Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อ.2 เทอม1

อ.2 เทอม1

Description: อ.2 เทอม1

Search

Read the Text Version

173 นิทำนเร่ืองแก้วคนเก่ง ขยันหม่ันเพียรฝึกซอ้ ม (นรำธปิ จนั ทรเนตร) ใหค้ ูแ่ ข่งขันงา่ ยง่าย แกว้ ได้มานั้นมากมาย แกว้ เป็นนักกีฬาของโรงเรยี น จึงได้รางวัลนน้ั มา ลงแข่งทีไรไม่เคยยอม อดทนตลอดเวลา เหรยี ญทองในการแขง่ ขัน เพอื่ วา่ จะชนะได้รางวลั เพอื่ นถามแกว้ ว่าอย่างไร แกว้ ยังเปน็ นักร้องเสยี งดี แก้วตอบต้องหม่ันฝึกฝน ตง้ั ฉายาแกว้ น้ี คอื แก้ว สาลิกา ทกุ วนั ว่ิงซอ้ มยอมเหนอ่ื ยลา้ เสียงเพราะสดใสซาบซ่า นอกจากจะเปน็ นักกีฬาแลว้ ด้วยความสนุกสขุ ใจ เพ่อื นบอกร้องดีอยา่ งน้ี เพื่อนยกให้แก้วคนเก่งเอย เพราะแกว้ เสียงใสไพเราะ ใครใครได้ฟังยิม้ มา แกว้ บอกอยากดงั กวา่ นี้

174 นทิ ำนเร่อื ง ลุงคำใจดี (นรำธปิ จนั ทรเนตร) ณ หมบู่ า้ นพลเมืองดี ไมม่ คี นช่วั มลี งุ คาใจดี แกเปน็ คนแกอ่ ายรุ าว 75 ปี แกเป็นคนใจดี โอบ ออ้ มอารี เอื้อเฟือ้ เผ่ือแผ่ให้กับคนท่วั ไป แกอาศัยอยู่กบั ภรรยาช่อื ปา้ สมั พันธ์ และลูกชายชอ่ื ต้น ลูกสาวชอ่ื เก่ง ทุกวนั ลงุ คาจะต้องได้ช่วยเหลอื สิ่งตา่ ง ๆ อยู่ไม่ได้ขาด บางครง้ั ก็ได้ช่วยเหลอื คน บางครั้งอาจจะไดร้ ับ อันตรายมา ลงุ คากจ็ ะดูแลรักษาจนหายดี สตั ว์บางคนกไ็ ม่ยอมไปจากบ้านลุงคา จนแกแทบจะมีหมูบ่ ้านสตั ว์ ตกยากอยู่ในหมบู่ ้านแลว้ ปา้ สมั พันธ์ ตน้ เก่ง ซงึ่ เป็นภรรยาและลกู ก็เป็นคนจิตใจท่ดี ีงามเหมือนกบั ลุงคาเหมอื นกนั จน ชาวบ้านในละแวกนนั้ เรยี กครอบครัวนว้ี า่ ครอบครัวลงุ คาใจดี ทุกคนในครอบครวั ทาความดีด้วยความบริสุทธิ์ ในเสมอ ไม่เคยเปลยี่ นแปลง วนั หน่ึงลงุ คาเกล็ ผกั มาจากสวนไปขายท่ีตลาด แกเห็นสุนขั โดนรถทับขานอนอยู่ข้างทาง แกเห็นแล้ว สงสารและกลัววา่ ถ้ามีรถว่ิงมาแลว้ มองไม่เห็นอาจจะทับสุนขั ตัวน้ตี ายได้ แกจึงเดินขา้ มถนนไปเอาสุนัขตวั นั้น ออกมา และพามันไปหาหมอ หมอตรวจดูสกั ครู่กบ็ อกวา่ ขามนั หกั ต้องรกั ษานานกว่าจะหาย และแนะนาลงุ คาว่าคงจะเสียเวลา กบั มันนานสกั หน่อย ถา้ หากปล่อยกไ็ ด้ไม่ตอ้ งลาบาก เพราะ สัตวพ์ วกนไี้ ม่มีเจา้ ของอยแู่ ล้ว แต่ลงุ คาบอกว่า ไม่เป็นไร สัตว์ทกุ ตวั ก็รักชีวิตของตนเองหากเราปลอ่ ยทิ้งไว้แล้วเกิดมนั ตายไปคงเปน็ บาปแย่ วันรุง่ ขน้ึ หมอบอกลุงคาวา่ หมาตวั นัน้ เข้าเฝือกใหแ้ ล้วและไมน่ านก็คงเดนิ ได้เหมือนเดิม ลงุ คาถามค่า รกั ษาหมา แตห่ มอบอกว่าไม่เป็นไร เห็นลงุ คาใจดีอยากชว่ ย หมอกจ็ ะชว่ ยไมต่ ้องจ่ายเงินหรอก จะไดม้ ีบุญ ดว้ ยกัน แล้วหมอกเ็ อาหมามาใหล้ งุ คานากลบั ไปหม่บู า้ นสัตว์ตกยาก และรอเวลาจนกว่ามันจะหายดีแล้วค่อย คิดอา่ นว่าจะทาอย่างไรต่อไป

175 นทิ ำนเร่ืองเดก็ ดี (นรำธปิ จนั ทรเนตร) แดงกับป้อมเป็นเพื่อนบา้ นกนั อาศัยอยู่ในหมบู่ า้ นอานนท์ข้างวดั บ้านนาควาย ทุกวนั แดงกบั ป้อมจะ ออกมาเลน่ ดว้ ยกันเสมอ แดงบอกกับปอ้ มวา่ เวลาเลน่ กันอย่าเลน่ แรงและสง่ เสียงดังเพราะอาจจะหนวกหูคน ในบ้านแถบนั้นได้ แตป่ ้อมมักไม่ค่อยเชื่อแดงและเลน่ สง่ เสียงดังอยูเ่ ป็นประจา จนผใู้ หญแ่ ถวนัน้ ออกมาตาหนิ อยู่บ่อย ๆ แต่แดงก็ไม่โกรธผ้ใู หญเ่ หลา่ นั้น แดงกไ็ ด้แตข่ อโทษและพยายามเตอื นปอ้ มอยู่เสมอ วันหนงึ่ แดงโดนปอ้ มแกลง้ เอาอย่างแรง รอ้ งไห้กลบั บ้าน คุณแม่ถามว่าไปโดนอะไรมา แดงก็บอก คุณแม่ตามความเปน็ จรงิ ซ่งึ คุณแม่กบ็ อกวา่ ไมเ่ ป็นไร เป็นเพ่อื นกันเล่นด้วยกัน ให้อภัยกนั ได้ แดงโดนปอ้ มแกลง้ อกี แต่วันนคี้ ุณแม่ของป้อมมาเหน็ เข้าจึงกลา่ วตกั เตือน และบอกให้เลน่ กันดี ๆ อยา่ งแกลง้ กนั วนั หนง่ึ คุณปา้ ของป้อมซื้อขนมมาฝากแดง บอกวา่ แดงเปน็ เด็กนา่ รัก ปา้ อยากใหข้ นม แดงกลา่ วคา ขอบคุณสาหรับขนมท่ีคุณป้าของป้อมมอบให้และกนิ อยา่ งอรอ่ ย แตป่ ้อมก็แยง่ ขนมของแดงอีก ป้าของปอ้ ม จงึ ตีเอา ป้อมร้องให้ไปหาคณุ แม่ กโ็ ดนคณุ แมต่ ีเอาอีก และบอกให้ไปขอโทษแดง และคืนขนมให้แดงด้วย ป้อมจึงออกมาขอโทษ ซงึ่ แดงก็ใหอ้ ภัยและเล่นกนั ต่อไปอย่างสนกุ สนาน คณุ แม่ของป้อมบอกวา่ แดงเปน็ เดก็ ดี มสี มั มาคารวะ และรู้จกั ผ้ใู หญ่ รู้จักเด็ก ให้ป้อมดูแดงเป็น ตวั อย่างและปฏบิ ตั ิตนใหไ้ ด้อย่างแดงแล้วทกุ อย่างจะดเี อง นิทำนเร่ืองคนเก่ง (นรำธปิ จันทรเนตร) เด็กหญงิ หนา้ ตาน่ารกั ผิวขาว ยม้ิ แย้มแจ่มใส คยุ เก่ง ที่อยหู่ มู่บา้ นชวนชืน่ คนนน้ั ชื่อหนนู ดิ คณุ พ่อ ของหนนู ดิ เปน็ คณุ ครู สอนอยทู่ โี่ รงเรียนเดียวกนั กับท่ีหนนู ิดเรียนอยู่ หนูนดิ บอกคณุ พ่อวา่ คุณครูอาภรณท์ ส่ี อนหนูนิดน้นั แนะนาให้หนนู ดิ ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์หนู นดิ จึงอ่านหนังสือทบทวน และวาดภาพฝึกฝีมือ และประดษิ ฐข์ องเล่น ซึง่ หนูนิดกบ็ อกวา่ หนนู ิดอยากวาด ภาพ คณุ พ่อจงึ สอนวธิ กี ารวาดภาพใหห้ นูนดิ และแนะนาให้ระบายสใี ห้สวยงามด้วย หลงั อาหารเยน็ เสร็จหนูนิดกช็ ่วยคุณแมเ่ กบ็ สารับ และทาความสะอาดบริเวณทีร่ ับประทานอาหารซึง่ คุณพ่อก็บอกหนนู ดิ ว่า น่ีก็เป็นการใช้เวลาให้เปน็ ประโยชนเ์ หมือนกัน คือเปฯการใชเ้ วลาสาหรบั ช่วยงานบา้ น คณุ พ่อถามหนูนดิ ว่าวนั นม้ี ีการบ้านหรอื ไม่ หนนู ิดบอกว่า ทาเสร็จแล้วตง้ั แตม่ าถึงบา้ นตอนเย็น คุณ พอ่ ก็ชมเชยในความรับผดิ ชอบของหนนู ิด คุณพ่อบอกใหห้ นนู ดิ ไปหาดินสอดาและกระดาษมา คุณพ่อจะชว่ ย สอนวิธวี าดภาพการ์ตนู อย่างง่าย ๆ ให้ หนนู ดิ รบี หาดินสอและกระดาษดว้ ยความดใี จ คณุ พ่อสอนให้หนนู ดิ วาดภาพสุนัขขนปุกปุย และระบายสีเป็นสนี า้ ตาลอ่อน ๆ คณุ พ่อชมหนนู ดิ ว่าวาดภาพไดส้ วยงามและวาดได้ เหมอื นท่ีคุณพอ่ สอน หนูนิดบอกวา่ วนั พรงุ่ นีห้ นูน่ ิดจะเอาไปให้เพอ่ื น ๆ ท่โี รงเรียนดู คณุ พ่อบอกให้หนนู ดิ เก็บผลงานไวใ้ ห้ดีอยา่ ให้กระดาษยบั ทาใหภ้ าพไม่สวยงาม และเป็นคนไมม่ ีระเบยี บด้วย หนนู ิดก็ปฏบิ ัติตาม ดว้ ยความยนิ ดี

176 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 46 ชั้นอนุบำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรียนรทู้ ี่ 4 ส่ิงต่ำง ๆ รอบตัวเด็ก หน่วย ปลอดภยั ไวก้ ่อน เรอ่ื ง อุบัตเิ หตุ 1 ลำดบั วนั ที่ 46 สัปดำหท์ ่ี 10 ครผู ู้สอน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ การเกิดอบุ ัตเิ หตุเกิดจากความประมาททาให้เกดิ ได้รบั บากเจบ็ การรู้จกั ระมัดระวังในการทากิจกรรม จะทาใหเ้ รามคี วามปลอดภัยให้แก่ตนเองจากสงิ่ ต่าง ๆ รอบตัว ทาให้ดาเนนิ ชิวติ อยู่ไดด้ ว้ ยความสุข 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพือ่ ให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการระมัดระวงั อันตรายและดแู ล รกั ษาความปลอดภัย ใหต้ นเองได้ 2.2 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารปฏิบตั ิตามสญั ญาณ และคาสั่งได้ 2.3 เพือ่ ใหเ้ ดก็ สามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกยี่ วกบั เร่ืองสนทนาได้ 2.5 เพอ่ื พฒั นากลา้ มเนอื้ ใหญ่และกล้ามเน้ือเลก็ เพื่อให้เด็กสามารถนาชิน้ ส่วนของภาพมาจดั ให้เป็น ภาพที่สมบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรเกิดอุบตั ิเหตุ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การพูดกับผอู้ นื่ เกีย่ วกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเรี่องเกีย่ วกบั ตนเอง 3.2.2 การอธบิ ายเกีย่ วกบั ส่งิ ของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ต่าง ๆ 3.2.3 การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ผ่านการเคลอื่ นไหว 3.2.4 การสารวจและอธบิ ายความเหมือน ความตา่ งของสิง่ ต่าง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปท่วั บรเิ วณอย่างอิสระตาม เมื่อได้ยิน สัญญาณหยุดให้เคลื่อนท่ีในท่าน้ันทันที 4.1.2 เด็กและครูสนทนาตกลงรว่ มกันเก่ียวกับคาสงั่ ทจ่ี ะให้ปฏบิ ตั ิกิจกรรม เช่น - เดินไปข้างหนา้ 3 กา้ ว

177 - ถอยหลงั 4 กา้ ว - พนมมือระหวา่ งอกทง้ั สองขา้ ง 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวอยา่ งอสิ ระ เม่ือได้ยินสัญญาณหยุด ให้ฟังและปฏบิ ตั ิตามคาส่ังท่ี ตกลงรว่ มกันไว้ 4.1.4 เดก็ และครูรว่ มกนั กาหนดข้อตกลงขึ้นใหม่ และปฏิบัติตามขอ้ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครูชว่ ยกันจัดโต๊ะเพอื่ ใช้ฝกึ กจิ กรรมการปน้ั ดินน้ามัน โดยครอู ธบิ ายข้ันตอน วิธกี ารทา ให้เด็กดู เสร็จแล้วให้เด็กลงมอื ปฏบิ ัตติ ามขนั้ ตอนทค่ี รูแนะนา ตาม จินตนาการ อยา่ งเสรี ในขณะทเ่ี ด็กทากจิ กรรมครเู ดินดูความเรียบรอ้ ยและคอยให้ คาแนะนาเพ่ิมเติม 4.2.2 เดก็ คนใดทปี่ ฏิบัติเสรจ็ แล้วนาผลงานมาให้ครูดู พร้อมกบั เล่าใหค้ รฟู ังวา่ ทาอะไร อยา่ งไร ครจู ะเขยี นช่ือเดก็ ความหมายของภาพและวนั ที่ทา แลว้ นาภาพขนึ้ แสดง ใหเ้ พ่ือน ๆ ดจู นครบทุกคน 4.2.3 เดก็ ทีจ่ ะปฏบิ ัติกจิ กรรมเสร็จแล้ว หรอื กาลังรอโต๊ะว่างอยูใ่ ห้เลน่ ตามมุมอย่างอิสระ รอเพื่อน ๆ 4.2.4 เมอ่ื เด็กปฏิบตั กิ จิ กรรมครบแล้ว ครูแนะนาให้เดก็ ชว่ ยกนั ทาความสะอาดบรเิ วณ และชว่ ยกันจดั เกบ็ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกยี่ วกบั อบุ ัติเหตตุ ่าง ๆ โดยครนู าภาพอบุ ตั เิ หตุทีเ่ กิดขน้ึ ต่าง ๆ มาใหเ้ ด็กดู แล้วช่วยคดิ หาคาตอบวา่ จะทาอย่างไร จงึ จะไมเ่ กดิ อบุ ัตเิ หตุ แบบนข้ี ึ้นได้ 4.3.2 เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง “เดนิ และวง่ิ ” เสรจ็ แลว้ สนทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั เนื้อหา บทเพลง 4.3.3 เดก็ และครรู ว่ มกันหาเด็กอาสาสมคั รออกมาเลา่ ประสบการณ์เกยี่ วกับอบุ ัติเหตทุ ี่เกิด ขึ้นกับตนเองวา่ มีใครเคยได้รบั อุบัติเหตุอะไรบา้ ง และต้องรักษาตัวอยนู่ านเท่าไร 4.3.4 เด็กและครสู นทนา สรุป และกาหนดแนวทางรว่ มกันเกี่ยวกบั การระวงั ตนเองให้ ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ สาหรบั นาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวัน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำท)ี 4.4.1 เดก็ จัดแถวตอนเรียงหน่ึง ทาทา่ นกบินลงสู่สนาม เม่ือถงึ สนามแล้วใหเ้ ด็กอบอ่นุ ร่างกายโดยการวง่ิ เหยาะ ๆ 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเก่ียวกับเกมเดินทูนหวั กลับตวั ที่หมาย โดยครูสาธติ วธิ กี ารเลน่ ใหเ้ ด็กดู

178 4.4.3 ให้เดก็ เล่นเกมทค่ี รูแนะนา อย่างอิสระตามความสนใจของเดก็ โดยครูคอยดูแล ความปลอดภัยอย่างใกลช้ ิด 4.4.4 เมอื่ สมควรแก่เวลาครใู หเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหนา้ ลา้ งมือ ทาธรุ ะ สว่ นตัว กลบั เข้าห้องเรยี น เพื่อเตรียมตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกับเกมภาพตดั ต่อการข้ามถนน โดยครูอธิบาย วธิ ีการเล่นใหเ้ ดก็ ฟงั 4.5.2 ครแู บง่ เด็กเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกล่มุ เล่นเกมชุดใหม่ เกมที่เคย เล่นมาแลว้ หรอื เครื่องเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เม่อื เด็กเลกิ เล่นเกมแลว้ ครแู นะนาให้เด็กชว่ ยกันเกบ็ สิ่งของตา่ ง ๆ เข้าท่ีให้ เรียบร้อย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ดินนา้ มนั และแผน่ รองปน้ั 5.2 เพลงเดนิ และวิ่ง 5.3 เกมเดินทนู หัวกลบั ตัวท่ีหมาย 5.4 เกมภาพตัดต่อการขา้ มถนน 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบตั ิตามสัญญาณ และคาสง่ั 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการป้นั 6.2 เครื่องมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้นั 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรุง

แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 47 ช้นั อนบุ ำลปีที่ 2 179 สำระทคี่ วรเรยี นรู้ที่ 4 สงิ่ ต่ำง ๆ รอบตัวเดก็ เรือ่ ง อบุ ตั ิเหตุ 2 ลำดับวนั ที่ 47 หน่วย ปลอดภยั ไว้ก่อน สปั ดำหท์ ่ี 10 ครูผู้สอน คุณครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ความไมป่ ระมาท ในการทากิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน ทาใหเ้ ราปลอดภยั จากอบุ ัติเหตตุ ่าง ๆ ได้ เพราะการเกิดอุบัตเิ หตเุ กิดจากความประมาททาให้เกดิ ได้รับบาดเจ็บ การรจู้ ักระมัดระวังในการทา กิจกรรมจะทาใหเ้ รามีความปลอดภัยใหแ้ ก่ตนเองจากการทางาน 2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับการระมัดระวังอนั ตรายและดูแล รกั ษาความปลอดภัย ให้ตนเองได้ 2.2 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารปฏบิ ตั ติ ามสัญญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพื่อให้เดก็ สามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกีย่ วกับเรื่องสนทนาได้ 2.5 เพ่ือพฒั นากล้ามเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเนื้อเล็กเพ่ือให้เด็กสามารถนาช้นิ ส่วนของภาพมาจัดใหเ้ ป็น ภาพท่สี มบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ควำมปลอดภยั ในกำรทำกิจกรรม 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การเขียนภาพและระบายสอี ิสระ 3.2.2 การอธิบายเกี่ยวกบั ส่ิงของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พนั ธข์ องสิ่งต่าง ๆ 3.2.3 การแกป้ ัญหาในการเล่น 3.2.4 การรบั รูแ้ ละแสดงความรู้สึกด้วยการเคลื่อนไหวกับจงั หวะ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ให้เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายไปทัว่ ๆ บรเิ วณอยา่ งอิสระ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ นั้นทันที

180 4.1.2 เดก็ และครรู ่วมกนั กาหนดคาบรรยายสาหรับปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ดงั น้ี เด็ก ๆ เดนิ ไป เที่ยวสวนผลไม้ ขน้ึ สะพาน เดนิ เอียงไปเอียงมา เดินผน่ พงหนาม เดินไดช้ ้า ๆ มองเหน็ มะม่วงบนตน้ เอื้อมมือเกบ็ ไมถ่ ึงต้องเข่ยง บางลูกอยู่สูงตอ้ งใชไ้ มส้ อย สอย ไปโดนรังมดแดงรว่ งลงมากดั จนตอ้ งรบี วง่ิ หนี 4.1.3 ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอสิ ระ เมื่อไดย้ ินสญั ญาณหยุด และให้ปฏบิ ตั ิตามคา บรรยายของครู 4.1.4 เด็กและครูร่วมกนั กาหนดคาบรรยายขนึ้ ใหม่ แลว้ ใหเ้ ดก็ ปฏิบตั กิ ิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูช่วยกันจดั โต๊ะเพือ่ ใช้ฝึกกจิ กรรมการวาดภาพดว้ ยสเี ทยี น โดยครูอธิบาย วธิ ีการ ขน้ั ตอนการทาให้เด็กดู แล้วใหล้ งมือสรา้ งผลงานตามความคิดและจินตน การของตนเองอย่างอสิ ระ โดยครูคอยดูแลใหค้ าแนะอยหู่ า่ ง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดท่ปี ฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาให้ครดู ู พร้อมกับเล่าให้ครูฟงั ว่า ทาอะไร อย่างไร ครจู ะเขียนชือ่ เด็ก ความหมายของภาพและวันที่ทา แล้วนา ภาพขึน้ แสดงใหเ้ พ่ือน ๆ ดู จนครบทุกคน 4.2.3 เด็กท่ีปฏิบตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ หรือกาลงั รอโต๊ะวา่ งอยใู่ ห้เลน่ ตามมุมอย่างอสิ ระเพือ่ ฝกึ การรอคอย 4.2.4 เม่อื เด็กปฏบิ ัติกจิ กรรมครบแล้ว ครแู นะนาใหเ้ ด็กช่วยกันทาความสะอาดบริเวณ และช่วยกนั จดั เก็บอปุ กรณต์ า่ ง ๆ เข้าท่ีให้เรยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั อุบตั ิเหตุต่าง ๆ ที่เด็ก ไดเ้ ลา่ เมอ่ื คราวท่ีแล้ว วา่ เดก็ ๆ รูจ้ ักและคดิ หาวธิ ีการป้องกนั ได้หรือยัง 4.3.2 ครเู ลา่ นทิ านเรอ่ื ง “จอมซน” ให้เดก็ ฟัง เสรจ็ แล้วสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกบั เรื่องใน นทิ าน โดยครูตงั้ คาถามให้เด็กชว่ ยกันตอบเช่น ทาไมเ่ จ้าจ๋อจงึ ตกต้นไม้ เจ้าจ๋อเช่อื ฟังพ่อแมห่ รือไม่ ฯลฯ เสรจ็ แล้วให้เด็กวาดภาพประกอบนิทานตามความคดิ สรา้ งสรรคข์ องเดก็ เอง 4.3.3 เด็กและครสู นทนา สรุป และร่วมกนั เกีย่ วกับการการระมัดระวงั เล่นและการทา กจิ กรรมต่าง ๆ วา่ ไมค่ วารประมาท เพราะจะทาให้เกดิ อนั ตรายได้ เสรจ็ แล้ว รว่ มกันกาหนดแนวทางเพ่ือนนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรียงหนงึ่ วิ่งตามกนั ลงสนามเม่ือถงึ สนามแล้วใหเ้ ดก็ อบอุน่ รา่ งกาย โดยการกระโดดอยู่กบั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกย่ี วกับการเลน่ ลิงชิงบอลทเี่ ดก็ เคยเลน่ มาแล้ว

181 4.4.3 ครูใหเ้ ดก็ ไดเ้ ลน่ เกมอย่างอิสระ ทั้งเกมทแี่ นะนาและเคร่ืองเลน่ สนาม โดยครูคอย ดูแลความปลอดภยั อยา่ งใกล้ชิด 4.4.4 เมอ่ื สมควรแกเ่ วลาครูใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหน้า ล้างมอื ทาธรุ ะ ส่วนตัว กลับเข้าหอ้ งเรียน เพอื่ เตรยี มตัวไปรับประทานอาหาร 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั เกมจับคู่ภาพจานวน โดยครแู นะนา และอธิบาย วธิ ีการเล่นใหเ้ ดก็ ฟัง 4.5.2 ครแู บ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกล่มุ เล่นเกมชุดใหม่ เกมท่เี คย เล่นมาแล้ว หรือเครื่องเล่นสัมผัส 4.5.3 เม่อื เด็กเลกิ เลน่ เกมแลว้ ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกันเกบ็ ส่งิ ของตา่ ง ๆ เขา้ ที่ให้ เรยี บรอ้ ย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สเี ทียน 5.2 นิทานเรื่องจอมซน 5.3 เกมเลน่ รรี ีข้ำวสำร 5.4 เกมจบั คภู่ าพจานวน 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตความกลา้ ในการแสดงออก และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรงุ ฃ

182 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 48 ชัน้ อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระที่ควรเรียนรู้ท่ี 4 สิ่งต่ำง ๆ รอบตัวเดก็ หน่วย ปลอดภยั ไว้ก่อน เร่ือง ขา้ มถนนให้ปลอดภัย สปั ดำหท์ ่ี 10 ลำดับวันท่ี 48 ครผู ู้สอน คุณครูโชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วดั ทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั การข้ามถนนใหป้ ลอดภัยต้องมองซ้าย มองขวา ให้ถ้วนถี่ เมอื่ ไมม่ ีรถผ่านมาแลว้ จึงข้ามหรอื ข้ามถนน ตรงทางม้าลาย หรอื สะพานลอย หรือให้ผใู้ หญ่พาข้าม จงึ จะเกดิ ความปลอดภัย การเกิดอุบัตเิ หตุกจ็ ะไม่ เกดิ ขึ้นทาใหด้ าเนนิ ชวิ ิตอยู่ได้ด้วยความสขุ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการระมัดระวังอันตรายและดูแล รกั ษาความปลอดภัย ใหต้ นเองได้ 2.2 เพื่อใหเ้ ด็กสามารปฏบิ ัติตามสัญญาณ และคาสงั่ ได้ 2.3 เพือ่ ใหเ้ ดก็ สามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองสนทนาได้ 2.5 เพ่ือพัฒนากล้ามเนอื้ ใหญ่และกลา้ มเน้ือเล็กเพื่อให้เด็กสามารถนาชนิ้ ส่วนของภาพมาจดั ให้เป็น ภาพทีส่ มบูรณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรข้ำมถนน 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การเชอื่ มโยงภา ภาพถา่ ยและรปู แบบต่าง ๆ กับสิ่งของหรือสถานท่จี รงิ 3.2.2 การพูดกบั ผู้อ่นื เกย่ี วกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเรอ่ื งเกี่ยวกบั ตนเอง 3.2.3 การอธิบายเก่ยี วกับสิ่งของ เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธ์ของสง่ิ ต่าง ๆ 3.2.4 การรบั รู้และแสดงความรู้สกึ ด้วยการเคล่ือนไหวกับจังหวะ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้นื ฐาน ให้เด็กเคลือ่ นไหวรา่ งกายไปทัว่ ๆ บริเวณอยา่ งอสิ ระ เมื่อได้ยนิ สัญญาณหยดุ ให้หยุดเคล่ือนไหวในท่านั้นทนั ที

183 4.1.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกนั เกย่ี วกบั การทาทา่ ทางกายบริหารประกอบเพลง โดย แบง่ กล่มุ เด็กเปน็ 2 กลุม่ ดังน้ี - กลุม่ ที่ 1 ร้องเพลง เดนิ และวิง่ - กลุม่ ที่ 2 ทาท่าทางกายบริหารประกอบเพลง 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคลอื่ นไหวและ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในขอ้ 2 พร้อมกันตามท่ีได้ตกลงไว้ 4.1.4 เดก็ และครูร่วมกันกาหนดคาสัง่ ขึน้ ใหม่ และปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้อ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูช่วยกนั จดั โต๊ะเพื่อใช้ฝึกกิจกรรมการวาดภาพด้วยสนี ้า โดยครูอธบิ าย ขั้นตอน วธิ ีการทาใหเ้ ด็กดู เสร็จแลว้ ครูแจกใบงานให้เดก็ คนละ 1 แผ่น สนทนา รว่ มกันเกยี่ วกบั รายละเอยี ดในใบงาน เสรจ็ แลว้ ให้เดก็ ลงมือปฏิบัติกจิ กรรมตาม ความคดิ และจนิ ตนาการของตนเองอย่างอสิ ระ โดยครคู อยดแู ล และให้ คาแนะนาอยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เมอ่ื เด็กคนใดปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาให้ครดู ู พร้อมกบั เล่าให้ครูฟงั ว่าทาอะไร อยา่ งไร ครจู ะเขียนชอ่ื เดก็ ความหมายของภาพและวันที่ทา แลว้ นา ภาพขึ้นแสดงให้เพื่อน ๆ ดู จนครบทุกคน 4.2.3 สาหรับเด็กทป่ี ฏิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แล้วหรือกาลังรอโต๊ะวา่ อยใู่ ห้เลน่ ตามมมุ อย่าง อสิ ระเพอ่ื ฝึกการรอคอย 4.2.4 เมอื เด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมครบแลว้ ครแู นะนาให้เด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาดบริเวณ และชว่ ยกนั จดั เกบ็ อปุ กรณ์ต่าง ๆ เขา้ ท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูรว่ มกนั ร้องเพลง “ข้ามถนน” โดยครูรอ้ งใหเ้ ด็กฟังก่อน แลว้ จึงให้ฝึก รอ้ งตาม เสรจ็ แลว้ สนทนารว่ มกันเกี่ยวกับเนอื้ หาของเพลง โดยครูอาจจะต้ังคาถาม ใหเ้ ด็กตอบก็ได้ 4.3.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั อบุ ัติเหตใุ นการใช้ถนน โดยครูนาภาพการใช้ถนน อยา่ งปลอดภยั มาใหเ้ ด็กดู แลว้ ตั้งคาถามใหเ้ ดก็ ตอบ 4.3.3 เด็กและครูสนทนา สรุปร่วมกันเก่ียวกับการใช้รถ ใชถ้ นนท่ปี ลอดภัย และกาหนด แนวทางในทางปฏิบัติตนในชีวิตประจาวนั ต่อไป 4.4 กิจกรรมกลำงแจง้ (45 นำท)ี 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรียงหนึ่ง เดนิ ตามกนั อย่างเป็นระเบยี บลงสนาม เม่อื ถึงสนามแลว้ ให้เด็กอบอุ่นร่างกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กบั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกับการเล่นเกมน่ังสง่ ของข้ามศรี ษะไปขา้ งหลงั โดยครู สาธติ วธิ กี ารเล่นให้เด็กดู ตามขนั้ ตอน ดังน้ี

184 - แบ่งเดก็ เป็น 2 กลุ่ม แตล่ ะกลุ่มจดั แถวตอนเรยี งหน่งึ เสรจ็ แล้วน่ังลง โดยให้ ระยะห่างจากคนข้างหนา้ 1 ช่วงแขน - คนทอ่ี ยู่ขา้ งหน้าสดุ ถือลูกบอลไว้ 1 ลกู เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณเร่มิ เลน่ ใหส้ ง่ ลกู บอลข้ามศีรษะไปใหค้ นขา้ งหลงั - คนที่อยู่ถดั ไปกส็ ่งต่อไปเร่ือย ๆ จนถงึ คนสดุ ทา้ ยซ่ึงเมื่อได้ลูกบอฃแลว้ ใหล้ ุกขึน้ วิง่ มายนื ท่ขี า้ งหน้า ใครมาถึงกอ่ นเปน็ ผชู้ นะ 4.4.3 ครใู หเ้ ดก็ ได้เล่นเกมท่คี รูแนะนา 2 – 3 เทยี่ ว เสรจ็ แลว้ ปลอ่ ยให้เดก็ ไดเ้ ล่นอยา่ ง อสิ ระ 4.4.4 เมอื่ ไดเ้ วลาพอสมควรแลว้ ครูใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ลา้ งหน้า ล้างมอื ทาธรุ ะส่วนตวั กลับเขา้ ห้องเรยี น เพ่ือเตรยี มตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกี่ยวกับเกมจดั หมวดหมูภ่ าพกับสัญลักษณ์ โดยครู แนะนาและอธิบายวธิ ีการเล่นใหเ้ ดก็ ฟัง 4.5.2 ครแู บ่งเด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลมุ่ เล่นเกมชุดใหม่ เกมท่เี คย เลน่ มาแลว้ หรือเครอื่ งเล่นสัมผสั 4.5.3 เม่อื เด็กเลกิ เลน่ แลว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กช่วยกันเก็บสิง่ ของต่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบร้อย 5. สอ่ื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สนี า้ พู่กนั 5.2 เพลงขา้ มถนน 5.3 นิทานเรื่องเสน้ ทางนักแขง่ 5.4 เกมจัดหมวดหมภู่ าพกับสัญลักษณ์ 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัติตามสัญญาณ และคาสัง่ 6.1.2 สังเกตการแสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครือ่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการวดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ

185 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผล ดี ระดับ 3 พอใช้ ระดับ 2 ปรับปรงุ ระดับ 1

186 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 49 ชั้นอนุบำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรยี นรู้ที่ 4 สิง่ ต่ำง ๆ รอบตัวเด็ก หน่วย ปลอดภัยไว้ก่อน เรือ่ ง อนั ตรายจากของใช้ สปั ดำหท์ ี่ 10 ลำดับวันท่ี 49 ครูผู้สอน คณุ ครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วัดท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ส่ิงของเคร่อื งใช้ทุกอยา่ งมีคุณประโยชน์ และก็มีโทษ ถ้าหากใช้อยา่ งถูกวิธีก็จะไม่เกิดอนั ตราย ซง่ึ การเกิดอุบัตเิ หตุเกดิ จากความประมาททาใหเ้ กิดไดร้ บั บาดเจบ็ ได้ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพือ่ ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การระมัดระวังอันตรายและดแู ล รกั ษาความปลอดภัย ใหต้ นเองได้ 2.2 เพ่ือให้เด็กสามารปฏิบัติตามสัญญาณ และคาส่งั ได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเก่ยี วกบั เร่ืองสนทนาได้ 2.5 เพ่ือพัฒนากลา้ มเนื้อใหญ่และกล้ามเน้ือเลก็ เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถนาชิ้นสว่ นของภาพมาจดั ใหเ้ ป็น ภาพทีส่ มบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 อนั ตรำยจำกของใช้ 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การเช่ือมโยงภาพ ภาพถ่ายและรูปแบบต่าง ๆ กบั สงิ่ ของกรอื สถานท่จี ริง 3.2.2 อธบิ ายเก่ียวกบั สิง่ ของ เหตุการณ์ และความสัมพนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ 3.2.3 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความตา่ งของสิ่งต่าง ๆ 3.2.4 การจบั คู่ การจาแนก และการจัดกลมุ่ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอื่ นไหวร่างกายไปท่วั ๆ บริเวณอย่างอิสระ เม่ือได้ยิน สญั ญาณหยดุ ใหห้ ยดุ เคลื่อนไหวในทา่ น้นั ทันที 4.1.2 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกับการเปน็ ผู้นา ผู้ตาม เสร็จแล้วร่วมกนั ปฏบิ ตั ิ กิจกรรมดังน้ี

187 - แบง่ เด็กเปน็ 2 กลุ่ม แต่ละกลุม่ ยนื เขา้ แถวเปน็ วงกลม และหันหน้าเขา้ กลาง วง - แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั หาเด็กอาสาสมัครออกมาเป็นผู้นาการเคลื่อนไหวตาม จินตนาการของตนเอง ใหเ้ พือ่ น ๆ ทาตาม 4.1.3 ใหเ้ ดก็ ปฏิบัตกิ จิ กรรมในขอ้ 4.1.3 พร้อมกัน 4.1.4 ผลดั เปลี่ยน หมนุ เวยี นเดก็ อาสาสมตั รคนใหม่ ออกมาเป็นผู้นา โดยพยายามให้ ปฏบิ ตั ไิ ดท้ กุ คน 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูชว่ ยกันจัดโตะ๊ เพอื่ ใช้ฝึกกจิ กรรมการตดั ฉีก ปะ กระดาษ โดยครู อธิบายข้นั ตอน วธิ ีการให้เดก็ ดู แลว้ ให้เดก็ ลงมือปฏิบัติตามความคิด และจินตน การของตนเอง อย่างอสิ ระโดยครคู อยดูแลความปลอดภยั อย่างใกลช้ ิด 4.2.2 เมื่อเด็กคนใดทาผลงานเสร็จแล้วใหน้ าผลงานมาให้ครดู ู พร้อมกับเล่าใหค้ รูฟังวา่ ทา อะไร อยา่ งไร ครจู ะเขยี นชอ่ื เด็ก ความหมายของภาพและวันท่ที า แล้วนาภาพ ขึ้นแสดงใหเ้ พื่อน ๆ ดจู นครบทุกคน 4.2.3 เมอื่ เด็กปฏิบัติกิจกรรมครบแล้ว ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาดบรเิ วณ และช่วยกนั จดั เกบ็ อปุ กรณต์ ่าง ๆ เขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูร่วมกนั ร้องเพลง ของแหลมคม โดยครูร้องใหเ้ ด็กฟงั ก่อน แลว้ จึงใหฝ้ กึ รอ้ งตาม เสรจ็ แลว้ สนทนารว่ มกันเกย่ี วกับเนื้อหาของเพลง โดยครอู ธบิ ายใหเ้ ดก็ ๆ ฟงั เกย่ี วกับอันตรายจากสงิ่ ตา่ ง ๆ ในบ้าน เช่น มีด ไมข้ ดี ไฟ หรือสิ่งของอื่น ๆ เชน่ ปนื ดอกไม้ไฟ เป็นต้น 4.3.2 ครูเลา่ นิทานเรอ่ื ง หมูอว้ นจอมซน ใหเ้ ด็ก ๆ ฟัง เสร็จแล้วสนทนารว่ มกันเกีย่ วกบั เรอ่ื งในนทิ าน โดยครูอาจจะต้ังคาถามใหเ้ ด็กช่วยกนั หาคาตอบได้ 4.3.3 เดก็ และครูร่วมกนั หาเด็กอาสาสมัครทมี่ ปี ระสบการณ์เกี่ยวกบั การได้รบั อนั ตรายจาก สิ่งของเครื่องใช้ และของเลน่ ต่าง ๆ เมาเล่าประสบการณ์น้ันให้เพ่อื นฟัง 4.3.4 เด็กและครรู ว่ มกนั กาหนดแนวทางในการปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภัยจากอันตรายของส่งิ เหลา่ น้ี เพือ่ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน 4.4 กิจกรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 ให้เดก็ ว่ิงลงสนามอยา่ งอสิ ระ เมือ่ ถงึ สนามแล้วให้เดก็ อบอุ่นรา่ งกายโดยการวง่ิ เหยาะ ๆ อยู่กับท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กได้เล่นกลางแจง้ และเครื่องเล่นสนามอยา่ งอิสระ โดยครูคอยดูแล ความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

188 4.4.3 เมื่อไดเ้ วลาพอสมควรครูใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหน้า ล้างมอื ทา ธรุ ะสว่ นตัว กลับเขา้ หอ้ งเรยี น เพ่อื เตรียมตัวไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกับเกมจับคูภ่ าพชน้ิ ส่วนท่หี ายไป โดยครอู ธิบาย วธิ ีการเล่นให้เดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะกล่มุ เลน่ เกมชุดใหม่ เกมที่เคยเล่น มาแลว้ หรอื เครื่องเล่นสมั ผสั 4.5.3 เมอื่ เด็กเลกิ เลน่ เกมแลว้ ครแู นะนาให้เด็กชว่ ยกันเกบ็ สิ่งของต่าง ๆ เข้าท่ีให้ เรียบรอ้ ย 5. ส่ือกำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 กาว กรรไกร 5.2 เพลงของแหลมคม 5.3 นทิ านเร่ือง หมูอ้วนจอมซน 5.4 เกมจับค่ภู าพชิ้นส่วนทหี่ ายไป 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสัญญาณ 6.1.2 สงั เกตการเปน็ ผูน้ า ผตู้ าม 6.1.3 สังเกตการพูดแสดงความคดิ เห็น และการตอบคาถาม 6.1.4 ตรวจผลงานการตัด ฉกี ปะ กระดาษ 6.2 เคร่อื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตดั ฉกี ปะ กระดาษ 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรงุ

189 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 50 ช้นั อนุบำลปีท่ี 2 สำระทค่ี วรเรียนรูท้ ่ี 4 สิ่งต่ำง ๆ รอบตัวเด็ก หน่วย ปลอดภยั ไวก้ ่อน เรอ่ื ง ใชย้ าทถ่ี ูกวิธี ลำดบั วันท่ี 50 สัปดำหท์ ่ี 10 ครูผ้สู อน คุณครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรียน วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ยารกั ษาโรคเปน็ สงิ่ ท่ีมีประโยชน์อยา่ งมหาศาล แตถ่ า้ เราใชย้ าโดยไม่มคี วามรู้ และไม่ถูกกับโรค อาจจะทาใหเ้ ราเสยี ชวี ิตได้ 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพ่ือให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การระมัดระวังอันตรายและดูแล รกั ษาความปลอดภัย ใหต้ นเองได้ 2.2 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารปฏบิ ัตติ ามสัญญาณ และคาส่งั ได้ 2.3 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกีย่ วกบั เร่ืองสนทนาได้ 2.5 เพอ่ื พัฒนากลา้ มเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเน้ือเลก็ เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถนาชิน้ ส่วนของภาพมาจัดให้เปน็ ภาพท่ีสมบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรใชย้ ำทถ่ี กู วิธี 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การสารวจและอธิบายความเหมือน ความต่างของสง่ิ ต่าง ๆ 3.2.2 การวางแผนตดั สนิ ใจเลอื ก ลงมือปฏบิ ตั ิ 3.2.3 การอธิบายเกยี่ วกบั สิ่งของ เหตุการณ์ และความสมั พนั ธ์ของส่งิ ตา่ ง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพืน้ ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายไปทว่ั ๆ บริเวณอยา่ งอิสระ เมื่อไดย้ ิน สญั ญาณหยดุ ใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในทา่ น้ันทนั ที 4.1.2 เดก็ และครูร่วมกนั กาหนดคาสง่ั และคาบรรยายท่ีจะปฏบิ ัติร่วมกัน เช่น เดก็ ๆ วิ่ง เลน่ อยา่ งสนกุ สนาน พลาดหกล้มเจบ็ ทห่ี ัวเข่า เดนิ ไปหาคุณครูเพื่อขอยาทาแผล คณุ ครูทายาให้เด็ก ๆ ยกมือไหว้ และกล่าวคาขอบคณุ

190 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุดใหห้ ยดุ เคล่อื นไหว ฟัง คาบรรยายและปฏบิ ตั ติ าม 4.1.4 เด็กและครรู ว่ มกาหนดคาบรรยายขน้ึ ใหม่ แล้วให้เดก็ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครชู ว่ ยกันจัดโตะ๊ เพอ่ื ใช้ฝกึ กจิ กรรมการพับสี เสร็จแลว้ ครอู ธบิ าย ขนั้ ตอน การทาใหเ้ ด็กดู ดงั นี้ - พับกระดาษให้เทา่ กัน กางกระดาษออก หยอดสีตรงรอบพับหลาย ๆ สี เสรจ็ แลว้ พับกระดาษตามรอยพับเดิม แลว้ ใช้นิว้ มอื กรดี รอบพบั ดา้ นนอก - กางกระดาษออกจะปรากฎรูปท่มี ีสีสนั ตา่ ง ๆ กัน ผึง่ ลมให้แห้ง 4.2.2 ให้เดก็ ลงมือปฏบิ ัติกจิ กรรมตามทคี่ รแู นะนา อยา่ งอสิ ระ ตามความคิด และ จนิ ตนาการของตนเอง โดยครูคอยดูแล และใหค้ าแนะนาอยู่ห่าง ๆ 4.2.3 เม่ือเด็กคนใดทาเสรจ็ แล้วนาผลงานมาใหค้ รูดู พรอ้ มกับเลา่ ให้ครูฟงั วา่ ทาอะไร อย่างไร ครจู ะเขยี นชือ่ เด็ก ความหมายของภาพและวนั ท่ีทา แลว้ นาภาพขึ้น แสดงให้เพ่ือน ๆ ดู จนครบทุกคน 4.2.4 เดก็ ทีป่ ฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จแลว้ หรือกาลังรอโตะ๊ ว่างอยู่ให้เลน่ ตามมุมอย่างอิสระ 4.2.5 เม่อื เด็กปฏบิ ตั กิ ิจกรรมครบแลว้ ครแู นะนาให้เด็กชว่ ยกันทาความสะอาดบรเิ วณ และชว่ ยกนั จัดเกบ็ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ท่ีให้เรยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกย่ี วกบั ยารักษาโรคทเ่ี ด็กได้กินเวลาทไี่ มส่ บายวา่ เด็ก อา่ นชอื่ ยานั้นออกหรอื ไม่ และรหู้ รอื เปล่าวา่ เป็นยาอะไร 4.3.2 ครูเล่านิทานเร่ือง “คุณหมอ” ใหเ้ ด็กฟัง และสนทนาร่วมกันเกยี่ วกบั เร่ืองในนิทาน เสรจ็ แล้วตงั้ คาถามใหเ้ ดก็ ตอบ เช่น - เวลาไม่สบายเด็กจะทาอย่างไร - เวลาเด็กปวดหวั เดก็ ขอยาจากใคร - เด็กเคยใช้ยาทาแผลด้วยตนเองหรือไม่ - ถ้าเดก็ จะใชย้ าเด็กจะถามใคร เพราะอะไร 4.3.3 เดก็ และครูสนทนา และสรปุ รว่ มกนั เกีย่ วกบั การใช้ยาที่ถูกวิธี เสร็จแลว้ กาหนด แนวทางเพ่ือนาไปปฏิบัตใิ นชีวิตประจาวันตอ่ ไป 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรียงหนึ่ง เดนิ จับเอวคนข้างหน้าลงสนาม เมอ่ื ถึงสนามแลว้ ให้เด็ก อบอุน่ รา่ งกายโดยการกระโดดอยู่กับที่ 2 – 3 นาที

191 4.4.2 ครใู ห้เด็กไดเ้ ล่นเกมวงิ่ เป้ยี ว ซ่ึงเด็กไดเ้ คยเล่นแล้ว 4.4.3 เมือ่ ไดผ้ ลแพ้ ชนะแลว้ ครูให้เดก็ ไดเ้ ล่นอย่างอสิ ระ โดยครูคอยดูแลความปลอดภยั อย่างใกล้ชดิ 4.4.4 เมอ่ื ไดเ้ วลาพอสมควรครใู ห้เด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหนา้ ลา้ งมอื ทา ธรุ ะ ส่วนตัว กลับเขา้ ห้องเรียน เพ่อื เตรียมตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกยี่ วกบั เกมจดั หมวดหมู่ภาพตาแหนง่ หน้า หลัง โดยครู อธิบายและแนะนาวธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 ครูแบ่งกลุ่มเดก็ ใหเ้ ลน่ เกมชุดใหมท่ ่คี รแู นะนา และเกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ หรือเครอื่ ง เลน่ สัมผสั 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลน่ เกมเสร็จแล้ว ครูแนะนาใหช้ ว่ ยกนั เก็บส่งิ ของต่าง ๆ เข้าทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สนี า้ กระดาษ 5.2 นิทานเร่อื ง คุณหมอ 5.3 เกมวง่ิ เปย้ี ว 5.4 เกมจดั หมวดหมภู่ าพตาแหน่งหนา้ หลงั 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบตั ติ ามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตความกล้าในการแสดงออก การตอบคาถาม การแสดงความคดิ เห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการพับสี 6.2 เครอ่ื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพับสี 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

192 ภาคผนวก เพลงของแหลมคม ของเหล่านมี้ ีอนั ตราย (ศิริลกั ษณ์ อนกุ ูล) และอีกมากมายอนั ตรายจริง ๆ หนู หนู หนู ดูใหด้ ี มดี ตะปู เข็ม กรรไกร เพลงเดนิ และวงิ่ อยา่ มวั เพลินเดินวิ่งใหด้ ี (สกุ รี ไกรฤกษ์) เราจะมีอันตราย เดนิ เดนิ วิง่ วง่ิ เดิน เดนิ บังเอิญเดนิ วิง่ ไมด่ ี เพลงขำ้ มถนน จงดูรถยนตก์ ่อนขา้ มไป (ไม่ทรำบนำมผูแ้ ต่ง) หากไม่มีแน่ไซร้ พน้ ภัยเอย เมอื่ จะข้ามถนน ก่อนข้ามไป เร็วไวจงข้ามไป จงข้ามไป คำคลอ้ งจองข้ำมถนน ข้ามถนนอยา่ ไดใ้ จรอ้ น (นรำธปิ จันทรเนตร) มองขวามองซ้ายอีกที ขา้ มถนนอยา่ งไดใ้ จร้อน ข้ามถนนต้องดูรถก่อน ไม่เช่นน้ันต้องตายแน่นอน มองซ้ายมองขวาให้ดี ถา้ รถยังมีใหร้ ถไปก่อน ขา้ มถนนท้ังทีต้องดดู ีดเี สยี กอ่ น

193 รรี ขี ำ้ วสำร การละเล่น \"รรี ขี า้ วสาร\" มาแลว้ และยงั รอ้ งบทร้องคนุ้ หูที่ว่า \"รรี ีขา้ วสาร สองทะนานข้าวเปลอื ก เดก็ น้อยตาเหลอื ก เลอื กทอ้ งใบลาน คดข้าวใสจ่ าน คอยพานคนขา้ งหลงั ไว\" ไดด้ ้วย กตกิ า \"รรี ขี า้ วสาร\" กค็ อื ต้องมผี ู้เลน่ 2 คนหนั หน้าเขา้ หากัน และเอามือประสานกนั ไว้เป็นรปู ซมุ้ สว่ นผู้เล่นคนอ่ืน ๆ จะกี่คนก็ได้จะยนื เกาะเอวกนั ไวต้ ามลาดบั หวั แถวจะพาขบวนลอดซุ้มพร้อมรอ้ งเพลง \"รีรี ขา้ วสาร\" จนเมอ่ื ถงึ ประโยคที่วา่ \"คอยพานคนขา้ งหลงั ไว\"้ ผูท้ ี่ประสานมือเปน็ ซุม้ จะลดมือลงกนั ไม่ให้คน สดุ ท้ายผา่ นเข้าไป เรยี กว่า \"คัดคน\" และเลน่ อย่างนไ้ี ปเร่ือย ๆ จนคนหมด ประโยชน์ของการเลน่ รรี ขี า้ วสาร ก็คือ ชว่ ยใหจ้ ิตใจร่าเรงิ แจ่มใส รู้จกั มีไหวพริบ ใช้กลยุทธ์ใหต้ วั เอง เอาตวั รอดจากการถกู คลอ้ งไวไ้ ด้ รวมท้ังฝกึ ให้เด็กทางานเป็นกลุ่มไดด้ ว้ ย นิทำนเร่ืองจอมซน (นรำธิป จันทรเนตร) เจ้าจ๋อเป็นลกู ลิงน่ารัก และแสนซน นอกจากน้ันยงั เปน็ ลิงท่ไี ม่คอ่ ยเช่ือฟงั ใครเท่าไร หรอื แม้แตพ่ ่อ แม่ ไมว่ า่ พ่อแมจ่ ะสั่งสอนอย่างไรเจา้ จ๋อกไ็ ม่สนใจฟัง เจ้าจอ๋ ชอบปนี ปา่ ยตน้ ไม้เลน่ อยา่ งโลดโผนจนนา่ เกดิ อนั ตราย พ่อกับแม่ก็คอยบอก คอยเตือนวา่ เด๋ยี วตกตน้ ไม้ แต่เจา้ จ๋อก็ไม่ฟัง วนั หน่ึงเจา้ จ๋อเจอเพื่อนใหม่ ด้วยความคกึ คะนองจงึ พากนั กระโดด โลดเตน้ อยา่ งสนุกสนาน โดยไม่ มีความระมดั ระวงั วา่ จะเกดิ อันตราย หรือตกลงไปแขนขาหกั หรือบาดเจ็บได้ พ่อแม่ก็พยายามเตือน แตเ่ จ้าจ๋อไมย่ อมฟัง ทนั ใดนัน้ มนั ก็พลาดเม่ือโหนไปจบั เอากิ่งไม้ทมี่ ีขนาดเล็ก และไมส่ ามารถรบั นา้ หนักมนั ได้ กงิ่ ไม้กิ่งนั้นจงึ หัก และพารา่ งของเจ้าจอ๋ ตกลงไปยังพ้นื ดิน เจ้าจ๋อบาดเจบ็ แขนหกั นอนร้องให้ครวญครางอยู่ข้างลา่ งดว้ ยความเจบ็ ปวด พอ่ แมข่ องมันจึงรีบลงไปเอาข้ึนมาและพาไปให้ ลุงหมออรุ ัวอุตงั รักษา เม่อื หายดีแลว้ เจ้าจ๋อก็กลบั มาเลน่ แบบนั้นอีก คราวนมี้ นั พลาดเหมอื นเดิมและตกลงไปขาหกั แขนหัก ทาใหม้ ันเปน็ ลิงพกิ ารเดนิ ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ ลงุ หมออุรังอุตัวรักษาแล้วแตเ่ จ้าจอ๋ กย็ ังเดนิ ไม่ได้ เจา้ จ๋อแสน ซนกลายเปน็ ลงิ พิการ ให้พ่อแมค่ อยหาอาหารให้กนิ จนทุกวนั น้ี

194 นิทำนเรื่องหมูอ้วนจอมซน (สำวติ รี สวัสดผิ ล) หมูอว้ นอย่บู า้ นชอบรอื้ ของ เชน่ เส้อื ผ้าของตนเอง หมูอว้ นจะหยิบมาโยนเลน่ จนเกลอื่ นหอ้ งแทบ ทุกวัน หมูอว้ นจะร้ือของเลน่ จานวนมากออกจากตู้ แตห่ มูอ้วนไมเ่ คยเก็บของเลน่ เหลา่ นีเ้ ข้าตูเ้ ลย แมว้ า่ แม่ จะกลา่ วตกั เตือน หมูอว้ นก็ไมย่ อมเช่ือฟงั หมูอ้วนท้งั ด้ือและซุกชน วนั หนง่ึ เขาเหน็ ราวตากผ้าขาดอยู่ หมูอ้วนจบั ราวน้ันโหนเลน่ อยา่ งสนกุ สนาน โชคดที ี่หมูอว้ นไม่ตก ลงมา พอเริ่มเบือ่ หมอู ้วนจึงกลบั เข้าบา้ น เขาเห็นเครื่องดูดฝนุ่ วางอยู่ เออ ..นา่ ลองเล่นเสียจรงิ เมือ่ กดปุ่ม แลว้ เครือ่ งเดนิ เสียงดังหมูอว้ นหัวเราะชอบใจ แม่หมูเห็นเข้ากต็ กใจร้องห้ามว่า “เคร่ืองไฟฟา้ ไม่ใช่ของเลน่ ไฟอาจดดู เป็นอันตรายได้” หมูอว้ นซกุ ซนมาก จนแมก่ ล้มุ ใจเวลานีล้ ูกโตพอทจ่ี ะไปโรงเรียนได้แลว้ แมห่ มูจึง พาหมูอ้วนไปฝากครทู ่ีโรงเรยี นหมอู ้วนยงั ซกุ ซนตามเคย เขาไม่สนใจเวลาครูสอน หมูอ้วนชอบชวนเพอื่ น ๆ แอบหนีครูออกมาเท่ยี วเลน่ ครตู อ้ งคอยเรยี กให้เข้าห้องอยู่เสมอ ครบู อกกบั นักเรียนในหอ้ งว่า “ถ้าใครเปน็ เด็กดเี ชอ่ื ฟังผใู้ หญ่ครจู ะรกั ” หมอู ว้ นอยากใหค้ รรู ัก จงึ รบี บอกครูว่า “ผมจะไม่ซนแล้วครับ” พอตอนเยน็ กลับมาถงึ บ้านนาถงึ สี่แยกจึงเกิดการชนกนั อยา่ งหลีกเลีย่ งไม่ได้ บอย กช็ นกับนกั แขง่ อกี กลมุ่ หนึ่ง ลม้ ลงบาดเจ็บสาหัส และเสยี ชีวติ ในเวลาต่อมา ทาให้พ่อแม่ของบอยเสียใจเปน็ อยา่ งมาก นบั ตัง้ แตน่ ้นั มาหมูบ่ ้านนกั แข่งกไ็ มม่ ีการแขง่ รถอีกเน่อื งจากพอ่ แมข่ องบอยไปบอกตารวจให้มาต้ังดา่ น จบั พวกแข่งรถ และในทีส่ ุดหมู่บา้ นนักแขง่ ก็กลับมามีความสงบอกี คร้งั นทิ ำนเรอ่ื งคณุ หมอ (นรำธิป จนั ทรเนตร) คุณหมอเปน็ คนหนึ่งทม่ี ีอาชีพรักษาคนไข้ท่ไี ด้รับบาดเจบ็ หรือไม่สบายเพราะเปน็ โรคต่าง ๆ คณุ หมอ จะพาคนไข้ไปตรวจในห้อง วัดปรอท ฉดี ยา และหายาให้ทานแก้ไข้ ถ้าหากมใี ครเปน็ แผลมาหมอกจ็ ะล้าง แผลและใสย่ าให้ คุณหมอได้ไปแสดงและอธิบายวิธีการรกั ษาตนเองเบื้องต้นให้เด็กในโรงเรยี นฟังหลายโรงเรียนแล้วและ เดก็ ๆ สว่ นมากก็จะปฏบิ ัติตามคาแนะนาของคุณหมอ บางครัง้ คุณหมอกใ็ ห้เดก็ ๆ มาเขา้ แถวรับวิตามินซี ซง่ึ เป็นสิง่ ทเ่ี ด็ก ๆ กินได้ง่ายและมีประโยชนต์ ่อ เหงือกและฟนั จากนั้นคุณหมอก็อธิบายให้เด็ก ๆ ฟังเก่ยี วกบั การใช้ยาต่าง ๆ โดยคณุ หมอแนะนาวา่ ถา้ หาก เด็กไม่สบายควรบอกคุณพ่อคุณแมก่ ่อน แลว้ คอ่ ยใหค้ ุณพ่อ คุณแม่พาไปหาหมอ หมอจะไดต้ รวจดูวา่ เปน็ โรค อะไร ตอ้ งให้ยาแบบใด เด็ก ๆ ไม่ควรหายากนิ ด้วยตนเองเพราะอาจจะเกดิ อนั ตรายได้ คุณหมอยงั แนะนาวา่ ถ้าเวลาอยู่โรงเรียนถ้าเด็กรู้สึกไมส่ บายกบ็ อกคุณครใู ห้คุณครหู ายาให้ รบั ประทาน คุณหมอแนะนาเดก็ ๆ วา่ นอกจากยารบั ประทานแล้วยังมยี าท่ีใชท้ าอีกดว้ ย ซึ่งบางชนดิ ก็มขี วดท่ี คลา้ ยกนั เดก็ ๆ ยงั อ่านหนงั สือไม่ไดเ้ วลาจะใช้ยาทุกชนิดตอ้ งให้ หมอ พ่อ แม่ ครู หรือผ้ปู กครอง เปน็ ผจู้ ดั ใหจ้ งึ จะปลอดภยั และไม่ควรใชย่ าดว้ ยตนเองเด็ดขาด

195 เรือ่ ง ใบงำน จุดประสงค์ ปลอดภยั ไวก้ ่อน 1. เพือ่ ใหร้ จู้ ักระมัดระวังในการข้ามถนน คำส่งั 2. เพื่อใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดสร้างสรรคใ์ นการวาดภาพ ให้เดก็ วาดภาพการข้ามถนนท่ีปลอดภยั ตามความคิดสรา้ งสรรค์ และจินตนาการของ ตนเองและระบายสีใหส้ วยงาม ผู้ประเมิน ครู ผปู้ ระเมิน ผปู้ กครอง เกณฑก์ ำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรุง ปรับปรงุ ผปู้ ระเมิน ตนเอง ผปู้ ระเมิน เพื่อน เกณฑ์กำรประเมิน เกณฑ์กำรประเมิน ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรุง ปรบั ปรุง

196 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 51 ช้นั อนบุ ำลปีที่ 2 สำระทคี่ วรเรียนร้ทู ่ี 1 เรอื่ งรำวเก่ยี วกับตวั เดก็ หนว่ ย เดก็ ดมี นี ้าใจ เรื่อง การช่วยเหลือครอบครวั สัปดำห์ที่ 11 ลำดับวนั ท่ี 51 ครูผ้สู อน คุณครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรียน วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในครอบครัวอาศัยอยู่กันหลายคนแตล่ ะคนกม็ ีหน้าทแี่ ตกต่างกนั เราเป็นสว่ นหนึง่ ของ ครอบครวั หน้าท่ีของเราคือต้องช่วยเหลอื ครอบครวั ในเรอ่ื งทพ่ี อชว่ ยได้เหมาะสมกบั วัย 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพอ่ื ให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การช่วยเหลือครอบครวั และสามารถนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม 2.2 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพื่อให้เด็กปฏิบัติตนเปน็ ผนู้ า ผตู้ ามได้ 2.4 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ และเสรี 2.5 เพอื่ ให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองท่สี นทนาได้ 2.6 เพื่อให้เดก็ สามารถปรับตัวในการเล่นร่วมกับคนอื่นได้อย่างสนุกสนาน มีความสขุ 2.7 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถนาชิ้นส่วนของภาพมาต่อใหเ้ ปน็ ภาพท่สี มบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรช่วยเหลือครอบครัว 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การสรา้ งแบบจาลองตา่ ง ๆ ด้วยดนิ เหนียว ดินน้ามนั แท่งไม้ ฯลฯ 3.2.2 การร่วมปฏบิ ตั กิ ิจวัตรประจาวนั ของกลุม่ 3.2.3 การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่านการเคลื่อนไหว 3.2.4 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดบั เหตุการณ์ต่าง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพืน้ ฐาน ให้เดก็ เคล่อื นไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ บริเวณอยา่ งอิสระตามจังหวะ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณหยุดให้เคลื่อนที่ในท่าน้ันทนั ที 4.1.2 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเก่ยี วกบั สัญญาณทจ่ี ะใหป้ ฏิบตั ติ าม เช่น

197 - สัญญาณกลองใหท้ าท่าแต่งตัว - สัญญาณนกหวัดให้ทาทา่ สระผม - สัญญาณฉ่ิงให้ทาทา่ รบั ประทานอาหาร เป็นตน้ 4.1.3 แบง่ เด็กเปน็ 2 กล่มุ แต่ละกลมุ่ ยืนเป็นวงกลมหนั หนา้ เข้ากลางวง แล้วคัดเลือกเด็ก อาสาสมคั รของแตล่ ะวงออกมายนื ตรงกลาง เป็นผนู้ าทาท่าทางตามสัญญาณของครู ใหเ้ ด็กคนอ่ืนทาตาม 4.1.4 เมือ่ ไดย้ ินสัญญาณหยุด ใหผ้ ู้นาท้งั สองกลบั ไปท่เี ดิมหมนุ เวียนให้เด็กคนอนื่ ออกมา เปน็ ผนู้ าบา้ ง และปฏบิ ตั ิกจิ กรรมน้ซี ้าอีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครชู ว่ ยกันจัดโตะ๊ เพ่อื ใช้ฝึกกิจกรรมการปั้นดนิ นา้ มัน เสร็จแลว้ ครูแจกดิน นา้ มัน และแผ่นรองปน้ั ใหเ้ ด็กคนละ 1 ชดุ และอธบิ ายข้นั ตอนการปฏิบัติ ให้เด็กดู แลว้ ใหล้ งมือปฏิบตั ิตามความคิด และจนิ ตนาการของตนเองอย่างอสิ ระ โดยครคู อย ดูแลอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดทาผลงานเสร็จแล้ว ใหน้ ามาใหค้ รูดูพร้อมกับบอกชื่อผลงาน วิธีการทา และถ้าเปน็ ผลงานท่ีควรเก็บสะสมครเู ขยี นช่อื เด็ก ชอื่ ผลงาน ความหมาย วันเดอื น ปีทที ทาให้ในผลงานน้นั ให้เด็กด้วย แล้วแนะนาใหเ้ ดก็ เก็บไว้ในกลอ่ งสะสมผลงาน ของตนเอง 4.2.3 เดก็ ทีป่ ฏบิ ตั ิกจิ กรรมแล้ว ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาดพืน้ ท่ี และ จดั เกบ็ สง่ิ ของตา่ ง ๆ เขา้ ที่ใหเ้ รียบร้อย 4.2.4 เมอ่ื เลิกปฏิบัติกจิ กรรมแลว้ ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาดพ้นื ท่ี และ จัดเก็บสิ่งของตา่ ง ๆ เขา้ ทใ่ี หเ้ รียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูรว่ มกันร้องเพลง “ตื่นเช้า” โดยครรู อ้ งให้เด็กฟังก่อน แลว้ จึงใหฝ้ ึกร้อง ตามพร้อมท้ังแสดงท่าทางประกอบเพลง 4.3.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเก่ยี วกบั เน้อื หาของเพลง เสรจ็ แล้วครูนาภาพกิจวัตร ประจาวนั ของเด็กมาให้เด็กดูและสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกับภาพน้ัน 4.3.3 เด็กและครูร่วมกนั แบ่งกลุม่ เพ่ือแสดงบทบาทสมมุติ เชน่ กล่มุ แปรงฟนั กลุ่มอาบน้า กลุม่ สระผม กลมุ่ ลา้ งจาน เปน็ ต้น 4.3.4 เด็กและครรู ว่ มกนั แสดงบทบาทสมมุตติ ามกลุ่มท่ีกาหนดข้ึน เสร็จแล้วสรปุ ร่วมกัน เก่ียวกบั กจิ วัตรประจาวัน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำท)ี 4.4.1 เดก็ จัดแถวตอนเรยี งสอง เดินปรบมือลงสนาม เมอื่ ถึงสนามแลว้ ใหเ้ ด็กอบอนุ่ รา่ งกายโดยการกระโดดอย่กู ับท่ี 2 – 3 นาที

198 4.4.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั การเลน่ กำรละเลน่ ตีจ่ บั โดยครแู นะนาวธิ ีการ เล่นเกม ใหเ้ ด็กฟังตามข้นั ตอน ดงั น้ี วิธีกำรเลน่ การเลน่ ตจ่ี ับต้องแบ่งผเู้ ล่นออกเป็นสองฝา่ ย ฝ่ายละเท่า ๆ กัน มีเส้นแบ่งเขตตรง กลาง ต้องตกลงกันว่าฝ่ายใดจะเปน็ ฝา่ ยรุกไปก่อน คนหน่งึ ท่ีเป็นฝ่ายรุกจะเร่มิ ขา้ มเขต พอเขา้ เขตฝ่ายตรง ขา้ มก็ต้องร้อง “ต่ี” ไม่ให้ขาดเสยี ง แล้วว่ิงเอามือแตะตัวคนใดคนหนง่ึ ในฝ่ายรบั แตจ่ ะหยุดหายใจไม่ได้ ในขณะที่ร้อง “ต่ี” นั้น ฝา่ ยรับก็จะพยายามจบั คนทร่ี ้อง “ต่ี” ไว้ ถ้าคนร้อง “ต่ี” เห็นวา่ จะสไู้ ม่ได้หรอื จะต้องถอนหายใจ ต้องรบี ถอยมาใหพ้ ้นเส้นแบ่งเขต ถา้ ถอยไมท่ ันผูร้ ้อง “ต่”ี หยุดถอนหายใจกจ็ ะต้องถกู จับตวั ไว้เป็นเชลย แต่ถ้าคนท่ีร้อง “ต่”ี แตะตัวฝา่ ยรบั ได้ คนท่ีถกู แตะก็เปน็ เชลยฝ่ายนี้ ฝ่ายทไ่ี ดเ้ ชลยก็จะ ส่งคนร้อง “ต่ี” ไปแตะคนท่ีอยฝู่ า่ ยตรงข้ามอีก ถ้ายงั จับไม่ไดก้ ็ผลดั กันรกุ คนละคร้ัง จนกวา่ จะกวาดเชลย ได้หมดก็ขน้ึ ตาใหม่ 4.4.3 ครูให้เด็กเริ่มเลน่ เกมตามกลุ่มทแี่ บง่ ไว้อย่างอสิ ระ โดยครคู อยดูแลความปลอดภัย อยูห่ ่าง ๆ 4.4.4 เมือ่ ได้เวลาพอสมควรดใู ห้เด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหนา้ ลา้ งมอื ทาธรุ ะ ส่วนตัว กลบั เขา้ หอ้ งเรยี นเพื่อเตรยี มตัวไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกีย่ วกบั เกมภาพตัดต่อเดก็ แตง่ ตัว โดยครูแนะนาเกมและ อธบิ ายวิธีการเลน่ ใหเ้ ดก็ ฟงั 4.5.2 ครแู บ่งเด็กเป็นกลมุ่ ใหเ้ ล่นเกมชดุ ใหม่ที่ครูแนะนา และเกมท่ีเคยเล่นมาแลว้ หรือ เครื่องเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เมอื่ เลิกเล่นแล้ว ครูแนะนาให้เดก็ ชว่ ยกนั เก็บสง่ิ ของต่าง ๆ เข้าทใี่ ห้เรียบร้อย 5. สอื่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ดินนา้ มัน และแผน่ รองปั้น 5.2 เพลงตื่นเช้า 5.3 เกมลิงชงิ บอล 5.4 เกมภาพตัดต่อเด็กแต่งตวั 5.5 การละเล่นตี่จับ

199 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ัติตามสัญญาณและข้อตกลง 6.1.2 สงั เกตการเปน็ ผ้นู า ผ้ตู าม 6.1.3 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.4 ตรวจผลงานการป้ัน 6.2 เคร่ืองมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้ัน 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

200 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 52 ชนั้ อนุบำลปีที่ 2 สำระที่ควรเรียนรู้ท่ี 1 เร่ืองรำวเก่ยี วกับตัวเดก็ หน่วย เด็กดีมนี ้าใจ เร่อื ง การช่วยเหลือตนเอง สปั ดำหท์ ี่ 11 ลำดบั วนั ท่ี 52 ครูผู้สอน คณุ ครูโชติกา เสือพิณ โรงเรียน วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในครอบครวั อาศยั อยู่กนั หลายคนแตล่ ะคนก็มหี น้าท่ีแตกต่างกัน เราเป็นสว่ นหนง่ึ ของ ครอบครวั มีหนา้ ที่ต้องช่วยเหลือตนเองเพื่อแบง่ เบาภาระในครอบครวั ตามความเหมาะสมกับวัย 2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพอ่ื ให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การชว่ ยเหลือครอบครวั และสามารถนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2.2 เพ่ือให้เดก็ สามารถปฏบิ ัติตามสัญญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพ่ือให้เด็กปฏิบัติตนเป็นผู้นา ผตู้ ามได้ 2.4 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถสร้างผลงานได้อย่างสร้างสรรค์ และเสรี 2.5 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกยี่ วกบั เรื่องท่สี นทนาได้ 2.6 เพ่อื ให้เดก็ สามารถปรับตัวในการเล่นรว่ มกับคนอ่นื ได้อย่างสนุกสนาน มคี วามสขุ 2.7 เพ่อื ให้เดก็ สามารถนาช้นิ ส่วนของภาพมาตอ่ ใหเ้ ปน็ ภาพที่สมบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรช่วยเหลือตนเอง 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การเขยี นภาพและระบายสีอิสระ 3.2.2 การพดู กบั ผอู้ ืน่ เกย่ี วกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเร่อื งเกย่ี วกับตนเอง 3.2.3 การอธิบายเก่ียวกับส่งิ ของ เหตุการณ์ และความสมั พนั ธ์ของส่ิงตา่ ง ๆ 3.2.4 การมีประสบการณ์ทางการเล่นสร้างสรรค์ร่วมกบั ผอู้ ื่น 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้ืนฐาน ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกายไปท่ัว ๆ บริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคลอื่ นไหวในท่านน้ั ทันที 4.1.2 เด็กและครชู ว่ ยกันแบ่งกล่มุ เด็กเปน็ 2 กล่มุ โดยตกลงร่วมกันวา่

201 - กลุ่มที่ 1 ร้องเพลง กายบริหาร - กลมุ่ ที่ 2 ทาท่ากายบริหารประกอบเพลง 4.1.3 เดก็ และครูร่วมกนั ร้องเพลงกายบรหิ าร โดยครรู ้องให้เด็กฟังก่อน แล้วจึงฝกึ ร้อง ตาม จนสามารถร้องได้ 4.1.4 ครใู ห้สัญญาณเร่ิม โดยทง้ั 2 กลมุ่ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมท่ตี กลงไวพ้ ร้อมกนั 4.1.5 ครใู ห้เดก็ หมุนเวียน สลับกลมุ่ กนั โดยใหก้ ลุ่มที่ 2 รอ้ งเพลง กลมุ่ ที่ 1 ทาทา่ กาย บริหารประกอบเพลงจนสมควารแก่เวลา 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ กึ กจิ กรรมการวาดภาพด้วยสีเทียน เสร็จแล้วครู อธิบายข้นั ตอน วธิ ีการวาดภาพ และระบายสีให้เด็กฟงั และแจกใบงานคนละ 1 แผ่น สนทนารว่ มกันเก่ยี วกบั รายละเอยี ดในใบงาน เสร็จแล้วให้เดก็ ลงมอื ปฏิบตั ิ กิจกรรมตามคาสั่งในใบงาน และสร้างผลงานตามจนิ ตนาการของตนเอง อยา่ ง อิสระ โดยครูคอยให้คาแนะนา ช่วยเหลอื อยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดทาผลงานเสรจ็ แล้ว ใหน้ ามาใหค้ รูดูพร้อมกับบอกชอ่ื ผลงาน วธิ ีการทา และถ้าเปน็ ผลงานทีค่ วรเก็บสะสมครเู ขยี นช่อื เด็ก ช่ือผลงาน ความหมาย วันเดอื น ปที ี่ทาให้ผลงานน้นั ให้เด็กดว้ ย แลว้ แนะนาให้เดก็ เกบ็ ไวใ้ นกลอ่ งผลงานของตนเอง 4.2.3 เด็กคนใดที่ปฏิบัติกจิ กรรมเสร็จแลว้ ใหเ้ ลน่ ตามมุมอยา่ งอิสระ รอเพ่ือน ๆ 4.2.4 เมอ่ื เลกิ ปฏิบตั ิกจิ กรรมแลว้ ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกันทาความสะอาดพืน้ ท่ี และ จัดเก็บส่ิงของใหเ้ ขา้ ทใ่ี หเ้ รียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั การช่วยเหลือตนเอง ว่าเมือ่ ถึงวยั ทส่ี ามารถ ชว่ ยเหลือตนเองได้แล้ว ก็ควรท่ีจะช่วยเหลอื ตนเองใหไ้ ด้ โดยรว่ มกันรอ้ งเพลง “เกบ็ ของ” โดยครูร้องให้เดก็ ฟังก่อน แล้วจึงให้เดก็ ร้องตาม เสรจ็ แลว้ สนทนา รว่ มกนั เก่ียวกับเนื้อหาของเพลง 4.3.2 เดก็ และครชู ่วยกนั หาอาสาสมัครออกมาเลา่ ประสบการณใ์ นการชว่ ยเหลือตนเองใน กจิ วตั รประจาวัน ว่าทาอะไรบ้างด้วยตนเองได้บา้ งในแต่ละวัน โดยครอู าจตั้ง คาถามนาแลว้ ใหเ้ ด็กตอบก็ได้ 4.3.3 เด็กและครสู นทนา สรปุ ร่วมกันเกี่ยวกับการช่วยเหลือตนเองในแตล่ วนั และรว่ มกัน กาหนดแนวทางในการนาไปปฏบิ ัติตนในชีวติ จริงตอ่ ไป 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ด็กวิง่ เหยาะ ๆ สลับกับการกระโดด ลงสู่สนาม เมื่อถึงสนามแล้วใหเ้ ดก็ อบอนุ่ ร่างกายโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ อย่กู บั ที่ 2 – 3 นาที

202 4.4.2 เด็กและครูร่วมสนทนารว่ มกันเกยี่ วกบั การเลน่ เกมท่ผี ่านมา และให้เดก็ เลอื กเกมท่ี ต้องการจะเล่น เสรจ็ แลว้ ให้เด็กได้เลน่ อย่างอสิ ระ 4.4.3 เมือ่ ได้เวลาพอสมควรแล้ว ครูใหเ้ ด็กไดท้ าความสะอาดร่างกาย ลา้ งหน้า ลา้ งมือ ทา ธุระส่วนตัว เพอื่ เตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกยี่ วกบั เกมเรียงลาดับเหตกุ ารณ์การปฏบิ ตั ิตนในบ้าน โดยครูแนะนาวิธกี ารเลน่ ให้เด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกลุ่มให้แต่ละกลุ่มเลน่ เกมชุดใหม่ เกมทเี คยเลน่ มาแล้ว หรอื เครอื่ งเลน่ สัมผสั 4.5.3 เม่ือเด็กเลกิ เลน่ แลว้ ครแู นะนาใหช้ ว่ ยกนั เกบ็ ของเข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 5. สื่อกำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีเทียน 5.2 เพลงกายบรหิ าร 5.3 เพลงเกบ็ ของ เกมเรยี งลาดบั เหตุการณ์การปฏบิ ัตติ นในบ้าน 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสัญญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สงั เกตความกล้าในการแสดงออก และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวตผลงานวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

203 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 53 ชั้นอนบุ ำลปีท่ี 2 สำระทค่ี วรเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอื่ งรำวเก่ยี วกับตัวเดก็ หน่วย เดก็ ดมี นี ้าใจ เรอื่ ง ความอดทน 1 สัปดำห์ที่ 11 ลำดับวนั ท่ี 53 ครูผูส้ อน คณุ ครูโชตกิ า เสอื พิณ โรงเรียน วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั เราต้องปฏิบตั กิ ิจกรรมมากมาย ทั้งการทางานและการเรียน บางครงั้ ทาให้รูส้ กึ เหนื่อย เมื่อยล้า ท้อแท้ใจ แต่เราต้องรู้จักอดทนและอดกลนั้ จึงจะทาให้กิจกรรมสาเรจ็ ได้ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การชว่ ยเหลอื ครอบครวั และสามารถนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2.2 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพ่ือใหเ้ ด็กปฏิบัตติ นเป็นผู้นา ผตู้ ามได้ 2.4 เพือ่ ให้เดก็ สามารถสร้างผลงานได้อย่างสร้างสรรค์ และเสรี 2.5 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเก่ียวกบั เร่ืองท่ีสนทนาได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเลน่ ร่วมกบั คนอืน่ ได้อย่างสนกุ สนาน มีความสุข 2.7 เพื่อให้เดก็ สามารถนาช้นิ สว่ นของภาพมาต่อใหเ้ ป็นภาพที่สมบูรณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรรูจ้ ักอดทน อดกลน้ั 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การแสดงความรู้สึกด้วยคาพดู 3.2.2 การรบั รทู้ ่ีไวต่อความรูส้ ึก ความสนใจและความตอ้ งการของผู้อน่ื 3.2.3 การสร้างความสมั พนั ธก์ ับเด็กและผูใ้ หญ่ 3.2.4 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรคร์ ่วมกับผอู้ ่ืน 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายไปท่ัว ๆ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระตามจังหวะ เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในท่านัน้ ทันที 4.1.2 เด็กและครตู กลงร่วมกนั เกย่ี วกับคาสั่งท่จี ะปฏิบัติเช่น

204 - ถ้าครูพูดวา่ ยนื ขึ้น ให้เด็กนั่งลง - ถ้าครูพูดว่าถอยหลงั ใหเ้ ดก็ เดินหนา้ เปน็ ต้น 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุด ให้หยุดเคล่ือนไหวฟัง คาส่ังและปฏบิ ัติตาม 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกันตกลงคาสง่ั ชุดใหม่และปฏิบตั กิ ิจกรรมตามข้อ 4.1.3 ซา้ 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูช่วยกันจดั โต๊ะเพ่ือใชฝ้ ึกกจิ กรรมการเปา่ สี เสรจ็ แล้วครอู ธบิ ายขนั้ ตอน การวาดภาพ และระบายสใี หเ้ ด็กฟัง แล้วให้ลงมือปฏบิ ัติสร้างผลงานตามความคิด และจนิ ตนาการของตนเอง อย่างอิสระ 4.2.2 เด็กคนใดทาผลงานเสรจ็ แล้วนามาให้ครูดูพร้อมกับบอกช่ือผลงาน วิธกี ารทา และถ้า เปน็ ผลงานทค่ี วรเก็บสะสมครูเขยี นชอื่ เดก็ ชื่อผลงาน ความหมาย วนั เดือนปที ่ีทา ไวใ้ นผลงานนัน้ ใหเ้ ด็กดว้ ย แลว้ แนะนาใหเ้ ดก็ เก็บไวใ้ นกลอ่ งสะสมผลงานของ ตนเอง 4.2.3 สาหรับเด็กที่รอโต๊ะว่างก็ให้เล่นตามมุมรอโอกาสท่ีจะปฏิบตั ิกิจกรรม 4.2.4 เม่อื เลิกปฏบิ ตั ิกจิ กรรมแลว้ ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาดพ้นื ที่ และ จัดเก็บส่ิงของต่าง ๆ เขา้ ที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั การระงับความรู้สึกต่าง ๆ เชน่ ความโกรธ ความ ดใี จ ความเสยี ใจ โดยครูเลา่ นิทานเร่ือง “หนปู ยุ๋ อารมณร้อน”ให้เดก็ ฟงั เสรจ็ แล้ว สนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั เรื่องในนิทาน โดยครูต้งั คาถามใหเ้ ดก็ ช่วยกันตอบเช่น - ทาไมหนปู ุ๋ยจึงไม่มเี พ่ือน - ความโกรธมปี ระโยชน์ตอ่ เราหรอื ไม่ - ถา้ เพ่ือนโกรธเรา เราจะรู้สึกอยา่ งไร เปน็ ต้น 4.3.2 เด็กและครูร่วมกนั หาอาสาสมัครออกมาเล่าเรอื่ งความรู้สึกต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ ใน ชีวติ ประจาวัน โดยครตู ้งั คาถามนาให้เดก็ ตอบ เชน่ - เด็กรสู้ กึ โกรธเกีย่ วกับเร่ืองอะไรบ้าง - เม่อื ร้สู ึกโกรธเด็ก ๆ จะแสดงออกอยา่ งไร - เด็ก ๆ รสู้ ึกดใี จหรือเสียใจในเร่ืองใดบา้ ง ฯลฯ 4.3.3 เด็กและครสู นทนาสรปุ ร่วมกัน วา่ ความโกรธเปน็ สงิ่ ที่ทาลายสขุ ภาพจิตใจและอาจ ทาใหเ้ ราเสียเพ่ือนท่ีได้ดว้ ย แล้วร่วมกันกาหนดแนวทางทีถ่ ูกตอ้ งเพื่อนาไปปฏบิ ัติ ตนในชีวติ ประจาวนั ต่อไป

205 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เด็กจบั มือกันเปน็ คู่ ๆ วง่ิ เหยาะ ๆ สลบั กับการกระโดดลงสู่สนาม (เดก็ ท่ีไมม่ ีค่ใู ห้ จบั คกู่ บั ครู) เม่ือถึงสนามแล้วใหเ้ ดก็ อบอนุ่ ร่างกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับที 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกี่ยวกับเกมที่เคยเลน่ มาแลว้ คือเกมนา้ ขึ้นน้าลง โดยครู แนะนาวธิ กี ารเลน่ ใหเ้ ด็กฟังอีกครง้ั 4.4.3 ให้เด็กเลือกเล่นเกมท่ีเลือกอย่างอสิ ระ โดยครูสงั เกตการเลน่ ของเด็กอยู่ห่าง ๆ 4.4.4 เมื่อได้เวลาพอสมควรแลว้ ครูใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ล้างหนา้ ล้างมอื ทาธุระสว่ นตัว กลบั เขา้ หอ้ งเรยี น เพ่ือเตรยี มตัวไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเกยี่ วกับเกมเรยี งลาดบั ภาพขนาดเลก็ ใหญ่ โดยครู แนะนาและอธิบายวิธกี ารเล่นให้เดก็ ฟัง 4.5.2 แบง่ เด็กเป็นกลมุ่ ตาความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลุ่มเล่นเกมชุดใหม่ เกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ หรือเครอ่ื งเลน่ สัมผัส 4.5.3 เม่อื เด็กเลกิ เล่นเกมแล้ว ครแู นะใหช้ ว่ ยกันเก็บส่ิงของต่าง ๆ เข้าท่ีให้เรยี บร้อย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีน้า พู่กัน 5.2 นิทานเรอื่ งหนปู ุ๋ยอารมณ์ร้อน 5.3 เกมน้าขนึ้ น้าลง 5.4 เกมเรยี งลาดับภาพขนาดเล็ก ใหญ่ 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ตั ติ ามคาสั่งและคาสั่ง 6.1.2 สังเกตการแสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการเป่าสี 6.2 เครื่องมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมินแผนการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการเปา่ สี 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรงุ

206 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 54 ช้นั อนบุ ำลปีที่ 2 สำระทค่ี วรเรยี นร้ทู ่ี 1 เรื่องรำวเกยี่ วกับตัวเด็ก หน่วย เดก็ ดีมนี ้าใจ เร่อื ง ความอดทน 2 สัปดำห์ที่ 11 ลำดับวนั ท่ี 54 ครูผู้สอน คุณครูโชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วัดท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในการดาเนินชีวติ ประจาวัน เราตอ้ งปฏิบัติกจิ กรรมมากมาย ทั้งการทางาน และการเรียน บางคร้งั ทาให้รูส้ ึกเหนื่อย เมื่อยล้า แตเ่ ราต้องรูจ้ ักอดทนและอดกลน้ั จงึ จะทาใหก้ จิ กรรมท่เี ราปฏิบัติน้นั สาเรจ็ ได้ 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการชว่ ยเหลอื ครอบครวั และสามารถนาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม 2.2 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอื่ ให้เด็กปฏบิ ัตติ นเป็นผนู้ า ผตู้ ามได้ 2.4 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ และเสรี 2.5 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเกย่ี วกับเร่ืองทส่ี นทนาได้ 2.6 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปรับตัวในการเล่นรว่ มกับคนอ่นื ไดอ้ ยา่ งสนกุ สนาน มคี วามสุข 2.7 เพ่อื ให้เดก็ สามารถนาช้นิ ส่วนของภาพมาต่อใหเ้ ป็นภาพท่สี มบูรณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรอดทนตอ่ ควำมเหนื่อย 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การวางแผนตัดสินใจเลือก ลงมอื ปฏิบตั ิ 3.2.2 การรว่ มปฏบิ ัติกจิ วัตรประจาวนั ของกลมุ่ 3.2.3 การใช้หรืออธิบายสง่ิ ต่าง ๆ ด้วยวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้ืนฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่อื นไหวร่างกายไปท่ัว ๆ บรเิ วณอยา่ งอิสระตามจังหวะ เม่อื ได้ยนิ สัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคลือ่ นไหวในท่านัน้ ทันที 4.1.2 เด็กและครรู ว่ มกันกาหนดคาบรรยาย เพอื่ ปฏิบัติกจิ กรรม เช่น - แบกกระสอบข้าวสาร

207 - ชาวนากาลังดานา - ชาวนากาลังเกย่ี วข้าว - วงิ่ ออกกาลงั กาย ฯลฯ 4.1.3 ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เม่ือไดย้ นิ สัญญาณหยุด ใหป้ ฏิบตั ติ ามคา บรรยายของครู 4.1.4 เดก็ และครรู ่วมกันกาหนดคาบรรยายข้นึ ใหม่และปฏบิ ตั ิกิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครชู ่วยกันจัดโต๊ะเพอื่ ใช้ฝกึ กิจกรรมการหยดสี เสร็จแลว้ ครอู ธบิ ายวิธีการ ขน้ั ตอนในการทาให้เดก็ ดู แล้วใหเ้ ด็กลงมือปฏบิ ัตติ ามความคิด และจินตนาการ ของตนเองอย่างอิสระ โดยครูคอยดูแลให้คาแนะนาอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เดก็ คนใดทีท่ าผลงานเสรจ็ แล้ว ให้นามาให้ครูดูพรอ้ มกับบอกชอื่ ผลงาน วิธกี ารทา และถา้ เป็นผลงานท่ีควรเกบ็ สะสมครเู ขียนช่ือเด็ก ชือ่ ผลงาน ความหมาย วนั เดือน ปีท่ที าใหใ้ นผลงานนน้ั ใหเ้ ดก็ ด้วย แล้วแนะนาใหเ้ ดก็ เก็บไว้ในกลอ่ งสะสมผลงาน ของตนเอง 4.2.3 เมอ่ื เลิกปฏิบัติกจิ กรรมแล้ว ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกันทาความสะอาดพ้ืนที่ และ จดั เก็บส่ิงของตา่ ง ๆ เข้าท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั การทากิจกรรมต่าง ๆ วา่ ย่อมมีความเหนด็ เหนื่อย บ้าง แตเ่ ราก็ต้องอดทน จึงจะประสบความสาเรจ็ โดยครเู ลา่ นทิ าน เร่อื ง “กอ้ ง อดทน” ให้เดก็ ฟัง 4.3.2 เด็กและครูสนทนร่วมกันเกยี่ วกับเรื่องในนทิ าน โดยครตู ั้งคาถามให้เด็กช่วยกันตอบ - ก้องทาอะไรในตอนเช้า - ก้องเคยบน่ วา่ เหน่อื ยบ้างหรือเปล่า - ถา้ เดก็ ทางานอย่างก้องเด็กจะทาไดห้ รือไม่ 4.3.3 เด็กและครูร่วมกนั หาอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์ในการทางานต่าง ๆ ของ ตนเอง วา่ มีปญั หาอะไรหรือไม่ และแก้ไขปัญหานั้นอยา่ งไร โดยครูอาจจะตง้ั คาถามนาใหเ้ ด็กตอบกไ็ ด้ หากเด็กไมส่ ามารถเลา่ ได้อยา่ งต่อเน่อื ง 4.3.4 เดก็ และครูสนทนา และสรปุ รว่ มกนั เกี่ยวกบั การร้จู ดั อดทนในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ เสร็จแล้วกาหนดแนวทางในการปฏบิ ัตติ นทถ่ี ูกตอ้ ง เกี่ยวกับการรจู้ ัดอดทนตอ่ ความ เหน็ดเหนอื่ ยเพ่ือนาไปปฏิบตั ใิ นกิจวัตรประจาวนั

208 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กจดั แถวตอนเรยี งหน่ึง เดินปรบมอื เปน็ จงั หวะเดนิ ลงสนาม เม่ือถึงสนามแล้วให้ เดก็ อบอุ่นรา่ งกายโดยการว่ิงเหยาะ ๆ รอบ ๆ บรเิ วณ 2 – 3 นาที 4.4.2 ใหเ้ ดก็ เลน่ เกมลงิ ชิงบอล ซึง่ เปน็ เกมที่เด็กเคยเลน่ มาแล้วอยา่ งอิสระ 4.4.3 เมอ่ื ได้เวลาพอสมควร ครูจงึ ให้เดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ลา้ งมอื ทา ธุระสว่ นตวั กลบั เขา้ หอ้ งเรยี น เพื่อเตรียมตัวไปรับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเก่ยี วกบั เกมจับคู่ภาพแยกส่วน โดยครูแนะนาวิธกี ารเลน่ เกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลุ่มเล่นเกมชุดใหม่ และเกมทเ่ี คย เลน่ มาแล้ว หรือเครื่องเล่นสัมผัส 4.5.3 เมื่อเด็กเลกิ เล่นเกมแล้ว ครแู นะนาใหเ้ ด็ก ๆ ชว่ ยกนั จัดเกบ็ สง่ิ ของต่าง ๆ เขา้ ที่ให้ เรียบร้อย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สนี ้า 5.2 นทิ านเรอ่ื ง ก้องอดทน 5.3 เกมลิงชงิ บอล 5.4 เกมจับค่ภู าพแยกสว่ น 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สงั เกตการพดู แสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการหยดสี 6.2 เครื่องมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการหยดสี 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

209 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 55 ช้ันอนบุ ำลปีที่ 2 สำระทคี่ วรเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ งรำวเก่ยี วกับตวั เด็ก หนว่ ย เดก็ ดีมนี ้าใจ เร่ือง มารยาททด่ี ี ลำดับวนั ที่ 55 สปั ดำห์ท่ี 11 ครผู สู้ อน คณุ ครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ มารยาทท่ดี ีเป็นการแสดงความรูส้ กึ ทม่ี ีอยใู่ นใจออกมาใหค้ นอืน่ รบั รู้ บางคร้ังเราจาเปน็ ต้อง รูว้ ่าควรหรือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเพราะอาจจะทาใหเ้ กิดการเขา้ ใจผดิ และทะเลาะกนั โกรธกนั ได้ การแสดงออกที่ดีถอื วา่ เปน็ คนมีมารยาท 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพอื่ ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับการชว่ ยเหลอื ครอบครวั และสามารถนาไปใชใ้ น ชวี ิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม 2.2 เพ่อื ใหเ้ ดก็ สามารถปฏบิ ัติตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอ่ื ให้เด็กปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้นา ผตู้ ามได้ 2.4 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.5 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกี่ยวกับเร่ืองทีส่ นทนาได้ 2.6 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถปรับตัวในการเลน่ ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสนกุ สนาน มีความสุข 2.7 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถนาชนิ้ สว่ นของภาพมาตอ่ ให้เป็นภาพท่สี มบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 มำรยำทท่ีดใี นกำรแสดงออก 3.2 ประสบกำรณทสี่ ำคญั 3.2.1 การแสดงความรู้สึกด้วยคาพูด 3.2.2 การพดู กบั ผู้อ่นื เกยี่ วกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือเลา่ เร่ืองเกี่ยวกับตนเอง 3.2.3 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรคร์ ว่ มกับผ้อู ่นื 3.2.4 การรบั ร้ทู ี่ไวต่อความรสู้ ึก ความสนใจและความต้องการของผ้อู ื่น 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมขัน้ พนื้ ฐาน ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวร่างกายไปท่วั ๆ บรเิ วณอย่างอิสระตาม จังหวะเมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ เคลื่อนไหวในท่านน้ั ทันที

210 4.1.2 เด็กและครูสนทนาและตกลงร่วมกนั เกี่ยวกบั สัญญาณท่จี ะใหป้ ฏบิ ัตกิ ิจกรรมเชน่ - ถ้าสญั ญาณกลองให้ทาท่าดีใจ - ถา้ สัญญาณฉ่ิงใหท้ าทา่ โกรธ - ถ้าสัญญาณนกหวีดใหท้ าท่าร้องให้ ฯลฯ 4.1.3 ให้เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เมื่อได้ยนิ สัญญาณหยุดและปฏบิ ตั ติ าม สญั ญาณทต่ี กลงรว่ มกันไว้ 4.1.4 เด็กและครรู ่วมกันกาหนดสัญญาณข้นึ ใหม่ และปฏบิ ตั ิกิจกรรมตาม 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครชู ว่ ยกันจัดโต๊ะเพ่ือใช้ฝกึ กจิ กรรมการตดั ฉีก ปะ กระดาษ เสร็จแล้วครู อธบิ าย ข้ันตอนการปฏิบัติให้เด็กดู แล้วให้ลงมอื ปฏบิ ัตติ ามความคิด และ จินตนาการของตนเองอย่างอิสระ โดยครูคอยดแู ลความปลอดภัย และอนั ตรายจาก ของมีคมอยา่ งใกล้ชดิ 4.2.2 เด็กคนใดทาผลงานเสรจ็ แลว้ ใหน้ ามาใหค้ รูดูพร้อมกับบอกช่ือผลงาน วธิ ีการทาและ ถา้ เป็นผลงานทคี่ วรเก็บสะสมครเู ขยี นชอ่ื เด็ก ช่อื ผลงาน ความหมาย วันเดอื นปีทท่ี า ใหใ้ นผลงานนั้นของเด็กดว้ ย แล้วแนะนาใหเ้ ด็กเกบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของตนเอง 4.2.3 เด็กคนใดทีป่ ฏบิ ตั ิกจิ กรรมเสร็จแล้ว ใหเ้ ล่นตามมมุ อยา่ งอสิ ระรอเพ่ือน 4.2.4 เมอ่ื เลิกปฏบิ ัติกิจกรรมแล้ว ครแู นะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันทาความสะอาดพื้นท่ี และ จดั เก็บสงิ่ ของต่าง ๆ เข้าท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั การแสดงความรสู้ ึกตา่ ง ๆ ออกมาเช่น การแสดง ความโกรธ ความดใี จ ความเสียใจ วา่ เป็นสิ่งที่ระวงั เพราะการแสดงออกท่ไี ม่ เหมาะสมอาจทาใหเ้ รากลายเป็นเดก็ ไมม่ ีมารยาททดี่ ีได้ 4.3.2 ครูเล่านทิ านเร่อื ง “บอลนสิ ยั เสยี ” ใหเ้ ด็กฟัง เสร็จแลว้ สนทนาร่วมกนั เก่ียวกบั เรื่องในนทิ าน 4.3.3 ครนู าภาพมารยาทของเด็กไทยมาใหเ้ ดก็ ดู และสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกับเรือ่ งในภาพ และลองใหเ้ ด็กปฏิบตั ิตามตวั อยา่ งในภาพ เช่นการไหว้ การรบั ส่งิ ของจากผู้ใหญ่ เปน็ ต้น 4.3.4 เดก็ และครสู รุปรว่ ม และกาหนดแนวทางท่ถี ูกต้องเกย่ี วกบั มารยาทให้การแสดงออก ตา่ ง ๆ เพ่ือนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำท)ี 4.4.1 ให้เด็กทาทา่ ทางเลยี นแบบการวิง่ ของสัตว์ประเภทต่าง ๆ ลงสนามเมือ่ ถงึ สนามแล้ว ใหเ้ ดก็ อบอนุ่ รา่ งกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับที 2 – 3 นาที

211 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกยี่ วกบั การเลน่ จีจ่อเจย๊ี บ โดยครแู นะนาและอธบิ าย วิธีการเล่นใหเ้ ด็ก ๆ ฟัง 4.4.3 ครใู หเ้ ด็กไดเ้ ล่นเกมตา่ ง ๆ อย่างอสิ ระ โดยครูคอยสงั เกตการเลน่ ของเด็กอยหู่ ่าง ๆ เพ่อื ดูแลความปลอดภยั 4.4.4 เมื่อไดเ้ วลาพอสมควรครใู ห้เด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างมอื ลา้ งหนา้ ทาธุระ สว่ นตวั กลบั เข้าหอ้ งเรยี น เพ่ือเตรียมตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกีย่ วกบั เกมสงั เกตรายละเอยี ดภาพเรขาคณติ โดยครู แนะนาวธิ กี ารเล่นให้เด็กฟงั 4.5.2 ครูแบ่งเด็กเปน็ กลมุ่ ๆ ให้แต่ละกลมุ่ เลน่ เกมชดุ ใหม่ สลับกับเกมที่เคยเล่นมาแล้ว และเครื่องเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลน่ เสรจ็ แล้ว ครูแนะนาให้ช่วยกันเกบ็ สง่ิ ของต่าง ๆ เข้าทีใ่ หเ้ รียบร้อย 5. สอื่ กำรเรยี นรู้ / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 กาว กรรไกร กระดาษ 5.2 นิทานเร่ือง บอลนสิ ัยเสยี 5.3 เกมจีจอ่ เจย๊ี บ 5.4 เกมสงั เกตรายละเอยี ดภาพเรขาคณิต 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ัติตามสัญญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม การแสดงความคดิ เหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการตดั ฉีก ปะ กระดาษ 6.2 เครือ่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตัด ฉกี ปะ กระดาษ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง

212 ภำคผนวก เพลงตืน่ เชำ้ หยบิ แปรงมาสฟี ัน (ไม่ทรำบนำมผแู้ ต่ง) รีบรับประทานอาหารทันใด ไมร่ อชา้ ร่าพไิ ล ต่นื ช้าล้างหน้า หนลู าไปโรงเรยี นแล้วเอย อาบน้าเชา้ เชา้ ทกุ วัน แต่งตวั ใหส้ ง่า สวสั ดีพอ่ แม่ทนั ใด เพลงเก็บของ เก็บดีดอี ย่าวงิ่ ซกุ ซน (กัญญำ เกตุกลำ่ ) หนู หนู อย่าซนชว่ ยกนั ดี ชว่ ยกัน ช่วยกนั คนดี เก็บของไวใ้ ห้ถกู ท่ี มาชว่ ยกันเกบ็ ทุกคน ชว่ ยกัน ชว่ ยกันคนดี นทิ ำนเร่ือง บอลนสิ ัยเสีย (จินตนำ คำอำจ) บอลเกดิ ในครอบครวั ยากจน อยกู่ ับยายเพยี งสองคนในกระท่อมเล็ก ๆ หลงั หมู่บา้ น อีกทงั้ บอลยังเปน็ เดก็ ขขี้ โมย วันหน่งึ บอลเดินไปตลาดเห็นหนูนายืนถือขนมอย่ใู นมือ บอลอยากกนิ ขนม มากจงึ เดินเขา้ ไปแย่งขนมของหนนู าแล้ววง่ิ หนไี ป หนนู าเสียดายขนมแต่ไมร่ ู้จะทาอยา่ งไร จงึ เดนิ รอ้ งไห้ กลับบา้ น ในวนั ร่งุ ขนึ้ แม่พาหนนู าไปตลาด บรเิ วณทางเข้าตลาดเห็นคนมากมายไมร่ ยู้ นื มงุ ดูอะไรอยู่ หนูนาชะโงกหน้าไปดู เห็นตารวจยืนคมุ ตัวบอล หนูนาเรยี กแม่เขา้ มาดู แมจ่ ึงถามคุณตารวจ คณุ ตารวจบอกวา่ ด.ช.บอลไดข้ โมยเสื้อนกั เรียนในรา้ นขายเสื้อผา้ เมอ่ื วานน้ี ทางตารวจเพิ่งจบั ตัวได้ หนู นามองไปที่บอลเหน็ บอลร้องไห้และพดู กบั ตารวจว่า “ผมจะไมท่ าอกี แล้ว จะเปน็ เด็กดีครบั อยา่ จบั ผมเลย” แต่ตารวจได้แตค่ วบคุมตัวบอลไป แม่จึงพูดกับหนูนาว่า “คนนิสัยไมด่ ี เป็นขโมยจะต้องถกู ตารวจจับ เพราะการกระทาของเขาเอง หนู นาจาไวน้ ะลูก คนทาดีย่อมได้ดี คนทาชว่ั ย่อมได้รับโทษนะจ๊ะ” “ค่ะ แมห่ นนู าดีใจท่ีหนูนาเป็นเด็กดีไม่ได้ขโมยของใคร”

213 นทิ ำนเรื่องก้องอดทน (ดอน มดแดง) ณ หมู่บา้ นคนขยัน คนในหมู่บ้านนสี้ ว่ นมากจะประกอบอาชพี เกษตรกรรม ครอบครวั ของก้องก็ เหมอื นกัน ก้องเปน็ ลูกชาวสวน ทุกวนั ก่อนจะไปโรงเรยี นก้องจะเกบ็ ผักบงุ้ ท่ีสวนไปสง่ ท่ีตลาดกอ่ นเสมอโดย กอ้ งจะเก็บให้ได้วันละ 20 กา และขายกาละ 3 บาท เม่ือผักบุ้งทต่ี ลาดเสรจ็ แล้วก็องกจ็ ะรีบกลบั มาอาบน้า แต่งตวั กินขา้ วแล้วกไ็ ปโรงเรยี น ซึ่งก้องกจ็ ะไปโรงเรียนทันทุกวันไม่เคยสาย ทกุ วนั ก้องจะไดเ้ งนิ ไปโรงเรียน 10 บาท โดยก้องจะเอาข้าวไปกินทโี่ รงเรยี นด้วย ซง่ึ ก้องก็ไม่ค่อยได้ ใชอ้ ะไรนอกจากซ้ือดนิ สอ ยางลบ ไม้บรรทดั ทีห่ มดไป บางสว่ นกซ็ ื้อขนมกนิ ท่เี หลือก็เก็บหยอดกระปุกออม สนิ ไว้ เพราะก้องอยากได้กระเปา๋ ใสห่ นงั สอื ใบใหม่ ท่ีเห็นอยู่ร้านป้าบุญสม ซ่งึ ก้องเดนิ ผา่ นทุกวัน แตก่ ้องไม่ กลา้ ขอคุณแม่ เพราะสงสารคุณแมท่ ี่ต้องทางานเหน็ดเหน่ือย จงึ คิดจะเกบ็ เงนิ ไว้ซื้อเอง และจะต้องทาใหไ้ ด้ ก่อนเปดิ เทอมหน้าแนน่ อน วันหยดุ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยดุ อ่ืน ๆ ก้องก็จะไปชว่ ยลุงรังสรรคร์ ดน้าผกั และลุงรงั สรรคก์ ็ให้เงนิ บา้ ง ขนมบ้าง อาหารบา้ ง ซ่ึงกอ้ งก็เต็มใจรบั ทุกอยา่ ง โดยไม่เรยี กร้องอะไรเพ่ิมเติม เพราะคดิ ว่าเป็นการ ช่วยเหลือกนั และออกกาลังด้วย กอ้ งจงึ ดแู ขง็ แรงมากกว่าเพือ่ นๆ คนอืน่ ทุกวันก้องจะเฝ้านบั เงนิ ทหี่ ยอดในกระปุกออมสิน วา่ ไดเ้ ทา่ ไรแล้ว คุณแม่คงเห็นก้องนบั เงินบ่อย ๆ กแ็ อบหยอดเงนิ ใหบ้ ้างในบางครั้ง ๆ ไมน่ านนกั ก้องก็มเี งนิ ครบพอจะซ้ือกระเปา๋ ได้ ก้องมองเห็นกระเปา๋ ใบ ใหม่ลอยมาตรงหน้า แมเ้ วลานอนยังฝนั ถงึ เลย ก้องบอกแม่ว่าจะเอาเงินทเี่ ก็บไว้ได้ไปซอ้ื กระเป๋าใส่หนังสอื ใบใหม่ ซ่ึงแม่กบ็ อกว่าเงินนเี้ ป็นเงินของ ก้องจะเอาไปทาอะไรกไ็ ด้ แต่ของใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ก้องดีใจทแี่ ม่อนุญาตรบี ว่งิ ไปซอื้ กระเปา๋ ท่รี า้ นปา้ บญุ สม ซึ่งปา้ บญุ สมก็ใจดี ลดค่ากระเปา๋ ใหก้ ้องอีกด้วย เป็นการตอบแทนความเปน็ คนดแี ละความขยนั อดทนของก้อง ซงึ่ ปา้ บญุ สมบอกให้กอ้ งปฏิบัตอิ ยา่ งน้ตี ลอดไป เมอ่ื ก้องกลับมาถึงบ้านก้องก็บอกแมว่ า่ ปา้ บญุ สมลดคา่ กระเปา๋ ให้ แมจ่ ึงบอกว่า ป้าบญุ สมคงเหน็ ก้อง เป็นคนขยนั จึงตอบแทนความขยันของก้องด้วยการลดคา่ กระเปา๋ ให้ แมย่ ังบอกอีกว่า ถ้าเราขยันทางานเรากจ็ ะ ไดท้ กุ สง่ิ ที่เราต้องการ ขอให้ก้องจงยึดถือคาทแี่ ม่สอนตลอดไป ซึง่ ก้องก็บอกวา่ ป้าบุญสมและลุงรงั สรรค์ก็ สอนกอ้ งอยา่ งทีแ่ มส่ อนนี้เหมือนกนั และกอ้ งก็จะถือปฏบิ ัติตลอดไป

214 นทิ ำนเรื่องหนูปุ๋ยในรอ้ น (นรำธิป จนั ทรเนตร) หนูปุ้ยเปน็ เดก็ หนา้ ตานา่ รัก รปู ร่างอว้ น ผวิ ขาว มีเพือ่ นท่ีเล่นอยดู่ ว้ ยกนั คือ หนูนานา หนูบี หนู นวิ เด็กชายกอ้ ง และตน้ ตาล หนูปยุ้ เป็นเดก็ หญงิ ท่ีอารมรณ์รอ้ นและมักจะแสดงอารมณ์โกรธเพ่อื น ๆ ตลอดเวลาทเ่ี ล่นด้วยกัน บางวันก็บอกว่าหนูนวิ ไมแ่ บ่งของเลน่ ให้ ก็โกรธหนูนิว และไลห่ นนู วิ ไป บางวนั ก็บอกว่าหนนู านาแยง่ ของเลน่ และเอาของเลน่ ตบี า้ งกด็ ่าหนูนานาและไลห่ นนู านาไป บางวนั ก็บอกว่าหนบู ีแกลง้ จนหกลม้ บาดเจ็บไป ฟอ้ งคุณแม่ก็ทะเลาะกบั หนูบีและไลห่ นบู ีไป บางวันก็ตีกันกบั เดก็ ชายก้อง หากว่าเดก็ ชายก้องไมช่ ่วยทะเลาะ กบั หนูนานา ก็ไลเ่ ดก็ ชายก้องไป วนั น้ีหนปู ุ้ยมาเลน่ กบั ตน้ ตาล และแย่งของเบน่ กันกับตน้ ตาล หนปู ้ยุ แย่งสูไ้ มไ่ ด้ใช้บรรทัดตหี ัวต้นตาล จนหัวโน ตน้ ตาลร้องไหไ้ ปบอกคุณยา่ คุณย่าของตน้ ตาลก็บอกวา่ ไมต่ ้องไปเลน่ กบั หนปู ุ้ยอีกแลว้ ไปเล่นกบั เพือ่ น ๆ คนอ่นื ที่ไมร่ งั แกเพอ่ื นอย่างหนูปยุ้ วันน้หี นูปุ้ยจึงเลน่ คนเดยี วไมม่ ีเพือ่ นมาเลน่ ดว้ ย เมอ่ื หนปู ยุ้ ทนไม่ไดก้ ็มาขอเลน่ กับเพื่อน ๆ ทกุ คนก็ บอกว่าถ้าอยากเล่นด้วยหนูป้ยุ จะต้องไม่อารมณ์รอ้ นและทะเลาะกบั เพื่อน ๆ อีก ไม่อย่างน้ันจะไม่ให้เลน่ ดว้ ย ตลอดไป ซ่ึงหนปู ุย้ ก็รับปาก ทุกคนจึงให้หนปู ้ยุ เล่นด้วย และคอยดวู ่าหนปู ุย้ เลน่ ไม่ไดเ้ มื่อไร ทุกจะเลิกคบกับ หนปู ยุ้ ทนั ที

215 กำรละเลน่ ตจี่ ับ อปุ กรณ์และวธิ ีกำรเลน่ การเล่นตจี่ ับต้องแบ่งผเู้ ล่นออกเป็นสองฝ่าย ฝา่ ยละเทา่ ๆ กนั มีเส้นแบ่งเขตตรงกลาง ต้องตกลงกนั วา่ ฝ่ายใดจะเป็นฝา่ ยรุกไปก่อน คนหน่งึ ท่ีเป็นฝา่ ยรุกจะเรม่ิ ขา้ มเขต พอเขา้ เขตฝ่ายตรงข้ามกต็ ้องร้อง “ต่”ี ไมใ่ ห้ขาดเสยี ง แลว้ ว่ิงเอามือแตะตัวคนใดคนหนงึ่ ในฝ่ายรบั แต่จะหยดุ หายใจไม่ได้ ในขณะทีร่ อ้ ง “ต่”ี นน้ั ฝา่ ย รบั ก็จะพยายามจบั คนท่ีร้อง “ต่”ี ไว้ ถ้าคนรอ้ ง “ต่ี” เห็นวา่ จะสู้ไม่ได้หรอื จะต้องถอนหายใจ ตอ้ งรบี ถอยมาให้ พ้นเส้นแบง่ เขต ถา้ ถอยไมท่ ันผู้ร้อง “ต่ี” หยดุ ถอนหายใจก็จะตอ้ งถกู จับตวั ไวเ้ ป็นเชลย แตถ่ า้ คนทร่ี ้อง “ต่ี” แตะตัวฝา่ ยรบั ได้ คนทถ่ี ูกแตะก็เป็นเชลยฝ่ายน้ี ฝา่ ยท่ีไดเ้ ชลยกจ็ ะสง่ คนร้อง “ต่ี” ไปแตะคนท่อี ยู่ฝ่ายตรงข้าม อกี ถา้ ยังจับไม่ได้กผ็ ลดั กนั รุกคนละครัง้ จนกวา่ จะกวาดเชลยได้หมดก็ขน้ึ ตาใหม่ โอกำสหรือเวลำทีเ่ ล่น มักจะเลน่ ในเวลาว่างจากภารกจิ ทัง้ ปวง เชน่ เวลาพักหลังเลกิ เรยี น หรอื ภายหลังจากทางานบา้ นเสร็จ เรียบรอ้ ยแล้ว ประโยชนแ์ ละคุณค่ำ การเลน่ ต่ีจบั เป็นการฝึกการใช้กาลงั ฝึกความวอ่ งไว และความอดทน นอกเหนือไปจากความ สนุกสนานเพลิดเพลิน

216 เรือ่ ง ใบงำน จุดประสงค์ เดก็ ดีมวี นิ ยั 1. เพ่อื พัฒนาความคิดสรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการ คำส่ัง 2. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถวาดภาพ และระบายสภี าพที่กาหนดใหไ้ ด้ ให้เด็กวาดภาพเด็กดีมีมารยาทดตี ามความคิดจนิ ตนาการของตนเอง แลว้ ระบายสใี ห้สวยงาม ผูป้ ระเมนิ ครู ผู้ประเมนิ ผปู้ กครอง เกณฑก์ ำรประเมิน เกณฑก์ ำรประเมิน ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรุง ปรบั ปรุง ผปู้ ระเมนิ ตนเอง ผู้ประเมิน เพ่ือน เกณฑ์กำรประเมิน เกณฑ์กำรประเมิน ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรงุ ปรบั ปรุง

217 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 56 ชนั้ อนุบำลปีที่ 2 สำระทคี่ วรเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื งรำวเกี่ยวกับบคุ คลและสถำนทีแ่ วดลอ้ มเดก็ หน่วย ฉันรกั ชาติไทย เร่ือง วนั สาคญั ของชาติ สัปดำห์ที่ 12 ลำดับวนั ท่ี 56 ครูผ้สู อน คุณครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ประเทศไทยมีวนั สาคัญมากมาย ทง้ั วนั สาคัญของชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ ซ่ึงในแต่ละวนั กม็ ี ท่ีมาของความสาคัญ และมกี ารจดั กิจกรรมที่แตกตา่ งกนั ออกไปซงึ่ ในฐานะท่เี ราเปน็ คนไทยควรศึกษาและ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมให้เหมาะสม 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพื่อใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั วันสาคัญของชาติ และสามารถร่วมกจิ กรรมตา่ ง ๆ อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 2.2 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏบิ ัติตามสัญญาณและคาสัง่ ได้ 2.3 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองทีส่ นทนาได้ 2.5 เพ่ือพัฒนากล้ามเนือ้ ใหญ่และกล้ามเนื้อเลก็ 2.6 เพ่ือให้เด็กสามารถนาช้นิ สว่ นของภาพมาต่อให้เปน็ ภาพที่สมบูรณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 วนั สำคญั ของชำติ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การสร้างแบบจาลองตา่ ง ๆ ด้วยดินเหนยี ว ดนิ นา้ มัน แท่งไม้ ฯลฯ 3.2.2 การเชือ่ มโยงภาพ ภาพถา่ ยและรปู แบบตา่ ง ๆ กับส่งิ ของหรือสถานทจี่ รงิ 3.2.3 เพอื่ ให้เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกีย่ วกับเรื่องที่สนทนาได้ 3.2.4 เพ่ือพฒั นากลา้ มเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเน้อื เล็ก 3.2.5 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถนาชิน้ ส่วนของภาพมาต่อให้เปน็ ภาพที่สมบูรณ์ได้ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมขัน้ พ้นื ฐาน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทว่ั ๆ บริเวณอยา่ งอสิ ระตามจังหวะ เมอ่ื ได้ยนิ สญั ญาณหยุดให้หยุดเคล่ือนไหวในทา่ นน้ั ทนั ที

218 4.1.2 เดก็ และครรู ว่ มกั นสมมตุ ิมมุ 3 มุมใหห้ ้องเรียน ดังนี้ มุมดอกมะลิ มมุ ตลาดสด มมุ พยาบาล 4.1.3 ให้เด็กเคลื่อนไหวอย่างอสิ ระตามจังหวะ เมอ่ื ได้ยินสัญญาณหยุด ใหห้ ยุดเคล่ือนไหว แล้วฟังคาสัง่ เช่น - ดอกไมม้ ีกล่ินหอม ใหเ้ ดก็ ไปที่มุมดอกมะล - ซอ้ื อาหาร ใหเ้ ด็กไปที่มมุ ตลาดสด - พาแม่ไปหาหมอ ให้เด็กไปที่มมุ พยาบาล 4.1.4 เด็กและครูร่วมกนั กาหนดข้อตกลงข้นึ ใหม่และปฏิบตั ิกจิ กรรมในข้อ 4.1.3 นี้ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูชว่ ยกันจัดโตะ๊ เพื่อใช้ฝกึ กิจกรรมการปน้ั ดนิ นา้ มัน โดยครูอธบิ ายขนั้ ตอน การปฏิบตั ิใหเ้ ด็กฟัง เสรจ็ แลว้ ครูแจกดินนา้ มนั และแผน่ รองปนั้ ใหเ้ ดก็ คนละ 1 ชุด และลงมือปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามความคดิ และจนิ ตนาการของตนเอง อย่างอสิ ระ โดย ครูคอยดูแลอยูห่ า่ ง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดที่ทาเสรจ็ ตามท่กี าหนดใหแ้ ล้ว ให้เดก็ นาผลงานมาใหค้ รูดูพร้อมกับบอก ชอ่ื ผลงาน วธิ ีการทา ใหค้ รูทราบด้วย ถา้ ผลงานใดเหมาะสมน่าเกบ็ ไวก้ ็แนะนาให้ เด็กเก็บไวใ้ นกล่องสะสมผลงานของตนเอง โดยครเู ขยี นชอ่ื เดก็ ช่ือผลงาน ความหมาย และวนั เดือนปที ่ีทาใหเ้ ดก็ ด้วย 4.2.3 สาหรับเด็กที่ทาเสร็จแลว้ หรือกาลังรอโต๊ะว่าง ให้เลน่ ตามมุมอย่างอิสระ รอเพอ่ื น ๆ 4.2.4 เมือ่ เด็กปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็จทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาด พ้ืนทแี่ ละช่วยกนั เก็บสิ่งของต่าง ๆ เข้าทใี่ ห้เรยี บร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครรู ว่ มกันร้องเพลง “ถวายพระพร” โดยครูใหเ้ ด็กฟังจากเทป แล้วฝึกร้อง รว่ มกนั จนสามารถร้องไดค้ ล่อง 4.3.2 ครใู หเ้ ดก็ ฝกึ ทาทา่ ทางประกอบเพลงอย่างอสิ ระ โดยครูอาจจะแสดงใหเ้ ด็กดูก่อนก็ ได้ 4.3.3 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกยี่ วกับความหมายของเพลงและโอกาสท่ีใชเ้ พลงน้ี 4.3.4 เดก็ และครสู นทนารว่ มกนั เกี่ยวกับวันสาตัญของชาติ ไม่ว่าจะเปน็ ในทางศาสนาหรือ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ โดยครอู ธิบายให้เด็กฟังว่า ควรเขา้ ร่วมกจิ กรรมในวนั สาคัญตา่ ง ๆ เหลา่ นด้ี ว้ ยความเตม็ ใจ เป็นการฝึกการปรบั ตวั ให้เข้ากับบุคคลอ่ืนได้ 4.3.5 เดก็ และครูสนทนา สรปุ และร่วมกนั กาหนดแนวทางในการปฏิบตั ิตนเนอ่ื งในวัน สาคัญตา่ ง ๆ และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้

219 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรียงสอง เดนิ จบั มือกนั เปน็ คู่ ๆ ลงสนาม เม่อื ถึงสนามแลว้ ใหเ้ ด็ก อบอุ่นรา่ งกายโดยการวิง่ เหยาะ ๆ อย่กู ับที่ 2 – 3 นาที 4.4.2 ใหเ้ ดก็ น่งั เปน็ รปู วงกลม ปรบมอื พรอ้ มกนั เปน็ จงั หวะ เลน่ มอญซ่อนผา้ ครูไดบ้ อก วธิ กี ารเล่น วธิ ีกำรเล่น การละเลน่ แสนสนุกที่ทาใหผ้ ู้เล่นได้ลนุ้ ไปดว้ ย โดยใช้อปุ กรณ์เพียงแค่ ผ้าผนื เดยี วเท่านัน้ แล้วให้ผู้เล่นเส่ียงทาย ใครแพ้คนน้ันต้องเปน็ \"มอญ\" สว่ นคนอน่ื ๆ มานั่งล้อมวง คนทเ่ี ปน็ \"มอญ\" จะตอ้ งถือผ้าไวใ้ นมือแล้วเดนิ วนอยูน่ อกวง จากนน้ั คนนั่งในวงจะร้องเพลงวา่ \"มอญซ่อนผำ้ ตุก๊ ตำอยูข่ ้ำงหลัง ไว้โน่นไวน้ ่ี ฉนั จะตีกน้ เธอ\" ระหวา่ งเพลงรอ้ งอยู่ คนทีเ่ ป็น \"มอญ\" จะแอบท้ิงผา้ ไว้ข้างหลงั ผูเ้ ลน่ คนใด คนหนง่ึ แตเ่ มื่อทิ้งผ้าแล้ว จะแกล้งทาเป็นยังไม่ท้ิง โดยเดนิ วนไปอกี 1 รอบ หากผูท้ ี่ ถกู ท้ิงผ้าไม่รูต้ ัว \"มอญ\" จะหยิบผ้ามาตีหลังผู้เล่นคนนนั้ แล้วต้องกลายเป็น \"มอญ\" แทน แต่หากผเู้ ล่นรู้ตวั วา่ มีผ้าอย่ขู ้างหลงั กจ็ ะหยบิ ผ้ามาวง่ิ ไลต่ ี \"มอญ\" รอบวง \"มอญ\" ต้องรีบกลับมานัง่ แทนที่ผ้เู ลน่ คนน้นั แลว้ ผู้ทว่ี ่ิงไลต่ ้องเปล่ียนเปน็ \"มอญ\" แทน 4.4.3 ครปู ลอ่ ยใหเ้ ด็กได้เลน่ อย่างอิสระ 5 – 10 นาที โดยคอยดูแลอย่างใกล้ชิด 4.4.4 เมอ่ื ไดเ้ วลาพอสมควร ครใู หเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ลา้ งหน้า ล้างมือ ทา ธุระส่วนตัว กลับเข้าห้องเรยี นเพื่อเตรียมตัวไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับเกมจบั คู่ภาพสมั พนั ธ์แม่ ลกู โดยครูแนะนา วิธกี ารเลน่ เกมใหเ้ ด็กฟงั 4.5.2 ครแู บ่งเด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ เล่นเกมชุดใหมท่ ่ีครแู นะนา สลบั เกมทเี่ คยเล่นมาแล้ว หรือเคร่ืองเล่นสมั ผัส 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลน่ เกมเสรจ็ แล้ว ครแู นะนาใหช้ ่วยกันเก็บสิ่งของต่าง ๆ เขา้ ที่ใหเ้ รียบร้อย 5. ส่ือกำรเรียนรู้ / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ดนิ นา้ มัน และแผน่ รองปนั้ 5.2 เพลงถวายพระพร 5.3 เกมจับคูภ่ าพสัมพนั ธแ์ มล่ ูก 5.4 มอญซ่อนผ้า

220 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัติตามสญั ญาณ และคาสัง่ 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการเแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลการป้ัน 6.2 เครือ่ งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการปั้น 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

221 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 57 ชัน้ อนุบำลปีท่ี 2 สำระที่ควรเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ งรำวเก่ยี วกับบุคคลและสถำนท่แี วดลอ้ มเดก็ หนว่ ย ฉันรักชาติไทย เรือ่ ง วันแมแ่ หง่ ชาติ สัปดำหท์ ่ี 12 ลำดับวันท่ี 57 ครผู ูส้ อน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ประเทศไทยมวี ันสาคัญมากมาย ทง้ั วนั สาคญั ของชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ วนั แมแ่ หง่ ชาติ เปน็ วันท่ีสาคญั ของชาติ โดยถือเอาวันท่ี 12 สงิ หาคม ของทุกปี ในวนั นม้ี ีกิจกรรมท่ีมากมาย เพ่อื ระลกึ ถึง บุญคณุ ของแม่ ดงั นนั้ เราควรเขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีจัดขน้ึ ในวันนอ้ี ย่างเตม็ ใจและมคี วามสขุ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั วันสาคญั ของชาติ และสามารถร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ อย่างถูกต้อง เหมาะสม 2.2 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถปฏิบตั ิตามสญั ญาณและคาสงั่ ได้ 2.3 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสร้างสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพื่อให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเก่ยี วกับเร่ืองท่ีสนทนาได้ 2.5 เพื่อพฒั นากล้ามเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเน้ือเลก็ 2.6 เพ่ือให้เดก็ สามารถนาช้นิ ส่วนของภาพมาตอ่ ใหเ้ ปน็ ภาพท่สี มบูรณ์ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 วันแม่แหง่ ชำติ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การเขียนภาพและระบายสีอสิ ระ 3.2.2 การแสดงความร้สู ึกด้วยคาพูด 3.2.3 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดับเหตกุ ารณ์ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพืน้ ฐาน ให้เด็กเคลือ่ นไหวรา่ งกายไปทวั่ ๆ บรเิ วณอย่างอิสระ เม่ือได้ยิน สัญญาณหยุดใหห้ ยดุ เคลือ่ นไหวในท่านัน้ ทันที 4.1.2 ครูขดี วงกลมใหญ่ ภายในหอ้ ง 1 วง 4.1.3 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกยี่ วกบั ความหมายของคาว่า ข้างนอก และขา้ งใน โดย ครอู ธบิ ายและสาธิตใหเ้ ด็กทราบ

222 4.1.4 ให้เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายและอิสระเม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ให้ปฏิบัติตามข้อตกลง เช่นถ้าครูพดู ว่าขา้ งในให้เด็กทาทา่ ทางต่าง ๆ แล้วเข้าไปในวงกลม ถ้าครพู ูดวา่ ข้าง นอกก็ใหเ้ ด็กออกมานอกวงกลม 4.1.5 ใหเ้ ด็ก ๆ ไดป้ ฏิบัติกจิ กรรมนี้ซ้าหลาย ๆ เทย่ี ว จนเด็กสามารถทราบความหมายของ คาวา่ ขา้ งนอก และ ข้างใน อยา่ งชดั เจน 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เด็กและครชู ้วยกนั จัดโต๊ะเพอ่ื ใช้ฝกึ กจิ กรรมการวาดภาพดว้ ยสีเทยี น โดยครูอธบิ าย ข้ันตอนการวาดให้เด็กดู เสร็จแลว้ ครูแจกใบงานให้เด็กคนละ 1 แผ่น สนทนา รว่ มกนั เกยี่ วกับรายละเอยี ดในใบงาน แล้วให้ลงมือปฏิบตั ิกิจกรรมตามคาสงั่ ในใบ งาน และสรา้ งสรรคง์ านอย่างเสรี ตามความคิดและจินตนาการของตนเอง 4.2.2 เดก็ คนใดท่ปี ฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ูพร้อมกบั บอกช่อื ผลงาน วธิ ีการทา ให้ครูทราบดว้ ย ถา้ ผลงานใดเหมาะสมนา่ เก็บไว้ก็แนะนาใหเ้ ด็กเกบ็ ไว้ใน กล่องผลงานของตนเอง โดยครเู ขยี นช่ือเด็ก ช่ือผลงาน ความหมาย และวันเดือน ปีที่ทาใหเ้ ด็กดว้ ย 4.2.3 สาหรับเดก็ ทท่ี าเสร็จแล้ว หรือกาลงั รอโต๊ะว่างใหเ้ ล่นตามมุมอย่างอสิ ระรอเพื่อน ๆ 4.2.4 เม่อื เด็กปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเสรจ็ ทุกคนแล้ว ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกนั ทาความสะอาด พืน้ ทีแ่ ละช่วยกนั เก็บสงิ่ ต่าง ๆ เขา้ ที่ให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเกยี่ วกับวันแมแ่ ห่งชาติ โดยครูให้เดก็ ดูภาพพระบรมฉายา ลักษณ์ของสมเด็กพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ แลว้ ช่วยกนั ตอบคาถาม เชน่ - เดก็ ทราบหรือไมว่ า่ ภาพทเ่ี ด็กดูเป็นภาพของใคร - เด็กเคยเหน็ ภาพของบคุ คลเหล่าน้ีทไ่ี หนบ้าง ฯลฯ 4.3.2 ครูเล่าพระราชประวตั ยิ ่อ ๆ ของสมเดจ็ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชีนีนาถให้เด็กฟัง 4.3.3 ครนู าหนงั สือพิมพม์ าใหเ้ ด็กเช่วยกันคน้ หาภาพที่เป็นภาพพระราชกรณียกจิ ของ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ เม่ือพบแล้วให้เลือกตดั มาคนละ 1 ภาพ นามาอภิปรายสรปุ ร่วมกนั เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั ความหมายของคาวา่ “วนั แม่” โดยครู อธิบายให้เด็กฟังอยา่ งง่าย ๆ 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ครูให้เด็กเดนิ ลงสนามอย่างอิสระ เมือ่ ถึงสนามแลว้ ให้เด็กอบอุน่ รา่ งกายโดยการ กระโดดอยู่กับท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูร่วมกันแบ่งกลุ่มเพ่ือเลน่ เกมวิง่ เป้ยี ว เสร็จแลว้ ให้เด็กไดเ้ ล่นแขง่ กนั แตล่ ะ กลมุ่ จนไดผ้ ชู้ นะ โดยครูคอยเปน็ กรรมการ และดแู ลความปลอดภยั อย่างใกลช้ ิด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook