ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒๒ ชน้ั ป.๔ หนว่ ยที่ ๑ เร่ืองจานวนนับ และการบวก การลบ การคูณ การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 141 หน่วยย่อยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ 1. บัตรโจทย์ปัญหาการบวก การแก้โจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ ขนั้ นา 2. บัตรโจทยป์ ัญหาการลบ 3. แถบโจทยป์ ัญหา ปัญหาการลบ และแสดงวธิ ีหาคาตอบ 1. ครูทบทวนการวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการบวก โจทย์ปญั หาการลบจานวนนบั และหาคาตอบ 4. แบบฝกึ หัด 1.22 จากโจทยท์ ่ีครูติดบนกระดาน ให้นักเรียนอา่ นพร้อมกัน ดังนี้ สาระสาคัญ การประเมิน การแกโ้ จทยป์ ัญหาทาได้โดย อา่ นทา 1. พอ่ คา้ ขายมงั คดุ 875 กิโลกรัม ทเุ รียน 1,095 กโิ ลกรัม พ่อค้าขายมังคดุ 1. วิธกี าร น้อยกว่าทเุ รียนกีก่ ิโลกรมั ความเขา้ ใจปัญหา วางแผน 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ แกป้ ัญหา แสดงวิธหี าคาตอบ และ ใหน้ กั เรยี นตอบคาถาม 1.2 ตรวจแบบฝกึ หดั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ 1) โจทยถ์ ามอะไร (จานวนนา้ หนักของมงั คดุ นอ้ ยกว่าทุเรียน) 2. เคร่ืองมอื คาตอบ 2) พอ่ คา้ ขายมังคุดกี่กโิ ลกรมั (875 กิโลกรมั ) 2.1 แบบฝกึ หดั 1.22 3) ขายทเุ รยี นก่ีกโิ ลกรัม (1,095 กโิ ลกรมั ) 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4) หาจานวนนา้ หนกั ของมงั คุดน้อยกวา่ ทเุ รียนได้อย่างไร (นาจานวนนา้ หนักของมังคดุ ไปลบออก ดา้ นความรู้ จากนา้ หนักทเุ รยี น) กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 5) เขียนประโยคสัญลักษณ์เพอื่ หาจานวนนา้ หนักของมงั คดุ น้อยกว่าทุเรยี นได้อย่างไร 3. เกณฑ์ เพื่อใหน้ กั เรยี นสามารถวเิ คราะห์ โจทย์ปัญหา แสดงวธิ หี าคาตอบโจทย์ (ประโยคสญั ลักษณ์ 1,095 - 875 = □) 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง ปญั หาการบวก และโจทย์ปญั หาการ ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 ลบของจานวนนบั ท่ีมากกวา่ 100,000 2. เมอ่ื วานพ่อคา้ ขายของไดเ้ งิน 1,000 บาท ซึ่งน้อยกวา่ วันน้ี 300 บาท วนั น้ี พอ่ คา้ ขายของไดเ้ งินกบี่ าท 3.2 นักเรียนได้คะแนนรวมดา้ น ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง ทกั ษะและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ 1) โจทยถ์ ามอะไร (จานวนเงินท่ีพอ่ ค้าขายของวันน้ี) คณิตศาสตร์ไมน่ อ้ ยกว่า 2) เมอื่ วานพ่อค้าขายของไดเ้ งินเทา่ ไร ( 1,000 บาท) ร้อยละ 60 เพอื่ ให้นกั เรียนสามารถสอื่ สาร 3) เม่ือวานพ่อค้าขายของไดเ้ งินมากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ วันนี้ (น้อยกวา่ ) น้อยกว่าเทา่ ไร (300 บาท) สื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒๒ ช้นั ป.๔ หน่วยท่ี ๑ เร่ืองจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 142 หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ 4) วันนี้พอ่ ค้าขายของได้เงินมากกวา่ หรอื น้อยกวา่ เมื่อวาน (มากกวา่ ) 5) หาจานวนเงินทพ่ี ่อคา้ ขายของวนั น้ีไดอ้ ยา่ งไร (นาจานวนเงินทีพ่ ่อคา้ ขายของเม่ือวานรวมกับ จานวนเงินท่ขี ายได้เงนิ นอ้ ยกว่าวนั นี้) 5) เขยี นประโยคสญั ลกั ษณเ์ พ่ือหาจานวนเงินทีพ่ ่อค้าขายของวนั น้ีได้อย่างไร (ประโยคสญั ลกั ษณ์ 1,000 + 300 = □ ) ขน้ั สอน 2. ครูติดแถบโจทยป์ ัญหาตัวอย่างท่ี 1 บนกระดานให้นักเรียนอ่านโจทย์พรอ้ มๆกัน ตัวอยา่ ง 1 พ.ศ. 2557 มีคนต่างด้าวทไ่ี ดร้ ับอนุญาตให้ทางานในประเทศไทย 1,133,851 คน นอ้ ยกว่า พ.ศ. 2558 จานวน 49,984 คน พ.ศ. 2558 คนต่างด้าวที่ไดร้ บั อนุญาตให้ทางานในประเทศไทยกี่คน ทมี่ า : สานกั บรหิ ารคนต่างด้าว กรมการจัดหางาน ใหน้ กั เรียนตอบคาถาม 1) โจทย์ถามอะไร (จานวนคนต่างดา้ วทไ่ี ด้รับอนญุ าตให้ทางานในปี พ.ศ. 2558) 2) พ.ศ. 2557 มีคนตา่ งดา้ วที่ได้รบั อนุญาตให้ทางานกค่ี น (1,133,851 คน) 3) พ.ศ. 2557 มีคนต่างด้าวท่ีได้รับอนญุ าตให้ทางานมากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ พ.ศ. 2558 (น้อยกวา่ ) น้อยกว่ากี่คน (49,984 คน) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายและเขยี นแผนภาพแสดงการเปรียบเทยี บจานวนคนต่างดา้ วทไ่ี ดร้ ับ อนุญาตให้ทางานในปีพ.ศ. 2557 และ พ.ศ. 2558
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒๒ ชนั้ ป.๔ หน่วยท่ี ๑ เร่อื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณ การหาร เวลา ๑ ชั่วโมง 143 หน่วยย่อยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ 2558 49,984 2557 1,133,851 จากเแผนภาพครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เขียนประโยคสัญลกั ษณ์เพื่อหาจานวนคนต่างดา้ วท่ีได้รับอนุญาตให้ ทางานในปี พ.ศ. 2558 ประโยคสัญลักษณ์ 1,133,851 + 49,984 = □ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันเขียนแสดงวิธที าบนกระดาน ดงั นี้ วิธีทา พ.ศ. 2557 มีคนต่างด้าว 1133851 + คน พ.ศ. 2557 คนตา่ งด้าวน้อยกวา่ พ.ศ. 2558 49984 คน พ.ศ. 2558 คนตา่ งด้าวทไ่ี ดร้ บั อนญุ าตใหท้ างาน 1183835 คน ตอบ ๑,๑๘๓,๘๓๕ คน ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบคาตอบ โดยใช้เคร่อื งคดิ เลข ดงั น้ี หาว่าจานวนคนต่างด้าว พ.ศ. 2558 มากกว่า พ.ศ. 2557 อยูเ่ ท่าใด โดย 1,183,835 1,133,851 = 49,984 ซงึ่ ตรงกับโจทย์ แสดงวา่ 1,183,835 เปน็ คาตอบทถี่ ูกต้อง
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒๒ ช้ัน ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณ การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 144 หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ ตัวอย่าง 2 จากการสารวจสามะโนประชากร พ.ศ. 2558 พบวา่ ประเทศไทยมีประชากรทงั้ หมด 65,729,098 คน เป็นหญิง 33,448,212 คน เป็นชายก่คี น ทม่ี า : สามะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2553 สานักงานสถิตแิ หง่ ชาติ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปราย และเขยี นแผนภาพแสดงการหาจานวนประชากรชาย จากสงิ่ ท่โี จทยบ์ อก 65,729,098 33,448,212 จากเแผนภาพครูให้นกั เรียนช่วยกันขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์เพ่อื หาจานวนประชากรชาย ประโยคสญั ลกั ษณ์ 65,729,098 33,448,212 = ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันเขยี นแสดงวิธีทาบนกระดาน ดงั นี้ วิธีทา ประชากรท้ังหมด 65,729,098 – คน เป็นหญิง 33,448,212 คน เป็นชาย 32,280,886 คน ตอบ ๓๒,๒๘๐,๘๘๖ คน ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบคาตอบ โดยใช้เครอื่ งคิดเลข ดงั นี้ หาวา่ จานวนประชากรชายรวมกับประชากรหญงิ โดย 32,280,886 33,448,212 = 65,729,098 ซง่ึ ตรงกับโจทย์ แสดงว่า 32,280,886 เป็นคาตอบทีถ่ ูกต้อง
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๒ ชน้ั ป.๔ หน่วยที่ ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 145 หน่วยย่อยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ 3. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 3 – 4 คน แจกกระดาษแผ่นใหญใ่ ห้นักเรียนกลมุ่ ละ1 แผน่ ใหแ้ ต่ละ กลมุ่ สมุ่ หยบิ บัตรโจทย์ปญั หาที่ครตู ดิ บนกระดานกลมุ่ ละ1 ขอ้ ช่วยกนั วิเคราะห์โจทย์ปัญหา เขยี นประโยค สัญลกั ษณแ์ ละแสดงวิธที า ดงั นี้ นกั เรียนช้นั ป.3 ใน พ.ศ. 2557 มี 789,717 คน นักเรียนชั้น ป.4 มมี ากกว่าชั้น ป.3 10,748 คน มีนกั เรียนชน้ั ป.4 กค่ี น ที่มา : สานักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 นกั เรียนชัน้ ป. 4 ใน พ.ศ. 2556 มี 810,165 คน แต่ใน พ.ศ. 2557 มี 800,465 คน พ.ศ. 2557 มีนกั เรยี นเพ่ิมข้นึ หรอื ลดลงจาก พ.ศ. 2556 กีค่ น ท่มี า : สานักงานสถติ ิแห่งชาติ พ.ศ. 2557 แล้วให้ตัวแทนนกั เรียนออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรียน ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไข ข้อบกพร่อง ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ที่ 1.22 ขอ้ 1-4 เป็นการบา้ น ข้ันสรุป 4. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก โจทยป์ ญั หาการลบจานวนนับ อาจทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผน แก้ปัญหา แสดงวธิ หี าคาตอบ และตรวจสอบความถูกตอ้ งของคาตอบ จากโจทย์ปัญหานัน้
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้ันนำ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒๓ ขัน้ สอน แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 146 ขั้นสรุป กำรวัดและประเมินผล ทบทวนการวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการบวก โจทย์ปญั หาการลบ กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนกำรแกโ้ จทยป์ ญั หำกำรบวก โจทย์ปัญหำกำรลบ และหำคำตอบ แบบฝกึ หดั ท่ี 1.23 สรปุ การสอนการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปญั หาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ และหาคาตอบ ประเมนิ จำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หดั ประเมินทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ ดำ้ นกำรสอื่ สำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ประเมนิ จากการแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๓ ชัน้ ป.๔ หน่วยท่ี ๑ เรอื่ งจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ชั่วโมง 147 หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก ขั้นนา 1. แถบประโยคสัญลักษณ์การบวก 2. แถบประโยคสัญลักษณ์การลบ โจทย์ปญั หาการลบ จากประโยค 1. ครทู บทวนโจทย์ปัญหาการบวก โจทยป์ ัญหาการลบ โดยใหอ้ า่ นโจทย์ท่ีครตู ิดบนกระดานพร้อมๆกัน 3. แบบฝึกหัด 1.23 สัญลกั ษณ์ และหาคาตอบ แลว้ ช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์ ดงั น้ี การประเมิน สาระสาคัญ 1) มารศรีซื้อสินคา้ 400 บาท ร้านคา้ คดิ ภาษีมลู คา่ เพ่ิม 28 บาท มารศรตี ้องจ่ายเงินซื้อสนิ ค้า 1. วธิ ีการ การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวก โจทย์ ทงั้ หมดเทา่ ใด เขียนประโยคสัญลักษณ์เพ่ือหาจานวนเงนิ ท่มี ารศรตี ้องจ่ายทงั้ หมดไดอ้ ยา่ งไร 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ปัญหาการลบ โจทยท์ ี่สรา้ ง จะต้องมี 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด 1.23 ความถกู ตอ้ งและเหมาะสม (ประโยคสัญลกั ษณ์ 400 + 28 = ) 2. เคร่อื งมือ 2) ประกอบเล้ยี งเป็ด 46 ตัว เลย้ี งไก่ 54 ตวั ประกอบเลีย้ งไก่มากกวา่ เปด็ กต่ี วั 2.1 แบบฝึกหัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ ด้านความรู้ เขียนประโยคสัญลักษณ์เพื่อหาจานวนไกม่ ากกวา่ เปด็ ไดอ้ ย่างไร กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพือ่ ใหน้ ักเรียนสามารถสร้างโจทย์ (ประโยคสัญลกั ษณ์ 54 – 46 = ) 3. เกณฑ์ ปญั หาการบวก โจทย์ปญั หาการลบ 3) นารีมีสม้ โออยู่จานวนหน่งึ ขายไป 10 ผล ทาให้นารเี หลือสม้ โอ 18 ผล เดมิ นารมี สี ม้ โอก่ผี ล จากประโยคสัญลักษณ์ และหาคาตอบ 3.1 ผลงานมคี วามถกู ต้อง เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์เพื่อหาจานวนสม้ โอทน่ี ารีมีอยเู่ ดิมได้อยา่ งไร ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ (ประโยคสัญลกั ษณ์ – 10 = 18) 3.2 นักเรยี นได้คะแนนรวมดา้ น 4) ดารงมไี ก่ 32 ตวั ซื้อไก่มาเพิ่มอีกจานวนหนึ่ง ทาใหด้ ารงมีไก่ 50 ตัว ดารงซอื้ ไก่มาเพิม่ อีกกี่ตวั ทักษะและกระบวนการทาง เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถสือ่ สาร คณติ ศาสตร์ไม่น้อยกวา่ สื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณเ์ พื่อหาจานวนไก่ทซ่ี ้ือมาเพิ่มไดอ้ ยา่ งไร ร้อยละ 60 (ประโยคสญั ลกั ษณ์ 32 + = 50) ขน้ั สอน 2. ครูสนทนากบั นักเรียนวา่ จากโจทย์ปัญหาดังกลา่ วเราสามารถเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้ ทานอง เดยี วกัน ถา้ กาหนดประโยคสัญลกั ษณ์ให้กส็ ามารถสร้างโจทยป์ ัญหาได้เชน่ เดยี วกัน จากนั้นครตู ิดประโยค สญั ลกั ษณบ์ นกระดาน 59,000 15,000 =
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒๓ ชั้น ป.๔ หนว่ ยที่ ๑ เรอ่ื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ชั่วโมง 148 หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ ครยู กตัวอยา่ ง โจทย์ปญั หาที่สรา้ งจาก 59,000 15,000 = ดังน้ี 1) พ่อมีรายได้ประจาเดือนละ 59,000 บาท มรี ายไดพ้ ิเศษเดอื นละ 15,000 บาท พอ่ มีรายไดร้ วมกัน เดือนละก่ีบาท 2) ครูให้นกั เรยี นสงั เกตว่า โจทย์ปญั หาทีส่ ร้างจะมีสว่ นประกอบ 2 สว่ น คอื สว่ นทโี่ จทย์กาหนดกับส่วนที่ โจทยถ์ าม จากโจทย์ ส่วนทโ่ี จทยก์ าหนด คือ พ่อมรี ายไดป้ ระจาเดือนละ 59,000 บาท 3) มีรายไดพ้ ิเศษเดือนละ 15,000 บาท สว่ นที่โจทยถ์ าม คือ พ่อมรี ายไดร้ วมกันเดือนละก่ีบาท ครูแนะนาเพ่มิ เตมิ ว่า ในการสร้างโจทย์ปัญหาจะต้องคานงึ ถงึ ความถกู ต้อง ความเหมาะสมของคาหรือ ขอ้ ความทส่ี อดคล้องกบั การดาเนนิ การ และตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผลของสถานการณ์กบั จานวนที่ กาหนด 3. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันสรา้ งโจทยป์ ญั หา และหาคาตอบ เพิม่ เติม ซึ่งอาจไดด้ งั นี้ 1) จนิ ดาขายเมล็ดพนั ธุ์พืชไดเ้ งิน 59,000 บาท ขายเครื่องมือเกษตรได้เงนิ 15,000 บาท จินดา ขายเมล็ดพนั ธ์ุพืชและเครอื่ งมือเกษตรได้เงนิ เท่าใด (จินดาขายเมล็ดพันธพุ์ ชื และเครื่องมือเกษตร ได้เงนิ ท้ังหมด 74,000 บาท) 2) กรมปา่ ไม้เพาะพันธุ์ต้นสกั ไว้ 59,000 ต้น เพาะพนั ธ์ุตน้ ยางมากกว่าตน้ สกั 15,000 ตน้ กรมปา่ ไม้เพาะพนั ธต์ุ น้ ยางไวก้ ตี่ ้น (กรมป่าไม้เพาะพนั ธ์ุต้นยางไว้ 74,000 ตน้ ) ครูซกั ถามนกั เรียนวา่ การสร้างโจทยป์ ัญหาจากประโยคสญั ลักษณ์ สามารถสร้างเพิ่มเตมิ ไดอ้ ีกหรือไม่ 4. ครแู ถบประโยคสัญลักษณ์บนกระดาน ดังน้ี 25,000 8,000 =
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๓ ช้ัน ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เรื่องจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 149 หน่วยย่อยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ ให้นักเรยี นชว่ ยกันสร้างโจทย์ปัญหา ซ่ึงอาจไดด้ ังน้ี พ่อมเี งนิ 25,000 บาท ซ้ือของใหแ้ ม่ 8,000 บาท พ่อเหลอื เงินกี่บาท (พ่อเหลือเงิน17,000 บาท) บริษัทแห่งหนง่ึ ติดราคาขายรถจักรยานยนต์ไว้ 25,000 บาท และติดราคารถจักรยานไว้ 8,000 บาท ราคารถจกั รยานถูกกว่ารถจกั รยานยนต์เท่าไร (รถจักรยานถกู กว่ารถจักรยานยนต์ 17,000 บาท) คอมพิวเตอร์ราคา 25,000 บาท วสิ ามเี งนิ อยู่ 8,000 บาท วสิ าจะต้องหาเงนิ มาเพม่ิ อีกเท่าไรจงึ จะพอซื้อ คอมพวิ เตอร์ได้พอดี (วสิ าจะตอ้ งหาเงินมาเพม่ิ อกี 17,000 บาท จงึ จะพอซื้อคอมพวิ เตอร์ได้พอดี) ชาวประมงขายปลาไดเ้ งนิ 25,000 บาท ขายกุ้งได้เงินน้อยกว่าขายปลา 8,000 บาท ชาวประมงขายกุ้ง ได้เงินเท่าไร (ชาวประมงขายกงุ้ ไดเ้ งนิ 17,000 บาท) ชาวนาขายข้าวหอมมะลิได้ 25,000 บาท ขายข้าวหอมมะลไิ ด้มากกวา่ ข้าวเหนียว 8,000 บาท ชาวนาขายข้าวเหนยี วไดเ้ งินก่ีบาท (ชาวนาขายข้าวเหนียวไดเ้ งิน 17,000 บ+าท) 5. ครูแนะนาเพมิ่ เติมว่า เราสามารถสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสญั ลกั ษณ์อน่ื ๆ เชน่ 1,000 = 3,500 + 1,250 = 3,000 ครใู ห้นักเรียนช่วยกนั สรา้ งโจทยป์ ญั หา ซง่ึ อาจไดด้ ังนี้ พ่อมเี งินจานวนหนงึ่ จา่ ยค่าซ่อมบา้ นไป 1,000 บาท พ่อเหลอื เงิน 3,500 บาท เดิมพ่อมีเงนิ กบี่ าท วันแรกแมข่ ายของไดเ้ งนิ จานวนหนึ่ง วันที่สองขายได้ 1,250 บาท แม่ขายของสองวันได้เงนิ 3,000 บาท วนั แรกแมข่ ายของได้เงินกีบ่ าท 6. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกล่มุ กลุ่มละ 3 – 4 คน แจกกระดาษแผน่ ใหญใ่ หน้ ักเรยี นกลุม่ ละ 1 แผ่น ให้ ตวั แทนกลุ่มสุ่มหยบิ บัตรประโยคสัญลกั ษณ์กลุ่มละ1 ขอ้ ช่วยกันสรา้ งโจทย์ปัญหา และหาคาตอบ ดงั น้ี
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๓ ช้ัน ป.๔ หน่วยที่ ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 150 หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ 924,500 + 65,800 = □ 808,100 - 125,900 = □ □ + 5,000 = 6,700 □ – 5,000 = 6,700 แล้วให้ตัวแทนนกั เรยี นออกมานาเสนอหน้าช้นั เรยี น ครูและนกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบและแก้ไข ข้อบกพร่อง ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัดที่ 1.23 ข้อ 1-2 เป็นการบา้ น ข้นั สรปุ 7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ การสร้างโจทยป์ ัญหา จากประโยคสัญลกั ษณ์ โจทยป์ ญั หาทส่ี ร้างจะมี สว่ นประกอบ 2 สว่ น คือส่วนท่ีโจทยก์ าหนดกบั ส่วนทโี่ จทย์ถาม ในการสร้างโจทยป์ ัญหาจะตอ้ งคานงึ ถงึ ความถกู ตอ้ ง ความเหมาะสมของคาหรอื ข้อความทส่ี อดคล้องกบั การดาเนินการ และตระหนักถึงความ สมเหตสุ มผลของสถานการณ์กบั จานวนท่ีกาหนด
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขน้ั นำ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒๔ ขนั้ สอน แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 151 ขั้นสรุป กำรวัดและประเมินผล ทบทวนกำรกำรสร้ำงโจทย์ปญั หำกำรบวก โจทย์ปัญหำกำรลบจำกประโยคสญั ลักษณ์ กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนกำรสรำ้ งโจทยป์ ัญหำกำรบวก โจทยป์ ัญหำกำรลบจำกสถำณกำรณ์ และหำคำตอบ แบบฝกึ หัดท่ี 1.24 สรุปกำรสอนกำรสรำ้ งโจทย์ปัญหำกำรบวก โจทย์ปญั หำกำรลบจำกสถำณกำรณ์ และหำคำตอบ ประเมินจำกกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด ประเมนิ ทักษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ ด้ำนกำรสอ่ื สำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ประเมินจำกกำรแกป้ ญั หำ กำรใหเ้ หตผุ ล
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒๔ ชั้น ป.๔ หน่วยท่ี ๑ เร่อื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ชั่วโมง 152 หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การบวก การลบ สือ่ /แหล่งเรียนรู้ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. แถบประโยคสัญลกั ษณ์ กำรสรำ้ งโจทย์ปญั หำกำรบวก 2.รูปภำพของเล่นชนิดตำ่ งๆ ขัน้ นา 3.แบบฝกึ หัด 1.24 โจทย์ปัญหำกำรลบจำกภำพหรอื 1. ครสู นทนำกับนักเรียนเร่ืองกำรสร้ำงโจทยป์ ญั หำจะมสี ่วนประกอบ 2 สว่ น คือส่วนท่ีโจทย์กำหนด กบั การประเมิน สถำนกำรณ์ และหำคำตอบ 1. วิธีการ สว่ นท่โี จทย์ถำม กำรสร้ำงโจทยป์ ญั หำจะต้องเลือกใช้คำหรือข้อควำมท่ีเหมำะสมกับกำรดำเนนิ กำรหรอื สาระสาคัญ 1.1 สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ กำรสรำ้ งโจทย์ปัญหำกำรบวก สถำนกำรณ์ และตระหนักถึงควำมสมเหตสุ มผลของสถำนกำรณก์ บั จำนวนท่กี ำหนด จำกน้นั ครตู ดิ แถบ 1.2 ตรวจแบบฝึกหัด 2. เคร่ืองมือ โจทย์ปญั หำกำรลบ โจทยท์ ่สี ร้ำง ประโยคสัญลกั ษณ์บนกระดำน 2.1 แบบฝกึ หัด 1.24 จะตอ้ งมีควำมถกู ต้องและเหมำะสม 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ 1) 50 10 = 2) 40 15 = จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ ดา้ นความรู้ 3) 20 = 30 4) + 40 = 100 3. เกณฑ์ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสำมำรถ ครูส่มุ นักเรียนสรำ้ งโจทยป์ ัญหำ ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบโจทย์ที่เพื่อนแต่งวำ่ ถูกตอ้ ง 3.1 ผลงำนมคี วำมถกู ต้อง สรำ้ งโจทยป์ ญั หำกำรบวก โจทย์ปญั หำ ไม่นอ้ ยกว่ำร้อยละ 80 กำรลบจำกภำพหรือสถำนกำรณ์ และ สมเหตสุ มผลหรือไม่ หำคำตอบ 3.2 นกั เรียนได้คะแนนรวมด้ำน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง ขั้นสอน ทกั ษะและกระบวนกำรทำง คณิตศาสตร์ คณติ ศำสตรไ์ มน่ ้อยกว่ำ 2. ครูติดรูปภำพสิง่ ของและของเล่นชนดิ ต่ำงๆบนกระดำน ดงั นี้ 990 บาท รอ้ ยละ 60 เพือ่ ใหน้ ักเรยี นสำมำรถสอ่ื สำร 900 บาท สอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ 1,550 บาท 750 บาท 1,250 บาท 2,450 บาท 250 บาท 1,050 บาท
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒๔ ช้ัน ป.๔ หน่วยที่ ๑ เร่อื งจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู การหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 153 หน่วยย่อยที่ ๑.๒ การบวก การลบ ครูแบ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4- 5 คน แจกกระดำษแผ่นใหญ่ใหน้ กั เรียนกลุ่มละ 1 แผน่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันสร้ำงโจทย์ปัญหำกำรบวก และโจทย์ปญั หำกำรลบอย่ำงละ 1 ขอ้ และหำคำตอบจำกส่ิงท่ี กำหนดให้ แล้วใหต้ วั แทนนักเรยี นออกมำนำเสนอหน้ำช้ันเรียน ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบและ แกไ้ ขข้อบกพรอ่ ง 3. ครูแนะนำเพ่มิ เติมวำ่ ในกำรสรำ้ งโจทย์ปัญหำกำรบวก โจทยป์ ญั หำกำรลบ นอกจำกภำพ หรือสถำนกำรณ์ท่ีกำหนดใหแ้ ล้ว นักเรยี นอำจนำจำนวนอื่นมำใช้รว่ มได้ เพื่อให้โจทย์ปัญหำมคี วำม น่ำสนใจ ทัง้ นี้ต้องคำนงึ ถึงควำมสมเหตุสมผลดว้ ย ครูยกตวั อยำ่ งเช่น แดงตอ้ งกำรซ้ือรถบังคบั รำคำ 1,550 บำท แต่แดงมีเงนิ 1,100 บำท แดงจะต้องเก็บเงนิ เพ่มิ อีก เท่ำไรจงึ จะซ้ือรถบังคับได้พอดี ดำมีเงนิ จำนวนหนึ่ง ซื้อตุ๊กตำหมใี หน้ อ้ งรำคำ 750 บำท ทำใหด้ ำเหลือเงนิ 1,000 บำท เดิมดำมีเงินกบ่ี ำท ร้ำนคำ้ ขำยของเลน่ ได้เงินจำนวนหนึ่ง ต่อมำขำยรถยกรำคำ 1,050 บำท ทำใหร้ ำ้ นคำ้ มีเงิน ทงั้ หมด 3,500 บำท เดิมรำ้ นคำ้ มเี งินเท่ำไร 4. ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั 1.24 ข้อ 1 – 3 เป็นกำรบ้ำน ขนั้ สรุป 5. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปกำรสรำ้ งโจทยป์ ัญหำกำรบวก โจทยป์ ัญหำกำรลบจำกรปู ภำพหรือ สถำนกำรณ์ท่ีกำหนดให้ โจทย์ทส่ี รำ้ งจะต้องมีควำมถูกตอ้ งและเหมำะสม สอดคลอ้ งกบั กำรดำเนินกำร และตระหนักถึงควำมสมเหตุสมผลของสถำนกำรณ์กบั จำนวนทีก่ ำหนด
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนำ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒๕ ข้ันสอน แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 154 ขั้นสรปุ กำรวัดและประเมนิ ผล ทบทวนกำรคณู จำนวน 1 หลักกบั จำนวน 2 หลกั ดว้ ยภำพ สอนกำรคูณจำนวน 1 หลัก กับ จำนวนมำกกว่ำ 4 หลกั ทำแบบฝึกหัด 1.25 พรอ้ มเฉลยคำตอบ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ กำรคณู จำนวน 1 หลกั กบั จำนวนมำกกวำ่ 4 หลัก ประเมินกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หดั ประเมินทักษะและกระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรด์ ้ำนกำรสอ่ื สำรสื่อควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๕ 155 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ป.๔ หนว่ ยที่ ๑ เร่อื งจานวนนับ และการบวก การลบ การคูณและการหาร หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร เวลา ๑ ชวั่ โมง ขอบเขตเน้ือหา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ กำรคณู จำนวน 1 หลัก กับ ข้นั นา 1. แผน่ ตารางรอ้ ย ตารางสิบ ตาราง หนว่ ย จำนวนมำกกวำ่ 4 หลัก 1. ครูแจกแผ่นตำรำงร้อย ตำรำงสบิ ตำรำงหนว่ ยให้นกั เรยี น จำกน้นั ให้นักเรยี นจดั แผน่ ตำรำงรอ้ ย 2. แบบฝึกหดั 1.25 ตำรำงสบิ ตำรำงหนว่ ย แสดงกำรคณู ของ 3 × 24 ครูตรวจสอบควำมถูกต้องจนได้ดังนี้ สาระสาคัญ การประเมิน การคูณจานวนหน่งึ หลักกับจานวน 2. ครใู หน้ ักเรียนหำผลคณู ของ 3 × 24 เม่อื ได้คำตอบ ครูถำมนักเรียนว่ำหำคำตอบได้อย่ำงไรบำ้ ง เช่น 1. วธิ กี าร หลายหลัก อาจทาไดโ้ ดยคูณจานวน - นบั ได้ 6 สบิ กับ 12 หน่วย ดังนัน้ 3 × 24 = 72 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ในหลักหน่วยกอ่ นแลว้ จึงคูณจานวนใน 1.2 ตรวจผลงานจากแบบฝึกหดั หลกั ถดั ไปทางซา้ ย ตามลาดบั ถา้ - หำผลคูณไดจ้ ำก 3 คณู 4 หนว่ ย ได้ 3 × 4 = 12 และ 3 คณู 2 สิบ ได้ 3 × 20 = 60 2. เครื่องมอื ผลคูณในแต่ละหลกั เป็นจานวนสอง 2.1 แบบฝึกหัด 1.25 หลกั ใหท้ ดจานวนทค่ี รบสบิ ไปหลัก จะได้ 3 × 24 = (3 × 4) + (3 × 20) 2.2 แบบประเมนิ ทักษะและ ถัดไปทางซา้ ย = 12 + 60 กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 3. เกณฑ์ ด้านความรู้ = 72 3.1 ผลงานมีความถกู ต้อง เพอื่ ให้นักเรียนสามารถ - หำผลคูณดว้ ยกำรต้งั คูณ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 หาผลคณู ของจานวนหนงึ่ หลกั กับ 1 จานวนที่มากกว่าสห่ี ลัก แสดงวิธีทา 2 4 หาผลคณู หลกั สิบ 3.2 นักเรียนได้คะแนนรวมดำ้ น พรอ้ มทั้งตระหนักถึงความ 2 4 หาผลคณู หลกั หนว่ ย ทักษะและกระบวนกำรทำง สมเหตสุ มผลของผลคูณท่ีได้ 3 3 × 4 = 12 เขยี น 2 ใน 3 3 × 2 = 6 รวมทดอกี 1 คณติ ศำสตรไ์ ม่นอ้ ยกว่ำ เป็น 7 เขียน 7 ในหลักสิบ รอ้ ยละ 60 2 หลกั หน่วย ทด 1 ใน 7 2 สบิ หลกั สบิ ดงั น้นั 3 24 = 72
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๕ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ชนั้ ป.๔ หนว่ ยที่ ๑ เรือ่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร เวลา ๑ ช่วั โมง 156 ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง ขัน้ สอน คณิตศาสตร์ 3. ครกู ำหนดสถำนกำรณ์ แม่ซ้ือกระเปำ๋ นักเรยี นใหล้ ูก 3 คน คนละ 1 ใบ รำคำใบละ 259 บำท แม่ เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถสือ่ สาร ตอ้ งจำ่ ยเงนิ คำ่ กระเป๋ำก่บี ำท ใหน้ กั เรียนร่วมกันตอบคำถำมแสดงวิธีหำคำตอบ ดังนี้ สือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ จะหำวำ่ แม่ต้องจ่ำยเงนิ ก่ีบำทไดอ้ ย่ำงไร (จำนวนกระเป๋ำคูณกับรำคำกระเปำ๋ ) เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์เพ่อื หำจำนวนเงนิ ค่ำกระเปำ๋ ได้อยำ่ งไร (3 × 259 = ) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันแสดงวธิ ีหำคำตอบโดยใชแ้ ผน่ ตำรำงรอ้ ย ตำรำงสิบ ตำรำงหน่วย ประกอบกำรแสดงวธิ ตี ัง้ คูณ ดังนี้ 3 × 259 =
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๒๕ 157 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ป.๔ เวลา ๑ ช่วั โมง หน่วยท่ี ๑ เรื่องจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒๕ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ชัน้ ป.๔ หน่วยท่ี ๑ เรื่องจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ช่วั โมง 158 จะได้ 3 × 259 = 777 ดงั นั้น แม่จะต้องจำ่ ยเงนิ ค่ำกระเปำ๋ 777 บำท
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒๕ 159 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ป.๔ เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยท่ี ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร หนว่ ยย่อยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร 4. ครยู กตวั อย่ำงกำรคูณจำนวนหนึ่งหลกั กับจำนวนมำกกวำ่ ส่หี ลัก ครใู ช้กำรซักถำมแลว้ ชว่ ยกันแสดงวิธี หำผลคูณ 7 × 21,503 = 2 1 5 0 3 × ขน้ั ที่ 1 พจิ ำรณำหลกั หน่วย 7 × 3 = 21 7 หรือ 2 สบิ กับ 1 หน่วย ใส่ 1 ในหลักหน่วย ทด 2 ในหลัก 1 5 0 5 2 1 สบิ ขั้นที่ 2 พิจำรณำหลักสบิ 7 × 0 = 0 รวมกบั ทดอกี 2 สิบ เปน็ 2 สิบ ขนั้ ที่ 3 พิจำรณำหลักร้อย 7 × 5 = 35 หรือ 3 พนั กบั 5 ร้อย ใส่ 5 ในหลกั รอ้ ย ทด 3 ในหลกั พัน ข้นั ที่ 4 พจิ ำรณำหลักพัน 7 × 1 = 7 รวมกับทดอีก 3 พัน เป็น 10 พัน หรอื 1 หมน่ื ใส่ 0 ในหลักพัน ทด 1 ใน หลักหม่นื ข้ัน 5 พิจำรณำหลกั หม่ืน 7 × 2 = 14 รวมกบั ทดอีก 1 หมนื่ เป็น 15 หมนื่ หรือ 1 แสน กบั 5 หมน่ื ดงั นั้น 7 × 21,503 = 150,521 ครใู หน้ กั เรียนพิจำรณำควำมสมเหตุสมผลของผลคณู ที่ได้ ดังน้ี คือ 150,521 เป็นผลคณู ทส่ี มเหตสุ มผล เพรำะ 21,503 ใกลเ้ คยี ง 20,000 และ 7 × 20,000 = 140,000 ดงั นน้ั 7 × 21,503 ควรใกลเ้ คยี ง 140,000
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒๕ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ช้นั ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เรอ่ื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร เวลา ๑ ชว่ั โมง 160 ครูยกตวั อยำ่ งโจทยก์ ำรคูณให้นกั เรยี นฝึกเพ่ิมเตมิ เชน่ 19,523 × 6 = 4 × 100,900 = จำกนัน้ ครูให้นกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ โดยใหน้ ักเรียนสลบั กันตรวจสอบควำมถกู ต้องของคำตอบ ครอู ธบิ ำย เพิ่มเติมใหน้ ักเรียนเข้ำใจมำกย่ิงขึน้ 5. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัด 1.25 ข้อ 1 และ 2 แล้วรว่ มกนั เฉลยคำตอบ ข้นั สรุป 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปการคณู จานวนหนง่ึ หลักกับจานวนมากกวา่ ส่ีหลกั โดยคูณจำนวนใน หลกั หน่วยกอ่ นแลว้ จึงคูณจำนวนในหลกั ถดั ไปทำงซ้ำยตำมลำดับ ถำ้ ผลคณู ในแตล่ ะหลกั เปน็ จำนวนสอง หลกั ใหท้ ดจำนวนที่ครบสิบไปหลักถัดไปทำงซำ้ ย
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ข้ันนำ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒๖ ขัน้ สอน แนวการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 161 ขั้นสรุป กำรวัดและประเมินผล ทบทวนกำรคณู จำนวนหนึ่งหลักกบั จำนวนสองหลกั สอนกำรคูณจำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กบั 10 และ กำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั กับ จำนวนท่เี ป็นพหคุ ูณของ 10 ทำแบบฝกึ หดั 1.26 พรอ้ มเฉลยคำตอบ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุป - กำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก กับ 10 ใหค้ ูณจำนวนนัน้ กับ 1 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ทำ้ ย 1 ตัว - กำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก กบั 10 20 30 … 90 ใหค้ ณู จำนวนน้ันกับ 1 2 3 … 9 ตำมลำดบั แล้วเตมิ 0 ตอ่ ท้ำย 1 ตัว ประเมินกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หัด ประเมนิ ทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรด์ ้ำนกำรสอ่ื สำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒๖ 162 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ช้ัน ป.๔ เวลา ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยที่ ๑ เรอ่ื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หัด 1.26 กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั ข้นั นา การประเมนิ กบั จำนวนทเ่ี ป็นพหุคณู ของ 10 1. วธิ ีการ 1. ครูทบทวนกำรคูณจำนวนหนง่ึ หลักกบั จำนวนสองหลัก โดยใหน้ ักเรียนหำผลคูณจำกโจทยก์ ำรคูณ สาระสาคัญ 1.1 สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ 1. กำรคูณจำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก กบั ตอ่ ไปนี้ 1 × 15 = 15 6 × 15 = 90 1.2 ตรวจผลงำนจำกแบบฝกึ หดั 10 ให้คูณจำนวนน้ันกบั 1 แลว้ เตมิ 0 2. เครอ่ื งมือ ตอ่ ทำ้ ย 1 ตัว 2 × 15 = 30 7 × 15 = 105 2.1 แบบฝึกหัด 1.26 2. กำรคูณจำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก กบั 2.2 แบบประเมินทักษะและ 10 20 30 … 90 ให้คูณจำนวนนน้ั กับ 3 × 15 = 45 8 × 15 = 120 1 2 3 … 9 ตำมลำดบั แลว้ เตมิ 0 กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ ตอ่ ทำ้ ย 1 ตัว 4 × 15 = 60 9 × 15 = 135 3. เกณฑ์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 5 × 15 = 75 3.1 ผลงำนมีควำมถกู ต้อง ด้านความรู้ ไม่น้อยกว่ำร้อยละ 80 ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบควำมถกู ต้องของผลคูณท่ีได้ เพ่ือให้นักเรยี นสำมำรถหำผลคูณ 3.2 นักเรียนได้คะแนนรวมด้ำน พรอ้ มท้ังตระหนักถงึ ควำมสมเหตุ ข้ันสอน ทักษะและกระบวนกำรทำง สมผลของผลคณู ทไ่ี ด้และแสดงวิธที ำ คณติ ศำสตรไ์ มน่ อ้ ยกว่ำ โจทยก์ ำรคูณจำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก 2. ครใู หน้ กั เรียนหำผลคณู ต่อไปน้ี รอ้ ยละ 60 กับจำนวนทเ่ี ป็นพหุคณู ของ 10 10 × 15 = 150 60 × 15 = 900 20 × 15 = 300 70 × 15 = 1050 30 × 15 = 450 80 × 15 = 1200 40 × 15 = 600 90 × 15 = 1350 50 × 15 = 750 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบ จำกน้นั ครูใหน้ ักเรียนสังเกตผลคูณที่ได้จำกกิจกรรม ลำดับท่ี 1 และกจิ กรรมลำดบั ท่ี 2 จะเห็นวำ่ 1 × 15 = 15 กับ 10 × 15 = 150 ผลคณู ของจำนวนนบั ทค่ี ูณกับ 10 หำไดโ้ ดยคณู จำนวนน้ันกับ 1 แล้วเติม 0 ตอ่ ทำ้ ย 1 ตัว
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ชั้น ป.๔ หน่วยที่ ๑ เรือ่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ชว่ั โมง 163 ด้านทักษะและกระบวนการทาง จำกนนั้ ครูและนักเรยี นรว่ มกันพิจำรณำผลคูณตอ่ ไปนี้ คณิตศาสตร์ 2 × 15 = 30 กับ 20 × 15 = 300 เพอื่ ใหน้ กั เรยี นสำมำรถ ให้เหตุผล 3 × 15 = 45 กับ 30 × 15 = 450 สอื่ สำร ส่ือควำมหมำยทำง 4 × 15 = 60 กับ 40 × 15 = 600 คณิตศำสตร์ จำกกำรพิจำรณำผลคูณขำ้ งต้นจะได้ว่ำ ผลคณู ของจำนวนนบั ที่คูณกับ 20 30 40 สำมำรถหำ ผลคณู ได้โดยคูณจำนวนนบั น้ันกับ 2 3 4 ตำมลำดับ แล้วเติม 0 ตอ่ ท้ำย 1 ตวั 3. ครยู กตวั อย่ำงโจทยก์ ำรคูณใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั กำรหำผลคูณ ดังน้ี 3 × 2,138 = 30 × 2,138 = 3 × 2,138 = 6,414 เน่ืองจำก 30 = 3 × 10 และ 30 = 10 × 3 จะได้ 30 × 2,138 = 10 × 3 × 2,138 = 10 × 6,414 = 64,140 4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั หำผลคูณของ 50 × 30,910 และ 30,910 × 50 พรอ้ มตรวจสอบ ควำมสมเหตสุ มผล ดงั นี้ เน่ืองจำก 50 = 5 × 10 และ 50 = 10 × 5 จะได้ 50 × 30,910 = 10 × 5 × 30,910 30,910 × 50 = 30,910 × 5 × 10 = 10 × 154,550 = 154,550 × 10 = 1,545,500 = 1,545,500 ดงั น้ัน 50 × 30,910 = 1,545,500 และ 30,910 × 50 = 1,545,500 ครูให้นกั เรยี นสังเกตวำ่ ผลคูณของ 50 × 30,910 เทำ่ กบั ผลคณู ของ 30,910 × 50 จะไดว้ ่ำ 50 × 30,910 = 30,910 × 50
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๖ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ป.๔ เวลา ๑ ช่วั โมง 164 หนว่ ยท่ี ๑ เรอื่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ ดงั นี้ 1,545,500 เปน็ ผลคูณทสี่ มเหตสุ มผล เพรำะ 30,910 ใกลเ้ คียง 30,000 และ 50 × 30,000 = 1,500,000 ดังน้นั 50 × 30,910 ควรใกลเ้ คยี ง 1,500,000 5. ครแู จกโจทย์กำรคูณ ใหน้ ักเรียนเขยี นวธิ หี ำผลคูณลงในกระดำษท่แี จกให้ เมื่อเสรจ็ แล้วให้นำเสนอ ผลงำน โดยครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบควำมถกู ต้องของคำตอบ ดงั น้ี 1,513 × 20 = 80 × 73,013 = 1,513 × 20 = 1,513 × 2 × 10 80 × 73,013 = 10 × 8 × 73,013 = 3,026 × 10 = 10 × 584,104 = 30,260 = 5,841,040 ดงั นั้น 1,513 × 20 = 30,260 ดงั นน้ั 80 × 73,013 = 5,841,040 จำกกำรหำผลคูณของโจทย์ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรำยจนไดว้ ำ่ จำนวนนบั ใดๆ คูณกบั 10 20 30 … 90 หำผลคณู ไดโ้ ดยคณู จำนวนนับนน้ั กบั 1 2 3 … 9 ตำมลำดบั แล้วเติม 0 ต่อท้ำย 1 ตัว ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหดั 1.26 ข้อ 1. และ 2. แล้วรว่ มกนั เฉลยคำตอบ ขัน้ สรปุ 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ - กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กับ 10 ให้คณู จำนวนนนั้ กับ 1 แล้วเตมิ 0 ต่อท้ำย 1 ตัว - กำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั กบั 10 20 30 … 90 ให้คณู จำนวนน้ันกบั 1 2 3 … 9 ตำมลำดับ แลว้ เติม 0 ต่อทำ้ ย 1 ตัว
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขนั้ นำ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒๗ ขน้ั สอน แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 165 ขั้นสรุป ทบทวนกำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั กับจำนวนทเี่ ปน็ พหุคณู ของ 10 กำรวดั และประเมนิ ผล สอนกำรคูณจำนวนมำกกว่ำ 2 หลัก กับ จำนวนท่เี ปน็ พหุคูณของ 100 1,000 10,000 ทำแบบฝกึ หัด 1.27 พรอ้ มเฉลยคำตอบ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ - กำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก กบั 10 100 1000 10000 - กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กับ จำนวนท่ีเปน็ พหุคณู ของ 100 1,000 10,000 ประเมินกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหดั ประเมนิ ทักษะและกระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ด้ำนกำรสอื่ สำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒๗ 166 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ป.๔ เวลา ๑ ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ กำรคณู จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั กบั 1. แบบฝึกหัด 1.27 ข้ันนา จำนวนทเี่ ป็นพหุคูณของ 100 1,000 การประเมนิ 1. ครูทบทวนกำรคูณจำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั กับจำนวนหน่ึงหลัก และจำนวนท่เี ปน็ พหุคูณของ 10 โดย 1. วิธีการ 10,000 ใหน้ ักเรยี นหำผลคณู ต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ สาระสาคัญ 1.2 ตรวจผลงำนจำกแบบฝึกหดั 1. กำรคูณจำนวนหนึง่ หลักกับจำนวน 201 × 1 = 201 1,510 × 1 = 1,510 2. เครื่องมอื หลำยหลัก อำจทำได้โดยคณู จำนวน 2.1 แบบฝึกหดั 1.27 ในหลักหน่วยก่อนแลว้ จึงคูณจำนวนใน 201 × 10 = 2,010 1,510 × 10 = 15,100 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ หลกั ถดั ไปทำงซ้ำย ตำมลำดบั ถ้ำผลคณู ในแตล่ ะหลกั 900 × 1 = 900 20,408 × 1 = 20,408 กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ เป็นจำนวนสองหลกั ใหท้ ดจำนวนที่ 900 × 10 = 9,000 20,408 × 10 = 204,080 3. เกณฑ์ ครบสิบไปหลกั ถัดไปทำงซ้ำย 2. กำรคณู จำนวนหลำยหลักสอง 201 × 2 = 402 1,510 × 3 = 4,530 3.1 ผลงำนมคี วำมถูกต้อง จำนวนอำจอำศยั กำรกระจำย 201 × 20 = 4,020 1,510 × 30 = 45,300 ไม่น้อยกวำ่ ร้อยละ 80 จำนวนหนึ่งตำมค่ำประจำหลกั แลว้ นำจำนวนในแต่ละหลกั ไปคณู 900 × 4 = 3,600 20,408 × 3 = 61,224 3.2 นกั เรยี นไดค้ ะแนนรวมดำ้ น กบั อีกจำนวนหน่ึง จำกนน้ั จึงนำ ทกั ษะและกระบวนกำรทำง ผลคูณทไี่ ด้ในแต่ละหลกั มำบวกกัน 900 × 40 = 36,000 20,408 × 30 = 612,240 คณิตศำสตร์ไม่น้อยกวำ่ ร้อยละ 60 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบควำมถกู ต้องของคำตอบ พร้อมทบทวนกับนักเรียนวำ่ กำรหำ ผลคูณจำนวนนับใดๆ กบั 10 ว่ำคณู จำนวนนับน้นั กบั 1 แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ท้ำย 1 ตวั และกำรคูณจำนวนนับ ใด ๆ กับ 10 20 30 … 90 ให้คูณจำนวนนั้นกับ 1 2 3 … 9 ตำมลำดบั แล้วเติม 0 ตอ่ ท้ำย 1 ตัว
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒๗ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ หน่วยย่อยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ช้ัน ป.๔ หน่วยที่ ๑ เรอื่ งจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู และการหาร เวลา ๑ ชั่วโมง 167 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขน้ั สอน ดา้ นความรู้ 2. ครใู ห้นกั เรยี นพิจำรณำผลคณู ต่อไปนี้ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสำมำรถหำผลคณู และแสดงวิธที ำโจทย์คูณจำนวน 153 × 1 = 153 มำกกว่ำ 2 หลัก กบั จำนวนท่ีเปน็ 153 × 10 = 1530 พหคุ ูณของ 100 1,000 10,000 153 × 100 = 153 × 10 × 10 = 15300 พรอ้ มท้งั ตระหนกั ถงึ ควำมสมเหตุ สมผลของผลคูณท่ีได้ 153 × 1000 = 153 × 10 × 10 × 10 = 153000 ด้านทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ 153 × 10000 = 153 × 10 × 10 × 10 × 10 = 1530000 เพ่อื ให้นักเรียนสำมำรถ ให้เหตผุ ล น่ันคือ 153 × 1 = 153 ส่ือสำร สื่อควำมหมำยทำง 153 × 10 = 1530 คณิตศำสตร์ 153 × 100 = 15300 153 × 1000 = 153000 153 × 10000 = 1530000 ครูใหน้ กั เรยี นสงั เกตผลคูณที่ได้และรว่ มกนั อภิปรำยจนได้ว่ำ - จำนวนนับใดๆ คูณกบั 10 หำผลคูณได้โดย คณู จำนวนนนั้ กับ 1 แลว้ เติม 0 ตอ่ ท้ำย 1 ตัว - จำนวนนบั ใดๆ คณู กับ 100 หำผลคูณไดโ้ ดย คูณจำนวนนน้ั กับ 1 แลว้ เติม 0 ต่อท้ำย 2 ตวั - จำนวนนบั ใดๆ คูณกับ 1000 หำผลคูณได้โดย คูณจำนวนน้ันกบั 1 แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ท้ำย 3 ตัว - จำนวนนับใดๆ คูณกับ 10000 หำผลคูณได้โดย คูณจำนวนน้นั กบั 1 แลว้ เติม 0 ตอ่ ท้ำย 4 ตวั ครูแนะนำวำ่ เรำสำมำรถทำเชน่ นไ้ี ดก้ ับกำรคณู จำนวนนับใดๆ กบั 100,000 1,000,000 ….
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒๗ 168 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ชัน้ ป.๔ หน่วยท่ี ๑ เร่อื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร เวลา ๑ ชัว่ โมง 3. ครูให้นักเรียนพจิ ำรณำผลคูณ ตอ่ ไปน้ี 153 × 3 = 459 153 × 2 = 306 153 × 30 = 4590 153 × 20 = 3060 153 × 300 = 45900 153 × 200 = 30600 153 × 3000 = 459000 153 × 2000 = 306000 153 × 30000 = 4590000 153 × 20000 = 3060000 153 × 5 = 765 153 × 9 = 1377 153 × 50 = 7650 153 × 90 = 13770 153 × 500 = 76500 153 × 900 = 137700 153 × 5000 = 765000 153 × 9000 = 1377000 153 × 50000 = 7650000 153 × 90000 = 13770000 ครใู ห้นักเรยี นสังเกตผลคณู ท่ีได้และรว่ มกนั อภปิ รำยจนไดว้ ่ำ - จำนวนนับทีค่ ณู กับ 20 30 … 90 หำผลคูณไดโ้ ดย คูณจำนวนนั้นกับ 2 3 … 9 แลว้ เตมิ 0 ต่อท้ำย 1 ตัว - จำนวนนับท่ีคูณกับ 200 300 … 900 หำผลคูณได้โดย คูณจำนวนนั้นกับ 2 3 … 9 แล้ว เตมิ 0 ต่อท้ำย 2 ตัว - จำนวนนับที่คูณกับ 2000 3000 … 9000 หำผลคูณได้โดย คณู จำนวนนั้นกับ 2 3 … 9 แล้วเติม 0 ต่อท้ำย 3 ตวั - จำนวนนับที่คูณกับ 20000 30000 … 90000 หำผลคณู ไดโ้ ดย คูณจำนวนน้นั กับ 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ท้ำย 4 ตวั
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒๗ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ป.๔ เวลา ๑ ชวั่ โมง 169 หนว่ ยที่ ๑ เรื่องจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ครแู นะนำว่ำ เรำสามำรถทำเชน่ นไ้ี ดก้ ับกำรคูณจำนวนนบั ใดๆ กบั จำนวนท่เี ป็นพหุคูณของ 100,000 1,000,000 …. 4. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันหำผลคณู ของ 338 × 200 = เน่อื งจำก 200 = 2 × 100 จะได้ 338 × 200 = 338 × 2 × 100 = 676 × 100 = 67,600 ดงั น้ัน 338 × 200 = 67,600 ครใู ห้นักเรียนพจิ ำรณำควำมสมเหตุสมผลของผลคณู ท่ีได้ ดงั นี้ คือ 67,600 เปน็ ผลคูณท่สี มเหตุสมผล เพรำะ 338 ใกลเ้ คียง 300 และ 300 × 200 = 60,000 ดงั นัน้ 338 × 200 ควรใกลเ้ คียง 60,000 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันหำผลคณู ของ 600 × 21,070 = เน่อื งจำก 600 = 6 × 100 = 100 × 6 จะได้ 600 × 21,070 = 100 × 6 × 21,070 = 100 × 126,420 = 12,642,000 ดังน้ัน 600 × 21,070 = 12,642,000
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒๗ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชั้น ป.๔ เวลา ๑ ชั่วโมง 170 หนว่ ยท่ี ๑ เร่อื งจานวนนับ และการบวก การลบ การคูณและการหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ครใู ห้นักเรียนพิจำรณำควำมสมเหตสุ มผลของผลคูณท่ไี ด้ ดังน้ี คือ 12,642,000 เปน็ ผลคณู ที่สมเหตุสมผล เพรำะ 21,070 ใกล้เคยี ง 20,000 และ 600 × 20,000 = 12,000,000 ดงั นน้ั 600 × 21,070 ควรใกล้เคยี ง 12,000,000 6. ครแู จกโจทย์กำรคูณ ใหน้ กั เรียนเขยี นวิธีหำผลคูณลงในกระดำษทแ่ี จกให้ เม่อื เสรจ็ แลว้ ให้นำเสนอ ผลงำน โดยครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบควำมถูกต้องของคำตอบ ดังน้ี 7,208 × 900 = 400 × 50,761 = 7,208 × 900 = 7,208 × 9 × 100 400 × 50,761 = 100 × 4 × 50,761 = 64,872 × 100 = 100 × 203,044 = 6,487,200 = 20,304,400 ดังนนั้ 7,208 × 900 = 6,487,200 ดงั น้ัน 400 × 50,761 = 20,304,400 827 × 8,000 = 30,000 × 5,710 = 827 × 8,000 = 827 × 8 × 1,000 30,000 × 5,710= 10,000 × 3 × 5,710 = 6,616 × 1,000 = 10,000 × 17,130 = 6,616,000 = 171,300,000 ดงั น้นั 827 × 8,000 = 6,616,000 ดงั นัน้ 30,000 × 5,710 = 171,300,000 ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั 1.27 ขอ้ 1. และ 2. แล้วร่วมกันเฉลยคำตอบ
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๒๗ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ชัน้ ป.๔ หน่วยที่ ๑ เรือ่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ชว่ั โมง 171 ขั้นสรุป 7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ - จำนวนนับใดๆ คูณกบั 100 200 300 … 900 หำผลคณู ได้โดยคณู จำนวนนบั นน้ั กับ 1 2 3 … 9 ตำมลำดับ แล้วเตมิ 0 ต่อท้ำย 2 ตัว - จำนวนนบั ใดๆ คูณกับ 1,000 2,000 3,000 … 9,000 หำผลคณู ไดโ้ ดยคูณจำนวนนบั น้นั กบั 1 2 3 … 9 ตำมลำดบั แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ทำ้ ย 3 ตวั - จำนวนนบั ใดๆ คณู กับ 10,000 20,000 30,000 … 90,000 หำผลคูณได้โดยคณู จำนวนนับ นน้ั กบั 1 2 3 … 9 ตำมลำดับ แล้วเติม 0 ตอ่ ท้ำย 4 ตัว และสำมำรถทำเช่นน้ีได้กบั กำรคณู จำนวนนับใดๆ กับ 100,000 200,000 300,000 … 900,000
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนำ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒๘ ข้ันสอน แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 172 ขั้นสรปุ ทบทวนการคณู จานวนมากกวา่ 2 หลักกับ จานวนที่เป็นพหคุ ณู ของ 10 กำรวัดและประเมนิ ผล กำรหำผลคูณของจำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กับจำนวน 2 หลัก ทำแบบฝึกหัด 1.28 พรอ้ มเฉลยคำตอบ รว่ มกนั สรปุ การคณู จานวนมากกว่า 2 หลักกบั จานวน 2 หลกั ประเมนิ กำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด ประเมินทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตรด์ ้ำนกำรสอ่ื สำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒๘ 173 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ป.๔ เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยท่ี ๑ เรอื่ งจานวนนับ และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๓ การคณู การหาร สอื่ /แหล่งเรียนรู้ ขอบเขตเนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. กระดาษตาราง การคูณจานวนมากกว่า 2 หลักกับ 2. แบบฝกึ หดั 1.28 ขั้นนา จานวน 2 หลัก การประเมิน 1. ครทู บทวนการคูณจานวนมากกว่า 2 หลกั กบั จานวน 1 หลัก โดยกาหนดโจทย์การคูณใหน้ ักเรียนหา 1. วิธกี าร สาระสาคัญ การคณู จานวนหลายหลกั สอง ผลคณู ต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 1.2 ตรวจผลงานจากแบบฝกึ หดั จานวนอาจอาศัยการกระจาย 224 × 2 = 224 × 20 = 2. เครื่องมือ จานวนหน่ึงตามค่าประจาหลกั 2.1 แบบฝึกหัด 1.28 แล้วนาจานวนในแต่ละหลกั ไปคณู 224 × 2 = 448 224 × 20 = 4,480 2.2 แบบประเมินทักษะและ กับอีกจานวนหนึ่ง จากนั้นจงึ นา ผลคูณทไี่ ด้ในแตล่ ะหลักมาบวกกัน 309 × 5 = 309 × 50 = กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 309 × 5 = 1,545 309 × 50 = 15,450 3. เกณฑ์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 562 × 6 = 562 × 60 = 3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง 562 × 6 = 3,372 562 × 60 = 33,720 ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถหาผลคณู และแสดงวิธที าโจทย์การคณู จานวน 450 × 7 = 450 × 70 = 3.2 นักเรยี นได้คะแนนรวมด้าน มากกว่า 2 หลกั กบั จานวน 2 หลัก ทกั ษะและกระบวนการทาง พรอ้ มท้งั ตระหนักถึงความสมเหตุ 450 × 7 = 3,150 450 × 70 = 31,500 คณติ ศาสตร์ไม่น้อยกวา่ สมผลของผลคูณทไี่ ด้ รอ้ ยละ 60 ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ ข้นั สอน 2. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ ชาวสวนขุดหลุมเตรยี มปลูกมะมว่ งเปน็ แถวจานวน 12 แถว แถวละ 15 หลุม ชาวสวนจะตอ้ งเตรียมกล้ามะม่วงทั้งหมดก่ีต้น ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายวิธหี า คาตอบของสถานการณ์นี้ โดยครูแจกกระดาษตารางแล้วให้นักเรียนวาดภาพดงั นี้
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๓ การคณู การหาร ชั้น ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เรื่องจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ชั่วโมง 174 ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง แถวละ 15 หลมุ คณิตศาสตร์ เพื่อให้นกั เรียนสำมำรถ ใหเ้ หตผุ ล สื่อสำร สอื่ ควำมหมำยทำง คณติ ศำสตร์ 12 แถว ครถู ามนักเรียนวา่ จากสถานการณ์นี้นกั เรียนเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ได้อย่างไร (12 × 15 = ) ครูให้นกั เรียนตดั ภาพท่ีวาดน้ัน เพือ่ หาคาตอบ ซึ่งนักเรียนอาจจะได้ตดั หลายรปู แบบจนกระทั่งได้รปู แบบ ดงั น้ี
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒๘ 175 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๓ การคูณ การหาร ช้ัน ป.๔ หนว่ ยที่ ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ช่วั โมง 10 แถวจะมีหลมุ ทง้ั หมด 10 × 15 = 150 หลมุ 2 แถวจะมหี ลุมทั้งหมด 2 × 15 = 30 หลมุ จากภาพครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนไดว้ า่ กระจาย 12 ตามค่าประจาหลักจะได้ 12 = 10 + 2 12 × 15 = (10 × 15) + (2 × 15) = 150 + 30 = 180 ดังนน้ั ชาวสวนจะตอ้ งเตรยี มกล้ามะมว่ งทงั้ หมด 180 ต้น 3. ครนู าประโยคสัญลักษณ์จากสถานการณ์มาใหน้ ักเรียนรว่ มกนั หาคาตอบดว้ ยการแสดงวิธตี ั้งคูณ โดยเชอื่ มโยงผลคณู ในแต่ละส่วนจากภาพทตี่ ัดแบ่งเปน็ 2 ส่วน ดังนี้ 12 × 15 =
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ช้ัน ป.๔ เวลา ๑ ชว่ั โมง 176 หน่วยท่ี ๑ เรื่องจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร หน่วยยอ่ ยที่ ๑.๓ การคูณ การหาร 1 5 × 1 2 30 150 180 ครูใหน้ ักเรียนสงั เกตว่าการคูณแนวตง้ั จะเริ่มจากการเขียนหลักให้ตรงกันแล้วจึงคูณหลักจากขวาไปซ้าย จากการแสดงวธิ หี าผลคณู นักเรยี นจะได้วา่ 2 × 15 = 30 และ 10 × 15 = 150 จากนนั้ รวมผลคณู ท้ังหมดจะได้ 30 + 150 = 180 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั หาผลคณู ของ 18 × 172 = โดยครูถามนกั เรียนว่าเราควรกระจายจานวน ใด (กระจาย 18 เปน็ 10 + 8) จะหาผลคูณไดอ้ ย่างไร (18 × 172 =(10 × 172)+( 8 × 172 )) จากนัน้ ครู และนกั เรียนรว่ มกันหาผลคณู ดว้ ยวธิ ีตง้ั คูณ ดังน้ี วธิ ีทา ครูให้นกั เรียนพจิ ารณาความสมเหตุสมผล โดยใช้ 1 7 2× การตอบคาถามจนได้แนวคาตอบ ดังนี้ 18 เน่ืองจาก 18 ≈ 20 1376 172 ≈ 170 1720 และ 20 × 170 = 3,400 3096 แสดงว่า 3,096 เป็นผลคูณท่ีสมเหตุสมผล ตอบ ๓,๐๙๖
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒๘ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ป.๔ เวลา ๑ ช่ัวโมง 177 หนว่ ยที่ ๑ เรอ่ื งจานวนนับ และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๓ การคูณ การหาร 5. ครูให้นักเรียนหาผลคณู ของ 2,232 × 36 = โดยใช้วธิ กี ารตง้ั คณู เมือ่ นักเรียนทาเสร็จแลว้ ครแู ละ นักเรียนรว่ มกันเฉลยคาตอบ พร้อมตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ดังนี้ วิธีทา พจิ ารณาความสมเหตสมผล 2232 เนอื่ งจาก 2,232 ≈ 2,000 36 36 ≈ 40 13392 และ 2,000 × 40 = 80,000 66960 แสดงว่า 80,352 เป็นผลคณู ทสี่ มเหตสุ มผล 80352 ตอบ ๘๐,๓๕๒ ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด 1.28 ขอ้ 1. ข้อ 2. และ ข้อ 3. แล้วร่วมกนั เฉลยคาตอบ ขัน้ สรุป 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุป การคณู จานวนมากกว่า 2 หลักกบั จานวน 2 หลัก อาจอาศัยการกระจาย จานวนหน่ึงตามค่าประจาหลัก แลว้ นาจานวนในแตล่ ะหลกั ไปคณู กับอกี จานวนหนึ่ง จากน้นั จงึ นาผลคูณที่ ไดม้ าบวกกนั
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขั้นนำ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒๙ ข้ันสอน แนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 178 ขั้นสรปุ ทบทวนกำรเขยี นจำนวนในรปู กระจำย แลว้ เฉลยคำตอบ กำรวัดและประเมนิ ผล สอนกำรหำผลคูณของจำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กับจำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั ทำแบบฝึกหดั 1.29 พรอ้ มเฉลยคำตอบ สรปุ กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลักกับจำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั ประเมินกำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝึกหัด ประเมินทักษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ด้ำนกำรสอ่ื สำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒๙ 179 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ป.๔ เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยที่ ๑ เร่ืองจานวนนับ และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กบั 1. แผนภำพแสดงจำนวนเงิน ขนั้ นา 2. แบบฝกึ หัด 1.29 จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั 1. ครใู หน้ กั เรียนเขยี นจำนวนตอ่ ไปน้ีในรปู กระจำย แลว้ เฉลยคำตอบ การประเมนิ สาระสาคัญ 1. วธิ กี าร กำรคูณจำนวนหลำยหลกั สอง 327 = 300 + 20 +7 125 = 100 + 20 +5 1.1 สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ จำนวนอำจอำศยั กำรกระจำยจำนวน 1,217 = 1,000 + 200 + 10 +7 1,101 = 1,000 + 100 + 0 + 1 1.2 ตรวจผลงำนจำกแบบฝกึ หดั หนึง่ ตำมค่ำประจำหลกั แล้วนำจำนวน 2. เครอื่ งมอื ในแตล่ ะหลกั ไปคูณกับอีกจำนวนหนึ่ง 2,800 = 2,000 + 800 2.1 แบบฝกึ หดั 1.29 จำกนนั้ จึงนำผลคูณทีไ่ ด้ในแต่ละหลัก 2.2 แบบประเมินทักษะและ มำบวกกัน ขนั้ สอน กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2. ครูยกตัวอย่ำง ร้ำนค้ำแห่งหนง่ึ ขำยกระเป๋ำใบละ 152 บำท ได้ 144 ใบ รำ้ นคำ้ ขำยกระเปำ๋ ได้เงิน 3. เกณฑ์ ด้านความรู้ ก่บี ำท จำกสถำนกำรณ์ข้ำงต้น ครถู ำมนกั เรียนว่ำเรำจะหำคำตอบได้อย่ำงไร (นำจำนวนกระเปำ๋ ที่ขำยได้ 3.1 ผลงำนมีควำมถูกต้อง เพื่อใหน้ กั เรียนสำมำรถหำผลคูณ ไม่นอ้ ยกว่ำร้อยละ 80 ของจำนวนมำกกว่ำ 2 หลักกับจำนวน คูณกบั รำคำกระเปำ๋ ) มำกกวำ่ 2 หลกั พร้อมทั้งตระหนกั ถึง 3.2 นกั เรยี นได้คะแนนรวมด้ำน ควำมสมเหตุสมผลของผลคณู ทไี่ ด้ เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ได้อยำ่ งไร (144 × 152 = ) ทักษะและกระบวนกำรทำง คณิตศำสตรไ์ มน่ อ้ ยกว่ำ เขียน 152 ในรปู กระจำยได้อยำ่ งไร (152 = 100 + 50 + 2) ร้อยละ 60 ครแู นะนำนักเรยี นวำ่ 144 × 152 = 144 × (100 + 50 + 2) ซึ่งกำรหำผลคูณนอ้ี ำจเขียนกระจำยในรปู ของแผนภำพแสดงจำนวนเงนิ ไดด้ ังนี้ 144 100 100 100 (144 × 100) 50 50 50 (144 × 50) 2 2 2 (144 × 2)
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒๙ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ป.๔ เวลา ๑ ชัว่ โมง 180 หน่วยท่ี ๑ เรอื่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทาง แสดงวำ่ 144 × 152 = 144 × (100 + 50 + 2) คณติ ศาสตร์ จะได้ 144 × 152 = (144 × 100) + (144 × 50) + (144 × 2) = 14,400 + 7,200 + 288 เพือ่ ใหน้ กั เรยี นสำมำรถ ใหเ้ หตผุ ล = 21,888 ดงั นน้ั รำ้ นคำ้ ขำยกระเป๋ำไดเ้ งนิ 21,888 บำท สือ่ สำร ส่อื ควำมหมำยทำง 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันหำผลคูณของ 152 × 144 = โดยแสดงวิธตี ั้งคูณ เช่อื มโยงจำกกำรหำ คณิตศำสตร์ ผลคณู ด้วยภำพ จะได้ 152 × 144 = 144 × 152 และ 144 × 152 = 144 × (100 + 50 + 2) = (144 × 100) + (144 × 50) + (144 × 2) 2 × 144 1 4 4× 50 × 144 152 288 100 × 144 7200 14400 21888 ดังนน้ั 152 × 144 = 21,888 ครใู ห้นักเรยี นสงั เกตเร่ิมจำกกำรคูณจำนวนในหลักทอี่ ยู่ทำงขวำไปจนถงึ หลักทีอ่ ยูซ่ ้ำยสุด แล้วจงึ รวม ผลคูณท่ีได้ท้ังหมด จำกนั้นครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบควำมสมเหตสุ มผลของผลคูณทไ่ี ด้ โดยให้ นักเรยี นตอบคำถำมดังน้ี
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๒๙ 181 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ป.๔ เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยที่ ๑ เรือ่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยย่อยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร นกั เรียนคิดวำ่ จะตรวจสอบควำมสมเหตผุ ลโดยวิธใี ด (ใชก้ ำรประมำณเปน็ จำนวนเตม็ ร้อยทั้งสองจำนวน) 144 ประมำณเปน็ จำนวนเต็มร้อยได้เทำ่ ไร (100) 152 ประมำณเปน็ จำนวนเต็มร้อยได้เทำ่ ไร (200) ครูให้นกั เรียนนำคำ่ ประมำณทงั้ สองจำนวนมำหำผลคูณจะได้ 100 × 200 = 20,000 จะเหน็ ว่ำ 20,000 ใกลเ้ คียงกบั 21,888 แสดงวำ่ 21,888 เปน็ ผลคูณที่สมเหตุสมผล 4. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันหำผลคณู ของ 208 × 5,402 = พร้อมตรวจสอบควำมสมเหตุสมผล 5,402 × 208 = (5,402 × 200) + (5,402 × 8) วิธีทา 402 พจิ ำรณำควำมสมเหตสมผล 5 2 0 8× 216 เนอ่ื งจำก 208 ≈ 200 43 400 1080 616 5,402 ≈ 5,000 1123 และ 200 × 5,000 = 1,000,000 ตอบ ๑,๑๒๓,๖๑๖ แสดงว่ำ 1,123,616 เป็นผลคูณท่ี สมเหตุสมผล
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒๙ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ป.๔ เวลา ๑ ชั่วโมง 182 หนว่ ยที่ ๑ เรอื่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร 5. ครใู ห้นักเรียนแสดงวิธีหำหำผลคูณของ 104 × 232 = และ 232 × 104 = ลงในกระดำษ แล้ว ให้นำเสนอวธิ คี ดิ โดยครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบควำมถกู ต้องของคำตอบพร้อมตรวจสอบควำม สมเหตสุ มผล ดงั นี้ วธิ ีทา วธิ ที า 2 3 2 × 1 0 4 × 1 0 4 2 3 2 928 208 23200 3120 24128 20800 24128 พิจำรณำควำมสมเหตสมผลของผลคณู ทไี่ ด้ เนือ่ งจำก 232 ≈ 200 104 ≈ 100 และ 200 × 100 = 20,000 แสดงวำ่ 24,128 เปน็ ผลคณู ท่สี มเหตุสมผล ครูให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 1.29 แล้วรว่ มกันเฉลยคำตอบ ข้นั สรปุ 6. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุป กำรคูณจำนวนมำกกว่ำ 2 หลักกับจำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั อาจอาศัย การกระจายจานวนหน่งึ ตามค่าประจาหลักแล้วนาจานวนในแต่ละหลักไปคณู กบั อกี จานวนหน่งึ จากนั้น จึงนาผลคณู ที่ได้ในแตล่ ะหลกั มาบวกกัน
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ขัน้ นำ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓๐ ขั้นสอน แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 183 ข้นั สรุป กำรวัดและประเมินผล ใหน้ ักเรยี นหำผลคูณของจำนวน 3 หลักกับจำนวนไมเ่ กนิ 4 หลกั พรอ้ มเฉลย สอนกำรหำผลคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กบั จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั โดยนักเรยี นแบง่ กลุ่มช่วยกันหำผลคณู พรอ้ มนำเสนอ วธิ ีหำคำตอบ ทำแบบฝึกหัด 1.30 พรอ้ มเฉลยคำตอบ รว่ มกันสรปุ กำรคูณจำนวนมำกกว่ำ 2 หลักกบั จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั ประเมนิ กำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หัด ประเมนิ ทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ด้ำนกำรสอื่ สำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓๐ 184 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ ป.๔ เวลา ๑ ชั่วโมง หน่วยท่ี ๑ เรอื่ งจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู และการหาร หน่วยย่อยที่ ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หัด 1.30 กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลักกับ ข้ันนา การประเมนิ จำนวนมำกกวำ่ 2 หลัก 1. วธิ ีการ 1. ครกู ำหนดโจทยก์ ำรคูณ 213 × 122 = ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ประมำณคำตอบทใี่ กล้เคยี งกบั ผลคูณ สาระสาคัญ 1.1 สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ กำรคณู จำนวนหลำยหลักสอง ซึ่งครูอำจต้งั คำถำมนำใหน้ กั เรยี นร่วมกันตอบ เช่น 1.2 ตรวจผลงำนจำกแบบฝึกหดั 2. เครอ่ื งมือ จำนวนอำจอำศัยกำรกระจำยจำนวน ถ้ำ 100 × 100 เทำ่ กบั เทำ่ ใด (10,000) 2.1 แบบฝกึ หัด 1.30 หน่ึงตำมคำ่ ประจำหลักแล้วนำจำนวน 2.2 แบบประเมินทักษะและ ในแตล่ ะหลกั ไปคูณกบั อีกจำนวนหนึ่ง ถำ้ 200 × 100 เท่ำกบั เท่ำใด (20,000) จำกน้นั จึงนำผลคณู ท่ไี ด้ในแต่ละหลัก กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ มำบวกกัน แล้วนกั เรยี นคิดวำ่ ผลคูณของ 213 × 122 มคี ่ำใกล้เคยี งจำนวนใด (20,000) 3. เกณฑ์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จำกนนั้ ครใู หน้ ักเรียนหำผลคูณของโจทย์ทก่ี ำหนดให้ต่อไปน้ี และก่อนหำผลคณู ใหน้ ักเรียน 3.1 ผลงำนมคี วำมถกู ต้อง ดา้ นความรู้ ไมน่ อ้ ยกวำ่ ร้อยละ 80 ประมำณคำตอบก่อน 502 × 1,672 = เพ่ือให้นักเรียนสำมำรถหำคูณ 122 × 213 = 3.2 นกั เรียนไดค้ ะแนนรวมดำ้ น จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กับจำนวน ทกั ษะและกระบวนกำรทำง มำกกว่ำ 2 หลัก พรอ้ มทง้ั ตระหนักถึง วธิ ที า (ตัวอยา่ งการหาคาตอบ) วธิ ที ำ (ตัวอยำ่ งกำรหำคำตอบ) คณติ ศำสตรไ์ ม่น้อยกว่ำ ควำมสมเหตสุ มผลของผลคูณทไ่ี ด้ ร้อยละ 60 2 1 3 × 1 6 7 2 × 1 2 2 5 0 2 426 3344 4260 836000 21300 839344 25986 ตอบ ๘๓๙,๓๔๔ ตอบ ๒๕,๙๘๖ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบควำมถูกต้องของผลคูณท่ไี ด้
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ชน้ั ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เร่อื งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ชวั่ โมง 185 ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง ขนั้ สอน คณิตศาสตร์ 2. ครูแบ่งกลมุ่ นักเรยี น กลมุ่ ละ 3 – 5 คน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั แสดงวธิ หี ำผลคูณของ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นสำมำรถ ให้เหตผุ ล 6,001 × 2,010 = โดยให้นกั เรียนชว่ ยกันแสดงวธิ ีหำคำตอบลงในกระดำษ แลว้ ให้นกั เรยี นนำเสนอ สื่อสำร สอ่ื ควำมหมำยทำง วธิ หี ำผลคณู ทีไ่ ด้ เชน่ วิธที า 6,001 × 2,010 = 2,010 × 6,001 คณิตศำสตร์ 6 0 0 1 × 2 0 1 0 60010 12002000 12062010 ตอบ ๑๒,๐๖๒,๐๑๐ วิธีทา 2 0 1 0 × 6 0 0 1 2010 12060000 12062010 ตอบ ๑๒,๐๖๒,๐๑๐
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓๐ 186 กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ช้นั ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เรือ่ งจานวนนบั และการบวก การลบ การคูณและการหาร เวลา ๑ ชัว่ โมง เม่ือนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอวิธีหำผลคณู เรยี บร้อยแล้ว ครูใหน้ ักเรยี นใชเ้ ครื่องคิดเลขหำคำตอบของ 6,001 × 2,010 = 12,062,010 ซ่งึ เป็นคำตอบที่ตรงกับวิธีหำคำตอบของนักเรียน ครูแนะนำนักเรยี นวำ่ เรำสำมำรถใชเ้ ครื่องคิดเลขตรวจสอบควำมถกู ต้องของคำตอบได้ 3. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ เลอื กโจทย์กำรคณู ต่อไปนี้ และแสดงวิธหี ำคำตอบเขียนลงในกระดำษ แล้ว นำเสนอวธิ หี ำผลคณู เมือ่ นักเรยี นทำเสรจ็ แลว้ ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยคำตอบ โดยใชเ้ ครอื่ งคิดเลข ช่วยในกำรตรวจสอบคำตอบ ดงั นี้ 1,240 × 118 = 703 × 2,032 = 1,145 × 1,705 = 1,007 × 2,413 = 19,140 × 563 = 4. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัด 1.30 แลว้ รว่ มกันเฉลยคำตอบ ข้นั สรุป 5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ กำรคณู จำนวนมำกกว่ำ 2 หลกั กบั จำนวนมำกกวำ่ 2 หลกั อำจอำศยั กำร กระจำยจำนวนหน่ึงตำมคำ่ ประจำหลกั แล้วนำจำนวนในแต่ละหลักไปคณู กบั อีกจำนวนหนงึ่ จำกน้นั จงึ นำ ผลคณู ที่ได้มำบวกกัน
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓๑ แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 187 ขั้นนำ กิจกรรมนำเขำ้ สกู่ ำรหำรยำว โดยใชส้ ่ือ สอนกำรหำรจำนวนนับทตี่ วั ตง้ั ไม่เกนิ 3 หลกั ตวั หำร 1 หลัก โดยใช้สื่อและตัวตั้งมำกกวำ่ 4 หลกั ตัวหำร 1 หลัก ที่เปน็ ข้ันสอน กำรหำรลงตัว โดยใช้หำรยำว ทำแบบฝึกหัด 1.31 พรอ้ มเฉลยคำตอบ ขน้ั สรุป รว่ มกนั สรปุ กำรหำรจำนวนนบั ทีต่ ัวหำรเป็นจำนวน 1 หลกั อำจใชว้ ิธกี ำรหำรยำว กำรวัดและประเมนิ ผล ประเมนิ กำรตอบคำถำมและกำรทำแบบฝกึ หัด ประเมินทกั ษะและกระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรด์ ำ้ นกำรสอ่ื สำรสอื่ ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓๑ 188 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ช้นั ป.๔ เวลา ๑ ชวั่ โมง หน่วยท่ี ๑ เรื่องจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู และการหาร หนว่ ยย่อยที่ ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ กำรหำรจำนวนนับทีต่ วั ตั้งมำกกวำ่ ขน้ั นา 1. ธนบัตรและเหรียญจำลอง 2. แบบฝึกหัด 1.31 4 หลกั และตัวหำร 1 หลกั (เป็นกำร 1. ครจู ัดธนบตั รและเหรียญจำลอง ดงั นี้ การประเมิน หำรลงตัว โดยใชห้ ำรยำว) ครูถำมนักเรยี นวำ่ ครูจัดเงนิ วำงไว้กี่บำท (108 บำท) จำกนั้นครูใหน้ กั เรยี นออกมำ 6 คนออกมำแบ่งเงนิ 1. วิธีการ ไปคนละเท่ำๆ โดยถำมนกั เรยี นว่ำ ทั้ง 6 คนทอี่ อกมำจะไดเ้ งนิ คนละกี่บำท และนกั เรียนมวี ธิ แี บ่งอยำ่ งไร สาระสาคญั บำ้ ง ครูแจกธนบตั รและเหรยี ญจำลองให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มใช้ในกำรหำคำตอบ 1.1 สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ ในกำรหำร ตัวตั้ง ตวั หำร ผลหำรและ 1.2 ตรวจผลงำนจำกแบบฝกึ หัด เศษมีควำมสมั พันธ์กันดังนี้ ขั้นสอน 2. เครอื่ งมือ ตัวตงั้ = (ตวั หำร × ผลหำร) + เศษเมือ่ 2.1 แบบฝึกหดั 1.31 เศษเปน็ ศนู ยเ์ รียกวำ่ กำรหำรลงตัว 2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันนำเสนอวิธีหำคำตอบจำกสถำนกำรณ์ขำ้ งต้น จะได้วำ่ จำกสถำนกำรณส์ ำมำรถ 2.2 แบบประเมินทกั ษะและ และเม่ือเศษมำกกวำ่ ศูนย์ เรียกว่ำ หำคำตอบได้โดยใช้วธิ ีกำรหำร จะได้ประโยคสัญลักษณ์ 108 ÷ 6 = ซง่ึ นกั เรยี นอำจใช้วธิ กี ำรแบ่ง กำรหำรไมล่ งตัว เศษซึ่ง ธนบัตรและเหรียญ ดังนี้ กระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ เกดิ จำกกำรหำรตอ้ งมำกกว่ำหรอื 3. เกณฑ์ เท่ำกบั ศนู ย์ แต่ตอ้ งน้อยกว่ำตัวหำร แลกธนบัตร 100 บำท เป็นเหรยี ญ 10 บำท จำนวน 10 เหรียญ จะได้ 3.1 ผลงำนมคี วำมถูกต้อง จุดประสงค์การเรียนรู้ ไมน่ ้อยกวำ่ ร้อยละ 80 ด้านความรู้ 3.2 นักเรยี นได้คะแนนรวมดำ้ น เพื่อให้นักเรียนสำมำรถหำผลหำร ทักษะและกระบวนกำรทำง จำนวนนบั ทีต่ ัวตั้งมำกกวำ่ 4 หลัก และ คณิตศำสตรไ์ มน่ ้อยกว่ำ ตัวหำร 1 หลกั โดยกำรหำรยำว รอ้ ยละ 60
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓๑ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๑.๓ กำรคณู กำรหำร ช้นั ป.๔ หน่วยที่ ๑ เร่ืองจานวนนบั และการบวก การลบ การคณู และการหาร เวลา ๑ ช่ัวโมง 189 ดา้ นทักษะและกระบวนการทาง แบง่ เหรยี ญ 10 บำท ใหน้ ักเรียน 6 คน จะได้คนละ 1 เหรยี ญ และยงั เหลอื เงิน 48 บำท ดังน้ี คณติ ศาสตร์ แลกเหรยี ญ 10 บำท จำนวน 4 เหรียญเปน็ เหรียญ 5 บำท จำนวน 8 เหรยี ญ จะได้ดังน้ี เพ่ือให้นกั เรยี นสำมำรถ ใหเ้ หตผุ ล สอ่ื สำร สอ่ื ควำมหมำยทำง คณิตศำสตร์ แบง่ เหรยี ญ 5 บำท ให้นกั เรยี น 6 คน จะได้คนละ 1 เหรียญ และยงั เหลอื เงนิ 18 บำท ดงั น้ี แลกเหรยี ญ 5 บำท จำนวน 2 เหรยี ญเป็นเหรียญ 1 บำท จะได้ดังน้ี
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓๑ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๓ กำรคูณ กำรหำร ชน้ั ป.๔ หนว่ ยท่ี ๑ เรือ่ งจานวนนับ และการบวก การลบ การคณู และการหาร เวลา ๑ ชว่ั โมง 190 แบ่งเหรียญ 1 บำท ใหน้ ักเรียน 6 คน จะได้คนละ 3 เหรยี ญ และเงนิ ก็หมดพอดี ครูถำมนักเรยี นท้ัง 6 คนวำ่ แตล่ ะคนได้เงนิ ก่ีบำท (18 บำท) นกั เรยี นแต่ละคนแสดงจำนวนเงนิ ท่ี ไดร้ ับ ดงั น้ี 3. ครูเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ 108 ÷ 6 = ทไี่ ดจ้ ำกสถำนกำรณ์ ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงวิธหี ำคำตอบ ด้วยกำรหำรยำว โดยเช่ือมโยงขน้ั ตอนวิธหี ำรยำวกับกจิ กรรมกำรแบง่ เงนิ ให้นักเรียน ดังนี้ วิธีทา 1 ขน้ั ที่ 1 กระจำย 1 รอ้ ย เป็น 10 สบิ แบ่ง 10 สบิ เป็น 6 กลุ่มจะได้ กล่มุ ละ 1 สบิ เหลอื 4 สบิ รวม 6108 กบั 8 หน่วย หรอื 48 60 48
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 496
Pages: