Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-2

64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-18 04:03:13

Description: 64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-2

Search

Read the Text Version

394 376 3. ให้นักเรียนดูรูป แล้วเติมคาตอบ ระยะทาง และการกระจัดของการเปล่ียนตาแหน่ง ตามท่ีกาหนดให้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ก 2 เมตร ข 2 เมตร 2 เมตร ง 2 เมตร ค รปู ที่ 1.7 ใช้สาหรับคาถามที่ 3 ใบกจิ กรรมที่ 1.1 ระยะทาง และการกระจดั ท่ีมา: (แท้ นามแก้ว, 2 เม.ย. 2558) การเปลย่ี นตาแหน่ง ระยะทาง (เมตร) การกระจัด (เมตร) ก–ข ก–ข–ค ก–ข–ค–ง ก–ข–ค–ง–ก

395 377 ใบกจิ กรรมที่ 1.2 การทดลองเดินเพื่อศึกษาระยะทาง และการกระจัด หนว่ ยที่ 3 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่ืองท่ี 2 ระยะทาง และ การกระจัด รายวรชิ าายวิชทายาวศิทายสาตศรา์พสน้ื ตฐรา์ นร3หัสวรชิหาัสวชิ2า21ว021110ภ3าคเภรยีานคเทร่ีย1นชท้นัี่ 1มธัชย้นั มมศัธึกยษมาศปกึ ีทษี่า2ปีท่ี 2 จุดประสงค์การทดลอง 1. เพือ่ ศึกษาการวดั หาระยะทางและการกระจดั ของการเดนิ จากจุดหนงึ่ ไปยังอีกจดุ หน่ึง 12. บอกความแตกตา่ งระหวา่ งระยะทางและการกระจดั ของของการเดนิ จากจุดหนงึ่ ไปยังอกี จดุ หน่ึง อปุ กรณ์ สายวดั หรือไม้เมตร 1 อัน เวลาทใ่ี ช้ในการทดลอง 20 นาที วธิ ที ากิจกรรม 1. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทากจิ กรรมนอกห้องเรียน โดยใช้บรเิ วณสนามหญา้ หรอื ลานกจิ กรรม 12. กาหนดจุดเร่ิมต้นการเดินให้เป็นจุด A แล้วเดินออกจากจุดเร่ิมต้นไปตามเส้นทางท่ีกาหนด บันทึก ผลการวดั ระยะทาง และการกระจดั ที่เดินได้ลงในตารางบนั ทกึ ผล A 3 เมตร B 4 เมตร 4 เมตร D 3 เมตร C รปู ที่ 1.8 เส้นทางการเดินเพ่ือศึกษาระยะทาง และการกระจัด ทมี่ า: (แท้ นามแกว้ , 2 เม.ย. 2558) 3. ทาการทดลองเหมือนข้อที่ 1. แต่เปลี่ยนจุดสุดท้ายของการเคล่ือนที่ตามท่ีกาหนดในตารางบันทึก ผลการทดลอง 4. ตอบคาถามและสรปุ ผลการทากจิ กรรม แลว้ แตล่ ะกลุม่ มานาเสนอหนา้ ชั้นเรยี นเพอื่ อภปิ รายรว่ มกัน อภิปรายรว่ มกนั

396 378 ใบบันทึกกจิ กรรมที่ 1.2 การทดลองเดินเพือ่ ศกึ ษาระยะทาง และการกระจัด หน่วยท่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ งที่ 2 ระยะทาง และ การกระจดั รายวริชาายวิชทายาวศทิ ายสาตศรา์พสน้ื ตฐรา์ นร3หสั วรชิหาสั วชิ2า21ว021110ภ3าคเภรยีานคเทรี่ย1นชท้ันี่ 1มธัชยน้ั มมศธั ึกยษมาศปึกทีษี่ า2ปที ่ี 2 A 3 เมตร B 4 เมตร 4 เมตร D 3 เมตร C รปู ที่ 1.8 เส้นทางการเดินเพ่ือศึกษาระยะทาง และการกระจัด ที่มา: (แท้ นามแก้ว, 2 เม.ย. 2558) 1. ตารางบันทึกผลการทดลองการเดินเพือ่ ศกึ ษาระยะทาง และการกระจัด (ชอ่ งละ 1 คะแนน) การเปลี่ยนตาแหนง่ ระยะทาง (เมตร) การกระจัด (เมตร) A–B A–B–C A–B–C–D A–B–C–D–A 2. นักเรยี นจะมีวิธีคานวณหาระยะการกระจัดของการเปลี่ยนตาแหนง่ จากจุด A ไป B ถึงจุด C ได้อยา่ งไร โดยไม่ใช้ไม้เมตรหรือสายวัด จงแสดงวิธคี ิด ตอบ................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................

397 379 3. ระยะทางทเ่ี ดินไดจ้ ากจุด A ไปยังจุดต่าง ๆ กับระยะทางท่ีในแนวตรงจากจดุ เริม่ ตน้ ไปยังจุดสุดทา้ ย แตกต่างกนั หรอื ไม่ อย่างไร ตอบ................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 4. อภปิ รายและสรุปผลการทดลอง ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................

380 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว22101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

399 381 3. ให้นักเรียนดูรูป แล้วเติมคาตอบ ระยะทาง และการกระจัดของการเปล่ียนตาแหน่ง ตามที่กาหนดให้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ก 1.00 เมตร ข 1.00 เมตร 1.00 เมตร ง 1.00 เมตร ค รูปท่ี 1.7 ใชส้ าหรับคาถามท่ี 3 ใบกจิ กรรมที่ 1.1 ระยะทาง และการกระจัด ทีม่ า: (แท้ นามแกว้ , 2 เม.ย. 2558) การเปลีย่ นตาแหนง่ ระยะทาง (เมตร) การกระจดั (เมตร) ก–ข 1.00 1.00 4.00 1.82 ก–ข–ค 6.00 1.00 ก–ข–ค–ง 8.00 0.00 ก–ข–ค–ง–ก

400 382 เฉลย ใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 1.2 การทดลองเดินเพอ่ื ศกึ ษาระยะทาง และการกระจดั หนว่ ยท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่องท่ี 2 ระยะทาง และ การกระจดั รายวรชิ าายวชิทายาวศทิ ายสาตศรา์พสืน้ ตฐรา์ นร3หสั วริชหาสั วชิ2า21ว021110ภ3าคเภรียานคเทรี่ย1นชทัน้่ี 1มัธชยน้ั มมศัธึกยษมาศปกึ ีทษ่ีา2ปีที่ 2 A 3 เมตร B 4 เมตร 4 เมตร D 3 เมตร C รูปท่ี 1.8 เส้นทางการเดนิ เพื่อศกึ ษาระยะทาง และการกระจัด ที่มา: (แท้ นามแก้ว, 2 เม.ย. 2558) 1. ตารางบันทึกผลการทดลองการเดนิ เพ่ือศึกษาระยะทาง และการกระจดั (ชอ่ งละ 1 คะแนน) การเปลย่ี นตาแหนง่ ระยะทาง (เมตร) การกระจัด (เมตร) A–B 3.00 3.00 7.00 5.00 A–B–C 10.0 4.00 A–B–C–D 14.0 0.00 A–B–C–D–A 2. นักเรยี นจะมวี ิธคี านวณหาระยะการกระจัดของการเปล่ียนตาแหน่งจากจุด A ไป B ถึงจดุ C ไดอ้ ย่างไร โดยไม่ใชไ้ มเ้ มตรหรือสายวัด จงแสดงวิธีคิด แนวคาตอบ ใชท้ ฤษฎปี ทิ ากอรัส คานวณ จาก    AC = AB 2 BC 2  AC = 32 +42 AC = 25 จะได้ AC = 5 เมตร

401 383 3. ระยะทางทเี่ ดนิ ได้จากจุด A ไปยงั จดุ ตา่ ง ๆ กบั ระยะทางที่ในแนวตรงจากจดุ เร่มิ ต้นไปยังจดุ สุดทา้ ย แตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร แนวคาตอบ อาจแตกต่างหรือไม่แตกต่างก็ได้ เช่น ระยะที่เดินได้จาก A ไป B เท่ากับระยะทางในแนว ตรงที่วัดจาก A ไป B แต่ระยะทางที่เดินได้จาก A ไป B ไป C หรือ จาก A ไป B ไป C ไป D จะไม่ เทา่ กบั ระยะทางในแนวตรงท่วี ัดจาก A ไป C หรือ A ไป D ตามลาดบั 4. อภิปรายและสรปุ ผลการทดลอง แนวคาตอบ จากผลการทดลองพบว่า ระยะทางทีเ่ คล่ือนที่ตามแนวการเคล่ือนท่ีจากตาแหน่งเริ่มต้นถึง ตาแหน่งสดุ ท้าย และระยะทางที่วดั ในแนวตรง ทว่ี ัดจากตาแหน่งเริม่ ต้นถงึ ตาแหนง่ สุดทา้ ยอาจมีขนาด เท่ากันหรือแตกต่างกันก็ได้ โดยจะมีขนาดเท่ากับถ้าไม่เปลี่ยนเส้นทางการเคล่ือนที่ แต่ถ้ามีการเปล่ียน ทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ี ปรมิ าณทั้งสองจะมีขนาดไมเ่ ท่ากัน

402 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเคลอื่ นทแี่ ละแรง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เวลา 2 ชั่วโมง เร่อื ง ปริมาณเวกเตอร์ และปริมาณสเกลาร์ รายวริชาายวิทชยาวาศิทายสาตศรา์พสตนื้ รฐ์ าน 3 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ขอบเขตเนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 3 แหลง่ เรยี นรู้ ปรมิ าณทเี่ กยี่ วข้องกับการเคลอื่ นท่ี ขน้ั นา 1. ห้องเรยี นวิทยาศาสตร์โรงเรียน ซ่งึ มีทั้งปริมาณสเกลาร์ และปรมิ าณ 1. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายทบทวน เร่ือง ตาแหน่งของวัตถุ ระยะทาง และการกระจดั จาก 2. ห้องสมุดโรงเรียน เวกเตอร์ เชน่ ระยะทาง อัตราเร็ว การ สถานการณ์ที่ครูกาหนด ด้วยคาถาม ดังน้ี 3. แหลง่ เรียนรอู้ อนไลน์ สอ่ื กราระกจรดั ะคจวัดาคมวเราว็ มเร็ว สถานการณ์ : ครมู กี าหนดการไปเยย่ี มบา้ นนกั เรียน เพ่ือสารวจและตดิ ตามการ ปริมาณสเกลาร์ เป็นปริมาณท่มี ี พัฒนาการเรียนรู้ และการนาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวันของนกั เรียน 1. ใบความรทู้ ่ี 2.1 เรื่อง ปรมิ าณ ขนาด เช่น ระยะทาง อตั ราเรว็ 1) นกั เรียนจะมีวธิ กี ารบอกตาแหนง่ ของบา้ นนกั เรียนให้ครไู ปเยยี่ มบา้ นได้อยา่ งถูกต้อง เวกเตอร์ และปรมิ าณสเกลาร์ ปรมิ าณเวกเตอร์ เป็นปรมิ าณที่มที ้ัง 2. ใบงานท่ี 2.1 ปริมาณเวกเตอรแ์ ละส อยา่ งไร และต้องระบอุ ะไรบ้าง โดยทคี่ รูจะออกเดินทางจากโรงเรียน (แนวคาตอบ ควร เกลาร์ ขนาดและทิศทาง เช่น การกระจดั ทาแผนท่ีหรอื แผนาาพ และตอ้ งระบุ ตาแหน่งของบา้ นเทยี บกบั จดุ อา้ งองิ และควรบอก 3. ใบงานท่ี 2.2 การเขียนปรมิ าณ ความเร็ว ระยะหา่ งจากบ้านกับจดุ อา้ งองิ ) เขยี นแผนภาพแทนปริมาณเวกเตอร์ 1.2 เสน้ ทางดังกล่าวหา่ งจากโรงเรยี นเท่าไร สามารถวดั ความยาวไดห้ รอื ไมอ่ ย่างไร เวกเตอร์ ได้ด้วยลูกศร โดยความยาวของลูกศร 1.3 นอกจากเส้นทางทรี่ ะบใุ นขอ้ (1) แล้ว ยังมเี สน้ ทางอน่ื ท่มี ีระยะหา่ งจากบ้านถงึ โรงเรยี น าาระงาน/ชนิ้ งาน แสดงขนาดและหัวลูกศร แสดงทิศทาง สั้นกว่า เส้นทางในข้อ (1) หรือไมอ่ ยา่ งไร 1. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ปรมิ าณเวกเตอร์ ของเวกเตอรน์น้ันๆ 1.4 ระยะทาง และการกระจัด จากโรงเรยี นถงึ บ้าน เหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร และสเกลาร์ 2. ใบงานท่ี 2.2 การเขียนปรมิ าณ ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ โดย (แนวคาตอบ ระยะทางเป็น เส้นทางทมี่ คี วามยาวมากกว่า การกระจดั ) ระยะทาง เป็นความยาวของเส้นทางที่ ขั้นสอน เวกเตอร์ เคลื่อนท่ไี ด้ 1. นกั เรยี นทากจิ กรรมเพ่ือศึกษาเสน้ ทางการเคลื่อนทจ่ี ากสถานการณ์จาลองทคี่ รกู าหนด 384

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 403 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การเคลื่อนทแ่ี ละแรง เรื่อง ปริมาณเวกเตอร์ และปริมาณสเกลาร์ รายวราชิ ยาวชิทายวาิทศยาสาศตารส์พตนื้ รฐ์ าน 3 เวลา 2 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 การกระจัดเปน็ ปริมาณเวกเตอร์ สถานการณ์ : กาหนดใหน้ ักเรียนเดนิ รอบสนาม ขนาดกวา้ ง 3 เมตร ยาว 4 เมตร โดยการกระจดั มีทศิ ช้ีจากตาแหน่ง ดงั รปู และรว่ มกันอภปิ รายประเด็นตา่ ง ๆ ดังน้ี เรม่ิ ตน้ ไปยงั ตาแหนง่ สดุ ท้าย และมี 4 เมตร ขนาดเทา่ กบั ระยะท่ีสน้ั ท่ีสดุ ระหวา่ ง สอง ตาแหนง่ น้นั 3 เมตร จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 กรณีท่ี 1. นกั เรยี นเดินคร่ึงรอบสนาม และมจี ุดเรมิ่ ตน้ ในการเคลือ่ นทตี่ ่างกนั ดา้ นความรู้ (K) - ระยะที่วดั ตามเสน้ ทางการเคลื่อนท่ี หรอื ระยะทาง จากจดุ เร่มิ ต้นถึงจุดท่ีได้คร่งึ รอบ จะ 1. อธบิ ายความหมายของปริมาณ มีความยาวเท่ากันหรือไม่ สเกลารแ์ ละปริมาณเวกเตอร์ได้ (แนวคาตอบ เท่ากัน) 2. ระบุและยกตัวอยา่ งปริมาณระยะทาง - ระยะทว่ี ัดตามแนวตรงจากจุดเรม่ิ ต้นไปยงั จดุ สดุ ท้าย หรือการกระจัด จะมคี วามยาว เท่ากนั หรือไม่ และการกระจดั ของทบ่ี ง่ ชว้ี ่าเปน็ (แนวคาตอบ ไมเ่ ทา่ กัน) ปรมิ าณสเกลาร์และปรมิ าณเวกเตอร์ได้ 1.2 กรณที 2ี่ . นกั เรียนเดินครบรอบสนาม และมีจุดเริ่มต้นในการเคลื่อนที่ตา่ งกัน ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - ระยะทว่ี ดั ตามเสน้ ทางการเคลื่อนท่ี หรอื ระยะทาง หนึง่ รอบสนาม จะมคี วามยาว 1. ทดลอง และวาดแผนภาพปริมาณ เทา่ กันหรอื ไม่ เวกเตอร์และปริมาณสเกลาร์ได้ ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (แนวคาตอบ เทา่ กัน) 1. มีวนิ ยั 385

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 386

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 387

การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือที่ใช้ 406 การสว่งิ ดัทแตี่ อ้ลงะกปารระวเัดม/ปินรผะลเมนิ วธิ ีการ เครอ่ื งมือทใี่ ช้ - การสงั เกต แบบสังเกต 406 ดา้ สนิ่งคทวต่ี า้อมงรกู้ ารวัด/ประเมิน - การสงั เกต แบบสงั เกต ด1.า้ นอธคบิวายมรแู้ ละยกตัวอยา่ ง 388 1ป.รอมิ ธาบิณาสยเกแลลาะรย์แกลตะัวปอรยิมา่ างณ - ประเมนิ ใบกิจกรรมที่ ใบกจิ กรรมที่ 2.1 ปเวรกิมเาตณอรส์ไเดก้ลาร์และปรมิ าณ -2.ป1รแะลเมะนิ 2ใบ.2กิจกรรมที่ ใบกิจกรรมทท่ี 2่ี .22.1 เกณฑ์ เดว้ากนเตทอกั รษ์ไดะ/้ กระบวนการ 2.1 และ 2.2 ใบกิจกรรท่ี 2.2 เกณฑ์ ด1า้ .นททักักษษะะก/ากรรวะาบดวแนละกเาขรียน นกั เรยี นทาถูก 1แ.ผทนกั ภษาะพกเวากรวเตาอดรแแ์ ลละะเขยี น สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน นผา่ักนเรเยีกนณทฑา์รถอ้ กู ยละ 80 แสผเกนลภาารพ์ เวกเตอร์และ สงั เกตพฤติกรรม แคบณุ บลปกั รษะณเมะนิ ผข่าึ้นนไปเกณฑร์ อ้ ยละ 80 ดสา้ เนกลคาณุ รล์ ักษณะอันพงึ คุณลกั ษณะ ขนึ้ ไป ดปา้รนะสคงณุ คล์ (กั Aษ)ณะอันพึง นักเรียนทาถูก ป1.รมะสีวินงคยั ์ (A) นผ่าักนเรเียกนณทฑาร์ ถ้อกู ยละ 80 12. มใฝวี ่เนิ รยัี นรู้ ผข่าน้ึ นไปเกณฑ์รอ้ ยละ 80 23. ใมฝุ่งเ่ มรน่ัียนในรกู้ ารทางาน ขึ้นไป 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ไทดกุ ้รระาดยับกคาุณรขภนึ้ าไพป 3 ทถอืกุ วร่ายผกา่ นารขนึ้ ไป ถือว่าผา่ น

407 389 บันทกึ ผลหลังสอน ผลการสอน ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงชือ่ )…….............…………………..………… (...................................................) ตาแหนง่ ..................................................... วันท่.ี ........เดือน.........................พ.ศ............ ความเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงชื่อ)…….............…………………..………… (...................................................) ตาแหน่ง ..................................................... วันที่.........เดือน.........................พ.ศ............

390 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว22101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

409 391 ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 ปรมิ าณเวกเตอรแ์ ละปรมิ าณสเกลาร์ หน่วยท่ี 3 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ืองที่ 2 ปรมิ าณเวกเตอรแ์ ละปรมิ าณสเกลาร์ รายวริชาายวิชทายาวศทิ ายสาตศรา์พส้ืนตฐรา์ นร3หสั วรชิ หาัสวิช2า21ว021110ภ3าคเารียานคเทรี่ย1นชทน้ัี่ 1มธัชยนั้ มมศธั กึ ยษมาศปกึ ีทษี่า2ปที ่ี 2 คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเตมิ คาตอบระยะทางที่เปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ และการกระจัดซึ่งเป็นปรมิ าณเวกเตอร์ ใน สถานการณ์ท่ีกาหนดใหต้ อ่ ไปน้ี 1. เรือแล่นไปทางทิศเหนอื เป็นระยะทาง 30 กโิ ลเมตร ในเวลา 40 นาที หลงั จากน้ันแล่นไปทางทิศ ตะวนั ออกอกี 40 กโิ ลเมตร ในเวลา 20 นาที (2 คะแนน) ระยะทาง ............................................................ การกระจัด ....................................................... 2. คลองทต่ี ดั ตรงจากเมอื ง A ไปเมอื ง B มคี วามยาว 65 กิโลเมตร ขณะทถี่ นนจากเมือง A ไปเมอื ง B มี ระยะทาง 79 กโิ ลเมตร ถ้าชายคนหนง่ึ ขนสนิ ค้าจากเมือง A ไปเมือง B โดยรถยนต์ (2 คะแนน) ระยะทาง ............................................................ การกระจดั ....................................................... 3. เดก็ ชายเอกไต่ข้ึนต้นมะพร้าวไปไดส้ ูงจากพื้นดนิ 12 เมตร แล้วถอยหลังลงมา 3 เมตร จงหาระยะทาง และการกระจัดของเด็กชายเอก (2 คะแนน) ระยะทาง ............................................................ การกระจัด ....................................................... 4. รถยนต์เคลื่อนที่จากจุด A ไปยังจุด B ได้ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ช่ัวโมง ส่วน รถจักรยานยนต์เคล่ือนที่จากจุด A ไปยังจุด C แล้วเปล่ียนทิศทางการเคลื่อนท่ีกลับมายังจุด B ได้ ระยะทาง 150 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลา 3 ช่ัวโมง (4 คะแนน) รถยนต์ AB รถจักรยานยนต์ ABC ระยะทางของรถยนต์ ............................................ การกระจดั ของรถยนต์ .................................... ระยะทางของรถจักรยานยนต์ ............................... การกระจดั ของรถจกั รยานยนต์ ........................

392 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว22101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

411 393 เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 2.1 ระยะทาง และการกระจัด หน่วยที่ 3 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ืองท่ี 2 ปรมิ าณเวกเตอรแ์ ละปรมิ าณสเกลาร์ รายวริชาายวทิชายาวศิทายสาตศรา์พสืน้ ตฐรา์ นร3หสั วรชิหาัสวชิ2า21ว021110ภ3าคเารียาคนเทรี่ย1นชทัน้่ี 1มัธชยั้นมมศัธึกยษมาศปึกีทษี่า2ปีที่ 2 คาชแี้ จง ให้นักเรยี นเติมคาตอบระยะทาง และการกระจัด ในสถานการณ์ทีก่ าหนดให้ตอ่ ไปนี้ 1. เรอื แล่นไปทางทศิ เหนอื เป็นระยะทาง 30 กโิ ลเมตร ในเวลา 40 นาที หลงั จากนนั้ แล่นไปทางทศิ ตะวนั ออกอกี 40 กโิ ลเมตร ในเวลา 20 นาที (2 คะแนน) ระยะทาง ..........70 กโิ ลเมตร............. การกระจัด ................ 50 กิโลเมตร......................... 2. คลองที่ตัดตรงจากเมือง A ไปเมอื ง B มีความยาว 65 กโิ ลเมตร ขณะท่ถี นนจากเมอื ง A ไปเมอื ง B มี ระยะทาง 79 กโิ ลเมตร ถา้ ชายคนหนึ่งขนสินค้าจากเมอื ง A ไปเมอื ง B โดยรถยนต์ (2 คะแนน) ระยะทาง ................... 144 กิโลเมตร..................... การกระจัด ........65 กิโลเมตร.................. 3. เด็กชายเอกไต่ข้ึนตน้ มะพร้าวไปไดส้ งู จากพน้ื ดิน 12 เมตร แล้วถอยหลังลงมา 3 เมตร จงหาระยะทาง และการกระจัดของเดก็ ชายเอก (2 คะแนน) ระยะทาง .................... 15 เมตร............. การกระจดั ............... 9 เมตร ....................... 4. รถยนต์เคลื่อนท่ีจากจุด A ไปยังจุด B ได้ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ช่ัวโมง ส่วน รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่จากจุด A ไปยังจุด C แล้วเปลี่ยนทิศทางการเคล่ือนที่กลับมายังจุด B ได้ ระยะทาง 150 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลา 3 ช่ัวโมง (4 คะแนน) รถยนต์ AB รถจกั รยานยนต์ ABC ระยะทางของรถยนต์ ..... 50 กิโลเมตร............... การกระจัดของรถยนต์ ... 50 กิโลเมตร.............. ระยะทางของรถจกั รยานยนต์ ...150 กิโลเมตร... การกระจัดของรถจักรยานยนต์ ..100 กิโลเมตร..

394 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว22101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

413 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การเคลื่อนทแ่ี ละแรง เร่ือง อัตราเร็ว และ ความเรว็ เวลา 2 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ รายรวาิชยาวิชทายวาิทศยาาสศตารส์พตืน้ รฐ์ าน 3 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ขอบเขตเนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 แหลง่ เรียนรู้ ปริมาณสเกลาร์ เป็นปริมาณท่ีมีท้ัง ขั้นนา 1. หอ้ งเรียน ขนาด เชน่ ระยะทาง อัตราเร็ว 1. นกั เรียนร่วมกันตอบคาถาม “ในการเคลื่อนที่ของวัตถุใด ๆ เราจาเป็นต้องระบุหรืออธิบาย 2. หอ้ งสมดุ โรงเรียน ปริมาณเวกเตอร์ เป็นปรมิ าณทม่ี ีทง้ั สง่ิ ใดบา้ งนอกจากจดุ เริม่ ต้น”ซึง่ ครูอาจใชค้ าถามชี้นา เชน่ “นกั เรียนจะทราบไดอ้ ย่างไรว่าวตั ถุ 3. แหลง่ เรยี นรอู้ อนไลน์ ขนาดและทศิ ทาง เชน่ การกระจัด ไหนเรว็ กว่ากนั ( ตรวจสอบเรอ่ื งเวลา ระยะทาง ทศิ ทาง และการกระจัด) ส่ือ ความเร็ว 1. ลายแทงทองคา อัตราเร็วเป็นปริมาณสเกลาร์ โดย 2. ใบความรู้ 3 อัตราเร็วและความเรว็ อัตราเร็วเป็นอัตราส่วนของระยะทางต่อ 3. ใบความรูท้ ่ี 3.1 เร่ือง อตั ราเร็วและ เวลา ความเร็ว ความเรว็ ปริมาณเวกเตอรม์ ที ิศ 4. ใบกิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง อัตราเรว็ ของ เดียวกบั ทิศของการกระจัด โดยความเรว็ วัตถุ เป็นอัตราส่วนของการกระจัดต่อเวลา ภาระงาน/ชน้ิ งาน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ใบกิจกรรมท่ี 3.1 เรื่อง อัตราเร็วของ อธบิ ายและคานวณอตั ราเรว็ และ วัตถุ ความเร็วของ การเคลือ่ นที่ของวตั ถุ รปู ท่ี 3.1 ลายแทงทองคา โดยใช้สมการ ที่มา : (บญุ เลยี้ ง จอดนอก, 2561) V= s/t และ................. 395

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 396

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 415 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การเคลือ่ นท่ีและแรง เร่อื ง อัตราเร็ว และ ความเรว็ รายรวาิชยาวชิทายวาิทศยาาสศตารส์พต้นื รฐ์ าน 3 เวลา 2 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 2.1 หากเด็กชาย ก. จะเดินทางจาก A ไป C และ เด็กชาย ข. จะเดินทางจาก A ไป B และไป C ใครจะเดินทางถึงเป้าหมายเรว็ กว่ากัน เพราะเหตใุ ดจงึ เป็นเชน่ นั้น 3. นักเรยี นอภปิ รายสะท้อนความคิดของตนเองให้เพอ่ื นในห้องไดแ้ สดงความคิดเห็นร่วมกับ ครู โดยที่ครูจะนาความรู้น้ีไปสู่การหาอัตราเร็วและความเร็ว เพ่ือนาไปสู่ข้อสรุป สาระสาคญั ดงั นี้ 4. การเปล่ียนตาแหน่งของวัตถุจากจุดหน่ึงไปอีกจุดหนึ่ง ระยะที่วัดตามเส้นทางการ เคลื่อนท่ี เรยี กวา่ ระยะทาง 5. การเปลี่ยนตาแหน่งของวัตถุจากจุดหน่ึงไปอีกจุดหน่ึง ระยะที่วัดตามแนวตรงจาก จุดเริ่มตน้ ไปยังจุดสดุ ท้าย เรียกว่า การกระจดั 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มทาการทดลอง เรื่องอัตราเร็วของวัตถุ พร้อมทั้งสรุปผลการทดลอง เพอื่ ให้ไดแ้ นวคิดวิทยาศาสตร์ ดงั น้ี ปรมิ าณของระยะทางตอ่ หน่ึงหนว่ ยเวลา เรยี กวา่ อัตราเร็ว ปรมิ าณของการกระจัดต่อหน่ึงหนว่ ยเวลา เรยี กว่า ความเร็ว 7. ใหน้ ักเรียนอภปิ รายผลการทดลอง โดยค้นหาคาตอบที่วา่ อัตราเร็วของวัตถุขึ้นกับปัจจัย ใด และความเรว็ ของวัตถุขน้ึ กบั ปจั จยั ใด 8. นักเรยี นและครูรว่ มกันสะท้อนผลท่ีได้จากการทดลอง ที่ชใี้ ห้เห็นถึงระยะทาง การกระจัด ต่อหน่วยเวลา นามาซึ่งอัตราเร็วและความเร็ว รวมถึงอธิบายความแตกต่างของอัตราเร็ว และความเรว็ ของวตั ถุ 397

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 416 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การเคลือ่ นท่แี ละแรง เร่ือง อัตราเร็ว และ ความเร็ว รายราวยิชวาิชวาทิ วยิทายศาศสาตสรต์พรื้น์ ฐาน 3 เวลา 2 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ขน้ั สรุป 1. นักเรยี นนาขอ้ มูลจาก ใบกิจกรรมที่ 3.1 อภปิ รายสะทอ้ นความคิดของตนเองให้เพอ่ื นในห้อง ได้แสดงความคิดเห็นรว่ มกบั ครู เพอ่ื นาไปสขู่ อ้ สรุปสาระสาคัญ ดงั น้ี 1) การเปล่ียนตาแหน่งของวัตถุจากจุดหน่ึงไปยังอีกจุดหนึ่งในเส้นทางต่าง ๆ กัน ระยะทางท่ีวัดได้ตามเส้นทางต่าง ๆ จะแตกต่างกัน แต่ระยะทางในแนวตรงจะ เท่ากนั 2) การเปลี่ยนตาแหน่งของวัตถุจากจุดหน่ึงไปอีกจุดหน่ึง ระยะที่วัดตามเส้นทางการ กเคาลรเอ่ื คนลทอื่ ี่นเทรยี่ เกรียวกา่ วร่าะรยะะยทะาทงาง 3) การเปลี่ยนตาแหน่งของวัตถุจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหน่ึง ระยะที่วัดตามแนวตรงจาก จดุ เริม่ ต้นไปยงั จุดสุดท้าย เรียกวา่ การกระจัด 4) ปรมิ าณของระยะทางต่อหนึ่งหนว่ ยเวลา เรยี กวา่ อตั ราเรว็ 5) ปรมิ าณของการกระจดั ต่อหนึ่งหนว่ ยเวลา เรยี กวา่ ความเรว็ 2. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความเห็นหรือสะท้อนความคิดเกี่ยวกบั การนาความรู้เร่ือง ระยะทาง และการกระจัด ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ซ่ึงครูอาจช้ีแนะเพ่ิมเติม เช่น การนาไปใช้เก่ียวกับ การหาระยะทางในเส้นทางที่สั้นท่ีสุดในการเดินทาง เป็นต้น และนอกจากน้จี ะนาความรู้ เร่ือง ระยะทาง และการกระจัด ไปศึกษาต่อในเร่ือง ปริมาณเวกเตอร์ ปริมาณ สเกลาร์ ความเร็ว และอัตราเร็วตอ่ ไป 398

การวดั และประเมินผล 417 399 การวดั และประเมนิ ผล 417 ส่ิงท่ตี ้องการวัด/ประเมนิ วธิ ีการ เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ดส้านิ่งทคตี่ว้อามงกราู้ รวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครื่องมือท่ใี ช้ เกณฑ์ นกั เรยี นทาถูก ด1า้ .นกคาวราอมธริบู้ ายระยะทางและ - ประเมนิ การตอบ ใบกิจกรรมที่ 3.1 นผกั ่าเนรเยี กนณทฑาร์ถ้อกู ยละ 80 1. กกาารรอกธรบิ ะาจยัดรขะอยงะวทตั าถงุทแี่ละ -คปารถะาเมมใินกใบารกติจอกบรรมที่ ใบกิจกรรมที่ 3.1 ผขา่ ึ้นนไเปกณฑ์รอ้ ยละ 80 กเปารลก่ยี รนะตจาัดแขหอนงง่วัตถทุ ี่ ค3า.1ถามในใบกจิ กรรมที่ ขึ้นไป ด้านเปทลักยี่ ษนะต/ากแรหะนบง่วนการ 3.1 นักเรยี นทาถูก ด1า้ น. กทากั รษทะด/ลกอรงะเบพว่อื นศึกษารา นผัก่าเนรเียกนณทฑาร์ถอ้กู ยละ 80 - ประเมนิ การบนั ทกึ ใบกิจกรรมท่ี 3.1 ผขา่ ึน้ นไเปกณฑ์รอ้ ยละ 80 1. กราะรยทะดทลาองงแเพลื่อะศอกึตั ษราเรว็ -ในปใรบะกเมจิ ินกกรารรมบทนั่ี 3ท.1ึก ใแบบกบิจบกรนั รทมกึ ทก่ี า3ร.1ทดลอง ขน้ึ ไป รทะกั ยษะะทกางารแวลัดะอัตราเร็ว ใเนรใอ่ื บงกอิจัตกรารเมรท็วขี่ 3อ.ง1 แบบบนั ทึกการทดลอง 2.ททกั ักษษะะกกาารรวใัดช้ตวั เลข เวรัต่ือถงุ อตั ราเรว็ ของ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ด2า้. ทนักคษณุ ะลกกั าษรใณช้ตะอวั เนั ลพขึง วัตถุ ไทดกุ้ระราดยบั กคาุณรขภ้นึาพไป3 ทถุกือรวาา่ ยผกา่ านรขนึ้ ไป ดปา้ รนะคสุณงคล์ ัก(Aษ)ณะอนั พงึ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน ถือว่าผา่ น ป1ร.ะมสีวงินคยั ์ (A) สงั เกตพฤตกิ รรม แคบุณบลปกั รษะณเมะนิ 12..มใีวฝินเ่ รยั ยี นรู้ คุณลกั ษณะ 23..ใมฝุ่งเรมียนั่ นในรู้การทางาน 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

418 418 400 บนั ทึกผลหลงั สอน บันทึกผลหลังสอน ผลการสอน ผ…ล…ก…า…รส…อ…น………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… …ปญั……หา…/…อปุ…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ป…ัญ…ห…า…/…อปุ…ส…ร…รค…………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… …ขอ้ …เ…สน…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…า…ง…แก…้ไ…ข………………………………………………………………….…………….………………………………… ข…อ้ …เ…สน…อ…แ…น…ะ/…แ…น…วท…า…ง…แก…้ไ…ข………………………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา (ลงชอ่ื )…….............…………………..………… วตตัน(าลาทแแง่.ีหชห..อ่ื.นน.((.)่ง.่ง..…..........เ…....ด..........ื.อ............น..........................................................…...............…...............…...............…...............…...............…............พ..…..............ศ.........…..............…...............…...........))..…............ วันที่.........เดือน.........................พ.ศ............ ค…ว…า…ม…เห…็น…ข…อ…งผ…บู้ …ร…หิ …าร…ส…ถ…าน…ศ…ึก…ษ…า……………………………………………………….…………….………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………..…………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงช่ือ)…….............…………………..………… ตตวาัาน(ลแแทงหหี.่ช.นน.อื่..ง่ง่((.)...…............เ…....ด............ื.อ..........น..........................................................…...............…...............…...............…...............…...............…..............พ…..............ศ.........…..............…...............….............))….......... วันที.่ ........เดือน.........................พ.ศ............

419 401 ใบกิจกรรมท่ี 3.1 เรือ่ ง อัตราเร็วของวัตถุ ช่อื ................................................ เลขท่ี .... ทาการทดลองวนั ที่ .......... เดอื น ...................... พ.ศ. ............ จดุ ประสงค์ของการทดลอง 1) เพือ่ สารวจ และสังเกตการณเ์ คล่อื นที่ของวัตถุ 2) เพื่ออธิบายความหมายของ อตั ราเรว็ ระยะทาง เวลา 3) อธิบายความสมั พนั ธ์ ระหวา่ ง อัตราเร็ว ระยะทาง และเวลา วสั ดุ และอปุ กรณ์ 1) รถบงั คบั จานวน 1 คัน 2) รางรถบังคบั แนวตรงยาว 4 เมตร และแนวโคง้ ยาว 6 เมตร 3) นาฬกิ าจบั เวลา 4) ตลับเมตร วิธที าการทดลอง 1) จดั อปุ กรณ์ โดยวางนาฬกิ าจบั เวลาไวต้ รงกลาง และ แล้วแยกสวิตช์ เปดิ ไว้ตาแหน่งเร่มิ ตน้ และ สวิตช์ปดิ ไว้ตาแหนง่ ทา้ ยสุด ทีร่ ถวิง่ ผ่าน ดังรูป รูปท่ี 1.3 การจัดอุปกรณร์ ถบงั คับ ที่มา: (บญุ เลยี้ ง จอดนอก, 2561) 2) เมอื่ เร่ิมปล่อยรถ แล้วรถเคลอื่ นท่ีผา่ นสวติ ช์ของนาฬกิ า นกั เรียนก็เริ่มจับเวลา พอผา่ นตาแหน่ง สุดท้ายนักเรียนกป็ ดิ สวิตช์ ณ ตาแหนง่ ที่รถว่ิงผา่ นสวิตช์ ที่จุดสดุ ท้ายพอดี บันทกึ เวลาหลงั การปลอ่ ย 3) ทาซ้าข้อเดิม โดยเปลีย่ นรางให้ยาวขน้ึ เป็น 6 เมตร (รางเปน็ แนวโค้ง) โดยใช้ความเรว็ เริม่ ตน้ ของรถ เท่าเดมิ 4) สังเกต และบันทึกผลการทดลอง และให้นกั เรียนคานวณหาอัตราเรว็ เฉลี่ยลงในตารางด้วย บนั ทกึ ผลการทดลอง (รางยาว 4 เมตร) ครัง้ ท่ี เวลาท่ใี ช้ (วนิ าที) ระยะทาง (เมตร) อตั ราเร็วเฉลย่ี (เมตรตอ่ วินาท)ี ครง้ั ท่ี 1 ครงั้ ที่ 2 คร้งั ที่ 3 เฉล่ีย

420 402 บนั ทกึ ผลการทดลอง (รางยาว 6 เมตร) คร้งั ที่ เวลาทใ่ี ช้ (วนิ าท)ี ระยะทาง (เมตร) อตั ราเรว็ เฉลีย่ เฉลย่ี (เมตรต่อวินาที) ครัง้ ท่ี 1 ครง้ั ที่ 2 คร้ังท่ี 3 คาถามหลังการทดลอง 1) อตั ราเร็วมีคา่ เท่ากบั อะไร (ใหน้ กั เรียนเขยี นความสมั พนั ธ)์ ……………………………………………………………………………………………… 2) จากการทดลอง เม่ือเราเปลีย่ นราง โดยเพมิ่ ระยะทางมากขึน้ อตั ราเร็วเปลยี่ นเปน็ อย่างไร ……………………………………………………………………………………………… 3) การเคลือ่ นท่ขี องรถคนั น้ี ถา้ เขยี นกราฟระหว่างอตั ราเร็ว กับเวลาจะได้กราฟ ในลักษณะใด ……………………………………………………………………………………………… 4) จงเตมิ คาให้สมบูรณล์ งในตารางท่กี าหนดให้ วตั ถุ หรอื ส่งิ มีชวี ิต ระยะทางเคล่อื นที่ เวลาที่ใช้ (วนิ าที) อตั ราเร็วเฉลีย่ 10 มด 20 เซนตเิ มตร 100 2 เมตรตอ่ วินาที 20 เมตรตอ่ วนิ าที นกั วิ่ง 2 ชว่ั โมง รถยนต์ 100 เมตร เครือ่ งบนิ 2,000 กโิ ลเมตร สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………

421 403 ใบความรู้ เร่อื ง อัตราเร็ว และความเรว็ อัตราเร็ว (Speed) คือ ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนท่ีได้ในหนึ่งหน่วยเวลา หรือ อัตราการเปลี่ยนแปลง ระยะทางในหนงึ่ หนว่ ยเวลา เป็นปรมิ าณสเกลลาร์ มีหนว่ ยในระบบเอสไอ เปน็ เมตร/วินาที (m/s) จากนิยามขา้ งต้น จะได้ว่า อตั ราเร็ว = ระยะทางท่ีได้ ช่วงเวลาในการเคล่ือนที่ และเม่ือกาหนดให้ v คอื อตั ราเรว็ มหี น่วย เปน็ เมตร/วินาที (m/s) s คอื ระยะทางทเ่ี คลอ่ื นทไ่ี ด้ มีหนว่ ย เป็น เมตร (m) s t คือ ชว่ งเวลาทใ่ี ชใ้ นการเคล่อื นที่ มหี น่วย เปน็ วนิ าที (s) t จะเขยี นสมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็ว ระยะทาง และเวลา ได้ว่า s ������������ = ������������ อตั ราเร็ว เป็นปรมิ าณที่แสดงให้ทราบลักษณะการเคลื่อนท่ีของวตั ถุ ถา้ ในทุก ๆ หน่วยเวลาของ การเคลือ่ นทว่ี ัตถุเคลื่อนทด่ี ว้ ยขนาดของอัตราเร็วเท่ากันตลอดการเคลื่อนที่ เรยี กว่า วัตถุเคลื่อนที่ด้วยอตั ราเร็ว สม่าเสมอหรืออตั ราเรว็ คงท่ี แตใ่ นความเป็นจริงวัตถุไม่ได้เคลื่อนทด่ี ้วยความเร็วคงที่เสมอไป ในกรณนี ี้สามารถ หาคา่ อัตราเรว็ ได้ 2 ลักษณะคือ อัตราเรว็ เฉลี่ย และอตั ราเรว็ ขณะใดขณะหนง่ึ เป็นตน้ ความเร็ว (Velocity) คือ การกระจััดในหนง่ึ หนวยเวลา หรือ อัตั ราการเปลั่ียนแปลงการกระจัดในหนึ่ง หน่วยเวลา เป็ นปริมาณเวกเตอร์ มหี นว่ ยในระบบเอสไอ เป็น เมตร/วนิ าที (m/s) จากนิยามขา้ งตน้ จะกาหนดได้วา่ ความเรว็ = การกระจัดทไ่ี ด้ ช่วงเวลาในการเคลอ่ื นที่ ซึ่ง เม่อื กาหนดให้ v คอื ความเร็ว มีหนว่ ย เป็ น เมตร/วินาที (m/s) s คือ การกระจัดที่ได้ มีหน่วย เป็น เมตร (m) t คือ ช่วงเวลาทีใ่ ช้ในการเคลื่อนที่ มหี น่วย เป็น วินาที (s) จะเขยี นสมการแสดงความสมั พันธ์ระหว่างความเร็ว การกระจัด และเวลา ได้ว่า  = s t

รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เปลย่ี น ตำ�แหน่ง ของวัตถุเทียบกับ เชน่ การกระจัด 404

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 423 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การเคลื่อนที่และแรง เร่อื ง การแก้โจทยป์ ัญหาอัตราเร็ว และความเร็ว รายรวาชิ ยาววชิ ิทายวาทิ ศยาาสศตารส์พต้ืนรฐ์ าน 3 เวลา 1 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ขัน้ สอน  = S และ = d 1. ครูถามนกั เรยี นเกี่ยวกับ แนวคดิ หลัก ของ ระยะทาง การกระจัด อตั ราเร็ว ความเร็ว) t t จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ระยะทาง หมายถงึ อะไร (ระยะจรงิ ท้ังหมดที่วตั ถุเคลื่อนท่ีได้) การกระจัด หมายถงึ อะไร (ระยะท่สี ั้นท่ีสุดจากจดุ เริ่มต้นไปยังจุดสดุ ทา้ ยของการ ดา้ นความรู้ (K) เคล่อืกนารทเค)ี่ ลอื่ นที่) 1. อธิบายการแก้โจทย์และสถานการณ์ อตั ราเร็ว หมายถึงอะไร (ระยะทางท่วี ตั ถุเคลื่อนท่ีไดใ้ นหนง่ึ หนว่ ยเวลา เป็น ปรมิ าณสเกลาร์) ปญั หาเก่ียวกบั กับ อัตราเรว็ และ ความเร็ว หมายถงึ อะไร (อตั ราการเปลย่ี นแปลงการกระจดั หรือการกระจัดที่ ความเรว็ ได้ เกดิ ขึน้ ในหนง่ึ หน่วยเวลา เป็นปริมาณเวกเตอร์) 2. ครูยกตวั อยา่ ง โจทย์ปัญหา และตวั อย่างการให้คะแนนในการ ด้านทักษะกระบวนการ (P) นาเสนอแนวทางและวธิ กี ารแกโ้ จทย์ปญั หา 1. สบื ค้นขอ้ มูลขน้ั ตอนการแกโ้ จทย์ ปญั หาเกย่ี วกบั อัตราเร็ว และความเร็ว ได้ 2. ดาเนนิ การแกโ้ จทย์ปญั หาที่มี ความสมั พันธข์ องระยะทาง เวลา การ ตวั อย่างที่ 1 วิรัชเดนิ รอบสนามเป็นรูปส่เี หลยี่ มผืนผา้ ยาว 10 เมตร กว้าง 5 เมตร โดยใช้เวลา กระจดั เวลา ได้ ทงั้ สนิ้ 30 วนิ าที สมชายเดนิ ดว้ ยอัตราเร็ว และความเร็วเทา่ ไร ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วธิ ีทา สิ่งท่ีโจทย์กาหนดให้ วริ ัชเดนิ รอบสนามเป็นรปู สเ่ี หล่ียมผืนผา้ ยาว 10 เมตร กว้าง 5 1. มีวินัย เมตร เวลาทีเ่ ขาใช้เดิน 30 วนิ าที ........................................................................... ( 1 คะแนน) 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน สตู รทเ่ี ลอื กใช้ ระยะทาง หรอื Sรวม = 2 (ด้านกว้าง + ด้านยาว)= 2(10+5) = 30 เมตร และการกระจดั มีคา่ เปน็ 0 เพราะสมชายเดินวนรอบมาจุดเรม่ิ ตน้ (1 คะแนน) 405

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การเคล่ือนที่และแรง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 424 เร่อื ง การแกโ้ จทย์ปัญหาอตั ราเรว็ และความเร็ว รายรวาิชยาววชิ ิทายวาิทศยาาสศตารส์พต้ืนร์ฐาน 3 เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระยะทาง ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 เวล า แทนคา่ ในสตู ร อตั ราเร็ว = ,  = S ...................( 1 คะแนน) t อตั ราเร็ว = 30 30 อตั ราเรว็ = 1 เมตรต่อวนิ าที  หาความเร็ว  =d 0 = 30 = 0 เมตรต่อวนิ าที t ความเร็ว เท่ากบั 0 เมตรตอ่ วินาที ตอบ อัตราเรว็ 1 เมตรต่อวนิ าที ความเร็ว 0 เมตรต่อวินาที .................................. (1 คะแนน) 3. ครูถามนกั เรยี นถงึ ความหมายของระยะกระจัดอีกคร้งั หน่งึ ให้นักเรียนช่วยกันตอบ คาถาม และ ถามย้อนว่า การคานวณหาระยะกระจัดทาโดยวิธีการใดบ้าง ครูพยายาม อธิบายซ้าคาถามเดิมเพ่ือให้นักเรียนคดิ ตาม ซ่ึงได้มาถึงวธิ ีการเขียนภาพ หาระยะกระจัด แลว้ ครูกย็ กตัวอยา่ งภาพการแก้โจทย์ปญั หา ขอ้ 2 ดงั นี้ B 20 cm 18 cm C A 32 cm รูปที่ 4.2 การกระจดั ของการเคล่อื นท่ี ทม่ี า: (บุญเล้ียง จอดนอก, 2 เม.ย. 2561) 406

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 425 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การเคลื่อนท่ีและแรง เรื่อง การแกโ้ จทยป์ ัญหาอัตราเรว็ และความเร็ว รายรวาิชยาวิชทายวาทิ ศยาาสศตารส์พต้นื รฐ์ าน 3 เวลา 1 ชัว่ โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ตวั อยา่ งท่ี 2 จากภาพ ถ้าวัตถเุ คลือ่ นทจ่ี ากจุด Aไไปป B ไป C ตามลาดบั นักเรียน สังเกตเหน็ ว่า A เปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ C เปน็ จุดหรอื ตาแหน่งสุดท้าย จุดเช่ือมตอ่ ของเสน้ ตรงท้ังสอง คือ จดุ BB เมอ่ื พิจารณาระยะทางจาก A ไปยัง B มคี ่าเท่ากับ 20+18 เท่ากับ 38 สว่ น สร่วะนยระะทยาะงทจาางกจจาุดกเจรุดมิ่ เรตม่ิ น้ ตไน้ปไยปังยจงั ดุ จสุดุดสทุดทา้ ย้ายคคอื อื รระะยยะะททาางงจจาาก A ไป C เเปป็นน็ รระะยยะะททางาแงแนนวตวรตงรทง่ีที่ ใกลท้ ่ีสดุ สมมตวิ า่ มคี ่าเป็น 32 cm เส้นสีดาขนาดใหญท่ ี่มีหัวลูกศร คอื ระยะกระจัดน่นั เอง (ในตวั อยา่ งน้ี ครนู าเสนอทบทวนเพื่อให้นักเรียนเขา้ ใจระยะกระจดั มากขึ้น) 4. ครนู าเสนอวธิ แี ก้โจทยป์ ญั หา โดยการเปรียบเทียบขัน้ ตอนยอ้ นกลับไปยงั ตวั อย่างที่ 1 อัตราเรว็ คอื ระยะทางท่เี คลอ่ื นที่ไดใ้ นหนง่ึ หนว่ ยเวลา เป็นปริมาณสเกลาร์ ความเรว็ คอื ระยะกระจดั ทเ่ี คล่ือนท่ีไดใ้ นหนงึ่ หนว่ ยเวลา เปน็ ปริมาณเวกเตอร์ ตัวอย่างที่ 3 สมชายวิ่งรอบสนามหญา้ รูปส่ีเหล่ยี มจัตุรสั 6 รอบ ซึง่ กวา้ งดา้ นละ 25 เมตร ใช้เวลา 5 นาที จงหาความเรว็ และอตั ราเร็ว วิธที า ความเร็ว = 0 (เพราะจุดเริ่มตน้ และจุดสุดท้ายอยู่ ณ จุดเดียวกัน ระยะกระจดั จึง เปน็ 0) อตั ราเรว็ = ระยะทาง(เมตร) / เวลา(วินาท)ี = (25x4 x6) / (5x60) = 600 / 300 = 2 เมตร/วินาที 407

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 426 หหหกกกหกลลลลนนนนุุุุ่ม่ม่ม่มว่วว่่วสสสสยยยยาาาากกกกรรรราาาาะะะะรรรรกกกกเเเเรรรราาาาียยยีียี รรรรนนนนเเเเรรรรรรรรยยยีียีี ู้ททูู้้ททู้ นนนนี่ีี่่ี่ รรรร3333ูู้้วูู้้วววกกกกิิิิททททาาาายยยยรรรราาาาเเเเศศศศคคคคาาาาลลลลสสสสอื่อ่ออ่ืืื่ ตตตตนนนนรรรรทททท์์์์ ่ีีแ่ี่่ีแแแลลลละะะะแแแแรรรรงงงงค ตเ รเแตเเปรครแเแปรรคตรรแรปปคตตคพพพพพวะววะะะวัว�ำลลลลาาาาออออรรรรียตแยียียยีีมมมมหหหหตตตตะะะะะะะะบบบบ5555งอปงงงงถถถถ5555ออออโโโโคคคควววว6ใค.ค.ค..คใใใใยยยยบรด....งงงงึึึึาา่าา่่่บบบบ.รรรรดดดดคคคคววววชชชชขขขขงงงงสูสสูสููคคคคเาาาารรรรตตตตชนนนนนนน้ััั้้้ัะะะะ52143รรรร5น1242412555113423334มมมมูถูถูถถูน่ััััววววไ์ไ์ไไ์์ตตตตูออูอูอู)))))ทททท))))))))))))))))กัเเเเาาาาดดดดแแแแววววรรรรออออภภภภดวทตก้้้อ้อออดกกดกดดกคมมมมเาาาา้้้้ปปปป็็็ววว็วารา�ำรนนนน�ำททททิปปิิปิปนนนนวาาาาาาาานนงงงงตตตตงรรรรรเวียใาเเเเรรรรใใใใแแแแาาาเเเเรรรรนแแแแแกักกัักัหพจนนนนรรรรททททนนนนมนพพพพใใใใาาาาเเเเผผผผผนนนนนิเเเเววววอส้จิหหหหชชชชนินนนิิิเา่า่า่่ากกกกยยยยรรรรศิจิจจจิินนนนนรกจจจจววววอยากกกก่น่่นน่น้อ้ออ้้อยียีียยีกกกกาาาาเเเเึ็วกาาาางงงงงคคคคารสสสสูใ่บพพพพับับับับรรรรนนนนยยยยาาาารรรรานาาาารษณิิิิดดดดออออคคคคคแแแแม่มม่ิิิ่ิม่รรรรณณณณนใูู่่่่ใใูใูตนนนนเววววราใใใใบบบบววววว0000�ำนนนนาตตตตกกกกเเเเเปูาา่า่า่่านนนนเเเเใาาาาตตตตลตปาาาาพคคคคพพพพรรรราาาาโ้โ้โ้้โมบขปปปปกกกกมมมมาอจจจจนนนนิมิิมมิมัญมมมมือู่ปูููปปปเเเเาาาาแแแแแือือืื่อ่่่ออครรรราาาาญญัญัััญบเเเเททททววววักัักกักหตตตตแแแแรลลลลผขขขขหรรรรหหหหงอ่่อ่ือืือ่ืรรรรวา่า่า่า่ทะยยยยเเเเออออาผผผผนหหหหสะะะะออออวว็็วว็็าแแแแาาาารรรรงงงงายคี่ไ์์ปปป์ป์บบบบมนนนนอออองงงงใใใใาาาาคคคคียีีียยยกกกกมดใหะ�ำนนนนสสสสกกกกัญญััญญักััตตตััตเเเเททททหาาาานนนนโโ้้โ้้โ้รตกใใใใววววาหหหหกกกกมมมมตาาาาาจจจจรรรรรรรตตตต้อหหหหไไีไ่ไี่่ีีู่้หหหหมมมมครอลลลลรรรรราาาาาาาาาาาาดดดดรทาาาททททกกกกออออยะอ้้้้อออำ�บีีีีาาาาขขขขทาาาาคคคคแแแแแแวรรรรยยยยเเเเ้้้้าาาา่ียยยย่ใูบบบบจตรรรรททททยยยยั้ันน้น้ั้นัโจแแแแานาาาา4กกกกผผผววววรรรรรรรร์หหห์ห์์ดัด็็็ววว็วอโโโโูููู่่่่งใใใใตีี่ต่ีตีต่่หตตตตกกกกตตตตททท.ทรชิชชิิิช้โโโโ้้้ะะะะนนนตตตตดดดดานนนนเเเเย1คบาาาาจจจจ่่่า่าาาาปูออออทททท้้้้โโโโออออยยยยาาาายาาาายยยรรรรกกกกณรรรรจจจจจงงงงคททททขบบบบดดดดงงงงคนนนน่า่่าาา่ะะะะววววววววกกกกาูปูููปปปาาากกกกาททททวคคคคิตอ้กกกกยยยยงัังงัังจจจจวกกกกจจจรททิิทิทิกกกกชกรรราาาาันัันนนัาขขขขยยยยศนนนนณณณณคนบัับับับบหหหหป์์ป์์ปปาาาารรรรรรรจจจาาาาสมยยยยา้ออ้อ้อ้ปป์์์์ปปาวกกกกี้ีี้ี้้�ำะะะะนนนนรรรราาาาคซซซซมดดััดัวัญญัญญัผิิติติตตาาาาคคคคส2222าสญััญญัญัแแแแสสสสจจจจคคคคาาาาู่กงึงงึ่ึ่ง่ึ่ิดศศศศกิทกกกศศศศมตววววมหหหหกกกกัััดัดดดมมมมนนนนสสสสววววาพเเเเหหหหับาาาาาาาาาาายาาาหรกมมมมาาาาโโ้้โ้โ้าาาารมมมมกกกกกกกัััักสสสสรรรสสสส์ลมมมมาาาาการจจจจามมมมออออหตตตตาาาาเเเกกกกเเเเตตตตตตตตแศอืหหหหราททททรรรรรรรนนนนผผผผตัตัตตััรรรรรรรราดาาาากรรรรทรรรรรรายียีียรรรียยยียีียยยยค////ิดดิดิดิกกัักักัรรรรรรรรปู์์์์้ส์์์์พทพพพสแแแแ่ีไือือือือววววนนนนนนนปป์์ป์ปป์วาาาาททททพพพพเเเเดมภกกกกนิินนิินตรรรรารรรราน้ื้้ืื้ืนนหหหหรแแแแเเเเรรรัญญญญััั้จ่ไีีไ่่ไีไ่ีลลลลการรรรูปูปููปปกมียยีียีย้้้้สสสสระาาาาููู้้ททท้ดดดดตตตตฐฐฐฐาาาาาพาาาาา็ว็็วว็วหหหหเ์ิททททเนนนนจมมมมภภภภคคคค้้้จจจจ้กลล่่ลล่่าาาาีี่่่ีปมรดดดดาาาาก444กกกกีีีีแแแแาาาานนนนาาาาขววววะะะะแแแแนิ็นแพพพพรกกกกาาาาตตตตาาาาอ้คคคคออออลลลลคไทรรรรรมมมม3333ขขขข่ล่ลล่่ลปนนนนยยยยะะะะ�ำปปปป2มนเเเเ้อ้้อออ้ะะะะไตา่าา่่่าแแแแคคคคปปปปรรรรดคทสสสสคคคคมงงงงอททททววววะะะะน็็็น็นน้่า2222ไไไไาาาา่ีานนนนบแาาาานนนนเเเเรรรร4ลไไไไมมมมเมมมมทลมมมมปปปปปมมมมคคคค.งจจจจาาาานนนน1นนินิินิะไ่ีใเเเเน็ไไไไ่่่่าาาาาาาารรรระะะะดนรรรรคกักัักักคคคคดดดดเเเเลลลลโถถถถขมมมมวว็ว็็ว็้วสปปปปวคเเเเาาาา้้้้งงงงนนนนอรรรรา่ีวีีววีวามรตตตตน็็็น็นนใใใใถีีียยียยงิธิธิิธธาาาามแแแแงนนนนกออออโโโโูกตมมมมีคคีคีีคนนนนสสลลลลคคคคาสสสสบบบบตรนาาาาดดิิิดิดมัรชชชชะะะะรรรรมมมมทททท้า้อใใใใพคคคคว่วว่ว่่กงงงงชชชชกกกกงหหหหงไี่ีไีไี่่่ไสสสสยยยยววววันับก้้ใใใ้้ใาาาาดดดดรรรรรรรรกกกกาาาาหหหหธาสรรรร้้วว้วว้ือออือืืา้าา้า้้มมมมร์รััันนนัน้้้้เเเเม่า่่าาา่ววววงงงงกกกกหะสสสสตตตตถถถถากกกกธธิธิิิธหดดิดดิิิามััมัมมัออออกูกููกกูชกีกกีกีีาาาาวพพพพบบบบตตตติรรรรกาาาาา่ หหหหัันนนันัรรรรอ้อ้อ้้อใงนธธธธาาาางงงง์์์์ 426 426 เวลา 1 ชัว่ โมง ชชชชนน้ัั้นั้ั้นมมมมธัธัธธัั ยยยยเเเวววมมมมลลลศศศศาาาึึกกึกึกษษษษ111าาาาชชชปปปป่ัััววว่่ ทีททีีที โโโี่ีี่่่ีมมม2222งงง 6. กนนกกนกลลลลักักักุุุุ่่่่มมมมเเเรรรีีียยยแแแแนนนลลลล้ววว้ว้้ศศศตตตตึึึกกกรรรรษษษววววาาาจจจจใใใคคคคบบบาาาาคคคตตตตวววออออาาาบบบบมมมททททรรรููู้้้ถถ่ถีถ่ี่่ีี ทททููููกกกก่่ี่ีี ตตตต444้้้้ออออ...111งงงงจจจจคคคาาาาวววกกกกบบบเเเเคคคฉฉฉฉููู่่่กกกลลลลัััยยยยบบบททททกกกีคีค่คีี่ค่่าาารรรรรรทททููููแแแแสสสสาาากกกดดดดิิิจจจงงงงบบบบกกกรรรนนนนรรรจจจจมมมออออทททโโโโปปปป่ี่ี่ี 444รรรร...เเเเ111จจจจคคคคขขขเเเเอออตตตตงงงออออตตตรรรรนนน์์์์ เเเเกกกปปปปััับบบิิิิดดดดสสสโโโโมมมออออาาากกกกชชชาาาาิิิกกกสสสสใใใใใในนนหหหห้้้้ 66.. 408

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 409

รายวชิ าวิทยาศาสตร์ การกระจัด หมายถงึ (ระยะทส่ี น้ั ท่สี ดุ จากจดุ เร่มิ ต้นไปยงั จุดสดุ ท้ายของการเคล่ือนท)ี่ อตั ราเร็ว หมายถงึ (ระยะทางท่วี ตั ถเุ คลื่อนท่ไี ด้ในหน่งึ หน่วยเวลา เป็นปรมิ าณสเกลาร์) ความเร็ว หมายถึง (อัตราการเปลยี่ นแปลงการกระจัดหรอื การกระจดั ท่ีเกดิ ขนึ้ ในหน่งึ หน่วย เวลา เป็นปริมาณเวกเตอร์) 410

429 411 การวดั และประเมนิ ผล สิ่งทต่ี ้องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ใบงานที่ 4.1 ดา้ นความรู้ นักเรยี นทาถูก ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80 1. อธบิ ายวิธกี ารคานวณและ - ประเมนิ การตอบ ขน้ึ ไป แก้โจทย์ปัญหาอัตราเร็ว คาถามในใบงานที่ 4.1 ความเรว็ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. สืบค้นข้อมูลวิธีการแก้ - ประเมินการตอบ ใบงานที่ 4.1 นักเรยี นทาถูก โจทย์ปญั หา คาถามใบงานที่ 4.1 แบบฝึกหัดท้ายกจิ กรรม ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 80 2. ระบุข้ันตอนการแก้โจทย์ และแบบฝึกหัดท้าย 4.2 ขึ้นไป ปญั หา กจิ กรรม 4.2 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 1. มีวินัย คุณลักษณะ ทกุ รายการขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

430 412 บนั ทึกผลหลังสอน ผลการสอน ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงช่อื )…….............…………………..………… (...................................................) ตาแหนง่ ..................................................... วันท.่ี ........เดือน.........................พ.ศ............ ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….…………….………………………………… (ลงชื่อ)…….............…………………..………… (...................................................) ตาแหน่ง ..................................................... วันท่ี.........เดือน.........................พ.ศ...........

413 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว22103 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เ

414 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว22101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 .....................

415 รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว221ว021210ภ1าคเรียนที่ 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2

434 416 แบบฝกึ หัดทา้ ยกจิ กรรมที่ 4.2 อัตราเร็ว และความเร็ว หนว่ ยที่ 3 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ งที่ 1 การแก้โจทยป์ ญั หาอตั ราเรว็ และความเร็ว รายวริชาายวิชทายาวศิทายสาตศราพ์ สนื้ ตฐรา์ นร3หสั วรชิหาัสวิช2า21ว021110ภ3าคเภรยีาคนเทรี่ย1นชทัน้ี่ 1มธัชยนั้ มมศัธึกยษมาศปึกทีษ่ีา2ปีท่ี 2 ข้อท่ี 1 ชายคนหนึง่ เดนิ จากจดุ A ไปจุด B โดยใช้เวลา ดังรปู (4 คะแนน) จงคานวณอตั ราเร็วในช่วงเวลา 0-4 วินาที ข้นั ตอนการคานวณ ข้ันที่ 1 ข้ันทาความเข้าใจปัญหา อา่ นโจทย์ให้ไดใ้ จความทลี ะขอ้ ความ แลว้ เปลี่ยนปริมาณทีม่ ีในข้อความน้นั ให้เปน็ สัญลักษณ์ของปรมิ าณนัน้ หรือเขยี นรปู วาดรปู ประกอบ แลว้ กากบั รปู ด้วยสัญลกั ษณ์ของปริมาณนน้ั สิ่งทีโ่ จทยก์ าหนดใหค้ ือ ...................................................................................................................... ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ วางแผนการแกป้ ญั หา จากสถานการณป์ ญั หา ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................................... การเลอื กใช้สตู รและความสมั พันธ์ของปรมิ าณในการแก้ปัญหา สตู รท่ีใช้ .......................................................................................................................................... ปริมาณทโ่ี จทย์ใหม้ าเขียนเปน็ สญั ลักษณด์ ังน้ี .................................................................................. ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ขั้นท่ี 3 ขัน้ ดาเนินการแกป้ ญั หา

สูตรท่ใี ช้ .......................................................................................................................................... 417 ปรมิ าณทโ่ี จทย์ใหม้ าเขียนเปน็ สัญลักษณ์ดังนี้ .................................................................................. ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... 435 ขั้นที่ 3 ขัน้ ดาเนินการแกป้ ญั หา วิธีทา ……………………………………………………………………………………… จากสูตร ……………………………………………………………………………………… แทนค่า ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ตอบ ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ขน้ั ท่ี 4 ขน้ั การตรวจสอบ ทาการตรวจสอบว่าผลสาเร็จหรือผลลัพธท์ ่ีได้จากการดาเนนิ การแกโ้ จทยป์ ญั หานนั้ ถกู ต้องหรอื ไม่ โดยทาการ ตรวจสอบรายการต่าง ๆ ดังน้ี ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………

436 418 2. วัตถเุ คลื่อนท่ีจาก A ไปยงั B ให้นักเรียนหาระยะทางและระยะกระจัดของการเคลื่อนทข่ี องวัตถุ (4 คะแนน) ขั้นตอนการคานวณ ขนั้ ที่ 1 ขัน้ ทาความเข้าใจปัญหา อา่ นโจทย์ใหไ้ ดใ้ จความทีละข้อความ แลว้ เปลี่ยนปริมาณที่มใี นข้อความนั้น ใหเ้ ปน็ สัญลักษณข์ องปรมิ าณน้ัน หรือเขียนรูป วาดรูปประกอบ แล้วกากบั รูปด้วยสัญลักษณ์ของปริมาณนัน้ สงิ่ ทีโ่ จทย์กาหนดใหค้ ือ ........................................................................................................................... สง่ิ ท่โี จทย์ตอ้ งการทราบคือ ...................................................................................................................... ขั้นท่ี 2 ข้นั วางแผนการแก้ปัญหา จากสถานการณป์ ัญหา พจิ ารณาวา่ จะใชแ้ นวทางและวิธีการใดในการแก้ปญั หา ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................................... การเลือกใช้สูตรและความสัมพนั ธข์ องปรมิ าณในการแกป้ ญั หา สูตรทีใ่ ช้ .......................................................................................................................................... ปริมาณท่โี จทย์ใหม้ าเขยี นเปน็ สญั ลักษณด์ ังนี้ .................................................................................. .........................................................................................................................................................

437 419 ขั้นที่ 3 ขั้นดาเนนิ การแกป้ ญั หา วธิ ีทา จากสูตร ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… แทนคา่ ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… ตอบ ……………………………………………………………………………………… ขั้นท่ี 4 ขัน้ การตรวจสอบ ทาการตรวจสอบว่าผลสาเรจ็ หรือผลลัพธท์ ่ไี ดจ้ ากการดาเนนิ การแกโ้ จทย์ปัญหานนั้ ถูกต้องหรือไม่ โดยทาการ ตรวจสอบรายการตา่ ง ๆ ดงั น้ี……………………………………………………………………………………………………

438 420 เฉลยแบบฝึกหดั ท้ายกจิ กรรมท่ี 4.2 อัตราเรว็ และความเร็ว หนว่ ยท่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่องที่ 1 การแก้โจทยป์ ญั หาอัตราเร็ว และความเร็ว รายวริชาายวิชทายาวศิทายสาตศรา์พส้นื ตฐรา์ นร3หัสวรชิ หาัสวชิ2า21ว021110ภ3าคเภรียานคเทร่ีย1นชทั้น่ี 1มัธชยั้นมมศธั ึกยษมาศปึกีทษี่ า2ปีที่ 2 ขอ้ ที่ 1 ชายคนหนึง่ เดินจากจุด A ไปจุด B โดยใช้เวลา ดงั รปู (4 คะแนน) จงคานวณอตั ราเร็วในชว่ งเวลา 0-4 วินาที ข้นั ตอนการคานวณ ขัน้ ท่ี 1 ขน้ั ทาความเข้าใจปัญหา อ่านโจทยใ์ ห้ไดใ้ จความทลี ะข้อความ แลว้ เปล่ียนปริมาณท่ีมใี นข้อความนั้น ให้เปน็ สญั ลกั ษณ์ของปริมาณนั้น หรอื เขียนรูป วาดรูปประกอบ แล้วกากบั รปู ดว้ ยสัญลกั ษณ์ของปรมิ าณนนั้ ส่ิงทโี่ จทย์กาหนดใหค้ อื ..............ระยะทางท่ีชายคนน้ีเดินจาก A ไป B 20 เมตร...และเวลา 4 วินาที.......... ข้ันที่ 2 ขัน้ วางแผนการแก้ปญั หา จากสถานการณป์ ัญหา ไดแ้ ก่ สถานการณป์ ัญหา โจทยก์ าหนดระยะทาง และเวลามาให้ ใหห้ าอตั ราเร็ว การเลือกใช้สตู รและความสมั พนั ธข์ องปริมาณในการแกป้ ญั หา สูตรท่ีใช้ .......... v  s .................................................................. t ปริมาณทโี่ จทยใ์ ห้มาเขียนเปน็ สัญลกั ษณ์ดงั นี้ ........ v .คอื .อัตราเรว็ ....s คือระยะทาง และ t คือ เวลา ......................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................

439 421 ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ดาเนนิ การแก้ปัญหา วิธีทา v s จากสูตร หรอื ความสมั พนั ธ์ t แทนค่า v  20m 4s ν = 5 m/s ตอบ อตั ราเรว็ ของวัตถุเคลอ่ื นทจ่ี าก A ไป B มีค่าเท่ากับ 5 เมตรตอ่ วินาที ข้ันท่ี 4 ข้นั การตรวจสอบ ทาการตรวจสอบว่าผลสาเรจ็ หรอื ผลลัพธท์ ไ่ี ด้จากการดาเนินการแกโ้ จทยป์ ญั หาน้นั ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ โดยทาการ ตรวจสอบรายการตา่ ง ๆ ดังน้ี ……………ตรวจสอบความสัมพนั ธ์ และการแทนคา่ ปรมิ าณอัตราเร็วและเวลา …… ………………ตรวจสอบผลการคานวณ และหน่วยของอัตราเรว็ ………………………

440 422 2. วตั ถเุ คลอ่ื นท่จี าก A ไปยงั B ให้นกั เรียนหาระยะทางและระยะกระจัดของการเคล่อื นท่ขี องวตั ถุ (4 คะแนน) ขนั้ ตอนการคานวณ ข้นั ที่ 1 ขน้ั ทาความเข้าใจปัญหา อา่ นโจทยใ์ หไ้ ด้ใจความทลี ะขอ้ ความ แลว้ เปล่ยี นปริมาณท่มี ีในขอ้ ความน้นั ให้เป็นสญั ลกั ษณ์ของปริมาณน้นั หรือเขียนรปู วาดรปู ประกอบ แล้วกากับรูปดว้ ยสัญลักษณข์ องปรมิ าณนัน้ สง่ิ ทโ่ี จทย์กาหนดให้คือ ระยะทางจาก A ไป B ให้มาเปน็ รูปครงึ่ วงกลม เสน้ ผา่ นศูนย์กลางจาก A ไป B สิ่งทโี่ จทยต์ อ้ งการทราบคอื .....ระยะทางและการกระจดั .......................................... ข้นั ท่ี 2 ขั้นวางแผนการแกป้ ัญหา จากสถานการณ์ปญั หา พิจารณาว่าจะใช้แนวทางและวธิ กี ารใดในการแกป้ ญั หา ไดแ้ ก่ .......พจิ ารณาระยะทางของวัตถุเคลือ่ นท่ี จากเส้นผ่านศนู ย์กลาง A ไป B และพจิ ารณาการกระจัด จากจดุ เริม่ ต้นไปยงั จุดสุดทา้ ย................................................................................... การเลอื กใช้สูตรและความสมั พันธ์ของปรมิ าณในการแก้ปญั หา สูตรทใี่ ช้ ....หาระยะทางจาก A ไป B พิจารณาจากเส้นรอบวงกลม =2������������������������แตเ่ มอื่ เปน็ ครึง่ หน่งึ จึงได้ 2r  r 2 ปรมิ าณทโ่ี จทยใ์ ห้มาเขยี นเปน็ สญั ลกั ษณด์ ังน้ี .รศั มี (r=7) ซึง่ มาจาก เส้นผ่านศนู ยก์ ลางหารด้วย 2 .........................................................................................................................................................

441 423 ขน้ั ที่ 3 ขั้นดาเนนิ การแกป้ ัญหา วิธที า จากสูตร เสน้ รอบวงกลม =2������������������������ พิจารณาวัตถุเคล่ือนท่ไี ดร้ ะยะทางครงึ่ วงกลม จึงได้ 2r  r 2 แทนคา่ …………………ระยะทาง เทา่ กบั r ……………………………………… …………………s = 22  7 ………………………………………………………………… 7 ………………… s = 22 เมตร…………………………………………………………………… …………………ระยะทางเท่ากับ 22 เมตร………………………………………………………………… ตอบ ………………และการกระจดั จากจดุ เริ่มตน้ A ไปยงั Bมีค่าเท่ากบั 14 เมตร ………………………… ข้นั ท่ี 4 ข้ันการตรวจสอบ ทาการตรวจสอบว่าผลสาเรจ็ หรอื ผลลัพธ์ที่ไดจ้ ากการดาเนนิ การแกโ้ จทยป์ ัญหาน้นั ถูกตอ้ งหรือไม่ โดยทาการ ตรวจสอบรายการตา่ ง ๆ ดังนี้………ความสัมพันธ์ของการหาระยะทางจากเส้นรอบวงกลม การหาเส้นผา่ น ศนู ยก์ ลาง การคานวณ และการตรวจสอบหนว่ ยของระยะทางและการกระจดั …

442 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 เวลา 2 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงลพั ธ์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ขอบเขตเนอ้ื หา รายวริชาายรววาิชทิยายวาชิวศทิาาวยสิทาตศยราพ์ ศสน้ืาตสรฐต์พานรื้ ์ ฐวา2น21301 สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ เมอ่ื มีแรง กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ใบความรทู้ ี่ 5.1 เร่ือง แรงลพั ธ์ ขั้นนา 2. ใบกจิ กรรมท่ี 5.1 เรื่อง มวลจะไป หลายๆ แรงกระทาตอ่ วตั ถุ แล้วแรงลัพธท์ ี่ กระทาต่อวัตถุมคี ่าเปน็ ศนู ย์ วัตถุจะไม่ 1. ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียน โดยใช้กจิ กรรมดังนี้ (5 นาที) ทางไหน? เปลยี่ นแปลงการเคลื่อนท่ี แต่ถา้ แรงลัพธ์ที่ 1.1 ครฉู ายภาพสุนัขแย่งผ้าขน้ึ โปรเจคเตอร์ แล้วใหน้ กั เรียนทานายวา่ 3. กระดาษวาดแบบ ((กกระดาษปพรู๊ฟฟ)) กระทาต่อวตั ถุมีค่าไม่เป็นศนู ย์วัตถุจะ เปลีย่ นแปลงการเคล่อื นที่ สนุ ัขตวั ใดจะแยง่ ผ้าสีแดงไดส้ าเร็จ พร้อมปากกาเมจิก 12 สี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ คาชแ้ี จง ครูฉายภาพสุนัขกาลังแยง่ ผา้ สแี ดงขึ้นโปรเจคเตอร์ 4.สตกิ เกอรด์ าว ด้านความรู้ 12 ภาระงาน/ชนิ้ งาน 1.ระบุวา่ แรงเปน็ ปริมาณเวกเตอร์ได้ 1.ใบกจิ กรรมที่ 5.1 เร่อื ง มวลจะไปทาง 2. พยากรณก์ ารเคลือ่ นท่ขี องวัตถทุ ี่เปน็ https://www.catdumb.com/adler-has-this-tug-o-war-313/ ผลของแรงลพั ธท์ ีเ่ กิดจากแรงหลายแรงที่ ไหน? กระทาต่อวัตถุในแนวเดยี วกันได้ 2.งานกล่มุ ในกระดาษวาดแบบ ดา้ นทักษะและกระบวนการ 1.เขียนแผนภาพแสดงแรงและแรงลัพธ์ ทเ่ี กดิ จากแรงหลายแรงกระทาตอ่ วตั ถุใน แนวเดียวกัน 424

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 443 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง แรงลัพธ์ เวลา 2 ช่วั โมง ด้านคณุ ลกั ษณะ รายวริชาายรวาิชทยายวาวิชศทิาาวยสิทาตศยรา์พสศ้นืตาฐสรพ์าตนรนื้ ์ ฐวา2น21301 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 นักเรียนมวี นิ ัย ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียน มุง่ มัน่ ใน 1.2 ครูใช้คาถามเพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียน การทางานและมีจิตสาธารณะ 1) นกั เรียนคิดวา่ สนุ ขั หมายเลขใดนา่ จะแยง่ ผ้าสีแดงมาครอบครอง ได้ (หมายเลขใดกไ็ ด้) 2) เพราะเหตุใดนกั เรยี นจึงคิดเชน่ น้นั (นกั เรยี นใหเ้ หตุผล ประกอบ คาตอบของตนเอง เช่น หมายเลข 1 กาลังยืนอย่นู า่ จะออกแรงได้มากกวา่ หมายเลข 2, หมายเลข 2 เพราะหมายเลข 2 ตวั ใหญ่กวา่ หมายเลข 1 ให้ นกั เรยี นได้แสดงความคิดเห็น คาถามน้นี ักเรยี นอาจถกู หรือผดิ กไ็ ด้ ครูยังไม่ตอ้ ง เฉลยคาตอบ) 3) นกั เรยี นคดิ วา่ สิ่งใดบ้างทม่ี ผี ลตอ่ การเคลื่อนทีข่ องวัตถุ (นกั เรยี น ตอบคาถาม เพ่ือให้นกั เรยี นได้แสดงความคดิ เห็น คาถามนน้ี ักเรยี นอาจถูกหรือ ผดิ ก็ได้ ครูยังไม่ต้องเฉลยคาตอบ) 1.3 ครูกล่าวโนม้ นา้ วความสนใจ ใจความวา่ นกั เรยี นจะไดศ้ กึ ษาค้นควา้ หาคาตอบของขอ้ คาถามดังกลา่ วจากการเรยี นในคาบน้ี ขัน้ สอน 1. แบ่งกลุม่ นักเรยี น กลมุ่ ละ 4 คน ทากจิ กรรม 5.1 เรเรอ่ื ่อืงงแรงลพั ธ์ ใหเ้ วลา 5 นาที นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ วาดภาพแทนแรง เพ่อื สนบั สนนุ คาตอบของกลุม่ ครู สมุ่ ให้นกั เรียนออกมานาเสนอ 1-2 กลุม่ ครูรว่ มอภิปรายคาตอบของแตล่ ะกลุ่ม 425


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook