนิ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๑. แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานใบงานที่ ๑ และใบงานท่ี ๒ ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ซื่อสตั ยส์ ุจรติ ในการทําข้อสอบ ลงช่อื .......................................ครผู ้สู อน (.........................................) ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป ๗. ความคดิ เหน็ ผู้บริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.....................................ผบู้ ริหาร (นายกุศล ชุมปญั ญา) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นศรวี ชิ า “ครุ รุ าษฎร์อุทิศ”
70 ภาคผนวก เพลง ความซ่อื สัตย์ ความซ่ือสตั ยเ์ ป็นสมบัติของผดู้ ี หากว่าใครไมม่ ชี าตินเ้ี อาดีไมไ่ ด้ มีความรู้ท่วมหัว เอาตวั ไม่รอดถมไป คดโกงแล้วใครจะรบั ไว้ให้ร่วมงานเอย จะรบั ไวใ้ หร้ ่วมงานเอย ความซ่ือสตั ย์เปน็ สมบัติของผู้ดี หากว่าใครไมม่ ีชาตนิ ี้เอาดีไม่ได้ มคี วามรู้ทว่ มหัว เอาตัวไม่รอดถมไป คดโกงแล้วใครจะรับไว้ให้รว่ มงานเอย จะรับไวใ้ ห้ร่วมงานเอย
71 ใบงานที่ ๑ เรือ่ ง การสอบ ชื่อ.....................................................................................................................ช้ัน..........................เลขท่.ี ................. คําชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคาํ ถามตอ่ ไปน้ี ๑. กฎระเบียบในการสอบมีอะไรบา้ ง (ตอบอย่างนอ้ ย ๓ ขอ้ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. การกระทาํ ทีไ่ มเ่ หมาะสมในการสอบมีอะไรบา้ ง (ตอบอย่างนอ้ ย ๓ ขอ้ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
72 ใบงาน ที่ ๒ เรอื่ ง ผลเสียของการทุจรติ ในการสอบ ชอ่ื .....................................................................................................................ชัน้ ..........................เลขท่.ี ................. คําชีแ้ จง ให้นักเรยี นบอกผลเสยี ของการทจุ รติ ในการสอบ อย่างน้อย ๓ ข้อ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________
73 แบบสังเกตพฤติกรรม เร่อื ง ซอ่ื สัตย์ สุจรติ ในการทาํ ขอ้ สอบ คําช้ีแจง การบันทึกใหท้ ําเครื่องหมาย ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั พฤติกรรมทีเ่ กิดข้ึนจริง รายการ เลขที่ ชื่อ - สกลุ ไม่ลอก ไมน่ าํ ไมจ่ ด ไม่ยมื ทํา สรปุ ผล ขอ้ สอบ เครอื่ งมือ คาํ ตอบ อปุ กรณ์ ขอ้ สอบ การประเมนิ ผูอ้ ่นื สอื่ สารเข้า เขา้ ห้องสอบ ผู้อื่น เสร็จ ห้องสอบ ภายใน เวลาท่ี กาํ หนด ผ่าน ไม่ผา่ น เกณฑก์ ารประเมิน ๓ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ไม่ผา่ น ผ่าน ลงชื่อ ผู้ประเมิน () ///
74 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๒ ช่อื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๔ เรือ่ ง การแต่งกาย ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสาํ คัญของการต่อตา้ นและปอู งกนั การทุจริต ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกลกั ษณะของการแตง่ กายทเ่ี หมาะสมถกู ตอ้ งตามกาลเทศะได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถบอกลกั ษณะของการแต่งกายทีถ่ ูกต้องตามระเบียบของสถานศึกษาได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ - การแต่งกายตามกาลเทศะ การแต่งกายเปน็ มารยาททัว่ ไปซ่งึ ทุกคนต้องปฏบิ ตั ิเหมือนกันตามแตโ่ อกาสทเี่ หมาะสม เชน่ แตง่ กาย ไปทาํ งาน, ไปวัด, ทาํ บญุ , ไปเล่นกฬี า และงานพิธีต่าง ๆ หรือการแตง่ กายท่ีอยู่ในเครอ่ื งแบบของนักเรยี น นักศึกษา ทหาร ตาํ รวจ บริษทั ห้างรา้ นท่กี ําหนดให้พนกั งานแตง่ กาย เปน็ ตน้ หากบคุ คลใดสามารถปฏบิ ตั ิได้ตามกฎระเบยี บ ทก่ี ําหนดถอื ว่าเปน็ ผมู้ ีมารยาทในการแต่งกายท่ดี ี ๓.๒ สมรรถนะสาํ คญั ของผ้เู รยี น ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ๓.๓ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑) ความมีวนิ ยั ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ๑) ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑. ครูและนกั เรยี นสนทนาเกีย่ วกับการแตง่ กายของคนในสังคม เช่น การแต่งกายไปทาํ งาน การแต่ง กายไปรว่ มกิจกรรมทางสงั คม เปน็ ต้น ๒. ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษาใบความร้ทู ่ี ๑ เร่อื ง การแตง่ กายท่เี หมาะสม ๓. ให้นักเรียนดรู ปู ภาพการแต่งกายทเ่ี หมาะสมในทสี่ าธารณะและสถานทร่ี าชการแลว้ ช่วยกนั บอก ลักษณะของการแต่งกายที่เหมาะสมถูกตอ้ งตามกาลเทศะ เชน่ แต่งกายไปทําบุญควรใสส่ ีขาวหรอื สอี อ่ น ผู้หญิง ส่วนมากจะนุ่งผา้ ไทย เปน็ ตน้
75 ๔. ครูให้นกั เรยี นดูขา่ ว เรือ่ ง “จบั หญิงสาว แต่งกายไมส่ ภุ าพเลน่ ำน้สงกรานต์” เก่ียวกบั การแต่งกายไม่ เหมาะสม ๕. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ ๕ กลมุ่ หรือตามความเหมาะสม แลว้ ให้นกั เรยี นเขียนวิพากษ์วจิ ารณ์พร้อม ทง้ั นําเสนอหน้าชัน้ เรียน ตามประเดน็ ต่อไปน้ี ๕.๑ การแตง่ กาย ๕.๒ สถานท่ี ๕.๓ ความเหมาะสม ๖. ครูถามนกั เรยี นว่าถา้ นกั เรยี นเปน็ บคุ คลในขา่ ว นกั เรยี นจะรสู้ กึ อย่างไร และจะทําอย่างบคุ คลใน ขา่ วหรือไม่ เพราะเหตใุ ด ๗. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เก่ยี วกับการแต่งกายเหมาะสมในทส่ี าธารณะ เชน่ การแต่งกายไป สถานทร่ี าชการ ผหู้ ญงิ ตอ้ งแต่งกายดว้ ยกระโปรง ไม่สวมรองเทา้ แตะ เปน็ ตน้ ๒) ชวั่ โมงท่ี ๒ ๑. ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาใบความรูท้ ่ี ๒ และให้นักเรยี นทแี่ ตง่ กายเรยี บร้อยถูกต้องตามระเบียบของ โรงเรยี น (เครือ่ งแบบนักเรยี น/เครอ่ื งแบบลกู เสือ -เนตรนารี) ออกมายนื ทีห่ นา้ ช้นั เรยี น แลว้ แนะนําการแต่งกายท่ี ถูกตอ้ งว่ามอี ะไรบา้ ง ๒. ครใู หน้ ักเรียนท่แี ตง่ กายเครื่องแบบไมค่ รบออกมายนื ทหี่ นา้ ชนั้ เรียน แลว้ ให้นกั เรยี นคนอืน่ ชว่ ยกัน บอกวา่ ขาดเครื่องหมายอะไรบา้ ง ๓. ครูชแ้ี นะให้นักเรียนเห็นถงึ ความสําคญั ของการแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบยี บของโรงเรยี น วา่ นักเรยี นชายแต่งกายอยา่ งไร และนกั เรยี นหญงิ แตง่ กายอยา่ งไร ๔. ครสู ัมภาษณน์ ักเรยี นทีแ่ ต่งกายดว้ ยเคร่ืองแบบทถ่ี กู ต้องวา่ มคี วามรูส้ ึกอยา่ งไรและมผี ลดีอยา่ งไร ตอ่ ตนเองและส่วนรวม ๕. ครสู ัมภาษณน์ ักเรียนทแี่ ตง่ กายดว้ ยเคร่ืองแบบที่ไม่ถูกต้องว่ามคี วามรสู้ กึ อย่างไรและมีผลเสยี อยา่ งไรตอ่ ตนเองและสว่ นรวม ๖. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปเรื่องการแต่งกายทถี่ ูกระเบยี บของโรงเรยี น ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ ๑) ใบความรู้ท่ี ๑ เร่อื ง การแตง่ กายทีเ่ หมาะสม ๒) ใบความรูท้ ่ี ๒ เรือ่ ง การแตง่ กายทถี่ กู ต้องตามระเบียบของโรงเรียน ๓) รูปภาพการแต่งกายของบคุ คลต่าง ๆ ๔) ขา่ ว “จบั หญงิ สาว แตง่ กายไมส่ ุภาพเล่นน้ําสงกรานต”์ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) ทดสอบ ๒) สงั เกตพฤติกรรมความมวี ินยั ๕.๒ เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการประเมิน ๑) แบบทดสอบ
76 ๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรม ความมีวินยั ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน ๖. บนั ทนึกั หเรลียงันกผาา่ รนจเดั กกณาฑรเก์รายี รนปรรู้ ะเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื .......................................ครผู สู้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผู้บริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.....................................ผู้บรหิ าร (นายกุศล ชมุ ปญั ญา) ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นศรีวชิ า “ครุ ุราษฎร์อทุ ศิ ”
77 ใบความรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง การแต่งกายทเี่ หมาะสม การแตง่ กายเปน็ มารยาทท่วั ไปซงึ่ ทกุ คนต้องปฏิบตั ิเหมือนกนั ตามแต่โอกาสทเ่ี หมาะสม เชน่ แต่งกายไป ทาํ งาน, ไปวดั ทาํ บญุ ,ไปเล่นกีฬา และงานพิธีตา่ ง ๆ หรือการแต่งกายท่ีอยู่ในเครือ่ งแบบของนกั เรียน นกั ศึกษา ทหาร ตํารวจ บรษิ ัทหา้ งรา้ นทกี่ ําหนดใหพ้ นกั งานแตง่ กาย เปน็ ตน้ หากบุคคลใดสามารถปฏิบตั ไิ ด้ตามกฎระเบียบ ทก่ี ําหนดถอื วา่ เปน็ ผมู้ มี ารยาทในการแตง่ กายทดี่ ี การแต่งกายไปวัด ๑. เสื้อผา้ ควรใชส้ ีขาวหรือสอี ่อน ๒. เน้ือผ้า ไมโ่ ปรง่ บางเกินไป ไม่หรูหราแพงเกนิ ไป ๓. เสื้อผ้าไมร่ ดั รัดรูปแตห่ ลวมพอสมควร สาํ หรบั ผหู้ ญงิ ไม่ควรนุ่งกระโปรงสนั้ แตค่ วรนุ่งกระโปรงยาว พอสมควร ๔. ทรงผม ผู้ชาย ตดั ใหส้ ั้น ถ้าไว้ยาวก็หวีใหเ้ รียบ ผหู้ ญงิ อยา่ แตง่ ผมเกินงาม ผูพ้ บเหน็ จะได้ไมเ่ กิด ความคิดฟุงู ซา่ น ๕. น้าํ มันใส่ผม หรอื นํา้ หอม ควรเปน็ ชนิดกล่ินออ่ นทีส่ ดุ จะไดไ้ มร่ บกวนผูอ้ ่ืน ๖. การแต่งหนา้ เขียนค้วิ ทาปาก ทาเลบ็ ฯลฯ จนเกินงามไมค่ วรกระทํา ๗. เครอ่ื งประดับราคาแพง เชน่ แหวนเพชร นาฬิกาเรือนทอง หรือสรอ้ ยทองคาเสน้ โต ฯลฯ ควรเว้น เด็ดขาด การแต่งกายไปงานแต่งงาน การแตง่ กายไปงานแต่งงานเป็นการแสดงถึงการใหค้ วามยนิ ดกี ับเจา้ ภาพจงึ เปน็ การแต่งกายในชุดทด่ี ู สวยงาม และการแตง่ กายไปงานเราควรคาํ นึงถึงการใหเ้ กยี รตเิ จา้ ภาพด้วยเชน่ เจ้าภาพอาจจะกาหนดการแตง่ กายมา เราก็ควรปฏิบัตติ ามเพ่ือเปน็ การให้เกียรตแิ ละเพื่อแสดงความยนิ ดี เชน่ แต่งกายในชุดสีขาว สีชมพหู รอื เสอ้ื ผา้ สี ออ่ น ดสู วยงาม เป็นต้น การแตง่ กายไปงานอวมงคล งานอวมงคล คอื การทาบุญเลยี้ งพระท่ีเกย่ี วกบั เรื่องการตาย นยิ มทาํ กันอยู่ ๒ อยา่ งคอื ทําบุญ หน้า เรียกว่าทาบุญ ๗ วนั ๕๐ วัน หรอื ๑๐๐ วัน และทาํ บญุ อฐั ิในวันคลา้ ยวันตายของผลู้ ่วงลับ - ถ้าเปน็ งานศพควรเปน็ สขี าวหรือสีดํา - ถ้าเป็นวันทาํ บญุ อฐั ควรแต่งกายเรยี บรอ้ ย สเี รยี บ ไม่มลี วดลายหรอื ฉูดฉาด จนเกนิ ควร เหมาะสมกบั งาน ไม่ใสเ่ ครอื่ งประดับหรูหราฟุมเฟอื ยจนเกินพอดี มารยาทการแตง่ กายทพ่ี ึงประสงค์ เป็นการแตง่ กายทจ่ี ะต้องคาํ นงึ ถึงความสุ ภาพเรยี บร้อย สะอาด ตง้ั แต่ ศรี ษะจรดปลายเท้า เมอื่ มีผพู้ บเหน็ จะรสู้ กึ ทันทีว่าผู้ทแ่ี ต่งกายดีถูกต้องตามกาลเทศะ คือ คนท่คี วรได้รบั การชมเชย จากสงั คมและผปู้ ฏสิ มั พนั ธด์ ้วย ในมมุ กลบั กันหากแต่งกายไม่สภุ าพเรียบรอ้ ย กจ็ ะเกดิ คําตาหนิ ติเตยี น จากผทู้ ่พี บ เห็น ทําให้เส่ือมเสยี ท้งั ตนเอง สถานบนั ครอบครวั และสถานศึกษา
78 ใบความร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง การแตง่ กายท่ีถูกต้องตามระเบียบของโรงเรยี น ระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ยเครอื่ งแบบนักเรยี น นักเรยี นหรอื นกั ศึกษาตอ้ งประพฤติตนอยูใ่ นระเบยี บวนิ ัยของโรงเรยี นหรอื สถานศึกษาท่ตี นสงั กดั อยู่ และ แต่งกายหรอื แตง่ เครื่องแบบตามระเบยี บข้อบงั คบั ของโรงเรยี น รวมท้งั ต้องไมแ่ ต่งกายหรอื ประพฤตติ นไม่เหมาะสม แก่สภาพของนกั เรยี นหรือนกั ศึกษาตามทกี่ ําหนดในกระทรวง เครื่องแบบนักเรยี นระดับประถมศกึ ษา นกั เรยี นชาย ๑. เสื้อ ผา้ สีขาว แบบคอเชิ้ต หรือคอปกกลม แขนส้ัน ๒. เครอื่ งหมาย ใช้ชื่ออักษรยอ่ ของสถานศึกษาปกั ที่อกเสื้อเบ้อื งขวา บนเนอื้ ผา้ ดว้ ยดา้ นหรือไหม โดย สถานศึกษารัฐใช้สนี ํา้ เงนิ สถานศึกษาเอกชนใชส้ ีแดง ๓. กางเกง ผ้าสดี า สนี ้าเงนิ สกี รมท่า หรอื สแี ดง ขาสั้น ๔. รองเทา้ หนังหรอื ผา้ ใบสดี าหรอื สีนาํ้ ตาล แบบห้มุ ส้นปลายเทา้ ชนิดผกู หรอื มีสายรัดหลังเทา้ ๕. ถุงเท้าสน้ั สขี าวหรือสนี ํ้าตาล นักเรียนหญงิ ๑. เสอ้ื ผา้ สีขาว แบบคอเชติ้ คอบวั หรือคอปกกลาสผี ูกดว้ ยฟาู ผกู คอชายสามเหล่ยี มเงอื่ นกลาสี สดี าํ หรือสี กรมท่า แขนสั้น ๒. เครอ่ื งหมาย ชอื่ อกั ษรยอ่ ของสถานศึกษาปกั ท่อี กเส้อื เบอ้ื งขวา บนเน้ือผา้ ด้วยดา้ ยหรอื ไหม โดย สถานศกึ ษารฐั บาลใช้สนี า้ เงนิ สถานศึกษาเอกชนใชส้ แี ดง ๓. กระโปรง ผ้าดํา สนี ้าเงิน สกี รมทา่ หรอื สีแดง แบบจีบรดู รอบตวั หรือยาวเพยี งใตเ้ ขา่ แบบจบี ทบรอบเอว หรอื พบั เป็นจีบ ขา้ งละสามจีบทงั้ ดา้ นหน้าและดา้ นหลัง เม่อื สวมแลว้ ชายกระโปรงคลมุ เข่า ๔. รองเท้า หนังหรอื ผา้ ใบสดี าํ แบบหมุ้ ส้นหมุ้ หลายเท้า ชนดิ ผูกหรอื มสี ายรดั หลงั เทา้ ๕. ถงุ เท้าสัน้ สีขาว
79 รูปภาพการแตง่ กายของบคุ คลตา่ ง ๆ ๆ
80
81
82 ขา่ ว เร่ือง “จับหญิงสาว แตง่ กายไม่สภุ าพเลน่ นำ้สงกรานต์” ตาํ รวจบรุ รี ัมย์จบั กุมหญงิ สาว ๓ คนบริเวณถนนเสดจ็ นวิ ฒั น์ หนา้ พระบรมราชานสุ าวรีย์ รัชกาลที่ ๑ ตรง ขา้ มกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ บุรรี มั ยเ์ น่อื งจากแตง่ กายไมส่ ุภาพและเต้นประกอบเพลงดว้ ยทา่ ทางวาบหวิว ขณะที่ นักท่องเที่ยวและประชาชนจานวนมากรว่ มกจิ กรรมสงกรานต์ทส่ี นามไอโมบายสเตเดยี มจนถงึ เทีย่ งคนื คําช้แี จง ให้นักเรยี นเขยี นวพิ ากษ์วจิ ารณเ์ ก่ียวกบั ขา่ ว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
83 แบบสงั เกตพฤติกรรม เรอ่ื ง ความมวี ินัย คําชี้แจง การบนั ทกึ ให้ทําเครอื่ งหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมทีเ่ กิดข้ึนจรงิ รายการ เลขที่ ชื่อ - สกลุ แต่งกาย แต่งกาย ปฏบิ ตั ติ าม สรปุ ผล ถกู ตอ้ งตาม เหมาะสม ขอ้ ตกลง การประเมิน ระเบียบ ตาม ของ ของ กาลเทศะ สถานศึกษา ผ่าน ไมผ่ า่ น โรงเรียน เกณฑก์ ารประเมนิ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ปฏบิ ัติตั้งแต่ ๑ รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน ปฏิบตั ิ ลงชอ่ื ผปู้ ระเมนิ ( ) / //
แผนการจดั การเรียนรู้ 84 หน่วยที่ ๒ ชือ่ หน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๒ ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ เร่ือง กิจกรรมนักเรยี น ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับกิจกรรมนักเรยี น และความไมท่ นและความละอายต่อการทุจรติ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ บอกความสาํ คญั ของกิจกรรมนักเรยี นได้ ๒.๒ อธบิ ายความหมายของกจิ กรรมนักเรียนได้ ๒.๓ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บไมท่ จุ รติ ตอ่ กจิ กรรมทที่ าํ ๒.๔ ระบปุ ระโยชน์ของกจิ กรรมนกั เรยี นได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ความสําคัญของกจิ กรรมนักเรียนนั้นเป็นการเสรมิ ให้การจดั การเรยี นการสอนบรรลตุ ามจดุ ม่งุ หมายของ การศกึ ษา โดยจะช่วยเสริมในดา้ นการเรยี นรู้ทางด้านทศั นคติ ค่านยิ ม ความสนใจ ความซาบซงึ้ และเกดิ ทักษะ ประสบการณ์และสามารถไปอยู่ในสงั คมอย่างเปน็ สุขถา้ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกิด) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม ๑) มวี นิ ยั ๒) มงุ่ มนั่ ในการทางาน ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ ๑) ชัว่ โมงที่ ๑ ๑. ครสู นทนาและซกั ถามนกั เรยี นเกยี่ วกับกิจกรรมนักเรยี นวา่ มคี วามสาํ คญั อย่างไร ๒. ครอู ธบิ ายความสาํ คญั ของกจิ กรรมนักเรียนเปน็ กจิ กรรมเสรมิ ใหก้ ารจดั การเรยี นการสอนบรรลุ ตามจุดมุง่ หมายของการศึกษา โดยจะชว่ ยเสริมในดา้ นการเรียนรดู้ า้ นทัศนคติ คา่ นยิ ม ความสนใจ ความซาบซึ้ง ความไม่ทนและความละอายตอ่ การทจุ รติ ต่อกิจกรรมนั้น ตลอดจนทกั ษะในการเคลื่อนไหวและการใชอ้ วยั วะ ตา่ ง ๆ ของร่างกาย ๓. ครใู หน้ ักเรยี นทํา ใบงานท่ี๑.๑ ชอบหรอื ไม่ชอบ เสรจ็ แล้วให้นาํ มาส่งครู ๔. ครสู รุปใบงานที่นกั เรียนทาํ ว่าส่วนใหญช่ อบหรอื ไมช่ อบเพราะเหตใุ ด ๒) ชว่ั โมงที่ ๒ ๑. ครูอธิบายถงึ ความหมายของกจิ กรรมนกั เรียน ปจั จบุ ันกิจกรรมนกั เรียนอาจจะแบง่ ออกเป็น ๓ ส่วนใหญ่
85 ๑.๑ กิจกรรมการเรยี นการสอน หมายถงึ กิจกรรมท่ีครูผสู้ อนและผู้ทเี่ ก่ียวขอ้ งจดั ขน้ึ เพ่ือสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรยี นรู้และเขา้ ใจเนอ้ื หาของบทเรียนวิชาต่าง ๆ ใหด้ ยี ่งิ ข้ึน กจิ กรรมลกั ษณะนี้อาจจะจัดขึ้น ในห้องเรยี นหรอื นอกหอ้ งเรยี นกไ็ ด้ ๑.๒ กจิ กรรมนกั เรียน หมายถึง กจิ กรรมที่จัดขน้ึ นอกเวลาเรยี นปกติหรอื นอกเหนอื จาก ตารางสอนวิชาต่าง ๆ เพ่ือสนองความสนใจความสามารถและความถนัดของนักเรยี นอนั เปน็ การสง่ เสรมิ ให้ นกั เรยี นมโี อกาสแสวงหาความรู้ให้แตกฉานยงิ่ ข้ึน ๑.๓ กจิ กรรมอน่ื เช่น กิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมโฮมรูม ซึง่ เปน็ กิจกรรมท่มี จี ุดมุ่งหมายเฉพาะ เก่ยี วกับการแนะแนวหรือการปกครองนักเรยี นซงึ่ โดยปกตคิ รจู ะมีบทบาทในการดาํ เนินงานเสยี เอง ๒. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนกลมุ่ ละประมาน ๔-๖ คน แล้วให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มทาํ ใบงานท่ี ๑.๒ เร่อื ง ชอบอะไร ๓) ชวั่ โมงที่ ๓ ๑. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ นาํ เสนอใบงานท่ี ๑.๒ ๒. ครสู รปุ ส่ิงที่นักเรยี นนาเสนอ กจิ กรรมนกั เรียนทกุ กจิ กรรมซงึ่ มปี ระโยชน์ กิจกรรมจะสรา้ งใหน้ กั เรยี นอยรู่ ว่ มกันในสงั คมอยา่ ง มีความสขุ ถ้าหากนักเรยี นทาตามกฎระเบียบในแตล่ ะกิจกรรมตั้งไว้ และฝึกใหน้ กั เรยี นมที กั ษะตา่ ง ๆ ในแต่ละ กจิ กรรมทีป่ ฏิบตั ิ อกี อย่างทส่ี ําคญั ถา้ นกั เรยี นอยู่ในสังคมที่กวา้ งข้ึนถา้ นักเรียนไม่ทุจรติ และทาํ ตามกฎระเบยี บใน สงั คมนกั เรยี นกจ็ ะอย่ใู นสงั คมอย่างมีความสขุ ๓. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ประโยชน์ของกจิ กรรมนักเรียนทไ่ี ด้ การจดั กจิ กรรมนักเรยี นนบั ว่าเปน็ งานสําคัญอย่างหนึง่ กิจกรรมนกั เรียนเปน็ กิจกรรมทท่ี าง โรงเรียนจดั ขนึ้ เพื่อเสรมิ ทักษะประสบการณ์ของนกั เรยี นใหก้ ว้างขวางและสมบรู ณ์ ช่วยเสริมในดา้ นการเรยี นรู้ ดา้ นทศั นคติ คา่ นยิ ม ความสนใจ ตลอดจนใหด้ ํารงชวี ติ อยู่ในสงั คมอย่างมคี วามสขุ ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ใบงานที่ ๑.๑ ๒) ใบงานที่ ๑.๒ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ๑) ตรวจใบงานที่ ๑.๑ เรอ่ื งชอบหรอื ไมช่ อบ ๒) ตรวจใบงานท่ี ๑.๒ เรอ่ื งปฏิบัตติ นอย่างไรกิจกรรมจะสําเร็จ ๕.๒ เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการประเมิน ๑) ใบงานท่ี ๑.๑ เร่อื งชอบหรือไมช่ อบ ๒) ใบงานท่ี ๑.๒ เรื่องปฏบิ ตั ติ นอย่างไรกิจกรรมจะสาํ เรจ็ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐
86 ๖. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ.......................................ครผู ูส้ อน (.........................................) ๗. ความคดิ เหน็ ผู้บรหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .....................................ผบู้ รหิ าร (นายกุศล ชมุ ปญั ญา) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านศรีวิชา “คุรรุ าษฎร์อุทิศ”
87 ใบงานที่ ๑.๑ คําชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายชอบหรือไม่ชอบกิจกรรมทก่ี ําหนดใหเ้ พราะเหตใุ ด ลําดบั ท่ี กิจกรรม ชอบหรอื ไม่ชอบเพราะเหตุใด ๑ กจิ กรรมลกู เสือ ๒ กจิ กรรมทัศนศึกษา ๓ กิจกรรมสหกรณร์ า้ นค้าในโรงเรียน ๔ กจิ กรรมกีฬาสีภายในโรงเรยี น ๕ กจิ กรรมส่งเสริมวฒั นธรรมไทย ๖ กจิ กรรมศาสนา ๗ กิจกรรมใช้ห้องสมดุ ๘ กิจกรรมสง่ เสริมวิชาการต่าง ๆ ในหลกั สตู ร
88 ใบงานที่ ๑.๒ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ เขยี นชอบกจิ กรรมอะไรจงอธบิ ายอย่างละเอยี ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… .……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรียนรู้ 89 หนว่ ยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๖ เรอื่ ง การเขา้ แถว ๑. ผลการเรยี นรู้ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายคาว่ามารยาทในสงั คมได้ ๒.๒ ปฏบิ ัตติ นอยา่ งมมี ารยาทในสังคม ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ มารยาท คอื สิง่ สําคัญประการหนงึ่ ท่ีทกุ คนควรมีตดิ ตวั ไปตลอด เพราะจะทาํ ใหอ้ ยรู่ ่วมกบั ผูอ้ นื่ ในสงั คม อยา่ งมีความสขุ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ / ค่านยิ ม มีวินัย ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชัว่ โมงที่ ๑ ๑. ครูใหน้ ักเรยี นดวู ดี ีโอ เรอ่ื งการเข้าแถวรับบริการ เพ่ือใหน้ ักเรียนรู้ถึงมารยาทในการเข้าแถว ๒. ครูอธบิ าย คาํ ว่ามารยาทให้นกั เรยี นฟงั ตอ้ งทาํ ใหเ้ กิดเป็นนสิ ยั ตวั อยา่ งเช่น มารยาททางวาจา มารยาทการรับประทานอาหาร มารยาทในทีป่ ระชมุ มารยาทการเขา้ แถว เป็นตน้ แต่สิ่งทน่ี ักเรยี นจะตอ้ งเรียนร้คู ือ การเข้าแถว เพราะการเขา้ แถวถือวา่ เป็นมารยาทอย่างหนง่ึ ท่นี ักเรยี นจะตอ้ งปฏบิ ัตอิ ยา่ งตอ่ เนื่องจนเกดิ เปน็ นิสยั แลว้ นกั เรยี นจะอย่รู ว่ มกันในสงั คมอย่างมีความสขุ ๓. นักเรยี นและครูร่วมกันสนทนาเกย่ี วกบั การใช้สถานท่สี าธารณะในชวี ติ ประจําวนั ของนกั เรยี น ว่า มสี ถานทใี่ ดบา้ งทนี่ ักเรียนจะตอ้ งเขา้ ไปใชบ้ ริการและควรเข้าแถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ เชน่ ห้องเรียน หอ้ งสมดุ ห้องน้าสาธารณะ โรงอาหาร หา้ งสรรพสินค้า เปน็ ตน้ ๒) ชว่ั โมงท่ี ๒ ๑. ครูทบทวนบทเรยี นชวั่ โมงที่ผา่ นมา และให้ดคู ลปิ กรณตี ัวอย่างของการเขา้ แถวรบั บริการของ นกั เรยี นประเทศญปี่ นุ หรือประเทศไทย แล้วชวนสนทนารว่ มกนั เรอื่ งมารยาท รวมถึงประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการ เข้าแถว และยกตัวอยา่ งสถานท่ีใดบ้างทีค่ วรเข้าแถว โดยเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนทกุ คนมสี ว่ นรว่ ม ๒. ครูให้นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี ๑.๑ เมอื่ ทาใบงานเสรจ็ แลว้ ใหต้ ัวแทนนกั เรยี นเก็บรวบรวมสง่ ครูตรวจ ๓. ครสู รุปความรแู้ ละข้อควรปฏิบัตทิ แี่ สดงถึงมารยาททด่ี ใี นการเขา้ แถว
90 ๕. สื่อการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๕.๑ คลปิ สอื่ https://www.youtube.com/watch?v=CQm๐h๙-b๙p๔ ๕.๒ บตั รคา ๕.๓ ใบงานท่ี ๑.๑ ๖. การประเมินผลการเรียนรู้ ๖.๑ วิธีการประเมิน ตรวจใบงานท่ี ๑.๑ ๖.๒ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน ๑) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๒) ใบงานที่ ๑.๑ ๖.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ 7. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ .......................................ครผู ู้สอน (.........................................) 8. ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ าร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .....................................ผู้บรหิ าร (นายกศุ ล ชมุ ปัญญา) ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านศรวี ิชา “คุรุราษฎรอ์ ทุ ิศ”
ใบงานที่ ๑.๑ 91 คําชแ้ี จง ให้นกั เรยี นอธิบายชอบหรอื ไม่ชอบเพราะอะไร ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
92 บัตรคาํ ๑๒ ๓๔ ๕
93 หนว่ ยท่ี ๓ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ
94 แผนการจดั การเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ หนว่ ยท่ี ๓ ชอื่ หนว่ ย STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ เวลา ๑ ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง การดารงชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผทู้ ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ นักเรยี นบอกหลักในการเลอื กการแตง่ กาย การรับประทานอาหาร การใชจ้ า่ ยตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงได้ ๒.๒ นกั เรียนปฏบิ ตั ติ นในการเลือกการแต่งกาย การรบั ประทานอาหาร การใชจ้ า่ ยตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งได้ ๒.๓ นักเรยี นวเิ คราะหผ์ ลท่ไี ด้รบั จากการดารงชีวติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ แนวทางการดําเนินชีวิตบนทางสายกลางตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึง่ ประกอบดว้ ย ๓ ห่วง ๒ เง่อื นไข ได้แก่ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล มภี ูมิคมุ้ กันทดี่ ีในตัวเอง เงื่อนไขความรู้ เง่ือนไข คณุ ธรรม จะก่อใหเ้ กดิ คณุ ภาพชวี ิตท่ีดอี ย่างมั่นคงและยง่ั ยนื ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ ( สมรรถนะทเ่ี กิด ) ๑) นกั เรียนมีทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ๒) นกั เรยี นมีทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ ๓) นักเรียนมที กั ษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ๔) นกั เรยี นมีความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ในกระบวนการทํางานกลุ่ม ๕) นกั เรียนมที ักษะกระบวนการในการทํางาน ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑) ใฝุเรียนรู้ / นักเรยี นตงั้ ใจเพียรพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) อยู่อยา่ งพอเพียง / นกั เรยี นดาเนนิ ชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตมุ ผี ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม ๓) รกั ความเป็นไทย / นักเรยี นเห็นคณุ ค่า ปฏบิ ตั ิตนได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ / การจดั ประสบการณ์ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ / ข้ันตอนการจดั ประสบการณ์ ๑) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. นักเรียนดภู าพความแตกตา่ ง ๆของบุคคล ดังน้ี ๑.๑ การแต่งกาย ๑.๒ การรบั ประทานอาหาร ๑.๓ การใช้จา่ ยเงนิ ๒. ครสู มุ่ ถามนักเรียน ประมาณ ๒ - ๓ คน โดยใชค้ ําถาม ดงั นี้ ๒.๑ ถ้าเป็น นกั เรียนจะเลอื กปฏบิ ตั ิตามภาพใด
95 ๒.๒ เพราะเหตใุ ด ๓. ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรูใ้ หน้ กั เรยี นทราบ ๔. แบ่งนักเรยี นเปน็ ๓ กลมุ่ กลุ่มละเท่ากัน ร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเหน็ คิดวเิ คราะห์ ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี ๔.๑ กลมุ่ ที่ ๑ หลกั การเลอื กการแต่งกาย ๔.๒ กล่มุ ที่ ๒ หลักการเลอื กการรบั ประทานอาหาร ๔.๓ กล่มุ ท่ี ๓ หลักการเลือกการใช้จ่าย ๒) ช่วั โมงที่ ๒ ๑. ครทู บทวนความรูจ้ ากชว่ั โมงที่แล้ว ๒.แตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนนาํ เสนอหน้าช้นั เรียน ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ใหส้ มบรู ณ์ ๓. นกั เรยี นทาํ Mind Mapping สรุปความรทู้ ีไ่ ดร้ ับจากทัง้ ๓ กลมุ่ ลงในสมดุ ๔. นกั เรยี นประเมินการปฏิบตั ติ นในการเลือกการแตง่ กาย การรบั ประทานอาหาร การใช้จา่ ย เป็นรายบคุ คล ๕. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ การดํารงชวี ิตตามหลกั ความพอเพยี ง ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ภาพการแต่งกาย การรับประทานอาหาร การใช้จ่ายเงิน ๒) แบบประเมินการปฏิบตั ติ นในการดาํ รงชีวิตตามหลกั ความพอเพียง ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) ประเมินการปฏิบตั ิตนในการดํารงชวี ิตตามหลกั ความพอเพยี ง ๕.๒ เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ๒) แบบประเมินการปฏิบตั ติ นในการดาํ รงชีวิตตามหลกั ความพอเพยี ง ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ การสังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๘๐ ถอื ว่าผา่ น ๖. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื .......................................ครผู ้สู อน (.........................................) ๗. ความคดิ เห็นผู้บริหาร ........................................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .....................................ผ้บู ริหาร (นายกุศล ชุมปญั ญา) ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นศรวี ชิ า “ครุ ุราษฎรอ์ ุทิศ”
96 ภาพการแต่งกาย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431