65 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษวัดท่าบุญ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง My Family เวลา 10 ชัว่ โมง เรือ่ ง Test yourself. เวลา 1 ชว่ั โมง ใชส้ อนวันท.่ี .....................เดอื น.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด การเรียนรเู้ กยี่ วกับเรือ่ งสมาชกิ ในครอบครัว และอาชพี ของบคุ คลเปน็ ภาษาองั กฤษ เปน็ พื้นฐานทนี่ ักเรียนควร เรียนร้แู ละฝกึ ฝนให้ถูกต้อง เพื่อนำไปใชใ้ นสถานการณ์จรงิ 2. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องท่ฟี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล 2.2 ตวั ชี้วัด ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความ และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน 2.3 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) การทำแบบประเมินตนเอง (Things I can do.) ตามความเป็นจรงิ ทักษะ/กระบวนการ (P) การออกเสียงคำและเสียง /ʌ/ และ /e/ เจตคติ (A) มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นร้แู ละมุ่งม่ันในการทำงาน 3. สาระการเรยี นรู้ Reviewing sounds and evaluating language progress: vocabulary and structures from this unit Structure: - Nan is my aunt’s daughter. She is my cousin. - Your father’s father is your grandfather. - What is your mother’s mother? She is my grandmother. - Emma has two children. They are Sarah and Jack. Sarah is Emma’s daughter. Jack is Emma’s son. - Sam puts out the fire. He is a firefighter. - What does a secretary do? She helps her boss. - Helen takes care of people’s teeth. She is a dentist. - He takes care of sick animals. He is a vet. - Mayuree’s father works in a hospital. He treats sick people. What does he do? He’s a doctor. Vocabulary: daughter, son, grandfather, grandmother, uncle, aunt, cousin, doctor, dentist, vet, secretary, chef, firefighter, mailman, salesperson, nurse Pronunciation: /ʌ/, /e/

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซอื่ สัตยส์ ุจรติ  มุง่ มั่นในการทำงาน  มีวนิ ัย  รกั ความเป็นไทย  ใฝ่เรียนรู้  มจี ติ สาธารณะ 6. จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาผูเ้ รยี น ความสามารถและทกั ษะของผเู้ รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อ่านออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปญั หา)  C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวน ทศั น์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผ้นู ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สื่อ)  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู)้  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม)  L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ ำ) 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. Review 1.1 ครแู ละนกั เรยี นทบทวนคำศัพท์และโครงสรา้ งประโยคจากท่ีเรียน ดังนี้ คำศัพท์ : daughter, son, grandfather, grandmother, uncle, aunt, cousin, doctor, dentist, vet, secretary, chef, firefighter, mailman, salesperson, nurse โครงสร้างประโยค : -Nan is my aunt’s daughter. She is my cousin. - Your father’s father is your grandfather. - What is your mother’s mother? She is my grandmother. - Emma has two children. They are Sarah and Jack. Sarah is Emma’s daughter. Jack is Emma’s son.

- Sam puts out the fire. He is a firefighter. - What does a secretary do? She handles recards letters etc for another person in an office. - Helen takes care of people’s teeth. She is a dentist. - He takes care of sick animals. He is a vet. - Mayuree’s father works in a hospital. He takes care sick people. What does he do? He’s a doctor. 1.2 นักเรยี นทำกจิ กรรม Say the words. ใน SB หนา้ 20 ครูอ่านใหน้ ักเรยี นฟัง และ อ่านออกเสยี งตาม 2-3 ครั้ง 2. Evaluation 2.1 ครูนำเอกสารแบบประเมินตนเองกิจกรรมที่ 9 Things I can do. ใน SB หนา้ 20 ใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมประเมนิ ตนเองในสำเนาแบบประเมินตนเอง ครูใหค้ ำแนะนำในการประเมินตนเอง ให้ นกั เรียนเขียนเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องว่าง ถ้านกั เรียนทำกจิ กรรมนั้นๆ ได้ และเขียนเครอ่ื งหมาย × ลงใน ชอ่ งว่าง ถ้านักเรียนทำกจิ กรรมน้ันๆ ไมไ่ ด้ 2.2 นกั เรียนทำแบบฝกึ Test yourself. ใน WB หนา้ 20-21 2.3 ครูตรวจและเฉลยแบบฝกึ Test yourself. สรุปผลการประเมินและแจ้งให้นักเรยี น ทราบ อธบิ ายขอ้ บกพรอ่ งเพือ่ พฒั นาตนเองของนกั เรียน 8. การวดั และประเมนิ ผล ส่ิงท่ีวัด วธิ ีวดั ผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล ดา้ นความรู้ (K) ประเมินตนเอง แบบประเมนิ ตนเอง 60% ขน้ึ ไป ผ่าน การทำแบบประเมนิ ตนเอง (Things I can do.) ตาม ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู 60% ขึ้นไป ผ่าน ความเปน็ จริง การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั 60% ข้นึ ไป ผา่ น ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) กจิ กรรมในชน้ั เรียน พงึ ประสงค์ การออกเสียงคำและเสียง /ʌ/ และ /e/ ด้านคณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน ในการทำงาน

9. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สื่อการเรยี นรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.2 แหลง่ เรียนรู้ ห้องสมดุ ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผูท้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………………………..…… (..............................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วนั ที่…….....เดอื น…………........….พ.ศ. …...........

ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย ความเหน็ ของหวั หน้ากลุม่ บรหิ ารวชิ าการ ความเหน็ ของผ้บู รหิ าร/ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ มีความคิดเห็นดงั นี้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  ดีมาก  ดีมาก  ดี  ดี  พอใช้  พอใช้  ควรปรบั ปรุง  ควรปรบั ปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่าง  เน้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง เหมาะสม เหมาะสม  ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป  ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่  นำไปใชไ้ ด้จริง  นำไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชื่อ).......................................................... (ลงช่ือ).......................................................... (.........................................) (.....................................................) หัวหนา้ กลุ่มบริหารวิชาการ รองผ้อู ำนวยการโรงเรียน..............................

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้ นักเรียนจำนวน...............................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............................. ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ/นักเรียนเด็กพิเศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ จุดประสงค์ด้านความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นกั เรียนท่ไี ม่ผา่ นการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านทักษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นักเรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... 2. ปญั หา /อุปสรรค /ขอ้ ค้นพบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแกไ้ ข/พัฒนา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………...…ผู้สอน (........................................................ ) ครูโรงเรียน..................................................

เลขที่ ชอ่ื แบบบนั ทึกการประเมินการพดู การแสดงทา่ ทาง รวมคะแนน ชอื่ – สกุล 20 ความถูกตอ้ ง ความคลอ่ งแคล่ว นำ้ เสยี งปร4ะกอบการ พดู 88 ลงชอื่ ..............................................................ผู้ประเมิน (................................................)

ระดบั คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนนการพูด นำ้ หนัก/ คะแนน ประเดน็ ความสำคญั รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 การประเมนิ 8 ความถกู ต้อง 432 8 ความคลอ่ งแคล่ว ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสียง 4 ตัวอักษร ตัวอกั ษร 20 การแสดงทา่ ทางและ คำศัพทแ์ ละ คำศัพท์และ ตัวอกั ษรคำศัพท์ ตัวอกั ษร/ คำ/ น้ำเสียงประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้ การพูด ถูกต้องตามหลัก ถูกตอ้ งตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผิด การออกเสยี ง การออกเสยี ง ออกเสยี งเน้น ออกเสยี งเน้น ถูกต้องเป็น หลกั การออก หนกั -เบาในคำ หนัก-เบาในคำ และเสียงสูง-ตำ่ และเสยี งสูง-ต่ำ ส่วนใหญ่ ขาด เสยี ง 2 ในประโยคอย่าง ในประโยคเป็น 2 สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ การออกเสียง ทำใหส้ ่อื สาร เน้นหนัก-เบาใน ไม่ได้ คำและเสยี งสงู - ต่ำในประโยค พดู ตอ่ เนือ่ ง พูดตะกกุ พูดเปน็ คำๆ พดู ไดบ้ างคำ ไมต่ ิดขดั ตะกักบา้ ง แต่ หยุดเปน็ ชว่ งๆ ทำให้ส่อื พูดชัดเจน ยงั พอสอื่ สารได้ ทำให้สื่อสาร ความหมาย ทำให้ส่ือสารได้ ไดไ้ ม่ชัดเจน ไม่ได้ แสดงทา่ ทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไม่แสดงทา่ ทาง ประกอบการพูด และพูดด้วย พดู ด้วยน้ำเสียง เปน็ ธรรมชาติ พดู ได้น้อยมาก น้ำเสยี ง เหมาะสมกับ พูดเหมือนอา่ น 1 5 เหมาะสมกับบท บทพูดเปน็ ส่วน พดู อยา่ งสมบูรณ์ ใหญ่ รวม การกำหนดระดบั คณุ ภาพโดยรวมทัง้ หนว่ ย 17-20 13-16 - ระดบั ดีมาก คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดบั ดี คะแนนระหว่าง 0-8 - ระดับพอใช้ คะแนนระหวา่ ง - ระดับปรบั ปรุง คะแนนระหวา่ ง

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มีวนิ ัย รายการประเมิน ม่งุ ม่ันในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝเ่ รียนรู้ 3 21 (9) คณุ ภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผูป้ ระเมิน (.................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตำ่ กวา่ 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มีวนิ ัย คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลักษณะทีป่ รากฏใหเ้ ห็น 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บร้อย ปฏิบัติตนอยใู่ นขอ้ ตกลงทีก่ ำหนดให้รว่ มกนั ทกุ ครั้ง 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญส่ ะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงที่กำหนดใหร้ ว่ มกันเปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรบั ปรงุ ผลงานไมค่ อ่ ยเรยี บร้อย ปฏิบัติตนอยใู่ นข้อตกลงที่กำหนดใหร้ ว่ มกนั บางครั้ง ต้องอาศยั การแนะนำ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้ คุณลักษณะทป่ี รากฏใหเ้ ห็น คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตัง้ ใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน 1 : ปรบั ปรุง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะทปี่ รากฏให้เหน็ 3 : ดี สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย รับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหายและปฏิบัติตนจนเป็นนิสยั เปน็ ตัวอย่างแก่ผู้อ่ืน และแนะนำชักชวน 2 : พอใช้ ส่งงานช้ากว่ากำหนด รับผดิ ชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหายและปฏิบตั ิตนจนเป็นนิสัย 1 : ปรบั ปรุง สง่ งานชา้ กว่ากำหนด รับผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ัติตนจนเป็นนิสัย ปฏบิ ัตงิ านโดยอาศยั การช้ีแนะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง My Friends เวลา 10 ช่วั โมง เร่อื ง What does Suwat look like? เวลา 1 ชวั่ โมง ใชส้ อนวนั ท.ี่ .....................เดอื น.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด การเรยี นรขู้ ้อมูลเกีย่ วกบั บุคลิกลกั ษณะของบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เปน็ ขอ้ มลู ทีน่ ักเรยี นควรเรยี นรู้ เพื่อนำไปใชใ้ นสถานการณ์ทีจ่ ำเป็นในชีวติ จรงิ 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมี เหตุผล ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งต่างๆ โดยการพดู และการเขยี น ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม 2.2 ตวั ชี้วัด ต 1.1 ป.5/2 อา่ นออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่า ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว ต 2.2 ป.5/1 บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอนและการลำดับคำ (order) ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย 2.3 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (K) นำเสนอข้อมูลของตนเอง ทกั ษะ/กระบวนการ (P) การอา่ นออกเสียงคำและประโยคบอกลกั ษณะ เจตคติ (A) มีวินัย ใฝเ่ รียนร้แู ละมงุ่ ม่ันในการทำงาน 3. สาระการเรยี นรู้ Function: Describing people and personal information Structure: He is (tall and slim). He is (150) cm tall. He weighs (35) kg. His hobby is (drawing). His address is (………). Vocabulary: คำศพั ท์ใหม่ centimeter (cm), kilogram (kg), hobby, address, weigh คำศัพท์ทบทวน -

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่อื สัตย์สุจริต  มุง่ ม่ันในการทำงาน  มีวินัย  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรยี นรู้  มจี ิตสาธารณะ 6. จุดเน้นส่กู ารพัฒนาผเู้ รียน ความสามารถและทกั ษะของผู้เรยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวน ทศั น)์  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็น ทมี และภาวะผูน้ ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สือ่ )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นร)ู้  C8 – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วินยั คุณธรรม จริยธรรม)  L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผ้นู ำ) 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. Warm up ครูนำภาพดาราหรอื บุคคลทีม่ ชี อื่ เสยี งท่ีนกั เรยี นรจู้ ักมาตดิ บนกระดานดำโดยหันหลงั ภาพให้ นกั เรยี น และเขยี นประโยค เชน่ This is a man. He’s 22 years old. He is around 170 cm tall. He’s a singer. He sings (ช่ือเพลง). Who is he? ใหน้ ักเรยี นอ่านประโยคบนกระดานดำ จนคำถามสดุ ทา้ ยครูปลดภาพและหนั หนา้ ภาพให้ นกั เรยี นดูแทนคำตอบ

2. Presentation 2.1 ครูสอนคำศัพทใ์ หม่ centimeter (cm), kilogram (kg), hobby, address, weigh โดยใช้บตั รคำและบตั รภาพ ครอู อกเสียง weigh ใหน้ ักเรียนออกเสยี งตาม สอนใหน้ ักเรียนออกเสียง /eɪ/ โดยให้ล้ินสว่ นหนา้ ยกขน้ึ ไปบรเิ วณสว่ นหนา้ ของชอ่ งปากดา้ นข้างของสองข้างของช้นิ สว่ นหนา้ ยกสูงข้นึ ไป แตะฟนั บนด้านขา้ งท้ังสองข้าง รมิ ฝีปากจะเหยียดออก เสียง /eɪ/ จะคลา้ ยกบั เสยี งสระ “เอ” และ “อ”ิ ใน ภาษาไทย ครูเขยี นคำเหลา่ น้ีบนกระดานใหน้ กั เรยี นฝกึ ออกเสียง /eɪ/ bay, lay, day, way, may ให้นักเรียน สะกดคำ และออกเสียงคำทเี่ หลืออกี ครั้ง ครูสอนการเนน้ เสยี งหนักในคำ (stress) 'hobby, 'centimeter, 'kilogram, 'address ครูฝึกให้นกั เรียนออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ ง 2.2 ครเู ขียนเลขท่บี ้าน 112/3 Ladprao Road, Khet Chatuchak, Bangkok, 10900. บนกระดานดำ และสอนนกั เรียนอ่านตัวเลขทีป่ รากฏในบ้านเลขท่ี ดงั น้ี 112/3 อ่านวา่ one – one – two slash three ใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงตามครู สำหรบั ชอื่ จงั หวัดและรหัสไปรษณีย์ Bangkok 10900 อ่านว่า Bangkok one – oh – nine – oh – oh ให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งตามครู สำหรับคำถามท่ีถามถงึ ที่ อยู่ ครูเขยี นประโยคคำถามบนกระดานดำ พร้อมกับอา่ นใหน้ ักเรียนฟัง Where do you live? นักเรียนอ่าน ตาม ครถู ามอีกคร้ัง Where do you live? ครูช้ีบ้านเลขท่ีที่อยดู่ า้ นบนให้นกั เรยี นตอบพรอ้ มกัน 2.3 นกั เรียนดูขอ้ มลู ของสวุ ัฒน์ ใน SB หนา้ 21 ครอู ่านออกเสียง ให้นักเรียนฟังและอ่าน ตาม 2.4 ครูให้นักเรียนอ่านประโยคข้อมลู ของสวุ ัฒน์ แลว้ ตอบคำถามของครู What is his name? (Suwat Suddee.) ครูให้นกั เรียนดปู ระโยคคำถามใน Say the answers about Suwat. แลว้ พูดออก เสยี งประโยคตามครู ข้อ 1 What does Suwat look like? ครตู อบคำถามเปน็ ตัวอยา่ ง ให้นักเรยี นพูด ตาม He is tall and slim. ครูอธิบายวา่ ประโยค What does Suwat look like? หมายความว่า Suwat มี ลักษณะอย่างไร และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ว่า สามารถถามด้วยคำถามว่า What is Suwat like? กไ็ ด้ เพราะมี ความหมายเปน็ การถามลักษณะเหมือนกนั ขอ้ 2 How tall is he? ครูใหน้ ักเรียนอ่านประโยคคำถามแลว้ หาคำตอบเอง ขอ้ 3 ครูอา่ นประโยคคำถามและนักเรียนพูดตาม How much does he weigh? ใหน้ ักเรยี นเดาวา่ ประโยคถามถงึ อะไร ใหโ้ อกาสนักเรียนลองตอบก่อน ครตู อบประโยคคำถาม He weighs 35 kg. ข้อ 4 What is his hobby? ให้นักเรียนอ่านประโยคคำถามแลว้ หาคำตอบ ครูให้ นักเรียนพดู ประโยคคำตอบตามครู His hobby is drawing. ข้อ 5 ครถู ามประโยค What is his address? ครใู หค้ วามหมาย address แลว้ ให้ นักเรียนพดู ตอบทีอ่ ยขู่ องสวุ ัฒน์ตามครู 2.5 ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมเกยี่ วกับการใช้ gerund และ infinitive ตามด้วยการใช้ like (รายละเอียดอยูใ่ นขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ สำหรบั คร)ู 3. Practice 3.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน อ่านขอ้ มลู ของสวุ ัฒน์ แล้วช่วยกนั ตอบคำถามใน กจิ กรรม Say the answers about Suwat. อกี ครงั้

3.2 นักเรียนบนั ทึกขอ้ มูลของตนเองตามแบบขอ้ มลู ของสุวัฒน์แลว้ เปลีย่ นกันถามข้อมูลของกันและกนั แลว้ จดบนั ทึก 4. Production นักเรียนนำข้อมลู ที่จดบันทึกไว้เขยี นลงในสมุดแบบฝึกหดั กอ่ นนำสง่ ครตู รวจการเขียนชอื่ ถนน เขต จงั หวดั ให้ถูกต้องตามหนงั สือหลักเกณฑก์ ารถอดเสยี งอักษรไทยเปน็ อักษรโรมันแบบถา่ ยเสยี ง ฉบบั ราชบณั ฑติ สถาน (ซึง่ ครูไดเ้ ตรยี มไวใ้ หน้ กั เรยี นศกึ ษาการเทียบเสยี งและพยัญชนะไทยเปน็ องั กฤษ) 5. Wrap up ครูสุ่มนักเรยี นออกมาอ่านขอ้ มลู ของตนเองหน้าชัน้ เรียน 8. การวดั และประเมนิ ผล วิธีวดั ผล เครอื่ งมอื วัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล สิง่ ทว่ี ัด ประเมนิ ภาระงาน แบบประเมนิ ภาระงาน 60% ขน้ึ ไป ผ่าน ด้านความรู้ (K) นำเสนอขอ้ มลู ของตนเอง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ประเมินการอา่ น แบบประเมนิ การอ่าน 60% ข้นึ ไป ผา่ น การอา่ นออกเสียงคำและ ประโยคบอกลักษณะ ด้านคุณลกั ษณะ การสงั เกตการร่วม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั 60% ขึน้ ไป ผา่ น อนั พึงประสงค์ (A) กิจกรรมในชัน้ เรยี น พึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 บตั รคำคำศัพท์ท่ีเรียน 9.1.3 บตั รภาพคำศพั ทท์ เ่ี รียน 9.1.4 ภาพดาราหรอื บคุ คลที่มชี ื่อเสียง 9.1.5 สมดุ แบบฝึกหัด 9.2 แหลง่ เรียนรู้ หอ้ งสมุด ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้ทู ไี่ ดร้ บั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………..…… (.........................................) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วันท่ี…….....เดือน…………........….พ.ศ. …...........

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษาหรอื ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ความเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารวิชาการ ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรแู้ ลว้ มีความคิดเหน็ ดงั นี้ ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรแู้ ล้วมีความคิดเหน็ ดงั นี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่  ดมี าก  ดีมาก  ดี  ดี  พอใช้  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ควรปรับปรุง 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้ 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่าง  เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง เหมาะสม เหมาะสม  ยงั ไมเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป  ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นำไปใช้ได้จรงิ  นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ 4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชื่อ).......................................................... (ลงชือ่ ).......................................................... (...........................................) (.............................................) หัวหนา้ กลมุ่ บรหิ ารวิชาการ รองผ้อู ำนวยการโรงเรียน...................

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรยี นจำนวน...............................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ............คน คิดเป็นร้อยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นักเรียนที่มคี วามสามารถพเิ ศษ/นักเรยี นเดก็ พเิ ศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นทกั ษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นักเรียนทไี่ มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ........................................................................................................ ........................................................... ....................................................................................... 2. ปัญหา /อปุ สรรค /ขอ้ คน้ พบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………...…ผู้สอน (................................... ) ครโู รงเรียน.......................... วันท่ี……..…เดือน………….......…….……. พ.ศ. ………..........

แบบบันทึกการประเมนิ การอา่ น ประเดน็ /คะแนน ความเขา้ ใจ การจบั ใจความ การรคู้ วามหมาย รวมคะแนน เลขท่ี ชื่อ – สกลุ 8 สำคัญ 4 20 8 ลงชอื่ ..............................................................ผู้ประเมิน (...........................................)

ระดับ เกณฑก์ ารให้คะแนนการอ่าน นำ้ หนัก/ คะแนน คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ความสำคญั รวม 8 ประเด็น 4 321 8 การประเมนิ ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม 4 ความเข้าใจ หลงั จากที่ หลังจากท่ี หลังจากที่ หลงั จากที่ 20 อ่านได้ อ่านไดเ้ กอื บ อ่านได้ อา่ นไดน้ อ้ ย ทง้ั หมด ทั้งหมด เล็กน้อย มาก 2 2 การจบั ใจความสำคญั จับใจความ จบั ใจความ จับใจความ จับใจความ สำคัญของ สำคญั ของ สำคญั ของ สำคัญของ 1 เนอ้ื หาได้ เ น ื ้ อ ห า ไ ด้ เนอื้ หาได้ เนือ้ หาได้ 5 ท้ังหมด เกอื บ เลก็ น้อย นอ้ ยมาก ทั้งหมด เมือ่ อา่ นพบ การรคู้ วามหมาย เม่ืออ่านพบ เม่ืออ่านพบ เม่ืออา่ นพบ คำศพั ท์ใหม่ คำศัพท์ คำศพั ท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย คำศพั ท์จาก คำศัพท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก บรบิ ทได้นอ้ ย บริบทได้ บริบทได้ บริบทได้ มาก ท้งั หมด เกือบ เล็กน้อย ทงั้ หมด รวม

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มีวนิ ัย รายการประเมนิ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คณุ ภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผู้ประเมิน (................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตำ่ กวา่ 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : มีวนิ ยั คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เหน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ติ นอย่ใู นขอ้ ตกลงท่ีกำหนดให้รว่ มกนั ทุกครงั้ 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญ่สะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏิบตั ติ นอยู่ในข้อตกลงท่กี ำหนดให้ร่วมกนั เปน็ สว่ นใหญ่ 1 : ปรับปรงุ ผลงานไมค่ อ่ ยเรียบร้อย ปฏบิ ัติตนอยใู่ นข้อตกลงที่กำหนดให้ร่วมกัน บางครง้ั ต้องอาศัยการแนะนำ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เห็น คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตงั้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตงั้ ใจเปน็ บางครง้ั 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาส้นั ๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน 1 : ปรับปรุง คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลักษณะทปี่ รากฏให้เห็น 3 : ดี ส่งงานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานดั หมาย รับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัติตนจนเปน็ นิสยั เปน็ ตวั อย่างแกผ่ ู้อน่ื และแนะนำชักชวน 2 : พอใช้ ส่งงานช้ากวา่ กำหนด รบั ผดิ ชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหายและปฏบิ ัติตนจนเปน็ นิสัย 1 : ปรบั ปรงุ สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสัย ปฏิบตั งิ านโดยอาศยั การชีแ้ นะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง My Friends เวลา 10 ช่ัวโมง เร่อื ง What do they look like? เวลา 1 ชว่ั โมง ใช้สอนวันที่......................เดือน.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด การเรยี นรูข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั บคุ ลิกลกั ษณะของบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เป็นขอ้ มลู ทีน่ ักเรียนควรเรยี นรู้ เพือ่ นำไปใชใ้ นสถานการณ์ท่ีจำเปน็ ในชวี ิตจริง 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟงั และอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึกและความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพดู และการเขียน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษา และวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2.2 ตวั ชี้วัด ต ต 1.1 ป.5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น 1.2 ป.5/4 พูด/เขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเรื่องใกลต้ ัว ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตวั ต 2.2 ป.5/1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่ืองหมาย วรรคตอนและการลำดบั คำ (word order) ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรยี นและสถานศึกษา2.3 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) การเขยี นบอกน้ำหนัก สว่ นสงู และลักษณะของเพ่อื น ทักษะ/กระบวนการ (P) การอา่ นออกเสยี งคำและประโยคบอกลกั ษณะ เจตคติ (A) มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้และมุ่งมนั่ ในการทำงาน

3. สาระการเรยี นรู้ Function: Asking for and giving information about one’s description Structure: - What do they look like? Weena is (140) cm tall. Sue has (curly) hair. - How tall are you? I am (130) cm tall. - How much do you weigh? I weigh (50) kg. Vocabulary: คำศัพท์ใหม่ curly, straight, wavy คำศัพท์ทบทวน plump 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง  ซอ่ื สตั ย์สุจรติ  มุ่งมั่นในการทำงาน  มีวนิ ยั  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรยี นรู้  มจี ติ สาธารณะ 6. จุดเนน้ สู่การพฒั นาผู้เรียน ความสามารถและทกั ษะของผเู้ รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ญั หา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวน ทศั น)์  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การทำงานเป็น ทมี และภาวะผู้นำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สาร สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั ส่อื )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร)

 C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้)  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินัย คุณธรรม จริยธรรม)  L1 – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผ้นู ำ) 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. Warm up ครทู บทวนการถามเลขที่บา้ น Where do you live? และ Where is your house? ครบู อกนักเรียน ว่าทั้ง 2 ประโยคน้ี มคี วามหมายเดียวกัน ครูสนทนากับนกั เรยี นเก่ยี วกบั ลกั ษณะทางกายภาพ โดยให้นักเรียน บอกลักษณะของครู เชน่ You have brown eyes. You have short hair. เปน็ ต้น บอกนกั เรียนว่าในช่ัวโมง นีจ้ ะได้เรยี นรู้เกี่ยวกบั การบอกลักษณะของบคุ คล 2. Presentation 2.1 ครูสอนคำศพั ทใ์ หม่ curly hair (ผมหยิก) และคำศัพท์ทบทวน plump (อวบ ท้วม มีเนอ้ื ) ครู อาจใชน้ ักเรยี นเปน็ สื่อจรงิ บตั รภาพหรอื ภาพที่ตัดมาจากหนงั สือพิมพ์หรือนติ ยสาร ครใู หน้ กั เรยี นออกเสียง curly ตามครู ครูชูบตั รภาพแลว้ ออกเสียง plump ใหน้ ักเรยี นออกเสียงตาม ครูฝกึ ให้นกั เรยี นออกเสียงท้ัง 2 คำ ทีละแถว ทีละกลุ่ม หรือแบง่ นกั เรยี นชาย-หญิง ครตู ิดบัตรคำและบตั รภาพบนกระดานดำเพื่อให้นักเรยี นจำ คำศพั ท์จากการทไ่ี ด้เห็นคำนั้นบอ่ ยๆ ครสู อนคำศัพท์ใหม่ straight hair (ผมตรง) และ wavy hair (ผม หยกั ศก) เพม่ิ เตมิ แลว้ ให้นักเรียนออกเสียง wavy, curly และ straight 2.2 ครูให้นักเรียนดภู าพ (เป็นตัวอย่างให้นักเรยี นเรยี นรู้จากสอ่ื จริง) She/He’s (plump). She/He has (wavy) hair. นกั เรียนพดู ตาม ครูชน้ี กั เรียนหญิงและพูด (Malinee) has long hair. ครูชน้ี ักเรียนชายและพดู (Korn) has short hair. ครใู หน้ ักเรยี นทกุ คนพดู บอกลักษณะและทรงผมตนเอง I’m plump/slim/tall/short. I have short/long/wavy/curly hair. ครเู ดนิ ไปทน่ี กั เรียนคนหน่งึ ครถู ามนักเรยี นทกุ คน Does (Wiwat) have long hair? นกั เรยี นชอบท่ีจะตอบสน้ั ๆ No. ครูให้พดู ตาม No, he doesn’t. หรอื No. He has short hair. 2.3 ครูบอกความสูงและนำ้ หนักของตนเอง พูดตัวอยา่ งประโยค I am (160) cm tall. ครูถาม นกั เรียน How tall are you? นักเรยี นตอบตามความสูงของตนเอง I am …… tall. แลว้ ใหถ้ ามเพื่อนข้างๆ How tall are you? เพอื่ นตอบความสงู ตามจรงิ ครเู ตือนนกั เรียนอย่าลมื ออกเสยี ง s ทา้ ยคำ centimeters ครเู ขียน centimeters (cm) และ kilograms (kg) บนกระดานดำ ครพู ูด I weigh 45 kg. How much do you weigh? ครูให้นกั เรยี น 1 คนตอบ I weigh …… kg.

2.4 นกั เรยี นดูภาพ Listen and repeat. ขอ้ B. Listen and repeat. ใน SB หนา้ 22 ครูบอกให้ นกั เรียนทราบเรื่องทจ่ี ะได้ฟัง ครูอ่านออกเสยี ง ให้นักเรยี นตงั้ ใจฟงั What do they look like? Weena is 140 cm tall. She has long hair. She is slim. Sue is 120 cm tall. She has curly hair. Thomas weighs 58 kg. He has short hair. 2.5 ครูอา่ นออกเสยี งอีกHคeรั้งisใpหlน้ uกั mเรpีย.นฟงั ดูภาพ พดู ตาม และทำกจิ กรรม Ask and answer with your friends. Winai weighs 35 kg. 3. Practice 3.1 นักเรยี นจบั คฝู่ ึกพูดHบeรรhยaาsยลshักoษrณt ะhขaiอr.ง Weena, Sue, Thomas และ Winai โดยใช้ประโยค ดังน้ี Weena is …… tall. Sue is …… tall. Thomas weighs …… kg. 3.2 นักเรียนWฝinึกaพiูดwถeาiมg-hตsอ…บ…โดยkgใช. ป้ ระโยคท่ีเรยี น เช่น How tall are you? How much do you weigh? 3.3 นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด Look and write. ใน WB หน้า 22 ใชข้ ้อมูลท่กี ำหนดให้เติมลงใน ชอ่ งวา่ งให้ถูกต้อง 4. Production 4.1 นกั เรียนพูดบอกน้ำหนัก ส่วนสงู และลกั ษณะของตนเองและเพ่ือนสนิท แล้วเขียนลงในสมุด แบบฝึกหัดและนำส่งครู 4.2 นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั Draw a picture of your friend and write about him/her. Then color the picture. ใน WB หน้า 23 ถ้าทำในชัว่ โมงไม่ทนั อาจให้ทำเปน็ การบ้าน แลว้ ส่งในชั่วโมงตอ่ ไป 5. Wrap up ครูสุ่มนกั เรียน 3-4 คน ให้ออกมาทบทวนประโยคคำถามและคำตอบทีเ่ รียนในชวั่ โมงน้ี

8. การวัดและประเมนิ ผล วิธีวดั ผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล สิ่งท่วี ดั ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั 60% ขนึ้ ไป ผา่ น ด้านความรู้ (K) การเขียนบอกน้ำหนกั สว่ นสงู และลักษณะของ เพอ่ื น ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ประเมินการอ่าน แบบประเมนิ การอา่ น 60% ขึ้นไป ผา่ น การอ่านออกเสยี งคำและ ประโยคบอกลักษณะ ด้านคณุ ลักษณะ การสังเกตการร่วม แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั 60% ข้นึ ไป ผ่าน อันพงึ ประสงค์ (A) กิจกรรมในช้ันเรยี น พึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.1.3 ภาพจากหนังสือพมิ พห์ รือนติ ยสาร 9.1.4 บตั รคำลักษณะบคุ คล 9.1.5 บัตรภาพลกั ษณะบุคคล 9.1.6 สมุดแบบฝกึ หัด 9.2 แหลง่ เรียนรู้ หอ้ งสมุด ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผ้ทู ไี่ ด้รบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………..…… (...............................................) หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วันที่…….....เดอื น…………........….พ.ศ. …...........

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มบริหารวิชาการ ความเห็นของผบู้ รหิ าร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนร้แู ล้วมีความคิดเหน็ ดงั น้ี ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรแู้ ล้วมีความคิดเหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี  ดีมาก  ดมี าก  ดี  ดี  พอใช้  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ  ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ 2. การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ ง  เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ ง เหมาะสม เหมาะสม  ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป  ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่  นำไปใชไ้ ดจ้ ริง  นำไปใช้ได้จรงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ 4. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงช่ือ).......................................................... (ลงช่ือ).......................................................... (......................................) (................................................) หัวหนา้ กลมุ่ บริหารวชิ าการ รองผู้อำนวยการโรงเรยี น.....................

บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. สรปุ ผลการจัดการเรยี นรู้ นกั เรียนจำนวน...............................คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ...............คน คิดเปน็ ร้อยละ............................. ไมผ่ ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............................. ได้แก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรียนทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรยี นเดก็ พเิ ศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงคด์ ้านความรู้ (K) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................... นกั เรยี นทไ่ี ม่ผา่ นการประเมินจุดประสงคด์ ้านทักษะ (P) จำนวน.............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ จุดประสงคด์ ้านเจตคติ (A) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ....................................................................................................................................................... ............ ....................................................................................... 2. ปัญหา /อปุ สรรค /ขอ้ ค้นพบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………...…ผู้สอน (.......................................... ) ครูโรงเรียน.............................. วนั ที่……..…เดือน………….......…….……. พ.ศ. ………..........

แบบบันทึกการประเมินการอา่ น ประเดน็ /คะแนน ความเข้าใจ การจับใจความ การร้คู วามหมาย รวมคะแนน เลขท่ี ชื่อ – สกลุ 8 สำคญั 4 20 8 ลงช่อื ..............................................................ผู้ประเมิน (.............................................)

ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนนการอ่าน นำ้ หนัก/ คะแนน คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ความสำคญั รวม 8 ประเด็น 4 321 8 การประเมิน ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม 4 ความเข้าใจ หลงั จากที่ หลังจากท่ี หลังจากที่ หลงั จากที่ 20 อ่านได้ อ่านไดเ้ กอื บ อ่านได้ อา่ นไดน้ อ้ ย ท้งั หมด ทั้งหมด เล็กน้อย มาก 2 2 การจบั ใจความสำคัญ จับใจความ จบั ใจความ จับใจความ จับใจความ สำคัญของ สำคญั ของ สำคญั ของ สำคัญของ 1 เนอื้ หาได้ เ น ื ้ อ ห า ไ ด้ เนอื้ หาได้ เนือ้ หาได้ 5 ทง้ั หมด เกอื บ เลก็ น้อย นอ้ ยมาก ทั้งหมด เมือ่ อา่ นพบ การรคู้ วามหมาย เมอื่ อ่านพบ เม่ืออ่านพบ เม่ืออา่ นพบ คำศพั ท์ใหม่ คำศัพท์ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก บรบิ ทไดน้ อ้ ย บรบิ ทได้ บริบทได้ บริบทได้ มาก ท้ังหมด เกือบ เล็กน้อย ทงั้ หมด รวม

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ (A) ที่ ชอื่ -สกลุ มวี ินยั รายการประเมิน มงุ่ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดบั 321 ใฝ่เรยี นรู้ 3 21 (9) คณุ ภาพ 321 ลงช่อื .........................................................ผู้ประเมิน (.....................................................) เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ คะแนนรวม

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวนิ ัย คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลกั ษณะท่ีปรากฏให้เหน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอยูใ่ นข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ่วมกนั ทกุ คร้ัง 2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงที่กำหนดใหร้ ว่ มกันเปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรบั ปรุง ผลงานไม่ค่อยเรียบร้อย ปฏบิ ัตติ นอยู่ในข้อตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ว่ มกนั บางครง้ั ต้องอาศัยการแนะนำ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็ คะแนน : ระดบั คุณภาพ มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจเป็นบางครง้ั 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความต้ังใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน 1 : ปรบั ปรุง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ : มุ่งมัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลักษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น 3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหายและปฏิบัติตนจนเปน็ นิสยั เปน็ ตัวอย่างแกผ่ อู้ ืน่ และแนะนำชกั ชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหายและปฏิบตั ิตนจนเปน็ นิสัย 1 : ปรับปรงุ สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหายและปฏบิ ัติตนจนเปน็ นิสัย ปฏิบตั งิ านโดยอาศัยการช้แี นะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง My Friends เวลา 10 ชั่วโมง เร่อื ง Adjective เวลา 1 ชว่ั โมง ใช้สอนวนั ท.่ี .....................เดือน.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด การเรยี นรขู้ ้อมูลเกยี่ วกบั บคุ ลิกลกั ษณะของบุคคลเปน็ ภาษาอังกฤษ เปน็ ข้อมูลท่นี กั เรียนควรเรียนรู้ เพ่อื นำไปใช้ในสถานการณ์ทจี่ ำเปน็ ในชีวิตจรงิ 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตผุ ล ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม 2.2 ตวั ชี้วัด ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ ่างๆ ท่เี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา2.3 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (K) ให้ข้อมูลคำคุณศัพทไ์ ด้ถกู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (P) การอา่ นออกเสยี งคำศัพท์คำคุณศัพทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง เจตคติ (A) มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ ม่ันในการทำงาน 3. สาระการเรียนรู้ Structure: He is tall. She is beautiful. My mother is kind. Alice is thin. Vocabulary: คำศพั ท์ใหม่ big, small, black, white, clever, intelligent, pretty, ugly คำศพั ท์ทบทวน curly, straight, wavy 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซือ่ สัตย์สุจริต  ม่งุ มนั่ ในการทำงาน  มวี ินยั  รักความเปน็ ไทย  ใฝ่เรียนรู้  มีจิตสาธารณะ 6. จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทกั ษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อ่านออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ญั หา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวน ทัศน)์  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น ทมี และภาวะผูน้ ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสือ่ )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอ่ื สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้)  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)  L1 – Learning (ทักษะการเรยี นร)ู้  L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ) 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up ทบทวนคำศัพท์เก่ียวกับคำคุณศัพท์ โดยใหน้ กั เรยี นจบั คู่คำศัพท์และความหมาย 2. Presentation ครูอธบิ ายการวางตำแหนง่ ของคำคณุ ศัพท์ นักเรยี นศึกษาใบความรู้ 3. Practice นกั เรียนทำใบงานเขียนคำนามตอ่ ไปนี้เปน็ ภาษาอังกฤษ 4. Production นักเรียนทำใบงานเขียนประโยคใหมโ่ ดยการเปลีย่ นตำแหนง่ คำคณุ ศัพท์ให้ถูกตอ้ ง 5. Wrap up นักเรยี นสรปุ คำศัพท์เกีย่ วกับคำคุณศพั ท์ลงในสมดุ

8. การวดั และประเมนิ ผล วิธีวดั ผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล สงิ่ ทวี่ ัด ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั 60% ขน้ึ ไป ผ่าน ดา้ นความรู้ (K) ประเมินการอ่าน แบบประเมนิ การอา่ น 60% ขึ้นไป ผ่าน ให้ข้อมูลคำคุณศัพท์ได้ การสงั เกตการร่วม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั 60% ขึ้นไป ผา่ น ถูกต้อง กจิ กรรมในช้ันเรียน พึงประสงค์ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) การอ่านออกเสยี งคำศัพท์ คำคุณศัพท์ได้ถูกต้อง ด้านคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน ในการทำงาน 9. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 9.1.1 ใบงาน 9.1.2 Dictionary 9.1.3 บตั รภาพ 9.2 แหลง่ เรยี นรู้ ห้องสมดุ ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผทู้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………..…… (......................................................) หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วันท่ี…….....เดือน…………........….พ.ศ. …...........

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ ความเห็นของผบู้ ริหาร/ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรแู้ ลว้ มีความคิดเห็นดังนี้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แล้วมีความคิดเห็นดังนี้ 1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่  ดมี าก  ดีมาก  ดี  ดี  พอใช้  พอใช้  ควรปรบั ปรุง  ควรปรับปรุง 2. การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่าง  เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่าง เหมาะสม เหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป  ยังไม่เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี  นำไปใช้ได้จรงิ  นำไปใชไ้ ด้จริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ 4. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. ......................................................................................... .............................................................................. (ลงชอื่ ).......................................................... (ลงชอื่ ).......................................................... (.......................................) (................................................) หัวหน้ากลุ่มบรหิ ารวชิ าการ รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน.........................

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้ นักเรียนจำนวน...............................คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ...............คน คดิ เปน็ ร้อยละ............................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู ............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............................. ไดแ้ ก่ 1………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพเิ ศษ ได้แก่ 1…………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นทไี่ มผ่ ่านการประเมนิ จุดประสงค์ด้านความรู้ (K) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... นักเรียนท่ไี มผ่ า่ นการประเมนิ จุดประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................... นกั เรียนที่ไม่ผ่านการประเมนิ จุดประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน............................คน ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................... ....................................................................................... 2. ปญั หา /อปุ สรรค /ข้อคน้ พบ …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… …………………………………………………….…………………..………………………………………………………………………… ลงช่ือ………………………………...…ผู้สอน (.......................................... ) ครโู รงเรียนบ้านหลังเขา วันที่……..…เดือน………….......…….……. พ.ศ. ………..........

แบบบันทึกการประเมินการอ่าน ประเด็น/คะแนน ความเขา้ ใจ การจับใจความ การรู้ความหมาย รวมคะแนน 8 สำคญั 4 20 เลขที่ ชอ่ื – สกลุ 8 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 24 ลงช่ือ..............................................................ผู้ประเมิน (..............................................)

ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนนการอ่าน นำ้ หนัก/ คะแนน คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ความสำคญั รวม 8 ประเด็น 4 321 8 การประเมนิ ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม 4 ความเข้าใจ หลงั จากที่ หลังจากท่ี หลังจากที่ หลงั จากที่ 20 อ่านได้ อ่านไดเ้ กอื บ อ่านได้ อา่ นไดน้ อ้ ย ท้งั หมด ทั้งหมด เล็กน้อย มาก 2 2 การจบั ใจความสำคัญ จับใจความ จบั ใจความ จับใจความ จับใจความ สำคัญของ สำคญั ของ สำคญั ของ สำคัญของ 1 เนอื้ หาได้ เ น ื ้ อ ห า ไ ด้ เนอื้ หาได้ เนือ้ หาได้ 5 ทง้ั หมด เกอื บ เลก็ น้อย นอ้ ยมาก ทั้งหมด เมือ่ อา่ นพบ การรคู้ วามหมาย เมอื่ อ่านพบ เม่ืออ่านพบ เม่ืออา่ นพบ คำศพั ท์ใหม่ คำศัพท์ คำศัพท์ใหม่ คำศัพท์ใหม่ คำศพั ท์ใหม่ สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก คำศพั ท์จาก บรบิ ทไดน้ อ้ ย บรบิ ทได้ บริบทได้ บริบทได้ มาก ท้ังหมด เกือบ เล็กน้อย ทงั้ หมด รวม

ที่ ชอ่ื -สกุล แบบประเมินคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ (A) มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนนรวม ระดับ 3 21 (9) คณุ ภาพ 1 รายการประเมนิ 2 3 มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ 4 5 321321 6 7 ลงชอื่ .........................................................ผู้ประเมิน 8 (...................................................) 9 10 ดี พอใช้ ปรับปรงุ 11 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ตำ่ กว่า 4 คะแนน 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 24 เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ คะแนนรวม

เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มีวนิ ัย คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นขอ้ ตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ว่ มกนั ทุกคร้ัง 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงทก่ี ำหนดให้รว่ มกันเป็นส่วนใหญ่ 1 : ปรบั ปรงุ ผลงานไมค่ อ่ ยเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ัตติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงทกี่ ำหนดให้รว่ มกนั บางครง้ั ต้องอาศัยการแนะนำ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น คะแนน : ระดับคณุ ภาพ มคี วามสนใจ /ความตงั้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความต้ังใจเปน็ บางครงั้ 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน 1 : ปรับปรุง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลักษณะทปี่ รากฏให้เห็น 3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหายและปฏิบัติตนจนเปน็ นิสยั เปน็ ตัวอย่างแก่ผู้อ่ืน และแนะนำชักชวน 2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานที่ได้รับมอบหายและปฏิบตั ิตนจนเปน็ นิสัย 1 : ปรบั ปรุง สง่ งานชา้ กว่ากำหนด รับผิดชอบในงานท่ไี ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเปน็ นิสัย ปฏบิ ตั งิ านโดยอาศยั การชีแ้ นะ แนะนำ ตกั เตอื น

ใบงานวิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เรื่อง Adjective Name ……………………………………………………….. Class………..……………. No………….. Adjective คือคำคณุ ศัพทท์ ีใ่ ช้บรรยายคณุ สมบัติ คุณภาพหรือสภาวะของคำนาม หรือคำสรรพนาม ตำแหน่งของคำคณุ ศพั ท์ 1. วางไวห้ ลงั Verb to be เช่น He is tall. She is beautiful. My mother is kind. Alice is thin. 2. วางไว้ด้านหนา้ คำนามเพื่อขยายคำนามนน้ั เชน่ The big house is expensive. The beautiful girl is in the concert. She likes the pink dress. The black dog is fierce.

ใบงานวิชาภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เรื่อง Adjective Name ……………………………………………………….. Class………..……………. No………….. เขียนคำนามต่อไปนเี้ ป็นภาษาองั กฤษ 1. คอมพิวเตอร์ราคาแพง 2. ตาสีดำ 3. นำ้ รอ้ น 4. ผมสีนำ้ ตาล 5. หนังสือเล่มใหญ่ 6. แอปเปิล้ 5 ผล 7. กระโปรงยาว 8. ดอกกหุ ลายสีแดง 9. ชา้ งตวั ใหญ่ 10. กาแฟร้อน

ใบงานวิชาภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เรือ่ ง Adjective Name ……………………………………………………….. Class………..……………. No………….. ขีดเสน้ ใต้คำคณุ ศพั ทใ์ นประโยคตอ่ ไปนี้ 1. My house is big. 6. We are hungry. 2. I am lazy. 7. My mother is beautiful and kind. 3. Those are white flowers. 8. I like to drink hot coffee. 4. My skirt is dirty. 9. The white cat is on the big tree. 5. My dog is big and fierce. 10. That is a big car. 11. Those are thick books. 12. These are long pens. 13. My computer is expensive. 14. My brother is lazy. 15. Our school is big and clean.

ใบงานวิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 เรื่อง Adjective Name ……………………………………………………….. Class………..……………. No………….. เขียนประโยคใหม่โดยการเปลี่ยนตำแหน่งคำคุณศพั ทใ์ ห้ถูกตอ้ ง That is a big house. That house is big. 1. This is a red car. ___________________________________________________________________ 2. This is a short man. __________________________________________________________________ 3. That is a white chair. ___________________________________________________________________ 4. This is a good boy. ___________________________________________________________________ 5. These are good books. ___________________________________________________________________ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง My Friends เวลา 10 ชั่วโมง เร่ือง What’s your hobby? เวลา 1 ชว่ั โมง ใชส้ อนวนั ท่ี......................เดือน.......................................พ.ศ. .................. 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด การเรียนร้ขู อ้ มลู เกีย่ วกับบุคลกิ ลกั ษณะของบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เป็นขอ้ มูลทน่ี ักเรยี นควรเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์ทจ่ี ำเป็นในชวี ิตจรงิ 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความคิดเหน็ อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูดและการเขียน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม 2.2 ตวั ช้ีวดั ต 1.2 ป.5/4 พูด/เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูลเก่ยี วกับตนเอง เพอื่ น ครอบครวั และเรอ่ื งใกลต้ วั ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกลต้ วั ต 4.1 ป.5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา 2.3 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (K) การพดู ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั งานอดเิ รกของตนเอง ทกั ษะ/กระบวนการ (P) การพดู สอบถามและตอบเรอ่ื งงานอดเิ รก เจตคติ (A) มีวินยั ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน 3. สาระการเรียนรู้ Asking and giving information about hobbies Function : Structure : What are you doing, Molly? I’m (putting stamps) in the album. What’s your hobby? My hobby is (painting). Vocabulary : คำศพั ท์ใหม่ collecting stamps, painting, bird watching, drawing, reading, cooking, singing, hobby คำศัพท์ทบทวน curly, straight, wavy

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่อื สตั ย์สุจริต  มุ่งม่นั ในการทำงาน  มีวินัย  รกั ความเป็นไทย  ใฝ่เรียนรู้  มจี ิตสาธารณะ 6. จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทกั ษะของผูเ้ รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวน ทัศน)์  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผูน้ ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันส่ือ)  C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้)  C8 – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)  L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นร)ู้  L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผู้นำ)

7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. Warm up 1.1 ครูขออาสาสมคั รนกั เรยี น 1 คน ออกมาหน้าชัน้ เรียนเปน็ แบบให้เพ่ือนๆ บอกทรง ผม โดยใชป้ ระโยคทเ่ี รียนมาแล้ว เชน่ Anong has short hair. Naree has curly hair. ครสู ุ่มนกั เรยี น 2 คน ยืนขนึ้ เปล่ยี นกันบอกทรงผมของอกี คนหน่งึ 1.2 ครูสนทนากับนักเรียนว่า เม่อื ครทู ำงานบา้ นหรอื หน้าทป่ี ระจำเสรจ็ แล้ว ครูชอบอ่าน หนังสือที่ชอบ เช่น นิตยสารต่างๆ หรือนวนยิ ายสนุกๆ ครูเขียน reading บนกระดาน แล้วถามนกั เรยี นว่าชอบ ทำอะไรบา้ ง ถ้าทำการบา้ น หรืองานทไ่ี ด้รับมอบหมายเสรจ็ แลว้ นกั เรียนบอกกจิ กรรมท่ีชอบทำ ครเู ขียน คำตอบบนกระดาน นักเรียนอาจตอบเปน็ ภาษาไทย ครเู ปล่ยี นเปน็ ภาษาอังกฤษใหน้ ักเรยี นพูดตาม และครู เขียนคำตอบน้ันบนกระดาน (อาจจะไดค้ ำตอบ เช่น playing, swimming, singing, drawing, eating) เมือ่ ได้ คำตอบประมาณ 6-7 คำตอบ ครชู ้ีคำท่ีเขยี นบนกระดานให้นกั เรียนอา่ นพรอ้ มกนั 2. Presentation 2.1 ครใู หน้ ักเรียนตง้ั ใจฟงั ประโยคคำถาม ครพู ดู ประโยคคำถาม What do you do in your free time? ให้นกั เรยี นพดู ตาม I like to read. พร้อมกบั ชีค้ ำทเ่ี ขยี นบนกระดาน reading ครูถาม What do you do in your free time? ครูช้ีคำบนกระดาน ให้นกั เรยี นตอบพรอ้ มกนั ครทู ำเชน่ นป้ี ระมาณ 3-4 ครงั้ 2.2 ครูเขียนประโยคคำถาม What do you do in your free time? ให้นักเรยี นอา่ น พรอ้ มกัน ครขู ีดเส้นใต้ free time ใหน้ ักเรียนบอกความหมายคำ ครูสอนคำศพั ท์ใหม่ ˈhobby นกั เรยี นออก เสยี งตามครู ครูบอกความหมาย hobby ว่าเราทำ hobby เม่ือเรามี (และชี)้ free time (เวลาว่าง) ใหน้ กั เรียน เดาความหมาย ครอู าจช่วยแนะ เรียกว่า งาน... (งานอดเิ รก) ครเู ขียนประโยคคำถาม What is your hobby? ขา้ งลา่ งประโยค What do you do in your free time? นักเรยี นอ่านออกเสียง What is your hobby? ตามครู ครูช้ีประโยค What is your hobby? ให้นักเรียนถาม ครตู อบ My hobby is reading. แล้วเขียน คำตอบทา้ ยคำถามบนกระดาน What is your hobby? My hobby is......(reading)...... . ครถู าม What is your hobby? และช้ีคำอ่นื ๆ (ท่ีเขียนในข้นั Warm up) ใหน้ ักเรยี นตอบ 2.3 ครูถามนักเรียนว่าทกุ คนคงเดาไดว้ า่ เรากำลังเรยี นเรื่องอะไร ครูสอนคำศัพท์ใหม่ โดยใช้ภาพกจิ กรรมทนี่ ำมาจากนติ ยสาร ดงั น้ี ˈcollecting stamps, ˈpainting, bird ˈwatching, ˈdrawing, ˈreading, ˈcooking, ˈsinging ครูออกเสยี งคำศพั ทน์ ั้นๆ นกั เรยี นออกเสยี งตาม (ครตู ิดภาพนั้น บนกระดาน) ครชู ี้ภาพใหน้ กั เรียนออกเสียงพรอ้ มกันอีกคร้งั ครสู รปุ วา่ กิจกรรมเหลา่ นี้เป็นงาน.......... ให้ นักเรยี นตอบ ครูวาดโครงร่าง Mind Mapping บนกระดาน

football table tennis stamps computer badminton toys games Playing TV dolls Collecting news books Watching sports Hobby birds บอกนกั เรยี นว่าเรามาช่วยกันทำ Mind Mapping ของ Hobby กนั ครใู ช้ชอล์กสเี ขียน collecting บนก่ิง แล้ว ถามนักเรยี นวา่ เราสะสมอะไรกนั บ้าง (pictures, stamps, dolls, toys, stickers) ครูใช้ชอลก์ สีเดียวกันเขียน pictures ทีก่ า้ นของ collecting เป็นตวั อย่างให้นกั เรยี นอาสาสมัครออกมาเขยี นเติมคำอ่นื ๆ บนกง่ิ และกา้ น ท่วี ่างอยู่ ครูวาดกงิ่ อ่ืนๆ โดยใชช้ อล์กสีอ่นื ๆ ไม่ซ้ำกนั football table tennis stamps computer badminton toys games dolls Playing TV Collecting news books Watching rooms sports Hobby birds walls pictures Paining Reading cartoons books Swimming stories sea body pools rivers 2.4 นักเรยี นดูภาพ Read and practice with your friend. ข้อ A. Read the dialog. ใน SB หน้า 23 ครแู บง่ นกั เรยี นชาย-หญิง ให้พูดประโยคคำถามและคำตอบตามครู นักเรียนชายพูดตามบทของ Tom นักเรยี น หญิงพดู ตามบทของ Molly ครูฝกึ ให้นกั เรียนออกเสยี งเน้นหนัก (stress) ในคำ และ intonation ในประโยค คำถาม 2.5 ครอู ธบิ ายรูปประโยคคำถาม What are you doing? เวลาตอบให้ตอบการกระทำทก่ี ำลงั ทำ เช่น I’m teaching English. เช่นเดยี วกับประโยคที่เด็กหญิงพูด I’m putting stamps in the album. ให้ นักเรยี นดภู าพใน SB หน้า 23 ครูช้ภี าพเดก็ ชายกำลงั ระบายสีภาพ และถาม What is he doing? ใหน้ กั เรียน ตอบ He’s painting.

3. Practice 3.1 นักเรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 5 คน ฝึกพดู ถาม-ตอบโดยใชภ้ าพท่ีติดไว้และคำศัพทท์ ี่ครูเขยี นบนกระดาน ดำ What are you doing? I am .......... . What’s your hobby? My hobby is .......... . Is that your hobby? Yes, it is./No, it isn’t. 3.2 นกั เรยี นทำกจิ กรรม Read and practice with your friend. ขอ้ B. Practice with your friend. Ask and answer about the hobbies below. ใน SB หน้า 24 โดยใชป้ ระโยคคำถาม-คำตอบตามตวั อย่าง 4. Production 4.1 นกั เรยี นจบั คู่สนทนาเรื่องงานอดิเรก ใหค้ รปู ระเมนิ การพูด พดู แนะนำ แก้ไข หรอื กล่าวชม เพอ่ื เปน็ ตวั อยา่ งนกั เรยี นคนอื่นท่ียงั ไมไ่ ด้พูด ใหแ้ กไ้ ขหรือระวงั ในเรื่องท่คี รกู ล่าวเตอื นเพือ่ น 4.2 ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูลทไี่ ด้จากขัน้ Practice 5. Wrap up นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด Let’s read and write. ใน WB หนา้ 24 เปน็ การบ้าน 8. การวดั และประเมนิ ผล วิธีวัดผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล สิง่ ที่วัด ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู 60% ขนึ้ ไป ผา่ น ด้านความรู้ (K) การพดู ให้ข้อมลู เกี่ยวกับงาน อดเิ รกของตนเอง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขึน้ ไป ผา่ น การพูดสอบถามและตอบ เร่ืองงานอดเิ รก ด้านคุณลักษณะ การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมินคุณลกั ษณะอัน 60% ข้นึ ไป ผ่าน อันพึงประสงค์ (A) กิจกรรมในชนั้ เรียน พงึ ประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ 9.1.1 Student’s Book 5 9.1.2 Workbook 5 9.1.3 บตั รคำ hobby 9.1.4 ภาพกจิ กรรม collecting stamps และ painting 9.2 แหลง่ เรียนรู้ ห้องสมดุ

ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผ้ทู ไี่ ด้รบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นเิ ทศ/รบั รอง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………..…… (.......................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วนั ท่ี…….....เดอื น…………........….พ.ศ. …...........