Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อ.2 เทอม1

อ.2 เทอม1

Description: อ.2 เทอม1

Search

Read the Text Version

323 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 85 ช้นั อนุบำลปีที่ 2 สำระที่ควรเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ งรำวเก่ยี วกับบุคคลและสถำนทแี วดล้อมตวั เดก็ หนว่ ย ชุมชนของฉัน เรอ่ื ง อาชีพท่ีดี สปั ดำหท์ ่ี 17 ลำดับวันท่ี 85 ครผู สู้ อน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วดั ท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ อาชีพที่สจุ ริตเปน็ อาชพี ที่ทาถูกต้องตามกฎหมายซึ่งมีอยูม่ ากมาย ฉันต้องเรยี นหนงั สือและศึกษาหา ความรู้ใหม้ ากทสี่ ุด จึงจะสามารถเลือกอาชีพที่ชอบได้ ถา้ ทางานมีอาชีพทีส่ ุจริตเราจะอยู่ในสังคมไดอ้ ย่างมี ความสุข 2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ให้เดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความแตกตา่ งของบุคคลในชมุ ชน อาชีพ ความสามารถของบคุ คล การทากจิ กรรมและดาเนนิ ชีวิตได้อย่างมีความสุข 2.2 เพื่อให้เดก็ สามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญาณทีก่ าหนดให้ได้ 2.3 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิจนเป็นผูน้ า ผตู้ ามได้เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่าสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเก่ยี วกับเรือ่ งทีส่ นทนาได้ 2.5 เพื่อให้เด็กสามาปรับตัวในการเลน่ ร่วมกับคนอื่นได้ 2.6 เพือ่ ให้เดก็ สามารถนาชินสว่ นของภาพท่สี ัมพนั ธ์กันมาจดั เขา้ คู่กันได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 อำชพี ของฉัน 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การแสดงความรสู้ ึกด้วยคาพูด 3.2.2 การพดู กบั ผ้อู ื่นเกยี่ วกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรือเลา่ เร่ืองเก่ยี วกับตนเอง 3.2.3 การวางแผนตดั สนิ ใจเลอื ก ลงมอื ปฏบิ ตั ิ 3.2.4 การสารวนและอธบิ ายความเหมือน ความต่างของสง่ิ ตา่ ง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมกำรเคล่ือนไหวและจงั หวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมข้ันพื้นฐาน ให้เด็กเคลอื่ นไหวร่างกายไปทั่ว ๆ บรเิ วณ อย่างอิสระตาม จังหวะเมอื่ ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในทา่ นนั้ ทันที

324 4.1.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกบั อนาคตว่า เด็ก ๆ ใฝ่ฝนั จะประกอบอาชพี ใด 4.1.3 เด็กและครรู ่วมกนั กาหนดมุมอาชีพต่าง ๆ ไว้ 6 มุม คือ มมุ หมอ มุมแม่ค้า มมุ ทหาร มมุ ครู มุมเกษตร และมุมอืน่ ๆ 4.1.4 ให้เดก็ เคล่ือนไหวร่างกายโดยอิสระ เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยุด ให้หยุดเคล่อื นไหวแล้ว ไปรวมทม่ี ุมอาชีพท่ตี นเองชอบ ผไู้ มช่ อบอาชีพใดเลยในมุมที่กาหนดให้ไปท่ีมุมอน่ื ๆ 4.1.5 ให้เด็กปฏิบัติกิจกรรมนี้อีก 2 – 3 รอบ 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกันจัดโต๊ะเพื่อใชฝ้ กึ กจิ กรรมการตดั ฉีก ปะ กระดาษ เสรจ็ แลว้ ครู อธบิ ายขัน้ ตอน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ให้เดก็ ดู แล้วใหล้ งมือปฏิบัตติ ามความคิด และ จินตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครคู อยดูแลอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เมอื่ ปฏิบัตกิ ิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกช่ือผลงานและวธิ ีการทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ ก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครูเขยี นชื่อ ผลงาน ชอื่ เด็ก วนั เดือนปีท่ีทากากบั ไวด้ ว้ ย 4.2.3 เม่อื เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรมครบทุกคนแล้ว ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกนั จดั เกบ็ สิ่งของ อุปกรณต์ า่ ง ๆ เข้าที่ให้เรียบรอ้ ย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครูรว่ มกันท่องคาคล้องจอง “อาชพี คนไทย” โดยครูท่องให้เดก็ ฟังก่อน แลว้ จงึ ให้ทอ่ งตาม เสรจ็ แลว้ สนทนารว่ มกนั เกย่ี วกับเนื้อหาในคาคลอ้ งจอง 4.3.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั อาชพี ตา่ ง ๆ โดยครชู ่วยแนะนาว่าการท่ีจะไป ประกอบอาชีพต่าง ๆ เหลา่ นี้ไดต้ ้องศึกษาหาความรใู้ สต่ วั ให้มาก ๆ และทุกคน สามารถตงั้ ความหวงั กับอาชพี ต่าง ๆ น้ันได้ 4.3.3 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันโดยให้เดก็ แตล่ ะคนบอกวา่ โตขนึ้ อยากประกอบอาชีพใด มากทสี่ ดุ เพราะอะไร และให้เดก็ วาดภาพอาชีพของแน ตามความคิดและ จนิ ตนาการของเด็ก 4.3.4 เดก็ และครสู นทนาสรปุ รว่ มกันเก่ียวกับอาชีพทีใ่ ฝ่ฝนั ในอนาคตของเด็กโดยครูให้ กาลงั ใจทุกคน ให้ต้ังในเรยี นหนังสือ และทากจิ กรรมต่าง ๆ และเนน้ ให้เด็กทราบวา่ อาชีพสุจรติ ทุกอาชีพมเี กียรติทงั้ นนั้ 4.3.5 เด็กและครรู ว่ มกันท่องคาคล้องจอง “อาชีพคนไทย”อีกครั้ง 4.4 กิจกรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เดก็ ต้งั แถวตอนเรยี ง 4 ปรบมือและกระโดดลงสนาม เมือ่ ถึงสนามแล้วครใู หเ้ ดก็ อบอุน่ ร่างกายโดยการกระโดดอยกู่ บั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั การเลน่ เกมที่ผ่าน ๆ มา วา่ ใครอย่าเล่นเกมอะไร อกี เสรจ็ แล้วจัดให้เดก็ ไดเ้ ล่นเกมทเ่ี ด็กอยากเลน่ คือ มอญซ่อนผ้า

325 4.4.3 ครใู ห้เด็กเลน่ เกมทีเ่ ลือกอยา่ งอสิ ระ สาหรับเดก็ ทต่ี ้องการเล่นเครื่องเลน่ อนื่ ๆ ก็ ปล่อยให้เดก็ เล่นตามความต้องการ 4.4.4 เมอื่ ได้เวลาพอสมควรแลว้ ครูใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างมือ ทาธรุ ะ ส่วนตวั กลบั เขา้ ห้องเรียน เพื่อเตรยี มตัวไปรับประทานอาหาร 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั เกมหาความสัมพนั ธ์ภาพแบบอปุ มา อุปไมย โดย ครูแนะนาวิธกี ารเล่นเกมให้เด็กฟงั 4.5.2 แบง่ เดก็ เปน็ กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลน่ เกมชดุ ใหม่ สลับกบั เกมทีเ่ คยเลน่ มาแลว้ 4.5.3 เมอ่ื เด็กเล่นเกมเสรจ็ แลว้ ครแู นะนาใหช้ ว่ ยกันเกบ็ สิง่ ของต่าง ๆ เขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 5. สอ่ื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 กาว กรรไกร กระดาษ 5.2 คาคล้องจอง อาชพี คนไทย 5.3 มอญซ่อนผ้า 5.4 เกมหาความสัมพันธภ์ าพแบบอปุ ม อุปไมย 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัติตามสัญญาณ และคาสง่ั 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม การแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่ืองที่สนทนา 6.1.3 ตรวจผลงานการตดั ฉีก ปะ กระดาษ 6.2 เคร่ืองมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตดั ฉีก ปะ กระดาษ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรงุ

326 ภาคผนวก เพลงกำยบริหำร ชมู ือข้นึ โบกไปมา (ศรนี วล รตั นสุวรรณ) ชูมอื ขึน้ โบกไปมา พับแขนมือแตะไหล่ กามือขนึ้ แลว้ หมนุ หมนุ ชูมอื ขน้ึ หมนุ ไปรอบตวั กามือข้นึ แล้วหมนุ หมุน กางแขนข้ึนและลง กางแขนขึ้นและลง คำคล้องจอง อำชีพคนไทย แข็งแกร่งเหลอื เกนิ (นรำธิป จันทรเนตร) สู้งานสบาย ทหาร ทนาย คนไทยคนเก่ง กวดขันเดก็ เด็ก ทางานมากมาย ขับเครื่องบินใหญ่เล็ก เป็นหมอรักษา ทานาทง้ั ปี เป็นครเู ข้มงวด เปน็ เศรษฐีมากมาย เปน็ นักบนิ ทาดไี ม่เสยี หลาย เปน็ ชาวนา ขอให้สุจรติ เอย คา้ ขายกม็ ี อาชีพดีดี หากประกอบอาชีพใด

327 นทิ ำนเรื่อง มือของฉัน (นรำธปิ จันทรเนตร) มือของฉันมนี ว้ิ 5 น้วิ คอื นว้ิ โปง้ พีใ่ หญ่ นิว้ ช้ถี ดั ไป นิ้วกลางสงู โยง่ น้วิ นางน้องรอง นิว้ ก้อยน้องเล็ แต่ ละน้ิวก็มคี วามสาคัญและความสามารถที่แตกต่างกนั ไป น้ิวโป้งกบั นิ้วชีร้ วมกันหยบุ ของและอาหรเข้าปากได้ น้วิ ช้ี นิว้ กลาง นว้ิ นาง และนวิ้ กอ้ ย กร็ วมกนั เกาหลงั ท่ีหนั ใหห้ ายได้ น้วิ ทงั้ 5 เมื่อรวมกันกส็ ามารถบีบหรือ ปั้นดินน้ามันทคี่ ุณครูให้ทาได้ นิ้วของฉนั ทุกนิ้วมีความสาคัญ และหากนวิ้ ของฉนั นิ้วใดไม่ทางาน มือของฉนั ก็ จะไม่มปี ระโยชน์ นิ้วของฉนั จึงไม่ทะเลาะกัน เพราะทกุ นว้ิ รู้วา่ ตนเองมีคา่ นิว้ กอ้ ยเปน็ ตัวแทนสาหรับคืนดีเมื่อ ฉนั ทะเลาะกับเพื่อน ๆ น้วิ นางของฉันมีแหวนประดบั สวยงาม แตน่ ิ้วอน่ื ๆ ก็ไม่เคยอจิ ฉากัน คนเราก็เหมือนกัน มีความสาคัญ ความสามารถท่แี ตกตา่ งกันไป ฉนั จงึ ไมอ่ จิ ฉาเพื้อน และเพือ่ นกไ็ ม่ อจิ ฉากัน เพราะเราทุกคนร้วู า่ ไม่มปี ระโยชน์อะไรเลยท่จี ะอิจฉากัน คณุ ครูก็บอกวา่ คนเรามีความแตกตา่ งกันทั้งร่างกายและความสามารถ ฉนั และเพอื่ นกเ็ ชื่อคณุ ครูและ ไม่เคยอิจฉากนั ด้วย นิทำนเรือ่ งผกู้ ล้ำหำญ (จินตนำ คำอำจ) วันหน่งึ หนูแป้ง ไปตลาดกับคุณแม่ เวลาข้ามถนน หนแู ป้งเห็นผู้ชายทา่ ทางใจดี สวมชดุ สีกากี โบกไม้ โบกมือ และเปา่ นกหวดี รถจะหยุด คุณแม่จงึ พาหนูแป้งขา้ มถนนไป ทาให้เธอสงสัยมากจึงถามคุณแมว่ ่า “คุณแม่ขา ใครคะน่ัน” “ตารวจจราจรจ๊ะ” คุณแมต่ อบ “ตารวจมีหน้าทจี่ ับผ้รู า้ ยไม่ใช้หรอื คะ แล้วมาโบกรถทาไม” หนแู ปง้ ถามต่อ “ตารวจเป็นผ้พู ิทักษ์สันตริ าษฏร คอื ทั้งจับผรู้ ้ายดแู ลผู้คนให้ปลอดภยั ทั้งทางร่างกายทรัพยส์ ิน จึงมี หนา้ ที่หลายอยา่ ง ยงั เปน็ ผู้กล้าหาญทห่ี น้ายกย่องด้วยนะลูก”คณุ แมบ่ อกต่อ “คะ่ ตารวจนเ่ี ก่งจังเลย คณุ พ่อนา่ จะเปน็ ตารวจนะคะ หนจู ะได้อวดเพื่อน ๆ”หนแู ป้งพูด “คณุ พอ่ ก็เป็นทหารน่จี ๊ะ” คุณแม่ค้าน “กใ็ ช่ค่ะ แตค่ ุณพ่อไมก่ ล้าหาญอย่างคุณตารวจน่คี ะ” หนแู ปง้ แย้ง “ใครวา่ ละลูก ตารวจกบั ทหารเป็นผกู้ ล้าหาญเหมือนกนั แตม่ ีหนา้ ทไี่ มเ่ หมือนกัน เพราะทหารต้อง ปกปอ้ งประเทศชาตจิ ากศตั รูภายนอกประเมศ สว่ นตารวจปกปอ้ งประชาชนจากภยั ที่เกิดจากคนในประเทศ ด้วยกนั ดงั นนั้ ทั้งทหาร และตารวจจงึ มคี วามสาคญั เทา่ กันนะลกู ” คุณแม่อธบิ าย “ค่ะ คณุ แม่ หนดู ีใจท่ีมีคุณพ่อกล้าหาญปกป้องคนในประเทศทุกคนเลย” หนูแปง้ พูดเสียงดัง คุณแม่ ดุ ไม่ใหเ้ สยี งดงั และพาหนูแป้งไปซื้อของทต่ี ลาด เพอื่ กลับไปทาอาหารเยน็ ในคา่ น้ี

328 กำรละเลน่ มอญซ่อนผ้ำ การละเลน่ แสนสนกุ ทที่ าใหผ้ เู้ ล่นไดล้ นุ้ ไปดว้ ย โดยใชอ้ ุปกรณเ์ พียงแค่ผ้าผืนเดียว เทา่ นัน้ แล้วให้ผูเ้ ลน่ เสย่ี งทาย ใครแพ้คนน้นั ตอ้ งเปน็ \"มอญ\" สว่ นคนอ่ืน ๆ มาน่ังล้อมวง คนทเ่ี ปน็ \"มอญ\" จะตอ้ งถือผ้าไวใ้ นมือแล้วเดินวนอย่นู อกวง จากนัน้ คนนั่งในวงจะรอ้ งเพลงว่า \"มอญซ่อนผ้ำ ตกุ๊ ตำอยขู่ ้ำง หลงั ไวโ้ น่นไว้นี่ ฉันจะตกี น้ เธอ\" ระหวา่ งเพลงร้องอยู่ คนทเี่ ป็น \"มอญ\" จะแอบท้งิ ผ้าไว้ขา้ งหลงั ผูเ้ ล่นคนใดคนหน่งึ แตเ่ มื่อทิ้ง ผ้าแลว้ จะแกลง้ ทาเป็นยังไม่ทิ้ง โดยเดินวนไปอีก 1 รอบ หากผู้ที่ถูกทง้ิ ผ้าไมร่ ู้ตวั \"มอญ\" จะหยบิ ผ้ามาตีหลงั ผู้เล่นคนนัน้ แลว้ ต้องกลายเป็น \"มอญ\" แทน แตห่ ากผ้เู ลน่ รู้ตัวว่ามผี ้าอยขู่ า้ งหลงั ก็จะหยิบผา้ มาวิง่ ไล่ตี \"มอญ\" รอบวง \"มอญ\" ตอ้ งรีบกลับมาน่งั แทนทผ่ี ูเ้ ลน่ คนนั้น แลว้ ผูท้ ่ีว่งิ ไลต่ ้องเปล่ยี นเป็น \"มอญ\" แทน

329 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 86 ชน้ั อนุบำลปีท่ี 2 สำระท่ีควรเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ งรำวเกยี่ วกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตวั เด็ก หน่วย ชมุ ชนทรี่ ัก เร่ือง ฉันรักชุมชน สัปดำห์ที่ 18 ลำดบั วันที่ 86 ครูผ้สู อน คุณครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในชุมชนของเรามีคนอาศยั อยู่จานวนมากถือว่าเปน็ เพื่อนบา้ นกันซึ่งอาจมีฐานะตา่ งกัน มอี าชีพ ตา่ งกนั มบี า้ นเรือนอยตู่ ิดกัน การไปมาหาส่กู นั ความใกลช้ ิดสนิมสนมกนั ทาใหเ้ กิดความรกั ในชุมชมเพราะเรา สามารถการพึ่งพาอาศัยกนั ได้ 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพ่ือใหเ้ ด็กมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับความหมายของเพื่อนบ้าน ซง่ึ อาจมฐี านะต่างกนั มี อาชพี ต่างกนั ความใกล้ชิดสนิมสนมกัน ทาให้สามารถการพ่ึงพาอาศัยกัน สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพือ่ ให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และคาบรรยาย 2.3 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อยา่ งสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพอื่ ให้เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเก่ียวกับเรอื่ งทีส่ นทนาได้ 2.5 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถปรบั ตัวในการเลน่ ร่วมกนั คนอ่ืนได้ 2.6 เพื่อให้เด็กสามารถเล่นเกมทีก่ าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 เพ่อื นบ้ำนทดี่ ี ควำมรกั ควำมผูกพัน 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การอธบิ ายเกีย่ วกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของสิง่ ต่าง ๆ 3.2.2 การสรา้ งแบบจาลองตา่ ง ๆ ด้วยดนิ เหนียว ดนิ น้ามัน แทง่ ไม้ ฯลฯ 3.2.3 การมีประสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรค์รว่ มกับผู้อืน่ 3.2.4 การสรา้ งความสมั พันธก์ ับเด็กและผ้ใู หญ่ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพนื้ ฐาน ให้เดก็ เคลือ่ นไหวร่างกายไปทว่ั บรเิ วณอย่างอิสระตามจวั หวะ เมื่อ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ เคลื่อนไหวในท่านัน้ ทันที

330 4.1.2 เดก็ และครูรว่ มกันกาหนดคาบรรยายเพือ่ ปฏิบตั ิกิจกรรมดังนี้ “เดก็ จะไปเล่นทบี่ า้ น ของเพอื่ น ซ่ึงอยู่ใกล้ ๆ กนั คุณแม่บอกวา่ เอาขนมที่แมท่ าไว้ฝากไปใหเ้ พ่ือนของ ลูกกินด้วย เด็กถือขนมเดินไปบ้านเพื่อน พบพ่อของเพ่ือน ยกมอื ไหวถ้ ามหาเพื่อน พ่อของเพื่อนบอกใหเ้ ดินไปหลังบา้ น เดก็ จึงเดนิ ไป เจอเพื่อน แลว้ ยื่นขนมให้ 4.1.3 ครูให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งอสิ ระ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุดให้ปฏบิ ัติตามคา บรรยายของครู 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกันกาหนดคาบรรยายขน้ึ ใหม่ เสรจ็ แลว้ ปฏิบตั กิ จิ กรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ว่ มกนั จดั โต๊ะเพื่อใช้ฝกึ กิจกรรมการปน้ั ดินน้ามัน เสรจ็ แล้วครูแจกดิน นา้ มัน และแผ่นรองปั้นใหเ้ ด็กคนละ 1 ชุด โดยครูอธิบายข้ันตอนการปฏิบตั ิใหเ้ ดก็ ดู แล้วใหล้ งมือปฏิบัติตามความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจินตนาการอยา่ ง อิสระโดยครูคอย ดูแลอยูห่ ่าง ๆ 4.2.2 เมือ่ เด็กปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกช่อื ผลงานและวิธกี าร ทา ผลงานใดทเ่ี หมาะสมจะจัดเกบ็ ให้เก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขยี นชอื่ ผลงาน ชอ่ื เดก็ วนั เดอื นปที ี่ทากากบั ไวด้ ว้ ย 4.2.3 สาหรบั เดก็ ท่ปี ฏิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แล้ว หรอื รอโต๊ะวา่ งให้เล่นตามมมุ อสิ ระเปน็ การฝึก การรอโอกาส 4.2.4 สาหรับเด็กที่ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาให้เดก็ เชว่ ยกนั ทาความ สะอาดบริเวณ และชว่ ยกนั จัดเก็บสิง่ ของ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ เข้าท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกบั ความหมายของคาวา่ “เพ่อื นบา้ น” โดยครูเลา่ นทิ านเรื่อง “ลุงมานะ” ให้เด็กฟัง เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกันเก่ยี วกับเรือ่ งในนทิ าน 4.3.2 ครตู ง้ั คาถามให้เด็กชว่ ยกันหาคาตอบ เชน่ - บา้ นของเด็ก ๆ ตง้ั อยทู่ ี่ไหน - ข้างบ้านของเด็กมบี ้านของใครบา้ ง - บ้านทอ่ี ยู่ใกลเ้ คยี งกันมเี ด็ก ๆ วัยเดยี วกันหรอื ไม่ - เด็กรกั เพ่ือนบ้านหรอื ไม่ เปน็ ตน้ 4.3.3 เด็กและครูสนทนาและสรปุ รว่ มกันเกยี่ วกบั ความหมายของคาว่าเพ่ือนบ้านและการ ปฏิบตั ติ นเปน็ เพื่อนบ้านทด่ี ี 4.3.4 เดก็ และครูรว่ มกันกาหนดแนวทางในการปฏบิ ัติตนเป็นเพื่อนบ้านท่ดี ี เพื่อนาไป ปฏิบตั ใิ นชวี ิตประจาวนั ตอ่ ไป

331 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 ให้เด็กทาทา่ ทางนกบินลงสูส่ นาม เมื่อถึงสนามแลว้ ให้เด็กอบอุน่ รา่ งกายโดยการว่งิ เหยาะ ๆ อยู่กับท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกี่ยวกบั การเลน่ เกมทายสี โดยครูแนะนาวิธกี ารเลน่ ตาม ขน้ั ตอน ดังนี้ - ใหเ้ ด็กจบั คู่กนั (เด็กที่ไมม่ ีคูใ่ ห้จับกับครู)แต่ละคนมียางรัดสีตา่ ง ๆ - แตล่ ะคเู่ ลือกผเู้ ลน่ ก่อนหลังตามวิธี ยนั ยี - เด็กซึ่งเป็นผู้เล่นคนแรกแบมอื ใหค้ ู่เลน่ เหน็ สเี สน้ ยางรัดในมือแลว้ ซ่อนมือขา้ ง หลังใช้มืออีกข้างหนง่ึ หยบิ ยางออกมาเส้นหนง่ึ กาไว้ และชูขึ้นใหค้ ขู่ องตนเป็นคน ทายสี ถ้าทายถูกใหเ้ ปน็ ผู้ซ่อนยางแทน หากทายผิดให้ผซู้ ่อนคนเดิมซ่อนต่อไป 4.4.3 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กได้เลน่ ต่อไปอยา่ งอสิ ระ จนได้เวลาพอสมควรจงึ ใหเ้ ดก็ ไปทาความ สะอาดร่างกาย ลา้ งหนา้ ล้างมือ ทาธรุ ะสว่ นตวั กลบั เข้าห้องเรียน เพื่อเตรียมตัว ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั เกมโดมโิ นรปู เรขาคณติ ซ้อนกัน โดยครแู นะนา วธิ ีการเลน่ ให้ฟัง 4.5.2 แบง่ เดก็ เป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสมและให้แตล่ ะกลุ่มเล่นเกมชุดใหม่ และเกมทเ่ี คย เล่นมาแล้ว 4.5.3 เมื่อเด็กเลน่ เกมเสรจ็ แลว้ ครูแนะนาให้ชว่ ยกนั เก็บสิง่ ของต่าง ๆ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 5. สื่อกำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ดนิ น้ามนั และแผ่นรองป้ัน 5.2 นทิ านเร่อื งลงุ มานะ 5.3 เกมทายสี 5.4 เกมโดมโิ นรูปเลขาคณติ ซ้อนกัน 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วธิ ีวัดผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบตั ติ ามสัญญาร และจินตนาการ 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการป้ัน

332 6.2 เคร่อื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้ัน 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

333 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ 87 ช้นั อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่องรำวเก่ียวกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตัวเดก็ หนว่ ย ชมุ ชนท่รี กั เรอื่ ง เพ่ือนบ้านผูกพัน สัปดำหท์ ี่ 18 ลำดับวันท่ี 87 ครผู ู้สอน คณุ ครโู ชติกา เสอื พิณ โรงเรียน วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในชมุ ชนของเรามีคนอาศยั อยู่จานวนมาก การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมกับเพื่อนบา้ นกนั ทาให้เกิดความ รกั ความผูกพันสามารถการพ่งึ พาอาศยั กนั ได้และทาให้เราอยูไ่ ดอ้ ย่างมคี วามสขุ และปลอดภยั 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความหมายของเพื่อนบา้ น ซง่ึ อาจมฐี านะต่างกนั มี อาชีพต่างกนั ความใกลช้ ดิ สนิมสนมกนั ทาให้สามารถการพ่ึงพาอาศยั กัน สามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ 2.2 เพ่ือให้เดก็ สามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และคาบรรยาย 2.3 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกี่ยวกบั เรอ่ื งทส่ี นทนาได้ 2.5 เพ่อื ให้เดก็ สามารถปรับตัวในการเลน่ รว่ มกนั คนอื่นได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถเล่นเกมที่กาหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรปฏิบตั ติ นตอ่ เพือ่ นบ้ำน 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การสรา้ งความสัมพันธข์ องเด็กและผู้ใหญ่ 3.2.2 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความตา่ งของส่งิ ต่าง ๆ 3.2.3 การพดู กบั ผูอ้ นื่ เกีย่ วกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเลา่ เร่ืองเกยี่ วกับตนเอง 3.2.4 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสร้างสรรคร์ ว่ มกบั ผอู้ น่ื 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้นื ฐาน ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายไปทว่ั ๆ บริเวณอย่างอิสระตามจังหวะ เม่ือไดย้ ินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลอื่ นไหวในทา่ น้ันทนั ที 4.1.2 ครนู าบตั รภาพบ้านแบบตา่ ง ๆ มาให้เด็กดูคนละ 1 บัตรภาพ

334 4.1.3 ครูให้เดก็ เคล่อื นไหวร่างกายไปพรอ้ ม ๆ กบั ถือบัตรภาพไปดว้ ย ในลกั ษณะตา่ ง ๆ กันตามจังหวะ เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยุด ให้เดก็ นาบัตรภาพนน้ั มารวมกลุ่มกันเป็น หมูบ่ ้าน 4.1.4 ให้เดก็ ปฏบิ ัติกิจกรรมในขอ้ 4.1.3 น้ีซา้ กันหลาย ๆ เที่ยว โดยให้ลกั ษณะหมบู่ ้าน แตกตา่ งกนั ไป 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกนั จัดเพอื่ ใชฝ้ ึกกิจกรรมการวาดภาพดว้ ยสเี ทยี น เสร็จแล้วอธบิ าย ข้นั ตอน วิธกี ารปฏบิ ตั ใิ หเ้ ด็ก แล้วให้เดก็ ลงมือปฏบิ ัติตามความคดิ และจินตนาการ ของตนเอง อยา่ งอสิ ระ โดยครคู อยดแู ลอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เมือ่ เด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกช่อื ผลงานและวิธกี าร ทา ผลงานใดที่เหมาะสมจะจัดเกบ็ ใหเ้ ก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครูเขียน ช่อื ผลงาน ชือ่ เดก็ วันเดือนปีทีท่ ากากับไวด้ ว้ ย 4.2.3 เม่ือเด็กปฏิบัติกิจกรรมครบทุกคนแล้ว ครแู นะนาให้เดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกนั จดั เกบ็ สิ่งของ อุปกรณต์ า่ ง ๆ เขา้ ที่ใหเ้ รียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูร่วมกนั ท่องคาคล้องจอง “เด็กด”ี เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับ เน้อื หาของคาคลอ้ งจอง 4.3.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิตนต่อเพ่ือนบ้าน โดยครูเล่านทิ านเรือ่ ง “ลงุ ไทย” ให้เด็กฟัง เสรจ็ แลว้ สนทนาร่วมกันเกย่ี วกบั เร่ืองในนทิ าน โดยครูอาจจะ ตั้งคาถามให้เด็กตอบก็ไดเ้ ชน่ - ทาไมลงุ ไทยจงึ มเี พ่ือนบ้านมากมาย - ลงุ ไทยให้อะไรแก่เพื่อนบา้ นบ้าง ฯลฯ 4.3.3 เดก็ และครรู ่วมกนั หาอาสาสมัตรออกมาเลา่ ประสบการณ์เก่ียวกับเพอื่ นบา้ นของเด็ก วา่ มใี ครมีเพอ่ื นบ้านแบบลงุ ไทยบา้ ง ถา้ หากเด็กเล่าไมไ่ ดค้ รูตั้งคาถามนาให้เด็กตอบ 4.3.4 เด็กและครรู ่วมกนั ท่องคาคล้องจองเด็กดอี ีกครั้งเสรจ็ แล้วรว่ มกันกาหนดแนว ทางการเปน็ เพื่อนบ้านท่ดี เี พื่อนาไปปฏิบตั ใิ นชวี ิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เด็กลงสนามโดยทาทา่ ทางกระต่ายกระโดด อยา่ งอิสระ ตามความคดิ ของเด็ก 4.4.2 ครูจัดให้เด็กนง่ั เป็นวงกลม หันหน้าเขา้ กลาววง 4.4.3 เด็กและครรู ่วมกนั ร้องเพลง “กระต่าย” โดยครูรอ้ งเพลงให้เดก็ ฟงั ก่อน แลว้ จึงให้ รอ้ งตามเสร็จแลว้ แข่งขนั กระโดดกระต่าย

335 4.4.4 ครูปล่อยให้เด็กได้เลน่ กลางแจง้ อย่างอิสระจนไดเ้ วลาพอสมควรจึงใหเ้ ดก็ ไปทาความ สะอาดรา่ งกาย ลา้ งหน้า ลา้ งมือ ทาธุระส่วนตวั กลบั เข้าห้องเรียน เตรยี มตัวไป รับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั เกมจบั คู่ภาพกบั เงาคนอ้วน ผอม โดยครแู นะนา วิธกี ารเล่นใหฟ้ ัง 4.5.2 แบง่ เดก็ เปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เล่นเกมชดุ ใหม่ เกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ หรือเครอื่ งเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เมอื่ เลิกเลน่ แลว้ ใหช้ ว่ ยกนั เก็บของเข้าท่ีให้เรียบร้อย 5. สือ่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีเทียน 5.2 คาคล้องจองเด็กดี 5.3 นิทานเร่ืองลุงไทย 5.4 เพลงกระตา่ ย 5.5 เกมจบั คู่ภาพกบั เงาคนอ้วน ผอม 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีสงั เกตและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบตั ติ ามสัญญาณ และคาส่ัง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครื่องมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรุง

336 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 88 ชนั้ อนบุ ำลปีที่ 2 สำระทค่ี วรเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ งรำวเกยี่ วกับบคุ คลและสถำนทแี วดลอ้ มตวั เดก็ หน่วย ชมุ ชนท่รี กั เรื่อง มารยาทดีมสี ุข สัปดำหท์ ่ี 18 ลำดบั วันท่ี 88 ครผู สู้ อน คณุ ครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรียน วัดท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในชุมชนของเรามีคนอาศัยอยู่จานวนมาก การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมกับเพื่อนบา้ น การอ่อนน้อม ถ่อมตน และเคารพเพือ่ นบ้าน เปน็ มารยาท่ดี ที ่เี พ่ือนบา้ นควรมีใหแ้ ก่กัน 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมายของเพ่ือนบา้ น ซึ่งอาจมีฐานะต่างกนั มี อาชพี ต่างกัน ความใกลช้ ดิ สนิมสนมกัน ทาใหส้ ามารถการพ่ึงพาอาศยั กนั สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และคาบรรยาย 2.3 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพอื่ ให้เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื งที่สนทนาได้ 2.5 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถปรบั ตัวในการเล่นร่วมกนั คนอืน่ ได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถเล่นเกมทก่ี าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 มำรยำท่ีดตี ่อเพอ่ื นบำ้ น 3.2 ประสบกำรสำคัญ 3.2.1 การสร้างความสมั พันธ์กบั เด็กและผใู้ หญ่ 3.2.2 การแสดงความรู้สึกด้วยคาพดู 3.2.3 การพดู กบั ผอู้ ืน่ เกยี่ วกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือเลา่ เร่ืองเกี่ยวกับตนเอง 3.2.4 การมปี ระสบการณ์ทางการเลน่ สร้างสรรค์รว่ มกับผ้อู นื่ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพื้นฐาน ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายไปทวั่ ๆ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ เม่ือได้ยิน สัญญาณหยุดให้หยดุ เคลอ่ื นไหวในทา่ นน้ั ทนั ที 4.1.2 เดก็ และครูรว่ มกนั กาหนดคาส่ัง เพื่อปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเช่น - ช่วยเพอ่ื นบา้ นตัดหญา้

337 - รบั ขนมจากผใู้ หญข่ ้างบา้ น - เดินผ่านหนา้ ผ้ใู หญ่ เป็นตน้ 4.1.3 ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกายไปโดยอิสระ เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยุด แต่ละคร้ัง ให้ฟังคาส่งั จากครูและปฏบิ ัติตามคาส่งั ท่ีไดร้ ว่ มกาหนดไว้ 4.1.4 เดก็ และครรู ว่ มกันกาหนดคาสั่งข้ึนใหม่ และปฏบิ ัติกิจกรรมในข้อ4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ่วมกันจดั โต๊ะเพื่อใชฝ้ กึ กิจกรรมการฉีก ปะ กระดาษ เสรจ็ แล้วครอู ธบิ าย ข้ันตอน การปฏิบตั กิ จิ กรรม ให้เด็กดู แลว้ ใหล้ งมอื ปฏบิ ตั ติ ามความคิด และ จินตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครคู อยดูแลอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เม่ือเด็กปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเสร็จแล้ว นาผลงานใหค้ รูดู โดยบอกช่ือผลงานและวิธีการ ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเกบ็ ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครูเขยี น ชือ่ ผลงาน ช่ือเด็ก วันเดือนปีทีทากากบั ไว้ด้วย 4.2.3 เมอ่ื เด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกนั จัดเก็บส่งิ ของ อุปกรณต์ ่าง ๆ เขา้ ที่ให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเกยี่ วกับมารยามท่ีดีในการปฏิบตั ิตอ่ เพื่อนบา้ น โดย อธบิ ายความหมายของคาวา่ มารยาทใหเ้ ดก็ ฟงั 4.3.2 ครูตัง้ คาถามให้เด็กตอบ เช่น - เดก็ ๆ เคยได้รบั คาชมจากผใู้ หญ่เรือ่ งใดบ้าง - เด็กเคยโดยใหป้ รับปรุงตนเองในเร่ืองใดบา้ ง 4.3.3 เดก็ และครูฝกี มารยาททดี่ ีของเด็กในการเข้าหาผู้ใหญ่ เชน่ - การน่ังต่อหน้าผู้ใหญ่ - การรับของ สง่ ของ ให้ผู้ใหญ่ - การไหว้พ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ เปน็ ต้น 4.3.4 เด็กและครรู ่วมกันท่องคาคล้องจอง “มารยาทเด็กไทย” เสรจ็ แลว้ สนทนาร่วมกัน เกีย่ วกบั เน้อื หาของคาคลอ้ งจอง 4.3.5 เดก็ และครูร่วมกนั ฝึกปฏบิ ัติมารยาทท่ีดตี ่าง ๆ ในข้อ 4.3.3 โดยครูสาธิตใหเ้ ดก็ ดูกอ่ นแลว้ ใหเ้ ด็กลองฝึกปฏบิ ัติ เสร็จแลว้ สนทนา สรปุ และกาหนดเป็นแนวทางใน การนาไปปฏิบตั ิในชวี ติ ประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ด็กจัดแถวตอนเรยี งหนึ่ง จับมือกนั เป็นคู่ วิง่ เหยาะ ๆ ลงสนาม (สาหรบั เด็กที่ไม่ มีคู่ให้จับมือกบั ครู) 4.4.2 เมอ่ื ถึงสนามแลว้ ครูใหเ้ ด็กอบอุ่นร่างกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยกู่ บั ท่ี 2 – 3 นาที

338 4.4.3 เดก็ และครูสนทนาร่วมเกยี่ วกับการเดนิ ทา่ จง้ิ จก โดยครแู นะนาวธิ ีการเล่นให้เด็กฟงั ตามข้นั ตอน ดงั นี้ - จัดใหเ้ ด็กเข้าแถว ๆ ละ 5 คน - เด็กนั่งยอง ๆ มอื ท้งั สองวางกับพนื้ ข้างหน้าแลว้ คอ่ ย ๆ เคล่อื นทไ่ี ป 4.4.4 เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง “จง้ิ จก” และทาท่ากิจกรรมเข้าจงั หวะด้วยการเดิน เลียนแบบจ้ิงจก 4.4.5 ครูปล่อยใหเ้ ด็กได้เลน่ อย่างอิสระ 5 – 10 นาที ก่อนที่จะใหเ้ ด็กไปทาความสะอาด ร่างกาย ลา้ งหน้า ทาธรุ ะสว่ นตัว กลบั เข้าหอ้ งเรยี น เพ่อื เตรียมตวั ไปรบั ประทาน อาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกับเกมสงั เกตรายละเอียดภาพชายทะเล โดยครู แนะนาวิธกี ารเล่นใหเ้ ด็กฟงั 4.5.2 แบง่ เด็กเป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลน่ เกมชุดใหม่ทค่ี รูแนะนา สลับ กบั เกมท่ีเคยเลน่ มาแล้ว หรอื เคร่อื งเลน่ สมั ผสั 4.5.3 เมอื่ เด็ก ๆ เลิกเลน่ แล้ว ครูแนะนาใหช้ ว่ ยกันเกบ็ ของเข้าทใี่ ห้เรยี บรอ้ ย 5. ส่อื กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 กาว กรรไกร กระดาษ 5.2 คาคล้องจองมารยาทเด็กไทย 5.3 เพลงจิง้ จก 5.4 เกมสงั เกตรายละเอียดภาพชายทะเล 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัตติ ามสญั ญาณและคาสงั่ 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการตดั ฉกี ปะ กระดาษ 6.2 เครือ่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตัด ฉีก ปะ กระดาษ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรุง

339 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 89 ชัน้ อนุบำลปีที่ 2 สำระที่ควรเรียนร้ทู ่ี 2 เรอ่ื งรำวเก่ียวกับบุคคลและสถำนทแี วดล้อมตัวเดก็ หน่วย ชุมชนทรี่ ัก เร่ือง เพอ่ื นบ้านสาคัญ สปั ดำหท์ ี่ 18 ลำดบั วันที่ 89 ครูผสู้ อน คุณครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วัดทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในชมุ ชนของเรามีคนอาศยั อยู่จานวนมาก การอยู่รว่ มกันในชมุ ชน ยอ่ มตอ้ งพ่งึ พาอาศัยกัน เพื่อนบา้ น ทดี่ ตี ้องช่วยเหลือกนั ได้อยา่ งเหมาะสม และดว้ ยความเต็มใจ จะทาให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุข และปลอดภัย 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความหมายของเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจมฐี านะต่างกนั มี อาชพี ตา่ งกนั ความใกล้ชดิ สนิมสนมกัน ทาให้สามารถการพ่ึงพาอาศัยกัน สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ 2.2 เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบตั ิตามสญั ญาณ และคาบรรยาย 2.3 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกยี่ วกบั เร่อื งท่ีสนทนาได้ 2.5 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเล่นรว่ มกนั คนอน่ื ได้ 2.6 เพอื่ ให้เด็กสามารถเล่นเกมท่กี าหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ควำมสำคญั ของเพ่ือนบำ้ น 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การรบั ร้ทู ไี่ วต่อความร้สู า ความสนใจและความต้องการของผูอ้ ่นื 3.2.2 การอธิบายเก่ียวกับสิ่งของ เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธ์ของสงิ่ ต่าง ๆ 3.2.3 การมีประสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรค์ร่วมกับผู้อ่นื 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทว่ั ๆ บริเวณอย่างอิสระตามจังหวะ เม่ือได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในทา่ นั้นทนั ที 4.1.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เก่ียวกับการเปน็ ผนู้ า ผู้ตาม โดยการแบ่งกล่มุ เด็กเปน็ 2 กลุ่ม แตล่ ะกลุ่มเข้าแถวเปน็ วงกลม หนั หน้าเข้ากลางวงแล้วร่วมกนั เลือกอาสาสมัคร มายืนกลางวง เป็นผนู้ าการเคลอื่ นไหวตามจังหวะ ให้เดก็ คนอน่ื ๆ ปฏบิ ัตติ าม

340 4.1.3 เมอื่ ได้ยินสัญญาณหยุด ให้หยุดการเคล่ือนไหว ผ้นู ากลับที่เดมิ หมุนเวยี นใหเ้ ด็กคน อื่นออกมาเป็นผู้นาการเคล่อื นไหวบ้าง 4.1.4 ให้เดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมในขอ้ 4.1.2 – 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูร่วมกนั จัดโต๊ะเพื่อใชฝ้ ึกกจิ กรรมการร้อยลูกปดั สี โดยครทู บทวนการทา ให้เด็กดู แล้วให้เด็กปฏบิ ัติกจิ กรรมโดยอิสระ ตามความคดิ สร้างสรรค์ของเดก็ โดย ครูคอยดูแลความปลอดภัย และอันตรายทจี่ ะเกดิ จากเข็มร้อยอย่างใกลช้ ดิ 4.2.2 เมอ่ื เด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกชื่อผลงานและ วิธกี ารทา ผลงานใดทเ่ี หมาะสมจะจดั เกบ็ ใหเ้ กบ็ ไว้ในกลอ่ งผลงานของเดก็ เอง โดย ครูเขยี นช่ือผลงาน ชอ่ื เด็ก วนั เดอื นปีที่ทากากบั ไวด้ ว้ ย 4.2.3 เมอื่ เด็กปฏิบตั ิกิจกรรมครบทุกคนแล้ว ครแู นะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บรเิ วณและชว่ ยกนั จดั เก็บสง่ิ ของ อุปกรณต์ ่าง ๆ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 4.3 กิจกรรมสรำ้ งเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกยี่ วกับความสาคญั ของเพื่อนบา้ น โดยครูเล่านทิ านเรื่อง “ลงุ ชาญ” ให้เดก็ ฟงั เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกันเกย่ี วกบั เร่ืองในนิทาน โดยครตู ้ัง คาถามใหเ้ ดก็ ช่วยกนั หาคาตอบเช่น - ลุงชาญเป็นคนอยา่ งไร - ทาไมลุงชาญจงึ แบง่ ปันอาหารให้เพอ่ื นบา้ น - ถ้าเพ่ือนบ้านไม่ชว่ กนั จบั ขโมย ทรัพยส์ มบตั ขิ องลงุ ชาญจะเป็นอยา่ งไรฯลฯ 4.3.2 เดก็ และครูรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับความสาคัญของเพ่ือนบา้ น โดยให้เด็ก ไดแ้ สดงความคิดเหน็ อยา่ งอิสระ 4.3.3 เด็กและครสู นทนาสรปุ รว่ มกันเกย่ี วกับความสาคัญของเพื่อนบา้ น และกาหนด แนวทางในนาไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรียงหน่ึงวิง่ เหยาะ ๆ สลับกันกระโดด ลงสสู่ นาม เมื่อถึงสนามแลว้ ใหเ้ ดก็ อบอ่นุ ร่างกายโดยการว่ิงเหยาะ ๆ อยู่กบั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เด็กและครรู ่วมกนั จดั แถว ๆ ละ 5 – 7 คน เสร็จแล้วรว่ มกนั ทบทวนเพลง “มา้ วงิ่ ” 4.4.3 เดก็ แถวท่ี 1 ออกมาทาทา่ ทางมา้ ว่งิ โดยใหเ้ ดก็ ทีเ่ หลือช่วยกันรอ้ งเพลงใหจ้ งั หวะเ 4.4.4 เปลย่ี นแถวอื่นๆ สลับออกมาทาท่าม้าว่งิ บา้ ง โดยเด็กทีเ่ หลือก็ร้องเพลงให้จังหวะ เช่นเดยี วกนั 4.4.5 ให้เดก็ ท้งั หมดทาท่าทางมา้ วงิ่ พร้อมกบั ร้องเพลงประกอบอีกคร้งั ก่อนท่ีจะเลน่ อย่าง อิสระ

341 4.4.6 เม่ือไดเ้ วลาพอสมควรแล้ว ครูใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหนา้ ล้างมือ ทา ธรุ ะส่วนตวั กลับเข้าหอ้ งเรียน เพ่ือเตรียมตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครสู นทนารว่ มกนั เกย่ี วกับเกมพนื้ ฐานการบวก 1 – 5 โดยครูอธิบายวธิ กี าร เลน่ ให้เด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเดก็ เปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลน่ เกมชดุ ใหมท่ คี่ รแู นะนา สลบั กับเกมทเี่ คยเล่นมาแลว้ หรือเคร่อื งเล่นสมั ผสั 4.5.3 หลังจากเลิกเล่นแล้ว ครูแนะนาให้เดก็ ๆ ชว่ ยกนั เกบ็ ส่งิ ของตา่ ง ๆ เข้าท่ีให้ เรียบร้อย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ลกู ปดั สี เข็ม ด้าย 5.2 นิทานเรอื่ งลุงชาญ 5.3 เพลงมา้ ว่ิง 5.4 เกมพน้ื ฐานการบวก 1 – 5 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวัดผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบตั ติ ามสัญญาณ 6.1.2 สงั เกตการเป็นผนู้ า ผูต้ าม 6.1.3 สังเกตการพดู แสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 6.1.4 ตรวจผลงานการรอ้ ยลูกปดั สี 6.2 เคร่อื งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการร้อยลูกปัดสี 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

342 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 90 ชน้ั อนุบำลปีท่ี 2 สำระทคี่ วรเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ งรำวเก่ียวกับบคุ คลและสถำนทีแวดลอ้ มตัวเดก็ หนว่ ย ชุมชนท่รี ัก เร่อื ง ช่วยเหลอื เกื้อกลู สัปดำหท์ ี่ 18 ลำดบั วนั ที่ 90 ครผู ้สู อน คณุ ครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วัดทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในชมุ ชนของเรามีคนอาศัยอยู่จานวนมาก การชว่ ยเหลือเกื้อกูลเพื่อนบา้ นตามความเหมาะสม และ เตม็ ใจเป็นสง่ิ ที่ควรกระทาและปฏิบัติอยา่ งสมา่ เสมอ จะทาใหเ้ ราอยู่ได้อย่างมคี วามสุ และปลอดภัย 2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับความหมายของเพื่อนบา้ น ซ่ึงอาจมฐี านะต่างกัน มี อาชีพต่างกนั ความใกลช้ ดิ สนมิ สนมกนั ทาให้สามารถการพ่ึงพาอาศัยกัน สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพ่อื ให้เด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และคาบรรยาย 2.3 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ยา่ งสร้างสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกีย่ วกบั เรอ่ื งท่สี นทนาได้ 2.5 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกนั คนอืน่ ได้ 2.6 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถเล่นเกมท่ีกาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรชว่ ยเหลือเพื่อนบำ้ น 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การรบั รู้ท่ไี วต่อความรู้สึก ความสนใจและความตอ้ งการของผอู้ ื่น 3.2.2 การสร้างความสมั พนั ธก์ ับเด็กและผู้ใหญ่ 3.2.3 การมีประสบการณ์ทางการเลน่ สรา้ งสรรค์รว่ มกบั ผูอ้ ่นื 3.2.4 การเชอ่ื มโยงภาพ ภาพถ่ายและรูปแบบต่าง ๆ กบั ส่ิงของหรือสถานที่จริง 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมขนั้ พ้ืนฐาน ให้เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปทัว่ ๆ บรเิ วณอยา่ อสิ ระ เมือ่ ได้ยนิ สัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในท่านน้ั ทันที 4.1.2 เด็กและครูร่วมกนั ท่องคาคล้องจอง “บา้ นใกลเ้ รอื นเคยี ง” เสร็จแลว้ แบ่งเด็กเป็น 2 กลุ่ม สนทนารว่ มกนั เก่ียวกับกิจกรรมทจ่ี ะปฏบิ ตั ดิ งั น้ี

343 - กลุม่ ท่ี 1 ให้ท่องคาคลอ้ งจอง - กลุม่ ท่ี 2 ใหท้ าการบริหารประกอบ 4.1.3 ครใู ห้เด็กเคล่อื นไหวร่างกายไปท่วั บริเวณอย่างอสิ ระ เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุดให้ท้งั 2 กลมุ่ เร่มิ ทากจิ กรรมพร้อมกัน ตามท่ีไดต้ กลงกันไว้ 4.1.4 หมนุ เวียนกลมุ่ กนั ปฏิบัติกิจกรรมตามข้อ 4.1.2 และ 4.1.3 จนสมควรแก่เวลา 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูรว่ มกนั จัดโต๊ะเพ่ือใช้ฝกึ กิจกรรมการร้อยหลอดกาแฟ เสร็จแล้วอธบิ าย ขั้นตอนการทาใหเ้ ด็กดู แล้วให้เดก็ ลงมือปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความคดิ และ จนิ ตนาการของตนเองอย่างอิสระ โดยครคู อยดแู ลอันตรายจากเข็มรอยอยา่ ง ใกล้ชิด 4.2.2 เมอ่ื เด็กปฏิบตั ิกจิ กรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกช่ือผลงานและ วธิ ีการทา ผลงานใดเหมาะสมจะจัดเกบ็ ให้เกบ็ ไว้ในกลอ่ งผลงานของเด็กเอง โดย ครเู ขยี นชือ่ ผลงาน ชอ่ื เด็ก วนั เดอื นปที ี่ทากากับไวด้ ้วย 4.2.3 เมื่อเด็กปฏบิ ัติกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เด็กช่วยกันทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกนั จัดเกบ็ ส่ิงของ อุปกรณต์ า่ ง ๆ เข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกย่ี วกับการช่วยเหลือซึง่ กนั และกัน โดยครตู ้งั คาถามให้ เดก็ ช่วยกันตอบ เกี่ยวกับการช่วยเหลอื กันวา่ ปฏิบัติอยา่ งไรบา้ ง 4.3.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกี่ยวกบั การอยูร่ ่วมกนั ในชุมชนว่าถา้ มีงานสง่ิ ใดท่ีพอจะ ช่วยเหลอื กันได้ก็ควรปฏบิ ตั ิ โดยครูต้งั คาถามให้เด็กชว่ ยกนั ตอบ เช่น - การชว่ ยเหลอื เพ่ือนดีหรือไม่ - ถ้าตอ้ งการมีเพ่ือน ควรทาอย่างไร - เดก็ ๆ อยากมเี พือ่ นแบบใด 4.3.3 เด็กและครรู ว่ มกนั ท่องคาคล้องจอง “เพอ่ื นบ้าน” เสรจ็ แลว้ สนทนารว่ มกนั เกยี่ วกบั เนือ้ หาคาคล้องจอง 4.3.4 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั วา่ ใครเคยได้ชว่ ยเหลืออะไรเพ่ือนบ้านบ้าง และเพื่อนบ้าน ได้ชว่ ยเหลอื อะไรเด็ก ๆ บา้ ง เสร็จแล้วสนทนาสรุป และกาหนดแนวทางในการ นาไปปฏบิ ตั ิในชีวิตประจาวัน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรยี งหนึ่งเดนิ ปรบมือเป็นจงั หวะ ลงสนาม เม่อื ถึงสนามแลว้ ใหว้ ิง่ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บริเวณ 2 – 3 นาที เป็นการอบอุ่นร่างกาย 4.4.2 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกับการเลน่ เกมลอยตามลม โดยครแู นะนาวิธกี าร เล่น ดังนี้

344 - เด็กยนื เปน็ วงกลมล้อมรอบครูในสนาม - ครพู ูดวา่ ลมพัดไปทางทศิ ตะวนั ออก พร้อมกบั ชี้มือไปทางทศิ นนั้ ใหเ้ ดก็ วง่ิ ไป ทางมือช้ี - เมอ่ื ได้ยินเสียงนกหวดี ให้หยดุ ทนั ทคี รูพูดใหม่แตเ่ ปลยี่ นทิศเปน็ ทิศอ่นื ๆ 4.4.3 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั ทิศทางต่าง ๆ 4 ทิศ โดยครูอธิบายเพิ่มเตมิ ใหเ้ ด็ก ฟงั อีกครงั้ 4.4.4 ใหเ้ ด็กได้เล่นกลางแจง้ อย่างอิสระ 5 – 10 นาที ก่อนทจี่ ะให้เดก็ ไปทาความสะอาด รา่ งกาย ลา้ งมือ ทาธุระสว่ นตัว กลับเข้าหอ้ งเรียน เพื่อเตรยี มตวั ไปรบั ประทาน อาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกบั การเลน่ เกมจับคภู่ าพสง่ิ ของเครื่องใช้ด้านหน้า ด้านขา้ ง โดยครอู ธิบายวธิ ีการเลน่ ให้เดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลมุ่ ใหเ้ ล่นเกมชุดใหม่ทค่ี รูแนะนา สลบั กับเกมทเี่ คยเลน่ มาแล้ว 4.5.3 เมอื่ เด็ก ๆ เลน่ เสร็จแล้ว ครแู นะนาใหช้ ่วยกนั เก็บสงิ่ ของต่าง ๆ เข้าทใ่ี หเ้ รียบร้อย 5. สอ่ื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 หลอดกาแฟ ด้าย เขม็ 5.2 คาคล้องจอง บา้ นใกล้เรียนเคียง 5.3 คาคลอ้ งจอง เพ่ือนบ้าน 5.4 เกมลอยตามลม 5.5 เกมจับค่ภู าพสง่ิ ของเคร่ืองใช้ด้านหน้า ด้านข้าง 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธวี ัดผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ัตติ ามสญั ญาณ และทาทา่ ประกอบคาคลอ้ งจอง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม การแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเร่ืองที่สนทนา 6.1.3 ตรวจผลงานการรอ้ ยหลอดกาแฟ 6.2 เครือ่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการรอ้ ยหลอดกาแฟ

345 6.4 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ดี ระดบั 3 พอใช้ ระดับ 2 ปรับปรงุ ระดบั 1

346 ภำคผนวก เพลงมำ้ วิง่ เด๋ยี วเดียวลับตาเราไป ม้าวงิ่ กับกบั เรว็ ทนั ใจควบกับกับกับ ดูซิหายไปว่ิงกับกับกับ ม้าวิง่ เรว็ ไว มา้ วิ่งเร็วรี่ เพลงจ้งิ จก จงิ้ จกจ้ิงจกจิ้งจกหังผงกอยากกนิ แมลง กลางคือพอแสงใฟจา้ ตวั แมลงเป็นเหยือ่ จิ้งจก เพลงกระตำ่ ย (นรำธปิ จนั ทรเนตร) กระต่ายตัวเล็กวิ่งไว หูยาวกางใหญ่ฟังเสียงได้ดี กระต่ายกระโดดไกลไกล สขี าวสดใสมองเห็นได้ดี กระต่ายข้กี ลัว ขกี้ ลัว มะพรา้ วหลน่ ใสห่ ัวกระตา่ ยวิ่งหนีเกอื บตาย ฮ้าไฮ้ (ซ้า 2 เทีย่ ว) คำคล้องจองเพ่ือนบ้น ท่ใี กลช้ ดิ ผูกพนั หรรษา (นรำธปิ จันทรเนตร) หาอะไรได้มาก็แบง่ ปันกนั ปลอบปลกุ ใหเ้ พอื่ นสุขสันต์ มเี พื่อนบ้านดีเหมือนมีมติ ร รกั กันพึ่งพากนั ได้ เกอ้ื กูลแก่กนั ทกุ วนั เวลา ยามใดเพอื่ นบ้านมที ุกข์ มงี านร่วมด้วยชว่ ยกนั คำคล้องจอง มำรยำทเดก็ ไทย ทาดที ุกวันไม่โกรธบึง้ ตึง (นรำธปิ จันทรเนตร) พดู จาไพเราะเพราะพร้งิ น่ังนิ่งสารวมกายใจ เดก็ ไทยมารยาทดีที่หนงึ่ นอบน้อมทกุ คนทาได้ ยมิ้ แยม้ สดใสทุกวัน เดก็ ไทยมารยาทดีทกุ คนเอย สวสั ดกี ราบไหวส้ วยยิ่ง ใครเหน็ ใครนิยมชมชอบ ออ่ นโยนไม่อ่อนแอให้ใคร

347 คำคล้องจอง เด็กดี พดู ดที ุกทีไม่มีเบ่ือ (นรำธิป จนั ทรเนตร) ซ่ึอตรงรักดตี ลอดไป ไม่ทาไม่ลองของผิดไป เด็กดที าดีคดิ ดี ชวี ิตจะไดโ้ ชคดีมีวินยั เชื่อฟงั แม่พ่อทุกเม่ือ เชือ่ ครูเช่ือพช่ี ี้นา คอยคิดคาสอนผู้ใหญ่ นิทำนเร่ือง ลุงชำญ (นรำธิป จันทรเนตร) ลงุ ชาญ เป็นชาวนาใจดี ทกุ วันแกจะไปท่ีท่งุ นา แม้ไม่ใช่ในฤดูกาลทานาก็ไมเ่ ปน็ ไร แกจะออกไปหา ปลา หากบ หาผักต่าง ๆ ขึ้นมาฝากเพ่อื นบ้านเสมอ นอกจากนนั้ เวลาท่มี ผี ลไม้ในสวนของลงุ ชาญสุก ลุง ชาญจะเอาผลไมไ้ ปฝากบา้ นนั้น บ้านนี้บา้ ง แตล่ ะบา้ นก็มีอะไรก็ให้ลงุ ชาญกลับมาเปน็ การแลกเปลีย่ นกนั และ กันตอบแทนการมีนา้ ใจของลุงชาญเสมอ เด็ก ๆ ในหมู่บา้ นชอบไปเท่ียวทุง่ นาของลงุ ชาญ ซ่งึ ลงุ ชาญก็แบ่งขนม หาผลไม้ไปใหเ้ ด็ก ๆ ได้กนิ กัน อยา่ งเอรด็ อร่อย หรือแมเ้ วลาเพื่อนบ้านเจ็บไขไ้ ด้ปว่ ย ลุงชาญก็จะไปเยี่ยมเยยี น สอบถามอาการ แสดงความ ห่วงใย ทาให้เพื่อนบ้านทุกคนรกั ใคร่ และนบั ถือลุงชาญมาก และก็คอยถามข่าวคราวจากลงุ ชาญเสมอ เหมือนกัน วันหนึ่งลุงชาญไมอ่ ยูบ่ ้าน ไปทาธุระที่อาเภอ มีขโมย 3 คน ไปขโมยเปด็ ไก่ ท่บี ้านลงุ ชาญเพือ่ นบา้ น เห็นเขา้ จงึ ชว่ ยกันจับ และไปแจง้ ตารวจให้มาจบั ได้ทนั เวลาพอดี ตารวจจบั ขโมย 3 คนนั้นไปเข้าคกุ ซ่ึงทุกคน ก็ล้วนเป็นคนที่ลุงชาญรู้จัก และเคยให้ความชว่ ยเหลอื ดว้ ย ลงุ ชาญรู้ข่าว ก็กลา่ วขอบคณุ เพ่ือนบ้านท่ีชว่ ยดแู ลบ้าน และทรพั ย์สมบัตใิ ห้ ในช่วยท่ลี ุงชายไม่อยบู่ ้าน ซึง่ ทงั้ หมดนี้เปน็ ผลมาจากการเอื้อเฟ้ือเผอ่ื แผ่และการเป็นเพ่ือนบ้านท่ดี ีของลุงชาญน่นั เอง ลุงชาญบอกเด็ก ๆ และทกุ คนวา่ การมีเพื่อนบา้ นดีและมนี า้ ใจเอ้ือเฟ้ือแก่กันย่อมได้รบั ผลตอบแทนที่ดกี ลับมาด้วย

348 นิทำนเรอื่ งลุงมำนะ (นรำธปิ จันทรเนตร) ลุงมานะเป็นลงุ ใจดี รักเพื่อนบา้ น มอี ะไรกช็ ว่ ยเหลือตลอด เวลาทลี่ ุงมานะเข้าไปในเมอื ง ลงุ มานะ มักจะซ้ือขนมมาฝากเดก็ ๆ เป็นประจา ในหม่บู ้าน ลุงมานะก็จะไปชว่ ยงานไมไ่ ด้ขาด ช่วยจดั เตรียมสถานที ช่วยตกแต่งให้ความสวยงามแกส่ ถานท่จี ัดงาน จนเพื่อนบา้ นบอกวา่ ถา้ ไมม่ ีลุงมานะสถานทจ่ี ัดงานตา่ ง ๆ คงไม่ สวยงามอยา่ งน้ี เพราะลุงมานะมีฝีมือทางด้านศิลปะมาก และเคยวาดภาพในโบสถท์ ว่ี ดั ในหมบู่ า้ นมาแลว้ ซง่ึ ทุกคนก็มองเห็นอยู่เป็นประจาเมือ่ เวลามาวดั ลุงมานะทางานสถานีอนามยั ประจาอาเภอ เวลาเดก็ ๆ ไม่สบายไปหาหมอลงุ มานะกจ็ ะคอยสอบถาม และช่วยดแู ลหาน้า มาชว่ ยเชด็ ตัว ด้วยความห่วงใยตามแต่ลุงมานะจะช่วยเหลือได้ ลงุ มานะบอกเพื่อนบา้ นวา่ คนเราเกดิ มาอยู่ไดไ้ มน่ านก็ต้องตายไป ตอนท่ีมีชีวิตอยู่ก็ควรชว่ ยเหลอื กนั ใหม้ ากท่ีสดุ เพราะเวลาท่ีเราตายไปแลว้ เราจะไมส่ ามารถชว่ ยเหลือใครไดเ้ ลย ถา้ จะทาอะไรใหเ้ พ่ือนบ้านก็ ต้องทาตอนมชี ีวติ อยูจ่ ึงจะถูกตอ้ งไม่ใชใ่ ห้ตอนตายไปแล้ว ซงึ่ เพ่ือนบ้านของเรากจ็ ะไม่มีวันรูเ้ ลยวา่ เราทา อะไรบา้ ง นทิ ำนเรือ่ งลุงไทย (นรำธปิ จนั ทรเนตร) ลุงไทยมีอาชีพเป็นชา่ งไฟฟ้า อาศัยอยบู่ า้ นกับภรรยา และลูกชาย ลูกชานจองลุงไทยกาลงั เรยี น หนงั สอื อยู่ ทุกวนั ลงุ ไทยจะออกไปซ่อมไฟฟา้ ใหก้ ับเพ่ือนบ้านในหมบู่ ้าน ได้ค่าจา้ งมาเลก็ น้อย แต่ลุงไทยก็ไม่ เคยบ่นคิดวา่ เป็นการช่วยเหลือกันไป ลุงไทยเปน็ คนหาปลาเกง่ มากคนหนึง่ เมอ่ื มีเวลาว่าง ลงุ ไทยกจ็ ะไปหา ปลาเมอ่ื ได้มากจ็ ะแบ่งปันให้เพอ่ื นบา้ นได้กินกนั บา้ ง และลุงไทยกจ็ ะได้อาหารจากเพื่อนบา้ นกลับมากิน เหมอื นกัน ลงุ ไทยจงึ มเี พื่อนบา้ นมากมาย ใครมีข้าวของเหลือใช้กเ็ อามาแบ่งปันกนั ลุงไทยจึงไม่ค่อยได้ใช้เงนิ ซ้ือ สิ่งของเทา่ ไร ลุงไทยกบ็ อกว่าการมเี พอ่ื นบ้านที่ดี ทาใหเ้ ราปลอดภยั เพราะทุกคนก็จะช่วยกนั ดูแลซ่งึ กนั และ กัน ลงุ ไทยบอกวา่ หากไมม่ เี พ่ือนบ้าน ลงุ ไทยก็คงอยู่ด้วยความยากลาบากมากกว่านี้ ลงุ ไทยบอกวา่ โชคดีแลว้ ท่ี เกดิ มามีเพื่อนบ้านท่ดี ีมากมาย

349 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 91 ชัน้ อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระทค่ี วรเรียนรทู้ ่ี 3 ธรรมชำตริ อบตวั หน่วย ฤดหู นาวทร่ี ัก เร่ือง อากาศรอบวนั สัปดำหท์ ่ี 19 ลำดบั วันท่ี 91 ครผู ู้สอน คณุ ครูโชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วัดท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั สภาพอากาศในแต่ละวันจะมีความแตกตา่ งกนั ไปตามฤดูกาล มีทง้ั อากาศร้อน อากาศหนาว มีฝนตก ดงั นั้นเราควรเรียนรู้ สงั เกตการเปลี่ยนแปลงอากาศในรอบวันเพือ่ จะได้ไม่เจ็บป่วย 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ให้เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับสภาพอากาศในแต่ละวนั สามารถนาไปปรับใช้ใน ชวี ติ ประจาวันได้ 2.2 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถปฏิบตั ิตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพื่อให้เด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์และเสรี 2.4 เพือ่ ให้เดก็ สามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกี่ยวกบั เรื่องที่สนทนาได้ 2.5 เพอ่ื ให้เด็กสามารปรบั ตัวในการเล่นร่วมกบั คนอน่ื ได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเล่นเกมทก่ี าหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ลกั ษณะอำกำศ 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การเชอื่ มโยงภาพ ภาพถา่ ยและรูปแบบต่าง ๆ กบั สงิ่ ของหรอื สถานทจ่ี ริง 3.2.2 การสงั เกตความเปลีย่ นแปลงของฤดู 3.2.3 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดับเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายไปทั่วบริเวณอย่างอิสระ เมื่อได้ยิน สัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในทา่ นั้นทนั ที 4.1.2 เดก็ และครสู นทนาและตกลงร่วมกนั เกีย่ วกับกจิ กรรมที่จะให้ปฎิบตั ิ ดงั น้ี - ครูบอกวา่ ฤดรู ้อน ให้เด็กทาทา่ พัด - ครูบอกวา่ ฤดูหนาว ใหเ้ ดก็ ทาท่าหม่ ผ้า

350 - ครูบอกวา่ ฤดูฝน ใหเ้ ด็กทาท่ากางรม่ เปน็ ตน้ 4.1.3 ให้เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายอย่างอสิ ระ เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยุด ให้ปฎิบตั ิตาม ข้อตกลงจากคาบอกของครู 4.1.4 เดก็ และครรู ว่ มกนั กาหนดข้อตกลงขนึ้ ใหม่ เสรจ็ แลว้ ปฏิบตั กิ ิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครูรว่ มกันจัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ ึกกจิ กรรมการป้ันดินน้ามัน เสร็จแล้วครแู จกดนิ นา้ มนั และแผ่นรองป้นั ให้เด็กคนละ 1 ชุด โดยครอู ธบิ ายขั้นตอนการปฏบิ ตั ิให้เดก็ ดู แล้วใหล้ งมือปฎิบัติตามความคดิ สร้างสรรค์และจนิ ตนาการอย่างอสิ ระ โดยครูคอย ดูแลอยูห่ ่าง ๆ 4.2.2 เมื่อเด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกช่อื ผลงานและวิธีการ ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจดั เก็บ ให้เก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขียนชือ่ ผลงาน ช่ือเด็ก วนั เดือนปที ที่ ากากับไวด้ ้วย 4.2.3 สาหรับเด็กทีป่ ฎิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แลเว หรือรอโตะ๊ ว่างให้เล้นตามมมุ อย่างอสิ ระ เป็น การฝกึ การรอโอกาส 4.2.4 เมือ่ เด็กปฏบิ ตั ิกจิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บริเวณ และชว่ ยกนั จัดเก็บส่ิงของ อุปกรณ์ต่าง ๆ เขา้ ทใี่ หเ้ รยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ สรำ้ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครสู นทนาร่วากนั เก่ยี วกับลกั ษณะอากาศในแต่ละวัน ว่ามีท้งั อากาศเยน็ อากาศร้อน โดยครูอธิบายให้เดก็ ฟังว่า อากาศในโลกเราน้ีเปลีย่ นแปลงไป ตลอดเวลา บางครั้งกห็ นาว บางครง้ั ก็ร้อน ซ่งึ เราจะรู้สกึ ไดด้ ้วยการสมั ผสั ทาง รา่ งกาย 4.3.2 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเกยี่ วกับฤดตู า่ ง ๆ ในประเทศไทย โดยครูอธิบายให้เด็ก ฟงั ว่า ประเทศไทยเรามี 3 ฤดู คือ - ฤดูหนาว จะเริม่ ในช่วงเดอื นพฤศจิกายนร ถงึ เดือน กุมภาพนั ธ์ - ฤดรู ้อน ในระหว่างเดือนมีนาคม ถึงเดือน พฤษภาคม โดยในเดือนเมษายน อากาศจะร้อนทสี่ ุด - ฤดฝู น มีฝนตกมากในเดือนกันยายน 4.3.3 เดก็ และครูสนทนาร่วกมันเกี่ยวกับภาพฤดูต่างๆ โดยครตู ้ังคาถามให้เด็กตอบ 4.3.4 เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง “สามฤด”ู พร้อมกับทาทา่ ทางประกอบเพลงด้วย 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำท)ี 4.4.1 เด็กจดั แถวตอนเรียงหนึ่ง เดินจับเองกนั ลงสนามอย่างเปน็ ระเบียบ 4.4.2 เมอ่ื ถึงสนามแลว้ ครใู ห้เด็กอบอ่นุ ร่างกายโดยการว่ิงเหยาะ ๆ อยกู่ ับที่ 2 – 3 นาที

351 4.4.3 ครูใหเ้ ด็กได้เลน่ เคร่ืองเลน่ สนามหรอื เล่นกลางแจ้งอย่างอิสระ ตามความสนใจของ เดก็ โดยครูคอยดแู ลความปลอดภยั อย่างใกล้ชิด และแนะนาใหเ้ ด็ก ๆ เลน่ เคร่ือง เลน่ ตา่ ง ๆ อยา่ งระมดั ระวัง 4.4.4 เมอื่ ไดเ้ วลาพอสมควรครูใหเ้ ด็ก ๆ ไปทาความสะอาดร่างกาย กลับเขา้ หอ้ งเรยี นเพ่ือ เตรียมตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกับเกมจบั คภู่ าพสัมพันธ์สัตว์เลี้ยงกบั อาหาร โดยครู อธบิ ายวธิ กี ารเล่นใหเ้ ดก็ ฟงั 4.5.2 แบง่ กลุ่มเด็กให้เล่นเกมชดุ ใหม่ สลับกบั เกมท่ีเคยเล่นมาแล้ว หรือเคร่ืองเลน่ สัมผัส 4.5.3 เม่อื เด็กเล่นเสรจ็ แลว้ ครแู นะนาให้เดก็ ช่วยกนั เก็บสง่ิ ของต่าง ๆ เขา้ ทใี่ หเ้ รยี บร้อย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ดนิ น้ามนั และแผน่ รองปัน้ 5.2 เพลงสามฤดู 5.3 เกมจับคู่ภาพสัมพนั ธ์สตั วเ์ ลี้ยงกับอาหาร 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการป้ัน 6.2 เครอ่ื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้ัน 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 92 ช้ันอนุบำลปีที่ 2 352 สำระท่คี วรเรยี นร้ทู ่ี 3 ธรรมชำติรอบตัว เรือ่ ง ลมหนาว ลำดบั วนั ที่ 92 หน่วย ฤดหู นาวทีร่ ัก สัปดำห์ที่ 19 ครูผสู้ อน คณุ ครโู ชติกา เสอื พิณ โรงเรียน วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั สภาพอากาศในแต่ละวนั จะมีความแตกตา่ งกนั ไปตามฤดูกาล ในฤดูหนาวลมหนาวเป็นลมที่พัดมา จากทางทิศเหนือ ลงสูทศิ ใต้ ซึ่งจะเกดิ ขึ้นในฤดูหนาวและจะทาให้อากาศโดยทัว่ ไปเยน็ ลง 2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับสภาพอากาศในแตล่ ะวัน สามารถนาไปปรบั ใช้ใน ชวี ิตประจาวันได้ 2.2 เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์และเสรี 2.4 เพื่อให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกีย่ วกับเรื่องท่ีสนทนาได้ 2.5 เพ่อื ใหเ้ ดก็ สามารปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกับคนอน่ื ได้ 2.6 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถเล่นเกมทก่ี าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 ลมหนำว 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การสังเกตความเปล่ียนแปลงของฤดู 3.2.2 การมปี ระสบการณ์และเปรียบเทียบเวลา เชน่ ตอนเชา้ ตอนเยน็ วนั นี้ พรุ่งนี้ ฯลฯ 3.2.3 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดับเหตุการณ์ต่าง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้นื ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวรา่ งกายไปทวั่ ๆ บรเิ วณอย่างอสิ ระ เมื่อไดย้ ิน สญั ญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวในทา่ นัน้ ทนั ที

353 4.1.2 เดก็ และครูรว่ มกนั ร้องเพลง “หนาว” เสร็จแลว้ แบ่งเด็กเป็น 3 กล่มุ คอื กลมุ่ ท่ี 1 ทาท่าทางเล่นดนตรี กล่มุ ที่ 2 ร้องเพลง หนาว กลมุ่ ที่ 3 ทาท่ากายบรหิ ารประกอบเพลง 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายอิสระ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุด ให้แตล่ ะกลุ่มปฏิบัติกจิ กรรม ในข้อ 4.1.3 พร้อมกนั 4.1.4 ใหเ้ ด็กเปล่ียนกลุ่มกนั แลว้ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในข้อ 4.1.2 – 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เด็กและครรู ว่ มกันจัดเพอ่ื ใช้ฝกึ กิจกรรมการวาดภาพดว้ ยสีเทยี น เสรจ็ แลว้ ครอู ธิบาย ขั้นตอน วธิ ีการปฏบิ ตั ิให้เด็กดู แล้วให้เดก็ ลงมือปฏบิ ัติกจิ กรรมตามความคิด และ จนิ ตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครคู อยใหค้ าแนะนาอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เม่ือทาเสร็จแลว้ นาผลงานมาให้ครดู ู พร้อมกบั เลา่ เร่ืองให้ครูฟังวา่ ทาอะไร ครจู ะ เขยี นชอ่ื เดก็ ความหมายของผลงาน วันที่ทา แลว้ นาภาพข้ึนแสดงให้เพ่อื น ๆ ดู จนครบทกุ คน สาหรับผลงานช้ินใดทน่ี า่ เก็บสะสมไว้ ครแู นะนาให้เด็กเก็บผลงานไว้ ในกลอ่ งสะสมผลงานของตนเอง 4.2.3 เมือ่ เด็กปฏิบัตกิ จิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกนั จัดเกบ็ ส่งิ ของ อปุ กรณ์ต่าง ๆ เข้าท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูรว่ มกันร้องเพลง “หนาวจริง” เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกันเกี่ยวกบั เน้ือหา ของบทเพลง โดยครตู ้ังคาถามใหเ้ ดก็ ตอบ เช่น - เดก็ ๆ ร้ไู ด้อย่างไรว่าอากาศหนาว - เวลามลี มหนาวพดั มา ตน้ ไมเ้ ปน็ อย่างไร - เด็ก ๆ ชอบลมหนาวหรอื ไม่ ฯลฯ 4.3.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ที าในชว่ งที่มลี มหนาว โดยครตู ้ังคาถาม ใหเ้ ดก็ ตอบ เช่น - เดก็ ๆ รู้จัดว่าวหรอื ไม่ - เด็ก ๆ เคยเล่นวา่ วหรอื ไม่ และเล่นทไี่ หน - เวลามลี มหนาวทีบ่ า้ นของเดก็ ๆ ลมเขา้ ได้หรือไม่ เปน็ ตน้ 4.3.3 เด็กและครสู นทนาสรปุ ร่วมกันเกยี่ วกบั ลมหนาวและการเล่นวา่ วทีป่ ลอดภัย โดยครู แนะนาให้เด็กเล่นในที่โลง่ ไม่มีสายไฟฟา้ หรอื ไมเ่ ล่นวา่ วใกล้ถนน เพราะอาจเกิด อันตรายได้เสรจ็ แลว้ รว่ มกาหนดแนวทางเพ่ือนาไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาวนั

354 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำท)ี 4.4.1 เดก็ จัดแถวตอนเรียงสอง จบั มอื กนั เป็นคู่ ๆ เดินลงสนาม (เด็กท่ีไมม่ ีคู่ให้จับคู่กับครู ) เมื่อถงึ สนามแล้ว ใหเ้ ด็กอบอนุ่ รา่ งกายโดยการวง่ิ เหยาะ ๆ 2 – 3 นาที 4.4.2 เด็กและครูสนทนารว่ มมนั เกี่ยวกบั การเล่นว่าวไทย โดยครูทบทวนวธิ ีการเลน่ ให้เดก็ ฟงั 4.4.3 ที่ครแู นะนา โดยครูดแู ลความปลอดภยั อยา่ งใกล้ชิด 4.4.4 ครปู ลอ่ ยให้เด็กไดเ้ ล่นอยา่ งอิสระ 5 – 10 นาที ก่อนท่ีจะเดก็ ไปทาความสะอาด ร่างกาย ล้างหนา้ ทาธุระสว่ นตัว กลับเข้าหอ้ งเรยี น เพ่ือเตรียมตวั ไปรบั ประทาน อาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เก่ียวกบั เกมสังเกตรายละเอียดภาพเคร่ืองใช้ โดยครู แนะนาวิธีการเลน่ เกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลน่ เกมชดุ ใหม่ และเกมทีเ่ คย เลน่ มาแลว้ 4.5.3 เมื่อเด็กเลิกเล่นเกมแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันเกบ็ ของเขา้ ทใี่ หเ้ รยี บร้อย 5. สื่อกำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีเทียน 5.2 เพลงหนาว 5.3 เพลงหนาวจริง 5.4 กำรเลน่ วำ่ วไทย 5.5 เกมสงั เกตรายละเอียดภาพเคร่ืองใช้ 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ กี ำรวัดผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ตั ติ ามสัญญาณ และคาสั่ง 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถามและการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ

355 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ดี ระดบั 3 พอใช้ ระดับ 2 ปรับปรงุ ระดบั 1

356 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 93 ช้นั อนุบำลปีท่ี 2 สำระทค่ี วรเรียนร้ทู ี่ 3 ธรรมชำติรอบตัว หนว่ ย ฤดูหนาวทีร่ กั เรอ่ื ง การป้องกนั ความหนาว สัปดำหท์ ี่ 19 ลำดับวนั ท่ี 93 ครผู ูส้ อน คุณครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วัดท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั อากาศในแตล่ ะวันจะมีความแตกต่างกันไปตามฤดกู าล เมื่อเกดิ การเปลี่ยนแปลงของอากาศในแต่ละ วนั เราต้องร้จู กั ดแู ลตนเอง และปฏิบัตใิ ห้ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั สภาพอากาศ เชน่ ถ้าอากาศหนาว กค็ วรหา เส้ือผา้ ท่หี นา ๆ ใส่กนั หนาว เปน็ ตน้ 2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั สภาพอากาศในแตล่ ะวันสามารถนาไปปรับใชใ้ น ชวี ิตประจาวันได้ 2.2 เพอื่ ให้เดก็ สามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเก่ยี วกบั เรอ่ื งทีส่ นทนาได้ 2.5 เพ่อื ใหเ้ ดก็ สามารปรับตัวในการเลน่ รว่ มกับคนอ่นื ได้ 2.6 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถเลน่ เกมท่ีกาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรปฏิบัติตนในฤดูหนำว 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การมปี ระสบการณ์และเปรยี บเทยี บเวลา เช่น ตอนเชา้ ตอนเย็น วนั นี้ พรุ่งนี้ ฯลฯ 3.2.2 การอธบิ ายเกี่ยวกบั ส่ิงของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของส่ิงต่าง ๆ 3.2.3 การสังเกตความเปลยี่ นแปลงของฤดู 3.2.4 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดบั เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพ้ืนฐาน ให้เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปท่ัว ๆ บริเวณอยา่ งอิสระ เม่ือไดย้ ิน สญั ญาณหยุดให้หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นน้ั ทนั ที

357 4.1.2 เดก็ และครู สนทนาร่วมกนั เกี่ยวกับการเปน็ ผู้นา ผตู้ าม โดยแบ่งเดก็ ออกเปน็ 3 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ เข้าแถวเปน็ วงกลม หนั หนา้ เขา้ กลางวง หาอาสาสมคั รออกมาเปน็ ผนู้ าการเคลอ่ื นไหว ใหเ้ พื่อน ๆ ทาตาม 4.1.3 เมื่อได้ยนิ สัญญาณหยุดให้ผู้นากลบั มาทีเ่ ดิมผลัดเปลีย่ นคนใหมอ่ อกมาเป็นผูน้ าบ้าง เปน็ การฝกึ ความกล้าในการแสดงออก 4.1.4 ใหเ้ ด็กปฏิบัติกจิ กรรมนจี้ นครบทุกคนหรือจนสมควรแก่เวลา 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครูรว่ มกนั จัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ ึกกจิ กรรมการวาดภาพด้วยสนี า้ เสรจ็ แล้วครู อธบิ ายขั้นตอน การปฎบิ ัติกจิ กรรม ให้เดก็ ดู และแจกใบงานให้เด็กคนละ 1 แผ่น อธบิ ายคาสั่งให้เด็กฟัง และให้ลงมือปฏิบัติตามคาสั่งในใบงาน และปฏิบตั ติ าม ความคิด จินตนาการของตนเองอย่างอสิ ระ โดยครคู อยใหค้ าแนะนาอย่หู า่ ง ๆ 4.2.2 เม่ือเด็กปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาให้ครูดู โดยบอกช่ือผลงานและวธิ กี าร ทา ผลงานใดทีเ่ หมาะจะจัดเก็บไว้ ใหเ้ ก็บไว้ในกลอ่ งสะสมผลงานของเด็กเอง โดยครู เขยี นชอ่ื ผลงาน ช่ือเด็ก วนั เดือนปีท่ีทากากับไวด้ ้วย 4.2.3 เม่อื ปฏิบตั ิดกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันทาความสะอาดบริเวณ และช่วยกนั จัดเกบ็ ส่ิงของ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ เข้าท่ใี ห้เรยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครรู ว่ มกนั ท่องคาคล้องจอง “ฤดหู นาว” เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกันเกย่ี วกบั อากาศในฤดูหนาว โดยครหู าเดก็ อาสาสมัคร 2 – 3 คน ออกมาถอดเสื้อ แล้วบอก เพอ่ื น ๆ วา่ เกิดอะไรข้ึน เช่น รสู้ ึกเยน็ หรือรู้สึกรอ้ น 4.3.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกยี่ วกบั การปฏิบตั ิตนในฤดูหนาว วา่ ควรใสเ่ ส้ือผ้าหนา ๆ เพ่อื ใหร้ า่ งกายอบอนุ่ และเวลานอนก็ควรหม่ ผา้ เพราะอาจจะเป็นหวดั ได้ 4.3.3 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกีย่ วกับการปฏบิ ัตติ นของในชมุ ชนว่า ในฤดูหนาวนใี้ น ชมุ ชนของเด็ก ๆ ใครทาอะไรบ้าง เช่นผิงไฟ เกีย่ วขา้ ว เล่นว่าว เป็นต้น เสรจ็ แลว้ สนทนา สรุปร่วมกนั เกี่ยวกับผลท่เี กดิ จากอากาศหนาว 4.3.4 ครใู หเ้ ดก็ วาดภาพกิจกรรมในฤดหู นาวของท้องถนิ่ ตามความคดิ และจินตนาการ ของเด็ก และวาดภาพใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ สนทนาสรุปรว่ มกนั เกยี่ วกบั การปฏิบัติ ตนในฤดหู นาวเพ่ือนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรยี งสอง จบั มอื กันเปน็ คู่ ๆ วง่ิ เหยาะ ๆ ลงสนาม (เด็กที่ไม่มีคู่ให้จบั กับคร)ู เมื่อถึงสนามแลว้ ครใู ห้เดก็ อบอนุ่ ร่างกายโดยการกระโดดอยู่กับที 2 – 3 นาที

358 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกีย่ วกับการเล่นเกมจับค่กู ระโดด โดยครูอธบิ าย และ สาธติ วธิ ีการเล่นให้เดก็ ดู ดงั นี้ - เดก็ จบั มือกนั เปน็ คู่ หันหนา้ ไปทางเดียวกนั (เด็กที่ไมม่ ีคู่ให้จับคกู่ บั ครู) - ครอู อกคาส่ังใหเ้ ดก็ กระโดดในทศิ ทางใดก็ได้ เช่น กระโดดไปขา้ งหน้า กระโดดไปขา้ งหลงั กระโดดไปทางขวา กระโดดไปทางซา้ ย ฯลฯ - ถา้ คูใ่ ดมือหลุดจากกนั คนู่ ั้นต้องออกจากการแขง่ ขนั 4.4.3 ครใู หเ้ ดก็ ไดเ้ ลน่ อย่างอสิ ระ 5 – 10 นาที กอ่ นท่ีจะใหเ้ ด็กไปทาความสะอาด ร่างกาย ล้างหนา้ ลา้ งมือ ทาธรุ ะส่วนตัว กลับเขา้ ห้องเรียน เพอื่ เตรยี มตัวไป รบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกับเกมโดมโิ นภาพเครอ่ื งใชใ้ นฤดูหนาว โดยครู อธบิ ายวิธีการเล่นใหเ้ ดก็ ฟงั 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลุม่ ให้เล่นเกมชุมใหม่ท่ีครแู นะนา สลบั กับเกมท่ีเคยเล่นมาแล้ว หรอื เครอ่ื งเล่นสมั ผสั 4.5.3 เมื่อเด็กเล่นเสร็จแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกนั เกบ็ สงิ่ ของต่าง ๆ เข้าท่ใี หเ้ รยี บร้อย 5. สอื่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สนี า้ พกู่ นั 5.2 คาคลอ้ งจอง ฤดูหนาว 5.3 เกมจับคู่กระโดด 5.4 เกมโดมโิ นภาพเครื่องใชใ้ นฤดูหนาว 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณและการเป็นผนู้ า ผู้ตาม 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรงุ

359 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ 94 ชนั้ อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระทคี่ วรเรียนรทู้ ่ี 3 ธรรมชำติรอบตวั หน่วย ฤดูหนาวที่รัก เรือ่ ง เที่ยวงานฤดูหนาว สัปดำหท์ ี่ 19 ลำดบั วนั ท่ี 94 ครผู ู้สอน คณุ ครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วัดทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในฤดหู นาวมีการจัดกิจกรรมร่ืนเริงจานวนมา การเข้าร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ ท่ีจดั ขึ้นในฤดหู นาว จะต้องรจู้ ัดดแู ลตนเอง เนื่องจากอากาศจะเยน็ มากอาจทาใหไ้ ม่สบายได้ เราควรดูแลตนเองใหด้ ี 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั สภาพอากาศในแตล่ ะวนั สามารถนาไปปรับใช้ใน ชีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกย่ี วกบั เรือ่ งท่สี นทนาได้ 2.5 เพ่ือให้เด็กสามารปรบั ตัวในการเลน่ ร่วมกบั คนอ่ืนได้ 2.6 เพ่อื ให้เดก็ สามารถเล่นเกมท่กี าหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 เท่ยี วงำนฤดูหนำว 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การสงั เกตความเปล่ยี นแปลงของฤดู 3.2.2 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดบั เหตุการณ์ 3.2.3 การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี 3.2.4 การมีประสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรค์รว่ มกบั ผู้อน่ื 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ บรเิ วณอย่างอิสระ เมื่อได้ยิน สัญญาณหยดุ ใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในทา่ นัน้ ทันที 4.1.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกบั คาบรรยายทีจ่ ะให้ปฏบิ ตั ิ เช่นฤดูหนาวนี้อากาศ หนาวมาก หนูแดงต้องนอนขดตัวอย่บู นเตยี ง แมส่ งสารหนูแดง จงึ เอาผา้ ห่มมาหม่

360 ให้ หนแู ดงก็ยังไมห่ ายหนาว แม่จึงเอาเสอ้ื มาให้ใส่อีกชน้ั หนงึ่ หนแู ดงจงึ นอนอย่าง มคี วามสุข 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุด ใหห้ ยดุ ฟังคาบรรยาย และปฏบิ ัตติ าม 4.1.4 เดก็ และครูร่วมกนั กาหนดคาบรรยายข้นึ ใหม่ เสร็จแลว้ ปฏิบตั ิกิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซา้ อกี 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกนั จัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ ึกกิจกรรมการพับสี โดยครทู บทวนวธิ ีการใหเ้ ด็กดู แล้วให้เด็กปฏิบตั ิกิจกรรมโดยอสิ ระ ตามความคิดสรา้ งสรรคข์ องเด็ก โดยครูคอย ดแู ลความปลอดภยั อยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เม่ือเด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาให้ครูดู โดยบอกชื่อผลงานและวีธ การทา ผลงานใดทีเ่ หมาะสมจะจดั เกบ็ ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดย ครเู ขยี นช่ือผลงาน ชอื่ เด็ก วันเดือนหปีท่ที ากากบั ไว้ด้วย 4.2.3 เม่ือเด็กปฏบิ ัติกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บริเวณและช่วยกนั จดั เก็บสง่ิ ของ อุปกรณต์ า่ งๆ เข้าที่ให้เรียบรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับกจิ กรรม ในช่วงฤดูหนาวนมี้ ีอะไรบ้าง ซง่ึ จะได้ คาตอบท่หี ลากหลาย และครูอธบิ ายใหเ้ ดก็ ฟังวา่ นอกจากกิจกรรมที่เด็กบอกมาแล้ว น้นั ยังมกี ิจกรรมอย่างหนึ่งทีม่ ักจัดในฤดูหนาวก็คือ งานฤดูหนาว ซึง่ เป็นงานบันเทิง จะมีการขายสนิ คา้ และการละเล่นต่าง ๆ มากมาย ท่ีทุกปีจะมปี ระชาชนจดั งานนี้ ขึ้นเพื่อเปน็ การพกั ผ่อน และรืน่ เริง หลังจากประกอบกจิ กรรมในชวี ิตประจาวันมา เกอื บตลอดปี โดยในงานจะมีการแสดงมหรสพตา่ ง ๆ มากมาย เช่น ดนตรี หมอ ลา ภาพยนตร์ ชงิ ชา้ สวรรค์ ฯลฯ 4.3.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั การไปเทีย่ วงานฤดหู นาวว่า มคี วามรูส้ กึ อยา่ งไร โดยให้เดก็ วาดภาพตามความคดิ จนิ ตนาการเกย่ี วกับงานฤดูหนาว 4.3.3 เด็กและครสู นทนาสรุปร่วมกันเก่ียวกบั งานฤดูหนาวว่าเดก็ ๆ ควรไปเทย่ี วแต่ พอสมควรและมผี ปู้ กครองไปด้วย 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กจดั แถวตอนเรียงหน่งึ ว่งิ ตามกันลงสูส่ นาม และเม่ือถึงสนามแลว้ ให้เดก็ อบอนุ่ ร่างกายโดยการว่ิงเหยาะ ๆ 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเก่ยี วกับการเลน่ วง่ิ เปย้ี วอกี คร้งั หนงึ่ โดยครูคอยดูแล อยา่ งใกลช้ ดิ

361 4.4.3 ให้เด็กไดเ้ ลน่ อย่างอิสระ 4 – 5 นาที เสรจ็ แล้วใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ลา้ งหน้า ล้างมอื ทาธรุ ะส่วนตวั กลับเข้าหอ้ งเรียน เพ่ือเตรยี มตวั ไปรบั ประทาน อาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนารว่ มกนั เก่ียวกบั เกมตารางสมั พันธภ์ าพลายเสน้ กับสี โดยครู อธิบายวธิ ีการเลน่ ให้เด็กฟงั 4.5.2 แบ่งกลุม่ เด็กใหเ้ ลน่ เกมชดุ ใหม่ทีค่ รแู นะนา และเกมทเี่ คยเลม่ าแล้ว หรือเครอ่ื งเลน่ สัมผสั 4.5.3 เมือ่ เด็กเล่นเกมเสร็จแล้วให้เก็บสงิ่ ของเขา้ ที่ 5. สอื่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีนา้ กระดาษ 5.2 เกมวง่ิ เป้ยี ว 5.2 เกมตารางสัมพนั ธ์ภาพลายเส้นกบั สี 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ัดผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็น และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการพับสี 6.2 เคร่อื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพับสี 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง

362 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 95 ชัน้ อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรียนร้ทู ี่ 3 ธรรมชำตริ อบตวั หน่วย ฤดูหนาวทรี่ กั เร่ือง ฤดูหนาวทร่ี กั ลำดบั วันที่ 95 สปั ดำห์ที่ 19 ครูผู้สอน คณุ ครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในฤดูหนาวอากาศจะเย็น ทาใหม้ โี รคภัยไขเ้ จ็บเกิดขน้ึ มาในฤดูนี้ เชน่ โรคหวัด เป็นตน้ เราตอ้ ง รจู้ ักการดูแลตนเองใหร้ ่างกายอบอ่นุ เราจะปลอดภัยจากโรคภัยนี้ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพือ่ ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับสภาพอากาศในแตล่ ะวันสามารถนาไปปรับใชใ้ น ชวี ิตประจาวนั ได้ 2.2 เพ่อื ให้เด็กสามารถปฏบิ ัติตามสัญญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพื่อให้เด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกีย่ วกับเรอ่ื งท่ีสนทนาได้ 2.5 เพ่ือให้เดก็ สามารปรบั ตัวในการเล่นร่วมกับคนอน่ื ได้ 2.6 เพ่อื ให้เด็กสามารถเลน่ เกมท่กี าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 โรคภยั ท่ีเกดิ ในฤดูหนำว 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความต่างของสิ่งตา่ ง ๆ 3.2.2 การสงั เกตความเปลย่ี นแปลงของฤดู 3.2.3 การแกป้ ัญหาในการเลน่ 3.2.4 การวางแผนตัดสนิ ใจเลือก ลงมอื ปฏิบัติ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมขั้นพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่อื นไหวร่างกายไปท่วั ๆ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ เมื่อได้ ยินสญั ญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่าน้นั ทนั ที 4.1.2 เด็กและครสู นทนา ตกลงรว่ มกนั เกย่ี วกับคาบรรยายท่จี ะปฏบิ ัติ ดังนี้ “เมอื่ คืน นอนไม่ห่มผ้า ต่ืนเช้าข้นึ มารู้สึกมนี า้ มูกใสไหลออกมา ใชผ้ า้ เชด็ เดนิ ไปหาคุณแม่ คณุ แมห่ ยบิ ยาใหท้ านบอกวา่ หนเู ปน็ หวัด และยังใชย้ าทาหน้าอกและคอใหด้ ้วย”

363 4.1.3 ให้เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายอสิ ระ เมอ่ื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ใหเ้ ดก็ ปฏิบัตติ ามคา บรรยายของครู 4.1.4 เด็กและครูร่วมกันกาหนดคาบรรยายขึ้นใหม่ และปฏิบตั ติ ามข้อ 4.1.2 ซา้ อกี 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ว่ มกนั จัดโต๊ะเพ่ือใช้ฝึกกจิ กรรมการพิมพ์ภาพ เสรจ็ แลว้ ครอู ธิบาย ขน้ั ตอน การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ใหเ้ ดก็ ดู แลว้ ใหล้ งมือปฏบิ ัตติ ามแบบท่ีครูแนะนา อย่างอิสระ โดยครูคอยดูแลอยูห่ า่ ง ๆ 4.2.2 เมือ่ เด็กปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกช่ือผลงานและ วิธีการทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ ก็บไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครูเขยี นช่ือผลงาน ชอื่ เด็ก วนั เดอื นปีท่ีทากากับไวด้ ้วย 4.2.3 เมื่อเด็กปฏิบตั ิกิจกรรมครบทุกคนแล้ว ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกนั จดั เก็บส่งิ ของ อปุ กรณต์ ่าง ๆ เข้าท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกยี่ วกบั โรคภยั ไขเ้ จ็บท่ีเกิดในฤดูหนาว โดยครตู ้ังคาถาม ใหเ้ ด็กชว่ ยกนั หาคาตอบ เช่น - เม่ือมีอากาศหนาวเด็ก ๆ รสู้ ึกหายใจเป็นอยา่ งไร - เด็ก ๆ เคยเป็นหวดั หรอื ไม่ - อาการของหวัดเป็นอย่างไรบ้าง เป็นตน้ 4.3.2 ครเู ลา่ นิทานเรอื่ ง “เด็กชายอ๊อด” ใหเ้ ด็กฟงั เสรจ็ แลว้ สนทนาร่วมกนั เกี่ยวกับเร่อื ง ในนิทาน 4.3.3 เด็กและครรู ่วมกันร้องเพลงหนาว พรอ้ มกับทาท่าทางประกอบดว้ ย เสร็จแลว้ สนทนาร่วมกันเกยี่ วกับเน้ือหาของเพลง 4.3.4 เด็กและครสู นทนาสรุปร่วมกันเก่ยี วกับเนอ้ื เร่ืองในนทิ าน และเน้อื เพลง เพื่อกาหนด เปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิตนในฤดูหนาว เช่น ใสเ่ ส้อื ผ้าหนา ๆ นอนห่มผา้ เพ่ือ ความอบอ่นุ ออกกาลังกาย รบั ประทานอาหารทีมีประโยชน์ จึงจะสามารถต่อสู้กับ อากาศท่หี นาวได้ 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรียงหน่งึ เดินตบมือเปน็ จังหวะ เดนิ ลงสนามอย่างเป็นระเบยี บ 4.4.2 เมอ่ื ถึงสนามแลว้ ใหเ้ ด็กอบอ่นุ ร่างกายโดยการว่งิ เหยาะ ๆ อยูก่ บั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.3 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกีย่ วกับการเล่นเกมชักคะเยอ่ โดยครูแนะนาวธิ ีการเล่น ให้เดก็ ฟัง เสรจ็ แล้วให้เด็กได้ลองเล่น 4.4.4 เมอ่ื เล่นเกมท่คี รูแนะนาเสรจ็ แล้ว ครูให้เดก็ ได้เลน่ อยา่ อิสระ 5 – 10 นาที

364 4.4.5 เมอื่ ได้เวลาพอสมควร ครูใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทา ธรุ ะสว่ นตัว กลับเข้าหอ้ งเรียน เพอื่ เตรยี มตัวไปรับประทานอาหารกลาววนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกย่ี วกบั เกมจบั คู่ต่อภาพให้สมบรู ณ์ โดยครูอธบิ ายวิธกี าร เล่นใหเ้ ดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งเดก็ เปน็ กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลน่ เกมชดุ ใหม่ เกมทเี่ คยเล่นมาแล้ว หรอื เครือ่ ง เลน่ สัมผัส 4.5.3 เมื่อเด็กเลินเลน่ แล้วให้เกบ็ สิง่ ของเขา้ ที่ 5. ส่ือกำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สนี ้า 5.2 นิทานเร่ือง เด็กชายอ๊อด 5.3 เพลงหนาว 5.4 การเลน่ ชักคะเยอ่ 5.5 เกมจบั คูต่ ่อภาพใหส้ มบรณู ์ 6. เกมวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบตั ิตามสัญญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม การแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการพิมพภ์ าพ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพมิ พ์ภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง

365 ภาคผนวก เพลงสำมฤดู ฤดหู นาวราวเดือนพฤศจิกา (ศรีนวล รตั นสวุ รรณ) สามฤดูเวียนกันในรอบปี ฤดฝู นเรม่ิ ต้นเดือนพฤษภา ฤดูรอ้ นเริม่ ราวเดือนมีนา เพลงหนำว พอถงึ หนา้ หนาว (วชิ ัย น้อยเสนยี ์) หนาวโน่น หนาวนี่ หนาวนนั่ ไม่รู้จะทาอย่างไร หนาว หนาว หนาว พอหนาวอีกที แหมมนั หนาวจนสั่น ตนื่ เชา้ ตอ้ งออกกาลังกาย มนั หนาวจนสน่ั แลว้ ทางานไปจะหายหนาวเอย เอาอย่างนี้ เอาอยา่ งน้ี เอาอย่างน้ี ตอ้ งแขง็ แรงวอ่ งไว ต่นื เช้าตอ้ งออกกาลังกาย เพลงหนำวจริง หนาวจริง ผงิ ไฟ ก็อุน่ (เตอื นใจ ศรมี ำรตุ ) หยดุ วงิ่ กอ็ ่นุ หายหนาว แลว้ เอย หนาวจรงิ หนาวจริง หนาวจริว ออกกาลงั วง่ิ กัน ชลุ มุน (ซ้า) คำคล้องจองฤดหู นำว ห่มผ้าขนสตั ว์ (ไมท่ รำบนำมผ้แู ต่ง) หรือหนวู ่าไร อว้ นพแี จม่ ใส สวสั ดหี นูจ๋า ดีจริงหนูเอย มันหนาวชะมัด หนเู ปน็ เด็กดี รกั ษาอนามยั

366 นทิ ำนเร่ือง เดก็ ชำยอ๊อด (มัลลกิ ำ เฉลมิ พงษ์) ในตอนเชา้ อากาศหนาว เดก็ ชายออ๊ ดนอนขดบนท่นี อน ผา้ ห่มไปกองอยูป่ ลายเท้า เพราะเขาถีบออก ทุกครง้ั ท่คี ุณแม่หม่ ผา้ ให้ เมอื่ เขาตนื่ ข้นึ มา เขารสู้ ึกปวดศรีษะและปวดเม่ือย รวมท้ังเจบ็ คอ และไมม่ ีเสียง เขาพยายามจะลุกขน้ึ เพื่อแตง่ ตวั ไปโรงเรยี น ก็ลกุ ไม่ไหว คุณแมเ่ ข้ามาจบั ตัวออ๊ ด กพ็ บว่าตัวร้อนมาก คณุ แม่ จงึ พาอ๊อดไปหาหมอ หมอฉีดยาให้และไปหายามารบั ประทาน ทาให้เขาสบายข้ึน เม่ือพักอย่บู ้าน 2 – 3 วนั จงึ ไปโรงเรียนได้ ครูจงึ เตือนอ๊อดและเพ่ือน ๆ ว่าให้ระมัดระวังสขุ ภาพของตนเอง ควรรกั ษาร่างกายให้อบอุ่นอยเู่ สมอ แล้วจะไม่เจ็บป่วย ถา้ ไม่ระมัดระวังตนเอง อาจทาให้เเกินเจ็บคอ หายใจไมอ่ อก อาจปอดบวมได้ และในฤดู หนาวผิวหนังและปากแห้ง ครูแนะนาให้ทาครมื สาหรับทาปากและผวิ หนังเพือ่ ใหเ้ กดิ ความชุมชืน้ กำรเลน่ ว่ำวไทย \"กำรเลน่ ว่ำวไทย\" น้ัน เร่ิมมาตั้งแตส่ มัยกรุงสุโขทัยเร่อื ยมา ตามท่ีปรากฏหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ และถือเป็นส่ิงที่บ่งบอกถงึ ภูมิปญั ญาพื้นบ้านและวฒั นธรรมของไทยได้อย่างดี เพราะแตล่ ะท้องถ่นิ จะคิด ประดิษฐว์ า่ วแตกต่างกนั ไป \"ว่ำวไทย\" จึงกลายเป็นมรดกตกทอดของแตล่ ะชุมชนและมีลักษณะเฉพาะตวั ที่ โดดเด่น โดย \"ว่ำว\" มีหลายประเภท เช่น \"วำ่ วจุฬำ\" มีลักษณะเป็น 5 แฉก นยิ มเล่นในภาคกลาง, \"ว่ำววง เดือน\" หรือ \"ว่ำวบุหลัน\" มักตกแต่งเป็นลวดลายเรือกอและ นยิ มเลน่ ในภาคใต้ตอนล่าง นอกจากนีย้ งั มี \"วำ่ ว ปักเป้ำ\", \"ว่ำวงู\" ฯลฯ การเล่นวา่ วนัน้ เลน่ ได้ท้ังหน้าหนาวและหน้ารอ้ น โดยอาศัยกระแสลมเป็นตวั ฉดุ ใหว้ า่ วลอยขึน้ โดย หากเป็นลมหนา้ หนาว จะเปน็ ลมทพี่ ัดจากผนื แผน่ ดนิ ลงสู่ทะเล ทาให้คนภาคเหนือและภาค ตะวนั ออกเฉยี งเหนือนยิ มเล่นว่าวกันในชว่ งน้ี สว่ นหน้ารอ้ น มลี มตะวนั ตกเฉียงใตจ้ ากทะเลพดั สู่ผืน แผ่นดนิ ใหญ่ เรียกว่า \"ลมตะเภา\" ทาใหช้ าวภาคกลาง ภาคตะวนั ตกและภาคใต้ นยิ มเล่นว่าวในฤดูนี้ สว่ นวธิ ีกำรเลน่ วำ่ วนัน้ สว่ นใหญ่จะชักว่ำวให้ลอยสูงติดลมบน เพ่อื ดคู วำมสวยงำมของว่ำวรูป ต่ำง ๆ หรือฟังเสียงของวำ่ ว นอกจำกนีย้ งั สำมำรถชกั ว่ำวตอ่ ส้กู นั บนอำกำศก็ได้

367 เรอ่ื ง ใบงำน จุดประสงค์ ฤดหู นาว 1. เพอ่ื พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ คำสงั่ 2. เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถวาดภาพ และระบายสภี าพที่กาหนดใหไ้ ด้ ให้เดก็ วาดภาพฤดูหนาว ตามความคดิ และจินตนาการของตนเอง แลว้ ระบายสใี ห้สวยงาม ผ้ปู ระเมนิ ครู ผปู้ ระเมนิ ผูป้ กครอง เกณฑก์ ำรประเมิน เกณฑ์กำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรุง ปรบั ปรุง ผปู้ ระเมนิ ตนเอง ผู้ประเมนิ เพอื่ น เกณฑก์ ำรประเมิน เกณฑก์ ำรประเมิน ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ

368 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 96 ช้ันอนบุ ำลปีท่ี 2 สำระทคี่ วรเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ืองรำวเกีย่ วกับตัวเดก็ หนว่ ย สขุ ภาพของเรา เรื่อง การออกกาลังกาย สัปดำหท์ ่ี 20 ลำดบั วันที่ 96 ครผู ู้สอน คุณครโู ชติกา เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั สุขภาพของเราจะเจรญิ เตบิ โตไดต้ ้องอาศยั อาหาร และการออกาลงั กาย และการกออกกาลังการ กลางแจ้งอย่างสมา่ เสมอ นอกจากจะช่วยให้สขุ ภาพเจริญเตบิ โตแล้ว ยังชว่ ยใหจ้ ิตใจแจ่มใสได้อีกด้วย 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพอื่ ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การดแู ลสุขภาพ การเล่น การออกกาลงั กายกลางแจ้ง และสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 2.2 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถปฏบิ ัติตามสญั ญา และขอ้ ตกลงได้ 2.3 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเกยี่ วกับเรื่องทสี่ นทนาได้ 2.5 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถปรับตัวในการเลน่ ร่วมกับคนอ่ืนได้ 2.6 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถเล่นเกมท่ีกาหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรออกกำลังกำยกลำงแจ้ง 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การเลยี นแบบการกระทาและเสยี งต่าง ๆ 3.2.2 การเช่ือมโยงภาพ ภาพถา่ ยและรูปแบบตา่ ง ๆ กับสิ่งของหรือสถานทจ่ี รงิ 3.2.3 การเคลอ่ื นไหวจากท่ีหน่ึงไปที่หนงึ่ 3.2.4 การเคล่ือนไหวพร้อมดว้ ยวัสดอุ ุปกรณ์ 3.2.5 การรว่ มปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจาวันของกลุ่ม 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพืน้ ฐาน ให้เดก็ เคล่อื นไหวสขุ ภาพไปทวั่ บรเิ วณอย่างอิสระ เมื่อไดย้ นิ สญั ญาณหยุดให้หยดุ เคลอื่ นไหวในท่าน้นั ทนั ที 4.1.2 เดก็ และครูสนทนาตกลงร่วมกันเกย่ี วกับสัญญาณทจี่ ะปฏิบัติเช่น

369 - ถ้าครเู คาะรวั เสยี งดงั ใหเ้ ดก็ กระโดด - ถา้ ครเู คาะจงั หวะรวั เบา ๆ ให้เด็กนงั่ ลง 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวอยา่ งอิสระ เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยุด ให้ฟังและปฏิบัติตามข้อตกลง ท่รี ว่ มกนั กาหนดไว้ 4.1.4 เดก็ และครูร่วมกนั กาหนดข้อตกลงขนึ้ ใหม่ และปฏบิ ัติตามขอ้ 4.1.3 ซ้าอีก 2 – 3 คร้ัง จนสมควรแกเ่ วลา 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจดั โต๊ะเพ่ือฝกึ กิจกรรมการป้ันดนิ น้ามัน เสร็จแลว้ ครูแจกดินน้ามนั และแผ่นรองป้นั ใหเ้ ด็กคนละ 1 ชดุ โดยครอู ธบิ ายข้นั ตอนการปฏบิ ัติให้เด็กดู แล้วให้ ลงมือปฏิบตั ิตามความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการอยา่ งอิสระโดยครคู อยดูแลอยู่ ห่าง ๆ 4.2.2 เมอ่ื เด็กปฏบิ ัติกจิ กรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกช่อื ผลงานและวิธกี าร ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจดั เกบ็ ให้เกบ็ ไวใ้ นกล่องสะสมผลงานของเด็กเอง โดย ครูเขยี นช่อื ผลงาน ชอ่ื เด็ก วนั เดอื นปที ี่ทากากับไวด้ ้วย 4.2.3 เมอื่ เด็กปฏิบัติกิจกรรมเสรจ็ แลว้ หรือรอโตะ๊ ว่างใหเ้ ลน่ ตามมมุ อยา่ งอิสระเป็นการ ฝึกการรอโอกาส 4.2.4 เม่อื เด็กปฏบิ ตั ิกจิ กรรมครบทุกคนแล้ว ครแู นะนาให้เด็กช่วยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกันจดั เกบ็ อปุ กรณต์ ่าง ๆ เขา้ ทใี่ ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกับการออกกาลงั กายกลางแจ้ง โดยครูอธบิ ายถงึ ประโยชน์ของการออกกาลังกายให้เดก็ ฟงั 4.3.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เก่ยี วกับความแตกตา่ งของคนออกกาลังกายและไม่ออก กาลังกาย ว่ามีความแตกต่างกนั อยา่ งไร โดยครตู ัง้ คาถามให้เดก็ ตอบ เชน่ - คนออกกาลังกายกบั คนไม่ออกกาลงั กายใครแขง็ แรงกวา่ กัน - เดก็ ๆ อยากเปน็ คนมพี ลงั หรือไม่ - ถ้าอยากเปน็ ต้องปฏิบตั ิตนอย่างไร 4.3.3 เดก็ และครูสนทนาสรุปรว่ มกันกาหนดแนวทางเพ่ือนาไปปฏบิ ัตใิ นชีวิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรยี งหน่ึง ทาทา่ นกบนิ ลงสู่สนาม เม่ือถงึ สนามแล้วให้เด็กอบอุ่น สุขภาพโดยการว่ิงเหยาะ ๆ 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเก่ียวกับการเลน่ เครื่องเล่นสนามคร้งั ทผี่ ่านมา วา่ ใคร ได้รับบาดเจบ็ จากเครื่องเล่นสนามชนิดใดบ้าง

370 4.4.3 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั วิธีการเล่นเครอ่ื งเล่นสนามทีป่ ลอดภัย โดยครู แนะนาวา่ เด็ก ๆ ควรใชค้ วามระมัดระวังในการเลน่ จงึ จะไม่ไดร้ ับบาดเจ็บ 4.4.4 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กไดเ้ ล่นอย่างอิสระตามสนใจของเด็ก โดยครูคอยดูแลความปลอดภัย อยา่ งใกล้ชดิ 4.4.5 เม่ือสมควรแก่เวลาครใู หเ้ ด็กไปทาความสะอาดสุขภาพ ล้างหนา้ ล้างมือ ทาธุระ ส่วนตัว กลับเขา้ ห้องเรียน เพื่อเตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกับเกมจัดหมวดหมู่สญั ลักษณ์ในชีวติ ประจาวนั โดย ครอู ธิบายวธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กฟงั 4.5.2 แบ่งเดก็ ออกเปน็ กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลุม่ เล่นเกมชุดใหม่ท่คี รแู นะนา สลบั กนั เกมที่เคย เล่นมาแลว้ หรือเคร่ืองเล่นสัมผสั 4.5.3 เมอื่ เด็กเลิกเล่นแลว้ ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั เก็บสิ่งตา่ ง ๆ เขา้ ทใ่ี ห้เรยี บร้อย 5. สอ่ื กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ดินน้ามนั และแผน่ รองปั้น 5.2 เกมจัดหมวดหมู่สัญลักษณ์ในชีวิตประจาวัน 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธีวัดผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสัญญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการป้ัน 6.2 เครือ่ งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลกานจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้ัน 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

371 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 97 ช้ันอนุบำลปีท่ี 2 สำระท่ีควรเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื งรำวเกี่ยวกับตัวเดก็ หนว่ ย สขุ ภาพของเรา เรื่อง การพักผ่อน ลำดบั วนั ท่ี 97 สัปดำหท์ ่ี 20 ครูผ้สู อน คณุ ครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วัดทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ สุขภาพของเราจะเจรญิ เตบิ โตได้ สขุ ภาพของเรานอกจากจะอาศัยอาหาร และการออกกาลงั กาย เพื่อใหส้ ุขภาพเจรญิ เติบโตแล้ว ยงั ต้องการการพักผ่อนสุขภาพและจิตใจ เพื่อให้สขุ ภาพแขง็ แรงสมบรู ณ์ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพอ่ื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การดแู ลสุขภาพ การเลน่ การออกกาลงั กายกลางแจ้ง การพักผอ่ น และสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ 2.2 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญา และข้อตกลงได้ 2.3 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกีย่ วกับเร่ืองท่สี นทนาได้ 2.5 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเล่นรว่ มกับคนอนื่ ได้ 2.6 เพ่อื ให้เด็กสามารถเล่นเกมท่กี าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรพกั ผอ่ น 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การสารวจและอธิบายความเหมือน ความต่างของสง่ิ ต่าง ๆ 3.2.2 การร่วมปฏิบตั กิ จิ วัตรประจาวันของกลุ่ม 3.2.3 การมีประสบการณ์และเปรยี บเทยี บเวลา เชน่ ตอนเช้า ตอนเย็น วนั นี้ พรงุ่ น้ี ฯลฯ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมกำรเคล่อื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพ้นื ฐาน ให้เดก็ เคลื่อนไหวสขุ ภาพไปท่วั ๆ บริเวณอย่างอสิ ระ เมื่อไดย้ ิน สญั ญาณหยดุ ให้หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นั้นทนั ที 4.1.2 เดก็ และครูรว่ มกาหนดสญั ญาณเพ่ือปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเชน่ - สญั ญาณรบั ให้เด็กทาท่าเตะฟุตบอล - สัญญาณกลองใหเ้ ด็กเล่นบาสเกตบอล

372 - สญั ญาณฉ่ิงให้เดก็ เล่นแบดมนิ ตนั 4.1.3 ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณหยุดแต่ละคร้ังใหฟ้ งั สญั ญาณและปฏิบตั ิตามท่ีได้ตกลงกันไว้ 4.1.4 เดก็ และครรู ว่ มกันกาหนดสัญญาณขึ้นใหม่ แลว้ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในขอ้ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูรว่ มกนั จัดเพ่ือใช้ฝกึ กจิ กรรมการวาดภาพดว้ ยสเี ทียน เสร็จแลว้ อธิบาย ขน้ั ตอน วธิ ีการปฏิบตั ิใหเ้ ด็กดู และแจกใบงานให้เด็กคนละ 1 อัน สนทนารว่ มกนั เกีย่ วกับรายละเอยี ดในใบงาน เสร็จแลว้ ใหเ้ ด็กลงมือปฏบิ ัติกจิ กรรมตามคาส่งั ในใบ งาน และกจิ กรรมอยา่ งอสิ ระตามความคดิ สรา้ งสรรคข์ องแต่ละคน 4.2.2 เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาใหค้ รดู ู พรอ้ มกบั เลา่ เร่ืองให้ครฟู งั วา่ ทาอะไร ครจู ะ เขยี นช่ือเดก็ ความหมายของผลงาน วันทีท่ า และนาภาพข้ึนแสดงให้เพื่อน ๆ ดู จนครบทกุ คน สาหรบั ผลงานช้ินใดท่ีน่าเกบ็ สะสมไว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กเก็บผลงานไว้ ในกลอ่ งสะสมผลงานของตนเอง 4.2.3 เมื่อเด็กปฏิบตั กิ จิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาใหช้ ว่ ยกันทาความสะอาดบริเวณ และช่วยกันจัดเกบ็ สิง่ ของ อุปกรณต์ า่ ง ๆ เขา้ ทีใ่ ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั การพักผ่อนในชวี ิตประจาวัน โดยครูอธบิ ายให้ เดก็ ฟงั วา่ นอกจากเราจะทางานและเรยี นหนงั สอื แล้ว เรายงั มเี วลาเพอื่ พักผอ่ นอกี ด้วย เพราะการพักผ่อนทาให้สขุ ภาพเราไม่อ่อนเพลีย เราจะได้มกี าลงั ปฏบิ ตั ิ กิจกรรมประจาวันไดใ้ นวนั ต่อไป 4.3.2 เดก็ และครูรว่ มกนั หาอาสาสมัครออกมาเล่าเร่ืองการพักผ่อนของแต่ละคนว่า ใคร พักผ่อนสุขภาพอย่างไรบ้าง 4.3.3 เด็กและครสู นทนาวา่ ร่วมกันเก่ียวกบั การพกั ผ่อนของแต่ละคนวา่ นอกจากการนอน หลบั ซง่ึ ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดที ีส่ ุดแลว้ ยงั มกี ารพกั ผ่อนอน่ื ๆ อีก เช่น การดู หนัง การฟงั เพลง การรอ้ งเพลง หรอื การเดนิ เลน่ เพราะการพักผอ่ นนั้นมีทงั้ พักผ่อนสุขภาพและการพักผ่อนจิตใจ 4.3.4 เดก็ และครูสนทนาสรปุ รว่ มกัน เก่ยี วกบั การพักผ่อนแบบต่าง ๆ และกาหนดเป็น แนวทางในการนาไปปฏบิ ัติในชวี ติ ประจาวัน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรยี งหนง่ึ ว่ิงตามกนั ลงสนามเม่ือถึงสนามแล้วให้เด็กอบอนุ่ สขุ ภาพ โดยการกระโดดอย่กู ับท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกีย่ วกับการเล่นกาฟักไข่ ที่เด็กเคยเลน่ มาแล้ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook