Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-07-26-คู่มือครู ภาษาไทย ป.2-1

64-07-26-คู่มือครู ภาษาไทย ป.2-1

Published by elibraryraja33, 2021-07-26 09:48:52

Description: 64-07-26-คู่มือครู ภาษาไทย ป.2-1

Search

Read the Text Version

หนว ยการเรียนรูท่ี 3 เรื่อง เขาใจสอ่ื สาร 275 บทอา น เร่ือง เรอื ไทยกับสายนํ้า หนว ยการเรยี นรูที่ 3 เรอื่ ง เขา ใจส่ือสาร แผนการจดั การเรยี นรูที่ 1 เร่อื ง สระเออื เพือ่ นเอย (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท12101 ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ่ี 2 เรอื ไทยกับสายน้ํา “เชานี้อากาศสดช่ืนดีจัง” ตนขาวพูดกับตัวเองเบา ๆ สายตาก็มองออกไป นอกหนาตาง เห็นพระสงฆกําลังพายเรือมาบิณฑบาตจากชาวบาน ท่ีอาศัยอยู ริมแมน้ํา รวมทั้งที่บานของตนขาวดวย ตนขาวรีบว่ิงไปที่ทาน้ํา ชวยคุณแมหยิบของ ใสบ าตรพระซึง่ วางอยูก ลางลําเรือ และน่ังลงประนมมอื รับพร “คุณแมครับ เรือท่ีพระทานพายมารับบิณฑบาต ช่ือเรืออะไรครับ ลาํ เลก็ จัง” ตนขา วถาม “เรียกวาเรือบด คนไทยเรามีวิถีชีวิตเก่ียวของกับแมน้ําลําคลอง จึงใชเรือเปน พาหนะในการเดินทางต้ังแตโบราณมาจนถึงปจจุบัน” แมถือโอกาสใหความรูแกลูก ชาย “เรือบด ชื่อแปลกดีนะครับ ผมเพ่ิงไดยินเปนครั้งแรก ผมรูจักแต เรอื ยนตข ามฟาก เรอื หางยาว เรอื ดาํ น้ํา เรือรบ ครับ” “ลูกรูจักเรือหลายชนิดน่ีจะ ถาอยางน้ันลูกลองนึกดูซิวา มีเรือชนิดใดบางที่ เก่ยี วขอ งกบั วิถชี ีวติ ของคนไทย แลว มาเลาใหแ มฟงนะลูก” “ครบั ถาอยา งน้ันผมขอไปคนหาขอมูลกอ นนะครับ” ตนขาวหายไปพักใหญ ๆ แลวกลับมาเลาลักษณะและคุณสมบัติของเรือ ที่เก่ียวของกับวิถีชีวิตของคนไทยหลายชนิดดวยกัน เชน เรือแจว เรือจาง เรือ เอ้ยี มจนุ เรอื กลไฟ “เกงมากลูก เห็นไหม แมบานเมืองจะเจริญกาวหนาเพียงใด แตเรือ กย็ ังคงมคี วามจําเปนตอวถิ ีชวี ิตของคนไทยตลอดมา” แมก ลาวดว ยนํา้ เสยี งนุม นวล แสดงถึงความรกั ท่มี ตี อลูกชาย

276 คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) ใบความรูท่ี 1 เรื่อง สระ เ–อื ะ สระ เ –ื อ หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เรอื่ ง เขาใจสื่อสาร แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1 เร่อื ง สระเออื เพื่อนเอย (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 สระ เ–ือะ สระ เ –ื อ รูปสระ เ–อื ะ เปน สระเสียงส้ัน คูก บั สระ เ –ื อ เปนสระเสียงยาว คําท่ีใชรูปสระ เ–ือะ ไมปรากฏคําท่ีใช จะพบบางในคําเลียนเสียง ธรรมชาติ คําท่ีใชรูปสระ เ –ื อ มีท่ีใชมาก ควรฝกอานคํา เขาใจความหมาย ของคาํ เพือ่ การใชทถ่ี ูกตอง เชน เช่อื เบ่ือ เส้อื คาํ ที่ใชร ูปสระ เ –ื อ มตี ัวสะกด เชน เรอ่ื ง เช่ือง ประเทอื ง ขุน เคอื ง เฟองฟงุ

หนว ยการเรยี นรทู ่ี 3 เรือ่ ง เขา ใจสอื่ สาร 277 ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง สระ เ –ื อ หนวยการเรยี นรทู ี่ 3 เรอ่ื ง เขา ใจสอ่ื สาร แผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 เร่อื ง สระเออื เพ่ือนเอย (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท12101 ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 2 คาํ ชี้แจง อา นสะกดคํา และเขียนคาํ ท่ปี ระสมสระ เ –ื อ จากการอานสะกดคํา ๑. รอ – เออื ๒. สอ – เอือ – เสอื – ไมโท ๓. ผอ – อี – ผี / สอ–เอือ–เสือ–ไมโ ท–เสอ้ื ๔. กอ – ลอ – เออื ๕. มอ – เออื – งอ ๖. ชอ – เออื – มอ– เชอื ม – ไมเอก ๗. ปอ – ลอ – เออื – กอ ๘. พอ – เอือ – นอ – เพอื น – ไมเ อก ๙. ขอ – เอือ – นอ– เขอื น – ไมเอก ๑๐. มอ – เออื – งอ ชอ่ื ....................................สกลุ .....................................ชัน้ .................เลขท่ี...........

278 คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) เฉลยใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง สระ เ –ื อ หนว ยการเรยี นรูท ี่ 3 เรอื่ ง เขาใจสอื่ สาร แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 1 เรอ่ื ง สระเอือ เพื่อนเอย (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 2 คําชแ้ี จง อา นสะกดคํา และเขียนคาํ ที่ประสมสระ เ –ื อ จากการอานสะกดคํา ๑. รอ – เอือ เรือ ๒. สอ – เออื – เสอื – ไมโ ท เสือ้ ๓. ผอ – อี – ผี / สอ–เอือ–เสอื –ไมโ ท–เส้ือ ผีเสือ้ ๔. กอ – ลอ – เอือ เกลือ ๕. มอ – เอือ – งอ เมอื ง ๖. ชอ – เออื – มอ– เชอื ม – ไมเ อก เชื่อม ๗. ปอ – ลอ – เออื – กอ เปลือก ๘. พอ – เออื – นอ – เพอื น – ไมเ อก เพอ่ื น ๙. ขอ – เอือ – นอ– เขอื น – ไมเ อก เข่ือน ๑๐. มอ – เออื – งอ เมอื ง ช่อื ........................................สกลุ .....................................ชนั้ .................เลขท่ี...........

หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เร่อื ง เขาใจสอื่ สาร 279 แผนการจัดการเรียนรูที่ 2 เรอื่ ง สระเออื เพ่อื นเอย (2) หนว ยการเรยี นรทู ่ี 3 เรอ่ื ง เขาใจสอ่ื สาร เวลา ๑ ชว่ั โมง กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด สาระที่ 4 หลกั การใชภ าษา มาตรฐานการเรยี นรู ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ ภาษา และพลังของภาษา ภูมิปญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว เปนสมบตั ิของชาติ ตวั ช้ีวัด ป.2/๑ บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต และเลขไทย ป.2/๓ เรยี บเรียงคําเปน ประโยคไดตรงตามเจตนาของการสอื่ สาร ๒. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การมีความรูในการอานคํา การสรางคํา ความหมายของคําและการเขียนคําทปี่ ระสมสระเอือท่ีถูกตอง จะทําใหผ เู รยี นคน พบรูปแบบในการเรียนรแู ละสามารถพัฒนาทักษะทางภาษาของตนเองได ๓. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ๓.๑ ดานความรู ความเขา ใจ (K) - ยกตวั อยา งคาํ ทปี่ ระสมสระเออื ได ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - แตงประโยคจากคาํ ท่ปี ระสมสระเอือได ๓.๓ ดา นคณุ ลักษณะ เจตคติ คา นยิ ม (A) - มมี ารยาทในการอา น ๔. สาระการเรียนรู ๔.๑ สระเอือ ๔.๒ การแตงประโยค ๔.๓ บทรอยกรองกาดํา ๕. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น ๕.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๕.๒ ความสามารถในการคิด ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค ๖.๑ ใฝเ รียนรู ๖.๒ มงุ ม่นั ในการทํางาน ๗. กิจกรรมการเรียนรู

280 ค การจดั กจิ กรรมการเรียนร หนว ยการเรียนรทู ่ี 3 เรอ่ื ง เขา รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 แผนการจดั การเ ลาํ ดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอน เวลา ที่ จุดประสงคก ารเรียนรู ๑. ขอบเขตเนื้อหา การจดั การเรียนรู ทีใ่ ช กจิ กร 1. การอานและเขียนคาํ สระเอือ ขัน้ นาํ 15 1. ครูใหนกั เรยี 2. การแตง ประโยค นาที ความรเู รอ่ื งสร ๒. จุดประสงคก ารเรียนรู 1. มีมารยาทในการอา น ตวั แทนนักเรยี สระเออื หนาช้ัน 2. แบงกลุม นกั เขยี นคําท่ปี ระ ในกระดาษที่ค มากทส่ี ุดในเวล 3. ครใู หตวั แท กลุม ท่ีไดค ะแน นาํ เสนอผลงาน ข้ันสอน 15 1. ครูนาํ นกั เรย นาที รอ ยกรอง เรอ่ื หนงั สอื วรรณค 4 ทลี ะวรรคต นกั เรยี นอานอ 1 รอบ

คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) รู ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 าใจสอื่ สาร จํานวน 12 ช่วั โมง เรยี นรทู ี่ 2 เรื่อง สระเอือเพือ่ นเอย (2) จาํ นวน 1 ชว่ั โมง แนวการจดั การเรียนรู สือ่ การเรียนรู การประเมิน รรมครู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู ยนทบทวน 1. ตัวแทนนักเรียนออกมา - Powerpoint - แบบ สงั เกต ระเอือ โดยให เขยี นสระเออื เรอื่ ง สระเออื พฤตกิ รรม ยนออกมาเขียน เพ่อื นเอย นเรยี น กเรยี นแขงขนั 2. นกั เรียนเขยี นคาํ สระเออื ลง - กระดาษ ะสมสระเอือลง กระดาษ ครูแจกใหได ลาทีก่ าํ หนด ทนนักเรยี น 3. ตวั แทนนกั เรียนออกมา นนมากทส่ี ุด นาํ เสนอหนาชั้นเรียน น รยี นอา นบท 1. นักเรียนอา นบทรอยกรอง - หนังสอื อง กาดํา จาก เรอื่ ง กาดาํ วรรณคดลี ํานํา คดีลํานํา หนา - PowerPoint ตามครู และให เรอ่ื ง สระเออื ออกเสยี งเอง เพ่อื นเอย

หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 เร่ือง เขา ใจสอื่ สาร ลาํ ดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอน เวลา ท่ี จุดประสงคก ารเรยี นรู การจดั การเรียนรู ท่ีใช กจิ กร 2. ครใู หน กั เรยี ใจความสําคญั กรอง (คาํ ถาม) - บทรอยกรอง เรือ่ งอะไรเปนส - นักเรยี นอยา ลกั ษณะนสิ ยั เห หรอื ไม เพราะ - นักเรยี นจะน บทรอ ยกรองน ชวี ติ ประจาํ วัน 3. ครใู หนกั เรยี ประสมสระเออื กรองกาดํา พร ใตดว ยดินสอใน 4. ครูสมุ นกั เร คาํ ประสมสระ จากบทรอยกร รายบุคคล

281 แนวการจดั การเรยี นรู สือ่ การเรยี นรู การประเมิน การเรียนรู รรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น ยนสรุป 2. นักเรยี นสรปุ ใจความสําคญั ญของบทรอ ย ของเร่อื ง (แนวคําตอบ) งกาดํากลาวถึง - การมนี าํ้ ใจ เออ้ื เฟอเผือ่ แผ สาํ คัญ ของกาดํา ากมีลกั ษณะ - อยากเปนเหมือนกาดาํ เพราะ หมอื นกาดาํ กาดาํ ไดเ หยือ่ มาก็รจู กั แบง ปน ะเหตใุ ด เผ่อื แผใ หกับเพอ่ื น นาํ ขอคดิ จาก - มนี าํ้ ใจกับผอู น่ื แบง ปนของ นไ้ี ปใชใน ใหเ พื่อนยืมอปุ กรณก ารเรยี น นไดอยางไร ชวยพอ แมถ อื ของ เปน ตน ยนคน หาคําท่ี 3. นักเรยี นหาคาํ ท่ปี ระสม อจากบทรอย สระเอือจากบทรอ ยกรองกาดํา รอมทั้งขดี เสน และขีดเสน ใต นหนังสอื รยี นยกตัวอยา ง 4. นกั เรียนยกตัวอยา งคาํ ะเออื ที่คนหาได รองเปน

282 ค ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอน เวลา ที่ จุดประสงคก ารเรียนรู การจดั การเรียนรู ทใ่ี ช กจิ กร 3. 2. ยกตวั อยา งคาํ ที่ ประสมดว ยสระเอือได 5. ครทู บทวนค 3. แตง ประโยคจากคําท่ี ประสมสระเออื ได และเชือ่ มโยงค เรอื่ งการแตงป (คําถาม) - ประโยคประ อะไรบาง - ประธาน กรยิ อะไร ครอู ธบิ ายเพม่ิ เ ประโยคบางปร ตองมีกรรมมา ประโยคทม่ี ีใจค ขัน้ ลงปฏบิ ตั ิ 6. ครูยกตวั อย ประสมดวยสร นักเรียนแตง ป เปลา 15 1. ครูใหนกั เรยี นาที ๒ หาคําประสม นอกเหนือจาก

คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) แนวการจดั การเรยี นรู สอ่ื การเรยี นรู การประเมนิ การเรียนรู รรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น ความรเู ดิม 5. นกั เรยี นตอบคาํ ถาม ความรูใหม ประโยค (แนวคําตอบ) - ประธาน คอื ผกู ระทํา ะกอบดวย ไมจาํ เปนตองเปนคน กรยิ า คือ การกระทาํ ยา กรรม คอื กรรม คอื ผูถูกกระทํา เตมิ วา ระโยคอาจไม ารองรับกเ็ ปน ความสมบูรณ ยา งคาํ ที่ 6. นกั เรียนแตง ประโยคปาก ระเอือและให เปลา ประโยคปาก ยนทําใบงานท่ี 1. นักเรยี นทําใบงานท่ี 2 - 3 - ใบงานท่ี ๒ หา - แบบ มสระ เ – อ ท่ี คาํ ประสมสระ ประเมิน กบทรอ ยกรอง เ – อ และ ใบงานท่ี 2-3

หนว ยการเรียนรูที่ 3 เรอ่ื ง เขา ใจสื่อสาร ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอน เวลา ท่ี จดุ ประสงคก ารเรียนรู การจดั การเรยี นรู ทใี่ ช กจิ กร และ ใบงานที่ ประโยคคาํ ประ เ–อ 4. ขนั้ สรปุ 5 1. ครสู มุ นกั เร นาที นําเสนอผลงาน 2. ครแู ละนกั เ สรปุ ความรูเ รอ่ื ประโยค

283 แนวการจดั การเรียนรู สอ่ื การเรยี นรู การประเมิน การเรียนรู รรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น ใบงานท่ี ๓ แตง ประโยคคาํ ๓ แตง ประสมสระ ะสมสระ เ–อ - PowerPoint รยี นออกมา 1. นกั เรียนนาํ เสนอผลงาน เรอ่ื ง สระเอือ นหนา ชน้ั เรียน หนาช้นั เรยี น เพ่อื นเอย เรยี นรวมกัน 2. นกั เรยี นสรปุ ความรูเ รอื่ ง องการแตง การแตง ประโยค (แนวคําตอบ) ประโยคคือการนาํ คํามาเรยี ง กันแลวเกดิ ใจความสมบรู ณ ประกอบดว ย ประธาน กรยิ า และกรรม ซ่ึงบางประโยคไมมี กรรมมารองรับก็มใี จความที่ สมบรู ณได

284 คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) 8. ส่อื การเรียนรู/ แหลงเรียนรู 1) PowerPoint เรอื่ งสระเพ่อื นเอย 2) หนงั สอื วรรณคดีลํานํา 3) กระดาษ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๒ เร่อื ง หาคําประสมสระ เ –ื อ - ใบงานท่ี ๓ เรอ่ื ง แตง ประโยคคาํ ประสมสระ เ –ื อ สิง่ ทตี่ อ งการวดั /ประเมิน วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑก ารประเมิน ดานความรู ผานเกณฑ การประเมนิ - ยกตวั อยา งคาํ ทปี่ ระสม - ประเมินใบงานที่ ๒ - แบบประเมินใบงานท่ี รอยละ 60 สระเออื เรือ่ ง หาคําประสมสระ ใบงานที่ ๒ เรอ่ื ง หาคํา ผานเกณฑ การประเมิน เ –ื อ ประสมสระ เ –ื อ รอยละ 60 ดานทกั ษะและ ผา นเกณฑ การประเมนิ กระบวนการ รอ ยละ 60 - แตงประโยคจากคาํ ที่ - ประเมินใบงานที่ ๓ - ประเมนิ ใบงานที่ ๓ เกณฑก ารประเมิน ระดับคุณภาพผาน ประสมสระเออื เรอื่ ง แตง ประโยคคํา เรื่อง แตง ประโยคคํา เกณฑการประเมิน ประสมสระ เ –ื อ ประสมสระ เ –ื อ ระดับคณุ ภาพผา น ดานคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คานยิ ม - มมี ารยาทในการอาน - ประเมนิ การทํางานและ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ปฏิบตั กิ ิจกรรมในชั้น เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ๑. ใฝเ รียนรู - การสงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ๒. มงุ มัน่ ในการทํางาน สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น ๑. ความสามารถใน ๑. การประเมนิ ๑. แบบประเมนิ การสอื่ สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ๒. ความสามารถในการคิด การสื่อสาร การสอ่ื สาร ๒. การประเมนิ ๒. แบบประเมนิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคดิ

หนว ยการเรยี นรูที่ 3 เรอ่ื ง เขาใจส่ือสาร 285 เกณฑก ารประเมินผลชน้ิ งานหรือภาระงาน เกณฑก ารประเมนิ ใบงานที่ ๒ เรอ่ื ง หาคาํ ประสมสระ เ –ื อ ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมิน 1. ความถกู ตอง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรงุ ) ของเนอื้ หา เขียนคาํ ท่ปี ระสม เขียนคําทีป่ ระสม เขยี นคําท่ปี ระสม เขยี นคาํ ทปี่ ระสม 2. ลายมอื ตัว บรรจง ดวยสระเอือถูกตอง ดวยสระเออื ถูกตอ ง ดวยสระเอือถูกตอง ดว ยสระเออื ถูกตอ ง 3. ความสะอาด 9 - 10 คาํ 7 - 8 คํา 5 - 6 คาํ นอ ยกวา 5 คาํ เขยี นลายมือ เขยี นลายมอื มีหัว เขยี นลายมือ มีหวั เขียนลายมือไมม ีหัว สวยงาม มหี ัว เวน สม่าํ เสมอเปน สว น ไมคอ ยสม่ําเสมอ ไมส มาํ่ เสมอ และ ระยะหางเทากัน ใหญ เวน ระยะหา ง เวน ระยะหา งไม ไมเ วนระยะหา ง ไมเ ทากัน เทากนั ไมมีรอยลบคําผิด มีรอยลบคาํ ผิด มีรอยลบคาํ ผิด มีรอยลบคาํ ผดิ 1 จุด 2 - 3 จุด มากกวา 4 จดุ เกณฑก ารตดั สนิ คะแนน 10 – 12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7–9 หมายถงึ ดี คะแนน 4–6 หมายถึง พอใช คะแนน 1-3 หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑก ารผาน ตงั้ แตระดบั พอใช ขน้ึ ไป

286 คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) เกณฑก ารประเมนิ ใบงานท่ี ๓ เรอ่ื ง แตง ประโยคคาํ ประสมสระ เ –ื อ ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมิน 1. ความถกู ตอ ง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรุง) ของเน้อื หา แตงประโยค แตงประโยคได มใี จความสมบรู ณ แตง ประโยคมี แตงประโยค แตมใี จความ 2. ลายมอื ตวั ลําดับเรื่องราว ไมสมบูรณ บรรจง ชัดเจน ใชป ระโยค ใจความสมบรู ณ มใี จความสมบรู ณ การลาํ ดับเรอ่ื งราว ถูกตอง เขียนสะกด ลําดบั เร่ืองราว วกวน และเขยี น 3. ความสะอาด คาํ ถกู ตอง ไดด ี เขยี นสะกดคาํ การลาํ ดับเรือ่ งราว สะกดคาํ ไมถูกตอง ถูกตอ ง แตการ ยงั สบั สนอยูบา ง หลายคํา เขยี นลายมอื เรียบเรยี งประโยค เรียบเรยี งประโยค สวยงาม มหี วั วกวนหลายแหง เขียนลายมือไมมี เวนระยะหา ง ยงั วกวนอยูบาง และเขียนสะกดคํา หวั ไมสมํ่าเสมอ เทา กัน ละไมเวนระยะหา ง ไมมรี อยลบคาํ ผิด บางคําไมถ ูกตอง มีรอยลบคาํ ผดิ เขยี นลายมือ มีหวั เขียนลายมอื มหี ัว มากกวา 4 จุด สมํ่าเสมอเปน สวน ไมค อ ยสมํา่ เสมอ ใหญ เวนระยะหา ง เวน ระยะหา งไม ไมเ ทากัน เทากัน มีรอยลบคาํ ผดิ มรี อยลบคําผิด 1 จุด 2 - 3 จุด เกณฑก ารตดั สิน คะแนน 10 - 12 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 7-9 หมายถึง ดี คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช คะแนน 1-3 หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑก ารผาน ต้งั แตร ะดับ พอใช ขนึ้ ไป

หนว ยการเรียนรูที่ 3 เร่ือง เขาใจส่อื สาร 287 ๑๐. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาํ เรจ็ หรือปญ หา และอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ จํากัดการใชแ ผนการจดั การเรยี นรแู ละขอ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู อน (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอเสนอแนะของผบู รหิ ารหรือผทู ี่ไดร บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

288 คูมอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง เขยี นคาํ ประสมสระ เ –ื อ หนว ยการเรยี นรูที่ 3 เรอื่ ง เขา ใจสือ่ สาร แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 2 เรอ่ื ง สระเออื เพ่ือนเอย (2) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ 2 คาํ ชีแ้ จง เขยี นคําประสมสระ เ –ื อ นอกเหนือจากเรื่อง กาดํา ชือ่ ........................................สกุล....................................ชั้น.................เลขท่ี...........

หนวยการเรียนรทู ี่ 3 เรอื่ ง เขา ใจสือ่ สาร 289 ใบงานท่ี 3 เร่ือง แตง ประโยคคาํ ประสมสระ เ –ื อ หนวยการเรยี นรทู ่ี 3 เรอื่ ง เขา ใจสอ่ื สาร แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 2 เร่อื ง สระเอือ เพอ่ื นเอย (2) รายวชิ า พ้นื ฐานภาษาไทย รหสั 12101 ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 2 คําชแี้ จง แตง ประโยคจากคําท่กี าํ หนด ๑. ผีเสื้อ ๒. เรอื ใบ ๓. เสือดาว ๔. เอื้อเฟอ ๕. เมือง ๖. เพ่อื น ๗. เฟองฟา ๘. นางเงือก ช่อื ...........................................สกุล.........................................ชน้ั ......................เลขท.ี่ ...........

290 คูมือครูและแผนการจดั การเรยี นรู ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) เฉลยใบงานที่ 2 เรอื่ ง เขียนคาํ ประสมสระ เ –ื อ หนวยการเรยี นรูท ่ี 3 เรอื่ ง เขา ใจสื่อสาร แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 2 เร่ือง สระเอือ เพอ่ื นเอย (2) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท12101 ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 2 คาํ ชแี้ จง เขยี นคําประสมสระ เ –ื อ นอกเหนือจากเร่อื ง กาดํา หมายเหตุ คาํ ตอบขึ้นอยูกับดุลยพนิ จิ ของผสู อน เหลอื ง ชื่อ........................................สกุล...................................ชนั้ ...................เลขท่ี............

หนวยการเรยี นรูที่ 3 เรือ่ ง เขา ใจส่อื สาร 291 เฉลยใบงานท่ี 3 เรือ่ ง แตง ประโยคคําประสมสระ เ –ื อ หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เรอ่ื ง เขาใจส่อื สาร แผนการจดั การเรยี นรูที่ 2 เร่ือง สระเอือ เพือ่ นเอย (2) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 2 คําชแ้ี จง แตง ประโยคจากคําท่ีกําหนด หมายเหตุ คาํ ตอบขึ้นอยูกับดลุ ยพนิ จิ ของผูสอน ๑. ผีเส้ือ ๒. เรอื ใบ ๓. เสือดาว ๔. เอือ้ เฟอ ๕. เมือง ๖. เพ่อื น ๗. เฟองฟา ๘. นางเงือก ช่ือ.......................................สกุล.........................................ชน้ั ...................เลขท.่ี ..................

292 คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) แผนการจดั การเรียนรูท ่ี 3 เร่ือง แมเ กย เอย วาจา (1) หนวยการเรยี นรทู ี่ 3 เรื่อง เขาใจสอ่ื สาร เวลา ๑ ชว่ั โมง กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวช้ีวัด สาระที่ 4 หลักการใชภาษา มาตรฐานการเรียนรู ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของ ภาษาและพลังของภาษา ภูมิปญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว เปน สมบัตขิ องชาติ ตัวช้วี ดั ป.2/2 เขียนสะกดคําและบอกความหมายของคํา ๒. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด มาตราเกย คือ คาํ ท่ีประสมดว ยสระตา ง ๆ และมี ย เปน ตัวสะกด ๓. จดุ ประสงคการเรียนรู ๓.๑ ดานความรู ความเขา ใจ (K) - บอกลกั ษณะของมาตราเกยได ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - อา นและเขียนคาํ มาตราเกยได ๓.๓ ดานคุณลกั ษณะ เจตคติ คานยิ ม (A) - มมี ารยาทในการอาน ๔. สาระการเรยี นรู ๔.๑ มาตราเกย ๔.๒ บทอา นหนูฝา ยกบั คุณยายสาย ๕. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น ๕.๑ ความสามารถในการส่อื สาร ๕.๒ ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค ๖.๑ ใฝเรยี นรู ๖.๒ มุงมั่นในการทํางาน ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู

หนวยการเรยี นรทู ่ี 3 เรอ่ื ง เขาใจสอื่ สาร การจดั กจิ กรรมการเรยี นร หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เรอ่ื ง เขา รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 แผนการจดั การเ ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา ท่ี จุดประสงคก ารเรยี นรู การเรียนรู ทใ่ี ช กิจกรรมค ๑. ขอบเขตเนื้อหา ข้นั นาํ - การอานและเขียน 5 1. ครใู หต ัวแทนนักเ คาํ มาตราเกย ขน้ั สอน นาที ใบทาทางคาํ มาตราเก ๒. จดุ ประสงคก ารเรียนรู (คําถาม) - นักเรยี นคิดวา คาํ ท่เี ใบค ํา แสดงทา ทางน อะไร 2. ครขู อตัวแทนออก คาํ ศพั ทห นาชนั้ เรยี น นักเรยี นรวมกนั ตรวจ ถกู ตอง และใหน กั เร เสยี งคําศัพท (คาํ ถาม) - นักเรียนคดิ วา สิ่งทเ่ี ของคาํ ศัพทค อื อะไร 20 1. ครูตั้งคําถามเพ่อื เ นาที ความรูเดิมและความ มาตราตวั สะกด

293 รู ช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี 2 าใจสื่อสาร จํานวน 12 ชว่ั โมง เรยี นรทู ี่ 3 เรอื่ ง แมเกยเอย วาจา (1) จาํ นวน 1 ชั่วโมง แนวการจดั การเรียนรู สื่อการเรยี นรู การประเมนิ การเรียนรู ครู กิจกรรมนกั เรยี น - PowerPoint เรียนออกมา 2. นกั เรียนทายคํา เร่ือง แมเ กย กย เอยวาจา (แนวคาํ ตอบ) เพ่ือนออกมา - นักมวย กลวย กระตา ย ยาย น้นั คอื คาํ วา สรอ ย ผูชาย กมาเขียน 2. นักเรียนตรวจสอบความ น และให ถูกตองของคําศัพทแ ละอาน จสอบความ ออกเสียงคําศัพท รียนอา นออก เหมือนกนั (คาํ ตอบ) - PowerPoint มีอะไรบา ง - ส่ิงทเี่ หมือนกนั คอื มี ย เปน เร่อื ง แมเ กย ตัวสะกด เอยวาจา เชื่อมโยง มรูใ หมเรอื่ ง 1. นักเรยี นตอบคําถาม

294 ค ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา ที่ จดุ ประสงคก ารเรยี นรู การเรยี นรู ท่ใี ช กจิ กรรมค (คําถาม) - ตวั สะกดท่อี ยูขางห เรียกวาอะไร - มาตราตัวสะกดมีท มาตรา ไดแ กม าตราอ 1. มีมารยาทใน 2. ครอู ธบิ ายความรูเ การอา น ตัวสะกดและมาตราเ 2. สรปุ ใจความสาํ คญั ครอู ธิบายความรูเพมิ่ ของเร่อื งท่ีอานได มาตราเกยและสระเอ ทายคําเหมอื นกัน แย การแยกสวนประกอ 3. ครนู ํานักเรยี นอาน ฝา ยกบั คณุ ยายสายใ อานตามและรว มกัน (คําถาม) - บทอา นเร่อื งนอ งฝา คุณยายสายมใี จความ อยางไร

คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) แนวการจดั การเรียนรู สอ่ื การเรยี นรู การประเมิน การเรยี นรู ครู กจิ กรรมนกั เรยี น (แนวคําตอบ) หลงั คํา - มาตราตัวสะกด ท้งั หมดก่ี - 8 มาตรา - บทอา นหนูฝา ย - การสงั เกต อะไรบา ง มาตรากง มาตรากม มาตรา กบั คุณยายสาย พฤตกิ รรม เกย มาตราเกอว มาตรากน เร่อื งมาตรา มาตรากก มาตรากบ มาตรา - การตอบ เกย กด คําถาม มเตมิ เรอื่ งคาํ 2. นกั เรียนฟง ครอู ธิบาย อีย มี ย อยู ความรู ยกไดโ ดย อบของคาํ 3. นักเรียนอานองฝา ยกับคณุ นเร่ืองนอง ยายสาย ใหน ักเรยี น น (แนวคาํ ตอบ) - นองฝายเปนนักกฬี าวา ยนา้ํ ท่ี ายกบั มกั จะไปชวยคณุ ยายสายขาย มสําคัญ ของที่รานกลว ยกลว ย

หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 เรอ่ื ง เขาใจส่อื สาร ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา ท่ี จดุ ประสงคก ารเรียนรู การเรยี นรู ท่ใี ช กจิ กรรมค - นักเรียนคิดวา การก หนูฝายเปน อยา งไร - นักเรียนจะนาํ ขอ ค อานน้ไี ปใชอ ยางไร 3. 3. อานและเขยี นคาํ ขนั้ ปฏบิ ตั ิ 20 1. ครูแบง นกั เรียนเป มาตราเกยได นาที คํามาตราเกยในบทอ นักเรยี นบันทึกคําลง 2.ครใู หน ักเรยี นทําใบ เลอื กคาํ ทส่ี ะกดดว ยม 4. 4. บอกลักษณะของ ขน้ั สรปุ 5 1. ครูสมุ นกั เรยี นออ มาตราเกยได นาที ผลงานหนาช้ันเรียน 2. ครแู ละนกั เรียนรว ตรวจสอบความถูกต ผลงาน 3. ครูและนักเรยี นรว ความรูเรือ่ งมาตราเก

295 แนวการจดั การเรยี นรู ส่อื การเรียนรู การประเมิน การเรียนรู ครู กจิ กรรมนกั เรยี น กระทําของ - เปนการกระทําทด่ี ี ควรนาํ ไป คิดจากบท เปนแบบอยา ง เรอ่ื ง การชวยเหลอื ผูอ ืน่ - ชวยเหลืองานบานพอแม ผปู กครอง เปน ตน ปน คสู งั เกต 1. นักเรยี นสงั เกตคําและ - ใบงานท่ี 4 - การประเมนิ อาน และให บนั ทึกลงในสมดุ งาน เลอื กคาํ ท่ีสะกด ใบงานที่ 4 งในสมุดงาน ดว ยมาตรา เกย บงานท่ี 4 2. นกั เรยี นทําใบงานที่ 4 มาตรา เกย อกมานาํ เสนอ 1. นักเรียนออกมานําเสนอ - PowerPoint งานหนาชนั้ เรียน เร่ือง แมเ กย เอยวาจา วมกนั 2. นักเรียนรวมกันตรวจสอบ ตอ งของ ความถูกตอ งของผลงาน วมกันสรปุ 3. นกั เรียนรว มกนั สรุปความรู - การตอบ กย เรอ่ื งมาตราเกย คาํ ถาม

296 ค กิจกรรมค ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา ที่ จดุ ประสงคก ารเรียนรู การเรยี นรู ที่ใช

คมู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) แนวการจดั การเรยี นรู สือ่ การเรียนรู การประเมิน การเรียนรู ครู กจิ กรรมนกั เรยี น (แนวคาํ ตอบ) - มาตราเกย คอื มาตรา ตัวสะกดตรงตามมาตรา มีตัวสะกดเพียงตวั เดยี วคือ ย

หนว ยการเรยี นรูที่ 3 เรอื่ ง เขาใจส่ือสาร 297 8. สื่อการเรยี นร/ู แหลง เรียนรู 1) PowerPoint เรอ่ื ง แมเ กย เอย วาจา 2) บทอานหนฝู า ยกบั คุณยายสาย 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 4 เรือ่ ง เลอื กคําท่ีสะกดดว ยมาตรา เกย สง่ิ ทต่ี องการวดั /ประเมนิ วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก ารประเมนิ ดา นความรู - บอกลักษณะของมาตรา - ประเมินการตอบ - การถามคําถาม ผา นเกณฑ เกย คาํ ถาม การประเมิน รอ ยละ 60 ดานทกั ษะและ กระบวนการ - อา นและเขยี นคาํ มาตรา - ประเมินใบงานที่ 4 - แบบประเมนิ ใบงานท่ี 4 ผานเกณฑ เกย เรอื่ ง เลือกคาํ ท่ีสะกดดว ย เรอ่ื ง เลอื กคําท่สี ะกดดวย การประเมิน มาตรา เกย มาตรา เกย รอยละ 60 ดา นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา นยิ ม - มมี ารยาทในการอา น - ประเมนิ การทํางานและ - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา นเกณฑ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมในช้นั การประเมิน เรียน รอ ยละ 60 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค ๑. ใฝเรยี นรู - การสังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เกณฑการประเมนิ ๒. มงุ มัน่ ในการทํางาน ระดับคุณภาพผาน สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รียน ๑. ความสามารถใน ๑. การประเมิน ๑. แบบประเมนิ เกณฑการประเมิน การส่อื สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ระดับคณุ ภาพผา น ๒. ความสามารถในการคิด การส่ือสาร การสอ่ื สาร ๒. การประเมนิ ๒. แบบประเมนิ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคดิ

298 คมู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) เกณฑก ารประเมนิ ผลชนิ้ งานหรอื ภาระงาน เกณฑก ารประเมนิ ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง เลอื กคาํ ทสี่ ะกดดวยมาตรา เกย ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมิน 1. ความถกู ตอ ง ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรุง) ของเน้ือหา เขยี นคาํ ที่สะกดดวย เขียนคําที่สะกดดว ย เขยี นคาํ ท่ีสะกดดว ย เขียนคําที่สะกดดวย 2. ลายมอื ตวั บรรจง มาตรา เกยถูกตอ ง มาตรา เกยถกู ตอง มาตรา เกยถกู ตอง มาตรา เกยถูกตอ ง 3. ความสะอาด 9 - 10 คํา 7 - 8 คาํ 5 - 6 คํา นอ ยกวา 5 คํา เขียนลายมือ เขยี นลายมือ มีหัว เขยี นลายมอื มีหวั เขยี นลายมอื ไมมหี วั สวยงาม มหี วั เวน สมํา่ เสมอเปนสว น ไมคอยสมํา่ เสมอ ไมสมํ่าเสมอ และ ระยะหางเทา กัน ใหญ เวนระยะหา ง เวน ระยะหา งไม ไมเ วน ระยะหา ง ไมเ ทา กนั เทากนั ไมม ีรอยลบคาํ ผดิ มรี อยลบคําผิด มีรอยลบคําผิด มรี อยลบคําผดิ 1 จดุ 2 - 3 จดุ มากกวา 4 จุด เกณฑก ารตดั สิน คะแนน 10 – 12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7–9 หมายถงึ ดี คะแนน 4–6 หมายถงึ พอใช คะแนน 1-3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑก ารผาน ตงั้ แตร ะดับ พอใช ข้นึ ไป

หนวยการเรยี นรทู ่ี 3 เร่ือง เขา ใจส่อื สาร 299 ๑๐. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสําเรจ็ หรือปญหา และอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอจํากัดการใชแผนการจดั การเรียนรแู ละขอเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ เสนอแนะของผบู รหิ ารหรือผทู ไี่ ดร บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

300 คูม ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) บทอา น เร่อื ง นองฝา ยกบั คณุ ยายสาย หนวยการเรยี นรูท่ี 3 เรอ่ื ง เขา ใจสอื่ สาร แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 2 เร่ือง แมเ กย เอยวาจา (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 นองฝายกับคณุ ยายสาย นองฝา ยเปน นักกีฬาวา ยนํ้าของมหาวทิ ยาลัยพลศึกษาแหง หนึ่ง ทุกวนั ศุกร สุดทายของเดือน นองฝายจะเปน “ครูพี่ฝาย” ฝกสอนการวายนํ้าแกนอง ๆ ทั้งชายและหญิงท่ีสนใจ โดยใหความรูวา การวายน้ําจะชวยทําใหรางกาย แขง็ แรงไมเจบ็ ปวยไดง า ย ตอนบายนองฝายแวะไปที่ราน “กลวย กลวย” สวัสดีและทักทายคุณยายสาย เจาของราน คุณยายสายเปน หญิงสูงวัยที่ขยันขนั แข็ง ย้ิมแยมแจมใส ไมเคยนอน ต่นื สายและแตง ตัวสวยอยเู สมอ ท่ีรานของคุณยายสายมีสารพัดกลวย กลวยหักมุก กลวยน้ําวา กลวยไข กลวยหอม ทั้งสุก หาม และดิบ มีกลวยแปรรูปจํานวนมากมาย กลวยทอด กลวยแขก กลวยตาก กลวยฉาบ กลวยกวน กลวยเช่ือม แมกระท่ังขนมกลวย ซง่ึ เปน ฝม อื ของคุณยายทั้งน้นั นอ งฝา ยวางเปท ส่ี ะพายและชวยคุณยายขายของ คุณยายมองหลานนึกชม อยใู นใจวา หลานฝา ยของยายนา รักมีนา้ํ ใจ และไมน ่งิ ดูดาย

หนว ยการเรียนรทู ่ี 3 เรื่อง เขาใจสื่อสาร 301 ใบงานท่ี 4 เร่อื ง เลือกคาํ ทส่ี ะกดดว ยมาตรา เกย หนวยการเรยี นรทู ี่ 3 เรอ่ื ง เขา ใจสือ่ สาร แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 2 เรือ่ ง แมเกย เอยวาจา (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท12101 ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที่ 2 มาตราตวั สะกดแม เกย มาตราแม เกย คือ คําที่มพี ยญั ชนะประสมดว ยสระตาง ๆ และ ย เปนตัวสะกด เรียกวา ตวั สะกดตรงตามมาตรา เชน งา ย เฉย เอย เปรย คาํ ชี้แจง เลอื กคําท่ีมตี วั สะกดมาตรา แมเ กย ทกี่ าํ หนดใหไปเตมิ ลงในชอ งวางใหถ ูกตอง เตย้ี สวย เพลยี คุย คลา ย เฉย เสีย เหยี่ยว เหน่อื ย โปรย ถว ย กลาย ชาย เปย เฉลีย่ ออย เขี่ย เด๋ียว ชื่อ...................................สกุล................................ชน้ั ...................เลขท.ี่ ...........

302 คมู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) เฉลยใบงานท่ี 4 เร่ือง เลอื กคําทส่ี ะกดดวยมาตรา เกย หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 เรอื่ ง เขา ใจสือ่ สาร แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 2 เรอ่ื ง แมเกย เอย วาจา (1) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 มาตราตวั สะกดแม เกย มาตราแม เกย คือ คําที่มีพยัญชนะประสมดวยสระตาง ๆ และ ย เปน ตัวสะกด เรยี กวา ตวั สะกดตรงตามมาตรา เชน งาย เฉย เอย เปรย คาํ ชีแ้ จง เลือกคาํ ที่มตี วั สะกดมาตรา แมเกย ทก่ี าํ หนดใหไปเติมลงในชองวางใหถกู ตอง เตี้ย สวย เพลยี คยุ คลา ย เฉย เสยี เหยี่ยว เหน่ือย โปรย ถวย กลาย ชาย เปย เฉล่ีย ออ ย เขี่ย เดยี๋ ว สวย คุย คลา ย เฉย เหนื่อย โปรย ถวย กลาย ชาย ออย ชอ่ื .......................................สกลุ ....................................ช้นั ...................เลขท่ี.........

หนวยการเรียนรทู ี่ 3 เรอื่ ง เขาใจส่อื สาร 303 แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 4 เรอื่ ง แมเ กยเอยวาจา (2) หนว ยการเรียนรทู ่ี 3 เร่ือง เขา ใจสอื่ สาร เวลา ๑ ชวั่ โมง กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวช้วี ัด สาระท่ี 1 การอา น มาตรฐานการเรยี นรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการสรางความรูและความคิดเพื่อนําไปใชในการตัดสินใจ แกปญ หาในการดําเนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รักการอา น ตัวชวี้ ดั ป.2/๑ อานออกเสียงคํา คําคลองจอง ขอความ และบทรอยกรองงาย ๆ ได ถกู ตอง สาระท่ี 4 หลกั การใชภ าษา มาตรฐานการเรยี นรู ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของ ภาษาและพลังของภาษา ภูมิปญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว เปนสมบตั ขิ องชาติ ตวั ชวี้ ัด ป.2/๑ บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต และเลขไทย ป.2/2 เขยี นสะกดคาํ และบอกความหมายของคํา ๒. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด มาตราเกย คือ คาํ ทปี่ ระสมดว ยสระตา ง ๆ และมี ย เปน ตัวสะกด ๓. จุดประสงคก ารเรยี นรู ๓.๑ ดา นความรู ความเขาใจ (K) - จําแนกคํามาตราเกยได ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - อา นและเขียนคํามาตราเกยได ๓.๓ ดานคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา นิยม (A) - เหน็ ความสําคญั ของการอา นและเขยี นคํามาตราเกย ๔. สาระการเรยี นรู - การอานและเขียนคาํ มาตราเกย ๕. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น ๕.๑ ความสามารถในการสอ่ื สาร ๕.๒ ความสามารถในการคดิ

304 คูมือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค ๖.๑ ใฝเ รยี นรู ๖.๒ มุงมั่นในการทาํ งาน ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู

หนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 เรือ่ ง เขาใจส่ือสาร การจดั กิจกรรมการเรียนร หนว ยการเรยี นรทู ่ี 3 เรือ่ ง เขา รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท12101 แผนการจดั การ ลาํ ดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอน เวลา ที่ จุดประสงคก ารเรยี นรู การจดั การเรียนรู ทใี่ ช กจิ กรร ๑. ขอบเขตเนอ้ื หา ข้นั นาํ 5 1. ครูนํานักเรยี นเลน - การอา นและเขียนคาํ นาที โดยมกี ตกิ าดังนี้ มาตราเกย 1.1 ครแู จกบตั รคาํ ใ คําที่นักเรียนไดจะมีบ 1.2 ครรู อ งเพลง ลม เน้อื เพลงดังน้ี ลมเพลมพดั โบกส (ซ้ํา) ลมเพลมพัดคาํ ใด เด๋ียวจะบอกให คาํ วา ... 1.3 เม่อื ครูขานคาํ ใด นัน้ ออกมายืนหนาชน้ั 1.4 ครตู ิดบตั รคาํ บน ทุกคํา 1.5 ครใู หนกั เรียนอ พรอ มกัน

305 รู ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 าใจสื่อสาร จํานวน 12 ชัว่ โมง รเรยี นรทู ่ี 4 เรือ่ ง แมเ กยเอยวาจา (2) จํานวน 1 ชวั่ โมง แนวการจดั การเรียนรู ส่อื การเรยี นรู การประเมิน การเรยี นรู รมครู กิจกรรมนกั เรยี น - PowerPoint นเกม ลมเพลมพัด เรือ่ ง แมเกยเอย 1. นกั เรยี นเลน เกมลมเพ วาจา ใหนักเรยี นซึง่ บตั ร ลมพัด - เกมลมเพลม บางคาํ ทเ่ี หมือนกนั พดั บตั รคํา มเพลมพดั โดยมี สะบัดพัดมาไวไว ลมเพลมพดั คําใด ดใหน ักเรยี นทไี่ ดค าํ นเรียน นกระดาน จนครบ อานออกเสยี งคาํ

306 ค ลาํ ดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอน เวลา ท่ี จุดประสงคก ารเรยี นรู การจดั การเรยี นรู ท่ใี ช กิจกรร 1.6 ครสู มุ นักเรียนต มาตรา เกย (คาํ ถาม) - คําใดบา งทเ่ี ปน คําม ๒. จดุ ประสงคก ารเรียนรู ขน้ั สอน 1.7 นักเรียนและคร ความถกู ตอ ง 20 1. ครยู กตวั อยางคําส นาที มาตรา เกย เปย ใหนกั เรยี นสังเกต (คาํ ถาม) - คําใดท่เี ปน คาํ มาตร - นกั เรียนทราบไดอ ย มาตรา เกย - คาํ วา เปย กม็ ี ย อ ไมใ ชค ํามาตราเกย

คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) แนวการจดั การเรยี นรู สือ่ การเรยี นรู การประเมิน การเรยี นรู รมครู กจิ กรรมนกั เรยี น ตอบคาํ ถามคําท่ีอยู มาตรา เกย (แนวคาํ ตอบ) รรู วมกนั ตรวจสอบ - เนย มา ลายไฟฉาย ใบเตย ปยุ ปวย วินยั ออย สระเอียและคํา 1. นักเรียนสงั เกตคาํ - PowerPoint โปรย เรื่อง แมเกยเอย (แนวคาํ ตอบ) วาจา รา เกย - คาํ วา โปรย ยางไรวา เปนคํา - มี ย อยทู า ยคาํ อยทู ายคํา ทําไมจงึ - เพราะเม่อื แยก สว นประกอบของคําแลว คําวา เปย ย.ยักษ คอื สระเอยี แตค ําวา โปรย ย.ยักษ คือตวั สะกด

หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เร่ือง เขา ใจสอ่ื สาร ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอน เวลา ที่ จุดประสงคก ารเรียนรู การจดั การเรยี นรู ที่ใช กิจกรร 2. ครูอธบิ ายความร สว นประกอบคําเพื่อ วา พยญั ชนะทา ยคือ 3. ครูใหนกั เรยี นฝกอ สวนประกอบของคาํ 1. จาํ แนกคํามาตรา 4. ครูใหนกั เรยี นเลน เกยได มาตราเกยและสระเอ 5. ครูและนกั เรยี นรว ความถูกตอง 6. ครใู หน กั เรยี นยกต เกยเปนรายบุคคล แ บนกระดาน 7. ครูใหน กั เรยี นเลน มาตราเกย มีกติกา ด 1) ครแู จกกระดาษใ 2) ครูอธิบายวิธบี งิ โก 3) นกั เรียนเลอื กคาํ ม กระดาน เขียนลงบน 4) ครใู หนกั เรยี นจับ เกย หากมีคําตรงกับ กากบาทลงในกระดา

307 แนวการจดั การเรยี นรู สอื่ การเรียนรู การประเมนิ รมครู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู รูเรอื่ งการแยก 2. นกั เรียนฟงครูอธิบาย อใหน กั เรยี นทราบ อควั สะกดหรือสระ อา นคาํ และแยก 3. นกั เรียนอา นคาํ และ า แยกสวนประกอบของคาํ นเกม แยกคํา 4. นกั เรียนเลน เกมแยกคาํ - เกมแยกคาํ - การตอบ อีย มาตรา เกย และ คําถาม วมกันตรวจสอบ 5. นกั เรียนรวมกัน สระเอีย ตรวจสอบความถกู ตอง ตวั อยางคํามาตรา 6. นกั เรยี นยกตวั อยางคาํ และครเู ขยี นคําลง มาตรา เกย นเกมบิงโกคาํ 7. นกั เรียนเลน เกมบงิ โก - เกมบิงโกคํา ดังนี้ มาตรา เกย ใหนกั เรียน กใหนกั เรียนฟง มาตราเกยบน นกระดาษ บสลากคํามาตรา บชอ งในกระดาษให าษ

308 ค ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอน เวลา ท่ี จุดประสงคก ารเรยี นรู การจดั การเรยี นรู ที่ใช กจิ กรร 5) นักเรยี นคนใดบงิ ผูช นะ 8. ครูนําเสนอเพลงแ นักเรยี นรอ งเพลง แล รว มกนั รองเพลง 3. 2. อานและเขยี นคํา ขั้นปฏบิ ตั ิ 20 1. ครใู หน กั เรยี นทําใ มาตรา เกยได นาที แมเกย 4. 3. เห็นความสาํ คญั ของ ข้นั สรปุ 5 1. นักเรยี นและครรู ว การอา นและเขยี นคาํ นาที มาตรา เกย มาตรา เกย

คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) แนวการจดั การเรยี นรู สอ่ื การเรียนรู การประเมิน การเรยี นรู รมครู กจิ กรรมนกั เรยี น งโกกอ น ถือวา เปน แมเ กย โดยครนู ํา 8. นกั เรียนรอ งเพลงแม ละใหน ักเรียน เกย ใบงานท่ี 5 เตมิ คํา 1. นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี 5 - ใบงานที่ 5 - ประเมิน เตมิ คําแมเกย เติมคําแมเ กย ใบงานที่ 5 วมกันสรปุ ความรู 1. นักเรยี นรว มกนั สรุป - PowerPoint - สงั เกต ความความรู เรอื่ ง แมเกยเอย พฤติกรรม - มาตราเกย คอื คําทม่ี ี ย วาจา เปนตวั สะกด สามารถแยก คาํ สระเอยี ที่มี ย เปน พยญั ชนะทายเหมอื นกนั โดยวิธีการแยก สวนประกอบของคํา

หนว ยการเรียนรูท ่ี 3 เร่ือง เขาใจสื่อสาร 309 8. สื่อการเรยี นร/ู แหลงเรยี นรู 1) PowerPoint เรื่อง แมเกยเอยวาจา 2) เกมแยกคํามาตราเกยและสระเอีย 3) เกมบิงโกคาํ มาตราเกย 4) เกมลมเพลมพดั 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 5 เรือ่ ง เตมิ คาํ แมเ กย สิ่งทตี่ องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑก ารประเมิน - การถามคําถาม ดานความรู - ประเมินการตอบ ผา นเกณฑ - จาํ แนกคํามาตรา เกย คาํ ถาม 1. แบบประเมนิ ใบงานที่ การประเมนิ 5 เรอื่ ง เตมิ คําแมเกย รอยละ 60 ดา นทกั ษะและ - ประเมินใบงานท่ี 5 กระบวนการ เรอ่ื ง เติมคาํ แมเกย - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผานเกณฑ - อานและเขยี นคาํ มาตรา การประเมนิ เกย - ประเมินการทํางานและ - แบบสังเกตพฤติกรรม รอยละ 60 ปฏิบตั ิกิจกรรมในชั้น ดานคณุ ลกั ษณะ เจตคติ เรยี น ๑. แบบประเมนิ ผานเกณฑ คา นยิ ม ความสามารถใน การประเมนิ - เหน็ ความสาํ คัญของการ - การสงั เกตพฤติกรรม การสอ่ื สาร รอ ยละ 60 อา นและเขียนคํามาตรา เกย ๒. แบบประเมนิ ๑. การประเมิน ความสามารถในการคดิ เกณฑก ารประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ความสามารถใน ระดับคณุ ภาพผาน ๑. ใฝเรยี นรู การสื่อสาร ๒. มงุ มั่นในการทํางาน ๒. การประเมิน เกณฑการประเมนิ สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น ความสามารถในการคดิ ระดบั คุณภาพผาน ๑. ความสามารถใน การสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ

310 คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (ภาษาไทย ป.2) เกณฑก ารประเมินผลชน้ิ งานหรอื ภาระงาน เกณฑก ารประเมนิ ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง เตมิ คาํ แมเกย ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมนิ 1. ความถกู ตอง ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรงุ ) ของเน้อื หา เลือกเตมิ คํามาตรา เลอื กเติมคาํ มาตรา เกยสมั พนั ธกับ เลอื กเตมิ คํามาตรา เลอื กเตมิ คํามาตรา เกยสัมพนั ธกับ 2. ลายมือตวั ประโยคถกู ตอ ง ประโยคถูกตอง บรรจง 9 - 10 คํา เกยสมั พันธก ับ เกยสมั พนั ธก ับ นอยกวา 5 คํา เขยี นลายมือ เขียนลายมอื ไมมหี วั 3. ความสะอาด สวยงาม มีหวั ประโยคถกู ตอ ง ประโยคถูกตอ ง ไมส มํ่าเสมอ และ เวน ระยะหาง ไมเวนระยะหา ง เทากนั 7 - 8 คาํ 5 - 6 คํา ไมม รี อยลบคําผดิ มรี อยลบคําผิด เขียนลายมือ มีหัว เขียนลายมอื มหี ัว มากกวา 4 จุด สมํา่ เสมอเปน สวน ไมคอ ยสมา่ํ เสมอ ใหญ เวนระยะหา ง เวนระยะหางไม ไมเ ทา กนั เทา กัน มีรอยลบคําผิด มรี อยลบคําผดิ 1 จุด 2 - 3 จดุ เกณฑก ารตดั สนิ คะแนน 10 - 12 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 7-9 หมายถงึ ดี คะแนน 4-6 หมายถงึ พอใช คะแนน 1-3 หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑก ารผาน ต้งั แตระดับ พอใช ขน้ึ ไป

หนวยการเรียนรทู ่ี 3 เร่อื ง เขาใจสอื่ สาร 311 ๑๐. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสําเรจ็ หรือปญ หา และอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ จํากดั การใชแ ผนการจดั การเรยี นรูและขอเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผูส อน (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ เสนอแนะของผบู รหิ ารหรอื ผทู ไ่ี ดร บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

312 คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (ภาษาไทย ป.2) สอ่ื การเรียนรู เกมลมเพลมพัด หนวยการเรยี นรูที่ 3 เรอื่ ง เขา ใจสื่อสาร แผนการจัดการเรียนรูที่ 4 เรอ่ื ง แมเ กย เอยวาจา (2) รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท12101 ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 2 เนย มา ลาย ไฟฉาย ใบเตย ปยุ ปว ย วนิ ัย ออย เบ้ีย เสยี เข้ียว เพลีย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook