Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ประวัติศาสตร์ ม.1

64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ประวัติศาสตร์ ม.1

Published by elibraryraja33, 2021-08-15 06:01:28

Description: 64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้_ประวัติศาสตร์ ม.1

Search

Read the Text Version

๔๑ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 6 เรอื่ ง พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบันหลักของชาติ เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่อื งประวตั แิ ละความสาคัญของพระพุทธศาสนาท่มี ตี อ่ สงั คมไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ตวั ช้ีวัด กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรียนรู้ ส1.1 ม.1/2 วิเคราะห์ความสาคญั ของ ขน้ั นา 1. ส่ือนาเสนอ PowerPoint พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถอื ท่มี ีต่อ 1. ครูใหน้ ักเรยี นพิจารณาภาพการบรรพชาอุปสมบทจากสื่อนาเสนอ PowerPoint เรื่องพระพทุ ธศาสนาในฐานะ สภาพแวดลอ้ มในสงั คมไทย รวมท้ังการพัฒนาตน เรอ่ื งพระพุทธศาสนาในฐานะสถาบนั หลักของชาติ สถาบนั หลักของชาติ และครอบครัว ภาระงาน/ช้ินงาน สาระสาคัญ 1. วิเคราะห์หน้าที่และ ประโยชน์ของพระพทุ ธศาสนา ศาสนาเปน็ บอ่ เกิด ของขนบธรรมเนียม ในฐานะสถาบันหลักของชาติ ประเพณี ค่านยิ ม ตลอดจนการดาเนนิ ชวี ติ ของ คนในสงั คม เพราะศาสนามหี ลกั คาสอนและข้อ ปฏิบัตทิ สี่ ง่ เสริมใหศ้ าสนิกชนของตนเข้าใจชีวิต ดาเนนิ ชวี ติ อย่างสงบสขุ สามารถนาพาชีวิตตน ไปสเู่ ปา้ หมายท่ีดีงามได้ รวมทง้ั ช่วยทาให้สงั คม ดารงอยู่ได้อยา่ งมั่นคง ขอบเขตเน้อื หา ทีม่ า : เมธณิ ี สมมติ ร(2561) 1. ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาต่อสังคมไทยใน แล้วใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั ภาพวา่ การบรรพชาอุปสมบท ฐานะเป็นศาสนาประจาชาติ ของชายไทย มีความสาคญั อย่างไร ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันแสดงความคิดเหน็ 2. ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาต่อสังคมไทยใน (แนวคาตอบ : การบรรพชาอุปสมบทเปน็ พระภกิ ษุมีความสาคัญต่อการสืบทอด ฐานะสถาบันหลักของสงั คมไทย พระพุทธศาสนา เมื่อบวชแล้วจะได้ศกึ ษาพระธรรมวนิ ัยและนาหลักธรรมนั้นส่ังสอน 3. ความสาคญั ของพระพุทธศาสนาต่อสงั คมไทยใน โปรดเหลา่ อบุ าสกอบุ าสิกา พระสงฆ์ยังทาหน้าที่เป็นผนู้ าทาพธิ กี รรมทาง ฐานะสภาพแวดล้อมทีก่ วา้ งขวาง และครอบคลมุ 2481

๔๒ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรือ่ ง พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบนั หลักของชาติ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่องประวัติและความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาท่มี ตี ่อสังคมไทย เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 สงั คมไทย พระพุทธศาสนา การบรรพชาอปุ สมบทจงึ เป็นประเพณสี าคัญทท่ี าให้ 4. ความสาคญั ของพระพุทธศาสนาตอ่ สังคมไทยใน พระพทุ ธศาสนายังคงอยูต่ อ่ ไป) ฐานะการพัฒนาตนและครอบครวั ขั้นสอน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒2. ครูนำา�ภาพพระะแแกกว้ ้วมมรรกกตตแแลละะภภาาพพพพรระะบบาาททสสมมเดเด็จจ็ พพรระะเจเจ้าอ้าอยยู่หู่หวั รวั ชัรัชกกาลาทลท่ี ๙่ี 9 ทรง ดา้ นความรู้ ทผนรงวผชนใหวช้นใักหเน้รยีักนเรพยี ิจนาพรจิ ณาารจณาากจนาน้ักในช้นั ้คใาชถค้ าำ�มถดามังนดี้ังนี้ 1. อธบิ ายความสาคญั ของพระพุทธศาสนาใน จากน้นั ครูผูส้ อนออธธบิ บิ าายยแแลละะเเชชอื่ ื่อมมโโยยงงถถึงงึคคววาามมสสำ�าคคัญัญขขอองพงพรระะพพุทุทธศธศาสาสนนาาใน ฐานะสถาบนั หลักของชาติได้อยา่ งถูกต้อง ใฐนาฐนาะนทะเ่ี ทปี่เ็นปห็นนห่ึงนใน่ึงใสนถสาถบานับหนั ลหักลขักอขงอชงาชตาิต(แิ (นแวนกวากราอรธอิบธบิายาย: :พพระระแแกกว้ ว้มมรรกกตต ด้านทักษะและกระบวนการ ประดิษฐานอยใู่ นพระอุโบสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ภายในพระบรมมหาราชวัง 2. วเิ คราะหเ์ กี่ยวกับหนา้ ที่ของพระพุทธศาสนา กรงุ เทพมหานคร เปน็ พระพทุ ธรปู ทม่ี ีความสาคญั ยิ่ง ได้รบั การยกย่องใหเ้ ปน็ ในฐานะสถาบนั หลักของชาตไิ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล พระพทุ ธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย และการทพ่ี ระเจา้ อยหู่ วั ฯทรงผนวช เปน็ การสืบ ด้านคณุ ลักษณะ สทบือทดอปดระปเรพะณเพีกณารีกบารรบพรชรพาอชปุาอสปุมสบมทบทท่พี ทระพ่ี มรหะมากหษากัตษรยิัต์ไรทิยยไ์ ทยรงทปรฏงปิบฏัติบสบืตั ิสทบือทดมอดามา 3. บอกประโยชน์ของพระพุทธศาสนาในฐานะ ต้ังแตส่ มัยสโุ ขทัย เป็นการยืนยนั ถงึ ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย สถาบันหลักของชาตไิ ด้อยา่ งมีเหตุผล วา่ พระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ พุทธมามกะและทรงอปุ ถัมภ์พระพุทธศาสนามาโดย ตลอด จนกลายมาเปน็ หนึ่งในสามของสถาบนั หลกั ของชาติไทยคอื สถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตรยิ ์ มาจนถงึ ปจั จุบนั ) 3. นกั เรียนจับคู่กบั เพ่ือนในช้ันเรียน ครูแจกกระดาษ A4 คลู่ ะ 1 แผน่ เพอ่ื ร่วมกนั วิเคราะห์หน้าที่และประโยชน์ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบนั หลกั ของชาติ ตามหวั ขอ้ ดังนี้ - หนา้ ทขี่ องพระพุทธศาสนาในฐานะสถาบนั หลกั ของชาติ - ประโยชนข์ องพระพุทธศาสนาในฐานะสถาบันหลักของชาติ 2942

๔๓ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 เรอื่ ง พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบันหลักของชาติ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื งประวัติและความสาคัญของพระพุทธศาสนาท่มี ตี อ่ สังคมไทย เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยศกึ ษาจากหนังสือเรียนพระพุทธศาสนาลงในกระดาษ A๔4 ให้เวลาในการทางาน ประมาณ 25 นาที 4. ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ ครเู ขยี นคาตอบของนกั เรยี นลงบนกระดาน หน้าชั้นเรียน ขน้ั สรุป 5. ครนู าพระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวรัชกาลท่ี 9 เกี่ยวกบั พระพทุ ธศาสนา ท่ีทรงพระราชทานเพอื่ เชญิ ไปอ่านในการเปดิ ประชุมใหญ่ สมาคม พทุ ธศาสนาท่ัวราชอาณาจักร วันท่ี 17 ธนั วาคม 2512 ความว่า “...พระพุทธศาสนา บริบรู ณ์ด้วยสจั ธรรมท่ีเปน็ สาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ แต่จะต้องศึกษาให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจ และปฏิบตั ิใหเ้ หมาะสมแกภ่ าวะปัจจบุ นั ดว้ ยศรทั ธาและปญั ญาท่ถี ูกต้อง จงึ จะเกิดเป็นประโยชนข์ ้ึนได.้ ..” (ท่มี า : www.thaihealth.or.th) จากนั้นนกั เรยี นวเิ คราะหค์ วามหมายของพระราชดารัสตามความเข้าใจของนักเรียน (แนวคาตอบ : พระพทุ ธศาสนานน้ั มีหลกั คาสอนทเ่ี ป็นความจริงที่มีประโยชนแ์ ก่คน ทกุ ระดับช้ัน แตก่ ารจะนาหลักธรรมมาปฏิบตั ิเราจะตอ้ งศึกษาให้เขา้ ใจและต้องใช้ให้ เหมาะสมตามเหตุการณใ์ นปัจจบุ ันจงึ จะเกิดประโยชนส์ งู สดุ ) 6. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันเสนอแนวทางการสืบทอดและบารุงรกั ษาพระพุทธศาสนาตาม แนวคดิ ของนกั เรยี นมาให้ได้มากท่สี ดุ (แนวคาตอบ : เชน่ การรว่ มกิจกรรมกบั วดั การรว่ มกิจกรรมบรรพชาสามเณรของ นักเรียนชาย การนาหลกั ธรรมคาสอนที่ได้ไปปฏิบตั ใิ นชวี ิตประจาวนั โดยศกึ ษา 3403

๔๔ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบนั หลกั ของชาติ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ งประวัตแิ ละความสาคัญของพระพุทธศาสนาทีม่ ตี ่อสังคมไทย เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หลักธรรมคาสอนให้เขา้ ใจอย่างถ่องแท้ เปน็ ตน้ ) 31 4

45 3425 เกณฑก์ ารประเมนิ วธิ กี าร เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ ส่ิงทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ - ครูต้ังคาถาม - คาถามเกย่ี วกับ ดี : อธิบายความสาคญั ของ ความสาคญั ของ พระพุทธศาสนาในฐานะ ด้านความรู้ พระพทุ ธศาสนา สถาบันหลกั ของชาติได้อยา่ ง 1. อธบิ ายความสาคญั ของ ถูกต้อง พระพทุ ธศาสนาในฐานะ - แบบประเมินงาน พอใช้ : อธิบายความสาคญั ของ สถาบันหลักของชาติ กล่มุ พระพุทธศาสนาในฐานะ สถาบนั หลักของชาติแต่ไมค่ รบ ด้านทกั ษะและกระบวนการ - ประเมินงานกลุ่ม - แบบประเมนิ งาน ทุกประเด็น 2. วเิ คราะห์เกี่ยวกบั หน้าที่ กลมุ่ ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถอธบิ าย ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะ ความสาคัญของ สถาบันหลกั ของชาติ พระพุทธศาสนาในฐานะ สถาบันหลกั ของชาติ ด้านคณุ ลกั ษณะ - ประเมินงานกลุ่ม ดี : วิเคราะหเ์ ก่ยี วกบั หน้าที่ของ 3. บอกประโยชนข์ อง พระพุทธศาสนาในฐานะสถาบนั พระพุทธศาสนาในฐานะ หลกั ของชาติได้อย่างมเี หตุ สถาบันหลกั ของชาติ พอใช้ : วิเคราะห์เกย่ี วกับหนา้ ท่ี ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะ สถาบนั หลกั ของชาติแต่ไม่ครบทุก ประเดน็ ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถวิเคราะห์ เกี่ยวกับหนา้ ท่ีของ พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบัน หลักของชาติ ดี : บอกประโยชน์ของ พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบนั หลักของชาติ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มากกว่า 3 ข้อขึน้ ไป พอใช้ : บอกประโยชนข์ อง พระพทุ ธศาสนาในฐานะสถาบัน หลักของชาติ ได้อย่างถูกตอ้ งนอ้ ย กว่า 3 ข้อ ปรบั ปรุง : ไม่สามารถบอก ประโยชน์ของพระพุทธศาสนาใน ฐานะสถาบันหลกั ของชาติ

46 3436 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ....................................................................................................................................................... .................... ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. ๙9. ความคดิ เห็นน//ขขอ้ อ้ เเสสนนออแแนนะะขขอองงผผบู้ ู้บรหิรหิาราหรหรอืรผอื ทู้ผี่ทู้ไดไ่ี ้รดบั ร้ มับอมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ...........

๔๗ 3447 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ พุทธประวัตแิ ละศาสนิกชนตวั อยา่ ง รหสั วิชา ส21101 รายวิชา สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 เวลา 8 ชว่ั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั สาระ ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม มาตรฐานการเรียนรู้ ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือ ศาสนาท่ตี นนบั ถือและศาสนาอืน่ มีศรทั ธาทีถ่ กู ตอ้ ง ยดึ ม่ัน และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรม เพ่ืออย่รู ่วมกนั อยา่ งสันติ สุขันติสุข ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.1/1 อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนับถือส่ปู ระเทศไทย ส. อ๑ธ.๑ิบามย.ก๑า/ร๒เผวยเิ คแรผาพ่ ะรหะค์ พวทุามธสศำ�าคสญันาขอหงรพอื ระศพาุทสธนศาาทสี่ตนนาน หับรถอื อื ศสาปู่ สรนะาเทที่ตศนไทนยบั ถอื ท่ีมีตอ่ สภาพแวดลอ้ มในสงั คมไทย รสวม1ท.1้ังกมา.ร1พ/ฒั 2นาตนและครอบครัว วิเคราะห์ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือทมี่ ตี ่อสภาพแวดลอ้ มในสงั คมไทย รวมทั้ง ๒ก.ารสพาัฒระนสา�ำตคนญั แ/ลคะวคารมอคบิดครวั บยอด 2 .สาระพสราะคปญั ร/ะคววตั าติ มง้ั คแติดป่รวรบะสยตูอิดจนถงึ บำ� เพญ็ ทกึ กรกริ ยิ า ประวตั สิ าวก ชาดก เรอื่ งเลา่ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ยอ่ ม ท�ำให้ไดข้ ้อพคุิดทสธำ�ปครญั ะเวกัตย่ี ิตวั้งกแบั ตก่ปารรปะสระูตพิ จฤนตถิตึงนบแาลเะพค็ญณุ ทธุรกรกมรอกันิรเิยปาน็ แปบรบะวอัตยิสา่ งาขวอกงทช่าานดซก่งึ ทเรกุ ื่อคงนเลค่าวรนศ�ำาไสปนปิกฏชิบนัติ ใตนวั กอายร่าดง�ำเนยนิ่อมชีวทิตาให้ได้ข้อคิดสาคัญเกี่ยวกับการประพฤติตนและคุณธรรมอันเป็นแบบอย่างของท่าน ซ่ึงทุกคน ควรนาไปปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชวี ติ 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1) อธิบายพทุ ธประวัติตัง้ แต่ประสตู ิ เสดจ็ ออกผนวช และบาเพ็ญทุกกรกิริยาได้อยา่ งถูกต้อง 2) อธิบายข้อคิดที่ไดจ้ ากการศึกษาพทุ ธสาวกและพุทธสาวิกา 3) วิเคราะห์แนวทางการปฏิบตั ิตนตามคุณธรรมท่ีได้จากศาสนกิ ชนตวั อย่าง ทกั ษะ/กระบวนการ 4) อธบิ ายเหตุการณ์พุทธประวตั ิไดอ้ ย่างถกู ต้อง คลอบคลมุ สาระสาคญั ของเหตุการณ์ 5) ตั้งคาถามในประเดน็ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั พุทธประวตั ไิ ด้อย่างนา่ สนใจและมวี จิ ารณญาณ 6) อธบิ ายประวัตขิ องพุทธสาวก พุทธสาวิกาได้ครบและถกู ต้อง 7) อภปิ รายแนวทางการประยุกต์ใชข้ ้อคิดท่ีได้อยา่ งมีความเข้าใจถูกตอ้ งเหมาะสมและ สร้างสรรค์ 8) ระบแุ ละอธบิ ายเกย่ี วกับข้อคิดและคุณธรรมท่ไี ด้รบั จากการศึกษาเร่ืองศาสนิกชนตัวอย่าง ได้อยา่ งเหมาะสม 9) วิเคราะห์ข้อคิดจากเร่ืองราวของอัมพชาดกและติตตริ ชาดกได้อย่างมคี วามเข้าใจถูกต้อง และมเี หตผุ ล

๔๘ 3548 เจตคติ 10) อภิปรายคณุ ค่าและความสาคัญของการศึกษาพุทธประวัติ 11) ประยกุ ต์ใชข้ ้อคิดทไี่ ด้จากการศึกษาพทุ ธประวัตกิ ับชวี ิตได้ 12) อภปิ รายคุณค่าของการยึดถอื ปฏบิ ัตติ นตามแนวทางของศาสนาได้ 13) ประเมนิ คา่ ค่าของการยึดถือ ปฏบิ ัติตนตามแนวทางของศาสนาได้ 14) อภปิ รายคณุ คา่ ของข้อคิดและคุณธรรมทีไ่ ด้จากการศึกษาเร่ือง อัมพชาดก และ ติดตริ ะ ตชติาดตกิรชไาดดอ้ กย่ไาดงมอั ยีเหา่ ตงมผุ ีเลหตผุ ล 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแก้ปัญหา 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - ม่งุ ม่ันในการทางาน 6. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้นื งานหรือภาระงาน - การเขยี นเรียงความเร่ือง “การประยกุ ต์ใช้แนวทางปฏิบัติตนของพระพุทธเจ้า พทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ าและศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ในการดาเนินชวี ติ ประจาวนั ”

๔๙ 4936 เกณฑ์การประเมินผลชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) 4 (ดีมาก) การประยุกต์ใช้แแนนววททาางง รระะบบคุ ุ คุณุ ณธรธรรมรทมีค่ทว่ี ครวร รระะบบุคุ คุณุ ณธรธรรมรทมค่ี ทว่ี ครวร ระบุคณุณธธรรมรทม่คีทวค่ี รวร ไมส่ ามารถระบุ ปฏิบัติตนนขขอองพงระพุทธเจ้า ยยดึ ดึ ถถอื ือเเปปน็ ็นแแบบบอยา่ งของง ยยดึ ดึ ถถอื ือเเปปน็ ็นแแบบบอยา่ งของ ยยดึ ดึ ถอื อื เปน็ แบบอยย่าา่ งง คุณธรรมทคี่ วรยึดถือ กพแพพแในาลลุรทุทรกะะะดธธาศศพาสรสาาเดนุทสาสาำวนนิธนว�เิกชเินกกกิ จาวีชนิช้าพิตนนช ปตพุวีตทรติัวัวทุะธออจธสยยาสาา่่วาาวงงันวิกใกนา พพรระะพทุ ุทธธเเจจา้ ้า พพทุ ุทธธสสาาวก ศพไถพเพชพปกูาทุรชนรุปทสตะื่ธะอตนธฏพอ้ สพสัมกวิบงิ ทุาุทาอชวตโั ธเวธชกิยยนติเิเกจอ่ืาจ่ตาางาา้ แมม้างวัก แลโไพอลพายดใะยทุะนงรุท้ ถา่ศกธชนธงู กาสาวี สไสตราาติดานนวไ้้วอกปำิกกง� พแตพขขสตแลอวัอลาททุุวั วอะงงะอธธกพพศยศยสสราา่พราา่าาะสงงสะววทุพนไไพนกกิดดธทุกิ ากทิุส้้ ชธาชธเนวจนเจกิ้าา้าพ ทุ ธ ประจำ�วนั พพทุ ุทธธสสาาววกิ ิกาาแแลละะศาสนิก เป็นแบบอยา่ งของ ศชานสตนัวกิ อชยน่ตางวั ไอดย้ถา่ ูงกไตด้อง พระพุทธเจา้ พทุ ธ ถเกูชตื่ ออ้ มงโเชยอ่ื งมกโายรงกนาารนไปำ� สาวก พุทธสาวิกา ไปปฏฏิ บิ บตั ั ติ ตาิ มตใานชมวี ติ ใ น และศาสนิกชน ปชรีวะิตจปำ�วรนะั จไดาอ้วยันา่ไงด้อย่าง ปประฏจิ ำ�บวนั ตไดิ อ้ตยา่ งม ใ น ตวั อย่างได้ สสมมเเหหตตสุ ุผมลผลแลและะมมีการ สชรีวา้ ิงตสปรรระคจ์ า วันได้อย่าง กแาสรดแงสคดวงาคมวคาิดมเหคด็ินเอหยน็ ่าง อสยรา่้ งสรรา้ คงส์ รรค์ สรา้ งสรรค์ เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน 12 - 10 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 9 – 7 หมายถึง ดี คะแนน 6 – 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 3 – 1 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแต่ระดับ ดี

๕๐ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๗ เรื่อง เหตกุ ารณส์ าคัญในพุทธประวตั ิ เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง พทุ ธประวตั ิและศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ตวั ชวี้ ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ ขนั้ นา ส1.2 ม.1/3 วิเคราะห์พุทธประวัติตั้งแต่ 1. ครูสุ่มตัวแทนนกั เรยี นให้ออกมาเล่าเรอื่ งเกี่ยวกับเหตกุ ารณ์ในพทุ ธประวัติที่ 1. หนงั สอื เรียนพระพทุ ธศาสนา ประสูติจนถึงบาเพ็ญทุกรกิริยา หรือ ประวัติศาสดา ทน่ีนกั เักรเยีรนยี นเคเยคไยดไ้ยดนิ้ยหินหรือรเือคเยคศยกึศษึกาษมาามหานห้านชา้ ั้นชเน้ั รเียรนยี น 2. สื่อโปรแกรม Power Point ทต่ี นนับถือตามทกี่ าหนด 2. ครูเปิดภาพเหตุการณ์สาคัญในพุทธประวัติโดยใช้สื่อโปรแกรม Power เรอื่ ง พุทธประวัติ สาระสาคญั Point แล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกันระบวุ ่าแตล่ ะภาพคอื เหตุการณใ์ ด 3. ใบความรู้ชุด เหตุการณ์ จริยวรัตรรตแแลละะกกาารรปปรระะพพฤฤตติปิปฏฏิบบัติตนของ ขั้นสอน พทุ ธประวตั ิ ผนู้ าทางศาสนาเป็นแบบอย่างท่ีดีในการดาเนินชีวิต 3. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม สมาชิกในกลุ่มจานวนเทา่ ๆๆ กัน หลังจาก ภาระงาน/ช้ินงาน และพัฒนาตนเองของ ศาสนิกชน นั้นครูแจกใบความรู้ชุดเหตุการณ์ในพุทธประวัติให้นักเรยี นแต่ละกลุ่ม โดยแต่ 1) อธิบายเหตุการณ์พุทธประวัติ ขอบเขตเนื้อหา ละกลมุ่ จะได้รบั ใบความรู้ดังต่อไปนี้ ได้ออยย่า่ างถงถูกูตก้อตง้ อคงรอคบลคอลบุมค ลุ ม พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึงบาเพ็ญทุกกรกิริยา - กลุ่มที่ 1 ใบความรู้เหตกุ ารณ์ชว่ งประสูติ สาระสาคญั ของเหตุการณ์ ประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า ศาสนิกชนตัวอย่าง - กลมุ่ ที่ 2 ใบความรู้เหตุการณ์ชว่ งพบเทวทูตท้ัง 4 ย่อมทาให้ได้ข้อคิดสาคัญเกี่ยวกับการประพฤติตน - กลุ่มที่ 3 ใบความรู้เหตุการณช์ ว่ งเสดจ็ ออกผนวช และคุณธรรมอันเป็นแบบอย่างของท่าน ซ่ึงทุกคน - กลมุ่ ท่ี 4 ใบความรู้เหตุการณช์ ว่ งบาเพ็ญทุกรกิริยา ควรนาไปปฏบิ ตั ใิ นการดาเนนิ ชีวติ - กลมุ่ ท่ี 5 ใบความรเู้ หตกุ ารณ์ตรสั รู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาข้อมลู จากใบความรูท้ ่ีไดร้ บั ในประเดน็ ลาดับ ด้านความรู้ เวลาทีเ่ กดิ เหตุการณ์ สถานที่ทเี่ กย่ี วข้องกบั เหตุการณ์และบุคคลท่ีเกีย่ วข้องกับ 1. อธบิ ายเหตกุ ารณ์สาคัญในพทุ ธประวตั ไิ ด้ เหตกุ ารณ์ ด้านทกั ษะและกระบวนการ 5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาสรุปเหตุการณ์สาคัญในพุทธ 2. วิเคราะห์ข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเหตุการณ์ใน ประวัตติ ามท่ีกลุม่ ตนเเอองงไไดดร้ ้รบั ับพร้อมทั้งนาำ�เสนอข้อคิดทีไ่ ดร้ บั จากการศึกษษาา ใพนุทพธุทปธรปะรวะัตวไิ ดตั ้ไิ ด้ เหตกุ ารณส์ าคญั ในพทุ ธประวัติช่วงดงั กล่าวหน้าชนั้ เรียน 3750

51 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๗ เรือ่ ง เหตกุ ารณ์สาคัญในพทุ ธประวัติ เวลา 1 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่อื ง พทุ ธประวตั ิและศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ด้านคณุ ลกั ษณะ ขัน้ สรุป 3. อภิปรายคุณค่าและความสาคัญของการศึกษา 6. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ “เพราะเหตุใดเรา พทุ ธประวตั ิ ตอ้ งศึกษาเกย่ี วกบั ประวตั ิความเปน็ มาของบุคคลสาคญั หรือผนู้ า ทางศาสนา” (แนวคาตอบ : จรยิ วตัรรตแแลละกะการาปรประรพะพฤฤตปติ ปิฏฏบิ ิบตั ติั นติ น ของผ้นู าทางศาสนาเป็นแบบอยา่ งทดี่ ีในการดาเนนิ ชวี ิตและ พฒั นาตนเองของ ศาสนิกชน) 38

52 5239 เกณฑ์การประเมนิ วิธีการ เคร่ืองมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ส่ิงทตี่ ้องการวัด/ประเมิน - การถาม/ตอบ ด้านความรู้ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน ดี : อธิบายเหตุการณ์ 1. อธิบายเหตุการณ์สาคัญ พุ ท ธ ป ร ะ วั ติ ได้ อ ย่ า ง ในพุทธประวัติได้ ถู ก ต้ อ ง ค รลอ บ ค ลุ ม ส า ร ะ ส า คั ญ ข อ ง ด้านทักษะ/กระบวนการ เหตกุ ารณ์ 2. วเิ คราะห์ขอ้ คิดทไ่ี ดจ้ าก - ประเมนิ ผลงาน พ อ ใ ช้ : อ ธิ บ า ย การศกึ ษาเหตุการณใ์ นพทุ ธ นกั เรยี น เหตุการณ์พุทธประวัติ ประวัติได้ ได้ บ างเห ตุ ก ารณ์ ท่ี สาคัญ ปรับปรุง : ไม่สามารถ อ ธิ บ า ย เห ตุ ก า ร ณ์ ใ น พทุ ธประวัตไิ ด้ - แบบประเมินผลงานนกั เรียน ดี : วิเคราะห์ข้อคิดท่ี ไ ด้ จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ด้านคุณลักษณะ เหตุการณ์พุทธประวัติ 3. อภปิ รายคณุ คา่ และ ได้อย่างเข้าใจ มีเหตุผล ความสาคญั ของการศึกษา แ ล ะ คิ ด ไ ด้ อ ย่ า ง พทุ ธประวตั ิ หลากหลาย พอใช้ : ระบุและข้อคิด ทไี่ ด้อยา่ งเข้าใจ ปรับปรุง : ไม่สามารถ บอกขอ้ คดิ ได้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ดี : อภิปรายคุณค่าและ นักเรยี น ความสาคัญในการศึกษา พุทธประวตั ิอย่างมีเหตุผล และคิดไดอ้ ยา่ งหลากหลาย พอใช้ : บอกความสาคัญ ของเรือ่ งท่เี รยี นได้ ปรบั ปรงุ :อภิปรายคณุ ค่า และความสาคัญได้

53 4503 8. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ............ ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................... ........................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่อื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ๙9. คววาามมคคิดดิ เเหหน็ น็ /ข/ข้อ้อเสเนสนอแอนแะนขะอขงอผงู้บผรบู้ ิหราหิ ราหรรหอื รผือทู้ ผี่ไู้ทดร้ี่ไดับร้มบั อมบอหบมหายมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดือน.......... พ.ศ. ....

๕๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรื่อง พุทธประวตั ิ เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง พุทธประวตั ิและศาสนกิ ชนตัวอย่าง กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตัวช้ีวดั กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ส1.2 ม.1/3 วิเคราะห์พุทธประวัติ ขน้ั นา 1. หนังสือเรียนพระพุทธศาสนา 1๑. คครรใู หูให้น้นักัเกรเียรนียดนูชดดุ ูชภุดาภพาพพุทพธุทปรธะปวรัตะิตวาัตมิตลาามดลบั �ำตดัง้บแตต่ป้ังรแะตส่ปูติรเะสสดูต็จ ิ 2. สอื่ อโปโรปแกรรแมกPรowมerPPooiwnte r P o in t ตั้งแต่ประสูติจนถึงบาเพ็ญทุกรกิริยา หรือ อเสอดก็จผอนอวกชผบนาวเชพ็ญบท�ำุกเพก็ญรกทิรุกิยการแกลิระิยตา รสัแรลู้โะดตยรใัสชร้สู้โื่อดโยปใรชแ้สกื่อรโมปรPแoกwรeมr เรอื่ ง พทุ ธประวตั ิ ประวัติศาสดาที่ตนนบั ถือตามที่กาหนด PoiwnterเรP่ือoงinพtุทเธรป่ือรงพะวุทัตธปิ แรละ้วตั ิ้ังแปลรว้ ะตเั้งดป็นรคะเาดถ็นาคม�ำเถกา่ียมวเกย่ีับวภกาับพภชาพุด ภาระงาน/ชน้ิ งาน ดชงัุดกดลังา่กวลน่านั้ วมนคีั้นวมาีคมวเกาม่ยี วเกขี่ย้อวงขก้อับงพกรับะพรทุ ะธพเจุท้าธอเยจา่้างอไยร่างไร 1) ตั้งคาถามในประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับพุทธ สาระสาคัญ ขนั้ สอน ประวตั ไิ ดอ้ ย่างนา่ สนใจและมีวจิ ารณญาณ จริยวรตั รรตแแลละะกกาารรปปรระะพพฤฤตตปิ ปฏฏบิ ตั ติ น 2. ครูให้นักเรียนศึกษาวีดีทัศน์เรื่องพุทธประวัติฉบับย่อ แล้วให้ นักเรียนทุกคนคิดประเด็นที่ตนสงสัยหรือสนใจคนละหนึ่งประเด็น ของงผผู้นู้นา�ำททาางศงศาสานสานเาปเ็นปแ็นบแบบอบยอ่างยท่าี่ดงีใทน่ีดกีใานร หลังจากวีดที ศั น์จบ ดการเนดิ�ำนเนชีินวิ ตชีวแิตลแะลพะั พฒัฒนนาาตตนนเเอองของง ศาสสนนกิ ิกชชนน ขอบเขตเนื้อหา 3. ครูแจกกระดาษ post-it ขนาด 3 คูณ 3 น้ิว ให้นักเรียนทุกคน พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึง เพ่ือเขียนประเด็นคาถามที่ตนเองคิดภายหลังจากศึกษาวีดีทัศน์เรื่อง บาเพ็ญทุกกรกิริยา ประวัติสาวก ชาดก เรอื่ ง พุทธประวตั ลิ งในกระดาษทค่ี รูแจกให้ เล่า ศาสนิกชนตัวอย่าง ย่อมทาให้ได้ข้อคิด ๔4. คครรจู ูจัดัดกกลลุ่มุ่นมักนเักรเยี รนียตนาตมาปมระปเรดะ็นเคดา็นถคา�มำถทา่นี มกั ทเรี่นยี ักนเขรียนลเขงใียนนPลoงใsนt- สาคัญเกี่ยวกับการประพฤติตนและคุณธรรม Pitosโtด-iยt แโบดย่งแกบลุ่งมกตลาุ่มมตคาวมาคมวเากมี่ยเกวี่ยขว้อขง้อรงะรหะวห่าวง่าคงคา�ำถถาามมแแลละลา�ำดับ อนั เป็นแบบอย่างของท่าน ซ่ึงทุกคนควรนาไป เหตุการณ์ในพทุ ธประวตั ิแต่ละชว่ งดังต่อไปนี้ ปฏบิ ตั ิในการดาเนนิ ชีวิต - กลุ่มที่ 1 คาถามเกี่ยวกบั เหตกุ ารณ์ชว่ งประสูติ - กล่มุ ท่ี 2 คาถามเก่ียวกับเทวทตู ท้งั 4 - กลมุ่ ท่ี 3 คาถามเกยี่ วกับเหตกุ ารณ์ชว่ งบาเพ็ญทกุ รกริ ิยา 4514

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๘ เร่อื ง พุทธประวัติ ๕๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง พุทธประวัติและศาสนกิ ชนตัวอย่าง เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - กลุ่มท่ี 5 คาถามอื่นๆ ทน่ี ่าสนใจ ดา้ นความรู้ 5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเลือกประเด็นคาถามท่ี 1. อธิบายเหตุการณส์ าคญั ในพุทธประวตั ิได้ ทนน่ีาส่าสนนใจใจขขอองงสมาชกิ ภภาายยใในนกกลลมุ่ ุ่มแลแว้ลร้ว่วรม่วกมันกอันภอิปภราิปยราแยลแะละ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ วเิ คราะหใ์ นประเดน็ คาถามทีเ่ ลือก 2. วิเคราะห์ ตีความ เหตุการณ์ ในพุทธ 6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอ ประวัติได้ ประเด็นคาถามท่ีกลุ่มของตนเลือกแล้วนาเสนอข้อสรุปจาก การอภิปรายภายในกลุ่มย่อยให้นักเรียนกลุ่มอ่ืนฟัง โดยครู ดา้ นคณุ ลักษณะ เขียนข้อสรุปที่น่าสนใจลงบนกระดานภายหลังจากการ 3. ประยุกต์ใช้ข้อคิดท่ีได้จากการศึกษาพุทธ นการเสนน�ำอเสขนอองขนอักงเรนียกั นเรแียตน่ลแะตกล่ ะ่มุ กลมุ่ ประวตั ิกบั ชวี ิตได้ ขนั้ สรุป ๗7. ครูและนักเรียนร่ว่วมมกกันันออภภิปิปรราายยสสรรุปุปใในนปปรระะเเดด็น็นขข้อ้อคคิดิดที่ ทไดไี่ ้จดาจ้ กากากราศรึกศษกึ ษาพาพุททุธปธประรวะัตวิตั (ิแ(แนนวควคาตำ� ตออบบ: :จจริยรยยิวววรตั รตั รตรแแลละ การประพฤติปฏิบัติตนของผนู้ าทางศาสนาเปน็ แบบอย่างท่ีดี ในการดาเนนิ ชีวิตและพฒั นาตนเองของ ศาสนกิ ชน) 8. ครูให้นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ถึงแนวทางการนาข้อคิด ที่ไดจ้ ากการศึกษาพุทธประวตั ิไปประยุกตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวัน 42 55

56 5463 เกณฑก์ ารประเมนิ สง่ิ ทต่ี ้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ดี : อธิบายเหตุการณพ์ ุทธ 1. อธิบายเหตุการณ์สาคัญ - การถาม/ตอบ ประวตั ิได้อยา่ งถูกต้อง คล ในพุทธประวัตไิ ด้ - แบบประเมินผลงานนักเรยี น คอบรอคบลคมุ ลสมุาสระาสระาสคำัญ�คขญั อขงอง เหตุการณ์ ด้านทักษะ/กระบวนการ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน พอใช้ : อธิบายเหตุการณ์ 2 . วิ เค ร า ะ ห์ ตี ค ว า ม - การตั้งคาถาม พทุ ธประวัติได้บาง เหตุการณใ์ นพุทธประวัติได้ เหตุการณ์ที่สาคัญ ดา้ นคณุ ลักษณะ ปรับปรงุ : ไม่สามารถ 3. ประยุกต์ใช้ข้อคิดท่ีได้ - การอภิปราย อธบิ ายเหตุการณ์ในพุทธ จากการศึกษาพุทธประวัติ ประวตั ิได้ กับชวี ติ ได้ ดี : ตั้งคาถามในประเด็นท่ี เก่ยี วข้องกบั พุทธประวัติได้ อย่างน่าสนใจและมี วิจารณญาณ พอใช้ : ตง้ั คาถามได้อยา่ ง นา่ สนใจ ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถ วจิ ารณญาณในการต้งั คาถาม ดี : อภปิ รายการประยกุ ต์ใช้ ข้อคิดท่ไี ด้จากการศึกษา พุทธประวัติไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม พอใช้ : อภปิ รายการ ปกราระปยุกระตย์ใชกุ ป้ตรใ์ ชะป้วตัระไิ ดว้ตั ิได้ ปรบั ปรุง : ไม่สามารถ อภปิ รายการประยุกตใ์ ช้ ข้อคิดทีไ่ ด้

57 4547 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ................................................................................................ ............................................................................. ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชือ่ ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วนั ที.่ .........เดือน..........พ.ศ............. 9๙. คววาามมคคิดดิ เเหห็น็น//ขข้อ้อเสเสนนออแแนนะะขขอองผงู้บผู้บรหิ ราหิ ราหรรหอื รผอื ้ทู ผ่ีไู้ทด่ีไร้ ดบั ้รมบั อมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชือ่ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ..........

๕๘ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๙ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง ประวัตพิ ทุ ธสาวก พุทธสาวิกา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ตัวช้วี ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ส1.2 ม.1/4 วิเคราะห์และประพฤติตน ขนั้ นา 1. หนงั สอื เรยี นพระพทุ ธศาสนา 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับความหมายของพุทธสาวกและพุทธ ภาระงาน/ชนิ้ งาน ตามแบบอยา่ งการดาเนนิ ชวี ติ และข้อคดิ จากประวัติ สาวกิ าโดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี 1) อธิบายประวัติของพุทธสาวก สาวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนิกชนตวั อย่างตามท่ี พุทธสาวกิ าได้ครบและถูกตอ้ ง กาหนด - พุทธสาวกและพุทธสาวิกาหมายถึงอะไร และมีความสาคัญต่อ พระพุทธศาสนาอยา่ งไร”(แนวคาตอบ : หมายถึงผู้ทน่ี ับถือพระพุทธเจา้ ผฟู้ ัง สาระสาคญั และปฏิบัติตามคาสอนของพระพุทธเจ้าเพศชายเรียกว่า “พุทธสาวก” ได้แก่ ข้อคิดจากเร่ืองราวของผู้ท่ีศรัทธายึดม่ันใน ภิกษแุ ละอุบาสก เพศหญิงเรียกวา่ “พุทธสาวิกา” ไดแ้ กภ่ ิกษุณีและอบุ าสกิ า ) ศาสนา เป็นแนวทางท่ีดีในการดาเนินชีวิตหรือ 2. ครถู านนักเรียนเกี่ยวกบั พุทธสาวก พทุ ธสาวิกา ท่นี ักเรียนรจู้ กั พฒั นาตนของผอู้ นื่ ขั้นสอน ขอบเขตเนอ้ื หา 3. ครูให้นักเรียนศึกษาประวัติของพุทธสาวก พุทธสาวิกา ท้ัง 4 คนได้แก่พระ พทุ ธสาวก หมายถึง ผู้ท่ีนับถอื พระพุทธเจ้า มหากสั สปะ พระอุบาลี อนาถบิณณฑฑิกิกะเเศศรรษฐี และนางวสิ าขา จากใบความรู้ และหลักธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้า หากเป็น ชดุ ประวัตพิ ทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ า ชายจะเรียกว่า พุทธสาวก หากเป็นหญิงจะเรียกว่า 4. ครูให้นักเรียนเล่นเกม “สืบคุณสมบัติ.. พุทธสาวก/พุทธสาวิกา” โดยมี พุทธสาวิกกา พพุทุทธธสสาาววกกจจึงึงหหมมาายยถถึงึงภภิกิกษษุกุแแลละะ กติกาดังต่อไปน้ี คือ ครูบอกคาใบ้ซ่ึงแสดงลักษณะหรือคุณสมบัติสาคัญของ อุบาสก ส่วนพุทธสาวิกา หมายถึง ภิกษุณีและ พุทธสาวกและพุทธสาวิกาให้นักเรียนฟัง หลังจากน้ันให้นักเรียนค้นหาคาตอบ อบุ าสิกา จากคาใบ้ดังกล่าวนั้นตรงกับพุทธสาวกและพุทธสาวิกาคนใด โดยคาใบ้และ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ คาตอบมดี ังต่อไปน้ี ดา้ นความรู้ - พุทธสาวก คนที่หนึ่ง เป็นผู้ชักชวนพระอรหันต์ กว่า 500 รูป มา 1. อธิบายประวัติของพุทธสาวก พุทธสาวิกาคน กระทาการสังคายนาคร้ังแรก (พระมหากสั สปะ) สาคัญได้ - พทุ ธสาวก คนทสี่ อง เชี่ยวชาญดา้ นพระวินยั (พระอุบาลี) 4558

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๙ เรือ่ ง ประวัตพิ ุทธสาวก พุทธสาวกิ า ๕๙ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง ประวตั พิ ุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า เวลา 1 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 - พุทธสาวก คนท่ีสาม มั่งคั่ง ม่ันคง นิยมทาบุญทาทาน (อนาถบิณฑิกะ เศรษฐ)ี ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ - พุทธสาวิกา คนที่สี่ ผมงาม เน้ืองาม กระดูกก็งาม ผิวก็งาม 2. ประยุกต์ใช้ข้อคิดท่ีได้จากการศึกษา วยั ก็ยงั งาม (พระนางวสิ าขา) เรื่องของ พุทธสาวก พุทธสาวิกา ใน 5. ครูให้นักเรียนที่ตอบคาถามถกู ในแต่ละข้อสรุปประวัติของพุทธสาวก ชวี ิตประจาวันได้ พทุ ธสาวกิ าในขอ้ ท่ตี นเองตอบถกู หน้าชัน้ เรียน ด้านคุณลักษณะ 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย 3. ประเมนิ คณุ ค่าของการยึดถือ ปฏบิ ตั ิ ขน้ั สรุป ตนตามแนวทางของศาสนาได้ 7. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายถงึ คุณค่าของการศึกษาประวตั ิของ - พทุ ธสาวก พุทธสาวิกา 46

60 6407 เกณฑก์ ารประเมนิ สง่ิ ที่ต้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ 1. อธิบายประวัติของพุทธ - สงั งเกเตกพตฤพตกิ ฤรตรมิ ก ร ร ม - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ดี : อธิบายประวัติของ สาวก พุทธสาวิกาคนสาคัญ นกั เรียน พุทธสาวก พุทธสาวิกา ได้ ได้ครบและถกู ตอ้ ง พ อ ใ ช้ : สาามมาราถร ถ อธิบบาายยปรปะรวะัตวพิ ัตทุ ิพธ ุ ท ธ สาวกและพุทธสาวิกา ได้เป็นบางคน ปรับปรุง : ไม่สามารถ อธิบายประวัตขิ องพทุ ธ สาวกและพุทธสาวิกา ได้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 2. ประยุกต์ใช้ข้อคิดที่ได้ - สังงเกเตกพตฤพตกิ ฤรตรมิ ก ร ร ม - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ดี : สามาารมถ า ร ถ จากการศึกษ าเร่ืองของ นักเรยี น - แบบประเมนิ ผลงานนกั เรยี น ประยุกต์ใช้ข้อคิดที่ได้ พุทธสาวก พุทธสาวิกา ใน - ปรระเะมนิเ มผิลนงาผนล ง า น จาก พุ ท ธส าวกแล ะ ใชนวี ชติ ีวปิตรปะรจะาจวัน�ำวไนัด้ได้ นักเรยี น พุ ท ธ ส าวิ ก าอ ย่ างมี ความเข้าใจถูกต้องและ เหมาะสมและนา่ สนใจ พอใช้ : ประยุกต์ใช้ ขอ้ คิดท่ีไดอ้ ยา่ งเข้าใจ ปรับปรุง : ไม่สามารถ ประยกุ ต์ใช้ข้อคิดได้ ด้านคุณลกั ษณะ 3. ประเมินค่าค่าของการ - ปรระเะมินเ มผิลนงาผนล ง า น - แบบประเมินผลงานนักเรยี น ดี : ประเมินคุณค่าของ ยึดดถถือื อปฏปิบฏตั ิตบนั ติาตมน ต า ม นักเรียน การรปปฏิบฏัติ บิตั ตนิตานมต า ม แนวทางของศาสนาได้ แนวทางของศาสนาได้ อย่างเหมาะสมและมี เหตุผล พอใช้ : ประเมนิ คุณค่า ของการปฏิบัติตนตาม แนวทางของศาสนาได้ ปรับปรุง : ไม่สามารถ ประเมนิ คุณคา่ ได้

61 4681 8. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................... ............................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดือน..........พ.ศ............. ๙9. ความคดิดเเหห็นน็ //ขข้อ้อเเสสนนออแแนนะะขขอองผงผู้บบู้รหิริหาราหรหรอื รผือู้ทผ่ีไู้ทดไี่ ้รดับ้รมับอมบอหบมหามยาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................)

๖๒ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๐ เรื่อง คณุ ธรรมประจาใจ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรื่อง พทุ ธประวตั ิและศาสนิกชนตัวอยา่ ง เวลา 1 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ตวั ชว้ี ัด กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ ส1.2 ม.1/4 วิเคราะห์และประพฤติตน ข้นั นา 1. หนงั สอื เรียนพระพุทธศาสนา 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนบทเรียนเกยี่ วกบั พุทธสาวก พุทธสาวกิ า ภาระงาน/ชิ้นงาน ตามแบบอย่างการดาเนินชวี ติ และข้อคิดจากประวัติ 2. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่าสามารถนาเอาข้อคิดและคุณธรรมของ 1 ) อภภิปิ ปรารยาแยนวแทนางว ท า ง ก า ร สาวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอยา่ งตามท่ี พทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ า ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร ปการระปยรุกะยตกุ ์ใตชใ์้ขช้อข้อคคิดดิ ทไดี่ไอ้ดย้อา่ ยง่มางี มี กาหนด ขนั้ สอน ความเข้าใจถูกต้อง สาระสาคญั 3. ครูตดิ แผ่นป้ายหวั ข้อพุทธสาวก พุทธสาวิกา บนกระดานหนา้ ชัน้ เรียน เรียง ข้อคิดจากเรื่องราวของผู้ท่ีศรัทธายึดม่ันใน ดังต่อไปนี้ ศาสนา เป็นแนวทางท่ีดีในการดาเนินชีวิตหรือ - พระมหากัสสปะ พัฒนาตนของผอู้ ่ืน - พระอุบาลี ขอบเขตเนื้อหา - อนาถบิณฑกิ ะเศรษฐี พุทธประวัติตั้งแต่ประสตู ิ จนถึงบาเพ็ญทุก - นางวิสาขา ทกรุกกริรกิยริ าิยาป ประรวะัตวิสตั าสิ วากวกชชาาดดกกเรเร่ือือ่ งงเลเล่าา่ ศาสนิกชน 4. ครูให้นักเรียนร่วมวิเคราะห์ข้อคิดและคุณธรรมจากประวัติของพุทธสาวก ตัวอย่าง ย่อมทาให้ได้ข้อคิดสาคัญเก่ียวกับการ พุทธสาวิกาท้ัง 4 คน หลังจากน้ัน ครูให้นักเรียนออกมาเขียนข้อคิดและ กปารระปพรฤะพตฤิตตนติ แนลแะลคะุณคณุ ธธรรรมมออันนั เป็นแบบบบออยย่า่างขงอขงอง คุณธรรมท่ีได้จากการศึกษาประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา ลงบนกระดาน ท่าน ซ่ึงทกุ คนควรนาไปปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชวี ิต บรเิ วณใต้แผ่นปา้ ยหวั ข้อทต่ี ิดอยบู่ นกระดาน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 5. ครูถามคาถามนักเรียนเก่ียวกข้บัอกขับอ้ คิดและคุณธรรมที่ได้จากการศึกษาเร่ือง ด้านความรู้ ของพุทธสาวก พุทธสาวิกา นัน้ สามารถนาไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน 1. ระบุข้อคิดและคุณธรรมท่ีได้รับจากการพุทธ ไดอ้ ย่างไรบา้ ง สาวกและพทุ ธสาวกิ า 4962

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๐ เรือ่ ง คุณธรรมประจาใจ ๖๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง พุทธประวตั ิและศาสนิกชนตวั อย่าง เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ด้านทักษะและกระบวนการ ข้นั สรุป 2. อภิปรายแนวทางการประยุกต์ใช้ 6. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายถึงคุณค่าของการศึกษาประวตั ิ ข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเรื่องของ พุทธ ของพุทธสาวก พุทธสาวกิ า (แนวคำ�ตอบ : ข้อคดิ จากเรอื่ งราวของ สาวก พทุ ธสาวิกา ในชวี ิตประจาวันได้ สผาู้ทวศ่ี กรัทพธุทาธยสึดามวั่นิกใาน(ศแานสวนคาา ตเปอน็บแ:นขว้อทคาิดงทจา่ีดกีในเรกื่อางรรดาำว�เขนอินงชผวิีู้ทิต่ี หรอื ดา้ นคุณลักษณะ ศพรฒั ัทนธาตยนดึ ขมอ่นั งใผน้อูศน่ืาส) นา เปน็ แนวทางทด่ี ีในการดาเนนิ ชีวิตหรือ 3. อภิปรายคณุ ค่าของการยึดถือ ปฏิบัติ พัฒนาตนของผู้อนื่ ) ตนตามแนวทางของศาสนาได้ 50

๖๔ 64 51 เกณฑก์ ารประเมิน สิ่งที่ต้องการวดั /ประเมนิ วธิ ีการ เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. ระบุข้อคิดและคุณธรรมท่ี - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกกตตพพฤฤตติกิกรรรมม ดี : ระบแุ ละอธิบาย ได้รับจากการพุทธสาวกและ นักเรยี น นกั เรียยนน เกีย่ วกับข้อคดิ ท่ีได้รบั พุทธสาวิกา - ประเมินผลงานกลุ่ม -- แแบบบบปปรระะเมเมินินผลผงลางนาน จากการศึกษาเรอื่ งพทุ ธ กกลลุ่มุม่ สาวก พทุ ธสาวกิ าได้ อยา่ งหลากหลายและ เหมาะสม พอใช้ : ระบขุ ้อคิดทีไ่ ด้ จากการศึกษาได้ ปรับปรุง : ไม่สามารถ ระบุขอ้ คดิ ทีไ่ ดร้ ับ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ๒2.. ออภภปิ ิปรารยาแยนแวทนาวงทางการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกกตตพพฤฤตตกิ ิกรรรมม ดี : อภิปรายแนวทางการ กกพจใปชกสนาาาีวทุาราชรกรติ รธะปวปวีกปสศยิตรรากราึุกกะประะวศยยตรษจกพกุึกุกะ์าใาุพตษจตวชทเันำ�์ใ์ใทุ้าขรชชวธเไื่ธ้ออรข้นัด้ขสสือ่ งคอ้อ้้ไางดาขคิคดวข้ดิวดิอกิทอิททากงงี่ไ ไี่่ไีดาดดพ้จุ้้ ทใานกธ นกั เรยี น นกั เรยียนน กปารระปยรุกะตย์ใุกชต้ข์ใอ้ ชค้ขิด้อทคี่ไดิ ท้ ี่ได้ - ประเมนิ ผลงานกลุ่ม -- แแบบบบปปรระะเมเมนิ ินผลผงลางนาน อยา่ งมีความเข้าใจ กกลล่มุ มุ่ ถกู ต้องเหมาะสมและ สรา้ งสรรค์ พอใช้ : อภปิ ราย แนวทางการประยุกต์ใช้ ขอ้ คิดที่ไดอ้ ย่างมคี วาม เขา้ ใจถูกตอ้ ง ปรบั ปรุง : ไม่สามารถ ประยกุ ตใ์ ช้ข้อคดิ ท่ีได้ ด้านคุณลกั ษณะ 3. อภิปรายคุณค่าของการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกกตตพพฤฤตตกิ ิกรรรมม ดี : อภิปรายคณุ ค่าของ กยดึารถยือึดปถฏือิบัตปิตฏนิบตัาตมิตแนนตวาทมาง นักเรยี น นักเรยี ยนน การปฏบิ ัติตนตาม แขนองวศทาสงนขอาไงดศ้ าสนาได้ - ประเมนิ ผลงานกลุม่ -- แแบบบบปปรระะเมเมนิ ินผลผงลางนาน แนวทางของศาสนาอย่าง กกลลุ่มุ่ม มีความเขา้ ใจถูกต้องและ มเี หตุผล พอใช้ : อภปิ รายคุณค่า ของการปฏบิ ัตติ นตาม แนวทางของศาสนาอย่าง มีความเขา้ ใจ ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถ อภิปรายคณุ ค่าได้

65 5625 8. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. ๙9.. ความคิดเห็น/ขข้ออ้ เเสสนนออแแนนะะขขอองงผผู้บ้บู รรหิ หิ าราหรหรอืรอืผผู้ทู้ที่ไดีไ่ ร้ดบั ร้ มบั อมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชือ่ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดือน..........พ.ศ..........

๖๖ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑๑ เร่อื ง ศาสนิกชนตัวอย่าง เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรื่อง พทุ ธประวัติและศาสนิกชนตวั อย่าง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ตวั ช้ีวดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ ส1.2 ม.1/4 วิเคราะห์และประพฤติตน ข้นั นา 1. สมุดจดบนั ทึก 1. ครูถามนักเรียนเก่ียวกับบุคคลท่ีนักเรียนยึดถือเป็นแบบอย่างในการดาเนิน 2. สื่อโปรแกรม Power Point ตามแบบอย่างการดาเนนิ ชวี ติ และข้อคดิ จากประวัติ ชีวิต พร้อมให้นกั เรยี นยกตวั อยา่ งหนา้ ช้นั เรยี น 3. หนงั สือเรยี นพระพทุ ธศาสนา สาวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนิกชนตวั อย่างตามที่ 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจเก่ียวกับบุคคลท่ีเป็นแบบอย่างอันดีในการนับ ภาระงาน/ชิ้นงาน กาหนด ถือและปฏิบัติตนตามแนวทางของศาสนาแล้วยกตัวอย่าง พระเจ้าอโศก 1 ) อภภปิ ิ ปรารยาแนยวแทนางว ท า ง ก า ร มหาราชและพระอตุ ตระเถระ กปารระปยรุะกยตุก์ใตชใ์ ้ขช้ขออ้คคิดิดทท่ีไ่ี ดอ้ ยย่า่างงมมี ี สาระสาคัญ ขั้นสอน ความเข้าใจถูกต้องเหมาะสมและ ข้อคิดจากเรื่องราวของผู้ท่ีศรัทธายึดมั่นใน 3. ครูให้นักเรียนศึกษาวีดีทัศน์เร่ือง พระเจ้าอโศกมหาราช พระอุตตระเถระ สรา้ งสรรค์ หลงั จากจบวดี ที ศั น์ ครถู ามความรสู้ ึกของนกั เรยี นท่ีมีตอ่ วดี ที ศั น์ ศาสนา เป็นแนวทางท่ีดีในการดาเนินชีวิตหรือ พฒั นาตนของผ้อู น่ื ขอบเขตเนือ้ หา 4. ครูสุ่มนักเรียนตัวแทนจานวน 4 คน ให้ออกมาเขียนข้อคิดและคุณธรรมที่ พุทธประวัติต้ังแต่ประสูติ จนถึงบาเพ็ญทุก ได้รับจากการศึกษาประวัติของพระเจ้าอโศกมหาราชและพระอุตตระเถระบน กทรกุ กริรกิยิราิยาป รปะรวะัตวิสัตาสิ วากวกชชาาดดกกเรเรื่อื่องงเลเล่าา่ ศาสนิกชน กระดาน ตัวอย่าง ย่อมทาให้ได้ข้อคิดสาคัญเกี่ยวกับการ 5. ครูให้นักเรียนเขียนแนวทางการประยุกต์ใช้ข้อคิดและคุณธรรมที่ได้จาก ปการระปพรฤะตพิตฤนติตแนลแะลคะุณคธณุ รธรรมรอมันอนัเปเป็น็นแแบบบบออยย่า่ งของ การศึกษาประวัติของพระเจ้าอโศกมหราชและพระอุตตระเถระลงในแบบ ท่าน ซึง่ ทุกคนควรนาไปปฏิบัตใิ นการดาเนนิ ชวี ติ บันทึกกจิ กรรม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขั้นสรุป ดา้ นความรู้ 6. ครูให้นักเรียนแสดงความคดิ เหน็ ถงึ คุณค่าของการเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี โดยใช้ 1. อธิบายข้อคิดและคุณธรรมท่ีได้รับจากการ แนวคาถามดังต่อไปนี้ การศกึ ษาเรอ่ื งศาสนกิ ชนตัวอยา่ งได้ - การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนทด่ี ีมีคุณค่าอย่างไรต่อตวั นกั เรยี น (แนว คาตอบ : จิตใจสงบสขุ ดว้ ยหลักธรรมทางศาสนา) 5636

๖๗ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๑ เรอ่ื ง ศาสนิกชนตัวอย่าง เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรือ่ ง พทุ ธประวตั ิและศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ด้านทกั ษะและกระบวนการ - การศกึ ษาเร่ืองราวของ พุทธสาวก พุทธสาวกิ า และ ศาสนิกชนตวั อยา่ งนั้น มีประโยชนต์ ่อตัวนักเรยี นอย่างไร” (ข้อคดิ และแนวทางการปฏิบตั ติ นจาก 2. อภิปรายแนวทางการประยุกต์ใช้ข้อคิดที่ได้ เร่อื งราวของผู้ท่ีศรัทธายึดม่ันในศาสนา เป็นแนวทางที่ดใี นการดาเนนิ ชีวิต จากการศึกษาเร่ืองของศาสนิกชนตัวอย่าง ใน หรอื พัฒนาตนของผ้อู น่ื ) ชวี ิตประจาวนั ได้ ด้านคุณลกั ษณะ 3. อภิปรายคุณคา่ ของการยดึ ถือ ปฏบิ ตั ิตน ตามแนวทางของศาสนาได้ 54

68 6855 ส่ิงทต่ี ้องการวดั /ประเมิน วิธีการ เคร่ืองมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - สงั เกตพฤติกรรม 1. อธิบายข้อคดิ และ นกั เรยี น - แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น ดี : ระบุและอธิบายเกย่ี วกบั คณุ ธรรมที่ไดร้ บั จาก ข้อคิดและคณุ ธรรมที่ได้รับ การศกึ ษาเรื่องศาสนิกชน จากการศึกษาเรื่องศาสนกิ ตวั อยา่ งได้ ชนตัวอยา่ งได้อยา่ ง หลากหลายและเหมาะสม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ พอใช้ : ระบขุ ้อคิดและ คุณธรรมท่ีได้จากการศึกษา ได้ ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถระบุ ขอ้ คิดและคุณธรรมที่ได้รับ 2. อภิปรายแนวทางการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ดี : อภปิ รายแนวทางการ ประยกุ ต์ใช้ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ าก นักเรยี น - แบบประเมินผลงานกลุ่ม ประยกุ ต์ใช้ขอ้ คิดที่ได้อย่างมี การศกึ ษาเร่ืองของศาสนิก - - ประเมินผลงาน ชนตัวอย่าง ใน กลมุ่ ความเขา้ ใจถกู ต้องเหมาะสม ชวี ิตประจาวนั ได้ และสรา้ งสรรค์ พอใช้ : อภิปรายแนวทาง ดา้ นคณุ ลักษณะ การประยุกต์ใชข้ ้อคดิ ท่ไี ด้ 3. อภิปรายคณุ ค่าของการ อย่างมีความเข้าใจถูกต้อง ยึดถอื ปฏิบตั ติ นตาม ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถ แนวทางของศาสนาได้ ประยุกตใ์ ช้ขอ้ คดิ ที่ได้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน ดี : อภปิ รายคุณค่าของการ นักเรียน ปฏิบตั ติ นตามแนวทางของ ศาสนาอย่างมีความเข้าใจ ถกู ต้องและมเี หตุผล พอใช้ : อภิปรายคณุ คา่ ของ การปฏิบตั ติ นตามแนวทาง ของศาสนาอย่างมีความ เขา้ ใจ ปรบั ปรุง : ไม่สามารถ อภิปรายคุณคา่ ได้

69 5669 8. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข .................................................................................................................................... ....................................... ลงชื่อ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ๙9. ความคคดิ ดิ เเหห็นน็ //ขขอ้ อ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงผู้บู้บรหิริหาราหรรหือรผอื ทู้ผ่ีไทู้ ดไี่ ร้ ดับร้ มับอมบอหบมหามยาย ................................................................................................................................ ........................................... ลงชอื่ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดือน..........พ.ศ..........

๗๐ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑2 เร่ือง ศาสนิกชนสมั พนั ธ์ เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรือ่ ง พทุ ธประวัติและศาสนิกชนตัวอย่าง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ตัวช้วี ัด กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ /แหล่งเรียนรู้ ส1.2 ม.1/4 วิเคราะห์และประพฤติ ข้นั นา 1. หนงั สือเรียนพระพทุ ธศาสนา 1. ครูให้นักเรียนอ่านข้อคิดของท่าน “พุทธทาสภิกขุ” พร้อมกันจากภาพ 2 ส่ือโปรแกรม Power Point ตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจาก ดังต่อไปน้ี เรอ่ื ง ศาสนกิ ชนสัมพันธ์ ประวัติสาวก ชาดก/เร่ืองเล่า และศาสนิกชน ตวั อย่างตามทกี่ าหนด สาระสาคญั ภาระงาน/ช้นิ งาน 1) ระบุและอธิบายเกี่ยวกับข้อคิด ข้อคิดจากเร่ืองราวของผู้ที่ศรัทธายึดมั่น แลละะคณุคุ ธณรรธมรทรไี่ ดม้รทับ่ีจไาดก้ รั บ จ า ก ในศาสนา เป็นแนวทางท่ีดใี นการดาเนินชีวิตหรือ การศกึ ษาเร่ืองศาสนิกชนตัวอย่าง พัฒนาตนของผูอ้ น่ื ได้อยา่ งเหมาะสม ขอบเขตเนือ้ หา ทม่ี า : httpp::////wwwwww.t.trruueepploloookkppaannyyaa.c.ocomm/d/daatat/ap/rpordoudcutc/tb/lbolgo/g/ พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึงบา�ำเพ็ญ images/uppllooaadd//ffoollddeerr__33CCoonnstsetlellaltaiotinosn/su/pucpocnotns/ts/ ทกุ กกรรกกริ ิรยิ ิยา าปรปะรวะตั วสิ ัตาิสวกาวชกาดกชาเรดอ่ื กงเเลรา่ ่ือ ศงาเลส่านกิ ศชนา 111133558688618_116_5136551032561480821684678_81105846771_6133015_4n7.jp1g6331_n.jpg ตสัวนอิกยช่านง ตยัว่ออมยท่า�ำงใหย้ได่อ้ขม้อทคาิดใสห�ำ้ไคดัญ้ขเ้อกค่ียิดวกสับากคัาญร 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นข้อคิดที่ได้รับจากข้อความคา ปเกรี่ยะวพกฤับตกิตานรแปลระะคพุณฤธตริตรนมอแันละเปค็นุณแธบรบรอมยอ่าันงเขปอ็นง คสอำ�สนอขอนงขทอา่ งนทพา่ ทุนธพททุ าธสทภาิกสขภุ ิกขุ ทแ่าบนบอซย่ึงท่างกุ ขคอนงคทว่ารนน�ำซไ่ึงปทปุกฏคิบนตั คใิ วนรกนาารไดป�ำปเนฏินิบชัตวี ิใติ น 3. ครูถามคาถามนักเรียนเกี่ยวกับความรู้ที่นักเรียนมีเบื้องต้นเก่ียวกับท่านพระพุทธ การดาเนินชวี ิต ทาสภกิ ขุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. อธิบายข้อคิดและคุณ ธรรมที่ได้รับจาก การศึกษาเร่อื งศาสนกิ ชนตวั อยา่ งได้ 5770

๗๑ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑2 เรือ่ ง ศาสนิกชนสัมพนั ธ์ เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง พุทธประวตั ิและศาสนิกชนตวั อยา่ ง กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ขั้นสอน 2. อภิปรายแนวทางการประยุกตใ์ ช้ข้อคิดที่ 4. ครูบรรยายเกย่ี วกับประวัตขิ องท่านพระพทุ ธทาสภกิ ขุ ได้จากการศึกษาเรื่องของ พุทธสาวก พุทธ 5. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ “พระพทุ ธทาสภกิ ขุเปน็ สพาุทวธกิ สาาวในิกชา วี ใิตนปชรีวิ ะิตจปารวะนั จไำด�ว้ ันได้ ทแดี่บีใบนอกยา่ารงดทาี่ดเนีติน่อชศีวาิตสหนริกอื ชพนฒั อนย่างตไนรเ”อง(แไดน้ว)คแำ�บตบออบย:า่ งเปท็น่ีดแีตบ่อบศาอสยน่างิกทชี่ดนี อในยา่กงาไรรด”ำ�เนินชีวิตหรือพัฒนาตนเอง) ดา้ นคุณลกั ษณะ 3. อภิปรายคณุ ค่าของการยึดถือ ปฏิบตั ิตน 6. ครูแบง่ กลุ่มออกเปน็ 4 กลุม่ โดยใช้วธิ ีการให้นกั เรยี นทกุ คนนบั เลขเรยี งกนั ตามแนวทางของศาสนาได้ 7. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาจับฉลากคาสอนของทา่ นพระพทุ ธทาส ภิกขุแล้วใหน้ ักเรียนวิเคราะหแ์ นวทางการนาขอ้ คดิ ทไ่ี ด้ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน แลว้ ออกมานาเสนอในรปู แบบของการแสดงบทบาทสมมติ ใชเ้ วลาแสดงกลุ่มละ 5 นาที โดยคาสอนทีน่ ักเรียนจะได้รับมีดงั ตอ่ ไปนี้ - “ คนชัว่ คอยแต่จะโฆษณาความชว่ั ของผู้อน่ื เพราะเขารู้จกั แตค่ วามชวั่ ของ ผูอ้ ่ืนไม่ร้จู ักความดีของใคร” - “ ไสยศาสตร์นี้ เกบ็ ไว้ใหค้ นปญั ญาอ่อนใชไ้ ปเรอื่ ยๆจนกว่าปญั ญาเขาจะแก่ แ“ลปปว้ดิ ิดเข-เาปกิดจ็-ะป“ปเาปาปกกลดิ ยี่สส-นนเนปเทอทิดนงนป”าาา พกพดู ดูสจจนาาธทธรนรรมา มพวนัวูดนัยจังยาคงัธ่าคร่ำรอ� มยอา่ยวพา่ันูดพยูดเงั รคือ่เร�ำ่ งื่อเอหงยเลหา่วลพไหวูดไลเหรลือ่ งเหลวไหล พูดแตเ่ ร่อื ง ดับทกุ ขไ์ ด โดยสจั นัย ไมเ่ ท่าไหร่ คนทงั้ โลก ไม่โศกแล” - “ หมาเห่า อย่าเหา่ ตอบเพราะจะทาให้มหี มาเพิม่ อีกหนึ่งตวั ถงึ เขาจะด่าเรา อยา่ งเสยี ๆ หายๆนน้ั ก็ไม่ใช่เหตผุ ลท่ีเราควรจะดา่ กลบั ” 8. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความรสู้ ึกภายหลงั จากการแสงดบทบาทสมมติแล้ว บนั ทึกลงในแบบบนั ทึกกิจกรรม 71 58

๗๒ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑2 เรอื่ ง ศาสนกิ ชนสมั พนั ธ์ เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง พทุ ธประวตั ิและศาสนกิ ชนตวั อย่าง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ข้นั สรปุ 9. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรปุ การเรียนร้โู ดยใช้แนวคาถามดังตอ่ ไปนี้ - จากการศึกษาและทากิจกรรมท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ประวัตแิ ละหลกั ธรรมคาสอน ของท่านพระพทุ ธทาสภกิ ขุมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไรต่อตวั นักเรยี น ( แนวคาตอบ : ทา่ นพระ พทุ ธทาสภิกขเุ ปน็ แบบอย่างทีด่ ใี นด้านศาสนิกชนสัมพนั ธแ์ ละการศึกษาข้อคิดจาก เรอื่ งราวของผ้ทู ี่ศรทั ธายดึ ม่นั ในศาสนา เป็นแนวทางในการดำ�เนินชีวติ ) 59

เกณฑก์ ารประเมนิ 73 7360 สง่ิ ท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - คาถาม/ตอบ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ดี : ระบแุ ละอธบิ ายเก่ียวกับ 1. อธิบายข้อคดิ และ นกั เรียน ข้อคิดและคณุ ธรรมที่ได้รบั จาก คุณธรรมที่ได้รบั จาก การศกึ ษาเร่ืองศาสนิกชนตัวอย่าง การศึกษาเร่ืองศาสนิกชน ไดอ้ ย่างหลากหลายและเหมาะสม ตัวอย่างได้ พอใช้ : ระบขุ ้อคิดและคุณธรรม ท่ไี ดจ้ ากการศึกษาได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ - แบบสังเกตพฤติกรรม ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถระบขุ ้อคิด 2. อภปิ รายแนวทางการ - สังเกต นักเรยี น และคุณธรรมทีไ่ ดร้ ับ กปารระปยรุกะตยใ์ กุชต้ขใ์้อชคข้ ิดอ้ ทค่ีไดิ ดทจ้ ไ่ีาดกจ้ าก พฤติกรรม - แบบประเมินผลงานกลุ่ม ดี : อภปิ รายแนวทางการ การศึกษาเรื่องของ พุทธ นักเรยี น กปารระปยรกุ ะตย์ใชกุ ้ขตอ้์ใชคข้ ดิ อ้ ทค่ีไดิ ท้อยีไ่ ด่า้องมยี่างมี พสาุทวธกสาพวทุ กธพสาทุ วธกิ สาาวในกิ า ใน - ประเมินผล ความเขา้ ใจถกู ต้องเหมาะสมและ ใชนีวชติ วี ปิตรปะรจะาจวำ� นั วไนั ดไ้ ด้ งานกลุ่ม สรา้ งสรรค์ พอใช้ : อภิปรายแนวทางการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ - สงั เกต - แบบสังเกตพฤตกิ รรม กปารระปยรกุ ะตย์ใชกุ ้ขต้อใ์ ชคข้ ิด้อทค่ีไดิ ทอ้ ยีไ่ ด่า้องมยีา่ งมี 3. อภปิ รายคณุ คา่ ของการ พฤติกรรม นักเรยี น ความเขา้ ใจถกู ต้อง กยาึดรถยอื ดึ ถปอืฏบิ ปัตฏิติบนัตติตานมตาม นกั เรียน ปรบั ปรุง : ไม่สามารถประยกุ ต์ใช้ แนวทางของศาสนาได้ ขอ้ คิดที่ได้ ดี : อภิปรายคณุ ค่าของการ กปาฏริบปตั ฏติ ิบนตั ตติ านมตแานมวแทนาวงทขอางของ ศาสนาอย่างมีความเขา้ ใจถูกตอ้ ง และมีเหตผุ ล พอใช้ : อภปิ รายคณุ คา่ ของการ กปาฏรบิ ปตั ฏติ ิบนตั ติตานมตแานมวแทนาวงทขอางของ ศาสนาอย่างมีความเขา้ ใจ ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถอภปิ ราย คณุ ค่าได้

74 6714 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................... ........................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ที่..........เดือน..........พ.ศ............. ๙9. ความมคคิดดิ เเหห็น็น//ขข้ออ้ เสเสนนออแแนนะะขขอองผงผู้บบู้รหิริหาราหรรหือรผือูท้ผี่ไ้ทู ด่ีไ้รดบั ้รมบั อมบอหบมหามยาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ที.่ .........เดือน..........พ.ศ..........

๗๕ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑3 เรอ่ื ง อัมพชาดกและตติ ติรชาดก เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง พุทธประวัติและศาสนิกชนตวั อย่าง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ตัวชี้วดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ส1.2 ม.1/4 วิเคราะห์และประพฤติตน ข้ันนา 1. วีดีทัศน์เร่ือง “อัมพชาดก” 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็นชาดกโดยมีแนวคาถาม และ “ติตติรชาดก” ตามแบบอยา่ งการดาเนินชวี ติ และข้อคดิ จากประวัติ ดงั ต่อไปน้ี 2. หนังสือเรยี นพระพทุ ธศาสนา สาวก ชาดก/เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตัวอย่างตาม 3. กระดาษ Post-it ท่กี าหนด - นักเรียนเคยได้ยินหรือรู้จักชาดกหรือไม่ (แนวคาตอบ : เรื่องของ ภาระงาน/ชน้ิ งาน สาระสาคัญ พระพุทธเจ้าท่ีมีมาในชาติก่อนๆ พระองค์นามาตรัสเล่าแห้พุทธบริษัทเพื่อใช้ 1) วิเคราะห์ข้อคิดจากเรื่องราว สอนหลักธรรม) ของอัมพชาดกและติตติรชาดกได้ เรอ่ื งราวหรอื เร่ืองเล่าที่เก่ียวข้องกับศาสนา อย่างมีความเข้าใจถูกต้องและมี มีข้อคิดท่ีแฝงอยู่เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา - นกั เรยี นชอบฟงั ชาดกหรือไม่ เพราะเหตุใดจึงชอบฟงั (แนวคาตอบ : เหตุผล ความคิดและประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เพราะชาดกมีรูปแบบเร่ืองเล่าแบบนิทานท่ีให้ทั้งความสนุกสนานและแฝง ขอบเขตเนือ้ หา ความรไู้ ว้ด้วย) 2. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างชาดกที่นักเรียนรู้จัก แล้วให้นักเรียนบรรยายเน้ือ พุทธประวัติต้ังแต่ประสูติ จนถึงบาเพ็ญทุก เรอื่ งโดยย่อของชาดกที่นักเรยี นรจู้ กั กทรกุ กริรกิยิราิยาป รปะรวะัตวิสัตาิสวากวกชชาาดดกกเรเร่ือ่ืองงเลเล่าา่ ศาสนิกชน ขน้ั สอน ตัวอย่าง ย่อมทาให้ได้ข้อคิดสาคัญเกี่ยวกับการ 3. ครูให้นักเรียนศึกษาวีดีทัศน์เรื่อง “อัมพชาดก” และ “ติตติรชาดก” โดย ประพฤติตนและคุณธรรมอันเป็นแบบอย่างของ เมือ่ นกั เรียนดจู บครใู หน้ ักเรยี นแสดงความรู้สกึ เก่ียวกับชาดกทงั้ สองเร่ือง ทา่ น ซ่งึ ทกุ คนควรนาไปปฏบิ ัติในการดาเนนิ ชีวิต 4. ครูแจกกระดาษ Post-it ขนาด 3 คูณ 3 ให้นักเรียนคนละ 2 แผ่น แล้ว จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ให้นักเรียนเขียนข้อคิดและคุณธรรมที่ได้รับจากการศึกษาเรื่องราวของ อัมพ ดา้ นความรู้ ชาดกและติตติรชาดก ลงในกระดาษที่แจกให้ โดยแบ่งเขียนลงในกระดาษใบ 1. อธิบายเรื่องราวของอัมพชาดกและติตติรชาดก ละแผ่นดังตอ่ ไปนี้ ได้อย่างถกู ตอ้ ง - แผ่นท่ี 1 คณุ ธรรมของอัมพชาดก - แผ่นท่ี ๒ คุณธรรมของติตตริ ชาดก 6275

๗๖ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑3 เรื่อง อัมพชาดกและติตติรชาดก เวลา 1 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง พุทธประวัติและศาสนกิ ชนตัวอย่าง ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ดา้ นทักษะและกระบวนการ 5. ครูเขียนตารางหัวข้อเร่ืองอัมพชาดกและติตติรชาดกลง 2. วิเคราะห์ข้อคดิ จากเรือ่ งราวของอัมพชาดก บนกระดานแล้วให้นักเรียนนากระดาษ Post-it ที่นักเรียน และตติ ตริ ชาดกไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล เขียนข้อคิดและคุณธรรมท่ีได้รับจากชาดกทั้งสองเร่ืองไปติด ดา้ นคณุ ลักษณะ ไว้ในช่องของหัวขอ้ เรือ่ งบนกระดานที่ครูเขียน 3. อภิปรายประโยชน์ของการศึกษาเรื่องราว 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็นข้อคิดและ ของอัมพชาดกและติตติรชาดกได้อย่างมี คณุ ธรรมท่ีเชอ่ื มโยงกนั ระหว่างชาดกท้ังสองเรอื่ ง เหตุผล 7. ครูให้นักเรียนเขียนสรุปเนื้อเรื่องและข้อคิดท่ีได้รับจาก การศึกษาเร่ืองอัมพชาดกและติตติรชาดกลงในแบบบันทึก กิจกรรม ขน้ั สรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปความรู้ที่ได้จาก การศึกษาเร่ืองราวของอัมพชาดกและตติ ติรชาดกโดยใช้แนว คาถามดังตอ่ ไปนี้ - การศึกษาเรือ่ งราวของชาดกให้ประโยชน์และ คณุ คา่ อย่างไรกบั นักเรียน (แนวคาตอบ : นาขอ้ คิดท่ีไดไ้ ป เปน็ แนวทางในการประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน) 63

77 7764 เกณฑก์ ารประเมิน ส่ิงทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ วิธกี าร เครื่องมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายเรือ่ งราวของอัมพ - คาถาม/ตอบ -คแำ�บถบามสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน ดี : อธบิ ายเรอื่ งราวของอัมพ ชาดกและติตติรชาดกได้ ชาดกและติตตริ ชาดกไดอ้ ยา่ ง ถูกต้องและคลอบคลุม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สาระสาคัญ พอใช้ : อธบิ ายเร่อื งราวของ อมั พชาดกและติตตริ ชาดกได้ อยา่ งถูกต้อง ปรบั ปรุง : ไมส่ ามารถอธบิ าย เรือ่ งราวของอัมพชาดกและ ตติ ตริ ชาดกได้ 2. วิเคราะห์ข้อคิดจาก - สังเกต - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น ดี : วเิ คราะห์ข้อคิดจาก เร่อื งราวของอัมพชาดกและ พฤติกรรม เรอื่ งราวของอัมพชาดกและ ตติ ติรชาดกได้ นกั เรียน ติตติรชาดกได้อย่างมีความ เขา้ ใจถูกต้องและมเี หตผุ ล ดา้ นคณุ ลกั ษณะ พอใช้ : วิเคราะหข์ ้อคิดจาก 3. อภิปรายประโยชนข์ อง - สงั เกต เร่ืองราวของอัมพชาดกและ การศึกษาเร่ืองราวของอัมพ- พฤติกรรม ติตตริ ชาดกได้ ชาดกและตติ ตริ ชาดกได้ นกั เรียน ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถ วเิ คราะหข์ ้อคิดจากเรือ่ งราว ของอัมพชาดกและตติ ตริ - ชาดกได้ - แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น ดี : อภิปรายประโยชน์ของ การศกึ ษาเร่ืองราวของอัมพ - ชาดกและตติ ตริ ชาดกต่อชีวิต ตนเองได้อยา่ งมีเหตุผล พอใช้ : อภปิ รายประโยชน์ ของการศึกษาเร่ืองราวของ อัมพชาดกและติตติรชาดกได้ ปรบั ปรงุ : อภปิ รายประโยชน์ ของการศึกษาเรื่องราวของ อัมพชาดกและตติ ตริ ชาดกได้

78 6758 8. บันทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค .......................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................... ................................................................ ลงช่อื ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ๙9. ความมคคดิ ดิ เเหห็น็น//ขขอ้ ้อเสเสนนออแแนนะะขขอองผงผ้บู บู้รหิริหาราหรรหอื รผอื ทู้ ผี่ไ้ทู ดี่ไ้รดับ้รมับอมบอหบมหามยาย ....................................................................................................... .................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ..........

๗๙ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑4 เรื่อง คุณธรรมจากชาดกและการนาไปใช้ เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง พทุ ธประวตั ิและศาสนิกชนตวั อยา่ ง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ตัวชีว้ ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ ข้ันนา ส1.2 ม.1/4 วิเคราะห์และประพฤติตน 1. ครูถามคาถามทบทวนนักเรียนเกี่ยวกับอัมพชาดกและติตติรชาดกโดยใช้ 1. หนังสอื เรียนพระพุทธศาสนา ตามแบบอย่างการดาเนินชวี ิตและข้อคิดจากประวัติ แนวคาถามดังต่อไปน้ี สาวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่ 2. สื่อโปรแกรม Power Point กาหนด - อัมพชาดกเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับอะไรและนักเรียนได้ข้อคิด เรื่องคุณธรรมจากชาดกและการ สาระสาคญั อย่างไร นาไปใช้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน เร่อื งราวหรอื เร่ืองเล่าที่เก่ียวข้องกับศาสนา - ติตติรชาดกเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับอะไรและนักเรียนได้ข้อคิด 1) อภิปรายคุณค่าของข้อคิด มีข้อคิดท่ีแฝงอยู่เพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนา อย่างไรบ้าง คุณ ธรรมของอัมพชาดกและ ความคดิ และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ขั้นสอน ติตติรชาดกที่มีต่อชีวิตตนเองได้ ขอบเขตเนือ้ หา 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็น “นักเรียนสามารถแต่ง อย่างมเี หตุผล นิทานทีแ่ ฝงขอ้ คดิ หรอื คุณธรรมไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร” พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึงบาเพ็ญทุก 3. ครูให้นักเรียนแต่งนิทานลงในแบบบันทึกกิจกรรมโดยใช้ข้อคิดและ ทกุกรกรกิริยริยาาป ประรวะัตวิัตสาิสวากวกชชาาดดกกเเรรื่อ่อื งงเเลล่าา่ ศาสนกิ ชน คุณธรรมท่ีได้รับจากอัมพชาดกและติตติรชาดกประกอบการแต่งนิทาน ใช้ ตัวอย่าง ย่อมทาให้ได้ข้อคิดสาคัญเก่ียวกับการ เวลาในการเขยี นนิทาน 10 นาที ประพฤติตนและคุณธรรมอันเป็นแบบอย่างของ 4. ครูสุ่มนักเรียนจานวน 5 คน ออกมาเล่านิทานที่ตนเองแต่งหน้าช้ันเรียน ทา่ น ซงึ่ ทุกคนควรนาไปปฏิบตั ิในการดาเนินชวี ติ พรอ้ มบอกขอ้ คิดหรือคุณธรรมของนิทานที่ตนเองแตง่ และอธิบาย 66 79

๘๐ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑4 เรื่อง คุณธรรมจากชาดกและการนาไปใช้ เวลา 1 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง พทุ ธประวัติและศาสนกิ ชนตัวอย่าง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อสรปุ ด้านความรู้ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนสรุปข้อคิดและคุณธรรมท่ีได้รับ 1. จาแนกขอ้ คดิ และคุณธรรมท่ีแฝงอย่ใู น จากการศึกษาเรอ่ื งอัมพชาดกและตติ ตริ ชาดก อัมพชาดก และ ตดิ ติรชาดก ได้อยา่ งเข้าใจ 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็น “การนาข้อคิดท่ีได้รับจาก ด้านทกั ษะและกระบวนการ อัมพชาดกและตติ ติรชาดกไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ” 2. ประยุกต์ใช้ข้อคิดและคุณธรรมที่ได้รับจาก อมั พชาดกและตติ ตริ ชาดกได้อยา่ งสร้างสรรค์ (แนวคาตอบ : เรื่องราวหรือเร่ืองเล่าที่เก่ียวข้องกับศาสนา มีข้อคิดท่ี แฝงอยู่เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาความคิดและประยุกต์ใช้ใน ดา้ นคุณลกั ษณะ ชวี ติ ประจาวนั ) 3. อภปิ รายคุณค่าของข้อคิดและคณุ ธรรมทไ่ี ด้ จากการศึกษาเรือ่ ง อัมพชาดก และ ติดตติระชชาาดดกกไดไดอ้ ้อยยา่ ่างงมมีเหเี หตตผุ ุผลล 67

81 8618 เกณฑก์ ารประเมิน สงิ่ ท่ีต้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ดี : จาแนกข้อคิดทไ่ี ดจ้ าก 1. จาแนกขอ้ คิดและ นักเรยี น นักเรยี น การศึกษาชาดกอยา่ งมคี วามเขา้ ใจ คุณธรรมทแ่ี ฝงอยใู่ น อมั พ ถกู ต้องตามเนื้อหาของเร่ืองและคดิ ชาดก และ ติดตติรชาดก - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ได้อย่างหลากหลาย นกั เรียน พอใช้ : จาแนกข้อคิดท่ไี ดจ้ าก ด้านทักษะ/กระบวนการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ผลงาน การศึกษาชาดกอยา่ งมีความเข้าใจ 2. ประยุกตใ์ ชข้ ้อคิดและ นักเรยี น นักเรยี น ถกู ต้องตามเนื้อหาของเร่ือง คุณธรรมท่ีไดร้ ับจากอมั พ - - ประเมินผลงาน ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถข้อคิดที่ได้ ชาดกและตติ ตริ ชาดกได้ นกั เรียน - แบบสังเกตพฤติกรรม จากการศึกษาชาดกได้ อยา่ งสรา้ งสรรค์ นักเรยี น ดี : บอกแนวทางการประยุกตใ์ ช้ - แบบประเมินผลงาน ขอ้ คิดและคณุ ธรรมได้อย่างมีความ ด้านคุณลกั ษณะ นักเรยี น เข้าใจถูกตอ้ งเหมาะสมและ 3. อภปิ รายคุณค่าของ - สังเกตพฤติกรรม สรา้ งสรรค์ ข้อคิดและคณุ ธรรมท่ีไดจ้ าก นักเรียน พอใช้ : บอกแนวทางการ การศกึ ษาเร่ือง อมั พชาดก - ประเมนิ ผลงาน ประยกุ ต์ใช้ขอ้ คิดและคุณธรรมได้ และ ตติดตริระชชาาดดก ได้อย่าง นักเรยี น ปรบั ปรงุ : ไมส่ ามารถบอกแนว มีเหตุผล ทางการประยกุ ต์ใช้ขอ้ คิดและ คุณธรรมได้ ดี : อภปิ รายคุณค่าของข้อคดิ คุณธรรมของอัมพชาดกและติตตริ - ชาดกท่มี ตี ่อชวี ิตตนเองได้อยา่ งมี เหตผุ ล พอใช้ : อภปิ รายคณุ ค่าของข้อคดิ คุณธรรมของอัมพชาดกและติตตริ - ชาดกทไ่ี ด้ ปรับปรุง : ไมส่ ามารถอภปิ ราย คุณคา่ ของข้อคดิ คุณธรรมของอัมพ- ชาดกและตติ ตริ ชาดกท่ีได้

82 6892 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค ....................................................................................................................... ................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วันที่..........เดือน..........พ.ศ............. 9๙. ควาามมคคิดิดเเหห็นน็ //ขขอ้ ้อเสเสนนออแแนนะะขขอองผงผูบ้ ู้บรหิ ราหิ ราหรรหอื รผอื ูท้ ผี่ไูท้ ด่ีไร้ ดบั ้รมบั อมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชือ่ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ........

๘๓ 7803 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ วถิ ธี รรม รหัสวิชา ส 21101 รายวิชา สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 เวลา 8 ช่วั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั สาระ พระพุทธศาสนา มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาท่ตี นนับถือและศาสนาอน่ื มศี รทั ธาทถ่ี กู ตอ้ ง ยดึ มนั่ และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ืออย่รู ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุข สุข ตวั ช้วี ดั ส 1.1 ม.1/5 อธบิ ายพุทธคณุ และข้อธรรมส�ำคัญในกรอบอรยิ สจั ๔ หรือหลกั ธรรมของศาสนาทต่ี นนับถอื ตามที่ ก�ำหนด เอหธน็ บิ คาุณยคพา่ ุทแธลคะุณนำ� แไปลพะฒัข้อนธารแรกมป้ สัญาคหัญาขใอนงกตรนอเบอองแรลยิ ะสคจั ร4อบคหรรัวอื หลักธรรมของศาสนาท่ตี นนับถือ ตามท่ี กาหนด เหน็ คณุ ค่าและนาไปพฒั นาแกป้ ัญหาของตนเองและครอบครวั 2 .สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ขอ้ ธรรมสาคญั ในกรอบอริยสัจ 4 เปน็ หลกั สาคัญในการดาเนินชีวิตท่ีนาไปสคู่ วามพ้นทกุ ข์พุทธศาสน - สภุ าษติ เปน็ ข้อธรรมสาคัญท่ีมขี ้อคิดเตือนใจบคุ คลให้นาไปเปน็ หลักในการปฏบิ ัติตนอยา่ งเหมาะสมในการ กดารเนดินำ� เชนีวินติ ชีวิต 3. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ - พระรัตนตรยั - พุทธคุณ ๙ - อรยิ สัจ ๔ ทกุ ข์ (ธรรมที่ควรรู้) สมุทัย (ธรรมท่คี วรละ) นโิ รธ (ธรรมทีค่ วรบรรลุ) มรรค (ธรรมทคี่ วรเจริญ) - ย เว เสวติ ตาทโิ ส, อตฺตนา โจทยตตฺ าน: คบคนเชน่ ใดย่อมเป็นเช่นนนั้ - อตตฺ นา โจทยตฺตาน: จงเตือนตนด้วยตนเอง - นสิ มฺม กรณ เสยฺโย: การใคร่ครวญกอ่ นแล้วจงึ ทาดกี วา่ - ทรุ าวาสา ฆรา ทุกฺขา: เหย้าเรอื นที่ปกครองไม่ดีนาทุกข์มาให้ ทักษะ/กระบวนการ - การวิเคราะหห์ ลักการปฏิบตั ติ นตามหลักอริยสจั ๔ โดยท่ีปรับใชก้ บั ชวี ติ ประจาวนั - วเิ คราะห์และสรปุ ประวัติและลาดับการปฏบิ ัติศาสนพิธีในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา - อธบิ ายความหมายและสามารถปฏบิ ัตติ นตามหลักโยนโิ สมนสิการและระบุหลักธรรมท่ี สอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงได้

๘๔ 8741 เจตคติ - ความสาคญั ของพระรัตนตรัยทมี่ ีตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั - ความสาคญั ของปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมอรยิ สจั 4 และพุทธศาสนสุภาษิต - ปฏบิ ัติตนตามหลักธรรมอริยสัจ 4 และพุทธศาสนสภุ าษิต 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. มีวนิ ัย ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มุง่ ม่นั ในการทางาน 6. การประเมินผลรวบยอด ภาระงานหรอื ช้นื งาน การเสนอแนวทางการนาหลักอริยสัจ 4 ไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน ในหัวข้อ “มรรคานาพาสุข” เกณฑ์การประเมนิ ผลชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) 1. การอธิบายการนาหลัก อธิบายการนาหลัก อธิบายการนาหลกั อธบิ ายการนาหลกั อธบิ ายการนาหลัก อริยสัจ 4 ไปใชใ้ น อริยสจั 4 ไปใชไ้ ด้ อรยิ สัจ 4 ไปใชไ้ ด้ อริยสจั 4 ไปใชไ้ ด้ อริยสัจ 4 ไปใชไ้ ด้ ชีวิตประจาวนั อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ถูกตอ้ ง ถกู ต้องแตย่ ังไม่ และชัดเจน ชัดเจน 2. การบอกความสาคัญ บอกความสาคัญของ บอกความสาคัญของ บอกความสาคัญของ บอกความสาคัญของ ของการนาหลักอริยสัจ 4 อรยิ สจั ได้อยา่ งถกู ต้อง อริยสจั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง อรยิ สจั ได้ถกู ต้อง อรยิ สัจได้ถูกต้องแต่ ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน เหมาะสมและชัดเจน เหมาะสม ยงั ไมช่ ดั เจน 3. ความเรียบร้อยของ ผลงานเปน็ ระเบียบ ผลงานเปน็ ระเบียบ ผลงานเปน็ ระเบยี บ ผลงานไม่เป็น ผลงาน สวยงาม ไมม่ คี าผดิ สวยงาม มีคาผิด แต่ยงั ไม่สวยงาม ไม่ ระเบยี บ มคี าเขียน เล็กนอ้ ย ไมมคี ่มาคีผำดิ �ผดิ ผดิ มาก เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน 12 - 10 หมายถึง ดีมาก คะแนน 9 – 7 หมายถึง ดี คะแนน 6 – 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 3 – 1 หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ตง้ั แต่ระดบั ดี

๘๕ ๘๕ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 15 เรือ่ ง พระรตั นตรัย หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่ือง วถิ ีธรรม แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 เรื่อง พระรัตนตรยั เวลา 1 ชัว่ โมง กหลนุ่มว่ สยากราะรกเราียรนเรรียู้ทน่ี ร3ู้ สเังรคอ่ื มงศวึกถิษธี ารรศมาสนาและวฒั นธรรม ชเวน้ั ลมาัธย1มศชกึ ัว่ ษโามปงีที่ 1 รายวิชา สงั คมศึกษา ตกลวั ชุ่มวี้สัดาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรกริจมกรรมการเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา ชนั้ สมือ่ธั /ยแมหศลกึ ่งษเราียปนีทรี่ ู้1 ตัวชว้ี ัด ส ๑.๑ ม.1/5 อธบิ ายพุทธคุณและข้อ ขกจินั้ กนรารมการเรยี นรู้ 1สื่อ. /ภแาหพลพ่งรเะรพียนุทรธู้รปู พระไตรปฎิ ก ธรรมสาคสัญ๑ใน.๑กรมอ.1บ/อ5ริยสอจัธ๔บิ าหยรพือุทหธลคกั ุณธแรลรมะขอ้ ง 1ขนั้. คนราใู หน้ กั เรียนดูภาพพระพุทธรูป พระไตรปฎิ ก และภาพพระสงฆ์ แ1ล. ะภภาาพพพพรระะพสุทงธฆร์ ปู พระไตรปฎิ ก ศธรารสมนสาาทคต่ี ญั นในนบั กถรือตบาอมรทยิ ่ีกสาจั ห๔นหดรเหอื ็นหคลุณกั ธครา่ รแมลขะอง 1. ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพพระพุทธรูป พระไตรปฎิ ก และภาพพระสงฆ์ 2แล. ะหภนางั พสพอื เรระียสนงพฆร์ ะพทุ ธศาสนา นศาสไปนพาทัฒ่ตี นนานแับก้ปถือญั ตหาามขทอ่ีกงาตหนนเอดงเแหลน็ ะคคุณรคอบา่ แคลระวั 32. หนังสือสเรวียดนมพนรตะ์ พทุ ธศาสนา สนารไปะสพาัฒคนัญาแกป้ ัญหาของตนเองและครอบครัว ภ3า. รหะนงังาสนอื /สชว้ินดงมานนต์ สาระสาคพัญุทธคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ กภารวะเิ งคารนา/ะชห้ิน์คงวาานมสาคัญของพระ อริยสจั 4พทุเปธน็ คหุณลแกั ลสะาขค้อัญธใรนรกมาสราดคาัญเนในิ กชรีวอติ บที่ นอราิยไปสสจั ู่ค4วาเมปพ็นน้หทลุกั ขส์าชคาัญวพในุทกธาทรกุดคานเนคนิ วชรวีมติ ีจทติ ่ีสานึก รกตัารนวติเรคยั ราพะุทหธ์คควณุาม๙สาจคาญั กขใบองพานระพระ ในนาพไปุทสธคู่ วุณามพน้ ทุกข์ ชาวพุทธทกุ คนควรมีจิตสานึก พรัตรนะรตัตรนัยตพรทุยั ธพคทุ ณุ ธค๙ณุ จ๙ากจใบากงาใบนงพานระ ขในอพบุทเขธตคุณเน้อื หา พรตั รนะรตตั รนยั ตพรุทัยธพคุทณุ ธค๙ุณ ๙ 1ขอ. บพเรขะตรัตเนนอ้ื ตหรายั ท่มี า https://bit.ly/2RpERmD 21. พุทระธรคตั ุณนต9รัย ทีม่ า https://bit.ly/2RpERmD จ2ุด. ปพรุทะธสคงุณคก์ 9ารเรียนรู้ ดจดุา้ นปคระวสามงครก์ู้ ารเรียนรู้ 1ด้า. นอคธิบวายมครู้วามหมายของพระรตั นตรัยและบท ส1ร.รอเธสบิริญายพคทุ วธาคมณุหมไดา้อยยข่าองชพดั รเะจรนัตนตรัยและบท ทมี่ า : hhttptpss:/:/b/biti.tl.yly//22CCiRiR66XJXJ บดสทรา้ รนสเทรสรักรเิญษสรพะญิแทุ ลพธะคทุ กณุธรคไะดุณบ้อไวยดน่าอ้ กงยชาา่ รดั งเชจัดนเจน ทีม่ า : https://bit.ly/2CiR6XJ 2ดา้. นเขทียกั นษบะทแสลวะดกมรนะตบ์แวลนะกบาูชราพระรตั นตรยั และบท 2๒..คครูถรถูามานมักนเกัรยีเรนียวน่าวภ่าา ภพาใดพคใือดพครอื ะพพรทุ ะธพภทุ าธพใภดาคพอื ใพดรคะือธพรรรมะแธลระรภมาแพลใะดภคือาพใดคือ ส2ร.รเเขสียรนญิ บพททุ สธวคดณุ มนต์และบูชาพระรัตนตรยั และบท พพหหพพ2พซ“มมรรรร.พงึ่ระะะะาาคเะรพพสสยยปรสะงงถถูถทุุทน็ ฆฆรงงงึึาธธอฆตั์์มศศ““คคง์นนาาแแรรคคสสกัตเูเูกกป์รฉฉนนเร้ว้วรูเลลราาออัยฉยี ยยะันัน”ลนคคสปปยวาาำซ�รร่าคตตคงึ่ะะำออภหญั�เเตบบสสามขอรรพแแาอิิฐฐบลลใยสสดง้้ววแถาาพคเเลชชมมึงอืรว้ื่ื่ออปปพะ“เมมรรชพรแโโะะะ่อืยยกุทกกพมงงว้ธาาววุทโอรรศาา่่ยธ””นัาททงสภปัง้งั้ซซวสสนา่่่ึงึงราาพเเทะาปปมมใเ้ังน็น็ดภภสสออคราาาพพงงิฐอื มคคสพนนภป์์ปาร้เ้ีเี ารรรมะยยีีพะะธปกกกรนรรรออเี้ะววมรบบมมกียแสสาลกาา““ระคครพพ”ภญญััวรรามะะขขพรรออใตตัั งงดนนคตตือรรยยัั ”” ซึ่ง บสรทรสเรสรเญิ สรพญิ ทุ พธคทุ ณุธคุณ ซึ่ง 875285

86 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เร่อื ง วถิ ีธรรม แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 15 เร่ือง พระรตั นตรัย เวลา 1 ชั่วโมง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ขัน้ สอน 3. เห็นคุณค่าของพระรัตนตรัยและพุทธคณุ 3. ครูให้นกั เรียนวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของบทบชู าพระรตั นตรยั และ บทสรรเสรญิ พุทธคณุ 4. ครถู ามนักเรยี นวา่ “เพราะเหตุใดชาวพทุ ธจงึ ตอ้ งสวดมนตบ์ ชู า พระรตั นตรยั และบทสรรเสรญิ พุทธคุณ” ให้นกั เรยี นรว่ มกันตอบและ อภปิ ราย (แนวคคาำ�ตตออบบ: :เพเพราระาเะปเ็นปก็นากราแรสแดสงคดวงาคมวเาคมาเรคพาตร่อพพตร่อะพรตัรนะตรัตรัยนตกรารัย กสวารดสมวนดตมเ์ ปนน็ตเ์วปิธน็กี วาธิรกีแาสรดแงสอดองกอออยก่าองหยา่นงึง่ หขนอง่ึ ขกอางรกบาชู ราบขชูอางขชอางวชพาทุ วธพทใุ ชธ้ ใเปชเ้น็ ปทน็ ยี่ทึดย่ี เดึ หเนหยี่นวย่ี จวติจใติ จใจฝฝกึ กึสสมมาาธธแิ แิลละะนนาำค�คาำส�สออนนททีไ่ ไ่ีดดจ้ จ้ าากการสวดมนตไ์ ป ปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได)้ ( ทักษะการนาไปใช้ ) 5. ครูแจกใบความรเู้ รื่องพทุ ธคุณ ให้นกั เรยี นศึกษาและสรุป สาระสาคัญของบทบชู าพระรัตนตรยั และบทสรรเสริญพทุ ธคณุ ลงใน สมดุ บนั ทกึ 6. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงาน พระรตั นตรัย พทุ ธคุณ 9 นักเรียนทุกคน ตรวจคาตอบร่วมกนั ขน้ั สรปุ ๗. นักเรียนรว่ มกันวิเคราะห์คุณคา่ ของการสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรัย และบทสรรเสรญิ พุทธคุณไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อย่างไร (แนวคาำ�ตตออบบ::เเชชน่ น่ กกาารรสสววดดมมนนตตบ์ ์บชู ชูาพาพระรระตัรนตั ตนรตัยรใัยนใกนจิ กกจิ รกรรมรหมนหา้ นเสา้ า เธสงาหธงรอืหกรอาื รกสาวรสดวมดนมตน์บตชู บ์ าชู พารพะรระตั รนตั ตนรตยัรแยั แลละะบบททสสรรรเสเสรริญญิ พพุททุ ธธคคณุ กอ่ น เขา้ นอนเพอื่ ใหจ้ ิตใจสงบ เปน็ ตน้ ) 73 86

87 8774 เกณฑ์การประเมนิ สง่ิ ทตี่ ้องการวดั /ประเมิน วิธกี าร เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ประเมนิ ผลงานนกั เรยี น แบบประเมนิ ผลงาน ดี : อธบิ ายความหมายและ 1. อธิบายความหมายของ นกั เรยี น คณุ ค่าของพระรตั นตรยั และ บทบูชาพระรตั นตรัยและ สังเกตการปฏิบตั งิ าน บทสรรเสริญพทุ ธคุณได้ บทสรรเสริญพุทธคุณ บทสวดมนต์บชู าพระ อย่างเข้าใจ ชัดเจน ด้านทักษะ/กระบวนการ ครูต้งั คาถาม พรตั รนะรตัตรนยั ตแรลยัะแบลทะสรรเสริญ พอใช้ : อธิบายความหมาย 2. เขียนบทสวดมนตแ์ ละ บพทุ สธรครุณเสริญพทุ ธคุณ และคุณค่าของพระรัตนตรยั บชู าพระรัตนตรยั และบท และบทสรรเสรญิ พุทธคณุ ได้ สรรเสรญิ พทุ ธคณุ คาถามเกี่ยวกบั คุณค่าของ อย่างเข้าใจ ด้านคุณลักษณะ การแสดงความเคารพตอ่ ปรับปรุง : อธิบาย 3. เหน็ คณุ คา่ ของการแสดง พระรตั นตรยั ความหมายและคณุ ค่าของ ความเคารพตอ่ พระ พระรตั นตรัยไม่ได้ รพตั รนะรตัตรนัยตรัย ดี : เขยี นบทสวดมนตบ์ ท บชู าพระรัตนตรยั และบท สรรเสรญิ พทุ ธคณุ ได้อย่าง ถกู ต้องสะอาด เรียบร้อย พอใช้ : เขียนบทสวดมนต์ บทบชู าพระรตั นตรยั และ บทสรรเสริญพุทธคุณได้ อย่างถูกต้อง ปรับปรงุ : ไมส่ ามารถเขียน สวดมนตบ์ ทบูชาได้ ดี : วิเคราะห์คุณค่าของพระ พรัตระนรตัตรนยั ตแรลัยะแพลุทะธพคทุ ณุ ธไคดุณ้ ได้ อยา่ งชดั เจน ถกู ตอ้ ง เหมาะสม พอใช้ : วิเคราะหค์ ุณคา่ ของ พระรัตนตรัยและพทุ ธคณุ ได้ อยา่ งชัดเจน ถกู ตอ้ ง ปรบั ปรุง : ไม่สามารถ วิเคราะห์คุณคา่ ของพระ รพตั รนะรตัตรนัยแตลรัยะแพลุทะธพคทุ ณุ ธไคดุณ้ ได้

88 7858 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่อื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท.่ี .........เดือน..........พ.ศ............. 9๙. ควาามมคคิดิดเเหหน็ ็น//ขขอ้ ้อเสเสนนออแแนนะะขขอองผงผ้บู ู้บริหราหิ ราหรรหอื รผือ้ทู ผ่ีไูท้ ด่ีไร้ ดับร้ มับอมบอหบมหามยาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชื่อ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ........

89 8796 ใบงาน พระรัตนตรยั พุทธคุณ ๙ คาสั่ง ให้นกั เรยี นเขยี นเปรียบเทียบพทุ ธคณุ ๙ กบั พระรตั นตรยั ๑.ความหมายของพระรตั นตรยั คือ................................................................................................... พระพุทธ พระรตั นตรัย พระสงฆ์ คุณของพระพทุ ธเจ้า พระธรรม ผสู้ ืบทอดพระศาสนา คาสั่งสอน ๒.ให้นักเรียนเขยี นอภิปรายแนวทางการปฏิบัตติ นตามหลักพระพุทธคณุ มา ๑ ประเด็น ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................

90 9707 ใบงาน พระรัตนตรัย พุทธคุณ ๙ ( เฉลย ) คาสง่ั ใหน้ ักเรียนเขยี นเปรียบเทียบพระรัตนตรยั กบั พทุ ธคุณ ๙ ๑.ความหมายของพระรัตนตรัย คอื แกว้ อันประเสริฐสามประการทีส่ าคัญของพระพทุ ธศาสนา พระพุทธ พระรัตนตรัย พระสงฆ์ คุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม ผู้สบื ทอดพระศาสนา คาสง่ั สอนของพระพุทธศาสนา ใช้สมองในการศึกษาจน เผยแผ่พระพทุ ธศาสนา หลดุ พน้ จากกิเลสทง้ั ปวง ค้นพบความจรงิ -อนุตตะโร ปรุ ิสะทมั อย่เู หนือความดีความชั่ว ไมย่ ดึ ตดิ -สัมมาสัมพุทโธ มะสาระถิ -โลกะวทิ ู -สัตถาเทวะมะ -อะระหงั -พทุ โธ -วิชชาจะระณะ นสุ สานนัง สมั ปันโน -สคุ ะโต -ภะคะวา ๒.ให้นกั เรยี นเขยี นอภิปรายแนวทางการปฏิบัตติ นตามหลกั พระพทุ ธคณุ มา ๑ ประเด็น (แนวคาตอบ) จะนาหลกั การพุทธคณุ มาใช้แกไ้ ขปญั หาในการเรียนรู้ ถา้ ไมเ่ ขา้ ใจในเรอ่ื ง ทเี่ รียนก็จะลองผิดลองถกู เพ่ือท่ีจะไดค้ น้ พบความจริง นาหลกั ธรรมทไี่ ด้ศกึ ษามาปรับใช้ ในชวี ติ ประจาวนั เช่น การพูดความจริง การตัง้ ใจทางาน ความไม่ประมาท เปน็ ตน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook